หัวข้อข่าวปีที่ 6 ฉบับที่ 28 ประจำวันที่ 2005-07-23

ข่าวการศึกษา

เด็กไทยเจ๋งอีกแล้ว ได้ 4 เงิน 2 ทองแดง แข่งคณิตโอลิมปิก
แนะอุดมศึกษาไทย ตื่นตัวผลิตแรงงาน สอดรับกระแสโลก
SMaRT School โรงเรียนอัจฉริยะไอซีที
มก.ผุดหลักสูตรปั้นนักบิน สนองไทยเป็น “ฮับ” การบินเอเชีย
"มธ."แบ่งรับตรงน.ศ.-แอดมิสชั่นส์"49 ใช้"O-NET"-"A-NET"-เพิ่มคุณสมบัติ
ม.แม่ฟ้าหลวงจับมือ"คีนัน-ยูเสด"ให้ทุนวิจัย อาจารย์5ปท.ลุ่มน้ำโขงพัฒนาภาษาอังกฤษ
กทม.-กฟน.ตกแต่งเมือง ฝังสายไฟลงดินเริ่มปี"49
4นร.ไทยสร้างชื่ออีก! คว้า3ทองชีวโอลิมปิก
"มศว"ปรับหลักสูตร-อธิการนำทีมสอน
13มหาลัยราชภัฏร่วมมือวิชาการ
วิกฤตขาดแคลน"อจ."เกษตรทั่วปท. สภาคณบดีดิ้น-รัฐบาลไม่เหลียวแล

ข่าววิทยาศาสตร์/เทคโนโลยี

ใช้ไฟฟ้าคอยเต้นกระตุ้นสมอง แก้อาการจิตใจหดหู่เศร้าหมอง
ค่ายวิทยาศาสตร์ สัมพันธ์ไทย-จีน
พบดาวเคราะห์อัศจรรย์ในจักรวาล เห็นพระอาทิตย์ขึ้นพร้อมกัน 3 ดวง
คพ.เดินหน้าโครงการ"นักรบสิ่งแวดล้อม"

ข่าววิจัย/พัฒนา

การมีสติปัญญาดีไม่อาจเสริมส่ง ให้กลายเป็นคนมีความสุขด้วย
ไบโอดีเซลสูตรใหม่ ไร้มลพิษ
สุดยอดนักผลิต ผลิตภัณฑ์จากกาบตาล ภูมิปัญญาไทยเด็กรุ่นใหม่
นักวิจัยยุ่นไขปริศนานักดื่ม"คอแข็ง"
ใช้สบู่ป้องกันปอดบวม-ท้องร่วงได้ คร่าชีวิตเด็กลงปีละ 3.5 ล้านคน
สร้างเครื่องปั่นไฟฟ้าขึ้นจากขี้ไก่ ต้องมีปริมาณมากพอถึงจะคุ้มค่า

ข่าวทั่วไป

แนะตรวจโรคก่อนมีลูกสืบทายาท ปลอดพ้นจากโรคธาลัสซีเมีย
ปรับมาตรฐาน"เขาใหญ่"หลังขึ้นทะเบียนมรดกโลก





ข่าวการศึกษา


เด็กไทยเจ๋งอีกแล้ว ได้ 4 เงิน 2 ทองแดง แข่งคณิตโอลิมปิก

นักเรียนไทยสร้างชื่อเสียงให้แก่ประเทศ โดยแสดงความสามารถในเวทีวิชาการโลกอีกครั้ง ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวได้รับการเปิดเผย จากนางนงนุช ชาญปริยวาทีวงศ์ รักษาการ ผอ.สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (สสวท.) เมื่อวันที่ 18 ก.ค. ว่า ตามที่สถาบันฯได้ส่งนักเรียน 6 คนเป็นตัวแทนประเทศไทย ไปร่วมการแข่งขันคณิตศาสตร์โอลิมปิกระหว่างวันที่ 8-19 ก.ค. ณ เมืองเมอริดา ประเทศเม็กซิโก ผลปรากฏว่า นักเรียนไทยสามารถคว้ารางวัล 4 เหรียญเงิน 2 เหรียญทองแดง สำหรับผู้ที่ได้เหรียญเงิน ได้แก่ นายนิธิ รุ่งธนาภิรมย์ อายุ 17 ปี จาก ร.ร.เตรียมอุดมศึกษา นายภานุพงศ์ ภาสุภัทร อายุ 15 ปี โรงเรียนสาธิตจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย (ฝ่ายมัธยม) นายภูมิพงศ์ วัฒนะประกรณ์กุล อายุ 17 ปี โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา และนายวุฒิศักดิ์ ตรงศิริวัฒน์ อายุ 17 ปี ร.ร. สวนกุหลาบวิทยาลัย ผู้ที่ได้เหรียญทองแดง ได้แก่ นายศรัณย์ อาฮูยา ร.ร.นานาชาตินครพายัพ จ.เชียงใหม่ นายณภัทร รุจีรไพบูลย์ ร.ร.มหิดลวิทยานุสรณ์ จ.นครปฐม โดยการแข่งขันครั้งนี้มีประเทศต่างๆเข้าร่วมการแข่งขันกว่า 80 ประเทศทั่วโลก (ไทยรัฐ อังคารที่ 19 ก.ค. 48 http://www.thairath.co.th)





แนะอุดมศึกษาไทย ตื่นตัวผลิตแรงงาน สอดรับกระแสโลก

นายพรชัย มงคลวานิช อธิการบดีมหาวิทยาลัยสยาม ในฐานะนายกสมาคมอธิการบดีนานาชาติ (ไอเอยูพี) กล่าวในพิธีปิดการประชุมใหญ่สามัญสมาคมอธิการบดีนานาชาติ ครั้งที่ 14 ถึงประเด็นความท้าทายและการปรับตัวของวงการศึกษาในเมืองไทย ท่ามกลางกระแสโลกาภิวัฒน์ ว่า สถาบันอุดมศึกษาไทย ควรเชื่อมโยงกับภาคอุตสาหกรรมและภาคพาณิชยกรรมซึ่งมีสภาพเป็น “ผู้บริโภคแรงงาน” เพื่อให้เกิดการผลิตบัณฑิตที่ตรงความต้องการของตลาดมากยิ่งขึ้น เพื่อเป็นการผลิตบุคลากรอย่างตรงเป้าของตลาด มหาวิทยาลัยต่างๆ ควรจะมีการนำเอาผู้เชี่ยวชาญ จากวงการอุตสาหกรรมหรือพาณิชยกรรมต่างๆ ที่มีประสบการณ์และความรู้โดยตรงในแต่ละสาขา มาเป็นอาจารย์ประจำให้แก่นักศึกษา ในช่วงการศึกษาปี 3-4 ขณะเดียวกัน มหาวิทยาลัยยังจำเป็นที่จะต้องขยายภาควิชาสาขาต่างๆ ออกไปให้มากกว่าเดิมตามกระแสโลกาภิวัฒน์ ที่ตลาดการศึกษาเมืองไทยจำเป็นต้องเปิดกว้างมากขึ้น และในช่วง 3 ปีที่ดำรงตำแหน่งนายกสมาคมอธิบการบดีนานาชาตินี้ จะพยายามผลักดันในเรื่องคุณภาพการศึกษาให้สอดคล้องกับความเปลี่ยนแปลงของโลกของเทคโนโลยี ส่งเสริมให้เกิดการศึกษาที่ยั่งยืน ความ เท่าเทียมกันทางการศึกษาและสนับสนุนให้เกิดความร่วมมือระหว่างสมาคมฯกับสมาคมอื่นๆ ในภูมิภาค ตลอดจนการให้สมาชิกและนักการศึกษามีส่วนร่วมในการพัฒนาการศึกษา เพื่อให้การศึกษานำไปสู่สวัสดิภาพและความเป็นอยู่ที่ดีของประชาชน ตามวัตถุประสงค์ของสมาคมฯ (สยามรัฐรายวัน พุธที่ 20 ก.ค. 48 http://www.siamrath.co.th)





