|
หัวข้อข่าวปีที่ 6 ฉบับที่ 6 ประจำวันที่ 2005-02-14
ข่าวการศึกษา
ค่ายคอมพ์ซ่อมได้ มจธ.จัดให้น้องเมืองน่าน เร่งพัฒนาร.ร.ภูเก็ตเป็นร.ร.นานาชาติ อจ.ไอทีร่วมวิพากษ์หลักสูตร โครงการ Smart School (สมาร์ท สกูล) เป็นส่วนหนึ่งของสถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (สสวท.) เกิดจากความร่วมมือระหว่างรัฐบาลไทยกับอังกฤษ มข.ได้งบฯเกือบ50ล.ตั้งศูนย์สัตว์ทดลอง "เชียงราย"เปิดอบรมฟรีภาษาเกาหลี เลาะรั้วมหาวิทยาลัยราชภัฏนครพนม สัมผัสชีวิต39นศ.เวียดนามเรียนภาษาไทย โรงเรียนจังหวัด 50 แห่ง สมัครใจออกนอกระบบรัฐ เล็งคัดเลือกให้เหลือไม่เกิน 10 แห่ง ภายใน มี.ค.นี้ มะกันอบรมครูไทย สอนอังกฤษมิติใหม่ แกนนำภาคเอเซีย
ข่าววิทยาศาสตร์/เทคโนโลยี
ญี่ปุ่นส่งเรือสำรวจสมุทรศาสตร์ศึกษาจุดกำเนิดคลื่น 'สึนามิ'' ประดิษฐ์ "กระจกวิเศษ'' เห็นภาพรูปร่างหน้าตาตัวเองในอนาคต ปรมาณูติวเข้มหมอ สารกัมมันตรังสี ตรวจวินิจฉัยโรค 'เสนาบดี'ในใจนักวิทย์ มีวิสัยทัศน์ รู้รอบ สนใจงานวิจัย มหาสมุทรเต็มไปด้วยกรด "ปะการัง-ปลา"นับวันสูญพันธุ์ กลาโหมอังกฤษยังคงรับฟังเรื่องมนุษย์ต่างดาวมาเยือน สหรัฐเปิด"ซ้อมรบทางอวกาศ"อ้างเพื่อไว้รับมือการก่อการร้าย สมอ.ประกาศมาตรฐานแอร์สำหรับห้อง ต้องประหยัดพลังงานไฟ-เริ่มใช้11มี.ค. แพลงตอนสายพันธุ์ใหม่ อาศัยใต้มหาสมุทรลึกสุดกู่ พบขุมเพชรอยู่บนดาวเคราะห์ ฝังอยู่ใต้ดินหนาเป็นกิโลเมตร นักวิทยาศาสตร์แดงบอกเตือน อาจแผ่นดินไหวเขตเส้นศูนย์สูตร ศูนย์นาโนวาดฝันขึ้นแท่นผู้นำอาเซียน พร้อมสร้างความเข้าใจผู้บริโภคกันถูกต่อต้าน มกอช.เร่งยกมาตรฐานสินค้าสัตว์น้ำเทียบโคเด็กซ์ ไอบีเอ็มออกชิพเร็วฟ้าแลบขุมพลังเหลือล้นแซงหน้าอินเทล วัดแผ่นดินไหวสึนามิต่ำเกินไป ของจริงรุนแรงกว่ากันถึง 3 เท่า คพ.เล็งตั้งโรงงานรีไซเคิลหลอดไฟ
ข่าววิจัย/พัฒนา
หลายหลากผลิตภัณฑ์จากแอลกอฮอล์วิจัยแนวทางการสร้างมูลค่าเพิ่ม จากพืชเชื้อเพลิง คนขับต้นเหตุอุบัติเหตุ 90% ผลวิจัยด้านวิศวกรรมจราจร-ชี้ถอดแบบอังกฤษ, สหรัฐฯ เครื่องกลั่นไวน์จากข้าว ต้นแบบเครื่องกลั่นไวน์ประหยัดพลังงาน ค่ายรถมั่นใจ'คอมพ์'สร้างชิ้นส่วนปลอดภัย นักวิจัยย้ำเครื่องยนต์รวนเหตุจากขั้นตอนผลิต มาตรฐานห้องปฏิบัติการวิเคราะห์ดิน จีนพัฒนาวัคซีนไข้หวัดนกสูตรใหม่ อุปกรณ์กันหลับในช่วยผู้ขับขี่ ผลงานนักประดิษฐ์ไทยถูกค่ายรถรุมอื้อ มช.วิจัยโยเกิร์ตแก้ท้องร่วงในสุกร เน้นราคาถูกรักษาง่ายแถมไม่ดื้อยา เครื่องแยกเศษพลาสติก นวัตกรรมเพื่อสิ่งแวดล้อมไทย วว.พัฒนาผลิตภัณฑ์น้ำมันมะพร้าวบีบเย็นคุณภาพสูง ครบวงจร ฟิล์มเคลือบอาหารบริโภคได้ วิจัยชี้ทารกตัวใหญ่ อายุมากเสี่ยงมะเร็ง วิ่งเยี่ยงหนูช่วยหัวใจแข็งแกร่ง กินแต่อาหารที่มีแคลอรีต่ำ ยืดอายุสมองให้ยืนนานขึ้น ทรานซิสเตอร์ขนาดโมเลกุล ทีเม็กซ์พัฒนา"หัวสว่านติดชิพ"รักษาฟัน ใช้เซ็นเซอร์วัดความร้อนส่งข้อมูลไร้สายบอกทันตแพทย์ สัญญาณกันขโมยมอเตอร์ไซค์ ส่งเสียงทันทีหากรถขยับ แสงหลอดไฟ ทำฮอร์โมนป่วน ก่อมะเร็งง่าย อังกฤษไฟเขียวโคลนนิงมนุษย์ ใช้เทคนิคเดิมที่สร้างแกะดอลลี เครื่องอบแห้งแบบใหม่ รักษาวิตามินครบทุกหยด อยากหลับปุ๋ยต้องฟังเพลงแจ๊ส แม้ปากกับใจไม่ตรงกันแต่เกี่ยวกัน โรคฟันปล่อยเชื้อเข้าไปถึงหัวใจ ตู้อบแห้งพลังงานแสงอาทิตย์ ผลงานอนุรักษ์พลังงานและสิ่งแวดล้อม เซลล์พิเศษซ่อมหัวใจชำรุด พบในทารกแรกเกิดเท่านั้น นิสิตเกษตรฯ ทำชุดตรวจอาหารทะเล
ข่าวทั่วไป
โอทอปติดดาว หมอนสุขภาพ กรุงเทพฯ ม.มหิดล เปิดตัว 5 มหิดลทยากร 47 อาจารย์ล้านนาคว้าชนะเลิศออกแบบเครื่องประดับ จุฬาฯคว้าแชมป์หุ่นยนต์เตะบอล 2548 โชว์ทัพสิ่งประดิษฐ์ จูงใจธุรกิจเอกชน ต่อยอดทำเงินได้จริง USS ABRAHAM LINCOLN จากนักรบ...มาสวมหมวกนักบุญ นักวิเคราะห์แนะวิธีแจ้งเกิดบ้านอัจฉริยะ เปิดเวทีสิ่งประดิษฐ์รุ่นใหม่ ประลอง กึ๋น เด็กอาชีวะ ฟ้าหญิงตั้งศูนย์วิจัยบําบัดโรคมะเร็ง นําเทคโนโลยีสมัยใหม่ยืดอายุผู้ป่วย แก้วขวัญ-ครูน้อย คว้ารางวัลนักสังคมสงเคราะห์ดีเด่น
ข่าวการศึกษา
ค่ายคอมพ์ซ่อมได้ มจธ.จัดให้น้องเมืองน่าน
ชาวชมรมค่ายคอมพิวเตอร์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี ไปเผยแพร่ความรู้คอมพิวเตอร์แก่น้องๆ ในชนบท ที่โรงเรียนในโครงการตามพระราชดำริ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี อำเภอเฉลิมพระเกียรติ และอำเภอบ่อเกลือ จังหวัดน่าน เป็นหนึ่งในจังหวัดเป้าหมาย นอกเหนือจากจังหวัดแม่ฮ่องสอน ราชบุรี และฉะเชิงเทรา ที่โครงการมหาวิทยาลัยกับชุมชนและสังคม ดูแลอยู่ โดยเฉพาะเรื่องของโครงการวิทยาศาสตร์กับการเรียนรู้เพื่อสนับสนุนแผนพัฒนาเด็กและเยาวชนในถิ่นทุรกันดารตามพระราชดำริ ชาวค่าย 19 8oต่างระดมสมอง และแบ่งกำลังออกเป็น 2 กลุ่ม กระจายกำลังลงไปยัง 2 อำเภอ เพื่อเผยแพร่ความรู้และซ่อมแซมคอมพิวเตอร์ในโรงเรียนของน้องๆ ให้ได้มากที่สุด กว่า 6 วันเต็ม ชาวค่ายช่วยกันความเผยแพร่ความรู้และลงแรงซ่อมคอมพิวเตอร์ในโรงเรียน ได้ทั้งสิ้น 78 เครื่องจากทั้งหมด 110 เครื่อง (สยามรัฐ จันทร์ที่ 7 ก.พ. 48 http://www.siamrath.co.th)
เร่งพัฒนาร.ร.ภูเก็ตเป็นร.ร.นานาชาติ
นายปิยะบุตร ชลวิจารณ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงศึกษาธิการ กล่าวภายหลังตรวจเยี่ยมการดำเนินการในการพัฒนาโรงเรียนเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระศรีนครินทร์ ภูเก็ต ซึ่งเป็นโรงเรียนที่ได้รับคัดเลือกเข้าสู่โรงเรียนต้นแบบโรงเรียนในฝัน เพื่อติดตามความคืบหน้าการดำเนินการโรงเรียนดังกล่าวว่า เป็นโรงเรียนที่มีความสมบูรณ์ทั้งในเรื่องของการพัฒนาครูและการพัฒนาเด็กนักเรียน โดยเฉพาะการเรียนการสอนด้านภาษา ซึ่งโรงเรียนเปิดสอน 3 ภาษาด้วยกัน คือ ภาษาอังกฤษ จีน และฝรั่งเศส ซึ่งการสอนทางด้านภาษานั้น เป็นเรื่องที่สำคัญมาก เพราะทั้งการเรียนภาษาอังกฤษ ภาษาจีน และภาษาฝรั่งเศส เนื่องจาก จ.ภูเก็ต เป็นเมืองท่องเที่ยว และในอนาคตนั้น เทคโนโลยีต่างๆ ที่เข้ามาส่วนใหญ่จะมีเรื่องของภาษาเข้ามาเกี่ยวข้อง โรงเรียนเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระศรีนครินทร์ ภูเก็ต เป็นโรงเรียน Mini English โปรแกรม ซึ่งมีการเรียนการสอนภาษาอังกฤษเป็นหลักในหลายวิชา และขณะนี้กำลังอยู่ระหว่างการขยายเพื่อให้มีการเรียนการสอนครอบคลุมขึ้น และในอนาคตคิดว่าน่าจะขยายให้เป็น English โปรแกรมเต็มรูปแบบ หรือเป็นระดับโรงเรียนนานาชาติ เพื่อที่เด็กจะได้เรียนในโรงเรียนนานาชาติของไทย (ข่าวสด จันทร์ที่ 7 ก.พ. 48 http://www.matichon.co.th/khaosod)
อจ.ไอทีร่วมวิพากษ์หลักสูตร
รศ.ดร.สมเจตน์ ภูศรี อธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฏมหาสารคาม เปิดเผยว่า ในอนาคตการเรียนรู้จะไม่จำกัดอยู่เฉพาะห้องเรียนและครู การเรียนการสอนแบบดั้งเดิมจะลดน้อยลง ความสัมพันธ์ระหว่างผู้เรียนกับผู้สอนจะเปลี่ยนไป เกิดกระบวนการเรียนรู้แบบใหม่ จึงมีความจำเป็นอย่างเร่งด่วนที่ทุกฝ่ายจะต้องช่วยกันพัฒนาองค์ความรู้ใหม่ เพื่อก่อให้เกิดประโยชน์มากที่สุด โปรแกรมวิชาบรรณารักษศาสตร์และสารสนเทศมหาวิทยาลัยราชภัฏมหาสารคาม จึงมีการร่างหลักสูตรศิลปศาสตรบัณฑิต(ศศ.บ.) สาขาการจัดการสารสนเทศขึ้น โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้หลักสูตรดังกล่าวสามารถผลิตบัณฑิตให้มีคุณภาพเป็นที่ยอมรับและตอบสนองความต้องการของสังคมรวมทั้งสอดคล้องกับตลาดแรงงาน และจัดงานสัมมนาให้มีการวิพากษ์หลักสูตรขึ้นในวันที่ 8-9 ก.พ. ที่มหาวิทยาลัย มีการเชิญคณาจารย์จากโปรแกรมวิชาบรรณารักษศาสตร์และสารสนเทศศาสตร์ จากมหาวิทยาลัยราชภัฏทั่วประเทศมาร่วมงานกว่า 80 คน (ข่าวสด จันทร์ที่ 7 ก.พ. 48 http://www.matichon.co.th/khaosod)
โครงการ Smart School (สมาร์ท สกูล) เป็นส่วนหนึ่งของสถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (สสวท.) เกิดจากความร่วมมือระหว่างรัฐบาลไทยกับอังกฤษ
มีวัตถุประสงค์เพื่อนำร่องการเรียนการสอนสาระการออกแบบและเทคโนโลยีของประเทศไทยในการพัฒนาหลักสูตร สื่อ กิจกรรมการเรียนการสอน รวมทั้งครูให้สามารถจัดการเรียนการสอนวิชาดังกล่าวได้อย่างมีประสิทธิภาพสูง นักเรียนได้คิดอย่างสร้างสรรค์ และลงมือปฏิบัติจริง โดยใช้ศักยภาพของ ไอซีที เป็นเครื่องมือช่วยในการเรียนรู้เพื่อให้เหมาะสมกับสภาพความเป็นอยู่และสิ่งแวดล้อมในท้องถิ่น อ.อุปการ จีระพันธุ์ หัวหน้าโครง การเทคโนโลยี สสวท. เปิดเผยว่า การนำโครงการสมาร์ท สกูล มาใช้ในระดับประถมศึกษานั้น จะเน้นให้นักเรียนเรียนพื้นฐานวิชาการออกแบบและเทคโนโลยีขั้นต้น (Primary Design and Technology) โดยการให้เด็กเล็กได้ฝึกออกแบบร่างภาพ ทำต้นแบบและเรียนรู้อิเล็กทรอนิกส์เบื้องต้น รวมทั้งฝึกใช้เครื่องมือ วัสดุ และอุปกรณ์เพื่อทำงานอย่างปลอดภัย ข้อสำคัญการเรียนการสอนสาระการออกแบบและเทคโนโลยี ในโครงการ สมาร์ท สกูล ต้องการให้เด็กคิดอย่างเป็นระบบ มีครูเป็นผู้กำหนดกรอบเพื่อให้เด็กทำตามโดยเริ่มจากความต้องการ หรือปัญหาของเด็กที่ต้องการจะทำชิ้นงานใด ๆ ออกมา ในส่วนของทรัพยากรที่เตรียมไว้ให้เป็นโจทย์ครูจะเป็นผู้กำหนด และให้นักเรียนลงมือทำภายในเวลาที่กำหนดโดยไม่มีแบบร่างไว้ก่อน (เดลินิวส์ อังคารที่ 8 ก.พ. 48 http://www.dailynews.co.th)
มข.ได้งบฯเกือบ50ล.ตั้งศูนย์สัตว์ทดลอง
มหาวิทยาลัยขอนแก่น(มข.) แจ้งว่า ปัจจุบันหน่วยงานเลี้ยงและใช้สัตว์ทดลองของประเทศ รวมทั้ง มข.ยังมีปัญหาที่ต้องการการแก้ไขปรับปรุง และพัฒนาอย่างเร่งด่วน เนื่องจากการเลี้ยงและการใช้สัตว์ทดลองยังไม่ได้มาตรฐานสากล มข.จึงได้แต่งตั้งคณะทำงานเกี่ยวกับจรรยาบรรณการใช้สัตว์ในระดับมหาวิทยาลัยขึ้น และมีมีมติเห็นชอบให้จัดตั้ง "ศูนย์สัตว์ทดลอง มข." ขึ้น โดยเริ่มดำเนินการตั้งแต่ปี 2546 เพื่อมุ่งหวังที่จะให้บริการสัตว์เพื่อใช้ในการเรียนการสอน การวิจัย การทดสอบ และการผลิตชีววัตถุได้เพียงพอกับความต้องการของหน่วยงานต่างๆ ทั้งในและนอก มข. ซึ่งในปัจจุบัน มข.มีการใช้สัตว์ทดลองประมาณ 4,000 ตัวต่อปี และคาดว่าจะมีอัตราการใช้เพิ่มสูงขึ้นอีกในอนาคต รวมทั้งหลายๆ หน่วยงานมีความต้องการใช้สัตว์มากกว่าเดิมเป็นทวีคูณ และคาดว่าเมื่อมีสถานเลี้ยงสัตว์ที่ได้มาตรฐานสากล จะยิ่งทำให้ความต้องการมีมากเพิ่มขึ้นอย่างแน่นอน ศูนย์นี้ได้รับงบประมาณแผ่นดินประจำปี 2546 จำนวน 20 ล้านบาท ได้รับงบประมาณสนับสนุนเพิ่มเติม 10 ล้านบาท ในงบประมาณแผ่นดินประจำปี พ.ศ.2547 และได้รับงบประมาณต่อเนื่องในปี พ.ศ.2548 เป็นเงิน 19 ล้านบาท ซึ่งเมื่อการจัดตั้งแล้วเสร็จจะสามารถพัฒนาการเลี้ยง และการใช้สัตว์ทดลองให้ได้มาตรฐานสากล สามารถสร้างงานวิจัย และความก้าวหน้าทางด้านวิทยาศาสตร์ชีวภาพ เทคโนโลยีชีวภาพ การค้นคว้าพัฒนายา อาหาร สมุนไพร วัคซีน และเซรุ่มสำหรับสัตว์ และมนุษย์อย่างปลอดภัย รวมทั้งลดการพึ่งพาผลงานและผลผลิตจากต่างประเทศได้อย่างมากมายมหาศาล (มติชนรายวัน พุธที่ 9 ก.พ. 48 http://www.matichon.co.th)
"เชียงราย"เปิดอบรมฟรีภาษาเกาหลี
มรภ.เชียงรายเปิดอบรมภาษาเกาหลี โดยไม่คิดค่าเงิน นายจำเริญ ฐานันดร ผู้อำนวยการสถาบันภาษา มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงราย แจ้งว่า สถาบันภาษาจัดทำโครงการอบรมภาษาต่างประเทศ (กาหลี) ตามนโยบายในโครงการพัฒนาศักยภาพด้านภาษาต่างประเทศ และการบริการวิชาการแก่ชุมชน คณาจารย์ เจ้าหน้าที่ นักศึกษา และผู้ที่สนใจทั่วไป ระหว่างวันที่ 7 กุมภาพันธ์-25 มีนาคม 2548 เวลา 09.00-19.00 น. ณ สถาบันภาษา มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงราย นายจำเริญกล่าวต่อว่า การอบรมจะแบ่งออกเป็น 6 กลุ่ม คือระหว่างวันที่ 7-25 ก.พ. 48 กลุ่มที่ 1 อบรมตั้งแต่เวลา 09.0011.00 น. กลุ่มที่ 2 อบรมเวลาตั้งแต่ 13.0015.00 น. กลุ่มที่ 3 อบรมเวลาตั้งแต่ 17.0019.00 น. วันที่ 7-25 มี.ค. 48 กลุ่มที่ 4 อบรมเวลาตั้งแต่ 09.0011.00 น. กลุ่มที่ 5 อบรมเวลาตั้งแต่ 13.0015.00 น. กลุ่มที่ 6 อบรมเวลาตั้งแต่ 17.0019.00 น. (ข่าวสด พุธที่ 9 ก.พ. 48 http://www.matichon.co.th/khaosod)
เลาะรั้วมหาวิทยาลัยราชภัฏนครพนม สัมผัสชีวิต39นศ.เวียดนามเรียนภาษาไทย
มหาวิทยาลัยราชภัฏนครพนม มีศูนย์เวียดนามศึกษา ซึ่งก่อตั้งเมื่อปี 2544 เดิมชื่อว่าศูนย์อินโดจีนศึกษา ตั้งขึ้นเพื่อบริการข้อมูลข่าวสาร ความรู้ด้านต่างๆ เกี่ยวกับประเทศสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม ทั้งในอดีตและปัจจุบัน มีการเปิดสอนหลักสูตรภาษาเวียดนามเบื้องต้นให้แก่นักศึกษาภาคปกติและภาคสมทบ รวมถึงข้าราชการ หน.ส่วนราชการ และบุคคลที่สนใจทั่วไป ปัจจุบันมีนักศึกษาชาวเวียดนามเข้ามาศึกษาด้วย ผศ.ยุทธศักดิ์ ฮมแสน อธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฏนครพนม กล่าวถึงที่มาในการรับนักศึกษาชาวเวียดนามว่า ตั้งแต่เปิดสอนภาษาเวียดนามเป็นวิชาบังคับเลือกให้นักศึกษา เป็นเวลาที่เวียดนามเร่งพัฒนาและเตรียมเปิดประเทศรองรับถนนหมายเลข 9 ที่จะรอสะพานข้ามแม่น้ำโขงแห่งที่ 3 ด้าน จ.มุกดาหาร เมื่อสร้างเสร็จสามารถข้ามไปถึง จ.กวางตรี ซึ่งเป็นเส้นแบ่งเขตระหว่างเวียดนามเหนือ-ใต้ ที่บริเวณสะพานเฮียนเลือง เชื่อมไปถึงเมืองเว้ จ.ดานัง (ข่าวสด พุธที่ 9 ก.พ. 48 http://www.matichon.co.th/khaosod)
