หัวข้อข่าวปีที่ 5 ฉบับที่ 10 ประจำวันที่ 2004-03-13 ข่าวการศึกษา กองทุนกู้ยืมตั้งรางวัล 1 ล้านล่อใจ กระตุ้นยอดใช้หนี้คืนวางเป้า 80 % ชุมชนความรู้ไร้สาย ทางเลือกใหม่ที่เกษตรศาสตร์ "มช."รับลูกเกษตรกรภาคเหนือ17จังหวัดเข้าเรียน “เสมา1” ยอมรับนักเรียนไทยอ่อนภาษาอังกฤษ ศธ.เตรียมเปิดร.ร. 3 ภาษาที่ภูเก็ตเน้นหลักสูตรเข้มไทย-จีน-อังกฤษ ม.เกษตรฯสร้างคนรับวิกฤติรับป.โทด้านจัดการทรัพยากร วางเกณฑ์ค่าใช้จ่ายจัดการศึกษาศธ.ไฟเขียวเริ่มเก็บต้นเทอมหน้า จัดระบบให้เกรดใหม่แก้ปัญหาคำนวณ GPA Creative Learning เรื่องจำเป็นของวัยอนุบาล กรุงไทยให้อาชีพเด็กอาชีวะ เตรียมจัดงานใหญ่ 20 ปี พสวท.กระตุ้นวงการวิทย์ มธบ.เปิดตัวหลักสูตร Business Informatics สธ.รับเด็กเรียนแพทย์เพิ่ม เสมา 1 โดดอุ้ม "วรเดช" ยืนยันบริสุทธิ์ไม่ตั้ง กก.สอบ ข่าววิทยาศาสตร์/เทคโนโลยี ห้ามใช้สารซีเอฟซีในแอร์รถยนต์ เตือนสาวที่อยากใบหน้าอ่อนใสทำ "ไอออนโต" ได้แค่ชั่วคราว ไมโครซอฟท์ใช้แสตมป์สู้สแปม ไอซีทีรับรองชิพสมาร์ทการ์ดปลอดภัย โทรศัพท์มือถือสร้างชีวประวัติมีภาพและเสียงประกอบพร้อม ถึงคิวมนุษย์อวกาศหญิงจีน ฐานผลิตซีเกท ข่าววิจัย/พัฒนา ชี้คนเอเชียลด ‘ข้าว’ กินไขมันเพิ่ม อาจารย์จุฬาฯเจ๋งพบสมุนไพรฆ่าหอยเชอรี่ หมอนสมุนไพร ฝีมือเด็กร.ร."ไชยวานวิทยา" ‘ไอเมด’ เตรียมผลิตชุดตรวจไวรัสไข้หวัดนก อินเดียเปิดบ้านรับจ้างทำวิจัยไบโอเทค มข.พัฒนาโปรแกรมกระตุ้นไฟฟ้าด้วยคอมพ์ หนุนนักวิจัยตั้งบริษัทผลิตสินค้าแห่งอนาคต พบโปรตีนยับยั้งไวรัส กุญแจสู่ยารักษาโรคเอดส์ ถอดรหัสพันธุกรรมไก่ศึกษายีนติดหวัดนก เครื่องบดสับสารพัดประโยชน์ เทคนิคเชียงใหม่เดินหน้าถ่ายทอดเทคโนโลยี จุฬาฯสังเคราะห์สารกันยูวี ‘ยูวี’ ปกป้องผิวจากแสงแดดคุณภาพสูง สกัดสเต็มเซลล์เด็กหลอดแก้วเกาหลีขยับจดลิขสิทธิ์ผลงาน ซอฟต์แวร์ตรวจเบาหวานขึ้นตา เนคเทคช่วยจักษุแพทย์คัดกรอง หนุนใช้กากอ้อยผลิตไฟฟ้าพลังสะอาด นักประดิษฐ์ชาวเซิร์บหัวใสออกแบบหุ่นยนต์ไล่ล่าหมาป่า ประดิษฐ์วงจรสำเร็จรูปรุ่นอนาคต เพิ่มอภินิหารโทรศัพท์มือถือยิ่งขึ้น พบสมุนไพรรักษาโรคสมองพิการสรรพคุณบำรุงสมาธิและความจำ ประดิษฐ์ชุดมนุษย์ "ซุปเปอร์แมน" ใส่แล้วมีพละกำลังเหนือธรรมดา จับฝึกทำโยคะด้วยการหัวเราะเป็นโอสถรักษาอัมพาตขนานเอก ปุ๋ยอัดเม็ด จากเปลือกกล้วยไอเดียแจ๋วชาวบางกระทุ่ม เผยโฉม "มนุษย์" แห่งอนาคตกลายพันธุ์หัวโตตัวลีบ ชูกาแฟเครื่องดื่มบำรุงสุขภาพถนอมหัวใจและตับแก้ปวดศีรษะ จุฬาวิจัย “เพรียงหัวหอมออกฤทธิ์ต้านมะเร็งร้าย” วิจัยจีโนมสกัดแพ้ยา ข่าวทั่วไป ผลสำรวจ ‘เมืองน่าอยู่’ กรุงเทพฯรูดที่ 102 ของโลก แนะเปิดเวบผู้ป่วยโรคจากสิ่งแวดล้อมหลังเหตุกระทบสุขภาพประชาชนพุ่ง ไอเอสพีออกเน็ตต่ำสุด ชม.ละ 35 สตางค์ ตั้งศูนย์บรรจุภัณฑ์หนุนสินค้าโอทอป ปลุกผู้สูงอายุอย่ายอมแพ้แก่ร่างกาย ให้ออกกำลังด้วยการเดินเร็ว แทนวิ่ง ผลิตใบชาบนเกษตรที่สูงพัฒนาคุณภาพเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพ 'เด็กอัจฉริยะ' 6ขวบ ช็อกโกแลตทำลายป่าเอเชียอาคเนย์ โค่นถางที่ปลูกไร่ปาล์มขนาดยักษ์ โรคผิดปกติจากการกิน:ป้องกันไว้ดีกว่าตามแก้ ข่าวการศึกษา กองทุนกู้ยืมตั้งรางวัล 1 ล้านล่อใจ กระตุ้นยอดใช้หนี้คืนวางเป้า 80 % นายเปรมประชา ศุภสมุทร ผู้จัดการกองทุนกู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.) เปิดเผยว่าที่ผ่านมายอดจำนวนการคืนเงินมีจำนวนสูงถึง 70 % ซึ่งถือเป็นจำนวนที่สูงมาก ซึ่งสาเหตุน่าจะมาจากระบบเศรษฐกิจที่ดีขึ้นของประเทศ ทำให้นักศึกษาที่จบแล้วมีงานทำมากขึ้น ซึ่งขณะนี้ได้เตรียมแผนงานกระตุ้นการคืนเงินให้เพิ่มขึ้นเป็น 80 % โดยการงดเบี้ยปรับ การงดดอกเบี้ย 1 งวด สำหรับผู้ที่ไม่มีหนี้ค้างชำระและการจับสลากรางวัลให้กับผู้ที่มาชำระเงินคืนแบบปิดบัญชีภายในวันสถาปนากองทุนครบ 6 ปี วันที่ 15 มีนาคม ที่ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิตติ์ โดยกองทุนได้เตรียมงบประมาณรางวัลไว้ประมาณ 1 ล้านบาท สำหรับผู้ที่ต้องการข้อมูลเพิ่มเติมสอบถามรายละเอียดได้ที่ โทรสายด่วนกยศ. 1597 หรือโทร.0-2643-1461-7 (มติชนรายวัน จันทร์ที่ 1 มีนาคม 2547 หน้า 23) ชุมชนความรู้ไร้สาย ทางเลือกใหม่ที่เกษตรศาสตร์ ขณะนี้ที่มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ได้มีการวางระบบอินเตอร์เนตไร้สายหรือไวไฟ (WiFi) ภายใต้โครงการชื่อ KUWin โดยมีบริษัท อินเทลและซิสโก้ เป็นผู้วางระบบเครือข่าย ซึ่งเครือข่าย ‘คูวิน’ นั้น เป็นเครือข่ายไร้สายตามข้อกำหนดมาตรฐาน IEEE 802.11b ใช้ความถี่ย่าน 2.4 กิกะเฮิรตซ์ อัตราความเร็ว 11 เมกะบิตต่อวินาทีและอยู่ระหว่างขยายบริการที่อัตราเร็ว 54 เมกะบิตต่อวินาที เป้าหมายที่สำคัญลำดับแรกของโครงการนี้คือการสร้างสภาวะแวดล้อมในรั้วมหาวิทยาลัยให้เหมาะสมกับการศึกษา ค้นคว้าหาความรู้ สำหรับนักศึกษาและบุคลากรของมหาวิทยาลัย ซึ่งทำให้ผู้ที่สนใจเรียนรู้สามารถเข้าถึงแหล่งข้อมูลได้ง่ายและสะดวก เป้าหมายรองคือการสร้างชุมชนแห่งการเรียนรู้รอบๆมหาวิทยาลัยเพื่อให้เข้าถึงข้อมูลข่าวสารในรูปแบบชุมชนไร้สาย (wireless community zone) โดยตั้งเป้าให้บุคลากรภายนอกซึ่งมีอุปกรณ์ที่สนับสนุนการเชื่อมต่อไร้สายสามารถใช้งานในเครือข่ายได้แบบจำกัด (มติชนรายวัน พุธที่ 3 มีนาคม 2547 หน้า 24) "มช."รับลูกเกษตรกรภาคเหนือ17จังหวัดเข้าเรียน นายพิทยา สรวมศิริ คณบดีคณะเกษตรศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่(มช.) เปิดเผยว่าคณะเกษตรศาสตร์ได้จัดโครงการอุดมศึกษาเพื่อทายาทเกษตรกรขึ้น เพื่อขยายโอกาสทางการศึกษาแก่ผู้เป็นทายาทเกษตรกร เขต 17 จังหวัดภาคเหนือ โดยเปิดรับสมัครนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 ที่กำลังศึกษาในโรงเรียนมัธยมศึกษา 17 จังหวัดในเขตพัฒนาภาคเหนือในปีการศึกษา 2546 และมีคะแนนเฉลี่ยทุกวิชาในชั้น ม. 4 และ ม.5 รวมกันไม่ต่ำกว่า 2.00 และมีบิดามารดาประกอบอาชีพเกษตรกรมีภูมิลำเนาอยู่ใน 17 จังหวัดเขตพัฒนาภาคเหนือ เพื่อสอบคัดเลือกเข้าศึกษาคณะเกษตรศาสตร์ ประจำปีการศึกษา 2548 ใน 8 สาขาวิชา รวมทั้งสิ้น 70 คน ประกอบด้วย สาขาวิชาเศรษฐศาสตร์เกษตร 5 คน สาขาวิชากีฏวิทยา ปฐพีศาสตร์ พืชไร่ พืชสวน โรคพืช ส่งเสริมและเผยแพร่การเกษตร และสาขาวิชาสัตวศาสตร์ รวม 65 คน นักเรียนที่มีคุณสมบัติดังกล่าวขอรับใบสมัครได้ที่โรงเรียนที่กำลังศึกษาอยู่ โดยต้องได้รับการรับรองจากผู้อำนวยการหรืออาจารย์ใหญ่ของโรงเรียนที่นักเรียนสังกัด ตามที่ระบุไว้ในใบสมัครด้วย เปิดรับสมัครจนถึง 31 มีนาคม สอบถามได้ที่คณะเกษตรศาสตร์ มช. โทร.0-5394-4641-2 หรือ http:www.agri.cmu.ac.th (มติชนรายวัน พฤหัสบดีที่ 4 มีนาคม 2547 หน้า 23) “เสมา1” ยอมรับนักเรียนไทยอ่อนภาษาอังกฤษ นายอดิศัย โพธารามิก รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.)กล่าวถึงแนวทางการแก้ปัญหาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาภาษาอังกฤษของนักเรียนในระดับต่างๆที่ต่ำกว่าเกณฑ์มาตรฐานว่าขณะนี้กำลังให้ผู้เชี่ยวชาญทางด้านภาษาคิดวิธีการสอนต้นแบบที่ถูกต้องให้กับครูและครูต้องปฏิวัติตัวเองด้วย นอกจากนี้ต้องมีความร่วมมือกับประเทศต่างๆเพื่อพัฒนาการเรียนการสอนวิชาภาษาอังกฤษให้มากขึ้น ด้านนางสิริกร มณีรินทร์ รัฐมนตรีช่วยว่าการ ศธ. กล่าวว่าขณะนี้คณะรัฐมนตรีได้อนุมัติจัดสรรงบประมาณ 350 ล้านบาท ใช้ปรับปรุงคุณภาพการเรียนการสอนของครูสอนภาษาอังกฤษ โดยจัดให้มีศูนย์ ERIC เพื่ออบรมครูใน 175 เขตพื้นที่การศึกษาทั่วประเทศซึ่งจะเป็นศูนย์พึ่งพิงทางวิชาการและชมรมครูภาษาอังกฤษประจำเขตพื้นที่การศึกษา (มติชนรายวัน พฤหัสบดีที่ 4 มีนาคม 2547 หน้า 22) ศธ.เตรียมเปิดร.ร. 3 ภาษาที่ภูเก็ตเน้นหลักสูตรเข้มไทย-จีน-อังกฤษ นางอารีรัตน์ วัฒนสิน ผู้ตรวจราชการกระทรวงศึกษาธิการเขต 11 เปิดเผยถึงความคืบหน้าของโครงการเปิดสอนโรงเรียน 3 ภาษา ซึ่งจะเปิดเป็นครั้งแรกในประเทศไทยที่โรงเรียนเฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระศรีนครินทร์ จ.