หัวข้อข่าวปีที่ 6 ฉบับที่ 8 ประจำวันที่ 2005-02-27

ข่าวการศึกษา

ผลวิจัยชี้ปฏิรูปศึกษาทั้งระบบน่าพอใจ
มหิดลวิทยานุสรณ์ผ่านเกณฑ์สูงสุด ยก5จุฬาภรณ์เป็นร.ร.วิทย์เต็มรูป
มอ.ปัตตานีตั้งศูนย์ข้อมูลมะกัน
ม.แม่ฟ้าหลวงจับมือกับอินเดียเปิดหลักสูตรไอทีชั้นสูง
2เม.ย.วันหนังสือเด็กสากล ศธ.ถวายสมเด็จพระเทพฯ 50 พรรษา
อุดมศึกษารุกเสนอแผนรัฐ เป้าหมายสู่มาตรฐานระดับโลก
วิจัยรูปแบบสกัดเกรดเฟ้อ
ศธ.เตรียมเสนอแก้กฎหมายล็อตใหญ่ ชี้ปรับเพื่อเพิ่มโอกาสการศึกษา
ม.มหิดลเปิดป.เอกดนตรี
ดันผลงาน"สมศ."เข้าเสนอครม.
นิสิตจุฬาฯ ชนะเลิศวางแผนประชาสัมพันธ์ระดับประเทศ
ห้องสมุดนานาชาติเพื่อเด็กและครอบครัว
สวทช.แจกทุนอัจฉริยะ

ข่าววิทยาศาสตร์/เทคโนโลยี

สภาพไร้น้ำหนักทำพิษมนุษย์อวกาศ ตัวยืดยาวกลับลงมาโลกไม่ได้
เรียกคืนวิดีโอเกมทำพิษ ไมโครซอฟท์ชดใช้ใหม่14ล้านเครื่องทั่วโลก
ยังเตือนแผ่นดินไหวใกล้ตัวไม่ได้มักเกิดตรงเขตเปลือกโลกมุดตัว
ระวังก่อการร้ายใช้ชีวภาพถล่มโลก
"โตชิบา"ย้ายฐานผลิต"แอลซีดี-พลาสม่า" ผุดโรงงานในไทยแทนนำเข้าจากญี่ปุน
นักวิทย์ญี่ปุ่นตะลึง หวัดนกใน"แมลงวัน"
แล็บกลางเกษตรได้ ISO
เก็บแมลงวันเพาะเชื้อหาหวัดนก หลังญี่ปุ่นเจอพันธุกรรม"อาร์เอ็นเอ"
โลกร้อน!...ที่โตเกียว
วอ 2 ชายไทยอายุ 46 ปี มีแผลที่เท้ามีสีเขียวปนเหลือง”
ทันภัยใกล้ตัวไดออกซิน สารเคมีอันตราย
กสอ.ดึงองค์กรพัฒนาพลังงานญี่ปุ่น ผุดโครงการต้นแบบลดพลังงาน-น้ำ
ตู้เย็นร้อน?
วิจัยฝุ่นหาดาวเคราะห์
นักวิทยาศาสตร์ยุโรปยันมีสิ่งมีชีวิตอยู่บนดาวอังคารจริง

ข่าววิจัย/พัฒนา

หุ่นยนต์รดน้ำต้นไม้อัตโนมัติเกษตรกรเบาแรงแถมประหยัดน้ำ
พิษสารตะกั่วทำให้เด็กเกเร เกิดภาวะสมาธิขาดตกบกพร่อง
นมแพะป้องกันวัณโรคจริงหรือ วงการแพทย์วิจัยในคุณสมบัติพิเศษ
เอ็มเทควิจัยเสริมสมรรถนะ'สกายแล็บ' เพิ่มความมั่นใจผู้ผลิตท้องถิ่น ก่อนเปิดตลาดทั่วไทย
ญี่ปุ่นพัฒนาระบบเตือนภัยคลื่นสึนามิ ตรวจจับด้วยเรดาร์คลื่นสั้นได้รวดเร็ว
ยุเด็กอ้วนให้ดื่มนมกันให้มากดื่มมาก ยิ่งกลับทำให้สะโอดสะอง
ภูมิปัญญาไฮเทค : กับดักหนูแสนสะดวก
ตลาดนัดนักประดิษฐ์ : เพิ่มศักยภาพเครื่องร่อนดิน หนุนอุตสาหกรรมเซรามิคไทย
ตู้อบแห้งพลังงานทูอินวัน ช่วยโอท็อปยืดอายุ-คุณภาพวัตถุดิบ
นักวิทย์จิ๋วพบสมุนไพรซักผ้าขาว ต่อยอดทำผงซักฟอกปลอดเคมี
น้ำยาขัดพื้นสูตรสมุนไพรเด็กเหนือคิดค้นสูตร-กลิ่นไม่แสบจมูก
อาบแดดรับวิตามินดี มะเร็งลูกหมากไม่รังแกชาย
ผู้หญิงวัยทองถ่ายภาพรังสีเต้านมป้องกันมะเร็งทรวงอกได้ถึง 30%
ตาบอดใช้หูแยกภาพสี
โปรแกรมแปลงภาพเป็นตัวอักษร ซิวรางวัลนักวิทยาศาสตร์รุ่นเยาว์
พืชท้องถิ่นมีกลิ่นล่อแมลงวัน
บราซิลสั่งซื้อชุดตรวจไวรัสกุ้ง มศว
มจษ.ลุยวิจัยระดับประเทศ
ซอฟต์แวร์กำจัดยุงก้าวไกล ล่าสุดส่งคลื่นความถี่กำจัดลูกน้ำอยู่หมัด
ประดิษฐ์แว่นวิเศษโยงต่อกับสมอง ช่วยคนตามืดมัวกลับมองเห็นชัด
มนุษย์ก็มีญาณวิถีพิเศษคอยเตือนภัย อยู่ตรงยอดสมองของซีกด้านหน้า
ผลิตไส้กรอกฟักทองรมควัน มากล้นสารอาหารที่มีประโยชน์
กลาโหมสหรัฐสร้างนักรบไฮเทค
แพนคิดค้น'ไลโปโซม' ประสิทธิภาพสูง เพิ่มคุณสมบัติครีมซ่อมแซมเซลล์ผิวเห็นผลเร็ว
ไบโอเทคร่วมชิเซโด้วิจัยเครื่องสำอางสมุนไพรไทย
นักวิทย์จิ๋วสะกัดพืชสมุนไพร ทำผงซักฟอง-กาวดักแมลง
กับดักมรณะ สยบแมลงสาบด้วยกลิ่นตัวเมีย
เครื่องคัดแยกเนื้อมะขาม ฝีมือนักศึกษาราชภัฏเมืองมะขามหวาน
เครื่องคัดขนาด&นับจำนวนมะนาวเรียบง่ายแต่แม่นยำ
ศิลปากรหนุนปั้นเกมมือถือ รับกระแสแอนิเมชั่นสร้างเกม
ซอฟต์แวร์ย่อไฟล์ภาพ รับ-ส่งเร็วทันใจแม้เน็ตอืด
ตู้อบทูอินวันเพิ่มพลังแดด อบแห้งอาหาร
การใช้น้ำหมักผลไม้ เพื่อเพิ่มผลผลิตและคุณภาพน้ำในการเพาะเลี้ยงกุ้ง" การสร้างบทเรียนวิทยาศาสตร์ท้องถิ่น ของชาว ต.ก้อนแก้ว กิ่งอ.คลองเขื่อน จ.ฉะเชิงเทรา
วิจัยเสริมเต้านมด้วยสเต็มเซลล์ ปลอดภัยกว่าซิลิโคน-ถุงน้ำเกลือ
ม.เชียงใหม่ตั้งสมาคมวิจัยอนุมูลอิสระ มุ่งค้นหาสารธรรมชาติทำยามะเร็งผ่านนาโน
พบโรคลึกลับของนักค้าแข้งอาชีพ เซลล์ประสาทถูกกินจนเป็นอัมพาต
อุดฟันแบบใหม่โยนเครื่องกรอฟันทิ้ง ใช้สารสังเคราะห์ปะผุเคลือบฟันแทน
แบคทีเรียช่วยผลิตแผ่นหนังเทียมคุณภาพสูง
ม.ขอนแก่นสร้าง'หนูทดลอง'ป้อนแล็บ พร้อมผลิตสัตว์พิเศษทางพันธุกรรมมุ่งวิจัยเฉพาะโรค
"จักรยานไฟฟ้าแบบคืนพลังงาน" ผลงานนักวิจัย"มทร.ขอนแก่น"

ข่าวทั่วไป

ช้างไทยจิตรกรบันทึกกินเนสส์
ประกาศเขตอนุรักษ์ 9 เมืองเก่าต้นทุนวัฒนธรรม 'ก่อนที่คุณค่าชุมชนโบราณจะถูกทำลาย'
พบ “แผนสถาปนารัฐปัตตานี” ชิ้นใหม่ - สู้รบ 80 วันก่อนยก “เบตง” เมืองหลวง
อาชีวะเนื้อหอมโดนจีบร่วมทำรถเครื่อง
ยูเอ็นยกย่องโครงการดอยตุง ต้นแบบการเรียนรู้แก้ยาเสพติด
สร้างมาตรฐานสิ่งแวดล้อม รง.
องค์กรใดควรนำ Outsourcing มาใช้
อย.สั่งเรียกเก็บเครื่องดื่มชาเขียว
ช็อปปิ้งหนักอาจเป็นนิ้วล็อกง่าย มือชานิ้วมือติดเหยียดกันไม่ออก
จุฬาตั้งศูนย์เฝ้าระวังสื่อ ตรวจสอบรายการเด็ก
เชิดชู8ศิลปินแห่งชาติสาขาต่างๆปี47
ไทยลุ้น 8 แหล่งวัฒนธรรม "มรดกโลก" ยูเนสโกขึ้นบัญชี-ส่งเจ้าหน้าที่ตรวจสอบแล้ว
อย.ไม่ยืนยันชาเขียวทำอายุยืน
สถาบันวิจัยข้าวลุ้นรัฐบาลจัดตั้งองค์การข้าวแห่งชาติ ชูแหล่งรวมเทคโนโลยีเกี่ยวกับข้าวทั้งระบบครบวงจร
"ในหลวง"พิมพ์"สึนามิ"แจกทุกรร. พบ"พะยูน"นับร้อยหลังมหันตภัย
ยกผู้หญิงเก่ง10อาชีพรับรางวัลวันสตรีสากล





ข่าวการศึกษา


ผลวิจัยชี้ปฏิรูปศึกษาทั้งระบบน่าพอใจ

รศ.ดร.ทิศนา แขมมณี หัวหน้าโครงการวิจัยและพัฒนา เพื่อการปฏิรูปการเรียนรู้ทั้งโรงเรียน (วพร.) เปิดเผยว่า จากการวิจัยโครงการ วพร. ตั้งแต่ปี 2545-2547 ในโรงเรียนและสถานศึกษาที่จัดการศึกษาขั้นพื้นฐานจำนวน 135 แห่งของทุกสังกัด ที่ได้มีการปฏิรูปการศึกษาอย่างเป็นระบบ โดยใช้ยุทธศาสตร์การวิจัยพัฒนาและปฏิรูปทั้งโรงเรียนมาใช้ ผลปรากฏว่าได้ผลเป็นที่น่าพอใจเพราะสามารถนำมาใช้เป็นแนวทางการปฏิรูปการเรียนรู้ของประเทศไทยได้ ไม่ว่าจะเป็นการส่งเสริมโรงเรียนที่ปฏิรูปการเรียนแล้วให้พัฒนาอย่างต่อเนื่อง และใช้โรงเรียนเหล่านั้นเป็นฐานในการช่วยเหลือพัฒนาโรงเรียนอื่น ๆ ต่อไป ทั้งนี้ผลวิจัยด้านผู้เรียนพบว่านักเรียนมีผลสัมฤทธิ์ทางด้านวิชาการมากที่สุดรองลงมามีทักษะการคิด แสวงหาความรู้ ความเป็นพลเมืองดีและสามารถทางการคิดเชิงสังคม จนทำให้เด็กเกิดการเรียนรู้อย่างมีความสุข สนุกในการเรียน สามารถสร้างผลผลิต ชิ้นงานและหลักฐานการเรียนรู้ต่าง ๆ ได้ สำหรับครูพบว่าสามารถจัดการเรียนการสอนที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ ตาม พ.ร.บ.การศึกษาแห่งชาติกำหนด และจากการวิจัยมีข้อเสนอแนะว่าควรสนับสนุนโรงเรียนให้มีนักวิชาการเป็นรายบุคคลหรือเป็นทีมร่วมเรียนรู้และช่วยเหลือในการปฏิรูปอย่างสม่ำเสมอ ควรสนับสนุนสถาบันครูร่วมเรียนรู้กับโรงเรียน เพื่อให้เกิดการพัฒนาทั้งสองฝ่าย รวมทั้งส่งเสริมให้เขตพื้นที่การศึกษามีส่วนร่วมในการปฏิรูปการเรียน โดยใช้โรงเรียนเป็นฐานสนับสนุนส่งเสริมมากกว่าการสั่งการ และสร้างเครือข่ายการปฏิรูปการเรียนรู้ในเขตพื้นที่การศึกษาและระหว่างเขตพื้นที่การศึกษา นอกจากนี้ต้องเร่งพัฒนาระบบการนิเทศภายในและนอกโรงเรียน อีกทั้งส่งเสริมให้ผู้บริหารและครูเรียนรู้จากการวิจัยและพัฒนา เพื่อจะได้สามารถบูรณาการการบริหารงานได้ และสำคัญที่สุดต้องเร่งปรับปรุงระบบการประเมิน เพื่อการกำหนดตำแหน่งให้สอดคล้องกับระบบพัฒนาคุณภาพงานตามแนวทางการปฏิรูปการศึกษา (เดลินิวส์ จันทร์ที่ 21 ก.พ. 48 http://www.dailynews.co.th)





มหิดลวิทยานุสรณ์ผ่านเกณฑ์สูงสุด ยก5จุฬาภรณ์เป็นร.ร.วิทย์เต็มรูป

นายสมหวัง พิธิยานุวัฒน์ ผู้อำนวยการสำนักงานรับรองมาตรฐานและประเมินคุณภาพการศึกษา(สมศ.) เปิดเผยว่า จากการประเมินภายนอกโรงเรียนวิทยาศาสตร์ ซึ่งแบ่งเป็น 2 กลุ่ม ได้แก่ โรงเรียนมหิดลวิทยานุสรณ์ และโรงเรียนจุฬาภรณ์ 11 แห่ง ยกเว้น โรงเรียนจุฬาภรณ์ราชวิทยาลัย มุกดาหาร นั้นในส่วนของโรงเรียนมหิดลฯผลการประเมินอยู่ในเกณฑ์สูงสุดทุกด้าน ที่เป็นเช่นนี้เพราะไม่มีเด็กฝาก เด็กที่เข้าเรียนในโรงเรียนเป็นช้างเผือกจริงๆ ตรงกับสเปคของนักวิทยาศาสตร์ ทุกคนจะได้รับทุนการศึกษา มีหอพัก ได้รับการอบรมบ่มนิสัยตลอด 24 ชั่วโมง ได้รับงบประมาณสนับสนุนจากรัฐเต็มที่ เป็นองค์กรมหาชน รวมทั้งมีปัจจัยสำคัญคือ คณะกรรมการบริหารเป็นผู้ทรงคุณวุฒิ ซึ่งทำงานให้โรงเรียนเต็มที่ ส่วนครูเป็นครูสายวิทยาศาสตร์และอักษรศาสตร์ที่เรียนวิชาครูเพิ่มเติม ต่างจากโรงเรียนทั่วไปที่ครูจบครุศาสตร์หรือศึกษาศาสตร์ ส่วนโรงเรียนจุฬาภรณ์ยังไม่นับเป็นโรงเรียนวิทยาศาสตร์เต็มตัว เพราะไม่ได้รับการสนับสนุนงบฯเต็มที่ ต้องดิ้นรนเอง และต้องได้รับการอุปถัมภ์ ทำให้การคัดเลือกนักเรียนที่เหมาะสมทำได้ยาก แต่ก็มีอยู่ 4-5 แห่ง ที่อยู่ในเกณฑ์มาตรฐานสูงและมีศักยภาพมากเมื่อเทียบกับทรัพยากรที่ได้รับ หรือห้องปฏิบัติการที่เทียบกับโรงเรียนมหิดลฯไม่ได้ นักเรียนไม่ได้เป็นช้างเผือก แต่ผู้บริหารมีฝีมือทำให้การพัฒนาดีมาก ฉะนั้น ที่คณะรัฐมนตรี(ครม.) มีมติให้ตั้งโรงเรียนวิทยาศาสตร์เพิ่ม 5 แห่งนั้น ตนมองว่าถ้ายกฐานะโรงเรียนจุฬาภรณ์ที่มีศักยภาพสูงเป็นโรงเรียนวิทยาศาสตร์เช่นเดียวกับโรงเรียนมหิดลฯจะประหยัดงบฯกว่า ซึ่ง สมศ.จะรีบเสนอรัฐบาล ทั้งนี้ ไม่ได้หมายความว่าปิดกั้นการตั้งโรงเรียนวิทยาศาสตร์ใหม่ แต่การตั้งใหม่ต้องใช้งบฯมาก ขณะนี้ สมศ.เตรียมประเมินโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา ซึ่งเป็นที่รวมยอดครู โดยคนที่เข้าเรียนมีเป้าหมายชัดเจนว่า ถ้าก้าวเข้าโรงเรียนเตรียมฯก็หมายถึงก้าวเข้า (มติชนรายวัน จันทร์ที่ 21 ก.พ. 48 http://www.matichon.co.th)





มอ.ปัตตานีตั้งศูนย์ข้อมูลมะกัน

นางแพทริเซีย เด สเตซีย์ แฮริสัน รักษาการปลัดกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐอเมริกา ฝ่ายการทูตสาธารณะและฝ่ายข่าวสารและประชาสัมพันธ์ พร้อมด้วย รศ.ดร.ประเสริฐ ชิตพงศ์ อธิการบดีมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ (มอ.) วิยาเขตปัตตานี ร่วมเป็นประธานเปิดศูนย์ข้อมูลและวัฒนธรรมอเมริกัน เพื่อเสริมสร้างความเข้าใจอันดีระหว่างประชาชนไทยกับสหรัฐอเมริกา ที่สำนักวิทยบริการ มอ.ปัตตานี สำหรับศูนย์ข้อมูลและวัฒนธรรมอเมริกัน จัดตั้งขึ้นด้วยความร่วมมือระหว่างฝ่ายข่าวสารและประชาสัมพันธ์ สถานทูตสหรัฐอเมริกาประจำประเทศไทย กับมหาวิทยาลัยต่างๆ ของไทย โดยจัดตั้งขึ้นที่ห้องสมุดประจำมหาวิทยาลัย จัดให้มีบริการทรัพยากรสารสนเทศ เช่น หนังสือ วารสาร หนังสือพิมพ์ โสตทัศนวัสดุ ฐานข้อมูล ซีดีรอม มัลติมีเดีย บริการอินเตอร์เน็ตความเร็วสูง รายการโทรทัศน์ผ่านดาวเทียม การประชุมทางไกล การสืบค้นข้อมูลออนไลน์ เป็นต้น นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมทางวิชาการและวัฒนธรรม เพื่อส่งเสริมแลกเปลี่ยนความรู้ และความคิดเห็นระหว่างประชาชน สื่อมวลชน กลุ่ม และสถาบันต่างๆ ในประเทศไทยและสหรัฐอเมริกา ส่วนที่ประเทศไทยมีการจัดตั้งศูนย์ข้อมูลนี้แล้ว 5 แห่ง คือ มหาวิทยาลัยขอนแก่น มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ มหาวิทยาลัยราชภัฏนครศรีธรรมราช มหาวิทยาลัยราชภัฏยะลา และล่าสุดที่ มอ.ปัตตานี (ข่าวสด จันทร์ที่ 21 ก.พ. 48 http://www.matichon.co.th/khaosod)





ม.แม่ฟ้าหลวงจับมือกับอินเดียเปิดหลักสูตรไอทีชั้นสูง

มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวงจับมือกับสถาบันไอสแควร์ไอที จากอินเดียเปิดหลักสูตรไอทีชั้นสูง หลักสูตรป.โท ผลิตบุคลากรคุณภาพออกสู่ตลาด นาวาอากาศเอก ดร.ธงชัย อยู่ญาติวงศ์ คณบดีสำนักวิชาเทคโนโลยีสารสนเทศ มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง เปิดเผยว่า มหาวิทยาลัยได้ร่วมมือกับสถาบันไอสแควร์ไอที ผู้เชี่ยวชาญด้านการสอนสาขาไอทีขั้นสูงจากประเทศอินเดีย เปิดสอนหลักสูตรเทคโนโลยีสารสนเทศขั้นสูง และสาขาการพัฒนาซอฟต์แวร์ขั้นสูง ในหลักสูตรปริญญาโท ภาคภาษาอังกฤษ โดยมุ่งกลุ่มเป้าหมายที่จะสร้างนักไอทีเข้าสู่ตลาดแรงงาน ซึ่งเป็นการร่วมถ่ายทอดเทคโนโลยีจากประเทศอินเดียที่ได้ชื่อว่ามีการพัฒนาและส่งออกซอฟต์แวร์มากที่สุดในเอเชีย หลักสูตรดังกล่าว จะส่งผลดีต่อคนทำงาน เนื่องจากสามารถเลือกเรียนเฉพาะวันเสาร์-อาทิตย์ โดยอาจารย์ผู้สอนมีทั้งชาวไทยและชาวอินเดีย ถือเป็นความร่วมมือทางการศึกษาในรูปแบบการเรียนการสอนร่วมกันครั้งแรก ด้วยหลักสูตรนานาชาติ ภายใต้มาตรฐานของสถาบันไอแสควร์ไอที ซึ่งมีชื่อเสียงทางด้านการผลิตบุคลากรด้านนี้ (ผู้จัดการออนไลน์ อาทิตย์ที่ 20 ก.พ. 48 http://www.manager.co.th)





2เม.ย.วันหนังสือเด็กสากล ศธ.ถวายสมเด็จพระเทพฯ 50 พรรษา

นายอดิศัย โพธารามิก รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรีว่า คณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบตามที่กระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) เสนอให้รัฐบาลประกาศให้วันที่ 2 เมษายนของทุกปี ซึ่งเป็นคล้ายวันพระราชสมภพของสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เป็น " วันหนังสือเด็กแห่งชาติ " เริ่มตั้งแต่ปี 2548 เป็นต้นไป ที่ผ่านมา ศธ.ได้ดำเนินการรณรงค์ส่งเสริมการอ่านหนังสือของเด็กและเยาวชนมาตั้งแต่ปี 2540 เพื่อส่งเสริมให้เด็กไทยมีนิสัยรักการอ่าน โดยได้สนับสนุนให้มีการเขียน การผลิตหนังสือเด็กที่มีคุณภาพทั้งเนื้อหาและภาพประกอบ รวมทั้งกิจกรรมรณรงค์ส่งเสริมการอ่านของเด็กมาอย่างต่อเนื่อง ขณะเดียวกัน คณะกรรมการนานาชาติด้านหนังสือเด็กและเยาวชน ( International Board on Book for Young People หรือ IBBY ) ได้ประกาศให้วันที่ 2 เมษายาของทุกปีเป็น " วันหนังสือเด็กสากล " ซึ่งตรงกับวันคล้ายวันพระราชสมภพของสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทั้งนี้สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงเห็นถึงความสำคัญของหนังสือและการอ่านต่อการพัฒนาคุณภาพชีวิตของชีวิตต่อเยาวชนอย่างยิ่งดังข้อความจากพระราชนิพนธ์เรื่อง "ห้องสมุดในทัศนะของข้าพเจ้า"พุทธศักราช 2519 ที่ว่า "วัยเด็กเป็นวัยเรียนรู้ ถ้าเรามีหนังสือที่มีคุณค่าทั้งเนื้อหาและรูปภาพให้เขาเล่น ให้ความรู้และความบันเทิง เด็กๆจะได้เติบโตขึ้นเป็นผู้ใหญ่ที่สมบูรณ์ที่รอบรู้ มีธรรมะประจำใจ มีความรักบ้านเมือง มีความปรารถนาจะทำแต่ประโยชน์ที่สมควร" (คมชัดลึก พฤหัสบดีที่ 24 ก.พ. 48 http://www.komchadluek.net)





อุดมศึกษารุกเสนอแผนรัฐ เป้าหมายสู่มาตรฐานระดับโลก

ดร.จันทร์จิรา วงษ์ขมทอง อธิการบดีมหาวิทยาลัยคริสเตียน ในฐานะนายกสมาคมสถาบันอุดมศึกษาเอกชนแห่งประเทศไทย (สสอท.) เปิดเผย ว่า ในวันที่ 24 กุมภาพันธ์ ตัวแทนสถาบันอุดมศึกษาของไทย 4 กลุ่ม ประกอบด้วย ตัวแทนที่ประชุมอธิการบดีแห่งประเทศไทย หรือ ทปอ. รศ.ดร.ประเสริฐ ชิตพงศ์ ตัวแทนอธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฏ ตัวแทนอธิการบดีมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล และ สสอท. จะร่วมกันกำหนดแผนยุทธศาสตร์ระยะยาว ระยะสั้น เพื่อพัฒนาการอุดมศึกษาของประเทศไทยมุ่งไปสู่มาตรฐานนานาชาติ ดร.จันทร์จิรา กล่าวว่า สถาบันอุดมศึกษาของรัฐและเอกชนจะต่างคนต่างอยู่เช่นในอดีตไม่ได้แล้ว โดยเฉพาะในอีก 2-3 ปีข้างหน้า มหาวิทยาลัยต่างชาติจะรุกหนักเมื่อไทยเปิดเสรีการศึกษาอย่างเต็มรูปแบบ วันนั้นสถาบันอุดมศึกษาที่ไม่มีความเข้มแข็ง จะอยู่ไม่รอด ตนเชื่อว่าในการหารือกัน 4 กลุ่ม สถาบันอุดมศึกษาไทยในวันนั้น จะมีการกำหนดขั้นตอน การลำดับความสำคัญ พร้อมตั้งคณะทำงานขึ้นมารับผิดชอบในการจัดทำแผนการอุดมศึกษาไทยก่อนเสนอกระทรวงศึกษาธิการ เพื่อให้กระทรวงศึกษาธิการนำเสนอแผนดังกล่าวต่อรัฐบาล จากนั้นก็หวังว่ารัฐบาลจะนำข้อเสนอแนะนำไปสู่การกำหนดนโยบายในภาพรวมการอุดมศึกษาของประเทศ สาเหตุที่มหาวิทยาลัยไทยไร้อันดับในเวทีโลกนั้น เหตุผลหนึ่งเนื่องมาจากนโยบายแห่งรัฐขาดความชัดเจน อาจารย์ในสถาบันอุดมศึกษาเกิดความสับสนในบทบาทหน้าที่ ไม่มีความเป็นนักวิชาการ เช่น ตำแหน่งศาสตราจราย์ ควรจะดำรงตำแหน่งเป็นคณบดีผลิตงานวิจัยให้สอดคล้องกับการพัฒนาของประเทศ แต่ในทางปฏิบัติไม่มี (คมชัดลึก พฤหัสบดีที่ 24 ก.พ. 48 http://www.komchadluek.net)





วิจัยรูปแบบสกัดเกรดเฟ้อ

นายภาวิช ทองโรจน์ เลขาธิการคณะกรรมการการอุดมศึกษา(กกอ.) เปิดเผยว่า ได้เชิญนักวัดผล นักสถิติ นักคณิตศาสตร์ และนักคอมพิวเตอร์ ทั้งจากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ และมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์(มก.) ฯลฯ มาหารือกรณีที่หลายฝ่ายเป็นห่วงองค์ประกอบระบบกลางการรับนิสิตนักศึกษาใหม่ หรือ Admissions ที่จะเริ่มใช้ในปีการศึกษา 2549 ที่ให้ค่าน้ำหนักคะแนนเฉลี่ยสะสมชั้น ม.ปลาย หรือ GPAX 10% และคะแนนเฉลี่ยรายกลุ่มสาระ หรือ GPA 40% รวมค่าน้ำหนักถึง 50% ซึ่งเกรงว่าโรงเรียนอาจปล่อยเกรดเฟ้อได้ โดยเท่าที่หารือร่วมกันเห็นว่ามีแนวทางที่จะป้องกันเกรดเฟ้อได้ โดยดูเป็นระดับๆ เริ่มจากในระดับโรงเรียน เพื่อดูว่าโรงเรียนนั้นๆ มีแนวโน้มปล่อยเกรดหรือไม่ รวมทั้งมีวิธีป้องกันคือดูจากคะแนนของแบบทดสอบมาตรฐานระดับชาติ หรือ National Educational Test (NET) ว่าสัมพันธ์กับค่าเบี่ยงเบนมาตรฐานหรือไม่ ค่าเฉลี่ย GPAX สัมพันธ์กับ NET รวมหรือไม่ และ GPA แต่ละกลุ่มสาระ สัมพันธ์กับ NET ของแต่ละกลุ่มสาระหรือไม่ ซึ่งจะตัดสินได้ว่าโรงเรียนนั้นๆ ผิดปกติหรือไม่ อย่างไรก็ตาม ตนได้ตั้งคณะศึกษาวิจัยเพื่อพัฒนาระบบป้องกันโรงเรียนปล่อยเกรดเฟ้อขึ้นมาด้วย โดยจะเสนอรูปแบบต่อที่ประชุมอธิการบดีแห่งประเทศไทยในวันที่ 12 มีนาคม (มติชนรายวัน พฤหัสบดีที่ 24 ก.พ. 48 http://www.matichon.co.th)





ศธ.เตรียมเสนอแก้กฎหมายล็อตใหญ่ ชี้ปรับเพื่อเพิ่มโอกาสการศึกษา

นายไพบูลย์ เสียงก้อง รองปลัดกระทรวงศึกษาธิการ เปิดเผยหลังการประชุมคณะกรรมการพัฒนากฎหมาย ของกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) ว่า ที่ประชุมได้พิจารณากฎหมายขององค์กรหลักใน ศธ. ที่จะบรรจุในแผนพัฒนากฎหมายของราชการ โดยจะมีทั้งที่แก้ไขและยกร่างขึ้นใหม่ ซึ่งที่ประชุมเห็นชอบให้เสนอไปทั้งกฎหมายหลักและกฎหมายรองดังนี้ สำนักงานปลัด ศธ. 3 ฉบับ ได้แก่ ร่าง พ.ร.บ.โรงเรียนเอกชน กฎกระทรวงกำหนดหลักเกณฑ์ และวิธีการกระจายอำนาจการบริหารและการจัดการศึกษา และ ร่าง พ.ร.บ.การศึกษานอกโรงเรียน สำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษา 3 ฉบับ ได้แก่ กฎกระทรวงว่าด้วยสิทธิการจัดการศึกษาขั้นพื้นฐานขององค์กรชุมชนและองค์กรเอกชน รูปแบบศูนย์การเรียน กฎกระทรวงว่าด้วยระบบหลักเกณฑ์และวิธีการประกันคุณภาพการศึกษา และกฎกระทรวงว่าด้วยหลักเกณฑ์และวิธีการจัดสรรเงินกองทุนเพื่อการผลิต การวิจัย และการพัฒนาเทคโนโลยีเพื่อการศึกษา สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน 3 ฉบับ ได้แก่ พ.ร.บ.กองทุนเพื่อโครงการอาหารกลางวันในโรงเรียน กฎกระทรวงกำหนดหลักเกณฑ์และวิธีจัดสรรงบประมาณ ทางการศึกษาสำหรับผู้เรียนที่มีความสามารถพิเศษ และกฎกระทรวงกำหนดหลักเกณฑ์และวิธีจัดสรรงบประมาณ ทางการศึกษาสำหรับผู้ด้อยโอกาส สำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา 2 ฉบับ ได้แก่ ร่างกฎกระทรวงว่าด้วยการรับรองมาตรฐานการศึกษาของสถาบันอุดมศึกษาเอกชน และร่างกฎกระทรวงว่าด้วยการรับรองวิทยฐานะสถาบันอุดมศึกษาเอกชน สำหรับเหตุผลหลักในการเสนอขอแก้ไขกฎหมายก็เพื่อให้เป็นไปตามกรอบและแนวทาง ในการพัฒนากฎหมายในด้านที่เกี่ยวกับสังคมและการศึกษา การสร้างโอกาสทางการศึกษา การแก้ไขปัญหาความยากจน รวมทั้งเสริมสร้างคุณภาพและประสิทธิภาพของคน เพื่อศักยภาพในการแข่งขันของประเทศ (ไทยรัฐ ศุกร์ที่ 25 ก.พ. 48 http://www.thairath.co.th)





ม.มหิดลเปิดป.เอกดนตรี

รศ.ดร.รัศมีดารา หุ่นสวัสดิ์ คณบดีบัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยมหิดล แถลงข่าวเปิดสอนหลักสูตรปริญญาเอก สาขาวิชาดนตรี เป็นแห่งแรกของประเทศไทย และอาเชียอาคเนย์ว่า มหาวิทยาลัยมหิดล โดยวิทยาลัยดุริยางคศิลป์ได้เปิดหลักสูตรปรัชญาดุษฎีบัณฑิต สาขาวิชาดนตรีวิทยา และสาขาวิชาดนตรีศึกษา ซึ่งถือเป็นหลักสูตรด้านดนตรีระดับปริญญาเอกในประเทศเป็นแห่งแรก โดยผู้สนใจสามารถสมัครได้ทางออนไลน์และสมัครด้วยตนเองตั้งแต่บัดนี้ ซึ่งจะมีทุนการศึกษาให้ 75-80% ในปีการศึกษา 2548 นี้ด้วย รศ.ดร.สุกรี เจริญสุข ผู้อำนวยการวิทยาลัยดุริยางคศิลป์ กล่าวว่า ค่าเรียนหลักสูตรดังกล่าวคิดหน่วยกิตละ 3,500 บาท หรือเสียค่าใช้จ่าย 2.3 แสนบาทตลอดหลักสูตร ด้านนายถนอม อินทรกำเนิด ประธานคณะกรรมการหลักสูตรปริญญาเอก สาขาวิชาดนตรี กล่าวว่า หลักสูตรนี้ไม่เพียงเปิดเป็นแห่งแรกในประเทศไทยเท่านั้น แต่ยังเป็นแห่งแรกในเอเชียอาคเนย์ด้วย โดยประเทศอื่นๆ ในเอเชียเปิดสอนถึงระดับปริญญาตรีเท่านั้น อาทิ สิงคโปร์ (มติชนรายวัน ศุกร์ที่ 25 ก.พ. 48 http://www.matichon.co.th)





ดันผลงาน"สมศ."เข้าเสนอครม.

