หัวข้อข่าวปีที่ 7 ฉบับที่ 23 ประจำวันที่ 2006-06-05

ข่าวการศึกษา

ศธ.ทุ่ม8ล.เปิดศูนย์เสมารักษ์ ดูแลแก้ปัญหาเยาวชนเบ็ดเสร็จ
สพฐ.ไม่เชื่อโรงเรียนตุกติกแก้เกรดเพิ่มช่วยเด็กซิล
ศธ.ขอคืนอัตราเกษียณ 100 % แก้ขาดครู
แนวโน้มเด็กเรียนหมอปี 50 ต้องใช้ทุนคืนร่วม 2 ล้าน
พิษ'โอเน็ต'ฉุดดัชนีความเชื่อมั่นการศึกษาไทยต่ำสุดในรอบ 14 เดือน
ก๊อกๆ ...เปิดประตู “ห้องเรียนคณิตวิทย์พิสดาร”
ศธ.เร่งยกระดับ ร.ร.ขนาดเล็กเฟ้น 600 ร.ร.พัฒนาเป็นต้นแบบ
ทปอ.ถกแอดมิชชั่นส์17มิ.ย. หลังปี51ลุ้นเปลี่ยนระบบ
ศธ.ออกกฏเหล็กคุมโจ๋ผีพนัน
ปลื้มพบสูติบัตรรัชกาลที่ 8 ที่ไฮเดนเบิร์ก
เปิดม่านการศึกษา : มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี
ชี้ขวางถ่ายโอนมีสิทธิขัดกฎหมาย

ข่าววิทยาศาสตร์/เทคโนโลยี

พึ่งนิวเคลียร์จับตาสึนามิตรวจวัดแรงสั่นสะเทือนใต้ดินก่อนเตือนภัย
อิสราเอลพบสัตว์พันธุ์ใหม่ 8 ชนิด
เครื่องทดสอบห้ามล้อฝีมือคนไทย
ฝรั่งเศสลองใช้เชื้อเพลิงใหม่เอทานอล 85
เต้าเจี้ยวเอเชีย โค่นไวน์แดงฝรั่ง มีแรงปราบอนุมูลอิสระเหนือกว่า
ติดเซ็นเซอร์จับตาผู้ขับขี่ฟ้องผ่านคอมพ์สอบใบขับขี่ผ่านหรือตก
รู้จักฝนหลวง

ข่าววิจัย/พัฒนา

ตะลึงมนุษย์มียีนร่วมกับแบคทีเรีย
คืนชีพขยะเซรามิก ผสมพลาสติกทำฉนวนกันร้อน
จิบน้ำเปล่าแก้ปวด
ไทยเล็งสร้างห้องนักบินเสมือนจริงใช้ฝึกปฏิบัติบินเหมือนอยู่บนเครื่องจริงๆ
ส่งคลื่นวิทยุจดเลขมิเตอร์ไฟไม่ง้อคน

ข่าวทั่วไป

รับน้องใหม่..ไม่อยากเห็นเรื่องเศร้า ไร้แอลกอฮอล์ ไม่เมา..ดีที่สุด
แห่ชมนิทรรศการคับคั่ง 9 วันกว่า 3.2 ล้าน
"บรรณารักษ์น้อย" กิจกรรมของคนรักหนังสือ
'คอมพ์ครอบครัว'ราคาถูก
ปลัด วธ.ชี้ไทยควรมีพิพิธภัณฑ์ด้านดนตรี
ทีเค ปาร์ค เผยโฉมเกมใหม่
WHO ทูลเกล้าฯ ถวายรางวัลเกียรติยศ
สวช.ส่งคณะโจหลุยส์ ชิงแชมป์หุ่นนานาชาติที่สาธารณรัฐเช็ก
ผุดรถไฟฟ้า-รถเมล์เอ็นจีวี ครม.ทุ่มกว่าหมื่นล.ซื้อใจคนกรุง
“ชาใบหม่อน” ไทยชนะเลิศเครื่องดื่มโลก





ข่าวการศึกษา


ศธ.ทุ่ม8ล.เปิดศูนย์เสมารักษ์ ดูแลแก้ปัญหาเยาวชนเบ็ดเสร็จ

ศธ.ทุ่มงบ 8 ล้านบาท พัฒนาศูนย์ 1579 เป็น "ศูนย์เสมารักษ์" ศูนย์กลางการแก้และเฝ้าระวังปัญหาเยาวชนระยะยาว "จาตุรนต์"ยอมเป็นนายแบบถ่ายสื่อทีวี-วิทยุรณรงค์สร้างจิตสำนึกเยาวชน คาดเปิดบริการภายใน 7 กรกฎาคมนี้ นายปิยะบุตร ชลวิจารณ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) ในฐานะประธานคณะกรรมการการส่งเสริมคุณธรรม จริยธรรม ศธ. กล่าวว่า นายจาตุรนต์ ฉายแสง รักษาการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (รมว.ศธ.) ต้องการให้ตั้ง “ศูนย์เสมารักษ์” เพื่อเป็นศูนย์รวมการแก้ปัญหาเด็กและเยาวชนในทุกเรื่อง ซึ่งจะเป็นการทำงานแบบระยะยาวที่ต้องเฝ้าระวังแก้ไขปัญหาและจัดกิจกรรมรณรงค์กระตุ้นจิตสำนึกของเด็กและเยาวชน ให้มีความตระหนักในปัญหายาเสพติด การทะเลาะวิวาท การเล่นพนันฟุตบอลโลก และการมีเพศสัมพันธ์ในวัยเรียน เป็นต้น โดยจะอาศัยเครือข่ายความร่วมมือจากคณะกรรมการนักเรียน โรงเรียนในสังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) คณะกรรมการนักเรียน สถานศึกษาในสังกัดสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (สอศ.) นายกสโมสรนิสิต นักศึกษาของสถาบันอุดมศึกษา ผู้ปกครอง ชุมชน องค์ปกครองส่วนท้องถิ่น และผู้ว่าราชการจังหวัดเข้ามาเป็นเครือข่ายกับศูนย์เสมารักษ์ด้วย ทั้งนี้ คุณหญิงกษมา วรวรรณ ณ อยุธยา ปลัด ศธ. ได้จัดสรรงบประมาณกว่า 8 ล้านบาท เพื่อใช้ในการปรับปรุงศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์สายด่วน 1579 เป็นแม่ข่ายในการบริหารจัดการของศูนย์เสมารักษ์ อีกทั้ง อนุมัติให้จ้างบริษัทเอกชนเพื่อวางระบบการเชื่อมต่อคอลเซ็นเตอร์ สายด่วน 1579 ไปยัง 5 องค์กรหลักของ ศธ. คาดว่าการดำเนินการจัดตั้งศูนย์จะแล้วเสร็จและเปิดบริการได้ภายในวันที่ 7 กรกฎาคมนี้ (คมชัดลึก จันทร์ที่ 5 มิ.ย.2549 http://www.komchadluek.net)





สพฐ.ไม่เชื่อโรงเรียนตุกติกแก้เกรดเพิ่มช่วยเด็กซิล

จากกรณีที่มีข่าวว่ามีโรงเรียนมัธยมศึกษาบางโรงตุกติกโดยการส่งผลการเรียนเฉลี่ยสะสม ม.ปลาย (GPAX) และผลการเรียนรายกลุ่มสาระวิชา (GPA) เพิ่มเติมหลังจากที่สำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา (สกอ.) ได้ประมวลผลการแอดมิชชั่นกลางไปเรียบร้อยแล้วนั้น ดร.สุชาติ วงศ์สุวรรณ ผู้อำนวยการสำนักวิชาการและมาตรฐานการศึกษา สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) กล่าวว่า ปีนี้กลุ่มที่ถูกระบุว่ามีปัญหาค่อนข้างมากคือเด็กที่จบก่อนปีการศึกษา 2548 หรือ เด็กซิล ที่ขอให้โรงเรียนเทียบระดับผลการเรียนจาก 5 ระดับ เป็น 8 ระดับนั้น ถ้าผลการเรียนรายวิชาเพิ่มขึ้นเพียง 1 รายวิชา ก็จะส่งผลให้ GPA และGPAX เพิ่มขึ้นตามไปด้วย และยิ่งเด็กเรียน ม.ปลาย 3 ปี ก็ต้องเรียนเกือบ 60 รายวิชา ถ้ามีแค่ 2-3 รายวิชาที่เดิมได้ 2.0 แต่เมื่อคิดคะแนนใหม่แล้วได้ 2.5 ผลการเรียนต้องขึ้นเป็นธรรมดา “อยากให้เห็นใจโรงเรียนด้วย เพราะปีนี้มีการติดต่อเรื่องการปรับเกรดกันค่อนข้างกะทันหันกว่าโรงเรียนจะหาข้อมูลเด็กแต่ละคนจนครบ 3 ปีย้อนหลังได้ก็ต้องใช้เวลาบ้าง บางโรงเรียนก็ไม่ได้เก็บข้อมูลไว้แล้ว แต่หลายโรงเรียนยังเก็บไว้อยู่ซึ่งก็ถือเป็นบุญของเด็ก เพราะถ้าโรงเรียนไม่มีข้อมูลเด็กก็ต้องใช้ GPAX ที่มีซึ่งอาจจะทิ้งห่างกับเด็กที่เป็น 8 ระดับ อย่างไรก็ตามเชื่อว่าปีการศึกษาหน้าน่าจะเรียบร้อยขึ้นเพราะโรงเรียนทุกโรงมีความเข้าใจชัดเจนมากขึ้นแล้ว สำหรับปีนี้ต้องยอมรับว่าความสับสนที่เกิดขึ้นเป็นปัญหาที่ระบบการติดต่อประสานงานด้วย เพราะสำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา (สกอ.) ไม่ได้ติดต่อผ่านมาทางกระทรวงศึกษาธิการก่อน แต่ปีหน้าหากได้มีการติดต่อประสานงานกันล่วงหน้าและมีการวางระบบกันให้ดี ขณะเดียวกันโรงเรียนก็ควบคุมดูแลเด็กตั้งแต่ขั้นตอนการสมัครทุกอย่างก็น่าจะดีขึ้น” ดร.สุชาติกล่าว (เดลินิวส์ จันทร์ที่ 5 มิ.ย.2549 http://www.dailynews.co.th/)





ศธ.ขอคืนอัตราเกษียณ 100 % แก้ขาดครู

ดร.สิริพร บุญญานันต์ รองเลขาธิการสภาการศึกษา (สกศ.) เปิดเผยว่า จากการประชุมสรุปความต้องการครู คณาจารย์ และบุคลากรทางการศึกษา ของกระทรวงศึกษาธิการ ที่มี นายจาตุรนต์ ฉายแสง รักษาการ รมว.ศึกษาธิการ (ศธ.) เป็นประธาน เมื่อเร็ว ๆ นี้ ที่ประชุมซึ่งมีผู้แทนจากองค์กรหลักของ ศธ.ได้ยืนยันว่า ในการแก้ไขปัญหาการขาดแคลนครูใน ศธ.จะต้องขออัตราข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาจากการเกษียณอายุราชการคืน โดยในภาพรวมขณะนี้ศธ.มีความต้องการอัตราครูจำนวน 93,597 อัตรา ซึ่งก็ยอมรับว่าการขอคืนอัตราครูดังกล่าวจะต้องใช้งบฯถึงกว่า 7,000 ล้านบาท ซึ่งคงเป็นไปไม่ได้ที่จะได้มาทั้ง 100% ดังนั้น ศธ.จึงได้เตรียมการแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าด้วยการขอคืนงบฯและอัตราข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ในสังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (สอศ.) และสำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา (สกอ.) ที่เกษียณอายุในปี 2548 จำนวน 2,312 อัตรา และที่จะเกษียณในปี 2549 อีก 3,939 อัตรา ไว้แล้ว ซึ่งหากได้ตามที่ขอก็จะสามารถนำไปจ้างครูอัตราจ้างใหม่ได้ไม่ต่ำกว่า 13,000-14,000 อัตรา รองเลขาธิการ สกศ. กล่าวต่อไปว่า คาดว่าภายในสัปดาห์นี้ ศธ.จะนำปัญหาดังกล่าวไปหารือร่วมกับดร.วิษณุ เครืองาม และดร.สุรเกียรติ์ เสถียรไทย รักษาการรองนายกรัฐมนตรี และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ สำนักงบประมาณ สำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน (ก.พ.) สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาระบบราชการ (ก.พ.ร.) เนื่องจากที่ผ่านมา ก.พ.ร.มีแนวทางที่จะคืนอัตราเกษียณให้กับกระทรวงต่าง ๆ 20% แต่ ดร.วิษณุ และ ดร.สุรเกียรติ์ ได้รับทราบและเข้าใจถึงปัญหาการขาดแคลนครูในขณะนี้จึงต้องการให้คืนอัตราเกษียณให้แก่ ศธ.มากกว่ากระทรวงอื่น (เดลินิวส์ จันทร์ที่ 5 มิ.ย. 2549 http://www.dailynews.co.th/)