โรงเรียนจังหวัด 50 แห่ง สมัครใจออกนอกระบบรัฐ เล็งคัดเลือกให้เหลือไม่เกิน 10 แห่ง ภายใน มี.ค.นี้
นายชินภัทร ภูมิรัตน รองเลขาธิการคณะกรรมการ การศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.) เปิดเผยความคืบหน้าการดำเนินโครงการนำร่องโรงเรียนในกำกับของรัฐว่า ขณะนี้มีโรงเรียนมัธยมศึกษาประจำจังหวัดทั่วประเทศประมาณ 40-50 แห่ง ให้ความสนใจเข้าร่วมโครงการ เช่น โรงเรียนใน จ.หนองคาย เพชรบุรี พะเยา ซึ่งสำนักงานคณะกรรมการ การศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ได้วางแผนที่จะคัดเลือกให้เหลือไม่เกิน 10 แห่งเพื่อเข้าร่วมโครงการ ส่วนเกณฑ์ในการคัดเลือก จะดูจากศักยภาพของโรงเรียน ทั้งในเรื่องความพร้อมของผู้บริหาร ครูในโรงเรียน บริบทของชุมชน รวมถึงความพร้อมด้านเศรษฐกิจ อาคาร สถานที่และวิชาการ โดยหากโรงเรียนนั้นๆ เข้าร่วมโครงการแล้ว จะต้องมีโรงเรียนในพื้นที่เหลือเพียงพอที่จะให้บริการรับเด็กในพื้นที่เข้าเรียน เพื่อไม่ให้ส่งผลกระทบต่อการรับเด็กในพื้นที่ ขณะเดียวกันโรงเรียนในกำกับรัฐจะกำหนดสัดส่วนรับทั้งเด็กทั่วไป และให้ทุนการศึกษาแก่เด็กด้อยโอกาสในพื้นที่ 10-15% ของจำนวนนักเรียนทั้งหมดเข้ามาเรียนด้วย สพฐ.จะจัดประชาพิจารณ์ระดมความเห็นจากผู้บริหารสถานศึกษา ครู ผู้ปกครอง นักเรียนถึงข้อดีข้อเสียของการเป็นโรงเรียนในกำกับรัฐในช่วงเดือน ก.พ. ถึง มี.ค.นี้ จากนั้นจะสรุปผลการระดมความคิดเห็นจากทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง เพื่อนำข้อมูลมาปรับปรุงแผนดำเนินโครงการ และนำเสนอต่อ รมว.ศธ.และรัฐบาลชุดใหม่ เพื่อให้พิจารณาเริ่มดำเนินโครงการตั้งแต่ปีการศึกษา 2548 สำหรับรูปแบบการบริหารจัดการโรงเรียนในกำกับของรัฐ จะมีลักษณะพิเศษกว่าโรงเรียนสังกัด สพฐ.ทั่วไปที่มีฐานะเป็นนิติบุคคล คือ มีการบริหารจัดการคล่องตัวมากกว่าทั้งเรื่องบุคลากร งบประมาณ วิชาการ และการบริหารทั่วไป รวมถึงสามารถระดมทรัพยากรจากผู้ปกครองและชุมชนได้อย่างเต็มที่ โดยมีเงื่อนไขจะต้องได้รับความเห็นชอบจากผู้ปกครองและคณะกรรมการสถานศึกษา แต่ต้องแจ้งให้ สพฐ.รับทราบด้วย โดยมีเป้าหมายคือ การเป็นโรงเรียนที่มีความเป็นเลิศในด้านที่โรงเรียนมีความพร้อม เช่น วิทยาศาสตร์ เป็นต้น (กรุงเทพธุรกิจ พฤหัสบดีที่ 10 ก.พ. 48 http://www.bangkokbiznews.com)
มะกันอบรมครูไทย สอนอังกฤษมิติใหม่ แกนนำภาคเอเซีย
นางจุไรรัตน์ แสงบุญนำ ผอ.สำนักความสัมพันธ์ต่างประเทศ เปิดเผยภายหลังนำ Mr.Richard Boyum ผอ.ศูนย์ภาษาอังกฤษประจำภูมิภาค (RELO) สถานเอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกาประจำประเทศไทย เข้าพบคุณหญิงกษมา วรวรรณ ณ อยุธยา ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) ว่า ได้มีการหารือถึงเรื่องการผลิตสื่อวีดีทัศน์ เพื่อการฝึกอบรมครูสอนภาษาอังกฤษของสหรัฐ สำหรับนำมาใช้เผยแพร่ทางสถานีโทรทัศน์ E-TV ของศูนย์เทคโนโลยีทางการศึกษา ศธ. เนื่องจากขณะนี้สำนักงาน AUA ที่กรุงวอชิงตัน สหรัฐอเมริกา กำลังผลิตชุดวีดีทัศน์เพื่อการฝึกอบรมครูสอนภาษาอังกฤษ ประกอบด้วย วิธีการสอนภาษาในรูปแบบใหม่ วิธีฝึกปฏิบัติและความรู้ในชั้นเรียน และได้มีการเตรียมที่จะเผยแพร่ให้กับประเทศต่างๆ เช่น อียิปต์ คอสตาริกา รวมทั้งประเทศไทยซึ่งได้รับการคัดเลือกให้เป็นตัวแทนในภูมิภาคเอเชีย โดยผู้ที่เข้ารับการอบรมจะต้องนำสิ่งที่ได้รับไปอบรมต่อให้กับครูในโรงเรียนเป็นเหมือนการกระจายเครือข่ายการเรียนรู้ในสัดส่วน 1 คนต่อ 20 คน ซึ่งจะจัดอบรมในช่วงเดือน เม.ย.นี้ในภาคเหนือ ภาคอีสาน และภาคใต้ อย่างไรก็ตามปลัด ศธ.ได้เสนอให้มีการจัดอบรมต่อเนื่องอย่างน้อยสัปดาห์ละ 1 ครั้ง แต่ทางผู้จัดระบุว่าสามารถจัดอบรมได้อย่างเต็มที่ เพียงเดือนละ 1 ครั้งเท่านั้นเนื่องจากจำนวนคนไม่เพียงพอ (สยามรัฐ ศุกร์ที่ 11 ก.พ. 48 http://www.siamrath.co.th)
ข่าววิทยาศาสตร์/เทคโนโลยี
ญี่ปุ่นส่งเรือสำรวจสมุทรศาสตร์ศึกษาจุดกำเนิดคลื่น 'สึนามิ''
ญี่ปุ่นส่งเรือสำรวจสมุทรศาสตร์ ไปสำรวจข้อมูลยังจุดที่กำเนิดแผ่นดินไหวใต้น้ำ นอกฝั่งเกาะสุมาตรา เรือสำรวจสมุทรศาสตร์ "นัตสึชิมา" ได้ออกเดินทางจากท่าเรือคาโกชิมา ด้วยทุนของสำนักวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีสมุทรศาสตร์ญี่ปุ่น โดยการสำรวจรอยแยกที่ก้นทะเลหากว่ามองเห็นได้ การสำรวจจะทำเป็นสองระยะ ในเดือนนี้ และในเดือนหน้า เครื่องมือสำคัญในงานนี้ จะเป็นยานดำน้ำลึกที่มีชื่อว่า "ไฮเปอร์ ดอลฟิน" ซึ่งติดกล้องถ่ายภาพที่สามารถถ่ายภาพใต้น้ำได้ด้วยความคมชัด และอุปกรณ์จับเสียงต่างๆ ได้ไวโดยการควบคุมจากบนเรือ เหตุการณ์คลื่นยักษ์สึนามิได้กระหน่ำริมฝั่งของชาติเอเชียอาคเนย์ส่วนใหญ่ และชาติใกล้เคียงทั้งหมดถึง 11 ชาติโดยไม่รู้เนื้อรู้ตัว เมื่อวันที่ 26 ธ.ค.ที่ผ่านมา ได้คร่าชีวิตผู้คนลงไปถึง 290,000 ชีวิต แม้กระทั่งเวลาล่วงเลยมาจนเวลาเดือนกว่าแล้ว ก็ยังคงพบศพใหม่อยู่เรื่อยๆ (ไทยรัฐ จันทร์ที่ 7 ก.พ. 48 http://www.thairath.co.th)
ประดิษฐ์ "กระจกวิเศษ'' เห็นภาพรูปร่างหน้าตาตัวเองในอนาคต
หนังสือพิมพ์ "เดอะ ซัน" ของอังกฤษแจ้งว่า เครื่อง "กระจกวิเศษ" ประกอบด้วยกล้องถ่ายภาพ ซึ่งเชื่อมกับเครื่องคอมพิวเตอร์ที่มี กำลังแรง จะประกอบภาพรูปร่างและหน้าตาของเราขึ้นที่จะปรากฏขึ้นในวันหน้า โดยประมวลขึ้นจากพฤติกรรมการกินอยู่ของเราในปัจจุบันออกไปปรากฏให้เห็นขึ้นบนจอ คณะนักวิทยาศาสตร์ซึ่งกำลังสร้างเครื่อง มีเป้าหมายเพื่อให้ผู้คนทั่วไปจะได้เกิดความเกรงกลัว ปรับเปลี่ยนนิสัยการกินอยู่เสียใหม่ รู้จักระวังรักษาสุขภาพร่างกาย เมื่อได้ประจักษ์ รูปโฉมอันทรุดโทรมของตนเอง ที่อาจจะเกิดขึ้นได้ในวันหน้า เครื่องมือดังกล่าวประดิษฐ์ขึ้นโดยทีมนักวิทยาศาสตร์ของห้องปฏิบัติการเอนเซนต์เจอร์ เทคโนโลยีที่เมืองนีซ ของฝรั่งเศส โดยมีนายมาร์ติน อิลสลี่ย์ นักวิทยาศาสตร์ชาวอังกฤษเป็นหัวหน้า พวกเขามีความหวังว่า การค้นคิดประดิษฐ์จะแล้วเสร็จสร้างขึ้นได้ทันปลายปีนี้ (ไทยรัฐ จันทร์ที่ 7 ก.พ. 48 http://www.thairath.co.th)
ปรมาณูติวเข้มหมอ สารกัมมันตรังสี ตรวจวินิจฉัยโรค
นายเชาวน์ รอดทองคำ รองเลขาธิการสำนักงานปรมาณูเพื่อสันติ (ปส.) กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เปิดเผยว่า ในปัจจุบันนี้วิทยาการทางการแพทย์ด้านเวชศาสตร์นิวเคลียร์ ได้มีการนำสารกัมมันตรังสีหลายชนิดมาใช้ประโยชน์ในการตรวจวินิจฉัยโรค ทำให้แพทย์สามารถประเมินสภาวะผู้ป่วยได้อย่างรวดเร็ว และสามารถเลือกการรักษาที่เหมาะสมแก่ผู้ป่วย ทั้งนี้ แม้ว่าจะมีการนำสารกัมมันตรังสีหลายชนิดมารักษาโรคต่างๆ แต่การตรวจรักษาส่วนใหญ่ยังคงจำกัดอยู่ในโรงพยาบาลเพียงไม่กี่แห่ง ทำให้ผู้ป่วยและบุคลากรทางการแพทย์ส่วนใหญ่ของประเทศ ยังไม่มีโอกาสได้ใช้ประโยชน์จากงานทางเวชศาสตร์นิวเคลียร์ได้อย่างเต็มที่ จึงจำเป็นที่สำนักงานต้องจัดสัมมนาเชิงปฏิบัติการการใช้ประโยชน์ของสารกัมมันตรังสี ในการตรวจวินิจฉัยและรักษาโรคในปัจจุบันและอนาคต เป้าหมายเพื่อเพิ่มพูนความรู้ ความเข้าใจของแพทย์ถึงแนวความคิดและประโยชน์ของการบริการทางเวชศาสตร์นิวเคลียร์ เพื่อประโยชน์สูงสุดของผู้มารับบริการและสาธารณชน อีกทั้งเป็นการเตรียมความพร้อมของแพทย์ และโรงพยาบาลในการจัดตั้งงานบริการทางด้านเวชศาสตร์นิวเคลียร์ในอนาคตอีกด้วย เพื่อให้แพทย์ในสาขาต่างๆ สามารถใช้ประโยชน์จากสารกัมมันตรังสีได้อย่างกว้างขวางและถูกต้องเหมาะสม โดยเฉพาะการตรวจอวัยวะสำคัญๆ เช่น ภาวะแพร่กระจายของมะเร็งกระดูก มะเร็งต่อมธัยรอยด์ ตรวจการทำงานของอวัยวะอื่นๆ ได้อีกทั้ง ปอด ไต ม้าม สมอง (กรุงเทพธุรกิจ จันทร์ที่ 7 ก.พ. 48http://www.bangkokbiznews.com)
'เสนาบดี'ในใจนักวิทย์ มีวิสัยทัศน์ รู้รอบ สนใจงานวิจัย
เริ่มจาก ศ.ดร.ถิรพัฒน์ วิลัยทอง ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยนิวตรอนพลังงานสูง มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ในฐานะนักวิจัยวิทยาศาสตร์อาวุโส กล่าวว่า คุณลักษณะของผู้ดำรงตำแหน่ง รมว.วิทยาศาสตร์ฯ ควรจะเป็นผู้ที่มีความเข้าใจบ้างถึงพื้นฐานการทำงานด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี และเป็นผู้ที่มองภาพ เห็นว่า งานวิจัยวิทยาศาสตร์ของประเทศต้องมียุทธศาสตร์สนับสนุนทั้งระยะสั้นและระยะยาว เพื่อให้เกิดการทำงานเป็นเรื่องๆ เช่น ด้านพลังงานทั้ง พลังงานแสงแดด พลังงานไฮโดรเจน เรา สำหรับภารกิจเร่งด่วนที่อยากเห็น คือ การสร้างเยาวชนไทยให้มีทักษะความสามารถในการเขียนคอมพิวเตอร์โปรแกรม และการจัดตั้งหน่วยงานวิจัย ศ.ดร.ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย มองว่า คนที่จะมาเป็นเจ้ากระทรวงวิทยาศาสตร์ฯ น่าจะเป็นคนรอบรู้ รู้ทันโลก และรู้จักตัวเองให้มากที่สุด โดยต้องรู้ว่าลักษณะปัญหาในบ้านเราคืออะไร ต้องใช้เทคโนโลยีไหนถึงจะเหมาะสม ที่ผ่านมาเราก๊อบปี้เขามาตลอด เขามี เราก็ต้องมี แต่พอเอาเข้าจริงๆ มันใช้ไม่ได้ นอกจากนี้ การลงทุนด้านเทคโนโลยีควรเน้นไปที่การป้องกัน ไม่ใช่เพื่อการรักษาเหมือนในปัจจุบัน ด้าน ดร.อดิสร เตือนตรานนท์ นักวิจัยด้านนาโนเทคโนโลยี ศูนย์เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์แห่งชาติ มุมมองของเขาว่า ควรจะเป็นคนที่มีวิสัยทัศน์ในเรื่องวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ว่า อีก 10 ปีข้างหน้าไทยควรดำเนินไปในแนวทางไหน ทั้งควรเป็นผู้ที่รู้หลักการบริหารงานแบบสมัยใหม่ คิดแบบซีอีโอ น่าจะสนับสนุนด้านวัสดุศาสตร์ เทคโนโลยีชีวภาพ ไอที และนาโนเทคโนโลยี เพราะในอีก 10 ปีข้างหน้า ศาสตร์เหล่านี้จะรวมเป็นเรื่องเดียวกัน อีกทั้งควรเพิ่มงบวิจัยด้านวิทยา (กรุงเทพธุรกิจ อังคารที่ 8 ก.พ. 48 http://www.bangkokbiznews.com)
มหาสมุทรเต็มไปด้วยกรด "ปะการัง-ปลา"นับวันสูญพันธุ์
"แคโรล เทอร์ลีย์" หัวหน้าห้องทดลองทางวิทยาศาสตร์ทางทะเลในเมืองพลีมุธ ประเทศอังกฤษ เตือนชาวโลกว่า สภาพของ "น้ำ" ในท้องทะเลและมหาสมุทรกำลังเปลี่ยนแปลงผิดเพี้ยนจากธรรมชาติ โดยน้ำในมหาสมุทรนั้นมีสภาพกลายเป็น "กรด" มากขึ้น ถ้าปล่อยให้เป็นเช่นนี้ต่อไป ในอนาคต "สิ่งมีชีวิต" ใต้มหาสมุทร เช่น ปะการังและปลาจะสูญพันธุ์ เพราะทนอาศัยอยู่ในสภาพน้ำเป็นกรดไม่ได้ เทอร์ลีย์กล่าวว่า เราทราบกันดีว่าการที่มนุษย์ปล่อยก๊าซ "คาร์บอนไดออกไซด์" จากการเผาไหม้ "ถ่านหิน" ขึ้นไปปะปนในอากาศนั้นทำให้เกิดภาวะโลกร้อน สภาพอากาศโลกเปลี่ยนแปลง แต่ผลกระทบอีกอย่างที่เราไม่ค่อยจะรู้ก็คือ การปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์สู่อากาศนั้นเป็นต้นตอ จนทำให้ก๊าซดังกล่าวมาผสมเข้ากับน้ำมหาสมุทรจนน้ำกลายเป็นกรด ดังนั้น ชาวโลกจึงควรช่วยกันหาวิธีลดปริมาณก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ในชั้นบรรยากาศโดยด่วน เพราะถ้าสถานการณ์ยังเป็นเช่นนี้ต่อไปเชื่อแน่ว่า ปะการังจะสูญพันธุ์หมดโลกภายในระยะเวลา 35 ปี เช่นเดียวกับปลาอีกหลายสายพันธุ์ที่เป็น "อาหาร" ของคนเรา (ข่าวสด อังคารที่ 8 ก.พ. 48 http://www.matichon.co.th/khaosod)
กลาโหมอังกฤษยังคงรับฟังเรื่องมนุษย์ต่างดาวมาเยือน
หนังสือพิมพ์ "เดอะ ไฟแนนเซียล ไทม์ส" ของอังกฤษ เปิดเผยรายงานของเจ้าหน้าที่นายหนึ่ง ว่า ทางกระทรวงกลาโหม ยังคงมีบันทึกรายงานของคนอ้างการพบเห็น สิ่งที่มีชีวิตจากต่างดาวมาเยี่ยมเยียนเกาะอังกฤษ เก็บเอาไว้อยู่ เหตุผลของการเก็บรักษารายงานเรื่องพวกนี้ไว้ ก็เพื่อประโยชน์ของการศึกษาหาข้อมูลเพื่อประโยชน์ในการป้องกัน รายงานข่าวยังกล่าวว่า ทางการได้มีบันทึกรวบรวม การพบเห็นวัตถุลึกลับ ในช่วงระยะเวลาสองสามปีมานี้อยู่หลายเรื่อง แต่ที่มีเหตุผลมากพอที่จะ สอบสวนดูมีอยู่ไม่กี่เรื่อง และไม่มีเรื่องใดเปิดเผยถึงกับว่ายานลึกลับมีท่าทีจะโจมตีขึ้นอย่างใด รายงานได้บอกสรุปว่า ทางกระทรวงได้เปิดใจกว้างในสมมติฐาน ของเรื่องสิ่งที่มีชีวิตจากต่างดาว เมื่อ 2 อาทิตย์ก่อนหน้านี้เอง ก็ยังมีผู้โทรศัพท์แจ้งว่า ได้เห็นแสงประหลาดเหนือท้องฟ้าที่เมืองเคนต์ ทางตะวันออกเฉียงใต้ของอังกฤษ และไล่ๆกันนั้นก็มีคนอ้างว่า มองเห็นจานผีเหนือเมืองสโต๊ก ทางภาคกลางด้วย (ไทยรัฐ พุธที่ 9 ก.พ. 48 http://www.thairath.co.th)
สหรัฐเปิด"ซ้อมรบทางอวกาศ"อ้างเพื่อไว้รับมือการก่อการร้าย
กระทรวงกลาโหมสหรัฐฯจะได้เปิดฉากการฝึกซ้อมยุทโธปกรณ์ ทางอวกาศ เป็นเวลา 5 วัน อ้างว่าเพื่อเตรียมไว้รับมือกับสงครามต่อสู้กับการก่อการร้าย ที่อาจจะเกิดขึ้นใน อีก 15 ปีข้างหน้า ในปี พ.ศ.2563 นี้ นายพลอากาศดาเนียล ดาร์เนลผู้บัญชาการศูนย์สงครามอวกาศ ที่ฐานทัพอากาศชไรเวอร์ ในโคโลราโด ได้กล่าวปฏิเสธว่า การซ้อมรบนี้ไม่ใช่เป็นการซ้อมรบทางอวกาศ ทำเพื่อศึกษาดูว่าจะใช้ยุทโธปกรณ์ ทางอวกาศ เพื่อประสานกับการต่อสู้ ในสงครามก่อการร้ายอย่างไรให้ดีที่สุด หากแต่เขาได้เปิดเผยว่า ในการซ้อมรบ จะได้มีการฝึกซ้อมการใช้ดาวเทียมสื่อสารในวงโคจรนอกโลก และระบบนำวิถีของระเบิดบินอันแม่นยำด้วย (ไทยรัฐ พุธที่ 9 ก.พ. 48 http://www.thairath.co.th)
สมอ.ประกาศมาตรฐานแอร์สำหรับห้อง ต้องประหยัดพลังงานไฟ-เริ่มใช้11มี.ค.
