หัวข้อข่าวปีที่ 4 ฉบับที่ 36 ประจำวันที่ 2003-10-01

ข่าวการศึกษา

เชิญชวนประกวดงานศิลป์ ‘ASIMO’
เผยผลวิจัยระบบคัดนักศึกษา 9 ประเทศในเอเชียอาคเนย์
สกอ.เตรียมปรับโครงการเด็กอัจฉริยะ
แจง5รภ.เกิดใหม่พร้อมเป็นมหา’ลัย
ชี้ผลดีสร้าง ‘ม.มหิดล’ –อำนาจเจริญ
ให้ร.ร.ตั้งคลินิกสุขภาพ-ศูนย์ทดสอบวัดแวว

ข่าววิทยาศาสตร์/เทคโนโลยี

มองอดีตผ่านน้ำแข็งขั้วโลกใต้
เปิดตัวเครื่องวัดน้ำตาลใหม่ช่วยผู้ป่วยตรวจเองได้ที่บ้าน

ข่าววิจัย/พัฒนา

กลาโหมวิจัยสร้างยานบินไร้คนขับ
แก๊ซพิษ มฤตยูร้าย ตรวจได้ไม่อยากอย่างที่คิด
มช.ถ่ายทอดเทคโนฯย้ายฝากตัวอ่อน
ศึกษาสารสกัดจาก ‘ใบข่อย’ ป้องกันหินปูน-กลิ่นปาก

ข่าวทั่วไป

ผลิต ‘นวนิยาย’ เอาใจคนตาบอด
พบนศ.หญิงมีแนวโน้มติดบุหรี่-เหล้า
นวดเอว





ข่าวการศึกษา


เชิญชวนประกวดงานศิลป์ ‘ASIMO’

นางพิมพร ศิริวรรณ ผู้จัดการฝ่ายสื่อสารองค์กร บริษัท เอเชี่ยนฮอนด้ามอเตอร์ จำกัด เปิดเผยว่า บริษัทจะจัดให้ประกวดงานศิลปะในหัวข้อ “ASIMO พลังแห่งความฝัน จินตนาการสู่โลกอนาคต” เพื่อเปิดโอกาสให้เยาวชนได้ถ่ายทอดจินตนาการที่เกี่ยวกับการพัฒนาของอาซิโมในอนาคตผ่านงานศิลปะ ซึ่งจากการนำอาซิโมมาแสดงเทคโนโลยีในประเทศไทยในช่วงที่ผ่านมาเยาวชนได้ให้ความสนใจเป็นอย่างมาก ทั้งนี้ อาซิโมเป็นหุ่นยนต์คล้ายมนุษย์ที่สุดในโลก ซึ่งถือเป็นตัวแทนของพลังแห่งความฝันที่เป็นจริงของฮอนด้า ซึ่งได้ใช้เวลาคิดค้นและพัฒนาเทคโนโลยีหุ่นยนต์มานานกว่า 15 ปี เพื่อนำเสนอรูปแบบใหม่แห่งการเคลื่อนที่อันล้ำสมัยนอกเหนือจากการพัฒนายานยนต์ต่างๆ นางพิมลกล่าวต่อว่า การประกวดงานศิลปะครั้งนี้แบ่งเป็น 2 ระดับ คือ ระดับประถม และมัธยม ใช้เทคนิคการวาดได้อย่างเสรี แต่งเติมภาพได้ตามจินตนาการ พร้อมเขียนบรรยายความรู้สึกหรือคำขวัญประกอบ ส่วนขนาดของภาพจะกว้าง 15 นิ้ว ยาว 22 นิ้ว เปิดตัวผลงานตั้งแต่บัดนี้ถึงวันที่ 27 ตุลาคม ประกาศผลวันที่ 3 พฤศจิกายน ผู้สนใจสอบถามได้ที่ฝ่ายประสานงานการประกวดศิลปกรรมเยาวชนอาซิโม ศูนย์แสดงนิทรรศการ “Hondo Wel com Plaza” ถ.ศรีอยุธยา กทม. โทร 0-2642-7081-3 หรือที่ บริษัท สปินเลอร์ฯ โทร.0-2241-0088, 0-2241-1616 หรือดูรายละเอียดและสามารถดาวน์โหลด ใบสมัครได้ที่เว็บไซต์ www.iloveasimo.com (มติชน ศุกร์ที่ 26 กันยายน 2546 หน้า 21)