SMaRT School โรงเรียนอัจฉริยะไอซีที

โครงการ SMaRT School...เป็นหนึ่งในโครงการตอบแทนกลับคืนทางเศรษฐกิจแห่งชาติ ภายใต้การสนับสนุนจากประเทศอังกฤษ โดยมีกระทรวงศึกษาธิการ สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (สสวท.) และบริษัท BAE Systems แห่งสหราชอาณาจักร เป็นจักรเฟืองสำคัญในการพัฒนาโครงการร่วมกัน SMaRT School นับว่าเป็นโครงการนำร่องการเรียนการสอน สาระการออกแบบและเทคโนโลยีของประเทศไทย โดยมุ่งพัฒนาหลักสูตร สื่อ กิจกรรมการเรียนการสอน รวมทั้งครูให้สามารถจัดการเรียนการสอนวิชาดังกล่าวได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด โดยใช้ศักยภาพของไอซีที เป็นเครื่องมือช่วยกระตุ้นให้นักเรียนรู้จักคิด วิเคราะห์ แก้ปัญหา จนเกิดองค์ความรู้และสร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆ ได้สำเร็จ ซึ่งการสอนรูปแบบนี้จะช่วยจุดประกายให้เด็กไทยเป็น “นักวิทยาศาสตร์” ที่รู้จักการแก้ปัญหาและใช้เทคโนโลยีอย่างเหมาะสม ในระยะแรกของการดำเนินโครงการ SMaRT School จัดนำร่อง 2 โรงเรียน ได้แก่ โรงเรียนพระตำหนักสวนกุหลาบ กรุงเทพฯ และโรงเรียนมหิดลวิทยานุสรณ์ จ.นครปฐม และขยายการนำร่องเพิ่มอีก 4 แห่ง ประกอบด้วย ศูนย์วิจัย พัฒนาและฝึกอบรม ที่ สสวท., โรงเรียนสันกำแพง จ.เชียงใหม่, โรงเรียนตราษตระการคุณ จ.ตราด และโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา กรุงเทพฯ หัวใจสำคัญของการเรียนการสอนสาระการออกแบบและเทคโนโลยี ในโครงการ SMaRT School นั้นต้องการให้นักเรียนคิดอย่างเป็นระบบ มีครูเป็นผู้กำหนดกรอบเพื่อให้นักเรียนทำตาม โดยเริ่มจากความต้องการ หรือปัญหาของนักเรียนเป็นตัวตั้ง พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เคยกล่าวไว้ในรายการ “นายกฯ ทักษิณ คุยกับประชาชน” ว่าโครงการ SMaRT School เป็นการสอนทั้งระบบให้เห็นภาพ ไม่ได้สอนเป็นรายวิชา เห็นภาพและเห็นทั้งเรื่องราวทำให้เด็กจำแม่น และเข้าใจได้ทันที โดยใช้เทคโนโลยีมาช่วย ซึ่งค่อนข้างจะเป็นการปฏิรูปการศึกษาที่แท้จริง... ผู้สนใจ สามารถคลิกดูรายละเอียดเพิ่มเติมของโครงการ SMaRT School ได้ที่เว็บไซต์ www.ist.ac.th และhtt://www.baesystems-isn.com (สยามรัฐรายวัน พุธที่ 20 ก.ค. 48 http://www.siamrath.co.th)





มก.ผุดหลักสูตรปั้นนักบิน สนองไทยเป็น “ฮับ” การบินเอเชีย

ภาควิชาวิศวกรรมการบินและอวกาศ คณะวิศวกรรมศาสตร์ ม.เกษตรศาสตร์เปิดหลักสูตรการเรียนในระดับปริญญาตรี ขึ้นใหม่ 2 สาขาวิชา ได้แก่ สาขาวิชาการจัดการการบิน และสาขาวิชาเทคโนโลยีการบิน เพื่อผลิตบุคลากรการบินที่มีขีดความสามารถทั้งในด้านความรู้ ทักษะ บุคลิกภาพ และจริยธรรมอย่างแท้จริง ดร.ศิริพงษ์ อติพันธ์ ประธานโครงการปริญญาตรีภาคพิเศษ หลักสูตรวิทยาศาสตรบัณฑิตสาขาวิชาการจัดการการบินและ สาขาวิชาเทคโนโลยีการบิน กล่าวว่า จากการปรับตัวของระบบเศรษฐกิจและสังคมโลก ส่งผลให้เกิดการติบโต ของอุตสาหกรรมการบินอย่างต่อเนื่อง ความต้องการการขนส่งทางอากาศเพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดด ทั้งภาคการผลิตและบริการ ในอุตสาหกรรมการบินต่างเพิ่มกิจกรรมการลงทุนและพัฒนาธุรกิจอย่างเร่งด่วน ดังนั้นทรัพยากรบุคคลด้านนี้จะต้องเป็นผู้ที่มีความรู้ ความเข้าใจในอุตสาหกรรมการบินอย่างแท้จริง โดยเฉพาะองค์ความรู้ด้านการจัดการการบิน ทั้งต้องเข้าใจในเชิงบูรณาการของอุตสาหกรรมการบินอย่างเป็นระบบ และมีความรู้เชิงลึกด้านการจัดการธุรกิจองค์กรการบิน ซึ่งมีลักษณะแตกต่างจากธุรกิจทั่วไป โดยเราได้รับความร่วมมือจากคณาจารย์และบุคลากรทั้งในและต่างประเทศ อีกทั้งยังมีโครงการแลกเปลี่ยนและดูงาน อาทิ โครงการ Doudle Degree หลักสูตรบริหารธุรกิจกับประเทศออสเตรเลีย โครงการแลกเปลี่ยนนิสิตและบุคลากรกับประเทศฝรั่งเศส เป็นต้น ในอนาคตจะพัฒนาโปรแกรมการเรียนการสอนให้เป็นหลักสูตรภาษาอังกฤษ เพื่อสนองตอบความต้องการของตลาดการบินพาณิชย์ ผู้สนใจเข้าศึกษาต่อในหลักสูตรดังกล่าว สามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ โครงการเปิดสอนปริญญาตรีภาคพิเศษ หลักสูตรวิทยาศาสตรบัณฑิต สาขาวิชาการจัดการการบินฯ โทร.0-2942-8555 ต่อ 1709, 1702 หรือที่ htt://ase.eng.ku.ac.th (สยามรัฐรายวัน อังคารที่ 19 อก.ค. 48 http://www.siamrath.co.th)





