หัวข้อข่าวปีที่ 5 ฉบับที่ 22 ประจำวันที่ 2004-05-31

ข่าวการศึกษา

รัฐบาลส่ง "สุธรรม" ไล่บี้ระบบเอ็นทรานซ์
ศธ.รุกแก้วิกฤติสถานศึกษาเอกชน
ห้ามใช้เงินกู้ดึงเด็กเข้าเรียน
โผล่อีกหนึ่งเด็กอัจฉริยะ ร้องศธ.หาที่เรียนใหม่
อธิการบดีมศวชี้นศ.ป.โท-เอกทำวิจัยไม่เป็น

ข่าววิทยาศาสตร์/เทคโนโลยี

ให้มนุษย์อวกาศขับถ่ายตลอดทาง เพื่อเอามาใช้เป็นเชื้อเพลิงเดินทาง
ประดิษฐ์ ''จมูกอิเล็กทรอนิกส์'' ตรวจโรค ดมคนเป็นโรคปอดรู้ได้อย่างรวดเร็ว
"เอ็นอีซี"ใช้พลาสติกไร้สารพิษผลิตโน้ตบุ๊ค
เปิดตัวโทรศัพท์พีซีทีหยอดเหรียญไร้สาย
ช่วยเอสเอ็มอีพัฒนาไฟจราจรโซลาร์เซลล์ เล็งติดตั้งบนถนนชนบทไฟฟ้าเข้าไม่ถึง
ยาฮูยกเครื่องใหม่จ้อกันมันหยด
ประกวดหุ่นยนต์กู้ภัย
แว่น3มิติทัวร์โลกนิยายสร้างจินตนาการเสมือนจริง
สิ่งที่มีชีวิตดาวศุกร์เป็นพวกชาวฟ้า พื้นดินร้อนระอุขนาดตะกั่วละลาย
พบดาวเคราะห์ทารกน้อยเพิ่งลืมตาดูจักรวาลได้ไม่ถึงหนึ่งล้านปี
คอมพิวเตอร์ 3 มิติช่วยชี้ทางศัลยแพทย์ส่งข้อมูลภาพอวัยวะภายในก่อนเจี๋ยน

ข่าววิจัย/พัฒนา

นักวิจัยพบยาเบาหวานชนิดหนึ่ง ช่วยลดผลข้างเคียงยาค็อกเทลเอดส์
ประกวดหุ่นยนต์กู้ชีพ
ออกกำลังช่วยกระตุ้นสมองนักเรียน ช่วยให้อ่านหนังสือเข้าใจง่ายขึ้น
'ไทยน้ำทิพย์'เพิ่มศักยภาพบำบัดน้ำดำ
ม.มหิดลยกย่อง 4 อาจารย์แพทย์ วิจัยช่วยคนไทย
เปิดโลกสวยใสนำดวงตาใหม่ใส่ตาพิการ
เด็กนราธิวาสวิจัยเพิ่มมูลค่ายางพารา ใช้เงิน 70 บาทค้นหาสารสกัดจากผลไม้ใช้แทนกรดเคมีอันตราย
แร่สังกะสีช่วยป้องกันรักษาชีวิตเด็กเล็ก จากโรคปอดบวมโรคร้ายที่สุดของเด็ก
ผลงานนร.มัธยมช่วยเกษตรกร วิจัยหาวิธีลดอัตราตายต้นยาง
สิ่งประดิษฐ์ช่วยงานสปา ระเหยน้ำมันหอมไม่ใช้ตะเกียง
ผลักดันสมุนไพรไทยวิจัยร่วมสหรัฐ-ญี่ปุ่น-สวิส
รถเข็นอัจฉริยะ
ประยุกต์ใช้คอมฯ คุมไฟฟ้าโรงเรือนเกษตร
วิจัยพบ "เปราะหอม" ต้านเชื้อเอชไอวี
กระทรวงร่วมดันงานวิจัยเพื่อคนหูหนวก
อังกฤษสร้างเครื่องดูดฝุ่นไฮเทคขนาดจิ๋ว เพิ่มพลังลมดูดไม่ง้อถุงเก็บและไส้กรอง
เอกชนยกเครื่องวิธีสกัดน้ำมันมะพร้าว สินค้าบริสุทธิ์ 100% ปลอดเชื้อราและกลิ่นหืน เล็งรุกตลาดส่งออก
ป.เอกพัฒนาหุ่นยนต์พับจรวดเลียนเทคนิคพับกระดาษญี่ปุ่น
สุดยอดด้านวิทยาศาสตร์และวิศวกรรมศาสตร์
แข่งสร้างหุ่นยนต์กู้ภัยพันธุ์ไทยครั้งแรก
สถาบันไอฟาส ผลิตสื่อเรียนรู้ "ฟิสิกส์" จากแนวคิดทำเรื่องยากให้เป็นเรื่องง่าย
กุหลาบสีน้ำเงินฉีกความจำเจ สร้างสีใหม่เพิ่มรายได้ชาวสวน
ญี่ปุ่นโชว์นวัตกรรมข้าว สร้างภูมิต้านกันสารพัดโรค
นักลงทุนสบช่อง ต่อยอดวิจัยสู่พาณิชย์
ขึงพืดพันธุกรรมมนุษย์พบยีนสำคัญตัวการก่อสารพัดโรคร้าย
เครื่องนวดไฮเทคชะลอหน้าแก่ช่วยเซลล์ใต้ผิวทำงานกระฉับกระเฉง

ข่าวทั่วไป

วัคซีนสยบสิงห์อมควัน
จ้างม.เกษตรฯศึกษาเก็บมูลฝอยติดเชื้อ
วงจรปิด ไว-ไฟ
เผยผลไม้ "ยาไวอากร้าธรรมชาติ" มีแร่ธาตุสังกะสีในเม็ดปริมาณสูง
สมเด็จพระเทพรัตนฯ ทรงแนะสร้างเด็กรุ่นใหม่ เป็นผู้ริเริ่ม
แผ่นเกมเต้นแดนซ์ยอดขายกระฉูดได้ผลทางอ้อมลดน้ำหนักสลายไขมัน
จี้ทปอ.เร่งทำเกณฑ์ประเมินขรก.5%
พบเหงื่อสีเลือดของฮิปโปโปเตมัส เป็นยาทากันแดดและสมานแผล





ข่าวการศึกษา


รัฐบาลส่ง "สุธรรม" ไล่บี้ระบบเอ็นทรานซ์

นายอดิศัย โพธารามิก รมว.ศึกษาธิการ ได้สั่งการให้สำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา (สกอ.) ร่วมกับที่ประชุมอธิการบดีแห่งประเทศไทย (ทปอ.) ในฐานะองค์กรหลักที่เป็นผู้เกี่ยวข้อง โดยตรงกับการสอบเอ็นทรานซ์ ร่วมกันนำกระบวนการออกข้อสอบเอ็นทรานซ์ทั้งหมด มาตรวจสอบ และปรับปรุงให้การสอบเอ็นทรานซ์มีประสิทธิภาพสูงกว่านี้ โดยตรวจสอบว่า มีข้อบกพร่องตรงไหนบ้าง และมีจุดใดบ้างที่ถูกอภิปราย เพื่อจะได้ปรับวิธีการทำงาน และสร้างมาตรฐานใหม่ ด้านนายสุนัย จุลพงศธร ที่ปรึกษา รมว.ศึกษาธิการ กล่าวว่า ตนได้รวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับปัญหาการสอบเอ็นทรานซ์ปี 2547 และจุดบกพร่องที่พบในระบบเอ็นทรานซ์ จึงได้เสนอต่อนายอดิศัย ให้แต่งตั้งคณะกรรมการชุดหนึ่งเข้าไปตรวจสอบระบบเอ็นทรานซ์ และได้รับความเห็นชอบจาก รมว.ศธ.เรียบร้อยแล้ว โดยแต่งตั้งนายสุธรรม เป็นประธานตรวจสอบฯ ทั้งนี้ไม่ใช่การตรวจสอบว่าใครทุจริต แต่เป็นการดูแลเพื่อหามาตรการให้ระบบเอ็นทรานซ์รัดกุมยิ่งขึ้น ส่วนที่เกรงว่าอาจารย์มหาวิทยาลัยอาจต่อต้านนั้น ตนคิดว่า อาจารย์มหาวิทยาลัยน่าจะเข้าใจ เพราะเป็นผู้สอนหนังสือเองว่า การบริหารงาน ให้มีประสิทธิภาพนั้น ต้องไม่จำเจ ไม่ใช่แต่งตั้งกันเป็น 10 ปี ไม่เปลี่ยนแปลง และระบอบประชาธิปไตยก็ต้องไม่จำเจเช่นกัน (ไทยรัฐ อังคารที่ 25 พ.ค. 47 http://www.thairath.co.th)





ศธ.รุกแก้วิกฤติสถานศึกษาเอกชน

คุณหญิงกษมา วรวรรณ ณ อยุธยา ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) เปิดเผยภายหลังคณะตัวแทนสภาการศึกษาเอกชนแห่งประเทศไทยเข้าพบ นายอดิศัย โพธารามิก รมว.ศธ. เมื่อเร็วๆนี้ว่า สภาการศึกษาเอกชนแห่งประเทศไทย ได้เสนอข้อสรุปการประชุมผู้บริหารโรงเรียนเอกชนทุกระดับ ทุกประเภททั่วประเทศ เกี่ยวกับแนวทางการแก้ไขปัญหาและอุปสรรคที่เป็นวิกฤติในการดำเนินกิจการโรงเรียนเอกชน 4 ประเด็น คือ การให้เงินอุดหนุนการศึกษาในระดับก่อนประถมศึกษา 2 ระดับ ทำให้โรงเรียนที่จัดการศึกษาก่อนประถมศึกษา 3 ระดับได้รับผลกระทบ โดยนักเรียนระดับอนุบาล 1 จะไม่ได้รับเงินอุดหนุนได้รับความเดือดร้อน อยากให้ศธ.มีการกำหนดนโยบายการรับนักเรียนนักศึกษา ระหว่างสถานศึกษาของรัฐ และเอกชนไว้ล่วงหน้าทุกระดับให้ชัดเจน เพราะที่ผ่านมาไม่มีความชัดเจน ส่งผลกระทบต่อภาคเอกชนมาก เป็นเหตุให้มีจำนวนนักเรียนมาสมัครเข้าเรียนลดลง ขณะที่การจัดสวัสดิการในขณะนี้ก็น้อยเกินไป ควรได้รับการจัดสรรเพิ่มมากขึ้น นอกจากนี้รัฐควรส่งเสริมให้มีการลดหย่อนภาษีโรงเรือนและภาษีบำรุงท้องที่ให้โรงเรียนเอกชน ธุรกิจการศึกษาเอกชนไม่ควรเสียภาษีเท่าธุรกิจอื่นๆ นายอดิศัยได้มอบหมายให้นายกว้าง รอบคอบ กรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงศึกษาธิการ และตน ได้ไปจัดทำรายละเอียดในการแก้ไขกลับเสนอให้นายอดิศัยได้ทราบโดยเร็ว ซึ่งจะมีการประชุมสัมมนาเชิงปฏิบัติการเรื่องนี้ในวันที่ 29-30 พ.ค.นี้ (ไทยรัฐ พฤหัสบดีที่ 27 พ.ค. 47 http://www.thairath.co.th)





ห้ามใช้เงินกู้ดึงเด็กเข้าเรียน

รศ.ดร.ภาวิช ทองโรจน์ รักษาการเลขาธิการคณะกรรมการการอุดม ศึกษา (กอ.) เปิดเผยว่า ในการประชุมคณะอนุกรรมการบัญชีจ่ายที่สอง กองทุนให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา เมื่อเร็ว ๆ นี้ ที่ประชุมได้พิจารณางบประมาณเงินกู้ยืมที่จัดสรรให้กับผู้กู้ยืมรายใหม่และรายเก่าที่ย้ายสถานศึกษาประจำปี 2547 ซึ่งในส่วนมหาวิทยาลัยรัฐ เอกชน สถาบันราชภัฏ (รภ.) สถาบันเทคโนโลยีราชมงคล (รม.) และสถาบันเทคโนโลยีปทุมวัน ได้รับจำนวน 5,600 ล้านบาท ลดลงกว่าปีที่ผ่านมา 1,100 ล้านบาท ซึ่งเงินดังกล่าวจะนำมาจัดสรรตามโควตา คิดตามสูตรเป็นเปอร์เซ็นต์ตามการจัดสรรของปีที่ผ่านมา แบ่งเป็นมหาวิทยาลัยรัฐ 24 แห่ง ได้รับการจัดสรร 1,600 ล้านบาท คิดเป็น 28.9% มหาวิทยาลัยเอกชน 54 แห่ง 2,300 ล้านบาท คิดเป็น 41.6% ราชภัฏ 41 แห่ง 1,200 ล้านบาท คิดเป็น 20.7% ราชมงคล 36 วิทยาเขต 470 ล้านบาท คิดเป็น 8.5% สถาบันเทคโนโลยีปทุมวัน 1 แห่ง 10 ล้านบาท คิดเป็น 0.2% วิทยาลัยชุมชน 10 แห่ง 2.6 ล้านบาท คิดเป็น 0.05% และวิทยาลัยสงฆ์ 2 แห่ง 2 ล้านบาท คิดเป็น 0.03% ทั้งนี้ที่ผ่านมาสำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา (สกอ.) จัดสรรเงินกู้ยืมให้มหาวิทยาลัยเอกชนในสัดส่วนที่มาก กว่ามหาวิทยาลัยรัฐเกือบครึ่ง ในขณะที่จำนวนนักศึกษาน้อยกว่า เพราะเห็นว่ารัฐไม่ได้ช่วยภาคเอกชนในการลงทุนจัดการศึกษา อย่างไรก็ตาม ในการจัดสรรเงินให้แต่ละมหาวิทยาลัยจะมีหลักเกณฑ์จัดสรรคือให้พื้นที่ที่ยากจนก่อน "ขณะนี้ได้กำชับมหาวิทยาลัยโดยเฉพาะเอกชนห้ามนำเรื่องเงินกู้ยืมมาใช้ในการโฆษณารับนักศึกษาเพิ่ม และจะมีการตรวจสอบอย่างเข้มงวด แต่จนถึงเวลานี้ยังไม่พบว่ามีสถาบันใดที่กระทำผิด ส่วนการจัดสรรเงินให้เด็กด้วยระบบกองทุนเงินกู้ยืมเก่านี้มีปัญหากับบางครอบครัวที่กู้ไม่ได้ เพราะถูกจำกัดด้วยหลักเกณฑ์ คือกำหนดว่าครอบครัวที่มีรายได้ไม่เกิน 1.5 แสนบาทต่อปี โดยไม่คำนึงว่าจะมีลูกกี่คน แต่คาดว่าในปี 2548 ที่จะเริ่มใช้ระบบกองทุนเงินกู้ยืมเพื่ออุดมศึกษาที่ผูกติดกับรายได้ในอนาคต (กรอ.) จะแก้ปัญหาดังกล่าวได้" รศ.ดร.ภาวิช กล่าว (เดลินิวส์ ศุกร์ที่ 28 พ.ค. 47 http://www.dailynews.co.th)





โผล่อีกหนึ่งเด็กอัจฉริยะ ร้องศธ.หาที่เรียนใหม่

นางมยุรา มนะสิการ ในฐานะกรรมาธิการกิจการเด็ก เยาวชน สตรีและผู้สูงอายุ ของสภาผู้แทนราษฎร ได้พา ด.ช.อนุวรรต์ สามงามอิน “น้องปืน” อายุ 7 ปี เด็กอัจฉริยะ และนายปถม สุทธินนท์ ผช.ผอ.โรงเรียนเทศบาลบ้านเขานิเวศน์ จ.ระนอง มาแถลงข่าวขอความช่วยเหลือเด็กอัจฉริยะ เนื่องจากครอบครัวมีปัญหาและฐานะยากจน ซึ่ง น.พ.ทศพร เสรีรักษ์ เลขานุการรมว.ศึกษาธิการ เป็นผู้รับเรื่องไว้ โดยนายปถม กล่าวว่า ด.ช.อนุวรรต์ เรียนอยู่ชั้น ป.1 ที่ ร.ร.เทศบาลบ้านเขานิเวศน์ เป็นเด็กที่มีความเฉลียวฉลาด สามารถอ่านภาษาไทยได้ดี และอ่านภาษาอังกฤษได้คล่องแคล่ว อีกทั้งชอบเล่นคอมพิวเตอร์โดยสามารถใช้งานได้หลายโปรแกรม ผิดกับเด็กในวัยเดียวกัน แต่ครอบครัวของด.ช.อนุวรรต์ มีปัญหา จึงรู้สึกเสียดายที่เด็กมีพรสวรรค์จะต้องขาดโอกาส อีกทั้งทาง ร.ร.เทศบาลบ้านเขานิเวศน์ ไม่มีผู้มีความรู้ ความชำนาญเกี่ยวกับเด็กที่มีสติปัญญาพิเศษจึงอยากให้กระทรวงศึกษาธิการ(ศธ.) ช่วยเหลือ “ความที่มีสติปัญญาดีเลิศ ทำให้น้องปืนเรียนหนังสืออย่างไม่มีความสุข เพราะเข้าสังคมกับเพื่อนวัยเดียวกันได้ และน้องปืน ยังมีปัญหาเกี่ยวกับสุขภาพ น.พ.ทศพร เปิดเผยว่า หลังได้รับการร้องเรียน ศธ.จะช่วยเหลือโดยนำเข้าโครงการเด็กอัจฉริยะต่อไป พร้อมให้ความช่วยเหลือเกี่ยวกับทุนการศึกษาและด้านสุขภาพ (สยามรัฐ ศุกร์ที่ 28 พ.ค. 47 http://www.siamrath.co.th)