แนวโน้มเด็กเรียนหมอปี 50 ต้องใช้ทุนคืนร่วม 2 ล้าน

ผศ.พญ.นันทนา ศิริทรัพย์ รองคณบดีฝ่ายวิชาการ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวในงานเสวนาวันอานันทมหิดล เรื่อง “เมื่อ (ลูก) คุณอยากเป็นหมอ” เมื่อเร็ว ๆ นี้ ว่า จากการเปลี่ยนระบบการคัดเลือกบุคคลเข้าศึกษาต่อในสถาบันอุดมศึกษาจากระบบเอนทรานซ์มาเป็นระบบกลางการรับนิสิตนักศึกษา หรือ แอดมิชชั่น ซึ่งเริ่มใช้ในปีการศึกษา 2549 เป็นปีแรกนั้น ได้ส่งผลให้หลักเกณฑ์การคัดเลือกนักเรียนเข้าศึกษาต่อในคณะแพทย์ จุฬาฯต้องเปลี่ยนแปลงตามไปด้วย โดยมีการนำคะแนนทดสอบทางการศึกษาแห่งชาติขั้นพื้นฐาน (O-NET) คะแนนทดสอบทางการศึกษาแห่งชาติขั้นสูง (A-NET) และคะแนนสอบวิชาเฉพาะที่มหาวิทยาลัยจัดสอบเองมาพิจารณาคัดเลือก แต่เนื่องจากการประกาศผล O-NET และ A-NET เกิดปัญหาทั้งผลคะแนนคลาดเคลื่อนและการประกาศผลล่าช้า ทางคณะแพทย์ จุฬาฯ จึงจำเป็นต้องมาพิจารณาแนวทางการรับนิสิต ปีการศึกษา 2550 ใหม่อีกครั้ง ผศ.พญ.นันทนา กล่าวต่อไปว่า การพิจารณาแนวทางการรับนิสิตแพทย์ของจุฬาฯ จะต้องหารือร่วมกับกลุ่มสถาบันแพทยศาสตร์แห่งประเทศไทย (กสพท.) เพราะได้มีการตกลงกับทางกสพท.แล้วว่าปีการศึกษา 2550 จุฬาฯจะรับร่วมกับกลุ่มกสพท.จากเดิมเรารับเอง เพื่อเป็นการลดความวุ่นวายต่าง ๆ และลดปัญหาการวิ่งรอกสอบเข้าคณะแพทย์ของมหาวิทยาลัยต่าง ๆ ด้วย อย่างไรก็ตามในวันที่ 14 มิถุนายนนี้ กสพท. และจุฬาฯ จะมีการประชุมเพื่อหารือเกี่ยวกับแนวทางการรับนิสิตนักศึกษาแพทย์ ประจำปีการศึกษา 2550 ที่มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ (มศว) ประสานมิตร (เดลินิวส์ จันทร์ที่ 5 มิ.ย.2549 http://www.dailynews.co.th/)





พิษ'โอเน็ต'ฉุดดัชนีความเชื่อมั่นการศึกษาไทยต่ำสุดในรอบ 14 เดือน

นายสุขุม เฉลยทรัพย์ ประธานดำเนินงานสวนดุสิตโพล มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนดุสิต กล่าวว่า จากการสำรวจความคิดเห็นของประชาชนต่อความเชื่อมั่นการเมืองไทย โดยเฉพาะในประเด็นทางด้านการจัดการศึกษาสำหรับประชาชน พบว่า มีค่าความเชื่อมั่นต่ำสุดในรอบ 14 เดือน โดยมีค่าความเชื่อมั่น 97.84 จุด ลดลงจากเดือนเมษายน 2549 (99.39 จุด) -1.55 จุด สาเหตุที่สำคัญ ที่ส่งผลต่อความเชื่อมั่นทางด้านการศึกษา คือปัญหาในเรื่องการจัดสอบEntrance แอดมิชชั่น เอเน็ต โอเน็ต ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของปัญหาทางด้านการศึกษาที่เกิดขึ้น โดยส่งผลให้ความเชื่อมั่นของประชาชนที่มีต่อการจัดการศึกษาอยู่ในระดับลดลงและมีค่าความเชื่อมั่นลดลงต่ำสุดในรอบ 14 เดือน นอกจากนี้ ในเรื่องปัญหาความมั่นคงของประเทศ/การก่อการร้าย จากกรณีการทำร้ายครูจูหลิงหรือ ครูจุ้ยครูโรงเรียนบ้านกูจิงลือปะ ต.เฉลิม อ.ระแงะ จ.นราธิวาส ที่ได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์ถูกชาวบ้านกลุ่มหนึ่งรุมทำร้ายเมื่อ 19 พ.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งขณะนี้ยังคงรักษาตัวที่ห้องไอซียูโรงพยาบาลสงขลานครินทร์ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา จากประเด็นปัญหาที่เกิดขึ้นนี้ก็เป็นอีกส่วนหนึ่งที่ส่งผลต่อดัชนีความเชื่อมั่นทางด้านการศึกษาทำให้ลดลงต่ำสุด (กรุงเทพธุรกิจ จันทร์ที่ 5 มิ.ย.2549 http://www.bangkokbiznews.com)





ก๊อกๆ ...เปิดประตู “ห้องเรียนคณิตวิทย์พิสดาร”

อาจารย์กัญณัฏฐ์ สวัสดิ์สว่าง หัวหน้าสาขาวิทยาศาสตร์ประถมศึกษา สสวท. เล่าถึงกิจกรรม “ดาวดิจิตอล” ว่า เป็นหนึ่งในกิจกรรม “ห้องเรียนคณิตวิทย์พิสดาร” ซึ่ง สสวท.ต้องการเผยแพร่เทคนิคจัดกิจกรรมการเรียนการสอน และสื่อการสอนใหม่ๆ ให้แก่ครู เพื่อไม่ให้วิชาคณิตศาสตร์และวิทยาศาสตร์เป็นไม้เบื่อไม้เมาอีกต่อไป ซึ่งนอกจากดาวดิจิตอลแล้วยังมีกิจกรรมวิทย์เหนือจินตนาการ, ICT คณิตประถม, ICT คณิตมัธยม, เทคโนโลยีเพื่อชีวิต คณิตคิดไว และวิทย์ระบบโลกเพื่อสิ่งแวดล้อมศึกษา เป็นต้น ซึ่งล้วนแต่นำสื่อเทคโนโลยีสารสนเทศมาปรับใช้ในการเรียนการสอนทั้งสิ้น อย่างกิจกรรม “ดาวดิจิตอล” ที่มีโดมดาราศาสตร์เคลื่อนที่ ซึ่ง สสวท.ได้พัฒนาแผนที่ดาวขึ้นใหม่ ซึ่งใช้ได้ตั้งแต่อนุบาลจนถึงผู้ใหญ่ มีความละเอียดของหมู่ดาวมากขึ้น นักเรียนสามารถสัมผัสห้องและเรียนรู้ในโดมได้เลย ซึ่งจะได้รับความสนุกสนาน และเกิดจินตนาการเกี่ยวกับดาราศาสตร์ ยิ่งขึ้น นอกจากนี้ยังมีกิจกรรม ICT คณิตประถม-ICT คณิตมัธยม ซึ่งได้รับความสนใจไม่แพ้กัน เป็นการแนะแนวทางการใช้โปรแกรม The Geometer’s Sketchad (GSP) เป็นสื่อเทคโนโลยี ที่ช่วยให้การจัดการเรียนรู้มีความน่าสนใจ และสร้างแรงจูงใจในการเรียนและกระตุ้นความสนใจในเนื้อหาวิชาคณิตศาสตร์ได้มากขึ้น ซึ่งครูและนักเรียนหลายคนที่ได้ทดลองกิจกรรมนี้ ต่างบอกว่า...คณิตศาสตร์ง่ายนิดเดียว! (สยามรัฐ จันทร์ที่ 5 มิ.ย.2549 http://www.siamrath.co.th)





ศธ.เร่งยกระดับ ร.ร.ขนาดเล็กเฟ้น 600 ร.ร.พัฒนาเป็นต้นแบบ

นายปิยะบุตร ชลวิจารณ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) กล่าวภายหลังการประชุมโครงการยกระดับโรงเรียนขนาดเล็กต้นแบบ เมื่อเร็วๆ นี้ ว่า จากการหารือร่วมกับคณะทำงานยกระดับโรงเรียนขนาดเล็กต้นแบบ ที่ประกอบด้วยสำนักงานคณะกรรมการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) และสำนักรับรองมาตรฐานและประเมินคุณภาพการศึกษา (สมศ.) มีข้อสรุปร่วมกันว่า จะคัดเลือกโรงเรียนขนาดเล็ก 600 แห่ง มาพัฒนาเป็นโรงเรียนต้นแบบ โดยจะนำร่องใน 10 จังหวัด จังหวัดละ 10 แห่ง เช่น จ.เชียงใหม่ เชียงราย สกลนคร อุทัยธานี นครปฐม สุราษฎร์ธานี และนครศรีธรรมราช เป็นต้น ซึ่งมูลนิธิไทยคม จะให้การสนับสนุนงบประมาณร่วมกับ สพฐ.มอบให้โรงเรียนละ 4 แสนบาท โดยมอบหมายให้นายชินภัทร ภูมิรัตน์ รองเลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.) เป็นผู้รับผิดชอบวางแผนร่วมกับคณะทำงานของหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้องต่อไป (คมชัดลึก อังคารที่ 6 มิ.ย.2549 http://www.komchadluek.net)





