หัวข้อข่าวปีที่ 7 ฉบับที่ 18 ประจำวันที่ 2006-05-03

ข่าวการศึกษา

ตามรอยพระราชดำริจิตรกรรม ในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
ภูมิปัญญาท้องถิ่นเสริมศักยภาพเด็กไทย
คุยกับหมอ / นพ.วันชัย เยาวลักษณ์ สมาคมโรงพยาบาลเอกชน

ข่าววิทยาศาสตร์/เทคโนโลยี

เสริมภูมิคุ้มกันรู้ทันภัยออนไลน์ แนวคิดใหม่ สร้างคนดี บนอินเทอร์เน็ต

ข่าววิจัย/พัฒนา

ต่อมไทรอยด์กระต่ายใส่ให้คน ผ่าตัดปลูกถ่ายครั้งแรกของโลก
อัดฉีดความรู้วิทยากรอิสลามศึกษา
‘ศิริราช’ ยิงตรงรักษาหลอดเลือดหัวใจตีบสู่ปารีส
พระเทพฯส่งเสริมหญ้าแฝก พระราชทานหมื่นเหรียญงานวิจัย
‘SMaRT School’ เปิดโลกเด็กคือสร้างสรรค์ค์ผ่าน ICT
พบ “แมงกระดานถ้ำ” ชนิดใหม่ของโลก ในถ้ำพระพุทธบาทน้อย จ.สระบุรี ลักษณะคล้ายตะขาบผสมกั้งสีชมพู
รู้ไหมเอ่ย / ชาดำป้องกันฟันผุ

ข่าวทั่วไป

เพาะเลี้ยงปลากระดี่เงินล้านสู่เกษตรกรดีเด่นแห่งปี





ข่าวการศึกษา


ตามรอยพระราชดำริจิตรกรรม ในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว

ในโอกาสอันดีที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงครองสิริราชสมบัติครบรอบ 60 ปี ทางกรมศิลปากร โดยกระทรวงวัฒนธรรม จึงได้จัดนิทรรศการพิเศษเรื่องจิตรกรรมฝีพระหัตถ์ในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวขึ้น ซึ่งจะทำให้พสกนิกรชาวไทยมีโอกาสได้ชื่นชมภาพจิตรกรรมในพระปรีชาสามารถในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวอย่างใกล้ชิดกว่า 30 องค์จากผลงานทั้งหมดกว่า 104 องค์ แต่ทว่าเนื่องจากผลงานจิตรกรรมบางส่วนได้ชำรุดไปตามกาลเวลา ดังนั้นจึงได้มีการอนุรักษ์จิตรกรรมที่ชำรุดดังกล่าวให้คืนสภาพใกล้เคียงของจริงมากที่สุด โดยกรมศิลปากรได้ร่วมกับคณะจิตรกรรม ประติมากรรมและภาพพิมพ์ มหาวิทยาลัยศิลปากร จัดโครงการอนุรักษ์จิตรกรรมฝีพระหัตถ์ในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวขึ้นเมื่อปี พ.ศ.2537 เพื่อดำรงรักษาหลักฐานทางประวัติศาสตร์ศิลปะร่วมสมัยอันทรงคุณค่า อันจะทำให้ภาพฝีพระหัตถ์คงอยู่เป็นความภาคภูมิใจของคนไทยสืบไป ทั้งนี้นายสมศักดิ์ แตงพันธุ์ ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านศิลปกรรม กรมศิลปากร กล่าวว่า รู้สึกปลื้มปิติเป็นอย่างมากที่มีโอกาสซ่อมภาพฝีพระหัตถ์ฯ เพราะภาพส่วนใหญ่เสื่อมสภาพลงมาก ซึ่งมาจากหลายสาเหตุด้วยกัน อาทิ บางภาพสีอาจไม่หนา จึงเลือนหายไปบ้าง ทั้งอุณหภูมิ การเคลื่อนย้าย การยืดหดของผ้าและสี ตลอดจนวัสดุล้วนแล้วแต่มีผลต่อการชำรุดของภาพแทบทั้งสิ้น บางภาพมีมอดกัดกินในเนื้อกระดาษ ซึ่งก็จะต้องกำจัดมอดด้วยการนำเข้าตู้อบให้มอดตาย พร้อมทั้งเปลี่ยนวัสดุใหม่เข้ามาแทนที่เพื่อไม่ให้ไข่ของมอดที่ยังเหลืออยู่เจริญเติบโต อีกทั้งผู้ที่เข้าร่วมโครงการอนุรักษ์ฯ ยังต้องคำนึงถึงความล้ำค่าทางด้านประวัติศาสตร์ด้วย เช่น บางภาพพระองค์ท่านติดกิ๊ฟ ตัวหนีบไว้ที่ข้างภาพก็จะคงไว้ดังเดิม รวมไปถึงการซ่อมภาพทุกครั้งจะต้องมีภาพถ่ายไว้ก่อน เนื่องจากบางครั้งมีการใช้น้ำยาเคมีทำความสะอาดให้ภาพแสดงสีสว่างสดใสดังเดิม เพื่อรักษาสภาพเดิมให้มากที่สุด ดังนั้นจึงหลีกเลี่ยงการทับเนื้อสีของเดิม ซึ่งเป็นไปตามหลักการอนุรักษ์ที่จะไม่ใช้สารที่เอาออกไม่ได้เพราะช่างอนุรักษ์ที่จะรับช่วงต่อๆ ไปจะได้เปลี่ยนแปลงได้ตามความเหมาะสม สำหรับนิทรรศการพิเศษเรื่อง “จิตรกรรมฝีพระหัตถ์ในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว” ดังกล่าวจะมีการหมุนเวียนไปจัดแสดงในต่างจังหวัด 4 แห่งทั่วประเทศ ได้แก่ พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติสุพรรณบุรี พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติถลาง ภูเก็ต หอสมุดแห่งชาติเฉลิมพระเกียรติ ร.9 และพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติเชียงใหม่ ส่วนในกรุงเทพฯ นั้นพสกนิกรที่สนใจสามารถเข้าชมภาพจิตรกรรมในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวได้ที่พระที่นั่งอิศราวินิจฉัย ณ พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติพระนคร ระหว่างวันที่ 15 พฤษภาคม- วันที่ 15 มิถุนายน 2549 โดยนาวาอากาศเอกอาวุธ เงินชูกลิ่น ศิลปินแห่งชาติ และ อดีตอธิบดีกรมศิลปากร กล่าวว่า ครั้งหนึ่งเคยเป็นผู้นำเสด็จพระราชดำเนินพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวไปงานสมโภชวัดเฉลิมพระเกียรติวรวิหาร จังหวัดนนทบุรี เนื่องในโอกาสเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าฯพระบรมราชินีนาถทรงเจริญพระชนมพรรษาครบ 5 รอบ ขณะถึงศาลาการเปรียญ วัดเฉลิมพระเกียรติ สังเกตเห็นว่าพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงทอดพระเนตรเห็นภาพจิตรกรรมบางภาพที่ถูกลอกมาเพื่อมาเก็บรักษาไว้ที่ศาลาการเปรียญแห่งนี้ ซึ่งพระองค์โปรดวิธีการจัดเก็บจิตรกรรมดังกล่าว จึงโปรดให้ลอกจิตรกรรมเก่าซึ่งชำรุดจากเหตุสงครามโลกครั้งที่ 2 มาเก็บไว้ ที่พุทธรัตนสถาน พร้อมกันนี้พระองค์ยังมีพระราชประสงค์ที่จะให้ช่างจากกรมศิลปากร เพาะช่าง ช่างศิลป์ที่ถูกคัดเลือกมาประมาณ 25 ท่านร่วมกันเขียนภาพ และเพิ่มรายละเอียดในภาพจิตรกรรมฝาผนังที่พระพุทธรัตนสถาน สถานที่สำคัญในเขตพระราชฐานชั้นกลางของพระบรมมหาราชวัง เนื่องจากขาดรายละเอียดเกี่ยวกับ รัชกาลที่ 4 รัชกาลที่ 5 รัชกาลที่ 6 รัชกาลที่ 7 รัชกาลที่ 8 ซึ่งตามประวัติศาสตร์กษัตริย์ตั้งแต่รัชกาลที่ 4 เป็นต้นมา ต่างมีเหตุการณ์ทางประวัติศาสตร์ที่เกี่ยวข้องกับพระพุทธรัตนสถานทั้งสิ้น พร้อมกันนี้ นาวาอากาศเอกอาวุธ ยังกล่าวว่า กว่าจะเป็นภาพที่สมบูรณ์และตรงตามแนวพระราชดำริฯ ได้นั้นจะต้องผ่านการเข้าเฝ้าฯถึง 4 ครั้งเนื่องจากพระองค์ทรงรอบคอบในรายละเอียดทุกประการ เพื่อไม่ให้ทุกขั้นตอนมีความผิดเพี้ยน โดยเฉพาะเทคนิคของจิตรกรรมฝาผนังตามแนวพระราชดำริในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวนั้น พระองค์ต้องการให้เป็นภาพที่รักษาแนวจิตรกรรมไทยประเพณี แต่มีความเป็นสากล ซึ่งเป็นเรื่องยากมากสำหรับช่างเป็นอย่างยิ่ง “แต่ในที่สุดแล้วก็สามารถดำเนินการได้ตามพระราชดำริของพระองค์ท่านได้ทุกประการ ทั้งแสงเงาที่ไม่ตกกระทบมาก จนเหมือนภาพวาดฝรั่ง ใช้มุมมองแบบตานก เส้นขอบคมชัด รักษาความเป็นภาพ 2 มิติ งดงาม และถูกต้องทุกประการตามหลักความเป็นจริง รวมทั้งเป็นเหตุการณ์ปัจจุบันในเทคนิคแบบอดีตอีกด้วย” ศิลปินแห่งชาติ กล่าว “พระองค์ประณีตรอบคอบในทุกๆ เรื่อง โดยเฉพาะภาพวาดนั้นพระองค์จะเน้นความเป็นเอกลักษณ์ไทยที่สอดประสานกันภายในภาพอย่างกลมกลืน ซึ่งสมกับที่พระองค์ท่านเป็นอัครศิลปินผู้ปรีชาทั้งความรู้และความสามารถเปรียบ ดังเช่น ศิลปินระดับโลก” นายธงชัย กล่าว สำหรับพสกนิกรชาวไทย และชาวต่างชาติที่สนใจนิทรรศการดังกล่าว สามารถรอชมได้ในวันที่ 4 พฤษภาคม - วันที่ 13 มิถุนายน 2549 เวลา 09.00น.- 16.00 น.พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติหอศิลป์ ถนนเจ้าฟ้า กรุงเทพฯ และจะมีการจัดแสดงในส่วนภูมิภาค 4 แห่งเช่นเดียวกับนิทรรศการจิตรกรรมฝีพระหัตถ์ในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวระหว่างเดือนมิถุนายน ถึงสิงหาคม 2549 นี้ (http://www.siamrath.co.th 2/5/2549 )