เผยผลวิจัยระบบคัดนักศึกษา 9 ประเทศในเอเชียอาคเนย์

นายผดุงชาติ สุวรรณรงค์ ผู้อำนวยการศูนย์ภูมิภาคการอุดมศึกษาและการพัฒนา (ซีมีโอ ไรเฮด) เปิดเผยว่า ได้รวบรวมข้อมูลงานวิจัยเกี่ยวกับการศึกษาเปรียบเทียบระบบการรับนักศึกษาเข้าเรียนมหาวิทยาลัยของประเทศในเอเซียอาคเนย์ ขณะนี้มี 9 ประเทศส่งข้อมูลมายังศูนย์ เหลือเพียงพม่า “จากงานวิจัยเบื้องต้นพบว่าระบบการคัดเลือกของแต่ละประเทศแบ่งเป็นใช้ระบบของยุโรป กับสหรัฐอเมริกา ถ้าใช้ของอังกฤษจะใช้ GCE .A LEVEL แต่ถ้าใช้ของอเมริกาจะใช้ GPA แต่ของไทยใช้มั่วหมด ทั้งผลการทดสอบระดับชาติ หรือ National Test ซึ่งมีลักษณะคล้ายGCE .A LEVEL และ GPA เบื้องต้นพบว่าประเทศที่ใช้ผลการเรียนเฉลี่ยในชั้น ม.ปลาย หรือ GPA มีเพียงฟิลิปปินส์ กัมพูชา และไทย ส่วนค่าเปอร์เซ็นไทล์ แรงก์ หรือ PR มีไทย และกัมพูชา นอกจากนี้พบว่าเด็กที่มีความสามารถในการเรียนสูง และถ้าได้เหรียญจากการแข่งโอลิมปิกวิชาการจะเข้าเรียนในมหาวิทยาลัยของเวียดนาม และไทยจะเข้าได้โดยอัตโนมัติ ส่วนสิงคโปร์แม้ไม่ได้แข่งขัน หรือไม่ได้เหรียญ แต่ถ้าเก่งจริงก็เข้าได้เลย” นายผดุงชาติกล่าว (มติชน เสาร์ที่ 27 กันยายน 2546 หน้า 15)





สกอ.เตรียมปรับโครงการเด็กอัจฉริยะ

นายสุเมธ แย้มนุ่น ที่ปรึกษาด้านนโยบาย และแผน สำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา (สกอ.) เปิดเผยถึงความคืบหน้าในโครงการส่งเสริมผู้มีความสามารถพิเศษให้มีวิสัยทัศน์ หรือ The Best and The Brightest รุ่นที่ 1 จำนวน 30 คน ระหว่างวันที่ 13-27 กันยายน ที่ประเทศสหรัฐอเมริกา ว่า เด็กพยายามที่จะเรียนรู้ประสบการณ์จากการไปดูงานยังหน่วยงานและองค์กรต่างๆ ในวอชิงตัน ดี.ซี.แต่ยังมีอีกหลายสิ่งที่ต้องปรับปรุง เนื่องจากยังไม่มีการลงลึกในสิ่งที่พบ นอกจากนี้ ประเด็นที่ใช้ในการตั้งคำถามเพื่อให้หน่วยงานต่างๆ ตอบดีมาก แต่กลับลืมนำคำตอบที่ได้มาใช้ในการนำเสนอ และเปรียบเทียบกับหน่วยงาน หรือองค์กรต่างๆ ในไทย ฉะนั้นเมื่อประเมินแล้วพบว่ายังต้องปรับปรุง “เด็กรุ่นนี้เป็นเด็กที่มีความสามารถพิเศษ 80% พบว่าเด็กกล้าที่จะถาม กล้าแสดงความคิดเห็น แต่สิ่งที่ยังต้องเพิ่มเข้าไปในการดูงานครั้งนี้คือต้องเปรียบเทียบกับเมืองไทยว่าจะประยุกต์อะไรกับเมืองไทยได้ หรือไม่ได้ จึงต้องมองรอบด้าน” นายสุเมธกล่าว และว่า เมื่อเด็กกลุ่มนี้กลับประเทศไทยแล้วจะต้องเกาะกลุ่มคิด โดยให้ สกอ.ช่วยวางระบบให้เด็กเหล่านี้มีโอกาสคิดวิเคราะห์ และทำงานร่วมกัน ซึ่งเป็นเรื่องที่ทำได้ยาก อีกทั้งอยากให้เด็กๆ กลุ่มนี้มองอนาคตของไทยในอีก 5-10 ปีข้างหน้าของประเทศ โดยนำความรู้ที่มีอยู่ไปประยุกต์และสิ่งที่จะได้ประโยชน์คือให้เด็กเขียนถึงสิ่งที่ต้องการให้รัฐบาลทำ หรือสนับสนุน ซึ่งจะรวบรวมข้อสรุปเสนอ ร.ต.อ.วรเดช จันทรศร เลขาธิการคณะกรรมการการอุดมศึกษา (มติชน เสาร์ที่ 27 กันยายน 2546 หน้า 15)





