หัวข้อข่าวปีที่ 6 ฉบับที่ 8 ประจำวันที่ 2005-03-06

ข่าวการศึกษา

มศว จับมือ ม.สหรัฐ-แคนาดาสอนท่องเที่ยวแบบยั่งยืน
มรภ.เลยระงับแล้ว หลักสูตรแพทย์ไทย
ประชุมนานาชาติ "ห้องสมุดดิจิทัล" 12-15 ธันวาคม
ปรับ ร.ร.สู่ยุคฐานความรู้
สสอท.วอนรัฐหนุน ม.เอกชน แลกตรวจมาตรฐานเข้ม-ต่ำเกณฑ์ยินดีปิด
รุกมหาวิทยาลัยแจ้งเบาะแสวุฒิเก๊
หวั่น10 ปี ม.ไทยไร้อันดับ แนะเปลี่ยนวิธีการสอน สร้างงานวิจัยสู่เวทีโลก
วางใยแก้วศึกษาทางไกล
สารคามจับมือญวนชูเป็นเลิศวิชาการ
"ลำปาง"โกอินเตอร์จับมือมหาวิทยาลัยจีน
นักวิชาการหนุนแยก 3 กระทรวงศึกษาฯ
คณิตศาสตร์การเงิน มกค.ที่แรกของไทย
หนุน อปท.ร่วมจัดการศึกษา
"สุวิทย์ คุณกิตติ"ผลักดัน"ราชภัฏเลย"ขึ้นชั้นเป็นตลาดวิชา
จันทรเกษมได้ทุน-ลุยทำ3งานวิจัย
เตรียมทหาร"เปิดติว"ครั้งแรก เสียงวิจารณ์จากสถาบันกวดวิชาเอกชน
มจธ.รวมพลคนวิทย์ จัดแข่งขันอะตอมเกม
ม.ศรีปทุมคว้ารางวัลระดับโลก สร้างชื่อให้ต่างชาติได้ประจักษ์กับความสามารถเด็กไทยอีกครั้ง

ข่าววิทยาศาสตร์/เทคโนโลยี

ไทยจับมือนาซา สร้างฐานข้อมูล ตรวจอากาศโลก
มั่นใจมีสิ่งมีชีวิตบนดาวอังคาร ส่งยานสำรวจไปเก็บตัวอย่าง
สหรัฐผนึกฮ่องกงจัดทัวร์อวกาศ เล็งส่งนักท่องเที่ยวโคจรรอบโลก
เชื้อไวรัสใหม่ไม่ร้ายเท่าเอดส์
พบทะเลน้ำแข็งบนดาวอังคาร ระบุอาจมีสิ่งมีชีวิตแช่แข็งอยู่
คลื่นวิทยาการ : ความรู้สึก...โทรฯสั่งได้
ญี่ปุ่นลั่นขอแก้มือ ส่งมนุษย์อวกาศ เหยียบดวงจันทร์
เครื่องตรวจคลื่นสมองค้นหาโรค เทคโนฯอวกาศช่วยงานแพทย์
ทักษิณสั่งพัฒนา"กัญชง"ผลิตเสื้อผ้าส่งออก
สาธารณสุขร่างก.ม. โคลนนิง "มนุษย์" เน้นปกป้องศักดิ์ศรี
GMail ขีดสุดความล้ำหน้าด้านธุรกิจสารสนเทศ
เตือนอีก 5 ปี มนุษย์จะเปิดช่อง ให้กับบรรดาเชื้อโรคดื้อยา
แผนระเบิดดวงจันทร์

ข่าววิจัย/พัฒนา

เร่งวิจัยเศษวัสดุทดแทนไม้
เทคโนประดิษฐ์ -เครื่องกำจัดลูกน้ำ ป.6 ประดิษฐ์จากขวดเก่า
โทรศัพท์มือถือรุ่นใหม่มีเทคโนโลยี สร้างความรู้สึกสัมผัสถูกตัวกันได้
เจลแอลกอฮอล์เหลว นวัตกรรมใหม่จากราชมงคล
โฉมใหม่สตาร์ตจักรยานยนต์ สแกนลายนิ้วมือแทนกุญแจ
เฟ้นไทยเจ้าภาพประชุมจริยธรรมนักวิทย์ ยกร่างปฏิญญากรุงเทพคุมผลประโยชน์วิจัยข้ามชาติ
ซอฟต์แวร์อัจฉริยะ แปล 4 ภาษาได้พริบตา
ไอบีเอ็มพัฒนารีโมทล้ำสมัย สั่งงานด้วยเสียง
‘นวัตกรรม ประหยัดพลังงาน’
เครื่องพาสเจอร์ไรซ์แบบขดประหยัดพลังงานนวัตกรรมใหม่มทร.ข่อนแกน
แก้ปัญหาน้ำนมดิบล้นตลาด อ.ส.ค.ผลิตโยเกิร์ตกับนมเปรี้ยว
ญี่ปุ่นพัฒนาแผ่นชิพตรวจสารพัด เลือดหยดเดียวรู้ผลใน 30 นาที
อุปกรณ์ช่วยฝึกอักษรเบรลล์ แบ่งเบาภารกิจร.ร.สอนตาบอด
ไม้บรรทัดนาโนเมตร วัดขนาดวัตถุจิ๋วแม่นยำ
ไทยผนึกเยอรมันวิจัยรับมือภัยพิบัติใต้ทะเล
พบวิธีเบ่งอกให้อึ๋มได้ปลอดภัย ใช้เซลล์ต้นกำเนิดเม็ดโลหิต
ปั้นลูกในท้องให้หัวแหลมได้ แม่กินปลามากเท่าไหร่ยิ่งดี
มงฟอร์ตวิจัยหนอนศัตรูพืชทำผ้าไหม
วิศวกรวิจัย'อบแห้งไอน้ำ' ถนอมสารชีวภาพ
เทคโนประดิษฐ์ -ปุ่มกดมหัศจรรย์ ช่วยทบทวนอักษรเบรลล์
ฟีฟ่าไฟเขียวลองใช้บอลติดชิพ
มจธ.ชวนใช้เบนซินค่าออกเทนตรงกับรถยนต์ดีที่สุด เผยวิจัยพบใช้ออกเทนสูงไม่มีผลต่อกำลังเครื่องยนต์
สหรัฐใช้ไทยลองวัคซีนหวัดนก กรมวิทยาศาสตร์ฯดีเดย์วันนี้!
สร้างเครื่องไฟฟ้าบังคับสมอง รักษาคนซึมเศร้าแรมปีหายได้
ม.เกษตรพบทำเลเหมาะตั้งศูนย์พืชเมืองหนาว
หุ่นยนต์ไดโนฯ
"หุ่นโชว์เสื้อ"ไฮเทค”
ไมโครซอฟท์ทุ่ม 400 ล้าน จับมือ 12 ม.ดังพัฒนาไอที

ข่าวทั่วไป

ประกาศอัตราอุปกรณ์บำบัดโรค ใช้เทียบเบิกค่ารักษาข้าราชการ
พบสารก่อมะเร็งในพริกป่น "ผู้ดี" สั่งโละอาหารปนเปื้อน
นักวิชาการแนะติดไฟ 3 สี แบ่งโซนขนมอาหารว่างเด็ก
เกษตรฯ ใช้ระบบอินเทอร์เน็ตเตือนภัย แจ้งข้อมูลผู้ผลิตปรับตัวรับสถานการณ์
จัดระเบียบร้านเกมออนไลน์พร้อมใช้
ออกกำลังไว้แต่ตอนหนุ่มป้องกัน เป็นอัมพาตยามแก่ลงได้ตั้งครึ่ง
อาหารไทยโดนหางเลขแคนาดาห้ามบริโภค
พระไตรปิฎกบาลีอักษรโรมันชุดแรกของโลก
พบผู้ป่วยติดเชื้อในรพ. ตาย4หมื่นป่วยอีก4แสน เหตุใช้ซ้ำเครื่องมือแพทย์
เผยเตาเผาศพ 7วัดดังแหล่งปล่อยสารก่อมะเร็ง
เปิดตัวสัญลักษณ์Q-MARK
ตีทะเบียนร้าน"เนต"เริ่มเม.ย.นี้
ชี้ "สื่อออนไลน์" มีผลกระทบเด็กมากที่สุด เตือนดูทีวีมากเสี่ยงโรคสมาธิสั้น
ฝุ่นทำโรครุมเร้าคนกรุง





ข่าวการศึกษา


มศว จับมือ ม.สหรัฐ-แคนาดาสอนท่องเที่ยวแบบยั่งยืน

ผู้ช่วยศาสตราจารย์(ผศ.) นพ.เฉลิมชัย บุญยะสีพรรณ รองอธิการบดีฝ่ายแผนและพัฒนามหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ(มศว) เปิดเผยว่า ตามมติคณะรัฐมนตรีที่ให้โรงงานยาสูบย้ายไปอยู่ที่ จ.เชียงใหม่และสระบุรี ทำให้โรงพยาบาลโรงงานยาสูบที่รักษาพนักงานโรงงานยาสูบมีบุคลากรลดลง จึงได้ร่วมมือกับ มศวเพื่อปรับปรุงการบริการรักษาพยาบาลให้ครอบคลุมทุกสาขา อาทิ โรคมะเร็งปอด โรคภูมิแพ้ ระบบทางเดินหายใจ งานวิจัยที่เน้นเรื่องบุหรี่ สารพิษในบุหรี่ คาดว่าจะสามารถผลิตแพทย์เพิ่มขึ้น 50% จากเดิมที่ผลิตแพทย์ได้ปีละ 100 คน คาดว่าใน 10 ปี จะสามารถผลิตแพทย์สู่สังคมได้ 1,500 คน ด้านรองศาสตราจารย์(รศ.) ดร.นภาภรณ์ หะวานนท์ รองอธิการบดีฝ่ายวิชาการ มศว กล่าวถึงการเปิดหลักสูตรศิลปศาสตรบัณฑิต สาขาวิชาการท่องเที่ยวเพื่อความยั่งยืนว่า ได้ร่วมมือกับมหาวิทยาลัยแห่งรัฐอิลลินอยส์ มหาวิทยาลัยฮาวาย ประเทศสหรัฐอเมริกา และมหาวิทยาลัยบล็อค ประเทศแคนาดา จัดตั้งวิทยาลัยนานาชาติเพื่อการศึกษาความยั่งยืน เปิดสอนหลักสูตรดังกล่าวขึ้น แยกเป็นสาขาการจัดการการใช้เวลาว่างและการพักผ่อน และสาขาการจัดการพักผ่อนและการจัดการภาคบริการ สำหรับจุดเด่นของนิสิตที่เข้าเรียนในหลักสูตรนี้จะได้เรียนรู้ด้านภาษาและสาระที่เข้มข้น มีการผสมผสานทั้งวิธีคิดของตะวันตกและตะวันออกเข้าไว้ด้วยกัน ส่วนระบบการสอนใช้หลักสูตรภาษาอังกฤษ และมีอาจารย์ภาษาไทยเข้ามาสอนร่วมกัน เพื่อนำประสบการณ์ในเมืองไทยเข้ามาสอดแทรกในวิชาเรียน ไม่ให้เป็นแบบตะวันตกมากเกินไป โดยในเดือนมีนาคม ปีการศึกษา 2548 จะเปิดรับสมัคร 80 คน (มติชนรายวัน จันทร์ที่ 28 ก.พ. 48 http://www.matichon.co.th)





มรภ.เลยระงับแล้ว หลักสูตรแพทย์ไทย

นายไพฑูรย์ ยาบุศดี อธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฏเลย กล่าวว่า ได้ตั้งคณะทำงานขึ้นเพื่อศึกษาความเป็นไปได้ในการเปิดหลักสูตรการแพทย์แผนไทย ของภาควิชาวิทยาศาสตร์และสุขภาพ คณะวิทยาศาสตร์ ซึ่งหลักสูตรดังกล่าวเป็นแนวคิดของนายประจวบ สุขสมบูรณ์ อดีตอธิการบดี ที่มีความสนใจในเรื่องแพทย์แผนไทย และพยายามผลักดันให้เกิดหลักสูตรดังกล่าวขึ้น แต่ตนเห็นว่าการดำเนินการค่อนข้างยาก เพราะหากเปิดหลักสูตรไปแล้วบุคลากรไม่เพียงพอ และมีองค์ความรู้ที่ไม่ชัดเจนอาจทำให้เกิดปัญหาได้ นอกจากนั้นการสร้างหลักสูตรให้เป็นรูปธรรมจำเป็นต้องศึกษาภูมิปัญญาท้องถิ่นอย่างชัดเจน เพื่อให้เกิดความเชื่อมั่นต่อผู้ที่เข้ามาศึกษาต่อ และบุคลากรที่มีความรู้ความเชี่ยวชาญในด้านดังกล่าวไม่เพียงพอ ขณะนี้มีอาจารย์เพียง 1 คนเท่านั้น ได้ให้คณะทำงานไปพิจารณาความเป็นไปได้ของหลักสูตรดังกล่าว หากแนวโน้มเป็นที่น่าสนใจก็อาจเปิดเป็นวิชาเลือกได้ (ข่าวสด จันทร์ที่ 28 ก.พ. 48 http://www.matichon.co.th/khaosod)





ประชุมนานาชาติ "ห้องสมุดดิจิทัล" 12-15 ธันวาคม

ศ.คุณหญิงแม้นมาส ชวลิต นายกสมาคมห้องสมุดแห่งประเทศไทย ในพระราชูปถัมภ์สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เปิดเผยว่า สมาคมห้องสมุดฯ ร่วมกับภาควิชาบรรณารักษศาสตร์ คณะอักษรศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และสถาบันพัฒนาเทคโนโลยีแห่งเอเชีย จัดการประชุมระหว่างประเทศ ว่าด้วยห้องสมุดดิจิทัลในเอเชีย ครั้งที่ 8 ในวันที่ 12-15 ธันวาคมนี้ ที่โรงแรมอิมพีเรียล ควีนส์ปาร์ค เพื่อเฉลิมฉลองเนื่องในโอกาสที่สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงเจริญพระชนมายุ 50 พรรษา และหาแนวทางพัฒนาห้องสมุดดิจิทัลในไทยให้มีความทันสมัยมากขึ้น โดยสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี จะเสด็จฯ ทรงเป็นประธานในพิธีเปิด โดยมีบรรณารักษ์ นักวิจัย นักเทคโนโลยีจากไทยและต่างประเทศ เข้าร่วมงานประมาณ 500 คน ในงานมีจัดแสดงห้องสมุดดิจิทัลในโลกยุคใหม่ งานวิจัยเกี่ยวกับห้องสมุดดิจิทัลและเทคโนโลยีสารสนเทศ อีกทั้งจะพาผู้ร่วมประชุมชาวต่างชาติไปดูงานห้องสมุดมหาวิทยาลัยราชภัฏสวนดุสิต ห้องสมุดมารวยของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย หลังเสร็จการประชุมนี้แล้ว ทางสมาคมห้องสมุดฯ จะนำความรู้มาพัฒนาหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ (อี-บุ๊ค) และห้องสมุดดิจิทัลในไทย (คมชัดลึก จันทร์ที่ 28 ก.พ. 48 http://www.komchadluek.net)





ปรับ ร.ร.สู่ยุคฐานความรู้

รศ.ดร.ไพฑูรย์ สินลารัตน์ หัวหน้าโครงการวิจัยการเปลี่ยนผ่านการศึกษาเข้าสู่ยุคเศรษฐกิจฐานความรู้เปิดเผยผลการวิจัยว่า การศึกษาไทยยังไม่พร้อมเข้าสู่ยุคเศรษฐกิจฐานความรู้ เพราะยังขาดการส่งเสริมให้ผู้เรียนสร้างความรู้อย่างจริงจัง ขาดสร้างสรรค์ทางความคิด ทั้งยังไม่สอนเด็กให้เห็นแก่ส่วนรวมและรักความเป็นไทย นอกจากนี้ผู้เรียนยังมีความรู้ด้านสารสนเทศในระดับต่ำและใช้เทคโนโลยีกันน้อย สาเหตุสำคัญเพราะยังจัดการศึกษาแบบโรงงานอุตสาหกรรมรุ่นเก่า ที่ปั๊มคนให้ได้มาตรฐานขั้นต่ำแบบเดียวกัน ไม่ส่งเสริมอิสระทางความคิด และใช้ความสามารถอย่างเต็มที่ "อยากเสนอรัฐบาลให้ตั้งโรงเรียนรูปแบบใหม่ หรือยกเครื่องโรงเรียนเดิมให้พัฒนาความสามารถเด็กอย่างเต็มที่ สร้างหลักสูตรให้เด็กได้รับการส่งเสริมศักยภาพสูงสุด ปลดล็อกระบบคัดเลือกเดิม และเปิดทางให้เด็กเข้ามหาวิทยาลัยโดยไม่ยึดติดคะแนน และส่งเสริมการศึกษาทางเลือกให้มากขึ้น (คมชัดลึก จันทร์ที่ 28 ก.พ. 48 http://www.komchadluek.net)





สสอท.วอนรัฐหนุน ม.เอกชน แลกตรวจมาตรฐานเข้ม-ต่ำเกณฑ์ยินดีปิด

ดร.จันทร์จิรา วงษ์ขมทอง อธิการบดีมหาวิทยาลัยคริสเตียน ในฐานะนายกสมาคมสถาบันอุดมศึกษาเอกชนแห่งประเทศไทย (สสอท.) เปิดเผยว่า ที่ผ่านมา สสอท.ได้ทำวิจัยเรื่อง "รูปแบบการสนับสนุนของรัฐบาลต่อการจัดการอุดมศึกษาเอกชน" โดยศึกษาข้อมูลจาก 5 ประเทศคือ เกาหลี ญี่ปุ่น สิงค์โปร์ ฮ่องกง และไต้หวัน เพื่อสรุปข้อเสนอต่อรัฐบาลได้ดังนี้คือ รัฐควรสนับสนุนให้ประชาชนทุกคนมีโอกาสเข้าเรียนได้อย่างเสมอภาค และสามารถเลือกเรียนในมหาวิทยาลัยของรัฐหรือเอกชนได้อย่างอิสระ แต่ให้เคร่งครัดเรื่องคุณภาพการจัดการเรียนการสอน ซึ่งหากตรวจพบสถาบันเอกชนใดไม่มีคุณภาพ หรือไม่ทำตามหลักเกณฑ์ที่กำหนด ให้สั่งปิดสถาบันได้พร้อมประกาศให้สาธารณชนได้รับทราบ นายก สสอท. กล่าวต่อว่า รัฐยังควรจะลดหย่อนค่าภาษีโรงเรือน ภาษีป้าย และค่าสาธารณูปโภคให้มหาวิทยาลัยเอกชน เพราะขณะนี้ต้องเสียภาษีอัตราเดียวกับโรงงานอุตสาหกรรม และเมื่อค่าใช้จ่ายสูงสถาบันก็ต้องเก็บค่าหน่วยกิตนักศึกษาเพิ่มขึ้น นอกจากนี้รัฐควรจัดสรรงบสำหรับพัฒนาอาจารย์ในมหาวิทยาลัยเอกชนให้เท่าเทียมกับที่จัดสรรให้มหาวิทยาลัยรัฐ ที่สำคัญควรสนับสนุนโครงสร้างพื้นฐานทางด้านไอซีทีอย่างเสมอภาค เพราะไอซีทีจะทำให้นักศึกษาสามารถค้นคว้าข้อมูลจากทั่วโลก อย่างทันโลก และยังเป็นการลงทุนครั้งเดียวแต่ได้ผลคุ้มค่า สสอท.จะสรุปผลวิจัยและเสนอต่อรัฐบาลชุดใหม่ สำหรับให้รัฐนำไปบรรจุเป็นนโยบายของรัฐอย่างชัดเจน พร้อมทั้งผลักดันข้อเสนอออกมาเป็นรูปธรรมมากที่สุด อย่างไรก็ดีไม่อยากรัฐจะเอาแต่พูดว่าจะส่งเสริมและเปิดโอกาสให้เอกชนช่วยรับภาระการศึกษาทุกระดับเหมือนที่ผ่านมา แต่ไม่ได้ทำจริงในทางปฏิบัติ (คมชัดลึก อังคารที่ 1 มีนาคม 2548 http://www.komchadluek.net)





รุกมหาวิทยาลัยแจ้งเบาะแสวุฒิเก๊

คุณหญิงกษมา วรวรรณ ณ อยุธยา ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) เปิดเผยความคืบหน้ากรณีการตรวจสอบเรื่องวุฒิการศึกษาปลอม ว่า สำนักบริหารงานการศึกษานอกโรงเรียน (กศน.) ตรวจสอบวุฒิการศึกษาจำนวน 40 กว่าราย จากข้อมูลของ ม.สุโขทัยธรรมาธิราช ซึ่งบางรายมีหลักฐานที่สามารถตรวจสอบได้ แต่บางรายไม่มีหลักฐาน จึงต้องรอให้ผู้ที่เกี่ยวข้องโดยตรงนำหลักฐานมาชี้แจง โดยทาง กศน.ยืนยันว่าจะสรุปผลภายใน 1 เดือน ทั้งตนยังได้มอบหมายให้ผู้ตรวจราชการ ศธ.ตรวจสภาพทั่วไปของโรงเรียน 5-6 โรง ที่ถูกอ้างว่ามีปัญหาเกี่ยวกับการออกวุฒิการศึกษาดังกล่าว ซึ่งส่วนใหญ่อยู่ใน จ.นครศรีธรรมราช ขณะนี้มีผู้ร้องเรียนเข้ามายัง ศธ.ในแต่ละวันเป็นจำนวนมาก เกี่ยวกับการใช้วุฒิการศึกษาปลอม แต่ส่วนใหญ่จะไม่มีหลักฐานที่ชัดเจนให้ตรวจสอบ ซึ่ง ศธ.จะตรวจสอบกรณีที่มีหลักฐานชัดเจน และน่าจะยืนยันได้ว่าเข้าข่ายการปลอมแปลงวุฒิการศึกษาจริง ศธ.จึงจะเข้าไปตรวจสอบ และจะเน้นการตรวจสอบกรณีที่หน่วยงานราชการทำเรื่อง ขอให้ตรวจสอบอย่างเป็นทางการเท่านั้น เพราะหากตรวจสอบทุกเรื่องที่มีการร้องเข้ามา ศธ.คงทำให้ไม่ไหว ทำเรื่องแจ้งไปยังสำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา (สกอ.) เพื่อประสานไปยังสถาบันอุดมศึกษาต่างๆทั่วประเทศ หากมีเบาะแส หรือหากพบว่ามีบุคคลที่คาดว่าน่าจะใช้วุฒิการศึกษาปลอมเข้าไปสมัครเรียนต่อ ขอให้ส่งข้อมูลให้ ศธ.ตรวจสอบโดยด่วน. (ไทยรัฐ พุธที่ 2 มีนาคม 2548 http://www.thairath.co.th)





หวั่น10 ปี ม.ไทยไร้อันดับ แนะเปลี่ยนวิธีการสอน สร้างงานวิจัยสู่เวทีโลก

รศ.ดร.ไพฑูรย์ สินลารัตน์ อาจารย์ประจำคณะครุศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เปิดเผยถึงการยกฐานะมหาวิทยาลัยไทยไปสู่มหาวิทยาลัยระดับโลกว่า หากไทยจะไปถึงขั้นนั้นจะต้องเปลี่ยนวัฒนธรรมกระบวนการเรียนการสอนในมหาวิทยาลัยตั้งแต่ผู้บริหาร อาจารย์ นิสิต และนักศึกษาให้ได้ก่อน โดยต้องสร้างหรือกระตุ้นให้มีการแสวงหาองค์ความรู้หรือมีงานวิจัยที่เป็นของตัวเอง และเผยแพร่ศักยภาพวิชาการไทยให้ทั่วโลกได้รับรู้ ตลอดจนมีการแลกเปลี่ยนผลงานวิชาการกับมหาวิทยาลัยในระดับโลกด้วย นอกจากนี้การเป็นมหาวิทยาลัยระดับโลกนั้นก็ไม่ใช่ว่าจะต้องเป็นมหาวิทยาลัยวิจัยเพียงอย่างเดียว แต่จะต้องดูว่ามหาวิทยาลัยแต่ละแห่งมีความถนัดทางด้านใดก็ส่งเสริมหรือเร่งพัฒนาทางด้านนั้นอย่างเต็มที่ รศ.ดร.ไพฑูรย์ กล่าวต่อว่า รัฐบาลยังเป็นเงื่อนไขสำคัญในการสนับสนุนเงินทุน การวิจัย การค้นคว้าด้วย และต้องเร่งทำตั้งแต่วันนี้มิเช่นนั้นอีก 10 ปีมหาวิทยาลัยไทยคงจะเข้าไปอยู่ในระดับโลกไม่ได้ ส่วนการจัดระดับมหาวิทยาลัยในประเทศไทยก็มีความจำเป็น เพื่อที่เราจะได้รู้ว่ามหาวิทยาลัยแต่ละแห่งยืนอยู่ตรงจุดไหนของมหาวิทยาลัยโลก และจะได้พัฒนาไปได้ถูกทาง ทั้งนี้ควรจัดระดับโดยแบ่งเป็นกลุ่มๆ และวางเป้าหมายที่จะร่วมกันพัฒนาอย่างเต็มที่ ไม่ใช่เอาชื่อเสียงมาแข่งขันกันเหมือนกับการแข่งขันทางธุรกิจ แต่จะต้องแบ่งกลุ่มกัน เพื่อจะได้พัฒนาให้เติบโตเต็มที่ (กรุงเทพธุรกิจ พุธที่ 2 มี.ค. 48 http://www.bangkokbiznews.com)