นายสมหวัง พิธิยานุวัฒน์ ผอ.สำนักงานรับรองมาตรฐานและประเมินคุณภาพการศึกษา (องค์การมหาชน) หรือ สมศ. เปิดเผยผลการประชุมคณะกรรมการบริหาร สมศ. ซึ่งนายจาตุรนต์ ฉายแสง รองนายกรัฐมนตรี กำกับดูแล ว่า นายจาตุรนต์ กล่าวถึงการที่เคยมอบหมายให้ สมศ.ไปสำรวจสถานภาพของการทำหลักสูตร ใบงานต่างๆ ซึ่งได้ข้อมูลที่ดีมาก โดยนายจาตุรนต์จะนำเสนอต่อ ครม. รับทราบปัญหาของหลักสูตร ปัญหาที่ผู้ปกครองเรียกร้องให้แก้ไข เพื่อให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี มองเห็นภาพรวมที่ชัดเจน ที่ผ่านมาการตัดสินใจด้านนโยบายไม่มีข้อมูลเชิงระบบอย่างนี้มากนัก นายจาตุรนต์ชื่นชมการทำงานของ สมศ.ที่มีประโยชน์มาก และต้องการให้สำรวจในรูปแบบนี้มากขึ้น ดังนั้นที่ประชุมจึงมีมติเสนอดังนี้ 1.นโยบายของรัฐบาล ที่เน้นการสร้างโอกาสทางการศึกษาแก่ประชาชนเป็นสิ่งที่ดี แต่ในอนาคตการต้องมีการสร้างคุณภาพทางการศึกษาควบคู่กับการสร้างโอกาสด้วย 2.รัฐบาลพึงจัดสรรงบฯสนับสนุนการปรับปรุงคุณภาพของสถานศึกษา เนื่องจากกระทรวงศึกษาธิการมีงบประมาณในการพัฒนาคุณภาพให้แก่สถานศึกษาน้อยมาก และ 3.รัฐบาลพึงสนับสนุนให้สถานศึกษาให้มีอิสระในการดำเนินงานตามนโยบาย และมาตรฐานการศึกษาของชาติตามมาตรา 39 พ.ร.บ.การศึกษา พ.ศ.2542 (ข่าวสด พุธที่ 23 ก.พ. 48 http://www.matichon.co.th/khaosod)





นิสิตจุฬาฯ ชนะเลิศวางแผนประชาสัมพันธ์ระดับประเทศ

นิสิตคณะนิเทศศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย สร้างชื่อคว้ารางวัลชนะเลิศโครงการวางแผนประชาสัมพันธ์โครงการล้านพลังพิทักษ์โลก เพื่อรณรงค์ปลูกจิตสำนึกในเรื่อง การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและโลกร้อนจากการใช้พลังงาน จัดโดยกรมส่งเสริมคุณภาพสิ่งแวดล้อม กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เมื่อเร็วๆ นี้ ทีมนิสิตชั้นปีที่ 4 คณะนิเทศศาสตร์ ภายใต้ชื่อทีม ผลิใบ ประกอบด้วย น.ส.อุไรรัตน์ แสงเจิดนภา น.ส.มนัชฌา ศักดิ์วิทย์ น.ส.กมลรัตน์ เอื้อมุกดากุล นายนิพนธ์ พิลา น.ส.ศิวพร โกมลกุญชร และนายกฤษดา นวลมี เริ่มจากการค้นคว้าข้อมูลจากแผนประชาสัมพันธ์ที่เคยมีการดำเนินการมาแล้ว เพื่อศึกษารูปแบบแผนงานประชาสัมพันธ์ที่มีอยู่จริง จากนั้นจึงกำหนดกลุ่มเป้าหมายของโครงการคือประชาชนทั่วไปและมีการทำวิจัยเพื่อรวบรวมความคิดเห็นของกลุ่มเป้าหมายในเรื่องความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับสิ่งแวดล้อม ตลอดจนการเปิดรับข่าวสารของกลุ่มเป้าหมายเพื่อนำข้อมูลมาใช้ในการวางแผนประชาสัมพันธ์ จากนั้นจึงประชุมเพื่อคิดแผนการประชาสัมพันธ์ซึ่งประกอบด้วยโครงการต่างๆ รวมทั้งสิ้น 10 โครงการ 23 กิจกรรมย่อย ยกตัวอย่างเช่น โครงการสื่อมวลชนสัมพันธ์ โครงการให้ความรู้เรื่องโลกร้อน โครงการกิจกรรมเยาวชน ฯลฯ โครงการเหล่านี้เน้นการเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายอย่างทั่วถึง ภายใต้ชื่อ โครงการล้านพลังพิทักษ์โลก มีระยะเวลาในการดำเนินการประชาสัมพันธ์ 1 ปี เพื่อประชาสัมพันธ์ในหลายรูปแบบ อาทิ สื่อวิทยุ โทรทัศน์ หนังสือพิมพ์ คัตเอาท์ สื่อ เว็บไซต์ เอกสารเผยแพร่ต่างๆ สารคดีและเพลงประจำโครงการ เป็นต้น (บ้านเมือง พุธที่ 23 ก.พ. 48 http://www.banmuang.co.th)





ห้องสมุดนานาชาติเพื่อเด็กและครอบครัว

ห้องสมุดนานาชาติเพื่อเด็กและครอบครัว "Just 4 kids Libraly" ที่บริษัท แฟมิลี่ ไดเร็ค สุขุมวิท 63 (เอกมัย 4) ซึ่งเป็นห้องสมุดเพื่อเด็กแห่งแรกของประเทศไทย ทั้งเป็นแหล่งความรู้ของชุมชนเพื่อส่งเสริมพัฒนาการทางภาษาและทักษะทางสังคม พร้อมกับการสร้างจินตนาการ ความคิดสร้างสรรค์ผ่านตัวอักษรจากหนังสือมุมต่างๆ ในห้องสมุด การปลูกฝังให้เด็กรักการอ่านด้วยการสร้างบรรยากาศที่เหมาะสม ทำให้เด็กมีความสุขกับการอ่านหนังสือ ประกอบด้วย มุมหนังสือสำหรับเด็ก มุมหนังสือที่เด็กผู้ชายชอบอ่าน มุมหนังสือสำหรับคุณพ่อคุณแม่ และมุมหลากหลายเรื่องน่าอ่านสำหรับเด็กผู้หญิง นอกจากนี้ยังมีหนังสือทั้งภาษาไทยและภาษาต่างประเทศประกอบรูปภาพ เพื่อการเรียนรู้ของเด็กๆ และของเล่นมากมาย รวมถึงสนามหญ้ากว้างๆ ให้เด็กวิ่งเล่น หลังการอ่านหนังสือ ซึ่งห้องสมุดแห่งนี้สร้างมาเพื่อเป็นบรรยากาศสำหรับเด็กโดยเฉพาะ สำหรับเด็กๆ และประชาชนทั่วไปที่สนใจ สามารถเข้าชม ห้องสมุดนานาชาติเพื่อเด็กและครอบครัว "Just 4 kids Libraly" ในวันอังคาร-วันอาทิตย์ ตั้งแต่ 09.00-17.00 น. นอกจากนี้ใครที่เป็นสมาชิกยังสามารถยืมหนังสือกลับไปอ่านที่บ้านได้อีกด้วย ติดต่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม โทร.0-2381-7289, 0-2381-7290 หรือ 0-2381-5070-5 ต่อ 400, 401 โทรสาร 0-2381-5076 (คมชัดลึก เสาร์ที่ 26 ก.พ. 48 http://www.komchadluek.net)





สวทช.แจกทุนอัจฉริยะ

ศ.ดร.ยงยุทธ ยุทธวงศ์ ที่ปรึกษาผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) เปิดเผยว่า ตามที่ สวทช.ได้จัดโครงการค่ายวิทยาศาสตร์ถาวรขึ้นที่ อ.ลาดหลุมแก้ว จ.ปทุมธานี เพื่อเป็นสถานที่ให้เด็กที่มีความสามารถพิเศษด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เข้าไปทดลองและทำวิจัยด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีร่วมกับอาจารย์มหาวิทยาลัยและนักวิจัย มาเป็นเวลากว่า 2 ปีแล้ว เพื่อเป็นการส่งเสริมให้เด็กกลุ่มนี้ได้เรียนต่อระดับสูงในรูปแบบของการต่อสายตรงเข้าสู่มหาวิทยาลัยทันที จะได้พัฒนาความรู้ความสามารถอย่างเต็มที่ ดังนั้น ในปีการศึกษา 2548 ทาง สวทช.ได้ให้ทุนการศึกษาแก่เด็กที่มีความสามารถพิเศษด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เรียนต่อระดับปริญญาตรี จำนวน 40-50 คน เป็นปีแรก สำหรับการให้ทุนการศึกษาจะแบ่งเด็กออกเป็น 2 กลุ่ม คือ จำนวนครึ่งหนึ่งไปเรียนต่อด้านวิทยาศาสตร์ เช่น เคมี ชีววิทยา ที่มหาวิทยาลัยมหิดล ส่วนอีกครึ่งหนึ่งไปเรียนต่อด้านเทคโนโลยี เช่น วิศวกรรมศาสตร์ ที่สถาบันเทคโนโลยีนานาชาติสิรินธร มหาวิทยาลัยมหิดล ทั้งนี้ หลังเปิดดำเนินการได้ 2 ปี ล่าสุดได้ให้บริษัทเอกชนเข้ามาทำวิจัยร่วมกับอาจารย์และนักวิจัยของ สวทช.เพื่อสร้างผลงานด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีใหม่ๆ ออกสู่สังคม ซึ่งจะเปิดโอกาสให้เด็กที่มีความสามารถพิเศษร่วมทำวิจัยด้วย (คมชัดลึก เสาร์ที่ 26 ก.พ. 48 http://www.komchadluek.net)





ข่าววิทยาศาสตร์/เทคโนโลยี


สภาพไร้น้ำหนักทำพิษมนุษย์อวกาศ ตัวยืดยาวกลับลงมาโลกไม่ได้

หนังสือพิมพ์ "เดอะ ซัน" หนังสือพิมพ์รายวันขายดีของอังกฤษ เปิดเผยว่า มนุษย์อวกาศซาลิซฮาน ชาริปอของรัสเซียเกือบจะไม่ได้กลับบ้าน หลังจากที่ประจำทำงานอยู่ บนสถานีอวกาศระหว่างประเทศ บนวงโคจรรอบโลกมาครบกำหนด 4 เดือน เพราะปรากฏว่าตัวเขาเกิดยืดออกยาวแข็งทื่อ จนไม่อาจเข้านั่งในยานอวกาศ "โซยูซ" อันเป็นยานอวกาศเมล์ซึ่งเดินทางระหว่างโลกกับสถานีอวกาศเป็นประจำได้ "เดอะ ซัน" ซึ่งอ้างว่าได้ข่าวจากวงการนักวิทยาศาสตร์ ของรัสเซีย กล่าวว่า มนุษย์อวกาศคนอื่นบนสถานีอวกาศ ต้องช่วยจับเขาใส่เสื้อผ้าชุดพิเศษ ซึ่งรัดร่างเอาไว้อย่างแน่นหนา จึงสามารถเข้าไปในที่นั่งของยาน และเดินทางกลับบ้านได้ในที่สุด สาเหตุที่มนุษย์อวกาศซาลิซฮาน เกิดพิกลพิการเช่นนั้น เนื่องจากการที่ต้องใช้ชีวิตอยู่ในสภาพไร้น้ำหนักมาเป็นเวลานานแรมเดือน ทำให้กระดูกสันหลังของเขาเสื่อมลง ไม่อาจโค้งงอลงตามปกติได้ เป็นเหตุให้ตัวยืดยาวแข็งทื่ออยู่. (ไทยรัฐ จันทร์ที่ 22 ก.พ. 48 http://www.thairath.co.th)





เรียกคืนวิดีโอเกมทำพิษ ไมโครซอฟท์ชดใช้ใหม่14ล้านเครื่องทั่วโลก

นายรอบบี้ บาค หัวหน้าแผนกเครื่องเล่นวิดีโอเกมเอ็กซ์บ็อกซ์ บริษัทไมโครซอฟท์ คอร์ป. ประกาศเรียกคืนเครื่องเล่นวิดีโอเกมเอ็กซ์บ็อกซ์ 14.1 ล้านเครื่อง จากผู้ซื้อสินค้าทั่วโลก หลังพบข้อบกพร่องสายไฟเกิดการลุกไหม้ ทำให้ผู้ใช้บาดเจ็บจากแผลไฟไหม้ และสร้างความเสียหายให้เครื่องอิเล็กทรอนิกส์อื่นที่อยู่ใกล้เคียง อุปกรณ์ที่จะถูกเรียกคืน ได้แก่ สายไฟของเครื่องเอ็กซ์บ็อกซ์ทุกรุ่น ที่ผลิตในทวีปยุโรปก่อนวันที่ 13 มกราคม 2547 และสายไฟที่ผลิตจากทั่วโลกก่อนวันที่ 23 ตุลาคม 2546 ส่วนเครื่องที่ผลิตหลังจากช่วงเวลาดังกล่าวได้รับการแก้ไขข้อบกพร่องเหล่านี้แล้ว สาเหตุความบกพร่องมาจากปัญหาในตัวเครื่องเอง โดยชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ทำงานผิดพลาด ทำให้สายไฟร้อนเกินไป และเกิดการลุกไหม้เป็นควันออกมา โดยจะต้องใช้เวลาศึกษาอยู่ระยะหนึ่ง จึงจะรู้ว่ามีปัญหาเกิดขึ้น ขณะที่ไมโครซอฟท์มีแผนเปิดตัวเครื่องเอ็กซ์บ็อกซ์ รุ่นใหม่ ภายในปีนี้ ปัญหาดังกล่าวได้รับการรายงานจากเครื่องเล่นเกม 30 เครื่อง ที่ส่งออกจำหน่ายทั่วโลก และทำให้ผู้ใช้ 7 ราย บาดเจ็บเกิดแผลไฟไหม้เล็กน้อย จากการแตะสายลวดที่ร้อน ส่วนผู้ใช้อีกราว 23 คน ได้รับความเสียจากการเกิดกลุ่มควันไฟ และไฟไหม้พรมไปจนถึงเครื่องไฟฟ้า เช่น ทีวี สเตอริโอ อย่างไรก็ตาม ไมโครซอฟท์ระบุว่า เครื่องที่มีข้อบกพร่องคิดเป็นสัดส่วนราว 1 จาก 10,000 เครื่อง ซึ่งถือเป็นตัวเลขที่ค่อนข้างมาก สำหรับลูกค้าที่ประสบปัญหา สามารถแจ้งขอเปลี่ยนสายไฟใหม่ได้ฟรี ผ่านทางเวบไซต์ www.Xbox.com หรือโทรไปยังศูนย์รับแจ้งในประเทศ และจะได้รับเปลี่ยนสายไฟใหม่ภายใน 2-4 สัปดาห์ ขณะที่ทางบริษัทยังแนะนำให้ผู้ใช้ปิดเครื่องเอ็กซ์บ็อกซ์ทุกครั้งที่ไม่ได้ใช้งาน (คมชัดลึก จันทร์ที่ 21 ก.พ. 48 http://www.komchadluek.net)





ยังเตือนแผ่นดินไหวใกล้ตัวไม่ได้มักเกิดตรงเขตเปลือกโลกมุดตัว

ผู้เชี่ยวชาญด้านธรณีวิทยาของสหรัฐฯ ระบุว่าในอนาคตอันใกล้ยังเป็นไปไม่ได้ที่จะทำนายว่า จะเกิดแผ่นดินไหวล่วงหน้า โดยเห็นได้จากเหตุแผ่นดินไหวที่เกิดขึ้นในอดีตและที่เพิ่งเกิดขึ้น นายธอมัส จอร์แดน แห่งศูนย์แผ่นดินไหวในแคลิฟอร์เนียตอนใต้ ได้กล่าวระหว่างการประชุม สมาคมวิทยาศาสตร์ขั้นสูงแห่งสหรัฐฯ ยอมรับว่า นักธรณีวิทยาส่วนใหญ่ยังมองในแง่ร้ายว่า ภายใน 5-10 ปีข้างหน้า เราอาจไม่พบทางแก้ปัญหาแผ่นดินไหว นอกจากนี้ ยังมีข้อเสนอให้วัดความถี่ของการไหว ใต้ดินอาจทำนายแผ่นดินไหวได้ ซึ่งประเด็นนี้นักภูมิศาสตร์สำรวจของสหรัฐฯ สำรวจเสียงในระดับต่ำจากรอยเลื่อนซาน แอนเดรียส ใต้แคลิฟอร์เนีย และพบว่าการเคลื่อนตัวเหมือนกับบริเวณเขตมุดตัวของเปลือกโลก ในญี่ปุ่นและทางตะวันตกเฉียงเหนือของมหาสมุทรแปซิฟิก รวมทั้งแผ่นดินไหว ที่เกาะสุมาตราก็เกิดที่บริเวณเขตมุดตัวของเปลือกโลกเช่นกัน ซึ่งผู้เชี่ยวชาญยอมรับว่ายังไม่เข้าใจสัญญาณดังกล่าว แต่อย่างดีที่สุดที่บอกได้คือยังไม่มีตัวชี้วัดระยะสั้นเตือนล่วงหน้าแผ่นดินไหวได้ แต่อย่างไรก็ตาม ผู้เชี่ยวชาญเตือนให้การกำหนดพื้นที่ที่มีความเสี่ยงสูง ที่อาจเกิดแผ่นดินไหว เพื่อตอบสนองได้ทันเมื่อเกิดแผ่นดินไหว (ไทยรัฐ พฤหัสบดีที่ 24 ก.พ. 48 http://www.thairath.co.th)





ระวังก่อการร้ายใช้ชีวภาพถล่มโลก

นายโรนัลด์ โนเบิล หัวหน้าตำรวจสากลกล่าวให้สัมภาษณ์วิทยุบีบีซีที่กรุงลอนดอนประเทศอังกฤษ เมื่อวันพุธว่า ภัยคุกคามจากการโจมตีด้วยอาวุธชีวภาพของกลุ่มก่อการร้ายในสังกัดอัล-เคดา เป็นเรื่องจริงอย่างยิ่ง ขณะที่โลกยังคงนิ่งเฉยไม่ดำเนินการเตรียมรับมือใด ๆ เลย เขาบอกว่า รัฐบาลต่าง ๆ รวมทั้งหน่วยความมั่นคงและตำรวจต้องดำเนินมาตรการมากกว่าแต่ก่อน พร้อมเตือนว่า จะเป็นความผิดพลาดอย่างมหันต์ หากปล่อยให้การรักษาความปลอดภัยหละหลวม ปริมาณการโจมตีของนักก่อการร้ายที่เกิดขึ้นทั่วโลก และหลักฐานที่ยึดมาได้เผยให้เห็นถึงแผนการครอบครองอาวุธเคมีหรือชีวภาพ องค์การตำรวจสากลมีกำหนดจัดประชุมครั้งใหญ่ในเดือนหน้าที่เมืองลียง ประเทศฝรั่งเศส ซึ่งจะมีนายตำรวจระดับสูงและเจ้าหน้าที่สาธารณสุข จำนวน 400 คน จากทั่วโลก เข้าร่วมประชุมดังกล่าว รวมทั้งจะมีการแลกเปลี่ยนข้อมูลเพื่อรับมือกับภัยคุกคามที่กลุ่มก่อการร้ายอาจโจมตีด้วยอาวุธชีวภาพ คำเตือนของนายโนเบิลมีขึ้นเพียงสัปดาห์เดียว หลังจากหัวหน้าหน่วยข่าวกรองสหรัฐ (ซีไอเอ) ระบุ อัล-เคดา หรือกลุ่มหัวรุนแรงอื่น ๆ กำลังแสวงหาการครอบครองอาวุธเคมี, ชีวภาพ หรืออาวุธนิวเคลียร์ นายพอตเตอร์ กอสส์ หัวหน้าคนใหม่ของซีไอเอ บอกว่ามันอาจเป็นช่วงเวลาที่สำคัญ ก่อนที่พวกเขาใช้อาวุธเหล่านี้ปฏิบัติการก่อการร้าย. (เดลินิวส์ พฤหัสบดีที่ 24 ก.พ. 48 http://www.dailynews.co.th)





"โตชิบา"ย้ายฐานผลิต"แอลซีดี-พลาสม่า" ผุดโรงงานในไทยแทนนำเข้าจากญี่ปุน

นายณัฐพงษ์ อารีกุล รองประธานและกรรมการ บริษัท โตชิบา ไทยแลนด์ จำกัด เปิดเผยว่า จากแนวโน้มของตลาดแอลซีดี และพลาสม่าทีวี ที่มีอัตราการเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะกลุ่มลูกค้าองค์กรที่หันมาใช้ผลิตภัณฑ์ดังกล่าวแทนการใช้ป้ายประชาสัมพันธ์ รวมถึงกลุ่มลูกค้าทั่วไปที่เปลี่ยนจากโปรเจคชั่นทีวีเป็นพลาสม่าทีวีก็สูงเช่นกัน ในปีนี้บริษัทจึงเตรียมลงทุนเพื่อผลิตแอลซีดี และพลาสม่าทีวีในประเทศไทย จากเดิมที่ใช้การนำเข้าจากญี่ปุ่นเพื่อทำตลาดในประเทศไทย หากมีแนวโน้มที่ดีทั้งในแง่การขยายตัวของตลาดและการควบคุมต้นทุนการผลิตก็เป็นไปได้ที่จะย้ายฐานการผลิตมาในไทยได้ทั้งหมด (มติชนรายวัน พฤหัสบดีที่ 24 ก.พ. 48 http://www.matichon.co.th)





นักวิทย์ญี่ปุ่นตะลึง หวัดนกใน"แมลงวัน"

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานข่าวจากเวียดนามว่า ในการประชุมไข้หวัดนก นายดีวัน ซีบาร์ตี เจ้าหน้าที่องค์กรสุขภาพสัตว์หรือ OIE เปิดเผยว่า แมลงวันสามารถเป็นพาหะของเชื้อไข้หวัดนกได้ แต่ขณะนี้ยังไม่มีหลักฐานว่า ถ้าไวรัสไข้หวัดนกไปอยู่กับแมลงวันจะเพิ่มระดับอันตรายของการแพร่เชื้อ รายงานก่อนหน้านี้เปิดเผยว่า กระทรวงสาธารณสุขของญี่ปุ่นพบว่า จากการนำแมลงวันที่บินอยู่แถวฟาร์มไก่ที่ติดเชื้อไข้หวัดนกแถบเมืองเกียวโตไปตรวจหาเชื้อเมื่อเดือนมีนาคมปีที่แล้ว พบว่าแมลงวันมีเชื้อไข้หวัดนกอยู่ด้วย ซึ่งก่อนหน้านี้นักวิทยาศาสตร์พบเชื้อไข้หวัดนกอยู่ในสัตว์อีก 2 ชนิด คือ แมวและเสือดาว นายซีบาร์ตี กล่าวว่า "แมลงวันก็สามารถเป็นพาหะได้เช่นเดียวกับสัตว์อื่นๆ" อย่างไรก็ตาม นักวิทยาศาสตร์ของญี่ปุ่นเตือนว่า มีความเป็นไปได้ที่แมลงวันจะเป็นตัวพาหะทำให้เชื้อไข้หวัดนกแพร่กระจายไปสู่นกด้วยกัน ดังนั้นจึงควรหาทางป้องกัน เช่น หาทางกำจัดแมลงวัน ก่อนหน้านี้ นายชิเกรุ โอมิ ผู้บริหารองค์การอนามัยโลกภูมิภาคเอเซีย มีความเห็นว่า มีความเป็นไปได้สูงที่ไข้หวัดนกจะกลายเป็นโรคระบาดของโลก (ข่าวสด พฤหัสบดีที่ 24 ก.พ. 48 http://www.matichon.co.th/khaosod)





แล็บกลางเกษตรได้ ISO

นายมาริศ ชาญอุไร กรรมการผู้จัดการ บริษัท ห้องปฏิบัติการกลางตรวจสอบผลิตภัณฑ์เกษตรและอาหาร จำกัด หรือ แอลซีเอฟเอ เปิดเผยว่า บริษัทได้รับการรับรองมาตรฐานห้องปฏิบัติการ ISO/IEC 17025 จากสำนักมาตรฐานห้องปฏิบัติการ กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ ซึ่งถือเป็นมาตรฐานระดับสากลเพื่อยืนยันให้เป็นห้องปฏิบัติการที่มีการดำเนินงานด้วยระบบคุณภาพ ส่งผลให้เกิดความสะดวกทางการค้าระหว่างประเทศ พร้อมทั้งลดการกีดกันทางการค้าจากการทดสอบและการตรวจซ้ำจากประเทศคู่ค้า และยังได้รับมาตรฐานการตรวจไนโตรฟูเรนเป็นรายแรกในประเทศด้วย (มติชนรายวัน ศุกร์ที่ 25 ก.พ. 48 http://www.matichon.co.th)





เก็บแมลงวันเพาะเชื้อหาหวัดนก หลังญี่ปุ่นเจอพันธุกรรม"อาร์เอ็นเอ"

นพ.ไพจิตร์ วราชิต อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กล่าวถึงกรณีที่นักวิจัยประเทศญี่ปุ่นตรวจพบเชื้อโรคไข้หวัดนกในแมลงวัน ว่า แมลงที่นักวิจัยญี่ปุ่นตรวจพบเชื้อโรคไข้หวัดนกนั้น เป็นแมลงแซนฟาย ซึ่งเป็นแมลงที่เป็นพาหะนำโรคในประเทศอเมริกาและญี่ปุ่น มีลักษณะเดียวกับแมลงวันในไทย ซึ่งจากการติดตามข่าวทราบว่าเป็นการตรวจพบสารพันธุกรรมอาร์เอ็นเอ ที่เกาะอยู่ตามขาแมลงวันจากการสัมผัสมูลสัตว์ที่มีเชื้อไข้หวัดนก จึงได้ประสานไปยังประเทศญี่ปุ่นเพื่อขอรายละเอียดเพิ่มเติม อย่างไรก็ตามเชื้อที่ได้เพาะไม่ขึ้นเนื่องจากเป็นเชื้อที่ตายแล้ว ซึ่งหมายความว่าไม่มีเชื้อไวรัสไข้หวัดนกเจริญเติบโตในตัวแมลงได้ จึงไม่สามารถเป็นตัวการแพร่เชื้อมายังคนได้ จึงไม่ใช่เรื่องที่กังวล อีกทั้งเชื้อที่อยู่ในอากาศอยู่ได้ไม่นานเท่ากับเชื้อที่อยู่ในมูลสัตว์ เพื่อเป็นการเฝ้าระวังโรค ทางกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์จะประสานไปยังกรมปศุสัตว์ เพื่อนำแมลงวันในพื้นที่ที่มีการระบาดของโรคไข้หวัดนก โดยเฉพาะบริเวณมูลสัตว์ มาตรวจเพื่อทำการตรวจสารพันธุกรรมอาร์เอ็นเอ และเพาะเชื้อเพื่อดูการแพร่ระบาด ซึ่งต้องใช้เวลาเพื่อยืนยันผลประมาณ 2-3 สัปดาห์ ทั้งนี้จะร่วมมือกับทางกรมปศุสัตว์และคณะสัตวแพทย์มหาวิทยาลัยในการตรวจร่วมกัน นพ.วิชัย เทียนถาวร ปลัดกระทรวงสาธารณสุข(สธ.) กล่าวถึงกรณีพบเชื้อไวรัสไข้หวัดนกในแมลงวันที่ประเทศญี่ปุ่น ว่า เชื้อไวรัสไข้หวัดนกเอช 5 เอ็น 1 ที่พบในแมลงที่ญี่ปุ่นนั้น จากการตรวจสอบข้อมูลพบว่า เป็นสารพันธุกรรมของเชื้อไข้หวัดนกส่วนที่เรียกว่า อาร์เอ็นเอ ติดอยู่ที่ขาของแมลงวัน ซึ่งมีโอกาสน้อยมากที่จะทำให้เกิดโรคไข้หวัดนกในคน อีกทั้งเชื้อไวรัสไข้หวัดนกอยู่ในอากาศได้สั้นกว่าอาศัยในมูลไก่ อย่างไรก็ตาม จากการค้นพบของนักวิชาการญี่ปุ่นครั้งนี้ เป็นสิ่งที่ประชาชนควรระมัดระวังด้านสุขาภิบาลสิ่งแวดล้อม รับประทานอาหารปรุงสุกใหม่ (มติชนรายวัน ศุกร์ที่ 25 ก.พ. 48 http://www.matichon.co.th)





