หัวข้อข่าวปีที่ 5 ฉบับที่ 4 ประจำวันที่ 2004-01-27

ข่าวการศึกษา

เผยยอดสถาบันอุดมศึกษารับตรงกว่าแสนที่นั่ง
“เชษฐา” ปิ๊งไอเดียปลุก นร.สนใจอวกาศ
เรียนแพทย์กู้ยืมกองทุนใหม่ได้ปีละ2แสน
‘อดิศัย’ ไฟเขียวมหาวิทยาลัยจัดสอบวิชาเฉพาะเอนท์ปี 49
วธ.ผุดไอเดียดึงเด็กเล่นดนตรีแทนเกมออนไลน์
ศธ.ไฟเขียวร่างพ.ร.ฎ.จัดตั้งสช.ส่งเสริมศึกษาเอกชนระดับชาติ
เชื่อใจค่ายทหารสยบ “หัวโจก” ได้ผล
รภ.เชียงรายตั้งว.นานาชาติสนองปฏิญญาพุกาม
ศนจ.ยะลาสำรวจพบผู้ไม่รู้หนังสือเพียบ
กองทุนการศึกษาปัดขายหนี้ลด 50% มูลหนี้แค่ 48 ล้าน-หวั่น น.ร.เสียประวัติ
‘ทักษิณ’ เบรกงบโครงการ 1 อำเภอ 1 ร.ร.ในฝัน
เกษตรกร ธ.ก.เปิดรับการศึกษาส. ลงทะเบียนให้ มสธ.หวังยกระดับ
แปลงเครื่องเล่นวีดีโอเกมของเด็กให้เป็นเครื่องออกกำลังเอาเหงื่อ
‘เอ็มเทค’ ระดมมือหนึ่งตั้งศูนย์วิจัยนาโน
ก.วิทย์นำเทคโนโลยีลงรากหญ้าเลือก 8 จังหวัดภาคเหนือนำร่อง

ข่าววิทยาศาสตร์/เทคโนโลยี

ยำโคลนนิ่งเละ
จีนตั้งมาตรฐาน ‘อาร์เอฟไอดี’ใหม่
มช.เตรียมโชว์ผ้าไหมกันน้ำมันนาโนเทค
สวทช. เตรียมเสนอรัฐบาลตั้งคณะกรรมการ ‘นาโนเทค’

ข่าววิจัย/พัฒนา

พบสารเชลล์ชวนชิมของยุงในเหงื่อคนเป็นหนทางใหม่ในการรบกับมาลาเรีย
ดื่มน้ำกระด้างกลับบำรุงหัวใจมีธาตุฟลูออไรด์ละลายปนอยู่
วช.จัดงบ 25 ล.หนุนวิจัยเกษตรอินทรีย์
จีนไฟเขียวใช้ ‘มนุษย์’ เป็นหนูทดลองวัดซีนป้องกันโรคซาร์ส

ข่าวทั่วไป

‘ผู้ป่วยเอดส์’ เฮค่ายาลด 3 เท่าบีเอ็มเอสยกสิทธิบัตรให้ไทย
ฟูจิซีร็อกซ์ทุ่ม 133ล. ใช้ไทยตั้งโรงงานรีไซเคิลผลิตภัณฑ์
ผลวิจัยจุฬาฯ ชี้พ่อแม่ที่พึ่งสุดท้ายลูกติดเอดส์
คิดสูตรคำนวณวัดความงามของสตรีแทนการตัดสินประกวดเทพีด้วยตา
เพาะเห็ดรสชาติเป็นเนื้อสัตว์ 100 % หากหลับตากินนึกว่าเป็นสเต็กเนื้อ
นักวิเคราะห์ชี้ผู้บริโภคยังฮิตกล้องดิจิทัล
อย. เผย ‘ร้านยาคุณภาพ’ 26 แห่งระบุประชาชนขอคำแนะนำได้
พ่อค้าเอดส์รุมทึ้งสวาซิแลนด์ยาจากไทยก็ไปร่วมขุดทองด้วย
เตือนเชื้อโรคจากสัตว์โดดใส่คนเป็นภัยใหญ่ที่สุดของโลกทุกวันนี้
เนคเทคเผยวัยโจ๋กว่า 50% ใช้เน็ตเล่นเกม-แชท
ชายไทย 3.5 ล้านคนเป็นโรค ‘นกเขาไม่ขัน’
เสี่ยงโรคไตวายหวั่นชาวแม่สอดจากแคดเมียม
ขอนแก่นร่องไอทีซิตี้เชื่อมอินโดจีน





ข่าวการศึกษา


เผยยอดสถาบันอุดมศึกษารับตรงกว่าแสนที่นั่ง

ดร.จรณี ตันติรัตนวงศ์ รองเลขาธิการคณะกรรมการการอุดมศึกษา (กอ.) เผยถึงจำนวนรับนิสิต นักศึกษาของอุดมศึกษาสังกัดสำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา (สกอ.) โดยวิธีรับตรงประจำปีการศึกษา 2547 ว่า มีจำนวนทั้งสิ้น 116,164 คน แยกเป็นสถาบันอุดมศึกษาของรัฐ 45,492 คน ดังนี้ จุฬาฯ 741 คน ม.เกษตรศาสตร์ 3,492 คน ม.ขอนแก่น 3,128 คน ม.เชียงใหม่ 3,059 คน ม.ทักษิณ 1,158 คน ม.เทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี 930 คน ม.เทคโนโลยีสุรนารี 1,676 คน ม.ธรรมศาสตร์ 3,545 คน ม.นเรศวร 4,654 คน ม.บูรพา 2,699 คน ม.มหาสารคาม 3,654 คน ม.มหิดล 1,959 คน ม.แม่โจ้ 925 คน ม.แม่ฟ้าหลวง 969 คน ม.วลัยลักษณ์ 1,703 คน ม.ศรีนครินทรวิโรฒ 1,169 คน ม.ศิลปากร 2,133 คน ม.สงขลานครินทร์ 3,094 คน ม.อุบลราชธานี 789 คน สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง 1,775 คน และสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ 2,685 คน ส่วนสถาบันอุดมศึกษาเอกชนรับ 72,257 คน อาทิ ม.กรุงเทพ 4,295 คน ม.เกริก 1,525 คน ม.เกษมบัณฑิต 3,120 คน ม.เซนต์จอห์น 1,230 คน ม.เทคโนโลยีมหานคร 1,513 คน ม.ธุรกิจบัณฑิตย์ 3,700 คน ม.ศรีปทุม 5,250 คน ม.สยาม 4,870 คน ม.หอการค้าไทย 4,270 คน ม.อัสสัมชัญ 2,025 คน ม.รังสิต 1,702 คน ม.หัวเฉียวเฉลิมพระเกียรติ 980 คน เป็นต้น ซึ่งสถาบันอุดมศึกษาเอกชนทุกแห่งกำลังเปิดรับสมัครนักศึกษาใหม่ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป (ไทยรัฐ จันทร์ที่ 19 มกราคม 2547 หน้า 15)





“เชษฐา” ปิ๊งไอเดียปลุก นร.สนใจอวกาศ

พลเอกเชษฐา ฐานะจาโร รมว.วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (วท.) กล่าวว่า หลังจากองค์การบริหารการบินอวกาศแห่งสหรัฐอเมริกา (นาซา) ประสบความสำเร็จในการบังคับสปิริต หุ่นยนต์สำรวจดาวอังคารลงสู่พื้นดาวแดงได้สำเร็จนั่น ตนมีแนวคิดว่าในฐานะที่ วท.ซึ่งเป็นหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับงานด้านวิทยาศาสตร์ของประเทศโดยตรง ไม่ควรอยู่นิ่งเพียงแค่ร่วมตื่นเต้นไปกับความสำเร็จที่เกิดขึ้นเท่านั้น แต่จะมอบหมายให้สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ สำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิภาคสารสนเทศและสมาคมดาราศาสตร์ จัดทำสื่อประมวลองค์ความรู้ด้านนี้มากระตุ้นให้เยาวชนไทยสนใจทางด้านดาราศาสตร์และเรื่องราวของนอกโลกมากขึ้น เพราะในอนาคตกระทรวงมีเป้าหมายจะส่งนักบินอวกาศโดยร่วมกับประเทศจีนต่อไป (ไทยรัฐ จันทร์ที่ 19 มกราคม 2547 หน้า 15)