วางใยแก้วศึกษาทางไกล

นายจักรภพ เพ็ญแข โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) เมื่อวันที่ 1 มีนาคม ว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงการประชุมเชิงปฏิบัติการเรื่องการศึกษา ที่ จ.ขอนแก่น ใช้เวลาประชุม 6 ชั่วโมงครึ่ง เป็นการหารือที่ได้ผล ทุกคนกล้าพูดความจริง ทำให้เข้าใจถึงปัญหาในด้านการศึกษามากขึ้น และเห็นว่า เรื่องครูเก่งสำคัญน้อยกว่าความมีจิตวิญญาณความเป็นครู รวมทั้งเห็นว่า การศึกษาทางไกลได้ผลดีมาก พ.ต.ท.ทักษิณจึงมีแนวคิดว่า น่าจะถึงเวลาที่จะลงทุนทำโครงการใยแก้วนำแสงสำหรับการศึกษาทางไกล มูลค่า 4 พันล้านบาท หากใช้การประมูลอิเล็กทรอนิกส์ ราคาอาจลดลงได้ ซึ่งจะใช้ประโยชน์ด้านอื่นได้ด้วย อาทิ อินเตอร์เน็ตตำบล ที่จะช่วยการสื่อสารจากส่วนกลาง (มติชนรายวัน พุธที่ 2 มีนาคม 2548 http://www.matichon.co.th)





สารคามจับมือญวนชูเป็นเลิศวิชาการ

รศ.ดร.สมเจตน์ ภูศรี อธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฏมหาสารคาม เปิดเผยว่า นโยบายของมหาวิทยาลัยคือการผลิตบัณฑิตเพื่อความเป็นเลิศทางวิชาการ และให้มีความสามารถทางด้านภาษาต่างประเทศ โดยเฉพาะภาษาอังกฤษต้องสื่อสารในระดับที่สื่อสารได้ทั้งด้านการพูดและการฟัง การจัดการเรียนการสอนของมหาวิทยาลัยราชภัฏมหาสารคาม จึงมีการแสวงหาความร่วมมือทางวิชาการกับมหาวิทยาลัยต่างประเทศ คือวินห์ ยูนิเวอร์ซิตี้ คณะบริหารมหาวิทยาลัยจากสาธารณรัฐประชาชนเวียดนามเดินทางมาเจรจาทำความตกลงทางวิชาการแล้วกับผู้บริหารมหาวิทยาลัยราชภัฏมหาสารคาม รศ.ดร.สมเจตน์กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ ศ.น.พ.กระแส ชนะวงศ์ ยังนำ นายเรย์นัลโบ ซี. บาติสต้า อธิการบดีมหาวิทยาลัยบาเกียว จากประเทศฟิลิปปินส์เดินทางมาเยี่ยมมหาวิทยาลัยราชภัฏมหาสารคาม เพื่อกระชับความสัมพันธไมตรี และมีการหารือเบื้องต้นเกี่ยวกับการร่วมมือดำเนินการเปิดสอนระดับปริญญาเอก ในมหาวิทยาลัยราชภัฏมหาสารคามจะมีการพัฒนาหลักสูตรแลกเปลี่ยนบุคลากรส่งผลให้การเรียนการสอนมีคุณภาพมากขึ้นสอดคล้องกับความต้องการของสังคม (ข่าวสด พุธที่ 2 มีนาคม 2548 http://www.matichon.co.th/khaosod)





"ลำปาง"โกอินเตอร์จับมือมหาวิทยาลัยจีน

ผศ.จำเนียร นันทดิลก ผอ.สำนักวางแผนและพัฒนา มหาวิทยาลัยราชภัฏลำปาง เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 15-17 ก.พ.ที่ผ่านมา ผู้บริหารจากมหาวิทยาลัยยูนนาน นอร์มอลล์ นครคุนหมิง ประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีน เดินทางมาเยี่ยมมหาวิทยาลัยราชภัฏลำปาง เพื่อเจรจาข้อตกลงร่วมมือเกี่ยวกับการส่งนักศึกษาจีนมาเรียนที่มหาวิทยาลัยราชภัฏลำปางในโครงการ 3+1 คือ โครงการว่าด้วยการแลกเปลี่ยนนักศึกษาที่เป็นนักศึกษาจีน โดยนักศึกษาในโครงการจะเรียนที่มหาวิทยาลัยยูนนาน 3 ปี และมาเรียนต่อปี 4 ที่มหาวิทยาลัยราชภัฏลำปางอีก 1 ปี แล้วกลับไปรับปริญญาที่มหาวิทยาลัยยูนนาน โดยการเจรจาครั้งนี้มีผู้บริหารของมหาวิทยาลัยราชภัฏลำปางเข้าร่วมเจรจาด้วย ประกอบด้วยตน นายวิรัช ไชยรักษ์ รองอธิการบดีฝ่ายวิชาการ นายสุเทพ วิภาศรีนิมิต รองอธิการบดีฝ่ายกิจการนักศึกษา นายสุรพงษ์ ภักดี คณบดีคณะมนุษยศาสตร์ และ ผอ.จำลอง คำบุญชู ประธานโปรแกรมวิชาภาษาไทย การเจรจาครั้งนี้ทางมหาวิทยาลัยยูนนานพร้อมจะส่งนักศึกษาเข้ามาศึกษาต่อที่มหาวิทยาลัยราชภัฏลำปางในโครงการ 3+1 ตั้งแต่เดือนมิ.ย.นี้เป็นต้นไป และ ทางผู้บริหารของมหาวิทยาลัยยูนนานยังสนใจจะส่งนักศึกษามาเรียนที่มหาวิทยาลัยราชภัฏลำปางในโครงการ 2+2 อีก ซึ่งจะเรียนที่นั่น 2 ปี แล้วส่งมาเรียนต่อที่มหาวิทยาลัยราชภัฏลำปางอีก 2 ปี โดยนักศึกษาจะได้รับปริญญาทั้ง 2 มหาวิทยาลัย สำหรับโครงการนี้จะเป็นนักศึกษาแลกเปลี่ยนในสาขาบริหารธุรกิจ การตลาด และการค้าระหว่างประเทศเป็นหลัก โดยทั้งสองมหาวิทยาลัยจะร่วมมือกันพัฒนาหลักสูตร ก่อนที่จะดำเนินโครงการจริงๆ ซึ่งจะทำให้มหาวิทยาลัยราชภัฏลำปางและมหาวิทยาลัยยูนนานก้าวเข้าสู่ความเป็นมหาวิทยาลัยสากลต่อไป ขณะนี้เรามีนักศึกษาจากจีนมาอยู่ที่มหาวิทยาลัยราชภัฏลำปาง 9 คน โดยมาเรียนสาขาการพัฒนาชุมชน (ข่าวสด พุธที่ 2 มีนาคม 2548 http://www.matichon.co.th/khaosod)





นักวิชาการหนุนแยก 3 กระทรวงศึกษาฯ

จากการทบทวนโครงสร้างกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) ตามนโยบาย"ทักษิณ" โดยเสนอ 3 แนวทางยุบ ศธ.ตั้ง 3 กระทรวงใหม่ ทั้งกระทรวงอุดมศึกษา การศึกษาขั้นพื้นฐานและอาชีวศึกษานั้น ผศ.ดร.สุขุม เฉลยทรัพย์ รองอธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฏสวนดุสิต (มสด.) กล่าวว่า เห็นด้วยในหลักการการแบ่งโครงสร้างศธ. เพราะที่ผ่านมาการบริหารจัดการมีความอุ้ยอ้าย ทั้งนี้ แม้ว่าการศึกษาขั้นพื้นฐานและอุดมศึกษาจะเป็นงานด้านการศึกษาเหมือนกัน แต่มีปรัชญาการศึกษาที่ต่างกัน ซึ่งถ้าแยกกันได้จริงก็จะมีความชัดเจน ขนาด สกอ.เดิมครั้งเป็นทบวงมหาวิทยาลัย มีรัฐมนตรีของตัวเองก็ยังดูแลงานมหาวิทยาลัยได้ไม่ทั่วถึง โดยเฉพาะเรื่องคุณภาพมาตรฐาน ผศ.ดร.สุขุม กล่าว ว่าอาชีวศึกษายังไม่น่าจะแยกเป็นกระทรวง เพราะเป็นการศึกษาเชิงวิชาชีพ อาจจะรวมอยู่กับอุดมศึกษา โดยแยกเป็นกรม เพราะเป็นการศึกษาที่ต่อยอดจากขั้นพื้นฐานเหมือนกัน จะต่างที่เน้นวิชาการ หรือเน้นวิชาชีพเท่านั้น นอกจากนี้อาชีวศึกษายังเปิดสอนระดับปริญญาตรี หากแยกกับอุดมศึกษาก็ต้องตอบคำถามให้ได้ว่าจะมีความต่างกันอย่างไรด้าน ศ.ดร.ปรัชญา เวสารัชช์ อธิการบดีมหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช (มสธ.) กล่าวว่า แนวคิดการปรับโครงการ ศธ. มีมานานแล้ว แต่ประเด็นที่ต้องการจะแยกกระทรวงครั้งนี้เป็นเพราะเห็นว่ารัฐมนตรีคนเดียวดูแลได้ไม่ทั่วถึง จึงเกิดเสียงเรียกร้องอยากได้รัฐมนตรีอีกคนที่ให้ความสำคัญกับอุดมศึกษามากขึ้นเท่านั้น โดยส่วนตัวคิดว่าหากได้รมว.ศธ.คนใหม่ ที่สนใจการศึกษาทุกระดับอย่างเท่าเทียมกัน น่าจะทำให้งานการศึกษาราบรื่นและมีการประสานงานกันเป็นอย่างดี ส่วนการพัฒนาอุดมศึกษาสำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา(สกอ.)เอง ก็สามารถริเริ่มทำอะไรได้โดยไม่ต้องรอให้รัฐมนตรีสั่งการ และมหาวิทยาลัยต่างมีสภาสถาบันดูแลจัดการกันเองได้ แต่ที่ขาดอยู่คือในส่วนของนโยบาย ซึ่งเป็นเรื่องที่การเมืองต้องให้ความชัดเจน เช่น กรอบอุดมศึกษา มาตรฐานอุดมศึกษา และการเป็นมหาวิทยาลัยในกำกับ (กรุงเทพธุรกิจ พฤหัสบดีที่ 3 มีนาคม 2548 http://www.bangkokbiznews.com)





คณิตศาสตร์การเงิน มกค.ที่แรกของไทย

ผศ.สุชีพ งามเจริญ คณบดีคณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย (มกค.) เปิดเผยว่า ในปีการศึกษา 2548 คณะวิทยาศาสตร์ มกค. จะเปิดหลักสูตรวิทยาศาสตรบัณฑิต สาขาวิชา คณิตศาสตร์การเงิน (Financial Mathematics) เป็นแห่งแรกในประเทศไทย เน้นให้ผู้เรียนมีความรู้ทางด้านการเงิน บัญชี บริหารธุรกิจ และการตลาด โดยนำความรู้ทางคณิตศาสตร์ สถิติ และเศรษฐศาสตร์ ซึ่งเป็นพื้นฐานสำคัญไปสู่ทักษะด้านการวิเคราะห์ทางการเงิน และมีความสามารถในการใช้เครื่องคำนวณและคอมพิวเตอร์ นอกจากนี้ ยังสนับสนุนให้นักศึกษาชั้นปีที่ 3-ชั้นปีที่ 4 สอบใบอนุญาตผู้ประกอบธุรกิจการเงินก่อนเข้าสู่ตลาดแรงงาน เช่น ทีเอสไอ (Thailand Securities Institute) ของตลาดหลักทรัพย์, ซีเอฟเอ (Chartered Financial Analyst) ของสหรัฐอเมริกา รวมทั้งฝึกงานกับตลาดหลักทรัพย์ และเรียนต่อระดับปริญญาโท-ปริญญาเอก ในมหาวิทยาลัยชั้นนำของโลก เช่น มหาวิทยาลัยชิคาโก โดยความร่วมมือจากศูนย์วิจัยมหาวิทยาลัยชิคาโก-มกค. สนใจสอบถามได้ที่คณะวิทยาศาสตร์ มกค. โทร.0-2697-6500-5 หรือ www.utcc.ac.th (คมชัดลึก พฤหัสบดีที่ 3 มี.ค. 48 http://www.komchadluek.net)





หนุน อปท.ร่วมจัดการศึกษา

คุณหญิงกษมา วรวรรณ ณ อยุธยา ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) ให้สัมภาษณ์ว่า ขณะนี้ นายอารีย์ วงศ์อารยะ รมช.ศึกษาธิการ ในฐานะประธานคณะกรรมการพิจารณาทบทวนเกณฑ์ประเมินความพร้อมเพื่อถ่ายโอนโรงเรียนไปให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) ยังไม่เรียกประชุมคณะกรรมการชุดนี้ เพราะว่าต้องการรอรัฐบาลใหม่ ถ้าคุยกันไปตอนนี้ลำบาก แม้ว่านายกรัฐมนตรีพูดชัดเจนให้ชะลอการถ่ายโอนแล้ว แต่รัฐบาลชุดใหม่คงจะสานต่อในเรื่องนี้ โดยส่วนตัวเห็นว่าข้อเสนอนายกรัฐมนตรีเป็นสิ่งที่ดี เพราะที่ผ่านมาข้าราชการครูส่วนใหญ่ไม่อยากถ่ายโอน แต่บางพื้นที่มีการทำงานร่วมกันระหว่าง อปท.กับโรงเรียนใกล้ชิดกันมาก ทั้งเป็นกรรมการสถานศึกษาและช่วยแก้ปัญหาต่างๆ ทำให้ความรู้สึกไม่อยากถ่ายโอนน้อยลงไป เชื่อว่าตอนนี้ อปท.เข้าใจการศึกษาและครูเริ่มเห็นว่า อปท.ช่วยเหลือเกื้อกูลในการพัฒนาโรงเรียน ดังนั้นถ้าสนับสนุนให้ อปท.กับโรงเรียนทำงานใกล้ชิดกันมากขึ้น คิดว่าทั้งคู่จะเรียนรู้จากกันและกันได้ดี จะทำให้การถ่ายโอนในบางระดับเป็นไปได้มากขึ้น คุณหญิงกษมา กล่าวอีกว่า ขณะเดียวกันควรสนับสนุนให้ อปท.ช่วยเหลือโรงเรียนและเปิดโรงเรียนเอง เช่น กทม.ควรเปิดโรงเรียนทางตอนเหนือและตะวันออกของกรุงเทพฯ ที่ขาดแคลนโรงเรียน โดยไม่จำเป็นมาขอถ่ายโอน เพราะ กทม.จัดการศึกษาได้ดี อย่างโรงเรียนประชานิเวศน์ที่มีเด็กเข้าเรียนมาก ส่วนการถ่ายโอนโรงเรียนคงยังต้องมีอยู่เพียงแต่จำนวนให้เป็นไปตามความเหมาะสม ส่วนการแก้ พ.ร.บ.กำหนดแผนและขั้นตอนการกระจายอำนาจฯ คิดว่าทุกคนเห็นด้วยและเป็นทางออกที่นุ่มนวลที่สุด เพราะไม่ได้ห้ามถ่ายโอนโรงเรียน หาก อปท.กับโรงเรียนแห่งใดที่มีความพร้อมใจกันก็ถ่ายโอนไปได้ แต่ถ้าไม่พร้อมใจแต่จำเป็นต้องไปด้วยเงื่อนไขอื่นที่ไม่เกี่ยวกับการพร้อมใจ จะก่อให้เกิดความรู้สึกไม่ดีทั้งสองฝ่ายได้ (คมชัดลึก พฤหัสบดีที่ 3 มี.ค. 48 http://www.komchadluek.net)





"สุวิทย์ คุณกิตติ"ผลักดัน"ราชภัฏเลย"ขึ้นชั้นเป็นตลาดวิชา

นายสุวิทย์ คุณกิตติ นายกสภามหาวิทยาลัยราชภัฏเลย กล่าวถึงการบริหารงานของราชภัฏเลย เมื่อมาเป็นมหาวิทยาลัย ระหว่างเดินทางมาราชการจังหวัดเลยว่า ได้ให้นโยบายไปและผ่านความเห็นชอบจากสภามหาวิทยาลัยไปแล้ว เรื่องของการที่จะพัฒนาให้มาหาวิทยาลัยราชภัฏเลยเป็นตลาดวิชา เพื่อที่จะเปิดโอกาสให้ลูกหลาน ของพี่น้องประชาชนในภาคอีสาน และคนไทยทั้งประเทศได้มาเรียนได้ ต่อไปมหาวิทยาลัยราชภัฏเลย จะเป็นศูนย์กลางการศึกษาที่สำคัญของภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ขณะนี้ก็เปิดถึงในระดับปริญญาโทแล้ว สำหรับปริญญาเอกเรากำลังดำเนินการ จะให้ความสำคัญในด้านคุณภาพการศึกษา การบริหารในเรื่องของงบประมาณ ก็ให้มหาวิทยาลัยบริหารกันเองได้อยู่แล้ว แต่เดิมก็ทำอยู่แล้ว มันไม่แตกต่างจากเดิมเท่าไหร่ ในส่วนของสภาก็จะวางนโยบายให้การแนะนำ แล้วก็ดูแลในเรื่องของคุณภาพการศึกษา ในการที่จะทำให้มหาวิทยาลัยราชภัฏเลย เป็นศูนย์กลางการศึกษาของภูมิภาคนี้ ต่อไปในอนาคตก็จะขยายการเปิดโปรแกรม ในเรื่องของการศึกษานานาชาติ เป็นภาษาอังกฤษ ซึ่งก็อยู่ในแผนที่จะพัฒนาต่อไป ปัจจุบันก็มีนักศึกษาจากลาวเข้ามาศึกษาและเราก็ยังให้ทุนด้วย (ข่าวสด พฤหัสบดีที่ 3 มีนาคม 2548 http://www.matichon.co.th/khaosod)





จันทรเกษมได้ทุน-ลุยทำ3งานวิจัย

คลินิกเทคโนโลยีมหาวิทยาลัยราชภัฏจันทรเกษม คณะเกษตรและชีวภาพ ได้รับทุนสนับสนุนการวิจัยจากสำนักงานปลัดกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ในการจัดทำโครงการวิจัยและบริการประจำปี 2548 จำนวน 3 เรื่อง มีระยะเวลาดำเนินการระหว่างเดือนมกราคม-เดือนธันวาคม 2548 โดยมีนายสัตวแพทย์สมเกียรติ ศีลสุทธิ์ คณบดีคณะเกษตรและชีวภาพ เป็นผู้วิจัย โครงการวิจัยด้านข้อมูลโภชนาการของน้ำนมแพะ เพื่อรองรับการจัดตั้งศูนย์ข้อมูลน้ำนมแพะแบบเบ็ดเสร็จ โดยทำการวิจัยร่วมกับนายสัตวแพทย์วัชรชัย ณรงค์ศักดิ์ ฝ่ายแบคทีเรียและไวรัส สำนักสุขภาพสัตว์แห่งชาติ กรมปศุสัตว์ ศึกษาข้อมูลด้านโภชนาการเพื่อเป้าหมายในการกำหนดข้อมูลด้านโภชนาการน้ำนมแพะที่เป็นข้อมูลสำหรับประเทศไทย มีกลุ่มเป้าหมายในพื้นที่จังหวัดเพชรบุรี ราชบุรี ปทุมธานี นนทบุรี กรุงเทพมหานคร ฉะเชิงเทรา สระบุรี ชัยนาท โครงการส่งเสริมกระบวนการผลิตอาหารระดับชุมชนให้ถูกมาตรฐานเชิงสุขศาสตร์แบบชุมชนมีส่วนร่วม โดยทำการวิจัยร่วมกับนายสันติธรรม โชติประทุม คณะเกษตรและชีวภาพ มหาวิทยาลัยราชภัฏจันทรเกษม ซึ่งมีกลุ่มเป้าหมายเป็นกลุ่มแม่บ้านตาลเดี่ยว ชุมชนโซ๊ะมัน เขตมีนบุรี กรุงเทพมหานคร และห้องปฏิบัติการแปรรูปอาหาร ภาควิชาอุตสาหกรรม มหาวิทยาลัยราชภัฏจันทรเกษม เพื่อพัฒนาสถานประกอบการขนาดเล็กให้มีศักยภาพเข้าสู่ ระบบการขอรับรอง GMP จากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา กระทรวงสาธารณสุข โครงการพัฒนาระบบการให้บริการข้อมูลด้านเทคโนโลยีเชิงรุก โดยทำการวิจัยร่วมกับนายอานนท์ มหัคพงศ์ คลินิกเทคโนโลยีมหาวิทยาลัยราชภัฏจันทรเกษม โดยมีกลุ่มเกษตรกรและผู้ประกอบการในพื้นที่บริการของคลินิก (กรุงเทพมหานคร) จังหวัดชัยนาท เป็นกลุ่มเป้าหมาย (ข่าวสด พฤหัสบดีที่ 3 มีนาคม 2548 http://www.matichon.co.th/khaosod)





เตรียมทหาร"เปิดติว"ครั้งแรก เสียงวิจารณ์จากสถาบันกวดวิชาเอกชน

นับเป็นครั้งแรกที่โรงเรียนเตรียมทหารเปิดติวนักเรียนใน "โครงการเตรียมความพร้อมและสัมผัสชีวิตนักเรียนเตรียมทหาร" โดย พล.ต.พอพล มณีรินทร์ ผู้บัญชาการโรงเรียนเตรียมทหาร ชี้แจงว่า เพื่อช่วยลดค่าใช้จ่ายของผู้ปกครองที่ต้องพาบุตรหลานไปกวดวิชา มี 3 รูปแบบ คือ 1.เรียนรู้ผ่านอินเตอร์เน็ต ค่าใช้จ่าย 5,500 บาท 2.เข้าค่าย 8,500 บาท 3.เรียนภาควิชาการใช้ระบบอีเลิร์นนิ่ง และภาคปฏิบัติเข้าค่าย ค่าใช้จ่าย 12,000 บาท "มติชน" จึงได้สอบถามบรรดาสถาบันกวดวิชาต่างๆ เกี่ยวกับมุมมองในเรื่องนี้ (มติชนรายวัน ศุกร์ที่ 4 มี.ค. 48 http://www.matichon.co.th)





มจธ.รวมพลคนวิทย์ จัดแข่งขันอะตอมเกม

เนื่องในวโรกาสครบ 200 ปี วันคล้ายวันพระราชสมภพพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ 4) พระบิดาแห่งวิทยาศาสตร์ไทย และเพื่อเป็นการส่งเสริมสนับสนุนการเรียนการศึกษาด้านวิทยาศาสตร์ของประเทศให้แพร่หลายและมีความเข้มแข็งมากขึ้น นักศึกษาคณะวิทยาศาสตร์ทั่วประเทศจึงได้ร่วมกันจัดการแข่งขันกีฬาประเพณีคณะวิทยาศาสตร์ของมหาวิทยาลัยและสถาบันต่างๆ ทั่วประเทศขึ้น โดยในปีนี้ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี (มจธ.) รับหน้าที่เป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขัน "กีฬาวิทยาศาสตร์สัมพันธ์แห่งประเทศไทยครั้งที่ 15 หรือ อะตอมเกม เพื่อกระตุ้นให้มีการตื่นตัวด้านการศึกษาด้านวิทยาศาสตร์และเพื่อเชื่อมสัมพันธ์ระหว่างสถาบันโดยมีกีฬาเป็นสื่อกลาง มีมหาวิทยาลัยและสถาบันเข้าร่วมทั้งหมดประมาณ 20 แห่งทั่วประเทศ สำหรับอะตอมเกม จัดขึ้นในระหว่างวันที่ 15-21 มีนาคม ณ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี โดยไฮไลท์ของงานในครั้งนี้คือ "200 ปี บิดาแห่งวิทยาศาสตร์ไทย" โลโก้ของงานอะตอมเกมครั้งที่ 15 นี้ได้นำเอามดและผลส้มซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของเจ้าภาพมาเป็นส่วนประกอบ ส่วนมาสคอต (Mascot) คือ มด ชื่อ "คุณส้มแป๊ด" นอกจากนี้ ในวันที่ 15 มีนาคม ยังมีการประชุมคณบดีคณะวิทยาศาสตร์ทั่วประเทศ (วาระพิเศษ) และร่วมฟังการบรรยายพิเศษเรื่อง "การศึกษา การวิจัย และแนวทางประกอบอาชีพของนักวิทยาศาสตร์ไทยในอนาคต" โดยมีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีเป็นประธานเปิดงานและโชว์ฝีมือการเล่นแบดมินตันให้ผู้ที่มาร่วมงาน (คมชัดลึก ทิตย์ที่ 6 มีนาคม 2548 http://www.komchadluek.net)





ม.ศรีปทุมคว้ารางวัลระดับโลก สร้างชื่อให้ต่างชาติได้ประจักษ์กับความสามารถเด็กไทยอีกครั้ง

สำหรับนักศึกษาคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีปทุมที่ไปคว้ารางวัลรองชนะเลิศอันดับ 1 จากการประกวดแบบนานาชาติประจำปี 2547 กับหัวข้อ “Integrated Communities : A Society for All Ages” (ชุมชนหนึ่งเดียว : สังคมสำหรับคนทุกวัย) ซึ่งจัดโดยสมาพันธ์สถาปนิกนานาชาติ (UIA) โดยมีผู้เข้าร่วมประกวดกว่า 28 ประเทศ เจ้าของผลงานชื่อ PAK KRED/THAI-MON COMMUNITY “SHARING PRE SERVING AND SUSTAINING SOCIETY” ซึ่งคว้ารางวัลระดับโลกครั้งนี้ ประกอบด้วย นายอรรณพ ฤทธิ์จิตเพียร, นายธิติวัฒน์ จันศร, น.ส.ธัญวิมลวิสิฐ เรืองกิตติรุธย์ และ น.ส.วรัตม์ บุนยบุตร โดยทั้ง 4 คน เป็นนักศึกษาชั้นปีที่ 4 แบบที่ส่งประกวดได้เลือกใช้พื้นที่เกาะเกร็ด จังหวัดนนทบุรี เพราะคิดว่าเป็นพื้นที่ที่มีคอนเซปต์ตรงกับหัวข้อการประกวดมากที่สุด โดยเกาะเกร็ดเป็นชุมชนที่มีวิถีชีวิตแบบชาวบ้าน ยังรักษาความเป็นชุมชนแบบเดิมไว้ได้ ถึงแม้จะอยู่ใกล้กรุงเทพฯ มากก็ตาม นอกจากนี้ชุมชนเกาะเกร็ดยังมีงานฝีมือที่เป็นเอกลักษณ์ของความเป็นไทย-มอญอยู่มาก โดยไม่ถูกสังคมเมืองกลืนหายไป (เดลินิวส์ อาทิตย์ที่ 6 มี.ค. 48 http://www.dailynews.co.th)





ข่าววิทยาศาสตร์/เทคโนโลยี


ไทยจับมือนาซา สร้างฐานข้อมูล ตรวจอากาศโลก

ศูนย์การเรียนรู้วิทยาศาสตร์โลกและดาราศาสตร์ (LESA) ร่วมปฏิบัติภารกิจสำรวจเมฆกับองค์การบริหารการบินและอวกาศ (นาซา) เก็บข้อมูลสภาพดินฟ้าอากาศในไทยสร้างฐานข้อมูลภูมิอากาศร่วมกับนักเรียนนานาชาตินับร้อยแห่งทั่วโลก เพื่อสร้างฐานข้อมูลระดับโลกสำหรับศึกษาภัยธรรมชาติ อาทิ ภัยแล้ง น้ำท่วม พายุ รวมทั้งหาโลกร้อน นาวาอากาศเอก ฐากูร เกิดแก้ว ผอ.ศูนย์การเรียนรู้วิทยาศาสตร์โลกและดาราศาสตร์ (ศูนย์ลีซา) เปิดเผยว่า เด็กนักเรียนไทยได้เข้าร่วมโครงการตรวจวัดคุณสมบัติของเมฆจากดาวเทียมคลาวแซทของนาซา ซึ่งเป็นดาวเทียมที่ทันสมัยที่สุดในโลกมีคุณสมบัติในการตรวจจับความหนาแน่นของเมฆในแนวดิ่ง เพื่อศึกษาทำความเข้าใจสภาพลมฟ้าและระบบภูมิอากาศ การเข้าร่วมโครงการครั้งนี้นับเป็นการเปิดโอกาสให้โรงเรียนทั่วโลกมีส่วนร่วมในการทำงาน และเรียนรู้ร่วมกันกับนักวิทยาศาสตร์ของนาซา เพราะฐานข้อมูลเรื่องเมฆ เป็นสิ่งสำคัญที่จะนำไปสู่การสร้างฐานข้อมูลเกี่ยวกับน้ำท่วม น้ำแล้ง การเกิดพายุ การเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศ เช่น ภาวะเรือนกระจก โลกร้อน ในการร่วมกิจกรรมดังกล่าว ปัจจุบัน องค์การนาซาส่งดาวเทียม 6 ดวงไปสำรวจสภาพการเปลี่ยนแปลงของโลก ประเทศไทยสามารถนำข้อมูลจากดาวเทียมทั้ง 6 ดวง มาปรับใช้ได้ โดยเฉพาะปัญหาเรื่องไฟป่าพบว่าข้อมูลจากดาวเทียมตรวจพบการเกิดไฟป่าขึ้นเป็นจุดสีแดงเต็มพื้นที่ของไทย นอกจากนี้ยังพบว่าในช่วงเดือน มี.ค.- เม.ย.นี้จะมีสภาพอากาศขมุกขมัว เนื่องจากมีฝุ่นละอองในอากาศในปริมาณมากด้วย นอกจากนี้ศูนย์ ยังร่วมกับเครือข่าย CloudSat ประเทศนิวซีแลนด์ แลกเปลี่ยนนักเรียนไทยจำนวน 17 คน จาก โรงเรียนดาราวิทยาลัย โรงเรียนพิชญศึกษา โรงเรียนปราโมช ราม-อินทรา และโรงเรียนอนุบาลแพร่ เดินทางไปศึกษาและเปรียบเทียบสภาพภูมิอากาศระหว่างกันและกัน ระหว่างวันที่ 28 มี.ค. - 9 เม.ย. รวมทั้งยังมีโปรแกรมขยายเครือข่ายไปยังประเทศลาว และเวียดนาม โดยเพิ่มโปรแกรมการเรียนรู้เรื่องดินเข้าไปด้วย (กรุงเทพธุรกิจ จันทร์ที่ 28 ก.พ. 48 http://www.bangkokbiznews.com)





มั่นใจมีสิ่งมีชีวิตบนดาวอังคาร ส่งยานสำรวจไปเก็บตัวอย่าง

พวกนักวิทยาศาสตร์ขององค์การอวกาศยุโรป ได้กล่าวเรียกร้องในที่ประชุม ที่ประเทศเนเธอร์แลนด์ เมื่อสัปดาห์ก่อน ว่าให้ส่งยานอวกาศ ไปสำรวจสิ่งมีชีวิตบนดาวอังคาร เพราะเชื่อแน่ว่า จะต้องคงมีสิ่งมีชีวิตอยู่บนดาวเคราะห์เพื่อนบ้านของโลกอย่างแน่นอน ดาวอังคารนับเป็นดาวเคราะห์ที่คล้ายกับโลก มากที่สุดในสุริยจักรวาล ยิ่งกว่านั้นยังเพิ่งได้พบจากการสำรวจเมื่อเร็วๆ นี้ว่ามีทะเลใหญ่ที่น้ำเป็นน้ำแข็ง อยู่ใต้พื้นแถวใกล้เส้นศูนย์สูตร ซึ่งคาดว่าเพิ่งจะเกิดมาได้ไม่ทันถึง 5 ล้านปี และยังเชื่อด้วยว่า อาจจะมีภูเขาไฟที่ยังคุกรุ่นอยู่ทางขั้วเหนืออีกด้วย ดาวอังคารจะต่างกับโลกของเรา ตรงที่ไม่มีชั้นโอโซนหุ้มห่ออยู่ พื้นผิวจึงโดนถล่มด้วยพายุอาทิตย์ และรังสีไวโอเลตอยู่ตลอดเวลา นายวิตตอริโอ ฟอร์มิซาโน ซึ่งคณะของเขาค้นพบก๊าซมีเทนและฟอร์มาลดีไฮด์บนดาวอังคาร กล่าวว่า วี่แววของการมีสิ่งมีชีวิตบนนั้น มีมากขึ้นเรื่อยๆ เพราะการที่มีก๊าซมีเทนสะสมเพิ่มขึ้น แสดงว่า จะต้องเกิดมาจากสิ่งที่มีชีวิต เพราะเป็นทางเดียวเท่านั้น ที่จะผลิตก๊าซมีเทนปริมาณมากๆ อย่างนั้นได้ นักวิทยาศาสตร์ของศูนย์อวกาศจอห์นสันแห่งสหรัฐฯนายเอเวอเรตต์ กิบสัน แจ้งว่า จากการสำรวจความเห็นนักวิทยาศาสตร์ในที่ประชุม 250 คน มีอยู่มากถึง 75 เชื่อว่ามีชีวิตอยู่บนดาวอังคาร และเมื่อถามต่อว่าเชื่อว่า ยังคงมีสิ่งที่มีชีวิตอยู่ทุกวันนี้หรือไม่ พวกเขามากถึง 25% กล่าวเชื่อมั่นว่ายังมีอยู่ และเมื่อถามต่อไปว่า คิดว่าเป็นชีวิตในรูปแบบใด ส่วนใหญ่ตอบว่า น่าจะเป็นพวกแบคทีเรีย พวกเขาได้เสนอให้ส่งยานสำรวจลำใหม่เดินทาง ไปนำของตัวอย่างจากดาวเคราะห์ดวงสีแดงเพื่อมาตรวจสอบกัน (ไทยรัฐ อังคารที่ 1 มีนาคม 2548 http://www.thairath.co.th)





สหรัฐผนึกฮ่องกงจัดทัวร์อวกาศ เล็งส่งนักท่องเที่ยวโคจรรอบโลก

ผู้บริหารบริษัทสเปซ แอดเวนเจอร์สในสหรัฐ แถลงว่า บริษัทได้ร่วมทุนกับบริษัทฮ่องกง สเปซ ทัวร์ คอร์ปอเรชั่น เปิดบริการทัวร์อวกาศ โดยขณะนี้มีนักท่องเที่ยวชาวจีนคนแรก ติดต่อใช้บริการเรียบร้อยแล้ว โดยวางเงินมัดจำไว้กว่าหนึ่งล้านหยวน หรือประมาณ 5 ล้านบาท เพื่อแลกกับการเดินโคจรรอบโลก 1 รอบ ซึ่งบริษัทเผยว่าหากไม่มีอะไรผิดพลาด เศรษฐีจากเมืองเสิ่นเจิ้นจะมีโอกาสท่องอวกาศภายในปีหน้า แม้ว่าขณะนี้บริษัทยังไม่สร้างยานอวกาศเลยก็ตาม อย่างไรก็ตาม ทัวร์ท่องอวกาศดังกล่าวจะเป็นการเดินทาง ไปยังสุดชั้นบรรยากาศของโลกเท่านั้น ซึ่งไม่ได้ออกไปในอวกาศจริงๆ ขณะที่บริษัทสเปซ แอดเวนเจอร์ส ยังมีบริการท่องอวกาศแบบอื่นๆ ให้เลือกด้วย ไม่ว่าจะเป็น การเดินทางโคจรรอบโลก หรือเลือกแวะพักที่สถานีอวกาศซึ่งราคาเริ่มต้นตั้งแต่ 100,000 ดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 4 ล้านบาท) ไปจนถึงหลายสิบล้านบาท ผู้บริหารดังกล่าวบอกอีกว่า บริษัทได้วางแผนจะเรียกนักท่องเที่ยวชาวจีนราว 20 คน ไปฝึกท่องอวกาศบนศูนย์ฝึกภาคพื้นดินในสหรัฐภายในเดือนพฤษภาคมนี้ ซึ่งการฝึกจะเป็นการผสมผสานการตรวจทางการแพทย์ เข้ากับเทคนิคการใช้ภาพเคลื่อนไหวแบบเสมือนจริง ทั้งนี้ แผนการท่องอวกาศในจีนได้เริ่มเป็นรูปเป็นร่างขึ้น หลังจากประสบความสำเร็จในการส่งมนุษย์ขึ้นท่องอวกาศเป็นประเทศที่ 3 ของโลกตามหลังสหรัฐ และรัสเซีย ซึ่งโครงการต่อไปของรัฐบาลจีนคือการส่งนักบินอวกาศ 2 คนออกปฏิบัติภารกิจโคจรรอบโลกเป็นเวลา 5 วันในเดือนกันยายนปีนี้ (กรุงเทพธุรกิจ อังคารที่ 1 มี.ค. 48 http://www.bangkokbiznews.com)





เชื้อไวรัสใหม่ไม่ร้ายเท่าเอดส์

ศ.นพ.ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา นักไวรัสวิทยาจากคณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวถึง รายงานข่าวการค้นพบเรโทรไวรัส (Retro virus) สายพันธุ์ใหม่ ที่อยู่ในตระกูลเดียวกับไวรัสเอชไอวีว่า เป็นไวรัสที่อยู่ในกลุ่มเดียวกับ Human T-lyphotomic Virus ตระกูลเดียวกับไวรัสเอชไอวี/เอดส์ แต่ไม่ร้ายแรงเท่า ไวรัสกลุ่มนี้ที่รู้จักแล้ว คือ HTLV 1 และ HTLV 2 โดยเชื้อจะไปโจมตีระบบภูมิคุ้มกันในน้ำเหลือง (T-cell) ซึ่งผู้ติดเชื้อชนิดแรกอาจพัฒนาไปเป็นโรคลิวคีเมียชนิดพิเศษได้ ส่วนเชื้อตัวที่สองนั้น จะทำให้เกิดความผิดปกติทางประสาท อาทิ ไขสันหลังอักเสบ หากเป็นมากสามารถทำให้สมองอักเสบ และสมองเสื่อม จนเป็นอัมพาต และปัสสาวะผิดปกติได้" ศ.นพ.ธีระวัฒน์ กล่าวและอธิบายว่า ผู้ที่ได้รับเชื้อดังกล่าวไม่ได้หมายความว่า ทุกคนต้องเป็นโรค ในการประชุมประจำปีว่า ด้วยเรโทรไวรัสครั้งที่ 12 ที่บอสตัน สหรัฐ นักวิจัยต่างประเทศได้แถลงถึงการค้นพบเชื้อไวรัสกลุ่มใหม่ คือ HTLV 3 และ HTLV 4 จากการตรวจเลือดของชาวแคเมอรูน ที่มีอาชีพเป็นนายพราน และมีโอกาสใกล้ชิดกับลิงเป็นประจำ โดยนักวิจัยสันนิษฐานว่าไวรัสดังกล่าวมาจากลิง เขายังเปิดเผยด้วยว่า เมื่อประมาณ 10 ปีที่แล้ว ทีมวิจัยของเขาเคยสุ่มสำรวจหาเชื้อสองตัวในสถานที่บริการกลุ่มเสี่ยง ได้ตรวจพบเชื้อดังกล่าวในผู้ใช้บริการชาวเอเชียพอสมควร โดยเชื้อ HTLV 1 และ HTLV 2 สามารถแพร่เชื้อผ่านการมีเพศสัมพันธ์ได้เช่นเดียวกับเชื้อเอชไอวี (กรุงเทพธุรกิจ อังคารที่ 1 มี.ค. 48 http://www.bangkokbiznews.com)





พบทะเลน้ำแข็งบนดาวอังคาร ระบุอาจมีสิ่งมีชีวิตแช่แข็งอยู่

หลังจากที่ มาร์ส เอ็กซ์เพรส ยานสำรวจจากองค์การอวกาศยุโรป (อีซา) โคจรสำรวจดาวอังคารและถ่ายภาพรอบดาวมา 1 ปี นักวิทยาศาสตร์จากยุโรปก็ได้พบสิ่งที่ดูคล้ายเป็นทะเลน้ำแข็งยักษ์ แม้ว่าภาพที่ถ่ายด้วยความละเอียดสูงครั้งนี้จะกินพื้นที่ไม่กี่สิบตารางกิโลเมตร แต่ก็สามารถประเมินพื้นที่ที่เป็นทะเลน้ำแข็งได้ว่าน่าจะมีอาณาเขตประมาณ 800x900 กิโลเมตร โดยพื้นที่ดังกล่าวปกคลุมไปด้วยเถ้าภูเขาไฟเป็นชั้นหนา ภาพที่สำนักงานอวกาศอีซานำมาเผยแพร่นี้ เป็นภาพที่ราบที่รายล้อมไปด้วยพื้นผิวที่มีลักษณะเป็นแผ่นสูงๆ ต่ำๆ โดยนักวิทยาศาสตร์ของอีซา กล่าวว่า แผ่นเหล่านี้คล้ายกับแพน้ำแข็งในทะเลที่นอกชายฝั่งแอนตาร์กติกบนพื้นโลกแตกออกเป็นแผ่นๆ ส่วนน้ำที่รวมตัวเป็นทะเล เป็นน้ำที่ทะลักขึ้นมาจากใต้พื้นผิว ผ่านรอยแตกขึ้นมาท่วมกินพื้นที่กว้าง มีความลึกประมาณ 45 เมตร ขณะที่น้ำแข็งจับตัวแข็งมันได้แตกออกเป็นแผ่นๆ ซึ่งต่อมาถูกเถ้าภูเขาไฟทับซ้อนเป็นชั้นๆ น้ำแข็งบนผิวดาวอังคารมีสถานะไม่คงที่ เนื่องจากดาวดวงนี้มีแรงกดอากาศต่ำ ทำให้มันเปลี่ยนสถานะจากน้ำแข็งไปเป็นไอทันที โดยไม่ผ่านสถานะจากน้ำแข็งมาเป็นน้ำก่อน แต่แพน้ำแข็งบางส่วนดูเหมือนจะมีเถ้าภูเขาไฟคอยคลุมไว้ไม่ให้ระเหย ส่วนน้ำในทะเลน้ำแข็งที่ไม่มีเถ้าภูเขาไฟทับจะระเหิดเป็นไอเหลือไว้แต่เนินน้ำแข็งที่ล้อมรอบด้วยก้อนหิน นอกจากนี้ได้ค้นพบแบคทีเรียที่ถูกแช่แข็งอยู่บนโลกของเราถึง 30,000 ปีมาแล้ว และยังคงมีชีวิตอยู่ พอน้ำแข็งเริ่มละลายมันก็เริ่มกระดุกกระดิกแหวกว่ายไปมา จึงมีความเป็นไปได้ว่าอาจมีสิ่งมีชีวิตแบบเดียวกันนี้อยู่บนดาวอังคาร แบคทีเรียที่ว่านี้มีชื่อว่า คาร์โนแบคทีเรียม ไพลสโตซีเนียม บางทีอาจมีชีวิตในยุคไพลสโตซีน ซึ่งอยู่ในยุคเดียวกับแมมมอธที่มีขนยาว และเสือเขี้ยวโง้ง แบคทีเรียดังกล่าวพบใกล้กับเมืองฟอกซ์ อลาสกา ในอุโมงค์ที่เจาะผ่านส่วนผสมของน้ำแข็ง ดิน และหิน ซึ่งถูกเก็บรักษาที่อุณหภูมิคงที่ที่ลบ 4 องศาเซลเซียส (คมชัดลึก อังคารที่ 1 มีนาคม 2548 http://www.komchadluek.net)





คลื่นวิทยาการ : ความรู้สึก...โทรฯสั่งได้

เทคโนโลยี Haptics ที่สามารถแปลเป็นไทยได้ว่า “เกี่ยวข้องกับความรู้สึกที่เกิดขึ้นจากการสัมผัส” ซึ่งโดยความเป็นจริงแล้วเทคโนโลยีทางด้านนี้ก็ไม่ได้เป็นเรื่องใหม่สำหรับนักวิทยาศาสตร์ เพราะว่ามีการค้นคว้าวิจัยเทคโนโลยีทางด้านนี้กันมานานพอสมควรแล้ว และที่สำคัญก็คือมีการนำไปใช้ในเชิงพาณิชย์แล้ว ตัวอย่างเช่น joystick หรือ แผงควบคุมที่ใช้กับเกมคอมพิวเตอร์ ไม่ว่าจะเป็น Play Station 2 ของโซนี่ หรือ Xbox ของค่ายไมโครซอฟท์ ที่ทำให้ผู้เล่นรู้สึกถึงสัมผัสบางอย่างที่เกี่ยวข้องในเกม ๆ นั้น อย่างเช่น ความรู้สึกเวลาตีกอล์ฟหรือความรู้สึกเวลาถือพวงมาลัยรถในเกมแข่งขันรถยนต์ เป็นต้น ล่าสุดโทรศัพท์มือถือรุ่นใหม่ของซัมซุงยังใช้เทคโนโลยีดังกล่าวในการส่งความรู้สึกบางอย่างไปพร้อมกับข้อความที่ทำให้ผู้รับสามารถรับรู้ได้ถึงสัมผัสบางอย่าง ซึ่งถ้าให้ยกตัวอย่างก็น่าจะเป็นสัมผัสที่เกี่ยวข้องกับความรักและความห่วงใย (เพราะน่าจะขายได้) อย่างความรู้สึกประมาณว่ากำลังสัมผัสมือหรือใบหน้าของอีกฝ่ายหนึ่งอยู่ประมาณนั้น นอกเหนือไปจากนั้นแล้วเทคโนโลยี Haptics ยังมีช่องทางในการนำไปประยุกต์ใช้อีกหลายช่องทางด้วยกัน อย่างเช่นการซื้อขายของผ่านเครือข่ายอินเทอร์เน็ตที่เทคโนโลยีนี้จะช่วยให้ผู้ซื้อรู้สึกได้ถึงสัมผัสที่เกิดขึ้นกับตัวสินค้าราวกับว่าผู้ซื้อได้ไปหยิบจับของชิ้นนั้นที่ร้านจริง ๆ อย่างไรก็ดีอุปสรรคที่สำคัญอันหนึ่งในการนำเทคโนโลยีนี้มาใช้งานกับเครือข่ายอินเทอร์เน็ตก็คือเรื่องของความล่าช้าหรือ delay ในการส่งข้อมูล ซึ่งโดยปกติแล้วความล่าช้าที่เกิดขึ้นประมาณ 2 ใน 10 ส่วนของวินาทีสำหรับแพ็กเกจข้อมูลภาพและเสียงนั้นเป็นที่ยอมรับได้และไม่ทำให้ผู้ใช้งานเห็นความแตกต่างได้มากนัก แต่สำหรับการส่งความรู้สึกที่เกิดจากการสัมผัสนั้น มีข้อมูลหลาย ๆ อย่างที่เราจำเป็นต้องส่งไปพร้อม ๆ กัน อย่างเช่น แรงความสั่นสะเทือน อุณหภูมิ และผิวสัมผัส ดังนั้นความล่าช้าของข้อมูลชุดใดชุดหนึ่งก็อาจทำให้เกิดความไม่สมจริงขึ้นมาได้ทันที ซึ่งนี่ก็เป็นอุปสรรคสำคัญอีกอย่างหนึ่งสำหรับการนำเทคโนโลยีนี้มาใช้งานในเครือข่ายอินเทอร์เน็ต แต่คาดว่าคงอีกไม่นานนักที่เทคโนโลยีดังกล่าวจะทำงานร่วมกันกับเครือข่ายอินเทอร์เน็ตได้ดีขึ้น เพราะว่านักวิจัยจากสถาบันชั้นนำอย่าง MIT ประเทศสหรัฐอเมริกาเองก็ประสบความสำเร็จเบื้องต้นกับการส่งความรู้สึกอย่างแรงบีบที่เกิดขึ้นจากการสัมผัสมือผ่านเครือข่ายได้สำเร็จและก็ให้ผลเป็นที่น่าพอใจ (เดลินิวส์ พุธที่ 2 มี.ค. 48 http://www.dailynews.co.th)





ญี่ปุ่นลั่นขอแก้มือ ส่งมนุษย์อวกาศ เหยียบดวงจันทร์

หนังสือพิมพ์รายวันไมนิจิ ชิมบุน รายงานว่า สำนักงานสำรวจอวกาศญี่ปุ่น หรือจาซา กำลังร่างแผนระยะยาวโครงการอวกาศของประเทศขึ้น โดยมีแผนส่งยานอวกาศพ ร้อมพลขับขึ้นสำรวจอวกาศ พร้อมทั้งไปสร้างสถานีวิจัย ที่มีมนุษย์ปฏิบัติอยู่บนดวงจันทร์ด้วย แผนงานดังกล่าวได้รับการเปิดเผยขึ้น หลังจากที่ญี่ปุ่นสามารถส่งดาวเทียมขึ้นสู่วงโคจรได้เป็นผลสำเร็จ นับเป็นการรักษาแผลในใจที่เกิดขึ้นเมื่อ 15 เดือนก่อน หลังจากโครงการปล่อยดาวเทียมต้องล้มเหลวไม่เป็นท่า เนื่องจากจรวดเกิดระเบิดขึ้นหลังจากยิงออกจากฐานได้เพียงไม่กี่นาที แผนระยะยาวของจาซา รวมถึงการพัฒนายานพาหนะที่คล้ายกับกระสวยอวกาศของสหรัฐขึ้นในปี 2568 การสร้างสถานีวิจัยบนดวงจันทร์ และการใช้ดาวเทียมถ่ายทอดข้อมูลภัยพิบัติที่เกิดขึ้น อาทิ คลื่นสึนามิ ที่จะสามารถส่งสัญญาณเตือนไปยังโทรศัพท์เคลื่อนที่ได้โดยตรงอีกด้วย เจ้าหน้าที่ของจาซาปฏิเสธที่จะให้ความเห็นในแผนงานดังกล่าว บอกเพียงว่าแผนจะร่างเสร็จภายในสิ้นเดือนมีนาคมนี้ ซึ่งตรงกับช่วงปิดปีงบประมาณของรัฐบาลญี่ปุ่นพอดิบพอดี ด้านผู้เชี่ยวชาญในแวดวงอวกาศ มองว่าอาจไม่ง่ายนักที่ญี่ปุ่นจะขึ้นมาผงาดเป็นผู้เล่นในอุตสาหกรรมให้บริการยิงดาวเทียมเชิงพาณิชย์ แต่บรรดานักวิทยาศาสตร์ในประเทศ แย้งว่าโครงการอวกาศทั้งหมดที่กำลังดำเนินอยู่ มีความสำคัญอย่างมาก โดยเฉพาะการสร้างชื่อเสียงด้านการขนส่งอวกาศให้กับประเทศ (กรุงเทพธุรกิจ พุธที่ 2 มี.ค. 48 http://www.bangkokbiznews.com)