"มธ."แบ่งรับตรงน.ศ.-แอดมิสชั่นส์"49 ใช้"O-NET"-"A-NET"-เพิ่มคุณสมบัติ

นายทวีป ชัยสมภพ รองอธิการบดีฝ่ายวิชาการ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์(มธ.) เปิดเผยว่า มธ.ได้ข้อสรุปเบื้องต้นในการรับนักศึกษาในปีการศึกษา 2549 มี 5 คณะวิชาจะรับตรง โควต้า และโครงการพิเศษต่างๆ เองเหมือนปีที่ผ่านมา ได้แก่ คณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี คณะนิติศาสตร์ คณะเศรษฐศาสตร์ คณะรัฐศาสตร์ และคณะสังคมสงเคราะห์ เนื่องจากมีบางวิชาที่คณะเหล่านี้ต้องการสอบเพิ่ม แต่ทางสำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา(สกอ.) จัดสอบวิชาเฉพาะให้เพียง 11 วิชา ที่ใช้ประกอบในระบบกลางการรับนิสิตนักศึกษา หรือแอดมิสชั่นส์ ประจำปีการศึกษา 2549 ซึ่งจะเสนอที่ประชุมอธิการบดีแห่งประเทศไทย(ทปอ.) ขอให้ สกอ.ขยายการสอบวิชาเฉพาะเพิ่มจาก 11 วิชา ในปีการศึกษา 2550 "ส่วนโครงการพิเศษของคณะวิชาอื่นๆ จะรับผ่านระบบแอดมิสชั่นส์ตามโครงการของมหาวิทยาลัย หรือแอดมิสชั่นส์รับตรง เช่น โควตาภูมิภาคของวิทยาลัยสหวิทยาการสังคมศาสตร์ มธ.ศูนย์ลำปาง โดยจะใช้ผลคะแนนทดสอบทางการศึกษาแห่งชาติขั้นพื้นฐาน (Ordinary National Educational Test : O-NET) และแบบทดสอบทางการศึกษาแห่งชาติขั้นสูง (Advanced National Educational Test : A-NET) ของสถาบันทดสอบทางการศึกษาแห่งชาติ(สทศ.) นอกจากนี้ โครงการพิเศษอื่นๆ เช่น คนพิการ โควตานักกีฬา และโครงการช้างเผือก ทางมธ.จะใช้ผลสอบ O-NET และ A-NET เช่นกัน แต่จะกำหนดคุณสมบัติอื่นๆ เพิ่มเติม และกระบวนการคัดเลือกจะรับสมัครเอง ไม่สมัครผ่าน สกอ (มติชนรายวัน พุธที่ 20 ก.ค. 48 http://www.matichon.co.th)





ม.แม่ฟ้าหลวงจับมือ"คีนัน-ยูเสด"ให้ทุนวิจัย อาจารย์5ปท.ลุ่มน้ำโขงพัฒนาภาษาอังกฤษ

ข่าวมหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวงแจ้งว่า ได้ร่วมกับสถาบันคีนันแห่งเอเชีย โดยการสนับสนุนจากองค์การเพื่อการพัฒนาระหว่างประเทศสหรัฐอเมริกา(ยูเสด) ได้มอบทุนศึกษาวิจัย เรื่อง "การพัฒนาหลักสูตรการเรียนการสอนภาษาอังกฤษในแถบประเทศลุ่มน้ำโขง" ให้กับอาจารย์ผู้ทรงคุณวุฒิ และบัญฑิตศึกษาจาก 5 ประเทศแถบลุ่มน้ำโขง ประกอบด้วยกัมพูชา สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว สาธารณรัฐสังคมเวียดนาม สหภาพพม่า มณฑลยูนนานทางตอนใต้ของประเทศจีน และประเทศไทย สำหรับบัณฑิตศึกษาและอาจารย์ผู้ทรงคุณวุฒิที่ได้รับทุนศึกษาวิจัยการพัฒนาหลักสูตรการเรียนการสอนภาษาอังกฤษในแถบประเทศลุ่มน้ำโขง ประกอบด้วย นางเชียง ยิง จากมณฑลยูนนานแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน นางนันท์ แอสเตอร์ จากประเทศพม่า นางโสมพิทยา อบรม และรองศาสตราจารย์(รศ.) ดร.มาฆะ ขิตตะสังคะ รองอธิการบดีด้านพัฒนาความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง นายตรัง บา เทียน นางสาวลินชี งอเย็น จากเวียดนาม และนางสาวลีน่า ซก จากกัมพูชา ทั้งนี้ จะมีการประชุมสัมมนาระดับนานาชาติ ในหัวข้อเรื่อง "Better English for Better Regional Understanding" ระหว่างวันที่ 16-18 กันยายนนี้ ได้เชิญวิทยากรอาจารย์ผู้ทรงคุณวุฒิทางด้านการสอนภาษาอังกฤษเป็นภาษาที่สองมาเป็นผู้บรรยายทั้งจากประเทศสหรัฐอเมริกา แคนาดา ฮ่องกง เวียดนาม และไทย และการนำเสนอผลการวิจัยของผู้รับทุนศึกษาวิจัยการพัฒนาหลักสูตรการเรียนการสอนภาษาอังกฤษ ใน 6 ประเทศลุ่มน้ำโขง สำหรับนักการศึกษา และผู้สนใจทั่วไป สอบถามได้ที่ โทร.0-5391-6732 อาจารย์ศศิมา และอาจารย์รัชนก โทร.0-2229-3131 ต่อ 211 นางสาววิมลพรรณ หรืออี-เมล sasima@mfu.ac.th,rugchanok@mfu.ac.th,education@kiasia.org และ www.kiasia.org/fellowship (มติชนรายวัน พุธที่ 20 ก.ค. 48 http://www.matichon.co.th)





กทม.-กฟน.ตกแต่งเมือง ฝังสายไฟลงดินเริ่มปี"49

วันที่ 19 กรกฎาคม ที่ศาลาว่าการ กทม. นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ โฆษก กทม. เปิดเผยว่า คณะผู้บริหาร กทม.เห็นชอบการลงนามบันทึกข้อตกลงร่วมกันระหว่าง กทม. การไฟฟ้านครหลวง (กฟน.) และหน่วยงานสาธารณูปโภค ในการวางสายสาธารณูปโภคใต้ดินในถนนสายสำคัญ และบริเวณเกาะรัตนโกสินทร์ โดยแบ่ง 3 ส่วน 1.กฟน.รับผิดชอบรื้อถอนเสาไฟฟ้าและร้อยสายไฟลงดิน โดยออกค่าใช้จ่ายเอง ระยะแรกดำเนินการให้แล้วเสร็จในปี 2549 ได้แก่ ถนนพระราม 1 (แยกราชประสงค์-แยกปทุมวัน) ถนนเพลินจิต (แยกราชประสงค์-ทางรถไฟสายท่าเรือ) ถนนราชดำริ (แยกศาลาแดง-สะพานเฉลิมโลก) ถนนพระราม 6 (แยกอุรุพงษ์-แยกตึกชัย) ถนนราชวิถี (แยกตึกชัย-ถนนสวรรคโลก) ถนนสุโขทัย (ถนนสวรรคโลก-ถนนพิชัย) ถนนพิชัย ถนนอู่ทองใน ถนนราชดำเนินนอก (ถนนอู่ทองใน-ถนนพิษณุโลก) ถนนพิษณุโลก (ถนนราชดำเนินนอก-ถนนพระราม 6) ระยะที่ 2 ปี 2550-2551 ได้แก่ ถนนพหลโยธิน (ห้าแยกลาดพร้าว-อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ) ถนนประดิพัทธ์ (ถนนพหลโยธิน-ถนนพระราม 6) ถนนพญาไท (อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ-สะพานหัวช้าง) ถนนศรีอยุธยา (แยกพญาไท-ถนนราชปรารภ) ถนนเพชรบุรี (แยกราชเทวี-ถนนบรรทัดทอง) ระยะที่ 3 ปี 2552 ถนนสุขุมวิท (ทางรถไฟท่าเรือ-ซอยสุขุมวิท 81) และว่า กทม.จะใช้งบฯ 40 ล้านบาท ติดตั้งไฟฟ้าแสงสว่างสาธารณะในถนนต่างๆ และใช้งบฯการท่องเที่ยว 3,000 ล้านบาท ฝังสายไฟลงดินในเกาะรัตนโกสินทร์ ระยะแรกปี 2549 ถนนราชดำเนินกลาง ถนนราชดำเนินใน ถนนท้ายวัง ถนนวัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม และถนนบริเวณท่าช้าง ระยะที่ 2 ถนนหน้าพระลาน ถนนสนามไชย และถนนข้าวสาร (มติชนรายวัน พุธที่ 20 ก.ค. 48 http://www.matichon.co.th)