นายไพโรจน์ สัญญะเดชากุล เลขาธิการสำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (สมอ.) เปิดเผยว่า สมอ.ได้ประกาศให้เครื่องปรับอากาศสำหรับห้อง เฉพาะด้านสิ่งแวดล้อม : ประหยัดพลังงาน ตามมาตรฐานมอก. 2134-2545 เป็นมาตรฐานบังคับ ตั้งแต่วันที่ 11 มี.ค.นี้ ซึ่งจะครอบคลุมเครื่องปรับอากาศสำหรับห้องแบบแยกส่วน และเครื่องปรับอากาศชนิดติดผนังห้องที่ใช้ไฟฟ้ากระแสสลับ 50 เฮิรตซ์ ทำความเย็นไม่เกิน 12,000 วัตต์ ซึ่งจะเกิดการประหยัดพลังงานไฟฟ้าแก่ผู้ใช้ และประหยัดทรัพยากรพลังงานของประเทศ โดยการออกมาตรฐานบังคับดังกล่าว จะทำให้ผู้ผลิต ผู้นำเข้า และผู้จำหน่าย ต้องนำเข้า และจำหน่ายเฉพาะผลิตภัณฑ์ที่ได้มาตรฐานเท่านั้น การออกมาตรฐานบังคับจะทำให้สินค้าที่จำหน่ายในประเทศมีมาตรฐาน และปลอดภัยเพื่อคุ้มครองผู้บริโภค รวมทั้งป้องกันสินค้าด้อยคุณภาพส่งเข้ามาดั๊มพ์ตลาด สมอ.จะเร่งออกประกาศมาตรฐานบังคับเครื่องใช้ไฟฟ้าเพิ่มเติมอีก ไม่ต่ำกว่า 10รายการในปี 2548 ซึ่งส่วนใหญ่เป็นสินค้าที่ไม่มีมาตรฐานไม่ปลอดภัย สำหรับผู้ใช้ เช่น หม้อหุงข้าว กระติกน้ำร้อน ตู้เย็น เตาอบไฟฟ้า เครื่องทำน้ำอุ่น กระทะไฟฟ้า เครื่องซักผ้า เป็นต้น ขณะเดียวกันสมอ.ได้ประกาศให้โอกาสสถาบันอิสระและองค์กรเอกชนสามารถรับรองมาตรฐานได้ จากเดิมมีเพียงสมอ.หน่วยงานเดียว ทำให้การออกมาตรฐานล่าช้า นอกจากนั้น วันที่ 8 ส.ค.นี้ สมอ.จะประกาศมาตรฐานน้ำมันเครื่องสำหรับเครื่องยนต์เบนซินสองจังหวะใช้เป็นครั้งแรก ตามมาตรฐานเลขที่มอก.1040-2541 เป็นมาตรฐานบังคับ ซึ่งมีผลบังคับให้ผู้ทำ ผู้นำเข้าและผู้จำหน่ายต้องทำ นำเข้า และจำหน่ายเฉพาะผลิตภัณฑ์ที่เป็นไปตามมาตรฐานเท่านั้น หากฝ่าฝืนมีโทษตามกฎหมาย (กรุงเทพธุรกิจ พุธที่ 9 ก.พ. 48 http://www.bangkokbiznews.com)
แพลงตอนสายพันธุ์ใหม่ อาศัยใต้มหาสมุทรลึกสุดกู่
ฮิโรชิ คิตาซาโต นักวิจัยสถาบันวิจัยวิวัฒนาการของโลก สำนักงานวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีเพื่อโลกและทะเลของญี่ปุ่น พบสิ่งมีชีวิตเซลล์เดียวที่มีขนาดจิ๋วสุดๆ ดำรงอยู่ใต้ท้องทะเลลึกถึง 11 กิโลเมตร ในบริเวณที่เรียกว่า 'ชาลเลนเจอร์ดีพ' ซึ่งได้ชื่อว่าเป็นส่วนลึกที่สุดของมหาสมุทรแปซิฟิก สิ่งมีชีวิตจิ๋วชนิดดังกล่าว ถูกตรวจจับได้จากตะกอนที่ทีมงานเก็บขึ้นมาจากชาลเลนเจอร์ดีพ ทางตะวันตกเฉียงใต้ของเกาะกวม ในมหาสมุทรแปซิฟิก ซึ่งนักวิจัยเชื่อว่าน่าจะอยู่ในตระกูลเดียวกับ 'ฟอรามินิเฟรา' แพลงตอนชนิดหนึ่งที่มักจะอาศัยอยู่บริเวณผิวน้ำ รูปลักษณ์ภายนอกที่เห็นจะคล้ายกับฟอรามินิเฟราสายพันธุ์อื่นๆ แต่รายละเอียดเชิงโครงสร้างแล้วกลับแตกต่างอย่างไม่น่าเชื่อ เพราะส่วนใหญ่ฟอรามินิเฟราจะมีเปลือกแข็ง แต่สายพันธุ์ที่พบในบริเวณที่ลึกที่สุดของมหาสมุทรกับมีเปลือกอ่อน ซึ่งสร้างความประหลาดใจให้กับนักวิจัยอย่างมาก และคาดกันว่ากลุ่มฟอรามินิเฟราที่ค้นพบใหม่นี้ น่าจะเป็นสายพันธุ์ที่มีอายุเก่าแก่ที่สุดก็เป็นได้ ทีมงานตั้งข้อสังเกตว่า สิ่งมีชีวิตจำเพาะข้างต้นสามารถอาศัยอยู่ในท้องทะเลลึกได้อย่างไร เพราะในระดับความลึกดังกล่าวจะมีความดันสูงกว่าระดับผิวน้ำปกติถึง 1,100 เท่า นั่นเท่ากับว่าฟอรามินเฟราสายพันธุ์นี้ จะต้องมีความสามารถในการปรับตัวในสภาวะความดันสูงได้อย่างดีเยี่ยม สำหรับอาหารของสิ่งมีชีวิตสายพันธุ์นี้ คาดว่าน่าจะเป็นอนุภาคของสิ่งมีชีวิตที่หลุดลอยลงมาจากผิวน้ำด้านบน รวมทั้งสารอาหารอื่นๆ ที่พบได้ในน้ำทะเล งานวิจัยดังกล่าวได้รับงบประมาณสนับสนุนจากสำนักงานวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีเพื่อโลกและทะเลแห่งญี่ปุ่น สมาคมส่งเสริมวิทยาศาสตร์ญี่ปุ่น มูลนิธิแคพแลน และสภาวิจัยสิ่งแวดล้อมธรรมชาติ (คมชัดลึก พุธที่ 9 ก.พ. 48 http://www.komchadluek.net)
พบขุมเพชรอยู่บนดาวเคราะห์ ฝังอยู่ใต้ดินหนาเป็นกิโลเมตร
นักดาราศาสตร์ มาร์ค คุชเนอร์ ของมหาวิทยาลัยปรินซตันแห่งสหรัฐฯ ผู้ค้นพบขุมทรัพย์บนดวงดาว ได้กล่าวเปิดเผยในที่ประชุมเรื่องดาวเคราะห์ต่างโลก ว่า ดวงดาวที่มีขุมทรัพย์เหล่านั้น ไม่ได้อยู่ในสุริยจักรวาลของเรา เป็นดาวเคราะห์บริวารของดาวฤกษ์ในทางช้างเผือกบางดวง ดาวเหล่านี้เกิดผ่าเหล่าต่างไปจากโลก ดาวอังคารและดาวศุกร์ของเรา เป็นดาวเคราะห์ที่เรียกว่าดาวเคราะห์ซิลิกา ประกอบด้วยสารประกอบซิลิกอนและออกซิเจนเป็นหลัก ยิ่งพวกดาวเคราะห์ที่เป็นคาร์บอนจะยิ่งต่างจากโลกออกไปใหญ่ จะไปเหมือนกับก้อนอุกกาบาตมากกว่า คาดกันว่า มันเกิดจากการควบแน่นของก๊าซในวงแหวน ที่หมุนอยู่รอบๆดวงอาทิตย์ ก๊าซเหล่านี้ส่วนใหญ่จะเป็นคาร์บอน แทบจะไม่มีออกซิเจนปนอยู่เลย ในกลุ่มก๊าซซึ่งเต็มไปด้วยคาร์บอนแทบไม่มีออกซิเจนเลยนั้น มีโอกาสที่จะเกิดสารประกอบของคาร์บอน อย่างคาร์ไบด์กับแกรไฟต์ เกิดเป็นรูปของสารประกอบซิลิกาขึ้น และเมื่อไอของแกรไฟต์ถูกควบแน่นอยู่ภายใต้ความกดดันสูงก็จะกลายเป็นเพชร จึงอาจจะเป็นได้ที่มีชั้นของเพชรทับซ้อนกัน อยู่ภายใต้ดาวเคราะห์พวกนั้นอยู่หนาเป็นหลายสิบกิโลเมตร เขายังบอกต่อไปว่า ดาวเคราะห์คาร์บอนจะมีสารประกอบคาร์บอนกับธาตุอื่นเป็นหลัก แต่อาจจะมีแกนเป็นเหล็กและบรรยากาศด้วย สารประกอบคาร์ไบด์ก็เป็นเซรามิกแบบหนึ่ง ที่วิศวกรเครื่องยนต์ใช้เคลือบกับลูกสูบของเครื่องยนต์ เพื่อให้ทนกับความร้อนจัด เขากล่าวว่า ดาวเคราะห์ที่มีขุมทรัพย์มหาสมบัติเหล่านั้น เป็นดาวเคราะห์ที่เป็นบริวารของดาวฤกษ์ ที่เปล่งพลังงานรังสีแม่เหล็กไฟฟ้า ที่มีชื่อรหัสว่า "พีเอสอาร์ 1257+12" ซึ่งต่างก็เป็นดาวเคราะห์คาร์บอนที่เกิดมาจากการแตกดับ ของดาวฤกษ์ดวงหนึ่งเมื่อแก่ชราลง และคายคาร์บอนออกมา. (ไทยรัฐ พฤหัสบดีที่ 10 ก.พ. 48 http://www.thairath.co.th)
นักวิทยาศาสตร์แดงบอกเตือน อาจแผ่นดินไหวเขตเส้นศูนย์สูตร
ศาสตราจารย์ยูเจนนี่ โดลกินนอฟ กล่าวว่า "อยากจะเตือนชาติที่อยู่ใกล้กับเขตศูนย์สูตรให้ระวังไว้ว่า อาจจะเกิดมีแผ่นดินไหวขึ้นในอาณาบริเวณนั้นได้" ศาสตราจารย์ ผู้เป็นผู้อำนวยการของแผนกธรณีวิทยาและแร่ธาตุ ของมหาวิทยาลัยมิตรภาพของประชาชนรัสเซีย บอกต่อไปว่า"ตามทฤษฎีของผมแล้ว มันมีเค้ารอยของเส้นรุ้งของรอยร้าว ที่แกนของโลกตรงนั้น ซึ่งส่อถึงอันตรายของภัยแผ่นดินไหว หากว่าเราไล่ตามรอยร้าวที่เส้นศูนย์สูตร ไปทางตะวันตกของเอเชียอาคเนย์ เราก็อาจพอคาดถึงมหันตภัยร้ายแรงจากแผ่นดินไหว ที่อาจจะเกิดขึ้นที่ดินแดนแถบเส้นศูนย์สูตรของกินี แคเมอรูน ไนจีเรียและกาบองได้" ดร.ยูเจนนี่ยังกล่าววิจารณ์ด้วยว่า ภัยแผ่นดินไหวยังอาจจะเกิดที่ชาติในเขตเส้นศูนย์สูตรต่างๆ ของอเมริกาใต้ ภาคใต้ของเอกวาดอร์ และหมู่เกาะที่อยู่ใกล้ชิดกับจุดที่ล่อแหลม ที่จะเกิดแผ่นดินไหวได้มากที่สุด หากว่าเป็นแผ่นดินไหวขึ้นในทะเล คลื่นยักษ์ก็อาจจะซัดท่วมภาคใต้ของโคลอมเบีย เอกวาดอร์ และภาคเหนือของเปรู สำนักข่าว "อินเตอร์แฟกซ์" ของรัสเซียกล่าวว่า "ศาสตราจารย์ชื่อดังของรัสเซียอ้างว่ารอยร้าวเหล่านี้ มีมาตั้งแต่สมัยยุคต้นๆของการวิวัฒนาการแล้ว แผ่นดินเคยเกิดการสั่นไหวขึ้นมาครั้งแล้วครั้งเล่า โดยเฉพาะตรงแถบที่รอยร้าว ตัดกับเขตที่มีแผ่นดินไหว ถือได้ว่าล่อแหลมกับการเกิดแผ่นดินไหวมากที่สุด" (ไทยรัฐ ศุกร์ที่ 11 ก.พ. 48 http://www.thairath.co.th)
ศูนย์นาโนวาดฝันขึ้นแท่นผู้นำอาเซียน พร้อมสร้างความเข้าใจผู้บริโภคกันถูกต่อต้าน
ศ.ดร.วิวัฒน์ ตัณฑะพานิชกุล ผู้อำนวยการศูนย์นาโนเทคโนโลยี กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เปิดเผยว่า ศูนย์ฯ ยังคงยึดภารกิจหลักในการผลักดันนาโนเทคโนโลยี ให้มีส่วนสนับสนุน 7 คลัสเตอร์เป้าหมาย ประกอบด้วย อาหารและเกษตร ยานยนต์ อิเล็กทรอนิกส์ สิ่งทอเคมี ปิโตรเคมี พลังงานและสิ่งแวดล้อม สุขภาพการแพทย์ ในรูปแบบ 6 กลุ่มผลิตภัณฑ์ คือ เซ็นเซอร์, อุปกรณ์นาโนอิเล็กทรอนิกส์, ระบบนำส่งยาและสารสกัดสมุนไพรนาโน, วัสดุเคลือบนาโน, วัสดุดูดซับ กรองและตัวเร่งปฏิกิริยา, วัสดุสารประกอบแต่ง แม้ที่ผ่านมา การลงทุนด้านวิจัยและพัฒนา (อาร์แอนด์ดี) ของนาโนเทคโนโลยีในประเทศไทยยังค่อนข้างต่ำ เมื่อเทียบกับการลงทุนของญี่ปุ่นและสหรัฐอเมริกา แต่สิ่งที่ทำได้ในตอนนี้ก็คือการเร่งพัฒนานาโนเทคโนโลยีให้มีความต่อเนื่องภายในระยะเวลา 10 ปี ซึ่งปัจจุบันไทยยังอยู่ในขั้นเริ่มต้น โดยยุทธศาสตร์การพัฒนาด้านนาโนเทค ในช่วงแรกจะเน้นการประยุกต์ใช้ประโยชน์กับกลุ่มอุตสาหกรรมสิ่งทอและอาหาร อาทิ พัฒนาคุณสมบัติพิเศษให้สิ่งทอ เช่น ความสามารถกันน้ำ กันรังสียูวี กันเปื้อน ด้านอาหารจะพัฒนาระบบเซ็นเซอร์คุณภาพสูง หรือการใช้วัสดุนาโนเพื่อช่วยฆ่าเชื้อโรค หรือดูดซับก๊าซเพื่อรักษาคุณภาพอาหารให้คงอยู่ได้นานขึ้น ส่วนยุทธศาสตร์ระยะกลาง 4-6 ปีถัดมา จะเน้นไปที่วงการอิเล็กทรอนิกส์และอุตสาหกรรมยางพารา จากนั้นช่วง 7-10 ปีหลังของยุทธศาสตร์ จะเน้นไปที่การแพทย์และสาธารณสุข เช่น ระบบนำส่งยา ยารักษาโรคเฉพาะจุดจากสารสกัดสมุนไพร รวมถึงอุตสาหกรรมพลังงาน อาทิ การใช้พลังงานทดแทนอย่างเซลล์แสงอาทิตย์ เซลล์เชื้อเพลิง พลังงานไฟฟ้าจากแบตเตอรี่ เป็นต้น อย่างไรก็ตาม การลงทุนด้านวิจัยและพัฒนานาโนเทค จะต้องให้ความสำคัญกับการประยุกต์ใช้ประโยชน์ในอุตสาหกรรมที่มีอยู่เดิม ไม่ว่าจะเป็น สิ่งทอ เครื่องสำอางให้มีประสิทธิภาพดีขึ้น พร้อมทั้งพัฒนานาโนในระดับอุตสาหกรรม โดยใช้ความรู้ที่เข้มข้นขึ้นเพื่อเพิ่มมูลค่า ทั้งในส่วนของไบโอชิพ และระบบนำส่งยา นอกจากนี้ ยังต้องสะสมองค์ความรู้ที่จำเป็นต่อการแข่งขันและพัฒนาในอนาคต ทางด้านเซลล์สุริยะ วัสดุดูดซับโมเลกุล และเซลล์เชื้อเพลิง ขณะเดียวกัน ต้องสร้างความเข้าใจประชาชนในแง่ของความปลอดภัย เพื่อนำไปสู่การแข่งขันระดับภูมิภาคในอนาคต (กรุงเทพธุรกิจ ศุกร์ที่ 11 ก.พ. 48 http://www.bangkokbiznews.com)
มกอช.เร่งยกมาตรฐานสินค้าสัตว์น้ำเทียบโคเด็กซ์
นายอภิชาติ พวษ์ศรีหดุลชัย ผู้อำนวยการสำนักงานมาตรฐานสินค้าเกษตรและอาหารแห่งชาติ (มกอช.) กล่าวในการสัมมนาเรื่องการกำหนดมาตรฐานอาหารสากล (โคเด็กซ์) สำหรับสัตว์น้ำและผลิตภัณฑ์ ว่า ไทยถือเป็นประเทศที่ผลิตและส่งออกสัตว์น้ำและผลิตภัณฑ์ติด 1 ใน 10 ประเทศแรกของโลก ช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา ไทยประสบปัญหาการส่งออกหลายด้าน เช่น ปัญหาสารตกค้างในกุ้งจากสหภาพยุโรป (อียู) ปัญหากุ้งไทยถูกฟ้องทุ่มตลาดในสหรัฐ รวมทั้งกำหนดระเบียบปฏิบัติของประเทศคู่ค้าที่เป็นมาตรการกีดกันการค้า จึงเป็นอุปสรรคต่อการส่งออกสินค้าสัตว์น้ำและผลิตภัณฑ์ของไทย ดังนั้นไทยในฐานะผู้ส่งออกได้เตรียมเสนอให้สร้างมาตรฐานสากลของสินค้าสัตว์น้ำและผลิตภัณฑ์ โดยจะเสนอที่ประชุมมาตรฐานความปลอดภัยด้านอาหาร(โคเด็กซ์) ภายใต้องค์การอาหารและเกษตรแห่งสหประชาติ ( เอฟเอโอ) วันที่ 28 ก.พ.นี้ โดยกรอบมาตรฐานสินค้าสัตว์น้ำของไทย จะกำหนดให้ โรงงานต้องวิเคราะห์ความเสี่ยง ณ จุดวิกฤติของกระบวนการผลิต (HACCP) และมาตรฐานความปลอดภัย ซึ่งโรงงานที่ผลิตสินค้าเพื่อส่งออกของไทย สามารถดำเนินการได้ และที่ผ่านมาไทยได้ให้ความสำคัญกับมาตรฐานความปลอดภัยตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ นางสาวเมทนี สุคนธรักษ์ ผู้อำนวยการสำนักมาตรฐานสินค้าและระบบคุณภาพ กรมประมง กล่าวว่า ที่ผ่านมาประเทศคู่ค้าโดยเฉพาะกลุ่มอียูจะกำหนดมาตรฐานความปลอดภัยสินค้าสัตว์น้ำและประมงออกมารายสินค้าเข้มงวด เพื่อให้ผู้ส่งออกปฏิบัติตามโดยอ้างความปลอดภัยของผู้บริโภค แต่มาตรฐานบางอย่างสูงเกินไป ซึ่งหากไทยผลักดันให้สากลยอมรับมาตรฐานของไทยได้จะเป็นประโยชน์ด้านการต่อรองเงื่อนไข สุขอนามัย และสุขอนามัยสัตว์ (เอสพีเอส)มากขึ้น และเพื่อให้โคเด็กซ์ยอมรับมาตรฐานดังกล่าวไทยจะหารือร่วมกับกลุ่มอาเซียนผลักดัน ระเบียบปฏิบัติต่างๆ ให้ เป็นมาตรฐานสากล (กรุงเทพธุรกิจ ศุกร์ที่ 11 ก.พ. 48 http://www.bangkokbiznews.com)
ไอบีเอ็มออกชิพเร็วฟ้าแลบขุมพลังเหลือล้นแซงหน้าอินเทล
ไอบีเอ็ม ผู้ผลิตหน่วยประมวลผลหรือซีพียูชั้นนำเปิดตัวชิพประมวลผลใหม่ภายใต้ชื่อ 'เซลล์' (Cell) จับหน่วยประมวลผล 8 ตัวมาใส่ลงในซีพียูตัวเดียว หรือที่เรียกว่าเทคโนโลยี 'มัลติคอร์' เล็งใช้งานในอุปกรณ์ไฮเทครุ่นใหม่ รวมทั้งเครื่องเล่นเกมเพลย์สเตชั่น 3 ของโซนี่ด้วย ชิพรุ่นใหม่นี้ได้รับการกล่าวขวัญในวงการว่า เป็น "ชิพสำหรับซูเปอร์คอมพิวเตอร์" ซึ่งหมายถึงคอมพิวเตอร์ที่มีสมรรถนะในการประมวลผลข้อมูลด้วยอัตราเร็วสูง โดยทั่วไปแล้วซีพียูแบบนี้จะใช้กับระบบคอมพิวเตอร์ขนาดใหญ่เพื่อทำนายสภาพอากาศ และจำลองแบบการเกิดแผ่นดินไหว แต่ไอบีเอ็มกำลังนำเทคโนโลยีชั้นสูงนี้มาใช้กับคอมพิวเตอร์ทั่วไป โดยชิพใหม่ของไอบีเอ็มนี้ออกแบบให้เสมือนกับมีซีพียู 8 ตัวบนชิพตัวเดียว ช่วยให้สามารถเรียกโปรแกรมที่ซับซ้อนมาใช้งานพร้อมกันได้หลายๆ โปรแกรมโดยไม่ส่งผลต่อความเร็วในการทำงาน ซีพียูดังกล่าวยังอยู่ระหว่างทดสอบการทำงานในห้องแล็บ ซึ่งพบว่าสามารถทำงานได้ด้วยความเร็วสูงสุดถึง 4 กิกะเฮิรตซ์ หรือกว่า 4 พันล้านคำสั่งต่อวินาที ขณะที่ชิพอินเทลที่เร็วสุดในตอนนี้ ทำได้เพียง 3.8 กิกะเฮิรตซ์เท่านั้น ล่าสุดอินเทลก็ออกมาประกาศเตรียมเปิดตัวชิพไอทาเนียมรุ่นใหม่ ซึ่งจะบรรจุทรานซิสเตอร์กว่า 1.7 พันล้านตัวบนฐานเทคโนโลยีที่ช่วยให้สามารถติดตั้งหน่วยประมวลผลสองตัวในซิลิคอนแผ่นเดียว หรือที่เรียกว่าดูอัลคอร์ (dual core) เทคโนโลยีดูอัลคอร์จะปรากฏโฉมในชิพตระกูลเพนเทียมในช่วงไตรมาสที่สอง รวมถึงเพนเทียมเอ็กซ์ตรีมเอดิชั่น ซึ่งจะรวมเทคโนโลยีไฮเปอร์เทรดดิ้ง ที่เปิดตัวไปเมื่อสามปีที่แล้วมาใส่ไว้ด้วย การมีทั้งไฮเปอร์เทรดดิ้ง และดูอัลคอร์อยู่ในตัว จะทำให้ชิพของอินเทลสามารถประมวลผลซอฟต์แวร์ 4 อย่างได้ในเวลาเดียวกัน เทียบเท่าได้กับการมีตัวประมวลผลแยกส่วนกันทำงานถึง 4 ตัว (คมชัดลึก ศุกร์ที่ 11 ก.พ. 48 http://www.komchadluek.net)