ภูมิปัญญาท้องถิ่นเสริมศักยภาพเด็กไทย

“ลาดสวาย” เป็นตำบลหนึ่งในอำเภอลำลูกกา จังหวัดปทุมธานี มีอาชีพหลักคือการทำนา วิถีชีวิตผูกพันกับต้นข้าวและสายน้ำ ชาวบ้านที่อาศัยอยู่ในละแวกนี้มีความเป็นอยู่ วัฒนธรรมประเพณีท้องถิ่นที่น่าสนใจมากมาย แต่ด้วยความเจริญเข้ามาเยือน สภาพแวดล้อมที่เคยเป็นท้องทุ่งนากลับกลายเป็นโครงการบ้านจัดสรรเกิดขึ้น ผู้คนอพยพย้ายถิ่นมาอยู่ในตำบลลาดสวายมาก ประกอบกับการคมนาคมที่สะดวกสบาย ทำให้ความเจริญด้านวัตถุเข้ามาสู่ชุมชน ทั้งมีการออกมาทำงานนอกชุมชนมากขึ้น วิถีชีวิตของคนในละแวกนี้จึงค่อยๆ แปรเปลี่ยน ละเลยปฏิบัติตามประเพณีท้องถิ่น ด้วยการตระหนักถึงความสำคัญดังกล่าว โรงเรียนแย้มสอาด รังสิต จึงได้กำหนดวิสัยทัศน์ สืบสานประเพณี วัฒนธรรมท้อง ถิ่น มุ่งมั่น พัฒนา และสนับสนุนเยาวชนไทยให้เติบโตในสังคมได้อย่างมีคุณภาพ โดยนำวิชาการเคียงคู่จริยธรรมคุณธรรม เพื่อเติบโตเป็นผู้ใหญ่ที่สมบูรณ์ทั้งร่างกายและจิตใจจึงได้จัดกิจกรรมสืบสานประเพณีท้องถิ่นและจัดการเรียนรู้ เพื่อให้นักเรียนเกิดความภาคภูมิใจและมีส่วนร่วมในการอนุรักษ์ประเพณี วัฒนธรรมของชาวลาดสวาย ซึ่งมีอยู่หลากหลาย โดยการศึกษานอกสถานที่ จัดกิจกรรมภายในโรงเรียน การจัดการเรียนการสอน อาทิ กิจกรรมตักบาตรน้ำผึ้ง กิจกรรมตักบาตร ดอกไม้ กิจกรรมทำบุญตักบาตรประจำเดือนศึกษาวิธีการทำนาในชุมชนลาดสวาย ศึกษาวิธีการทำลูกหนูในชุมชนลาดสวาย และกิจกรรมสาธิตสะบ้า ทอยหัวช้าง เป็นต้น สำหรับภาคฤดูร้อนนี้โรงเรียนได้จัดกิจกรรมให้เด็กๆ ได้เรียนรู้ด้วยกิจกรรมเรียนจริงรู้จริง ทำจริง ดังนี้ - กิจกรรมการกวนกระยาสารทไทย โดยภูมิปัญญาท้องถิ่น - กิจกรรมการทำยำสมุนไพร โดยผู้ปกครอง - กิจกรรมไอศกรีมน้ำสมุนไพร โดยชมรมสวนพฤษศาสตร์โรงเรียน ศุภลักษณ์ ชูเดช ครูใหญ่โรงแรียนแย้มสอาด รังสิต เปิดเผยว่า “โรงเรียนได้จัดกิจกรรมสืบสานประเพณีวัฒนธรรมท้องถิ่นและการเรียนรู้ในเวลาเรียนปกติอยู่แล้ว ซึ่งร่วมกับสภาวัฒนธรรมตำบลลาดสวาย ในโอกาสครบรอบ 1 ปีของสภาวัฒนธรรมฯ ตั้งแต่ปี 2547 โดยการเรียนรู้อาหารไทยพื้นบ้าน เช่น แกงบอน ขนมจีนน้ำยา-น้ำพริกแกงส้ม ส้มตำไทย-ปู-ปลาร้า ... การทำกระยาสารทไทย เป็นเทศกาลเดือน 10 ของทุกปี ทางเราจะจัดการเรียนการสอนไปตามฤดูกาล เด็กๆ จะได้รู้จักอาหารไทย ส่วนประกอบ มีคุณประโยชน์อะไรบ้าง เด็กได้สัมผัส ได้เรียนรู้จริง ทำจริง เพื่อปลูกฝังเด็กรุ่นใหม่ให้อนุรักษ์มรดกไทย สืบสานประเพณีวัฒนธรรมท้องถิ่น เพราะเด็กที่นี่ไม่ได้อยู่ในท้องถิ่นนี้ทุกคน ยังมีเด็กที่ย้ายเข้ามาอยู่ในละแวกนี้เพิ่งเข้าใหม่ก็มี ... ฉะนั้น ในช่วงซัมเมอร์เราจึงจัดกิจกรรมเหล่านี้ ให้เด็กได้เรียนรู้ประเพณีวัฒนธรรมท้องถิ่นอย่างทั่วถึง” (http://www.siamrath.co.th 2/5/2549)





คุยกับหมอ / นพ.วันชัย เยาวลักษณ์ สมาคมโรงพยาบาลเอกชน

“ขนาดความกว้างของแผล” ก็มีความสำคัญ โดยทั่วไป ขนาดความกว้างจะคิดเทียบเป็นเปอร์เซ็นต์กับพื้นที่ผิวหนังทั่วร่างกาย ด้วยเหตุที่ผิวหนังเป็นส่วนที่ป้องกันน้ำในร่างกายไม่ให้สูญเสียออกมามากเกินไป และเป็นส่วนหนึ่งที่ป้องกันไม่ให้การติดเชื้อจากภายนอกเข้าสู่ร่างกาย ถ้าขนาดของบาดแผลมากเกินกว่า 15% ของพื้นที่ผิวหนังทั่วร่างกาย อาจจะทำให้เกิดภาวะช็อค เนื่องจากการขาดน้ำและติดเชื้อได้ “ตำแหน่งของบาดแผล” เรื่องตำแหน่งนี่สำคัญนะครับ อย่างเช่น ถ้าตำแหน่งที่เกิดบาดแผลอยู่บริเวณ คอ จมูก ปาก อาจทำให้มีการบวมของเยื่อบุข้างในจนเกิดการอุดตันของทางเดินหายใจได้ หรือถ้าเกิดบาดแผลบริเวณตา อาจทำให้เนื้อเยื่อบริเวณนั้นมีการหดตัว ส่งผลให้การมองภาพไม่ชัด หรือสูญเสียการเห็นภาพไปตลอดชีวิต เป็นต้น เมื่อประสบผู้ได้รับภยันตรายจากไฟไหม้ น้ำร้อนลวก การปฐมพยาบาลเบื้องต้นก่อนถึงมือแพทย์มีความสำคัญอย่างยิ่ง อย่างน้อยก็ช่วยลดความรุนแรงลงได้ในระดับหนึ่ง เช่น ในกรณีที่ถูกไฟไหม้ ให้ใช้น้ำเย็นราดบริเวณที่ได้รับบาดเจ็บหรืออาจใช้ผ้าชุบน้ำเย็นประคบบริเวณนั้นไว้ หรือกรณีที่ถูกกรดหรือด่าง ควรล้างด้วยน้ำจากก๊อกหรือราดด้วยน้ำสะอาดหลายๆ ครั้ง ไม่ควรทายาหรือน้ำมันบริเวณที่มีบาดแผล รีบถอดเครื่องประดับต่างๆ ออกก่อนที่แผลจะบวมทำให้ถอดออกได้ยาก เป็นต้น แต่ทางที่ดีควรรีบนำผู้บาดเจ็บส่งโรงพยาบาลโดยเร็ว โดยเฉพาะแผลไฟไหม้ น้ำร้อนลวกที่เกิดในเด็กเล็กและผู้สูงอายุ แม้จะมีขนาดไม่กว้างมาก แต่อาจมีอันตรายมากกว่าที่พบในคนหนุ่มสาว ดังนั้นจึงควรจะไปพบแพทย์ทุกราย ในการรักษาผู้ป่วยที่มีแผลไฟไหม้ น้ำร้อนลวก แพทย์จะวินิจฉัยความรุนแรงของอาการโดยพิจารณาว่าบาดแผลอยู่ในระดับที่เท่าไร ขนาดและตำแหน่งของบาดแผลเป็นอย่างไรควบคู่กันไป การรักษาก็ว่ากันไปตามความรุนแรงนั่นแหละ เป็นต้นว่า ในรายที่มีบาดแผลดีกรีที่ 1 แพทย์จะให้ล้างแผล และให้ครีมทาพร้อมกับยาแก้ปวดรับประทาน แต่ในรายที่มีบาดแผลดีกรีที่ 2,3 แพทย์จะต้องระวังและป้องกันโรคแทรกซ้อนในระยะ 2-3 วันแรกคือ ภาวะขาดน้ำและช็อค ส่วนการติดเชื้ออาจเกิดขึ้นหลังจากมีบาดแผล 2-3 วันไปแล้ว (หรือหลัง 1 สัปดาห์) (http://www.siamrath.co.th 2/5/2549)





