หัวข้อข่าวปีที่ 5 ฉบับที่ 14 ประจำวันที่ 2004-04-12

ข่าวการศึกษา

รับสมัครผอ.วิทยาลัยชุมชน
มหิดลจัดอบรมออกเสียงภาษาอังกฤษ
ทวท.อุดหนุนทุนอัจฉริยภาพวิทย์
การประกันคุณภาพการศึกษา : จุดเปลี่ยนแปลงของสถานศึกษา
รัฐโยนหินถามทางเงินอุดมศึกษา ชงทุนให้เปล่า/ยุบทุนกู้ยืม/เลิกเพดานค่าเทอม
วธ.จับมือศธ.ปรับปรุงหลักสูตรการสอน
"วรเดช"เร่งวิเคราะห์ผลงานมหา"ลัยเชื่อมีคุณภาพ
ครม.อนุมัติเงินอุดหนุนพื้นฐานเริ่ม ป.1-ม.6 บวกอนุบาล

กมธ.ศึกษาค้านปรับกองทุนกู้ยืมชี้ไร้หลักประกันอุ้มเด็กยากจน
เผยชื่อ ร.ร.เขตกรุงเทพฯ รับนักเรียนรอบสอง
ศธ.นัดประชุมอนาคตปอเนาะ

ข่าววิทยาศาสตร์/เทคโนโลยี

อินเดียเจ๋งผลิตมือถือพกพาซิมพิวเตอร์
มือถือวิดีโอโฟนซูม4เท่า
ดาวอังคารจะเข้ามาเยี่ยมใกล้โลกเที่ยวหน้าต้องคอยอีก 25,000 ปี
โหลดเพลงออนไลน์ทำยอดขายเทปลดฮวบ
ร้องคาราโอเกะผ่านบริการออดิโอเท็กซ์
Gmail
ใช้เทคโนโลยีดัดนิสัยพวกขี้เกียจล้างมือ
ทำยาใส่พยาธิกินรักษาท้องไส้แก้อาการป่วยโรคทางเดินอาหาร
คาดมีโลกอื่นอยู่ไม่ต่ำกว่า 50 ดวงในระบบสุริยจักรวาลต่างแดน

ข่าววิจัย/พัฒนา

มีหวังประดิษฐ์วัคซีนโรคซาร์สทดลองกับหนูได้รับความสำเร็จ
กากอ้อยขยะเหลือทิ้งสู่พลังชีวมวลผลิตไฟฟ้า
“น้ำผักแผ่น” ไอเดียเพื่อสุขภาพ ฝีมือเด็กบ้านกิ่วแลหลวง จ.เชียงใหม่
มากกว่าสบู่
จับโปรตีนถั่วเหลืองมาบำรุงผิว
คนอเมริกันกลายเป็นฝรั่งแกร็น เตี้ยกว่าเพื่อนชาติยุโรปทั้งหมด
ฟันน้ำนมทารกจะเป็นยาวิเศษใช้รักษาโรคหัวใจ และสมองพิการ
ควันหลงของบุหรี่ยังมีอันตรายแสลงกับแผลทำให้หายช้าลง
วิจัยข้าราชการ
พัฒนากล้วยไม้"รองเท้านารี"
ปลูกพืชอาหารสัตว์แซมในสวนยางทำได้
นวัตกรรมชีววิทยาศาสตร์ อีกบทบาทของไทยประชุมระดับโลก
ศึกษาวิจัยดวงชะตาชีวิตของคนพบวันเดือนปีเกิดเกี่ยวพันกับดวง
กินยาเม็ดกันอ้วนไม่ต้องออกกำลังมีฤทธิ์ เหมือนกับออกแรงได้เหงื่อ
นักวิจัยเตือนระวังน้ำท่วมโลก
เครื่องผลิตไบโอดีเซลฝีมือนักวิจัยไทย
ยับยั้งการเจริญเติบโตของเชื้อแบคทีเรีย ด้วยมะยมเปรี้ยว
“ม้าน้ำ” ควรเร่งอนุรักษ์ก่อนจะสูญพันธ์
นักจิตวิทยาให้เอาลิงมาเป็นครูของคนใช้ภาษาท่าทางลิง ติดต่อสัมพันธ์กัน
โทรศัพท์มือถือปล่อยรังสีแม่เหล็กไฟฟ้าบีบทรมานเซลล์เนื้อเยื่อ ของร่างกาย
คอมพิวเตอร์ทายจะเป็นโรคหัวใจรู้ได้ภายในเวลา 10 ปีข้างหน้า
“เครื่องไสเนื้อบ๊วย” นวัตกรรมล่าสุดจาก มจธ.

ข่าวทั่วไป

สปสช.เปิด 57 "คลินิกอบอุ่น" ทั่วกทม.
มธบ.คัด 18 นักธุรกิจสร้างชาติ
เตรียมดันกฏหมายอนามัยเจริญพันธุ์
ของดีเมืองเก่า “ข้าวตอกพระร่วง” โอทอป” ศักดิ์สิทธิ์คู่เมืองสุโขทัย
สาวเด่นแห่งปี
แอลเอไทม์สกวาดพูลิตเซอร์
เตือนก๊ง"ยาดอง-ยาเย็น"ถี่ถึงตาย
วธ.คิดดันศิลปินไทยสู่ระดับสากล
ม.สหรัฐสดุดีพระเทพฯ
ประมงปล่อยสัตว์น้ำ 99 ล้านตัว
คุรุสภารุกปรับแผนแก้ปัญหาปล่อยเงินกู้ ช.พ.ค.อืด
เพลงคลาสสิกพัฒนาสติปัญญา ใช้บำบัดเด็กที่เป็นสมาธิสั้นได้
ได้รูปแบบถนนคร่อมประปา คาดเริ่มสร้างปี2548,ประมูลใหม่ถนนรัชดา-รามอินทรา
แบคทีเรียดินคร่าลอดช่อง
3 อย่างห้ามทำในห้องแอร์
ปรับมาตรฐานดึงค่ายรถหนุนใช้แก๊สโซฮอลล์
เกษตรและมลพิษทำนกใกล้สูญพันธุ์
ทำไมกินไอศกรีมแล้วปวดหัว
พบน้ำเค็มทะลักเจ้าพระยา
เริ่มต้น 14 ไกลสุด 36 บาทค่าโดยสารรถไฟฟ้าใต้ดิน
โทษการตัดไม้ทำลายป่าที่อยู่สัตว์ค้างคาวดูดเลือดแวมไพร์ บุกกัดคน





ข่าวการศึกษา


รับสมัครผอ.วิทยาลัยชุมชน

นายถนอม อินทรกำเนิด ที่ปรึกษาสำนักบริหารงานวิทยาลัยชุมชน เปิดเผยว่า สำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา (สกอ.) ซึ่งดูแลการจัดการศึกษาของวิทยาลัยชุมชน(วชช.) ใน 10 จังหวัด ได้แก่ แม่ฮ่องสอน พิจิตร ตาก บุรีรัมย์ มุกดาหาร หนองบัวลำภูสระแก้ว อุทัยธานี ระนอง และนราธิวาส จะเปิดรับสมัคร ผู้อำนวยการวิทยาลัยชุมชน ทั้ง 10 แห่ง สำหรับคุณสมบัติ สำเร็จการศึกษาไม่ต่ำกว่าปริญญา หรือเทียบเท่า มีประสบการณ์ด้านการบริหาร ไม่น้อยกว่า 5 ปี ในมหาวิทยาลัยหรือสถาบันอุดมศึกษาอื่นๆ หรือดำรงตำแหน่ง รองศาสตราจารย์ หรือศาสตราจาย์ในสถาบันอุดมศึกษาของรัฐ และมีประสบการณ์ด้านการบริหารในองค์กรภาครัฐ หรือเอกชนไม่น้อยกว่า 5 ปี มีความเข้าใจในหลักการปรัชญาของวิทยาลัยชุมชนอย่างแท้จริง มีอุดมการณ์และเจตคติ มีมนุษยสัมพันธ์ความ ซื่อสัตย์สุจริต กำหนดเปิดรับสมัครตั้งแต่บัดนี้จนถึงวันที่ 16 เม.ย.2547 ณ วิทยาลัยชุมชนทั้ง 10 แห่ง โดยสามารถติดต่อการสมัครได้ที่ สำนักบริหารงานวิทยาลัยชุมชน โทร 0-2628-6160 (สยามรัฐ จันทร์ที่ 5 เมษายน 2547 หน้า 7)





มหิดลจัดอบรมออกเสียงภาษาอังกฤษ

รศ.ดร.สุวิไล เปรมศรีรัตน์ ผอ.สถาบันวิจัยภาษาและวัฒนธรรมเพื่อพัฒนาชนบท มหาวิทยาลัยมหิดล เปิดเผยว่าการเตรียมความพร้อมด้านภาษาอังกฤษ ให้กับผู้เรียนในระดับต่างๆ จึงจัดเป็นความจำเป็นเร่งด่วนอย่างหนึ่งสำหรับระบบการศึกษาไทยในปัจจุบัน แต่ปัญหาที่ผู้เรียนชาวไทยประสบอยู่ คือ การออกเสียงภาษาอังกฤษ โดยใช้ท่วงทำนองการเน้นเสียง และเสียงพยัญชนะและสระของภาษาไทยเข้าไปทดแทน ซึ่งการแก้ปัญหาให้ได้ผลที่สุด คือ การใช้ระบบสัทสัญลักษณ์สากล (International Phonetic Alphabet) โดยทางสถาบันฯ ได้จัดฝึกอบรมเชิงปฏิบัติการ “สัทศาสตร์ปฏิบัติ : กุญแจสู่ความสำเร็จในการสอนการออกเสียงภาษาอังกฤษ” สำหรับผู้สอนภาษาอังกฤษทุกระดับ และผู้สนใจทั่วไป โดยจะจัดเป็นรุ่นที่ 4 ในระหว่างวันที่ 28-30 เม.ย.นี้ ผู้เข้าอบรมจะได้รับคู่มือสอนการออกเสียงภาษาอังกฤษ เทปเสียงสาธิตวิธีการออกเสียง พร้อมตัวอย่างเอกสารอ้างอิงระบบสัทสัญลักษณ์ และวุฒิบัตรรับรองสำหรับผู้ผ่านการฝึกอบรม สนใจติดต่อค่าลงทะเบียนคนละ 2,500 บาท ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป หรือสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ โทร 0-2800-2301,0-2800-2341, 0-2800-2308 ต่อ 3260 (สยามรัฐ จันทร์ที่ 5 เมษายน 2547 หน้า 7)





ทวท.อุดหนุนทุนอัจฉริยภาพวิทย์

รศ.ดร.ประสาท สืบค้า คณบดีสำนักวิชาวิทยาศาสตร์ ม.เทคโนโลยีสุรนารี (มทส.) ในฐานะประธานที่ประชุมคณบดีวิทยาศาสตร์แห่งประเทศไทย(ทวท.) เปิดเผยว่า ทวท. ได้หารือกับตัวแทนของสำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) เห็นชอบให้จัดสรรทุนเรียนวิทยาศาสตร์แห่งประเทศไทย แก่นักเรียนที่มีอัจฉริยะภาพทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี รวมถึงนักเรียนชั้นม.6 ที่ผ่านการอบรมค่ายโอลิมปิกวิชาการ เพื่อเข้าศึกษาต่อด้านวิทยาศาสตร์ในมหาวิทยาลัยของรัฐ ประจำปีการศึกษา 2547 จำนวน 135 ทุน “ผู้รับทุนตามโครงการนี้ มีโอกาสสูงที่จะได้รับทุนรัฐบาลไปศึกษาระดับปริญญาโท-เอกทั้งในประเทศและต่างประเทศ และหากมีศักยภาพด้านวิจัยด้วยแล้วก็มีโอกาสก้าวไปสู่การพัฒนาผู้มีศักยภาพเพื่อรองรับวิทยาศาสตร์ประยุกต์ และการพัฒนาเทคโนโลยีระดับสูงได้เช่น ด้านวัสดุศาสตร์ วิทยาศาสตร์การแพทย์ เทคโนโลยีสารสนเทศ/อาหาร/ชีวภาพ นาโทเทคโนโลยี เป็นต้น” รศ.ดร.ประสาท กล่าวเพิ่มเติม สำหรับนักเรียนที่สนใจ สามารถสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ คณะวิทยาศาสตร์ ม.มหิดล โทร 0-2201-5050-4, จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โทร 0-2218-5030 ม.เชียงใหม่ โทร 0-5394-3315 ม.ขอนแก่น 0-4324-2387 และม.สงขลานครินทร์ โทร 0-7444-6658 (สยามรัฐ จันทร์ที่ 5 เมษายน 2547 หน้า 7)





การประกันคุณภาพการศึกษา : จุดเปลี่ยนแปลงของสถานศึกษา

การประกันคุณภาพการศึกษา ซึ่งถูกกำหนดไว้ในพระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. 2542 และที่แก้ไขเพิ่ม พ.ศ. 2545 หมวด 6 ว่า ด้วยมาตรฐานและการประกันคุณภาพการศึกษา มาตรา 47 ให้มีระบบการประกันคุณภาพการศึกษาเพื่อพัฒนาคุณภาพและมาตรฐานการศึกษาทุกระดับ ประกอบด้วย ระบบการประกันคุณภาพภายใน และระบบการประกันคุณภาพจากภายนอก "การประกันคุณภาพภายใน" หมายถึง การประเมินผลและติดตาม ตรวจสอบคุณภาพและมาตรฐานการศึกษาของสถานศึกษาจากภายใน โดยบุคลากรของสถานศึกษานั่นเอง หรือโดยหน่วยงานต้นสังกัดที่มีหน้าที่ดูแลสถานศึกษานั้น ส่วน "การประกันคุณภาพภายนอก" หมายถึง การประเมินผลและการติดตาม ตรวจสอบคุณภาพและมาตรฐานการศึกษาของสถานศึกษาจากภายนอก โดยสำนักงานรับรองมาตรฐานและประเมินคุณภาพการศึกษา(สมศ.) หรือบุคคล หรือหน่วยงานภายนอกที่ สมศ. ให้การรับรอง เพื่อเป็นการประกันคุณภาพและให้มีการพัฒนาคุณภาพและมาตรฐานการศึกษาของสถานศึกษา ดูจะเป็นภาษากฎหมายที่ทุกคนคงเข้าใจยาก ถ้าจะอธิบายให้ฟังดูง่ายขึ้น สั้น และกะทัดรัดก็คือ โรงเรียนต้องรับประกันตนเองโดยครูอาจารย์ในโรงเรียนว่าโรงเรียนมีคุณภาพตามมาตรฐานการศึกษาที่สถานศึกษากำหนด และสำนักงานรับรองมาตรฐานและประเมินคุณภาพการศึกษา (สมศ.) จะเข้าไปประเมินและรับรองว่าโรงเรียนมีคุณภาพและมาตรฐานตามที่กำหนด ทั้งนี้กระทรวงศึกษาธิการ ได้กำหนดระบบ หลักเกณฑ์ และวิธีการประกันคุณภาพการศึกษาภายในสถานศึกษา ตามกฎกระทรวง ว่าด้วยระบบหลักเกณฑ์ และวิธีการประกันคุณภาพการศึกษาภายในสถานศึกษาระดับการศึกษาขั้นพื้นฐานไว้แล้ว ประกอบด้วย 1. การจัดระบบบริหารและสารสนเทศ 2. การพัฒนามาตรฐานการศึกษา 3. การจัดแผนพัฒนาคุณภาพการ 4. การดำเนินงานตามแผนพัฒนาคุณภาพการศึกษา 5. การตรวจสอบและทบทวนคุณภาพการศึกษา 6. การประเมินคุณภาพการ 7. การรายงานคุณภาพการศึกษาประจำปี 8. การผดุงระบบการประกันคุณภาพการศึกษา (เดลินิวส์ อังคารที่ 6 เมษายน 2547 หน้า 27)





รัฐโยนหินถามทางเงินอุดมศึกษา ชงทุนให้เปล่า/ยุบทุนกู้ยืม/เลิกเพดานค่าเทอม

วันที่ 7 เม.ย. ในการประชุมคณะรัฐมนตรี นายจาตุรนต์ ฉายแสง รองนายกรัฐมนตรี จะเสนอหลักการและแนวทางการปฏิรูปการเงินอุดมศึกษา เพื่อขอความเห็นชอบต่อที่ประชุม ครม. โดยมีสาระสำคัญหลักๆ ดังนี้ รัฐจะเปลี่ยนบทบาทจากผู้ลงมือจัดการศึกษามาเป็นผู้สนับสนุน กำกับดูแล และกำหนดนโยบายการอุดมศึกษาเป็นหลัก และใช้กลไกทางการเงินเป็นเครื่องมือในการปรับประสิทธิภาพการจัดการศึกษา และดำเนินนโยบายการผลิตกำลังคนให้สอดคล้องกับความต้องการของสังคมและประเทศ โดยจะลดการสนองทุนผ่านสถานศึกษา และเพิ่มการสนองทุนผ่านด้านอุปสงค์ หรือตัวผู้เรียนให้มากขึ้น และให้ยึดหลักความเท่าเทียมกัน ไม่ว่าผู้เรียนจะเข้าศึกษาในสถานศึกษาของรัฐหรือเอกชนและให้ผู้เรียนมีส่วนร่วมรับภาระค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้นให้ได้สัดส่วนกับประโยชน์ส่วนบุคคลที่ผู้เรียนได้รับ อย่างไรก็ตามเนื่องจากการศึกษาเป็นบริการสาธารณะ รัฐจะยังคงต้องรับภาระค่าใช้จ่ายเพื่อการอุดมศึกษาของรัฐต้องไม่น้อยกว่าเดิม ซึ่งค่าใช้จ่ายการจัดการศึกษาของรัฐจะลดลง เพราะผู้เรียนมีส่วนรับภาระมากขึ้น ให้ทุนเปล่ากับผู้ยากจนทุนเรียนดีเพื่อความเป็นเลิศ และให้มีการพัฒนาครูอาจารย์ หลักการต่อมาคือ รัฐยอมให้สถานศึกษาของรัฐและเอกชนเรียกเก็บค่าเล่าเรียนได้ตามหลักการคุ้มทุน โดยเลิกการกำหนดเพดานค่าเล่าเรียน แต่รัฐจะต้องกำหนดอัตราการให้เงินกู้ยืม ซึ่งเป็นเงินอุดหนุนผู้เรียนที่เป็นมาตรฐานโดยคำนวณจากต้นทุนการดำเนินการที่แท้จริงของสถาบันอุดมศึกษา และปรับประสิทธิภาพของกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา(กยศ.) โดยยุติการกู้ยืมเงินกองทุนกับนักเรียนชั้น ม.ปลายทั้งสายสามัญและสายอาชีพ แต่จัดให้มีกองทุนแบบให้เปล่า หรือการช่วยเหลือรูปแบบอื่นที่เหมาะสม และให้เงินกู้ยืมกับนักศึกษาระดับอุดมศึกษาอนุปริญญาและปริญญาตรี ทั้งภาคปกติและภาคพิเศษรวมทั้งอาชีวศึกษาระดับอนุปริญญา-ปริญญาตรี โดยให้ กยศ.เป็นผู้รับผิดชอบการบริหารจัดการกองทุนกู้ยืมเพื่อการศึกษา ที่ผูกกับรายได้ในอนาคต (กรอ.) และมีกองทุนให้เปล่าสำหรับนักเรียนยากจน และนักเรียนเรียนดีเพื่อความเป็นเลิศ โดยให้กรมสรรพากรทำหน้าที่จัดการด้านการรับชำระหนี้เงินกู้ โดยอาจแยกหน่วยงานรับผิดชอบขึ้นมาเป็นพิเศษอยู่ภายใต้กรมสรรพากร ส่วนแนวทางการดำเนินการนั้น ให้เริ่มการปรับเปลี่ยนรูปแบบการชำระหนี้ที่มีอยู่ในปัจจุบันของ กยศ.มาเป็นเงื่อนไขการชำระหนี้แบบ กรอ. ตั้งแต่ปีการศึกษา2547 ในระหว่างที่มีการปรับเปลี่ยนระบบยังไม่แล้วเสร็จ ให้ใช้ระบบการชำระหนี้แบบเดิมไปก่อน และให้นำระบบเงินกู้ยืมแบบ กรอ.มาใช้ตั้งแต่ปีการศึกษา 2548 เป็นต้นไป ทั้งนี้ให้กระทรวงการคลังพิจารณาเรื่องการยกเว้นภาษีโรงเรือนสำหรับสถาบันการศึกษาเอกชน ให้ศธ.และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการแก้ไขกฎ ระเบียบ และมาตรการต่างๆ เพื่อให้เกิดการปฏิบัติต่อสถานศึกษาเอกชนอย่างเท่าเทียม กับสถานศึกษาของรัฐ ทั้งให้นำระบบสมาร์ทการ์ด มาใช้เพื่อประโยชน์ในการบริหารจัดการกองทุนด้วย (สยามรัฐ อังคารที่ 6 เมษายน 2547 หน้า 7)





