หัวข้อข่าวปีที่ 5 ฉบับที่ 23 ประจำวันที่ 2004-06-07 ข่าวการศึกษา ทรงบรรยายพิษวิทยาสงครามเคมี-ชีวะ การใช้เชื้อแอนแทรกซ์ในสงครามอิรัก วธ.ดึง 3 มหาวิทยาลัยดัง จัดหลักสูตรวัฒนธรรม โอกาสการศึกษาแค่ 105 บาท ก็เรียนได้ ที่โรงเรียนฝึกอาชีพ กรุงเทพมหานคร ปฏิรูปการศึกษาให้ถูกทาง 6 แนวทาง"หมอประเวศ" ตั้งวิทยาลัยมีฟ้า ผลิต"โปรดิวเซอร์"ป้อนตลาด ศธ.เร่งพัฒนาคนไทยเก่งอังกฤษ 'ศิลปากร' จับมือ 'ช่างทองหลวง' อบรมครูสร้างสรรค์งานจิวเวลรี ชี้การศึกษาไทยล้มเหลว เด็กไทยแห่เรียนนานาชาติเพิ่ม 20% กฟผ.ทุ่ม 52 ล้าน อุ้มโรงเรียนในฝันทั่วประเทศ มศวนำไท้เก๊กสอนนิสิต ลดความเครียดระหว่างเรียน เยาวชนช้างเผือก "ภาวิช" เดินหน้าจัดระบบเอ็นทรานซ์ใหม่ ใช้คอมพิวเตอร์ คัดเลือกข้อสอบแทนคน เฟ้นหาโรงพิมพ์ปลอดภัยสูง กศน.ร่วมยูเนสโก ลดจำนวนผู้ไม่รู้หนังสือโลก วิจัยพบหมื่น ร.ร.วิกฤติ ขาดทั้งครู-คอมพ์-ตำราเพียบ ข่าววิทยาศาสตร์/เทคโนโลยี คอมพิวเตอร์3มิติช่วยศัลยแพทย์ สแกนผ่าตัดรักษาข้อเสื่อมแม่นยำ โลกเป็นดวงโคมไฟในสุริยจักรวาลส่องแสงสว่างถึงพื้นผิวดวงจันทร์ ไวรัสคอมฯยิ่งปราบยิ่งเก่ง สถานีวิทยุออนไลน์ โชว์ไฮเทคยอดนาฬิกาดาราศาสตร์มูลค่า3ล้าน กล้องส่องดวงอาทิตย์สร้างง่าย พบแหล่งน้ำมันดิบที่รอยต่อ 3 จังหวัด เยอรมนีครองแชมป์พลังงานลม "ทอฟเลอร์" แนะไทยประยุกต์ใช้เทคโนโลยี ปั้นคนอายุน้อยรับคลื่นลูกที่ 3 ข่าววิจัย/พัฒนา นักวิจัยไทยสร้างอีเมลภาษามือ3D กินอาหารเต้าหู้ช่วยสู้โรคมะเร็งมดลูกยิ่งกินมาก ยิ่งหนีห่างได้ไกลเท่านั้น สบู่กับน้ำมีประสิทธิภาพเด็ดขาดกวาดล้างเชื้อไวรัสเอดส์ได้เกลี้ยง เครื่องหยอด-หว่านข้าวจากแฟ้มงานวิจัยไปสู่ท้องนา ค้นพบใหม่...โรคจากบุหรี่ มจธ.ปั้นนักวิจัย 2B-KMUTT จิ๋วแต่เจ๋ง ทีมหอยหลอดคว้าแชมป์หุ่นยนต์ส.ส.ท. ทดลองวัคซีนป้องกันติดบุหรี่ โชคพฤกษาวิจัยเสริมธาตุอาหารในปุ๋ย รับเทคโนโลยีม.เกษตร สร้างผลิตภัณฑ์ใหม่คุณภาพสูง โทรศัพท์บ้านสำหรับคนหูหนวก พบเพิ่มยีนเสี่ยงมะเร็งเต้านม มจธ.สร้างหุ่นตรวจสายไฟ รับภาระงานอันตรายแทนคน จุฬาฯ แปรรูปของเสียพิษเป็นหลังคาใส ช่วยลดภาระค่าบำบัดขยะอตร.แถมโรงงานได้สินค้าใหม่ เครื่องนวดไฮเทคชะลอหน้าแก่ ช่วยเซลล์ใต้ผิวทำงานกระฉับกระเฉง เครื่องตัดแผ่นเกี๊ยวผลงานนศ.ราชมงคล หุ่นยนต์...กับชีวิตที่เปลี่ยนไป ศูนย์รวมเชื้อเห็ด แหล่งรวมเห็ด นานาชาติ มก.ผลิตมะนาวผงสำเร็จ โลกจะไม่มีคนหัวหงอกอีกวันหน้าคิดยาเม็ดใช้กินป้องกันเอาไว้ได้ จับปลิงทะเลทำยารักษามะเร็งมีสารทดลองรักษาเนื้อร้ายได้ผล ม.เชฟฟิลด์พัฒนาผ้าชีวภาพ เพาะเซลล์แปะแผลเรื้อรัง เชียงใหม่ส่งรถแดงร่วมทดสอบไบโอดีเซล ก.พลังงานผุดโรงงานที่สันกำแพง ใช้วัตถุดิบน้ำมันทอดแค็ปหมู เสนอให้ห้ามนักฟุตบอลโหม่งลูกหัวชนกัน สมองพังเท่ากับชนกำแพง ติดระบบกังหันคู่ปั่นไฟฟ้าป้อนโรงงาน ชูจุดเด่นโพรเพนจุดเดือดต่ำแทนไอน้ำ เปิดตัวหมึกพิมพ์อัจฉริยะเพื่อสิ่งทอไทย เนื้อละเอียดยิบ สื่อจินตนาการสมจริงลงบนเนื้อผ้า ปั้นเซลล์เป็นผ้าพันแผล รักษาแผลเรื้อรังชะงัด จุฬาฯจี้รัฐคุมวัคซีน"หวัดนก" หวั่นทำเชื้อร้ายกลายพันธุ์คนสู่คน กินช็อกโกแลตขยายหลอดเลือดต้องระวังขยายขนาดเข็มขัดด้วย เปียโนกระดาษให้เสียงสมจริง มช.สร้างหุ่นเนื้อเยื่อช่วยเอกซเรย์ปลอดภัย ประสาน สกว.วิจัยต่อยอดสร้างอุปกรณ์การแพทย์ฝีมือคนไทย ข่าวทั่วไป จีนอวดเทคโนโลยีระดับสูง 'เพาะเห็ดฟางในตะกร้าพลาสติก' นวัตกรรมใหม่ของการเพาะเห็ด ระบุบุหรี่เป็นภัยต่อร่างกายทั้งตัวทำอันตราย อวัยวะทุกอย่างได้หมด ทายาทโตชิบา เดินตามรอยแม่!คว้ารางวัลสตรีนักธุรกิจดีเด่นโลก เป็นคนที่ 6 ของไทย โรคอ้วนคุกคามพึ่งมีดหมอมากขึ้นให้ผ่าตัด แก้กระเพาะอาหารคราก "อนุรักษ์" ของบเพิ่ม 73 ล. ฟื้นภูมิปัญญาท้องถิ่น สถานีรถไฟฟ้าใต้ดินเครื่องพีซีทีได้ ฮือฮาไทยค้นพบหอยกาบพันธุ์ใหม่ที่เขื่อนแควน้อย ศูนย์นวดสัมผัสทารกแห่งแรก พบสาหร่ายอบแห้งจีนปนเปื้อนแคดเมียม วธ.ก้าวไกลเล็งจัดเรตสิ่งพิมพ์ทุกชนิด ใช้EMกับห้องน้ำ ดับกลิ่นน้ำทิ้งมีค่า แนวคิดทหารไทย จับเด็กติดเครื่องนับก้าวแข่งกันลดความอ้วน เชิดชู 5 นักรบสวล. ประกาศหนังสือดีเด่น '7 บุ๊ค อวอร์ดส' สู่ฝันคนไทย เป็นนักอ่าน มอ.เป็นเจ้าภาพวอลเลย์บอลชายหาดโลก ข่าวการศึกษา ทรงบรรยายพิษวิทยาสงครามเคมี-ชีวะ การใช้เชื้อแอนแทรกซ์ในสงครามอิรัก พล.อ.อ.สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี เสด็จฯ ทรงบรรยายพิเศษ เรื่อง "พิษวิทยา สงครามเคมีและชีวะ" พระราชทานแก่นักศึกษาวิทยาลัยการทัพอากาศรุ่นที่ 38, นายทหารนักเรียนโรงเรียนเสนาธิการทหารอากาศ รุ่นที่ 48, นายทหารนักเรียนโรงเรียนนายทหารอากาศอาวุโส หลักสูตรวิทยาการทหารอากาศ รุ่นที่ 4, นายทหารนักเรียนโรงเรียนนายทหารชั้นผู้บังคับฝูง รุ่นที่ 104 รวม 480 นาย ณ อาคารรณนภากาศ โรงเรียนนายเรืออากาศ กองบัญชาการฝึกศึกษาทหารอากาศ ทรงบรรยายพิเศษด้วยการที่ทรงอธิบายความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับพิษวิทยา เรื่อง Chemical Agent ว่ามีด้วยกัน 4 จำพวก คือ Blister Agent เมื่อได้รับสารนี้จะเกิดแผลพุพอง เป็นสารที่มีฤทธิ์กัดกร่อน เช่น Mustardgass ใช้มาตั้งแต่สงครามโลกครั้งที่ 1 เป็นน้ำสีน้ำตาล กลิ่นคล้ายกระเทียม ทำให้เกิดปอดบวมและเป็นสารก่อมะเร็ง, Choking Agent ทำลายระบบทางเดินหายใจ ตั้งแต่จมูก คอ ปอด อาการจะคล้ายปอดบวม และเสียชีวิตเพราะขาดอากาศหายใจ, Blood Agent ที่รู้จักกันคือไฮโดร เจน ไซยาไนด์ เป็นแก๊สที่กระจายตัวเร็ว เหมาะกับการลอบสังหารมากกว่าใช้ในสงครามเคมี สารตัวนี้มีใช้ตอนสงครามโลกครั้งที่ 2 ตอนฮิตเลอร์ฆ่าพวกยิวโดยต้อนเข้าไปอยู่ในห้องแคบ ๆ แล้วปล่อยสารนี้เข้าไป และ Nerve Agent ประกอบด้วยสารออร์แกนโนฟอสเฟต ยับยั้งการทำงานของระบบประสาท ใน 4 พวกนี้ Blood Agent และ Nerve Agent ร้ายที่สุดทำลายทรัพยากรบุคคลชนิดที่ไม่ตายก็เลี้ยงไม่โต หรือที่ทางการแพทย์เรียกว่าเป็นผัก 3 จำพวกแรกไม่มียาแก้ ส่วนตัวหลังยังพอมีบ้าง สารเคมี 4 กลุ่มนี้เป็นตัวสำคัญในสงครามเคมี ในส่วนเรื่องสงครามเชื้อโรค ทรงมีรับสั่งว่า โรคแรกคือเชื้อแอนแทรกซ์ เป็นโรคที่พบในสัตว์เลี้ยง สัตว์ป่า โดยเฉพาะสัตว์กินพืช เช่น วัว ควาย แกะ แพะ ม้า คนจะติดเชื้อโดยการกินสัตว์ที่มีเชื้อนั้นเข้าไป แอนแทรกซ์ทำให้ตายโดยขาดอากาศหายใจ หัวใจวายตาย ติดต่อกันโดยการใกล้ชิด อาการของโรคคล้ายไข้หวัดใหญ่ มีไข้ต่ำ ๆ เมื่อยล้ากล้ามเนื้อ อ่อนเพลีย คลื่นไส้ กดอาการหายใจ ช็อกจากการติดเชื้อ รักษาด้วยการฉีดวัคซีนภูมิคุ้มกัน อีกโรคหนึ่งที่รับสั่งถึงคือซาร์ส โรคทางเดินหายใจเฉียบพลันรุนแรง องค์การอนามัยโลกพบครั้งแรกเดือน ก.พ. 2546 ที่กวางตุ้ง มีผู้ป่วยปอดบวมผิดปกติ 305 ราย ในจำนวนนี้ผู้มีอายุ 60 ปีขึ้นไป เสียชีวิตหลายราย ติดต่อจากการสัมผัสใกล้ชิดจากคนสู่คน (เดลินิวส์ จันทร์ที่ 31 พ.ค. 47 http://www.dailynews.co.th) วธ.ดึง 3 มหาวิทยาลัยดัง จัดหลักสูตรวัฒนธรรม นายกล้า สมตระกูล รองปลัดกระทรวงวัฒนธรรม (วธ) ได้จัดหลักสูตรยุทธศาสตร์การปฏิบัติงานของนักวิชาการวัฒนธรรม ร่วมกับชุมชน เพื่อพัฒนาบุคลากรให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น หลักสูตรดังกล่าวทาง วธ.ได้ระดมผู้ทรงคุณวุฒิ จากมหาวิทยาลัยมหิดล มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และมหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช(มสธ.) และผู้แทนราชการในสังกัด มาช่วยวางแผนหลักสูตร และใช้ระบบการสอนทางไกลของ มสธ.ในการเรียนการสอน โดยจัดเป็น 2 หลักสูตร คือ หลักสูตรระยะสั้น ซึ่งจะใช้เวลาประมาณ 10 วัน โดยเน้นเนื้อหาความรู้พื้นฐานทางวัฒนธรรม และการทำงานเผยแพร่ สนับสนุน อนุรักษ์งานวัฒนธรรม โดยมุ่งให้ความรู้แก่นักวิชาการวัฒนธรรมจังหวัด จำนวน 2,700 คน และบุคลากรของสภาวัฒนธรรมในระดับอำเภอ และตำบล อีกประมาณ 6,000 คน รวมถึงครู อาจารย์ทั้งในระบบและนอกระบบโรงเรียน ตามข้อตกลงกับ ศธ. โดยได้รับงบประมาณสนับสนุนกว่า 2 ล้าน ซึ่งคาดว่าจะดำเนินการได้ภายในเดือนตุลาคมนี้ “สำหรับหลักสูตรระยะยาว จะเป็นการจัดการสอนในระดับมหาวิทยาลัย ที่เปิดสอนด้านวัฒนธรรม หรืออาจจะนำหลักสูตรที่จัดทำขึ้นมาเปิดเป็นรายวิชาในระดับปริญญาโท และปริญญาเอก ในมหาวิทยาลัยมหิดล และมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ซึ่งจะเวลาศึกษาประมาณ 3-4 ปี นอกจากนี้ยังเปิดโอกาสให้บุคคลทั่วไปและข้าราชการ ที่สนใจได้ศึกษาเรียนรู้วัฒนธรรมของชาติ ซึ่งสามารถนำไปใช้ในการพัฒนาคุณภาพสังคม รวมถึงการท่องเที่ยว และเศรษฐกิจชุมชนอีกด้วย (สยามรัฐ จันทร์ที่ 31 พ.ค. 47 http://www.siamrath.co.th) โอกาสการศึกษาแค่ 105 บาท ก็เรียนได้ ที่โรงเรียนฝึกอาชีพ กรุงเทพมหานคร โรงเรียนฝึกอาชีพกรุงเทพมหานคร จำนวน 10 แห่ง ศูนย์ฝึกอาชีพกรุงเทพมหานคร จำนวน 8 แห่งกระจายอยู่ทั่วพื้นที่กรุงเทพมหานคร รองรับการฝึกอาชีพมากกว่า 40 อาชีพต่อเนื่องตลอดทั้งปี เปิดสอนวิชาชีพหลักสูตรระยะสั้นให้กับประชาชนทั่วไป โดยเฉพาะกลุ่มผู้มีรายได้น้อย ขาดโอกาสทางการศึกษา เข้ารับการฝึกอาชีพระยะสั้น เพื่อให้มีความรู้ ความสามรถ ในวิชาชีพนำไปประกอบอาชีพหารายได้เลี้ยงตัวเองและครอบครัว และเพื่อเป็นการส่งเสริมและสนับสนุน การพัฒนาทักษะฝีมือวิชาชีพของนักศึกษาวิชาชีพทั้งนักศึกษาปัจจุบันและศิษย์เก่าทางกรุงเทพมหานคร โดยสำนักพัฒนาชุมชน จึงได้ก่อตั้งร้านรวมบริการ งานศึกษาอาชีพ กรุงเทพมหานคร (รพก.งศช.กทม.) หรือ One Stop Shop ซึ่งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร นายสมัคร สุนทรเวช เป็นผู้ตั้งชื่อให้ และเป็นประธานเปิดตัว "ศูนย์กลางแสดงผลงานและจำหน่ายผลิตภัณฑ์ฝึกอาชีพ" ที่มีคุณภาพมาตรฐานของนักศึกษา เมื่อวานนี้ ( 28 พ.ค.) โดยจะเปิดใช้บริการเต็มรูปแบบอย่างเป็นทางการในเดือนกรกฎาคม 2547 เป็นต้นไป ภายในร้านรวมบริการได้จัดแสดงผลงานและจำหน่ายผลิตภัณฑ์ฝึกอาชีพในวิชาต่างๆ ซึ่งแบ่งเป็น 5 ส่วนด้วยกัน คือ ส่วนที่ 1 อาหาร,ขนมไทย ส่วนที่ 2 ศิลปะประดิษฐ์และศิลปะประยุกต์ ได้แก่ ดอกไม้ดินหอม,ใยบัว, เรซิ่น, ผ้าบาติก ฯลฯ ส่วนที่ 3 แฟชั่น, เสื้อผ้าและเครื่องประดับ ส่วนที่ 4 เสริมสวยและนวดฝ่าเท้า ส่วนที่ 5 ผลิตภัณฑ์หนึ่งตำบล หนึ่งผลิตภัณฑ์ กรุงเทพมหานคร การส่งเสริมความรู้ และฝึกทักษะในสาขาวิชาชีพแก่ประชาชนของสำนักพัฒนาชุมชน กทม.นี้ ถือว่า เป็นการสร้างสังคมให้มีความเข้มแข็งและมีคุณภาพในการพัฒนาประเทศอย่างต่อเนื่อง ไม่จำเป็นต้องมีเงินมากมายเพียงแค่ 105 บาท ก็สามารถสร้างความรู้ในการประกอบอาชีพได้ (กรุงเทพธุรกิจ จันทร์ที่ 31 พ.ค. 47 http://www.bangkokbiznews.com) ปฏิรูปการศึกษาให้ถูกทาง 6 แนวทาง"หมอประเวศ" น.พ.ประเวศ วะสี ราษฎรอาวุโส กล่าวในการปาฐกถาเรื่อง "เด็กไทยไม่โง่" ที่มูลนิธิสดศรี-สฤทธิ์วงศ์ เมื่อเร็วๆ นี้ ในงานเปิดตัวหนังสือชุด "สำรวจแววความสามารถพิเศษ" สำหรับการปฏิรูปการศึกษา หมอประเวศ มองว่า เป็นการปฏิรูปในกระทรวงศึกษาฯ เท่านั้น ต้องมีการปฏิรูปในยุคที่ 2 คือปฏิรูประบบการศึกษา พร้อมทั้งเสนอแนวทางไว้ 6 ข้อ คือ 1.ลดการเรียนแบบท่องจำหนังสือเหมือนๆ กันในห้องเรียนลงมากที่สุด 2.เรียนรู้จากประสบการณ์ เรียนจากผู้รู้ พ่อแม่ ญาติๆ และปราชญ์ชาวบ้านให้มาก 3.เรียนรู้จากสื่อทุกชนิด โดยเฉพาะการอ่านนั้นคนไทยไม่มีนิสัยรักการอ่าน ซึ่งสังคมไทยต้องฝึก ไม่งั้นจะถูกหลอกได้ง่าย โดนเขาสร้างภาพหลอกสร้างความรุนแรงโดยไม่รู้ตัว 4.เรียนตามฉันทะพิเศษ ดูว่าคนไหนชอบอะไร มีแววอะไรเป็นพิเศษ 5.มีการศึกษาค้นคว้าวิจัยให้ลึกซึ้ง อยู่ในกระบวนการศึกษา เพราะบ้านเราใช้ความเห็นมากกว่าความรู้ ซึ่งสร้างความเสียหายเป็นอย่างมาก และ 6.ต้องศึกษาที่จะรู้จักตัวเอง เพราะไม่ว่าจะเก่งอย่างไรแต่ไม่รู้จักตัวเองก็ไม่มีประโยชน์ (ข่าวสด จันทร์ที่ 31 พ.ค. 47 http://www.matichon.co.th/khaosod) ตั้งวิทยาลัยมีฟ้า ผลิต"โปรดิวเซอร์"ป้อนตลาด "มนต์ชีพ ศิวะสินางกูร ผู้อำนวยการโรงเรียนดนตรีมีฟ้า ให้เหตุผลถึงการขยายตัวทางธุรกิจการศึกษา ในเครือจีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ จำกัด (มหาชน) ด้วยการเปิดหลักสูตรระดับปริญญาตรี เพื่อผลิตโปรดิวเซอร์โดยเฉพาะ ทั้งนี้ สถาบันที่จะตั้งขึ้นมีชื่อว่า "วิทยาลัยมีฟ้า" ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างดำเนินการขออนุมัติจัดตั้งกับกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) หากได้รับอนุมัติ จะสามารถเปิดรับนักศึกษารุ่นแรกในปีหน้า โดยจะเปิดทั้งหมด 2 หลักสูตร คือ โปรดิวเซอร์ และครูสอนดนตรี โดยจะรับรุ่นแรกประมาณ 60-70 คน ผู้สมัครต้องจบชั้นม.6 โดยการสอบคัดเลือก ค่าใช้ จ่ายประมาณ 100,000-120,000 บาท มนต์ชีพ ขยายความถึงการเปิดหลักสูตรระดับปริญญาตรี โดยเฉพาะหลักสูตรโปรดิวเซอร์ ว่า ปัจจุบันที่ธุรกิจเพลงเติบโตมาก แม้จะหันหน้าหันหลังไปทางไหนก็เต็มไปด้วยโปรดิวเซอร์ แต่กลับไม่มีเส้นทางในสายอาชีพที่ชัดเจน โดยยกตัวอย่าง วิศวกร หรือแพทย์ ที่มีเส้นทางอย่างชัดเจน ถ้าจะเข้าสู่อาชีพนี้เรียนการศึกษาพื้นฐานมาอย่างไร และเข้าสู่การศึกษาในระดับสูงอย่างไร จนกระทั่งเข้าสู่วิชาชีพก็จะต้องมีใบรับรองมาตรฐานเพื่อเข้าสู่วิชาชีพ โปรดิวเซอร์ก็เช่นกัน ต้องการเป็นองค์กรที่ประทับตราว่า เรียนจบแล้ว มาตรฐานอยู่ในระดับที่จะทำงานได้ (กรุงเทพธุรกิจ อังคารที่ 1 มิ.ย. 47 http://www.bangkokbiznews.com) ศธ.เร่งพัฒนาคนไทยเก่งอังกฤษ นายอดิศัย โพธารามิก รมว.ศึกษาธิการ เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะกรรมการสภาสถาบันราชภัฏ (คสส.) เมื่อเร็วๆ นี้ว่า ตนได้แจ้งให้ที่ประชุมรับทราบถึงการพัฒนาการเรียนการสอนภาษาอังกฤษ โดยกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.)จะจัดทำเป็นวาระแห่งชาติ ซึ่งจะเข้าไปดูให้การใช้ภาษาอังกฤษของประชาชนทั้งประเทศดีกว่าเดิม เนื่องจากปัจจุบันนี้ภาษาอังกฤษของคนไทยอยู่ในระดับค่อนข้างอ่อน และเริ่มมีแนวโน้มจะแย่ลง เพราะนักเรียนเกิดความรู้สึกที่ไม่อยากจะเรียนภาษาอังกฤษ จึงต้องคิดหาวิธีการให้นักเรียนได้มีความสนใจเรียนภาษาอังกฤษมากขึ้นกว่าเดิม รวมไปถึงเครื่องมืออุปกรณ์การเรียนการสอน หรือห้องแล็ปที่เรามีพร้อม แต่ขาดการดำเนินการอย่างเป็นระบบ ซึ่งต่อไปจะต้องทำให้เป็นรูปธรรมที่ชัดเจนขึ้น ตนเห็นว่าจุดเริ่มต้นที่ดีคือ การให้เด็กมีความสนใจที่จะเรียนภาษาอังกฤษ “สังคมเราวันนี้มีการใช้ภาษาอังกฤษมากขึ้น ประเทศไทยเราหากวันนั้นจะด้อยก็ด้อยเรื่องภาษาอังกฤษ ซึ่งศธ.เองก็จะไปหาวิธีกระบวนการทุกรูปแบบให้เป็นยุทธศาสตร์สำคัญของศธ.