อธิการบดีมศวชี้นศ.ป.โท-เอกทำวิจัยไม่เป็น

นายวิรุณ ตั้งเจริญ อธิการบดีมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ(มศว) เปิดเผยว่า ขณะนี้ประเทศไทยยังขาดนักวิจัยที่มีคุณภาพ ปริมาณนักวิจัยคุณภาพมีไม่เพียงพอ งานวิจัยที่เข้าสู่สังคมไม่เข้มแข็ง จึงเกิดปัญหาในภาพรวมของทั้งประเทศ การศึกษาระดับอุดมศึกษาไม่ว่าจะเป็นมหาวิทยาลัย สถาบันราชภัฏ สถาบันราชมงคล จึงต้องพัฒนาคุณภาพการทำวิจัยให้มากขึ้น ควรจะพัฒนาครูอาจารย์ในมหาวิทยาลัยก่อนเป็นอันดับแรก ไม่ใช่ตั้งหน้าตั้งตาสอนเพื่อเงินเพียงอย่างเดียว ขณะนี้คนที่เรียนในระดับปริญญาโท-เอกทำวิจัยไม่เป็น ถือเป็นความผิดของระบบอุดมศึกษาอย่างร้ายแรงทีเดียว "ผู้ที่ต้องสอนนิสิต นักศึกษาระดับปริญญาโท-เอก ยังสอนอยู่ในรูปแบบที่จำกัด ไม่ได้ให้ความคิดกับผู้เรียนมากนัก รูปแบบที่สร้างสรรค์ส่งผลกระทบต่อสังคมยังมีน้อย จึงทำให้งานวิจัยเมื่อทำเสร็จแล้วต้องขึ้นหิ้ง อาจจะด้วยเหตุผลที่ไม่ทันสมัยหรืองานวิจัยยังอ่อนแอ เหตุผลที่ทำให้นักศึกษาระดับปริญญาโท-เอกทำวิจัยไม่เป็น หรืออ่อนแอด้านงานวิจัย สืบเนื่องมาจากครู อาจารย์ผู้สอน และระบบ โดยเฉพาะระบบที่มองปริมาณมากเกินไป บางสถาบันการศึกษาเปิดสอนถึงระดับปริญญาเอก แต่ไม่มีงานวิจัย ความเข้มแข็งทางวิชาการยังไม่มี ขณะนี้เราจะพบการเรียนการสอนในระดับปริญญาโท ซึ่งเปิดเป็นศูนย์กว่า 300 แห่งทั่วประเทศ ส่วนใหญ่การเรียนการสอนไม่ได้เน้นการทำวิจัย สอนเพื่อให้ทุกคนได้รับปริญญา (มติชนรายวัน ศุกร์ที่ 28 พ.ค. 47 http://www.matichon.co.th)





ข่าววิทยาศาสตร์/เทคโนโลยี


ให้มนุษย์อวกาศขับถ่ายตลอดทาง เพื่อเอามาใช้เป็นเชื้อเพลิงเดินทาง

ในการจัดหาเชื้อเพลิงต่างๆ เพื่อใช้ขับเคลื่อนยานอวกาศ นักวิทยาศาสตร์ขององค์การอวกาศ สหรัฐฯ ได้ค้นพบเชื้อแบคทีเรียชนิดหนึ่ง มีชื่อว่า "จุลชีพยีโอแบคเตอร์" ซึ่งกินของ ขับถ่าย ของมนุษย์เป็นอาหาร พร้อมกับก่อกำเนิดกระแสไฟฟ้าขึ้นมาด้วย จากการคิดคำนวณได้พบว่า ถ้าหากทีมมนุษย์ อวกาศ 6 นาย เดินทางไปกลับยังดาวอังคาร ซึ่งจะต้องกินเวลานานถึง 2 ปี จะขับถ่ายสิ่งขับถ่ายออกมาเป็นปริมาณรวมกันไม่น้อยกว่า 6 ตัน ซึ่งจะสามารถใช้เป็นเชื้อเพลิง หลัก ในการเดินทางในอวกาศเป็นระยะทางไกล ๆ ได้เป็นอย่างดี เท่าที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน สิ่งขับถ่ายต่างๆ ของมนุษย์อวกาศ ระหว่างการเดินทาง ส่วนที่เป็นของ แข็งจะต้องนำกลับเอามาด้วย ขณะที่ส่วนที่เป็นของเหลว เช่น ปัสสาวะกับเหงื่อ จะถูกนำกลับมา เวียนใช้ประโยชน์โดยกลั่นเป็นน้ำดื่มให้มนุษย์อวกาศใช้ดื่มกินกันอีก นักวิทยาศาสตร์ ดร.บรูซ ริตตมานน์ ของมหาวิทยาลัยนอร์ธเวสเทิร์น ในชิคาโก หัวแรงของ โครงการนี้ ได้กล่าวอธิบายว่า "เราจะต้องจัดการกับพวกของขับถ่ายเหล่านี้อยู่แล้ว ดังนั้นก็ควร จะหาทางเอามาใช้สร้างพลังงานขึ้นเสียเลยดีกว่า แทนที่เราจะต้องเปลืองพลังงานกำจัดมันไป" (ไทยรัฐ จันทร์ที่ 24 พ.ค. 47 http://www.thairath.co.th)





ประดิษฐ์ ''จมูกอิเล็กทรอนิกส์'' ตรวจโรค ดมคนเป็นโรคปอดรู้ได้อย่างรวดเร็ว

นักวิทยาศาสตร์ของมหาวิทยาลัยเพนซิลเวเนีย กล่าวแจ้งว่า "จมูกอิเล็กทรอนิกส์" จะสามารถตรวจคนไข้รู้ว่าเกิดการอักเสบขึ้นหรือไม่ ช่วยให้สามารถสั่งยาปฏิชีวนะ รักษาได้ถูกต้อง อย่างสะดวกรวดเร็วและประหยัดค่าใช้จ่าย พวกเขากล่าวว่า ในการตรวจวินิจฉัยโรคอันเกิดจากการติดเชื้อ ในระบบทางเดินหายใจ บางอย่าง เช่น โรคปอดบวม ที่ทำกันอยู่ในปัจจุบันยังไม่อาจทำได้ง่ายๆ ซึ่งอาจเป็นเหตุให้หมอ ให้ยาไม่ถูกกับโรคก็ได้ แต่ อุปกรณ์ใหม่นี้จะช่วยป้องกันปัญหาในเรื่องนี้ได้ เจ้าของอุปกรณ์อธิบายหลักการว่า ด้วยเหตุว่า แบคทีเรียทั้งหมดต่างก็ก่อให้เกิดก๊าซผสมขึ้น คนละแบบคนละอย่างกัน แบบเดียวกับรอยลายนิ้วของคนเรา ช่วยให้จมูกอิเล็กทรอนิกส์ สามารถจะตรวจจับได้ในทันที และหมอได้ทดลองใช้ตรวจคนไข้ได้ผลอย่างแม่นยำมาแล้ว (ไทยรัฐ อังคารที่ 25 พ.ค. 47 http://www.thairath.co.th)





"เอ็นอีซี"ใช้พลาสติกไร้สารพิษผลิตโน้ตบุ๊ค

เว็บไซต์เอ็นอีเอเชีย ออนไลน์ รายงานว่า บริษัทเอ็นอีซี คอร์ป.ผู้ผลิตอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ชั้นนำของญี่ปุ่น เริ่มนำพลาสติกอีโคโพลีคา มาใช้เป็นชิ้นส่วนในการผลิตคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊ค โดยใช้เป็นกรอบของจอแอลซีดีและเป็นฐานของเครื่อง พร้อมทั้งวางจำหน่ายไปแล้ว 2 รุ่น เมื่อเดือน ม.ค.ที่ผ่านมา สำหรับพลาสติกอีโคโพลีคาทำมาจากยางเรซิน โพลีคาร์บอเนต ผสมกับสารประกอบซิลิคอน และไม่ปล่อยแก๊สโบรมีน และกรดเค็ม (แฮโลเจน) ซึ่งทำให้เกิดก๊าซพิษเมื่อถูกเผาไหม้ ก่อนหน้านี้ ทางบริษัทเคยนำพลาสติกอีโคโพลีคามาใช้เป็นชิ้นส่วนคอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะมาแล้ว แต่เนื่องจากพลาสติกดังกล่าว เป็นวัสดุที่ไหลเวียนไม่ดี จึงยากที่จะหล่อให้มีขนาดเล็กและบางเพื่อใช้กับคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊คได้ แต่ได้แก้ปัญหาด้วยการผสมสารอนินทรีย์เข้าไป เพื่อทำให้ไหลได้ดีขึ้น จึงสามารถฉีดเข้าไปในเบ้าเหล็กได้ง่ายขึ้น และใช้เป็นชิ้นส่วนที่มีขนาดบางกว่า 2 มม.ได้ ทั้งนี้ ทางเอ็นอีซี คอร์ป.จะนำพลาสติกที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมชนิดนี้มาใช้เป็นชิ้นส่วนประกอบของโน้ตบุ๊ค 19 รุ่น ที่จะวางขายให้กับกลุ่มนักธุรกิจ และผู้ใช้ทั่วไปในเดือนนี้ ขณะที่จะขยายจำนวนอุปกรณ์ที่ใช้อีโคโพลีคาให้ครอบคลุมไปถึงแป้มพิมพ์ภายในปีนี้ จากการประกาศของสมาพันธ์ซิลิคอน วัลเลย์ ทอคซิค เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา บริษัทเอ็นอีซี ได้รับการจัดอันดับให้อยู่ในกลุ่มผู้ผลิตคอมพิวเตอร์ที่มีการนำพีซีเก่ากลับมาใช้ใหม่มากที่สุด(คมชัดลึก อังคารที่ 25 พ.ค. 47 http://www.komchadluek.com)





เปิดตัวโทรศัพท์พีซีทีหยอดเหรียญไร้สาย

"พีซีที โทรศัพท์บ้านยุคใหม่" ซึ่งให้บริการโดยบริษัท บริษัท เอเซีย ไวร์เลส คอมมูนิเคชั่น จำกัด (เอดับบลิวซี) ซึ่งเป็นธุรกิจในเครือของเทเลคอมเอเซีย ที่เปลี่ยนชื่อใหม่ว่า "ทรู" และหลังจากผ่านยุคเฟื่องจนมาถึงยุคนิ่ง พีซีทีมาพร้อมกับบทบาทใหม่ในฐานะโทรศัพท์สาธารณะไร้สาย เหมาะสำหรับธุรกิจรายย่อย ร้านค้าตึกแถว และบ้านเช่า ผู้บริหารบริษัทเอดับบลิวซี กล่าวว่า โทรศัพท์หยอดเหรียญไร้สาย หรือพีซีที รุ่น ไพรเวท เปย์โฟน เป็นสินค้าและบริการตัวใหม่ที่บริษัทพัฒนาเพื่อเสริมความสามารถในการบริการ กับลูกค้ากลุ่มเป้าหมายในพื้นที่ซึ่งขาดแคลนคู่สายโทรศัพท์พื้นฐาน แต่อยู่ในบริเวณที่สัญญาณของพีซีทีครอบคลุมถึง หน้าตาของโทรศัพท์หยอดเหรียญไร้สายแทบจะไม่แตกต่างจากโทรศัพท์หยอดเหรียญที่ติดตั้งอยู่ตามร้านค้าพาณิชย์ หรือร้านสะดวกซื้อทั่วไป แต่ภายในตัวเครื่องจะมีระบบโทรศัพท์พกพาไร้สายหรือพีซีทีอยู่ภายในเครื่อง จึงทำให้เครื่องรุ่นนี้สามารถนำไปให้บริการได้ตามพื้นที่ต่างๆ ที่สามารถรับสัญญาณพีซีที โทรศัพท์ดังกล่าวสามารถนำไปใช้งานได้ทันที โดยไม่ต้องขอเลขหมายจากผู้ให้บริการ เนื่องจากพีซีทีมีระบบเติมเงินอยู่แล้ว ที่เรียกว่าพีซีทีบัดดี้ ลูกค้าจึงสามารถซื้อบัตรเติมเงินสำหรับใช้กับโทรศัพท์หยอดเหรียญไร้สายนี้ได้ ส่วนลูกค้าที่มีเลขหมายกับ "ทรู" อยู่แล้ว ก็สามารถขอเลขหมายเสริมสำหรับเครื่องหยอดเหรียญนี้ได้ จุดเด่นของพีซีหยอดเหรียญนอกจากเป็นการใช้งานไร้สายแล้ว ตัวเครื่องยังได้รับการออกแบบมาให้สามารถกำหนดระบบภายในตัวเครื่องได้ว่า จะคิดค่าบริการต่อนาทีในอัตราเท่าไร ขณะที่ผู้ที่นำเครื่องไปให้บริการจะเสียค่าบริการให้บริษัทในอัตราปกติของพีซีที คือ ครั้งละ 3 บาท ในการโทรเข้าหมายเลข 02 และนาทีละ 1 บาท ในการโทรไปต่างจังหวัดและโทรเข้ามือถือ (คมชัดลึก อังคารที่ 25 พ.ค. 47 http://www.komchadluek.com)





ช่วยเอสเอ็มอีพัฒนาไฟจราจรโซลาร์เซลล์ เล็งติดตั้งบนถนนชนบทไฟฟ้าเข้าไม่ถึง

นายตรัสวิน รักษาสัตย์ คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น เปิดเผยว่า ทางมหาวิทยาลัยได้รับการติดต่อจากสำนักงานกองทุนสนับสนุนการวิจัย (สกว.) และบริษัท เอ็นเนอร์ยี ซิสเต็มส์ จำกัด ภาคเอกชนเอสเอ็มอีในท้องถิ่น ให้ช่วยปรับปรุงผลิตภัณฑ์สัญญาณไฟกะพริบพลังงานแสงอาทิตย์ลดอุบัติเหตุบนทางโค้ง ซึ่งเป็นสินค้าของบริษัทที่ผลิตขึ้นเอง โดยผลิตภัณฑ์ดังกล่าวมีปัญหาไม่สามารถกักเก็บพลังงานไว้ในแบตเตอรี่สำหรับจ่ายกระแสไฟฟ้าให้พอเพียง 12 ชั่วโมงในการใช้งานช่วงกลางคืน หรือช่วงเวลาที่ไม่มีแสง เพื่อลดอุบัติเหตุบนทางโค้ง สามารถสำรองพลังงานนาน 72 ชั่วโมงสำหรับจ่ายกระแสไฟได้ต่อเนื่องในช่วงกลางคืน หรือช่วงเวลาไม่มีแสงแดด เผยกรมทางหลวงสั่งซื้อและติดตั้งใช้งานจริงนำร่อง 6,000 ชุด มั่นใจผลิตภัณฑ์ช่วยประเทศสู้วิกฤติน้ำมันแพง ในการวิจัยพัฒนาอุปกรณ์โดยใช้พลังงานโซลาร์เซลล์ที่ผลิตขึ้นเอง ได้คำนวณและจัดวางแผงโซลาร์เซลล์ให้อยู่ในมุมที่เหมาะสม และสอดคล้องกับแผงวงจรไฟกะพริบ พร้อมทั้งเปลี่ยนไดโอดใหม่และออกแบบตัวควบคุม (คอนโทรลเลอร์) ในอุปกรณ์ ให้จ่ายกระแสไฟให้วงจรไฟกะพริบน้อยลง หรือค่าการใช้น้อยกว่าพลังงานที่กักเก็บได้ จึงมีพลังงานในแต่ละวันถูกเก็บเข้าแบตเตอรี่ตลอดเวลา ทำให้สัญญาณไฟสามารถใช้ได้ทั้งคืน ในส่วนของตัวผลิตภัณฑ์ได้รับการปิดผนึกอย่างดี สามารถป้องกันน้ำฝนและความร้อนจากแสงแดดที่จะสร้างความเสียหายให้แผงวงจรไฟฟ้า จึงช่วยยืดอายุการใช้งานให้นานขึ้น โดยเฉพาะแบตเตอรี่ที่อยู่ได้ประมาณ 3 ปี ซึ่งถือว่าเหมาะสมสำหรับแบตเตอรี่ที่มีการชาร์จพลังงานตลอดเวลา (กรุงเทพธุรกิจ พุธที่ 26 พ.ค. 47 http://www.bangkokbiznews.com)





ยาฮูยกเครื่องใหม่จ้อกันมันหยด

บริษัทยาฮูแจ้งว่า ทางบริษัทได้ปรับปรุงโปรแกรมสนทนาใหม่ เรียกได้ว่าเป็นการยกเครื่องใหม่หมด และในสัปดาห์นี้จะมีการแถลงถึงคุณสมบัติใหม่ๆ ของโปรแกรมสนทนา ยังครอบคลุมถึงการส่งข้อมูล ภาพถ่าย หรือส่งเพลงรักสื่อถึงความในใจไปถึงคู่สนทนาคนนั้น เป้าหมายเพื่อให้แฟนออนไลน์ของยาฮูสื่อสารเข้าถึงกันได้ง่ายขึ้น สำหรับปัจจุบันนี้ โปรแกรมยาฮู แมสเซนเจอร์ นับว่าเป็นโปรแกรมสนทนาที่ได้รับความนิยมมากเป็นอันดับที่ 2 ตามมาด้วยบริการในลักษณะเดียวกันนี้ของอเมริกาออนไลน์ แต่คู่แข่งรายสำคัญที่ได้รับความนิยมสูงสุด คือ บริการเอ็มเอสเอ็นจากค่ายไมโครซอฟท์ (คมชัดลึก พุธที่ 26 พ.ค. 47 http://www.komchadluek.com)





ประกวดหุ่นยนต์กู้ภัย

นายกานต์ ตระกูลฮุน ผช.ผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปูนซิเมนต์ไทย จำกัด(มหาชน) เปิดเผยว่า เครือซิเมนต์ไทย ได้ร่วมกับสมาคมวิชาการหุ่นยนต์ไทย และสถาบันค้นคว้าและพัฒนาเทคโนโลยีการผลิตทางอุตสาหกรรม ม.เกษตรศาสตร์ จัดโครงการ Thailand Rescue Robot Championship 2004 โดยเปิดโอกาสให้นักศึกษาระดับอาชีวศึกษา อุดมศึกษา หรือสูงกว่า ร่วมแข่งขันประดิษฐ์หุ่นยนต์กู้ภัย ซึ่งถือเป็นครั้งแรกในประเทศไทยโดยมุ่งหวังให้เกิดการสร้างหุ่นยนต์ที่มีศักยภาพช่วยเหลือและกู้ภัยในสถานการณ์ต่างๆ อาทิอัคคีภัย หรือตึกถล่ม โดยหุ่นยนต์กู้ภัยมีความสำคัญในการลดความเสี่ยงในการเข้าช่วยเหลือผู้ประสบภัยนั้นๆ ซึ่งอาจมีปัจจัยที่เป็นอุปสรรคต่อทีมกู้ภัยที่ใช้แรงงานคน สำหรับผู้ชนะการประกวดนอกจากจะได้รับทุนการศึกษากว่า 700,000 บาท แล้ว ยังได้เป็นผู้แทนประเทศไทยไปแข่งขันระดับโลก World Robocup Rescue ที่ประเทศญี่ปุ่นในปี 2548 อีกด้วย “โครงการนี้ต้องการส่งเสริมให้เยาวชนไทยของเราได้แสดงความรู้ความสามารถด้านนวัตกรรมเทคโนโลยี และความสามารถที่มีอยู่ เพื่อเป็นกำลังในการพัฒนาด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีของประเทศ ที่สำคัญจะกระตุ้นให้วงการประดิษฐ์หุ่นยนต์ไทยสามารถพัฒนาใช้งานในรูปแบบที่หลากหลายยิ่งขึ้น” นายกานต์ กล่าว และว่า ทั้งนี้ นักศึกษาอาชีวะฯ อุดมศึกษาหรือสูงกว่า ที่สนใจเข้าร่วมโครงการสามารถถามรายรายละเอียดได้ที่ 0-2586-5641, 0-2586-3784 หรือที่ www.trs.or.th ปิดรับผลงานวันที่ 15 ก.ค.ศกนี้ (สยามรัฐ พุธที่ 26 พ.ค. 47 http://www.siamrath.co.th)