วธ.จับมือศธ.ปรับปรุงหลักสูตรการสอน

ดร.กล้า สมตระกูล รองปลัดกระทรวงวัฒนธรรม (วธ.) เปิดเผยว่า เมื่อเร็ว ๆ นี้กระทรวงวัฒนธรรมได้หารือกับผู้แทนจากกระทรวงศึกษาธิการเรื่องการทำหลักสูตรทางด้านวัฒนธรรม โดยมองว่าจะมีการเพิ่มเนื้อหาด้านศิลปวัฒนธรรมเข้าไปในหลักสูตรของกระทรวงศึกษาธิการ เนื่องจากการเรียนการสอนของกระทรวงศึกษาธิการจะประกอบไปด้วย 1.การศึกษาขั้นพื้นฐาน 2.การศึกษาระดับอุดมศึกษา 3.การศึกษานอกระบบ 4.การศึกษาระดับอาชีวศึกษาและวิชาชีพ จากการหารือเรื่อง ดังกล่าว ทางกระทรวงวัฒนธรรม (วธ.) และกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) จึงได้ตกลงความร่วมมือในการบูรณาการการทำงานร่วมกันบนพื้นฐานของอำนาจหน้าที่ทั้ง 2 หน่วยงานเพื่อให้คนไทยได้เรียนรู้และตระหนักถึงคุณค่าของศิลปวัฒนธรรม ศีลธรรม จริยธรรม และภูมิปัญญาท้องถิ่น โดยความร่วมมือดังกล่าวจะประกอบด้วยหลัก 4 ประการ ได้แก่ 1.ความร่วมมือในเรื่องการศึกษาอบรมการเรียนรู้ทั้งในและนอกระบบ 2.ความร่วมมือทางวิชาการและการวิจัยด้านศิลปวัฒนธรรม 3.ความร่วมมือในการส่งเสริม และพัฒนาบุคลากรทางการศึกษา และ 4.ความร่วมมือในการจัดกิจกรรมเพื่อส่งเสริมอนุรักษ์สืบสานและสร้างสรรค์มรดกทางวัฒนธรรม "ทั้ง 2 หน่วยงานจะร่วมมือกันส่งเสริมสนับสนุนการเรียนด้านวัฒนธรรมทั้งในสถานศึกษาและนอกสถานศึกษา ส่งเสริมสนับสนุนการวิจัยและการจัดหลักสูตรทางด้านศิลปวัฒนธรรมและหลักธรรมทางศาสนาทั้งในรูปแบบของหลักสูตรระยะสั้นและระยะยาวในสถานศึกษาทุกระดับทุกประเภท อีกทั้งยังจะส่งเสริมสนับสนุนให้หน่วยงานและบุคลากรด้านศิลปวัฒนธรรมสามารถทำหน้าที่เป็นแหล่งการเรียนรู้ได้อย่างมีประสิทธิภาพอีกด้วย" ดร.กล้า กล่าว (เดลินิวส์ พุธที่ 7 เมษายน 2547 หน้า 27)





"วรเดช"เร่งวิเคราะห์ผลงานมหา"ลัยเชื่อมีคุณภาพ

ศ.ดร.วรเดช จันทรศร เลขาธิการคณะกรรมการการอุดมศึกษา (กอ.) ให้สัมภาษณ์กรณีที่มีกลุ่มนักวิชาการออกมาวิจารณ์ว่าอุดมศึกษาไทยอยู่ในช่วงวิกฤติเรื่องคุณภาพ เพราะพบว่าการผลิตงานวิจัยของอาจารย์มีน้อยกว่า 0.07 เรื่องต่อคนต่อปี และมีการเปิดศูนย์บริการนอกสถานที่เกือบ 300 แห่งและเปิดหลักสูตรกว่า 1,000 หลักสูตรซึ่งเป็นการเน้นเรื่องของปริมาณมากกว่าคุณภาพว่า สภาสถาบันแต่ละแห่งจะมีหน้าที่กลั่นกรองการเปิดศูนย์บริการและหลักสูตรใหม่อยู่แล้วและ ดร.อดิศัย โพธารามิก รมว.ศึกษาธิการ (ศธ.) ได้มอบนโยบายให้แต่ละมหาวิทยาลัยกำหนดยุทธศาสตร์ของตนเองและมองยุทธศาสตร์ของประเทศไปพร้อม ๆ กัน รวมทั้งต้องผลิตบัณฑิตและงานวิจัยให้สอดคล้องกับความต้องการของประเทศ โดยกำหนดเป็นยุทธศาสตร์ระยะสั้นที่แต่ละมหา วิทยาลัยต้องดูแลกันเอง ส่วนระยะกลางให้มหา วิทยาลัยจัดทำยุทธศาสตร์ในภาพรวม และระยะยาว ให้มหาวิทยาลัยกำหนดวิสัยทัศน์บรรจุไว้ในร่างพ.ร.บ. มหาวิทยาลัยในกำกับให้ชัดเจนว่าจะทำอะไรบ้าง เรื่องคุณภาพการศึกษา เราต้องเอาข้อเท็จจริงมาพูดกัน ไม่เช่นนั้นจะพูดข้อมูลด้านลบได้ง่าย และการมองภาพลบอาจทำให้มหาวิทยาลัยที่ตั้งใจทำงานเสียกำลังใจ ผมเห็นว่าอุดมศึกษาไทยมีการพัฒนาที่ดีขึ้น เห็นได้จากการจัดอันดับด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เราก็อยู่ในอันดับที่ดีขึ้นจากเดิมอยู่อันดับที่ 32 ก็ขึ้นมาอยู่อันดับที่ 12 ทั้งนี้ส่วนหนึ่งเป็นเพราะนโยบายของประเทศเน้นการพัฒนาวิทยา ศาสตร์และเทคโนโลยีที่เปลี่ยนระบบการทำงานเป็น E-Goverment หรือรัฐบาลอิเล็กทรอนิกส์ที่มีการตั้งศูนย์เทคโนโลยีไปยังทุกส่วนราชการรวมถึงระบบการศึกษาด้วย" เลขาธิการ กอ. กล่าว (เดลินิวส์ พุธที่ 7 เมษายน 2547 หน้า 27)





ครม.อนุมัติเงินอุดหนุนพื้นฐานเริ่ม ป.1-ม.6 บวกอนุบาล

ดร.อดิศัย โพธารามิก รมว.ศึกษาธิการ เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ในส่วนที่เกี่ยวกับกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) เมื่อวันที่ 7 เม.ย. ว่า ที่ประชุม ครม. ได้มีมติเห็นชอบเรื่องการอุดหนุนการจัดการศึกษาขั้นพื้นฐาน 12 ปี ตามที่ ศธ. เสนอ โดยกำหนดให้การอุดหนุนฯ เป็นไปตามกฎหมายคือ อุดหนุน 12 ปี ตั้งแต่ชั้น ป.1 ถึง ม.6 รวมระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพ (ปวช.) และเพิ่มอนุบาล 2 ปี รวมเป็น 14 ปี ซึ่งอัตราการอุดหนุนระดับชั้นประถมศึกษา ถึง ม.ปลาย ในปี 2547 นี้ จะใช้อัตราเดียวกับการอุดหนุนฯ ในปี 2546 รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 26,670 ล้านบาท ยกเว้นระดับอนุบาลที่ประชุมมีมติเห็นชอบให้อุดหนุนเพิ่มขึ้นจากที่เคยอุดหนุนเดิม 215 บาทต่อคนต่อปี เป็น 600 บาทต่อคนต่อปี เพื่อให้เด็กอนุบาลได้รับการอุดหนุนที่ใกล้เคียงความเป็นจริงตามที่เคยมีการวิจัยไว้ ทั้งนี้คาด ว่า ในภาคเรียนที่ 1/2547 นี้จะมีนักเรียนในส่วนของอนุบาลเอกชนและอาชีวศึกษาเพิ่มขึ้นประมาณ 90,000 คน สำหรับการอุดหนุนเอกชนนั้นจะเพิ่มให้ในส่วนของเงินเดือนครูอนุบาลและประถมฯ 3,440 บาทต่อคนต่อปี มัธยมฯ 4,300 บาทต่อคนต่อปี รมว.ศึกษาธิการ กล่าวต่อไปว่า สำหรับการดูแลโรงเรียนขนาดเล็กที่มีนักเรียนต่ำกว่า 120 คน ซึ่งมีจำนวน 10,877 โรงเรียน จะใช้เงินเพิ่มอีก จำนวน 537 ล้านบาทเศษ เพื่อไปดูแลในเรื่องการเรียนการสอน เช่น จ้างครูหมุนเวียน รถโมบายคอมพิวเตอร์ และซ่อมแซมโรงเรียน เป็นต้น โดยการอุดหนุนทั้งหมดนี้จะใช้เงินประมาณ 27,000 ล้านบาท ซึ่งเมื่อต้นปีงบฯ ที่ผ่านมา ศธ. ได้รับอนุมัติเงินมาแล้วประมาณ 25,409 ล้านบาท ดังนั้นรัฐบาลจึงได้อนุมัติในส่วนที่ยังขาดให้อีก 2,116 ล้านบาทเศษ (เดลินิวส์ พฤหัสบดีที่ 8 เมษายน 2547 หน้า 27)







จากการประชุมสัมมนา "สพฐ.สานฝันเด็กไทยก้าวไกลสู่โลกกีฬา" จัดโดยสำนักงานคณะกรรมการ การศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) เมื่อเร็ว ๆ นี้ ดร.อดิศัย โพธารามิก รมว.ศึกษาธิการ กล่าวว่า นโยบายหลักของกระทรวงศึกษาธิการ คือ การจัดการเรียนการสอนที่ครบถ้วน ทั้งด้านวิชาการ กีฬา ดนตรีและศิลปะควบคู่กันไป ซึ่งเด็กไทยสามารถทำได้แต่ก็ยังทำกันอยู่ในวงจำกัดจึงอยากให้ทุกฝ่ายเข้ามามีส่วนร่วม สำหรับการสนับสนุนอัตรากำลังครูพลศึกษานั้นกระทรวงศึกษาธิการจะจัดให้มีครบทุกโรงเรียน และจะให้มีการอบรมเพื่อพัฒนาเทคนิคใหม่ ๆ และจะมีการสร้างเครือข่ายครูพลศึกษาเพื่อให้มีการผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนครูที่มีความสามารถแตกต่างกันไปจัดกิจกรรมตามโรงเรียนเพื่อช่วย ให้เด็กได้รับการพัฒนาอย่างทั่วถึง ทั้งนี้เพื่อให้การจัดกิจกรรมส่งเสริมทักษะการกีฬาของ สพฐ. ดำเนินไปอย่างเป็นระบบ คุณหญิงกษมา วรวรรณ ณ อยุธยา เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.) และนายจเด็จ อินสว่าง ปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ได้ประกาศความร่วมมือในการพัฒนากิจกรรมกีฬาของนักเรียนในสังกัด พฐ. โดยจะจัดการอบรมครูพลศึกษาและผู้ตัดสินกีฬา จัดการแข่งขันกีฬาประเภทและกลุ่มอายุต่าง ๆ รวมทั้งเปิดศูนย์พัฒนาการกีฬาทุกชนิดให้เด็กได้ใช้เล่นกีฬาในอนาคตด้วย (เดลินิวส์ พฤหัสบดีที่ 8 เมษายน 2547 หน้า 27)





กมธ.ศึกษาค้านปรับกองทุนกู้ยืมชี้ไร้หลักประกันอุ้มเด็กยากจน

จากการประชุมคณะกรรมาธิการการศึกษา สภาผู้แทนราษฎร เมื่อวันที่ 8 เม.ย. นายสนั่น สุธากุล โฆษกกรรมาธิการฯ เผยภายหลังการประชุมว่า ตามที่คณะรัฐมนตรีมีมติปรับเปลี่ยนกองทุนกู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.) ไปเป็นกองทุนเงินกู้ยืมเพื่อการศึกษาที่ผูกติดกับรายได้ในอนาคต (กรอ.) ที่ประชุมกรรมาธิการฯมีความห่วงใย เนื่องจากผิดวัตถุประสงค์ของการก่อตั้งกองทุนกยศ. ที่ต้องการเพิ่มโอกาสให้เด็กยากจนได้เรียนหนังสือ เกณฑ์ใหม่ของ กรอ.ให้ยืมทั้งเด็กจนและรวยเหมือนกันหมด ซึ่งไม่มีหลักประกันใดจะชี้ว่าเด็กยากจนจะได้กู้ ทั้งเงินที่จะใช้ก็จำนวนมาก ความจริงหลักการและวิธีการเดิมของ กยศ.เป็นสิ่งที่ดี แต่ก็มีจุดที่ต้องปรับปรุงบางจุดเท่านั้น เช่น การชำระเงินคืน ซึ่งความจริงแล้วตัวเลขเด็กที่หนีหนี้จริงๆก็มีน้อยมาก และยอดค้างชำระก็เป็นเด็กที่อยู่ในเกณฑ์ที่ผ่อนผันได้ และในส่วนของค่าใช้จ่ายส่วนตัวของผู้เรียนการศึกษาขั้นพื้นฐาน หรือเด็ก ม. ปลาย ก็ควรคงไว้ตามเดิม เพราะจะมีผลต่อการเรียนของเด็กมาก ทั้งนี้ที่ประชุมไม่เห็นด้วยกับมติ ครม.ที่ปรับเปลี่ยน กยศ. แต่เนื่องจากไม่มีเอกสารมติ ครม. จึงจะมีการพิจารณาในภายหลังโดยเชิญผู้เกี่ยวข้องของกองทุน กยศ.มาชี้แจง ด้านนายเปรมประชา ศุภสมุทร ผู้จัดการ กยศ. ซึ่งมาชี้แจงต่อกรรมาธิการฯ กล่าวว่า ข้อดีของ กรอ.คือ คนจนได้ทุนแบบให้เปล่า ส่วนคนรวยก็ต้องใช้เงินคืนในอนาคต คาดว่าจะเริ่มดำเนินการ กรอ.ได้ในปี 2549 (ไทยรัฐ ศุกร์ที่ 9 เมษายน 2547 หน้า 15)





เผยชื่อ ร.ร.เขตกรุงเทพฯ รับนักเรียนรอบสอง

คุณหญิงกษมา วรวรรณ ณ อยุธยา เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) เปิดเผยผลการรับนักเรียนชั้น ม. 1 ในปีการศึกษา 2547 ว่า จากแผนการรับปีนี้จะรับนักเรียนชั้น ม. 1 ประมาณ 7 แสนคน ขณะนี้โรงเรียนในสังกัด สพฐ.ได้รับนักเรียนประเภทบ้านใกล้และ เขตพื้นที่บริการ360,652 คน ความสามารถพิเศษดนตรี กีฬารับแล้ว 69,925 คน ใช้ NT สมัครรับแล้ว 139,223 คน โดยในกรุงเทพฯมีสัดส่วน 1 ต่อ 4 แต่ที่สูงมากจะอยู่ใน กทม.เขต 1 คือ 1 ต่อ 5 จับสลากนอกเขต 131,654 คน รวมทั้งสิ้น 701,454 คน แต่ยังมีเด็กที่ตกหล่นอยู่อีก ประมาณร้อยคน ได้รับแจ้งข้อมูลจาก สพท.กทม.ทั้ง 3 เขตว่า ในส่วนของ กทม. ยังมีโรงเรียน 15 โรง ที่สามารถรองรับนักเรียนได้อีกโรงเรียนละประมาณ 20-50 คน ดังนี้ กทม. เขต 1 จำนวน 10 โรง คือ วัดสระเกศ มักกะสันพิทยา พุทธจักรวิทยา วัดสังเวช สุวรรณสุทธารามวิทยาคม วัดบวรนิเวศ สิริรัตนาธร สายน้ำผึ้ง เจ้าพระยาวิทยาคม กุนนทีรุทธารามวิทยาคม กทม.เขต 2 จำนวน 4 โรง คือ เทพศิรินทร์ร่มเกล้า พรตพิทยพยัต จันทร์หุ่นบำเพ็ญ ดอนเมืองจาตุรจินดา และ กทม.เขต 3 จำนวน 1 โรง คือ ไชยฉิมพลีวิทยาคม (ไทยรัฐ เสาร์ที่ 10 เมษายน 2547 หน้า 15)





ศธ.นัดประชุมอนาคตปอเนาะ

นายอดิศัย โพธารามิก รมว.ศึกษาธิการ (ศธ.) เปิดเผยถึงการเดินทางไปตรวจเยี่ยมโรงเรียนปอ เนาะ จ.สงขลา เมื่อเร็วๆนี้ ว่า จากการรับฟังปัญหาของปอเนาะหรือโรงเรียน สอนศาสนาอิสลามล้วนๆ ที่มีอยู่ 186 แห่ง ซึ่งยังไม่มีการจดทะเบียน แต่ปอเนาะเหล่านี้ก็ต้องการจดทะเบียนให้ถูกต้อง อย่างไรก็ตาม การจดทะเบียนปอเนาะจะต้องมีการออกกฎระเบียบใหม่ซึ่งจะไม่เหมือนกับ พ.ร.บการศึกษาเอกชน ม. 15 (1) 15 (2) เพื่อมาบริหารโรงเรียนเอกชน แต่จะเป็นการออกระเบียบใหม่ขึ้นมาบริหารปอเนาะที่ยังไม่จดทะเบียน สามารถเข้ามาอยู่ในกระบวนการจดทะเบียนได้ โดยจะดำเนินการให้เสร็จภายใน 1 เดือน ซึ่งปอเนาะต้องการให้ ศธ.รับรองมาตรฐานการสอนศาสนา และจะมีการประชุมกันอีกครั้งหลังจากสงกรานต์ ตนได้เชิญผู้นำชุมชนมาร่วมประชุม ที่กรุงเทพฯ เพื่อทำแผนการทำงานร่วมกันว่าปอเนาะในอนาคตจะเดินไปในทิศทางใด นอกจากนี้ จะมีการให้ทุนการศึกษานักเรียน นักศึกษาในปอเนาะ เหมือนกับนักเรียนนักศึกษาอื่นๆด้วย (ไทยรัฐ เสาร์ที่ 10 เมษายน 2547 หน้า 7)





