|
หัวข้อข่าวปีที่ 5 ฉบับที่ 12 ประจำวันที่ 2004-03-27
ข่าวการศึกษา
วธ.ของบพันล้านปรับระบบไอที "นำยุทธ"ขอเวลาพิสูจน์ราชมงคลไม่อ่อนแอ ชงเพิ่มอุดหนุนอนุบาลหัวละ 600 บาท เปิดสถาบันพัฒนาศักยภาพเด็กอัจฉริยะ 10 สาขา ผลวิจัยชี้ปฏิรูปศึกษาปี46คืบหน้า-ขัดแย้ง-ล่าช้า-ชะงักงัน เหตุระบบห่วยครูอังกฤษแย่ ทศท.เดินสายอบรมเน็ตให้เยาวชน-อบต ขยายศูนย์อีริคติวเข้มครูภาษาอังกฤษ ปอมท.จี้รัฐออกมาพูดความจริงวิธีเก็บค่าเรียนอุดมฯแบบใหม่ JGSEEดึงม.เกียวโต พัฒนานักวิจัยพลังงานฯ 7ศูนย์ความเป็นเลิศฯ โชว์งานเด็ดรอบ4 ปี "ครูภูมิปัญญา"ครูแท้ผู้สืบทอดสรรพวิชาจากบรรพชน ปลื้มแห่สมัครอาชีวะยอดทะลุ1.8แสนคน ไฟเขียว26ร.ร.เอกชนเปิดร.ร.สอนสองภาษา 9ม.กลุ่มท้าทายลุ้นประเมินผ่านเกณฑ์ได้โบนัส ที่ปรึกษานายกฯ แนะอาจารย์-น.ศ.ปรับตัวสู่ยุคทฤษฎีเพชร 5 เหลี่ยม อาชีวะจับมือค่ายสุรสีห์เสริมกึ๋นกำลังพลเปิดเทียบโอนความรู้ อดิศัย"มั่นใจยุทธศาสตร์ศธ.เจ๋ง เปิดช่องเอกชนบริหาร"ร.ร.รัฐ" นายกสั่งเร่งผลิตนักวิทยาศาสตร์ พระจอมเกล้าธนบุรีร่วมเอ็มไอทีผลิตบุคลากรสายวิศวกรรมเคมี
ข่าววิทยาศาสตร์/เทคโนโลยี
ผลิตเซลล์ระบบภูมิคุ้มโรคสำเร็จต้นทางวิธีรักษาเอดส์แบบปฏิวัติ ไอซีทีจ้างเยาวชนเป็นสารวัตรอินเทอร์เน็ต หว้ากอเตรียมกิจกรรมฉลอง200ปีรัชกาลที่4 สุดยอดเทคโนโลยีงานซีบิตแฟร์ เตือนไทยตระหนักความสำคัญ นาโน พบดาวสมาชิกใหม่ระบบสุริยะ
ข่าววิจัย/พัฒนา
สลอดรักษามะเร็งต่อมลูกหมากทั้งปราบเชื้อเก่าปรามเชื้อใหม่ รถยนต์อัจฉริยะเตือนเจ้าของเบาเท้าจะได้ประหยัดน้ำมัน วิจัยโอสถสาร "กระชาย" เข้ายาร่วม "พลูคาว" ต้านมะเร็ง กินผลเชอรี่มีคุณค่าเท่าไวน์แดงมีสารเป็นตัวล้างพิษของร่างกาย ผู้ชายเสี่ยงเป็นโรคอัมพาตแบบสั่น เพราะพิษของสารเคมีและอุบัติเหตุ พบแหล่งผลิตน้ำดื่ม กทม.ไร้มาตรฐาน ตาวิเศษ บุหรี่ทำลายสมองคนแก่เร็วขึ้น5เท่าแซงหน้าเพื่อนฝูงที่ไม่นิยม พ่นควัน วิศวกรไทยพัฒนาเครื่องแอร์ประหยัดไฟ ไม่ต้องสร้างโรงไฟฟ้าเพิ่มใหม่ถึง 2 โรง "มันเฮย์"ทางเลือกฟาร์มโคนม เผยอาหารที่ช่วยสกัดโรคเบาหวานเป็นน้ำมันถั่วเหลืองกับข้าวกล้อง ออกกำลังวิ่งพร้อมกับฟังเพลงด้วยช่วยบำรุงสติปัญญาให้ปราดเปรื่อง ข้าวโพดมีคุณ พบไวรัสคล้ายซาร์สตัวใหม่ เครื่องม้วนทองม้วน ทดลองครีมยาฆ่าเชื้อโรคเอดส์เพื่อเป็นเกราะปกป้องผู้หญิงทั่วโลก เครื่องทอดโดนัทอัตโนมัติ ผักตบชวาวัชพืชที่ถูกเมินสู่เยื่อกระดาษสารพัดประโยชน์ ราชมงคล"สร้างตุ๊กตาเลียนแบบทารกถูกกว่านำเข้าต่างประเทศ เภสัชฯ มศว ผลิตแคปซูลน้ำมันมะกรูด ช่วยเกษตรกรใช้ไล่แมลงแทนสารเคมี สมองคนชี้นำดีเลวทิศทางเดียวกัน พบยีนระบุเบาหวาน ตัวคุมเซลล์ผลิตอินซูลิน นักวิทย์ปลูกสเต็มเซลล์ เทคนิครักษาหัวล้าน แคนาดาพัฒนาหุ่นยนต์มัจฉาดำสำรวจใต้น้ำทำตัวกลมกลืน แพทย์คิดเทคนิคโยกย้ายรังไข่ หาวิธีชะลอวันหมดประจำเดือน
ข่าวทั่วไป
โหวตไทยท่องเที่ยวอันดับ1 ไทยผสมเทียมปลากะรังจุดฟ้าสำเร็จเป็นรายแรก "กรมอุทยาน" ดีเดย์ เม.ย.นี้จับจริงช้างเร่ร่อน สัปดาห์หนังสือแห่งชาติเริ่มแล้ว ดวงตากับคอมพิวเตอร์ ผลักดันภาคใต้ศูนย์กลางกล้วยไม้โลก วัยรุ่นกับปัญหาสุรายาเมา เฉลิมฉลองกรุงเทพฯ 222 ปีกทม.จัดงานใหญ่ 8 วัน 8 คืน-เริ่ม 6 ถึง 13 เมษายนนี้ ค่านิยมผิดๆ ดื่มน้ำส้มสายชูลดอ้วน หอศิลป์สมเด็จพระนางเจ้าฯ นิทรรศการ เดินตามชีวิต เหม เวชกร กทม. ทันสมัยใช้ GIS ช่วยดูแลต้นไม้ใหญ่ "ฮู"ย้ำเตือน"ไข้หวัดนก" อีกนานกว่าจะสิ้นฤทธิ์ "หมอประเวศ"วอนรัฐหนุนผลิตหนังสือดี ส้นสูง ภัยเรียวขามาพร้อมกับความสวย กรีนพีซจี้สธ.ติดฉลากจีเอ็มโอ อบรมบาร์&เครื่องดื่มฟรี! ช่วยนักศึกษาตกงาน ศิริราชชี้ช่องแก้เด็กไทยอ้วน30% ปรับพฤติกรรมกินไร้ผลพบหมอ เด็ก 80%ก้าวร้าวจากการเลี้ยงดู สมองโปรแกรมระแวงถูกทำร้าย โครงการนักศึกษารับจ๊อบอู้ฟู่ ห้าง-ฟาสต์ฟู้ดดังแห่รับเพียบ ชูนวัตกรรม หมาเฝ้าบ้าน เบรกสินค้าโก่งราคานำเข้า
ข่าวการศึกษา
วธ.ของบพันล้านปรับระบบไอที
ดร.กล้า สมตระกูล รองปลัดกระทรวงวัฒนธรรม (วธ.) กล่าวถึงแผนพัฒนาระบบไอซีทีของ วธ.ว่า โครงการดังกล่าวได้เริ่มมาตั้งแต่ตุลาคมปี 2546 แล้ว โดยจะมีการเชื่อมโยงระหว่างกรมและหน่วยงานต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับวธ. ซึ่งแต่ละส่วนจะกำหนดงานที่ใช้แตกต่างกันออกไปตามความเหมาะสม ส่วนเรื่องของการพัฒนาบุคลากร ตนมองว่าบุคลากรของ วธ. มีความรู้อยู่ในระดับหนึ่งแล้ว แต่สำหรับระดับภูมิภาคคงต้องมีการพัฒนาความรู้ให้แก่บุคลากร เพิ่มขึ้น โดยจะจัดให้มีการอบรมใน 3 ระดับคือ ระดับพื้นฐาน ระดับกลาง และระดับสูง ดร.กล้า กล่าวต่อไปว่า ระบบไอซีทีที่พัฒนาขึ้นมานั้นจะใช้สำหรับด้านการบริหารจัดการและบริการให้ความรู้แก่ประชาชนหรือที่เรียกว่าระบบ E-Learning โดยจะมีกลุ่มเป้าหมายทั้งในประเทศและต่างประเทศ คาดว่าภายในปีหน้าคงจะเห็นภาพที่เป็นรูปเป็นร่างมากขึ้น งบประมาณที่จะใช้ในการดำเนินงานดังกล่าวประมาณ 1,184 ล้านบาท ตั้งแต่ปี 2547-2549 โดยปี 2547 จำนวน 232 ล้านบาท ปีงบฯ 2548 จำนวน 508 ล้านบาท และปีงบฯ 2549 จำนวน 443 ล้านบาท ซึ่งงบประมาณดังกล่าวเป็นวงเงินเดิมที่ได้ตั้งกรอบเอาไว้ อาจเปลี่ยนแปลงได้ตามความเหมาะสม อย่างไรก็ตามจะต้องเสนอแผนการดำเนินงานดังกล่าวให้กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร(ไอซีที) ได้พิจารณาอีกครั้ง หากผ่านการพิจารณาแล้วทางกระทรวงวัฒนธรรมก็คงจะยึดแผนนี้เป็นแผนแม่บทต่อไป (เดลินิวส์ จันทร์ที่ 22 มีนาคม 2547 หน้า 27)
"นำยุทธ"ขอเวลาพิสูจน์ราชมงคลไม่อ่อนแอ
ผศ.ดร.นำยุทธ สงค์ธนาพิทักษ์ อธิการบดีสถาบันเทคโนโลยีราชมงคล กล่าวถึงกรณีที่ ดร.อดิศัย โพธารามิก รมว.ศึกษาธิการ ตั้งข้อสังเกตว่าราชมงคลยังค่อนข้างอ่อนแอ และทิศทางไม่ค่อยชัดเจนว่า ในแง่คุณภาพจะมีการพัฒนาครูอาจารย์อย่างต่อเนื่อง ส่งเสริมให้ได้รับการศึกษาต่อเนื่องทั้งในและต่างประเทศ โดยเน้นการศึกษาต่อในสายตรงเพื่อให้กลับมาสอนได้อย่างมีคุณภาพ ขณะเดียวกันก็มีความร่วมมือกับมหาวิทยาลัยต่างประเทศในการจัดโครงการแลกเปลี่ยน อบรมร่วมกัน รวมถึงมีการพัฒนาปรับปรุงคุณภาพและมาตรฐานของนักศึกษาโดยอาศัยมาตรฐาน ISO 9000 มาช่วย เพราะสถานศึกษาก็เปรียบเหมือนอุตสาหกรรมที่ผลิตสินค้าซึ่งต้องนำวัตถุดิบเข้ามาผ่านกระบวนการจนเป็นผลิตผลที่ดีออกมา นอกจากนี้ทุกวิทยาเขตยังได้สร้างมาตรฐานร่วมกันของแต่ละสาขาโดยใช้ข้อสอบกลางภายในสถาบันด้วย ผศ.ดร.นำยุทธ กล่าวต่อไปว่า ถึงแม้สถาบันจะจัดการเรียนการสอนมากกว่า 30 สาขาวิชา แต่เวลานี้ในทุกหลักสูตรก็ได้มีการนำเนื้อหาของวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีบรรจุเข้าไว้ด้วย เพื่อให้สมกับการเป็นสถาบันเทคโนโลยี แต่ทั้งนี้เราต้องยอมรับว่าการสร้างงานวิจัย สิ่งประดิษฐ์ หรือนวัตกรรม คงไม่สามารถสร้างให้เกิดขึ้นได้ในเวลาเพียง 1-2 ปี แต่จะต้องค่อย ๆ สั่งสมประสบการณ์ และร่วมมือกับหลาย ๆ ส่วนถึงจะได้ผลงานที่ดี จึงต้องขอเวลาอีกระยะหนึ่งเพื่อพิสูจน์คุณภาพและผลผลิตของสถาบัน ( เดลินิวส์ จันทร์ที่ 22 มีนาคม 2547 หน้า 27
ชงเพิ่มอุดหนุนอนุบาลหัวละ 600 บาท
นายอดิศัย โพธารามิก รมว.ศึกษาธิการ เปิดเผยถึงการปรับตัวเลขเงินอุดหนุนการจัดการศึกษาขั้นพื้นฐานว่า จากการประชุมคณะกรรมการกลั่นกรองเรื่องเสนอ คณะรัฐมนตรีคณะที่ 4 ที่มีนายจาตุรนต์ ฉายแสง รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานได้ข้อสรุปตามที่กระทรวงศึกษาธิการเสนอ คือให้การอุดหนุนการศึกษาขั้นพื้นฐาน 14 ปี แต่ที่ประชุมยังมีความกังวลเกี่ยวกับการจัดการศึกษาในระดับอนุบาล ซึ่งเป็นพื้นฐานสำคัญทางการศึกษาที่จะต้องดูแลให้ดี เงินอุดหนุนรายหัวที่เสนอไป 215 บาท ไม่น่าจะเพียงพอต่อการจัดการศึกษาให้มีคุณภาพ จึงเห็นว่าควรจะเพิ่มเงินอุดหนุนรายหัวต่อหัวต่อคนในระดับอนุบาล จาก 215 บาทเป็น 600 บาท เท่าที่ดูแล้วคาดว่าจะต้องใช้งบประมาณเพิ่มขึ้นอีกประมาณ 500-1,000 ล้านบาท
ทั้งนี้ตนกำลังให้มีการปรับตัวเลขและแนวคิดบางประเด็นอยู่ คาดว่าจะสามารถเสนอเข้าพิจารณา ในที่ประชุม ครม. ได้ในสัปดาห์หน้าได้ เพื่อจะได้ทันใช้ในปีการศึกษา 2547 (สยามรัฐ จันทร์ที่ 22 มีนาคม 2547 หน้า 7)
เปิดสถาบันพัฒนาศักยภาพเด็กอัจฉริยะ 10 สาขา
ศ.ดร.วิรุณ ตั้งเจริญ อธิการบดีมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ (มศว) ประสานมิตร กล่าวในการเปิดสถาบันวิจัยและพัฒนาผู้มีความสามารถพิเศษและผู้มีความต้องการพิเศษ มศว ว่า สังคมกำลังให้ความสำคัญเด็กที่มีความสามารถพิเศษ มศว ถือเป็นผู้ดูแลมานาน 10 ปี มีเด็กความสามารถพิเศษกว่า 1,000 คน ดังนั้น ถึงเวลาแล้วที่จะมีการขยายการดูแล โดยเปิดสถาบันวิจัยและพัฒนาผู้มีความสามารถพิเศษ และผู้มีความต้องการพิเศษขึ้น โดยตั้งงบประมาณระยะยาว 5 ปีจำนวน 500 ล้านบาท สำหรับปี 2548 ได้ขอตั้งงบประมาณจำนวน 100 ล้านบาท หากรัฐบาลอนุมัติ สถาบันฯแห่งนี้จะกลายเป็นสถาบันแห่งชาติ แต่หากไม่เห็นความสำคัญ มศว จะดำเนินการเอง โดยใช้ งบประมาณมหาวิทยาลัย และมอบให้ ผศ.น.พ. เฉลิมชัย บุญยะลีพรรณ รองอธิการบดีฝ่ายพัฒนาและบริหารทรัพย์สิน รับผิดชอบ ภารกิจของสถาบันคือการเสาะแสวงหาเด็กที่มีความสามารถพิเศษ ส่งเสริม ศักยภาพให้เต็มที่ มีการติดตามประเมินผลและนำองค์ความรู้ถ่ายทอดสู่สังคม โรงเรียน ชุมชน โดยจะเปิดดูแลเด็กที่มีความสามารถพิเศษ 10 สาขาคือ 1. สังคม 2. ศิลปะ 3. คณิตศาสตร์ 4. วิทยาศาสตร์ 5. ดนตรี 6. กีฬา 7. นักคิด 8. ภาษา 9. จิตและปัญญา 10. ช่างเทคนิคและอิเล็กทรอนิกส์ จะเริ่มต้นสร้างเครือข่ายที่โรงเรียนสาธิต มศว ประสานมิตรทั้ง 4 แห่ง โรงเรียน 8 แห่ง ในเขตวัฒนา โรงเรียนในฝัน ศธ. และจะเป็นศูนย์อบรมให้ความรู้แก่ครูแต่ละตำบล ช่วยกันคัดเลือกเด็กที่มีความสามารถพิเศษ 1 คน 1 ตำบล เพื่อรองรับนโยบายรัฐบาลที่ต้องการมอบทุนการศึกษา ให้นักเรียนนักศึกษาศึกษาต่อจนจบปริญญาตรีตำบลละ 1 คน (ไทยรัฐ พุธที่ 24 มีนาคม 2547 หน้า 15)
ผลวิจัยชี้ปฏิรูปศึกษาปี46คืบหน้า-ขัดแย้ง-ล่าช้า-ชะงักงัน
ดร.อมรวิชช์ นาครทรรพ ผอ.ศูนย์วิจัยนโยบายการศึกษา คณะครุศาสตร์ จุฬาฯ เปิดเผยผลการจัดทำรายงานสภาวะการศึกษาไทยประจำปี 2546 ว่า ในภาพรวมมีทั้งภาพของความคืบหน้า ความขัดแย้ง ความล่าช้า และความชะงักงัน โดยความล่าช้าที่มีผลกระทบสูงและสร้างความผิดหวังให้แก่สังคม โดยเฉพาะผู้ปกครองและเด็ก อาทิ ความล่าช้าในการปฏิรูปกระบวนการเรียนรู้ในสถานศึกษา การพัฒนาคุณภาพสถานศึกษา การปรับเข้าสู่โครงสร้างใหม่ของกระทรวงศึกษาธิการ การเดินเครื่องเขตพื้นที่การศึกษา การออกกฎกระทรวงว่าด้วยแนวปฏิบัติในการร่วมจัดการศึกษาโดยครอบครัว ชุมชน ผู้ประกอบการและสถาบันต่าง ๆ ในสังคม การตั้งสถาบันพัฒนาครูและบุคลากรทางการศึกษา (สคบศ.) ให้เป็นแกนหลักในการพัฒนาครูอย่างมีประสิทธิภาพ และความล่าช้าในการปฏิรูปสถาบันฝึกหัดครู เป็นต้น ส่วนปมสำคัญที่ทำให้เกิดความล่าช้า ได้แก่ สภาพการเมืองที่ขาดความต่อเนื่องในระดับกระทรวง ไม่มีการต่อเนื่องของภาวะผู้นำในกระทรวง เกิดความสับสนในนโยบายการปรับเปลี่ยนหลักสูตร ขาดวิธีทำงานเป็นเครือข่ายและการเคลื่อนการปฏิรูปเป็นองค์รวมระหว่างงานหลาย ๆ ด้าน การผูกติดกับองค์กรในระบบมากจนเกินไปจนกลายเป็นอุปสรรคใหญ่ของการปฏิรูป และการปฏิรูปที่ขาดฐานความรู้ และการดำเนินนโยบายที่ถูกชักนำด้วยปัญหาเฉพาะหน้ามากกว่าวิสัยทัศน์ระยะยาว เป็นต้น ดร.อมรวิชช์ กล่าว ว่ารัฐควรมีการจัดลำดับความสำคัญให้แก่เรื่องที่มีผลกระทบสูง เช่น การผลักดันงานเขตพื้นที่การศึกษาที่ควรจะเริ่มจากเด็ก การพัฒนาระบบการพัฒนาครูประจำการแต่ละพื้นที่ การพัฒนาสื่อการเรียนรู้และแหล่งเรียนรู้ โดยจะต้องมีคณะทำงานเฉพาะกิจของกระทรวงขึ้นมากำกับและติดตามเรื่องต่าง ๆ อย่าง ต่อเนื่อง มีการวางเป้าหมายเชิงมาตรฐานชี้วัด เพื่อใช้ติดตามการดำเนินนโยบายที่มีผลกระทบสูง มีการวางยุทธศาสตร์การทำงานที่เปลี่ยนไป เช่น การใช้พันธมิตร เชิงยุทธ ศาสตร์เป็นแรงหนุนการปฏิรูปการศึกษา อาทิ กระทรวงวัฒนธรรม กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ กระทรวงเทค โนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร เป็นต้น (เดลินิวส์ พุธที่ 24 มีนาคม 2547 หน้า 27)
