หัวข้อข่าวปีที่ 5 ฉบับที่ 47 ประจำวันที่ 2004-11-21

ข่าวการศึกษา

แอดมิชชั่นปี 48 ลงตัวรับผ่านเน็ตค่าสมัคร 250 บาท
คิดใหม่ส่งอาจารย์ช็อปปิ้งความรู้
500นิสิตม.บูรพาบุกทำเนียบ16พ.ย. ถวายฎีกาอีกทางค้านออกนอกระบบ
'แม้ว' หนุนเด็กยากจนเรียน ร.ร.ดัง
จีนไฟเขียวลิขสิทธิ์ตำรา
นานาชาติถกภูมิปัญญาไทย
อธิการฯจุฬาฯแนะทางแก้ระบบรับตรง
"นิวัต กลิ่นงาม"ขึ้นอธิการฯนครปฐม
มก.จับมือ ทอ.ปั๊มบัณฑิตศึกษาวิศวกรรมการบินฯ
ผ่านร่างกม.7มหา'ลัย ออกนอกระบบ
“ภาวิช” ไม่ถอนพรบ.บูรพา
3ร่างม.นอกระบบผ่านสภา ม.เชียงใหม่-ขอนแก่น-มมส.
มหิดลเปิดหลักสูตรวิทยาการเสพติดแก้ปัญหาชาติ
สั่งปรับหลักสูตร เน้นหนักเรื่องรักชาติ
นร.แข่งคณิตที่อินเดีย กวาดเรียบ18รางวัล

ข่าววิทยาศาสตร์/เทคโนโลยี

ผู้เชี่ยวชาญเตือนสมาร์ทการ์ดมีโอกาสพลาด
วัสดุฉลาดได้อย่างไร
เว็บท่าแห่งชาติ !
อิเล็กโทรบีต เสื้อกันลวนลาม
โคตรโกงอินเตอร์เน็ต! แฉเล่ห์"อาชญากรไซเบอร์"
หมีขั้วโลกเสี่ยงสูญพันธุ์ เหตุน้ำแข็งอาร์คติกละลายท่วมผืนดิน
เวทีหุ่นกู้ภัยใกล้ถึงเส้นชัย เฟ้นตัวแทนไทยสู่สนามโลก
ได้ยาอายุวัฒนะขนานในฝันแล้วอายุยืนยงทั้งคงรูปทรงให้สวยงาม
คนเหล็กครองเมือง
จีนจะส่งดาวเทียมให้ครบ 100 ดวงมองเห็นทั่วประเทศทุกซอกทุกมุม
อังกฤษโชว์ซอฟต์แวร์ตรวจสอบผลิตภัณฑ์ เช็คความผิดพลาดตั้งแต่ขั้นตอนแรกยันจบกระบวนการ
สธ.จับมืออินเทลพัฒนาโค้ดมาตรฐานด้านสาธารณสุข

ข่าววิจัย/พัฒนา

เดินกับปั่นจักรยานไปทำงาน พาหนีรอดปลอดมะเร็งลำไส้
กินวิตามินอีไม่ช่วยให้อายุยืน ซ้ำร้ายกลับบั่นอายุให้สั้นเข้า
เทคนิคใหม่คุมกำเนิดชายไม่ใช้ฮอร์โมน
นักวิทย์ไทยจับมือ'ออกซ์ฟอร์ด' พัฒนาเซ็นเซอร์แสง
ก๊าซเรดอนภัยมืดเหนือทะเลสาบสงขลา รัฐให้ข้อมูลชาวบ้านเสี่ยงมะเร็งปอด
น.ศ.มจธ.เจ๋ง ทำ"กบเหลาดินสออวกาศ" คว้ารางวัล"ออกแบบผลิตภัณฑ์ยอดเยี่ยม"
อังกฤษรวมพลคนประดิษฐ์
ทัพเรือประยุกต์ แคปซูลออกซิเจนรักษาโรค
เลือดชาละวัน...
การ์ดจับภาพวิดีโอราคาประหยัด เนคเทคช่วยลดต้นทุนกล้องวงจรปิด
ฮูเล็งจีโนมไวรัสฝีดาษ มุ่งรับมืออาวุธชีวภาพ
สวทช.ปลดแอก'แล็บดีเอ็นเอ'กำแพงแสน หนุนเพิ่มศักยภาพตรวจจีเอ็มโอ เล็ง 3 ปีก้าวสู่เอกชนเต็มตัว
ใช้คอมพิวเตอร์นานเพิ่มอัตราเสี่ยงโรคต้อหิน
เด็กปวช.สร้างหุ่นกู้ระเบิด!
นมแม่ช่วยป้องกันลูกให้รอดพ้นโรคมะเร็งเม็ดโลหิตขาวทารก
ทารกต้องกล้ำกลืนกินเนื้อตนเองเพื่อประทังชีวิตหลังโดนถูกตัดรก
สหรัฐยกเครื่องวิจัยเด็กครั้งใหญ่
เนคเทคร่วมวิจัย ประกันเครื่องไฟฟ้า หนุนอุตฯส่งออก
หุ่นกู้ภัยตีนตะขาบ ไอเดียนักศึกษาศรีปทุม
'สุขุมวิท' นำร่องใช้โมเดลทำนายน้ำท่วม เอไอทีพัฒนาระบบส่งข้อมูลด่วนขึ้นหน้าแวพมือถือ
ประดิษฐ์หุ่นยนต์แมลงสาบมีฤทธิ์ปราบแมลงสาบตัวจริงราบคาบ
สกัดแตงกวาทำ "สบู่หวาน" ถ่ายทอดความรู้สู่การทำเชิงธุรกิจ
“ดักเจ้าตัวร้าย” สูตรยางธรรมชาติจับหนึบแมลงวัน
เปิดตัว 8 ทีมหุ่นยนต์กู้ภัยส่งลุ้นแชมป์โลกที่ญี่ปุ่น

ข่าวทั่วไป

ไม่ขัดสมาธินั่งยองป้องข้อเสื่อมเลี่ยงการขึ้นลงบันไดมากๆ
สมุนไพรจ่อคิวถูกฉกอีกเพียบ "พาณิชย์" รับจนปัญญาเบรกยุ่น จดกวาวเครือ
แนะตั้งกระทรวง “อิสลามภาคใต้” ส.ว.ชื่นชมทักษิณ/เร่งผุดกก.สมานฉันท์
ครม.อนุมัติแผนสร้างสุขภาพ คนไทยแข็งแรงคือวาระชาติ
ถวายเหรียญ-สดุดีพระราชินีอนุรักษ์ธรรมชาติ
หนุนฟ้องถอนสิทธิบัตรกวาวเครือ
หมอรับเพิ่มเดือนละ 20,000 บาท ติงมีรายการซ้ำซ้อน ส่งก.พ.ทบทวนใหม่
วอน "โคเด็กซ์"เร่งตั้งมาตรฐานย้อนกลับ ผู้ผลิตเสนอกำหนดเฉพาะอาหารบางรายการ
แพทย์ชี้บุหรี่ตัวการฟันผุ เหงือกร่นเป็นแก้วหน้าม้า
มรดกโลกใหม่ที่ขึ้นทะเบียนในปี 2004
กรมวิชาการเกษตรโชว์คุ้มครองกวาวเครือ
ไทยร่วมอาเซียนวิจัยสัตว์ชายแดนกันสูญพันธุ์
สร้างท่าเรือนํ้าลึกที่ อ.ละงู 5,600 ล้าน
เร่งกรมศิลป์สร้าง “หอจดหมายเหตุ ร.9” เฉลิมพระเกียรติในหลวง 80 พรรษา ปี 50
ร่วมมือกันคว้ารางวัลสุดยอด MV





ข่าวการศึกษา


แอดมิชชั่นปี 48 ลงตัวรับผ่านเน็ตค่าสมัคร 250 บาท

จากการประชุมคณะทำงานระบบกลางการรับนิสิตนักศึกษา (Admissions) เมื่อวันที่ 14 พ.ย. ที่ผ่านมา ศ.พิเศษ ดร.ภาวิช ทองโรจน์ เลขาธิการคณะกรรมการการอุดมศึกษา (กกอ.) เปิดเผยภายหลังการประชุมว่า ที่ประชุมเห็นชอบระเบียบการคัดเลือกนิสิตนักศึกษาเข้าศึกษา ในสถาบันอุดมศึกษาด้วยระบบแอดมิชชั่น ซึ่งเป็นโครงการนำร่องปี 2548 โดยจะประกาศรายละเอียดระเบียบการคัดเลือกภายในสัปดาห์นี้ ทางหนังสือพิมพ์ และเว็บไซต์ที่จัดทำขึ้นโดยเฉพาะคือ www.tuas.ac.th ส่วนปฏิทินการดำเนินการนั้น กำหนดการรับสมัครวันที่ 1-25 ธ.ค. 2547 ซึ่งจะเป็นการรับสมัครทางเว็บไซต์ ในอินเตอร์เน็ตเท่านั้น คือ www.tuas.ac.th ค่าธรรมเนียมการสมัคร คนละ 250 บาท โดยผู้สมัครชำระผ่านทางธนาคารกรุงไทย ประกาศรายชื่อผู้มีสิทธิสอบสัมภาษณ์ในวันที่ 15 ม.ค. 2548 ผ่านทางเว็บไซต์เช่นกัน จากนั้น สกอ.จะจัดส่งรายชื่อผู้มีสิทธิสอบสัมภาษณ์ ให้แก่มหาวิทยาลัยต่างๆ เพื่อจัดสอบสัมภาษณ์เอง วันที่ 22-28 ม.ค. 2548 ประกาศผลผู้ที่จะมีสิทธิเข้าศึกษาในสถาบันอุดมศึกษา ซึ่งเป็นขั้นตอนสุดท้ายวันที่ 21 ก.พ. 2548 ผู้ที่ผ่านการคัดเลือกระบบแอดมิชชั่นแล้ว ก็ยังสามารถสอบเอ็นทรานซ์ได้ เช่นเดิม และสามารถสอบวัดความรู้ในเดือน มี.ค. 2548 โดยในระบบแอดมิชชั่นนั้น จะให้ผู้ผ่านการคัดเลือกยืนยันการเข้าศึกษาในวันที่ 31 มี.ค. 2548 ซึ่งจะมีการประกาศผลสอบวัดความรู้ให้ทราบก่อนวันที่ 31 มี.ค. 2548 เพื่อให้นักเรียนได้ตัดสินใจ ส่วนการประกาศผลสอบวัดความรู้เดือน ต.ค. 2547 ขณะนี้ สกอ.ตรวจข้อสอบเสร็จเรียบร้อยแล้ว คาดว่าจะสามารถประกาศผลได้ก่อนวันที่ 29 พ.ย. 2547 (ไทยรัฐ จันทร์ที่ 15 พ.ย. 47 http://www.thairath.co.th)





คิดใหม่ส่งอาจารย์ช็อปปิ้งความรู้

นายพลสัณห์ โพธิ์ศรีทอง รองเลขาธิการคณะกรรมการการอุดมศึกษา(กกอ.) เปิดเผยว่า ตนอยากให้สถาบันอุดมศึกษาแต่ละแห่ง ปรับเปลี่ยนแนวคิดในการพัฒนาบุคลากรไม่ใช่มุ่งเน้นการพัฒนาโดยการส่งไปเรียนต่อระดับปริญญาโท และปริญญาเอกเท่านั้น เนื่องจากจะใช้ระยะเวลาในการเรียนค่อนข้างนานหลายปี แต่อยากให้มีการส่งเสริมการพัฒนาบุคลากรของสถาบัน ในรูปแบบของการทำงานไปด้วยพัฒนาความรู้ไปด้วย เช่น ในแต่ละปีการศึกษา อาจจะส่งอาจารย์หรือบุคลากรผู้สอน ไปฝึกอบรมหาความรู้เฉพาะด้าน ที่อาจารย์แต่ละคนสอนอยู่ ซึ่งอาจจะใช้เวลา 15-20 วัน จะช่วยให้อาจารย์ผู้สอนได้เปิดโลกทัศน์ และเห็นสิ่งใหม่ๆ ที่สามารถนำมาประยุกต์ใช้ในการจัดการเรียนการสอนให้กับเด็กได้อย่างเท่าทัน เพราะหากจะรอพัฒนาด้วยวิธีการส่งไปศึกษาต่ออย่างเดียวคงไม่พอ เพราะในแต่ละปีสามารถส่งบุคลากรไปเรียนต่อได้ไม่กี่คน เพราะต้องใช้งบฯ การส่งบุคลากรไปศึกษาดูงาน ได้มีโอกาสไปเห็นสิ่งใหม่ๆ แม้จะเป็นการไปช็อปปิ้ง แต่ถ้าเป็นการช็อปปิ้งในสิ่งที่ไม่เคยเห็นมาก่อน ก็ถือเป็นความรู้ใหม่ ที่สามารถเก็บนำมาถ่ายทอดได้ หลังจากที่บุคลากรแต่ละคนได้ไปศึกษาดูงานแล้วก็ควรมีการประเมินผลบุคลากรคนนั้นๆ ด้วยว่าจะนำความรู้ที่ได้รับกลับมาทำอะไรเพื่อให้เกิดประโยชน์กับนักศึกษาอย่างแท้จริง (สยามรัฐ จันทร์ที่ 15 พ.ย. 47 http://www.siamrath.co.th)





500นิสิตม.บูรพาบุกทำเนียบ16พ.ย. ถวายฎีกาอีกทางค้านออกนอกระบบ

เมื่อวันที่ 14 พฤศจิกายน นายภาคิไนย์ ชมสินทรัพย์มั่น กรรมการบริหารองค์การนิสิตมหาวิทยาบูรพาบางแสน จ.ชลบุรี เปิดเผยว่า ขณะนี้นิสิตในมหาวิทยาบูรพา ที่คัดค้านมหาวิทยาบูรพาออกนอกระบบประมาณ 500 คน จะรวมตัวกันในวันที่ 16 พฤศจิกายนนี้ เพื่อเดินทางไปที่ทำเนียบรัฐบาล ยื่นจดหมายต่อ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และประธานกรรมาธิการวุฒิสภา นอกจากนี้ยังได้ประสานงานกับนิสิตมหาวิทยาลัยทักษิณ เครือข่ายผู้ปกครอง และศิษย์เก่ามหาวิทยาลัยบูรพาร่วมกันคัดค้านอีกทางหนึ่งด้วย รวมทั้งการนำรายชื่อนิสิตที่ไม่เห็นด้วยทูลเกล้าฯถวายในหลวง คัดค้านการนำมหาวิทยาลัยบูรพาออกนอกระบบ ด้านนางสมหมาย แจ่มกระจ่าง ประธานสภาอาจารย์มหาวิทยาลัยบูรพา กล่าวว่า การเปลี่ยนแปลงสภาพของมหาวิทยาลัยบูรพาออกนอกระบบ ทำให้นิสิตและคณาจารย์ในมหาวิทยาลัยเสียขวัญและกำลังใจในการปฏิบัติหน้าที่ จึงได้รวบรวมรายชื่อบุคลากรทุกฝ่าย เพื่อทูลเกล้าฯถวายฎีกาคัดค้าน (มติชนรายวัน จันทร์ที่ 15 พ.ย. 47 http://www.matichon.co.th)





'แม้ว' หนุนเด็กยากจนเรียน ร.ร.ดัง

พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กล่าวผ่านรายการ "นายกฯ ทักษิณ คุยกับประชาชน" ทางวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทยว่า กระทรวงศึกษาธิการได้เริ่มโครงการแลกเปลี่ยนนักเรียนในประเทศ โดยลอตที่ 1 จะเริ่มเปิดเทอมนี้คือโดยจะให้นักเรียนที่ยากจนด้อยโอกาสแต่เรียนดี มีความประพฤติดี ศึกษาในชั้นมัธยม 1-3 จากทุกจังหวัดทั่วประเทศ ให้มาศึกษาในโรงเรียนที่มีชื่อเสียงในกรุงเทพฯ เป็นเวลา 1 ภาคเรียน เรียนเสร็จก็กลับไป อย่างน้อยเขาได้ สานฝันจากที่เป็นเด็กบ้านนอกยากจน แต่อยากเรียนโรงเรียนดี ๆ แต่ไม่เคยมีโอกาสได้เรียน แต่ครั้งนี้จะมีการคัดและเต็มใจให้มาเรียนในโรงเรียนกรุงเทพฯ หนึ่งเทอมจากเขตการศึกษาละ 3 คน รวม 516 คน โดยให้มาเริ่มเรียนภาคเรียนที่ 2 คือ ระหว่างเดือน พ.ย. 2547-มี.ค. 2548 ก็จะมาเริ่มเรียน 500 กว่าคน ครั้งที่ 2 จะเริ่มเรียนภาคเรียนที่ 1 ของปีการคึกษาหน้า คือเดือน พ.ค.-ก.ย. 2548 เขตละ 6 คน ก็เป็น 1,032 คน เรียนในโรงเรียนที่กรุงเทพฯ 11 โรงเรียน ได้แก่ โรงเรียนวัดสุทธิวราราม, โรงเรียนบดินทรเดชา, โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาพัฒนาการ, โรงเรียน สตรีวิทย์, โรงเรียนหอวัง, โรงเรียนศึกษานารี, โรงเรียนเทพศิรินทร์, โรงเรียนสวนกุหลาบ, โรงเรียนสามเสนวิทยา, โรงเรียนโยธินบูรณะ และโรงเรียน ภปร. ปรากฏว่าทุกโรงเรียนเขาตื่นเต้นบางคนบอกว่าเขาอาจจะอยากให้ทุนเก็บไว้ด้วย หากเด็กเหล่านี้เป็นเด็กที่เรียนดี อันนี้ก็จะทำให้เด็กทั่วประเทศไทยมีโอกาส ต่อไปนี้คือการให้โอกาสเด็กไทย ให้เรียนหนังสือให้มากให้ดี และจะปรับปรุงระบบการศึกษาไปในตัวด้วย เพราะ ว่าการสร้างอนาคตของประเทศต้องสร้างที่เยาวชน (เดลินิวส์ จันทร์ที่ 15 พ.ย. 47 http://www.dailynews.co.th)





จีนไฟเขียวลิขสิทธิ์ตำรา

นายสุรเทพ ตั๊นประเสริฐ ผอ.สำนักบริหารงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน (สช.) เปิดเผยว่า ปัจจุบัน สช.เริ่มให้การสนับสนุนโรงเรียนที่เปิดสอนภาษาจีนโดยจัดอบรมครูสอนภาษาจีนทั่วประเทศ เพื่อให้การศึกษาเป็นไปอย่างมีคุณภาพ นอกจากนี้ยังได้ขอร่วมมือจากสำนักงานแห่งชาติเพื่อการสอนภาษาจีนเป็นภาษาต่างประเทศ ของสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนจีน ส่งผู้ทรงคุณวุฒิด้านภาษาจีนจากมหาวิทยาลัยนานไคยมาสอนให้แก่ครูสอนภาษาจีนในโรงเรียนเอกชน จำนวน 12 คน ใน 8 จังหวัด ได้แก่ จ.เชียงใหม่ ชลบุรี จันทบุรี เชียงราย พิจิตร นครสวรรค์ นครราชสีมา และกรุงเทพฯ เพื่อพัฒนาครูไทยที่สอนภาษาจีนเป็นเวลา 1 ปี โดยจะให้มีการ ทำสัญญาจ้างโดยตรงกับทางโรงเรียนเอกชน ซึ่งจะรับผิดชอบเรื่องค่าใช้จ่ายเป็นเงินเดือนคนละ 8,000-12,000 บาทต่อเดือน ซึ่งดำเนินการมาเป็นรุ่นที่ 3 แล้ว ทางสำนักงานแห่งชาติฯ ยังยินดีที่จะให้แบบเรียนภาษาจีนมาใช้ในโรงเรียนเอกชน หรืออาจให้ลิขสิทธิ์ในการจำหน่าย รวมทั้งให้ใช้ข้อสอบมาตรฐานเพื่อประเมินผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของทางสำนักงานแห่งชาติฯ มาใช้ได้อีกด้วย อย่างไรก็ตามการดำเนินการใน 2 รุ่นที่ผ่านมา ได้มีการประเมินครูไทยที่สอนภาษาจีนปรากฎว่าอยู่ในเกณฑ์เป็นที่น่าพอใจ (สยามรัฐ อังคารที่ 16 พ.ย. 47 http://www.siamrath.co.th)





นานาชาติถกภูมิปัญญาไทย

ดร.นงเยาว์ เปรมกมลเนตร ผู้อำนวยการศูนย์กลางความรู้แห่งชาติ หรือทีเคซี เปิดเผยว่า เพื่อเป็นการส่งเสริม และสร้างกระแสให้คนไทยหันมาให้ความสำคัญกับการจัดการความรู้ (KM) กระทรวงไอซีที ได้มอบนโยบายให้ศูนย์กลางความรู้แห่งชาติ (Thailand Knowledge Center : TKC) จัดเวทีประชุมนานาชาติ Thailand International Conference on Knowledge Management 2004 : KM for Innovation and Change ในวันที่ 24-25 พ.ย. ที่อาคารอิมแพค 4 เมืองทองธานี โดยเชิญนักวิชาการ และผู้เชี่ยวชาญทั่วโลก ที่มีประสบการณ์จริงในด้านต่างๆ เป็นวิทยากร ร่วมแบ่งปัน แลกเปลี่ยน และความรู้ความเข้าใจในกลยุทธการจัดการความรู้ นอกจากนี้ยังเป็นการส่งเสริมการสร้างเครือข่ายระหว่างผู้ที่สร้างการจัดการความรู้กับผู้ร่วมสัมมนา และสนับสนุนให้ผู้ร่วมสัมมนานำเคล็ดลับ วิธีการ และแนวคิดไปริเริ่มระบบการจัดการความรู้ภายในองค์กรต่อไป ซึ่งแนวทางในการประชุมจะแบ่งเป็น 4 ส่วนคือ การจัดการความรู้ในภาคธุรกิจเอกชน, ภาครัฐ, ภาคชุมชน, กรณีศึกษาที่ประสบความสำเร็จการจัดการความรู้ จากภาคธุรกิจไทย ภาคองค์กรสาธารณะและภาคประชาสังคม ซึ่งจะมีนิทรรศการการจัดการความรู้ในระดับชุมชน 5 กลุ่มคือ ความรู้ด้านเศรษฐกิจพอเพียง, ความรู้ภูมิปัญญาไทยสู่สากล–OTOP, ความรู้สู่ชุมชนเมือง, ความรู้เพื่อสร้างการเรียนรู้ของเยาวชน และความรู้วิถีชุมชน ซึ่งผู้เข้าร่วมสัมมนาจะได้เห็นวิธีการจัดการความรู้ระดับภูมิปัญญาชาวบ้าน จากผู้ที่ทำหน้าที่จัดการความรู้เหล่านี้โดยตรง (ข่าวสด อังคารที่ 16 พ.ย. 47 http://www.matichon.co.th/khaosod)