4นร.ไทยสร้างชื่ออีก! คว้า3ทองชีวโอลิมปิก

ดร.นงนุช ชาญปริยวาทีวงศ์ รักษาการผู้อำนวยการสถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (สสวท.) เปิดเผยว่า ตามที่สสวท.ได้คัดเลือกและจัดส่งผู้แทนประเทศไทย 4 คน เดินทางไปแข่งขันชีววิทยาโอลิมปิกระหว่างประเทศ ระหว่างวันที่ 10-17 ก.ค.ที่ผ่านมา ที่กรุงปักกิ่ง ประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีน ผลปรากฏว่า ผู้แทนประเทศไทยสามารถคว้า 3 เหรียญทอง 1 เหรียญเงิน จากผู้เข้าแข่งขันประมาณ 200 คน โดยมีผู้แทนเข้าร่วมการแข่งขัน 50 ประเทศ คือ รางวัลเหรียญทอง ได้แก่ นายวรากร กุลาเลิศ โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา นายปองปราชญ์ พัวพัฒนกุล โรงเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัย นายณัฐวัตร กล่อมจิตร์ โรงเรียนมหิดลวิทยานุสรณ์ รางวัลเหรียญเงิน ได้แก่ นายธนวัฒน์ เหลืองสุขฤกษ์ โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา นอกจากนี้ผู้แทนประเทศไทยเหรียญทองคือ นายวรากรยังสามารถทำคะแนนได้สูงเป็นอันดับที่ 2 ของโลก รองจากอันดับหนึ่งคือประเทศจีนอีกด้วย ดร.นงนุชเปิดเผยว่า ทันทีที่สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ ทรงทราบรายงานผลชีววิทยาโอลิมปิกระหว่างประเทศครั้งนี้ ได้มีพระหัตถเลขาถึงร.ศ.เย็นใจ สมวิเชียร ซึ่งถือเป็นพระกรุณาธิคุณ แก่ผู้แทนการแข่งขันโอลิมปิกของประเทศไทย โดยได้อัญเชิญกระแสรับสั่งมาถึงผู้เข้าร่วมการแข่งขันทุกคนทราบดังข้อความต่อไปนี้ "เก่งมากๆ ขอแสดงความยินดีทั้ง 4 คน (ข่าวสด จันทร์ที่ 18 ก.ค. 48 http://www.matichon.co.th/khaosod)





"มศว"ปรับหลักสูตร-อธิการนำทีมสอน

มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ (มศว) เปิดเผยว่ามศว ได้ปรับเปลี่ยนและพัฒนาวิชาศึกษาทั่วไปหรือวิชาพื้นฐาน 30 หน่วยกิต ซึ่งเป็นวิชาบังคับที่นิสิตทุกคนต้องลงทะเบียนเรียนซึ่งส่วนใหญ่นิสิตชั้นปีที่ 1 จะลงเรียนในวิชาศึกษาทั่วไป และทางสำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา (สกอ.) ก็มีนโยบายกำหนดให้มหาวิทยาลัยต่างๆ เห็นความสำคัญในวิชาศึกษาทั่วไป ทั้งนี้ก็สอดรับกับแนวทางของมศว ที่เห็นว่าวิชาศึกษาทั่วไปจะเป็นส่วนหนึ่งที่จะบูรณาการความคิด ทัศนคติ มุมมองที่มีต่อสังคม มศวจึงได้ปรับเปลี่ยนเนื้อหาของวิชาความรู้ทั่วไปในบางส่วน จำนวน 10 หน่วยกิต 4 รายวิชา ให้เป็นวิชาบูรณาการ โดยแก่นวิชาต่างๆ มุ่งขัดเกลาให้นิสิตมีความคิดมีสติปัญญาเพื่อเข้าใจชีวิต และเข้าใจการเปลี่ยนแปลงของสังคม รู้จักอยู่ร่วมกันอย่างสันติสุขและมีชีวิตที่งดงาม วิชาบูรณาการเริ่มสอนในปีการศึกษา 2548 เป็นปีการศึกษาแรก ผู้สอนส่วนใหญ่จะเป็นผู้ทรงคุณวุฒิที่มีประสบการณ์ ซึ่งจะนำทีมโดยศ.ดร.วิรุณ ตั้งเจริญ อธิการบดี รองธิการบดี คณบดี ผู้อำนวยการ และผู้ทรงคุณวุฒิภายนอก เราเชื่อว่าการนำประสบการณ์ชีวิตและความรู้มาถ่ายทอดให้นิสิตได้เห็นถึงการเชื่อมโยงของศาสตร์ต่างๆ ในโลกแห่งความเป็นจริง จะช่วยสร้างกระบวนการคิดเชิงบูรณาการให้แก่นิสิตได้เป็นอย่างดี (ข่าวสด จันทร์ที่ 18 ก.ค. 48 http://www.matichon.co.th/khaosod)





13มหาลัยราชภัฏร่วมมือวิชาการ

ผศ.ไพฑูรย์ ยาบุศดี อธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฏเลย กล่าวว่า มหาวิทยาลัยราชภัฏเลยได้ร่วมลงนามความร่วมมือทางวิชาการ เพื่อพัฒนาการเรียนการสอนบุคลากรองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ระหว่างสถาบันส่งเสริมการจัดการความรู้เพื่อสังคม (ส.ค.ส.) กับมหาวิทยาลัยราชภัฏ ที่ห้องประชุมชั้น 4 มหาวิทยาลัยราชภัฏพระนครเมื่อเร็วๆ นี้ สำหรับผู้ร่วมลงนามในครั้งนี้ประกอบด้วย ศ.น.พ.วิจารณ์ พานิช ผู้อำนวยการสถาบันส่งเสริมการจัดความรู้เพื่อสังคม และอธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฏ 13 แห่ง มี มรภ.บ้านสมเด็จเจ้าพระยา มรภ.พระนคร มรภ.สุราษฎร์ธานี มรภ.นครศรีธรรมราช มรภ.มหาสารคาม มรภ.พิบูลสงคราม มรภ.เชียงใหม่ มรภ.ราชนครินทร์ มรภ.อุตรดิตถ์ มรภ.อุบลราชธานี มรภ.นครราชสีมา และ มรภ.เลย วัตถุประสงค์หลักของการลงนามคือ ร่วมมือกันในการฝึกอบรม และพัฒนาคณาจารย์ให้มีความรู้ความเข้าใจเจตคติ และทักษะในการจัดการเรียนการสอน และพัฒนาหลักสูตรการเรียนการสอน ด้วยกระบวนการจัดการความรู้ ร่วมมือศึกษา ค้นคว้า วิจัยพัฒนาการเรียนการสอน และพัฒนาหลักสูตรด้วยกระบวนการจัดการความรู้สู่การประยุกต์ใช้ และเผยแพร่ ร่วมมือในการติดตาม ทบทวน เพื่อประเมินการนำกระบวนจัดความรู้ไปปฏิบัติจริงในการจัดการเรียนการสอนอย่างต่อเนื่องปีละ 2 ครั้ง (ข่าวสด จันทร์ที่ 18 ก.ค. 48 http://www.matichon.co.th/khaosod)