วัดแผ่นดินไหวสึนามิต่ำเกินไป ของจริงรุนแรงกว่ากันถึง 3 เท่า
นักวิจัยกล่าวเปิดเผยภายหลังการวิเคราะห์ ครั้งล่าสุด ความรุนแรงของแผ่นดินไหวที่ก่อให้ เกิดคลื่นยักษ์สึนามิถล่มชายฝั่งของไทย และชาติ อื่นๆ จนมีผู้เสียชีวิตกว่า 2 แสนคน ว่า ได้ประเมินความรุนแรงต่ำกว่าความเป็นจริงไป ที่ถูกแล้วมันมีความรุนแรงสูงกว่าถึง 3 เท่า นักวิชาการแผ่นดินไหวของมหาวิทยาลัยนอร์ท เวสเทิร์น ในสหรัฐฯ ได้อธิบายให้ฟังว่า การที่วัดความรุนแรงของคลื่นแผ่นดินไหวซึ่งก่อให้เกิดคลื่นยักษ์สึนามิ เมื่อวันที่ 26 ธ.ค.ที่ผ่านมา ตามมาตรฐานริกเตอร์ได้แค่ระดับ 9.0 นั้น ทำให้ได้อันดับความรุนแรงสูงสุดอยู่แค่อันดับ 5 เนื่องจากได้วัดคลื่นความรุนแรง จากช่วงคลื่นที่มีระยะห่างกันประมาณ 300 วินาที แต่ในการวิเคราะห์ข้อมูลล่าสุดนี้ ได้รวบรวมข้อมูลจากสถานีวัดความสั่นสะเทือน ของแผ่นดินรอบโลก 7 แห่งด้วยกัน สถานีเหล่านี้ได้วัดคลื่นความรุนแรงจากช่วงคลื่น ที่มีระยะเวลาห่างกัน 3,200 วินาที "เราได้พบด้วยความประหลาดใจว่า มันมีพลังสูงกว่า ที่วัดได้คลื่นแผ่นดินไหวที่มีระยะห่างกัน 300 วินาทีถึง 3 เท่า ข้อมูลใหม่ทำให้จะต้อง ยกระดับความรุนแรงของมันขึ้นเป็นระดับ 9.3 เป็นรองก็แค่แผ่นดินไหวครั้งรุนแรงที่สุดที่ชิลี เมื่อปี พ.ศ. 2503 ซึ่งมีขนาด 9.5". (ไทยรัฐ เสาร์ที่ 13 ก.พ. 48 http://www.thairath.co.th)
คพ.เล็งตั้งโรงงานรีไซเคิลหลอดไฟ
นายอดิศักดิ์ ทองไข่มุกต์ รองอธิบดีกรมควบคุมมลพิษ (คพ.) กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กล่าวว่า จากปัญหาการทิ้งหลอดไฟฟลูออเรสเซนต์ปะปนรวมกับขยะจากครัวเรือน ส่งผลให้หลอดไฟแตก และสารปรอทที่อยู่บริเวณขั้วของหลอดไฟ และสารพิษอื่นๆ ปะปนในสิ่งแวดล้อมได้ง่าย อีกทั้งปัจจุบันก็ยังไม่มีระบบการจัดการขยะหลอดไฟเหล่านี้อย่างถูกต้อง โดยพบว่ามีการเก็บขยะประเภทหลอดไฟเอาไปทิ้งไว้ที่โรงเก็บขยะอ่อนนุชเป็นจำนวนมากนั้น ล่าสุด คพ. ได้ร่วมกับภาคเอกชนที่ชื่อ JETRO จากประเทศญี่ปุ่น ทำการศึกษาความเป็นไปได้ในการรีไซเคิลหลอดไฟฟลูออเรสเซนต์ขึ้น และจะทำเป็นโครงการนำร่องในเขตพื้นที่ กทม.และปริมณฑลก่อน โดยคาดหวังที่จะลดค่าใช้จ่ายในการกำจัดขยะประเภทนี้ และลดปัญหาต่อสิ่งแวดล้อม และในอนาคตจะตั้งเป็นโรงงานรีไซเคิลหลอดไฟฟลูออเรสเซนต์ขนาดเล็กขึ้น จากการสำรวจเบื้องต้นของ JETRO พบว่าในปี 2547 มีหลอดไฟฟลูออเรสเซนต์ ทั้งแบบหลอดยาว หลอดกลม และหลอดตะเกียบที่ผ่านการใช้งานแล้วประมาณ 22 ล้านหลอด โดยแบ่งเป็นหลอดยาว 17 ล้านหลอด หลอดกลม 1.6 ล้านหลอด และหลอดตะเกียบ 3.3 ล้านหลอด แต่ถ้าดูจากตัวเลขกำลังการผลิตทั้งหมด พบว่าตกปีละกว่า 90 ล้านหลอด และในจำนวนนี้ยังไม่รวมกับหลอดไฟที่นำเข้ามาจากประเทศเพื่อนบ้านอีกจำนวนหนึ่ง ดังนั้นตัวเลขที่สำรวจอาจจะยังไม่สอดคล้องกับข้อเท็จจริง จึงได้ขอให้ดูในส่วนนี้เพิ่มเติม รวมทั้งรายละเอียดในด้านเทคโนโลยีการกำจัด ต้นทุนค่าใช้จ่าย ซึ่งจะมีการระดมความคิดเห็นภายในเดือนก.พ.นี้ หากมีความคุ้มทุน และถ้ารัฐบาลเห็นว่าเป็นโครงการที่ดี ภาคเอกชนจากญี่ปุ่นจะเป็นผู้ลงทุนตั้งโรงงานรีไซเคิลเอง ซึ่งภาครัฐก็แค่อำนวยความสะดวก และหาช่องทางในการจัดการ จัดเก็บหรือการนำหลอดไฟเข้าสู่ระบบการรีไซเคิล ทั้งนี้จากการพูดคุยทางญี่ปุ่น สามารถรีไซเคิลหลอดไฟฟลูออเรสเซนต์ได้แล้ว โดยสามารถแยกส่วนที่เป็นตัวแก้ว โลหะ นำกลับไปใช้ใหม่ได้ ส่วนสารปรอทที่อยู่ตรงขั้วของหลอดไฟ และแก๊สก็จัดเก็บได้โดยไม่เป็นอันตรายต่อสิ่งแวดล้อม เพราะสารพิษที่อยู่ในหลอดไฟถ้านำไปทิ้งปะปนกับขยะเมื่อแตกและถูกน้ำชะก็จะส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมได้ ซึ่งยังไม่มีการศึกษาวิจัยเรื่องนี้อย่างละเอียด แต่ในทางวิชาการมีอันตรายต่อสิ่งแวดล้อมอย่างแน่นอนและว่า (กรุงเทพธุรกิจ เสาร์ที่ 13 ก.พ. 48 http://www.bangkokbiznews.com)
ข่าววิจัย/พัฒนา
หลายหลากผลิตภัณฑ์จากแอลกอฮอล์วิจัยแนวทางการสร้างมูลค่าเพิ่ม จากพืชเชื้อเพลิง
พระบาทสมเด็จพระเจ้า อยู่หัว ทรงให้ทำการทดลองพัฒนาเชื้อเพลิงจาก พืชมานานแล้ว ตั้งแต่ พ.ศ.2528 พระองค์ได้ทรงพระราชทานเงินทุนวิจัยเพื่อใช้ในการก่อสร้างอาคารและอุปกรณ์ต่างๆ ในการทดลอง ให้นำอ้อยมาแปรรูปเป็นแอลกอฮอล์เพื่อใช้เป็นพลังงานทดแทน ซึ่งนอกจากจะช่วยแก้ ปัญหาผลผลิตราคาตกต่ำได้แล้ว ยังเป็นพลังงานที่ใช้ไม่มีวันหมดตราบที่โลกยัง เพาะปลูกพืชได้ ณ โรงแอลกอฮอล์ภายในวังสวนจิตรลดาแห่งนี้ ไม่เพียงศึกษาแอลกอฮอล์เพื่อใช้ทำเชื้อเพลิงเท่านั้น ที่นี่ยังศึกษาแอลกอฮอล์เพื่อใช้เป็นวัตถุดิบในการทำผลิตภัณฑ์อีกหลายชนิด คุณอะเคื้อ บุญญสิริ หัวหน้างานทดลองผลิตภัณฑ์เชื้อเพลิง โครงการส่วนพระองค์ สวนจิตรลดา กล่าวว่า เพื่อเป็นแนวทางในการนำแอลกอฮอล์มาใช้ประโยชน์ หลากหลายยิ่งขึ้น ซึ่งงานที่ผ่านการศึกษาและทดลองแล้วก็พร้อมจะถ่ายทอด ให้ประชาชนทั่วไปนำไปประกอบอาชีพได้ ผลิตภัณฑ์ต่างๆ ที่เป็นผลพลอยได้จากการผลิตแก๊สโซฮอล์ ได้แก่ แอลกอฮอล์แข็งอุ่นอาหาร เจลล้างหน้า เจลล้าง มือ น้ำหอม สเปรย์ระงับกลิ่นเท้า โลชั่นกันยุง น้ำมันนวดแก้ปวดเมื่อย ฯลฯ ซึ่งทุกอย่างล้วนมีส่วนผสมของแอลกอฮอล์อยู่ด้วยทั้งสิ้น แต่ที่ได้รับความสนใจมากๆ ในขณะนี้เห็นจะได้แก่ "เจลล้างหน้า" ที่มีส่วนผสมของแตงกวาช่วย ทำให้ผิวหน้ามีความชุ่มชื้น และเห็ดหลินจือที่มีสรรพคุณช่วยในการสมานแผลเล็กๆ น้อยๆ บนใบหน้าหรือแผลที่เกิดจากการบีบสิวได้ ไม่ก่อให้เกิดความระคายเคืองต่อผิวพรรณ ที่สำคัญ Amisoft ที่ใช้เป็นส่วนผสม เป็นสายพวก anionic surfactant ซึ่งได้จากมันสำปะหลังกับกรดไขมันธรรมชาติ จึงย่อยสลายได้ง่ายเมื่อลงสู่แม่น้ำลำคลอง ไม่ทำให้เกิดมลภาวะทางน้ำเหมือนกับสารชนิดอื่น ผู้สนใจผลิตภัณฑ์ผลผลิตจากงาน โรงแอลกอฮอล์ หรือต้องการรับการถ่ายทอด สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม โทร. 0-2282-7171-3 ต่อ 4305 หรือ 0-2282-7171-4 ต่อ 4301-5 (ไทยรัฐ จันทร์ที่ 7 ก.พ. 48 http://www.thairath.co.th)
คนขับต้นเหตุอุบัติเหตุ 90% ผลวิจัยด้านวิศวกรรมจราจร-ชี้ถอดแบบอังกฤษ, สหรัฐฯ
วันที่ 4 ก.พ. 48 ที่ห้องประชุมสถาบันจุฬาภรณ์ ถนนวิภาวดีรังสิต สภาวิศวกรร่วมกับกระทรวงคมนาคม สำนักงานตำรวจแห่งชาติ จัดพิธีมอบรางวัลให้นักวิจัยด้านวิศวกรรมการจราจร และชุมชนทั่วประเทศ เพื่อสร้างความปลอดภัยทางถนน ป้องกันปัญหาอุบัติเหตุจราจรในประเทศไทย ซึ่งจัดเป็นปีแรกมีนักวิจัยส่งผลงาน 19 โครงการ จากชุมชนรวม 15 แห่ง ซึ่งนายฉดับ ปัทมสูต นายกสภาวิศวกร กล่าวว่า สถานการณ์อุบัติเหตุจราจรทางถนนของไทย เป็นปัญหาที่รุนแรงมาก จากการศึกษาสาเหตุหลักเปรียบเทียบในไทยกับอีก 5 ประเทศ ได้แก่ จาเมกา กานา บอตวานา มาเลเซีย และฮ่องกง พบว่า ร้อยละ 70-95 เกิดจากผู้ใช้รถใช้ถนน ในไทยพบมากถึงร้อยละ 90 แนวโน้มเป็นไปในทิศทางเดียวกับอังกฤษ สหรัฐอเมริกา และจากการศึกษา 5 ปีย้อนหลัง พบว่า อุบัติเหตุจราจรอย่างเดียวสร้างความสูญเสียทรัพย์สิน 1,242 ล้านบาท และเกิดความสูญเสียทางเศรษฐกิจ 59,003 ล้านบาท ขึ้นอยู่กับ 4 ปัจจัย ได้แก่ คน ยานพาหนะ ถนนและสิ่งแวดล้อม สำหรับงานวิจัยด้านวิศวกรรมการจราจรที่ได้รับรางวัลชนะเลิศ ได้แก่ ผลการวิจัยของนายธวัชชัย เหล่าศิริหงษ์ทอง หัวหน้าภาควิชาวิศวกรรมโยธา มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี เรื่อง การวิเคราะห์ปัจจัยที่มีผลระดับความรุนแรงของอุบัติเหตุจราจรทางถนน ส่วนงานวิจัยด้านชุมชนที่ได้รับรางวัลชนะเลิศ ได้แก่ นายสมชาย สมานตระกูล ประธานชุมชนแผ่นดินทองคอยรุตตั๊กวา ถนนลำไทร แขวงโคกแฝด เขตหนองจอก กรุงเทพฯ ชื่อโครงการ สานใจลำไทร ป้องกันภัยบนท้องถนน (ไทยรัฐ จันทร์ที่ 7 ก.พ. 48 http://www.thairath.co.th)
เครื่องกลั่นไวน์จากข้าว ต้นแบบเครื่องกลั่นไวน์ประหยัดพลังงาน
อาจารย์รัตนพล พนมวัน ณ อยุธยา จากสถาบันวิจัยและฝึกอบรมการเกษตรลำปาง สถาบันเทคโนโลยีราชมงคล ได้คิดค้น เครื่องกลั่นไวน์จากข้าวขึ้น ซึ่งเครื่องนี้ สามารถนำไปใช้ได้กับผลไม้ หรือวัตถุดิบอื่น ๆ ได้ด้วย อาจารย์รัตนพล เปิดเผยว่า การคิดค้นเครื่องดังกล่าว เป็นส่วนหนึ่งของชุดงานวิจัย เรื่องข้าวกับการนำมา ใช้ประโยชน์ โดยขั้นแรกมีแนวคิดว่า ข้าวนั้น สามารถนำมาหมักและกลั่นเป็นสาโทได้ โดย นำมาหมักกับลูกแป้ง ปล่อยทิ้งไว้ให้เชื้อราทำงานจนได้น้ำเชื่อมจากข้าว ใส่ยีสต์ลงไป เพื่อเปลี่ยนน้ำเชื่อมให้เป็นแอลกอฮอล์ แล้วจึงนำแอลกอฮอล์ที่ได้ (ปริมาณแอลกอฮอล์ประมาณ11-15 เปอร์เซ็นต์) มากลั่นเพื่อให้ได้แอลกอ ฮอล์ที่บริสุทธิ์ขึ้น สำหรับขั้นตอนการทำงานของเครื่อง แบ่งออกเป็น 3 ส่วน ส่วนแรกเป็นส่วนของหม้อต้ม มี 2 ชั้น ชั้นนอกจะใส่น้ำ ต้มให้เดือด ชั้นในจะใส่น้ำวัตถุดิบที่ต้องการกลั่น เพราะในผลไม้ที่มีกากนั้น ถ้าเราต้มโดยให้ส่วนของน้ำวัตถุดิบที่ใส่ไปโดนต้มโดยไฟโดยตรง กากผลไม้นั้นก็จะไหม้และมีกลิ่นไหม้ติดไปกับสุรากลั่น และสาโทที่ได้ด้วย และส่วนที่ 2 เป็นส่วนของ หอกลั่น ที่บรรจุตัวแลกเปลี่ยนความร้อน ซึ่งเราจะใช้เศษเซรามิก เพราะเป็นวัสดุที่หาง่ายในจังหวัดลำปาง และตัวแลกเปลี่ยนความร้อนนี้เองที่จะเป็นตัวเร่งปฏิกิริยาให้เกิดการควบแน่นหลายครั้งขึ้น ส่งผลให้แอลกอฮอล์ที่กลั่นได้นั้นมีความบริสุทธิ์มากยิ่งขึ้น ส่วนสุดท้าย เป็นส่วนของกระบวนการควบแน่น ที่ประกอบด้วยตัวควบแน่น ซึ่งจุดนี้ จากการที่เราไปสำรวจข้อมูลจากโรงกลั่นสุราหลายโรง ในจังหวัดลำปาง ผู้ประกอบการมักจะยังมีความเชื่อผิด ๆ ว่า การควบแน่นจะมีประสิทธิภาพถ้าใช้ตัวควบแน่น หรือที่เรียกว่าตัว Condenser ขนาดใหญ่ ซึ่งไม่จำเป็น รวมทั้งการใช้น้ำเป็นตัวหล่อเย็น ก็ไม่จำเป็นต้องเปิดน้ำไหลเวียนไว้ตลอด เพราะจะทำให้เปลืองทั้งน้ำและพลังงานไฟฟ้าจากมอเตอร์ด้วย ต้นทุนการผลิต จะมีราคาอยู่ประมาณ 35,000 บาท ซึ่งอาจารย์รัตนพล แนะนำว่าราคานี้อาจต่ำลงได้อีก ขึ้นอยู่กับการเลือกใช้วัสดุ โดยเฉพาะสเตนเลส ที่นำมาผลิตด้วย ผู้ใดสนใจ สอบถามได้ที่ สถาบันวิจัยและฝึกอบรมการเกษตรลำปาง สถาบันเทคโนโลยีราชมงคล 202 ถนนพหลโยธิน ตำบลพิชัย อำเภอเมือง จังหวัดลำปาง หรือสอบถามทางโทรศัพท์ หมายเลข 054-342-553 ในวันและเวลาราชการ.(เดลินิวส์ จันทร์ที่ 7 ก.พ. 48 http://www.dailynews.co.th)
ค่ายรถมั่นใจ'คอมพ์'สร้างชิ้นส่วนปลอดภัย นักวิจัยย้ำเครื่องยนต์รวนเหตุจากขั้นตอนผลิต
ดร.วิโรจน์ ลิ่มตระการ นักวิจัยศูนย์เทคโนโลยีโลหะและวัสดุแห่งชาติ (เอ็มเทค) เปิดเผยว่า ในปัจจุบัน ผู้ประกอบการภาคอุตสาหกรรมสนใจใช้เทคโนโลยีคอมพิวเตอร์ สำหรับการวิเคราะห์ ออกแบบและทดสอบชิ้นงาน เพราะสามารถลดต้นทุนทั้งด้านเวลา กำลังคนและการทำวิจัยอย่างชัดเจน อีกทั้งยังสามารถรับประกันถึงประสิทธิภาพ ความทนทาน ตลอดจนความปลอดภัยของชิ้นงานได้เป็นรูปธรรม เมื่อถูกนำไปใช้ประโยชน์ในลักษณะต่างๆ เช่นเดียวกับ ชิ้นส่วนยานยนต์ ที่เริ่มเข้าใช้บริการออกแบบและทดสอบด้วยคอมพิวเตอร์มากขึ้น โดยเฉพาะชิ้นส่วนสำคัญๆ ที่เกี่ยวข้องกับความปลอดภัยของผู้ขับขี่ อาทิ ระบบเบรก ประตู ฝากระโปรงรถ ตัวถังและระบบช่วงล่าง ซึ่งจะทำให้รถยนต์ที่ประกอบขึ้นจากวัสดุเหล่านั้น นอกจากจะมีความสวยงามแล้ว ยังมีคุณสมบัติพิเศษตามที่ค่ายรถต้องการ อาทิ ความแข็งแรงของตัวถัง ประตูรถ ที่จะช่วยปกป้องผู้ขับขี่หรือผู้โดยสารเมื่อเกิดอุบัติเหตุ อีกทั้งสร้างความมั่นใจว่า ผลิตภัณฑ์ที่ออกแบบมานั้น สามารถผ่านการทดสอบได้ตามมาตรฐานอุตสาหกรรม สำหรับซอฟต์แวร์คอมพิวเตอร์ช่วยการวิเคราะห์ ออกแบบฯ นั้น มีชื่อเรียกว่า ไฟไนต์เอลิเมนต์ (Finite Element) นอกจากความสามารถในการออกแบบแล้ว ยังวิเคราะห์และทดสอบสมบัติต่างๆ ของชิ้นส่วนและผลิตภัณฑ์ รวมทั้งช่วยวิเคราะห์หาสาเหตุของปัญหาที่เกิดขึ้นในผลิตภัณฑ์ทั้งจากความบกพร่องของวัสดุ หรือจากข้อผิดพลาดในกระบวนการผลิต นอกจากนี้ยังใช้คำนวณแก้ปัญหาทางวิศวกรรม เช่น คำนวณหาความแข็งแรงของวัสดุหรือชิ้นส่วนเครื่องกล ศึกษาพฤติกรรมการไหลของของไหล การถ่ายเทความร้อนในชิ้นส่วนเครื่องกล เป็นต้น ภาคอุตสาหกรรมต่างประเทศและกลุ่มบริษัทข้ามชาติ ให้การตอบรับซอฟต์แวร์ไฟไนต์เอลิเมนต์อย่างมาก เทคโนโลยีนี้กำลังพัฒนาอย่างรวดเร็ว โดยด้านการเรียนการสอนมีอยู่ในทุกมหาวิทยาลัย ส่วนการบริการนั้น นอกจากหน่วยบริการของเอ็มเทคแล้ว ยังมีในมหาวิทยาลัยบางแห่งและการบริการจากธุรกิจเอกชน (กรุงเทพธุรกิจ จันทร์ที่ 7 ก.พ. 48http://www.bangkokbiznews.com)
มาตรฐานห้องปฏิบัติการวิเคราะห์ดิน
ปัญหาเรื่องคุณภาพของห้องปฏิบัติการวิเคราะห์ดินหรือพืชในประเทศแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งรวมถึงประเทศไทยด้วยนั้น เคยมีการหยิบยกมาพูดกันในระดับนานาชาติ เมื่อ 20 กว่าปีก่อนมาแล้ว เพราะว่าหลายครั้งที่มีการส่งตัวอย่างพืชหรือตัวอย่างดินชนิดเดียวกัน ซึ่งเก็บจากที่เดียวกัน แต่แยกส่งไปวิเคราะห์ที่ห้องปฏิบัติการหลายๆ แห่ง ปรากฏว่าผลที่ได้แตกต่างกันมาก ทางองค์กรระหว่างประเทศที่ทำหน้าที่ด้านการจัดการดิน จึงได้พยายามจัดอบรมและสัมมนาหลายครั้งเพื่อพยายามผลักดันให้เกิดการยกระดับมาตรฐานของห้องปฏิบัติการขึ้นมา มีกลุ่มนักวิชาการ ซึ่งมี ดร.สมศักดิ์ มณีพงศ์ จากมหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์ เป็นแกนนำ ได้พยายามพัฒนาเครือข่าย โดยใช้กระบวนการวิจัยเป็นกลไก และตั้งเป้าหมายว่าจะให้เกิดเครือข่ายห้องปฏิบัติการวิเคราะห์ดินและพืชอย่างน้อย 6 แห่ง ที่สามารถให้บริการได้อย่างถูกต้องแม่นยำและเป็นมาตรฐานเดียวกัน ร่วมกันพัฒนาคู่มือวิธีมาตรฐานสำหรับการวิเคราะห์ แล้วจึงร่วมกันกำหนดวิธีการควบคุมคุณภาพหรือประกันคุณภาพ หลังจากนั้นขั้นตอนสำคัญคือ การส่งตัวอย่างดินและพืช ซึ่งเก็บมาจากที่เดียวกันแล้วแยกส่งไปยังห้องปฏิบัติการที่เป็นสมาชิกเครือข่ายให้ทำการวิเคราะห์ตามคู่มือที่ร่วมกันสร้างมา แล้วเอาผลมาเปรียบเทียบกัน โดยตัวอย่างเดียวกันนี้ก็ส่งไปวิเคราะห์ที่ต่างประเทศที่เชื่อถือได้และมีมาตรฐานเป็นที่ยอมรับกันทั่วไป สำหรับเป็นตัวเปรียบเทียบ ผลก็คือได้ข้อมูลผลการวิเคราะห์ที่แตกต่างกันพอสมควร ซึ่งผลที่ได้มีหลายรูปแบบ ทั้งประเภทที่เรียกได้ว่าแม่นยำ แต่ไม่เที่ยงตรง กับอีกแบบหนึ่งคือ เที่ยงตรงแต่ไม่แม่นยำ ซึ่งหลังจากได้รับทราบว่าห้องปฏิบัติการใดอยู่ในข่ายใด ก็ต้องหาทางปรับปรุงในส่วนนั้น จนกระทั่งได้มาตรฐานเหมือนกัน คือทั้งแม่นยำและเที่ยงตรง ขณะนี้โครงการดังกล่าวก็ยังอยู่ในขั้นตอนระหว่างการดำเนินงาน ยังไม่เสร็จสมบูรณ์ดี (คมชัดลึก จันทร์ที่ 7 ก.พ. 48 http://www.komchadluek.net)