เรียนแพทย์กู้ยืมกองทุนใหม่ได้ปีละ2แสน

ศ.ดร.เมธี ครองแก้ว อาจารย์คณะพัฒนาเศรษฐกิจ สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) ในฐานะหัวหน้าคณะทำงานกองทุนเงินกู้ยืมเพื่ออุดมศึกษาที่ผูกกับรายได้ในอนาคต (กรอ.) กล่าวในการอภิปรายเรื่อง “แนวทางการปฏิรูประบบการคลังอุดมศึกษา” ซึ่งจัดโดยคณะเศรษฐศาสตร์มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (19 ม.ค.) ว่า จากการหารือเรื่องกองทุนกู้ยืมเพื่อการศึกษาระบบใหม่ ที่ผูกติดกับรายได้ในอนาคต ซึ่งเบื้องต้นได้ข้อสรุปแล้วให้แบ่งออกเป็น 3 กลุ่มคณะวิชา ได้แก่กลุ่มระดับต่ำหรือสายสังคมศาสตร์ให้กู้ไม่เกิน 70,000 บาทและกลุ่มระดับสูง คือ สายวิทยาศาสตร์สุขภาพ รวมถึงคณะแพทย์ศาสตร์ ไม่เกิน 200,000 บาท ซึ่งนักศึกษามหาวิทยาลัยรัฐให้กู้ยืมเต็มจำนวน (กรุงเทพธุรกิจ อังคารที่ 20 มกราคม 2547 หน้า 14)





‘อดิศัย’ ไฟเขียวมหาวิทยาลัยจัดสอบวิชาเฉพาะเอนท์ปี 49

ตามที่ที่ประชุมอธิการบดีมหาวิทยาลัยแห่งประเทศไทย (ทปอ.) ได้แสดงความเป็นห่วงเรื่องที่นายอดิศัย โพธารามิก รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) ได้ลงนามในประกาศรับสมัครเข้าเรียนในสถาบันอุดมศึกษาในปีการศึกษา 2548-2549 ที่ให้ใช้ค่าจีพีเอ 25% และ 100% ตามลำดับ เนื่องจากเกรงว่าจะส่งผลกระทบต่อระบบการรับนักศึกษาหรือแอดมิชชั่นส์ที่เริ่มใช้ในปีการศึกษา 2549 ที่กำหนดให้ใช้จีพีเอค่าตำแหน่งลำดับที่ (พีอาร์), ผลการประเมินคุณภาพการศึกษาระดับชาติ (National Test-NT) และการสอบวิชาเฉพาะไม่เกิน 3 วิชา ขณะที่ประกาศ ศธ.กำหนดให้ปีการศึกษา 2549 ใช้เพียงจีพีเอและผลสอบ NT รับเด็กเข้าเรียน ทำให้มหาวิทยาลัยไม่สามารถจัดสอบวิชาเฉพาะ เพื่อคัดเลือกเด็กแต่ละสาขาที่มีคุณสมบัติตามความต้องการได้ (กรุงเทพธุรกิจ อังคารที่ 20 มกราคม 2547 หน้า 14)





วธ.ผุดไอเดียดึงเด็กเล่นดนตรีแทนเกมออนไลน์

น.ส.จณิสตา ลิ้วเฉลิมวงศ์ โฆษกกระทรวงวัฒนธรรม (วธ.) เปิดเผยว่า ปัจจุบันเด็กไทยตกเป็นทาสเทคโนโลยีและใช้เวลาว่างส่วนใหญ่กับการเล่นเกมออนไลน์มากเกินไป เช่น เกมแร็คนาร็อค ที่สอนการต่อสู้เพื่อแย่งอาวุธกัน ล่าสุด มีเกมชิมเกร์ลที่สอนให้เด็กมีทักษะในทางที่ผิดๆ เช่น การจีบผู้หญิง ขายยาเสพติดหาเงินมาซื้อของจีบหญิง รวมไปถึงการร่วมเพศทำให้เกิดค่านิยมที่เบี่ยงเบนไม่เหมาะสมกับวัยที่กำลังศึกษาเล่าเรียน ดังนั้น จึงมีแผนที่จะมอบทุนวัฒนธรรมขึ้น เพื่อมอบให้นักเรียนนักศึกษาใช้เวลว่างให้เป็นประโยชน์ด้วยการเรียนศิลปวัฒนธรรมไทยทุกแขนง สำหรับทุนวัฒนธรรมดังกล่าวจะเป็นทุนให้เปล่ามอบให้นักเรียนนักศึกษาแต่ละชุมชนในเขตกรุงเทพฯ ซึ่งมีทั้งหมดประมาณ 50 เขตๆละ 10 ทุนๆ ละ 2,000 บาท ให้มาเรียนดนตรีไทย นาฏศิลป์ในวันเสาร์-อาทิตย์ ที่ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย โดยจะประสานผ่านสำนักงานคณะกรรมการวัฒนธรรมแห่งชาติ (สวช.) ซึ่งมีเครือข่ายสภาวัฒนธรรมเขตคอยสนับสนุนและคัดเลือกนักเรียน นักศึกษาในชุมชนและเยาวชนในกลุ่มเสี่ยงเข้ารับทุนซึ่งจะเสนอแนวคิดดังกล่าวต่อนายอนุรักษ์ จุรีมาศ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรมเพื่ออนุมัติในเร็วๆนี้ (กรุงเทพธุรกิจ อังคารที่ 20 มกราคม 2547 หน้า 14)





ศธ.ไฟเขียวร่างพ.ร.ฎ.จัดตั้งสช.ส่งเสริมศึกษาเอกชนระดับชาติ

นายสุรเทพ ตั๊นประเสริฐ ปฏิบัติหน้าที่เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาเอกชน (กช.) เปิดเผยว่า กระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) ได้จัดทำร่างพระราชกฤษฎีกา (พ.ร.ฎ.) จัดตั้งสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาเอกชน (สช.) ขึ้น เพื่อแก้ปัญหากรณีที่ ศธ.ประกาศให้โอน สช.ไปสังกัดสำนักงานปลัดกระทรวง ศธ.ตาม พ.ร.บ.ระเบียบบริหารราชการ ศธ.แต่ในขณะที่ พ.ร.บ.โรงเรียนเอกชน พ.ศ.2525 ยังมีผลใช้บังคับอยู่ จึงทำให้เกิดปัญหาการใช้อำนาจตามกฎหมายเฉพาะขึ้น ทั้งนี้ ร่าง พ.ร.ฎ. จัดตั้ง สช.ดังกล่าวได้กำหนดให้ทำหน้าที่เป็นหน่วยงานกลางในการส่งเสริมและประสานงานการศึกษาเอกชนระดับประเทศ โดยจะจัดตั้งเป็นส่วนราชการใน ศธ.ที่ไม่มีฐานะเป็นกรม และขึ้นตรงต่อปลัด ศธ.โดยมีเลขาธิการ กช. ซึ่งมีฐานะเป็นอธิบดีเป็นผู้บังคับบัญชา ขั้นตอนจากนี้จะนำเสนอร่าง พ.ร.ฎ.จัดตั้ง สช.นี้ เสนอต่อคณะกรรมการกลั่นกรองเรื่องเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) คณะที่ 4 ก่อนจะนำเข้า ครม.ต่อไป (มติชน อังคารที่ 20 มกราคม 2547 หน้า 20)





เชื่อใจค่ายทหารสยบ “หัวโจก” ได้ผล

เมื่อวันที่ 19 ม.ค.ที่กระทรวงศึกษาธิการ นายอดิศัย โพธารามิก รมว.ศึกษาธิการ เปิดเผยภายหลังการประชุมร่วมกับผู้แทนสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และกองทัพบก เพื่อแก้ปัญหานักเรียนนักศึกษาก่อเหตุทะเลาะวิวาท ว่า จากการสอบถามพบว่าทุกหน่วยงานทำงานมีความคืบหน้าไปมาก ในส่วนของตำรวจได้จัดชุดเฉพาะกิจ 5 ชุด ออกดูแลในช่วงเช้า-เย็น ก่อนและหลังเลิกเรียน ทั้งเข้าไปตรวจหาอาวุธเพื่อป้องกันเหตุร้าย ในกรณีพบนักเรียนนักศึกษารวมกลุ่มกัน 5-10 คน สำหรับทหารนั้น ได้เตรียมค่ายเพื่ออบรมปรับเปลี่ยนพฤติกรรมนักเรียนอาชีวศึกษากลุ่มเสี่ยง ซึ่งขณะนี้มีรายชื่อจำนวน 497 คน ในจำนวนนี้มีนักเรียนหญิง 16 คน โดยแบ่งเป็นนักเรียนสังกัดสถานศึกษารัฐ 17 แห่ง เอกชน 22 แห่ง โดยเข้าค่ายทหาร 4 แห่ง ได้แก่ ค่ายทหารใน จ.เพรชบุรี จ.นครราชสีมา จ.สระบุรี จ.นครนายก ค่ายละ 120 คน สำหรับนักเรียนหญิงที่มีรายชื่ออยู่ในกลุ่มเสี่ยงนั้น จะยังไม่นำเข้าค่ายอบรมแต่จะหาวิธีอื่นในการปรับเปลี่ยนพฤติกรรม ซึ่งส่วนใหญ่จะมีพฤติกรรมมีส่วนร่วมในเหตุการณ์ เช่น เป็นคนช่วยพกพาอาวุธ เป็นต้น (ไทยรัฐ อังคารที่ 20 มกราคม 2547 หน้า 15)