ข่าววิทยาศาสตร์/เทคโนโลยี


อินเดียเจ๋งผลิตมือถือพกพาซิมพิวเตอร์

พีดีเอสัญชาติอินเดีย ออกแบบและผลิตในอินเดียทุกขั้นตอน หวังให้ชาวอินเดียรายได้น้อยมีโอกาสเข้าถึงโลกอินเทอร์เน็ตได้ในราคาไม่ถึง 10,000 บาท เว็บไซต์บีบีซีรายงานว่า นักวิจัยของสถาบัน วิจัยวิทยาศาสตร์แห่งอินเดีย ซึ่งตั้งอยู่ที่เมืองบังกา ลอร์ ได้พัฒนาและผลิตเครื่องคอมพิวเตอร์ขนาดพกพา เรียกว่าซิมพิวเตอร์ (Simputer) โดยทีมนักวิจัยของสถาบันดังกล่าวได้เริ่มทำงานมาตั้งแต่ ปี 2001 โดยมีจุดมุ่งหมายให้ชาวอินเดียยากจนได้มีโอกาสเข้าถึงอินเทอร์เน็ต ซิมพิวเตอร์ ซึ่งมีลักษณะเป็นเครื่องคอมพิวเตอร์ขนาดพกพา จะวางจำหน่ายในอินเดียอย่างเป็นทางการในเร็ว ๆ นี้ ราคาประมาณ 240 ดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 9,000 บาท ปัจจุบันชาวอินเดียเพียง 9 คนใน 1,000 คนเท่านั้นที่มีเครื่องคอมพิวเตอร์และเข้าถึงระบบอินเทอร์เน็ตได้ เนื่องจากอุปกรณ์ดังกล่าวยังมีราคาแพง ทางการจึงได้พัฒนาซิมพิวเตอร์เพื่อให้ประชาชนได้เข้าถึงระบบอินเทอร์เน็ตได้ทุกที่ทุกเวลา และเป็นเครื่องคอมพิวเตอร์ขนาดพกพาเครื่องแรกที่ออกแบบและผลิตในประเทศอินเดีย เครื่องคอมพิวเตอร์ขนาดพกพา หรือซิม พิวเตอร์ของชาวอินเดีย ใช้ยี่ห้ออะมิตา ซิมพิวเตอร์ ซึ่งจะผลิตออกมาถึง 3 เวอร์ชั่น ใช้โปรเซสเซอร์ 206 Mhz หน่วยความจำ 64 MB พร้อมไมโคร โฟน ลำโพง และแบตเตอรี่ใช้งานได้นาน 6 ชั่วโมง ซิมพิวเตอร์ดังกล่าวเหมาะสำหรับใช้งานอินเทอร์เน็ต รับส่งอีเมล หรือธุรกรรมด้านการเงิน โดยมีปากกาสไตลัสสำหรับเขียนบนหน้าจอ ทำงานบนระบบปฏิบัติการลีนุกซ์ มีสองภาษาให้เลือกคือภาษาฮินดีและคันนาดา (เดลินิวส์ จันทร์ที่ 5 เมษายน 2547 หน้า 20 )





มือถือวิดีโอโฟนซูม4เท่า

ซีเมนส์ส่ง เอสที 60 มือถือวิดีโอโฟนรุ่นแรกนำร่อง ก่อนปล่อยอีก 12 รุ่น หวังครอง ใจสาวกมือถือไฮเทคโดยเฉพาะ นางสุวรรณี สิงห์ฤาเดช รองประธานฝ่ายโทรศัพท์เคลื่อนที่ซีเมนส์ บริษัท ซีเมนส์ จำกัด เปิดเผยว่า ปีนี้ซีเมนส์ จะเน้นการนำเข้าโทรศัพท์มือถือสำหรับผู้ใช้โทรศัพท์มือถือเครื่องสองหรือตลาดทดแทนเป็นหลัก เนื่องจากแนวโน้มตลาดรวม ลูกค้ากลุ่มนี้ครองส่วนแบ่งยอดขายถึง 75 เปอร์เซ็นต์ โดยเชื่อมั่นว่า โทรศัพท์มือถือวิดีโอโฟน เอสที 60 รุ่นแรกของซีเมนส์จะโดนใจผู้ใช้ที่ชอบความไฮเทค เพราะมีฟังก์ชั่นการใช้งานอย่างครบถ้วน หลังจากนั้นจะมีรุ่นใหม่อีก 12 รุ่น ตามมาภายในปีนี้ ซีเมนส์ เอสที 60 เป็นโทรศัพท์มือถือวิดีโอโฟนของซีเมนส์ ที่มีฟังก์ชั่นบันทึก ภาพวิดีโอ 10 วินาที ถ่ายภาพต่อเนื่องได้ 6 ภาพต่อวินาที จากกล้อง VGA ในเครื่องซูม 4 เท่า ความละเอียด 65,536 สี พร้อมฟังก์ชั่นจัด การข้อมูลส่วนบุคคล เช่น อีเมล ออร์กาไน เซอร์ ระบบเตือนความจำ รวมทั้งเชื่อมต่ออิน เทอร์เน็ตไปยังเว็บไซต์ต่าง ๆ ได้ ราคา 11,900 บาท (เดลินิวส์ จันทร์ที่ 5 เมษายน 2547 หน้า 20)





ดาวอังคารจะเข้ามาเยี่ยมใกล้โลกเที่ยวหน้าต้องคอยอีก 25,000 ปี

นักดาราศาสตร์แจ้งว่า ดาวอังคารซึ่งกำลังถูกยานสำรวจศึกษาอยู่อย่างหนักในขณะนี้ กำลังจะโคจรเข้ามาอยู่ใกล้โลกมากที่สุด ตอนปลายเดือนสิงหาคมนี้ เข้ามาอยู่ใกล้ชิดโลก มากกว่าปกติถึงเกือบ 30 ล้าน กม. สำนักข่าวซินหัวของจีน กล่าวว่า ดาวเคราะห์เพื่อนบ้านของโลกดวงนี้จะโคจรมาอยู่ห่างจาก โลกเพียง 55,756,600 กม. ในวันที่ 28 สิงหาคม ศกนี้ ใกล้กว่าปกติเกือบ 30 ล้าน กม. เป็นโอกาสให้ผู้สนใจที่จะศึกษาดาวอังคาร ได้มีโอกาสศึกษาโดยใกล้ชิดขึ้น ดาวเคราะห์ สีแดงเมื่ออยู่ในตำแหน่งห่างโลกมากที่สุดในวงโคจร จะอยู่ไกลถึง 99,200,000 กม. นักดาราศาสตร์ยังได้บอกว่า ดาวอังคารเคยเข้ามาใกล้โลกหนก่อน เมื่อราวสัก 57,000 ปีมาแล้ว และหากจะรอคอยดูใหม่หนหน้า จะต้องรอกันอีกถึง 25,000 ปี (ไทยรัฐ จันทร์ที่ 5 เมษายน 2547 หน้า 7)





โหลดเพลงออนไลน์ทำยอดขายเทปลดฮวบ

สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า ขณะที่อุตสาหกรรมเพลงกำลังแข่งขันกันอย่างดุเดือดในการสร้างยอดขายเทปและชิงส่วนแบ่งตลาด แต่ก็ต้องผิดหวัง เพราะถูกอุตสาหกรรมให้บริการดาวน์โหลดเพลงออนไลน์ ซึ่งแชร์ข้อมูลเพลงกันอย่างอิสระผ่านอินเทอร์เน็ต โดยไม่ได้รับอนุญาตอย่างถูกกฎหมาย ทำยอดขายเทปในอุตสาห กรรมเพลงลดลงถึง 7.4 เปอร์เซ็นต์ หรือราว 32.2 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ ในปี ค.ศ. 2002 ซึ่งใกล้เคียงกับตัวเลขในปี ค.ศ. 2003 ที่ผ่านมา รายงานข่าวระบุว่า กลุ่มนักวิจัยและกลุ่มผู้ค้าในอุตสาหกรรมเพลง ยื่นร้องให้มีกฎหมายคุมเข้มการให้บริการดาวน์โหลดเพลง ให้เป็นไปอย่างถูกกฎหมาย เพื่อลดบริการที่ผิดกฎหมาย และหวังกระตุ้นยอดขายเทปให้เพิ่มขึ้น (เดลินิวส์ พุธที่ 7 เมษายน 2547 หน้า 16)





ร้องคาราโอเกะผ่านบริการออดิโอเท็กซ์

นายฤทธิชัย พิทักษ์ราชัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัท โมโน เทคโนโลยี จำกัด เปิดเผยว่า เนื่องจากปัจจุบันตลาดผู้ใช้บริการออดิโอเท็กซ์หรือบริการข้อมูลเสียงมีอัตราการเติบโตกว่า 50% ต่อปีและมีแนวโน้มเติบโตอีกมาก บริษัทซึ่งมีพื้นฐานความรู้ความชำนาญด้านเทคโนโลยีที่ทันสมัย โดยเฉพาะด้านการให้บริการดาวน์โหลดข้อมูลบนมือถืออยู่แล้ว จึงเปิดให้บริการออดิโอเท็กซ์อย่างเต็มรูปแบบ ผ่านหมายเลข 1900-108-xxx ภายใต้ชื่อ"Enjoy 108" ตั้งแต่เดือนมีนาคมที่ผ่านมา ทั้งนี้"Enjoy 108" จะ เป็นบริการที่มีความแตกต่างในเนื้อหาต่าง ๆ เน้นความสนุก สนาน และสามารถเข้าถึงผู้บริโภคทุกเพศทุกวัย โดยมี 3 บริการหลัก คือ บริการ Horoscope ที่เปิดให้ดูดวง 4 รูปแบบ Mobile Download เช่นโลโก้ ริงโทน เอ็มเอ็มเอส และล่าสุดเปิดให้บริการ Karaoke บนมือถือ สำหรับเพลงค่ายอาร์เอส และกลุ่ม 6 ค่าย เพลงสากลและเบเกอรี่มิวสิก อัตราค่าบริการประมาณ 3-15 บาท/นาที (เดลินิวส์ พฤหัสบดีที่ 8 เมษายน 2547 หน้า 16)





Gmail

กูเกิ้ล เว็บไซต์เสิร์ชเอนจิ้นหมายเลข 1 ของโลก ออกมาประกาศว่า เตรียมจะเปิดให้บริการฟรีอีเมลในนาม gmail ข่าวนี้ทำให้คนทั่วโลกต่างรอใช้บริการ เพราะผู้บริหารของ กูเกิ้ล บอกว่า จะให้พื้นที่อีเมลฟรี สำหรับเก็บจดหมายอิเล็กทรอนิกส์ ถึง 1 GB เทียบได้กับการเปิดจดหมายอ่านมากถึง 500,000 หน้า นักวิเคราะห์ ต่างกล่าวว่า กูเกิ้ลกำลังลุยทำตลาดบริการฟรีอีเมล เห็นได้ชัดเจนจากเทคโน โลยีที่นำมาใช้และทิศทางของกลุ่มผู้ให้บริการเว็บ เสิร์ช ประมาณ 4-5 รายที่เริ่มมีความสนใจตรงกันในตลาดฟรีอีเมล สำหรับการสร้างสรรค์บริการใหม่เพื่อดึงดูดผู้ใช้และเอื้อต่อการสร้างรายได้เชิงพาณิชย์ จากการสำรวจของคอมสกอร์ มีเดีย เมทริก สำรวจพบว่า ยาฮู ผู้ให้บริการฟรีอีเมลรายใหญ่ ขณะนี้มีจำนวนผู้ใช้บริการ 52.6 ล้านคน ต่อเดือนเฉพาะในอเมริกา โดยให้เนื้อที่จัดเก็บข้อมูล 4 เมกะไบต์ ส่วนฮอตเมลมีผู้ใช้อยู่ที่ 45.4 ล้านคนด้วยเนื้อที่จัดเก็บข้อมูลเพียง 2 เมกะไบต์ และอเมริกา ออนไลน์ หรือ เอโอแอล มีจำนวนผู้ใช้อยู่ที่ 40.2 ล้านคน ขณะนี้ จีเมลอยู่ระหว่างการทดสอบการให้บริการ จึงยังจำกัดการให้บริการอยู่เฉพาะในประเทศสหรัฐ อเมริกา (เดลินิวส์ ศุกร์ที่ 9 เมษายน 2547 หน้า 16)





ใช้เทคโนโลยีดัดนิสัยพวกขี้เกียจล้างมือ

เว็บไซต์ซีเอ็นเอ็นดอทคอม รายงานว่า เทคโนโลยีตรวจจับเชื้อโรคจากมือใหม่สุดยอด ใช้แสงสีน้ำเงินในการสแกนเพื่อค้นหาเชื้อโรคที่ซ่อนอยู่บนมือ มีขนาดเท่ากับเครื่องเป่ามือในห้องน้ำ โดยอีเมิร์จ อินเตอร์แอ็คทีฟ บริษัทที่มีชื่อเสียงด้านเทคโนโลยีแห่งฟลอริดา เจ้าของอุปกรณ์ตรวจจับเชื้อโรค หรือ เวอริฟอาย หวังให้อุปกรณ์ดังกล่าวเป็นอุปกรณ์มาตรฐานที่ต้องมีอยู่ในโรงพยาบาล ร้านอาหาร และโรงงานเนื้อวัว เพื่อป้องกันความสกปรกและเชื้อโรคที่แฝงตัวอยู่บนมือ นอกจากนี้ยังเป็นอุปกรณ์ที่ช่วยดัดนิสัย เข้าห้องน้ำ แล้วไม่ทำความสะอาดมือได้เป็นอย่างดี รายงานข่าวระบุว่า อุปกรณ์ดังกล่าวจะช่วยลดจำนวนผู้ป่วยจากโรคอาหารเป็นพิษลงได้มาก เนื่องจากผลการศึกษาพบว่า การล้างทำ ความสะอาดมือของคนทั่วไปไม่สะอาดเพียงพอ ยังคงมีเชื้อโรคตกค้างอยู่ตามซอกเล็บ ส่วนใหญ่ใช้เวลาล้างมือน้อยกว่า 20 วินาที และไม่ใช้สบู่ (เดลินิวส์ ศุกร์ที่ 9 เมษายน 2547 หน้า 16)





ทำยาใส่พยาธิกินรักษาท้องไส้แก้อาการป่วยโรคทางเดินอาหาร

บริษัทของเยอรมันได้ผลิตยาผสมไข่พยาธิแส้ม้า และเพิ่งทดลองใช้รักษาผู้ป่วยโรคทางเดิน อาหารต่างๆ ได้สำเร็จลงเมื่อเร็วๆนี้ และกำลังจะผลิตออกจำหน่ายในยุโรปภายในเดือนหน้านี้ นักวิทยาศาสตร์ในสหรัฐฯ เป็นผู้ค้นพบยาขนานนี้ โดยได้ทดลองใช้รักษาบรรเทาอาการ ปวดท้อง ตกเลือดในกระเพาะ และโรคอุจจาระร่วงลงได้อย่างชะงัด หลังจากที่เคยมีการศึกษา กันพบมาก่อนว่า การกินพยาธิเป็นๆ รักษาโรคอุจจาระร่วงเรื้อรังและโรคเยื่อบุลำไส้ใหญ่อักเสบ ซึ่งมักเรียกรวมกันว่า โรคทางเดินอาหารได้ผลดี นักวิทยาศาสตร์บางคนเชื่อว่า เหตุที่มีการเจ็บป่วยด้วยโรคเหล่านั้นเพิ่มมากขึ้น ก็เพราะพยาธิในกระเพาะและลำไส้มนุษย์ โดนถูกกวาดล้างออกไปจนหมดสิ้นในระยะ 50 ปีที่แล้วมานี้ พยาธิหนอนกลม พยาธิแส้ม้าในท้องของคนเราแทบจะไม่มีเหลือ แต่กลับมีการเจ็บป่วยกันด้วยโรคทางเดินอาหารมากขึ้น และผิดกับในชาติที่กำลังพัฒนา ที่การเจ็บป่วยด้วยโรคพวกนี้ไม่มีเปลี่ยนแปลง (ไทยรัฐ ศุกร์ที่ 9 เมษายน 2547 หน้า 7)





คาดมีโลกอื่นอยู่ไม่ต่ำกว่า 50 ดวงในระบบสุริยจักรวาลต่างแดน

นับตั้งแต่ช่วงทศวรรษปี พ.ศ.2533 มา นักดาราศาสตร์ได้สำรวจพบระบบสุริยจักรวาลอื่น นอกเหนือจากระบบสุริยจักรวาลของเรา ไม่ต่ำกว่า 100 กว่าระบบ เพียงแต่ว่าดาวเคราะห์ ส่วนใหญ่ที่มีอยู่ มักจะเป็นดาวเคราะห์ พวกที่ประกอบด้วยก๊าซเป็นส่วนใหญ่ อย่างแบบดาวพฤหัสบดี แต่บัดนี้นักดาราศาสตร์เชื่อว่า จะต้องมีดาวเคราะห์ขนาดเล็กที่เป็นหิน รวมอยู่ด้วยหลายดวง ซ้ำบางดวงอาจะมีชีวิตอยู่ด้วย เพียงแต่ว่ายังไม่พบเท่านั้น ขณะนี้นักวิทยาศาสตร์ กำลังสำรวจหาจำนวนแน่นอนอยู่ หัวหน้าทีมศาสตราจารย์บารี โจนส์ ผู้เป็นหัวหน้าทีม กล่าวว่า "จากการวิเคราะห์ส่อ ว่ากว่าครึ่งของระบบสุริยจักรวาลต่างแดนเหล่านี้ อาจจะมีดาวเคราะห์แบบโลกอยู่ด้วย ดาวเคราะห์เหล่านี้จะต้องอยู่ในโซน มีระยะห่างจากดาวฤกษ์พอสมควร จึงจะมีน้ำใน สภาพเหลวอยู่ด้วย และจะต้องมีอายุเก่าแก่ไม่ต่ำกว่า 1 พันล้านปี เพราะต้องใช้เวลานาน ขนาดนี้เท่านั้น ชีวิตจึงจะวิวัฒนาการขึ้นมาได้" (ไทยรัฐ อังคารที่ 6 เมษายบน 2547 หน้า 7)