อธิการฯจุฬาฯแนะทางแก้ระบบรับตรง

คุณหญิงสุชาดา กีระนันทน์ อธิการบดีจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ให้สัมภาษณ์กรณีนายจาตุรนต์ ฉายแสง รองนายกรัฐมนตรี ได้รับการร้องเรียนจากผู้ปกครองนักเรียนเรื่องผลกระทบจากระบบการรับตรงนักศึกษาในปีการศึกษา 2548 ของมหาวิทยาลัยต่างๆ ซึ่งทำให้นักเรียนต้องวิ่งรอกสมัครเสียค่าใช้จ่ายเป็นจำนวนมากว่า อยากให้มีการพูดคุยเรื่องนี้กันอย่างชัดเจนในที่ประชุมอธิการบดีแห่งประเทศไทย(ทปอ.) และสำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา(สกอ.) เพราะขณะนี้การรับตรงเป็นลักษณะที่มหาวิทยาลัยต่างคนต่างรับ ทำให้เด็กต้องวิ่งรอกไปสมัคร เด็กก็ต้องเข้าไปสอบเพิ่มหลายวิชาตามที่มหาวิทยาลัยกำหนด จึงทำให้เสียค่าใช้จ่ายสูงขึ้นตามมา คุณหญิงสุชาดากล่าวต่อว่า ปัญหานี้ สกอ.ควรเร่งรัดหารือเพื่อหาแนวทางป้องกันไม่ให้เด็กได้รับความเดือดร้อน โดยยึดนักเรียนเป็นหลัก แต่อย่างไรก็ตาม คิดว่าในปีการศึกษา 2548 นี้คงจะแก้ไขอะไรไม่ได้แล้ว แต่สำหรับในปีการศึกษา 2549 ต้องมีวิธีแก้ไข โดยเบื้องต้นตนเห็นว่าควรมีข้อสอบกลางที่จัดสอบทั่วประเทศ และจะต้องมีหลักเกณฑ์ของแต่ละมหาวิทยาลัยที่มีความโปร่งใส เช่น การสอบระดับชาติ หรือการสอบวัดความถนัดทางการเรียน(SAT) เป็นต้น โดยให้เด็กสอบเพียงครั้งเดียว และมี สกอ.เป็นศูนย์กลางเพื่อรับข้อมูลจากนักเรียนแล้วส่งต่อไปยังคณะวิชาต่างๆ ของแต่ละมหาวิทยาลัย ( มติชนตายวัน พุธที่ 17 พ.ย. 47 http://www.matichon.co.th)





"นิวัต กลิ่นงาม"ขึ้นอธิการฯนครปฐม

มหาวิทยาลัยราชภัฏได้มีการประชุมคัดสรรเสนอผู้ที่จะขึ้นเป็นอธิการบดี เมื่อวันที่ 12 พ.ย.ที่ผ่านมา โดยคณะกรรมการสภามหาวิทยาลัยราชภัฏนครปฐม มี ดร.ปุระชัย เปี่ยมสมบูรณ์ รองนายกรัฐมนตรี เดินทางมาเป็นประธาน ซึ่งจากการที่คณะกรรมการสภามหาวิทยาลัยฯ จำนวน 12 คน เสนอเลือก ผศ.นิวัต กลิ่นงาม ผอ.สำนักประสานและส่งเสริมกิจการอุดมศึกษา(นักวิชาการศึกษา ระดับ 9) ให้เป็นอธิการบดี จำนวน 9 เสียง เสนอเลือก ผศ.ศุทธิณีย์ เถาทับนุ่ม อดีตอธิการบดี จำนวน 2 เสียง และเสนอเลือก รศ.ธีรวัฒน์ นาคะบุตร จำนวน 1 เสียง ดังนั้นผู้ที่ได้รับการคัดสรรขึ้นดำรงตำแหน่ง อธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฏนครปฐม คนใหม่คือ ผศ.นิวัต กลิ่นงาม ผอ.สำนักประสานและส่งเสริมกิจการอุดมศึกษา(นักวิชาการศึกษา ระดับ 9) (ข่าวสด พุธที่ 17 พ.ย. 47 http://www.matichon.co.th/khaosod)





มก.จับมือ ทอ.ปั๊มบัณฑิตศึกษาวิศวกรรมการบินฯ

เมื่อวันที่ 16 พ.ย. ที่มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ (มก.) ได้มีพิธีลงนามความร่วมมือระหว่าง มก.กับกองทัพอากาศ เพื่อพัฒนาวิชาการด้านการบินและอวกาศยาน โดย รศ.ดร.วิโรจน์ อิ่มพิทักษ์ อธิการบดี มก. กล่าวว่า ภาควิชาวิศวกรรมการบินและอวกาศยาน คณะวิศวกรรมศาสตร์ มก. ก่อตั้งขึ้นปี 2536 ซึ่งเป็นสถาบันการศึกษาแห่งแรกที่ผลิตวิศวกรการบินและอวกาศสำหรับพลเรือนให้กับประเทศ โดยได้รับความร่วมมือด้วยดีจาก ทอ.ในการสนับสนุนด้านวิชาการ บุคลากรสนับสนุนการสอน ห้องปฏิบัติการ และยังให้นิสิตเข้าฝึกงานในส่วนของวิศวกรรม และการซ่อมบำรุงอากาศยานเป็นประจำทุกปี จากความร่วมมือดังกล่าว มก.จะขยายผลไปสู่การจัดตั้งโครงการบัณฑิตศึกษาสาขาวิศวกรรมการบินและอวกาศยาน โดย มก.จะเปิดรับนิสิตรุ่นแรกในปี 2548 ทั้งยังมีแนวคิดยกระดับภาควิชาฯ ขึ้นเป็นวิทยาลัยการบินและอวกาศ อยู่ในกำกับของ มก. ภายในปี 2548 และเปิดหลักสูตรประกาศนียบัตรการบริหารท่าอากาศยานในยุคการแข่งขัน เพื่อขานรับนโยบายของรัฐบาลในการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านท่าอากาศยานของประเทศ เพื่อเป็นศูนย์ กลางด้านการบินของภูมิภาค โดยในปี 2009 ได้กำหนดวิสัยทัศน์ไว้ว่า "2009...สู่ศูนย์กลางการศึกษาและวิจัยด้านการบินของภูมิภาค" (ไทยรัฐ พุธที่ 17 พ.ย. 47 http://www.thairath.co.th)





ผ่านร่างกม.7มหา'ลัย ออกนอกระบบ

วันที่17 พ.ย. การประชุมสภาผู้แทนราษฎรโดยมีนายสุชาติ ตันเจริญ รองประธานสภาผู้แทนราษฎร เป็นประธาน มีมติรับหลักการร่าง พ.ร.บ.ที่เกี่ยวกับการให้มหาวิทยาลัยออกนอกระบบ จำนวน 7 ฉบับ พร้อมกับตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญขึ้นพิจารณาโดยกำหนดให้แปรญัตติภายในเวลา 7 วัน เพื่อให้เสร็จภายในสมัยประชุมนี้ โดยใช้เวลาพิจารณาเพียง 6 ชั่วโมง ร่างพ.ร.บ. 7 ฉบับ ได้แก่ ร่าง พ.ร.บ.มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ , ร่าง พ.ร.บ.สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง , ร่างพ.ร.บ.จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย,ร่าง พ.ร.บ.มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ , ร่าง พ.ร.บ.มหาวิทยาลัยศิลปากร , ร่างพ.ร.บ.มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี และร่าง พ.ร.บ.มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ (กรุงเทพธุรกิจ พฤหัสบดีที่ 18 พ.ย. 47 http://www.bangkokbiznews.com)





“ภาวิช” ไม่ถอนพรบ.บูรพา

ตามที่นักศึกษามหาวิทยาลัยบูรพา กว่า 1,200 คน มาชุมนุมและหนังสือคัดค้าน ร่างพ.ร.บ.มหาวิทยาลัยบูรพา ต่อประธานรัฐสภา เมื่อวันที่ 16 พ.ย.ที่ผ่านมานั้น ล่าสุด นายภาวิช ทองโรจน์ เลขาธิการคณะกรรมการการอุดมศึกษา (กกอ.) เปิดเผยว่า ขณะนี้ร่างกฎหมายของ ม.บูรพา อยู่ในขั้นตอนของวุฒิสภาและคงจะผ่านในเร็ววันนี้ ซึ่งการเคลื่อนไหวครั้งนี้ ตนทราบว่าเป็นเรื่องการเมืองภายในมหาวิทยาลัย ที่ต้องการให้อธิการบดี ลาออกโดยนิสิตเหล่านี้อาจถูกใช้เป็นเครื่องมือของกลุ่มผลประโยชน์ ทั้งนี้ประเด็นการขึ้นค่าเล่าเรียนนั้นเป็นคนละเรื่องกับการออกนอกระบบ เพราะกลไกการขึ้นค่าเล่าเรียนจะไม่เกี่ยวข้องกับสถานภาพของมหาวิทยาลัย แต่ขึ้นอยู่กับสภามหาวิทยาลัย ซึ่งตามหลักการของ ม.ในกำกับ จะเปิดช่องให้มีผู้แทนของสังคมร่วมเป็นกรรมการสภาฯ ด้วยเพื่อช่วยดูแลไม่ให้มหาวิทยาลัยขึ้นค่าเล่าเรียนโดยพลการ ส่วนที่นิสิตอ้างว่าร่างฯ ดังกล่าว ไม่มีการทำประชาพิจารณ์นั้น ไม่เป็นความจริงเพราะมีการดำเนินการไปแล้วตั้งแต่ปี พ.ศ.2541 “ผมอยากให้นิสิตไปศึกษาร่าง พ.ร.บ.ฯ ให้ถ่องแท้ แล้วจะเห็นว่าไม่มีส่วนใดที่เป็นผลกระทบที่สร้างความเดือดร้อนให้กับนิสิตเลย และบางมาตราเป็นผลดีต่อนิสิตด้วยซ้ำเช่น การกระจายโอกาสทางการศึกษาให้กับนิสิตอย่างทั่วถึง และอยากให้นิสิต ม.บูรพา ให้คิดถึงอนาคตด้วย เพราะมหาวิทยาลัยจะดำรงอยู่อีกนานอย่าให้เรื่องเล็กๆ น้อยๆ มาขวางกั้นความเจริญของมหาวิทยาลัย อย่างไรก็ตาม เรื่องที่จะขอให้ถอนร่าง พ.ร.บ.มหาวิทยาลัยบูรพานั้นเป็นสิ่งที่เป็นไปไม่ได้” เลขาธิการ กกอ.กล่าว (สยามรัฐ พฤหัสบดีที่ 18 พ.ย. 47 http://www.siamrath.co.th)





3ร่างม.นอกระบบผ่านสภา ม.เชียงใหม่-ขอนแก่น-มมส.

เมื่อวันที่ 18 พฤศจิกายน นายภาวิช ทองโรจน์ เลขาธิการคณะกรรมการการอุดมศึกษา(กกอ.) เปิดเผยว่า จากการประชุมสภาผู้แทนราษฎรเมื่อวันที่ 17 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ได้ผ่านความเห็นชอบวาระ 2-3 ร่าง พ.ร.บ.มหาวิทยาลัยเชียงใหม่(มช.) มหาวิทยาลัยขอนแก่น(มข.) และมหาวิทยาลัยมหาสารคาม(มมส.) ขั้นต่อไปจะเข้าสู่การพิจารณาของวุฒิสภาวาระ 1 นอกจากนี้ สภาผู้แทนยังผ่านวาระ 1 ในร่าง พ.ร.บ.มหาวิทยาลัยในกำกับรัฐบาลอีก 7 ฉบับ ได้แก่ ร่าง พ.ร.บ.มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ มหาวิทยาลัยศิลปากร มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี และจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และได้ตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญเพื่อพิจารณาแล้ว รวมทั้งสภาผู้แทนยังได้บรรจุวาระพิจารณาร่าง พ.ร.บ.มหาวิทยาลัยมหิดล และร่าง พ.ร.บ.มหาวิทยาลัยรามคำแหง วาระ 1 ในวันที่ 24 พฤศจิกายน นายสุชาติ อุปถัมภ์ อธิการบดีมหาวิทยาลัยบูรพา(มบ.) กล่าวกรณีมีนิสิต มบ.ไปยื่นหนังสือต่อประธานวุฒิสภาและนายกรัฐมนตรี เพื่อให้ยับยั้งร่าง พ.ร.บ.มบ.ว่า เวลานี้คงต้องฟังว่ารัฐบาลจะว่าอย่างไร เพราะเป็นนโยบายของรัฐบาล อีกทั้งร่าง พ.ร.บ.มบ.ซึ่งอยู่ระหว่างพิจารณาของวุฒิสภาคงส่งกลับสภาผู้แทน เพื่อรับรองไม่ทันในสมัยประชุมนี้ ต้องรอไปจนถึงปีหน้า ซึ่งคงต้องรอดูว่ารัฐบาลใหม่จะมีนโยบายอย่างไร (มติชนรายวัน ศุกร์ที่ 19 พ.ย. 47 http://www.matichon.co.th)





มหิดลเปิดหลักสูตรวิทยาการเสพติดแก้ปัญหาชาติ

พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ เป็นประธานเปิดหลักสูตรศิลปศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิทยาการเสพติด ของมหาวิทยาลัยมหิดล ด้านนางรัศมีดารา หุ่นสวัสดิ์ คณบดีบัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยมหิดล กล่าวว่า หลักสูตรวิทยาการเสพติด เป็นหลักสูตรใหม่ใน พ.ศ.2547 ซึ่งเกิดจากการประสานความรู้ทางด้านวิทยาศาสตร์ สังคมศาสตร์ และจิตวิทยาเข้าด้วยกัน เพื่อเน้นการแก้ปัญหายาเสพติดในระยะยาว เพราะที่ผ่านมา พบว่าหลังจากที่ผู้เสพได้รับการบำบัดแล้ว มีจำนวนไม่น้อยที่หันกลับไปเสพอีกครั้งเนื่องจาก ทนความกดดันจากครอบครัวและสังคมไม่ไหว หลักสูตรนี้จึงมุ่งแก้ปัญหาแบบองค์รวม รักษาผู้ป่วยครอบครัวและชุมชน โดยมุ่งผลิตบัณฑิตให้เป็นผู้นำของสังคมในด้านการศึกษา และการวิจัยทางด้านวิทยาการเสพติด เพื่อให้เกิดประโยชน์แก่สังคมในการป้องกัน บรรเทารวมทั้งการบำบัดรักษาฟื้นฟูสมรรถภาพทั้งร่างกายและจิตใจของผู้ที่ติดสิ่งเสพติด เนื้อหาของหลักสูตรกำหนดให้เรียนวิชาสารเสพติดต่างๆ ทุกคนต้องทำวิทยานิพนธ์และสร้างองค์ความรู้ใหม่ รับนักศึกษาปีละไม่เกิน 20 คน มหาวิทยาลัยมหิดลเป็นมหาวิทยาลัยแรกในประเทศไทยที่เปิดสาขานี้ และเป็นประเทศที่ 2 ของโลกรองจากสหรัฐฯที่เปิดสอนหลักสูตรดังกล่าว (ไทยรัฐ เสาร์ที่ 20 พ.ย. 47 http://www.thairath.co.th)





สั่งปรับหลักสูตร เน้นหนักเรื่องรักชาติ

นายอดิศัย โพธารามิก รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ เปิดเผยว่า ได้เชิญคณะผู้บริหาร 5 องค์กรหลักเข้าพบว่า เชิญผู้บริหารทั้ง 5 องค์กรหลักมาพบเพื่อหารือเรื่องการปลูกฝังจิตสำนึกรักชาติซึ่งเรื่องสำคัญให้แก่เยาวชนไทย โดยจะให้แต่ละองค์กรหลักไปออกคำสั่งถึงสถานศึกษาในสังกัดตั้งแต่ระดับอนุบาลถึงอุดมศึกษาทั้งสถานศึกษาทั้งรัฐและเอกชน รวมทั้งการศึกษานอกโรงเรียนด้วย ให้ดึงเรื่องที่เกี่ยวข้องกับการปลูกฝังความรักชาติไทย เช่น ประวัติศาสตร์ชาติไทย วัฒนธรรมไทย ที่อยู่ในหลักสูตรมาสอนอย่างเข้มข้นและมากกว่าเดิม เพราะฉะนั้น จึงอยากให้ปรับปรุงให้สอดแทรกการสอนเรื่องเหล่านี้ในวิชาต่าง ๆ ให้น้ำหนักเพิ่มขึ้นและมีความเข้มข้นกว่าเดิม โดยเบื้องต้น ศธ.จึงได้ออกแนวปฏิบัติดังนี้ 1. การเคารพธงชาติและร้องเพลงชาติจะต้องจัดทำอย่างเข้มแข็งและพร้อมเพรียงกัน การชักธง ประดับธงชาติต้องมีสีสันสดใสตลอดเวลา และการจัดทำเสาธงต้องเห็นเด่นชัด สง่างาม 2. การจัดการเรียนการสอนในหลักสูตรให้เน้นเรื่องประวัติศาสตร์ชาติไทย ประเพณี และวัฒนธรรมไทย ให้เหมาะสมกับวัยของผู้เรียนโดยครอบคลุมตั้งแต่ระดับอนุบาลจนถึงระดับอุดมศึกษา 3. จัดการเรียนการสอนที่เน้นศีลธรรม จริยธรรม ต่อต้านการทุจริตทุกรูปแบบเพราะการทุจริตเป็นการทำลายชาติ 4. การจัดกิจกรรมการรณรงค์ในสถานศึกษา เพื่อสร้างจิตสำนึกความเป็นไทย อนุรักษ์เอกลักษณ์ไทย และให้เกิดการหวงแหนแผ่นดิน ทรัพย์สินของประเทศไทย 5. การจัดกิจกรรมของลูกเสือ เนตรนารี และผู้บำเพ็ญประโยชน์ให้เน้นหนักในเรื่องของการรักษาวินัย ความซื่อสัตย์สุจริต และความสามัคคีในชาติ และ 6. สถานศึกษาสามารถจัดกิจกรรมอื่นๆ เพิ่มเติมได้ตามความเหมาะสมของสถานศึกษาและวัยของผู้เรียน ด้านนางพรนิภา ลิมปพยอม เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน กล่าวว่า เรื่องนี้สามารถดำเนินการได้โดยไม่ต้องมีการปรับแก้หลักสูตร เพราะเนื้อหาเหล่านี้จริงๆ แล้วสอดแทรกอยู่ทุกกลุ่มสาระวิชาอยู่แล้ว เพียงแต่ต้องกำชับให้โรงเรียนเพิ่มน้ำหนักของการสอนในเนื้อหาเหล่านี้มากขึ้น เพื่อให้ทุกโรงเรียนปฏิบัติในทางเดียวกัน (กรุงเทพธุรกิจ เสาร์ที่ 20 พ.ย. 47 http://www.bangkokbiznews.com)





นร.แข่งคณิตที่อินเดีย กวาดเรียบ18รางวัล

นายอดิศัย โพธารามิก รมว.ศึกษาธิการ เปิดเผยว่า สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน(สพฐ.) ได้รับเชิญจากหน่วยงานทางการศึกษาของประเทศอินเดีย ให้ส่งนักเรียนเข้าร่วมแข่งขันคณิตศาสตร์นานาชาติ ระดับประถมศึกษา ครั้งที่ 2 IEMIC ช่วงเดือน ก.ย.ที่ผ่านมา โดยมีประเทศร่วมแข่งขัน 10 ประเทศ รวม 35 ทีม ซึ่งนักเรียนไทย สามารถคว้ารางวัลมากได้ถึง 18 รางวัล ดังนี้ รางวัลประเภทบุคคล (Individual Prize) เหรียญทอง ได้แก่ ด.ช.พศิน มนูรังษี รร.กรุงเทพคริสเตียนวิทยาลัย ด.ช.ญัฐวุฒิ ทารพันธ์ รร.อนุบาลสุธีธร, เหรียญเงิน ได้แก่ ด.ญ.สิรภัทร สุกใส รร.อนุบาลนครราชสีมา ด.ญ.ชยธิญา หลีเจริญ รร.อนุบาลสุธีธร ด.ช.วีรภัทรพัฒนศรี รร.สุพรรณภูมิ ด.ช.อธิภูริ์ กิตติไกรรัตน์ รร.อัสสัมชัญสมุทรปราการ ด.ช.ธิปก รักอำนวยกิจ รร.มารีย์อนุสรณ์ ด.ญ.ณัฐนิชา เทพพรพิทักษ์ รร.อนุบาลสุธีธรและเหรียญทองแดง ได้แก่ ด.ช.จักรพงษ์ ตะเคียนงาม รร.อนุบาลนครราชสีมา ด.ช.เชต เขมะคงคานนท์ รร.กฤษดิเดช ด.ช.กวิน วรสง่าศิลป์ รร.สาธิตมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ ปทุมวัน ด.ช.รัฐพล ธวัชพงศ์ธร รร.ปราโมชวิทยารามอินทรา ด.ญ.ญัฐนิช มาตระกูล รร.อนุบาลนครราชสีมา ด.ช.ชลธิศ มหากุศลศิริกุล รร.ราชวินิต และ ด.ช.วรณ ปัญโญวัฒนกุล รร.วัดพลับพลาชัย รางวัลประเภททีม (Team Prize) เหรียญทอง ได้แก่ ทีม A ด.ช.อธิภูริ์ กิตติไกรรัตน์ ด.ช.วีรภัทร พัฒนศรี ด.ญ.ญัฐนิช มาตระกูล และด.ญ.ณัฐนิชา เทพพรพิทักษ์, เหรียญเงิน ทีม B ได้แก่ ด.ช.พศิน มนูรังษี ด.ช.ญัฐวุฒิ ทารพันธ์ ด.ช.กวิน วรสง่าศิลป์ และด.ญ.สิรภัทร สุกใส และเหรียญทองแดง ได้แก่ ทีม C ด.ญ.ชยธิญา หลีเจริญ ด.ช.จักรพงษ์ ตะเคียน ด.ช.ธิปก รักอำนวยกิจ และด.ช.เชต เขมะคงคานนท์ (สยามรัฐ เสาร์ที่ 20 พ.ย. 47 http://www.siamrath.co.th)





ข่าววิทยาศาสตร์/เทคโนโลยี


ผู้เชี่ยวชาญเตือนสมาร์ทการ์ดมีโอกาสพลาด

ดร.จิม นอร์ตัน ที่ปรึกษาเชิงนโยบายด้าน อี-บิวซิเนสส์ และ อี-กัฟเวิร์นเม้นท์ จากประเทศอังกฤษ กล่าวในงานสัมมนาโต๊ะกลมสมาร์ทการ์ดกับสังคมไทย ซึ่งจัดโดยบริติช เคาน ซิล ร่วมกับ คณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ว่า การนำสมาร์ทการ์ดมาทำบัตรประจำตัวประชาชนอเนกประสงค์ แม้นำข้อมูลทางชีวภาพส่วนบุคคล เช่น ลายพิมพ์นิ้วมือ และดีเอ็นเอ มาใส่ในชิพเพื่อยืนยันตัวบุคคล ก็ไม่สามารถมั่นใจได้เต็มร้อยว่าเทคโนโลยีจะทำงานได้เที่ยงตรงร้อยเปอร์เซ็นต์ เพราะอย่างน้อยก็อาจเกิดความผิดพลาดได้ตามสถิติความเสี่ยง 1 คนใน 30 ล้านคน รวมทั้งความมั่นคงในการป้องกันการเจาะข้อมูลของแฮกเกอร์เพราะถ้าเกิดความผิดพลาดจะทำให้เกิดการปั่นป่วนของระบบส่งผลให้เกิดความเสียหายมหาศาล ทั้งนี้ กระทรวงไอซีทีจะได้รับสมาร์ทการ์ดลอตแรกจำนวน 5 แสนใบในวันที่ 30 พ.ย.นี้ จากกิจการร่วมค้า ซี เอส ที และจะส่งมอบกันทุก ๆ สิ้นเดือน จนครบ 12 ล้านใบตามสัญญาในวันที่ 30 เม.ย. 48 คาดประชาชนจะได้ใช้บัตรประจำตัวประชาชนอเนกประสงค์ใบแรกในวันที่ 2 ม.ค. 48 โดยประชาชนกลุ่มแรกที่จะได้ใช้ คือ ประชาชนใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ประชาชนในเมืองไอซีทีซิตี้ (ขอนแก่น, เชียงใหม่, ภูเก็ต) รวมทั้งจัดแบ่งเพื่อนำร่องทำบัตรประจำตัวอเนกประสงค์ให้กับนักเรียนด้วย (เดลินิวส์ จันทร์ที่ 15 พ.ย. 47 http://www.dailynews.co.th)





