|
หัวข้อข่าวปีที่ 5 ฉบับที่ 15 ประจำวันที่ 2004-04-19
ข่าวการศึกษา
ม.ชินวัตรชี้บทเรียน พิษต้มยำ ไทยขาดความรู้ด้านบริหารจัดการ ปอมท.ห่วงเงินกู้เรียนแบบใหม่ สอศ.จับมือเซ็นทรัล เรสตอรองส์ผลิตน.ศ.ทวิภาคี ม.นเรศวรเปิดภาคพิเศษซับน้ำตาเด็กพลาดเอนฯ ทวท.ลุยบัลแกเรีย ยกระดับการสอนไทย สกอ.ได้ฤกษ์ขายใบสมัครครูพันธุ์ใหม่ "มศว" ชี้ดาบสองคมค้นหาเด็กความสามารถพิเศษ เอไอเอสรับนศ.ปี3ทำงาน1ปี ศิริราชรับ นศ.เรียน "แพทย์แผนไทย" ผ่านเอ็นทรานซ์ ซี.พี. จูงใจคนจีนแผ่นดินใหญ่เรียนภาษาไทย เสนอตั้งองค์กรอิสระคุมการจัดเอนทรานซ์ วิทยาลัยนานาชาติ
ข่าววิทยาศาสตร์/เทคโนโลยี
ดันศูนย์เป็นเลิศเฉพาะด้านเพิ่มขีดแข่งขัน ดาวเคราะห์น้อยเฉียดโลกใกล้ที่สุด ห่างแค่สี่หมื่นก.ม.-รู้ล่วงหน้า 1 วัน โชว์เทคโนโลยีผลงานเด็ก ป.ตรี ท่องเน็ตบนความสูง 30,000 ฟิต เตือนภัยไซเบอร์เซ็กซ์ : มันมากับมือถือ คลื่นวิทยาการ : เลือกตั้งออนไลน์ มือถือไล่ยุง พิสูจน์ทฤษฎีไอน์สไตล์ หุ่นยนต์ตายแทนทหารในอิรัก หน้าที่ตรวจค้นหาทำลายระเบิด
ข่าววิจัย/พัฒนา
พบ ยีน ล้มวิวัฒนาการมนุษย์ กรามลดลงแต่สมองใหญ่ขึ้น พบสารก่อมะเร็งในอาหารหลายชนิด ผู้ชายเสี่ยงเป็นพาร์กินสันมากกว่าผู้หญิง สหฟาร์ม วิจัยเพิ่มมูลค่าวัตถุดิบหนังอกไก่ มอ.เล็งผลิตไบโอดีเซลน้ำมันหมู มช.พัฒนาแผ่นฟิล์มชีวภาพรักษาร้อนใน รถเข็นพิการติดตั้งจอยสติ๊ก มือเดียวบังคับเหมือนเล่นเกมส์คอมพ์ นาซาพัฒนาจรวดไอพ่นรุ่นใหม่ ทำลายสถิติเร็วเหนือเสียง 7 เท่า วิจัยเนื้อเยื่อเทียมนาโน รักษาบาดแผลเปิดกว้าง ประยุกต์ จีไอเอส ทำโปรแกรมฟื้นฟูดิน แพทย์เตือนภัย จิวเวลอาย สวยไม่คุ้มอันตราย! อังกฤษสร้างทีมฟุตบอลหุ่นยนต์ เร่งวิจัยและพัฒนาประสิทธิภาพการปลูกหน่อไม้ฝรั่ง ผ้าฝ้ายพันธุ์ตากฟ้า 2 ผลงานวิจัยเด่นของคนไทย กินช็อกโกแลตระหว่างตั้งครรภ์ ส่งผลให้เด็กทารกอารมณ์ดี ให้ผู้ใช้รถจักรยานยนต์ใช้หมวกขาวแคล้วคลาดจากอุบัติเหตุ ได้ถึง1ใน3 พบหวีเป็นอาวุธต่อต้านก่อการร้ายสาวหามือระเบิด ให้จับได้ทั้งโขยง ถั่วเหลืองอาหารของชายอาชาไนย ป้องกันมะเร็งและศีรษะล้านเหลือง หม้อไอน้ำฆ่าเชื้อโรคอัตโนมัติ ฝีมือ นศ. เชียงราย น้ำมันแปรรูปจากรองเท้าฟองน้ำ กำจัดขยะแถมได้เชื้อเพลิง ฟอร์ดพัฒนาระบบป้องกัน คนขับหลับใน เตรียมติดตั้งใช้จริงในรถวอลโว่ ศึกษาพันธุ์ข้าวป่า หวังสร้างข้าวพันธุ์ใหม่ T- CELS ร่วมทุน 2 บริษัทบิ๊กวิจัยเภสัชกรรมจีโนมิกส์ กล้วยหอมใช้ทำยาอุจจาระร่วง ป้องกันเยื่อบุลำไส้ติดเชื้ออักเสบ ใช้ถ่านจากซังข้าวโพด ไฟแรงดี-ลดทำลายป่า ซัมซุง-ฟุจิสึ พัมนาเซลล์พลังงาน เพิ่มเวลาใช้งานในอุปกรณ์พกพา มจธ. ผุดเตาแก๊สโฉมใหม่ ประหยัดเชื้อเพลิงหุงต้มถึง 30% อินเทลผลิตชิพไรสารตะกั่ว รณรงค์ใช้สารเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม
ข่าวทั่วไป
ไอร์แลนด์นำร่องชาติปลอดบุหรี่ โนเบลเกษตร แจงสาหร่ายหาดป่าตองไม่มีพิษ วธ.ใช้ช่องดาวเทียมหาที่ตั้งของวัฒนธรรม คนไทยกินหวานเพิ่มขึ้น2เท่าตัวเป็นอันตรายต่อสมองและร่างกาย ผลิตเครื่องดื่มยาป้องกันโรคหัวใจทำขึ้นจากน้ำสกัดผลมะเขือเทศ ฟันเสียต้นเหตุคร่าชีวิตผู้สูงอายุเสียฟันทำให้น้ำหนักตัวลดด้วย ห่วงคนไทยบริโภคสารพิษ ป้อนข้อมูลเลือกอาหารปลอดภัย อาหารจากสัตว์น้ำมีไขมันจะเปิบของดีหรือไม่..อยู่ที่วิธีการ ส้วมไฮเทค พันธุ์ข้าวผสมยีนมนุษย์อนาคตไม่สดใส รัฐแคลิฟอร์เนียห้ามปลูกในเชิงการค้า องค์กรสวล.โวยอุตสาหกรรมการเกษตร ทำรายได้เยอะแต่ทำลายสิ่งแวดล้อมแยะ สท.เฟ้นเยาวชนดีเด่น-กระตุ้นสังคมเสนอชื่อ ปลุกจิตวิญญาณคนไทย รักษ์ป่าที่เหลืออยู่ผืนสุดท้าย ออกกฎหมายขจัดขยะอิเล็กทรอนิกส์ "พาณิชย์" เตือนภัยผู้ส่งออกเซรามิก ดูอาการก่อนกินอาหารเสริม สั่งจับตายร้านทองไร้คุณภาพ ชุดตรวจหาสารมอมสาว หวังลดปัญหาล่อลวง-ข่มขืน
ข่าวการศึกษา
ม.ชินวัตรชี้บทเรียน พิษต้มยำ ไทยขาดความรู้ด้านบริหารจัดการ
ศ.ดร.จุลละพงษ์ จุลละโพธิ รองอธิการบดีมหาวิทยาลัยชินวัตร เปิดเผยถึงนโยบายด้านหลักสูตรของมหาวิทยาลัยชินวัตรว่าทุกหลักสูตรของเราจะสอดแทรกความรู้ด้านการจัดการเข้าไปด้วยขณะนี้ทางมหาวิทยาลัยกำลังอยู่ระหว่างการพัฒนาหลักสูตรปริญญาโททางด้านวิศวกรรมระบบจะเน้นในสาขาที่ทันสมัยและและมีความจำเป็นกับสภาพปุจจุบัน ส่วนอีกสาขาคือทางด้านวิทยาศาสตร์มหาบัณฑิต สาขาการจัดการ และถึงแม้นโยบายตอนนี้จะไม่ตรงกับของรัฐบาลแต่ก็มีส่วนสนับสนุนนโยบายทางการผลิตคนที่มีความรู้ทางด้านการจัดการและมีส่วนส่งเสริมนโยบายการพัฒนาทรัพยากรบุคคลในแนวลึกเน้นให้คนมีความรู้จริงรู้จักที่จะจัดการตัวเอง จัดการองค์กร เป็นต้น ซึ่งขณะนี้ศักยภาพอุดมศึกษาของเราถือว่ามีความสามารถพอที่จะทำได้เพราะส่วนใหญ่เรื่องของเทคโนโลยีของเรามีอยู่แล้วทั้งด้านวิชาการที่มีการศึกษาวิจัย มีหลักสูตรการเรียนการสอนในหลายมหาวิทยาลัยกระจายอยู่ทั่วประเทศ รวมทั้งความสามารถของเราก็จัดว่าดี เพียงแต่ว่าปัญหาอยู่ที่ระบบบริหารจัดการ ซึ่งถือเป็นจุดอ่อนของเรา (กรุงเทพธุรกิจ จันทร์ที่ 29 มีนาคม 2547 หน้า 10)
ปอมท.ห่วงเงินกู้เรียนแบบใหม่
น.พ.พิศิษฐ์ โจทย์กิ่ง ประธานสภาอาจารย์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น และประธานที่ประชุมประธานสภาอาจารย์มหาวิทยาลัยทั่วประเทศ(ปอมท.) เปิดเผยผลประชุม ปอมท. ที่มหาวิทยาลัยบูรพาว่า ปอมท.ได้เชิญนายเมธี ครองแก้ว คณะทำงานปรับเปลี่ยนรูปแบบกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษาที่ผูกกับรายได้ในอนาคต(กรอ.) มาเป็นวิทยากรให้ความรู้เรื่องนี้ ทราบว่าได้เสนอรัฐบาลให้กู้เฉพาะระดับอุดมศึกษา โดยแต่ละสาขาวิชาและสถาบันจะคิดค่าเล่าเรียนตามต้นทุนจริง โดยรัฐอาจอุดหนุน 50% หรือให้ผู้เรียนรับภาระเองทั้งหมด 100% และให้ชำระเงินกู้คืนเมื่อได้ทำงานและมีรายได้ถึงเกณฑ์ประมาณ 15,000 บาท ซึ่งมีแนวโน้มว่ารัฐบาลจะให้นักศึกษารับภาระเอง 100% และอาจให้เริ่มตั้งแต่ปีการศึกษา 2548 ซึ่ง ปอมท.ได้แสดงข้อห่วงใยว่าแนวปฏิบัติดังกล่าวอาจส่งผลกระทบสำคัญหลายประการ โดยเฉพาะเมื่อผู้กู้จบการศึกษาแล้วอาจมุ่งไปทำงานยังต่างประเทศ ซึ่งให้รายได้สูงกว่า เพื่อได้มีเงินมาชำระคืนให้หมดโดยเร็ว (มติชนรายวัน จันทร์ที่ 29 มีนาคม 2547 หน้า 22 )
สอศ.จับมือเซ็นทรัล เรสตอรองส์ผลิตน.ศ.ทวิภาคี
นายพินิจ จันทรกระจ่าง ที่ปรึกษาด้านมาตรฐานอาชีวศึกษาเกษตรกรรม และประมง และนายธีระเดช จิราธิวัฒน์ กรรมการบริหารบริษัท เซ็นทรัล เรสตอรองส์ กรุ๊ป ได้ร่วมลงนามข้อตกลงความร่วมมือการจัดการอาชีวศึกษาระบบทวิภาคี ที่อาคารเซ็นทรัลสีลม โครงการอาชีวศึกษาในระบบทวิภาคีเป็นโครงการที่เปิดโอกาสให้นักศึกษาระดับ ป.วช.และ ป.วส.ได้รับการฝึกฝนวิชาชีพภาคปฏิบัติตามสาขาต่างๆ ของบริษัท เซ็นทรัล เรสตอรองส์ กรุ๊ป จำกัด โดยเน้นฝึกให้ผู้เรียนมีความรู้ความชำนาญในการปฏิบัติงาน และเรียนรู้วัฒนธรรมของการทำงาน พร้อมไปกับการเรียนการสอนวิชาพื้นฐาน และให้ความรู้ด้านทฤษฎีที่จำเป็น ซึ่งจะสอดคล้องกับการฝึกทักษะวิชาชีพในสถานประกอบการ โดยจะมีการทดสอบและประเมินผลเป็นระยะๆ คณาจารย์ของสถาบันการศึกษาร่วมกับสถานประกอบการ นักศึกษาทวิภาคีจะได้รับเบี้ยเลี้ยง และสวัสดิการพื้นฐานจากสถานประกอบการด้วยในเบื้องต้นมีสถานศึกษาที่เข้าร่วมโครงการได้แก่ วิทยาลัยพณิชยการเชตุพน วิทยาลัยพณิชการบางนา วิทยาลัยพณิชยการธนบุรีวิทยาลัยพณิชการอินทราชัย วิทยาลัยอาชีวศึกษาเอี่ยมละออ วิทยาลัยอาชีวศึกษาธนบุรี วิทยาลัยบริหารธุรกิจ และการท่องเที่ยวกรุงเทพ วิทยาลัยเทคนิคสมุทรปราการ วิทยาลัยอาชีวศึกษานครปฐม และวิทยาลัยอาชีวศึกษาชลบุรี (มติชนรายวัน พฤหัสบดีที่ 1 เมษายน 2547 หน้า 23)
ม.นเรศวรเปิดภาคพิเศษซับน้ำตาเด็กพลาดเอนฯ
รศ.ดร.มณฑล สงวนเสริมศรี อธิการบดีมหาวิทยาลัยนเรศวร (มน.) เปิดเผยว่า หลังจากที่สำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา (สกอ.) ได้ประกาศผลคะแนนและจำนวนรับนักศึกษาของมหาวิทยาลัยต่าง ๆ ผ่านระบบเอนทรานซ์ไปแล้วจะมีนักเรียนที่จบ ม.6 จากทั่วประเทศจำนวนหนึ่งที่ไม่สามารถเข้าเรียนต่อในมหาวิทยาลัยของรัฐ ทาง มน. จึงได้ประกาศรับสมัครบุคคลเพื่อสอบคัดเลือกเข้าศึกษาต่อระดับปริญญาตรี (ภาคพิเศษ) ประจำปีการศึกษา 2547 ทั้งในระบบไตรภาคและทวิภาค ใน 7 หลักสูตร ดังนี้ 1.หลักสูตร วิทยาศาสตรบัณฑิต สาขาวิชาวิทยาการคอมพิวเตอร์-ระบบสารสนเทศ 2.หลักสูตร วิศวกรรมศาสตรบัณฑิต สาขาวิชาวิศวกรรมโยธา-วิศวกรรมอุตสาหการ-วิศวกรรมคอมพิวเตอร์ 3.หลักสูตรศิลปศาสตรบัณฑิต สาขาวิชาภาษาอังกฤษ-ภาษาจีน-ภาษาฝรั่งเศส-พัฒนาสังคม 4.หลักสูตรบริหารธุรกิจบัณฑิต สาขาวิชาการจัดการธุรกิจ-การท่องเที่ยว-คอมพิวเตอร์ธุรกิจ 5.หลักสูตรบัญชีบัณฑิต สาขาวิชาการบัญชี 6.หลักสูตรนิเทศศาสตรบัณฑิต สาขาวิชาการประชาสัมพันธ์ และ 7.หลัก สูตรนิติศาสตรบัณฑิต โดยผู้สนใจสามารถซื้อใบสมัครได้ที่กองบริการการศึกษา อาคารมิ่งขวัญ สำนักงานอธิการบดี มหาวิทยาลัยนเรศวร จังหวัดพิษณุโลก ตั้งแต่บัดนี้ถึง 30 เม.ย. 47 นอกจากนี้มน.ยังได้ร่วมกับวิทยาลัยการสาธารณสุขสิรินธร พิษณุโลก จัดโครงการผลิตบัณฑิตร่วมกัน (หลักสูตรต่อเนื่อง 2 ปี) โดยปีนี้ได้จัดโควตาให้ข้าราชการสังกัดกระทรวงสาธารณสุข 70 คน และข้าราชการหรือพนักงานของรัฐสังกัดกระทรวงสาธารณสุขที่ปฏิบัติงานด้านสาธารณสุขในเขตส่งเสริมการศึกษากำแพงเพชร ตาก นครสวรรค์ พิจิตร พิษณุโลก เพชรบูรณ์ สุโขทัย อุตรดิตถ์ และอุทัยธานี 50 คน ผู้สนใจสอบถามและซื้อใบสมัครได้ที่สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดที่ตนเองสังกัดถึงวันที่ 30 เม.ย. นี้ (เดลินิวส์ จันทร์ที่ 12 เมษายน 2547 หน้า 27)
ทวท.ลุยบัลแกเรีย ยกระดับการสอนไทย
รศ.ดร.ประสาท สืบค้า คณบดีสำนักวิชาวิทยาศาสตร์ ม.เทคโนโลยีสุรนารี (มทส.) จังหวัดนครราชสีมา ในฐานะประธานที่ประชุมคณบดีวิทยาศาสตร์แห่งประเทศไทย (ทวท.) เปิดเผยว่า ในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา ทวท. ซึ่งประ กอบด้วยคณะวิทยาศาสตร์จากมหาวิทยาลัยของรัฐ 22 แห่ง ได้ร่วมมือกับสถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (สสวท.) ในการพัฒนาการจัดการศึกษาวิชาคณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีระดับโรงเรียนใน ทุกภูมิภาค โดยเลือกร่วมมือกับโรงเรียนแกนนำเพื่อสนองตอบนโยบายการปฏิรูปการศึกษา และปฏิรูปการเรียนรู้ของนักเรียน ซึ่งจากการดำเนินงานที่ผ่านมาประสบความสำเร็จเป็นอย่างดี ซึ่งทางทวท.ก็มีเป้าหมายที่จะขยายจำนวนโรงเรียนแกนนำเพิ่มขึ้นต่อไป รศ.ดร.ประสาท กล่าวต่อไปว่า อย่างไรก็ตามเพื่อเป็นการเพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนินกิจกรรม ดังนั้นในวันที่ 12-22 เม.ย. นี้ คณบดีวิทยาศาสตร์จะไปศึกษาดูงานสถาบันอุดมศึกษาในต่างประเทศที่ประสบความสำเร็จอย่างยิ่งในการร่วมมือกับโรงเรียนในการจัดการเรียนการสอนด้านคณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยี โดยได้เลือกประเทศที่มีจำนวนประชากรไม่แตกต่างจากประเทศไทยมากนัก อาทิ ประเทศบัลแกเรีย ซึ่งทีมเยาวชนบัลแกเรียเพิ่งได้เหรียญทองจากการแข่งขันคณิตศาสตร์โอลิมปิกเมื่อปี 2546 โดยคณะของไทยจะไปศึกษาวิธีการที่มหาวิทยาลัยโซเฟียร่วมมือกับโรงเรียนในการพัฒนาชั้นเรียนคณิตศาสตร์ เคมี ฟิสิกส์ และชีววิทยา นอกจากนี้ยังจะไปศึกษา ดูงานที่สถาบันอุดมศึกษาในประเทศเยอรมนี และสหราชอาณาจักรอีกด้วย (เดลินิวส์ จันทร์ที่ 12 เมษายน 2547 หน้า 27)
สกอ.ได้ฤกษ์ขายใบสมัครครูพันธุ์ใหม่
ผศ.ดร.สรรค์ วรอินทร์ ผอ.สำนักส่งเสริมและพัฒนาศักยภาพนักศึกษา สำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา (สกอ.) เปิดเผยความคืบหน้าหลักสูตรครู 5 ปีว่า ขณะนี้สถาบันอุดมศึกษาหลายแห่งกำลังเร่งทำหลักสูตรเพื่อผลิตครูพันธุ์ใหม่ เพื่อให้ทันใช้ในเดือน มิ.ย. 2547 บางสถาบันรุดหน้าไปมาก บางสถาบันยังไม่ได้ทำหรือยังทำได้น้อย หากเป็นเช่นนั้นคงอนุโลมให้ใช้หลักสูตรเดิมไปก่อน แต่ก็ต้องเร่งปรับกันอีกครั้ง ทั้งนี้ ผู้ที่สนใจศึกษาต่อหลักสูตรครู 5 ปี หรือหลักสูตรครูพันธุ์ใหม่ โดยเริ่มขายใบสมัครได้ตั้งแต่วันที่ 20-30 เม.ย.นี้ ทั้งนี้ สามารถซื้อและยื่นใบสมัครได้ที่สถาบันอุดมศึกษาที่เป็นแกนนำการผลิตครู 12 แห่ง คือ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย มหาวิทยาลัยทักษิณ มหาวิทยาลัยขอนแก่น สถาบันราชภัฏ (รภ.) เชียงราย รภ.พิบูลสงคราม รภ.พระนครศรีอยุธยา รภ.อุดรธานี รภ.นครราชสีมา รภ.สวนสุนันทา และ รภ.นครศรีธรรมราช ในวันที่ 28-30 เม.ย. ประกาศผลผู้มีสิทธิ์สอบวันที่ 7 พ.ค. และสอบวัดความรู้วันที่ 10-14 พ.ค. ประกาศผลวันที่ 20 พ.ค. และรายงานตัววันที่ 24 พ.ค.นี้ (ไทยรัฐ จันทร์ที่ 12 เมษายน 2547 หน้า 15)