ข่าววิจัย/พัฒนา


มีหวังประดิษฐ์วัคซีนโรคซาร์สทดลองกับหนูได้รับความสำเร็จ

วารสารวิทยาศาสตร์ "นิว ไซแอนติสต์" เปิดเผยว่า วัคซีนป้องกันโรคไข้หวัดซาร์สขนาน ทดลองขนานใหม่ ได้แสดงผลในการทดลองกับหนูในห้องทดลอง อย่างมีอนาคต วารสารแจ้งว่า วัคซีนสามารถเพาะภูมิคุ้มกัน และเซลล์ต่อต้านโรคของตัวหนูทดลองขึ้นได้ อย่างมหาศาล จนลดปริมาณของเชื้อไวรัสโรคในปอดของหนู ให้เหลืออยู่ในระดับต่ำ จนไม่ต้องคำนึงถึงเลยได้ นักวิจัยได้เตรียมจะทดสอบเพิ่มขึ้น เพื่อจะได้ประเมินความปลอดภัย ของมันได้ เพื่อจะได้ทดสอบกับมนุษย์ต่อไป สถาบันโรคภูมิแพ้และโรคติดต่อแห่งชาติของสหรัฐฯ เป็นผู้ผลิตวัคซีนที่มีชื่อว่า วัคซีน "ดีเอ็นเอ" นี้ เนื่องจากว่าได้นำเอาชิ้นส่วนเล็กๆ ของดีเอ็นเอของตัวไวรัสเองมาทำ เพื่อให้มันเข้า ไปปลุกกระตุ้นระบบ ภูมิคุ้มโรคในร่างกายผู้ได้รับวัคซีนขึ้น โรคไข้หวัดซาร์สได้แผลงฤทธิ์อาละวาดขึ้นเมื่อเดือนพฤศจิกายนปี พ.ศ. 2545 มาจนถึงเดือน กรกฎาคม ปี พ.ศ. 2546 ทำให้คนตามชาติต่างๆ ล้มป่วยลงไม่ต่ำกว่า 8,000 คน และเสียชีวิตไป 800 คน (ไทยรัฐ จันทร์ที่ 5 เมษายน 2547 หน้า 7)





กากอ้อยขยะเหลือทิ้งสู่พลังชีวมวลผลิตไฟฟ้า

จากการศึกษาวิจัยของ กองทุนอนุรักษ์พลังงานและพลังงานทดแทน สำนักงานคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (สพช.) พบว่า กากอ้อยนำมาใช้เป็นเชื้อเพลิงในการผลิตไฟฟ้าในเชิงพาณิชย์ได้ และมีศักยภาพในการพัฒนาและเป็นพลังงาน Renewable ได้ดีที่สุด โดยสามารถผลิตกระแสไฟฟ้าได้ถึง 2,500 เมกะวัตต์ต่อปี พลังงานที่รองลงมาคือ "ขี้เลื่อยและแกลบ" ปัจจุบันมีบริษัทผลิตไฟฟ้าจากกากอ้อยถึง 19 แห่ง จากบริษัทที่ผลิตไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียน Renewable ทั้งหมด 30 แห่ง เพื่อให้การนำกากอ้อยมา ใช้ประโยชน์อย่างมีประสิทธิภาพและไม่ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม การแปรสภาพชีวมวล Biomass มาเป็นพลังงานทดแทน ต้องมีการวิจัย เพื่อให้รู้จัก การจัดการปัญหาที่จะเกิดขึ้น วิธีการแก้ไข น.ส.ดาราณี แจ้งหทัยกุล จากบัณฑิต วิทยาลัย ร่วมด้าน พลังงานและ สิ่งแวดล้อม หรือ JGSEE นักศึกษาปริญญาโทชั้นปีที่ 2 ได้ลงมือทำผลงานวิจัยเรื่อง "การประมวลผล กระทบสิ่งแวดล้อม ของ การผลิตกระแสไฟฟ้า จากกากอ้อย กรณีศึกษาใน ประเทศไทย" เผยว่า งานวิจัยนี้บอกได้ว่า การใช้พลังงานนั้น ถ้าเราคิดถึงสิ่งแวดล้อมก็จำเป็น ต้องปรับเปลี่ยน การใช้พลังงานไฟฟ้า จากเดิมที่ใช้วัตถุดิบจากถ่านหิน... ก๊าซและน้ำมัน แล้วส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ผลการวิจัยพบว่า โรงงานผลิตน้ำตาลส่วนใหญ่ มีการใช้เครื่องกำเนิดไฟฟ้า ที่ใช้จากกากอ้อย เป็นวัตถุดิบในการเผา เพื่อนำความร้อนไปหมุนกังหันผลิตกระแสไฟฟ้า ใช้ในโรงงาน แต่ปัญหาคือกากอ้อยส่วนใหญ่ มีความชื้นค่อนข้างมาก เมื่อนำไปเผา ทำให้การเผาไหม้ไม่ค่อยสมบูรณ์ ก่อให้เกิดก๊าซซัลเฟอร์ไดออกไซด์ที่เป็น อันตรายต่อร่างกายมนุษย์ ทางโรงงานต้องทำให้กากอ้อยแห้งเสียก่อนนำไปใช้ สิ่งที่เกิดขึ้นหลังการวิจัย คือ การสร้างระบบที่จะนำไอน้ำที่ได้จากการเผาไหม้มีความร้อนสูง 200 องศาเซลเซียส มาอบกากอ้อยให้มีความชื้นน้อยลง ทางโรงงานผลิตน้ำตาลมี รายได้เพิ่มจากการ "ผลิตกระแสไฟฟ้า" ขายให้กับการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค ผู้สนใจ สามารถเข้าไปดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.jgsee.kmutt.ac.th หรือโทรศัพท์ 0-2872-9014-5 ต่อ 4126, 4127 (ไทยรัฐ จันทร์ที่ 5 เม.ย. 2547 หน้า 7)





“น้ำผักแผ่น” ไอเดียเพื่อสุขภาพ ฝีมือเด็กบ้านกิ่วแลหลวง จ.เชียงใหม่

เด็กไทย เรียนรู้พลังจากธรรมชาติและนำมาใช้ประโยชน์ในการแปรรูปอาหาร นักเรียน ชั้นป.6 โรงเรียนชุมชนกิ่วแลหลวง อ.สันป่าตอง จ.เชียงใหม่ ทำคิดทำโครงการ “น้ำผักอบแห้งพลังงานแสงอาทิตย์” ซึ่งเป็น หนึ่งในกิจกรรมการเรียนการสอน เรื่องแสงและพลังงานแสงอาทิตย์โดยฝีมือของ ด.ช. รณชัย สมศรี, ด.ช.อนุวัฒน์ จันทะเล็ก, ด.ช.บัณฑิต สุวรรณเลิศ และด.ญ.กานต์สินี ไชยวงศ์ “น้ำผัก” อาหารเพื่อสุขภาพยอดนิยมของชาวเหนือ คือ “น้ำผักแผ่น” ที่ผ่านการกระบวนการอบแห้งจากเตาพลังงานแสงอาทิตย์ ซึ่งมีอาจารย์ชลิดา บุญสุข เป็นผู้ออกแบบและพัฒนาเพื่อการเรียนการสอนของโรงเรียน ภายใต้งบประมาณสนับสนุนจาก สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (สสวท.) อาจารย์ชลิดา เล่าว่า โครงงานนี้เป็นการเรียนรู้ต่อเนื่องจาก “การทำน้ำผักชาวเหนือ” ในหน่วยการเรียนรู้เรื่องสารเคมีที่เชื่อมโยงสู่ชีวิตประจำวัน น้ำผักเป็นอาหารยอดนิยมของชาวเหนือ เป็นการถนอมอาหารเนื่องจากสมัยก่อนไม่มีการปลูกพืชนอกฤดูกาลเช่นสมัยนี้ (สยามรัฐ จันทร์ที่ 5 เมษายน 2547 หน้า 7)





มากกว่าสบู่

จากการประชุมใหญ่ของสถาบัน American Society for Microbiology ครั้งที่ 102 นั้นนักวิจัยจากสถาบันวิจัยของเอกชนรายใหญ่แห่งหนึ่งได้นำเสนอรายงานต่อที่ประชุมถึงเทคโนโลยีใหม่ที่ได้รับการพัฒนาขึ้นโดยมีชื่อว่า Microbial Anti-attachment Technology (MAT) ซึ่งจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการควบคุมการเจริญเติบโตและแพร่กระจายของเชื้อแบคทีเรียโดยการล้างมือโดยผลิตภัณฑ์ที่มีเทคโนโลยี MAT เป็นส่วนประกอบ ส่วนประกอบพื้นฐานที่สำคัญของสารที่ได้รับการคิดค้นขึ้นมาโดยใช้เทคโนโลยีดังกล่าวก็เป็นสารที่ใช้งานกันอยู่แล้วในแวดวงอุตสาหกรรมเครื่องสำอางซึ่งก็ได้แก่ Petrolatum Dimethicone และ Polyquaternium โดยสารทั้งสามชนิดนี้จะทำหน้าที่คอยเป็นเกาะป้องกันไม่ให้มือของเราที่เราคิดว่าล้างสะอาดแล้วต้องกลับมาปนเปื้อนกับเชื้อแบคทีเรียใหม่ได้อีกจากการทำกิจกรรมต่าง ๆ หลังจากนั้น สิ่งที่นักวิจัยตั้งสมมุติฐานไว้เกี่ยวกับกระบวนการในการทำงานของสารทั้งสามนี้ก็คือการสร้างฟิล์มบาง ๆ เคลือบไว้ที่ผิวหนังของเราเพื่อช่วยไม่ให้แบคทีเรียทั้งหลายมาเกาะอาศัยได้หรือไม่พวกมันก็อาจจะเปลี่ยนแปลงคุณสมบัติบางอย่างที่ผิวสัมผัสของผิวหนังของเรานั่นเองจากการทดลองกับแบคทีเรียที่มีชื่อว่า Serratia marcescens ซึ่งตามปกติแล้วก็จะไม่พบพวกมันบนผิวหนังของคนเราโดยที่ให้ผู้ร่วมทดลองสัมผัสกับเชื้อแบคทีเรียดังกล่าวพบว่ามือที่ผ่านการล้างโดยสบู่หรือผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของ MAT นั้นเมื่อนำไปตรวจวิเคราะห์เพื่อหาเชื้อในห้องปฏิบัติการปรากฏว่าพบเชื้อแบคทีเรียน้อยกว่ามือที่ล้างด้วยสบู่หรือผลิตภัณฑ์ธรรมดาที่ไม่มี MAT เป็นส่วนประกอบอยู่ประมาณ 50-58% เลยทีเดียว (เดลินิวส์ พุธที่ 7 เมษายน 2547 หน้า 16)





จับโปรตีนถั่วเหลืองมาบำรุงผิว

ดร.อาแลน คายาคท์ ผู้ช่วยผู้อำนวยการแผนกวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์ประจำภูมิภาคเอเชียและแปซิฟิก บริษัทจอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน จำกัด กล่าวถึงส่วนผสมของผลิตภัณฑ์ดังกล่าวว่า นูโทรจีน่า ไฟน์ แฟร์เนส ที่มีทั้งคลีนเซอร์, โทเนอร์, เอสเซ้นส์, ยูวี และมาส์ค มีจุดเด่นที่ส่วนผสมที่เป็นสารสกัดโปรตีนถั่วเหลืองผสมผสานกับเทคโนโลยีพิเศษ สมาร์ท ไวท์เทนนิ่ง แอคชั่น ที่มีส่วนผสมของเรตินอล วิตามิน ซี และแอนตี้ อ็อกซิเด้นท์ เข้าด้วยกันเพื่อแก้ไขปัญหาจุดด่างดำเฉพาะที่และปรับสภาพผิวโดยรวมให้ขาวกระจ่างใสอย่างเป็นธรรมชาติ ดร. อาแลนกล่าวว่า นูโทรจีน่าค้นคว้าวิจัยเพื่อให้ได้สารสกัดจากโปรตีนถั่วเหลืองนานหลายดือน ถือเป็นลิขสิทธิ์ของนูโทรจีน่าเท่านั้น สารดังกล่าวจะช่วยยับยั้งกระบวนการส่งผ่านเม็ดสีเมลานินชนิดสีดำออกสู่ผิวชั้นนอกพร้อมทั้งกระตุ้นให้เซลล์ผิวผลิตเม็ดสีเมลานินสีชมพูเพิ่มขึ้น ทำให้ผิวดูมีสุขภาพดีขึ้น แม้หลายคนอาจ มองว่าในท้องตลาดมีสารสกัดจากโปรตีนถั่วเหลืองจำนวนมาก หาซื้อได้ง่าย แต่ตนขอสร้างความเข้าใจว่าวิธีการที่จะนำมาใช้กับผิวพรรณได้ผลต่างกัน เนื่องจากคุณค่าจากสารสกัดจากโปรตีนถั่วเหลืองจะเสียคุณสมบัติไป ต่างจากสารสกัดจากโปรตีนถั่วเหลืองที่ทำในห้องทดลองทำหลายขั้นตอน กว่าจะได้สารสกัดจากโปรตีนถั่วเหลืองมาต้องมีกระบวนการพิเศษในการรักษาของสารสกัดจากโปรตีนถั่วเหลือง (เดลินิวส์ พุธที่ 7 เมษายน 2547 หน้า 26)





คนอเมริกันกลายเป็นฝรั่งแกร็น เตี้ยกว่าเพื่อนชาติยุโรปทั้งหมด

นักวิจัยด้านสุขภาพ ได้พบในการศึกษาว่า ปัจจุบันคนหนุ่มสาวชาติยุโรป กลับมีรูปร่างสูงใหญ่กว่าคนอเมริกัน โดยเฉพาะชาวดัตช์ มีรูปร่างสูงใหญ่กว่าเพื่อน โดยเฉลี่ยจะมีความสูงไม่ต่ำกว่า 6 ฟุต สูงกว่าคนอเมริกันเกือบ 2 นิ้ว นักวิจัยจอห์น คอมลอส ของมหาวิทยาลัยมิวนิก ของเยอรมนี ผู้ศึกษาเรื่องนี้ได้พบว่า เหตุที่คนอเมริกันทุกวันนี้ตัวต่ำเตี้ยกว่าเพื่อนฝรั่งคนอื่น เป็นผลสืบเนื่องมาจาก ความไม่เสมอภาคทางสังคมอย่างหนัก ที่เป็นอยู่ในสหรัฐอเมริกาปัจจุบันเขากล่าวว่า "ในขณะที่ชาติยุโรปเกือบทุกชาติ ประชาชนต่างได้รับบริการทางการแพทย์ และบริโภคอาหารอันอุดมด้วยโปรตีนกัน โดยถ้วนหน้า เด็กจึงไม่ค่อยมีใครเจ็บไข้ได้ป่วย หรือเป็นโรคขาดอาหาร ร่างกายจึงเจริญเติบโตไม่มีหยุด แต่ในอเมริกาเองกลับต่างกันออกไป คนอเมริกันต้อง ตกงานมากถึง 8 ล้านคน มีประชากรที่ไม่ได้ประกันสังคมมากถึง 40 ล้านคน นอกจากนั้น ยังมีพลเมืองที่มีฐานะต่ำกว่าระดับความยากจนสูงถึง 35 ล้านคน ทั้งประชาชนยังพากันกินอาหารที่จัดว่าเป็นอาหารขยะเป็นหลักอีกด้วย" (ไทยรัฐ พุธที่ 7 เมษายน 2547 หน้า 7)





ฟันน้ำนมทารกจะเป็นยาวิเศษใช้รักษาโรคหัวใจ และสมองพิการ

นักวิจัยของสถาบันแฮนสัน แห่งเมืองอเดเลดในออสเตรเลีย พบในการศึกษาว่า ฟันน้ำนมเหล่านั้นเป็นโรงงานผลิตเซลล์ต้นกำเนิดเม็ดโลหิต มันเป็นเหมือนกับแม่ ซึ่งให้กำเนิดเซลล์ของอวัยวะต่างๆ ของร่างกาย สามารถนำไปใช้ซ่อมแซม อวัยวะที่เสียหายให้กลับดีขึ้นใหม่ได้ ผู้อำนวยการของสถาบัน ดร.โฮเวิร์ด มอร์ริส ยังได้ชี้ว่า การเอาเซลล์ต้น กำเนิดเม็ดโลหิต จากเนื้อเยื่อของฟันน้ำนมยังมีข้อดี ตรงง่ายและไม่มีอุปสรรคอื่นใดเหมือนกับจากแหล่งอื่นด้วย การเอาเซลล์ต้นกำเนิดเม็ดโลหิตจากเนื้อเยื่อของผู้ใหญ่นั้น ไม่แต่เพียงยากลำบากเท่านั้น ซ้ำยังติดปัญหาด้านศีลธรรมอีกด้วย เขากล่าวเสริมว่า "แม้จะรู้กันว่าทารกตัวอ่อนใน ครรภ์เป็นแหล่งของเซลล์ต้นกำเนิดเม็ดโลหิตที่เยี่ยมที่สุด แต่ก็มาติดตรงปัญหาทางด้านศีลธรรม" แต่ ดร.โฮเวิร์ดพูดบอกให้รู้กันก่อนว่า เทคโนโลยีที่จะช่วยให้นำเอาเซลล์ต้นกำเนิดเม็ดโลหิต มาซ่อมแซมอวัยวะของร่างกายที่เสียหาย หรือใช้รักษาโรคของสมองอย่างโรคอัมพาต แบบสั่นได้นั้น ยังต้องใช้เวลาค้นคว้าหลายปี กว่าจะทำได้ (ไทยรัฐ พุธที่ 7 เมษายน 2547 หน้า 7)





ควันหลงของบุหรี่ยังมีอันตรายแสลงกับแผลทำให้หายช้าลง

นักวิทยาศาสตร์ของมหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนียเชื่อว่า เหตุที่ควันบุหรี่เป็นพิษกับแผลเนื่องจากว่า มันไปถ่วงให้เซลล์ที่กลายเป็นเนื้อเส้นใย เดินทางไปถึงบริเวณส่วนที่เป็นแผล เพื่อช่วยซ่อมแซม เนื้อเยื่อที่เสียหายนั้น โดนดูดติด ยึดเอาไว้ เพราะเมื่อโดนถูกควัน องค์ประกอบทาง เคมีของมันได้เสื่อมลง เซลล์จะเกิดเหนียวเป็นยางขึ้นจนเคลื่อนที่ได้ยาก นักวิจัยกล่าวในรายงานการศึกษา ในวารสาร "ชีววิทยาของเซลล์" ว่า พิษของควันหลงของ บุหรี่ที่มีต่อแผล ไม่แต่เพียงทำให้แผลหายช้าเท่านั้น แต่ยังทำให้เกิดแผลเป็นที่ผิดปกติด้วย เนื่องจากเซลล์จะไปเกาะอยู่แต่ตามขอบแผล เลยทำให้แผลที่จะหายดีปิดไม่สนิท (ไทยรัฐ พุธที่ 7 เมษายน 2547 หน้า 7)