แว่น3มิติทัวร์โลกนิยายสร้างจินตนาการเสมือนจริง

ดร.มาร์ก บิลลิงเฮิรตซ์ และคณะทำงานจากห้องปฏิบัติการฮิวแมน อินเทอร์เฟส เทคโนโลยี หรือ ฮิทแล็บ ในนิวซีแลนด์ พัฒนาเทคโนโลยี "เมจิกบุ๊ค" (Magic book) ซึ่งสามารถชุบชีวิตโลกในหนังสือให้โลดแล่นผ่านสายตาของผู้อ่าน โดยใช้แว่นตาไฮเทคที่พัฒนาขึ้นมาเป็นพิเศษ แต่การจะมองเห็นภาพในหนังสือเคลื่อนไหวได้นั้น ทีมงานจะต้องสร้างภาพซ้อนทับในลักษณะของแอนิเมชั่นอย่างละเอียดลงในหนังสือที่ต้องการ ไม่ว่าจะเป็นตำราเรียน หนังสือภาพเด็ก และหนังสืออื่นที่ใช้ภาพประกอบเป็นหลัก โดยภาพจะแสดงเป็นสามมิติได้เมื่อมองผ่านอุปกรณ์ดูหนังสือแบบพกพา เพียงกดปุ่มที่ตัวอุปกรณ์ ผู้อ่านก็จะถูกดึงเข้าไปสำรวจภายในโลกเสมือนจริงของหนังสือได้ทันที เลนส์ที่ติดอยู่ด้านหน้าของอุปกรณ์ดูหนังสือจะมีกล้องเป็นส่วนประกอบอยู่ด้วย โดยขณะที่ผู้อ่านจ้องมองไปที่เนื้อหาในหนังสือ กล้องจะจับภาพและส่งข้อมูลไปให้ซอฟต์แวร์ที่รันบนพีซีประมวลผล "จากนั้นระบบจะแปลงสิ่งที่เห็นเป็นภาวะกราฟฟิกคอมพิวเตอร์อย่างละเอียดออกมา" ดร.บิลลิงเฮิรตซ์ หัวหน้าห้องปฏิบัติการฮิท กล่าว โดยมีกาวิน บิชอป นักวาดการ์ตูนมือดี เป็นผู้นำพาผู้อ่านเข้าสู่โลกแอนิเมชั่น ทีมวิจัยก็กำลังเตรียมการสร้างโลกเสมือนจริงให้กับตำราเรียนเช่นกัน โดยเฉพาะเรื่องราวที่เกี่ยวกับกายวิภาคของมนุษย์ วิธีการนี้ช่วยให้ผู้อ่านเห็นโมเดลหัวใจในรูปสามมิติได้อย่างง่ายดาย เทคโนโลยีเมจิกบุ๊คนี้ ได้รับการนำไปใช้อย่างแพร่หลาย โดยเฉพาะในพิพิธภัณฑ์ต่างๆ ของนิวซีแลนด์ รวมถึงพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์ของออสเตรเลีย (คมชัดลึก พฤหัสบดีที่ 27 พ.ค. 47 http://www.komchadluek.com)





สิ่งที่มีชีวิตดาวศุกร์เป็นพวกชาวฟ้า พื้นดินร้อนระอุขนาดตะกั่วละลาย

ศาสตราจารย์แอนดรูว์ อินเกอร์ซอลล์ แห่งสถาบันเทคโนโลยีแคลิฟอร์เนียได้สรุปรายงาน ในวารสารวิทยาศาสตร์ "ชีวดาราศาสตร์" กล่าวว่า สภาวะบนดาวพระศุกร์เท่ากับเหมือนนรกดีๆ นั่นเอง "หากเราสามารถฝ่าชั้นเมฆกรดกำมะถัน ลงไปจนถึงพื้นได้ ก็ต้องตายอยู่ดี เพราะมันร้อนระอุยิ่งกว่าเตาอบ สามารถหลอมตะกั่วให้ละลายได้ และมันไม่มีน้ำสักหยดเดียว" เขาบรรยายต่อไปว่า นักวิทยาศาสตร์ออสเตรีย เคยพบพวกแบคทีเรียอาศัยและสืบพันธุ์อยู่ ภายในหมู่เมฆบนโลกเรา ลักษณะแบบเดียวกันนั้นอาจจะเป็นอยู่ที่ดาวพระศุกร์ก็ได้ เมื่อตามพื้นดินเริ่มร้อนผ่าวจนแห้งผาก หมู่เมฆอาจกลายเป็นที่อยู่อาศัย ของสิ่งที่มีชีวิต"เพราะชั้นเมฆบนดาวพระศุกร์ลอยอยู่สูง ช่วยให้อุณหภูมิและความกดดันไล่ๆ กับที่เป็นอยู่บนโลก และยังมีน้ำอยู่ด้วย เพียงแต่ในรูปของกรดกำมะถันข้นๆ เท่านั้น ซึ่งเราก็เคยรู้กันอยู่แล้วว่า ภายในสิ่งแวดล้อมที่มีฤทธิ์เป็นกรดบนโลกเรา ก็ยังมีสิ่งที่มีชีวิตอยู่ได้" (ไทยรัฐ ศุกร์ที่ 28 พ.ค. 47 http://www.thairath.co.th)





พบดาวเคราะห์ทารกน้อยเพิ่งลืมตาดูจักรวาลได้ไม่ถึงหนึ่งล้านปี

องค์การบริหารการบินและอวกาศแห่งสหรัฐ หรือนาซ่า ประกาศค้นพบดาวเคราะห์ที่มีอายุละอ่อนที่สุดในจักรวาล โดยมีอายุเพียง 1 ล้านปี หรืออาจน้อยกว่านั้น โดยค้นพบพร้อมกับดาวที่กำลังพัฒนาเป็นดาวฤกษ์ หรือที่เรียกว่า โปรโตสตาร์ (protostar) ซึ่งมีชื่อว่า CoKu Tau 4 โดยกล้องโทรทรรศน์สปิตเซอร์ สเปซ เทเลสโคป ซึ่งเป็นกล้องอินฟราเรดสามารถจับภาพไว้ได้ ดาวเคราะห์รุ่นเยาว์ที่พบนี้ปรากฏอยู่ในกลุ่มดาววัว ซึ่งอยู่ห่างจากโลกราว 420 ปีแสง นักดาราศาสตร์จากมหาวิทยาลัยโรเชสต้า กล่าวว่า รูที่อยู่ตรงกลางวงฝุ่นแสดงให้เห็นชัดเจนว่าเป็นฝีมือของดาวเคราะห์ ซึ่งก่อตัวขึ้นมาระยะหนึ่งหลังจากดาวฤกษ์ก่อตัวขึ้น อย่างไรก็ดี นักดาราศาสตร์อีกรายจากสถาบันคาร์เนกี้แห่งวอชิงตันเตือนว่า สิ่งที่กล้องโทรทรรศน์พบอาจไม่ได้ใช่ดาวเคราะห์ แต่เป็นช่องว่างของวงฝุ่นที่อาจเกิดจากการก่อตัวของอุกกาบาต หรือเทหวัตถุขนาดเล็กที่มองไม่เห็น หรือไม่ก็ความร้อนและแสงสว่างของดาวฤกษ์ที่กำลังก่อตัวพัดฝุ่นให้กระจายออกเป็นวง แต่ก็ไม่ปฏิเสธว่าอาจเป็นดาวเคราะห์ และบอกว่าต้องมีการศึกษาเพิ่มขึ้นจากกล้องตัวนี้ และจากยานอวกาศในอนาคต (กรุงเทพธุรกิจ เสาร์ที่ 29 พ.ค. 47 http://www.bangkokbiznews.com)





คอมพิวเตอร์ 3 มิติช่วยชี้ทางศัลยแพทย์ส่งข้อมูลภาพอวัยวะภายในก่อนเจี๋ยน

คอมพิวเตอร์ที่ช่วยงานแพทย์ก็มีหลายรูปแบบ เช่นใช้เครื่องสแกนสมอง สามารถถ่ายรูปออกมาทำเป็นภาพ 3 มิติ ช่วยให้แพทย์มองเห็นตำแหน่งของสมองและเนื้อเยื่อได้ชัดทุกมุมมอง ใช้ทำอัลตราซาวนด์เพื่อดูเพศบุตร ซึ่งรุ่นใหม่ๆ ก็สามารถแสดงเป็นภาพสีแล้ว และระบบคอมพิวเตอร์ช่วยผ่าตัดข้อเข่า ด้วยการสร้างภาพ 3 มิติของบริเวณข้อเข่าที่มีปัญหา โดยใช้เทคโนโลยีการส่งข้อมูลจากบริเวณข้อเข่าผู้ป่วยไปยังคอมพิวเตอร์ผ่านทางระบบอินฟราเรด จากนั้นซอฟต์แวร์ภายในเครื่องก็จะประมวลผลเป็นข้อมูลที่เป็นภาพออกมา น.พ.ไพบูลย์ ชัยชาญชีพ ศัลยแพทย์กระดูกและข้อ โรงพยาบาลเวชธานี เปิดเผยว่า ปัญหาข้อเข่าเสื่อมส่วนใหญ่จะพบในผู้ที่มีอายุมากว่า 60 ปีขึ้นไป และมักจะเกิดในผู้หญิงมากกว่าผู้ชาย นอกจากนี้ น้ำหนักตัวและอุบัติเหตุก็มีผลทำให้ข้อเข่าเสื่อมจนต้องเปลี่ยนมาใส่ข้อเทียม แต่อายุใช้งานของข้อเข่าเทียมจะอยู่ประมาณ 15-20 ปี ซึ่งขึ้นอยู่กับความชำนาญของแพทย์ในการวางตำแหน่งผิวข้อเทียมให้ถูกต้อง และจัดความสมดุลของกล้ามเนื้อและเส้นเอ็นบริเวณรอบข้อเข่าให้เหมาะสม ซึ่งหากแพทย์ผู้ทำการผ่าตัดมีความชำนาญน้อยก็เสี่ยงต่อความผิดพลาด และมีโอกาสคลาดเคลื่อนสูง จุดเด่นของระบบซีเอเอสอยู่ตรงที่แพทย์สามารถผ่าตัดแผลแบบเปิดขนาดเล็กได้อย่างแม่นยำ ผู้ป่วยเองก็ฟื้นตัวได้เร็วภายใน 1-2 วันก็สามารถพับงอข้อเข่าได้เหมือนปกติ ที่สำคัญลดความเสี่ยงจากการวางตำแหน่งผิวข้อเข่าเทียมคลาดเคลื่อนได้ด้วย ส่งผลให้อายุการใช้งานข้อเข่าเทียมเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ (กรุงเทพธุรกิจ เสาร์ที่ 29 พ.ค. 47 http://www.bangkokbiznews.com)





ข่าววิจัย/พัฒนา


นักวิจัยพบยาเบาหวานชนิดหนึ่ง ช่วยลดผลข้างเคียงยาค็อกเทลเอดส์

วารสารอินเทอร์นัล เมดิซีน รายงานผลศึกษาของคณะนักวิจัยในโรงพยาบาลกลาง แมสซาชูเสตต์และวิทยาลัย แพทย์ฮาร์วาร์ดในบอสตัน ที่พบว่ายารักษาเบาหวานชื่อ อะแวนเดีย ซึ่งมีชื่อยาสามัญว่า โรซีกลิทาโซน มีส่วนช่วยลดผลข้างเคียงของผู้ป่วยเอชไอวี โดยลดการสูญเสียไขมันลงได้ โดยได้ทำการศึกษากับผู้ป่วย 27 คน ผลการศึกษาพบว่าผู้ป่วยที่ทานยาอะแวนเดีย อินซูลิน จะทำงานดีขึ้นราวร้อยละ 20 โดยทั่วไปแล้วยาต้านเอดส์สูตรค็อกเทล แม้จะช่วยให้ผู้ป่วยมีชีวิตอยู่กับเชื้อไวรัส เอชไอวีได้อย่างปกติ แต่ก็มีผลข้างเคียงหลายอย่าง รวมถึงไขมันในร่างกาย ผู้ป่วยบางคนอาจมีน้ำหนักตัวลดลงเพราะสูญเสียปริมาณไขมัน แต่บางคนอาจเกิดการสะสมของไขมันผิดที่ โดยไปสะสมที่ไหล่หรืออวัยวะภายใน ผู้ป่วยหลายคนสูญเสียไขมันบริเวณแก้ม ทำให้ใบหน้าตอบลง แต่ไขมันไปสะสมที่อื่นแทน ความผิดปกติในการดูดซึมเหล่านี้จะปรากฏมากขึ้นเมื่อผู้ป่วยใช้ยาต้านเอดส์เป็นเวลานาน คณะนักวิจัยระบุว่า จากการที่ทราบว่าผู้ป่วยเอดส์ชายร้อยละ 14 ที่ทานยาต้านเอดส์ มีแนวโน้มจะเป็นเบาหวานชนิดที่ 2 มากกว่าคนปกติถึง 4 เท่า แต่เมื่อนำยารักษาเบาหวาน ชนิดดังกล่าวมาศึกษาพบว่าผู้ป่วยที่ทานยาอะแวนเดีย อินซูลิน จะทำงานดีขึ้น อย่างไรก็ดี คณะวิจัยย้ำว่า ต้องทำการศึกษาเรื่องความปลอดภัย ก่อนจะนำผลการวิจัยไปประยุกต์ใช้ต่อไป (ไทยรัฐ เสาร์ที่ 22 พ.ค. 47 http://www.thairath.co.th)





ประกวดหุ่นยนต์กู้ชีพ

นายกานต์ ตระกูลฮุน ผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่ บริษัทปูนซิเมนต์ไทย จำกัด (มหาชน) แถลงถึงการจัดการแข่งขันประดิษฐ์หุ่นยนต์กู้ภัยชิงรางวัลทุนการศึกษา ว่า ในโลกอนาคตเทคโนโลยีด้านหุ่นยนต์จะเข้ามามีบทบาทต่อชีวิตคนเรามากขึ้น ขณะที่แต่ละประเทศมีการพัฒนาหุ่นยนต์ในรูปแบบต่างๆอย่างต่อเนื่อง บริษัทปูนซิเมนต์ไทย จำกัด (มหาชน) ได้เล็งเห็นความสำคัญในเรื่องการพัฒนาวิทยาศาสตร์เทคโนโลยี และนวัตกรรมจึงได้จัดการแข่งขันประดิษฐ์ หุ่นยนต์กู้ภัยชิงรางวัลทุนการศึกษา จำนวนกว่า 700,000 บาทขึ้น นักศึกษาระดับอาชีวศึกษา อุดมศึกษา หรือสูงกว่านั้นที่สนใจสอบถามรายละเอียดของโครงการได้ที่ โทร.0-2586-5641, 0-2586-3784 หรือ www.trs.or.th ตั้งแต่บัดนี้ถึงวันที่ 15 ก.ค.นี้ ทีมที่ชนะเลิศการแข่งขัน จะเป็นตัวแทนประเทศไทยเข้าร่วมการประกวดหุ่นยนต์ World Robocup Rescue ที่โอซากา ประเทศญี่ปุ่นในปี 2548 (ไทยรัฐ อังคารที่ 25 พ.ค. 47 http://www.thairath.co.th)





ออกกำลังช่วยกระตุ้นสมองนักเรียน ช่วยให้อ่านหนังสือเข้าใจง่ายขึ้น

นักวิทยาศาสตร์การแพทย์ของเมืองน้ำชา รายงาน ผลการศึกษาว่า การออกกำลัง สามารถช่วยกระตุ้นสมองของเด็กที่มีปัญหาในการอ่านจะไม่ค่อยเกิดความเข้าใจ อาจจะเนื่องจากระบบส่วนกลางพิการก็เป็นได้ แต่ในการทดลองจัดโปรแกรมพลศึกษาให้ปฏิบัติ วันละ 2 ครั้ง ทำมาเป็นเวลา 2 ปี ปรากฏผลดีขึ้นมาก เด็กเหล่านี้เกิดความเข้าใจในการอ่านมากขึ้น ทั้งนี้เพราะการออกกำลัง ได้มีผลช่วยกระตุ้นสมองให้ กระปรี้กระเปร่ากระฉับกระเฉงมากว่าปกติ (ไทยรัฐ อังคารที่ 25 พ.ค. 47 http://www.thairath.co.th)