แจง5รภ.เกิดใหม่พร้อมเป็นมหา’ลัย

นางศรีวิการ์ เมฆธวัชชัยกุล รองเลขาธิการคณะกรรมการการอุดมศึกษา (กอ.) ให้สัมภาษณ์กรณี นายสุรพล นิไกรพจน คณบดีคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ระบุว่าสถาบันราชภัฏ (รภ.) 5 แห่งทีเพิ่มเปิดใหม่ คือ รภ.ศรีสะเกษ รภ.ร้อยเอ็ด รภ.ชัยภูมิ รภ.กาฬสินธุ์ และรภ.นครพนม น่าจะเลื่อนการเป็นมหาวิทยาลัยราชภัฎออกไปอีก 4 ปี เนื่องจากยังมีบุคลากรน้อย โดยได้ยกตัวอย่างบาง รภ.มีอาจารย์แค่ 10 คน ไม่เพียงพอกับองค์ประกอบกรรมการสภาวิชาการ ที่ร่าง พ.ร.บ.มหาวิทยาลัยราชภัฏ มาตรา 19 ระบุให้มีบุคลากรจากบุคคลภายในประมาณ 10 คนร่วมเป็นกรรมการ ว่านายสุรพลอาจมองเฉพาะข้าราชการประจำเท่านั้น ทั้งที่บุคลากรภายใน รภ.อื่นที่มาช่วยสอนโดยยังไม่ได้ตัดโอนอัตรา อาจารย์ประจำที่รัฐจ่ายเป็นอัตราจ้างที่เรียกว่าพนักงานของรัฐ อาจารย์เครือข่ายและอาจารย์พิเศษ ซึ่งถือว่ามีเพียงพอที่จะเป็นกรรมการสภาวิชาการแต่แม้จะมีปัญหาจริง เราก็สามารถแก้ไขด้วยระบบบริหารจัดการ โดยร่วมมือกันใน รภ.ใกล้เคียง แต่ทั้งนี้ไม่คิดว่าจะมีปัญหาดังกล่าว (มติชน จันทร์ที่ 29 กันยายน 2546 หน้า 20)





