หัวข้อข่าวปีที่ 6 ฉบับที่ 49 ประจำวันที่ 2005-12-24

ข่าวการศึกษา

หนุนถ่ายโอนการศึกษาเมื่อพร้อม เผยผลวิจัยชี้ อปท.จัดการศึกษาดีกว่าโรงเรียนสังกัด ศธ.
มหาวิทยาลัยในจีน จัด"ห้องระบายความโกรธ" หวังช่วยลดความรุนแรงในหมู่นักศึกษา
ชงกรอบมาตรฐาน คุณวุฒิบัณฑิตไทย จริยธรรมคู่ความรู้
มอ.-แคนาดา เปิดสอน ป. โท ศึกษาความขัดแย้ง กรณีไฟใต้-ท่อก๊าซ
รัฐศาสตร์จุฬาฯเผยผลสำรวจเด็ก สังกัดอปท.เรียนเก่งกว่าสังกัดศธ.
สอศ.ออกเดินสาย แนะแนวเด็ก ม.3 หุ้นเอกชนรับไม่อั้น
เล็งเปลี่ยนชื่อใหม่"วิทยาลัยอาชีวะ"
"สวนสุนันทา"สอนแพทย์แผนไทยประยุกต์
มธ.เตือนสติคิดต่ออายุราชการถึง70เร็วไป
เป็นอาจารย์มทร.ไม่ต้องปริญญาเอกขอตรงสาขา-ชำนาญ
สกอ.วางเกณฑ์บัณฑิตป.ตรีรู้จักคิดวิเคราะห์-ทำงานร่วมกับผู้อื่นได้
ทหารอากาศหนุน สกอ.ตั้งวิทยาลัยการบิน ไฟเขียวให้ใช้สถานที่ ยืมบุคลากรและเทคโนโลยี
จุฬาฯ เร่งผลิตปริญญาโทการเงิน ชี้ตลาดรองรับยอดพุ่งปีละ 400 คน
ลุ้นปธ."ทปอ."คนใหม่พัฒนาอุดมฯ
มศว ยกเครื่อง วิจัย-วิทยานิพนธ์ แก้ปัญหาสังคมได้

ข่าววิทยาศาสตร์/เทคโนโลยี

ภารตะตั้งโรงงานไฟฟ้าพลังไม้ไผ่ แปรกลายเป็นแก๊สก่อนปั่นไฟ
วิวัฒนาการแห่ง'ส้วม'
"เอสเอ็มเอส"บนมือถือทำลายตัวเองหลังอ่าน
รัสเซียสร้างยานอวกาศโดยสารบินมอสโก-นิวยอร์ก
เสิร์ช"เด็กไทย" คนเก่งโลกไอที
ส่งยานสำรวจ"พลูโต" ไขปมกำเนิดระบบสุริยะ
บล็อก (Blog)เทคโนโลยีฝีมือคนไทย
บลูทูธ
เรือหุ่นยนต์ไล่ล่าโจรสลัด ติดกล้องวิดีโอ-ระบบสื่อสารควบคุมจากฝั่ง
สืบกำพืดแมมมอธหาต้นตระกูล
รักษาโรคหัวใจ ทางเลือกใหม่..เซลล์บำบัด
สำรวจริมขอบสุริยจักรวาลตรวจดาวพลูโตน้องนุชสุดท้อง
Q สัญลักษณ์ที่เชื่อได้...ของดีต้องมี Q
เด็กไทยโชว์กึ๋น “อินเตอร์เน็ตสีขาว”
สร้างยาน"ซิลเวอร์ดาร์ต"
นาซ่าส่งดาวเทียมสำรวจมลพิษ"โลก"
คัดเลือกเด็กไทยไปอังกฤษ ร่วมโครงการทูตวิทยาศาสตร์-ฟรี!
ดันไทยเป็นฮับอุตฯอิเล็กทรอนิกส์

ข่าววิจัย/พัฒนา

วิจัยคุณภาพน้ำนม ผ่านพาสเจอไรส์ได้ประโยชน์มากกว่า
ฝึกใช้สมองกดความเจ็บปวดได้ คลายความทรมานให้ผู้ป่วยเรื้อรัง
ปลาช่วยพยุงสมองผู้สูงอายุ สติปัญญาหนุ่มสาวขึ้น 3-4 ปี
ชิพตรวจกรรมพันธุ์ก่อนสั่งยา ช่วยแพทย์จ่ายยาเหมาะสมกับระบบร่างกายผู้ป่วย
ที่นอนใยสังเคราะห์ตัวเก็บไรฝุ่น
ผ้าห่มไฮเทคกันน้ำเกาะ แห้งเร็ว-อบอุ่น-ต้านเชื้อโรค
สารผลิตน้ำตาลเทียม ตัวการก่อโรค"มะเร็ง"
ร่นเวลาผลิตไบโอดีเซลลาดกระบังพัฒนาจาก 2 ชม.เหลือ 2 นาที
"สกลนคร"จัดเวิร์กช็อปเทคนิคย้อมสีคราม สวทช.ให้งบ-เน้นเป้าหมาย 5 กลุ่มพัฒนา"โอท็อป"
ปลุกผีช้างดึกดำบรรพ์ขนปุย พี่น้องใกล้ชิดช้างเอเชีย
แมงมุมยนต์นักสร้างในสภาพไร้น้ำหนัก
หุ่นยนต์อาสิโมรุ่นใหม่วิ่ง
มรภ.วไลยอลงกรณ์-เยอรมนี ทำวิจัยการปลูกถ่ายอวัยวะคน
เอ็มไอทีเปิดทางโลกที่3 ค้นงานวิจัยไร้พรมแดน
สมชาติ วิทยารุ่งเรืองศรี นักประดิษฐ์รางวัล วช.ป"48
แอร์แบ็กกันคอกระดูกคอ
หุ่นยนต์แมงมุม
ควันไอเสียของเครื่องยนต์ดีเซล ถ่วงการไหลเวียนของโลหิตให้ช้า
ทุ่ม 45 ล้านหนุนวิจัยไทยแก้ปัญหาชาติ
เวชศาสตร์รับสั่งตัดนวัตกรรมชุดตรวจดีเอ็นเอ
มลพิษทำให้เป็นโรคหัวใจ
รถเข็นไฮเทคช่วยคนพิการ ควบคุมผ่านจอยสติ๊กสั่งรถเลี้ยว-ข้ามสิ่งกีดขวางได้
พบยีนบันดาลคนผิวขาวผิวเข้ม
ม.เกษตรผลิตเครื่องสำอางจากข้าวหอมมะลิ'สีนิล'
เครื่องทอดอาหารระบบสุญญากาศ
วิตามินดีป้องมะเร็งลำไส้ใหญ่สหรัฐให้กินกันทั้งประเทศ
เกาหลีเหนือทำลูกกวาดอดบุหรี่ด้วยสมุนไพรเทือกเขาสูง
นักวิจัยไทยผลิตเครื่องพ่นยาหอบหืด
"ยาซานามีเวียร์"อีกทางเลือก ต้านไวรัสร้าย"ไข้หวัดใหญ่"
เครื่องเลี้ยงปลาโซลาร์เซลล์ ตั้งเวลาให้อาหารอัตโนมัติ-ดักแมลงได้ด้วย
พบเชื้อไวรัสไข้หวัดนกดื้อยา 'ทามิฟลู' ยาต้านเริ่มเอาไม่อยู่
แฉนักวิจัยโสมปลอมผลวิจัยสเต็มเซลล์

ข่าวทั่วไป

70% คนไทยเป็นเหยื่อ 3 โรค อาหารเสริมทำตับพัง
.พ.สวิสเปิดศักราชใหม่ให้คนไข้ปลิดชีพตนเองได้ตามใจ
วธ.ของบรัฐบาล 300 ล. พัฒนาเมืองมรดกโลก
10ความเคลื่อนไหว "วิทยาศาสตร์โลก"2548
เตือนอากาศสะบัดร้อนสะบัดหนาวสะเทือนกล่องเสียง
โยคะบรรเทาปวดหลังเรื้อรังได้เหนือกว่ากินยาตามแบบตะวันตก
เลือดจางเฮรับยาเม็ดขับเหล็ก
สร้างตึกเสียดฟ้าสูง 1 กิโลเมตร ก่อสร้างนาน 25 ปี
กรีซผุดพิพิธภัณฑ์ใต้ดิน หวังดึงคนเข้าชมกว่าปีละ 3 แสน





ข่าวการศึกษา


หนุนถ่ายโอนการศึกษาเมื่อพร้อม เผยผลวิจัยชี้ อปท.จัดการศึกษาดีกว่าโรงเรียนสังกัด ศธ.

ศ.ดร.จรัส สุวรรณมาลา อาจารย์คณะรัฐศาสตร์ จุฬาฯ ในฐานะหัวหน้าโครงการสำรวจและค้นหาตัวอย่างการทำงานที่ดีขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น(อปท.) กล่าวถึงกรณีการถ่ายโอนโรงเรียนไปยัง อปท.ว่า ควรให้ชุมชน โรงเรียนและท้องถิ่นทำความเข้าใจและรับรู้ความต้องการร่วมกัน เพราะในข้อเท็จจริง อปท.บางแห่งยังไม่พร้อมที่จะรับโรงเรียนมาดูแล แต่กลับถูกบังคับ ดังนั้นสิ่งสำคัญคือ อปท.ต้องมีความพร้อม และเมื่อทำก่อนได้จะเป็นตัวอย่างให้กับท้องถิ่นอื่นต่อไป ทั้งนี้จากผลการทดสอบความรู้ของ ศธ.ที่พบว่านักเรียนในโรงเรียนสังกัด อปท.มีผลการสอบดีกว่านักเรียนในโรงเรียนสังกัด ศธ. ซึ่งเป็นตัวบ่งชี้ได้ว่า อปท.ไม่ได้จัดการศึกษาแย่ และไม่มี อปท.ไหนที่ไม่อยากสนับสนุนโรงเรียน ในทางกลับกันบาง อปท.เองลงทุนกับโรงเรียนเป็นเงิน 2-3 ล้านบาท มากกว่าที่ ศธ.จัดสรรให้เป็น 10 เท่า (คมชัดลึก จันทร์ที่ 19 ธ.ค. 48 http://www.komchadluek.net)





มหาวิทยาลัยในจีน จัด"ห้องระบายความโกรธ" หวังช่วยลดความรุนแรงในหมู่นักศึกษา

มหาวิทยาลัยในจีน จัด"ห้องระบายความโกรธ" หวังช่วยลดความรุนแรงในหมู่นักศึกษา มหาวิทยาลัยเฉียวตง ในจังหวัดเฉิงตู มณฑลเสฉวน ประเทศจีน ได้จัด "ห้องระบายความโกรธ" ขึ้นมาแล้วห้องหนึ่ง เพื่อให้นักศึกษาได้เข้าไปใช้บริการ หาทางจัดการกับอารมณ์โกรธ และอารมณ์อัดอั้นต่างๆ นานาของตัวเอง ก่อนที่ "อารมณ์บูด" เหล่านั้นจะหมักหมมกระทั่งอาจทำให้เกิดเรื่องร้ายตามมาได้ อาทิ การก่อเหตุประท้วง การก่อเรื่องทะเลาะชกต่อย หรือฆ่าตัวตายของนักศึกษาที่ไม่รู้จะไปหาทางออกได้ที่ไหน มีผู้มาใช้บริการมาก สำหรับ "ห้องบริหารอารมณ์" ในห้องมีเพียง "กระสอบทราย" เท่านั้น แต่ทว่ามีอยู่ด้วยกันหลายใบ แขวนเรียงรายให้ผู้เข้ามาใช้บริการได้เตะ ต่อยกันได้เต็มที่ (มติชนรายวัน จันทร์ที่ 19 ธ.ค. 48 http://www.matichon.co.th)





ชงกรอบมาตรฐาน คุณวุฒิบัณฑิตไทย จริยธรรมคู่ความรู้

เมื่อวันที่ 19 ธ.ค.48 รศ.ไพฑูรย์ สินลารัตน์ อดีตคณบดีคณะครุศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ในฐานะหัวหน้าโครงการดำเนินการวิจัยเรื่องกรอบมาตรฐานคุณวุฒิระดับอุดมศึกษา กล่าวในการนำเสนอเรื่อง “การพัฒนากรอบมาตรฐานคุณวุฒิระดับอุดมศึกษาของประเทศไทย” ที่โรงแรมเซ็นจูรี พาร์ค ว่า ตนเองและคณะได้เริ่มดำเนินการวิจัยศึกษาข้อมูลพื้นฐานเกี่ยวกับคุณลักษณะของบัณฑิตทั้งในและต่างประเทศ มาตั้งแต่ปี 2545เพื่อนำมาปรับปรุงและพัฒนาเป็นกรอบมาตรฐานคุณวุฒิระดับอุดมศึกษาของประเทศไทย ซึ่งว่ามีความสำคัญอย่างมากที่จะช่วยยกระดับคุณภาพของการผลิตบัณฑิตไทยให้สูงขึ้น ซึ่งกรอบดังกล่าวได้มีการกำหนดคุณลักษณะขั้นพื้นฐานของบัณฑิตไทย พร้อมหลักประกันคุณภาพเพื่อให้ความเชื่อมั่น และยอมรับคุณวุฒิต่างๆ ของอุดมศึกษาไทยด้วย สำหรับกรอบมาตรฐานคุณวุฒิระดับอุดมศึกษาของไทย จะประกอบด้วยโครงสร้างทางวิชาการของอุดมศึกษา ความต่อเนื่องเชื่อมโยงของแต่ละระดับ การเข้าสู่แต่ละระดับ รวมทั้งคุณวุฒิหรือคุณสมบัติของผู้จบการศึกษาโดยแบ่งเป็น 3 ระดับ ได้แก่ ระดับปริญญาตรี โท และเอก และระบบต่อเนื่อง 2 ระดับคือ ประกาศนียบัตรบัณฑิต และประกาศนียบัตรชั้นสูง ส่วนหลังปริญญาเอกนั้น แล้วแต่ความพร้อมความสนใจของแต่ละสถาบัน โดยจะมีจุดเน้นสำคัญ 2 ส่วน คือ ด้านวิชาการซึ่งใช้วิจัยเป็นหลัก และด้านวิชาชีพ โดยเฉพาะเรื่องความเชี่ยวชาญในด้านต่างๆ คุณลักษณะของบัณฑิตจะต้องประกอบด้วย 5 ด้านคือ ความรู้ ทักษะการคิด ทักษะความสัมพันธ์ระหว่างบุคคลและความรับผิดชอบ ทักษะการวิเคราะห์และการสื่อสาร และที่สำคัญจะต้องเน้นการพัฒนาคุณธรรมและจริยธรรม ซึ่งในแถบเอเชียจะเน้นในเรื่องนี้ค่อนข้างสูง ร่างกรอบมาตรฐานฯ จะนำเสนอต่อ สกอ.เพื่อจัดทำโฟกัสกรุ๊ปอีกครั้ง และต้องผ่านการพิจารณาของคณะกรรมการการอุดมศึกษา แล้วจึงเสนอต่อ รมว.ศึกษาธิการ เพื่อลงนามเป็นประกาศกระทรวงศึกษาธิการต่อไป (สยามรัฐรายวัน อังคารที่ 20 ธ.ค. 48 http://www.siamrath.co.th)





มอ.-แคนาดา เปิดสอน ป. โท ศึกษาความขัดแย้ง กรณีไฟใต้-ท่อก๊าซ

รศ.ดร.บุญสม ศิริบำรุงสุข รองอธิการบดีฝ่ายวางแผนและพัฒนา มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ (มอ.) วิทยาเขตหาดใหญ่ เปิดเผยถึงหลักสูตรปริญญาโทด้านการวิเคราะห์และการบริหารความขัดแย้ง (Conflict Analysis and Management) ว่า เป็นการหลอมรวม 2 วัฒนธรรม ระหว่างวัฒนธรรมไทยกับแคนาดาเข้าด้วยกัน โดยหลักสูตรดังกล่าวจะใช้ภาษาอังกฤษในการเรียนการสอน และจะใช้เวลาเรียน 2 ปี โดยในชั้นปีที่ 1 กำหนดให้นักศึกษาทุกคนต้องเข้าศึกษาในมหาวิทยาลัยของประเทศไทย ณ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น และมหาวิทยาลัยมหาสารคาม เป็นเวลา 3 สัปดาห์ และในปีที่ 2 จำนวน 4 สัปดาห์ ในประเทศแคนาดา โดยได้เริ่มดำเนินการเปิดการเรียนการสอนในหลักสูตรดังกล่าวแล้วในปี 2548 หลักสูตรนี้จะเน้นความรู้ที่ภาคทฤษฎี ทักษะ และการปฏิบัติ โดยจะมีการวิเคราะห์แลกเปลี่ยนความเห็นในเรื่องของความขัดแย้ง ซึ่งตัวหลักสูตร ต้องการสร้างผู้นำในการวิเคราะห์ความขัดแย้งและพัฒนารูปแบบในการศึกษา โดย Royal Roads University หรือ RRU ประเทศแคนาดา ซึ่งในปีแรกนักศึกษาจากแคนาดาได้เดินทางมาศึกษาในประเทศไทย และนักศึกษาไทยจะเดินทางไปศึกษาที่รัฐวิคตอเรีย ประเทศแคนาดา โดยนักศึกษาที่จบหลักสูตรจะได้รับปริญญาจาก Royal Roads University เป็นเวลา 2 ปี หลังจากนั้นจะเป็นปริญญาร่วมกัน นอกจากนี้ มอ.ยังมีแนวคิดที่จะจัดตั้งสถาบันสันติศึกษาเป็นสถาบันที่แยกออกไปต่างหาก ซึ่งเรื่องนี้ได้คุยกับสวนโมกข์มาเป็นเวลา 1 ปีแล้ว และล่าสุด มอ.ได้พื้นที่สำหรับก่อสร้างไว้แล้วเช่นกัน โดยเป็นเนื้อที่ประมาณ 3 ไร่ และปีหน้าจะสร้างสวนที่เรียกว่า "อุทธยานสันติศึกษา" ให้แล้วเสร็จ โดยจะใช้งบประมาณในการลงทุน 10 ล้านบาท ที่บริเวณพื้นที่หลังเขาคอหงส์ ซึ่งเห็นว่ามีบรรยากาศที่มีความคล้ายคลึงกับสวนโมกข์ แต่จะเป็นบรรยากาศ "อุทธยานสันติศึกษา" ที่ออกแบบตกแต่งโดยยึดตามหลักพระพุทธศาสนา (คมชัดลึก อังคารที่ 20 ธ.ค. 48 http://www.komchadluek.net)





รัฐศาสตร์จุฬาฯเผยผลสำรวจเด็ก สังกัดอปท.เรียนเก่งกว่าสังกัดศธ.

ศ.ดร.จรัส สุวรรณมาลา อาจารย์ประจำคณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ในฐานะหัวหน้าโครงการสำรวจและค้นหาตัวอย่างการทำงานที่ดีขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น(อปท.) เปิดเผยว่า จากการทดสอบความรู้เด็กนักเรียนที่สังกัด อปท. และ สังกัดกระทรวงศึกษาธิการ(ศธ.) พบว่า นักเรียนที่สังกัด อปท.มีผลการเรียนที่ดีกว่านักเรียนสังกัด ศธ. และเท่าที่ลงพื้นที่เก็บข้อมูลก็พบว่า อปท.ส่วนใหญ่ไม่อยากสนับสนุนโรงเรียน แต่ก็มีบางแห่งที่ให้การสนับสนุนโรงเรียนปีละ 2-3 ล้านบาท เพราะมองว่าเป็นการลงทุนเพื่อการศึกษาของลูกหลานตัวเอง ซึ่งมากกว่าที่ศธ.จัดสรรให้เป็น 10 เท่า ส่วนปัญหาการคัดค้านถ่ายโอนสถานศึกษานั้นเท่าที่ได้ข้อมูลมาตนมองว่าน่าจะเกิดจาก 2 สาเหตุ คือ 1.ครูกังวลกับคำว่า “สมัครใจ” เพราะหากมีโรงเรียนจำนวนหนึ่งเต็มใจไปอยู่กับท้องถิ่น จะทำให้การต่อสู้ทางการเมืองเสียแนวร่วม ซึ่งเป็นเรื่องการเอาชนะทางการเมือง และ 2. กลัว อปท.จะแทรกแซง จะมีใบสั่งฝากเด็กจนทำให้คุณภาพการศึกษาเสีย ซึ่งเรื่องนี้ก็สามารถแก้ไขได้โดยการวางระบบบริหารท้องถิ่นใหม่ให้โรงเรียนมีอำนาจอิสระในการบริหาร ก็จะทำให้การเมืองกับคุณภาพการศึกษาอยู่ร่วมกันได้ การรวมศูนย์อำนาจอย่างที่ผ่านมาก็มีปัญหาให้เห็น คือ การบริหารงานด้านการศึกษาของไทยที่ได้รับงบประมาณเป็นอันดับ 2-3 ของภูมิภาค แต่คุณภาพกลับอยู่ในอันดับท้าย ๆ และเมื่อคิดต้นทุนการบริหารต่อหัวเด็ก การบริหารแบบท้องถิ่นจะถูกกว่าที่ส่วนกลางทำอยู่ อย่างไรก็ตามตนคิดว่าสาเหตุที่ครูไม่อยากโอนย้าย เพราะรับไม่ได้ว่า อปท.จบการศึกษาต่ำกว่าครู แล้วจะมีอำนาจเหนือกว่าครู ทั้งที่คนที่เรียนหนังสือมามากกว่าก็ไม่ได้ประกันว่าจะเป็นคนดี และเวลานี้นักการเมืองท้องถิ่นก็มีการศึกษาสูงขึ้น เช่น มี สมาชิกอบต.กว่า 50 % จบระดับปริญญาตรี ขณะที่ของเทศบาลจบปริญญาตรีแล้วกว่า 70 % และจบปริญญาโท 20-30% การถ่ายโอนสถานศึกษาไปยัง อปท.ต้องทำแบบใครพร้อมก็ไปก่อน และควรให้ชุมชน โรงเรียนและท้องถิ่นมาคุยกัน เพื่อทำความเข้าใจและรับรู้ความต้องการร่วมกัน หากมีข้อสรุปที่ให้ถ่ายโอนได้ก็ดำเนินการ (เดลินิวส์ อังคารที่ 20 ธ.ค. 48 http://www.dailynews.co.th)





สอศ.ออกเดินสาย แนะแนวเด็ก ม.3 หุ้นเอกชนรับไม่อั้น

ตามที่นายจาตุรนต์ ฉายแสง รมว.ศึกษาธิการ มีนโยบายให้โรงเรียนมัธยมศึกษาสังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ที่เปิดสอนทั้งระดับมัธยมศึกษาตอนต้น และตอนปลายทำการแนะแนวนักเรียนที่จบชั้น ม.3 ให้มีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับเส้นทางการศึกษาต่อ เพื่อให้นักเรียนได้เลือกเรียนตามความถนัดของตัวเอง ไม่จำเป็นต้องเลือกเรียนชั้น ม.4 ตามเพื่อน และอยากเห็นเด็กหันมาเรียนสายอาชีพมากขึ้นนั้น นายวีระศักดิ์ วงษ์สมบัติ เลขาธิการคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (กอศ.) กล่าวว่า หากนักเรียนที่จบชั้น ม.3 หันมาเลือกเรียนสายอาชีพเพิ่มมากขึ้นก็ถือเป็นเรื่องที่ดี เพราะประเทศมีความต้องการกำลังคนในสายอาชีพอีกมาก โดยในส่วนของ สอศ.เองมีความพร้อมสามารถรับนักเรียนสายอาชีพเพิ่มขึ้นอยู่แล้ว ตามนโยบาย “เด็กอยากเรียนสาขาวิชาอะไรต้องได้เรียน” นอกเหนือจากสถานศึกษาในสังกัด สอศ.แล้วยังประสานความร่วมมือกับสถานศึกษาเอกชน ซึ่งทุกแห่งต่างยืนยันว่าพร้อมรับนักเรียนเข้าเรียนในปีการศึกษา 2549 ขณะนี้ สอศ.ได้ปรับเปลี่ยนวิธีการเรียนการสอนไปมาก โดยมุ่งเน้นให้เด็กได้เข้าไปเรียนในสถานประกอบการ ด้วยการปฏิบัติมากขึ้น ดังนั้น หากมีเด็กเข้ามาเรียนสายอาชีพเพิ่มจึงไม่ใช่ปัญหาแน่นอน นอกจากนี้ ยังได้มีนโยบายให้ผู้บริหารสถานศึกษาในสังกัดทั่วประเทศ จัดอาจารย์แนะนำอาชีพ ควบคู่กับการทำหน้าที่แนะแนว ไปแนะนำให้ความรู้กับนักเรียนที่กำลังจะจบชั้น ม.3 ตามโรงเรียนต่างๆ ที่คาดว่าน่าจะเป็นลูกค้าที่จะเข้ามาเรียนในสถานศึกษาของตัวเองด้วย โดยเน้นย้ำการให้ความรู้กับเด็กได้ตัดสินใจเลือกเข้ามาเรียนใน 13 สาขาวิชาหลักที่รัฐบาล ได้ส่งเสริมให้เป็นอุตสาหกรรมหลักของประเทศ ซึ่งสามารถมั่นใจได้ว่าเมื่อเรียนจบแล้วจะมีงานทำอย่างแน่นอน นอกจากนี้ สอศ.ก็ได้จัดส่งเสริมให้นักศึกษาได้เป็นผู้ประกอบการด้วยตัวเองได้ด้วย ซึ่งมีการให้ความรู้ และการแนะนำแหล่งเงินทุนเพื่อรองรับในเรื่องดังกล่าวอย่างพร้อมสรรพ (สยามรัฐรายวัน พุธที่ 21 ธ.ค. 48 http://www.siamrath.co.th)





เล็งเปลี่ยนชื่อใหม่"วิทยาลัยอาชีวะ"