วัสดุฉลาดได้อย่างไร

วัสดุฉลาด (Smart Material) หมายถึงวัสดุที่มีโครงสร้างระดับนาโนที่ทำหน้าที่เฉพาะเจาะจงได้ตามเป้าหมาย โดยการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างพื้นฐานของมันและคุณสมบัติของมันตามสภาพแวดล้อมหรือสิ่งเร้าภายนอก คล้ายว่ามันมีชีวิต สามารถตอบสนองต่อสิ่งแวดล้อมได้ วัสดุฉลาดอาจเปลี่ยนสภาพหรือคุณสมบัติไปตามอุณหภูมิ ความชื้น ความเป็นกรดเป็นด่าง เป็นต้น ขึ้นอยู่กับที่ว่าเราออกแบบให้มันมีโครงสร้างของโมเลกุลหรืออะตอมที่สามารถรับรู้ต่อสิ่งเหล่านั้นได้นั่นเอง วัสดุฉลาดนำมาใช้งานมากมายในปัจจุบันนั้นมีอะไรกันบ้าง ตัวอย่างเช่น กระจกเปลี่ยนสีได้ที่สามารถปรับความเข้มและความสว่างของแสงได้ตามเซ็นเซอร์บนกระจก ทำให้กระจกมีความทึบมัวหรือใสได้ตามต้องการ ช่วยรักษาความสว่างในบ้านให้คงที่ กระจกฉลาดนี้จะถูกเคลือบด้วยฟิล์มบางระดับนาโนที่สามารถปรับโครงสร้างของผลึกในฟิล์มและควบคุมให้มีทิศทางตามทิศทางของกระแสไฟฟ้าหรือแสงที่มากระตุ้น แนวคิดเดียวกันนี้ได้นำไปใช้ในการผลิตแว่นตากันแดดที่ปรับเปลี่ยนสีได้ตามสภาพแสง ทำให้สามารถปรับความเข้มของเลนส์ได้แตกต่างกันระหว่างในที่ร่มหรือกลางแจ้ง ทำให้เราไม่ต้องพกแว่นตากันแดดอีกอันหนึ่ง สำหรับพื้นผิวที่ไม่ต้องการให้มีน้ำเกาะนี้ เราใช้ผงนาโนขนาดจิ๋วเคลือบที่ผิวของมัน ช่วยไม่ให้น้ำเกาะบนผิวกระจกเป็นคราบ หยดน้ำก็จะไหลพาเอาฝุ่นและความสกปรกที่เกาะอยู่ออกไป นั่นคือสามารถทำความสะอาดตัวเองได้เมื่อฝนตกนั่นเอง คล้ายๆ กับน้ำที่กลิ้งบนใบบัว มันจะไม่ทำให้เกิดคราบน้ำนั่นเอง ถุงมือยางที่ไม่มีวันรั่ว มันสามารถซ่อมแซมรอยขาดได้ เป็นอีกตัวอย่างหนึ่งของวัสดุฉลาด ที่อาศัยโครงสร้างโมเลกุลของยางที่ผสมด้วยอนุภาคนาโน เมื่อเกิดรอยขาดอนุภาคนาโนก็จะช่วยสมานโมเลกุลของยางซ่อมแซมรอยรั่ว และที่สำคัญมากไปกว่านั้น ถุงมือนี้ยังมีส่วนผสมของอนุภาคเงินขนาดนาโนที่ช่วยฆ่าเชื้อโรคไม่ว่าจะเป็นเชื้อราหรือแบคทีเรีย และยังช่วยลดไฟฟ้าสถิตที่อาจเกิดขึ้นระหว่างการสวมใส่ ขวดเบียร์ที่ทำจากแก้วหรือกระป๋องโลหะ จะถูกทดแทนด้วยขวดพลาสติกที่ผลิตจากวัสดุฉลาด ที่มีผลึกนาโนแทรกเข้าไปในเนื้อพลาสติก มันจะทำให้เกิดตาข่ายขนาดเล็กที่ช่วยเก็บกักโมเลกุลของออกซิเจนไม่ให้ออกไป ทำให้ช่วยรักษาคุณภาพของเบียร์ไว้ได้นานมากขึ้น และยังช่วยให้น้ำหนักขวดเบาลงและประหยัดแรงงานและค่าใช้จ่ายในการขนส่ง และยังสามารถย่อยสลายได้ตามธรรมชาติอีกด้วย เสื้อฉลาดหรือ Smart Shirt เป็นเสื้อผ้าที่ผลิตจากวัสดุฉลาด มีอนุภาคนาโนฝังตัวแทรกอยู่ตามเส้นใยของผ้านั้น เมื่อเราสวมใส่มันและมีการเสียดสีของเส้นใยผ้าหรือเมื่อร่างกายเราร้อนมากขึ้น มันจะมีกลิ่นหอมออกมา ดังนั้นเมื่อเรายิ่งออกกำลังกายมากๆ หรือมีการเคลื่อนไหวร่างกายมากๆ ก็จะยิ่งมีกลิ่นหอม อาจจะเป็นการช่วยบำบัดความเหนื่อยล้าด้วยกลิ่นหรือทำอโรมาเทอราปี (Aromatherapy) ช่วยให้เราผ่อนคลายได้ นอกจากนี้ยังอาจมีเซ็นเซอร์ฝังอยู่ในใยผ้า คอยรับรู้ถึงอุณหภูมิของร่างกายเราและช่วยระบายความร้อนได้เร็วขึ้น (กรุงเทพธุรกิจ อังคารที่ 16 พ.ย. 47 http://www.bangkokbiznews.com)





เว็บท่าแห่งชาติ !

กระทรวงไอซีที เตรียมเปิดตัวเว็บท่าหรือ Web Portal ที่จะเป็นศูนย์รวมความรู้ และเครือข่ายการจัดการความรู้ต่าง ๆ รวมถึงเป็นเวทีให้เด็ก เยาวชน ประชาชนและบุคคลในอาชีพต่าง ๆ ได้มีโอกาสแลกเปลี่ยนความรู้ความคิดเห็นจากผู้รู้ และผู้มีประสบการณ์จริง ผ่านเว็บท่า TKC หรือ www.tkc.go.th เป้าหมายเพื่อสร้างสังคมแห่งการเรียนรู้โดยอาศัยเทคโนโลยีเป็นตัวเชื่อมโยง จุดเด่นของเว็บท่าแห่งนี้คือมีสารบบความรู้ที่ดำเนินการโดยผู้เชี่ยวชาญในแต่ละสาขาวิชาชีพ ซึ่งหมายรวมถึงภูมิปัญญาไทยที่น่าสนใจและมีคุณค่า มีกลไกในการค้นหาแบบอัจฉริยะ แลกเปลี่ยนความรู้ประสบการณ์ผ่านชุมชนนักปฏิบัติได้ มีระบบจัดการเว็บไซต์ส่วนบุคคล มีเนื้อหาสาระที่หลากหลายรูปแบบและหลากหลาย เทคโนโลยีในการนำเสนอ ที่สำคัญข้อมูลจะต้องทันสมัยอยู่เสมอโดยใช้บริการเทคโนโลยีที่เรียกว่าเว็บเซอร์วิส นอกจากนี้ยังมีบริการความรู้ตามความต้องการผ่านอุปกรณ์สื่อสารที่หลากหลาย หากเสร็จตามเจตนารมณ์ เว็บท่าแห่งนี้จะกลายเป็นคลังแห่งความรู้ สืบทอดไป กระทรวงไอซีทีเตรียมเปิดตัวเว็บนี้ภายในเวทีการประชุมนานาชาติ Thailand International Conference on Knowledge management 2004 ที่จัดขึ้นเพื่อกระตุ้นให้คนไทยเห็นความสำคัญของการจัดการความรู้อย่างเป็นระบบ 24-25 พฤศจิกายนนี้ ที่อาคาร 4 อิมแพ็ค เมืองทองธานี เว็บที่กระทรวงไอซีทีบอกว่าเป็นเว็บแรกของโลกด้านการจัดการองค์ความรู้ที่ให้บริการสาธารณะแก่ประชาชน (เดลินิวส์ อังคารที่ 16 พ.ย. 47 http://www.dailynews.co.th)





อิเล็กโทรบีต เสื้อกันลวนลาม

นักศึกษาสถาบันแฟชั่นและเทคโนโลยีแห่งชาติ ประเทศอินเดีย ประดิษฐ์ "เสื้อแจ๊คเก็ตป้องกันการทำอนาจารและข่มขืน" ขึ้นมาสำหรับคุณผู้หญิงสวมใส่โดยเฉพาะ วัตถุดิบสำคัญที่ใช้ในการผลิตเสื้อดังกล่าวคือเส้นใยเหล็ก รวมทั้งชุดปล่อยกระแสไฟฟ้าที่ติดตั้งอยู่ตรงสายรัดเอว เมื่อไหร่ก็ตามที่คุณผู้หญิงถูกล่วงละเมิดทางเพศก็ให้กดปุ่มตรงชุดปล่อยไฟฟ้ารับรองโจรร้ายถูกไฟ 100 โวลต์ดูดช็อก (tribuneindia.com) (ข่าวสด อังคารที่ 16 พ.ย. 47 http://www.matichon.co.th/khaosod)





โคตรโกงอินเตอร์เน็ต! แฉเล่ห์"อาชญากรไซเบอร์"

"อาชญากรรมอินเตอร์เน็ต" หรือ "อาชญากรรมไซเบอร์" หมายถึงรูปแบบการฉ้อโกงที่ใช้คุณลักษณะอย่างใดอย่างหนึ่ง หรือหลายอย่างของอินเตอร์เน็ตมาหลอกลวงประชาชน เช่น ห้องแช็ตรูม อีเมล์ เว็บบอร์ด เว็บไซต์ การลงมือของอาชญากรไซเบอร์ใช้เวลาแค่ไม่กี่วินาที เช่น สามารถส่งอีเมลต้มตุ๋นไปยังเหยื่อทั่วโลกนับล้านคนในพริบตา รูปแบบการฉ้อโกงทางอินเตอร์เน็ตหลักๆ ที่พบมากนั้น อาชญากรไซเบอร์จะสร้างรูปแบบกลโกงให้ดูเหมือนกับการทำธุรกิจของเว็บไซต์พาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ (อี-คอมเมิร์ซ) เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือให้กับตนเองและทำให้ "เหยื่อ" ตายใจ สำหรับวิธีการฉ้อโกงทางอินเตอร์เน็ตที่พบบ่อยๆ มีดังต่อไปนี้ "ทำงานที่บ้าน" เบื้องหลังกลโกงชนิดนี้คือการหลอกให้เหยื่อจ่ายเงินค่าอุปกรณ์และค่าจัดทำรายละเอียดสำหรับการทำงาน ตั้งแต่หลัก 35 ดอลลาร์ไปจนถึงหลายร้อยดอลลาร์ แต่ผลสุดท้ายพอโอนเงินไปแล้วก็ได้แต่รอ “ธุรกิจขายของทอดตลาด-ค้าปลีก” จะลวงให้เหยื่อเข้ามาดูสินค้าในเว็บไซต์ ต่อจากนั้นจึงให้ข้อมูลชักจูงว่าเป็นสินค้าคุณภาพสูง แต่พร้อมขายให้เหยื่อในราคาถูก เพื่อให้เหยื่อนำไปหากำไรต่อ ถ้าเหยื่อหลงกลจะมีการบอกวิธีการโอนเงินตามราคาสินค้าที่ต้องการสั่งซื้อ แต่สินค้าที่ส่งมาให้ ถ้าไม่เป็น "ของปลอม" ก็เป็นสินค้าประเภทอื่นที่มีมูลค่าต่ำกว่าเงินที่จ่ายไป “ขโมยสถานะของเหยื่อ “ อาชญากรไซเบอร์จะไปเจาะข้อมูลส่วนตัวของเหยื่อ เช่น หมายเลขบัตรประชาชน มา "ขาย" หรือ "ใช้" เป็นหลักฐานในการทำธุรกรรมต่างๆ ได้แก่ การทำสัญญาซื้อรถยนต์ หรือนำไปสมัครเครดิตการ์ด “ ปั่นตลาดทุน-ตลาดหุ้น” วิธีการนี้ใช้จุดอ่อนเรื่อง "ความโลภ" ของคนมาหลอกเหยื่อ โดยคนร้ายจะกระจายข่าวสารผ่านทางอีเมล-เว็บบอร์ดที่เป็นเป้าหมาย เพื่อให้ข้อมูลด้าน "บวก" แก่กิจการหรือหุ้นที่กำลังเจ๊งไม่มีราคาค่างวดอะไร ซึ่งคนร้ายได้ไปกว้านซื้อไว้แล้ว ถ้านักลงทุนเกิดเชื่อและแห่เข้ามารุมซื้อจนราคาถูกปั่นขึ้นสูง คนร้ายจะเทขายหุ้นทิ้งทันที ในบางกรณีคนร้ายยังเก่งกาจถึงขั้นสร้าง "เว็บไซต์ข่าวปลอม" เพื่อใช้ในการปล่อยข่าว “ โกงเครดิตการ์ด” อาชญากรรมกลุ่มนี้ทำโดยการสร้างเว็บไซต์ประมูล หรือ เว็บไซต์ขายสินค้าคุณภาพดีราคาถูกขึ้นมา ถ้ามีเหยื่อหลงเข้ามาปุ๊บข้อมูลในเว็บจะโน้มน้าวให้เหยื่อยอมกรอกหมายเลข "บัตรเครดิต" เพื่อแลกกับการประมูลสินค้า หรือ ซื้อสินค้าราคาถูก เช่น กล้องวิดีโอ เมื่อคนร้ายได้หมายเลขเครดิตการ์ด จะทำให้เหยื่อตายใจระยะหนึ่งด้วยการนำหมายเลขดังกล่าวไปสั่งซื้อสินค้าชิ้นนั้นๆ ส่งไปให้เหยื่อจริง แต่เบื้องหลังนั้นเครดิตการ์ดของเหยื่อได้ถูกไปใช้สั่งซื้อสินค้าจำนวนมากที่ไม่เคยส่งมาถึงมือเหยื่อ (ข่าวสด อังคารที่ 16 พ.ย. 47 http://www.matichon.co.th/khaosod)





หมีขั้วโลกเสี่ยงสูญพันธุ์ เหตุน้ำแข็งอาร์คติกละลายท่วมผืนดิน

โรเบิร์ต คอเรลล์ ประธานกลุ่มประเมินผลกระทบจากภูมิอากาศทวีปอาร์คติก (ขั้วโลกเหนือ) หรือเอซีไอเอ เปิดเผยว่า ภาวะโลกร้อนกำลังละลายชั้นน้ำแข็งกรีนแลนด์และธารน้ำแข็งอาร์คติก ตั้งแต่อลาสกาไปจนถึงนอร์เวย์ ด้วยอัตราที่เร็วกว่าที่คาดไว้ก่อนหน้านี้ โดยกรีนแลนด์เป็นพื้นที่ที่มีบทบาทสำคัญต่อการเพิ่มของระดับน้ำทะลอย่างมาก รายงานของกลุ่มเอซีไอเอขัดแย้งกับรายงานขององค์การสหประชาชาติ เมื่อปี 2544 ที่ทำนายว่าระดับของน้ำในมหาสมุทรโลกจะเพิ่มขึ้น 20-90 เซนติเมตรในปี 2643 โดยได้ตั้งสันนิษฐานว่าการละลายของน้ำแข็งกรีนแลนด์ จะทำให้น้ำทะเลเพิ่มขึ้นเพียง 4 มิลลิเมตรเท่านั้น ขณะที่การพยากรณ์ของทีมงานเอซีไอเอระบุว่า น้ำทะเลจะเพิ่มขึ้นราว 1 เมตร และเฉพาะในส่วนของกรีนแลนด์จะทำให้น้ำทะเลของโลกเพิ่มขึ้นถึง 10 เซนติเมตร นอกจากนี้ การละลายของธารน้ำแข็งขั้วโลกเหนือ ยังจะหนุนให้ปริมาณน้ำทะเลเพิ่มขึ้นด้วย นั่นหมายความว่าชาวบังกลาเทศราว 17 ล้านคนที่พำนักอาศัยอยู่ในพื้นที่ที่สูงกว่าระดับน้ำทะลไม่ถึง 1 เมตร และหมู่เกาะในมหาสมุทรแปซิฟิกหลายแห่งจะถูกน้ำท่วม รวมถึงพื้นที่ทางตอนใต้ของไมอามี รัฐฟลอริดา สหรัฐด้วย รายงานของเอซีไอเอ ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากประเทศสมาชิกในแถบทวีปอาร์คติก ได้แก่ สหรัฐ แคนาดา รัสเซีย ไอร์แลนด์ นอร์เวย์ สวีเดน เดนมาร์ก และฟินแลนด์ เป็นการสำรวจภูมิอากาศครั้งใหญ่ที่สุดของนักวิทยาศาสตร์จำนวน 250 คน และพบว่าอุณหภูมิของทวีปอาร์คติกโดยเฉลี่ยจะเพิ่มเป็นสองเท่าที่ระดับ 4-7 องศาเซลเซียสในปี 2643 การละลายของน้ำแข็งยังส่งผลกระทบต่อมนุษย์ และสิ่งมีชีวิตหลายสายพันธุ์ เช่น หมีขั้วโลก ซึ่งมีโอกาสสูญพันธุ์ได้สูง ทั้งนี้ รัฐบาลทั้ง 8 ประเทศในทวีปอาร์คติก มีกำหนดจะประชุมในไอร์แลนด์ วันที่ 24 พ.ย.นี้ เพื่อตัดสินใจในภารกิจสำคัญเร่งด่วนที่ต้องรีบดำเนินการ (คมชัดลึก พุธที่ 17 พ.ย. 47 http://www.komchadluek.net)





เวทีหุ่นกู้ภัยใกล้ถึงเส้นชัย เฟ้นตัวแทนไทยสู่สนามโลก

ดร.ทวีเดช ศิริธนาพิพัฒน์ ผู้อำนวยการสถาบันค้นคว้าและพัฒนาเทคโนโลยีการผลิตทางอุตสาหกรรม คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ซึ่งเป็นผู้ดูแลเรื่องการจัดการแข่งขัน กล่าวว่า การแข่งขันหุ่นยนต์กู้ภัยได้รับความสนใจอย่างมากจากเยาวชนไทย โดยมีผู้สมัครเข้าแข่งขันกว่า 100 ทีม และเข้าแข่งขันรอบแรกกว่า 50 ทีม จาก 35 สถาบันทั่วประเทศ จากนั้นผ่านการคัดเลือกเหลือ 8 ทีมสุดท้าย ที่จะเข้าไปชิงชนะเลิศในวันที่ 28 พ.ย.นี้ ที่ เซ็นทรัลลาดพร้าว กรุงเทพฯ ทีมชนะเลิศจะได้รับทุนการศึกษากว่า 700,000 บาท และเป็นตัวแทนประเทศไทยไปแข่งเวทีโลกที่ประเทศญี่ปุ่น สำหรับกติกาการประกวดครั้งนี้กำหนดให้สอดคล้องกับการประกวดหุ่นยนต์กู้ภัยเวทีโลก โดยจะตัดสินจากความสามารถของหุ่นยนต์ เทคนิค ความคิดสร้างสรรค์และการใช้เวลาในสนาม ซึ่งแต่ละทีมต้องพยายามใช้เวลาให้น้อยที่สุด เพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์จริง ที่หากเกิดอุบัติภัยจำเป็นจะต้องใช้เวลาในการช่วยเหลือให้น้อยที่สุด เพื่อความปลอดภัยของผู้เคราะห์ร้าย อีกทั้งในรอบชิงชนะเลิศนี้ยังจัดให้การแข่งขันใกล้เคียงกับสนามระดับโลกมากที่สุด เพื่อเตรียมความพร้อมให้กับเยาวชนก่อนไปสู่สนามระดับโลก ด้าน รศ.ดร.มนูกิจ พานิชกุล นายกสมาคมวิชาการหุ่นยนต์ไทย กล่าวว่า โครงการประกวดหุ่นยนต์นี้ ถือเป็นครั้งแรกของไทย ซึ่งเป็นการท้าทายความสามารถของเยาวชนไทยอย่างมาก เพราะหุ่นยนต์กู้ภัยเป็นหุ่นยนต์ที่มีความซับซ้อน ใช้เทคนิคที่ค่อนข้างยาก แต่เมื่อได้เห็นผลงานของแต่ละทีมในรอบที่ผ่านมา ถือได้ว่าเยาวชนไทยมีความรู้ความสามารถมากพอที่จะประสบความสำเร็จในเวทีระดับโลกได้ (คมชัดลึก พุธที่ 17 พ.ย. 47 http://www.komchadluek.net)





ได้ยาอายุวัฒนะขนานในฝันแล้วอายุยืนยงทั้งคงรูปทรงให้สวยงาม

นักวิทยาศาสตร์ได้เกิดความหวังขึ้น เมื่อได้ศึกษาค้นพบสารที่เรียกกันว่า "เรสเวราทรอล" ซึ่งมีวี่แววว่าอาจจะเป็นสารที่อาจเป็นทั้งยาอายุวัฒนะ และยาที่ช่วยให้คงความเป็นหนุ่มเป็นสาว พร้อมกับยังช่วยป้องกันโรคหัวใจและมะเร็ง เขารายงานว่า สารนี้ได้แสดงให้เห็นในการทดลองว่า มันช่วยให้ ร่างกายสามารถซ่อมแซมตัวเองได้ และที่สำคัญยิ่งกว่านั้น มันยังช่วยให้เซลล์เผาผลาญไขมันในตัวเองได้ไวขึ้น ซึ่งหากว่ามันได้ผลจริง มันจะต้องเป็นยาในฝันของบริษัทยาทั้งหลาย เพราะมันจะเป็นยาที่ทำให้ "เราจะคงอยู่เป็นหนุ่มเป็นสาวพร้อมทั้งมีรูปทรงสะโอดสะองได้อีกด้วย" สารเรสเวราทรอลมีอยู่ในเปลือกของลูกองุ่นและในเหล้าไวน์แดง นักวิทยาศาสตร์ทั่วโลกที่พยายามจะล่วงรู้ความลับที่เรียกกันว่า "ปริศนาของคนฝรั่งเศส" ซึ่งเป็นที่รู้กันว่า มีความสุขในการกินอาหาร ที่ประกอบด้วยเนื้อสัตว์และนมเนยรวมทั้งเหล้าไวน์มากๆ แต่กลับยังคงมีสุขภาพแข็งแรงดี ก็พากันสงสัยว่าอาจจะเพราะสารเรสเวราทรอลนี้ จึงตั้งแต่นั้นมาถึงได้มีการแข่งขันกัน เพื่อผลิตมันในรูปของสารสังเคราะห์ขึ้นมาให้ได้ (ไทยรัฐ พฤหัสบดีที่ 18 พ.ย. 47 http://www.thairath.co.th)