โลกร้อน!...ที่โตเกียว

พิธีสารเกียวโตหรือที่มีชื่อเต็มอย่างเป็นทางการว่า Kyoto Protocol to the United Nations Framework Convention on Climate Change ซึ่งเป็นมาตรการทางกฎหมายที่ใช้ในการดำเนินการเพื่อบรรลุเป้าหมายในการรับมือกับภาวะโลกร้อน โดยประกาศในข้อตกลงครั้งประวัติศาสตร์ว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศโลกขององค์การสหประชาชาติ มีผลบังคับใช้แล้ว ประเทศที่ให้สัตยาบันในพิธีสารนี้ต้องหามาตรการในการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกออกสู่ชั้นบรรยากาศโดยเฉพาะประเทศอุตสาหกรรมสำคัญ 34 ประเทศให้ได้ 5.2 เปอร์เซ็นต์ ภายในปี พ.ศ. 2555 ซึ่งประเทศที่มีการปล่อยก๊าซเรือนกระจกออกสู่บรรยากาศมากอย่างเช่น สหรัฐอเมริกา ออสเตรเลีย จีน และอินเดียล้วนยังไม่ได้ให้สัตยาบันกับพิธีสารดังกล่าว รายงานจาก American Association for the Advancement of Science ซึ่งออกมาหลังจากพิธีสารเกียวโตมีผลบังคับใช้ 1 วัน แสดงให้เห็นว่าโลกกำลังร้อนขึ้นจริง ๆ ด้วยผลการศึกษาที่อ้างอิงจากระดับอุณหภูมิของน้ำทะเลในมหาสมุทร ที่นักวิทยาศาสตร์ระบุว่าเป็นดรรชนีชี้วัดได้ดีที่สุดเกี่ยวกับการอุบัติของภาวะโลกร้อน จากข้อมูลอุณหภูมิที่ถูกบันทึกไว้กว่าล้านเรคคอร์ดโดย U.S. National Oceanic and Atmospheric Administration และแบบจำลองทางคอมพิวเตอร์ทำให้นักวิจัยทราบว่าภาวะโลกร้อนกำลังเกิดขึ้นและดำเนินอยู่ โดยมีสาเหตุมาจากก๊าซเรือนกระจกที่มากเกินไปในชั้นบรรยากาศ และไม่ได้มีสาเหตุหลักมาจากการเปลี่ยนแปลงของดวงอาทิตย์หรือการระเบิดของภูเขาไฟ ที่นักวิทยาศาสตร์เป็นห่วงก็คือการละลายของธารน้ำแข็งและภูเขาน้ำแข็งบริเวณขั้วโลกโดยเฉพาะอย่างยิ่งเกาะกรีนแลนด์ ซึ่งถ้าหากว่าละลายหมดจะสามารถทำให้ระดับน้ำทะเลเพิ่มสูงขึ้นถึง 23 ฟุตเลยทีเดียว นอกจากนั้นแล้วน้ำที่เกิดจากการละลายของน้ำแข็งจะส่งผลกระทบต่อระบบการหมุนเวียนของกระแสน้ำในมหาสมุทรที่เราเรียกว่า Ocean Conveyer Belt ถ้าหากว่าระบบดังกล่าวหยุดลง ประเทศทางแถบซีกโลกเหนือจะต้องเผชิญกับความหนาวเย็นสุดขั้วในฤดูหนาว เนื่องจากกระแสน้ำอุ่นไม่สามารถไหลขึ้นไปหล่อเลี้ยงทำให้เกิดความอบอุ่นเพียงพอได้ ที่นอกเหนือไปจากนั้นก็คือการละลายของน้ำแข็งยังเป็นสาเหตุสำคัญของการลดลงของสาหร่ายทะเลและแพลงก์ตอนที่เป็นเสมือนกับอาหารหลักของบรรดาสัตว์ทะเลซึ่งถือได้ว่าเป็นผู้ผลิตของห่วงโซ่อาหาร โดยมีมนุษย์อยู่ท้ายสุดของห่วงโซ่นั้น (เดลินิวส์ พุธที่ 23 ก.พ. 48 http://www.dailynews.co.th)





วอ 2 ชายไทยอายุ 46 ปี มีแผลที่เท้ามีสีเขียวปนเหลือง”

Telemedicine ที่มีทั้งภาพและเสียง ใช้เครื่องคอมพิวเตอร์เป็นสื่อ โดยใช้วิธีการรักษาได้ทางระบบอินเทอร์เน็ต หรือดาวเทียม วิธีดังกล่าวช่วยให้ผู้ป่วยไม่ต้องเสียเวลาเดินทางไปพบแพทย์ที่โรงพยาบาล ช่วยลดปัญหาคนไข้คับคั่งในโรงพยาบาล สะดวกทั้งแพทย์และคนไข้เอง ซึ่งเป็นไปตามนโยบายหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้าของ สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) โครงการนี้ เกิดจากความคิดนอกกรอบของนายแพทย์ บัญชา ค้าของ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลอ่าวลึก เริ่มขึ้นเมื่อเดือนตุลาคม ในปี 2545 มีจัดการดังนี้หารถบริการเครือข่าย รถบรรทุกขนาด 1 ตัน ใช้ลำเลียงวัสดุ เวชภัณฑ์ ที่ผ่านการนึ่งฆ่าเชื้อด้วยระบบทันสมัยจากโรงพยาบาลอ่าวลึก สู่สถานีอนามัย 11 แห่ง เพื่อลดการทำงานของเจ้าหน้าที่ประจำสถานีอนามัยจากเดิมต้องปิดสถานีอนามัยเพื่อมาเบิกยา พร้อมกันรถคันนี้ยังนำเจ้าพนักงานทันตสาธารณสุข วันละ 2 ท่าน ออกให้บริการตรวจฟัน ถอนฟัน ตามสถานีอนามัยทั้ง 11 แห่งสลับสับเปลี่ยนกัน โดยใน 1 อาทิตย์ในสถานีอนามัยทั้ง 11 แห่งจะมีเจ้าหน้าที่ไปบริการ 1 ครั้งภายใต้บริการบัตร 30 บาท รักษาทุกโรค รถบริการเหล่านี้ทางโรงพยาบาลได้ว่าจ้างเอกชนในราคาเดือนละ 13,000 บาทจะวิ่งออกจากโรงพยาบาลอ่าวลึกตั้ง แต่ 8 โมงเช้า เพื่อเอาเวชภัณฑ์ ส่งยังสถานีอนามัย ส่วนเย็นรถจะวิ่งกลับมายังโรงพยาบาลเพื่อนำขยะติดเชื้อจากสถานีอนามัยมาทำลายในเตาเผาที่ได้มาตร ฐานของโรงพยาบาลอีกที และที่เป็นหัวใจคือการติดตั้งระบบ Call Center และ Telemedicine ระบบที่เข้าไปแก้ปัญหาเรื่องของแพทย์ให้บริการยังสถานีอนามัยไม่ได้ แต่ให้แพทย์รับปรึกษาแก่เจ้าหน้าที่ได้ผ่านคอมพิวเตอร์และวิทยุสื่อสาร และยังเสริมศักยภาพความมั่นใจของประชาชนในพื้นที่ด้วยการส่งพยาบาลวิชาชีพประจำสถานีอนามัย ทำให้ประหยัดงบค่าใช้จ่ายแต่ละพีซียูลงได้เดือนละเกือบ 10,000 บาทโรงพยาบาลแห่งนี้ คว้ารางวัลเกียรติยศ “นวัตกรรมหลักประกันสุขภาพ” มาครองจากการจัดประกวดของสำนักงานหลักประกันสุขภาพ เป็นความพยายามที่ สำเร็จในการทำให้สถานีอนามัยประจำตำบลมีศักดิ์ศรีเท่ากับโรงพยาบาล แม้จะไม่ใช่ทั้งหมดแต่เป็นบริการใกล้บ้านที่ สร้างความประทับใจให้กับคนอ่าวลึกได้ในขณะนี้. (เดลินิวส์ พุธที่ 23 ก.พ. 48 http://www.dailynews.co.th)





ทันภัยใกล้ตัวไดออกซิน สารเคมีอันตราย

ไดออกซิน สารเคมีอันตราย กลายเป็นข่าวดังไปทั่วโลก หลังจากเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันเกี่ยวกับไดออกซินขึ้นกับนาย Viktor Yuschenko ผู้นำของยูเครน ที่ถูกวางยาจนใบหน้าพุพอง โดยพิษของ ไดออกซิน มีอยู่ทั่วไป ซึ่งเป็น 1 ในสารเคมีอันตรายเท่าที่มนุษย์รู้จัก มันเป็นสารเคมีที่ได้จากกระบวนการทางอุตสาหกรรม และก่อให้เกิดมะเร็ง เราทุกคนบริโภคสารเคมีอันตรายตัวนี้วันละนิดในอาหารที่เรากิน แทบจะทุกคนมีไดออกซิน ปนอยู่ในเลือด เพราะสารเคมีร้ายแรงชนิดนี้มีอยู่ทั่วไปในสิ่งแวดล้อม และสะสมอยู่ในห่วงโซ่อาหารของเรา แหล่งไดออกซินที่สำคัญแหล่งหนึ่ง คือ พลาสติกพีวีซี (ไวนิล) ไดออกซินเกิดขึ้นระหว่างกระบวนการผลิต ใช้ และทิ้งพีวีซี โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเตาเผาความร้อนสูงหรือสถานที่โล่ง ที่สำคัญไดออกซินสามารถอยู่ในสิ่งแวดล้อมได้นานหลายปี ผลิตภัณฑ์ที่ทำจากพีวีซี มีตั้งแต่ม่านคลุมอาบน้ำไปจนถึงพื้นไวนิล และพีวีซีที่ผสมในของเล่น ขณะที่ดูเหมือนว่ามันจะเป็นพลาสติกสารพัดประโยชน์แต่มันก็ส่งผลร้ายแรงต่อสิ่งแวดล้อม และสุขภาพมนุษย์ (เดลินิวส์ เสาร์ที่ 26 ก.พ. 48 http://www.dailynews.co.th)





กสอ.ดึงองค์กรพัฒนาพลังงานญี่ปุ่น ผุดโครงการต้นแบบลดพลังงาน-น้ำ

นายปราโมทย์ วิทยาสุข อธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม (กสอ.) เปิดเผยว่า กสอ.ร่วมกับองค์การพัฒนาพลังงานใหม่และเทคโนโลยีอุตสาหกรรมแห่งประเทศญี่ปุ่น หรือ NEDO จัดทำโครงการต้นแบบประหยัดพลังงานและน้ำในอุตสาหกรรมฟอกย้อมและสิ่งทอ โดยการนำเข้าเครื่องจักรทันสมัยจากญี่ปุ่นมาใช้ในโรงงานต้นแบบของไทย และยกเว้นอากรนำเข้าเครื่องจักร พร้อมจัดผู้เชี่ยวชาญเข้ามาถ่ายทอดเทคนิคให้แก่โรงงานที่เข้าร่วม ซึ่งจะผ่านการคัดเลือกจาก NEDO โดยพิจารณาจากประเภทกิจการและสถานที่ตั้งที่เหมาะสม ระยะเวลาดำเนินการ 3 ปี ทั้งนี้ การดำเนินงานตามแผนโครงการ คาดว่า จะลดการใช้พลังงานในรูปแบบต่างๆ และน้ำ รวมทั้งลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์จากกระบวนการผลิตได้ในอัตราสูง แบ่งเป็นการลดต้นทุนประเภทต่างๆ อาทิ พลังงานไฟฟ้าลดลง 64% น้ำมันเตา 64% ก๊าซหุงต้ม 64% ขณะที่ต้นทุนที่ใช้น้ำผลิตลดลง 38% และก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ 64% สำหรับหลักเกณฑ์การคัดเลือกโรงงานต้นแบบ กสอ.และ NEDO จะพิจารณาจากผู้ประกอบการอุตสาหกรรมฟอกย้อมและตกแต่งสำเร็จสิ่งทอ และสถานประกอบกิจการเอื้ออำนวยต่อการติดตั้งเครื่องจักรและอุปกรณ์ต่างๆ รวมถึงโรงงานที่เข้าร่วมต้องเสียค่าใช้จ่ายงานวางฐานรากเพื่อติดตั้งเครื่องจักรมูลค่า 10 ล้านบาท เพื่อมุ่งสู่การปรับกระบวนการผลิตด้านการลดต้นทุนสินค้า จากการใช้พลังงานลดลง ซึ่งโครงการนี้ถือเป็นเป้าหมายหนึ่งของกระทรวงอุตสาหกรรมที่จะดูแลสิ่งแวดล้อมจากโรงงานต่างๆ และสอดรับนโยบายปรับโครงสร้างเศรษฐกิจของรัฐบาลที่เน้นพัฒนาอุตสาหกรรมที่เป็นมิตรสิ่งแวดล้อม โดยเฉพาะอุตสาหกรรมสิ่งทอ ฟอกย้อม และตกแต่งสำเร็จที่ต้องใช้เทคโนโลยีขั้นสูง เพื่อผลิตสินค้าที่มีมูลค่าเพิ่มและลดต้นทุนพลังงาน รวมทั้งเตรียมรองรับการเปิดเขตการค้าเสรี (เอฟทีเอ) และยกเลิกโควตาสิ่งทอของสหรัฐในปี 2548 นี้ ซึ่งโครงการนี้อยู่ระหว่างนำเข้าเครื่องจักรจากญี่ปุ่นมาใช้ในโรงงานต้นแบบ ระยะเวลาโครงการ 3 ปี ก่อนขยายผลสู่โรงงานอื่นๆ ต่อไป (กรุงเทพธุรกิจ เสาร์ที่ 26 ก.พ. 48 http://www.bangkokbiznews.com)





ตู้เย็นร้อน?

บริษัทชาร์ปผู้ผลิตเครื่องใช้ไฟฟ้ายักษ์ใหญ่ของญี่ปุ่นเผยโฉม "ตู้เย็น/ร้อน" ตู้แรกของโลกที่มี "ช่องทำความร้อน" ในตู้ เพื่อเก็บรักษาอุณหภูมิของอาหารให้ร้อนน่าทานเหมือนทำสุกใหม่ๆ เสมอ เพราะปัจจุบันครอบครัวชาวญี่ปุ่นมักกลับบ้านมาทานข้าวไม่พร้อมหน้ากันจากภารกิจของพ่อแม่และลูกๆ ชาร์ปจึงเกิดไอเดียช่องเก็บอาหารร้อนไว้รอท่า ด้วยตู้เย็นและตู้ร้อนในตัวขนาดความจุ 20 ลิตร เตรียมวางจำหน่ายเดือนหน้านี้ด้วยราคาราว 90,000 บาท (เอเอฟพี) (มติชนรายวัน เสาร์ที่ 26 ก.พ. 48 http://www.matichon.co.th)





วิจัยฝุ่นหาดาวเคราะห์

นักดาราศาสตร์นำโดยเคต วาย. ซู จากมหาวิทยาลัยอริโซนา ได้ใช้กล้องโทรทรรศน์อวกาศสปิตเซอร์ถ่ายภาพดาวเวกาในย่านความถี่อินฟราเรดกลาง ด้วยความไวอันเหลือเชื่อของสปิตเซอร์สามารถเผยจานฝุ่นล้อมรอบดาวเวกาซึ่งประกอบด้วยฝุ่นเม็ดเล็กมีขนาดเพียงไม่กี่ไมครอน นักดาราศาสตร์อีกคณะหนึ่ง นำโดยชาลส์ เอ็ม. เทเลสโก จากมหาวิทยาลัยฟลอริดา พบฝุ่นรอบดาวดังอีกดวงหนึ่งเหมือนกัน ดาวดวงนั้นคือ ดาวบีตาขาตั้งภาพ โดยใช้กล้องเจมิไนใต้ที่มีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางถึง 8 เมตร ภาพจากกล้องแสดงก้อนฝุ่นที่อยู่ข้างๆ ดาวบีตาขาตั้งภาพ อุณหภูมิของฝุ่นแสดงว่ามีขนาด 0.1 ไมครอนเท่านั้น เนื่องจากฝุ่นขนาดเล็กจะอยู่ใกล้ดาวฤกษ์ได้ไม่นาน เพราะจะถูกแรงดันเหตุรังสี (radiation pressure) จากดาวฤกษ์ผลักให้ปลิวออกไปไกล ดังนั้นการที่พบฝุ่นอยู่ใกล้ดาวฤกษ์ แสดงว่าฝุ่นเหล่านี้เพิ่งเกิดขึ้นไม่นาน หรืออาจมีกลไกให้กำเนิดฝุ่นนี้เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง ในกรณีของดาวบีตาขาตั้งภาพ เชื่อว่ากลไกดังกล่าวน่าจะเกิดขึ้นเมื่อราว 100 ปีที่ผ่านมานี้เอง ซูเสนอทฤษฎีว่า ฝุ่นเหล่านี้เกิดจากวัตถุขนาดใหญ่ประมาณ 1,000 กิโลเมตรสองดวงหรือมากกว่า มาชนกันจนแตกเป็นเสี่ยง ต่อมาชิ้นส่วนเหล่านั้นก็ชนกันเองและแตกออกอีกอย่างต่อเนื่องจนกระทั่งกลายเป็นผงเล็กจิ๋วตามที่สำรวจพบ หากทฤษฎีนี้เป็นจริง ย่อมแสดงว่า รอบๆ ดาวฤกษ์ทั้งสองมีวัตถุขนาดใหญ่เท่ากับดาวเคราะห์น้อยโคจรอยู่ และอาจเป็นไปได้ที่จะมีวัตถุใหญ่กว่านั้น ซึ่งก็คือดาวเคราะห์นั่นเอง (มติชนรายวัน เสาร์ที่ 26 ก.พ. 48 http://www.matichon.co.th)





นักวิทยาศาสตร์ยุโรปยันมีสิ่งมีชีวิตอยู่บนดาวอังคารจริง

นายออกุสติน ชิคาร์โร นักวิทยาศาสตร์ในโครงการสำรวจดาวอังคารขององค์การอวกาศยุโรป (อีเอสเอ) เผยในวันปิดการประชุมนาน 1 สัปดาห์เมื่อวันศุกร์ (25 ก.พ.) เกี่ยวกับการสำรวจดาวอังคารที่มีนักวิทยาศาสตร์ราว 250 คน จากทั่วโลกเข้าร่วมว่า เชื่อว่ามีสิ่งมีชีวิตอาศัยอยู่บนดาวดวงนี้จริง ทั้งยังเรียกร้องให้มีการสำรวจครั้งใหม่เพื่อเก็บตัวอย่างมาพิสูจน์ความเชื่อนี้ นายชิคาร์โร ยังกล่าวด้วยว่า บรรดาดาวเคราะห์ในระบบสุริยะจักรวาล ดาวอังคารจะมีลักษณะคล้ายคลึงโลกมากที่สุด พร้อมกับย้ำว่าข้อสันนิษฐานที่ทำให้ความเชื่อว่ามีสิ่งมีชีวิตบนดาวอังคารนี้น่าเชื่อถือมากยิ่งขึ้นเมื่อมีการค้นพบแหล่งกำเนิดก๊าซมีเทน ซึ่งเป็นก๊าซที่ก่อกำเนิดสิ่งมีชีวิต รวมทั้งฟอมัลดีไฮด์บนดาวอังคารเป็นจำนวนมาก ด้านนายเอเวอเรทท์ กิ๊บสัน นักวิทยาศาสตร์จากศูนย์อวกาศแห่งองค์การบริหารการบินและอวกาศแห่งชาติ (นาซ่า) เผยผลสำรวจความคิดเห็นบรรดานักวิทยาศาสตร์ที่เข้าร่วมประชุม พบว่าร้อยละ 75 เชื่อเคยมีสิ่งมีชีวิตบนดาวอังคารจริง โดยร้อยละ 25 เชื่อว่าในปัจจุบันยังคงมีสิ่งชีวิตอาศัยอยู่บนดาวดวงนี้ นอกจากนี้ นักวิทยาศาสตร์ที่เข้าร่วมประชุมในงานนี้ยังเปิดเผยว่า ได้ค้นพบภูเขาไฟที่ยังคุกรุ่นอยู่บริเวณขั้วโลกเหนือของดาวอังคาร ไม่นับรวมการพบทะเลน้ำแข็งบริเวณเส้นศูนย์สูตรของดาวดวงนี้ที่เพิ่งก่อตัวก่อนหน้านี้ไม่ถึง 5 ล้านปีอีกด้วย (คมชัดลึก อาทิตย์ที่ 27 ก.พ. 48 http://www.komchadluek.net)





ข่าววิจัย/พัฒนา


หุ่นยนต์รดน้ำต้นไม้อัตโนมัติเกษตรกรเบาแรงแถมประหยัดน้ำ

นายถวิช ชีวรัตน์ นักเรียนโรงเรียนสุราษฎร์พิทยา เล่าให้ฟังว่า หุ่นยนต์รดน้ำต้นไม้ (Plant Robot) ตัวต้นแบบของเขานี้ จะมาทำหน้าที่ดูแลรดน้ำต้นไม้ให้กับเกษตรกร โดยอันดับแรกเขาได้ศึกษาความชื้นที่เหมาะสมที่ต้นไม้ต้องการ เพื่อนำค่าความชื้นมาเก็บไว้ในสมองกล เนื่องจากต้นไม้ต้องการความชื้นในปริมาณที่พอเหมาะตลอดเวลา ถ้าต้นไม้ได้รับน้ำในปริมาณที่ไม่สม่ำเสมอ หรือได้รับน้ำในเวลาที่ต้นไม้ไม่ต้องการ อาจส่งผลให้ต้นไม้เฉา หรือเจริญเติบโตได้ไม่ดีเท่าที่ควร หุ่นยนต์รดน้ำต้นไม้ใช้ล้อมอเตอร์ไฟฟ้าที่ได้รับกระแสไฟจากแบตเตอรี่เพื่อวิ่งไปที่โคนต้นไม้เพื่อรดน้ำ โดยรอสัญญาณจากอุปกรณ์ตรวจจับความชื้น หรือเซ็นเซอร์ที่ติดไว้ที่โคนต้นไม้แจ้งข้อมูลมายังตัวหุ่นยนต์ ระหว่างหุ่นยนต์และอุปกรณ์ตรวจความชื้นที่ต้นไม้จะสื่อสารกันด้วยแสงอินฟราเรด เมื่อข้อมูลตรวจพบค่าความชื้นน้อยกว่าที่ป้อนค่าไว้ในสมองกล คอมพิวเตอร์จิ๋วในหุ่นยนต์จะส่งคำสั่งมายังล้อมอเตอร์ให้ไปรดน้ำต้นไม้เป็นเวลา 5 วินาที จากนั้นจะวิ่งถอยหลังกลับไปยังตำแหน่งเดิม สำหรับภาษาที่ใช้โปรแกรมหุ่นยนต์เป็นภาษาที่ใช้งานง่ายเรียกว่า ภาษาโลโก้ ทั้งนี้ การนำหุ่นยนต์มาช่วยดูแลต้นไม้ แม้จะช่วยลดภาระของเกษตรกรได้ในระดับหนึ่ง แต่ก็ยังต้องใช้แรงงานคนในการเข้าไปดูหุ่นยนต์เป็นครั้งคราว ในกรณีที่แบตเตอรี่หมด วงจรดับ น้ำหมด แต่จากการทดสอบเบื้องต้นพบว่า หุ่นยนต์สามารถดูแลต้นไม้ได้ดีถึงร้อยละ 80-90 แต่ในการผลิตเพื่อจำหน่ายนั้นยังมีปัญหาอีกมาก อาทิ เซ็นเซอร์ความชื้นหาซื้อได้ยากตามท้องตลาด ตัวอุปกรณ์สมองกลชำรุดง่าย ซึ่งต้องปรับปรุงใหม่ให้ทนทานขึ้น (คมชัดลึก ศุกร์ 18 ก.พ. 48 http://www.komchadluek.net)





พิษสารตะกั่วทำให้เด็กเกเร เกิดภาวะสมาธิขาดตกบกพร่อง

ดร.เฮอร์เบิร์ต นีเดิลแมน และทีมนักวิจัยจากคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยพิตสเบิร์ก พบว่า เยาวชนที่ตกเป็นผู้ต้องหามักมีสารตะกั่วตกค้างในร่างกายสูงกว่าปกติ หรือมีพื้นเพมาจากเขตที่พบการปนเปื้อนของสารตะกั่วในสภาพแวดล้อม และจากการทดสอบยังพบด้วยว่าผู้ต้องหาที่มีสารตะกั่วตกค้าง อยู่ในร่างกายสูงกว่าปกติมักมีพฤติกรรมก้าวร้าว หรือภาวะบกพร่องทางพฤติกรรม โดย ดร.เฮอร์เบิร์ตได้แถลงในงานประชุม ของสมาคมอเมริกันเพื่อความก้าวหน้าทางวิทยาศาสตร์ว่า การได้รับสารตะกั่วในระดับที่ไม่ร้ายแรงจนถึงขั้น ต้องเข้ารับการรักษามีความสัมพันธ์กับพฤติกรรมก้าวร้าว ภาวะสมาธิบกพร่อง รวมทั้งความเสี่ยงในการประกอบอาชญากรรม ดังนั้น หากสามารถป้องกันไม่ให้เด็กได้รับสารตะกั่วที่ปนเปื้อนอยู่ในสภาพแวดล้อม ก็น่าจะช่วยลดอัตราการเกิดอาชญากรรมได้อีกทางหนึ่ง (ไทยรัฐ จันทร์ที่ 22 ก.พ. 48 http://www.thairath.co.th)





นมแพะป้องกันวัณโรคจริงหรือ วงการแพทย์วิจัยในคุณสมบัติพิเศษ

ศ.น.พ.อนุวัตร ลิ้มสุวรรณ แห่งคณะแพทยศาสตร์ โรงพยาบาลรามาธิบดี เจ้าของรางวัลรางวัลนักวิจัยดีเยี่ยม สาขาวิทยาศาสตร์การแพทย์ สภาวิจัยแห่งชาติปี 2522 ได้กล่างถึงนมแพะ ซึ่งคนจีน ยุโรปและภาคตะวันตกรู้จักดื่มกันมานานแล้ว นมชนิดนี้จะมีอนูโปรตีนเล็กเมื่อดื่มเข้าไป จะใช้เวลาเพียงเล็กน้อยประมาณ 20 นาทีก็สามารถที่จะซึมซับผ่านกระเพาะเข้าไปสู่ร่างกายได้ แล้ว ไม่เหมือนกับนมโคที่จะต้องใช้เวลาประมาณ 2-3 ชั่วโมง และในความแตกต่างอีกอย่างคือกรดไขมัน นมโคจะเป็นพวก HDL ซึ่ง อิ่มตัว ส่วนนมแพะจะเป็น LDL เป็นแบบไขมันต่ำที่ไม่อิ่มตัว อันเป็นกรดไขมันที่ดีคือดื่มไปแล้วจะไม่ทำให้อ้วน หลายคนมักจะถามว่าดื่มนมแพะรักษาวัณโรคได้จริงหรือ...ซึ่ง ศ.น.พ.อนุวัตร ลิ้มสุวรรณ ได้อธิบายว่า วัณโรค หรือเชื้อ TB นั้นมีอยู่ทุกหนแห่ง โดยเฉพาะคนในชุมชนแออัดแล้วจะมีเชื้อตัวนี้อยู่มาก ในตัวของมนุษย์ก็มีเชื้อนี้แฝงอยู่เช่นกัน และเมื่อใดร่างกายเกิดการอ่อนแอแล้วมันก็จะกำเริบขึ้นมา เมื่อ นมแพะนั้นมีกรดโปรตีนที่สมบูรณ์ ดื่มแล้วจะทำให้ร่างกายมีความต้านทานที่ดี คนดื่มนมแพะจึงไม่เป็นวัณโรค อีกอย่างในนมแพะจะมีสารตัวหนึ่งที่มีประสิทธิภาพในการสกัดเชื้อ TB ไม่ให้เจริญเติบโต นอกจากนั้น ยังอุดมไปด้วย วิตามินบี วิตามินอี แคลเซียม ฟอสฟอรัสในปริมาณสูง ซึ่งจะช่วยป้องกันโรคอัลไซเมอร์ ฮอส-ทีโพโรซีส (กระดูกเปราะ) โรคผิวหนัง และอื่นๆ (ไทยรัฐ จันทร์ที่ 22 ก.พ. 48 http://www.thairath.co.th)





เอ็มเทควิจัยเสริมสมรรถนะ'สกายแล็บ' เพิ่มความมั่นใจผู้ผลิตท้องถิ่น ก่อนเปิดตลาดทั่วไทย

ดร.วิโรจน์ ลิ่มตระการ นักวิจัยศูนย์เทคโนโลยีโลหะและวัสดุแห่งชาติ (เอ็มเทค) เปิดเผยว่า ศูนย์ฯอยู่ระหว่างปรับปรุงโครงสร้างรถจักรยานยนต์ 3 ล้ออเนกประสงค์ (สกายแล็บ) ให้แข็งแรงและชิ้นส่วนประกอบได้มาตรฐานยิ่งขึ้น โดยเป็นโครงการวิจัยร่วมกับเอกชนท้องถิ่น ที่ต้องการพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้ได้มาตรฐานยิ่งขึ้น ซึ่งจะนำไปสู่การขยายตลาดทั่วประเทศ โดยใช้ซอฟต์แวร์ไฟไนต์เอลิเมนต์ ซึ่งเป็นการประยุกต์ใช้คอมพิวเตอร์กับงานออกแบบ จำลองการทดสอบ (simulation) วิเคราะห์และทดสอบสมบัติต่างๆ ของชิ้นงาน ปัจจุบันถูกนำมาใช้อย่างกว้างขวาง เพราะช่วยลดเวลาและค่าใช้จ่ายในการออกแบบและพัฒนาผลิตภัณฑ์ รวมถึงสร้างความมั่นใจว่าผลิตภัณฑ์ที่ออกแบบมานั้น สามารถผ่านการทดสอบได้ตามมาตรฐานอุตสาหกรรม จะช่วยลดระยะเวลาการผลิตได้ด้วย จากเดิมที่ผลิตได้วันละ 2 คัน แต่เมื่อการผลิตชิ้นส่วนที่เป็นมาตรฐาน ทำให้ประกอบได้จำนวนคันเพิ่มขึ้นกว่าเท่าตัว อีกทั้งสามารถลดน้ำหนักตัวรถได้ร้อยละ 20 แต่รถแข็งแรงมากขึ้น รับน้ำหนักบรรทุกมากขึ้น ส่วนโครงการพัฒนามาตรฐานชิ้นส่วนประกอบ จะช่วยเพิ่มสมรรถนะรถด้านการออกตัว การทรงตัวและการเลี้ยว ส่งผลให้ผู้ใช้บริการเกิดความมั่นใจในความปลอดภัยมากขึ้น ขณะนี้อยู่ในช่วงทดสอบรถต้นแบบ(กรุงเทพธุรกิจ จันทร์ที่ 21 ก.พ. 48 http://www.bangkokbiznews.com)