เหตุระบบห่วยครูอังกฤษแย่
ตามที่กระทรวงศึกษาธิการได้จัดประเมินครูผู้สอนภาษาอังกฤษ 15,000 คนใน 30 จังหวัดด้านการท่องเที่ยวและพบว่าครูกว่า 75% มีทักษะด้านภาษาอังกฤษอ่อนมาก ดร.ชินภัทร ภูมิรัตน์ ที่ปรึกษาด้านระบบการศึกษา สำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษา (สกศ.) กล่าวว่า ที่ผ่านมา สกศ.ไม่เคยมีการทำวิจัยเกี่ยวกับการใช้ภาษาอังกฤษของครู โดยส่วนใหญ่จะทำวิจัยแต่เรื่องวิทยาศาสตร์ และคณิตศาสตร์ ทั้งที่จริง ๆ แล้วภาษาอังกฤษมีความสำคัญกับทุกวงการ ดร.อมรวิชช์ นาครทรรพ อาจารย์คณะครุศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ในฐานะผู้จัดการเครือข่ายการวิจัยด้านการศึกษา สำนักงานกองทุนสนับสนุนการวิจัย (สกว.) กล่าวว่า ตนจะเสนอเครือข่ายการวิจัยด้านการศึกษาของ สกว. ให้พิจารณาจัดทำวิจัยเชิงประเมินความรู้ความสามารถของครูสอนภาษาอังกฤษให้ครบทุกคนทั่วประเทศเพื่อเป็นข้อมูลเสนอรัฐบาล โดยจัดทำแผนระดับชาติในการพัฒนาครูอย่างจริงจัง เนื่องจากที่ผ่านมาเรายังไม่มีแผนระดับชาติในเรื่องนี้ ทั้งที่ภาษาอังกฤษจัดเป็นปัจจัยสำคัญในการพัฒนาขีดความสามารถด้านการแข่งขันตามยุทธศาสตร์รัฐบาล และหลังจากที่มีแผนระดับชาติและระดับเขตพื้นที่การศึกษาแล้ว รัฐบาลก็ควรจะจัดสรรงบฯในการพัฒนาและมีกลไกติดตามผลอย่างต่อเนื่องด้วย (เดลินิวส์ พุธที่ 24 มีนาคม 2547 หน้า 1-2)
ทศท.เดินสายอบรมเน็ตให้เยาวชน-อบต
นายสถิตย์ ลิ่มพงศ์พันธุ์ ประธานกรรมการบริษัท ทศท คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่ารัฐบาลมีนโยบายสนับสนุนให้คนไทยทั่วประเทศรู้จักการใช้คอมพิวเตอร์และอินเทอร์เน็ต เพื่อลดช่องว่างทางเทคโนโลยีระหว่างเมืองและชนบท ทศท จึงได้จัดโครงการไทยก้าวไกล หัวใจใส่เน็ต เพื่ออบรมการใช้อินเทอร์เน็ตในหลักสูตรเว็บไซต์ตำบลไทยให้กับผู้นำชุมชน อบต. และเยาวชนในพื้นที่เครือข่ายอินเทอร์เน็ตตำบล ซึ่งขณะนี้ได้วางเครือข่ายแล้ว 5,000 ตำบลทั่วประเทศ สำหรับรูปแบบการจัดกิจกรรมนั้น นายกิตติ เพียรธรรม รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ทศท คอร์ปฯ กล่าวว่า จะเป็นการอบรมในรูปแบบนำกิจกรรมบันเทิงมาผสมผสานกับการเรียนรู้คอมพิวเตอร์ โดยวิทยากรจาก ทศท และผู้ชำนาญจากสถาบันต่าง ๆ โดยเน้นให้ผู้เรียนสามารถเขียนเว็บไซต์และออกแบบ โฮมเพจได้ด้วยตัวเอง เพื่อให้ชุมชนสามารถใช้เว็บไซต์ในการทำข้อมูล รวมทั้งเสนอขายสินค้าหนึ่งตำบลหนึ่งผลิตภัณฑ์ผ่านระบบอินเทอร์เน็ตได้ ทั้งนี้โครงการไทยก้าวไกล หัวใจใส่เน็ต จะอบรมในจังหวัดแม่ข่ายทั้ง 12 จังหวัด โดยเริ่มที่เชียงใหม่ จากนั้นจะขยายไปทุกภูมิภาค แยกเป็นเยาวชน 100 คน และผู้นำ อบต.อีก 100 คน (เดลินิวส์ พุธที่ 24 มีนาคม 2547 หน้า 16)
ขยายศูนย์อีริคติวเข้มครูภาษาอังกฤษ
จากผลการประเมินความสามารถทางภาษาอังกฤษของครูสอนภาษาอังกฤษ สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) จำนวน 15,000 คน ใน 30 จังหวัดท่องเที่ยว พบว่า ครูส่วนใหญ่โดยเฉพาะระดับประถมมีทักษะภาษาอังกฤษทั้งฟัง พูด อ่าน และเขียนอ่อนถึง 75% ทั้งที่ข้อสอบจัดอยู่ในระดับปานกลาง นั้น คุณหญิงกษมา วรวรรณ ณ อยุธยา เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.) เปิดเผยว่า การจัดการอบรมที่ผ่านมาไม่เคยมีการประเมินผลก่อน แต่เป็นการคาดคะเนและจัดหลักสูตรตามอัธยาศัยซึ่งไม่ได้ผล ครั้งนี้ถือเป็นครั้งแรกซึ่งตนมองว่าเป็นเรื่องที่ดี ทำให้สามารถออกแบบหลักสูตรได้อย่างเหมาะสม ทั้งนี้ สพฐ.จะจัดอบรมเป็น 2 ระยะ โดยจะเริ่มอบรมครูกลุ่มเก่ง หลักสูตร 60 ชั่วโมง และกลุ่มปานกลาง 120 ชั่วโมงก่อน ซึ่งเมื่อผ่านพ้นไป 1 ภาคเรียนแล้ว จะมีการประเมินผลอีกครั้งว่าหลังอบรมไปได้ผลหรือไม่ โดยจะมีงบประมาณส่วนหนึ่งส่งครูที่มีความสามารถด้านภาษาอังกฤษไปอบรมยังต่างประเทศด้วย เลขาธิการ กพฐ. กล่าวอีกว่า สำหรับครูกลุ่มที่ผลการประเมินต่ำ กำลังพิจารณาว่าจะออกแบบหลักสูตรอย่างไรให้ได้ประโยชน์มากที่สุด ซึ่ง สพฐ.จะมีการขยายศูนย์อีริคซึ่งปัจจุบันมีอยู่เพียง 76 จังหวัด ให้ครบทุกเขตพื้นที่การศึกษา 175 เขต เพื่อให้ศูนย์อีกริค เป็นเจ้าภาพในการอบรมเบื้องต้นให้กับครูกลุ่มที่ผลการประเมินต่ำ ก่อนที่จะนำไปอบรมในสถาบันการศึกษาต่อไป อย่างไรก็ตามสาเหตุที่ทำให้ผลการประเมินออกมาต่ำเป็นเพราะครูประถมที่สอนภาษาอังกฤษส่วนใหญ่ไม่ได้จบภาษาอังกฤษโดยตรง แต่ต้องสอนทุกวิชา (สยามรัฐ พฤหัสบดีที่ 25 มีนาคม 2547 หน้า 7)
ปอมท.จี้รัฐออกมาพูดความจริงวิธีเก็บค่าเรียนอุดมฯแบบใหม่
ผศ.พิศิษฐ์ โจทย์กิ่ง ประธานที่ประชุมประธานสภาอาจารย์มหาวิทยาลัยแห่งประเทศไทย(ปอมท.) เปิดเผยว่า ในวันที่ 27-28 มี.ค. ที่ ม.บูรพา ทาง ปอมท. จะประชุมสมัยวิสามัญครั้งที่ 3/2547 ซึ่งในการประชุมจะหารือเกี่ยวกับเรื่องกองทุนเงินกู้ยืมเพื่ออุดมศึกษาที่ผูกกับรายได้ในอนาคต (กรอ.) โดยจะเชิญ ศ.ดร.เมธี ครองแก้ว อาจารย์คณะพัฒนาเศรษฐกิจ สถาบันบัณฑิตพัฒน บริหารศาสตร์ (นิด้า) ในฐานะหัวหน้าคณะทำงานกรอ. มาให้ข้อมูลว่า กรอ. เป็นอย่างไร มีผลดีผลเสียแค่ไหน เนื่องจากเท่าที่ทราบ กรอ. จะเริ่มใช้ในปี 2549 แต่คนในมหาวิทยาลัยก็ยังไม่รู้ข้อเท็จจริงว่าเป็นอย่างไร แม้แต่ตัวนักศึกษา และผู้ปกครองส่วนใหญ่ซึ่งจะได้รับผลกระทบโดยตรง ตนก็เชื่อว่ายังไม่รู้ข้อมูลเช่นกัน และเท่าที่ทราบ กรอ. นี้จะให้นักศึกษาจ่ายค่าเล่าเรียนตามความเป็นจริง โดยกรมสรรพากรจะเป็นผู้ติดตามเงินส่งคืนกองทุนเมื่อนักศึกษามีรายได้เกินกว่า 15,000 บาทต่อเดือน และหากปีใดออกจากงานก็จะไม่เก็บเงินคืนในปีนั้นจนกว่าจะมีรายได้ใหม่ถึงระดับที่ต้องชำระ ประธาน ปอมท. กล่าวต่อไปว่า จากข้อมูลเบื้องต้นหากนักศึกษาต้องจ่ายเงินตามความจริงนั้นบางสาขาวิชาต้องจ่ายเงินเพิ่มขึ้นหลายเท่าตัว บางสาขาจ่ายเพิ่ม 100-200 เท่า เช่น คณะแพทย์จุฬาฯ เดิมเคยจ่ายประมาณ 1 หมื่นบาทต่อคนต่อปี ก็ต้องจ่ายประมาณ 4 แสนบาทต่อคนต่อปี ซึ่งถ้าเป็นเช่นนี้นักศึกษาต้องเดือดร้อน โดยเฉพาะคนระดับกลางลงไปถึงระดับต่ำจะไม่มีโอกาสได้เข้าเรียน ตนเคยไปดูงานทางด้านการศึกษาที่ประเทศนิวซีแลนด์เมื่อปี 2544 พบว่าจะมีการให้นักศึกษาจ่ายเงินตามความเป็นจริงเช่นกัน แต่ปัญหาคือเมื่อนักศึกษาเรียนจบแล้วจะมีหนี้กองทุนหลายเท่าตัว จนต้องไปทำงานประเทศอื่นเพื่อหาเงินมาใช้คืนกองทุน (เดลินิวส์ พฤหัสบดีที่ 25 มีนาคม 2547 หน้า 7)
JGSEEดึงม.เกียวโต พัฒนานักวิจัยพลังงานฯ
ผศ.ดร.จำนง สรพิพัฒน์ ประธานสายวิชาพลังงาน บัณฑิตวิทยาร่วมด้านพลังงานและสิ่งแวดล้อม (JGSEE) ม.เทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี(มจธ.) เปิดเผยว่า ขณะนี้ JGSEE ได้ลงนามความร่วมมือทางวิชาการ กับโครงการศูนย์ความเป็นเลิศด้านระบบพลังงานที่ยั่งยืนในศตวรรษที่ 21 ของม.เกียวโต ประเทศญี่ปุ่น เพื่อร่วมกันศึกษาวิจัยด้านพลังงานและสิ่งแวดล้อมระหว่าง 2 สถาบัน ซึ่งจะเริ่มดำเนินการภายในปี 2547 นี้ โดยในเบื้องต้นจะร่วมกันจัดสัมมนาทางวิชาการ 2 เรื่อง ได้แก่ การจัดสัมมนาร่วมระหว่างนักศึกษาปริญญาเอก ภายใต้หัวข้อเรื่อง Joint Student presentation on Energy and Environment for Sustainble Development ในเดือนก.ค.นี้ และการประชุมวิชาการนานาชาติด้านพลังงานและสิ่งแวดล้อม หัวข้อเรื่อง Sustainble Energy and Environmental ในเดือนธ.ค. ซึ่งจะมีการเสนอผลงานวิจัยด้านพลังงาน และสิ่งแวดล้อมจากทุกชาติที่เข้าร่วมงาน (สยามรัฐ ศุกร์ที่ 26 มีนาคม 2547 หน้า 7)
7ศูนย์ความเป็นเลิศฯ โชว์งานเด็ดรอบ4 ปี
รศ.ดร.ชัยยุทธ ขันทปราบ ผอ.โครงการพัฒนาบัณฑิตศึกษาและวิจัยด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี หรือ HEDP เปิดเผยว่า ในโอกาสครบรอบ 4 ปีแห่งการก่อตั้ง HEDP ได้ร่วมกับสถาบันคลังสมองของชาติ และสำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา (สกอ.) จัดการประชุมและสัมมนาวิชาการเรื่อง ศูนย์ความเป็นเลิศกับการพัฒนาประเทศ ในวันศุกร์ที่ 26 มี.ค.นี้ ณ ศูนย์การประชุมสหประชาชาติ และนำเสนอผลงานวิจัยของศูนย์ความเป็นเลิศด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีทั้ง 7 ศูนย์ ในด้านเคมี, วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและการบริหารจัดการสิ่งแวดล้อม, การจัดการสิ่งแวดล้อมและของเสียอันตราย, ปิโตรเลียมและเทคโนโลยีปิโตรเคมี, พลังงานและเทคโนโลยีสิ่งแวดล้อม, เทคโนโลยีชีวภาพเกษตร และเทคโนโลยีหลังการเก็บเกี่ยว ตลอด 4 ปีที่ผ่านมา ศูนย์ความเป็นเลิศฯ ทั้ง 7 แห่ง มีเครือข่ายเชื่อมโยงระหว่าง 14 สถาบันอุดมศึกษาและสถาบันวิจัย มีนักศึกษาเข้าสู่โครงการทั้งปริญญาโทและเอกกว่า 2,500 คน มีผู้จบการศึกษาไปแล้วกว่า 800 คน ซึ่งจากการประเมินการทำงานเราค่อนข้างพอใจกับปริมาณของบุคลากร และผลงานวิชาการที่แต่ละศูนย์ทำได้ ดังนั้นสิ่งที่เราเสนอกับรัฐบาลสำหรับโครงการระยะต่อไป จะมุ่งไปที่คุณภาพของบัณฑิต และคุณภาพของงานวิจัยให้มากยิ่งขึ้น ขณะเดียวกันก็จะเน้นให้เป็นงานวิจัยที่เข้าไปช่วยแก้ปัญหาให้กับผู้ใช้ ทั้งภาครัฐและเอกชนให้มากขึ้น พร้อมกับตั้งเป้าว่า ในอนาคตศูนย์ความเป็นเลิศฯ จะเป็นที่รู้จักและเป็นที่ยอมรับในระดับภูมิภาค และเป็นทางเลือกหนึ่งในการศึกษาต่อระดับสูงของนักศึกษาด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีในภูมิภาคนี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขง รศ.ดร.ชัยยุทธ กล่าว (สยามรัฐ ศุกร์ที่ 26 มีนาคม 2547 หน้า 7)
"ครูภูมิปัญญา"ครูแท้ผู้สืบทอดสรรพวิชาจากบรรพชน
พระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ.2542 (แก้ไขเพิ่มเติม พ.ศ.2545) กฎหมายแม่บททางการศึกษา ได้มีการระบุถึงภูมิปัญญาไว้ในหลายมาตรา สรุปสาระสำคัญได้ว่าจะต้องมีการส่งเสริมการใช้องค์ความรู้จากภูมิปัญญามาช่วยในการจัดการศึกษา การพัฒนาประเทศให้สอดคล้องกับวิถีชีวิตของชุมชน และที่สำคัญเพื่อเป็นการอนุรักษ์ภูมิปัญญาเหล่านั้นให้ดำรงอยู่สืบต่อไป สำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษา หรือ สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาแห่งชาติ (เดิม) ในฐานะหน่วยนโยบายการศึกษาของชาติ ได้ตระหนักในความสำคัญของบทบัญญัติแห่งกฎหมาย จึงได้ดำเนินการจัดทำโครงการส่งเสริมกิจกรรมการเรียนรู้ครูภูมิปัญญาไทย โดยการสรรหาบุคคลผู้ทรงภูมิปัญญาใน 9 ด้าน ได้แก่ ด้านเกษตรกรรม ด้านอุตสาหกรรมและหัตถกรรม ด้านการแพทย์แผนไทย ด้านการจัดการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ด้านกองทุนและธุรกิจชุมชน ด้านศิลปกรรม ด้านภาษาและวรรณกรรม ด้านปรัชญาศาสนาและประเพณี และด้านโภชนาการ เพื่อยกย่องเชิดชูเกียรติเป็นครูภูมิปัญญาไทย และสนับสนุนครูภูมิปัญญาเหล่านั้นให้ทำหน้าที่ถ่ายทอดภูมิความรู้หรือความรอบรู้ที่สั่งสมมาให้กับบุคคลอื่นซึ่งจะเกิดประโยชน์ต่อสังคมมากยิ่งขึ้น อาจารย์สุทธาสินี วัชรบูล ผู้อำนวยการสำนักมาตรฐานและพัฒนาการเรียนรู้ สกศ. บอกว่า นับจากปี 2544 สกศ.ดำเนินการคัดเลือกบุคคลผู้ทรงภูมิปัญญา และประกาศยกย่องเชิดชูเกียรติเป็นครูภูมิปัญญาไทยไปแล้วทั้งสิ้น 3 รุ่น จำนวน 131 คน ขณะนี้สำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษากำลังเตรียมเปิดรับประวัติชีวิตและผลงานของบุคคลผู้ทรงภูมิปัญญาทั่วประเทศเข้ารับการสรรหาและคัดเลือกเพื่อประกาศยกย่องเชิดชูเกียรติเป็น "ครูภูมิปัญญาไทย" รุ่นที่ 4 ซึ่งสามารถติดตามได้ทางเว็บไซต์ของสำนักงานฯ http://www.onec.go.th (เดลินิวส์ เสาร์ที่ 27 มีนาคม 2547 หน้า
ปลื้มแห่สมัครอาชีวะยอดทะลุ1.8แสนคน