"มศว" ชี้ดาบสองคมค้นหาเด็กความสามารถพิเศษ
นายสมชาย อัศวโกวิท หัวหน้าสาขาดุริยางคศาสตร์สากล มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ (มศว) เปิดเผยว่า จากกระแสสังคมที่ให้ความสำคัญกับเด็ก ที่มีความสามารถพิเศษในด้านต่างๆ ตลอดถึงข่าวที่นำเสนอว่า พบเด็กมีความสามารถด้านต่างๆ ส่งผลให้เกิดการเฟ้นหาเด็กที่มีความสามารถพิเศษในด้านต่างๆมากขึ้น ซึ่งเป็นภาวะที่น่าห่วงมาก การค้นหาเด็กที่มีความสามารถพิเศษ เพื่อจะเป็นผลประโยชน์อะไรก็แล้วแต่ ตนมองว่าเป็นอันตราย อย่าลืมว่าเด็กที่มีความสามารถพิเศษในด้านต่างๆนั้น มันต้องเกิดจากตัวเขาเอง ไม่ใช่เกิดจากการฟูมฟักหรือเสาะแสวงหา พ่อ แม่ ผู้ปกครองหรือครูจะสนับสนุนให้กำลังใจควรหาวิธีการอื่น เช่น ให้ทุนเขาเรียนสิ่งที่เขาสนใจเป็นช่วงๆ แล้วดูพัฒนาการของเด็ก จากนั้นก็ส่งเสริมให้เขาเรียนต่อไปอีก จนเขาถึงที่หมายของเขา แต่ถ้าเขาเดินไปได้แค่ครึ่งทาง แล้วด่วนสรุปว่าเขาเป็นเด็กที่มีความสามารถหรือเป็นเด็กอัจฉริยะ คิดว่าเป็นแนวทางที่ไม่ถูกต้อง ถือเป็นการทำลายเด็กอย่างรู้เท่าไม่ถึงการณ์ จึงอยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องช่วยสนับสนุนอย่างต่อเนื่อง ไม่ใช่หมดงบประมาณก็เลิกสนับสนุน (ไทยรัฐ จันทร์ที่ 12 เมษายน 2547 หน้า 15)
เอไอเอสรับนศ.ปี3ทำงาน1ปี
นายจิรเดช นุตสถิตย์ กล่าวว่า เอไอเอส เปิดตัวโครงการ NWO Project (New World Order) ให้นักศึกษาปี 3 ได้ร่วมทำงานนาน 1 ปีก่อนกลับไปเรียนพร้อมทุนการศึกษา โครงการนี้ได้จัดทำขึ้นเพื่อเปิดโอกาสให้เยาวชน ได้เข้ามามีประสบการณ์จากการทำงานจริงกับ เอไอเอส ได้แลกเปลี่ยนความคิดเห็นและเรียนรู้จากการพูดคุยกับผู้บริหารระดับสูงและมีโอกาสเดินทางไปดูงานที่ต่างประเทศ เยาวชนที่ผ่านการคัดเลือกจากคณะกรรมการจะได้รับเงินเดือนตลอดระยะเวลา 1 ปี พร้อมทุนการศึกษาสำหรับการศึกษาต่อในระดับชั้นปีที่ 4 รวมทั้งยังได้ รับสิทธิทำงานกับเอไอเอส เมื่อสำเร็จการศึกษาแล้ว ขณะนี้เอไอเอส ได้เปิดรับสมัครนักศึกษา ระดับอุดมศึกษาในทุกสาขา โดยไม่จำเป็นต้องเรียน สาขาที่เกี่ยวเนื่องกับไอที วิศวกรรมศาสตร์ หรือการตลาด ในระดับชั้นปีที่ 3 พร้อมขึ้นปีที่ 4 ที่มีความกระตือรือร้น ชอบสร้างสรรค์สิ่งใหม่ ๆ รวมถึงมีแนวคิดนอกกรอบ สำหรับการคัดเลือก ไม่ได้คัดเลือกจากผลการเรียน สาขาวิชาเรียน หรือความรู้จากตำราเรียน แต่ใช้เกณฑ์ทางด้านความคิด ไอคิว และอีคิว เพราะฉะนั้นนักศึกษาที่สมัครนี้ ไม่จำเป็นต้องท่องตำราเรียนเพื่อเตรียมตัวสอบคัดเลือก (เดลินิวส์ พุธที่ 14 เมษายน 2547 หน้า 12)
ศิริราชรับ นศ.เรียน "แพทย์แผนไทย" ผ่านเอ็นทรานซ์
ศ.น.พ.ทวี เลาหพันธ์ หน.สถานการแพทย์แผนไทยประยุกต์ คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล เปิดเผยว่า หลังจากที่คณะฯได้รับโอนย้ายโรงเรียนอายุรเวท เข้าเป็นหน่วยงานในสังกัด มีฐานะเทียบเท่าภาควิชาเรียกชื่อว่า "สถานการแพทย์แผนไทยประยุกต์" และเปิดคลินิกอายุรเวทการแพทย์แผนไทยประยุกต์ ที่ตึกอดุลยเดชวิกรม ชั้น 5 เพื่อให้บริการด้านการแพทย์แผนไทย ซึ่งในช่วงแรกจะครอบคลุม การตรวจรักษาทางด้านเวชกรรมแผนไทย เภสัชกรรมแผนไทยและหัตถเวชกรรมแผนไทยหรือการนวดไทย เป็นการนวดที่มีการตรวจคัดกรองความผิดปกติ มีหลักการนวดเพื่อฟื้นฟูสมรรถภาพผู้ป่วยโรคอัมพาตหรืออัมพฤกษ์ เบิกได้ไม่เกิน 200 บาทต่อครั้ง แต่การนวดเพื่อส่งเสริมสุขภาพหรือป้องกันโรค ไม่สามารถเบิกจ่ายค่ารักษาพยาบาลได้ และในปีการศึกษา 2547 ได้เปิดรับนักศึกษาสาขาวิชาแพทย์แผนไทยประยุกต์ ผ่านระบบเอ็นทรานซ์ เข้าเรียนในสาขานวดแผนไทย เพื่อสานต่อการแพทย์แผนไทยให้พัฒนาต่อไปด้วย น.พ.ชนินทร์ ลีวานันท์ อาจารย์ประจำภาควิชาเวชศาสตร์ฟื้นฟู คณะแพทยศาสตร์ ศิริราชพยาบาล กล่าวว่า การนวดแผนไทยช่วยรักษาโรคไมเกรน และปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ การให้บริการคลินิกจะเปิดเป็นทางการและเก็บค่าบริการตั้งแต่วันที่ 19 เม.ย.นี้ ตั้งแต่วันจันทร์-เสาร์ เวลา 09.00-20.00 น.เป็นต้นไป (ไทยรัฐ พุธที่ 14 เมษายน 2547 หน้า 11)
ซี.พี. จูงใจคนจีนแผ่นดินใหญ่เรียนภาษาไทย
เครือเจริญโภคภัณฑ์ หรือ ซี.พี. โดย นายธนากร เสรีบุรี รองประธานเครือเจริญโภคภัณฑ์ และประธาน คณะผู้บริหารกลุ่มอีซีไอ ซึ่งเป็นกลุ่มธุรกิจยานยนต์ และอุตสาหกรรมทั่วไปในเครือ ซี.พี. ที่สาธารณรัฐประชาชนจีน ได้มอบทุนจำนวน 1 ล้านหยวน หรือประมาณ 5 ล้านบาท จัดตั้งเป็น "กองทุนการเรียนการสอน" แก่ภาควิชาภาษาและวรรณคดีไทย มหาวิทยาลัยเซี่ยงไฮ้นานาประเทศศึกษา เพื่อสนับสนุนให้คนจีนที่สนใจในภาษาต่างประเทศได้เรียนรู้ภาษาไทย และมีความรู้ความ เข้าใจในภาษาไทยมากขึ้น สามารถติดต่อสื่อสารทำธุรกิจกับคนไทยในอนาคต อีกทั้งยังเป็นการเผยแพร่ภาษาไทยและวัฒนธรรมไทยในหมู่ชาวต่างประเทศอีกทางหนึ่งด้วย ความร่วมมือในการนำภาษาไทย ออกสู่นานาชาติครั้งนี้ สืบเนื่องจากนายธนากร ในฐานะนักธุรกิจไทย ที่คร่ำหวอดอยู่ในจีน และเป็นศิษย์เก่าดีเด่นของคณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยเซี่ยงไฮ้ฯ ได้รับเชิญ ให้ไปบรรยายพิเศษแก่นักศึกษา ที่มหาวิทยาลัยเซี่ยงไฮ้ฯเป็นครั้งคราว ได้เห็นความสนใจ ในการใช้ภาษาไทยของคนจีน นายธนากรจึงได้เสนอแนวความคิดจัดตั้ง ภาควิชาภาษาและวรรณคดีไทยขึ้น เมื่อปี 2545 โดยประสานความร่วมมือกับ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ในการส่งอาจารย์คนไทยไปสอนที่มหาวิทยาลัยเซี่ยงไฮ้ฯ และยังได้จัดให้มีโครงการแลกเปลี่ยนนักศึกษาระหว่างสองสถาบันอีกด้วย ซึ่งแต่ละปีทางภาควิชาภาษาและวรรณคดีไทย ม.เซี่ยงไฮ้ฯ สามารถรับนักศึกษาได้ปีละ 20 คน และเพื่อเป็นกำลังใจแก่อาจารย์และนักศึกษาที่เข้าร่วมโครงการนี้ ทาง ซี.พี. จึงจัดพิธีมอบรางวัล "เจียไต๋เอ็กชอ" การเรียนการสอนภาควิชาภาษาและวรรณคดีไทยดีเด่น ครั้งที่ 1 แก่อาจารย์และนักศึกษาของมหาวิทยาลัยเซี่ยงไฮ้ฯ จำนวน 17 คน ที่ได้รับการคัดเลือกแล้วว่าเป็นผู้ทุ่มเทและมีความตั้งใจสูง ในการส่งเสริมการเรียนการสอนวิชาภาษาไทย รวมถึงวัฒนธรรมไทยและความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจระหว่างไทยกับจีนอย่างเด่นชัด และหนึ่งในอาจารย์ที่ได้รับรางวัลในโอกาสนี้คืออ.นวลทิพย์ เพิ่มเกสร จากประเทศไทย. (ไทยรัฐ พฤหัสบดีที่ 15 เม.ย. 47)
เสนอตั้งองค์กรอิสระคุมการจัดเอนทรานซ์
ศ.ดร.อุทุมพร จามรมาน ประธานคณะทำงานประเมินผลการศึกษาและระบบกลางการคัดเลือกนิสิตนักศึกษาหรือแอดมิสชั่น เปิดเผยว่า ตามที่สังคมยังคลางแคลงใจกับปัญหาเอนทรานซ์ ตนจึงได้เสนอที่ประชุมอธิการบดีแห่งประเทศไทย (ทปอ.) ให้มีการจัดตั้งศูนย์ประสานงานแอดมิสชั่น (Center Admissions Office) หรือ CAO ขึ้นมา โดยให้เป็นหน่วยงานเล็ก ๆ มีอิสระ ใช้คนประมาณ 10-15 คน และให้ตั้งอยู่แยกออกจากตึกสำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา (สกอ.) โดยอาจอยู่ที่มหาวิทยาลัยแห่งใดก็ได้ หรืออาจจะเช่าอาคารเอกชน จากนั้นตั้งอธิการบดีเป็นประธานดำเนินการเกี่ยวกับเอนทรานซ์ในแต่ละปี ทั้งนี้การจัดตั้งจะเสียค่าใช้จ่ายไม่มากนัก โดยอาจจะนำเงินมาจากค่าสมัครสอบที่พบว่าแต่ละ ปีจะมีเงินเหลือประมาณ 1-3 ล้านบาท ผศ.สุขุม เฉลยทรัพย์ อธิการบดีสถาบันราชภัฏ (รภ.) สวนดุสิต กล่าวว่า สถานที่ไม่ใช่สิ่งสำคัญที่จะทำให้ข้อสอบรั่วหรือไม่ น่าจะเป็นการแก้ปัญหาไม่ตรงจุด เพราะถึงแม้จะย้ายสถาบันทดสอบทางการศึกษาแห่งชาติไปอยู่ที่อื่น แต่ สายการบังคับบัญชาก็ยังมีอยู่ดี และถ้ามีคำสั่งก็ต้องทำตาม ดังนั้นปัญหานี้เป็นเรื่องตัวบุคคลมากกว่า ตนจึงเห็นว่าเราควรมากำหนดบทบาทหน้าที่ว่าควรมีแค่ไหน เพราะที่เป็นปัญหาอยู่ก็เนื่องจากไม่มีกรอบแนวปฏิบัติ และใครก็มักเอาจุดนี้ไปอ้างอิงได้บ่อยจนทำให้เกิดความระแวงกันไปทั่ว ดังนั้นในการสอบวัดความรู้ฯปีหน้าตนเห็นว่าเราต้องมากำหนดกันว่า กรรมการคนไหนมีบทบาทอะไร ใครบ้างที่ดูข้อสอบได้ และดูได้แค่ไหน รวมทั้งต้องระบุให้ชัดด้วยว่าถ้าทำนอกเหนือจากนี้ถือ ว่าเป็นความผิด (เดลินิวส์ ศุกร์ที่ 16 เมษายน 2547 )
วิทยาลัยนานาชาติ
วิทยาลัยประชาคม นานาชาติ ตั้งขึ้นมาในลักษณะนำร่องคล้ายวิทยาลัย หรือมหาวิทยาลัยประชาคมหลายระบบในอเมริกา รัฐบาลสหรัฐได้ให้ทุนเพื่อตั้งวิทยาลัยดังกล่าวในไทยภาคละแห่ง ต่อไปก็จะมี 4 แห่ง โดยแห่งแรกสำเร็จเรียบร้อยแล้ว มีชื่อว่าวิทยาลัยประชาคมนานาชาติ หนองคาย-อุดรธานี อยู่ใจ กลางเมืองหนองคาย เป้าหมายต้องการรับนักเรียนในภูมิภาคเป็นหลัก และยังรับนักเรียนจากชาติเพื่อนบ้านทั้งจีน ลาว เขมร ญวน พม่า ไทย โดยจะได้จัดตั้งเป็น สถาบันแม่โขงศึกษา วิทยาลัยประชาคมนานาชาติ ของไทยเราได้มีการร่วมมือกับระบบวิทยาลัยประชาคมแห่งรัฐแคลิฟอร์เนีย 107 แห่ง และในนิว ยอร์กอีก 70 แห่ง สำหรับการเปิดสอนรุ่นปกติรุ่นแรกปีการศึกษา 2541 เป็นนักศึกษาจากอุดรฯและหนองคายราว 400 คน สอนโดยคณาจารย์จากต่างประเทศ และรับนักศึกษาต่างภูมิลำเนาจังหวัดอื่น ๆ รอบอีสาน หรือภาคอื่นอีก 200 คน รวมทั้งนักศึกษาจากสหรัฐ ยุโรป เอเชีย อเมริกาใต้ รวมอีก 150 คน สอนโดยคณาจารย์ จากเอเชีย และไทย จัดฝึกอบรมและพัฒนาบุคลากรราว 1,000 คน โดยมีคณาจารย์จากสหรัฐราว 30 คน จากต่างประเทศ 60 คน ผู้บริหารกับสตาฟฟ์ 25 คน นับเป็นการจัดตั้งวิทยาลัย ที่ให้ประโยชน์อเนกประสงค์ เตรียมเด็กให้มีความพร้อม เรียนรู้ระบบนานาชาติ ค่าเล่าเรียนไม่แพง คณะบุคคลที่ริเริ่มก่อตั้ง ก็มีท่าน ศ.เสม พริ้งพวงแก้ว นายจิรายุ อิศรางกูร ณ อยุธยา นายจรูญ มิลินทร์ นายประเวศ วะสี และ ร.อ.ปราศรัย ทรงสุรเวทย์ ส่วนคณะผู้บริหารก็มีดร.ปราโมทย์ นาครทรรพ ดร. นิพนธ์ ศศิธร ดร.วิจิตร จันทรากุล โครงการที่น่าสนใจต่อไปก็คือ หมู่บ้านนานาชาติ และสถาบัน แม่โขงศึกษา เป็นสถาบันอิสระจะศึกษาวิจัยทั้งด้าน ภาษา วัฒนธรรมของ 6 ชาติที่ติดกับแม่น้ำโขง ท่านที่สนใจรายละเอียด สอบถามได้ที่โทร. 0-42460-513 Fax 0-42460-515 (เดลินิวส์ ศุกร์ที่ 16 เมษายน 2547 )
ข่าววิทยาศาสตร์/เทคโนโลยี
ดันศูนย์เป็นเลิศเฉพาะด้านเพิ่มขีดแข่งขัน
ศ.ดร.นักสิทธิ์ คูวัฒนาชัย ผู้อำนวยการโครงการปริญญาเอกกาญจนาภิเษก เปิดเผยว่า ประเทศไทยควรจัดตั้งศูนย์ความเป็นเลิศด้านอุตสาหกรรม โดยพิจารณาเลือกเฉพาะสาขาที่ไทยมีความสามารถแข่งขันในเวทีทั่วโลก ได้แก่ ด้านอาหาร กุ้ง ปลาสวยงาม การแพทย์และสาธารณสุข ชิ้นส่วนยานยนต์ อัญมณีและเครื่องประดับ มุ่งการวิจัยเชิงลึกเพื่อพัฒนาอุตสาหกรรม ด้วยความรู้ด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีระดับสูง สำหรับโครงการบัณฑิตศึกษาทั้ง 7 สาขา ประกอบด้วย เคมี วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและการบริหารจัดการสิ่งแวดล้อม การจัดการสิ่งแวดล้อมและของเสียอันตราย ปิโตรเลียมและเทคโนโลยีปิโตรเคมี พลังงานและเทคโนโลยีสิ่งแวดล้อม เทคโนโลยีชีวภาพเกษตรและเทคโนโลยีหลังการเก็บเกี่ยวที่จัดตั้งขึ้นเมื่อปี 2543 สามารถสร้างบุคลากรระดับสูงรวมแล้วกว่า 2,500 คนและมีผลงานวิจัยที่ได้รับการยอมรับทั้งระดับในและต่าวประเทศรวมกันกว่า 1,000 ชิ้น ด้านนายเขมทัต สุคนธสิงห์ ประธานกลุ่มบริษัทสิขร กล่าวว่า ศูนย์ความเป็นเลิศเฉพาะทางจำเป็นต้องสร้างขึ้นเพื่อพัฒนาประเทศและประโยชน์ของภาคเอกชน ดังนั้นหากเอกชนมีความพร้อมและเสียสละที่จะสนับสนุนร่วมด้านเงินทุน คาดว่าภาครัฐจะสนองความต้องการอย่างแน่นอน โดยเฉพาะศูนย์ความเป็นเลิศด้านยานยนต์ ซึ่งในภูมิภาคเอเชียมีไทยกับจีนที่เตรียมตั้งศูนย์นี้ (กรุงเทพธุรกิจ จันทร์ที่ 29 มีนาคม 2547 หน้า 9)
ดาวเคราะห์น้อยเฉียดโลกใกล้ที่สุด ห่างแค่สี่หมื่นก.ม.-รู้ล่วงหน้า 1 วัน