ญี่ปุ่นพัฒนาระบบเตือนภัยคลื่นสึนามิ ตรวจจับด้วยเรดาร์คลื่นสั้นได้รวดเร็ว

สำนักข่าวเกียวโดของทางการญี่ปุ่นรายงานว่า คณะนักวิจัยญี่ปุ่นได้เริ่มการพัฒนาระบบเตือนภัยคลื่นยักษ์ด้วยเรดาร์คลื่นสั้น ที่สามารถตรวจจับคลื่นยักษ์ได้รวดเร็วขึ้น และตั้งเป้าหมายจะติดตั้งได้ทั่วประเทศในปี 2550 ระบบดังกล่าวพัฒนาโดยมหาวิทยาลัยอากิตะ ทางเหนือของญี่ปุ่นและศูนย์วิจัยที่กรุงโตเกียว จะอาศัยข้อมูลจากอุปกรณ์เรดาร์คลื่นสั้น ที่สะท้อนคลื่นวิทยุมาจากทะเล เพื่อบอกขนาดของคลื่นในทะเล อุปกรณ์ลักษณะนี้ได้รับการติดตั้งแล้ว 34 แห่งทั่วญี่ปุ่น เพื่อสังเกตการณ์กระแสคลื่นในทะเล และจะเป็นต้นแบบของระบบเตือนภัยคลื่นยักษ์ เนื่องจากมีราคาไม่สูง อุปกรณ์แต่ละชุดสามารถครอบคลุมพื้นที่ได้ 200 กิโลเมตร คณะนักวิจัยเตรียมพัฒนาระบบคอมพิวเตอร์ที่สามารถส่งสัญญาณแจ้งให้อุปกรณ์ เรดาร์คลื่นสั้นตรวจจับคลื่นยักษ์โดยอัตโนมัติทันทีที่เกิดแผ่นดินไหว เพื่อให้สามารถแจ้งข้อมูลได้อย่างรวดเร็ว คาดหวังว่าจะสามารถทดลองระบบได้ในปีหน้า และนำไปใช้ร่วมกับระบบเตือนภัยในปัจจุบันได้ในอีกหนึ่งปีถัดไป ระบบเตือนภัยของญี่ปุ่นปัจจุบันใช้เครือข่ายสถานีแผ่นดินไหว และตัวตรวจจับในน้ำเพื่อแจ้งเตือนภัยภายใน 3 นาที หลังเกิดแผ่นดินไหว (ไทยรัฐ อังคารที่ 22 ก.พ. 48 http://www.thairath.co.th)





ยุเด็กอ้วนให้ดื่มนมกันให้มากดื่มมาก ยิ่งกลับทำให้สะโอดสะอง

นักวิทยาศาสตร์ของสถาบันวิจัยอิตาลี ได้พบในการศึกษาจากเด็กนักเรียนชั้นประถมศึกษา จำนวน 1,000 คนว่า เด็กที่ไม่ค่อยดื่มนมจะมีปริมาณของไขมันในร่างกาย เป็นเปอร์เซ็นต์สูงกว่าเพื่อนคนที่ดื่มนมมากกว่า ดร.เกียนวินเซนโซ บาร์บา หัวหน้านักวิจัย กล่าวว่า "ได้พบในการศึกษาว่า การดื่มนมกับความอ้วน มีความเกี่ยวพันไปกันคนละทางยิ่งดื่มนมมาก กลับทำให้ยิ่งสะโอดสะองขึ้น" เขาอธิบายว่า "เพราะเนื่องมาจากสารแคลเซียมซึ่งมีอยู่สูงในนม ได้ไปช่วยเผาผลาญไขมันได้ดีขึ้น และพร้อมกันนั้นก็ช่วยถ่วงไม่ให้เซลล์ไขมันเจริญได้รวดเร็วขึ้นด้วย" ผู้ใหญ่ก็ปฏิบัติได้ผลแบบเช่นเดียวกันเพราะการศึกษาเมื่อเร็วๆนี้ กับผู้ใหญ่ก็ได้พิสูจน์ให้เห็นคุณประโยชน์ของอาหารที่อุดมด้วยแคลเซียม (ไทยรัฐ อังคารที่ 22 ก.พ. 48 http://www.thairath.co.th)





ภูมิปัญญาไฮเทค : กับดักหนูแสนสะดวก

โครงการ “กับดักหนูนาแสนสะดวก” อีกหนึ่งโครงการที่ร่วมแข่งขันในมหกรรมการประกวดเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารแห่งประเทศไทยครั้งที่ 4 และได้รับรางวัลชมเชยประเภทนวัตกรรมเพื่อสังคมอิศรา ปิ่นถาวรรักษ์, ปิยะพันธ์ ชมพูคำ และวันวิสาข์ ศรีวิชัย ทีมนักเรียนชั้น ม.5 จากโรงเรียนจักรคำคณาทร กับโครงการที่ต่อยอดการพัฒนาจากภูมิปัญญาชาวบ้าน เป็นเรื่องใกล้ตัวและ สามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้จริง โดย พัฒนาเป็นกับดักหนูแบบสองชุดโดยชุดแรกจะเป็นตัวกับดักซึ่งนำเอาวงจรมาประยุกต์ ได้แก่ บอร์ด CP-68HCII และ MXOII อินฟราเรดเซ็นเตอร์ ที่สามารถตรวจสอบเมื่อหนูวิ่งผ่านมอเตอร์ก็จะทำงาน และพัดเอากลิ่นอาหาร เมื่อหนูได้กลิ่นอาหารก็จะวิ่งเข้ามาโดยอัตโนมัติ และชุดที่สองคือกล่องใส่หนู ซึ่งมีลักษณะเป็นกล่องที่สามารถถอดออกมาได้ ตัวกับดักสามารถเคลื่อนที่ได้เองโดยใช้ปุ่มบังคับเพื่อไม่ต้องเสียเวลาในการเคลื่อนย้าย สามารถจับหนูได้ไม่จำกัด เมื่อหนูเต็มกล่องแล้วสามารถที่จะถอดออกมาทำลายได้ สามารถปรับเปลี่ยนกล่องให้มีขนาดที่เล็กลง หรือใหญ่ขึ้นก็ได้ตามลักษณะการใช้งาน และสถานที่ต่าง ๆ แต่ยังจะใช้วงจรรูปแบบเดิม (เดลินิวส์ อังคารที่ 22 ก.พ. 48 http://www.dailynews.co.th)





ตลาดนัดนักประดิษฐ์ : เพิ่มศักยภาพเครื่องร่อนดิน หนุนอุตสาหกรรมเซรามิคไทย

นักวิจัยจากภาควิชาวิศวกรรมเคมี คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น ภายใต้การสนับสนุนจากสำนักงานกองทุนสนับสนุนการวิจัย (สกว.) ผศ.ดร.กันยรัตน์ คมวัชระ หัวหน้าโครงการ กล่าวว่า การพัฒนาเครื่องร่อนดินต้นแบบนี้ เพื่อนำมาใช้ปรับปรุงปัญหาเรื่องระบบการร่อนดิน และลักษณะของถาดร่อนดินแบบเก่าในโรงงานเซรามิคแห่งหนึ่ง ซึ่งเครื่องร่อนดินแบบเก่านั้นจะใช้หลักการอาศัยแรงเหวี่ยงจากมอเตอร์ ทําให้เกิดการสั่นของตะแกรงและเกิดการร่อนขึ้น โดยในกระบวนการร่อนจะอาศัยแรงงานคนในการป้อนน้ำ ดิน เข้าเครื่องร่อนและต้องคอยเติมน้ำเพื่อลดความหนืดให้แก่น้ำดินอยู่ตลอดเวลา ซึ่งทําให้สัดส่วนของน้ำในน้ำดินจากเริ่มต้น 45% เพิ่มสูงขึ้นเป็น 60% ดังนั้น เมื่อทํางานไปได้สักระยะจะต้องมีการหยุดเครื่องเพื่อทําการตักเอากากทราย ทําให้กระบวนการร่อนดินเป็นไปอย่างไม่ต่อเนื่องและทำให้กระบวนการผลิตมีการสูญเสียดินที่ติดไปกับทรายเป็นจํานวนมาก นอกจากนี้ เครื่องร่อนดินแบบเก่ายังมีปัญหาในการใช้สายพานผ้าเพื่อควบคุมการโยกของถาดร่อน ซึ่งจะทําให้เกิดการส่ายของถาดร่อนหลายทิศทาง ส่งผลให้เกิดความเสียหายแก่ลูกเบี้ยว และอื่นๆ ซึ่งส่งผลให้เกิดความล่าช้าของกระบวนการผลิตและต้นทุนที่สูงขึ้น ผศ.ดร.กันยรัตน์ กล่าวอีกว่า โครงการนี้จึงตั้งวัตถุประสงค์ให้พัฒนาประสิทธิภาพเครื่องร่อนดินครอบคลุมในทุกด้าน เริ่มตั้งแต่กระบวนการร่อนดิน กระบวนการวิเคราะห์ ความสัมพันธ์ของระบบการร่อนดินแบบเปียกกับกระบวนการทําแก้วเซรามิคของโรงงานแห่งนี้ พร้อมกันนั้น ได้ออกแบบเครื่องร่อนดินให้เหมาะสมกับกระบวนการผลิต รวมถึงติดตั้งและทดสอบประสิทธิภาพของเครื่องต้นแบบ โดยให้มีการกํากับและเก็บข้อมูลในโรงงานอย่างใกล้ชิด โดยประสิทธิภาพของเครื่องร่อนดินในโครงการนี้ จะถูกประยุกต์ใช้ในการร่อนน้ำดินก่อนนำไปเป็นวัตถุดิบในการปั้นหรือขึ้นรูปชิ้นงานเซรามิค ทีมวิจัยยังคาดหวังว่า ประโยชน์ในการผลิตเครื่องร่อนดินต้นแบบนี้ จะช่วยลดต้นทุนของปริมาณดินที่สูญเสียไประหว่างกระบวนการร่อนดิน สามารถจะเพิ่มประสิทธิภาพของกระบวนการผลิตให้มีปริมาณของเสียน้อยลง และลดจํานวนแรงงานที่ใช้ในการควบคุมกระบวนเตรียมดิน ลดค่าใช้จ่ายต่างๆ โดยเครื่องร่อนดินต้นแบบนี้ ได้มีการนำไปใช้ในโรงงานผลิตภัณฑ์เซรามิคแห่งหนึ่ง ซึ่งสร้างความพึงพอใจให้กับผู้ประกอบการอีกด้วย พร้อมผลักดันและส่งเสริมให้อุตสาหกรรมเซรามิคไทย สามารถแข่งขันระดับนานาชาติได้ต่อไป (กรุงเทพธุรกิจ อังคารที่ 22 ก.พ. 48 http://www.bangkokbiznews.com)





ตู้อบแห้งพลังงานทูอินวัน ช่วยโอท็อปยืดอายุ-คุณภาพวัตถุดิบ

นายพรชัย ศรีไพบูลย์ ผู้ช่วยคณบดีคณะอุตสาหกรรมเกษตร มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ และนายจินดา ดวงสุวรรณ นายช่างเทคนิค ได้ออกแบบและพัฒนาเครื่องอบผลิตภัณฑ์การเกษตร ที่ใช้ได้ทั้งพลังงานแสงอาทิตย์และเชื้อเพลิง ซึ่งจะใช้เป็นแหล่งพลังงานสำรองในกรณีที่ท้องฟ้ามืดครึ้มและแสงอาทิตย์ไม่เพียงพอ หรือหากเกษตรกรต้องการเร่งกระบวนการอบแห้งในช่วงเวลากลางคืนก็สามารถใช้งานได้ต่อเนื่อง โดยเครื่องอบทูอินวันของคณะอุตสาหกรรมเกษตร ได้รับการออกแบบให้มีเตาด้านล่างสำหรับใส่ไม้ฟืนหรือเชื้อเพลิง ควันจะถูกกำจัดออกไปทางปล่องควัน ด้านหน้ามีแผงรับความร้อนที่ทำจากแผ่นสังกะสีลอนเล็ก และใช้โฟมเป็นฉนวนกันร้อน เหนือแผงรับความร้อนและใต้แผงรับความร้อนจะมีช่องให้อากาศไหลผ่าน ซึ่งอากาศที่ไหลผ่านนี้จะกลายเป็นอากาศร้อนไหลเข้าไปในห้องอบ ที่มีผนังด้านข้างบุด้วยพลาสติกใสรอบด้าน ภายในห้องอบนี้จะได้รับความร้อนจากแสงอาทิตย์โดยตรงด้วย ซึ่งความร้อนจากแสงอาทิตย์และความร้อนจากแผงรับความร้อนนี้ จะช่วยให้ความชื้นในวัตถุดิบถูกถ่ายโอนออกไป ทำให้ประสิทธิภาพการอบแห้งดียิ่งขึ้น และในส่วนที่สำคัญคือ แมลงหรือสัตว์ต่างๆ จะไม่เข้าไปทำลายผลิตภัณฑ์ นายพรชัย กล่าวว่า จากการทดลองอบแห้งพริกและผลิตภัณฑ์อาหารทะเล พบว่าขณะที่อุณหภูมิแสงแดด 35 องศาเซลเซียส อุณหภูมิในตู้ ณ ถาดชั้นบนสุดซึ่งผลิตภัณฑ์กระทบกับแสงแดดเต็มที่ จะมีอุณหภูมิประมาณ 62 องศาเซลเซียส และถาดชั้นล่างซึ่งได้รับความร้อนจากแสงแดดบางส่วน และลมร้อนจากแผงรับความร้อน จะมีอุณหภูมิ 55 องศาเซลเซียส โดยในเครื่องอบจะมีชั้นวางผลิตภัณฑ์ 8 ชั้น รวมพื้นที่อบแห้งทั้งสิ้น 8 ตารางเมตร ทั้งนี้ คณะอุตสาหกรรมเกษตรได้ร่วมกับคลินิกเทคโนโลยี กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เปิดบริการถ่ายทอดเทคโนโลยีการผลิตตู้อบดังกล่าวให้กลุ่มการผลิตหนึ่งผลิตภัณฑ์หนึ่งตำบล สำหรับใช้แทนที่การตากแห้งโดยธรรมชาติ ส่วนต้นทุนค่าวัสดุอุปกรณ์ประมาณ 15,000 บาทไม่รวมค่าแรง แต่ผลผลิตแปรรูปที่ได้จะปลอดภัยจากเชื้อโรคต่างๆ อันเนื่องจากแมลง ฝุ่นละอองที่ลอยมาในอากาศ (กรุงเทพธุรกิจ อังคารที่ 22 ก.พ. 48 http://www.bangkokbiznews.com)





นักวิทย์จิ๋วพบสมุนไพรซักผ้าขาว ต่อยอดทำผงซักฟอกปลอดเคมี

นายธงชัย สง่าธนอนันต์ หนึ่งในผู้จัดทำโครงงานผลิตภัณฑ์ซักผ้าขาวจากสมุนไพรธรรมชาติ โรงเรียนบ้านห้วยฮากไม้ใต้ ต.ป๋าแป๋ อ.แม่สะเรียง จ.แม่ฮ่องสอน เปิดเผยว่า เนื่องจากหมู่บ้านตั้งอยู่ห่างไกลจากตัวเมือง และไม่สะดวกด้านการคมนาคมขนส่ง ทำให้ผลิตภัณฑ์เครื่องใช้ประจำวันที่จำเป็นขาดแคลน เช่น สบู่ ผงซักฟอก แชมพู จากสภาพที่เกิดขึ้นจึงสนใจศึกษาข้อมูลพืชสมุนไพรท้องถิ่น โดยสอบถามจากชาวบ้านและพบว่า "เถาโป่ลชอคี" ซึ่งเป็นวัชพืชในท้องถิ่นสามารถนำมาทดแทนสารซักผ้าขาวได้ สำหรับขั้นตอนการทดลองเริ่มแรกนำเอาเถาของพันธุ์ไม้ชนิดนี้ที่ตัดเป็นท่อน ทุบให้เถาไม้แตกเป็นเส้นๆ จากนั้นนำไปแช่น้ำและขยี้จนเกิดฟองขึ้นมา แล้วนำผ้าชนิดต่างๆ ลงไปซักมือพบว่า สามารถขจัดคราบสิ่งสกปรกที่เปรอะเปื้อนบนเสื้อผ้าได้ โดยกำหนดส่วนผสมของเถาโป่ลชอคี 100 กรัมต่อน้ำ 10 ลิตร ผลการศึกษาพบว่าเมื่อทุบและตำ เถาโป่ลชอคีแช่น้ำ ตีให้เกิดฟอง ปรากฏว่ามีฟองเกิดเหมือนฟองผงซักฟอก แต่ไม่มีกลิ่นหอม และเมื่อทดสอบซักผ้าพบว่า ผ้าสะอาดขึ้น เมื่อเปรียบเทียบการซักผ้าด้วยเถาโป่ลชอคีกับผงซักฟอกทั่วไป พบว่า ยังมีรอยคราบติดอยู่มาก แม้ซักจำนวนครั้งเท่ากันก็ยังพบรอยคราบจางๆ อยู่เพียงเล็กน้อย ซึ่งเหมาะสำหรับผ้าที่มีรอยเปื้อนและสกปรกไม่มากเท่านั้น นอกจากนี้ยังเเหมาะสำหรับผู้ที่แพ้ผงซักฟอกอีกด้วย เนื่องจากไม่มีสารเคมีมาเจือปน (กรุงเทพธุรกิจ อังคารที่ 22 ก.พ. 48 http://www.bangkokbiznews.com)





น้ำยาขัดพื้นสูตรสมุนไพรเด็กเหนือคิดค้นสูตร-กลิ่นไม่แสบจมูก

นักวิทย์รุ่นจิ๋วค้นพบความมหัศจรรย์สมุนไพรพื้นบ้าน นำมาวิเคราะห์หาสูตรทำน้ำยาขัดพื้นจากธรรมชาติ ทดแทนน้ำยาเคมีที่ใช้ทั่วไป ระบุช่วยลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและสุขภาพของคนในชุมชน และเตรียมต่อยอดเป็นผลิตภัณฑ์หากได้รับเงินทุนสนับสนุน นายพงษ์ชัย คำภีระ หนึ่งในคณะวิจัยคิดค้นสูตรน้ำยาขัดพื้นจากพืชสมุนไพร โรงเรียนไทยรัฐวิทยา 33 บ้านทุ่งพร้าว ต.แม่สะเรียง อ.แม่สะเรียง จ.แม่ฮ่องสอน ได้นำเอาพืชชนิดต่างๆ ที่หาได้จากท้องถิ่น อาทิ ตะไคร้หอม ว่านหางจระเข้ น้ำมันมะพร้าว น้ำใบเตย มาผสมกันในสัดส่วนที่แตกต่างกันจนได้ 2 สูตร โดยสูตรแรกจะมีสัดส่วนน้ำตะไคร้หอมน้อยกว่าสูตรแรกเพียง 50 ลูกบาศก์เซนติเมตร และพบว่าสูตรแรกจะให้ประสิทธิภาพดีกว่าสูตรที่ 2 และมีกลิ่นหอมมากกว่า ซึ่งผสมในอัตราส่วนผสมน้ำตะไคร้หอม 100 ลูกบาศก์เซนติเมตร วุ้นว่านหางจระเข้ 50 ลูกบาศก์เซนติเมตร น้ำใบเตย 50 ลูกบาศก์เซนติเมตร และน้ำมันมะพร้าว 20 ลูกบาศก์เซนติเมตร ได้ส่งสารตัวอย่างไปให้ชาวบ้านที่ถูกสุ่มจำนวน 20 คน ทดลองใช้น้ำยาขัดพื้นพร้อมทั้งกรอกแบบสอบถาม พบว่าสูตรที่ 1 มีความเข้มของสีและมีความหอมมากกว่า แถมยังมีความเงางามมากกว่า เมื่อเปรียบเทียบกับสูตรที่ 2 ซึ่งให้ความเงางามน้อยกว่า ซึ่งเราพบว่าอัตราส่วนของตะไคร้หอมต่อว่านหางจระเข้ที่ต่างกันคือ 2:1 มีผลต่อคุณภาพของน้ำยาขัดพื้นในสูตรแรก ทั้งนี้ หากมีการสนับสนุนทั้งด้านความรู้และงบประมาณ จะสามารถต่อยอดโครงงานโดยพัฒนาเป็นผลิตภัณฑ์สำหรับใช้ในท้องถิ่นได้ ซึ่งต้องเน้นในประสิทธิภาพการขัดเงาพื้นและความคงทนให้อยู่ได้นาน (คมชักลึก อังคารที่ 22 ก.พ. 48 http://www.komchadluek.net)





อาบแดดรับวิตามินดี มะเร็งลูกหมากไม่รังแกชาย

ผู้ชายหมั่นตากแดดวันละนิด ช่วยลดโอกาสเสี่ยงเป็นมะเร็งต่อมลูกหมาก ผลวิจัยพบผู้ชายที่ได้รับวิตามินดีระดับสูงจากแสงแดด ที่ซึมซาบเข้าสู่กระแสเลือดมีแนวโน้มที่จะเป็นโรคร้ายน้อยกว่าคนที่ไม่ค่อยได้รับวิตามินดี การศึกษาครั้งนี้ได้สำรวจกับกลุ่มตัวอย่างชายจากมหาวิทยาลัยแพทย์ฮาร์วาร์ด และโรงพยาบาลหญิงบริกแฮม โดยนักวิจัยได้นำตัวอย่างเลือดที่เริ่มเก็บมาตรวจเมื่อปี 2535 มาเปรียบเทียบกับตัวอย่างเลือดที่ได้จากผู้ชาย 1,082 คนที่เป็นมะเร็งต่อมลูกหมากในอีก 15 ปีต่อมา ด้วยการวัดสารประกอบในวิตามินดี 2 ตัวที่พบในตัวอย่างเลือดมาเปรียบเทียบกับผู้ชาย 1,701 คนที่ไม่ได้เป็นมะเร็ง พบว่าผู้ชายที่มีระดับของสารประกอบวิตามินดีระดับสูง มีโอกาสเสี่ยงที่จะเป็นมะเร็งต่อมลูกหมากน้อยกว่าคนที่มีวิตามินดีต่ำ โดยงานวิจัยดังกล่าวยิ่งน่าเชื่อถือมากขึ้น เมื่อนักวิจัยนำตัวอย่างเลือดจากผู้ชายที่ร่วมในงานวิจัย มาวัดหาแคลเซียมและวิตามินดี แทนที่จะฟังแต่คำบอกเล่าจากปากจากกลุ่มตัวอย่างเกี่ยวกับอาหารที่คนเหล่านี้รับประทานในแต่ละวัน ซึ่งมักเกิดความคลาดเคลื่อนและทำให้งานศึกษาเกี่ยวกับอาหารและมะเร็งก่อนหน้านี้เกิดความผิดพลาดมานักต่อนักแล้ว อย่างไรก็ดี แพทย์ส่วนใหญ่ยังไม่กล้าลงความเห็นว่าแสงแดดให้วิตามินดีได้จริงหรือไม่ โดยต้องการให้มีการศึกษามากกว่านี้ แต่ก็ยอมรับว่าหากตากแดดวันละไม่เกิน 15 นาที จะช่วยให้ร่างกายได้รับวิตามินดีอย่างพอเพียง แต่ถ้าได้รับมากไปอาจทำให้เป็นมะเร็งผิวหนังได้ นอกจากนี้ยังมีงานวิจัยที่พบว่า ดื่มนมช่วยเสริมวิตามินดีให้กับร่างกาย แต่ถ้าดื่มมากก็อาจเสี่ยงเป็นมะเร็งต่อมลูกหมากได้เช่นกัน (คมชักลึก อังคารที่ 22 ก.พ. 48 http://www.komchadluek.net)





ผู้หญิงวัยทองถ่ายภาพรังสีเต้านมป้องกันมะเร็งทรวงอกได้ถึง 30%

ถ้าผู้หญิงวัยทอง อายุระหว่าง 50-79 ปีทุกคน เข้ารับการถ่ายภาพรังสีเต้านมทุกปี จะเลี่ยงหนีการสูญเสียชีวิตด้วยมะเร็งเต้านมได้มากถึง 37% นักวิจัยแซนดรา ลี กับคณะของโรงเรียนแพทย์ฮาร์วาร์ดของสหรัฐฯ ได้ศึกษาพบจาก การคำนวณ และยังพบในการศึกษาต่อมาอีกด้วยว่า แม้แต่ไปถ่ายภาพรังสีเต้านมทุกๆ 2 ปี ก็ยังอาจหนีพ้นได้ถึง 30% เธอกับคณะกำลังคบคิดกันที่จะสร้างโปรแกรมใหม่ขึ้นใน อินเตอร์เน็ต เพื่อจะให้ผู้หญิงเข้าเว็บไปคำนวณหาเปอร์เซ็นต์เสี่ยงของ แต่ละคนเอาเอง จะได้ตัดสินใจได้ว่าสมควรจะไปรับการถ่ายภาพรังสีเต้านมดีหรือไม่ สมาคมต่อต้านโรคมะเร็งแห่งอเมริกา ได้ แนะนำสตรีที่มีวัย 40 ปีขึ้นไป ให้ไปรับการถ่ายรังสีประจำปี (ไทยรัฐ พฤหัสบดีที่ 24 ก.พ. 48 http://www.thairath.co.th)





ตาบอดใช้หูแยกภาพสี

ข่าวดีสำหรับผู้พิการทางตา ในอนาคตจะได้มีโอกาสได้รับรู้ถึงสีสันของธรรมชาติว่ามีความสวยงามเพียงใด แต่การรับรู้นั้นจะผ่านทางเสียงดนตรีเพื่อจะแยกแยะสีสันได้ทางหู ประดิษฐกรรมชิ้นนี้เกิดจากความบังเอิญมากกว่า เพราะเจ้าตัวผู้คิดประดิษฐ์เครื่องนี้เพื่อถอดจากสีมาเป็นเสียงนั้นเป็นนักศึกษาระดับปริญญาเอกจากฮ่องกง แต่ไปศึกษาอยู่ที่มหาวิทยาลัยคอร์เนล ที่รัฐนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา ชื่อ วิกเตอร์ หว่อง เขางานวิจัยเกี่ยวกับการสร้างสมการคณิตศาสตร์เพื่อค้นหาความผันผวนของอากาศในอวกาศ เพราะฉะนั้นเขาจึงต้องสามารถที่จะอ่านแผนที่ของบรรยากาศชั้นบนของผิวโลกและนอกโลก ซึ่งเป็นภาพสีให้ได้ ซึ่งก็สร้างความยุ่งยากวุ่นวายให้ไม่น้อย เพราะ วิกเตอร์ ตาบอดตั้งแต่อายุ 7 ขวบ ก็คงจะเคยจำสีต่าง ๆ ได้บ้างก่อนตา จะบอดทั้งสองข้างสนิท จึงต้องให้เพื่อนร่วมงานช่วยกันบรรยายถึงลักษณะแผนที่อากาศและก็ถ่ายทอดออกมาเป็นภาษาตัวนูน ให้คนพิการทางสายตาอ่านด้วยนิ้วสัมผัสได้ หรือเรียกว่า ภาษา Braille นั่นเอง เขาเกิดแนวความคิดว่าจะช่วยตัวเองโดยคิดที่จะแปลจากภาพสีต่าง ๆ ออกมาเป็นเสียงดนตรีและก็ได้รับความช่วยเหลือจากเพื่อนนักวิจัยด้านคอมพิวเตอร์กราฟิก และนักพัฒนาโปรแกรมเพื่อช่วยงานนี้ การพัฒนาซอฟต์แวร์โปรแกรมนี้ ก็ใช้ตัวโน้ตของเปียโน 88 คีย์ เข้ามาแทนพิกเซลของสีต่าง ๆ จากสีน้ำเงินจนไปถึงสีแดงและไปจนสีแดงเข้ม งานวิจัยขณะนี้ ยังไม่เสร็จสมบูรณ์แบบ แต่ก็พอที่จะเป็นต้นแบบให้ลงรายละเอียดได้ และก็เคยทดลองกับภาพของนกแก้วแล้วถอดสีมาเป็นเสียงดนตรีเพื่อบรรยายภาพ ก็นับว่าใกล้เคียงซึ่งก็มักจะเป็นภาพที่สามารถถอดเป็นลักษณะดิจิทัลหรือตัวเลข “0” หรือ “1” เท่านั้น ในอนาคต มิสเตอร์หว่อง ก็มุ่งหวังที่จะพัฒนาโปรแกรมนี้ สามารถที่จะให้ผู้มีสายตาพิการได้รับรู้ และเข้าใจถึงภาพสีต่าง ๆ เช่น รูปภาพ รูปถ่าย (เดลินิวส์ พฤหัสบดีที่ 24 ก.พ. 48 http://www.dailynews.co.th)





โปรแกรมแปลงภาพเป็นตัวอักษร ซิวรางวัลนักวิทยาศาสตร์รุ่นเยาว์

ณัฏฐ์ ปิยะปราโมทย์ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 โรงเรียนสารสิทธิ์พิทยาลัย จังหวัดราชบุรี ได้พัฒนาโปรแกรมปรับแสงเงาของภาพเพื่อใช้กับภาพถ่ายตัวหนังสือที่บันทึกด้วยกล้องดิจิทัล หรือโทรศัพท์มือถือติดกล้อง เพิ่มประสิทธิภาพให้กับโปรแกรมถอดรหัสตัวอักษรหรือโอซีอาร์ที่ใช้ในเครื่องสแกนภาพทั่วไป โดยเมื่อต่อพ่วงกับคอมพิวเตอร์จะเปลี่ยนภาพตัวหนังสือให้เป็นอักษรที่ปรับแก้ไขข้อความได้ หลักการทำงานจะคล้ายกับโปรแกรมแปลงภาพเป็นอักษร แต่โปรแกรมเหล่านั้นมีข้อด้อยในเรื่องของแสง เงา และการไล่โทนสีของภาพ ซึ่งเป็นปัญหาให้ไม่สามารถประมวลผลได้ เนื่องจากภาพมีรายละเอียดน้อยเกินไป แต่โปรแกรมเสริมที่คิดค้นขึ้นนี้สามารถแก้ปัญหาดังกล่าวได้ ปกติเมื่อนำไปถ่ายภาพตัวหนังสือจากนิตยสาร หรือเอกสารทั่วไปแล้วจะได้เป็นภาพในฟอร์แมต JPEG หรือ TIFF แต่เมื่อนำภาพมาถอดข้อความด้วยโปรแกรมที่เขาพัฒนา จะช่วยแปลงภาพของตัวหนังสือมาเป็นตัวอักษร (text) สำหรับใช้เก็บเป็นไฟล์เอกสารได้สะดวกขึ้น โปรแกรมนี้ยังสามารถนำไปประยุกต์ใช้กับผู้พิการทางสายตา โดยหลังจากที่โปรแกรมแปลงภาพตัวหนังสือเป็นตัวอักษรแล้ว สามารถใช้โปรแกรมสังเคราะห์เสียงอ่านข้อความให้ผู้พิการสายตาฟังได้ และยังสามารถนำไปใช้เพื่อค้นหาข้อความที่อยู่ในรูปภาพ และนำไปใช้งานกับระบบมองเห็นของหุ่นยนต์ได้ด้วย ซึ่งปกติกล้องที่ติดตั้งกับหุ่นยนต์จะมองเห็นเป็นภาพเท่านั้น แต่ไม่สามารถตีความตัวหนังสือที่มันมองเห็นออกมาเป็นภาษาได้ ผลงานของณัฏฐ์ เป็นหนึ่งผลงานที่ส่งเข้าประกวดโครงงานของนักวิทยาศาสตร์รุ่นเยาว์ ซึ่งจัดขึ้นโดยศูนย์เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์แห่งชาติ (เนคเทค) ได้รับรางวัลชนะเลิศในสาขาวิทยาการคอมพิวเตอร์ และได้รับเลือกเป็นตัวแทนเยาวชนไทยเข้าร่วมการแข่งขันในงาน Intel ISEF ประเทศสหรัฐอเมริกา ระหว่างวันที่ 8 -14 พฤษภาคม 2548 โดยได้รับการสนับสนุนจากบริษัท อินเทล ไมโครซิสเท็ม จำกัด (กรุงเทพธุรกิจ พฤหัสบดีที่ 24 ก.พ. 48 http://www.bangkokbiznews.com)