ภูเก็ตว่าทางโรงเรียนได้รายงานการเตรียมความพร้อมเพื่อรองรับการเปิดสอนหลักสูตร 3 ภาษาให้ทันในปี 2547 โดยขณะนี้ได้เสนอขออนุมัติจากศธ.ในการจัดหาครูสอนภาษาจีน พร้อมกับได้ส่งอาจารย์ไปดูงานที่มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขต ภูเก็ต รวมทั้งโรงเรียนที่สอนภาษาจีนในกรุงเทพฯ สำหรับหลักสูตรดังกล่าวเป็นหลักสูตรระดับมัธยมศึกษาตอนต้นโดยแปลเป็นภาษาจีนและภาษาอังกฤษ ในช่วงต้นจะแบ่งสัดส่วนให้มีการเรียนการสอนที่เป็นภาษาจีน 19 % ของเวลาเรียนทั้งหมด ส่วนภาษาไทยจะใช้เวลาเรียน 43 %และที่เหลือจะเป็นภาษาอังกฤษ ซึ่งทางโรงเรียนจะเปิดรับนักเรียนหลักสูตรนี้เพียง 100 คนเท่านั้น เพื่อต้องการคุณภาพของการเรียนการสอน และเด็กจะต้องอยู่ประจำ เนื่องจากต้องการให้เด็กมีโอกาสใช้ภาษาในชีวิตประจำวัน (กรุงเทพธุรกิจ จันทร์ที่ 1 มีนาคม 2547 หน้า10) ม.เกษตรฯสร้างคนรับวิกฤติรับป.โทด้านจัดการทรัพยากร รศ.ดร.จวงจันทร์ ดวงพักตรา ประธานกรรมการดำเนินงานโครงการหลักสูตรวิทยาศาสตร์มหาบัณฑิต สาขาวิชาการใช้ที่ดินและการจัดการทรัพยากรธรรมชาติอย่างยั่งยืน ภาคพิเศษ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์เปิดเผยว่าสาเหตุสำคัญประการหนึ่งคือการขาดองค์ความรู้อย่างเป็นองค์รวมเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างระบบนิเวศน์ในธรรมชาติและระบบนิเวศน์มนุษย์ ทำให้การดำเนินการเพื่อแก้ไขปัญหาทรัพยากรธรรมชาติเป็นไปแบบแยกส่วน ก่อให้เกิดช่องว่างระหว่างความรู้ทางวิชาการและความรู้ภาคปฏิบัติ ดังนั้นจึงมีการพัฒนาการเรียนการสอนที่เอื้ออำนวยให้มีการผลิตบุคลากรที่มีความรู้ความเชี่ยวชาญโดยเปิดสอนหลักสูตรวิทยาศาสตร์มหาบัณฑิต สาขาวิชาการใช้ดินและการจัดการทรัพยากรธรรมชาติอย่างยั่งยืนภาคพิเศษจะมีการดำเนินการแบบสหวิทยาการโดยการเรียนการสอนร่วมกันระหว่างคณะเกษตร คณะวนศาสตร์ คณะวิทยาศาสตร์ คณะเศรษฐศาสตร์และคณะสังคมศาสตร์ ใช้เวลาเรียน 2 ปี เสาร์-อาทิตย์ (กรุงเทพธุรกิจ จันทร์ที่ 1 มีนาคม 2547 หน้า 10) วางเกณฑ์ค่าใช้จ่ายจัดการศึกษาศธ.ไฟเขียวเริ่มเก็บต้นเทอมหน้า คุณหญิงกษมา วรวรรณ ณ อยุธยา เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ได้ให้ความเห็นชอบในหลักเกณฑ์และแนวปฏิบัติการเก็บค่าใช้จ่ายในการจัดการศึกษาของโรงเรียนในสังกัด สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ทั้งนี้รายการที่โรงเรียนสามารถเก็บเพิ่มได้ คือ ค่าปรับการลงทะเบียนรายวิชาช้า ให้เก็บค่าปรับครั้งละ 10 บาท ค่าใบรับรองต่างๆชุดแรกไม่เก็บค่าใช้จ่ายแต่ถ้าทำหายและขอรับชุดใหม่ ภาษาไทยเก็บชุดละ 5 บาท ภาษาอังกฤษเก็บชุดละ 20 บาท ค่าสาธารณูปโภค ค่าซ่อมแซมสิ่งก่อสร้างให้โรงเรียนจัดทำโครงการระบุรายละเอียดและประมาณการขอรับการสนับสนุนจากผู้ปกครอง โดยเป็นไปตามความสมัครใจของผู้ปกครองและรับความเห็นชอบจากสถานศึกษา สำหรับรายการค่าใช้จ่ายกิจกรรมพิเศษนั้นได้กำหนดวงเงินค่ากิจกรรมเสริมพิเศษได้แก่ กิจกรรมดนตรี นาฏศิลป์ ศิลปะและวัฒนธรรมให้เก็บตามที่จ่ายจริงแต่ไม่เกินประเภทละ 500 บาทต่อคนต่อภาคเรียน กีฬาให้เก็บตามที่จ่ายจริงประเภทละไม่เกิน 300 บาทต่อคนต่อภาคเรียน กีฬาทางน้ำไม่เกิน 800 บาทต่อคนต่อภาคเรียน (กรุงเทพธุรกิจ อังคารที่ 2 มีนาคม 2547 หน้า 12) จัดระบบให้เกรดใหม่แก้ปัญหาคำนวณ GPA นายเจริญ ภักดีวานิช รองเลขาธิการคณะกรรมการ การศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.) เปิดเผยว่า จากการที่ไปชี้แจงและรับฟังความคิดเห็นของครูและผู้บริหาร สถานศึกษา 4 จุดทั่วประเทศ เกี่ยวกับการใช้คะแนน เฉลี่ยสะสม (GPA) 25% ในการสอบเอนทรานซ์ปีการศึกษา 2548 และใช้ 100% ในปีการศึกษา 2549 พบว่า ส่วนใหญ่เห็นด้วยกับการใช้ GPA เพิ่มขึ้น เพราะจะทำให้เด็กสนใจเรียนทุกวิชาและรู้จักวางแผนการเรียนมากขึ้น ในขณะเดียวกันก็เป็นการกระจายโอกาสให้กับโรงเรียนขนาดเล็ก แต่ยังมีความกังวลเรื่องการวัดผลที่แตกต่าง ทั้งในส่วนของข้อสอบที่แตกต่างและระบบการคิดเกรดที่บางโรงเรียนจะให้ 5 เกรด คือ 0, 1, 2, 3 และ 4 ขณะที่บางโรงมี 8 เกรด คือ 0, 1, 1.5, 2, 2.5, 3, 3.5 และ 4 ซึ่งเมื่อนำมาคำนวณเป็น GPA แล้วทำให้เกิดความได้เปรียบเสียเปรียบได้ สถานศึกษาจึงต้องการให้สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) กำหนดมาตรฐานการให้เกรดเพื่อจะได้ใช้ระบบเดียวกัน"ในแง่หลักวิชาการการกำหนด 8 เกรดจะทำให้ช่องห่างในระดับคะแนนลดลง แต่ปัจจุบันโรงเรียนมัธยมกว่า 80% จะให้เกรด 5 ระดับ ดังนั้นคณะทำงานจะ เสนอแนวทางการกำหนดระเบียบว่าด้วยการวัดผลประเมินผลของ สพฐ. ต่อคุณหญิงกษมา วรวรรณ ณ อยุธยา เลขาธิการ กพฐ. ว่ามาตรฐานการให้เกรดของสถานศึกษาที่จะต้องนำไปคำนวณ GPA ใช้ 5 ระดับ ส่วนโรงเรียนจะใช้การวัดผลแบบ 8 ระดับ หรือ 5 ระดับก็ได้ แต่ที่จะเอามาคำนวณ GPA คือ 5 ระดับ หากเลขาธิการ กพฐ. เห็นชอบก็จะเริ่มใช้ตั้งแต่ปีการศึกษา 2547" รองเลขาธิการ กพฐ. กล่าว ( เดลินิวส์ มีนาคม 2547 หน้า 24) Creative Learning เรื่องจำเป็นของวัยอนุบาล เด็กวัยอนุบาลจะต้องเรียนรู้อย่างไร??? การเรียนรู้ผ่านประสบการณ์ตรง ผ่านการลงมือกระทำ จากสื่อของจริง และประสาทสัมผัสทั้ง 5 นอกจากนี้จำเป็นต้องใช้การเรียนแบบ Active Learning ต้องมีโอกาสริเริ่มความคิดใหม่ๆ ด้วยตัวเอง ไม่จำเจซ้ำซาก เกินไป พ่อ แม่ และครู อาจจะกระตุ้นด้วยสื่อที่แปลกใหม่ หรือวิธีการที่เปลี่ยนไป เป็นการท้าทายความสามารถของเด็กแต่ต้องไม่ยากเกินไป เพราะถ้ายากจะทำให้เด็กท้อและไม่มีความพยายาม โดยอาจจะต้องใช้เวลาสังเกตพฤติกรรม และความสนใจส่วนตัวของเด็กแต่ละคนอย่างใกล้ชิด เพื่อทางส่งเสริมให้ถูกทาง คุณพ่อ คุณแม่ที่อยากทราบรายละเอียดต่างๆ เกี่ยวกับ “Creative Learning” เพิ่มเติม ตลอดจนกิจกรรมเพื่อพัฒนาของลูกวัยอนุบาล สามารถหาคำตอบได้จากงาน “รักลูก Festival 2004” โดย บริษัท รักลูกแฟมิลี่กรุ๊ป จำกัด (แปลน พับลิชชิ่ง) ระหว่างวันที่ 12- 14 มีนาคม ตั้งแต่เวลา 10.00-20.00 น. ณ ฮอลล์ 1-2 อิมแพ็ค เมืองทองธานี หรือจะสอบถามเพิ่มเติมที่ โทร 0-2911-4211 ต่อ 245, 330 และ 409 (สยามรัฐ อังคารที่ 8 มีนาคม 2547 หน้า 7) กรุงไทยให้อาชีพเด็กอาชีวะ นายวีระศักดิ์ วงษ์สมบัติ เลขาธิการคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (กอศ.) เปิดเผยว่า ขณะนี้สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (สอศ.) กำลังประสานงานกับธนาคารกรุงไทยเพื่อทำโครงการสร้างผู้ประกอบการใหม่ โดยเฉพาะการส่งเสริมให้เด็กที่เรียนสายช่างเชื่อม ช่างประปา ช่างไฟฟ้าได้เป็นผู้ประกอบการรุ่นใหม่ในลักษณะรถโมบายหรือรถช่างเคลื่อนที่ โดยจะมีการนำรถปิกอัพมาปรับเป็นรถช่างดัดแปลงที่บรรจุเครื่องมือช่างอย่างครบถ้วน ทั้งนี้สอศ.ได้หารือในหลักการกับทางธนาคารกรุงไทยไว้ว่าอาจจะทำใน 2 ลักษณะคือ ให้ธนาคารสนับสนุนวิทยาลัยในรูปของสหกรณ์ของวิทยาลัย เพื่อให้แต่ละวิทยาลัยสามารถนำไปใช้ฝึกเด็ก และแนวทางที่ 2 คือเป็นการสนับสนุนเด็ก ที่กำลังเรียนอยู่หรือเรียนจบแล้วแต่อยากมีธุรกิจเป็นของตนเองก็จะสนับสนุนเป็นเจ้าของรถโมบายได้ โดยให้รวมตัวเป็นกลุ่มประมาณ 5-6 คน โดยกรณีของนักศึกษาที่ต้องการเป็นเจ้าของธุรกิจนั้น นอกจากจะต้องมีความรู้ด้านการช่างแล้ว จะต้องมีความรู้ในเรื่องการทำธุรกิจ การวางแผนธุรกิจ รวมถึงการหาตลาดด้วย เพื่อเป็นปัจจัยหนึ่งในการพิจารณาหาแหล่งเงินทุน และจะมีการ เปิดตัวรถต้นแบบ 2 คันในวันที่ 15 มี.ค. นี้ อย่างไรก็ตามโครงการนี้จะเริ่มต้นในกรุงเทพฯ ก่อนจากนั้นจึงจะพัฒนาไปถึงจังหวัดอื่น ๆ ต่อไป (เดลินิวส์ พุธที่ 10 มีนาคม 2547 หน้า 31) เตรียมจัดงานใหญ่ 20 ปี พสวท.