ข่าววิทยาศาสตร์/เทคโนโลยี


เสริมภูมิคุ้มกันรู้ทันภัยออนไลน์ แนวคิดใหม่ สร้างคนดี บนอินเทอร์เน็ต

เพื่อให้การเสริมภูมิคุ้มกัน และให้ความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับการใช้อินเทอร์เน็ตที่ถูกวิธี กลุ่มพันธมิตรธุรกิจซอฟต์แวร์ หรือ BSA จึงเปิด โครงการ “ไรท์ คลิ๊ก” (Right Click) ร่วมกับ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องที่มีหน้าที่ให้ความรู้ในเรื่องดังกล่าวประกอบด้วย กรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) สมาคมผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตไทย (TISPA) และมูลนิธิอินเทอร์เน็ตร่วมพัฒนาไทย แม้โครงการจะมุ่งไปทางด้านการปราบปรามการละเมิดลิขสิทธิ์ซอฟต์แวร์ แต่จะมีกี่คนที่ทราบว่า การละเมิดลิขสิทธิ์ซอฟต์แวร์ คือ จุดเริ่มต้นการกระทำความผิดบนอินเทอร์เน็ต และเป็นช่องโหว่ให้ผู้ร้ายโจมตีผู้ให้งานคอมพิวเตอร์ได้เช่นกัน ด้านนางศรีดา ตันทะอธิพานิช ผู้จัดการมูลนิธิอินเทอร์เน็ตร่วมพัฒนาไทย ให้ความเห็นว่า ปัญหาการใช้งานอินเทอร์เน็ตของเด็ก ขณะนี้ ไม่แตกต่างจากการเลี้ยงลูกเท่าใดนัก เพราะการที่ผู้ใหญ่ไม่สนิทสนมกับเด็กอาจทำให้เด็กมีพฤติกรรมซ่อนเร้น เช่น อยู่ที่โรงเรียนเป็นเด็กเรียบร้อย ขี้อาย ไม่พูด แต่เมื่อกลับบ้านก็จะเล่นแต่อินเทอร์เน็ต และเกมออนไลน์ ไม่สนใจคนรอบข้าง นั่งแชทกับคนแปลกหน้าบนอินเทอร์เน็ต เพราะเกมออนไลน์ทุกเกมเวลานี้แชทได้หมด ถ้าพอแม่เข้าใจลูกก็ต้องพูดคุยกันว่า การมีปฏิสัมพันธ์กับคนบนอินเทอร์เน็ตไม่ใช่ทำไม่ได้ แต่ความสัมพันธ์แบบนี้เป็นแค่เศษเสี้ยวของชีวิตเท่านั้น ผจก.มูลนิธิอินเทอร์เน็ตร่วมพัฒนาไทย อธิบายเพิ่มเติมว่า ในโลกความเป็นจริง เด็กทุกคนต้องรู้จักการเข้าสังคม อยากให้ผู้ปกครองรู้ว่าบนอินเทอร์เน็ตมีสิ่งเร้ามากมาย และเป็นสิ่งที่ไม่ค่อยดี อีกทั้งเรื่องเวลาก็มีความสำคัญสำหรับพ่อแม่ การพูดคุยแค่ 1-2 ครั้งไม่ทำให้เด็กเปลี่ยนพฤติกรรมได้ ต้องบอกกันเรื่อยๆ ต่อเนื่องไป ที่ผ่านมาทางสมาคมฯ ก็มีการจัดอบรมผู้ปกครองให้รู้เท่าทันอินเทอร์เน็ต “ปิดเทอมจะเป็นช่วงเวลาที่พ่อแม่ไม่ชอบ เพราะต้องปล่อยให้ลูกอยู่บ้าน หากไม่อยากให้ลูกไปไหน เด็กต้องดูโทรทัศน์ เล่นเกมออนไลน์ เข้าอินเทอร์เน็ตแบบไม่มีการควบคุม ดังนั้น จึงแนะนำให้ผู้ปกครองหาโปรแกรมคัดกรองเว็บไซต์ หรือ Web filtering เพื่อช่วยกรองเว็บไซต์ไม่เหมาะสม โดยอาจต้องมีการตกลงกติกาการใช้กับเด็กว่า จะมีการตรวจสอบการใช้ และที่สำคัญคือ ต้องพยายามหาเวลาทำกิจกรรมร่วมกันในครอบครัวด้วย” นางศรีดา กล่าวทิ้งท้าย ทั้งหมดนี้ เป็นความเห็นจากผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้อง ในสังคมอินเทอร์เน็ตทั้งผู้ใช้งาน ผู้ให้บริการ และภาครัฐ ที่ต้องเข้ามามีส่วนร่วมในการรับผิดชอบ ควบคุม และแก้ปัญหา สร้างสังคมออนไลน์ที่มีคุณภาพ นำพาให้เกิดการสร้างนวัตกรรม เพื่อแข่งขันกับต่างประเทศ ทั้งนี้ สังคมออนไลน์ที่ดีต้องเริ่มจากตัวผู้ใช้งาน ที่มีสำนึกรับผิดชอบต่อส่วนรวม ไม่สร้างความเดือดร้อนให้คนในสังคม อีกทั้งต้องเคารพต่อกฎหมาย และทรัพย์สินทางปัญญาของผู้อื่น ทั้งนี้ หากเราไม่ไปละเมิดสิทธิ์ของผู้อื่น ก็จะไม่มีใครมาละเมิดสิทธิ์ของเราเช่นกัน... ( จุลดิส รัตนคำแปง Itdigest@thairath.co.th http://www.thairath.co.th 2/5/2549 )