คนเหล็กครองเมือง

นายเควิน วอร์ริค ศาสตราจารย์ประจำภาควิชาการติดต่อและควบคุมของสัตว์ และเครื่องจักรอิเล็กทรอนิกส์ ประจำมหาวิทยาลัยรีดดิ้ง ประเทศอังกฤษ ซึ่งได้ฝังชิพคลื่นวิทยุ (อาร์เอฟไอดี) ไว้ในแขน พร้อมทั้งเชื่อมต่อระบบประสาทของตนเข้ากับคอมพิวเตอร์ ได้กล่าวคำปราศรัยในงานประชุมเกี่ยวกับข้อมูลดิจิทัลส่วนบุคคล (ดิจิทัล ไอเดนติตี้ ฟอรัม) ครั้งที่ 5 ในกรุงลอนดอน ว่าในอนาคตผู้ที่ไม่ได้เชื่อมต่อกับระบบคอมพิวเตอร์ อาจกลายเป็นบุคคลแปลกประหลาดในสังคม โดยมนุษย์กำลังเข้าสู่ยุคที่ไวรัสซอฟต์แวร์และไวรัสทางชีวภาพ กลายเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน เพราะเมื่อใดที่มีการเชื่อมโยงมนุษย์เข้ากับเครือข่ายคอมพิวเตอร์ การแฮกระบบต่างๆ จะกลายเป็นปัญหาอันตรายและทัศนคติที่สังคมมีต่อแฮกเกอร์จะต่างไปจากเดิมโดยสิ้นเชิง สำหรับโครงการทดลองของนายวอร์ริคนั้น ได้เชื่อมต่อตนเองเข้ากับเครือข่ายคอมพิวเตอร์ พร้อมทั้งใช้ระบบดังกล่าวสั่งงานแขนหุ่นยนต์ที่อยู่ในสหรัฐ โดยไม่ได้เปิดเผย "ไอพี แอดเดรส" สำหรับแขนของตนเอง เพื่อป้องกันแฮกเกอร์เข้าโจมตี นอกจากนี้ได้ร่วมมือกับโรงพยาบาลสโตค แมนเดอวิลล์ ในอังกฤษ ศึกษาความเป็นไปได้ในการพัฒนาระบบประสาทที่เชื่อมโยงเครือข่าย สำหรับผู้มีปัญหาด้านกระดูกสันหลัง อาทิ การศึกษาว่าผู้ป่วยจะสามารถควบคุมรถเข็นผ่านทางระบบประสาทของตนเองได้หรือไม่ การฝังชิพคลื่นวิทยุลงในแขนมนุษย์ เป็นสิ่งที่เริ่มนำมาใช้งานจริงแล้ว ในประเทศสเปนได้อนุญาตให้ลูกค้าเลือกจ่ายเงินจากชิพที่ฝังในแขน และเจ้าหน้าที่กฎหมายในประเทศเม็กซิโกบางรายจะถูกฝังชิพไว้ในร่างกาย เพื่อป้องกันการถูกลักพาตัว ขณะที่สำนักงานด้านอาหารและยาของสหรัฐ ได้อนุมัติการฝังชิพคลื่นวิทยุในมนุษย์ เพื่อบันทึกข้อมูลด้านสุขภาพของผู้ป่วย (คมชัดลึก พฤหัสบดีที่ 18 พ.ย. 47 http://www.komchadluek.net)





จีนจะส่งดาวเทียมให้ครบ 100 ดวงมองเห็นทั่วประเทศทุกซอกทุกมุม

กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีจีนกล่าวอธิบายว่า จีนมีโครงการจัดวางขอบข่ายของการสำรวจขนาดใหญ่ เพื่อการสำรวจแหล่งน้ำ ป่าเขา ไร่นา การก่อสร้างตามเมืองต่างๆ และกิจกรรมทางสังคมต่างๆ "โดยมีเป้าหมายเพื่อจะได้ล่วงรู้ข้อมูลอันจำเป็นของเหตุการณ์ต่างๆ โดยการอาศัยการมองดูจากอวกาศ" จีนได้เปิดศักราชส่งดาวเทียมเพื่อการวิจัยขึ้นสู่วงโคจรรอบโลก ตั้งแต่เดือนตุลาคมปีกลายอยู่เป็นระยะ และได้เป็นชาติมหาอำนาจส่งมนุษย์อวกาศ เดินทางรอบโลกได้สำเร็จเป็นชาติที่ 3 ด้วยการส่งมนุษย์อวกาศเดินทางใน อวกาศรอบโลกได้ 14 รอบ และจีนตั้งใจจะส่งดาวเทียมขึ้นสู่วงโคจรรอบโลก ก่อนปี พ.ศ. 2563 จำนวนไม่น้อยกว่า 100 ดวง เพื่อให้จับตาเห็นดินแดนทั้งประเทศจีนได้ทั่วถึงทุกซอกมุม (ไทยรัฐ ศุกร์ที่ 19 พ.ย. 47 http://www.thairath.co.th)





อังกฤษโชว์ซอฟต์แวร์ตรวจสอบผลิตภัณฑ์ เช็คความผิดพลาดตั้งแต่ขั้นตอนแรกยันจบกระบวนการ

ทิม มิทเชล ผู้อำนวยการฝ่ายการพัฒนาธุรกิจ บริษัทเดลแคมจากอังกฤษ ได้สาธิตการทำงานของซอฟต์แวร์สำหรับการตรวจสอบสินค้า (PowerINSPECT) ซึ่งเป็นนวัตกรรมล่าสุดของบริษัทภายในงานมหกรรมเครื่องกล เครื่องมือกลและเทคโนโลยีโลหะการนานาชาติ ปีที่ 18 ณ ศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทค บางนา เขากล่าวว่า ซอฟต์แวร์ดังกล่าวบริษัทพัฒนาขึ้นมาสำหรับการตรวจสอบกระบวนการผลิตสินค้าโลหะ อย่างเช่น การกลึงหรือขึ้นรูปวัสดุ เพื่อตรวจความถูกต้องและแม่นยำตั้งแต่เริ่มต้นการผลิตสินค้า พร้อมทั้งสามารถรายงานผลความผิดพลาดมายังผู้ควบคุมได้อีกด้วย สำหรับการทำงานของซอฟต์แวร์นี้ประกอบไปด้วย เครื่องจักร ซอฟต์แวร์ PowerINSPECT และหัวเข็มอ่านค่า โดยหัวเข็มจะอ่านค่าชิ้นงานเมื่อนำเข้าสู่เครื่องจักรและส่งข้อมูลไปยังซอฟต์แวร์ เพื่อประมวลผลค่าความถูกต้องและความผิดพลาดในแต่ละจุด ซึ่งช่วยให้ผู้ผลิตแก้ไขชิ้นงานได้ทันที ไม่ต้องเสียเวลามาตรวจสอบความผิดพลาดภายหลังจากผลิตเสร็จเรียบร้อยแล้ว ด้าน ได แฮร์รีส เจ้าหน้าที่ส่งเสริมการส่งออกการค้าและการลงทุนแห่งอังกฤษ กล่าวว่า ปัจจุบันบริษัทชั้นนำในประเทศอังกฤษต่างสนใจเข้ามาช่วยส่งเสริมการผลิตของประเทศไทยให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น โดยเฉพาะการถ่ายทอดเทคโนโลยีนวัตกรรม รวมทั้งร่วมลงทุนในการผลิต อาทิ อุตสาหกรรมยานยนต์ อุตสาหกรรมการผลิตยา อุตสาหกรรมเกษตร และอุตสาหกรรมอาหารและบรรจุภัณฑ์ อุตสาหกรรมโทรคมนาคม โดยเฉพาะอย่างยิ่งอุตสาหกรรมยานยนต์ เทคโนโลยีดังกล่าวคาดว่าจะสามารถช่วยเพิ่มศักยภาพการแข่งขันของประเทศไทยจาก 1 ล้านล้านบาทในปีนี้ เป็น 1.8 ล้านล้านบาทในปี 2553 โดยเฉพาะภาคอุตสาหกรรมยานยนต์ (กรุงเทพธุรกิจ เสาร์ที่ 20 พ.ย. 47 http://www.bangkokbiznews.com)





สธ.จับมืออินเทลพัฒนาโค้ดมาตรฐานด้านสาธารณสุข

กระทรวงสาธารณสุขลงนาม ความร่วมมือทางเทคโนโลยีกับอินเทล ไมโครอิเล็กทรอนิกส์ คอร์ป ผู้พัฒนาโปรเซสเซอร์รายใหญ่ เพื่อนำระบบเทคโนโลยีสารสนเทศมาพัฒนาระบบสาธารณสุขของประเทศไทย โดยจะพัฒนารูปแบบของการทำโค้ดมาตรฐานสำหรับวงการสาธารณสุข และแพลตฟอร์มการเก็บข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ทางการแพทย์ (Electronic Medical Record - EMR) กรอบความร่วมมือดังกล่าวครอบคลุม 3 ด้าน คือ 1.การพัฒนาโค้ดมาตรฐานทางด้านสาธารณสุข 2.การเก็บข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ทางการแพทย์ (EMR) และการพัฒนารูปแบบโรงพยาบาลดิจิทัลและเครือข่ายข้อมูลโรงพยาบาล โดยมีแนวทางการดำเนินงานด้วยการศึกษา และ 3.วิเคราะห์โค้ดมาตรฐานทางด้านสาธารณสุข การพัฒนารูปแบบของโค้ดมาตรฐานทางสาธารณสุขที่ใช้ได้ในทุกประเภท ความร่วมมือในการพัฒนามาตรฐาน สิ่งจำเป็นสำหรับนโยบายและแพลตฟอร์มสำหรับการบันทึกข้อมูลทางการแพทย์อิเล็กทรอนิกส์ และกระบวนการนโยบาย ข้อกำหนดจำเพาะด้าน หน้าที่และรูปแบบของเทคโนโลยี (กรุงเทพธุรกิจ เสาร์ที่ 20 พ.ย. 47 http://www.bangkokbiznews.com)





ข่าววิจัย/พัฒนา


เดินกับปั่นจักรยานไปทำงาน พาหนีรอดปลอดมะเร็งลำไส้

หัวหน้าคณะศึกษา ดร.หลีเฟ็ง โฮ ของสถาบันต่อต้านมะเร็งแห่งชาติของสหรัฐฯ กล่าวสรุปผลการศึกษาความเกี่ยวพันของการออกกำลังกับโรคมะเร็ง ในหมู่ของคนชาติเอเชียหนแรก ว่า "การออกกำลังเป็นประจำ ที่ทำติดต่อกันมานานจะช่วยป้องกันไม่ให้เป็นโรคมะเร็งลำไส้ได้ และการเดินและขี่จักรยานเป็นตัวอย่างที่ดีของการออกกำลังในชีวิตปกติประจำวันและคนเอเชียตั้งแต่ไหนแต่ไรมามักจะป่วยเป็นโรคมะเร็งลำไส้น้อยกว่าชาวตะวันตก แต่มาระยะ 20 กว่าปีมานี้ ปรากฏว่าชาวเซี่ยงไฮ้ได้ป่วยด้วยโรคนี้เพิ่มสูงขึ้นอย่างผิดสังเกต โดยที่สาเหตุอาจจะมาจากเพราะการเปลี่ยนแบบการกินอยู่ และการเดินทางเหมือนแบบชาวตะวันตก ดร.โฮกับคณะได้ทำการศึกษาในหมู่ชาวเซี่ยงไฮ้ ที่เป็นคนไข้โรคมะเร็งลำไส้ 931 ราย เทียบกับคนปกติธรรมดาที่มีอายุระหว่าง 30-70 ปี อีก 1,552 ราย และได้รายงานผลการศึกษาในวารสาร "สาธารณสุขศาสตร์" ของสหรัฐฯ ว่า "ไม่ว่าหญิงและชายที่ได้ออกกำลังเคลื่อนไหวร่างกายมาก จะห่างไกลจากโรคมะเร็งลำไส้ได้ถึง 50% ยิ่งหากได้ทำอยู่มานานจนถึงปัจจุบัน เป็นเวลาไม่น้อยกว่า 35 ปี จะห่างโรคได้ไกลมากถึง 69% (ไทยรัฐ จันทร์ที่ 15 พ.ย. 47 http://www.thairath.co.th)





กินวิตามินอีไม่ช่วยให้อายุยืน ซ้ำร้ายกลับบั่นอายุให้สั้นเข้า

หัวหน้าคณะนักวิจัยแห่งมหาวิทยาลัยจอห์น ฮอปกินส์ ของสหรัฐฯ ดร.เอดการ์ มิลเลอร์ กล่าวเปิดเผยว่า ผู้ที่กินวิตามินอีเป็นปริมาณสูงๆ ในบางกรณีอาจจะพานตายเร็วขึ้นด้วยซ้ำ แม้ว่าจะยังไม่รู้สาเหตุที่แน่ชัดก็ตาม เขาคิดว่าคนกินวิตามินอีเพราะเชื่อว่ามันจะช่วยทำให้อายุยืนขึ้น แต่ในการศึกษาหนนี้ ไม่ได้ผลยืนยันแบบนี้" เขากับคณะนักวิจัยได้ทบทวนรายงานการศึกษาผู้ที่กินวิตามินอีเป็นอาหารเสริมประจำ เรื่องต่างๆหลายเรื่องด้วยกัน ซึ่งการศึกษาเหล่านี้เกี่ยวพันกับตัวอย่างล้วนแต่เป็นผู้สูงอายุในทวีปอเมริกาเหนือ ยุโรปและจีนมารวมกันไม่ต่ำกว่า 136,000 คน ดร.มิลเลอร์ได้บอกในที่ประชุมของสมาคมแพทย์โรคหัวใจแห่งอเมริกาว่า ได้พบว่าผู้ที่กินวิตามินอีมากถึงวันละ 200 หน่วยสากลหรือกว่านั้น มีอัตราการตายในช่วงที่ทำการศึกษาอยู่นาน 3 ปี สูงยิ่งกว่าคนไม่ได้กินเสียอีก เขาบอกสรุปว่า "เราไม่คิดว่าคนเราจำเป็นจะต้องกินวิตามินอีเป็นอาหารเสริม เพราะก็ได้จากอาหารการกินกันอย่างเพียงพอแล้ว โดยเฉพาะจากพวกถั่ว น้ำมัน พืช ธัญญาหาร และผักใบเขียวอันอุดมด้วยวิตามินอี (ไทยรัฐ จันทร์ที่ 15 พ.ย. 47 http://www.thairath.co.th)





เทคนิคใหม่คุมกำเนิดชายไม่ใช้ฮอร์โมน

ดร.ไมเคิล โอแรนด์ จากมหาวิทยาลัยนอร์ธ แคโรไลนา หัวหน้าทีมวิจัยของโครงการวิจัยศึกษาการคุมกำเนิดชายแบบใหม่ ซึ่งพบว่าใช้ได้ผลกับลิง และส่วนใหญ่หลังจากที่หยุดการบำบัดแล้วระบบสืบพันธุ์ สามารถกลับมาสมบูรณ์ จึงมีความเป็นไปได้ที่จะพัฒนาสำหรับใช้ในมนุษย์ในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า โอแรนด์ได้ทดลองการคุมกำเนิดชาย โดยฉีดโปรตีนเอพพินเข้าไปในลิง เพื่อให้สร้างภูมิคุ้มกัน โปรตีนดังกล่าวผลิตจากต่อมลูกหมาก และท่อนำอสุจิที่ขดตัวกันอย่างแน่นหนา สำหรับส่งสเปิร์มออกจากอวัยวะเพศ โดยใช้หลักการไม่ให้สเปิร์มหลุดรอดออกจากน้ำเหนียวอสุจิเพื่อผ่านช่องคลอดไปปฏิสนธิกับไข่ ในการทดลองพบว่า ลิงตัวผู้ 7 ใน 9 ตัว มีระดับภูมิต้านทาน (แอนติบอดี) สูงขึ้น และลิง 5 ใน 7 ตัว สามารถกลับมาสืบพันธุ์ได้ใหม่ เมื่อระบบภูมิคุ้มกันหยุดไป โดยลิงถูกฉีดด้วยเอปปินทุกๆ 3 สัปดาห์ เพื่อสร้างภูมิคุ้มกัน ดร.แพทริเซีย อนาสตาเซีย ดีลีน จากมหาวิทยาลัยเดลาแวร์ กล่าวถึง ผลการทดลองที่ได้ว่าสำคัญมาก และถือเป็นโชคของนักวิทยาศาสตร์ ที่สามารถพบโปรตีนที่ผลิตแอนตีบอดีได้ เนื่องจาก ปกติร่างกายจะไม่สร้างแอนติบอดีที่ต่อต้านโปรตีนของตัวเอง ทว่าอัณฑะและท่อนำไข่จะมีชั้นปกป้องไว้อย่างดี โปรตีนจึงไม่เคยเข้าสู่กระแสเลือดเลย ดังนั้น เมื่อฉีดเอปปินเข้าสู่กระแสเลือด ระบบภูมิคุ้มกันจึงไม่รู้จัก เลยสร้างแอนติบอดีขึ้นมา (กรุงเทพธุรกิจ จันทร์ที่ 15 พ.ย. 47 http://www.bangkokbiznews.com)





นักวิทย์ไทยจับมือ'ออกซ์ฟอร์ด' พัฒนาเซ็นเซอร์แสง

ดร.คัทลียา เพชรสิงห์ นักวิจัยภาควิชาฟิสิกส์ คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ร่วมมือกับนักวิจัย จากมหาวิทยาลัยออกซ์ฟอร์ด ศึกษาถึงปรากฏการณ์สั่นสะเทือนของวัสดุ (ไซโคลตรอน เรโซแนนซ์) ซึ่งวัสดุนี้เป็นสารกึ่งโลหะที่เรียกว่า อินเดียมอาซะไนด์ แกลเลียมแอนทิโมไนด์ สารดังกล่าวมีศักยภาพและแนวโน้มที่จะพัฒนาเป็นอุปกรณ์เปล่งแสงและตรวจวัดความร้อน ซึ่งนำไปประยุกต์ใช้ทางการแพทย์หรือในโรงงานอุตสาหกรรมและระบบอาวุธยุทโธปกรณ์ได้ นอกจากนี้ ดร.คัทลียา ยังพัฒนาอุปกรณ์ตรวจวัดมลพิษเพื่อทดสอบประสิทธิภาพของวัสดุดังกล่าว ซึ่งประกอบด้วย หัวจ่ายแสงเลเซอร์และตัวตรวจจับ เมื่อนำอากาศที่ได้มาถ่ายเทเข้าสู่อุปกรณ์นี้ เครื่องก็สามารถอ่านค่าได้ว่า อากาศที่นำมาทดลองมีก๊าซพิษหรือไม่ หากตรวจพบก็ยังบอกได้อีกว่ามีก๊าซพิษกี่ชนิด เนื่องจากก๊าซแต่ละชนิดมีการดูดซับแสงอินฟาเรดในระดับที่ต่างกัน จึงสามารถจำแนกก๊าซพิษได้ 'ปรากฏการณ์ไซโคลตรอน เรโซแนนซ์จะเกิดขึ้นเมื่อให้สนามแม่เหล็กกับวัสดุทำให้พาหนะตัวนำในวัสดุเคลื่อนที่ด้วยความถี่เชิงมุมหนึ่งๆ จากนั้นเมื่อฉายแสงไปบนวัสดุพาหนะตัวนำในวัสดุนั้นจะดูดซับเอาแสงความถี่นั้นไว้ ทำให้เราสามารถวัดและวิเคราะห์แสงที่ทะลุผ่านวัสดุได้ เพื่อหาข้อมูลของพาหนะตัวนำนั้นได้' สารกึ่งโลหะดังกล่าว ประเทศไทยยังต้องนำเข้าวัสดุประเภทนี้อยู่ เนื่องจากประเทศไทย (กรุงเทพธุรกิจ จันทร์ที่ 15 พ.ย. 47 http://www.bangkokbiznews.com)





ก๊าซเรดอนภัยมืดเหนือทะเลสาบสงขลา รัฐให้ข้อมูลชาวบ้านเสี่ยงมะเร็งปอด

ผลงานวิจัย ของ ผศ.ดร.ไตรภพ ผ่องสุวรรณ และคณะ จากมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ โดยการสนับสนุนของสำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ (วช.) ได้ทำการวิจัยการประเมินความเสี่ยงต่อก๊าซเรดอนภายในและภายนอกอาคารในพื้นที่ชุมชนเขตลุ่มน้ำทะเลสาบสงขลา และเพื่อตรวจวัดความเข้มข้นของก๊าซเรดอนในอากาศตามอาคารบ้านเรือนจำนวนกว่า 2,161 ครัวเรือน ซึ่งมีปริมาณก๊าซเรดอนเกินมาตรฐานกำหนดและส่งผลให้ครัวเรือนรอบทะเลสาบกลายเป็นชุมชนที่มีความเสี่ยงต่อการเป็นโรคมะเร็งสูงขึ้น สาเหตุที่พื้นที่ลุ่มน้ำทะเลสาบสงขลามีการปนเปื้อนของก๊าซเรดอนค่อนข้างสูงเนื่องมาจากบ้านเรือนส่วนใหญ่ตั้งอยู่บริเวณที่มีความเข้มข้นของยูเรเนียมที่ผิวดินสูง และสร้างด้วยวัสดุจำพวกหินและทรายที่มียูเรเนียมปะปนอยู่ แต่อย่างไรก็ตาม จากการตรวจสุขภาพของประชาชนในพื้นที่ พบว่า มีอัตราการเจ็บป่วยเป็นโรคมะเร็งสูงกว่าพื้นที่อื่นๆ นายสุพจน์ จันทราภรณ์ศิลป์ ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งอ่าวไทยตอนล่าง กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง กล่าวว่า ขณะนี้ศูนย์ฯกำลังเก็บข้อมูลปัจจุบันทั้งจำนวนสัตว์น้ำ คุณภาพน้ำ การตกตะกอน การปนเปื้อน ตลอดจนสภาพแวดล้อมภายในบริเวณทะเลสาบสงขลาเพื่อวิเคราะห์ว่าสภาพแวดล้อมในบริเวณทะเลสาบสงขลามีคุณภาพอย่างไร ซึ่งจะเสร็จสิ้นในสิ้นปี (กรุงเทพธุรกิจ จันทร์ที่ 15 พ.ย. 47 http://www.bangkokbiznews.com)





น.ศ.มจธ.เจ๋ง ทำ"กบเหลาดินสออวกาศ" คว้ารางวัล"ออกแบบผลิตภัณฑ์ยอดเยี่ยม"