กระตุ้นวงการวิทย์ คุณหญิงกษมา วรวรรณ ณ อยุธยา เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.) เปิดเผยว่า ในปีนี้เป็นปีที่ 20 ของการดำเนินโครงการพัฒนาและส่งเสริมผู้มีความสามารถพิเศษทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (พสวท.) ซึ่งเป็นโครงการที่สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ฯ ได้ทรงพระกรุณารับเป็น "องค์ที่ปรึกษา" โดยมีเป้าหมายมุ่งเน้นการผลิตนักวิทยาศาสตร์ นักวิจัยที่มีศักยภาพสูง มีความรู้ ความสามารถพิเศษทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี สาขาที่เป็นความต้องการของประเทศและสาขาที่ขาดแคลน เพื่อทำการวิจัย คิดค้นสร้างสรรค์ผลงานทางวิทยาศาสตร์ สร้างสิ่งประดิษฐ์และนวัตกรรมซึ่งจะส่งผลให้เกิดการพัฒนาประเทศอย่างมีคุณภาพและยั่งยืน ดังนั้นในวันที่ 13-14 มี.ค. จึงจะมีการจัดงานครบรอบ 20 ปี ที่ศูนย์ประชุมไบเทค บางนา กรุงเทพฯ เพื่อเสนอผลการดำเนินการ รวมทั้งเผยแพร่ผลงานศึกษาวิจัยและองค์ความรู้สู่สาธารณชน และรวบรวมความคิดเห็นและประสบการณ์เพื่อนำไปปรับปรุงการดำเนินงานของโครงการต่อไป (เดลินิวส์ พฤหัสบดีที่ 11 มีนาคม 2547 หน้า 27) มธบ.เปิดตัวหลักสูตร Business Informatics รองศาสตราจารย์ ดร.วรากรณ์ สามโกเศศ อธิการบดี มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิต(มธบ.) เปิดเผยว่า ปีนี้มหาวิทยาลัยฉลองการครบรอบ 36 ปี แห่งการสถาปนามหาวิทยาลัย จึงมีการเปลี่ยนแปลงและปรับปรุงในทุกด้าน โดยเฉพาะด้านวิชาการ มีการพิจารณาเปิดสอนหลักสูตรใหม่ทั้งระดับปริญญาตรี โท และเอก ซึ่งเป็นหลักสูตรนานาชาติทั้งปริญญาตรี สาขาเทคโนโลยีสารสนเทศ ปริญญาโท สาขาการสื่อสารการตลาด และสาขาใหม่ คือ Business Informatics ซึ่งจะเปิดสอนในระดับปริญญาเอกด้วย โดยเชิญศาสตราจารย์ ดร.ชาร์ล นิวตัน จากมหาวิทยาลัยนิวเซาธ์เวลล์ ประเทศออสเตรเลีย เป็นผู้อำนวยการหลักสูตร พร้อมเปิดสอนในปี 2547 นี้ (สยามรัฐ เสาร์ที่ 13 มีนาคม 2547 หน้า 7) สธ.รับเด็กเรียนแพทย์เพิ่ม น.พ.วัลลภ ไทยเหนือ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยว่าได้ร่วมมือกับมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์เพื่อผลิตแพทย์เพิ่มเชื่อชนบท ตามโครงการผลิตแพทย์เพื่อชนบท เนื่องจากปัญหาขาดแคลนแพทย์ขั้นรุนแรง โดยเฉพาะตามอำเภอต่างๆ ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ทำให้มีผลกระทบต่อคุณภาพบริการและโอการการเข้าถึงของประชาชนทั้งนี้การแก้ไขปัญหาระยะยาวในปีงบประมาณ 2547 ได้เสนอแผนแม่บทด้านกำลังคนสาธารณสุขทั้งระบบทุกสาขา เพื่อให้เกิดการกระจายอัตรากำลังที่เหมาะสมตามโครงการสร้างหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า ทั้งนี้ได้มีการประชุมกับสถาบันการศึกษาด้านแพทยศาสตร์ทั้งหมดได้วางแผนผลิตแพทย์เพิ่มในระยะเวลาอีก 10 ปี ให้ได้ 22,002 คน เมื่อรวมกับแพทย์ที่มีอยู่แล้วจะทำให้อัตราแพทย์ของไทย 1 คน รับผิดของแค่ 1,000 คนโดยสถาบันแพทย์จะผลิตแพทย์จำนวน 16,951 คนและจะร่วมมือกับกระทรวงสาธารณสุขผลิตอีก 5,051 คนคาดว่าแพทย์ที่มีอยู่ในพื้นที่อยู่แล้วจะสามารถลดปัญหาได้ (สยามรัฐ เสาร์ที่ 13 มีนาคม 2547) เสมา 1 โดดอุ้ม "วรเดช" ยืนยันบริสุทธิ์ไม่ตั้ง กก.สอบ จากกรณีที่ ศ.ร.ต.อ.วรเดช จันทรศร เลขาธิการคณะกรรมการการอุดมศึกษา (กอ.) ยอมรับกับที่ประชุมคณะกรรมาธิการการศึกษา สภาผู้แทนราษฎรว่า ได้เปิดดูข้อสอบวัดความรู้วิชาภาษาไทยและสังคม ก่อนการจัดพิมพ์ โดยระบุว่าเปิดตามอำนาจหน้าที่ ในฐานะประธานคณะกรรมการอำนวยการออกข้อสอบ และเป็นการเปิดด้วยความบริสุทธิ์ใจ ไม่ได้นำไปบอกผู้อื่น ทั้งปฏิเสธว่าไม่มีผู้มีอำนาจ ในรัฐบาลสั่งการให้เปิดข้อสอบ เพื่อนำไปใช้ประโยชน์กับผู้เกี่ยวข้อง หากผิดก็ยินดีแสดงความรับผิดชอบด้วยการลาออกจากตำแหน่งนั้น ล่าสุด นายอดิศัย โพธารามิก รมว.ศึกษาธิการ ให้สัมภาษณ์กรณีดังกล่าวว่า ตนเห็นว่าไม่จำเป็นต้องตั้งกรรมการสอบ ศ.ร.ต.อ.วรเดช เพราะถือเป็นหน้าที่อยู่ในแล้วในการดูแลข้อสอบ และไม่อยากให้เรื่องนี้เป็นประเด็นทางการเมือง อย่างไรก็ตามยืนยันว่าข้อสอบไม่รั่ว ซึ่งก็คงทำให้ผู้ปกครองและนักเรียนมั่นใจ ในกระบวนการสอบเอ็นทรานซ์ได้ (ไทยรัฐ เสาร์ที่ 13 มีนาคม 2547 หน้า 15) ข่าววิทยาศาสตร์/เทคโนโลยี ห้ามใช้สารซีเอฟซีในแอร์รถยนต์ นายนิกร จำนง รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม กล่าวว่าที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติเห็นชอบในหลักการร่างกฎกระทรวงเพื่อควบคุมและลดปริมาณการใช้สารคลอโรฟลูออโรคาร์บอน (ซีเอฟซี) ในเครื่องปรับอากาศในรถยนต์ ดังนั้นเพื่อให้เป็นไปตามการลงนามที่กำหนดให้ประเทศกำลังพัฒนาต้องลดปริมาณการใช้สารซีเอฟซี ภายในวันที่ 1 มกราคม 2553 ดังนั้นกฎกระทรวงที่ออกใหม่ต่อไปนี้รถที่มาจดทะเบียนใหม่ห้ามใช้สารซีเอฟซีในเครื่องปรับอากาศสำหรับรถเก่านั้นไม่มีผลบังคับใช้แต่จะรณรงค์ไม่ให้ใช้สารดังกล่าวเพราะมีข้อเสียมาก (มติชนรายวัน พุธที่ 3 มีนาคม 2547 หน้า 14 ) เตือนสาวที่อยากใบหน้าอ่อนใสทำ "ไอออนโต" ได้แค่ชั่วคราว อาจารย์ประจำภาควิชากายภาพบำบัด คณะเทคนิคการแพทย์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น รศ.ดร.สมชาย รัตนทองคำ กล่าวว่า ปัจจุบันสถานบริการเสริมความงามหลายแห่ง มีบริการเสริมความงามโดยใช้กระแสไฟ ผลักดันตัวยาผ่านผิวหนังบริเวณใบหน้า หรือที่เรียกว่า ไอออนโตโฟลิซิส เพื่อให้ผู้ใช้บริการที่มีผิวหน้าเหี่ยวย่น ร่วงโรยตามธรรมชาติ และอายุให้ กลับมาเต่งตึงเหมือนผิวสาวๆนั้น พบว่าขณะนี้ยังไม่มีรายงานทางวิจัยที่ชี้ชัดได้ว่า วิธีดังกล่าวสามารถทำให้คนมีใบหน้าเต่งตึงขึ้นมาได้ ดังนั้น การใช้กระแสไฟผลักดันตัวยาผ่านผิวหนัง บริเวณใบหน้าเพื่อให้มีผิวเต่งตึง อาจเป็นเพียงแค่ความรู้สึกของผู้ใช้บริการเท่านั้น รศ.ดร.สมชายกล่าวต่อว่า หลักการนำกระแสไฟฟ้าผลักดันตัวยาหรือวิตามินให้ซึมผ่านผิวหนัง โดยความเป็นจริง เป็นการนำหลักการรักษาด้วยไฟฟ้าทางกายภาพบำบัด (Physical therapy) ที่ใช้สำหรับการผลักดันตัวยาเข้าสู่ร่างกายผ่านผิวหนัง เพื่อรักษาอาการปวด หรือ อักเสบเรื้อรังของข้อและเนื้อเยื่อ (ไทยรัฐ มีนาคม 2547 หน้า 7 ) ไมโครซอฟท์ใช้แสตมป์สู้สแปม สำนักข่าวเอพีรายงานว่า บริษัทซอฟต์แวร์ ไมโครซอฟท์ คิดค้นกลยุทธ์ในการ ปรามสแปม (อีเมลขยะ) วิธีใหม่ ด้วยการคิดอัตราค่าไปรษณีย์ หรือ (แสตมป์) ในการส่งอีเมล โดยทีมนักวิจัยไมโครซอฟท์ได้ดำเนินงานวิจัยและคิดค้นเรื่องนี้มาตั้งแต่ปี ค.ศ. 2001 ซึ่งก่อนหน้านี้ บิลล์ เกตส์ ประธานบริษัท ไมโครซอฟท์ ก็ได้พูดเรื่องนี้ในงานเวิลด์ อีอีโคโนมิก ฟอรัม ที่สวิตเซอร์แลนด์ และล่าสุดเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาไมโครซอฟท์ได้เริ่มเก็บอัตราค่าไปรษณีย์แก่ผู้ใช้อินเทอร์เน็ตในการส่งอีเมลแล้วประมาณ 1 เซนต์ ต่อ 1 อีเมล รายงานข่าวระบุว่า กลยุทธ์ในการปรามสแปมเมล์ครั้งนี้ของไมโครซอฟท์น่าจะเป็นวิธีที่ช่วยให้สแปมเมอร์ลดน้อยลง แต่อย่างไรก็ตาม ตราบใดที่ยังมีบริการฟรีอีเมล สแปมเมอร์ก็ยังคงมีช่องทางในการขยายปริมาณอีเมลขยะ (เดลินิวส์ พฤหัสบดีที่ 11 มีนาคม 2547 หน้า 16) ไอซีทีรับรองชิพสมาร์ทการ์ดปลอดภัย น.