พืชท้องถิ่นมีกลิ่นล่อแมลงวัน

นายเรียวไผ่ จันทรชิต นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนกัลยาณีศรีธรรมราช จังหวัดนครศรีธรรมราช เจ้าของโครงการการล่อแมลงวันทองด้วยคอลูบรินัมเป็น ผลงานชนะเลิศ เขาเผยว่า ได้ทำการศึกษาความเป็นไปได้ของการนำสมุนไพรมาใช้ในการล่อแมลง หลังจากที่เห็นแมลงจำนวนหนึ่งเกาะอยู่ที่บริเวณลำต้นของต้นพริกไทยในสวนหลังบ้าน จึงมีความคิดที่จะศึกษาสมุนไพรชนิดต่างๆ ที่สามารถล่อแมลงได้มีประสิทธิภาพ หลังจากได้เลือกทำการศึกษาสมุนไพรกว่า 7 ชนิด อาทิ กะเพรา ไพล ว่านชักมดลูก และคอลูบรินัม พบว่าคอลูบรินัมสามารถล่อแมลงวันทองได้ดีที่สุด โดยเฉพาะส่วนลำต้นซึ่งจะออกฤทธิ์ได้ดีกว่าส่วนของรากและใบ จากนั้นก็ได้ทำการศึกษาเพิ่มในส่วนของกับดักที่ใช้ล่อแมลงวันทองที่มีประสิทธิภาพสูงสุดด้วย เขายังได้ออกแบบขวดพลาสติก และนำลำต้นคอลูบรินัมใส่เข้าไปเพื่อล่อแมลงวันทอง และจากการทดลองพบว่าช่วงเวลาที่เหมาะสมในการล่อแมลงวันทองจะเป็นช่วงเวลา 9.00-12.00 น. ซึ่งวิธีการล่อแมลงด้วยพืชสมุนไพรดังกล่าว ชาวบ้านสามารถดัดแปลงอุปกรณ์เพื่อทำใช้ได้เองภายในบ้าน อีกทั้งยังไม่ก่อให้เกิดอันตรายในส่วนของการใช้สารเคมีในการกำจัดแมลงด้วย นางสาวนิตยา ทวีกิจการ อาจารย์ที่ปรึกษาโครงการ กล่าวว่า หลังจากที่ได้พืชสมุนไพรที่สามารถกำจัดแมลงวันทองแล้ว ยังได้ศึกษาเพิ่มเติมเพื่อจะทำกาวดักแมลงวันทองจากน้ำยางพาราดิบแล้วนำมาผสมกับน้ำสกัดจากใบคอลูบรินัม และส่วนผสมอื่น จนได้สารสกัดที่คาดว่ามี Methyl Eugenol เป็นองค์ประกอบหลักในการทำผลิตภัณฑ์กาวล่อแมลงในเชิงอุตสาหกรรมได้ (กรุงเทพธุรกิจ พฤหัสบดีที่ 24 ก.พ. 48 http://www.bangkokbiznews.com)





บราซิลสั่งซื้อชุดตรวจไวรัสกุ้ง มศว

ดร.ปรินทร์ ชัยวิสุทธางกูร อาจารย์ประจำภาควิชาชีววิทยา คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ (มศว) ได้ร่วมกับทีมวิจัยจากภาควิชาชีววิทยาผลิตชุดโมโนโคลนอลแอนติบอดี เพื่อตรวจหาเชื้อตัวแดงดวงขาวซึ่งเป็นไวรัสที่พบในกุ้งกุลาดำ ซึ่งเป็นเทคนิคที่ทำให้ทราบผลตรวจได้เร็วกว่าเมื่อเทียบกับวิธี PCR (พีซีอาร์) ซึ่งเป็นการเพิ่มจำนวนยีนในหลอดทดลองที่ต้องผ่านกระบวนการหลายขั้นตอนและต้องปฏิบัติการในห้องแล็บเท่านั้น ทีมวิจัย มศว ได้ใช้แอนติบอดี้ซึ่งเป็นโปรตีนสำหรับใช้ตรวจจับไวรัสกุ้ง โดยใช้ตัวอย่างจากเลือดกุ้งหยดลงไปที่แผ่นตรวจ ซึ่งสามารถทราบผลได้ทันทีว่ากุ้งนั้นติดเชื้อหรือไม่ติดเชื้อ ผลตรวจจะแสดงให้เห็นด้วยแถบสี และใช้เวลาเพียง 5 นาทีเท่านั้น ทั้งนี้ ทีมนักวิจัยได้ทำการโคลนยีนของไวรัสขึ้นมาด้วยวิธีทางพันธุวิศวกรรมแล้วก็ให้สารเคมีผลิตโปรตีนของไวรัสขึ้นมาให้มากที่สุด โดยการตัดยีนของไวรัสไปใส่ในแบคทีเรีย เพื่อให้แบคทีเรียเจริญเติบโตและผลิตโปรตีนออกมา ซึ่งเป็นโปรตีนของไวรัสที่อยู่ในแบคทีเรีย จากนั้นนำโปรตีนมาฉีดในหนูเพื่อสร้างแอนติบอดี และเมื่อได้แอนติบอดี้ก็นำมาพัฒนาเป็นชุดตรวจที่เรียกว่า “โมโนโคลนอลแอนติบอดี” ซึ่งไวรัสที่ทีมงานทำการทดลองมีหลายตัว ตั้งแต่ไวรัสโรคหัวเหลือง โรคจุดขาว ตัวแดงดวงขาว และทอร่า ตลอดถึงเชื้อแบคทีเรีย ซึ่งทีมงานได้ทำเป็นชุดตรวจสอบในลักษณะเดียวกัน เทคนิคการตรวจด้วยวิธีพีซีอาร์ มีข้อดีคือมีความไวสูงกุ้งติดเชื้อไวรัสเพียงเล็กน้อยก็ตรวจพบ ส่วนข้อเสียมีราคาแพงตรวจครั้งหนึ่งใช้เงินประมาณ 1,000 บาท อีกทั้งคนตรวจก็ต้องมีความชำนาญ นักวิจัยอธิบาย สำหรับการตรวจสอบด้วยชุดตรวจภูมิคุ้มกัน มีข้อดีคือทราบผลได้เร็ว ใช้ได้ง่าย ชาวบ้านหรือผู้เลี้ยงกุ้งสามารถทำได้ด้วยตัวเอง ราคาถูก และแม่นยำ ชุดตรวจดังกล่าว ทางมหาวิทยาลัยได้ให้หน่วยธุรกิจกุ้ง มหาวิทยาลัยมหิดล ซึ่งเป็นหน่วยงานภายใต้ศูนย์พันธุวิศวกรรมและเทคโนโลยีชีวภาพแห่งชาติ (BTOTEC) จัดจำหน่าย และยังได้ส่งชุดตรวจสอบไวรัสในกุ้งไปใช้ทดสอบในประเทศออสเตรเลีย ส่วนชุดตรวจไวรัสจุดขาวทำเสร็จแล้ว และได้ให้ศูนย์ไบโอเทคจัดจำหน่าย ซึ่งประเทศบราซิลได้ติดต่อสั่งซื้อแล้วจำนวน 10,000 ชุด (กรุงเทพธุรกิจ พฤหัสบดีที่ 24 ก.พ. 48 http://www.bangkokbiznews.com)





มจษ.ลุยวิจัยระดับประเทศ

รายงานข่าวจากมหาวิทยาลัยราชภัฏจันทรเกษม (มจษ.) แจ้งว่า คณะเกษตรและชีวภาพได้รับทุนสนับสนุนการวิจัยจากสำนักงานปลัดกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี จัดทำโครงการวิจัยและบริการประจำปี 2548 จำนวน 3 เรื่อง ระหว่างเดือนมกราคม-ธันวาคม โดยมี นส.พ.สมเกียรติ ศีลสุทธิ์ คณบดีคณะเกษตรและชีวภาพ เป็นผู้วิจัย อาทิ โครงการวิจัยด้านข้อมูลโภชนาการของน้ำนมแพะ รองรับการจัดตั้งศูนย์ข้อมูลแบบเบ็ดเสร็จ ร่วมกับ นส.พ.วัชรชัย ณรงค์ศักดิ์ ฝ่ายแบคทีเรียและไวรัสสำนักสุขภาพสัตว์แห่งชาติ กรมปศุสัตว์ ในพื้นที่ จ.เพชรบุรี ราชบุรี ปทุมธานี นนทบุรี กรุงเทพมหานคร ฉะเชิงเทรา สระบุรี และชัยนาท ส่วนโครงการส่งเสริมกระบวนการผลิตอาหารระดับชุมชน ให้ถูกมาตรฐานเชิงสุขศาสตร์แบบชุมชนมีส่วนร่วม วิจัยร่วมกับนายสันติธรรม โชติประทุม คณะเกษตรและชีวภาพ ซึ่งมีกลุ่มเป้าหมายเป็นกลุ่มแม่บ้านตาลเดี่ยวชุมชนโซน เขตมีนบุรี กรุงเทพมหานคร เพื่อพัฒนาสถานประกอบการขนาดเล็กสู่มาตรฐานจีเอ็มพี รวมทั้งโครงการพัฒนาระบบการให้บริการข้อมูลด้านเทคโนโลยีเชิงรุก วิจัยร่วมกับ นายอานนท์ มหัคพงศ์ คลินิกเทคโนโลยี โดยมีกลุ่มเกษตรกรและผู้ประกอบการในพื้นที่บริการของคลินิก (กรุงเทพมหานคร) จ.ชัยนาท เพื่อเผยแพร่เทคโนโลยีด้านวิทยาศาสตร์และวิทยาศาสตร์ประยุกต์คลินิกเทคโนโลยี ให้เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายอย่างชัดเจน (คมชัดลึก พฤหัสบดีที่ 24 ก.พ. 48 http://www.komchadluek.net)





ซอฟต์แวร์กำจัดยุงก้าวไกล ล่าสุดส่งคลื่นความถี่กำจัดลูกน้ำอยู่หมัด

นายศรัญยู บุณยรัตพันธุ์ ผู้จัดการฝ่ายวิจัยและพัฒนา บริษัท ซี มอส โซลูชั่น จำกัด ซึ่งพัฒนาซอฟต์แวร์ไล่ยุงด้วยคลื่นความถี่ เปิดเผยว่า หลังจากประสบความสำเร็จในการสร้างซอฟต์แวร์ไล่ยุงบนคอมพิวเตอร์เมื่อปี 2544 ซึ่งได้รับความสนใจจากผู้ใช้คอมพิวเตอร์เป็นอย่างมาก ต่อมาได้พัฒนาเรื่อยมาจนกระทั่งสามารถนำไปใช้กับอุปกรณ์พกพาทั่วไป ทั้งปาล์ม พ็อกเก็ตพีซี โทรศัพท์มือถือ แต่ในส่วนมือถือยังจำกัดเฉพาะมือถือที่ใช้ซีดีเอ็มเอและโนเกียบางรุ่น ซึ่งในอนาคตจะพัฒนาให้สามารถใช้ได้กับมือถือทุกรุ่นทุกยี่ห้อ สำหรับซอฟต์แวร์ไล่ยุงเวอร์ชั่น 3.3 ซึ่งเป็นเวอร์ชั่นล่าสุด ที่เปิดตัวในช่วงปลายปีที่ผ่านมา ได้เพิ่มคุณสมบัติการกำจัดลูกน้ำ ต้นตอของการเกิดยุง โดยได้ทดลองนำลำโพงพิเศษที่ส่งคลื่นความถี่จากซอฟต์แวร์ไปปล่อยบนผิวน้ำพบว่า โมเลกุลผิวน้ำเปลี่ยนแปลงส่งผลให้ลูกน้ำไม่สามารถขึ้นมาหายใจและตายในที่สุด การใช้โปรแกรมไล่ยุงเวอร์ชั่น 3.3 ต้องใช้ลำโพงพิเศษที่รองรับคลื่นความถี่สูง จึงจัดทำซอฟต์แวร์ดังกล่าวจำหน่ายพร้อมกับลำโพงชนิดพิเศษในราคา 300 บาท หากใช้ลำโพงทั่วไปจะมีเสียงก่อความรำคาญเล็กน้อย นอกจากนี้ ยังมีแนวคิดที่จะพัฒนาเป็นกล่องไล่ยุงสำหรับผู้ที่ไม่มีเครื่องคอมพิวเตอร์ และสำหรับการพกพาไปใช้นอกสถานที่อีกด้วย เวอร์ชั่น 3.3 นี้สามารถใช้ได้ทั้งการ์ดเสียงและลำโพงภายใน จึงเป็นการเพิ่มประสิทธิภาพของการไล่ยุงและลูกน้ำมากขึ้นเป็น 2 เท่า อีกทั้งสามารถบันทึกการตั้งค่าเสียง ปรับระดับเสียงของคลื่นความถี่ให้สูง-ต่ำตามใจชอบ ซึ่งถ้าปรับระดับสูงขึ้นประสิทธิภาพของการไล่ยุงจะมากตามลำดับ หรือปรับรูปแบบคลื่นให้เหมาะสมสภาวะอากาศ และขนาดของไฟล์ที่ไม่ถึง 1 เมกะไบต์จึงสามารถนำไฟล์ใส่แผ่นดิสก์ไปได้ทุกที่ (คมชัดลึก พฤหัสบดีที่ 24 ก.พ. 48 http://www.komchadluek.net)





ประดิษฐ์แว่นวิเศษโยงต่อกับสมอง ช่วยคนตามืดมัวกลับมองเห็นชัด

นักวิทยาศาสตร์เบลเยียมได้คิดประดิษฐ์แว่นตาพิเศษ ติดกล้องถ่ายรูปขนาดเล็ก มีสายเชื่อมโยงเข้ากับประสาทบังคับตา ช่วยบันดาลให้ผู้ที่สายตาเสียเพราะเหตุจอตาเสื่อม ได้กลับมองเห็นโลกได้สดใสอีกครั้งหนึ่ง ศาสตราจารย์คล็อด วาราท ผู้เป็นต้นคิดเชื่อว่า มันจะสามารถช่วยให้ผู้ ที่ต้องสูญเสียสายตา ด้วยเหตุที่จอตาอันเป็นเยื่อบางคลุมลูกตาเสื่อมลง หรือขบวนการสร้างภาพหย่อนสมรรถนะ ที่อยู่ในกลุ่มชาติสหภาพยุโรปอย่างเดียวให้กลับมองเห็นได้เป็นปกติอีกครั้งหนึ่งได้ไม่ต่ำกว่า 3 แสนคน และได้ทดสอบใช้กับคนไข้มาสองรายแล้ว ศาสตราจารย์ของมหาวิทยาลัยแคธอลิกแห่งลูเวียง ลา เนียร์ฟ แจงการทำงานของแว่นว่า กล้องถ่ายภาพที่ติดอยู่กับแว่น จะส่งภาพไปยังอุปกรณ์ อิเล็กทรอนิกส์ซึ่งฝังอยู่ข้างหลังลูกตา และไปกระตุ้นประสาท บังคับตาส่งต่อไปยังสมองอีกทีหนึ่ง อย่างไรก็ตาม มันยังมีอุปสรรคใหญ่อยู่อย่างหนึ่ง เนื่องจากยังมีราคาสูงอยู่ ตกถึงชุดละ 1,000,000 บาท (ไทยรัฐ ศุกร์ที่ 25 ก.พ. 48 http://www.thairath.co.th)





มนุษย์ก็มีญาณวิถีพิเศษคอยเตือนภัย อยู่ตรงยอดสมองของซีกด้านหน้า

นักวิทยาศาสตร์เพิ่งค้นพบว่ามนุษย์ก็มีญาณวิถีพิเศษ ที่คอยเตือนให้รู้ถึงอันตรายล่วงหน้าถึง รายงานการค้นพบที่เสนออยู่ในวารสารวิชาการวิทยาศาสตร์ระบุว่า "มันอยู่ที่สมองส่วนเดียวกับที่เราใช้ในการตัดสินใจกับเรื่องที่ขัดแย้งกัน" รายงานการศึกษาแจ้งว่า มันสมองซึ่งเรียกว่าส่วน "เอ ซีซี" ตั้งอยู่ใกล้กับยอดของสมองซีกด้านหน้า และทอดยาวไปตามส่วนที่กั้นแบ่ง ระหว่างสมองซีกซ้ายกับขวา ซึ่งมันจะช่วยแจ้งสัญญาณเตือนภัย เมื่อไม่อาจจะเข้าถึงจิตใจยามปกติได้ นักวิทยาศาสตร์โจชัว บราวน์ แห่งมหาวิทยาลัยวอชิงตัน ที่เมืองเซนต์หลุยส์ รัฐมิสซูรี หัวหน้าคณะผู้ศึกษาได้ใช้เครื่องถ่ายคลื่นสมองเป็นเครื่องมือ ในการศึกษากับคนหนุ่มสาวที่ใช้เป็นตัวอย่าง เขาเปิดเผยว่า"สมองของมนุษย์เราสามารถ จะรับรู้สัญญาณเตือนเป็นนัยได้ดีมากกว่าที่เราเชื่อกัน แต่ก่อนเราเพียงแต่จับได้แต่ปฏิกิริยาของสมองส่วนนั้น เมื่อยามจะต้องตัดสินใจในเรื่องอันยุ่งยาก หรือหลังจากที่ได้ทำผิดพลาดไป แต่เดี๋ยวนี้มันสามารถรู้จักรับรู้ได้ เมื่อเราทำความผิดพลาดขึ้นอีก มันรู้จักที่จะเตือนเราก่อน เมื่อเราทำสิ่งที่อาจเกิดผลร้ายขึ้นกับตัวได้". (ไทยรัฐ ศุกร์ที่ 25 ก.พ. 48 http://www.thairath.co.th)





ผลิตไส้กรอกฟักทองรมควัน มากล้นสารอาหารที่มีประโยชน์

อาจารย์จาก สถาบันเทคโนโลยีราชมงคล วิทยาเขตเทคนิคกรุงเทพฯ คิดทำให้ไส้กรอก มีเส้นใยเพิ่มมาก โดยการนำผลฟักทองมาผสมกับไส้กรอก จนกลายเป็นไส้กรอกฟักทองรมควัน...ผศ.ธเนศ อิสระมงคลพันธุ์ และ ผศ.วิไลลักษณ์ อิสระมงคลพันธุ์ เจ้าของแนวคิดทำไส้กรอกให้มีเส้นใยมากขึ้น เผยว่า เนื่องจากคนไทยคุ้นเคยกับพืช ที่ชื่อว่าฟักทอง อีกทั้งยังมีการบริโภคฟักทองมาช้านาน เมื่อนำฟักทอง ไปแยกสารอาหารอย่างละเอียด พบว่าในฟักทอง 1 ลูกมีสารอาหารต่างๆ มากมาย มีทั้งโปแตสเซียม ซึ่งทำหน้าที่ ในการควบคุมความดันออสโมซีส (ดูดซึม) ภาวะความสมดุลของน้ำในเซลล์ วิตามินเอซึ่งอยู่ในรูปเบต้า-แคโรทีน ซึ่งมีประโยชน์ ต่อระบบการทำงานของร่างกาย เป็นสารต้านปฏิกิริยาออกซิเดชัน นอกจากนี้ ฟักทองยังมีโปรตีน ไขมัน กากใย คาร์โบไฮเดรต สำหรับส่วน ประกอบ มีเนื้อหมู มันหมูแข็ง น้ำแข็ง ฟักทองสด พริกไทย ลูกจันทน์ป่น ดอกจันทน์ป่น อบเชยป่น น้ำตาลทราย ฟอสเฟต หอมหัวใหญ่ผงเพรค วิธีการทำเริ่มจากหั่นเนื้อหมู มันหมูแข็ง หมักด้วยเกลือแยกจากกัน โดยเก็บไว้ในห้องเย็นไม่เกิน 1 องศาเซลเซียส ภายในเวลา 24 ชั่วโมง แล้วนำมาบดแยกไว้ ให้นำเครื่องปรุง รวมทั้งเนื้อฟักทองสดมาสับ รวมกับเนื้อหมูในน้ำแข็งที่อุณหภูมิไม่เกิน 5 องศา โดยใส่น้ำแข็งลงไปในเครื่องสับก่อน เพื่อลดอุณหภูมิในเครื่องสับ ไม่เช่นนั้นความร้อน ที่มีอยู่ในเครื่องสับ และที่เกิดขึ้นจากการผสม จะดูดความเย็นของเนื้อไป เมื่อเนื้อละเอียด จึงเติมมันหมูแข็งบดลงไป เพื่อสับต่อจนเกิดอิมัลชั่น พยายามให้อุณหภูมิสุดท้าย ไม่ควรเกิน 16 องศาเซลเซียส จากนั้นนำมาบรรจุลงไส้ แล้วนำไปอบด้วยความร้อนที่อุณหภูมิ 60 องศาเซลเซียส นานประมาณ 30 นาที ต่อมาให้นำไปรมควันต่อจนกระทั่งไส้กรอกมีสีน้ำตาลทั่วถึง ในขั้นตอนสุดท้ายต้องต้มในน้ำร้อนที่อุณหภูมิ 80 องศาเซลเซียส นาน 20 นาที จึงเสร็จสิ้นขบวนการผลิตไส้กรอกฟักทองรมควัน ต้องการรายละเอียดเพิ่มเติม ติดต่อไปที่ 0-2287-3211 ต่อ 201 ในวันและเวลาราชการ. (ไทยรัฐ ศุกร์ที่ 25 ก.พ. 48 http://www.thairath.co.th)





กลาโหมสหรัฐสร้างนักรบไฮเทค

กระทรวงกลางโหมสหรัฐ ใช้งบนับล้านล้านบาท พัฒนาหุ่นยนต์นักรบแห่งอนาคต หวังใช้เป็นกองกำลังหลักในการต่อกรกับฝ่ายตรงข้าม เชื่อไม่เกินทศวรรษนี้ ได้ยลโฉมยอดทหารสมองกล หุ่นยนต์ทหารใต้สังกัดกองทัพสหรัฐ โดยผู้บัญชาการกองทัพร่วมแห่งกระทรวงกลาโหมสหรัฐ หรือเพนตากอน ยืนยันว่าทหารไฮเทคพวกนี้ทำงานได้ดีกว่ามนุษย์แน่นอน โดยฝ่ายวางแผนประจำเพนตากอน บอกว่า หุ่นยนต์ทหารที่กำลังพัฒนาขึ้นมานี้ จะสามารถคิดและมีปฏิสัมพันธ์เหมือนมนุษย์ แต่ในขั้นต้นอาจต้องใช้ระบบควบคุมทางไกลมาช่วยก่อน แต่เมื่อเทคโนโลยีได้รับการพัฒนาขึ้น หุ่นยนต์นักรบเหล่านี้ จะมีรูปลักษณ์ที่หลากหลายมากขึ้น มีความฉลาดมากขึ้น และแน่นอนจะสามารถทำงานได้เองโดยอัตโนมัติ ทีมพัฒนาหุ่นยนต์เชื่อว่า นักรบสมองกลแห่งอนาคตจะมีลักษณะท่าทาง และเคลื่อนที่ได้เหมือนมนุษย์ หรืออาจเป็นเหมือนกับนกฮัมมิงเบิร์ด รถแทรกเตอร์ รถถัง แมลงสาบ หรือแม้แต่จิ้งหรีด และด้วยความก้าวหน้าของนาโนเทคโนโลยี หุ่นยนต์เหล่านี้จะกลายเป็น "หุ่นยนต์ฝุ่น" ได้ในท้ายที่สุด ซึ่งเพนตากอนตั้งใจไว้ว่าจะพัฒนาหุ่นยนต์ให้ปฏิบัติภารกิจได้หลากหลาย ทั้งเป็นตัวช่วยขนสัมภาระ ค้นหาเป้าหมาย และเข้าต่อสู้กับฝ่ายตรงข้ามได้ด้วยความฉลาดของตัวเอง ทั้งนี้ หุ่นยนต์ทหารเป็นสิ่งที่เพนตากอนฝันมานานร่วม 30 ปี แม้ว่าบางตัวอาจต้องใช้เวลาอย่างน้อยกว่า 30 ปี ถึงจะทำฝันให้เป็นจริงได้ แต่ทีมวิจัยก็เชื่อว่าเป้าหมายนั้นไม่น่าจะเกินไขว่คว้า ขณะที่โรเบิร์ต ฟินเกลสไตน์ ประธานเทคโนโลยีหุ่นยนต์ของบริษัทโปโตแมค เห็นว่า กว่าความฝันของเพนตากอนจะเป็นจริงได้นั้น อาจต้องยาวไกลถึงปี 2578 เพราะไม่ง่ายนักที่จะสามารถพัฒนาหุ่นยนต์ที่มีลักษณะ สามารถคิดได้เอง และต่อสู้กับฝ่ายตรงข้ามได้เหมือนกับทหารตัวจริง (กรุงเทพธุรกิจ ศุกร์ที่ 25 ก.พ. 48 http://www.bangkokbiznews.com)





แพนคิดค้น'ไลโปโซม' ประสิทธิภาพสูง เพิ่มคุณสมบัติครีมซ่อมแซมเซลล์ผิวเห็นผลเร็ว

นายอนุสิกข์ ลิมอักษร ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์ บริษัท แพน ราชเทวี กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า สถาบันวิจัยและพัฒนาของบริษัทเริ่มนำนาโนเทคโนโลยี เข้ามาใช้ในกระบวนการผลิตเวชสำอางและเครื่องสำอางมากว่าสิบปีแล้ว ล่าสุดทีมวิจัยสามารถพัฒนาไลโปโซมใหม่ที่มีขนาดเล็กลงกว่าเดิม และมีประสิทธิภาพในการนำส่งสารได้มีประสิทธิภาพมากขึ้นภายใต้ชื่อ “นาโนแคป” โดยมีจุดเด่นต่างจากไลโปโซมปกติ ตรงที่มีความเสถียรมากกว่า และขนาดเล็กกว่า นอกจากนี้ ยังสามารถเก็บไว้ในอุณหภูมิห้องได้นานถึง 1 ปีโดยไม่ต้องแช่เย็นอีกด้วย นาโนแคปมีขนาดราว 50-200 นาโนเมตร สามารถใช้บรรจุสารละลายน้ำได้มากกว่าเดิม ซึ่งในอดีตไลโปโซมส่วนใหญ่จะบรรจุสารละลายในไขมันได้ดีกว่า เช่น วิตามินเอ ขณะที่สารในเครื่องสำอางโดยมากจะเป็นประเภทสารละลายน้ำมากกว่า อาทิ วิตามินซี ซึ่งเมื่อเจอแสงก็จะเสื่อมสภาพในทันที แต่นาโนแคปช่วยให้สารเคมีมีความเสถียรมากขึ้น ปัจจุบันบริษัทยังได้หันมาให้ความสนใจในการนำสารสกัด ที่ได้จากสมุนไพรไทยหลายรายการ มาใช้ในกระบวนการผลิตด้วย อาทิ ขมิ้นชันไทย กวาวเครือ ปอสา บัวบก หอมหัวใหญ่ และมะเฟือง ชะเอมเทศ เป็นต้น โดยเทคโนโลยีนาโนแคปที่พัฒนาขึ้นมานั้น จะอยู่ภายใต้แบรนด์ใหม่ที่ชื่อว่า “มิราเคิ้ล” พร้อมเปิดตัวผลิตภัณฑ์ครบชุดภายในไตรมาสนี้ ซึ่งจะเน้นไปที่ตลาดประเภทครีมหน้าเด้ง และครีมหน้าขาวหรือไวท์เทนนิ่ง โดยสมุนไพรตัวแรกที่เลือกใช้ก็คือขมิ้นชันไทย ซึ่งมีสารเตตราไฮดรอกซี เคอร์คิวมิน หรือทีเอชซี ที่คุณสมบัติในการบำรุงผิวให้เนียนใส และสามารถปรับเซลล์สีผิวที่ดำคล้ำให้ขาวใสรวดเร็วสูงกว่าขมิ้นชันอินเดียที่ผลิตภัณฑ์หน้าเด้งส่วนใหญ่ใช้ถึง 13-16% (กรุงเทพธุรกิจ ศุกร์ที่ 25 ก.พ. 48 http://www.bangkokbiznews.com)





ไบโอเทคร่วมชิเซโด้วิจัยเครื่องสำอางสมุนไพรไทย

ศ.ดร.มรกต ตันติเจริญ ผู้อำนวยการศูนย์พันธุวิศวกรรมและเทคโนโลยีชีวภาพแห่งชาติ (ไบโอเทค) เปิดเผยว่าศูนย์ไบโอเทค ร่วมมือกับบริษัท ชิเซโด้ จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทเครื่องสำอางชั้นนำของประเทศญี่ปุ่น ในการร่วมวิจัยสมุนไพรไทยในการผลิตเครื่องสำอาง ซึ่งโครงการนี้จะเป็นความร่วมมือในลักษณะหุ้นส่วน เป็นการลงทุนร่วมกันทั้งทางด้านความรู้เทคโนโลยี งบประมาณ บุคลากร และผลประโยชน์ร่วมกัน “การศึกษาวิจัยค้นหาสารออกฤทธิ์ในพืช สมุนไพรนั้นจะทำให้พืช สมุนไพรนั้นมีมูลค่าเพิ่มขึ้นเพราะสามารถนำไปพัฒนาเป็น ยา อาหารเสริมและเครื่องสำอางได้ ปัจจุบันนักวิจัยไทยก็ได้ศึกษาวิจัยและทราบคุณสมบัติและประโยชน์ของพืชสมุนไพรแล้วหลายชนิด แต่ก็ยังมีอีกมากที่เรายังไม่ได้ศึกษา ซึ่งการทำวิจัยร่วมกับ ชิเซโด้ จะเป็นการเพิ่มโอกาสและขีดความสามารถในการใช้ประโยชน์จากงานวิจัยและพัฒนาด้านพืชสมุนไพรให้กับประเทศ” ในขั้นตอนแรกจะเป็นการคัดเลือกและประเมินพืชสมุนไพรที่มีคุณสมบัติเฉพาะสำหรับเครื่องสำอาง จากนั้นทำการทดสอบประเมินสารออกฤทธิ์ในห้องปฏิบัติการ ทั้งที่ศูนย์วิจัยของชิเซโด้ ประเทศญี่ปุ่น และที่ห้องปฏิบัติการอุทยานวิทยาศาสตร์แห่งประเทศไทย หลังจากนั้น พืชสมุนไพรที่ผลทดสอบการประเมินเป็นที่พอใจก็จะนำไปวิจัยและพัฒนาเป็นผลิตภัณฑ์ต่อไป โดยก่อนวิจัยจะมีการเจรจาทำข้อตกลงในเรื่องทรัพย์สินทางปัญญา และการแบ่งผลประโยชน์ร่วมกันก่อน (กรุงเทพธุรกิจ ศุกร์ที่ 25 ก.พ. 48 http://www.bangkokbiznews.com)