ชี้ผลดีสร้าง ‘ม.มหิดล’ –อำนาจเจริญ

น.พ.สุรพล ลอยหา นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดอำนาจเจริญ ในฐานะเลขานุการคณะทำงานจัดตั้งมหาวิทยาลัยมหิดล สาขาอำนาจเจริญ เปิดเผยว่า ได้เตรียมไว้เบื้องต้น 600 กว่าไร่ และสามารถขยายพื้นที่ได้อีก 1,200 กว่าไร่ ที่ดินทั้งหมดเป็นที่สาธารณประโยชน์การที่ทางจังหวัดได้ทำประชาพิจารณ์มาหลายครั้ง ชาวอำนาจเจริญต่างสนับสนุนเต็มที่ ซึ่งเป็นการขยายเขตพื้นที่ขยายความเจริญด้านการศึกษามาสู่พี่น้องในชนบท ไม่ต้องเข้าไปเรียนแพทย์ถึงเมืองหลวง เป็นการเสียค่าใช้จ่ายที่มากกว่าเรียนอยู่ที่บ้านของตนเอง ทำให้รักถิ่นบ้านเกิดของตนเองอีกด้วย น.พ.สุรพรกล่าวว่า ขณะนี้มีนักศึกษาระดับปริญญาตรี ปริญญาโท จากต่างประเทศมาเรียนมาศึกษากันแล้ว โดยใช้สถานที่ของโรงพยาบาลอำนาจเจริญเป็นที่เรียน และทางมหาวิทยาลัยมหิดลก็เปิดสอนมานานแล้ว หากมีการจัดตั้งมหาวิทยาลัยมหิดล ขึ้นที่อำนาจเจริญจริงๆ แล้วจะเป็นผลดีอย่างยิ่งกับพี่น้องที่นี่และจังหวัดใกล้เคียงรวมถึงประเทศเพื่อนบ้าน สามารถมาเรียนที่มหาวิทยาลัยมหิดลสาขาอำนาจเจริญ เป็นการสร้างความเจริญด้านการศึกษา และด้านเศรษฐกิจให้กับชาวจังหวัดอำนาจเจริญและประชาชนทางภาคอีสานได้อย่างดี (มติชน จันทร์ที่ 29 กันยายน 2546 หน้า 21)





ให้ร.ร.ตั้งคลินิกสุขภาพ-ศูนย์ทดสอบวัดแวว

นายสมเกียรติ บุญรอด ผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา (สพท.) กำแพงเพชร เขต 1 เปิดเผยว่า สุขภาพของนักเรียนเป็นสิ่งสำคัญยิ่งในการจัดกิจกรรมการเรียนการสอน ประกอบกับนโยบายของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการที่เน้นการส่งเสริมสุขภาพนักเรียน โดยให้ ร.ร.จัดตั้งคลินิกสุขภาพเปิดให้บริการปรึกษาและแนะนำนักเรียนที่มีปัญหาสุขภาพ ตลอดจนส่งรักษาพยาบาลต่อเพื่อฟื้นฟูสมรรถภาพ พร้อมกันนี้ยังให้ ร.ร.ตั้งศูนย์ทดสอบวัดแวว เพื่อค้นหาเด็กที่มีความสามารถพิเศษ 10 แวว ได้แก่ แววนักคิด แววผู้นำ แววนักสร้างสรรค์ แววนักวิชาการ แววนักคณิตศาสตร์ แววนักวิทยาศาสตร์ แววนักกีฬา แววนักภาษา แววนักดนตรี และแววนักศิลปินซึ่งกรมวิชาการจะเป็นผู้สร้างเครื่องมือทดสอบค้นหา 10 แววดังกล่าวให้ (มติชน จันทร์ที่ 29 กันยายน 2546 หน้า 21)





ข่าววิทยาศาสตร์/เทคโนโลยี


มองอดีตผ่านน้ำแข็งขั้วโลกใต้

ขั้วโลกใต้ ถือเป็นดินแดนที่มีบทบาทอย่างมากในการควบคุมอุณหภูมิ ระบบภูมิอากาศและสิ่งแวดล้อมโลก และเป็นสถานที่ที่เก็บประวัติศาสตร์ของโลกได้เป็นอย่างดีและต่อเนื่อง ดินแดนแห่งนี้จึงได้รับสมญานามว่าทวีปแห่งน้ำแข็ง สถาบันNational Instite of Polar –NIRP ประเทศญี่ปุ่นซึ่งก่อตั้งสถานีวิจัยขึ้นในขั้วโลกใต้ได้ตอบรับให้นักวิจัยไทย 1 คน เข้าร่วมทำงานในสถานนีวิจัย Syowa เป็นครั้งแรก นักวิจัยของไทยที่ได้รับการคัดเลือกจะต้องผ่านการอบรม ฝึกการใช้ชีวิตในประเทศที่มีภูเขาและหิมะ 14 พฤศจิกายน 2547 เรือตัดน้ำแข็ง “ชิราเสะ” มีกำหนดการนำลูกเรือพร้อมกลุ่มนักวิจัยรวม 215 คน ออกเดินทางจากประเทศญี่ปุ่นมุ่งสู่เมืองเพิร์ธประเทศออสเตรเลียออกเดินทางสู่สถานีวิจัยดังกล่าวที่ขั้วโลกใต้ ในวันที่ 24 ธันวาคม 2547 เพื่อเริ่มภาระกิจต่อไป (เดลินิวส์ เสาร์ที่ 27 กันยายน 2546 หน้า 12)