พ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ไอซีที) เผยถึงความปลอดภัยของสมาร์ทการ์ดว่า สมาร์ทการ์ดได้มีการปรับปรุงเป็นครั้งที่ 4 ได้มีการแยกเซิร์ฟเวอร์ไว้เป็น 2 ส่วน มีเซิร์ฟเวอร์กลาง และในชิพ ข้อมูลในเซิร์ฟเวอร์กลางเป็นข้อมูลความลับส่วนบุคคล เจ้าหน้าที่ที่มีความรับผิดชอบหรือเกี่ยวข้องเท่านั้นที่เปิดดูได้ ส่วนข้อมูลในชิพ เป็นข้อมูลพื้นฐานของเจ้าของบัตร สามารถเปิดดูได้ด้วยเครื่อง Card Reader ข้อมูลที่อยู่ในเซิร์ฟเวอร์กลางได้แก่ ข้อมูลการเสียภาษี โรคประจำตัว และข้อมูลที่อาจทำให้เกิดความเสียหาย เสื่อมเสียหรือมีผลต่อสิทธิของบุคคลเจ้าของบัตร ข้อมูลเหล่านี้ไม่สามารถเปิดเผยต่อสาธารณชนได้ ข้อมูลในชิพนั้น ได้แก่ ชื่อ-นามสกุล ที่อยู่ปัจจุบัน กรุ๊ปเลือด ประวัติการแพ้ยา และข้อมูลที่ทางกระทรวงต่าง ๆ กำหนดให้มีขึ้น ส่วนข้อมูลที่อยู่บนบัตร ด้านหน้า มี ชื่อ-สกุล, ที่อยู่ของเจ้าของบัตรและเจ้าพนักงานผู้ออกบัตร, วันเดือนปีเกิด, รูปถ่ายเจ้าของบัตร ด้านหลังบัตร มีแถบแม่เหล็ก รหัส ในการลักลอบใช้งานบัตรสมาร์ทการ์ดนี้ทำได้ยาก เนื่องจากการใช้บัตรต้องได้รับความยินยอมจากเจ้าของบัตร โดยการตรวจสอบลายนิ้วมือเจ้าของบัตรผ่านเครื่อง Card Reader ก่อนการใช้งาน เป็นระบบการรักษาข้อมูลของเจ้าของบัตร ทั้งนี้สมาร์ทการ์ดชุดแรกจำนวน 10,000 ใบ จะมีการส่งมอบภายในวันที่ 15 เมษายน 2547, 1 ล้านใบถัดไป ภายในวันที่ 15 พฤษภาคม 2547 และ ครบ 12 ล้านใบภายในเดือนกันยายนนี้ (เดลินิวส์ พฤหัสบดีที่ 11 มีนาคม 2547 หน้า 16) โทรศัพท์มือถือสร้างชีวประวัติมีภาพและเสียงประกอบพร้อม บริษัทโทรศัพท์โนเกีย กำลังพัฒนาโปรแกรม เพื่อช่วยให้ผู้บริโภคสามารถจัดการข้อมูล ที่ได้รับของชีวิตของตนเอง ด้วยโทรศัพท์มือถือ พร้อมด้วยภาพประกอบ ทั้งภาพนิ่ง และเคลื่อนไหวกับเสียง ด้วย "โทรศัพท์มือถือ จะเท่ากับเป็นเครื่องบันทึกชีวิต" โทรศัพท์มือถือชั้นยอดจะทำให้เจ้าของค่อยรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับตนเอง ทั้งโดยตั้งใจ และไม่ตั้งใจได้เองไปเรื่อยๆ โปรแกรมจะช่วยจัดแจงข่าวสาร ภาพ ถ่าย ภาพวีดิโอ ตลอดจนเสียงของผู้คน ที่พบปะทางโทรศัพท์ให้อย่างเรียบร้อย โดยจัดลำดับตามระยะเวลา และยังเปิดให้สามารถ แต่งเติมด้วยภาพถ่ายและวีดิโอ ด้วยระบบดิจิตอลประกอบ กลายเป็นเว็บชีวประวัติที่ สมบูรณ์ขึ้นในที่สุด (ไทยรัฐ เสาร์ที่ 13 มีนาคม 2547 หน้า 7) ถึงคิวมนุษย์อวกาศหญิงจีน สำนักข่าวซินหัวของจีนรายงานเมื่อวันศุกร์ว่า รัฐบาลปักกิ่งมีแผนเกณฑ์มนุษย์อวกาศหญิงในปีหน้าสำหรับการเดินทางสู่อวกาศในอนาคต หลังจากมีการเสนอแนะถึงเรื่องนี้จากกลุ่มสตรีชั้นนำของประเทศ แม้มนุษย์อวกาศของจีนจะมุ่งเน้น การฝึกฝนให้กับผู้ชาย แต่มีความเป็นไปได้ที่ผู้หญิงส่วนน้อยได้รับการฝึกฝนภารกิจในอวกาศ นอกจากนี้ คาดหมายว่า จะไม่มีการเลือกมนุษย์อวกาศหญิงจากจีนแผ่นดินใหญ่เท่านั้น แต่ยังรวมไปถึงเกาะมาเก๊ากับฮ่องกงด้วย ทั้งนี้ จีนกลายเป็นชาติที่สามของโลกที่ส่งมนุษย์สู่วงโคจรสำเร็จต่อจากสหรัฐกับรัสเซีย นับจากนั้น สหพันธ์สตรีของจีน ได้ล็อบบี้ให้มีมนุษย์อวกาศหญิงเกิดขึ้น ซึ่งคำเรียกร้องนี้ได้รับการยอมรับจากรัฐบาลกลาง (เดลินิวส์ เสาร์ที่ 13 มีนาคม 2547 หน้า 10) ฐานผลิตซีเกท ซีเกทมีโรงงานในประเทศไทย 2 แห่งคือ ที่เทพารักษ์ จ.สมุทรปราการ และที่โคราช จ.นครราชสีมา 2 แห่งนี้เป็นฐานการผลิตชุดหัวอ่านหรือบันทึกสำหรับอุปกรณ์ฮาร์ดดิสก์ไดรพ์ ของซีเกทเกือบทุกรุ่น ป้อนให้กับโรงงานซีเกททั่วโลกจากแผ่นเวเฟอร์ที่ซิลิกอนวัลเล่ย์ในสหรัฐอเมริกา นำเข้ามาในประเทศไทยเพื่อผลิตเป็นชุดหัวอ่าน และบันทึกข้อมูล หรือที่เรียกว่า Head stack assembly ก่อนส่งไปประกอบที่สิงคโปร์ ซีเกทได้ถ่ายทอดเทคโนโลยีการผลิตชิ้นส่วนโดยร่วมมือกับ ม.ขอนแก่น และ ม.เทคโนโลยีสุรนารี เพื่อเป็นศูนย์กลางพัฒนาบุคลากรในประเทศไทย และ เปิดสอนที่ ม.ขอนแก่น สถาบันเทคโนโลยีเอเชีย และมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี (เดลินิวส์ อังคารที่ 9 มีนาคม 2547 หน้า 16) ข่าววิจัย/พัฒนา ชี้คนเอเชียลด ‘ข้าว’ กินไขมันเพิ่ม จอร์จีนา เครส์ ผู้เชี่ยวชาญด้านโภชนาการ ดำรงตำแหน่งกรรมการผู้จัดการศูนย์ข้อมูลอาหารแห่งเอเชีย (เอเอฟไอซี) ศูนย์วิจัยด้านโภชนาการระหว่างประเทศ เปิดเผยว่าคนเอเชียเปลี่ยนนิสัยการกินอาหารไปอย่างมาก โดยพบว่าบริโภคอาหารจำพวกคาร์โบไฮเดรตหรือข้าวลดลงแต่บริโภคอาหารที่มีไขมันเพิ่มขึ้น สาเหตุสำคัญเนื่องจากการเข้ามาเปิดร้านอาหารแบบตะวันตกทำให้คนเอเชียคุ้นเคยกับอาหารแบบตะวันตกเพิ่มมากขึ้นและอ้วนขึ้นจนน่าวิตก นอกจากนี้ยังมีความเข้าใจที่ผิดเกี่ยวกับการลดน้ำหนักว่าอาหารบางอย่างสามารถเผาผลาญไขมันหรือสกัดแคลอรี่ในอาหารได้ เช่น ชาเขียว เกรปฟรุต (มติชนรายวัน จันทร์ที่ 1 มีนาคม 2547 หน้า 12 ) อาจารย์จุฬาฯเจ๋งพบสมุนไพรฆ่าหอยเชอรี่ นายธัชชัย สุมิตร อธิการบดีจุฬาฯ และนายทินวัทธ์ ตันติเสวี กรรมการผู้จัดการบริษัทศิริวัทธ์ โปรดักส์ จำกัด ได้ร่วมพิธีลงนามความร่วมมือในการอนุญาตให้ใช้สิทธิและการให้ความช่วยเหลือทางเทคโนโลยีการผลิตและพัฒนาผลิตภัณฑ์เคมีเกษตร โดยนำผลงานโครงการผลิตยาฆ่าหอยเชอรี่จากพืชสมุนไพรไปใช้ประโยชน์เชิงพาณิชย์ พัฒนาโดย รศ.ดร.อมร เพชรสมและคณะจากสถาบันเทคโนโลยีชีวภาพและวิศวกรรมพันธุศาสตร์จุฬาฯ โดยได้คัดเลือกสมุนไพรที่ออกฤทธิ์ฆ่าหอยเชอรี่ได้อย่างมีประสิทธิภาพและได้วิจัยเพื่อวิเคราะห์ปริมาณสารออกฤทธิ์ในสมุนไพรนั้นเพื่อควบคุมปริมาณสารออกฤทธิ์ในแต่ละตัวได้อย่างแม่นยำและทำการขึ้นรูปให้ใช้ได้สะดวกขึ้น จากนั้นนำไปทดลองในแปลงทดลองพบว่าสามารถฆ่าหอยเชอรี่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ (มติชนรายวัน พฤหัสบดีที่ 4 มีนาคม 2547 หน้า 23) หมอนสมุนไพร ฝีมือเด็กร.ร."ไชยวานวิทยา" คณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐานโรงเรียนไชยวานวิทยา อ.ไชยวาน เล็งเห็นความสำคัญของผลิตภัณฑ์ในท้องถิ่น ที่เกิดจากภูมิปัญญาชาวบ้าน จึงให้เด็กได้เรียนรู้วิธีการทำผลิตภัณฑ์จาก "กก" ซึ่งนักเรียนได้เลือกที่จะนำเอา "หมอนสมุนไพรเพื่อสุขภาพ" เป็นผลิตภัณฑ์เด่นในโครงการ 1 ผลิตภัณฑ์ 1 โรงเรียน โดยนางสาววราภรณ์ โสภาที และนายจัตุรงค์ นทะนุ นายรุ่งตะวัน กวยตะคุ และนางสาวศิริพร ทวีทรัพย์ นักเรียนระดับชั้นมัธยม 3-6 เล่าให้ฟังถึงประโยชน์ของหมอนสมุนไพรว่าสามารถนำไปหนุนนอนทำให้หายใจโล่ง ผ่อนคลายกล้ามเนื้อหลัง และคอ กลิ่นหอม สะอาด และปลอดภัยต่อสุขภาพ ด้าน นายไมตรี วัชรพาณิชย์ ผู้อำนวยการโรงเรียนไชยวานวิทยา บอกว่า เด็กได้เรียนรู้จากการนำวัสดุที่มีในท้องถิ่นที่เกิดจากภูมิปัญญาชาวบ้าน โดยการนำมาผสมกับการเรียนการสอน ในยุคปฏิรูปการเรียนรู้ จะสามารถส่งเสริมให้เด็กเกิดความคิดสร้างสรรค์ รู้จักประดิษฐ์ผลิตภัณฑ์แบบใหม่ๆ รู้จักการปรับปรุงแก้ไขให้ดียิ่งขึ้น รวมทั้งยังสร้างเสริมให้เด็กมีรายได้เพิ่มขึ้นด้วย (มติชนรายวัน ศุกร์ที่ 5 มีนาคม 2547 หน้า 23) ‘ไอเมด’ เตรียมผลิตชุดตรวจไวรัสไข้หวัดนก นายบุญชัย พิรุณ กรรมการบริหารบริษัทไอเมด ลาบอราทอรี่ จำกัด ซึ่งดำเนินธุรกิจผลิตและจำหน่ายอุปกรณ์วินิจฉัยทางการแพทย์ เผยว่าบริษัทมีความร่วมมือกับไบแนกซ์ อิงค์ (Binax Inc.) บริษัทด้านเวชภัณฑ์ในสหรัฐอเมริกาซึ่งเชี่ยวชาญในด้านผลิตชุดทดสอบโรคระบบทางเดินหายใจนำเข้าชุดตรวจโรคไข้หวัดสายพันธุ์เอที่ให้ผลอย่างรวดเร็วมาจำหน่ายในประเทศไทยเพื่อช่วยการวินิจฉัยคนไข้ที่ต้องสงสัยว่าเป็นไข้หวัดนก ซึ่งชุดตรวจมีลักษณะเป็นชุดตรวจเร่งด่วนใช้หลักการอินนูโนโครมาโตกราฟฟี สามารถบอกได้ว่าผู้ป่วยติดเชื้อไวรัสไข้หวัดสายพันธุ์เอหรือไม่ภายใน 5-10 นาที การตรวจทำได้โดยนำน้ำในช่องโพรงจมูกหรือเยื่อบุหลังโพรงจมูกละลายในชุดน้ำยาทดสอบ จากนั้นนำไปหยดลงบนแผ่นทดสอบและอ่านผลด้วยตาเปล่า หากพบเชื้อไข้หวัดเอ จะแสดงผลเป็นแถบซ้อนกันสองแถบ โดยชุดตรวจมีความไวร้อยละ 80 และความจำเพาะร้อยละ 94 เหมาะสำหรับโรงพยาบาลและคลีนิกที่มีแพทย์ผู้ชำนาญการเก็บตัวอย่างน้ำจากโพรงจมูกได้อยย่างถูกต้อง ขณะนี้กระทรวงสาธารณสุขอยู่ระหว่างการจัดทำคู่มือแนะนำวิธีที่ถูกต้องในการเก็บตัวอย่างน้ำจากโพรงจมูกเพื่อแจกแพทย์ทั่วๆไป (กรุงเทพธุรกิจ จันทร์ที่ 1 มีนาคม 2547 หน้า 9) อินเดียเปิดบ้านรับจ้างทำวิจัยไบโอเทค วิพิน การ์ก หัวหน้าฝ่ายบริหารบริษัททรานไซม์ ธุรกิจด้านเทคโนโลยีชีวภาพในสหรัฐเปิดเผยว่าบริษัทอยู่ระหว่างการมองหาธุรกิจร่วมทุนในอินเดีย โดยพิจารณาจากค่าจ้างแรงงานที่ต่ำ ระดับการศึกษาที่เข้มข้นของประชากรและวัฒนธรรมการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ แต่ทั้งนี้ยังต้องอาศัยความเข้มงวดของการบังคับใช้กฏหมายด้านการป้องกันทรัพย์สินทางปัญญาและการสร้างความมั่นใจให้กับนักลงทุนในเรื่องสิทธิส่วนบุคคลด้วย ด้านไมค์ อัลเดอร์ หุ้นส่วนฝ่ายจัดการของบริษัทเรดมอนต์ เวนเจอร์ พาร์ทเนอร์ กล่าวว่า การพัฒนาผลิตภัณฑ์ตัวใหม่ของสหรัฐหากสามารถโอนถ่ายงานวิจัยและการทดลองทางคลีนิกบางรายการให้อินเดียจะลดต้นทุนได้ 50-60 % ด้วยเหตุนี้บางบริษัทจึงเริ่มหันมาว่าจ้างอินเดียแม้จะยังมีช่องโหว่ของกฏหมายด้านทรัพย์สินทางปัญญาก็ตาม (กรุงเทพธุรกิจ จันทร์ที่ 1 มีนาคม 2547 หน้า 9) มข.