'ไทยน้ำทิพย์'เพิ่มศักยภาพบำบัดน้ำดำ

นายรุ่งโรจน์ เทพสุธรรม ภาควิชาวิศวกรรมสิ่งแวดล้อม คณะวิศวกรรมและเทคโนโลยีการเกษตร สถาบันเทคโนโลยีราชมงคล เปิดเผยว่า ภาควิชาได้รับการติดต่อจาก บริษัทไทยน้ำทิพย์ จำกัด สาขารังสิต ให้ช่วยค้นหากรรมวิธีบำบัดน้ำอัดลมเสื่อมสภาพจากการหมดอายุ ซึ่งน้ำเสียที่เกิดขึ้นมีลักษณะพิเศษคือ มีค่าบีโอดีและซีโอดีสูงถึงระดับ 144,670 มก./ลิตร ค่าความเป็นกรดด่าง 2-4 ขณะที่บ่อบำบัดน้ำเสียของโรงงานสามารถรับภาระค่าน้ำเสียได้เพียง 20,000-30,000 มก./ลิตร ทำให้น้ำเสียที่ผ่านการบำบัดแล้วมีคุณภาพต่ำ ผศ.ดร.สมพร เจนคุณาวัฒน์ อาจารย์ที่ปรึกษา พร้อมด้วยเพื่อนทีมงาน ได้หารือร่วมกันจนได้ข้อสรุปว่า จะต้องวิจัยค้นหาวิธีลดค่าบีโอดีและซีโอดี ตลอดจนค่าอื่นๆของน้ำเสียให้ต่ำลง จนสามารถส่งน้ำเสียนี้ต่อไปยังระบบบำบัดน้ำเสียทางชีวภาพแบบไม่ใช้ออกซิเจนของโรงงานให้ทำงานต่อเนื่องต่อไปโดยใช้เวลาประมาณ 1 ปี ศึกษาวิธีลดค่าบีโอดีของน้ำอัดลมเสื่อมสภาพ ด้วยการค้นหาจุลินทรีย์ชนิดและปริมาณที่เหมาะสมกับน้ำเสีย ควบคู่กับการออกแบบถังบำบัดให้มีลักษณะที่สามารถใช้งานได้ดีกับเชื้อจุลินทรีย์ชนิดนั้นๆ โดยปัจจัยทั้งสองนี้ต้องทำหน้าที่สอดคล้องกัน จึงจะช่วยลดค่าน้ำเสียได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งหลังจากทดลองความเป็นไปได้ในห้องปฏิบัติการพบว่า สามารถลดค่าน้ำเสียลงได้มากกว่า 50% หรือค่าซีโอดีประมาณ 40,000 มก./ลิตร เป็นระดับที่บ่อบำบัดของโรงงานรองรับได้ ผลงานวิจัยของสถาบันฯไม่ได้นำไปทดสอบจริงกับบ่อบำบัดน้ำเสียของโรงงาน เนื่องจากปัญหาทางความลับทางการค้าของไทยน้ำทิพย์ ที่บุคคลภายนอกก้าวก่ายไม่ได้ แต่โรงงานได้ทำวิจัยคู่ขนานกับสถาบันฯ หากค่าน้ำเสียจากห้องปฏิบัติการในโรงงานคลาดเคลื่อนจากข้อมูลวิจัย จะมีการประสานแลกเปลี่ยนข้อมูลกันตลอดเวลา เป้าหมายลดค่าน้ำเสียก่อนส่งบ่อบำบัด ถือว่าประสบผลสำเร็จ พร้อมทั้งเสนอแนะให้ผู้ประกอบการพัฒนาต่อยอดด้านระยะเวลาในการหมัก ที่ควรจะลดจาก 7 วันให้เหลือ 3-4 วัน โดยการปรับปรุงถังหมักและใช้สารอาหารช่วยเพิ่มประสิทธิภาพจุลินทรีย์ จะส่งผลให้ต้นทุนค่าดำเนินการลดลงเช่นกัน (กรุงเทพธุรกิจ อังคารที่ 25 พ.ค. 47 http://www.bangkokbiznews.com)





ม.มหิดลยกย่อง 4 อาจารย์แพทย์ วิจัยช่วยคนไทย

ในพิธีพระราชทานปริญญาบัตรของมหาวิทยาลัยมหิดลเป็นประจำทุกปี และในปีการศึกษา 2546 นี้ มีผู้ได้รับรางวัลในสาขาต่างๆ ดังนี้ คือ สาขาวิจัย ได้แก่ ศ.นพ.แสงชัย พฤทธิพันธุ์ ภาควิชาสูติศาสตร์-นรีเวชวิทยา คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี ผู้บุกเบิกการผ่าตัดภายในโพรงมดลูกด้วยกล้องส่องโพรงมดลูก โดยปัจจุบันได้มีการนำกล้องชนิดนี้มาใช้ในการรักษาผ่าตัดผู้ป่วยแทนการตัดมดลูกออก สามารถประหยัดเตียงโรงพยาบาล และผู้ป่วยสามารถพักฟื้นได้เร็ว ส่วนผู้ที่ได้รับรางวัลสาขาการวิจัยอีกท่าน ได้แก่ น.พ.สุธี ยกส้าน หัวหน้าหน่วยงานวิจัยโครงการวิจัยและพัฒนาวัคซีน สถาบันวิจัยและพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี จากผลงานวิจัยการพัฒนาวัคซีนไข้เลือด ขณะนี้ได้พัฒนางานวิจัยไปถึงขั้นเตรียมการเข้าสู่เฟส 3 ซึ่งเป็นขั้นตอนสุดท้ายของการพัฒนาวัคซีน ได้มีการจดลิขสิทธิ์ของวัคซีนดังกล่าวร่วมกันระหว่างมหาวิทยาลัยมหิดล และบริษัท Aventis Pasteur ซึ่งเป็นบริษัทผลิตวัคซีนของประเทศฝรั่ง สำหรับสาขาความเป็นครู ได้แก่ รศ.วันทนีย์ ตระกูลรังสิ ภาควิชากายวิภาคศาสตร์ คณะวิทยาศาสตร์ ทำหน้าที่สอนและเตรียมศพอาจารย์ใหญ่ให้นักศึกษาแพทย์ใช้ศึกษา ท่ามกลางบรรยากาศของกลิ่นฟอร์มาลินซึ่งเป็นสารเคมีอันตรายใช้รักษาสภาพศพ อย่างต่อเนื่องมาเป็นเวลากว่า 20 ปี รางวัลสาขาบริการ ได้แก่ รศ.ทพ.วีระศักดิ์ ไพรัชเวทย์ ภาควิชาศัลยศาสตร์ คณะทันตแพทยศาสตร์ เป็นผู้พัฒนาหลักสูตรทันตแพทย์ประจำบ้าน รวมทั้งพัฒนาการผ่าตัดที่ยากลำบากซึ่งเดิมไม่เคยมีมาก่อน ให้ได้ผลการรักษาเป็นที่น่าพอใจ ไม่มีสิ่งแทรกซ้อนอันตราย และได้ร่วมกับภาควิชาทันตกรรมประดิษฐ์ พัฒนาวิธีการผ่าตัดทางด้าน Implant เพื่อแก้ไขความพิการของใบหน้า ผู้ได้รับรางวัลมหาวิทยาลัยมหิดลทั้ง 4 ท่าน จะเข้ารับพระราชทานรางวัลจากสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา สยามบรมราชกุมารี ในพิธีพระราชทานปริญญาบัตรของมหาวิทยาลัยมหิดล ในวันที่ 1 ก.ค.นี้ ณ อาคารใหม่ สวนอัมพร (กรุงเทพธุรกิจ อังคารที่ 25 พ.ค. 47 http://www.bangkokbiznews.com)





เปิดโลกสวยใสนำดวงตาใหม่ใส่ตาพิการ

นักวิจัยญี่ปุ่นพบวิธีช่วยคนตาบอดให้กลับมามองเห็นได้ดังเดิม ด้วยเทคนิคพันธุวิศวกรรมเนื้อเยื่อ ใช้เวลาผ่าตัดเพียง 10 นาที เซลล์กระจกตาก็จะยึดติดกับดวงตาอย่างไร้รอยต่อ โดยไม่ต้องวิตกกังวลกับปัญหาภูมิคุ้มกันร่างกายปฏิเสธเนื้อเยื่อแปลกปลอม ศาสตราจารย์เทรุโอะ โอกาโน จากมหาวิทยาลัยการแพทย์สตรีโตเกียว พัฒนาเทคนิคที่ช่วยให้แพทย์สามารถปลูกกระจกตาขึ้นจากเซลล์ขนาดเล็กภายในจานทดลอง และสามารถนำไปใส่ในดวงตาได้เลยโดยไม่ต้องเย็บติดเหมือนวิธีการก่อนหน้านี้ ทีมวิจัยได้นำเอาเศษเสี้ยวของเซลล์แก้วตาที่มีขนาดบางพอๆ กับความหนาของตัวอักษรที่พิมพ์ลงบนกระดาษหนังสือพิมพ์ มาเพาะจำนวนบนจานเพาะเซลล์ ชิ้นเซลล์ดังกล่าวอาจเป็นของผู้ป่วยเอง หรือรับบริจาคมาก็ได้ หลังจากเซลล์แก้วตาขยายจำนวนกว้างราวนิ้วครึ่งแล้ว จึงลอกเอาแผ่นเซลล์ออกจากจานแล้วนำไปแปะลงบนดวงตาของผู้ป่วย แก้วตาที่ปลูกขึ้นใหม่นี้จะติดแนบสนิทกับลูกตาภายในเวลา 10 นาที เทคนิคสำคัญที่ช่วยให้การปลูกถ่ายกระจกเป็นผลสำเร็จ อยู่ที่ตอนลอกเซลล์กระจกตาออกจากจานทดลอง ส่วนใหญ่เซลล์ที่เพาะไว้จะดึงออกจากจานได้ยาก และต้องใช้เอนไซม์เข้าช่วย ส่งผลให้โปรตีนที่ทำหน้าที่เหมือนกาวได้รับความเสียหาย แต่วิธีการของโอกาโนนั้น ช่วยให้เซลล์กระจกในจานเพาะดึงออกง่าย ก่อนเพาะเซลล์ นักวิจัยได้เคลือบจานเพาะด้วยโพลิเมอร์ที่ไวต่อความร้อน โดยช่วงแรกจะใช้ระดับอุณหภูมิสูงในการเพาะเซลล์กระจกตา หลังจากเซลล์โตพร้อมนำไปปลูกถ่ายแล้ว ทีมงานจะลดระดับอุณหภูมิจนทำให้โพลิเมอร์อุ้มน้ำ จึงช่วยให้กระจกตาใหม่สามารถดึงออกจากการเพาะได้อย่างง่ายดาย ที่สำคัญไม่ทำลายโปรตีนที่ติดอยู่ด้วย เทคนิคดังกล่าวแพทย์ยังสามารถปลูกกระจกตาใหม่ขึ้นมาให้กับผู้ป่วยได้ในปริมาณมาก อีกทั้งตัวผู้ป่วยเองยังสามารถบริจาคกระจกตาได้เอง และลดความเสี่ยงต่อภาวะปฏิเสธเนื้อเยื่อจากการปลูกถ่ายอวัยวะจากผู้ให้บริจาคได้ คาดว่าการทดลองทางคลินิกครั้งใหญ่จะต้องใช้เวลาอีกหลายเดือน และกว่าจะสมบูรณ์จนได้รับการอนุมัติให้ใช้รักษาผู้ป่วยได้จริงนั้น คงต้องใช้เวลาอย่างน้อย 2-3 ปี (คมชัดลึก อังคารที่ 25 พ.ค. 47 http://www.komchadluek.com)





เด็กนราธิวาสวิจัยเพิ่มมูลค่ายางพารา ใช้เงิน 70 บาทค้นหาสารสกัดจากผลไม้ใช้แทนกรดเคมีอันตราย

นายศักดิ์ดา ไร่ใหญ่ นักเรียนโรงเรียนอัตตัรกียะอิสลามียะห์ จ.นราธิวาส เปิดเผยถึงความสำเร็จในการคิดค้นหาสารสกัดธรรมชาติ ที่ทำให้น้ำยางเสียสภาพ และช่วยให้การแข็งตัวของน้ำยาพาราดีขึ้น สำหรับใช้ทดแทนกรดสารเคมีจำพวกกรดฟอร์มิก (กรดมด) และกรดซัลฟูริก ซึ่งมีคุณสมบัติช่วยให้น้ำยางจับตัว ส่วนใหญ่จะนำมาใช้ในโรงงานอุตสาหกรรมผลิตยางแผ่น ซึ่งกรดดังกล่าวอาจก่อให้เกิดอันตรายต่อผู้ใช้ เมื่อร่างกายรับเข้าไปในปริมาณมาก อีกทั้งยังเป็นอันตรายให้กับสิ่งแวดล้อมด้วย ใช้เงินทุนเพียง 70 บาทในการซื้อน้ำยางพารามาเพื่อทดลอง ส่วนสารสกัดทดแทนได้นำใบมะยม ส้มแขก มาหมักทิ้งเอาไว้ 1 คืนเพื่อสกัดสารจากน้ำหมักดังกล่าวไปผสมกับน้ำยางพาราแล้วทิ้งไว้พบว่า ไม่มีเชื้อราบนเนื้อยางแผ่น ต่างจากที่ใช้น้ำยางพาราผสมกับกรดซัลฟูริก โดยความสำเร็จนี้ได้คิดค้นร่วมกับเพื่อนนักเรียน ประกอบด้วย นายมูฮัมหมัดริฎวาน สมานุรัตน์ น.ส.ซารีระ อาแว และน.ส.อิสรัตน์ ศรีสอาด เยาวชนจากโครงการยุววิจัยยางพารา ภายใต้การสนับสนุนของกองทุนสนับสนุนการวิจัย (สกว.) ( กรุงเทพธุรกิจ จันทร์ที่ 24 พ.ค. 47 http://www.bangkokbiznews.com)





แร่สังกะสีช่วยป้องกันรักษาชีวิตเด็กเล็ก จากโรคปอดบวมโรคร้ายที่สุดของเด็ก

วารสารการแพทย์แลนเซ็ตในอังกฤษลงพิมพ์งานวิจัย ของคณะแพทย์ศูนย์วิจัยการแพทย์ และประชากรในบังกลาเทศว่า ผลการทดลองกับท ารกอายุ 2-23 เดือนที่ป่วยเป็นปอดบวม จำนวน 270 คน พบว่า เด็กกลุ่มที่ได้ทานแร่สังกะสีวันละ 20 มิลลิกรัม เสริมยาปฏิชีวนะ หายป่วยเร็วขึ้น คณะแพทย์สันนิษฐานว่า แร่สังกะสีเร่งให้เด็กหายป่วยเร็วขึ้น โดยไปลดอาการอักเสบ และอาการติดขัดในระบบทางเดินหายใจ เมื่อเปรียบเทียบค่าใช้จ่ายแล้ว การให้ แร่สังกะสีแก่เด็ก นับว่าคุ้มมาก เพราะเสียค่าใช้จ่ายเพียง 0.15 ดอลลาร์สหรัฐฯ (ประมาณ 6 บาท) ช่วยให้เด็กออกจากโรงพยาบาลเร็วขึ้นหนึ่งวัน ปอดบวมเป็นโรคที่คร่าชีวิตเด็กมากที่สุดในบรรดาโรคร้ายทั้งหมด ส่วนใหญ่เป็นเด็ก ในประเทศกำลังพัฒนา แต่ละปีมีเด็กทั่วโลกเสียชีวิตเพราะปอดบวมราว 2 ล้านคน (ไทยรัฐ พุธที่ 26 พ.ค. 47 http://www.thairat.com)





ผลงานนร.มัธยมช่วยเกษตรกร วิจัยหาวิธีลดอัตราตายต้นยาง

นางสาวเจนจิรา ภูมิเขต นักเรียนจากโรงเรียนตะโหมด จ.พัทลุง เปิดเผยถึงโครงงานวิทยาศาสตร์ที่ค้นพบคุณสมบัติสารไซโตไคนินในพืชและผลไม้ว่า ช่วยเร่งการงอกของยางพาราและลดปัญหายางตายในขั้นตอนการชำ ทำให้ได้ยางพันธุ์ดี แข็งแรงและมีคุณภาพ โดยในขั้นตอนของการเพาะพันธุ์ยางพาราของเกษตรกร จะนิยมใช้วิธีการติดตาเพื่อให้ได้ยางพาราที่มีความแข็งแรงและเป็นยางพาราพันธุ์ดี แล้วปล่อยให้เจริญเติบโตตามธรรมชาติ ซึ่งต้องใช้เวลาถึง 2 สัปดาห์ คณะผู้วิจัย ซึ่งประกอบด้วยนายเฉิดณรงค์ ศรีชูทอง นางสาวเจนจิรา ภูมิเขต และนางสาวชญาลักษณ์ วงศ์อุทัย โดยมีนางพัชรินทร์ พรหมปลัด อาจารย์ที่ปรึกษาโครงการ การศึกษาสารเร่งการแตกตาของยางตาเขียว และพบว่าสารไซโตไคนินซึ่งพบมากในผลแอปเปิล ผลถั่วลันเตา ผลกล้วยอ่อน ข้าวโพดอ่อน และน้ำมะพร้าว สามารถเร่งการแตกตาของยางตาเขียวได้ โดยลดเวลาเหลือเพียง 1 สัปดาห์ จากการทดลองนำสารดังกล่าว มาช่วยเร่งการงอกของยางตาเขียว ชี้ให้เห็นว่ายางตาเขียวงอกเร็วขึ้น ในขณะที่ต้นยางมีความแข็งแรง จะช่วยลดปัญหาเกษตรกรในการประสบภาวะขาดทุนจากการที่ยางตาเขียวงอกช้า ทั้งนี้ ผลการทดลองพบว่า ต้นยางพาราเจริญเติบโตได้ดีที่สุดเมื่อใช้ถั่วลันเตา รองลงมาคือ แอปเปิล ข้าวโพดอ่อน น้ำมะพร้าวอ่อน และกล้วยอ่อนตามลำดับ โดยใช้วิธีการทำสารดังกล่าวบนลำต้นในขั้นตอนการติดตา ซึ่งให้ผลการเจริญเติบโตได้ดีที่สุด กำลังดำเนินการในขั้นตอนของการจดสิทธิบัตร และบรรจุสารที่ได้เป็นผลิตภัณฑ์สำเร็จรูปบรรจุขวด งานวิจัยในครั้งนี้ เป็นส่วนหนึ่งของโครงการยุววิจัยยางพาราดีเด่น ประจำปี 2546 ภายใต้การสนับสนุนของสำนักงานกองทุนสนับสนุนการวิจัย (สกว.) เพื่อเตรียมความพร้อมและสร้างนักวิจัยรุ่นใหม่ ซึ่งผลการวิจัยที่ได้สามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้จริงในอุตสาหกรรมการผลิตยางพาราไทย (กรุงเทพธุรกิจ พุธที่ 26 พ.ค. 47 http://www.bangkokbiznews.com)