วิกฤตขาดแคลน"อจ."เกษตรทั่วปท. สภาคณบดีดิ้น-รัฐบาลไม่เหลียวแล

เมื่อวันที่ 19 กรกฎาคม นายภาวิช ทองโรจน์ เลขาธิการคณะกรรมการการอุดมศึกษา(กกอ.) เปิดเผยภายหลังผู้แทนสภาคณบดีคณะเกษตรเข้าพบว่า กลุ่มคณบดีคณะเกษตรศาสตร์ของมหาวิทยาลัยต่างๆ ได้มาหารือเกี่ยวกับแนวทางการพัฒนาสาขาด้านการเกษตรให้เข้มแข็ง และสอดคล้องกับการพัฒนาด้านอุตสาหกรรมของประเทศ ซึ่งกลุ่มคณบดีเกษตรมองถึงภาวะคุกคามในปัจจุบัน และความเปลี่ยนแปลงในวิชาการเกษตร ที่ลงลึกถึงระดับโมเลกุล จึงต้องพัฒนาองค์ความรู้ให้สามารถแข่งขันได้ โดยนำความรู้ด้านไบโอเทคโนโลยีรูปแบบใหม่ในระดับโมเลกุลเข้ามาจับ รวมทั้งต้องเน้นการลงทุนในเรื่องเหล่านี้เพิ่มเติม นอกจากนี้ ยังมีปัญหาอาจารย์รุ่นเก่าเกษียณอายุราชการไปจำนวนมาก ทำให้อาจารย์วุฒิปริญญาเอกลดลง และสร้างใหม่ไม่ทัน จึงขอให้โครงการพัฒนาอาจารย์ของสำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา(สกอ.) ได้กำหนดส่งเสริมสาขาการเกษตรไว้ด้วย ด้านนายธรรมศักดิ์ สมมาตย์ คณบดีคณะเกษตรศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์(มก.) และประธานสภาคณบดีคณะเกษตร กล่าวว่า อย่าง มก.วิทยาเขตบางเขน ถึงขั้นวิกฤตแล้ว เพราะอีก 5 ปี จะขาดแคลนอาจารย์เกษตรถึง 80% ส่วนมหาวิทยาลัยรุ่นกลางๆ ก็เริ่มขาดแคลนบ้างแล้ว ทั้งนี้ ที่ผ่านมาผู้บริหารระดับสูงของประเทศไม่ได้สร้างแรงจูงใจให้เยาวชนอยากเรียนด้านการเกษตรเหมือนเมื่อ 50 ปีก่อน (มติชนรายวัน จันทร์ที่ 18 ก.ค. 48 http://www.matichon.co.th)





ข่าววิทยาศาสตร์/เทคโนโลยี


ใช้ไฟฟ้าคอยเต้นกระตุ้นสมอง แก้อาการจิตใจหดหู่เศร้าหมอง

องค์การอาหารและยาสหรัฐฯได้อนุมัติให้ใช้เครื่องกระตุ้นไฟฟ้า ซึ่งมีขนาดโตเท่ากับนาฬิกาจับเวลา ใช้บำบัดรักษาผู้ที่มีอาการจิตใจหดหู่เศร้าหมอง บริษัทผู้ผลิตอุปกรณ์กล่าวว่าจะต้องผ่าตัดฝังไว้ในทรวงอก โดยมันจะปล่อยแรงกระตุ้นไฟฟ้ากับสมองผ่านทางประสาทในคอ เหมาะกับคนไข้จิตใจหดหู่เศร้าหมองเรื้อรัง และเคยรักษาทางอื่นมาแล้วก็ไม่ดีขึ้น ก่อนหน้านี้ ก็ได้รับอนุมัติให้ใช้รักษาผู้ป่วยโรคลมบ้าหมูในยุโรป อเมริกาและ แคนาดามาก่อนแล้ว ทุกวันนี้เฉพาะในสหรัฐอเมริกาเองก็มีผู้ใหญ่ที่มีอาการหดหู่เศร้าซึมประมาณ 18.8 ล้านคน. (ไทยรัฐ อังคารที่ 19 ก.ค. 48 http://www.thairath.co.th)





ค่ายวิทยาศาสตร์ สัมพันธ์ไทย-จีน

นางจรวยพร ธรณินทร์ รองปลัดกระทรวงศึกษาธิการ เปิดเผยถึงการจัดค่ายเยาวชนในโอกาสฉลองความสัมพันธ์ไทย-จีน ครบ 30 ปีว่าสำนักความสัมพันธ์ต่างประเทศ กระทรวงศึกษาธิการ ร่วมกับประเทศจีน จัดค่ายวิทยาศาสตร์เยาวชนไทย-จีน ประกอบด้วย นักเรียนไทย 50 คน และนักเรียนจีน 50 คน โดยนักเรียนไทยจะมาจากโรงเรียนที่สอนภาษาจีนจำนวน 25 แห่ง ที่คัดเลือกนักเรียนชั้นมัธยมทั้งชายและหญิงโรงเรียนละ 2 คน และครูโรงเรียนละ 1 คน โดยนักเรียนไทยต้องพูดภาษาอังกฤษและจีนได้ ทางสถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี(สสวท.) จะเป็นผู้จัดกิจกรรมเข้าค่ายในวันที่ 14-21 ส.ค.นี้ โดยจะพานักเรียนไทย-จีนไปชมงานสัปดาห์วิทยาศาสตร์และเข้าพักที่ท้องฟ้าจำลอง นอกจากนี้ จะไปดูงานที่โรงเรียนนายร้อย จปร. ที่เขาชะโงก จ.นครนายก ขณะเดียวกัน นักเรียนไทย-จีนจะต้องเดินทางไปทำกิจกรรมวิทยาศาสตร์ทางทะเลที่ จ.ชลบุรี และศึกษาการอนุรักษ์ธรรมชาติที่อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ จ.นครราชสีมา การเข้าค่ายในครั้งนี้เป็นการเพิ่มความรู้ด้านวิทยาศาสตร์ ส่งเสริมให้นักเรียนไทยเชื่อมโยงเครือข่ายการติดต่อสื่อสารกับนักเรียนต่างประเทศ (ข่าวสด อังคารที่ 19 http://www.matichon.co.th/khaosod)





พบดาวเคราะห์อัศจรรย์ในจักรวาล เห็นพระอาทิตย์ขึ้นพร้อมกัน 3 ดวง

นักวิทยาศาสตร์แมซีเอจ โคนักกิ แห่งสถาบันเทคโนโลยีแคลิฟอร์เนีย ได้เปิดเผยในวารสารวิทยาศาสตร์ “ธรรมชาติ” ว่า ได้พบดาวเคราะห์ที่ประกอบด้วยก๊าซ มีชื่อตามรหัสว่า “เอชดี 188753” อยู่ในกลุ่มดาวซิกนัส ขณะเมื่อดูดาวฤกษ์ 3 ดวง ที่อยู่ไกลออกไป 149 ปีแสง ด้วยกล้องโทรทรรศน์ ขนาด 10 เมตร ทำให้เพิ่งรู้ว่าดาวฤกษ์ทั้ง 3 ดวงต่างมีดาวเคราะห์ที่มีขนาดโตกว่าดาวพฤหัสฯเล็กน้อยดวงเดียวกันเป็นบริวาร ดวงอาทิตย์ 3 ดวงนั้นอยู่ใกล้ๆ กัน ระยะพอๆกับดาวเสาร์กับดวงอาทิตย์ของเรา เขากล่าวว่า “ธรรมชาติที่ตรงแห่งนั้นจะเป็นภาพน่าตื่นเต้นทีเดียว ท้องฟ้าที่มีดวงอาทิตย์ด้วยกันถึง 3 ดวง จะต้องผิดแปลกไปจากของโลกเราทั้งอย่างตรงตัวและการอุปมาอุปไมย หากเราได้ขึ้นอยู่บนดาวเคราะห์นั้น จะต้องเห็นพระอาทิตย์ขึ้น 3 ดวงด้วยกันบนฟ้า ดวงโตกว่า 2 ดวงเป็นสีส้ม ส่วนดวงเล็กมีสีแดง และระยะเวลาปีหนึ่งของดาวเคราะห์กินเวลาเพียงเท่ากับ 3 วันครึ่งของโลกเท่านั้น” นักดาราศาสตร์กล่าวแสดงความเห็นว่า การค้นพบว่ามีดาวฤกษ์แฝดหลายดวงนับว่าเป็นเรื่องน่าตื่นเต้นมาก ดาวฤกษ์ที่เป็นแฝดสองและหลายดวงอาจจะมีอยู่ทั่วไป และที่จริงแล้วอาจจะมากกว่าดาวฤกษ์ดวงเดี่ยวๆตั้ง 20% ก็ได้. (ไทยรัฐ จันทร์ที่ 18 ก.ค. 48 http://www.thairath.co.th)