พัฒนาโปรแกรมกระตุ้นไฟฟ้าด้วยคอมพ์ รศ.ดร.สมชาย รัตนทองคำ อาจารย์ประจำภาควิชากายภาพบำบัด คณะเทคนิคการแพทย์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น ในฐานะที่ปรึกษาทีมพัฒนาโปรแกรมเปิดเผยว่าการใช้โปรแกรมคอมพิวเตอร์กระตุ้นกล้ามเนื้อและเส้นประสาท สามารถสร้างและควบคุมจังหวะการปล่อยสัญญาณไฟฟ้าที่เหมาะสมสำหรับการกระตุ้นให้กับผู้ป่วยที่เข้าทำกายภาพบำบัดได้โดยสามารถปรับค่าความแรงหรือความเข้ม ช่วงกระตุ้น ช่วงพัก ความถี่ ลักษณะคลื่นไฟฟ้าและจังหวะการปล่อยสัญญาณได้ ทีมพัฒนายังออกแบบโปรแกรมให้มีรายการสำหรับบันทึกประวัติผู้ป่วย ประวัติการรักษา และผู้ป่วยยังสามารถควบคุมได้ด้วยตนเอง การวิจัยดังกล่าวแบ่งออกเป็น 2 ส่วนช่วงแรกเป็นการศึกษาเปรียบเทียบค่าสัญญาณไฟฟ้าต่างๆ ได้แก่ รูปคลื่นไฟฟ้าช่วงพักและช่วงกระตุ้นของกระแสไฟฟ้าที่สร้างจากเครื่องคอมพิวเตอร์และเครื่องกระตุ้นกล้ามเนื้อโดยใช้สัญญาณไฟฟ้าและการทดสอบคุณสมบัติทางไฟฟ้า-เคมี ส่วนที่สองเป็นการศึกษาการนำไปใช้งานโดยการกระตุ้นที่จุดมอเตอร์ของกล้ามเนื้อแขนและใบหน้ากับคนปกติเปรียบเทียบค่ากะแสไฟฟ้าที่สร้างจากโปรแกรมคอมพิวเตอร์และเครื่องกระตุ้นกล้ามเนื้อ (กรุงเทพธุรกิจ จันทร์ที่ 1 มีนาคม 2547 หน้า 9) หนุนนักวิจัยตั้งบริษัทผลิตสินค้าแห่งอนาคต นายรวัจน์ เอื้ออภิญญกุล เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (วท.) เปิดเผยว่าวท.เตรียมเปิดตัว “อุทยานเทคโนโลยี” หรือเทคโนโลยีพาร์ค บริเวณเทคโนธานี ถ.รังสิต-นครนายก คลองห้า จ.ปทุมธานี พร้อมระบบโครงสร้างพื้นฐาน ไม่มีการก่อสร้างสิ่งปลูกสร้างใหม่ขึ้นมา แต่จะมีบุคลากรเพิ่มเติมและทำงานนอกเวลาราชการ โดยยึดแนวคิดการให้บริการถึงเที่ยงคืนเพื่อยืดเวลาการทำงานระหว่างซีกโลกเอเชียกับทวีปอื่น เทคโนโลยีพาร์คจะถ่ายทอดความรู้แก่เอกชน ทั้งด้านการตลาด ดีไซน์ รวมถึงการส่งเสริมการลงทุนเพื่อให้สามารถพัฒนาธุรกิจของตนเองได้โดยอาศัยหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาทำงานร่วมกัน ซึ่งธุรกิจเอกชนจะได้รับการถ่ายทอดเทคโนโลยีที่เหมาะสมกับการทำธุรกิจของตนเอง ขณะเดียวกันนั้นจะมีการปรับแผนการทำงานของสถาบันมาตรวิทยาให้เข้ามาสนับสนุนการทำงานในด้านของผู้ตรวจสอบเพื่อสนับสนุนมาตรฐานอุตสาหกรรมเพื่อการตลาดและการส่งออก (กรุงเทพธุรกิจ อังคารที่ 2 มีนาคม 2547 หน้า 7) พบโปรตีนยับยั้งไวรัส กุญแจสู่ยารักษาโรคเอดส์ นักวิจัยสหรัฐเปิดเผยผลการวิจัยซึ่งได้รับการเผยแพร่ในวารสารเนเจอร์ว่าสามารถระบุตัวโปรตีนในลิงที่มีคุณสมบัติสกัดกั้นการทำสำเนาเชื้อไวรัสเอชไอวีซึ่งถือเป็นกุญแจสำคัญในการยับยั้งการแพร่ระบาดของโรคเอดส์ระหว่างมนุษย์ การวิจัยดังกล่าวมีขึ้นที่สถาบันโรคมะเร็งดานา-ฟาร์เบอร์ โดยนายโจเซฟ โซโดรสกี เปิดเผยว่าปกติแล้วไวรัสจะแพร่ระบาดทั่วร่างกายด้วยการเข้าสู่เซลล์และจะทำการสำเนาตัวเองใหม่แต่ลิงมีโปรตีนที่รียกว่า “ทีอาร์ไอเอ็มไฟว์-อัลฟ่า” ซึ่งสามารถยับยั้งก่อนที่ไวรัสจะถอดเปลือกหุ้มตัวมันเองหลังจากเข้าสู่เซลล์แล้ว อย่างไรก็ตามมนุษย์มีโปรตีนนี้เช่นเดียวกันแต่ไม่สามารถรับมือกับเชื้อเอชไอวีได้ ทำให้นักวิจัยเชื่อว่าจะสามารถพัฒนาตัวยารักษาที่มีประสิทธิภาพดีกว่าปัจจุบัน (กรุงเทพธุรกิจ อังคารที่ 2 มีนาคม 2547 หน้า 7) ถอดรหัสพันธุกรรมไก่ศึกษายีนติดหวัดนก ดร.ริชาร์ด วิลสัน นักวิจัยมหาวิทยาลัยแพทย์วอชิงตัน มลรัฐเซนต์หลุยส์ สหรัฐและเป็นหัวหน้าทีมวิจัยได้ประกาศความสำเร็จในการถอดรหัสพันธุกรรมไก่ เรด จังเกิล เฟาล (Red Jungle Fowl) หรือชื่อทางวิทยาศาสตร์ว่า Gallus gallus ซึ่งเป็นบรรพบุรุษของไก่บ้านโดยมีสารพันธุกรรมหรือดีเอนเอจำนวน 1 พันล้านคู่เบสและนับเป็นสัตว์ปีกประเภทแรกที่ถูกถอดรหัสพันธุกรรม ซึ่งข้อมูลรหัสพันธุกรรมของไก่ชุดแรกได้ถูกนำไปใส่ในฐานข้อมูลสาธารณะที่เรียกว่าธนาคารข้อมูลยีนหรือยีน แบงค์ (www.ncbi.nih.gov/Genbank) ซึ่งรับหน้าที่ในการแจกจ่ายข้อมูลรหัสพันธุกรรมให้กับเวบไซต์ของหน่วยงานที่ดูแลด้านข้อมูลอนูชีววิทยาของยุโรปที่เรียกว่าอีเอ็มบีแอล แบงก์ (www.ebi.ac.uk/embl/index.html) และธนาคารข้อมูลของญี่ปุ่น (www.ddbj.nig.ac.jp) (กรุงเทพธุรกิจ พุธที่ 3 มีนาคม 2547 หน้า 8) เครื่องบดสับสารพัดประโยชน์ เทคนิคเชียงใหม่เดินหน้าถ่ายทอดเทคโนโลยี นายจิรวัตร คงแก้ว อาจารย์แผนกช่างกล โรงงาน วิทยาลัยเทคนิคเชียงใหม่ เปิดตัว “เครื่องบดสับ Grapple Mill และ Hammer Mill ” ซึ่งเป็นการคิดค้นและถ่ายทอดเทคโนโลยี เพื่อช่วยลดมลภาวะให้กับหมู่บ้านที่ใช้ไม้ในการผลิตสินค้าหนึ่งตำบลหนึ่งผลิตภัณฑ์ซึ่งนำเศษไม้ที่เหลือไปเผาก่อให้เกิดมลภาวะทางอากาศ โดยได้พัฒนา “Grapple Mill” เครื่องบดวัสดุอย่างหยาบขึ้นซึ่งสามารถบดวัสดุได้หลายชนิด เช่น ไม้ดิบ ไม้แห้ง พลาสติก แก้ว เป็นต้น จุดเด่นของเครื่องคือสามารถบดเหล็กได้เพราะมีใบมีดตัดถึง 27 ใบ มีความแข็งเทียบเท่าเหล็กกล้า วางใบมีดแบบสลับเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการบดสิ่งของ นอกจากนี้ยังมีเพลาประกอบชุดใบตัดซึ่งทำจากเหล็กชุบแข็ง ส่วนอุปกรณ์ “Hammer Mill” เป็นเครื่องบดละเอียดซึ่งสามารถบดได้ละเอียดขนาด 3-5 มิลลิเมตร ตัวเครื่องประกอบด้วยชุดใบตีคล้ายๆค้อน โดยรับวัสดุที่มาจาก Grapple Mill วัสดุที่ได้ขนาดจะตกผ่านตะแกรงร่อนก่อนถูกดูดเข้าไซโลเพื่อร่อนขนาดที่พอเหมาะตกมายังถังรองที่แยกเป็น 2 ส่วน โดยขนาดที่บดได้นี้เหมาะสำหรับการนำไปบดเป็นไม้เพื่อเพาะเห็ดและทำปุ๋ยและยังเหมาะกับการนำไปผลิตเป็นแผ่นบอร์ดใช้ทำกรอบรูปได้อีกด้วย (กรุงเทพธุรกิจ พุธที่ 3 มีนาคม 2547 หน้า 8) จุฬาฯสังเคราะห์สารกันยูวี ‘ยูวี’ ปกป้องผิวจากแสงแดดคุณภาพสูง รศ.ดร.ศุภศร วานิชเวชารุ่งเรือง ภาควิชาเคมี คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เปิดเผยถึงความสำเร็จในการวิจัยค้นพบสารกรองรังสีอัลตราไวโอเลตตัวใหม่ที่ใช้เป็นส่วนผสมในเครื่องสำอางหรือครีมกันแดด โดยคุณสมบัติพิเศษคือ สามารถปกป้องผิวหนังได้นานขึ้นและสามารถกรองได้ทั้งรังสียูวีเอและยูวีบี ซึ่งหลักการทำงานของสารกรองรังสียูวีใหม่ คือสารจะดูดกลืนแสงเข้ามาแล้วจะมีระบบที่นำพลังงานแสงออกจากตัว คือเปลี่ยนรังสียูวีที่มีพลังงานสูงเป็นแสงที่มีพลังงานต่ำ เช่นรังสีอินฟราเรด นอกจากนี้จากการทดสอบกับอาสาสมัคร 20 คน พบว่าไม่มีอาการแพ้เกิดขึ้นเลยและจะวิจัยทดสอบความปลอดภัยในระยะยาวในสัตว์และมนุษย์เพื่อศึกษาความเป็นไปได้ของการนำมาใช้จริง (กรุงเทพธุรกิจ พฤหัสบดีที่ 4 มีนาคม 2547 หน้า 7) สกัดสเต็มเซลล์เด็กหลอดแก้วเกาหลีขยับจดลิขสิทธิ์ผลงาน นักวิจัยบริษัทมาเรีย ไบโอเทค ประเทศเกาหลีประสบผลสำเร็จในการสกัดเอาเซลล์ต้นตอตัวอ่อนของมนุษย์หรือเอ็มบริโอนิค สเต็มเซลล์ ออกจากตัวอ่อนที่เหลือจากการทำเด็กหลอดแก้วและนำมาแช่แข็งไว้ ซึ่งพบว่าเทคนิคใหม่นี้สามารถสกัดสเต็มเซลล์ได้จำนวน 7 สเต็มเซลล์จากตัวอ่อนทั้งสิ้น 20 ตัวอ่อน เซลล์ต้นตอจากตัวอ่อนของมนุษย์สามารถนำไปใช้หรือพัฒนาให้เป็นเซลล์อวัยวะในร่างกายมนุษย์ได้อีกมากมายหลายชนิด ไม่ว่าจะเป็นเซลล์ประสาท หรือเซลล์ไต หัวใจ ตับอ่อนและเซลล์ผิวหนัง ซึ่งเซลล์เหล่านี้เป็นหนทางของการนำไปเปลี่ยนถ่ายให้กับผู้ป่วยที่เซลล์เสียหายได้ (กรุงเทพธุรกิจ พฤหัสบดีที่ 4 มีนาคม 2547 หน้า 7) ซอฟต์แวร์ตรวจเบาหวานขึ้นตา เนคเทคช่วยจักษุแพทย์คัดกรอง ดร.