รายงานข่าวจากโฮมเพจของสมาคมดาราศาสตร์ไทย(thaiastro.nectec.or.th) รายงานว่า เมื่อวันที่ 19 มีนาคมที่ผ่านมา โครงการวิจัยดาวเคราะห์น้อยใกล้โลก หรือลีเนียร์ LINEAR-Lincorn Near-Earth Asteroid Research) ของเอ็มไอที ประเทศสหรัฐอเมริกา ค้นพบว่ามีดาวเคราะห์น้อยดวงหนึ่งโคจรใกล้โลกไปอย่างฉิวเฉียดมาก คิดเป็นระยะใกล้ที่สุดเท่าที่เคยบันทึกมา ดาวเคราะห์น้อยดวงนี้มีชื่อว่า 2004 FH หลังจากการพบครั้งแรกแล้ว กล้องโทรทรรศน์จากสาธารณรัฐเช็ก เยอรมนี และสโลเวเนีย ได้ร่วมติดตามวัตถุดวงนี้เพื่อหาตำแหน่งและเส้นทางโคจรที่แน่นอน จนทราบว่าดาวเคราะห์น้อย 2004 FH มีเส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 30 เมตร และจะเฉียดเข้าใกล้โลกที่ระยะห่างใกล้สุด 42,500 กิโลเมตรจากพื้นโลก หรือประมาณหนึ่งในเก้าของระยะห่างของดวงจันทร์ หรือสูงกว่าระดับที่ดาวเทียมสื่อสารโคจรออกไปไม่กี่พันกิโลเมตร ซึ่งศูนย์ดาวเคราะห์น้อยในเคมบริดจ์ได้แจ้งข่าวไปยังสมาชิกก่อนการเฉียดโลกหนึ่งวันเท่านั้น (มติชนรายวัน พุธที่ 31 มีนาคม 2547 หน้า 10 )
โชว์เทคโนโลยีผลงานเด็ก ป.ตรี
นายทวีศักดิ์ พูนธเนศ ผู้จัดการอาวุโสฝ่ายการตลาด ศูนย์คอมพิวเตอร์ ไอทีมอลล์ เปิดเผยว่า ไอทีมอลล์ ร่วมกับ สำนักงานกองทุนสนับสนุนการวิจัย (ฝ่ายอุตสาหกรรม) หรือ สกว. จัดงาน "โครงงานอุตสาหกรรมสำหรับนักศึกษาปริญญาตรี" เพื่อแสดงสิ่งประดิษฐ์ และผลงานวิจัยเทคโนโลยี อาทิ หุ่นยนต์สำรวจภายในท่อ หุ่นยนต์ตรวจสอบถังบรรจุน้ำมัน เกมออนไลน์บนโทรศัพท์มือถือ โครงการพัฒนาอุตสาหกรรมเสื้อผ้าด้วยระบบ อี-คอมเมิร์ซ และระบบบริการแผนที่บนโทรศัพท์มือถือและพีดีเอ รวมทั้งเป็นเวทีกลางระหว่างนักศึกษาสาขาวิศวกรรมศาสตร์ สาขาวิทยาศาสตร์ และผู้ประกอบการอุตสาหกรรม ได้พบปะแลกเปลี่ยนความคิดเห็น ทั้งนี้ ภายในงานยังมีการประกวดสิ่งประดิษฐ์ "โครงการดีเด่น" การสัมมนา ในหัวข้อ "พลังงานแสงอาทิตย์-พลังงานทางรอดประเทศไทย" และ "ไอที กับ แอนิเมชั่น" สนใจสามารถเข้าชมงานได้ตั้งแต่วันที่ 30 เม.ย.-2 พ.ค.นี้ เวลา 10.00-20.00 น. ชั้น 3 ไอทีมอลล์ ฟอร์จูนทาวน์ รัชดา. (เดลินิวส์ อังคารที่ 13 เมษายน 2547)
ท่องเน็ตบนความสูง 30,000 ฟิต
โบอิ้ง ดัด แปลงเครื่องบินโบอิ้ง 737-400 เพื่อทดสอบการใช้ฮาร์ดแวร์ซอฟต์แวร์บนเครื่องบิน ติดตั้งสายอากาศแบบพิเศษ และ ได้พาสื่อมวลชนและผู้บริหารสายการบินต่าง ๆ ทั่วโลก ตระเวนทดสอบ ไปพร้อม ๆ กับแนะนำบริการ บริการคอนเน็กซ์ชั่น บายโบอิ้ง เทอร์เรนซ์ สก็อต ผู้อำนวยการฝ่ายประชาสัมพันธ์โบอิ้ง กล่าวว่า จากการสำรวจของหลายองค์กรพบว่า นักธุรกิจและนักท่องเที่ยวที่โดยสารเครื่องบินร้อยละ 75 นิยมใช้เครื่องคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊กและพีดีเอบนเครื่องบิน เพื่อเข้าสู่เครือข่ายอินเทอร์เน็ต คอนเน็กซ์ชั่น บายโบอิ้ง เป็นบริการข้อมูลไร้สายบนเครื่องบินแบบเรียลไทม์ ผู้โดยสารสามารถเข้าถึงโลกอินเทอร์เน็ตผ่านเครือข่ายความเร็วสูงทั้งอินเทอร์เน็ตและอินทราเน็ต ใช้ได้ทั้งอีเมล ดาวน์โหลดไฟล์ ใช้บริการมัลติมีเดีย เหมือนกำลังนั่งอยู่ที่บ้านหรือที่ทำงาน ค่าบริการท่องอินเทอร์เน็ตบนเครื่องบินประมาณ 15-30 ดอลลาร์ มีให้เลือกใช้ทั้งอัตราแบบคงที่และแบบมิเตอร์ ส่วนความเร็วนั้นไม่ต้องห่วง บนระดับความสูงไม่ต่ำกว่า 30,000 ฟิต เชื่อมต่อเข้ากับดาวเทียมแล้วกลับลงมายังสถานีฐานภาคพื้นดิน ผ่านขั้นตอนต่าง ๆ ผู้โดยสารก็สามารถใช้บริการอินเทอร์เน็ตในระดับความเร็วบรอดแบนด์ สายการบินลุฟท์ฮันซ่า จะเปิดให้บริการคอนเน็กซ์ชั่น บายโบอิ้ง เป็นรายแรก (เดลินิวส์ อังคารที่ 13 เมษายน 2547)
เตือนภัยไซเบอร์เซ็กซ์ : มันมากับมือถือ
ดร.อมรวิชช์ นาคทรรพ ผู้จัดการเครือข่ายวิจัยด้านเด็กและการศึกษา สำนักงานกองทุนสนับสนุนการวิจัย (สกว.) กล่าวว่า ขณะนี้สื่อลามกกำลังคุกคามเยาวชนมาก โดยที่พ่อแม่ ผู้ปกครองบางท่านไม่ทราบเลยว่า สื่อลามกแทรกเข้ามาในรูปแบบใดบ้าง ซึ่งสื่อลามกที่เด็กและเยาวชนไทยนิยมเสพกันมากในขณะนี้ คือ 1. "กามการ์ตูน 2. "ไซเบอร์เซ็กซ์ เด็กยุค kajeaw.com" 3. "มันมากับมือถือ" ดร.อมรวิชช์ แนะนำว่า อยากให้พ่อแม่รับรู้และเข้าใจสถานการณ์เกี่ยวกับสื่อลามกที่ลูกหลานเผชิญอยู่รอบตัว และในขณะที่รัฐบาลกำลังหามาตรการทางกฎหมายที่จะเล่นงานผู้ผลิตผู้จำหน่ายสื่อลามกให้เฉียบขาดขึ้น พ่อแม่ก็ต้องเป็นเสาหลักของการแก้ปัญหาด้วย อย่ามองว่าสื่อลามกเป็นเรื่องธรรมดาหรือเป็นแค่ความซุกซนอยากรู้ของเด็ก เพราะจากงานวิจัยในต่างประเทศพบว่า การเสพสื่อลามกตั้งแต่เด็ก ๆ ซึ่งส่วนใหญ่มักมีเนื้อหาวิตถารหรือรุนแรงเป็นการสะสมทัศนคติที่ผิด ๆ ให้แก่เด็กได้ เช่น การดูถูกผู้หญิงโดยไม่รู้ตัว การชาชินกับความรุนแรงทางเพศ ไปจนถึงการแสดงความก้าวร้าวกับเพศตรงข้าม ในสหรัฐอเมริกายังพบอีกว่าร้อยละ 40 ของอาชญากรรมทางเพศมีต้นเหตุเกี่ยวโยงจากการเสพสื่อลามก และจากการศึกษาประวัติอาชญากรทางเพศมักพบว่ามีการเสพสื่อลามกมาตั้งแต่วัยเด็ก (เดลินิวส์ พุธที่ 14 เมษายน 2547 หน้า 12)
คลื่นวิทยาการ : เลือกตั้งออนไลน์
บริษัทเอกชนแห่งหนึ่ง ในประเทศสหรัฐ อเมริกาที่มีชื่อว่า Bellevue นำเสนอซอฟต์แวร์ที่ใช้กับเครื่องลงคะแนนเลือกตั้งด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์ โดยที่เทคโนโลยีดังกล่าวมีชื่อเรียกว่า "VoteHere" เทคโนโลยีดังกล่าวจะช่วยให้การนับคะแนนการเลือกตั้งเป็นไปด้วยความถูกต้องโปร่งใสและรับประกันว่าจะไม่มีคะแนนใดคะแนนหนึ่งตกหล่นทั้งนี้รวมไปถึงพวกบัตรเสียทั้งหลายด้วย เนื่องจากว่าหลังจากที่ผู้ลงคะแนนเลือกลงคะแนนให้กับผู้สมัครคนใดคนหนึ่ง ผู้ลงคะแนนก็จะได้รับกระดาษมาใบหนึ่งซึ่งเป็นเสมือนใบเสร็จเอาไว้ตรวจสอบความถูกต้อง กระดาษดังกล่าวจะมีโค้ดที่ถูกเข้ารหัสไว้ซึ่งจะไม่มีรายละเอียดของผู้ลงคะแนนอยู่ในนั้น แต่ผู้ลงคะแนนสามารถนำโค้ดดังกล่าวไปตรวจสอบกับผลการนับคะแนนผ่านทางเว็บไซต์ที่ส่วนการเลือกตั้งท้องถิ่นจัดทำขึ้นมา โดยที่ผู้ลงคะแนนก็จะสามารถรู้ได้ว่าคะแนนที่ตนเองให้กับผู้สมัครรายใดรายหนึ่งตรงกับที่เราได้เลือกไว้จริงๆหรือไม่และไม่ตกหล่นไปไหน ด้วยวิธีนี้จะทำให้ผลการเลือกตั้งที่ออกมามีความโปร่งใสมากขึ้น เพราะผลคะแนนจะมีการตรวจสอบกันจากหลายฝ่ายด้วยกันทั้งผู้ลงคะแนนเองรวมไปถึงเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องโดยตรง ไม่นับถึงผลการลงคะแนนที่สามารถประมวลผลได้รวดเร็วและสามารถประกาศผลการเลือกตั้งได้ภายในระยะเวลาไม่นานหลังการลงคะแนนเสร็จสิ้นลง (เดลินิวส์ พุธที่ 14 เมษายน 2547 หน้า 12)
มือถือไล่ยุง
"โม่" ฐิตินันต์ กมลศักดิ์กำจร Solu-tion Specialist ของแผนกธุรกิจบริการไร้สาย บ.แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส (เอไอเอส) หัวหน้าทีมวิจัยหาโปรแกรมไล่ยุงมาใส่โทรศัพท์มือถือ ซึ่ง เป็นส่วนหนึ่งในทีม "ฟิวเจอร์แล็บ" หรือหน่วยปฏิบัติการคิดค้นเพื่ออนาคต จะออกเผยแพร่ให้ดาวน์โหลดกันในเร็ววันนี้ โดยใช้โปรแกรม ประยุกต์เขียนขึ้นด้วยจาวา ตอนแรกยังมีเสียงดังอยู่บ้างแต่ก็หาทางแก้ไขให้เสียงเบาจนแทบไม่ได้ยิน จนต้องทำไอคอนหรือสัญลักษณ์รูปบอกให้รู้ว่ามือถือ ก.ย. กำลังทำหน้าที่ไล่ยุง วิธีใช้ก็ง่าย ๆ แค่ดาวน์โหลดมาไว้ในเครื่องแล้วก็เปิดสวิตช์ให้มันทำงานซึ่งไม่มีค่าใช้จ่ายอื่นใดอีก นอกจากระวังแบตฯ หมด แต่ตัวซอฟต์แวร์ก็ออกแบบให้มันกินไฟน้อย งานเขียนโปรแกรมผ่านไปด้วยดี สิ่งที่เป็นปัญหาอยู่ที่การทดสอบ ในเบื้องต้นพบว่าได้ผล โดยรัศมีของคลื่นเสียงจะรบกวนยุงไม่ให้เข้ามาใกล้ในรัศมี 1-2 เมตร หัวหน้าทีมวิจัยมือถือไล่ยุงบอกว่ามีแผนจะให้ดาวน์โหลดไปใช้ได้ในช่วงไตรมาสที่ 2 นี้ โดยจะทำให้เครื่องตั้งแต่รุ่นเก่าไปจนไฮเอนด์ ใช้ได้เท่าเทียมกัน (เดลินิวส์ พฤหัสบดีที่ 15 เม.ย. 47 หน้า 16)
พิสูจน์ทฤษฎีไอน์สไตล์
องค์การนาซาแห่งสหรัฐอเมริกาจะส่งดาวเทียมขึ้นสู่ท้องฟ้าในวันที่ 17 เมษายน นี้ เพื่อพิสูจน์ทฤษฎีสัมพันธ ภาพของ ดร.ไอน์สไตน์ ดาวเทียมนี้จะโคจรอยู่เหนือโลกประมาณ 640 กิโลเมตร หรือ 400 ไมล์ โดยที่ในดาวเทียมนี้จะมีลูกบอลขนาดปิงปอง 4 ลูก ซึ่งทำจากควอทซ์ (Quartz) ผลึกแก้วแล้วบรรจุอยู่ในถังสุญญากาศเพื่อนำขึ้นไปทำการทดลอง ลูกบอลควอทซ์ นี้จะเก็บรักษาความเย็นศูนย์องศาสมบูรณ์ หรือที่ติดลบเป็นร้อยองศาเซลเซียส และบรรจุอยู่ในถังสุญ ญากาศขนาดใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยทำมาเพื่อส่งไปยังอวกาศ และในถังสุญญากาศนั้น จะไม่มีสิ่งใดสามารถไปรบกวนลูกบอลควอทซ์ได้เลย การส่งไปครั้งนี้เพื่อเป็นการพิสูจน์ทฤษฎีสัมพันธภาพของไอน์สไตน์ที่ว่าการกำเนิดของโลกนั้น มาจากความโค้งงอซึ่งเป็นความสัมพันธภาพระหว่างระยะทางและเวลาและการหมุนรอบตัวเองและการลากถูไปของโลกที่บิดไปนั้นทำให้เกิดระยะทางและเวลาขึ้นรอบโลก ถ้าหากทฤษฎีของไอน์สไตน์เป็นจริงก็หมายความว่า ลูกบอลควอทซ์ 4 ลูกที่ส่งขึ้นไปอยู่รอบโลกนั้น ถ้าหากปั่นรอบตัวเองแล้วจะมีทิศทางการบิดตัวเองอย่างแน่นอน ปีหน้าก็จะเป็นปีที่ 100 ที่อัลเบิร์ต ไอน์สไตน์ได้เสนอทฤษฎีสัมพันธภาพขึ้นแต่ผลการพิสูจน์ทฤษฎีเพิ่งได้รับการสนับสนุนให้ทำเมื่อเร็ว ๆ นี้เอง ถ้าหากข้อพิสูจน์ของไอน์สไตน์ในระดับเบื้องต้นได้สำเร็จ ก็จะได้มีความมั่นใจในทฤษฎีการ กำเนิดโลกและจักรวาลทั้งมวล บางทีคนอเมริกา เรียกทฤษฎีนี้ว่าทฤษฎีของพระเจ้า (เดลินิวส์ พฤหัสบดีที่ 15 เม.ย. 47 หน้า 16)
หุ่นยนต์ตายแทนทหารในอิรัก หน้าที่ตรวจค้นหาทำลายระเบิด
บริษัทไอโรบอตกล่าวว่า ได้รับแจ้งจากกระทรวงกลาโหมว่า หุ่นยนต์ทหารชนิดหนึ่งที่เรียกว่า "แพ็กบอต" จำนวนหนึ่งหน่วย โดนถูก "ทำลายระหว่างปฏิบัติการ" ในอิรักเป็นครั้งแรก การที่พวกมันโดนถูกทำลายลง แสดงว่าเท่ากับมันช่วยสงวนชีวิตทหารสหรัฐฯเอาไว้ "นับเป็นโอกาสดี ที่หุ่นยนต์โดนถูกระเบิดทำลายลง แทนทหาร" ผู้บริหารของบริษัทนายคลิน แอนเกิล กล่าวเปิดเผยว่า มีหุ่นยนต์ แพ็กบอตปฏิบัติการในสมรภูมิทั้งที่อิรักและอัฟกานิสถานอยู่เป็นจำนวนมาก ระหว่าง 50-100 ตัว ทำหน้าที่ในการตรวจตรา ค้นหา และทำลายวัตถุระเบิด และโดยที่ทหารผู้ควบคุมสามารถอยู่ห่างนอกระยะรัศมีอันตรายได้ หุ่นยนต์ "แพ็กบอต" มีน้ำหนัก 19 กก. ราคาสร้างตัวละประมาณ 200,000 บาท สามารถเคลื่อนที่ในภูมิประเทศอันทุรกันดาร เข้าไปสำรวจตามถ้ำ ไต่หน้าผา และลุยน้ำตามลำธารได้ เมื่อประกอบเข้ากับแขนกล มันจะสามารถปลดชนวนระเบิดของกับระเบิด ที่พวกผู้ก่อการร้ายในอิรักชอบใช้วางตามที่ต่างๆได้ (ไทยรัฐ พฤหัสบดีที่ 15 เม.ย. 47)
ข่าววิจัย/พัฒนา
พบ ยีน ล้มวิวัฒนาการมนุษย์ กรามลดลงแต่สมองใหญ่ขึ้น
ทีมศัลยกรรมพลาสติกและนักชีววิทยา มหาวิทยาลัยเพนซิลวาเนียและโรงพยาบาลเด็กแห่งฟิลาเดเฟีย สหรัฐ เผยว่า โดยพื้นฐานแล้วขากรรไกรที่เล็กลงทำให้โครงสร้างกระโหลกเปลี่ยนและยืนยันว่าการหายไปของกล้ามเนื้อซึ่งทำหน้าที่ยึดขากรรไกรขนาดใหญ่กับศีรษะเข้าด้วยกัน ทำให้หัวกะโหลกขยายใหญ่เกิดการพัฒนาสมองมากขึ้น ส่งผลให้มนุษย์รู้จักสร้างเครื่องมือแปลภาษาขึ้นมาใช้งาน ในการทดลองของคณะทำงานเริ่มด้วยการแยกยีนที่ผลิตโปรตีน myosin ออกจากดีเอ็นเอขยะ (junk DNA) หรือดีเอ็นเอที่ยังไม่ทราบหน้าที่ที่แน่ชัดภายในโครโมโซม 7 โดยโปรตีนดังกล่าวสามารถทำให้กล้ามเนื้อหดตัวได้ ในเบื้องต้นนักวิทยาศาสตร์กลุ่มนี้ให้ความสนใจไปที่โรคกล้ามเนื้ออ่อนแรงแต่หลังจากแยกยีนออกมาลำพังและใช้เวลา 8 เดือนในการถอดรหัสตีความด้านวิวัฒนาการของมัน ก็ต้องเปลี่ยนใจเนื่องจากพบว่าชนิดของโปรตีน myosin ที่ถูกผลิตในส่วนกัดและเคี้ยวจะมียีน MYH16 ปรากฏอยู่โดยในสัตว์ไพรเมท อย่างลิงกังจะมีกล้ามเนื้อขากรรไกรที่มีประสิทธิภาพมากกว่ามนุษย์ 10 เท่า เนื่องจากมีระดับMYH16 อยู่สูงมาก ขณะที่กล้ามเนื้อที่ติดกับแนวกระดูกของกะโหลกก็หนาอย่างมากด้วย นอกจากนี้ทีมงานยังพบว่าการเปลี่ยนแปลงของยีนในมนุษย์ ทำให้เกิดภาวะป้องกันการสะสม MYH16 ส่งผลให้กล้ามเนื้อขากรรไกรเล็กลง นักวิจัยเชื่อว่าการเปลี่ยนแปลงทางยีนยังคงเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องในระดับคงที่และเมื่อนำไปเปรียบเทียบกับข้อมูลของฟอสซิลที่ระบุชัดว่าขากรรไกรของมนุษย์เริ่มเล็กลงและเพรียวมากขึ้นเมื่อใดก็ยิ่งสนับสนุนความเชื่อของพวกเขามากขึ้นเท่านั้น (กรุงเทพธุรกิจ จันทร์ที่ 29 มีนาคม 2547 หน้า 9)
พบสารก่อมะเร็งในอาหารหลายชนิด