ข่าววิจัย/พัฒนา


ต่อมไทรอยด์กระต่ายใส่ให้คน ผ่าตัดปลูกถ่ายครั้งแรกของโลก

ศัลยแพทย์ของเบลารุสเซียเอาต่อมไทรอยด์ของกระต่ายมาผ่าตัดปลูกถ่ายให้กับคนไข้ หากว่าเป็นผลดี จะนับว่าเป็นการเปิดหนทางใหม่ของการช่วยเหลือคนไข้ซึ่งต้องสูญเสียต่อมไทรอยด์ไป ศาสตราจารย์สตานิสลาฟ เตรตยัก เจ้าหน้าที่ทางการแพทย์อาวุโสของมหาวิทยาลัยรัฐเบลารุสเซีย หัวหน้าทีมศัลยแพทย์ กล่าวว่า “ได้พยายามคิดค้นเทคโนโลยีขึ้นใช้เป็นครั้งแรกของโลกครั้งนี้ มานานถึง 4 ปี” โดยที่เคยมีศัลยแพทย์ชาติอื่น พยายามที่จะผ่าตัดปลูกถ่ายต่อมไทรอยด์ระหว่างมนุษย์ด้วยกันมาก่อนหลายครั้ง แต่มักไม่ได้ผลเนื่องจากร่างกายไม่ยอมรับ เขากับคณะได้พยายามเพาะเซลล์ต่อมไทรอยด์และต่อมพาราไทรอยด์ ขึ้นจากตัวอ่อนระยะสองเดือนแรกของกระต่าย หลังจากที่ได้พบว่าเข้ากับร่างกายของมนุษย์ได้ดีกว่า และแทบไม่พบว่าจะเกิดการต่อต้านแต่อย่างใด โฆษกของโรงพยาบาลกล่าวว่า คนไข้สตรีที่ได้รับการผ่าตัดปลูกถ่ายอวัยวะจากกระต่ายให้ วัย 39 ปี มีอาการเป็นที่น่าพอใจ โดยมีระดับฮอร์โมนในเลือดเป็นปกติ “แต่มันเพิ่งเป็นขั้นแรก มันจะสำเร็จหรือไม่จะต้องรอดูไปอีกไม่ต่ำกว่า 12 เดือน”. (3/05/2006 http://www.thairath.co.th)





อัดฉีดความรู้วิทยากรอิสลามศึกษา

ศ.ดร.อิบราเฮ็ม ณรงค์รักษาเขต หัวหน้าภาควิชาอิสลามศึกษา วิทยาลัยอิสลามศึกษา มอ.ปัตตานี เปิดเผยว่า เนื่องจากใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ส่วนใหญ่นับถือศาสนาอิสลาม ประชากรที่อยู่ในพื้นที่ส่วนใหญ่จึงต้องการเรียนวิชาอิสลามศึกษาเป็นจำนวนมาก ก่อนเกิดเหตุการณ์ไม่สงบในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ โรงเรียนของรัฐเองก็เปิดสอนวิชาอิสลามศึกษา กันน้อย รวมทั้งวิทยากรที่ทำหน้าที่อบรมวิชาอิสลามศึกษาก็มีจำนวนจำกัด ทำให้ตอบสนองความต้องการของคนในพื้นที่ได้ไม่เต็มที่ ดังนั้น ภาควิชาอิสลามศึกษาจึงได้มีการจัดเสริมความรู้ให้กับวิทยากรอิสลามศึกษาในโรงเรียนของรัฐ เพื่อเป็นการเติมความรู้ในส่วนที่วิทยากรยังขาด อาทิ เนื้อหา การวิเคราะห์หลักสูตร หัวหน้าภาควิชาอิสลามศึกษา กล่าวด้วยว่า ส่วนการอบรมนั้นทางภาควิชาอิสลามศึกษาได้จัดอบรมให้กับวิทยากรไปแล้ว 150 คน ซึ่งผู้ที่ได้รับการอบรมก็จะสามารถนำความรู้ที่ได้รับไปเป็นวิทยากรบรรยายวิชาอิสลามศึกษาได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะศาสนาอิสลามเป็นศาสนาแห่งสันติภาพ ถ้าสอนอย่างไม่ถูกต้องแล้วคนก็อาจจะมีความเข้าใจผิดได้ ประกอบกับเนื้อหาของศาสนาก็ยังมีความสอดคล้องกับวิถีชีวิต ซึ่งการให้ความรู้กับประชาชนที่ถูกต้องก็จะเกิดประโยชน์กับตัวเขาเองและสังคมด้วย นอกจากนี้ การสอนวิชาอิสลามศึกษาในปัจจุบันได้มีการปรับปรุงหลักสูตรให้มีความสอดคล้องกับสถานการณ์ โดยเน้นหลักสูตร วิชาสมานฉันท์ วิชาที่เกี่ยวกับสันติภาพมากขึ้น ซึ่งทางภาควิชาได้สอนในวิชาดังกล่าวมาอย่างจริงจังประมาณ 2-3 ปีแล้ว และขณะนี้โรงเรียนของรัฐทั้งประถมและมัธยมกว่า 100 โรง ได้เริ่มนำร่องเพิ่มสัดส่วนการสอนวิชาอิสลามศึกษาให้มากขึ้นกว่า 10 ชั่วโมงด้วย ซึ่งคาดว่าจะตอบสนองความต้องการของคนที่อยู่ในพื้นที่ได้มากขึ้น “อย่างไรก็ตาม คนในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ต้องการที่จะเรียนรู้วิถีชีวิตตามหลักศาสนา เมื่อได้เรียนรู้อย่างถูกต้องจะสามารถใช้ชีวิตตามครรลองครองธรรม และดำรงตนในสังคมได้อย่างเป็นสุข ซึ่งภาครัฐเองต้องลงมาช่วยกันแก้ไขปัญหาต่างๆด้วยความจริงใจและใส่ใจ จะช่วยลดเงื่อนไขต่างๆได้” ผศ.ดร.อิบราเฮ็มกล่าว. (http://www.thairath.co.th 3/05/2006)