จันทร์จิรา สินทนะโยธิน หัวหน้าทีมวิจัยพัฒนาซอฟต์แวร์ศูนย์อิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์ เปิดเผยถึงความสำเร็จในการพัฒนาซอฟต์แวร์ที่ช่วยให้จักษุแพทย์สามารถตรวจอาการเบาหวานขึ้นจอประสาทตาในคนไข้ที่เป็นโรคเบาหวานได้แต่เนิ่นๆ เพื่อทำการวินิจฉัยในระยะต่อไปซึ่งซอฟต์แวร์ตัวนี้จะช่วยคัดกรองความผิดปกติของจอประสาทตาโดยตรวจสอบการเปลี่ยนแปลงไปของจอประสาทตาตามเงื่อนไขของโรคจอประสาทตาผิดปกติจากโรคเบาหวานโดยอาศัยเทคนิคการประมวลผลภาพเพื่อการวิเคราะห์ การทำงานจะเริ่มจากการรับภาพจากการถ่ายภาพจอประสาทตาของแพทย์หรือพยาบาลโดยสามารถรับภาพจากกล้องถ่ายจอประสาทตาแบบดิจิทัล ภาพประเภท TIFF และ JPEC หลังจากรับภาพซอฟต์แวร์เริ่มประมวลผลโดยทำให้ภาพชัดเจนขึ้นก่อนหาส่วนประกอบสำคัญของจอประสาทตา แล้วหาบริเวณที่ผิดปกติแล้วระบุว่าเป็นความผิดปกติหรือไม่ หากภาพไม่ชัดเจนซอฟต์แวร์จะให้ผลว่าวินิจฉัยไม่ได้ซึ่งต้องส่งต่อไปยังจักษุแพทย์เพื่อทำการวิเคราะห์อีกครั้ง ส่วนคนไข้ที่ไม่ผิดปกติก็ไม่ต้องไปพบแพทย์ ทำให้ประหยัดเวลาทั้งแพทย์และคนไข้ (กรุงเทพธุรกิจ ศุกร์ที่ 5 มีนาคม 2547 หน้า 6) หนุนใช้กากอ้อยผลิตไฟฟ้าพลังสะอาด ดาราณี แจ้งหทัยกุล นักวิจัยจากสถาบันบัณฑิตวิทยาลัยร่วมด้านพลังงานและสิ่งแวดล้อม (JGSEE) มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี ได้ดำเนินการวิจัยประเมินผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมของการผลิตกระแสไฟฟ้าจากกากอ้อย โดยเก็บข้อมูลเกี่ยวกับระบบการผลิตกระแสไฟฟ้าจากโรงงานน้ำตาลราชสีมา ได้แก่ปริมาณการใช้กากอ้อยผลิตกระแสไฟฟ้า ปริมาณกระแสไฟฟ้าที่ได้ รวมถึงปริมาณไอน้ำและก๊าซที่เกิดจากการเผาไหม้ที่ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม จากนั้นนำไปเปรียบเทียบกับก๊าซพิษที่เกิดจากโรงไฟฟ้าที่ใช้เชื้อเพลิงฟอสซิล จากผลการวิจัยพบว่าโรงงานน้ำตาลมีเครื่องผลิตกระแสไฟฟ้าที่ใช้กากอ้อยเป็นวัตถุดิบในการเผาเพื่อนำความร้อนไปหมุนกังหันผลิตกระแสไฟฟ้าใช้ภายในโรงงานแต่ปัญหาคือกากอ้อยมีความชื้นค่อนข้างสูงทำให้เกิดการเผาไหม้ที่ไม่สมบูรณ์ก่อให้เกิดก๊าซคาร์บอนมอนอกไซด์ ดังนั้นโรงงานจึงได้จัดสร้างระบบนำไอน้ำที่ได้จากการเผาไม้ที่มีความร้อนสูงถึง 200 องศาเซลเซียส อบลดความชื้นให้กากอ้อยก่อนนำเข้าผลิตกระแสไฟฟ้า ทำให้การเผาไหม้ดีขึ้นและผลิตกระแสไฟฟ้าได้ (กรุงเทพธุรกิจ ศุกร์ที่ 5 มีนาคม 2547 หน้า 6 ) นักประดิษฐ์ชาวเซิร์บหัวใสออกแบบหุ่นยนต์ไล่ล่าหมาป่า นักประดิษฐ์ชาวเซิร์บ วัย 43 ปี อ้างว่าได้ออกแบบประดิษฐ์หุ่นยนต์ขนาดจิ๋วสำหรับใช้ไล่ล่า หมาป่าได้ดีกว่าใช้หมาล่าเนื้อ โคราน คอสติก จากเมืองวินคา หวังว่าจะทำตลาดหุ่นยนต์ชนิดนี้ในประเทศอังกฤษ โดยเขาคุย อวดว่า หุ่นยนต์ล่าหมาป่าของเขานั้นมีขนาดเล็กเพียงพอที่จะไล่ล่าติดตามหมาป่าลงไปได้ถึงถ้ำ ที่หลบซ่อนเลยทีเดียว มันมีน้ำหนักเพียง 1.4 กก. เคลื่อนที่ได้ด้วยล้อตีนตะขาบ มีกล้องถ่ายภาพ คุณภาพสูงติดตั้งอยู่ พร้อมด้วยตัวเซ็นเซอร์ใช้ไล่ล่าหมาป่า และบอกทางให้นักล่าไปยังถ้ำกำบัง ของมัน โดยหุ่นยนต์จะส่งภาพไปยังหน้าจอที่พรานนักล่า เพื่อให้สามารถดูได้ว่า หุ่นยนต์กำลัง ไล่ล่าหมาป่าอยู่ (ไทยรัฐ มีนาคม 2547 หน้า 7 ) ประดิษฐ์วงจรสำเร็จรูปรุ่นอนาคต เพิ่มอภินิหารโทรศัพท์มือถือยิ่งขึ้น บริษัทเท็กซัส อินสตรูเมนต์ แห่งดัลลัส ของสหรัฐฯ ประดิษฐ์วงจรสำเร็จของโทรศัพท์ มือถือชั้นยอดของโลก เปิดเผยว่า วงจรนั้นจะทำให้ผู้ใช้ โทรศัพท์มือถือ สามารถจะบันทึกและชมวีดิโอ ถ่ายรูปได้คมชัดขึ้น และเล่นวีดิโอเกม อัน ว่องไวได้ หรือกล่าวได้ว่า ได้ทำให้โทรศัพท์มือถือกลายเป็นกล้องถ่ายวีดิโอ รับชมโทรทัศน์ และกล้องถ่ายภาพระดับมืออาชีพขึ้น โดยที่ภาพถ่ายจะมีความคมชัดไม่แพ้กล้องถ่ายภาพขนาด 4 ล้านพิกเซล เจ้าของยังสามารถจะเอาไปต่อเข้ากับเครื่องรับโทรทัศน์ที่บ้าน เพื่อชมภาพที่ถ่ายวีดิโอ มาสดๆ ร้อนๆ ทั้งมันยังสามารถอัดสัญญาณโทรทัศน์ทั้งแบบอนาล็อก หรือดิจิตอลเข้าไว้ในตัวได้อีกด้วย (ไทยรัฐ พุธที่ 10 มีนาม 2547 หน้า 7) พบสมุนไพรรักษาโรคสมองพิการสรรพคุณบำรุงสมาธิและความจำ ศาสตราจารย์อีเลน เปอรี นักวิทยาศาสตร์ แห่งมหาวิทยาลัยนิวคาสเซิลทางภาคเหนือของอังกฤษ ได้รายงานใน ที่ประชุมทางการแพทย์ว่า สารสกัดจากโกฐจุฬาและขี้ผึ้งมะนาว ได้ แสดงให้เห็นในการศึกษา ทดลองว่ามีสรรพคุณดีในการบำบัดรักษาผู้สูงอายุที่เป็นโรคสมองฝ่อ และสมองพิการอื่นๆ อย่างมีความหวัง (ไทยรัฐ พุธที่ 10 มีนาม 2547 หน้า 7) ประดิษฐ์ชุดมนุษย์ "ซุปเปอร์แมน" ใส่แล้วมีพละกำลังเหนือธรรมดา คณะนักวิจัยหุ่นยนต์ของมหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนีย ของสหรัฐฯ ได้ ประดิษฐ์ชุดซุปเปอร์แมน เมื่อสวมประกอบเข้ากับร่างกายแล้ว จะทำให้กล้ามเนื้อมีพละกำลังเหนือมนุษย์ ศาสตราจารย์โฮมายู คาเซรูนี ศาสตราจารย์วิชาวิศวกรรมกลศาสตร์หัวหน้าคณะผู้ประดิษฐ์ กล่าวว่า "เราพยายามสร้างขึ้นมาเพื่อใช้ประกอบเข้ากับร่างกายคนได้อย่างเหมาะเจาะ ผู้ใช้จะสามารถเคลื่อนไหวได้อย่างคล่องแคล่วทะมัดทะแมง จะเดินเหิน ก้ม นั่งกับพื้นและโยกตัวไปมาได้ โดยไม่เก้งก้างเลย สามารถจะแบกหามสัมภาระหนักๆ เดินข้ามสิ่งกีดขวางต่างๆได้อย่างสะดวก เป็นหนทางไกลๆ" ตัวชุดประกอบด้วยเฝือกขาที่ทำด้วยโลหะ และโครงโลหะลักษณะเหมือนกับเครื่องหลัง สำหรับบรรทุกของกับเครื่องยนต์ ติดตั้งเครื่องตรวจวัดและมอเตอร์ขนาดเล็กตามส่วนต่างๆ ไม่ต่ำกว่า 40 ตัว ขณะนี้นักวิทยาศาสตร์ กำลังทดสอบชุดต้นแบบอยู่ เพื่อจะนำออกเปิดเผยโฉมในเวลาอีกไม่ช้านี้ (ไทยรัฐ พฤหัสบดีที่ 11 มีนาคม 2547 หน้า 7) จับฝึกทำโยคะด้วยการหัวเราะเป็นโอสถรักษาอัมพาตขนานเอก นักวิทยาศาสตร์ของมหาวิทยาลัยกราซในออสเตรีย ได้พบในการศึกษาวิจัยกับคนไข้ 30 คน ว่า การหัวเราะมีอิทธิพลทำให้ความดันโลหิตของคนไข้ลดต่ำลงได้ เมื่อลองแบ่งคนไข้ออกเป็น 2 พวก พวกหนึ่งให้ฝึกซ้อม "การทำโยคะด้วยการหัวเราะ" และออกกำลัง ส่วนอีกพวกให้ฝึกออกกำลังอย่างเดียว เป็นเวลานานอยู่เดือนครึ่ง นักจิตวิทยาอิโลนา ปาปูเสก หัวหน้าคณะวิจัย กล่าวว่า "นับว่าเป็นการศึกษาครั้งแรกที่มีผลให้รู้ว่าการหัวเราะมีอิทธิพลกับความดันโลหิตของคนเรา" และเผยผลของการศึกษาว่า "ในขณะที่พวกที่ออกกำลังอย่างเดียว ยังคงมีระดับความดันโลหิต อยู่คงที่ แต่ในพวกที่ผ่านการฝึกให้หัวเราะได้ลดต่ำลงอย่างสังเกตได้" พร้อมกับกล่าวต่อไปว่า "เพราะเหตุที่ลองให้ทั้งสองพวกต่างก็ออกกำลังเหมือนกัน เราจึงอ้างได้ว่า เหตุที่ระดับความดันโลหิตลดต่ำลงได้ ก็ด้วยการฝึกให้หัวเราะนั่นเอง นอกจากนั้นยังปรากฏว่า คนไข้ทั้งสองพวกต่างก็มีอารมณ์ชื่นบานขึ้นด้วย เพียงแต่ว่า ในพวกที่ฝึกการหัวเราะพากันมีอารมณ์ดีมากกว่า พวกเขายังเล่าว่า รู้สึกกระฉับกระเฉง และสบายอกสบายใจยิ่งขึ้นด้วย" (ไทยรัฐ ศุกร์ที่12 มีนาคม 2547 หน้า 7) ปุ๋ยอัดเม็ด จากเปลือกกล้วยไอเดียแจ๋วชาวบางกระทุ่ม การทำปุ๋ยหมักอัดเม็ดจากเปลือกกล้วย ของ กลุ่มส่งเสริมปุ๋ยหมัก บ้านคลองกระล่อน หมู่ที่ 2 ต.บางกระทุ่ม อ.บางกระทุ่ม จ. พิษณุโลก ได้รวมตัวกันเป็นกลุ่มผลิตปุ๋ยหมักจากเปลือกกล้วยมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2538 เนื่องจากพื้นที่ของ อ.บางกระ ทุ่มนี้มีประชาชนนิยมปลูกต้นกล้วยและแปรรูปเป็นกล้วยตาก ทำให้เกษตรกรหาวิธีทางนำเปลือกกล้วยที่เหลือให้เป็นสิ่งของที่มีคุณค่ามากขึ้น ทางสำนัก งานเกษตร อ.