นายจาตุรนต์ ฉายแสง รมว.ศึกษาธิการ กล่าวว่า จากการประชุมหารือร่วมกับผู้บริหารสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา(สอศ.) ถึงการผลักดันให้นำนโยบายเกิดผลทางปฏิบัติโดยเร็ว ซึ่งมีความคืบหน้าไปมากในการร่วมมือกับภาคเอกชนและต่างประเทศในการร่วมจัดการศึกษา การเตรียมทำหลักสูตรใหม่ ซึ่งตนเน้นให้เร่งระดมความคิดปรับบทบาทวิทยาลัยอาชีวศึกษาแต่ละประเภท อาทิ วิทยาลัยเทคนิค วิทยาอาชีวศึกษา วิทยาลัยสารพัดช่าง วิทยาลัยการอาชีพ ซึ่งวิทยาลัยแต่ละประเภทควรจะหารือกันก่อน ซึ่งตนเปิดช่องให้เปลี่ยนบทบาทได้มากจนถึงขั้นสามารถจะเปลี่ยนชื่อวิทยาลัยใหม่ได้เลย ซึ่งสอดคล้องกับแนวคิดของสอศ.ที่จะให้เปลี่ยนชื่อวิทยาลัยอาชีวศึกษาบางแห่งให้ทันสมัย อย่างไรก็ตาม จะต้องดูความต้องการของเอกชน ความต้องการการผลิตแต่ละด้านให้ทันสมัยมากที่สุด หลายสาขาได้มีการศึกษาไว้แล้วที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ นอกจากนี้ยังเน้นให้พัฒนาอาชีวศึกษาให้ทันสมัย เป็นเรื่องที่รัฐบาลกำลังมีนโยบายหากจำเป็นต้องของบประมาณ โดยการเปลี่ยนชื่อควรจะคิดให้เชื่อมโยงกับบทบาทใหม่แตกต่างกันไปและควรจะให้คนรู้ว่าเป็นอาชีวศึกษา (ข่าวสด พุธที่ 21 ธ.ค. 48 http://www.matichon.co.th/khaosod)





"สวนสุนันทา"สอนแพทย์แผนไทยประยุกต์

อาจารย์ศุภลักษณ์ ฟักคำ หัวหน้าสาขาวิชาการแพทย์แผนไทยประยุกต์บัณฑิต มรภ.สวนสุนันทา กล่าวว่า มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทาเล็งเห็นถึงความสำคัญของแพทย์แผนไทย และต้องการที่จะสืบสานมรดก รวมทั้งภูมิปัญญาไทย จึงเปิดหลักสูตรการแพทย์แผนไทยประยุกต์บัณฑิต (Bachelor of Art Thai Medicine) ในระดับปริญญาตรีซึ่งเป็นสาขาที่อยู่ในคณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เนื้อหาหลักสูตรการแพทย์แผนไทยของมรภ.สวนสุนันทามี 3 หมวดใหญ่ คือหมวดการแพทย์แผนปัจจุบัน เรียนเกี่ยวกับนาโตมีหรือกายวิภาค วิชาชีวเคมี จุลชีวเคมี พยาธิวิทยา ศัลยกรรมกระดูกและข้อ สาเหตุของการเกิดโรคต่างๆ หมวดวิทยาศาสตร์สุขภาพ เรียนเกี่ยวกับแพทย์แผนโบราณ (แผนไทย) เวชกรรมแพทย์แผนไทย เภสัชกรรมแพทย์แผนไทย เรียนเกี่ยวกับการปรุงยาจากสมุนไพร ผดุงครรภ์ เรียนเรื่องการทำคลอด และวิชาการแพทย์แผนไทยประยุกต์ เมื่อเรียนรู้เกี่ยวกับร่างกายของคน เกี่ยวกับสาเหตุของการเกิดโรคตามหลักของแพทย์สมัยใหม่ และเรียนรู้เกี่ยวกับหลักการแพทย์แผนไทยแล้ว ต้องมาเรียนเกี่ยวกับการนำวิชาการแพทย์แผนไทยมาประยุกต์ใช้ในการรักษาโรคซึ่งถือว่าเป็นเรื่องยากที่สุด (ข่าวสด พุธที่ 21 ธ.ค. 48 http://www.matichon.co.th/khaosod)





มธ.เตือนสติคิดต่ออายุราชการถึง70เร็วไป

ศ.ดร.วิรุณ ตั้งเจริญ อธิการบดีมหาวิทยาลัยศรีนครินทร วิโรฒ (มศว) เปิดเผยว่า ตามที่มหาวิทยาลัยได้รับที่ดินซึ่งเป็นที่สปก.อยู่ติดกับ มศว องครักษ์ จ.นครนายก จำนวน 206 ไร่ นั้น ขณะนี้มหาวิทยาลัยได้มีแนวทางที่จะใช้ประโยชน์จากที่ดินดังกล่าวเรียบร้อยแล้ว โดยจะแบ่งพื้นที่ออกเป็น 3 ส่วน คือ ส่วนที่ 1 ทำเป็นศูนย์วิจัยและการจัดการความรู้ทางพฤกษศาสตร์ เพื่อจะเป็นแหล่งเรียนรู้ทางด้านการเกษตรสำหรับเกษตรกรในบริเวณมหาวิทยาลัย ส่วนที่ 2 จัดทำเป็นร.ร.สาธิตมศว องครักษ์ ซึ่งร.ร.สาธิตแห่งใหม่นี้จะต่างจาก ร.ร.สาธิต มศว 2 แห่งเดิม คือ ร.ร.แห่งใหม่จะต้องเข้าไปเกี่ยวข้องกับชุมชน ภูมิปัญญาท้องถิ่น มีจิตสำนึกสาธารณะ การเกษตรกรรมของชุมชน ขณะเดียวกันชุมชนก็ต้องเข้ามามีส่วนร่วมในการจัดการเรียนการสอนด้วย ซึ่งตนเชื่อว่าแนวคิดนี้จะเป็นที่ยอมรับของสังคมได้ เพราะร.ร.สาธิตมศว 2 แห่ง ที่มีอยู่นั้น มีลักษณะเด่นที่แตกต่างกัน คือ ร.ร.สาธิตปทุมวันโดดเด่นทางด้านวิชาการ ขณะที่ร.ร.สาธิตประสานมิตรเด่นทางด้านจิตสำนึกสาธารณะ เด็กจะเป็นนักกิจกรรม มีมนุษยสัมพันธ์พร้อมจะเป็นผู้นำคนอื่น ดังนั้นร.ร.สาธิตที่กำลังจะเกิดขึ้นใหม่ จึงจำเป็นต้องมีความแตกต่างออกไป สำหรับพื้นที่ในส่วนที่ 3 จะจัดตั้งเป็นร.ร.วิทยาศาสตร์ ที่เน้นในการพัฒนาสมองซีกซ้ายซึ่งเกี่ยวข้องกับการคิด วิเคราะห์อย่างเป็นระบบให้แก่เด็กที่มีความสามารถทางวิทยาศาสตร์ แต่ก็จะไม่ละเลยการพัฒนาสมองซีกขวา ที่เป็นเรื่องของการพัฒนาทางด้านอารมณ์และจินตนาการของเด็กด้วย รวมทั้งจะมีการเน้นในเรื่องการเชื่อมโยงในส่วนที่เป็นเรื่องของสังคม มนุษย์ ศิลปวัฒนธรรม ภูมิปัญญาไทย เพื่อจะผลักดันให้เด็กที่เข้ามาเรียนในร.ร.วิทยาศาสตร์มีความเข้มแข็ง ไม่อ่อนแอหรืออ่อนต่อโลก ซึ่งเป็นจุดอ่อนของการเรียนวิทยาศาสตร์ที่ผ่านมา ทั้งนี้ร.ร.วิทยาศาสตร์ที่จะจัดตั้งขึ้นแห่งนี้จะเป็นร.ร.ประเภทร.ร.ประจำ เพื่อให้สามารถสร้างความเข้มข้นทางด้านวิชาการ และกิจกรรม ต่าง ๆ ให้กับเด็กได้อย่างเต็มที่. (เดลินิวส์ พฤหัสบดีที่ 22 ธ.ค. 48 http://www.dailynews.co.th)





เป็นอาจารย์มทร.ไม่ต้องปริญญาเอกขอตรงสาขา-ชำนาญ

ผศ.นำยุทธ สงธนาพิทักษ์ อธิการบดีมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล (มทร.) ธัญบุรี เปิดเผยว่า ตามที่สำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา(สกอ.) ได้ประกาศเกณฑ์มาตรฐานหลักสูตรอุดมศึกษา พ.ศ.2548 ที่กำหนดว่าคุณวุฒิของอาจารย์ ที่จะมาสอนในระดับปริญญาตรี จะต้องจบการศึกษาระดับปริญญาโทขึ้นไปนั้น เป็นเรื่องที่ดีที่จะเพิ่มมาตรฐานการเรียนการสอนในระดับอุดมศึกษา แต่เกณฑ์ดังกล่าวน่าจะมีปัญหากับ มทร.เพราะเรายังขาดแคลนอาจารย์จำนวนมากในหลายสาขา ดังนั้นเมื่อต้องเปิดรับอาจารย์ใหม่ อาจจะทำให้ในบางสาขาไม่ได้คนตรงตามเกณฑ์ที่กำหนดไว้ โดยเฉพาะคณะศิลปกรรมและนาฎศิลป์ ซึ่งหาคนที่จบระดับปริญญาโทน้อยมาก ทั้งนี้ มทร.พยายามปฏิบัติตามเกณฑ์มากที่สุด แต่ถ้าปฏิบัติไม่ได้จริงๆ ก็ต้องรับผู้จบวุฒิปริญญาตรี ขณะนี้ มทร.ธัญบุรี มีการขยายการเรียนการสอนในหลายสาขา เช่น การบัญชี การพลังงานวัสดุศาสตร์ นาโนเทคโนโลยี เป็นต้น และมหาวิทยาลัยอยู่ระหว่างการส่งอาจารย์ไปศึกษาต่อต่างประเทศในระดับปริญญาโทและเอก ซึ่งอาจารย์เหล่านี้จะทยอยเรียนจบและผลัดกันมาสอน รวมทั้งยังมีแนวโน้มที่จะส่งอาจารย์พนักงานไปศึกษาต่อต่างประเทศเช่นกัน เพราะสถานภาพของพนักงานมหาวิทยาลัยจะมีสิทธิและสวัสดิการที่ด้อยกว่าข้าราชการ ดังนั้นจึงอยากส่งเสริมคนกลุ่มนึ้ให้มากขึ้น เพื่อเป็นขวัญและกำลังใจในการทำงาน รวมทั้งเป็นการเพิ่มพูนความรู้ให้กับบุคลากรของมหาวิทยาลัยด้วย “มหาวิทยาลัยส่งอาจารย์ไปเรียนต่อต่างประเทศไม่มากนัก เพราะติดปัญหางบประมาณจำกัด และที่คณะกรรมการการอุดมศึกษา(กกอ.)กำหนดว่าในปี 2551 มหาวิทยาลัยจะต้องพัฒนาอาจารย์ในสถาบันให้สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาเอกให้ได้ 50% นั้น มทร.คงจะทำได้ยาก แต่จะเน้นให้ได้อาจารย์ที่เรียนจบโดยตรงในสาขาวิชาที่สอนมากกว่า (สยามรัฐ ศุกร์ที่ 22 ธ.ค. 48 http://www.siamrath.co.th)





สกอ.วางเกณฑ์บัณฑิตป.ตรีรู้จักคิดวิเคราะห์-ทำงานร่วมกับผู้อื่นได้

คณะทำงาน สกอ.แย้มร่างกรอบมาตรฐานคุณวุฒิระดับอุดมศึกษา รศ.ไพฑูรย์ สินลารัตน์ อาจารย์ประจำคณะครุศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวนำเสนอเรื่อง "การพัฒนากรอบมาตรฐานคุณวุฒิระดับอุดมศึกษาของประเทศไทย" ในการประชุมสัมมนา "กรอบมาตรฐานคุณวุฒิระดับอุดมศึกษาของประเทศไทย" ที่โรงแรมเซ็นจูรี พาร์ค เมื่อเร็วๆ นี้ ว่า ขณะนี้ตนและทีมงานที่ได้รับมอบหมายจากสำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา (สกอ.) ได้จัดทำร่างกรอบมาตรฐานคุณวุฒิระดับอุดมศึกษาของประเทศไทยเสร็จเรียบร้อยแล้ว ซึ่งร่างฉบับนี้มีการกำหนดคุณลักษณะพื้นฐานของผู้สำเร็จการศึกษาในแต่ละระดับการศึกษาตั้งแต่ระดับอนุปริญญาถึงปริญญาเอก โดยคุณลักษณะผู้จบการศึกษาในขั้นนี้ ต้องมีความรู้และทักษะพื้นฐานในการประกอบอาชีพ ระบุบัณฑิต ป.ตรี ยุคใหม่ขั้นต่ำต้องรู้จักคิดวิเคราะห์-ทำงานร่วมกับผู้อื่นได้ เตรียมให้ ศธ.ออกเป็นประกาศกระทรวง (คมชัดลึก พฤหัสบดีที่ 22 ธ.ค. 48 http://www.komchadluek.net)





ทหารอากาศหนุน สกอ.ตั้งวิทยาลัยการบิน ไฟเขียวให้ใช้สถานที่ ยืมบุคลากรและเทคโนโลยี

ศ.(พิเศษ) ดร.ภาวิช ทองโรจน์ เลขาธิการคณะกรรมการการอุดมศึกษา (กกอ.) เปิดเผยว่า เมื่อเร็วๆ นี้ได้หารือกับ พล.อ.อ.ชลิต พุกผาสุข ผู้บัญชาการทหารอากาศ (ผบ.ทอ.) เรื่องความร่วมมือจัดตั้งวิทยาลัยการบินนานาชาติ จ.นครพนม ซึ่ง ผบ.ทอ.เห็นด้วยในหลักการที่สำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา (สกอ.) ขอความร่วมมือใน 3 เรื่อง คือ 1.ขอใช้พื้นที่สนามบินของ ทอ.เป็นที่ตั้งวิทยาลัยการบินนานาชาติ และขอใช้พื้นที่ฝึกหัดของนักบิน โดยตั้งคณะทำงานร่วมกัน เพื่อมาดูว่ามีพื้นที่ไหนบ้างที่ใช้ได้ 2.ขอความร่วมมือยืมตัวบุคลากรของ ทอ.มาช่วยสอน และบริหารจัดการสถาบัน ตามความสมัครใจ และ 3.ขอใช้เทคโนโลยีที่ ทอ.มีอยู่ เพื่อเพิ่มศักยภาพการเรียนการสอนให้ทันสมัยและเป็นสากล ที่ผ่านมาสถานทูตฝรั่งเศสประสานมายัง สกอ.ว่าฝรั่งเศสให้ความสำคัญในการร่วมมือทางวิชาการกับไทย โดยเฉพาะการตั้งวิทยาลัยการบินนานาชาติ จ.นครพนม และพร้อมร่วมมือทางวิชาการและการสนับสนุนอย่างเต็มที่ และแจ้งว่าในช่วงต้นปี 2549 นายฌาค ชีรัค ประธานาธิบดีฝรั่งเศส จะมาเยือนประเทศไทย ดังนั้น จะถือโอกาสนี้ลงนามความร่วมมือทางวิชาการระดับประเทศระหว่างฝรั่งเศสและไทยอย่างเป็นทางการ (คมชัดลึก พฤหัสบดีที่ 22 ธ.ค. 48 http://www.komchadluek.net)





จุฬาฯ เร่งผลิตปริญญาโทการเงิน ชี้ตลาดรองรับยอดพุ่งปีละ 400 คน

รายงานข่าวแจ้งว่า ภายหลังคณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้เปิดหลักสูตรวิทยาศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาการเงิน ซึ่งมีนิสิตจบไปแล้ว 9 รุ่น ซึ่งตอบสนองความต้องการของสถาบันการเงินต่างๆ ได้ดี แต่ตลาดงานต้องการถึงปีละ 300-400 คน เนื่องจากอุตสาหกรรมทางการเงินมีการปรับตัวและเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา จากการเติบโตดังกล่าวทำให้ธนาคาร สถาบันทางการเงิน ตลอดจนบริษัทที่ปรึกษาทางการเงินในประเทศไทย ต่างเฟ้นหาบุคลากรที่มีคุณภาพ และมีความเชี่ยวชาญในการวิเคราะห์ทางการเงินเชิงลึก ซึ่งหลักสูตรวิทยาศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาการเงิน ภาคภาษาอังกฤษ หรือ มาสเตอร์ ออฟ ซายน์ อิน ไฟแนนซ์ โปรแกรม (เอ็มเอสเอฟ) เป็นหลักสูตรแรกของประเทศไทยที่เน้นระบบการเรียนการสอนในภาคปฏิบัติที่หวังผลได้จริง 100% ทั้งนี้ หลักสูตรเอ็มเอสเอฟ นิสิตจะมีโอกาสทดลองทำการซื้อขายทางการเงินด้วยตัวเองอย่างครบถ้วนทุกคน ผ่านทางห้องปฏิบัติการทางการเงินของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย และธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) ที่มีความทันสมัย มีเทคโนโลยี สอบถามได้ที่ โทร.0-2218-5674-5 หรือเวบ http://msfin.acc.chula.ac.th (คมชัดลึก พฤหัสบดีที่ 22 ธ.ค. 48 http://www.komchadluek.net)





ลุ้นปธ."ทปอ."คนใหม่พัฒนาอุดมฯ

เมื่อวันที่ 21 ธันวาคม นายประเสริฐ ชิตพงศ์ อธิการบดีมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ และประธานที่ประชุมอธิการบดีแห่งประเทศไทย(ทปอ.) เปิดเผยว่า จากที่ ทปอ.มีมติให้นายปรัชญา เวสารัชช์ อธิการบดีมหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช เป็นประธาน ทปอ.คนใหม่ จึงฝากนายปรัชญาสานต่อ 3 เรื่องสำคัญ คือ 1.การเปลี่ยนสถานภาพมหาวิทยาลัยรัฐต่างๆ เป็นมหาวิทยาลัยในกำกับรัฐบาล ซึ่งกำลังอยู่ในช่วงรอยต่อ โดยที่ร่างพ.ร.บ.มหาวิทยาลัยในกำกับรัฐบาลของหลายสถาบันยังตกลงในรายละเอียดไม่ได้ 2.เรื่องระบบกลางการรับนิสิตนักศึกษา หรือระบบแอดมิสชั่นส์ ซึ่งต้องพิจารณาว่าสิ่งที่ดำเนินการในปีการศึกษา 2549 มีส่วนใดที่ลงตัวหรือไม่ลงตัว เพื่อประสานสำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา(สกอ.) รวมทั้งต้องทำความเข้าใจกับนักเรียนและโรงเรียน ซึ่งถือเป็นภาระหลักของ ทปอ. และ 3.เรื่องการพัฒนาอุดมศึกษาไทย โดยเฉพาะการยกระดับสถาบันอุดมศึกษาไทยให้เข้าสู่ความเป็นมหาวิทยาลัยชั้นนำของโลก มีความเข้มแข็ง เพื่อให้เข้าสู่การจัดอันดับมหาวิทยาลัยโลก และได้รับการยอมรับมากขึ้น ซึ่งประธานทปอ.คนใหม่จะต้องผลักดันเรื่องนี้กับทางกระทรวงศึกษาธิการ(ศธ.) และรัฐบาล (มติชนรายวัน พฤหัสบดีที่ 22 ธ.ค. 48 http://www.matichon.co.th)





มศว ยกเครื่อง วิจัย-วิทยานิพนธ์ แก้ปัญหาสังคมได้

ผศ.ดร.เพ็ญสิริ จีระเดชากุล คณบดีบัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ (มศว) กล่าวตอนหนึ่งในการเสวนาเพื่อตอบคำถาม “เมื่อสิ้นยุคทันสมัย เราจะสร้างความรู้ได้อย่างไร” ว่า หากมองงานวิจัยในเมืองไทย จะถูกความคิดในลักษณะปฏิฐานนิยม (Postpositivism) ซึ่งมองความรู้เป็นแบบเดียวและเป็นความรู้แบบใสบริสุทธิ์ สามารถนำไปใช้ได้เลย ส่วนใหญ่จะเป็นความรู้ที่ได้รับอิทธิพลมาจากตะวันตก หากจะรื้อระบบคิดในลักษณะปฏิฐานนิยม มองว่าเป็นเรื่องยากมาก เมื่อเรามองความรู้เป็นแบบเดียว งานวิจัยที่ออกมาจึงเป็นกระแสเดียว โดยนำความรู้ที่เป็นทฤษฎีตะวันตกเข้ามาใช้ แต่ทฤษฏีที่ถูกสร้างโดยตะวันตกซึ่งมักมองว่าความรู้เป็นหนึ่งเดียวสร้างที่ไหนก็สามารถนำไปใช้ได้ เมื่อนำไปใช้จริงๆ กลับพบปัญหามากมาย เพราะบริบททางสังคมไทยแตกต่างจากสังคมตะวันตก ดังนั้นความรู้ที่จะใช้ในสังคมไทย จึงควรถูกสร้างขึ้นโดยคนไทย จึงจะสามารถไปตอบคำถามของสังคมไทยได้ ซึ่งถึงเวลาแล้วที่นิสิต นักศึกษา ตลอดถึงนักวิชาการต้องสร้างองค์ความรู้ใหม่ ไม่ใช่หยิบความรู้ของคนอื่นมาใช้อยู่เรื่อยไป ตอนนี้ปัญหาการทำงานวิจัย หรืองานวิทยานิพนธ์ของนิสิต นักศึกษาเกิดปัญหา สะท้อนให้เห็นจากงานวิจัยที่ทำมาแล้วถูกนำไปขึ้นหิ้ง ใช้การไม่ได้ เพราะไม่ได้ตอบปัญหาของเราเอง ทุกระบบในประเทศไทยมักจะนำความรู้จากตะวันตกมาใช้ โดยเฉพาะระบบการศึกษา แต่เราไม่ได้มองว่าความรู้เหล่านั้นเมื่อเข้าไปสู่ชนบทนั้น กลับดึงคนออกจากชุมชนเพราะความรู้ตะวันตกมันใช้ไม่ได้กับสังคมชนบทไทย มีแต่สร้างปัญหาให้เกิดขึ้น ขณะนี้ มศว กำลังปรับแนวคิดการทำวิจัย หรือทำวิทยานิพนธ์ในระดับปริญญาโท เอกให้มองความจริงของสังคมและสร้างองค์ความรู้ให้กับสังคมไทยมากขึ้น แม้ขับเคลื่อนยากก็ตาม ซึ่งในเวลานี้สิ่งที่บัณฑิตวิทยาลัย กำลังทำคือการจุดพรุทางปัญญาให้เกิดขึ้นให้นิสิต รู้จักมองปัญหา และสร้างองค์ความรู้ใหม่ๆ มีวิธีคิดใหม่ๆ ที่จะมองความรู้ในกระแสอื่นบ้าง (สยามรัฐรายวัน เสาร์ที่ 25 ธ.ค. 48 http://www.siamrath.co.th)





ข่าววิทยาศาสตร์/เทคโนโลยี


ภารตะตั้งโรงงานไฟฟ้าพลังไม้ไผ่ แปรกลายเป็นแก๊สก่อนปั่นไฟ

ทางการรัฐอัสสัมในอินเดีย ประกาศสร้างโรงไฟฟ้าพลังไม้ไผ่แห่งแรกของโลกที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และสามารถบรรเทาปัญหาพลังงานขาดแคลนภายในประเทศได้ นายวินัย โอบีรอย ผู้อำนวยการสำนักงานแปรรูปไม้ไผ่แห่งอินเดีย เปิดเผยว่า ทางการอินเดียจะสร้างโรงไฟฟ้าพลังงานไม้ไผ่ 2 แห่ง มูลค่า 90 ล้านบาท ซึ่งมีความสามารถผลิตกระแสไฟฟ้าได้ประมาณปีละ 2 ล้านวัตต์ สถาบันวิทยาศาสตร์แห่งอินเดีย ในเมืองบังกาลอร์ เป็นผู้วิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีแปรไม้ไผ่เป็นแก๊สเพื่อนำมาปั่นกระแสไฟฟ้า อินเดียเป็นประเทศที่ปลูกไม้ไผ่มากที่สุดเป็นอันดับที่ 2 ของโลก รองจากจีน เกษตรกรอินเดียปลูกไผ่ป้อนตลาดเฉลี่ยปีละประมาณ 80 ล้านตัน ทั้งนี้ รัฐบาลอินเดียมีแผนให้กองทัพอินเดียสร้างโรงไฟฟ้าพลังงานไม้ไผ่เพื่อปั่นไฟฟ้าใช้เอง. (ไทยรัฐ จันทร์ที่ 19 ธ.ค. 48 http://www.thairath.co.th)





วิวัฒนาการแห่ง'ส้วม'

'สก็อตต์ พินนิซอตโต' ผู้บริหารบริษัทบรอนเดลล์ จำกัด เรื่อง ส้วมไฮเทคชื่อ 'สวอช' เจ้าของผลิตภัณฑ์ไฮเทคโนโลยีตัวล่าจากบริษัทบรอนเดลล์ ที่เมืองซานฟรานซิสโก สหรัฐอเมริกา ซึ่งผลิตออกมาทดลองตลาดก่อน 600 ตัว และได้ผลรับที่ดีเกินคาดจากผู้บริโภคที่รักความอนามัยและต้องการความสะดวกสบายมากขึ้น ในการใช้ 'ส้วม' ราคานั้นเริ่มต้นอยู่ที่ 439 เหรียญดอลล่าร์สหรัฐ จนกระทั่งขึ้นราคาไปที่ 549 เหรียญดอลล่าร์สหรัฐในที่สุด คิดเป็นเงินไทยตกประมาณ 17,560 - 21,960 บาท ส้วมไฮเทคตัวนี้ ประกอบด้วยที่ฉีดน้ำอุ่นอัตโนมัติทำความสะอาดโถทุก ๆ ครั้งหลังใช้ พร้อมทั้งเครื่องเป่าแห้งเสร็จสรรพ รีโมทคอนโทรลควบคุมการใช้โดยไม่ต้องสัมผัสที่ตัวโถ และสเปรย์ฉีดน้ำที่บั้นท้ายอัตโนมัติ โดยไม่ต้องใช้กระดาษชำระเช็ดทำความสะอาดอีกต่อไป. (เดลินิวส์ จันทร์ที่ 19 ธ.ค. 48 http://www.dailynews.co.th)