ทปอ.ถกแอดมิชชั่นส์17มิ.ย. หลังปี51ลุ้นเปลี่ยนระบบ

รศ.ดร.ชาญณรงค์ พรรุ่งโรจน์ เลขาธิการที่ประชุมอธิการบดีแห่งประเทศ ไทย (ทปอ.) เปิดเผยว่า ในวันที่ 17 มิถุนายน ทปอ.จะจัดประชุมสมัยสามัญ ที่มหาวิทยาลัยมหิดล ศาลายา เพื่อหารือเรื่องระบบแอดมิชชั่นส์ในปี 2550 ว่าจะดำเนินการตามมติ ทปอ.เดิม ที่ให้เพิ่มสัดส่วนผลการเรียนเฉลี่ยรายกลุ่มสาระการเรียนรู้ (จีพีเอ) ที่กำหนดให้เพิ่มขึ้น 10% ทุกปีจนถึงปี 2551 และไปลดสัดส่วนของคะแนนโอเน็ต และคะแนนเอเน็ตลงตามลำดับหรือไม่ "ตามหลักการต้องประกาศให้นักเรียนทราบล่วงหน้า 3 ปี ซึ่งระบบแอดมิชชั่นส์เป็นตัวอย่างให้เห็นแล้วว่า การที่ รมว.ศธ.ในขณะนั้นเร่งให้นำมาใช้ ทำให้เกิดปัญหาในการประกาศผลสอบโอเน็ต เอเน็ต เพราะยังไม่พร้อม จึงเกิดความฉุกละหุกและไม่ได้ทดสอบระบบการตรวจข้อสอบให้ถูกต้องสมบูรณ์ก่อนใช้จริง" รศ.ดร.ชาญณรงค์ กล่าว ศ.ดร.อุทุมพร จามรมาน ประธานคณะทำงานแอดมิชชั่นส์ ทปอ. กล่าวว่า ในวันที่ 16 มิถุนายนนี้ คณะทำงานจะหารือแนวทางการศึกษาวิจัยข้อดีข้อเสียของระบบในมหาวิทยาลัยต่างๆ เพื่อหาข้อมูลประกอบการตัดสินใจปรับเปลี่ยนระบบแอดมิชชั่นส์ในปี 2550 อาจจะปรับสัดส่วนโอเน็ต เอเน็ต ศ.ดร.อุทุมพร กล่าวด้วยว่า อาจจะเปลี่ยนหน่วยงานรับผิดชอบในการจัดสอบ ให้สถาบันทดสอบทางการศึกษาแห่งชาติ (สทศ.) รับผิดชอบโอเน็ต ส่วนเอเน็ต ให้มหาวิทยาลัยหรือสำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา (สกอ.) ดำเนินการจัดสอบให้แทน รวมทั้งจะไม่ใช้อินเทอร์เน็ตในการสมัครแอดมิชชั่นส์ ควรใช้ระบบไปรษณีย์ควบคู่ไปด้วย ส่วนการสมัครให้เด็กสมัครตามศูนย์สมัครในมหาวิทยาลัยต่างๆ ด้วย (คมชัดลึก อังคารที่ 6 มิ.ย. 2549 http://www.komchadluek.net/)





ศธ.ออกกฏเหล็กคุมโจ๋ผีพนัน

กระทรวงศึกษาธิการ(ศธ.) ได้ออก 9 มาตรการ "ล้อมคอก" นักเรียนแห่เล่นพนันบอลใน ช่วงการแข่งขันฟุตบอลโลก 2006 ที่ประเทศเยอรมัน โดยเมื่อวันที่ 5 มิถุนายน นายจาตุรนต์ ฉายแสง รักษาการ รมว.ศึกษาธิการ(ศธ.) กล่าวภายหลังการประชุมผู้บริหารหน่วยงานในสังกัด ศธ. ว่า ศธ.ได้ออกประกาศกระทรวง เรื่อง "มาตรการป้องกัน-แก้ไขการเล่นพนันทายผลฟุตบอลโลก เวิลด์คัพ 2006" เพื่อป้องกันนักเรียน-นักศึกษาเล่นพนันบอล รวม 9 ข้อ ดังนี้ 1.ให้ทุกสถานศึกษาป้องกันปัญหาการเล่นพนันบอล ถ้าพบผู้ใดละเลยการปฏิบัติหน้าที่ให้ผู้บังคับบัญชาดำเนินการทางวินัย 2.ขอความร่วมมือผู้ปกครองให้ดูแลเด็กอย่างใกล้ชิดทั้งเรื่องการเรียนและการใช้จ่ายเงิน รวมทั้งการใช้โทรศัพท์ อินเตอร์เน็ตที่อาจมีผลต่อการเล่นพนันบอล 3.ถ้าพบบุคลากรทางการศึกษาเล่นพนันบอลให้ผู้บริหารตักเตือน ถ้ายังกระทำอีกให้ลงโทษทางวินัย 4.ให้องค์กรหลักของ ศธ.สนับสนุนการจัดตั้งเครือข่ายนัก เรียน-นักศึกษาช่วยกันสอดส่องดูแลมิให้มีการเล่นพนันในสถาบัน 5.ให้สถานศึกษาตรวจสอบและประมวลผลการมาสายและการไม่มาเรียนของนักเรียนและบุคลากรในสถานศึกษา เปรียบเทียบช่วงก่อนการแข่งขันฟุตบอลและระ หว่างการแข่งขันว่าผิดปกติหรือไม่ เพื่อหาทางแก้ไข 6.ให้สถานศึกษาบันทึกเทปการแข่งขัน เพื่อเผยแพร่ให้นักเรียนชมตามเวลาที่เหมาะสม 7.ขอความร่วมมือจากทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการกวดขันเฝ้าระวังการเล่นพนันบอล 8.ขอความร่วมมือจากผู้ประกอบการให้เฝ้าระวังมิให้นักเรียน-นักศึกษาเข้าไปใช้บริการ และ 9.ถ้าโรงเรียนมีปัญหาแก้ไขเรื่องการเล่นพนันบอลเองไม่ได้ให้ขอความช่วยเหลือได้ที่สายด่วน 1579 หรือสำนักพัฒ นากิจการนักเรียน นักศึกษาและกิจการพิเศษ ศธ. โทร.0-2628-6397 หรือศูนย์สวัสดิภาพเด็ก เยาว ชน และสตรี โทร.0-2282-3892-3 หรือโทร.191 (แนวหน้า อังคารที่ 6 มิ.ย.2549http://www.naewna.com)





ปลื้มพบสูติบัตรรัชกาลที่ 8 ที่ไฮเดนเบิร์ก

ศ. (เกียรติคุณ) ดร.พรชัย มาตังคสมบัติ อธิการบดีมหาวิทยาลัยมหิดล ในฐานะประธานคณะกรรมการบริหารศูนย์ความเป็นเลิศด้านชีววิทยาศาสตร์ของประเทศไทย เปิดเผยว่า ตามที่ศูนย์ความเป็นเลิศด้านชีววิทยาศาสตร์ของประเทศไทย นำคณะสื่อมวลชนดูงาน ณ เมืองไฮเดนเบิร์ก สหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี ได้พบสิ่งสำคัญของประชาชนชาวไทย โดย ศ.น.พ.ฮารัลด์ ซูร์ เฮาเซ่น อดีตผู้อำนวยการศูนย์วิจัยมะเร็ง เมืองไฮเดนเบิร์ก และเป็นหนึ่งในผู้ได้รับพระราชทานรางวัลสมเด็จเจ้าฟ้ามหิดล ในพระบรมราชูปถัมภ์ ซึ่งเดินทางมารับพระราชทานรางวัลที่ประเทศไทย ต้นเดือน ม.ค.2549 ที่ผ่านมา ทาง ศ.น.พ.สรรใจ แสงวิเชียร อาจารย์จากแพทยศาสตร์ ศิริราชพยาบาล ได้แจ้งกับ ศ.น.พ. ซูร์ เฮาเซ่น ว่า เมืองไฮเดนเบิร์กเป็นเมืองที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวอานันทมหิดลเสด็จพระราชสมภพ จึงอยากขอให้ช่วยตามหาสูติบัตรของพระองค์ท่าน ซึ่งทราบว่าเสด็จพระราชสมภพที่โรงพยาบาลของมหาวิทยาลัยไฮเดนเบิร์ก ทาง ศ.น.พ.ซูร์ เฮาเซ่น ก็กลับมาค้นหาจนพบใบสูติบัตรนี้ ใช้เวลากว่า 5 เดือน ในเบื้องต้นเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลไม่ยินยอมให้ ศ.น.พ.ซูร์ เฮาเซ่น คัดสำเนาใบสูติบัตร เพราะต้องเป็นญาติเท่านั้นจึงจะทำได้ จนนายกเทศมนตรีเมืองไฮเดนเบิร์กต้องให้ความยินยอม ทางโรงพยาบาลจึงมอบสูติบัตรให้ โดยมีข้อแม้ว่า ศ.น.พ.ซูร์ เฮาเซ่น จะต้องนำสูติบัตรนี้ทูลเกล้าฯถวายแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ภูมิพลอดุลยเดช โดยตรงเท่านั้น (ไทยรัฐ อังคารที่ 6 มิ.ย.2549 http://www.thairath.co.th/)





เปิดม่านการศึกษา : มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี

นักศึกษาปี 1 มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี (มจธ.) ที่มีโอกาสได้เรียนภาษาอังกฤษกับ ดร.กฤษณพงศ์ กีรติกร อธิการบดีมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี (มจธ.) ในโอกาสที่กล่าวเปิดการสอนภาษาอังกฤษ English is Easy by Andrew Biggs ที่ลานอเนกประสงค์ โรงอาหารใกล้กับสนามฟุตบอล มจธ. เมื่อวันที่ 29 พ.ค. ที่ผ่านมา แว่วว่า อธิการ มจธ.ใช้เวลา 3 ชม.ในการเขียนคำกล่าวที่จะนำมาใช้กล่าวเปิดสอนและสอนภาษาอังกฤษไปในตัวเพียง 30 นาที ที่เรียกเสียงฮา จากนักศึกษาและรอยยิ้มจากผู้ที่เข้าร่วมงานได้เป็นอย่างดี จากนั้นส่งไม้ต่อให้กับเจ้าของวลี ภาษาอังกฤษง่ายนิดเดียว แอนดรูว์ บิ๊กส์ ที่มาโน้มน้าวจิตใจของนักศึกษาและเปลี่ยนทัศนคติให้มองภาษาอังกฤษไม่ใช่เรื่องยาก ที่สร้างความสนุกสนานครื้นเครงจนอยากกลับไปเป็นนักศึกษาอีกครั้ง และที่น่ารักกว่านั้นคือนักศึกษาชั้นปี 1 ของ มจธ.ทั้ง 2,400 คน ที่มาเรียนวันนั้น ให้ความร่วมมือและกล้าแสดงออกอย่างยิ่ง (คมชัดลึก พุธที่ 7 มิ.ย.2549 http://www.komchadluek.net)





ชี้ขวางถ่ายโอนมีสิทธิขัดกฎหมาย

นายพิชัย นวลนภาศรี นายกองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) หัวดง จ.พิจิตร ในฐานะกรรมการกระจายอำนาจให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (กกถ.) กล่าวกรณีคุณหญิงกษมา วรวรรณ ณ อยุธยา ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ แสดงความห่วงใยในที่ประชุม กกถ. เกี่ยวกับการถ่ายโอนโรงเรียนที่อยู่ในบัญชี 2 จำนวน 292 แห่ง ให้กับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) เนื่องจากบางจังหวัดมีโรงเรียนที่จะถ่ายโอนค่อนข้างมาก และบางจังหวัดเป็นโรงเรียนมัธยมมากเกินไป หากโอนทั้งหมดจะทำให้ อปท.ดูแลไม่ทั่วถึง ซึ่งอาจจะส่งผลต่อคุณภาพ การศึกษาว่า การที่คณะอนุกรรมการเฉพาะกิจเพื่อพิจารณาการถ่ายโอนสถานศึกษา ตามมติคณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นควรให้ถ่ายโอนโรงเรียนในบัญชี 2 จำนวน 292 แห่ง ให้ อปท. เพื่อแก้ปัญหาขาดแคลนงบประมาณด้านพัฒนาวิชาการ ปัญหาขาดแคลนครูผู้สอนหลัก และ อปท.ที่ขอรับถ่ายโอนโรงเรียน จะต้องผ่านเกณฑ์ประเมินความพร้อม ซึ่ง อปท.ได้ทำเกณฑ์ดังกล่าวไปแล้ว โดยจะมีการเพิ่มอัตราครูทั้งสิ้น 3,814 อัตรา รวมเป็นเงิน 429 ล้านบาทต่อปี และ กกถ. ก็ได้เห็นชอบตามนี้ ที่สำคัญโรงเรียนเหล่านั้น มีความประสงค์อยากโอนมาสังกัด อปท. ดังนั้น เมื่อ อปท.ที่ขอรับโอน ผ่านเกณฑ์ประเมินความพร้อมในระดับที่สูง และโรงเรียนที่อยู่ในบัญชี 2 ก็มีความประสงค์ที่จะถ่ายโอนมาสังกัด อปท. กระทรวงศึกษาธิการก็น่าจะยอมให้โอนมาอยู่กับอปท.ทั้งหมด (ไทยรัฐ พุธที่ 7 มิ.ย.2549 http://www.thairath.co.th)