นายวีระศักดิ์ วงษ์สมบัติ เลขาธิการคณะกรรมการการอาชีวศึกษา(กอศ.) เปิดเผยว่า หลังจากมีนโยบายปรับแผนรับนักศึกษาแบบใหม่เข้า ป.ว.ช. 1 โดยยกเลิกการสอบเข้า และให้เลือกเรียนตามสาขาที่ต้องการนั้น ตั้งแต่เปิดรับสมัครต้นเดือนมกราคมถึงปัจจุบันมีผู้สมัครทั้งสิ้น 180,000 คน สูงกว่าที่ตั้งเป้าไว้ และสูงกว่าปีการศึกษา 2546 ที่มีผู้สมัครเพียง 150,000 คน อย่างไรก็ตาม จะรับสมัครถึงวันที่ 31 มีนาคม ทั้งนี้ ทำให้เห็นว่าแผนการรับนักศึกษาที่ปรับใหม่ประสบความสำเร็จด้วย แผนการรับปีนี้จะทำให้เด็กได้เรียนในสิ่งที่ชอบ และสอดคล้องกับตลาดแรงงาน จะเห็นได้จากภาควิชาอุตสาหกรรม ที่เด็กจะมุ่งเรียนช่างยนต์กันมาก และภาคพาณิชยกรรม เด็กก็จะสนใจเรียนคอมพิวเตอร์ บัญชี และการตลาดกันมากขึ้น ทั้งนี้ จะสรุป และวิเคราะห์สาขาที่เป็นที่นิยมของเด็กภายหลังปิดรับสมัครอีกครั้ง (มติชนรายวัน จันทร์ที่ 15 มีนาคม 2547 หน้า 22)
ไฟเขียว26ร.ร.เอกชนเปิดร.ร.สอนสองภาษา
นายสุรเทพ ตั๊นประเสริฐ ปฏิบัติหน้าที่เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาเอกชน(กช.) เปิดเผยว่า สำนักบริหารงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน(สช.) ได้อนุมัติให้โรงเรียนเอกชนที่ขอจัดตั้งใหม่ และขอเปิดสอนโครงการจัดการเรียนการสอนตามหลักสูตรกระทรวงศึกษาธิการ(ศธ.) เป็นภาษาอังกฤษ ประจำปีการศึกษา 2547 จำนวน 21 โรง ได้แก่ ระดับก่อนประถมถึงประถมศึกษา 16 โรง ได้แก่ ร.ร.อนุบาลเปล่งประสิทธิ์สายลม เขตพญาไท ร.ร.ปาณยาพัฒนาการ เขตสวนหลวง ร.ร.นฤมลทินธนบุรี เขตบางกอกน้อย ร.ร.ศิริวัฒน์วิทยา เขตสายไหม ร.ร.พระแม่มารีสาทร เขตสาทร ร.ร.แสงโสม เขตจตุจักร ร.ร.ศิริเพ็ญ เขตสะพานสูง ร.ร.แอ็ดเวนตีส เอกมัย เขตวัฒนา ร.ร.ทรงวิทย์ศึกษา เขตคันนายาว ร.ร.อโศกวิทย์อ่อนนุช เขตสวนหลวง ร.ร.อนุบาลสุรีย์ลักษณ์ จ.นนทบุรี ร.ร.บำรุงวิทยา จ.นครปฐม ร.ร.วารีเชียงใหม่ จ.เชียงใหม่ ร.ร.ภัทรวิทยา จ.ตาก ร.ร.ราไวย์เรืองวิทย์ จ.ภูเก็ต และ ร.ร.เทพนารี จ.แพร่ นอกจากนี้ ยังมีโรงเรียนที่เปิดโครงการภาษาอังกฤษระดับประถมถึง ม.ต้น อีก 5 โรง ได้แก่ ร.ร.กรุงเทพวิเทศศึกษา เขตบึงกุ่ม ร.ร.ดรุณพัฒน์ เขตจตุจักร ร.ร.ยุวทูตศึกษา เขตบึงกุ่ม ร.ร.กรพิทักษ์ศึกษา เขตหนองแขม และ ร.ร.อรุณวิทยา จ.ประจวบคีรีขันธ์ ซึ่งโรงเรียนเหล่านี้เป็นโรงเรียนที่ได้รับการรับรองจาก ศธ.อย่างถูกต้องทั้งมาตรฐานด้านวิชาการ ครูผู้สอน หลักสูตรการเรียนการสอน และอาคารสถานที่ (มติชนรายวัน จันทร์ที่ 15 มีนาคม 2547 หน้า 22)
9ม.กลุ่มท้าทายลุ้นประเมินผ่านเกณฑ์ได้โบนัส
นายอดิศัย โพธารามิก รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ(ศธ.) เปิดเผยภายหลังการประชุมเกี่ยวกับการเจรจาข้อตกลงการปฏิบัติราชการ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2547 ของสถาบันอุดมศึกษา และสำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา(สกอ.) ในกลุ่มท้าทายว่า ในวันที่ 19 มีนาคม สกอ.จะลงนามข้อตกลงในคำรับรองการปฏิบัติราชการในกลุ่มท้าทายกับมหาวิทยาลัยในกลุ่มท้าทาย 9 แห่ง ได้แก่ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ม.ขอนแก่น ม.เชียงใหม่ ม.ทักษิณ ม.ธรรมศาสตร์ ม.มหาสารคาม ม.ศิลปากร ม.ขลานครินทร์ และสถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ หรือนิด้า ซึ่งข้อตกลงดังกล่าวจะมีเป้าหมายที่มหาวิทยาลัยแต่ละแห่งจะดำเนินงาน ทั้งนี้ ภายหลังจากลงนามแล้วจะกำหนดดัชนีชี้วัดแต่ละประเภทให้ชัดเจน เพื่อประเมินว่ามหาวิทยาลัยแต่ละแห่งจะผ่านเกณฑ์หรือไม่ หากผ่านข้าราชการจะได้ค่าตอบแทน และโบนัส ซึ่งถือเป็นกลุ่มแรกใน ศธ.ที่จะลงนามในข้อตกลงดังกล่าว (มติชนรายวัน จันทร์ที่ 15 มีนาคม 2547 หน้า22)
ที่ปรึกษานายกฯ แนะอาจารย์-น.ศ.ปรับตัวสู่ยุคทฤษฎีเพชร 5 เหลี่ยม
นายโอฬาร ไชยประวัติ ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี และที่ปรึกษากิตติมศักดิ์ มูลนิธิสถาบันวิจัยนโยบายเศรษฐกิจการคลัง กล่าวตอนหนึ่งในการปาฐกถาเกียรติยศ ศ.น.พ.ชัชวาล โอสถานนท์ ครั้งที่ 3 หัวข้อ "เศรษฐกิจการเงินโลกกับการปรับตัวของอุดมศึกษาไทย"ว่าระบบเศรษฐกิจการเงินในระดับมหภาคยึดระบบการบริหารตามทฤษฎีหัวรถจักรที่มีเพียงประเทศพัฒนาแล้วเป็นผู้นำคือ สหรัฐอเมริกา ญี่ปุ่นและยุโรป และประเทศที่กำลังพัฒนาเป็นผู้ตาม เมื่อเศรษฐกิจผู้นำถดถอย ผู้ตามก็จะถดถอยด้วย แต่หลังวิกฤตเศรษฐกิจหลายฝ่ายนำทฤษฎีดังกล่าวมาทบทวน จึงมีการปรับเปลี่ยนมาสู่ทฤษฎีเพชร 5 เหลี่ยม ที่แสดงความสัมพันธ์ในหลายทิศทางขึ้นกับองค์ประกอบที่อยู่รอบตัว ไม่มีใครเป็นผู้นำและผู้ตาม ขึ้นอยู่กับนโยบายการบริหารของแต่ละประเทศ สถาบันอุดมศึกษาไทยในช่วง 10 ปีนี้ ต้องเร่งปรับตัว ทำสิ่งที่มีอยู่แล้วให้ดีขึ้น และสร้างสิ่งใหม่ให้สอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลง สร้างเสริมสังคมบนฐานของสิทธิของประชาชน ส่วนนักศึกษาต้องทำการทดลอง วิจัย ทำกิจกรรม และเรียนรู้ด้วยตนเอง สำหรับอาจารย์ ต้องมีการทำวิจัยสร้างองค์ความรู้ใหม่ในบริบทที่เกี่ยวกับต่างประเทศที่มีความเกี่ยวข้องกับไทย ซึ่งผลงานวิจัยดังกล่าว จะกระตุ้นนักศึกษาให้เกิดการเรียนรู้ และคิดลึกซึ้งมากกว่าที่จะผลิตบัณฑิตให้จบการศึกษาออกมามีความรู้ท่วมหัว แต่เอาตัวไม่รอด แต่ที่สำคัญต้องประยุกต์สิ่งที่มีอยู่ให้เข้ากับสิ่งที่สร้างใหม่ให้ได้ ปรับปรุงให้ดีขึ้น (มติชนรายวัน พุธที่ 17 มีนาคม 2547 หน้า 23)
อาชีวะจับมือค่ายสุรสีห์เสริมกึ๋นกำลังพลเปิดเทียบโอนความรู้
นายวีระศักดิ์ วงษ์สมบัติ เลขาธิการคณะกรรมการการอาชีวศึกษา และพล.ต.สมเกียรติ สิทธิไวยกิจ ผู้บัญชาการกองพลทหารราบที่ 9 ลงนามความร่วมมือนำร่องใช้ระบบเทียบโอนผลการเรียนและประสบการณ์อาชีพเพื่อพัฒนากำลังพลนายสิบและพลทหารประจำการค่ายสุรสีห์ ให้ได้รับคุณวุฒิทางวิชาชีพในระดับ ป.วช.และ ป.วส. ซึ่ง ขณะนี้มียอดกำลังพลสมัครเรียนหลักสูตร ป.วส. จำนวน 233 คน หลักสูตร ป.วช. จำนวน 413 คน และหลักสูตรระยะสั้นที่เป็นอาชีพเฉพาะอีก 15 คน รวมทั้งสิ้น 661 คน หลักสูตรที่จะต้องใช้ในการพัฒนากำลังพลครั้งนี้เป็นหลักสูตร ป.วส.และ ป.วส.ที่เปิดโอกาสให้นำผลการเรียนและประสบการณ์อาชีพมาเทียบโอนหน่วยกิตได้ เนื่องจากพื้นฐานครอบครัวของผู้เรียนส่วนใหญ่ประกอบอาชีพเกษตรกรรม นอกจากนั้น ยังมีจุดเด่นที่จัดการแผนการเรียนแบบโมดูล ซึ่งประกอบด้วยวิชาการจัดสวน ผลิตปุ๋ยชีวภาพ ผลิตดินผสมเพื่อการเกษตร เป็นต้น ซึ่งผู้เรียนสามารถเรียนภาคทฤษฎีโดยใช้ชุดการเรียนรู้ด้วยตนเอง 20% และฝึกภาคปฏิบัติ 80% ของหน่วยกิตตลอดหลักสูตร หากผู้เรียนใช้เวลาเรียนได้อย่างต่อเนื่องจะสำเร็จการศึกษาได้ภายใน 1 ปี หรือไม่เกินกว่า 1 ปี 6 เดือน โดยสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา(สอศ.) มอบให้วิทยาลัยเกษตรและเทคโนโลยีกาญจนบุรีรับผิดชอบโครงการ (มติชนรายวัน ศุกร์ที่ 19 มีนาคม 2547 หน้า 23)
อดิศัย"มั่นใจยุทธศาสตร์ศธ.เจ๋ง เปิดช่องเอกชนบริหาร"ร.ร.รัฐ"
นายอดิศัย โพธารามิก รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ(ศธ.) กล่าวในการประกาศยุทธศาสตร์สู่การปฏิบัติของ ศธ. ที่ศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทค บางนา คน ว่าความสำเร็จของยุทธศาสตร์มาจากการบรรลุเป้าหมายที่กำหนดไว้ว่า 1.ประชาชนต้องได้รับการศึกษาอย่างทั่วถึง และเสมอภาค 2.ประชาชนมีคุณภาพ คุณธรรม เพื่อร่วมพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมฐานความรู้ และ 3.ประเทศมีศักยภาพในการแข่งขันเพิ่มขึ้นทั้งในและต่างประเทศ อย่างไรก็ตาม ยุทธศาสตร์ดังกล่าวเป็นภาพใหญ่ จึงต้องใช้เวลากว่าจะเห็นผล บางเรื่องอาจใช้เวลาเป็นปี บางเรื่องอาจสั้นกว่า แต่ภายใน 2-5 ปี เชื่อว่าจะเห็นความชัดเจนถึง 90% ด้านนางพรนิภา ลิมปพยอม ปลัด ศธ. กล่าวว่า หลายเรื่องยังต้องปรับปรุงกันอีกมาก ทั้งเรื่องของสถานศึกษา ครูที่ขาดแคลน และที่สำคัญต้องผลักดันให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเข้ามารับโอนโรงเรียนไปดูแลมากขึ้น เพื่อแบ่งเบาภาระ ศธ. หรือการให้เอกชนที่สนใจเข้ามาประมูลการบริหารในโรงเรียนของรัฐ ด้านร.ต.อ.วรเดช จันทรศร เลขาธิการคณะกรรมการการอุดมศึกษา(กอ.) กล่าวว่า รัฐบาลมีนโยบายเปิดโอกาสให้ทุกคนได้เรียน เพราะฉะนั้น กำลังจะมีระบบคูปองการศึกษาจากรัฐบาลเกิดขึ้น โดยทุกคนสามารถได้เรียนและไปผ่อนคืนกับรัฐบาลเมื่อจบและมีงานทำแล้ว นอกจากนี้ ภายใน 2 ปีข้างหน้ามหาวิทยาลัยจะรับนักศึกษาระบบตรงเพิ่มขึ้น เพื่อรองรับเด็กในท้องถิ่น และเพื่อเพิ่มศักยภาพในการเรียนรู้ สำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา(สกอ.) จึงได้ประสานกับห้องสมุดทั่วโลกเพื่อเป็นแหล่งความรู้ใหม่ และเชื่อมโยงเครือข่ายภูมิภาคอินโดจีนด้วย (มติชนรายวัน ศุกร์ที่ 19 มีนาคม 2547 หน้า 22)
นายกสั่งเร่งผลิตนักวิทยาศาสตร์
พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีเป็นประธานเปิดการประชุมสมัชชาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เพื่อการพัฒนาครั้งที่ 3 โดยได้กล่าวปาฐกถาพิเศษเรื่อง ทิศทางอนาคตนักวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีไทยใน 10 ปี ว่าตลอด 25 ปีที่ผ่านมา กระทรวงวิทยาศาสตร์ฯ ได้ส่งเสริมวิทยาศาสตร์ก้าวหน้าไปในระดับหนึ่ง แต่จากนี้ไป 3 ปีโลกวิชาการด้านวิทยาศาสตร์จะเปลี่ยนแปลงเร็วมาก แผนด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติต้องพร้อมปรับปรุงเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา รวมทั้งกระทรวงวิทยาศาสตร์ฯต้องทำงานควบคู่กับกระทรวงเทคโนโลยีและการสื่อสาร (ไอซีที) เพื่อนำวิทยาการสมัยใหม่สอดแทรกไปกับวิทยาศาสตร์ให้มากขึ้น เพื่อสร้างเศรษฐกิจให้แข่งขันในตลาดโลกรวมไปถึงการร่วมมือกับกระทรวงศึกษาธิการ ในการผลิตนักวิทยาศาสตร์เพิ่มขึ้น โดยรัฐบาลพร้อมให้ทุนสวทช. ทุนเด็กเรียนดีแต่ยากจน เพื่อสนับสนุนการสร้างเด็กวิทยาศาสตร์ให้มากขึ้น การจะให้วิทยาศาสตร์เป็นพลังขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศอย่างมีประสิธิภาพ ต้องให้ความสนใจด้านนวัตกรรมโดยมีการแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ระหว่างภาครัฐ เอกชนและสถาบันการศึกษาในลักษณะคลัสเตอร์ โดยจัดให้มีหน่วยงานรับผิดชอบในแต่ละอุตสาหกรรมโดยตรงเรียกว่าสำนักงานบริหารจัดการคลัสเตอร์ เพื่อเป็นตัวกลางประสานและสนับสนุนกิจกรรมเชื่อมโยง (กรุงเทพธุรกิจ อังคารที่ 16 มีนาคม 2547 หน้า 10)
พระจอมเกล้าธนบุรีร่วมเอ็มไอทีผลิตบุคลากรสายวิศวกรรมเคมี
นายเมตตา บันเทิงสุข ผู้อำนวยการสำนักนโยบายและแผนพลังงาน(สนพ.) กระทรวงพลังงาน เปิดเผยว่ากองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงานได้สนับสนุนมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี (มจธ.) ดำเนินโครงการทักษวิศวกรรมเคมี (ChEPS) ระดับปริญญาโทเพื่อผลิตวิศวกรเคมีที่มีความรู้ความสามารถด้านการวิจัยและพัฒนา การจัดการที่มีมาตรฐานเป็นสากลและมีทักษะในการทำงานในโรงงานอุตสาหกรรม โดยหลักสูตรดังกล่าว มจธ.ร่วมกับ Massachusetts Institute of Technology:MIT รวมทั้งบริษัทเอกชนให้นักศึกษาเข้าทำงานโครงงานด้านเทคนิค ด้วยการฝึกทักษะการแก้ปัญหาจริงในโรงงาน พร้อมให้ความร่วมมือพัฒนาหลักสูตร ประเมินผลโครงการและความสามารถของนักศึกษาตลอดเวลา (กรุงเทพธุรกิจ พฤหัสบดีที่ 18 มีนาคม 2547 หน้า 12)
ข่าววิทยาศาสตร์/เทคโนโลยี
ผลิตเซลล์ระบบภูมิคุ้มโรคสำเร็จต้นทางวิธีรักษาเอดส์แบบปฏิวัติ
นักวิทยาศาสตร์สามารถสร้างเซลล์ของระบบภูมิคุ้มโรคจากไข่ของหนูตัวเมียขึ้นในห้อง ปฏิบัติการได้เป็นครั้งแรก นับเป็นการเบิกทางไปสู่การปฏิวัติการรักษาโรคเอดส์ และมะเร็งในวันหน้า เพราะโรคทั้งคู่เกิดเนื่องมาจากระบบภูมิคุ้มโรคเสื่อมโทรม นักวิทยาศาสตร์ของมหาวิทยาลัยโตรอนโตของแคนาดา ไม่แต่จะสร้างเซลล์ที่เรียกว่า ที-เซลล์ อันเป็นเซลล์ระบบภูมิคุ้มโรคขึ้นจากเซลล์ต้นกำเนิดเมล็ดโลหิตที่เอามาจากไข่ของหนูตัวเมีย ขึ้นได้เท่านั้น ที-เซลล์เหล่านั้นยังมีคุณสมบัติในการต่อสู้กับโรคด้วยเซลล์ต้นกำเนิดเมล็ดโลหิต นั้น เป็นแม่เซลล์เอาไปใช้เพาะเนื้อเยื่อของอวัยวะต่างๆได้หมด ผู้ที่ป่วยเป็นโรคเอดส์ เพราะโดนถูกไวรัสโรคเอดส์ทำลายที-เซลล์ซึ่งเป็นระบบภูมิคุ้มโรคลง จึงเปราะบางกับโรคต่างๆ รวมทั้งโรคมะเร็งบางชนิด ซึ่งกดทำลายระบบภูมิคุ้มโรค (ไทยรัฐ พฤหัสบดีที่ 2547 หน้า 7)