เฉพาะเรื่อง คาดว่าจะทำให้เห็นผลโดยเร็วในเวลา 1-2 ปีนี้ ซึ่งเราต้องกลับไปนั่งคุยกันในโรงเรียนว่าจะทำอย่างไรให้เด็กหันมาสนใจเรียนภาษาอังกฤษมากขึ้น ซึ่งความจริงแล้วครูที่สอนภาษาอังกฤษในบ้านเราที่รู้เรื่องจริงก็มีจำนวนไม่มากนัก ดังนั้นต้องมีกระบวนการเข้าไปจัดทำใหม่ เป็นการปฏิรูปการสอนใหม่” นายอดิศัย กล่าว (สยามรัฐ อังคารที่ 1 มิ.ย. 47 http://www.siamrath.co.th) 'ศิลปากร' จับมือ 'ช่างทองหลวง' อบรมครูสร้างสรรค์งานจิวเวลรี ภาควิชาออกแบบเครื่องประดับ คณะมัณฑนศิลป์ มหาวิทยาลัยศิลปากร จัดโครงการพัฒนารูปแบบเครื่องประดับอัญมณีพื้นบ้านสู่แฟชั่นร่วมสมัย เพื่ออบรมการออกแบบและขึ้นรูปเครื่องประดับแก่ครูและบุคลากรจากส่วนท้องถิ่น รชชง ไตรสุริยธรรมา หัวหน้าภาควิชาออกแบบเครื่องประดับ กล่าวถึงการจัดอบรมว่า เป็นความร่วมมือของภาควิชาฯ กับ กาญจนาภิเษกวิทยาลัย ช่างทองหลวง สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา โดยประสานไปยังวิทยาลัยอาชีวะที่มีการเรียนการสอนด้านเครื่องประดับและอัญมณีทั้ง 7 แห่งทั่วประเทศ เพื่อส่งบุคลากรแห่งละ 3 คนมาร่วมอบรม ประกอบด้วยอาจารย์ นักศึกษา และช่างฝีมือ ส่วนวิทยากรคืออาจารย์ของทางศิลปากร "หลักสูตรอาชีวะเน้นสายช่าง ซึ่งพื้นฐานคนไทยเราเป็นช่างฝีมือ มีความละเอียดประณีต แต่ที่ขาดคือการออกแบบ ทำให้ไม่สามารถพัฒนางานไปสู่รูปแบบร่วมสมัยซึ่งเป็นที่ต้องการอย่างมากของตลาดในปัจจุบันได้" รชชงแสดงความเชื่อมั่นว่า งานฝีมือของไทยหากสามารถประยุกต์รูปแบบให้ทันสมัย บนความประณีตงดงามแบบดั้งเดิมแล้ว จะสามารถขยายตลาดให้กว้างขวาง และสร้างการยอมรับในระดับสากลได้อย่างแน่นอน "เป็นคอร์สปริญญาตรีที่ย่อให้เหลือ 8 วัน ซึ่งจะทำให้ผู้เข้าร่วมซึ่งมาจากแต่ละพื้นที่สามารถกลับไปยังบ้านเกิด เพื่อค้นหาเอกลักษณ์ของท้องถิ่น แล้วเอาไอเดียที่ได้ไปออกแบบเครื่องประดับร่วมสมัย" ทั้งนี้ เริ่มจากการพาผู้เข้าอบรมไปเยี่ยมชมวัดพระแก้ว เพื่อศึกษาศิลปะไทย ก่อนที่จะมาเติมความรู้ด้านทฤษฎีการ จากนั้น ผู้เข้าอบรมจะได้ทดลองสร้างงานจริง ตั้งแต่การเริ่มต้นคิดสร้างสรรค์แบบและลงมือสร้างชิ้นงานจนแล้วเสร็จ นับว่าเป็นก้าวแรกที่น่าสนใจ สำหรับความร่วมมือของมหาวิทยาลัยและการอาชีวศึกษา (กรุงเทพธุรกิจ พุธที่ 2 มิ.ย. 47 http://www.bangkokbiznews.com) ชี้การศึกษาไทยล้มเหลว เด็กไทยแห่เรียนนานาชาติเพิ่ม 20% นายกสมาคม ร.ร.นานาชาติ เผย ร.ร.นานาชาติเปิดใหม่เฉพาะปี 47 มีถึง 5-6 แห่ง เพื่อรองรับเด็กไทยที่แห่เรียนเพิ่มถึง 20% ชี้ต้นเหตุการศึกษาไทยล้มเหลว หลักสูตรพัฒนา แถมผู้บริหาร ศธ.กับนักวิชาการไม่ฟันธงสอนภาษาอังกฤษตั้งแต่อนุบาลหรือประถม ขณะที่พ่อแม่ต่างดิ้นรนเพื่อให้ลูกเรียนภาษาอังกฤษตั้งแต่ระดับชั้นอนุบาล ม.ล.ปรียดา ดิศกุล ผอ.ร.ร.บางกอกพัฒนา ในฐานะนายกสมาคม ร.ร.นานาชาติแห่งประเทศไทย เปิดเผย ว่า ปัจจุบันสมาคมสมาชิกโรงเรียนนานาชาติประมาณ 70 แห่ง โดยเก็บค่าเล่าเรียนตั้งแต่ 200,000-400,000 บาทต่อปี มีนักเรียนรวมทั้งสิ้น 20,000 คน ในจำนวนนี้มีเด็กไทยถึง 10,000 คน ซึ่งในปี 2547 พบว่า มีผู้ขอยื่นขอใบอนุญาตจากกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) เพื่อเปิดโรงเรียนนานาชาติจำนวน 5-6 แห่ง เนื่องจากผู้ปกครองที่เป็นคนไทยให้ความสนใจส่งลูกหลานเข้าเรียนโรงเรียนนานาชาติเพิ่มขึ้นถึง 20% ทำให้ ร.ร.นานาชาติ ที่มีอยู่รองรับไม่ได้ ม.ล.ปรียดา กล่าวอีกว่า สำหรับการดูแลด้านอาคาร สถานที่ ครู อาจารย์และหลักสูตรของ ร.ร.นานาชาติ มีสำนักบริหารงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน (สช.)คอยดูแลอยู่แล้ว ซึ่ง ร.ร.นานาชาติที่เปิดใหม่ หากจะเข้าเป็นสมาชิกสมาคมจะต้องได้รับใบอนุญาตและผ่านการประเมินมาตรฐานด้านต่างๆ จาก สช.ก่อน อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ ร.ร.นานาชาติส่วนใหญ่ประสบปัญหาขาดแคลนครูสอนวิชาภาษาไทยและพลศึกษา เนื่องจากครูวิชาเหล่านี้มีผู้ที่มีพื้นฐานวิชาภาษาอังกฤษในระดับดีมีน้อย (คมชัดลึก พุธที่ 2 มิ.ย. 47 http://www.komchadluek.com ) กฟผ.ทุ่ม 52 ล้าน อุ้มโรงเรียนในฝันทั่วประเทศ นายปิยะบุตร ชลวิจารณ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงศึกษาธิการ เปิดเผยว่า การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ได้แสดงความจำนงที่จะให้การสนับสนุนโรงเรียนในโครงการหนึ่งอำเภอหนึ่งโรงเรียนในฝัน จำนวน 30 โรง โดยได้กำหนดวงเงินงบประมาณจำนวน 52 ล้านบาท ทั้งนี้ กฟผ.ได้เลือกโรงเรียนที่อยู่ในบริเวณพื้นที่ใกล้เคียงกับที่ตั้งของหน่วยงานในสังกัดกฟผ. ซึ่งกระจายอยู่ในทุกภูมิภาคทั่วประเทศ ซึ่งในวันที่ 4 มิ.ย. นี้ นายณรงค์ศักดิ์ วิเชษฐ์พันธุ์ รักษาการผู้ว่าการการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย และคณะผู้บริหารโครงการหนึ่งอำเภอหนึ่งโรงเรียนในฝัน จะทำพิธีมอบหนังสือแสดงการเป็นผู้อุปถัมภ์ ที่ อาคาร กฟผ.บางกรวย จ.นนทบุรี สำหรับโรงเรียนโครงการหนึ่งอำเภอหนึ่งโรงเรียนในฝันที่ กฟผ.ได้ให้การอุปถัมภ์ จำนวน 30 แห่ง คือ ร.ร.เหนือคลอง-ประชาบำรุง จ.กระบี่ ร.ร.วิมุตยารามพิทยากร ร.ร.มัธยมหนองแขม กทม. ร.ร.ร่มเกล้า จ.กาญจนบุรี ร.ร.ศรีสวัสดิ์พิทยาคม จ.กาญจนบุรี ร.ร.ท่าพระวิทยายน ร.ร.น้ำพอง-ศึกษา ร.ร.อุบลรัตน์พิทยาคม จ.ขอนแก่น ร.ร.บางปะกง "บวรวิทยายน" จ.ฉะเชิงเทรา ร.ร.คอนสารวิทยาคม จ.ชัยภูมิ ร.ร.ห้วยนางราษฎร์บำรุง จ.ตรัง ร.ร.คลองใหญ่วิทยาคม จ.ตราด ร.ร.สามเงาวิทยาคม จ.ตาก ร.ร.นิยมมิตรวิทยาคาร จ.นครราชสีมาร.ร.วิเชียรกลิ่นสุคนธ์อุปถัมภ์ จ.พระนครศรีอยุธยา ร.ร.วัดโบสถ์ศึกษา จ.พิษณุโลก ร.ร.ปากท่อวิทยาคม จ.ราชบุรี ร.ร.แม่เมาะวิทยา จ.ลำปาง ร.ร.คำเพิ่มพิทยา จ.สกลนคร ร.ร.สะบ้าย้อยวิทยา จ.สงขลา ร.ร.บางหัวเสือบุญแจ่มเนียมนิล จ.สมุทรปราการ ร.ร.วัดห้วยกรวด ร.ร.ตาขุน ร.ร.บ้านนาสาร จ.สุราษฎร์ธานี ร.ร.ท่าปลาประชาอุทิศ จ.อุตรดิตถ์ ร.ร.สิรินธรวิทยานุสรณ์ จ.อุบลราชธานี ร.ร. เวียงแหวิทยาคม จ.เชียงใหม่ ร.ร.บดินทรเดชา (สิงห์ สิงหเสนี) จ.นนทบุรี ร.ร.ฝายกวางวิทยาคม จ.พะเยา และ ร.ร.ท่ายางวิทยา จ.เพชรบุรี (ไทยรัฐ พฤหัสบดีที่ 3 มิ.ย. 47 http://www.thairath.co.th) มศวนำไท้เก๊กสอนนิสิต ลดความเครียดระหว่างเรียน มศว เตรียมใช้ศาสตร์ตะวันออก ระบุทั้งโยคะ ไท้เก๊ก สร้างเป็นหลักสูตรสุขภาวะศาสตร์ ลดความเครียดนิสิตและพัฒนาจิตแถมสุขภาพดี นายมงคล ศริวัฒน์ อาจารย์ประจำภาควิชาปรัชญา คณะมนุษยศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ (มศว) เปิดเผยว่า การจะสอนให้นิสิตเป็นคนดี คนเก่งได้นั้น สิ่งสำคัญอยู่ที่การฝึก จึงใช้ศาสตร์ตะวันออกเข้ามาใช้ประโยชน์ โดยเฉพาะโยคะและไท้เก๊กนั้น นอกจากจะได้ประโยชน์ด้านสุขภาพแล้ว ยังทำให้ผู้ฝึกได้รับการพัฒนาทางจิตใจ ส่งผลให้จิตใจสงบลง ซึ่งเกิดจากการจดจ่อของจิตกับร่างกายเหมือนการนั่งสมาธิและการเดินจงกรม ขณะที่เราปฏิบัติโยคะหรือไท้เก๊กจิตจะอยู่ที่ร่างกาย เมื่อจิตมาอยู่ที่ร่างกายจึงเกิดเป็นความสงบ การฝึกโยคะและไท้เก๊กยังทำให้เรามีพลังชี่ หรือปราณในร่างกาย ซึ่งในตัวมนุษย์มีพลังชี่อยู่ทุกคน เพียงแต่เมื่อมาปฏิบัติตรงนี้ก็จะปรากฏชัดเจน โดยเฉพาะสาขาวิชาที่สอนด้านความเป็นผู้นำ จำเป็นต้องมีพลังเหล่านี้ในตัวเอง ผู้นำใหม่ๆ จำนวนไม่น้อยเวลาขึ้นพูดในที่สาธารณะ จะประหม่า หัวใจเต้นแรง เร็ว มือสั่น แต่เมื่อเราได้ฝึกโยคะ ไท้เก๊ก อาการประหม่าจะไม่เกิดขึ้น เพราะพลังชี่จะขึ้นมาหล่อเลี้ยงหัวใจให้หัวใจเต้นอยู่ในภาวะสมดุล และจะทำให้เราปราศจากโรค โดยเฉพาะโรคหวัด ภาควิชาปรัชญาและศาสนาให้นิสิตได้เรียนวิชาสุขภาวะศาสตร์ ซึ่งเป็นธรรมวิถีสู่สุขภาวะ เน้นการมีสุขภาพกาย ใจที่ดีเป็นสิ่งสำคัญ เราเน้นให้นิสิตได้ไปสู่ทางที่สงบ เป็นรายวิชาที่ เปิดสอนให้นิสิตชั้นปีที่ 1 ทุกคณะเรียน นิสิตจะได้ประโยชน์จากการเรียนวิชาสุขภาวะศาสตร์ (คมชัดลึก พฤหัสบดีที่ 3 มิ.ย. 47 http://www.komchadluek.com) เยาวชนช้างเผือก บริษัท ปูนซิเมนต์ไทย จำกัด (มหาชน) ร่วมกับสมาคมวิทยาศาสตร์แห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ และคณะสิ่งแวดล้อมและทรัพยากรศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล เปิดโอกาสให้เยาวชนไทย ระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนต้น ทั่วประเทศ สมัครเข้าร่วมเรียนรู้โลกวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและสิ่งแวดล้อม ในโครงการ ค่ายวิทยาศาสตร์เยาวชนช้างเผือกซิเมนต์ไทย “Cementhai Dsi-Camp” สำหรับเยาวชนที่สนใจ ต้องเป็นนักเรียนระดับมัธยมศึกษาปีที่ 3 มีคะแนนเฉลี่ยไม่ต่ำกว่า 3.00 และคะแนนเฉลี่ยสะสมในวิชาวิทยาศาสตร์และคณิตศาสตร์ ไม่ต่ำกว่า 3.50 และส่งผลงานเขียนเรียงความเรื่อง “วิทยาศาสตร์กับการเป็นครัวโลกของไทย” พร้อมหลักฐานการศึกษา ไปยังโรงเรียนต้นสังกัด หรือที่คณะสิ่งแวดล้อมและทรัพยากรศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล ภายในวันที่ 14 มิ.ย.นี้ หรือสอบถามรายละเอียดได้ที่ 0-2441-5000 ต่อ 126,127 และที่เว็บไซต์ www.en.mahidol.ac.th และ www.siamcement.com (สยามรัฐ พฤหัสบดีที่ 3 มิ.ย. http://www.siamrath.co.th) "ภาวิช" เดินหน้าจัดระบบเอ็นทรานซ์ใหม่ ใช้คอมพิวเตอร์ คัดเลือกข้อสอบแทนคน เฟ้นหาโรงพิมพ์ปลอดภัยสูง รศ.ดร.ภาวิช ทองโรจน์ เลขาธิการคณะกรรมการการอุดมศึกษา (กอ.) เผยภายหลังการประชุมเตรียมการจัดสอบวัดความรู้ครั้งที่ 2/2547 ซึ่งจะสอบในเดือน ต.ค. ว่า จะต้องออกกฎระเบียบวิธีการปฏิบัติในแต่ละขั้นตอนอย่างชัดเจน และนำเครื่องอิเล็กทรอนิกส์มาใช้แทนคน เพื่อลดกระบวนการใช้คนให้เหลือน้อยที่สุด โดยในส่วนของการออกข้อสอบนั้น ตนเสนอให้มีการออกข้อสอบให้มากขึ้น เช่น เดิมออก 2 ข้อคัดเหลือ 1 ข้อ ก็อาจเพิ่มเป็น 10 ข้อคัดเหลือ 1 ข้อ ซึ่งคงต้องมีอาจารย์มหาวิทยาลัยและอาจารย์ระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน ออกข้อสอบจำนวนมากขึ้น ผู้ออกข้อสอบแต่ละคนก็จะคีย์ข้อสอบของตนเองไปรวมกันในคอมพิวเตอร์ส่วนกลาง และให้เครื่องคอมพิวเตอร์ทำการกลั่นกรองคัดเลือกข้อสอบให้ได้ 100 ข้อ เพื่อใช้ในการสอบ จากนั้นก็จะบรรจุลงในแผ่นดีสเก็ต และส่งต่อไปยังโรงพิมพ์ที่มีระบบรักษาความปลอดภัยสูง เช่นเดียวกับโรงพิมพ์ธนบัตร ซึ่งกำลังทำการคัดเลือกโรงพิมพ์อยู่ ซึ่งแต่ละขั้นตอนจะลดการใช้กระดาษลงให้เหลือน้อยที่สุด สำหรับอนุกรรมการจัดพิมพ์ข้อสอบนั้น ความตั้งใจเดิมจะมีการเปลี่ยนแปลงกรรมการอยู่แล้ว ไม่เกี่ยวกับเรื่องที่เป็นข่าวอยู่ ทั้งจะมีการปรับปรุงกระบวนการจัดพิมพ์พร้อมกันด้วย โดยแต่ละขั้นตอนจะมีการดูแลรักษาความปลอดภัยที่รัดกุม เช่น นำประตูอิเล็กทรอนิกส์มาใช้ และผู้ที่จะเข้าออกในโรงพิมพ์ จะใช้ระบบสแกนลายนิ้วมือ บันทึกเวลาเข้าออก และมีระเบียบกำหนดว่า ในแต่ละห้องจะมีผู้เกี่ยวข้องอยู่ได้จำนวนกี่คน เข้าออกได้ ในเวลาใด จากนั้นเมื่อจัดพิมพ์ข้อสอบเสร็จแล้ว จะกำหนดระยะเวลาการเก็บข้อสอบ ซึ่งในเบื้องต้นก็คงจะเก็บไว้ในห้องมั่นคง ซึ่งต้องมั่นคงจริงๆ มีระบบรักษาความปลอดภัยที่เข้มแข็ง เช่น ควรมีกุญแจไข 3 ดอก เก็บไว้ 3 คน และต้องเปิดพร้อมๆกันทั้ง 3 คน เป็นต้น ทั้งนี้ กระบวนการต่างๆ จะนำเสนอต่ออาจารย์ มหาวิทยาลัยว่าเห็นด้วยหรือไม่ ส่วนคณะกรรมการอำนวยการจัดสร้างข้อสอบ จำเป็นจะต้องมีต่อไปหรือไม่นั้น ยังไม่ได้หารือ แต่โดยหลักการแล้วตนเห็นว่าควรมีคณะกรรมการอำนวยการดูแลอยู่ แต่อาจจะให้ เป็นประธานร่วมจาก สกอ.และ ทปอ. (ไทยรัฐ ศุกร์ที่ 4 มิ.ย. 47 http://www.thairath.co.th) กศน.ร่วมยูเนสโก ลดจำนวนผู้ไม่รู้หนังสือโลก นายอุฤทธิ์ บุญมาก รองผู้อำนวยการสำนักบริหารงานการศึกษานอกโรงเรียน (กศน.) เปิดเผยว่า จากกรอบปฏิญญาสากลโลกว่าด้วยการศึกษาเพื่อปวงชน ที่ประเทศสมาชิกขององค์การยูเนสโกได้ประชุมร่วมกันที่ กรุงดาการ์ ประเทศเซเนกัล เมื่อเร็วๆ นี้ และมีข้อตกลงร่วมกันที่จะดำเนินการจัดการศึกษาให้แก่ประชาชนผู้ด้อยโอกาส กลุ่มผู้อยู่ในสภาวะยากลำบาก เพื่อให้มีโอกาสเข้ารับการศึกษาที่มีคุณภาพ เน้นความเท่าเทียมในโอกาสทางการศึกษาของผู้เรียนชายหญิง ซึ่งจะนำไปสู่การพัฒนาประเทศชาติแบบยั่งยืน กศน.ได้รณรงค์เพื่อให้ประเทศไทยปลอดผู้ไม่รู้หนังสือ ซึ่งปัจจุบันเหลือจำนวนผู้ไม่รู้หนังสือเพียง 4% จากจำนวนประชากรทั้งหมด แต่การส่งเสริมการรู้หนังสือก็ยังคงดำเนินต่อไป ถือเป็นยุทธศาสตร์สำคัญในการขจัดปัญหาการไม่รู้หนังสือของคนไทยในระยะสุดท้าย เพื่อให้คนไทยที่ไม่สามารถอ่านออกเขียนได้ให้เป็นผู้รู้หนังสือ มีความรู้ และก้าวทันการเปลี่ยนแปลงที่รวดเร็วของโลกปัจจุบันได้อย่างทัดเทียมกัน กศน.ใช้ยุทธศาสตร์ในการส่งเสริมการรู้หนังสือแบบเข้าถึงกลุ่มเป้าหมาย มีการระดมสรรพกำลังจากหน่วยงานภาครัฐ เอกชน และชุมชน เป็นเครือข่ายในการดำเนินงาน และมีครูอาสารับผิดชอบจัดกลุ่มผู้เรียนแบบตัวต่อตัว เป็นกลุ่ม หรือเป็นชั้นเรียน โดยมีสื่อช่วยสอนทางโทรทัศน์ผ่านดาวเทียมไทยคม (คมชัดลึก เสาร์ที่ 5 มิ.ย. 47 http://www.komchadluek.com) วิจัยพบหมื่น ร.ร.วิกฤติ ขาดทั้งครู-คอมพ์-ตำราเพียบ ดร.อมรวิชช์ นาครทรรพ ผู้จัดการเครือข่ายวิจัยด้านเด็กและการศึกษา สำนักงานกองทุนสนับสนุนการวิจัย (สกว.) เปิดเผยว่า จากผลการลงพื้นที่เพื่อศึกษาข้อมูลเบื้องต้นประกอบการเตรียมโครงการ "Child-watch" ระยะที่ 2 พบว่า ในประเทศไทยยังมีโรงเรียนขนาดเล็กที่อยู่ในพื้นที่ชนบทห่างไกลเป็นจำนวนมาก กล่าวคือ มีโรงเรียนระดับประถมศึกษาจำนวน 24,360 โรง แยกเป็นขนาดมีนักเรียนไม่ถึง 120 คน จำนวน 10,968 โรง และขนาดมีนักเรียนมากกว่า 120 คน แต่ต่ำกว่า 300 คน อีก 13,392 โรง หรือคิดเป็นร้อยละ 80 ของโรงเรียนประถมศึกษาทั่วประเทศ โรงเรียนขนาดเล็กเหล่านี้ ดูแลเด็กยากจนในชนบทกว่า 5 ล้านคน และเด็กเหล่านี้ส่วนใหญ่อยู่ในสภาพขาดแคลน โดยเฉพาะอย่างยิ่งเงินอุดหนุนที่รัฐจัดสรรให้หัวละ 1,000 บาทนั้น โรงเรียนเหล่านี้จะได้งบเฉลี่ย 1 แสนกว่าบาทต่อโรงต่อปี ทำให้ไม่สามารถพัฒนาการศึกษาให้มีคุณภาพได้ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการจัดหาคอมพิวเตอร์ การซื้อหนังสือเข้าห้องสมุด ไปจนถึงการจ้างครูอัตราจ้างมาช่วยสอน โดยขณะนี้โรงเรียนบางแห่งเหลือครูอยู่เพียง 3-4 คนเท่านั้น และต้องสอนคนละ 2 ชั้น หรือโรงเรียนขนาดเล็กบางแห่งก็ได้รับงบเพียง 70,000-80,000 บาทต่อปี ทำให้ไม่สามารถจ้างครูหรือซื้อวัสดุอุปกรณ์ที่จำเป็นได้ ในขณะที่โรงเรียนขนาดใหญ่ในเมือง แม้จะพบกับปัญหาการขาดแคลนงบประมาณ แต่ก็ยังสามารถระดมทุนจากผู้ปกครองและชุมชนได้ดีกว่าโรงเรียนขนาดเล็กที่อยู่ในชนบทมาก (คมชัดลึก เสาร์ที่ 5 มิ.