รภ.เชียงรายตั้งว.นานาชาติสนองปฏิญญาพุกาม

นายมาณพ ภาษิตวิไลธรรม อธิการบดีสถาบัน ราชภัฏเชียงราย เปิดเผยว่า จะจัดตั้ง “วิทยาลัยนานาชาติ” ขึ้นในสถาบันเพื่อรองรับการเป็นมหาวิทยาลัย โดยจะเปลี่ยนรูปแบบจาก “ศูนย์ภาษา” ที่มีอยู่ในปัจจุบันยกฐานะขึ้นเป็นวิทยาลัยนานาชาติ ซึ่งมีฐานะเป็นคณะหนึ่งเหมือนกับวิทยาลัยการแพทย์พื้นบ้านที่ได้จัดตั้งไปเรียบร้อยแล้ว ต่อไปยังมีโครงการจะจัดตั้งวิทยาลัยต่างๆ ขึ้นอีกเพราะปัจจุบันนี้สถาบันให้อำนาจในการบริหารของหน่วยงานอยู่ในรูปของซีอีโอ เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพในการจัดการกับสภาวะที่มีการแข่งขันกันในระดับต่างๆ ซึ่งจะมีมากขึ้น “การจัดตั้งวิทยาลัยนานาชาติครั้งนี้เป็นการให้โอกาสของประชาชนในเขตอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขง ทั้งไทย พม่า ลาว เวียดนาม กัมพูชาและจีน มีโอกาสเข้าเรียนด้วย ซึ่งจะสนองนโยบายของรัฐในเรื่องปฏิญญาพุกามอีกด้วย” นายมาณพกล่าว (มติชน พุธที่ 21 มกราคม 2547 หน้า 21)





ศนจ.ยะลาสำรวจพบผู้ไม่รู้หนังสือเพียบ

นายวิวัฒน์ มะลิสุวรรณ ผู้อำนวยการศูนย์การศึกษานอกโรงเรียนจังหวัดยะลา (ผอ.ศนจ.ยะลา) เปิดเผยว่าจากการที่ศูนย์จัดทำโครงการรณรงค์ส่งเสริมการรู้หนังสือมาตั้งแต่ปี 2544 กับกลุ่มเป้าหมายที่มีอายุระหว่าง 14-50 ปี จนถึงปัจจุบันจำนวนทั้งสิ้น 13,069 คน มีผู้ผ่านการทดสอบในปี 2544 และ 2545 จำนวน 4,589 คน แต่ในสภาพความเป็นจริงพบว่าบางหมู่บ้านยังมีผู้ที่อ่านไม่ออกเขียนไม่ได้ ซึ่งไม่เป็นผลดีต่อการพัฒนาประเทศจึงเห็นว่าสมควรมีการสำรวจข้อมูลใหม่อีกครั้ง (มติชน พุธที่ 21 มกราคม 2547 หน้า 21)





กองทุนการศึกษาปัดขายหนี้ลด 50% มูลหนี้แค่ 48 ล้าน-หวั่น น.ร.เสียประวัติ

เมื่อวันที่ 20 มกราคม นายสมใจนึก เฮงตระกูล ปลัดกระทรวงการคลัง เป็นประธานเปิดสำนักงานกองทุนเพื่อการศึกษาอย่างเป็นทางการขึ้นที่ชั้น 16 อาคารสำนักงานใหญ่ธนาคารอาคารสงเคราะห์ นายเปรมประชา ศุภสมุทร ผู้จัดการ กองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.) เปิดเผยว่า กองทุนไม่เห็นด้วยกับการขายหนี้สงสัยจะสูญให้ธนาคารกรุงไทยในราคาลด 50% เพื่อไปบริหารติดตามหนี้เนื่องจากหนี้ดังกล่าวยังไม่ถือเป็นหนี้เสีย และหากโอนให้ธนาคารไปดำเนินการจะทำรุนแรงเกินไป (เครดิตบูโร) ซึ่งจะทำให้บุคคลนั้นมีประวัติเสียไปด้วย (มติชน พุธที่ 21 มกราคม 2547 หน้า 14)





‘ทักษิณ’ เบรกงบโครงการ 1 อำเภอ 1 ร.ร.ในฝัน

นายจักรภพ เพ็ญแข โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า การประชุม ครม.วานนี้ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ให้ ดร.อดิศัย โพธารามิก รมว.กระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.)ไปทบทวนการของบประมาณจำนวน 1,234.291 ล้านบาท เพื่อดำเนินการโครงการ 1 อำเภอ 1 โรงเรียนในฝันโดยเฉพาะการพัฒนาระบบเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร โดยนายกฯ เห็นว่า การดำเนินโครงการ 1 อำเภอ 1 โรงเรียนในฝัน นั้นความจริงไม่จำเป็นจะต้องมีการลงทุนเพิ่มเติม จึงให้ ศธ.กลับไปทบทวนเพราะโครงการดังกล่าวเป็นโครงการที่ต้องการให้มีการส่งเสริมให้นักเรียนแสวงหาความรู้ได้ด้วยตนเอง รู้จักวิเคราะห์ มีทักษะในการดำรงชีวิต เป็นคนดี และอยู่อย่างมีศักดิ์ศรีของความเป็นไทย (กรุงเทพธุรกิจ พุธที่ 21 มกราคม 2547 หน้า 14)





เกษตรกร ธ.ก.เปิดรับการศึกษาส. ลงทะเบียนให้ มสธ.หวังยกระดับ

เมื่อวานนี้ (20 ม.ค.) ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร ร่วมกับมหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช ลงนามความร่วมมือในการับสมัครนักศึกษาและชำระค่าลงทะเบียนเรียนของนักศึกษา มสธ.ผ่านเคาน์เตอร์ ธ.ก.ส.ทุกสาขาทั่วประเทศ นายพิทยาพล นาถธราดล ผู้จัดการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) เปิดเผยว่า ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป นักศึกษาของ มสธ. สามารถติดต่อชำระค่าลงทะเบียนเรียน และสมัครเข้าเป็นนักศึกษาใหม่ได้ที่ ธ.ก.ส. ทุกสาขาจำนวนกว่า 600 สาขาทั่วประเทศ โดยนักศึกษาสามารถกรอกแบบฟอร์มการลงทะเบียนตามที่มหาวิทยาลัยกำหนด พร้อมนำเงินสดมาชำระค่าเล่าเรียนผ่านเคาน์เตอร์ ธ.ก.ส.รวมทั้งนักศึกษาใหม่ก็สามารถยื่นใบสมัครและใบขึ้นทะเบียนเป็นนักศึกษาได้ที่เคาน์เตอร์เช่นเดียวกัน (กรุงเทพธุรกิจ พุธที่ 21 มกราคม 2547 หน้า 14)





แปลงเครื่องเล่นวีดีโอเกมของเด็กให้เป็นเครื่องออกกำลังเอาเหงื่อ

บริษัทพาวเวอร์กริด กล่าวอย่างภาคภูมิว่า “มันเท่ากับเราได้ขจัดความเสียหายของการเล่นเกมวีดีโอเกมลงได้ พร้อมกับแปลงการออกกำลังให้กลายเป็นความสนุกสนานไปด้วย” เขาท้าว่า “หากไม่เชื่อ ก็ลองไปดูตามบ้านคนทุกวันนี้กันเถอะ เครื่องออกกำลังต่างๆ ส่วนใหญ่มักจะถูกโยงไปไว้หลังบ้านกันทั้งนั้น เพราะว่าเครื่องออกกำลังกายเหล่านี้ ล้วนแต่เป็นของน่าเบื่อทั้งนั้น” คันโยกของเครื่องเล่นวีดีโอเกมแบบใหม่ มีชื่อว่า “กิโลวัตต์” มีลักษณะเหมือนกับคันโยกเครื่องเล่นวีดีโอเกมปกติ แต่ถูกขยายให้มีขนาดใหญ่โตขึ้นสูงใหญ่เท่าระดับไหล่ ทำให้มันมีขนาดโตไล่ๆ กับตัวคน ซึ่งจะต้องใช้แรงในการบังคับควบคุม ตัวอย่าง อย่างเช่น เมื่อเล่นในเกม “กรังทัวริสโฒ” แทนที่จะนั่งใช้นิ้วดีดหรือดันอย่างแต่ก่อน จะต้องออกแรงดันคันโยก และยิ่งดันคันโยกแรงเท่าไหร่ รถก็จะวิ่งเร็วขึ้นได้เท่านั้น (ไทยรัฐ จันทร์ที่ 19 มกราคม 2547 หน้า 7)