ไอซีทีจ้างเยาวชนเป็นสารวัตรอินเทอร์เน็ต
น.พ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร ( ไอซีที ) เปิดเผยถึงความคืบหน้าโครงการรับสมัครนักเรียน นักศึกษา ทำหน้าที่ตรวจสอบเว็บไซต์ในช่วงปิดภาคเรียนว่า โครงการดังกล่าวจะช่วยสนับสนุนให้นักเรียน นักศึกษามีรายได้ และหาประสบการณ์ในช่วงปิดภาคเรียน รวมทั้งส่งเสริมให้เยาวชนมีความรู้ความเข้าใจและใช้อินเทอร์เน็ตอย่างสร้างสรรค์ หรือเรียกว่าคณะกรรมการสืบสวนป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมคอมพิวเตอร์ (สารวัตรอินเทอร์เน็ต หรือ ไซเบอร์ อินสเปกเตอร์) ผู้สมัครเป็นสารวัตรอินเทอร์ เน็ต มีทั้งสิ้น 112 คน ผ่านการคัดเลือกจำนวน 59 คน โดยจะต้องมีความรู้ความสามารถด้านอินเทอร์เน็ตอย่างดี มีเวลาว่างเพียงพอ ไม่ติดเรียนซัมเมอร์ และต้องมีเครื่องคอมพิวเตอร์เป็นของตนเอง ผู้ที่ผ่านการคัดเลือกให้ทำหน้าที่ดังกล่าวจะต้องได้รับอนุญาตจากผู้ปกครอง ซึ่งผู้ทำงานที่บ้านจะได้รับค่าตอบแทนคนละ 2,000 บาท ปฏิบัติงานที่กระทรวงเดือนละ 5,000 บาท รวมเวลาปฏิบัติงาน 2 เดือนระหว่างวันที่ 22 มี.ค.-21 พ.ค.2547
หน้าที่ของสารวัตรอินเทอร์เน็ต จะทำงานร่วมกับกระทรวงไอซีที เพื่อตรวจสอบเว็บไซต์ที่ไม่เหมาะสมกับเยาวชน แล้วทำการปิดกั้นต่อไป(เดลินิวส์ พฤหัสบดีที่ 25 มีนาคม 2547 หน้า 16)
หว้ากอเตรียมกิจกรรมฉลอง200ปีรัชกาลที่4
นายประเสริฐ หอมดี ผู้อำนวยการอุทยานวิทยาศาสตร์พระจอมเกล้า ณ หว้ากอ จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เปิดเผยว่า ในปี 2547 เป็นปีมิ่งมหามงคลเฉลิมฉลองสมโภชพระบรมราชสมภพพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว องค์พระบิดาแห่งวิทยาศาสตร์ไทย ครบรอบ 200 ปี ทางอุทยานวิทยาศาสตร์ฯ หว้ากอ ซึ่งเป็นดินแดนประวัติศาสตร์ที่พระองค์ท่านเสด็จพระราชดำเนินทอดพระเนตร สุริยุปราคาเต็มดวง เมื่อวันที่ 18 สิงหาคม 2411 จึงได้ร่วมกับประชาชน และหน่วยงานภาครัฐเตรียมจัดกิจกรรมเฉลิมพระเกียรติแด่พระองค์ท่าน และเฉลิมฉลองมหามิ่งมงคลดังกล่าว โดยเตรียมการเปิดพระบรมราชานุสาวรีย์พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ซึ่งประทับอยู่ที่อุทยานวิทยาศาสตร์ฯ หว้ากอ เพื่อให้นักเรียน นักศึกษา เยาวชน และประชาชนได้ร่วมถวายราชสักการะองค์พระบิดาแห่งวิทยาศาสตร์ไทยเพื่อความเป็นสิริมงคลแห่งชีวิต นอกจากนี้จะมีการจัดสร้างและเปิดให้บริการหอดูดาวหว้ากอ ซึ่งตั้งอยู่บริเวณใกล้ ๆ กับพระบรมราชานุสาวรีย์ และที่สำคัญและรอคอยกันมานานคือการให้บริการพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำหว้ากออย่างเป็นทางการ ในเนื้อที่ประมาณ 10 ไร่ ด้านทิศเหนือของหว้ากอ โดยภายในพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำ จะจัดแสดงชีวิตสัตว์น้ำและพืชน้ำด้วยสื่อประสมที่ทันสมัย ครอบคลุมทั้งสัตว์น้ำจืดและทะเลภายใต้หัวข้อ จากขุนเขาสู่ทะเลไทย โดยมีตู้จัดแสดงทั้งขนาดใหญ่ และอุโมงค์ปลารวมแล้วกว่า 40 ตู้ มีพันธุ์สัตว์น้ำกว่า 4,000 ตัว (เดลินิวส์ ศุกร์ที่ 26 มีนาคม 2547 หน้า 27)
สุดยอดเทคโนโลยีงานซีบิตแฟร์
เว็บไซต์บีบีซีออนไลน์ รายงานว่า ภายในงานซีบิต คอมพิวเตอร์ แฟร์ ณ เมืองฮานโนเวอร์ ประเทศเยอรมนี บริษัทผู้ผลิตสินค้าเทคโนโลยีระดับโลกได้เปิดตัวนวัต กรรมใหม่มากมาย เช่น ฮาร์ดดิสก์ขนาดเท่าแสตมป์ติดซองจดหมายของบริษัทโตชิบา ประเทศญี่ปุ่น ซึ่งมีความจุ 2-4 GB ซึ่ง โตชิบาระบุว่า จะนำมาใช้กับอุปกรณ์ สื่อสารไร้สายในยุค 3 จี นาฬิกาอัจฉริยะ เป็นนาฬิกาข้อมือไฮเทค ที่มีคุณสมบัติเหมือนเครื่องคอมพิวเตอร์พกพาหรือพีดีเอ หน้าปัดเป็นไวร์สกรีน รับได้ทั้งภาพวิดีโอและเทคโนโลยีจำแนกเสียง เวลาสนทนาก็ยกข้อมือพูดเหมือนในหนังสายลับ หูฟังเพลงไฟล์ MP3 สำหรับผู้ที่รักการฟังเพลง เป็นหูฟังขนาดเล็กที่มีคุณภาพมีเสียงชั้นเยี่ยม ฟังเพลงได้ยาวนาน มีปุ่มควบคุม แบบวงกลม ดาวน์โหลดเพลงใหม่ ๆ ได้จากอินเทอร์เน็ตไร้สายดิจิทัล คีย์ริงค์ เทคโนโลยีในการเก็บข้อมูลต่าง ๆ บนสมุดอิเล็กทรอนิกส์ ปุ่มกดออกแบบให้ใช้งานเลือกเมนูค้นหาแบบง่าย ๆ พร้อมระบบป้องกันความปลอดภัยของข้อมูลคล้ายกับพาสปอร์ตอิเล็กทรอนิกส์ ฟิวเจอร์วิชั่น เครื่องคอม พิวเตอร์ ดีไซน์ใหม่ สไตล์แว่นตาให้เสิร์ชค้นเว็บไซต์ เช็กอีเมลหรือจะทำอะไรก็ได้ที่ต้องการบนเครือข่ายอินเทอร์เน็ต เมื่อสวมเครื่องนี้ดวงตาจะทำหน้าที่เหมือนเม้าท์ โฟกัสเมนูที่ต้องการบนแว่นตา (เดลินิวส์ เสาร์ที่ 27 มีนาคม 2547 หน้า 16)
เตือนไทยตระหนักความสำคัญ นาโน
ศ.โทโมจิ คาวาอิ ผู้อำนวยการศูนย์วิทยาศาสตร์นาโนและนาโนเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยโอซากา ประเทศญี่ปุ่นได้บรรยายในงานสมัชชาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีเพื่อการพัฒนาครั้งที่ 3 โดยสรุปว่านาโนเทคโนโลยีเป็นเทคโนโลยีที่มีอิทธิพลในทุกสาขาและจะเป็นเทคโนโลยีที่ขาดไม่ได้ในศตวรรษที่ 21 ซึ่งนาโนเทคจะช่วยเพิ่มมูลค่าให้กับอุตสาหกรรมในปัจจุบันรวมถึงการสร้างผลิตภัณฑ์ใหม่ ซึ่งในประเทศญี่ปุ่นนาโนเทคโนโลยีเป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยเพิ่มมูลค่าในการส่งออก โดยนอกจากจะใช้ผลิตวงจรอิเล็กทรอนิกส์ขนาดเล็กแล้ว ยังใช้ในอุตสาหกรรมอื่นๆ เช่น เครื่องสำอาง ชุดชั้นใน เป็นต้นและแนวโน้มในอนาคตนี้ จะมีการใช้ชิพนาโนในอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์และเครื่องใช้ไฟฟ้ามากขึ้น นอกจากนี้การพัฒนานาโนเทคโนโลยีแบ่งออกเป็น 3 รุ่น รุ่นแรกเป็นนาโนเทคโนโลยีที่ใช้ในระดับอุตสาหกรรมเรียบร้อยแล้ว เช่น เครื่องสำอางแป้งที่มีอนุภาคนาโน หรือครีมบำรุงผิวอนุภาคนาโน การพัฒนารุ่นที่ 2 คือ นาโนเทคโนโลยีที่จะใช้ได้จริงในอีก 5-6 ปีข้างหน้า เช่นระบบบนชิพ เครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้าน ตัวเซ็นเซอร์ทางการแพทย์ และรุ่นที่ 3 จะนำมาใช้ในอีก 20 ปีข้างหน้า (กรุงเทพธุรกิจ พุธที่ 17 มีนาคม 2547 หน้า 7)
พบดาวสมาชิกใหม่ระบบสุริยะ
ไมค์ บราวน์ นักดาราศาสตร์ สถาบันเทคโนโลยีแคลิฟอร์เนีย หัวหน้าคณะวิจัย กล่าวว่า ดาวเคราะห์น้อยที่ถูกขนานนามว่า เซดนา อยู่ห่างจากโลกกว่า 12,000 ล้านกิโลเมตร มีเส้นผ่านศูนย์กลางราว 1700 กิโลเมตร มีระดับอุณหภูมิติดลบถึง 240 องศาเซลเซียส ใช้เวลาโคจรรอบดวงอาทิตย์ 10,500 ปี ซึ่งดาวดวงนี้ถูกค้นพบด้วยกล้องโทรทรรศน์อวกาศสปิตเซอร์ของนาซาเมื่อปลายปี 2546 ขณะทำการสำรวจบริเวณชั้นนอกของระบบสุริยจักรวาล โดยเซดนาเป็นวัตถุที่เคลื่อนตัวช้ามาก ใช้เวลาหมุนรอบตัวเองครั้งละ 40 วัน แต่ถึงแม้ว่าเซดนาจะเป็นส่วนหนึ่งของระบบสุริยจักรวาลแต่ไม่ได้หมายความว่าจะเป็นดาวเคราะห์ เนื่องจากวัตถุที่เป็นดาวเคราะห์ได้จะต้องมีขนาดที่แน่นอนและมีวงโคจรในระบบที่เหมือนกับดาวเคราะห์ดวงอื่น อย่างไรก็ตามดาวเซดนาถือเป็นวัตถุที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในระบบสุริยะนับตั้งแต่ค้นพบดาวพลูโต (กรุงเทพธุรกิจ พุธที่ 17 มีนาคม 2547 หน้า 7)
ข่าววิจัย/พัฒนา
สลอดรักษามะเร็งต่อมลูกหมากทั้งปราบเชื้อเก่าปรามเชื้อใหม่
นักวิทยาศาสตร์ของศูนย์วิจัยโรคมะเร็ง ของห้องปฏิบัติการวิจัยโรคมะเร็งเลห์แมน คัลล์แมน ที่มหาวิทยาลัยรัฐนิวเจอร์ซีย์ ได้แจ้งว่า พบว่าน้ำมันของเมล็ดสลอด ได้ส่อว่ามีสรรพคุณรักษา มะเร็งของต่อมลูกหมากได้ เนื่องจากมีสารประกอบที่เรียกกันว่า ทีพีเออยู่ "เราได้พบว่ามันมี สรรพคุณทั้งช่วยยับยั้งการเจริญเติบโตของเซลล์มะเร็งต่อมลูกหมากใหม่ พร้อมกับฆ่าเซลล์ มะเร็งที่มีอยู่เดิมพร้อมกันไปด้วย เป็นเหตุให้เนื้อร้ายที่ต่อมลูกหมากเหี่ยวหดลงไปในที่สุด" นักวิทยาศาสตร์อัลเลน คอนนีย์ ในคณะวิจัยกล่าวเสริมว่า "รู้สึกเชื่อมั่นในผลของการวิจัย สรรพคุณของมัน แต่การศึกษาครั้งนี้ยังเป็นเพียงก้าวแรกที่สำคัญ ในขบวนการอันยืดยาว ก้าวเดียว และเราได้เตรียมจะทดสอบกับมนุษย์ต่อไป ผลของการวิจัยกับสารประกอบนั้นและ อื่นๆ คงจะช่วยให้ผู้ตกเป็นเหยื่อของมะเร็งต่อมลูกหมากในแต่ละปี ที่มีไม่ต่ำกว่าครึ่งล้าน เกิดความหวังขึ้น (ไทยรัฐ จันทร์ที่ 22 มีนาคม 2547 หน้า 7)
รถยนต์อัจฉริยะเตือนเจ้าของเบาเท้าจะได้ประหยัดน้ำมัน
วิศวกรยานยนต์ของบริษัทรถยนต์ เดมเลอร์ ไครสเลอร์ ได้คิดออกแบบคันเร่งน้ำมัน ที่จะเตือนผู้ขับให้รู้ตัวถอนคันเร่งน้ำมันเมื่อไม่จำเป็นลง ซึ่งเชื่อกันว่าจะช่วยให้ผู้ขับรถยนต์ ประหยัดค่าน้ำมันลงได้มาก นิตยสารวิทยาศาสตร์ "เดอะ นิว ไซแอนติสต์" รายงานว่า อุปกรณ์นั้นทำงานโดยการคอย ติดตามการไหลเลื่อนของการจราจร ระยะห่างจากรถคันหน้า ความเร็วที่กำหนดและความโค้ง ของถนน ด้วยการรับข้อมูลจากดาวเทียม เมื่อคอมพิวเตอร์ในเครื่องประเมินผลว่า เป็นช่วงที่ สมควรจะถอนคันเร่ง ก็จะส่งสัญญาณให้ผู้ขับรู้ตัว ด้วยอาการสั่นคันเร่ง เนื่องจากวิศวกรได้ ศึกษาพบมาเมื่อก่อนหน้าว่า สาเหตุใหญ่ของการสิ้นเปลืองน้ำมันไปเปล่าๆ ในการขับรถ ก็เพราะการเบรกสายไปหน่อย เมื่อถึงคราวจะต้องชะลอความเร็วลง ถึงไฟแดง การเข้าโค้ง หรือจะต้องหยุดรถลงเมื่อใดในการทดลองให้อาสาสมัคร 70 คน ทดสอบใช้ ขับรถยนต์เบนซ์ แบบเกียร์อัตโนมัติ ปรากฏผลว่า มันช่วยให้ประหยัดน้ำมันในการขับลงได้ 11% (ไทยรัฐ จันทร์ที่ 22 มีนาคม 2547 หน้า 7)
วิจัยโอสถสาร "กระชาย" เข้ายาร่วม "พลูคาว" ต้านมะเร็ง
ผลสำเร็จในงานวิจัยและทดลอง กับสมุนไพรไทย และคนไทยชิ้นหนึ่งที่สามารถหยุด การเจริญเติบโตของเชื้อ มะเร็งได้คือ "พลูคาว" งานวิจัยนี้ ได้ต่อยอดพืชสมุนไพรอีกตัวหนึ่งที่เป็น "ยาร่วม" ที่มีคุณค่าทางโอสถสาร สูงคือ กระชายมี สรรพคุณมาก หัวแก้ท้องอืดท้องเฟ้อ ขับระดูแก้มุตกิด เบาเหลือง เบาแดง แก้กระษัย ไปจนถึงแก้กามตายด้าน ทำให้จิตใจกระชุ่มกระชวย ฯลฯ... ส่วนใบแก้โรคในปากโลหิต เป็นพิษถอนพิษ บำรุงธาตุ ฯลฯ เมื่อนำมาตรวจดู ฤทธิ์ทางเภสัชวิทยาพบว่า สามารถยับยั้งการหดเกร็งตัวของกล้ามเนื้อเรียบ ต้านเชื้อรา ต้านเชื้อแบคทีเรีย ยับยั้งเนื้องอกก่อกลายพันธุ์ ลดการอักเสบจนถึงละลายนิ่ว ได้อีกด้วย คุณสุริยา วิจิตรโชติ ผู้คร่ำหวอดอยู่ใน วงการสมุนไพร จนได้รับการขนานนามว่า "พจนานุกรมสมุนไพรเคลื่อนที่" ผู้ทำการ วิจัยในเรื่องของ "พลูคาว" มาใช้กับการ ป้องกัน บำบัดโรคมะเร็ง จนได้รับ ผลสำเร็จ จากปี พ.ศ. 2543 ทำให้มีความมั่นใจจากคณะผู้ผลิตวัตถุดิบและคณะผู้วิจัย มีการกำกับดูแล ของแพทย์ เภสัชกรอยู่ภายใต้ระเบียบของ กระทรวงสาธารณสุข ได้รับความมั่นใจ สามารถจด ทะเบียนเป็นยาแผนโบราณเพื่อบำรุงร่างกายกับ องค์การอาหารและยา กระทรวงสาธารณสุข ในปี พ.ศ. 2546 ผลวิจัยได้นำเสนอในที่ประชุมประจำปีของสถาบันมะเร็งแห่งชาติ จนเป็นที่ ยอมรับของทุกฝ่ายถึงสรรพคุณของยาน้ำแผนโบราณบำรุงร่างกายตำรับนี้ สนใจข้อมูลขอได้ที่ "สุริยา" โทร 0-2446-8083-8 (ไทยรัฐ จันทร์ที่ 22 มีนาคม 2547 หน้า 7)
กินผลเชอรี่มีคุณค่าเท่าไวน์แดงมีสารเป็นตัวล้างพิษของร่างกาย
นักโภชนาการสเปนเปิดเผยว่า หากบริโภคผลเชอรี่ จะช่วยรักษาสุขภาพให้ดีได้ไม่แพ้กับการ ดื่มเหล้าไวน์แดง ด้วยเหตุว่า มันก็มีสารที่มีคุณสมบัติเป็นตัวล้างพิษ และควบคุมปริมาณไขมัน ในเลือดอยู่เช่นเดียวกัน นักวิจัยของมหาวิทยาลัยซีวิลล์ รายงานผลการศึกษาวิจัย ในวารสารวิทยาศาสตร์ "โภชนาการศาสตร์และเกษตรศาสตร์" ว่า ได้พบการบริโภคผลเชอรี่ ช่วยป้องกันโรคหัวใจได้ จากการศึกษากับหนูทดลอง ได้พบว่า หนูที่ถูกป้อนให้กินผลเชอรี่ ต่างพากันมีสุขภาพดี และจาก การตรวจเลือดก็พบว่า ในเลือดของมันจะมีปริมาณของไขมันดีอยู่สูง ขณะเดียวกัน ไขมันเลวก็มีระดับลดต่ำลงไปด้วย. (ไทยรัฐ จันทร์ที่ 22 มีนาคม 2547 หน้า 7)
ผู้ชายเสี่ยงเป็นโรคอัมพาตแบบสั่น เพราะพิษของสารเคมีและอุบัติเหตุ