นักวิทยาศาสตร์ขององค์การอาหารและยา สหรัฐ ทดสอบอาหาร 750 ชนิดและตรวจพบสารอะคริลาไมด์ ซึ่งเป็นสารก่อมะเร็งในอาหารหลายชนิด และพบสารแฝงตัวอยู่สุงมากในอาหารว่าง เช่น เฟรนชฟรายส์ ขนมอบกรอบ และคุ้กกี้ แต่ที่น่าตกใจที่สุด คือพบสารก่อมะเร็งในอาหารประเภทพืชผัก เช่น มะกอกดำ น้ำลูกพลัม ขนมปังกรอบที่ใช้ขัดฟันเด็กทารก และมันฝรั่งหวานบรรจุกระป๋อง เป็นต้น ซึ่งสารก่อมะเร็งอะคริลาไมด์นี้เป็นสารที่เกิดขึ้นเองโดยธรรมชาติ เนื่องจากการนำอาหารที่มีส่วนประกอบของคาร์โบไฮเดรตสูงไปทอด อบ ปิ้ง ย่าง หรือเผาในอุณหภูมิสูง นักวิทยาศาสตร์ทดลองนำอาหารที่มีโมเลกุลของสารอะคริลาไมด์สูงไปป้อนหนูทดลอง ปรากฏว่าหนูทดลองเป็นหมันและเป็นมะเร็งในเวลาเดียวกัน (กรุงเทพธุรกิจ จันทร์ที่ 29 มีนาคม 2547 หน้า 3)
ผู้ชายเสี่ยงเป็นพาร์กินสันมากกว่าผู้หญิง
คณะนักวิจัยที่คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเวอร์จิเนีย พบว่าผู้ชายมีความเสี่ยงเป็นพาร์กินสันมากกว่าผู้หญิง 1.5 เท่า สันนิษฐานว่าสาเหตุเป็นเพราะผู้ชายได้รับสารพิษและมีการบาดเจ็บที่ศีรษะมากกว่าผู้หญิง ซึ่งจากตัวเลขผู้ป่วยพาร์กินสันในช่วงปี 2532-2542 ในจีน สหรัฐ อิตาลี สเปน โปแลนด์และฟินแลนด์ แล้วแยกดูความแตกต่างระหว่างผู้ชายและผู้หญิง จนสรุปได้ว่าผู้ชายที่เป็นพาร์กินสันมากกว่าผู้หญิงประมาณหนึ่งเท่าครึ่งซึ่งนักวิจัยระบุว่ายังไม่แน่ใจว่าอะไรเป็นปัจจัยที่ทำให้ผู้ชายเสี่ยงเป็นพาร์กินสันมากกว่าผู้หญิงแต่อาจเป็นเพราะรูปแบบการใช้ชีวิตและบทบาทหน้าที่ของผู้ชาย ซึ่งทำให้ผู้ชายเสี่ยงที่จะได้รับบาดเจ็บศีรษะและสารเคมีที่เป็นพิษมากกว่าผู้หญิง อีกอย่างคือฮอร์โมนเอสโตรเจน ซึ่งเป็นฮอร์โมนเพศหญิงอาจช่วยป้องกันไม่ให้สมองของผู้หญิงเกิดความเสียหายด้านระบบประสาท (กรุงเทพธุรกิจ จันทร์ที่ 29 มีนาคม 2547 หน้า 3)
สหฟาร์ม วิจัยเพิ่มมูลค่าวัตถุดิบหนังอกไก่
น.ส.รมณ เบญจฤทธิวงศ์ บัณฑิตคณะอุตสาหกรรมเกษตร มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ เปิดเผยว่าบริษัทสหฟาร์ม จำกัด สนใจทำวิจัยแปรรูปหนังอกไก่ให้เป็นผลิตภัณฑ์อาหารขนมขบเคี้ยวจากหนังไก่เพื่อเพิ่มมูลค่าให้หนังอกไก่ซึ่งเหลือจากกระบวนการผลิตสุดท้ายเป็นจำนวนมาก ผู้ผลิตจึงเล็งเห็นความสำคัญของการวิจัยหนังอกไก่ให้เป็นลู่ทางในการวิจัยค้นคว้าต่อไปโดยอาหารขนมขบเคี้ยวเป็นผลิตภัณฑ์ที่มีความสะดวกในการบริโภคและสามารถบริโภคได้ทุกเวลาซึ่งสอดคล้องกับวิถีการดำรงชีวิตของประชากรซึ่งขนมขบเคี้ยวที่ได้จากเนื้อสัตว์ได้แก่ แคบหมู เอ็นปรุงรส หนังไก่ทอด โดยเมื่อเปรียบเทียบกับแคบหมูหนังไก่นี้จะมีปริมาณไขมันน้อยกว่าแคบหมู และมีลักษณะบางใสมีสภาพที่แห้งและยืดหยุ่นสูงและค่อนข้างย่นทำให้หนังไก่ไม่พองเหมือนหนังหมู หากสามารถทำให้หนังไก่พองเป็นอาหารขนมขบเคี้ยวจากหนังไก่ได้ถือว่าเป็นการคิดค้นผลิตภัณฑ์ใหม่และเพิ่มทางเลือกให้ผู้บริโภคโดยเฉพาะผู้นับถือศาสนาอิสลาม (กรุงเทพธุรกิจ อังคารที่ 30 มีนาคม 2547 หน้า8)
มอ.เล็งผลิตไบโอดีเซลน้ำมันหมู
รศ.กำพล ประทีปชัยกูร คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์และนักวิจัยบัณฑิตวิทยาลัยร่วมด้านพลังงานและสิ่งแวดล้อม (JGSEE) เปิดเผยว่าการผลิตไบโอดีเซลของที่ใช้อยู่ทั่วไปของเอกชนไทยเป็นแบบกะซึ่งมีปัญหาสิ้นเปลืองพลังงานและความบริสุทธิ์ของเมทิลเอสเตอร์หรือที่เรียกว่า ไบโอดีเซล ไม่มีความสม่ำเสมอ จึงพัฒนาคิดค้นเครื่องต้นแบบที่สามารถแก้จุดอ่อนของรูปแบบผลิตเดิม (กรุงเทพธุรกิจ อังคารที่ 30 มีนาคม 2547 หน้า 8)
มช.พัฒนาแผ่นฟิล์มชีวภาพรักษาร้อนใน
ดร.ภูริวัฒน์ ลี้สวัสดิ์ ภาควิชาวิทยาศาสตร์เภสัชกรรม คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ เปิดเผยความสำเร็จในการพัมนาเภสัชภัณฑ์สมุนไพรรูปแบบใหม่เพื่อรักษาแผลร้อนในว่าเป็นฟิล์มที่ผลิตจากไคโตซาน ซึ่งเป็นโพลิเมอร์ชีวภาพที่ได้จากเปลือกของสัตว์ เช่น กุ้ง ปู แทนโพลิเมอร์สังเคราะห์ราคาแพงที่ต้องสั่งนำเข้าจากต่างประเทศ โดยในการวิจัยหาส่วนผสมที่จะนำมาผลิตแผ่นฟิล์ม ได้พิจารณาถึงชนิดของไคโตซาน ชนิดของกรดที่ใช้เตรียมสารละลาย โดยฟิล์มไคโตซานจะต้องมีความสม่ำเสมอของเนื้อฟิล์ม คุณสมบัติการดูดและพองตัว การยึดติดของฟิล์มกับบาดแผล รวมถึงการพิจารณาเลือกสมุนไพรที่มีคุณสมบัติรักษาแผลร้อนในและสามารถใช้งานได้ดีกับฟิล์มไคโตซาน ซึ่งจากผลการทดลองพบว่า สูตรที่เหมาะที่สุดในการเตรียมฟิล์มเปล่า ได้แก่ 1.5% ไคโตซานจากกุ้ง 0.5 %ไคโตซานจากปลาหมึกละลายใน 1%กรดอะซิติก 70 มิลลิลิตร และ1% กรดแลคติก 30 มิลลิลิตร และเลือกใช้สารสกัดจากขมิ้นให้มีความเข้มข้นเท่ากับ 1.5 % ซึ่งไม่ก่อให้เกิดอาการระคายเคืองผิวและสามารถยับยั้งเชื้อโรคได้ (กรุงเทพธุรกิจ พุธที่ 31 มีนาคม 2547 หน้า 8)
รถเข็นพิการติดตั้งจอยสติ๊ก มือเดียวบังคับเหมือนเล่นเกมส์คอมพ์
นายเปี่ยมภูมิ สฤกพฤษ์ เจ้าหน้าที่วิจัยศูนย์บริการและพัฒนาวิศวกรรม คณะวิศวกรรมศาสตร์ สถาบันเทคโนโลยีเจ้าคุณทหารลาดกระบัง เปิดเผยว่าขณะนี้ทีมงานกำลังเร่งพัฒนารถไฟฟ้าฯ รุ่นที่ 4 คาดว่าจะแล้วเสร็จในเดือนเมษายนนี้โดยมีคุณสมบัติพิเศษคือง่ายต่อการใช้งาน สามารถนำไปใช้งานนอกอาคารได้สะดวก เช่น สวนบริเวณนอกบ้าน อีกทั้งออกแบบระบบให้คนพิการสามารถบังคับการเคลื่อนที่หรือทิศทางของรถไฟฟ้าโดยใช้แขนเพียงข้างเดียว โดยรถไฟฟ้าสำหรับผู้พิการเริ่มพัฒนามาแต่ปี 2545 ซึ่งรถรุ่นแรกนั้นใช้ไมโครคอนโทรลเลอร์เป็นตัวควบคุม แต่พอพัฒนามาเป็นรุ่นที่ 2 ก็เปลี่ยนมาเป็นพีแอลซี (Programable Logic Controller) เนื่องจากมีความน่าเชื่อถือในโปรแกรมระบบดีกว่า สำหรับรถไฟฟ้ารุ่นที่กำลังพัฒนาอยู่นั้นจุดเด่นอยู่ที่ ล้อทั้งสองล้ออิสระต่อกัน ทำให้หมุนตัวเองได้รอบ นอกจากนี้ยังมีล้อขนาดเล็กหน้า หลัง ช่วยให้วงการหมุนตัวเพิ่มขึ้น รวมทั้งวงเลี้ยวดีขึ้นด้วย ระบบการทำงานของตัวยังถูกออบแบบให้ง่ายต่อการใช้งานโดยใช้คันบังคับหรือจอยสติ๊กควบคุมการขับเคลื่อนและความเร็ว สาเหตุที่เลือกใช้จอยสติ๊กเพราะจะทำให้ผู้ใช้รู้สึกเหมือนจริงในการบังคับตัวรถ เช่นเดียวกับความรู้สึกในการเล่นเกมส์คอมพิวเตอร์ ที่สำคัญผู้ใช้สามารถควบคุมการทำงานได้เพียงมือเดียว โดยตัวโครงสร้างของรถสร้างขึ้นมาเอง ส่วนอุปกรณ์อื่นๆที่นำมาประกอบร่วมได้แก่ พีแอลซี มอเตอร์ไฟฟ้ากระแสสลับ 1 แรงม้า 2 ตัว อินเวอร์เตอร์สำหรับแปลงไฟจากแบตเตอรี่เพื่อจ่ายกระแสไฟ 240 โวลต์เข้ามอเตอร์ สามารถทำความเร็วสูงสุด 4 กิโลเมตรต่อชั่วโมง โดยระยะทางวิ่งต่อการชาร์จแบตเตอรี่ 1 ครั้ง ราว 12 กิโลเมตร ยังสามารถปรับความเร็ว ได้ 5 ระดับ เพื่อเอื้อประโยชน์ให้สามารถวิ่งในบริเวณคับแคบได้อย่างปลอดภัย ขณะที่ระบบเบรกจะมีปุ่มเบรกในกรณีฉุกเฉินซึ่งจะตัดไฟและระบบการทำงานทั้งหมด แต่หากต้องการหยุดรถปกติก็เพียงแค่โยกจอยสติ๊กมาที่ตำแหน่งหยุดรถ เท่านั้น (กรุงเทพธุรกิจ พุธที่ 31 มีนาคม 2547 หน้า 8)
นาซาพัฒนาจรวดไอพ่นรุ่นใหม่ ทำลายสถิติเร็วเหนือเสียง 7 เท่า
องค์การบริหารการบินและอวกาศแห่งสหรัฐ (นาซา) ได้พัฒนาอากาศยานความเร็วสูงที่สามารถทำความเร็ว 8,000 กิโลเมตรต่อชั่วโมง เร็วกว่าเสียงถึง 7 เท่าหรือมัค 7 ความลับของยานบินอนาคตที่มีรหัสว่าเอ็กซ์ 43 อยู่ที่เครื่องยนต์ไอพ่นที่ไม่เหมือนกับจรวดไอพ่นทั่วไป แต่เป็นอากาศที่ทำความเร็วในการบินด้วยเครื่องยนต์ที่เรียกว่าสแครมเจ็ท ซึ่งจะสูดออกซิเจนจากชั้นบรรยากาศระหว่างทำการบินเข้ามาผสมกับเชื้อเพลิงเผาไหม้ในห้องเครื่องผ่านส่วนที่ทำหน้าที่เหมือนกับจมูกที่หายใจเอาอากาศเข้ามาในปอดและยังสามารถเดินทางจากโลกสู่วงโคจรนอกอวกาศได้ในราคาที่ถูกลงด้วย เครื่องเอ็กซ์ 43 เอตัวนี้มีลำตัวบางเรียว มีปีกกว้าง 5 ฟุต ยาว 12 ฟุตและสูง 2 ฟุต มีน้ำหนักทั้งหมด 2,800 ปอนด์ และส่วนที่พิเศษคือเครื่องยนต์ซึ่งพัฒนาโดยศูนย์วิจัยการบินดรายเดนแห่งนาซาซึ่งเครื่องยนต์นี้มีท่อสำหรับดูดอากาศระหว่างที่บินอยู่ในอากาศติดตั้งอยู่ด้านหน้าและใช้ความเร็วที่พุ่งไปข้างหน้าเหนือเสียงช่วยอัดอากาศให้เข้ามายังเครื่องยนต์โดยตรงจากนั้นฉีดเชื้อเพลิงไฮโดรเจนเข้ามาผสมในอากาศกาซร้อนที่ขยายตัวจากการเผาไหม้ในห้องเครื่องจะเร่งอัตราความเร็วให้ไอพ่นเพื่อขับเคลื่อนไปข้างหน้าอย่างรวดเร็ว นอกจากนี้เอ็กซ์จำเป็นต้องมีจรวดขับดันเพื่อช่วยให้เครื่องทำความเร็วเหนือเสียงก่อนและเมื่อถึงความเร็วระดับนั้นเครื่องบินจะปลดตัวออกและบินด้วยตัวเอง โดยในการทดสอบบินนั้นเอ็กซ์ 43 เอ พร้อมกับจรวดขับดัน พีกาซุส ถูกนำไปติดไว้ใต้ปีกเครื่องบินบี 52 นำขึ้นสู่อากาศที่ระดับความสูง 20,000 ฟุต จากนั้นเอ็กซ์ 43 เอ พร้อมจรวดขับดันถูกปล่อยออกจากเครื่องบินบี 52 และพุ่งไปข้างหน้าด้วยความเร็วสูงระดับ 100,000 ฟุต ต่อมาได้ปลดตัวออกจากจรวดขับดันและบินด้วยเครื่องยนต์ตัวเองโดยควบคุมการบินจากระบบโปรแกรมที่ตั้งไว้ สามารถทำความเร็วได้สูงสุดถึง มัค 7 หรือเร็วกว่าสียง 7 เท่า ก่อนที่จะลดระดับลงและบินสู่มหาสมุทร (กรุงเทพธุรกิจ พุธที่ 31 มีนาคม 2547 หน้า 8)
วิจัยเนื้อเยื่อเทียมนาโน รักษาบาดแผลเปิดกว้าง
ดร.พิชญ์ ศุภผล นักวิจัยวิทยาลัยปิโตรเลียมและปิโตรเคมี จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เปิดเผยว่ากระบวนการปั่นเส้นใยด้วยไฟฟ้าสถิตหรือที่เรียกว่ากระบวนการอิเล็กโตรสปินนิ่ง (Electrospinning Process) วิธีผลิตเส้นใยขนาดนาโนที่กำลังได้รับความสนใจอย่างมาก ด้วยเหตุนี้ ดร.พิชญ์จึงประสานความร่วมมือกับผู้เชี่ยวชาญสาขาต่างๆภายในมหาวิทยาลัยพัฒนาโครงสร้างเนื้อเยื่อเทียมขึ้นมา ภายใต้แนวคิดที่ว่าต้องการให้คนไทยใช้ของดีราคาถูก งานวิจัยเนื้อเยื่อเทียมนี้เป็นความพยายามที่จะช่วยผู้ป่วยที่เกิดแผลหรือเนื้อแหว่งหายไป โดยหากสามารถพัฒนาผิวหนังหรือเนื้อเทียมขึ้นมาปิดทับได้ ทำให้แผลหายเร็วขึ้น จะเห็นได้ว่ากรณีที่เนื้อขาดหายไปจะต้องใช้เวลารักษาหลายเดือนและเกิดแผลเป็นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ซึ่งผิวหนังนั้นประกอบด้วยชั้นหนังกำพร้าหรือหนังชั้นนอกสุดและชั้นหนังแท้ที่อยู่ใต้หนังกำพร้าโดยในส่วนชั้นผิวหนังแท้เราสามารถสร้างเป็นโครงสร้างที่มีลักษณะคล้ายโฟมขึ้นมา โดยอาจใช้วัสดุพวกไคโตซานหรือวัสดุที่ย่อยสลายได้ภายในร่างกายซึ่งโฟมดังกล่าวจะต้องมีลักษณะที่เหมาะกับเนื้อเยื่อทำให้เซลล์สามารถเติบโตได้ พอได้โครงสร้างมาแล้วก็จะต้องมีชั้นเยื่อที่เป็นผืนใยบางๆคล้ายใยกระดาษ นำไปปิดทับตัวโครงสร้างเพื่อให้เซลล์ผิวชั้นนอกเติบโตได้ การสร้างเนื้อเยื่อเทียมจะต้องคำนึงด้วยว่าเซลล์ของเนื้อและเซลล์ของหลอดเลือดต้องเติบโตเองได้ ความหนาของโครงสร้างจึงไม่ควรเกิน 2 มิลลิเมตร เพราะหากหนากว่านั้นหลอดเลือดจะจะไม่สามารถเติบโตได้ถ้าเซลล์หลอดเลือดเติบโตไม่ถึงเนื้อ เนื้อก็จะตายเพราะไม่มีอาหาร ต้องทำควบคู่กันและต้องรู้ว่าจะทำอย่างไรให้เซลล์หลอดเลือดขยายตัวเข้ามาตามโครงสร้างที่สร้างและทำอย่างไรให้เซลล์เนื้อมันเข้ามาเติบโตแล้วปิดหมด (กรุงเทพธุรกิจ พฤหัสบดีที่ 1 เมษายน 2547 หน้า 7)
ประยุกต์ จีไอเอส ทำโปรแกรมฟื้นฟูดิน
ดร.เมธี เอกะสิงห์ นักวิชาการศูนย์วิจัยเพื่อเพิ่มผลผลิตทางการเกษตร มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ เปิดเผยว่าศูนย์วิจัยได้รับมอบหมายจากกรมพัฒนาที่ดินให้พัฒนาโปรแกรมประยุกต์ด้านสารสนเทศภูมิศาสตร์ เพื่อช่วยสนับสนุนการการตัดสินใจวางแผนใช้ประโยชน์ที่ดิน โดยนักวิชาการพัฒนาที่ดิน เกษตรกรและเจ้าของที่ดินอย่างเหมาะสม พร้อมทั้งพัฒนาระบบสามารถใช้และให้บริการข้อมูลในรูปแบบอินเทอร์เนตเนื่องจากที่ผ่านมาผู้ใช้ขาดความรู้ความเข้าใจทั้งฮาร์ดแวร์และซอฟแวร์และขาดทักษะทางด้านภาษาอังกฤษ จึงทำให้การใช้งานข้อมูลจีไอเอส ทำให้การใช้งานไม่เต็มประสิทธิภาพ กรมฯจึงพัฒนาโปรแกรมสำเร็จรูปที่ช่วยลดความยุ่งยากของการใช้งานจีไอเอสและแสดงผลเป็นภาษาไทยเพื่อให้เข้าใจได้ง่ายขึ้น นอกจากนี้ได้บรรจุโปรแกรมให้สามารถเข้าถึงทุกระดับผ่านเครือข่ายอินเทอร์เน็ต (www.Idd.go.th) ทำให้การใช้บริการข้อมูลกว้างขวางขึ้นโดยขยายวงจากนักวิชาการที่ดินไปถึงระดับท้องถิ่น สำหรับโปรแกรมประยุกต์จีไอเอส 8 โปรแกรมที่จัดสำเร็จแล้วและให้บริการในเวบไซต์ ได้แก่ ระบบเรียกใช้ข้อมูลดินระดับชุดดิน (ThaiPedon) ระบบฐานข้อมูลกลุ่มชุดดิน (SoilView) ข้อมูลวิเคราะห์สภาพปัญหาการใช้ที่ดิน(LandPlan) ระบบประเมินคุณภาพที่ดินเพื่อการเพาะปลูก (LandSuit) การชะล้างพังทลายของดิน (Eros View) ระบบสนับสนุนการจัดทำหมู่บ้านพัฒนาที่ดิน (CONSPlan) ระบบสนับสนุนการกำหนดเขตปลูกพืชเศรษฐกิจ (Agzone)และโปรแกรมการจัดการดินปัญหาในประเทศไทย (SoilMan) (กรุงเทพธุรกิจ พฤหัสบดีที่ 1 เมษายน 2547 หน้า 7)
แพทย์เตือนภัย จิวเวลอาย สวยไม่คุ้มอันตราย!