สิ่งประดิษฐ์ช่วยงานสปา ระเหยน้ำมันหอมไม่ใช้ตะเกียง

นายยุทธนา ตันติวิวัฒน์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิศวกรรม สถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทย (วว.) กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี กล่าวว่า ขณะนี้ฝ่ายวิศวกรรมได้ต่อยอดการวิจัยและพัฒนาเครื่องสุคนธ์บำบัดอัลตราโซนิกส์ ซึ่งคิดค้นขึ้นโดยใช้เทคโนโลยีอัลตราโซนิกส์วิศวกรรม พัฒนาเป็นนวัตกรรมใหม่ที่สามารถทำไอระเหยของน้ำมันหอมระเหยให้เกิดขึ้นได้อย่างรวดเร็ว โดยไอระเหยยังไม่มีกลิ่นของควันเทียนหรือคาร์บอน ที่เกิดจากการเผาไหม้ปนมากับกลิ่นของน้ำมันหอมระเหย นอกจากนั้นยังทำให้ผู้รับบริการปลอดภัยต่อการเกิดอุบัติภัย ซึ่งอาจจะเกิดขึ้นอันเนื่องมาจากความร้อนของเซรามิกหรือโลหะที่ใช้บรรจุ ดร.ชุติมา เอี่ยมโชติชวลิต ผู้อำนวยการฝ่ายเทคโนโลยีวัสดุ วว. กล่าวเพิ่มเติมถึงรายละเอียดเครื่องสุคนธ์บำบัดอัลตราโซนิกส์ของ วว. ที่จดสิทธิบัตรเรียบร้อยแล้วนี้ว่า ตัวเครื่องออกแบบโดยใช้เซรามิกเนื้อสโตนแวร์ มีขนาดเล็กกะทัดรัด ตัวเครื่องมีระบบตั้งเวลาเปิดและปิด โดยมีระบบควบคุมการปล่อยไอระเหยของน้ำมันหอมระเหยเป็นช่วงหรือปล่อยไอระเหยอย่างต่อเนื่อง ทำให้สะดวกอย่างยิ่งต่อผู้ใช้ อีกทั้งยังประหยัดในการใช้น้ำมันหอมระเหย และช่วยเพิ่มความชื้นในห้องได้อีกด้วย สำหรับหลักการทำงานนั้นเครื่องสุคนธ์บำบัดอัลตราโซนิกส์ จะทำงานโดยใช้คลื่นอัลตราซาวนด์ ที่ผลิตจากหัวทรานสดิวเซอร์ผลงานวิจัยของ วว. ที่มีความถี่สูงประมาณ 0.8-1.0 เมกกะเฮิรตซ์ จากนั้นเครื่องจะส่งความถี่สูงดังกล่าวไปยังสารละลายของน้ำมันหอม ทำให้กลายเป็นไอระเหยโดยไม่ต้องอาศัยความร้อนจากตะเกียงหรือเทียนเพื่อเผาให้กลายเป็นไอ ซึ่งเป็นวิธีที่ใช้กันทั่วไป ซึ่งผลของการสั่นด้วยความถี่ดังกล่าว จะทำให้เครื่องช่วยกระจายกลิ่นของน้ำมันหอมระเหยออกไปในอากาศในอัตราที่สม่ำเสมอ วว.จะจัดแสดงเครื่องสุคนธ์บำบัดอัลตราโซนิกส์ อุปกรณ์ประหยัดน้ำมันอี-พลัส เครื่องฟอกอากาศ พร้อมด้วยเทคโนโลยีด้านต่างๆ อาทิ การผลิตไบโอดีเซล การผลิตปุ๋ยอย่างครบวงจร และหลักสูตรอบรมวิชาชีพมากมาย ภายในงานเปิดโลกทัศน์วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี 41 ปี วว. ระหว่างวันที่ 28 พ.ค.-1 มิ.ย. เวลา 10.00-18.00 น. ณ บริเวณเทคโนธานี ถนนเลียบคลองห้า จ.ปทุมธานี (คมชัดลึก พุธที่ 26 พ.ค. 47 http://www.komchadluek.com)





ผลักดันสมุนไพรไทยวิจัยร่วมสหรัฐ-ญี่ปุ่น-สวิส

นายกร ทัพพะรังสี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ให้สัมภาษณ์หลังประชุมร่วมกับศูนย์พันธุวิศวกรรมและเทคโนโลยีชีวภาพแห่งชาติ(ไบโอเทค) และหน่วยงานที่ทำวิจัยด้านสมุนไพร เช่น องค์การเภสัชกรรม มหาวิทยาลัยมหิดล ฯลฯ เพื่อหาข้อตกลงเบื้องต้นว่าด้วยการผลักดันการทำวิจัยเรื่องสมุนไพรระหว่างประเทศ ว่า เร็วๆ นี้ จะติดต่อกับองค์กรที่ทำวิจัยด้านสมุนไพร ใน 3 ประเทศ คือ สหรัฐอเมริกา ญี่ปุ่น และสวิตเซอร์แลนด์ เพราะทั้ง 3 ประเทศนี้ มีศูนย์วิจัยสมุนไพรที่ได้รับการยอมรับจากทั่วโลก มั่นใจว่า หากประเทศไทยได้ทำวิจัยร่วมกับประเทศเหล่านี้ จะผลักดันให้ตลาดสมุนไพรอยู่ในแนวหน้าของโลกได้ "เวลานี้การทำวิจัยสมุนไพรบ้านเราค่อนข้างอยู่ในวงแคบ เรามีวัตถุดิบมากก็จริง แต่ในแง่การประยุกต์ใช้กับเทคโนโลยีกลับไม่มีความคืบหน้ามากนัก เรามีสมุนไพรตัวเด่นๆ ซึ่งเป็นที่ต้องการของตลาดโลกมาก เช่น ใบบัวบก ใช้แก้ช้ำใน พริกไทยแก้ความจำเสื่อม หรืออีกหลายตัวที่ใช้ชะลอความแก่ ลดความอ้วน หากเราเอาวัตถุดิบเหล่านี้ไปรวมกับเทคโนโลยีได้ การพัฒนาสมุนไพรบ้านเราจะได้รับความนิยมในตลาดโลกอย่างมาก น.ส.รสนา โตสิตระกูล ประธานมูลนิธิสุขภาพไทย กล่าวว่า การทำวิจัยเรื่องสมุนไพรกับต่างประเทศนั้น เป็นยุทธศาสตร์ที่ผิดพลาดอย่างมาก ที่ผิดเพราะจะทำให้เสียเปรียบมากกว่าได้ประโยชน์ สิ่งที่ควรจะทำคือ การสนับสนุนให้ใช้สมุนไพรในประเทศให้มาก ก่อนที่คิดจะทำวิจัยกับต่างชาติ ถ้าเราหันมาส่งเสริมให้ใช้สมุนไพรในประเทศอย่างจริงจังจะสามารถประหยัดค่าใช้จ่ายจากการสั่งซื้อยาแผนปัจจุบันจากต่างประเทศได้มาก (มติชนรายวัน พุธที่ 26 พ.ค. 47 http://www.matichon.co.th)





รถเข็นอัจฉริยะ

นักคอมพิวเตอร์แห่งมหาวิทยาลัย เอสเสกซ์ University of Essex แห่งประเทศอังกฤษได้รับเงินทุนในการพัฒนา รถเข็นผู้ป่วย หรือผู้สูงอายุ หรือผู้พิการให้เป็นอัจฉริยะ ด้วยระบบสื่อสารไร้สาย 3 จี โดยไม่จำเป็นต้องอาศัยพยาบาล หรือ ญาติผู้ป่วยเข็น แต่จะสามารถให้ผู้ป่วยสามารถบังคับทิศทาง และการวิ่งได้เอง นอกจากนี้ยังสามารถติดต่อกับญาติผู้ป่วย หรือ คุณหมอ พยาบาลได้ตลอดเวลา ทั้งภาพ เสียง และเส้นทางการเคลื่อนที่ ศาสตราจารย์ ดร.เฮาเช็ง หู เป็นหัวหน้าทีมในการสร้างอัลกอริทึ่มสำหรับการรวมเซนเซอร์(เครื่องมือในการตรวจรับสัญญาณ) ทั้งหมด การสร้างแผนที่อัจฉริยะ โปรแกรมสำหรับการตัดสินใจได้เองด้วยระบบผู้เชี่ยวชาญ และเทคโนโลยีทั้งหมดที่ใช้การควบคุมด้วยโทรศัพท์เคลื่อนที่ยุค 3 จี ส่วนศาสตราจารย์กุย หยวน ก็จะสร้างระบบอัตโนมัติของรถเข็นทั้งหมดให้สามารถควบคุมได้ด้วยระบบซอฟต์แวร์คอมพิวเตอร์รวมทั้งการเคลื่อนไหวของรถเข็นทั้งหมดด้วยระบบอัจฉริยะ ส่วนรถเข็นคันนี้ เขาให้ชื่อว่า โรโบแชร์ (Robo Chair) แต่รถเข็นอัจฉริยะแบบใหม่ จะสามารถไปไหนมาไหนได้โดยอิสระซึ่งขึ้นอยู่กับผู้ป่วย จะต้องพัฒนาให้มี ราคาที่เหมาะสมกับการใช้งานได้โดยทั่วไปและไม่แพงมาก รวมทั้งการใช้งานต้องไม่ยุ่งยากและซับซ้อน โครงการนี้เป็นความร่วมมือระหว่างรัฐบาลอังกฤษและรัฐบาลจีน ถ้าหากเสร็จก็จะเป็นประโยชน์ต่อวงการแพทย์และคนพิการทั่วทั้งโลกนั่นแหละ (เดลินิวส์ พฤหัสบดีที่ 27 พ.ค. 47 http://www.dailynews.co.th)





ประยุกต์ใช้คอมฯ คุมไฟฟ้าโรงเรือนเกษตร

นายชยพล วะมะพุทธา นายวิชาวะ อุตสาหกุล และ นายอนุรักษ์ กว้างสวาสดิ์ นักศึกษาจากคณะวิศวกรรมและเทคโนโลยีการเกษตร สถาบันเทคโนโลยีราชมงคล ทำโครงการศึกษาประยุกต์ใช้คอมฯ คุมไฟฟ้าโรงเรือนเกษตร เพื่อความรวดเร็วและมีประสิทธิภาพดีกว่ามนุษย์ อีกทั้งมีราคาถูก ในขณะที่ประสิทธิภาพก็มีการพัฒนาเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ และปัจจุบันประเทศไทยได้มีการนำระบบการตรวจวัดและควบคุมระยะไกลมาใช้ในงานต่าง ๆ เป็นจำนวนมากซึ่งรวมถึงงานทางด้านวิศวกรรมการเกษตรด้วย ซึ่งนี่คือที่มาของแนวคิดในการนำคอมพิวเตอร์ มาประยุกต์ใช้งานทางด้านวิศวกรรมเกษตรโดยติดต่อสื่อสารผ่านทางพอร์ตอนุกรม และสร้าง Software เพื่อนำมาใช้ในการควบคุมระบบไฟฟ้าในโรงเรือนการเกษตร การใช้คอมพิวเตอร์สำหรับควบคุมระบบไฟฟ้าในโรงเรือนเกษตรนี้ เป็นการนำเทคโนโลยีการอินเตอร์เฟสกับคอมพิวเตอร์ใช้ในงานทางด้านการเกษตรโดยได้สร้าง Hardware ที่สื่อสารกับคอมพิวเตอร์ภายใต้ระบบบัส I C โครงการนี้ได้พัฒนา Software ให้ไปควบคุมการทำงานของ Hardware ภายนอกผ่านพอร์ตอนุกรม ของคอมพิวเตอร์ สามารถนำไปควบคุมสภาวะการเปิด ปิดของอุปกรณ์ไฟฟ้าในโรงเรือนโดยเมื่ออุณหภูมิสูงภายในโรงเรือนถึงจุดที่กำหนดแล้วระบบจะทำการสั่งให้หลอดไฟหยุดทำงานและโปรแกรมจะสั่งให้พัดลมดูดอากาศร้อนออกสู่ภายนอกแทน การควบคุมระยะไกลจะติดตั้งโปรแกรมสำหรับการสื่อสารระหว่างคอมพิวเตอร์ เช่นโปรแกรม PcAnywhere V10 ลงในเครื่องคอมพิวเตอร์ทั้งสองเครื่องเพื่อควบคุมระยะไกลและใช้โมเด็มขนาดความ เร็วในการส่งข้อมูลไม่น้อยกว่า 56 Kbps จำนวน 2 เครื่อง หรือใช้คลื่นวิทยุความถี่ 2.4 GHz เพื่อการสื่อสารแบบไร้สาย จากผลการศึกษาและทดสอบของคณะนักศึกษาตามระบบที่กล่าวมาพบว่า ระบบต่าง ๆ ทำงานได้ตามที่ออกแบบไว้และยังสามารถตั้งเวลาการเปิด-ปิดของอุปกรณ์ไฟฟ้าอื่น ๆ ได้อีกด้วย ที่สำคัญเครื่องควบคุมไฟฟ้านี้สามารถต่อพ่วงกันเป็นระบบใหญ่และสามารถควบคุมโรงเรือนเพื่อการเกษตรได้มากถึง 16 โรงพร้อม ๆ กัน เกษตรกรที่สนใจสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ คณะวิศวกรรมและเทคโนโลยีการเกษตร ศูนย์กลางสถาบันเทคโนโลยีราชมงคล โทร. 0-2549-3300 ได้ด้วยตนเองนะครับ (เดลินิวส์ พฤหัสบดีที่ 27 พ.ค. 47 http://www.dailynews.co.th)





วิจัยพบ "เปราะหอม" ต้านเชื้อเอชไอวี

ศ.ดร.โสภณ เริงสำราญ จากภาควิชาเคมี คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวว่า จากการวิจัยคัดกรองพืชสมุนไพรที่มีฤทธิ์ในการยับยั้งเอ็นไซม์รีเวอร์ส์ทรานสคริปเทส ของเชื้อไวรัสเอชไอวี ซึ่งได้รับทุนอุดหนุนการวิจัยจากสำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ (วช.) โดยศึกษาพืชสมุนไพรตระกูลขิงประมาณ 20 ชนิด พบว่าพืชจำพวกขมิ้นชัน ขมิ้นอ้อย กระชายดำ เปราะหอม มีฤทธิ์ต้านเอ็นไซม์ดังกล่าวได้ดีพอสมควร แต่ในการวิจัยได้คัดเลือกพืช 6 ชนิด ได้แก่ กระชายดำ เปราะหอม ขิงแห้ง ว่านร่อนทอง ว่านทองคำ และขมิ้นดำดง สามารถพบสารบริสุทธิ์ได้ถึง 30 ชนิด หลังจากนั้นได้ทำการวัดค่าการต้านเอ็นไซม์อีกครั้ง และพบว่าสารบริสุทธิ์ที่ได้จากเปราะหอมคือ ethy1 p-methoxy cinnamate และ p-methoxy cinnamic acid สามารถต้านเอ็นไซม์ ของเชื้อเอชไอวีได้ ศ.ดร.โสภณ กล่าวว่า จากการทดสอบพิษวิทยา และทดสอบทางคลินิกกับผู้ป่วยติดเชื้อเอชไอวีที่มาขอรับยาจำนวนหนึ่ง พบว่าสามารถยับยั้งเชื้อเอชไอวีได้ในระดับหนึ่งและได้ผลที่น่าพอใจ อย่างไรก็ตาม การนำสมุนไพรตระกูลขิงมารับประทานในรูปอาหารผักสดก็สามารถทำได้ แต่ทานได้ไม่มากเนื่องจากมีรสชาติเผ็ด แต่หากนำมาผ่านกระบวนการทางเคมี แปรรูปเป็นสารบริสุทธิ์และทำเป็นแคปซูลจะสะดวกกว่า ซึ่งนักวิจัยจะทำการทดลองอย่างเต็มรูปแบบต่อไป (ไทยรัฐ พฤหัสบดีที่ 27 พ.ค. 47 http://www.thairath.co.th)





กระทรวงร่วมดันงานวิจัยเพื่อคนหูหนวก

คุณหญิงทิพาวดี เมฆสวรรค์ ปลัดกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ไอซีที) กล่าวว่า กระทรวงไอซีที จะร่วมกับกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ และกระทรวงศึกษาธิการ ผลักดันงานวิจัยเทคโนโลยีสำหรับคนหูหนวก ให้ถูกนำมาผลิตเป็นอุปกรณ์และใช้งานได้จริง โดยทั้ง 4 กระทรวง จะทำข้อตกลงร่วมกันในเร็วๆ นี้ เพื่อร่างเป็นแผนงานต่อ ครม. เสนอของบประมาณ ในช่วงเบื้องต้นและบังคับใช้กับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต่อไป สำหรับงานวิจัยดังกล่าว ได้แก่ ระบบคำบรรยายภาพทางโทรทัศน์แบบซ่อนได้ (Closed Caption) ของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, เครื่องโทรศัพท์สำหรับคนหูหนวก และเครื่องโทรอักษร ของสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง และ บมจ. ทศท คอร์ปอเรชั่น ตลอดจนซอฟต์แวร์ภาษามือ 3 มิติ ของมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ซึ่งได้รับการสนับสนุนทุนวิจัยจากศูนย์เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์แห่งชาติ (เนคเทค) นอกจากนี้ กระทรวงไอซีที ยังเตรียมเสนอเรื่องเข้าสู่การพิจารณาของ ครม. เพื่อประกาศเป็นนโยบายให้ผู้ผลิตรายการโทรทัศน์และสถานีโทรทัศน์ จัดทำระบบบรรยายภาพโทรทัศน์แบบซ่อนได้ (Closed Caption) เพื่อให้ผู้พิการทางหู ได้รับรู้เนื้อความของรายการทัดเทียมกับคนปกติ โดยที่ผู้ผลิตรายการจะต้องเป็นผู้รับผิดชอบค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้นเองทั้งหมด เนื่องจากเนคเทค ได้คิดค้นอุปกรณ์แปลงสัญญาณบรรยายภาพ ที่สามารถนำไปเชื่อมต่อกับเครื่องโทรทัศน์ได้สำเร็จแล้ว ด้วยต้นทุนเครื่องละ 3,000 บาท รศ.ดร.เอกชัย ลีลารัศมี อาจารย์ประจำภาควิชาวิศวกรรมไฟฟ้า คณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ผู้วิจัย กล่าวว่า ผู้ผลิตรายการโทรทัศน์อาจต้องใช้เวลาอีก 1 วัน ในการใส่คำบรรยายใต้ภาพ โดยระบบจะทำการซ่อนคำบรรยายไว้ด้วยการเข้ารหัส เพื่อไม่ให้รบกวนสายตาสำหรับคนปกติ แต่ระบบนี้จะเป็นประโยชน์ต่อคนหูหนวกที่มีเครื่องถอดรหัสเป็นตัวอักษร ส่วนการนำไปใช้กับรายการโทรทัศน์ที่ออกอากาศสด อาจบรรยายได้ล่าช้ากว่าภาพที่ปรากฏ เพราะต้องมีเจ้าหน้าที่คีย์ข้อมูลในระหว่างออกอากาศ ทั้งนี้ระบบสามารถรองรับได้ทั้งคำบรรยายไทย และภาษาอังกฤษ (กรุงเทพธุรกิจ พฤหัสบดีที่ 27 พ.ค. 47 http://www.bangkokbiznews.com)