นายชินพิชญ์ กุสุมวิจิตร นักศึกษาชั้นปีที่ 2 โปรแกรมศิลปะอุตสาหกรรม คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์และการออกแบบ(อินเตอร์) มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี(มจธ.) เจ้าของผลงานกบเหลาดินสอที่ชนะประกวดการออกแบบผลิตภัณฑ์ยอดเยี่ยม "ELLE DECORATION and PROPRGANDA Young Designer Award 2004" ให้สัมภาษณ์ในข่าวอินไซด์ มจธ.ว่า เหตุที่กบเหลาดินสอชนะผลงานที่ส่งเข้ามากว่า 200 ชิ้น เพราะสามารถตอบโจทย์เรื่อง "Emotional Design ได้มากที่สุด คือสามารถใช้สอยในชีวิตประจำวันได้และเป็นการทำงานบนพื้นฐานที่เชื่อว่าอารมณ์ส่งผลต่อการออกแบบโดยตรงในหลายมิติ "การแข่งขันครั้งนี้ต้องคำนึงถึงองค์ประกอบ 3 อย่าง คือหนึ่ง รูปลักษณ์ที่สวยงาม ต้องทำให้เกิดความพึงพอใจเมื่อแรกเห็น สองคือ ใช้ได้จริงและก่อให้เกิดความพอใจหลังใช้ผลิตภัณฑ์ สนองประสาทสัมผัส ทั้งการมองเห็นและการสัมผัส สามคำนึงถึงปฏิกิริยาตอบสนองจากผู้ใช้ คือผู้ใช้เกิดความรู้สึกผูกพันหรือพึงพอใจภาพลักษณ์ของผลิตภัณฑ์ อีกทั้งต้องสื่อให้ผู้ใช้ทราบได้ถึงเอกลักษณ์หรือรสนิยมของผู้เป็นเจ้าของได้ (มติชนรายวัน จันทร์ที่ 15 พ.ย. 47 http://www.matichon.co.th)





อังกฤษรวมพลคนประดิษฐ์

สมาคมนักประดิษฐ์แห่งอังกฤษ จัดนิทรรศการเผยแพร่ผลงาน ของนักประดิษฐ์สติเฟื่องร่วม 180 คน หวังเป็นเวทีแลกเปลี่ยน ระหว่างผู้ประกอบการ กับเจ้าของไอเดีย เพื่อต่อยอดชิ้นงาน เป็นผลิตภัณฑ์ออกสู่ท้องตลาด ศาสตราจารย์ไฮนซ์ วูลฟฟ์ นักประดิษฐ์ชื่อดังบนเกาะอังกฤษ บอกว่างานนี้มีสิ่งประดิษฐ์ที่น่าสนใจหลายรายการ ไม่ว่าจะเป็นสิ่งประดิษฐ์ชิ้นเก่า ที่นำมาพัฒนาใหม่ ที่น่าจะเป็นสินค้าขายดีในอนาคตอันใกล้ เช่น "เมาส์มาสเตอร์" กับดักหนูรุ่นใหม่ผลงานของเดเนียล โดนี หนุ่มไอริช จุดเด่นอยู่ตรงการนำถังมาผนวกรวมกับกับดักหนูปกติที่มีขายอยู่ในท้องตลาด และวิธีล่อเหยื่อให้มาติดกับก็แค่ใช้เนยแข็ง หรือช็อกโกแลต ทันทีที่หนูมาเหยียบบนกับดัก น้ำหนักที่เพิ่มขึ้นจะดันให้ฝาถังเปิด และทิ้งหนูลงไปเก็บไว้ในถังโดยไม่สามารถออกมาได้อีก "เฟล็กซี-ลิงค์ เอ็กซ์แพนเดเบิล วอล์กเวย์" (Flexi-link Expandable Walkway) หรือทางเดินที่มีลักษณะเป็นอุโมงค์เชื่อมทางลงของเครื่องบินไปยังรถโดยสารสนามบิน หรือตัวอาคารได้โดยตรง ด้านโรบิน กรีน นักประดิษฐ์ โซ่คล้องประตูที่สามารถปลดจากภายนอกได้ เหมาะกับบ้านพักอาศัยที่มีผู้สูงอายุอยู่เพียงลำพัง วิธีใช้งานไม่ยุ่งยาก เพราะยึดตามรูปแบบเดิม เพียงแต่เพิ่มลูกเล่นให้กับโซ่คล้องตัวล็อกที่กันไม่ให้คนแปลกหน้าดันประตูเข้ามาได้ ด้วยการเพิ่มกุญแจอีกดอกที่สามารถผลักให้หมุดคล้องหลุดออกได้ มั่นใจได้เลยว่าเพื่อนบ้านสามารถเข้ามาช่วยเหลือผู้สูงอายุได้ยามฉุกเฉิน "ปาร์คกิ้งโพสต์" (Parking Post) ที่จอดรถส่วนตัว มองเผินๆ จะคิดว่ามีตู้จดหมายตั้งอยู่หน้าบ้าน แต่ความพิเศษอยู่ตรงที่ตู้จดหมายนี้สามารถยืดหดได้ตามคำสั่งผ่านระบบควบคุม ที่รับส่งสัญญาณผ่านคลื่นวิทยุ ไบรอัน ลูเกส เจ้าของสิ่งประดิษฐ์บอกว่า หากเจ้าของบ้านต้องการจอดรถบริเวณตู้จดหมาย ก็เพียงกดปุ่มสั่งให้หดตัว ตู้จดหมายก็จะแบนราบไปกับพื้นดิน ผลิตภัณฑ์ชิ้นนี้เปิดตัวอย่างเป็นทางการแล้วในอังกฤษ และจะเริ่มจำหน่ายเดือนหน้าในราคาชุดละราว 38,000 บาท "แทปมาสเตอร์" (Tapmaster) อุปกรณ์อีกชิ้นที่เหมาะกับคนขี้ลืมที่ชอบเปิดน้ำทิ้งไว้ในห้องน้ำ หรือในซิงค์ล้างจานจนล้นปรี่ ติดตั้งเซนเซอร์บริเวณช่องระบายน้ำล้นมาตรฐานของถังน้ำหรือซิงค์ เมื่อล้นก็จะส่งสัญญาณเตือนให้รับรู้ ช่วยประหยัดค่าน้ำ และป้องกันอุบัติเหตุน้ำท่วมบ้านได้ผลดีทีเดียว (กรุงเทพธุรกิจ อังคารที่ 16 พ.ย. 47 http://www.bangkokbiznews.com)





ทัพเรือประยุกต์ แคปซูลออกซิเจนรักษาโรค

ร.ท.รุ่งหิรัญ สะอาดโอด เจ้าหน้าที่เวชศาสตร์การบิน กองเวชศาสตร์ใต้น้ำและการบิน กรมแพทย์ทหารเรือ เปิดเผยว่า กรมแพทย์ทหารเรือประยุกใช้ประโยชน์ 'ห้องปรับบรรยากาศความดันสูง' ซึ่งมีลักษณะคล้ายแคปซูล สำหรับรักษาเสริมผู้ป่วยมาลาเรีย ลดการติดเชื้อทางสมองในกรณีที่เชื้อมาลาเรียขึ้นสู่สมอง ผู้ป่วยโรคหัวใจวายเฉียบพลัน อาการกล้ามเนื้อฉีกขาดในระยะเริ่มต้น รวมถึงผู้ป่วยแผลเรื้อรังจากภาวะเบาหวานและโรคอื่นๆ ในส่วนของกรมแพทย์ทหารเรือ ใช้แคปซูลปรับบรรยากาศเพื่อการรักษาภาวะผิดปกติที่เกิดจากการดำน้ำลึก อาทิ ภาวะถุงลมปอดฉีดขาด จากการหายใจเอาอากาศเข้าสู่ร่างกายภายใต้ความลึก ซึ่งอากาศใต้น้ำที่มีขนาดเล็กลงจะอยู่ในรูปของสารละลาย และกลายเป็นฟองอากาศอัดตัวอยู่ตามข้อ เส้นประสาท อาจก่อให้เกิดโรคปวดตามข้อจนถึงอัมพาตได้ การรักษาด้วยออกซิเจนความกดบรรยากาศสูง จะช่วยลดปริมาณฟองอากาศที่เกิดขึ้นให้ลดลงในระยะเวลาที่รวดเร็ว ทำให้การรักษาเป็นไปอย่างรวดเร็ว อีกทั้งช่วยลดการแทรกซ้อนจากโรคที่เกิดขึ้นด้วย ด้าน นาวาตรีไพบูลย์ เทพประสิทธิ์ นายทหารพยาบาลเวชศาสตร์ใต้น้ำ กล่าวว่า หลังจากที่ทำการวิจัยรักษาเสริมผู้ป่วยมาลาเรียด้วยห้องปรับความดันดังกล่าว โดยทดสอบในกลุ่มผู้ป่วย 2 กลุ่มด้วยกัน กลุ่มแรกรักษาโดยใช้ยาตามปกติ ระยะเวลาในการรักษาจะอยู่ที่ 5-7 วัน ขณะที่ผู้ป่วยอีกกลุ่มที่รับประทานยาและเข้ารับการรักษาเสริมในห้องปรับความดัน ระยะเวลาในการรักษานั้นลดลงเหลือเพียง 24-48 ชั่วโมงเท่านั้น สำหรับห้องปรับความดันดังกล่าวแบ่งเป็น 2 ขนาด คือ ขนาดเล็กจุผู้ป่วยได้ 1 คน และขนาดใหญ่ที่จุผู้ป่วยได้ถึง 12 คน สำหรับค่าบริการในการเข้าใช้ห้องปรับความดันขนาดเล็กจะอยู่ที่ 2,000 บาทต่อการรักษาประมาณ 90 นาที ในระดับความลึก 45 ฟุต แต่สำหรับห้องขนาดใหญ่ราคาค่าบริการจะครั้งละ 1,000 บาทเท่านั้น นอกจากนี้ ทางกรมแพทย์ทหารเรือยังได้ทำการวิจัยเพิ่มเติมสำหรับการรักษาผู้ป่วยโรคกล้ามเนื้อหัวใจตายเฉียบพลัน เพื่อทำการรักษาควบคู่กับห้องปรับความดันนี้ด้วย ซึ่งในขณะนี้ได้มีหลายหน่วยงานที่นำห้องปรับความดันบรรยากาศมาใช้ทำการรักษาให้กับผู้ป่วยแล้ว (กรุงเทพธุรกิจ อังคารที่ 16 พ.ย. 47 http://www.bangkokbiznews.com)





เลือดชาละวัน...

นักวิจัยจาก Australia's Nuclear Science and Technology Organisation (Ansto) ประเทศออสเตรเลียได้เปิดเผยถึงการดำเนินการวิจัยเพื่อที่จะนำฮีโมโกลบินจากจระเข้มาใช้ในการผลิตเลือดเทียมสำหรับมนุษย์ จระเข้สามารถดำอยู่ในน้ำได้นานกว่ามนุษย์เรา ทั้งนี้เพราะว่าฮีโมโกลบินของจระเข้นั้นทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากกว่าฮีโมโกลบินของมนุษย์เรา นั้นคือสามารถนำออกซิเจนไปปลดปล่อยสู่เซลล์ต่างๆในร่างกายได้ในอัตราที่มากกว่ามนุษย์เรา และที่สำคัญก็คือว่าส่วนประกอบย่อยๆของฮีโมโกลบินของจระเข้นั้นถูกยึดติดแน่นด้วยหมู่ซัลเฟอร์ที่อยู่บริเวณผิวนอกของโมเลกุล ดังนั้นเราไม่จำเป็นต้องสร้างเลือดเทียมที่มีฮีโมโกลบินเป็นส่วนประกอบให้มีลักษณะทางกายภาพเหมือนกับของมนุษย์ (ฮีโมโกลบินอยู่ในเซลล์เม็ดเลือดแดง) เพราะว่ามันจะไม่แยกตัวออกจากกันและก่อให้เกิดปัญหาดังที่กล่าวมาข้างต้นนั่นเอง ประโยชน์อีกอย่างหนึ่งก็คือหมู่ซัลเฟอร์ในฮีโมโกลบินของจระเข้นั้นยังประพฤติตัวเป็นสารต้านอนุมูลอิสระได้ด้วย เพราะว่าในยามที่มันโผล่ขึ้นผิวน้ำหลังจากที่ดำน้ำอยู่เป็นเวลานานๆนั้น ออกซิเจนที่ไหลบ่าเข้าไปในเซลล์นั้นอาจทำให้เกิดอนุมูลอิสระจำนวนมากที่ทำความเสียหายให้กับเนื้อเยื่อต่างๆ ในกรณีเดียวกันกับการผ่าตัดตับหรือหัวใจในคนที่จำเป็นต้องมีการห้ามเลือดไม่ให้ไหลเข้าไปสู่อวัยวะดังกล่าวชั่วคราวในระหว่างผ่าตัด ออกซิเจนที่ไหลเข้าไปพร้อมกับเลือดหลังจากช่วงเวลาดังกล่าวทำให้เกิดอนุมูลอิสระจำนวนมากที่อาจเป็นอันตรายต่อเนื้อเยื่อของอวัยวะดังกล่าวเช่นกัน นักวิจัยยังหวังถึงการทำให้เลือดเทียมให้อยู่ในรูปแบบผงแป้งที่เวลาต้องการใช้ก็นำไปละลายกับสารละลายเพื่อสะดวกต่อการนำไปใช้ในประเทศหรือสถานที่ที่ทุรกันดาร รวมไปถึงในพื้นที่ที่ประสบภัยภิบัติต่างๆด้วย (เดลินิวส์ พุธที่ 17 พ.ย. 47 http://www.dailynews.co.th)





การ์ดจับภาพวิดีโอราคาประหยัด เนคเทคช่วยลดต้นทุนกล้องวงจรปิด

นายสุขสันต์ จิรเชวง และนายประกอบ โกเมศวรากุล นักวิจัยระบบการผลิตอัตโนมัติ ฝ่ายวิจัยและพัฒนาสาขาอิเล็กทรอนิกส์ ศูนย์เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์แห่งชาติ (เนคเทค) เปิดเผยว่า โครงการพัฒนาอีเอ็มซี-การ์ด (Economic Multi Capture Card) เป็นส่วนย่อยของระบบตรวจความปลอดภัยผ่านเวบเบราเซอร์และมือถือ หรือเอเอ็มเอส-2 พลัส (Acess Monitoring System-2 Plus : AMS-2 Plus) ซึ่งใช้เวลาพัฒนา 2-3 เดือน โดยการออกแบบการ์ดจับภาพวิดีโอที่ใช้ร่วมกับระบบวิดีโอวงจรปิด ซึ่งเดิมการ์ดที่ใช้จะต้องซื้อมาในราคาแพง อย่างระบบตรวจตราความปลอดภัยที่ติดตั้งกล้อง 4 ตัว หากเลือกใช้การ์ดที่มีชิพตัวแปลงสัญญาณภาพ 1 ตัว จะสามารถรับภาพจากกล้องวิดีโอได้ 4 ช่อง แต่จะสามารถแสดงภาพที่มีการอัพเดทบนคอมพิวเตอร์ลูกข่ายได้จากกล้องทีละตัว ซึ่งภาพจากกล้องอีก 3 ตัวที่เหลือจะหยุดนิ่ง จากนั้นจึงจะสลับภาพจากกล้องที่เหลือเพื่อนำมาแสดงผลบนคอมพิวเตอร์ลูกข่ายจนครบทุกช่อง การ์ดที่มีคุณสมบัติเช่นนี้ราคา 7-8 พันบาท ขณะที่ต้นแบบที่พัฒนาขึ้นราคาราว 800 บาทเท่านั้น โดยการ์ดจับภาพวิดีโอเป็นการ์ดที่ใช้สำหรับแปลงข้อมูลวิดีโอ และออดิโอ ที่ยังอยู่ในรูปสัญญาณอนาล็อกให้เป็นสัญญาณดิจิทัลเพื่อใช้ประมวลผลโดยคอมพิวเตอร์ สามารถนำไปประยุกต์ใช้งานได้หลากหลาย ทั้งด้านความบันเทิงที่สามารถรับสัญญาณภาพจากช่องสัญญาณเอวีเหมือนกับเครื่องรับโทรทัศน์ทั่วไป รวมถึงงานด้านรักษาความปลอดภัยด้วย สำหรับอีเอ็มซี-การ์ดที่เนคเทคพัฒนาขึ้นมานี้ สามารถเลือกช่องสัญญาณภาพสีได้ทีละ 1 ช่องทางจากทั้งหมด 4 ช่องทางโดยใช้ซอฟต์แวร์เป็นตัวช่วยจัดการ สามารถรับสัญญาณเสียงได้ 1 ช่องทาง เชื่อมต่อกับคอมพิวเตอร์ผ่านทางสล็อตพีซีไอ ใช้ได้กับระบบปฏิบัติการวินโดว์ส และลินิกซ์ ขณะนี้เรากำลังพัฒนาอีเอ็มซี-การ์ด เวอร์ชั่น 2 ซึ่งสามารถเลือกสัญญาณภาพได้ทีละ 4 ช่องทางพร้อมกันจากทั้งหมด 16 ช่อง ซึ่งความยากอยู่ตรงการเขียนโปรแกรมให้ชิพแต่ละตัวอินเทอร์เฟสระหว่างกันให้ได้ ซึ่งหากทำได้เราก็ได้การ์ดที่มีราคาถูกลง (กรุงเทพธุรกิจ พุธที่ 17 พ.ย. 47 http://www.bangkokbiznews.com)





ฮูเล็งจีโนมไวรัสฝีดาษ มุ่งรับมืออาวุธชีวภาพ

ดิค ทอมป์สัน โฆษกขององค์การอนามัยโลก (WHO) กล่าวว่า คณะกรรมการที่ปรึกษาทางด้านวิทยาศาสตร์ได้เสนอแนะต่อองค์การอนามัยโลก ควรจะพิจารณาอนุมัติให้นักวิทยาศาสตร์ตัดต่อยีนเรืองแสงเข้าไปในไวรัสโรคฝีดาษ โรคร้ายแรงที่ถูกกวาดล้างให้หายไปจากโลกโดยวัคซีน ทว่าผู้เชี่ยวชาญเชื่อว่า ยังมีการใช้ไวรัสชนิดนี้ในอาวุธชีวภาพ ซึ่งประเด็นนี้ทางองค์การอนามัยโลกอาจใช้เวลาและยังไม่ตัดสินใจเกี่ยวกับคำแนะนำของคณะกรรมการที่ปรึกษาฯ "แนวความคิดคือใส่ยีนเรืองแสงเข้าไปในไวรัส เพื่อช่วยเพิ่มความเร็วในการคัดกรอง คณะกรรมการคิดว่าเป็นความคิดที่ดีสำหรับหลายๆ เหตุผล อย่างแรกคือ ลดระยะเวลาที่ผู้ที่ทำงานในห้องปฏิบัติการต้องสัมผัสกับไวรัส ที่สำคัญที่สุดจะช่วยให้ขยับใกล้การทำลายเชื้อที่เหลืออยู่ได้" ทอมป์สัน กล่าวและว่า ยีนหรือโปรตีนเรืองแสงสีเขียวนี้นำมาจากแมงกะพรุน ซึ่งถูกนำมาตัดต่อเข้าไปในสิ่งมีชีวิตตั้งแต่แบคทีเรียจนถึงหนู เพื่อช่วยให้การศึกษาด้านชีววิทยาง่ายขึ้น สำหรับหน่วยวิจัยเกี่ยวกับฝีดาษ เช่น สถาบันวิจัยทางการแพทย์ด้านโรคติดเชื้อของกองทัพสหรัฐ ภายในห้องปฏิบัติการของซีดีซีต้องรักษาความปลอดภัยสูง และมีความปลอดภัยทางชีวภาพระดับ 4 ซึ่งต้องมีการควบคุมเป็นพิเศษเพื่อให้แน่ใจว่าไม่มีใครบังเอิญติดเชื้อ (กรุงเทพธุรกิจ พุธที่ 17 พ.ย. 47 http://www.bangkokbiznews.com)





สวทช.ปลดแอก'แล็บดีเอ็นเอ'กำแพงแสน หนุนเพิ่มศักยภาพตรวจจีเอ็มโอ เล็ง 3 ปีก้าวสู่เอกชนเต็มตัว

สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ร่วมกับมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ได้ลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือในการดำเนินโครงการ “ห้องปฏิบัติการดีเอ็นเอ เทคโนโลยี" โดย รศ.ดร.ศักรินทร์ ภูมิรัตน์ ผู้อำนวยการ สวทช. เปิดเผยว่า การสนับสนุนโครงการสร้างห้องปฏิบัติการ เริ่มมาตั้งแต่ปี 2543 และต่อเนื่องมาเป็นเวลา 5 ปี ด้วยการจัดงบประมาณสนับสนุน 64 ล้านบาท พร้อมด้วยเครื่องมือตรวจสอบ ร่วมกับเงินสนับสนุนของมหาวิทยาลัยอีก 18 ล้านบาท ห้องปฏิบัติการได้ให้บริการตรวจสอบแก่อุตสาหกรรมอาหารของไทยกว่า 500 บริษัท คิดเป็นมูลค่าของสินค้าที่ส่งออกมากกว่าหลายหมื่นล้านบาท ด้วยเหตุดังกล่าว สวทช.จึงให้การสนับสนุนห้องปฏิบัติการต่อเนื่องเป็นระยะที่ 2 อีก 3 ปี ซึ่งจะสนับสนุนนักวิจัยในลักษณะของการทำงานร่วมกัน พร้อมทั้งงบประมาณเพิ่มเติมสำหรับโครงการศึกษาวิจัยที่ต้องการทุน ดร.สมวงศ์ ตระกูลรุ่ง ผู้อำนวยการห้องปฏิบัติการดีเอ็นเอ เทคโนโลยี ม.เกษตรศาสตร์ วิทยาเขตกำแพงแสน กล่าวว่า หลังจากห้องปฏิบัติการได้เปิดบริการวิจัยมากว่า 5 ปี และมีผลกำไรที่คิดเป็นมูลค่าประมาณ 24 ล้านบาท จึงเตรียมพร้อมที่จะเข้าสู่กระบวนการแปรรูปสู่ภาคเอกชน "ในการเข้าสู่กระบวนการแปรรูปสู่ภาคเอกชนนั้น เราจะต้องปรับปรุงโครงสร้างการบริหารจัดการภายในให้มีศักยภาพมากขึ้น รวมทั้งจะต้องปรับวิธีการทำงานควบคู่กับเพิ่มจำนวนนักวิจัย เพื่อรองรับการเป็นเอกชนอย่างเต็มตัว ขณะเดียวกันจะต้องลงทุนเพิ่มศักยภาพการตรวจสอบพืชดัดแปลงพันธุกรรม (จีเอ็มโอ) ให้มากขึ้น นอกจากห้องปฏิบัติการดีเอ็นเอ ม.เกษตรศาสตร์แล้ว ประเทศไทยยังมีห้องปฏิบัติการเทคโนโลยีชีวภาพประจำอยู่ตามมหาวิทยาลัยอื่นๆ อีก อาทิ ห้องปฏิบัติการเทคโนโลยีชีวภาพทางทะเล ที่จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ห้องปฏิบัติการเทคโนโลยีชีวภาพกุ้ง ที่มหาวิทยาลัยมหิดล มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ และมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี ที่ให้บริการวิจัยตรวจสอบด้านเทคโนโลยีชีวภาพแก่ภาครัฐ และอุตสาหกรรมส่งออกทั้งในและต่างประเทศ (กรุงเทพธุรกิจ พุธที่ 17 พ.ย. 47 http://www.bangkokbiznews.com)





ใช้คอมพิวเตอร์นานเพิ่มอัตราเสี่ยงโรคต้อหิน

สำนักข่าวเอเอฟพี รายงานคำเตือนของแพทย์ชาวญี่ปุ่น ซึ่งระบุว่า ผู้ที่ใช้คอมพิวเตอร์เป็นเวลานาน มีอัตราเสี่ยงในการเกิดโรคต้อหินเพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะผู้ที่สายตาสั้นอยู่แล้ว โดยที่โรคดังกล่าว อาจส่งผลให้ตาบอดได้ ด้านทีมวิจัยเผยว่า ตนได้ทำการตรวจวัดสายตา ของพนักงานชาวญี่ปุ่น จำนวน 10,200 คน เพื่อวัดประสิทธิภาพทางการมองเห็น และแนวโน้มในการเกิดต้อหิน โดยที่ผู้ถูกทอดสอบ จะต้องตอบแบบสอบถาม เกี่ยวกับพฤติกรรมการใช้คอมพิวเตอร์ ทั้งที่บ้าน และที่ทำงาน รวมทั้งประวัติการเกิดโรคทางสายตาด้วย พบว่า พนักงานจำนวน 165 คน หรือคิดเป็นสัดส่วน 1.6% มีอาการของโรคต้อหิน ซึ่งได้แก่ การเกิดจุดบอดในระยะสายตา หรือการมองเห็นภาพเฉพาะจุดศูนย์กลาง แต่ไม่สามารถเห็นบริเวณรอบข้างได้ชัดเจน (tunnel vision) ขณะที่ผู้ที่ใช้คอมพิวเตอร์อย่างหนัก หรือผู้ที่จ้องมองจอมอนิเตอร์เกินกว่า 8 ชั่วโมง ในแต่ละวัน จะมีอัตราเสี่ยงในการเกิดโรคต้อหิน มากกว่าผู้ที่ใช้คอมพิวเตอร์น้อย หรือใช้ในระดับกลาง ถึง 2 เท่า และพบว่า ในบรรดาผู้ที่มีอาการของโรคต้อหินทั้ง 165 คน จะเป็นผู้ที่สายตาสั้นอยู่แล้ว ถึง 136 คน (กรุงเทพธุรกิจ พุธที่ 17 พ.ย. 47 http://www.bangkokbiznews.com)





เด็กปวช.สร้างหุ่นกู้ระเบิด!