‘ศิริราช’ ยิงตรงรักษาหลอดเลือดหัวใจตีบสู่ปารีส

รศ.น.พ.ดำรัส ตรีสุโกศล หัวหน้าหน่วยหัตถการรักษาโรคหลอดเลือดหัวใจผ่านสายสวน ศูนย์โรคหัวใจสมเด็จพระบรมราชินีนาถ โรงพยาบาลศิริราช เปิดเผยว่า โรงพยาบาลศิริราชได้รับเกียรติจากที่ประชุม EURO-PCR 2006 ให้เป็นโรงพยาบาลแห่งเดียวในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ที่รับผิดชอบการถ่ายทอดสดการรักษาโรคหลอดเลือดหัวใจตีบผ่านสายสวน ผ่านดาวเทียมไปยังการประชุมที่ Palais des Congres Port Mailot Paris ในวันที่ 19 พ.ค.นี้ เวลา 14.00-15.30 น. ที่อาคารศูนย์โรคหัวใจสมเด็จพระบรมราชินีนาถ สำหรับเหตุผลที่ได้รับการคัดเลือกเป็นเพราะมีความพร้อม ด้านบุคลากรทางการแพทย์ที่มีความชำนาญในการรักษาผู้ป่วยโรคหลอดเลือดหัวใจตีบ เฉลี่ยปีละ 1,400 ราย จัดได้ว่าทำการผ่าตัดมากที่สุดในประเทศไทย รศ.ดร.ดำรัสกล่าวอีกว่า นอกจากนี้ ยังมีเครื่องมือที่ทันสมัยมาเพิ่มประสิทธิภาพในการรักษา อาทิ เครื่องเสียงสะท้อนในหลอดเลือด ซึ่งได้ทำการรักษาผู้ป่วยด้วยเครื่องนี้ปีละประมาณ 300-400 ราย เครื่องวัดอัตราการไหลเวียนสำรองของกล้ามเนื้อหัวใจในภาวะขาดเลือด ซึ่งมีที่เดียวในประเทศไทย เครื่องสลายลิ่มเลือด และเครื่องสลายเนื้อเยื่อ ด้วยเครื่องเลเซอร์ ทำให้เส้นเลือดหัวใจหายตีบตัน ทั้งนี้ การประชุม EURO-PCR 2006 เป็นการประชุมวิชาการเกี่ยวกับหัตถการการรักษา Endovascular intervention ที่ใหญ่ที่สุดในปัจจุบัน ซึ่งจัดเป็นประจำทุกปีที่กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส ในครั้งนี้มีผู้เข้าร่วมประชุมกว่า 15,000 คน จากทั่วทุกมุมโลก ทั้งในทวีปยุโรป อเมริกา เอเชีย ในการประชุมครั้งนี้ รพ.ศิริราชได้รับเชิญให้เป็น Transmission LIVE Center ร่วมกับสถาบันโรคหัวใจระดับโลกอีก 13 แห่ง นับเป็นเกียรติประวัติแก่คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาลอีกครั้ง ซึ่งรายละเอียดการประชุมนี้ดูได้จาก www.europcr.com. (http://www.thairath.co.th3/05/2006)





พระเทพฯส่งเสริมหญ้าแฝก พระราชทานหมื่นเหรียญงานวิจัย

นายอภิชาต จงสกุล รองอธิบดีกรมพัฒนาที่ดิน เปิดเผยว่า การสัมมนาหญ้าแฝกนานาชาติครั้งที่ 4 จัดขึ้นระหว่างวันที่ 22-26 ตุลาคม ณ ประเทศเวเนซุเอลา ที่จะถึงนี้ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานเงินจากมูลนิธิชัยพัฒนาจำนวน 10,000 เหรียญสหรัฐฯ เป็นรางวัล The King of Thailand Vetiver Awards สำหรับงานวิจัยหญ้าแฝกดีเด่นและงานส่งเสริม และถ่ายทอดเทคโนโลยีระบบหญ้าแฝกดีเด่น จำนวน 4 รางวัล ในการนี้กรมพัฒนาที่ดินได้ มอบหมายให้ทางสำนักงานพัฒนาที่ดินเขต 12 เขต, สถานีพัฒนาที่ดินทั้ง 76 จังหวัด, ศูนย์ศึกษาการพัฒนาพิกุลทอง อันเนื่องมาจากพระราชดำริ, ศูนย์ศึกษาการพัฒนาเขาหินซ้อนฯ, ศูนย์ปฏิบัติการพัฒนาที่ดินโครงการหลวง, สำนักวิจัยและพัฒนาการจัดการที่ดินและสำนักสำรวจดินและวางแผนการใช้ที่ดิน ส่งผลงานหญ้าแฝกทั้งในส่วนของผลงานวิจัย และผลงานส่งเสริมถ่ายทอดเทคโนโลยีระบบหญ้าแฝก หัวข้อละ 1 เรื่อง เพื่อให้คณะกรรมการวิชาการหญ้าแฝก คัดเลือกผลงานที่โดดเด่นสำหรับส่งเข้าประกวด สำหรับหลักเกณฑ์ในการพิจารณาต้องเป็นการดำเนินการศึกษา ของนักวิจัยหรือหน่วยงานที่ได้รับการยอมรับ เป็นงานศึกษาวิจัยในระดับพื้นฐานหรือประยุกต์ เป็นผลงานวิจัยที่ทำให้เกิดองค์ความรู้ใหม่ และเป็นประโยชน์ต่อส่วนรวมสามารถนำไปประยุกต์ใช้ได้ผลอย่างกว้างขวาง ส่วนผลงานด้านการส่งเสริมและถ่ายทอดเทคโนโลยีระบบหญ้าแฝกดีเด่น ต้องมีคุณสมบัติเป็นผลงานที่แสดงถึงวิธีการส่งเสริมไปยังเกษตรกรได้อย่างมีประสิทธิภาพ และเทคโนโลยีที่เหมาะสมสอดคล้องที่เป็นประโยชน์ต่อสิ่งแวดล้อม. (http://www.thairath.co.th 3/05/2006)