อังกฤษสร้างเครื่องดูดฝุ่นไฮเทคขนาดจิ๋ว เพิ่มพลังลมดูดไม่ง้อถุงเก็บและไส้กรอง

เจมส์ ไดสัน นักประดิษฐ์ชาวอังกฤษ ผู้ที่พัฒนาเครื่องดูดฝุ่นจี-ฟอร์ซ เปิดตัวเครื่องดูดฝุ่นรุ่น ดีซี 12 ในกรุงโตเกียว โดยที่เครื่องดูดฝุ่นเครื่องนี้ เจมส์ว่าเป็นเครื่องดูดฝุ่นไฮเทคที่เล็กที่สุดในโลก มีความสามารถมากที่สุดในโลก และอาจจะแพงที่สุดในโลก ด้วยราคากระชากกระเป๋าประมาณ 25,350-29,000 บาท เขาได้ออกแบบเครื่องดูดฝุ่นขึ้นมาใหม่ มีขนาดเล็กเพียง 8x10x12 นิ้ว และเมื่ออากาศพร้อมกับฝุ่นถูกดูดผ่านเข้ามาภายในท่อ แรงหมุนวนของอากาศจะทำให้เกิดแรงหนีศูนย์ เป็นผลให้ขี้ผงและสิ่งสกปรกที่มีขนาดใหญ่หลุดออกมากองอยู่ข้างล่าง ส่วนขี้ฝุ่นและผงธุลีขนาดเล็กจะถูกดูดผ่านไส้กรองเข้ามายังท่อทรงกรวยที่ซ้อนอยู่อีกชั้นหนึ่ง ลมที่ผ่านท่อลักษณะนี้จะมีแรงหมุนสูงขึ้น ทำให้อนุภาคที่มีขนาดเล็กมากๆ ถูกสลัดหลุดออกมา ส่วนอากาศที่ปราศจากละอองฝุ่นจะถูกดูดกลับไปในที่สุด หากเพิ่มจำนวนท่อกรวยมากขึ้น แรงดูดยิ่งเพิ่มสูงขึ้น เจมส์ยังได้พัฒนาให้เครื่องดูดฝุ่นมหัศจรรย์นี้สามารถสื่อสารผ่านโทรศัพท์ได้ด้วย กล่าวคือ ถ้าถือโทรศัพท์ใกล้ๆ กับเครื่องดูดฝุ่น ข้อมูลจากเครื่องดูดฝุ่น อาทิ หมายเลขประจำเครื่องและประวัติการใช้งานเครื่อง จะถูกส่งไปยังศูนย์ดูแลลูกค้า ราคาสูงกว่าเครื่องดูดฝุ่นทั่วไปประมาณ 3 เท่าครึ่ง เครื่องดูดฝุ่นไฮเทคก็พิสูจน์ให้เห็นด้วยเทคโนโลยี สำหรับเครื่องรุ่นใหม่ล่าสุด เจมส์ได้พัฒนาให้ตัวมอเตอร์มีขนาดเล็กกว่ามอเตอร์เครื่องดูดฝุ่นทั่วไปถึงครึ่งหนึ่ง แต่มีแรงดูดฝุ่นสูงกว่า 50% เจมส์ยังได้ประดิษฐ์เครื่องซักผ้าแบบใหม่ที่มีถังซักสองถังอยู่ในตัว เจมส์ได้ออกแบบให้แต่ละถังหมุนสลับทิศทางกัน ซึ่งจะช่วยเพิ่มพลังซักได้มากขึ้น และทำให้สลัดคราบได้ง่ายกว่า (กรุงเทพธุรกิจ พฤหัสบดีที่ 27 พ.ค. 47 http://www.bangkokbiznews.com)





เอกชนยกเครื่องวิธีสกัดน้ำมันมะพร้าว สินค้าบริสุทธิ์ 100% ปลอดเชื้อราและกลิ่นหืน เล็งรุกตลาดส่งออก

นายพงศ์พิศุทธิ์ เกียรติวรางกูร ประธานกรรมการผู้จัดการ บริษัท น้ำมันมะพร้าวไทย จำกัด เปิดเผยว่า บริษัทได้รับการสนับสนุนด้านเงินทุนจากสำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ และด้านวิชาการจากมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ในการปรับเปลี่ยนกรรมวิธีผลิตน้ำมันมะพร้าว ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ของบริษัทให้มีคุณภาพดีขึ้น และสามารถส่งจำหน่ายตลาดต่างประเทศ จากปัจจุบันที่จำกัดเฉพาะตลาดในประเทศเท่านั้น โดยส่วนใหญ่ใช้ประโยชน์ในอุตสาหกรรมเครื่องสำอาง อาหารและธุรกิจสปา นักวิจัยที่ได้ศึกษาการสกัดน้ำมันมะพร้าวด้วยวิธีการสกัดเย็น ที่มีผลการทดสอบจากห้องปฏิบัติการรับรองผลชัดเจน โดยคุณค่าของน้ำมันมะพร้าวที่ได้ยังอยู่ครบถ้วน สีเหลืองอ่อนใสและกลิ่นหอม ทำให้เกิดความมั่นใจในผลการวิเคราะห์ และควบคุมคุณภาพของน้ำมันมะพร้าวบริสุทธิ์จากวิธีสกัดเย็น จึงนำมาใช้ในกระบวนการผลิตของโรงงานแทนกรรมวิธีเดิม ภายใต้การดูแลด้านวิชาการและเทคโนโลยีโดยอาจารย์เจ้าของผลงานวิจัย วิธีการสกัดเย็นเป็นการนำกากมะพร้าวสดมาคั่นเป็นน้ำกะทิ แล้วนำไปผ่านความเย็นในระบบปิด ขณะเดียวกันได้ใช้วิธีการกวนปั่นเพื่อดึงน้ำมันให้แตกตัวออกจากโปรตีน จากนั้นนำน้ำมันที่ได้มาเข้าเครื่องกรองสิ่งสกปรก ทำให้น้ำมันมะพร้าวที่ได้มีความบริสุทธิ์ปราศจากสิ่งปนเปื้อน ยังช่วยลดต้นทุนการผลิต โดยได้ปริมาณการผลิตที่มากกว่าร้อยละ 98 ของวัตถุดิบ จากกำลังการผลิตที่ 500 ลิตรต่อวัน อีกทั้งน้ำมันมะพร้าวที่ได้ยังมีคุณภาพปราศจากสารเคมี คงคุณค่าให้กับน้ำมันมะพร้าวให้มีคุณภาพสูง มีศักยภาพในการแข่งขันกับตลาดโลก จะต้องพัฒนากรรมวิธีให้ใช้ประโยชน์ได้สูงสุด โดยเฉพาะในส่วนของการแยกน้ำมันออกจากโปรตีน ซึ่งโปรตีนที่ได้จากน้ำมันมะพร้าวนั้นสามารถนำไปใช้ประโยชน์อื่นๆ ได้อีก อาทิ ใช้เป็นส่วนผสมในเครื่องสำอาง ยารักษาโรค โลชั่นบำรุงผิว รวมถึงน้ำมันหอมระเหย ได้อีกด้วย ซึ่งบริษัทจะวิจัยร่วมกับสถาบันการศึกษาเพื่อค้นหาวิธีใช้ประโยชน์จากโปรตีนน้ำมันมะพร้าวต่อไป (กรุงเทพธุรกิจ พฤหัสบดีที่ 27 พ.ค. 47 http://www.bangkokbiznews.com)





ป.เอกพัฒนาหุ่นยนต์พับจรวดเลียนเทคนิคพับกระดาษญี่ปุ่น

เดวิน บัคคอม นักศึกษาปริญญาเอก จากมหาวิทยาลัยคาร์เนกี เมลอน สถาบันที่มีชื่อเสียงโด่งดังในการพัฒนาหุ่นยนต์ของสหรัฐ ได้พัฒนาหุ่นยนต์ที่มีความสามารถในการนำกระดาษมาพับเป็นเครื่องบินและหมวก โดยใช้เป็นโครงงานส่งอาจารย์เพื่อขอจบการศึกษาขั้นปริญญาเอก หุ่นยนต์นี้พัฒนาขึ้นมานั้น มีรูปร่างที่ดูธรรมดามาก มีลักษณะเป็นหุ่นยนต์ขนาดเล็กที่ขายึดติดกับโต๊ะ โดยมีแขนยื่นออกมาพร้อมกับแกนที่ต่อกับแผ่นโลหะสำหรับใช้กดกระดาษ หุ่นยนต์ตัวนี้จะมีถ้วยสุญญากาศขนาดเล็กติดอยู่ที่ปลายแขนเพื่อจับและย้ายกระดาษ ในการพับแต่ละครั้งนั้น แผ่นโลหะที่ต่อกับแขนกล จะทำหน้าที่กดกระดาษให้ลงร่อง จากนั้นร่องจะหนีบเข้าหากันเพื่อพับกระดาษให้เป็นแผ่นจนครบขั้นตอน การพับกระดาษซึ่งจำเป็นต้องพลิกกระดาษไปมานั้น หุ่นยนต์จะใช้ตรรกะทางคณิตศาสตร์เพื่อช่วยให้มันเข้าใจสิ่งที่มันต้องทำ ยกตัวอย่าง กระดาษมีลักษณะสองมิติ คือ กว้างและยาว และเป็นแผ่นบางๆ ดังนั้น ความหนาของแผ่นกระดาษจะต้องถูกแปลงให้เป็นตัวเลขทางคณิตศาสตร์เสียก่อนเพื่อให้หุ่นยนต์สามารถเข้าใจได้ว่า เมื่อพับกระดาษแล้วจะเกิดอะไรขึ้น ซึ่งคำตอบคือ กระดาษจะหนาขึ้น ผลก็คือ หุ่นยนต์ต้องถูกโปรแกรมให้ "เข้าใจ" ว่ากระดาษสามารถพับได้หลายทบ (สูงสุด 7 ทบ) และขนาดของกระดาษจะสั้นลงทุกครั้งเมื่อถูกพับ (คมชัดลึก พฤหัสบดีที่ 27 พ.ค. 47 http://www.komchadluek.com)





สุดยอดด้านวิทยาศาสตร์และวิศวกรรมศาสตร์

สามเยาวชนคนเก่งของโลกในการแข่งขันอินเทล ไอเซฟ ปีนี้ได้แก่ หยวนเชง ซู จากเมืองเซี่ยงไฮ้ ประเทศสาธารณรัฐประ ชาชนจีน, ซาร่า โรส แลงเบิร์ก จากเมืองฟอร์ท เมเยอร์ รัฐฟลอริดา สหรัฐอเมริกา, ยูเว เทรสก้า จากเมืองกราเฟนไฮนิเชน ประเทศเยอรมนี หยวนเชง ซู นักเรียนอายุ 19 ปี ได้รางวัลชนะเลิศจากผลงานด้านวิทยาศาสตร์คอมพิวเตอร์ หัวข้อ “Real Time Remeshing with Optimally Adapting Domain : A new scheme for view-dependent continuous levels of detail mesh rendering” ซึ่งเป็นการพัฒนาวิธีการในการสร้างคอมพิวเตอร์กราฟิกแบบสามมิติให้มีคุณภาพสูง มีรายละเอียดคมชัดในขณะที่ทำให้การเรนเดอร์ภาพมีความรวดเร็วขึ้นด้วย ซาร่า แลงเบิร์ก อายุ 17 ปี เป็นอีกผู้หนึ่งที่ได้รับรางวัลชนะเลิศจากโครงการด้านวิทยาศาสตร์เกี่ยวกับโลกและอวกาศ หัวข้อ “Petrology,Morphology and Geochemistry of the Southern Juan de Fuca Ridge” ซาร่าทำการศึกษาด้านเคมี และทำการวิจัยจำลองทางคณิตศาสตร์รวมทั้งศึกษาเกี่ยวกับพื้นโลกใต้ทะเลจากวิดีทัศน์ เพื่อที่จะอธิบายลักษณะพิเศษเฉพาะตัวของบริเวณพื้นโลกแถบนี้ที่มีภูเขาไฟเป็นจำนวนมาก ยูเว เทรสเก้ อายุ 18 ปี โครงงานที่ทำให้เขาได้รางวัลมาได้ก็คือ “Low-cost Scanning Tunneling Microscope” ซึ่งเป็นโครงการพัฒนากล้องจุลทรรศน์ราคาถูกที่มีประสิทธิภาพสูง ให้ภาพขยายที่ คมชัดกว่ากล้องจุลทรรศน์แบบทั่วไป ยูเว ใช้วัสดุที่หาได้ทั่วไปเช่น เส้นใยทั้งสเตนจากหลอดไฟ แผ่นโฟมที่นำกลับมาใช้ใหม่ รวมทั้งใช้ซาวน์การ์ดของคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลในการแปลงสัญญาณเป็นดิจิตอล สำหรับประเทศไทยนั้น อินเทลได้ร่วมกับ เนคเทค คัดเลือกเยาวชนเป็นตัวแทนประเทศไทยเข้าร่วมการแข่งขันอินเทล ไอเซฟ สองคนได้แก่ นายทวีธรรม ลิมปานุภาพ นักเรียนชั้น ม.6 โรงเรียนมหิดลวิทยานุสรณ์ จ.นครปฐม และนายศุภโชค หฤหรรษพงศ์ นักเรียนชั้น ม.5 โรงเรียนจุฬาภรณราชวิทยาลัย ตรัง จ.ตรัง นายทวีธรรมได้รับรางวัลชมเชยจาก Association for Computing Machinery จากผลงานรื่อง การเพิ่มความปลอดภัยระบบรหัสผ่านด้วยการตรวจสอบจังหวะการพิมพ์ ที่ส่งเข้าประกวดในสาขาวิทยาการคอมพิวเตอร์ ส่วนนายศุภโชค นำผลงานเรื่อง ต้นไม้สร้างไฟฟ้า เข้าร่วมประกวดในสาขาวิศวกรรมศาสตร์ ซึ่งพลาดรางวัล ยังมีการแข่งขันประเภททีม ซึ่งผลงานของนักเรียนกลุ่มนี้ได้รับการยกย่องจากสมาคมวิจัยวิทยาศาสตร์ Sigma Xi ว่าเป็นผลงานยอดเยี่ยมอันดับหนึ่งที่ชี้ให้เห็นถึงการนำงานวิจัยทางวิทยาศาสตร์มาผสมผสานกับวิศวกรรมศาสตร์ได้เป็นอย่างดี ได้รับทุนการศึกษามูลค่า 1,000 เหรียญสหรัฐ ทั้งนี้ เยาวชนทั้งสามที่เข้าร่วมได้แก่นักเรียนชั้นมัธยมประถมศึกษาปีที่ 6 จากโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา ประกอบด้วย นายจารุพล สถิรพงษะสุทธิ นายณัฐดนัย ปุณณะนิธิ และนายภูมิยศ วิมลกิตติวัฒน์ โดยผลงานที่ได้รับการยกย่องครั้งนี้ คือ “คลื่นการเดินทางกิ้งกือ (Walking with Millipede) (สยามรัฐ พฤหัสบดีที่ 27 พ.ค. 47 http://www.matichon.co.th)





แข่งสร้างหุ่นยนต์กู้ภัยพันธุ์ไทยครั้งแรก

รศ.ดร.มนูกิจ พานิชกุล นายกสมาคมวิชาการหุ่นยนต์ไทย เปิดเผยว่า สมาคมฯ ได้ร่วมมือกับบริษัท ปูนซีเมนต์ไทย จำกัด (มหาชน) จัดแข่งขันประดิษฐ์หุ่นยนต์กู้ภัยครั้งแรกในไทย "ไทยแลนด์ เรสคิว โรบอท แชมเปี้ยนชิพ" เนื่องจากเล็งเห็นถึงอุปสรรคในการช่วยเหลือชีวิตผู้ประสบภัย จากเหตุการณ์อัคคีภัย อุทกภัย หรือแผ่นดินไหว โดยการประกวดครั้งนี้จะเป็นการแข่งขันสร้างหุ่นยนต์ เพื่อค้นหาตำแหน่งผู้ที่ได้รับบาดเจ็บจากการสแกน อุณหภูมิร่างกายและเสียง ซึ่งผู้ชนะจะได้รับเงินสด 200,000 บาท พร้อมเป็นตัวแทนประเทศไทย เข้าแข่งขัน World Robocup Rescue ที่โอซาก้า ประเทศญี่ปุ่น การพัฒนาหุ่นยนต์ของไทยที่ผ่านมา กว่า 25 เปอร์เซ็นต์จะเน้นสร้างหุ่นยนต์เพื่ออุตสาหกรรม เช่น แขนกลเครื่องจักร ซึ่งการสร้างหุ่นยนต์กู้ภัยถือเป็นการเปิดมิติใหม่ในวงการหุ่นยนต์ไทย ส่วนประเทศที่มีการสร้างหุ่นยนต์ดังกล่าวแล้ว ได้แก่ ญี่ปุ่น และสหรัฐอเมริกา สำหรับผู้ที่สนใจเข้าร่วมแข่งขัน ต้องเป็นนักเรียนระดับอาชีวศึกษา อุดมศึกษาขึ้นไป ภายในทีมต้องมีสมาชิก 3 คน และอาจารย์ที่ปรึกษา 1 คน เปิดรับสมัครตั้งแต่ 1 มิ.ย.-15 ก.ค. 2547 สามารถค้นหาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.trs.or.th หรือโทร. 0-2586-5641 (เดลินิวส์ ศุกร์ที่ 28 พ.ค. 47 http://www.dailynews.co.th)