จักษุแพทย์ไทยเตือนแฟชั่น จิวเวล อาย ที่คิดค้นขึ้นโดยสถาบันพัฒนา และ วิจัยการผ่าตัดดวงตาของ เนเธอร์แลนด์ สวยไม่คุ้มอันตราย!! เพราะการฝัง จิวเวลรี่เข้าไปที่ ใต้เยื่อบุตา ไม่เพียงแต่จะทำให้เ กิดปฏิกิริยาระคายเคือง แต่อาจ เป็นอันตรายต่อดวงตา และลดทอน ประสิทธิภาพการทำงานของตา อีกด้วย ชาวดัตช์ได้สร้างความฮือฮาแก่วงการจักษุแพทย์ครั้งใหญ่ ด้วยการเปิดโลก แฟชั่นเก๋ไก๋ที่ดวงตา ตั้งชื่อให้โดนใจว่า "จิวเวล อาย" โดยนำจิวเวลรี่เล็กๆ ขนาดกว้าง 3.5 มม. ฝังเข้าไปที่ใต้เยื่อบุตาขาว เพียง 15 นาที ดวงตาก็จะส่องประกายวิบวับ ทำหน้าที่เป็นหน้าต่างของดวงใจอย่างสมบูรณ์แบบ มีให้เลือก ทั้งรูปหัวใจสำหรับสาว หรือจะเป็นรูปพระจันทร์เสี้ยว และเนื่องจากเป็น เทคโนโลยีใหม่ล่าสุด ขณะนี้มีหนูทดลองไปแล้ว 7 คน เป็นหญิง 6 ชาย 1 ทางสถาบันพัฒนา และวิจัยการผ่าตัดดวงตาในรอตเตอร์ดัม ต้นตำรับผู้คิดค้น จึงเปิดหน้าบิลคิดค่าทำสวยสูงถึง 800-1,600 ดอลลาร์ คิดเป็นเงินไทยตกราว 32,000-64,000 บาท (ไทยรัฐ จันทร์ที่ 12 เมษายน 2547 หน้า 24)
อังกฤษสร้างทีมฟุตบอลหุ่นยนต์
สำนักข่าวบีบีซี ออนไลน์ รายงานว่า เมื่อเร็ว ๆ นี้ ที่มหาวิทยาลัยวอร์วิค เมืองโคเวนตรี ประเทศอังกฤษ จัดแข่งขันหุ่นยนต์ เตะฟุตบอลประเภททีมขึ้น ซึ่งเป็นเวทีสำหรับ นักศึกษาวิศวะที่ได้แสดงความสามารถในการออกแบบโปรแกรมการทำงานของหุ่นยนต์ เพื่อประชันฝีมือกันอย่างสมบูรณ์ที่สุด โดยนักศึกษาวิศวะที่เข้าร่วมสังเกตการณ์การแข่งขันคาดหวังว่า ปีหน้าการแข่งขันน่าจะดุเดือดและสมบูรณ์มากกว่านี้ รายงานข่าวระบุว่า การสร้างและจัดแข่งขันหุ่นยนต์เตะฟุตบอลของอังกฤษ เพิ่งอยู่ในระยะเริ่มต้น ซึ่งการสร้างสมองเทียมที่ชาญฉลาด สำหรับประสานการเล่นฟุตบอลเป็นทีม ถือเป็นเรื่องยากที่สุด ต้องใช้เวลาในการวิจัย ออกแบบ และคิดค้นอีกมาก ตั้งเป้าสร้างหุ่นยนต์นักเตะเลียนแบบเบคแคมได้สำเร็จในปี ค.ศ. 2050 (เดลินิวส์ อังคารที่ 13 เมษายน 2547)
เร่งวิจัยและพัฒนาประสิทธิภาพการปลูกหน่อไม้ฝรั่ง
นายธนิต โสภโณดร ผู้อำนวยการสำนักวิจัยและพัฒนาการเกษตรเขตที่ 3 ( ขอนแก่น ) กรมวิชาการเกษตร กล่าวว่า ในขณะนี้ทางสำนักวิจัยฯ กำลังดำเนินการวิจัยเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการปลูกหน่อไม้ฝรั่งให้ได้ผลผลิตที่มีคุณภาพ โดยมีวัตถุประสงค์ให้เกษตรกรในภาคอีสานปลูกเพื่อเสริม รายได้ นอกเหนือไปจากการปลูกข้าว และเพื่อการส่งออกสูง มีความต้องการถึงวันละ 5 พันตัน โดยเฉพาะตลาดในประเทศญี่ปุ่น สหภาพยุโรป แต่ไทยมีความสามารถในการผลิตผ่านมาตรฐานส่งออกได้เพียงวันละ 2 พันตัน และเกษตรกรส่วนใหญ่ยังไม่ค่อยนิยมปลูกมากนัก ทั้งนี้หน่อไม้ฝรั่งนับว่าเป็นพืชที่มีความเหมาะสมสำหรับสภาพภูมิอากาศในภาคอีสาน และเป็นพืชที่ให้ผลผลิตสูงในขณะที่การลงทุนต่อไร่ต่ำกว่า จุดเด่นของหน่อไม้ฝรั่งคือการปลูกครั้งเดียวแต่สามารถเก็บเกี่ยวได้ถึง 4 ครั้งต่อปี และหนึ่งต้นสามารถเก็บเกี่ยวได้นานถึง 7 ปี โดยเฉลี่ย 1 ไร่ จะได้ผลผลิตประมาณ 1.5 ตัน หากได้รับการดูแลเอาใจใส่ที่ดีอาจเพิ่มผลผลิตสูงถึง 2.5 ตันเลยทีเดียว ซึ่งการลงทุนสำหรับการปลูก 1 ไร่ / 7 ปี ประมาณไร่ละ 50,000 บาท ในขณะที่สามารถให้ผลผลิตได้ประมาณ 200,000 บาท / ไร่ / 7 ปี สำหรับราคาขายเฉลี่ยของหน่อไม้ฝรั่งแบบคละเกรด อยู่ที่ 30 บาท / 1 กิโลกรัม (เดลินิวส์ อังคารที่ 13 เมษายน 2547)
ผ้าฝ้ายพันธุ์ตากฟ้า 2 ผลงานวิจัยเด่นของคนไทย
ศูนย์วิจัยพืชไร่นครสวรรค์ ภายใต้สังกัดกรมวิชาการเกษตรจนประสบความสำเร็จ สามารถคว้ารางวัล "ผลงานวิจัยดีเด่น" ในการประชุมวิชาการครั้งที่ 41 ของมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ในปีนี้มาครอง นายฉกรรจ์ แสงรักษาวงศ์ อธิบดีกรมวิชาการเกษตร กล่าวว่า ฝ้ายพันธุ์ตากฟ้า มีคุณสมบัติพิเศษที่หาฝ้ายชนิดใดเหมือนตรงที่ให้เส้นใยยาวพันธุ์แรกของไทยคือมีความยาวถึง 1.20 นิ้ว นอกจากนี้ยังเป็นพันธุ์ที่ได้ชื่อว่าให้ผลผลิตสูงถึง 300-350 กิโลกรัม/ไร่ ทีเดียว ซึ่งถือว่ามีคุณสมบัติตรงตามความต้องการของอุตสาหกรรมสิ่งทอในประเทศอย่างมาก เนื่องจากพันธุ์ฝ้ายที่มีในปัจจุบันไม่ว่าจะเป็นพันธุ์ศรีสำโรง 60 หรือพันธุ์ศรีสำโรง 2 ส่วนใหญ่จะให้เส้นใยที่สั้นและให้ผลผลิตที่ค่อนข้างต่ำ คือมีความยาวของเส้นใยเฉลี่ย 1.09-1.11 นิ้ว และให้ผลผลิตเฉลี่ย 280-360 กิโลกรัม/ไร่ ในขณะที่อุตสาหกรรมสิ่งทอบ้านเรามีความต้องการเส้นใยยาวประมาณ 1.15-1.29 นิ้วสำหรับพัฒนาสิ่งทอให้มีคุณภาพดีและราคาสูงขึ้น เพื่อยกระดับมาตรฐานสิ่งทอของไทยในอนาคต (เดลินิวส์ อังคารที่ 13 เมษายน 2547)
กินช็อกโกแลตระหว่างตั้งครรภ์ ส่งผลให้เด็กทารกอารมณ์ดี
คาทริ เรคโคเนน และคณะจากมหาวิทยาลัยเฮลซิงกิ ในฟินแลนด์ ทำการวิจัยด้วยการสอบถามคุณแม่ 300 รายก่อนและหลังการคลอดลูก พบว่าคุณแม่กลุ่มที่กินช็อกโกแลตทุกวันตอบว่าลูกๆของเธอดูมีความสุข มีอารมณ์ดี โดยคำถามนั้นจะขอให้คุณแม่จัดระดับความเครียดของตน และถามถึงปริมาณของช็อกโกแลตที่กินเข้าไปด้วย หลังจากนั้นอีก 6 เดือนได้กลับมาถามอีกครั้งเมื่อเธอคลอดลูกแล้ว คราวนี้ให้จัดระดับพฤติกรรมของลูกน้อยปรากฏว่ามีความแตกต่างที่เห็นได้ชัด กลุ่มเด็กทารกที่เมื่อคุณแม่เครียดและกินช็อกโกแลต กับกลุ่มผู้หญิงที่เครียดแล้วไม่ได้ กินช็อกโกแลต นักวิทยาศาสตร์คาดการณ์ว่าผลที่ออกมานั้นอาจเชื่อมโยงกับการกินช็อกโกแลต โดยสารเคมีในช็อกโกแลตที่แม่กิน ส่งไปยังทารกในครรภ์ อย่างไรก็ตาม สมาคมโรคเบาหวานในอังกฤษไม่เห็นด้วยกับแนวคิดนี้ แต่มองว่ามันน่าจะเป็นเรื่องทางจิตวิทยามากกว่า (ไทยรัฐ อังคารที่ 13 เมษายน 2547 หน้า 7)
ให้ผู้ใช้รถจักรยานยนต์ใช้หมวกขาวแคล้วคลาดจากอุบัติเหตุ ได้ถึง1ใน3
นักวิจัยนิวซีแลนด์ ศึกษาพบว่า ผู้ขี่รถจักรยานยนต์จะหลีกเลี่ยงเคราะห์ร้าย จากอุบัติเหตุบนท้องถนน ได้มากถึง 1 ใน 3 หากว่าสวมใส่หมวกกันน็อกที่มีสีขาว นักวิจัย ดร.ซูซาน เวลส์ เปิดเผยรายงานการศึกษาว่า "ในขณะที่ผู้ขี่จักรยานยนต์ที่ใส่หมวกกันน็อกสีขาว จะเป็นผู้มีเคราะห์จากอุบัติเหตุน้อยที่สุด แต่ผู้ที่สวมหมวกกันน็อกสีดำ อาจจะเป็นผู้ที่มีเคราะห์มากที่สุด" นอกจากนั้นเคยมีการศึกษาเรื่องทำนองนี้เมื่อปีกลายก็ได้ผลว่าผู้ขี่ที่สวมหมวกกันน็อกสีเงิน เสี่ยงกับอุบัติเหตุน้อยที่สุด ในขณะที่ผู้ที่สวมหมวกสีน้ำตาล ดำ และเขียว จะเสี่ยงภัยมากที่สุด รายงานการศึกษาของ ดร.เวลส์ อาจารย์วิชาสาธารณสุขศาสตร์ มหาวิทยาลัยโอกแลนด์ ได้กล่าวว่า ถึงแม้การสวมใส่หมวกกันน็อกสีอ่อนหรือสีสดอื่นๆ จะปลอดภัยขึ้นเช่นกัน แต่ไม่มากเท่ากับสีขาว "เพราะหมวกกันน็อกสีขาวเห็นบนท้องถนนได้ง่ายที่สุด เมื่อเทียบกับหมวกสีดำ ถือได้ว่าเป็นวิธีป้องกันอุบัติเหตุบนถนนอันถูกที่สุด" ในรายงานยังได้เสนอวิธี เพื่อลดอุบัติเหตุให้แก่ผู้ขี่รถจักรยานยนต์อย่างอื่นด้วย เช่น ให้ ผู้ขี่สวมเสื้อผ้าที่มีสีสะท้อนแสง สวมหมวกกันน็อกสีขาวหรือสีอ่อน และเปิดไฟหน้าทั้งกลางวันและกลางคืน. (ไทยรัฐ พุธที่ 14 เมษายน 2547 หน้า 7)
พบหวีเป็นอาวุธต่อต้านก่อการร้ายสาวหามือระเบิด ให้จับได้ทั้งโขยง
นักวิจัยของมหาวิทยาลัยโรด ไอส์แลนด์ ของสหรัฐฯ ได้พบในการศึกษาวิจัยว่า ผู้ที่มีส่วนจับต้องทำระเบิด จะต้องถูกสารเคมีต่างๆ ในการทำระเบิด จับเกาะติดอยู่ตามผมเผ้าอยู่เป็นเวลานาน ไม่ว่าจะไปสระไปล้างผมมากี่ครั้งกี่หนก็ตาม ดังนั้น หากใช้ผ้ากอซใช้ในการทำแผล เช็ดตามหวีที่ใช้สางผมผู้ต้องสงสัย จะทำให้ได้หลักฐานผูกมัดอันแน่นหนา คณะนักวิจัยได้พบว่า การเก็บหาหลักฐานจากผู้ต้องสงสัยด้วยวิธีนี้ จะทำได้หมด ไม่ว่าระเบิดนั้นจะทำขึ้นจากวัตถุระเบิดชนิดอะไร ตั้งแต่ดินระเบิดทีเอ็นทีไปจนถึงดินระเบิดทีเอทีพี ซึ่งมักใช้กันอยู่ในหมู่มือระเบิดพลีชีพ ขณะนี้ทางฝ่ายเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานของอังกฤษ กำลังร่างระเบียบปฏิบัติสำหรับให้ เจ้าหน้าที่รักษาความมั่นคงต่างๆ รู้จักหาและเก็บรักษาหลักฐาน ที่จะหาได้จากเส้นผมเอาไว้ (ไทยรัฐ พุธที่ 14 เมษายน 2547 หน้า 7)
ถั่วเหลืองอาหารของชายอาชาไนย ป้องกันมะเร็งและศีรษะล้านเหลือง
นักวิจัยของสหรัฐฯได้เปิดเผยในวารสารวิทยาศาสตร์ "ชีววิทยาของการสืบพันธุ์" ได้พบว่า โมเลกุลซึ่งเกิดขึ้นในลำไส้ ขณะที่ย่อยถั่วเหลือง มีสรรพคุณยับยั้งฮอร์โมนชนิดหนึ่ง ซึ่งไปเติมเชื้อเพลิงให้กับมะเร็งของต่อมลูกหมากให้มีแรง หรือเป็นตัวการก่อให้ศีรษะล้านเถิกขึ้น ดังนั้น หากสกัดเอาโมเลกุลนั้นมาได้ ก็อาจจะเอากลับมาใช้ทำยารักษามะเร็งและศีรษะล้านได้ พวกเขาพบว่าโมเลกุลนั้นแสดงฤทธิ์เหมือนกับจับฮอร์โมนดีเอชที ของผู้ชายพันธนาการให้อยู่หมัด ฮอร์โมนตัวนี้มีส่วนอย่างสำคัญในผู้ชายที่ถูกตรวจพบว่าเป็นต่อมลูกหมากโต หรือเป็นมะเร็งของต่อมลูกหมาก นอกจากนั้น มันยังมีส่วนเป็นสาเหตุทำให้ศีรษะล้านอีกด้วย โฆษกของศูนย์วิจัยโรคมะเร็งของอังกฤษ กล่าวแสดงความเห็นว่า "มีมะเร็งตั้งเกือบ 1 ใน 3 ล้วนเกี่ยวเนื่องกับอาหารการกินของเรา แต่เรายังไม่อาจรู้แน่ชัดว่าอาหารอย่างใด ทำให้เป็นมะเร็งและอย่างไหนต้านมะเร็ง แต่เรารู้ว่าชาติที่พลเมืองกินถั่วเหลืองเป็นหลัก อย่างเช่นญี่ปุ่น ผู้ชายมักจะไม่ค่อยเป็นมะเร็งของต่อมลูกหมากและอย่างอื่น สารสำคัญในถั่วเหลืองเชื่อว่าคงเป็นสารไอโซฟราโวน และมีการศึกษาหลายเรื่องพบว่ามันป้องกันมะเร็งของต่อมลูกหมากไม่ให้ลุกลามได้" (ไทยรัฐ พฤหัสบดีที่ 15 เม.ย. 47)
หม้อไอน้ำฆ่าเชื้อโรคอัตโนมัติ ฝีมือ นศ. เชียงราย
นายพรภวิษย์ กิ่งก้าน นายจำลอง ลักกาสิพันธ์ และนายพันธ์พงษ์ กองตุ้ย นักศึกษาชั้นปีที่ 4 คณะครุศาสตร์อุตสาหกรรม หลักสูตรอุตสาหกรรมบัณฑิต สาขาเทคโนโลยีไฟฟ้า สถาบันเทคโนโลยีราชมงคล วิทยาเขตเชียงราย ประสบความสำเร็จ สร้างหม้อไอน้ำฆ่าเชื้อโรคอัตโนมัติ เครื่องที่ผลิตได้จะสามารถใช้ฆ่าเชื้อจุลชีพ ทั้งเชื้อจุลินทรีย์ และเชื้อแบคทีเรียสำหรับเครื่องมือทางการแพทย์ เพื่อให้ปลอดเชื้อ โดยลักษณะเด่นคือ ขนาดที่เล็กและเคลื่อนที่ได้ แตกต่างจากเครื่องทั่วไปที่พบในโรงพยาบาล ซึ่งจะต้องนำเข้าจากต่างประเทศ มีขนาดใหญ่และราคาแพงถึงเครื่องละประมาณ 3 แสนบาท เพียงแค่เปิดสวิตช์ทิ้งไว้เครื่องก็จะทำงานอัตโนมัติ ใช้เวลานึ่ง 15 นาที ที่อุณหภูมิ 122 องศาเซลเซียส ไม่ต้องคอยควบคุม ประหยัดแรงงานคนและ ต้นทุนการผลิตเครื่องฆ่าเชื้อจุลินทรีย์ด้วยไอน้ำอัตโนมัติแบบเคลื่อนที่จะอยู่ประมาณเครื่องละ 70,000 บาท เครื่องฆ่าเชื้อโรคด้วยไอน้ำนี้ ได้ผ่านการทดสอบทางเคมีและชีวภาพจากโรงพยาบาลเชียงคำแล้ว พบว่าสามารถฆ่าเชื้อจุลินทรีย์และแบคทีเรียได้ถึง 100% จึงพร้อมที่จะนำไปใช้งานจริงแห่งแรกที่โรงพยาบาลเชียงคำทันที ด้านนายวิวัจน์ ทิพขจร อาจารย์ที่ปรึกษา กล่าวว่า ในอนาคตจะส่งเสริมให้พัฒนาเครื่องมือนี้ต่อไปอีก โดยจะพัฒนารูปทรงให้กะทัดรัดขึ้น และจะขยายความจุของเครื่องให้มากขึ้น นอกจากนี้ยังจะปรับเปลี่ยนในส่วนของวัสดุจากสเตนเลสด้อยคุณภาพเป็นวัสดุอื่นมาทดลองใช้แทน เพื่อให้ได้เครื่องมือที่มีคุณภาพและประสิทธิภาพที่ดีกว่าเดิม (คมชัดลึก พฤหัสบดีที่ 15 เมษายน 2547 )
น้ำมันแปรรูปจากรองเท้าฟองน้ำ กำจัดขยะแถมได้เชื้อเพลิง
นายณัฐกร ศุภผลา นิสิตชั้นปีที่ 1 คณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย จึงคิด แปรสภาพเศษยางผลิตรองเท้าฟองน้ำเป็นเชื้อเพลิง สร้างความหวังใหม่ในการผลิตน้ำมัน ทั้งยังเป็นวิธีรีไซเคิลยางรองเท้าแบบใหม่ แก้ไขปัญหาการกำจัดขยะอีกด้วย เผยใช้ปฏิกิริยาทางเคมีแยกโมเลกุลน้ำมันออกจากยางรองเท้า ได้ทั้งกากน้ำมันหนัก น้ำมันเตา น้ำมันเบนซิน น้ำมันก๊าด และน้ำมันดีเซล แต่สิ่งที่จุดประกายความคิดของเขากลับเป็นองค์ประกอบของยาง ที่มีสารประเภทโพลิเมอร์หลายชนิด ได้แก่ พอลิเอทิลลีน เอทิลลีนไวนิลอะซิเตท ไข ยางพารา และไดซูไมลเปอร์ออกไซด์ ซึ่งเป็นสารที่สนับสนุนสมมติฐานในการทำโครงงาน "การแปรสภาพเศษยางให้กลายเป็นเชื้อเพลิงเหลว" ดร.วิทย์ สุนทรนันท์ คณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย นักวิทยาศาสตร์พี่เลี้ยงของนายณัฐกร กล่าวถึงยางที่ใช้ทำรองเท้าฟองน้ำว่า ยางนี้มีต้นกำเนิดมาจากก๊าซธรรมชาติ ที่ถูกแยกมาสังเคราะห์เป็นโพลิเมอร์ ขณะที่การทำโครงงานนี้เป็นการทำให้โมเลกุลของยางเล็กลงจากโพลิเมอร์กลายเป็นโมโนเมอร์ ซึ่งในกระบวนการไฮโดรจิเนชั่นนี้จะมีกระบวนการดีไฮโดรจิเนชั่นเกิดไปด้วยคือ โมโนเมอร์มาจับตัวกันได้เป็นสารที่ใกล้เคียงกับรูปเดิมของมัน หรือเป็นเชื้อเพลิงเหลวนั่นเอง โครงงานนี้เป็นการแสดงให้เห็นว่า สามารถนำวัสดุเหลือใช้เช่นเศษยางทำรองเท้าฟองน้ำ ที่เผากำจัดยากมาทำกระบวนการย้อนกลับให้เป็นสารที่คล้ายกับสารตั้งต้น (ก๊าซธรรมชาติ) เดิม ส่วนในด้านการนำเชื้อเพลิงไปใช้นั้น ดร.วิทย์ กล่าวว่ายังอีกไกล พร้อมยกตัวอย่างของน้ำมันเบนซิน ที่ยังต้องนำไปวิเคราะห์หาโครงสร้างเฉพาะตัว (ค่าออกเทน) เพื่อดูว่าสามารถนำมาใช้ได้กับเครื่องยนต์แบบใดบ้าง เป็นต้น โครงงานวิทยาศาสตร์นี้เป็นส่วนหนึ่งในโครงการพัฒนาอัจฉริยภาพทางวิทยาศาสตร์สำหรับเด็กและเยาวชน ในระดับมัธยมศึกษาตอนปลายและปริญญาตรี รุ่นที่ 6 ของสำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) (คมชัดลึก พฤหัสบดีที่ 15 เมษายน 2547)
ฟอร์ดพัฒนาระบบป้องกัน คนขับหลับใน เตรียมติดตั้งใช้จริงในรถวอลโว่
