หัวข้อข่าวปีที่ 7 ฉบับที่ 33 ประจำวันที่ 2006-08-15

ข่าวการศึกษา

การศึกษาคือจุดอ่อนของประเทศ
สสส.ให้งบ 150 ล้านหนุนทีวีเพื่อการศึกษา
มศว.เตือนพ่อแม่เลิกรู้ดีเลือกคณะแทนลูก
นโยบายการศึกษาเพื่อพัฒนาชาติ
ศูนย์การศึกษาเพื่อชุมชน ภารกิจอาชีวะเพื่อเหยื่อสึนามิ
ผลิตคนในภาคการศึกษา
50อันดับม.ชั้นนำ รู้ผลวันที่31ส.ค.นี้
เข้มม.เกิดใหม่ พัฒนาวิชาการ งานฝาก "นริศ"
ปชป.หนักใจการศึกษาไทย พบร.ร.กว่าหมื่นเข้าขั้นวิกฤติ

ข่าววิทยาศาสตร์/เทคโนโลยี

อาณาจักรหุ่นยนต์
แอโรเจล ของฝากจากนาซา
เรื่องเล่าจากนอกโลก ประสบการณ์ตรงจากนักบินอวกาศญี่ปุ่น
สองต้นแบบ
พิสูจน์ขุมปัญญาจีนโบราณ 7,000 ปี
อีก 15 ล.ปี มนุษย์เพศผู้ถึงกาลอวสาน
ระดมไอเดียเจ๋งพัฒนาหุ่นยนต์ทาส
คล้ายมนุษย์
ปลากัดอีบุ๊คอ่านไทยได้โปรแกรมแรกของโลก
เตือนอันตรายเก็บก้อนฝนดาวตก มีกัมมันตภาพรังสีแฝงอยู่ในตัว
เพาะช้างดึกดำบรรพ์มาเกิดใหม่ สกัดเอาเชื้ออสุจิจากซากโบราณ

ข่าววิจัย/พัฒนา

บาร์โค้ดใหม่จุข้อมูลไม่อั้น อนาคตอันใกล้เสียบแทนแถบสินค้าแบบเก่า
จุฬาฯ ใช้เซลล์บำบัดรักษาเบาหวาน เทคนิคใหม่ป้องกันแผลเน่าลามจนต้องตัดเท้า
อาบน้ำอุ่นด้วยพลังงานแสงอาทิตย์
ซอฟต์แวร์ปั่นจักรยานออนไลน์ เป็นตัวแทนไทยไปแข่งอินเดีย
เทิดทูนพระอัจฉริยภาพโครงการแกล้งดิน
การแต่งงานรักษาไข้ใจได้ดีที่สุด ผู้ป่วยโรคซึมเศร้าจะหายทันใจ
ปุ๋ยพลังฉี่เร่งสบู่ดำโตวันโตคืน ผสมจุลินทรีย์ทำปุ๋ยชีวภาพใช้เองในครัวเรือน
มช.หวั่นสารนาโนก่อภูมิแพ้ แนะผู้ผลิตศึกษาละเอียดก่อนปล่อยขาย

ข่าวทั่วไป

ตัวอย่างอันตรายยาซื้อทางเน็ต คนไข้หญิงถึงสูญ เสียการมองเห็น
ผู้เฒ่าอายุยืนวัยเกิน100 ปี เผยเคล็ด เพราะ เลื่อมใสศรัทธาในศาสนา
ช็อปปิ้งผ่านกระจกเลียนแบบหนังดัง
ออกเหงื่อชะลอสติปัญญาเสื่อม เนื่องจากความแก่ชราของสังขาร





ข่าวการศึกษา


การศึกษาคือจุดอ่อนของประเทศ

ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) กล่าวสรุปงานสัมมนาประจำปีของ ธปท.ในปี 2549 ในหัวข้อเรื่องประเทศกับการก้าวสู่เศรษฐกิจเอเชียยุคใหม่ว่า จากการสัมมนาโดยสรุปพบว่าจุดอ่อนที่สุดของประเทศคือด้านการศึกษา ซึ่งส่งผลต่อความสามารถในการแข่งขันและการปรับโครงสร้างเศรษฐกิจของประเทศ ซึ่งจุดอ่อนที่สุดในการศึกษาของไทยคือเด็กในอายุก่อน 6 ขวบ ที่มีเป็นช่วงเหมาะสมที่สุดในการพัฒนา โดย ธปท.มองว่าควรจะเพิ่มทั้งในเรื่องการอบรมสั่งสอนและการให้ความรู้ ซึ่งจะดีมากหากเพิ่มการศึกษาภาคบังคับจาก12 ปี เป็น 15 ปี ให้เริ่มจากประมาณ 3 ขวบ เพื่อให้เด็กไปโรงเรียนเร็วขึ้น ซึ่งรัฐบาลจะสามารถให้การอบบรมผ่านครูและการให้กินนมหรืออาหารเสริมจากโรงเรียนได้ซึ่งดีกว่าการให้เงินพ่อแม่ ส่วนในการศึกษาระดับมัธยมศึกษาและประถมศึกษา ต้องยกระดับโรงเรียนของรัฐบาลและโรงเรียนในชนบทให้เท่าเทียมกับโรงเรียนเอกชน เพื่อลดช่องว่างคนรวยและคนจนให้ห่างกันน้อยลง รวมทั้งดูแลครูเพิ่มขึ้น ทั้งในด้านการเสริมความรู้ การดูแลด้านหนี้สิน และปรับโครงสร้างเงินเดือนให้สามารถใช้ชีวิตอยู่ได้ ทั้งนี้ นอกจากการเสริมสร้างการศึกษาแล้วต้องลดการใช้น้ำมันในภาคอุตสาหกรรม เพราะประเทศไทยขณะนี้พึ่งพาน้ำมันมากที่สุดในโลก โดยใช้ทั้งการสร้างแรงจูงใจในการปรับเส้นทางขนส่งสินค้าที่ใช้น้ำมันลดลงโดยหันไปใช้ทางน้ำและรถไฟ ประสานกับทางถนนเพิ่มขึ้น และการปรับเทคโนโลยีการผลิตที่ใช้พลังงานลดลง รวมทั้งการบังคับให้ลดการใช้พลังงาน เช่น การจำกัดปริมาณการใช้น้ำมัน (กรุงเทพธุรกิจ อังคารที่ 15 ส.ค. 2549 http://www.bangkokbiznews.com)





สสส.ให้งบ 150 ล้านหนุนทีวีเพื่อการศึกษา

นายจาตุรนต์ ฉายแสง รักษาการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ เปิดเผยถึงกรณีที่กระทรวงศึกษาธิการ(ศธ.) มีโครงการโทรทัศน์เพื่อการศึกษา หรือ ETV ซึ่งเป็นโครงการที่จัดทำขึ้นเพื่อให้โรงเรียน และ ครอบครัว ได้รับรู้ข้อมูลข่าวสารในแวดวงการศึกษา เพราะปัจจุบัน ETV ได้ผลิตรายการที่เป็นประโยชน์ต่อเด็ก เยาวชนและครอบครัวเป็นจำนวนมาก ซึ่งที่ผ่านมา ETV ได้รับการสนับสนุนงบประมาณจำนวน 50 ล้านบาท จากสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) และเตรียมจะสนับสนุนงบประมาณเพิ่มให้อีกจำนวน 30 ล้านบาท เพื่อใช้สำหรับการประชาสัมพันธ์ภารกิจและงานด้านการศึกษาด้วย (กรุงเทพธุรกิจ อังคารที่ 15 ส.ค. 2549 http://www.bangkokbiznews.com)





มศว.เตือนพ่อแม่เลิกรู้ดีเลือกคณะแทนลูก

ศ.ดร.วิรุณ ตั้งเจริญ อธิการบดีมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ (มศว) เปิดเผยว่า ขณะนี้ใกล้เวลาที่จะมีการสมัครรับตรงแล้ว ตนจึงอยากถือโอกาสแนะนำนักเรียนว่า ควรจะสมัครสอบตรงคนละ 2 แห่งก็เพียงพอแล้ว และไม่ควรจะสอบแบบเหวี่ยงแห หรือสอบทุกสถาบัน ที่สำคัญอยากให้พ่อแม่ผู้ปกครองรวมถึงตัวนักเรียนเองเข้าใจด้วยว่าการสอบตรงของแต่ละสถาบันการศึกษาจะมีเอกลักษณ์ของตัวเอง ซึ่งถ้าพ่อแม่ผู้ปกครองและนักเรียนมีความเข้าใจในปรัชญาของการรับตรงแล้ว เชื่อได้ว่าการสอบแบบเหวี่ยงแหจะลดลงทันที เพราะทุกคนจะมุ่งไปที่เป้าหมายของตนเอง คือสถาบันหรือคณะที่สนใจจริง ๆ นอกจากนี้อยากฝากถึงพ่อแม่ผู้ปกครองที่ชอบตัดสินใจแทนลูก หรือเป็นคนที่เลือกคณะให้ลูกโดยที่เด็กไม่อยากเรียนว่า จะเป็นผลเสียกับเด็ก เพราะถึงแม้เด็กจะสอบได้แต่ก็จะไม่มีความสุขและไม่สนุกกับการเรียน ดังนั้นพ่อแม่ทำหน้าที่เป็นที่ปรึกษามากกว่าที่จะตัดสินใจแทนลูก นอกจากนี้ตนอยากแนะนำว่านักเรียนที่มีเป้าหมายสอบตรงทุกคนต้องเริ่มเตรียมตัวเองตั้งแต่เรียนอยู่ชั้น ม.5 โดยต้องมุ่งเป้าหมายไปสู่สถาบันที่อยากจะเรียน หรือคณะหรือสาขาที่สนใจ โดยอาจจะไปหาข้อมูลจากอาจารย์หรือรุ่นพี่ในสถาบันที่ตัวเองสนใจ ว่าสาขานั้น ๆ เรียนกันอย่างไร ต้องเตรียมตัวสอบอย่างไร เพราะเรื่องการเตรียมตัวและการหาข้อมูลเป็นเรื่องสำคัญมาก ซึ่งรุ่นพี่ที่เรียนอยู่ในสาขาหรือคณะต่าง ๆ จะเป็นแหล่งข้อมูลในการเตรียมตัวสอบได้เป็นอย่างดี แต่ไม่อยากให้เน้นเรื่อง การกวดวิชา นอกจากการเตรียมความพร้อมเรื่องข้อมูล และความสามารถทางวิชาการแล้ว บางสถาบันยังพิจารณาที่ประวัติและผลงานต่าง ๆ มีการสอบสัมภาษณ์ พูดคุยเพื่อดูบุคลิกภาพของนักเรียนด้วย ซึ่งนักเรียนก็ควรเตรียมให้พร้อมเช่นกัน. (เดลินิวส์ อังคารที่ 15 ส.ค. 2549 http://www.dailynews.co.th)