"เอสเอ็มเอส"บนมือถือทำลายตัวเองหลังอ่าน

บริษัทสเตลเลียม ประเทศอังกฤษ เปิดให้บริการ "สเตลธ์ เท็กซ์" ซึ่งเป็นบริการส่งข้อความ "เอสเอ็มเอส" ผ่านโทรศัพท์มือถือที่เอสเอ็มเอสสามารถทำลายตัวเองได้ ภายหลังจากมีผู้เปิดอ่านข้อความไปเรียบร้อยแล้ว วิธีการใช้บริการสเตลธ์ เท็กซ์ ผู้ใช้มือถือต้องไปดาวน์โหลดโปรแกรมมาลงไว้ในมือถือ และมือถือรุ่นที่จะใช้บริการชนิดนี้ต้องเชื่อมต่อกับอินเตอร์เน็ตได้ด้วย จากนั้นผู้ใช้สามารถส่งเอสเอ็มเอสไปยังมือถือของบุคคลอื่นได้ทันที โดยหลังจากผู้รับเปิดอ่านเอสเอ็มเอสเรียบร้อย เอสเอ็มเอสดังกล่าวจะทำลายตัวเองภายในระยะเวลา 40 วินาที อัตราค่าบริการอยู่ที่ประมาณ 400 บาทต่อ 10 ข้อความ บริษัทสเตลเลียมระบุว่า สเตลธ์ เท็กซ์ เหมาะสำหรับกลุ่มลูกค้าที่ต้องการความเป็นส่วนตัว หรือต้องการส่งข้อมูลลับจริงๆ เช่น บรรดาคนดังทั้งหลาย แต่ไม่ต้องวิตกว่าจะมีกลุ่มผู้ไม่ประสงค์ดีใช้สเตลธ์ เท็กซ์ เป็นเครื่องมือนัดแนะกันก่อเหตุร้าย เพราะถึงแม้ตัวเอสเอ็มเอสจะถูกทำลายไป แต่ข้อมูลเอสเอ็มเอสดังกล่าวยังเก็บไว้ในระบบคอมพิวเตอร์ของบริษัท (ข่าวสด จันทร์ที่ 19 ธ.ค. 48 http://www.matichon.co.th/khaosod)





รัสเซียสร้างยานอวกาศโดยสารบินมอสโก-นิวยอร์ก

นักวิทยาศาสตร์รัสเซียกำลังออกแบบยานอวกาศพาณิชย์ซึ่งสามารถพาผู้โดยสาร ทะยานไปเหนือชั้นบรรยากาศของโลกด้วยความเร็วชั่วโมงละ 30,000 กิโลเมตร เดินทางจากกรุงมอสโกไปถึงนครนิวยอร์กภายในเวลาลัดนิ้วมือเดียวไม่ถึงชั่วโมงดี ในสมัยก่อน การเดินรอบโลกใน 80 วัน นับว่าเป็นปาฏิหาริย์ แต่ในปัจจุบัน อาจจะเดินทางรอบโลกได้ภายใน 80 นาทีเท่านั้นเอง ผู้เชี่ยวชาญของสถาบันมอสโก ได้พัฒนาอากาศยานลำต้นแบบ สามารถจะขนผู้โดยสารและสินค้า เดินทางไปยังที่ใดก็ได้ในโลก ด้วยความเร็วอย่างที่ไม่เคยคาดฝันในการ เดินทางในอากาศมาก่อน ผู้อำนวยการสถาบันกล่าวว่า “สถาบันได้ออกแบบสร้างอากาศยานที่ต้องจัดอยู่ในระดับของเครื่องบินอวกาศ มันวิ่งขึ้นลงจากรันเวย์เหมือนอย่างเครื่องบินธรรมดา แต่มันจะกลายเป็นยานอวกาศที่มีพลประจำเมื่อมันขึ้นไปอยู่บนอากาศบินได้เร็วถึงชั่วโมงละ 30,000 กิโลเมตร” นักวิจัยกล่าวว่า ด้วยความเร็วจัดขนาดนี้ มันจะสามารถบินจากกรุงมอสโกไปยังกรุงปารีส ภายใน 20 นาที และบินจากมอสโกไปยังนิวยอร์ก ในเวลา 50 นาที และบินจากมอสโกไปถึงนครซิดนีย์ ในเวลา 1 ชั่วโมง กับอีก 6 นาทีเท่านั้น เครื่องบินชั้นยอดจะมีความยาว 75 เมตร หนัก 800 ตัน ส่วนใหญ่เป็นน้ำหนักของเชื้อเพลิง สามารถขนน้ำหนักได้ระหว่าง 10-45 ตัน บินสูงระหว่าง 100-200 กิโลเมตร ตัวเครื่องจะมีรูปร่างทรงกลมอย่างจานบิน นักวิจัยได้สร้างลำต้นแบบ ด้วยมาตราส่วน 1 ต่อ 25 ขึ้นแล้ว แต่เหตุที่งานยังล่าช้าอยู่ ส่วนใหญ่เป็นเพราะขาดงบอุดหนุน “หากว่ามีงบเร็วจะสามารถสร้างขึ้นได้สำเร็จภาย 5-8 ปีนี้”. (ไทยรัฐ อังคารที่ 20 ธ.ค. 48 http://www.thairath.co.th)





เสิร์ช"เด็กไทย" คนเก่งโลกไอที

ไมโครซอฟท์ (ประเทศไทย) จำกัด คัดเลือกผลงานสุดยอดแห่งการใช้ความคิดสร้างสรรค์จากโปรแกรมคอมพิวเตอร์ เพื่อเข้ารับรางวัลทุนการศึกษากันไปเรียบร้อยแล้ว โดยน้องๆ แต่ละทีมต่างมีความรู้ด้านเทคโนโลยีที่โดดเด่น ผลงานที่คว้ารับรางวัลชนะเลิศทั้งในระดับประถมศึกษา และมัธยมศึกษา ทั้ง 4 ทีมได้แก่ ระดับประถมศึกษาตอนต้น ซึ่งออกแบบผลงานโดยใช้โปรแกรม Paint ในหัวข้อ "อินเตอร์เน็ตสีขาว" ได้แก่ โรงเรียนอนุบาลนครพนม จ.นครพนม, ระดับประถมศึกษาตอนปลาย ออกแบบผลงานโดยใช้โปรแกรม Power Point ในหัวข้อเดียวกันได้แก่ น้องๆ จากโรงเรียนอนุบาลวัดลูกแกประชาอุทิศ จ.กาญจนบุรี ผลงานชนะเลิศในระดับมัธยมศึกษาตอนต้น ออกแบบผลงานในหัวข้อ "อินเตอร์เน็ตสีขาว" โดยใช้โปรแกรม Web Design ด้วย Front Page และ ASP.net ได้แก่ โรงเรียนนวมินทราชินูทิศ บดินทรเดชา กรุงเทพฯ และผลงานชนะเลิศในระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย ออกแบบผลงานโดยใช้โปรแกรม E-learning ด้วย Visual Studio.net ในหัวข้อ "สามารถทำ USER log โดยใช้ Visual Studio.net พัฒนาจากผลงานเดิม" ได้แก่ โรงเรียนโชคชัยสามัคคี จ.นครราชสีมา (ข่างสด อังคารที่ 20 ธ.ค. 48 http://www.matichon.co.th/khaosod)





ส่งยานสำรวจ"พลูโต" ไขปมกำเนิดระบบสุริยะ

โครงการส่งยานอวกาศหุ่นยนต์ รุ่น "นิวฮอไรซอนส์" ออกไปสำรวจดาวพลูโต ของสำนักงานอวกาศแห่งชาติสหรัฐ (นาซ่า) คืบหน้าไปอีกขั้น ภายหลังจากขนส่งยานไปยังฐานปล่อยในศูนย์อวกาศเคนเนดี้เรียบร้อยแล้ว นิวฮอไรซอนส์จะเป็นยานหุ่นยนต์ลำแรกของนาซ่าที่บินออกไปสำรวจดาวพลูโตและดวงจันทร์บริวารของมัน ปฏิบัติการครั้งนี้มีมูลค่าสูง 26,000 ล้านบาท กำหนดส่งยานออกนอกโลกวางแผนไว้ว่าจะส่งออกไปพร้อมกับจรวด "แอตลาส ไฟว์" ในวันที่ 11 มกราคม พ.ศ.2549 ถ้าไม่มีอะไรผิดพลาด ยานนิวฮอไรซอนส์จะใช้เวลา 9 ปีครึ่งกว่าจะบินไปถึงพลูโต เนื่องจากดาวพลูโตเป็นดาวในระบบสุริยะที่ไกลจากดวงอาทิตย์มาก ทำให้มันมีสภาพเหมือนกับ "โลกน้ำแข็ง" ที่ไม่เคยได้รับผลกระทบจากความร้อนสูงๆ หรือระดับรังสีสูงเช่นเดียวกับดาวนพเคราะห์ดวงอื่นๆ ดังนั้น นาซ่าจึงตั้งความหวังว่าข้อมูลที่ได้จากยานนิวฮอไรซอนส์ จะช่วยให้นักวิทยาศาสตร์เข้าใจลักษณะและสภาวะของดวงดาวในยุคเริ่มต้นก่อกำเนิดระบบสุริยจักรวาลได้ดียิ่งขึ้น (ข่างสด อังคารที่ 20 ธ.ค. 48 http://www.matichon.co.th/khaosod)





บล็อก (Blog)เทคโนโลยีฝีมือคนไทย

หนึ่งในเทคโนโลยีเพื่อสนับสนุนการจัดการความรู้ที่เน้นการบันทึกเรื่องเล่าแห่งความสำเร็จและเน้นการจัดการเรื่องเล่าเหล่านี้ ตามกระบวนการจัดการความรู้ คือ ระบบคอมพิวเตอร์แบบหนึ่งที่ทำงานผ่านเครือข่ายอินเทอร์เน็ต เรียกระบบนี้ว่า “บล็อก (Blog) หรือ เว็บบล็อก (Weblog)” ซึ่งสถาบันส่งเสริมการจัดการความรู้เพื่อสังคม (สคส.) ได้สนับสนุนให้ทีมงานนักวิจัยชาวไทยโดย ดร.จันทวรรณ น้อยวัน และ ดร.ธวัชชัย ปิยะวัฒน์ จากคณะวิทยาการจัดการ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ พัฒนาระบบบล็อก ตั้งแต่วันที่ 1 มีนาคม 2548 ที่ผ่านมา Blog Solutions ประกอบด้วย ระบบบล็อก GotoKnow.org ระบบการรวบรวมข่าวสารความรู้ในรูปแบบ RSS ชื่อ PlanetMatter.org และ ซอฟต์แวร์สร้างไฟล์ RSS เพื่อการเผยแพร่ ความรู้ในมาตรฐานสากล ชื่อ FeedSpring ทีมงานได้พัฒนาระบบทั้งสามในเวอร์ชั่นเสร็จแล้ว และได้นำไปใช้งานจริง ระบบนี้เป็นแบบ Open-Source คือ เปิดเผยรหัสต้นฉบับสู่สาธารณชน ภายใต้ลิขสิทธิ์แบบ GNU/GPL ซึ่งนักพัฒนาท่านอื่นสามารถนำรหัสต้นฉบับ (Source Code) ไปพัฒนาปรับปรุงเพิ่มเติมหรือดัดแปลงได้ แต่ต้องเปิดเผยรหัสต้นฉบับด้วยเช่นกัน ดร.จันทวรรณ น้อยวัน คณะวิทยาการจัดการ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ หนึ่งในทีมผู้พัฒนาระบบบล็อก กล่าวว่า GotoKnow.org เป็นระบบที่พัฒนาขึ้นมาโดยเน้นผู้ใช้เป็นศูนย์กลาง เน้นหลักการออกแบบที่ช่วยให้อ่านง่ายเป็นระเบียบ และบันทึกความรู้ได้โดยง่ายและสะดวกภายใต้การควบคุมของเจ้าของบล็อกเอง โดยที่เจ้าของบล็อกสามารถจัดการบล็อกได้ด้วยตนเองที่ “แผงควบคุม” เหมือนมีเว็บไซต์ส่วนตัว และ เขียนบันทึกได้ง่ายเหมือนใช้ Microsoft จุดเด่นของบล็อก GotoKnow.org สามารถจัดการบล็อกได้อย่างเต็มที่ ไม่ว่าจะเป็น การสร้าง-แก้ไข-ลบ บล็อก หรือ การสร้าง-แก้ไข-ลบ บันทึก หรือ การลบข้อคิดเห็น เป็นต้น ทั้งนี้ระบบบล็อก GotoKnow.org ยังอำนวยความสะดวกให้ผู้ใช้ได้อีกมากมาย GotoKnow.org ย่อมาจาก The Gateway of Thailand's Online Knowledge Management เป็นระบบ “บล็อก” (Blog) เพื่อการจัดการความรู้แบบฝังลึก โดยเน้นการบันทึกในรูปแบบไดอารี่ของแต่ละบุคคลเพื่อแสดงความคิด ความรู้ ประสบการณ์ เทคนิคการทำงาน และร่วมแลกเปลี่ยนเรียนรู้กับผู้อื่นผ่านเครือข่ายอินเทอร์เน็ต อาจใช้บล็อกเพื่อการเรียนการสอนเพื่อเป็นเทคโนโลยี E-Learning หรือ บุคคลทั่วไปก็สามารถมีบล็อกไว้เพื่อใช้บันทึกเรื่องราวชีวิตที่ตนเองเรียนรู้หรือมีความคิดเห็นต่อสิ่งที่ประสบพบมาในแต่ละวัน ก็ได้เช่นกัน สนใจและอยากทดลองใช้บล็อกอย่างง่าย ๆ สามารถเข้าไปได้ที่ http://GotoKnow.org. (เดลินิวส์ อังคารที่ 20 ธ.ค. 48 http://www.dailynews.co.th)





บลูทูธ

บลูทูธ (Bluetooth) หรือเทคโนโลยีไร้สายระยะใกล้ ซึ่งปัจจุ บันบรรจุอยู่ในอุปกรณ์ไฮเทค เช่น โทรศัพท์มือถือ คอมพิวเตอร์ รถยนต์ หูฟังสเตอริโอ เครื่องเล่นเอ็มพี 3 เพื่อให้อุปกรณ์ที่มีเทคโนโลยีบลูทูธ เชื่อมต่อกันผ่านระบบไร้สายในระยะใกล้ ๆ ประมาณ 10 เมตร Bluetooth Special In terest หรือ SIG เป็นสมาคมทางการค้าประกอบด้วยบริษัทชั้นนำในโลกอุตสาหกรรมโทรคมนาคม คอมพิว เตอร์ ธุรกิจเน็ตเวิร์ค ซึ่งร่วมกันพัฒนาและผลักดันเพื่อวางตลาดเทคโนโลยีไร้สายบลูทูธ จนประสบความสำเร็จในขณะนี้ บริษัทดังกล่าว ประกอบด้วย อาเกีย อีริคสัน ไอบีเอ็ม อินเทล ไมโครซอฟท์ โมโตโรล่า โนเกียและโตชิบา รวมทั้งสมาคมอีก 4,000 แห่ง และบริษัทที่เป็นสมาชิกนักพัฒนา SIG ระบุว่า ปริมาณการผลิตเทคโนโลยีบลูทูธเพิ่มขึ้นหลาย เท่าตัว เกินความคาดหมายของนัก วิเคราะห์ในด้านนี้ ไมเคิล โฟเลย์ กรรมการบริหารคนหนึ่งของ SIG มีความเห็นว่าการที่จำนวนการผลิตของ บลูทูธเพิ่มขึ้นถึงสองเท่าในเวลาเพียงสี่เดือน ทำให้เทคโนโลยีบลูทูธได้พิสูจน์ตัวเองแล้วว่า เป็นเทคโนโลยีไร้สายสำหรับเน็ตเวิร์คบุคคล ซึ่งกำลังเติบโต SIG จึงได้ประกาศใช้โปรแกรมใหม่สำหรับบลูทูธถึง 4 โปรแกรม เพื่อสนับสนุนให้มีการใช้งานเทคโนโลยีไร้สายระยะใกล้ในผลิตภัณฑ์ประเภทอื่น ๆ โปรแกรมใหม่นี้จะช่วยเพิ่มทางเลือกในการตัดสินใจแก่ผู้เลือกใช้เทคโนโลยีบลูทูธ Experience icons เป็นเครื่องมือสื่อสารที่จะช่วยให้ข้อมูลแก่ลูกค้าก่อนตัดสินใจเลือกซื้อผลิตภัณฑ์ที่มีเครื่องหมายบลูทูธ www.bluetooth.com เป็นเว็บไซต์อย่างเป็นทางการ สำหรับให้ลูกค้าและผู้ที่อยู่ในวงการอุตสาห กรรม รวมถึงผู้ที่อยู่ในวงการศึกษา เข้าไปค้นหาข้อมูลเกี่ยวกับเทคโนโลยีบลูทูธ User Terminology เป็นเอกสารที่มีคำจำกัดความสำหรับผู้ใช้งาน ให้ผู้ผลิตใช้อ้างอิง Best of Breed เป็นชุดคำแนะนำสำหรับการนำเทคโนโลยีบลูทธูไปใช้งานในผลิตภัณฑ์ต่างประเภทกัน ทั้งหมดนี้เป็นข้อมูลความคืบหน้าของเทคโนโลยีบลูทธู. (เดลินิวส์ อังคารที่ 20 ธ.ค. 48 http://www.dailynews.co.th)





เรือหุ่นยนต์ไล่ล่าโจรสลัด ติดกล้องวิดีโอ-ระบบสื่อสารควบคุมจากฝั่ง

เมื่อไม่นานมานี้ เรือท่องเที่ยวหรูหราชื่อ ซีบอร์น สปิริต ถูกโจรสลัดที่บุกขึ้นเรือโดยไม่สามารถป้องกันตัวเองได้ พวกโจรวางแผนกันมาเป็นอย่างดี และใช้เรือเร็วเป็นพาหนะจู่โจมและหลบหนีพร้อมด้วยอาวุธทันสมัยครบมือ ดังนั้นในยุคที่โจรสลัดไฮเทคกันมากขึ้น สำนักงานตำรวจทะเลสากลจึงคิดว่าต้องมีเรือที่มีเทคโนโลยีก้าวหน้าไว้คอยสกัด เทคโนโลยีปราบโจรสลัดที่สำนักงานตำรวจทะเลสากลใช้อยู่ในปัจจุบันมีตั้งแต่เครื่องบินสอดแนมไร้พลขับ "อินเวนตัส" เอาไว้บินสำรวจน่านน้ำที่ไม่ปลอดภัย นอกจากนี้ ยังมีระบบ "ซีเคียวชิพ" เป็นรั้วไฟฟ้าที่ปล่อยกระแสไฟฟ้า 9,000 โวลต์ ขึงไว้เพื่อป้องกันโจรสลัดปืนขึ้นเรือ และอุปกรณ์พิเศษอีกชนิดหนึ่งคือ "ชิพ ล็อก" เป็นเครื่องมือเพื่อติดตามเรือที่ถูกปล้นโดยใช้ดาวเทียมค้นหาตำแหน่ง ในอนาคต เครื่องมือป้องกันโจรสลัดอีกอย่างหนึ่งที่จะถูกนำมาใช้คือ เรือหุ่นยนต์ลาดตระเวน ผลงานของบริษัท มารีน โรบอติก อินเตอร์เนชั่นแนล บริษัทดังกล่าวได้ผลิต "เรือปีศาจ" ขึ้นมากองเรือหนึ่งสำหรับลาดตระเวนตามน่านน้ำที่ได้ตั้งโปรแกรมไว้ โดยกองเรือทั้งหมดนี้จะถูกควบคุมโดยเจ้าหน้าที่ในหอควบคุมบนฝั่ง เรือหุ่นยนต์สามารถทำหน้าที่เป็นเรือที่แล่นคู่ไปกับเรือทะเลเมื่อเข้าสู่น่านน้ำอันตราย บนเรือมีกล้องวิดีโอและอุปกรณ์ต่างๆ ที่ผู้ควบคุมเรือ สามารถมองเห็นและสื่อสารตอบโต้กับลูกเรือบนเรือทะเลได้ทุกลำที่พบ บนเรือมีลำโพงและไมโครโฟนที่สามารถใช้สื่อสารกับเรือทะเลได้ และถ้าพบการเคลื่อนไหวที่น่าสงสัย เรือหุ่นยนต์จะแจ้งไปยังเรือลาดตระเวนให้มาตรวจสอบ นอกจากนี้ เรือดังกล่าวยังเหมาะที่จะใช้ตรวจจับเรือที่ลักลอบขนคนเข้าประเทศ ซึ่งปกติถ้าเป็นเรือตระเวนของเจ้าหน้าที่ชายฝั่ง พวกโจรสลัดมักมาไม้โหดจับคนที่บรรทุกมาโยนลงทะเล ทำให้เจ้าหน้าที่ต้องช่วยชีวิตคนไว้ก่อน เปิดช่องให้พวกทำผิดกฎหมายหนีไปได้ ถ้าเกิดกรณีอย่างนี้อีก เรือยามฝั่งอาจหยุดช่วยคน ขณะที่เรือหุ่นยนต์ตามไล่ล่าไปได้ทันที (คมชัดลึก พุธที่ 21 ธ.ค. 48 http://www.komchadluek.net)





สืบกำพืดแมมมอธหาต้นตระกูล

นักวิจัยสามชาติร่วมมือกันศึกษาชีวิตแมมมอธ สัตว์ยุคน้ำแข็งซึ่งสูญพันธุ์ไปแล้ว แต่ยังโชคดีพบซากที่ยังมีสภาพสมบูรณ์จากน้ำแข็งที่ปกคลุม หวังไขปริศนาสายวิวัฒนาการของต้นตระกูลช้าง ไมเคิล โฮฟรีเตอร์ หัวหน้าทีมวิจัยจากสถาบันแมกซ์ แพลงค์ ในเยอรมนี บอกว่า งานวิจัยชิ้นนี้จะทำให้พวกเขาไขปริศนาการกำเนิดและเจริญพันธุ์ของแมมมอธ ซึ่งเป็นที่ถกเถียงกันมานานนับ 10 ปีได้ และน่าประหลาดที่แมมมอธมีลักษณะที่ใกล้ชิดกับช้างเอเชียมากกว่าช้างแอฟริกา โดยช้างทั้งสามชนิดแยกสายวิวัฒนาการออกจากบรรพบุรุษเมื่อราว 6 ล้านปีที่แล้ว โดยช้างเอเชียและแมมมอธเพิ่งจะมาแยกสายวิวัฒนาการออกจากกันในช่วง 5 แสนปีต่อมา แมมมอธอาศัยอยู่ในทวีปแอฟิรกา ยุโรป เอเชีย และอเมริกาเหนือ ระหว่าง 1.6 ล้านปีถึง 1 หมื่นปีที่ผ่านมา ในยุคไพลสโตซีน (Pleistocene) มีลักษณะพิเศษอยู่ตรงขนที่ขึ้นปกคลุมทั่วทั้งร่างกาย เพื่อปรับตัวให้สามารถมีชีวิตอยู่รอดได้ในยุคน้ำแข็งที่หนาวยะเยือกอย่างที่สุด ดีเอ็นเอของแมมมอธในยุคน้ำแข็งที่สูญพันธุ์ไปแล้ว ถูกเก็บรักษาไว้อย่างดีในเพอร์มาฟรอสต์ หรือแผ่นน้ำแข็งที่หนาแข็งตลอดกาลไม่มีวันละลาย และก่อนหน้านี้มีทีมวิจัยวิเคราะห์สารพันธุกรรมแล้ว แต่ยังไม่ได้ลงลึกในรายละเอียดเหมือนงานวิจัยชิ้นนี้ การศึกษาครั้งนี้ ประกอบด้วย คณะนักวิจัยจากเยอรมนี อังกฤษ และสหรัฐ ทั้งหมดช่วยกันสกัดและวิเคราะห์ดีเอ็นเอของแมมมอธ ด้วยการใช้เทคนิคใหม่จากกระดูกฟอสซิลชิ้นน้อยนิดที่หนักเพียง 200 มิลลิกรัม แบ่งลำดับดีเอ็นเอออกมาได้ 46 กลุ่ม จากนั้นทีมงานได้จับคู่และนำมาจัดเรียงลำดับใหม่ เพื่อให้ได้ข้อมูลสารพันธุกรรมในส่วนที่เรียกว่า ไมโตคอนเดรียแมมมอธที่สมบูรณ์ ทั้งนี้ ไมโตคอนเดรีย เป็นโครงสร้างภายในเซลล์ที่เป็นแหล่งกำเนิดพลังงานทางเคมีในเกือบทุกเซลล์ของสิ่งมีชีวิต และจะได้รับการถ่ายทอดจากแม่สู่ลูกเท่านั้น และสิ่งนี้เองที่เป็นประโยชน์มากในการศึกษาความสัมพันธ์ด้านวิวัฒนาการระหว่างสัตว์ต่างชนิด (คมชัดลึก พุธที่ 21 ธ.ค. 48 http://www.komchadluek.net)