ข่าววิทยาศาสตร์/เทคโนโลยี


พึ่งนิวเคลียร์จับตาสึนามิตรวจวัดแรงสั่นสะเทือนใต้ดินก่อนเตือนภัย

นายมนูญ อร่ามรัตน์ เลขาธิการสำนักงานปรมาณูเพื่อสันติ (ปส.) เปิดเผยว่า เทคโนโลยีในการตรวจวัดสัญญาณประเมินการทดลองนิวเคลียร์ขององค์กรสนธิสัญญาห้ามทดลองนิวเคลียร์โดยสมบูรณ์ (CTBTO/PrepCom) ที่ใช้อยู่ในปัจจุบัน มีประสิทธิภาพ และสามารถนำข้อมูลที่ได้มาใช้เสริมในการเตือนภัย และเฝ้าระวังการเกิดพิบัติภัยได้ เทคโนโลยีดังกล่าว ประกอบด้วย เทคโนโลยีการตรวจวัดความสั่นสะเทือนของพิภพ การวัดนิวไคลด์ หรืออนุภาคกัมมันตภาพรังสีในอากาศ การวัดคลื่นเสียงใต้น้ำ และการวัดคลื่นเสียงในอากาศ โดยปัจจุบันทั่วโลกมีสถานีตรวจวัดทั้งสิ้น 321 สถานี ซึ่งแต่ละสถานีมีเทคโนโลยีที่แตกต่างกัน เพื่อทำหน้าที่ประมวลผลข้อมูลส่งไปวิเคราะห์ยังศูนย์ข้อมูลระหว่างประเทศที่ออสเตรีย สำหรับประเทศไทย ซึ่งเป็นหนึ่งในสมาชิกขององค์กรสนธิสัญญาห้ามทดลองนิวเคลียร์ ได้ดำเนินการสร้างสถานีเฝ้าตรวจการทดลองนิวเคลียร์ 2 สถานี ได้แก่ สถานีเฝ้าตรวจความสั่นสะเทือนของพิภพ อยู่ในความรับผิดชอบของกรมอุทกศาสตร์ กองทัพเรือ ตั้งอยู่บนดอยสุเทพ จ.เชียงใหม่ และสถานีสำหรับตรวจอนุภาคนิวเคลียร์ทางอากาศ อยู่ระหว่างการก่อสร้าง ที่มหาวิมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ จ.นครปฐม ซึ่งจะแล้วเสร็จในปีนี้ นายกิตติศักดิ์ ชัยสรรค์ นักฟิสิกส์รังสี ปส. กล่าวว่า ข้อมูลที่สถานีเฝ้าตรวจความสั่นสะเทือนของพิภพ สามารถนำไปวิเคราะห์หาแหล่งกำเนิดและตำแหน่งของการสั่นสะเทือนได้ ข้อมูลดิบดังกล่าวมาช่วยเสริมการระวังภัยร่วมกับข้อมูลเตือนภัยแผ่นดินไหวของกรมอุตุนิยมวิทยาได้ อย่างไรก็ตาม การประสานข้อมูลระหว่างกันจะต้องขึ้นอยู่กับการตกลงของทั้งสองหน่วยงาน ตลอดจนสถานีตรวจวัดกำลังอยู่ในขั้นตอนของการก่อสร้าง การนำข้อมูลดิบไปใช้นั้นอาจจะต้องใช้เวลา (คมชัดลึก จันทร์ที่ 5 มิ.ย.2549http://www.komchadluek.net/)





อิสราเอลพบสัตว์พันธุ์ใหม่ 8 ชนิด

นักวิทยาศาสตร์อิสราเอลพบสิ่งมีชีวิตสายพันธุ์ใหม่ที่ไม่เคยพบที่ไหนมาก่อน บางตัวรูปร่างคล้ายแมงป่องและกุ้ง อาศัยอยู่ในถ้ำทะเลสาบที่หลบซ่อนตัวจากโลกภายนอกอย่างมิดชิดเป็นเวลานับล้านปี สิ่งมีชีวิต 8 สายพันธุ์ใหม่นี้พบในถ้ำเมืองรามเล ในอิสราเอล โดยผู้เชี่ยวชาญจากมหาวิทยาลัยฮิบรู กล่าวว่า บริเวณที่พบมีระบบนิเวศที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวอย่างมาก ถ้ำแห่งนี้มีระดับความลึก 328 ฟุต อยู่ใต้ภูเขาหินปูน ภายในมีช่องหลืบที่ยาวกว่า 2 กิโลเมตร และมีทะเลสาบขนาดใหญ่ที่เป็นนิวาสสถานของสิ่งมีชีวิตที่ไม่มีใครรู้จักมาก่อนเหล่านี้ สัตว์บางตัวมีลักษณะคล้ายแมงป่องและกุ้ง บริเวณดังกล่าวมีลักษณะเป็นน้ำกร่อย กล่าวคือ มีลักษณะของน้ำเค็มและน้ำจืด นอกจากแมงป่องแล้ว สัตว์สายพันธุ์อื่นที่พบทุกตัวยังมีชีวิตอยู่ แต่ละตัวมีขนาดยาวไม่ต่ำกว่า 2 นิ้ว ด้านนักวิจัยจากสถาบันสมิธโซเนียน ในวอชิงตัน กล่าวถึงการค้นพบนี้ช่วยตอกย้ำว่า มนุษย์ยังมีความรู้เกี่ยวกับสิ่งมีชีวิตบนโลกน้อยมาก และยิ่งช่วยให้มนุษย์ได้เห็นถึงความสำคัญของการปกป้องสิ่งมีชีวิตเหล่านี้ ในที่อื่นๆ อย่างในโรมาเนียและเม็กซิโก มีถ้ำลักษณะนี้เช่นกัน แต่สภาพของถ้ำไม่ได้แยกตัวออกจากโลกภายนอกเหมือนถ้ำในอิสราเอล และสิ่งมีชีวิตที่พบล่าสุดนี้ยังต่างจากสัตว์ส่วนใหญ่ โดยพวกมันอาศัยห่วงโซ่อาหารจากการสังเคราะห์แสง สัตว์ที่พบใหม่นี้จึงสามารถใช้ชีวิตได้เป็นอิสระและมีระบบนิเวศพื่งพาตนเอง (คมชัดลึก จันทร์ที่ 5 มิ.ย.2549 http://www.komchadluek.net)





เครื่องทดสอบห้ามล้อฝีมือคนไทย

นายณรงค์ สกุลศิริรัตน์ เลขานุการสมาคมเครื่องจักรกลไทย เปิดเผยว่า จากความร่วมมือของกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี, สถาบันไทย-เยอรมัน และบริษัทไทย ไดนามิค มาสเตอร์ จำกัด ซึ่งจัดตั้งขึ้นโดยสมาคมเครื่องจักรกลไทย ได้ประสบความสำเร็จในการพัฒนาเครื่องทดสอบห้ามล้อและเครื่องตรวจศูนย์ล้อ เป็นเครื่องแรกด้วยฝีมือคนไทย โดยเครื่องต้นแบบได้ผ่านการรับรองมาตรฐานจากสถาบันมาตรวิทยาแห่งชาติ แล้ว เนื่องจากสถานตรวจรถเอกชนส่วนใหญ่ จำเป็นต้องนำเข้าเครื่องดังกล่าวจากต่างประเทศ ซึ่งราคาขายอยู่ที่ 0.8-1.5 ล้านบาท โดยไม่สามารถซ่อมเครื่องจักรได้เองหากเกิดการชำรุด ซึ่งการพัฒนาและสร้างเครื่องจักรด้วยฝีมือคนไทยครั้งนี้ จะช่วยลดการนำเข้ารวมถึงสร้างช่องทางการส่งออกได้ในอนาคต ขณะนี้เครื่องทดสอบห้ามล้อและเครื่องตรวจศูนย์ล้อ ได้พัฒนาตัวต้นแบบและทำการทดสอบประสิทธิภาพแรงห้ามล้อเสร็จสิ้นแล้ว และกำลังเข้าสู่กระบวนการทดสอบการใช้งานในระยะยาว ก่อนที่จะผลิตเพื่อจำหน่ายในระดับอุตสาหกรรมต่อไป โดยสมาคมมั่นใจว่าจะสามารถผลิตเครื่องจักรดังกล่าวได้ 100 เครื่องต่อเดือน (กรุงเทพธุรกิจ จันทร์ที่ 5 มิ.ย.2549 http://www.bangkokbiznews.com)





ฝรั่งเศสลองใช้เชื้อเพลิงใหม่เอทานอล 85

ฝรั่งเศสประเดิมทดลองรถใช้เชื้อเพลิงผสมเอทานอลที่สามารถวิ่งได้โดยใช้ทั้งเอทานอลส่วนผสม 85% หรือใช้เบนซินปกติ ตั้งเป้าส่งเสริมผู้ขับขี่ให้หันมาใช้พลังงานหมุนเวียนมากขึ้น รัฐบาลเมืองมาร์เน ซึ่งอยู่ทางตะวันออกของฝรั่งเศส ได้ออกใบอนุญาตพิเศษให้ทดสอบรถยนต์ที่ใช้เชื้อเพลิงเอทานอล 85 ซึ่งใช้ส่วนผสมของเอทานอล สูงถึง 85% โดยใช้เบนซินเพียง 15% โดยประเดิมทดสอบกับรถฟอร์ดที่ออกแบบมาให้ใช้กับเชื้อเพลิงลูกผสมเป็นเวลา 1 ปี ท่ามกลางวิกฤติน้ำมันแพง หลายประเทศพยายามหาทางบรรเทาความเดือดร้อนของผู้ใช้รถ พร้อมกับมองหาแหล่งพลังงานทางเลือกใหม่ สถานีบริการน้ำมันในสหรัฐหลายมลรัฐ ได้เปิดบริการเชื้อเพลิงเอทานอล 85 แล้ว เชื้อเพลิงดังกล่าวในไทย เรียกว่า แก๊สโซฮอล์ ซึ่งเป็นแอลกอฮอล์ที่ได้จากพืชที่ให้น้ำตาล เช่น อ้อย มันสำปะหลัง ข้าวโพด แล้วนำมาผสมกับเชื้อเพลิงเบนซินเพื่อลดการพึ่งพิงน้ำมันแต่อย่างเดียว สำหรับส่วนผสมแก๊สโซฮอล์ในไทยยังคงใช้แอลกอฮอล์ในสัดส่วนเพียง 10% เท่านั้น (คมชัดลึก อังคารที่ 6 มิ.ย. 2549 http://www.komchadluek.net)





เต้าเจี้ยวเอเชีย โค่นไวน์แดงฝรั่ง มีแรงปราบอนุมูลอิสระเหนือกว่า

นักวิทยาศาสตร์ของมหาวิทยาลัยแห่งชาติสิงคโปร์ พบในการศึกษาว่าเต้าเจี้ยว ซึ่งทำด้วยการเอาถั่วเหลืองมาหมัก มีพลังปราบพวกอนุมูลอิสระ แรงกว่าเหล้าไวน์แดง 10 เท่า และมากกว่าวิตามิน ซี ถึง 150 เท่า สารต่อต้านอนุมูล อิสระที่มีอยู่ในเหล้าไวน์ แดง กับผักและผลไม้ มี สรรพคุณช่วยถอนพิษของตัวอนุมูลอิสระ อัน เป็นอณูเร่ร่อนเที่ยวทำ ร้ายเซลล์และเนื้อเยื่อ มันยังมีส่วนเกี่ยวพันกับขบวนการแก่ชรา ตลอดจนโรคร้ายแรงต่างๆหลายโรค ตั้งแต่โรคสมองเสื่อม มะเร็ง ไปจนถึงโรคหัวใจ อีกด้วย ศาสตราจารย์บาร์รี ฮอลลิเวลล์ หัวหน้าคณะยังได้แจ้งว่า ผู้ที่กินเต้าเจี้ยวเข้าไปเพียง ไม่กี่ชั่วโมงเลือดลมจะเดินดีขึ้นกว่าเดิมตั้งครึ่งเท่า ทั้งในแง่ป้องกันโรค มันยังออกฤทธิ์ให้ เห็นว่าช่วยชะลอไม่ให้ โรคหลอดเลือดและหัวใจ กับระบบประสาทเสื่อมเกิดขึ้นไวด้วย เพียงแต่ ต้องระวังอยู่เรื่องเดียวเท่านั้น อย่าได้บริโภคเป็นปริมาณมาก ด้วยเหตุว่ามันใส่เกลือมาก อาจจะทำให้เป็นโรคความดันโลหิตสูงขึ้นได้. (ไทยรัฐ อังคารที่ 6 มิ.ย.2549 http://www.thairath.co.th/)