คณะนักวิจัยของมหาวิทยาลัยแพทย์ เวอร์จิเนียของสหรัฐฯ ศึกษาพบว่าผู้ชายมีโอกาสสูง ที่จะป่วยเป็นโรคอัมพาตแบบสั่น มากกว่าผู้หญิงถึง 1.5 เท่า คาดว่าคงเป็นเพราะผู้ชาย โดนถูกสารเคมีที่เป็นพิษ และมักจะได้รับอุบัติเหตุที่ศีรษะมากกว่ากัน รายงานผลการศึกษาอยู่ในวารสารการแพทย์ "ประสาทวิทยา ศัลยประสาทวิทยาและจิตวิทยา" โดยไม่อาจบอกเหตุผลได้ว่า เหตุใดผู้ชาย ถึงพากันเป็นโรคนี้ง่ายกว่าผู้หญิง ได้แต่เพียงคาดหมายว่าคงเป็นเพราะ การประพฤติ ปฏิบัติตัวตลอดจนการทำหน้าที่บทบาทของผู้ชาย เช่น การทำงานเป็นเกษตรกร การใช้แรงงานอันเป็นงานทำให้เสี่ยงกับการได้รับอุบัติเหตุที่ศีรษะ และสัมผัสกับ สารเคมีที่เป็นพิษได้ แต่นักวิจัยยังได้สันนิษฐานว่า ฮอร์โมนเพศของผู้หญิง บางทีก็อาจมีส่วนช่วยปกป้องสมอง และความเสียหายของประสาทของสตรีได้ โรคอัมพาตแบบสั่น สาเหตุเกิดจากความแปรปรวนของสารสื่อประสาท 2 ชนิดในสมอง เป็นผลให้การประสานงานของอวัยวะต่างๆ ในการเคลื่อน ไหวร่างกายต้องเสื่อมทรามลง ผู้ป่วยจะมีอาการสั่นของกล้ามเนื้อบางส่วน นอกจากนั้นการเดิน พูดจา เขียนอ่านหนังสือ อาการยิ้มหัว และแม้แต่การกลืนก็จะติดขัดลำบากไปด้วย (ไทยรัฐ พุธที่ 24 มีนาคม 2547 หน้า 7)
พบแหล่งผลิตน้ำดื่ม กทม.ไร้มาตรฐาน
น.พ.ศุภชัย คุณารัตนพฤกษ์ เลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) เปิดเผยว่า ตามที่กระทรวงสาธารณสุขมีการผลักดันให้สถานที่ผลิตน้ำดื่มในภาชนะบรรจุที่ปิดสนิท ได้มาตรฐานตามหลัก-เกณฑ์การผลิต หรือจีเอ็มพีมาอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ได้ผลิตภัณฑ์น้ำดื่มที่สะอาดได้มาตรฐาน และปลอดภัยต่อการบริโภค โดยเฉพาะช่วงหน้าร้อน อย.จึงให้มีการเฝ้าระวังและดำเนินการ เก็บตัวอย่างน้ำดื่มในภาชนะบรรจุที่ปิดสนิท จากสถานที่จำหน่ายในเขตกรุงเทพฯ ตั้งแต่เดือน ก.ย. 2546 ถึงปัจจุบันรวม 85 ตัวอย่าง โดยแบ่งตรวจวิเคราะห์ที่กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ และแล็บเอกชนที่กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์รับรอง ผลการตรวจวิเคราะห์จาก 79 ตัวอย่าง พบการปนเปื้อนโคลิฟอร์ม แบคทีเรีย เกินมาตรฐาน 9 ตัวอย่าง อีก 6 ตัวอย่างรอผลวิเคราะห์อยู่ (ไทยรัฐ พุธที่ 24 มีนาคม 2547 หน้า 15)
ตาวิเศษ
นักวิจัยจาก Wright State University โดยความร่วมมือของ Arizona State University (ASU) ได้ประดิษฐ์ อุปกรณ์มีชื่อว่า Tyflos ซึ่งมาจากภาษากรีกมีความหมายว่ามองไม่เห็นหรือตาบอด ประกอบด้วยกล้องขนาดเล็กที่ติดอยู่กับแว่นตาโดยมีสายนำสัญญาณไปยังคอมพิวเตอร์แล็ปท็อปซึ่งอยู่ในเป้สะพายหลังที่คนพิการทางสายตาสามารถนำติดตัวไปได้ทุก ๆ ที่ หลักการทำงานของ Tyflos ก็คือกล้องที่ติดอยู่บริเวณแว่นตาจะส่งสัญญาณไปยังคอมพิวเตอร์เพื่อประมวลผลสิ่งที่กล้องกำลังจับภาพอยู่ว่าเป็นวัตถุชนิดใด เครื่องคอมพิวเตอร์จะทำการวิเคราะห์และสร้างภาพสามมิติขึ้นมาเพื่อใช้ตรวจจับความเคลื่อนไหวของร่างกาย หรือวัตถุต่าง ๆ รวมไปถึงความสามารถในการจดจำใบหน้าบุคคลด้วย ข้อมูลจากการประมวลผลของคอมพิวเตอร์จะได้รับการสังเคราะห์เป็นเสียงพูดเพื่อส่งไปยังหูฟังให้คนพิการทางสายตาสามารถรับรู้ได้ว่าวัตถุที่อยู่ตรงหน้าคืออะไรและกำลังมีการเคลื่อนไหวอย่างไร ที่สำคัญก็คือสามารถจดจำใบหน้าของคนรู้จักได้ ซึ่งจะเป็นประโยชน์อย่างมากสำหรับการดำเนินชีวิตประจำวันของคนพิการทางสายตา อุปกรณ์ดังกล่าวยังช่วยให้คนตาบอดสามารถอ่านหนังสือพิมพ์ เล่นอินเทอร์เน็ต หรือเข้าชั้นเรียนเหมือนคนปกติทั่วไป และที่น่าสนใจก็คือว่านักวิจัยกำลังเพิ่มความสามารถให้กับอุปกรณ์ดังกล่าวสามารถเขียนหนังสือและวาดรูปได้อีกด้วย ปัจจุบันนี้กำลังทดสอบประสิทธิภาพโดยการนำอุปกรณ์ดังกล่าวไปให้นักศึกษาในมหาวิทยาลัยที่มีความพิการทางสายตาได้ทดลองใช้ เพื่อหาข้อบกพร่องที่จะต้องได้รับการปรับปรุงแก้ไขก่อนที่จะผลิตออกมาให้คนพิการทางสายตาทั่วไปได้ใช้กัน (เดลินิวส์ พุธที่ 24 มีนาคม 2547 หน้า 16)
บุหรี่ทำลายสมองคนแก่เร็วขึ้น5เท่าแซงหน้าเพื่อนฝูงที่ไม่นิยม พ่นควัน
ผู้สูงอายุที่ยังคงสูบบุหรี่อยู่ จะเป็นเหตุให้สมองต้องเสื่อมโทรมลงเร็วกว่าเพื่อนที่ไม่ได้สูบบุหรี่ ด้วยกัน เร็วกว่ากันถึง 5 เท่า ผลการศึกษาในวารสาร "ประสาทวิทยา" ครั้งนี้ กลับขัดกับผลการศึกษาเมื่อก่อนหน้า ซึ่งปรากฏผลส่อว่าฤทธิ์นิโคตินในบุหรี่อาจช่วยบำรุงสมองได้ การศึกษาซึ่งได้ทำโดยการ ทดสอบสติปัญญาของชายหญิงสูงอายุ เกิน 65 ปีขึ้นไปในชาติยุโรป 9,209 คน ได้พบว่า สมองของผู้ที่ไม่สูบบุหรี่จะเสื่อม โทรมลงในอัตราปีละ .03 ในขณะที่ผู้สูบบุหรี่จะเสื่อมโทรม ลงในอัตราสูงถึง .16 แต่หากรู้ตัวรีบเลิกทัน ก็จะเสื่อมลงในอัตราเพียงแค่ .06 ซึ่งเป็นเครื่อง แสดงว่า "การเลิกสูบบุหรี่ไม่มีคำว่าสายเกินไป" ทีมนักวิจัยของศูนย์แพทย์อีรัสมัสในกรุงรอตเตอร์ดัม กล่าวว่า การสูบบุหรี่มาอย่างยาวนานอาจ ทำให้เป็นโรคความดันโลหิตสูงและเส้นเลือดแดงแข็ง เสี่ยงกับการเป็นอัมพาตและเนื้อเยื่อ ตามบริเวณย่อยๆ ในสมองต้องเสียหาย ศาสตราจารย์ โอตต์หัวหน้าทีม กล่าวว่า ยิ่งสูบบุหรี่ มากและนานเท่าใด สติปัญญาก็จะยิ่งเสื่อมลงเท่านั้น (ไทยรัฐ พฤหัสบดีที่ 2547 หน้า 7)
วิศวกรไทยพัฒนาเครื่องแอร์ประหยัดไฟ ไม่ต้องสร้างโรงไฟฟ้าเพิ่มใหม่ถึง 2 โรง
นายวีระพล โมนยะกุล เจ้าหน้าที่สำนักวิจัยและบริการวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี กล่าวว่า เทคโนโลยีเครื่องปรับอากาศของไทยในปัจจุบัน อยู่ในระดับปานกลางและไม่ซับซ้อนมากนัก คือเป็นการนำชิ้นส่วนสำเร็จรูป ซึ่งผลิตได้ภายในประเทศถึงร้อยละ 90 มาประกอบหรือดัดแปลงให้เหมาะสมแล้ว จำหน่ายภายใต้เครื่องหมายการค้าของตนเอง โดยเฉพาะอุปกรณ์หลักอย่างคอมเพรสเซอร์ ทำให้ประเทศไทยมีศักยภาพทางการ แข่งขันทัดเทียม กับคู่แข่งที่เป็นผู้นำด้านเทคโนโลยีเครื่องปรับอากาศ ซึ่งได้ขยายการผลิตและการค้ามายังประเทศกำลังพัฒนาที่มีค่าแรงต่ำ เพื่อลดต้นทุนการผลิตด้วยการพัฒนาเทคโนโลยีใหม่ๆขึ้นมาประหยัดพลังงาน โดยเฉพาะอย่างยิ่งการควบคุมคอมเพรสเซอร์ ด้วยระบบอินเวอร์เตอร์ที่ยังเป็นองค์ความรู้ที่ปกปิด แต่คณะวิจัยไทยสามารถพัฒนาระบบดังกล่าวมาใช้งานจริงในภาคอุตสาหกรรม นายวีระพลกล่าวต่อว่า การพัฒนาเครื่องปรับอากาศที่ควบคุมอินเวอร์เตอร์นี้ได้รับทุน สนับสนุนจากสำนักงานกองทุนสนับสนุนการวิจัย (สกว.) ที่เป็นการพัฒนาเครื่องปรับอากาศประสิทธิภาพสูง ที่ประหยัดพลังงานมากกว่าเครื่องปรับอากาศเบอร์ 5 ถึงประมาณร้อยละ 30 และหากมีการพัฒนาระบบนี้ใช้จะประหยัดพลังงานโดยไม่ต้องสร้างโรงไฟฟ้าเพิ่มขึ้น โดยหากลดการใช้พลังงานของเครื่องปรับอากาศลงได้ร้อยละ 30 เท่ากับจะสามารถลดการใช้ไฟฟ้าเทียบเท่ากับโรงไฟฟ้าแม่เมาะถึง 2 โรง (ไทยรัฐ ศุกร์ที่ 26 มีนาคม 2547 หน้า 7)
"มันเฮย์"ทางเลือกฟาร์มโคนม
โครงการวิจัยระบบปศุสัตว์-พืช" ซึ่งองค์การส่งเสริมกิจการโคนมแห่งประเทศไทย (อ.ส.ค.) สำนักงานภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ร่วมมือกับ ภาควิชาสัตวศาสตร์ คณะเกษตรศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น และ ศูนย์วิจัยและพัฒนาอาหารสัตว์ขอนแก่น กรมปศุสัตว์ ได้จัดทำขึ้น โดยการสนับสนุนงบประมาณจาก International Livestock Research Institute (ILRI) เพื่อดำเนินการศึกษาวิจัยและพัฒนาการใช้ผลพลอยได้ทางการเกษตรหรือวัตถุดิบอาหารสัตว์ที่มีในท้องถิ่น เช่น การผลิตมันเฮย์ เพื่อใช้เป็นอาหารโปรตีนเสริมในโคนม ซึ่งสามารถช่วยเพิ่มประสิทธิภาพและลดต้นทุนการผลิตให้กับเกษตรกรรายย่อย นายณรงค์ วงศ์เณร หัวหน้ากองส่งเสริมกิจการโคนม ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ กล่าวถึงการผลิตมันเฮย์เพื่อใช้เป็นอาหารโปรตีนเสริมในโครีดนมว่า "มันเฮย์" ก็คือ มันสำปะหลังซึ่งเป็นพืชที่สามารถปลูกและเจริญเติบโตได้ดีแม้ในดินที่มีความอุดมสมบูรณ์ต่ำ เดิมเกษตรกรปลูกเพื่อผลิตหัวสำหรับใช้เป็นแหล่งของอาหารพลังงาน และมีการเก็บส่วนใบนำมาตากแดดและใช้เป็นอาหารโปรตีนเสริมสำหรับเลี้ยงสัตว์ (เดลินิวส์ เสาร์ที่ 27 มีนาคม 2547 หน้า 11)
เผยอาหารที่ช่วยสกัดโรคเบาหวานเป็นน้ำมันถั่วเหลืองกับข้าวกล้อง
นักวิจัยของฟินแลนด์ได้ทราบความรู้จากการศึกษาวิจัยกับหญิงชายที่อยู่ในวัยอายุระหว่าง 40-59 ปี จำนวน 4,000 คน ได้พบว่าผู้ที่กินอาหารที่อุดมด้วยวิตามินอีจะหนีห่างจากโรค เบาหวานแบบที่ 2 ได้ โรคเบาหวานแบบนี้มักจะเป็นกับผู้ใหญ่นี้ และจะชอบพิสมัยผู้ที่มีรูปร่างอ้วนเป็นพิเศษ นักวิจัยยังได้เปิดเผยว่า อาหารที่มีวิตามินอีอยู่ อย่างอุดมได้แก่ เมล็ดมะม่วงหิมพานต์ ถั่วอัลมอนด์ ถั่ววอลนัต น้ำมันถั่วเหลือง กุ้งและข้าวกล้อง (ไทยรัฐ เสาร์ที่ 27 มีนาคม 2547 หน้า 7)
ออกกำลังวิ่งพร้อมกับฟังเพลงด้วยช่วยบำรุงสติปัญญาให้ปราดเปรื่อง
นักวิจัยเชื่อว่า การออกกำลังพร้อมกับฟังเพลงไปด้วย ก็จะยิ่งช่วยบำรุงสมองให้ปราดเปรื่องมากยิ่งขึ้นได้ คณะนักวิจัยของมหาวิทยาลัยรัฐโอไฮโอแห่งสหรัฐฯ แจ้งว่าได้พบเมื่อทำการศึกษาวิจัยกับ อาสาสมัครที่เป็นพวกคนไข้โรคหัวใจ โดยแบ่งออกเป็น 2 กลุ่ม กลุ่มหนึ่งให้ออกกำลังด้วยการวิ่งด้วยเครื่องลู่วิ่งไฟฟ้า พร้อมกับให้ฟังเพลงชุด "โฟร์ ซีซันส์" ของวิวัลดีไปด้วย กับกลุ่มที่วิ่งออกกำลังเพียงลำพัง โดยการทดสอบเชาวน์ปัญญาภายหลังเปรียบเทียบกัน ปรากฏว่ากลุ่มที่ได้ฟังเพลง ได้แสดงความสามารถในการพูดจาได้เหนือกว่าพวกอีกกลุ่มหนึ่งมากกว่ากันถึงเท่าตัว นักจิตวิทยาชาร์ลส์ อีเมอรี หัวหน้าคณะนักวิจัยได้อธิบายว่า มีหลักฐานส่อว่า การออกกำลังช่วยบำรุงสติปัญญาของผู้ป่วยด้วยโรคหลอดเลือดหัวใจได้ และเป็นที่รู้กันว่า การฟังเพลง ก็ช่วยหนุนเนื่องพลังสมองเพิ่มขึ้นได้ "เราจึงอยากลองเอาทั้งสองอย่างมารวมกัน นับเป็นการศึกษาถึงอิทธิพลของดนตรีและการออกกำลังช่วงระยะเวลาสั้นๆ ต่อสติปัญญาเป็นหนแรก" การศึกษาได้ใช้คนไข้โรคหัวใจทั้งหญิงชาย 33 คน ผู้ซึ่งกำลังอยู่ในสัปดาห์ท้ายของ โครงการฟื้นฟูร่างกายเป็นอาสาสมัคร แต่ละคนเพิ่งผ่านการผ่าตัดทำบายพาสส์ หรือทำบัลลูนเส้นเลือดหัวใจ (ไทยรัฐ เสาร์ที่ 27 มีนาคม 2547 หน้า 7)
ข้าวโพดมีคุณ
นักวิจัยของมหาวิทยาลัยคอร์แนลล์แห่งสหรัฐฯ รายงานในวารสารสมาคมเคมีแห่งอเมริกาว่าข้าวโพดหวานที่ปรุงสุกแล้ว จะออกฤทธิ์ล้างพิษได้สูงขึ้นอย่างเด่นชัด ซึ่งผิดกับที่เคยเชื่อกันมาว่าผักและผลไม้หากต้มปรุงสุกแล้วจะเสียคุณค่าทางอาหารไป สู้กินดิบๆไม่ได้ แต่ข้าวโพดหวานยังคงสามารถเก็บพลังเป็นตัวล้างพิษได้ ถึงแม้ว่าจะสูญเสียวิตามินซีไป จากการวิจัยยังพบว่าการต้มข้าวโพดหวานด้วยอุณหภูมิ 115 องศาเซลเซียส เวลานานต่างกัน 10, 25 และ 50 นาที ผลปรากฏว่ายิ่งต้มนานเท่าไร ก็จะยิ่งเพิ่มสาร อันเป็นตัวล้างพิษขึ้นเป็น 22, 44 และ 53% ตามลำดับ (สยามรัฐ อังคารที่ 23 มีนาคม 2547 หน้า 26)
พบไวรัสคล้ายซาร์สตัวใหม่
ผลการศึกษาที่เผยแพร่ทางออนไลน์ในวารสาร เนเจอร์ เมดิซีน ระบุนักวิทยาศาสตร์ชาวเนเธอร์แลนด์ได้ค้นพบไวรัสตัวใหม่ และเป็นไวรัสสายพันธ์เดียวกับโคโรนาไวรัส โดยเป็นไวรัสตัวที่ 4 ที่มีการค้นพบในเกือบ 40ปี มีชื่อว่า HvoC-NL63 และเป็นสาเหตุของโรคเกี่ยวกับทางเดินหายใจ มีแนวโน้มจะระบาดไปทั่วโลก โดยจะเป็นกับเด็กและผู้ป่วยโรคเอดส์ และยังคงจะมีการวิจัยต่อไปว่า ไวรัสชนิดนี้แพร่เชื้อได้อย่างไร มีสัตว์อะไรเป็นพาหะ (ไทยรัฐ จันทร์ที่ 22 มีนาคม 2547 หน้า 2)
เครื่องม้วนทองม้วน
สัมพันธ์ ศรีสุริยวงษ์ ฝ่ายเทคโนโลยีอาหาร สถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทย (วว.) ได้ประดิษฐ์ เครื่องม้วนทองม้วน เพื่อจะได้ทองม้วนขนาดมาตรฐาน ทำได้เร็วกว่าแรงงานคน เครื่องนี้ทำด้วยสเตนเลสทั้งหมด มีอัตราการผลิตทองม้วน 200-300 ชิ้นต่อชั่วโมง แต่ยังคงต้องใช้แรงงานคนในการหยอดแป้งซึ่งจะต้องพัฒนาต่อไป และได้ขอสิทธิบัตรแล้ว (เดลินิวส์ อาทิตย์ที่ 21 มีนาคม 2547 หน้า 26)
ทดลองครีมยาฆ่าเชื้อโรคเอดส์เพื่อเป็นเกราะปกป้องผู้หญิงทั่วโลก