ย. 47 http://www.komchadluek.com) ข่าววิทยาศาสตร์/เทคโนโลยี คอมพิวเตอร์3มิติช่วยศัลยแพทย์ สแกนผ่าตัดรักษาข้อเสื่อมแม่นยำ จอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน เปิดตัวเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์ ช่วยการผ่าตัดผิวข้อเข่าเทียม ช่วยให้ศัลยแพทย์ทำงานง่ายขึ้น ประสิทธิภาพการรักษาสูง และแม่นยำ กว่าการผ่าตัดรูปแบบเดิม ระบุประเดิมเจ้าแรกในไทยที่ รพ.เวชธานี ที่เสนอเป็นบริการทางเลือกใหม่ นายรูเบน เทียว ผู้อำนวยการฝ่ายธุรกิจประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก บริษัทเดอพิว อินเตอร์เนชันแนล จำกัด ธุรกิจในเครือบริษัทจอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน จำกัด เปิดเผยว่า บริษัทได้พัฒนาเทคโนโลยีช่วยการผ่าตัดผิวข้อเข่าเทียมภายใต้ชื่อ CAS (computer Assisted Surgery:CAS) ซึ่งช่วยแพทย์สามารถผ่าตัดแผลแบบเปิดขนาดเล็กได้อย่างแม่นยำ ทำให้ผู้ป่วยฟื้นตัวได้เร็วโดยภายใน 1 - 2 วัน จะสามารถพับงอข้อเข่าได้เหมือนปกติ นอกจากนี้ยังลดความเสี่ยงของความคลาดเคลื่อนการวางตำแหน่งผิวข้อเข่าเทียมได้ด้วย ส่งผลให้อายุการใช้งานข้อเทียมเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ เทคโนโลยีการทำงานของ CAS ใช้ระบบคอมพิวเตอร์มาช่วยในการผ่าตัด ด้วยการสร้างภาพ 3 มิติของบริเวณข้อเข่าที่มีปัญหา โดยใช้เทคโนโลยีการส่งข้อมูลจากบริเวณข้อเข่าผู้ป่วย ไปยังคอมพิวเตอร์ผ่านทางระบบอินฟราเรด จากนั้นซอฟต์แวร์ภายในเครื่องก็จะประมวลผลเป็นข้อมูลที่เป็นภาพออกมา โดยมีความละเอียดถึง 0.5 มิลลิเมตร และ 0.5 องศา โรงพยาบาลเวชธานีพร้อมนำเอาเทคโนโลยี CAS เข้ามาใช้กับผู้ป่วยในเมืองไทยกลางเดือน ก.ค.นี้ น.พ.ไพบูลย์ ชัยชาญชีพ ศัลยแพทย์กระดูกและข้อโรงพยาบาลเวชธานี กล่าวว่า ปกติค่าใช้จ่ายในการผ่าตัดข้อเข่าเทียมทั่วไปจะอยู่ที่ 1.7-1.8 แสนบาท แต่หากใช้เทคโนโลยีนี้ค่าใช้จ่ายจะสูงขึ้นเล็กน้อย แต่เชื่อว่าเทคนิคนี้จะช่วยให้การผ่าตัดแม่นยำเพิ่มมากขึ้น (กรุงเทพธุรกิจ จันทร์ที่ 31 พ.ค. 47 http://www.bangkokbiznews.com) โลกเป็นดวงโคมไฟในสุริยจักรวาลส่องแสงสว่างถึงพื้นผิวดวงจันทร์ นักวิทยาศาสตร์ของสถาบันเทคโนโลยีนิว เจอร์ซีย์ และสถาบันเทคโนโลยีแคลิฟอร์เนียกล่าวว่า ปรากฏการณ์ โลกกำลังเป็นดวงโคมไฟที่กำลังส่องแสงสุกสว่างขึ้นในสุริยจักรวาล เกิดขึ้นเมื่อช่วงระหว่างเวลา พ.ศ. 2544-2546 เกิดจากการเปลี่ยนแปลงของปริมาณเมฆหมอกที่ปกคลุมโลก เมื่อโลกถูกปกคลุมด้วยเมฆหมอกหนาขึ้น ก็จะสะท้อนแสงออกไปในอวกาศได้มากขึ้น ทำให้อากาศของโลกได้เย็นลง ในขณะที่หากเมฆหมอกที่ปกคลุมโลกเบาบางลง อากาศของโลกก็ต้องอุ่นขึ้น เนื่องจากรับแดดมากขึ้น นักวิทยาศาสตร์ของสองสถาบัน ได้ร่วมกันตรวจวัดสถิติปริมาณแสงสะท้อนของโลก ทั้งโดยใช้ดาวเทียมและการตรวจวิเคราะห์แสงจากโลกที่ส่องออกไปภายนอก โดยวัดความสว่างของพื้นที่บนดวงจันทร์ที่ถูกแสงจากโลกส่อง พวกเขากล่าวว่า ยังไม่อาจอธิบายได้ว่า ปรากฏการณ์ของแสงจากโลกนี้ จะมีผลกับดินฟ้าอากาศ หรือทำให้ดินฟ้าอากาศแปรปรวนไปอย่างไรบ้าง (ไทยรัฐ อังคารที่ 1 มิ.ย. 47 http://www.thairath.co.th) ไวรัสคอมฯยิ่งปราบยิ่งเก่ง หนังสือพิมพ์เดอะ วอลล์สตรีท เจอร์นัล รายงานผลการศึกษาของบริษัทวิจัยฟาวน์สโตน อิงค์. ซึ่งระบุว่า ในปัจจุบันหนอนไวรัสที่เข้าโจมตีเครือข่ายคอมพิวเตอร์ โดยอาศัยรูโหว่ที่ค้นพบใหม่จะปรากฏตัวขึ้นหลังจากมีการประกาศเตือนเกี่ยวกับข้อบกพร่องตัวนั้นเพียง 10 วัน ทั้งนี้ โดยทั่วไปแล้วผู้เชี่ยวชาญจะยังไม่ประกาศเตือนเกี่ยวกับข้อบกพร่องตัวใหม่ จนกว่าจะมีการพัฒนาโปรแกรมซ่อมแซมเสร็จเรียบร้อยแล้ว เนื่องจากในทันทีที่มีการประกาศเตือนรูโหว่ แฮกเกอร์จะเร่งตรวจสอบโปรแกรมซ่อมแซม ด้วยวิธีวิศวกรรมย้อนรอยและเขียนโปรแกรมเข้าโจมตีรูโหว่นั้นทันที ทางไมโครซอฟท์ ซึ่งเป็นผู้จำหน่ายระบบปฏิบัติการวินโดวส์ ที่มีการใช้งานสูงสุดในคอมพิวเตอร์ทั่วโลก จะมีหน้าที่พัฒนารหัสสำหรับซ่อมแซมรูโหว่ในซอฟต์แวร์ของตน ได้ประกาศปรับแผนรักษาความปลอดภัย โดยประกาศจะเปิดเผยรูโหว่ใหม่พร้อมทั้งโปรแกรมซ่อมแซมเป็นประจำทุกวันอังคารที่ 2 ของเดือน เนื่องจากก่อนหน้านั้นบริษัทจะไม่กำหนดวันเตือนล่วงหน้า ทำให้ผู้บริหารในองค์กรไม่สามารถดำเนินการได้อย่างมีประสิทธิภาพ ด้านผู้เชี่ยวชาญด้านระบบความปลอดภัยเผยว่า อาชญากรอินเทอร์เน็ตที่แท้จริง มักไม่ชอบให้มีการเผยแพร่รายละเอียดเกี่ยวกับหนอนไวรัสใหม่ๆ เนื่องจากจะทำให้ผู้ใช้หันมาซ่อมแซมระบบกันเร็วขึ้น ส่งผลให้พวกเขาไม่สามารถปล่อยโปรแกรมโจมตีระดับร้ายแรงได้ เช่น การขโมยข้อมูลองค์กร (คมชัดลึก อังคารที่ 1 มิ.ย. 47 http://www.komchadluek.com) สถานีวิทยุออนไลน์ นายปรีธยุตม์ นิวาศะบุตร กรรมการผู้จัดการ บริษัท แปซิฟิค อินเทอร์เน็ต (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า เนื่องจากอินเทอร์เน็ตช่วยขยายโอกาส และ ช่องทางทางธุรกิจให้ครอบคลุมกลุ่มเป้าหมายมากกว่าคลื่นวิทยุปกติที่ถูกจำกัดด้วยระยะทางและสภาพแวดล้อม เวอร์จินเรดิโอไทยแลนด์ ผู้ดำเนินรายการคลื่นวิทยุ 4 คลื่นฮิตในประเทศไทยคือ FM 89.0, FM 95.5, FM 105 และFM 105.5 จึงร่วมมือ กับแปซิฟิก อินเทอร์เน็ต ให้บริการถ่ายทอดสดการฟังเพลงผ่านอินเทอร์เน็ตหรือ radio streaming online ที่ www.virginradiothailand.com โดยนายเชษฐ มังคโลดม กรรมการผู้จัดการ บริษัทเวอร์จิน เรดิโอไทยแลนด์ กล่าวว่าการ เปิดสถานีเพลงวิทยุออนไลน์ ขึ้นมาเพื่อขยายช่องทางการรับฟังให้ครอบคลุมทั่วประเทศ รวมทั้งเปิดโอกาสให้ผู้ฟังมีส่วนร่วมกับกิจกรรมต่าง ๆ ที่สถานีจัดขึ้นมาเป็นพิเศษผ่านเว็บไซต์ ไม่ว่าจะเป็นการส่งข้อความถึงดีเจ ขอเพลง ชมรายการสดของดีเจด้วย เว็บแคมหรือกิจกรรมโปรโมชั่นอื่น ๆ ซึ่งปัจจุบันได้รับการตอบรับอย่างดีจากผู้ฟังเข้ามาใช้บริการผ่านเว็บไซต์ไม่ต่ำกว่า 160,000 รายต่อเดือน ซึ่งอนาคตจะมีการถ่ายทอดสดกิจกรรมของคลื่นผ่านทางอินเทอร์เน็ตด้วย (สยามรัฐ อังคารที่ 1 มิ.ย. 47 http://www.siamrath.co.th) โชว์ไฮเทคยอดนาฬิกาดาราศาสตร์มูลค่า3ล้าน บริษัท โทรคาเดโร ไทม์ จำกัด ผู้แทนจำหน่ายนาฬิกา "ยูลิส นาร์แดง" จากประเทศสวิตเซอร์แลนด์ จะจัดงานแสดงสุดยอด นวัตกรรมกลไกแห่งเวลา นาฬิกาดาราศาสตร์ "แพลเนทาเรียม คอเปอร์นิคุส" (Planetarium Copenicus) นาฬิกาจำลองความสลับซับซ้อนของระบบสุริยจักรวาล มาไว้บนข้อมือได้อย่างน่าอัศจรรย์ ซึ่งเป็นเพียงยี่ห้อเดียวในโลก ที่สามารถคำนวณ และแสดงภาพปรากฏการณ์ทางดารา ศาสตร์ครั้งสำคัญทางประวัติศาสตร์ "ดาวศุกร์ผ่านหน้าดวงอาทิตย์" (Venus Transit) ที่กำลังจะเกิดขึ้นแก่สายตาชาวโลกเป็นครั้งแรกในรอบ 122 ปี วันที่ 8 มิ.ย.นี้ เวลา 12.13 น. สำหรับนาฬิกาเรือนนี้เป็นหนึ่งในนาฬิกาดาราศาสตร์ชุด "ทริโลจี ออฟ ไทม์" (Trilogy of Time) ที่ได้รับเกียรติให้บันทึกลงใน "กินเนสส ์ บุ๊ก ออฟ เรคคอร์ด" ในฐานะเป็นนวัตกรรมสิ่งประดิษฐ์ยอดเยี่ยมด้านนาฬิกา ภายใต้ผลงานการคิดค้นของ ดร.ลุดวิค ออชลิน นักวิทยาศาสตร์ผู้ชาญฉลาดชาวอิตาเลียน ที่ได้รวบรวมเอาทฤษฎี "Ptotemy's Geocentric Universe" ที่เชื่อว่าโลกเป็นจุดศูนย์กลางของจักรวาล โดยมีดวงดาวทั้งหลายหมุนรอบโลกและทฤษฎีสุริยจักรวาล Copernicus Heliocentric Universe ของ Nicoiaus Copenicus ที่มีดวงอาทิตย์เป็นจุดศูนย์กลางของระบบสุริยจักรวาล นอกจากนี้ยังบอกให้ทราบตำแหน่งทางดาราศาสตร์ของพระอาทิตย์ พระจันทร์ ดาวเคราะห์ต่าง ๆ สัญลักษณ์ที่มีอิทธิพลต่อจักรราศี เวลาข้างขึ้น-ข้างแรมของดวงจันทร์ เดือน และวันได้อย่างครบถ้วน และที่สำคัญนาฬิกาเรือนนี้ ยังสามารถแสดงให้เห็นถึงปรากฏการณ์พิเศษดังกล่าวที่หน้าปัดของนาฬิกาได้อย่างชัดเจน ราคาประมาณ 3 ล ้านบาท ซึ่งสามารถร่วมชมนาฬิกาเรือนนี้ได้ที่ "โทรคาเดโร ไทม์" ชั้น 1 เซ็นทรัลเวิลด์ พลาซ่า ระหว่างวันที่ 5-8 มิ.ย.นี้ (สยามรัฐ อังคารที่ 1 มิ.ย. 47 http://www.siamrath.co.th) กล้องส่องดวงอาทิตย์สร้างง่าย วันที่ 8 มิ.ย ที่จะถึงนี้ จะเกิดปรากฏการณ์ดาวศุกร์เคลื่อนผ่านหน้าดวงอาทิตย์ เริ่มตั้งแต่เวลา 12.15 - 18.20 น. ซึ่งเป็นช่วงแสงแดดกำลังแรง ดังนั้น เพื่อความปลอดภัยของสายตา จึงเชิญชวนนักดาราศาสตร์สมัครเล่น ทดลองประดิษฐ์อุปกรณ์ส่องดวงอาทิตย์จากวัสดุหาง่ายรอบตัว ซึ่งจะช่วยให้การดูปรากฏการณ์ดังกล่าวเป็นไปอย่างปลอดภัย อุปกรณ์ ประกอบด้วย เลนส์นูน เลนส์วัตถุ เลนส์อรงค์ (Achromatic lens) เพื่อให้เห็นภาพสมจริง ไม่กลับหัวกลับหาง และเครื่องมือช่างภายในบ้านเช่น เลื่อยตัดเหล็ก กระดาษทรายหยาบ มีด ไม้บรรทัด หรือตลับเมตร ปากกาเมจิก ไฟแช็กและท่อพลาสติกพีวีซี วิธีการสร้างกล้องโทรทรรศน์อย่างง่าย เริ่มต้นจากนำท่อพลาสติกพีวีซี หรือท่อน้ำประปามาตัดเป็นท่อนๆ ตามขนาดที่กำหนด จากนั้นนำแหวนท่อพีวีซีสวมเข้ากับ เลนส์ขนาด 2.5 นิ้ว โดยให้ขอบของแหวนเสมอที่ขอบเลนส์พอดี ประกอบเข้ากับท่อพีวีซีขนาด 2 นิ้ว ประกบปิดเลนส์กับท่อ จากนั้นนำข้อต่อตรงพีวีซีเกลียวนอกขนาด 1 นิ้ว บากด้วยเลื่อย 2 รอย แล้วใช้ไฟลนด้านในบีบเข้าไปเพื่อใช้สำหรับยึดท่อ 0.5 นิ้ว มาประกอบเข้ากับข้อลดพีวีซีจาก 2 นิ้ว เป็น 1.5 นิ้ว แล้วนำเลนส์ขนาด 0.5 นิ้ว ประกอบเข้ากับข้อต่อตรงขนาด 0.5 นิ้ว ผ่าครึ่ง ดันเลนส์เข้าให้แน่นแล้วดึงท่อพีวีซีออก ขั้นตอนต่อไปนำเลนส์ขนาด 0.5 นิ้ว ประกอบเข้ากับข้อต่อตรงพีวีซีขนาด 0.5 นิ้ว ดันเข้าให้แน่นแล้วดึงท่อพีวีซีออก แล้วนำเลนส์ขนาด 0.5 นิ้วและแหวนอะลูมิเนียม ประกอบเข้ากับข้อต่อตรงพีวีซีขนาด 0.5 นิ้วผ่าครึ่ง ดันเข้าให้แน่นแล้วดึงท่อพีวีซีออก ติดสติกเกอร์หรือเทปกาวที่ปลายเพื่อความแน่น ขั้นตอนสุดท้ายนำข้อต่อที่ได้มาประกอบเข้ากับท่อพีวีซีขนาด 0.5 นิ้ว โดยประกอบท่อเข้ากับข้อต่อทางด้านที่มีเลนส์และแหวนอะลูมิเนียม จากนั้นนำชิ้นส่วนทั้งหมดมาประกอบ โดยดันเข้าให้แน่นก็จะได้กล้องประกอบเสร็จสมบูรณ์พร้อมใช้งาน วิธีการใช้งานเพียงนำกล้องที่ประกอบเสร็จ ไปเล็งส่องวัตถุที่ต้องการสังเกต โดยวัตถุนั้นจะต้องอยู่ห่างออกไปไม่น้อยกว่า 20 เมตร ปรับความคมชัด โดยการเลื่อนกระบอกเลนส์ตาเข้าออก สำหรับคนที่กำลังมองหาสถานที่ซื้ออุปกรณ์สร้างกล้องโทรทรรศน์ สามารถหาซื้อได้ที่ร้านศึกษาภัณฑ์พาณิชย์ แต่ในส่วนของเลนส์วัตถุซึ่งเป็นเลนส์อรงค์จะหาซื้อยาก ส่วนมากจะมีความยาวโฟกัสสั้น เลนส์อรงค์โฟกัสยาวหาซื้อได้ตามร้านแถวคลองถม หรือติดต่อขอซื้ออุปกรณ์ที่คุณเลนส์ หมายเลขโทรศัพท์ 0-1773-2767 หรือเข้าไปดูวิธีการสร้างกล้องอย่างละเอียดได้ในเวบไซต์ www.lesaproject.com (คมชัดลึก พุธที่ 2 มิ.ย. 47 http://www.komchadluek.com) พบแหล่งน้ำมันดิบที่รอยต่อ 3 จังหวัด นายสุเมธ แสงนิ่มนวล ผวจ.พิษณุโลก เปิดเผยว่า บริษัท สยามโมเอโกะ จำกัด ซึ่งเป็น บริษัทในเครือของ บริษัท มิตซุยออยล์ เอ็กซ์พลอเรชั่น จำกัด พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่กรมเชื้อเพลิงธรรมชาติ สำนักกำกับและบริหารสัมปทานปิโตร เลียม ได้เข้าหารือเรื่องการดำเนินการสำรวจและขุดเจาะน้ำมันในเขตรอยต่อ 3 จังหวัดคือ พิษณุ โลก สุโขทัยและอุตรดิตถ์ โดยมีข้อมูลตามภาพถ่ายดาวเทียมว่าพื้นที่รอยต่อ 3 จังหวัดดังกล่าวมีบ่อน้ำมัน แต่ยังไม่แน่ว่าจะเป็นแหล่งน้ำมันเหมือนบริษัทไทยเชลล์ที่เคยขอสัมปทานและได้หมดอายุลงหรือไม่ แต่ล่าสุดบริษัทสยามโมเอโกะ ขออนุญาตสัมปทานจากรัฐแล้ว ตามข้อมูลระบุพื้นที่ 7,600 ตารางกิโลเมตร ในเขตรอยต่อ 3 จังหวัด ซึ่งจะต้องสำรวจข้อมูลด้านสิ่งแวดล้อมเชิงชีวภาพ คุณภาพชีวิตประชาชน มลพิษ ฯลฯ พร้อมกับประชาสัมพันธ์ให้คนในพื้นที่รับทราบและนำเสนอมาตรการให้แล้วเสร็จภายในเดือนสิงหาคม 2547 สำหรับแผนงานในเดือนมีนาคม 2548 ที่จะต้องเริ่มสำรวจแหล่งน้ำมันดิบโดยใช้วิธีระเบิดวัดการเคลื่อนไหวสั่นสะเทือนโดยเสียง คาดว่าจะพบแหล่งน้ำมันดิบต่อการสุ่มสำรวจระยะ 10 ตารางกิโลเมตร หากพบแหล่งน้ำมันดิบจะค่อยดำเนินการจ่ายค่าภาคหลวงต่อไป กรณีสำรวจพบพื้นที่แหล่งน้ำมันดิบ บริษัทจะดำเนินการจ่ายค่าชดใช้พื้นที่ตามหลักเกณฑ์ของกระทรวงพาณิชย์เขตพื้นที่ไร่นา และไม่จำเป็นต้องซื้อที่ดินทั้งหมด เบื้องต้นประเมินค่าใช้จ่ายในการสำรวจแหล่งบ่อน้ำมันจำนวน 4 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 170 ล้านบาท (เดลินิวส์ พฤหัสบดีที่ 3 มิ.ย. 47 http://www.dailynews.co.th) เยอรมนีครองแชมป์พลังงานลม ประเทศที่ติดตั้งกังหันลมมากที่สุด ได้แก่ เยอรมนี ซึ่งปัจจุบันติดตั้งกังหันลมรวมแล้วอยู่ที่ 2,645 เมกะวัตต์ สามารถผลิตกระแสไฟฟ้าได้ทั้งสิ้น 14,609 เมกะวัตต์ ตามด้วยอันดับ 2 สหรัฐอเมริกา ที่มีกังหันลมรวม 1,687 เมกะวัตต์ ผลิตกระแสไฟโดยรวมได้ 6,374 เมกะวัตต์ ขณะที่สเปนครองแชมป์อันดับ 3 ตามมาด้วยเดนมาร์ก ส่วนอินเดียครองอันดับ 5 โดยติดตั้งไปแล้ว 408 เมกะวัตต์ และเมื่อปีที่แล้วผลิตไฟฟ้าได้ถึง 2,110 เมกะวัตต์ ด้านเนเธอร์แลนด์ อิตาลี ญี่ปุ่น และอังกฤษ ก็ถือเป็นผู้ผลิตไฟฟ้าพลังงานลมรายใหญ่เช่นกัน โดยแต่ละประเทศสามารถผลิตได้เกือบ 1,000 เมกะวัตต์ (คมชัดลึก ศุกร์ที่ 4 มิ.ย. 47 http://www.komchadluek.com) "ทอฟเลอร์" แนะไทยประยุกต์ใช้เทคโนโลยี ปั้นคนอายุน้อยรับคลื่นลูกที่ 3 ระหว่างปาฐกถาพิเศษในงานสัมมนา "The Future of Thailand" ที่ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ เมื่อวันที่ 31 พฤษภาคมที่ผ่านมา นายอัลวิน ทอฟเลอร์ นักคิดนักเขียน ซึ่งเป็นต้นตำรับแนวคิด "โลกาภิวัตน์" ในปัจจุบัน ระบุว่า ไทยมีพัฒนาการผสมผสานระหว่างคลื่นการเปลี่ยนแปลงทั้ง 3 ลูก ทั้งคลื่นลูกที่ 1 ที่ 2 และคลื่นลูกที่ 3 เพราะไทยเป็นประเทศเกษตร กรรม แต่ก็มีพัฒนาการในด้านอุตสาหกรรมที่มีการนำเทคโนโลยีเข้ามาใช้ ไทยควรจะปรับยุทธวิธี โดยนำเอาเทคโนโลยีเข้ามาประยุกต์ใช้ในด้านการเกษตรเพื่อสร้างมูลค่าเพิ่ม และปรับปรุงในด้านประสิทธิภาพการเพิ่มผลผลิต ทอฟเลอร์เชื่อว่าการพัฒนาในคลื่นลูกที่ 3 ของไทย ที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนาด้านซอฟต์ แวร์ เทคโนโลยีชีวภาพ และนาโนเทคโนโลยี ซึ่งสามารถนำมาต่อยอดการพัฒนาอุตสาหกรรมในคลื่นลูกที่ 2 แม้ว่ากว่าที่ไทยจะพัฒนาเข้าสู่คลื่นลูกที่ 3 ได้อย่างสมบูรณ์แบบได้ในราว 40-50 ปีข้างหน้า ทอฟเลอร์เสนอแนะว่า ในอีก 5-10 ปีข้างหน้า ประเทศไทยควรจะเน้นการพัฒนาทางด้านวิทยา ศาสตร์ เกษตรกรรม และวิทยาศาสตร์เพื่อสุขภาพ โดยเฉพาะเกษตร เพราะในขณะนี้ ยังไม่มีประเทศใดมีการพัฒนาอย่างจริงจัง ซึ่งน่าจะเป็นโอกาสที่ไทยจะร่วมมือกับประเทศที่พัฒนาเทคโนโลยีในด้านนี้ เช่น มีการใช้ดาวเทียมในการทำธุรกิจการเกษตร รวมทั้งเทคโนโลยีใหม่ๆ ในการจัดการด้านสิ่งแวดล้อม หากต้องการพัฒนาเศรษฐกิจไทยให้เป็น knowledge based economy ไทยยังจำเป็นมีการพัฒนา เพราะคอมพิวเตอร์และอิน เทอร์เน็ตเป็นองค์ประกอบสำคัญที่ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงและวิวัฒนาการ "สถาบันการศึกษามีบทบาทสำคัญในการกระจายความรู้ เห็นได้จากการที่หน่วยงานภาครัฐและเอกชนหันมาให้ความสนใจในการปรับเปลี่ยนกระบวนการทางการศึกษาขนานใหญ่ เพราะทุกประเทศต่างตกอยู่ในภาวะเดียวกัน นั่นคือ การศึกษามักจะปรับตัวได้ไม่ทันกับการเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยี" ทอฟเลอร์กล่าว (ประชาชาติธุรกิจ ศุกร์ที่ 4 มิ.