นโยบายการศึกษาเพื่อพัฒนาชาติ

ในจังหวะที่ได้มีพระราชกฤษฎีกา ให้มีการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) เป็นการทั่วไปอีกครั้ง วันที่ 15 ต.ค. 49 จึงมีโอกาสได้เห็นการประกาศนโยบายที่ใช้ในการหาเสียงเพื่อเรียกความนิยมให้ได้เข้าไปบริหารประเทศของพรรคการเมืองต่าง ๆ ซึ่งส่วนใหญ่ทั้งพรรคการเมือง ประชาชนและนักธุรกิจ จะมุ่งสนใจกับนโยบายด้านเศรษฐกิจเป็นสำคัญ แต่สิ่งที่ประชาชน กลุ่มตัวแทนองค์กรทางธุรกิจ นักวิชาการ สื่อมวลชน ควรใส่ใจในระดับเดียวกับนโยบายการเจริญเติบโตทางธุรกิจการค้า ก็คือใส่ใจ ไตร่ตรองถึงนโยบายการศึกษาของแต่ละพรรคให้ดีว่ามีความเป็นไปได้มากน้อยขนาดไหน สิ่งสำคัญที่ต้องตระหนักก็คือ การศึกษาเป็นรากฐานสำคัญของการพัฒนาประเทศทุกด้าน แต่รัฐบาลแทบทุกยุคสมัยกลับไปมุ่งเน้น เฉพาะการขยายตัวทางเศรษฐกิจเป็นหลัก บางรัฐบาลจัดให้การศึกษาอยู่ในลำดับความสนใจกลุ่มท้าย ๆ และแม้ปัจจุบันจะอยู่ในช่วงปฏิรูปทางการศึกษา มีการลงทุนก้อนโต แต่ก็เป็นที่น่าสงสัยว่าจะนำไปสู่การพัฒนาแท้จริงหรือไม่ ดังปรากฏข้อเท็จจริงว่าเรามีงบประมาณด้านการศึกษาถึงสามแสนล้านบาท แต่เมื่อประเมินผลการศึกษาก็พบว่าไม่ได้เน้นการพัฒนาในเชิงคุณภาพ เห็นจาก การสอบวัดผลของนักเรียนระดับมัธยมปลายคราวที่ผ่านมา ส่วนใหญ่คะแนนออกมาต่ำกว่าเกณฑ์มาตรฐานทั้งสิ้น ขณะนี้บางพรรคการเมืองเริ่มกล่าวถึงนโยบายการศึกษาบ้างแล้ว ทำให้มองเห็นสัญญาณทางบวก จึงเป็นหน้าที่ของประชาชนจะช่วยกันศึกษาพิจารณา โดยนักวิชาการ นักการศึกษา ควรจะร่วมวิพากษ์วิจารณ์ถึงความเป็นไปได้ ความน่าเชื่อถือ เพื่อมิให้พรรคการเมืองใด หยิบเอาเรื่องชวนตื่นเต้นหวือหวามาสร้างความหวังลม ๆ แล้ง ๆ แต่ไม่ทำให้เกิดการพัฒนาทางการศึกษาขึ้นมาอย่างแท้จริง ซึ่งจะทำให้พรรคการเมืองไม่กล้าทำสุ่มสี่สุ่มห้ากับการศึกษา และน่าเชื่อได้ว่าจะนำพาประเทศไปในทางที่ถูกที่ควร ไม่หลงเข้ารกเข้าพงยากจะแก้ไข. (เดลินิวส์ พุธที่ 16 ส.ค. 2549 http://www.dailynews.co.th)





ศูนย์การศึกษาเพื่อชุมชน ภารกิจอาชีวะเพื่อเหยื่อสึนามิ

ศ.ดร.วิรุณ ตั้งเจริญ อธิการบดีมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ (มศว) กล่าวถึงกรณีที่มีนักการศึกษาออกมาวิจารณ์การทำงานอุดมศึกษาที่แย่งกันทำระหว่างกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) ที่ประชุมอธิการบดีแห่งประเทศไทย (ทปอ.) และ สำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา (สกอ.) ว่า เรื่องดังกล่าวเป็นเพียงความคิดเห็นส่วนตัว จริง ๆ แล้วทั้ง 3 หน่วยงานทำงานเกี่ยวข้องกันตลอด เช่น การคัดเลือกบุคคลเข้าศึกษาต่อในระบบกลางการรับนิสิตนักศึกษาหรือแอดมิชชั่นที่ดำเนินการโดย สถาบันทดสอบทางการศึกษาแห่งชาติ (สทศ.) เมื่อมีปัญหา สกอ.ก็เข้ามาช่วยเหลือ หรือพยายามให้ได้ทางออกที่ดีที่สุด ถึงแม้การแก้ไขอาจจะไม่ถูกใจทุกคน ส่วน ปีนี้จะมีการแอดมิชชั่นประจำปี 2550 ศธ.ได้มอบ ให้ ทปอ., สกอ. และ สทศ.ช่วยกันดูแลการ ออกข้อสอบทดสอบทางการศึกษาแห่งชาติขั้นสูง (A-NET) เพราะข้อสอบ A-NET เป็นข้อสอบที่จะใช้วัดเด็กเข้าสู่สถาบันการศึกษา ส่วนการออกข้อสอบทดสอบทางการศึกษาแห่งชาติขั้นพื้นฐาน (O-NET) ให้ สทศ.เป็นหน่วยงานที่รับผิดชอบ (เดลินิวส์ พุธที่ 16 ส.ค. 2549 http://www.dailynews.co.th)





ผลิตคนในภาคการศึกษา

ดร.อำรุง จันทวานิช เลขาธิการสภาการศึกษา กล่าวถึงการวางแผนการจัดการศึกษาเพื่อผลิต กำลังคนตามความต้องการของประเทศ ว่า จะมีการวางแผนการจัดการศึกษาเพื่อผลิตกำลังคนใน 7 กลุ่มอุตสาหกรรมที่เป็นยุทธศาสตร์ในการพัฒนาประเทศ ได้แก่ ปิโตรเคมี ยานยนต์ ท่องเที่ยว สิ่งทอ ซอฟต์แวร์ อาหารและโลจิสติกส์ โดยมี ศ.วิจิตร ศรีสอ้าน ประธานอนุกรรมการสภาการศึกษาด้านการ วางแผนจัดการศึกษาเพื่อผลิตกำลังคนตามความต้องการของประเทศ เป็นประธาน ดดยจะมีการจัด ทำดังนี้คือ ด้านหลักสูตรการเรียนการสอน ต้องมีลักษณะเจาะจงมากขึ้น บางสาขาต้องการหลักสูตร ที่เป็น general เพื่อไปพัฒนาต่อยอด และควรเน้นการวิจัยและพัฒนามากขึ้น โดยร่วมกันระหว่าง สถานศึกษาและสถานประกอบการ ส่วนการวางแผนการจัดการศึกษาต้องร่วมกันระหว่างฝ่ายการศึกษา และภาคการผลิตเพื่อให้สามารถตอบสนองความต้องการ โดยมีกลไกของกรอ.ที่จะช่วยสนับสนุนด้าน Supply Side นอกจากนี้การผลิตกำลังคนในสาขาต่างๆ ต้องนำเรื่อง Work Integrand Lear ning มาใช้ โดยให้นักศึกษาได้ฝึกทำงานควบคู่ไปด้วย รวมถึงให้มีการผลิตและพัฒนาคณาจารย์ในสา ขาที่ขาดแคลนด้วย เช่น สิ่งทอ โลจิสติกส์ เป็นต้น (แนวหน้า พุธที่ 16 ส.ค. 2549 http://www.naewna.com)





50อันดับม.ชั้นนำ รู้ผลวันที่31ส.ค.นี้

ศ.(พิเศษ)ดร.ภาวิช ทองโรจน์ เลขาธิการคณะกรรมการการอุดมศึกษา (กกอ.) เปิดเผยความคืบหน้าโครงการจัดอันดับมหาวิทยาลัยไทยว่า สำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา (สกอ.) จะเปิดเผยผลจัดอันดับ 50 มหาวิทยาลัยชั้นนำของประเทศจากมหาวิทยาลัยรัฐและเอกชนทั้งหมดกว่า 100 แห่งทั่วประเทศในวันที่ 31 สิงหาคมนี้ โดยการจัดอันดับไม่แบ่งแยกเป็นมหาวิทยาลัยรัฐ มหาวิทยาลัยเอกชน มหาวิทยาลัยราชภัฏ หรือมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล เลขาธิการ กกอ. กล่าวอีกว่า ไม่ว่ามหาวิทยาลัยจะมีผลจัดอันดับอยู่ตำแหน่งใด ผู้บริหารสูงสุดหรืออธิการบดีจะต้องรับผิดชอบ หากนำพามหาวิทยาลัยให้ก้าวเดินไปไม่ได้ ก็ถือว่าบริหารไม่เป็น โดยในต่างประเทศหากผลจัดอันดับมหาวิทยาลัยตกลงจากปีที่ผ่านมา อธิการบดีจะต้องรับผิดชอบโดยออกจากตำแหน่ง หรือไม่สามารถรับตำแหน่งในวาระต่อไปได้เพราะผลงานไม่เข้าตา (คมชัดลึก ศุกร์ที่ 18 ส.ค. 2549 http://www.komchadluek.net)