เปิดตัวเครื่องวัดน้ำตาลใหม่ช่วยผู้ป่วยตรวจเองได้ที่บ้าน

เภสัชกรนรเทพ เอี่ยมแก้ว ผู้อำนวยการแผนกไลฟ์สแกน ฝ่ายเวชภัณฑ์และครุภัณฑ์บริษัทจอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน (ไทย) จำกัด ซึ่งนำเข้าและจัดจำหน่ายเครื่องตรวจวัดระดับน้ำตาลในเลือดที่บริเวณแขนเปิดเผยว่า เครื่องดังกล่าวเป็นนวัตกรรมและทางเลือกใหม่ให้กับผู้เป็นเบาหวานตรวจวัดระดับน้ำตาลได้ที่บ้าน นอกเหนือจากไปพบแพทย์ที่โรงพยาบาล อุปกรณ์ดังกล่าวมีคุณสมบัติแตกต่างจากเครื่องตรวจวัดระดับน้ำตาลในเลือดทั่วไปที่ทำการตรวจวัดได้เฉพาะที่ปลายนิ้วซึ่งเป็นบริเวณที่มีจำนวนปลายประสาทอยู่เป็นจำนวนมากทำให้ผู้ป่วยเจ็บเวลาเมื่อเจาะเลือดเพื่อตรวจวัดน้ำตาลขณะที่อุปกรณ์รูปแบบใหม่นี้สามารถตรวจวัดได้ที่บริเวณแขนซึ่งมีปลายประสาทอยู่เป็นจำนวนน้อยกว่า ทำให้รู้สึกเจ็บน้อยลง นอกจากนี้ ปริมาณเลือดในการตรวจวัดยังใช้เพียง 1 ไมโครลิตรเท่านั้น ด้วยเข็มชนิดพิเศษที่ออกแบบเพื่อการเจาะเลือดในบริเวณหลอดเลือดฝอยโดยเฉพาะและทราบผลการตรวจภายใน 5วินาที แสดงค่าเฉลี่ยของระดับน้ำตาลในเลือดที่วัดได้ทั้ง 14 และ 30 วันโดยอัตโนมัติ สามารถเก็บผลการตรวจวัดไว้ในระบบได้ 150 ค่า และยังเชื่อมต่อข้อมูลเข้ากับระบบซอฟต์แวร์ ขณะที่เครื่องตรวจทั่วไปใช้ปริมาณเลือดในการตรวจ 4-5 ไมโครลิตร และใช้เวลาประมาณ 40 วินาทีถึงทราบผล (กรุงเทพธุรกิจ ศุกร์ที่ 26 กันยายน 2546 หน้า 8)