3นักเรียนจากศูนย์เทคโนโลยีการศึกษา โรงเรียนโปลีเทคนิคลานนา จ.เชียงใหม่ นายฉัตรชัย ชัยมงคล อายุ 17 ปี นายศุภกร ตาทา อายุ 18 และนายณรงค์ มูลคำ อายุ 18 ปี แผนกช่างยนต์ ปวช. ชั้นปีที่ 2 โดยกลุ่มนักเรียนได้สร้างหุ่น กู้ระเบิดซึ่งชื่อว่าสกอร์เปี้ยน 01 (SCORPION 01) ใช้เก็บกู้ระเบิดซึ่งใช้งานได้จริง ทำจากวัสดุรีไซเคิลทั้งหมด บังคับวิทยุได้ไกล 100 เมตร ติดตั้งกล้องวงจรปิด มีมือกลหยิบระเบิดไปทำลาย ลงทุน 1.5 หมื่นบาทโดยไม่ต้องให้ตำรวจ-ทหารเสี่ยงชีวิตกู้ระเบิด โดยมีอาจารย์กิตติศักดิ์ แต้มทอง เป็นที่ปรึกษาโครงการ นายฉัตรชัยกล่าวว่า กว่า 70 เปอร์เซ็นต์ของอุปกรณ์ทุกอย่างต้องใช้ของรีไซเคิล และเศษวัสดุเหลือใช้ที่หาได้ทั่วไป เช่น กล่องเครื่องคอมพ์ โซ่รถจักรยานยนต์ มอเตอร์ที่ปัดน้ำฝนรถยนต์ เศษเหล็กใช้แล้วต่างๆ โดยระบบการทำงานนั้นใช้ระบบโซ่ตีนตะขาบ แยกการขับเคลื่อนอิสระซ้ายขวาออกจากกัน จึงสามารถเปลี่ยนทิศทางหรือเลี้ยวโดยการหมุนตัว จึงไม่จำเป็นต้องมีวงเลี้ยว อัตราการวิ่งไต่ทางลาดชันมากกว่า 20 องศา ด้วยความเร็ว 0.5 เมตร/วินาที ขับเคลื่อนด้วยดีซีมอเตอร์ปัดน้ำฝนรถยนต์ ระบบยกน้ำหนักแบบล็อกตัวเอง เพื่อให้เกิดความมั่นคงในการยกและสามารถรับน้ำหนักได้มาก ระบบเกลียวเป็นกลไกในการยกแขนขึ้นและลง จึงสามารถล็อกตัวเองไว้ที่ค่าใดค่าหนึ่ง และสิ่งของที่จับยึดไว้จะไม่ตกลงมา แม้ยามที่กระแสไฟฟ้าขัดข้องมือปรับเปลี่ยนรูปแบบได้ง่าย เพื่อให้ใช้งานได้หลายสภาวะ ชิ้นส่วนที่เป็นมือจับสามารถปรับมุมให้เหมาะสมกับภารกิจ หรือถอดออกเพื่อติดตั้งอุปกรณ์เสริมได้ ตามวัตถุประสงค์ที่จะนำไปใช้ เช่น ท่อดับเพลิง หัวพ่นสารเคมีฆ่าเชื้อโรค ระบบควบคุมเราใช้วิทยุควบคุมระยะไกล โดยระบบของเครื่องบินเล็กย่านความถี่ตั้งแต่ 27-72 MHZ ตามความเหมาะสม นอกจากนี้สามารถส่งสัญญาณภาพจากกล้องโทรทัศน์ขนาดเล็กมายังผู้บังคับควบคุมและติดตั้งไฟสปอตไลท์ขนาด 55 วัตต์ เพื่อใช้ในการปฏิบัติงานที่แสงสว่างไม่เพียงพอ ซึ่งสามารถควบคุมได้ในระทางไกลกว่า 100 เมตร โดยทั้งหมดนี้เราได้ทำการทดสอบแล้วสามารถใช้งานได้จริงๆ โดยเราใช้งบประมาณในการสร้างทั้งสิ้นเพียงแค่ 15,000 บาทเท่านั้น แต่เราก็จะยังคงพัฒนาให้เครื่องดังกล่าวมีประสิทธิภาพให้ดีมากกว่านี้อีก สำหรับเครื่องดังกล่าวนี้ใช้เวลาในการสร้างเพียง 1 เดือนเท่านั้น (ข่าวสด พุธที่ 17 พ.ย. 47 http://www.matichon.co.th/khaosod)





นมแม่ช่วยป้องกันลูกให้รอดพ้นโรคมะเร็งเม็ดโลหิตขาวทารก

นักวิจัยระบุว่า ผลการศึกษา 14 ชิ้น ที่ทำขึ้นตั้งแต่ปี 2531 พบว่าการให้นมมารดาเป็นเวลานานๆ จะลดความเสี่ยงทารกเป็นลูคีเมียชนิดที่เป็นกันมากได้ถึง 24% แต่ถ้ามารดาคนใดไม่มีเวลานานนักในการให้นมลูก การให้นมเพียง 6 เดือน หรือต่ำกว่านั้น ก็ดูเหมือนว่าจะลดความเสี่ยงเป็นลูคีเมียลงได้ถึง 12% นอกจากนี้ ยังมีผลการศึกษาชิ้นใหม่ ซึ่งเก็บข้อมูลในระดับนานาชาติจากเด็กกว่า 8,000 คน ที่เป็นมะเร็งในเม็ดโลหิตขาว ระบุอย่างหนักแน่นว่า นมมารดามีผลในเชิงป้องกันมะเร็งชนิดนี้ได้จริง นอกเหนือจากผลดีด้านอื่นๆ เช่น ลดความเสี่ยงในการติดเชื้อ นักวิจัยบอกว่า การเกิดมะเร็งเม็ดโลหิตขาวในทารก อาจเป็นเพราะภูมิคุ้มกันที่ผิดปกติที่ตอบสนองต่อการติดเชื้อในวัยทารก ได้เข้าไปมีบทบาทสำคัญต่อการเกิดมะเร็งในเม็ดโลหิตขาวด้วย ดังนั้น การให้นมมารดาอาจจะเป็นการป้องกันภูมิคุ้มกันไม่ให้ผิดปกติ หรือทำให้ ภูมิคุ้มกันสามารถทำหน้าที่ของมันได้อย่างถูกต้อง (ไทยรัฐ พุธที่ 17 พ.ย. 47 http://www.thairath.co.th)





ทารกต้องกล้ำกลืนกินเนื้อตนเองเพื่อประทังชีวิตหลังโดนถูกตัดรก

นักวิทยาศาสตร์ของสถาบันแพทย์นครหลวงญี่ปุ่น ได้รายงานผลการศึกษาในวารสาร " ธรรมชาติ" กล่าวว่า ทารกเมื่อแรกเกิดใหม่ๆ จะต้องขาดอาหาร อย่างรุนแรง เพราะไม่มีอาหารที่เคยได้จากรก และก็ยังไม่ทันได้กินนมมารดา เขากล่าวว่า ได้พบวี่แววว่าทารกต้องประทังชีวิต โดยอาศัยปฏิกิริยาการแตกทำลายของเซลล์ในร่างกาย เพื่อคายสารอาหารอันจำเป็นแก่ชีวิตออกมาให้ พวกเขาได้ศึกษาจากลูกหนูที่เพิ่งคลอด และได้พบขบวนการของเซลล์ ที่เรียกกันทางวิชาชีววิทยาว่า เป็นการ กระทำของร่างกายที่ใช้เนื้อตนเองเป็นอาหาร ได้ อุบัติขึ้นอย่างทันควัน และเป็นอยู่อย่างรุนแรงเป็นเวลาต่อมาอีกหลายชั่วโมง ในช่วงระหว่างนั้นเซลล์ จะแตกออกปล่อยองค์ประกอบต่างๆในตัวออกมา (ไทยรัฐ พฤหัสบดีที่ 18 พ.ย. 47 http://www.thairath.co.th)





สหรัฐยกเครื่องวิจัยเด็กครั้งใหญ่

สถาบันพัฒนามนุษย์และสุขภาพเด็กแห่งชาติ สหรัฐ ซึ่งให้การสนับสนุนงานวิจัยครั้งนี้ กล่าวในแถลงการณ์ว่าโครงการวิจัยเด็กครั้งนี้ นับว่าเป็นการศึกษาครั้งใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยมีมา โดยทีมงานจะติดตามเด็กตั้งแต่แรกเกิดไปจนถึงอายุ 21 ปี เป็นจำนวน 100,000 คน ผ่านทางศูนย์ปฏิบัติการ 96 แห่ง ซึ่งจะตรวจสอบในทุกเรื่องทั้งสภาพแวดล้อม พฤติกรรม ครอบครัว และพันธุกรรม โดยที่ผ่านมายังไม่เคยมีการศึกษาเชิงลึกใดๆ ที่เกี่ยวกับเด็กในสหรัฐมาก่อน และงานวิจัยของแพทย์และพยาบาล ซึ่งมีจำนวนนับหมื่นชิ้น ส่วนใหญ่จะติดตามวิจัยในช่วงอายุขัยของผู้ใหญ่มากกว่า สำหรับหัวข้อวิจัยที่จะศึกษาในเด็กครั้งนี้ ประกอบด้วย ปัจจัยด้านสิ่งแวดล้อมที่มนุษย์และธรรมชาติสร้างขึ้น ปัจจัยด้านเคมีและชีวภาพ สภาพแวดล้อมทางกายภาพ ปัจจัยด้านสังคม อิทธิพลและผลลัพธ์ของพฤติกรรม พันธุกรรม อิทธิพลและความแตกต่างของครอบครัวและวัฒนธรรม รวมถึงสภาพทางภูมิศาสตร์ด้วย เช่น น้ำที่ดื่ม อากาศที่หายใจ และอาหารที่บริโภค ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญที่จะทำให้รู้ว่าปัจจัยต่างๆ ที่มีอยู่ในสภาพแวดล้อมมีผลต่อสุขภาพของเด็กอย่างไรบ้าง" พอล กิลแมน นักวิจัยจากสำนักคุ้มครองสิ่งแวดล้อม กล่าว (กรุงเทพธุรกิจ พฤหัสบดีที่ 18 พ.ย. 47 http://www.bangkokbiznews.com)





เนคเทคร่วมวิจัย ประกันเครื่องไฟฟ้า หนุนอุตฯส่งออก

ศูนย์เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์ฯ จับมือสำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม ดึงผู้ประกอบการทำวิจัยสร้างผลิตภัณฑ์ไฟฟ้าอิเล็กทรอนิกส์ชนิดใหม่ พร้อมสร้างความเข้าใจร่วมกันในเรื่องมาตรฐานสินค้าส่งออกในระดับสากล ดร.ทวีศักดิ์ กออนันตกูล ผู้อำนวยการศูนย์เนคเทค เปิดเผยว่า การส่งผลิตภัณฑ์ไฟฟ้าอิเล็กทรอนิกส์ออกไปจำหน่ายยังประเทศในแถบยุโรปนั้น ต้องการมาตรฐานรับรองในหลายส่วนประกอบ ทางเนคเทคจึงเข้ามาช่วยสนับสนุนทั้งทางด้านห้องปฏิบัติการวิจัย การให้คำปรึกษา รวมถึงถ่ายทอดเทคโนโลยีให้กับผู้ประกอบการเพื่อนำไปสู่มาตรฐานของสินค้าที่ได้รับการยอมรับในระดับสากล โดยคาดว่าถ้าเอกชนให้ความสนใจรวมทำวิจัยสร้างผลิตภัณฑ์ใหม่ที่มีมาตรฐาน จะช่วยเพิ่มมูลค่าการส่งออกผลิตภัณฑ์ไฟฟ้าอิเล็กทรอนิกส์ของประเทศจากเดิมร้อยละ 10 เป็นร้อยละ 20 หรือเพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัวภายใน 5 ปี ด้านนายสมพร ขาวเป็นใย รักษาการผู้อำนวยการศูนย์ทดสอบผลิตภัณฑ์ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ (พีเทค) กล่าวว่า พีเทคเป็นอีกหน่วยงานทางภาครัฐ ภายใต้สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์เทคโนโลยี (สวทช.) ที่เปิดให้บริการทดสอบผลิตภัณฑ์ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ในด้านต่างๆ ให้ตรงตามมาตฐานสากล (กรุงเทพธุรกิจ ศุกร์ที่ 19 พ.ย. 47 http://www.bangkokbiznews.com)





หุ่นกู้ภัยตีนตะขาบ ไอเดียนักศึกษาศรีปทุม

โรบัสเป็นหุ่นยนต์ตีนตะขาบขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์อิสระสี่ตัว ใช้เลเซอร์เป็นตัวค้นหาวัตถุ หรือผู้ประสบภัย และยังสามารถมองเห็นได้ด้วยกล้องวงจรปิด และกล้องวิดีโอดิจิทัล ที่จะส่งภาพไปยังกล้องมอนิเตอร์ด้วยระบบสื่อสารไร้สาย ควบคุมการสั่งงานผ่านอินเทอร์เน็ต ดัดแปลงจากรถถังขับเคลื่อน 4 ล้อ ติดตั้งกล้องมองภาพได้รอบทิศทาง พร้อมเลเซอร์วัดระยะทางระหว่างวัตถุ ช่วยในการค้นหาผู้ประสบภัยได้อย่างแม่นยำพร้อมใช้งานจริง ประดิษฐโดยนายจักกริช อยู่เย็น ได้ร่วมกับนายสิริชัย อุ่นบริบูรณ์ และนายโอ้น ช้างน้ำ นักศึกษาชั้นปีที่ 4 สาขาวิศวกรรมคอมพิวเตอร์ คณะสารสนเทศศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีปทุม ประดิษฐ์หุ่นยนต์โรบัส หวังช่วยค้นหาผู้รอดชีวิตจากอุบัติเหตุสารเคมี แก๊สรั่ว และตึกถล่ม ก่อนส่งหน่วยกู้ภัยเข้าปฏิบัติช่วยเหลือ ทีมงานตั้งเป้าให้หุ่นยนต์สามารถเคลื่อนที่ได้ที่ทุกสภาวะพื้นผิว รวมถึงเคลื่อนที่ผ่านสิ่งกีดขวาง โดยการออกแบบโครงสร้างใช้วิธีการคำนวณทางคณิตศาสตร์ คำนึงถึงขนาดและน้ำหนักเป็นหลัก จากนั้นจึงเขียนโปรแกรมผ่านโปรแกรมวิชวล เบสิก ควบคุมการทำงานผ่านบอร์ดไมโครคอนโทรเลอร์พีซอค ด้วยระบบเครือข่ายอินเทอร์เน็ตไร้สาย Wireless โดยใช้จอยสติกเป็นตัวควบคุม ซึ่งสามารถควบคุมได้ในระยะไกล 200 เมตร ใช้แบตเตอรี่ขนาด 24 โวลต์ ในการขับเคลื่อนหุ่นยนต์ โดยมีระยะเวลาการใช้งานประมาณชั่วโมงครึ่ง หุ่นโรบัสยังติดไฟกะพริบช่วยในการมองเห็นผู้ประสบภัยได้ง่ายขึ้น คล้ายกับการถ่ายภาพในที่ที่มีแสงน้อย ไฟกะพริบจะช่วยทำหน้าที่แทนเฟรชในการจับภาพ อีกทั้งไฟยังกล่าวยังช่วยให้ผู้ประสบภัยมองเห็น และมีปฏิกิริยาตอบกลับ ซึ่งทำให้การช่วยเหลือมีประสิทธิภาพมากขึ้น มีตัวเซนเซอร์กล้องที่ใช้เป็นกล้องวงจรปิดส่งสัญญาณผ่านโทรทัศน์ พร้อมกล้องเวบแคมที่ส่งข้อมูลผ่านอินเทอร์เน็ตที่ตัวกล้องสามารถมองได้ทุกทิศทาง โดยอาศัยหลักการมองภาพในมุมสูง omni-vision พร้อมติดตั้งเซนเซอร์วัดอุณหภูมิที่เปลี่ยนแปลงเมื่อพบผู้ประสบภัย หุ่นยนต์จะทำการค้นหาได้รวดเร็วขึ้น ทีมงานจะต้องปรับปรุงให้สามารถเคลื่อนที่ได้เร็วขึ้นถึง 20 ม.ต่อนาที จากปัจจุบันที่ความเร็ว 8 ม.ต่อนาที และเพิ่มมุมมองของกล้องให้กว้างขึ้น พร้อมปรับรูปร่างให้กะทัดรัดขึ้น (กรุงเทพธุรกิจ ศุกร์ที่ 19 พ.ย. 47 http://www.bangkokbiznews.com)





'สุขุมวิท' นำร่องใช้โมเดลทำนายน้ำท่วม เอไอทีพัฒนาระบบส่งข้อมูลด่วนขึ้นหน้าแวพมือถือ

นักวิจัยเอไอทีพัฒนาแบบจำลองทำนายน้ำท่วมสัญชาติไทย ครอบคลุมลุ่มน้ำเจ้าพระยา 1.2 แสนตารางกิโลเมตร สำหรับเตือนภัยน้ำท่วมแบบเรียลไทม์ ระบุผลคลาดเคลื่อนราว 20% พร้อมต่อยอดนำเสนอผลพยากรณ์ผ่านหน้าเวบและมือถือ ระบุประชาชนในพื้นที่จะได้รับประโยชน์โดยตรง รวมทั้งเป็นข้อมูลช่วยตัดสินใจในระดับปฏิบัติการ โดยดร.สุทัศน์ วีสกุล ภาควิชาวิศวกรรมแหล่งน้ำและการจัดการ สำนักวิชาวิศวกรรมโยธา สถาบันเทคโนโลยีแห่งเอเชีย ภายใต้การสนับสนุนจากศูนย์เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์แห่งชาติ (เนคเทค) ด้วยงบประมาณราว 5 ล้านบาท ระยะเวลา 2 ปี ครอบคลุมลุ่มน้ำเจ้าพระยาทั้งตอนบนและตอนล่างราว 1.2 แสนตารางกิโลเมตร สำหรับแบบจำลองคณิตศาสตร์ สำหรับใช้ศึกษาสภาวะการไหลของน้ำและทำนายน้ำท่วมในระดับลุ่มน้ำที่ทีมงานกำลังพัฒนาอยู่นั้น ได้ต่อยอดมาจาก 2 แบบจำลอง ได้แก่ ไอไอเอสดีเอชเอ็ม (Institute of Industrial Science Distributed Hydrologic Model : IISDHM) จากมหาวิทยาลัยโตเกียว ซึ่งจะทดสอบในพื้นที่บริเวณเหนือเขื่อนเจ้าพระยา และแบบจำลองเอไอที ริเวอร์ เน็ตเวิร์คที่มีการพัฒนาขึ้นมาก่อนหน้านี้แล้ว โดยจะทดสอบในพื้นที่บริเวณท้ายเขื่อนเจ้าพระยา นำวิธีการคำนวณของทั้งสองโมเดล ซึ่งทำงานบนระบบปฏิบัติการดอส มาพัฒนาเป็นเวอร์ชั่นที่อยู่บนวินโดว์ส เพื่อให้การเผยแพร่ข้อมูลเป็นไปอย่างทันสมัยและทันเหตุการณ์มากขึ้นความถูกต้อง แต่ในเรื่องของความถูกต้องในการทำนายอาจไม่แตกต่างจากโมเดลเดิมที่มีอยู่ อย่างการพยากรณ์ฝนใน 1 ชั่วโมงล่วงหน้าก็จะอยู่ที่ระดับ 80-90% ส่วนน้ำท่วมก็จะมีค่าเฉลี่ยความคลาดเคลื่อนประมาณ 15-20% โครงการนี้ จะกลายเป็นโมเดลช่วยผู้บริหารระดับนโยบาย สามารถตัดสินใจได้ว่าจะใช้แนวทางไหนที่ดีที่สุดในการแก้ปัญหาน้ำท่วม และเราคิดจะเชื่อมโยงผลการพยากรณ์ที่ได้ผ่านหน้าเวบไซต์ หรือทางโทรศัพท์มือถือในรูปของข้อความสั้น (เอสเอ็มเอส) และข้อความมัลติมีเดีย (เอ็มเอ็มเอส) ซึ่งจะเป็นประโยชน์ให้กับประชาชนในพื้นที่อย่างมาก โครงการพยากรณ์น้ำท่วมแบบเรียลไทม์จะนำร่องในพื้นที่สุขุมวิทจุดเดียวก่อน แต่หากได้ผลดีและมีผู้ให้ทุนวิจัยเพิ่มก็จะขยายครอบคลุมทั่ว (กรุงเทพธุรกิจ ศุกร์ที่ 19 พ.ย. 47 http://www.bangkokbiznews.com)