ย. 47 http://www.matichon.co.th/prachachat) ข่าววิจัย/พัฒนา นักวิจัยไทยสร้างอีเมลภาษามือ3D นายนราธิป เที่ยงแท้ ภาควิชาวิศวกรรมคอมพิวเตอร์ คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ เปิดเผยในงานนำเสนอผลงานด้านเทคโนโลยีสิ่งอำนวยความสะดวกสำหรับคนพิการทางการได้ยิน ที่ศูนย์เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์แห่งชาติ (เนคเทค) เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาว่า สร้างซอฟต์ แวร์ภาษามือ 3 มิติ ใช้โครงหุ่นเป็นแบบ เตรียมพัฒนาเป็นโครงร่างมนุษย์เพื่อความสมจริง ซอฟต์แวร์ภาษามือ 3 มิติ นอกจากมีโครงหุ่นซึ่งทำหน้าที่สื่อสารความหมายผ่านภาษามือ และหันซ้าย-ขวาได้แล้ว อนาคตจะเปลี่ยนเป็นสื่อสารท่าทางผ่านโมเดลโครงร่างมนุษย์ เพื่อสร้างความสมจริง พร้อมพัฒนาซอฟต์แวร์ดังกล่าว ให้สามารถใช้ส่งอีเมลภาษามือเพื่อสื่อสารระหว่างคนหูหนวกได้ นายนราธิป กล่าวว่า หลังนำซอฟต์แวร์ดังกล่าว ทดลองให้เด็กพิการทางหูที่เชียงใหม่ใช้ พบว่า ภาษามือที่สร้างในซอฟต์แวร์ 80 เปอร์เซ็นต์ถูกต้อง ส่วน 20 เปอร์เซ็นต์ไม่ตรงตามความเข้าใจของเด็ก เนื่องจากการสื่อสารด้วยภาษามือของแต่ละภาคมีความแตกต่างกัน และยังไม่มีมาตรฐานภาษามือที่ชัดเจน ซอฟต์แวร์ภาษามือ 3 มิติ หรือ Thai-3D Language Dictionary เป็นงานวิจัยต้นแบบยังไม่ผลิตในเชิงพาณิชย์ ผลงานการออกแบบของ นายณัฐดนัย หอมคง และนายอุทัย ชัยรุ่งมณีดำรง นักศึกษาด้านวิศวกรรมศาสตร์ ม.เชียง ใหม่ โดยมี อ.นราธิป เที่ยงแท้ เป็นที่ปรึกษา ชนะการประกวดการออกแบบซอฟต์แวร์แห่งชาติ(National Software Contest) ในปีที่แล้ว บรรจุพจนานุกรมภาษามือ 700 คำ แสดงท่าทางเลียนแบบธรรมชาติของมนุษย์ผ่านโครงหุ่น สร้างขึ้นเพื่อให้เด็กพิการทางหูได้เรียนรู้การใช้สัญลักษณ์มือด้วยตนเอง (เดลินิวส์ จันทร์ที่ 31 พ.ค. 47 http://www.dailynews.co.th) กินอาหารเต้าหู้ช่วยสู้โรคมะเร็งมดลูกยิ่งกินมาก ยิ่งหนีห่างได้ไกลเท่านั้น สถาบันโรคมะเร็งเซี่ยงไฮ้ได้พบจากการศึกษาวิจัยกับผู้หญิงชาวนครเซี่ยงไฮ้วัยระหว่าง 30-69 ปี ที่เคยถูกตรวจพบว่าเป็นมะเร็งของปากมดลูก และมะเร็งเยื่อบุมดลูก เทียบกับเพื่อนวัยเดียวกัน ที่แข็งแรงสมบูรณ์ดี ยังพบด้วยว่า ผู้หญิงรายที่เป็นมะเร็งเยื่อบุมดลูก ชอบกินอาหารทำด้วย เต้าหู้น้อยกว่าเพื่อนๆที่ร่างกายปกติสมบูรณ์ รายงานผลการศึกษากล่าวแจ้งว่า สตรีชาติเอเชีย จะเป็นโรคมะเร็งเยื่อบุมดลูกกัน แค่ 1 ใน 5 ถึง 1 ใน 3 ของสตรีตามชาติตะวันตกเท่านั้น อาจจะเป็นเพราะกินอาหารทำด้วยเต้าหู้มากกว่ากัน ผู้หญิงเอเชีย จะกินอาหารเหล่านั้นมากกว่าพวกแหม่มทั้ง หลายถึง 25 เท่า ถั่วเหลืองซึ่งใช้ทำเต้าหู้ อุดมไปด้วยสารไอโซฟลาโวนส์ อันเป็นพฤกษเคมีอย่างหนึ่ง มีคุณสมบัติ เหมือนกับฮอร์โมนเพศหญิงเอสโตรเจน การกินอาหารทำจากถั่วเหลืองมากๆ เชื่อกันว่า ช่วยป้องกันมะเร็งทรวงอกได้ นอกจากนั้นยังชวนให้เข้าใจว่าฮอร์โมนเอสโตรเจน ยังช่วย ต่อต้านโรคหัวใจและมะเร็งได้อีกด้วย (ไทยรัฐ จันทร์ที่ 31 พ.ค. 47 http://www.thairath.co.th) สบู่กับน้ำมีประสิทธิภาพเด็ดขาดกวาดล้างเชื้อไวรัสเอดส์ได้เกลี้ยง ดร.เจย์ ไอวี นักวิจัยของมหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนียแจ้งว่า ได้พบว่าสบู่กับน้ำมีประสิทธิภาพฆ่าเชื้อไวรัส โรคเอดส์ลงได้ เขากล่าวแจ้งในรายงานผลการศึกษา ในวารสาร "โพซ" โดยเมื่อทดลองใช้ ฟองสบู่สีน้ำนม ใส่ลงไปในของเหลวจากร่างกายที่มีเชื้อไวรัสโรคเอดส์ หลายชนิดดูปรากฏว่า มันสามารถปราบเชื้อไวรัสลงได้ นักวิจัยโจนาธาน ลี ของห้องปฏิบัติการลีวาย และเอลิซาเบธ แมคเทคนิคเทคนิเชียน ก็ได้กล่าว ยืนยันผลการทดลองอีกคนหนึ่งว่า "ในห้องปฏิบัติการ มันได้แสดงว่าน้ำและสบู่ สามารถฆ่า เชื้อโรคเอดส์ได้ แต่คงจะต้องศึกษากันต่อไปอีกว่า ในสถานการณ์ปกติทั่วไปจะได้ผลด้วยหรือไม่ เรายังไม่ได้ลองใช้สบู่กับการปฏิบัติกามกิจ แต่เราก็ได้ใช้เชื้อไวรัส เมื่อทดลองกับสบู่ใน ห้องปฏิบัติการนี้ เป็นจำนวนมากกว่าที่อาจจะมีการติดต่อกันทางเพศอยู่แล้ว" (ไทยรัฐ จันทร์ที่ 31 พ.ค. 47 http://www.thairath.co.th) เครื่องหยอด-หว่านข้าวจากแฟ้มงานวิจัยไปสู่ท้องนา คุณสุรเวชย์ กฤษณะเศรณี ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านวิศวกรรมการเกษตร กรมวิชาการเกษตร อดีตนายกสมาคมวิศวกรรมเกษตรแห่งประเทศไทย 3 สมัย ทั้งยังเคยได้รับรางวัล วิศวกรการเกษตรดีเด่นระดับโลก ปี 2546 ที่ผ่านมา ได้ร่วมกับคณะทำงาน ประกอบด้วย ผศ.พินัย ทองสวัสดิ์วงศ์ นายกิตติศักดิ์ วัฒนสิงห์ดำรง และ นายสนอง อมฤกษ์ ทำการออกแบบ โดยมี ดร.บริบูรณ์ สมฤทธิ์ เป็นที่ปรึกษาให้คำแนะนำจนสามารถผลิต "เครื่องหยอดข้าว 10 แถว" และ "เครื่องหว่านข้าวแห้งติดท้ายรถแทรกเตอร์" สำหรับเครื่องหยอดข้าว 10 แถว สามารถปรับระยะแถว หยอดเมล็ดพันธุ์ปรับอัตรา 10-12 กิโลกรัมต่อไร่ หรือตามความต้องการของเกษตรกรผู้ปลูก อุปกรณ์ ที่ใช้เบิกร่องเป็นจาน ทำให้สามารถใช้งานในแปลงปลูกที่มีต้นหญ้าอยู่ได้ รวมถึงการปรับความลึกตาม ความต้องการอีกด้วย เครื่องหยอดข้าว ทำงาน 5-6 ชั่วโมงต่อไร่ ใน 1 วันสามารถปลูกข้าวได้ถึง 40-50 ไร่ อีกชิ้นงานหนึ่งคือ เครื่องหว่านข้าวแห้ง ที่มีการวิจัยพัฒนามาจากการสำรวจรถแทรกเตอร์ ที่ใช้กันอยู่จะมีผาล 7 (ไถสุดท้าย) ที่ใช้สำหรับการเตรียมดินอยู่แล้ว จึงได้ออกแบบเครื่องหว่านข้าวไว้ติดกับผาล 7 มีส่วนประกอบ เช่น 1. อุปกรณ์หว่านเมล็ด ใช้เหล็กเพลากลมเจาะรูรอบ (เมล็ดพันธุ์จะขึ้นอยู่ที่ขนาดของรู) 2. ถังใส่เมล็ดพันธุ์ มีฝาปิด 3. ระบบขับเพลาเพื่อการหว่าน 4. ท่อลำเลียงเมล็ดพันธุ์ใช้พลาสติก 5. จานกระจายเมล็ดพันธุ์ 6. การต่อพ่วงเข้ากับรถแทรกเตอร์ (มีระบบไฮดรอลิก) ผู้สนใจสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม ติดต่อที่ โทรศัพท์ 0-2940-5566 หรือ E-mai l: suraweth@doa.go.th (ไทยรัฐ จันทร์ที่ 31 พ.ค. 47 http://www.thairath.co.th) ค้นพบใหม่...โรคจากบุหรี่ น.พ.ริชาร์ด คารร์โมนา ศัลยแพทย์สหรัฐฯ ได้ออกมาแถลงผลการค้นพบ ใหม่เกี่ยวกับโรคบุหรี่ว่า นิโคตินและสารพัดสารพิษในควันบุหรี่ที่สูบเข้าไปในร่างกาย และโคจรไปทั่วร่างผ่านเลือดที่ดูดซับสารพิษเหล่านี้ ได้ก่อให้เกิดมะเร็งในส่วนต่างๆของ ร่างกายมากมาย นอกเหนือจากมะเร็งปาก และมะเร็งปอด ตับ โรคจากบุหรี่ที่ค้นพบใหม่ก็มี โรคลูคีเมีย หรือมะเร็งในเลือดแบบเฉียบพลัน, มะเร็งในลำคอ, มะเร็งในไต, มะเร็งในตับอ่อน, มะเร็งในกระเพาะอาหาร, มะเร็งในต่อมลูกหมาก ฯลฯ โรคอีกมากมายที่ผมไม่รู้จัก อ่านไม่ออก เพราะเป็นภาษาแพทย์ ไปจนถึงโรคปอดบวม โรคร้ายจากบุหรี่เหล่านี้ ไม่เพียงรักษาไม่หาย ต้องตายสถานเดียว (ไทยรัฐ จันทร์ที่ 31 พ.ค. 47 http://www.thairath.co.th) มจธ.ปั้นนักวิจัย 2B-KMUTT จิ๋วแต่เจ๋ง มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี(มจธ.) ได้จัดโครงการสร้างยุวชนสู่ถนนนักวิจัยในชื่อโครงการ “2B-KMUTT” เพื่อส่งเสริมความเป็นนักวิจัยให้กับเยาวชน โดยคัดเลือกนักเรียนมัธยมศึกษาปีที่ 3-5 และนักเรียนระดับปวช. ที่มีความสนใจด้านวิทยาศาสตร์ และงานวิจัยเข้าร่วมโครงการกว่า 200 คน ซึ่งทั้งหมดได้เข้าร่วมค่ายกิจกรรมเป็นเวลา 4 สัปดาห์ เพื่อฝึกทักษะสร้างความเข้าใจถึงบทบาทหน้าที่และความรับผิดชอบของการเป็นนักวิจัย ในลักษณะการฝึกภาคปฏิบัติในห้องทดลองของ มจธ.บางมด และบางขุนเทียน โดยมีอาจารย์ และนักวิจัย ของมหาวิทยาลัยคอยเป็นพี่เลี้ยง ดร.กฤษณพงศ์ กีรติกรอธิการบดี มจธ. กล่าวถึงความคาดหวังต่อโครงการนี้ว่า จะทำให้นักเรียนมีทักษะและประสบการณ์การทำวิจัย เข้าใจหน้าที่และความรับผิดชอบของการเป็นนักวิจัย และเป็นนักวิจัยที่มีคุณภาพในอนาคต และสามารถค้นหานักเรียนมีศักยภาพสูงเพื่อสนับสนุนการเป็นนักศึกษาของ มจธ. ต่อไป นักเรียน ยังได้ร่วมประดิษฐ์ผลงานวิจัยที่ตนเองสนใจ และได้เรียนรู้มาจากการทดลองปฏิบัติการจริงในห้องทดลองอีกด้วย งานนี้ทำให้เราเห็นแววนักวิจัยตัวน้อยเกิดขึ้นมากเลยทีเดียว ตัวอย่างโครงงานวิจัยดีเด่น (The best of 2B-KMUTT Award) “พื้นรองเท้าดูดซับกลิ่น” ของ “น้องเบส” ศิริพงษ์ คงชู คนเก่งจากโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาภาคใต้ โดย นำเอาวัสดุพื้นบ้านมาใช้เช่น ถ่าน ชา สารส้ม ไคโตซาน ก็สามารถแก้ปัญหาได้ และใช้ได้กับรองเท้าทุกยี่ห้อ ผลงานวิจัยของ “น้องไก่” ดุจดาว บุญรัตน์ จากโรงเรียนสตรีชัยภูมิ เรื่อง “ปุ๋ยปัสสาวะในรูปเม็ดบีบแห้ง” เพราะเล็งเห็นถึงประ โยชน์ของปัสสาวะซึ่งเป็นของเสียที่มีธาตุไนโตรเจนอยู่มากและเป็นสารอาหารที่สำคัญต่อพืชจึงคิดทำปุ๋ยจากปัสสาวะขึ้นในรูปของเม็ดบีบแห้งเพื่อความสะดวกในการใช้งานเพียงแค่นำไปโรยรอบๆ โคนต้นไม้เท่านั้น “ยาขัดรองเท้าจากเปลือกกล้วย” ผลงานของน้องโบว์ ปิยาภรณ์ วทานิยะกุล จากโรงเรียนโรงเรียนเตรียมอุดมภาคใต้ ซึ่งจากการศึกษาพบว่าเปลือกกล้วยสามารถใช้แทนน้ำยาขัดรองเท้าได้ เพราะด้วยคุณสมบัติที่จะทำให้หนังรองเท้าเกิดความมันวาวขึ้น จึงคิดที่ผลิตผลงานออกมาเป็น ยาขัดรองเท้าจากเปลือกกล้วย นอกจากทรัพยากรจะถูกใช้อย่างคุ้มค่าแล้ว ยังสามารถนำมาใช้ให้เป็นประโยชน์ได้อีกด้วย จากโครงการ 2B-KMUTT รั้วมจธ. ซึ่งถือเป็นบันไดขึ้นแรกของนักวิจัยรุ่นใหม่ที่จะพัฒนาตนให้มีคุณภาพ และเป็นกำลังสำคัญของการพัฒนาประเทศต่อไป (สยามรัฐ จันทร์ที่ 31 พ.ค. 47 http://www.siamrath.co.th) ทีมหอยหลอดคว้าแชมป์หุ่นยนต์ส.ส.ท. ทีมหอยหลอด 2004 จากวิทยาลัยเทคนิคสมุทรสงครามคว้าแชมป์การแข่งขันหุ่นยนต์ ส.ส.ท.ชิงแชมป์ประเทศไทย ประจำปี 2547 โดยสามารถชนะทีม ARARITz จากสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือได้สำเร็จ ทำให้ได้เป็นตัวแทนประเทศไทยไปแข่งขันที่ประเทศเกาหลีใต้ในเดือน ก.ย.นี้ พร้อมทั้งได้รับเงินรางวัล 150,000 บาท ในฐานะแชมป์ประเทศไทย และอีก 30,000 บาท ในฐานะแชมป์ระดับอาชีวะ สำหรับนักศึกษาที่ชนะเลิศจากทีมหอยหลอด 2004 วิทยาลัยเทคนิคสมุทรสงครามประกอบด้วย นายวิวัฒน์ อุทกเวช นายภัทร ศิริโรจน์ และนายธีรศักดิ์ ศิริพรชัย ทั้งหมดอายุ 19 ปี ได้เตรียมการเข้าแข่งขันในครั้งนี้เป็นเวลา 7 เดือน จนสามารถคว้าแชมป์ได้ในที่สุด (สยามรัฐ จันทร์ที่ 31 พ.ค. 47 http://www.siamrath.co.th) ทดลองวัคซีนป้องกันติดบุหรี่ นายแพทย์วีระเดช สุวรรณลักษณ์ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญโรคปอด รพ.พญาไท 1 เปิดเผยว่า ขณะนี้มีบริษัทหลายแห่งในต่างประเทศได้เริ่มทดลองนำวัคซีนสำหรับป้องกันการติดบุหรี่มาใช้กับมนุษย์แล้ว อาทิ สหรัฐ อังกฤษ และสวีเดน โดยวัคซีนดังกล่าวจะช่วยกระตุ้นภูมิต้านทางการตอบสนองนิโคตินเมื่อเข้าสู่กระแสเลือด ซึ่งปกติเมื่อเกิดการสูบบุหรี่จะมีสารนิโคตินเข้าสู่กระแสเลือดและซึ่งเข้าสมองภายในเวลา 10 วินาที จึงทำให้เกิดอาการติดบุหรี่ขึ้น ทั้งนี้วัคซีนดังกล่าวจะช่วยป้องกันไม่ให้สารนิโคตินซึมเข้าสู่สมองได้ทำให้ลดอาการอยากบุหรี่ได้ในที่สุด เบื้องต้นคาดว่าจะเน้นใช้กับกลุ่มวัยรุ่นที่กำลังติดบุหรี่และกลุ่มที่เริ่มหยุดบุหรี่ได้แล้ว ขณะนี้ยังไม่มีการผลิตออกมาจำหน่าย เนื่องจากต้องพิสูจน์ให้ได้แน่ชัดว่าจะไม่มีผลข้างเคียงต่อร่างกายมนุษย์ เชื่อว่า 2-3 ปีจะทดลองเสร็จและผลิตเพื่อจำหน่ายได้ สำหรับสถิติการติดบุหรี่ในไทยพบว่า มีคนไทยติดบุหรี่ประมาณ 15-20% ของประชากรทั้งหมด หรือคิดเป็น 10 ล้านคนขึ้นไปที่ติดบุหรี่ โดยอัตราการสูบบุหรี่ของวัยรุ่นไทยมีสูงขึ้น โดยเฉพาะวัยรุ่นหญิงมีจำนวนการติดบุหรี่เพิ่มมากขึ้นกว่าเดิม ทั้งนี้สาเหตุมาจากปัญหาเดิมคือ ตามเพื่อน อยากทดลอง เป็นต้น ส่วนการเลิกบุหรี่นั้นพบมากในวัยกลางคนที่ทำงานแล้ว โดยการหยุดบุหรี่ส่วนมากนิยมใช้วิธีทานยาซึ่งพบว่าได้ผลมากกว่าการหยุดสูบด้วยตัวเองหรือการหักดิบ ซึ่งมีเพียง 3-5% ที่เลิกบุหรี่ได้ (สยามรัฐ จันทร์ที่ 31 พ.ค. 47 http://www.siamrath.co.th) โชคพฤกษาวิจัยเสริมธาตุอาหารในปุ๋ย รับเทคโนโลยีม.เกษตร สร้างผลิตภัณฑ์ใหม่คุณภาพสูง นายวินัย สิทธิจิรพงศ์ ฝ่ายการตลาดปุ๋ยอินทรีย์ โชคพฤกษา ซึ่งทำการผลิตและจำหน่ายปุ๋ยอินทรีย์ เปิดเผยว่า บริษัทได้รับการพิจารณาคัดเลือกจากสำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ ให้เข้าร่วมโครงการนวัตกรรมดี ไม่มีดอกเบี้ย โดยได้รับเงินสนับสนุนดอกเบี้ยเงินกู้ในวงเงินไม่เกิน 67,000 บาท จากวงเงินกู้ทั้งหมด 500,000 บาท เป็นระยะเวลา 3 ปี สำหรับใช้ในการปรับปรุงเครื่องจักรให้มีประสิทธิภาพ และดำเนินการวิจัยต่อยอดอุตสาหกรรมการผลิตปุ๋ยชนิดอัดเม็ดต่อไปในอนาคต โดยรับถ่ายทอดเทคโนโลยี ผลิตปุ๋ยอัดเม็ดจากนักวิจัย ม.เกษตรศาสตร์ มุ่งปรับปรุงกระบวนการผลิต ให้ปลอดภัยต่อแรงงาน พร้อมได้ผลิตภัณฑ์ใหม่ใช้แทนปุ๋ยผง ช่วยเกษตรกรใช้งานง่ายขึ้น สร้างปุ๋ยคุณภาพสูง โดยเสริมธาตุอาหารทางชีวภาพของพืช ควบคู่วิจัยแปรสภาพของเหลือใช้ จากภาคอุตสาหกรรมเกษตร เช่น ชานอ้อย เป็นวัตถุดิบปุ๋ยอินทรีย์ ด้วยการนำอินทรีย์วัตถุที่เหลือใช้ในงานอุตสาหกรรม อาทิ กากชานอ้อยจากโรงงานผลิตน้ำตาลทราย มาเป็นวัตถุดิบในการย่อยสลาย และเพิ่มแร่ธาตุที่สำคัญในดิน เพื่อให้ได้ปุ๋ยอินทรีย์ที่มีคุณภาพสูง โดยปราศจากการปรุงแต่ง และอัดเม็ดให้อยู่ในรูปแบบพกพา โดยอาศัยกรรมวิธีการนำปุ๋ยหมักที่ได้มาทำการฆ่าเชื้อก่อนเข้าเครื่องอัดเม็ด จากนั้นจึงนำมาผ่านความร้อนเพื่อรักษาความชื้นของปุ๋ยอินทรีย์ให้คงที่ พร้อมฆ่าเชื้อราที่ติดมากับอินทรียวัตถุ เทคโนโลยีในกระบวนการผลิตปุ๋ยอินทรีย์คุณภาพสูงชนิดอัดเม็ดนี้ จะช่วยให้ปุ๋ยอินทรีย์ที่ได้มีมาตรฐานเป็นที่ยอมรับของตลาด ทั้งยังช่วยให้สะดวกในการเคลื่อนย้ายและการขนส่ง เนื่องจากปริมาตรปุ๋ยมีขนาดน้อยลงในขณะที่มีน้ำหนักเท่าเดิม รวมถึงเป็นโครงการต้นแบบในการผลิตปุ๋ยอินทรีย์ชนิดอัดเม็ดที่มีคุณภาพให้แก่เกษตรกรที่สนใจในอนาคต (กรุงเทพธุรกิจ จันทร์ที่ 31 พ.