ข่าววิจัย/พัฒนา


กลาโหมวิจัยสร้างยานบินไร้คนขับ

พล.ต.พลางกูร กล้าหาญ โฆษกกระทรวงกลาโหม เปิดเผยว่า กระทรวงกลาโหม โดยสำนักงานวิจัยแบะพัฒนาการทางทหารกลาโหม (สวพ.กห.) ร่วมกับสำนักงานกองทุนสนับสนุนการวิจัย (สกว.) ทำโครงการวิจัยเพื่อการสร้างยานบินไร้ผู้บังคับ (Unmanned Aerial Vehicle : UAV) ขึ้นไว้ใช้เอง ทดแทนการนำเข้าจากต่างประเทศ เพื่อตอบสนองความต้องการของเหล่าทัพในการลาดตระเวน เฝ้าตรวจระยะไกล การค้นหาและชี้เป้าหมาย เป็นโครงการวิจัยขนาดใหญ่นำร่องระดับชาติ ใช้ระยะเวลาดำเนินการ 3 ปี เริ่มในปีงบประมาณ 2547-2549 มีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างระบบยานบินไร้ผู้บังคับสำหรับภารกิจตรวจการณ์ สอดแนม ค้นหา และติดตามเป้าหมาย ซึ่งการทำวิจัยในครั้งนี้จะเป็นการวิจัยทั้งระบบของยานบินไร้ผู้บังคับ โดยจะใช้งบประมาณทั้งสิ้น 96 ล้านบาท ได้รับการสนับสนุนจาก สกว. 75 ล้านบาท และกระทรวงกลาโหมอีก 21 ล้านบาท คณะผู้วิจัยประกอบด้วยนักวิจัยที่เป็นทั้งทหารและพลเรือน ทั้งยังมีนักวิชาการจากหน่วยงานภายในและภายนอกของกระทรวงกลาโหมเป็นที่ปรึกษาโครงการ (มติชน จันทร์ที่ 29 กันยายน 2546 หน้า 12)





แก๊ซพิษ มฤตยูร้าย ตรวจได้ไม่อยากอย่างที่คิด

สถาบัน National Institute of Standards and Technology (NIST) แห่งประเทศสหรัฐอเมริกาจึงได้ทำการวิจัยและพัฒนาอุปกรณ์จะช่วยในการตรวจจับบรรดาอาวุธเคมีอย่างเช่น ก๊าสพิษขึ้นมาโดยอาศัยการประมวลผลแบ่งเครื่องคอมพิวเตอร์พีซีตามบ้านธรรมดาๆ แต่ประสิทธิภาพไม่ธรรมดาตามไปด้วย ด้วยเทคโนโลยี microheater ของ NIST ทำให้อุปกรณ์ที่ประกอบไปด้วยเซ็นเซอร์ขนาดเล็กจำนวน 4 ตัวต่ออุปกรณ์ 1 ชิ้น สามารถตรวจจับแก๊สพิษต่างๆ ในส่วนที่เป็นเซ็นเซอร์ในการตรวจจับก๊าสพิษนั้นจะถูกเคลือบด้วยวัตถุจำพวก Metal Oxide ที่เราสามารถตั้งโปรแกรมให้ทำงานในช่วงอุณหภูมิต่างกันตามที่เราต้องการได้ (เดลินิวส์ พุธที่ 24 กันยายน 2546 หน้า 16)





มช.ถ่ายทอดเทคโนฯย้ายฝากตัวอ่อน

สัตวแพทย์หญิงจุรีย์รัตน์ สำเร็จประสงค์ คณะสัตวแพทย์ศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่เปิดเผยถึงโครงการพัฒนาเทคโนโลยีชีวภาพย้ายฝากตัวอ่อนในโคนมว่า เทคโนโลยีนี้เป็นเทคนิคชั้นสูงที่มีวิวัฒนาการมาจากเทคนิคการผสมเทียม สามารถช่วยให้การปรับปรุงพันธุ์สัตว์ และขยายพันธุ์รวดเร็ว เป็นไปอย่างรวดเร็ว และมีประสิทธิภาพ รวมทั้งใช้ในการวางแผนปรับปรุงพันธุ์โคนมในประเทศ โดยผลิตฝูงลูกโคจากพ่อพันธุ์แม่พันธุ์ที่มีพันธุกรรมเด่นได้พร้อมกัน เทคโนโลยีการย้ายฝากตัวอ่อน และคัดเลือกเพศ ทำมานานแล้วในต่างประเทศ ขณะที่ไทยทำได้เฉพาะห้องปฏิบัติการ บางแห่งเท่านั้น เพราะต้องใช้เครื่องมือ และน้ำยาราคาแพง ด้วยเหตุดังกล่าวจึงมีการวิจัยเพื่อปรับปรุงการย้ายฝากตัวอ่อนและคัดเลือกเพศสัตว์ให้เป็นเทคนิคง่ายๆ สามารถทำได้จริงในภาคสนามโดยใช้เพียงกล้องจุลทรรศน์กับมีดผ่าตัดเท่านั้น สพ.ญ.จุรีย์รัตน์ อธิบายเพิ่มเติมว่าเทคนิคพีซีอาร์คือ การเพิ่มดีเอ็นเอ โดยการทำให้ดีเอ็นเอที่มีอยู่ 2 สายแยกออกจากกันเป็นสายเดียว จากนั้นใส่สารตั้งต้นกับสารเรืองแสงเข้าไปจับกับดีเอ็นเอ เพื่อเพิ่มปริมาณสารดีเอ็นเอมากขึ้นจนสามารถอ่านผลได้ด้วยตาเปล่า (ภายใต้แสงอัตราไวโอเลตหรือยูวี) โดยสารตั้งต้นที่ใช้นี้จะไปเพิ่มเฉพาะดีเอ็นเอของเพศผู้ ดังนั้น เมื่อมองผลการทำพีซีอาร์ภายใต้แสงยูวีตัวอ่อนที่เป็นเพศผู้จะเรืองแสงส่วนตัวอ่อนเพศเมียไม่เรืองแสง ทำให้สามารถแยกเพศได้ โดยเพศที่เลือกใช้ในการย้ายฝากตัวอ่อนคือเพศเมีย (กรุงเทพธุรกิจ ศุกร์ที่ 26 กันยายน 2546 หน้า 8)