เครื่องตรวจคลื่นสมองค้นหาโรค เทคโนฯอวกาศช่วยงานแพทย์

นายวันชัย ศักดิ์เสมอพรหม ที่ปรึกษาบริษัท เมต้า เมด จำกัด เปิดเผยว่า บริษัทได้นำเข้าและทดลองใช้เครื่องตรวจสภาวะของเซลล์ในร่างกาย เพื่อค้นหาสภาพการเปลี่ยนแปลงหรือความผิดปกติที่อาจจะเกิดขึ้น ซึ่งนำไปสู่การป้องกันหรือหาทางรักษาก่อนอาการลุกลาม ด้วยหลักการกระตุ้นคลื่นกระแสความถี่ของเส้นใยประสาทที่สมอง ให้ปล่อยหน่วยความจำต่างๆ ที่รับรู้จากอวัยวะทุกส่วนในร่างกาย จากนั้นส่งสัญญาณแจ้งให้สมองทราบถึงสภาพที่เป็นอยู่และความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นมา และเมื่อเครื่องมือได้รับสัญญาณจากสมอง จะถ่ายทอดไปยังหน่วยแปลงสัญญาณของเครื่องโอริออน แล้วประมวลผลโดยส่วนคอมพิวเตอร์ พร้อมทั้งรายงานผลทางหน้าจอให้ปรากฏเป็นภาพและสัญลักษณ์ต่างๆ ทำให้ทราบถึงสภาวะของเซลล์ เนื้อเยื่อและอวัยวะของระบบร่างกายต่างๆ โดยใช้เวลาตรวจหาความผิดปกติของร่างกาย 30-45 นาทีในแต่ละครั้ง เครื่องโอริออนเป็นเครื่องมือที่ใช้เทคโนโลยีในยานอวกาศ ซึ่งนักบินอวกาศจะตรวจสภาพร่างกาย และวิเคราะห์โรคที่อาจเกิดขึ้นล่วงหน้า จึงถือเป็นเครื่องมือที่เหมาะสำหรับงานด้านเวชกรรมป้องกันโรคล่วงหน้า ส่วนการนำเข้ามาทดลองใช้ในประเทศไทยนี้เป็นเครื่องแรกในแถบภูมิภาคเอเชีย ด้านนายแพทย์ชาตรี บานชื่น อธิบดีกรมการแพทย์ กล่าวว่า เครื่องมือตรวจสภาพร่างกายดังกล่าว ถือเป็นเทคโนโลยีใหม่ในการตรวจโรค แต่ยังต้องศึกษาวิจัยทางคลินิกก่อนที่จะสรุปว่า เครื่องมือดังกล่าวสามารถใช้ได้ผลดีหรือไม่ ฉะนั้น กรมการแพทย์จะนำไปทดสอบกับผู้ป่วยติดยาเสพติด ที่สถาบันธัญญารักษ์เพื่อเปรียบเทียบผลการรักษา โดยจะตั้งทีมวิจัยขึ้นมาเพื่อเก็บข้อมูลและวิจัยโดยเฉพาะ รวมทั้งประสานกับทีมงานทางวัดถ้ำกระบอก ขณะที่ น.ต.นพ.บุญเรื่อง ไตรเรืองวรวัฒน์ ผู้อำนวยการสถาบันธัญญารักษ์ กล่าวว่า เครื่องมือนี้เป็นเพียงเครื่องมือคัดกรองผู้ป่วยเบื้องต้น ไม่ใช่เครื่องเอกซเรย์ หรือเครื่องอัลตราซาวด์ ในการดูผลภายในร่างกายได้ อีกทั้งไม่สามารถบอกว่าผู้ป่วยเป็นโรคอะไร ซึ่งยังต้องทำงานร่วมกับการวินิจฉัยการแพทย์ที่เป็นมาตรฐาน เพียงแต่จะช่วยร่นระยะเวลาการวินิจฉัยหรือการตรวจโรคของแพทย์เท่านั้น (กรุงเทพธุรกิจ พุธที่ 2 มี.ค. 48 http://www.bangkokbiznews.com)





ทักษิณสั่งพัฒนา"กัญชง"ผลิตเสื้อผ้าส่งออก

นายจักรภพ เพ็ญแข โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พ.ต.ท.ทักษิณ นายกรัฐมนตรี ได้กล่าวในที่ประชุม ครม.ว่า จากการที่ตามเสด็จฯสมเด็จพระนางเจ้าฯพระบรมราชินีนาถ ที่ภาคเหนือที่ภูชี้ฟ้า จ.เชียงราย ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้นายกฯ นำมาปรับเป็นนโยบายการปลูกพืชเศรษฐกิจ ในพื้นที่ของชาวเขา เช่น การปลูกกัญชง ซึ่งมีลักษณะคล้ายกัญชา แต่พืชชนิดนี้เป็นพืชเศรษฐกิจที่มีราคาสูงมาก ใช้เวลาปลูกเพียง 4 เดือน แต่สามารถขายได้ถึงกก.ละ 300 บาท โดยใช้พื้นที่ปลูก 1 ไร่ จะได้ผลผลิต 100 กก. สำหรับพืชกัญชงนั้น จะสามารถนำมาเป็นวัตถุดิบที่ใช้ในการทอผ้า ซึ่งมีคุณสมบัติในการระบายอากาศ และใช้ได้ทั้งในพื้นที่อากาศร้อนและหนาว ซึ่งผ้าชนิดนี้ชาวญี่ปุ่นนิยมมาก นายกฯ ได้มอบหมายให้สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) ไปศึกษาเพิ่มเติม ว่าทำอย่างไร ถึงจะพัฒนาการปลูกกัญชงให้เพิ่มขึ้น แต่ต้องระวังเพราะกัญชงมีฤทธิ์ของสารเสพติดคล้ายกัญชา ซึ่งจะต้องไปดูแล ไม่ให้มีการลักลอบนำกัญชามาขายแทนกัญชง (กรุงเทพธุรกิจ พุธที่ 2 มี.ค. 48 http://www.bangkokbiznews.com)





สาธารณสุขร่างก.ม. โคลนนิง "มนุษย์" เน้นปกป้องศักดิ์ศรี

น.พ.สมศักดิ์ ชุณหรัศมิ์ เลขาธิการมูลนิธิสาธารณสุขแห่งประเทศไทย กล่าวว่า กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข อยู่ระหว่างการร่าง พ.ร.บ.การทดลองในมนุษย์ เพื่อออกมาควบคุมการวิจัย และการทดลองต่างๆ ที่ใช้มนุษย์เป็นกลุ่มตัวอย่าง เช่น การวิจัยยีนของมนุษย์ การทดลองทางคลินิกยาชนิดใหม่ๆ โดยมีการเชิญตัวแทนจากหน่วยงานต่างๆ เข้าร่วมเป็นกรรมการในการร่าง พ.ร.บ. ซึ่งประเด็นหลักในการร่าง พ.ร.บ.นี้ ก็เพื่อควบคุมการทดลองในมนุษย์ให้ปลอดภัยมากที่สุด สิ่งแวดล้อมในการทดลอง วิจัยเปลี่ยนแปลง ไปค่อนข้างมาก โดยเฉพาะ 3 เรื่อง คือ ประการแรกไทยมีการวิจัยที่ร่วมมือกับต่างประเทศมากขึ้น ทำให้ประเด็นทางจริยธรรมเปลี่ยนแปลงไปจากเดิม หากมีการวิจัยแค่ในประเทศ ผู้ดำเนินการวิจัยจะต้องหากระบวนการให้ผู้ถูกวิจัยไม่ได้รับความเสียหาย แต่ปัจจุบันมีความร่วมมือจากต่างประเทศมากขึ้น จึงต้องคิดถึงการปกป้องศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ไปพร้อมๆ กัน ประการต่อมา การวิจัยก้าวหน้าไปมาก การเก็บข้อมูลทางพันธุกรรมต้องเก็บอย่างรอบคอบ เพื่อไม่ให้ข้อมูลถูกเผยแพร่ออกไป ทั้งนี้การที่สามารถถอดรหัสพันธุกรรมของมนุษย์ได้ ต้องนำไปสู่การวิจัยว่ายีนใดทำหน้าที่อย่างไร และประการสุดท้าย การแบ่งปันทรัพย์สินทางปัญญาที่เกิดขึ้น จำเป็นจะต้องกำหนดชัดเจนว่าผู้ถูกทดลองมีสิทธิได้รับการแบ่งปันผลประโยชน์หรือไม่ ยังไม่ทราบว่ากฎหมายฉบับนี้จะออกมาอย่างไร แต่หลักๆ ก็จะต้องตอบคำถามว่าจำเป็น หรือไม่ที่จะต้องมีกลไกการควบคุมการทดลองในมนุษย์ระดับชาติ เพื่อมาพิจารณาเรื่องนี้ (กรุงเทพธุรกิจ พุธที่ 2 มี.ค. 48 http://www.bangkokbiznews.com)





GMail ขีดสุดความล้ำหน้าด้านธุรกิจสารสนเทศ

GMail ซึ่งถือวันเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 1 เมษายน 2547 ก็กลายเป็น talk of the world เป็นเรื่องที่คนบนอินเตอร์เน็ตพูดถึงกันมากที่สุด เพราะสิ่งที่ GMail เสนอให้แก่ผู้ใช้บริการเป็นสิ่งที่ไม่มีใครทำได้มาก่อน GMail ให้เนื้อที่เก็บเมล์ฟรีๆ ถึง 1000 Mbytes (1 G) หนึ่งเมล์เฉลี่ยประมาณ 3Kbytes (3,000 ตัวอักษร) เรียกว่าเก็บอี-เมลได้กว่า 300,000 ฉบับ เรียกว่าไม่ต้องคิดว่าจะลบเมล์ไหนดี หรือเมื่อไรเมล์บอกซ์จะเต็ม แต่หลายคนคงคิดว่า พอมีเมล์เยอะอย่างนี้ หากเราจะอ่านซ้ำก็คงต้องหากันเหงื่อตกเลยซิ ว่าเมล์ไหนเป็นเมล์ไหน เก็บไว้ที่ไหน ตั้งเป็นแสนๆ เมล์ เรื่องนี้ GMail บอกว่าไม่ต้องตกใจ เพราะเขาจะใช้เทคโนโลยีการค้นหาความเร็วสูงแบบ google ในการหาเมล์ ที่สำคัญ เขามีเทคโนโลยี Data Mining (เทคโนโลยีเหมืองข้อมูล) นำเอาอี-เมลมาจัดหมวดหมู่ตามความหมายของมัน พูดง่ายๆ ว่า GMail รู้ว่าเนื้อเรื่องที่คุณเขียนในเมล์ หรือเมล์ที่มีคนส่งให้กำลังพูดเรื่องอะไรกันอยู่ ระบบคอมพิวเตอร์จะรู้ มันจะประมวลผลเองอัตโนมัติจากคำศัพท์และประโยค มาตีเป็นความหมาย โดยอาศัยเทคโนโลยี Natural Language Processing แปลเป็นความหมายแล้วจัดหมวดหมู่ตามความหมาย เช่น กรุ๊ปเมล์ที่พูดถึงเรื่องกีฬา เมล์ที่พูดเรื่องการเรียน เป็นต้น ตรงนี้นี่เองที่เป็นจุดขายของ GMail ขณะเดียวกันก็เป็นจุดที่ทำให้คนคุยกัน วิเคราะห์วิจารณ์ ไม่รู้จบทั่วโลก เพราะ GMail รู้ว่าคุณกำลังคุยกันเรื่องอะไร ทำให้ GMail จับโฆษณาสินค้าที่ตรงประเด็นกับเรื่องในเนื้อเมล์ และใกล้เคียงกับความสนใจของคุณ ใส่มาให้คุณโดยอัตโนมัติ ขณะนี้ GMail ยังไม่เข้าใจภาษาไทย (มติชนรายวัน พฤหัสบดีที่ 3 มีนาคม 2548 http://www.matichon.co.th)





เตือนอีก 5 ปี มนุษย์จะเปิดช่อง ให้กับบรรดาเชื้อโรคดื้อยา

ศาสตราจารย์ยอร์จ โพสต์ นักวิทยาศาสตร์ผู้ได้รับการยกย่องว่า เป็นนักวิทยาศาสตร์ที่ทรงอิทธิพลของโลกคนหนึ่ง ได้กล่าวระบุไว้ว่า มนุษย์จะเท่ากับถูกทิ้งให้ล่อแหลมกับการตกเป็นเหยื่อของพวกเชื้อโรคดื้อยาต่างๆ ระหว่างช่วงเวลา พ.ศ.2553 กับ พ.ศ.2558 พวกเชื้อโรคเหล่านั้นจะออกอาละวาดได้อย่างเต็มที่ เพราะไม่มียาปฏิชีวนะขนานใดที่จะปราบมันลงได้ ด้วยเหตุกว่านักวิทยาศาสตร์จะสามารถค้นคิดยาที่ทรงฤทธิ์ใหม่ๆขึ้นมาแทนได้นั้น จะต้องใช้เวลากันไม่น้อยกว่า 5 ปี ทุกวันนี้เชื้อโรคดื้อยาเหล่านี้ ก็ปรากฏขึ้นบ้างแล้ว โดยเฉพาะที่น่ากลัวกว่าเพื่อน ได้แก่ พวกเชื้อสายพันธุ์เอ็มอาร์เอสเอ ซึ่งมันทนกับยาปฏิชีวนะทุกขนานได้หมดอยู่แล้ว (ไทยรัฐ ศุกร์ที่ 5 มี.ค. 48 http://www.thairath.co.th)





แผนระเบิดดวงจันทร์

นักวิทยาศาสตร์ผู้นั้น ชื่อ อเล็กซานเดอร์ เอเบียน (Alexander Abian) เมื่อปี 1991 อเล็กซานเดอร์ เอเบียน ประจำอยู่ที่มหาวิทยาลัยไอโอวา สหรัฐอเมริกา และได้เสนอแผนระเบิดดวงจันทร์เป็นข่าวเกรียวกราวไปทั่วโลก เขาเป็นศาสตราจารย์นักคณิตศาสตร์ระดับชั้นนำคนหนึ่งของโลก มีผลงานการวิจัยตีพิมพ์ในวารสารวิชาการคณิตศาสตร์ระดับโลกกว่า 200 ชิ้น ความคิดของเขาจึงทำให้วงการวิทยาศาสตร์โลกต้องฟังทีเดียว ข้อเสนอของเขาเป็นข้อเสนอเชิงวิชาการ โดยมีเป้าหมายเพื่อแก้ปัญหาความแปรปรวนของสภาพลมฟ้าอากาศโลก ที่เกิดจากแกนหมุนของโลกเอียง ทำมุมประมาณ 23 องศากับเส้นตั้งฉากของระนาบการโคจรรอบดวงอาทิตย์ของโลก ส่งผลให้ฤดูกาลทางซีกโลกเหนือและซีกโลกใต้ตรงข้ามกัน เขาเสนอแผนระเบิดดวงจันทร์ โดยวางแผนอย่างละเอียด เพื่อให้ชิ้นส่วนของดวงจันทร์มีขนาดตามที่เหมาะสม ตกหรือพุ่งชนโลก ณ ตำแหน่งบนโลกที่เหมาะสม แล้ว ศ.อเล็กซานเดอร์ เอเบียน เชื่อว่า จะทำให้แกนหมุนของโลกหายเอียง มีปฏิกิริยาออกมาตรงกันเป็นส่วนใหญ่ ไม่เห็นด้วยกับแผนระเบิดดวงจันทร์ เพราะไม่เชื่อว่าจะแก้ไขปัญหาแกนหมุนของโลกเอียงได้จริง และที่สำคัญ นักวิทยาศาสตร์ส่วนใหญ่คิดว่า การเอียงของแกนหมุนโลกเป็นปัญหาจริงๆ (ข่าวสด อาทิตย์ที่ 6 มีนาคม 2548 http://www.matichon.co.th/khaosod)





ข่าววิจัย/พัฒนา


เร่งวิจัยเศษวัสดุทดแทนไม้

นายฉัตรชัย รัตโนภาส อธิบดีกรมป่าไม้ เปิดเผยว่า จากการลดจำนวนอย่างรวดเร็วของป่าไม้ เพราะการบุกรุกเข้าครอบครองพื้นที่ป่าไม้เพื่ออยู่อาศัยทำกินและการตัดไม้เพื่อใช้ประโยชน์ให้เพียงพอกับความต้องการที่เพิ่มขึ้นตามจำนวนประชาชนและการเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศ ส่งผลให้ปัจจุบันพื้นที่ป่าไม้ของไทยเหลืออยู่เพียง 86 ล้านไร่ หรือประมาณ 26% ขณะที่ความต้องการบริโภคไม้ของประเทศไทยมีมากกว่า 3 ล้านลูกบาศก์เมตรต่อปี ทำให้ไทยต้องนำเข้าไม้จากต่างประเทศถึง 99% ของการบริโภคไม้ในประเทศ คิดเป็นมูลค่ากว่า 16,000 ล้านบาทต่อปี เพื่อเป็นการแก้ปัญหาการขาดแคลนไม้ใช้ในประเทศและลดการนำเข้าไม้ แนวทางการใช้ประโยชน์จากเศษวัสดุและเศษวัสดุการเกษตรเพื่อทดแทนการใช้ไม้จากป่าธรรมชาติจึงเกิดขึ้น โดยสำนักวิจัยการจัดการป่าไม้และผลิตผลป่าไม้ กรมป่าไม้ ได้ศึกษาและวิจัยทดลองขึ้นรูปเป็นผลิตภัณฑ์ต่างๆ จนปัจจุบันสามารถผลิตแผ่นประกอบชีวภาพเพื่อทดแทนไม้ได้เป็นผลสำเร็จ ซึ่งได้รับความสนใจจากประชาชนที่ต้องการจะศึกษาเทคโนโลยีดังกล่าว (ข่าวสด จันทร์ที่ 28 ก.พ. 48 http://www.matichon.co.th/khaosod)





เทคโนประดิษฐ์ -เครื่องกำจัดลูกน้ำ ป.6 ประดิษฐ์จากขวดเก่า

ด.ช.ธวัธชัย ประสานเชื้อ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนสุนทรวัฒนา จ.ชัยภูมิ ใช้ความเป็นนักช่างสังเกตจนสามารถผลิตเครื่องกำจัดลูกน้ำยุงลาย จากวัสดุเหลือใช้เป็นผลสำเร็จ เปิดเผยว่า แรกเริ่มด้วยความที่เคยเล่นซุกซน นำขวดน้ำดื่ม ที่เหลือใช้ไปลอยในโอ่งน้ำข้างบ้าน สังเกตในวันต่อมาเห็นมีลูกน้ำเข้าไปอยู่ในขวด จึงปิดจุกขวดทิ้งไว้และกลับมาดูในภายหลังพบว่าลูกน้ำตายไปหมดแล้ว ประกอบกับ ด.ช.ธวัธชัย เป็นนักเรียนอาสาสมัครนักเรียน (อสร.) มีหน้าที่สำรวจและกำจัดลูกน้ำยุงลายที่อยู่ในแหล่งน้ำตามโรงเรียน จึงเสนอแนวคิดต่อคณะครู ถึงวิธีกำจัดลูกน้ำยุงลาย จนเป็นที่มาของการประดิษฐ์เครื่องกำจัดยุงลายที่มีชื่อว่า "ยุงลายหลงกล" วิธีการใช้ "ยุงลายหลงกล" เพียงนำไปลอยในที่ที่มีลูกน้ำยุงลายอยู่ โดยเอียงให้น้ำเข้าทางช่อง 3 ช่อง จนถึงระดับเหนือปากขวดทั้งสองเล็กน้อย กลับขวดให้ช่องทางเข้าทั้ง 3 อยู่ใต้น้ำไม่นานลูกน้ำจะว่ายเข้าไปในขวดและโตเป็นยุงลาย ต่อไปจะตายอยู่ในขวด เนื่องจากไม่มีทางออกไปหาอาหาร เป็นการกำจัดยุงลายอีกวิธีหนึ่ง สำหรับข้อดีของสิ่งประดิษฐ์นี้คือ ทุกหลังคาเรือนสามารถทำเองได้โดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายใดๆ เพียงนำวัสดุเหลือใช้ที่เป็นขวดน้ำพลาสติกใสมาประดิษฐ์ได้ง่าย ช่วยลดค่าใช้จ่าย ลดการใช้ยาฆ่าแมลง และที่สำคัญช่วยลดอัตราการเกิดโรคไข้เลือดออกที่มียุงลายเป็นพาหะได้ดีอีกทางหนึ่งด้วย (คมชัดลึก จันทร์ที่ 28 ก.พ. 48 http://www.komchadluek.net)





โทรศัพท์มือถือรุ่นใหม่มีเทคโนโลยี สร้างความรู้สึกสัมผัสถูกตัวกันได้

บริษัทโทรศัพท์ซัมซุง โทรศัพท์มือถือของเกาหลีใต้ ใช้เทคโนโลยีของการสร้างความรู้สึกสัมผัส สร้างโทรศัพท์มือถือรุ่นใหม่ขึ้น ไม่แต่เพียงแค่ใช้ส่งภาพนิ่งและวีดิโอเท่านั้น หากแต่เครื่องยังสั่นสะเทือน ก่อให้เกิดความรู้สึกเหมือนการสัมผัสถูกตัว เหมือนจริงเหมือนจังยิ่งขึ้นด้วย บริษัทจะได้ผลิตโทรศัพท์มือถือด้วยเทคโนโลยีใหม่ ออกสู่ตลาดในตอนปลายเดือนหน้านี้ โดยที่มันจะสามารถสร้างความตื่นเต้น ให้กับผู้รับทางอีกสายหนึ่งได้เหมือนกับโดนผีหลอก บริษัทจะใช้เทคโนโลยีดังกล่าว ในการเล่นวีดิโอเกมกับแผ่นกระดานเกมที่สั่นได้ และอาจใช้ บังคับพวงมาลัยของเครื่องเล่นเกมให้หันตามได้ด้วย โดยบริษัทซัมซุงได้ให้บริษัทอิมเมอร์สัน ที่เมืองซาน โฮเซ รัฐแคลิฟอร์เนีย พัฒนาเทคโนโลยีด้านนี้ขึ้นและขณะนี้ทีมนักวิจัยชุดนี้ก็กำลังพยายามจะพัฒนาเทคโนโลยี เพื่อจะทำให้ผู้บริโภคได้รับรู้ความรู้สึก เมื่อสัมผัสลูบคลำสินค้าต่างๆ ด้วยโทรศัพท์มือถือ (ไทยรัฐ อังคารที่ 1 มีนาคม 2548 http://www.thairath.co.th)





เจลแอลกอฮอล์เหลว นวัตกรรมใหม่จากราชมงคล

อาจารย์วานิช โสภาสพ อาจารย์ประจำภาควิชาฟิสิกส์ คณะวิทยาศาสตร์ สถาบันเทคโนโลยีราชมงคล ได้คิดค้น ชุดสาธิต การผลิตเจลแอลกอฮอล์เชื้อเพลิง โดยใช้พลังงานแสงอาทิตย์ขึ้น ซึ่งนอกจากจะเป็นการผลิตโดยใช้ความร้อนจากพลังงานแสงอาทิตย์ ทดแทนการใช้พลังงานเชื้อเพลิง แล้วผลิตภัณฑ์เจลแอลกอฮอล์ที่ได้ ยังทำจากเอทิลแอลกอฮอล์ (สกัดได้จากพืช) ที่สามารถนำมาแต่งกลิ่นเลียนแบบธรรมชาติได้ ทำให้ปัญหาเรื่องกลิ่นเหม็นหมดไป เขา เปิดเผยถึงหลักการทำงานของชุดสาธิตดังกล่าวว่า "ใช้หลักการทางวิทยาศาสตร์ เพื่อทำน้ำอุ่นจากพลังงานแสงอาทิตย์ โดยปล่อยน้ำให้ไหลเวียนเข้าไปในแผงรับความร้อนจากดวงอาทิตย์ และน้ำก็จะไหลเข้าสู่ถัง 3 ชั้น โดยชั้นนอกเป็นถังที่หุ้มด้วยฉนวนกันความร้อน ชั้นกลางจะเป็นส่วนบรรจุน้ำร้อนที่ผลิตจากพลังงานแสงอาทิตย์ และชั้นในบรรจุแอลกอฮอล์ที่จะนำมาใช้ทำเจลแอลกอฮอล์เหลว ซึ่งจะใส่แอลกอฮอล์ลงไป เมื่อน้ำร้อนมีอุณหภูมิ 70 องศาเซลเซียส อุ่นจนแอลกอฮอล์นั้นมีอุณหภูมิ 60 องศาเซลเซียส จึงเติมกรดไขมันสเตรียอิก ประมาณ 15 กรัมต่อแอลกอฮอล์ 1 ลิตร แล้วกวนให้เข้ากัน จากนั้นเติมผงเซลลูโลส ประมาณ 15 กรัมต่อ 1 ลิตร เพื่อให้ส่วนผสมเกิดความหนืด แล้วแต่งกลิ่น เจือสีธรรมชาติ เช่น กลิ่นมะลิ มะนาว และกลิ่นกุหลาบ กวนให้เข้ากันอีกครั้ง แล้วเติมโซดาไฟ ประมาณ 20 กรัมต่อลิตร เพื่อเร่งให้ส่วนผสมแข็งตัวได้เร็วขึ้น แล้วจึงนำส่วนผสมที่ได้มาบรรจุลงในภาชนะที่ต้องการ ชุดสาธิตนี้สามารถผลิตเจลแอลกอฮอล์เหลวได้ประมาณ 5,000 อันต่อวัน และสามารถจำหน่ายได้อันละ 4 บาท นอกจากนี้ ชุดสาธิตนี้จะใช้ผลิตเจลแอลกอฮอล์เหลวได้แล้ว ยังสามารถนำไปพัฒนาต่อยอด ให้เป็นเครื่องต้นแบบเพื่อผลิตสบู่ เทียนหอม และกลั่นสมุนไพรต่างๆ ได้อีกด้วย ผู้ใดสนใจการผลิตเจลแอลกอฮอล์เหลว โดยใช้พลังงานแสงอาทิตย์นี้ สามารถติดต่อขอคำปรึกษาได้ที่ ภาควิชาฟิสิกส์ คณะวิทยาศาสตร์ ศูนย์กลางสถาบันเทคโนโลยีราชมงคล อำเภอธัญบุรี จังหวัดปทุมธานี หมายเลขโทรศัพท์ 0-2549-3511 ต่อ 709, 0-9183-8089 ในวันและเวลาราชการ (กรุงเทพธุรกิจ อังคารที่ 1 มี.ค. 48 http://www.bangkokbiznews.com)