ค. 47 http://www.bangkokbiznews.com) โทรศัพท์บ้านสำหรับคนหูหนวก อาจารย์เกียรติกุล เจียรนัยธนะกิจ จากสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบังได้นำเสนอโทรศัพท์บ้านสำหรับคนหูหนวก ซึ่งมีหน้าตาละม้ายคล้ายเครื่องแปลภาษาขนาดกะทัดรัด โทรศัพท์บ้านสำหรับคนหูหนวก ดัดแปลงมาจากเครื่องแปลภาษา ใช้การพิมพ์ข้อความส่งไป-กลับ แทนการพูดและฟัง ทำงานคล้ายการแชทหรือสนทนาออนไลน์ในเครื่องคอมพิวเตอร์ ซึ่งข้อความจะถูกแปลงให้อยู่ในรูปสัญญาณไฟฟ้า และส่งไปในสายโทรศัพท์ผ่านทางโมเด็ม เมื่อสัญญาณไปถึงผู้รับหรือคู่สนทนาปลายทางจะถูกแปลงกลับเป็นข้อความที่ถูกส่งจากต้นทาง พร้อมแสดงผลบนหน้าจอ ส่วนเครื่องโทรศัพท์ มีคุณสมบัติรองรับการส่งข้อความทั้งภาษาไทย-อังกฤษ มีไฟกะพริบเหมือนแฟลชกล้องถ่ายรูปเมื่อมีสัญญาณเรียกเข้า มีความเร็วในการส่งข้อความอยู่ที่ 900 บิต/วินาที แสดงผลได้ 4 บรรทัด บรรทัดละ 30 ตัวอักษร โดยอนาคตจะพัฒนาให้เป็นโทรศัพท์เคลื่อนที่ใช้งานในระบบ GSM รวมทั้งต่อเชื่อมเข้ากับโทรศัพท์สาธารณะได้ การใช้งาน ผู้ใช้ต้องเสียบสายโทรศัพท์บ้านเข้ากับโทรศัพท์สำหรับคนหูหนวก จากนั้นโทรฯ ไปยังปลายทางโดยกดหมายเลขที่อยู่บนเครื่อง หากเครื่องที่ปลายทางต่ออยู่กับสายโทรศัพท์ เครื่องที่ปลายทางจะส่งสัญญาณไฟกะพริบเพื่อแจ้งมีสายเรียกเข้า หลังจากนั้นจึงพิมพ์ข้อความเพื่อสนทนา การสื่อสารจะสำเร็จ ผู้ส่ง-ผู้รับ ต้องใช้โทรศัพท์บ้านสำหรับคนหูหนวกทั้ง 2 ฝ่าย ( เดลินิวส์ อังคารที่ 1 มิ.ย. 47 http://www.dailynews.co.th) พบเพิ่มยีนเสี่ยงมะเร็งเต้านม อเมริกัน เจอร์นัล ออฟ ฮิวแมน จีเนติกส์ รายงานผลการศึกษาผู้หญิงในอังกฤษ ออสเตรเลีย ฟินแลนด์ เยอรมนี และเนเธอร์แลนด์ จำนวน 20,000 คน พบว่าผู้ที่มียีน CHEK2 ที่ผิดปกติ เสี่ยงในการเป็นมะเร็งถึงสองเท่า นอกจากนี้ ยังระบุว่าผู้หญิงอังกฤษในสัดส่วน 1 ใน 9 คนมีโอกาสพัฒนาเป็นโรคมะเร็งเต้านม แต่หากตรวจพบว่ามียีน CHEK2 จะเพิ่มอัตราความเสี่ยงเป็น 1 ใน 4 แทน สำหรับยีนผิดปกติที่ก่อให้เกิดโรคมะเร็งและถูกระบุได้ในช่วงกลางทศวรรษ 1990 ได้แก่ BRACA1 และ BRACA2 ซึ่งยีนทั้งสองสามารถเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดมะเร็งเต้านมของผู้หญิงราว 50-80% และผู้หญิงสามารถเข้ารับการทดสอบทางยีน เพื่อตรวจดูว่าได้รับการถ่ายทอดยีนนี้ผ่านทางพันธุกรรมหรือไม่ อย่างไรก็ตาม งานวิจัยก่อนหน้านี้ชี้ให้เห็นว่าความผิดปกติของยีน CHEK2 มีความสัมพันธ์กับการพัฒนาไปเป็นมะเร็งเต้านมของผู้หญิง จะเห็นได้ว่ายีน CHEK2 ปกติจะทำหน้าที่ยับยั้งการทำงานของเซลล์ผิดปกติ พร้อมทั้งซ่อมแซมให้เป็นปกติดังเดิม ขณะที่ยีนที่ผิดปกติจะไม่สามารถปิดการทำงานของเซลล์ได้ ส่งผลให้ยีนอื่นๆ ที่ผิดปกติ สามารถหลบซ่อนกระบวนการซ่อมแซมของร่างกาย รวมทั้งจำลองตัวเองขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งนำไปสู่การเกิดภาวะเนื้องอกในท้ายที่สุด (กรุงเทพธุรกิจ อังคารที่ 1 มิ.ย. 47 http://www.bangkokbiznews.com) มจธ.สร้างหุ่นตรวจสายไฟ รับภาระงานอันตรายแทนคน ดร.ชิต เหล่าวัฒนา ผู้อำนวยการสถาบันวิทยาการหุ่นยนต์ภาคสนาม (ฟีโบ้) มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี (มจธ.) เปิดเผยว่า มหาวิทยาลัยอยู่ระหว่างทำวิจัยและพัฒนาร่วมกับการไฟฟ้านครหลวง (กฟน.) เพื่อสร้างหุ่นยนต์ตรวจสอบสายไฟฟ้า ที่วางพาดเสาไฟฟ้าอยู่ทั่วประเทศหลายหมื่นกิโลเมตร จึงจำเป็นต้องใช้หุ่นยนต์ตรวจหาสายไฟที่เสื่อมสภาพ แทนการใช้แรงงานคนเพื่อความปลอดภัย พร้อมทั้งลดความเสี่ยงจากงานที่มีอันตรายสูงด้วย หุ่นยนต์ดังกล่าวจะวิ่งไปตามสายไฟฟ้าด้วยความรวดเร็ว โดยมีชุดเซ็นเซอร์วัดประจุอิเล็กตรอน พร้อมกับรายงานจุดที่สงสัยว่าสายไฟฟ้าเสื่อมสภาพ หรือเสียหายหรือไม่ คาดว่าจะสร้างหุ่นยนต์ต้นแบบได้ภายใน 8 เดือนข้างหน้า ก่อนหน้านี้ ฟีโบ้ได้พัฒนาหุ่นยนต์หยิบเหล็กร้อน เพื่อใช้ในอุตสาหกรรมการผลิตเหล็กร้อนได้สำเร็จแล้ว โดยขณะนี้ ถูกใช้งานจริงในโรงงานอุตสาหกรรมมาแล้ว 3 ปี และล่าสุดได้ผลิตหุ่นยนต์หยิบยางพาราแท่งจากสายพานการผลิตได้สำเร็จ สามารถรองรับน้ำหนักยางพาราได้ถึงครั้งละ 40-50 กก. หุ่นยนต์ดังกล่าวมีต้นทุนการผลิตเพียง 4 ล้านบาท หากซื้อจากต่างประเทศต้องใช้เงินถึง 15 ล้านบาท ขณะนี้ หุ่นยนต์ถูกใช้งานในโรงงานผลิตยางพาราของบริษัท เซาท์แลนด์ จำกัด ดร.ชิต กล่าวอีกว่า หลักการนำหุ่นยนต์มาใช้ จะเน้นให้ทำงานที่หนักและอันตราย จนมนุษย์ไม่สามารถทำได้ หรือเป็นงานที่เพิ่มกำลังการผลิตได้มากกว่าการใช้แรงงานคน พร้อมทั้งระบุว่า หุ่นยนต์จะไม่ทำให้คนตกงานแน่นอน แต่จะทำให้คนมีเวลาว่างไปทำกิจกรรมอย่างอื่น หรืออยู่กับครอบครัวมากขึ้น ทั้งนี้ ปัจจุบันมีประชากรหุ่นยนต์ทั่วโลก 50 ล้านตัว โดยอยู่ในประเทศญี่ปุ่นมากที่สุดถึง 22 ล้านตัว และในสหรัฐอเมริกาอีก 7 ล้านตัว (กรุงเทพธุรกิจ อังคารที่ 1 มิ.ย. 47 http://www.bangkokbiznews.com) จุฬาฯ แปรรูปของเสียพิษเป็นหลังคาใส ช่วยลดภาระค่าบำบัดขยะอตร.แถมโรงงานได้สินค้าใหม่ น.ส.ดุจเดือน คงวรานนท์ ภาควิชาวิศวกรรมเคมี คณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เปิดเผยว่า บริษัท แอมเพิลไลท์ ไฟเบอร์กลาส จำกัด ผู้ผลิตแผ่นหลังคาโปร่งแสง ได้ติดต่อมายังภาควิชาวิศวกรรมเคมี เพื่อให้ศึกษาหาความเป็นไปได้ในการหาวิธีจัดการกับเศษหลังคาโปร่งแสง ที่เกิดขึ้นจากขั้นตอนการตัดขอบ เพื่อให้ได้รูปร่างตามต้องการ ซึ่งการบำบัดของเสียนี้ต้องจ้างบริษัทรับกำจัดของเสียที่เป็นพิษ การจะนำเศษหลังคาโปร่งแสงกลับมาใช้หมุนเวียนใหม่ โดยจะศึกษาการผสมเศษหลังคาที่ผ่านการบดลงในโพลิเอสเทอร์เรซินบริสุทธิ์ แล้วทำการทดสอบสมบัติทางกายภาพและทางกล เพื่อดูความแข็งแรง ทนทานและคุณสมบัติด้านกันฝน เศษหลังคาโปรงแสงมีส่วนผสมของเส้นใยไฟเบอร์กลาส ซึ่งผลิตจากโพลิเมอร์ชนิดที่ไม่สามารถหลอมเพื่อนำกลับใช้ใหม่ และสามารถก่ออันตรายต่อสุขภาพและสิ่งแวดล้อม ในการวิจัยได้ใช้วิธีบดย่อยเส้นใยแก้วให้เป็นผงละเอียดแทนการหลอม ซึ่งต้องใช้เวลากว่า 18 ชั่วโมง เพื่อให้เศษหลังคาโปร่งแสงกลายเป็นผงทั้งหมด ในอนุภาคที่มีขนาดต่ำกว่า 75 ไมโครเมตร ซึ่งเป็นขนาดที่เหมาะสมกับการนำไปใช้จริงในระดับอุตสาหกรรม จากนั้นนำไปทดสอบผสมอนุภาคผงเข้ากับเรซินตามสัดส่วนตั้งแต่ 15-40% พบว่า สัดส่วนที่เหมาะสมอยู่ที่ 40% เมื่อนำไปขึ้นรูปจะเห็นว่ามีค่าความแข็งแรงมากสุด แสดงว่ายิ่งเติมผงในปริมาณมากเท่าไรจะทำให้หลังคามีความแข็งมากขึ้น แต่ปัญหาที่พบคือกระบวนการกวนผสมทำได้ยากขึ้น ซึ่งจะต้องเติมสารช่วยผสมลงไปในขั้นตอนผลิต ขณะเดียวกัน อนุภาคที่มีส่วนผสมของเส้นใยแก้ว นอกจากจะช่วยเสริมแรงทำให้ชิ้นงานมีความแข็งเพิ่มขึ้นแล้ว แต่เส้นใยแก้วยังมีความเปราะสูงอีกด้วย ดังนั้น เมื่อมีอนุภาคของเส้นใยแก้วอยู่ในชิ้นงานมาก ความเปราะของชิ้นงานจึงมีค่าสูงขึ้น วัสดุมีความสามารถในการโค้งงอลดลง จึงต้องปรับปรุงโดยเติมสารเพิ่มค่าความเหนียวและความแกร่ง "โครงงานประสบความสำเร็จตามเป้าหมายคือ สามารถลดภาระค่าใช้จ่ายในการกำจัดของเสียอันตราย ด้วยการเพิ่มมูลค่าของเสียให้เป็นวัตถุดิบที่สามารถนำกลับมาใช้ใหม่ แต่เนื่องจากเทคโนโลยีการผลิตของโรงงานอยู่ภายใต้ลิขสิทธิ์ที่รับถ่ายทอดมา จึงมีข้อจำกัดที่ไม่สามารถปรับเปลี่ยนสูตรวัตถุดิบและเทคโนโลยีผลิต ทำให้โรงงานไม่สามารถนำโครงงานไปใช้ในการไลน์การผลิต อย่างไรก็ตาม บริษัทสามารถผลิตผลิตภัณฑ์ใหม่เป็นหลังคาโปร่งแสง ที่มีประสิทธิภาพและราคารองลงมาจากผลิตภัณฑ์เดิม เพื่อเจาะตลาดใหม่อีกระดับหนึ่ง" น.ส.ดุจเดือนกล่าว(กรุงเทพธุรกิจ อังคารที่ 1 มิ.ย. 47 http://www.bangkokbiznews.com) เครื่องนวดไฮเทคชะลอหน้าแก่ ช่วยเซลล์ใต้ผิวทำงานกระฉับกระเฉง ดร.ชุติมา เอี่ยมโชติชวลิต รักษาการผู้อำนวยการฝ่ายเทคโนโลยีวัสดุ สถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทย (วว.) กล่าวถึงนวัตกรรมใหม่ เครื่องนวดหน้าที่ส่งผ่านคลื่นอัลตราโซนิกส์ความถี่สูงประมาณ 1 เมกะเฮิรตซ์ไปยังใต้ผิวหนังบริเวณที่เครื่องสัมผัส จะทำให้โมเลกุลของน้ำเหลืองและเลือดสั่น ทำให้เลือดหมุนเวียนได้ดีกว่าปกติ มีผลให้เซลล์ใต้ผิวหนังทำงานได้ดีขึ้น ช่วยลดการอุดตันของสิ่งสกปรก และเมื่อใช้ร่วมกับครีมบำรุงผิวหน้าจะช่วยให้เนื้อครีมซึมสู่ผิวได้เร็วขึ้น เทคโนโลยีที่คิดขึ้นนี้ใช้คลื่นเสียงส่งไปยังใต้ผิวหนัง ช่วยให้เลือดหมุนเวียนได้ดี เซลล์ทำงานดีขึ้น ทำให้ใบหน้าชุ่มชื้นและอ่อนนุ่มขึ้น ทั้งยังสามารถนวดเพื่อลบรอยเหี่ยวย่นได้ด้วย เมื่อเทียบกับเครื่องนวดหน้าที่ระดับความสามารถเดียวกัน เครื่องอัลตราโซนิกส์นี้ราคาจะถูกกว่า อีกทั้งหัวนวด "เพียโซอิเล็กทริกทรานสดิวเซอร์" ที่ออกแบบขึ้นมา ยังมีระบบป้องการปล่อยคลื่นโดยที่ยังไม่เปิดใช้งาน ซึ่งมีผลต่ออายุการใช้งานของเครื่อง และในการใช้งานจะมีไฟสัญญาณเพื่อแสดงสถานะ เครื่องดังกล่าวนี้สามารถประยุกต์ทำเป็นเครื่องนวดสำหรับกายภาพบำบัด โดยใช้ความถี่ที่สูงขึ้นส่งไปใต้ผิวหนังได้ถึง 4 ซม. ช่วยนวดคลายกล้ามเนื้ออักเสบ เหมาะสำหรับผู้ป่วยอัมพฤกษ์ที่ต้องทำกายภาพบำบัด ขณะนี้กำลังทดสอบการใช้เครื่องที่โรงพยาบาลศิริราช (คมชัดลึก อังคารที่ 1 มิ.ย. 47 http://www.komchadluek.com) เครื่องตัดแผ่นเกี๊ยวผลงานนศ.ราชมงคล นางสาววรญา มาประชา นักศึกษาคณะวิศวกรรมและเทคโนโลยีการ เกษตร สถาบันเทคโนโลยีราช มงคล (ศูนย์กลาง) หนึ่งในกลุ่มนักวิจัย "การออก แบบและสร้างเครื่องตัดแผ่นเกี๊ยว" ที่ได้รับการสนับสนุนจาก โครงการทุนอุตสาหกรรมสำหรับนักศึกษาปริญญาตรี (IRPUS) จึงร่วมกันคิดและหาแนวทางแก้ปัญหาให้กับโรงงานผลิตบะหมี่เกี๊ยวแห่งหนึ่ง โดยออกแบบและสร้างเครื่องตัดแผ่นเกี๊ยวที่มีราคาประหยัดคุ้มทุนและใช้งานได้จริงในอุตสาหกรรมขนาดเล็ก ต้นแบบเป็นเครื่องตัดแผ่นเกี๊ยวแบบอาศัยแรงกด ซึ่งเป็นแรงสำคัญในการตัดและใช้หลักการของใบมีดหมุนเข้า สู่การตัดโดยใช้ระบบสาย พานลำเลียง ทั้งนี้ เครื่องตัดแผ่นเกี๊ยวต้นแบบจะประกอบ ด้วย ชุดใบมีดสเตนเลสทั้งหมด มีชุดเพลาเชื่อมติดกับใบมีด โดยจะใช้ตลับลูกปืนเป็นตัวยึดกับเพลาและชุดเขียงซึ่งทำด้วย สเตนเลสหุ้มยาง PVC สีขาวโดยมีแกนที่ทำจากสเตนเลสพลาสติก นอกจากนี้ยังมีสายพานลำเลียงที่ใช้สำหรับผลิตภัณฑ์ประเภทอาหารโดยเฉพาะและชุดเฟืองโซ่ที่เป็นตัวยึดติดกับเพลา จากการทดสอบประสิทธิภาพเครื่องตัดแผ่นเกี๊ยวโดยเฉลี่ยในเวลา 1 นาทีจะได้แผ่นเกี๊ยวจำนวน 380 แผ่น มุมในการตัดแผ่นเกี๊ยวที่เหมาะสมที่สุดคือ 30 องศา ความ เร็วรอบของใบมีดที่เหมาะสมคือ 24 รอบต่อนาที และในการทำงาน 1 วันหากใช้เวลาประมาณ 8 ชั่วโมงจะสามารถผลิตแผ่นเกี๊ยวได้ประมาณ 156,090 แผ่นเทียบเท่าน้ำหนัก 560 กิโลกรัม ซึ่งจะช่วยลดปัญหาด้านแรงงานและสุขลักษณะในการผลิตอาหารประเภทนี้ยิ่งขึ้น เครื่องต้นแบบดังกล่าว สามารถนำไปพัฒนาใช้ร่วมกับชุดรับแผ่นเกี๊ยว ชุดโรยแป้งกันติด และควรมีอินเวอร์เตอร์เป็นตัวควบคุมความเร็วจะทำให้สะดวกกับการทำงานเพิ่มขึ้น (สยามรัฐ อังคารที่ 1 มิ.ย. 47 http://www.siamrath.co.th) หุ่นยนต์...กับชีวิตที่เปลี่ยนไป ผลงานของนักวิจัยจากมหาวิทยาลัย Toronto ประเทศแคนาดา ได้การประยุกต์นำหุ่นยนต์มาใช้ในพิพิธภัณฑ์ หุ่นยนต์ที่ถูกนำมาใช้เป็นหุ่นยนต์ที่สามารถพูดได้ โดยสามารถให้คำแนะนำหรือบอกทางแก่นักท่องเที่ยวที่เข้ามาเยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์ผ่านลำโพง 4 ตัวที่กระจายเสียงรอบทิศทาง นอกจากนี้แล้วยังสามารถเคลื่อนที่ได้โดยมีหนวด เปรียบเสมือนเป็นเซ็นเซอร์คอยนำทางหากว่าเจอสิ่งกีดขวางเจ้าหุ่นยนต์ตัวนี้ก็สามารถหลบหลีกได้ด้วยตัวมันเอง แต่ที่ไม่เหมือนกับหุ่นยนต์ทั่วไปก็คือระบบนำทางหรือ Navigation System ของเจ้าหุ่นยนต์ตัวนี้ที่อาศัยเสียงพูดของมันเองในการนำทางตัวมันเอง ฟังแล้วอาจจะ ดูงง ๆ แต่อธิบายได้ดังนี้ก็คือไมโครโฟนตัว เล็ก ๆ หลายร้อยตัวจะถูกนำไปติดตั้งตามตำแหน่งต่าง ๆ รอบ ๆ พิพิธภัณฑ์ ซึ่งลำโพงเหล่านี้เองที่จะเป็นกุญแจสำคัญของระบบนำ ทางของหุ่นยนต์ กล่าวคือลำโพงจะรับเสียงหุ่นยนต์แล้วส่งข้อมูลไปยังคอมพิวเตอร์ที่มีบรรจุข้อมูลแผนที่ของพิพิธภัณฑ์ไว้โดยที่ลำโพงแต่ละตัวเปรียบเสมือนเซ็นเซอร์ที่สามารถระบุตำแหน่งได้ว่าหุ่นยนต์กำลังอยู่ ณ จุดใด หลังจากนั้นคอมพิวเตอร์ก็จะคอยสั่งการหุ่นยนต์ว่าจะเคลื่อนที่ไปทิศทางไหนต่อไปด้วยข้อมูลแผนที่ที่มีอยู่นั่นเอง คาดว่าอีกไม่เกินสองปีนี้เทคโนโลยีนี้ก็จะสามารถนำมาใช้งานจริง ๆ ได้ โดยอาจจะเพิ่มความสามารถให้หุ่นยนต์สามารถตอบคำถามนักท่องเที่ยวได้ด้วย นอกเหนือไปจากนั้นแล้วเรายังสามารถนำหุ่นยนต์นี้ไปใช้กับงานที่เสี่ยงอันตรายอย่างเช่นการกู้ภัยตึกถล่มหรือในที่ที่มีสารเคมีอันตรายรั่วไหลอยู่ (สยามรัฐ อังคารที่ 1 มิ.ย. 47 http://www.siamrath.co.th) ศูนย์รวมเชื้อเห็ด แหล่งรวมเห็ด นานาชาติ นายสัญชัย ตันตยาภรณ์ รองอธิบดีกรมวิชาการเกษตร บอกมาว่า ทางกรมวิชาการเกษตรได้จัดตั้งศูนย์รวบรวมเชื้อ พันธุ์เห็ดแห่งประเทศไทยขึ้น เพื่อใช้เป็นแหล่งรวบรวมและเก็บรักษาสายพันธุ์เห็ดชนิดต่าง ๆ ทั้งสายพันธุ์ไทย และสายพันธุ์ที่นำเข้าจากต่างประเทศ ตลอดจนสายพันธุ์ที่ผ่านการคัดเลือกมาแล้ว ไม่ให้สูญหายหรือเปลี่ยนแปลงไปจากเดิมโดยเฉพาะลักษณะทางพันธุกรรม ซึ่งศูนย์ฯสามารถรวบรวมเชื้อพันธุ์เห็ดได้แล้วกว่า 16 ชนิด จำนวน 750-800 สายพันธุ์ ปัจจุบันศูนย์ฯมีเชื้อเห็ดจำหน่ายไม่น้อยกว่า 15 ชนิด 40 สายพันธุ์ โดยสายพันธุ์ซึ่งเป็นที่ต้องการของตลาด ได้แก่ เห็ดหอม เห็ดภูฏาน เห็ดฟาง เห็ดฮังการี เห็ดนางรม เห็ดเป๋าฮื้อ เห็ดหลินจือ เห็ดเข็มเงิน เห็ดเข็มทอง เห็ดแชมปิญอง เห็ดหูหนู และเห็ดยานางิ ในปี 2547 ศูนย์ฯ ตั้งเป้าผลิตเชื้อพันธุ์เห็ดจำนวน 6,000-8,500 ขวด เพื่อจำหน่ายให้กับเกษตรกร และขณะนี้ศูนย์ฯได้เตรียมแนะนำเห็ดฟางสายพันธุ์ใหม่อีก 4 สายพันธุ์ ซึ่งให้ผลผลิตสูง มีศักยภาพพอที่จะผลิตในเชิงพาณิชย์ ช่วงที่ผ่านมาศูนย์ฯ ได้ศึกษาวิจัย และทดสอบเชื้อพันธุ์เห็ด จนกระทั่งได้กลุ่มเชื้อพันธุ์เห็ดฟางไม่น้อยกว่า 4 สายพันธุ์ เห็ดสกุลนางรม 3 สายพันธุ์ที่มีประสิทธิภาพสูง เหมาะสำหรับผลิตเป็นการค้า อีกทั้งยังมีการศึกษาวิจัยวิธีการเก็บรักษา เพื่อการนำออกมาใช้เป็นเชื้อบริการที่มีความบริสุทธิ์ แข็งแรง และตรงตามสายพันธุ์ และได้ศึกษาวิธีการเก็บรักษาเชื้อเห็ดให้มีชีวิตยาวนานกว่า 10 ปี โดยรักษาไว้ในถังไนโตรเจนเหลวที่อุณหภูมิ -180 องศาเซลเซียส และระยะสั้น 3-5 ปี โดยเก็บไว้ในน้ำกลั่นนึ่งฆ่าเชื้อ หรือเก็บไว้ชั่วคราวบนอาหารแข็ง เช่น เห็ดฟาง เห็ดหลินจือ และเห็ดสกุลนางรม พร้อมกับดำเนินการตรวจสอบเชื้อพันธุ์เห็ดโดยวิธีการทางชีวโมเลกุล เพื่อพิสูจน์พันธุ์เห็ดและสายพันธุ์เห็ดในกลุ่มเห็ดหูหนู เห็ดฟาง และสกุลนางรม ซึ่งเห็ดดังกล่าวสามารถใช้เป็นเชื้อขยายเพื่อจำหน่ายให้แก่เกษตรกรได้ (สยามรัฐ อังคารที่ 1 มิ.ย. 47 http://www.siamrath.co.th) มก.