ศึกษาสารสกัดจาก ‘ใบข่อย’ ป้องกันหินปูน-กลิ่นปาก

ทีมวิจัยได้สกัดสารจากใบข่อยมาผสมในน้ำยาบ้วนปากให้อาสาสมัคร 30 คนทดลองบ้วนปากด้วยน้ำยาดังกล่าว 4 วันโดยไม่ได้แปรงฟันอาสาสมัครกลุ่มเดิมใช้น้ำยาอีกชนิดหนึ่ง ที่ไม่ผสมสารสกัดใบข่อย ภายใต้เงื่อนไขเดียวกัน อาสาสมัครบอกว่า หลังจากใช้น้ำยาบ้วนปากอย่างแรกรู้สึกปากไม่ค่อยสกปรกแม้ไม่ได้แปรงฟัน ต่างจากน้ำยาบ้วนปากชนิดที่สอง ที่รู้สึกปากสกปรกและคราบเคลือบในปากอยู่มาก แต่รสชาติและกลิ่นของน้ำยาชิดที่สองดีกว่าชนิดแรก รศ.สุวิมล กล่าวว่า หลังจากทดลองแล้ว ได้นำอาสาสมัครมาตรวจทางคลินิกเพื่อดูลักษณะของเหงือกที่อักเสบว่าบวมขึ้นหรือมีเลือดออกตามไรฟันเพิ่มมากขึ้นหรือไม่พบว่าเหงือกของอาสาสมัครที่บ้วนปากด้วยน้ำยาบ้วนปากผสมสารสกัดจากใบข่อย ดีกว่าเหงือกของผู้ที่บ้วนปากด้วยน้ำยาธรรมดา (กรุงเทพธุรกิจ ศุกร์ที่ 26 กันยายน 2546 หน้า 8)





ข่าวทั่วไป


ผลิต ‘นวนิยาย’ เอาใจคนตาบอด

นายบุณเลิศ มาแสง ผู้อำนวยการศูนย์เทคโนโลยีทางการศึกษา (ศท.) เปิดเผยว่า ตามท่กระทรวงศึกษาธิการมอบหมายให้ศูนย์เร่งผลิตสื่อการศึกษารูปแบบต่างๆ เพื่อเสริมการเรียนการสอนในชั้นเรียนและเสริมการเรียนรู้ตามอัธยาศัยสำหรับคนพิการ ตั้งแต่ปี 2542 เป็นต้นมานั้นขณะนี้ได้ผลิตและเผยแพร่สื่อออกไปจำนวนมากแล้ว ทั้งในรูปแบบของรายการวิทยุ โทรทัศน์ วีดีทัศน์ หนังสือเสียง หนังสืออักษรเบรลล์ รวมทั้งสื่อภาพนูนประกอบเฉพาะวิชา โดยเฉพาะหนังสือเสียงเนื้อหาวิชาต่างๆ สำหรับคนตาบอดนั้น ได้ผลิตและเผยแพร่ไปมากกว่า 2,000 รายการ ผู้สนใจสามารถค้นหารายชื่อสื่อการศึกษาเพื่อคนพิการได้ทางเว็บไซต์ศูนย์สื่อการศึกษาเพื่อคนพิการ www.braille.cet.in.th (มติชน จันทร์ที่ 29 กันยายน 2546 หน้า 21)