ผู้ผลิตรถยนต์ยี่ห้อ "วอลโว่" พัฒนาเทคโนโลยีใหม่ป้องกันอุบัติเหตุจากการหลับในของผู้ขับขี่ หวังรักษาตำแหน่งเจ้าแห่งความปลอดภัยบนท้องถนน ประกาศไม่เกินทศวรรษนี้คนรักวอลโว่ ได้ขับขี่สุดยอดยนตรกรรมแน่นอน บริษัท ฟอร์ด มอเตอร์ โค เปิดตัวโครงการดังกล่าวในงานแสดงรถยนต์ที่มหานครนิวยอร์ก สหรัฐ โดยคาดว่าจะนำเทคโนโลยีนี้ไปใช้ในรถวอลโว่และรถสปอร์ตอเนกประสงค์ (SUVs) ได้จริงภายในสิบปีนี้ ไมค์ โวห์น โฆษกของฟอร์ด กล่าวว่า บริษัทเริ่มทดสอบประสิทธิภาพของระบบป้องกันอุบัติเหตุรูปแบบใหม่นี้ ไม่ว่าจะเป็นพวงมาลัยแบบสั่นเตือนหรือการแจ้งเตือนด้วยแสงไฟที่แผงบังลม รวมถึงระบบเตือนอัตโนมัติ เพื่อหลีกเลี่ยงการเกิดอุบัติเหตุ โดยรถยนต์จะปรับพวงมาลัยเองโดยอัตโนมัติ หากตรวจสอบพบว่ารถขับผิดเลน ฟอร์ดได้ติดตั้งกล้องขนาดเล็กและเซ็นเซอร์ตรวจจับความเร็ว และการแจ้งเตือนด้วยเสียงไว้ในตัวรถ และมีแผนที่จะนำไปใช้กับรถสปอร์ตอเนกประสงค์ รุ่น เอฟเอ็กซ์ ของอินฟินิตี้ ที่จะออกสู่ตลาดในช่วงฤดูใบไม้ร่วงปีหน้า จากนั้นในฤดูใบไม้ผลิปี 2549 ก็จะติดตั้งในรถยนต์ซีดาน รุ่นเอ็ม 45 เช่นกัน (คมชัดลึก พฤหัสบดีที่ 15 เมษายน 2547 )
ศึกษาพันธุ์ข้าวป่า หวังสร้างข้าวพันธุ์ใหม่
นายณัฐวุฒิ ภาษยะวรรณ ผู้อำนวยการสำนักวิจัยพัฒนาเทคโนโลยีชีวภาพ กรมวิชาการเกษตร กล่าวว่า ขณะนี้การศึกษาเรื่องคุณลักษณะและการใช้ประโยชน์ของข้าวป่าจากแปลงอนุรักษ์ในถิ่นเดิม ที่ดำเนินการตั้งแต่ปี 2544-2546 ได้เสร็จสิ้นแล้วแต่ยังไม่สามารถนำไปใช้ประโยชน์ในแปลงปลูกได้ เนื่องจากยังมีอีกหลายปัจจัยที่ต้องทำการศึกษาเพื่อได้พันธุ์ข้าวที่มีทั้งข้อดีของข้าวป่าและข้าวปลูกรวมอยู่ด้วยกัน มุ่งการศึกษาเรื่องของการเจริญเติบโต พัฒนาการและความอยู่รอดของข้าวป่า โดยได้ดำเนินการในแปลงปลูกที่ไม่มีการจัดการใด ๆ ปล่อยให้ขึ้นอยู่เองในธรรมชาติอันเป็นพื้นฐานเดิมของข้าวป่า โ ดยขณะนี้กำลังดำเนินการศึกษาและคัดเลือกข้าวพันธุ์ผสมทั้งหมด 4 คู่ผสม 1,821 สายพันธุ์ เป็นการพัฒนาและอนุรักษ์พันธุ์นอกเหนือไปจากการเก็บรักษาพันธุ์ไว้ที่ธนาคารพันธุ์พืช ณ ศูนย์วิจัยข้าวปทุมธานี ซึ่งเป็นสถานที่เก็บรักษาพันธุ์เพื่อการอนุรักษ์สำหรับใช้ประโยชน์ในอนาคต แต่การเก็บดังกล่าวไม่สามารถสร้างวิวัฒนาการใหม่ ๆ ของข้าวป่า และอาจทำให้การใช้ประโยชน์อยู่ในวงจำกัด จึงต้องมีการนำพันธุ์ข้าวป่าลงไปทดลองศึกษาวิวัฒนาการ ปรับปรุงพันธุ์ในแปลงจริง เพื่อให้ได้ข้อมูลเพิ่มขึ้นอย่างเพียงพอ และช่วยเพิ่มจำนวนประชากรของข้าวป่าที่ใกล้จะสูญพันธุ์ต่อไป (เดลินิวส์ ศุกร์ที่ 16 เมษายน 2547 )
T- CELS ร่วมทุน 2 บริษัทบิ๊กวิจัยเภสัชกรรมจีโนมิกส์
ศ.ดร.พรชัย มาตังคสมบัติ อธิการบดีมหาวิทยาลัยมหิดล ในฐานะ ผอ.ศูนย์ความเป็นเลิศทางวิทยาศาสตร์เพื่อชีวิต (หรือ T-CELS) กล่าวถึง T-CELS ว่า ได้รับงบประมาณ 104 ล้านบาท โดยร่วมทุนกับบริษัทในสหรัฐอเมริกา 2 แห่ง ได้แก่ บริษัทออราเคิล และบริษัทไอบีเอ็ม ซึ่งเป็นบริษัทขนาดใหญ่ที่ผลิตฮาร์ดแวร์ และซอฟต์แวร์ของโลก เพื่อศึกษาด้านเภสัชกรรมจีโนมิกส์ หาลำดับความหลากหลายทางพันธุกรรมในการตอบสนองยาของคนไทย เนื่องจากคนไทยมีความหลากหลายด้านพันธุกรรมมาก ที่ผ่านมามีคนเสียชีวิตจากการใช้ยาผิดจำนวนมาก ทั้งยังมีคนไม่น้อยที่เป็นโรคเดียวกันแต่ตอบสนองกับยาชนิดเดียวกันไม่เหมือนกัน ดังนั้น โครงการหาลำดับพันธุกรรมที่หลากหลายในเรื่องการตอบสนองต่อยา จะเข้ามาช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการรักษามากขึ้น โดยแพทย์จะสามารถจ่ายยา ได้ตรงกับพันธุกรรมของแต่ละคนมากขึ้น ทำให้การรักษาได้ผลกว่า 80% อย่างไรก็ตาม ข้อมูลพื้นฐานเรื่องความหลากหลายทางพันธุกรรมของคนไทย จะช่วยเรื่องการประเมินความเสี่ยงต่อโรคได้ด้วยเช่นกันว่า คนที่มีลักษณะทางพันธุกรรมแบบนี้เสี่ยงต่อโรคอย่างไรบ้าง นอกจากนี้ข้อมูลดังกล่าวยังจะช่วยเป็นพื้นฐานในการพัฒนายาและสูตรยาในอนาคตด้วย ด้าน ดร.วสันต์ จันทราทิพย์ จากหน่วยไวรัสวิทยา โรงพยาบาลรามาธิบดี กล่าวว่า โครงการนี้กำหนดระยะเวลาในการศึกษา 3 ปี (2547-2549) ช่วงปีแรกเป็นช่วงของการเก็บข้อมูลพื้นฐานทางด้านคลินิกของผู้ป่วย 5 โรค คือ โรคธาลัสซีเมีย โรคหัวใจ เบาหวาน ความดันโลหิตสูง และโรคมะเร็ง โดยนำร่องการเก็บข้อมูลในการรักษาที่โรงพยาบาลรามาธิบดี ก่อนที่จะเก็บข้อมูลและการพัฒนาระบบการเก็บข้อมูลการตรวจวิเคราะห์ต่อไป บริษัทออราเคิลจะเข้ามาเก็บข้อมูลการรักษาทางด้านคลินิก และการตอบสนองต่อยาของกลุ่มโรคทั้ง 5 โรค โดยในปีแรกจะเน้นการเก็บข้อมูลทางด้านการรักษาเอาไว้ก่อน ส่วนปี 2548 บริษัทไอบีเอ็มจะเข้ามาช่วยวิเคราะห์ข้อมูลทางด้านจีโนมิกส์ จะคัดกรองกลุ่มคนไทยที่แตกต่างต่อการใช้ยา เพื่อนำมาเป็นแนวทางวิเคราะห์ ส่วนปี 2548-2549 จะเริ่มมีความชัดเจนในเรื่องลำดับพันธุกรรมที่ตอบสนองกับยาที่แตกต่างกัน ของกลุ่มคนไทยที่ป่วยเป็นโรคทั้ง 5 โรค (ไทยรัฐศุกร์ที่ 16 เม.ย. 47)
กล้วยหอมใช้ทำยาอุจจาระร่วง ป้องกันเยื่อบุลำไส้ติดเชื้ออักเสบ
นักวิทยาศาสตร์พบกล้วยหอม เป็นยาป้องกันโรคอุจจาระร่วงเรื้อรังได้อย่างชะงัด เตรียมจะทำออกเป็นยาผง เพื่อสะดวกในการกินในเร็วๆนี้ นักวิทยาศาสตร์มหาวิทยาลัยลิเวอร์พูลของอังกฤษ ได้พบในการศึกษาวิจัยยาที่ทำจากเส้นใยอาหารของกล้วยหอมว่า มีสรรพคุณป้องกันเยื่อบุลำไส้เกิดอักเสบจากเชื้อโรคได้ ผู้ที่ป่วยด้วยเยื่อบุลำไส้อักเสบรุนแรง จะป่วยเป็นโรคอุจจาระเรื้อรัง นักวิทยาศาสตร์กำลังทดสอบปรับปรุงยาเพื่อทำเป็นผง จะได้ใช้ได้ด้วยความสะดวกอีกต่อไป (ไทยรัฐ ศุกร์ที่ 16 เม.ย. 47 หน้า 7)
ใช้ถ่านจากซังข้าวโพด ไฟแรงดี-ลดทำลายป่า
พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เดินทางพร้อมคณะ ไปตรวจเยี่ยมเกษตรกร ในพื้นที่จังหวัดพิษณุโลก ที่ประสบปัญหาภัยแล้ง ได้ไปพบกับงาน "หนึ่งผลิตภัณฑ์ หนึ่งตำบล" จากภูมิปัญญาชาวบ้าน ที่สร้างงาน "แฮนด์เมด" จากผลผลิตทางการเกษตรขึ้น จึงให้ความสนใจเตรียมอนุมัติเงิน 3 ล้านบาท เพื่อให้พัฒนาชิ้นงาน "ถ่านอัดแท่งจากซังข้าวโพด" ของกลุ่มเกษตรกร ต.หนองกะท้าว อ.นครไทย จ.พิษณุโลก ให้เป็น "อุตสาหกรรมขนาดย่อมแบบเอื้ออาทร" นายแต่ง ปัดถา หัวหน้ากลุ่มเกษตรกรหนองกะท้าว เผยถึงผลผลิต "ถ่านอัดแท่งจากซังข้าวโพด" ว่า อำเภอนครไทยมีพื้นที่ปลูกข้าวโพดประมาณ 100,000 ไร่ ผลผลิตเฉลี่ยประมาณ 600 กิโลกรัมต่อไร่ ข้าวโพดทั้งฝักน้ำหนัก 100 กิโลกรัม เมื่อแบ่งหากเป็นเมล็ดข้าวโพดกะเทาะเปลือกได้ประมาณ 70 กิโลกรัม ส่วนที่เหลือ 30 กิโลกรัมคือ "ซังข้าวโพด" ทั้งอำเภอนครไทยมีซังข้าวโพดทิ้งปีละ 26,000,000 กิโลกรัม ช่วงแรกก็นำไปเผาทิ้งและจนเกิดมลภาวะเป็นพิษ แต่เมื่อนำซังข้าวโพดมาใช้เป็นถ่าน เพื่อหุงต้มอาหาร พบว่า...ติดไฟไวและมอดลงภายใน 20 นาที จึงได้คิดวิธีการทำให้เป็นถ่านหุงอาหารที่มีระยะเวลานาน โดยการปรับเปลี่ยนนำมาผสมกับดินเหนียว, ปูนซีเมนต์และแป้งมันสำปะหลัง ปรากฏว่าสามารถยืดระยะเวลาการเผาไหม้ได้นานขึ้นถึง 1 ชั่วโมง 30 นาที ทั้งยังให้ความร้อนเพิ่มมากขึ้นและไม่เกิดเป็นฝุ่นควันฟุ้งกระจาย "ไม่เป็นมลพิษ" สามารถนำออกวางจำหน่ายตามร้านค้าและมีไว้ใช้ทุกครัวเรือนของเกษตรกรในพื้นที่ อ.นครไทย สำหรับวิธีการทำถ่านอัดแท่งจากซังข้าวโพด นำซังข้าวโพดที่เหลือทิ้งไปเผาโดยใช้เตาหลุม ใส่ถังเผาหรือกองเผาธรรมดาก็ได้ เอามาเข้าเครื่องบดจะกลายเป็นผงหยาบๆ ก่อนจะนำแป้งมันสำปะหลังมาผสมในอัตรา 10 ต่อ 1 คลุกเคล้าให้เข้ากัน (อาจจะใช้น้ำเป็นตัวช่วยในการผสมด้วย) เมื่อผสมเข้ากันแล้วนำมาเข้าเครื่องอัด ที่ใช้ภูมิปัญญาคิดกันเอาเอง บดอัดจนเป็นก้อนกลม และนำไปตากแดด 1-2 แดดเพื่อให้แห้ง ก่อนจะทดลองนำมาติดไฟ แต่ช่วงแรกผลิตยังไม่ได้ประสิทธิภาพ จึงมีการปรับเปลี่ยนให้ก้อนเหลี่ยมบ้าง คิดแบบรูปร่าง เพื่อให้สะดวก ต่อการใช้ในเตาหุงต้ม จนได้เป็นก้อนเหลี่ยมและมีรูตรงกลาง เพื่อระบายอากาศได้จึงติดไฟง่าย ผู้สนใจ ติดต่อไปได้ที่ 0-9887-8540, 0-1962-0861, 0-5538-8980 (ไทยรัฐ ศุกร์ที่ 16 เม.ย. 47 หน้า 7)
ซัมซุง-ฟุจิสึ พัมนาเซลล์พลังงาน เพิ่มเวลาใช้งานในอุปกรณ์พกพา
สถาบันเทคโนโลยีซัมซุง แอดวานซ์ หน่วยวิจัยและพัฒนาของบริษัท ซัมซุง อิเล็กทรอนิกส์ ของเกาหลีใต้ ประกาศสามารถพัฒนาเซลล์พลังงานเมทานอล หรือดีเอ็มเอฟซี (direct methanol fuel cell) เป็นผลสำเร็จ โดยใช้แท่งบรรจุเมทานอลขนาด 100 ลูกบาศก์เซนติเมตร เพื่อผลิตพลังงาน นี้จะช่วยให้โน้ตบุ๊คสามารถทำงานได้นาน 10 ชั่วโมง หัวใจสำคัญในการพัฒนาเซลล์พลังงานคือ การพัฒนาเยื่อเลือกผ่าน (membrane) สำหรับกันส่วนที่มีการผสมกันระหว่างน้ำกับเมทานอล ให้อยู่คนละส่วนกับสารเร่งปฏิกิริยา ขณะเดียวกันเซลล์พลังงานเมทานอล ซึ่งมีขนาดเล็กและต้องจ่ายพลังงานให้ได้นานนั้น ทำให้ต้องเพิ่มความเข้มข้นของเมทานอลมากขึ้น แต่พอเมทานอลที่เข้มข้นสูง อาจทำให้พลังงานรั่วไหลผ่านเยื่อเลือกผ่าน สำหรับต้นแบบเซลล์พลังงานดีเอ็มเอฟซี ที่พัฒนาอยู่ในปัจจุบันสามารถใช้เมทานอลที่เข้มข้นได้มากที่สุดร้อยละ 10 ของน้ำ เซลล์พลังงานของทางซัมซุงนี้ ใช้เยื่อแบบใหม่ที่หยุดการสกัดการไหลผ่านของเมทานอลได้มากกว่าร้อยละ 90 และยังใช้ตัวเร่งปฏิกิริยาใหม่ที่ทำด้วยเมโซโพรัส คาร์บอน (mesoporous carbon) ช่วยลดปริมาณตัวเร่งปฏิกิริยาที่ต้องนำมาใช้ลงไปกว่าครึ่ง (คมชัดลึก 16 เมษายน 2547 )
มจธ. ผุดเตาแก๊สโฉมใหม่ ประหยัดเชื้อเพลิงหุงต้มถึง 30%
นักวิจัยมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี (มจธ.) พัฒนาเตาแก๊สประสิทธิภาพสูง ช่วยผู้ประกอบการประหยัดค่าเชื้อเพลิงก๊าซหุงต้มได้ถึงร้อยละ 30 เผยใช้เทคโนโลยีวัสดุพรุนออกแบบปรับโครงสร้างของตัวเรือนเตาใหม่ พร้อมทั้งพัฒนาหัวเผาบังคับเปลวไฟให้รวมตัวอยู่ใต้ภาชนะแทนกระจายออกเตรียมขยายงานวิจัยปรับสู่ภาคครัวเรือนในอนาคต รศ.ดร.สำเริง จักรใจ นักวิจัยจากบัณฑิตวิทยาลัยร่วมด้านพลังงานและสิ่งแวดล้อม (JGSEE) มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี เปิดเผยว่า เตาแก๊สประสิทธิภาพสูงเป็นผลงานวิจัยที่ได้รับสิทธิบัตรเรียบร้อยแล้ว และได้นำไปใช้งานจริงกับผู้ประกอบการอาหารขนาดกลาง คือ บริษัท นิธิฟู้ดส์ จำกัด จ.เชียงใหม่ ผู้ประกอบการผลิตกระเทียมเจียวเพื่อป้อนอุตสาหกรรมอาหาร ลักษณะของเตาแก๊สประสิทธิภาพสูงที่พัฒนาขึ้นนี้ ได้พัฒนาในสองส่วน ส่วนแรก คือออกแบบปรับโครงสร้างของตัวเรือนเตาใหม่ โดยทำเป็นกล่องให้มีขนาดใหญ่ขึ้น เพื่อทำหน้าที่หมุนเวียนความร้อนจากก๊าซไอเสียไปสู่อากาศเผาไหม้ ส่วนนี้ประกอบด้วยวัสดุพรุนแผ่รังสีความร้อนและวัสดุพรุนดูดซับรังสีความร้อน วัสดุพรุนทั้งสองมีลักษณะคล้ายตาข่ายมุ้งลวด แต่ทำด้วยวัสดุทนไฟและทำหน้าที่เป็นเครื่องแลกเปลี่ยนความร้อน แบบอาศัยการแผ่รังสีความร้อน เพื่อดึงความร้อนจากไอเสียที่จะสูญเสียไปจากการเผาไหม้ประมาณ 65% ให้กลับมาหมุนเวียนใช้ใหม่ ส่วนที่สองคือการพัฒนาหัวเผาแบบใหม่ เพื่อให้การถ่ายเทความร้อนจากเปลวไฟสู่ภาชนะหุงต้มมีประสิทธิภาพสูงยิ่งขึ้น หัวเผาแบบดั้งเดิมนั้นไม่ค่อยมีประสิทธิภาพมากนัก เนื่องจากคุณลักษณะการเคลื่อนที่ของเปลวไฟที่สัมพัทธ์กับภาชนะไม่ค่อยดี ส่งผลให้เกิดการสูญเสียความร้อนในส่วนนี้ไปเป็นจำนวนมาก หรือคิดเป็น 65% ของพลังงานที่ใส่เข้าไปทั้งหมด อย่างไรก็ตาม เนื่องจากหัวเตาที่ใช้กับเตาแก๊สประสิทธิภาพสูงดังกล่าวเป็นขนาด KB10 ซึ่งให้ความร้อนค่อนข้างสูงประมาณ 70 กิโลวัตต์ จึงเหมาะสำหรับอุตสาหกรรมขนาดเล็กถึงขนาดกลาง แต่ไม่เหมาะกับครัวเรือน เพราะความร้อนที่มากเกินไป ในอนาคตจึงมีโครงการขยายผลการวิจัยไปสู่การทำเตาแก๊สประสิทธิภาพสูงในขนาดที่เล็กลง เพื่อให้สามารถนำไปใช้งานได้แพร่หลายมากขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งในครัวเรือน (คมชัดลึก 16 เมษายน 2547 )
อินเทลผลิตชิพไรสารตะกั่ว รณรงค์ใช้สารเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม
นาสเซอร์ เกรเยลิ รองประธานและผู้อำนวยการกลุ่มผลิตและเทคโนโลยี บริษัท อินเทล คอร์ป กล่าวว่า อินเทลมีแผนเปิดตัวชุดชิพและตัวประมวลผลรุ่นใหม่ ที่ใช้สารตะกั่วเป็นส่วนประกอบร่วมเพียง 5% ในช่วงไตรมาส 3 ของปีนี้ โดยมาตรการดังกล่าวมีขึ้นเพื่อลดปริมาณของสารตะกั่วที่มีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม เนื่องจากคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ทุกประเภทที่หมดอายุใช้งานแล้ว จะถูกทำลายทิ้งแบบไม่ถูกวิธี ส่งผลให้สารตะกั่วที่เป็นส่วนประกอบร่วม สามารถเล็ดลอดสู่สภาพแวดล้อม และหากเด็กได้รับสารนี้เข้าสู่ร่างกาย ก็จะส่งผลกระทบต่อสมองและมีพฤติกรรมผิดเพี้ยน บางรายหนักหน่อยก็อาจถึงขั้นเสียชีวิตได้ นอกจากนี้ ในหลายประเทศทั่วโลกได้ออกกฎหมาย โดยจำกัดการใช้สารประกอบอันตรายในการผลิตอุปกรณ์สำหรับผู้บริโภค ทำให้บรรดาผู้ผลิตอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ตกอยู่ในภาวะกดดัน ต้องหันมาใช้วัตถุดิบและส่วนประกอบที่ไม่ทำลายสิ่งแวดล้อมแทน อาทิ บริษัท เอ็นอีซี อิเล็กทรอนิกส์ คอร์ป ธุรกิจในเครือของบริษัท เอ็นอีซี คอร์ป และเป็นผู้ผลิตชิพอันดับ 8 ของโลก เตรียมจะเปลี่ยนไปใช้ส่วนประกอบที่ปลอดจากสารตะกั่ว ภายในเดือน มี.ค. 2548 เช่นกัน (คมชัดลึก พุธ 14 เมษายน 2547 หน้า 9)
ข่าวทั่วไป