เข้มม.เกิดใหม่ พัฒนาวิชาการ งานฝาก "นริศ"

ตามที่คณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติแต่งตั้ง รศ.ดร.นริศ ชัยสูตร ผอ.สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง กระทรวงการคลัง อดีตอธิการบดีมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (มธ.) เป็นเลขาธิการคณะกรรมการการอุดมศึกษา (กกอ.) แทน ศ.(พิเศษ) ดร.ภาวิช ทองโรจน์ ที่จะหมดวาระในเดือนกันยายนนั้น ศ.ดร.พจน์ สะเพียรชัย ประธานคณะกรรมการการอุดมศึกษา (กกอ.) กล่าวว่า อยากให้ส่งเสริมมหาวิทยาลัยให้มีความเข้มแข็งเฉพาะทางมากขึ้น และช่วยพัฒนาในส่วนที่มหาวิทยาลัยอ่อนด้อยให้เข้มแข็ง จัดสรรบงบประมาณสนับสนุนการทำวิจัยให้มากกว่าทุกวันนี้ เพราะงานวิจัยจะนำไปสู่การพัฒนาประเทศ รศ.ดร.วันชัย ศิริชนะ อธิการบดีมหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง (มฟล.) กล่าวว่า อยากให้เร่งพัฒนาอุดมศึกษาให้มีความก้าวหน้าอย่างแท้จริง ทบทวนเรื่องการเป็นมหาวิทยาลัยในกำกับรัฐบาลของสถาบันอุดมศึกษาต่างๆ ที่ยังไม่มีความคืบหน้า ปัญหาความเหลื่อมล้ำระหว่างมหาวิทยาลัยส่วนกลางและภูมิภาค ซึ่งรวมไปถึงมหาวิทยาลัยราชภัฏและมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล เพื่อให้สถาบันอุดมศึกษามีความเข้มแข็ง ดร.สว่าง ภู่พัฒน์วิบูลย์ อธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฏ (รภ.) พิบูลสงคราม ในฐานะรองประธานที่ประชุมอธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฏ (ทปอ.รภ.) กล่าวว่า อยากให้มีนโยบายช่วยเหลือและสนับสนุนมหาวิทยาลัยกลุ่มใหม่ทั้ง 52 แห่ง คือ รภ.40 แห่ง มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล (มทร.) 9 แห่ง มหาวิทยาลัยนราธิวาสราชนครินทร์ มหาวิทยาลัยนครพนม และสถาบันเทคโนโลยีปทุมวัน ให้เป็นรูปธรรมชัดเจน เช่น เรื่องของบุคลากร งบประมาณให้เพิ่มขึ้น เพื่อนำมาพัฒนามหาวิทยาลัย และเน้นงานวิจัยเพื่อท้องถิ่นที่นำมาใช้จริง (คมชัดลึก ศุกร์ที่ 18 ส.ค. 2549 http://www.komchadluek.net)





ปชป.หนักใจการศึกษาไทย พบร.ร.กว่าหมื่นเข้าขั้นวิกฤติ

นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ พร้อมคณะ เดินทางไปที่สำนักงานรับรองมาตรฐานและประเมินคุณภาพการศึกษา (สมศ.) เพื่อรับฟังการบรรยาย “ภาพรวมการศึกษาไทย” จาก ดร.สมหวัง พิธิยานุวัฒน์ ผู้อำนวยการสมศ. นายอภิสิทธิ์ ให้สัมภาษณ์ภายหลังการรับฟังว่า งานการประเมินคุณภาพการศึกษาเป็นงานหนึ่งที่พรรคเป็นผู้ริเริ่มไว้ ซึ่งถือว่าเป็นส่วนสำคัญที่จะช่วยให้การปฏิรูปเกิดขึ้นจริง เพราะมีความจำเป็นต่อการยกระดับคุณภาพการศึกษา “ สิ่งที่เราได้รับทราบวันนี้ก็ต้องเรียนว่า ทำให้เราหนักใจ เพราะว่า ข้อมูลที่ทางสำนักงานฯ เข้าไปประเมินโรงเรียนมาทุกแห่งรอบแรก ซึ่งใช้เวลาประมาณถึง 6 - 7 ปี บ่งบอกว่า โรงเรียน 2 ใน 3 มีปัญหา แล้วก็มีโรงเรียนถึงหมื่นกว่าโรงที่อยู่ในขั้นวิกฤต” หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ข้อมูลที่พรรคได้รับทราบค่อนข้างจะตรงกับสิ่งที่พรรคได้เคยพยายามพูดมาตลอด คือ รัฐบาลและหน่วยงานจำเป็นต้องเอาข้อมูลตรงนี้ไปใช้ในการกำหนดแนวทางการบริหาร การจัดสรรงบประมาณ หรือ การแก้ไขปัญหาให้ตรงจุด เพราะว่าข้อมูลนี้ละเอียดไปถึงระดับสถานศึกษา เพราะฉะนั้นสิ่งที่จำเป็นมาก คือ ต้องเอาผลของการทำงานตรงนี้ ใช้เงิน ใช้เวลา ใช้คนมามาก มาใช้ให้เป็นประโยชน์จริงๆ เพราะฉะนั้นนโยบายของพรรคก็จะเอาข้อมูลตรงนี้มาใช้ประโยชน์ ต้องเร่งเข้าไปแก้ไขปัญหาในหมื่นกว่าโรงเรียนเป็นอันดับแรก ทั้งนี้จำเป็นจะต้องได้รับความร่วมมือจากทั้งท้องถิ่น และต้นสังกัดด้วย เพราะว่าการแก้ปัญหาหลายปัญหา ถ้าไม่ดึงท้องถิ่นเข้ามามีส่วนร่วมก็จะแก้ไขได้ยาก โดยเฉพาะปัญหาความขาดแคลนในบางเรื่องเช่น บุคลากร (ไทยรัฐ ศุกร์ที่ 18 ส.ค. 2549 http://www.thairath co.th)





ข่าววิทยาศาสตร์/เทคโนโลยี


อาณาจักรหุ่นยนต์

ปาโร (PARO) หุ่นยนต์ลูกแมวน้ำ ที่เคยมาอวดโฉมในงานสัปดาห์วิทย์ปีก่อน 1 ตัว ปีนี้ชวนเพื่อน ๆ มากันถึง 11 ตัว เพื่อให้สัมผัส ถึงความแสนรู้ของเจ้าหุ่นยนต์น้อยกันอย่างเต็มที่ เจ้าปาโรนี้ใช้เสียงร้องของลูกแมวน้ำจริงบันทึกลงบนหน่วยความ จำบนตัวหุ่น ภายใต้ขนอันอ่อนนุ่นมีเซ็น เซอร์รับรู้การสัมผัส ติดไว้ทั่วตัว สามารถ รับรู้และแยกแยะตำแหน่งที่ถูกสัมผัสตลอดจนระดับความรุนแรงในการสัมผัสแล้วประมวลผลออกมาเป็นพฤติกรรมการเคลื่อนไหว ปาโรถูกสร้างมาเพื่อใช้ในการบำบัดผู้ป่วยและเป็นเพื่อนกับคนชรา ส่วนน้องใหม่ในงานก็มี วากามารุ (Wakamaru) หุ่นยนต์ต้อนรับแขก ที่มีความ สูงเท่าตัวเด็ก สามารถสื่อสารกับมนุษย์ได้ โดยเข้าใจถึง 4 ภาษา คือ ภาษาญี่ปุ่น อังกฤษ เกาหลี และจีนกลาง เจ้าตัวที่มาในงานสามารถพูดภาษาไทยได้เล็กน้อยอีกด้วย ด้าน ปาเปโร่ (PaPeRo) หุ่นยนต์ พี่เลี้ยงเด็ก เป็นหุ่นยนต์น่าตาน่ารักที่ถูกพัฒนาขึ้นเป็นครั้งแรกเมื่อปี 1997 ปาเปโร่ตัวปัจจุบัน นอกเหนือจากความสามารถหลักในการดูแลเด็กและเป็นเพื่อนเล่นแล้วยังสามารถอ่านนิทานและตั้งคำถามให้เด็ก ๆ ตอบโต้เพื่อให้ความรู้แก่เด็กอีกด้วย สำหรับหุ่นยนต์ที่น่าสนใจอีกหนึ่งตัวก็คือ มูจิโร-ลิกูริโอ (Mujiro-Ligurio) หุ่นยนต์รักษาความปลอดภัย ที่ถูกออกแบบโดยผู้ออกแบบคนเดียวกับหุ่นยนต์นักรบพิทักษ์โลกกันดั้ม หุ่นยนต์นี้เมื่ออยู่ในเหตุการณ์ปกติจะเก็บแขนไว้ในตัว เพื่อป้องกันอันตรายที่อาจเกิดกับบุคคลรอบข้าง แต่เมื่อเกิดสภาวะฉุกเฉินจะกางแขนที่ซ่อนไว้ออกมา เพื่อเก็บวัตถุต้องสงสัยได้อย่างคล่องแคล่วด้วยโครงสร้างแขน 7 ข้อต่อเหมือนกับโครงร่างของแขนมนุษย์นั่นเอง (เดลินิวส์ อังคารที่ 15 ส.ค. 2549 http://www.dailynews.co.th)