‘เอ็มเทค’ ระดมมือหนึ่งตั้งศูนย์วิจัยนาโน

รศ.ดร.ปริทรรศน์ พันธุบรรยงค์ ผู้อำนวยการศูนย์เทคโนโลยีโลหะและวัสดุแห่งชาติ (เอ็มเทค) เปิดเผยว่า เอ็มเทคได้จัดตั้งห้องปฏิบัติการนาโนเทคโนโลยี มีนักวิจัยระดับปริญญาเอก 6-7 คน หรือประมาณ 10% ของบุคลากรประจำห้องปฏิบัติการนาโนเทค ที่ประกอบด้วยนักวิจัยด้านโพลิเมอร์ เซรามิคและโลหะวัสดุ ซึ่งจะวิจัยและพัฒนาในกลุ่มเรื่องที่เกี่ยวกับนาโนเทคโดยงานวิจัยที่อยู่ระหว่างดำเนินการ อาทิ เซลล์เชื้อเพลิงรูปแบบใหม่ วัสดุตัวนำต่างๆ รศ.ดร.ปริทรรศน์ กล่าวอีกว่า สถาบันการศึกษาหลายแห่งได้การสอน และมีงานวิจัยที่เกี่ยวกับนาโนเทค เพียงแต่ไม่มีความชัดเจนยกเว้นมหาวิทยาลัยมหิดลที่ได้จัดตั้งศูนย์สอนหลักสูตรระดับบัณฑิตศึกษาหรือ ปริญญาโท-เอก ส่วนคณะวิศวกรรมจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย มีผู้เชี่ยวชาญและและงานวิจัยค้นหาแหล่งพลังงานรูปแบบใหม่ โดยใช้ประโยชน์จากนาโนเทค ดังนั้น การพัฒนานาโนเทคโนโลยีของไทยอยู่ในขั้นเริ่มต้นโดยมีบุคลากรที่ทำวิจัยด้านนี้ประมาณ 40 เรื่องซึ่ง 70-80% เป็นงานวิจัยพื้นฐานที่ยังไม่สามารถนำมาใช้ประโยชน์ให้เป็นรูปธรรม (กรุงเทพธุรกิจ จันทร์ที่ 19 มกราคม 2547 หน้า 8)





ก.วิทย์นำเทคโนโลยีลงรากหญ้าเลือก 8 จังหวัดภาคเหนือนำร่อง

พลเอกเชษฐา ฐานะจาโร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (วท.) กล่าวว่า กระทรวง ได้คัดเลือกกลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนบน 8 จังหวัดคือ เชียงใหม่ เชียงราย ลำปาง ลำพูน แม่ฮ่องสอน แพร่ น่าน และพะเยา เป็นจังหวัดนำร่อง เพื่อนำเทคโนโลยีและองค์ความรู้ของ กระทรวงเผยแพร่สู่ประชาชนในระดับรากหญ้าหลังจากพบว่าความรู้ด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยียังไปไม่ถึงระดับจังหวัดเท่าที่ควร เนื่องจากขาดช่องทางที่จะนำความรู้สู่ท้องถิ่น เทคโนโลยีที่คาดว่าน่าจะนำมาปรับใช้ได้ทันที ได้แก่ เทคโนโลยีการฉายรังสีเพื่อลดการปนเปื้อนสารเคมีในผลิตผลการเกษตร การหมักสุราพื้นเมืองให้เป็นไปตามหลักสากลเนื่องจากสุราพื้นบ้านที่ชาวบ้านหมักกันยังไม่เป็นที่ยอมรับจากต่างชาติเท่าไหร่นัก การผลิตเซรามิคคุณภาพดีเป็นต้น ทั้งนี้ ในอนาคตกระทรวง จะขยายและปรับรูปแบบเหล่านี้ไปในพื้นที่อื่นๆ ทั่วประเทศอีกด้วย (กรุงเทพธุรกิจ จันทร์ที่ 19 มกราคม 2547 หน้า 8)





ข่าววิทยาศาสตร์/เทคโนโลยี


ยำโคลนนิ่งเละ

ดร.ปานายิโอติส ซาวอส ผู้เชี่ยวชาญด้านระบบสืบพันธุ์ชาวอเมริกัน กล่าวที่กรุงลอนดอนเกี่ยวกับการสร้างมนุษย์โคลนนิ่งด้วยการฝังตัวอ่อนมนุษย์ที่เกิดจากการคัดลอกพันธุ์กรรมในโพรงมดลูกของสตรีวัย 35 ปีคนหนึ่งเมื่อ 2 สัปดาห์ที่แล้วจากสามีของเธอ และอยู่ระหว่างเฝ้าดูการฝังตัวอ่อนจะประสบความสำเร็จหรือไม่ ขณะที่ผู้เชี่ยวชาญในยุโรปไม่เชื่อถือ และยังก่อกระแสความไม่พอใจกับนักวิชาการและสำนักวาติกันอีกด้วย โดยท้าให้ ดร.ซาวอสแสดงหลักฐานทางวิทยาศาสตร์และเปิดเผยผลการวิจัยเพื่อให้อิรัก 2 คนเสียชีวิต (ไทยรัฐ จันทร์ที่ 19 มกราคม 2547 หน้า 2)





จีนตั้งมาตรฐาน ‘อาร์เอฟไอดี’ใหม่

หนังสือพิมพ์ดิ เอเชี่ยน วอลล์สตรีท เจอร์นัล รายงานว่า ในสัปดาห์ที่แล้วรัฐบาลจีนได้ประกาศตั้งกลุ่มประสานงานเพื่อร่างมาตรฐานเทคโนโลยีติดตามสินค้าหรือที่รู้จักกันในชื่อ “ป้ายประจำตัวสินค้าระบบคลื่นความถี่วิทยุ” (radio frequency identification-RFID) ตัวใหม่ ทั้งนี้ ป้ายสินค้าระบบอาร์เอฟไอดีเป็นเทคโนโลยีที่ช่วยให้ผู้ประกอบการค้าส่ง หรือค้าปลีก สามารถติดตามได้ว่าตู้ขนส่งสินค้า หรือกล่องพัสดุของตนกำลังอยู่ที่ตำแหน่งใดในเส้นทางขนส่งและคาดว่าจะมีการนำอุปกรณ์ตัวนี้ ไปติดตั้งลงในสินค้าที่วางจำหน่ายทั่วโลกซึ่งมีมูลค่าหลายพันล้านดอลลาร์ ระบบอาร์เอฟไอดี ประกอบด้วยชิพคอมพิวเตอร์ขนาดจิ๋ว ที่จะติดตั้งอยู่บนตู้ขนส่งสินค้า และผลิตภัณฑ์ทุกชิ้น โดยที่ชิพจะส่งสัญญาณวิทยุออกมา นอกจากนี้ยังมีอุปกรณ์สำหรับอ่านคลื่นสัญญาณเหล่านี้ และเครื่องแม่ข่ายที่เป็นผู้เก็บข้อมูลสินค้าทั้งหมดเอาไว้ เพื่อแลกเปลี่ยนกันในเครือข่ายอินเทอร์เน็ต ซึ่งนอกเหนือจากการใช้ตรวจสอบตำแหน่งสินค้าแล้วคาดว่าในอนาคตอันใกล้ เทคโนโลยีตัวนี้จะใช้ในการเก็บข้อมูลด้านพฤติกรรมการจับจ่าย ของลูกค้าแต่ละรายได้ (กรุงเทพธุรกิจ อังคารที่ 20 มกราคม 2547 หน้า 5)





มช.เตรียมโชว์ผ้าไหมกันน้ำมันนาโนเทค

ศ.ดร.ถิรพัฒน์ วิไลทอง ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยนิวตรอนพลังงานสูงมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ เปิดเผยว่า ศูนย์วิจัยได้ดำเนินโครงการเกี่ยวกับนาโนเทคโนโลยี และเฟมโตวิทยา (1 ส่วนพันล้านล้านวินาที) เป้าหมายเพื่อใช้ในการปรับปรุงสิ่งทอหลัก ประกอบด้วย ไหม ฝ้าย โพลีเอสเตอร์ เรยอง ให้มีคุณสมบัติใหม่ สามารถแข่งขันกับต่างประเทศได้ พร้อมกับเตรียมนำความรู้ด้านนาโนเทคโนโลยีมาใช้เพื่อให้เกิดการกลายพันธุ์ในข้าวหอมมะลิ ไม้ดอกไม้ประดับ และพืชผักเพื่อให้ได้พันธุ์ใหม่ ที่มีคุณสมบัติโดดเด่น เมื่อเสร็จสิ้นโครงการ น่าจะได้ผ้าไหมที่ไม่ดูดซับน้ำผลิตจากนาโนเทค พร้อมทั้งเครื่องจักรต้นแบบสำหรับโรงงานอุตสาหกรรม และกระบวนการผลิตที่สามารถนำไปใช้กับสิ่งทออื่น ๆนอกจากนี้ ยังคาดว่าจะได้เทคโนโลยีการปรับปรุงพันธุ์พืชด้วยนาโนเทค ซึ่งจะได้ข้าวหอมมะลิสายพันธุ์ใหม่ ที่มีสมบัติเด่นคือไม่ไวต่อแสง (กรุงเทพธุรกิจ พุธที่ 21 มกราคม 2547 หน้า 7)