จีนพัฒนาวัคซีนไข้หวัดนกสูตรใหม่
หนังสือพิมพ์ไชน่า เดลี ฉบับ 7 ก.พ. รายงานว่า นักวิทยาศาสตร์จีนได้พัฒนาวัคซีนไข้หวัดนกใหม่ ซึ่งสามารถปกป้องเป็ดไก่จากเชื้อไวรัสไข้หวัดนกได้นานขึ้น ผลการวิจัยจากห้องแล็บแสดงให้เห็นว่า วัคซีนใหม่จะช่วยให้เป็ด ไก่ และห่าน มีภูมิต้านทานเชื้อไวรัสเอช 5 เอ็น1 ซึ่งเป็นเชื้อไข้หวัดนกสายพันธุ์อันตรายภายใน 3 สัปดาห์หลังได้รับวัคซีน และเป็ดไก่จะมีภูมิต้านทานเชื้อไวรัสนานอย่างน้อย 10 เดือน ซึ่งถือว่านานกว่าวัคซีนที่ใช้ในปัจจุบันราว 4 เดือน ส่วนห่านจะมีภูมิต้านทานไข้หวัดนกนาน 3 เดือน สำนักงานป้องกันโรคระบาดในสังกัดกระทรวงสาธารณสุข ระบุ ว่าจะมีการใช้วัคซีนไข้หวัดนกใหม่ในมณฑลตามแนวชายแดนเวียดนามและประเทศไทย ซึ่งเป็นประเทศที่พบการระบาดของเชื้อไวรัสเมื่อเร็วๆ นี้ (กรุงเทพธุรกิจ อังคารที่ 8 ก.พ. 48 http://www.bangkokbiznews.com)
อุปกรณ์กันหลับในช่วยผู้ขับขี่ ผลงานนักประดิษฐ์ไทยถูกค่ายรถรุมอื้อ
นายพลชัย พันธุ์อำไพ วิศวกรไฟฟ้าอิสระ พัฒนาอุปกรณ์ป้องกันภาวะหลับในขณะขับรถว่า อุปกรณ์ที่พัฒนาขึ้นจะคอยตรวจจับลักษณะการหมุนของพวงมาลัย โดยจะถูกหมุนกลับไปมาหรือขยับตลอดเวลาหากผู้ขับขี่อยู่ในภาวะปกติ ในทางกลับกันหากผู้ขับขี่อยู่ในภาวะหลับใน จะไม่มีการขยับหรือหมุนพวงมาลัย จึงอาศัยพฤติกรรมที่แตกต่างกันในจุดนี้ มาเป็นหลักการคิดสำหรับคิดค้นอุปกรณ์ดังกล่าวขึ้น อุปกรณ์ป้องกันการหลับที่พัฒนานี้ ประกอบด้วย กล่องควบคุมที่บรรจุเซ็นเซอร์แม่เหล็ก ไมโครคอนโทรเลอร์และแผงวงจร โดยผู้ใช้จะต้องติดตั้งแม่เหล็กไว้ที่พวงมาลัย ส่วนเซ็นเซอร์ติดตั้งไว้บริเวณคอของพวงมาลัย และเชื่อมสายไฟซึ่งต่อร่วมกับที่จุดบุหรี่ในรถยนต์ไปยังคันเร่ง ระบบจะทำงานทันทีหลังจากการสตาร์ท โดยจะเรียนรู้พฤติกรรมการหมุนพวงมาลัยของคนขับ ทุกครั้งที่เหยียบคันเร่งและหมุนพวงมาลัย ระบบจะตรวจจับรูปแบบการหมุนว่าช้าเร็วขนาดไหน โดยจะเรียนรู้ประมาณ 10 รอบต่อนาที จากนั้นระบบจะเริ่มตรวจสอบดูว่าการหมุนครั้งต่อๆ ไปมีรูปแบบอย่างไรบ้าง และจะเลือกเอาจังหวะที่นานที่สุดมาใช้และบวกให้อีก 3 วินาที "หลังการเรียนรู้เสร็จ ระบบจะคอยสังเกตความผิดปกติอยู่นิ่งๆ ตราบใดที่เขายังหมุนพวงมาลัยได้แสดงว่ายังไม่หลับ แต่พอเริ่มจะหลับหรือเบลอๆ เขาจะหยุดหมุนพวงมาลัย ถ้าหยุดนานกว่าเวลาที่ระบบเคยเรียนรู้ จะส่งเสียงร้องเตือน โดยเสียงร้องนั้นจะดังไปจนกว่าคนขับจะถอนคันเร่งหรือหมุนพวงมาลัย จากนั้นระบบก็จะลบข้อมูลรูปแบบการหมุนพวงมาลัยเดิมทิ้ง และเริ่มเก็บข้อมูลใหม่เมื่อคนขับเหยียบคันเร่งทุกครั้ง สิ่งประดิษฐ์ชิ้นนี้ ได้รับรางวัลชมเชยของสำนักงานคระกรรมการวิจัยแห่งชาติ (วช.) เมื่อปี 2546 และได้จดสิทธิบัตรที่ประเทศญี่ปุ่นและสหรัฐเรียบร้อยแล้ว โดยปัจจุบันบริษัท โตโยต้า มอเตอร์ส และบริษัทเจเนอรัล มอเตอร์ส กำลังเจรจาขอใช้สิทธินวัตกรรมดังกล่าวติดตั้งในรถยนต์ของตัวเอง เชื่อว่าในอนาคตหากซื้อรถโตโยต้าอาจจะมีอุปกรณ์ป้องกันภาวะหลับในของนักประดิษฐ์ไทยติดตั้งอยู่ด้วย (คมชัดลึก อังคารที่ 8 ก.พ. http://www.komchadluek.net)
มช.วิจัยโยเกิร์ตแก้ท้องร่วงในสุกร เน้นราคาถูกรักษาง่ายแถมไม่ดื้อยา
รศ.ทัศนีย์ อภิชาติสรางกูร อาจารย์ประจำภาควิชาสัตวศาสตร์ คณะเกษตรศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ หัวหน้าโครงการวิจัย กล่าวว่า ความเป็นไปได้ในการใช้โยเกิร์ตเพื่อป้องกันและรักษาโรคท้องร่วงที่เกิดจากแบคทีเรียอีโคไล(E.coli) ในลูกสุกรดูดนม เปิดเผยว่า โครงการฯ ได้ประสบความสำเร็จในการพัฒนาวิธีการรักษาโรคท้องร่วงในลูกสุกรด้วยโยเกิร์ต สามารถแก้ปัญหาเกี่ยวกับโรคและป้องกันโรคท้องร่วงในลูกสุกรอายุประมาณ 1-2 อาทิตย์ ลดความสูญเสียทางเศรษฐกิจแก่เกษตรกรผู้เลี้ยงสุกรได้เป็นอย่างดี ที่ผ่านมาเกษตรกรผู้เลี้ยงสุกรต้องประสบปัญหาในการแก้รักษาโรคท้องร่วงในลูกสุกร โดยใช้ยาต้านทานจุลชีพ ซึ่งก็มีปัญหาด้านสารตกค้างและมีราคาแพง จึงได้คิดค้นวิธีการใช้โยเกิร์ต ซึ่งจะมีจุลินทรีย์แล็กโตบาซิลลัสที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกายในการรักษา เมื่อลูกสุกรรับประทานโยเกิร์ตเข้าไปในทางเดินอาหาร จุลินทรีย์จะเติบโตและมีการแบ่งตัวเพิ่มเป็นจำนวนมากขึ้น ลดจำนวนแบคทีเรียทื่เป็นโทษต่อร่างกายสร้างความสมดุลของแบคทีเรียในลำไส้ ไม่เกิดตกค้าง ให้ผลรักษาไม่ต่างกับการใช้สารปฏิชีวนะในปัจจุบัน แต่จะให้ผลดีกว่า เนื่องจากยาปฏิชีวนะจะเข้าไปทำลายจุลชีพที่ก่อให้เกิดโรค พร้อมทำลายจุลินทรีย์ที่เป็นประโยชน์ไปด้วย และการใช้ยาปฏิชีวนะบ่อยๆ จะทำให้เกิดการดื้อยาและยังมีสารเคมีตกค้างใน ตัวสัตว์ เกษตรกรสามารถผลิตโยเกิร์ตขึ้นเองเพียงนำนมผงธรรมดา หางนมผง และน้ำกลั่น มาผสมกัน แล้วแช่ในน้ำร้อนฆ่าเชื้ออุณหภูมิประมาณ 85 องศาเซลเซียส 5 นาที ทิ้งให้เหลืออุณหภูมิประมาณ 40 องศาเซลเซียส เติมโยเกิร์ตสำเร็จรูปตามธรรมชาติแล้วคนให้เข้ากัน เทใส่ภาชนะที่มีฝาปิด นำไปบ่มที่อุณหภูมิ 40 องศาเซลเซียส 8-10 ชั่วโมง จนเป็นก้อนลิ่ม แล้วนำไปแช่ตู้เย็นที่อุณหภูมิ 4 องศาเซลเซียส ก็จะได้โยเกิร์ตที่รักษาอาการท้องร่วงในลูกสุกรได้ในราคาที่ถูกกว่าการใช้ยาต้านจุลชีพเป็นอย่างมาก (สยามรัฐ อังคารที่ 8 ก.พ. 48 http://www.siamrath.co.th)
เครื่องแยกเศษพลาสติก นวัตกรรมเพื่อสิ่งแวดล้อมไทย
นิสิต จุฬาฯ นายจุฬพงษ์ พานิชเกรียงไกร ภาควิชาวิทยาศาสตร์ทางภาพถ่ายและเทคโนโลยี ทางการพิมพ์ และนายสธน กิตยาภรณ์ ภาควิชาเคมีเทคนิค คณะวิทยาศาสตร์ คิดค้นประดิษฐ์ เครื่องแยกเศษพลาสติก สิ่งประดิษฐ์เพื่อสิ่งแวดล้อม ซึ่งคว้ารางวัลชนะเลิศนวัตกรรมเชิงธุรกิจ โครงการนวัตกรรมแห่งประเทศไทยประจำปี 2547 สาขาวิศวกรรมศาสตร์และเทคโนโลยี โดยมี ผศ.ดร.สงบทิพย์ พงศ์สถาบดี ภาควิชาเคมีเทคนิค คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาฯ เป็นอาจารย์ที่ปรึกษาโครงการ แนวความคิดในการประดิษฐ์เครื่องแยกพลาสติกว่า มีจุดเริ่มต้นจากการตระหนักถึงปัญหาสิ่งแวดล้อมที่ปริมาณขยะมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งปัญหาขยะพลาสติกในเขตพื้นที่กรุงเทพฯ ที่มีปริมาณสูงถึง 150 ตันในแต่ละวัน และปัจจุบันการแยกขยะที่ทำอยู่ในบ้านเรายังใช้แรงงานคน และไม่สามารถแยกได้ว่าเป็นพลาสติกชนิดใด เครื่องแยกเศษพลาสติกที่ประดิษฐ์ขึ้นนี้จึงสามารถลดปัญหาในส่วนนี้ลงได้ เครื่องแยกเศษพลาสติก ตัวนี้มีขนาด 60 x 40 เซนติเมตรกลไกหลักในการทำงานจะอาศัยพื้นฐานของความหนาแน่นของสารละลาย ซึ่งทำให้พลาสติกเกิดการจมและลอยไม่เท่ากัน และมีจุดเด่นตรงที่สามารถนำไปใช้ได้จริงในองค์ธุรกิจ ช่วยประหยัดพลังงาน ไม่เกิดมลพิษต่อสิ่งแวดล้อม และสามารถทำการแยกเศษพลาสติกได้อย่างน้อย 20 ตันต่อวัน ใช้ง่ายและทนทาน ซึ่งกลุ่มธุรกิจแยกขยะ ให้ความสนใจเป็นอย่างมาก และขณะนี้ก็อยู่ในระหว่างดำเนินการเรื่องการจดสิทธิบัตรผลงาน นวัตกรรมเครื่องแยกเศษพลาสติก นับเป็นจุดเริ่มที่น่าชื่นชม ซึ่งจะเป็นพื้นฐานสู่การพัฒนาคิดค้นนวัตกรรมอื่นๆ ต่อไป แว่วมาว่า นิสิตทั้งสอง กำลังเตรียมมีโครงการที่จะประดิษฐ์เครื่องฟอกอากาศ ส่งเข้าประกวดในครั้งต่อไปอีกด้วย (สยามรัฐ พุธที่ 9 ก.พ. 48 http://www.siamrath.co.th)
วว.พัฒนาผลิตภัณฑ์น้ำมันมะพร้าวบีบเย็นคุณภาพสูง ครบวงจร
สถาบันเทคโนโลยีแห่งประเทศไทย (วว.) ที่พัฒนากระบวนการผลิตและ ผลิตภัณฑ์น้ำมันมะพร้าวบีบเย็นคุณภาพสูง หรือที่เรียกว่า Virgin Coconut Oil ซึ่งน้ำมันมะพร้าวดังกล่าวมีลักษณะใสและคงคุณสมบัติดั้งเดิมของน้ำมันมะพร้าวไว้อย่างครบถ้วน พร้อมต่อยอดพัฒนาเป็นผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งยาและเครื่องสำอาง ซึ่งพร้อมถ่ายทอดสู่ภาคอุตสาหกรรมนำไปผลิตเชิงพาณิชย์อย่างครบวงจร โดยทั่วไปน้ำมันมะพร้าวที่ทำการผลิตใน ระดับอุตสาหกรรมต้องนำเนื้อมะพร้าวผ่านความร้อนสูง แล้วจึงนำไปบีบอัดจนเกิดความร้อนในเนื้อมะพร้าวนั้น ทำให้ได้เนื้อมะพร้าวที่ผ่านการทำให้แห้งด้วยการ ตากแดดเป็นระยะเวลาหลายวัน ก่อนนำมาผ่านความร้อนสูงนั้น ทำให้น้ำมันมีการปนเปื้อนของจุลินทรีย์ ส่งผลให้คุณค่าของน้ำมันมะพร้าวลดลง ในขณะที่การผลิตน้ำมันมะพร้าวบีบเย็นคุณภาพสูงจะให้น้ำมันมะพร้าวที่มีกลิ่นหอม คงรสธรรมชาติของน้ำมันมะพร้าวและยังคงอุดมด้วยสารต่าง ๆ ที่เป็นประโยชน์โดยเฉพาะอย่างยิ่งสารต้านอนุมูลอิสระ เหมาะอย่างยิ่งสำหรับใช้ในการผลิตยาและเครื่องสำอางถือเป็นความสำเร็จของการนำวิทยา ศาสตร์เทคโนโลยีสร้างมูลค่า เพิ่มให้กับผลผลิตทางการเกษตรของประเทศอีกด้วย วว.ใช้วิธีการผลิตน้ำมันมะพร้าวบีบเย็นคุณภาพสูง โดยการบีบน้ำมันด้วยเครื่องบีบแบบสกรูจากเนื้อมะพร้าวสดที่ผ่านการขูดและอบแห้งที่อุณหภูมิต่ำ ซึ่งต้องอบเนื้อมะพร้าวทันทีหลังจากการ กะเทาะเปลือกเพื่อป้องกันการปนเปื้อนของแบคทีเรีย โดยปัจจัยสำคัญที่ทำให้น้ำมันมะพร้าวมีคุณภาพสูงคือ ปริมาณความ ชื้นของเนื้อมะพร้าวหลังอบและอุณหภูมิที่ใช้การอบ นอกจากนี้ วว.ยังได้นำน้ำมันมะพร้าวบีบเย็นมาต่อยอดพัฒนาเป็นผลิตภัณฑ์หลากหลาย ในรูปแบบของผลิตภัณฑ์ยา ได้แก่ น้ำมันนวดไพลโคล โดยนำน้ำมันมะพร้าว บริสุทธิ์ผสมกับสารสกัดไพล เป็นน้ำมันนวด ที่มีสรรพคุณบรรเทาอาการเคล็ดขัดยอก ปวดบวมและฟกช้ำ รวมทั้งได้พัฒนาเป็นผลิตภัณฑ์เพื่อความงาม อันได้แก่ สบู่สมุนไพรโคโคโซป ผสมน้ำมันตะไคร้หอม ตะไคร้ไทย แฝก มะนาว ขมิ้น ซึ่งผ่านการทดสอบฤทธิ์ทางเภสัชวิทยาและประเมินความปลอดภัยเรียบร้อย แล้ว พบว่าสามารถทำความสะอาดผิวพรรณ ฆ่าเชื้อและให้ความสดชื่นพร้อมบำรุงผิวได้เป็นอย่างดี ผู้สนใจสอบถามเทคโนโลยีมะพร้าวบีบเย็นคุณภาพสูงได้ที่ ฝ่ายสิ่งแวดล้อมและนิเวศวิทยา วว. โทร. 0-2579-1121-30 และด้านผลิตภัณฑ์ได้ที่ ฝ่ายเภสัชและผลิตภัณฑ์ธรรมชาติ วว.โทร. 0-2577-9000 เวลาราชการ (เดลินิวส์ พุธที่ 9 ก.พ. 48 http://www.dailynews.co.th)
ฟิล์มเคลือบอาหารบริโภคได้
ดร.โศรดา กนกพานนท์ ภาควิชาวิศวกรรมเคมี คณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย อาจารย์ที่ปรึกษาโครงการการพัฒนาฟิล์มบริโภคได้สำหรับเคลือบเนื้อทุเรียนสด หนึ่งในโครงการทุนอุตสาหกรรมสำหรับนักศึกษาปริญญาตรี สกว. ได้พัฒนาสารเคลือบเนื้อผลไม้แบบบริโภคได้ เพื่อรักษาคุณภาพของเนื้อทุเรียนสด โดยพัฒนาสารเคลือบเนื้อผลไม้แบบบริโภคได้ จากวัสดุชีวภาพที่ผลิตภายในประเทศ 2 ชนิด ได้แก่ ไคโตซาน (Chitosan) ที่เป็นผลพลอยได้จากอุตสาหกรรมอาหารทะเล และเจลาติน (Gelatin) ซึ่งเป็นผลพลอยได้จากการปศุสัตว์ โดยได้ศึกษาเปรียบเทียบคุณสมบัติในการรักษาคุณภาพของเนื้อทุเรียนของฟิล์มเคลือบแบบบริโภคได้ 2 ชนิด คือ ฟิล์มบางของไคโตซาน และฟิล์มบางของเจลาติน ปัจจุบันมีการนำเจลาตินมาใช้อย่างกว้างขวางในอุตสาหกรรมอาหาร เช่น ใช้เป็นสารปรับแต่งเนื้ออาหาร สารเพิ่มความคงตัวในไอศกรีม ส่วนไคโตซานซึ่งเป็นโพลีเมอร์ประเภทคาร์โบไฮเดรต ที่สามารถย่อยสลายได้ในธรรมชาติ และไม่เป็นพิษต่อมนุษย์ พบมากในเปลือกของสัตว์ไม่มีกระดูกสันหลัง เช่น แมลง หอย หัวกุ้ง และเปลือกกุ้ง โดยไคโตซานยังสามารถนำไปใช้งานด้านต่างๆ ได้อย่างกว้างขวาง เช่น ในอุตสาหกรรมอาหาร เครื่องดื่ม ซึ่งงานวิจัยนี้ได้นำโพลีเมอร์ชีวภาพทั้งสองชนิดที่ได้จากอุตสาหกรรมในประเทศมาพัฒนามาใช้เป็นสารเคลือบเนื้อผลไม้แบบบริโภคได้ สารเคลือบเนื้อผลไม้ชนิดบริโภคได้นี้ ได้รับการออกแบบเป็นแผ่นฟิล์มบางๆ ที่เตรียมจากวัสดุชีวภาพที่มีความปลอดภัยในการบริโภค ทำหน้าที่ขัดขวางการรบกวนจากสภาวะภายนอก และยืดอายุผลิตภัณฑ์ โดยมักจะทำจากโพลีเมอร์ชีวภาพ ที่สามารถย่อยสลายได้เองตามธรรมชาติ เช่น ไขมัน โพลีซัคคาไรด์ โปรตีน วิธีการเคลือบทำได้หลายวิธีขึ้นอยู่กับชนิดของอาหาร เช่น การชุบเคลือบ การทำให้เกิดฟอง การพ่นฝอย และการขึ้นรูปด้วยแผ่นฟิล์ม โครงการนี้ทดลองกับฟิล์มบางของไคโตซาน และฟิล์มบางเจลาติน โดยวิธีฉีดพ่นฟิล์ม เพื่อให้ทุเรียนกระทบกระเทือนน้อยที่สุด แล้วจึงทำให้แห้งโดยเป่าด้วยลมเย็น ความหนาของฟิล์มประมาณ 0.075 มิลลิเมตร และนำเอาทุเรียนที่เคลือบไปเก็บไว้ที่อุณหภูมิ 20 องศาเซลเซียส เป็นเวลาประมาณ 5 วัน จากนั้นนำมาวิเคราะห์ลักษณะที่บ่งชี้คุณภาพของทุเรียน ได้แก่ ปริมาณของแข็งที่ละลายน้ำ ความแน่นเนื้อ การสูญเสียน้ำหนัก อัตราการหายใจในรูปของปริมาณการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ การเปลี่ยนแปลงของสี เห็นได้ชัดว่าการเคลือบด้วยฟิล์มไคโตซาน ทำให้ปริมาณของแข็งที่ละลายน้ำเพิ่มขึ้นประมาณ 5% ลดการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ลงได้ 50 CO2 /kghr ใน 2 วันแรก รวมทั้งลดการสูญเสียน้ำหนักได้มากที่สุด คือ 2% ส่วนการเคลือบฟิล์มสารละลายเจลาติน จะทำให้ปริมาณของแข็งละลายเพิ่มขึ้น 5% ลดการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ในทุเรียนลงได้ 100 CO2 /kghr ใน 2 วันแรก และการสูญเสียน้ำหนักได้ 1% สรุปได้ว่า การใช้ฟิล์มเคลือบเนื้อผลไม้ให้ประโยชน์ด้านการเพิ่มปริมาณของแข็ง ลดอัตราคาร์บอนไดออกไซด์ และการสูญเสียน้ำหนัก แต่การเคลือบเนื้อทุเรียนด้วยฟิล์มทั้งสองชนิด อาจทำให้ความหนาแน่นของเนื้อเปลี่ยนแปลงไป 13-20% คณะวิจัยกล่าวว่า แนวทางการพัฒนาต่อไป อาจผสมสารช่วยให้ฟิล์มคงสภาพได้นาน เช่น สารเพิ่มแรงตึงผิวหรือสารกันเชื้อรา โดยสารดังกล่าวจะต้องมีความปลอดภัยสำหรับผู้บริโภค (กรุงเทพธุรกิจ พุธที่ 9 ก.พ. 48 http://www.bangkokbiznews.com)