แอโรเจล ของฝากจากนาซา

ไฮไลต์ด้านนาโนเทคโนโลยีจากนิทรรศ การวันวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีปีนี้ กับโฉมหน้าของ “แอโรเจล” (Aerogel) วัสดุที่เบาที่สุดในโลก เจลที่ทำจากซิลิกาผสมกับเอทานอล ผ่านกระบวนการทำให้แห้งภายใต้เงื่อนไขวิกฤติที่มีอุณหภูมิและความดันสูงมาก ของเหลวภายในเจลจะถูกกำจัดออก ไปโดยเจลไม่เสียรูปและขนาด เจลดังกล่าวประกอบด้วยอากาศถึง 99.8% ได้รับการบันทึกจากกินเนสส์ บุ๊ก ว่าเป็นวัสดุของแข็งที่เบาและเป็นฉนวนกันความร้อนที่ดีที่สุดในโลก สามารถรับน้ำหนักได้ถึง 500-4,000 เท่าของน้ำหนักตัว โดยไม่เกิดความเสียหาย และสามารถกันความร้อนได้ถึง 1,500 องศา ในงานทดสอบกันให้เห็นถึงประสิทธิภาพ ผ่านดอกไม้ที่วางบนแอโรเจลแม้จะจุดไฟลนข้างใต้ ความร้อนก็ไม่สามารถส่งผ่านขึ้นมาได้ ปัจจุบันแอร์โรเจลนี้ใช้กันอยู่ในยานอวกาศ โดยนาซาใช้ดักจับฝุ่นดาวหางวิลด์ 2 (WILD 2) ในยานอวกาศ “สตาร์ดัสต์” เทคโนโลยีดังกล่าวสามารถนำมาประยุกต์พัฒนาต่อเป็นฟิล์มบางเคลือบกระจกกันความร้อนได้. (เดลินิวส์ อังคารที่ 15 ส.ค. 2549 http://www.dailynews.co.th)





เรื่องเล่าจากนอกโลก ประสบการณ์ตรงจากนักบินอวกาศญี่ปุ่น

ดร.มาโมรุ โมริ นักวัสดุศาสตร์ และเป็นอดีตนักบินอวกาศคนแรกของญี่ปุ่นที่ร่วมเดินทางไปกับกระสวยอวกาศขององค์การนาซา เล่าว่า ได้ลองทำการทดลองหลายอย่างในขณะปฏิบัติภารกิจอยู่นอกโลก หนึ่งในนั้นคือการทดสอบความเปลี่ยนแปลงของร่างกายในสภาพไร้น้ำหนัก "ก่อนเดินทางสู่อวกาศ ผมได้วัดรอบคอและรอบขาบันทึกไว้ พอเข้าสู่สภาพไร้น้ำหนักได้วัดขนาดคอและขาอีกครั้ง พบว่าคอใหญ่ขึ้น 2 ซม. แต่ขาเล็กลง 4 ซม." ดร.โมริ กล่าวและอธิบายว่า เหตุที่เป็นเช่นนั้นเพราะในสภาพไร้น้ำหนักกระแสเลือดจะไหลจากขาขึ้นมายังสมองมากขึ้น เลยทำให้ขนาดคอใหญ่ขึ้น นักบินอวกาศคนแรกของญี่ปุ่น กล่าวว่า มี 3 ปัจจัยที่อวกาศมีผลต่อมนุษย์คือ สุญญากาศ การไร้ที่สิ้นสุด และที่สำคัญคือ ภาวะไร้น้ำหนัก ที่เกิดเป็นคำถามขึ้นว่า ภาวะไร้น้ำหนักนั้นเกิดขึ้นได้อย่างไร (คมชัดลึก พุธที่ 16 ส.ค. 2549 http://www.komchadluek.net)





สองต้นแบบ

บริษัท เคียวโช หรือ Kyosho ค่ายผู้ผลิตหุ่นยนต์ที่ควบคุมการทำงานด้วยสัญญาณวิทยุ โชว์หุ่นยนต์เลียนแบบมนุษย์ต้นแบบสองตัว “Manoi AT01” ด้านขวา สูง 34 เซนติเมตร หนัก 1,410 กรัม สามารถวิ่งและเดินเร็วได้ เตรียมวางขาย ก.ย. นี้ ราคา 1,300 เหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 48,000 บาท และ “Manoi PF01” ด้านซ้าย สูง 40 เซนติเมตร หนัก 2,200 กรัม สำหรับหุ่นยนต์ทั้งสองสามารถเคลื่อนไหวและแสดงได้ 17 ท่าทาง โดยควบคุมการทำงานด้วยโปรแกรมและสัญญาณไร้สาย (เดลินิวส์ พุธที่ 16 ส.ค. 2549 http://www.dailynews.co.th)





พิสูจน์ขุมปัญญาจีนโบราณ 7,000 ปี

รัฐบาลจีนมอบหมายให้องค์การพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีประเทศจีน นำผลงานกว่า 20 ชิ้นร่วมแสดงภายในงานสัปดาห์วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ ประจำปี 2549 ที่จัดขึ้นจนถึงวันที่ 22 สิงหาคมนี้ ณ ไบเทค เพื่อเปิดโอกาสให้คนไทยได้สัมผัสภูมิปัญญาจีน 7,000 ปี ซึ่งปรากฏให้เห็นเป็นมรดกตกทอดมาจนถึงปัจจุบัน เริ่มจากนวัตกรรมที่ทั้งเด็กและผู้ใหญ่ให้ความสนใจและเข้าไปสัมผัสมากสุดคือ อ่างกังวานลายมังกรหลงสี่ ซึ่งจำลองมาจากต้นแบบในคริสต์ศตวรรษ 11-13 ที่มณฑลเหลียวหนิง เมื่อใช้มือทั้งสองข้างถูบริเวณหูหรือที่จับของอ่าง น้ำที่บรรจุในอ่างจะพุ่งขึ้นมา ช่วยให้ผู้ใช้ไม่ต้องวักน้ำขึ้นมาล้างหน้า ถือเป็นอ่างล้างหน้าในแบบไม่เปียกมือใบแรกของโลก วิทยาศาสตร์ของอ่างกังวานนี้อยู่ที่หลักการสั่นสะเทือนนั่นเอง นวัตกรรมถัดมามีรูปทรงที่สะดุดตาอย่างยิ่งคือ เครื่องวัดแผ่นดินไหว สมัยราชวงศ์ฮั่น หรือราว ค.ศ.132 มีรูปร่างคล้ายโอ่งมังกรบ้านเรา แต่ความพิเศษอยู่ที่ การทำหน้าที่เป็นเครื่องแจ้งแผ่นดินไหว โดยชาวจีนโบราณได้ออกแบบให้แขวนลูกตุ้ม หรือเรียกว่า "ตูจู้" ไว้จุดกึ่งกลางของโอ่ง ตูจู้นี้จะเป็นตัวแจ้งให้รู้ว่าเกิดแผ่นดินไหว และทิศทางที่เกิดแผ่นดินไหวจาก 8 ทิศทาง (คมชัดลึก ศุกร์ที่ 18 ส.ค. 2549 http://www.komchadluek.net)





อีก 15 ล.ปี มนุษย์เพศผู้ถึงกาลอวสาน

นักวิทยาศาสตร์ทำนายไว้พักหนึ่งแล้วว่า โครโมโซมวาย ซึ่งเป็นโครโมโซมเฉพาะของบุรุษเพศที่เหลืออยู่น้อยนิด จะวอดวายหายเกลี้ยงไปในไม่ช้า แต่ไม่ต้องตกใจไปว่าผู้ชายจะหมดโลก เพราะหลังจากนั้นจะเกิดมนุษย์พันธุ์ใหม่ขึ้นมา ร่างกายของมนุษย์ ประกอบด้วยเซลล์จำนวนหลายสิบล้านเซลล์ แต่ละเซลล์จะมีชุดข้อมูลสารพันธุกรรม หรือดีเอ็นเอที่รวมตัวกันเป็นกลุ่ม ที่เรียกว่า โครโมโซม มนุษย์มีโครโมโซมทั้งหมด 23 คู่ โดยโครโมโซมคู่ที่ 23 เป็นตัวบ่งบอกเพศชายและหญิง โครโมโซมเพศหญิง คือ โครโมโซมเอ็กซ์ ส่วนเพศชาย คือ โครโมโซมวาย โครโมโซมวายของเพศชายจัดเป็นโครโมโซมที่บรรจุยีนอยู่น้อยที่สุดเพียง 231 ยีน และมีแนวโน้มว่าจะลดลงเรื่อยๆ ทำให้นักวิทยาศาสตร์สงสัยว่า ถ้าจำนวนยีนของโครโมโซมวายลดลงจะหายไปหมดแล้วจะเกิดอะไรขึ้นกับเพศชาย (คมชัดลึก ศุกร์ที่ 18 ส.ค. 2549 http://www.komchadluek.net)