คพ.เดินหน้าโครงการ"นักรบสิ่งแวดล้อม"

นายอภิชัย ชวเจริญพันธ์ อธิบดีกรมควบคุมมลพิษ(คพ.) เปิดเผยถึงกรณีมีข่าวว่า สถาบันการศึกษาของรัฐหลายแห่งถอนตัวจากการเข้าร่วมโครงการนักรบสิ่งแวดล้อม ตามนโยบายของนายยงยุทธ ติยะไพรัช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม(ทส.) เนื่องจากมีปัญหาในการทำงานว่า เรื่องนี้เป็นความเข้าใจคลาดเคลื่อน ขณะนี้มีเพียงจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยเพียง 1ราย จาก 14 สถาบัน ที่ไม่ได้เข้าร่วมโครงการเท่านั้น นายอภิชัยกล่าวว่า ในส่วนที่จุฬาฯรับผิดชอบ คือ การบำบัดน้ำเสียโรงงานนั้น จะเกลี่ยให้สถาบันอื่นๆ ดำเนินการต่อไป สำหรับกรณีการเบิกจ่ายงบประมาณก็ไม่ได้ล่าช้า เพียงแต่สถาบันการศึกษาต้องแจกแจงรายละเอียด และว่า จากการตรวจสอบและวิเคราะห์คุณภาพน้ำที่เก็บจากโรงงานในเขต กทม. และปริมณฑล 102 แห่ง จาก 243 แห่ง ที่มีการต่อท่อน้ำทิ้งออกจากโรงงาน พบอยู่ในเกณฑ์มาตรฐานเพียง 20 แห่ง ส่วนอีก 82 แห่ง มีค่าน้ำเสียเกินมาตรฐาน ส่วนใหญ่เป็นโรงงานอุตสาหกรรมฟอกย้อม โรงงานอาหารจากแป้ง โรงงานอาหารสัตว์ และโรงงานถนอมสัตว์น้ำ สำหรับการเดินหน้าโครงการระบบบำบัดน้ำเสียรวมสมุทรปราการนั้น นายอภิชัยกล่าวว่า ขณะนี้มีบริษัทรับจัดสรรน้ำขนาดใหญ่ 3-4 แห่ง รวมทั้งบริษัทอีสท์วอเตอร์ สนใจจะรับซื้อน้ำเสียที่ผ่านการบำบัดจากโครงการคลองด่านไปใช้ประโยชน์แล้ว ซึ่ง คพ.ได้ขอให้ทำรายละเอียดส่งมาประกอบการพิจารณาอีกครั้ง ทั้งนี้ ตามแผนพบว่า ระยะแรกจะมีน้ำเสียจำนวน 2 แสนคิวต่อวัน ที่ผ่านการบำบัดแล้ว สามารถนำไปใช้กับอุตสาหกรรม การเกษตร และแก้ปัญหาการขาดแคลนน้ำได้ในอนาคตอย่างแน่นอน โดยคาดว่าทุกบริษัทจะสรุปรายละเอียดมาให้เร็วๆ นี้ (มติชนรายวัน จันทร์ที่ 18 ก.ค. 48 http://www.matichon.co.th)





ข่าววิจัย/พัฒนา


การมีสติปัญญาดีไม่อาจเสริมส่ง ให้กลายเป็นคนมีความสุขด้วย

นักวิจัยสกอตแลนด์พบในการศึกษาวิจัยว่า การมีสติปัญญาดีก็ไม่ช่วยให้ กลายเป็นคนมีความสุขไปด้วยกันด้วย เขาได้พบในการศึกษากับชาวสกอตที่เกิดเมื่อปี พ.ศ. 2464 ซึ่งเคยผ่านการวัดระดับเชาวน์เมื่อตอนอายุ 11 ขวบ แสดงว่าเป็นผู้มีสติปัญญาดี และขณะนี้ล้วนมีอายุได้80 ปีแล้ว จำนวน 550 คนว่า การมีสติปัญญาสูงก็ไม่ได้ช่วยให้เป็นผู้มีความสุขมาตลอดอายุขัยอันยาวนานได้. (ไทยรัฐ อังคารที่ 19 ก.ค. 48 http://www.thairath.co.th)





ไบโอดีเซลสูตรใหม่ ไร้มลพิษ

ที่ประเทศสหรัฐอเมริกา นักวิจัยจากมหาวิทยาลัย Wisconsin ได้ประกาศถึงการค้น พบกรรมวิธีแบบใหม่ในการผลิตน้ำมัน “ไบโอดีเซล” ที่สามารถลดต้นทุนการผลิตลงไปได้มากพอที่จะแข่งขันได้กับน้ำมันดีเซลปกติ นอกจากนั้นแล้วยังไม่สร้างมลพิษให้กับสภาพแวดล้อมอีกด้วย แต่สำหรับไบโอดีเซลของนักวิจัยข้างต้นนั้น ต่างออกไปตรงที่ผลิตขึ้นมาด้วยกระบวนการที่คิดค้นขึ้นมาใหม่โดยที่วัตถุดิบที่สามารถนำมาใช้ผลิตได้นั้นก็คือส่วนต่าง ๆ ของพืชทุก ๆ ส่วน ขอเน้นคำว่าทุก ๆ ส่วน เนื่องจากไม่ว่าจะเป็น ดอก ใบ ราก กิ่ง ก้าน ฯลฯ ก็สามารถนำมาใช้ผลิตไบโอดีเซลได้ทั้งหมด กระบวนการจะเริ่มขึ้นจากการนำส่วนประกอบต่าง ๆ ของพืชมาผ่านกระบวนการที่ทำให้กลายเป็นของเหลวที่ประกอบด้วยน้ำและน้ำตาลเสียก่อน หลังจากนั้นจึงนำไปผ่านตัวเร่งปฏิกิริยาซึ่งเป็นสารประกอบของดีบุกและตะกั่วซึ่งจะทำหน้าที่แยกเอาอะตอมของไฮโดรเจนออกมา เมื่อนำไปผ่านตัวเร่งปฏิกิริยาอีกชนิดหนึ่ง (ไม่ระบุ–สงสัยเป็นความลับ) ก็จะได้ “แอลเคน” ซึ่งเป็นสารประกอบไฮโดรคาร์บอนประเภทอิ่มตัว สุดท้ายท้ายสุดเมื่อนำทั้งหมดมาผ่านตัวเร่งปฏิกิริยาซึ่งเป็นสารประกอบ แพลทินัม ซิลิกา และออกไซด์ของอะลูมิเนียม ในเตาปฏิกรณ์แล้ว ก็จะได้ไบโอดีเซลชนิดใหม่ที่มีคุณสมบัติในการเผาไหม้ไม่ต่างอะไรจากไบโอดีเซลที่ผลิตกันได้ในปัจจุบัน ที่สำคัญไปกว่านั้นก็คือ ผลิตผลของการเผาไหม้ไบโอดีเซลดังกล่าวในเครื่องยนต์นั้นเป็นเพียงแค่น้ำบริสุทธิ์และความร้อนเท่านั้น ซึ่งนักวิจัยคาดว่านี่เป็นข้อได้เปรียบที่สำคัญของไบโอดีเซลชนิดนี้ นอกจากนั้นแล้วของเหลือจากผลิตผลทางการเกษตรทั้งหมดยังสามารถนำมาใช้เพื่อการผลิตไบโอดีเซลได้ทั้งหมดอีกด้วย นับว่าเป็นการใช้ทรัพยากรให้เกิดประโยชน์สูงสุด (เดลินิวส์ พุธที่ 20 ก.ค. 48 http://www.dailynews.co.th)