วิจัยชี้ทารกตัวใหญ่ อายุมากเสี่ยงมะเร็ง
ทีมวิจัยจากวิทยาลัยอนามัยและสาธารณสุขเขตร้อนลอนดอน มหาวิทยาลัยอัพซารา และมหาวิทยาลัยสตอกโฮล์ม ร่วมกันวิเคราะห์ข้อมูลของเด็กทารกในสวีเดนจำนวน 11,166 คน ระหว่างปี 2458 - 2472 และพบว่า 1 ใน 4 ของทารกทั้งหมด ได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นมะเร็งในช่วงปี 2503 - 2544 ผลการศึกษาระบุว่า น้ำหนักตอนแรกเกิดที่เพิ่มขึ้นทุก 450 กรัม จะสัมพันธ์กับการเพิ่มขึ้นของโอกาสการเกิดมะเร็งต่อมน้ำเหลือง 17% และมะเร็งเกี่ยวกับระบบย่อยอาหาร อาทิ ช่องท้อง ลำไส้ และตับ 13% โดยผู้หญิงที่อยู่ในกลุ่มน้ำหนักแรกเกิดสูงที่สุด ได้แก่ 4 กิโลกรัม หรือกว่านั้น มีความเสี่ยงของการเกิดมะเร็งเต้านมก่อนอายุ 50 ปีมากถึง 4 เท่า สูงกว่าผู้ที่มีน้ำหนักแรกเกิดไม่ถึง 3 กิโลกรัม ขณะที่ผู้หญิงที่มีน้ำหนักตัวครึ่งเดียว หรือราว 2 กิโลกรัม จะเสี่ยงต่อการเกิดมะเร็งเยื่อบุมดลูกในตอนโต เท่ากับผู้ที่มีน้ำหนักตัวน้อยที่สุดตอนแรกเกิด อย่างไรก็ตาม ทีมงานยอมรับว่าการค้นพบดังกล่าวอาจเกิดขึ้นโดยบังเอิญได้ แต่ก็ย้ำว่าน้ำหนักตัวแรกเกิดสัมพันธ์กับความเสี่ยงของการเกิดมะเร็งเพิ่มขึ้นแน่นอน สาเหตุที่ทำให้เป็นเช่นนั้น พวกเขาคาดว่าเป็นเพราะระดับฮอร์โมน ที่ไหลเวียนอยู่ภายในมดลูกขณะที่อยู่ในครรภ์มารดา โดย ดร.วาเลอรี แมคคอร์มัค หนึ่งในทีมวิจัยบอกว่า ระดับฮอร์โมนในมดลูกอาจมีผลต่อความเสี่ยงของการเกิดมะเร็งได้ โดยเฉพาะฮอร์โมนการเจริญเติบโต (growth hormones) อย่างไรก็ดี การศึกษาก่อนหน้านี้ พบความสัมพันธ์ระหว่างขนาดตัวของทารกแรกเกิด กับการเกิดโรคหัวใจและเบาหวานในผู้ใหญ่ ซึ่ง ศ.จอห์น ทอย ผู้อำนวยการแพทย์ศูนย์วิจัยมะเร็งอังกฤษ บอกว่า การเกิดมะเร็งสัมพันธ์กับพัฒนาการทุกขั้นของเซลล์และอวัยวะในร่างกาย (กรุงเทพธุรกิจ พุธที่ 9 ก.พ. 48 http://www.bangkokbiznews.com)
วิ่งเยี่ยงหนูช่วยหัวใจแข็งแกร่ง
นักวิจัยจากมหาวิทยาลัยมิชิแกน และคณะ ได้เพาะพันธุ์หนูขึ้นมา 11 รุ่น โดยให้มีทั้งหนูที่ชอบวิ่งและชอบอยู่เฉยๆ จากนั้นทดสอบความสามารถในการออกกำลังกายโดยที่ไม่ได้ฝึกหัดหนูก่อน เพื่อดูผลความแตกต่าง ปรากฏว่าหนูที่เกิดมาเป็นนักวิ่งสามารถออกกำลังกายบนลู่วิ่ง โดยเฉลี่ยแล้วเป็นเวลา 42 นาทีก่อนจะหมดแรง ในขณะที่หนูที่นิสัยเกียจคร้านไม่ชอบวิ่ง ทำค่าเฉลี่ยเพียง 14 นาทีเท่านั้นเอง ความสามารถแตกต่างกันถึงร้อยละ 347 งานวิจัยดังกล่าวได้พบว่า พันธุกรรมเป็นตัวกำหนดชีวิตคนเรา บางคนเกิดมาพร้อมกับความสามารถในการใช้และเปลี่ยนออกซิเจนเป็นพลังงานต่ำกว่าคนอื่น คนเหล่านี้จึงต้องฝึกปรืออย่างหนัก และไม่ประสบผลสำเร็จในการเป็นนักกีฬามืออาชีพ อย่างไรก็ดี มนุษย์เกือบทุกคนสามารถออกกำลังกายแบบแอโรบิก (เพื่อให้เกิดการใช้ออกซิเจน) และสร้างภาวะสุขภาพของตนเองได้ด้วยการออกกำลังกายสม่ำเสมอ อีกผลงานหนึ่งเป็นการศึกษาโดยนักสรีระวิทยาและกายบริหารจากมหาวิทยาลัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ประเทศนอร์เวย์ โดยทีมวิจัยได้ทดสอบปัจจัยที่ส่งผลต่อสุขภาพหัวใจของหนู พบว่าหนูที่มีความสามารถในการออกกำลังกายแบบแอโรบิกต่ำ มีความเสี่ยงเป็นโรคหลอดเลือดหัวใจสูง รวมถึงโรคความดันโลหิตสูง และความผิดปกติในเส้นโลหิต (คมชัดลึก พุธที่ 9 ก.พ. 48 http://www.komchadluek.net)
กินแต่อาหารที่มีแคลอรีต่ำ ยืดอายุสมองให้ยืนนานขึ้น
ผลการวิจัยล่าสุดของมหาวิทยาลัยฟลอริดา ในสหรัฐฯพบว่า ผู้สูงอายุอาจสามารถถนอมสมองของตนเองไว้ได้ยาวนานขึ้น โดยการรับประทานอาหารแคลอรีต่ำ จากการทดลองกับหนูพบว่า หนูที่กินอาหารแคลอรีต่ำลงร้อยละ 40 จะมีระดับโปรตีนที่ช่วยปกป้องเซลล์สมองเพิ่มขึ้นถึงสองเท่า เซลล์สมองหรือเซลล์ประสาท เมื่อสูญเสียไปแล้ว ร่างกายจะไม่สามารถสร้างขึ้นใหม่ได้ แพทย์กำลังพยายามหาทางชะลอการตายของเซลล์เหล่านี้ ซึ่งอาจช่วยให้ พบวิธีรักษาโรคสมองเสื่อมในผู้สูงอายุ อันเนื่องจากเซลล์สมองเกิดตายลงจำนวนมาก ก่อนหน้านี้ งานวิจัยหลายชิ้นก็เคยแสดงให้เห็นแล้วว่า อาหารที่มีแคลอรีต่ำสามารถยืดอายุขัย ให้แก่สิ่งมีชีวิตที่มีสุขภาพแข็งแรง และอาหารดังกล่าวนี้ยังช่วยทำให้มีสุขภาพจิตดีขึ้นด้วย นักวิจัยบอกว่า การดำเนินชีวิตแบบตะวันตก ทำให้การจำกัดอาหารกลายเป็นเรื่องยาก และสิ่งที่ทำกันอยู่ในเวลานี้ ไม่ใช่เพื่อปรับปรุงความจำ แต่ส่วนใหญ่เป็นการป้องกันโรคหัวใจ และโรคมะเร็งเสียมากกว่า. (ไทยรัฐ พฤหัสบดีที่ 10 ก.พ. 48 http://www.thairath.co.th)
ทรานซิสเตอร์ขนาดโมเลกุล
นักวิทยาศาสตร์ของกลุ่มบริษัทฮิวเลตต์-เพคการ์ด ที่ห้องปฏิบัติการวิจัยที่เมืองพาโล อัลโต รัฐแคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา ได้ค้นคว้าทดลองสถาปัตยกรรมให้ทรานซิสเตอร์จิ๋ว เล็กมากขนาดโมเลกุล ซึ่งได้มีผลงานตีพิมพ์ในวารสารวิจัยฟิสิกส์ประยุกต์ หรือ Journal of Applied Physics ซึ่งเป็นวารสารที่โด่งดังมากของโลกเรื่องสิ่งประดิษฐ์ใหม่ ๆ นักวิทยาศาสตร์กลุ่มนี้ที่ พาโล อัลโต แคลิฟอร์เนีย ได้พยายามคิดประดิษฐ์ทรานซิสเตอร์รุ่นใหม่ ซึ่งมีขนาดเล็กเท่าโมเลกุล วิทยาการด้านนี้จึงเรียกใหม่ว่า อิเล็กทรอนิกส์โมเลกุล หรือ Molecular Electronics แทนที่จะใช้สารกึ่งตัวนำประเภทแผ่นซิลิกอนที่ใช้กัน แต่เขาได้คิดประดิษฐ์การกระตุ้นการไหลของอิเล็กตรอนหรือกระแสไฟฟ้าใหม่ด้วยแถบกุญแจหรือที่เรียกว่า Crossbar Latch โดยให้กระแสไฟฟ้าวิ่งไหลผ่านสายสัญญาณผ่านสวิตช์สองตัวที่มีการควบคุมการปิด-เปิดได้ เพื่อสามารถควบคุมแรงดันไฟฟ้าได้ และสามารถขยายกระแสไฟฟ้าได้ในลักษณะทรานซิสเตอร์โดยการควบคุมด้วยสถานะ 1 และ 0 หรือสัญญาณดิจิทัลนั่นเอง ในบทความวิจัยของ ดร.ฟิล คิวเอคส์ (Dr. Phil Kuekes) ได้นำเสนอวิธีการสร้างทรานซิสเตอร์ดังกล่าวในระดับนาโนเทคโนโลยีซึ่งมีขนาดเท่าโมเลกุล ซึ่งยิ่งจะทำให้วงจรอิเล็กทรอนิกส์ในอนาคตยิ่งเล็กลงไปจนกระทั่งมองด้วยสายตามนุษย์ไม่เห็น (เดลินิวส์ พฤหัสบดีที่ 10 ก.พ. 48 http://www.dailynews.co.th)
ทีเม็กซ์พัฒนา"หัวสว่านติดชิพ"รักษาฟัน ใช้เซ็นเซอร์วัดความร้อนส่งข้อมูลไร้สายบอกทันตแพทย์
ดร.อัมพร โพธิ์ใย นักวิจัยจากศูนย์เทคโนโลยีไมโครอิเล็กทรอนิกส์ หรือทีเม็กซ์ เปิดเผยว่า ทางศูนย์ฯ ได้รับการติดต่อจากกลุ่มทันตแพทย์ ที่ประกอบด้วยทันตแพทย์จากมหาวิทยาลัยมหิดล จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ให้ศึกษาความเป็นไปได้ในการพัฒนาหัวสว่านสำหรับเจาะรักษารากฟัน ที่สามารถวัดอุณหภูมิของเนื้อเยื่อที่ใช้สำหรับยึดรากฟัน เพื่อป้องกันไม่ให้เนื้อเยื่อตายและเป็นเหตุให้การยึดรากฟันล้มเหลว ในการใส่ฟันเทียมให้กับผู้ป่วย ทันตแพทย์ต้องใช้หัวสว่านเจาะเข้าไปในกระดูกกรามสำหรับวางนอตเพื่อใช้ยึดกับรากฟันเทียม ซึ่งใช้เป็นฐานสำหรับวางฟันใหม่ แต่บางครั้งความร้อนที่เกิดจากการหมุนของหัวสว่านที่เจาะเข้าไป ถ้าไม่ระวังและปล่อยให้อุณหภูมิสูงเกินไป จะส่งผลให้เนื้อเยื่อบริเวณดังกล่าวตายได้ นอตที่ใช้ยึดรากฟันจึงไม่ยึดติดอยู่กับกระดูก และผู้ป่วยต้องทำการรักษาใหม่ กลุ่มทันตแพทย์ที่มองเห็นปัญหานี้ จึงคิดที่จะพัฒนาหัวสว่านที่สามารถบอกอุณหภูมิได้ เพื่อให้แพทย์ลดความเร็วรอบหรือหยุดพักการเจาะสว่าน ก่อนที่อุณหภูมิสูงจนทำให้เนื้อเยื่อตาย และได้นำโจทย์ดังกล่าวมาปรึกษากับศูนย์ทีเม็กซ์ ซึ่งพบว่ามีความเป็นไปได้ที่จะพัฒนาหัวสว่านอัจฉริยะนี้ขึ้นมา โดยล่าสุดอยู่ในขั้นตอนการพัฒนากระบวนการเพื่อเริ่มทำการผลิต ชุดวัดอุณหภูมิประกอบด้วยสองส่วน โดยส่วนแรกเป็นชุดวัดอุณหภูมิและตัวส่งสัญญาณ มีลักษณะเป็นชิพขนาดเล็กประมาณ 2 x 2 มิลลิเมตรสำหรับฝังไว้ที่ปลายของดอกสว่าน อีกส่วนหนึ่งเป็นตัวรับสัญญาณ ซึ่งจะติดไว้ที่ตัวสว่านเพื่อแสดงค่า ติดตัวเซ็นเซอร์วัดอุณหภูมิไว้ที่ปลายดอกสว่าน พร้อมกับชุดส่งข้อมูลด้วยคลื่นวิทยุ RFID เพื่อส่งข้อมูลระดับความร้อนมายังตัวรับสัญญาณที่ติดอยู่ที่ตัวสว่าน ทันตแพทย์สามารถอ่านค่าได้ทันที สำหรับต้นทุนในการพัฒนาชิพไร้สาย ประมาณ 200 บาทต่อชิ้น และอาจลดลงไม่เกิน 100 บาท เมื่อผลิตในปริมาณมาก ซึ่งเมื่อเทียบกับราคาของหัวสว่าน 3,000 บาท และใช้งานได้ไม่เกิน 10 ครั้ง สำหรับมูลค่าการจำหน่ายเบื้องต้นประเมินว่ามีอัตราสูงถึง 100 ล้านบาท และยังมีโอกาสที่จะส่งไปจำหน่ายในตลาดต่างประเทศด้วย เนื่องจากหัวสว่านดังกล่าว ยังไม่มีบริษัทรายไหนผลิตมาก่อน ซึ่งขณะนี้ทางกลุ่มทันตแพทย์อยู่ระหว่างยื่นของจดสิทธิบัตร (กรุงเทพธุรกิจ พฤหัสบดีที่ 10 ก.พ. 48 http://www.bangkokbiznews.com)
สัญญาณกันขโมยมอเตอร์ไซค์ ส่งเสียงทันทีหากรถขยับ
นายยงยุทธ ลุงคะ หัวหน้าคณะวิชาช่างไฟฟ้าอิเล็กทรอนิกส์ วิทยาลัยเทคนิคสุโขทัย เล่าถึงสาเหตุของการสร้าง 'เครื่องป้องกันการขโมยรถจักรยานยนต์' ว่า เป็นเพราะสุโขทัยเป็นหนึ่งในพื้นที่สุ่มเสี่ยงต่อปัญหารถจักรยานยนต์ถูกขโมย และที่ผ่านมายังไม่มีระบบกันขโมยใดสามารถป้องกันได้ 100% อาจารย์ยงยุทธและลูกศิษย์ช่วยกันพัฒนาเครื่องป้องกันการขโมยรถจักรยานยนต์ขึ้นมา โดยชูคุณสมบัติป้องกันการขโมยได้ 4 รูปแบบ ได้แก่ การใช้กุญแจผี หรือต่อไฟตรง ป้องกันการสตาร์ตรถจักรยานยนต์ การเปิดเบาะรถจักรยานยนต์ และการถูกโจรกรรมโดยยกขึ้นรถยนต์ ระบบกันขโมยนี้ ประกอบด้วยกล่องควบคุมหลัก ที่ภายในบรรจุแผงวงจร และไมโครคอนโทรเลอร์ ซึ่งตัวกล่องจะต่อสายเข้ากับระบบไฟ และแตรรถจักรยานยนต์ รวมทั้งยังติดตั้งเซ็นเซอร์บริเวณขาตั้ง และที่เปิดเบาะด้วย อุปกรณ์ชุดนี้สามารถติดตั้งได้เอง แค่มีความรู้เรื่องระบบไฟหน่อยนิดหน่อย แต่ถ้าไม่มีก็เอาไปให้ช่างร้านมอเตอร์ไซค์ติดให้ก็ได้ เพราะเราไม่ได้ไปดัดแปลงระบบรถของเดิมที่มีอยู่ เพียงแค่ติดตั้งเพิ่มเท่านั้น ซึ่งเราจะบอกหมดเลยว่าสายสีนี้ๆ ต้องต่อเข้าตรงไหนบ้าง เวลาใช้งานก็ไม่ยาก เราจะมีสวิตช์ปิด-เปิดระบบให้ เวลาจอดรถก็เปิดให้ระบบทำงาน ถ้าสมมติว่ามีคนจะขโมย ระบบแตรก็จะดัง ไฟหน้าและไฟหลังก็จะกะพริบ และไม่สามารถสตาร์ตติดได้ สิ่งประดิษฐ์ ได้รางวัลชนะเลิศระดับภาคของคณะกรรมการอาชีวศึกษาชิ้นนี้ อยู่ที่การพัฒนาแผงวงจร ซึ่งใช้เวลาทำหลายเดือน เริ่มตั้งแต่เมื่อปี 2547 โดยต้นทุนการผลิตอยู่ประมาณ 500 บาท ไม่รวมค่าแรงติดตั้ง ขณะที่ของนำเข้าจากจีน มีราคาราว 1,000 บาท (กรุงเทพธุรกิจ พฤหัสบดีที่ 10 ก.พ. 48 http://www.bangkokbiznews.com)
แสงหลอดไฟ ทำฮอร์โมนป่วน ก่อมะเร็งง่าย
มหาวิทยาลัยคอนเนคติกัต วิจัยค้นหาสาเหตุการเกิดมะเร็งเต้านมในหญิงประเทศพัฒนาแล้ว ซึ่งปัจจุบันยังไม่มีข้อมูลทางวิทยาศาสตร์ที่ระบุชัดเจนว่าทำไมมะเร็งเต้านมจึงพบมากในกลุ่มประเทศที่พัฒนาแล้ว โดยการวิจัยมุ่งความสำคัญไปที่คำอธิบายใหม่ๆ นอกเหนือไปจากปัจจัยด้านสิ่งแวดล้อม การดำเนินชีวิต และโรคทางพันธุกรรม โดยเฉพาะอย่างยิ่งแสงสว่างจากหลอดไฟ นักวิจัยตั้งสมมติฐานว่า แสงสว่างจากหลอดไฟฟ้าที่ส่องแสงสว่างยามค่ำคืน อาจทำให้ระบบนาฬิกาชีวภาพในตัวมนุษย์หยุดทำงาน โดยนาฬิกาชีวภาพดังกล่าวเป็นระบบที่กำหนดพฤติกรรมของสิ่งมีชีวิตในแต่ละวัน เพื่อให้ร่างกายเกิดความสมดุล เช่น เวลาหลับและตื่น ขณะที่แสงสว่างจากหลอดไฟที่ทำให้คนตาสว่างทำงานกะกลางคืนได้นี้ ส่งผลกระทบต่อการทำงานของนาฬิกาในร่างกายมนุษย์ และอาจมีผลต่อระดับฮอร์โมนในร่างกาย อาทิ เมลาโทนิน และระบบกลไกของเซลล์ต่างๆ จนทำให้เกิดมะเร็งเต้านมได้ เช่น คนทำงานในกะกลางคืน เช่น พยาบาลมีแนวโน้มจะเป็นมะเร็งเต้านมได้มากกว่าคนทำงานกะกลางวัน ขณะที่หญิงตาบอดก็มีโอกาสเป็นมะเร็งเต้านมน้อยกว่าหญิงตาดี จากการศึกษาเมื่อไม่นานมานี้ ทีมงานจากวิทยาลัยการแพทย์ มหาวิทยาลัยเยล ยังพบว่า กลไกพันธุกรรมในตัวมนุษย์ อาจช่วยอธิบายวิธีการที่แสงสว่างที่มนุษย์สร้างขึ้นมาเองสามารถกระตุ้นให้เกิดมะเร็งเต้านมได้ โดยเฉพาะในหญิงก่อนวัยหมดประจำเดือนที่มีระบบการทำงานของนาฬิกาชีวภาพผันผวน จะมีแนวโน้มพัฒนาไปเป็นโรคมะเร็งได้สูงกว่า (กรุงเทพธุรกิจ พฤหัสบดีที่ 10 ก.พ. 48 http://www.bangkokbiznews.com)
อังกฤษไฟเขียวโคลนนิงมนุษย์ ใช้เทคนิคเดิมที่สร้างแกะดอลลี
ศ.เอียน วิลมุท หัวหน้าทีมวิจัยที่ให้กำเนิดแกะดอลลีขึ้นที่สถาบันโรสลินในสกอตแลนด์ เมื่อปี พ.ศ.2539 ได้รับอนุญาตจากองค์กรของอังกฤษเมื่อวันอังคารที่ผ่านมาให้ทำการโคลนนิงตัวอ่อนมนุษย์ เพื่อศึกษาเซลล์ประสาทที่ผิดปกติ ซึ่งเป็นตัวการก่อโรคกล้ามเนื้อเสื่อม โรคที่ยังไม่สามารถรักษาให้หายได้ ศ.วิลมุท และคริสโตเฟอร์ ชอว์ ผู้เชี่ยวชาญด้านเซลล์ประสาทสั่งการ จากสถาบันจิตเวชศาสตร์ ในลอนดอน วางแผนจะโคลนเซลล์จากผู้ป่วยที่เป็นโรคเพื่อผลิตสเต็มเซลล์ หรือเซลล์ต้นกำเนิดจากตัวอ่อนมาบังคับให้เป็นเซลล์ประสาท จากนั้นจึงศึกษาวิวัฒนาการของมันเปรียบเทียบกับเซลล์ที่ได้จากตัวอ่อนที่มีสุขภาพปกติ ดร.ไบรอัน ดิกกี ผู้อำนวยการด้านวิจัยของสมาคมโรคเซลล์ประสาทสั่งการในกรุงลอนดอน กล่าวว่า "การทดลองครั้งนี้จะปฏิวัติการรักษาโรคเซลล์ประสาทสั่งการในอนาคต ซึ่งโรคนี้สร้างความลำบากให้กับคน 350,000 ทั่วโลก และมีผู้เสียชีวิตด้วยโรคนี้ 100,000 ต่อปี" โดยงานวิจัยนี้จะเปิดโอกาสในการเรียนรู้ 3 ด้าน ได้แก่ ทำไมเซลล์ประสาทสั่งการถึงเสื่อมและหมดอายุขัย การระบุสาเหตุทางพันธุกรรมของโรค และการศึกษาหายาใหม่เพื่อใช้รักษาอย่างรวดเร็ว สำหรับผู้ที่ป่วยด้วยโรคเซลล์ประสาทสั่งการมา 10 ปีหรือมากกว่านั้น เช่น สตีเฟน ฮอว์กิง นักฟิสิกส์ชื่อดัง ประมาณร้อยละ 10 ส่วนมากจะเสียชีวิตจากอาการกำเริบภายใน 5 ปี ยาเพียงช่วยต่อชีวิตให้ยาวนานขึ้นได้ประมาณ 3-6 เดือนเท่านั้น สาเหตุของโรคประมาณร้อยละ 2 ส่วนมาจากจุดบกพร่องจากพันธุกรรมในยีนเดี่ยว อีกร้อยละ 8 มีสาเหตุมาจากอย่างอื่น จากความผิดปกติทางพันธุกรรมที่ยังไม่สามารถระบุได้ เซลล์ต้นตอเป็นเซลล์ต้นแบบของร่างกาย พบได้จากตัวอ่อนที่อายุเพียง 2-3 วัน และพัฒนาขึ้นเป็นเซลล์และเนื้อเยื่อชนิดอื่นๆ ในร่างกาย นักวิทยาศาสตร์หวังที่จะสามารถนำเซลล์ต้นตอจากตัวอ่อนนี้มาสร้างเซลล์ตามต้องการเพื่อรักษาโรคตั้งแต่โรคพาร์กินสันจนถึงโรคเบาหวาน และแนวความคิดของทีมวิจัยของวิลมุทรวมการโคลนนิงเข้ากับการวิจัยเซลล์ต้นตอ ซึ่งเทคนิคนี้จะทำให้พัฒนาเซลล์ตามต้องการเพื่อนำมาวิจัยได้ ช่วยให้นักวิทยาศาสตร์ได้เห็นจุดที่ถูกต้องที่ความผิดปกติเริ่มเกิด (กรุงเทพธุรกิจ พฤหัสบดีที่ 10 ก.พ. 48 http://www.bangkokbiznews.com)