ติดเซ็นเซอร์จับตาผู้ขับขี่ฟ้องผ่านคอมพ์สอบใบขับขี่ผ่านหรือตก

ธุรกิจจากเกาหลีในประเทศไทยแสดงประสิทธิภาพระบบขับขี่อัตโนมัติ เผยประโยชน์สำหรับทดสอบทักษะการขับรถ หวังสร้างมาตรฐานการออกใบอนุญาตขับขี่ เตรียมเสนอกรมการขนส่งทางบกพิจารณาติดตั้งในสนามสอบ ด้วยงบประมาณเริ่มต้น 1 แสนบาท นายลิม ยอง แจ ผู้อำนวยการ บริษัท โบราม จำกัด กล่าวว่า โบรามเป็นตัวแทนของบริษัทนีโอ ซิสเต็ม จำกัด จากประเทศเกาหลี ซึ่งคิดค้นเทคโนโลยีระบบทดสอบทักษะการขับขี่อัตโนมัติ ที่จะช่วยให้กระบวนการออกใบอนุญาตขับขี่ทำได้รวดเร็วขึ้น ลดอุบัติเหตุระหว่างการทดสอบ โดยเฉพาะในขั้นตอนการทดสอบภาคสนาม ที่ผู้เข้าสอบจะต้องขับขี่รถผ่านจุดทดสอบต่างๆ เพื่อดูทักษะในการขับขี่ ไม่ว่าจะเป็น จุดทดสอบการหยุดรถ จุดทดสอบการขับขี่ในช่องทางที่จราจรหนาแน่น เป็นต้น อุปกรณ์ตรวจวัดหรือเซ็นเซอร์ ที่ติดตั้งอยู่บริเวณตัวรถและช่องทางการทดสอบ จะทำหน้าที่จับความเคลื่อนไหวและประมวลผลข้อมูลที่ได้ ส่งไปยังคอมพิวเตอร์ควบคุม ซึ่งโปรแกรมจะทำหน้าที่ประเมินผลคะแนนในทันที ทำให้การสอบภาคสนามทำได้รวดเร็วขึ้น หรือประมาณ 16 คันต่อรอบ รอบละ 20 นาที หากผู้ขับขี่ไม่สามารถหยุดรถตามระยะที่กำหนด หรือไม่หยุดในจุดทดสอบการหยุดรถ เซ็นเซอร์จะส่งสัญญาณให้คอมพิวเตอร์ประมวลผล ดำเนินการตัดคะแนนทันที นอกจากจะมีเซ็นเซอร์ช่วยตรวจสอบแล้ว ระบบยังติดตั้งกล้องดิจิทัลเพื่อส่งสัญญาณภาพของผู้ขับขี่ไปยังห้องควบคุม เพื่อตรวจสอบความปลอดภัยในการขับขี่ เช่น ผู้ขับขี่ไม่คาดเข็มขัด ก็สามารถตัดคะแนนได้ทันทีเช่นกัน (คมชัดลึก พุธที่ 7 มิ.ย.2549 http://www.komchadluek.net)





รู้จักฝนหลวง

กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ได้จัดทำเวบไซต์วันเทคโนโลยีของไทย เพื่อเทิดพระเกียรติ "พระบิดาแห่งเทคโนโลยีของไทย" และแสดงความจงรักภักดีต่อองค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว โดยพระองค์ทรงคิดค้นเทคโนโลยีและพระราชดำริต่างๆ ซึ่งใช้เทคโนโลยีเป็นเครื่องมือ เพื่อช่วยพัฒนาประเทศ ยกระดับคุณภาพชีวิตราษฎร จนถึงเพื่อช่วยบรรเทาสาธารณภัยต่างๆ http://technology.thai.net ได้รวบรวมเทคโนโลยีต่างๆ ที่เกิดจากพระราชดำริของพระองค์ เริ่มจากสิ่งประดิษฐ์ที่ทุกคนรู้จักกันดีในนาม ฝนหลวง ตามมาด้วยกังหันน้ำชัยพัฒนา ทฤษฎีใหม่ในการบริหารจัดการที่ดินเพื่อเกษตรกร โครงการหญ้าแฝก พร้อมด้วยพระราชกรณียกิจด้านการเกษตร พลังงาน สิ่งแวดล้อม การแพทย์ การสื่อสารและคมนาคม การศึกษา วัฒนธรรม สารสนเทศ และคลิกอ่านบทความที่เกี่ยวข้องการบริการจัดการทรัพยากรน้ำได้ในคอลัมน์น้ำเพื่อชีวิต (คมชัดลึก พุธที่ 7 มิ.ย.2549 http://www.komchadluek.net)





ข่าววิจัย/พัฒนา


ตะลึงมนุษย์มียีนร่วมกับแบคทีเรีย

ทีมวิจัยจากสถาบันวิจัยจีโนม หรือที่เรียกว่า ทีไอจีอาร์ ซึ่งตั้งอยู่ในมลรัฐแมริแลนด์ สหรัฐอเมริกา ประกาศว่าแท้จริงแล้วมนุษย์เป็นสิ่งมีชีวิตลูกผสมระหว่างเซลล์ของแบคทีเรียกับเซลล์มนุษย์ และประเมินว่าเซลล์ร้อยละ 90 ในร่างกายมนุษย์เป็นเซลล์แบคทีเรีย โดยพวกเขาได้ถอดรหัสพันธุกรรมแบคทีเรีย ที่ได้จากอุจจาระของอาสาสมัคร 3 คน พบว่าลำดับดีเอ็นเอเหล่านี้จำนวนหนึ่งเป็นของแบคทีเรีย จากนั้นนำไปเปรียบเทียบกับดีเอ็นเอของแบคทีเรียและมนุษย์ ดีเอ็นเอแบคทีเรียที่พบในคนนี้เรียกว่า "โคลอน ไมโครไบโอเม" เป็นสารพันธุกรรมที่เป็นของแบคทีเรียที่อยู่ในลำไส้ส่วนล่าง นับจำนวนแล้วมีกว่า 6 หมื่นยีน หรือคิดเป็น 2 เท่าของยีนที่พบในคน นอกจากนี้ นักวิทยาศาสตร์ยังพบแบคทีเรียที่เรียกว่า "อาร์เคีย หรืออาร์เคียแบคทีเรีย" ซึ่งมีสารพันธุกรรมต่างจากแบคทีเรียอื่น และยังเป็นสัตว์เซลล์เดียวที่พบดำรงชีวิตอยู่ในสภาพแวดล้อมที่โหดร้าย เช่นในน้ำพุร้อน การค้นพบธรรมชาติของแบคทีเรียในร่างกายมนุษย์ครั้งนี้ อาจช่วยให้นักวิทยาศาสตร์ได้ข้อมูลสำคัญที่เป็นเบาะแสของโรคขาดสารอาหาร ภาวะอ้วน และประสิทธิผลของยาที่รับประทานเข้าไป สำหรับโครงการต่อไปพวกเขาเตรียมวิจัยแบคทีเรียในปาก เนื่องจากปากมีแบคทีเรียอาศัยอยู่อย่างน้อย 800 ชนิด (คมชัดลึก จันทร์ที่ 5 มิ.ย.2549 http://www.komchadluek.net)





คืนชีพขยะเซรามิก ผสมพลาสติกทำฉนวนกันร้อน

สามนักวิจัยรุ่นเยาว์ ปิโยรส เคล้าโนนคร้อ, ศราวุธ เดชบุญ และอลงกรณ์ ยี่หล้าเพิ่มมูลค่าของเสียจากโรงงานเซรามิก เผยสามารถเติมเป็นส่วนผสมในพลาสติกทำเรซิ่น ทดแทนผงแคลเซียมคาร์บอเนตที่ใช้กันทั่วไป มั่นใจผลงานวิจัยนำไปสู่การลดมลพิษด้านสิ่งแวดล้อม ลดต้นทุนการผลิต และส่งผลให้เกิดผลิตภัณฑ์ใหม่ นายปิโยรส เคล้าโนนคร้อ หนึ่งในทีมวิจัยจากภาควิชาวิศวกรรมวัสดุและโลหะการ คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี (มทร.ธัญบุรี) กล่าวว่า อุตสาหกรรมเซรามิกมีของเสียจากชิ้นงานที่ไม่สมบูรณ์ หรือแตกร้าวระหว่างขั้นตอนการผลิต และจากกระบวนการตกแต่ง ซึ่งโรงงานต้องว่ารถรับจ้างให้นำของเสียเหล่านั้นไปกำจัดทิ้ง ซึ่งก่อให้เกิดปัญหาขยะอันเป็นมลพิษต่อสิ่งแวดล้อมตามมา จากสภาพปัญหาที่เกิดขึ้น ทีมวิจัยได้ร่วมมือกับบริษัท เค.เอส.เค.อินเตอร์เทรด จำกัด ผู้ผลิตตุ๊กตาสุนัขจากเรซิ่นและผลิตภัณฑ์เซรามิก โดยนำของเสียของบริษัท มาผ่านการบดละเอียด และเติมลงในโพลิเอสเตอร์ชนิดไม่อิ่มตัว (พลาสติกชนิดหนึ่งมีสภาพเป็นของเหลว) เพื่อพัฒนาเป็นผลิตภัณฑ์ชนิดใหม่จากวัตถุดิบมูลค่าต่ำ ในการวิจัยได้ทดลองเติมผงของเสียจากผลิตภัณฑ์เซรามิกในอัตราส่วนต่างๆ จากนั้นเปรียบเทียบกับการเติมผงแคลเซียมคาร์บอเนต (ซึ่งนิยมใช้ทั่วไปในโรงงานเซรามิก) โดยนำวัตถุดิบพลาสติกที่ได้จากทั้งสองกลุ่ม มาหล่อขึ้นรูปเป็นแม่พิมพ์ พบว่าแม่พิมพ์พลาสติกจากกลุ่มแรก ซึ่งเติมด้วยผงเสียจากผลิตภัณฑ์เซรามิก มีคุณสมบัติด้านการขัดถูได้ดีกว่าการใช้ผงแคลเซียมคาร์บอเนตเป็นสารตัวเติม อาจารย์ฉันท์ทิพ คำนวณทิพย์ อาจารย์ที่ปรึกษา กล่าวสรุปว่า งานวิจัยชิ้นนี้นำไปสู่การลดมลพิษด้านสิ่งแวดล้อม ลดต้นทุนการผลิต และส่งผลให้เกิดการพัฒนาผลิตภัณฑ์ชนิดใหม่ เช่น วัสดุตกแต่งในงานก่อสร้าง แผ่นรองภาชนะกันความร้อน ชิ้นส่วนรถยนต์ ตุ๊กตาเรซิ่นและลูกกลิ้งที่ใช้ในงานอุตสาหกรรม เนื่องจาก "โพลิเอสเตอร์ชนิดไม่อิ่มตัว" มีความสามารถในการหล่อชิ้นงานที่ต้องการความละเอียดสูง หรือมีลวดลายซับซ้อน มีความทนทานต่อความร้อน เป็นฉนวนไฟฟ้าและฉนวนความร้อนที่ดี จึงมีแนวโน้มที่จะพัฒนาเป็นผลิตภัณฑ์ได้หลากหลายชนิด โดยในอนาคตสามารถขยายตลาดออกไปจำหน่ายยังต่างประเทศได้ (คมชัดลึก จันทร์ที่ 5 มิ.ย.2549 http://www.komchadluek.net)