โฉมใหม่สตาร์ตจักรยานยนต์ สแกนลายนิ้วมือแทนกุญแจ

นายดำรงเกียรติ เขื่อนคำ และนายจรัญ คำเวโล นักศึกษามหาวิทยาลัยพายัพ เปิดเผยว่า พวกเขาได้คิดค้นระบบป้องกันขโมยสำหรับรถจักรยานยนต์ทุกประเภท โดยอาศัยเทคโนโลยีการจดจำลายนิ้วมือเจ้าของรถ (Finger Print ) เพื่อสตาร์ตเครื่องโดยไม่ต้องใช้กุญแจรถ และมั่นใจว่าระบบที่คิดค้นขึ้นนี้จะช่วยป้องกันทรัพย์สินได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยใช้โปรแกรมเพื่อใช้บันทึกลายนิ้วมือด้วยภาษาแอสแซมบลี โดยโปรแกรมที่ได้สามารถบันทึกลายนิ้วมือของผู้ขับขี่ได้ถึง 74 ลายนิ้วมือ และหากต้องการสตาร์ตเครื่องยนต์ ทำได้ด้วยการบันทึกลายนิ้วมือผ่านปุ่มกดจากนั้นกดยืนยันข้อมูล เพียงแค่นี้ลายนิ้วมือดังกล่าวจะได้รับการบันทึกอยู่ในระบบ" นายดำรงเกียรติ กล่าวและว่า โครงการนี้ อาจารย์ตะวัน ทองพุก เป็นที่ปรึกษาโครงการ สำหรับระบบกันขโมยดังกล่าว ประกอบด้วย เครื่องสแกนลายนิ้วมือที่ติดตั้งบริเวณคอรถ หรือติดตั้งแทนที่ช่องเสียบกุญแจรถ ขณะที่เครื่องสแกนอยู่ในลักษณะพร้อมใช้งาน จะปรากฏไฟสีแดงขึ้นเพื่อรอให้ผู้ใช้ป้อนลายนิ้วมือ จากนั้นตรวจดูการแสดงผลผ่านหน้าจอแอลซีดีขนาดเล็ก ซึ่งจะติดตั้งบริเวณคันเร่ง ที่เชื่อมต่อกับปุ่มกดและกล่องบันทึกข้อมูลที่อยู่บริเวณใต้เบาะที่นั่ง ระบบสามารถนำไปติดตั้งใช้กับรถจักรยานยนต์แทบทุกประเภท ไม่ว่าจะเป็นรถที่มีปุ่มกดสตาร์ตมือ รถที่สตาร์ตด้วยเท้า ตลอดจนรถที่มีคลัตช์ และรถทั่วไปที่ไม่มีคลัตช์ แต่ก่อนการติดตั้งจะต้องศึกษาระบบไฟของรถแต่ละคัน เพียงเท่านี้ก็สามารถติดตั้งระบบดังกล่าวได้ โดยใช้งบในการติดตั้งประมาณ 6,000 บาท อย่างไรก็ตาม จักรยานยนต์ที่ติดตั้งระบบนี้จำเป็นต้องถอดหรือสลับขั้วสายไฟ ที่เชื่อมกับระบบกุญแจออกไป ทำให้ไม่สามารถสตาร์ตได้ด้วยกุญแจ โครงการพัฒนาระบบป้องกันการโจรกรรมจักรยานยนต์ด้วยเทคโนโลยีจดจำลายนิ้วมือดังกล่าว เป็นหนึ่งใน 16 โครงการของสาขาโปรแกรมเพื่องานพัฒนาด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี กลุ่มนักศึกษา ที่เข้าร่วมการแข่งขันพัฒนาโปรแกรมคอมพิวเตอร์แห่งประเทศไทย ครั้งที่ 7 (NSC2005) ในงานมหกรรมการประกวดเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารแห่งประเทศไทย ครั้งที่ 4 (กรุงเทพธุรกิจ อังคารที่ 1 มี.ค. 48 http://www.bangkokbiznews.com)





เฟ้นไทยเจ้าภาพประชุมจริยธรรมนักวิทย์ ยกร่างปฏิญญากรุงเทพคุมผลประโยชน์วิจัยข้ามชาติ

นายกร ทัพพะรังสี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เปิดเผยว่า ไทยเป็นประเทศแรกในเอเชียที่ได้รับเลือกจากองค์การสหประชาชาติ (ยูเนสโก) ให้เป็นเจ้าภาพในการประชุมคณะกรรมาธิการโลก ว่าด้วยจริยธรรมในความรู้ด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (โคเมส) ครั้งที่ 4 ซึ่งจะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 23-25 มีนาคมนี้ ณ โรงแรมอิมพีเรียล ควีนส์ปาร์ค โดยการประชุมจะเน้นไปที่หัวข้อหลัก เกี่ยวกับการศึกษาจริยธรรม ด้านสิ่งแวดล้อม ธรรมาภิบาลของวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี การแบ่งปันผลประโยชน์และความร่วมมือในการวิจัยระหว่างประเทศ จริยธรรมการใช้สัตว์ทดลองและสิทธิมนุษยชน โคเมส เป็นการประชุมที่ให้ความสำคัญกับงานด้านจริยธรรมทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี โดยทำงานประสานระหว่างผู้มีอำนาจตัดสินใจร่วมกับสาธารณชนทั่วไป เนื้อหาจะครอบคลุม 6 ด้านหลักดังกล่าว เป้าหมายเพื่อส่งเสริมและสนับสนุนการใช้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีให้ถูกต้องและมีจริยธรรม โดยไม่ล่วงละเมิดในสิทธิและศักดิ์ศรีของความเป็นมนุษย์ โดยเฉพาะด้านชีวภาพ สิ่งแวดล้อม และความหลากหลายทางวัฒนธรรม ปัจจุบันประกอบด้วย 18 สมาชิกหลัก ที่มาจากผู้ทรงคุณวุฒิจากสาขาต่างๆ ความก้าวหน้าทางวิทยาศาสตร์เป็นไปอย่างรวดเร็ว เทคโนโลยีที่เกิดใหม่ นาโนเทคโนโลยี เทคโนโลยีอวกาศ ยาสมุนไพรรักษาโรค ที่พัฒนาอยู่ตลอดเวลา ฉะนั้น การวางแนวทางด้านจริยธรรมเพื่อส่งเสริมคุณภาพชีวิตของมนุษย์ จึงเป็นส่วนที่ต้องเร่งให้ความสำคัญ การประชุมจะนำไปสู่การร่างปฏิญญาจริยธรรมทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ซึ่งจะใช้เป็นพื้นฐานการวิจัยด้านวิทยาศาสตร์ เพื่อป้องกันความเสี่ยงที่เกิดจากความขัดแย้งในผลประโยชน์ และผลกระทบต่อจริยธรรมของมนุษยชาติ ปฏิญญาดังกล่าวจะใช้ชื่อว่า ปฏิญญากรุงเทพว่าด้วยจริยธรรมทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (Bangkok Declaration on Ethics in Science and technology) (กรุงเทพธุรกิจ อังคารที่ 1 มี.ค. 48 http://www.bangkokbiznews.com)





ซอฟต์แวร์อัจฉริยะ แปล 4 ภาษาได้พริบตา

เควิน ไนท์ และแดเนียล มาร์คู นักวิทยาศาสตร์จากมหาวิทยาลัยเซาเทิร์นแคลิฟอร์เนีย ได้พัฒนาซอฟต์แวร์แปลภาษารูปแบบใหม่ ซึ่งสามารถแปลภาษาอังกฤษให้เป็นภาษาอื่น 4 ภาษา ได้แก่ อาหรับ จีน ฝรั่งเศสและสเปน ซึ่งทุกภาษาสามารถแปลกลับมาเป็นภาษาอังกฤษได้ ซอฟต์แวร์นี้จะเป็นเครื่องมือแห่งการเรียนรู้โฉมใหม่ ที่ช่วยให้คอมพิวเตอร์เข้าใจในโครงสร้างภาษา ที่แตกต่างกันได้อย่างทะลุปรุโปร่ง ต่างจากเครื่องมือแปลภาษาก่อนหน้านี้ ซึ่งจะอาศัยการผสมคำและแปลออกมาเป็นภาษาเท่านั้น" ไนท์ ระบุในการประชุมสมาคมอเมริกันเพื่อความก้าวหน้าทางวิทยาศาสตร์ ในกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. สำหรับการพัฒนาซอฟต์แวร์ดังกล่าว ใช้หลักการทางสถิติว่าด้วยกฎความน่าจะเป็น ในการสร้างคำ วลีและโครงสร้างประโยค โดยกุญแจสำคัญของซอฟต์แวร์ตัวนี้อยู่ที่พารามิเตอร์การแปล (พจนานุกรมคำแปล รูปแบบและกฎเกณฑ์ของการแปล) ซึ่งเป็นส่วนที่ต้องพัฒนาโปรแกรมขึ้นมาโดยเฉพาะ ในการสร้างพารามิเตอร์การแปลในหลากหลายรูปแบบนั้น จะพัฒนาบนฐานของเอกสารที่แปลแล้ว จากนั้นจึงนำมาจัดเรียงตำแหน่งตามความน่าจะเป็น โดยที่ผ่านมาทั้งสองได้ร่วมกันสแกนเอกสารที่แปลแล้วนับพันฉบับใส่เข้าไปในซอฟต์แวร์ดังกล่าว เพื่อเป็นตัวสอนให้กับสูตรคณิตศาสตร์ หรืออัลกอริธึมการแปล ซึ่งระบบนี้ใช้เวลาแปลเร็วมาก และยังเหมาะที่จะใช้แปลภาษาทั่วไปและศัพท์แปลกๆ ที่พบมากในเอกสารเฉพาะหรือเชิงเทคนิคด้วย (คมชัดลึก อังคารที่ 1 มีนาคม 2548 http://www.komchadluek.net)





ไอบีเอ็มพัฒนารีโมทล้ำสมัย สั่งงานด้วยเสียง

บริษัท ไอบีเอ็ม ประกาศความร่วมมือกับผู้ผลิตเบราเซอร์อิสระ "โอเปร่า ซอฟต์แวร์" เพื่อผลิตโปรแกรมที่สั่งงานได้ด้วยเสียง โดยทีมวิศวกรของบริษัทคาดว่า จะช่วยผลักดันให้อุปกรณ์ผู้บริโภคยุคใหม่สนใจใช้โปรแกรมจดจำเสียงแทนเมนู และระบบควบคุมระยะไกลที่ใช้งานได้ยาก โดยเทคโนโลยีจดจำเสียง จะช่วยให้ผู้ใช้สามารถสั่งงานอุปกรณ์เหล่านี้ได้สะดวกขึ้น แทนที่จะต้องใช้อุปกรณ์ควบคุมระยะไกลในการค้นโครงสร้างเมนูคำสั่ง ผู้ใช้ก็สามารถสั่งงานได้ทันทีด้วยเสียงของตนเอง ทั้งนี้ เทคโนโลยีสั่งงานด้วยเสียง "เวียวอยซ์" (ViaVoice) ของไอบีเอ็ม มีการใช้งานอย่างแพร่หลายอยู่แล้ว ตามศูนย์บริการลูกค้าของบริษัทต่างๆ และเริ่มมีการนำมาใช้ในระบบนำทางรถยนต์มากขึ้นในช่วงที่ผ่านมา เพื่อช่วยให้ผู้ขับรถไม่จำเป็นต้องกดปุ่มเมนูคำสั่งที่ซับซ้อนสำหรับเปิดฟังเพลง หรืออุปกรณ์บันเทิงอื่นๆ ภายในตัวรถ ซึ่งอาจเป็นอันตรายต่อการขับขี่ได้ ขณะที่ ค็อกซ์ เชื่อมั่นว่า เทคโนโลยีดังกล่าวจะนำมาใช้ในอุปกรณ์อื่นๆ อีกในอนาคต หากเทคโนโลยีการประมวลผลมีความก้าวหน้ามากขึ้น และช่วยให้ผู้ผลิตสามารถติดตั้งโปรแกรมจดจำเสียงลงในอุปกรณ์ขนาดเล็กได้ ทั้งนี้ ในอนาคตอาจมีเครื่องเล่นเพลง "ไอพ็อด" ที่สั่งงานด้วยเสียงได้ (คมชัดลึก อังคารที่ 1 มีนาคม 2548 http://www.komchadluek.net)





‘นวัตกรรม ประหยัดพลังงาน’

บริษัท ไทยเอ็นเนอร์ยี่คอนเซอร์เวชั่น จำกัด ก็เป็นอีกหน่วยงานหนึ่งที่ตระหนักถึงเรื่องนี้ โดยมุ่งเน้นผลิต นวัตกรรมประหยัดพลังงาน ฝีมือบริษัทคนไทย 100% ไม่ว่าจะเป็นอุปกรณ์เสริม เพื่อช่วยให้เกิดการประหยัดพลังงาน อาทิ โคมไฟอิเล็กทรอนิกส์ ภายใต้ชื่อ “E-Set Plug in สุดยอดนวัตกรรม ประหยัดพลังงาน, โอโซนเจนเนอเรเตอร์ สำหรับติดตั้งในคลูลิ่งทาวเวอร์ของแอร์ขนาดใหญ่ ในโรงงานอุตสาหกรรม และ โรงพยาบาล, มอเตอร์โหลดคอนโทรล, อุปกรณ์ปรับความเร็วรอบมอเตอร์ (VSD) และอุปกรณ์ประจุแบตเตอรี่ระบบแสงอาทิตย์ หรือ โซล่า ชาร์ตเจอร์ และล่าสุด บัล ลาสต์อิเล็กทรอนิกส์ สำหรับหลอด Xe non HID ที่ใช้กับรถยนต์ นายรวิวัฒน์ พนาสันติภาพ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไทยเอ็นเนอร์ยี่คอนเซอร์เวชั่น จำกัด เปิดเผยถึงที่มาของนวัตกรรมประหยัดพลังงานล่าสุดว่า นำแนวคิดจากบัลลาสต์เดิมที่เป็นแบบขดลวดที่ใช้กับหลอดไฟทั่วไปตามบ้าน มาพัฒนาเป็นบัลลาสต์อิเล็กทรอนิกส์ที่ช่วยให้ประหยัดพลังงานได้ถึง 30% หลังจากพัฒนาบัลลาสต์สำหรับหลอดฟลูออเรสเซนซ์จนสำเร็จมาแล้ว ก็ได้เริ่มที่จะทำบัลลาสต์อิเล็กทรอนิกส์สำหรับหลอดไฟชนิดอื่น ๆ โดยได้รับการสนับสนุนจาก โครงการสนับสนุนการพัฒนาเทคโนโลยีของอุตสาหกรรมไทย (ITAP) ของสำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) ที่ได้จัดส่งผู้เชี่ยวชาญเข้ามาให้คำปรึกษาแนะนำ ดังนั้น บริษัทฯ จึงทำการวิจัย พัฒนาต้นแบบและสร้างกระบวนการผลิตผลิตภัณฑ์บัลลาสต์อิเล็ก ทรอนิกส์สำหรับหลอด Xe non HID ที่ใช้กับรถยนต์ขึ้น จึงนับได้ว่าไทยเอ็นเนอร์ยี่ฯ เป็นผู้บุกเบิกตลาดทางด้านบัลลาสต์อิเล็กทรอนิกส์ประหยัดพลังงาน เป็น รายแรกของไทย ภายใต้แบรนด์ “ECONO-WATD ปัจจุบันมีส่วนแบ่งการตลาดกว่า 70% (เดลินิวส์ อังคารที่ 1 มี.ค. 48 http://www.dailynews.co.th)





เครื่องพาสเจอร์ไรซ์แบบขดประหยัดพลังงานนวัตกรรมใหม่มทร.ข่อนแกน

ดร.ภานุวัฒน์ ทรัพย์ปรุง อาจารย์ประจำภาควิชาวิศวกรรมเทคโนโลยี อาหาร มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน วิทยาเขตขอนแก่น ได้คิดค้น เครื่องพาสเจอร์ไรซ์แบบขดประหยัดพลังงาน (Low En er gy Pas teur iz er) ขึ้น โดยเครื่องพาสเจอร์ไรซ์ นี้จะช่วยลดขั้นตอนที่ผู้ผลิตจะต้องไปสัมผัสโดยตรงกับวัตถุดิบที่จะนำมาทำไวน์ หรือน้ำผลไม้ เพราะเพียงเทวัตถุดิบลงไปในตัวเครื่องในส่วนของถังบรรจุเท่านั้น กระบวนการพาสเจอร์ไรซ์ก็จะดำเนินไปโดยอัตโนมัติ สำหรับหลักการทำงานของเครื่องพาสเจอร์ไรซ์แบบขดประหยัดพลังงานนี้ มีส่วนประกอบสำคัญอยู่ 4 ส่วน ส่วนแรกเป็นส่วนถังน้ำร้อน ถังน้ำเย็น ส่วนที่สองเป็นส่วนให้ความร้อน ความเย็น ส่วนที่สามเป็นส่วนผลิตภัณฑ์ก่อนและหลังพาสเจอร์ไรซ์ ส่วนที่สี่เป็นส่วนของชุด Con trol เป็นระบบวงจรไฟฟ้า โดยการทำงานของตัวเครื่องจะเริ่มจากกระบวนการทำน้ำเย็นก่อน ให้น้ำเย็นมีอุณหภูมิคงที่ประมาณ 5-10 องศาเซลเซียส และกระบวนการทำน้ำร้อน ให้น้ำร้อนมีอุณหภูมิประมาณ 90-95 องศาเซลเซียส เมื่อทั้งสองกระบวนการเสร็จแล้ว ก็นำน้ำร้อน น้ำเย็น ที่ได้มาเก็บในส่วนของถังน้ำร้อนและถังน้ำเย็นก่อน แล้วเข้าสู่กระบวนการพาสเจอร์ไรซ์ โดยเริ่มเปิดสวิตช์ เพื่อให้น้ำร้อนไหลไปตามท่อน้ำร้อน และให้น้ำเย็นไหลไปตามท่อน้ำเย็น ต่อมาก็จะสูบเอาผลิตภัณฑ์ให้ไหลเข้ามาในท่อ ที่มีน้ำร้อนหุ้มอยู่ชั้นนอก เพื่อให้ผลิตภัณฑ์ร้อนขึ้น จนถึงอุณหภูมิที่ได้กำหนดไว้ซึ่งแล้วแต่ผลิตภัณฑ์แต่ละชนิด แล้วจึงผ่านการทำความเย็นอย่างรวดเร็ว เพื่อเป็นการน็อกเชื้อ ไม่ให้เจริญเติบโตต่อไปได้อีก กระบวนการพาสเจอร์ไรซ์นี้ ใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง ก็จะได้ไวน์ หรือน้ำผลไม้ครั้งหนึ่งประมาณ 50 ลิตร ซึ่งการพาสเจอร์ไรซ์ผ่านเครื่องพาสเจอร์ไรซ์ นี้เป็นวิธีการที่สามารถป้องกันการสูญเสียพลังงานความร้อนไปโดยเปล่าประโยชน์ได้ เพราะในส่วนให้ความร้อนเราจะมีฉนวนหุ้มส่วนท่อให้ความร้อนและจะถ่ายเทไปให้กับผลิตภัณฑ์เท่านั้น ทำให้ความร้อนไม่สูญเสียไปไหน เครื่องพาสเจอร์ไรซ์ นี้ช่วยให้กลุ่มแม่บ้านสามารถผลิตไวน์ได้รวดเร็วขึ้น และได้มาตรฐาน จนได้รับรางวัลสินค้า OTOP ห้าดาว ผู้สนใจถามรายละเอียดได้ที่ ดร.ภานุวัฒน์ ทรัพย์ปรุง มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน วิทยาเขตขอนแก่น อำเภอเมือง จังหวัดขอนแก่น หมายเลขโทรศัพท์ 0-4323-5403, 0-9861-7415 . (เดลินิวส์ อังคารที่ 1 มี.ค. 48 http://www.dailynews.co.th)





แก้ปัญหาน้ำนมดิบล้นตลาด อ.ส.ค.ผลิตโยเกิร์ตกับนมเปรี้ยว

นายสกุล สุขสวัสดิ์ ผู้อำนวยการองค์การส่งเสริมกิจการโคนมแห่งประเทศไทย หรือ อ.ส.ค. เผยถึงผลิตภัณฑ์ใหม่ว่า อ.ส.ค.ได้คิดค้นผลิตนมเปรี้ยวกับโยเกิร์ตจากนมโคสดแท้ๆ 100% เพื่อช่วยเหลือเกษตรกรไทยที่ทำปศุสัตว์ด้านเลี้ยงโคนมให้มีรายได้เพิ่มมากขึ้น ยังช่วยลดปัญหาน้ำนมดิบล้นตลาดที่เคยเกิดขึ้นอีกทางหนึ่ง สำหรับการเริ่มต้นผลิตนมเปรี้ยวโดยนำนมโคสดมาฆ่าเชื้อด้วยความร้อน แล้วเติมเชื้อจุลินทรีย์ที่มีประโยชน์ต่อร่างกายคือ แลคโต-บาซิลัสและสเตรปโตคอคคัสที่มีคุณสมบัติสามารถเปลี่ยนน้ำตาลแลคโตส โดยบ่มเชื้อจุลินทรีย์ที่อุณหภูมิ 42-43 องศาเซลเซียสนาน 3-4 ชั่วโมง ก่อนจะเติมน้ำผลไม้ลงไป แล้วนำไปผ่าน กระบวนการพาสเจอไรส์ ด้วยอุณหภูมิ 85 องศาเซลเซียสนาน 15-16 วินาที ก่อนจะทำให้เย็นลงด้วยความรวดเร็ว ที่อุณหภูมิต่ำกว่า 8 องศาเซลเซียส ก่อนบรรจุลงถุงขนาด 120 กับ 150 ซีซี มีอยู่ 4 รสชาติคือ รสส้ม รสเลมอน รสสับปะรด และรสสตรอเบอร์รี่ นมเปรี้ยวดีต่อสุขภาพ เพราะช่วยปรับ ระบบทางเดินอาหารให้เป็นปกติ เหมาะสำหรับผู้ที่ดื่มสด แล้วเกิดอาหารท้องผูก หรือท้องเสีย ส่วนวิธีการผลิตโยเกิร์ต โดยนำน้ำนมที่ผ่านการตรวจหาสารตกค้าง ไปเข้าเครื่องพาสเจอไรส์และโฮโมจีไนส์ โดยคงอุณหภูมิที่ 42-43 องศาเซลเซียส จากนั้นได้เติมเชื้อจุลินทรีย์โปรไบโอติก (Probiotic culture) ลงไปก่อนวัดความเป็นกรด แล้วจึงทำให้โยเกิร์ตเย็นลงไปอยู่ที่อุณหภูมิประมาณ 2-4 องศาเซลเซียส ก่อนเปลี่ยนถ่ายลงถังขนาดเล็กเก็บเข้าสู่ห้องเย็น หลังจากนั้นให้นำโยเกิร์ตที่ได้มาผสมกับแยมผลไม้ที่ได้เตรียมไว้ จึงบรรจุลงภาชนะที่เป็นถ้วยกลายเป็นโยเกิร์ตในขนาดบรรจุ 110 กรัม มี 5 รสชาติ ได้แก่ โยเกิร์ตรสธรรมชาติ รสลูกชิด รสสตรอเบอร์รี่ รสสับปะรด และรสผลไม้รวม สารอาหารที่มีอยู่ในโยเกิร์ตเป็นสารอาหารที่ช่วยให้ร่างกายเจริญเติบโต และซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอ ได้แก่ โปรตีน วิตามิน เกลือแร่ แคลเซียม คาร์โบไฮเดรต และไขมัน โดยเฉพาะโปรตีนที่เรียกว่าเคซีน (Caseine) ซึ่งมีอยู่จำนวนมาก ตามธรรมชาติพบเพียงแค่อยู่ ในอาหารประเภทน้ำนมอย่างเดียวเท่านั้น นมเปรี้ยวกับโยเกิร์ตไทย-เดนมาร์ค ของ อ.ส.ค.ผลิตจากน้ำนมโคสดแท้ 100% ซึ่งเป็นผู้ผลิตรายแรกของประเทศไทย ผู้สนใจต้องรีบไปซื้อหามาบริโภค โดยติดต่อไปที่ อ.ส.ค.0-3634-1200, 0-3634-1973 หรือ 0-2377-6983 ทุกวันไม่เว้นวันหยุดราชการ (ไทยรัฐ พุธที่ 2 มีนาคม 2548 http://www.thairath.co.th)