วิจัยข้าราชการ

ผลการวิจัยในวงราชการโดยสำนักงานคณะกรรมการ พัฒนาระบบราชการ(ก.พ.ร.) ร่วมกับศูนย์บริการวิชาการแห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้มอบหมายให้ รศ.ดร. พรชุลี อาชวอำรุง และคณะเป็นผู้รับผิดชอบดำเนินการ ศึกษาวิจัยวิเคราะห์ กระบวนทัศน์และคุณลักษณะ ของข้าราชการไทยร่วมสมัย โดยส่งแบบสำรวจจำนวน 22,000 ชุด (ได้รับกลับคืนมาตามกำหนด 3,740 ชุด) ในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ ถึง เดือนมีนาคม พ.ศ.2547 เพื่อนำมาเปรียบเทียบ กระบวนทัศน์และคุณลักษณะของข้าราชการไทยในปัจจุบัน ตามประเภทของกลุ่มงานและกลุ่มข้าราชการดังนี้ (ก) กลุ่มกระทรวงเศรษฐกิจ สังคมและการบริหารและความมั่นคง(ข)ผู้บริหารและผู้ปฏิบัติงาน และ(ค)เพื่อจัดกลุ่มกระบวนทัศน์และคุณลักษณะร่วมของข้าราชการไทย สรุปผลการศึกษาได้ชี้ให้เห็นว่า ข้าราชการไทยในปัจจุบันได้เริ่มต้นเข้าสู่เส้นทาง ของการเปลี่ยนแปลงแล้ว โดยเกิดการรับรู้และเข้าใจถึงความจำเป็น ที่จะต้องปรับตัวอย่างจริงจังแต่สิ่งที่ยังคงเป็นปัญหาอยู่ก็คือ ข้าราชการยังคงยึดกับการทำงานตามกฎระเบียบ ยึดมาตรฐาน ในการทำงานรูปแบบเดิม และเมื่อเกิดความขัดแย้งมักหาทางประนีประนอม ยอมความเพื่อให้เลิกรากันไป มีการทำงานเฉพาะหน้าให้เสร็จไปวันๆ ชอบงานธุรการ และการใช้วิธีลอกเลียนการทำงานในอดีต อาศัยเอกสารข้อมูลเก่าในการทำงาน สำนักงาน ก.พ.ร.ระบุว่าผลการวิจัยนี้ ได้แสดงให้เห็นถึงความสำคัญ และความจำเป็น ในการพัฒนาระบบราชการและข้าราชการที่จะต้องดำเนินการให้บังเกิดผล ในขณะเดียวกันจะต้องมีการลดความเป็นระบบราชการแบบดั้งเดิม การพัฒนาผู้นำเพื่อรองรับการเปลี่ยนผ่าน และการพัฒนาหน่วยราชการ ให้เป็นองค์การแห่งการเรียนรู้ ทั้งนี้ สำนักงาน ก.พ.ร.ในฐานะเป็นหน่วยงานที่ได้รับมอบหมายให้เป็นแกนกลาง ของการพัฒนาระบบราชการ จะได้เร่งรัดดำเนินการ ผลักดันมุ่งเน้นการพัฒนา ระบบราชการไทยให้มีความสอดคล้องกับทิศทางและยุทธศาสตร์การพัฒนา (ไทยรัฐ พุธที่ 7 เมษายน 2547 หน้า 15)





พัฒนากล้วยไม้"รองเท้านารี"

นายฉกรรจ์ แสงรักษาวงศ์ อธิบดีกรมวิชาการเกษตร เปิดเผยว่า กรมวิชาการเกษตรเตรียมส่งเสริมการพัฒนากล้วยพันธุ์รองเท้านารีซึ่งเป็นที่นิยมมากในตลาดโลก หลายประเทศได้พัฒนาให้เป็นกล้วยไม้พันธุ์ดอกใหญ่ มีมูลค่าการตลาดสูง แตกต่างจากพันธุ์ของไทยที่ยังติดในข้อกฎหมายเรื่องการห้ามจำหน่ายเนื่องจากเป็นพืชคุ้มครอง ทำให้ไทยมีพันธุ์กล้วยไม้รองเท้านารีเพียงไม่กี่กลุ่มเท่านั้น ทั้งนี้หากไทยสามารถแก้ข้อกฎหมายดังกล่าวได้และนำมาพัฒนาพันธุ์เพื่อเพิ่มมูลค่าจะทำให้ไทยมีโอกาสในการเปิดตลาดเพิ่มขึ้น เนื่องจากกล้วยไม้ของไทยมีเสน่ห์และสีสันสวยงาม ซึ่งจะช่วยให้พันธุ์กล้วยไม้รองเท้านารีรวมไปถึงกล้วยไม้ป่าพันธุ์อื่น ๆ ของไทยเพิ่มมากขึ้นด้วย (เดลินิวส์ พุธที่ 7 เมษายน 2547 หน้า 12)





ปลูกพืชอาหารสัตว์แซมในสวนยางทำได้

ผศ.กัณหา ไฝขาวและคณะ จากคณะวิชาสัตวศาสตร์ สถาบันราชมงคล วิทยาเขตนคร ศรีธรรมราช ทำการวิจัยเรื่องการผลิตพืชอาหารสัตว์โดยการปลูกพืชแซมในสวนยางพารา โดยได้รับทุนจากสำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ (วช.) เพื่อให้ทราบถึงการให้ผลผลิตและคุณภาพของพืชอาหารสัตว์ และผลกระทบต่อการเจริญเติบของต้นยางพารา ตลอดจนการเปลี่ยนแปลงของดินจากการปลูกพืชแซม ขั้นต้นของการศึกษาวิจัยเริ่มด้วยการเตรียมพื้นที่ปลูกยางพาราโดยการไถดะและไถพรวนอย่างน้อยอย่างละ 1 ครั้ง และปลูกยางพาราพันธุ์ RRIM 600 หลังจากนั้นเตรียมแปลงขนาด 5X10 เมตร ในพื้นที่ว่างระหว่างแถวยางพารา แล้วนำพืชอาหารสัตว์มาปลูกประกอบด้วย หญ้ารูซี่ ถั่วลาย หญ้ากินนี่สีม่วง หญ้ารูซี่กับถั่วลาย และหญ้ากินนี่สีม่วงกับถั่วลาย จากนั้นเก็บเกี่ยวทุก ๆ 45-60 วัน ตลอดการทดลอง สุ่มเก็บตัวอย่างผลผลิตหลังการตัดประมาณ 1 กิโลกรัม เพื่อแยกวัชพืชออก ชั่งน้ำหนักก่อนมาผึ่งในที่ร่มแล้วเข้าตู้อบเป็นเวลาประมาณ 24 ชั่วโมง เพื่อหาน้ำหนักแห้ง แล้วนำมาวิเคราะห์คุณค่าทางอาหาร การเจริญเติบโตของต้นยางพาราในพื้นที่ปลูก ตลอดถึงตัวอย่างดินจากแปลงพืชอาหารสัตว์โดยการเปรียบเทียบกันก่อนและหลังของการปลูก จากการศึกษาวิจัยตามขั้นตอนดังกล่าวพบว่า หากต้องการปลูกพืชแซมในระยะต้นยางมีอายุ 1-3 ปีควรเลือกปลูกหญ้ารูซี่ปะปนกับถั่วลาย เพราะให้ผลผลิตและน้ำหนักแห้งตลอดถึงโปรตีนต่อไร่สูง ใกล้เคียงกับหญ้ากินนี่สีม่วง ส่วนข้อจำกัดคือมีเปอร์เซ็นต์ในการงอกของเมล็ดต่ำจะทำให้เกิดความยุ่งยากในการปลูกและเมื่อปลูกแล้วจะทำให้แร่ธาตุอาหารพืชในดินลดลง จากการศึกษาทดลองครั้งนี้ มีการใส่ปุ๋ยวิทยาศาสตร์ช่วยบำรุงดิน ผลที่ออกมาหลังจากการเก็บเกี่ยวหญ้าพบธาตุในดินลดต่ำลง สนใจข้อมูลติดต่อได้ที่ สถาบันเทคโนโลยีราชมงคล วิทยาเขตนครศรีธรรมราช โทร.0-7541-1144 ในวันและเวลาราชการ (เดลินิวส์ พฤหัสบดีที่ 8 เมษายน 2547 หน้า 12)





นวัตกรรมชีววิทยาศาสตร์ อีกบทบาทของไทยประชุมระดับโลก

วันที่ 12-13 กุมภาพันธ์ 47 ที่ผ่านมา ประเทศไทยได้เป็นเจ้าภาพจัดประชุมเวทีนวัตกรรมชีววิทยาศาสตร์ APEC ที่ขอนแก่น โดยนายสุวิทย์ คุณกิตติ รองนายกรัฐมนตรี ได้รับเกียรติให้เป็นประธานโครงการฯ มีผู้เชี่ยวชาญด้าน วิทยาศาสตร์ระดับชาติเข้าร่วมประชุมเพื่อระดมความคิดทำแบบกลยุทธ์และร่างแผนการดำเนินงานในการรักษาวิจัยและพัฒนาด้านชีววิทยาศาสตร์ ซึ่งเป็นวิทยาการที่มีบทบาทอย่างมากในการเปลี่ยน แปลง การให้บริการทางการแพทย์และสาธารณสุข อีกทั้งจะเกิดประโยชน์สูงสุดต่อมวลมนุษยชาติจะมีผลต่อเศรษฐกิจของโลกด้วย ตัวอย่างที่เห็นได้ชัดเจน เช่น วิทยาการการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคซาร์ส การวิจัยอวัยวะทดแทนร่างกายของมนุษย์ที่บกพร่อง วิจัยทำให้มนุษย์อายุยืนขึ้นอีก 20 ปี มากกว่าอายุคาดหมายโดยเฉลี่ยของประชากร ซึ่งมีสถิติอยู่เดิม รวมไปถึงผลวิจัยทางการเกษตร อาหาร ยา และสมุนไพรต่าง ๆ ฯลฯ เพื่อให้ได้รับประโยชน์มากที่สุด ด้านศาสตราจารย์ ดร.ภักดี โพธิศิริ รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า กระทรวงสาธารณสุข ได้เล็งเห็นความสำคัญของการดำเนินการ Life sciences Innovation และสนับสนุนทั้งในเชิงวิจัย (Research) พัฒนา (Development) การอุตสาหกรรมและการตลาดผลิตภัณฑ์ทางการแพทย์และสาธารณสุข (Manufacturing and Marketing) รวมทั้งการให้การบริการทางการแพทย์และสาธารณสุข (Health Care Services) ด้วย กระทรวงสาธารณสุขในฐานะเลขานุการการประชุม LSIF ฝ่ายไทย (Secvetariat of the LSIF, Thailand) และเป็นผู้ประสานงานหลักในการจุดประชุมร่วมกับกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ จัดการประชุม LSIF ครั้งที่ 1 ขึ้น โดยมีเป้าหมายเพื่อให้บรรลุตามวัตถุประสงค์ และเกิดประสิทธิภาพตามที่มีการเปิดเวที ริเริ่มการหารือเรื่อง “การสนับสนุนวัตกรรมชีววิทยาศาสตร์” (Promotion of life sciences innovation) (เดลินิวส์ พฤหัสบดีที่ 8 เมษายน 2547)





ศึกษาวิจัยดวงชะตาชีวิตของคนพบวันเดือนปีเกิดเกี่ยวพันกับดวง

ศาสตราจารย์วิชาจิตวิทยา ดร.ริชาร์ด ไวส์แมน หัวหน้าคณะวิจัย ของมหาวิทยาลัยเฮิร์ดฟอร์ดเชียร์ ของอังกฤษ จะได้ศึกษาด้วยการนำเอาวันเดือนปีเกิด กับประวัติส่วนบุคคลของคนต่างๆ มาเปรียบเทียบดูว่า มีส่วนเกี่ยวพันกันหรือไม่ เขาอธิบายว่า "เราจะขอให้ผู้คนบอกวันเดือนปีเกิด และตอบแบบสอบถามถึงบุคลิกภาพอย่างสั้น แต่สมบูรณ์ของตน แบบสอบถามนั้นจะให้ระบุว่า เป็นคนเปิดเผย มองโลกในแง่ดี และไม่ย่อท้อต่อความลำบากหรือไม่" เขากล่าวต่อไปว่า เราอยากจะหาให้รู้ว่า บุคลิกภาพกับวันเดือนปีเกิด มีความสัมพันธ์กันหรือไม่ หรือพูดอีกทีหนึ่งก็คือ มีอะไรที่ทำให้เป็นคนดวงดีกว่าผู้อื่น ศาสตราจารย์ไวส์แมน เคยศึกษาวิจัยเรื่องนี้มาบ้างแล้ว ได้พบส่อว่าโชคลาภและความสำเร็จ มีส่วนสัมพันธ์กันอยู่อย่างใกล้ชิด คนที่จะมีโชคนั้น เป็นเพราะรู้จักสร้างตนเองให้มีโชค มองเห็นโอกาส ตัดสินใจได้ถูกต้องโดยอาศัยความสังหรณ์ในใจ ลิขิตชีวิตของตนเอง ไม่ยอมย่อท้อต่ออุปสรรค จนเปลี่ยนแปรโชคร้ายให้กลายเป็นดีขึ้นมาได้ นักจิตวิทยาบางคนอ้างว่า เคยเชื่อกันว่า ปัจจัยทางกายภาพที่มีความเกี่ยวพันกับวันเดือนปีเกิดบางอย่าง อาจมีส่วนส่งเสริมให้บุคคลบางคนเป็นคนดวงดีมีโชค (ไทยรัฐ พฤหัสบดีที่ 8 เมษายน 2547 หน้า 7)





กินยาเม็ดกันอ้วนไม่ต้องออกกำลังมีฤทธิ์ เหมือนกับออกแรงได้เหงื่อ

นักวิทยาศาสตร์ของสถาบันเซนต์ วินเซนต์ ที่เมืองเมลเบิร์น กล่าวว่า ได้คิดยาขึ้นได้จากการศึกษาพบว่า เอนไซม์ที่มีชื่อว่า "เอเอ็มพีเค" ทำหน้าที่เหมือนกับเป็น "เกจ์น้ำมัน" ของเซลล์ คอยควบคุมการเผาผลาญอาหารของร่างกาย ผู้อำนวยการสถาบัน นายทอม เคย์ แจ้งว่า ขณะนี้นักวิทยาศาสตร์สถาบันเกือบ 20 คน กำลังช่วยกันพัฒนายากันอ้วน เป็นยาที่มีฤทธิ์เหมือนกับการออกกำลังที่ช่วยลดความอ้วน ดังนั้น เมื่อใครกินยานี้ก็เหมือนกับได้ออกกำลังนั่นเอง ทั้งมันจะเป็นประโยชน์กับคนอ้วนผู้ซึ่งมีร่างกายไม่ปกติหรือเป็นโรคกระดูกเสื่อมอยู่ด้วย การคิดค้นยา ได้ทำที่สถานีวิจัยที่กำลังก่อสร้างขึ้น ด้วยงบถึง 314 ล้านบาท สถานีนี้ยังจะได้ค้นคว้าหาหนทางป้องกันและต่อต้านโรคอื่นๆ ตั้งแต่โรคข้ออักเสบ มะเร็ง เบาหวานและโรคเอดส์ แต่ได้ระบุว่า ยาเม็ดกันอ้วนนี้ จะทำสำเร็จเมื่อใด (ไทยรัฐ พฤหัสบดีที่ 8 เมษายน 2547 หน้า 7)





นักวิจัยเตือนระวังน้ำท่วมโลก

นักวิทยาศาสตร์เตือนว่า หากยังไม่ลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์เข้าสู่บรรยากาศ และบรรเทาภาวะโลกร้อน ภายใน 1,000 ปีข้างหน้า แผ่นน้ำแข็งบนเกาะกรีนแลนด์ ซึ่งมีความหนากว่า 3 กม. จะละลาย ทำให้ระดับน้ำทะเลสูงขึ้น 7 เมตร และส่งผลให้บังกลาเทศ และบางส่วนของรัฐฟลอริดา รวมถึงพื้นที่ชายฝั่งและเกาะแก่งต่างๆ ในมหาสมุทรแปซิฟิกต้องจมอยู่ใต้น้ำ นายโจนาธาน เกรกอรี ผู้เชี่ยวชาญด้านอากาศ มหาวิทยาลัยรีดดิงของอังกฤษกล่าวว่า พื้นที่ใดที่อยู่เหนือระดับน้ำทะเลไม่ถึง 7 เมตร จะกลายเป็นเมืองใต้บาดาลทันที นายเกรกอรีกล่าวว่า จากการคำนวณของนักวิจัยพบว่าอุณหภูมิโดยเฉลี่ยเพิ่มขึ้น ปีละ 3 องศาเซลเซียส ซึ่งอุ่นพอที่จะทำให้แผ่นน้ำแข็งบนเกาะดังกล่าวละลาย มีการ คาดการณ์ว่า ราวปี 2993 หรือเกือบ 500 ปีข้างหน้า อุณหภูมิโลกจะร้อนขึ้นถึง 8 องศาเซลเซียส และสาเหตุหนึ่งที่ทำให้อุณหภูมิโลกเพิ่มขึ้นมา จากการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ในอากาศนั่นเอง รายงานระบุภายใต้ปฏิญญาเกียวโต ระหว่างปี 2551-2555 สหภาพยุโรป (อียู) จะต้องลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกลงร้อยละ 8 เมื่อเทียบกับช่วงปี 2533 เพื่อให้เป็นไปตามเป้าหมาย อียูจะเริ่มดำเนินมาตรการต่างๆในปีหน้า เช่น การควบคุมการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ของโรงงานทั้งหลาย ขณะเดียวกัน มีรายงานว่าพืชและสัตว์พันธุ์หายากกว่า 300 ชนิดบนโลก โดยเฉพาะในแถบอเมริกากลาง (ไทยรัฐ ศุกร์ที่ 9 เมษายน 2547 หน้า 2)





เครื่องผลิตไบโอดีเซลฝีมือนักวิจัยไทย

รศ.กำพล ประทีปชัยกูร จากบัณฑิตวิทยาลัยร่วมพลังงานและสิ่งแวดล้อม (JGSEE) ม.สงขลานครินทร์ ได้วิจัยพัฒนา “เครื่องผลิตไบโอดีเซล” เป็นเครื่องไบโอดีเซลแบบต่อเนื่อง (Continuous) แทนแบบเก่าเป็นแบบกะ (Batch) ทำให้เปลืองพลังงานและจะต้องถ่ายน้ำมันทุกครั้งที่ผลิตเสร็จ ทำให้เสียเวลาและคุณภาพไม่แน่นอน หลักการของการผลิตไบโอดีเซลแบบต่อเนื่อง จะใส่เมทิลแอลกอฮอร์และน้ำมันปาล์มเข้าไปในกับปฏิกรณ์ทางด้านล่างทีละช้า ๆ พร้อมกับการกวน จะได้เมทิลเอสเตอร์ ต้องนำไปล้างก่อนจึงจะได้ เมทิลเอสเตอร์ที่มีคุณภาพคงที่ ผู้ในใจติดต่อขอทราบรายละเอียดได้ที่ โครงการ JGSEE 02470-8309-10 ต่อ 4126-7, 4115-6 (เดลินิวส์ อาทิตย์ที่ 4 เมษายน 2547 หน้า 30)





ยับยั้งการเจริญเติบโตของเชื้อแบคทีเรีย ด้วยมะยมเปรี้ยว

นส.อมรรัตน์ เดชาปาน จาก ร.ร.พระปฐมวิทยาลัยเป็น นร.ทุนโครงการพัฒนาและส่งเสริมผู้มีความสามารถพิเศษทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (พสวท.) ของสถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (พสวท.) ผู้ทำโครงงาน “การยับยั้งแบคทีเรียบางชนิดโดยสารสกัดจากมะยมเปรี้ยว” โดยนำส่วนต่าง ๆ ของมะยมเปรี้ยว เช่น ราก เปลือก ลำต้น และใบมาสกัดสาร โดยใช้น้ำเป็นตัวทำละลายให้มีความเข้มข้น 50 % นำสารสกัดที่ได้มาทดลองกับแบคทีเรียแกรมลบ E.coli sp. และแบคทีเรียแกรมบวก S.aureus และ B.Subtills โดยวิธกีสังเกต Clerzone จากการทดลองพบว่าสามารถยับยั้งการเจริญเติบโตของแบททีเรียแกรมบวกได้อย่างเดียว สามารถนำไปใช้ในการขยายผลการวิจัยในอนาคต (เดลินิวส์ อาทิตย์ที่ 4 เมษายน 2547 หน้า 30)