ระดมไอเดียเจ๋งพัฒนาหุ่นยนต์ทาส

เกรกอรี่ การ์เซีย หนึ่งในนักศึกษามหาวิทยาลัยฟลอริดา คิดโครงงานมาประกวดประชันกับเพื่อนฝูงอีก 30 คน โดยออกแบบรถเข็นสินค้าอัจฉริยะที่ดูเผินๆ แล้วแทบจะไม่ต่างจากรถเข็นซื้อของทั่วไป เคล็ดลับของมันอยู่ที่เซ็นเซอร์ที่ถูกติดไว้เพื่อป้องกันไม่ให้เข็นมาโดนลูกค้าที่เดินกันขวักไขว่ในห้าง แรงจูงใจในการประดิษฐ์หุ่นยนต์รถเข็นก็คือความฝังใจที่ตอนเด็กมักจะถูกน้องสาวเข็นรถมาชนเอาเนืองๆ เขาเลยคิดว่าเจ้าสิ่งนี้แหละที่คนอยากได้มาใช้งาน ส่วน เจรามี กรีน เพื่อนร่วมสถาบันเลือกที่จะสร้างหุ่นยนต์ชื่อ แอตลาส มีความสามารถเลี้ยงลูกปิงปองให้อยู่บนแผ่นไม้เรียบได้โดยไม่หล่น ขณะที่ตัวมันเองจะเดินไปรอบห้อง เขายอมรับว่ายังนึกไม่ออกว่าสิ่งประดิษฐ์ของเขาจะเอาไปใช้งานจริงได้อย่างไรนอกจากเอาไว้เล่นสนุกๆ นักศึกษาอีกรายหนึ่งจากภาควิศวกรรมไฟฟ้าประดิษฐ์หุ่นยนต์ชื่อ "ไซเฟอร์" ทำงานด้วยเครื่องยนต์สี่ตัว ซึ่งสามารถลอยตัวขึ้นจากโต๊ะได้ราวหนึ่งฟุตเพื่อยกของหนักได้เหมือนเฮลิคอปเตอร์ สำหรับหุ่นยนต์ดำน้ำที่ชื่อ "ซับจูเกเตอร์ 5" เป็นหุ่นยนต์ที่ได้รับรางวัลที่หนึ่งติดต่อกันสองปีซ้อนในการแข่งขันระหว่างมหาวิทยาลัย หุ่นยนต์สามารถทำความสะอาดท่อที่ยาวสองฟุตได้ มีกล้องและเซ็นเซอร์สำหรับติดตามดูท่อใต้น้ำ โดยจะส่งข้อมูลมายังภาคพื้นดิน หรือที่เรือปฏิบัติการ ส่วนขวัญใจนักศึกษาต้องยกให้กับหุ่นยนต์บริกรชื่อ คูลิโอ ที่คอยเสิร์ฟน้ำเย็นให้กับคณะ โดยสามารถสั่งผ่านอินเทอร์เน็ตได้ (คมชัดลึก ศุกร์ที่ 18 ส.ค. 2549 http://www.komchadluek.net)





คล้ายมนุษย์

“รง เฉิง” หุ่นยนต์จีนตัวแรกที่เน้นความสวยงาม คิดค้นโดยสถาบันเครื่องยนต์และวิทยาศาสตร์ของจีน ในกรุงปักกิ่ง หุ่นยนต์ดังกล่าวสามารถ พูดภาษาจีนได้ถึง 1,000 คำ, ร่ายรำ, คำนับ และทักทายเป็นภาษาจีนสำเนียงเสฉวนได้ ซึ่งการสร้าง “รง เฉิง” ขึ้นมาเพื่อส่งไปเป็นพนักงานต้อนรับที่พิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์ในเสฉวน ราคา 300,000 หยวน หรือประมาณ 1,500,000 บาท. (เดลินิวส์ ศุกร์ที่ 18 ส.ค. 2549 http://www.dailynews co.th)





ปลากัดอีบุ๊คอ่านไทยได้โปรแกรมแรกของโลก

นายสมพร มณีรัตนะกูล กรรมการผู้จัดการ บริษัทไทยซอฟท์แวร์เอ็นเตอร์ไพรส์ จำกัด ผู้พัฒนาโปรแกรมปลากัดอีบุ๊ค เปิดเผยว่า หลังจากพัฒนาโปรแกรมมากว่า 8 เดือน ใช้งบประมาณไปกว่า 2.3 ล้านบาท บริษัทพร้อมเปิดตัวโปรแกรม ปลากัดอีบุ๊ค อย่างเป็นทางการ ซึ่งจุดเด่นของโปรแกรมดังกล่าวคือสามารถค้นหาความหมายของข้อความจากพจนานุกรมทั้งไทย- อังกฤษ และอังกฤษ-ไทย เป็นได้ทั้งอีบุ๊คภาพและเสียง เปลี่ยนขนาดตัวอักษร สีและพื้นหน้าจอให้เหมาะสมกับ ผู้อ่านเช่นผู้อ่านที่ตาบอดสี สายตาสั้น สายตายาว ส่วนเนื้อหาขณะนี้บริษัทอยู่ระหว่างการประสานงานกับสำนักพิมพ์รวมถึงนักเขียนต่าง ๆ ในการพัฒนา เนื้อหาอิเล็กทรอนิกส์ภาษาไทยเพิ่มขึ้น และจะต่อยอดการพัฒนาโปรแกรมไปสู่พีซีและบนมือถือภายในปีหน้า สำหรับโปรแกรมปลากัดอีบุ๊ค (Plakat eBook) เป็นซอฟต์แวร์หนังสืออิเล็กทรอนิกส์ โปรแกรมแรกของประเทศไทยและของโลกที่รองรับการทำงานภาษาไทยอย่างสมบูรณ์ โดยได้รับการสนับ สนุนการวิจัยและพัฒนาจากโครงการ ITAP ภายใต้ศูนย์บริหารจัดการเทคโน โลยี สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) วิจัยขึ้นเพื่อรองรับการเปลี่ยนแปลง จากยุคหนังสือกระดาษสู่ยุคหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ โดยมีการออกแบบและพัฒนาโปรแกรมออกเป็น 2 ส่วนคือ โปรแกรม ปลากัด อีบุ๊ค อิดิเตอร์ สำหรับให้สำนักพิมพ์หรือนักเขียนบริหารจัดการหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ และโปรแกรม ปลากัด อีบุ๊ค รีดเดอร์ สำหรับพ็อกเก็ตพีซี ซึ่งโปรแกรมหลังนี้ผู้สนใจสามารถดาวน์โหลดได้ฟรีที่ www.thaiebook.org. (เดลินิวส์ ศุกร์ที่ 18 ส.ค. 2549 http://www.dailynews co.th)





เตือนอันตรายเก็บก้อนฝนดาวตก มีกัมมันตภาพรังสีแฝงอยู่ในตัว

นักวิทยาศาสตร์ประกาศเตือนว่า อย่าไปตื่นเต้นแย่งเก็บ เมื่อพบเห็นวัตถุสิ่งหนึ่งสิ่งใดตกลงมาจากนอกโลก เพราะอาจจะมีกัมมันตภาพรังสีปนเปื้อนอยู่ อาจเป็นอันตรายได้ ดร.อาร์เอส โกยาล นักธรณีวิทยาที่แคว้นกันธินาคาร์ ของอินเดีย ได้กล่าวเตือนประชาชนว่า “อย่าเที่ยวไปเก็บหรือไปจับต้องของเหล่านั้น เพราะมันอาจจะเป็นชิ้นส่วนของดาวตก ที่อาจมีกัมมันตภาพรังสีได้ เมื่อไปโดนถูกรังสีก็อาจจะทำให้เป็นมะเร็ง” นักวิทยาศาสตร์ภารตะ ได้กล่าวเตือนผู้คน ในขณะที่มีข่าวมีปรากฏการณ์ฝนดาวตก ปรากฏให้เห็นกันตามชาติหลายแห่ง หน่วยงานสำรวจทางธรณีวิทยาของอินเดีย จะเป็นผู้รับผิดชอบเก็บและค้นหาวัตถุเหล่านั้น เพื่อนำมาศึกษาขนาด รูปพรรณสัณฐาน องค์ประกอบทางเคมี แร่ธาตุที่มีอยู่ ตลอดจนตรวจดูเนื้อหยาบหรือละเอียด ลักษณะการแตกกระจาย ลักษณะของการตก ตลอดจนการเปลี่ยนแปลงรูปร่างหรือโครงสร้างของหิน เป็นต้น. (ไทยรัฐ ศุกร์ที่ 18 ส.ค. 2549 http://www.thairath. co.th)





เพาะช้างดึกดำบรรพ์มาเกิดใหม่ สกัดเอาเชื้ออสุจิจากซากโบราณ

ดร.อัตซุโอะ โอกูรา หัวหน้าคณะนักวิจัยญี่ปุ่น กล่าวเปิดเผยว่า “รู้สึกมีกำลังใจ หลังจากที่ได้ประสบความสำเร็จ นำเอาเชื้ออสุจิที่เก็บแช่แข็งมาตั้ง 15 ปี มาผสมให้กับหนูได้สำเร็จ อัตราความสำเร็จของการนำเอาเชื้ออสุจิที่เก็บแช่แข็งนานตั้ง 15 ปีมาผสมได้สำเร็จ งดงามเกินกว่าที่คาดเอาไว้ ดังนั้น เราจึงรู้สึกมีความหวังว่า จะทำกับช้างดึกดำบรรพ์ขนาดใหญ่ได้สำเร็จสูงขึ้น” ช้างดึกดำบรรพ์มีขนาดสูงถึง 11 ฟุต หนัก 7 ตัน และสูญพันธุ์ไปเมื่อตอนปลายของยุคน้ำแข็งยุคท้าย เขาเล่าถึงวิธีการว่า “หากว่าเราสามารถเก็บเอาตัวอสุจิเพศผู้ของสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมที่สูญพันธุ์ไปแล้ว จากซากสัตว์ซึ่งถูกแช่แข็งเก็บรักษาอยู่ในดินแดนเขตที่มีน้ำซึมแข็งอยู่ในดินในหิน มาเป็นเวลาหลายล้านปีได้ เราก็อาจจะทำให้มันกลับคืนชีพขึ้นใหม่ได้อีก โดยการฉีดเชื้อเข้าไปผสมในไข่ ของช้างพังในปัจจุบันที่เป็นพี่น้องใกล้ชิดกันได้” (ไทยรัฐ ศุกร์ที่ 18 ส.ค. 2549 http://www.thairath co.th)