จิบน้ำเปล่าแก้ปวด

งานวิจัยในออสเตรเลีย พบว่า ความกระหายน้ำทำให้ร่างกายไวต่อความเจ็บปวดมากขึ้น ผู้เข้าร่วมวิจัยจะถูกบีบนิ้วหัวแม่มือให้เกิดความเจ็บปวดเล็กน้อยและฉีดน้ำเกลือเพื่อกระตุ้นให้กระหายน้ำ จากนั้นจึงตรวจสมองด้วยเครื่องเพ็ตสแกน เพื่อประเมินการไหลเวียนเลือดและการทำงานของสมอง พบว่า เมื่อความกระหายเพิ่มขึ้นและระดับเกลือแร่ในร่างกายลดลง ความเจ็บปวดจะเพิ่มขึ้น แม้แรงกดนิ้วมือจะเท่าเดิม ผลดังกล่าว แสดงว่าความกระหายน้ำและความเจ็บปวดกระตุ้นสมองบริเวณเดียวกัน และสมองมี “การจัดลำดับความสำคัญ” ต่อสิ่งกระตุ้น ความเจ็บปวดสามารถกระตุ้นสมองได้มากกว่า เนื่องจากเป็นสิ่งกระตุ้นที่สำคัญต่อร่างกายมากกว่าความกระหาย (เดลินิวส์ จันทร์ที่ 5 มิ.ย.2549 http://www.dailynews.co.th





ไทยเล็งสร้างห้องนักบินเสมือนจริงใช้ฝึกปฏิบัติบินเหมือนอยู่บนเครื่องจริงๆ

ดร.ทวีศักดิ์ กออนันตกูล ผู้อำนวยการศูนย์เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์แห่งชาติ (เนคเทค) สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) เปิดเผยว่า สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์ฯ ได้ลงนามบันทึกความร่วมมือทางวิชาการกับสถาบันการบินพลเรือน (สบพ.) ในการวิจัยพัฒนาเทคโนโลยีในอุตสาหกรรมการบินและกิจการบินพลเรือนของประเทศ เพื่อลดการพึ่งพาเทคโนโลยีการบินจากต่างประเทศ ปัจจุบันงานบำรุงรักษาเครื่องบินมีค่าใช้จ่ายสูง ส่วนหนึ่งเป็นการนำเข้าอุปกรณ์และเทคโนโลยีทางการบินจากต่างประเทศ ขณะที่เนคเทคเป็นหน่วยงานที่เชี่ยวชาญด้านการวิจัยเกี่ยวกับอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์ ซึ่งสามารถประยุกต์ใช้กับงานซ่อมบำรุง ด้านการพัฒนา ทดสอบ และตรวจรับรองวัสดุ ชิ้นส่วนอุปกรณ์และอะไหล่ของอากาศยาน สร้างมาตรฐานในการสอบเทียบระบบอุปกรณ์เครื่องวัดในอากาศยานและเครื่องช่วยเดินอากาศ โดยสนับสนุนนักวิจัยที่มีความเชี่ยวชาญเฉพาะทาง และให้ความช่วยเหลือด้านเครื่องมือการวิจัยในห้องปฏิบัติการ งานวิจัยบางชิ้นสามารถนำไปประยุกต์ใช้งานได้ในอันดับต้นๆ เช่น การพัฒนาฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ เพื่อใช้กับห้องจำลองการบิน ซึ่งเดิมสถาบันจะต้องนำเข้าจากต่างประเทศ ซึ่งในกรณีนี้เนคเทคจะประสานศูนย์เทคโนโลยีโลหะและวัสดุแห่งชาติ (เอ็มเทค) ออกแบบระบบไฮโดรลิกช่วยให้ห้องจำลองการบินใช้งานได้อย่างสมจริงและมีประสิทธิภาพมากขึ้น เพื่อทดแทนการนำเข้าห้องจำลองการบินแบบเต็มระบบ ซึ่งราคาสูงมาก (คมชัดลึก อังคารที่ 6 มิ.ย. 2549 http://www.komchadluek.net)





ส่งคลื่นวิทยุจดเลขมิเตอร์ไฟไม่ง้อคน

สี่นักศึกษาหนุ่มจากภาควิชาวิศวกรรมอิเล็กทรอนิกส์และโทรคมนาคม คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี (มทร.ธัญบุรี) ได้แก่ นายธนัช ฐิติธรรมพงศ์, นายบุญเรือง คำเมืองคุณ, นายพิริยะ ผุงศิริ และนายสุรพงษ์ อิสสระกุล ที่คิดค้นเครื่องมือวัดค่ากำลังงานไฟฟ้าพร้อมระบบรับส่งข้อมูลการวัดผ่านความถี่วิทยุ โดยอาจารย์วิโรจน์ พิราจเนนชัย เป็นที่ปรึกษา "ทีมนักประดิษฐ์รุ่นเยาว์เกิดความคิด ที่จะนำคลื่นความถี่วิทยุมาใช้เป็นตัวกลางในการรับส่งข้อมูล โดยจำลองเครื่องวัดกำลังงานไฟฟ้าขึ้นมา เพื่อวัดรอบจานหมุนของมิเตอร์ไฟฟ้า ในตัวมิเตอร์จะมีเซ็นเซอร์ตรวจจับแถบสีดำเพื่อรับข้อมูลทุกรอบหมุน จากนั้นจึงเก็บข้อมูลเข้าไว้ในหน่วยความทรงจำ" นายพิริยะ หนึ่งในคณะผู้คิดค้น กล่าว เมื่อต้องการทราบข้อมูลกำลังงานไฟฟ้าของแต่ละครัวเรือน พนักงานเพียงกดส่งสัญญาณคลื่นวิทยุจากตัวรับไปยังมิเตอร์ ซึ่งมิเตอร์จะส่งข้อมูลกลับมาที่เครื่องรับ เพื่อบอกข้อมูลว่าบ้านแต่ละหลังมีค่ากำลังงานไฟฟ้าเท่าไร คลื่นความถี่วิทยุนี้มีรัศมีถึง 25 เมตร และเก็บข้อมูลได้ประมาณ 999 หลังคาเรือน (คมชัดลึก พุธที่ 7 มิ.ย.2549 http://www.komchadluek.net)





ข่าวทั่วไป


รับน้องใหม่..ไม่อยากเห็นเรื่องเศร้า ไร้แอลกอฮอล์ ไม่เมา..ดีที่สุด

ผศ.ดร.วิลาสินี พิพิธกุล ผู้อำนวยการสำนักรณรงค์ และสื่อสารสาธารณะเพื่อสังคม สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) กล่าวว่า จากผลการสำรวจ วิจัยเรื่อง “การรับน้องใหม่ปี 2548:กรณีศึกษานิสิตนักศึกษาระดับมหาวิทยาลัยของรัฐชั้นปีที่ 1-3 ในเขตกรุงเทพมหานคร ของสำนักวิจัยเอแบคโพล มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ พบว่า นิสิตนักศึกษาเคยมีประสบการณ์ดื่มแอลกอฮอล์ในการรับน้องถึงร้อยละ 42.6 ซึ่งรุ่นน้องรับไม่ได้กับการนำเครื่องดื่มแอลกอฮอล์มาใช้ในการรับน้องถึงร้อยละ 43.5 โดยให้เหตุผลว่า 1.เป็นการกระทำที่ไม่สมควร 2.เกรงว่าจะทำให้เกิดปัญหา/ขัดแย้ง/ ทะเลาะวิวาท และ 3. เป็นการบังคับให้มีการมอมเมาในสิ่งที่ไม่ดี ผศ.ดร.วิลาสินี กล่าวเพิ่มเติมว่า ผลจากการสำรวจพบว่า ถ้าได้ดื่มครั้งแรกแล้วจะมีสถิติการดื่มเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ จนติด สำหรับแรงจูงใจที่ทำให้เยาวชนส่วนใหญ่ดื่มแอลกอฮอล์ ร้อยละ 80 ของเยาวชนตอบว่า อยากลอง โดยเริ่มจากเพื่อนหรือรุ่นพี่ที่ใกล้ชิดชวนให้ลอง ส่วนโอกาสที่ดื่มมากก็คือ ช่วงเทศกาลรื่นเริงต่าง ๆ ดังนั้นก็ไม่แปลก ที่ช่วงเทศกาลรับน้องในอดีตที่ผ่านมาจะมีส่วนทำให้เยาวชนหรือวัยรุ่นที่เข้ามาเรียนปี 1 เริ่มดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์กันมากขึ้น ดังนั้นปีนี้จึงมีโครงการ “รักน้องจริง อย่าชวนน้องดื่ม” เพื่อรณรงค์ให้การรับน้องปลอดเหล้าดร.สุปรีดา อดุลยานนท์ ผู้อำนวยการสำนักสนับสนุนการสร้างสุขภาวะและลดปัจจัยเสี่ยงหลัก สสส. กล่าวถึง “เหล้า” กับการรับน้องใหม่ในสถาบันการศึกษาว่า จะเรียกว่าเป็นค่านิยมอย่างนั้นใช่หรือไม่ ต้องถามว่าที่ดื่มเหล้ากันนั้นเพื่ออะไร ถ้ารุ่นพี่อ้างว่าเพื่อสร้างสัมพันธ์ก็คงจะเป็นเหตุผลที่ไม่ถูกต้องนัก หากถามว่าคนเราจะสนิทกันนั้นจะต้องนั่งกินเหล้าด้วยกันทุกคนหรือไม่ก็ไม่จำเป็น ปีที่ผ่านมาโครงการ “รับน้องปลอด เหล้า” ก็เริ่มขึ้นมาแต่ด้วยกระแสข่าวปัญหาการรับน้องจึงทำให้โครงการผลักดันได้ไม่เต็มที่ ปีนี้จึงคาดว่าน่าจะได้ผล แล้วเราจะได้เห็นประโยคจากรุ่นพี่ รุ่นน้องที่พร้อมใจกันถามว่า “รับน้องจำเป็นต้องกินเหล้า ต้องเมากัน ด้วยหรือ” ท้ายที่สุดแล้ว องค์กรนิสิต นักศึกษา ที่จะจัดกิจกรรมประชุมเชียร์รับน้องใหม่ ถ้ายึดตามกรอบกติกาตามประกาศกระทรวงศึกษาธิการ แล้วระดมความคิดร่วมกันเพื่อสรรหากิจกรรมในรูปแบบใหม่ที่เหมาะสมกับสถานการณ์และสภาพสังคมในปัจจุบัน แม้ประเพณีที่สืบทอดกันมาจะเป็นเรื่องดีแต่เมื่อยุคสมัยเปลี่ยน การทำให้ดีกว่าเดิมน่าจะเป็นสิ่งที่ดีกว่า (เดลินิวส์ จันทร์ที่ 5 มิ.ย.2549 http://www.dailynews.co.th/)