สวทช. เตรียมเสนอรัฐบาลตั้งคณะกรรมการ ‘นาโนเทค’

ศ.ดร.ไพรัช ธัชยพงษ์ ผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) กล่าวว่า เพื่อส่งเสริมและผลักดันให้นาโนเทคโนโลยีมีการพัฒนาอย่างเป็นรูปธรรม สวทช. มีแนวคิดที่จะเสนอรัฐบาลเพื่อแต่งตั้งคณะกรรมการนาโนเทคโนโลยีแห่งชาติ โดยจะเชิญนายกรัฐมนตรีเป็นประธานคณะกรรมการ เพื่อกำหนดทิศทางการพัฒนาและส่งเสริมนาโนเทคโนโลยีให้เกิดขึ้นในประเทศไทย เช่นเดียวกับอุตสาหกรรมไอซีทีเคยมีคณะกรรมการเทคโนโลยีสารสนเทศแห่งชาติมาแล้ว ทั้งนี้ สวทช. ได้จัดตั้งศูนย์นาโนเทคโนโลยีแห่งชาติตั้งแต่เดือนสิงหาคม 2546 โดยตั้งคณะทำงาน 4 ด้านคือ นาโนอิเล็กทรอนิกส์ ศึกษาแนวทางการพัฒนานาโนเทคในอุตสาหกรรมคอมพิวเตอร์ นาโนไบโอเทคโนโลยี ศึกษาแนวทางพัฒนาด้านเทคโนโลยีชีวภาพ นาโนเอ็ดดูเคชั่น ศึกษาความพร้อมด้านการศึกษาและพัฒนาบุคลากรและนาโนเมตริกเทคโนโลยีศึกษาและเตรียมแนวทางพัฒนาด้านโลหะและวัสดุ (กรุงเทพธุรกิจ พุธที่ 21 มกราคม 2547 หน้า 7)





ข่าววิจัย/พัฒนา


พบสารเชลล์ชวนชิมของยุงในเหงื่อคนเป็นหนทางใหม่ในการรบกับมาลาเรีย

คณะนักวิจัยกับวารสารเนอจอร์ว่า สาร 4-เมธิลฟีนอล ซึ่งเป็นสารเคมีที่สร้างกลิ่นในเหงือไปกระตุ้นตัวรับในหน้าของยุงที่มีชื่อว่า เอจีโออาร์ 1 ส่วนสารอีกชนิดหนึ่งในเหงื่อคือ 2-เมธิลฟีนนอล จะไปกระตุ้นตัวรับอีกตัวที่มีชื่อว่า “เอจีโออาร์ 2 นับเป็นครั้งแรกที่มีการทดลองพบว่า ตัวสารเคมีของยุงตัวเมียแสดงการตอบสนองต่อกลิ่นเหงื่อของคน การค้นพบนี้จึงเป็นความหวังใหม่ในการต่อสู้กับโรคมาลาเรีย (ไทยรัฐ จันทร์ที่ 18 มกราคม 2547 หน้า 7)





ดื่มน้ำกระด้างกลับบำรุงหัวใจมีธาตุฟลูออไรด์ละลายปนอยู่

รายงานผลการศึกษาในวารสารวิชาการเรื่อง “สาธารณสุขศาสตร์และสาธารณสุขชุมชน” แจ้งว่า นักวิจัยได้วิเคราะห์ถึงน้ำบริโภคของแต่ละภูมิภาค ปรากฏว่าน้ำบริโภคแต่ละแห่ง มีระดับของความกระด้างต่างกัน น้ำกระด้างเป็นน้ำที่ตรวจพบว่ามีแร่ธาตุละลายปนอยู่ในปริมาณมากพอที่จะตรวจวัดได้ แร่ธาตุเหล่านั้นได้แก่แคลเซียม แมกนีเซียม ฟลูออไรด์ เหล็ก ทองแดง สังกะสี ไนเตรท และอลูมิเนียม ในบรรดาแร่ธาตุเหล่านี้ ผลของการศึกษาส่อว่า แร่ฟลูออไรด์มีสรรพคุณป้องกันโรคหัวใจได้และพบว่า หากดื่มน้ำ 1 ลิตร มีฟลูออไรด์ปนอยู่มากถึง 1 มิลลิกรัม จะช่วยลดความเสี่ยงจากโรคหัวใจได้ 3% หากแต่ถ้าเป็นแร่เหล็ก มีละลายอยู่ในน้ำ 1 ลิตร แต่ละไมโครกรัม กลับจะทำให้ล่อแหลมเป็นโรคหัวใจมากขึ้นโดยเฉลี่ย 4 % และยิ่งหากเป็นแร่ทองแดง ก็จะยิ่งสูงขึ้นถึง 10% (ไทยรัฐ อังคารที่ 20 มกราคม 2547 หน้า 7)





วช.จัดงบ 25 ล.หนุนวิจัยเกษตรอินทรีย์

ศ.ดร.รังสิต สุวรรณเขตนิคม ผู้ประสานงานโครงการวิจัยบูรณาการนำร่องเรื่อง “การวิจัยและพัฒนาแนวทางการเพิ่มขีดความสามารถในเชิงธุรกิจเกษตรอินทรีย์ของประเทศ” กล่าวว่า ผู้บริโภคปัจจุบันใส่ใจและตื่นตัวในการรักษาสุขภาพมากขึ้น ส่งผลให้สินค้าเกษตรอินทรีย์ ได้รับความสนใจเพิ่มขึ้นตามไปด้วยขณะปริมาณสินค้าที่ผลิตป้อนสู่ตลาดโลกมีเพียงร้อยละ 1 ไม่สามารถตอบสนองความต้องการของผู้บริโภค ดังนั้น หากประเทศไทยสามารถพัฒนากระบวนการผลิตและคุณภาพสินค้าให้ทัดเทียมมาตรฐานสากล จะทำให้ไทยสามารถขยายการส่งออก ในตลาดสินค้าเกษตรอินทรีย์ ซึ่งเป็นกลุ่มผู้บริโภคที่มีกำลังซื้อสูงได้เพิ่มขึ้น ศ.ดร.รังสิต ซึ่งดำรงตำแหน่งเป็นผู้อำนวยการสถาบันค้นคว้าและวิจัย มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ กล่าวเพิ่มเติมว่า กลุ่มพืชที่จะดำเนินการวิจัยนั้น ประกอบด้วย ข้าวโพดหวาน ข้าวโพดฝัดอ่อน พริก กระเจี๊ยบเขียว หน่อไม้ฝรั่ง แตงกวา กะหล่ำปลี กล้วยหอม ถั่วฝักยาว สับปะรด ผักบุ้งจีน กวางตุ้ง และผักบุ้งจีนซึ่งเป็นพืชเศรษฐกิจของไทย ที่มีการส่งออกไปจำหน่ายต่างประเทศ และยังจะมีการวิจัยในกลุ่มพืชสมุนไพร อาทิ โหระพา กระเพรา ตะไคร้ ผักชี ข่า และถั่วลันเตา เป็นต้น โดยตั้งเป้าขยายการส่งออกสู่ประเทศสหรัฐอเมริกา สหภาพยุโรป และญี่ปุ่น (กรุงเทพธุรกิจ พุธที่ 21 มกราคม 2547 หน้า 7)





จีนไฟเขียวใช้ ‘มนุษย์’ เป็นหนูทดลองวัดซีนป้องกันโรคซาร์ส

นายเจิ้ง เสี่ยวหยู ผู้อำนวยการสำนักงานอาหารและยาของจีน กล่าวว่า การทดลองวัคซีนซาร์สกับคน เป็นย่างก้าวสำคัญของจีน ในความพยายามต่อต้านโรคซาร์ส แต่ก็เสริมว่า ยังเร็วเกินไปที่คาดหวังถึงการนำวัคซีนมาใช้ในอนาคตอันใกล้นี้ การทดลองวัคซีนซาร์สกับคน ซึ่งจะเริ่มขึ้นในเดือนนี้ เพื่อดูว่า วัคซีนมีความปลอดภัยสำหรับคนหรือไม่ ซึ่งในขณะนี้มีอาสาสมัครที่แสดงความจำนงรับการฉีดวัคซีนแล้ว 30 คน (กรุงเทพธุรกิจ พุธที่ 21 มกราคม 2547 หน้า 28)