ข่าววิจัย/พัฒนา


บาร์โค้ดใหม่จุข้อมูลไม่อั้น อนาคตอันใกล้เสียบแทนแถบสินค้าแบบเก่า

ดร.โกเมน พิบูลย์โรจน์ หัวหน้างานเทคโนโลยีเพื่อความมั่นคงของประเทศ ศูนย์ประสานงานการรักษาความปลอดภัยคอมพิวเตอร์ประเทศไทย (ไทยเซิร์ท) ศูนย์เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์แห่งชาติ (เนคเทค) กล่าวว่า ประสิทธิภาพในการรองรับการบันทึกข้อมูลตัวอักษรที่ได้มากถึง 4,000 ตัวอักษร ของบาร์โค้ดแบบใหม่นี้ เป็นที่ถูกใจผู้ให้บริการมือถือ ซึ่งได้บันทึกเสียงเพลงเรียกเข้าลงไป เพื่อให้ผู้ใช้มือถือดาวน์โหลดแทนการกดเลขรหัส 10 ตัว บาร์โค้ดโฉมใหม่นี้เป็นแบบ 2 มิติ ลักษณะเป็นทั้งวงกลม สี่เหลี่ยมจัตุรัสและสี่เหลี่ยมผืนผ้า จึงรองรับการบันทึกข้อมูลได้ในแบบแนวตั้งและแนวนอน ดังนั้น ไม่ว่าบาร์โค้ดจะวางเอียงหรือกลับหัว เครื่องอ่านก็สามารถอ่านได้โดยง่าย ขณะที่บาร์โค้ดที่ใช้ทั่วไปจำกัดการบรรจุข้อมูลไว้เพียง 20 ตัวอักษร เป็นแท่งแถวเดียว เครื่องอ่านจึงไม่สามารถอ่าน หากบาร์โค้ดถูกติดกลับหัวหรือติดเอียง ปัจจุบัน สหรัฐอเมริกาและญี่ปุ่นมีความก้าวหน้ามาก ด้านการพัฒนาบาร์โค้ด 2 มิติและนำมาใช้งานจริงกันค่อนข้างแพร่หลาย ส่วนจุดเด่นบาร์โค้ด 2 มิติ นอกจากบรรจุข้อมูลได้มากแล้ว ยังอ่านและถอดรหัสข้อมูลได้รวดเร็ว สามารถถอดรหัสจากภาพด้วยการใช้เครื่องอ่านบาร์โค้ดทั่วไป และสามารถติดลงบนสินค้าที่พื้นที่จำกัด เช่น แผงวงจรอิเล็กทรอนิกส์ บัตรเครดิต ชิ้นส่วนอะไหล่รถยนต์ อย่างไรก็ตาม การนำบาร์โค้ด 2 มิติ เพื่อเก็บข้อมูลส่วนบุคคลนั้น อาจต้องคำนึงถึงความปลอดภัยร่วมด้วย (คมชัดลึก พุธที่ 16 ส.ค. 2549 http://www.komchadluek.net)





จุฬาฯ ใช้เซลล์บำบัดรักษาเบาหวาน เทคนิคใหม่ป้องกันแผลเน่าลามจนต้องตัดเท้า

รศ.น.พ.สมพงษ์ สุวรรณวลัยกร คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เปิดเผยว่า คณะแพทย์โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ ร่วมกับแพทย์จากโรงพยาบาลสมิติเวช ศรีนครินทร์ ทำโครงการวิจัยเพื่อรักษาโรคแทรกซ้อนในระบบเส้นเลือดของผู้ป่วยเบาหวานด้วยเซลล์ต้นกำเนิด ในผู้ป่วย 30 ราย เพื่อค้นหาวิธีการรักษาที่มีประสิทธิภาพมากที่สุด หลังจากผ่านการอนุมัติจากคณะกรรมการจริยธรรมการวิจัยในมนุษย์แล้ว โดยคาดว่าจะแล้วเสร็จภายใน 3 เดือน การวิจัยนี้เป็นการศึกษาร่วมกันของทั้งสองโรงพยาบาล โดยจะศึกษาในคนไข้ของแต่ละโรงพยาบาลซึ่งเป็นโรคเบาหวานและมีแผลเรื้อรังบริเวณฝ่าเท้า เนื่องจากการเสื่อมประสิทธิภาพของเส้นเลือด ที่รักษาด้วยวิธีการอื่นไม่หาย และจะต้องตัดขาทิ้งในที่สุด ทีมแพทย์จะค้นหาวิธีการแบบใหม่ โดยนำเซลล์ต้นกำเนิดที่ได้จากเลือดของผู้ป่วยเองมาฉีดกลับเข้าไปบริเวณเส้นเลือดใหญ่ หรือฉีดรอบๆ บาดแผล รวมถึงในบริเวณใกล้เคียงเพื่อสร้างเส้นเลือดเข้าหล่อเลี้ยงและซ่อมแซมบริเวณบาดแผล รวมถึงดูประสิทธิภาพการรักษาที่ดีที่สุด (คมชัดลึก พุธที่ 16 ส.ค. 2549 http://www.komchadluek.net)





อาบน้ำอุ่นด้วยพลังงานแสงอาทิตย์

โครงงานที่ได้รางวัลที่ 1 ในหัวข้อ “นวัตกรรมเพื่อการพักผ่อนและสันทนาการ” ซึ่งเป็นผลงานของ ด.ช.รณรงค์ วงศ์ประเสริฐ นักเรียนชั้น ม.1 โรงเรียนศรีสวัสดิ์วิทยาคาร จ.น่าน จากโครงงาน “โซล่าร์เซลล์ภูมิปัญญาไทยอาบน้ำอุ่นด้วยพลังแสงอาทิตย์” ซึ่งจุดเริ่มต้นของโครงงานชิ้นนี้เกิดจากการที่สภาพอากาศที่บ้านของน้องรณรงค์ มีความหนาวเย็น ซึ่งในบ่ายวันหนึ่งพ่อได้บอกให้น้องรณรงค์ ไปอาบน้ำแต่ตนเองไม่สามารถอาบน้ำตอนบ่ายของทุกวันได้ เพราะทุกเย็นจะต้องออกไปเตะบอลกับเพื่อน ๆ กว่าจะได้อาบน้ำก็เกือบทุ่ม-2 ทุ่ม ซึ่งอากาศจะหนาวและน้ำจะเย็นมาก สำหรับนวัตกรรมโครงงานนี้ทุกคนสามารถทำได้ง่าย ๆ โดยการซื้อท่อประปา 4 หุน ที่เป็นเหล็กมาแล้วทำการต่อท่อประปาแล้วเดินท่อขึ้นบนหลังคา ในลักษณะเวียนไปมาห่างกันช่องละประมาณ 15 ซม. โดยมีวาล์วเปิดตอนขึ้นหลังคา และมีวาล์วเปิดน้ำลงถังเก็บน้ำ ซึ่งอาจจะเป็นทรงกลมหรือเหลี่ยมก็ได้ และถังเก็บน้ำก็จะหุ้มด้วยฉนวนป้องกันความร้อน (Poly Uratran) ซึ่งจะสามารถเก็บความร้อนได้เหมือนกระติก น้ำร้อน โดยอุณหภูมิของน้ำในถังจะอยู่ที่ประมาณ 60-70 องศาเซลเซียส หลังจากนั้นก็ทำการต่อวาล์วอีกอันจากถังน้ำร้อน สำหรับเปิดเมื่อต้องการใช้งานให้น้ำร้อนที่เก็บไว้ไหลตามท่อไปผสมกับน้ำเย็นจนกลายเป็นน้ำอุ่นเพื่อใช้อาบน้ำ ภูมิปัญญาแบบไทย ๆ ที่คิดและทำได้ง่าย ๆ ของเด็กไทยที่ช่างสังเกตจนสามารถคว้ารางวัลที่ 1 ในหัวข้อ “นวัตกรรมเพื่อการพักผ่อนและสันทนาการ” ไปครองได้ พร้อมเงินรางวัล 50,000 บาท สำหรับโครงการ “เดลินิวส์-SCG ประกวดเจ้าความคิด” ยังคงเปิดรับผลงานกันอยู่ในหัวข้อ “นวัตกรรมเพื่อสุขภาพ” ระหว่างวันที่ 1 ส.ค.-30 ก.ย. นี้ น้อง ๆ เยาวชนคนไหนสนใจและมีผลงานเกี่ยวกับ หัวข้อนี้ก็เขียนส่งโครงงานหรือสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ สำนักงานสื่อสารองค์กร อาคารสำนักงานใหญ่ 2 ชั้น 1 บริษัทปูนซิเมนต์ไทย จำกัด (มหาชน) เลขที่ 1 ถนนปูนซิเมนต์ไทย บางซื่อ กรุงเทพฯ 10800 โทร. 0-2586-6612 โทรสาร 0-2586-2974 หรืออีเมล์ที่ vp2650@ hotmail.com (เดลินิวส์ พุธที่ 16 ส.ค. 2549 http://www.dailynews.co.th)