“ม้าน้ำ” ควรเร่งอนุรักษ์ก่อนจะสูญพันธ์

ดร.เสาวภา สวัสดิ์พีระ หัวหน้าหน่วยวิจัยเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ สถาบันวิทยาศาสตร์ทางทะเล มหาวิทยาลัยบูรพา ได้ทำการศึกษาวิจัยเพื่อจะทำการขยายพันธุ์ม้าน้ำของไทยและทางสถาบันได้มีการศึกษามานานกว่า 10 ปี โดยมีวัตถุประสงค์หลัก ๆ อยู่ 2 ประการคือ ศึกษาเพื่อเพาะขยายพันธุ์เพื่อเลี้ยงเป็นปลา สวยงามเลี้ยงเป็นปลาตู้และศึกษาในเรื่องของการนำม้าน้ำมาใช้ประโยชน์ทางยา ณ วันนี้ ถึงแม้ประเทศไทยจะประสบความสำเร็จในการทดลองเพาะขยายพันธุ์ม้าน้ำได้และเมื่อปีที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงเจริญพระชนมพรรษา 72 พรรษา ทางมหาวิทยาลัยบูรพาได้มีการปล่อยม้าน้ำที่เพาะขยายพันธุ์ได้คืนสู่ท้องทะเลจำนวน 9,999 ตัว แต่ ดร.เสาวภาบอกว่าเป็นความสำเร็จในระดับหนึ่งเท่านั้น ยังมีปัญหาและอุปสรรคในเรื่องของอัตราการรอดตายน้อยอยู่ เนื่องจากยังไม่เข้าใจในความต้องการของม้าน้ำที่ดีพอ เช่น เรื่องอาหารในวัยอ่อน, ระบบการย่อยอาหาร ฯลฯ ขณะนี้อยู่ในระหว่างการศึกษารายละเอียดและศึกษาวิจัยต่อไป ขณะนี้มีเรื่องที่น่ายินดีได้มีความพยายามที่จะเสนอให้มีการใช้ประโยชน์ม้าน้ำอย่างยั่งยืน ผู้ค้ายังสามารถค้าขายได้ตามปกติ ผู้จับม้าน้ำยังจับได้ตามปกติเช่นกัน แต่ได้มีการกำหนดให้ประเทศผู้จับม้าน้ำได้มีการควบคุมมิให้มีการจับมากเกินไปจนทำให้มีผลกระทบต่อจำนวนประชากรม้าน้ำในทะเลจนสูญพันธุ์ ดังนั้นตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคม 2547 เป็นต้นไป การนำเข้าหรือส่งออกม้าน้ำจะต้องมีใบอนุญาตไซเตสทั้งจากประเทศต้นทางและประเทศปลายทาง (เดลินิวส์ เสาร์ที่ 10 เมษายน 2547 หน้า 12)





นักจิตวิทยาให้เอาลิงมาเป็นครูของคนใช้ภาษาท่าทางลิง ติดต่อสัมพันธ์กัน

นักจิตวิทยาเชื่อว่า ถ้าหากคนเราเอาลิงเป็นครู พูดจาติดต่อกันด้วยภาษาและท่าทางของลิง อาจจะทำให้เจ้านายกับลูกน้องรักใคร่ กลมเกลียวกันดีขึ้น เพื่อที่จะศึกษายืนยันความคิดเรื่องนี้ นักวิทยาศาสตร์ของสมาคมสัตววิทยาของอังกฤษ กำลังรับสมัครอาสาสมัครให้ไปฝึกพูดและทำท่าทางแบบลิง ในระหว่างชีวิตการทำงานและชีวิตประจำวันของตน ชั่วระยะเวลาหนึ่ง โดยมีท่าทางแบบวานร ที่จะต้องฝึกทำเลียนแบบ ได้แก่การแกว่งแขน กวัดแกว่งสิ่งของและเบ่งกล้ามเพื่อให้คนอื่นเห็นว่าตัวเองโตใหญ่ขึ้น ศาสตราจารย์แครี คูเปอร์ นักจิตวิทยาองค์การหัวหน้าทีมศึกษากล่าวว่า ลิงนั้นนับเป็นญาติใกล้ชิดที่สุดของมนุษย์ ทั้งยังมีความคล้ายคลึงกันหลายอย่าง ไม่แต่องค์ประกอบทางพันธุกรรมเท่านั้น หากยังรวมทั้งกิริยาท่าทางและพฤติกรรมอื่น ๆ ด้วย เขาต้องการศึกษาให้รู้ว่า ถ้าหากคนเราประพฤติเอาอย่างแบบลิงแล้ว มันจะช่วยให้เกิดความสัมพันธ์ของมนุษย์ตามสถานที่ทำงานต่างๆ ดีขึ้นหรือไม่ ช่วยบรรเทาความขัดแย้งให้น้อยลงไปด้วยหรือไม่ (ไทยรัฐ เสาร์ที่ 10 เมษายน 2547 หน้า 7)





โทรศัพท์มือถือปล่อยรังสีแม่เหล็กไฟฟ้าบีบทรมานเซลล์เนื้อเยื่อ ของร่างกาย

นักฟิสิกส์สวีเดนได้ค้นพบอำนาจของรังสีแม่เหล็กไฟฟ้าจากโทรศัพท์มือถือ กับเซลล์เมล็ดเลือดแดง โดยใช้ทฤษฎีการคำนวณเป็นที่เชื่อว่า ผลของการศึกษาครั้งนี้ อาจจะถูกอ้างเอาไปกล่าวหาโทรศัพท์มือถืออีกได้ว่า อาจทำให้เป็นมะเร็งและเจ็บป่วยด้วยโรคต่างๆได้ เหมือนกับที่เคยมีการกล่าวอ้างว่า มันอาจทำให้เกิดมะเร็งขึ้นในสมอง และเป็นโรคสมองฝ่อได้มาแล้ว หากแต่ผลการวิจัยในเรื่องนี้ยังไม่เป็นที่เด็ดขาด ตามหลักธรรมดา คลื่นวิทยุอาจเป็นอันตรายกับเซลล์ของสิ่งมีชีวิตได้ หากว่ามันแรงพอ จนทำให้แรงยึดเหนี่ยวทางเคมีของเซลล์แตกทำลายหรือจน "เนื้อเยื่อสุก" แต่รังสีจากโทรศัพท์มือถือ ไม่ได้แรงมากถึงขนาดนั้น รายงานผลการศึกษาในวารสารวิทยาศาสตร์ "นิว ไซเอนติสต์" กล่าวว่า การศึกษาทำให้ได้รู้สาเหตุที่รังสีจากโทรศัพท์มือถือ อาจเป็นอันตรายกับเนื้อเยื่อ เนื่องจากมันมีผลให้เซลล์เกิดแรงดึงดูดระหว่างกันหนักขึ้น เลยจับตัวกันแน่นขึ้น หรือไม่อาจเป็นเหตุให้เซลล์เมล็ดโลหิตต้องหดตัวลง (ไทยรัฐ เสาร์ที่ 10 เมษายน 2547 หน้า 7)





คอมพิวเตอร์ทายจะเป็นโรคหัวใจรู้ได้ภายในเวลา 10 ปีข้างหน้า

แพทยสมาคมโรคหัวใจของยุโรป ได้ พัฒนาโปรแกรมคอมพิวเตอร์ ซึ่งจะสามารถทายได้ว่า ใครจะเป็นโรคหัวใจหรืออัมพาต ภายในเวลา 10 ปีข้างหน้าหรือไม่ เครื่องคอมพิวเตอร์ที่ใช้โปรแกรมนั้น เมื่อป้อนประวัติทางการแพทย์บุคคลผู้นั้น ตั้งแต่ความดันโลหิต ระดับไขมัน การสูบบุหรี่ รวมทั้งเพศและอายุเข้าไป จะสามารถบอกได้ว่า บุคคลผู้นั้นจะรอดพ้นจากโรคร้ายทั้ง 2 ภายในระยะเวลา 10 ปีข้างหน้า ได้หรือไม่ แพทย์จะใช้ผลการทำนาย เป็นเหมือนกับเครื่องมือ ในการปรึกษาหารือกับคนไข้ จะได้ แนะนำให้ปรับเปลี่ยนนิสัยในการกินอยู่เสียใหม่ เพื่อจะหลบเลี่ยงให้พ้นภัยของโรคได้ โปรแกรมได้สร้างขึ้น จากผลของการประเมินจากข้อมูลของคนไข้ ที่ได้มีการศึกษา กันในชาติยุโรป 12 ชาติ เป็นจำนวนถึง 210,000 คน และยังจะมีการพัฒนาโปรแกรม เพื่อใช้เฉพาะกับพลเมืองของในแต่ละชาติขึ้นต่อไปอีกด้วย (ไทยรัฐ อังคารที่ 6 เมษายบน 2547 หน้า 7)





“เครื่องไสเนื้อบ๊วย” นวัตกรรมล่าสุดจาก มจธ.

อาจารย์เลิศศักดิ์ เหมยากร อาจารย์ที่ปรึกษา และนักศึกษาในภาควิชาวิศวกรรมเครื่องกล คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี (มจธ.) ร่วมทำการประดิษฐ์เครื่องไสเนื้อบ๊วยขึ้น เนื่องจากปัญหาการผลิตผงบ๊วยภายในประเทศ ไม่เพียงพอต่อความต้องการของตลาด เพราะขึ้นตอนการปอกเนื้อบ๊วยออกจากเม็ดนั้นใช้เวลาและแรงงานคนที่มีความชำนาญจำนวนมาก ประกอบกับปัญหาแรงงานหายาก จึงทำให้ต้นทุนการผลิตสูงและต้องนำเข้าผงบ๊วยสำเร็จรูปจากต่างประเทศอีกด้วย ตัวเครื่องประกอบนั้น ด้วยถังบรรจุผลบ๊วย ซึ่งก้นถังจะมีใบมีดสำหรับไสเนื้อบ๊วย โดยตัวถังจะหมุนรับกำลังขับจากมอเตอร์ ที่ส่งกำลังผ่านเกียร์ทดโดยสายพานตัววี ซึ่งมีชุดใบขวางติดตั้งอยู่กับโครงเครื่อง โดยติดใบขวางที่มีลักษณะลู่โค้งดัดตามทิศทางการหมุนของถังเข้ากับชุดใบขวาง ทำหน้าที่เป็นตัวขวางผลบ๊วยในขณะทำการไส นอกจากนั้นชุดใบขวางยังสามารถเลื่อนขึ้นลงทางดิ่งได้อย่างนุ่มนวลด้วยคอยล์สปริง เป็นการป้องกันการแตกของเม็ดบ๊วย ทำให้ได้เนื้อบ๊วยที่มีความบริสุทธิ์ คุณภาพสูง เนื่องจากใบมีดและอุปกรณ์ที่ใช้ประดิษฐ์เป็นวัสดุไร้สนิมจึงไม่มีการปนเปื้อนของสารเคมีหรือสิ่งสกปรกอื่นๆ ซึ่งผลจากการทดลองพบว่า สามารถให้ปริมาณการผลิตมากกว่าการใช้แรง 10 เท่าและได้ผลผลิต 100% วัสดุที่ใช้ประดิษฐ์เป็นวัสดุภายในประเทศทั้งสิ้น ส่วนต้นทุนการผลิตนั้นราคาประมาณ 23,000 บาท ขณะนี้อยู่ระหว่างการดำเนินการขอจดสิทธิบัตร สำหรับผู้สนใจติดต่อรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ ศูนย์ส่งเสริมงานวิจัยและทรัพย์สินทางปัญญา มจธ. ชั้น 7 สำนักงานอธิการบดี โทร.0-2470-9122 (สยามรัฐ เสาร์ที่ 10 เมษายน 2547 หน้า 7)





ข่าวทั่วไป


สปสช.เปิด 57 "คลินิกอบอุ่น" ทั่วกทม.

นางสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ รมว.สาธารณสุข กล่าวภายหลังตรวจเยี่ยม คลินิกชุมชนอบอุ่น "กล้วยน้ำไท" ในพื้นที่แขวงทุ่งสองห้อง เขตหลักสี่ ว่า คลินิกชุมชนอบอุ่น เป็นนวัตกรรมหนึ่งในการพัฒนาระบบบริการสุขภาพ เพื่อให้ประชาชนในเขตเมืองเข้าถึงบริการได้สะดวกและรวดเร็วขึ้น โดยเริ่มดำเนินการในกรุงเทพฯ ซึ่งเป็นพื้นที่มีความซับซ้อน ที่ผ่านมาความจำกัดของสถานพยาบาลภาครัฐทำให้ คนกทม.ต้องไปรอคิวรับบริการใน รพ.ขนาดใหญ่เฉลี่ยนานถึง 4 ชั่วโมง จึงได้ประสานงานกับสถานบริการทั้งภาครัฐและเอกชน ให้เข้ามาร่วมเป็นเครือข่าย โดยได้เปิดให้ประชาชนเลือกลงทะเบียน กับคลินิกชุมชนอบอุ่นตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค.46 ที่ผ่านมา มีคลินิกที่ผ่านการคัดเลือกและดำเนินการอยู่ในขณะนี้ 57 แห่ง และมีประชาชนเลือกลงทะเบียนใช้บริการที่คลินิกชุมชนอบอุ่นทุกแห่งรวมกัน 185,943 คนด้าน น.พ.สงวน นิตยารัมภ์พงศ์ เลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) กล่าวว่า คลินิก 1 แห่งจะรับลงทะเบียนผู้ถือบัตรทองได้ไม่เกิน 10,000 คน ต้องเปิดให้บริการทุกกลุ่มอาการทุกวันอย่างน้อย 56 ชม.ต่อสัปดาห์ โดยมีเวลาทำการในวันหยุดราชการอย่างน้อยวันละ 3 ชั่วโมงต้องมีแพทย์ประจำอย่างน้อย 1 คน พร้อมพยาบาลวิชาชีพ มีบริการทันตกรรมครบวงจรอย่างน้อยสัปดาห์ละ 20 ชั่วโมง และที่สำคัญคือต้องอยู่ในพื้นที่ที่ประชาชนสามารถเดินทางเข้าถึงได้ภายใน 30 นาที โดยรถยนต์ หลังจากดำเนินงานมา 6 เดือน ประชาชนมีความพึงพอใจ จึงเตรียมที่จะขยายรูปแบบบริการออกไปสู่ภูมิภาคต่อไป (ไทยรัฐ จันทร์ที่ 5 เมษายน 2547 หน้า 15)





มธบ.คัด 18 นักธุรกิจสร้างชาติ

รศ.ดร.วรากรณ์ สามโกเศศ อธิการบดีมหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิต เปิดเผยว่าในโอกาสครบรอบ 36 ปีแห่งการก่อตั้งมหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิต (มธบ.)ซึ่งเป็นสถาบันการศึกษาที่ให้ความสำคัญกับการผลิตบัณฑิตให้เป็นนักธุรกิจที่ดี มีความรู้ความสามารถควบคู่คุณ ธรรม ตามเจตนารมณ์ของ ดร.ไสว สุทธิพิทักษ์ ผู้ก่อตั้งมหาวิทยาลัย ที่ว่านักธุรกิจเป็นผู้สร้างชาติ โดย มธบ.ได้จัดให้มีการมอบรางวัล 18 นักธุรกิจสร้างชาติ เพื่อเชิดชูเกียรติแก่นักธุรกิจที่เป็นแบบอย่างที่ดีทั้งในด้านคุณธรรม และการทำคุณประโยชน์แก่ชาติบ้านเมือง ซึ่งได้รับความร่วมมือจากหน่วยงานระดับชาติหลายหน่วยงาน ร่วมเป็นคณะกรรมการคัดเลือกเพื่อความยุติธรรมและเหมาะสม โดย มธบ.จะกำหนดให้มีพิธีมอบรางวัลในวันที่ 30 พ.ค.2547 ซึ่งเป็นวันฉลองครบรอบ 36 ปี ของมหาวิทยาลัย และจะจัดแสดงนิทรรศการประวัติ และผลงานของนักธุรกิจที่ได้รับรางวัลทุกคน อธิการบดี มธบ. กล่าวต่อไปว่า สำหรับการคัดเลือกผู้ได้รับรางวัลจะแบ่งเป็น 3 สาขาๆ ละ 6 คนได้แก่ สาขาธุรกิจขนาดใหญ่, สาขาธุรกิจขนาดย่อม และสาขาธุรกิจชุมชน ส่วนเกณฑ์การคัดเลือกนั้น ในสาขาธุรกิจขนาดใหญ่จะมอบให้กับผู้ก่อตั้งธุรกิจตั้งแต่เริ่มต้น ส่วนเกณฑ์ทั่วๆ ไป จะพิจารณาจากความซื่อสัตย์สุจริต มีคุณธรรม และธรรมาภิบาลในการบริหารธุรกิจของตน การประสบความสำเร็จในการประกอบธุรกิจ การสร้างคุณประโยชน์ที่เอื้อต่อประเทศชาติโดยรวม มีความคิดสร้างสรรค์ และมีความมุ่งมั่นต่อสู้เพื่อธุรกิจ (สยามรัฐ จันทร์ที่ 5 เมษายน 2547 หน้า 7)





เตรียมดันกฏหมายอนามัยเจริญพันธุ์

คณะกรรมาธิการสาธารณสุข สภาผู้แทนราษฎร และคณะกรรมาธิการสาธารณสุข วุฒิสภา ร่วมกัน จัดสัมมนาเรื่อง"กฎหมายอนามัยการเจริญพันธุ์ สำคัญอย่างไรกับคนทุกวัยทุกเพศ" ที่อาคารรัฐสภา 2 เพื่อ ทำความเข้าใจเกี่ยวกับเรื่องอนามัยเจริญพันธุ์และแลกเปลี่ยนทัศนคติอันจะนำไปสู่การบัญญัติกฎหมายที่เหมาะสม โดย รศ.ดร.กฤตยา อาชวนิจกุล จากสถาบันวิจัยประชากรและสังคม ม.มหิดล กล่าวว่า อนามัยเจริญพันธุ์เกี่ยวเนื่องกับทุกส่วน ไม่เฉพาะเจาะจงแค่กระทรวงสาธารณสุขเพียงอย่างเดียว แต่รวมถึงเรื่องการศึกษา, วัฒน ธรรมทางเพศและสื่อ (เดลินิวส์ พุธที่ 7 เมษายน 2547 หน้า 26)