รักษาโรคหัวใจ ทางเลือกใหม่..เซลล์บำบัด

ดร.น.พ.กิติพันธ์ วิสุทธารมณ์ หัวหน้าศัลยแพทย์หัวใจและทรวงอก รองผอ.ร.พ.หัวใจกรุงเทพ เผยว่า การนำสเต็มเซลล์มาใช้รักษาโรคหัวใจนั้น เราได้เลือกใช้เซลล์ต้นกำเนิดชนิดที่ได้มาจากเลือดของผู้ป่วยเองในการรักษาโรคภาวะหัวใจวายและโรคกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือด เซลล์นี้มีความปลอดภัยสูงและไม่ผิดหลักจริยธรรมเนื่องจากเป็นเซลล์ของผู้ป่วยเองและได้ผ่านการคัดแยกเซลล์ต้นกำเนิดออกจากเลือด แล้วนำไปเพิ่มจำนวนขึ้นจนมากพอสำหรับใช้ในการรักษา ขั้นตอนการทำคือเก็บเลือดจากผู้ป่วยจำนวน 250 ซีซี ประมาณ 1 อาทิตย์ก่อนผ่าตัด จากนั้นนำมาผ่านกรรมวิธีพิเศษซึ่งจะทำให้ได้เซลล์ประมาณ 2-50 ล้านเซลล์ในปริมาณ 15 ซีซีเพื่อใช้ฉีดระหว่างการผ่าตัด ก่อนการฉีดเซลล์ในรายที่กล้ามเนื้อตายและหัวใจวายจากการขาดเลือด ต้องทำการตรวจด้วยคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า (Cardiac Magnetic Resonance Imaging,CMR) ก่อน เพื่อหาบริเวณกล้ามเนื้อที่ยังไม่ตาย และกล้ามเนื้อที่ตายแล้ว การฉีดเข้าไปในร่างกายทำอยู่ 2 วิธีคือฉีดผ่านท่อสายยาง ซึ่งหมออายุรกรรมได้ทำการสวนเข้าไปไว้ในหัวใจก็เอาเซลล์นี้ฉีดเข้าไปด้วย อีกวิธีคือผ่าตัดเจาะรูทางด้านซ้ายประมาณ 3 รู แล้วส่องกล้องเข้าไปแล้วเปิดเยื่อที่หุ้มหัวใจเข้าไปให้เห็นกล้ามเนื้อหัวใจ แต่ก่อนมาถึงจุดนี้ต้องศึกษาก่อนว่าเส้นเลือดที่ไปเลี้ยงหัวใจปกติหรือไม่ กล้ามเนื้อหัวใจบีบตัวอย่างไร มีแผลหรือไม่ ต้องรู้แน่ชัดว่าควรจะฉีดลงไปจุดใด ถือเป็นเทคโนโลยีที่ได้รับการยอมรับในหลายประเทศเนื่องจากผลพิสูจน์จากการรักษาในสัตว์ทดลองและผู้ป่วยในสภาวะโรคต่างๆ เช่น โรคมะเร็ง โรคที่เกิดจากความผิดปกติของหลอดเลือด รวมทั้งอาการบาดเจ็บของกระดูกสันหลัง แสดงให้เห็นชัดเจนว่าการรักษาโรคโดยใช้เซลล์นั้นมีความปลอดภัยและมีประสิทธิภาพสูง การรักษาด้วยวิธีเซลล์บำบัดนี้ จะเป็นทางเลือกใหม่เพิ่มจากวิธีการรักษาแบบอื่นที่มีอยู่ในปัจจุบัน อย่างไรก็ตาม คนไข้ส่วนมากที่มารักษามีอายุเฉลี่ย 60-65 ปี จึงมีสเต็มเซลล์ไม่มากนัก เพราะจำนวนสเต็มเซลล์จะลดลงเมื่ออายุมากขึ้น จึงต้องใช้เวลาในการนำไปเลี้ยงไว้แล้วแยกออกมา และเท่าที่รักษามายังไม่พบผลข้างเคียงแต่อย่างใด โดยทำไปทั้งสิ้น 18 ราย คนไข้ส่วนใหญ่เป็นชาวต่างชาติ (ข่าวสด พุธที่ 21 ธ.ค. 48 http://www.matichon.co.th/khaosod)





สำรวจริมขอบสุริยจักรวาลตรวจดาวพลูโตน้องนุชสุดท้อง

องค์การบริหารการบินและอวกาศแห่งชาติของสหรัฐฯ ประกาศจะส่งยานสำรวจอวกาศนิวฮอไรซันส์ สู่ดาวพลูโตในวันที่ 17 มกราคมนี้ ยานสำรวจอวกาศนิวฮอไรซันส์ เป็นหุ่นยนต์ขนาดเท่าเปียโนขนาดใหญ่มีน้ำหนัก 454 กิโลกรัม และจะเดินทางถึงดาวพลูโตซึ่งอยู่ห่างไกลที่สุดจากพระอาทิตย์ ของระบบสุริยจักรวาลภายในกลางปี 2558 นายแอนดริว แดนท์ซเลอร์ เจ้าหน้าที่แผนกระบบสุริยจักรวาลของนาซา กล่าวว่า การสำรวจดาวพลูโตจะทำให้เข้าใจมากขึ้นถึงการก่อกำเนิด และพัฒนาการของระบบสุริยจักรวาล ดาวพลูโตเป็นดาวเคราะห์ดวงสุดท้ายของระบบสุริยจักรวาล ที่ยังไม่เคยส่งยานอวกาศไปสำรวจ (ไทยรัฐ พฤหัสบดีที่ 22 ธ.ค. 48 http://www.thairath.co.th)





Q สัญลักษณ์ที่เชื่อได้...ของดีต้องมี Q

เครื่องหมาย Q เป็นสัญลักษณ์ที่บ่งบอกถึงคุณภาพ ความปลอดภัยและได้มาตรฐานสากลของสินค้าเกษตรและอาหาร ซึ่งทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมกัน กำกับ ดูแล ควบคุม ตรวจสอบและเฝ้าระวัง ตลอดกระบวนการอย่างเข้มงวด สม่ำเสมอ ซึ่งนับเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับความปลอดภัยอาหารอย่างแท้จริง เพราะมีการดูแลเข้มงวดตั้งแต่ในระดับไร่นาจนกระทั่งถึงโต๊ะอาหาร โดยเริ่มตั้งแต่ปัจจัยการผลิตต่าง ๆ เช่น ปุ๋ย สารเคมี ในระดับการผลิต เช่น วิธีการผลิต การเก็บเกี่ยว การขนส่ง การแปรรูป การบรรจุหีบห่อ จนกระทั่งเป็นสินค้าสู่มือผู้บริโภค ทั้งนี้ได้มีการกำหนดใช้เครื่องหมาย Q ในปี 2547 ซึ่งเป็นปีที่รัฐบาลประกาศให้เป็นปีแห่งความปลอดภัยทางอาหาร สำหรับการรับรองด้วยเครื่องหมาย “Q” มี 2 ประเภทด้วยกัน คือ การรับรอง ระบบการผลิต ซึ่งจะมีการตรวจประเมินให้การรับรองโดยหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับสินค้าเกษตรหรืออาหาร ให้ได้มาตรฐานระดับสากล เช่น มาตรฐานการปฏิบัติทางเกษตรที่ดี (GAP) มาตร ฐานการผลิตที่ดีในการผลิตอาหาร (GMP) เป็นต้น และ การรับรองสินค้า เป็นการรับรองสินค้าที่เป็นผลิตภัณฑ์สุดท้าย โดยมีการตรวจประเมินระบบการผลิตเพื่อความมั่นใจในการรักษาคุณภาพและความปลอดภัยของสินค้าอย่างสม่ำเสมอและมีการสุ่มตรวจผลิตภัณฑ์ให้เป็นไปตามมาตรฐาน เครื่องหมาย Q สีทอง หรือ Q-PREMIUM นั้น เป็นเครื่องหมายรับรองคุณภาพชั้นพิเศษโดยสินค้านั้นได้เกณฑ์ของเครื่องหมาย Q สีเขียวทุกประการ แต่มีคุณภาพสินค้าที่เป็นพิเศษเหนือชั้นกว่า เช่น มีผลโตเหมาะสมตามประเภทของสินค้า หรือมีรสชาติดีตามประเภทสินค้า ทั้งนี้เพื่อสร้างความมั่นใจให้ผู้บริโภคที่ต้องการสินค้าที่มีคุณภาพสูง ขณะเดียวกันเกษตรกรจะได้รับผลตอบแทนคุ้มค่ากับความพยายามในการยกระดับคุณภาพสินค้าให้มีความพิเศษมากขึ้น กระบวนการในการผลิตได้ผ่านเกณฑ์มาตรฐานซึ่งประกอบด้วย 1. การผลิตในระดับฟาร์มต้องสอดคล้องกับมาตรฐานการปฏิบัติทางเกษตรที่ดี (GAP) 2. การผลิตในระดับโรงงาน ต้องสอดคล้องกับมาตรฐานการปฏิบัติการผลิตที่ดี (GMP) หรือมาตรฐาน HACCP และได้รับการตรวจสอบรับรองโดยหน่วยรับรองที่มีอำนาจหน้าที่เกี่ยวข้อง 3. ผู้ผลิตสามารถแสดงให้เห็นถึงการเชื่อมโยงระหว่างสินค้าระดับโรงงานและระดับฟาร์มโดยหลักการของการตรวจสอบย้อนกลับผลิตภัณฑ์ 4. สินค้าเกษตรและอาหาร จะต้องได้รับการตรวจสอบคุณภาพที่จำเป็นและตรวจวิเคราะห์สารตกค้างตลอดจนการปนเปื้อนให้สอดคล้องกับมาตรฐานตามแผนการตรวจที่หน่วยรับรองกำหนด ทั้งนี้ เกษตรกร ผู้ผลิต ผู้ประกอบการสามารถขอการรับรองและขอใช้เครื่องหมาย “Q” ได้จากหน่วยรับรองภาครัฐ รวมทั้งหน่วยรับรองภาคเอกชนที่ มกอช. ให้การรับรอง หน่วยรับรองภาครัฐได้แก่ กรมต่าง ๆ ในกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เช่น กรมวิชาการเกษตร (ด้านพืช) กรมปศุสัตว์ (ด้านสัตว์) กรมพัฒนาที่ดิน (ด้านปัจจัยการผลิต) เป็นต้น หน่วยรับรองภาคเอกชนหรือองค์กรอื่น ที่ มกอช. รับรองระบบงาน เช่น สำนักงานมาตรฐานเกษตรอินทรีย์ (มกท.) เป็นต้น ทั้งนี้ผู้ได้รับอนุญาตให้ใช้ “Q” ต้องรักษาคุณภาพ ความปลอดภัย และได้มาตรฐานอย่างสม่ำเสมอ เพราะหน่วยงานที่ให้การรับรองจะทำการติดตามตรวจสอบเป็นระยะ หากพบว่าไม่ปฏิบัติตามเงื่อนไขหรือไม่รักษาคุณภาพ ความปลอดภัย ตามมาตรฐาน จะถูกยกเลิก (เดลินิวส์ พฤหัสบดีที่ 22 ธ.ค. 48 http://www.dailynews.co.th)





เด็กไทยโชว์กึ๋น “อินเตอร์เน็ตสีขาว”

โครงการ “ไมโครซอฟท์ ไอที ยูธ แชลเลนจ์ 2005 - Microsoft IT Youth Challenge 2005” ซึ่งเป็นความร่วมระหว่างกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) และบริษัท ไมโครซอฟท์ (ประเทศไทย) จำกัด ร่วมกันจัดขึ้น เพื่อส่งเสริมทักษะพื้นฐานด้านไอทีให้กับเยาวชนไทย จัดต่อเนื่องเป็นปีที่ 2 แล้ว “อินเตอร์เน็ตสีขาว” คือโจทย์ของโครงการในปีนี้ ซึ่งมีนักเรียนสนใจส่งผลงานเข้าร่วมทั้งระดับประถมและมัธยม จากทั่วประเทศกว่า 200 ผลงาน แต่มีผลงานโดดเด่นได้รับรางวัลเพียง 12 รางวัล อาทิ ระดับประถมต้น รางวัลชนะเลิศเป็นของ นักเรียนชั้น ป.3 โรงเรียนอนุบาลนครพนม จ.นครพนม ด.ญ.ฐิตาภา ฐานวิเศษ เด็กป.3 กลุ่มนี้ ถูกจัดแบ่งออกเป็น 9 ด้าน ได้แก่ ด้านการพักผ่อนคลายเครียด, ด้านเศรษฐกิจ, ด้านการท่องเที่ยว, ด้านการศึกษาเรียนรู้, ด้านการเกษตร, ด้านกรมอุตุนิยมวิทยา, ด้านการสืบค้นข้อมูล, ด้านการแพทย์ และด้านอื่นๆ เช่น การส่งการ์ดด้วยเว็บการ์ด การสนทนาออนไลน์ด้วยการใช้คำและข้อความที่สุภาพ (สยามรัฐ 22 ธ.ค. 48 http://www.siamrath.co.th)





สร้างยาน"ซิลเวอร์ดาร์ต"

กลุ่มบริษัทการท่องเที่ยวอวกาศแคนาดา พัฒนายานอวกาศรุ่นใหม่ที่มีความเร็วเหนือเสียง เพื่อตอบสนองความต้องการกระสวยอวกาศลำใหม่ขององค์การอวกาศสหรัฐ (นาซ่า) ที่จะบรรทุกลูกเรือและสินค้าไปยังสถานีอวกาศนานาชาติ หรือ "ไอเอสเอส" หลังจากนาซ่าปลดระวางกระสวยอวกาศ 3 ลำ คือ แอตแลนติส เอนดีฟเวอร์ และดิสคัฟเวอรี่ ในปี 2553 บริษัท แพลนเน็ตสเปซ เปิดตัว "ซิลเวอร์ ดาร์ต" นวัตกรรมยานอวกาศใหม่เอี่ยมที่มีรูปลักษณ์คล้ายลูกธนู บรรทุกผู้โดยสารได้ 8 คน ผ่านการทดสอบจาก "ศูนย์ปฏิบัติการไฟลต์ ไดนามิคส์-7" ของกองทัพอากาศสหรัฐ ยานลำนี้บินด้วยความเร็วเหนือเสียงที่ 22 มัค พัฒนาล้ำหน้ากว่ากระสวยอวกาศแบบเดิมของนาซ่า เพราะสร้างจากโลหะที่ทนทานและมีฉนวนห่อหุ้มรอบลำตัวยาน พร้อมระบบไฟฟ้าที่ทันสมัย สามารถลงจอดได้ในทุกสภาพอากาศ มุ่งหวังให้เป็นพาหนะเดินทางในวงโคจรโลก รวมทั้งรับส่งผู้โดยสารและขนส่งเสบียงไปยังสถานีอวกาศนานาชาติไอเอสเอส แนวคิดการสร้างซิลเวอร์ ดาร์ต เกิดขึ้นเมื่อ 4 ปีที่แล้ว ในช่วงที่นายจอฟฟ์ ชีริน ประธานบริหารแพลนเน็ตสเปซปัจจุบัน กำลังพัฒนากระสวยอวกาศ "แคนาเดียน แอร์โรว์" ซึ่งบรรทุกผู้โดยสารได้ 3 คน เพื่อชิงรางวัล "อันซารี เอ็กซ์ ไพรส์" มูลค่า 10 ล้านเหรียญสหรัฐ สำหรับซิลเวอร์ ดาร์ต ลำแรกจะเสร็จสมบูรณ์และเปิดตัวอย่างเป็นทางการในปี 2551 นอกจากนั้น บ.แพลเน็ตสเปซ ยังวางแผนใช้ยานซิลเวอร์ ดาร์ต พานักท่องเที่ยวจากพื้นโลกออกไปบินเที่ยวในห้วงอวกาศอีกด้วย (ข่าวสด พฤหัสบดีที่ 22 ธ.ค. 48 http://www.matichon.co.th/khaosod)





นาซ่าส่งดาวเทียมสำรวจมลพิษ"โลก"

มนุษย์ในการป้องกันรังสีอัลตราไวโอเลตจากดวงอาทิตย์ไม่ให้ทะลุผ่านลงมายังโลก แต่โอโซนในชั้นบรรยากาศใกล้ผิวโลกถือเป็นมลพิษทางอากาศอย่างหนึ่งเพราะเป็นต้นกำเนิดของก๊าซคาร์บอนมอนอกไซด์ที่ส่งผลกระทบต่อระบบภูมิคุ้มกันของมนุษย์ นำไปสู่การเกิดโรคภูมิแพ้ นาซ่าใช้ดาวเทียมออร่าสังเกตความเชื่อมโยงระหว่างปริมาณก๊าซคาร์บอนมอนอกไซด์และระดับโอโซนใกล้ผิวโลกเป็นครั้งแรก ทำให้เห็นร่องรอยแหล่งกำเนิดและการเคลื่อนที่ของมลพิษรอบโลกได้อย่างชัดเจน ซึ่งเป็นประโยชน์ต่อการสาธารณสุขมาก ออร่าเป็นส่วนหนึ่งของกลุ่มดาวเทียม "เอ-เทรน" ที่รวมดาวเทียมอะคว่าของนาซ่า และดาวเทียมพาราโซลขององค์การอวกาศฝรั่งเศส ที่โคจรเก็บข้อมูลรอบโลก ในปี 2549 นาซ่ามีเป้าหมายจะเพิ่มดาวเทียมคลาวด์แซตและคาลิปโซ่เข้าไปในกลุ่มดาวเทียมเอเทรนด้วย (ข่าวสด พฤหัสบดีที่ 22 ธ.ค. 48 http://www.matichon.co.th/khaosod)





คัดเลือกเด็กไทยไปอังกฤษ ร่วมโครงการทูตวิทยาศาสตร์-ฟรี!

นายประวิช รัตนเพียร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เป็นประธานแถลงข่าวการจัดโครงการทูตเยาวชนวิทยาศาสตร์ ประจำปี 2549 ซึ่งหน่วยงานภาครัฐและเอกชน อาทิ องค์การพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์แห่งชาติ (อพวช.) สมาคมวิทยาศาสตร์แห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ และบริติช เคาน์ซิล ประเทศไทย ร่วมกันจัดขึ้นเพื่อสนับสนุนและส่งเสริมการสร้างเครือข่ายเยาวชนที่มีความสามารถทางวิทยาศาสตร์และการสื่อสารให้พัฒนาก้าวหน้ามากขึ้น ทั้งในระดับประเทศและระดับสากล อีกทั้งเพื่อคัดเลือกตัวแทนเยาวชนไทยไปเข้าร่วมค่ายเยาวชนวิทยาศาสตร์ในงานลอนดอน อินเตอร์เนชั่นแนล ยูธ ซายน์ ฟอรัม ประเทศอังกฤษ โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายในเดือนสิงหาคมปีหน้า เป็นเวลาถึง 2 สัปดาห์ พร้อมกับผู้แทนเยาวชนจากอีกกว่า 60 ประเทศ ที่เข้าร่วมงาน เพื่อเรียนรู้แลกเปลี่ยนประสบการณ์แก่กัน อันเป็นการสร้างเครือข่ายระดับสากลอีกทางหนึ่ง สำหรับปีนี้ โครงการเปิดโอกาสให้กับเยาวชนทั่วประเทศ โดยการคัดเลือกรอบแรกนั้นให้นักศึกษาในระดับปริญญาตรีหรือมีอายุระหว่าง 17-22 ปี รวมทีมจำนวน 3 คน โดยหนึ่งในนั้นต้องศึกษาสาขาที่เกี่ยวข้องกับวิทยาศาสตร์ ส่งใบสมัครและเสนอโครงการ ซึ่งปีนี้เน้นเรื่องการสร้างความตระหนักถึงผลกระทบของภาวะโลกร้อนต่อการเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศโลกไปยังบริติช เคาน์ซิล ประเทศไทย จนถึงวันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2549 นักศึกษาที่สนใจสามารถดูรายละเอียดได้ที่มหาวิทยาลัยต้นสังกัด หรือเว็บไซต์ www.britishcouncil.or.th (ข่าวสด พฤหัสบดีที่ 22 ธ.ค. 48 http://www.matichon.co.th/khaosod)





ดันไทยเป็นฮับอุตฯอิเล็กทรอนิกส์

นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.พาณิชย์ เปิดเผยภายหลังปาฐกถาในงานสัมมนา "สร้างไทยเป็นฐานของอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์และเครื่องใช้ไฟฟ้าในภูมิภาค" ว่า อุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์และเครื่องใช้ไฟฟ้าเป็นอุตสาหกรรมตัวที่ 2 ในการดึงดูดนักลงทุนเข้ามาในไทย หลังจากประสบความสำเร็จในการส่งเสริมลงทุนอุตสาหกรรมยานยนต์มาไทย จนทำให้ไทยก้าวเป็นฐานการผลิตยานยนต์ในเอเชีย โดยตั้งเป้าหมายว่าจะส่งเสริมให้ไทยเป็นศูนย์กลางอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์และเครื่องใช้ไฟฟ้าของภูมิภาคภายใน 3 ปี ต้องเน้นเรื่องวิจัยและพัฒนา (อาร์แอนด์ดี) และขณะนี้หน่วยงานต่างๆ ทั้งกระทรวงการคลัง และบีโอไอเอง ปรับกฎเกณฑ์ระเบียบต่างๆ ให้พร้อมกับการเข้ามาลงทุน อาทิ การลดภาษี ปรับสิทธิประโยชน์การลงทุน ถ้าทุกคนร่วมมือกันอย่างนี้จะทำให้มูลค่าการลงทุนของไทยเพิ่มขึ้นสูงถึง 1 แสนล้านล้านบาท/ปี จากปัจจุบันอยู่ที่ 7 แสนล้านบาท ทั้งนี้ ในช่วงเดือนม.ค.49 จะเชิญผู้บริหารของบริษัทผู้นำในเทคโนโลยีของโลกมาหารือว่าต้องการให้รัฐบาลช่วยเหลืออะไรบ้าง เพื่อที่จะให้เขาเข้ามาลงทุนในไทย (ข่าวสด ศุกร์ที่ 23 ธ.ค. 48 http://www.matichon.co.th/khaosod)





ข่าววิจัย/พัฒนา


วิจัยคุณภาพน้ำนม ผ่านพาสเจอไรส์ได้ประโยชน์มากกว่า

ภาควิชาสัตวแพทย์สาธารณสุข คณะสัตวแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น อ.เมือง จ.ขอนแก่น ได้ทำการศึกษาอาหารเสริมนมพร้อมดื่ม “วิจัยคุณภาพน้ำนมแพะ และน้ำนมโค” นายวสันต์ จันทรสนิท หนึ่งในทีมวิจัย เปิดเผยว่า “การศึกษาวิจัยนี้ เพื่อวิเคราะห์คุณภาพน้ำนม ได้แก่ องค์ประกอบ จำนวนแบคทีเรียรวม จำนวนโคลิฟอร์ม รวมทั้งใช้ข้อมูลที่ได้เป็นแนวทางในการแก้ไขปัญหาคุณภาพน้ำนมดิบ และมีผลิตภัณฑ์น้ำนมให้มีคุณภาพ ซึ่งจะส่งผลดีต่อสุขภาพและความปลอดภัยของผู้บริโภค” ข้อมูลที่ใช้ในการวิจัย ได้นำนมแพะดิบ และน้ำนมแพะพาสเจอไรส์ ชนิดละ 40 ตัวอย่าง จากฟาร์มแห่งหนึ่ง ใน อ.บ้านฝาง จ.ขอนแก่น น้ำนมโคดิบจากฟาร์มโคนม ภาควิชาสัตวศาสตร์ คณะเกษตรศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น 40 ตัวอย่าง และน้ำนมโคพาสเจอไรส์ชนิดจืดจากบริษัทเอกชนใน จ.ขอนแก่น จำนวน 40 ตัวอย่าง ขั้นตอน จะทำการตรวจสอบคุณภาพน้ำนม กล่าวคือ จำนวนแบคทีเรียรวม (total bacteria counts, TBC) ที่ 37 ํC และ 55 ํC จำนวนโคลิฟอร์ม สารต้านจุลชีพตกค้าง และองค์ประกอบของน้ำนม วิเคราะห์จากแบบบันทึกข้อมูล โดยคำนวณหาค่าเฉลี่ย และวิเคราะห์คุณภาพ ทางจุลชีววิทยาทางเคมีของน้ำนม และสารต้านจุลชีพตกค้าง โดยนำค่าที่ได้มาวิเคราะห์ทางสถิติด้วยวิธี ANOVA และ t-test ด้วยค่าความเชื่อมั่น 95 เปอร์เซ็นต์ จากโปรแกรมสำเร็จรูป SAS (Statistical analysis system) ผลการวิเคราะห์ตัวอย่างน้ำนมแพะดิบ นมแพะพาสเจอร์ไรส์ นมโคดิบและนมโคพาสเจอร์ไรส์ พบว่าน้ำนมแพะดิบ มีแบคทีเรียรวมเกินมาตรฐานคือ 4.6X10 cfu/ml. และนมแพะพาสเจอไรส์ พบเชื้อแบคทีเรีย รวมเกินเกณฑ์กำหนด คือ 2.1X10 cfu/ml. น้ำนมโคดิบ และ นมโคพาสเจอไรส์ พบแบคทีเรียรวมอยู่ในเกณฑ์ 4.2X10 cfu/ml. และ 3.1X10 cfu/ml. ตามลำดับ นมโคพาสเจอไรส์ จะมีระดับเปอร์เซ็นต์โปรตีนต่ำกว่า นมแพะดิบและนมแพะพาสเจอไรส์ อย่างมีนัยสำคัญ (p<0.05) ส่วนระดับเปอร์เซ็นต์น้ำตาลแลกโตส พบว่า “น้ำนมแพะพาสเจอไรส์” มีระดับสูงกว่าน้ำนมชนิดอื่นอย่างมีนัยสำคัญ (p<0.05) สำหรับเปอร์เซ็นต์ธาตุน้ำนมทั้งหมด พบว่านมแพะพาสเจอไรส์มีระดับสูงกว่านมโคพาสเจอไรส์อย่างมีนัยสำคัญ (p<0.5) ส่วนผลการทดสอบ เอนไซม์เปอร์ออกซิเดส พบว่าตัวอย่างน้ำนมทุกตัวอย่าง ไม่เกิดสีขึ้นภายใน 30 วินาที แสดงว่าเป็นน้ำนม ที่ผ่านกระบวนการแปรรูป ด้วยความร้อนสูงอย่างเพียงพอ ส่วนผลการตรวจ สารต้านจุลชีพตกค้างพบว่า เฉพาะในน้ำนมโคพาสเจอไรส์ คือให้ผลบวก 1/40 ตัวอย่าง (2.5 เปอร์เซ็นต์) และให้ผลสงสัย 1/40 ตัวอย่าง (2.5 เปอร์เซ็นต์) ตามลำดับ จากผลการศึกษาในครั้งนี้สามารถกล่าวได้ว่า ขบวนการผลิตน้ำนมด้วยระบบพาสเจอไรส์ จะช่วยทำให้นมมีคุณภาพและประโยชน์ต่อร่างกาย มากกว่านมที่ไม่ได้ผ่านขบวนการพาสเจอไรส์ (ไทยรัฐ จันทร์ที่ 19 ธ.ค. 48 http://www.thairath.co.th)