ซอฟต์แวร์ปั่นจักรยานออนไลน์ เป็นตัวแทนไทยไปแข่งอินเดีย

โครงการ Imagine Cup ได้รับความสนใจจากนิสิต นักศึกษาส่งผลงานเข้าร่วมประกวดเป็นจำนวนมาก โดยในปีนี้คณะกรรมการได้คัดเลือกผลงานของนักศึกษาระดับหัวกะทิ จำนวน 12 ทีม เพื่อเข้ารับการอบรมจากไมโครซอฟท์ เพื่อพัฒนาเป็นแอพพลิเคชั่นที่ใช้ได้จริง และนำมาแข่งขันกันในรอบสุดท้ายเพื่อเฟ้นหาตัวแทนของเยาวชนไทยไปแข่งขันระดับโลกที่ประเทศอินเดีย กติกาการแข่งขันในปีนี้ ได้กำหนดให้ทีมผู้เข้าแข่งขันสร้างสรรค์เทคโนโลยีที่ช่วยให้ประชาชนมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น โดยจะต้องออกแบบและพัฒนาโปรแกรมใหม่ ๆ ที่แสดงให้เห็นถึงความคิดสร้างสรรค์บน .NET Framework 2.0 และ Windows platform ภายใต้หัวข้อ “Imagine the world where Technology enables us to live healthier lives” ผลงานทั้ง 12 ทีมที่เข้ารอบสุดท้าย คณะกรรมการได้ตัดสินให้ทีม CP8299 ของกลุ่มนิสิตจากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ประกอบด้วย นายวีนนาท มงคลมาลย์ นายวรวงษ์ รามางกูล นายกิตติพัฒน์ วิโรจน์ศิริ และนายปรัชญ์ ผลาภิรมย์ จากภาควิชาวิศวกรรมคอมพิวเตอร์ ได้รับราง วัลชนะเลิศ Imagine Cup ประจำปีนี้ และได้เป็นตัวแทนเยาวชนไทยไปแข่งขันที่อินเดีย ผลงานของทีม CP8299 เป็นการพัฒนาซอฟต์แวร์แอพพลิเคชั่น Arogya Web Services เพื่อสร้างแรงจูงใจให้ผู้คนออกกำลังกาย โดยการเชื่อมโยงจักรยานออกกำลังกายเข้ากับเทคโนโลยี และเชื่อมโยงผู้ปั่นจักรยานออกกำลังกายในประ เทศไทยกับคนอื่น ๆ ทั่วโลกในลักษณะของการแข่งขันเสมือนจริงออนไลน์ ซอฟต์แวร์อโรคยายังสามารถเก็บข้อมูลการปั่นจักรยานในแต่ละวันไว้เป็นฐานข้อมูลที่สามารถเรียกดูพัฒนาการการออกกำลังกายได้ รวมถึงวัดระยะทาง เวลา และความเร็วในการปั่น ทั้งหมดนี้เก็บบนฐานข้อมูลแบบออนไลน์โดยใช้เทคโนโลยี .Net ของไมโครซอฟท์ ซึ่งจะช่วยให้ผู้ปั่นจักรยานออกกำลังกายสามารถใช้เครื่องคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคล หรืออุปกรณ์การสื่อสารเคลื่อนที่ชนิดต่าง ๆ เช่น พ็อกเกตพีซี และสมาร์ทโฟน เพื่อบันทึกและเก็บข้อมูลการปั่นจักรยานของตนเอง (เดลินิวส์ พุธที่ 16 ส.ค. 2549 http://www.dailynews.co.th)





เทิดทูนพระอัจฉริยภาพโครงการแกล้งดิน

นายชัยวัฒน์ สิทธิบุศย์ อธิบดีกรมพัฒนาที่ดิน เปิดเผยว่า ครม.มีมติเห็นชอบให้ดำเนินโครงการเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ เป็น พระบิดาแห่งนวัตกรรมไทย เนื่องในวโรกาสพระราชพิธีฉลองสิริราชสมบัติครบ 60 ปี และเป็นการรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณ พระอัจฉริยภาพ และพระปรีชาสามารถด้านนวัตกรรมจากโครงการแกล้งดิน ซึ่งเป็นการแก้ปัญหาสภาพดินเปรี้ยวให้สามารถใช้ประโยชน์ทางการเกษตรได้ โดยกำหนดให้วันที่ 5 ตุลาคมของทุกปีเป็นวันนวัตกรรมแห่งชาติ เนื่องจากในวันที่ 5 ตุลาคม 2535 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ทรงทอดพระเนตการดำเนินงานโครงการศูนย์ศึกษาพัฒนาพิกุลทอง อันเนื่องมาจากพระราชดำริ และได้ทรงมีพระราชดำรัสเกี่ยวกับโครงการแกล้งดินอย่างเป็นทางการ สำหรับโครงการแกล้งดินนั้นเป็นโครงการที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ พระราชทานพระราชดำริให้ศูนย์ศึกษาการพัฒนาพิกุลทองฯ ดำเนินการศึกษาดินเปรี้ยวจัดและทดลองหาแนวทางการปรับปรุงดินเปรี้ยวให้สามารถใช้ประโยชน์ทางการเกษตรได้ เนื่องจากพื้นที่ในเขต จ.นราธิวาส มีสภาพเป็นดินเปรี้ยวจัด ทำให้เพาะปลูกไม่ได้หรือได้ผลผลิตต่ำมาก ส่งผลต่อรายได้และคุณภาพชีวิตความเป็นอยู่ของราษฎร จึงให้ศูนย์ศึกษาการพัฒนาพิกุลทองฯ ทำวิศวกรรมย้อนรอยแกล้งดิน คือทำดินให้เปรี้ยวด้วยการทำให้ดินแห้งและเปียกสลับกัน เพื่อเร่งปฏิกิริยาทางเคมีของดินให้มีความเป็นกรดจัดมากขึ้นจนไม่สามารถปลูกพืชได้ จากนั้นให้ทดลองปรับปรุงดินเปรี้ยวโดยวิธีต่างๆ เช่น ควบคุมน้ำใต้ดินเพื่อป้องกันการเกิดกรดกำมะถัน ใช้วัสดุปูนและปุ๋ยเคมี จนสามารถปลูกพืชเศรษฐกิจได้ผลคุ้มค่า ซึ่งต่อมาได้มีการนำผลสำเร็จจากโครงการแกล้งดินขยายผลสู่พื้นที่อื่นมากมาย (แนวหน้า พุธที่ 16 ส.ค. 2549 http://www.naewna.com)





การแต่งงานรักษาไข้ใจได้ดีที่สุด ผู้ป่วยโรคซึมเศร้าจะหายทันใจ

คณะนักวิจัยของมหาวิทยาลัยในอเมริกา ประกอบด้วยศาสตราจารย์และนักศึกษาด้วยกันได้พบในการศึกษาว่า การเข้าหอลงโรงช่วยรักษาไข้ใจให้กับคนที่มีอาการซึมเศร้า ได้ดีที่สุด รายงานผลการศึกษาระบุว่า การแต่งงานจะเป็นคุณแก่ผู้ที่มีอาการซึมเศร้าได้อย่างน่าตื่นเต้นเร้าใจเป็นพิเศษ แม้แต่คณะนักวิจัยเองก็ยังอดประหลาดใจในผลของการศึกษาไม่ได้. (ไทยรัฐ พุธที่ 16 ส.ค. 2549 http://www.thairath.co.th)





ปุ๋ยพลังฉี่เร่งสบู่ดำโตวันโตคืน ผสมจุลินทรีย์ทำปุ๋ยชีวภาพใช้เองในครัวเรือน

น.ส.อัจฉรา รุ่งเรือง นักเรียนมัธยมศึกษาตอนปลาย จากโรงเรียนสงวนหญิง จ.สุพรรณบุรี กล่าวว่า จากการศึกษาประสิทธิภาพของน้ำปัสสาวะเมื่อนำมาผสมกับจุลินทรีย์เพื่อใช้รดน้ำต้นไม้ พบว่า ต้นชะอมสามารถเจริญเติบโตได้ดีในระดับหนึ่ง ทางกลุ่มวิจัย ซึ่งประกอบด้วย น.ส.รัชดาภรณ์ ช้างพันธุ์ และ น.ส.ขวัญแก้ว มาลัย จึงเริ่มต้นศึกษาปุ๋ยชีวภาพดังกล่าวกับพืชพลังงานอย่างต้นสบู่ดำ เพื่อเปรียบเทียบการเจริญเติบโต ทีมวิจัยได้เก็บน้ำปัสสาวะจากอาสาสมัครทั้งเด็ก ผู้ใหญ่ และผู้สูงอายุ ในช่วงเวลาเช้า กลางวัน และเย็น พร้อมทั้งอัตราส่วนของการหมักปัสสาวะที่ได้กับจุลินทรีย์จากเศษอาหารที่แตกต่างกัน ตลอดจนช่วงเวลาเก็บน้ำปัสสาวะ เพื่อเปรียบเทียบผลการศึกษา ผลจากการศึกษา พบว่า ปัสสาวะของผู้ใหญ่ที่เก็บได้ในช่วงเวลาเช้า หรือหลังตื่นนอนนั้น เมื่อนำมาผสมกับจุลินทรีย์จากเศษอาหารในอัตราส่วนการหมักที่เหมาะสม ช่วยให้ต้นสบู่ดำมีการเจริญเติบโตดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด โดยมีลำต้นสูงขึ้นและมีการแตกใบเพิ่มขึ้น เมื่อเปรียบเทียบกับต้นสบู่ดำที่ไม่ได้รับปุ๋ยชีวภาพจากน้ำปัสสาวะ (คมชัดลึก ศุกร์ที่ 18 ส.ค. 2549 http://www.komchadluek.net)





มช.หวั่นสารนาโนก่อภูมิแพ้ แนะผู้ผลิตศึกษาละเอียดก่อนปล่อยขาย

รศ.ดร.อรัญญา มโนสร้อย อาจารย์ประจำคณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ กล่าวว่า ปัจจุบันมีการนำสารนาโน หรือสารจิ๋ว มาใช้เป็นส่วนผสมทางยาและเครื่องสำอางมากขึ้น เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการนำส่งตัวยาเข้าสู่ชั้นผิวหนังในระดับลึกกว่าปกติ ทำให้ยาหรือเครื่องสำอางนั้นออกฤทธิ์ได้ดียิ่งขึ้น แต่สารจิ๋วดังกล่าวก็มีโอกาสถูกดูดซึมลงลึกมากเกินไปจนหลุดเข้าสู่เส้นเลือด ส่งผลให้เกิดอันตรายต่อร่างกายได้ เนื่องจากสารนาโนเป็นสารที่มีอนุภาคขนาดเล็กกว่าเซลล์ ยากต่อการขับออกจากร่างกาย จึงกลายเป็นสิ่งแปลกปลอมที่ตกค้างในร่างกาย ที่อาจไปกระตุ้นระบบภูมิคุ้มกันให้ทำงานมากกว่าตำรับยาทั่วไป ทำให้เกิดอาการภูมิแพ้เฉียบพลัน ดังนั้น ผู้ประกอบการจึงควรจะทำความเข้าใจ เกี่ยวกับคุณสมบัติการดูดซึมผ่านผิวและกลไกต่างๆ รวมทั้งควรจะพิสูจน์คุณภาพก่อนที่จะอ้างสรรพคุณส่วนผสมของนาโนในเครื่องสำอางหรือยา ทางกลับกัน ข้อดีของการนำอนุภาคขนาดเล็ก หรือนาโน มาใช้นำส่งสารทางยาและเครื่องสำอาง เป็นการเพิ่มฤทธิ์และความคงสภาพของตัวยา ลดความเป็นพิษและเพิ่มการนำส่งยา หรือสารไปสู่เนื้อเยื่อที่ลึกลงไปใต้ผิวหนัง หรือเข้าสู่ระบบไหลเวียนโลหิตได้ ทั้งยังสามารถที่จะควบคุมขนาดอนุภาคให้มีขนาดเหมาะสม ในการปล่อยตัวยาตามระยะเวลาที่ออกแบบไว้ ช่วยลดความถี่ในการกินยา เช่น เหลือวันละ 1 ครั้งจากปกติ 3 ครั้ง (คมชัดลึก ศุกร์ที่ 18 ส.ค. 2549 http://www.komchadluek.net)