ญี่ปุ่นพัฒนาแผ่นชิพตรวจสารพัด เลือดหยดเดียวรู้ผลใน 30 นาที

บริษัท โทเร อินดัสทรีส์ อิงค์ ในญี่ปุ่น เปิดตัวแผ่นตรวจโรครุ่นใหม่ ที่ผลิตจากพลาสติกชนิดพิเศษ ชูจุดเด่นสามารถตรวจโรคได้หลากหลาย รวมทั้งมะเร็งภายในเวลา 30 นาที ขณะที่ความแม่นยำ ของการวินิจฉัย สูงกว่าแผ่นตรวจโรค ที่ทำจากแก้วนับร้อยเท่า มาซาชิ ฮิกาสะ นักวิจัยอาวุโสของบริษัท โทเร อินดัสทรีส์ อิงค์. ผู้ผลิตใยสังเคราะห์ และเป็นบริษัทเคมีภัณฑ์รายใหญ่ในญี่ปุ่น เปิดเผยว่าแผ่นตรวจโรคดังกล่าว มีขนาดเพียงครึ่งเดียวของนามบัตร ผลิตจากเรซินสังเคราะห์ เป็นพลาสติกชนิดใหม่ที่ทีมวิจัยของบริษัทพัฒนาขึ้นมา สามารถใช้ตรวจหาโรคได้หลากหลายโดยใช้เลือดเพียงหยดเดียว แผ่นตรวจที่ทำจากพลาสติกพิเศษนี้ยังมีความไวมากกว่าแผ่นตรวจโรคที่ผลิตจากแก้วในปัจจุบันถึงร้อยเท่า และสามารถนำตัวอย่างเลือดมาหยดใส่ได้ทันที ต่างจากชุดตรวจแบบที่ใช้กันทั่วไป ซึ่งต้องอาศัยอุปกรณ์พิเศษมาทำให้เลือดบริสุทธิ์ก่อนนำเลือดมาหยดตรวจ โดยบริเวณพื้นผิวของแผ่นตรวจโรคพลาสติกรุ่นนี้ จะซอยย่อยออกเป็นร่องจิ๋ว เพื่อตรวจจับโปรตีนโรคที่แฝงตัวอยู่ในเลือด บนผิวหน้าของแผ่นชิพสำหรับหยดเลือดจะมีท่อที่ใส่น้ำยาเคมีไว้เพื่อกรองเลือดบริสุทธิ์ พอถึงปลายท่อจะเหลือเพียงโปรตีนบางชนิดในเลือดเพื่อใช้ในการตรวจหาโรค กระบวนการตรวจโรคด้วยแผ่นตรวจพลาสติกนี้ ทั้งหมดใช้เวลาเพียง 30 นาที ซึ่งนับว่าเป็นแผ่นตรวจโรคที่เร็วที่สุดในขณะนี้ก็ว่าได้ และบริษัทมีแผนจำหน่ายในญี่ปุ่นภายในสองปีนี้ (กรุงเทพธุรกิจ พุธที่ 2 มี.ค. 48 http://www.bangkokbiznews.com)





อุปกรณ์ช่วยฝึกอักษรเบรลล์ แบ่งเบาภารกิจร.ร.สอนตาบอด

นายวรวุฒิ บวบเมื่อง นักศึกษาแผนกวิชาช่างอิเล็กทรอนิกส์ วิทยาลัยเทคนิคราชบุรี เจ้าของสิ่งประดิษฐ์อุปกรณ์ช่วยฝึกและทบทวนการเรียนอักษรเบรลล์ เปิดเผยว่า โรงเรียนสอนคนตาบอดได้จัดงบประมาณ 2,500 บาท สำหรับประดิษฐ์อุปกรณ์ดังกล่าวเพื่อใช้ประโยชน์ด้านการเรียนการสอนจริง เพราะสามารถช่วยนักเรียนทบทวนการสะกดได้ด้วยตนเองโดยอัตโนมัติ ทำให้การเรียนเป็นไปอย่างรวดเร็ว อุปกรณ์ที่ประดิษฐ์ขึ้นนี้มีลักษณะเป็นทรงสี่เหลี่ยมขนาดกระชับมือ ด้านหนึ่งจะมีปุ่มสีเงินจำนวน 6 ปุ่ม 2 แถว จัดวางตามลักษณะอักษรเบรลล์ เมื่อผู้ใช้สัมผัสและกดปุ่มตามความหมายของพยัญชนะในแบบเรียนอักษรเบรลล์ จากนั้นกดปุ่มด้านบนเพื่อตรวจสอบความถูกต้อง เครื่องจะประมวลผลผ่านไมโครคอนโทรลเลอร์ เพื่อรับค่าปุ่มกด และส่งค่าตำแหน่งของเสียงไปยังวงจรเสียง ซึ่งเสียงที่ได้ก็จะส่งผ่านทางลำโพงออกมาให้ผู้ใช้ได้ยิน เพื่อเป็นการตรวจสอบความถูกต้องของพยัญชนะที่สัมผัส อุปกรณ์ดังกล่าวได้ออกแบบมาแล้ว 2 รุ่น โดยรุ่นแรกหรือรุ่นต้นแบบมีขนาดค่อนข้างใหญ่ น้ำหนักมาก ทำให้ไม่สะดวกขณะใช้งาน จึงได้ดัดแปลงเครื่องให้มีขนาดเล็ก จับถนัดมือ และมีน้ำหนักเบาพกพาไปใช้งานได้สะดวกมากขึ้น ทั้งนี้ อุปกรณ์ที่พัฒนานี้ใช้กับการอ่านอักษรเบรลล์แบบเซลล์เดียว หรือสามารถบอกความหมายของพยัญชนะไทยแต่ละตัวเท่านั้น จึงเหมาะกับผู้ศึกษาอักษรเบรลล์ในระดับเบื้องต้นเท่านั้น แต่ทางผู้ประดิษฐ์มีแผนงานที่จะพัฒนาต่อยอดเพื่อเพิ่มขีดความสามารถการใช้งาน สำหรับฝึกทบทวนการผสมคำแบบหลายคำได้ ทั้งนี้ อุปกรณ์ช่วยทบทวนการเรียนรู้อักษรเบรลล์นี้ เป็นผลงานการประดิษฐ์ร่วมกับนายสมภพ ชานุ และนายประสิทธิ์ชัย คำยอด เพื่อนนักศึกษาร่วมสถาบัน (กรุงเทพธุรกิจ พฤหัสบดีที่ 3 มีนาคม 2548 http://www.bangkokbiznews.com)





ไม้บรรทัดนาโนเมตร วัดขนาดวัตถุจิ๋วแม่นยำ

นักวิจัยจากสถาบันมาตรฐานและเทคโนโลยีแห่งชาติ ได้พัฒนาไม้บรรทัด "นาโน" เพื่อช่วยนักวิจัยและวิศวกรสามารถใช้วัดขนาดได้ละเอียดยิ่งขึ้น ซึ่งจะช่วยให้งานของพวกเขามีความถูกต้องมากขึ้น ในการประดิษฐ์ไม้บรรทัดนาโนนี้ ทีมวิจัยได้อาศัยคุณสมบัติในการเรียงตัวของอะตอมซิลิกอน มาใช้เป็นเส้นวัดสำหรับไม้บรรทัดที่ขึ้นชื่อว่า ละเอียดแม่นยำที่สุดในโลกนี้ พวกเขาทำการบากร่องผิวซิลิกอน (สารกึ่งตัวนำที่ใช้ทำชิพคอมพิวเตอร์) ให้เป็นเส้นตรงเพื่อใช้เป็นแนววัดขนาดสิ่งของระดับนาโน ไม้บรรทัดนาโนสามารถวัดระยะห่างได้ละเอียดแม่นยำ โดยอาศัยวิธีนับจำนวนเส้นบรรทัดบนซิลิกอนที่ทาบขวางบนวัตถุ จุดเด่นของไม้บรรทัดนาโนที่ทำจากซิลิกอน ก็คือแนวเส้นระดับอะตอมแต่ละแนว มีความกว้างราว 1 ใน 10 นาโนเมตร หรือเท่ากับ 0.3 นาโนเมตร อุปกรณ์ดังกล่าวจะช่วยให้นักวิศวกรด้านนาโนเทคโนโลยี สามารถปรับปรุงความละเอียดในการวัดของอุปกรณ์ อย่างเช่น กล้องจุลทรรศน์ส่องอะตอม อุปกรณ์สำหรับเคลื่อนย้ายอะตอม และกล้องจุลทรรศน์อิเล็กตรอนได้ ปัจจุบันนักวิจัยได้ใช้เครื่องมือที่ต่างกันในการวัดวัตถุระดับนาโน แต่เครื่องมือที่ถือว่าแม่นยำที่สุดในปัจจุบัน ก็ยังมีความแม่นยำน้อยกว่าไม้บรรทัดที่ทำจากซิลิกอน ทั้งนี้ นักวิจัยแสดงความคิดเห็นว่า ไม้บรรทัดนาโนนี้จะเป็นประโยชน์อย่างมากในการผลิตชิพ ซึ่งวิศวกรสามารถตรวจสอบขนาดของส่วนประกอบบนชิพ อย่างเช่น ทรานซิสเตอร์ทุกขั้นตอนการทำงาน ประธานกลุ่มทำงานฝ่ายนาโนเทคโนโลยีของคณะกรรมการมาตรฐานแห่งยุโรป กล่าวว่า มาตรฐานความเที่ยงตรงสำหรับการวัดขนาดระดับนาโนเมตร จะเป็นประโยชน์ต่องานวิจัยอย่างมาก โดยการวัดเมตริกนั้นจะทำไม่ได้เลย หากไม่มีเครื่องมือที่สร้างขึ้นมาใช้เทียบ และสำหรับไม้บรรทัดนาโนที่สถาบันดังกล่าวทำขึ้น ถือว่าเป็นการประยุกต์ใช้ประโยชน์จากคุณสมบัติของซิลิกอนในการวัด (กรุงเทพธุรกิจ พฤหัสบดีที่ 3 มีนาคม 2548 http://www.bangkokbiznews.com)





ไทยผนึกเยอรมันวิจัยรับมือภัยพิบัติใต้ทะเล

ศ.ดร.อานนท์ บุณยะรัตเวช เลขาธิการคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ สำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ (วช.) เปิดเผยว่า หลังจากเกิดเหตุการณ์คลื่นยักษ์สึนามิ สำนักงานวิจัยแห่งชาติได้รับการติดต่อจากองค์กรวิจัยในเยอรมนีที่ชื่อ ดีเอฟจี (Deutsche Forschungsgemeinschaft : DFG) สำหรับให้ความช่วยเหลือด้านการวิจัย โดยมีกำหนดที่จะจัดการประชุมร่วมกัน เพื่อจัดทำกรอบความร่วมมือที่ชัดเจนในปลายเดือนมีนาคมนี้ แม้ว่ารัฐบาลได้จัดตั้งคณะกรรมการขึ้นมาดูแลเรื่องสึนามินี้ชัดเจนอยู่แล้ว แต่ วช.จะช่วยในด้านการวิจัย ที่จะเสริมสร้างความเป็นไปได้ของการเกิดภัยพิบัติจากทะเล ไม่จำเพาะในเรื่องแผ่นดินไหวอย่างเดียว แต่จะครอบคลุมถึงเหตุการณ์อันก่อให้เกิดความเสียหายต่อชีวิตมนุษย์และทรัพย์สินในบริเวณพื้นที่ชายฝั่ง ได้แก่ การเกิดแผ่นดินถล่มใต้สมุทร ซึ่งก่อให้เกิดคลื่นยักษ์ได้เหมือนกัน เพียงแต่ในกรณีนี้ไม่เกี่ยวข้องกับแผ่นดินไหว และเครื่องตรวจสอบแผ่นดินไหวอาจตรวจสอบได้ยาก สำหรับขอบข่ายงานวิจัยที่คาดว่าจะเกิดขึ้น แบ่งออกเป็นสองส่วน ได้แก่ การกำหนดพื้นที่ใต้สมุทร ซึ่งจะสำรวจสภาพและลักษณะทางกายภาพของพื้นที่ใต้สมุทรในบริเวณต่างๆ และศึกษาลักษณะของดินในบริเวณนั้นๆ ด้วยว่า มีความเสี่ยงต่อการถล่มมากน้อยเพียงใด นอกจากนี้ ยังจะสร้างแบบจำลองคอมพิวเตอร์ เพื่อประมาณการเวลาที่จะเกิดเหตุการณ์ในพื้นที่แผ่นดินไหวใต้สมุทร และจะส่งผลกระทบต่อพื้นที่ในส่วนไหนบ้างของชายฝั่งทะเลอันดามัน รวมทั้งหากเกิดกรณีดังกล่าวขึ้นที่ประเทศใกล้เคียง อย่าง ฟิลิปปินส์ จะมีความเป็นไปได้มากน้อยแค่ไหน ที่จะกระทบถึงชายฝั่งทะเลไทยทั้งสองด้านด้วย เพื่อว่าจะได้เคลื่อนย้ายประชาชนได้ทันท่วงที งานวิจัยที่จะเกิดขึ้นมีด้วยกันหลายรูปแบบ ซึ่งทั้งหมดจะเน้นไปที่การศึกษาความเป็นไปได้ของความเสี่ยงภัยที่จะเกิดขึ้นเป็นหลัก โดย วช.จะเป็นตัวกลางในการประสานความร่วมมือระหว่างนักวิจัยทั้งสองประเทศ แม้ว่าในขณะนี้จะยังไม่ได้กำหนดงบประมาณที่ชัดเจน เพื่อภารกิจครั้งนี้ เนื่องจากเป็นเหตุการณ์กะหันหัน แต่ วช.ยืนยันว่า จะผลักดันให้กิจกรรมดังกล่าวประสบความสำเร็จให้ได้ (กรุงเทพธุรกิจ พฤหัสบดีที่ 3 มีนาคม 2548 http://www.bangkokbiznews.com)





พบวิธีเบ่งอกให้อึ๋มได้ปลอดภัย ใช้เซลล์ต้นกำเนิดเม็ดโลหิต

นิตยสารวิทยาศาสตร์ "เดอะ นิว ไซเอนติสต์" รายงานว่า นักวิจัยมหาวิทยาลัยอิลลินอยส์ ที่นครชิคาโกแห่งสหรัฐฯ สามารถใช้เทคนิคการผ่าตัดแค่ เพียงแผลเล็กๆ สกัดเอาเซลล์ต้นกำเนิดเม็ดโลหิต มาจากไขกระดูกคนได้ แล้วนำมาเก็บรักษา รอให้ เซลล์ก่อตัวขึ้นเป็นเซลล์ไขมันที่อยู่ในเต้านมขึ้น เมื่อนำเซลล์พวกนั้นมารวมกันก่อให้เป็น รูปร่างอย่างที่ต้องการ แล้วทดลองผ่าเข้าไปเก็บไว้ ในตัวหนูทดลองเป็นเวลานาน 1 เดือน ไม่ปรากฏว่ามันมีอาการผิดปกติไปแต่อย่างใด ทำให้นักวิทยาศาสตร์เกิดความมั่นใจว่า จะสามารถเพาะเลี้ยงทุ่นหนุนนั้น สำหรับนำมาใช้ผ่าตัดเสริมอกของสตรีขึ้นได้โดยปลอดภัย ภายในเวลา 10 ปีข้างหน้านี้. (ไทยรัฐ ศุกร์ที่ 4 มี.ค. 48 http://www.thairath.co.th)





ปั้นลูกในท้องให้หัวแหลมได้ แม่กินปลามากเท่าไหร่ยิ่งดี

นักวิทยาศาสตร์พบวิธีช่วยให้สตรีมีลูกที่เฉลียวฉลาดดั่งใจได้ ชั่วเพียงแต่ตอนตั้งท้องกินปลาเป็นอาหารไว้ให้มากๆ เท่านั้น นักวิทยาศาสตร์ของมหาวิทยาลัยบริสตัลแห่งอังกฤษได้ความรู้เรื่องนี้ มาจากการศึกษากับทารกที่ถือกำเนิดเมื่อระหว่างปี พ.ศ. 2534-2535 จำนวน 7,400 คน โดยศึกษาถึงอิทธิพลของอาหารที่แม่ของเด็กเหล่านั้นกินขณะตั้งครรภ์ จากการวัดระดับเชาวน์ของเด็ก เมื่อเกิดมาได้ 15 เดือน ในเวลาต่อมา ได้พบว่าระดับเชาวน์ของเด็กจะสูงตามปริมาณมากน้อยของอาหารปลา ที่ผู้เป็นแม่กินเข้าไปเมื่อตอนท้อง พวกเขาเชื่อว่า คงจะเป็นเพราะกรดน้ำมันโอเมกา-2 และโอเมกา-6 ที่มีอยู่ในปลาพวกที่มีเนื้อมันๆ อาจจะมีสรรพคุณบำรุงสมองลูกน้อย ของพวกแม่ผู้ที่นิยมกินปลาเหล่านั้น. (ไทยรัฐ ศุกร์ที่ 4 มี.ค. 48 http://www.thairath.co.th)





มงฟอร์ตวิจัยหนอนศัตรูพืชทำผ้าไหม

นางสาวทัศนีย์พร บูรณุปกรณ์ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 โรงเรียนมงฟอร์ตวิทยาลัย จ.เชียงใหม่ หนึ่งในทีมผู้ศึกษาที่พบประโยชน์จากหนอนผีเสื้อยักษ์ เปิดเผยว่า หนอนผีเสื้อยักษ์เป็นแมลงศัตรูพืชตัวสำคัญที่มักทำความเสียหายให้กับสวนฝรั่งและสวนกระท้อนของเกษตรกร แต่ข้อดีของมันคือชาวบ้านสมัยก่อนจะนำเส้นใยของหนอนผีเสื้อยักษ์ชนิดนี้มาใช้ทำเป็นเอ็นตกปลา แสดงว่าเส้นใยต้องมีความเหนียวสูงนักเรียน จึงคิดว่าใยหนอนผีเสื้อยักษ์น่าจะนำมาใช้ทอเป็นผ้าได้ เขาจึงเริ่มศึกษาวงจรชีวิตและเส้นใยของหนอนผีเสื้อยักษ์ โดยได้ศึกษาชนิดของอาหารที่ทำให้หนอนผีเสื้อยักษ์เจริญเติบโตและให้เส้นใยที่มีคุณภาพดีที่สุด โดยการเลี้ยงหนอนผีเสื้อยักษ์ด้วยพืชที่แตกต่างกัน 5 ชนิด ได้แก่ ใบกระดังงาจีน ใบกระท้อน ใบฝรั่ง ใบส้ม และใบหม่อน จากนั้นนำเส้นใยที่มีคุณภาพดีที่สุดนำไปทดลอง ให้กลุ่มแม่บ้าน อ.ทุ่งหัวช้าง จ.ลำพูนทอเป็นผ้าและเปรียบเทียบความยากง่ายในการทอกับเส้นใยจากหนอนไหม ผลการศึกษาพบว่า หนอนผีเสื้อยักษ์ที่กินใบกระท้อนจะมีการเจริญเติบโต และให้เส้นใยที่ดีที่สุด รองลงมาได้แก่หนอนที่กินใบฝรั่ง และใบหม่อนตามลำดับ และเส้นใยดังกล่าวสามารถนำไปทอเป็นผ้าได้ โดยการทอด้วยเส้นใยจากหนอนผีเสื้อยักษ์มีความยากง่ายในการนำไปทอใกล้เคียงกับหนอนไหม มีความมันวาว เส้นใยเรียบ อ่อนนุ่ม อย่างไรก็ดี ในทางอุตสาหกรรมนั้น พืชอย่างกระท้อนมีลักษณะเป็นพืชยืนต้นใช้เวลาในการเติบโตนานจึง ไม่เหมาะแก่การนำมาเป็นอาหารของหนอนผีเสื้อยักษ์ และจากผลการวิเคราะห์ทางสถิติพบว่าการเจริญเติบโตของหนอนผีเสื้อยักษ์ที่กินใบกระท้อน ไม่แตกต่างจากหนอนผีเสื้อยักษ์ที่กินใบฝรั่งมากนัก ดังนั้นในทางอุตสาหกรรม จึงควรใช้ใบฝรั่งเลี้ยงหนอนผีเสื้อแทนใบกระท้อน เพราะใช้เวลาที่เติบโตที่น้อยกว่าและหาง่ายในทั่วทุกภูมิภาค ทีมวิจัยยังมีแผนที่จะศึกษาเพิ่มเติมถึงปัจจัยทางกายภาพที่มีผลต่อคุณภาพของเส้นใย เช่น เรื่องของแสงแดด อุณหภูมิในการเพาะเลี้ยงหนอน เพื่อให้มีการพัฒนาคุณภาพของเส้นใยที่จะนำมาใช้ทอผ้าให้มีคุณภาพมากยิ่งขึ้น โครงงานของทีมวิจัยรุ่นเยาว์ ซึ่งประกอบด้วย นางสาวขนิษฐา นิมาพันธ์ และนางสาวณีรนุช อินต๊ะ ได้รับคัดเลือกให้เป็นผู้ชนะการประกวดโครงงานวิทยาศาสตร์ชีวภาพ ทั้งในระดับภาคเหนือและระดับประเทศ และได้รับคัดเลือกจากสมาคมวิทยาศาสตร์ให้เป็นโครงงานส่งประกวดในงาน The 2005 International Science and Engineering Fair (ISEF) ที่ ประเทศสหรัฐอเมริกา ในระหว่างวันที่ 8-14 พฤษภาคม 2548 (กรุงเทพธุรกิจ ศุกร์ที่ 4 มีนาคม 2548 http://www.bangkokbiznews.com)





วิศวกรวิจัย'อบแห้งไอน้ำ' ถนอมสารชีวภาพ

ผศ.ดร.สักกมน เทพหัสดิน ณ อยุธยา อาจารย์จากภาควิชาวิศวกรรมอาหาร คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี (มจธ.) เปิดเผยถึงระบบการอบแห้งด้วยลมร้อนที่ใช้อยู่ทั่วไปว่า เป็นระบบที่ใช้อากาศอุณหภูมิสูงไล่ความชื้นออกจากผักหรืออาหารที่ต้องการอบแห้ง แต่ในลมร้อนนั้นมีออกซิเจนประกอบอยู่ เมื่อสัมผัสอาหารจะเกิดปฏิกิริยาออกซิเดชั่น ทำให้อาหารหดตัวและสูญเสียคุณค่าทางอาหาร จึงแก้ปัญหาด้วยการพัฒนาเครื่องอบแห้งด้วยไอน้ำร้อนยวดยิ่งที่ความดันต่ำ ซึ่งนอกจากคงคุณค่าของอาหารแล้วยังรักษารูปทรงของอาหารได้ด้วย สำหรับเทคโนโลยีดังกล่าวเป็นการนำไอน้ำอิ่มตัวจากหม้อไอน้ำมาเพิ่มอุณหภูมิให้สูงขึ้น จนกลายเป็นไอน้ำร้อนยวดยิ่ง ซึ่งมีอุณหมูมิสูงกว่าจุดเดือด จากนั้นเมื่อนำไอน้ำร้อนยวดยิ่งมาผ่านอาหารซึ่งมีความชื้นอยู่นั้น ความชื้นจากอาหารจะผ่านมาสู่ไอน้ำร้อนยวดยิ่ง กลายเป็นไอน้ำร้อนอิ่มตัวเช่นเดิม ด้วยวิธีนี้จึงสามารถทำให้สามารถอบแห้งได้ อย่างไรก็ดี การทำให้ไอน้ำกลายเป็นไอน้ำยวดยิ่งต้องใช้อุณหภูมิที่สูงเกินจุดเดือดของน้ำ (100 องศาเซลเซียส) ซึ่งส่งผลให้โครงสร้างสารอาหารและ วิตามินของอาหารสูญเสียไปเช่นกัน นักวิจัยจึงปรับลดความดันเหลือร้อยละ 5 -10 ของความดันบรรยากาศ เพื่อให้จุดเดือดของน้ำต่ำลง แต่ได้ไอน้ำร้อนยวดยิ่งที่ 40-50 องศาเซลเซียส ก็จะสามารถคงคุณค่าของอาหารไว้ได้ ตัวเครื่องอบแห้งนี้ ประกอบด้วยห้องอบแห้งสำหรับวางอาหาร หรือของที่จะใช้อบ ปั๊มสุญญากาศสำหรับลดความดันของระบบ โดยข้อดีของเครื่องเมื่อเทียบกับการอบด้วยลมร้อน จะไม่มีออกซิเจนในระบบ ทำให้ไม่เกิดปฏิกิริยาออกซิเดชั่น อีกทั้งผลิตภัณฑ์ที่ได้มีความพรุนสูง สามารถดูดน้ำคืนกลับมาได้ดี เหมาะกับการนำไปใช้ในผักอบแห้ง แครอทอบแห้งในบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป เมื่อเติมน้ำร้อนเข้าไป แครอทก็สามารถกลับคืนรูปเดิมได้ดี นอกจากนี้ อาจารย์จากมจธ. ยังได้กล่าวถึงเทคนิคการอบแห้งแบบเยือกแข็ง ซึ่งเป็นอีกวิธีหนึ่งที่มีจุดเด่นในการรักษาคุณค่าของอาหารและรูปทรง สีสันของอาหารได้ดี แต่ต้องใช้เวลาในการอบนานมาก อาจถึง 1-2 วันขึ้นอยู่กับชนิดของอาหาร เมื่อเทียบกับไอน้ำร้อนยวดยิ่งที่ใช้เวลาไม่กี่ชั่วโมง อีกทั้งเครื่องยังมีราคาสูงคือประมาณ 3 แสนบาท ขณะที่เครื่องต้นแบบที่เขาพัฒนามีต้นทุนอยู่ที่ประมาณ 2 แสนบาท เครื่องอบแห้งด้วยไอน้ำร้อนยวดยิ่ง ซึ่งได้รับทุนจากสำนักงานกองทุนสนับสนุนการวิจัย (สกว.) เป็นเครื่องต้นแบบยังมีขนาดเล็กไป เพียง 45x45x45 เซนติเมตร อบได้ครั้งละ 1 กิโลกรัมเท่านั้น แต่นักวิจัยมีโครงการร่วมกับเอกชน และทาง สกว. เพื่อพัฒนาเครื่องให้อยู่ที่อบได้ 50-100 กิโลกรัม เพื่อรองรับอุตสาหกรรมระดับกลางขึ้นไป (กรุงเทพธุรกิจ ศุกร์ที่ 4 มีนาคม 2548 http://www.bangkokbiznews.com)