สถาบันไอฟาส ผลิตสื่อเรียนรู้ "ฟิสิกส์" จากแนวคิดทำเรื่องยากให้เป็นเรื่องง่าย

วาทิน เฉลิมดำริชัย กรรมการผู้จัดการ สถาบันไอฟาส (Institute for Advanced Study - IfAS) สถาบันสอนฟิสิกส์มัธยมปลาย ความพยายามในการที่จะทำให้การเรียนฟิสิกส์เป็นเรื่องง่าย และเข้าถึงหลักการที่แท้จริง จึงเป็นจุดตั้งต้นของสถาบันไอฟาส ซึ่งเป็นสถาบันสอนฟิสิกส์สำหรับมัธยมศึกษาตอนปลาย (www.ifas.co.th) มีการนำโปรแกรมคอมพิวเตอร์ช่วยสอน ซึ่งเป็นผลงานที่พัฒนาขึ้นมาเอง โดยใช้เทคโนโลยีหลายอย่างเข้ามาช่วยอธิบายให้ผู้เรียนเห็นภาพ แทนการใช้จินตนาการตามคำอธิบายของผู้สอนอย่างเดียว เช่น ภาพ เสียง และภาพเคลื่อนไหว รวมถึงภาพในสามมิติ เพราะอุปสรรคส่วนหนึ่งของการเรียนฟิสิกส์ คือการจินตนาการตามคำอธิบายของผู้สอน ที่บางครั้งอาจเข้าใจไม่ตรงกันทำให้เข้าไปผิดไป หรือบางครั้งก็ต้องใช้เวลามาก ผู้สอนต้องใช้การเขียนภาพประกอบช่วย ใช้ลูกศรชี้ในการอธิบายทิศทาง วาทิน เห็นว่า มาตรฐานการสอนฟิสิกส์ส่วนใหญ่ขึ้นอยู่กับผู้สอน ถ้าสอนเก่ง วาดรูปประกอบเก่ง ก็จะทำให้นักเรียนเข้าใจเร็วขึ้น ซึ่งแม้จะเป็นเรื่องดี แต่ถ้าปล่อยให้เป็นอย่างนั้นมาตรฐานก็ไม่กระจาย สถาบันไอฟาสจึงพัฒนาโปรแกรมช่วยสอนดังกล่าวขึ้นมาใช้ในสถาบันเอง โดยผนวกเข้ากับเทคนิคการสอนอื่นด้วย ช่วยทำให้ผู้เรียนเรียนเรื่องฟิสิกส์ได้ถูกต้องและเร็วขึ้น วิชาฟิสิกส์เป็นวิทยาศาสตร์ ว่าด้วยเรื่องตรรกะ ผู้เรียนจะได้ฝึกคิดตามกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ คิดอย่างเป็นเหตุเป็นผล และอธิบายปรากฏการณ์ต่างๆ รอบตัวได้ รวมไปถึงการสร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆ ได้ ในอนาคตทางสถาบันจะนำโปรแกรมดังกล่าวไปเสนอยังโรงเรียนทั่วไป และในเร็วๆ นี้ ก็จะพัฒนาโปรแกรมช่วยสอนดังกล่าว ในเนื้อหาวิชาอื่นนอกจากฟิสิกส์ด้วย เช่น คณิตศาสตร์ เคมี เป็นต้น และในระดับการศึกษาที่สูงขึ้นด้วย (กรุงเทพธุรกิจ ศุกร์ที่ 28 พ.ค. 47 http://www.bangkokbiznews.com)





กุหลาบสีน้ำเงินฉีกความจำเจ สร้างสีใหม่เพิ่มรายได้ชาวสวน

ปีเตอร์ กวินเจอริช ศาสตราจารย์ด้านชีวเคมี และผู้อำนวยการศูนย์พิษวิทยาโมเลกุลมหาวิทยาลัยแวนเดอร์บิลท์ และเอลิซาเบธ กิลแลม อาจารย์อาวุโสในคณะเภสัชศาสตร์มหาวิทยาลัยควีนส์แลนด์ ในออสเตรเลีย บอกว่านักวิจัย กำลังศึกษาความเป็นไปได้ ในการใช้ยีนมนุษย์ มาตัดต่อใส่ในต้นกุหลาบ เพื่อแปลงโฉมให้กลายเป็น 'กุหลาบสีน้ำเงิน' หากทำสำเร็จ กุหลาบสีน้ำเงินจะสร้างรายได้ให้กับผู้ปลูกอย่างมหาศาล เพราะเป็นสีที่ตลาดต้องการอย่างมาก การค้นพบครั้งนี้ถือเป็นความบังเอิญ ขณะที่ทั้งสองกำลังศึกษาเรื่องโรคมะเร็ง และอัลไซเมอร์ ด้วยการใช้ยีนจากตับมนุษย์ และนำไปใส่ไว้ในแบคทีเรียเพื่อดูวิธีการสันดาปยาของร่างกาย "แบคทีเรียเปลี่ยนเป็นสีน้ำเงิน เราจึงคิดว่าน่าจะนำไปประยุกต์ใช้สร้างกุหลาบสีน้ำเงินได้ โดยนำยีนมนุษย์นี่แหละไปใส่ไว้ในดอกกุหลาบ" กวินเจอริช กล่าว และว่าขณะนี้ทีมงานได้ยื่นจดสิทธิบัตรกระบวนการผลิตเรียบร้อยแล้ว ทั้งนี้คาดว่าอาจต้องใช้เวลาหนึ่งปีหรือกว่านั้น กว่าที่ดอกกุหลาบสีน้ำเงินออกมาได้ และหากทำได้จริง ก็สามารถประยุกต์ใช้กับการปลูกฝ้ายสีน้ำเงินเพื่อใช้ทอเป็นกางเกงยีน หรืออะไรก็ได้ ซึ่งจะช่วยประหยัดต้นทุนให้กับผู้ผลิตได้มากขึ้น แม่ค้าขายดอกไม้รายหนึ่ง บอกว่าหากมีกุหลาบสีน้ำเงินจริง ต้องขายดีอย่างแน่นอน เพราะส่วนใหญ่แล้วลูกค้าจะชอบดอกไม้สีน้ำเงิน และสีม่วง (กรุงเทพธุรกิจ ศุกร์ที่ 28 พ.ค. 47 http://www.bangkokbiznews.com)





ญี่ปุ่นโชว์นวัตกรรมข้าว สร้างภูมิต้านกันสารพัดโรค

ในงานสัมมนาข้าวแห่งชาติที่จัดขึ้นระหว่างวันที่ 26-27 พ.ค. ที่ศูนย์แสดงสินค้าอิมแพค เมืองทองธานี ดร.ฮิโรชิ คายาฮารา จากคณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยชินซู ของญี่ปุ่น กล่าวถึงนวัตกรรมข้าวจากญี่ปุ่นที่เรียกว่า ข้าวกล้องพร้อมจมูกข้าว (Germinated Brown Riceหรือ จีบีอาร์) ว่าเป็นข้าวที่มีโภชนาการสูงกว่าข้าวกล้อง 4-5 เท่า และสูงกว่าข้าวขาว 10 เท่า เนื่องจากเป็นข้าวเต็มเมล็ดที่ยังมีจมูกข้าวติดอยู่ และเมื่อนำมาแช่น้ำข้ามคืนเพื่อให้จมูกข้าวงอกออกมา จะเกิดกระบวนการที่เพิ่มคุณค่าทางอาหารให้กับข้าวมากยิ่งขึ้นด้วย ข้าวที่จำหน่ายในตลาดส่วนใหญ่ เป็นข้าวที่สีจนขาวเพื่อให้หุงง่าย และน่ารับประทานกว่าข้าวกล้องซึ่งต้องแช่น้ำก่อน และรสชาติจะเฝื่อนไม่ถูกปาก ทั้งที่คนทั่วไปทราบดีว่า สารสีน้ำตาลที่เคลือบผิวของข้าวกล้องเต็มไปด้วยคุณค่าทางอาหาร ยังป้องกันโรคได้สารพัด ตั้งแต่มะเร็งลำไส้ ความดันโลหิตต่ำ รวมถึงโรคอัลไซเมอร์ ดร. โรนัลด์ แคนเทรล จากสถาบันวิจัยข้าวระหว่างประเทศหรือ IRRI ได้กล่าวเรียกร้องในเวทีประชุมให้มีการศึกษาและนำเอาเทคโนโลยีมาช่วยในการปรับปรุงพันธุ์พืชให้มากยิ่งขึ้น เพื่อผลิตข้าวให้มากพอที่จะป้อนกับประชากรโลกที่เพิ่มจำนวนสูงขึ้น และเพิ่มรายได้ให้กับเกษตรกรได้มากยิ่งขึ้น โดยเขาได้ยกตัวอย่างงานวิจัยปรับปรุงพันธุ์ โดยนำเทคโนโลยีชีวภาพเข้ามาช่วยให้ข้าวให้มีความสามารถทนแมลง และทนแล้งมากขึ้น โดยอาศัยออกซิเจนจากพื้นดิน ไม่ต้องอาศัยการทดน้ำเข้านาเพื่อเลี้ยงข้าว และการเพาะปลูกข้าวด้วยเทคนิคนี้จะช่วยลดการใช้น้ำในการทำนาดอยให้ผลผลิตเหลือ 6-7 ตันต่อเฮกตาร์ แต่ใช้น้ำน้อยกว่าข้าวปกติครึ่งหนึ่ง ทั้งนี้มีการคำนวณว่า ข้าวหนึ่งกิโลกรัมต้องใช้น้ำเพาะปลูกถึง 3,000 ลิตร "งานวิจัยนี้คาดว่าจะสำเร็จและสามารถนำไปเพาะปลูกในแปลงจริงภายใน 4-5 ปี (กรุงเทพธุรกิจ ศุกร์ที่ 28 พ.ค. 47 http://www.bangkokbiznews.com)





นักลงทุนสบช่อง ต่อยอดวิจัยสู่พาณิชย์

นายมานิตย์ กตัญญูวิวัฒน์ กรรมการผู้จัดการบริษัท ไทเทค คอนเนอร์ จำกัด ซึ่งดำเนินอุตสาหกรรมแปรรูปมะนาว ครบวงจร เปิดเผยว่า บริษัทได้ลงนามรับซื้อเทคโนโลยีการแปรรูปมะนาวครบวงจร ซึ่งเป็นชุดโครงงานวิจัยของมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี (มจธ.) เพื่อนำไปพัฒนาต่อยอดสู่ธุรกิจในเชิงพาณิชย์ โดยคาดว่าประมาณกลางปี 2548 จะสามารถผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์แปรรูปจากมะนาวทั้งตลาดในประเทศและต่างประเทศ โดยรับการถ่ายทอดเทคโนโลยีการผลิตจากมหาวิทยาลัย ซึ่งประกอบด้วย เครื่องล้างมะนาว เครื่องผ่าคั้นมะนาว เครื่องลดความขม เครื่องทำน้ำมะนาวเข้มข้น คาดว่ากำลังการผลิตของโรงงานต้นแบบจะอยู่ที่ 160 กิโลกรัม/วัน ซึ่งมีความคุ้มค่าในเชิงพาณิชย์ และผลิตภัณฑ์ที่ออกมา จะประกอบด้วย น้ำมะนาวเข้มข้น มะนาวผง จากนั้นจะขยายสู่ผลิตภัณฑ์แปรรูปตัวอื่น ด้าน ผศ.สุชาดา ไชยสวัสดิ์ หัวหน้าคณะวิจัยแปรรูปมะนาว ม.เทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี กล่าวว่า หลังจากที่เกษตรกรผู้ผลิตมะนาวต้องประสบกับปัญหาผลผลิตล้นตลาด รวมถึงปัญหามะนาวมีราคาแพงในช่วงขาดแคลน ทางคณะผู้วิจัยจึงได้คิดที่จะทำการแปรรูปมะนาวให้สามารถเก็บไว้ใช้ได้นานขึ้น พร้อมทั้งคงคุณค่าทั้งสี กลิ่นและรสชาติของมะนาวไว้อย่างครบถ้วน ทางคณะได้คิดวิธีแปรรูปมะนาว เพื่อเพิ่มมูลค่าจากทุกส่วนของมะนาว ไม่ว่าจะเป็น น้ำมะนาว เปลือกมะนาว เพราะในกระบวนการผลิตมะนาว 1 ตัน เมื่อทำการคั้นน้ำแล้วจะเหลือเปลือกทิ้งถึง 500 กิโลกรัม จึงต้องวิจัยหาวิธีใช้ประโยชน์จากเปลือก และพบว่าสามารถนำมาทำเป็นโลชั่น น้ำมันหอมระเหย สำหรับผงมะนาวซึ่งจะเป็นผลิตภัณฑ์หลักของบริษัทนั้น นอกจากใช้เป็นส่วนประกอบในอุตสาหกรรมอาหาร เพื่อให้รสเปรี้ยวแล้ว ยังสามารถใช้ชงกับน้ำเป็นน้ำมะนาวพร้อมดื่ม ซึ่งผงมะนาวที่ได้จากการแปรรูปนั้น สามารถเก็บไว้ใช้ได้ถึง 2 ปี ทั้งสีและรสชาติไม่แตกต่างกับน้ำมะนาวที่ได้จากผลสด ดังนั้น จึงมั่นใจได้ว่าผลิตภัณฑ์แปรรูปมะนาวจากชุดโครงงานวิจัย จะสามารถช่วยลดต้นทุนการผลิตในภาคอุตสาหกรรมอาหารและเครื่องสำอาง(กรุงเทพธุรกิจ ศุกร์ที่ 28 พ.ค. 47 http://www.bangkokbiznews.com)





ขึงพืดพันธุกรรมมนุษย์พบยีนสำคัญตัวการก่อสารพัดโรคร้าย

ปีที่แล้วทีมนักวิทยาศาสตร์ระหว่างประเทศได้ประกาศความสำเร็จในการจัดเรียงตำแหน่งของยีนในร่างกายภายใต้โครงการที่เรียกว่า "ฮิวแมน จีโนม โปรเจคท์" หรือโครงการถอดรหัสพันธุกรรมมนุษย์ และสามารถทำแผนที่ร่างกายได้เสร็จสิ้นถึงร้อยละ 95 โครงการดังกล่าวมีเป้าหมายเพื่อเรียนรู้กลไกการทำงานของร่างกายมนุษย์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกลไกในการเกิดโรคต่างๆ ซึ่งเมื่อเข้าใจลึกซึ้งถึงระบบของร่างกายแล้วจะช่วยให้สามารถผลิตยารักษาโรคที่เหมาะสมกับพันธุกรรมของมนุษย์ในแต่ละเชื้อชาติ หรือแต่ละคน ถึงแม้การจัดเรียงลำดับของยีนจะลุล่วงไปแล้วก็ตาม แต่ภารกิจที่ตามมาคือ การศึกษากลไกการทำงานของยีนที่มีอยู่ประมาณ 30,000-40,000 ยีน ที่ควบคุมการทำงานของโปรตีนทั้งหมดของร่างกาย ซึ่งเป็นองค์ประกอบสำคัญในการดำรงอยู่ของมนุษย์ สำหรับโครโมโซม 9 ประกอบด้วยยีนจำนวน 1,149 ยีน รับผิดชอบกลไกลการผลิตโปรตีนต่างๆ และจากการศึกษาพบว่า ยีน 95 ตัวของโครโมโซมชุดนี้มีความเกี่ยวข้องกับโรคต่างๆ รวมถึงยีนตัวหนึ่งที่ชื่อว่า ซีดีเคเอ็น 2 เอ ซึ่งสามารถยับยั้งพัฒนาการของเนื้องอกได้ ถ้ายีนดังกล่าวเกิดกลายพันธุ์ หรือบุคคลนั้นไม่มียีนตัวนี้อยู่จะส่งผลให้เป็นโรคมะเร็งผิวหนังได้ ทีมวิจัยยังได้ระบุถึงยีนอีกตัวหนึ่งที่เกี่ยวเนื่องกับสภาวะเสื่อมของประสาท คล้ายๆ กับโรคที่เรียกว่า ฮันติงตัน ส่วนโครโมโซม 10 ประกอบด้วยยีนจำนวน 816 ยีน โดยมียีนกำมะลออยู่ 430 ยีนที่ไม่มีบทบาทในการทำงานผลิตโปรตีน และในจำนวนทั้งหมดนี้มียีนที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนาของโรคต่างๆ และถ้ายีนบางตัวในกลุ่มนี้เกิดกลายพันธุ์อาจทำให้เป็นโรคมะเร็งทรวงอก มะเร็งสมอง และมะเร็งต่อมลูกหมากได้ (กรุงเทพธุรกิจ เสาร์ที่ 29 พ.ค. 47 http://www.bangkokbiznews.com)





เครื่องนวดไฮเทคชะลอหน้าแก่ช่วยเซลล์ใต้ผิวทำงานกระฉับกระเฉง

ดร.ชุติมา เอี่ยมโชติชวลิต รักษาการผู้อำนวยการฝ่ายเทคโนโลยีวัสดุ สถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทย (วว.) กล่าวถึงนวัตกรรมใหม่ เครื่องนวดหน้าที่ส่งผ่านคลื่นอัลตราโซนิกส์ความถี่สูงประมาณ 1 เมกะเฮิรตซ์ไปยังใต้ผิวหนังบริเวณที่เครื่องสัมผัส จะทำให้โมเลกุลของน้ำเหลืองและเลือดสั่น ทำให้เลือดหมุนเวียนได้ดีกว่าปกติ มีผลให้เซลล์ใต้ผิวหนังทำงานได้ดีขึ้น ช่วยลดการอุดตันของสิ่งสกปรก และเมื่อใช้ร่วมกับครีมบำรุงผิวหน้าจะช่วยให้เนื้อครีมซึมสู่ผิวได้เร็วขึ้น "เทคโนโลยีที่คิดขึ้นนี้ใช้คลื่นเสียงส่งไปยังใต้ผิวหนัง ช่วยให้เลือดหมุนเวียนได้ดี เซลล์ทำงานดีขึ้น ทำให้ใบหน้าชุ่มชื้นและอ่อนนุ่มขึ้น ทั้งยังสามารถนวดเพื่อลบรอยเหี่ยวย่นได้ด้วย" ดร.ชุติมา กล่าว เมื่อเทียบกับเครื่องนวดหน้าที่ระดับความสามารถเดียวกัน เครื่องอัลตราโซนิกส์นี้ราคาจะถูกกว่า อีกทั้งหัวนวด "เพียโซอิเล็กทริกทรานสดิวเซอร์" ที่ออกแบบขึ้นมา ยังมีระบบป้องการปล่อยคลื่นโดยที่ยังไม่เปิดใช้งาน ซึ่งมีผลต่ออายุการใช้งานของเครื่อง และในการใช้งานจะมีไฟสัญญาณเพื่อแสดงสถานะ เครื่องดังกล่าวนี้สามารถประยุกต์ทำเป็นเครื่องนวดสำหรับกายภาพบำบัด โดยใช้ความถี่ที่สูงขึ้นส่งไปใต้ผิวหนังได้ถึง 4 ซม. ช่วยนวดคลายกล้ามเนื้ออักเสบ เหมาะสำหรับผู้ป่วยอัมพฤกษ์ที่ต้องทำกายภาพบำบัด ขณะนี้กำลังทดสอบการใช้เครื่องที่โรงพยาบาลศิริราช (กรุงเทพธุรกิจ เสาร์ที่ 29 พ.ค. 47 http://www.bangkokbiznews.com)