ไอร์แลนด์นำร่องชาติปลอดบุหรี่
ไอร์แลนด์เป็นประเทศแรกของโลกที่บังคับใช้กฎหมายห้ามสูบบุหรี่ในที่สาธารณะทุกแห่งทั่วประเทศ ไม่ว่าจะเป็นสำนักงาน สถานีขนส่ง ภัตตาคาร ร้านอาหาร ผับ และสถานบันเทิงต่างๆ หากผู้ใดฝ่าฝืนจะถูกปรับเป็นเงิน 3,000 ยูโร(ราว 149,175 บาท) โดยกฎหมายฉบับนี้มีผลบังคับใช้หลังเที่ยงคืนวันอาทิตย์(28 มี.ค.) ทั้งนี้ กฎหมายห้ามสูบบุหรี่ในที่สาธารณะนี้เคยมีการบังคับใช้ในเมืองใหญ่หรือรัฐในประเทศอื่นมาแล้ว รวมถึงรัฐแคลิฟอร์เนียและนครนิวยอร์กของสหรัฐอเมริกาด้วย แต่ไอร์แลนด์ถือเป็นประเทศแรกที่บังคับใช้กฎหมายนี้ทั่วประเทศ อย่างไรก็ดี แม้กฎหมายฉบับดังกล่าวจะสร้างความพอใจแก่ผู้ที่ไม่สูบบุหรี่ แต่ในทางกลับกันก็สร้างความไม่พอใจแก่ผู้ที่สูบบุหรี่บางคนด้วย อย่างไรก็ดี ผลสำรวจความคิดเห็นประชาชนที่มีต่อกฎหมายห้ามสูบบุหรี่ของรัฐบาลไอร์แลนด์ระบุว่า ชาวไอร์แลนด์ส่วนใหญ่สนับสนุนกฎหมายฉบับนี้ และแม้แต่ผู้ที่สูบบุหรี่มากถึงร้อยละ 40 ก็สนับสนุนกฎหมายฉบับนี้เช่นกัน (มติชนรายวัน อังคารที่ 30 มีนาคม 2547 หน้า12)
โนเบลเกษตร
กระทรวงต่างประเทศสหรัฐประกาศเมื่อวันที่ 29 มีนาคมว่า นายหยวน หลง ผิง นักวิทยาศาสตร์ชาวจีน และนายมอนตี้ โจนส์ จากเซียราลีโอน ได้รับรางวัลเวิลด์ฟู้ดไพรซ์ จากผลงานการช่วยให้เกษตรกรได้ผลผลิตข้าวเพิ่มมากขึ้น โดยจะได้รับเงินรางวัลจำนวน 250,000 ดอลลาร์สหรัฐ (ราว 9,890,000 บาท) ทั้งนี้ รางวัลดังกล่าวได้รับการสนับสนุนโดยนักธุรกิจชาวอเมริกัน ที่ต้องการให้รางวัลนี้เปรียบเสมือนกับรางวัลโนเบลสำหรับผู้ที่ประกอบคุณงามความดีทางด้านการเกษตร (มติชนรายวัน อังคารที่ 30 มีนาคม 2547 หน้า 12)
แจงสาหร่ายหาดป่าตองไม่มีพิษ
นายอุดม ปาติยะเสวี รองอธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเล และชายฝั่ง(ทช.) กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อม(ทส.) เปิดเผยว่า ขณะนี้ได้รับรายงานว่า มีสาหร่ายสีเขียวจำนวนมากถูกคลื่นซัดจากทะเลลอยขึ้นบริเวณชายฝั่งหาดป่าตอง ต.ป่าตอง จ.ภูเก็ต เป็นระยะทางกว่า 6 กิโลเมตร ทำให้นักท่องเที่ยวไม่กล้าลงไปเล่นน้ำ ทั้งนี้ จากผลการตรวจสอบของสถาบันวิจัย และพัฒนาทรัพยากรทางทะเล และชายฝั่ง จ.ภูเก็ต ปรากฏว่า เป็นสาหร่ายอูลวา เรติคูลาทา (Ulva reticulata) ซึ่งไม่มีพิษใดๆ ที่จะเกิดอันตรายกับมนุษย์ ขณะนี้เทศบาลป่าตอง จ.ภูเก็ต ได้เร่งทำความสะอาดชายหาดเพื่อกำจัดสาหร่ายดังกล่าวแล้ว ปัจจัยสำคัญที่ทำให้สาหร่ายเพิ่มขึ้น อย่างรวดเร็วนั้น เกิดจากบริเวณปากบางซึ่งเป็นจุดปล่อยทิ้งน้ำเสียของเทศบาลป่าตองที่ยังไม่มีระบบบำบัดน้ำเสียทำให้สาหร่ายได้รับธาตุอาหาร และเจริญเติบโตอย่างรวดเร็ว บวกกับอุณหภูมิ และแสงแดดที่พอเหมาะ และขณะนี้อยู่ในฤดูมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ ทำให้มีคลื่นซัดเข้าหาฝั่งสาหร่ายที่รากขาดจึงลอยเข้าหาฝั่งเป็นจำนวนมาก แนวทางแก้ไขในระยะยาวนั้นต้องแก้ไขที่ต้นเหตุโดยการไม่ปล่อยทิ้งน้ำเสียที่มีธาตุอาหารลงไปในทะเล ซึ่งเท่าที่ทราบขณะนี้ทางเทศบาลกำลังทำโครงการก่อสร้างอยู่ (มติชนรายวัน พุธที่ 31 มีนาคม 2547 หน้า 10)
วธ.ใช้ช่องดาวเทียมหาที่ตั้งของวัฒนธรรม
ม.ร.ว.จักรรถ จิตรพงศ์ ปลัดกระทรวงวัฒนธรรม (วธ.) เปิดเผยว่า ตามที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี มีนโยบายให้หน่วยงานของรัฐจัดทำระบบข้อมูลสารสนเทศทางภูมิศาสตร์เพื่อใช้เป็นข้อมูลในการทำงานและวางแผนยุทธศาสตร์การดำเนินงานนั้น ในส่วนของวธ.ได้เตรียมการจัดทำแผนที่ทางวัฒนธรรมขึ้นแล้ว โดยจะใช้เครื่องรับส่งสัญญาณระบบหาตำแหน่งในโลกจากดาวเทียม เพื่อค้นหาตำแหน่งของข้อมูลและสถานที่สำคัญต่าง ๆ ทางวัฒนธรรม เช่น โบราณสถาน วัด แหล่งภูมิปัญญาพื้นบ้าน ที่อยู่ของศิลปินแห่งชาติ ตลอดจนร้านอาหารที่ขึ้นชื่อในแต่ ละท้องถิ่น โดยเครื่องรับสัญญาณดังกล่าวจะสามารถกำหนดจุดลงในแผนที่ประเทศไทยได้โดยอัตโนมัติ ขณะเดียวกันเครื่องมือจะสามารถรายงานให้ทราบทันทีว่าชื่อสถานที่นั้นอยู่ในพื้นที่ใด จังหวัดใด และสามารถเดินทางไปได้โดยใช้ถนนสายไหน เนื่องจากเครื่องดังกล่าวจะใช้ข้อมูลจากดาว เทียมใน 3 มิติ คือ เส้นรุ้ง เส้นแวง และความสูงระดับน้ำทะเล ทำให้มีความแม่นยำสูง มีค่าความเบี่ยงเบนไม่เกิน 1 เมตร ปลัดกระทรวงวัฒนธรรม กล่าวต่อไปว่า วธ.ได้จัดเตรียมงบประมาณกว่า 700,000 บาท ในการจัดหาเครื่องหาตำแหน่งโลก หรือ GIS ให้กับหน่วยงานในสังกัด คาดว่าแผนที่วัฒนธรรมจะเสร็จสิ้นและสามารถใช้งานได้ภายในระยะเวลา 1 ปี (เดลินิวส์ จันทร์ที่ 12 เมษายน 2547 หน้า 27)
คนไทยกินหวานเพิ่มขึ้น2เท่าตัวเป็นอันตรายต่อสมองและร่างกาย
น.พ.วัลลภ ไทยเหนือ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข สธ. เปิดเผยว่าขณะนี้อัตราการบริโภค น้ำตาลของคนไทยเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วในช่วง 2 ทศวรรษที่ผ่านมา โดยเฉลี่ยเพิ่มจากคนละ 12 กิโลกรัมต่อปีในปี 2526 เป็นคนละ 29 กิโลกรัมต่อปี ในปี 2545 หรือเพิ่มขึ้นกว่า 2 เท่าตัว ซึ่งเป็นแนวโน้มเดียวกันกับการบริโภคน้ำตาลในรูปแบบขนม ลูกอมและเครื่องดื่มประเภทต่างๆ ปรากฏชัดเจนกับเด็กรุ่นใหม่ที่กระแสบริโภคถูกกระตุ้นโดยการโฆษณา ซึ่งจากข้อมูลทาง โภชนาการและสุขภาพ เป็นที่ประจักษ์ชัดแล้วว่า การบริโภคน้ำตาลที่มากเกินควร นอกจากนำมา ซึ่งปัญหาโรคอ้วนและโรคฟันผุแล้ว การรับประทานน้ำตาลมากๆ มีอันตรายต่อสุขภาพ หลายประการ โดยน้ำตาลซูโครสหรือฟรุกโตส จะทำให้ระดับไขมัน กลูโคส อินซูลินและ กรดยูริกในเลือดสูงขึ้น เป็นปัจจัยเสี่ยงสำคัญทำให้เกิดโรคหัวใจขาดเลือดและโรคเบาหวาน "ผู้ที่ชอบกินหวานจัดบ่อยๆ จะทำให้ระบบความสมดุลแร่ธาตุในร่างกายเสียไป ส่งผลต่อระบบ ภูมิคุ้มกันโรคในร่างกายลดต่ำลง ผลที่ตามมาก็คือทำให้ติดเชื้อง่าย นอกจากนี้การเผาผลาญ น้ำตาลในร่างกายบ่อยๆ ยังเป็นตัวเร่งให้เกิดอนุมูลอิสระ เมื่อบริโภคเป็นเวลานาน จะก่อให้ ระดับไขมันไตรกลีเซอรายด์ในเลือดสูง อีกทั้งการรับประทานน้ำตาลซูโครสมาก ทำให้กรดอะมิโนที่มีชื่อว่า ทริปโตฟาน ถูกเร่งเข้าสู่สมองมากเกินไป ทำให้เสียสมดุลของ ฮอร์โมนในสมอง ผลที่ตามมาคือ เกิดอาการเซื่องซึม เหนื่อย ไม่กระฉับกระเฉง ซึ่งหากเป็นใน เด็กจะทำให้เรียนไม่รู้เรื่อง เป็นวัยทำงานก็จะทำงานไม่มีประสิทธิภาพ" น.พ.วัลลภ กล่าว (ไทยรัฐ จันทร์ที่ 12 เมษายน 2547 หน้า 7)
ผลิตเครื่องดื่มยาป้องกันโรคหัวใจทำขึ้นจากน้ำสกัดผลมะเขือเทศ
นักวิทยาศาสตร์เมืองน้ำชา ได้คิดค้นเครื่องดื่ม ซึ่งอ้างว่ามีสรรพคุณช่วยป้องกัน ไม่ให้เลือดจับตัวเป็นก้อนได้ ช่วยป้องกันไม่ให้ล้มป่วยด้วยโรคหัวใจและอัมพาต เครื่องดื่มอันมีสรรพคุณเหมือนกับเป็นยาในตัว ปรุงขึ้นจากสารสกัดจากมะเขือเทศ นักวิทยาศาสตร์ผู้คิดขึ้น กล่าวอ้างว่า มันมีสรรพคุณเหนือกว่ายาแอสไพริน เพราะมันได้ช่วย ละลายเลือด ในตัวของอาสาสมัคร 100 กว่าคน ไม่ให้เหนียวข้นและจับตัวเป็นก้อน ลงได้ถึง 80% ผู้ผลิตกล่าวว่า หากได้ทดลองในขนาดใหญ่ได้รับความสำเร็จ ก็จะผลิตออกจำหน่ายตาม ซุปเปอร์มาร์เกตในอังกฤษตอนปลายปีนี้ โดยจะบรรจุในขวดแบบดื่มแล้วทิ้ง เพื่อให้ประชาชน ซื้อไปใช้ดื่มสำหรับป้องกันโรคหัวใจวายและอัมพาต และยังคิดว่าบริษัทการบินต่างๆ ก็คงจะพากันซื้อเพื่อแจกให้ผู้โดยสารดื่มป้องกันอาการโลหิตจับตัวตามเส้นเลือดที่ขา เพราะเหตุที่ต้องนั่งอยู่นิ่งๆ ไม่ได้ขยับเขยื้อนเป็นเวลานานด้วย (ไทยรัฐ จันทร์ที่ 12 เมษายน 2547 หน้า 7)
ฟันเสียต้นเหตุคร่าชีวิตผู้สูงอายุเสียฟันทำให้น้ำหนักตัวลดด้วย
แพทย์เตือนผู้สูงอายุที่ฟันเสียด้วยโรคเยื่อหุ้มฟันอักเสบ อาจเป็นเหตุให้น้ำหนักตัวลด ร่างกายเกิดอ่อนแอ เปิดช่องให้กับโรคภัยต่างๆ ได้ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญโรคชรา ของมหาวิทยาลัยพิตต์สเบิร์กในสหรัฐฯ ได้พบจากการศึกษาวิจัย กับผู้สูงอายุ ที่มีอายุเกิน 65 ปีขึ้นไป จำนวน 1,053 คนว่า ผู้สูงอายุผู้ที่ฟันเสียด้วย โรคเยื่อหุ้มฟันอักเสบ มักจะมีน้ำหนักตัวลด และยิ่งมีอาการมากก็จะยิ่งน้ำหนักตัวลดลงมาก อันเป็นเหตุให้ร่างกายมีความอ่อนแอ และเปิดทางให้กับโรคร้ายและการสูญเสียชีวิตได้ (ไทยรัฐ จันทร์ที่ 12 เมษายน 2547 หน้า 7)
ห่วงคนไทยบริโภคสารพิษ ป้อนข้อมูลเลือกอาหารปลอดภัย
กรมวิชาการเกษตรและโครงการ IPM จึงร่วมกันเสริมนโยบาย Food Safety ของรัฐบาล ด้วยการจัดทำหนังสือวันนี้ลูกของคุณ กินยาพิษ หรือเปล่า เพื่อให้ความรู้เกี่ยวกับสารเคมีกำจัดศัตรูพืช และข้อมูล ต่างๆ เพื่อผู้บริโภคจะ ได้ตระหนักถึงพิษภัยในผัก ผลไม้ และเนื้อสัตว์ที่บริโภคเข้าไป ซึ่งเขียนโดย Andrew Bartlett จากองค์การอาหารและการเกษตรแห่ง สหประชาชาติ และ Hein Bijimakers ผู้เชี่ยวชาญด้านการป้องกันและ การจัดการศัตรูแบบผสมผสานและด้านแมลง Andrew หนึ่งในผู้เขียนกล่าวว่า หวังว่าเนื้อหา ในหนังสือเล่มนี้จะช่วยให้ เกษตรกร และผู้มีส่วนร่วม มีทางเลือก ในการใช้หรือไม่ใช้ สารกำจัดศัตรูพืช ส่วนผู้บริโภคก็น่าจะได้ข้อมูลว่าควรซื้อ หรือไม่ซื้อผลิตผลอะไรบ้าง และมี ความปลอดภัยแค่ไหน พร้อมกับจะได้ มีการเริ่มมาตรการ ลดสารพิษให้กับ สังคมไทยด้วย ผู้เขียนยังบอกด้วยว่า มีความสนใจในเรื่องการใช้ สารเคมีใน เมืองไทยเป็นอย่างมาก ดังนั้น จึงต้องบอก ถึงสถานการณ์ที่กำลังเกิดขึ้น ด้วยข้อมูล ที่ได้จากการสัมภาษณ์เกษตรกร และผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้อง โดยใช้เวลารวบรวมถึง 1 ปี เพื่อที่จะให้ ข้อมูลออกมาเป็นทางเลือกให้กับผู้ ภายในหนังสือ "วันนี้ลูกของคุณกินยาพิษหรือเปล่า" สำหรับผู้ที่สนใจหนังสือเล่มนี้ ทางโครงการ IPM DANIDA แจกให้ฟรี โดยติดต่อโครงการฯ กรมวิชาการเกษตร 50 ตึกกสิกรรม หรือโทร. 0-2579-9654-5 (ไทยรัฐ จันทร์ที่ 12 เมษายน 2547 หน้า 24)
อาหารจากสัตว์น้ำมีไขมันจะเปิบของดีหรือไม่..อยู่ที่วิธีการ
ดร.สิทธิ บุณยรัตผลิน อธิบดีกรมประมง เผยว่าในฐานะที่รับผิดชอบ สัตว์น้ำโดยตรง จึงต้องออกมาเร่งประชาสัมพันธ์ให้ผู้บริโภค เข้าใจถึง การบริโภคอาหาร ยิ่งอาหารทะเลที่ต่างชาติก็มีการกล่าวหาว่ามีคอเลสเทอรอลสูง ทาง กองตรวจสอบรับรองมาตรฐานคุณภาพสัตว์และผลิตภัณฑ์สัตว์น้ำ นำโดย ดร.กฤษณา สุขุมพานิช นักวิชาการผลิตภัณฑ์อาหารที่ได้รวบรวม ข้อมูลเกี่ยวกับ ประโยชน์ของสัตว์น้ำจาก Georgla Department of Human Resources, Florida Departement of Agriculture and Consumer Services, The University of Vermont Extension และสมาคมแช่เยือกแข็งไทย ระบุว่า... สัตว์น้ำเป็นแหล่งที่ดีของโปรตีน, เกลือแร่, วิตามิน, ไขมันและคอเลสเทอรอลต่ำ มีกรดไขมัน ชนิด โอเมก้า-3 ตามธรรมชาติในปริมาณสูง ซึ่งกรดไขมันโอเมก้า-3 เป็นไขมันชนิดไม่อิ่มตัว พบในปลา และสัตว์น้ำจำพวกมีเปลือก (Shrilfish) เช่น ปู, หอย และ กุ้ง การตรวจสอบพบว่าปลาแช่แข็งและปลาทูน่ากระป๋อง ก็ยังมีโอเมก้า-3 อยู่ด้วย...สารไอโอดีน ในสัตว์น้ำ ช่วยให้การทำงาน ของต่อมไทรอยด์สมบูรณ์ สารไนอาซิน ทำให้ผิวพรรณสดใส วิตามินบีเชิงซ้อน (Vitamin-B compiex) และ ฟอสฟอรัส ทำให้ กระดูกและฟันแข็งแรง โปแตสเซียม สร้างระบบประสาท และ กล้ามเนื้อ ผู้บริโภคมีความคลางแคลงเกี่ยวกับ ปริมาณ คอเลสเทอรอลในสัตว์น้ำจำพวก กุ้ง จากการวิจัยพบว่า กุ้งมีปริมาณ คอเลสเทอรอล 2 ชนิด คือ LDL (Low-density lipoprotein) เป็น "ไขมันไม่ดี" และ HDL (High-density lipoprotein) เป็น "ไขมันที่ดี" การประกอบ อาหารทะเล โดยการต้ม, นึ่งและย่าง จะได้ "ไขมันที่ดี" เพราะการทอดหรือผัดด้วยน้ำมันหรือใส่เนยและ มายองเนส จะทำให้เกิด "ไขมันที่ไม่ดี" งานวิจัยที่ได้รวบรวมไว้ระบุด้วยว่า หากบริโภคสัตว์น้ำสัปดาห์ละ 2 ครั้ง ลดความเสี่ยงจาก โรคหัวใจ, การจับตัวของหลอดเลือดเป็นที่มาของการเกิดหัวใจล้มเหลว (heart attack) และมีคุณสมบัติ ทำให้ไม่เป็นโรคความจำเสื่อม (Alzheimer) (ไทยรัฐ จันทร์ที่ 12 เมษายน 2547 หน้า 7)
ส้วมไฮเทค
บ.มัตสุชิตะ ผู้ผลิตสินค้าอิเล็กทรอ นิกส์รายใหญ่ของญี่ปุ่นได้ทุ่มทุนมหาศาลในการพัฒนาสินค้าใหม่ ๆ สำหรับบ้านแห่งอนาคต และที่น่าสนใจขณะนี้ บ.โตโต้ ผู้ผลิตเครื่องสุขภัณฑ์ได้ผลิตโถส้วมไฮเทค สามารถตรวจวัดระดับน้ำตาลในปัสสาวะได้แล้ว เหมาะสำหรับคนป่วยด้วยโรคเบาหวาน และกำลังจะพัฒนาให้สามารถเชื่อมต่อกับระบบเครือข่ายได้ด้วย เพื่อที่จะเก็บข้อมูลและส่งให้กับแพทย์ได้โดยตรง แต่สิ่งที่ยังน่ากังวลก็คือเรื่องของระบบการรักษาความปลอดภัยบนเครือข่าย คนต่างประเทศถือว่าข้อมูลส่วนตัวเป็นเรื่องสำคัญ โดยเฉพาะข้อมูลสุขภาพ (เดลินิวส์ อังคารที่ 13 เมษายน 2547)
พันธุ์ข้าวผสมยีนมนุษย์อนาคตไม่สดใส รัฐแคลิฟอร์เนียห้ามปลูกในเชิงการค้า
กระทรวงเกษตรของรัฐแคลิฟอร์เนียไม่ออกใบอนุญาตให้กับบริษัทเวนเทรีย ไบโอซายส์ ในปลูกข้าวที่มียีนมนุษย์ผสม เพราะต้องการให้เวลากับสาธารณชนมีโอกาสอภิปรายเกี่ยวกับข้าวที่มียีนมนุษย์ผสม ส่วนเหตุผลทางการเมืองที่รัฐแคลิฟอร์เนียไม่ได้เอ่ยถึงก็คือ ชาวนาสหรัฐฯกลัวว่าผู้บริโภคของประเทศที่ทรงอำนาจ เช่น ชาวยุโรปและญี่ปุ่น ซึ่งไม่ชอบอาหารที่ได้รับการตัดแต่งพันธุกรรม จะปฏิเสธที่จะซื้อข้าวอเมริกันหากบริษัทเวนเทรีย ไบโอซายส์ได้รับใบอนุญาตให้ปลูกข้าวยีนมนุษย์ อย่างไรก็ตาม รัฐบาลของรัฐแคลิฟอร์เนียอนุญาตให้บริษัทเวนเทรียฯ ปลูกข้าวยีนคนในแปลงทดลองขนาดเล็กได้ แต่การที่รัฐแคลิฟอร์เนียปฏิเสธให้ปลูกเพื่อการค้า ก็ไม่ได้ทำให้บริษัทท้อถอยแต่อย่างใด นายสกอต ดีเทอร์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของบริษัทดังกล่าวบอกว่า ปีหน้าบริษัทจะขอใบอนุญาตปลูกข้าวยีนมนุษย์อีกครั้ง แต่ถ้ารัฐแคลิฟอร์เนียยังดื้อดึง บริษัทก็จะย้ายไปลงทุนที่รัฐฮาวายหรือรัฐทางใต้ เพราะทางผู้บริหารต้องการขายข้าวยีนคนที่มีสรรพคุณรักษาโรคนี้ให้ได้ก่อนปี 2549.(ไทยรัฐ อังคารที่ 13 เมษายน 2547)