‘SMaRT School’ เปิดโลกเด็กคือสร้างสรรค์ค์ผ่าน ICT

“สมาร์ทสคูล” (SMaRT School) เป็นอีกหนึ่งโครงการความร่วมมือระหว่างรัฐบาลไทยกับรัฐบาลสหราชอาณาจักร ที่ดำเนินการภายใต้โครงการตอบแทนคืนทางเศรษฐกิจรูปแบบต่าง ๆ ระหว่าง 2 ประเทศ โดยในส่วนของรัฐบาลไทยมีกระทรวงกลาโหมร่วมกับกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) โดยมอบหมายให้สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (สสวท.) รับผิดชอบในการจัดโครงการ SMaRT School ซึ่งมีจุดเด่นคือการนำ ICT มาใช้ในการจัดการเรียนการสอน การออกแบบเทคโนโลยี ที่มีการนำบางส่วนในหลักสูตรของสหราชอาณาจักรมาทดลองใช้ในโรงเรียนนำร่องของไทย ซึ่งได้บูรณาการกับวิชาวิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ และเทคโนโลยี ให้ทัดเทียมกับประเทศที่เป็นผู้นำทางเศรษฐกิจได้อย่างรวดเร็ว และที่สำคัญทำให้ครูสามารถจัดการเรียนการสอนวิชาดังกล่าวได้อย่างมีประสิทธิภาพ และนักเรียนได้คิดอย่างสร้างสรรค์และได้ลงมือปฏิบัติจริง จุดเริ่มต้นของโรงเรียนนำร่องในโครงการ SMaRT School ได้ปูพรมใน 10 โรงเรียน ซึ่ง รร.ตราษตระการคุณ จ.ตราด ก็เป็นหนึ่งในโรงเรียนนำร่องที่ได้ดำเนินการมา 1 ปีการศึกษาแล้ว ซึ่งจากการเปิดศูนย์ SMaRT School อย่างเป็นทางการ เมื่อเร็ว ๆ นี้ ดร.ประวิช รัตนเพียร รักษาการรมว.วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มองว่า การพัฒนาประเทศควรเริ่มต้นที่การพัฒนาคน พัฒนาองค์ความรู้และการเรียนรู้ โดยเฉพาะเด็กและเยาวชนจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องพัฒนาการเรียนรู้ให้ทันกับเทคโนโลยีที่เปลี่ยนแปลงไป ซึ่งโครงการ SMaRT School นับเป็นมิติใหม่แห่งการเรียนรู้ที่ใช้เทคโนโลยีเข้ามามีส่วนช่วยในการจัดการเรียนการสอน ให้ผู้เรียนเกิดความคิดสร้างสรรค์ในการสร้างผลงาน เกิดองค์ความรู้ทางเทคโนโลยีระดับโรงเรียน ซึ่งเป็นองค์ความรู้ใหม่ที่ประเทศไทยเพิ่งเริ่มจัดให้มีการเรียนการสอนอย่างเป็นทางการ และการที่ประเทศไทยสนับสนุนโครงการดังกล่าว จะส่งผลให้เกิดการพัฒนาทางด้านการศึกษาเทคโนโลยี วิทยาศาสตร์ และคณิตศาสตร์ อันจะนำไปสู่การพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมที่ยั่งยืนต่อไป ( เดลินิวส์ อังคารที่ 2 พ.ค. 49 http://www.dailynews.co.th)





พบ “แมงกระดานถ้ำ” ชนิดใหม่ของโลก ในถ้ำพระพุทธบาทน้อย จ.สระบุรี ลักษณะคล้ายตะขาบผสมกั้งสีชมพู

เมื่อวันที่ 1 พ.ค. นายบุญมี สรรพคุณ หัวหน้าศูนย์ศึกษาและพัฒนาวนศาสตร์ชุมชนที่ 1 (สระบุรี) สำนักจัดการป่าชุมชน กรมป่าไม้ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เปิดเผยว่า ขณะนี้ประเทศไทยได้ค้นพบสัตว์ใต้ดินชนิดใหม่ของโลก มีชื่อเรียกว่า แมงกระดานถ้ำ เป็นสัตว์ไม่มีกระดูกสันหลัง อาศัยอยู่ในถ้ำ ค้นพบที่ถ้ำน้ำเขาพระพุทธบาทน้อย อ.แก่งคอย จ.สระบุรี และได้รับการประกาศลงในวารสาร subterranean biology ฉบับเดือน เม.ย.2549 และตั้งชื่ออย่างเป็นทางการว่า “แมงกระดานถ้ำโมงนาที” เพื่อเป็นเกียรติแก่ นายสมควร โมงนาที อดีตกำนันบ้านเขาพระพุทธบาทน้อย ในฐานะเป็นผู้ริเริ่มอย่างจริงจังในการอนุรักษ์เขาหินปูนลูกนี้ไว้ ซึ่งเป็นเขาลูกเดียว เป็นที่อยู่อาศัยของแมงกระดานถ้ำ นายบุญมีกล่าวต่อว่า สำหรับการค้นพบ เริ่มขึ้นเมื่อ 2 ปีก่อนโดยตนและนายนณณ์ ผาณิตวงศ์ นักวิชาการอิสระและชาวบ้านในพื้นที่รวม 5 คน ได้เดินทางสำรวจถ้ำน้ำเขาพระพุทธบาทน้อย อ.แก่งคอย จ.สระบุรี ได้บังเอิญพบแมงที่มีลักษณะแปลกๆ อาศัยอยู่บนผิวน้ำภายในถ้ำดังกล่าวจึงได้เก็บตัวอย่างส่งให้กับ ศ.ไพบูลย์ นัยเนตร จากคณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ตรวจสอบ จากนั้นได้ส่งให้ ดร.กาย แมกนีส ผู้เชี่ยวชาญจากประเทศฝรั่งเศส ตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้ง ก่อนได้รับการยืนยันว่าแมงที่ค้นพบเป็นแมงกระดานถ้ำชนิดใหม่ของโลกจริง นายบุญมีกล่าวอีกว่า แมงกระดานถ้ำที่พบในถ้ำ จ.สระบุรี เป็นสัตว์สกุล Stenasellus มีความโดดเด่นและไม่เหมือนกับแมงกระดานถ้ำที่เคยมีรายงานการค้นพบในพื้นที่ภาคอีสานและภาคใต้ของไทย โดยมีลักษณะคล้ายตะขาบผสมกั้ง ความยาวประมาณ 1.5 เซนติเมตรซึ่งใหญ่กว่าแมงกระดานถ้ำที่เคยพบมาก่อนทั้ง 5 ชนิดในเมืองไทย โดยลักษณะเมื่ออยู่ในน้ำแมงดังกล่าวลำตัวจะมีสีขาวขุ่น แต่เมื่อจับขึ้นมาพ้นน้ำจะเปลี่ยนเป็นสีชมพูเข้มทันที นอกจากนี้ที่ด้านหางจะมีระยางยืดออกมา มีขา 6 คู่ หรือเท่ากับ 12 ขา ขณะนี้ได้หามาตรการดูแลไม่ให้สัตว์ชนิดนี้สูญพันธุ์แล้ว. (http://www.thairath.co.th 2/5/2549)