นักวิทย์จิ๋วสะกัดพืชสมุนไพร ทำผงซักฟอง-กาวดักแมลง

นายธงชัย สง่าธนอนันต์ นักเรียนมัธยมศึกษาปีที่ 1 จากโรงเรียน บ้านห้วยฮากไม้ใต้ จ.แม่ฮ่องสอน ร่วมกับเพื่อนทำโครงงานผลิตภัณฑ์ซักผ้าขาวจากพืชสมุนไพรธรรมชาติ โดยศึกษาและเก็บข้อมูลจากคนท้องถิ่นพบว่า "เถาโปล่ชอคี" ซึ่งเป็นวัชพืชในท้องถิ่นสามารถนำมาทดแทนสารซักผ้าขาวได้ เริ่มแรกเขาได้นำเอาเถาของพันธุ์ไม้ชนิดนี้ที่ตัดเป็นท่อนแล้ว นำมาทุบให้เถาไม้แตกเป็นเส้น ๆ หลังจากนั้นนำไปแช่น้ำและขยี้จนเกิดฟองขึ้นมา แล้วนำผ้าชนิดต่าง ๆ ลงไปซักมือพบว่าสามารถขจัดคราบสิ่งสกปรกที่เปรอะเปื้อนบนเสื้อผ้าได้ แต่เมื่อเปรียบเทียบการซักผ้าด้วยเถาโป่ลชอคีกับผงซักฟอกทั่วไปพบว่า ยังมีรอยคราบติดอยู่มาก จึงเหมาะใช้กับผ้าที่มีรอยเปื้อนไม่มากเท่านั้น และยังเหมาะสำหรับผู้ที่แพ้ผงซักฟอกง่ายอีกด้วย ส่วนอีกผลงานหนึ่งสามารถสกัดกาวจากธรรมชาติสำหรับดักแมลงในแปลงพืช ซึ่งวิจัยโดย นายนพดล อยู่พรมแดน นักเรียนมัธยม 3 จากโรงเรียนบ้านห้วยสิงห์ จ.แม่ฮ่องสอน ซึ่งทดลองนำยางจากต้นโพธิ์มาใช้เป็นกาวดักแมลงพบว่าให้ความเหนียวหนืดได้ดีกว่า เมื่อนำไปทาบนกระดาษที่ใช้ดักแมลง โดยสามารถทนต่อสภาพอากาศได้นานถึง 3 วัน อีกทั้งไม่มีกลิ่นเหม็นฉุนจากสารเคมี (คมชัดลึก ศุกร์ที่ 25 ก.พ. 48 http://www.komchadluek.net)





กับดักมรณะ สยบแมลงสาบด้วยกลิ่นตัวเมีย

ดร.เวนเดลล์ โรลอฟส์ นักวิจัยจากมหาวิทยาลัยคอร์แนลล์ เปิดเผยว่า เป็นเวลาหลายปีมาแล้ว ที่นักวิทยาศาสตร์พยายามระบุหาสารเคมีเฉพาะ หรือฟีโรโมนเพศ ที่แมลงสาบเยอรมันตัวเมียปล่อยออกมา เพื่อดึงดูดให้ตัวผู้เข้ามาหาแม้จะอยู่ห่างไกล และในที่สุดทีมงานก็พบสารเคมีดังกล่าวแล้ว พร้อมทั้งเตรียมพัฒนากับดักชนิดพิเศษที่จะใช้ฟีโรโมนเพศสังเคราะห์ เป็นตัวเรียกแมลงสาบตัวผู้ให้มาติดกับ แนวความคิดที่จะใช้ฟีโรโมนเพศเป็นตัวล่อเพื่อกำจัดสัตว์น่ารำคาญใจทิ้ง จะไม่ใช่เรื่องใหม่ แต่ที่ผ่านมานักวิจัยไม่รู้ว่าสารเคมีดังกล่าวถูกปล่อยออกมาจากส่วนใดของแมลงสาบตัวเมีย ทั้งนี้ โดยทั่วไปแล้วฟีโรโมนเพศจะถูกปล่อยออกมาจากสัตว์ตัวเมีย เมื่อถึงเวลาที่พวกมันพร้อมจะมีคู่ และฟีโรโมนสามารถดึงดูดให้แมลงเพศผู้เข้าหาตัวเมียโดยที่ไม่อาจปฏิเสธได้ หลังจากค้นหามานาน ในที่สุด ดร.โรลอฟส์ และทีมงานก็พบต่อมปล่อยฟีโรโมน ซึ่งอยู่บริเวณส่วนปลายช่องท้อง และภารกิจต่อไปที่ต้องทำก็คือ การระบุสารเคมีเฉพาะดังกล่าว ที่จะเป็นตัวเรียกให้ตัวผู้ปรากฏกาย ด้วยการใช้หนวดแมลงสาบตัวผู้เป็นตัวชี้วัด ซึ่งทีมงานนำเอาอิเล็กโตรดสองขั้วมารัดติดกับหนวดของแมลงสาบ เพื่อบันทึกข้อมูลหากหนวดมีปฏิกิริยากับสารประกอบที่พวกเขาเลือกใช้ เมื่อได้รูปแบบของสารเคมีที่ต้องการแล้ว พวกเขาก็จะผลิตฟีโรโมนสังเคราะห์ขึ้นมา ตามด้วยการออกแบบกับดักพิเศษที่บรรจุเชื้อโรค ที่จะให้แมลงสาบเคราะห์ร้ายเป็นพาหะนำกลับไปที่รังได้ด้วย โดยการแพร่เชื้อจะเกิดขึ้นผ่านการมีเพศสัมพันธ์ของแมลงสาบด้วยกันเองภายในรัง (คมชัดลึก ศุกร์ที่ 25 ก.พ. 48 http://www.komchadluek.net)





เครื่องคัดแยกเนื้อมะขาม ฝีมือนักศึกษาราชภัฏเมืองมะขามหวาน

กลุ่มนักประดิษฐ์ระดับเยาวชนคือ นักศึกษาของมหาวิทยาลัยราชภัฏเพชรบูรณ์ คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี โปรแกรมเทคโนโลยีอุตสาหกรรมการผลิต จำนวน 4 ประกอบด้วย นายจตุภูมิ ขามภารา นายธีระพล หมื่นท่อง นายธีระวัฒน์ จันทร์แฉ่ง และนายสรศักดิ์ คนทน ทั้งหมดศึกษาอยู่ชั้นปีที่ 4 มองเห็นปัญหาความยากลำบากของกลุ่มแม่บ้านและเกษตรกรชาวสวน จึงได้คิดประดิษฐ์เครื่องแยกเนื้อมะขามขึ้น โดยมีนายสมเดช ศิริโสภณ อาจารย์ประจำโปรแกรม เป็นที่ปรึกษา เครื่องแยกเนื้องมะขามที่สร้างขึ้น สามารถแยกเมล็ดและรก ออกจากเนื้อมะขาม โดยใช้ผู้ควบคุมเพียง 1 คน ตัวเครื่องมีขนาดความกว้าง 1,400 มิลลิเมตร ยาว 700 มิลลิเมตร สูง 1,050 มิลลิเมตร ต้นกำลังใช้มอเตอร์ไฟฟ้าขนาด 1 แรงม้า 220 โวลต์ ส่งกำลังผ่านล้อสายพาน และสายพาน หลักการทำงานของเครื่อง เมื่อเปิดสวิตช์ เครื่องจะเริ่มทำงาน ต่อจากนั้นนำมะขามที่ปอกเปลือกออกแช่น้ำสะอาดใส่ลงในช่องป้อน มะขามจะตกใส่ชุดย่อยให้ขาดเป็นชิ้นๆ แล้วไหลลงสู่รางลำเลียง ต่อจากนั้นมะขามจะตกลงสู่ช่องรับ เข้าสู่ชุดรีดเนื้อ ภายในชุดรีดเนื้อนี้มีใบรีดเนื้อกับตะแกรงใบรีดหมุนรอบตัวเอง รีดเนื้อมะขามผ่านรูตะแกรง ไหลลงสู่ภาชนะรองรับ เมล็ดและรกออกทางช่องทางออก การทดสอบประสิทธิภาพของเครื่องแยกเนื้อมะขาม ทำการทดสอบใน 2 ลักษณะ คือ การทดสอบเพื่อหาสมรรถนะของเครื่อง และการทดสอบเพื่อประเมินประสิทธิภาพ โดยผู้ประกอบการจำนวน 8 คน จากผลการทดสอบสมรรถนะ เครื่องสามารถแยกเนื้อมะขามได้ดี ใช้เวลา 12 นาที แยกเนื้อมะขามได้ 10 ก.ก. เสียค่าพลังงานไฟฟ้า คิดเป็นเงิน 1,025 บาท/ชั่วโมง "การประเมินประสิทธิภาพ 4 ด้าน คือด้านการใช้งานมีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.5 คิดเป็น 91 เปอร์เซ็นต์ อยู่ในเกณฑ์ดี ด้านการออกแบบ มีค่าเฉลี่ย 4.4 คิดเป็น 88.3 เปอร์เซ็นต์ อยู่ในเกณฑ์ดี ด้านความสามารถ มีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4 คิดเป็น 80 เปอร์เซ็นต์ อยู่ในเกณฑ์ดี ด้านระบบการทำงาน มีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 3.8 คิดเป็น 80 เปอร์เซ็นต์ อยู่ในเกณฑ์ดี" ผลสำเร็จครั้งนี้จะเป็นประโยชน์แก่เกษตรกรมาก ทางมหาวิทยาลัยได้นำเครื่องที่ผลิตนี้ไปให้กลุ่มแม่บ้านหล่มเก่า ทำการทดสอบการใช้งาน ถือว่าทำได้ดีมาก จากที่เคยแกะเมล็ดออกจากเนื้อมะขาม ทำได้วันละ 5-6 ก.ก./วัน แต่เมื่อทำด้วยเครื่อง แกะเนื้อมะขามได้ครั้งละ 10 ก.ก./ชั่วโมง ถือว่าประหยัดแรงงานและต้นทุนต่ำ แต่เครื่องยังมีราคาสูงอยู่ ต่อไปในอนาคตอาจให้นักศึกษารุ่นอื่นปรับปรุงและให้ง่ายต่อการใช้ (ข่าวสด ศุกร์ที่ 25 ก.พ. 48 http://www.matichon.co.th/khaosod)





เครื่องคัดขนาด&นับจำนวนมะนาวเรียบง่ายแต่แม่นยำ

คณะนักศึกษา มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล วิทยาเขตพระนครศรีอยุธยา หันตรา โดย นายชำนาน พรหมชาติ และ นายวรวุฒิ วงศ์ชา ประดิษฐ์ เครื่องคัดขนาดและนับจำนวนมะนาว ขึ้น โดยมี อาจารย์สุนทร ฝ่ายลุย เป็นอาจารย์ที่ปรึกษา ซึ่งคณะผู้ประดิษฐ์คาดหวังว่าเครื่องดังกล่าวจะเป็นเครื่องต้นแบบราคาถูก ที่สามารถอำนวยความสะดวกให้กับเกษตรกรในการคัดขนาด และนับจำนวนมะนาว ก่อนที่จะส่งไปขายยังพ่อค้าคนกลางอีกครั้งหนึ่ง นายชำนาน หนึ่งในคณะผู้ประดิษฐ์ เปิดเผยถึงขั้นตอนการทำ งานของ เครื่องคัดขนาดและนับจำนวนมะนาว ว่า ตัวเครื่องจะประกอบด้วยส่วนที่ใช้ปรับระยะของมอเตอร์ ที่ใช้ปรับความตึงของสายพาน ซึ่งสายพานนี้เองที่จะเป็นตัวควบคุม บังคับให้การเดินเครื่องนั้นช้า หรือเร็ว เมื่อปรับระยะของมอเตอร์เรียบร้อยแล้ว ให้ใส่มะนาวที่ฐานด้านบน มะนาวก็จะไหลลงมาเรื่อย ๆ ตามราง โดยมีแผ่นยางเป็นตัวลดความเร็วในการกระแทกกับลูกกลิ้ง แล้วผลมะนาวก็จะหล่นมาตามช่องที่กำหนดขนาดผลเอาไว้ ซึ่งมี 3 ขนาด นอกจากนี้ ลูกกลิ้งยังสามารถปรับขนาดได้ตามที่ต้องการอีกด้วย และเครื่องคัดขนาดและนับจำนวนมะนาวนี้ มีต้นทุนการผลิตเพียง 2,000 บาทเท่านั้น เพราะเราใช้วัสดุที่เหลือใช้และหาได้ง่ายในท้องถิ่น เครื่องดังกล่าวสามารถต่อยอด เพื่อพัฒนาต่อไปให้ใช้กับการคัดขนาด และนับจำนวนผลส้มได้ แต่ควรมีการปรับเรื่องแรงตกกระแทกกับลูกกลิ้งด้วย เพราะอาจทำให้ผลส้มช้ำได้ เกษตรกรผู้ใดสนใจ สามารถติดต่อสอบถามได้ที่ อาจารย์สุนทร ฝ่ายลุย มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล วิทยาเขตพระนครศรีอยุธยา หันตรา ต.หันตรา อ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา หมายเลขโทรศัพท์ 0-3524-2554 ต่อ 133 ในวันและเวลาราชการ. (เดลินิวส์ พุธที่ 23 ก.พ. 48 http://www.dailynews.co.th)





ศิลปากรหนุนปั้นเกมมือถือ รับกระแสแอนิเมชั่นสร้างเกม

นายชานุวัลภ์ ชินโกมุท ซึ่งปัจจุบันเรียนอยู่ชั้นปีที่ 2 สาขาวิชาเทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อธุรกิจโปรแกรมมิ่ง คณะเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ไอซีที) มหาวิทยาลัยศิลปากร วิทยาเขตสารสนเทศเพชรบุรี หนึ่งในผู้พัฒนาเกมแพนด้าล่าหมู เกมสำหรับโทรศัพท์มือถือ กล่าวถึงที่มาของเกมว่า เป็นผลงานที่นำเอาความรู้จากการเรียนในรายวิชาการใช้โปรแกรมสำเร็จรูปเพื่อการออกแบบมาพัฒนาเป็นเกมที่เน้นความสนุกสนาน และตัวการ์ตูนที่น่ารัก ในเกม ผู้เล่นจะสวมบทบาทเป็นหมีแพนด้าที่มีหน้าคอยจับเก็บหมู ที่มีทั้งหมูป่าและหมูบ้านโดยใช้สวิงเป็นเครื่องมือ ขณะเดียวกันผู้พัฒนาเกมได้วางอุปสรรคให้หมีแพนด้าต้องคอยหลบหลีกหมีควายระหว่างปฏิบัติภารกิจด้วย โทรศัพท์มือถือที่รองรับนั้นจะเป็นโทรศัพท์มือถือยี่ห้อ โนเกีย ในซีรีส์ 40 ซึ่งเป็นมือถือที่มีผู้ใช้ดาวน์โหลดเกมไปเล่นมากกว่ารุ่นอื่นๆ อีกทั้งการทำเกมให้รองรับมือถือหลายๆ รุ่นและหลากยี่ห้อ ต้องเขียนขึ้นมาใหม่หมด เพราะฟังก์ชันการทำงานของเครื่องในแต่ละยี่ห้อไม่เหมือนกัน ทั้งขนาดหน้าจอ หน่วยความจำ ความเร็วของเครื่อง นายชานุวัลภ์จึงเลือกในส่วนที่น่าจะมีผู้เล่นมากที่สุด ในส่วนของ อาจารย์ชัยชาญ ถาวรเวช คณบดีคณะเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร กล่าวถึงผลงานจากวิชาเรียนครั้งนี้ว่า เมื่อดูจากความคิดของเด็กนักศึกษาแล้วคิดว่าใช้ได้เลย มีจินตนาการสูง แต่ถ้าจะให้ดีกว่านี้หากสามารถนำเอาการเขียนโปรแกรมเข้าไปบูรณาการได้อย่างเหมาะสม ซึ่งจะทำอย่างนั้นได้เด็กต้องมีพื้นฐานทางคณิตศาสตร์เพื่อให้สามารถดัดแปลงโปรแกรมให้เข้ากับเกมของตนได้ รุ่นนี้เป็นรุ่นแรก คิดว่าในรุ่นต่อไปจะปรับปรุงให้ดีกว่านี้ สามารถเข้าไปดูได้ที่ www.ict.su.ac.th โดยมีค่าบริการในการดาวน์โหลดเกมละ 20 บาท (คมชัดลึก พุธที่ 23 ก.พ. 48 http://www.komchadluek.net)





ซอฟต์แวร์ย่อไฟล์ภาพ รับ-ส่งเร็วทันใจแม้เน็ตอืด

โฟโต้ลีพ พัฒนาโปรแกรมใหม่ช่วยให้ผู้รักการถ่ายภาพดิจิทัล สามารถเก็บและส่งไฟล์ออนไลน์ได้สะดวกขึ้น แม้กระทั่งการส่งผ่านอินเทอร์เน็ตด้วยการเชื่อมต่อที่ช้า เพราะโปรแกรมดังกล่าวช่วยปรับย่อขนาดไฟล์ภาพได้มาก 5-15 เท่า ซอฟต์แวร์ดังกล่าวนั้น เปิดให้ดาวน์โหลดบนอินเทอร์เน็ตที่ www.photoleap.com อีกทั้งสามารถใช้งานได้ทั้งกับระบบปฏิบัติการวินโดวส์ 2000 วินโดวส์ เอ็กซ์พี และแมคโอเอส เอ็กซ์ ซึ่งโดยรวมๆ แล้ว โปรแกรมโฟโต้ลีพนั้น จะดูคล้ายกับอีเมลซึ่งสามารถส่งภาพและข้อความ เมื่อจะส่งก็เพียงคลิกปุ่มส่ง (send) เท่านั้น นอกจากนั้น ยังมีกล่องส่ง (outbox) พิเศษ สำหรับการส่งภาพ และกล่องรับข้อมูล (inbox) พิเศษ สำหรับการรับภาพโดยเฉพาะ ส่วนการใช้งานนั้น โปรแกรมนี้ไม่ได้มาแทนที่โปรแกรมอีเมล แต่จะทำงานเหมือนเป็นประตูสำหรับรับภาพและข้อความไปสู่เมลบ็อกซ์ของโฟโต้ลีพ เมื่อผู้ใช้ส่งภาพไปให้ผู้อื่นที่ไม่ได้ใช้โปรแกรมโฟโต้ลีพ ภาพจะเข้าไปอยู่ในอีเมลปกติ และจะลิงค์ให้ผู้รับปลายทางไปดาวน์โหลดโปรแกรมมาใช้ แต่หากผู้รับมีโปรแกรมอยู่แล้วภาพก็จะเข้าไปอยู่ในกล่องรับพิเศษ สำหรับค่าใช้จ่ายนั้น จะมีเวอร์ชั่นสำหรับใช้ฟรี แต่จะต้องรับเงื่อนไขการชมโฆษณา ผู้ใช้จะสามารถส่งภาพได้ 25 ภาพต่อหนึ่งข้อความ และขนาดภาพแต่ละภาพ ต้องไม่เกิน 3.5 เมกะไบต์ ส่งให้ผู้รับได้ 25 คน แต่หากเป็นเวอร์ชั่นที่มีค่าใช้จ่าย 1,160 บาทต่อปี จะส่งภาพได้ 250 ภาพ ส่งให้กับผู้รับ 250 คน แต่ละภาพขนาดไม่เกิน 8.5 เมกะไบต์ และยังมีเวอร์ชั่นสำหรับมืออาชีพ ราคาเกือบ 20,000 บาทต่อปี ส่งภาพได้ในขนาดไฟล์ 16 เมกะไบต์ (คมชัดลึก พุธที่ 23 ก.พ. 48 http://www.komchadluek.net)





ตู้อบทูอินวันเพิ่มพลังแดด อบแห้งอาหาร

นายพรชัย ศรีไพบูลย์ ผู้ช่วยคณบดีคณะอุตสาหกรรมเกษตร มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ และนายจินดา ดวงสุวรรณ นายช่างเทคนิค ได้ออกแบบและพัฒนาเครื่องอบผลิตภัณฑ์การเกษตร ที่ใช้ได้ทั้งพลังงานแสงอาทิตย์และเชื้อเพลิง ซึ่งจะใช้เป็นแหล่งพลังงานสำรองในกรณีที่ท้องฟ้ามืดครึ้มและแสงอาทิตย์ไม่เพียงพอ หรือหากเกษตรกรต้องการเร่งกระบวนการอบแห้งในช่วงเวลากลางคืนก็สามารถใช้งานได้ต่อเนื่อง เครื่องอบทูอินวันของคณะอุตสาหกรรมเกษตร ได้รับการออกแบบให้มีเตาด้านล่างสำหรับใส่ไม้ฟืนหรือเชื้อเพลิง ด้านหน้ามีแผงรับความร้อนที่ทำจากแผ่นสังกะสีลอนเล็ก และใช้โฟมเป็นฉนวนกันร้อน เหนือแผงรับความร้อนและใต้แผงรับความร้อนจะมีช่องให้อากาศไหลผ่าน ซึ่งอากาศที่ไหลผ่านนี้จะกลายเป็นอากาศร้อนไหลเข้าไปในห้องอบ ที่มีผนังด้านข้างบุด้วยพลาสติกใสรอบด้าน ภายในห้องอบนี้จะได้รับความร้อนจากแสงอาทิตย์โดยตรงด้วย ทำให้ประสิทธิภาพการอบแห้งดียิ่งขึ้น และในส่วนที่สำคัญคือ แมลงหรือสัตว์ต่างๆ จะไม่เข้าไปทำลายผลิตภัณฑ์ จากการทดลองอบแห้งพริกและผลิตภัณฑ์อาหารทะเล พบว่าขณะที่อุณหภูมิแสงแดด 35 องศาเซลเซียส อุณหภูมิในตู้ ณ ถาดชั้นบนสุดซึ่งผลิตภัณฑ์กระทบกับแสงแดดเต็มที่ จะมีอุณหภูมิประมาณ 62 องศาเซลเซียส และถาดชั้นล่างซึ่งได้รับความร้อนจากแสงแดดบางส่วน และลมร้อนจากแผงรับความร้อน จะมีอุณหภูมิ 55 องศาเซลเซียส โดยในเครื่องอบจะมีชั้นวางผลิตภัณฑ์ 8 ชั้น รวมพื้นที่อบแห้งทั้งสิ้น 8 ตารางเมตร ทั้งนี้ คณะอุตสาหกรรมเกษตร ยินดีถ่ายทอดเทคโนโลยีการผลิตตู้อบดังกล่าวให้กลุ่มการผลิตหนึ่งผลิตภัณฑ์หนึ่งตำบล สำหรับใช้แทนที่การตากแห้งโดยธรรมชาติ ส่วนต้นทุนค่าวัสดุอุปกรณ์ประมาณ 15,000 บาท แต่ผลผลิตปลอดภัยจากเชื้อโรคต่างๆ อันเนื่องจากแมลง ฝุ่นละอองที่ลอยมาในอากาศ (คมชัดลึก พุธที่ 23 ก.พ. 48 http://www.komchadluek.net)





การใช้น้ำหมักผลไม้ เพื่อเพิ่มผลผลิตและคุณภาพน้ำในการเพาะเลี้ยงกุ้ง" การสร้างบทเรียนวิทยาศาสตร์ท้องถิ่น ของชาว ต.ก้อนแก้ว กิ่งอ.คลองเขื่อน จ.ฉะเชิงเทรา

วัตถุประสงค์ของโครงการวิจัยนี้ คือ การนำภูมิปัญญาชาวบ้านเรื่องน้ำหมักผลไม้มาทำการวิจัยเพื่อศึกษาคุณสมบัติที่เหมาะสมกับการเลี้ยงกุ้ง และนำงานวิจัยที่ได้มาสร้างบทเรียนวิทยาศาสตร์ท้องถิ่นระดับอุดมศึกษา และมัธยมศึกษาตอนปลาย โดยการวิจัยครั้งนี้เป็นการร่วมมือกันทำวิจัยแบบ 3 ประสาน คือ 1.คณาจารย์ และนักศึกษาคณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยราชภัฏราชนครินทร์ 2.คณะครูและนักเรียนมัธยมศึกษาตอนปลาย โรงเรียนก้อนแก้วพิทยาคม และ 3.ปราชญ์ชาวบ้านซึ่งใช้เป็นแหล่งเรียนรู้ในโครงการนี้ โดยระยะเวลาการวิจัย 1 ปี จากการศึกษาคุณสมบัติของน้ำหมักผลไม้พบว่า มีจำนวนจุลินทรีย์ในปริมาณที่พอเหมาะ โดยเมื่อนำมาคลุกอาหารเลี้ยงกุ้งจะช่วยส่งเสริมให้ผลผลิต และคุณภาพน้ำในการเลี้ยงกุ้งดีขึ้น สำหรับระยะเวลาการหมักที่เหมาะสมประมาณ 3 สัปดาห์ก่อนนำมาใช้งาน อีกทั้งการเติมหัวเชื้อจุลินทรีย์เข้มข้น (Effect Microorganism ; EM) จะช่วยทำให้เกิดการหมัก (fermentation) ที่สมบูรณ์ได้เร็วขึ้น จากการวิจัยได้บทเรียนวิทยาศาสตร์ท้องถิ่นระดับอุดมศึกษา เรื่อง การใช้น้ำหมักผลไม้ในการเพิ่มผลผลิตและคุณภาพน้ำในการเลี้ยงกุ้ง และได้บทเรียนวิทยาศาสตร์ท้องถิ่นระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย เรื่อง การศึกษาคุณภาพน้ำในการเพาะเลี้ยงกุ้ง ผลการทดสอบผลสัมฤทธิ์ในการเรียนบทเรียนที่สร้างขึ้น พบว่า ผู้เรียนในทั้ง 2 ระดับการศึกษาสามารถทำคะแนนหลังการเรียนรู้ได้สูงกว่าก่อนการใช้บทเรียน ความคิดเห็นต่อการใช้บทเรียนทั้ง 2 ระดับอยู่ในระดับมาก ซึ่งนักเรียน นักศึกษาเห็นด้วยกับการใช้บทเรียนวิทยาศาสตร์ท้องถิ่น โครงการวิจัยนี้สามารถต่อยอดการวิจัยในเรื่องคุณสมบัติของเชื้อที่ได้ และทดลองนำไปใช้ในบ่อเลี้ยงจริง (ข่าวสด พุธที่ 23 ก.พ. 48 http://www.matichon.co.th/khaosod)





วิจัยเสริมเต้านมด้วยสเต็มเซลล์ ปลอดภัยกว่าซิลิโคน-ถุงน้ำเกลือ

เจเรมี เหมา นักวิจัยจากมหาวิทยาลัยอิลลินอยส์ สหรัฐ ประสบความสำเร็จในการนำสเต็มเซลล์มนุษย์มาเพาะให้เป็นเนื้อเยื่อไขมัน จากนั้นนำเนื้อเยื่อมาปลูกถ่ายลงในหนูพร้อมด้วยโครงที่จะให้เนื้อเยื่อเกาะให้เป็นรูปทรงที่ต้องการ หลังจากผ่านไปได้สี่สัปดาห์ พบว่า เนื้อเยื่อดังกล่าวเติบโตไปเป็นเต้านมตามโครงที่ออกแบบไว้ โดยที่ขนาดและรูปทรงไม่ได้ผิดเพี้ยนหรือเปลี่ยนแปลงไปจากที่กำหนดไว้ งานวิจัยชิ้นนี้ใช้องค์ความรู้พื้นฐานที่จะพัฒนาสเต็มเซลล์ให้เกิดประโยชน์ต่อสังคม โดยการเสริมขนาดเต้านมให้ใหญ่กว่าเดิมด้วยวิธีการปลูกถ่ายเนื้อเยื่อจากสเต็มเซลล์ นับเป็นทางเลือกที่ปลอดภัยกว่าการใช้ซิลิโคน หรือการใช้ถุงน้ำเกลือ ที่สามารถรั่วหรือแตกได้ เพราะนั่นจะนำไปสู่การเป็นมะเร็งเต้านมในท้ายที่สุด นอกจากนี้ จากการทดลองพบว่าเต้านมที่เกิดขึ้นมีขนาดและรูปทรงคงที่ยาวนานกว่าการใส่ของเทียมเข้าสู่ร่างกาย ซึ่งโดยทั่วไปแล้วเต้านมที่เสริมด้วยซิลิโคนหรือน้ำเกลือจะลดขนาดลงราว 40-60% หลังจากผ่านไปแล้วหลายปี การทดลองเริ่มด้วยการสกัดเซลล์มีเซนไคมัล (mesenchymal) ออกจากไขกระดูกมนุษย์ ซึ่งเป็นเซลล์ต้นแบบที่สามารถเติบโตไปเป็นเซลล์อื่นๆ ได้หลากหลายชนิด รวมถึงเซลล์ไขมัน และกระดูกอ่อนด้วย แต่เหมาได้บังคับให้เซลล์ดังกล่าวกลายเป็นเซลล์ไขมัน จากนั้นเซลล์ดังกล่าวจะถูกทำให้เป็นรูปร่างด้วยโครงไฮโดรเจล และใส่เข้าไปในหนูทดลอง 8 ตัว หลังจากผ่านไปได้ 4 สัปดาห์ ทีมงานพบว่าขนาดและรูปร่างของเซลล์ดังกล่าวไม่ได้เปลี่ยนแปลงและมีอายุยาวนานกว่าของเทียมที่ใส่เข้าไป ซึ่งปกติจะเริ่มผิดรูปหลังจากผ่านไปได้หนึ่งหรือสองสัปดาห์ เหมาเชื่อว่าการเสริมเต้านมด้วยสเต็มเซลล์ จะสามารถเป็นจริงได้ภายในสิบปี แต่ก็ยอมรับว่ายังต้องแก้ข้อกังขาอีกหลายประการ อาทิ เนื้อเยื่อที่ถูกเพาะขึ้นมาใหม่นี้จะมีปฏิกิริยากับเนื้อเยื่อเดิมที่อยู่รอบๆ หรือไม่ รวมทั้งจะต้องใช้เทคนิคพิเศษที่เอื้อให้เนื้อเยื่อเติบโตเพิ่มเติมหรือไม่ (กรุงเทพธุรกิจ พุธที่ 23 ก.พ. 48 http://www.bangkokbiznews.com)