ข่าวทั่วไป


ตัวอย่างอันตรายยาซื้อทางเน็ต คนไข้หญิงถึงสูญ เสียการมองเห็น

โรงพยาบาลตาซันเดอร์แลนด์ในอังกฤษเผยในวารสารแลนเซท ว่า สตรีวัย 64 ปีรายหนึ่งสูญเสียการมองเห็นเพราะทานยาสเตียรอยด์ ที่ซื้อออนไลน์จากร้านขายยาในไทยแห่งหนึ่ง เธอวิเคราะห์อาการอ่อนเพลีย เรื้อรังด้วยตนเองแล้วสั่งซื้อยาเพรดนิโซโลนมารับประทานเองนานถึง 4 ปี จนกระทั่งเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา เธอไปพบแพทย์ที่แผนกฉุกเฉินของโรง พยาบาลเพราะรู้สึกว่าสายตาแย่ลงมาร่วมครึ่งปี ผลตรวจพบว่า เป็นทั้งต้อกระจกและต้อหิน อันเป็นผลจากยาสเตียรอยด์ดังกล่าว คณะแพทย์ ระบุว่าต่อให้ยาที่ไม่ใช่ยาปลอม แต่ปริมาณที่รับประทานก็มากเกินไป และไม่ได้ รับการตรวจผลข้างเคียง เพราะหากแพทย์ตรวจพบผลข้างเคียงแต่เนิ่นๆ ก็อาจเลี่ยงอาการแทรกซ้อนขั้นรุนแรงดังที่เกิดขึ้นได้ คณะแพทย์เข้าอิน-เตอร์เน็ตพบว่า มีการเสนอจำหน่ายยาเพรดนิโซโลนขนาด 5 มิลลิกรัม จำนวน 1,000 เม็ด ในราคา 25.23 ปอนด์ (เกือบ 1,770 บาท) คณะแพทย์ระบุว่าการที่ผู้คนสามารถเข้าถึงอินเตอร์เน็ตได้อย่างกว้างขวาง เป็นผลดีต่อผู้ป่วยในแง่ของการหาข้อมูล แต่ขณะเดียวกันการที่สามารถสั่งซื้อยาทางอินเตอร์เน็ต ได้อย่างง่ายดายโดยไม่ต้องมีใบสั่งแพทย์ ไม่ว่าจะเป็นยาที่ถูกควบคุมและไม่ถูกควบคุม เท่ากับนำสุขภาพไปเป็นเดิมพัน คณะแพทย์เตือนแพทย์ เจ้าของไข้ให้ตระหนักถึงอันตรายในเรื่องนี้ และควรสอบถามคนไข้ว่าทานยาที่ซื้อตามร้านขายยาหรือออนไลน์ด้วยหรือไม่ (เดลินิวส์ อังคารที่ 15 ส.ค. 2549 http://www.dailynews.co.th)





ผู้เฒ่าอายุยืนวัยเกิน100 ปี เผยเคล็ด เพราะ เลื่อมใสศรัทธาในศาสนา

ในบรรดาผู้ที่มีอายุยืนเกิน 100 ปี ต่างพากันยกให้ความเลื่อมใสศรัทธาและความเลื่อมใสในศาสนา เป็นเคล็ดของการมีอายุยืนของตนที่สำคัญที่สุด จากการสำรวจของกลุ่มยูไนเต็ด เฮลธ์ ของสหรัฐฯ ที่ได้ทำกับคนอเมริกันที่มีอายุระหว่าง 100-104 ปี จำนวน 100 ราย พบว่าพวกเขาจำนวนมากถึง 23% ต่างยกให้ความเลื่อมใสศรัทธาในศาสนา มีส่วนทำให้อายุวัฒนะเหนือกว่ากรรมพันธุ์และบริการแพทย์ที่ดี นอกจากนั้นยังมีสาเหตุอื่น อย่างเช่น การทำงานหนัก การกินอาหารบำรุงสุขภาพ และการมีชีวิตอย่างบริสุทธิ์สะอาด ผู้ที่ได้อยู่ดูโลกมาเกินร้อยปีเหล่านี้จำนวน 61% เปิดใจว่า ไม่มีอะไรที่คิดอยากจะทำอีกแล้ว และมีถึง 78% ที่รู้สึกว่าตนได้ทำมามากพอแล้ว แต่มีอยู่ 13% ที่แสดงความเสียดายว่า อยากจะเดินทางให้มากกว่านี้ 9% บอกว่า คิดว่าทำงานมาหนักเกินไป และอีก 6% บอกว่าน่าจะมีเวลาอยู่กับครอบครัวให้มากกว่านี้ ผลการสำรวจพบว่า ผู้มีอายุยืนยาวเหล่านี้ พากันภูมิใจกับการเลี้ยงดูครอบครัวมาได้ตลอด รอดฝั่งมากที่สุด และมีอีก 20% ที่มีความพึงใจในอาชีพของตนมากที่สุด. (เดลินิวส์ อังคารที่ 15 ส.ค. 2549 http://www.dailynews.co.th)





ช็อปปิ้งผ่านกระจกเลียนแบบหนังดัง

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า ร้านจำหน่ายเสื้อผ้ายี่ห้อโปโล ราล์ฟ ลอเรน สาขาในแมนฮัตตัน สหรัฐ ได้ใช้เทคนิคฉายภาพจำลองชุดเสื้อผ้า รองเท้า และเครื่องตกแต่งกายให้มาปรากฏบนกระจกหน้าร้าน คนเดินผ่านไปผ่านมาสะดุดตาสนใจใช้มือจิ้มสั่งซื้อได้ทันที ไม่ต้องเสียเวลาเดินทอดน่องในห้าง พร้อมบริการจัดส่งสินค้าถึงบ้าน ลูกค้าสามารถเลือกขนาด และสีของสินค้า ที่มีให้เลือกบนหน้าจอดังกล่าว ซึ่งส่วนใหญ่เป็นสินค้ารุ่นยูเอส โอเพ่น ได้เพียงแค่ใช้นิ้วสัมผัส นอกจากนี้ มีแป้นพิมพ์ เพื่อให้สามารถใส่ที่อยู่ที่ต้องการให้ทางร้านจัดส่งไปให้ และยังมีเครื่องรูดบัตรเครดิตติดตั้งอยู่ด้วย สำหรับการชำระเงิน โปโล ราล์ฟ ลอเรน ได้ใช้วิธีฉายภาพโฮโลกราฟฟิกจากเครื่องฉายภาพ ส่งไปยังที่กระจกของร้าน โดยติดตั้งแผ่นฟอยล์บางๆ และเส้นลวดเล็กๆ ไว้บริเวณกระจก เพื่อส่งข้อมูลเมื่อลูกค้าใช้งานระบบนี้ (คมชัดลึก พุธที่ 16 ส.ค. 2549 http://www.komchadluek.net)





ออกเหงื่อชะลอสติปัญญาเสื่อม เนื่องจากความแก่ชราของสังขาร

รายงานข่าวจากนครนิวยอร์กของอเมริกาแจ้งว่า การศึกษาทบทวน รายงานผลการศึกษาผลของการออกกำลังหลายเรื่องครั้งใหม่ ได้ปรากฏข้อมูลที่แสดงให้เห็นว่า การออกกำลังช่วยบำรุงรักษาร่างกายและจิตใจให้อยู่ในสภาพดีเลิศ เมื่อศึกษาประมวลโดยรวมแล้ว ข้อมูลยังให้ความรู้ส่อด้วยว่า การออกกำลังและการเคลื่อนไหวร่างกาย ยังอาจช่วยชะลอความเสื่อมของสติปัญญา เนื่องจากความแก่ชราลงได้ นอกจากนั้น การฝึกฝนให้ร่างกายแข็งแรงสมบูรณ์ยังส่งเสริมสติปัญญาได้เหนือกว่าการทำกิจการต่างๆ ในขนาดปานกลางอีกด้วย ในเวลาเดียวกัน ได้มีรายงานผลการศึกษาใหม่ 2 เรื่องด้วยกันบอกให้รู้ว่า คนไข้ มะเร็งลำไส้ใหญ่และไส้ตรง ที่ออกกำลังอย่างจริงจัง จะมีโอกาสรอดชีวิตมากขึ้น ไม่ว่าอาการจะอยู่ในขั้นไหน หรือได้รับการผ่าตัดแล้วหรือไม่ก็ตาม. (ไทยรัฐ พุธที่ 16 ส.ค. 2549 http://www.thairath.co.th)






KMUTT Digital Library
Contact Digital Library : info@lib.kmutt.ac.th
Tel : 0-2470-8215