รู้ไหมเอ่ย / ชาดำป้องกันฟันผุ

ขณะที่ชาเขียวกำลังถูกปรับปรุงและพัฒนารสชาติต่างๆ ขึ้นอย่างมากมาย แต่ใครจะรู้ว่านอกจากชาเขียวยังมีชาอีกชนิดหนึ่งที่ให้ประโยชน์ต่อร่างกายและมีความน่าสนใจไม่แพ้กัน เรื่องมีอยู่ว่าก่อนหน้านี้นักวิชาการในประเทศญี่ปุ่นได้พบว่าคุณสมบัติ Antioxidantsในชาเขียวสามารถลดฟันผุลงได้ ประเทศสหรัฐอเมริกาจึงได้นำการวิจัยดังกล่าวมาศึกษาต่อ โดยข้อมูลอ้างอิงจากผลการศึกษาจากคณะแผนกทันตกรรม ที่ University of Illinois ระบุว่า การดื่มชาดำในแต่ละวันช่วยลดคราบหินปูนและเชื้อ แบคทีเรีย ซึ่งยังเป็นการลดโอกาสที่จะเกิดฟันผุได้ ทั้งนี้ คราบหินปูน นอกจากจะเป็นที่อยู่ของเชื้อแบคทีเรียต่างๆ กว่า 300 ชนิด แล้ว ยังเป็นสาเหตุของโรคเหงือกและสาเหตุในการทำให้เกิดกรดขึ้นอีกด้วย จากการศึกษาได้ให้ผู้เข้าร่วมทดลองบ้วนปากด้วยชาเป็นเวลา 30 วินาที 5 ครั้ง พบว่าสามารถลดปริมาณแบคทีเรียลงได้จริง และการศึกษายังพบอีกว่า ประสิทธิภาพในการป้องกันฟันผุนี้ไม่ได้เกิดจาก Fluoride ซึ่งอย่างไรก็ตาม ชาที่จะมีประโยชน์และมี คุณสมบัติดังกล่าวต้องไม่ใช่ชาที่ผสมน้ำตาลหรือนม (http://www.siamrath.co.th 3/5/2549)





ข่าวทั่วไป


เพาะเลี้ยงปลากระดี่เงินล้านสู่เกษตรกรดีเด่นแห่งปี

พวกกระดี่ได้น้ำ เดี๋ยวก็ถูกจับไปกิน... คำพังเพยที่คนโบราณเอามาเปรียบเทียบกับคนที่แสดงอาการดีใจจนเกินเหตุ... และก็มิได้เกินเหตุ “กระดี่” ตัวนี้แหละที่ทำให้ เกษตรกรผู้หนึ่ง ได้รับการยกย่องว่าเป็น เกษตรกรดีเด่นแห่งชาติปีนี้ เขาคือ สงคราม ยะหัตตะ สงคราม ยะหัตตะ อายุ 64 ปี เกษตรกรที่พลิกผันชีวิตจากช่างทำเหล็กดัด มาทำฟาร์มเพาะเลี้ยงปลากระดี่ เปิดเผยว่า เมื่อก่อนนี้เรียนหนังสือจบแค่ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 แล้วก็ออกมาทำงานเกี่ยวกับประตูอัลลอยและเหล็กดัดย่าน จ.นนทบุรี พอปี 2540 ฟองสบู่แตกก็เป็นหนี้เขา... ช่วงนั้นก็เลยหนีชีวิตในเมืองไปบ้านสร้างที่ปราจีนบุรี อยู่บนที่ดินมรดกที่พ่อแม่ทิ้งไว้ให้ ทดลองเลี้ยงปลาปลูกพืช... ในช่วงแรกไม่ประสบผลสำเร็จด้วยขาดประสบการณ์ และมีปัญหาความเป็นกรด-ด่างของดิน ต้องใช้วัสดุปูนชนิดต่างๆมาปรับสภาพเพื่อให้เหมาะสมกับการทำเกษตรกรรม จากนั้นก็ได้รับความสำเร็จด้วย การเลี้ยงปลากระดี่ อันเป็นปลาน้ำจืดพื้นบ้านมีลักษณะเด่นคือสามารถหายใจทางเหงือกพิเศษได้ ซึ่งมี อยู่ 3 ชนิด คือ กระดี่นาง, กระดี่หม้อ และ กระดี่มุก หรือ กระดี่นางฟ้า ปลากระดี่อาศัยอยู่ตามลำน้ำลำคลองหนองบึงที่มีหญ้าปกคลุมเพื่อเป็นที่หลบศัตรูสำหรับวางไข่ อุปนิสัยส่วนตัวเมื่อฝนตกใหม่ ปลากระดี่ก็จะขึ้นมาสะบัดตัวบนผิวน้ำ เหมือนการเล่นน้ำกันเสียงดัง “จุ๊บจั๊บๆๆ” แถมยังชอบมากันเป็นฝูงๆจนถูกจับไปกินเป็นจำนวนมาก การเพาะพันธุ์จะใช้ ปลากระดี่นางกับปลากระดี่สายพันธุ์จากต่างประเทศ ซึ่งจะมีเปอร์เซ็นต์รอดตายในอัตราที่สูงถึงปีละ 2-3 ล้านตัว ในสนนราคาที่ขายกันตัวละ 1.60 บาท สำหรับขั้นตอนผสมพันธุ์แบบธรรมชาติ ใช้บ่อซีเมนต์เป็นที่เพาะเลี้ยงใช้เวลาประมาณ 4 วัน เมื่อฟักเสร็จก็เอาพ่อแม่พันธุ์ออกจากบ่อเพาะเลี้ยง ปล่อย ให้ลูกปลาเจริญเติบโตประมาณ 1 สัปดาห์ให้ตักปลูกปลากระดี่ไปใส่บ่อดิน แล้วให้อาหารเม็ดจำพวกไฮเกรด...เท่านี้ปลากระดี่ก็รอดตาย นำมาขายได้แล้ว ณ ปัจจุบัน หลังจากที่ล้างหนี้ได้ด้วยปลากระดี่ สงคราม ก็หันมาจับอาชีพประมงเพาะเลี้ยงปลาหลายชนิด เช่น ปลาคาร์พ ปลาโมศร์ ฟาร์มนี้ไม่ได้ปิดบังข้อมูลแต่อย่างใด ใครสนใจไปเยี่ยมชมฟาร์ม สามารถติดต่อไปได้ที่คุณสงคราม 0-1805-7693 ได้ทุกวัน (ไชยรัตน์ ส้มฉุน http://www.thairath.co.th 2/5/2549 )






KMUTT Digital Library
Contact Digital Library : info@lib.kmutt.ac.th
Tel : 0-2470-8215