เครื่องอบแห้งแบบใหม่ รักษาวิตามินครบทุกหยด
ดร.สักกมน เทพหัสดิน ณ อยุธยา อาจารย์ประจำภาควิชาวิศวกรรมอาหาร คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี (มจธ.) ได้พัฒนา "เครื่องอบแห้งด้วยไอน้ำร้อนยวดยิ่งที่ความดันต่ำ" ที่มีความสามารถพิเศษในการรักษาคุณค่าและรูปทรงของอาหารให้ดูคล้ายของสด เช่น ผักอบแห้ง แครอทอบแห้งในบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป ที่เมื่อเติมน้ำร้อนเข้าไป แครอทก็สามารถกลับคืนรูปเดิมได้ดี สำหรับ "ไอน้ำร้อนยวดยิ่งที่ความดันต่ำ" คือ ไอน้ำร้อนที่ถูกนำมาเพิ่มอุณหภูมิให้สูงขึ้น จนกลายเป็นไอน้ำร้อนยิ่งยวดที่มีอุณหภูมิสูงกว่าจุดเดือด 100 องศาเซลเซียส แต่ถ้าจะนำไอน้ำดังกล่าวมาใช้อบแห้งอาหารทันทีนั้น จะมีผลให้อาหารเสียรูปและสูญคุณค่าทางโภชนาการ จึงต้องนำมาผ่านกระบวนการลดความร้อนและความดัน สุดท้ายจะได้ไอน้ำร้อนยวดยิ่งที่ 40-50 องศาเซลเซียส ซึ่งเหมาะอย่างยิ่งสำหรับใช้ในการแปรรูปอาหาร "การอบกล้วยหากอบแบบใช้ลมร้อนธรรมดา สีขาวของเนื้อกล้วยจะเปลี่ยนเป็นสีดำ แต่ถ้าเป็นกล้วยที่อบด้วยไอน้ำร้อนยวดยิ่ง สีจะยังเหมือนสีกล้วยสด" อาจารย์ มจธ.กล่าวและว่า อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันต้นแบบเครื่องอบแห้งด้วยไอน้ำร้อนยวดยิ่ง ซึ่งได้รับทุนจากสำนักงานกองทุนสนับสนุนการวิจัย (สกว.) ยังมีขนาดเล็กเกินไป หรืออบได้ครั้งละ 1 กิโลกรัมเท่านั้น ทางนักวิจัยจึงมีโครงการร่วมกับนักธุรกิจเอกชน และ สกว.พัฒนาเพิ่มขนาดของเครื่องให้รองรับผลผลิตได้ถึง 50-100 กิโลกรัม สำหรับสนับสนุนอุตสาหกรรมแปรรูปผักผลไม้ระดับกลางขึ้นไป (คมชัดลึก พฤหัสบดีที่ 10 ก.พ. 48 http://www.komchadluek.net)
อยากหลับปุ๋ยต้องฟังเพลงแจ๊ส
ศ.ฮุย-หลิง ไหล หัวหน้านักวิจัยจากโรงพยาบาลสึ-ชิ และมหาวิทยาลัยไต้หวัน พบว่าแค่ฟังเพลงสบายๆ เพียง 45 นาทีก่อนเข้านอน แค่นี้ก็ทำให้คุณหลับอย่างเป็นสุขได้ตลอดทั้งคืนแล้ว ถือเป็นเทคนิคง่ายๆ ที่ทุกชาติทุกภาษาสามารถนำไปทดลองใช้แก้ปัญหานอนไม่หลับได้แบบไม่เสียค่าลิขสิทธิ์ รวมทั้งไม่มีผลข้างเคียงใดๆ เกิดขึ้นอีกด้วย สำหรับงานวิจัยชิ้นนี้ ทีมงานได้อาสาสมัครผู้สูงวัย 60 คนที่มีปัญหานอนไม่หลับมาเข้าร่วมทดสอบ โดยแยกเป็นกลุ่มที่ฟังเพลงก่อนนอน และไม่ฟังอะไรเลยทั้งสิ้น เพลงที่ให้ฟังนั้นจะเป็นประเภทเพลงช้า และฟังสบายๆ เช่น แจ๊ส หรือดนตรีบรรเลงของเครื่องดนตรีในวงออเคสตรา หลังการทดสอบพบว่า เพลงมีส่วนทำให้อาสาสมัครนอนหลับได้อย่างสบาย โดยที่อัตราการเต้นของหัวใจ และการหายใจช้าลง นอกจากนี้ ระยะเวลาในการนอนยังยาวนอนขึ้น ไม่สะดุ้งตื่นกลางดึก และไม่มีปัญหาในช่วงระหว่างวันทำงานใดๆ ด้วย โดยรวมแล้วเพลงช่วยปรับปรุงให้การนอนหลับในสัปดาห์แรกดีขึ้นถึง 26% และตัวเลขดังกล่าวยังขยับขึ้นเรื่อยๆ อย่างต่อเนื่อง ขณะที่อาการกระวนกระวายใจร้อนรุ่มก็เริ่มหายไปด้วย ด้วยเหตุนี้ ทีมวิจัยจึงเชิญชวนให้ผู้ที่มีปัญหานอนไม่หลับหันมาฟังเพลงเบาๆ ก่อนนอน เพราะนอกจากจะหลับสบายแล้ว ยังช่วยระงับจิตใจที่รุ่มร้อนให้สงบและผ่อนคลายได้อีกต่างหาก (คมชัดลึก พฤหัสบดีที่ 10 ก.พ. 48 http://www.komchadluek.net)
แม้ปากกับใจไม่ตรงกันแต่เกี่ยวกัน โรคฟันปล่อยเชื้อเข้าไปถึงหัวใจ
แปรงสีฟันอาจช่วยป้องกันไม่ให้เราต้องมีอาการหัวใจวาย หรือเป็นอัมพาตลงได้ นักวิทยาศาสตร์สหรัฐฯ แห่งมหาวิทยาลัยโคลัมเบีย พบในการตรวจหาปริมาณเชื้อแบคทีเรียในปากและดูสภาพเส้นเลือดใหญ่ที่ลำคอ ซึ่งส่งเลือดจากหัวใจไปเลี้ยงสมองของคน 657 คน พบว่าผู้ที่เป็นโรคเหงือก มักจะมีอาการเส้นเลือดแดงแข็งด้วย อันเป็นอาการเตือนล่วงหน้าของอาการหัวใจวายหรือเป็นอัมพาต ผู้ที่ถูกตรวจพบว่าผู้ที่มีปริมาณของแบคทีเรีย ที่ทำให้เป็นโรคเยื่อหุ้มฟันอักเสบ มักจะมีเส้นเลือดใหญ่ที่ลำคอหนาขึ้น และยังจับได้ด้วยว่า เชื้อแบคทีเรียที่ทำให้เป็นโรคเยื่อหุ้มฟันอักเสบซึ่งเป็นเชื้ออย่างเดียว ที่เป็นตัวการทำให้เกิดความเกี่ยวพันกันขึ้น โดยที่เชื้อแบคทีเรียในปากอย่างอื่นไม่ได้เกี่ยวด้วยเลย คณะนักวิจัยเห็นว่า สาเหตุของความเกี่ยวพัน เกิดจากเชื้อแบคทีเรียดังกล่าว ได้รุกล้ำจากปาก เข้าสู่ภายในของร่างกายโดยไปตามกระแสเลือด จึงไปกระตุ้นภูมิคุ้มโรคให้ตื่นตัวขึ้น เกิดการอักเสบ เป็นผลให้เส้นเลือดอุดตัน ดร.โมเซ่ เดวาเรียก หัวหน้าคณะกล่าวชี้ว่า "ผลของการศึกษาครั้งนี้นับเป็นหลักฐานโดยตรง ที่แสดงให้เห็นถึงว่าโรคเหงือกอาจจะทำให้เป็นอัมพาต หรือโรคหลอดเลือดหัวใจอื่นได้มากที่สุด" และได้เสริมว่าการรักษาสุขภาพของปาก และฟันจึงมีความสำคัญ โฆษกของมูลนิธิโรคหัวใจของอังกฤษกล่าวให้ความเห็นว่า"การอักเสบ อาจจะเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้เป็นโรคหลอดเลือดหัวใจอันหนึ่ง" แต่ก็ยังติงว่า "การด่วนสรุปว่าการอักเสบจากเชื้อโรคเยื่อหุ้มฟันเป็นตัวการเพียงอย่างเดียวยังง่ายเกินไป อาจจะมีการอักเสบโดยทั่วไปอย่างอื่นมีส่วนอยู่ด้วย เพราะการอักเสบมักจะมีส่วนเกี่ยวกับปัจจัยเสี่ยง ของโรคหลอดเลือดหัวใจอันอื่น เช่นการสูบบุหรี่ การกินอาหารผิดๆ และการมีรายได้ต่ำด้วย" (ไทยรัฐ ศุกร์ที่ 11 ก.พ. 48 http://www.thairath.co.th)
ตู้อบแห้งพลังงานแสงอาทิตย์ ผลงานอนุรักษ์พลังงานและสิ่งแวดล้อม
การอบแห้งเป็นการถนอมอาหาร อย่างหนึ่งโดยลดความชื้นภายในวัตถุดิบที่ใช้ทำอาหารเพื่อระงับการเจริญเติบโตของจุลินทรีย์ สามารถเก็บไว้ได้นานโดยไม่เสีย กองพัฒนาพลังงานทดแทน สำนักงานวิจัยและพัฒนาการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย จึงรณรงค์ให้ประชาชนหันมาใช้พลังงานทดแทนเพื่อการประหยัดพลังงานในการประกอบอาชีพ ตู้อบแห้งพลังงานแสงอาทิตย์ที่ศึกษาวิจัยขึ้นมานี้มีหลายรูปแบบและขนาดเพื่อให้เลือกตามความต้องการตลอดจนเพื่อความสะดวกในการเคลื่อนย้ายและตอบสนองต่อการใช้งาน รวมทั้งคุณลักษณะของวัตถุดิบ ไม่ว่าจะเป็นการตากแห้งโดยวิธีรับแสงพระอาทิตย์โดยตรง หรือการตากแห้งในที่ร่ม ลักษณะของตู้อบแห้งนี้ ด้าน ล่างของตู้อบทำจากแผ่นอะลูมิเนียมพื้นสีดำ ทำหน้าที่เป็นตัวรับพลังงานแสงอาทิตย์และมีฉนวนป้องกันการสูญเสียความร้อนมีกระจกป้องกันการสูญเสียความร้อน ป้องกันฝุ่นละอองและมีตะแกรงมุ้งลวดป้องกันแมลงต่าง ๆ ใช้งาน และดูแลรักษาง่าย มีประตูเปิดปิดและที่จับด้านข้างตะแกรง สำหรับวางวัตถุดิบที่จะใช้อบแห้งทำจากสเตนเลส ป้องกันการเกิดสนิม ตัวตู้และแผ่นกันน้ำฝนทำจากวัสดุอะลูมิเนียมชนิดพิเศษลายเพชรปลอดสนิม ตู้นี้จะอาศัยการไหลเวียนของอากาศความร้อน เพื่อระบายความชื้นด้วยวิธีธรรมชาติ โดยมีแผ่นดูดกลืนความร้อนเพื่อสะสมไว้ และถ่ายเทให้กับอากาศภายในตู้อบ ทำให้ภายในตู้อบมีอุณหภูมิสูงขึ้น อากาศร้อนในตู้อบจะเกิดการลอยตัวสูงขึ้น และไหลออกทางช่องลมด้านบน อากาศที่อยู่ภายนอกตู้จะเข้ามาแทนที่ทางช่องลมด้านล่างเป็นการไหลเวียนของอากาศแบบธรรมชาติ การอบแห้งหากเป็นเนื้อแดดเดียวจะใช้เวลาในการอบแห้งประมาณ 1-2 วัน โดยหั่นเนื้อออกเป็นแผ่น ๆ ความหนาที่ 1.0-1.5 เซนติเมตร ยาวประมาณ 10-15 เซนติเมตร นำไปวางบนตะแกรงตอนเช้า เมื่อถึงช่วงบ่ายก็สามารถนำเนื้อไปทอดเพื่อรับประทานได้ สนใจต้องการรายละเอียดเพิ่มเติมติดต่อสอบถามได้ที่ กองพัฒนาพลัง งานทดแทน สำนักงานวิจัยและพัฒนา การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย โทร.0-2436-1631.(เดลินิวส์ ศุกร์ที่ 11 ก.พ. 48 http://www.dailynews.co.th)
เซลล์พิเศษซ่อมหัวใจชำรุด พบในทารกแรกเกิดเท่านั้น
เคนเนธ เชียน หัวหน้าทีมวิจัยกล่าวว่า การค้นพบครั้งนี้ถือเป็นการค้นพบสเต็มเซลล์ใหม่ของเซลล์หัวใจมนุษย์ และเป็นหนึ่งในเซลล์ที่ถูกตั้งโปรแกรมให้พัฒนาไปเป็นกล้ามเนื้อหัวใจ แต่ยังอยู่ในระยะแรกเริ่มที่ยังไม่พัฒนาให้เป็นเซลล์กล้ามเนื้อหัวใจ เซลล์ดังกล่าวรู้จักกันในชื่อ isl1+ ค้นพบโดยทีมนักวิจัยจากมหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนียในรัฐซันติอาโก สหรัฐ เป็นเซลล์ที่พบในหัวใจของหนู และทารกแรกเกิด ทีมวิจัยของเชียนพบเซลล์ต้นกำเนิดดังกล่าวในบริเวณของหัวใจของคนที่หัวใจบกพร่องมาตั้งแต่กำเนิด แสดงให้เห็นว่าเซลล์ดังกล่าวมีบทบาทสำคัญในการปรับรูปแบบและซ่อมแซมหัวใจของทารกแรกเกิด การค้นพบเซลล์เหล่านี้ถือเป็นการค้นพบที่สำคัญ เนื่องจากเห็นได้ชัดว่าเซลล์พวกนี้ปกติมีหน้าที่ในการก่อตัวเป็นหัวใจในช่วงที่เป็นตัวอ่อน และเป็นเซลล์หายากที่ยังคงสภาพเป็นเซลล์สำรองอยู่หลังจากคลอดเป็นทารกเต็มตัวแล้ว แม้ว่าเซลล์ดังกล่าวจะยังไม่พัฒนาเป็นหัวใจใหม่อย่างเต็มรูปแบบ แต่เชียน อธิบายว่าเซลล์เหล่านี้สามารถเติบโตอยู่ใกล้กับเซลล์หัวใจ และสามารถนำมาใช้แทนอุปกรณ์หรือพวกลิ้นหัวใจเทียมเพื่อช่วยให้เด็กที่ระบบปั๊มหัวใจบกพร่องได้ นักวิจัยยังกล่าวด้วยว่า ในเชิงทฤษฎีแล้วเซลล์เหล่านี้สามารถใช้รักษาโรคหัวใจได้ ซึ่งถือเป็นแนวทางใหม่สำหรับความรู้ด้านหทัยวิทยา เซลล์ isl1+ พบในส่วนของหัวใจที่เรียกว่า เอเทรียม ของหนูแรกเกิด สามารถใช้เทคนิคเชิงพันธุศาสตร์เพื่อนำไปติดกับเนื้อเยื่อหัวใจของตัวอ่อนมนุษย์ และติดหัวใจหนูได้ จากการทดลอง เซลล์ isl1+ สามารถพัฒนาไปเป็นเนื้อเยื่อกล้ามเนื้อหัวใจได้ทันที นักวิจัยเชื่อว่ายังมีเซลล์ในลักษณะเดียวกันนี้ในหัวใจของผู้ใหญ่อีก การค้นพบดังกล่าวยังแสดงให้เห็นด้วยว่าหัวใจมีคุณสมบัติพิเศษในการซ่อมแซมตัวเอง จากเดิมที่เชื่อว่าหัวใจเมื่อได้รับความเสียหายจากอุบัติเหตุไม่มีทางที่จะซ่อมแซมตัวเองได้ แต่การค้นพบเซลล์ใหม่ซึ่งสามารถแบ่งตัวและเติบโตเป็นกล้ามเนื้อหัวใจได้ กลับแสดงให้เห็นว่าหัวใจมีกลไกในการซ่อมแซมตัวเองในที่สุด (กรุงเทพธุรกิจ ศุกร์ที่ 11 ก.พ. 48 http://www.bangkokbiznews.com)
นิสิตเกษตรฯ ทำชุดตรวจอาหารทะเล
น.ส.ปาริฉัตร สวงโท นิสิตระดับปริญญาโท คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ได้วิจัยและพัฒนากระดาษเคมี สำหรับตรวจหาการปนเปื้อนเชื้อจุลินทรีย์ในผลิตภัณฑ์อาหารทะเล เพื่อเพิ่มความมั่นใจให้ผู้บริโภคและประเทศคู่ค้าที่นำเข้าผลิตภัณฑ์อาหารต่างๆ โดยทั่วไปการนับจำนวนจุลินทรีย์ที่ปนเปื้อนในอาหารจะยุ่งยากซับซ้อน จึงต้องอาศัยผู้เชี่ยวชาญและใช้อุปกรณ์ในห้องปฏิบัติการ ทำให้ขาดความสะดวก รวดเร็ว ขณะที่ผลการตรวจสอบต้องรอถึง 48 ชั่วโมง จึงเห็นผลที่แน่ชัด นอกจากนี้ยังต้องนำไปทดสอบเพื่อยืนยันผลอีกครั้ง ทำให้เสียเวลาสำหรับการทดสอบทั้งหมดนาน 3-4 วัน ขณะที่ชุดทดสอบแบบสำเร็จรูป ที่จำหน่ายตามท้องตลาดนั้น เป็นสินค้านำเข้าที่ราคาแพง ด้วยเหตุดังกล่าวจึงพัฒนาชุดทดสอบผลิตภัณฑ์อาหารทะเลขึ้นเอง โดยเน้นความแม่นยำ สะดวก รวดเร็ว และราคาถูก เมื่อทดสอบการตรวจนับเชื้อจุลินทรีย์จากผลิตภัณฑ์อาหารทะเล 30 ตัวอย่าง โดยนำมาจากตลาดนัดภายในบริเวณ ม.เกษตรศาสตร์ และบริเวณใกล้เคียง ปรากฏว่า ตรวจพบเชื้อจุลินทรีย์จำนวน 16 ตัวอย่าง หรือประมาณร้อยละ 53 โดยผลการตรวจสอบนี้อยู่ในระดับใกล้เคียงกับชุดตรวจนำเข้า และวิธีการตรวจมาตรฐานในห้องแล็บ แต่ชุดทดสอบสำเร็จของนิสิต ม.เกษตรศาสตร์ สามารถระบุผลเบื้องต้นภายใน 18-24 ชั่วโมง และเมื่อนำตัวอย่างอาหารไปทดสอบยืนยันผลว่าเป็นเชื้อจุลินทรีย์จริง จะใช้เวลารวมทั้งสิ้น 28-30 ชั่วโมงเท่านั้น แถมผลิตได้ราคาถูกกว่า หรือไม่เกิน 10 บาท ขณะที่ชุดทดสอบนำเข้าราคาแผ่นละ 90 บาท ผลงานชิ้นนี้ยังต้องพัฒนาต่อยอด (คมชัดลึก ศุกร์ที่ 11 ก.พ. 48 http://www.komchadluek.net)
ข่าวทั่วไป
โอทอปติดดาว หมอนสุขภาพ กรุงเทพฯ
ปัญหาการนอนไม่หลับเพราะความเครียดเป็นปัญหาที่คนปัจจุบันเคยประสบพบเจอกันมาแทบทุกคน ดังนั้นการใช้เครื่องนอนที่ช่วยผ่อนคลายอาจเป็นวิธีหนึ่งที่ช่วยแก้ปัญหาได้ ทางกลุ่มผู้ผลิตเพอร์เฟคชั่น เฮิร์บ จึงคิดประดิษฐ์หมอนเพื่อสุขภาพ ที่มีแนวคิดในการใช้วัสดุจากธรรมชาติ คือ เปลือกถั่วงอก มาบรรจุไว้ภายในแทนใยสังเคราะห์ ซึ่งหมอนเปลือกถั่วงอกนี้จะมีลักษณะคล้ายถุงทรายสามารถเปลี่ยนแปลงได้ตามสรีระของร่างกายทำให้ไม่ปวดคอ และยังไม่ร้อนเพราะอากาศถ่ายเทได้ดี จึงทำให้นอนหลับสบายและช่วยให้นอนหลับได้ดีขึ้น สนใจผลิตภัณฑ์ติดต่อ เพอร์เฟคชั่น เฮิร์บ 341/244 สุขุมวิท 101/1 บางจาก พระโขนง กรุงเทพฯ โทร.0-2361-7037,0-9775-5696 (สยามรัฐ จันทร์ที่ 7 ก.พ. 48 http://www.siamrath.co.th)
ม.มหิดล เปิดตัว 5 มหิดลทยากร 47