แห่ชมนิทรรศการคับคั่ง 9 วันกว่า 3.2 ล้าน

เผยตัวเลข 9 วัน คนชมนิทรรศการเฉลิมพระเกียรติฯ แล้วกว่า 3.2 ล้านคน โฆษกรัฐบาลเชื่อ เสร็จงาน 17 วัน คนมากกว่า 6 ล้านแน่ เผยพสกนิกรในกรุง-ตจว.ยังแห่กันมาชื่นชมพระราชกรณียกิจของในหลวงคับคั่ง ด้าน กทม.ปล่อยแถว จนท. 1.5 พันนาย ตรวจตราความเรียบร้อยช่วงจัดงานฉลองสิริราชสมบัติ ผู้ว่าฯ กทม.นำทัพสื่อดูซุ้มไฟเฉลิมพระเกียรติฯ "กลา โหม" จัดสร้างพญาคชสีห์ 2 องค์ เป็นสัญลักษณ์สื่อถึงหน้าที่ปกป้องชาติ-พระมหากษัตริย์ ขณะที่ "หัวหน้าเติ้ง" นำทีมลูกพรรค-ศิลปินอาร์เอส เดินเทิดพระเกียรติฯ ส่วนงานมหกรรมพืชสวนโลกเฉลิม พระเกียรติราชพฤกษ์ 2549 จัดสร้างหอคำหลวงใกล้เสร็จ เผยมีพระราชกรณียกิจของในหลวงมากมาย เชื่อสร้างความประทับใจแก่คนทั้งโลก ด้านคนไทย 121 คน ติดคุกมาเลย์กลับถึงแผ่นดินแม่แล้ว ขณะที่เสื้อเฉลิมพระเกียรติฯ หาซื้อยาก ร้านบางแห่งถือโอกาสขึ้นราคา จนท.เตรียมเล่นงานแล้ว ที่อิมแพ็คเมืองทองธานี อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี สถานที่จัดงานนิทรรศการเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในวโรกาสการจัดงานฉลองสิริราชสมบัติครบ 60 ปี ซึ่งมีการขยายเวลาเปิดให้ประชาชนได้เข้าชมนิทรรศการเฉลิมพระเกียรติฯ ถึงวันที่ 11 มิ.ย. แล้วนั้น เมื่อวันที่ 4 มิ.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตั้งแต่ช่วงเช้าที่มีการเปิดให้เข้าชมนิทรรศการเฉลิมพระเกียรติฯ ปรากฏว่ามีประชาชนที่พร้อมใจกันสวมเสื้อสีเหลืองมาเยี่ยมกิจกรรมต่าง ๆ มากมาย โดยมาเยี่ยมชมในรูปแบบของหมู่คณะและครอบครัว อย่างไรก็ตามในช่วงบ่ายได้มีฝนตกลงมาในบริเวณจัดงาน แต่ก็ไม่สามารถทำให้ความศรัทธาของประชาชนที่ต้องการมาเยี่ยมชมนิทรรศการในครั้งนี้ลดน้อยลง เพราะยังมีประชาชนทยอยมาชมงานกันอย่างต่อเนื่องตลอดทั้งวัน ทำให้สภาพการจราจรในบริเวณติดขัดเคลื่อนตัวได้ช้า (เดลินิวส์ จันทร์ที่ 5 มิ.ย.2549 http://www.dailynews.co.th/)





"บรรณารักษ์น้อย" กิจกรรมของคนรักหนังสือ

ที่ห้องสมุดประชาชนจังหวัดร้อยเอ็ด ศูนย์การศึกษานอกโรงเรียนจังหวัด(ศนจ.) ร้อยเอ็ด ก็เช่นกันที่ต้องประสบกับปัญหาการขาดแคลนบุคลากร เพราะมีเจ้าหน้าที่ประจำห้องสมุดหรือบรรณารักษ์อยู่เพียงคนเดียว แต่ต้องทำหน้าที่ทุกอย่างที่เป็นงานของห้องสมุด รวมถึงการจัดกิจกรรมเพื่อดึงดูดคนให้เข้าไปใช้บริการห้องสมุด ซึ่ง ผอ.วิลาวัณย์ ศรศิลป์ ผอ.ศนจ.ร้อยเอ็ด เล่าให้ฟังว่า จากสภาพปัญหาที่เกิดขึ้นทำให้บรรณารักษ์ต้องทำงานค่อนข้างหนัก เพราะนอกจากจะต้องดูแลเรื่องการยืม-คืนหนังสือ การจัดหนังสือแล้ว ยังต้องดูแลห้องคอมพิวเตอร์ ซึ่งมีการเปิดให้บริการอินเทอร์เน็ตแก่ประชาชน และยังต้องจัดกิจกรรมเพื่อปรับปรุงห้องสมุดให้มีชีวิตชีวาตามนโนบายอีกด้วย จึงมีความคิดว่าน่าจะหาคนมาช่วยงานเพื่อแบ่งเบาภาระของบรรณารักษ์บ้าง “โครงการอาสาสมัครประจำห้องสมุด” จึงเป็นโครงการที่เกิดขึ้นมาเพื่อแก้ไขปัญหาดังกล่าว โดยอาสาสมัครส่วนหนึ่งก็เป็นเด็กนักเรียนจากโรงเรียนอนุบาลที่อยู่ใกล้ ๆ กับ ศนจ.ร้อยเอ็ด ที่มาใช้บริการห้องสมุดเป็นประจำ อีกส่วนหนึ่งก็เป็นอาสาสมัครจากสำนักงานคุมประพฤติจังหวัดร้อยเอ็ด ที่ต้องการทำประโยชน์เพื่อสังคมเป็นการชดเชยชั่วโมง ซึ่งโครงการนี้เปิดทำมา 2-3 ปีแล้ว ปรากฏว่าได้ผลเป็นที่น่าพอใจ เพราะอย่างน้อยเด็กจะได้มีโอกาสอ่านหนังสือไปด้วยในระหว่างที่เข้ามาทำงานอยู่ในห้องสมุด โดยเฉพาะอย่างยิ่งเด็กจากสำนักงานคุมประพฤติ ซึ่งจะส่งเด็กมาเป็นระยะ ๆ เพราะเห็นว่าสามารถปรับพฤติกรรมของเด็กได้ในระดับหนึ่ง แต่สิ่งสำคัญที่ต้องทำโครงการอย่างนี้ ผอ.วิลาวัณย์ย้ำว่า เพราะเราไม่มีคน (เดลินิวส์ จันทร์ที่ 5 มิ.ย.2549 http://www.dailynews.co.th/)





'คอมพ์ครอบครัว'ราคาถูก

โครงการคอมพิวเตอร์เพื่อครอบครัว ดำเนินการภายใต้ความร่วมมือระหว่างบริษัทอินเทล กับสำนักงานส่งเสริมอุตสาหกรรมซอฟต์แวร์แห่งชาติ หรือซิป้า เป็นปีที่ 2 เพื่อเปิดโอกาสให้ครอบครัวไทยสามารถซื้อเครื่องคอมพิวเตอร์ ด้วยการผ่อนชำระต่ำสุดเพียงวันละ 16 บาท (ในบางรุ่น) นายเอกรัศมิ์ อวยสินประเสริฐ กรรมการผู้จัดการบริษัท อินเทล ไมโครอิเล็กทรอนิกส์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า โครงการมีจุดหมายให้คนไทยมีโอกาสเป็นเจ้าของคอมพิวเตอร์ได้ง่ายขึ้น เพื่อประโยชน์สำหรับสมาชิกในครอบครัว และจากความร่วมมือของซิป้า รวมถึงบริษัทต่างๆ อีกหลายราย ทำให้สามารถนำเสนอเครื่องคอมพิวเตอร์รุ่นต่างๆ ที่มีคุณภาพ โดยมีรูปแบบใช้งานและเทคโนโลยีที่ทันสมัย คอมพิวเตอร์ในโครงการมีให้เลือก 4 รุ่น มีชื่อเรียกต่างๆ กันว่า "รุ่นพี่ใหญ่ รุ่นพี่รอง รุ่นน้องเล็ก และรุ่นน้องสุดท้อง" ซึ่งทั้งหมดมาพร้อมกับซอฟต์แวร์ของไมโครซอฟท์ โดยรุ่นน้องสุดท้องใช้ฮาร์ดดิสก์ความจุ 40 กิกะไบท์ แถมพจนานุกรมออนไลน์ มีราคาต่ำสุดสามารถซื้อผ่อนชำระได้วันละ 16 บาท นานประมาณ 36 เดือน ส่วนรายละเอียดของแต่ละรุ่นได้นำเสนอไว้ในเวบไซต์ของโครงการ www.myfamily-pc.com (คมชัดลึก อังคารที่ 6 มิ.ย. 2549 http://www.komchadluek.net)





ปลัด วธ.ชี้ไทยควรมีพิพิธภัณฑ์ด้านดนตรี

คุณหญิงทิพาวดี เมฆสวรรค์ ปลัดกระทรวงวัฒนธรรม (วธ.) เปิดเผยว่า จากการที่ตนได้ไปเป็นประธานเปิดการจัดแสดงนิทรรศการภาพถ่าย “แสง-เงา ร่มพระบารมี : วิถีวัฒนธรรมไทย” ที่เมืองโยโกฮามา ประเทศญี่ปุ่น ทำให้ได้มีโอกาสไปเยี่ยมชมศูนย์วัฒนธรรมมินออน ณ กรุงโตเกียว ซึ่งในศูนย์วัฒนธรรมดังกล่าวมีพิพิธภัณฑ์ดนตรีที่เก็บรวบรวมเครื่องดนตรีหลากหลายชนิดจากทั่วโลก อาทิ เปียโนโบราณ กล่องดนตรีโบราณ หรือแม้แต่แคนซึ่งเป็นเครื่องดนตรีจากภาคอีสานของไทย เป็นต้น อีกทั้งยังมีรูปแบบการนำเสนอที่น่าสนใจ ซึ่งผู้เข้าชมจะได้รับข้อมูลที่เป็น ประโยชน์มากมาย ทำให้ตนเกิดแนวคิดว่า น่าจะมีการจัดตั้งพิพิธภัณฑ์ดนตรีขึ้นในเมืองไทยบ้าง เพราะความจริงแล้วประเทศไทยก็มีศักยภาพด้านดนตรี และยังมีเครื่องดนตรีมากมายหลายประเภทที่สามารถนำมาจัดทำเป็นพิพิธภัณฑ์ดนตรีได้ไม่ยากนัก เพียงแต่ที่ผ่านมาในประเทศไทยยังไม่เคยมีการเก็บรวบรวมเรื่องของเครื่องดนตรีไว้อย่างเป็นระบบมาก่อน (เดลินิวส์ อังคารที่ 6 มิ.ย.2549 http://www.dailynews.co.th/)





ทีเค ปาร์ค เผยโฉมเกมใหม่

ทีเค ปาร์ค หรืออุทยานการเรียนรู้ ย้ายไปชั้น 8 อาคารศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ โซน D เรียบร้อยแล้ว ด้วยพื้นที่ใหญ่กว่าเดิมถึง 4 เท่า (4,200 ตารางเมตร) พร้อมรับกองทัพเยาวชนคนรักการเรียนรู้ได้จุขึ้น นอกจากสถานที่ใหม่และการตกแต่งที่สร้างบรรยากาศดึงดูดต่อมการเรียนรู้แล้ว ยังมีเกมออฟไลน์ 4 เกมใหม่จากฝีมือคนไทย...รามเกียรติ์, อยุธยา, สุโขทัย และกุ๊ก กุ๊ก กรู๊ คนสู้ผี...บรรจุไว้ในคอมพิวเตอร์ให้เรียนไปเล่นไป นายวรัญญู วรชาติ โปรแกรมเมอร์เกมกุ๊ก กุ๊ก กรู๊ คนสู้ผี ของบริษัท อิเมจิ แมกซ์ กล่าวว่า อิเมจิแมกซ์ ร่วมกับทีเคพัฒนาเกมออฟไลน์ในรูปแบบเอดดูเทนเมนท์ ซึ่งเป็นเกมที่สอดแทรกสาระความรู้ระหว่างเล่น รวม 4 เกม แต่ขณะนี้เสร็จสมบูรณ์แล้ว 2 เกมได้แก่ เกมกุ๊ก กุ๊ก กรู๊ คนสู้ผี เป็นเกมแบบ 2 มิติ มีรูปแบบการเล่นคล้ายเกมมาริโอ เน้นต่อสู้กันระหว่างหมอผีและผีไทยแบบ ต่าง ๆ ที่ถูกออกแบบให้มีความน่ารัก ซึ่งแทรกความหมายของผีแต่ละแบบให้เด็กไทยได้รู้ เหมาะกับเด็กเล็กจนถึงประถมต้น เกมอยุธยา เป็นเกมที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับวิถีชีวิตของคนในสมัยนั้น สอดแทรกเกร็ดความรู้เกี่ยวกับเรื่องต้นไม้ ชื่อ ความสำคัญ และความหมายของสิ่งของเครื่องใช้ที่นำไปทำบุญ เป็นเกมแบบ 3 มิติ เหมาะกับเด็กในระดับประถมปลายนายวรัญญู กล่าวต่อว่า เกมแต่ละเกมมีเทคนิคการสร้างและลูกเล่นที่แตกต่าง กัน แต่ละเกมใช้เวลาในการทำไม่ต่ำกว่า 6 เดือน ปัจจุบันเกมดังกล่าวมีให้เล่นเฉพาะใน ทีเค ปาร์ค เท่านั้น แต่อนาคตหลังทำเสร็จครบ 4 เกม มีโครงการจัดทำลงแผ่นซีดีขายด้วย ที่สำคัญเกมดังกล่าวรองรับทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษ จึงเปิดกว้างให้ทุกเชื้อชาติได้เรียนรู้จากเกม (เดลินิวส์ อังคารที่ 6 มิ.ย.2549 http://www.dailynews.co.th) http://www.dailynews.co.th/