ฝึกใช้สมองกดความเจ็บปวดได้ คลายความทรมานให้ผู้ป่วยเรื้อรัง

นักวิจัยของมหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ด เปิดเผยในวารสารทางวิชาการของ “สมาคมวิทยาศาสตร์” แห่งสหรัฐฯว่า ยังไม่ทราบเหมือนกันว่าสมองไปทำอย่างไรให้ความเจ็บปวดบรรเทาลงได้ และไม่รู้ว่ามันจะได้ผลอยู่นานสักเท่าใด แต่ ดร.วอน แมคคีย์ หัวหน้าคณะวิจัย กล่าวว่า “ผลการศึกษาได้ สร้างความหวังให้กับผู้ป่วยเรื้อรังเป็นอันมาก มันอาจทำให้ชีวิตคนเปลี่ยนแปลงไปได้” เฉพาะในอเมริกาเองมีผู้ป่วยเรื้อรังอยู่นับสิบๆ ล้านราย และเป็นสาเหตุใหญ่ของการลาป่วยขาดงานอีกด้วย ผู้เชี่ยวชาญ ดร.เบฟเวอรี่ คอลเลตต์ นายกสมาคมแพทย์โรคปวดแห่งอังกฤษ กล่าวแสดงความเห็นว่า ผลการศึกษาวิจัยหนนี้ สอดคล้องกับการศึกษาอันอื่น ซึ่งส่อให้เห็นว่าหากทำให้ผู้ป่วยเปลี่ยนแปลงความคิดเห็นได้ ก็จะช่วยลดความเจ็บปวดลงได้ เรื่องนี้สนับสนุนวิธีการรักษาความเจ็บปวดที่เราทำกันอยู่ด้วยการบำบัดด้วยการรู้ ให้คนไข้เปลี่ยนความคิด ในเรื่องความเจ็บปวดไปเสีย นักวิจัยได้ให้ผู้ป่วยเรื้อรังเข้ารับการฝึกควบคุมความรู้สึกนึกคิด ชั่วไม่กี่ครั้ง ส่วนใหญ่จะสามารถกดความรู้สึกเจ็บปวดให้ลดน้อยลงได้ถึงประมาณครึ่งหนึ่ง อย่างไรก็ตาม คณะนักวิจัยได้เตือนไว้ก่อนว่า วิธีรักษานี้ไม่ได้ผลกับทุกรายไปหมด “หมายความว่าเรายังจะต้องทำงานต่อไปอีกมาก กว่าที่มันจะได้รับการยอมรับว่าเป็นเครื่องมือในการบำบัดรักษาอย่างหนึ่ง”. (ไทยรัฐ จันทร์ที่ 19 ธ.ค. 48 http://www.thairath.co.th)





ปลาช่วยพยุงสมองผู้สูงอายุ สติปัญญาหนุ่มสาวขึ้น 3-4 ปี

ชักชวนผู้สูงอายุให้หมั่นกินปลาเป็นอาหาร ถ้ากินสัปดาห์ละ 1 มื้อ จะช่วยให้สติปัญญาดีขึ้น ไม่แพ้หนุ่มสาวที่วัยอ่อนกว่ากัน 3 ปี และหากกินได้มากถึงอาทิตย์ละ 2 มื้อ สติปัญญาจะดีเท่ากับผู้ที่อ่อนกว่าถึง 4 ปี หัวหน้าคณะผู้ศึกษา ดร.มาร์ธา แคลร์ มอร์ส แห่งศูนย์การแพทย์ มหาวิทยาลัยรัช ที่นครชิคาโก อธิบายว่า อาหารทะเลมีกรดโอเมกา-3 อยู่อย่างอุดม โดยเฉพาะกรดโดโคซาเฮกแซนออิก กรดประเภทนี้อย่างหนึ่ง เป็นสิ่งจำเป็นกับการเจริญเติบโตของสมองในระยะต้นของชีวิต การศึกษาวิจัยเมื่อเร็วๆนี้ยังส่อว่ามันอาจจะมีความสำคัญ กับผู้คนทางอีกปลายหนึ่งของช่วงอายุด้วย ดูเหมือนว่ามันสำคัญกับผู้สูงอายุด้วย หรืออาจจะกับคนทั่วไปในการทำงานของสมอง ดร.มาร์ธากับคณะได้ศึกษากับผู้สูงอายุที่มีอายุเกิน 65 ปีขึ้น 3,718 คน เป็นเวลานาน 6 ปี ได้พบว่า ผู้สูงอายุที่กินปลาอาทิตย์อย่างน้อย 1 มื้อ จะมีสติปัญญาเสื่อมน้อยลงไป 10% มามีสติปัญญาเท่ากับผู้ที่มีอายุอ่อนกว่า 3 ปี และถ้ากินมากอาทิตย์ละ 2 มื้อ จะเสื่อมช้าลงเป็น 13% เทียบเท่ากับคนที่อายุอ่อนกว่ากัน 4 ปี การศึกษายังส่อด้วยว่า การกินปลาจะช่วยป้องกันสมองจากฤทธิ์ของกรดไขมัน หรืออาหารที่ไขมันชนิดอิ่มตัวอย่างพวกเนื้อสัตว์. (ไทยรัฐ จันทร์ที่ 19 ธ.ค. 48 http://www.thairath.co.th)





ชิพตรวจกรรมพันธุ์ก่อนสั่งยา ช่วยแพทย์จ่ายยาเหมาะสมกับระบบร่างกายผู้ป่วย

ศ.เคลาส์ ลินด์เพนท์เนอร์ ประธานบริหารศูนย์ Roche Genetics และ Roche center for Medical Genomics บริษัท เอฟ ฮอฟแมนน์-ลา โรช จำกัด เปิดเผยว่า บริษัทได้พัฒนาชุดตรวจดีเอ็นเอสำหรับช่วยแพทย์วินิจฉัยและสั่งยาให้เหมาะสมกับผู้ป่วยแต่ละราย และช่วยให้การรักษามีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยชุดตรวจดังกล่าวจะสามารถระบุหาความแตกต่างระดับการเผาผลาญยาในร่างกาย โดยออกแบบให้ครอบคลุมยาที่ผู้ป่วยได้รับการสั่งจ่ายจากแพทย์ให้มากที่สุด ภายในชิพนั้นได้บรรจุรหัสพันธุกรรมเอาไว้ถึง 3 หมื่นชนิด ซึ่งถือว่ามากพอสำหรับการวิเคราะห์ดีเอ็นเอ ทั้งในคนไทยและชาวตะวันตก สามารถวิเคราะห์ยีนจากเอนไซม์ 2 ชนิด ซึ่งความแตกต่างของยีนดังกล่าวเป็นผลให้ผู้ป่วยแต่ละรายมีระดับการเผาผลาญยาที่อาศัยเอนไซม์ทั้ง 2 ชนิด ในระดับที่ผิดปกติ หรือแตกต่างกัน อาทิ ยาแก้โรคซึมเศร้า อาการทางจิต ยาแก้ปวด ยาแก้โรคลมชัก ยาแก้โรคจุกเสียดและแผลในกระเพาะอาหาร รวมทั้งมาลาเรีย เป็นต้น ด้าน รศ.วิจิตรา ทัศนียากุล ภาควิชาเภสัชวิทยา คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น กล่าวว่า การใช้ชุดตรวจดังกล่าว ต้องอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์และใช้สำหรับบางกรณีเท่านั้น โดยเฉพาะในผู้ป่วยที่ไม่สามารถรักษาหายได้โดยไม่ทราบสาเหตุ หรือกรณีที่ให้ยาเกินขนาดจนเกือบเป็นอันตรายต่อชีวิต เป็นต้น การให้ยาแก่คนไข้จะได้ผลหรือไม่ ขึ้นอยู่กับการดูดซึมยาในกระเพาะอาหารและการกินยาอื่นร่วมด้วย โดยมีโปรตีนไซโตโครม พี 450 เป็นตัวช่วยเผาผลาญยา หากมีสภาพผิดปกติจะทำให้ระดับการเผาผลาญยาเปลี่ยนไป ดังนั้น ต้องอาศัยความรู้ทางด้านเภสัชพันธุศาสตร์มาช่วยวิเคราะห์สาเหตุและแก้ปัญหานี้ (คมชัดลึก จันทร์ที่ 19 ธ.ค. 48 http://www.komchadluek.net)





ที่นอนใยสังเคราะห์ตัวเก็บไรฝุ่น

แพทย์ออสเตรเลียแนะให้ใช้เครื่องนอนจากใยธรรมชาติ และหลีกเลี่ยงเครื่องนอนที่มีส่วนประกอบจากวัสดุสังเคราะห์ เพื่อลดโอกาสเสี่ยงที่ทารกจะกลายเป็นโรคหอบหืด ดร.เลจ เอฟ ทรีวิเลียน นักวิจัยจากมหาวิทยาลัยแห่งชาติออสเตรเลีย ได้ทำการศึกษาข้อมูลจากเด็กจำนวน 883 คน โดยดูจากข้อมูลสุขภาพสมัยที่ยังเป็นเด็กเล็ก เมื่อปี 2541 เพื่อศึกษาสาเหตุของอาการหืดหอบ งานวิจัยดังกล่าวเริ่มจากศึกษาข้อมูลงานวิจัยก่อนหน้านี้ แต่ได้เน้นความเสี่ยงที่เด็กจะสัมผัสกับตัวไรฝุ่นในบ้านจากเครื่องนอน และพบว่าบ้านที่มีไรฝุ่นน้อยที่สุด เป็นบ้านที่ใช้เครื่องนอนจากวัสดุธรรมชาติ ไม่ใช้วัสดุสังเคราะห์ หรือหนังแกะผสม ส่วนเครื่องนอนที่ใช้วัสดุที่ทำจากหนังแกะ หรือวัสดุสังเคราะห์อย่างใดอย่างหนึ่ง ทีมงานพบว่า มีตัวไรฝุ่นอยู่ในเครื่องนอนที่มีวัสดุสังเคราะห์เป็นองค์ประกอบ ตั้งแต่ 1-2 ชนิดขึ้นไปมากที่สุด ทั้งชนิดที่มีหนังแกะและไม่มีหนักแกะเป็นส่วนประกอบร่วม จากการสำรวจ เด็กทารกประมาณร้อยละ 64 ใช้ที่นอนที่ทำจากใยสังเคราะห์ชนิดเดียว มีทารกเพียงร้อยละ 27 เท่านั้นที่ใช้เครื่องนอนจากใยธรรมชาติ ส่วนที่เหลือใช้เครื่องนอนที่เป็นวัสดุผสม โดยเด็กอายุ 7 ขวบ ที่ใช้เครื่องนอนทำจากวัสดุผสมระหว่างใยสังเคราะห์กับใยธรรมชาติ มีแนวโน้มที่จะเกิดอาการจามในตอนกลางคืนมากกว่าเด็กที่ใช้เครื่องนอนจากวัสดุธรรมชาติ การค้นพบดังกล่าวช่วยตอกย้ำให้เห็นถึงบทบาทสำคัญเกี่ยวกับสภาพแวดล้อมบริเวณที่นอนของทารก ที่อาจส่งผลให้เกิดอาการหอบหืดได้ และยังแนะให้หน่วยงานทางด้านสาธารณสุข รณรงค์เพื่อให้พ่อแม่เข้าใจถึงสภาพแวดล้อมที่ส่งผลต่อทารก (คมชัดลึก จันทร์ที่ 19 ธ.ค. 48 http://www.komchadluek.net)





ผ้าห่มไฮเทคกันน้ำเกาะ แห้งเร็ว-อบอุ่น-ต้านเชื้อโรค

บริษัทโพลิเมอร์กรุ๊ป รัฐเซาธ์คาโรไลนา สหรัฐอเมริกา คิดค้นผ้าห่มชนิดพิเศษ ซึ่งไม่ได้ถักหรือทอขึ้นมา แต่เป็นเนื้อเดียวกันทั้งผืน มีคุณสมบัติแห้งเร็ว น้ำไม่เกาะ และอุ่นกว่าผ้าห่มที่ทอจากฝ้ายหรือผ้าห่มขนสัตว์ เบื้องต้นตั้งใจผลิตเพื่อส่งไปให้ผู้ประสบภัยพิบัติต่างๆ รวมถึงผู้ประสบภัยคลื่นยักษ์สึนามิในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ คลิฟฟ์ บริดจ์ โฆษกโพลิเมอร์กรุ๊ป กล่าวว่า ผ้าห่มดังกล่าวมีชื่อรุ่นว่า "ทั้งวัน, ทุกวัน" (All Day, Every Day Blankets) ด้านในของผ้าห่มจะมีความอ่อนนุ่มทำให้ห่มแล้วรู้สึกสบายตัว ส่วนด้านนอกเคลือบสารป้องกันไม่ให้น้ำ ความชื้น และฝุ่นเกาะตัวผ้าห่ม ลักษณะเด่นของผ้าห่มชนิดนี้ คือ เมื่อน้ำเกาะเนื้อผ้าห่มได้ยาก ช่วยให้ผ้าห่มแห้งเร็ว สะอาด และไม่กลายเป็นแหล่งเพาะพันธุ์เชื้อแบคทีเรียและเชื้อรา นอกจากนั้น ตัวผ้าห่มยังมีน้ำหนักเบาและบาง ทำให้ขนส่งได้ครั้งละมากๆ ในคราวเดียวกัน แนวคิดผลิตผ้าห่ม "ทั้งวัน, ทุกวัน" เริ่มขึ้นหลังจากองค์กรการกุศลของกลุ่มศาสนาคริสต์ในสหรัฐ "เชิร์ช เวิร์ลด์ เซอร์วิส" ติดต่อขอให้โพลิเมอร์กรุ๊ปผลิตผ้าห่มเพื่อให้ทีมแพทย์นำไปแจกจ่ายแก่ผู้ประสบภัยพิบัติในพื้นที่แถบร้อนชื้นเมื่อหลายเดือนก่อน ล่าสุดโพลิเมอร์กรุ๊ปกำลังคิดค้นผ้าห่มใหม่อีกรุ่นหนึ่ง ซึ่งเคลือบด้วย "อะลูมินั่ม" บางๆ ที่ผิวด้านนอก เพื่อใช้สะท้อนรังสีอัลตราไวโอเลตจากแสงอาทิตย์เพื่อช่วยให้ผู้ประสบภัยในประเทศเขตร้อนไม่ร้อนจนเกินไปยามที่ต้องอาศัยอยู่ในที่พักชั่วคราว (ข่าวสด จันทร์ที่ 19 ธ.ค. 48 http://www.matichon.co.th/khaosod)





สารผลิตน้ำตาลเทียม ตัวการก่อโรค"มะเร็ง"

โรเจอร์ วิลเลียม สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรอังกฤษ สังกัดพรรคลิเบอร์รัล เดโมแครต ในฐานะคณะกรรมการอาหารและสิ่งแวดล้อมของรัฐสภา เคลื่อนไหวให้รัฐบาลออกกฎห้ามจำหน่ายผลิตภัณณ์อาหารที่มีส่วนผสมของน้ำตาลเทียมประเภท "แอสปาร์เทม" (Aspartame) เพราะมีผลวิจัยชี้ว่าสารแอสปาร์เทมก่อให้เกิดโรคมะเร็ง วิลเลียมกล่าวว่า สารให้ความหวานเทียมแอสปาร์เทมถูกใช้เป็นส่วนผสมของอาหาร เครื่องดื่ม และยา ประมาณ 6,000 ชนิด ล่าสุดผลวิจัยจากประเทศอิตาลีพบว่าหนูทดลองที่ได้รับแอสปาร์เทมกลายเป็นมะเร็ง ดังนั้น ตนจึงต้องการให้รัฐบาลออกกฎหมายห้ามอาหารและเครื่องดื่มที่วางจำหนายในอังกฤษใช้ส่วนผสมของแอสปาร์เทม เนื่องจากอาจก่อให้เกิดอันตรายต่อสุขภาพของประชาชน แคโรไลน์ ฟลินต์ รัฐมนตรีสาธารณสุข โต้ว่า ผลการวิจัยของคณะผู้เชี่ยวชาญอิสระของอังกฤษในปี 2544 พบว่า แอสปาร์เทมปลอดภัยต่อสุขภาพ และไม่ได้เป็นสาเหตุของมะเร็ง ทั้งยังช่วยควบคุมโรคอ้วนได้ด้วย (ข่าวสด จันทร์ที่ 19 ธ.ค. 48 http://www.matichon.co.th/khaosod)





ร่นเวลาผลิตไบโอดีเซลลาดกระบังพัฒนาจาก 2 ชม.เหลือ 2 นาที

รศ.ดร.ประกอบ กิจไชยา ภาควิชาวิศวกรรมเคมี คณะวิศวกรรมศาสตร์ สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง (สจล.) เปิดเผยว่า ทีมงานร่วมกันพัฒนา "เครื่องผลิตน้ำมันไบโอดีเซลแบบต่อเนื่อง" ซึ่งประสิทธิภาพดีกว่าเครื่องผลิตไบโอดีเซลที่ใช้กันทั่วไปที่เป็นแบบกะ ทั้งกำลังการผลิตสูงกว่า ใช้แรงงานน้อย และระยะเวลาสั้นกว่ามาก โดยสามารถร่นเวลาผลิตเหลือ 2 นาที จากปกติ 2 ชั่วโมง ต้นแบบเครื่องผลิตไบโอดีเซลแบบต่อเนื่องนี้ ใช้เวลาพัฒนาร่วม 6 ปี โดยได้รับทุนจากสำนักงานกองทุนสนับสนุนการวิจัย (สกว.) โดยเครื่องต้นแบบมีกำลังการผลิต 100 ลิตรต่อชั่วโมง แต่สามารถขยายกำลังการผลิตได้ด้วยการเพิ่มขนาดของปั๊ม ซึ่งแตกต่างจากเครื่องผลิตไบโอดีเซลทั่วไป หากจะเพิ่มกำลังการผลิตจะต้องเพิ่มขนาดถังกวนออกไปเรื่อยๆ ทำให้สิ้นเปลืองพื้นที่และงบประมาณ นอกจากนี้ ระบบผลิตแบบต่อเนื่องยังสามารถผลิตน้ำมันได้ตลอด 24 ชั่วโมง เพียงแค่ป้อนน้ำมันพืช เมทานอล และระวังไม่ให้ไฟดับ ก็สามารถทำงานได้โดยไม่สะดุด สำหรับต้นทุนของน้ำมันไบโอดีเซลที่ได้นั้น จะถูกกว่าน้ำมันดีเซลทั่วไป 3-4 บาท ขึ้นอยู่กับราคาพืชน้ำมันที่นำมาใช้เป็นวัตถุดิบด้วย ในการวิจัยต่อยอดนั้น ทีมงานได้พัฒนาท่อบรรจุที่ช่วยให้น้ำมันพืชและเมทานอลผสมเข้ากันได้ดีขึ้น ซึ่งถือเป็นหัวใจของการผลิตไบโอดีเซล โดยภายในท่อผสมจะทำให้เกิดการไหลแบบอลวน ซึ่งช่วยให้เกิดปฏิกิริยาการผสมของสารตั้งต้นได้ดีขึ้น ส่วนความร้อนที่ใช้ทำปฏิกิริยาอยู่ที่ระดับ 60 องศาเซลเซียส และใช้เวลาเพียง 2 นาที ก็สามารถผลิตไบโอดีเซลได้มากถึง 98% (คมชัดลึก อังคารที่ 20 ธ.ค. 48 http://www.komchadluek.net)





"สกลนคร"จัดเวิร์กช็อปเทคนิคย้อมสีคราม สวทช.ให้งบ-เน้นเป้าหมาย 5 กลุ่มพัฒนา"โอท็อป"

นายปัญญา มหาชัย อธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฏสกลนคร เปิดเผยว่า เมื่อเร็วๆ นี้ คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยราชภัฏสกลนคร จัดสัมมนาเทคนิคการเตรียมสีครามและย้อมสีครามขึ้น ซึ่งเป็นกิจกรรมหนึ่งในงานวิจัยเรื่อง "การสัมมนาเทคนิคการเตรียมสีครามและย้อมคราม" ดำเนินการโดยความร่วมมือระหว่างอาจารย์คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏสกลนคร กับผู้เชี่ยวชาญในท้องถิ่น ด้วยทุนสนับสนุนจากสำนักพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) โดยกำหนดพื้นที่เป้าหมาย 5 กลุ่ม ได้แก่ กลุ่มแม่บ้านนาสิงห์ อ.ศรีวิไล จ.หนองคาย กลุ่มบ้านนาหว้า และกลุ่มบ้านนางัว อ.นาหว้า จ.นครพนม กลุ่มบ้านนาดี อ.พรรณานิคม จ.สกลนคร และกลุ่มบ้านกุดตาใกล้ อ.นาคู จ.กาฬสินธุ์ "แต่ละกลุ่มได้แลกเปลี่ยนประสบการณ์ การทำผ้าย้อมสีครามกับทีมงานวิจัย และฝึกปฏิบัติประมาณ 9 เดือน จนกระทั่งได้ผลิตภัณฑ์มาจัดแสดงแลกเปลี่ยนกัน เพื่อการพัฒนาคุณภาพให้ตรงกับความต้องการของตลาดสากล การสัมมนาครั้งนี้ เชิญผู้เชี่ยวชาญ ได้แก่ ผศ.วิชัย ไลละวิทย์มงคล จากคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กับท่านทรงบัณฑิต ยศมั่นคง จากแขวงสะหวันเขต สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว มาเป็นวิทยากรให้ความรู้แก่ผู้เข้าร่วมสัมมนาอันจะนำไปสู่การพัฒนาสีครามและการย้อมครามที่มีคุณภาพ (ข่างสด อังคารที่ 20 ธ.ค. 48 http://www.matichon.co.th/khaosod)





ปลุกผีช้างดึกดำบรรพ์ขนปุย พี่น้องใกล้ชิดช้างเอเชีย

นักวิจัยเยอรมันได้รายงานในวารสารวิทยาศาสตร์ของอังกฤษ ชื่อ “ธรรมชาติ” ว่า ได้คิดเทคนิคขึ้นมาใช้ เพียรดูดเอาดีเอ็นเอออกจากกระดูกช้างดึกดำบรรพ์ ที่ขุดพบในทุ่งน้ำแข็งของดินแดนไซบีเรีย ได้ 200 มิลลิกรัมนำเอามาจัดลำดับเรียงขึ้นใหม่ เพื่อให้เห็นภาพของไมโทชอนเดรีย อัน เป็นองค์ประกอบของเซลล์รูปร่างคล้ายเม็ดถั่ว ซึ่งเป็นแหล่งผลิตพลังงานให้กับเซลล์ องค์ประกอบนี้จะไม่ค่อยเปลี่ยนแปลงไปมากนัก ไม่ว่าเวลาจะ ผ่านพ้นมากี่รุ่นต่อกี่รุ่นก็ตาม ด้วยเหตุนั้น มันจึงเท่ากับเป็นนาฬิกาโมเลกุลใช้หมุนย้อนกลับเวลา ให้เห็นว่ามันวิวัฒนาการมาอย่างไรได้ เมื่อนำมาเทียบกับของสัตว์ยุคปัจจุบัน ทำให้ นักวิทยาศาสตร์สังเกตพบว่า มันได้แยกแตกแขนงจากบรรพบุรุษไปเมื่อใด และก็ได้รู้ในที่สุดว่า ช้างเอเชียนับว่าเป็นพี่น้องใกล้ชิดกับช้างดึกดำบรรพ์ มากที่สุด มากยิ่งกว่าช้างแอฟริกา เพราะคำนวณได้ว่าช้างแอฟริกาได้ริแตกแขนงไปก่อนเมื่อ 6 ล้านปีที่แล้ว ในขณะที่ช้างเอเชียเพิ่งจะเอาอย่างเมื่อ 440,000 ปีต่อมานี่เอง ช้างดึกดำบรรพ์ขนปุกปุยเคยตระเวนอยู่ ทั่วไป ในดินแดนทางเหนือของยุโรปและเอเชีย รวมทั้งอเมริกาเหนือ แต่เมื่อเข้าสู่ปลายยุคน้ำแข็งยุคสุดท้ายเมื่อ 11,000 ปีมาแล้ว ก็ไม่ได้พบมันอีกเลย. (ไทยรัฐ พุธที่ 21 ธ.ค. 48 http://www.thairath.co.th)