เทคโนประดิษฐ์ -ปุ่มกดมหัศจรรย์ ช่วยทบทวนอักษรเบรลล์

นายวรวุฒิ บวบเมื่อง นักศึกษาแผนกวิชาช่างอิเล็กทรอนิกส์ วิทยาลัยเทคนิคราชบุรี เปิดเผยว่า อุปกรณ์เครื่องฝึกเรียนรู้และทบทวนอักษรเบรลล์ภาษาไทยแบบเซลล์เดียว เป็นผลงานที่ประดิษฐ์คิดค้นขึ้นร่วมกับเพื่อนนักศึกษาในแผนกวิชา เพื่อช่วยให้ผู้พิการทางสายตา สามารถเรียนรู้อักษรเบรลล์ผ่านเสียงได้ด้วยตัวเอง สำหรับอุปกรณ์จะมีลักษณะเป็นทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้า ขนาดกระชับมือ ด้านหนึ่งจะมีปุ่มสีเงินจำนวน 6 ปุ่ม 2 แถว ตามลักษณะของอักษรเบรลล์ เมื่อผู้ใช้สัมผัสและกดปุ่มตามความหมายของพยัญชนะในแบบเรียน จากนั้นกดปุ่มด้านบนเพื่อตรวจสอบความถูกต้อง เครื่องจะประมวลผลผ่านไมโครคอนโทรเลอร์และส่งสัญญาณไปยังวงจรเสียงที่เชื่อมต่อกับลำโพง ทำให้ผู้ใช้ได้ยินเสียงเพื่อเป็นการตรวจสอบความถูกต้องของพยัญชนะที่สัมผัส ทั้งนี้อุปกรณ์ฝึกการเรียนรู้อักษรเบรลล์ดังกล่าว ได้นำไปทดลองใช้จริงกับโรงเรียนสอนคนตาบอดแล้ว ซึ่งก็ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี โดยได้รับทุนสนับสนุนจากทางโรงเรียนสอนคนตาบอด ให้ผลิตอุปกรณ์เพิ่มเติมในงบประมาณเครื่องละ 2,500 บาท และในอนาคตจะพัฒนาประสิทธิภาพของอุปกรณ์ให้ใช้กับการฝึกอักษรเบรลล์ในลักษณะการผสมคำหลายคำมากขึ้น (คมชัดลึก ศุกร์ที่ 4 มี.ค. 48 http://www.komchadluek.net)





ฟีฟ่าไฟเขียวลองใช้บอลติดชิพ

คณะกรรมการสมาคมฟุตบอลนานาชาติ ตกลงใจที่จะทดลองใช้ "บอลอัจฉริยะ" ที่พัฒนาโดยบริษัทอาดิดาส ผู้ผลิตอุปกรณ์กีฬายักษ์ใหญ่ และคาดว่าจะนำไปใช้งานจริงในมหกรรมการแข่งขันฟุตบอลโลกในปีหน้า สำหรับจุดเด่นของบอลอัจฉริยะนี้จะอยู่ที่การติดตั้งไมโครชิพไว้ภายใน ซึ่งจะส่งเสียงเตือนหรือสั่นบอกให้ผู้ตัดสินรับรู้ทันทีที่ลูกออกนอกเส้นขอบสนามหรือเข้าประตูไป ซึ่งในแต่ละจุดจะมีการติดตั้งเซ็นเซอร์พิเศษไว้ตรวจจับสัญญาณ ขณะที่ตัวผู้ตัดสินจะใส่อุปกรณ์รับสัญญาณที่มีลักษณะเหมือนนาฬิกาไว้ที่ข้อมือ เทคโนโลยีดังกล่าวได้รับการอนุมัติจากคณะกรรมการให้นำไปทดลองใช้เบื้องต้นในการแข่งขันฟุตบอลโลกอายุไม่เกิน 17 ปีของ ฟีฟ่า ที่ประเทศเปรู ในเดือนกันยายนนี้ โดยประธานฟีฟ่ายืนยันว่า นวัตกรรมนี้จะช่วยลดความผิดพลาดที่เป็นไปได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อผู้ตัดสินลังเลว่าจะเป่านกหวีดดีหรือไม่ หากการทดลองไม่มีปัญหาใดเกิดขึ้น คณะกรรมการก็จะนำบอลอัจฉริยะไปใช้ในมหกรรมการแข่งขันฟุตบอลโลก 2006 ซึ่งอาดิดาสผู้ผลิตประกาศว่าบอลอัจฉริยะของบริษัทสามารถเชื่อถือได้ 100% และหวังว่าเทคโนโลยีใหม่นี้จะสามารถยุติข้อขัดแย้งในสนามที่อาจจะเกิดขึ้นได้ (คมชัดลึก ศุกร์ที่ 4 มี.ค. 48 http://www.komchadluek.net)





มจธ.ชวนใช้เบนซินค่าออกเทนตรงกับรถยนต์ดีที่สุด เผยวิจัยพบใช้ออกเทนสูงไม่มีผลต่อกำลังเครื่องยนต์

ดร.สมชาย จันทร์ชาวนา รองอธิการบดีอาวุโสฝ่ายวิชาการ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี(มจธ.) เปิดเผยว่า จากนโยบายที่ให้ผู้ใช้รถยนต์ เติมน้ำมันเบนซินที่มีค่าออกเทนให้ตรงกับความต้องการของรถยนต์ จะช่วยให้ประเทศชาติลดการสูญเสียเงินตราออกนอกประเทศ ปีละหลายพันล้านนั้น ทำให้ผู้ใช้รถยนต์บางส่วนมีความรู้สึกว่า น้ำมันเบนซินที่มีค่าออกเทนสูงกว่าความต้องการของรถยนต์ ให้สมรรถนะที่ดีกว่า และมีอัตราการสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงที่ต่ำกว่านั้น เพื่อเป็นการขจัดปัญหาและข้อสงสัยเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าว จึงได้เริ่มร่วมกับนายวิเชียร เอี่ยมอารีรัตน์ จากห้องปฏิบัติการวิจัยเครื่องยนต์และการเผาไหม้ ทดสอบเครื่องยนต์เบนซิน เมื่อใช้น้ำมันที่มีตัวเลขออกเทนสูงกว่าความต้องการ โดยนำเครื่องยนต์ 2 ยี่ห้อมาทดสอบได้แก่ Honda Civic B 18 B 4 1800 cc, Toyota Collora 4 A-GE TVIS 1600 cc ซึ่งทดสอบโดยใช้น้ำมันเบนซินที่มีค่าออกเทนสูงกว่าความต้องการ ผลการทดสอบเครื่องยนต์ ที่ตำแหน่งคันเร่งและความเร็วรอบเดียวกัน พบว่าน้ำมันเบนซินที่มีค่าออกเทนสูงกว่าที่เครื่องยนต์ต้องการ ไม่ได้ช่วยให้กำลังของเครื่องยนต์มีค่าเพิ่มขึ้น ส่วนการทดสอบเครื่องยนต์ที่มีความเร็วรอบเดียวกัน และให้กำลังเท่ากัน พบว่าความสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงจำเพาะของน้ำมันที่มีค่าออกเทนสูง มีค่าไม่แตกต่างจากการใช้น้ำมันเบนซินที่มีค่าออกเทนตรงตามที่เครื่องยนต์ที่มีค่าออกเทนสูงกว่าความต้องการ นอกจากนี้ จากการวิเคราะห์ความดันในกระบอกสูบสามารถยืนยันได้ว่า น้ำมันที่มีค่าออกเทนสูงกว่าเครื่องยนต์ต้องการ ให้กำลังที่ไม่แตกต่างจากน้ำมันที่มีค่าออกเทนตรงตามที่เครื่องยนต์ ข้อสังเกต ผลจากการทดลองทั้งหมดได้กระทำที่สภาวะความเร็วรอบคงที่และภาระงาน(กำลัง)คงที่ ผลการทดสอบนี้อาจไม่สามารถใช้อธิบายสภาวะการทำงานที่ไม่คงที่ได้ ได้แก่ ขณะเร่งเครื่องยนต์หรือขณะผ่อนคันเร่งเครื่องยนต์ จึงให้ผู้ใช้รถยนต์โดยทั่วไปสามารถใช้น้ำมันเบนซินที่มีค่าออกเทนตามรุ่นของเครื่องยนต์ดีกว่าที่จะหันมาใช้น้ำมันที่ค่าออกเทนที่มีค่าสูงกว่าความต้องการของเครื่องยนต์ของตนเอง (มติชนรายวัน ศุกร์ที่ 4 มี.ค. 48 http://www.matichon.co.th)





สหรัฐใช้ไทยลองวัคซีนหวัดนก กรมวิทยาศาสตร์ฯดีเดย์วันนี้!

สหรัฐอเมริกาสามารถผลิตวัคซีนเพื่อป้องกันเชื้อไวรัสไข้หวัดนก H5N1 ได้แล้วจะทดลองวัคซีนไข้หวัดนกดังกล่าวในคนในประเทศไทย ดังนั้น วันที่ 4 มีนาคม กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ นัดหารือกับผู้เชี่ยวชาญและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ กรมควบคุมโรค องค์การเภสัชกรรม ศูนย์ไบโอเทค คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และสถาบันสุขภาพเด็กแห่งชาติมหาราชินี เพื่อหาแนวทางและการ พัฒนาการผลิตวัคซีนป้องกันโรคไข้หวัดนกในคนสายพันธุ์ H 5 N 1 ร่วมกัน นพ.ประเสริฐ ทองเจริญ ผู้เชี่ยวชาญด้านไวรัสวิทยา องค์การอนามัยโลก กล่าวว่า หากมีการระบาดใหญ่ของไข้หวัดใหญ่ และเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการระบาดรุนแรงขึ้นนั้น หากมีวัคซีนไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใดก็ขอให้ใช้ไปก่อน แม้ว่าจะไม่ใช่สายพันธุ์ที่องค์การอนามัยโลกแนะนำก็ตาม เพราะกว่าจะสามารถผลิตวัคซีนไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ที่องค์การอนามัยโลกแนะนำได้ต้องใช้เวลาประมาณ 3-4 เดือน ไม่ทันกับการใช้ป้องกันการระบาดของโรค การผลิตวัคซีนไข้หวัดใหญ่ในแต่ละปีจะผลิตได้เพียง 500 ล้านโดส และใช้กับสหรัฐประมาณ 300 ล้านโดส และส่วนที่เหลืออีก 200 ล้านโดส กระจายให้กับประเทศอื่นๆ ส่วนไทยจะได้รับวัคซีนเพียง 100,000-200,000 โดส เท่านั้น และการใช้จะดูความจำเป็นเป็นหลัก แต่อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ยังไม่มีวัคซีนป้องกันไข้หวัดนกในคน มีเพียงวัคซีนป้องกันไข้หวัดนกในสัตว์ปีกเท่านั้น และการพัฒนาวัคซีนเพื่อใช้ในคนก็ต้องใช้เวลานานพอสมควร ดังนั้น จึงแน่ใจได้ว่าจะไม่มีวัคซีนไข้หวัดนกในคนใช้ภายใน 1-2 ปีนี้ นพ.สุชัย เจริญรัตนกุล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยว่า จะผลักดันนโยบายวัคซีนแห่งชาติ ให้เป็นวาระแห่งชาติ โดยเริ่มต้นกับวัคซีนไข้หวัดใหญ่ โดยมีแผนปฏิบัติการเป็นระยะเวลา 3 ปี (2548-2550) (มติชนรายวัน ศุกร์ที่ 4 มี.ค. 48 http://www.matichon.co.th)





สร้างเครื่องไฟฟ้าบังคับสมอง รักษาคนซึมเศร้าแรมปีหายได้

นักวิทยาศาสตร์ของแคนาดา ได้ทดลองใช้เครื่องเครื่องไฟฟ้าบังคับสมอง ซึ่งอาจเรียกได้ว่าเป็นเครื่องควบคุมอารมณ์มนุษย์เครื่องแรกได้สำเร็จ โดยที่ผู้ประดิษฐ์ต้นคิดได้บอกออกตัวเอาไว้ ว่าจะต้องขอทดลองเพื่อความมั่นใจต่อไปอีก แต่มันก็ได้ ทำให้เกิดความหวัง ในการบำบัดรักษาผู้ป่วยที่มีอาการซึมเศร้าทั้งปีทั้งชาติ ที่มีอยู่ทั่วไปในโลกเป็นเรือนล้านๆ คนให้หายกลับมีชีวิตใหม่โดยไม่ต้องใช้ยา ผู้ที่มีอาการแบบนี้ จะมีอารมณ์ซึมเศร้าอย่างหนัก รู้สึกเบื่อโลก แต่ละวันไม่อยากจะลุกขึ้นจากที่นอน และมักจะคิดสั้นทำลายชีวิตตัวเองบ่อยๆ หลายรายแม้จะเข้ารับการบำบัดทางยา หรือทางจิตเวชก็ไม่หายนักวิทยาศาสตร์ทางการแพทย์ ได้ทดลองใช้เครื่องมืออิเล็กทรอนิกส์นั้น ที่สถานพยาบาลในนครโตรอนโต กับผู้ป่วยที่รักษาตัวมาเป็นเวลาแรมปีแล้วก็ยังไม่หายหลายราย โดยปล่อยไฟฟ้าไปยังขั้วที่ฝังลึกในสมองลงไปกระตุ้นสมองส่วนที่มีหน้าที่ควบคุมอารมณ์ โดยที่หลายรายมีอาการดีขึ้นจนเกือบจะเหมือนปกติ สามารถกลับไปใช้ชีวิตดังเดิมได้ บางรายก็กลับไปเล่นออกกำลังสร้างสุขภาพ และประกอบธุรกิจทำมาหากินได้ใหม่อีก. (ไทยรัฐ ศุกร์ที่ 5 มี.ค. 48 http://www.thairath.co.th)





ม.เกษตรพบทำเลเหมาะตั้งศูนย์พืชเมืองหนาว

นักวิจัย ม.เกษตรศาสตร์ เตรียมยกระดับ สถานีผสมพันธุอ้อย ในจังหวัดกาญจนบุรี เป็นศูนย์เพาะพันธุ์อ้อย และพืชเมืองหนาวแห่งชาติ หลังตรวจสอบคุณภาพของดิน ความชื้น และความเหมาะสม ของสภาพแวดล้อม ระบุเป็นแหล่งที่สามารถเพาะอ้อย ออกดอกได้ทุกสายพันธุ์ รศ.ประเสริฐ ฉัตรวชิระวงษ์ ภาควิชาพืชไร่นา คณะเกษตร มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตกำแพงแสน กล่าวถึงโครงการสำรวจพื้นที่เหมาะสมในการสำรวจพื้นที่จัดตั้งสถานีผสมพันธุ์อ้อยว่า หลังจากที่ตระเวนดูสภาพดินหลายแห่งทั่วประเทศไทย พบว่าบริเวณบ้านทิพุเย ต.ชะแล อ.ทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี เป็นสถานที่ที่เหมาะสมที่สุด เพราะสามารถทำให้อ้อยทุกสายพันธุ์ออกดอกได้เต็ม 100% นักวิชาการกล่าวถึงองค์ประกอบของพื้นที่ที่จะทำให้อ้อยออกดอกได้ดีนั้น ต้องเป็นพื้นที่ที่อยู่สูงจากระดับน้ำทะเลราว 500 เมตร มีอุณหภูมิราว 15 องศาเซลเซียส และต้องมีความชื้นสูง ซึ่งพื้นที่ใน อ.ทองผาภูมิ มีคุณสมบัติครบถ้วน เนื่องจากเป็นพื้นที่ที่อยู่สูงจากระดับน้ำทะเลประมาณ 200 เมตร พื้นที่อยู่ในหุบเขา อากาศหนาวเย็น มีลำธารไหลผ่านตลอดปี ทำให้อ้อยออกดอกได้ทุกพันธุ์ องค์ประกอบสำคัญที่ช่วยให้อ้อยออกดอกได้ดีนั้น ต้องเป็นพื้นที่ที่มีช่วงแสงสว่างสั้น หรือที่ระดับน้อยกว่า 11 ชั่วโมงต่อวัน ซึ่งบริเวณที่สถานีแห่งนี้ตั้งอยู่ในหุบเขา ทำให้ช่วงรับแสงสั้นตามต้องการ และอุณหภูมิก็เย็นเพราะอยู่ในพื้นที่สูง และความชื้นก็มีพอเพียงเพราะมีลำธารไหลผ่านตลอดทั้งปี การที่อ้อยออกดอกจะช่วยให้นักปรับปรุงพันธุ์อ้อยมีโอกาสเลือกใช้เชื้อพันธุกรรมอ้อยได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น และโอกาสที่จะได้อ้อยพันธุ์ดีก็ย่อมจะมีโอกาสมากขึ้นตามไปด้วย นอกจากนี้ ในฐานะกรรมการสมาคมนักวิชาการอ้อยและน้ำตาลทราย รศ.ประเสริฐยังมีแผนผลักดันให้สถานีแห่งนี้ เป็นสถานีผสมพันธุ์อ้อยของชาติ หลังจากมีการจัดตั้งสถาบันวิจัยและพัฒนาอ้อยและน้ำตาลแห่งชาติขึ้นมาแล้ว ซึ่งขณะนี้บรรดานักวิชาการกำลังพยายามผลักดันให้มีการจัดตั้งสถาบันวิจัยดังกล่าวอยู่ (กรุงเทพธุรกิจ เสาร์ที่ 5 มี.ค. 48 http://www.bangkokbiznews.com)





หุ่นยนต์ไดโนฯ

องค์การพัฒนาพลังงานทางเลือกและเทคโนโลยีอุตสาหกรรม ประเทศญี่ปุ่น ร่วมมือกันสร้าง "หุ่นยนต์ไดโนเสาร์" 2 รุ่น ซึ่งภายใน 1 ชั่วโมงหุ่น 2 ตัวนี้สามารถเดินต่อเนื่องได้ไกล 1 กิโลเมตร หุ่นยนต์ตัวแรกที่ยืนจังก้าอยู่ด้านหน้าลอกแบบมาจากไดโนเสาร์ "พาราซอโรโลฟัส" สูง 1.6 เมตร ลำตัวยาว 3.5 เมตร หนัก 85 กิโลกรัม และตัวที่อยู่ด้านหลังคือไดโนเสาร์ "ไทรันโนซอรัส" สูง 1.5 เมตร ลำตัวยาว 3.5 เมตร หนัก 87 กิโลกรัม (ข่าวสด อาทิตย์ที่ 6 มีนาคม 2548 http://www.matichon.co.th/khaosod)





"หุ่นโชว์เสื้อ"ไฮเทค”

หุ่นโชว์เสื้อตามห้างสรรพสินค้าทั่วไปก็เป็นหุ่นยืนแข็งทื่อ ดูไร้ชีวิตชีวา บริษัท "ฟลาเวอร์ โรโบติกส์ อิงก์" ในญี่ปุ่นจึงประดิษฐ์หุ่นยนต์โชว์เสื้อไฮเทค "พาเล็ตต์" สามารถแสดงท่าทางขยับแขนและศีรษะได้ราวกับกำลังโพสท่าถ่ายแบบอยู่ กลุ่มลูกค้าหลักของหุ่นพาเล็ตต์คืออุตสาหกรรมแฟชั่นและบริการ (ข่าวสด อาทิตย์ที่ 6 มีนาคม 2548 http://www.matichon.co.th/khaosod)





ไมโครซอฟท์ทุ่ม 400 ล้าน จับมือ 12 ม.ดังพัฒนาไอที

มร.แอนดรูว์ แมคบีน กรรมการผู้จัดการบริษัทไมโครซอฟท์ ประเทศไทย เปิดเผยภายหลังลงนามในสัญญาความร่วมมือ เป็นเวลา 3 ปีกับมหาวิทยาลัยชั้นนำ 12 แห่ง ได้แก่ เอแบค ม.กรุงเทพ จุฬาฯ ม.เกษตรฯ ม.ขอนแก่น เทคโนโลยีพระจอมเกล้าฯ ลาดกระบัง เทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ ม.พายัพ ม.สงขลาฯ ม.ศรีปทุม ม.ธรรมศาสตร์ และ ม.หอการค้าไทย เพื่อช่วยเสริมสร้างทักษะด้านไอทีให้กับนักศึกษา ตามโครงการอะเดมิก อะแลนซ์ ซึ่งทางไมโครซอฟท์จะเป็นผู้สนับสนุนอุปกรณ์และซอฟต์แวร์สำหรับใช้ในการเรียนการสอน เพื่อตอบสนองความต้องการและแก้ไขข้อจำกัดในการเรียนรู้ด้านเวบเซอร์วิส ความร่วมมือครั้งนี้บริษัทไมโครซอฟท์จะมอบไลเซนส์สำหรับการใช้ชุดเครื่องมือพัฒนาซอฟต์แวร์ครบชุด รวมทั้งเนื้อหาหลักสูตรเน็ตโปรแกรม ในรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์ และสิทธิในการเข้าถึงและการใช้งานเวบท่า มูลค่า 30 ล้านบาทต่อ 1 มหาวิทยาลัย ซึ่งจะฝึกอบรมนักศึกษาได้ 24,000 คน ให้เป็นบุคลากรด้านโปรแกรมเมอร์ซอฟต์แวร์ อันจะเป็นกำลังสำคัญในการพัฒนาอุตสาหกรรมเทคโนโลยีสารสนเทศของประเทศต่อไป นายมนู อรดีดลเชษฐ์ ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมอุตสาหกรรมซอฟต์แวร์แห่งชาติ (ซิป้า) กล่าวว่า ซิป้าจะช่วยฝึกอบรมนักศึกษารวมทั้งนักพัฒนาซอฟต์แวร์มืออาชีพด้านเวบเซอร์วิสอย่างน้อย 10,000 คน ใน 23 ปีข้างหน้า โดยรับภาระค่าใช้จ่ายในการสอบใบประกาศนียบัตรไมโครซอฟต์ เซอร์ทิฟิเคชั่น ฟอร์ แอพลิเคชั่น ดีเวลลอปเมนท์ (เอ็มซีเอดี) และหาสถานที่ฝึกงานเพื่อเสริมสร้างประสบการณ์และพร้อมสำหรับการทำหน้าที่จริงให้ด้วย (ข่าวสด อาทิตย์ที่ 6 มีนาคม 2548 http://www.matichon.co.th/khaosod)