ข่าวทั่วไป


‘ผู้ป่วยเอดส์’ เฮค่ายาลด 3 เท่าบีเอ็มเอสยกสิทธิบัตรให้ไทย

เอเอฟพีรายงานเมื่อวันที่ 18 มกราคม ว่า บริษัทบริสตอล-มายเออร์ สควิบบ์ (บีเอ็มเอส) เจ้าของสิทธิบัตรยาต่อต้านไวรัสเอชไอวี/เอดส์ ดีดาโนซีน (ดีดีไอ) ชนิดเม็ดซึ่งอยู่ระหว่างการยื่นอุทธรณ์ต่อสู้คดีสิทธิบัตรยาตัวนี้ในประเทศไทยอยู่ในขณะนี้ ได้ตัดสินใจยกสิทธิบัตรยาดีดีไอชนิดเม็ดให้กับทางการไทย ส่งผลให้ราคาลดลงฮวบ ทำให้ค่าใช้จ่ายของผู้เอดส์ที่ต้องใช้ถึงเดือนละ 3,000 บาทลดลงเหลือเพียงไม่ถึง 900 บาทเท่านั้น นางไดแอนน์ โจนส์ เจ้าหน้าที่ประจำสำนักงานภูมิภาคเอเชียของบีเอ็มเอส ในสิงคโปร์ ระบุว่า การตัดสินใจดังกล่าวก็เพื่ออุทิศสิทธิบัตรในการผลิตยานี้ให้กับประชาชนชาวไทยทั้งมวล แต่เป็นการยกสิทธิบัตรให้กับประเทศไทยเท่านั้น ซึ่งจะส่งผลให้บริษัทผลิตยาต่างๆ ในไทยสามารถผลิตยาเม็ดดังกล่าวนี้ออกมาจำหน่ายได้ในขณะที่บริษัทยังคงถือสิทธิบัตรในการผลิตยาชนิดเม็ดนี้ในประเทศอื่นๆ อยู่ภายใต้ชื่อทางการค้าว่า “วีเด็กซ์” (Videx) (มติชน จันทร์ที่ 19 มกราคม 2547 หน้า 12)





ฟูจิซีร็อกซ์ทุ่ม 133ล. ใช้ไทยตั้งโรงงานรีไซเคิลผลิตภัณฑ์

หนังสือพิมพ์ นิฮอน เคไซ ของญี่ปุ่น ฉบับวานนี้ (18) รายงานว่า บริษัทฟูจิ ซีร็อกซ์ ญี่ปุ่น มีแผนจะตั้งเครือข่ายรีไซเคิลวัสดุจากเครื่องถ่ายเอกสารเครื่องพิมพ์และผลิตภัณฑ์อื่นๆ ที่ใช้ใน 9 ประเทศแถบเอเชียแปซิฟิก โดยจะตั้งโรงงานรีไซเคิลในไทยมูลค่าประมาณ 400 ล้านเยนหรือ 133 ล้านบาท ในเดือน ก.ย.นี้ สำหรับโรงงานรีไซเคิลในไทยจะนำวัสดุ 99.8% หรือมากกว่านั้นจากผลิตภัณฑ์ไม่ใช้แล้ว ในเกาหลีใต้ อินโดนีเซีย มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ สิงคโปร์ ฮ่องกง ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ และไทย กลับมาผ่านกระบวนการเพื่อนำกลับมาใช้ใหม่อีกครั้ง ซึ่งภายใต้แผนการของฟูจิ จะเริ่มลงมือก่อสร้างโรงงานในเดือน ม.ค.นี้ (กรุงเทพธุรกิจ จันทร์ที่ 19 มกราคม 2547 หน้า 18)





ผลวิจัยจุฬาฯ ชี้พ่อแม่ที่พึ่งสุดท้ายลูกติดเอดส์

ผศ.จิราภรณ์ เกศพิชญวัฒนา คณะพยาบาลศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยทำงานวิจัยร่วมกับมหาวิทยาลัยมหิดล University of Michigan Ann Arbor และ Tulane University สหรัฐอเมริกา ได้ศึกษาถึงผลกระทบโรคเอดส์ที่มีต่อผู้สูงวัยในประเทศไทย โดยมีการสัมภาษณ์เชิงลึกและได้รับความร่วมมือจากเจ้าหน้าที่อนามัยในชุมชน ในการคัดเลือกกลุ่มตัวอย่าง ผลการวิจัยสรุปว่า เมื่อลูกเจ็บป่วยด้วยโรคเอดส์ พ่อแม่คือที่พึ่งสุดท้ายในการเป็นผู้ดูแลลูกที่ป่วยหนักและเป็นผู้ที่ได้รับผลกระทบทั้งทางร่างกาย จิตใจ และสังคม จากการสัมภาษณ์เชิงลึกกลุ่มพ่อแม่ที่มีลูกป่วยด้วยโรคเอดส์ พบว่า ลูกจะกลับไปรับการดูแลจากคนที่บ้านซึ่งมากกว่าครึ่งหนึ่งพ่อแม่เป็นผู้ดูแลหลักโดยแม่จะเป็นผู้รับภาระในการดูแลเรื่องต่างๆ ในชีวิตประจำวันของลูกส่วนพ่อจะเป็นผู้ช่วยเสริม เช่น พาไปโรงพยาบาล หรือซื้อยามาให้รับประทาน ผศ.จิราภรณ์ กล่าวว่า ข้อค้นพบที่น่าสนใจจากงานวิจัยนี้นั้นชุมชนส่วนใหญ่จะมีปฏิกิริยาในแง่บวกสำหรับพ่อแม่ของผู้ป่วยเอดส์ที่มีความเข้าใจ เห็นใจและยอมรับ รวมทั้งให้ความช่วยเหลือเอื้ออาทรแก่ผู้ป่วยและครอบครัว จึงอยากเสนอแนะว่า ชุมชนสามารถเข้ามามีส่วนช่วยเหลือผู้ป่วยเอดส์โดยการให้ความรู้ที่ถูกต้องแก่ประชาชนและเปิดโอกาศให้มีอาสาสมัครเข้าไปเยี่ยมเยียนผู้ป่วยเอดส์ถึงที่บ้านเพื่อสร้างกำลังใจแก่ผู้ป่วยเอดส์ (กรุงเทพธุรกิจ จันทร์ที่ 19 มกราคม 2547 หน้า 18)





คิดสูตรคำนวณวัดความงามของสตรีแทนการตัดสินประกวดเทพีด้วยตา

นักวิทยาศาสตร์ของฮ่องกงผู้ค้นคิดสูตรคำนวณวัดความงามสตรี กล่าวอวดว่า สูตรนี้สามารถบอกเหตุผลของความงาม ได้มากเกือบ 90% แทนการตัดสินด้วยตาของพวกผู้ชาย ซึ่งดูเอาจากรูปร่างของผู้หญิงอย่างหยาบ โดยไม่ได้มีหลักมีเกณฑ์พิจารณาสัดส่วนใดโดยเฉพาะ ตามสูตรคำนวณวัดค่าความงามนี้ ใช้ปริมาตรร่างกายผู้หญิงคิดเป็นลูกบาศก์เมตรเป็นตัวตั้ง แล้วหารด้วยระยะสูงจากเท้าขึ้นมาถึงคาง วัดเป็นฟุตยกด้วยกำลังสอง หากแต่พวกเขาไม่ยอมบอกอัตราส่วนของปริมาตรกับความสูงของ “ยอดความงาม” ที่ตายตัว โดยอ้างว่าที่คิดทำขึ้นมานี้ เพื่อหาหนทางจัดอันดับความงามกันขึ้นเท่านั้น ไม่ได้คิดจะพิสูจน์ว่า ต้องมีทรวดทรงอย่างใดสาวคนไหนถึงจะสวยงามที่สุดในปฐพีคณะนักวิจัยกล่าวว่า ได้ศึกษาสูตรนี้มาจากการศึกษากับอาสาสมัคร 50 กว่าคน หากผู้เชี่ยวชาญเรื่องความงามของอังกฤษ นายเปียรี่ย์ คอร์เนลิสเส็น แห่งมหาวิทยาลัยนิวคาสเซิล กล่าวว่า สูตรฮ่องกงไม่ได้วิเศษอะไรเพียงแต่เป็นสูตรชั้นสูงกว่าสูตรดัชนีมวลรวมร่างกายซึ่งใช้คิดคำนวณความอ้วนขึ้นมาเท่านั้นและสูตรนี้ก็ใช้ประเมินวัดความสมบูรณ์แข็งแรงกันอยู่ตามสถานฟิตเนสส์ต่างๆ อยู่แล้ว (ไทยรัฐ จันทร์ที่ 19 มกราคม 2547 หน้า 7)