บางกระทุ่ม และอีกหลายหน่วยงานได้หาแนวทางพัฒนาเปลือกกล้วยเหล่านี้ให้เป็นปุ๋ยหมัก เพื่อลดต้ ทุนการใช้สารเคมี ขั้นตอนการผลิตปุ๋ยหมักจากเปลือกกล้วยนั้น เพียงนำเปลือกกล้วยมาทำการหมัก โดยแบ่งเปลือกกล้วยและมูลสัตว์หรือตะกอนอ้อย ยูเรีย และแบ่งออกเป็น 3 ส่วนเท่า ๆ กัน มาวางเป็นชั้น ๆ ทิ้งไว้ประมาณ 45 วัน จากนั้นก็นำปุ๋ยหมัก ไปตากแห้ง จนแห้งสนิท แล้วนำมาผสมกับมูลสัตว์และปุ๋ยเคมี 3 ชนิด ก่อนนำมาอัดเม็ด ที่เครื่องมัดเม็ด โดยใช้อัตราส่วนผสม ปุ๋ยหมักจากเปลือกกล้วย 80 กก. มูลสัตว์ 10 กก. ปุ๋ยเคมีไดแอมโนเนียมฟอสเฟต 80 กก. โพแทสเซียมคลอไรด์ 3 กก. และยูเรีย 10 กก. เมื่อเข้าเครื่องอัดเม็ดแล้ว จะต้องนำไปตากแดดอีกครั้ง สามารถผลิตได้ถึงวันละประมาณ 1 ตัน ราคาขายกระสอบปุ๋ยละ 135 บาทเท่านั้น (เดลินิวส์ ศุกร์ที่ 12 มีนาคม 2547 ) เผยโฉม "มนุษย์" แห่งอนาคตกลายพันธุ์หัวโตตัวลีบ รศ.ดร.ชัยวัฒน์ คุประตกุล กรรมการบริหารสภาวิจัยแห่งชาติ กล่าวระหว่างการอภิปรายในเวทีสาธารณะเรื่อง จริยธรรมกับการวิจัยวิทยาศาสตร์การแพทย์สมัยใหม่ ว่า โฉมหน้ามนุษย์ในอนาคต อาจจะมีลักษณะหัวโต ตัวลีบ ผิวหนังปุ่มป้ำเป็นท้าวแสนปม และอาจจะกลายพันธุ์เป็นอมนุษย์ หากยังคงมีการทำลายสิ่งแวดล้อมและเปลี่ยนแปลงธรรมชาติ นอกจากนี้ในอนาคตเราอาจจะพัฒนาโครงสร้างสมองของมนุษย์ด้วยยาหรือคอมพิวเตอร์ เพื่อให้สมองสามารถทำงานได้ ตามประสิทธิภาพที่มนุษย์ต้องการ เช่น การใส่ชิพ เข้าไปในสมองมนุษย์ จึงไม่น่าแปลกที่ในอนาคตสมองมนุษย์จะโตกว่าปัจจุบันมาก ด้านนายนันทน อินทนนท์ นักกฎหมายจากศาลฎีกา กล่าวว่า จริยธรรมด้านการวิจัยที่เกี่ยวข้องกับมนุษย์มีประเด็นเรื่องกฎหมายเกี่ยวข้องหลายเรื่อง อาทิ การทำแท้ง การโคลนนิ่งมนุษย์ รวมไปถึงการวิจัยที่ต้องใช้เนื้อเยื่อของมนุษย์ จึงมีการตั้งคำถามกันว่า เมื่องานวิจัยประสบความสำเร็จ พอถึงขั้นตอนการจดสิทธิบัตร ควรจะต้องขอความยินยอม พร้อมทั้งให้รายละเอียดของผลประโยชน์ทางธุรกิจแก่ผู้ถูกวิจัยด้วย นอกจากนี้ ควรมีบทบัญญัติให้ชัดเจนถึงการวิจัยสเต็มเซลล์ว่า เรื่องใดทำได้หรือไม่ได้ เพราะที่ผ่านมามีแต่ขอบเขตงานวิจัยที่ไม่ควรได้รับการสนับสนุน (ไทยรัฐ เสาร์ที่ 13 มีนาคม 2547 หน้า ชูกาแฟเครื่องดื่มบำรุงสุขภาพถนอมหัวใจและตับแก้ปวดศีรษะ นักวิทยาศาสตร์การอาหารของอิตาลี ดร.เชียรา ทรอมเบตติ ซึ่งเผยว่า ตัวเองเกลียดกาแฟ แต่ก็ต้องยอมรับในคุณประโยชน์ของมัน ด้วยมีหลักฐานทางวิทยาศาสตร์อยู่ จึงต้องยอมบอกว่า กาแฟมีคุณประโยชน์ จึงอยากแนะนำ ให้ดื่มกาแฟเอสเปรสโซ อันเป็นกาแฟรสเข้มข้นที่ชงให้ ไอน้ำอัดผ่านผงกาแฟเสีย มากกว่ากาแฟสำเร็จรูปธรรมดาด้วยซ้ำ ดร.เชียรา กล่าวว่า ในกาแฟนั้นมีกรดแทนนินและสารพวกตัวล้างพิษอยู่ ซึ่งช่วยบำรุงหัวใจ และหลอดเลือด นอกจากนั้นยังเป็นคุณแก่ตับ ช่วยป้องกันตับแข็งและนิ่ว ทั้งยังช่วย แก้ปวดศีรษะ บรรเทาอาการหืดจับ ช่วยให้หัวใจสูบฉีดเลือดลมได้ดี แต่ก็ยอมรับว่า มันไม่ได้เป็นคุณกับทุกคน เพราะมันก็มีโทษอยู่เหมือนกัน เช่น หากดื่มมากเกินไป อาจทำให้ประสาทเสีย หัวใจเต้นแรง และมือไม้สั่น โดยเฉพาะสตรีมีครรภ์ คนไข้โรคหัวใจ และผู้ที่เป็นแผลในกระเพาะอาหารไม่ควรจะดื่ม แต่ในรายงานการศึกษาเรื่องกาแฟอีกเรื่องหนึ่งของฟินแลนด์ ชาติที่มีคนในชาติ เป็นคอกาแฟมากที่สุดในโลก กล่าวว่า กาแฟสามารถช่วยป้องกันโรค เบาหวานได้ โดยที่ยังไม่อาจทราบสาเหตุ ได้พบว่าหญิงคอกาแฟที่ดื่มกาแฟประจำวันละ 3-4 ถ้วย จะห่างจากโรคได้ 29% ยิ่งถ้าหากดื่มมากได้ถึงวันละไม่ต่ำกว่า 10 ถ้วย จะป้องกันโรค ไม่ให้เข้าใกล้ตัวได้เกือบ 80% ส่วนผู้ชายจะหนีไกลได้ 27% และถ้าดื่ม มากถึงวันละ 10 ถ้วย จะห่างจากโรคได้ 55% (ไทยรัฐ เสาร์ที่ 13 มีนาคม 2547 หน้า 7) จุฬาวิจัย “เพรียงหัวหอมออกฤทธิ์ต้านมะเร็งร้าย” ดร.คณิต สุวรรณบริรักษ์ จากหน่วยปฏิบัติการวิจัยเคมีสารผลิตภัณฑ์ธรรมชาติที่มีฤทธิ์ทางชีวภาพทะเล ภาควิชาเภสัชเวท คณะเภสัชศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย หัวหน้าคณะผู้วิจัย โดยความร่วมมือจากสถาบันและพัฒนาทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง จ.ภูเก็ต และ Meiji Pharmaceutical University ประเทศญี่ปุ่น ศึกษาวิจัยวัตถุสารที่มีฤทธิ์ต้านมะเร็ง จาก “เพรียงหัวหอม” ชื่อ Ecteinascidia Thurstoni นำมาสกัดได้สารบริสุทธิ์ชื่อ Ecteinascidin-743 หรือ ET-743 เพรียงหัวหอมชนิดนี้สามารถผลิตสารเคมีต้านมะเร็งได้ในปริมารสูงกว่าชนิดแรกที่เคยค้นพบ หากสามารถเพาะเลี้ยงและขยายพันธุ์ได้ก็จะพัฒนาในเชิงพาณิชย์ นอกจากนี้นักวิจัยยังวิจัยหาสารต้านมะเร็งจากสิ่งมีชีวิตทะเลอื่น ๆ เช่น ฟองน้ำทะเล (สยามรัฐ จันทร์ที่ 8 มีนาคม 2547 หน้า 7) วิจัยจีโนมสกัดแพ้ยา ดร.วสันต์ จันทราทิตย์ จากหน่วยไวรัสวิทยาและจุลชีววิทยาโมเลกุล ภาควิชาพยาธิวิทยา คณะแพทยศาสตร์รามาธิบดี กล่าวถึงความคืบหน้าในการจัดทำต้นแบบพันธุกรรมคนไทย หรือโครงการสนิปส์ ว่า ได้คัดเลือกคนไทยจำนวน 32 คน ที่ได้ศึกษารหัสพันธุกรรมเพื่อเป้นต้นแบบสนิปส์เรียบร้อยแล้ว ขณะนี้ได้เตรียมโครงการตรวจจีโนมของมนุษย์ก่อนการให้ยา เพราะพบว่ามีคนเสียชีวิตจากการให้ยาไม่ถูกกับโรคเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะโรคหัวใจ โรงมะเร็ง จะนำร่องที่โรงพยาบาลรามาธิบดี เพราะมีฐานข้อมูลคนไข้กลุ่มนี้อยู่แล้ว วิธีการตรวจจีโนม จะใช้วิธีเจาะเลือด เพียงครั้งเดียวเพื่อเก็บข้อมูลและเป็นฐานข้อมูลประกอบการรักษาและให้ยาได้ตรงกับคนไข้ เชื่อว่าภายใน 5 ปีจะใช้งานได้ (ไทยรัฐจันทร์ที่ 8 มีนาคม 2547 หน้า 15) ข่าวทั่วไป ผลสำรวจ ‘เมืองน่าอยู่’ กรุงเทพฯรูดที่ 102 ของโลก ผลสำรวจประจำปีของเมอร์เซอร์ บริษัทที่ปรึกษาด้านการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ระหว่างประเทศ ระบุว่าสิงคโปร์และกรุงโตเกียวของประเทศญี่ปุ่น ได้รับการจัดอันดับให้เป็นเมืองในทวีปเอเชียที่น่าสนใจที่สุดประจำปี 2547 ส่วนผลสำรวจคุณภาพชีวิตจากทั้งหมด 215 เมืองทั่วโลก พบว่าเมืองที่อันดับ 1และ อันดับ 2 ได้แก่ เมืองซูริคกับเจนีวา ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ส่วนอันดับ 3 ได้แก่เมืองแวนคูเวอร์ประเทศแคนาดาและนครเวียนนาของประเทศออสเตรีย ในการจัดอันดับเมืองที่ชาวต่างชาติสนใจทำงานมากที่สุดได้ใช้นครนิวยอร์กเป็นดัชนีมาตรฐานโดยให้มีคะแนนเท่ากับ 100 คะแนน และใช้เกณฑ์ประเมินคุณภาพชีวิตถึง 39 รายการ เช่น ความปลอดภัย สุขอนามัย การศึกษา เป็นต้น อันดับ 1ในเอเชียได้แก่ สิงคโปร์ อันดับสองได้แก่โตเกียว และอันดับสามได้แก่ฮ่องกง ส่วนไทยอยู่อันดับที่ 102 ของโลก (กรุงเทพธุรกิจ พุธที่ 3 มีนาคม 2547 หน้า 12) แนะเปิดเวบผู้ป่วยโรคจากสิ่งแวดล้อมหลังเหตุกระทบสุขภาพประชาชนพุ่ง พ.ญ.ฉันทนา ผดุงทศ สำนักโรคจากการประกอบอาชีพและสิ่งแวดล้อม กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่าจากการติดตามข้อมูลจากต่างประเทศ เช่น สหรัฐเอเมริกา ยุโรป พบว่ารัฐบาลให้ความสำคัญในการเตรียมความพร้อมรับมือ ติดตาม เฝ้าระวังและเตือนภัยด้านสุขภาพอย่างใกล้ชิด ซึ่งในขณะนี้สำนักโรคและสารพิษของอเมริกา (ATSDR) ได้เปิดช่องทางให้ประชาชนที่ได้รับผลกระทบโรคจากสิ่งแวดล้อมลงทะเบียนทางอินเทอร์เน็ตเพื่อแจ้งให้รัฐบาลติดตามสุขภาพได้ง่ายขึ้น ดังนั้นคิดว่าเมืองไทยสามารถนำแนวทางนี้มาประยุกต์ใช้ได้ง่ายเพราะขณะนี้อินเทอร์เน็ตได้ไปถึงชาวบ้านแล้ว อีกทั้งยังมีความพร้อมด้านบุคลากรและแพทย์อีกด้วย (กรุงเทพธุรกิจ พุธที่ 3 มีนาคม 2547 หน้า 12 ) ไอเอสพีออกเน็ตต่ำสุด ชม.ละ 35 สตางค์ น.ส.กนกวรรณ ว่องวัฒนสิน ประธานคณะกรรมการบริหารบริษัทอินเทอร์เน็ต โซลูชั่น แอนด์ เซอร์วิส โพรวายเดอร์ จำกัด (ISSP) กล่าวว่าบริษัทออกชุดอินเทอร์เน็ตแพ็คเกจใหม่ “นิลมังกรไม่จำกัดชั่วโมง” สามารถใช้งานไม่จำกัดชั่วโมงนาน 250 วัน ราคา 250 บาท ใช้ได้เฉพาะอินเทอร์เน็ตในประเทศและเวบไซต์ในโครงการคลีนเน็ตเท่านั้น นอกจากนี้ยังร่วมกับโครงการเรียนรู้ออนไลน์แห่งชาติ (NOLP) ให้ผู้ใช้ทดลองเรียน “การใช้โทรศัพท์สนทนากับชาวต่างประเทศ” ความยาว 5 ชั่วโมง นาน 1เดือน และได้ส่วนลด 50 % เมื่อเรียนฉบับเต็ม (กรุงเทพธุรกิจ ศุกร์ที่ 5 มีนาคม 2547 หน้า 6) ตั้งศูนย์บรรจุภัณฑ์หนุนสินค้าโอทอป นายประพัฒน์ ธนาพิทักษ์ รองอธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม (กสอ.) เปิดเผยถึงความคืบหน้าของโครงการส่งเสริมและพัฒนาบรรจุภัณฑ์มาตรฐาน ว่า ขณะนี้ทางบริษัท วิธอิน ดีไซน์ ที่ทาง กสอ.