ผู้เชี่ยวชาญการแพทย์เปิดเผยว่า ขณะนี้ได้มีการค้นคิดครีมป้องกันโรคเอดส์กันอยู่ ในราว 60 ตำรับ และที่กำลังทดสอบตามสถานพยาบาลต่างๆมีอยู่ 14 ตำรับ ครีมเหล่านี้ใช้กันได้ง่าย เพียงแต่ป้ายภายใน ก็จะสามารถป้องกันไวรัสโรคร้าย ไม่ให้ล่วงล้ำเข้าสู่ร่างกายได้ ซึ่งเชื่อว่าจะช่วยให้สามารถปรับเปลี่ยนยุทธศาสตร์การต่อสู้กับโรคเอดส์ขึ้นใหม่ได้ การทดลองครีมยาป้องกันโรคเอดส์ขนาดใหญ่ จะได้เริ่มทำขึ้นในเร็วๆนี้กับกลุ่มสตรี ในสหภาพแอฟริกาใต้ แซมเบีย แทนซาเนีย ยูกันดาและแคเมอรูน จำนวน 12,000 ราย เป็นเวลา 3 ปี (ไทยรัฐ ศุกร์ที่ 26 มีนาคม 2547 หน้า 7)
เครื่องทอดโดนัทอัตโนมัติ
เครื่องทอดโดนัทอัตโนมัติ เป็นผลงานของนักศึกษาครุศาสตร์อุตสาหกรรม สถาบันเทคโนโลยีราชมงคล โดยมีอาจารย์ชาญชัย ป้อมเอี่ยม และอาจารย์เกษม เจนวิไลศิลป์ เป็นอาจารย์ที่ปรึกษา เครื่องนี้ใช้ผู้ควบคุมเครื่องเพียงคนเดียว ประหยัดเวลา ประหยัดแรง ลดค่าใช้จ่าย ปลอดภัย และอุณหภูมิสม่ำเสมอ ตัวเครื่องประกอบด้วยเตาทอด พร้อมโต๊ะวาง เสาจับยึดหัวปั๊มโดนัท และชุดหมุน ชุดพลิก ชุดตักโดนัทประกอบเข้าด้วยกัน ใช้ระบบแอซีควบคุมการทำงาน มีระบบ Circuit breaker ป้องกันไฟฟ้าลัดวงจร ใช้แก๊สเป็นตัวให้ความร้อนแก่น้ำมัน มีเซฟตี้วาล์วป้องกันแก๊สรั่ว สามารถทอดโดนัทได้ประมาณ 205 อันต่อชั่วโมง สนใจขอทราบรายละเอียดได้ที่ สถาบันเทคโนโลยีราชมงคล นนทบุรี โทร 0-2969-1369-74 (ไทยรัฐ ศุกร์ที่ 26 มีนาคม 2547 หน้า 15)
ผักตบชวาวัชพืชที่ถูกเมินสู่เยื่อกระดาษสารพัดประโยชน์
ผศ. วาสนา ชัยเสนา จากสถาบันเทคโนโลยีราชมงคล วิทยาเขตพิษณุโลก ได้วิจัยแปรรูปวัสดุเหลือใช้ทางเกษตร อย่างเช่นผักตบชวา จากการทดลองพบว่าเส้นใยของผักตบชวามีคุณสมบัติพิเศษ มีวงจรชีวิตสั้น หากนำมาผลิตเป็นกระดาษเพื่อทดแทนพืชที่มีวงจรชีวิตยาว เช่น สน ยูคาลิปตัส น่าจะเป็นการลดต้นทุนในการผลิต ขั้นตอนศึกษาทดลองทำกระดาษ ปั่นผักตบชวาให้ละเอียด ใส่โซเดียมไฮดรอกไซด์ (โซดาไฟ) ต้มประมาณ 1 ชั่วโมง แล้วล้างเยื่อจนหมดความลื่น นำไปแช่ในสารละลายไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์ 3 วันจนเยื่อเป็นสีขาว บีบน้ำออก ช้อนเยื่อกระดาษลงเฟรมรูปสี่เหลื่อมหรือวงกลมตามต้องการ ตากแดดให้แห้ง แล้วลอกออกจากเฟรม นำไปใช้ประโยชน์ได้ สนใจรายละเอียดติดต่อได้ที่ สถาบันเทคโนโลยีราชมงคล วิทยาเขตพิษณุโลก โทร 0-5529-8438 ต่อ 115 (เดลินิวส์ ศุกร์ที่ 26 มีนาคม 2547 หน้า 12)
ราชมงคล"สร้างตุ๊กตาเลียนแบบทารกถูกกว่านำเข้าต่างประเทศ
นางประดิษฐา ภาษาประเทศ คณะคหกรรมศาสตร์ สถาบันเทคโนโลยีราชมงคล ให้สัมภาษณ์ว่าทางสถาบันได้คิดประดิษฐ์ตุ๊กตาเลียนแบบขึ้น เพื่อใช้ประกอบการฝึกในการดูและเด็กทารกของศูนย์อบรม ปฐมพยาบาล สถานพยาบาล สถานดูแลเด็กทารก และการเรียนการสอนในวิชาการเลี้ยงดูทารก ส่วนประกอบทั้งหมดทำจากยาง ซึ่งมีขายตามท้องตลาดทั่วไป มีน้ำหนักเท่าเด็กจริง ประมาณ 3-3.5 กิโลกรัม มีทั้งเพศชาย และหญิง คอ แขน และขา ปรับปรุงให้อ่อนตัวได้ ตุ๊กตามีการปรับปรุงพิเศษในการทำอวัยวะเพศ เป็นส่วนที่ประดิษฐ์ขึ้นเป็นพิเศษให้มีความนุ่ม อ่อนตัวได้คล้ายของจริง เพื่อที่จะสาธิตการทำความสะอาดอวัยวะเพศ ได้ชัดเจนและเข้าใจได้อย่างแท้จริง นักศึกษาจะได้เข้าใจวิธีการเลี้ยงดูทารกแบบถูกวิธี เพราะในแต่ละท่าเหมือนได้อุ้มทารกจริงๆ สำหรับสิ่งประดิษฐ์นี้ ได้จดสิทธิบัตรเรียบร้อยแล้ว ส่วนเรื่องต้นทุน เมื่อเทียบกับตุ๊กตาที่นำเข้ามาจากต่างประเทศแล้ว ของไทยถูกกว่าเกือบ 10 เท่า และขณะนี้ได้มอบตุ๊กตาให้ศูนย์ฝึกอบรมปฐมพยาบาล และสุขอนามัย สภากาชาดไทยเพื่อให้นักเรียนพยาบาลฝึกหัด และในอนาคตจะพัฒนาให้ตุ๊กตาเป็นแบบกันน้ำได้ด้วย (มติชนรายวัน พุธที่ 17 มีนาคม 2547 หน้า 23)
เภสัชฯ มศว ผลิตแคปซูลน้ำมันมะกรูด ช่วยเกษตรกรใช้ไล่แมลงแทนสารเคมี
ภ.ญ.ฐาปนีย์ หงศ์รัตนาวรกิจ รักษาการคณบดีฝ่ายพัฒนาระบบการศึกษา คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ (มศว) เปิดเผยว่า จากการศึกษาน้ำมันบริเวณผิวของผิวมะกรูด และน้ำมันในใบมะกรูดพบว่ามีฤทธิ์ในการไล่แมลงและหนอนได้จึงให้นิสิตทำโครงการสกัดน้ำมันมะกรูดจากผิว และใบของมะกรูด น้ำมันมะกรูดจากใบ สกัดยากว่าน้ำมันในเปลือกผล แต่ข้อดีคือ ในใบนั้นมีกลิ่นมากกว่า โครงการวิจัยนี้จะช่วยเกษตรกรที่ต้องฉีดสารเคมีเพื่อไล่แมลง และหนอนได้ โดยปกติ เกษตรกรจะฉีดสารเคมีบ่อยมากเพื่อป้องกันผลผลิต จากพวกแมลง คณะเภสัชศาสตร์ มศว จึงคิดค้นโครงการนี้ขึ้นเพื่อจะได้ปลอดภัยจากสารเคมีอีกทั้งสะดวกในการใช้งาน เนื่องจากทำเป็นแคปซูลเล็กๆภายในแคปซูลมีน้ำมันที่ช่วยไล่แมลง และหนอนให้กับเกษตรกรได้เมื่อเกษตรกรนำแคปซูลน้ำมันมะกรูดไปใช้งานก็ให้โปรยไว้ใต้ต้นไม้ที่ต้องการไล่แมลงแคปซูลน้ำมันมะกรูดจะค่อยๆ ปล่อยน้ำมันออกมาขณะนี้อยู่ในขั้นตอนการทดลอบว่าแคปซูลมะกรูดจะมีฤทธิ์ใช้ไล่แมลง และหนอนได้ยาวนานแค่ไหน ซึ่งได้ประสานไปทางมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ซึ่งมีความชำนาญด้านโรคพืชให้ช่วยทดสอบ (มติชนรายวัน พุธที่ 17 มีนาคม 2547 หน้า 10)
สมองคนชี้นำดีเลวทิศทางเดียวกัน
คณะนักวิทยาศาสตร์ ภายใต้การนำของนายยูริ แฮสซัน แห่งสถาบันวิทยาศาสตร์ไวซ์แมนในอิสราเอล ได้รายงานการทดลองวิจัยของตนและคณะ ซึ่งได้รับการตีพิมพ์ในวารสารวิทยาศาสตร์ฉบับล่าสุดประจำเดือนมีนาคมนี้ว่า จากการตรวจคลื่นสมองกลุ่มอาสาสมัครทดลอง 5 คน ด้วยคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า ในระหว่างที่มีการฉายภาพยนตร์เรื่อง "เดอะ กู๊ด เดอะ แบด แอนด์ เดอะ อั๊กลี่" ของคลินต์ อีสต์วู้ด เป็นเวลานาน 30 นาทีนั้น พบว่าในส่วนของสมองบริเวณทำหน้าที่แยกแยะตอบปฏิกิริยาต่อภาพในหน้าตัวละครและเสียงที่เรียกว่าฟูสิฟอร์ม ไจรัส และส่วนที่ตอบปฏิกิริยาต่อภาพทิวทัศน์โดยรวมที่เรียกว่า คอลแลตเทอรัล ซัลคัส นั้น ล้วนมีปฏิกิริยาไปในทางเดียวกัน ทั้งๆ ที่ภาพยนตร์ที่ฉายให้ชมก็มีการเคลื่อนไหวสลับภาพซับซ้อนไปมาด้วย แสดงให้เห็นว่า คนต่างมีแบบฉบับเฉพาะเกี่ยวกับสิ่งที่ได้ดูและได้ยินเหมือนๆ กัน รวมทั้งรู้สึกที่ว่าดี แย่ และน่าเกลียดไปในทางเดียวกันด้วย (มติชนรายวัน พุธที่ 17 มีนาคม 2547 หน้า10)
พบยีนระบุเบาหวาน ตัวคุมเซลล์ผลิตอินซูลิน
จากการศึกษากลุ่มชาวฟินแลนด์และยิวแอสห์เคนาซี ทีมนักวิจัยพบว่าความหลากหลาย 4 ตำแหน่งที่พบในยีนที่ชื่อว่า เฮปาโตไซ นิวเคลียร์ 4 อัลฟา (HNF4A) ซึ่งเป็นยีนที่ทำหน้าที่เหมือนสวิตซ์ควบคุมยีนอื่นๆนับร้อย ซึ่งหนึ่งในนั้นคือควบคุมการหลั่งอินซูลินของตับเพื่อจัดการกับกลูโคสหรือน้ำตาลในเลือดโดยแพทย์สันนิษฐานว่าโรคเบาหวานเป็นผลมาจากการทำงานผิดปกติของเซลล์เหล่านี้ ซึ่งจากการศึกษาพันธุกรรมของชาวฟินแลนด์ 793 รายที่เป็นโรคเบาหวานประเภทที่เกิดกับผู้ใหญ่โดยร่างกายจะค่อยๆสูญเสียความสามารถในการผลิตสารอินซูลินและกลุ่มที่ไม่ได้เป็นโรคเบาหวาน 413 ราย พบว่า ในกลุ่มที่ไม่ได้เป็นเบาหวานพบความแตกต่างในตำแหน่งพันธุกรรมร้อยละ 16 ในขณะที่ผู้ป่วยโรคเบาหวานมีความแตกต่างในตำแหน่งพันธุกรรมร้อยละ 22 ซึ่งแสดงว่าคนกลุ่มนี้มีโอกาสเสี่ยงเป็นโรคเบาหวานมากขึ้นร้อยละ 30 (กรุงเทพธุรกิจ จันทร์ที่ 15 มีนาคม 2547 หน้า8)
นักวิทย์ปลูกสเต็มเซลล์ เทคนิครักษาหัวล้าน
ดร.จอร์จ คอสซารีลิส จากศูนย์การแพทย์ มหาวิทยาลัยเพนซิลวาเนีย ค้นพบว่าเซลล์ต่อมขน (follicle cell) ในหนูมีสเต็มเซลล์อยู่ด้วย ซึ่งนอกจากจะเจริญเติบโตเป็นเส้นผมใหม่ได้แล้วยังพัฒนาเป็นเนื้อเยื่อประเภทอื่นๆได้ด้วย คุณสมบัติพิเศษของสเต็มเซลล์คือสามารถเจริญเติบโตและขยายจำนวนได้มากกว่าเซลล์ที่เต็มวัยแล้วดังนั้นจึงมีความเป็นไปได้ที่จะนำมาใช้ปลูกสร้างผิวหนังได้ดีขึ้นและเร็วขึ้น ขณะเดียวกันถ้านักวิทยาศาสตร์สามารถควบคุมกระบวนการชราของผิวหนังได้ อาจนำไปสู่การค้นพบวิธีป้องกันไม่ให้ผิวหนังเหี่ยวย่นเนื่องจากสเต็มเซลล์ของผิวหนังหมดอายุ นอกจากนี้ยังค้นพบสาเหตุของอาการผมร่วงด้วยว่า เป็นเพราะระบบภูมิคุ้มกันไม่สามารถเข้าไปถึงเซลล์ต่อมขนได้ เนื่องจากเซลล์ต่อมขนไม่มีโปรตีนสำคัญที่เรียกว่าฮิสโตคอมพาทิบิลิตี้ คอมเพล็กซ์ หรือเอ็มเอชซี ระบบภูมิคุ้มกันจึงมองไม่เห็นถ้าสามารถทำให้เซลล์ต่อมผมถูกมองเห็นได้ อาจเป็นแนวทางที่ช่วยรักษาคนศีรษะล้านได้หรือผู้ที่สูญเสียผมจากการรักษาทางการแพทย์ได้ (กรุงเทพธุรกิจ พุธที่ 17 มีนาคม 2547 หน้า 7)
แคนาดาพัฒนาหุ่นยนต์มัจฉาดำสำรวจใต้น้ำทำตัวกลมกลืน
ทีมนักประดิษฐ์ มหาวิทยาลัยแมคกิลล์ แคนาดา พัฒนาหุ่นยนต์ขนาดเท่าเตาไมโครเวฟมีครีบเหมือนปลาติดอยู่ด้านข้าง 6 ครีบ เพื่อใช้สำรวจพื้นทะเล โดยทีมงานได้นำหุ่นนี้ไปทดสอบความสามารถพิเศษในการทรงตัวอยู่นิ่งโดยที่ครีบแต่ละครีบแยกการทำงานเป็นอิสระจากกัน พบว่าหุ่นสามารถทรงตัวนิ่งในท้องน้ำตื้นได้และยังสามารถกลับตัว 360 องศาได้ด้วย นอกจากนี้ยังติดตั้งกล้องระบบอนาล็อกสามตัวสำหรับใช้บันทึกข้อมูลแต่การบังคับการเคลื่อนไหวโดยผ่านสายเคเบิลใยแก้วที่เชื่อมต่อกับคอมพิวเตอร์โน๊ตบุ้ค ซึ่งการใช้ประโยชน์หุ่นยนต์นี้ผู้พัฒนาเล็งประโยชน์ในการใ ช้หลายรูปแบบตั้งแต่ใช้สำรวจความสมบูรณ์ของปะการัง ใช้เป็นลูกหาบดำน้ำเพื่อแบกสัมภาระ ฉายไฟให้กับนักดำน้ำ ตรวจสอบใต้ท้องเรือเดินทะเลเป็นต้น (กรุงเทพธุรกิจ พฤหัสบดีที่ 18 มีนาคม 2547 หน้า 7)
แพทย์คิดเทคนิคโยกย้ายรังไข่ หาวิธีชะลอวันหมดประจำเดือน
นักวิทยาศาสตร์ของฮาวาร์ด เมดิคัล สคูล ได้ทดลองให้สารเคมีทำลายเซลล์ไข่กับหนูแต่พบว่าหนูเหล่านี้ยังสามารถผลิตไข่ออกมาเมื่อเจริญเติบโตเป็นวัยผู้ใหญ่ การค้นพบนี้นำไปสู่การค้นหาแนวทางใหม่เพื่อแก้ปัญหาภาวะหมันในผู้ป่วยที่เป็นมะเร็งและคนทั่วไป ในการทดลองได้นำเอาสเต็มเซลล์ของไข่ชุดใหม่ไปใส่ไว้รังไข่ นักวิจัยตั้งข้อสังเกตุว่าถ้าในร่างกายของผู้หญิงมีสเต็มเซลล์ที่เป็นตัวผลิตไข่แบบเดียวกับที่พบในหนูและสามารถคิดค้นวิธีทำให้มันเจริญเติบโตใน โฟลลิเคิล ซึ่งเป็นระยะเริ่มต้นก่อนการพัฒนาเป็นไข่ได้ก็สามารถเลื่อนเวลาหมดประจำเดือนได้ (กรุงเทพธุรกิจ ศุกร์ที่ 19 มีนาคม 2547 หน้า 8)
ข่าวทั่วไป
โหวตไทยท่องเที่ยวอันดับ1
นายสนธยา คุณปลื้ม รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยถึงยุทธศาสตร์ส่งเสริมการท่องเที่ยวในปี 47-48 ว่า กระทรวงฯ จะเน้นให้ไทยเป็นศูนย์กลางการท่องเที่ยวในอินโดจีนอย่างสมบูรณ์แบบ โดยในเดือน เม.ย.-พ.ค.นี้ จะร่วมมือกับกระทรวงการท่องเที่ยวของประเทศเวียดนาม พม่า และลาว จัดตั้งคณะกรรมการส่งเสริมและพัฒนาการท่องเที่ยวอย่างถาวร ซึ่งจะหาแนวทางเพื่อทำแผนพัฒนาท่องเที่ยวให้เป็นรูปแบบเดียวกัน แม้ไทยจะมีความตกลงด้านการท่องเที่ยวแบบพหุภาคีกับหลายกลุ่ม ทั้งนี้ไทยถือว่ามีความพร้อมที่จะเป็นประเทศท่องเที่ยวหลักของโลก เนื่องจากมีแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่สวยงาม ขณะนี้มีนักท่องเที่ยวต่างประเทศที่เดินทางมาเที่ยวประเทศไทยก่อนที่จะเดินทางต่อไปยังประเทศเพื่อนบ้านมีถึงปีละ 1,000,000 คน และตั้งแต่ที่ไทยได้เข้าไปทำตลาดเสนอรายการนำเที่ยวเชื่อมโยงเพื่อนบ้าน ทั้งในกรอบปฏิญญาพุกาม และกรอบสามเหลี่ยมมรกต คาดว่าจะทำให้มีนักท่องเที่ยวเดินทางมาตามเส้นทางดังกล่าวเพิ่มขึ้นเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งการที่มีการเปิดเสรีการบินกับจีนและพม่า จะทำให้การเดินทางมีความสะดวกมากขึ้น นางจุฑามาศ ศิริวรรณ ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) กล่าวว่า จากการที่ ททท. และภาคเอกชนทั้งบริษัททัวร์ โรงแรม กว่า 120 หน่วยงาน ได้เข้าร่วมงานไอทีบีที่กรุงเบอร์ลิน ประเทศเยอรมนี ระหว่างวันที่ 12-16 มี.ค. ที่ผ่านมานั้น ทำให้ไทยได้รับการโหวตให้ได้รับรางวัล โก เอเชีย อะวอร์ด หรือเป็นแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมอันดับ 1 (เดลินิวส์ พุธที่ 24 มีนาคม 2547 หน้า 8)
ไทยผสมเทียมปลากะรังจุดฟ้าสำเร็จเป็นรายแรก