ของดีเมืองเก่า “ข้าวตอกพระร่วง” โอทอป” ศักดิ์สิทธิ์คู่เมืองสุโขทัย

“ข้าวตอกพระร่วง ข้าวพระร่วง” ตามตำนานผู้เฒ่าผู้แก่ได้เล่าสืบต่อกันมาว่า “ในวันใส่บาตรเทโวที่บนลานวัดเขาพระบาทใหญ่ เมื่อพระร่วงฉันท์ภัตตาหารเสร็จข้าวที่เหลือจากก้นบาตร ท่านได้โปรยลงบนลานวัด และทรงอธิฐานว่า” ให้ข้าวตอกดอกไม้นี้กลายเป็นหินชนิดหนึ่ง และมีอายุยั่งยืนนานชั่วลูกชั่วหลาน “ ดังนั้น ข้าวตอกพระร่วงที่ชาวบ้านเรียกขานกัน จึงหมายถึง” หินรูปสี่เหลี่ยมโดยธรรมชาติที่ฝังตัวอยู่ในหินก้อนใหญ่ “ ส่วนข้าวพระร่วงหรือข้าวก้นบาตรพระร่วงนั้น จะมีลักษณะคล้ายเมล็ดข้าวสุกฝังตัวอยู่ในหินสีดำ ปัจจุบันคนที่ประกอบอาชีพการทำข้าวตอกพระร่วง นี้แทบจะไม่มีแล้ว เพราะไม่สามารถหาวัตถุดิบมาทำกันได้แต่ที่ตนยังทำได้อยู่ก็เพราะไปขอแบ่งซื้อมาจากคนเฒ่าคนแก่แถวนี้ ที่เขายังพอมีสนนราคาตามความพอใจ โดยนำวัตถุดิบที่ได้มาทำการเจียระไนเป็นเครื่องประดับต่างๆ มีลักษณะสีดำปนน้ำตาลลายเงิน ลายทอง อาทิ ทำเป็นหัวแหวน สร้อยคอ สร้อยข้อมือเป็นต้น หรือนำมาตำให้เป็นผงผสมกับดินพิมพ์เป็นพระเครื่อง เพื่อนำไปปลุกเสกเป็นพุทธบูชา ซึ่งชาวบ้านมีความเชื่อกันว่า หากใครมีข้าวตอกพระร่วงนี้ไว้ติดตัวสำหรับเดินทาง ก็จะเป็นสื่อนำโชคลาภและแคล้วคลาดจากอันตราย ส่วนรูปทรงสี่เหลี่ยมของข้าวตอกพระร่วงโดยธรรมชาติที่ฝังอยู่ในหินนั้น สามารถนำมาฝนกับน้ำมะนาวทาผิวหนังบริเวณที่โดนพิษสัตว์กัดต่อยได้ด้วย (สยามรัฐ อังคารที่ 6 เมษายน 2547 หน้า 21)





สาวเด่นแห่งปี

เอวอนร่วมมืมือ กับนิตยสารผู้หญิง มอบรางวัล 10 สุภาพสตรีแห่งปี ในงานประกาศรางวัล The 10 Most Gorgeous Women Awards 2004 ที่ รร.โอเรียนเต็ล เมื่อเร็วๆนี้ โดยมี ทูลกระหม่อมหญิง อุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี เสด็จเป็นประธานเปิดงาน สุภาพสตรีแห่งปีทั้ง 10 คน ที่ได้รับการโหวตจากประชาชนทั่วประเทศในปีนี้ มาจากหลาก หลายวงการ โดยในสาขานักแสดง คะแนนเทไปที่ นุสบา ปุณณกันต์ และ ปภัสรา เตชะไพบูลย์ แห่งวงการมายา ส่วนในวงการนักร้อง หญิงเก่งที่พิชิตใจประชาชน ได้แก่ นันทิดา แก้วบัวสาย และ มณีนุช เสมรสุต ด้านวงการแฟชั่น ได้แก่คารา พลสิทธิ์ และ ซอนย่า คูลลิ่ง ขณะที่นักการเมืองหญิงหน้าใหม่อย่าง จณิสตา ลิ่วเฉลิมวงศ์ และ ณหทัย ทิวไผ่งาม ก็พิสูจน์ให้เห็นว่ามีกึ๋นน่าประทับใจ ไม่ใช่แค่ไม้ประดับในสภา!! สาขาสุดท้ายที่มอบให้แก่นักธุรกิจหญิง คือ สุพรทิพย์ ช่วงรังษี กรรมการผู้จัดการบริษัท 124 คอมมิวนิเคชั่นส และ ยูกิ ศรีกาญจนา บิ๊กบอสแห่งบริษัทเพนดูลัม (ไทยรัฐ พุธที่ 7 เมษายน 2547 หน้า 24)





แอลเอไทม์สกวาดพูลิตเซอร์

แอลเอไทม์ส รับรางวัลเกียรติยศหนังสือพิมพ์ดีเด่น "พูลิตเซอร์" ประจำปีนี้ไปครองถึง 5 รางวัล ส่วนแชมป์เก่าปีที่แล้ว นิวยอร์ก ไทม์ส ได้มาเพียงรางวัลเดียว หนังสือพิมพ์ลอส แองเจลีส ไทม์ส หนึ่งในสื่อสิ่งพิมพ์รายวันยักษ์ใหญ่ของสหรัฐ ได้รับรางวัลดีเด่นประจำปี (พูลิตเซอร์) มาครองได้ถึง 5 รางวัลเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา ซึ่งรางวัลพูลิตเซอร์นี้ ถือว่าเป็นรางวัลเกียรติยศที่สำคัญที่สุดของประเทศสำหรับหนังสือพิมพ์ ในขณะที่ หนังสือพิมพ์นิวยอร์ก ไทม์ส ก็คว้ารางวัลดีเด่นด้านบริการสาธารณะในการนำเสนอข่าวหลาย ๆ เรื่อง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเรื่องที่เกี่ยวกับความปลอดภัยในสถานที่ทำงาน โดยผู้สื่อข่าวที่ชื่อว่า เดวิด บาร์สโตว์ และโลเวลล์ เบิร์กแมน นอกจากนี้ยังมีหนังสือพิมพ์แคลิฟอร์เนีย เดลี, วอชิงตัน โพสต์, ดัลลัส มอร์นิ่ง นิวส์ ได้ฉบับละ 1 รางวัลบ้าง 2 รางวัลบ้าง รางวัลพูลิตเซอร์ ถูกประกาศที่มหาวิทยาลัยโคลัมเบียในนครนิวยอร์ก โดยจะมีการมอบรางวัลให้แก่ผู้ชนะในวันที่ 24 พ.ค.นี้ (เดลินิวส์ พุธที่ 7 เมษายน 2547 หน้า 13)





เตือนก๊ง"ยาดอง-ยาเย็น"ถี่ถึงตาย

น.พ.สมทรง รักษ์เผ่า อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบยาแผนโบราณ ยาดองเหล้า ยาเย็น ซึ่งจำหน่ายในพื้นที่ภาคอีสานพบว่าผู้ผลิตยาดังกล่าวส่วนใหญ่นำสารคลอโรฟอร์มมาผสมเพื่อป้องกันการเน่าเปื่อย เพิ่มรสหวาน ทำให้ยาดังกล่าวได้รับความนิยมจากผู้ใช้แรงงานและวัยรุ่นเป็นอันมาก ซึ่งสารคลอโรฟอร์มดังกล่าวเป็นสารที่ทำให้เกิดโรคมะเร็งหากรับประทานเป็นระยะเวลานานจะเกิดอาการหัวใจเต้นผิดปกติ ปอดบวมทำลายระบบประสาทเกิดอาการปวดศีรษะ ไม่อยากอาหาร คลื่นไส้ อาเจียน และเป็นอันตรายต่อตับ ไต นอกจากนี้ยังสามารถซึมผ่านเข้าสู่รกทำให้เป็นพิษต่อครรภ์มารดา ทั้งนี้สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ได้ห้ามไม่ให้นำสารคลอโรฟอร์มมาผสมแต่ก็ยังมีการฝ่าฝืน เพราะยากต่อการควบคุม ทั้งนี้ศูนย์วิทยาศาสตร์การแพทย์ จ.อุบลราชธานี ได้สร้างชุดทดสอบสารดังกล่าวให้มีความสะดวกในการตรวจสอบซึ่งจากการทดสอบพบว่ามีการปลอมปนในยาแผนโบราณที่ขึ้นทะเบียนถึงร้อยละ 59 และไม่ขึ้นทะเบียนยาร้อยละ 55 ซึ่งถือว่าสูงมาก จึงแจ้งเตือนให้ประชาชนระวังในการบริโภคยาดังกล่าว (เดลินิวส์ พุธที่ 7 เมษายน 2547)





วธ.คิดดันศิลปินไทยสู่ระดับสากล

นายวีระศักดิ์ โควสุรัตน์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงวัฒนธรรม (วธ.) เปิดเผย ว่า ขณะนี้กระทรวงวัฒนธรรมได้ร่วมมือกับกระทรวงการต่างประเทศจัดให้มีการแสดงนิทรรศการผลงานของศิลปินระดับชาติของไทยด้านจิตรกรรม ประติมากรรม และภาพเขียน โดยจะจัดแสดงไว้ที่ชั้นล่างของกระทรวงการต่างประเทศ เมื่อเวลาที่มีแขกบ้านแขกเมืองมาพบจะได้เห็นผลงานศิลปวัฒนธรรมของไทย นอกจากนี้กระทรวงฯ ยังมีแนวคิดว่าจะจัดให้มีการนำศิลปินแห่งชาติเดินทางไปต่างประเทศพร้อมกับรัฐมนตรีเวลาเดินทางไปราชการเพื่อนำผลงานไปจัดแสดง โดยไม่จำเป็นว่าจะเป็นศิลปินด้านจิตรกรรมและประติมากรรมอย่างเดียว แต่จะรวมถึงศิลปินด้านภาษาหรือศิลปินงานช่างด้วย ส่วนในอนาคตกระทรวงวัฒนธรรมจะร่วมมือกับกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาเพื่อเจรจากับสมาคมโรงแรมต่าง ๆว่าโรงแรมใดบ้างที่สนใจจะนำภาพเขียนของศิลปินที่ไม่มีชื่อแต่ฝีมือดีไปจัดโชว์ตามล็อบบี้หรือห้องโถงของโรงแรม ซึ่งถ้ามีใครสนใจอยากจะซื้อเก็บไว้ก็สามารถให้ทางโรงแรมติดต่อไปยังเจ้าของภาพได้ ซึ่งถือเป็นโครงการหนึ่งที่จะเป็นสะพาน เชื่อมงานศิลปะให้กับประชาชนแบบข้ามประเทศ ซึ่งเรื่องดังกล่าวได้มีการหารือกับ นายอนุรักษ์ จุรีมาศ รมว.วัฒนธรรม (วธ.) แล้วก็เห็นด้วย แต่จะเริ่มโครงการได้เมื่อใด นั้นจะมีการหารือในรายละเอียดอีกครั้งในวันที่ 19 เม.ย. ที่กรมศิลปากร เพื่อแสดงให้เห็นว่าการทูตเชิงวัฒนธรรมยังมีอีกมากไม่ใช่แค่การนำเครื่องดนตรีไทยเข้าไปในสถานทูตเพียงอย่างเดียว นายอภินันท์ โปษยานนท์ ผู้อำนวยการสำนักงานศิลปวัฒนธรรมร่วมสมัย (สศร.) กล่าวว่า ทั้ง 2 กระทรวงมีแนวคิดและการทำงานร่วมกันในการที่จะประชาสัมพันธ์ความเป็นไทยให้แก่ชาวต่างชาติได้รับรู้ โดยลักษณะของการโปรโมตจะเป็นรูปแบบงานศิลปวัฒนธรรมไทย สำหรับศิลปินที่จะมาร่วมจัดนิทรรศ การจะต้องดูว่าศิลปินคนไหนเหมาะสมกับงานศิลปะด้านใด วัฒนธรรมของแต่ละประเทศเป็นแบบใดเพื่อจะได้จัดงานศิลปะที่ถูกใจตรงกับความต้องการ ซึ่งการจัดโครงการดังกล่าวถือว่าเป็นอีกทางหนึ่งที่จะช่วยโปรโมตศิลปินไทยให้มีชื่อเสียงในระดับโลก (เดลินิวส์ พฤหัสบดีที่ 8 เมษายน 2547 หน้า 27)





ม.สหรัฐสดุดีพระเทพฯ

ในวโรกาสที่สมเด็จพระเทพรัตน ราชสุดาฯสยามบรมราชกุมารี เสด็จ เยือนสหรัฐอเมริกาเป็นการส่วน พระองค์ เมื่อวันที่ 5 เม.ย.ที่ผ่าน มา มหาวิทยาลัยเบย์พาธ อธิการบดีมหาวิทยาลัยเบย์พาธ คารอล เอ. เลียรี่ ได้กล่าวสดุดีและได้ทูล เกล้าฯ ถวายปริญญาดุษฎีบัณฑิต กิตติมศักดิ์ด้านมนุษยศาสตร์แด่ สมเด็จพระเทพ รัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เพื่อเทิดพระ เกียรติในพระวิริยะอุตสาหะ ที่ทรงอุทิศ พระองค์อย่างไม่ย่อท้อ ให้แก่การพัฒนา โครงการสาธารณประโยชน์ต่างๆ ทั้งใน ด้านการศึกษา, สาธารณสุข และการ เกษตร มาอย่างต่อเนื่องเป็นเวลายาวนาน เพื่อปรับปรุง คุณภาพชีวิตของประชาชนชาวไทยทั้ง ประเทศ อีกทั้งยังทรงเป็น แบบอย่างและแรงบันดาลใจ สำหรับสตรีและบุรุษทั่วโลก ในฐานะที่ ทรงเป็นสตรีผู้มีความ เป็นผู้นำอันยิ่งใหญ่ และมี บทบาทสำคัญในด้านมนุษยชน ขณะเดียวกัน สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ ยังทรงได้รับการยกย่องให้เป็นทูตทางวัฒนธรรม ของไทย โดยทรงแสดงพระอัจฉริยภาพในด้านศิลปะ และดนตรีให้เป็นที่ประจักษ์แก่ชาวโลก มาแล้วนับครั้งไม่ถ้วน ทรงเป็นนักภาษาศาสตร์ที่เก่งกาจ โดยรับสั่งได้หลายภาษา ทั้งอังกฤษ, ฝรั่งเศส, เยอรมัน, จีน, เขมร, บาลี, สันสกฤต และละติน รวมทั้งทรงมีพระราชนิพนธ์ ด้านสารคดีและบทกวีมากมาย (ไทยรัฐ พฤหัสบดีที่ 8 เมษายน 2547 หน้า 24)





ประมงปล่อยสัตว์น้ำ 99 ล้านตัว

ดร.สิทธิ บุณยรัตผลิน อธิบดีกรมประมง เปิดเผยว่า ในวันที่ 13 เมษายน เป็นวันประมงแห่งชาติ ทางกรมฯจึงขอความร่วมมือจากประชาชนทั่วไปงดจับสัตว์น้ำเป็นเวลา 3 วัน ระหว่างวันที่ 13-15 เมษายน 2547 เพื่อให้สัตว์น้ำต่าง ๆ มีโอกาสเจริญเติบโตและขยายพันธุ์ รวมทั้งขอเชิญชวนให้ร่วมกับกรมประมงปล่อยพันธุ์สัตว์น้ำจำนวน 99 ล้านตัว ในทุกจังหวัดทั่วประเทศโดยกรมประมงได้เรียนเชิญผู้ว่าราชการจังหวัดทุกจังหวัดเป็นประธาน ในพิธีปล่อยพันธุ์สัตว์น้ำประจำปีด้วยเช่นดังทุกปีที่ผ่านมา (เดลินิวส์ ศุกร์ที่ 9 เมษายน 2547)





คุรุสภารุกปรับแผนแก้ปัญหาปล่อยเงินกู้ ช.พ.ค.อืด

นายจักรพรรดิ วะทา เลขาธิการคุรุสภา เปิดเผยความคืบหน้าการปล่อย เงินกู้ให้แก่สมาชิกฌาปนกิจสงเคราะห์ช่วยเพื่อนสมาชิกคุรุสภา (ช.พ.ค.) เผยเมื่อวันที่ 8 เม.ย. ว่า ขณะนี้การดำเนินการปล่อยเงินกู้ให้แก่สมาชิก ช.พ.ค. เกิดความล่าช้า ไม่เป็นไปตามที่กำหนดไว้ตั้งแต่แรก ที่เดิมผู้ขอกู้เงินไว้จะได้รับการพิจารณาจัดสรรเงินกู้ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ ทั้งนี้ เนื่องจากมีอุปสรรคหลายเรื่อง โดยเฉพาะการตรวจสอบคุณสมบัติของผู้กู้ เอกสารหลักฐาน ที่สำคัญการให้ทายาทของสมาชิกผู้ที่ขอกู้มาเซ็นชื่อรับรองในเอกสารสัญญาการขอกู้ครั้งนี้ มีความล่าช้าในขั้นตอนดังกล่าวมาก เพราะทายาทและบิดา มารดา ของผู้กู้มักไม่มีเวลามาเซ็นรับรองในเอกสารดังกล่าวได้พร้อมกัน ดังนั้น ในเร็วๆนี้ตนจะหารือร่วมกับธนาคารกรุงไทยว่าเป็นไปได้หรือไม่ที่จะให้ทายาทผู้กู้เงิน ช.พ.ค.บางคน มาเซ็นรับรองแล้วปล่อยเงินให้แก่สมาชิกไปก่อน เช่น หากมีทายาทมาเซ็นรับรองให้ 1-2 คน อาจจะอนุมัติเงินให้ไปก่อนครึ่งหนึ่ง หรือ 70% ของเงินกู้ทั้งหมดที่จะได้รับ ซึ่งหากแนวทางดังกล่าวได้รับความเห็นชอบตน เชื่อว่าจะช่วยลดความล่าช้าที่เกิดขึ้นไปได้มาก โดยในส่วนของสมาชิกที่ขอกู้เงิน ช.พ.ค.ในกรุงเทพฯ ขณะนี้ได้มีบางส่วนรับเงินกู้ไปแล้ว ส่วนที่เหลือคาดว่าจะได้รับเงินอย่างช้าไม่เกินเดือน เม.ย.นี้แน่นอน นายจักรพรรดิกล่าวอีกว่า ส่วนสมาชิก ช.พ.ค.ที่ได้ยื่นกู้ในต่างจังหวัดนั้น ธนาคารกรุงไทยยืนยันว่าจะเริ่มทยอยแจ้งให้สมาชิกที่ขอกู้ในต่างจังหวัด เข้ามาทำสัญญากู้เงินได้ตั้งแต่วันที่ 19 เม.ย.นี้เป็นต้นไป และภายในเดือน เม.ย.นี้ น่าจะได้รับเงิน สำหรับสมาชิก ช.พ.ค.กลุ่มอายุต่ำกว่า 55 ปีลงมานั้น จากที่ตนได้หารือกับธนาคารกรุงไทย มีความเป็นไปได้สูงที่ทางธนาคารจะปล่อยเงินกู้ให้ แต่ต้องจัดทำรายละเอียดที่รัดกุมมากกว่ากลุ่มแรก (ไทยรัฐ ศุกร์ที่ 9 เมษายน 2547 หน้า 15)