ได้จ้างทำวิจัยถึงทิศทางการผลิตบรรจุภัณฑ์มาตรฐานที่ตรงกับความต้องการของผู้ผลิตสินค้าโอทอปและผู้บริโภค ผลสรุปออกมาว่า บรรจุภัณฑ์พลาสติกแบบแข็งได้รับความนิยมมากสุด ทั้งนี้ยังมีบรรจุภัณฑ์อีก 5 แบบให้ผู้ผลิตสินค้าโอทอปได้เลือกสั่งซื้อ และขั้นต่อไปทาง กสอ.จะตั้งคณะกรรมการที่จะคัดเลือกโรงงานเข้ามารับเหมาผลิตบรรจุภัณฑ์มาตรฐานดังกล่าว ให้มีราคาต่อหน่วยถูกและมีคุณภาพ ซึ่งขณะนี้มีประมาณ 6-7 โรงงานติดต่อเข้ามาแล้ว "เมื่อผู้ผลิตสินค้าโอทอปได้รับบรรจุภัณฑ์มาตรฐานไปแล้ว ก็จะต้องไปทำฉลากและโลโก้ที่เป็นของตัวเอง ซึ่งทาง กสอ.ได้ประสานไปยังศูนย์ส่งเสริมอุตสาหกรรมผ้า 51 ศูนย์ทั่วประเทศแล้ว". (เดลินิวส์ พุธที่ 10 มีนาคม 2547 หน้า 7) ปลุกผู้สูงอายุอย่ายอมแพ้แก่ร่างกาย ให้ออกกำลังด้วยการเดินเร็ว แทนวิ่ง นายแพทย์พนมทวน ชูแสงทอง จิตแพทย์ กล่าวว่า แนวโน้มประเทศมีผู้สูงอายุเพิ่มขึ้น โดยเมื่อปี 2545 ไทยมีผู้สูงอายุคิดเป็นร้อยละ 9.3 ของประชากร ที่น่าดีใจคือ สุขภาพผู้สูงอาย ุส่วนใหญ่ดี มีส่วนน้อยเจ็บป่วยเป็นโรคเรื้อรังตามสภาพ โรคที่พบบ่อยในผู้สูงอายุคือ ปวดข้อ เวียนศีรษะ นอนไม่หลับ มีปัญหาเกี่ยวกับดวงตาและเป็นลม ผู้สูงอายุเป็นวัยที่เกิดความเหงาง่าย การมีกลุ่ม มีชมรม ช่วยให้คลาย เหงาได้ อีกทั้งด้านร่างกายเกิดจากความเสื่อมจากวัย ทำให้ภูมิคุ้มกันลดลง โอกาสเจ็บป่วยง่าย ระบบทางเดินหายใจติดเชื้อง่าย แนะให้จิบน้ำอุ่น มีปัญหาฟันผุ ระบบการไหลเวียนของ เลือดน้อยลง ส่งผลให้หลอดเลือดแข็งกระด้าง เป็นโรคสมองฝ่อ หากพบว่าญาติสูงอายุ จำเรื่องในปัจจุบันไม่ได้ ต้องรีบพบแพทย์ทำการเยียวยารักษา มีปัญหาสายตายาว กล้ามเนื้อตาเสื่อม ประสาทหูเสื่อม ต่อมรับรสน้อยลง ท้องอืดท้องเฟ้อ นอนไม่หลับ ปัญหาด้านจิตใจ มีความวิตกกังวลง่าย หากเป็นมากจะนอนไม่หลับ หงุดหงิด เครียด ปวดเมื่อยตัว ภาวะเหล่านี้รักษาได้ นอกจากนั้น ยังพบภาวะซึมเศร้า มักมาพบแพทย์ด้วย อาการเพลีย กินไม่ได้ หดหู่ อารมณ์ไม่ดี รู้สึกตนเองไม่มีคุณค่า อยากตาย บางรายลงมือ ทำร้ายตัวเอง ระแวง ไม่ไว้ใจกลัวคนปองร้าย นายแพทย์พนมทวนได้แนะนำว่า ผู้สูงอายุควรออกกำลังตามสภาพร่างกาย เช่น เดินเร็วแทนการวิ่ง ทำงานบ้านเบาๆ อย่าเล่นกีฬาที่เน้นการแข่งขัน (ไทยรัฐ พุธที่ 10 มีนาม 2547 หน้า 7) ผลิตใบชาบนเกษตรที่สูงพัฒนาคุณภาพเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพ นิตย์ วังวิวัฒน์ คนไร่ชาที่ปลูกในเขต ต.อินทขิล อ.แม่แตง จ.เชียงใหม่ ได้บอกในประสบการณ์ว่า........สรรพคุณของชามีโอสถสารประกอบด้วย....กลุ่มโพลีฟินอล หรือฟลาโวนอล เป็นสารต้านออกซิเดชันอัตราการเสี่ยงอนุมูลอิสระที่เข้าไปทำลายเซลล์ที่จะก่อให้ เกิดโรคความจำเสื่อมและมะเร็ง...สารกาเฟอีนส่งผลกระตุ้น ระบบประสาท ส่วนกลางและ การหมุนเวียนของโลหิตกับสารคาเทคซิน ช่วยให้ หลอดเลือดมีความยืดหยุ่น... และสรรพคุณอื่นๆอีกมากมายปัจจุบันมี การจำแนกการแปรรูป "ชา" เพื่อบริโภคกันหลากหลาย (Classification of tea) ตามกระบวนการผลิตถึง 5 ชนิด คือ ชาเขียว (Green tea) เป็นชาไม่ผ่านการหมัก ใบชาสด จะถูกนึ่งด้วยไอน้ำเพื่อหยุดกระบวนการ เปลี่ยนแปลงเอนไซม์ ชาใบหรือชาจีน (Leave tea or Chinese tea) ผลิตภัณฑ์ดั้งเดิมกำเนิดจากประเทศจีน ใช้การหมักแบบกึ่งหมัก (Semi-Fermented Tea) ชาฝรั่งหรือชาผง (Black tea or tea Dust) เป็นการนำชามาหมัก อย่างเต็มที่ในระดับ (Fermented tea) ก่อนนำไปตากให้แห้งแล้วบดเป็นผง แล้วจึงนำมากรองก่อนจะชง ดื่มพร้อมกับน้ำตาลก็ได้ ชาสำเร็จรูป (Instant tea) เป็นชาที่แยกสารละลายชาทำให้แห้งเมื่อจะดื่มก็ให้นำ มาชงได้ทันทีโดยไม่ผ่านการกรองทำให้สะดวกต่อผู้ดื่ม และชาพร้อมดื่ม (Ready-to-drink teas) ที่ใช้กระบวนการแปรรูปในแบบใหม่ให้สามารถ ดื่มได้ทันทีทั้งร้อนและเย็น สนใจข้อมูล ก็ติดต่อได้ที่ 0-5324-2292, 0-5324-5683 (ไทยรัฐ พุธที่ 10 มีนาคม 2547 หน้า 7) 'เด็กอัจฉริยะ' 6ขวบ เมื่อเช้าวันที่ 10 มี.ค. ผู้สื่อข่าวได้ไปที่ โรงเรียนเทศบาลเขานิเวศน์ ใกล้ศาลากลางจังหวัดระนอง ได้พบกับนางสุนทรี มีกุล ผู้อำนวยการโรงเรียน และน.ส.บุปผา มัฆพาน ครูประจำชั้นอนุบาล 2/1 นางสุนทรีได้ขออนุญาตนำเด็กเก่งรายนี้ออกมาพบผู้สื่อข่าว ทราบชื่อว่า ด.ช.อนุวรรตน์ สามงามอิน หรือน้องปืน อายุ 6 ขวบ บ้านอยู่เลขที่ 2/22 ซอยร่วมจิตร ถนนท่าเมือง ต.เขานิเวศน์ พร้อมกันนั้นได้นำหนังสือพิมพ์รายวันให้อ่าน ด.ช.อนุวรรตน์สามารถอ่านได้อย่างฉะฉาน ให้ลองใช้คอมพิวเตอร์ โดยเฉพาะอินเตอร์เน็ต แม้จะเป็นภาษาอังกฤษก็สามารถอ่านและเข้าใจได้ ให้ทดลองเปิดเพลงทางอินเตอร์เน็ต ด.ช.อนุวรรตน์ก็สามารถเข้าโปรแกรมเปิดให้ได้ตามต้องการอย่างรวดเร็ว เจ้าหน้าที่จึงได้ทดสอบหลายอย่างจนมั่นใจว่าเป็นเด็กมีความสามารถต่างจากคนทั่วไป เรียกได้ว่าเป็นเด็กอัจฉริยะ เพราะชั้นอนุบาลไม่ได้สอนเรื่องการสะกดคำ อีกทั้งภาษาอังกฤษก็ยังไม่มีในหลักสูตร ทุกคนต่างงงกันมากว่าอ่านและเข้าใจความหมายได้อย่างไร ทั้งๆที่ไม่เคยเรียน และไม่มีใครสอน (ไทยรัฐ พฤหัสบดีที่ 11 มีนาคม 2547 ) ช็อกโกแลตทำลายป่าเอเชียอาคเนย์ โค่นถางที่ปลูกไร่ปาล์มขนาดยักษ์ กลุ่มนักอนุรักษ์ซึ่งเรียกตนเองว่า "เฟรนด์ส ออฟ ดิ เอิร์ธ" กล่าวว่า สินค้าเหล่านั้น ได้แก่ ช็อกโกแลต มันฝรั่งทอด เนยเทียม แชมพูสระผมและผงซักฟอก เป็นตัวการทำให้ป่าไม้ ถูกทำลายลง เพื่อเอาที่ดินทำสวนปาล์ม สำหรับสกัดทำน้ำมันพืช อันเป็นวัตถุดิบ ของผลิตภัณฑ์เหล่านั้น ป่าไม้ในอินโดนีเซีย และมาเลเซียได้โดนถูกบุกถางจนเหี้ยนเตียน ใช้ทำสวนปาล์มขนาดใหญ่ ในอัตราอันน่าตกใจ รวมทั้งยังทำให้สัตว์ป่าต่างๆ ต้องสูญสิ้นลงมากถึง 80-100% โดยเฉพาะป่าในอินโดนีเซียถูกทำลายลงอย่างมโหฬาร ในอัตรากว่าปีละหลายล้านไร่ โฆษกของกลุ่มกล่าวว่า อินโดนีเซียได้ส่งน้ำมันปาล์มที่ผลิตได้ ไปขายให้สหภาพยุโรปประมาณถึง1 ใน 4 "การค้าขายน้ำมันปาล์ม กำลังทำลายสัตว์ป่าอันมีค่ามากที่สุดของโลกอยู่อย่างหนัก" (ไทยรัฐ ศุกร์ที่12 มีนาคม 2547 หน้า 7) โรคผิดปกติจากการกิน:ป้องกันไว้ดีกว่าตามแก้ "อะนอเร็กเซีย" "บูลิเมีย" เหล่านี้ เป็นตัวอย่างของชื่อโรคที่อยู่ ในกลุ่มของ โรคความผิดปกติ จากการกิน ในกรณีของบูลิเมีย เป็นอาการ หิวผิดปกติ อยากอาหาร ไม่รู้จักอิ่ม ส่วนอะนอเร็กเซียนั้น กลับเป็นการเบื่ออาหาร สาเหตุ ที่ทำให้ เกิดโรคพวกนี้ มีมากมายหลาย ประการ บางทีก็พบว่ามีสาเหตุ อยู่หลายชั้นจนยาก ในการรักษา วิธีที่ดีที่สุดในการรักษาโรคผิดปกติ จากการกิน จึงอยู่ที่การป้องกันไว้ก่อน อัน เป็นคำแนะนำ จากโรงพยาบาลทหารเรือสหรัฐฯ ในแคมป์ เพนเดิลตัน รัฐแคลิฟอร์เนีย ได้ให้เคล็ดลับ 5 ประการ คือ ผู้ปกครองควรจะคุยกับเด็กๆ หรือลูกหลาน ถึงความแตกต่างตามธรรมชาติของคนเรา ในเรื่องของขนาดและรูปร่างของร่างกาย ควรจะหลีกเลี่ยงบทสนทนา หรือแสดงทัศนคติด้านลบต่อเรื่องน้ำหนัก อย่าท้อใจกับกิจกรรมออกกำลัง จำพวกว่ายน้ำ หรือเต้นรำ เพียงเพราะกลัวเรื่องหุ่นที่ไม่งาม หรือเรื่องน้ำหนักจะไปรบกวน สายตาใครเข้า ต้องคุยกับเด็กๆ ให้รู้ว่าคำแนะนำ บางอย่างก็ทำให้ คนเราไขว้เขวไป ด้วยการดึงเอาเรื่อง รูปลักษณ์ไปโยงกับความสำเร็จ ผู้ปกครองเองก็ ต้องเป็นแบบอย่างที่ดีในการกินอาหารถูกโภชนาการให้ครบมื้อ และหมั่นออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอเช่นกัน (ไทยรัฐ เสาร์ที่ 13 มีนาคม 2547 หน้า KMUTT Digital Library Contact Digital Library : info@lib.kmutt.ac.th Tel : 0-2470-8215