สุดยอดนักผลิต ผลิตภัณฑ์จากกาบตาล ภูมิปัญญาไทยเด็กรุ่นใหม่

ทิวารัตน์ บุญโยม นักศึกษาจากมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลพระนคร วิทยาเขตโชติเวช ได้เริ่มศึกษาถึงคุณสมบัติของเส้นใยจากกาบตาลได้พบว่า แท้จริงแล้วเส้นใยจากกาบตาลนั้นมีคุณสมบัติที่สามารถนำมาพัฒนา ให้มาเป็นผลิตภัณฑ์จักสานได้เป็นอย่างดีไม่แพ้เส้นใยอย่างอื่น การนำเอากาบตาลมาใช้ให้เป็นผลิตภัณฑ์ก็น่าจะเป็นการช่วยอนุรักษ์ภูมิปัญญาของไทยอีกทางหนึ่ง ซึ่งเส้นใยจากกาบตาลที่ได้สามารถนำมาทอ มาสานได้คล้ายกับการทอเสื่อกก แล้วนำเอาแผ่นผืนที่ทอจากเส้นใยกาบตาลที่ได้ไปพัฒนาเป็นผลิตภัณฑ์ต่างๆ อย่างเช่น ตะกร้า กระเป๋า เฟอร์นิเจอร์จากเครื่องจักสานใยกาบตาล ฯลฯ วิธีทำ เพียงแค่นำเอากาบตาลมาทุบๆ สักหน่อย แล้วดึงเอาเส้นใยออกมาเป็นเส้นๆ ส่วนความยาวก็จะยาวตามความยาวของตัวกาบตาลเอง (เส้นใยจะเริ่มใช้ได้ตั้งแต่ตัวก้านที่ติดกับใบตาลจนถึงกาบที่อยู่ชิดลำต้นเลย)เส้นใยตาลที่ดึงออกมาจะมีเยื่อตาลติดอยู่ ฉะนั้นก็ต้องนำไปแช่ ไฮเตอร์ สักพัก ก็จะได้ เส้นใยกาบตาลเป็นเส้นๆ พร้อมที่จะนำมาสารได้เลย เส้นใยที่ได้จะมี 2 สี คือบางเส้นจะเป็นสีขาวนวล บางเส้นจะเป็นสีดำผสมกันไป แล้วแต่จะเลือกใช้สีอะไร ส่วนมากถ้ากาบตาลที่ให้เส้นใยสีขาวจะเป็นกาบที่อยู่ใกล้ๆ ยอดหน่อย ส่วนกาบที่ให้เส้นใยสีดำเป็นส่วนมากก็เป็นกาบที่อยู่ชั้นล่างๆ หน่อย เมื่อนำไปสาน ย้อมสีได้ตามต้องการ ในการเลือกเอากาบตาลมาใช้ นั้นให้เลือกเอากาบตาลที่ยังไม่ได้หล่นมาจากต้น เพราะกาบที่หล่นจากต้นแล้วนั้น จะให้เส้นใยที่แข็ง ไม่อ่อนนิ่มเหมือนเส้นใยที่ได้จากกาบที่ตัดมาจากต้นสดๆ ถ้าหากผู้ใดสนใจงานดีๆ อย่างนี้ก็สามารถขอรายละเอียดไปได้ที่ น้องทิวารัตน์ บุญโยม ได้ที่หมายเลขโทรศัพท์ 0-6644-3554 (สยามรัฐรายวัน พุธที่ 20 ก.ค. 48 http://www.siamrath.co.th)





นักวิจัยยุ่นไขปริศนานักดื่ม"คอแข็ง"

เอเอฟพีรายงานเมื่อ 19 ก.ค. ว่า คณะนักวิจัยญี่ปุ่นเผยแพร่ผลการศึกษาเบื้องต้นที่ค้นหาคำตอบว่า ทำไมคนดื่มสุราจึงเมาและเมาค้างต่างกัน ทำไมบางคนจึงคอแข็ง และบางคนจึงเมาง่าย ซึ่งผลวิจัยนี้จะช่วยพัฒนายาให้แก้ไขอาการได้ตรงจุดยิ่งขึ้น โครงการวิจัยดังกล่าว เป็นความร่วมมือระหว่าง บริษัทฮิตาชิ กับ มหาวิทยาลัยโอซากา ใช้อาสาสมัครมาดื่มสุราฟรี และได้ผลออกมายืนยันเป็นครั้งแรกว่า ระดับการไหลเวียนของเลือดหลังจากคนดื่มสุราเข้าไปแล้วจะแตกต่างกันและมีผลให้ทนต่อแอลกอฮอล์ต่างกัน โดยพบว่า เลือดจะไหลเวียนไปถึงส่วนของสมองที่ควบคุมการมองเห็นมากขึ้นในกลุ่มคนที่ไม่ทนต่อแอลกอฮอล์ แต่คนที่คอแข็งกลับเห็นการเปลี่ยนแปลงที่สมองตรงจุดเดียวกันน้อยมาก สำหรับสภาพเมาค้าง ที่เกิดจากการที่แอลกอฮอล์แปรสภาพเป็นอาซีทัลเดอไฮด์ พบว่า ร่างกายของกลุ่มนักดื่มคอแข็งหลั่งสารเอ็นไซม์ที่ชื่อว่า ALDH2 ออกมารับมือกับอาซีทัลเดอไฮด์ ให้แปรสภาพเป็นกรดที่ไม่มีอันตราย ส่วนกลุ่มนักดื่มคอพับคออ่อนหลั่งสาร ALDH2 ช้ากว่า (ข่าวสดพุธที่ 20 ก.ค. 48 http://www.matichon.co.th/khaosod)





ใช้สบู่ป้องกันปอดบวม-ท้องร่วงได้ คร่าชีวิตเด็กลงปีละ 3.5 ล้านคน

โรคปอดบวมและท้องร่วงเป็นโรคที่เกิดจากเชื้อแบคทีเรีย และเป็นสาเหตุทำให้เด็กในประเทศยากจนเสียชีวิตมากที่สุดไม่ต่ำกว่าปีละ 3.5 ล้านคน คณะแพทย์ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคสหรัฐฯ หรือซีดีซี ทดลองกับชุมชนในนครการาจีของปากีสถาน โดยให้ 600 ครัวเรือน ใช้สบู่ ฆ่าเชื้อแบคทีเรียหรือสบู่ธรรมดาเป็นประจำ โดยมีเจ้าหน้าที่ไปเยี่ยมเยียนสัปดาห์ละครั้งเป็นเวลานาน 1 ปี เปรียบเทียบกับอีก 300 ครัวเรือน ที่ไม่ได้แจกสบู่ ปรากฏว่าครัวเรือนที่ได้รับแจกสบู่ป่วยเป็นปอดบวมและท้องร่วงลดลงร้อยละ 50 และ 53 ตามลำดับ เด็กอายุต่ำกว่า 15 ปี เป็นโรคผิวหนังลดลงร้อยละ 34 แต่ไม่พบความแตกต่างระหว่างครัวเรือนที่ใช้สบู่ฆ่าเชื้อแบคทีเรียและสบู่ธรรมดา คณะแพทย์สรุปว่า สถิติเหล่านี้ชี้ว่าการล้างมือด้วยสบู่เป็นประจำ ช่วยป้องกันการเป็นปอดบวมและท้องร่วง อย่างไรก็ดี การส่งเสริมให้ครัวเรือนใช้สบู่ล้างมือยังถือเป็นภาระใหญ่สำหรับชุมชนยากจน เช่น ในนครการาจี การใช้สบู่ล้างมือจะเพิ่มค่าใช้จ่ายอีกสัปดาห์ละ 1 ดอลลาร์สหรัฐฯ (ราว 40 บาท) ขณะที่ครัวเรือนส่วนใหญ่มีรายได้เฉลี่ยไม่ถึงสัปดาห์ละ 15 ดอลลาร์สหรัฐฯ (ราว 600 บาท) (ไทยรัฐ จันทร์ที่ 18 ก.ค. 48 http://www.thairath.co.th)