ผลิตมะนาวผงสำเร็จ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ โดยภาควิชาเทคโนโลยีชีวภาพ คณะอุตสาหกรรมเกษตร ได้ดำเนินการโครงการถ่ายทอดผลงานวิจัย ในการแปรรูปน้ำมะนาวสดให้เก็บรักษาให้นานขึ้น ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2543-2547 โดยใช้งบประมาณในการวิจัย 1 ล้านบาท จนได้ผลิตภัณฑ์มะนาวผงที่มีคุณภาพดี มีรสเปรี้ยวและสีตามความต้องการของผู้บริโภค และได้ทำการทดสอบตลาดกับร้านจำหน่ายน้ำมะนาวสดและผู้บริโภคกว่า 400 ราย รวมทั้งทดลองตลาดในร้านอาหารไทยในอเมริกา ยุโรป และญี่ปุ่น ซึ่งสามารถใช้แทนน้ำมะนาวสดได้เป็นอย่างดี มะนาวผงสามารถเติมน้ำได้ 3.5 เท่า จะคืนรูปเป็นน้ำมะนาวและละลายในน้ำอุ่นหรือน้ำร้อนได้ดี โดยได้ทำการทดสอบ ผลมะนาวในระดับอุตสาหกรรม โดยใช้เครื่องทำแห้งแบบพ่นย่อยผลิตมะนาวได้ 1 ตัน บรรจุในถุงอะลูมิเนียมย่อยภายในสภาวะ สุญญากาศ ถุงละ 500 กรัม สามารถเก็บรักษาไว้ที่อุณหภูมิห้องไม่เกิน 30 องศาเซลเซียส ได้นานถึง 6 เดือน โดยยังคงอยู่ในสภาพดี หากเก็บรักษาในห้องเย็นจะเก็บได้นาน 1 ปี สนใจต้องการข้อมูลเพิ่มเติมติดต่อสอบถามโดยตรงได้ที่ ภาควิชาเทคโนโลยีชีวภาพคณะอุตสาหกรรมเกษตร มหาวิทยาลัย เกษตรศาสตร์ โทร. 0-2562-5074 (สยามรัฐ อังคารที่ 1 มิ.ย. 47 http://www.siamrath.co.th) โลกจะไม่มีคนหัวหงอกอีกวันหน้าคิดยาเม็ดใช้กินป้องกันเอาไว้ได้ รายงานข่าวแจ้งว่า นักวิจัยของสถาบันผลิตเครื่องสำอางแห่งหนึ่งในอังกฤษ ได้ประสบความก้าวหน้าในการคิดหายาป้องกันผมหงอกครั้งสำคัญ โดยได้พบว่าสาเหตุที่ผมของคนเราหงอก ไม่ใช่เพราะเหตุว่าเซลล์สีผมตาย ลง หากแต่มันเกิดขัดข้องขึ้น ทั้งๆ ที่ยังมีอายุอยู่ต่อไปได้อีกนาน หัวหน้านักวิจัย ดร.บรูโน เบอนาร์ด กล่าวแสดงความหวังว่า จะสามารถปลุกเซลล์สีเหล่านี้ ให้กลับทำหน้าที่ได้ใหม่อีก และเชื่อมั่นว่าจะสามารถคิดยาเม็ดหรือครีมป้องกันผมหงอก ออกจำหน่ายในตลาดได้แน่ ภายในระยะเวลา 5-10 ปีข้างหน้านี้ (ไทยรัฐ พุธที่ 2 มิ.ย. 47 http://www.thairath.co.th) จับปลิงทะเลทำยารักษามะเร็งมีสารทดลองรักษาเนื้อร้ายได้ผล นักวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยฟิลิปปินส์-ลอส บาโนซานจะเอาปลิงทะเล มาใช้ทำยารักษาโรคมะเร็ง ได้ศึกษาพบว่าปลิงทะเล สัตว์ตัวยาวที่ตัวเป็นเมือกลื่น อาจจะใช้เป็นยารักษาโรคเนื้อร้ายและยังอาจจะรักษาโรคร้าย อันเนื่องจากภูมิคุ้มกันไม่สมประกอบอื่นๆ เช่น โรคเอดส์อีกด้วย โดยพบว่า สารเลคตินที่สกัดจากปลิงทะเลที่มีสีน้ำตาล ได้แสดงให้เห็นว่า รักษามะเร็งกล้ามเนื้อในหนูทดลอง และมะเร็งปอดของคนไข้จากการทดลองได้ผล นักวิจัยกล่าวแจ้งว่า นอกจากจะแสดงว่าเลคตินอาจใช้รักษาพวกโรคมะเร็งแล้วยังได้พิสูจน์ว่า มีผลในการบำบัดรักษาโรคเอดส์ และใช้เป็นเครื่องบอกพยากรณ์โรคของเนื้อร้ายด้วย พวกเขายังได้อ้างว่า ชาวจีนรู้จักกินปลิง ทะเลมาตั้งแต่สมัยโบราณแล้ว ทั้งยังใช้เป็นยากินรักษาโรคต่างๆ อย่างเช่น โรคความดันโลหิตสูง เป็นต้น (ไทยรัฐ พุธที่ 2 มิ.ย. 47 http://www.thairath.co.th) ม.เชฟฟิลด์พัฒนาผ้าชีวภาพ เพาะเซลล์แปะแผลเรื้อรัง บริษัท เซลล์ทราน ร่วมกับมหาวิทยาลัยเชฟฟิลด์ในอังกฤษ ภายใต้การสนับสนุนงบประมาณจากสภาวิจัยวิทยาศาสตร์กายภาพและวิศวกรรม พัฒนาผ้าพันแผลชีวภาพ ซึ่งใช้ตัวอย่างเนื้อเยื่อของผู้ป่วย และนำมาเพาะเลี้ยงในห้องทดลอง จากนั้นนำเซลล์ไปวางไว้บนเยื่อที่ทำจากโพลิเมอร์ที่ใช้ในทางการแพทย์ โดยเซลล์จะเริ่มปกคลุมเนื้อเยื่อดังกล่าว เมื่อนำไปแปะทับบนแผล เซลล์ผิวหนังจะสามารถยึดติดผ้าพันแผลชีวภาพนี้ได้ และเนื่องจากเซลล์ที่ใช้ผลิตผ้าพันแผลได้มาจากตัวผู้ป่วยเอง จึงไม่เกิดภาวะปฏิเสธสิ่งแปลกปลอมจากระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย อีกทั้งยังสามารถเติบโตปิดทับแผลได้โดยง่าย แต่แผลเรื้อรังที่อยู่ในขั้นร้ายแรงอาจต้องใช้เวลาหลายสัปดาห์กว่าที่เซลล์จะฟื้นตัวได้ จากการทดสอบพบว่า ผ้าพันแผลชีวภาพใช้เวลาโดยเฉลี่ยเพียง 8 สัปดาห์ จะสามารถรักษาแผลที่หายยากให้ดูดีขึ้นมาได้ ขณะนี้ คณะทำงานกำลังทดลองทางคลินิกอยู่ โดยนำไปทดลองใช้กับผู้ป่วยแผลเรื้อรังหลายลักษณะ ทั้งเบาหวานและแผลไฟไหม้ (กรุงเทพธุรกิจ พุธที่ 2 มิ.ย. 47 http://www.bangkokbiznews.com) เชียงใหม่ส่งรถแดงร่วมทดสอบไบโอดีเซล ก.พลังงานผุดโรงงานที่สันกำแพง ใช้วัตถุดิบน้ำมันทอดแค็ปหมู กรมพัฒนาพลังงานทดแทนฯ ใช้งบ 17 ล้านบาทมอบให้ทางกรมอู่ทหารเรือ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ดำเนินการในการติดตั้งโรงงานผลิตขึ้นที่อำเภอสันกำแพง จ.เชียงใหม่ สร้างโรงงานผลิตน้ำมันไบโอดีเซล โดยจะใช้น้ำมันพืชและน้ำมันทอดแค็ปหมูที่เหลือใช้เป็นวัตถุดิบสำหรับใช้ในโครงการ พร้อมคัดเลือกสี่ล้อแดง 20 คันเข้ากรุงเพื่อตรวจเช็คสภาพ ก่อนนำร่องทดลองใช้แทนดีเซลพร้อมแท็กซี่กรุงเทพฯ หลังจากคณะรัฐมนตรี มีมติเมื่อวันที่ 18 พ.ค.2547 ที่ผ่านมา เสนอให้มีการเปิดสถานีบริการน้ำมันไบโอดีเซล ซึ่งจะนำร่องใช้กับรถสาธารณะ เช่น แท็กซี่ รถรับจ้าง พร้อมกับการเริ่มทดลองใช้ในกรุงเทพฯ เป็นแห่งแรก เนื่องจากรัฐบาลต้องการที่จะทดลองศึกษาเพื่อแก้ปัญหาน้ำมันราคาแพง โดยจะควบคู่กับโครงการส่งเสริมการผลิตน้ำมันไบโอดีเซล เพื่อนำมาใช้ทดแทนน้ำมันดีเซลเดิม กรมพัฒนาพลังงานทดแทนกำลังอยู่ระหว่างติดต่อกับหลายหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อขออนุญาตในการทดลองใช้น้ำมันไบโอดีเซล เช่น ติดต่อกับทางกรมสรรพสามิตให้ช่วยยกเว้นภาษี และไม่ต้องส่งเข้ากองทุนพลังงานเพื่อที่จะสามารถลดต้นทุนในการทดลองให้น้อยที่สุด " สำหรับน้ำมันไบโอดีเซล คือ เชื้อเพลิงที่ผลิตมาจากน้ำมันพืชหรือไขมันสัตว์ เป็นเชื้อเพลิงที่สะอาด สามารถใช้แทนน้ำมันดีเซลโดยไม่ต้องดัดแปลงเครื่องยนต์ โดยผสมน้ำมันพืชหรือไขมันสัตว์กับแอลกอฮอล์ที่อุณหภูมิและสภาวะที่เหมาะสม ทั้งนี้การใช้ไบโอดีเซลจะช่วยลดมลภาวะทางอากาศได้อย่างมาก เพราะไบโอดีเซลไม่มีส่วนผสมของกำมะถัน หรือซัลเฟอร์และมาจากส่วนของพืชหรือสัตว์ ซึ่งจะช่วยลดภาวะของเรือนกระจก รวมทั้งยังมีประสิทธิภาพกับเครื่องยนต์ใกล้เคียงกับน้ำมันดีเซลมาก สามารถเป็นน้ำมันเชื้อเพลิงทดแทนน้ำมันดีเซล (กรุงเทพธุรกิจ พุธที่ 2 มิ.ย. 47 http://www.bangkokbiznews.com) เสนอให้ห้ามนักฟุตบอลโหม่งลูกหัวชนกัน สมองพังเท่ากับชนกำแพง แพทย์ประสาทจิตวิทยาผู้มีชื่อเสียงของออสเตรเลีย หมอร็อด มาร์คาม ได้เสนอให้สหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ ออกกฎห้ามนักฟุตบอลโหม่งลูกอีกต่อไป เนื่องจากมีหลักฐานอันน่าเชื่อถืออย่างยิ่งว่า เป็นเหตุให้สมองเป็นอันตราย เขาได้ศึกษารายงานการศึกษาจากทั่วโลก ได้ข้อสรุปว่า การโหม่งลูกฟุตบอลที่ทำมาเป็นระยะเวลานานๆ เป็นอันตรายกับคอและสมอง ตั้งแต่ขนาดเบาไปถึงหนัก ความรุนแรงของความเสียหายมาก ขึ้นอยู่กับความถี่ของการโหม่ง ความแข็งแรงของศีรษะ ตลอดจนขนาด ความแรงและความแข็งของลูก ไปจนถึงมุมกระทบกับลูก หมอร็อดระบุว่า "อันตรายที่สุดจะเกิดขึ้นเมื่อหัวกระแทกกับคนอื่นหรือไม่ก็กับเสาประตู ซึ่งได้พบว่าทำให้เกิดแรงกระแทกกับสมอง แรงพอๆกับหัวกระแทกกำแพงคอนกรีตทีเดียว แต่ถึงแม้จะโหม่งลูกฟุบอล หากทำไปนานๆ ความเสียหายที่เกิดจากแรงกระแทกขนาดเบาเหล่านี้ ก็อาจะสะสมเพิ่มพูนขึ้นได้" (ไทยรัฐ พฤหัสบดีที่ 3 มิ.ย. 47 http://www.thairath.co.th) ติดระบบกังหันคู่ปั่นไฟฟ้าป้อนโรงงาน ชูจุดเด่นโพรเพนจุดเดือดต่ำแทนไอน้ำ เดเนียล สติงเกอร์ วิศวกรกังหัน และฟาร็อก เมียน วิศวกรปิโตรเลียมแหลม ออกแบบระบบผลิตกระแสไฟฟ้ารูปแบบใหม่ นำความร้อนจากปล่องโรงงาน มาเปลี่ยนเป็นพลังงานไฟฟ้า หวังลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ และมลพิษทำลายชั้นบรรยากาศ แถมกำลังการผลิตไฟฟ้า ให้โรงผลิตไฟฟ้าได้มากเกือบเท่าตัว เขา เปิดเผยว่า กุญแจสำคัญของระบบนี้ อยู่ที่การใช้ไอระเหยของก๊าซโพรเพน หมุนใบพัดเพื่อปั่นเครื่องผลิตกระแสไฟฟ้า วิธีดังกล่าวทำให้สามารถใช้ความร้อนเหลือทิ้งอุณหภูมิต่ำมาหมุนกังหันปั่นไฟฟ้าได้ จากเดิมที่ต้องใช้ไอน้ำความร้อนสูง การใช้ไอน้ำเพื่อไปปั่นเครื่องกำเนิดไฟฟ้านั้น จะต้องใช้แรงดันอากาศเพื่อเพิ่มอุณหภูมิของไอน้ำให้สูงถึงระดับ 650 องศาเซลเซียส เพราะถ้าต่ำกว่า 450 องศาเซลเซียส กระบวนการผลิตไฟฟ้าจะไม่มีประสิทธิภาพ ความร้อนที่ออกมาจึงเสียเปล่าไปยังชั้นบรรยากาศ สาเหตุดังกล่าวเป็นปัจจัยหลักที่ทำให้การผลิตไฟฟ้าของโรงผลิตไฟฟ้าที่ใช้แหล่งพลังงานจากฟอสซิล อย่างเช่น ก๊าซธรรมชาติ น้ำมัน และถ่านหิน สามารถใช้ประสิทธิภาพเพียง 35% ของกำลังการผลิตรวมเท่านั้น การนำโพรเพนมาใช้หมุนกังหันให้กับเครื่องผลิตไฟฟ้าจึงเหมาะสมกว่ามาก เนื่องจากโพรเพนมีจุดเดือดต่ำ หมายความว่า ก๊าซตัวนี้สามารถระเหยเป็นไอได้ที่ระดับอุณหภูมิต่ำกว่าน้ำ นอกจากนี้ โพรเพนยังสามารถเก็บความร้อนไว้ได้แม้จะพุ่งผ่านกังหันไปแล้วก็ตาม ทำให้ต้องระบายความร้อนที่เหลือทิ้งไป ซึ่งเมื่อเทียบกับประสิทธิภาพที่เพิ่มขึ้นเพียงเล็กน้อยในการผลิตกระแสไฟฟ้าแล้วถือว่าไม่คุ้มกับการลงทุน นักประดิษฐ์ทั้งสองคนจึงคิดที่จะนำเอาความร้อนที่เหลือกลับมาใช้ประโยชน์ ด้วยการติดตั้งกังหันตัวที่สอง โดยใช้ความร้อนของไอโพรเพนที่เหลือจากหมุนกังหันตัวแรกแล้วมาหมุนกังหันของเครื่องผลิตกระแสไฟฟ้าตัวที่สองอีกที (กรุงเทพธุรกิจ พฤหัสบดีที่ 3 มิ.ย. 47 http://www.bangkokbiznews.com) เปิดตัวหมึกพิมพ์อัจฉริยะเพื่อสิ่งทอไทย เนื้อละเอียดยิบ สื่อจินตนาการสมจริงลงบนเนื้อผ้า สมาคมการพิมพ์สกรีนไทย เสนอหมึกพิมพ์นาโนสามารถปรับสภาพเนื้อสีได้ตามอุณหภูมิในการใช้งาน เหมาะสำหรับพิมพ์สกรีนลงบนเนื้อผ้าหลายชนิด เนื้อสีที่สามารถปรับคุณสมบัติได้ตามสภาวะอุณหภูมิทำให้สามารถถ่ายทอดจินตนาการของดีไซเนอร์ ลงบนเนื้อผ้าได้เหมือนกับภาพพิมพ์กระดาษ และยังสามารถประยุกต์ใช้พิมพ์ลงบนแจกัน เครื่องชามเบญจรงค์ นายวิเชียร จิระกรานนท์ รองนายกฝ่ายวิชาการ สมาคมการพิมพ์สกรีนไทย กล่าวถึงคุณสมบัติของหมึกพิมพ์ชนิดใหม่นี้ว่ามีความละเอียดของเนื้อสีขนาดต่ำกว่า 10 ไมครอน หรือ 100 นาโนเมตร ความละเอียดของหมึกดังกล่าวทำให้สามารถนำมาใช้พิมพ์ลงบนเนื้อผ้าได้หลายประเภท อาทิ ผ้าฝ้ายผสมโพลีเอสเตอร์ ผ้าไนลอน ซาติน ยีนส์ ฯลฯ เนื้อที่มีขนาดเล็กเกือบเท่ากับอะตอมนี้ช่วยให้แม่พิมพ์สกรีนไม่เกิดการอุดตันขณะใช้งาน เทคโนโลยีด้านหมึกพิมพ์ชนิดใหม่จะช่วยให้ผู้ผลิตสิ่งทอหันมาใช้หมึกที่เรียกว่า "พลาสติซอล" กันมากขึ้น และขยายตัวอย่างรวดเร็ว จากเดิมที่เทคนิคพิมพ์สกรีนจำกัดอยู่บนวัสดุพลาสติก แผ่นป้ายโฆษณาและบรรจุภัณฑ์ต่างๆ เพื่อสร้างมูลค่าให้สินค้า คุณสมบัติสำคัญของหมึกพิมพ์พลาสติซอล คือ ความสามารถในการเปลี่ยนสภาพของเรซิน ซึ่งเป็นส่วนประกอบของเนื้อสีได้ตามระดับอุณหภูมิของหมึกพิมพ์ที่เปลี่ยนไป เช่น เมื่อหมึกพิมพ์มีอุณหภูมิ 21 องศา ซึ่งเป็นสภาพปกติในการพิมพ์ หมึกจะเกาะตัวเป็นก้อน แต่ถ้าอุณหภูมิสูงขึ้นเป็น 49 องศา เนื้อสีจะมีความหนืดต่ำที่สุด ซึ่งเหมาะสำหรับใช้ในการพิมพ์สกรีน และเมื่ออุณหภูมิของหมึกเพิ่มขึ้นเป็น 115 องศาเซลเซียส สภาพของหมึกพิมพ์จะมีลักษณะเป็นเจล ซึ่งสามารถพิมพ์หมึกสีทับบนเนื้อหมึกที่พิมพ์รองพื้นอยู่ก่อนได้เลย โดยหมึกจะไม่เกาะติดใต้แม่พิมพ์สกรีน สมาคมร่วมกับบริษัท รี้ด เทรดเด็กซ์ จะจัดอบรมเผยแพร่นวัตกรรมหมึกพิมพ์พลาสติซอลในงานจีเอฟที 2004 ระหว่างวันที่ 24-27 มิ.ย.ณ ไบเทค บางนา นอกจากนี้ ผู้ประกอบการเอสเอ็มอีสามารถประยุกต์ใช้กับการผลิตสินค้าโอท็อป อาทิ แจกัน กระเบื้อง เครื่องเบญจรงค์ วัตถุประสงค์เพื่อเพิ่มช่องทางให้กับผู้ประกอบการด้านการพิมพ์สกรีน และผู้ประกอบการด้านอุตสาหกรรมเครื่องนุ่งห่ม พร้อมทั้งร่วมผลักดันไทยสู่กรุงเทพฯเมืองแฟชั่น (กรุงเทพธุรกิจ พฤหัสบดีที่ 3 มิ.ย. 47 http://www.bangkokbiznews.com) ปั้นเซลล์เป็นผ้าพันแผล รักษาแผลเรื้อรังชะงัด นักวิจัยอังกฤษร่วมมือกับบริษัทเอกชนพัฒนาผ้าพันแผลชีวภาพ ดึงเซลล์ผู้ป่วยมาเพาะเลี้ยงจากนั้นนำไปปิดทับแผลเรื้อรัง เผยเป็นประโยชน์อย่างมากสำหรับผู้ป่วยเบาหวานที่มีปัญหาแผลเรื้อรังตลอดเวลา มั่นใจสามารถรักษาแผลให้หายได้เร็วกว่าวิธีรักษาแบบดั้งเดิม บริษัท เซลล์ทราน ร่วมกับมหาวิทยาลัยเชฟฟิลด์ในอังกฤษ ภายใต้การสนับสนุนงบประมาณจากสภาวิจัยวิทยาศาสตร์กายภาพและวิศวกรรม พัฒนาผ้าพันแผลชีวภาพ ซึ่งใช้ตัวอย่างเนื้อเยื่อเพียงเล็กน้อยที่เอามาจากตัวผู้ป่วย และนำมาเพาะเลี้ยงในห้องทดลอง จากนั้นก็นำเซลล์ไปวางไว้บนเยื่อที่ทำจากโพลิเมอร์ที่ใช้ในทางการแพทย์ โดยเซลล์จะเริ่มปกคลุมเนื้อเยื่อดังกล่าว เมื่อนำไปแปะทับบนแผล เซลล์ผิวหนังก็จะสามารถยึดติดผ้าพันแผลชีวภาพนี้ได้ และเนื่องจากเซลล์ที่ใช้ผลิตผ้าพันแผลได้มาจากตัวผู้ป่วยเอง จึงไม่เกิดภาวะปฏิเสธสิ่งแปลกปลอมจากระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย อีกทั้งยังสามารถเติบโตปิดทับแผลได้โดยง่าย แต่แผลเรื้อรังที่อยู่ในขั้นร้ายแรงอาจต้องใช้เวลาหลายสัปดาห์กว่าที่เซลล์จะฟื้นตัวได้ จากการทดสอบพบว่า ผ้าพันแผลชีวภาพใช้เวลาโดยเฉลี่ยเพียง 8 สัปดาห์ จะสามารถรักษาแผลที่หายยากให้ดูดีขึ้นมาได้ ขณะนี้คณะทำงานกำลังทดลองทางคลินิกอยู่ โดยนำไปทดลองใช้กับผู้ป่วยแผลเรื้อรังหลายลักษณะ ทั้งเบาหวานและแผลไฟไหม้ (คมชัดลึก พฤหัสบดีที่ 3 มิ.ย. 47 http://www.komchadluek.com) จุฬาฯจี้รัฐคุมวัคซีน"หวัดนก" หวั่นทำเชื้อร้ายกลายพันธุ์คนสู่คน จุฬาฯได้ทุนถอดรหัสพันธุกรรมไข้หวัดนก พบเชื้อในไทยคนละพันธุ์กับฮ่องกง แต่ใกล้เคียง H5N1 มากที่สุด เผยพัฒนาการจากสัตว์ปีกสู่แมวไปถึงเสือข้ามมาคนเร็วกว่าที่คิด หวั่นเชื้อร้ายกลายพันธุ์จากคนสู่คน หากยอมให้มีการใช้ "วัคซีน" ในสัตว์ปีกโดยปราศจากการควบคุมที่ดีพออันตรายที่สุด หลายฝ่ายไม่สนับสนุน หวั่นวัคซีนเถื่อนระบาดไปทั่วประเทศแล้ว ผู้สื่อข่าว "ประชาชาติธุรกิจ" รายงานการสัมมนาวิชาการปศุสัตว์ครั้งที่ 19 ซึ่งจัดโดยกรมปศุสัตว์เมื่อเร็วๆ นี้ โดยผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.