องค์กรสวล.โวยอุตสาหกรรมการเกษตร ทำรายได้เยอะแต่ทำลายสิ่งแวดล้อมแยะ
องค์กรด้านสิ่งแวดล้อมศึกษาพบว่า อุตสาหกรรมการเกษตรที่แม้จะสร้างรายได้ให้มหาศาล แต่ก็มีการทำลายพื้นป่าเป็นจำนวนมากในแทบทุกทวีป กองทุนสัตว์ป่าโลก (WWF) ระบุว่า การทำการเกษตรกรรมเป็นกิจกรรม ที่เป็นปัจจัยที่ทำลายสิ่งแวดล้อมมากที่สุด จากหนังสือ "การเกษตรกรรมของโลกและสภาวะแวดล้อม" (World Agriculture and the Environment) ของเจสัน เคลย์ ที่เป็นการดำเนินการของ WWF ระบุว่า แม้ภาคเกษตรกรรมจะสร้างงานและผลผลิตต่อปีมีมูลค่าประมาณ 1,300 ล้านล้านดอลลาร์ต่อปี แต่อุตสาหกรรมการเกษตรทำลายพื้นที่ป่าอย่างมหาศาล เมื่อเปรียบเทียบจะนับว่ามากกว่าพื้นที่ของประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ถึง 4 เท่า บรรดาสัตว์ได้รับผลกระทบจากการขยายพื้นที่เพาะปลูกมากเกินไป อาทิ น้ำมันจากต้นปาล์ม ส่งผลกระทบต่อช้างในเอเชีย แรดสุมาตรา ลิงอุรังอุตัง และเสือ เป็นต้น การใช้น้ำที่มีปริมาณ 2,500 ล้านล้านลิตรต่อปี จะเป็นการนำไปใช้เพื่อการเกษตรถึงร้อยละ 60 ในขณะที่หลายพื้นที่เริ่มประสบปัญหาขาดแคลนน้ำทั้งในอเมริกา แอฟริกาเหนือ คาบสมุทรอารเบีย จีน และอินเดีย ที่น่าเป็นห่วงยิ่งกว่านั้น คือ รัฐบาลหลายประเทศสนับสนุนการทำเกษตรกรรมที่ใช้พื้นที่ขนาดใหญ่ ซึ่งการทำการเกษตรแบบนี้ จะมีการใช้สารเคมี และเครื่องมือหนัก อันอาจส่งผลอันตรายต่อสัตว์ป่าได้ เช่น ประชากรนกในอังกฤษในช่วง 30 ปีที่ผ่านมา ลดลงไปถึงร้อยละ 77 อย่างไรก็ตาม ได้เรียกร้องให้รัฐบาลแต่ละประเทศเข้าแก้ปัญหา โดยทางองค์กร ร่วมกับธนาคารโลก ให้การสนับสนุน การทำเกษตรกรรมที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม. (ไทยรัฐ อังคารที่ 13 เมษายน 2547)
สท.เฟ้นเยาวชนดีเด่น-กระตุ้นสังคมเสนอชื่อ
นางมยุรา มนะสิการ โฆษกกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) กล่าวว่า มีเยาวชนไทยเป็นจำนวนมากที่อุทิศตนทำงานเพื่อสังคมกระจายอยู่ทั่วประเทศ ทางสำนักงานส่งเสริมสวัสดิภาพและพิทักษ์เด็ก เยาวชน ผู้ด้อยโอกาส คนพิการ และผู้สูงอายุ (สท.) ขอเชิญชวนองค์กร สถาบันการศึกษา จังหวัด หน่วยงานในท้องถิ่น ชุมชน และประชาชนทั่วไป ร่วมเสนอชื่อเยาวชน กลุ่มเยาวชน บุคคล องค์กร ที่คิดว่ามีผลงานและมีคุณสมบัติเหมาะสม เพื่อสนับสนุนสร้างแรงจูงใจแก่ผู้ทำคุณงามความดี ให้เป็นเยาวชนดีเด่นแห่งชาติประจำปี 2547 โดยจะมีการประกาศยกย่องเยาวชนใน 10 สาขา คือ สาขากฎหมายและการปกป้องคุ้มครองสิทธิเด็กและเยาวชน, การศึกษาและวิชาการ, กีฬาและนันทนาการ, คณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ คอมพิวเตอร์ เทคโนโลยีและสิ่งประดิษฐ์ทางวิทยาศาสตร์คุณธรรมและจริยธรรม, ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม, พัฒนาเยาวชนบำเพ็ญประโยชน์ อาสาสมัคร สวัสดิการสังคมและประสานงาน, ศิลปวัฒนธรรม, สื่อมวลชนเพื่อเด็กและเยาวชนที่ป้องกันปัญหาสังคมและสาขาอาชีพอื่นๆ โดยจะได้รับพระราชทานรางวัลจากสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร ในวันเยาวชนแห่งชาติ 20 กันยายน นี้ สำหรับวิธีการเสนอต้องมีผู้รับรองเป็นบุคคล ในหน่วยงานที่เป็นนิติ บุคคล เช่น ครู ผู้ใหญ่บ้าน เจ้าหน้าที่จากหน่วยงานต่างๆ องค์กร โดยส่งประวัติ และผลงานหรือขอรับแบบเสนอประวัติหรือสอบถามเพิ่มเติม ที่สำนักงานส่งเสริมและพัฒนาศักยภาพเยาวชน สำนักงานส่งเสริมและพิทักษ์เยาวชนโทร. 0-2651-6505, 0-2255-5850-7 หรือใน www.opp.go.th ปิดรับสมัคร วันที่ 30 เม.ย.นี้. (ไทยรัฐ อังคารที่ 13 เมษายน 2547)
ปลุกจิตวิญญาณคนไทย รักษ์ป่าที่เหลืออยู่ผืนสุดท้าย
รตยา จันทรเทียร ประธานมูลนิธิสืบนาคะเสถียร (อดีตผู้ว่าการการเคหะแห่งชาติ) ได้ร่วมมือกับภาคเอกชน จัดตั้งมูลนิธิป่าเขตร้อนขึ้น เมื่อปี 2546 ด้วยเจตนารมณ์อันแน่วแน่ที่จะอนุรักษ์ผืนป่า ซึ่งเป็นต้นกำเนิดของแหล่งน้ำ และความสมดุลของระบบนิเวศ เพื่อประโยชน์ระยะยาวของมนุษยชาติ โดยมุ่งหวังที่จะเป็นศูนย์รวมแห่งการผนึกกำลังความช่วยเหลือ จากภาคธุรกิจสู่ผืนป่าอย่างแท้จริง ไม่แบ่งแยกว่าจะเป็นผู้ประกอบการจากภาคอุตสาหกรรมใด และไม่ว่าจะอยู่ใกล้หรือไกลผืนป่าเพียงใด ก็สามารถเป็นกำลังสำคัญในการดูแลรักษาผืนป่า และสัตว์ป่าของประเทศให้คงอยู่ได้อย่างปลอดภัย และยั่งยืน (ไทยรัฐ อังคารที่ 13 เมษายน 2547)
ออกกฎหมายขจัดขยะอิเล็กทรอนิกส์
ตามที่สหภาพยุโรปได้ออกระเบียบว่าด้วยเศษซากผลิตภัณฑ์เครื่องใช้ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ และระเบียบว่าด้วยการกำจัดการใช้สารที่เป็นสารอันตรายบางประเภท โดยกำหนดให้ประเทศสมาชิกจะต้องออกกฎหมายแ นวทางตามระเบียบการจัดการดังกล่าวภายในวันที่ 13 ส.ค.2547 โดยประเทศผู้นำเข้าสินค้าดังกล่าว จะต้องรับภาระค่าใช้จ่ายในการกำจัดซากขยะดังกล่าว โดยจะถูกบังคับใช้กับผู้นำเข้าสินค้าดังกล่าว ตั้งแต่วันที่ 1 ก.ค.2549 นั้น นายอดิศักดิ์ ทองไข่มุกต์ รองอธิบดีกรมควบคุมมลพิษ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กล่าวถึงแนวทางการจัดการปัญหาขยะอิเล็กทรอนิกส์ ว่า ได้มีการประชุมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งหมด โดยได้ประเมินปริมาณขยะอิเล็กทรอนิกส์ทั่วประเทศพบว่า มีอัตราการขยายตัวปริมาณขยะอิเล็กทรอนิกส์จำนวนมาก ในปี 2546 มีสูงถึง 60,918 ตัน แบ่งเป็นโทรทัศน์ 8,202 ตัน ตู้เย็น 22,204 ตัน เครื่องซักผ้า 11,370 ตัน เครื่องปรับอากาศ 17,031 ตัน เป็นต้น ขณะที่ 90% ถูกทิ้งรวมกับขยะชุมชน ซึ่งประชาชนยังขาดความตระหนักถึงพิษภัยหรืออันตรายของขยะอิเล็กทรอนิกส์ และยังไม่มีระบบการคัดแยกและเก็บรวบรวมที่ดีพอ ซึ่งกรมควบคุมมลพิษ ได้ร่างกรอบระเบียบเพื่อเป็นแนวทางในการจัดการซากอิเล็กทรอนิกส์ครั้งแรกของไทย พร้อมทั้งเป็นกรอบที่รองรับผลกระทบที่จะเกิดขึ้นจากระเบียบของสหภาพยุโรป ด้วยเช่นกัน (ไทยรัฐ พุธที่ 14 เมษายน 2547 หน้า 11)
"พาณิชย์" เตือนภัยผู้ส่งออกเซรามิก
องค์การอาหารและยาของสหรัฐฯ (FDA) ได้ออกประกาศกำหนดระดับสารตะกั่วที่เจือปน ในสินค้าประเภทผลิตภัณฑ์เซรามิกที่มีการเคลือบ เช่น เหยือก ถ้วยกาแฟ ชุดรับประทานอาหาร โดยเฉพาะเครื่องปั้นดินเผา หรือเครื่องเคลือบ โดยเฉพาะเครื่องเคลือบดินเผา ที่ผลิตโดยบุคคล หรืออุตสาหกรรมขนาดเล็ก เพราะไม่ได้ผ่านขบวนการป้องกันปริมาณสารพิษซึมเข้าสู่อาหาร ทำให้ผู้บริโภคได้รับอันตราย โดยประกาศดังกล่าวได้กำหนดระดับการกรองสารตะกั่ว เช่น จานผลไม้ขนาดเล็ก ต้องมีระดับการกรองสารตะกั่ว 5.0 ppm เหยือกชนิด 2 หู ระดับการกรอง 2.5-5.0 ppm จานอาหารและชามกลมเล็ก ไม่เกิน 7.0 ppm และยังเพิ่มความถี่ในการตรวจสอบสินค้านำเข้าด้วย นอกจากนี้ หน่วยงานศุลกากรสหรัฐฯยังได้จัดทำสมุดคู่มือเตือนนักท่องเที่ยวสหรัฐฯ ที่เดินทางไปต่างประเทศ และอาจได้รับอันตรายจากเครื่องใช้บนโต๊ะอาหารในประเทศเม็กซิโก จีน อินเดียและฮ่องกง อย่างไรก็ตาม หน่วยตรวจสอบและให้การรับรองด้านอาหารของจีนได้จัดทำข้อตกลงกับ FDA เพื่อรับประกันว่า สินค้าเซรามิกจากจีนผ่านการตรวจสอบ ความปลอดภัยระดับสารตะกั่วตกค้างแล้ว และมีระดับการกรองสารตะกั่วตามมาตรฐาน ปัจจุบันสหรัฐฯ อยู่ระหว่างจัดทำข้อตกลงในลักษณะเดียวกันกับ อิตาลี สเปน และฮ่องกง (ไทยรัฐ พุธที่ 14 เมษายน 2547 หน้า 8)
ดูอาการก่อนกินอาหารเสริม
สถาบันวิจัยฮันคิน แล็บ หนึ่งในผู้ผลิตอาหารเสริม ของประเทศฟินแลนด์ดำเนินการศึกษาวิจัยและเป็นผู้ผลิตอาหารเสริมหลายชนิด เป็นผู้นำการตลาดในผลิตภัณฑ์อาหารเสริมธรรมชาติใหญ่ที่สุดในแถบสแกนดิเนเวีย ตลอดจนเป็นสถาบัน วิจัยฯ ชั้นแนวหน้าของยุโรป ได้รับการรับรองมาตร ฐานระดับโลก Good Manufacturing Practica หรือ GMP รับรองการผลิตที่มีคุณภาพสูง และความปลอดภัย การผลิตตรงตามมาตรฐาน รัฐบาลฟินแลนด์และนานาชาติให้การยอมรับ มีหน่วยงานทั้งนอกและในประเทศ ตรวจสอบอย่างละเอียด แม้ว่า GMP มีมาตรฐานการรับรองที่เหมือนกันทั่วโลก แต่ในประเทศฟิน แลนด์ผู้คุ้มกฎเข้มงวดมาก การเข้าตรวจสอบแต่ละครั้งไม่แจ้งล่วงหน้า จึงเตรียมความพร้อมตลอด เพื่อรักษาระดับมาตรฐานคุณภาพสูง เวลาที่ค้นพบข้อผิดพลาด มีข้อเสนอแนะให้ผู้ผลิต หากไม่ปฏิบัติ ตามจะถูกยึดใบอนุญาตทันที สำหรับตลาดอาหารเสริมในประเทศไทย อาหารเสริมผิวฟีมีแดน มียอดสั่งซื้ออันดับ 3 จาก 40 ประเทศทั่วโลก ผลิตจากโปรตีนจากปลาทะเลน้ำลึกย่านสแกนดิเนเวีย น.ส.พริ้ง พฤกษ์ศลานันท์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท สยาม ซีวิค จำกัด กล่าวว่าสถาบัน วิจัยฮันคิน แล็บ พัฒนาผลิตภัณฑ์ให้เหมาะกับสภาพผิวคนไทยโดยเฉพาะ ก่อนรับประทานอาหารเสริมแนะนำว่าควรล้างพิษหรือรับประทานอาหารประเภทไบโอเอนไซม์ อย่าคิดว่าอาหารเสริมเป็นเม็ดหรือเป็นยา รับประทานเวลาไหนก็ได้ อาหารเสริมบางชนิดสกัดมาจากน้ำมัน จึงควรรับประทานหลังอาหาร "อาการของผู้ที่จะเริ่มรับประทานอาหารเสริม สังเกตจากอาการง่วง ซึมเศร้า เหนื่อยง่าย และแพ้ การเลือกรับประทานอาหารเสริมให้ถูกต้อง ควรเลือกตามอาการ ที่สำคัญดูผู้ผลิตที่มีความถนัดโดยตรง ขณะเดียวกันผู้แทนจำหน่ายควรแนะนำให้ความรู้ถึงวิธีการเลือกซื้อ และอาการเริ่มต้นที่ควรรับประทานอาหารเสริม (เดลินิวส์ พฤหัสบดีที่ 15 เม.ย. 47)
สั่งจับตายร้านทองไร้คุณภาพ
นายอนุวัฒน์ ธรมธัช เลขาธิการคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) เปิดเผยว่า ตลอดช่วง 2 ปีที่ผ่านมา สคบ.ได้จัดประชุมร่วมกับผู้ผลิตและจำหน่ายทองคำในประเทศ ที่จะร่วมกันสร้างมาตรฐานทองคำและทองรูปพรรณของประเทศไทย ให้เหมือนกัน เพื่อผลักดันให้ไทยเป็นศูนย์กลางทองคำของโลกเริ่มตั้งแต่ปี 2547 เพราะไทยเป็นประเทศเดียวในโลกที่ทำทองรูปพรรณด้วยมือ มีฝีมือดี และมีความละเอียดกว่า ขณะที่ ประเทศอื่นๆทำทองรูปพรรณด้วยเครื่องจักร ไม่สามารถปรับแต่งแก้ไขซ่อมแซมได้ "กฎหมายที่ สคบ.นำมาดำเนินการควบคู่กับมาตรการดังกล่าว คือการออกประกาศควบคุมสลากให้ทองคำที่ผลิตและจำหน่ายในประเทศ ต้องมีเนื้อทองไม่ต่ำกว่า 96.5% ต่อเนื้อทอง 10 กรัมขึ้นไป ซึ่งมีผลบังคับใช้ตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา และในวันที่ 19 เม.ย.นี้ พล.อ.ธรรมรักษ์ อิศรางกูร ณ อยุธยา รองนายกรัฐมนตรี จะเดินทางไปตรวจสอบโรงงานผลิต และร้านที่จำหน่ายทองคำย่านเยาวราช และบ้านหม้อ ซึ่งเป็นแหล่งผลิตใหญ่ของประเทศ ที่ส่งไปให้ร้านจำหน่าย 7,000 แห่งทั่วประเทศ เพื่อนำเจ้าหน้าที่ไปตรวจสอบดูว่าทองคำได้มาตรฐานตามที่ สคบ.กำหนดหรือไม่ โดยตรวจสอบร้านละ 5 เส้น ด้วย 2 วิธี คือการใช้เครื่องเอกซเรย์ และการตรวจแบบหลอมละลาย โดยทองรูปพรรณทุกเส้นต้องมีเนื้อทอง 96.5% ขณะที่ข้อต่อของทองต้องมีเนื้อทองไม่ต่ำกว่า 93.5% ซึ่งทางร้านต้องเสียค่าตรวจสอบเส้นละ 600 บาท" นายอนุวัฒน์กล่าวว่า กรณีนี้จะทำให้คนต่างชาติเชื่อมั่น ในมาตรฐานทองคำของไทยมากขึ้น และจากนี้ไปร้านทองทุกแห่งต้องปิดป้ายราคารับซื้อทองคำคืนให้ชัดเจน จะไม่ให้เป็นแบบในอดีตที่ผู้นำทองคำไปขายต้องถูกหักเงินนับพันบาท จากนี้ไปจะให้ หักได้ไม่เกิน 5% และการทำโลโก้ยี่ห้อทองคำ จะให้ประทับลงไปในเนื้อทอง ไม่ใช่แบบอดีตที่ประทับเฉพาะที่ข้อต่อซึ่งนำไปเปลี่ยนในเส้นอื่นได้ (ไทยรัฐ พฤหัสบดีที่ 15 เม.ย. 47
ชุดตรวจหาสารมอมสาว หวังลดปัญหาล่อลวง-ข่มขืน
บริษัทอังกฤษ คิดชุดตรวจหาสารประกอบสำคัญของยามอมประเภทยากล่อมประสาทที่แอบใส่ลงในเครื่องดื่ม หวังลดคดีมอมยาข่มขืนที่กำลังพุ่งสูง โดยที่ผู้ตกเป็นเหยื่อมีทั้งหญิงและชาย ชุดตรวจสอบ ที่มีชื่อว่า "ดริ้ง ดีเทกทีฟ" หรือชุดตรวจยามอมดังกล่าว พัฒนาขึ้นโดยบริษัท บลูมสเบอรี อินโนเวชั่น ในอังกฤษ ใช้ตรวจหาสารเบนโซไดเซฟินส์ ซึ่งประกอบด้วยโรฮิปนอล จีเอชบี และเคทามีน สารเสพติดที่มักใช้ทำยามอมเพื่อข่มขืนหรือล่วงละเมิดทางเพศ ซึ่งเป็นคดีที่มียอดก่ออาชญากรรมเพิ่มสูงขึ้น เฉพาะในอังกฤษในปีที่แล้วมีคดีข่มขืนและล่วงละเมิดทางเพศที่เกี่ยวข้องกับการใช้ยามอมเกือบ 1,000 คดี ขณะที่ผู้เชี่ยวชาญเชื่อว่า ตัวเลขแท้จริงอาจจะสูงกว่านี้ ชุดตรวจดังกล่าว ราคา 7.30 ดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 300 กว่าบาท สามารถตรวจหาสารประกอบหลักทั้ง 3 ชนิดในยามอมได้ โดยรู้ผลภายใน 30 วินาที หากสงสัยว่าเครื่องดื่มถูกผสมด้วยยามอม ก็สามารถใช้ชุดตรวจดังกล่าว โดยนำหลอดดูดตัวอย่างน้ำมาหยดทดสอบลงบนแผ่นตรวจที่มีความไวต่อสารเคมีหลักทั้งสาม โดยแผ่นทดสอบจะเปลี่ยนสีเพื่อแสดงให้ทราบว่าตรวจพบสารเคมี สำหรับชุดตรวจนี้ บริษัทจะเริ่มวางจำหน่ายในฝรั่งเศส สหรัฐอเมริกา ออสเตรเลีย และนิวซีแลนด์ (คมชัดลึก พุธ 14 เมษายน 2547 หน้า 9)
KMUTT
Digital Library
Contact Digital Library : info@lib.kmutt.ac.th
Tel : 0-2470-8215
|
|
|