สร้างเครื่องปั่นไฟฟ้าขึ้นจากขี้ไก่ ต้องมีปริมาณมากพอถึงจะคุ้มค่า

บริษัทในสหรัฐฯแห่งหนึ่งพัฒนาเครื่อง จักรที่สามารถเปลี่ยนมูลไก่ให้กลายเป็นแก๊สและกระแสไฟฟ้าได้ นายไมค์ โรเบิร์ตส์ วิศวกรอาวุโสของสถาบันเทคโนโลยีแก๊สในเมืองเดส เพลนส์ รัฐอิลลินอยส์ เผยว่า วัตถุประสงค์ของเครื่องจักรนี้คือ หาทางกำจัดมูลไก่ปริมาณมหาศาลที่เกิดขึ้นในสหรัฐฯ ทุกปี ด้วยวิธีการที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ปัจจุบันมูลไก่ส่วนใหญ่ถูกนำไปใช้เป็นปุ๋ย หรือทิ้งตามพื้นดิน ทำให้สารฟอสเฟตและสารพิษอื่นๆ ซึมลงสู่แหล่งน้ำ เครื่องจักรของทางบริษัทใช้เซลล์เชื้อ เพลิงออกไซด์แข็ง เปลี่ยนมูลไก่และแผ่นไม้รองมูลไก่ให้กลายเป็นแก๊สเพื่อให้ความอบอุ่นแก่เล้าไก่ หรือนำไปผ่านเซลล์เชื้อเพลิงเพื่อผลิตกระแสไฟฟ้าได้ เครื่องจักรนี้ไม่เหมาะที่จะใช้ภาย ในครัวเรือนของเกษตรกรผู้เลี้ยงไก่รายย่อย เนื่องจากไก่ตัวหนึ่งผลิตมูลเพียงปีละ 2.5 ปอนด์ (1 กิโลกรัมเศษ) เท่านั้น แต่หากเกษตรกรนำมูลมารวมกันยังสถานที่กลางจะดีกว่า ช่วยลดค่าใช้จ่ายในการกำจัดมูลไก่และสร้างรายได้จากกระแสไฟฟ้าที่ผลิตได้. (ไทยรัฐ จันทร์ที่ 18 ก.ค. 48 http://www.thairath.co.th)





ข่าวทั่วไป


แนะตรวจโรคก่อนมีลูกสืบทายาท ปลอดพ้นจากโรคธาลัสซีเมีย

พ.ญ.บุญเชียร ปานเสถียรกุล แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคธาลัสซีเมีย สถาบันสุขภาพเด็กแห่งชาติมหาราชินี กล่าวว่า ปัจจุบันประเทศไทยมีผู้ป่วยโรคธาลัสซีเมียชนิดรุนแรงปานกลางประมาณ 100,000 ราย ซึ่งเป็นกลุ่มที่ต้องรับเลือดบ่อยๆ เนื่องจากมีปัญหาซีดเรื้อรังและต้องรับยาขับเหล็กเป็นประจำทุกเดือน ทำให้ต้องสูญเสียค่าใช้จ่ายมากกว่า 1,000 ล้านบาทต่อปี โรคดังกล่าวไม่สามารถรักษาให้หายขาดได้ ต้องรักษาแบบประคับประคอง ตามอาการ ดังนั้น การป้องกันจึงเป็นวิธีที่ดีที่สุด ซึ่งต้องตรวจเลือดวิธีพิเศษเพื่อหาภาวะแฝง โดยคนทั่วไปมีโอกาสเป็นพาหะหรือมียีนของธาลัสซีเมียชนิดใดชนิดหนึ่งถึงร้อยละ 30-45 ดังนั้น จึงควรตรวจเลือดคู่สมรสก่อนมีบุตร โดยอาจตรวจคนเดียวก่อน หากเป็นพาหะหรือมียีนธาลัสซีเมียจะต้องตรวจคู่สมรสอีกฝ่ายหนึ่ง หากผลเป็นพาหะธาลัสซีเมียพวกเดียวกัน ถ้ามีลูกจะมีอัตราเสี่ยงในการเป็นโรคได้ ซึ่งแพทย์จะอธิบายถึงอัตราเสี่ยงและความรุนแรงของโรคในลูก ซึ่งหากคู่สมรสมีอัตราเสี่ยงในการมีลูกเป็นโรคชนิดรุนแรง อาจมีทางเลือก ได้แก่ การเลือกไม่มีลูกของตนเองโดยคุมกำเนิดหรือทำหมัน การเลือกยอมเสี่ยงที่จะมีลูกเป็นโรค การเลือกตรวจทารกในครรภ์ว่าเป็นโรคหรือไม่ และการเลือกผสมเทียมจากไข่ของหญิงและเชื้ออสุจิของชาย ร่วมกับการวินิจฉัยตรวจโรคตัวอ่อนก่อนนำไปฝังตัวในมดลูกก่อนตั้งครรภ์. (ไทยรัฐ พุธที่ 20 ก.ค. 48 http://www.thairath.co.th)





ปรับมาตรฐาน"เขาใหญ่"หลังขึ้นทะเบียนมรดกโลก

วันที่ 19 กรกฎาคม นายประวัติ โวหารดี หัวหน้าอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ เปิดเผยว่า ตามที่คณะกรรมการพิจารณามรดกโลกในสังกัดองค์การเพื่อการศึกษาวิทยาศาสตร์และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ(ยูเนสโก) ประกาศให้อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่เป็นมรดกโลก ประกอบด้วย อุทยานแห่งชาติปางสีดา, อุทยานแห่งชาติทับลาน, อุทยานแห่งชาติตาพระยา และเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าป่าดงใหญ่ ในพื้นที่ จ.ปราจีนบุรี สระแก้ว นครนายก นครราชสีมา บุรีรัมย์ และสระบุรี นายประวัติกล่าวถึงแผนพัฒนามรดกโลกให้เป็นมาตรฐานว่า การสำรวจประชากรสัตว์ป่า ต้นไม้ที่หายากหรือกำลังสูญพันธุ์ การลาดตระเวนป้องกันทรัพยากรลดพฤติกรรมการล่า การทำลาย การกำหนดความเร็วยานพาหนะที่เข้าเขตอุทยานฯการจัดกิจกรรมเมื่อเข้ามาในอุทยานฯ และว่าปัญหาสำคัญในอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ คือ ขาดนักวิจัยที่จะเข้ามาศึกษาวิจัยทรัพยากรจากป่าธรรมชาติเพื่อนำมาใช้ประโยชน์หรือสร้างประโยชน์สูงสุด (มติชนรายวัน พุธที่ 20 ก.ค. 48 http://www.matichon.co.th)






KMUTT Digital Library
Contact Digital Library : info@lib.kmutt.ac.th
Tel : 0-2470-8215