ประดิษฐ์หุ่นยนต์แมลงสาบมีฤทธิ์ปราบแมลงสาบตัวจริงราบคาบ

นักวิทยาศาสตร์ของหลายชาติทั้งฝรั่งเศส เบลเยียมและสวิตเซอร์แลนด์ ได้คิดสร้างแมลงหุ่นยนต์ ซึ่งสามารถใช้บังคับควบคุมฝูงแมลงสาบ โดยใช้โปรแกรมคอมพิวเตอร์ที่เป็นผลงานจากสมอง ของนักศึกษาวิทยาลัยโปลีเทคนิคของสวิตฯผู้หนึ่ง ซึ่งได้พากเพียรศึกษาติดตามดู อากัปกิริยาของแมลงสาบ แล้วถ่ายหนังเอาไว้ อยู่เป็นเวลานานถึง 3 ปี กว่าจะเขียนโปรแกรมควบคุมให้กับหุ่นยนต์ จนให้มันเดินเหินเคลื่อนไหวได้อย่างแมลงสาบ หุ่นยนต์แมลงสาบมีขนาดโตเท่ากล่องไม้ขีด ติดด้วยเครื่องกำเนิดแสงเลเซอร์และเครื่องตรวจวัดแสง เมื่อปล่อยให้มันออกปราบแมลงสาบ พอมัน ปะเข้ากับเหยื่อของมัน มันจะทำเหมือนอย่างแมลงสาบทั่วไปด้วยการหยุดนิ่งเฉยอยู่ และยิ่งมันหยุดอยู่นานเท่าไร ก็จะมีแมลงสาบมาออกันอยู่มากขึ้น นักวิทยาศาสตร์ของศูนย์วิจัยวิทยาศาสตร์ฝรั่งเศส ที่เมืองบริตตานียังได้คิดพัฒนาหุ่นยนต์ให้ก้าวหน้าต่อไป โดยจะสกัดเอาโมเลกุลของตัวแมลงสาบ ซึ่งเป็นตัวกำเนิดกลิ่น เอาไปพ่นให้กับหุ่นยนต์ จะได้มีกลิ่นเดียวกับแมลงสาบ พวกเขาเชื่อว่า "ภายใน 5 ถึง 10 ปีนี้ ผู้คนจะต้องพากันซื้อหาหุ่นยนต์แมลงสาบเอาไว้ติดบ้าน เพื่อคอยกำจัดแมลงสาบที่มารบกวน". (ไทยรัฐ ศุกร์ที่ 19 พ.ย. 47 http://www.thairath.co.th)





สกัดแตงกวาทำ "สบู่หวาน" ถ่ายทอดความรู้สู่การทำเชิงธุรกิจ

รศ.รุ่งระวี เต็มศิริฤกษ์กุล ภาควิชาเภสัชพฤกษศาสตร์ คณะเภสัชศาสตร์เปิดเผยว่า การทำสบู่หวานเป็นหนึ่งในหลายๆ ผลงานของนักศึกษาคณะเภสัชศาสตร์ที่จะนำมาโชว์ในงานนี้ โดยเป็นสาธิตการสกัดเอาสารสำคัญจาก "แตงกวา" ผลผลิตจากภาคการเกษตรมาเพิ่มมูลค่า วิธีทำเริ่มจากการทำสบู่ขุ่นก่อน โดยใช้น้ำมันปาล์ม หรือน้ำมันมะพร้าว 80% น้ำ 10% และด่าง 10% นำน้ำด่างใส่ในน้ำมันคนให้เข้ากัน จนกระทั่งสีข้นเหมือนนมข้นหวาน และเทลงแม่พิมพ์ ทิ้งค้างคืนไว้ รุ่งขึ้น นำมาหั่นเป็นชิ้นเล็กๆ ใส่สารสกัดแตงกวา และอุ่นจนละลาย จากนั้นเติมน้ำเชื่อม และแอลกอฮอล์เล็กน้อย และเทลงแม่พิมพ์ ทิ้งไว้ 1 สัปดาห์ ก็นำมาใช้ได้ สบู่แตงกวา ที่ได้จะมีลักษณะใส ความเป็นด่างต่ำกว่าสบู่ทั่วไป ซึ่งไม่ทำให้ผิวแห้ง มีส่วนผสมของสารสกัดแตงกวาที่ทำให้ผิวชุ่มชื้น ไม่ระคายผิว (ไทยรัฐ ศุกร์ที่ 19 พ.ย. 47 http://www.thairath.co.th)





“ดักเจ้าตัวร้าย” สูตรยางธรรมชาติจับหนึบแมลงวัน

มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี (มจธ.) จัดโครงการการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ด้านทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม จังหวัดราชบุรี ผ่านการประกวดโครงงานวิทยาศาสตร์ โดย “ดักเจ้าตัวร้าย” ผลงานของ นาตยา พุ่มนิล, มนฤทัย บัวศร และแก้วกาญจน์ แสงสุวรรณ นักเรียนโรงเรียนวัดทาราม ตั้งตรงจิตร 5 เข้าตากรรมการ คว้าแชมป์ไปครอง รศ.ดร.บุญเจริญ ศิริเนาวกุล รองอธิการบดีฝ่ายวางแผนและพัฒนา มจธ. เปิดเผยว่า กิจกรรมนี้จัดขึ้นโดย มจธ.วิทยาเขจตราชบุรี เพื่อสนับสนุนกิจกรรมการเรียนการสอนด้านวิทยาศาสตร์ให้โรงรียนในจังหวัดราชบุรี โดยก่อนหน้าที่จะมีการประกวดโครงงานวิทยาศาสตร์ คณะทำงานได้ลงไปจัดค่ายวิทยาศาสตร์ เพื่อสร้างกระบวนการคิดแบบวิทยาศาสตร์ แก่นักเรียนระดับมัธยมศึกษาตอนต้น ในโรงเรียนขยายโอกาส จากนั้นจึงเปิดโอกาสให้นักเรียนทำโครงงานวิทยาศาสตร์ เพื่อนำเสอสิ่งที่ลงมือทดลองปฏิบัติจริงและเกิดผลเป็นรูปธรรมแก่สาธารณชน ผลงาน “ดักเจ้าตัวร้าย” ใช้ยางของต้นไม้ชนิดต่างๆ เช่นยางขนุน ยางต้นพญาไร้ใบ ยางมะละกอ ที่มีความเหนียวมาพันกับไม้ให้ได้เนื้อยางเต็มไม้ ไม้ละ 6 นิ้ว แล้วนำไปวางล่อแมลงวันในเวลา 15 นาทีเท่ากัน ซึ่งพบว่ายางขนุนมีแมลงวันติดมากที่สุด เมื่อได้ผลแล้วก็เอายางขนุนมาคลุก กับอาหารที่เตรียมไว้คือ ปลาทู หมู และน้ำหวานเพื่อใช้กลิ่นอาหารล่อแมลงวันให้มากขึ้น โดยนำยางขนุนที่พันไม้เรียบร้อยแล้วมาคลุกกับอาหารดังกล่าวที่บดละเอียดใส่น้ำลงไปเล็กน้อย ซึ่งไม้ที่มีกลิ่นหมู มีแมลงวันติดมากที่สุด ยังมีรางวัลรองชนะเลิศ อันดับ 1 โครงงานเรื่อง “มะขามผู้พิทักษ์ความสะอาด” สูตรน้ำมะขามขจัดครอบสกปรก จากโรงเรียนวัดเขาปิ่นทอง และรองชนะเลิศอันดับ 2 โครงงานเรื่อง “ยกขาไม่ขึ้น” สูตรดักแมลงในไร่หน่อไม้ฝรั่ง ของนักเรียนโรงเรียนมหาราช 7 ก็น่าสนใจ (สยามรัฐ เสาร์ที่ 20 พ.ย. 47 http://www.siamrath.co.th)





เปิดตัว 8 ทีมหุ่นยนต์กู้ภัยส่งลุ้นแชมป์โลกที่ญี่ปุ่น

เครือซิเมนต์ไทย สมาคมวิชาการหุ่นยนต์ไทยและสถาบันค้นคว้าและพัฒนาเทคโนโลยีการผลิตทางอุตสาหกรรม เปิดตัวทีมหุ่นยนต์กู้ภัย 8 ทีมเพื่อชิงตำแหน่งเป็นตัวแทนเยาวชนไทยไปประกวดระดับโลกที่ญี่ปุ่น 28 พ.ย.นี้ ที่เซ็นทรัล ลาดพร้าว การแข่งขันหุ่นยนต์กู้ภัย โครงการ Thailand Rescue Robot Championchip 2004 ซึ่งจัดโดยเครือซิเมนต์ไทย สมาคมวิชาการหุ่นยนต์ไทยและสถาบันค้นคว้าและพัฒนาเทคโนโลยีการผลิตทางอุตสาหกรรม นับเป็นครั้งแรกที่ประเทศไทยได้มีโอกาสจัดงานระดับโลก เพราะผู้ที่ชนะเลิศในการแข่งขันครั้งนี้ จะเป็นตัวแทนของประเทศเพื่อไปประกวด World Robocup Rescue 2005 ที่เมืองโอซากา ประเทศญี่ปุ่น รศ.ดร.มนูกิจ พานิชกุล นายกสมาคมวิชาการหุ่นยนต์ไทย กล่าวว่า การสร้างหุ่นยนต์กู้ภัย ในเมืองไทยถือว่าเป็นเรื่องใหม่ เพราะการสร้างของแต่ละทีมยังมีจุดที่ต้องปรับอยู่มาก เช่น การใช้กล้องเดาว่าเหยื่อผู้รอดชีวิตอยู่ตำแหน่งไหน อาจทำให้เกิดกระบวนการผิดพลาดได้ ดังนั้น แต่ละทีม ควรมีการพัฒนาทางด้านเทคโนโลยีเพิ่ม ซึ่งมีทีมหุ่นยนต์ของเยาวชนไทยได้รับคัดเลือก 8 ทีมสุดท้ายมีดังนี้ ทีม CEO Mission 1 จากมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย ทีม In SE V.1 จากสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าฯ พระนครเหนือ ปราจีนบุรี ทีม Robust จากมหาวิทยาลัยศรีปทุม ทีม TRCC จากมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี ทีม YUPPICIDE จากสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ ทีม THE EXPLORER จากสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง ทีม JABAROK จากสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ และทีมสุดท้าย คือ ทีม DC->Ranger จากมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ โดยทั้ง 8 ทีมจะเข้าไปประชันกันเพื่อหาผู้ชนะเลิศในวันที่ 28 พฤศจิกายนนี้ ที่ห้องบางกอกคอนเวนชั่น เซ็นเตอร์ เซ็นทรัล ลาดพร้าว (คมชัดลึก อาทิตย์ที่ 21 พ.ย. 47 http://www.komchadluek.net)





ข่าวทั่วไป


ไม่ขัดสมาธินั่งยองป้องข้อเสื่อมเลี่ยงการขึ้นลงบันไดมากๆ

น.พ.กีรติ เจริญชลวานิช ภาควิชาศัลยศาสตร์ออร์โธปิดิกส์และกายภาพบำบัด คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล กล่าวว่า ผู้ที่เป็นโรคข้อเสื่อมจะมีอาการปวดเวลาเดิน และหากเป็นมากต้องใช้ไม้เท้าหรือคนพยุงขณะเดิน การรักษาที่นิยมใช้ในปัจจุบัน คือ การรักษาแบบอนุรักษนิยม โดยเริ่มต้นจากแพทย์จะอธิบาย ให้ผู้ป่วยเข้าใจโรคและสามารถดูแลตนเองได้ เช่น ควบคุมน้ำหนักตัวเอง การบริหารกล้ามเนื้อขา และหยุดพักกิจกรรมที่หนักมากเกินไป รวมถึงการรับประทานยาแก้ปวด ยาต้านอักเสบ หากข้อเสื่อมและขาโก่งก็จะพิจารณาถึงการปรับเปลี่ยน หรือเสริมพื้นรองเท้าด้านนอกให้สูงกว่าด้านใน หรือใช้เครื่องพยุงเข่า ซึ่งเป็นการรักษาเบื้องต้น หากรักษาด้วยวิธีดังกล่าวแล้วผู้ป่วยยังมีอาการปวดเวลาเคลื่อนไหว อาจรักษาด้วยการผ่าตัด สำหรับการป้องกันข้อเสื่อม น.พ.กีรติแนะว่า ควรหลีกเลี่ยงกิจกรรมที่มีผลกระทบต่อข้อ เช่น การขึ้นลงบันไดมากๆ การนั่งยองๆ หรือคุกเข่า ขัดสมาธิมากเกินไป ซึ่งหากมีอาการปวดมากๆ ควรปรึกษาแพทย์เพื่อรับการรักษาที่ถูกต้องต่อไป (ไทยรัฐ อังคารที่ 16 พ.ย. 47 http://www.thairath.co.th)





สมุนไพรจ่อคิวถูกฉกอีกเพียบ "พาณิชย์" รับจนปัญญาเบรกยุ่น จดกวาวเครือ

นายคณิสสร นาวานุเคราะห์ อธิบดีกรมทรัพย์สินทางปัญญา เปิดเผยถึงกรณีที่บริษัท เครื่องสำอางญี่ปุ่นได้จดสิทธิบัตรเครื่องสำอาง ที่มีส่วนผสมจากกวาวเครือทั้งในสหรัฐฯ และญี่ปุ่นว่า บริษัทดังกล่าวสามารถยื่นขอจดสิทธิบัตรได้ เพราะกวาวเครือ หรือสารสกัดจากกวาวเครือเป็นสิ่งที่มีอยู่ในธรรมชาติ ไม่ได้เป็นสิ่งที่ประดิษฐ์ คิดค้นขึ้นมาใหม่ และไม่มีใครเป็นเจ้าของ จึงไม่ถือว่าเป็นการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาของไทย เพราะตามหลักกฎหมายสิทธิบัตรจะให้ความคุ้มครองแต่สิ่งประดิษฐ์ที่คิดค้นขึ้นใหม่ ที่ยังไม่เคยมีใครเป็นเจ้าของ และไม่ใช่สิ่งที่มีอยู่ตามธรรมชาติ อย่างไรก็ตาม รัฐบาลไทยคงไม่คัดค้าน หรือฟ้องร้องให้บริษัทดังกล่าวเพิกถอนสิทธิบัตร เพราะรัฐบาลไทยไม่ได้เป็นเจ้าของกวาวเครือ หากจะมีผู้คัดค้านคงต้องเป็นเอกชนไทยที่ผลิต เครื่องสำอางชนิดเดียวกัน โดยมีกวาวเครือเป็นส่วนประกอบ แต่ต้องพิสูจน์ให้ได้ว่าได้คิดค้น ขึ้นก่อนบริษัทญี่ปุ่น จึงจะฟ้องร้องให้สหรัฐฯและญี่ปุ่นเพิกถอนสิทธิบัตรได้ เพราะถือว่าละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาของไทย ขณะนี้ มีบริษัทต่างชาติหลายรายได้นำเอาสมุนไพรบางชนิดที่ไทยมีอยู่ มาเป็นส่วนประกอบในการผลิตยา หรือเครื่องสำอาง และยื่นขอจดสิทธิบัตรในไทย โดยที่ไม่ได้ระบุแหล่งที่มาของสมุนไพร เพราะตามกฎหมายสิทธิบัตรไม่ได้กำหนด ซึ่งกรมฯอยู่ระหว่างการพิจารณา แต่หากสมุนไพรดังกล่าวเป็นของไทยจริง ในแง่ของกฎหมายสิทธิบัตรไม่สามารถยกเลิกการขอจดได้ เพราะเป็นพันธุ์พืชที่มีอยู่ตามธรรมชาติ แต่อาจอาศัยอำนาจของกฎหมายอื่นจัดการได้ เช่น พ.ร.บ.คุ้มครองพันธุ์พืช เป็นต้น (ไทยรัฐ อังคารที่ 16 พ.ย. 47 http://www.thairath.co.th)





แนะตั้งกระทรวง “อิสลามภาคใต้” ส.ว.ชื่นชมทักษิณ/เร่งผุดกก.สมานฉันท์

พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์เมื่อวันที่ 15 พ.ย.47 ถึงการหารือกับนักวิชาการ เกี่ยวกับแนวทางการแก้ไขปัญหาความไม่สงบใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ว่า ความคิดเห็นของนักวิชาการส่วนหนึ่ง เป็นสิ่งที่กองอำนวยการเสริมสร้างสันติสุขจังหวัดชายแดนภาคใต้ (กอ.สสส.จชต.) ได้รับคำแนะนำให้ทำไปแล้ว และมีบางเรื่องที่เป็นส่วนเสริม และเพิ่มน้ำหนักในสิ่งที่รัฐบาลทำไปแล้ว ที่น่าสนใจคือ แนวคิดให้คนในสังคมมีส่วนร่วมในการแก้ไขปัญหาของตัวเอง และการตั้งคณะกรรมการสมานฉันท์แห่งชาติ ซึ่งเป็นเรื่องที่เป็นประโยชน์ โดยนายสุรชัย หวันแก้ว และนายบวรศักดิ์ อุวรรโณ จะได้ประสานงานกัน เรื่องการตั้งกรรมการสมานฉันท์แห่งต่อไป (สยามรัฐ อังคารที่ 16 พ.ย. 47 http://www.siamrath.co.th)





ครม.อนุมัติแผนสร้างสุขภาพ คนไทยแข็งแรงคือวาระชาติ

นางสาวศันสนีย์ นาคพงศ์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงผลการประชุม ครม.ว่า ที่ประชุมครม. เห็นชอบหลักการยุทธศาสตร์แห่งชาติ รวมพลังสร้างสุขภาพ เพื่อคนไทยแข็งแรง และเมืองไทยแข็งแรง เพื่อกำหนดให้เป็นวาระแห่งชาติในการพัฒนาคุณภาพประชากร ตามหลักคิด คนไทยแข็งแรง เมืองไทยแข็งแรง เมื่อปี 2545 รัฐบาลได้ประกาศเป็นปีเริ่มต้น ในการดำเนินนโยบาย การรณรงค์สุขภาพ ซึ่งกรอบแนวคิดเมืองไทยแข็งแรงนี้ จะเป็นรากฐานการพัฒนาสุขภาพในทุกด้าน โดยจะสอดคล้องกับเป้าหมาย ของการพัฒนาแห่งสหัสวรรษ ที่ประเทศสมาชิกองค์การสหประชาชาติ 191 ประเทศและองค์การอนามัยโลกให้เกียรติประเทศไทย เป็นเจ้าภาพจัดประชุมนานาชาติ เรื่องการส่งเสริมสุขภาพโลก ครั้งที่ 6 ระหว่าง 7-11 ส.ค.48 นี้ด้วย (กรุงเทพธุรกิจ พุธที่ 17 พ.ย. 47 http://www.bangkokbiznews.com)





ถวายเหรียญ-สดุดีพระราชินีอนุรักษ์ธรรมชาติ

การประชุมใหญ่สมัชชาการ อนุรักษ์สิ่งแวดล้อมโลก ครั้งที่ 3 ที่จัดขึ้นโดยสหภาพสากล ว่าด้วยการอนุรักษ์ (ไอยูซีเอ็น) ซึ่งประเทศไทยโดยกระทรวง ทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อม ได้รับเกียรติให้เป็นเจ้าภาพ จัดขึ้นระหว่างวันที่ 17-25 พ.ย. ที่การศูนย์การประชุม แห่งชาติสิริกิติ์ โดยพิธีเปิดมีขึ้นเมื่อเวลา 17.00 น. วันที่ 17 พ.ย. และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เสด็จฯทรงเป็นองค์ประธานเปิดการประชุม ในการนี้เจ้าหญิงทากามาโดะแห่งประเทศญี่ปุ่น ในฐานะผู้แทนสหภาพสากลฯ ได้ถวายเหรียญ "IUCN Golden Award" ซึ่งเป็นเหรียญทองคำที่ระลึกเทิดพระเกียรติพระราชกรณียกิจ สดุดีสมเด็จพระนางเจ้าฯพระบรมราชินีนาถ ที่ทรงอุทิศพระวรกาย พระราชทรัพย์ และแสดงพระอัจฉริยภาพทั้งปวงในการปฏิบัติพระราชกรณียกิจ ด้านการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อมอย่างต่อเนื่องมาเป็นเวลายาวนาน (ไทยรัฐ พฤหัสบดีที่ 18 พ.ย. 47 http://www.thairath.co.th)





หนุนฟ้องถอนสิทธิบัตรกวาวเครือ

จากกรณีที่ประเทศไทยสามารถสกัดสารจากกวาวเครือมาทำเป็นครีมนมเด้ง และยาบำรุงพลังทางเพศแก่ชายวัยทอง แต่กลับติดขัดปัญหาด้านการจดสิทธิบัตร นั้นผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 17 พ.ย. คณะกรรมาธิการการต่างประเทศ วุฒิสภา ได้เชิญนายเจษฏ์ โทณะวณิช ผู้แทนจากสำนักกฎหมาย มโนมัยเจษฏ์ แอน แอสโซซิเอทส์ และ ภ.ญ.อัจฉรา เอกแสงศรี ผู้แทนองค์การเภสัชกรรม มาชี้แจงเรื่องดังกล่าว โดยนายเจษฏ์กล่าวว่า อยากให้ประเทศไทยดำเนินการฟ้องร้องเพื่อถอนสิทธิบัตรของเกาหลีและญี่ปุ่น ที่ละเมิดทรัพยากรและภูมิปัญญาคนไทย เพื่อให้เห็นว่าประเทศไทยจริงจังกับการบังคับ ใช้กฎหมาย ขณะที่ ภ.ญ.อัจฉรากล่าวว่า การที่ประเทศเกาหลีที่จดสิทธิบัตรเป็นสิทธิบัตร เกี่ยวกับเต้านม น่าจะนำไปต่อสู้เพิกถอนสิทธิ์ได้ เพราะ 4 ปี ที่ผ่านมีการใช้กวาวเครือกันอย่างมาก โดยไม่ขออนุญาตกับองค์การอาหารและยา (อย.) จนมีหลายบริษัทเลียนแบบ กันมากมาย ด้านนายไกรศักดิ์กล่าวว่า คณะกรรมาธิการฯ มีมติเห็นด้วยที่จะให้ฟ้องเพิกถอนสิทธิบัตร ของญี่ปุ่นและเกาหลี เพราะทำผิดกฎหมายไทย โดยเฉพาะกฎหมายคุ้มครองพันธุ์พืช มาตรา 52 หากเพิกถอนสิทธิบัตรได้จะสามารถปกป้องผลประโยชน์ ทำให้ผู้บริโภคได้ใช้ ของดีราคาถูก (ไทยรัฐ พฤหัสบดีที่ 18 พ.ย. 47 http://www.thairath.co.th)