เพาะเห็ดรสชาติเป็นเนื้อสัตว์ 100 % หากหลับตากินนึกว่าเป็นสเต็กเนื้อ

บริษัทฟังจิ ชิลี บริษัทเพาะเห็ดขนาดใหญ่ กล่าวว่า นับแต่เพราะเห็ดชนิดใหม่กินมีรสชาติเหมือนกับกินเนื้ออย่างไม่ผิดเพี้ยน ทำให้นักมังสวิรัติหันมากินเห็ดแบบนี้กันใหญ่ จนทำให้ยอดขายเพิ่มพูนสูงขึ้นถึง 3 เท่าตัว ผู้จัดการบริษัทนายริคาร์โด ซานเชสได้บอกอวดว่า “ถ้าหากหลับตา แล้วลองให้กินเห็ดชนิดนี้ดู ไม่มีใครรู้เลยว่าไม่ใช่เนื้อสัตว์เพราะรสชาติมันเป็นเนื้อสัตว์ 100% คนกินนอกจากจะรู้สึกได้รสชาติเหมือนกับกินเนื้อแล้ว ยังไม่ต้องกลัวอ้วน เพราะไม่มีไขมันหรือคอเลสเทอรอลเลย” พร้อมกับแจ้งว่า ขณะนี้ยังผลิตออกจำหน่ายแต่ในประเทศไปก่อนแต่ก็กำลังเตรียมจะส่งออกไปขายตามชาติต่างๆ ในอีกไม่นาน (ไทยรัฐ อังคารที่ 20 มกราคม 2547 หน้า 7)





นักวิเคราะห์ชี้ผู้บริโภคยังฮิตกล้องดิจิทัล

สำนักข่าวรอยเตอร์ รายงานโดยอ้างความเห็นของผู้เชี่ยวชาญ ซึ่งมองว่าแม้โทรศัพท์มือถือติดกล้อง ที่เหมาะกับการถ่ายรูปแบบสแนพชอทนั้น กำลังเป็นที่นิยมในหมู่ผู้ใช้โทรศัพท์มือถือทั่วโลกอยู่ในขณะนี้แต่สำหรับการไปเที่ยวพักร้อน งานแต่งงานและโอกาสสำคัญอื่นๆ ผู้บริโภคส่วนใหญ่มีแนวโน้มจะเลือกใช้กล้องดิจิทัลที่มาพร้อมกับแฟลชมากกว่า ทั้งนี้ สมาคมอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ สำหรับผู้บริโภค ประเมินว่า ความต้องการทั้งกล้อง และโทรศัพท์มือถือในปีนี้ จะเพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัดเจน โดยคาดกันว่า ยอดขายกล้องดิจิทัล จะเพิ่มขึ้นจาก 12.5 ล้านเครื่องในปีที่ผ่านมา เป็นกว่า 15.3 ล้านเครื่องในปีนี้ เช่นเดียวกับโทรศัพท์มือถือติดกล้อง ที่จะทะลุ 84.6 ล้านเครื่อง เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้านี้ ซึ่งอยู่ที่ระดับ 70.5 ล้านเครื่องเท่านั้น อย่างไรก็ดี แม้สำนักวิจัยหลายแห่งจะเปิดเผยว่า ยอดขายกล้องดิจิทัลในปีที่ผ่านมา มากกว่ากล้องฟิล์มเป็นครั้งแรกแต่ผู้บริโภคส่วนใหญ่ ยังไม่ซื้อกล้องดิจิทัลมาใช้ เนื่องจาก ราคาที่แพง และความซับซ้อนในการส่งภาพดิจิทัลไปยังคอมพิวเตอร์ หรือเครื่องพิมพ์ (กรุงเทพธุรกิจ อังคารที่ 20 มกราคม 2547 หน้า 5)





อย. เผย ‘ร้านยาคุณภาพ’ 26 แห่งระบุประชาชนขอคำแนะนำได้

น.พ.ศุภชัย คุณารัตนพฤกษ์ เลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) กล่าวว่า อย.มีความมุ่งมั่นพัฒนาให้ร้านขายยาและผู้ประกอบวิชาชีพมีความรู้ความสามารถเป็นสถานบริการสาธารณสุขเบื้องต้นของประชาชนให้ดูแลรักษาตนเองเมื่อเจ็บป่วยเพียงเล็กน้อย ร้านยาคุณภาพที่ผ่านการประเมินจะได้ใบรับรอง “ร้านขายยาคุณภาพ” สร้างความมั่นใจให้ผู้บริโภคทั้งในเรื่องคุณภาพของยาและมาตรฐานการบริการ รายงานข่าวแจ้งว่า ส่วนหนึ่งของร้านยาที่ผ่านการประเมินเป็นสถานปฏิบัติการเภสัชกรรมชุมชนของมหาวิทยาลัย เช่น สถานปฏิบัติการเภสัชกรรมชุมชน ของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, ม.ขอนแก่น , ม.เชียงใหม่, ม.มหาสารคาม, ม.สงขลานครินทร์ และม.หัวเฉียวเฉลิมพระเกียรติ และอีกส่วนหนึ่งเป็นร้านขายยาเอกชนซึ่งมีทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด ซึ่งประชาชนสามารถสังเกตได้จากป้ายร้านยาคุณภาพ ซึ่งเมื่อเจ็บป่วยเล็กน้อยขอรับคำปรึกษาจากเภสัชกรประจำร้านได้ (กรุงเทพธุรกิจ อังคารที่ 20 มกราคม 2547 หน้า 14)





พ่อค้าเอดส์รุมทึ้งสวาซิแลนด์ยาจากไทยก็ไปร่วมขุดทองด้วย

ข่าวหน้าหนึ่งของหนังสือพิมพ์ “ไทมส์ ออฟ สวาซิแลนด์” รายงานว่า ในบรรดายาที่ถูกอวดอ้างสรรพคุณขนาดต่างๆ เหล่านั้น มียาขนานที่ไปจากประเทศไทย และโฆษณาว่า เป็นวัคซีนป้องกันโรคเอดส์ ปรากฏว่าขายดิบขายดีกว่าเพื่อน มีชาวเมืองเข้าคิวซื้อกันอยู่แน่นขนัด ถึงแม้ทุกวันนี้ ยังไม่มีผู้เชี่ยวชาญของวงการแพทย์ระหว่างชาติ แจ้งว่ามีวัคซีนป้องกันโรคเอดส์และยาใดที่รักษาโรคร้ายนี้ได้ แต่ในสวาซีแลนด์กลับมียาที่อวดอ้างว่ารักษามันได้ ขายอยู่ตามที่ต่างๆ ทุกหนทุกแห่ง ข่าว น.ส.พ.กล่าวว่า พ่อค้าเหล่านี้ พากันรุมทึ้งชาวสวาซิเหมือนกับแร้งลงรุมจิกกินซากศพ เพราะเหตุที่ทางการไม่มีกฎหมายควบคุมยาอย่างรัดกุมเลยหรือแม้แต่จะหานักเภสัชวิทยาทั่วทั้งประเทศสักคนก็ยังหาไม่ได้ (ไทยรัฐ พุธที่ 21 มกราคม 2547 หน้า 7)





เตือนเชื้อโรคจากสัตว์โดดใส่คนเป็นภัยใหญ่ที่สุดของโลกทุกวันนี้

พวกผู้เชี่ยวชาญพากันกล่าวแสดงความวิตก ในที่ประชุมราชแพทยสมาคมที่กรุงลอนดอน ว่าเชื้อไวรัสจากสัตว์ กำลังจะข้ามเผ่าพันธุ์ มาทำร้ายมนุษย์ในยามที่ทางการเวียดนาม กำลังระดมกำจัดไก่เรือนเป็นแสน เพื่อสกัดโรคระบาดเอาไว้ไม่ให้ลุกลามกว้างขวางออกไป พร้อมกันกับที่ในจีน ก็เร่งสังหารชะมดจำนวนหลายพันตัว หลังจากนักวิจัยได้พบว่าพวกมันมีส่วนทำให้โรคซาร์สเกิดปะทุเกิดขึ้นมาใหม่อีก ทางศาสตราจารย์มาลิก ไปริส นักจุลชีววิทยาของมหาวิทยาลัยฮ่องกงกล่าวแสดงความเห็นด้วยว่าโรคจากสัตว์เป็นภัยร้ายแรงของคน เพราะยังไม่ค่อยมีความรู้กันเท่าใดนัก “เรากำลังต้องการรู้ความสัมพันธ์ระหว่างสัตว์กับคนมากขึ้นเป็นอย่างยิ่ง” เขาบอกแสดงความเป็นทุกข์ว่า การระบาดของโรคหวัดครั้งใหม่ซึ่งผู้เชี่ยวชาญหลายคนเชื่อว่าเป็นสิ่งไม่อาจจะหลีกเลี่ยงได้ ประกอบกับเชื้อไวรัสจากสัตว์เข้าผสมโรงด้วย อาจก่อความหายนะขึ้นทั่วโลกได้ (ไทยรัฐ พุธที่ 21 มกราคม 2547 หน้า 7)