เพลงคลาสสิกพัฒนาสติปัญญา ใช้บำบัดเด็กที่เป็นสมาธิสั้นได้

หัวหน้าสาขาดุริยางคศาสตร์ มศว เผยการฟังเพลงคลาสสิก ช่วยพัฒนาสมองและสติปัญญา โดยเฉพาะได้ความคิดของเหตุและผล ส่วนดนตรีช่วยบำบัดเด็กสมาธิสั้นได้ พร้อมแนะผู้ปกครองถึงวิธีเรียนดนตรีสำหรับเด็ก ต้องใช้ เวลาให้เด็กได้พัฒนาเองตามลำดับ อย่าเคี่ยวเข็ญให้เด็กเล่นดนตรีได้ทันที นายสมชาย อัศวโกวิท หัวหน้าสาขาดุริยางคศาสตร์ สากล มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ (มศว) กล่าวว่า การเลือกฟังเพลงคลาสสิกจะเกิดประโยชน์กับผู้ฟังในเชิงของความคิด เพราะดนตรีประเภทนี้จะมีเหตุมีผลในตัวของมันเอง สามารถบอกเหตุผลได้ว่าผู้แต่งในยุคนั้นๆ มีวิธีการแต่งอย่างไร เหมือนการแต่งกลอนบ้านเรา แต่ละยุคจะมีการแต่งที่แตกต่างกันออกไป ต้องเรียนรู้วัฒนธรรมในยุคนั้นๆ ทำให้ทราบถึงประวัติศาสตร์ของมนุษยโลก ถ้าบ้านเมืองยุคไหนเจริญดนตรี ศิลปะจะมีการพัฒนา ถ้าบ้านเมืองขณะนั้นมีสงครามดนตรี ศิลปะยุคนั้นก็ไม่เกิด จะเกี่ยวข้องกับเรื่องของประวัติศาสตร์ เมื่อเรียนรู้ทางประวัติศาสตร์จะได้ไม่ทำอะไรผิดพลาดอีก หลายคนที่ไม่มีพื้นทางด้านดนตรีคลาสสิกก็สามารถฟังเพลงประเภทนี้เกิดความซาบซึ้งได้ ขอให้มีอารมณ์ที่จะฟังก็จะเริ่มเข้าใจ ผลที่ได้อารมณ์สงบและเยือกเย็นขึ้น ถือเป็นการพัฒนาสมองทั้งสองด้าน เหมือนคำสวดของบางศาสนาเมื่อสวดแล้วใจสงบ จึงควรจะได้สนับสนุนให้เด็กไทยรู้จักฟังเพลงคลาสสิก สมองและสติปัญญาของเขา จะได้รับการพัฒนา โดยเฉพาะในแง่ของเหตุผล (ไทยรัฐ ศุกร์ที่ 9 เมษายน 2547 หน้า 7)





ได้รูปแบบถนนคร่อมประปา คาดเริ่มสร้างปี2548,ประมูลใหม่ถนนรัชดา-รามอินทรา

นายเทิดศักดิ์ เศรษฐมานพ อธิบดีกรมทางหลวง เปิดเผยถึงความคืบหน้าโครงการถนนคร่อมคลองประปาว่า ขณะนี้กรมทางหลวงได้ว่าจ้างสถาบันเทคโนโลยีแห่งเอเชีย เป็นที่ปรึกษาทำการสำรวจและออกแบบ และศึกษาผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม ระยะเวลา 15 เดือน สำหรับผลการศึกษาเบื้องต้นที่ปรึกษา ได้เสนอรูปแบบของถนนคร่อมคลองประปาไว้หลายรูปแบบ เช่น ก่อสร้างเสาตอม่อคร่อมคลองประปา คล้ายกับระบบทางด่วนขั้นที่ 2 ช่วงคร่อมคลองประปา ถนนพระรามที่ 6 หรือก่อสร้างเป็นอุโมงค์ส่งน้ำประปาด้านล่างแล้วด้านบนปรับเป็นถนนเป็นต้น สำหรับรูปแบบที่เสนอมาทั้งหมด จะต้องกราบบังคมทูล พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เพื่อทรงวินิจฉัยแบบที่เหมาะสม ซึ่งตามแนวพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ไม่ได้กำหนดรูปแบบที่ชัดเจน เพียงแต่ไม่ต้องการให้กระทบต่อน้ำประปาที่อยู่ด้านล่าง ซึ่งอาจกลายเป็นปัญหาเรื่องมลพิษเท่านั้น ทั้งนี้ โครงการดังกล่าวจะต้องเร่งสรุปรายละเอียดให้แล้วเสร็จโดยเร็ว เพราะมีโครงการที่จะเริ่มก่อสร้าง ปี 2548 4 (ไทยรัฐ ศุกร์ที่ 9 เมษายน 2547 หน้า 12)





แบคทีเรียดินคร่าลอดช่อง

นางเบ๊ มุ่ย เหล็ง โฆษกกระทรวงสาธารณสุขสิงคโปร์ เปิดเผยว่า นับตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.เป็นต้นมา ได้มีประชาชนติดเชื้อเมลิโออิโดซิส ซึ่งเป็นสาเหตุของเชื้อแบคทีเรียจากพื้นดิน จำนวน 31 รายแล้ว และในจำนวนนี้ได้มีผู้เสียชีวิตไปแล้วถึง 15 ราย โดยเชื้อนี้จะเกิดขึ้นบนผิวดินในช่วงที่มีฝนตกหนัก และจะติดต่อมายังสัตว์ หากไปสัมผัสกับพื้นผิวดินหรือดื่มน้ำที่มีเชื้อดังกล่าวปนเปื้อน หลังจากที่ได้รับเชื้อเข้าไปในร่างกาย ก็จะทำให้มีอาการป่วยด้วยโรคปอดบวม ป่วยเมื่อยกล้ามเนื้อ เจ็บหน้าอก และปวดหัว จนกระทั่งถึงขั้นเสียชีวิตในที่สุด ทางด้านกระทรวงสาธารณสุขสหรัฐ เปิดเผยว่า มีความหวั่นวิตกว่า จะมีผู้นำเชื้อเมลิโออิโดซิสนี้ไปทำเป็นอาวุธชีวภาพ (สยามรัฐ ศุกร์ที่ 9 เมษายน 2547 หน้า 4)





3 อย่างห้ามทำในห้องแอร์

ศูนย์ประชาสัมพันธ์รวมพลังหาร 2 กองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงานสำนักงานนโยบายและแผน (สนผ.) มีคำแนะนำเกี่ยวกับข้อห้ามที่ไม่ควรนำไปใช้ในห้องแอร์ 3 ประการ คือ ไม่ควรตากเสื้อผ้าในห้องแอร์ ไม่ควรนำต้นไม่ไว้ในห้องแอร์ และไม่ควรปรุงอาหารในห้องแอร์ ทั้ง 3 ประการนี้ จะทำให้แอร์ต้องทำงานหนัก จะทำให้กินไฟมากและค่าไฟก็จะสูงด้วย (เดลินิวส์ อาทิตย์ที่ 4 เมษายน 2547 หน้า 30)





ปรับมาตรฐานดึงค่ายรถหนุนใช้แก๊สโซฮอลล์

นายณัฐพล ณัฎฐ์สมบูรณ์ ผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการเอทานอลแห่งชาติ (สอทช.) เปิดเผยว่า จากการที่กระทรวงอุตสาหกรรมมีนโยบายที่จะผลักดัน ให้ผู้บริโภคหันมาใช้น้ำมันแก๊สโซฮอลล์เพิ่มขึ้น เพื่อเพิ่มรายได้ให้กับเกษตรกร และเพื่อลดมลพิษทางอากาศ จึงได้ขอความร่วมมือกับบริษัทโดยนำชั้นนำ 15 แห่ง เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับลูกค้าในการใช้น้ำมันแก๊สโซฮอลล์แทนน้ำมันเบนซิน นายอนุสรณ์ แสงนิ่มนวล รักษาการรองกรรมการ ผู้จัดการใน บริษัท บางจากปิโตรเลียม จำกัด(มหาชน) ก็มีความพร้อมที่จะให้ความร่วมมือในด้านการผลิต และได้จำหน่ายให้กับผู้ใช้รถยนต์เกือบทุกวัน โดยไม่เกิดความเสียหายต่อเครื่องยนต์ ขณะนี้กำลังรอที่กรมธุรกิจพลังงานได้ออกประกาศเปลี่ยนแปลงมาตรฐานของน้ำมันแก๊สโซฮอลล์และเรื่องอัตราภาษีสรรพสามิต (เดลินิวส์ จันทร์ที่ 5 เมษายน 2547 หน้า 7)





เกษตรและมลพิษทำนกใกล้สูญพันธุ์

เมื่อเร็ว ๆ นี้ สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานว่า 1 ใน 8 ของจำนวนประชากรนกทั่วโลกกำลังเผชิญกับการสูญพันธุ์ ทั้งนี้ เป็นการรายงานจากการศึกษาของเบิร์ดไลฟ์ อินเตอร์เนชั่นแนล พันธมิตรกลุ่มนักอนุรักษ์ธรรมชาติที่มีสมาชิกทั่วโลก ซึ่งเป็นรายงานที่ใช้ชื่อว่า "สถานะของนกในโลก ปี 2004" รายงานระบุว่าประชากรนก 1 ใน 8 ของโลกซึ่งเสี่ยงต่อการสูญพันธุ์ ซึ่งเป็นนกทั้งสิ้น 1,211 สายพันธุ์นั้น แบ่งเป็นกลุ่มที่ตกอยู่ในอันตรายร้ายแรงยิ่ง มี 179 สายพันธุ์ กลุ่มที่มีโอกาสสูญพันธุ์สูง 334 สายพันธุ์ และ กลุ่มที่บอบบางน่าเป็นห่วง 688 สายพันธุ์ โดยเกือบทุกประเทศจะมีนกซึ่งอยู่ในกลุ่มเสี่ยงอาศัยอยู่อย่างน้อย 1 สายพันธุ์ แต่ภูมิภาคที่มีพันธุ์นกจำพวกนี้อยู่หนาแน่นกว่าที่อื่น ๆ ได้แก่ แถบเทือกเขาแอนดีส ป่าฝนบราซิล เทือกเขาหิมาลัย มาดา กัสการ์ และหมู่เกาะในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ นกแอลบาทรอสหรือนกทะเลขนาดใหญ่มีสัดส่วนความเสี่ยงสูงที่สุดคือ 95% รองลงมาเป็นนกกระเรียน (60%) นกแก้ว (29%) นกยูง (26%) และ นกพิราบ (23%) สาเหตุของปัญหากลุ่มนักอนุรักษ์ชี้ว่า เกิดจากการขยายพื้นที่เกษตรกรรมแบบไร้การควบคุม รวมไปถึงสภาพมลพิษไฟป่า การเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศ และการซื้อขายนก กลุ่มผู้ทำการศึกษาได้เรียกร้องให้นานาชาติร่วมมือกันแก้ไข โดยจัดตั้งกลุ่มท้องถิ่นเพื่อปกป้องพันธุ์นกที่ใกล้สูญพันธุ์ (เดลินิวส์ เสาร์ที่ 10 เมษายน 2547)





ทำไมกินไอศกรีมแล้วปวดหัว

การที่เรากินไอศกรีม หรือเครื่องดื่มเย็นๆ แล้วทำให้เรารู้สึกปวดหัวขึ้นมาได้นั้น เป็นเพราะว่า เจ้าอาหารหวานเย็นพวกนั้น ไปแตะที่เพดานปาก เลยทำให้ระบบประสาท มีปฏิกิริยาต่อความเย็น ทำให้หลอดเลือดในสมองบวมโตขึ้น อันนี้เลยเป็นสาเหตุทำให้ มักจะปวดหัวเวลากิน ของเย็นเจี๊ยบเข้าไป แต่ก็มักจะหายได้ในเวลาไม่กี่นาที เมื่อหลอดเลือดยุบตัวลง จะหลีกเลี่ยงอาการ "ปวดหัวหวานเย็น" ลงได้นั้น ผู้รู้แนะนำไว้ว่า เวลาจะกินไอศกรีมหรือของหวานเย็น ต้องค่อยๆกิน ให้เวลาเพดานปากได้คุ้นเคยกับอุณหภูมิ ที่เปลี่ยนแปลงสักหน่อยเมื่อกัดกินของหวานเย็นลงไปแต่ละคำ (ไทยรัฐ เสาร์ที่ 10 เมษายน 2547 หน้า 7)





พบน้ำเค็มทะลักเจ้าพระยา

ปลายเดือน มี.ค. ต่อเนื่องต้นเดือน เม.ย.ที่ผ่านมา กรมชลประทานได้เก็บตัวอย่างน้ำไปตรวจหาความเค็มจากสะพานพุทธ สามเสน ปากเกร็ด พบว่ามีความเค็มสูง นายชาญชัย สุวรรณพิมล ผู้เชี่ยวชาญด้านที่ปรึกษาอุทกวิทยา กรมชลประทาน เปิดเผยว่า ในวันที่ 10-12 เม.ย.นี้ ระดับน้ำหนุนในแม่น้ำเจ้าพระยาจะสูงที่สุดในรอบเดือน คือสูงกว่าระดับน้ำทะเลปานกลาง 96 เซนติเมตร แยกเป็นวันที่ 10 เม.ย. จะหนุนสูงระหว่าง 06.00-07.00 น. และ 21.00-23.00 น. วันที่ 11 เม.ย. หนุนสูงเวลา 06.00-08.00 น. และ 22.00-23.00 น. ส่วนวันที่ 12 เม.ย. หนุนสูงเวลา 06.00-08.00 น. และ 01.00-02.00 น. อย่างไรก็ตาม แม้น้ำทะเลจะหนุนสูง แต่จะเป็นไปในลักษณะที่ขึ้นเร็วลงเร็ว และกรมชลประทานได้หาทางไล่น้ำเค็มด้วยการปล่อยน้ำจากเขื่อนเจ้าพระยา และเขื่อนพระราม 6 เฉลี่ย 75 ลบ.ม./วินาที ซึ่งเป็นปริมาณที่มากกว่าปกติที่จะปล่อยเพียง 60 ลบ.ม./วินาที โดยเชื่อว่าระดับน้ำที่ปล่อยมากขึ้นจะช่วยไล่ความเค็ม และจะไม่มีผลต่อการทำการเกษตรของเกษตรกรริมแม่น้ำเจ้าพระยาทั้งในเขต กทม. นนทบุรี ปทุมธานี พระนครศรีอยุธยา (ไทยรัฐ เสาร์ที่ 10 เมษายน 2547 หน้า 12)





เริ่มต้น 14 ไกลสุด 36 บาทค่าโดยสารรถไฟฟ้าใต้ดิน

รายงานข่าวจากบริษัทรถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด (บีเอ็มซีแอล) แจ้งว่าขณะนี้บริษัทได้จัดทำบัตรโดยสาร และกำหนดอัตราค่าโดยสาร สำหรับโครงการรถไฟฟ้าใต้ดิน สายเฉลิมรัชมงคล หัวลำโพง-บางซื่อเรียบร้อยแล้ว โดยบัตรโดยสารจะมี 2 ชนิด ได้แก่ 1. บัตรเติมเงิน ใช้สำหรับเดินทางหลายเที่ยว และสามารถเติมมูลค่าในบัตรได้ โดยบัตรเติมเงินมี 2 ประเภท คือ บัตรสำหรับบุคคลทั่วไป และประเภทลดหย่อน สำหรับเด็กที่มีความสูงระหว่าง 90-120 ซม. หรือผู้สูงอายุ ที่มีอายุตั้งแต่ 65 ปีขึ้นไป ซึ่งบัตรเติมเงินสามารถหาซื้อได้ที่ห้องออกบัตรโดยสาร 2. เหรียญโดยสาร ใช้สำหรับเดินทางเที่ยวเดียว ซึ่งแบ่งเป็น 2 ประเภท คือ 1. บุคคลทั่วไป สามารถซื้อได้ที่เครื่องออกบัตรโดยสารอัตโนมัติและที่ห้องออกบัตรโดยสาร 2. ประเภทลดหย่อน ซื้อได้ที่ห้องออกบัตรโดยสารเท่านั้น รายงานข่าวแจ้งด้วยว่า สำหรับอัตราค่าโดยสาร 1. บุคคลทั่วไป เริ่มต้นที่ 14 บาท สูงสุดที่ 36 บาท สำหรับปีแรกนับจากวันที่เปิดให้บริการ บริษัทจะมอบส่วนลด 15 เปอร์เซ็นต์ ค่าโดยสารเริ่มต้นที่ 12 บาท สูงสุดที่ 31 บาท 2. ประเภทลดหย่อน ค่าโดยสารพิเศษลด 50 เปอร์เซ็นต์ เริ่มต้นที่ 7 บาท สูงสุดที่ 18 บาท สำหรับปีแรกนับจากวันที่เปิดให้บริการ บริษัทลดให้ 15 เปอร์เซ็นต์ เริ่มต้นที่ 6 บาท สูงสุดที่ 16 บาท ส่วนกำหนดการทดลองนั่งรถไฟฟ้าใต้ดิน ที่เริ่มตั้งแต่วันที่ 13 เม.ย.นั้น บริษัทรถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด แจ้งว่า 1. บัตรทดลองโดยสารที่ได้รับใช้ได้เฉพาะในวันที่ระบุไว้ในบัตร ใช้เข้าและออกจากสถานีใดสถานีหนึ่งที่เปิดให้ทดลองในวันนั้นๆได้เพียง 1 ครั้ง โดยไม่จำเป็นต้องเข้าออก ณ สถานีเดียวกัน 2. เวลาที่ระบุในบัตร หมายถึงห้วงเวลาที่จะต้องมาถึง ณ สถานีที่เปิดให้ทดลอง 3. โปรดแสดงบัตรต่อพนักงานก่อนลงสถานีเพื่อตรวจความสมบูรณ์ของบัตร 4. กรณีที่มาถึงสถานีก่อนหรือเลยเวลาที่กำหนดแล้ว ถือเป็นบัตรหมดอายุ 5. บริษัทเปิดให้ทดลองโดยสารได้บางสถานี (ไทยรัฐ เสาร์ที่ 10 เมษายน 2547 หน้า 12)





โทษการตัดไม้ทำลายป่าที่อยู่สัตว์ค้างคาวดูดเลือดแวมไพร์ บุกกัดคน

กระทรวงสาธารณสุขบราซิลรายงานว่า ตั้งแต่ต้นเดือนก่อนมา มีผู้ถูกค้างคาวดูดเลือดแวมไพร์ ขนาดตัวโตเท่ากับหัวแม่มือ ออกมาอาละวาดกัดดูดเลือดสูงถึง 300 รายแล้ว เหตุเกิดที่บริเวณแถบริมแม่น้ำปอร์เล อันเป์นย่านของหมู่เกาะปากอ่าวมาราโฮ ซึ่งเป็นหมู่เกาะปากอ่าวแหล่งใหญ่ที่สุดของโลก โฆษกกระทรวงแจ้งว่า "จากการชันสูตรศพ พบร่องรอยว่าโดนค้างคาวกัดดูดเลือดเมื่อไม่นานมานี้ และในจำนวนนี้ได้ตรวจพบเชื้อโรค กลัวน้ำด้วย 6 ราย นอกจากนั้นยังมีผู้ถูกกัดคนอื่นๆอีก แต่ได้รับการฉีดวัคซีนแก้โรคกลัวน้ำทัน แต่ยังไม่อาจประกันได้ว่าจะไม่มีผู้ถูกทำร้ายอีก" เจ้าหน้าที่กล่าวต่อไปว่า นักวิทยาศาสตร์ของรัฐบาล สงสัยว่า "เหตุทั้งนี้ เกิดเพราะพวกมันต้องแตกรัง เนื่องจากการตัดไม้ ทำลายป่า ทำให้ต้องกระจัดกระจาย กันหาที่อยู่แห่งใหม่" โดยปกติแล้วค้างคาวดูดเลือดแวมไพร์ จะหากินกัดดูดเลือดจากสัตว์ เช่น นกขนาดใหญ่และ วัวควายที่กำลังหลับอยู่ กัดให้เป็นแผลแล้วดูดเลือด และมักจะปล่อยเชื้อโรคกลัวน้ำไว้ให้ด้วย (ไทยรัฐ อังคารที่ 6 เมษายบน 2547 หน้า 7)






KMUTT Digital Library
Contact Digital Library : info@lib.kmutt.ac.th
Tel : 0-2470-8215