สันนิภา สุรทัตต์ นักวิชาการภูมิคุ้มกัน ภาควิชาจุลชีววิทยา คณะสัตวแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้กล่าวในหัวข้อ "ข้อควรคำนึงถึงก่อนการใช้วัคซีนไข้หวัดนก" ว่า หลังเกิดการแพร่ระบาดของโรคไข้หวัดนก ทางจุฬาฯได้ทุนฉุกเฉินให้ทำการถอดรหัสพันธุกรรมของเชื้อที่เกิดขึ้นอย่างละเอียด เพื่อศึกษาจัดลำดับวิเคราะห์ในเชิงลึกเปรียบเทียบกับเชื้อไข้หวัดนกที่เกิดขึ้นในต่างประเทศ หาต้นตระกูลแหล่งที่มาจะได้หาทางแก้ไขและสามารถใช้พยากรณ์ความรุนแรงของโรคไข้หวัดนกได้ โดยผลการวิจัยช่วง 5 เดือนที่ผ่านมา สรุปได้ว่า เชื้อไข้หวัดนกชนิดที่พบในประเทศไทยเพิ่งมีการค้นพบครั้งแรกในโลกเมื่อปี 2543-2544 โดยเชื่อว่า ต้นตระกูลที่ใกล้ชิดที่สุดน่าจะเป็นเชื้อ H5N1 ที่ได้จากเป็ดในประเทศจีน ซึ่งเพิ่งมีการแยกเชื้อได้เมื่อปี 2546 แต่คนละพันธุกรรมกับเชื้อไข้หวัดนกที่เกิดในฮ่องกงเมื่อปี 2540 และสิ่งที่น่ากลัวคือ จะเห็นได้ว่า ระยะเวลาเพียง 1 ปี เชื้อไข้หวัดนกจากเป็ดกระโดดข้ามเข้ามายังตัวไก่-แมว-เสือ และมีการพัฒนาการจากไก่เข้ามาสู่คน ซึ่งถือว่าเชื้อไข้หวัดนกตัวนี้พัฒนามาได้ไกลมากที่เดียว ถ้าเทียบกับช่วงเวลา 4-5 ปีที่ใช้เวลาพัฒนามา ดังนั้น การข้ามสายพันธุ์เป็นสิ่งที่ต่างประเทศกลัวกันมากเพราะค่อยๆ มีการพัฒนาจากสัตว์มาสู่คน แต่ถ้าเชื้อนั้นพัฒนาจากคนติดคนได้เมื่อไร จะกลายเป็นความสูญเสียของทั้งโลก ไม่ใช่เฉพาะกลุ่มใครคนใดคนหนึ่ง (ประชาชาติธุรกิจ พฤหัสบดีที่ 3 มิ.ย. 47 http://www.matichon.co.th/prachachat) กินช็อกโกแลตขยายหลอดเลือดต้องระวังขยายขนาดเข็มขัดด้วย นักวิจัยรายงานการค้นพบในวารสารของคณะโภชนาการมหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนียกล่าวว่า ช็อกโกแลตอุดมด้วยสารฟลาโวนอยด์ อันเป็นตัวล้างพิษ มีคุณประโยชน์ช่วยป้องกันเลือดข้น และแก้หลอดเลือดอักเสบ จะทำให้หลอดเลือดตีบตัน อันเป็นต้นเหตุของโรคหัวใจ โรคสมองขาดเลือดและอีกหลายโรคที่เกิดจากเลือดลมเดินติดขัด รายงานระบุว่า ชั่วได้กินช็อกโกแลตประจำวันละ 2-3 แว่น จะช่วยให้หลอดเลือดขยายขึ้น ซึ่งช่วยให้เลือดไหลเวียนดีขึ้น ในการทดลองกับอาสาสมัคร โดยแจกช็อกโกแลตให้กินเป็นปริมาณวันละ 46 กรัม นานครึ่งเดือน ปรากฏว่าพวกเขาต่างมีหลอดเลือดขยายโตขึ้นอีกมากระหว่าง 10.2-11.5% พร้อมกันนั้น โฆษกของมูลนิธิโรคหัวใจของอังกฤษได้กล่าวเตือนว่า ในขณะที่มีผลการวิจัยออกมาว่า ช็อกโกแลตมีส่วนในการป้องกันโรคหัวใจ แต่ในยุคที่กำลังมีโรคอ้วนคุกคามอย่างหนักอยู่เวลานี้ ก็ควรระวังไว้ด้วยว่า การกินช็อกโกแลตก็มีข้อเสียอยู่เหมือนกัน เพราะมันให้พลังงานสูงใน 100 กรัม มีอยู่สูงถึง 500 แคลอรี "เราไม่ได้ห้ามกิน ใครๆก็ชอบกันทั้งนั้น แต่มันก็ยังมีหนทางบำรุงหลอดเลือดทางอื่นอยู่ อย่างเช่น การกินผักผลไม้ต่างๆ วันละไม่ต่ำกว่า 5 มื้อเอาไว้" (ไทยรัฐ ศุกร์ที่ 4 มิ.ย. 47 http://www.thairath.co.th) เปียโนกระดาษให้เสียงสมจริง สำนักข่าวเอพีรายงานว่า บริษัทเอสซีเอ ซึ่งเป็นผู้ผลิตบรรจุภัณฑ์ในสวีเดน และเป็นผู้ริเริ่มพัฒนาเปียโนกระดาษ บอกว่าแม้จะทำจากกระดาษแข็งแต่คุณภาพเสียงที่ได้เกือบเหมือนจริงทุกประการ โดยเปียโนดังกล่าวอาจยังไม่มีวางจำหน่ายในร้านขายเครื่องดนตรีในขณะนี้ เนื่องจากบรรดานักวิจัยกำลังเร่งมือสร้างต้นแบบออกมา และอยู่ในช่วงของการทดสอบ อัลฟ์ คาร์ลสัน หัวหน้าฝ่ายวิจัยและพัฒนาของบริษัท อธิบายหลักการทำงานของเปียโนเบาหวิวนี้ว่า ใช้วงจรรวม (ไอซี) ที่อัดลงในกระดาษแข็งแทนแผงวงจรหรือชิพทั่วไป พัฒนามาจากเทคโนโลยีที่บริษัทใช้สร้างผลิตภัณฑ์กระดาษเปลี่ยนสี และป้ายความถี่วิทยุ (อาร์เอฟ) ที่ใช้ในการควบคุมสินค้าในสต็อก เปียโนกระดาษแข็งมีทั้งหมด 88 คีย์ หลังจากกดลงไปบนคีย์แล้ว วงจรภายในจะส่งสัญญาณไปยังลำโพงภายนอก เพื่อเล่นเสียงออกมา (กรุงเทพธุรกิจ ศุกร์ที่ 4 มิ.ย. 47 http://www.bangkokbiznews.com) มช.สร้างหุ่นเนื้อเยื่อช่วยเอกซเรย์ปลอดภัย ประสาน สกว.วิจัยต่อยอดสร้างอุปกรณ์การแพทย์ฝีมือคนไทย น.ส.อัญชณา ทวีทวากร ร่วมกับน.ส.อุมาพร เป็งกาสิทธิ์ นักศึกษาคณะเทคนิคการแพทย์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ จัดทำโครงงานเรื่อง "การออกแบบการผลิตและประเมินหุ่นจำลองสมมูลเนื้อเยื่อส่วนทรวงอก ส่วนท้องและช่องเชิงกราน สำหรับงานถ่ายภาพรังสี" เพื่อลดความเสี่ยงให้กับบุคลากรและผู้ป่วยได้รับรังสีจากการเอกซเรย์น้อยที่สุด โดยได้รับทุนสนับสนุนส่วนหนึ่งจากสำนักงานโครงการ IPUS ภายใต้การสนับสนุนของฝ่ายอุตสาหกรรม สำนักงานกองทุนสนับสนุนการวิจัย (สกว.) โดยมีผศ.ดร.อุทุมมา มัฆะเนมี อาจารย์ที่ปรึกษา ขณะนี้หุ่นต้นแบบถูกนำไปใช้ในการทดลองรังสีที่โรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่ และปลายเดือนมิ.ย.นี้ จะส่งไปให้ทางโรงพยาบาลนครพิงค์ยืมไปใช้ในการศึกษา และใช้งานในการทดลองถ่ายภาพรังสี พร้อมกันนี้ได้ติดต่อ สกว.พื่อให้นักศึกษาได้มาวิจัยให้มีความสมบูรณ์แบบยิ่งขึ้น โดยเฉพาะการผลิตเป็นหุ่นสมมูลเนื้อเยื่อแบบเต็มตัว ที่สามารถเคลื่อนไหวเหมือนคนปกติทั่วไป รศ.ดร.ขวัญชัย รัตนเสถียร อาจารย์ประจำภาควิชาเคมีเทคนิค คณะเทคนิคการแพทย์ ม.เชียงใหม่ กล่าวว่า ขณะนี้กำลังมีการทดลองเพื่อให้หุ่นสมบูรณ์ยิ่งขึ้น และเป็นประโยชน์ในการศึกษาต่อไป พร้อมกันนี้อาจจะมีการจดสิทธิบัตร และพัฒนาให้ไปถึงขั้นที่สามารถผลิตเพื่อจำหน่ายเป็นอุปกรณ์ทางการแพทย์ตัวใหม่จากฝีมือคนไทย และมอบผลประโยชน์ให้กับทางมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ต่อไป จากการทดสอบหลังการผลิตหุ่นจำลองสมมูลเนื้อเยื่อ พบว่า ค่าความเป็นสมมูลเนื้อเยื่อที่ผลิตขึ้นเมื่อเปรียบเทียบกับภาพรังสีของผู้ป่วย ไม่มีความแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญ แสดงว่าหุ่นจำลองสมมูลเนื้อเยื่อที่ผลิตขึ้น สามารถนำไปใช้ในการทดสอบ เพื่อสร้างตารางเทคนิคสำหรับการถ่ายภาพรังสีทรวงอก ส่วนท้องและช่องเชิงกรานได้ การทดลองผลิตหุ่นจำลองสมมูลเนื้อเยื่อดังกล่าว ใช้งบประมาณเพียง 50,000 บาท ขณะที่ปัจจุบันนี้หุ่นสมมูลเนื้อเยื่อมีราคาสูงถึง 1 ล้านบาท และยังต้องสั่งซื้อจากต่าง ประเทศ (กรุงเทพธุรกิจ ศุกร์ที่ 4 มิ.ย. 47 http://www.bangkokbiznews.com) ข่าวทั่วไป จีนอวดเทคโนโลยีระดับสูง สำนักข่าวรอยเตอร์ รายงานว่า ในงานแสดงสินค้าไอที หรือ เทคโนโลยีระดับสูง ที่กรุงปักกิ่ง ได้รับความสนใจมีผู้เข้าชมเป็นจำนวนมาก โดยสินค้าที่นำมาจัดแสดงได้แก่ เครื่องเล่นเอ็มพี3 รุ่นใหม่ แล็ปท็อป และเครื่องบินขนาดเล็ก ที่เศรษฐีจีนรุ่นใหม่นิยมซื้อไว้ใช้เดินทางส่วนตัว รายงานข่าวระบุว่า ภายหลังประเทศจีน ปฏิรูปเศรษฐกิจเมื่อราว 20 ปีที่ผ่านมา ส่งผลให้สินค้าไอทีกลายเป็นสินค้าหลักที่ทำรายได้เข้าประเทศ เนื่องจากผู้ประกอบการในประเทศได้รับการสนับสนุนเป็นอย่างดี และมีนักลงทุนจากต่างชาติเข้าไปลงทุนเป็นจำนวนมาก โดยปีที่แล้วจีนมีรายได้จากสินค้าไอทีทั้งหมด 331.3 พันล้านเหรียญสหรัฐ หรือโตขึ้นถึง 30.8 เปอร์เซ็นต์ (เดลินิวส์ จันทร์ที่ 31 พ.ค. 47 http://www.dailynews.co.th) 'เพาะเห็ดฟางในตะกร้าพลาสติก' นวัตกรรมใหม่ของการเพาะเห็ด อ.สำเนาว์ ฤทธิ์นุช อาจารย์จากวิทยาลัยเกษตรและเทคโนโลยีชัยนาท อ.มโนรมย์ จ.ชัยนาท 17170 จึงได้ประยุกต์วิธีการเพาะเห็ดแบบกองเตี้ยและ เพาะแบบโรงเรือนมาเพาะในตะกร้าพลาสติกได้ผลดี, ลงทุนน้อย, ผลผลิตสูงและปลอดภัยต่อผู้เพาะ ขั้นตอนในการเพาะนำขี้เลื่อยใส่ลงไปในตะกร้าให้มีความหนาประมาณ 2 นิ้ว ใช้ไม้กดหรือใส่รองเท้าบู๊ตย่ำ ใส่อาหารเสริม เช่น ผักตบชวาสับโรยรอบ ๆ ให้ติดขอบตะกร้ากว้างประมาณ 2-3 นิ้วหนาประมาณ 1 นิ้ว (ข้อควรระวังอย่าโรย อาหารเสริมหนาเกินไปจะทำให้เน่าเสียได้) นำเชื้อเห็ดฟางมาคลุกเคล้ากับแป้งสาลีในชาม คลุกให้แป้งพอติดกับผิวนอกของเชื้อเห็ด ทำการแบ่งเชื้อเห็ดออกเป็น 3 ส่วนเท่า ๆ กัน ส่วนที่ 1 โรยบนผักตบชวาโรยเป็นจุด ๆ ให้ห่างกันประมาณ 1 นิ้ว หลังจากนั้นนำขี้เลื่อยทำแบบชั้นที่ 1 ทำเหมือนกันจนครบ 3 ชั้น แต่ส่วนบนสุดของชั้นที่ 3 ให้โรยผักตบชวาให้เต็มหน้าให้หนาประมาณ 1 นิ้ว โรยเชื้อเห็ดให้เต็มหน้าแล้วทับด้วยขี้เลื่อยให้หนา 1 นิ้ว รดน้ำประมาณ 1-2 ลิตรต่อตะกร้า หลังจากนั้นนำตะกร้าเห็ดเข้าในกระโจมที่สร้างด้วยโครงเหล็ก ใน 1 กระโจมจะเรียงตะกร้าได้ 40 ใบ คลุมกระโจมด้วยพลาสติกให้มิดชิด ในช่วง 1-4 วันแรกควรควบคุมอุณหภูมิภายในกระโจมให้อยู่ในระดับ 37-40 องศาเซลเซียส เย็นวันที่ 4 หรือเช้าวันที่ 5 เริ่มเปิดพลาสติกคลุมออกประมาณ 2 ชั่วโมง ถ้าเห็นตะกร้าแห้งควรรดน้ำพอชุ่ม จะเริ่มเก็บเห็ดได้ภายใน 8-10 วันหลังจากเริ่มเพาะ นับเป็นอีกอาชีพหนึ่งที่ทำรายได้เร็วมาก การเพาะเห็ดฟางในตะกร้าพลาสติกใช้เนื้อที่น้อยและสะดวกมาก นอกจากจะปลอดภัยจากสารเคมีทุกชนิดแล้ว รสชาติเห็ดจะกรอบแข็งและหวานและเก็บรักษาได้นานวัน ผู้สนใจคู่มือ "การเพาะเห็ดฟางในตะกร้าพลาสติก" ให้เขียนจดหมายสอดแสตมป์ 15 บาท ส่งมาขอได้ที่ ชมรมเผยแพร่ความรู้ทางการเกษตร เลขที่ 2/200 ถนนศรีมาลา ต.ในเมือง อ.เมือง จ.พิจิตร 66000 (เดลินิวส์ จันทร์ที่ 31 พ.ค. 47 http://www.dailynews.co.th) ระบุบุหรี่เป็นภัยต่อร่างกายทั้งตัวทำอันตราย อวัยวะทุกอย่างได้หมด นายแพทย์ใหญ่ของสหรัฐฯ ดร.ริชาร์ด คาร์โมนา กล่าวในรายงานภัยของบุหรี่ฉบับใหม่ว่า รายงานได้ระบุว่า บุหรี่เป็นตัวการทำให้เกิดโรคต่างๆ ได้มาก ตั้งแต่ ต้อกระจก มะเร็งโลหิต มดลูก ไต ม้ามและกระเพาะอาหาร ถ้าหากพูดกันตรงๆ แล้ว การสูบบุหรี่จะเป็นโทษกับอวัยวะทุกอย่างได้หมด สำหรับคนอเมริกันต้องสังเวยชีวิตให้กับบุหรี่ปีหนึ่งๆ มากถึง 440,000 คน ผู้ชายที่ปากคาบบุหรี่ จะอายุสั้นกว่าเพื่อนคนที่ไม่ได้สูบเฉลี่ยแล้ว 13.2 ปี ส่วนสตรีก็จะอายุ สั้นลงกว่ากันเฉลี่ยแล้วถึง 14 ปี 6 เดือน (ไทยรัฐ จันทร์ที่ 31 พ.ค. 47 http://www.thairath.co.th) ทายาทโตชิบา เดินตามรอยแม่!คว้ารางวัลสตรีนักธุรกิจดีเด่นโลก เป็นคนที่ 6 ของไทย นักธุรกิจหญิงเก่งของไทย กอบกาญจน์ วัฒนวรางกูร รองประธานกลุ่มบริษัทโตชิบา ประเทศไทย ได้รับรางวัล "สตรีนักธุรกิจดีเด่นโลก" (The Leading Women Enterpreneurs of the World) ประจำปี 2547 ร่วมกับสตรีนักธุรกิจ จากทั่วโลกอีก 12 คน โดยเข้ารับ รางวัลเกียรติยศดังกล่าว ที่นครซิดนีย์ ประเทศออสเตรเลีย พร้อม ดร.สุณี ศรีอรทัยกุล ประธานกลุ่มบริษัทบิวตี้เจมส์ ซึ่งคว้ารางวัลเดียวกันนี้ เมื่อปีที่ผ่านมา แต่เกิดอาการป่วยกะทันหันจึงต้องเดินทาง มารับรางวัลในปีนี้ และทั้งคู่ได้มีโอกาสร่วมทำกิจกรรม แลกเปลี่ยนทรรศนะกับเหล่าสตรีนักธุรกิจ ทั้งที่เคยได้รับรางวัลในอดีต ซึ่งมีทั้งการกำหนดแนวนโยบายธุรกิจในอนาคต การปาฐกถาพิเศษจากนักธุรกิจสตรีที่ประสบความสำเร็จ รวมทั้งการอภิปรายในหลากหลายหัวข้อ (ไทยรัฐ จันทร์ที่ 31 พ.ค. 47 http://www.thairath.co.th) โรคอ้วนคุกคามพึ่งมีดหมอมากขึ้นให้ผ่าตัด แก้กระเพาะอาหารคราก แพทย์ผู้เชี่ยวชาญโรคอ้วน ดร.มาร์ติน ไฟรด์ ของแผนกรักษาโรคอ้วน ที่นครปราก กล่าวว่า คนส่วนใหญ่อาจจะลดน้ำหนักด้วยการออกกำลัง กินให้น้อยลง หรือแม้กระทั่งด้วยการใช้ยาลงได้ แต่คนอ้วนจริงๆ วิธีการเหล่านั้นก็ยังไม่พอ ต้องอาศัยมีดผ่าตัดของหมอกันมากขึ้น โดยเฉพาะตามชาติยุโรปต่างๆ มีการทำผ่าตัดแก้ความอ้วน ปีหนึ่งๆ ไม่ต่ำกว่า 50,000 ราย ซึ่งในสหรัฐฯอาจจะสูงยิ่งกว่านี้มาก คนอ้วนมากในสหรัฐฯ จะนิยมกันผ่าตัดทำบายพาสกระเพาะมากที่สุด รองจากการใช้แถบซิลิกอนรัดไว้เหนือกระเพาะ เพื่อให้ กระเพาะเล็กแคบลง วิธีทางศัลยกรรมเหล่านี้ กล่าวกันว่าได้ผลมากระหว่าง 70-75% โดยเฉลี่ยคนอ้วนที่ได้รับการผ่าตัด น้ำหนักจะลดลงได้มากถึง 40 กก. ในช่วงระยะเวลาแค่ปีครึ่ง (ไทยรัฐ อังคารที่ 1 มิ.ย. 47 http://www.thairath.co.th) "อนุรักษ์" ของบเพิ่ม 73 ล. ฟื้นภูมิปัญญาท้องถิ่น นายอนุรักษ์ จุรีมาศ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม เปิดเผยภายหลังการประชุมผู้บริหารระดับสูงกระทรวงวัฒนธรรม เมื่อเร็วๆ นี้ว่า ในที่ประชุมได้สรุปยอดเงินงบประมาณของกระทรวงวัฒนธรรมประจำปี 2548 เพื่อดำเนินงานตามยุทธศาสตร์ของกระทรวง 4 ด้าน คือ 1.รักษาสืบทอดวัฒนธรรมของชาติและความหลากหลายของวัฒนธรรมท้องถิ่นให้คงอยู่อย่างมั่นคง 2.สร้างค่านิยม จิตสำนึกและภูมิปัญญาไทย 3.นำทุนทางวัฒนธรรมของประเทศมาสร้างคุณค่าทางสังคมและเพิ่มมูลค่าทางเศรษฐกิจ 4.การบริหารจัดการองค์ความรู้ด้านศาสนา ศิลปวัฒนธรรม โดยแบ่งเป็นงบตามกรอบวงเงินประมาณ 2,452 ล้านบาท งบกองทุนวัฒนธรรม 22 ล้านบาท นอกจากนี้ยังมีงบประมาณนอกกรอบวงเงินที่ตนได้ทำเรื่องเสนอขอเพิ่มจากสำนักงบประมาณอีก 73 ล้านบาท รวมทั้งสิ้นประมาณ 2,547 ล้านบาท ในปีงบประมาณ 2548 ยังได้มีการพิจารณาเพิ่มค่าตอบแทนแต่ละเดือนให้ศิลปินแห่งชาติเพิ่มจากคนละ 8,000 บาท เป็น 12,000 บาท ถือเป็นค่าตอบแทนถาวรจะไม่มีการปรับลดลงกว่านี้ ส่วนการคัดสรรศิลปินแห่งชาติประจำปี 2547 จะมีการเพิ่มจำนวนศิลปินแห่งชาติจากเดิม 4 คน จาก 4 สาขา เป็น 9 คนจาก 4 สาขาเหมือนเดิม ประกอบด้วย สาขาทัศนศิลป์ ศิลปะการแสดง วรรณศิลป์ ศิลปะและสถาปัตยกรรม (คมชัดลึก อังคารที่ 1 มิ.ย. 47 http://www.komchadluek.com) สถานีรถไฟฟ้าใต้ดินเครื่องพีซีทีได้ นายอติรุฒม์ โตทวีแสนสุข กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัทเอเชีย ไวร์เลส คอมมิวเคชั่น จำกัด หรือ AWC เปิดเผยว่า ทรูได้พัฒนาระบบการสื่อสารภายในรถไฟฟ้าใต้ดิน หรือ ทรู ไวร์เลส ซึ่งจะเป็นอุปกรณ์การสื่อสารรายแรกที่สามารถใช้ได้ทุกสถานีรถไฟฟ้าใต้ดิน โดยทรู ได้เลือกใช้ พีซีที เป็นเทคโนโลยีนำร่อง เนื่องจากเป็นเทคโนโลยีต้นแบบที่มีจุดกำเนิดจากการให้บริการภายในสถานีรถไฟฟ้าใต้ดินในประเทศญี่ปุ่น สำหรับจุดเด่นของพีซีทีอยู่ที่ความเร็ว ในการติดตั้ง และยังเพิ่มสถานีเครือข่ายได้ อย่างรวดเร็ว ให้บริการได้ทั้งเสียงและข้อมูล ความเร็ว 32 กิโลบิตต่อวินาที ขณะนี้ติดตั้ง แล้วทั้ง 18 สถานี ซึ่งจากการทดลองใช้งานที่ผ่านมาพบว่า เป็นที่น่าพอใจ สามารถใช้งานได้ทุกสถานี บริการพีซีทีภายในสถานีรถไฟฟ้าใต้ดินจะเปิดให้บริการพร้อมกับรถไฟฟ้ามหานคร สายเฉลิมรัช (สยามรัฐ อังคารที่ 1 มิ.ย. 47 http://www.siamrath.co.th) ฮือฮาไทยค้นพบหอยกาบพันธุ์ใหม่ที่เขื่อนแควน้อย นายสิทธิ บุณยรัตผลิน อธิบดีกรมประมง เปิดแถลงข่าว กรณีกรมประมงร่วมกับภาควิชาชีววิทยา คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ค้นพบหอยน้ำจืดพันธุ์ใหม่ของโลกในแม่น้ำแควน้อย จ.พิษณุโลก ซึ่งอธิบดีกรมประมงได้ตั้งชื่อหอยพันธุ์ใหม่ ตามรูปร่างลักษณะและแหล่งที่ตรวจพบว่า ไซเลนไนอะ แควน้อยเอนซีส (Solenaia khwaenoiensis Panha and Deein ,2004) พบโดย ดร.กฤษฎา ดีอินทร์ นักวิชาการจากกรมประมง ร่วมกับ ดร.สมศักดิ์ ปัญหา จากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ซึ่งได้เผยแพร่ในระดับนานาชาติในวารสาร The Natural History Journal of Chulalongkorn University ปีที่ 3 ฉบับที่ 2 ด้วย ได้ศึกษาค้นคว้าพร้อมกับส่งตัวอย่างไปตรวจสอบยังสถาบันวิชาการต่างประเทศทำให้มั่นใจว่า เป็นหอยพันธุ์ใหม่ที่ยังไม่มีการค้นพบที่ใดในโลก อธิบดีกรมประมง กล่าวอีกว่า การค้นพบครั้งนี้เป็นความสำเร็จในการบูรณาการทำงานร่วมกันระหว่างนักวิชาการและภาครัฐซึ่งทางกรมจะเข้าไปขยายพันธุ์เพื่อเพาะเลี้ยง หากพบว่าคุ้มทุนจะสนับสนุนให้เกษตรกรเพาะเลี้ยงในเชิงพาณิชย์ต่อไป ด้าน ดร.