ศาสตราจารย์เกียรติคุณ พญ.ภัทรพร อิศรางกูร ณ อยุธยา ศิษย์เก่าแพทยศาสตรบัณฑิต ม.มหิดล อดีตรองคณบดีคณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี เป็นผู้สร้างงานวิจัยสำคัญที่ใช้ในประเทศและต่างประเทศ อาทิ โรคเลือดออกง่ายในทารก ศาสตราจารย์ นพ.ชูศักดิ์ เวชแพศย์ อดีตนักศึกษาแพทยศาสตรบัณฑิต ม.มหิดล การศึกษาสูงสุดปริญญาเอกสาขาสรีรวิทยา จากมหาวิทยาลัยเอดินเบอร์ก มีความเชี่ยวชาญพิเศษ ด้านการประดิษฐ์เครื่องมืออิเล็กทรอนิกส์ทางการแพทย์ ศาสตราจารย์เกียรติคุณ ดร.ยงยุทธ มีงานวิจัยเด่นชีวเคมี ของมาลาเรียและการพัฒนายาต้านมาลาเรีย ขณะที่ รองศาสตราจารย์ ดร.ทัศนา บุญทอง เป็นผู้ริเริ่มโครงการร่วมผลิตบัณฑิตระดับปริญญาเอกสาขาพยาบาลศาสตร์ ที่มหาวิทยาลัยมหิดลเป็นแห่งแรกในประเทศไทย ได้จัดตั้งพิพิธภัณฑ์ประวัติการพยาบาลไทย ขึ้นเป็นครั้ง สำหรับ มหิดลทยากร ท่านสุดท้าย ศาสตราจารย์คลินิกเกียรติคุณ นพ.เหลือพร ปุณณกันต์ สำเร็จการศึกษาแพทยศาสตรบัณฑิต จากมหาวิทยาลัยมหิดล เป็นกำลังสำคัญในการปรับปรุงเปลี่ยนแปลงคณะแพทยศาสตร์ ศิริราชพยาบาล ให้เกิดการพัฒนาเจริญก้าวหน้าขึ้นตามลำดับ ทั้งนี้ สมาคมศิษย์เก่ามหาวิทยาลัยมหิดล จะจัดพิธีมอบรางวัล มหิดลทยากร แก่ศิษย์เก่า 5 ท่าน ในงานวันคล้ายวันพระราชนาม มหาวิทยาลัยมหิดล 2 มีนาคม 2548 ณ สำนักงานอธิการบดี มหาวิทยาลัยมหิดล ศาลายา (สยามรัฐ จันทร์ที่ 7 ก.พ. 48 http://www.siamrath.co.th)
อาจารย์ล้านนาคว้าชนะเลิศออกแบบเครื่องประดับ
ข่าวจากมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลแจ้งว่า นายสุพจน์ ใหม่กันทะ อาจารย์ ประจำสาขาวิชาเทคโนโลยีเครื่องประดับและอัญมณี มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล ล้านนา คว้ารางวัลชนะเลิศการประกวดการออกแบบเครื่องประดับเงินสู่สากล ประเภทสตรีนิยม ของกรมส่งเสริมอุตสาหกรรมภาค 1 ที่ จ.เชียงใหม่ เมื่อเร็วๆ นี้ ในชื่อชุด "สระโบกขรณี" ด้วยการนำเอาความงามของสระโบกขรณี ในวรรณคดีไทยซึ่งก็คือสระบัว มาเป็นแรงบันดาลใจในการออกแบบ ชุดเครื่องประดับโบกขรณี ประกอบด้วย แหวน กำไล และสร้อยคอ โดยวางคอนเซ็ปต์ไว้ว่า เครื่องประดับชิ้นนั้นต้องสามารถใส่ได้ทุกวัน และใช้ได้ตลอด และสามารถปรับเปลี่ยนได้ต่างโอกาสหรืองานที่ต้องใช้ โดยจุดศูนย์กลางของแต่ละชิ้นจะเป็นดอกบัวเพื่อแสดงให้เห็นถึงการถวายดอกบัวแด่พระราชินี รายรอบดอกบัวจะเป็นใบบัว ฝูงปลาที่ถังทอเส้นเงิน และสอดแซมด้วยทับทิม ในส่วนของเงินนั้นได้ใช้เทคนิคการรมดำซึ่งเป็นเทคนิคพื้นบ้านเพื่อบ่งบอกถึงความเป็นเชียงใหม่ เครื่องประดับทั้ง 3 ชิ้นนี้สามารถปรับเปลี่ยนได้ให้เหมาะสมกับงานที่จะใช้ ไม่ว่าจะเป็นงานที่ต้องการความหรูหรา หรือว่าต้องการใส่ในชีวิตประจำวันธรรมดา ก็เพียงแค่ถอดส่วนประกอบเพียงบางส่วนออก เท่านี้ก็จะได้เครื่องประดับที่ดูเรียบเก๋ สามารถใส่ในชีวิตประจำวันได้เลยไม่ต้องสิ้นเปลืองหาซื้อหลายๆ ชิ้น (มติชนรายวัน พุธที่ 9 ก.พ. 48 http://www.matichon.co.th)
จุฬาฯคว้าแชมป์หุ่นยนต์เตะบอล 2548
รศ.ดร.มนูกิจ พานิชรัตน์ นายกสมาคมวิชาการหุ่นยนต์ไทย เปิดเผยถึงการจัดแข่งขันหุ่นยนต์แตะฟุตบอลชิงแชมป์ประเทศไทย ปี 2548 ที่จัดขึ้นระหว่างวันที่ 4-5 ก.พ.ที่ผ่านมา ว่าเป็นการจัดที่ติดต่อกันมาเป็นปีที่ 3 แล้ว ด้วยความร่วมมือระหว่าง สมาคมวิชาการหุ่นยนต์ไทย บริษัท ซีเกท เทคโนโลยี ประเทศไทย และมหาวิทยาลัยมหิดล ทั้งนี้ ผลการแข่งขันในปีนี้ ปรากฏว่า ทีมพลาสมาซี จากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย สามารถยิงประตูนำ ทีม ITE Gold จากสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง และทำให้พลาสมาซีกลายเป็นแชมป์ประเทศไทยเป็นปีที่ 3 ด้วยคะแนน 7 ประตู ต่อ 0 ส่งผลให้ทีมจากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้เป็นตัวแทนประเทศไทย เดินทางไปแข่งขัน โรโบคัพ ชิงแชมป์โลกที่เมืองโอซากา ประเทศญี่ปุ่น ระหว่างวันที่ 13-17 ก.ค.นี้ สำหรับทีมพลาสมาซี ก่อนที่จะเดินทางไปแข่งขันโรโบคัพ ที่โอซากา เคยเป็นตัวแทนประเทศไทยไปแข่งขัน โรโบคัพ ที่ประเทศอิตาลี และโปรตุเกส 2 ปีติดต่อกัน โดยบริษัท ซีเกท เทคโนโลยี (ข่าวสด พุธที่ 9 ก.พ. 48 http://www.matichon.co.th/khaosod)
โชว์ทัพสิ่งประดิษฐ์ จูงใจธุรกิจเอกชน ต่อยอดทำเงินได้จริง
นายวีระศักดิ์ วงษ์สมบัติ เลขาธิการคณะกรรมการอาชีวศึกษา เปิดเผยว่า สำนักงานคณะกรรมการอาชีวศึกษา (ส.อ.ศ.) ร่วมกับธุรกิจเอกชนคือ บริษัท ล็อกซเล่ย์ จำกัด (มหาชน) กำหนดจัดการประกวดสิ่งประดิษฐ์และการแข่งขันหุ่นยนต์ระดับอาชีวะ โดยแนวคิดหลักของปีนี้ เน้นสิ่งประดิษฐ์ที่สามารถพัฒนาต่อยอดได้ในระดับพาณิชย์ หรือสามารถนำไปพัฒนาต่อเป็นผลิตภัณฑ์ ที่วางจำหน่ายได้จริง สำหรับเวทีระดับภูมิภาคที่ผ่านมา มีสิ่งประดิษฐ์เข้าร่วมประกวดถึง 1,312 ชิ้นงาน และผ่านการคัดเลือกเหลือ 120 ชิ้นงาน ซึ่งจะเข้าสู่การแข่งขันรอบชิงชนะเลิศ มีทั้งประเภทสิ่งประดิษฐ์เพื่ออำนวยความสะดวกภายในบ้าน หรือนำไปใช้ในการประกอบอาชีพ พัฒนาคุณภาพชีวิต สิ่งประดิษฐ์ที่มาจากการวิจัยและพัฒนา รวมถึงสิ่งประดิษฐ์ที่คิดค้นขึ้น เพื่อต่อยอดสินค้าหนึ่งตำบลหนึ่งผลิตภัณฑ์ด้วย นอกจากการประกวดสิ่งประดิษฐ์ที่น่าสนใจแล้ว สำนักงานยังได้จัดการแข่งขันหุ่นยนต์ ทั้งระดับมัธยมศึกษาและอาชีวศึกษา โดยจะคัดเลือกทีมชนะเลิศระดับอาชีวะเป็นตัวแทนเยาวชนไทยไปแข่งขันหุ่นยนต์ยุวชนนานาชาติที่ประเทศจีนต่อไป ทั้งนี้ การประกวดสิ่งประดิษฐ์และหุ่นยนต์อาชีวศึกษาครั้งนี้ จัดขึ้นระหว่างวันที่ 17-20 กุมภาพันธ์นี้ ณ เดอะมอลล์ บางกะปิ (กรุงเทพธุรกิจ พุธที่ 9 ก.พ. 48 http://www.bangkokbiznews.com)
USS ABRAHAM LINCOLN จากนักรบ...มาสวมหมวกนักบุญ
เรือยูเอสเอส อับราฮัม ลินคอล์น มีภารกิจลาดตระเวนในแถบทะเลแปซิฟิก และดูแลด้านความมั่นคงในแถบภูมิภาค นี้ ในวันเกิดเหตุ 26 ธ.ค. เรืออับราฮัม ลินคอล์น ลอยลำอยู่แถบน่านน้ำบริเวณเกาะฮ่องกง จึงถูกสั่งให้มาปฏิบัติภารกิจช่วยเหลือทันที โดยใช้เวลา 4 วัน เดินทางมาถึงน่านน้ำบริเวณเกาะสุมาตราในวันที่ 31 ธ.ค. และเริ่มปฏิบัติงานในวันที่ 1 ม.ค. ภารกิจด้านมนุษยธรรม ฐานปฏิบัติการลอย น้ำ ที่มีขีดความสามารถครบครัน เครื่องบินลงจอดได้กว่า 72 ลำ มีฝูงบินรบ มีเฮลิคอปเตอร์ เครื่องบินลาดตระเวน พร้อมกำลังพลกว่า 5,500 คน จึงเป็นเรื่องไม่ยากเย็นในการช่วยบรรเทาทุกข์ผู้ประสบภัยสึนามิ โดยหน้าที่หลักคือการลำเลียงสิ่งของ เครื่องอุปโภค-บริโภคจากประเทศต่าง ๆ ที่ร่วมกันบริจาค โดยลำเลียงจากสนามบินอู่ตะเภา อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี ส่วนใหญ่เป็นอาหาร เสื้อผ้า ยารักษาโรค ส่วนน้ำดื่มเรืออับราฮัม ลินคอล์น มีเครื่องผลิตน้ำจากน้ำทะเลโดยผ่านกระบวนการ 7 ขั้นตอนซึ่งสามารถใช้ดื่มได้ และยังสามารถผลิตได้เพิ่มเติมเพื่อนำไปช่วยผู้ประสบภัยอีกประมาณวันละ 9,000 แกลลอน เรือบรรทุกเครื่องบินลำนี้ใช้พลังงานนิวเคลียร์เป็นตัวขับเคลื่อน มีภารกิจหลักคือการลาดตระเวนในฝั่งทะเลแปซิฟิก มีเครื่องบินรบเอฟหลายฝูงประจำการ เฮลิคอปเตอร์ ซีฮอว์ค เครื่องบินลาดตระเวน เครื่องบินสอดแนม รวมแล้วไม่ต่ำกว่า 30 ลำ ภายในมีเครื่องมืออุปกรณ์เทคโนโลยีไฮเทคครบ โดยลูกเรือทั้งหมดจะทำหน้าที่แบ่งเวรกันปฏิบัติการ 24 ชั่วโมง มีห้องต่าง ๆ ไม่ต่ำกว่า 3,000 ห้อง ห้องโถงใหญ่ซึ่งอยู่ชั้นล่างของลานจอดเครื่องบินใช้เป็นที่ซ่อมบำรุงและเก็บอุปกรณ์เครื่องบิน มีระบบไฮโดรริก 4 ตัวเลื่อนขึ้นลงบริเวณด้านข้างของเรือสามารถลำเลียงเครื่องได้ 2 ลำในเวลาเดียวกัน แม้จะเป็นเรือขนาดใหญ่แต่พื้นที่ภายในก็ถูกใช้อย่างคุ้มค่า ที่สำคัญเรือลำนี้ไม่ใช่เรือท่องเที่ยวหรือเรือสำราญ แต่เป็นการมาปฏิบัติหน้าที่ทางทหาร ฉะนั้นจึงปลอดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ 100% (เดลินิวส์ พฤหัสบดีที่ 10 ก.พ. 48 http://www.dailynews.co.th)
นักวิเคราะห์แนะวิธีแจ้งเกิดบ้านอัจฉริยะ
ผลการสำรวจ "อเมริกัน ดิจิทัล ดรีม" ซึ่งสอบถามผู้ที่ต้องการซื้อบ้านใหม่ราว 400 คน ระบุว่า ผู้ตอบแบบสอบถามราวครึ่งหนึ่ง มีแผนที่จะติดตั้งเทคโนโลยีภายในบ้านอย่างน้อยตัวหนึ่ง ไว้ในบ้านที่ซื้อตั้งแต่ครั้งแรก โดยเทคโนโลยีที่ได้รับความนิยมมากที่สุด ได้แก่ระบบความปลอดภัย, สายเคเบิล หรือโทรทัศน์สัญญาณดาวเทียม และระบบภาพยนตร์ภายในบ้าน ขณะที่ราว 69% มีแผนที่จะซื้อ และให้บุคคลอื่น ซึ่งไม่ใช่ผู้รับเหมาก่อสร้าง ติดตั้งเทคโนโลยีเหล่านี้ในภายหลัง โดยส่วนใหญ่ จะให้ความสนใจกับเครือข่ายไร้สายภายในบ้าน ผลการสำรวจดังกล่าว สวนทางกับผลการสำรวจอื่นๆ ในช่วงที่ผ่านมา ซึ่งระบุว่า ผู้บริโภคให้ความสนใจในเครือข่ายภายในบ้านน้อยมาก อาทิ ผลสำรวจของ แฮร์ริส อินเทอร์แอคทีฟ ซึ่งเปิดเผยในช่วงเดือนที่แล้วว่า ชาวสหรัฐราว 75% ไม่มีเครือข่ายภายในบ้าน และไม่มีแผนที่จะติดตั้งเทคโนโลยีเหล่านี้ ในอนาคตอันใกล้ รวมทั้งรายงานของ พาร์ค แอสโซซิเอทส์ ซึ่งพบว่า เครือข่ายภายในบ้านโดยทั่วไป ไม่สามารถทำงานที่ซับซ้อนไปกว่าการเชื่อมต่อเครื่องพิมพ์ได้ นายวูดส์กล่าวว่า เทคโนโลยีเครือข่ายภายในบ้าน ที่ได้รับความสนใจในระยะแรก ได้แก่ ระบบความปลอดภัย ขณะที่เทคโนโลยีบันเทิง เริ่มกลายเป็นแรงจูงใจที่สำคัญในระยะหลัง เมื่อสื่อต่างๆ พัฒนามาอยู่ในรูปของไฟล์ดิจิทัลมากขึ้น (กรุงเทพธุรกิจ พฤหัสบดีที่ 10 ก.พ. 48 http://www.bangkokbiznews.com)
เปิดเวทีสิ่งประดิษฐ์รุ่นใหม่ ประลอง กึ๋น เด็กอาชีวะ
นายวีระศักดิ์ วงษ์สมบัติ เลขาธิการคณะกรรมการการอาชีวศึกษา(กอศ.) พร้อมด้วยตัวแทนบริษัท ล็อกซเล่ย์ เทรดดิ้ง จำกัด บริษัทเดอะมอลล์กรุ๊ป จำกัด และบริษัทโปรเกรส อินฟอร์เมชั่น จำกัด ร่วมกันแถลงข่าวการจัดงานประกวดสิ่งประดิษฐ์ของคนรุ่นใหม่ระดับชาติ ครั้งที่ 16 ระหว่างวันที่ 17-20 ก.พ.2548 ณ เอ็ม ซีซี ฮอลล์ เดอะมอลล์ บางกะปิ กรุงเทพฯ โดยนายวีระศักดิ์ กล่าวว่า การประกวดสิ่งประดิษฐ์ของคนรุ่นใหม่ เป็นเวทีสร้างเยาวชนรุ่นใหม่เพื่อผลักดันให้นักศึกษาอาชีวศึกษา เป็นนักคิดนักค้นคว้าสิ่งประดิษฐ์ที่เป็นประโยชน์ต่อสังคมและเศรษฐกิจของประเทศ สำหรับในปีนี้มีนักศึกษาส่งผลงายประกวดมากถึง 1,323 ชิ้นงาน และคัดเลือกเหลือ 120 ชิ้นงาน ซึ่งจะมีเพียง 21 ชิ้นงานที่ได้รับรางวัล และจดสิทธิบัตรต่อไปและนับว่าเป็นความก้าวหน้าที่นักศึกษาได้คิดค้นเป็นสิ่งประดิษฐ์ขึ้นมา ทั้งนี้ในวันที่ 19 ก.พ. นักศึกษาเจ้าของสิ่งประดิษฐ์ยอดเยี่ยมแต่ละประเภท จะเข้าเฝ้ารับประทานรางวัลจากพระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี พระวรราชาทินัดดามาตุ (สยามรัฐ พฤหัสบดีที่ 10 ก.พ. 48 http://www.siamrath.co.th)
ฟ้าหญิงตั้งศูนย์วิจัยบําบัดโรคมะเร็ง นําเทคโนโลยีสมัยใหม่ยืดอายุผู้ป่วย
สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี องค์ประธาน สถาบันวิจัยจุฬาภรณ์ ทรงจัดตั้ง "ศูนย์วิจัย ศึกษา และบำบัดโรคมะเร็ง" ให้เป็นศูนย์วิจัยโรคมะเร็ง ที่มีความ เป็นเลิศทางวิชาการ ทัดเทียมกับประเทศที่พัฒนาแล้ว อีกทั้งจะช่วยผู้ป่วยมะเร็ง ให้มีชีวิตยืนยาว และมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น ทรงจัดตั้งขึ้น เพื่อถวายเป็นราชสักการะแด่สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ในวโรกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษาครบ 72 พรรษา โดยตั้งอยู่ภายในสถาบันวิจัยจุฬาภรณ์ ประกอบด้วยอาคาร 3 หลัง คือ อาคารโรงพยาบาลสูง 12 ชั้น ขนาด 100 เตียง อาคารจอดรถ 220 คัน และหอพักแพทย์พยาบาล กับอาคารศูนย์ไซโคลตรอนและเพทสแกนแห่งชาติ (National Pet and Cyclotron Center) ซึ่งเป็นหน่วยงานหนึ่งของศูนย์วิจัยฯ ที่นำเอาเทคโนโลยีสมัยใหม่ ทางเวชศาสตร์นิวเคลียร์เข้ามาช่วย ในการให้บริการ ตรวจวินิจฉัยโรค ด้วยการนำสารกัมมันตภาพรังสีหรือเภสัชรังสีมาใช้ร่วม และนำไปสู่มาตรฐานการวินิจฉัยโรคในผู้ป่วยได้อย่างแม่นยำ ศูนย์วิจัยฯดังกล่าวกำลังดำเนินการก่อสร้าง เพื่อให้แล้วเสร็จพร้อมเปิดดำเนินการกลางปี 2550 และด้วยเหตุที่เป็นเทคโนโลยีสมัยใหม่ จึงมีความต้องการบุคลากรที่มีความรู้ ความชำนาญจำเพาะ ซึ่งในประเทศเรายังขาดแคลน รวมทั้งต้องใช้งบประมาณสูง ศูนย์วิจัยฯจึงได้ร่วมกับคณะแพทยศาสตร์ รพ.รามาธิบดี, คณะแพทยศาสตร์รพ.จุฬาฯ, คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล และสถาบันมะเร็งแห่ง ชาติ เพื่อเป็นการใช้ ทรัพยากรบุคคลและงบประมาณให้เกิดประโยชน์สูงสุด รวมทั้งพัฒนาทางการแพทย์เพื่อสุขภาพอนามัยประชาชน และค้นหาองค์ ความรู้ใหม่ๆทางด้านวิทยาศาสตร์ สุขภาพ (ไทยรัฐ ศุกร์ที่ 11 ก.พ. 48 http://www.thairath.co.th)
แก้วขวัญ-ครูน้อย คว้ารางวัลนักสังคมสงเคราะห์ดีเด่น
มูลนิธิศาสตราจารย์ปกรณ์ อังศุสิงห์ ทำการคัดเลือกนักสังคมสงเคราะห์ดีเด่นประจำปี 2547 ขึ้น เพื่อให้พวกเขามีกำลังใจต่อไป ผลการเลือกปีนี้ปรากฏว่า นายขวัญแก้ว วัชโรทัย รองเลขาธิการพระราชวัง ฝ่ายกิจกรรมพิเศษ ประธานกรรมการบริหารมูลนิธิราชประชานุเคราะห์ ในพระบรมราชูปถัมภ์ ได้รับรางวัลนักสังคมสงเคราะห์ดีเด่น ประเภทผู้ปฏิบัติงานสังคมสงเคราะห์ ได้ช่วยเหลือประชาชนที่ทุกยากเดือดร้อนจากสาธารณภัย มีส่วนทำให้นักเรียนในโรงเรียนต่างจังหวัดได้รับการเรียนการสอนจากมูลนิธิการศึกษาทางไกลผ่านดาวเทียม ขจัดความเหลื่อมล้ำในเรื่องการศึกษา นายขวัญแก้วได้ปฏิบัติรับใช้เบื้องพระยุคลบาท โดยอุทิศกายใจ สร้างคนทั้งผู้ที่มีการศึกษาและที่มีฐานะขาดแคลน ด้อยการศึกษาให้มีชีวิตที่ดีงาม
ขณะที่ ครูนวลน้อย ทิมกุล อายุ 62 ปี หัวหน้าสถานเลี้ยงเด็กที่ประสบปัญหาสังคม "บ้านครูน้อย" สามารถคว้ารางวัลนักสังคมสงเคราะห์ดีเด่น ประเภทนักสังคมสงเคราะห์อาสาสมัคร เพราะครูน้อยเป็นบุคคลที่ต่อสู้ชีวิตด้วยตนเอง แต่ยังมีความเอื้ออาทรต่อผู้ที่ด้อยโอกาส นอกจากนี้ยังมีนางอายีห์ หะยีนิอาลี นางยินดี ห้วยหงษ์ทอง ดร.อาภาศิริ สุวรรณานนท์ นางสาวงอนงาม ภาคพิเศษ รองศาสตราจารย์ปราณีต สวัสดิรักษา พลตรีแพทย์หญิงเฟื่องฟ้า คุณาดร มล.สมศักดิ์ กำภู นางอารีย์ วีระกุล นายแสวง เอี่ยมองค์ อีกด้วย (มติชนรายวัน ศุกร์ที่ 11 ก.พ. 48 http://www.matichon.co.th)
KMUTT
Digital Library
Contact Digital Library : info@lib.kmutt.ac.th
Tel : 0-2470-8215
|
|
|