คุณธวัช ศรีวีระชัย หัวหน้าสถานีเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำชายฝั่งตราด เป็นผู้ประสบผลสำเร็จใการผสมเทียมปลากะรังจุดฟ้าเป็นรายแรกของโลก เพราะถึงแม้ประเทศออสเตรเลีย จะทำการผสมเทียมมาก่อนก็ตาม แต่ถือว่าไม่ประสบผลสำเร็จเพราะลูกปลาออกจากไข่ได้ 5 วันก็ตายหมด คุณธวัช ดำเนินการมาตั้งแต่ปี 2545 จนกระทั่งต้นปี 2547 จึงประสบผลสำเร็จโดยลูกปลามีอายุได้ 105 วัน และพัฒนารูปร่างจนเป็นปลาเต็มวัย และจากการวิเคราะห์ถึงการตายของลูกปลาวัยอ่อน เนื่องจากเป็นลูกปลาที่มีปากเล็กและไม่มีอาหารที่เหมาะสม แต่ถึงอย่างไรจากผลงานที่ประสบผลสำเร็จ จะเป็นหนทางไปสู่การเพิ่มปริมาณประชากรปลากะรังจุดฟ้าในแหล่งธรรมชาติได้อย่างแน่นอน ปลาชนิดนี้มีความสวยงามจึงนิยมนำไปเลี้ยงในตู้กระจก แต่ที่แน่ ๆ เป็นปลาที่นำไปประกอบอาหารแล้ว มีรสชาติอร่อย จึงทำให้มีราคาซื้อขายสูงถึง 800-1,000 บาท/กก. ขณะเดียวกันที่การขยายพันธุ์ตามธรรมชาติในทะเลมีปัญหาและอุปสรรคมากจนเปอร์เซ็นต์รอดของลูก ผู้สนใจข้อมูลเพิ่มเติมติดต่อที่สถานีเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำชายฝั่งตราด โทร. 0-3954-3334-5 (เดลินิวส์ พฤหัสบดีที่ 25 มีนาคม 2547 หน้า 12)
"กรมอุทยาน" ดีเดย์ เม.ย.นี้จับจริงช้างเร่ร่อน
นายสมชัย เพียรสถาพร อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) กล่าวว่า หลังจากคณะกรรมการกำกับนโยบายช้างแห่งชาติ ได้มีมติเห็นชอบเมื่อวันที่ 27 ก.พ. 2547 ให้มีการออกประกาศแจ้งเตือนห้ามไม่ให้มีการนำช้างเข้ามาในเขตพื้นที่ กทม. และปริมณฑล เพื่อควบคุมไม่ให้มีช้างเข้ามาเร่ร่อนในเขตเมือง โดยประกาศดังกล่าวให้ระยะเวลา การแจ้งเตือนมาประมาณ 15-20 วันแล้ว และถ้าพ้นกำหนดในเดือน เม.ย.นี้ ก็จะเริ่มต้นจับกุมอย่างจริงจัง หากพบว่ายังมีการฝ่าฝืนนำช้างเข้ามาเร่ร่อนหากินในเขตเมือง โดยขณะนี้ศูนย์อำนวยการจัดการช้างเร่ร่อน ซึ่งเป็นความร่วมมือระหว่าง กทม. กองกำกับการตำรวจภูธร องค์การอุตสาหกรรมป่าไม้ และกรมอุทยานฯ ได้จัดเตรียมควาญช้าง 20 คน รถบรรทุก 10 ล้อ ที่จะใช้ในการขนส่งช้างไปยังพื้นที่รองรับ ที่ได้จัดไว้ในจังหวัดต่างๆ อาทิ กาญจนบุรี ปราจีนบุรี แม่ฮ่องสอน ซึ่งจะนำช้างไปเลี้ยงเพื่อรอให้เจ้าของช้าง นำหลักฐานมาแสดงขอรับกลับไป ซึ่งจะต้องมีการตรวจสอบหลักฐานอย่างละเอียด เพื่อให้มั่นใจว่าช้างเชือกดังกล่าวเป็นช้างไทย ไม่ใช่ช้างเพื่อนบ้านที่ถูกนำมาสวมทะเบียน (ไทยรัฐ ศุกร์ที่ 26 มีนาคม 2547 หน้า
สัปดาห์หนังสือแห่งชาติเริ่มแล้ว
คุณหญิงกษมา วรวรรณ ณ อยุธยา เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.)เปิดเผยว่า ในปีนี้กระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) ร่วมกับสมาคมผู้จัดพิมพ์และผู้จำหน่ายหนังสือแห่งประเทศไทย จัดงานสัปดาห์หนังสือนานาชาติ ครั้งที่ 2 และงานสัปดาห์หนังสือแห่งชาติ ครั้งที่ 32 ขึ้นระหว่างวันที่ 26 มี.ค.- 6 เม.ย. 2547 ที่ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ กรุงเทพฯ โดยในวันที่ 26 มี.ค. สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราช ดำเนินมาทรงเป็นองค์ประธานพิธีเปิดงาน พระราช ทานโล่เกียรติคุณแก่ผู้มีอุปการคุณ และพระราช ทานรางวัลแก่ผู้ชนะการประกวดหนังสือดีเด่น ประจำปี 2547 ซึ่งจะมีการถ่ายทอดสดทางสถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย ช่อง 11 ในเวลา 15.00 น (เดลินิวส์ ศุกร์ที่ 26 มีนาคม 2547 หน้า 27)
ดวงตากับคอมพิวเตอร์
คุณหมอ ภัทรมน บรรณประดิษฐ์ จักษุแพทย์ของโรงพยาบาลจักษุรัตนิน คุณหมอแนะนำว่า ขณะที่อยู่หน้าจอคอม พิวเตอร์ควรจะกะพริบตาบ่อย ๆ และมีระยะห่างประมาณ 20-28 นิ้ว ต้องให้จออยู่ต่ำกว่าระดับสายตา 4-9 นิ้ว และไม่อยู่ในแสงจ้ามากเกินไป ไม่ควรนั่งทำงานนานเกินไป ต้องลุกขึ้นยืดเส้นยืดสายทุกชั่วโมง ปัจจุบันอาการทางสายตาที่เกิดจากการใช้คอมพิวเตอร์มีเพิ่มขึ้น เนื่องจากมีการใช้คอมพิวเตอร์อย่างแพร่หลายในสำนักงานต่าง ๆ จากสถิติ พบว่า ผู้ใช้คอมพิวเตอร์จำนวนมากกว่า 50% มีอาการทางสายตา ได้แก่ ปวดตา ตามัว ตาแห้ง สายตาล้า และปวดศีรษะ รวมทั้งมีอาการอื่น ๆ เช่น ปวดเมื่อยคอและหลัง โดยอาการเหล่านี้มักเกิดขึ้นกับผู้ที่ใช้คอมพิวเตอร์มากกว่า 2 ชั่วโมงต่อวัน และผู้ที่มีอายุ ตั้งแต่ 40 ปีขึ้นไป ตัวแปรที่ก่อให้เกิดอาการดังกล่าว เช่น ภาวะตาแห้ง ความผิดปกติของสายตาและค่าสายตา ความสามารถในการเพ่ง แว่นตาที่ใช้กับคอมพิวเตอร์ ชนิดของคอมพิวเตอร์ แสงสะท้อนจากคอมพิวเตอร์ ความสว่างของห้อง รวมทั้งท่านั่งขณะใช้คอมพิวเตอร์ แว่นตาที่ใช้กับคอมพิวเตอร์ ควรเลือกใช้เลนส์สีชมพูอ่อนที่ช่วยให้สบายตาภายใต้แสงจากหลอดไฟฟลูออเรสเซนต์ ปรับมูลี่หน้าต่างเพื่อปรับไม่ให้แสงตกกระทบจอคอมพิวเตอร์โดยตรง และใช้แผ่นลดแสงสะท้อนจากคอมพิวเตอร์ ซึ่งทำจากวัสดุต่างกัน เช่น ผ้าตาข่าย หรือกระจกซึ่งช่วย ให้มองเห็นตัวอักษรได้ดีกว่า หรือปรับการเลือกใช้ขนาดของตัวอักษรที่ใหญ่พอและปรับความเข้มของ ตัวอักษรให้เข้มขึ้น โดยสังเกตได้จากการที่ยังสามารถอ่านตัวอักษรขนาดดังกล่าวได้ที่ระยะห่างเป็น 3 เท่าของระยะทำงาน เลือกใช้จอคอมพิวเตอร์ชนิด LCD (จอแบน) ซึ่งจะช่วยถนอมสายตาได้ดีกว่าจอคอมพิวเตอร์แบบเก่า (CRT) จะได้ช่วยถนอมดวงตา รักษาสุข-ภาพ (เดลินิวส์ ศุกร์ที่ 26 มีนาคม 2547 หน้า 16)
ผลักดันภาคใต้ศูนย์กลางกล้วยไม้โลก
นายสมชาย ชาญณรงค์กุล รองอธิบดีกรมวิชาการเกษตร เปิดเผยว่า ในการประชุมสัมมนากล้วยไม้ในเขตเอเชียแปซิฟิก ครั้งที่ 9 ที่ปีนี้ประเทศไต้หวันเป็นเจ้าภาพนั้น ไทยจะนำเสนอเรื่องความก้าวหน้าด้านเทคโนโลยีในการผลิตและศึกษาวิจัยกล้วยไม้ของไทยให้ทั่วโลกได้รู้จักมากขึ้น รวมทั้งจะเสนอตัวขอเป็นเจ้าภาพในการประชุมสัมมนากล้วยไม้ในเขตเอเชียแปซิฟิกครั้งที่ 10 ซึ่งจะมีขึ้นใน 6 ปีข้างหน้า ทั้งนี้เนื่องจากเห็นว่าปัจจุบันไทยมีความพร้อมที่จะเป็นศูนย์กลางผลิตกล้วยไม้ที่สำคัญของโลกในหลายด้าน ทั้งด้านการปรับปรุงพันธ์ มีความก้าวหน้าด้านวิทยาการสมัยใหม่ในการปลูกและเพาะเนื้อเยื่อจนเกิดสายพันธุ์ใหม่หลากหลาย และที่สำคัญผลจากการจัดงานกล้วยไม้แห่งชาติครั้งที่ 5 ที่จังหวัดสุราษฎร์ธานี พบว่าภาคใต้เป็นพื้นที่ที่มีความหลากหลายทางชีวภาพของกล้วยไม้สูง เหมาะสมที่จะขยายฐานการผลิตกล้วยไม้จากแหล่งอื่น ๆ มาสู่พื้นที่ภาคใต้มากขึ้น โอกาสที่จะพัฒนาพันธ์กล้วยไม้ไทยในเขตภาคใต้มีความเป็นไปได้สูง เนื่องจากเป็นพื้นที่ที่มีศักยภาพในหลายด้าน อาทิ มีความหลากหลายทางชีวภาพสูง เป็นเขตร้อนชื้นเหมาะสมแก่การเจริญเติบโตของกล้วยไม้อย่างยิ่ง โดยเฉพาะกล้วยไม้ป่าที่จะพัฒนาไปในเชิงการค้า อีกทั้ง ยังสามารถพัฒนาเป็นประตูส่งออกกล้วยไม้ผ่านทางมาเลเซีย สิงคโปร์ออกสู่ตลาดโลก ซึ่งเป็นยุทธศาสตร์สำคัญในการนำไทยสู่ศูนย์กลางกล้วยไม้ของโลกได้ในอนาคต (เดลินิวส์ เสาร์ที่ 27 มีนาคม 2547 หน้า 11)
วัยรุ่นกับปัญหาสุรายาเมา
ปัญหาเรื่องวัยรุ่นติดเหล้า ไม่ได้มีเฉพาะในเมืองไทย ที่สหรัฐอเมริกา ก็มีปัญหาเช่นกัน ถึงขนาดที่หน่วยงานด้านการแพทย์มีคำแนะนำถึงผู้ปกครองให้ลองสังเกตดูว่า เด็กในปกครองของท่านเข้าข่ายถูกเหล้ากินหรือไม่ โดยศูนย์การแพทย์ เท็กซัส ให้คำแนะนำในการดูสัญญาณบอกเหตุว่า ถ้ามีอาการต่างๆต่อไปนี้ล่ะก็จัดว่าวัยรุ่นผู้นั้นอาจ มีปัญหาควบคุมตัวเองในเรื่องเหล้าไม่ได้เข้าให้แล้ว มีพฤติกรรมเบี่ยงเบนเพิ่มมากขึ้น ผลการเรียนไม่ดี เกรดตกต่ำ ขาดเรียนบ่อย ชอบโกหกเรื่องว่าอยู่ที่ไหน หรืออยู่กับใคร เลิกทำกิจกรรมที่เคยทำเป็นปกติ เช่น เล่นกีฬา ทำการบ้าน มีอารมณ์ ซึมเศร้า หรืออารมณ์ แกว่งไปมาก น้ำหนักลดลง นิสัยการนอนเปลี่ยนไป บ่นปวดหัวปวดท้องบ่อยขึ้น มักทำผิดกฎหมาย หรือมีอุบัติเหตุบ่อยครั้ง (ไทยรัฐ เสาร์ที่ 27 มีนาคม 2547 หน้า 7)
เฉลิมฉลองกรุงเทพฯ 222 ปีกทม.จัดงานใหญ่ 8 วัน 8 คืน-เริ่ม 6 ถึง 13 เมษายนนี้
รายงานจากศาลาว่าการกรุงเทพมหานครว่า เพื่อเฉลิมฉลองในโอกาสที่กรุงเทพฯ ได้รับการสถาปนาเป็นเมืองหลวงของไทย มาจวบจนวันนี้ครบ 222 ปีเต็ม กรุงเทพมหานคร จึงกำหนดจัดงานใหญ่ขึ้น ระหว่างวันที่ 6-13 เมษายน ศกนี้ รวม 8 วัน ตั้งแต่เวลา 16.00-23.00 น. โดยจะจัดงานเป็นกิจกรรมย้อนรำลึกถึงความรุ่งเรืองของกรุงเทพฯในอดีต ในรูปแบบของการแสดงและสาธิต ขนบประเพณี ศิลปวัฒนธรรม การแสดง ศิลปหัตถกรรม วิถีชีวิตแบบดั้งเดิม อาหารแบบโบราณที่หาทานยาก ณ บริเวณเกาะรัตนโกสินทร์ชั้นใน 6 แห่งหลัก ได้แก่ พื้นที่ที่ 1 ลานคนเมือง ศาลาว่าการ กทม. จัดเป็นเวทีนาฏศิลป์ชั้นสูง เช่น ลิเกทรงเครื่อง โดยครูบุญเลิศ นาคพินิจ ศิลปินแห่งชาติ การจำลองพระราชพิธีโบราณ พิธีโสกันต์ ตรียัมปวาย และการโล้ชิงช้า มีรถราง รถลาก รถสามล้อถีบบริการ และมีการแสดงแสง สี เสียง การสถาปนากรุงรัตนโกสินทร์ พื้นที่ที่ 2 ลานพลับพลามหาเจษฎาบดินทร ป้อมมหากาฬ และกำแพงพระนคร เป็นพื้นที่จัดกิจกรรมเกี่ยวกับวรรณศิลป์ มีการแสดงดนตรีออกภาษา โดย เนาวรัตน์ พงษ์ไพบูลย์ เดี่ยวระนาดเอก โดย ณรงค์ฤทธิ์ โตสง่า หรือขุนอิน จากภาพยนตร์ "โหมโรง" พื้นที่ที่ 3 คลองคูเมืองและถนนราชินี จำลองบรรยากาศตลาดน้ำ การจำลองร้านโบราณ เช่น ร้านธงบรรณการ ผู้ผลิตเสาธงชาติแห่งแรกของไทย ร้านฉายาจิตรกร ร้านถ่ายรูปเก่าแก่กว่า 60 ปี ร้านออนล็อกหยุน ร้านกาแฟดังในอดีต ก.พานิช ข้าวเหนียวมูลเลื่องชื่อ ฯลฯ พื้นที่ที่ 4 บริเวณสามแพร่ง แพร่งสรรพศาสตร์ แพร่งนรา แพร่งภูธร จัดเป็นถนนสายวิถีไทย แหล่งความรู้ และดนตรีศิลปวัฒนธรรม พื้นที่ที่ 5 วัดมหรรณพาราม เพื่อระลึกถึงระบบ การศึกษาของคนกรุง สาธิตอุปกรณ์การเรียนการสอนสมัยโบราณ และพื้นที่ที่ 6 เกาะกลางถนนศิริพงษ์ และถนนมหรรณพ จะเชิญผู้ประกอบการร้านอาหารเก่าแก่มีชื่อเสียง จากทั่ว กทม. มาออกร้านจำหน่ายนักท่องเที่ยว โดยพื้นที่ทั้งหมดจะตกแต่งแบบ ย้อนยุคอย่างงดงาม (ไทยรัฐ เสาร์ที่ 27 มีนาคม 2547 หน้า
ค่านิยมผิดๆ ดื่มน้ำส้มสายชูลดอ้วน
รายงานข่าวจากประเทศชิลี ระบุว่าสาว ๆ ที่ชอบความผอมเพรียวในชิลี กำลังใช้วิธีลดน้ำหนักแบบใหม่ด้วยการดื่มน้ำส้มสายชู สกัดจากแอปเปิ้ล เนื่องจากราคาถูกกว่าจากเดิมที่จะกินยาเม็ดลดน้ำหนัก กระแสการรีดน้ำหนักด้วย น้ำส้มสายชูมาแรงมาก ๆ จนแพทย์ ต้องออกมาเตือนว่า ที่ผ่านมา ยังไม่มีหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ ใด ๆ ชวนให้เชื่อเลยว่า น้ำส้มสายชูช่วยในการลดน้ำหนักให้ผอมเพรียว ตามที่หญิงสาวทุกคนต้องการได้ แต่ที่แน่ ๆ มันจะทำให้ผู้ที่ดื่มเกิดอาการปวดท้อง จนอาจทำให้เกิดสำไส้อักเสบได้ ส่วนคุณหมอก็เปิดเผยว่า มีจำนวน ผู้ป่วยหญิงสาวที่เข้ารับการ รักษา เพราะปวดท้องเพิ่มขึ้น (เดลินิวส์ อาทิตย์ที่ 28 มีนาคม 2547 หน้า
หอศิลป์สมเด็จพระนางเจ้าฯ นิทรรศการ เดินตามชีวิต เหม เวชกร
หอศิลป์สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ จึงจัดแสดงนิทรรศการ เดินตามชีวิตเหม เวชกร ในระหว่างวันที่ ๒๒เมษายน - ๑๕ มิถุนายน ๒๕๔๗ บริเวณชั้น ๔ ของหอศิลป์ฯ นิทรรศการครั้งนี้รวบรวมผลงานภาพจิตรกรรม ๓๐๐ ชิ้น โดยมีรูปแบบการจัดแสดงงานแบบเล่าเรื่องราวและถ่ายทอดประวัติศาสตร์ วิถีชีวิต ของคนในสมัยนั้น ย้อนไปถึงในช่วงสมัยรัชการที่ ๕ เรื่องราวที่ถูกถ่ายทอดผ่านภาพวาดจิตรกรรม สามารถสะท้อนถึงสภาพสังคมและการดำเนินชีวิตของคนในช่วงนั้นได้อย่างชัดเจน ดังนั้นนอกจากจะได้ชมผลงานแล้วเรายังจะได้เรียนรู้ประวัติศาสตร์และสภาพสังคมในแต่ละช่วงสมัยอีกด้วย ระหว่างการจัดแสดงผลงานของครูเหม เวชกรนั้น ทางหอศิลป์ได้จัดการเสวนาพูดคุย แลกเปลี่ยนทัศนคติและเล่าเรื่องราวของผู้คนที่ได้อยู่ใกล้ชิด หรือบุคคลที่ได้มีโอกาสรู้จักกับครูเหมเวชกร ในบรรยากาศเป็นกันเอง สนใจติดต่อสอบถามรายละเอียด คุณอัปษรพรรณ, คุณอาภัสสร และคุณอัศรินทร์ โทรศัพท์ ๐-๒๘๓-๕๓๖๐-๑ โทรสาร ๐-๒๘๑-๕๓๕๙ เวลาทำการ ๐๙.๐๐ - ๑๘.๐๐ น. ทุกวัน ยกเว้นวันพุธ (สยามรัฐ อาทิตย์ที่ 28 มีนาคม 2547 หน้า
กทม. ทันสมัยใช้ GIS ช่วยดูแลต้นไม้ใหญ่