ข่าวทั่วไป


วัคซีนสยบสิงห์อมควัน

นักวิจัยของสวีเดนชื่อ "สเวนสก้า ดั๊กบลาเด็ท" (Svenska Dagbladet) รายงานโดยกล่าวอ้างคำพูดของ ลีนา เด็กลิง ไวกิงสัน หัวหน้าฝ่ายบริหารบริษัท อินดีเพนเดนท์ ฟามาซีติกา ที่ว่า บริษัทได้พัฒนาวัคซีนรูปแบบใหม่ที่ช่วยให้การหยุดสูบบุหรี่เป็นเรื่องง่าย โดยวัคซีนจะออกฤทธิ์ปิดกั้นไม่ให้นิโคตินเข้าสู่สมองของผู้สูบบุหรี่ โดยนิโคตินเป็นตัวการสำคัญที่ก่อให้เกิดแรงกระตุ้นความรู้สึกพึงพอใจเมื่อสูบบุหรี่ จากการทดสอบวัคซีนดังกล่าวในหนูทดลอง พบว่าวัคซีนเข้าไปกระตุ้นให้ระบบภูมิคุ้มกันร่างกาย โดยแอนติบอดีเข้าไปรวมตัวกับโมเลกุลของนิโคติน ทำให้มีขนาดใหญ่เกินกว่าจะสามารถผ่านตัวกรองของร่างกายเพื่อไปยังสมองได้ ขณะนี้บริษัทกำลังประกาศรับอาสาสมัครชาวสวีเดนที่ไม่สูบบุหรี่จำนวน 40 คน เข้าร่วมทดสอบวัคซีนตัวนี้ เพื่อสร้างความมั่นใจว่าวัคซีนจะไม่เป็นอันตราย และเกิดผลข้างเคียงใดๆ ขึ้น และหลังจากที่การทดสอบในเบื้องต้นแล้วเสร็จ จะเริ่มทดสอบกับผู้สูบบุหรี่ตัวจริง หากได้รับการพิสูจน์แล้วว่ามีประสิทธิภาพ จะนำวัคซีนนี้ไปใช้ในอนาคตอันใกล้ ซึ่งเชื่อว่าจะหยุดพฤติกรรมการติดบุหรี่ในวัยรุ่นได้ เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว รัฐสภาสวีเดนได้ลงมติเห็นชอบในข้อเสนอของรัฐบาล ที่จะห้ามการสูบบุหรี่ในร้านขายเครื่องดื่ม และร้านอาหารภายในประเทศ โดยจะมีผลบังคับใช้ในเดือนมิ.ย.2548 (กรุงเทพธุรกิจ พุธที่ 26 พ.ค. 47 http://www.bangkokbiznews.com)





จ้างม.เกษตรฯศึกษาเก็บมูลฝอยติดเชื้อ

วันที่ 26 พฤษภาคม นายอมร กิจเชวงกุล กรรมการผู้อำนวยการบริษัท กรุงเทพธนาคม จำกัด เปิดเผยว่า ที่ประชุมได้หารือถึงความคืบหน้าโครงการที่บริษัทได้รับดำเนินการให้กับทางกรุงเทพมหานคร (กทม.) โดยเฉพาะโครงการจัดการมูลฝอยติดเชื้อในกรุงเทพฯ และการปรับปรุงระบบขนส่ง โดยที่ประชุมได้เห็นชอบให้บริษัท กรุงเทพธนาคม ว่าจ้างคณะวิศวกรรมศาสตร์ ภาควิชาสิ่งแวดล้อม มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ทำการศึกษาทั้ง 2 เรื่อง ด้วยงบประมาณ 1.3 ล้านบาท โดยแบ่งภาคการศึกษาออกเป็น 2 ระบบ คือ การเก็บข้อมูลทาง GIS และการลงพื้นที่จริง ทั้งนี้ เมื่อการศึกษาเสร็จสิ้นบริษัทจะออกเป็นแผนที่แสดงพิกัดทางคอมพิวเตอร์(GIS) ออกมา รวมทั้งเส้นทางในการจัดเก็บมูลฝอยติดเชื้อในกรุงเทพฯ ซึ่งจะทำให้การให้บริการมีประสิทธิภาพอย่างเต็มที่ โดยปัจจุบันกรุงเทพฯมีสถานประกอบการบริการสาธารณสุขทั้งสิ้น 2,700 แห่ง ซึ่งบริษัทสามารถจัดเก็บมูลฝอยติดเชื้อจากสถานประกอบการบริการสาธารณสุขขนาดใหญ่ที่มีเตียงพักค้างได้เกือบ 100% (มติชน พฤหัสบดีที่ 27 พ.ค. 47 http://www.matichon.co.th)





วงจรปิด ไว-ไฟ

สภาเมืองเวสต์มินเตอร์ ในกรุงลอนดอน มีโครงการติดตั้งกล้อง CCTV หรือกล้องวงจรปิด แต่ไม่ใช่กล้องวงจรปิดทั่วไป เป็นกล้องวงจรปิดที่ทำงานและส่งข้อมูลภาพและเสียงผ่านเครือข่ายอินเทอร์เน็ตไร้สายหรือไว-ไฟ โดยกล้องวงจรปิดนี้ จะติดตั้งในย่านธุรกิจการค้าของชาวจีนในกรุงลอนดอน หรือที่เรียกกันว่า โซโหสแควร์ ทางผู้ที่เกี่ยวข้องระบุว่า การติดตั้งกล้องวงจรปิดดังกล่าว เพื่อทำหน้าที่สอดส่องปัญหาอาชญากรรม วิธีการทำงานของกล้องวงจรปิด ทางสภาเวสต์มินเตอร์จะไปติดตั้งตามถนนที่สำคัญในย่านโซโห กล้องจะจับภาพแล้วส่งข้อมูลผ่านเครือข่ายไว-ไฟไปยังสถานีฐาน จะมีเจ้าหน้าที่ควบคุม จอมอนิเตอร์อีกที ซึ่งทางซิสโก ซิสเต็มส์ เป็นผู้ดูแลระบบนี้ ประโยชน์ของกล้องวงจรปิดแบบนี้ ช่วยให้เคลื่อนย้ายสะดวก ไม่ต้องต่อสายให้เกะกะ แต่อาจจะมีราคาแพงกว่ากล้องวงจรปิดทั่วไป แต่มีข้อถกเถียงกันอยู่ว่า การติดตั้งกล้องเพื่อคอยดูแลความปลอดภัยให้ชาวเมืองผู้ดี จะไปละเมิดสิทธิส่วนบุคคลหรือไม่ เพราะหลายคนก็บ่นกันว่า แม้จะเดินอยู่บนถนนก็ควร จะมีความเป็นส่วนตัวบ้าง ไม่ใช่ถูกจับตามองตลอดเวลา ส่วนในเมืองไทย ไว-ไฟ ก็เริ่มมีแนวโน้มการใช้งานมากขึ้น แต่ส่วนใหญ่ยังอยู่ภายในห้างสรรพสินค้าหรือร้านกาแฟ และเครือข่ายสัญญาณยังไม่ไกลนัก บางบริษัทเปิดให้ใช้บริการฟรีเพื่อดึงดูดคนให้มาเรียนรู้การใช้บริการอินเทอร์เน็ตไร้สาย ลองใช้ดูแล้วจะรู้ว่า เราสามารถเข้าถึงโลก อินเทอร์เน็ตได้ทุกที่ทุกเวลาจริง ๆ. (เดลินิวส์ ศุกร์ที่ 28 พ.ค. 47 http://www.dailynews.co.th)





เผยผลไม้ "ยาไวอากร้าธรรมชาติ" มีแร่ธาตุสังกะสีในเม็ดปริมาณสูง

นายแพทริค โฮลฟอร์ด ผู้เชี่ยวชาญ ได้ก่อตั้งสถาบันอาหารบำรุงพลังขึ้น ศึกษาพบว่าผลสตรอเบอร์รี่และผลราสเบรี่ เป็นผลไม้ที่ต้องยกให้เป็น "ยาไวอากร้า"ของธรรมชาติ มีคุณประโยชน์บำรุงพลังทางเพศอย่างสูง สิ่งสำคัญ อยู่ที่เพราะผลไม้ทั้งสองอย่างนี้ ล้วนแต่มีธาตุสังกะสีอยู่ในเมล็ดพันธุ์เป็นจำนวนมาก และในการกินผลไม้คู่นี้ ก็มักจะนิยมกินเมล็ดของมันด้วย ต่างกับผลไม้ชนิดอื่น ที่จะต้องคายทิ้ง เขาอ้างว่า ธาตุสังกะสี เป็นธาตุอาหารมีสรรพคุณบำรุงเพศที่สำคัญ ไม่แต่ เพียงช่วยชุบชีวิตทางเพศของสตรีให้กลับคึกคักขึ้น หากแต่ยังมีอยู่ในตัวเชื้ออสุจิของผู้ชายอยู่มากด้วย เขาแจ้งว่า ได้ทราบผลการศึกษา จากการศึกษาคุณสมบัติของผลไม้ชนิดต่างๆ สำหรับงาน"ผลไม้ฤดูร้อนของอังกฤษ พร้อมกับบอกด้วยว่า ผลไม้เหล่านั้นยังมีสารที่มีสรรพคุณช่วยล้างพิษสูงอย่างไม่น่าเชื่อ มันช่วยให้เลือดลมไหลเวียนดี ด้วยเหตุที่มีกลีคามิกอยู่ต่ำ มันจึงมีแคลอรีต่ำแต่กลับให้พลังสูง" (ไทยรัฐ ศุกร์ที่ 28 พ.ค. 47 http://www.thairath.co.th)





สมเด็จพระเทพรัตนฯ ทรงแนะสร้างเด็กรุ่นใหม่ เป็นผู้ริเริ่ม

เมื่อวันที่ 27 พฤษภาคม ที่ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินทรงเปิดการประชุมสมัชชาและนิทรรศการด้านการศึกษาของซีมีโอ-ยูเนสโก (SEAMEO-UNESCO Education Congress and Expo) ภายใต้หัวข้อ "การปรับเปลี่ยนเพื่อสอดคล้องกับเวลาและความต้องการที่เปลี่ยนไป" จัดโดยองค์การรัฐมนตรีศึกษาตะวันออกเฉียงใต้ หรือซีมีโอ สำนักงานศึกษาแห่งภูมิภาคเอเชียและแปซิฟิกขององค์การศึกษาวิทยาศาสตร์และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ (ยูเนสโก) และกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) ระหว่างวันที่ 27-29 พฤษภาคม โดยมีนายเปฮิน ออรัง คายา ไลลา วิจายา ดาโต๊ะ ฮัจจี อับดุล อาซิส อุมาร์ รมว.ศธ.ประเทศบรูไน ดารุสซาลาม ในฐานะประธานสภารัฐมนตรีศึกษาแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ นายอดิศัย โพธารามิก รมว.ศธ. และคุณหญิงกษมา วรวรรณ ณ อยุธยา ปลัดศธ. ถวายการต้อนรับ โดยมีนักวิชาการจากกว่า 43 ประเทศทั่วโลก จำนวนกว่า 900 คนเข้าร่วม สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ ทรงปาฐกถาพิเศษ การประชุมสมัชชาการศึกษา ของซีมีโอ-ยูเนสโก ทรงแนะสร้างเด็กรุ่นใหม่ ต้องมีคุณสมบัติ 3 ข้อ เน้นเป็นผู้ประกอบการ มีความคิดริเริ่ม และพร้อมเผชิญต่อปัญหา ทรงสอนให้รู้จักเลือกรับใช้ข้อมูล ในอินเทอร์เน็ต ให้เป็นประโยชน์ (กรุงเทพธุรกิจ ศุกร์ที่ 28 พ.ค. 47 http://www.bangkokbiznews.com)





แผ่นเกมเต้นแดนซ์ยอดขายกระฉูดได้ผลทางอ้อมลดน้ำหนักสลายไขมัน

เกมแดนซ์ที่มีชื่อว่า "แดนซ์ แดนซ์ รีโวลูชั่น"หรือ เกมดีดีอาร์ เป็นเกมที่อาศัยการเคลื่อนที่ของเท้าเป็นหลัก โดยผู้เล่นจะต้องยืนอยู่บนแผ่นเกมขนาด 3 ตารางฟุต ซึ่งจะมีลูกศร 4 ทิศทางติดอยู่บนแผ่นเกม พอเสียงเพลงบรรเลงขึ้น ผู้เล่นจะต้องมองไปที่จอวิดีโอ เพื่อดูว่าจะต้องใช้เท้าเหยียบไปที่ลูกศรทิศใดบ้าง ซึ่งความเร็วในการเปลี่ยนทิศของลูกศรจะขึ้นอยู่กับจังหวะช้าเร็วตามเพลงที่เลือกไว้ แต่ผู้เล่นต้องเหยียบลูกศรบนแผ่นเกมให้ทันกับลูกศรบนจอภาพ ประกอบกับความเร็วของจังหวะเพลง ก็ยิ่งทำให้เกิดความเร้าใจในการเล่นมากขึ้นทุกขณะ เกมถูกออกแบบให้มีความสนุกสนาน แต่สิ่งที่ผู้สร้างไม่คาดฝันว่าจะเกิดขึ้นด้วย ก็คือสามารถลดน้ำหนักและเสริมสร้างความแข็งแรงให้กับร่างกาย เหมือนการออกกำลังกายด้วย ดร.ริชาร์ด แอดเลอร์ ศูนย์วิทยาศาสตร์สุขภาพ มหาวิทยาลัยเทนเนสซี ให้ความเห็นว่า เกมดีดีอาร์เป็นเกมที่สนุกสนาน และส่งผลดีต่อสุขภาพผู้เล่น "มันก็เหมือนกับเด็กที่ติดวิดีโอเกม เพียงแต่แทนที่จะใช้นิ้วเป็นตัวควบคุม ก็หันมาใช้การเคลื่อนที่ของร่างกายแทน" (คมชัดลึก ศุกร์ที่ 28 พ.ค. 47 http://www.komchadluek.com)





จี้ทปอ.เร่งทำเกณฑ์ประเมินขรก.5%

นายภาวิช ทองโรจน์ รักษาการเลขาธิการคณะกรรมการการอุดมศึกษา(กอ.) เปิดเผยกรณีที่ประชุมประธานสภาอาจารย์มหาวิทยาลัยแห่งประเทศไทย(ปอมท.) ทำหนังสือถึง พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ขอให้ทบทวนโครงการพัฒนาและบริหารกำลังคนเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพระบบราชการในมาตรการ 3 ที่ให้หน่วยงานราชการต่างๆ พิจารณาให้ออกหรือพัฒนาข้าราชการ 5% เนื่องจากข้าราชการมหาวิทยาลัยแตกต่างจากหน่วยงานอื่น ประกอบกับทางมหาวิทยาลัยต่างๆ ยังไม่ได้กำหนดเกณฑ์ประเมินว่า พ.ต.ท.ทักษิณยืนยันว่าโครงการนี้ไม่ใช่มาตรการไล่คนออก แต่เป็นมาตรการพัฒนาคน อย่างไรก็ตาม ขณะนี้บุคลากรในมหาวิทยาลัยเป็นห่วงเรื่องนี้กันมาก อย่างเมื่อเร็วๆ นี้ ผู้แทนที่ประชุมสภาข้าราชการและลูกจ้างมหาวิทยาลัยแห่งประเทศไทย(ปขมท.) ได้เข้าพบตน และแสดงความห่วงใยในเรื่องนี้เช่นกัน "ความจริงเรื่องนี้ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง ไม่ว่าจะเป็นที่ประชุมอธิการบดีแห่งประเทศไทย(ทปอ.) ปอมท. และ ปขมท.ควรพูดคุยกัน โดยเฉพาะ ทปอ.ซึ่งเป็นกลุ่มบุคคลที่ทำหน้าที่ประเมิน ควรจะแลกเปลี่ยนความเห็น และเทียบเคียงหลักเกณฑ์ระหว่างมหาวิทยาลัย เพื่อไม่ให้เกิดความลักลั่น ซึ่งผมเองก็มองว่าขณะนี้ ทปอ.ช้าไปหน่อย ส่วนที่ทาง ปอมท.ระบุว่าผู้ทำหน้าที่ประเมินคือ อ.ก.ม.มหาวิทยาลัย ซึ่งถ้าข้าราชการคนใดไม่พอใจผลประเมินก็ต้องยื่นอุทธรณ์กับ อ.ก.ม.มหาวิทยาลัยอีก ซึ่งไม่ยุติธรรมนั้น เป็นเรื่องเข้าใจผิด เพราะ อ.ก.ม.ที่ทำหน้าที่ประเมิน กับ อ.ก.ม.ที่ทำหน้าที่รับเรื่องอุทธรณ์เป็นคนละชุดกัน โดยชุดหลังสภามหาวิทยาลัยเป็นผู้ตั้ง และมีประธานเป็นคนนอก และถ้าข้าราชการคนใดไม่พอใจผลอุทธรณ์ก็ยังร้องศาลปกครองได้อีก (มติชนรายวัน ศุกร์ที่ 28 พ.ค. 47 http://www.matichon.co.th)





พบเหงื่อสีเลือดของฮิปโปโปเตมัส เป็นยาทากันแดดและสมานแผล

คณะนักวิจัยมหาวิทยาลัยเภสัชกรรมญี่ปุ่น ได้เปิดเผยผลการศึกษาชีวิตความเป็นอยู่ของฮิปโปโปเตมัส ในวารสารวิทยาศาสตร์ "ธรรมชาติ" ว่า มันสามารถขับเหงื่อออกมาได้สองสี เป็นสีแดงกับสีส้ม เหงื่อสีแดงเหมือนเลือดนั้น มีสรรพคุณเป็นทั้งยาฆ่าเชื้อโรคและยาสมานแผล ช่วยให้แผลตามเนื้อตัวอันเนื่องมาจากการกัดกันเป็นประจำ หายในเวลาอันรวดเร็ว แต่เหงื่อสีเลือดที่ผุดออกมาจากผิวหนังหนาตามตัวมัน นับว่าสำคัญมากกว่า เพราะช่วยให้มันมีชีวิตอยู่ได้ เหตุที่มันเป็นสัตว์หากินพืชตอนกลางคืน ตอนกลางวันต้องหลบแดดลงน้ำ พักผ่อนบ้าง กัดกันเองบ้าง และที่สำคัญเพื่อย่อยอาหารไปด้วย "มันมีกระเพาะสำหรับย่อยหมักอาหาร เนื่องด้วยเป็นสัตว์กินอาหารหยาบกร้าน มีคุณภาพต่ำ กว่าจะย่อยสกัดเอาคุณค่าอาหารออกมาได้ ต้องใช้เวลากินและย่อยอาหารนานๆ มันจึงต้องกินจุ จึงบางคราวก็ต้องตากแดดหาอาหารเพิ่มอยู่ในน้ำตั้งครึ่งค่อนวัน และการมีขนเหมือนกับสัตว์อื่นก็ไม่เหมาะกับมัน ธรรมชาติจึงช่วยให้มันมีเหงื่อ ที่เป็นยาทากันแดดในตัว ทั้งยังช่วยควบคุมอุณหภูมิของร่างกายและเป็นยาฆ่าเชื้อโรคด้วย (ไทยรัฐ เสาร์ที่ 29 พ.ค. 47 http://www.thairath.co.th)






KMUTT Digital Library
Contact Digital Library : info@lib.kmutt.ac.th
Tel : 0-2470-8215