แมงมุมยนต์นักสร้างในสภาพไร้น้ำหนัก

โครงการโดยความร่วมมือของ Japanese Aerospace Exploration Agency และ European Space Agency ก็เป็นอีกโครงการหนึ่งที่น่าสนใจ เพราะว่าเป็นโครงการที่มีเป้าหมายในการส่งหุ่นยนต์ “แมงมุม” แต่ที่เรียกว่าหุ่นยนต์แมงมุมก็เนื่องมาจากลักษณะการเคลื่อนที่ของมันที่สามารถไต่ไปบนโครงสร้างตาข่ายที่มีลักษณะเหมือนกับใยแมงมุมนั่นเอง การทดลองเพื่อทดสอบความเป็นไปได้เบื้องต้นของโครงการนี้จะมีขึ้นในเดือนมกราคม โดยความรับผิดชอบของ Japanese Exploration Agency ที่จะส่งดาวเทียมชื่อ Furoshiki ขึ้นไปทำการทดลองในอวกาศที่ความสูงระดับต่ำกว่าวงโคจร ซึ่งหมายถึงว่านักวิจัยมีเวลาประมาณ 10 นาทีสำหรับการใช้ในการทดลองก่อนที่ดาวเทียมจะถูกดึงดูดโดยแรงโน้มถ่วงของโลกให้ตกลงมาและถูกเผาไหม้ไปในที่สุด ดาวเทียมที่ถูกส่งขึ้นไปนี้จะประกอบด้วยดาวเทียมดวงเล็ก ๆ อีก 3 ดวงที่จะทำหน้าที่ในการขึงตาข่ายที่ทำจากวัสดุชนิดพิเศษให้กางออกในสภาพไร้น้ำหนัก ซึ่งนักวิจัยจะสังเกตการณ์ถึงความเป็นไปได้ว่ารูปทรงดังกล่าวจะคงตัวในสภาพไร้น้ำหนักได้ดีเพียงไร และมีความเสถียรพอที่จะปล่อยหุ่นยนต์แมงมุมให้ไต่ไปตามโครงร่างตาข่ายดังกล่าวได้หรือไม่ ในส่วนของหุ่นยนต์ที่จะส่งขึ้นไปทำการทดลองในครั้งนี้ด้วยนั้นมีชื่อว่า Roby Space Junior 1 และ 2 ซึ่งอยู่ในความรับผิดชอบของ European Space Agency ซึ่งเป็นหุ่นยนต์ขนาดเล็กที่มีชุดล้อพิเศษที่สามารถเคลื่อนที่ไปบนโครงร่างตาข่ายได้โดยที่ไม่หลุดลอยออกไปในอวกาศเสียก่อน เป้าหมายระยะไกลที่นักวิจัยวางไว้ก็คือการใช้เจ้าหุ่นยนต์ขนาดเล็กเหมือนกับRoby Space Junior ขึ้นไปในอวกาศเพื่อประกอบชิ้นส่วนแผงโซลาร์เซลล์บโครงร่างตาข่ายที่กล่าวถึงข้างต้น โดยโซลาร์เซลล์จะเปลี่ยนพลังงานจากแสงอาทิตย์ให้เป็นกระแสไฟฟ้าสำหรับการใช้งานในยานอวกาศหรือสถานีอวกาศนั่นเอง การประกอบแผงโซลาร์เซลล์ด้วยวิธีนั้นจะช่วยประหยัดงบประมาณเมื่อเทียบกับการบรรทุกแผง โซลาร์เซลล์ขนาดใหญ่ขึ้นไปในอวกาศ รวมทั้งทำให้การสำรวจอวกาศในระยะทางไกล ๆ หรือภารกิจที่ต้องใช้เวลาอยู่ในอวกาศนาน ๆ เป็นต้น นอกจากนั้นแล้วนักวิจัยยังมองถึงความเป็นไปได้ในการประกอบอุปกรณ์รับแสงอาทิตย์แล้วทำการรวมแสงอาทิตย์ให้มีความเข้มสูงก่อนที่จะส่งกลับมายังสถานีรับบนโลกเพื่อใช้ในการผลิตพลังงานจากแสงอาทิตย์ หรือไม่ก็ส่งกลับมายังโลกในรูปแบบของคลื่นไมโครเวฟก่อนที่จะนำมาเปลี่ยนเป็นพลังงานไฟฟ้าต่อไป (เดลินิวส์ พุธที่ 21 ธ.ค. 48 http://www.dailynews.co.th)





หุ่นยนต์อาสิโมรุ่นใหม่วิ่ง

สำนักข่าวรอยเตอร์ รายงานว่า นายทาคิโอะ ฟุคุอิ ประธานบริษัทฮอนด้ามอเตอร์จัดงานแถลงข่าวเปิดตัว “อาสิโม (Asimo)” หุ่นยนต์เลียนแบบมนุษย์รุ่นใหม่ล่าสุด ที่สำนักงานใหญ่ในกรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น โดยจุดเด่นของอาสิโมเวอร์ชั่นใหม่คือ ความสามารถในการเคลื่อนที่ด้วยความเร็วสูงสุด 6 กิโลเมตรต่อชั่วโมง จากเดิม 1.6 กิโลเมตรต่อชั่วโมง และสามารถเดินเป็นวงรอบเส้นทางที่กำหนดได้ รวมถึงการผลักรถเข็นเครื่องดื่มตามเส้นทางที่เดินไปได้ ทั้งนี้ อาสิโมเวอร์ชั่นใหม่มีความสูงเพิ่มขึ้นจาก 1.2 เมตร เป็น 1.3 เมตร น้ำหนักเพิ่มเป็น 54 กิโลกรัม จากเดิม 52 กิโลกรัม ยังคงความสามารถในการติดต่อสื่อสารกับมนุษย์ได้ดี ที่สำคัญอาสิโมเวอร์ชั่นใหม่สามารถเดินตามเส้นทางที่มนุษย์จูงมือให้เดินตามได้ โดยอนาคต ฮอนด้ามีโครงการเอาอาสิโมมาเป็นพนัก งานต้อนรับเพื่อทำหน้าที่เสิร์ฟน้ำดื่มให้กับแขกภายในสำนักงาน (เดลินิวส์ พุธที่ 21 ธ.ค. 48 http://www.dailynews.co.th)





มรภ.วไลยอลงกรณ์-เยอรมนี ทำวิจัยการปลูกถ่ายอวัยวะคน

ผศ.ดร.มานะ ขาวเมฆ ผู้อำนวยการศูนย์วิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏวไลยอลงกรณ์ ให้สัมภาษณ์ว่า มหาวิทยาลัยได้เซ็นสัญญาร่วมกับบริษัท สยาม ไลฟ์ ซายน์ จำกัด (Siam Life Science) ประเทศเยอรมนี ซึ่งทำวิจัยเกี่ยวกับการปลูกถ่ายชิ้นส่วนของคน การทดสอบทางด้านเภสัชศาสตร์ และสเต็มเซลล์ที่จะนำตับของคนมาศึกษาและวิจัยในการทดสอบทางด้านยารักษาโรคมะเร็งและเอดส์ โดยเป็นศูนย์วิทย์มีเครื่องมือและบุคลากรที่พร้อมจะให้บริการในด้านนี้ รวมถึงความสะดวกของการคมนาคมในการหาและขนส่งวัตถุดิบ การทดสอบ การส่งผลิตผลไปให้ลูกค้าของบริษัท ซึ่งถือเป็นประโยชน์กับทางมหาวิทยาลัยเป็นอย่างมาก เพราะอาจารย์ นักศึกษา บุคลากร จะได้รับการถ่ายทอดเทคโนโลยีใหม่ล่าสุด มหาวิทยาลัยถือว่าเป็นมหาวิทยาลัยแห่งแรกของประเทศไทย ที่ได้ร่วมมือกับบริษัทที่มีการทำด้านสเต็มเซลล์ ที่สมบูรณ์แบบ ความร่วมมือครั้งนี้ จำนำไปสู่การพัฒนาหลักสูตรใหม่ๆ ให้ตรงกับความต้องการของสถานประกอบการ เมื่อนักศึกษาจบการศึกษาไปแล้วจะได้มีคุณภาพและมีงานทำและนำไปพัฒนาชุมชน (คมชัดลึก พุธที่ 21 ธ.ค. 48 http://www.komchadluek.net)





เอ็มไอทีเปิดทางโลกที่3 ค้นงานวิจัยไร้พรมแดน

ห้องปฏิบัติการคอมพิวเตอร์ศาสตร์และปัญญาประดิษฐ์ มหาวิทยาลัยเอ็มไอทีแห่งสหรัฐ ร่วมมือกับ "เอลสเวียร์" ซึ่งเป็นบริษัทพัฒนาเครื่องมือสืบค้น เพื่อจัดหาเทคโนโลยีที่ช่วยให้นักวิทยาศาสตร์ทั่วไปสามารถใช้อินเทอร์เน็ตเพื่อสืบค้นข้อมูลงานวิจัยทางวิทยาศาสตร์ได้ง่ายขึ้น เทคโนโลยีที่ว่านี้มีชื่อว่า "ไทม์ อีคอวลส์ โนเลดจ์" หรือ เท็ค (TEK) ช่วยให้นักวิจัยที่มีทรัพยากรจำกัด เช่น เทคโนโลยีรุ่นเก่า หรือเงินทุนก้อนเล็ก สามารถส่งคำร้องไปยังเครื่องคอมพิวเตอร์กลาง และเครื่องค้นหาข้อมูลออนไลน์ที่ตั้งอยู่ในเมืองบอสตัน จากนั้นระบบเท็คจะทำการค้นเอกสารและบีบอัดข้อมูลส่งกลับไปให้ทางอีเมลของนักวิจัยที่ยื่นเรื่องร้องขอไป โดยเท็คจะใช้เวลาประมาณหนึ่งสัปดาห์ในการค้นหาและส่งกลับข้อมูลตามต้องการ จึงช่วยนักวิจัยทุนน้อยประหยัดค่าใช้จ่ายในการออนไลน์ค้นหา นักวิจัยเชื่อว่า บริการดังกล่าวจะสามารถลดช่องว่างด้านข้อมูลข่าวสาร ระหว่างประเทศที่มีความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีกับประเทศกำลังพัฒนาได้ และช่วยให้ชุมชนวิทยาศาสตร์โลกขยายขึ้น สถาบันเอไอทีและเอลสเวียร์ยังมีแผนที่จะดึงสถาบันอื่น ที่มีความเชี่ยวชาญพิเศษเข้าร่วมโครงการถ่ายทอดความรู้สู่ประเทศกำลังพัฒนาอีกด้วย (คมชัดลึก พุธที่ 21 ธ.ค. 48 http://www.komchadluek.net)





สมชาติ วิทยารุ่งเรืองศรี นักประดิษฐ์รางวัล วช.ป"48

นายสมชาติ วิทยารุ่งเรืองศรี เป็นผู้เชี่ยวชาญด้านหม้อไอน้ำและระบบมากกว่า 30 ปี และยังเป็นผู้ริเริ่มคิดผลิตกระแสไฟฟ้าจากพลังงานใบไม้ใบหญ้า จบการศึกษาปริญญาตรีวิศวกรรมศาสตร์ สาขาเครื่องกล มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ในปี 2516 มีผลงานค้นคว้าวิจัยด้านหม้อไอน้ำมายาวนาน และได้เขียนหนังสือวิชาการชื่อ "หม้อน้ำ" หนา 200 หน้า สำหรับวิศวกร ช่างเทคนิค ช่างปฏิบัติ ใช้เป็นคู่มือในการปฏิบัติงาน, ปี 2539 ประดิษฐ์หม้อไอน้ำสำหรับใช้งานในโรงงานอุตสาหกรรมที่ไม่มีการระเบิดจากการใช้งาน สัมผัสท่อน้ำได้ทุกเส้นท่อ จนได้สิทธิบัตรจากกรมทรัพย์สินทางปัญญา ปี 2548 ได้รับคัดเลือกเป็นนิสิตเก่าดีเด่นของ มก.ในปีนั้นเอง ผลงานสิ่งประดิษฐ์ "หม้อไอน้ำ ชนิดท่อน้ำ" ของเขาได้รับรางวัลผลงานประดิษฐ์คิดค้น ประจำปี 2548 จากสภาวิจัยแห่งชาติ เป็นประธานรุ่นนิสิตเก่าวิศวกรรมศาสตร์ มก. รุ่น 25 และเป็นกรรมการบริหารสมาคมนิสิตเก่าวิศวกรรมศาสตร์ มก.ปี 2547-ปัจจุบัน (มติชนรายวัน พุธที่ 21 ธ.ค. 48 http://www.matichon.co.th)





แอร์แบ็กกันคอกระดูกคอ

เสื้อแจ๊คเก็ตแอร์แบ็ก สำหรับคนขี่มอเตอร์ไซค์ และขี่ม้า จะม้าแข่ง ม้าเพื่อการกีฬา ขี่ม้าเพื่อการออกกำลังกาย ใส่แจ๊คเก็ตติดแอร์แบ็ก ป้องกันกระดูกคอหักหรือเคลื่อนตัวนี้ทันที เพื่อความปลอดภัยให้ตัวเอง เป็นผลงานที่พัฒนาขึ้นโดยบริษัท Airprotek ป้องกันผู้สวมใส่ ที่อาจต้องประสบอุบัติเหตุไม่คาดคิด จากแรงกระแทกพื้นยามกลิ้งหลุนๆ จากตัวรถจักรยานยนต์ หรือตัวม้า ประสิทธิภาพการทำงานของแอร์แบ็กที่อยู่ไว้ตรงคอเสื้อ จะทำงานเหมือนกับแอร์แบ็กที่ติดอยู่บริเวณพวงมาลัยรถนั่นเอง Eiichiro Hemmi ซีอีโอของบริษัท Airprotek International ประกาศว่า เสื้อตัวนี้จะผลิตออกมาจำหน่ายในปี 2006 ซึ่งอีกไม่กี่วันนี้ โดยมีญี่ปุ่น เกาหลีใต้ และเวียดนามเป็นซัพพลายเออร์ให้ เนื่องจากประเทศแถบเอเชีย จำนวนมอเตอร์ไซค์และผู้ขับขี่ กับผู้ซ้อนท้ายมีจำนวนมาก ถือเป็นกลุ่มลูกค้าโดยตรง (มติชนรายวัน พุธที่ 21 ธ.ค. 48 http://www.matichon.co.th)





หุ่นยนต์แมงมุม

องค์การอวกาศยุโรป หรือ อีเอสเอ ร่วมกับองค์การอวกาศญี่ปุ่น หรือ จาซ่า และสถาบันเทคโนโลยีเวียนนา คิดค้นหุ่นยนต์แมงมุมขนาดเล็กเพื่อปฏิบัติภารกิจขนาดย่อมในอวกาศ เรียกว่า ฟูโรชิกิ ประยุกต์ระบบดาวเทียมโทรคมนาคม ระบบนำร่องด้วยเรดาร์เข้าด้วยกัน โดยเมื่อขึ้นไปในอวกาศดาวเทียมแม่จะปล่อยดาวเทียมลูก 3 ดวงออกไปโดยรอบ เพื่อสร้างเครือข่ายคลื่นในลักษณะสามเหลี่ยมด้านเท่ายาว 40 เมตร เหมือนแมงมุมชักใยภายใน 3-5 นาที จากนั้นหุ่นยนต์ขนาดเล็กเท่าฝ่ามือที่เปรียบเหมือนตัวแมงมุมจะเคลื่อนที่ไปตามใยคลื่น ใช้เวลา 3-5 นาทีเพื่อระบุตำแหน่ง ในการทดสอบภาพถ่ายจากกล้องที่ติดตั้งในดาวเทียมทั้ง 4 ดวงจะส่งข้อมูลกลับไปวิเคราะห์ยังโลก การทดสอบจะมีขึ้นในอวกาศในเดือนม.ค.ปีหน้า (ข่าวสด พุธที่ 21 ธ.ค. 48 http://www.matichon.co.th/khaosod)





ควันไอเสียของเครื่องยนต์ดีเซล ถ่วงการไหลเวียนของโลหิตให้ช้า

นักวิจัยยุโรปรายงานผลการศึกษาว่า ควันไอเสียของเครื่องยนต์ดีเซลเข้าขวางกั้น การทำหน้าที่ตามปกติของหลอดเลือดในร่างกาย และกล่าวแจ้งว่า ความสำคัญของผลการศึกษาทำให้ได้รู้ขบวนการแสดงว่ามลพิษทางอากาศ มีส่วนกับการเกิดหลอดเลือดอุดตันและก่อเหตุหัวใจวาย ดร.นิคลาส แอล มิลล์ส แห่งมหาวิทยาลัยเอดินเบอระของอังกฤษ กล่าวว่า แม้ว่าพิษของมลพิษทางอากาศที่ก่อโรคของหลอดเลือดและหัวใจ จะเป็นที่รู้กันดีอยู่แล้ว แต่ยังไม่รู้กันว่าขบวนการเป็นอย่างไร เขากับคณะได้ศึกษากับชายฉกรรจ์อาสาสมัคร จำนวน 30 นาย ด้วยการให้ปั่นจักรยานอยู่กับที่กลางควันไอเสียของเครื่องยนต์ดีเซล เป็นเวลานาน 1 ชม. เป็นเหตุให้ได้สูดดมควันและละอองไอเสียรถเป็นปริมาณมากเท่ากับที่พบกันในอากาศแวด ล้อมในเมือง และนำไปเปรียบเทียบกับร่างกายของผู้ที่หายใจอากาศ ที่ได้รับการกรองให้เป็น ปกติ การหายใจควันไอเสียเครื่องยนต์ดีเซลทำให้ปริมาณการไหลของเลือด ที่วัดตรงท้องแขนลดน้อยลงอย่างผิดสังเกต การไหลเวียนที่ช้าลง อาจเป็นชนวนให้เกิดเลือดจับก้อน ซึ่งอาจเป็นเหตุให้เกิดโรคของหลอดเลือด และหัวใจเฉียบพลันขึ้นได้ (ไทยรัฐ พฤหัสบดีที่ 22 ธ.ค. 48 http://www.thairath.co.th)





ทุ่ม 45 ล้านหนุนวิจัยไทยแก้ปัญหาชาติ

ดร.ประวิช รัตนเพียร รมว. วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (วท.)ได้ เป็นประธานมอบรางวัลทุนส่งเสริมกลุ่มนักวิจัยอาชีพ ประจำปี 2548 ให้แก่นักวิจัย 3 ราย ซึ่งศูนย์พันธุวิศวกรรมและเทคโนโลยีชีวภาพแห่งชาติ (ไบโอเทค) ได้คัดเลือก ได้แก่ 1. ศ.น.พ.สุทัศน์ ฟู่เจริญ มหาวิทยาลัยมหิดล จากโครงการวิจัยเรื่อง “การศึกษายีนที่เกี่ยวข้องกับอาการแสดงออกของโรคธาลัสซีเมีย” ได้รับทุน 18 ล้านบาท 2. ศ.พีระศักดิ์ ศรีนิเวศน์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ จากโครงการวิจัยเรื่อง “เทคโนโลยีชีวภาพเพื่อการพัฒนาพันธุ์ถั่วเขียวไทย” ได้รับทุน 15 ล้านบาท และ 3. ศ.ดร.ยงค์วิมล เลณบุรี มหาวิทยาลัยมหิดล จากโครงการวิจัยเรื่อง “การศึกษาเชิงเทคโนโลยีชีวภาพ เพื่อ พัฒนาบุคลากรและงานวิจัยด้านกระบวนการส่งผ่านสัญญาณระหว่างเซลที่มีชีวิต โดยวิธีการจำลองแบบทางคณิตศาสตร์และการคำนวณ” ได้รับทุน 12 ล้านบาท รวม 45 ล้านบาท ประเทศไทยมีนักวิจัยเก่งๆ อยู่มาก แต่ไม่มีกลไก ที่จะนำนักวิจัยที่มีความสามารถมาทำงานร่วมกัน เพื่อสร้างงานวิจัยที่มีผลกระทบสูงต่อประเทศ สามารถตอบสนองนโยบายของรัฐบาลทั้งในการสร้างองค์ความรู้ ใหม่ๆ การนำองค์ความรู้มาทำให้เกิดประโยชน์สูงสุดในการพัฒนาประเทศ ที่ผ่านมา ไบโอเทคและสำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) ได้ผลิตงานวิจัยใหม่ๆ ออกมารับใช้สังคมได้ เป็นอย่างดี โดยเฉพาะผลงาน 2 ชิ้น ที่นอกจากสร้าง ชื่อสียงให้กับวงการเทคโนโลยีชีวภาพของไทยแล้ว ยังเป็นประโยชน์ในวงกว้างอีกด้วย ทั้งยังช่วยภาครัฐลดการนำเข้าสารเคมีและชุดตรวจจากต่างประเทศด้วย นั่นก็คือการทำหมันสุนัขอย่างมีมนุษยธรรมแบบใหม่ กับ การผลิตชุดตรวจนับเม็ดเลือดขาวสำหรับผู้ติดเชื้อเอชไอวี ดังนั้น วท.จะผลักดันนักวิจัยไทยให้มีการสร้างผลงานอย่างต่อเนื่อง เพื่อยกระดับวงการวิทยาศาสตร์ไทย โครงการวิจัยของปีนี้ จะเป็นประโยชน์มาก โดยเฉพาะเรื่องของโรคธาลัสซีเมีย ที่เป็นโรคกรรมพันธุ์ที่พบบ่อยที่สุดในคนไทยและทั่วโลก เพื่อที่จะนำความรู้ไปประยุกต์ใช้ในการควบคุมและป้องกันโรคได้อย่างมีประสิทธิภาพ ด้าน ศ.ดร.มรกต ตันติเจริญ ผอ.ไบโอเทค กล่าว ว่า ในปี 2548 มีโครงการวิจัยที่เสนอขอรับทุนสนับสนุน จากหลากหลายสถาบัน ทุกโครงการได้ผ่านการพิจารณาอย่างเข็มงวด จนกระทั่งได้ 3 โครงการดังกล่าว. (ไทยรัฐ พฤหัสบดีที่ 22 ธ.ค. 48 http://www.thairath.co.th)





เวชศาสตร์รับสั่งตัดนวัตกรรมชุดตรวจดีเอ็นเอ

ศาสตราจารย์เคลาส์ ลินด์เพนเทอร์ ประธานบริหารศูนย์ Roche Genetics และ Roche Center for Medical Genomics บริษัท เอฟ ฮอฟแมนน์-ลา โรช จำกัด รองศาสตราจารย์ด้านเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยฮาวาร์ด เปิดเผยว่า ทีมวิจัยบริษัท โรช จีเนติกส์ ได้พัฒนาเทคโนโลยีชิป ตรวจดีเอ็นเอ ในชุดตรวจ AmpliChip CYP450 Test ที่สามารถทดสอบปฏิกิริยาระหว่างข้อมูลหน่วยพันธุกรรม (Micro array) ช่วยให้แพทย์วินิจฉัยและสั่งยาที่เหมาะสมให้กับผู้ป่วยแต่ละราย โดยผ่านการวิเคราะห์ผลข้อมูลทางพันธุกรรมของแต่ละคน เพื่อหาวิถีทางในการรักษา ป้องกันโรคที่เหมาะสม และยังลดค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาลได้อีกด้วย ซึ่งการศึกษาถึงระดับหน่วยพันธุกรรมของผู้ป่วยแต่ละรายนี้เรียกว่าเภสัชพันธุศาสตร์หรือ Pharmacogeno mics ทั้งนี้เครื่อง AmpliChip CYP450 Test เป็นชุดตรวจสอบทางเภสัชศาสตร์ ที่ระบุหาความแตกต่างในระดับการเผาผลาญยาที่มักสั่งจ่ายกับผู้ป่วย โดยวิเคราะห์ยีนสองชนิด คือ CYP2D6 และ CYP2C19 (ครอบคลุมตัวยาในคลินิกประมาณ 30-40%) การทดสอบนี้สามารถบอกได้ว่าผู้ป่วยแต่ละรายจะเผาผลาญยาแต่ละชนิดในระดับที่ช้า ปานกลาง หรือเร็วกว่าค่าเฉลี่ย ซึ่งข้อมูลจากการตรวจจะช่วยให้แพทย์สั่งจ่ายยาในประเภทและปริมาณที่เหมาะสมกับผู้ป่วยได้ ซึ่งในการตรวจวัด แพทย์จะเจาะเลือดผู้ป่วยตรวจประมาณ 5 ml. และนำเลือดที่ได้ไปผ่านกระบวนการต่าง ๆ โดยจะนำมาตรวจลักษณะทางพันธุกรรมของยีนทั้งสองชนิด สิ่งที่ตรวจได้ก็จะเป็นรายงาน เพื่อจะบอกแพทย์ว่าผู้ป่วยทำลายยาได้ช้าหรือเร็ว กระบวนการทั้งหมดนี้ใช้เวลาประมาณ 8 ชม. แพทย์ก็จะได้ข้อมูลผู้ป่วยเพื่อวางแผนในการรักษาที่ถูกต้องและเหมาะสม แต่แพทย์จะต้องตรวจเรื่องอายุ การใช้ยาของผู้ป่วย และความเสี่ยงต่อโรคอื่นด้วย ปัจจุบันเทคโนโลยีนี้มีใช้ที่จีน และสิงคโปร์ ซึ่งหากแพทย์ไทยต้องการใช้ชิปดังกล่าวจะต้องส่งเลือดไปตรวจที่สิงคโปร์ เสียค่าใช้จ่ายประมาณ 30,000 บาทต่อครั้ง และในกลางปีหน้านี้ โรชจะนำเครื่องดังกล่าวเข้ามาในประเทศไทย ช่วยลดค่าใช้จ่ายทางการแพทย์และสร้างประสิทธิภาพในการสั่งตัดยาที่เหมาะสมกับผู้ป่วยแต่ละราย (เดลินิวส์ พฤหัสบดีที่ 22 ธ.ค. 48 http://www.dailynews.co.th)





มลพิษทำให้เป็นโรคหัวใจ

ผลการวิจัยของมหาวิทยาลัยนิวยอร์ก ต่อกรณีสภาพอากาศของสหรัฐฯ ล่าสุด ได้พบว่า มลภาวะทางอากาศเป็นหนึ่งในสาเหตุที่ทำให้ประชาชนล้มป่วยด้วยโรคหัวใจ โดย ผศ.ลุง ฉี เฉิน หนึ่งในคณะนักวิจัย เปิดเผยว่า จากการศึกษาวิจัยในหนูทดลองมาเป็นเวลานาน 6 เดือน ปรากฏว่า หนูทดลองกลุ่มตัวอย่างที่อยู่ในสถานที่ที่มลพิษทางอากาศ ปรากฏว่า มีอัตราความเสี่ยงด้วยโรคหัวใจมากกว่าปกติ อันเป็นผลมาจากมลพิษทางอากาศทำให้การไหลเวียนโลหิตของหนูทดลองไม่คล่องตัว (สยามรัฐ 22 ธ.ค. 48 http://www.siamrath.co.th)