WHO ทูลเกล้าฯ ถวายรางวัลเกียรติยศ

พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี พระวรราชาทินัดดามาตุ ทรงเป็นประธานเปิดงาน "วันงดสูบบุหรี่โลก ประจำปี 2549" ในโอกาสนี้ องค์การอนามัยโลก (WHO) ได้ทูลเกล้าฯ ถวายรางวัลเกียรติยศ "เวิร์ล-โน โทแบคโค อวอร์ด" ให้กับพระองค์ ในฐานะที่ทรงอุทิศพระวรกาย ส่งเสริมสนับสนุนการควบคุมการบริโภคยาสูบ ทรงเป็นแบบอย่างที่ดีให้แก่พสกนิกรในการไม่สูบบุหรี่ ซึ่งเป็นพระราชวงศ์พระองค์แรกของไทยที่ได้รับการทูลเกล้าฯ ถวายรางวัลนี้ เมื่อวันที่ 31 พฤษภาคม ที่ผ่านมา ณ ศูนย์การค้ามาบุญครองเซ็นเตอร์ และในโอกาสนี้ องค์การอนามัยโลก ได้ทูลเกล้าฯ ถวายเกียรติบัตรรางวัล "เวิร์ล-โทแบคโค อวอร์ด ประจำปี 2549 (World-No Tobacco Awards 2006)" แด่ พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี พระวรราชาทินัดดามาตุ ซึ่งเป็นรางวัลที่มอบให้แก่บุคคลหรือหน่วยงานของประเทศสมาชิกในแต่ละภูมิภาค ที่อุทิศตน ส่งเสริมสนับสนุนการควบคุมการบริโภคยาสูบอย่างเข้มแข็งและมีประสิทธิภาพอย่างต่อเนื่องเป็นประจำทุกปี พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี พระวรราชาทินัดามาตุ ทรงเป็นพระราชวงศ์พระองค์แรกของประเทศไทย ที่ได้รับการทูลเกล้าฯ ถวายรางวัลดังกล่าวนี้ เนื่องจากพระองค์ทรงรับเป็นที่ปรึกษากิตติมศักดิ์ของคณะกรรมการรควบคุมการบริโภคยาสูบแห่งชาติ ทรงรับเป็นประธานเปิดงานวันงดสูบบุหรี่โลกมาตั้งแต่ปี 2539 จนถึงปัจจุบัน และดำเนินพระองค์เป็นแบบอย่างแก่พระธิดา เชื้อพระวงศ์ พระประยูรญาติ ข้าราชบริพาร และประชาชนในเรื่องการไม่สูบบุหรี่ นอกจากนั้น พระองค์ทรงมีพระดำริและริเริ่มกำหนดให้เขตพระราชฐานเป็น "เขตสดใส ห่างไกลควันบุหรี่" ประทานนโยบายตลอดจนทรงสอดแทรกเรื่องที่เกี่ยวข้องกับยาสูบ ยาเสพติดประทานแก่ข้าราชบริพาร ผู้ใกล้ชิด และในโอกาสที่เสด็จไปทรงเปิดงานต่างๆ โดยเฉพาะงานที่เกี่ยวกับเยาวชนและสตรี (แนวหน้า อังคารที่ 6 มิ.ย.2549 http://www.naewna.com)





สวช.ส่งคณะโจหลุยส์ ชิงแชมป์หุ่นนานาชาติที่สาธารณรัฐเช็ก

สวช.ส่งโจหลุยส์ชิงแชมป์หุ่นนานาชาติที่สาธารณรัฐเช็ก 3-11 มิถุนายน เป็นครั้งแรกที่ไทยส่งคณะไปประกวดหุ่นนานาชาติ เชื่อสร้างชื่อเสียงในเวทีโลกแน่ แถมช่วยเผยแพร่ศิลปวัฒนธรรมไทย นางปริศนา พงษ์ทัดศิริกุล เลขาธิการคณะกรรมการวัฒนธรรมแห่งชาติ (กวช.) เปิดเผยกับ "คม ชัด ลึก" ว่าจากการที่นายธนรัตน์ ธนพุทธิ เอกอัครราชทูตไทยประจำกรุงปราก ประเทศสาธารณรัฐเช็ก ได้แจ้งมาว่าสถาบัน International Institute of Marionette จัดงานหุ่นนานาชาติ (World Festival of Puppet Art) ที่กรุงปราก ระหว่างวันที่ 3-11 มิถุนายน โดยประสงค์ให้ประเทศไทยส่งคณะหุ่นเข้าร่วมประกวดครั้งนี้ด้วยนั้น สำนักงานคณะกรรมการวัฒนธรรมแห่งชาติ (สวช.) จึงส่งคณะนาฏยศาลาหุ่นละครเล็ก (โจ หลุยส์) เป็นตัวแทนประเทศไทยไปร่วมประกวดเพื่อแสดงถึงศิลปวัฒนธรรมไทย (คมชัดลึก พุธที่ 7 มิ.ย.2549 http://www.komchadluek.net)





ผุดรถไฟฟ้า-รถเมล์เอ็นจีวี ครม.ทุ่มกว่าหมื่นล.ซื้อใจคนกรุง

ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วานนี้ (6 มิ.ย.) มีมติเห็นชอบให้ดำเนินการลงทุนปี 2549 แยกโครงการรถไฟฟ้า 3 สาย ออกจากโครงการลงทุนพิเศษของรัฐบาลเพื่อการพัฒนาประเทศ (Thailand : Partnership for Development) ประกอบด้วย โครงการรถไฟฟ้าสายสีแดง (ช่วงมหาชัย-หัวลำโพง-รังสิต) สายสีม่วง (ช่วงบางใหญ่-ราษฎร์บูรณะ และ บางใหญ่-บางซื่อ) และสายสีน้ำเงิน (ช่วงหัวลำโพง-บางแค และ บางซื่อ-ท่าพระ) เพื่อดำเนินการตามขั้นตอนปกติ วงเงินลงทุนปี 2549 จำนวน 5,000-6,000 ล้านบาท ตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอ น.พ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ที่ประชุม ครม. วันเดียวกัน ยังอนุมัติหลักการให้องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) ดำเนินการจัดซื้อจัดจ้างรถโดยสารปรับอากาศใหม่ที่ใช้ก๊าซธรรมชาติเอ็นจีวีเป็นเชื้อเพลิงทดแทนรถโดยสารประจำทางเก่า 2,000 คัน ของ ขสมก. วงเงิน 6,000 ล้านบาท โดยให้ทำการจัดซื้อจัดจ้างด้วยระบบอี-ออคชั่น เพื่อนำมาทดแทนรถโดยสารประจำทางเก่าที่เสื่อมสภาพ และให้ทำการปลดระวางยกเลิกทะเบียนรถโดยสารประจำทางเก่าต่างๆ เพื่อเป็นการประหยัดพลังงานและชะลอการปรับขึ้นค่าโดยสาร เนื่องจากปัจจุบัน ขสมก.ต้องใช้น้ำมันเชื้อเพลิงถึงวันละ 400,000 ลิตร หรือ 2,300 บาทต่อคันต่อวัน หากมีรถโดยสารประจำทางเอ็นจีวีมาใช้จะประหยัดเชื้อเพลิงได้ประมาณ 971 ล้านบาทต่อปีต่อคัน จึงต้องเร่งจัดหารถโดยสารประจำทางเอ็นจีวีมาวิ่งดำเนินการ โดย ขสมก.จะทำการจัดหาแหล่งเงินกู้ และไม่ต้องใช้งบประมาณของรัฐบาล เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการให้บริการแก่ประชาชน (ไทยรัฐ พุธที่ 7 มิ.ย.2549 http://www.thairath.co.th)





“ชาใบหม่อน” ไทยชนะเลิศเครื่องดื่มโลก

วันที่ 6 มิ.ย.ผู้สื่อข่าวรายงานความสำเร็จที่สร้างชื่อเสียงให้กับประเทศไทย ในระดับโลก ว่า ในการประกวดคุณภาพเครื่องดื่มระดับโลกของสถาบัน International Taste & Quality Institute (iTQi) ที่กรุงบรัสเซลส์ ประเทศเบลเยียม ซึ่งเป็นสถาบันที่เกิดจากการรวมตัวกันของสถาบันชั้นนำด้านอาหารจากประเทศต่างๆในยุโรป เพื่อค้นหาความเป็นที่สุด ด้านคุณภาพและรสชาติของอาหารทุกประเภท อาทิ The Maitres Cuisiniers of France and Belgium, the Academie Culinaire of France, the Federerazione dei Cuochi Italiana, Verband der Koche Deutschlands, Acaademia Espanola de Gasronomia ปรากฏว่า ชาใบหม่อนจากประเทศไทย ได้รับรางวัลชนะเลิศ ประเภทชาสมุนไพรรสชาติยอดเยี่ยม จากบรรดาชาที่เข้าประกวดทั้งสิ้น 450 ชนิดจาก 55 ประเทศทั่วโลก น.ส.นัทธ์หทัย พุกกะณะสุต เจ้าของชาสมุนไพรใบหม่อนศิอามีส ทีโซไซตี้ ซึ่งเป็นชาที่ได้รับรางวัลในครั้งนี้ เปิดเผยว่า ชาใบหม่อนจากประเทศไทยที่ได้รับรางวัลในครั้งนี้ เป็นชาที่ปลูกและใช้กระบวน การผลิตทั้งหมดในประเทศไทย โดยเป็นชาที่ปลูกในจังหวัดนครราชสีมา ที่ถือว่าเป็นพื้นที่เหมาะสำหรับการปลูกใบหม่อน เนื่องจากมีสภาพดิน น้ำ และอากาศที่เหมาะสม และใช้กระบวนการอบให้แห้งด้วยเครื่องจักรที่ทันสมัยได้มาตรฐาน จนถึงขั้นบรรจุด้วยฟอยล์ที่สะอาด กันความชื้น สามารถเก็บกลิ่นของใบชาได้ดี เมื่อนำมาชงเป็นเครื่องดื่มชาใบหม่อนจึงมีกลิ่นหอมและรสชาติที่ได้มาตรฐานระดับโลก ซึ่งรางวัลชนะเลิศครั้งนี้ ถือได้ว่าเป็นความภาคภูมิใจของคนไทย ที่สามารถนำชาสมุนไพรจากพื้นบ้านขึ้นชั้นสู่อันดับโลกได้ ทั้งนี้ ข้อมูลจากกรมพัฒนาการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือกระบุว่า ชาใบหม่อนเป็นเครื่องดื่มบำรุงสุขภาพที่นิยมมากในญี่ปุ่น โดยสามารถนำไปผลิตเป็นชาเขียวโดยใช้ใบหม่อน ผ่านกระบวนการทำให้แห้ง ขณะที่คนไทยใช้ใบหม่อนประกอบอาหาร ชาวจีนใช้เป็นพืชสมุนไพร ซึ่งจากการวิจัยพบว่า ใบหม่อน ชาใบหม่อน และน้ำชาใบหม่อนเป็นแหล่งที่ดีของเควอซิติน เคมเฟอรอล และโพลีฟีนอล ซึ่งมีสรรพคุณในการต้านอนุมูลอิสระ ใช้ ในการป้องกันโรคเรื้อรังต่างๆได้ดี. (ไทยรัฐ พุธที่ 8 มิ.ย.2549 http://www.thairath.co.th






KMUTT Digital Library
Contact Digital Library : info@lib.kmutt.ac.th
Tel : 0-2470-8215