หมอรับเพิ่มเดือนละ 20,000 บาท ติงมีรายการซ้ำซ้อน ส่งก.พ.ทบทวนใหม่

นายวิษณุ เครืองาม รองนายกฯ เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะกรรมการกลั่นกรอง เรื่องเสนอคณะรัฐมนตรีคณะที่ 7 ว่า ที่ประชุมเห็นชอบในหลักการ การปรับค่าตอบแทนกำลังคนด้านสาธารณสุขระยะที่ 1 ซึ่งมีผลเบิกจ่าย 1 ต.ค.2547 ซึ่งจะใช้งบประมาณ 2,875 ล้านบาท เพื่อเป็นการป้องกันปัญหาสมองไหล โดยคาดว่า แพทย์ 1 คนจะได้ค่าตอบแทนพิเศษเพิ่มขึ้น เดือนละ 20,000 บาท ซึ่งถือว่าเป็นเงินที่ไม่มาก แต่เมื่อมองถึงภาพรวมทำให้ต้องใช้งบประมาณมาก และค่าตอบแทนใหม่ดังกล่าว ให้รวมถึงทันตแพทย์ เภสัชกร พยาบาลและบุคลากรด้านสหเวชศาสตร์ด้วย ค่าตอบแทนระบบใหม่อีก 12 รายการ ประกอบด้วยเงินเดือน เงินประจำตำแหน่งที่บุคลากรด้านสาธารณสุขทุกคนได้ตามขั้นเงินเดือนอยู่แล้ว และค่าตอบแทนเพิ่มเติมประกอบด้วย ค่าเวรนอกเวลาราชการ ซึ่งแพทย์จะได้เดือนละ 900 บาท ทันตแพทย์ 900 บาท เภสัช 600 บาท พยาบาล 500 บาท สหเวชศาสตร์ 500 บาท และค่าตอบแทนแพทย์ที่มีความขาดแคลนสูง แพทย์จะได้ 10,000-20,000 บาท จากเดิมที่ได้เพียง 4,000 บาท เบี้ยเลี้ยงเหมาจ่ายบุคลากรในโรงพยาบาลชุมชน (รพช.)พื้นที่ปกติ แพทย์และทันตแพทย์จะได้ 2,200 บาท เภสัช 1,900 บาท เบี้ยเลี้ยงเหมาจ่าย รพช.ระดับ 2 แพทย์และทันตแพทย์ได้ 10,000 บาท เภสัช 5,000 บาท พยาบาล 1,000 บาท เบี้ยเลี้ยงเหมาจ่าย รพช.ระดับ 2 แพทย์และทันตแพทย์ได้ 20,000 บาท เภสัช 10,000 บาท พยาบาล 2,000 บาท ค่าตอบแทนไม่ทำเวชปฏิบัติ (ทำคลินิก) แพทย์และทันตแพทย์ 10,000 บาท เภสัช 5,000 บาท ค่าตอบแทนการปฏิบัติงานชันสูตรพลิกศพ แพทย์ได้ตามที่ก.ยุติธรรมกำหนด ค่าปฏิบัติงานตามใบประกอบวิชาชีพแพทย์และทันตแพทย์ได้ 5,000 บาท เภสัช 1,500 บาท พยาบาลและสหเวช 1,000 บาท ค่าเชี่ยวชาญตามสาขาเฉพาะทาง แพทย์และทันตแพทย์ 5,000 บาท เภสัช 1,500 บาท พยาบาลและสหเวช 1,000 บาท เดิมไม่มีการเบิกจ่าย และเบี้ยเลี้ยงเหมาจ่าย รพศ./รพท.ในจังหวัดพื้นที่เฉพาะ แพทย์ 10,000 บาท ทันตแพทย์ 5,000 บาท เดิมไม่มีการเบิกจ่าย พร้อมกันนี้ ที่ประชุมยังได้พิจารณาหลักเกณฑ์การเลื่อนขั้นเงินเดือน พนักงานส่วนตำบลเป็นกรณีพิเศษ ซึ่งที่ผ่านมาองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) ที่มีพนักงาน 1-3 คน ไม่สามารถได้รับการเลื่อนขั้นเงินเดือนเป็นกรณีพิเศษตามหลักเกณฑ์ โควตาการเลื่อนขั้นเงินเดือนสำหรับผู้มีผลงานและผลสัมฤทธิ์ดีเด่น ไม่เกิน 15% ของจำนวนข้าราชการ (กรุงเทพธุรกิจ พฤหัสบดีที่ 18 พ.ย. 47 http://www.bangkokbiznews.com)





วอน "โคเด็กซ์"เร่งตั้งมาตรฐานย้อนกลับ ผู้ผลิตเสนอกำหนดเฉพาะอาหารบางรายการ

นายสัตวแพทย์บุญเพ็ง สันติวัฒนธรรม นายกสมาคมผู้ผลิตสุกรแปรรูปเพื่อการส่งออก เปิดเผยในการสัมมนาระดมความเห็นเรื่อง "การกำหนดมาตรฐานโคเด็กซ์ สำหรับระบบการตรวจสอบและรับรองสินค้าอาหารนำเข้าและส่งออก" ว่า การบังคับใช้ระบบการตรวจสอบย้อนกลับ แม้ปัจจุบันทางสำนักงานมาตรฐานความปลอดภัยทางด้านอาหาร (โคเด็กซ์) ภายใต้องค์การอาหารและเกษตรแห่งสหประชาชาติ (เอฟเอโอ) ยังไม่มีการกำหนดให้เป็นมาตรฐานสากล แต่ประเทศผู้นำเข้าโดยเฉพาะอียู สหรัฐ ได้เริ่มใช้ระบบดังกล่าวแล้ว ขณะที่ญี่ปุ่นเริ่มตื่นตัวมากขึ้นในปีที่ผ่านมา ส่งผลให้ผู้ประกอบการต้องปรับตัว เริ่มใช้ระบบตรวจสอบย้อนกลับบ้างแล้ว การใช้ระบบการตรวจสอบย้อนกลับนั้น ทางโคเด็กซ์ควรจะกำหนดมาตรฐานให้มีการบังคับใช้กับเฉพาะสินค้าบางรายการที่มีส่วนประกอบน้อย เช่น วัตถุดิบ สินค้าแปรรูปอย่างง่าย แต่ไม่ควรกำหนดบังคับใช้กับอาหารสำเร็จรูปที่มีส่วนประกอบจำนวนมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งส่วนประกอบที่มาจากสินค้าเกษตร นายพูนเกียรติ ทังสมบัติ นายกสมาคมผู้ผลิตอาหารสำเร็จรูป กล่าวว่า การตรวจสอบระบบย้อนกลับหากบังคับใช้ให้มีการใช้กับสินค้าในภาพรวมทั้งหมดในส่วนของอาหารสำเร็จรูป จะได้รับผลกระทบในเรื่องนี้มาก เพราะในอาหารสำเร็จรูป 1 บรรจุภัณฑ์ ประกอบด้วย ส่วนประกอบที่มาจากภาคการเกษตรมากมาย จึงเป็นเรื่องที่ยากมาก การเตรียมตัวรับมาตรฐานดังกล่าว รัฐบาลควรควบคุมขั้นตอนการผลิตสินค้าเกษตรในฟาร์มให้ได้มาตรฐานก่อน โดยอุตสาหกรรมไก่แปรรูปพบว่า มีความเป็นไปได้สูงที่จะใช้ระบบนี้ได้ เพราะปัจจุบันเป็นการผลิตแบบครบวงจร มีส่วนผสมน้อยชนิด นายมนตรี กฤษณีไพบูลย์ ผู้อำนวยการสำนักรับรองมาตรฐานสินค้าและระบบคุณภาพ สำนักงานมาตรฐานสินค้าเกษตรและอาหารแห่งชาติ (มกอช.) กล่าวว่า ข้อเสนอที่ได้จากงานสัมมนาทั้งหมดนี้ จะเสนอให้ที่ประชุมคณะอนุกรรมการโคเด็กซ์ที่จะประชุมในวันที่ 6-10 ธ.ค.ที่ออสเตรเลียพิจารณาอีกครั้ง ซึ่งทางโคเด็กซ์จะนำไปเป็นข้อพิจารณาในการกำหนดมาตรฐานการตรวจสอบย้อนกลับต่อไป (กรุงเทพธุรกิจ พฤหัสบดีที่ 18 พ.ย. 47 http://www.bangkokbiznews.com





แพทย์ชี้บุหรี่ตัวการฟันผุ เหงือกร่นเป็นแก้วหน้าม้า

ท.ญ.พวงทอง เล็กเฟื่องฟู กองทันตสาธารณสุข กรมอนามัย อธิบายเพิ่มเติมว่า สารนิโคตินในบุหรี่มีผลต่อการหดตัวของหลอดเลือด ทำให้เม็ดเลือดขาวลดน้อยลง ประกอบกับทำให้เม็ดเลือดขาวเสียคุณสมบัติทำลายเชื้อโรคในช่องปาก จึงทำให้เชื้อโรครุกรานร่องเหงือกได้ง่าย โดยจะเห็นได้จากผู้ที่สูบบุหรี่จะเป็นรำมะนาดและเหงือกร่น แม้ว่าเหงือกจะไม่มีสภาวะอักเสบชัดเจน แต่ผลจากนิโคตินทำให้กระดูกรองรับรากฟันละลายตัว และทำลายเอ็นซึ่งยึดกระดูกกับรากฟัน จากปกติเนื้อเหงือกจะปกคลุมกระดูกรองรับรากฟันประมาณ 2 มม. เมื่อกระดูกรากฟันถูกละลายตัวให้ต่ำลง เหงือกจึงเคลื่อนตัวตามไปด้วย ทำให้ซอกฟันมีช่องโหว่ เป็นโอกาสให้เศษอาหารตกค้างและเกิดคราบหินปูนสะสมได้ง่าย และเมื่อทำความสะอาดช่องโหว่ซอกฟันไม่ดี จะทำให้คนที่สูบบุหรี่เป็นทั้งโรคปริทันต์ร่วมกับฟันผุที่ซอกฟัน มีงานวิจัยหลายชิ้นระบุตรงกันว่า ผู้สูบบุหรี่เป็นกลุ่มที่มีความเสี่ยงต่อการเกิดโรคปริทันต์อักเสบหรือรำมะนาดสูงถึง 2-6 เท่าของคนที่ไม่สูบบุหรี่ (คมชัดลึก พฤหัสบดีที่ 18 พ.ย. 47 http://www.komchadluek.net)





มรดกโลกใหม่ที่ขึ้นทะเบียนในปี 2004

การประชุมคณะกรรมการมรดกโลกครั้งที่ 28 ที่เมืองซูโจว ประเทศจีน เมื่อวันที่ 28 มิถุนายน-7 กรกฎาคม ที่ผ่านมา ได้มีมติรับรองพื้นที่ทางวัฒนธรรม 29 แห่ง และพื้นที่ทางธรรมชาติ 5 แห่ง เข้าอยู่ในรายชื่อมรดกโลก ทำให้ปัจจุบันมีจำนวนมรดกโลกทั้งสิ้น 788 แห่ง แบ่งเป็นมรดกทางวัฒนธรรม 611 แห่ง มรดกทางธรรมชาติ 154 แห่ง และประเภทอื่นอีก 23 แห่ง ทั้งนี้มี 3 แห่งที่จัดเข้าอยู่ในรายชื่อมรดกโลกที่อยู่ในภาวะเสี่ยง และ 3 แห่งที่ถูกถอดออกจากทะเบียน มรดกโลกใหม่ที่ได้รับการรับรองในปีนี้มีหลากหลายประเภท และอายุของโบราณสถาน ตั้งแต่แหล่งโบราณสถานที่เป็นมรดกทางธรรมชาติ เช่น พื้นที่ป่าร้อนชื้นขนาด 2.5 ล้านเฮกตาร์ในรัฐสุมาตรา ประเทศอินโดนีเซีย ปัจจุบันได้รับการประกาศเป็นเขตคุ้มครองและอนุรักษ์ทางธรรมชาติ ซึ่งครอบคลุมพื้นที่อุทยานแห่งชาติ 3 แห่งด้วยกัน ในประเทศมองโกเลียมรดกทางภูมิทัศน์วัฒนธรรม เช่น Orkhon Valley ครอบคลุมพื้นที่ 121,967 เฮกตาร์ มีแหล่งโบราณคดีมากมายที่พบเก่าแก่ที่สุดอยู่ในศตวรรษที่ 6 เป็นพื้นที่ประวัติศาสตร์ที่แสดงให้เห็นความเชื่อมโยงระหว่างสังคมและการบริหารจัดการ ศูนย์กลางทางศาสนา และความสำคัญของหุบเขา Orkhon ในทวีปเอเชียกลาง นอกจากนี้ยังมีโบราณสถานประเภทมรดกทางสถาปัตยกรรมและเมืองในระดับขนาดต่างๆ เช่น ป้อมปราการโปรตุเกสแห่งเมืองมาซากัน เป็นส่วนหนึ่งของเมือง EI Jadida ประเทศโมร็อกโก สร้างขึ้นในศตวรรษที่ 16 มีความโดดเด่นของอิทธิพลทางสถาปัตยกรรมและเมืองของวัฒนธรรมยุโรปในวัฒนธรรมชาวโมร็อกโกหรือมรดกทางวัฒนธรรม เช่น ศาสนสถานและพื้นที่ตั้งโดยรอบในเทือกเขา KII ซึ่งประกอบด้วยวัดสำคัญ 3 แห่งในลัทธิต่างกัน ชินโต และพุทธ เชื่อมโยงกันด้วยเส้นทางแสวงธรรมระหว่างเมือง Nara และ เกียวโต จนมาถึงสถาปัตยกรรมสมัยใหม่ยุคศตวรรษที่ 20 เช่น บ้านและสำนักงานของ Luis Barragan ในเมืองเม็กซิโกซิตี้ สร้างในปี 1948 สมัยหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 เป็นงานที่ได้รับการยกย่องในการผสมผสานการออกแบบสมัยใหม่และศิลปะพื้นถิ่นได้อย่างกลมกลืน และเป็นงานที่มีอิทธิพลต่อการออกแบบในยุคต่อๆ มา ดูรายชื่อมรดกโลกแห่งอื่นๆ เพิ่มเติมได้ใน http://www.whc.unesco.org/ (สยามรัฐ พฤหัสบดีที่ 18 พ.ย. 47 http://www.siamrath.co.th)





กรมวิชาการเกษตรโชว์คุ้มครองกวาวเครือ

นายวิชา ธิติประเสริฐ ผู้อำนวยการกองคุ้มครองพันธุ์พืช กรมวิชาการเกษตร กล่าวว่า ตามพระราชบัญญัติคุ้มครองพันธุ์พืช พ.ศ.2542 จะได้รับความคุ้มครองตามกฎหมาย กล่าวคือ ผู้ใดเก็บ จัดหาหรือรวบรวมพันธุ์พืชพื้นเมืองและพันธุ์พืชป่าหรือส่วนใดส่วนหนึ่งของพืชดังกล่าว เพื่อปรับปรุงพันธุ์ ศึกษา ทดลอง หรือวิจัยเพื่อประโยชน์ในทางการค้า จะต้องได้รับอนุญาตและทำสัญญาแบ่งปันผลประโยชน์ เพื่อนำเข้ากองทุนคุ้มครองพันธุ์พืช เมื่อวันที่ 2 มิ.ย. 2542 กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้ประกาศให้กวาวเครือขาวและทองเครือหรือกวาวเครือแดง เป็นพืชสงวนที่ห้ามส่งออกตามพระราชบัญญัติพันธุ์พืช พ.ศ.2518 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติม โดยพระราชบัญญัติพันธุ์พืช (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2535 เพื่อหวังที่จะลดการทำลายพันธุกรรมของกวาวเครือจากป่าธรรมชาติในประเทศ และเป็นการอนุรักษ์ภูมิปัญญาด้านพืช และพันธุ์พืชของบรรพชนในการใช้ประโยชน์เชิงสมุนไพร เพื่อสืบทอดแก่คนรุ่นหลัง และวันที่ 7 ต.ค. 2546 ได้มีการแก้ไขประกาศกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เพิ่มเติม เรื่องห้ามส่งออกกวาวเครือทุกพันธุ์ ยกเว้นส่วนที่ผ่านขบวนการ และไม่สามารถใช้ขยายพันธุ์ได้ จากการถอดรหัสพันธุกรรม โดยใช้เทคนิคดีเอ็นเอ ฟิงเกอร์ พรินท์ (DNA Finger print) ปรากฏว่า กวาวเครือมี DNA แตกต่างกันถึง 14 สายพันธุ์ ซึ่งพันธุ์ที่สำรวจพบในพื้นที่จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ และกาญจนบุรี มีปริมาณสารสำคัญค่อนข้างสูง (กรุงเทพธุรกิจ ศุกร์ที่ 19 พ.ย. 47 http://www.bangkokbiznews.com)





ไทยร่วมอาเซียนวิจัยสัตว์ชายแดนกันสูญพันธุ์

วันที่ 19 พ.ย. นายชวาล ทัฬหิกรณ์ ผอ.สำนักอนุรักษ์สัตว์ป่า กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) เปิดเผยว่า ในการประชุมใหญ่สมัชชาการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมโลกครั้งที่ 3 ได้หารือร่วมกับผู้แทนจากประเทศอาเซียน ตามข้อเสนอของไทยที่ต้องการให้ประเทศ ในภูมิภาคอาเซียนที่มีพื้นที่คุ้มครองต่อเนื่องกัน ให้มีการบริหารจัดการ เป็นไปในแนวทางเดียวกัน เนื่องจากสัตว์ป่ามีการอพยพย้ายถิ่น ระหว่างผืนป่าโดยไม่มีพรมแดน และปัจจุบันแต่ละประเทศมีวิธีการจัดการพื้นที่คุ้มครองที่แตกต่างกัน ทำให้สัตว์ป่าได้รับผลกระทบ โดยเฉพาะสัตว์ใหญ่จำพวก ช้าง เสือ และกระทิง ในส่วนของไทยมีพื้นที่คุ้มครองที่อยู่ในข่าย 46 พื้นที่ แบ่งเป็นภาคตะวันออกของประเทศที่ติดกับลาวและกัมพูชา 28 พื้นที่ที่สำคัญ คือ อุทยานแห่งชาติภูจอง จ.อุบลราชธานี เขาพระวิหารและเขาพนมดงรัก ติดพม่า 12 พื้นที่ เช่น อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่ นเรศวร เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าอุ้มผาง อุทยานแห่งชาติไทรโยค อุทยานแห่งชาติทองผาภูมิ และติดมาเลเซีย 4 พื้นที่ เช่น อุทยานแห่งชาติฮาลาบาลาส ทั้งนี้มีข้อสรุปว่าสมาชิกอาเซียนจะร่วมมือทางวิชาการ เพื่อกำหนดแนวทางการอนุรักษ์ให้เหมาะสม โดยมีเป้าหมายที่จะรวมผืนป่า ในพื้นที่คุ้มครองเข้าเป็นผืนเดียวกัน (ไทยรัฐ เสาร์ที่ 20 พ.ย. 47 http://www.thairath.co.th).





สร้างท่าเรือนํ้าลึกที่ อ.ละงู 5,600 ล้าน

นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รมว.คมนาคม เปิดเผยว่า กระทรวงคมนาคมจะก่อสร้างโครงการท่าเรือน้ำลึกแห่งแรกของไทยในฝั่งทะเลอันดามันที่บริเวณปากคลองปากบารา อ.ละงู จ.สตูล พร้อม ทั้งสร้างระบบคมนาคมขนส่งครบวงจรทั้งท่าเรือ ทางรถไฟ และถนน ตามนโยบายโลจิสติกส์ของรัฐ รวมมูลค่า 5,600 ล้านบาทเศษ โดยขณะนี้กรมการขนส่งทางน้ำและพาณิชย์นาวีได้เริ่มศึกษาออกแบบแล้ว คาดว่ากลางปีหน้าจะเริ่มเปิดประมูลหาผู้รับเหมาก่อสร้าง และใช้เวลาก่อสร้างประมาณ 4 ปี แต่จะเร่งรัดให้ก่อสร้างแล้วเสร็จภายใน 3 ปี และเปิดใช้ประมาณปี 51 “ท่าเรือดังกล่าวใช้เงินลงทุนก่อสร้าง 4,000 ล้านบาท ขณะที่ทางหลวงจะใช้งบก่อสร้างถนนอีกประมาณ 2,000 ล้านบาท ทางหลวงชนบท 374 ล้านบาท การรถไฟแห่งประเทศไทย(รฟท.) จะสร้างทางรถไฟเชื่อมโยงท่าเรืออีก 15 ล้านบาท ซึ่งหากสร้างท่าเรือแล้วเสร็จจะช่วยประเทศประหยัดค่าขนส่งปีละประมาณ 1,300 ล้านบาท โดยยังไม่นับรวมรายได้ที่มาจากการพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวบริเวณใกล้เคียงอีก” ปัจจุบันนี้ไทยส่งออกยางพารามากเป็นอันดับ 1 ของโลก แต่กว่า 50% ต้องใช้ท่าเรือของมาเลเซียในการส่งออกทำให้ไทยมีต้นทุนการขนส่งที่สูง แต่ถ้าไทยมีท่าเรือน้ำลึกเป็นของตนเองจะประหยัดต้นทุนขนส่งได้ (เดลินิวส์ เสาร์ที่ 20 พ.ย. 47 http://www.dailynews.co.th)





เร่งกรมศิลป์สร้าง “หอจดหมายเหตุ ร.9” เฉลิมพระเกียรติในหลวง 80 พรรษา ปี 50

นายอนุรักษ์ จุรีมาศ รัฐมนตรีวัฒนธรรม เปิดเผยถึงโดยโครงสร้างแผนงานสร้างพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติแห่งใหม่ ที่อำเภอคลองหลวง จังหวัดปทุมธานี จำนวนเนื้อที่ 345 ไร่ (ปัจจุบัน 251 ไร่) นี้ เพื่อต้องการพัฒนาระบบการให้บริการคลังเพื่อการศึกษา (VISIBLE STORAGE) ให้สมบูรณ์ ท้ายที่สุดคือสามารถพัฒนาให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่มีศักยภาพในด้านการคมนาคม การให้บริการความรู้ควบคู่กับความเพลิดเพลิน ตลอดจนความสวยงามอลังการของอาคาร และภูมิทัศน์ที่ไม่ถูกบดบังด้วยสิ่งก่อสร้างหรืออาคารใดๆ ภายใต้โครงการจัดตั้ง “พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ-ชาติพันธุ์วิทยา” แห่งแรกของประเทศ ที่จะตอบสนองการศึกษาด้านมานุษยวิทยา สังคมวิทยา และศิลปวัฒนธรรม ซึ่งมีความสำคัญมากในวงการศึกษาของประเทศและของโลก และเป็นการพัฒนาพิพิธภัณฑ์ไทยให้มีความสมบูรณ์ครบถ้วนตามภารกิจของกรมศิลป์ และ อยากเห็นกระทรวงวัฒนธรรมทำหอจดหมายเหตุ ร.9 นี้ให้แล้วเสร็จก่อนในวันที่ 5 ธันวาคม พ.ศ. 2550 เพื่อที่เฉลิมฉลองพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในโอกาสพระชนมพรรษาครบ 80 พรรษา และสามารถเปิดบริการข้อมูลเกี่ยวกับพระราชประวัติและพระราชกรณียกิจของพระองค์ให้แก่ประชาชนที่เข้ามาเที่ยวชมได้ นอกจากนี้รวมไปถึงอาคารศูนย์ศิลปวัฒนธรรมเฉลิมพระเกียรติ ร.9 อีกด้วย งบประมาณของโครงการพิพิธภัณฑ์ฯ เดิมที่วางไว้ 700 ล้านบาท และก่อสร้างโครงการต่างๆ ไปแล้วกว่า 300 ล้านบาท คงเหลืออีกจำนวนกว่า 300 ล้านบาท ซึ่งจะปรับปรุงด้านเทคโนโลยีนั้น และเมื่อเรียบร้อยดีแล้วจะเสนอเข้าคณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณาทันที รมว.วัฒนธรรม กล่าว (สยามรัฐ เสาร์ที่ 20 พ.ย. 47 http://www.siamrath.co.th)





ร่วมมือกันคว้ารางวัลสุดยอด MV

โครงการ "ยัวร์มาสเตอร์พีช มิวสิคโฟโต้ คอนเทสต์" ซึ่งเปิดโอกาสให้เด็กวัยรุ่นได้สร้างสรรค์ผลงานมิวสิกวิดีโอ "คนมันรัก" ของ "ไอซ์-ศรันยู" ของค่ายแกรมมี่ปรากฏว่า สามหนุ่มทีมพาวเวอร์ แอนท์ (Power Ants) ซึ่งประกอบไป ด้วย วี-วีรชาติ งามศิลป์, ช้วง-อาทิตย์ หวงธรรมรักษ์, และ นุ-วิษณุ จิตเจริญดี จากภาควิชาครุศาสตร์เทคโนโลยี คณะครุศาสตร์อุตสาหกรรม ม.เทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี ไอเดียเยี่ยมชนะใจกรรมการได้รับรางวัลสุดยอดมิวสิกวิดีโอไปครอง






KMUTT Digital Library
Contact Digital Library : info@lib.kmutt.ac.th
Tel : 0-2470-8215