กฤษฎา กล่าวว่า หอยที่ค้นพบเป็นหอยกาบชนิดหนึ่งชาวบ้านเรียก หอยเสียมสามารถนำมาบริโภคได้ รสชาติอร่อยหวานกว่าหอยกาบน้ำจืดทั่วไป เพราะเนื้อเหนียวนุ่ม ซึ่งจะอาศัยฝังตัวติดอยู่ตามดินดานใต้น้ำลึกกว่า 10 เมตร แพร่กระจายไม่เกิน 4 กิโลเมตร อยู่เป็น กลุ่ม ๆ ละไม่เกิน 5 ตัว อย่างไรก็ตาม การก่อสร้างเขื่อนแควน้อยจะไม่ ส่งผลกระทบต่อระบบนิเวศของหอยชนิดนี้เเต่อย่างใด (สยามรัฐ อังคารที่ 1 มิ.ย. 47 http://www.siamrath.co.th) ศูนย์นวดสัมผัสทารกแห่งแรก บริษัท จอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน (ไทย) จำกัด ริเริ่มโครงการ "จอห์นสัน เบบี้ ทัช : สัมผัสรักจากแม่" มาตั้งแต่ปี 2525 และมีการเผยแพร่วิธีนวดสัมผัสทารกอย่างต่อเนื่องมาโดยตลอดเพื่อช่วยพัฒนาการทักษะและพัฒนาการ ด้านต่าง ๆ ของลูกน้อย เป็นที่สนใจของคุณพ่อคุณแม่อย่างมาก ล่าสุดบริษัท จอห์น สันฯ จึงร่วมกับ รพ.เซนต์ หลุยส์ เปิดศูนย์นวดสัม ผัสทารกจอห์นสันเบบี้ โรงพยาบาลเซนต์หลุยส์ (Johnson’s Baby Massage Center, Saint Louis Hospital) แห่งแรกของประเทศไทยและภูมิภาคเอเชียขึ้น เพื่อฝึกสอนหลักนวดสัมผัสที่ถูกต้องให้กับคุณพ่อคุณแม่ที่มีลูกน้อยตั้งแต่แรกเกิด-3 ขวบ โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย รศ.วิไล เลิศธรรมเทวี อาจารย์ประจำภาควิชาการพยาบาลกุมารเวชศาสตร์ คณะพยาบาลศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล ผู้เชี่ยวชาญการนวด สัมผัส กล่าวว่า การนวดสัมผัสทารกไม่เพียงแต่จะช่วยสร้างความรักความผูกพันระหว่างพ่อแม่ลูก ยังส่งเสริมพัฒนาการของลูกน้อยด้วยทั้งร่างกายและจิตใจ ทำให้กล้ามเนื้อผ่อนคลาย การหมุนเวียนโลหิตดี พ่อแม่ได้ใกล้ชิดลูก ฯลฯ การนวดเป็นกิจกรรมที่ช่วยให้พ่อแม่เลี้ยงลูกได้ง่ายขึ้น ไม่มีท่านวดตายตัวเพียงแต่ถ้าได้ฝึกตามท่า 14 ท่าจะ เป็นการเพิ่มประสิทธิภาพในการนวดได้มากขึ้น ที่ศูนย์ฯ มีพยาบาลและเจ้าหน้าที่ให้คำแนะนำและฝึกสอนให้ครั้งละ 10 คู่ (คู่แม่-ลูกหรือคู่พ่อ-ลูก) (เดลินิวส์ พุธที่ 3 มิ.ย. 47 http://www.dailynews.co.th) พบสาหร่ายอบแห้งจีนปนเปื้อนแคดเมียม รายงานข่าวจากสถาบันอาหารแจ้งว่า การตรวจสอบสาหร่ายอบแห้งของสถาบันอาหารเป็นส่วนหนึ่งของการสุ่มตรวจคุณภาพอาหาร โดยสถาบันเก็บตัวอย่างสาหร่ายทะเลอบแห้งที่วางขายตามห้างร้านทั่วไป 5 ตัวอย่าง มีทั้งที่มียี่ห้อและไม่มียี่ห้อ เป็นสารหร่ายทะเลแห้ง 3 ยี่ห้อ และนำมาวิเคราะห์วันที่ 14-23 มกราคม 2547 พบว่ามีสารแคดเมียมปนอยู่เกินมาตรฐาน โดยสาหร่ายทะเลแห้งพบสารแคดเมียม 0.52 มิลลิกรัมต่อกิโลกรัม(ก.ก.), 1.25 มิลลิกรัม/ก.ก. และ 3.35 มิลลิกรัม/ก.ก. นอกจากนี้ยังตรวจพบว่าสาหร่ายทะเลแห้งที่นำเข้าจากจีน ที่สุ่มตัวอย่างมา 2 ชนิด พบว่ามีสารแคดเมียม 0.63 มิลลิกรัม/ก.ก. และ 1.16 มิลลิกรัม/ก.ก. และสาหร่ายทะเลปรุงรส พบสารแคดเมียม 1.76 มิลลิกรัม/ก.ก. จากปกติที่อนุญาตให้มีสารปนเปื้อนในใบผักได้ไม่เกิน 0.2 มิลลกรัม/ก.ก. สารแคดเมียมในอาหาร หากได้รับในปริมาณที่ต่ำจะไปสะสมในไต แต่ถ้าได้รับในปริมาณมากจะไหลเวียนไปยังตับและสะสมในตับ อาการเฉียบพลันที่จะพบคือคลื่นไส้ อาเจียน ปวดท้อง เป็นตะคริวที่ท้อง และมีอาการท้องร่วงอย่างแรง นอกจากนี้แคดเมียมจะรบกวนระบบหมุนเวียนและดูดซึมของวิตามินบี แคลเซียม และคอลลาเจน มีผลทำให้เกิดโรคกระดูกพรุน กระดูกน่วม และเป็นพิษต่อกระดูกทำให้กระดูกกร่อน (มติชนรายวัน 2 มิ.ย. 47 http://www.matichon.co.th) วธ.ก้าวไกลเล็งจัดเรตสิ่งพิมพ์ทุกชนิด นายวีระศักดิ์ โควสุรัตน์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงวัฒนธรรม (วธ.) เปิดเผยว่า ขณะนี้กระทรวงวัฒนธรรมและกระทรวงมหาดไทยกำลังอยู่ระหว่างเตรียมการเพื่อจัดประชุมเรื่อง "จับอย่างไรก็ไม่หมด สื่อลามกจะจบลงที่ไหน และศีล กับเซ็กซ์ ไปด้วยกันได้หรือไม่" เพื่อหาแนวทางแก้ปัญหาสื่อลามก โดยจะเชิญหน่วยงานหลายฝ่ายที่เกี่ยวข้อง เช่น กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารมาร่วมเพื่อแสดงความคิดเห็นในการจัดระบบโซนนิ่งของการนำสื่อลามกที่ขายในลักษณะผิดกฎหมาย เช่น หนังสือ วิดีโอ หรืออุปกรณ์ลามก มาทำให้ถูกกฎหมายและให้มีการควบคุมจากภาครัฐเหมือนกับประเทศญี่ปุ่นที่มีการจัดระบบโซนนิ่งเรื่องดังกล่าวอย่างชัดเจนซึ่งจะทำให้การดูแลง่ายขึ้น โดยจะมีการกำหนดพื้นที่และระดับของสินค้า รวมทั้งมีการกำหนดเวลาในการเปิดจำหน่ายที่เหมาะสม ทั้งนี้การประชุมดังกล่าวจะจัดในวันที่ 16 มิถุนายน ที่ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย นอกจากนี้ตนจะนำเสนอให้มีการจัดระบบเรตสีกับสื่อสิ่งพิมพ์ทุกชนิด โดยจะมีการแบ่งเป็น 10 เรตสี เพื่อแสดงว่าเนื้อหาข้างในของสื่อสิ่งพิมพ์ให้ประโยชน์กับผู้บริโภคมากน้อยแค่ไหน โดยแต่ละเรตสีจะเป็นตัวบ่งบอกให้เกิดการเฝ้าระวังทางวัฒนธรรมได้ด้วย สำหรับความคืบหน้าในเรื่องเว็บไซต์ลามกนั้น ขณะนี้พบว่าไม่ได้มีแค่เว็บไซต์ลามกที่สอนการร่วมเพศอย่างเดียวแล้ว เพราะจากการตรวจสอบและศูนย์เฝ้าระวังทางวัฒนธรรมที่ส่งข้อมูลมาให้พบว่า ยังมีเว็บไซต์อันตรายอีกมากมาย อาทิ เว็บไซต์ล้างสมองหรือเว็บไซต์ซาดิสต์ที่มีการสอนวิธีแอนตี้ครอบครัวตัวเองหรือสอนการมีเพศสัมพันธ์ในครอบครัว เป็นต้น (เดลินิวส์ พฤหัสบดีที่ 3 มิ.ย. 47 http://www.dailynews.co.th) ใช้EMกับห้องน้ำ ดับกลิ่นน้ำทิ้งมีค่า แนวคิดทหารไทย ที่กองกำลังสุรนารี จ.สุรินทร์ ในสถานที่แห่งนี้ต้นไม้ทุกต้นจะได้รับการบำรุงด้วยปุ๋ยอินทรีย์สูตรน้ำ EM ขณะเดียวกันในระบบของการจัดการก็เป็นไปตามขั้นตอนของธรรมชาติ คือน้ำที่ใช้เพื่อการนี้จะมีการประหยัดโดยมีการนำน้ำซึ่งเป็นน้ำทิ้งจากการใช้งานของกำลังพลที่อยู่ในกองกำลังแห่งนี้มาใช้แบบครบวงจร ซึ่งแม้แต่ภายในห้องน้ำของตัวอาคารก็มีการนำ EM เข้ามาเป็นตัวช่วยในการบำบัดน้ำพร้อมการทำให้น้ำนั้นสามารถกลับมามีผลในทางให้คุณแก่ต้นไม้แบบไม่กระทบต่อสุขภาพและร่างกายของผู้คนในพื้นที่แต่ประการใด โดยเฉพาะภายในห้องน้ำนั้นได้มีการนำ EM มาใช้ด้วยการดัดแปลงวัสดุเหลือใช้มาเป็นส่วนประกอบอย่างน่าสนใจทีเดียว คือนำถุงน้ำเกลือที่ใช้กับคนไข้หลังจากใช้น้ำเกลือหมดไปแล้วก็นำมาใส่น้ำ EM ห้อยแขวนไว้บริเวณที่รองรับการขับถ่ายของคนเรา ระบบการปล่อยน้ำเกลือจากถุงน้ำเกลือสามารถนำมาเป็นส่วนกำหนดให้เกิดระบบน้ำหยดภายในภาชนะเหล่านั้นได้เป็นอย่างดี EM ที่ใช้จึงไม่สิ้นเปลือง และสามารถกำหนดการหยดไหลได้ตามที่ต้องการ พร้อมกันนี้มีการออกแบบตามแบบฉบับของการประดับประดาพื้นที่ให้แลดูสวยงาม ถุงน้ำเกลือที่บรรจุ EM นั้นก็กลายเป็นวัสดุประดับพื้นที่เพิ่มความสวยงามและสดใสในสายตาได้อีกต่างหาก ปัจจุบันกองกำลังสุรนารี จ.สุรินทร์ แห่งนี้มี พล.ต. พิเชษฐ์ วิสัยจร ดำรงตำแหน่ง ผบ.พล.ร.6 และ ผบ.กกล.สุรนารี ซึ่งเป็นหนึ่งในนายทหารที่มีความมั่นคงและมั่นใจในการรณรงค์ส่งเสริมให้ประชาชนและเกษตรกรในพื้นที่ต่าง ๆ ได้หันมาทำการเกษตรแบบเกษตรอินทรีย์ โดยมีการออกไปรณรงค์ในพื้นที่ต่าง ๆ ตลอดมามากมายหลายแห่งด้วยกัน ผู้สนใจในเรื่องนี้สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ กกล.สุรนารี จ.สุรินทร์ ในวันและเวลาราชการ. (เดลินิวส์ พฤหัสบดีที่ 3 มิ.ย. 47 http://www.dailynews.co.th) จับเด็กติดเครื่องนับก้าวแข่งกันลดความอ้วน น.พ.ทศพร เสรีรักษ์ เลขานุการ รมว.ศึกษาธิการ เปิดเผยว่า ขณะนี้โรคอ้วนกำลังเป็นปัญหาที่ขยายอย่างรวดเร็วทั่วโลก ซึ่งจากข้อมูลของกรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุขพบว่าในปี 2544 เด็กไทยก่อนวัยเรียนมีภาวะโภชนาการเกินในอัตราที่สูงกว่า 12% ประกอบกับผลการสำรวจกิจกรรมยอดฮิต 10 อันดับ ของเยาวชนในกรุงเทพฯ ยังพบว่าเด็กส่วนใหญ่ชมโทรทัศน์/ภาพยนตร์ 48% เล่นกีฬา 31% ท่องอินเทอร์เน็ต 31% อ่านหนังสือ 22% เล่นเกมอิเล็กทรอนิกส์ 21% เล่นฟุตบอล 16% เล่นเกมที่เคลื่อนไหวร่างกาย 12% ซึ่งการที่เด็กไทยกว่า 60% ออกกำลังกายน้อยกว่าวันละ 30 นาทีนั้นไม่เพียงพอ และการเรียนพลศึกษาในโรงเรียนแค่ 1 คาบต่อสัปดาห์ก็ถือว่าน้อยมาก ดังนั้นเพื่อส่งเสริมให้เด็กมีการออกกำลังกายมากขึ้น กระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) จึงได้ร่วมกับบริษัทโคคา-โคลา และบริษัทเอกชน จัดทำโครงการเด็กไทยสดใสร่วมใจออกกำลังกายขึ้น โดยใช้วิธีการง่าย ๆ คือให้เด็กได้เดินและเต้นแอโรบิก ซึ่งโคคา-โคลา จะแจกเครื่องนับก้าวให้เด็กทุกคนพกติดเอวไว้และเมื่อเด็กเดินเครื่องก็จะบอกว่าเด็กเดินกี่ก้าวในแต่ละวันแล้วนำมาจัดเก็บข้อมูลการออกกำลังกายไว้ซึ่งจะทำให้เด็กเกิดการแข่งขันกัน นอกจากนี้จะมีการแจกแผ่นซีดีแนะนำการเต้นแอโรบิก คู่มือการกินอาหารที่ไม่อ้วน พร้อมทั้งมีการจัดอบรมครูด้วย โดยในปีการศึกษา 2547 นี้ จะเริ่มดำเนินการในนักเรียนชั้น ป.5 และ ป.6 ซึ่งเป็นวัยหัวเลี้ยวหัวต่อก่อน โดยจะเปิดรับสมัครโรงเรียนในกรุงเทพฯ 200 โรงเรียน และโรงเรียนในภาคกลางและภาคตะวันออกเข้าร่วมโครงการ ซึ่งโรงเรียนที่สนใจสามารถสมัครเข้าร่วมโครงการมาได้ที่กระทรวงศึกษาธิการ ทั้งนี้คาดว่าจะมีผู้เข้าร่วมโครงการในปีนี้ทั้งหมดประมาณ 100,000 คน (เดลินิวส์ ศุกร์ที่ 4 มิ.ย. 47 http://www.dailynews.co.th) เชิดชู 5 นักรบสวล. ศ.ดร.ธงชัย พรรณสวัสดิ์ ประธานคณะกรรมการจัดงานสัมมนาสิ่งแวดล้อม 47 เผยว่า คณะทำงานซึ่งประกอบด้วยเครือข่ายองค์กรพัฒนาเอกชน 37 แห่ง ได้มีมติเชิดชูเกียรตินักรบสิ่งแวดล้อม เนื่องในงานวันสิ่งแวดล้อมโลก 5 มิ.ย.47 จำนวน 5 ราย ดังนี้ นายสืบ นาคะเสถียร นักอนุรักษ์ ที่ปกป้องผืนป่าอุทยานแห่งชาติห้วยขาแข้ง นายสุรพล สุดารา อาจารย์จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ที่ทุ่มทำงานด้านทะเล นายสำเนา ศรีสงคราม แกนนำชาวบ้านที่ต่อสู้กรณีโรงงานเอกชนปล่อยน้ำเสียลงลำน้ำพองเน่าเสีย นายนรินทร์ โพธิ์แดง แกนนำคัดค้านโรงโม่หินเขาชะเมา จ.ระยอง และนายจุรินทร์ ราชพล แกนนำกลุ่มอนุรักษ์ป่าชายเลนบ้านป่าคลอก อ.ถลาง จ.ภูเก็ต ซึ่งขัดขวางการทำงานของนายทุนที่บุกรุกป่าชายเลน โดยทั้ง 5 คนเสียชีวิตแล้ว (ไทยรัฐ ศุกร์ที่ 4 มิ.ย. 47 http://www.thairath.co.th) ประกาศหนังสือดีเด่น '7 บุ๊ค อวอร์ดส' สู่ฝันคนไทย เป็นนักอ่าน งานประกวดหนังสือที่จัดขึ้นเพื่อวัตถุประสงค์ให้สังคมไทยก้าวไปสู่สังคมแห่งปัญญา และเป็นสังคมที่มีความรักในการอ่าน ซึ่ง โครงการประกวดหนังสือดีเด่น เซเว่น บุ๊ค อวอร์ดส (7 Book Awards) จัดขึ้นโดย บริษัท ซี.พี.เซเว่นอีเลฟเว่น จำกัด (มหาชน) มีการคัดเลือกหนังสือดีมีคุณภาพเพื่อเป็นการส่งเสริมการอ่านและเพื่อเป็นอีกทางเลือกหนึ่งให้คนไทยโดยเฉพาะกับเยาวชน ตลอดระยะเวลาดำเนินการ "เซเว่น บุ๊ค อวอร์ดส" ตั้งแต่เดือน ต.ค. 2545 ถึง มิ.ย. 2547 มีหนังสือส่งเข้าประกวดทั้งหมด 520 เล่ม และได้รับความร่วมมือจากผู้ทรงคุณวุฒิหลากหลายวงการกว่า 60 ท่าน ร่วมกับกระทรวงศึกษาธิการตัดสินแบ่งผลงานออกเป็น 7 ประเภท คือ วรรณกรรมเยาวชน นวนิยาย รวมเรื่องสั้น กวีนิพนธ์ สารคดี (ปรัชญาและศาสนา) หนังสือดีในอดีต และนิยายภาพ (การ์ตูน) ซึ่งผลการตัดสินรางวัลที่หนึ่ง สรุปดังนี้ ประเภทวรรณกรรมเยาวชน หมูบินได้ ของ องอาจ ชัยชาญชีพ ประเภทนวนิยาย เวียงแว่นฟ้า ของ กฤษณา อโศกสิน ประเภทเรื่องสั้น ชีวิตสำมะหาอันใด ของ เรวัตร์ พันธุ์พิพัฒน์ ประเภทกวีนิพนธ์ ลิลิตหล้ากำสรวล ประเภทสารคดี ท่องทศชาติผ่านจิตรกรรม ประเภทหนังสือดีในอดีต อีสานเมื่อวันวาน ของ ก่อ สวัสดิ์พาณิชย์ นอกจากนี้ยังมีการประกาศผลงานเกียรติยศประเภทหนังสือดีในอดีต เป็นผลงาน 4 เล่ม ซึ่งประพันธ์โดย เสฐียรโกเศศ ได้แก่ ประเพณีเนื่องในการเกิด ประเพณีเนื่องในการแต่งงาน ประเพณีเนื่องในการปลูกเรือน และ ประเพณีเนื่องในการตาย และประเภทนิยายภาพ (การ์ตูน) ไม่มีผลงานเล่มใดมีคุณสมบัติเข้าเกณฑ์ที่จะได้รับรางวัลที่หนึ่งถึงสาม ได้รับเพียงรางวัลชมเชยทั้งหมด 11 เล่ม หนังสือที่ได้รับรางวัลที่หนึ่งถึงสามจะได้รับสิทธิพิเศษให้วางจำหน่ายในร้านเซเว่นอีเลฟเว่น ส่วนหนังสือที่ได้รับรางวัลชมเชย จะได้รับสิทธิพิเศษให้วางจำหน่ายในร้านหนังสือ Book Smile เพื่อสนับสนุนให้นักเขียนคุณภาพมีโอกาสเผยแพร่ผลงาน และคนไทยก็จะมีหนังสืออ่านหลากหลายขึ้น ซึ่งน่าจะเป็นการกระตุ้นให้รักการอ่านมากขึ้นด้วยในที่สุด (คมชัดลึก ศุกร์ที่ 4 มิ.ย. 47 http://www.komchadluek.com) มอ.เป็นเจ้าภาพวอลเลย์บอลชายหาดโลก มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ และคณะกรรมการกีฬามหาวิทยาลัยแห่งประเทศไทย เป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันวอลเลย์บอลชายหาดชิงชนะเลิศกีฬามหาวิทยาลัยโลก ระหว่างวันที่ 16-20 มิถุนายน 2547 ณ ชายหาดสมิหลา จ.สงขลา โดย รศ.ดร.ประเสริฐ ชิตพงษ์ อธิการบดีมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์(มอ.) ประธานกรรมการดำเนินการจัดการแข่งขันวอลเลย์บอลชายหาดชิงชนะเลิศกีฬามหาวิทยาลัยโลก เปิดเผยว่า การแข่งขันวอลเลย์บอลชายหาดกีฬามหาวิทยาลัยโลก จัดขึ้นเป็นครั้งแรกที่ประเทศฝรั่งเศส และในปี 2547 ประเทศไทยได้รับเกียรติเป็นเจ้าภาพ โดย มอ. เป็นแกนนำในการจัดงาน ซึ่งมีประเทศเข้าร่วมแข่งขันกว่า 20 ประเทศ เช่น ออสเตรเลีย จีน แคนาดาฝรั่งเศส อิหร่าน ญี่ปุ่น มาเลเซีย สหรัฐอเมริกา และไทยเป็นต้น รวมประมาณ 200คน โดยใช้สนามแข่งขันริมชายหาดสมิหลา จำนวน 8 สนาม ซึ่งสนามดังกล่าวเคยจัดเป็นสนามแข่งขันวอลเลย์บอลเอเชี่ยนคัพ และล่าสุดการแข่งขันวอลเลย์บอลชายหาด สมิหลาเอเชี่ยนทัวร์ สำหรับเรื่องสถานที่พักนักกีฬา ทาง มอ.ได้รับความร่วมมือจากโรงแรมบีพีสมิหลาบิช จ.สงขลา ดำเนินการจัดเตรียมที่พักนักกีฬา และเจ้าหน้าที่ไว้เรียบร้อยแล้ว นอกจากนี้ ยังมีกีฬาที่ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพจัดอีก 2 ประเภท คือ การแข่งขันกอล์ฟชิงแชมป์กีฬามหาวิทยาลัยโลก ซึ่งมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี เป็นเจ้าภาพจัดระหว่างวันที่ 1-6 สิงหาคม 2547 และการแข่งขันแบดมินตันกีฬามหาวิทยาลัยโลก เจ้าภาพโดยมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ระหว่างวันที่ 9-12 ธันวาคม 2547 ซึ่งการแข่งขันทั้ง 3 รายการถือเป็นการเตรียมความพร้อมก่อนที่ประเทศไทย จะเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันกีฬามหาวิทยาลัยโลก ฤดูร้อน ครั้งที่ 24 ปี 2004 ที่กรุงเทพมหานคร (สยามรัฐ ศุกร์ที่ 4 มิ.ย. 47 http://www.siamrath.co.th) KMUTT Digital Library Contact Digital Library : info@lib.kmutt.ac.th Tel : 0-2470-8215