ม.เชียงใหม่ตั้งสมาคมวิจัยอนุมูลอิสระ มุ่งค้นหาสารธรรมชาติทำยามะเร็งผ่านนาโน

รศ.ดร.จักรพันธ์ ศิริธัญญาลักษณ์ รองคณบดีฝ่ายวิจัยและบัณฑิตศึกษา คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ เปิดเผยระหว่างการประชุม Nanotechnology : Drug Delivery System & Free Radical School 2005 ว่า คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ร่วมกับ เครือข่ายมหาวิทยาลัยต่าง ๆ ภายในประเทศ อาทิ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล และมหาวิทยาลัยขอนแก่น ร่วมกันจัดตั้งสมาคมวิจัยอนุมูลอิสระประเทศไทย เพื่อเป็นศูนย์กลางการแลกเปลี่ยนความรู้ และการวิจัยทางด้านอนุมูลอิสระภายในประเทศไทย รวมทั้งการประสานงานเครือข่ายสมาคมอนุมูลอิสระนานาชาติอีกด้วย สารอนุมูลอิสระ (Free Radical) ในเบื้องต้นจะเน้นการวิจัยเกี่ยวกับโรคมะเร็ง และภาวะแทรกซ้อนที่เกิดจากโรคอื่น ๆ โดยการนำเอาความรู้เรื่องนาโนเทคโนโลยีและระบบการนำส่งยามาช่วยในการวิจัยหาวิธีลดสารอนุมูลอิสระภายในร่างกาย ปัจจุบันทางคณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ อยู่ระหว่างวิจัยสารแอนติออกซิแดนท์หรือสารต้านอนุมูลอิสระ ที่มาจากสมุนไพรพืชพื้นบ้านโดยทำให้มีขนาดอะตอมเล็กลงหรือในระดับอนุภาคนาโน ซึ่งช่วยนำสารจากสมุนไพรเข้าถึงระดับเซลล์ได้ อาทิ งานวิจัยสกัดน้ำมันจากต้นแมงลักคาซึ่งเป็นวัชพืชท้องถิ่น แต่เมื่อนำมาสกัดกลับให้ปริมาณน้ำมันจำนวนมาก ซึ่งงานวิจัยจะต่อยอดเป็นน้ำมันสำหรับไล่ยุง โดยนำนาโนเทคโนโลยีมาจัดการกับอะตอมของน้ำมันให้มีขนาดเล็กลงและซึมสู่เซลล์ได้ง่ายเมื่อทาบบนผิวหนัง นอกจากนี้ ยังมีงานวิจัยเกี่ยวกับสารต้านอนุมูลอิสระ ในรูปแบบน้ำหมักชีวภาพสำหรับการบริโภค ซึ่งจะช่วยปกป้องอันตรายของอนุมูลอิสระ อาทิ มะขามป้อม มะเกี๊ยง กระชายดำ และลูกยอ ซึ่งล้วนให้สารต้านอนุมูลอิสระที่มีประสิทธิภาพและยังหาได้ง่ายภายในท้องถิ่น ปัจจุบันนาโนเทคโนโลยีได้รับความสนใจทั้งในประเทศและต่างประเทศ โดยเฉพาะการออกแบบระบบนำส่งตัวยาหรือยีน รวมทั้งสารประกอบชีวภาพต่างๆ ไปสู่อวัยวะเป้าหมายเพื่อรักษาอาการของโรคให้ตรงกับอวัยวะที่เสื่อมลงมาก รวมทั้งการพัฒนาผลิตภัณฑ์ยาออกสู่ภาคอุตสาหกรรมและการส่งออกซึ่งช่วยเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันให้มีรายได้เข้าสู่ประเทศ รศ.ดร.จักรพันธ์ กล่าวอีกว่า การจัดตั้งสมาคมดังกล่าวถือว่าเป็นครั้งแรกในประเทศไทย และเป็นแห่งแรกในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ภายใต้ความร่วมมือของ Society for free Radical Research Korea and International ทั้งนี้ ในส่วนของคณะกรรมการบริหารสมาคมจะคัดเลือกมาจากตัวแทนมหาวิทยาลัยต่าง ๆ ภายในประเทศ โดยมีคณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ เป็นศูนย์ประสานงานหลัก (กรุงเทพธุรกิจ พุธที่ 23 ก.พ. 48 http://www.bangkokbiznews.com)





พบโรคลึกลับของนักค้าแข้งอาชีพ เซลล์ประสาทถูกกินจนเป็นอัมพาต

คณะนักวิทยาศาสตร์ของมหาวิทยาลัยตูรินได้พบ เมื่อศึกษาประวัติการเจ็บป่วยของนักฟุตบอลอาชีพอิตาลีจำนวน 7,000 คน เจอว่ามีผู้ที่ป่วยเป็นโรคประหลาดนี้มากกว่าปกติธรรมดาถึง 5 เท่า โรคนี้เป็นโรคของเซลล์ประสาทสั่งการแบบเดียวกับที่นักฟิสิกส์ผู้มีชื่อเสียงของโลก สตีเฟน ฮอว์กิ้ง เป็นอยู่ และมีชื่อโรคว่า "โรคเอแอลเอส" เดิมทีเคยพบในการศึกษา การแอบลอบโด๊ปยาของ บรรดานักฟุตบอลอาชีพและกึ่งอาชีพอิตาลีจำนวน 24,000 คน เมื่อตอน 2-3 ปีมาก่อนแล้ว ครั้งนั้นได้พบว่ามีนักฟุตบอลพากันเป็นโรคนี้อยู่ 33 ราย โรคนี้เป็นโรคที่เกิดกับเซลล์ประสาทสั่งการแบบที่เป็นกันอยู่มากที่สุด เนื่องมาจากเซลล์ประสาทสั่งการ ซึ่งควบคุมการเคลื่อนไหวของสมองและไขสันหลังพากันตายลง ทำให้กล้ามเนื้อตามส่วนต่างๆอ่อนปวกเปียก พูดจา กลืนอาหารแม้กระทั่งหายใจได้ลำบาก และลงเอยด้วยการเป็นอัมพาตโดยสิ้นเชิง ปัจจุบันก็ยังไม่ทราบสาเหตุกัน แต่นักวิจัยกล่าวเชื่อว่าโอกาสเสี่ยงขึ้นอยู่กับการได้รับบาดเจ็บจากการเล่นกีฬา หรือไม่ก็เพราะการใช้ยาโด๊ป หรือเพราะการกระทบกับส่งที่เป็นพิษจากสิ่งแวดล้อม เช่น ปุ๋ยเคมีและยาฆ่าหญ้าตามสนามฟุตบอล และรวมทั้งอาจเนื่องมาแต่จากหน่วยพันธุกรรมเองก็ได้. (ไทยรัฐ เสาร์ที่ 26 ก.พ. 48 http://www.thairath.co.th)





อุดฟันแบบใหม่โยนเครื่องกรอฟันทิ้ง ใช้สารสังเคราะห์ปะผุเคลือบฟันแทน

นักวิทยาศาสตร์ชาวอาทิตย์อุทัย ได้พบวิธีรักษาฟันและอุดฟัน โดยใช้เคลือบฟันที่สังเคราะห์ขึ้น สามารถซ่อมและอุดฟันอย่างง่ายดาย โดยไม่ต้องกรอและใช้การอุดฟันกันอีก สารเคลือบฟันที่สงเคราะห์ขึ้นนั้น มีลักษณะเป็นเหมือนแป้งผลึกสีขาว ใช้ซ่อมแซมเคลือบฟันให้กลับคืนดีได้ดังเดิม โดยไม่ต้องไปขจัดส่วนที่ผุเป็นรูออกเสียก่อน ทันตแพทย์ผู้เชี่ยวชาญของสถาบันทันตกรรมเอฟเอพี ในกรุงโตเกียว กล่าวแจ้งว่า ทุกวันนี้เวลาอุดฟัน แพทย์จะต้องขจัดส่วนที่ผุออกเสียก่อน จึงจะอุดรูของฟันผุด้วยโลหะผสม ซึ่งหากเป็นเพียงรูเล็กๆ ก็อาจพลอยไปกระทบฟันซี่ที่ดีด้วย เพราะจำต้องขยายรูออก เพื่อจะได้อุดได้ถนัด แต่เมื่อใช้วัสดุสังเคราะห์แทน จะสามารถปะซ่อมเคลือบฟันโดยไม่ต้องไปกรอ หรือขุดแต่อย่างใด คณะทันตแพทย์ญี่ปุ่น รายงานผลงานในวารสารวิทยาศาสตร์ "ธรรมชาติ" ไว้ว่า จากการทดสอบการซ่อมเคลือบฟันกรามน้อยด้วยวิธีใหม่ โดยใช้กล้องจุลทรรศน์อิเล็กตรอน ได้พบว่าสารสังเคราะห์สามารถเข้ากับเคลือบฟันตามธรรมชาติได้เป็นเนื้อเดียวกัน เพียงแต่ระวังอย่างเดียวเท่านั้น เวลาทำต้องอย่าให้สารสังเคราะห์นั้นไปโดนเหงือกเข้า เพราะอาจทำให้เหงือกอักเสบได้ เนื่องจากมันมีส่วนผสมของไฮโดรเจนเพอร์ออกไซด์อยู่สูง. (ไทยรัฐ เสาร์ที่ 26 ก.พ. 48 http://www.thairath.co.th)





แบคทีเรียช่วยผลิตแผ่นหนังเทียมคุณภาพสูง

นางสุวารี พงศ์ธีระวรรณ อาจารย์จากโรงเรียนสุราษฎร์พิทยา จ.สุราษฎร์ธานี เปิดเผยถึง โครงการการใช้ประโยชน์จากแบคทีเรีย เพื่องานศิลปะแกะสลักภาพ ซึ่งคว้ารางวัลชมเชยผลงานประดิษฐ์คิดค้น ประจำปี 2548 สาขาการศึกษา จากสำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ (วช.) ว่าวัตถุประสงค์เพื่อให้นักเรียนสามารถเรียนรู้วิชาชีววิทยาแบบไม่ต้องท่องจำ โดยให้ลงมือปฏิบัติด้วยตัวเอง หลังจากทำโครงการนี้ขึ้นมา นักเรียนก็มีความรู้เรื่องแบคทีเรียโดยไม่รู้ตัว รู้ว่าจะทำให้ปลอดเชื้อได้อย่างรู้ และรู้วิธีป้องกันอันตรายจากแบคทีเรีย เรียนรู้การเจริญเติบโตของแบคทีเรีย รู้ว่าต้องเตรียมสูตรอาหารอย่างไร โดยไม่ต้องท่องจำ และชิ้นงานที่ได้ก็สามารถนำไปพัฒนาต่อเป็นศิลปะแกะสลักพื้นบ้านได้ ถือเป็นการหลอมศาสตร์และศิลป์เข้าด้วยกันจริงๆ ครูและนักเรียนจากปักษ์ใต้ชุดนี้ เลือกแบคทีเรียอะซีโตแบคเตอร์ ไซลินัม (acetobacter xylinum) ที่ใช้ผลิตวุ้นมะพร้าว มาสร้างเป็นแผ่นหนังเทียมสำหรับนำไปใช้แกะสลักภาพ และหนังตะลุงในรูปต่างๆ ซึ่งเดิมจะใช้รูปจากการแกะสลักบนแผ่นหนังควาย หรือหนังวัวเป็นหลัก สาเหตุที่เลือกใช้หัวเชื้อแบคทีเรียดังกล่าว เพราะในจังหวัดสุราษฎร์ธานีได้เพาะเลี้ยงวุ้นมะพร้าวกันอย่างแพร่หลาย อาจารย์สุวารีจึงแนะนำนักเรียนให้นำมาคิดและพัฒนาต่อ รวมทั้งคิดสูตรอาหารต่างๆ ด้วยการนำวัสดุเหลือใช้ในท้องถิ่นมาเป็นส่วนประกอบร่วม จนสามารถได้สูตรเฉพาะในการสร้างหนังเทียมที่มีคุณภาพเทียบเท่าหนังแท้ และสามารถนำไปพัฒนาเชิงธุรกิจ และเลือกใช้ผักตบชวามาผสมในสูตรอาหารสำหรับเพาะเลี้ยงแบคทีเรีย คุณสมบัติที่ดีของผักตบชวาก็คือ ทำให้แผ่นเซลลูโลสที่ได้มีความเหนียวและแน่นมากขึ้น โดยใช้เวลาเลี้ยงประมาณ 10 วัน เมื่อมีลักษณะเป็นเจลแล้ว ก็นำไประเหยแห้ง และหากต้องการได้แผ่นเซลลูโลสขนาด 10x12 เซนติเมตร ก็ใช้ปริมาณจุลินทรีย์ประมาณ 50 ลูกบาศก์เซนติเมตร หลังจากที่วุ้นแห้งแล้ว จะมีลักษณะเหนียวคล้ายแผ่นหนัง สามารถนำไปประยุกต์ใช้แกะสลักภาพเป็นหนังตะลุง หรือรูปภาพต่างๆ ได้หลากหลาย โดยจุดเด่นของวั"สดุเทียมจะอยู่ที่ความเหนียว ทนทานต่อแรงดึง นำมาแกะสลักภาพได้ในต้นทุนที่ต่ำ และเป็นการเพิ่มมูลค่าให้กับวัสดุที่มีในท้องถิ่นได้อย่างมาก (กรุงเทพธุรกิจ เสาร์ที่ 26 ก.พ. 48 http://www.bangkokbiznews.com)





ม.ขอนแก่นสร้าง'หนูทดลอง'ป้อนแล็บ พร้อมผลิตสัตว์พิเศษทางพันธุกรรมมุ่งวิจัยเฉพาะโรค

ดร.ยุพา คู่คงวิริยพันธุ์ ผู้ช่วยคณบดีฝ่ายวิจัย คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น ซึ่งรับผิดชอบดูแลหน่วยสัตว์ทดลองของคณะ เปิดเผยว่า มหาวิทยาลัยอยู่ระหว่างก่อสร้างอาคารศูนย์สัตว์ทดลอง โดยมุ่งผลิตสัตว์ทดลองขนาดเล็กเท่านั้น เช่น หนูเมาส์ แรท แฮมเตอร์ หนูตะเภา กระต่าย และคาดว่าจะสามารถผลิตได้โดยรวมอย่างน้อย 5,000 - 8,000 ตัวต่อปี เพื่อให้เพียงพอสำหรับบริการงานวิจัยภายใน ม.ขอนแก่น และครอบคลุมสถาบันอุดมศึกษาบางแห่งในพื้นที่อีสานด้วย ภารกิจของศูนย์ฯ จะผลิตเฉพาะสัตว์ทดลองขนาดเล็กที่ได้มาตรฐานเท่านั้น เช่น ทดสอบการออกฤทธิ์ในเบื้องต้นของสารสำคัญทางยา สมุนไพร ผลิตภัณฑ์ทางธรรมชาติ และทดสอบทางพิษวิทยา ซึ่งผลการทดสอบในสัตว์เล็ก สามารถนำไปต่อยอดสู่การทดลองระดับต่อไปในสัตว์ใหญ่ ฉะนั้นสัตว์เล็กจึงสำคัญในฐานะจุดเริ่มต้นการทดลองวิจัย โดยทั่วไป มาตรฐานสากลสำหรับการป้องกันการติดเชื้อนั้น ต้องเป็นระบบปิดที่ควบคุมสภาพแวดล้อมเป็นพิเศษ ทั้งเรื่อง แสง เสียง ความชื้น อุณหภูมิ ความดันบรรยากาศ การถ่ายเทอากาศ และระบบการเลี้ยงและดูแลสัตว์ทดลองจัดแบ่งเป็น 3 ระดับ โดยระดับแรกเป็นลักษณะ "อนามัยเข้ม" (Strict hygenic condition) ซึ่งมีมาตรการควบคุมและป้องกันการติดเชื้ออย่างเคร่งครัด ส่วนระดับ 2 (Specific pathogen free) สัตว์ที่เลี้ยงจะถูกทำให้ "ปลอดเชื้อบางชนิด" จึงมีภูมิคุ้มกันต่ำ จำเป็นต้องเลี้ยงและดูแลเป็นพิเศษใน barrier system สัตว์ที่เลี้ยงในระดับนี้จะเป็นสัตว์สายพันธุ์พิเศษทางพันธุกรรม ใช้ในการศึกษาวิจัยเฉพาะในโรคต่างๆ และการศึกษาการตอบสนองทางอิมมูน การทดสอบวัคซีน หรือทดสอบยา สารออกฤทธิ์กับเชื้อบางชนิด ดังนั้นระบบการดูแลและการควบคุมการป้องกันการติดเชื้อจึงมีความพิเศษมากขึ้น ส่วนระดับ 3 (germ free) จะเป็นการผลิตสัตว์ทดลองที่ปลอดเชื้อโรค 100% เพื่อรองรับการศึกษาวิจัยเชื้อโรคชนิดหนึ่งชนิดใดที่เจาะจงเป็นพิเศษ และงานวิจัยทางด้านพันธุกรรม ซึ่งระบบการดูแลสัตว์ทดลองจะคล้ายระดับ 2 แต่มีความพิเศษมากยิ่งขึ้น สำหรับศูนย์ฯ ม.ขอนแก่น จะดำเนินการภายใต้มาตรฐานสากลในระดับ 1 และ 2 (บางส่วน) โดยจะคำนึงถึงผลกระทบต่อสวัสดิภาพและสุขภาพของสัตว์เป็นสำคัญ ในขณะที่ สำนักสัตว์ทดลองแห่งชาติ มหาวิทยาลัยมหิดล (ศาลายา) ถือเป็นแหล่งผลิตสัตว์ทดลองขนาดเล็กที่ใหญ่ที่สุดของประเทศ เพื่อบริการหน่วยงานวิจัยของภาครัฐและเอกชนทั่วประเทศ อาทิ องค์การเภสัชกรรม กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ สถาบันวิจัย และมหาวิทยาลัยที่มีการศึกษาวิจัยด้านวิทยาศาสตร์การแพทย์ และคาดว่าอัตราการใช้สัตว์ทดลองจะเพิ่มขึ้นอีกในอนาคต ดังนั้น หากประเทศไทยมีศูนย์หรือสถานที่ผลิตสัตว์ทดลองที่ได้มาตรฐานสากล จะยิ่งทำให้ความต้องการมีเพิ่มขึ้นอย่างแน่นอน เพราะสามารถสร้างงานวิจัยที่ได้ผลงานที่มีคุณภาพ และส่งเสริมความก้าวหน้าทางด้านวิทยาศาสตร์ชีวภาพ เทคโนโลยีชีวภาพ ให้ทัดเทียมกับต่างประเทศ รวมทั้งการค้นคว้าพัฒนายา อาหาร สมุนไพร วัคซีนและเซรุ่มสำหรับสัตว์ และมนุษย์อย่างปลอดภัย ซึ่งจะลดการพึ่งพาผลงานและผลผลิตจากต่างประเทศได้อย่างมากมาย มหาศาล (กรุงเทพธุรกิจ เสาร์ที่ 26 ก.พ. 48 http://www.bangkokbiznews.com)





"จักรยานไฟฟ้าแบบคืนพลังงาน" ผลงานนักวิจัย"มทร.ขอนแก่น"

“จักรยานไฟฟ้าแบบคืนพลังงาน" เกิดขึ้น จากแนวคิดดังกล่าว นายโอภาส รักษาบุญ และนายศักดิ์ระวี ระวีกุล นักวิจัยจากมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล(มทร.) อีสาน วิทยาเขตขอนแก่น เพื่อเป็นอีกแนวทางหนึ่งในการลดมลพิษจากการจราจร โดยจักรยานที่สร้างขึ้นเป็นรูปแบบจักรยานเสือภูเขา สามารถขับเคลื่อนด้วยการปั่นเท้า และด้วยมอเตอร์กระแสตรงที่ควบคุมความเร็วด้วยวงจรช็อปเปอร์ โดยใช้ไอซีเบอร์ 555 ส่งผ่านกำลังสายพาน โดยประจุแบตเตอรี่ด้วยไฟบ้าน 220 โวลต์ นาน 6 ชั่วโมง ได้ระยะทางประมาณ 30 กิโลเมตร ความเร็วสูงสุด 26 กิโลเมตรต่อชั่วโมง เมื่อแบตเตอรี่หมดสามารถใช้เท้าปั่นได้เหมือนกับจักรยานทั่วไป ส่วนการคืนกำลังไฟฟ้ากลับก็เลือกสวิชต์ไปเป็นการประจุพลังงานคืนให้กับแบตเตอรี่ได้ด้วยสายพานขับเคลื่อนอัดประจุ 3 แอมแปร์ ซึ่งโดยทั่วๆ ไปนั้น รถไฟฟ้าพลังงานแบตเตอรี่ส่วนมากจะมีการประจุไฟฟ้าเอาไว้ หลังการใช้ไฟจากแบตเตอรี่แล้วจะต้องมีการประจุใหม่ เพื่อใช้งานในครั้งต่อไป ดังนั้น เพื่อลดความถี่ของการประจุไฟฟ้า เราจึงอาศัยจังหวัดที่พื้นสัญจรเป็นทางลาดลง และจังหวะที่ไม่มีการใช้พลังงานจากแบตเตอรี่ให้เกิดการถ่ายเทพลังงานจากทางกลให้กับแบตเตอรี่ ซึ่งจากการทดสอบหลังจากแบตเตอรี่หมดแล้ว ต้องใช้ความเร็วเฉลี่ย 20 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ระยะทาง 10 กิโลเมตร และสามารถใช้งานได้ระยะทางเฉลี่ย 3.5 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ผู้สนใจสอบถามได้ที่ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน วิทยาเขตขอนแก่น หมายเลขโทรศัพท์ 0-4323-5893 ต่อ 2802 (มติชนรายวัน อาทิพย์ที่ 27 ก.พ. 48 http://www.matichon.co.th)





ข่าวทั่วไป


ช้างไทยจิตรกรบันทึกกินเนสส์

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภาพ "ลมหนาว สายหมอกเสน่หาแห่งล้านนา หมายเลข 1" ทางช้าง 8 เชือก ประกอบด้วย พลายกองคำ อายุ 8 ปี พังเดือนเพ็ญ อายุ 7 ปี พังวันเพ็ญ อายุ 7 ปี พลายสองพัน อายุ 5 ปี พลายพันเพชร อายุ 5 ปี พังคำแสน อายุ 7 ปี พลายล้านคำ อายุ 7 ปี และพลายปู่อ๊อด อายุ 18 ปี ได้ใช้งวงจับพู่กันช่วยกันวาด โดยมีนายทศพล เพชรรัตนกูล ครูสอนศิลปะสำหรับช้างประจำปางช้างแม่สา และทางควาญช้างร่วมกันกำหนดจุดวาดตามความถนัดของช้างแต่ละเชือก โดยเฉพาะพลายกองคำและพังวันเพ็ญ ถือว่าเป็นช้างที่วาดภาพเหมือนดอกไม้ได้ดีที่สุดในโลก และพลายปู่อ๊อดวาดภาพเหมือนดอกไม้แนวอิมเพรสชั่นโชว์ฝีแปรงได้อย่างสวยงาม เป็นที่ชื่นชอบของนักท่องเที่ยวชาวต่างประเทศ โดยช้างทั้ง 8 เชือกใช้เวลาในการวาดภาพตั้งแต่ 09.00 น. ถึงเวลา 14.30 น. จึงสำเร็จ สร้างความตื่นตะลึง แก่ผู้ที่มาร่วมในงาน โดยภาพวาดฝีมือช้างดังกล่าว นางผาณิต วารินทร์ นักธุรกิจชาวไทย อยู่รัฐแคลิฟอร์เนีย ประเทศสหรัฐฯ พื้นเพเดิมเป็นชาว จ.เชียงราย ได้ติดต่อขอซื้อในราคา 1 ล้าน 5 แสนบาท น.ส.คิม เลย์ซี ผู้แทนจากสำนักงานสถิติโลก กินเนสส์กล่าวว่า รู้สึกตื่นตาตื่นใจและทึ่งกับความสามารถของช้างไทย และสถิติโลกล่าสุดของประเทศไทยคือ "ภาพวาดจากฝีมือช้างที่มีราคาแพงที่สุดในโลก" ราคา 1.5 ล้านบาท ทางกินเนสส์จึงขอมอบประกาศนียบัตรรับรองสถิติโลกในครั้งนี้ (ไทยรัฐ อาทิตย์ที่ 20 ก.พ. 48 http://www.thairath.co.th)





ประกาศเขตอนุรักษ์ 9 เมืองเก่าต้นทุนวัฒนธรรม 'ก่อนที่คุณค่าชุมชนโบราณจะถูกทำลาย'

ประเสริฐสุข จามรมาน ผอ.กองอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมธรรมชาติและศิลปกรรม สำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (สผ.) กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ชี้ถึงปัญหาที่เกิดขึ้น ว่า จากการศึกษาของ สผ.ร่วมกับคณะโบราณคดี มหาวิทยาลัยศิลปากรค้นข้อมูลเพื่อจัดลำดับความสำคัญของเมืองเก่า พบว่ามีเมืองสำคัญ 80 แห่ง ในประเทศไทยแต่ในจำนวนนี้มี 9 เมืองที่มีคุณค่าความสำคัญอันดับ 1 ในแง่ของเมืองโบราณที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์และโบราณคดี และอยู่ในภาวะเสี่ยงจากภัยคุกคามจากการพัฒนาและการบุกรุก ได้แก่ 'เชียงใหม่ ลำปาง น่าน พิษณุโลก กำแพงเพชร ลพบุรี พิมาย นครศรีธรรมราช และสงขลา เป็นเมืองเก่า ที่เข้าข่ายเสี่ยงต่อการถูกคุกคามและน่าเป็นห่วง จึงใช้เป็นเมืองนำร่องภายใต้โครงการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมศิลปกรรม ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลเดนมาร์ก เพื่อทำแผนพัฒนาและอนุรักษ์จะใช้เวลาดำเนินการ 5 ปี(พ.ศ.2548-2552) โดยเมืองเหล่านี้จัดเป็นเมืองเก่าที่ยังมีชีวิต เนื่องจากยังมีผู้คนอาศัยอยู่ ' โดยคณะกรรมการ จะร่วมกับประชาชน “จัดทำแผนที่ชุมชนฉบับย่อ” หรือ Mini aslas เพื่อจัดทำข้อมูลประวัติศาสตร์ การพัฒนาเมือง คุณลักษณะเด่นที่สำคัญ และองค์ประกอบเมือง ทั้งนี้เพื่อนำไปใช้เป็นจุดอ้างอิงของชุมชนและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง หากในอนาคตจะมีโครงการพัฒนาที่จะส่งผลกระทบ ไม่ว่าจะเป็นการตัดถนน การก่อสร้างบ้านเรือน และการท่องเที่ยว แผนที่ชุมชนฉบับย่อ ก็จะเป็นตัวบ่งชี้การพัฒนาในอนาคต สุวิทย์ คุณกิตติ รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ย้ำว่า รัฐบาลเห็นความสำคัญของการรักษาคุณค่าทางประวัติศาสตร์วัฒนธรรม โดยกำหนดยุทธศาสตร์การอนุรักษ์และพัฒนากรุงรัตนโกสินทร์ พ.ศ.2548-2552 และยุทธศาสตร์การอนุรักษ์และพัฒนาเมืองเก่า พ.ศ.2548-2552 ซึ่งได้ผ่านเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 4 ม.ค.ที่ผ่านมา โดยหวังจะรักษารากเหง้าความเป็นไทยเอาไว้ให้ลูกหลาน (กรุงเทพธุรกิจ จันทร์ที่ 21 ก.พ. 48 http://www.bangkokbiznews.com)





พบ “แผนสถาปนารัฐปัตตานี” ชิ้นใหม่ - สู้รบ 80 วันก่อนยก “เบตง” เมืองหลวง

ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ –หน่วยข่าวกรอง พบแผนสถาปนารัฐปัตตานีขึ้นใน 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้ชิ้นใหม่ เผยเตรียมจะปฏิบัติการรุนแรง 80 วันในพื้นที่ ระบุจะตั้งเมืองหลวงที่เบตง และกินอาณาบริเวณครอบคลุมพื้นที่ทั้งจังหวัดในยะลา ปัตตานีและนราธิวาส ส่วนที่สงขลาตัดเอาเฉพาะ 3 อำเภอ เทพา-สะบ้าย้อย-จะนะ ด้านสตูลเอา 2 อำเภอคือ ควนโดน-ฉลุง แหล่งข่าวความมั่นคงใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ เปิดเผยว่า เหตุการณ์การก่อความไม่สงบใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ เป็นแผนที่มีการเตรียมล่วงหน้าไว้แล้ว โดยมีศูนย์บัญชาการอยู่ในจังหวัดยะลา ปัตตานี นราธิวาส และมีแผนการสถาปนารัฐปัตตานี โดยจะมีการตั้งเมืองหลวงที่ อ.เบตง จ.ยะลา ใช้กฎหมายอิสลามในการปกครอง คล้ายกฎหมายของประเทศอิหร่าน ยกเลิกเงินสกุลไทย แต่ยังคงให้คนไทยพุทธอาศัยอยู่ต่อไปได้ ทั้งนี้ แผนการดังกล่าวจะใช้เวลาในการต่อสู้รวม 80 วัน มีการยกระดับการต่อสู้ไปสู่สากล ให้องค์การสหประชาชาติ เข้ามาแก้ไขตามแนวทางการต่อสู้ของปาเลสไตน์และขบวนการอาเจ๊ะห์เสรี (ผู้จัดการออนไลน์ อาทิตย์ที่ 20 ก.พ. 48 http://www.manager.co.th)





อาชีวะเนื้อหอมโดนจีบร่วมทำรถเครื่อง

นายวีระศักดิ์ วงษ์สมบัติ เลขาธิการคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (กอศ.) เปิดเผยว่า เมื่อเร็ว ๆ นี้ ตนได้ร่วมหารือกับผู้ประกอบการรายหนึ่งในอุตสาหกรรมผลิตรถจักรยานยนต์จากสาธารณรัฐประชาชนจีน ซึ่งจะมาลงทุนตั้งโรงงานผลิตรถจักรยานยนต์ในประเทศไทยเพื่อผลิตออกจำหน่ายประเทศต่าง ๆ ในภูมิภาคนี้ ซึ่งทางผู้ประกอบการดังกล่าวแจ้งว่ามีความต้องการแรงงานที่มีความรู้และประสบการณ์สายช่างยนต์ทั้งผู้ที่จบระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพ (ปวช.) และประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง (ปวส.) เข้าร่วมทำงานด้วย และยังเสนอให้สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (สอศ.) เข้ามามีส่วนร่วมในการผลิตรถจักรยานยนต์กับทางบริษัทด้วย โดยการส่งนักศึกษาสาขาช่างยนต์เข้าร่วมทำงาน ในระยะเริ่มต้นทาง บริษัทต้องการรับนักศึกษาไปร่วมงานจำนวน 40 คน และหลังจากที่มีการสร้างโรงงานเสร็จสมบูรณ์แล้วจะมีการรับนักศึกษาเพิ่มอีกนับพันคน และนอกจากจะรับนักศึกษาอาชีวะเข้าทำงานแล้ว ยังจะเปิดโอกาสให้นักศึกษาที่กำลังเรียนอยู่ได้เข้าไปฝึกปฏิบัติงานในโรงงานด้วย โดยทางบริษัทยืนยันว่าพร้อมที่จะถ่ายทอดเทคโนโลยีให้แก่บุคลากรของสถานศึกษาในสังกัด สอศ. จะมีการจัดตั้งศูนย์บริการซ่อมบำรุงขึ้นในวิทยาลัยเทคนิค และวิทยาลัยสารพัดช่างของสอศ. โดยทางบริษัทจะจ้างนักศึกษาช่วยซ่อมจักรยานยนต์ โดยจะให้อาจารย์แผนกช่างยนต์ของแต่ละวิทยาลัยเป็นผู้ควบคุม (เดลินิวส์ อังคารที่ 22 ก.พ. 48 http://www.dailynews.co.th)





ยูเอ็นยกย่องโครงการดอยตุง ต้นแบบการเรียนรู้แก้ยาเสพติด

องค์การสหประชาชาติ ยกย่องโครงการพัฒนาดอยตุง เป็นศูนย์กลางการเรียนรู้ ด้านการพัฒนาทางเลือกใหม่ ในการแก้ปัญหายาเสพติด พร้อมประกาศเป็นโครงการตัวอย่าง ให้กับประเทศในเอเชีย นายอากิระ ฟูจิโน่ ผู้แทนองค์การต่อต้านยาเสพติดและอาชญากรรมแห่งสหประชาชาติ เปิดเผยภายหลังเดินทางมาร่วมโครงการฝึกอบรมระบบชลประทานน้ำหยดและการพัฒนาบนดอยตุง ซึ่งเป็นโครงการแรกที่องค์การสหประชาชาติร่วมจัดขึ้น ว่าประเทศไทยกลับมีความสำเร็จอย่างมากในการแก้ปัญหายาเสพติดจนใกล้จะปลอดจากปัญหาดังกล่าว ทั้งๆ ที่ประเทศไทยก็เป็นส่วนหนึ่งของดินแดนสามเหลี่ยมทองคำ ซึ่งเป็นพื้นที่ผลิตฝิ่นสำคัญของโลกมาหลายศตวรรษ ดังนั้น องค์การสหประชาชาติจึงพร้อมที่จะร่วมกับพันธมิตรต่างๆ ในการสร้างเครือข่ายเพื่อการเรียนรู้และส่งเสริมการแลกเปลี่ยนประสบการณ์แก่กันและกัน ความสำเร็จนี้เป็นผลมาจากความร่วมมือในการเสนอแนวทางการพัฒนาแผนใหม่ และความมุ่งมั่นในการดำเนินการ ซึ่งส่งผลให้ช่วยให้การผลิตพืชเสพติดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ลดลงอย่างต่อเนื่องถึง 73% ในระยะ 15 ปีที่ผ่านมา ประเทศไทยประสบความสำเร็จอย่างสูงในการพัฒนาแบบใหม่ จนเป็นประเทศแรกในโลกที่ประสบความสำเร็จอย่างชัดเจนในการยุติการปลูกฝิ่น โดยนำโครงการพัฒนาต่างๆ ไปใช้บนพื้นที่สูงอย่างต่อเนื่องเป็นเวลานานกว่า 30 ปี โดยเฉพาะโครงการดอยตุง (กรุงเทพธุรกิจ อังคารที่ 22 ก.พ. 48 http://www.bangkokbiznews.com)





สร้างมาตรฐานสิ่งแวดล้อม รง.