นายนิคม ไวยรัชพานิช ผู้อำนวยการสำนักสวัสดิการสังคม กทม. เปิดเผยว่า สำนักงานสวนสาธารณะ สำนักสวัสดิการสังคม ได้จัดโครงการนำร่องทำฐานข้อมูลระบบสารสนเทศภูมิศาสตร์ (GIS) เพื่อจัดการต้นไม้ใหญ่ในเขตพระนคร สัมพันธวงศ์ ป้อมปราบศัตรูพ่าย และดุสิต โดยนำ GIS เข้ามาประยุกต์ใช้เพื่อพัฒนางานของกรม เช่นจัดทำฐานข้อมูลต้นไม้ การดูแลรักษาต้นไม้ และการวางแผนให้สอดคล้องกับหน่วยงานอื่นๆ โดยเฉพาะกับหน่วยงานด้านสาธารณูปโภค (สยามรัฐ พุธที่ 24 มีนาคม 2547 หน้า 10)
"ฮู"ย้ำเตือน"ไข้หวัดนก" อีกนานกว่าจะสิ้นฤทธิ์
นายปีเตอร์ คอร์ดิงลีย์ โฆษกองค์การอนามัยโลก ประจำภาคพื้นแปซิฟิกตะวันตก ที่กรุงมะนิลา กล่าวว่าเรากำลังอยู่ในระยะอันตรายที่สุดของการแพร่ระบาด เพราะว่าการหมดไปของเชื้อไวรัสไข้หวัดนกต้องใช้เวลานานเป็นเดือนหรือเป็นปี กว่าที่มันจะหายไปจริงๆ นายแอนตัน ริชเนอร์ หัวหน้าฝ่ายปฏิบัติงานขององค์การอาหารและเกษตรแห่งสหประชาชาติ ประจำเวียดนาม ระบุว่า ในส่วนของภาวะแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสไข้หวัดนกที่เวียดนามในช่วงหนึ่งเดือนที่ผ่านมา ดูเหมือนมีการปิดบังข้อเท็จจริงอยู่ด้วย จนทำให้ข้อมูลเท่าที่ได้มายังไม่น่าพอใจ ในขณะที่นายโจเซฟ โดมีเน็ก หัวหน้าฝ่ายอนามัยสัตว์ขององค์การประจำสำนักงานใหญ่ที่กรุงโรม ก็ระบุว่า สถานการณ์ต่างๆ อาจจะดีขึ้น แต่ยังไม่ถึงกับปลอดเชื้อเสียเลยทีเดียว ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่องค์การอนามัยสัตว์โลกยืนยันด้วยว่า อำนาจประกาศภาวะปลอดเชื้อไวรัสไข้หวัดนก เป็นอำนาจหน้าที่ขององค์การ หลังมีข้อมูลสรุปได้ว่าสถานการณ์ปลอดเชื้อจริงๆ มีเป็นเวลานานติดต่อกัน 21 วัน (มติชนรายวัน จันทร์ที่ 15 มีนาคม 2547 หน้า 12)
"หมอประเวศ"วอนรัฐหนุนผลิตหนังสือดี
น.พ.ประเวศ วะสี ราษฎรอาวุโส กล่าวในงานเสวนาเรื่อง "อนาคตหนังสือเด็ก อนาคตของสังคม" ที่หอศิลป์สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ฯ ถนนราชดำเนินกลางว่าอุปสรรคของการพัฒนาเด็กคือ ในสังคมไทยมีคนอ่านหนังสือน้อย สภาพแวดล้อมไม่อำนวย ไม่มีวัฒนธรรมเขียน-อ่าน อยากให้รัฐบาลสนับสนุนเรื่องงบประมาณคือ อุดหนุนผลิตหนังสือดีๆ ตั้งคณะกรรมการส่งเสริมการอ่าน คัดเลือกหนังสือดีๆ แล้วประกาศสู่สาธารณะ และควรส่งเสริมการอ่านทุกจังหวัด จึงจะส่งผลดีกับสังคมไทย ด้านนางสิริกร มณีรินทร์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า การสร้างบรรยากาศเป็นสิ่งที่เด็กต้องการมากที่สุด ไม่ควรบังคับเด็กอ่านหนังสือจะทำให้เด็กขาดความสนใจ ควรได้รับความร่วมมือจากทุกๆ ฝ่าย โดยเฉพาะการผลิตหนังสือเพื่อเด็กแต่ละครั้งควรวิจัยความต้องการของเด็กก่อน และปลูกจิตสำนึกทางด้านวัฒนธรรมไทยให้แก่เด็ก ซึ่งขณะนี้ทางรัฐบาลกำลังทำโครงการส่งเสริมหนังสือเพื่อเด็ก ทำให้เด็กต่างจังหวัด และสังคมเมืองไม่มีความแตกต่างกันด้านความรู้ รวมทั้งยังสามารถเผยแพร่ไปสู่สังคมต่างชาติได้อีกด้วย (มติชนรายวัน จันทร์ที่ 15 มีนาคม 2547 หน้า 23 )
ส้นสูง ภัยเรียวขามาพร้อมกับความสวย
การสวมรองเท้าส้นสูงจะทำให้ดูสูงขึ้น แต่ขณะเดียวกันก็ทำให้รอยเท้าจะสั้นกว่าปกติ ผิดหลักกลศาสตร์ ซึ่งร่างกายรักษาสมดุลยากขึ้น ทำให้กล้ามเนื้อฝ่าเท้าและขาต้องทำงานหนักกว่าเดิม รวมไปถึงกล้ามเนื้อน่องและเอ็นร้อยหวายจะหดสั้นตลอดเวลาที่ใส่รองเท้าส้นสูง ส่งผลต่อการไหลเวียนของเลือด ที่สำคัญการใส่รองเท้าที่สูงมากๆ ทำให้บริเวณหลังเกิดการแอ่นมาก จนเป็นสาเหตุให้เกิดอาการปวดหลังได้ในอนาคต นอกจากนี้ ในวงการแพทย์ยังค้นพบว่ารองเท้าชนิดปลายแคบและส้นสูงมากๆ มีส่วนช่วยให้รูปเท้าพิการได้อีกทางหนึ่ง เพราะแรงบีบที่นิ้วเท้าและการเพิ่มแรงกดลงบนฝ่าเท้าระหว่างยืนหรือเดิน จากการศึกษายังพบอีกว่าเกือกส้นสูงระดับ 3.1-4 นิ้ว จะเพิ่มแรงกดดันที่ฝ่าเท้ามากกว่าการสวมรองเท้าพื้นแบนถึง 7 เท่า ดังนั้น หากหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะต้องสวมรองเท้าส้นสูง ผู้หญิงจึงต้องเตรียมพร้อมรับมือกับปัญหาเหล่านี้ เช่น ไม่ควรสวมรองเท้าส้นสูงติดต่อกันเป็นเวลานานในแต่ละวัน ควรปล่อยให้เท้าได้พักบ้าง หรือสลับกับการสวมรองเท้าที่มีความสูงลดน้อยลงบ้างจะช่วยบรรเทาปัญหาระดับหนึ่ง (มติชนรายวัน จันทร์ที่ 15 มีนาคม 2547 หน้า 28)
กรีนพีซจี้สธ.ติดฉลากจีเอ็มโอ
ตัวแทนกลุ่มกรีนพีซได้ใช้โอกาสในวันสิทธิผู้บริโภคสากล ยื่นหนังสือรายชื่อผู้สนับสนุนการปิดฉลากผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของอาหารดัดแปลงพันธุกรรม(จีเอ็มโอ) ให้เข้มงวดมากขึ้นจำนวน 11,000 รายชื่อ เพื่อให้แก้กฎกระทรวงฉบับที่ 251 ที่กำหนดให้ผู้ผลิตอาหารที่มีส่วนผสมของจีเอ็มโอ 5% ขึ้นไปต้องติดฉลาก เป็นอาหารที่มีจีเอ็มโอในทุกส่วนประกอบตั้งแต่ 1% ขึ้นไปต้องติดฉลากให้ผู้บริโภคทราบ เพื่อที่จะได้ตัดสินใจว่าจะเลือกซื้อหรือไม่ โดยมีนายยงยุทธ วิชัยดิษฐ์ กรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เป็นผู้รับเรื่องไว้ นายจิรากรณ์ คชเสนี ผู้อำนวยการบริหาร กรีนพีซเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ กล่าวว่าคนไทยรู้เรื่องจีเอ็มโอมากขึ้น และมีแนวโน้มที่จะปฎิเสธสินค้าที่มีส่วนผสมของจีเอ็มโอ แต่กฎกระทรวงที่ให้ติดฉลากจีเอ็มโอนั้นยังมีช่องว่างคือ กำหนดให้ติดฉลากเฉพาะสินค้าทีมีจีเอ็มโอปนเปื้อนตั้งแต่ 5% ขึ้นไป และจีเอ็มโอ 5% นั้นต้องอยู่ใน 3 ส่วนประกอบหลักเท่านั้น หากอยู่ในส่วนประกอบที่ 4 เป็นต้นไปแม้จะมีจีเอ็มโอ 100% ก็ไม่ต้องแสดงให้ทราบ และมีผลบังคับเฉพาะถั่วเหลือง และข้าวโพด ทั้งที่มันฝรั่ง มะเขือเทศ มะละกอ ฝ้ายก็เป็นพืชจีเอ็มโอ อาหารที่กรีนพีซระบุว่ามีจีเอ็มโออยู่ในระดับสูง เช่น กุนเชียงหมูยี่ห้อซูเปอร์เซฟ ที่เทสโก้โลตัส มีถั่วเหลืองจีเอ็มโอสูงถึง 80% เครื่องดื่มธัญญาหารยี่ห้อเนสวิต้า ของบริษัทเนสท์เล่ มีถั่วเหลืองจีเอ็มโอถึง 83% จากเดิมมีเพียง 7% นอกจากนี้ จากคู่มือจ่ายตลาดที่กรีนพีซแจกจ่ายให้ประชาชนทั่วไปยังระบุว่าผลิตภัณฑ์ที่มีจีเอ็มโอ เช่น ไอศกรีมวอลล์ เนสท์เล่ ซอยพลัส ไอศกรีมเนสท์เล่ ซอสหอยนางรมตราคนอร์ ผงทำน้ำเกรวี่สำหรับไก่ตราโลโบ ซอสหอยนางรมตราแม็กกี้ ฯลฯ (มติชนรายวัน อังคารที่ 16 มีนาคม 2547 หน้า 10 )
อบรมบาร์&เครื่องดื่มฟรี! ช่วยนักศึกษาตกงาน
โรงเรียนวิฑูรย์ค็อกเทล และไวน์ ได้ร่วมกับบริษัทเพอร์นอต ริคาร์ด (ประเทศไทย) จำกัด จัดโครงการฝึกอบรมด้านบาร์ และเครื่องดื่มฟรีขึ้น สำหรับผู้ที่ยังไม่มีงานทำ และมีความรู้ตั้งแต่ชั้น ป.ว.ส.ขึ้นไป โดยตั้งเป้าว่าผู้ที่จบ COURSE นี้จะต้องมีงานทำครบทุกคน ซึ่งผู้ได้รับคัดเลือกให้เข้ารับการฝึกอบรมไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายแต่อย่างใด โครงการนี้ยังได้รับการสนับสนุนจากสถาบันสันติราษฎร์บริหารธุรกิจ (SIBA) การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย และสมาคมโรงแรมไทย ซึ่งจะมาช่วยกันให้ความรู้หลายๆ ด้าน อาทิ ประเภทของเครื่องดื่มทั้งที่มีแอลกอฮอล์ และไม่มี รูปแบบของแก้วประเภทต่างๆ เคล็ดลับเกี่ยวกับไวน์ การจัดเตรียมเครื่องใช้ในงานบาร์ และเครื่องดื่ม เทคนิคและศิลปะในการผสมเครื่องดื่มประเภทต่างๆ การทำงบประมาณ การควบคุมประมาณการขาย และรายงานการขาย การใช้ภาษาอังกฤษที่ถูกต้องสำหรับบาร์เทนเดอร์ ฯลฯ สำหรับระยะเวลาการสอนตั้งแต่วันจันทร์-ศุกร์ ต่อเนื่อง 6 สัปดาห์ รวมเวลาในการสอบวัดผล 3 ครั้ง ครั้งละ 3 ชั่วโมง (สัปดาห์ละ 5 วัน) รวม 180 ชั่วโมง (ไม่รวมเวลาในการฝึกงานกับสถานที่จริง 2 สัปดาห์) จะเริ่มสอนตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน โดยจะอบรมรุ่นละ 30 คน ใช้สถานที่ฝึกอบรมที่โรงเรียนวิฑูรย์ ค็อกเทล และไวน์ ชั้น 3 สถาบันสันติราษฎร์บริหารธุรกิจ ผู้สนใจเข้าร่วมโครงการนี้รีบสมัครด่วน ติดต่อโทร.0-2939-2416 หรือสมัครโดยตรงที่ อ.วิฑูรย์ วงษ์สวัสดิ์ โทร.0-1861-1136 (มติชนรายวัน ศุกร์ที่ 19 มีนาคม 2547 หน้า 22)
ศิริราชชี้ช่องแก้เด็กไทยอ้วน30% ปรับพฤติกรรมกินไร้ผลพบหมอ
พญ.ชนิกา ตู้จินดา ประธานชมรมต่อมไร้ท่อในเด็ก กล่าวในการประชุมวิชาการเฉลิมพระเกียรติ 72 พรรษา มหาราชินี เรื่อง "ปัญหาเด็กอ้วน" ว่าปัญหาโรคอ้วนในเด็กไทยนั้นมีมากขึ้นเรื่อยๆ โดยเด็กไทยกำลังเดินตามรอยเด็กอเมริกาที่มีปัญหาเรื่องอ้วนประมาณ 50% ส่วนเด็กไทยมีปัญหาเรื่องอ้วนประมาณ 25-30% ต่อไปจะเป็นโรคเบาหวาน ความดันโลหิตสูง พ่อแม่ตามใจลูกเกินไป อยากกินอะไรก็ให้กินซึ่งไม่ใช่เรื่องที่ถูก ด้านพญ.สุภาวดี ลิขิตมาศกุล หน่วยต่อมไร้ท่อ ภาควิชากุมารเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ ศิริราชพยาบาล กล่าวว่า การแก้ปัญหาโรคอ้วนในเด็กต้องแก้ไขที่พฤติกรรมการกินถ้าไม่ได้ผลต้องพบแพทย์ จากการศึกษาของศิริราชที่โรงเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัย ซึ่งมีนักเรียน 600 คน พบว่ามีเด็กอ้วนถึง 16.5% หรือ 99 คน และใน 99 คนนั้นมีระดับคอเลสเตอรอลสูงและมีแนวโน้มจะเป็นเบาหวานถึง 34 คน (มติชนรายวัน ศุกร์ที่ 19 มกราคม 2547 หน้า 5)
เด็ก 80%ก้าวร้าวจากการเลี้ยงดู สมองโปรแกรมระแวงถูกทำร้าย
พ.ญ.วัณเพ็ญ บุญประกอบ จิตแพทย์เด็ก ภาควิชาจิตเวชศาสตร์ศิริราชพยาบาล กล่าวถึง "ปัญหาพฤติกรรมก้าวร้าวในเด็กและวัยรุ่น" ว่า เด็กวัยรุ่นที่มีพฤติกรรมก้าวร้าวส่วนใหญ่เกิดจากการเลี้ยงดู ความเครียดในชีวิตประจำวันและสิ่งแวดล้อม เป็นเรื่องของความผิดปกติของสมองเพียงเล็กน้อย วิธีแก้ไขที่ดีที่สุดคือ การฝึกอบรมเด็กเพื่อปรับเปลี่ยนพฤติกรรมไปในทางที่ถูกต้อง ให้โอกาสเด็กในการระบายอารมณ์ ความเครียด พร้อมทั้งปรับเปลี่ยนค่านิยมของเด็กในเรื่องการรักสบาย การควบคุมตนเอง รวมทั้งใช้หลักศาสนาในการพัฒนาจิตใจเด็ก (มติชนรายวัน ศุกร์ที่ 19 มีนาคม 2547 หน้า 5)
โครงการนักศึกษารับจ๊อบอู้ฟู่ ห้าง-ฟาสต์ฟู้ดดังแห่รับเพียบ
นางอุไรวรรณ เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เปิดเผยถึงการทำงานของนักเรียนนักศึกษาว่า มีหน่วยงานภาครัฐ 23 กระทรวง รับนักศึกษาทำงานรวม 8,177 อัตรา เป็นตำแหน่งงานในสำนักงาน รวมทั้งผู้ช่วยสอนกีฬา ส่วนภาคเอกชนมีสถานประกอบการแจ้งความจำนงรวม 491 แห่ง 47,950 ตำแหน่ง โดยเฉพาะห้างสรรพสินค้าต่างๆ รวมทั้งร้านอาหารฟาสต์ฟู้ดชื่อดัง เช่น เคเอฟซี แมคโดนัลด์ เอ็มเค พิซซ่า ฮัท ฯลฯ ขณะนี้มีนักเรียนนักศึกษาลงทะเบียนกับกรมการจัดหางานกว่า 22,000 คน บรรจุแล้ว 5,799 คน ค่าจ้างภาคราชการวันละ 200 บาท หรือชั่วโมงละ 25 บาท ขณะเดียวกัน กระทรวงการคลังได้ออกหลักเกณฑ์วิธีปฏิบัติสำหรับหน่วยงานราชการที่ว่าจ้างนักเรียนนักศึกษาว่าต้องจ้างผู้ที่มีอายุไม่ต่ำกว่า 15 ปี ส่วนเรื่องของภาษีนั้นส่วนใหญ่อยู่ในเกณฑ์ที่ไม่ต้องเสีย สำหรับนักเรียนนักศึกษาที่ยังไม่ได้มาสมัครงาน สามารถแจ้งผ่านเว็บไซต์ www.doe.go.th ของกรมการจัดหางานได้ (มติชนรายวัน ศุกร์ที่ 19 มีนาคม 2547 หน้า 10)
ชูนวัตกรรม หมาเฝ้าบ้าน เบรกสินค้าโก่งราคานำเข้า
ดร.พีรศักดิ์ วรสุนทโรสถ ผู้ว่าการสถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทย(วว.) กล่าวว่านวัตกรรมช่วยให้ประเทศประหยัดงบประมาณ จากการยื่นซองประกวดราคาประมูลโครงการภาครัฐ แต่ถ้าหน่วยงานวิจัยและพัฒนาของไทย สามารถพิสูจน์และทำผลิตภัณฑ์ต้นแบบขึ้นมาเพื่อแสดงให้เห็นถึงศักยภาพและความสามารถในการผลิตคุณภาพที่ราคาต่ำกว่าต่างประเทศได้แล้วจะเป็นตัวกดดันให้ราคาประมูลต่ำลง ปัจจุบันวว.กำลังพัฒนาเครื่องตรวจวัดแอลกอฮอล์อิเล็กทรอนิกส์เครื่องต้นแบบเพื่อให้เจ้าหน้าที่ตำรวจใช้ตรวจวัดระดับแอลกอฮอล์ในตัวผู้ขับขี่ยานพาหนะ นอกจากนี้ยังมีผลงานอื่นๆที่กำลังพัฒนาอยู่ได้แก่ เครื่องนวดใต้ผิวหนังและกระดูก ซึ่งกำลังยื่นขอการรับรองจากคณะกรรมการอาหารและยาโดยที่เครื่องต้นแบบมีราคาเพียง 8,000-10,000 บาทเท่านั้น นอกจากนี้ยังได้พัฒนาเครื่องฟอกอากาศบริสุทธิ์เพื่อป้องกันภูมิแพ้ด้วย (กรุงเทพธุรกิจ ศุกร์ที่ 19 มีนาคม 2547 หน้า 8)
KMUTT
Digital Library
Contact Digital Library : info@lib.kmutt.ac.th
Tel : 0-2470-8215
|
|
|