รถเข็นไฮเทคช่วยคนพิการ ควบคุมผ่านจอยสติ๊กสั่งรถเลี้ยว-ข้ามสิ่งกีดขวางได้

รศ.พิชิต ลำยอง ศูนย์บริการและพัฒนาวิศวกรรม คณะวิศวกรรมศาสตร์ สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง เปิดเผยว่า ทีมงานได้ออกแบบรถเข็นไฟฟ้าสำหรับผู้พิการและผู้สูงอายุ ให้สามารถใช้งานได้หลากหลายและคงทนแข็งแรงมากกว่ารถเข็นทั่วไป จนกระทั่งได้รถเข็นไฟฟ้าที่สามารถเคลื่อนที่ได้อย่างมั่นคง รวมถึงข้ามสิ่งกีดขวางได้ด้วยโปรแกรมคอมพิวเตอร์ ผลงานชิ้นนี้เป็นการออกแบบร่วมกันของทีมวิจัยศูนย์บริการและพัฒนาวิศวกรรม สจล.ที่มีเป้าหมายที่จะประดิษฐ์รถเข็นเพื่อการเดินทางระยะสั้น เช่น ในโรงพยาบาล ห้างสรรพสินค้า สวนสาธารณะ จึงได้พัฒนาระบบควบคุมและระบบการขับเคลื่อนขึ้นใหม่ โดยบรรจุเป็นโปรแกรมคอมพิวเตอร์ที่ควบคุมด้วยสมองกล และควบคุมการทำงานของรถทั้งระบบ เริ่มต้นจากใช้จอยสติ๊กเป็นตัวกำหนดทิศทางและความเร็ว รวมถึงทดลองนำล้อรถยนต์ขนาดเล็ก ซึ่งมีเส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 1 ฟุต มาใช้แทนล้อรถเข็นในแบบเดิม ซึ่งมีขนาดเล็กและไม่แข็งแรง โดยล้อทั้ง 2 ด้านถูกออกแบบให้เคลื่อนที่อิสระจากกัน โดยล้อหน้าและหลังจะหมุนไปคนละทิศทาง เพื่อช่วยพยุงการทรงตัวของรถ ทำให้เคลื่อนที่ข้ามสิ่งกีดขวาง อาทิ ขอนไม้ ลูกระนาด หรือก้อนหินในสวน แถมยังเลี้ยววงแคบได้สะดวกขึ้น ทำให้การเข้าออกลิฟต์ที่คับแคบทำได้ง่าย ผลงานรถไฟฟ้านี้จะช่วยลดการนำเข้ารถเข็นไฟฟ้า โดยชิ้นส่วนที่นำมาประกอบเป็นรถเข็นทั้งหมดหาซื้อง่าย และเน้นเลือกใช้วัสดุที่แข็งแรง คงทนสูง ภายใต้งบประมาณ 1.5 แสนบาท ทั้งนี้ ผลงานรถเข็นไฟฟ้าสำหรับผู้พิการดังกล่าว คว้ารางวัลชมเชยจากการส่งผลงานประดิษฐ์คิดค้นรางวัลสิ่งประดิษฐ์ ประจำปี 2549 จากสำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ (วช.) ซึ่งกำหนดมอบรางวัลช่วงเดือนกุมภาพันธ์ ปีหน้า (คมชัดลึก พฤหัสบดีที่ 22 ธ.ค. 48 http://www.komchadluek.net)





พบยีนบันดาลคนผิวขาวผิวเข้ม

ทีมนักวิทยาศาสตร์จากมหาวิทยาลัยเพนน์สเตท สหรัฐ พบกุญแจไขปริศนาที่ทำให้สีผิวมนุษย์แต่ละคนไม่เหมือนกัน แค่ข้อมูลสารพันธุกรรม หรือยีนเปลี่ยนแปลงไปนิดเดียวทำให้คนผิวเข้ม ผิวซีดต่างกันได้ ตั้งความหวังได้ หนทางรักษามะเร็งผิวหนัง และนำไปสู่การหาทางใหม่ในการปรับสีผิวให้คล้ำ หรือขาวขึ้นได้ โดยไม่ต้องพึ่งสารเคมี ทีมวิจัยมหาวิทยาลัยประสบความสำเร็จในการระบุยีนที่ชื่อว่า เอสแอลซี 24 เอ 5 จะมีส่วนเกี่ยวข้องกับการกำหนดสีผิว ทีมงานได้ใช้ปลาม้าลายเป็นแบบในการศึกษา เนื่องจากมีพันธุกรรมคล้ายมนุษย์หลายอย่าง อาทิ เซลล์เม็ดสีที่เป็นเม็ดเล็กๆ เรียกว่า เมลาโนโซม พวกเขาพบว่า ปลาม้าลายทองมีเซลล์เม็ดสีที่เล็กกว่าและเข้มน้อยกว่าปลาม้าลายปกติ เนื่องจากยีน เอสแอลซี 24 เอ 5 กลายพันธุ์ ทำให้ร่างกายไม่ผลิตโปรตีนสำคัญตัวหนึ่ง แต่เมื่อลองนำโปรตีนจากปลาม้าลายปกติใส่เข้าไป เป็นผลให้ปลาม้าลายทองมีสีเข้มขึ้น จากนั้นทีมวิจัยได้วิเคราะห์ข้อมูลจากฐานข้อมูลพันธุกรรมมนุษย์ ก็พบรูปแบบที่คล้ายกัน โดยประชากรมนุษย์ส่วนใหญ่มียีนเอสแอลซี 24 เอ 5 ในตัว แต่คนที่สืบเชื้อสายมาจากยุโรปจะมีกลุ่มที่มียีนกลายพันธุ์ ซึ่งลักษณะกลายพันธุ์คล้ายกับที่เกิดกับปลาม้าลายทอง คือ มีเซลล์เม็ดสีขนาดเล็กและจางกว่าคนทั่วไป สำหรับการค้นพบนี้ แสดงว่า เอสแอลซี 24 เอ 5 เป็นยีนตัวเดียวที่ควบคุมการแสดงออกสีผิวของคน และผลจากงานวิจัยนี้ที่ทดลองกับปลาม้าลาย ถือเป็นแม่แบบที่ดี ซึ่งนำไปสู่การทำความเข้าใจกับโรคซับซ้อนอื่น (คมชัดลึก พฤหัสบดีที่ 22 ธ.ค. 48 http://www.komchadluek.net)





ม.เกษตรผลิตเครื่องสำอางจากข้าวหอมมะลิ'สีนิล'

ดร.สมวงษ์ ตระกูลรุ่ง ผู้อำนวยการห้องปฏิบัติการดีเอ็นเอเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตกำแพงแสน เปิดเผยว่า ม.เกษตรฯ ได้พัฒนาผลิตภัณฑ์แปรรูปข้าวพันธุ์สีนิล ซึ่งเป็นพันธุ์ข้าวหอมมะลิที่ได้จากการวิจัยและปรับปรุงพันธุ์โดย ดร.อภิชาติ วรรณวิจิตร ผู้อำนวยการหน่วยปฏิบัติการค้นหาและใช้ประโยชน์ยีนข้าว หลังพบสารสกัดในข้าวสีนิลกว่า 106 ชนิด และทดลองใช้จริงกับอาสาสมัคร จนกระทั่งแตกสายผลิตภัณฑ์ให้อยู่ในรูปผลิตภัณฑ์สบู่ แชมพู โลชั่นและผลิตภัณฑ์สปาหลากชนิด สำหรับสารสกัดจากข้าวสีนิลประกอบด้วย โปรตีนและธาตุเหล็กเข้มข้น วิตามินอี วิตามินบีรวม และที่สำคัญคือ "สารแอนโทไซยานิน" ซึ่งมีคุณสมบัติขยายหลอดเลือด กระตุ้นการไหลเวียนของโลหิตบริเวณรากผม จึงสามารถระงับการหลุดร่วงของเส้นผม ทั้งยังมีฤทธิ์ต้านรังสียูวีด้วย จึงเหมาะใช้เป็นส่วนผสมในโลชั่นบำรุงผิว ร่วมกับสมุนไพรอีกกว่า 20 ชนิด เช่น ขมิ้นชัน พร้อมกันนี้นักวิจัยได้เดินหน้าสร้างผลิตภัณฑ์ใหม่ จากข้าวหอมนิลอีกหลายรายการ อาทิ ครีมนวดผม สบู่ล้างหน้า สบู่ป้องกันฝ้า ครีมบำรุงผิวหน้า จากนั้นได้วิจัยและเก็บข้อมูลจากอาสาสมัครประมาณ 300 คน ปรากฏว่าผลิตภัณฑ์จากข้าวหอมนิลดังกล่าวได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี โดยเฉพาะยาสระผม ที่แสดงให้เห็นว่าผมร่วงระหว่างการสระลดลงอย่างชัดเจน ด้าน ดร.อภิชาติ วรรณวิจิตร นักวิจัยจากมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ กล่าวถึงความคืบหน้าในการพัฒนาพันธุ์ข้าวจ้าวหอมนิลว่า พันธุ์ข้าวจากการวิจัยได้ถ่ายทอดสู่ภาคเอกชนเรียบร้อยแล้ว โดย "บริษัท บางกอกแอร์เวย์ส" เข้ามารับพันธุ์ข้าวหอมนิลไปขยายพันธุ์ให้เกษตรกร พร้อมทั้งสร้างแหล่งปลูกข้าวขนาดใหญ่ที่จังหวัดสุโขทัย ม.เกษตรฯ ได้วิจัยพันธุ์ข้าว 2 รุ่นๆ แรกคือ ข้าวเจ้าหอมนิล ซึ่งได้สายพันธุ์ที่นิ่งแล้ว จึงมั่นใจที่จะถ่ายทอดสู่เอกชน ส่วนรุ่นที่ 2 เป็นการคัดเลือกระหว่างข้าวหอมมะลิพันธุ์ 105 กับข้าวเจ้าหอมนิล นำไปสู่การขยายพันธุ์จนได้ "ข้าวสีนิล" และนำมาศึกษาเพิ่มเติม พร้อมตั้งแปรรูปสินค้าจากข้าวสีนิล ทั้งนี้ ในส่วนของพันธุ์ข้าวสีนิลและผลิตพันธุ์แปรรูป ไม่ได้ถ่ายทอดให้กับเอกชนเหมือนกับข้าวพันธุ์หอมนิล เนื่องจากนักวิจัยเกรงว่าอาจจะทำให้สายพันธุ์เปลี่ยนแปลงและด้อยคุณภาพ จึงได้รวมกลุ่มนักวิจัยเพื่อตั้งบริษัทขึ้นมาเอง โดยใช้ชื่อว่า "บริษัทสีนิล จำกัด" เพื่อขยายพันธุ์และส่งเสริมให้เกษตรกร จำหน่ายสินค้าแปรรูปจากข้าวสีนิล พร้อมทั้งหาทุนในการวิจัยร่วมด้วย (กรุงเทพธุรกิจ พฤหัสบดีที่ 22 ธ.ค. 48 http://www.bangkokbiznews.com)





เครื่องทอดอาหารระบบสุญญากาศ

คณะนักวิจัยจากภาควิชาวิศวกรรมอาหาร คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ซึ่งมี ดร.เชาว์ อินทร์ประสิทธิ์ เป็นหัวหน้าโครงการ ได้ออกแบบและสร้างเครื่องทอดสุญญากาศ เพื่อใช้ในการแปรรูปผลิตผลทางการเกษตร การทอดภายใต้สุญญากาศนั้น มีข้อดีคือ ประหยัดพลังงานเพราะใช้อุณหภูมิต่ำ เครื่องทอดนี้สามารถสลัดน้ำมันภายใต้สภาวะสุญญากาศได้ด้วย ทำให้ได้ผลิตภัณฑ์ที่แห้ง สามารถรักษาคุณภาพด้านกลิ่น สี และรสชาติของผลผลิตให้มีคุณภาพใกล้เคียงธรรมชาติรวมทั้งไม่ให้คุณภาพน้ำมันเสียด้วย สำนักงานกองทุนสนับสนุนการวิจัย (สกว.) ได้ทำสัญญาอนุญาตให้คณะนักวิจัยถ่ายทอดเทคโนโลยีนี้ โดยขณะนี้มีผู้ประกอบการสนใจสั่งซื้อเครื่องทอดสุญญากาศไปใช้ในกิจการแปรรูปผลิตผลทางการเกษตรของตนเองแล้ว 8 เครื่อง คิดเป็นมูลค่า 1,940,000 บาท (มติชนรายวัน พฤหัสบดีที่ 22 ธ.ค. 48 http://www.matichon.co.th)





วิตามินดีป้องมะเร็งลำไส้ใหญ่สหรัฐให้กินกันทั้งประเทศ

นักวิทยาศาสตร์ของศูนย์วิจัยโรคมะเร็งของมหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนีย ได้ศึกษาว่า หากกินวิตามินดีขนาด 25 ไมโครกรัมให้ได้ทุกวัน จะสามารถป้องกันมะเร็งลำไส้ใหญ่ ได้ถึง 50% ศาสตราจารย์เอ็ดเวิร์ด กอร์แฮม อาจารย์วิชาวิทยาโรคระบาดอธิบายว่า ความจริงเป็นที่รู้กันว่าวิตามินดีป้องกันโรคมะเร็งชนิดนี้ได้มานานตั้งหลายสิบปีแล้ว เพียงแต่ยังไม่รู้ควรจะกินมากน้อยเท่าใดเท่านั้น แต่การศึกษาครั้งนี้ ถึงได้รู้ระดับการกินวิตามินดีว่า ควรจะกินมากน้อยสักเท่าใด ปีหนึ่งๆ มีคนอเมริกันถูกพบว่าเป็นมะเร็งของลำไส้ใหญ่ ประมาณ 145,000 รายทุกปี และได้มีการคำนวณหาว่า หากชาวอเมริกันพากันกินวิตามินดี จะเสียเงินรวมปีละ 20,000,000,000 บาท แต่จะป้องกันไม่ให้เสียชีวิตได้ อาจมากถึงปีละ 28,000 คน ซึ่งจะช่วยประหยัดค่ารักษาพยาบาลลงได้ถึงปีละ 80,000,000,000 บาท. (ไทยรัฐ ศุกร์ที่ 23 ธ.ค. 48 http://www.thairath.co.th)





เกาหลีเหนือทำลูกกวาดอดบุหรี่ด้วยสมุนไพรเทือกเขาสูง

บริษัทโคเรีย ปูกัง ระบุว่า ลูกกวาดอดบุหรี่ดังกล่าวเป็นผลผลิตจากการค้นคว้า ของแพทย์ผู้เชี่ยวชาญสมุนไพรโบราณของเกาหลี โดยใช้ สมุนไพรหายากที่พบเฉพาะบนเทือกเขาสูงทางภาคเหนือของเกาหลีเหนือ ผู้ใช้จะสามารถอดบุหรี่ได้โดยไม่มีผลข้างเคียง นอกจากนี้ ยังจะช่วยสร้างภูมิคุ้มกันและเยียวยาอาการป่วยจากการสูบบุหรี่ในอดีต เว็บไซต์มีใบสั่งซื้อปรากฏทั้งภาษาอังกฤษและเกาหลี นอกจากนี้ ยังระบุว่าผู้สนใจสามารถติดต่อโดยตรงที่สำนักงานใหญ่ของบริษัทในกรุงเปียงยาง ตลอดจนสำนักงานสาขาต่างประเทศทั้งในจีน ญี่ปุ่น อินโดนีเซีย เวียดนาม คิวบา และซิมบับเว ทั้งนี้ รัฐบาลเกาหลีเหนือพยายามรณรงค์ ลดการสูบบุหรี่ในประชากรเกาหลีเหนืออย่างต่อเนื่องเป็นเวลาหลายปี โดยมีนายคิม จอง-อิล ผู้นำเกาหลีเหนือให้การสนับสนุนโครงการอย่างเต็มที่. (ไทยรัฐ ศุกร์ที่ 23 ธ.ค. 48 http://www.thairath.co.th)





นักวิจัยไทยผลิตเครื่องพ่นยาหอบหืด

เมื่อวันที่ 22 ธ.ค. ดร.นงลักษณ์ ปานเกิดดี ผู้ว่าการสถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (วว.) กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโน โลยี เปิดเผยว่าฝ่ายเทคโนโลยีวัสดุ ของ วว. ประสบความสำเร็จในการวิจัยและพัฒนาหัวเพียโซอิเลกทริกเซรามิก ที่มีประสิทธิภาพให้กำเนิดคลื่นอัลทราโซนิกส์หรือคลื่นความถี่สูง ซึ่งสามารถนำมาประยุกต์เป็นเครื่องมือทางการแพทย์ สำหรับรักษาผู้ป่วยโรคภูมิแพ้และโรคหอบหืด เรียกว่าเครื่องพ่นละอองยาอัลทราโซนิกส์เครื่องแรกของประเทศไทย โดยเครื่องมือดังกล่าวมีเทคโนโลยี 3 ส่วนคือ หัวเพียโซอิเล็กทริกเซรามิกทำหน้าที่ให้กำเนิดคลื่นอัลทราโซนิกส์ วงจรอิเล็กทรอนิกส์ และภาชนะสำหรับใส่ยาน้ำ ตัวเครื่องมีขนาดเล็ก พกง่ายและไม่มีเสียงดังรบกวนขณะทำงานเหมาะสำหรับใช้งานในโรงพยาบาลหรือคลินิก ซึ่งวิธีการทำงานของเครื่องดังกล่าว จะทำให้ยาซึ่งเป็นของเหลวแตกตัวเป็นอนุภาคขนาดเล็ก เพียง 5 ไมครอน สามารถเข้าถึงปอดส่วนบนของผู้ป่วยเพื่อขยายหลอดลมและรักษาอาการของโรคภูมิแพ้และหอบหืดได้ ส่วนใหญ่ผู้ป่วยโรคนี้จะมีอาการรูจมูกตัน หากละอองยามีขนาดใหญ่จะถูก บล็อกเอาไว้ทำให้ไปไม่ถึงระบบทางเดินหายใจ ที่ผ่านมาไทยต้องนำเข้าเครื่องพ่นละอองยามาจากต่างประเทศ ราคาประมาณเครื่องละ 15,000-20,000 บาท แต่เครื่องที่ผลิตในไทยซึ่งมีคุณภาพทัดเทียมกันมีราคาเพียง 6,000-7,000 บาท เท่านั้น โดย วว. พร้อมที่จะถ่ายทอดเทคโนโลยีการผลิตเครื่องพ่นละอองยาอัลทราโซนิกส์ให้แก่ภาคเอกชนเพื่อผลิตในเชิงพาณิชย์ต่อไป อย่างไรก็ตามเครื่องพ่นละอองยาอัลทราโซนิกส์เครื่องแรก จะนำไปใช้กับผู้ป่วยโรคภูมิแพ้และหอบหืดที่ รพ.พระมงกุฎเกล้า (เดลินิวส์ ศุกร์ที่ 23 ธ.ค. 48 http://www.dailynews.co.th)





"ยาซานามีเวียร์"อีกทางเลือก ต้านไวรัสร้าย"ไข้หวัดใหญ่"

เมื่อวันที่ 22 ธันวาคม ศ.นพ.ยง ภู่วรวรรณ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวภายในงานประชุมระดมสมองเรื่อง "กรอบงานวิจัยบูรณาการไข้หวัดนก" ที่โรงแรมมารวยการ์เด้น ว่า การกลายพันธุ์ของเชื้อไข้หวัดใหญ่เกิดขึ้นแน่นอน ทั้งนี้ ได้ทำการศึกษาพบว่า 2 ปีที่ผ่านมาเกิดการเปลี่ยนแปลงพันธุกรรมของเชื้อไข้หวัดใหญ่ชนิดเอ เพียง 1-2% ซึ่งเป็นการเปลี่ยนแปลงโดยปกติ จำเป็นต้องเฝ้าระวังการเปลี่ยนแปลงทางพันธุกรรมของเชื้อดังกล่าวไม่ให้เกิดการกลายพันธุ์อย่างกะทันหัน ต้องระวังเชื้อดังกล่าวเกิดการดื้อยา เนื่องจากปัจจุบันเชื้อไข้หวัดใหญ่ดื้อต่อยาอะแมนตาดีน สำหรับยาโอเซลทามีเวียร์ ปัจจุบันประเทศไทยยังไม่พบการดื้อยา อย่างไรก็ตาม ขณะนี้กำลังค้นหาสายพันธุ์เชื้อไข้หวัดใหญ่ที่ดื้อต่อยาต่างๆ โดยสำเร็จไปแล้วกว่า 50% ซึ่งจะสามารถทราบได้ว่าเชื้อใดจะดื้อต่อยาชนิดใด หากพบว่าคนไทยดื้อยาโอเซลทามีเวียร์เมื่อไหร่ ก็จะให้หยุดการใช้ยาดังกล่าว แต่ไม่ใช่หันมาใช้ยาอะแมนตาดีน ทั้งนี้ มีการเตรียมยาอีกชนิดหนึ่งเพื่อรองรับ คือ ยาซานามีเวียร์ ซึ่งเป็นยาต้านไวรัสชนิดหนึ่ง อย่างไรก็ตามต้องทำการค้นหาสายพันธุ์ต่อไปและต้องเฝ้าระวังควบคู่ด้วย (ข่าวสด ศุกร์ที่ 23 ธ.ค. 48 http://www.matichon.co.th/khaosod)





เครื่องเลี้ยงปลาโซลาร์เซลล์ ตั้งเวลาให้อาหารอัตโนมัติ-ดักแมลงได้ด้วย

นายศิริชัย มีจันทร์โท นักศึกษาแผนกช่างไฟฟ้า วิทยาลัยเทคนิคกาญจนบุรี เปิดเผยว่า ทีมนักศึกษาแผนกช่างไฟฟ้าได้ร่วมกันออกแบบเครื่องให้อาหารปลาอัจฉริยะ เพื่อช่วยแบ่งเบาภาระของเกษตรกรผู้เลี้ยงปลา โดยเครื่องให้อาหารปลาที่ออกแบบขึ้นนี้ทำงานอย่างอัตโนมัติ โดยอาศัยพลังงานไฟฟ้าจากแผงโซลาร์เซลล์ เครื่องเลี้ยงปลาอัตโนมัตินี้ติดตั้งอยู่บนทุ่นลอยน้ำ มีถังสำหรับเติมอาหารปลา พร้อมระบบตั้งเวลาให้อาหารแบบอัตโนมัติ โดยที่ด้านบนติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์ขนาด 50 วัตต์ เพื่อใช้เป็นแหล่งพลังงานสำรองของเครื่องเลี้ยงต้นแบบเครื่องนี้ แม้ว่าแผงโซลาร์เซลล์จะทำให้ต้นทุนค่าเครื่องแพงขึ้น แต่เมื่อมองถึงความคุ้มค่าในระยะยาวกับการใช้พลังงานไฟฟ้านั้นโซลาร์เซลล์คุ้มค่ากว่า เซลล์แสงอาทิตย์จะช่วยแปลงพลังงานแสงอาทิตย์เป็นพลังงานไฟฟ้าโดยบรรจุลงในแบตเตอรี่เพื่อป้อนให้ระบบอัตโนมัติของเครื่องให้อาหารปลาทำงาน โดยอาศัยระบบอิเล็กทรอนิกส์จากการทำงานของระบบควบคุมเวลาช่วยกำหนดปริมาณอาหาร เวลาให้อาหาร ให้เหมาะสมกับปลาแต่ละชนิด โดยระบบตั้งเวลาจะเชื่อมต่อกับปั๊มด้านล่างที่จะคอยพ่นอาหารปลาให้กระจายออกไปรอบๆ และไม่ลอยตัวอยู่เป็นกระจุกเดียว นอกจากนี้ยังเพิ่มเติมในส่วนของเครื่องดักจับแมลงไว้ใกล้กับตัวทุ่น โดยอาศัยหลอดไฟแบ็คไลท์สีม่วง ซึ่งทำหน้าที่ล่อแมลงประกอบกับพัดลมช่วยดูดแมลงที่เข้ามาใกล้ลงสู่ผิวน้ำ เพื่อเป็นอาหารให้ปลาในเวลากลางคืนต่อไป รวมถึงแผงออกซิเจนที่นำมาติดตั้งเพิ่มเพื่อช่วยเติมปริมาณออกซิเจนให้กับน้ำในตอนเช้า เครื่องดังกล่าวสามารถประยุกต์ใช้กับการเลี้ยงสัตว์น้ำชนิดอื่นๆ ได้ด้วย โดยที่ผู้เลี้ยงไม่ต้องกังกลอยู่กับการให้อาหารปลาในแต่ละวัน เมื่ออาหารหมดไซเรนก็จะส่งเสียงร้องเตือน ผู้เลี้ยงเพียงแต่เติมอาหารปลาสำรองเอาไว้เท่านั้น โดยหลังจากสร้างเครื่องต้นแบบเสร็จและนำไปทดลองใช้งานจริงในบ่อปลา จ.กาญจนบุรี ได้มีผู้สนใจเป็นจำนวนมาก จะปรับปรุงให้เหมาะกับการใช้งานในบ่อปลาที่มีขนาดใหญ่ขึ้น แล้วยังคิดที่จะออกแบบให้เครื่องสามารถวนไปรอบบ่อเพื่อการให้อาหารที่ทั่วถึงมากขึ้น (คมชัดลึก ศุกร์ที่ 23 ธ.ค. 48 http://www.komchadluek.net)





พบเชื้อไวรัสไข้หวัดนกดื้อยา 'ทามิฟลู' ยาต้านเริ่มเอาไม่อยู่

วารสารการแพทย์นิวอิงแลนด์ตีพิมพ์บทความของนักวิจัยจากมหาวิทยาลัยออกซ์ฟอร์ด ระบุว่า ผู้เสีย ชีวิตเพราะไข้หวัดนกจากไวรัสเอช 5 เอ็น 1 ในเวียดนาม 2 ราย มีเชื้อดื้อยาโอเซลทามิเวียร์ที่จำหน่ายภายใต้ชื่อยาทามิฟลู เจ้าของผลการศึกษาเตือนว่า การดื้อยาอาจเกิดขึ้นแล้ว ในขณะที่การใช้ยาโอเซลทามิเวียร์เป็นวิธีที่ได้รับการแนะนำ ให้ใช้รักษาผู้ติดเชื้อไข้หวัดนกอยู่ในขณะนี้ ดังนั้น การรักษาโรคนี้จึงควรมียาต้านไวรัสขนานอื่นเพิ่มเติมเข้าไปด้วย ผลการศึกษาชี้ว่า ยาฆ่าเชื้อไวรัสได้ ไม่หมด ทำให้เชื้อที่หลงเหลืออยู่พัฒนาตัวให้ดื้อยา และพบว่าเด็กที่ได้รับยาโอเซลทามิเวียร์เป็นพาหะนำเชื้อไวรัสดื้อยามากถึงร้อยละ 18 เรื่องเชื้อไวรัสดื้อยาจึงเป็นเรื่องที่น่าเป็นห่วงเร่งด่วน บทความชิ้นนี้เตือนด้วยว่า การสำรองยาต้านไวรัสไข้หวัดนกอาจนำไปสู่การใช้ยาอย่างไร้ ประสิทธิภาพ และการขาดแคลนยาในช่วงที่เกิดการระบาดอาจกระตุ้นให้มีการแบ่งปันยาระหว่างบุคคล ส่งผลให้การรักษาไม่ได้ผล เรื่องนี้น่าเป็นห่วงอย่างยิ่งในกลุ่มเด็กที่มักเป็นแหล่งแพร่ไข้หวัดใหญ่ สำหรับผู้เสียชีวิตเพราะไข้หวัดนกในเวียดนาม ที่มีเชื้อดื้อยานั้นเป็นเด็กหญิงวัย 13 ปี เสียชีวิตหลังมีอาการ 8 วัน ส่วนอีกรายอายุ 18 ปี เสียชีวิต หลังมีอาการ 3 สัปดาห์ ขณะเดียวกัน มีรายงานจาก “เนเจอร์” วารสารด้านวิทยาศาสตร์ แจ้งว่า วัยรุ่น สตรีเวียดนาม 1 คน มีอาการดื้อยาเช่นกันแต่ขณะนี้ยังมีชีวิตอยู่ และว่าวัยรุ่นเป็นกลุ่มเสี่ยงสูงหากไม่เคยติดเชื้อไวรัสในกลุ่มเดียวกันมาก่อน เนื่องจากไม่มีภูมิคุ้มกัน นอกจากนี้ ยังควรมีการศึกษาเรื่องการใช้ยาปริมาณมาก หรือการใช้ยาเป็นเวลานานด้วย. (ไทยรัฐ เสาร์ที่ 25 ธ.ค. 48 http://mail.lib.kmutt.ac.th)