นายจักรมณฑ์ ผาสุกวนิช ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยว่า กระทรวงอุตสาห กรรมเตรียมวางแนวทางการสร้างมาตรฐานด้านการรักษาสิ่งแวดล้อมในพื้นที่โรงงานอุตสาหกรรมและสถานประกอบการขนาดกลางและขนาดย่อมทั่วประเทศ ด้วยการควบคุมมลพิษจากโรงงานอุตสาหกรรมที่เข้มงวดมากยิ่งขึ้น เพื่อรองรับนโยบายการค้ากับต่างประเทศ และนโยบายการปรับโครงสร้างเศรษฐกิจของรัฐบาลที่เน้นการจัดการสิ่งแวดล้อมและทรัพยากรที่มีประสิทธิภาพ ในกระบวนการผลิตของโรงงานอุตสาหกรรมทุกแห่ง ยังได้ร่วมกับกรมทรัพยากรน้ำ และกรมชลประทาน เร่งศึกษาระบบวาง ท่อส่งจากแหล่งน้ำสู่โรงงานอุตสาหกรรมและการจัดหาแหล่งน้ำที่มีความเหมาะสม และมีปริมาณเพียงพอ ต่อการผลิตในโรงงานอุตสาหกรรม รองรับกับการกระจายตัวของโรงงานอุตสาหกรรม ซึ่งในเรื่องนี้ส่งผลให้ผู้ประกอบการประสบปัญหาต้นทุนการผลิตที่สูงขึ้น (เดลินิวส์ พฤหัสบดีที่ 24 ก.พ. 48 http://www.dailynews.co.th)





องค์กรใดควรนำ Outsourcing มาใช้

ผลงานชนะเลิศการจัดการสมัยใหม่ในยุคนี้ ว่า "แหล่งวัตถุดิบและแหล่งแรงงานที่ใดถูก ต้องรู้จักระดมนำมาใช้ และอะไรที่ตนเองไม่มีความถนัดให้ใช้วิธีการจ้างแรงงานจากภายนอก (Outsourcing)" ทั้งนี้ ก็เนื่องมาจากภาวะทางการแข่งขันของธุรกิจ ทวีความรุนแรงขึ้น ทำให้การเพิ่มราคาขายตามต้นทุนที่เพิ่มขึ้นไม่สามารถทำได้ จึงจำเป็นต้องหาทางลดต้นทุน ซึ่งทางเลือกหนึ่งที่องค์กรสมัยใหม่นิยมใช้คือ Outsourcing แนวคิด Outsourcing นี้ เดิมมักจะใช้กับงานทำความสะอาดสำนักงาน งานรักษาความปลอดภัย แต่ปัจจุบันนิยมนำ Outsourcing มาใช้กับงานต่างๆ มากขึ้น อาทิ การจัดห้องอาหารสำหรับพนักงานหรืองานเลี้ยง งาน Call Center งานป้อนข้อมูล งานธุรการ ข้อที่องค์กรควรคำนึงถึงก็คือ 1.องค์กรใดก็ตามที่จะนำวิธี Outsourcing มาใช้ ต้องแยกให้ออกและชัดเจนว่า กิจกรรมส่วนใดเป็นกิจกรรมหลักขององค์กร และกิจกรรมส่วนใดเป็นกิจกรรมเสริม ไม่เช่นนั้นแล้ว ปัญหาต่างๆ จะเกิดขึ้นตามมาอีกมากมาย โดยเฉพาะงานบริการ 2.ต้องวิเคราะห์ต้นทุนให้มีความชัดเจนระหว่างการทำเองกับการจ้างทำว่า วิธีการใดจะถูกกว่ากัน 3.การเลือกบริษัทที่จะจ้าง ต้องเป็นบริษัทที่น่าเชื่อถือ และเคยมีผลงานปรากฏเด่นชัด และ 4.ต้องคำนึงถึงผลกระทบกระบวนการสายโซ่แห่งคุณค่า (Value Chain) ขององค์กรในการส่งมอบคุณค่าแก่ลูกค้า ในมุมมองของผู้เขียนเห็นว่าแนวคิด Outsourcing เป็นสิ่งที่ดีสำหรับการขับเคลื่อนองค์กรภายใต้สภาพแวดล้อมภายนอกที่มีการเปลี่ยนแปลงรวดเร็ว และจะก่อให้เกิดผลประโยชน์ร่วมกันภายในองค์กร แต่ต้องมีการวิเคราะห์แยกแยะข้อดีและข้อเสียให้ชัดเจนก่อนการนำมาใช้ ซึ่งสามารถวิเคราะห์ได้ดังนี้ ข้อดี คือ ช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายขององค์กร ทำให้กระแสเงินหมุนเวียนในองค์กรมีสภาพคล่องตัวมากยิ่งขึ้น ช่วยเพิ่มขีดความสามารถทางการแข่งขันขององค์กรให้มากขึ้น เนื่องจากการดำเนินการต่างๆ จะเกิดความสะดวก รวดเร็ว ประหยัด และมีประสิทธิภาพสูง ส่วนข้อเสีย ก็คือ บริษัทที่ outsourcing เข้ามา ประสิทธิภาพในการทำงานไม่คงที่ เนื่องจากจะมีการเปลี่ยนชุดทำงานบ่อย ทำให้ขาดทักษะความชำนาญต่อเนื่องในระบบการดำเนินงาน ความรู้สึกผูกพันและความรับผิดชอบต่อองค์กรของพนักงานที่ว่าจ้างเข้ามามีน้อย เนื่องจากลักษณะงานเป็นการทำสัญญาว่าจ้างระยะสั้น ในการเปลี่ยนแปลงทุกสิ่งทุกอย่างภายในองค์กร ถือว่าเป็นเรื่องปกติและเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นได้ (กรุงเทพธุรกิจ พฤหัสบดีที่ 24 ก.พ. 48 http://www.bangkokbiznews.com





อย.สั่งเรียกเก็บเครื่องดื่มชาเขียว

ดร.ภักดี โพธิศิริ เลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา หรือ อย. กล่าวว่า เครื่องดื่มชาเขียวที่ได้รับความนิยมอยู่ในขณะนี้ จนทำให้มีผู้ฉวยโอกาสผลิตสินค้าคุณภาพต่ำ ไม่ผ่านมาตรฐานกระบวนการผลิตที่ดี หรือจีเอ็มพี ซึ่งไม่มีการคุ้มครองผู้บริโภคที่สำคัญคือ ไม่ติดฉลากบอกปริมาณกาเฟอีนในเครื่องดื่มชาเขียวนั้นๆ ทำให้เกิดผลกระทบต่อจิตประสาท หากบริโภคต่อเนื่องเป็นประจำ จะทำให้ประสาทตื่นตัว รวดเร็ว ไวต่อการสัมผัส กล้ามเนื้อหัวใจสั่น และทำงานหนัก นอนไม่หลับ อาจถึงขั้นทำให้ช็อกได้ โดยเฉพาะเด็กที่มีอายุต่ำกว่า 12 ปี ควรงดบริโภคเครื่องดื่มชาทุกประเภท แม้จะมีกาเฟอีนในปริมาณน้อยก็ตาม เพราะอาจส่งผลกับความจำได้ เทียบได้กับกาแฟทุกชนิด ซึ่งมีส่วนผสมของกาเฟอีน และทำให้ร่างกายติดได้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากการสำรวจฉลากของเครื่องดื่มชาเขียวในท้องตลาด พบว่ามีเครื่องดื่มชาเขียวยี่ห้อที่รู้จักกันดี เข้าข่ายไม่ติดฉลากแสดงปริมาณกาเฟอีน ซึ่ง อย.จะสั่งเก็บทันทีหากตรวจพบ และปรับผู้ผลิต 3 หมื่นบาท และระงับการผลิตจนกว่าจะปรับปรุงแก้ไข (ประชาชาติธุรกิจ พฤหัสที่ 24 ก.พ. 48 http://www.matichon.co.th/prachachat)





ช็อปปิ้งหนักอาจเป็นนิ้วล็อกง่าย มือชานิ้วมือติดเหยียดกันไม่ออก

รศ.น.พ.ประวิทย์ กิติดำรงค์สุข หน่วยศัลยศาสตร์ออร์โธปิดิกส์ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ กล่าวว่า โรคของมือที่พบบ่อยมีตั้งแต่มือชา นิ้วเหยียดงอผิดปกติ นิ้วล็อก โรคเหล่านี้ไม่ทำให้ เสียชีวิตแต่รบกวนการใช้ชีวิต เนื่องจากมีอาการปวด ก่อความรำคาญ บางคนตื่นมากลางดึกเพราะความปวดแล้วก็นอนไม่หลับ ประกอบกิจวัตรประจำวันไม่ได้ สูญเสียคุณภาพชีวิต โรคมือชาเกิดจากเส้นประสาทมีเดียน บริเวณอุโมงค์มือหรือที่หมอดูเรียกว่า บริเวณเส้นชีวิตถูกปลอกเส้นประสาทรัด หรือเส้นประสาทมีเดียนถูกกดทับทำให้ มือชา นิ้วมือเหยียดงอไม่ได้ การรักษาทำได้ตั้งแต่เฝ้าดูอาการ รับประทานยา ทำกายภาพบำบัดหรือถึงขั้นผ่าตัด แล้วแต่ความรุนแรงของโรค ส่วนโรคนิ้วล็อกเป็นความผิดปกติของนิ้วมือที่พบบ่อยที่สุด ในบรรดาความผิดปกติที่เกิดขึ้นกับมือ โรคนี้พบในผู้หญิงร้อยละ 80 พบในผู้ชายร้อยละ 20 สันนิษฐานว่า อาจเป็นเพราะผู้หญิงใช้มือทำงานที่ซ้ำๆ มากกว่าผู้ชาย ขณะที่ผู้ชายใช้มือทำงานออกแรงรุนแรงแต่ไม่ซ้ำซาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในผู้หญิงวัยกลางคนขึ้นไป ถ้าต้องหิ้วถุงหนักๆ ทำงานบ้าน คนที่มีอาชีพเจาะขุดถนน มีความเสี่ยงต่อโรคนิ้วล็อกอย่างมาก การทำงานเหล่านี้เป็นระยะเวลานาน ทำให้เอ็นนิ้วมือเสียดสีกับปลอกรัดเอ็นทำให้เกิดการหนาตัวขึ้นของเส้นเอ็น หรือการหนาตัวขึ้นของปลอกรัดเอ็น เกิดการเสียสัดส่วนของอุโมงค์เส้นประสาท ทำให้เอ็นไม่สามารถลอดผ่านได้ ส่งผลให้เกิดการฝืด การตึง สะดุด กระเด้ง จนถึงนิ้วล็อกในที่สุด นอกจากนี้ ผู้ที่เป็นโรคเบาหวาน หรือผู้ที่เป็นโรครูมาตอยด์ มีโอกาสเสี่ยงต่อการเป็นโรคนี้มากขึ้น (ไทยรัฐ ศุกร์ที่ 25 ก.พ. 48 http://www.thairath.co.th)





จุฬาตั้งศูนย์เฝ้าระวังสื่อ ตรวจสอบรายการเด็ก

ภาควิชาการประชาสัมพันธ์ คณะนิเทศศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย จัดเสวนาเรื่อง “Edutainment สื่อแนวใหม่ คิดเพื่อ Kids หรือคิดเพื่อใคร?” มีผู้สนใจเข้าร่วมการเสวนากว่า 100 คน ผศ.ดร.วิลาสินี พิพิธกุล รองคณบดีฝ่ายวิจัยและวิรัชกิจ คณะนิเทศศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย วิทยากรผู้ร่วมเสวนา กล่าวว่า ปัญหาใหญ่ของรายการโทรทัศน์ในปัจจุบัน ส่วนใหญ่เป็นการเสนอในแง่ของการสั่งสมตัวแบบให้เด็กเดินตาม และมีลักษณะการเสนอแบบทางเดียว ไม่กระตุ้นให้เด็กเกิดกระบวนการคิดต่อจากสิ่งที่รับรู้ หรือไม่เปิดโอกาสให้เด็กได้เสนอรูปแบบรายการที่ต้องการชม ทั้งที่ ผลการสำรวจของเอแบคโพลล์ พบว่าเด็กถึงร้อยละ 54 ดูรายการโทรทัศน์ของผู้ใหญ่ ดังนั้น ในเร็วๆนี้ คณะนิเทศศาสตร์ จุฬาฯ จะเปิดศูนย์ศึกษาและเฝ้าระวังสื่อ เพื่อทำหน้าตรวจสอบรายการที่เสนอในแต่ละวันของแต่ละช่อง เพื่อให้ทราบว่าในแต่ละวันสื่อมีการนำเสนอในรูปแบบใดบ้าง โดยจะมีการทำเกณฑ์จัดแบ่งว่าในแต่ละวันจะพิจารณารายการแต่ละรูปแบบอย่างไร ซึ่งจะดำเนินการในระยะแรกเป็นเวลา 3 ปี ทั้งนี้ ข้อมูลที่ได้รับจะมอบให้แก่ผู้ที่ต้องการใช้ข้อมูลให้เป็นประโยชน์ นายวัลลภ ตังคณานุรักษ์ สมาชิกวุฒิสภากรุงเทพมหานคร หนึ่งในวิทยากร กล่าวว่า การจะใช้กฎหมายสู้เพื่อให้มีรายการที่เหมาะสมกับเด็ก คงเป็นไปได้ยาก โดยเฉพาะมติคณะรัฐมนตรี เพราะเป็นกฎหมายชนิดอ่อน ดังนั้น ผู้บริโภคควรรวมพลังสร้างกระแสต่อต้านรายการที่ไม่เหมาะสมกับการรับชมของเด็ก โดยไม่ต้องเกรงกลัวอะไรทั้งสิ้น เนื่องจากการออกมาต่อต้านกับการถูกด่าเป็นเรื่องธรรมดา (คมชัดลึก ศุกร์ที่ 25 ก.พ. 48 http://www.komchadluek.net)





เชิดชู8ศิลปินแห่งชาติสาขาต่างๆปี47

ที่ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย เมื่อเวลา 18.00 น. วันที่ 24 ก.พ. ได้จัดให้มีงานเลี้ยงแสดงความยินดีแก่ศิลปินแห่งชาติ ประจำปีพ.ศ. 2547 ที่จัดขึ้นโดยสำนักงานคณะกรรม การวัฒนธรรมแห่งชาติ โดยมีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม เป็นประธานในงานเลี้ยง กล่าวนำถวายพระพรพระบาทสมเด็จพระเจ้า อยู่หัว และมอบพวงมาลัยแก่ศิลปินแห่งชาติ 8 คน ได้แก่ นายไพบูลย์ มุสิกโปดก ศิลปินแห่งชาติสาขาทัศนศิลป์ (ภาพถ่ายศิลปะ), นายสันต์ สารากรบริรักษ์ สาขาทัศนศิลป์ (จิตรกรรม), นายจุลทรรศน์ กิติบุตร สาขาสถาปัตยกรรม (แบบร่วมสมัย), คุณหญิงวินิตา ดิถียนต์ สาขาวรรณ ศิลป์, นายชาติ กอบกิตติ สาขาวรรณศิลป์, นายราฆพ โพธิเวส สาขาศิลปะการแสดง (นาฏศิลป์โขน), นางจินตนา ปาลกะวงศ์ ณ อยุธยา (จินตนา สุขสถิตย์) สาขาศิลปะการแสดง (ดนตรีสากล-ขับร้อง) และนายไพรัช สังวริบุตร สาขาศิลปะการแสดง (ภาพยนตร์และละคร) (เดลินิวส์ ศุกร์ที่ 25 ก.พ. 48 http://www.dailynews.co.th)





ไทยลุ้น 8 แหล่งวัฒนธรรม "มรดกโลก" ยูเนสโกขึ้นบัญชี-ส่งเจ้าหน้าที่ตรวจสอบแล้ว

นางประเสริฐสุข จามรมาน ผอ.กองอนุรักษ์ สิ่งแวดล้อมธรรมชาติและศิลปกรรม สำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (สผ.) กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ในฐานะเลขานุการคณะกรรมการมรดกโลกของไทย เปิดเผยว่า ขณะนี้องค์การว่าด้วยการศึกษาวิทยาศาสตร์และ วัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ (ยูเนสโก) ได้ตอบรับข้อเสนอของประเทศไทยในการนำเสนอ แหล่งมรดกทางวัฒนธรรมและทางธรรมชาติ ให้บรรจุในทะเบียนรายชื่อแหล่งมรดกโลก เบื้องต้น 12 แห่ง ดังนี้ แหล่งมรดกทางวัฒนธรรม 8 แห่ง ได้แก่ เส้นทางสายวัฒนธรรม : ปราสาทหินพิมาย ปราสาทหินพนมรุ้ง และปราสาทเมืองต่ำ อุทยานประวัติศาสตร์ภูพระบาท จ.อุดรธานี สภาพภูมิทัศน์บริเวณแม่น้ำเจ้าพระยา จากสะพานสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าถึงท่าวาสุกรี วัดเบญจมบพิตรดุสิตวนาราม วัดสุทัศนเทพวรารามและเสาชิงช้าวัดราชนัดดารามวรวิหาร และพื้นที่ต่อเนื่อง พระปฐมเจดีย์ แหล่งก่อนประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมของ จ.น่าน ส่วนแหล่งมรดกทางธรรมชาติ 4 แห่งได้แก่ พื้นที่อนุรักษ์ชายฝั่งทะเล อันดามัน อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน กลุ่มพื้นที่ป่าเทือกเขาเพชรบูรณ์ (ประกอบด้วยอุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า อุทยานแห่งชาติทุ่งแสลงหลวง อุทยานแห่งชาติภูกระดึง เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูหลวง อุทยานแห่งชาติน้ำหนาว เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูเขียวและพื้นที่ต่อเนื่อง) และเขาใหญ่-ดงพญาเย็น (อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่-ทับลาน-ปางสีดา-ตาพระยา-และเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าดงใหญ่) ซึ่งขณะนี้สหพันธ์นานาชาติเพื่อการอนุรักษ์ธรรมชาติ (ไอยูซีเอ็น) ได้มาตรวจสอบและประเมินคุณค่าของพื้นที่เสร็จแล้ว และคณะทำงานของไอยูซีเอ็นก็พอใจกับแผนการปรับปรุงพื้นที่อุทยานฯ โดยสร้างเส้นทางเชื่อมต่อระหว่างเขาใหญ่-ทับลานที่มีถนนตัดผ่าน เพื่อให้สัตว์เดินผ่านไปได้ ทั้งนี้ค่อนข้างชัดเจนว่าพื้นที่ผืนป่ากลุ่มดงพญาเย็น-เขาใหญ่ จะได้รับการประกาศเป็นมรดกโลกแน่นอน ส่วนแหล่งอื่นๆ ยูเนสโกจะส่งเจ้าหน้าที่มาตรวจสอบรายละเอียด ต้องใช้เวลาประมาณ 2 ปี จึงจะรู้ผลว่าทั้งหมดจะได้รับการประกาศเป็นมรดกโลกหรือไม่ แต่การที่ได้รับการบรรจุทะเบียนรายชื่อเบื้องต้นแล้วก็น่าจะมีสิทธิ์. (ไทยรัฐ พุธที่ 23 ก.พ. 48 http://www.thairath.co.th)





อย.ไม่ยืนยันชาเขียวทำอายุยืน

ศ.ดร.ภักดี โพธิศิริ เลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ระบุคุณสมบัติน้ำดื่มชาเขียวดีต่อสุขภาพ เป็นเพียงตามหลักวิชาการเท่านั้น ยังไม่เคยมีการทดลองทางคลินิก ว่า ได้ผลดีต่อร่างกายจริง ข้อมูลที่กล่าวอ้างจึงระบุไม่ได้ว่า เป็นเครื่องดื่มดีต่อสุขภาพหรือไม่ เผยใบชาทั่วไปมีสารกาเฟอีนสูงกว่ากาแฟ แต่หากนำมาเป็นชาชงพร้อมดื่มมีสารกาเฟอีนต่ำ เครื่องดื่มชาเขียวซึ่งทางกรมสรรพสามิตมีแผนการเก็บภาษีเพิ่ม เนื่องจากเป็นเครื่องดื่มที่มีส่วนผสมของกาเฟอีน เช่นเดียวกับกาแฟ ว่า ชาหากเป็นใบชาที่เก็บตามธรรมชาติ เมื่อนำมาทดสอบปริมาณสารกาเฟอีน โดยจะพบว่ามีมากกว่าในกาแฟมาก ซึ่งสูงถึง 15% ขณะที่ในกาแฟนั้นมีเพียงแค่ 3% เท่านั้น แต่วิธีการกินชานั้นจะต้องนำใบชามาชงกับน้ำ ทำให้ปริมาณกาเฟอีนเจือจางลง ซึ่งไม่สามารถระบุจำนวนสารกาเฟอีนได้แน่นอนขึ้นอยู่กับปริมาณและจำนวนครั้งการชง ทั้งนี้ ในส่วนของชาเขียวพร้อมดื่มที่ทำกันเป็นธุรกิจนั้น จะมีจำนวนสารกาเฟอีนค่อนข้างต่ำ โดยในบางยี่ห้อมีการระบุไว้ข้างขวด เพียง 9-16 มิลลิกรัมต่อน้ำ 100 มิลลิลิตร ถือเป็นปริมาณสารกาเฟอีนที่ไม่มาก ส่วนน้ำดื่มชาเขียวจะจัดอยู่ในกลุ่มน้ำดื่มเพื่อสุขภาพ อย่างน้ำผลไม้ ซึ่งเป็นเกณฑ์กำหนดในการเสียภาษีนั้น คงบอกไม่ได้เพราะไม่เป็นผู้จัดกลุ่ม แต่โดยปกติชาเขียวนั้นเป็นเพียงน้ำดื่มที่ในหลายประเทศนิยมดื่ม อย่างจีน และญี่ปุ่น ซึ่งมีการเผยแพร่คุณสมบัติของชาเขียว โดยมีการตั้งสถาบันวิชาการเพื่อศึกษาพบว่า ในชาเขียวประกอบด้วยสารโพลิซีนอล มีสารแอนติออกเดนท์ต่อต้านอนุมูลอิสระในร่างกาย ทำให้อายุยืนขึ้น (กรุงเทพธุรกิจ พุธที่ 23 ก.พ. 48 http://www.bangkokbiznews.com)





สถาบันวิจัยข้าวลุ้นรัฐบาลจัดตั้งองค์การข้าวแห่งชาติ ชูแหล่งรวมเทคโนโลยีเกี่ยวกับข้าวทั้งระบบครบวงจร

นายวิชัย หิรัญยูปกรณ์ ผู้อำนวยการสถาบันวิจัยข้าวกรมวิชาการเกษตร เปิดเผยถึงความคืบหน้าในการจัดตั้งองค์กรข้าวแห่งชาติ ว่าขณะนี้สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาระบบข้าราชการ (กพร.) อยู่ระหว่างการพิจารณาในรายละเอียดในแผนที่ทางกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้จัดทำเสนอให้พิจารณา ซึ่งคาดว่าในเร็ว ๆ นี้ กพร.คงจะดำเนินการพิจารณาแล้วเสร็จ จากนั้นกระทรวงเกษตรฯและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องก็จะเริ่มดำเนินการจัดตั้งองค์กรดังกล่าวขึ้นมา เพื่อดำเนินการศึกษาวิจัยเรื่องข้าวทั้งระบบ ทั้งนี้มั่นใจว่าองค์กรข้าวจะต้องเกิดขึ้นอย่างแน่นอนเนื่องจากองค์กรดังกล่าวเป็นการนำเสนอโดยรัฐบาล และต้องดำเนินการอย่างต่อเนื่อง ซึ่งตามโครงสร้างที่กำหนดไว้นั้นจะมีนายกรัฐมนตรีเป็นประธานคณะกรรมการบริหาร (บอร์ด) ทั้งนี้เนื่องจากที่ผ่านมาการดำเนินการเรื่องข้าวซึ่งถือเป็นพืชที่ใช้เพื่อการบริโภคภายในประเทศ และใช้เพื่อการส่งออกที่สำคัญ สร้างรายได้ให้กับประเทศยังไม่มีการดำเนินการในลักษณะบูรณาการแต่ละหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต่างคนต่างทำ ขาดการเชื่อมโยงทำให้เกิดปัญหาผลการศึกษาวิจัยไม่ได้ถูกนำไปเผยแพร่หรือส่งเสริมให้กับเกษตรกรผู้ปลูกข้าวนำไปปลูกในไร่นา ดังนั้นในอนาคตหากมีการจัดตั้งองค์กรข้าวขึ้นมาก็จะทำให้การบริหารจัดการเรื่องข้าวเป็นไปเป็นระบบครบวงจรมากขึ้น นอกจากนี้ นายวิชัย ยังกล่าวด้วยว่า ที่ผ่านมาในงบประมาณปี 2547 ทางสถาบันวิจัยข้าวได้รับงบประมาณจำนวน 300 ล้านบาท ซึ่งทางสถาบันฯนอกจากจะทำการศึกษาวิจัยพันธุ์ข้าวคุณภาพดีให้กับหน่วยงานต่าง ๆ หากการผลักดันให้มีการจัดตั้งองค์กรข้าวได้สำเร็จ ต่อไปประเทศไทยก็จะมีหน่วยงานที่เป็นที่รวมเรื่องข้าวอย่างครบวงจรเป็นระบบ เกิดการทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ เกษตรกรสามารถเข้าถึงข้าวพันธุ์ดี รวมถึงสามารถใช้เทคโนโลยีที่เหมาะสมในการผลิต เก็บเกี่ยวและรักษาผลผลิตได้อย่างทั่วถึง (เดลินิวส์ เสาร์ที่ 26 ก.พ. 48 http://www.dailynews.co.th)





"ในหลวง"พิมพ์"สึนามิ"แจกทุกรร. พบ"พะยูน"นับร้อยหลังมหันตภัย

พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมีพระราชกระแสให้มูลนิธิชัยพัฒนาจัดพิมพ์หนังสือ "คลื่นยักษ์สึนามิ คลื่นอภิมหาภัย" ขึ้นเพื่อเผยแพร่ความรู้แก่สาธารณชนโดยเฉพาะเยาวชนและนักศึกษา ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 25 กุมภาพันธ์ นายสุเมธ ตันติเวชกุล กรรมการและเลขาธิการมูลนิธิชัยพัฒนาเปิดเผยว่า สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี องค์ประธานมูลนิธิชัยพัฒนาได้พระราชทานพระราชวโรกาสให้ คุณหญิงกษมา วรวรรณ ณ อยุธยา ปลัดกระทรวงศึกษาธิการและคณะ พร้อมด้วย ศ.ดร.ไพรัช ธัชยพงษ์ ผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ เข้าเฝ้าทูลละอองพระบาทรับพระราชทานหนังสือ "คลื่นยักษ์สึนามิ คลื่นอภิมหาภัย" สำหรับนำไปแจกจ่ายให้กับสถานการศึกษาทุกระดับและทุกแห่งในประเทศไทย นายสุเมธ ตันติเวชกุล กล่าวว่า สำหรับหนังสือ "คลื่นยักษ์สึนามิ คลื่นอภิมหาภัย" นี้มูลนิธิชัยพัฒนาได้สนองพระราชกระแสพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวจัดพิมพ์ขึ้น เผื่อเผยแพร่เป็นสาธารณประโยชน์ โดยได้รับความร่วมมือจากศูนย์เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์แห่งชาติ สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ดำเนินการแปลจากหนังสือ "Tsunami: The Great Waves" และเพิ่มเติมเนื้อหาเกี่ยวกับเหตุการณ์คลื่นยักษ์สึนามิที่เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 26 ธันวาคม 2547 ซึ่งเป็นภัยพิบัติธรรมชาติที่ก่อความสูญเสียกับชีวิตผู้คนและทรัพย์สินรุนแรงที่สุดครั้งหนึ่งที่เกิดขึ้นในประเทศไทยและอีกหลายประเทศ (มติชนรายวัน เสาร์ที่ 26 ก.พ. 48 http://www.matichon.co.th)





ยกผู้หญิงเก่ง10อาชีพรับรางวัลวันสตรีสากล

นางสุธีรา จิตรานนท์ ประธานมูลนิธิสถาบันวิจัยบทบาทหญิงชายและการพัฒนา สมาคมส่งเสริมสถานภาพสตรีฯ จัดโครงการคัดเลือก "ผู้หญิงเก่ง" 10 สาขาอาชีพ เพื่อประกาศเกียรติคุณแก่ผู้มีความสามารถและทำงานเกิดประโยชน์แก่ชุมชนและสังคมโดยรวมเป็นเวลา 12 ปี และโครงการคัดเลือก "องค์การบริหารส่วนตำบลดีเด่น" และ "กองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองฯ ดีเด่น" เนื่องในวันสตรีสากล 8 มีนาคม และงานสัปดาห์สตรีสากลเดือนมีนาคม ประจำปี 2548 เพื่อยกย่องและเป็นกำลังใจแก่ท้องถิ่นที่ให้ความสำคัญในมิติหญิงชาย โดยผลคัดเลือกผู้หญิงเก่งสาขาเกษตรกร ได้แก่ นางสุดาพร ยอดพินิจ จ.ระนอง สาขาสิ่งแวดล้อม นางนฤมล หาญวรรณกิจ จ.น่าน สาขานักพัฒนา นางเพทาย ปทุมจันทรัตน์ กทม. สาขาผู้ริเริ่มธุรกิจ นางอ้อยทิพย์ จำจด จ.สระแก้ว สาขานักการเมือง นางนิสิต ศักยพันธ์ จ.อุดรธานี สาขานักบริหาร นางเปรมฤดี ชามพูนท จ.พิษณุโลก สาขาสื่อมวลชน นางประไพพัตร โขมพัตร กทม. สาขาเยาวสตรี ด.ญ.อังศุมา โอภาษี จ.นครสวรรค์ สมาชิกองค์การบริหารส่วนตำบล จ.อุตรดิตถ์ ธุรกิจรายย่อยโครงการธนาคารประชาชน ได้แก่ นางจินตนา เรืองเดช จ.นนทบุรี อบต.ดีเด่น ได้แก่ อบต.หาดสองแคว จ.อุตรดิตถ์ กองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองดีเด่น ได้แก่ กองทุนหมู่บ้านหนองบัวไกรใน จ.สุโขทัย (ข่าวสด เสาร์ที่ 26 ก.พ. 48 http://www.matichon.co.th/khaosod)






KMUTT Digital Library
Contact Digital Library : info@lib.kmutt.ac.th
Tel : 0-2470-8215