พบนศ.หญิงมีแนวโน้มติดบุหรี่-เหล้า

สำนักคณะกรรมการการอุดมศึกษา (สกอ.) จัดสัมมนาการพัฒนานิสิตนักศึกษาแนวทางการแก้ปัญหาภาวะวิกฤติทางสังคมที่มีผลกระทบต่อนิสิตนักศึกษา ที่สถาบันราชภัฏ (รภ.) สุราษฎร์ธานี กล่าวว่า จากการศึกษาวิจัยพบสารเสพติดน้อยประมาณ ร้อยละ 10 ส่วน การใช้สารเสพติดไม่ร้ายแรง เช่น บุหรี่ สุรา แต่มีถึงร้อยละ 60 ในจำนวนนี้ที่น่าสนใจคือ แนวโน้มการติดบุหรี่และสุราในหมู่นักศึกษาผู้หญิงมากขึ้น (กรุงเทพธุรกิจ อาทิตย์ที่ 28 กันยายน 2546 หน้า 4)





นวดเอว

เมื่อวันที่ 28 กันยายน บริษัท เอเชียน ไลฟ์ จำกัด ในเครือล็อกเล่ย์ ร่วมกับมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย จัดมหกรรมการนวดลดรอบเอวพิสูจน์สมุนไพรไทยสูตร ‘สลิมเซฟ’ ลดรอบเอว 2-3 นิ้วภายใน 1 ชั่วโมง เพื่อบันทึกลงใน ‘กินเนสส์บุ๊ก’ เริ่มกิจกรรมเมื่อเวลาประมาณ 11.46 น มีอาสาสมัครร่วมรับการนวดเพื่อลดเอวจำนวน 30 รายโดยใช้ผลิตภัณฑ์ของบริษัท และอีก 2 รายใช้ผลิตภัณฑ์อื่นที่มีลักษณะเดียวกันมานวดเพื่อเปรียบเทียบ อาสาสมัครทั้งหมดเดินทางมาจากทั่วประเทศ เช่น เชียงใหม่ ชัยภูมิ พัทลุง ตรัง ปัตตานี กรุงเทพฯ เป็นต้น นายพิเชษฐ์ วิริยะจิตรา กรรมการอำนวยการ บริษัท เอเชียน ไลฟ์ กล่าวว่า ผลจากการนวดในครั้งนี้ปรากฏว่าเอวที่ลดลงมีการลดโดยเฉลี่ย 2.575 นิ้ว และการที่แต่ละคนมีผลการนวดที่แตกต่างกันคนที่ยังไม่เคยใช้ผลิตภัณฑ์การลดความอ้วนชนิดใดมาก่อนจะได้ผลมากกว่าคนที่เคยใช้ผลิตภัณฑ์ลดความอ้วนชนิดอื่นมาแล้ว ผลิตภัณฑ์ดังกล่าวถือเป็นผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางเป็นสูตรของนักวิทยาศาสตร์ไทยและได้จดสิทธิบัตรไว้แล้ว สำหรับครีมนวดสูตรสลิมเซฟมีราคาหลอดละ 1,250 บาทหลดสูงประมาณ 10 นิ้ว ผู้ผลิตระบุว่ามีส่วนผสมของสารสกัดจากธรรมชาติที่ประกอบด้วย ซูเปอร์ ไฮ-โซล กิงโกบิโลบา โคลา พริก และขิง (มติชน จันทร์ที่ 29 กันยายน 2546 หน้า 12)






KMUTT Digital Library
Contact Digital Library : info@lib.kmutt.ac.th
Tel : 0-2470-8215