เนคเทคเผยวัยโจ๋กว่า 50% ใช้เน็ตเล่นเกม-แชท

นายทวีศักดิ์ กออนันตกูล ผู้อำนวยการศูนย์เทคโนโลยีอีเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์แห่งชาติ (เนคเทค) กล่าวว่า ผลสำรวจกลุ่มผู้ใช้อินเทอร์เน็ตประจำปี 2546 ซึ่งจัดทำแบบสอบถามผ่านออนไลน์ระหว่างเดือน ก.ย.-ต.ค.46 จากกลุ่มตัวอย่าง 21.049 คน หรือ 0.335 ของสัดส่วนผู้ใช้อินเทอร์เน็ตในประเทศไทยปัจจุบันที่มีประมาณ 6 ล้านรายนั้น กลุ่มอายุ 20-29 ปี เป็นผู้ใช้ที่เข้ามาตอบคำถามมากที่สุดเป็นปีที่ 5 ติดต่อกันนับจากเริ่มทำแบบสำรวจลักษณะนี้เมื่อปี 2542 ทั้งกลุ่มวัยรุ่น และผู้สูงอายุ มีสัดส่วนเพิ่มสูงกว่าการสำรวจครั้งที่ผ่านๆ มา ผลสำรวจพฤติกรรมการใช้งานอินเทอร์เน็ตว่า ส่วนใหญ่ใช้งาน 5- น้อยกว่า 10 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ คิดเป็น 21.7% ตามด้วย 20.2% ใช้อินเทอร์เน็ตมากกว่า 20 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ โดยกลุ่มผู้ใช้ที่อายุต่ำกว่า 20 ปี และใช้อินเทอร์เน็ตสัปดาห์ละมากกว่า 20 ชั่วโมง นิยมใช้เพื่อเล่นเกมออนไลน์ถึง 34.15 และสนทนาออนไลน์ (แชท) 25% แต่การค้นหาข้อมูลและข่าวสาร อยู่ระดับ 13% และ 3.8% ตามลำดับ (กรุงเทพธุรกิจ พุธที่ 21 มกราคม 2547 หน้า 3)





ชายไทย 3.5 ล้านคนเป็นโรค ‘นกเขาไม่ขัน’

รศ.ดร.อเนก หิรัญรักษ์ นักวิจัยอาวุโสและผู้อำนวยการโครงการยูนิเนต โพลหัวหน้าโครงการสำรวจเชิงระบาตวิทยาภาวะสุขภาพทางเพศของชายไทย กล่าวว่า ได้เก็บข้อมูลสภาวะสุขภาพทางเพศชายไทยอายุ 40-70 ปี จำนวน 2,269 คน ระหว่างเดือนมกราคมถึงกุมภาพันธ์ 2546 รวม 13 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดเชียงใหม่ ลำพูน พิษณุโลก ชลบุรี ลพบุรี จันทบุรี นครราชสีมา นครพนม อำนาจเจริญ สงขลา นราธิวาส กระบี่ และกรุงเทพฯ ภายใต้การสนับสนุนของบริษัทยารักษาโรคหย่อนสมรรถภาพทางเพศ 5 แห่ง ผลการสำรวจพบว่า มีชายไทยเป็นโรคหย่อนสมรรถภาพทางเพศ หรือโรคอีดี จำนวน 3.5 ล้านคน หรือร้อยละ 42.18 ซึ่งปี 2542 สำรวจชายไทยกลุ่มอายุเดียวกันจำนวน 1,250 คน เป็นโรคอีดีประมาณ 3 ล้านคน หรือร้อยละ 37.5 ซึ่งผลสำรวจเชิงระบาดวิทยาครั้งล่าสุดนี้ ชายไทยเป็นโรคอีดีเพิ่มขึ้น การสำรวจพบว่าในชายไทยที่สูงอายุยิ่งพบโรคอีดีเพิ่มขึ้น ช่วงอายุ 40-49 ปี พบร้อยละ 23.39 อายุ 50-59 ปี พบร้อยละ 47.79 อายุ 60-70 ปี พบสูงถึงร้อยละ 76.95 ภาวะหย่อนสมรรถภาพทางเพศพบควบคู่กับโรคทางกายโดยเฉพาะผู้ป่วยโรคเบาหวาน โรคหัวใจ ไขมันในเลือดสูง โดยเฉพาะผู้ป่วยโรคหัวใจมีภาวะหย่อนสมรรถภาพทางเพศมากถึงร้อยละ 71.74 โรคเบาหวานพบร้อยละ 70.09 รวมทั้งคนที่เป็นโรคเครียดส่งผลให้หย่อนสมรรถภาพมากกว่าคนที่ไม่เครียด (กรุงเทพธุรกิจ พุธที่ 21 มกราคม 2547 หน้า 14)





เสี่ยงโรคไตวายหวั่นชาวแม่สอดจากแคดเมียม

พ.ญ.ฉันทนา ผดุงทศ สำนักโรควิชาการประกอบอาชีพ กรมควบคุมโรค กล่าวในการสัมมนาในหัวข้อ “แคดเมียม ภัยมืดที่ถูกละเลย” ซึ่งจัดโดยชมรมนักข่าวสิ่งแวดล้อม ว่าปัญหาของอำเภอแม่สอด จ.ตาก จัดได้ว่าเป็นพื้นที่เสี่ยงต่อการปนเปื้อนแคดเมียมอย่างมาก ด้านนายสุเมธา วิเชียรเพชร ผอ.ส่วนปฏิบัติการฉุกเฉินสารเคมีกรมควบคุมมลพิษ (คพ.) กล่าวว่า กรมควบคุมมลพิษจะนำตัวอย่างดินและพืชของชาวบ้านในบริเวณนั้นมาตรวจสอบอีกครั้งหนึ่ง หากพบว่าผลิตผลการเกษตรมีการปนเปื้อนเกิน 0.02-0.03 ไมโครกรัม ก็ต้องกันพื้นที่ไร่นานั้นออก ห้ามบริโภคทันที (กรุงเทพธุรกิจ พุธที่ 21 มกราคม 2547 หน้า 14)





ขอนแก่นร่องไอทีซิตี้เชื่อมอินโดจีน

จากที่ทางรัฐบาลมีนโยบายพัฒนาประเทศโดยการสร้างเมืองไอซีที ได้รับความร่วมมือจากบริษัท ทศท คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) และบริษัท กสท โทรคมนาคม จำกัด (มหาชน) เพื่อพัฒนาให้เป็นศูนย์กลางการค้าการพัฒนาเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารมีการจัดการระบบการทำงานภายในจังหวัดด้วยเทคโนโลยี เพื่อความรวดเร็วในการติดต่อประสานงานของประชาชนทั้งทางภาครัฐและเอกชน พร้อมทั้งมีนโยบายที่จะขยายไปยังจังหวัดใกล้เคียง ด้านนายเจตน์ ธนวัฒน์ ผู้ว่าราชการ จ.ขอนแก่น เปิดเผยในเรื่องนี้ว่า นโยบายเทคโนโลยีสารสนเทศ พ.ศ.2544-2553 มีขอบเขตกว้างครอบคลุมยุทธศาสตร์สำคัญ 5 ด้าน คือ การบริหารงานของรัฐบาล (e-Government) พาณิชยกรรม (e-Commerce) อุตสาหกรรม (e-Education) และสังคม (e-Society) เป็นเวลาถึง 10 ปี เพื่อให้นโยบายเหล่านี้ สามารถแปรไปสู่ภาคปฏิบัติที่เป็นรูปธรรม “ยุทธศาสตร์ของกลุ่มจังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน กลุ่มที่ 6.3 ประกอบด้วย จ.ขอนแก่น มหาสารคาม และร้อยเอ็ดซึ่งเป็นประตูเชื่อมสู่กลุ่มประเทศในอนุภาคลุ่มน้ำโขง ได้มีการกำหนดวิสัยทัศน์ คือ ศูนย์กลางการค้า การลงทุน และการบริการในภูมิภาคยุทธศาสตร์ด้านต่างๆที่จะเป็นการเพิ่มขีดความสามารถด้านการค้าการลงทุน และการบริการ (กรุงเทพธุรกิจ พุธที่ 21 มกราคม 2547 หน้า 30)






KMUTT Digital Library
Contact Digital Library : info@lib.kmutt.ac.th
Tel : 0-2470-8215