แฉนักวิจัยโสมปลอมผลวิจัยสเต็มเซลล์

คณะกรรมการสอบสวนของมหาวิทยาลัยโซลในเกาหลีใต้ แถลงเมื่อวันศุกร์ (23 ธ.ค.) ว่า นายฮวาง วู ซุก นักวิจัยสเต็มเซลส์ของมหาวิทยาลัยมีเจตนาปลอมแปลงผลวิจัยสเต็มเซลล์ที่ได้รับการตีพิมพ์ลงในวารสารไซแอนซ์ เมื่อเดือนพฤษภาคมอย่างชัดเจน ไม่ใช่เป็นความผิดพลาดโดยอุบัติเหตุ และจะถูกลงโทษทางวินัยอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ หลังจากที่อดีตนักวิจัยในคณะของนายฮวางได้ออกมาแฉเมื่อสัปดาห์ก่อนว่า สเต็มเซลล์ 9 ใน 11 ตัวอย่างที่นายฮวางอ้างเป็นของปลอม ส่งผลให้มหาวิทยาลัยต้องตั้งกรรมการสอบสวน ขณะที่วารสารไซแอนซ์ก็ต้องพิจารณาบทความชิ้นนั้นใหม่อีกครั้ง นายฮวาง อ้างว่า สามารถสร้างสเต็มเซลล์ได้ 11 ชุด จากการโคลนตัวอ่อนของคนไข้ 11 คน เพื่อให้ได้สเต็มเซลล์ที่เข้ากับคนไข้ได้ ซึ่งจะเป็นความหวังในการนำสเต็มเซลล์มาเพาะเป็นอวัยวะหรือเนื้อเยื่อสำหรับรักษาโรคร้ายต่างๆ ที่ยังไม่มีหนทางเยียวยารักษาในปัจจุบัน แต่ผลการตรวจสอบยืนยันว่าคณะของนายฮวางใช้ข้อมูลจากสเต็มเซลล์เพียง 2 เส้นเท่านั้น ไม่ใช่ 11 เส้นแบบที่อ้าง โดยใช้วิธีการแยกเซลล์จากผู้ป่วยรายเดียวแบ่งใส่หลอดทดลอง 2 ชุด เพื่อการวิเคราะห์ แทนที่จะใช้การเปรียบเทียบเซลล์ที่โคลนขึ้นกับเซลล์ดั้งเดิมที่ได้จากผู้ป่วย คณะกรรมการสอบสวนยังพบด้วยว่า นายฮวางแต่งข้อมูล และภาพถ่ายของสเต็มเซลล์ 2 กลุ่มให้ดูเหมือนว่ามี 11 กลุ่ม ซึ่งขณะนี้ทางคณะกรรมการกำลังตรวจสอบดีเอ็นเอเพื่อยืนยันด้วยว่าสเต็มเซลล์ 2 กลุ่มดังกล่าว ได้จากการโคลนคนไข้สำเร็จจริงหรือไม่ นอกจากนี้คณะกรรมการสอบสวนยังจะตรวจสอบผลงานวิจัยอื่นๆ ของนายฮวางด้วย ซึ่งรวมถึงบทความเรื่องโคลนนิ่งตัวอ่อนมนุษย์ได้สำเร็จครั้งแรกของโลกที่เผยแพร่เมื่อปีที่แล้ว และบทความเรื่องโคลนนิ่งสุนัขตัวแรกของโลกที่ตีพิมพ์เมื่อเดือนสิงหาคมปีนี้ ขณะที่มีเสียงเรียกร้องจากกลุ่มนักวิทยาศาสตร์ในเกาหลีใต้ ให้รัฐบาลลงโทษนายฮวาง และผู้ร่วมงานฐานหลอกลวง และทำลายความน่าเชื่อถือของนักวิทยาศาสตร์แดนอารีดัง เมื่อวันศุกร์ที่แล้ว นายฮวางได้ยอมรับว่ามีความผิดพลาดในรายงานผลการวิจัย และขอให้วารสารไซแอนซ์ถอนบทความดังกล่าว แต่ยืนยันว่าสร้างสเต็มเซลล์ได้จริง แต่บางส่วนตายไปเพราะเกิดการปนเปื้อน และจะพิสูจน์ยืนยันด้วยสเต็มเซลล์ที่แช่แข็งไว้ (คมชัดลึก เสาร์ที่ 25 ธ.ค. 48 http://www.komchadluek.net)





ข่าวทั่วไป


70% คนไทยเป็นเหยื่อ 3 โรค อาหารเสริมทำตับพัง

นายอนุทิน ชาญวีรกูล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยว่า ปัจจุบันสถิติคนไทยที่ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอมีเพียงร้อยละ 30 เท่านั้น อีกร้อยละ 70 ไม่สนใจ ซึ่งเป็นตัวเลขที่น่าห่วง เพราะเป็นเครื่องบ่งชี้ถึงสภาวการณ์การเกิดโรคอันไม่พึงประสงค์ ของคนไทยทั้งประเทศที่จะตามมาได้ ที่สำคัญได้แก่โรคความดันโลหิตสูง โรคอ้วน โรคเบาหวาน โดยผลการสำรวจสุขภาพอนามัยในปี 2546 พบว่าในกลุ่มที่มีอายุ 15 ปีขึ้นไป มีความดันโลหิตผิดปกติมากถึงร้อยละ 37 ดังนั้น สิ่งที่จะต้องดำเนินการอย่างต่อเนื่องคือ การส่งเสริมให้คนไทยทุกกลุ่มวัย หันมาออก กำลังกายเล่นกีฬา เต้นแอโรบิก เพื่อป้องกันโรค โดยการออกกำลังกายจะป้องกันโรคความดันโลหิตสูง โรคอ้วน โรคเบาหวานโรคระบบทางเดินหายใจได้ และการออกกำลังกายยังนำพาให้เยาวชนไทยห่างไกลยาเสพติดได้ นายอนุทินกล่าวต่อไปว่า การรับประทานให้ครบ 5 หมู่ ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ ก็จะส่งผลให้มีสุขภาพกายและสุขภาพจิตดี ไม่จำเป็นต้องพึ่งพาอาหารเสริมให้สิ้นเปลืองเงินโดยใช่เหตุ และไม่ส่งผลเสียต่อร่างกายด้วยเนื่องจากอาหารเสริม เป็นเพียงสารอาหารที่ไปช่วยซ่อมแซมส่วนที่ร่างกายขาดไปจากการกินอาหารในแต่ละมื้อ ซึ่งในปัจจุบันนี้มีประชาชนบางกลุ่มยังมีความเข้าใจผิดๆว่าหากกินอาหารเสริมอย่างดี ก็ไม่จำเป็นต้องกินอาหารให้ครบ 5 หมู่ก็ได้ ซึ่งเป็นความเข้าใจที่มีอันตราย เนื่องจากการกินอาหารเสริมนอกจากต้องเสียเงินเกินความจำเป็นแล้ว ยังต้องเผชิญกับผลเสียต่อร่างกาย โดยเฉพาะตับและไตต้องทำงานหนักเพื่อขับถ่ายของเสียจากสารเคมีบางอย่าง ที่มาพร้อมกับอาหารเสริมเหล่านั้น (ไทยรัฐ อังคารที่ 20 ธ.ค. 48 http://www.thairath.co.th)





.พ.สวิสเปิดศักราชใหม่ให้คนไข้ปลิดชีพตนเองได้ตามใจ

โฆษกของโรงพยาบาลซึ่งเป็นของมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง ในเมืองโลซานน์ สวิตเซอร์แลนด์ชี้แจงว่า ทางผู้ บริหารโรงพยาบาล ได้ตกลงใจหลังจากที่ได้พิจารณากันมานานตั้ง 3 ปีแล้ว โดยที่ได้วางกฎของการปฏิบัติไว้อย่างเคร่งครัด โดยจะยอมให้ คนไข้ระยะสุดท้าย ที่ไม่อาจจะกลับไปอยู่บ้านได้ จบชีวิตของตนเองได้ตามปรารถนา ตราบเท่าที่สติสัมปชัญญะยังดีอยู่ ก่อนหน้ามาจนทุกวันนี้ ยังไม่เคยมีโรงพยาบาลแห่งใดในสวิตฯ ยินยอมให้มีการช่วยทำการุณยฆาตให้กับคนไข้ในโรงพยาบาล รวมทั้งการช่วยเหลือจากสมาคมการุณยฆาตแห่งสวิตฯด้วย ตามนโยบายนี้ หมายความว่า คนไข้ ผู้ไม่ปรารถนาจะอยู่ดูโลกต่อไปอีก อาจจะต้องออกจากโรงพยาบาลนั้นไป เพื่อไปใช้บริการของแพทย์ข้างนอก หรือด้วยความช่วยเหลือจากสมาคมการุณยฆาตแห่งสวิตฯที่มีอยู่. (ไทยรัฐ อังคารที่ 20 ธ.ค. 48 http://www.thairath.co.th)





วธ.ของบรัฐบาล 300 ล. พัฒนาเมืองมรดกโลก

คุณหญิงทิพาวดี เมฆสวรรค์ ปลัดกระทรวงวัฒนธรรม (วธ.) เปิดเผยว่า เมื่อเร็วๆ นี้ กรมศิลปากรได้นำเสนอแผนพัฒนาพื้นที่เมืองมรดกโลกสุโขทัย ศรีสัชนาลัย และกำแพงเพชร ในที่ประชุมพิจารณาแผนงานโครงการเพื่อเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) ซึ่งมีนายสุรเกียรติ์ เสถียรไทย รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะกำกับดูแล วธ. เป็นประธาน เนื่องจากปัจจุบันสถานที่เหล่านี้มีสภาพทรุดโทรม ไม่มีระบบสาธารณูปโภค และไม่ได้รับการพัฒนาด้านภูมิทัศน์ ส่งผลให้จำนวนนักท่องเที่ยวลดลง ดังนั้น จึงต้องเสนอแผนพัฒนาพื้นที่ทั้ง 3 แห่ง เพื่อให้พื้นที่ทั้งหมดกลับมาเป็นสถานที่ที่สวยงามเหมาะสมกับการเป็นมรดกโลก โดยแผนพัฒนาประกอบด้วย การปรับสภาพภูมิทัศน์ ห้องสุขา ก่อสร้างโรงละครแสดงศิลปวัฒนธรรมรวมทั้งนาฏศิลป์ และดนตรี ขนาด 300 ที่นั่ง จัดแสดง แสง สี เสียง เพราะเท่าที่ทราบเมื่อถึงฤดูฝน การแสดงต่างๆ หรือกิจกรรมบางอย่างที่มีอยู่ก็ต้องงด เพราะไม่มีสถานที่ที่จัดแสดงในร่ม หากมีโรงละครดังกล่าวแล้วจะทำให้จัดการแสดงต่างๆ ได้ตลอดทั้งปี คาดว่าจะใช้งบประมาณ 300 ล้านบาท รวมถึงกรมศิลปากร ยังมีโครงการปรับปรุงสถานที่บริเวณลานหินตัด และแหล่งเตาเผาปูนโบราณบ้านวังตามน และโครงการปรับปรุงพระราชวังจันทน์ใน จ.พิษณุโลกด้วย ซึ่งนายสุรเกียรติ์เห็นชอบกับแผนนี้ เตรียมเสนอที่ประชุม ครม.สัญจรในวันที่ 20 ธันวาคมที่ผ่านมา ที่ จ.สุโขทัย (คมชัดลึก อังคารที่ 20 ธ.ค. 48 http://www.komchadluek.net)





10ความเคลื่อนไหว "วิทยาศาสตร์โลก"2548

ในรอบปีพ.ศ.2548 วงการวิทยาศาสตร์ระดับโลกมีเหตุคึกคักและชวนสลดใจไปในขณะเดียวกัน ตั้งแต่ความสำเร็จจากการผลิตจักรกลนาโนหลายชนิด การถอดรหัสดีเอ็นเอสิ่งมีชีวิต การศึกษาจักรวาล และภัยธรรมชาติที่รุนแรงขึ้นเพราะน้ำมือของมนุษย์เอง ประมวล 10 ความเคลื่อนไหววิทยาศาสตร์โลกตลอดทั้งปีนี้มีดังนี้ 1. "นาโนเทค"จิ๋วมหัศจรรย์ 2. กำเนิดหลุมดำ 3. "มนุษย์"ซ่อมได้ 4. สิ่งมีชีวิต"ดาวแดง” 5. สู่ความเป็นอมตะ 6. ซุปเปอร์เอิร์ธ 7. ผวาภัยดาวชนโลก 8. โลกร้อน 9. ปีแห่งการถอดรหัสชีวิต 10. มหาภัยพายุเฮอริเคน (ข่างสด อังคารที่ 20 ธ.ค. 48 http://www.matichon.co.th/khaosod)





เตือนอากาศสะบัดร้อนสะบัดหนาวสะเทือนกล่องเสียง

พ.ญ.ฉันทิชา โชติกวณิชย์ ภาควิชาโสต นาสิก ลาริงซ์วิทยาคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล กล่าวว่า สภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลงบ่อยเดี๋ยวหนาวเดี๋ยวร้อน เสี่ยงต่อการอักเสบของกล่องเสียงจนเสียงแหบ เป็นภาวะที่พบได้ในคนทุกวัย ส่วนมากอาการจะไม่รุนแรงและหายได้เองภายใน 1 สัปดาห์ การอักเสบของกล่องเสียงมักเกิดจากการติดเชื้อไวรัสหรือแบคทีเรีย โดยมากจะเกิดตามหลังไข้หวัดหรือเจ็บคอ บางครั้งอาจเกิดจากการระคายเคือง เช่น สูบบุหรี่ ดื่มเหล้า หรือการใช้เสียงมาก โดยจะมีอาการเสียงแหบแห้ง บางรายอาจเป็นมากจนไม่มีเสียง อาจรู้สึกเจ็บคอเวลาพูด บางรายมีอาการไข้ เป็นหวัดเจ็บคอหรือไอร่วมด้วยโดยทั่วไป มักจะเป็นอยู่ไม่เกิน 7 วัน การดูแลป้องกันให้ พ้นจากการป่วยเป็นกล่องเสียงอักเสบคือ งดการใช้เสียงมาก หรือตะโกนดังๆ ไม่สูบบุหรี่ หรือดื่มสุรา ส่วนผู้ที่เป็นไข้หวัด เจ็บคอ ควรดื่มน้ำอุ่น พักผ่อนให้เพียงพอ เสียงก็จะดีขึ้นใน 1-2 สัปดาห์ หากว่ามีอาการเสียงแหบ เกินกว่า 3 สัปดาห์ ไม่ควรนิ่งนอนใจ อาจมีสาเหตุอื่นๆ เช่น จะเกิดจากติ่งเนื้อเมือกกล่องเสียง ซึ่งพบได้ในคนที่ต้องใช้เสียงมาก เค้นเสียง มักจะต้องรักษาด้วยการผ่าตัดและหายขาดได้. (ไทยรัฐ พุธที่ 21 ธ.ค. 48 http://www.thairath.co.th)





โยคะบรรเทาปวดหลังเรื้อรังได้เหนือกว่ากินยาตามแบบตะวันตก

นักวิจัยแนะนำให้ผู้ที่ปวดหลังเรื้อรังลองเล่นโยคะเป็นประจำ อาจจะค่อยยังชั่ว คลายความทรมานลงไปได้คณะนักวิจัยของสหกรณ์กลุ่มอนามัย เพื่อการศึกษาที่นครซีแอตเติล ได้ศึกษาวิจัยผู้ที่มีอาการปวดหลังเรื้อรังจำนวน 101 คน โดยแบ่งให้กลุ่มหนึ่งฝึกโยคะอย่างเบา ที่เลือกสำหรับผู้มีปัญหาแถวส่วนล่างของหลังอาทิตย์ละ 75 นาที กับอีกกลุ่มหนึ่ง ให้ฝึกความแข็งแรงและออกกำลังกายเกี่ยวกับการเหยียดกล้ามเนื้อ เพื่อคงรักษาและพัฒนาความอ่อนตัว ปรากฏผลว่าเมื่อครบ 3 เดือน กลุ่มที่ฝึกโยคะมีอาการทุเลาดีขึ้นกว่ากลุ่มหลัง จนสามารถจะปฏิบัติกิจวัตรประจำวันที่ต้องใช้หลังได้ และเมื่อทำมานานถึง 3 เดือนครึ่ง พวกเขาได้แจ้งว่าปวดหลังน้อยลง และแทบไม่ต้องใช้ยาแก้ปวดเลย โยคะเป็นผลดีทั้งกับร่างกายและจิตใจก็เป็นได้ จึงทำให้ อาการปวดหลังค่อยคลายลง . (ไทยรัฐ พฤหัสบดีที่ 22 ธ.ค. 48 http://www.thairath.co.th)





เลือดจางเฮรับยาเม็ดขับเหล็ก

องค์การอาหารและยาของสหรัฐและสวิตเซอร์แลนด์ อนุมัติให้ใช้ยาขับเหล็กชนิดรับประทาน ทดแทนการรักษาแบบเดิมในรูปแบบฉีดเข้าใต้ผิวหนัง นับเป็นทางเลือกใหม่สำหรับการรักษาภาวะเหล็กเกินในผู้ป่วยโรคโลหิตจางที่ต้องได้รับเลือดบ่อยๆ ยาขับเหล็กชนิดรับประทานดังกล่าว อยู่ในรูปแบบเม็ดละลายน้ำ รับประทานวันละครั้งเดียวเท่านั้น เมื่อเปรียบเทียบกับยาขับเหล็กชนิดฉีด ที่ใช้เป็นมาตรฐานเดิม ที่ต้องฉีดเข้าใต้ผิวหนังต่อเนื่องนานกว่า 8-12 ชั่วโมง เป็นเวลา 5-7 วันต่อสัปดาห์ ทำให้ไม่สะดวก และผู้ป่วยหลายรายรู้สึกเบื่อและหลีกเลี่ยงการขับเหล็กด้วยวิธีนี้ สำหรับภาวะเหล็กเกินนี้ อาจพบได้หลังจากการให้เลือดตั้งแต่ 20 ยูนิต และหากปล่อยให้ปริมาณเหล็กเพิ่มมากขึ้น จะสะสมในอวัยวะต่างๆ เช่น ตับ หัวใจ ต่อมไร้ท่อ ส่งผลให้ทำงานผิดปกติ ประกอบกับโดยธรรมชาติร่างกายไม่มีกลไกที่จะขับเหล็กส่วนเกินออก ดังนั้น การให้ยาขับเหล็กจึงเป็นทางเดียวที่จะรักษาภาวะเหล็กเกินจากการได้รับเลือด หลักการทำงานของยาขับเหล็ก จะเข้าไปจับกับเหล็กในร่างกายและเนื้อเยื่อในร่างกาย และขับออกทางปัสสาวะ หรืออุจาระ เพื่อลดปริมาณเหล็กที่เพิ่มขึ้น ผู้ป่วยบางรายจำเป็นต้องได้ยาขับเหล็กตลอดชีวิต ดังนั้น ยาขับเหล็กชนิดรับประทานจะช่วยให้ผู้ป่วยที่ไม่สะดวกต่อการฉีดยาได้รับการรักษาขับเหล็กส่วนเกินได้เช่นกัน นอกจากองค์การอาหารและยาของสหรัฐและสวิตเซอร์แลนด์ ที่อนุมัติให้ใช้ยาเม็ดดังกล่าวในผู้ใหญ่และเด็กอายุตั้งแต่ 2 ปีขึ้นไป ขณะที่ประเทศอื่นๆ ได้แก่ แคนาดา ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ และกลุ่มประเทศยุโรป อยู่ระหว่างการพิจารณาอนุมัติ (คมชัดลึก พฤหัสบดีที่ 22 ธ.ค. 48 http://www.komchadluek.net)





สร้างตึกเสียดฟ้าสูง 1 กิโลเมตร ก่อสร้างนาน 25 ปี

ตึกระฟ้าที่กำลังออกแบบอยู่บนแผ่นกระดาษ จะมีความสูงตระหง่านเงื้อมถึง 1,001 เมตรซึ่งจะสูงเกือบ 2 เท่าของตึก “ไทเป 101” ที่ไต้หวัน ที่ครองตำแหน่งตึกระฟ้าสูงที่สุดในขณะนี้ ด้วยความสูง 509 เมตร ทั้งยังจะข่มตึกระฟ้าบูร์จดูไบ ที่อยู่ระหว่างการก่อสร้าง กำหนดจะแล้วเสร็จ ในปี พ.ศ.2551 คาดว่าจะสูงอยู่ระหว่าง 700-800 เมตร คณะสถาปนิกของบริษัทอีริก คูนห์กับสหาย ที่กรุงลอนดอน กำลังเจรจากับรัฐบาลคูเวตในโครงการก่อสร้าง ตัวแทนของบริษัทเปิดเผยว่า รัฐบาลชาติอาหรับกำลังพิจารณาจะให้สร้างตึกที่เมืองมาดนัต อัล ฮาเรียร์ หรือมีฉายาว่า “เมือง ไหม” โดยจะใช้เป็นที่อยู่อาศัยของคนได้ 7,000 คน อาจต้องกินเวลา ก่อสร้างนานถึง 25 ปี ผู้เชี่ยวชาญตึก ระฟ้าของบริษัทวิศวกรรมอังกฤษแห่งหนึ่ง กล่าวให้ความเห็นว่า ตึก ระฟ้าสูงใหญ่ขนาดนี้ เป็นเรื่องปวดหัวของนักออกแบบอย่างยิ่ง เพราะจะต้องคิดหนักว่า จะติดตั้งลิฟต์สักเท่าใด เพื่อจะให้เคลื่อนย้ายผู้คนขึ้นๆ ลงๆ ได้ เพียงพอ “ยิ่งตึกสูงเท่าใด ก็ยิ่งต้องใช้ลิฟต์มากขึ้นเท่านั้น ซึ่งมันก็จะไปกินที่ของเสาหลักของอาคารเข้า บางทีอาจจะต้องออกแบบลิฟต์แบบ 2-3 ชั้น แทนลิฟต์ธรรมดาก็ได้ ปัญหาใหญ่อีกอย่างหนึ่งก็คือ การออกแบบต้องควบคุมลมที่จะพัดมาปะทะตึกให้ได้ ตึกระฟ้าบางแห่งใช้วิธีทำตุ้มถ่วงน้ำหนัก เพื่อให้คอยต้านไม่ให้ตึกเอนไปทางด้านข้างได้”. (ไทยรัฐ ศุกร์ที่ 23 ธ.ค. 48 http://www.thairath.co.th)





กรีซผุดพิพิธภัณฑ์ใต้ดิน หวังดึงคนเข้าชมกว่าปีละ 3 แสน

รัฐบาลกรีซอยู่ระหว่างเชื้อเชิญบรรดาสถาปนิกต่างชาติ ให้มาร่วมออกแบบพิพิธภัณฑ์ใต้ดินใหญ่ที่สุดของประเทศ อันเป็นส่วนหนึ่งของพิพิธภัณฑ์แห่งชาติกรุงเอเธนส์ โครงการประกวดผลงานออกแบบพิพิธภัณฑ์ใต้ดินแห่งนี้จะเริ่มกันในปีหน้า โดยให้มีลักษณะพิพิธภัณฑ์เป็นห้องโถงใหญ่ เพื่อบรรจุตั้งแสดงโบราณวัตถุจำนวนมาก ซึ่งพื้นที่พิพิธภัณฑ์ที่มีอยู่เวลานี้ไม่เพียงพอต่อการตั้งแสดงโบราณวัตถุมากกว่า 11,600 ชิ้น เก่าแก่ตั้งแต่สมัยก่อนคริสตกาลไล่มาจนถึงยุคโรมัน โครงการสร้างพิพิธภัณฑ์ใต้ดินแห่งใหม่นี้ จะได้รับเงินสนับสนุนจากสหภาพยุโรป แต่ยังไม่ระบุมูลค่าการก่อสร้าง รัฐบาลกรีซ เปิดเผยข้อมูล ระบุว่า แต่ละปีมีนักท่องเที่ยวเข้ามาเยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์แห่งชาติในกรุงเอเธนส์ราว 300,000 คน ถ้าพิพิธภัณฑ์ใต้ดินแห่งใหม่สร้างเสร็จจะสามารถรองรับจำนวนผู้เข้าเยี่ยมชมได้มากกว่านั้น. (ไทยรัฐ เสาร์ที่ 25 ธ.ค. 48 http://mail.lib.kmutt.ac.th)






KMUTT Digital Library
Contact Digital Library : info@lib.kmutt.ac.th
Tel : 0-2470-8215