ข่าวทั่วไป


ประกาศอัตราอุปกรณ์บำบัดโรค ใช้เทียบเบิกค่ารักษาข้าราชการ

นายบุญศักดิ์ เจียมปรีชา อธิบดีกรมบัญชีกลาง เปิดเผยว่า ขณะนี้กรมบัญชีกลางได้ออกประกาศประเภทและอัตราอวัยวะเทียมและอุปกรณ์ในการบำบัดรักษาโรคเพื่อเป็นอัตราอ้างอิงในการเบิกค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาลให้ข้าราชการ,ลูกจ้างประจำ ผู้รับเบี้ยหวัดหรือบำนาญ พนักงานของรัฐในสังกัดกระทรวงสาธารณสุขและบุคคลในครอบครัวได้รับการดูแลด้านสุขภาพที่ดี ซึ่งหากข้าราชการเหล่านี้ได้รับการดูแลที่ดีแล้ว จะทำให้สามารถบริการงานที่ดีแก่ประชาชนได้ ทั้งนี้ กรมบัญชีกลางได้แยกประเภทของอวัยะเทียมและอุปกรณ์ในการบำบัดรักษาโรคเป็น 10 หมวด รวม 356 รายการ เช่น หมวดตา หู คอ จมูก มีรายการเครื่องช่วยฟังสำหรับคนหูพิการ สำหรับเด็กอายุต่ำกว่า 10 ปี มีราคาข้างละ 15,000 บาท และสำหรับผู้ใหญ่ ราคาข้างละ 13,500 ล้านบาท หรือหมวดหัวใจและหลอดเลือด มีรายการสายกระสวยเพื่อขยายเส้นเลือดคโลนารี ชุดละ 85,000 บาท หมวดกระดูก ข้อต่อ กล้ามเนื้อ เส้นเอ็น มีรายการข้อเข่าชนิดที่รับน้ำหนักเคลื่อนไหวได้ ราคาข้อละ 7,500 บาท นอกจากนี้ยังมีหมวดวัสดุอุปกรณ์ด้านเวชศาสตร์ฟื้นฟู มีรายการรถนั่งคนพิการชนิดพับได้ทำด้วยโลหะแบบปรับให้เหมาะสมกับความพิการ กำหนดอัตราคันละ 6,000 บาท แบบปรับไม่ได้คันละ 4,000 บาท การกำหนดอัตราและประเภทสำหรับอุปกรณ์ในการรักษาโรคดังกล่าว ได้อิงราคาจากส่วนกลางซึ่งเป็นราคาที่เหมาะสม และจะได้ทำให้เกิดความสะดวกกับข้าราชการและครอบครัวในการรักษาพยาบาลโรคที่เกิดขึ้น ไม่ให้มีปัญหาในเรื่องของค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับอุปกรณ์รักษาอีกต่อไป ซึ่งจะส่งผลให้ชีวิตความเป็นอยู่ของข้าราชการดีขึ้น และนำมาซึ่งผลของการปฏิบัติงานที่จะได้ให้บริการประชาชนอย่างเต็มที่ต่อไป นอกจากนี้ กรมบัญชีกลางยังได้พัฒนาระบบการเบิกจ่ายเงินสวัสดิการรักษาพยาบาลต่อ เนื่องจากระบบการเบิกจ่ายเงินค่ารักษาพยาบาลประเภทผู้ป่วยนอกกลุ่มโรคเรื้อรัง 4 กลุ่มโรค เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับผู้รับเบี้ยหวัดบำนาญและบุคคลในครอบครัว ซึ่งจะช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายหากต้องเข้ารับการรักษาพยาบาลในสถานพยาบาลของราชการประเภทผู้ป่วยนอก ซึ่งไม่ต้องทดรองจ่ายเงินไปก่อน แต่สถานพยาบาลจะไปเรียกเก็บจากต้นสังกัดเอง จากเดิมที่ได้ดำเนินการให้กับข้าราชการไปก่อนหน้านี้แล้ว และกรมบัญชีกลางยังได้พัฒนาการบริหารจัดการด้านค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาล ด้วยการนำเทคโนโลยีมาใช้ในการจัดระบบการให้บริการสาธารณสุขอีกด้วย (มติชนรายวัน จันทร์ที่ 28 ก.พ. 48 http://www.matichon.co.th)





พบสารก่อมะเร็งในพริกป่น "ผู้ดี" สั่งโละอาหารปนเปื้อน

เว็บไซต์สก็อตสแมนดอตคอม รายงานว่า สำนักงานมาตรฐานอาหารของอังกฤษ หรือ เอฟเอสเอ ได้ประกาศแจ้งให้บริษัทผู้ผลิตเรียก คืนสินค้าประเภทอาหารครั้งใหญ่ที่สุดกว่า 400 รายการ จาก 60 แบรนด์ ออกจากซูเปอร์ มาร์เก็ตชื่อดังอย่างเทสโก้, มอริสสัน, เซนส์บูรี่ และเวตโรส หลังจากตรวจพบสารก่อมะเร็งปนเปื้อนในพริกป่น ซึ่งเป็นส่วนผสมในอาหารหลายชนิด สินค้าที่ถูกเรียกคืน มีทั้งเนื้อสเต๊กสไลซ์ยี่ห้อคุกส์, เครื่องปรุงซีซาร์สลัดยี่ห้อชวาร์ส, ซอสดูคอร์ส วอร์เซสเตอร์, เวสเทิร์น บาร์บีคิว ซอส ของแมคโดนัลด์, ไส้กรอกหมูของเบสท์, บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปรสเนื้อและซอสมะเขือเทศของยูนิ ลีเวอร์, มันฝรั่งทอดกรอบรสซอสวอร์เซสเตอร์ของวอล์กเกอร์ ฯลฯ เอฟเอสเอระบุว่า ได้ตรวจพบสีย้อมประเภทซูดาน 1 ปนเปื้อนอยู่ในพริกป่นที่ใช้เป็นวัตถุดิบในการผลิตซอสยี่ห้อครอสส์ แอนด์ แบล็กเวล วอร์เซสเตอร์ ที่ผลิตโดยบริษัทพรีเมียร์ ฟู้ดส์ ซึ่งซอสชนิดนี้ถูกใช้เป็นส่วนผสมในอาหาร ประเภทอื่นๆ อีกจำนวนมาก สารซูดาน 1 นั้น เป็นสารต้องห้ามในอาหาร เนื่องจากพบว่าเป็นสารที่ก่อให้เกิดมะเร็งในหนูทดลอง และจากการทดลองกับเซลล์ของมนุษย์ ส่วนมากจะใช้ผสมในน้ำยาขัดรองเท้า แวกซ์ขัดพื้น น้ำมันเบนซิน และตัวทำละลาย ซึ่งสารซูดาน 1 จะไม่ก่อให้เกิดความเจ็บป่วยในทันที แต่จะค่อยสะสมและเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดมะเร็ง (ประชาชาตธุรกิจ จันทร์ที่ 28 ก.พ. 48 http://www.matichon.co.th/prachachat)





นักวิชาการแนะติดไฟ 3 สี แบ่งโซนขนมอาหารว่างเด็ก

รศ.ดร.ประไพศรี ศิริจักรวาล สถาบันวิจัยโภชนาการ มหาวิทยาลัยมหิดล เปิดเผยว่า จากการวิเคราะห์คุณค่าทางโภชนาการของขนมและของว่างสำหรับเด็ก พบว่า มีไขมัน น้ำตาล และเกลือ เห็นสมควรที่จะให้ติดป้ายสีเพื่อแยกประเภท กล่าวคือ ให้ป้ายไฟสีแดงในขนมและอาหารว่างนั้นๆ กรณีมีไขมัน น้ำตาลและเกลือสูง ส่วนสีเหลืองแสดงว่าสูงกว่าเกณฑ์มาตรฐานแต่พออนุโลมให้รับประทานได้แต่ไม่ควรรับประทานบ่อย สีเขียวถือเป็นขนมและอาหารว่างที่ปลอดภัย มีไขมัน น้ำตาลและเกลือต่ำ ผู้ปกครองเลือกให้เด็กรับประทานได้ รศ.ดร.ประไพศรี กล่าวว่า เด็กเล็กมีพฤติกรรมการกินไม่ถูกต้อง มีการกินอาหารที่ไม่ใช่อาหารหลักมากกว่า 1 ใน 4 ของพลังงานที่ได้รับทั้งวัน ในเด็กโตมีความถี่ในการดื่มน้ำอัดลม น้ำหวานมากกว่าเด็กเล็ก ซึ่งเป็นส่วนที่ให้พลังงานว่างเปล่า เป็นสาเหตุของโรคฟันผุและโรคอ้วนได้ ส่วนโซเดียมหรือเกลือที่มีอยู่ในส่วนประกอบของเครื่องปรุงรสในอาหารกรุบกรอบ ขนมขบเคี้ยวหากบริโภคมากเป็นประจำจะเสี่ยงต่อการเป็นโรคความดัน ขอเรียกร้องผู้บริโภคอ่านฉลากขนม ซึ่งสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ยังไม่ได้บังคับ จึงมีขนมแค่ร้อยละ 25 เท่านั้นที่มีฉลากโภชนาการ สำหรับขนมทางเลือกที่มีไขมัน น้ำตาล และเกลือต่ำ ที่เป็นขนมไทย ได้แก่ ขนมตาล ถั่วแปบ ถั่วกวน ข้ามต้มมัด ข้าวเหนียวถั่วดำ ถั่วเขียวต้ม ขนมกล้วย ฟักทอง เล็บมือนาง ขณะที่ปลากริมไข่เต่า ลอดช่องน้ำกะทิ หม้อแกง จัดเป็นขนมที่มีไขมัน น้ำตาลสูง (กรุงเทพธุรกิจ อังคารที่ 1 มี.ค. 48 http://www.bangkokbiznews.com)





เกษตรฯ ใช้ระบบอินเทอร์เน็ตเตือนภัย แจ้งข้อมูลผู้ผลิตปรับตัวรับสถานการณ์

นายสุทธิพร จีระพันธุ รองปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่า กระทรวงเกษตรฯ ได้จัดทำโครงการพัฒนาระบบการแจ้งเตือนภัยด้านการเกษตร เพื่อปรับปรุงฐานข้อมูลและการวิเคราะห์สถานการณ์ภัยธรรมชาติ ให้มีประสิทธิภาพและทันต่อเหตุการณ์ จากเดิมที่มีข้อจำกัด เรื่องบุคลากรและระบบเครือข่ายเทคโนโลยี การแจ้งเตือนภัยด้านการเกษตร ที่ยังไม่ครอบคลุมทั่วประเทศ ทำให้เกิดความเสียหายหรือผลกระทบจากภัยธรรมชาติ ทั้งเรื่องของโรคแมลงและภัยพิบัติต่างๆ ที่เกิดขึ้นกับพื้นที่การเกษตรและพืชผลต่างๆ มีแนวโน้มรุนแรงเพิ่มขึ้นทุกปี และ ได้มอบหมายให้สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (สศก.) เป็นหน่วยงานกลางรับผิดชอบ โดยระบบการแจ้งเตือนภัย ที่จะจัดทำขึ้น จะนำระบบอินเทอร์เน็ต มาใช้ในการรายงานสถานการณ์ และความเคลื่อนไหวด้านการเกษตรที่เกิดขึ้นในแต่ละพื้นที่ สู่ส่วนกลางโดยตรง แทนการรายงานผล ด้วยระบบโทรศัพท์ นอกจากนี้ทาง สศก. ยังจะประสานกับผู้ว่าราชการจังหวัด ในพื้นที่ประสบภัย ศูนย์บรรเทาสาธารณภัย และกรมอุตุนิยมวิทยาอย่างต่อเนื่อง ในกรณีที่เกิดเหตุการณ์ผิดปกติ หรือภัยธรรมชาติรุนแรง ซึ่งจะทำให้การวิเคราะห์สถานการณ์และจัดทำมาตรการให้ความช่วยเหลือได้รวดเร็ว สอดคล้องกับความต้องการของเกษตรกรในพื้นที่ ทั้งนี้ข้อมูลที่นำเสนอ และวิเคราะห์ทั้งหมด จะสามารถวางแผนการผลิตล่วงหน้า ทราบปริมาณผลผลิต ซึ่งจะสะดวกกับการทำตลาด ของหน่วยงานที่รับผิดชอบ (กรุงเทพธุรกิจ อังคารที่ 1 มี.ค. 48 http://www.bangkokbiznews.com)





จัดระเบียบร้านเกมออนไลน์พร้อมใช้

นายฉัตรชัย คุณปิติลักษณ์ โฆษกประจำกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ไอซีที) เปิดเผยว่า กระทรวงไอซีทีได้ยกร่างประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่องให้ผู้ผลิต ผู้นำเข้า ผู้ให้บริการสถานบริการและเกมออนไลน์ ต้องจดทะเบียนที่กระทรวงไอซีทีเสร็จเรียบร้อยแล้ว ขั้นตอนต่อไป คือเสนอร่างให้กระทรวงมหาดไทยออกเป็นประกาศ เพื่อมอบอำนาจในการควบคุมธุรกิจดังกล่าวให้กระทรวงไอซีที โดยร่างดังกล่าวอาจมีการแก้ไขเล็กน้อยในรายละเอียด โดยเฉพาะในส่วนของธุรกิจร้านบริการอินเทอร์เน็ต เพื่อให้เกิดความเหมาะสมในเรื่องรูปแบบของร้านและเวลาให้บริการสำหรับเยาวชน นอกจากนี้ กระทรวงไอซีทีจะเชิญคณะอนุกรรมการโครงการส่งเสริมกู๊ดเน็ตเข้ามาหารืออีกครั้ง เช่น การห้ามเด็กนักเรียนใช้บริการก่อนเวลา 14.00 น. อาจจะให้ยกเว้นวันเสาร์-อาทิตย์ เป็นต้น ทั้งนี้ สาระสำคัญของร่างประกาศกระทรวงมหาดไทยดังกล่าว กำหนดให้ฮาร์ดดิสก์คอมพิวเตอร์มีคุณลักษณะในทางกฎหมายเช่นเดียวกับเทปและวัสดุโทรทัศน์ และยังแต่งตั้งนายทะเบียน ได้แก่ ปลัดกระทรวงไอซีทีและสถิติจังหวัด ส่วนพนักงานผู้ตรวจ ได้แก่ รองปลัดกระทรวงไอซีที สถิติจังหวัด พร้อมทั้งแต่งตั้งเจ้าพนักงานที่ทำหน้าที่ออกใบอนุญาต ซึ่งทั้งหมดเป็นการโอนงานมาจากกระทรวงมหาดไทย ในขณะที่ผู้นำเข้าเกมออนไลน์ทั้งเกมเก่าและใหม่ จะต้องขึ้นทะเบียนที่กระทรวงไอซีทีเท่านั้น โดยห้ามมีการพนัน การซื้อขายสิ่งของในเกม และให้เยาวชนอายุต่ำกว่า 18 ปี เล่นได้ไม่เกิน 3 ชั่วโมงต่อวัน หากรายใดไม่ทำตามก็จะถูกถอนใบอนุญาตทันที ทั้งนี้ ในปลายเดือนมีนาคม จะจัดอบรมสถิติจังหวัดทั่วประเทศ เพื่อให้รับทราบภาระหน้าที่ใหม่ในการเป็นนายทะเบียนร้านบริการอินเทอร์เน็ตในพื้นที่นั้นๆ ซึ่งถือเป็นการเตรียมพร้อมรอประกาศกระทรวงมหาดไทย (คมชัดลึก อังคารที่ 1 มีนาคม 2548 http://www.komchadluek.net)





ออกกำลังไว้แต่ตอนหนุ่มป้องกัน เป็นอัมพาตยามแก่ลงได้ตั้งครึ่ง

นักวิจัยของโรงเรียนสาธารณสุขศาสตร์ฮาร์วาร์ด ผลการศึกษาได้พบว่า ผู้ชายตัวอย่างในการศึกษาผู้ซึ่งเป็นคนออกกำลังมาอย่างจริงจัง มาตั้งแต่ตอนต้นของการศึกษา จะสามารถป้องกันโรค อัมพาตแบบสั่นตอนแก่ลงได้ เมื่อเทียบกับเพื่อนคนที่ออกกำลังมาแบบเล่นๆ มากกว่ากันได้ตั้งครึ่ง อย่างไรก็ตาม กับผู้หญิงผลการ ศึกษาถึงแม้ผลจะส่อไปในทางเดียวกับของผู้ชาย แต่ความสัมพันธ์ทางสถิติไม่สู้ หนักแน่นเท่าใดนัก และยังไม่แสดงให้เห็นความเกี่ยวพัน ของการออกกำลังอย่างจริงจังในยามแก่ กับโอกาสที่จะเกิดเป็นโรคอัมพาตแบบสั่นอย่างชัดเจนด้วย. (ไทยรัฐ พฤหัสบดีที่ 3 มีนาคม 2548 http://www.thairath.co.th)





อาหารไทยโดนหางเลขแคนาดาห้ามบริโภค

จากวิกฤตอาหารปนเปื้อนในอังกฤษหลังจากที่มีการตรวจพบส่วนผสมของสารแต่งสี "ซูดาน 1" ที่เป็นสารต้องห้าม จนนำไปสู่การเรียกคืนอาหารออกจากร้านค้า และซูเปอร์มาร์เก็ตในประเทศกว่า 500 ชนิด อีกทั้งยังได้บานปลายกลายเป็นกระแสตื่นกลัวขึ้นในหลายประเทศ ล่าสุด พบว่าสำนักงานตรวจสอบคุณภาพอาหารแห่งแคนาดา (Canadian Food Inspection Agency : CFIA) ได้เผยแพร่คำเตือนเรื่องอาหารปนเปื้อนไว้ในเว็บไซต์ www.inspection.gc.ca โดยแนะนำให้ประชาชนหลีกเลี่ยงการบริโภคผลิต ภัณฑ์อาหารสำเร็จรูปนำเข้าในหลายรายการ ในจำนวนนั้น พบว่ามีผลิตภัณฑ์อาหารที่นำเข้าจากประเทศไทย ประเภทขนมปังอบกรอบ กลิ่นพิซซ่า ที่ใช้ชื่อว่า Dan-D Pak Rice Toonies Pizza Flavour Rice Crackers และ Dan-D-Pak Rice Toonies Rice Crackers Red Hot Chili Pepper โดยนำเข้าโดยบริษัทดัน-ดี ฟูดส์ ในบริติช โคลัมเบีย และได้จัดจำหน่ายไปแล้วในหลายพื้นที่ ได้แก่ บริติช โคลัมเบีย แอลเบอร์ตา ซัสแคตเชวัน แมนิโทบา และออนแทรีโอ โดยเฉพาะ Dan-D Pak Rice Toonies Pizza Flavour Rice Crackers นั้น สำนักงานตรวจสอบคุณภาพอาหารแห่งแคนาดาอ้างว่า พบว่าขนมดังกล่าวมีส่วนผสมของสารซูดาน 1 ซึ่งส่งผลให้ทาง การบริติช โคลัมเบีย ได้สั่งเรียกคืนผลิตภัณฑ์อาหารดังกล่าวตั้งแต่วันที่ 2 กุมภาพันธ์ ส่วน Dan-D-Pak Rice Toonies Rice Crackers Red Hot Chili Pepper นั้น พบว่าแคนาดาได้ออกคำเตือนว่า ไม่ควรบริโภค ร่วมกับผลิตภัณฑ์อาหาร จากอังกฤษ และปากีสถานรวม 7 รายการ ตั้งแต่วันที่ 26 กุมภาพันธ์ โดยอ้างว่าตรวจสอบพบมีส่วนผสมของสารซูดาน 1 หรือซูดาน 4 อยู่ในอาหาร และทาง CFIA อยู่ระหว่างการทำงานร่วมกับผู้นำเข้าและผู้จัดจำหน่ายเพื่อเคลื่อนย้ายอาหารที่อยู่ในรายชื่อเหล่านี้ออกจากตลาดข่าวสั้นครม. (ประชาชาตธุรกิจ พฤหัสบดีที่ 3 มี.ค. 48 http://www.matichon.co.th/prachachat)





พระไตรปิฎกบาลีอักษรโรมันชุดแรกของโลก

เมื่อวันอาทิตย์ 27 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ เสด็จ ณ วังเทวะเวสม์ เป็นองค์ประธานการปฐมนิเทศ การจาริกพระราชทานพระไตรปิฎก ฉบับมหาสังคายนาสากลนานาชาติภาษาบาลี พิมพ์อักษรโรมัน ฉบับสมบูรณ์ชุดแรกของโลก จำนวน 1,000 ชุด ไปยังนานาประเทศทั่วโลก โดยชุดแรกได้ประดิษฐาน ณ วังเทวะเวสม์ ธนาคารแห่งประเทศไทย พระไตรปิฎกบาลีอักษรโรมัน ซึ่ง 1 ชุด มีจำนวน 40 เล่มนี้ จัดพิมพ์และตรวจทานโดย กองทุนสนทนาธรรมนำสุข ท่านผู้หญิง ม.ล.มณีรัตน์ บุนนาค ในพระสังฆราชูปถัมภ์สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราชสกลมหาสังคปริณายก โดย สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ ทรงเป็นประธานกิตติมศักดิ์ในการดำเนินการจัดพิมพ์ การประดิษฐาน และการเสด็จจาริกพระราชทานพระไตรปิฎกไปยังสถาบันสำคัญในนานาประเทศ 999 แห่ง ทั้งนี้ การพระราชทานพระไตรปิฎกไปยังนานาประเทศ เป็นการดำเนินตามรอยการพระราชทานพระไตรปิฎก ฉบับจุลจอมเกล้าบรมธรรมิกมหาราช ร.ศ.112 อักษรสยาม ซึ่งพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงโปรดเกล้าฯให้จัดพิมพ์ขึ้นเมื่อ 112 ปีที่ผ่านมา ซึ่งในครั้งนั้น สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาเทวะวงศ์วโปการ เสนาบดีกระทรวงต่างประเทศทรงเป็นผู้วางยุทธศาสตร์ในการเลือกสถาบันทั่วโลกเพื่อประดิษฐานพระไตรปิฎกฉบับ ร.ศ.112 ได้สำเร็จอย่างงดงาม ยุทธศาสตร์ครั้งนั้นยังผลให้เกิดเครือข่ายคลังบรรณารักษศาสตร์พระไตรปิฎกบาลี 260 สถาบัน โดยมีสยามประเทศเป็นศูนย์กลาง ก่อให้เกิดสันติภาพขึ้นในภูมิภาค และสัมพันธไมตรีอันดีกับนานาประเทศทั่วโลก ดังนั้น การพระราชทานพระไตรปิฎกบาลีอักษรโรมันฉบับสมบูรณ์ ในโอกาสครบรอบ 112 ปี พระไตรปิฎกบาลีอักษรสยาม ฉบับ ร.ศ.112 นี้ จะนำไปสู่การสร้างเครือข่ายมาตรฐานความมั่นคงแห่งศีลธรรมและสันติสุขของโลก เฉกเช่นเดียวกับเมื่อครั้งสมเด็จพระปิยมหาราชได้ทรงทำสำเร็จแล้ว โดยสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนาฯ จะทรงเสด็จพระราชทานพระไตรปิฎกบาลีอักษรโรมันฉบับสมบูรณ์แก่ประเทศศรีลังกาเป็นแห่งแรกในโลก ภายในเดือนมีนาคมนี้ (กรุงเทพธุรกิจ ศุกร์ที่ 4 มีนาคม 2548 http://www.bangkokbiznews.com)





พบผู้ป่วยติดเชื้อในรพ. ตาย4หมื่นป่วยอีก4แสน เหตุใช้ซ้ำเครื่องมือแพทย์

.นพ.สมหวัง ด่านชัยวิจิตร ประธานชมรมควบคุมโรคติดเชื้อในโรงพยาบาลแห่งประเทศไทย เปิดเผยในการประชุมเชิงปฏิบัติการเรื่อง "การป้องกันและควบคุมโรคติดเชื้อในโรงพยาบาล ครั้งที่ 19" ว่า จากการรวบรวมข้อมูลการติดเชื้อในโรงพยาบาล พบว่าปัจจุบันประเทศไทยยังมีผู้ป่วยจากโรคติดเชื้อในโรงพยาบาลสูงถึงปีละ 4 แสนคน หรือร้อยละ 6.4 ของจำนวนผู้ป่วยทั้งหมด ในจำนวนนี้มีผู้เสียชีวิตจากเหตุดังกล่าวประมาณ 4 หมื่นคนต่อปี ทำให้ต้องเสียค่าใช้จ่ายถึงปีละ 2 หมื่นล้านบาท ดังนั้น การพัฒนาระบบการเฝ้าระวังควบคุมการติดเชื้ออย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากจะช่วยให้ผู้ป่วย ประชาชนผู้มารับบริการ รวมทั้งเจ้าหน้าที่ปลอดภัยเพิ่มขึ้นแล้ว ยังช่วยให้รัฐประหยัดงบประมาณที่ต้องใช้ในการรักษาในส่วนนี้ โรคติดเชื้อในโรงพยาบาลถือเป็นปัญหาพื้นฐานที่มีมาตั้งแต่ในอดีต ซึ่งได้ทำการรณรงค์อย่างต่อเนื่องเป็นปีที่ 19 สามารถลดจำนวนผู้ป่วยจากการติดเชื้อในโรงพยาบาล ซึ่งสูงถึงร้อยละ 11.7 เมื่อ 10 ปีที่แล้ว แต่ขณะนี้ เหลือเพียงร้อยละ 6.4 เรียกว่าเกือบที่จะต่ำที่สุดในโลกแล้ว แม้จะยังมีผู้ป่วยจากการติดเชื้อในโรงพยาบาลจำนวนมากก็ตาม ปัญหาอุปกรณ์ เครื่องมือ เครื่องใช้ และเวชภัณฑ์ เป็นอุปสรรคในการป้องกันและควบคุม การติดเชื้อในโรงพยาบาล เนื่องจากพบว่าประเทศที่ควบคุมการติดเชื้อได้อย่างมีประสิทธิภาพ ส่วนใหญ่จะเป็นประเทศที่มีเศรษฐกิจที่ดี มีงบประมาณมาก โดยจะใช้เครื่องมือและเวชภัณฑ์เพียงครั้งเดียว ขณะที่ของไทยยังต้องนำกลับมาใช้ใหม่ (กรุงเทพธุรกิจ ศุกร์ที่ 4 มีนาคม 2548 http://www.bangkokbiznews.com)





เผยเตาเผาศพ 7วัดดังแหล่งปล่อยสารก่อมะเร็ง

นายจารุพงศ์ บุญ-หลง ผู้เชี่ยวชาญกรมควบคุมมลพิษ เปิดเผยว่า จากการตรวจวัดสารไดออกซินจากเตาเผาศพวัดในเขต กทม.และปริมณฑล จำนวน 500 กว่าแห่ง และที่บอกว่ามีเตาเผาศพที่มีประสิทธิภาพดีที่สุด 309 เตา รวมไปถึงวัดที่เผาศพตั้งแต่ 1-6 ศพขึ้นไปในแต่ละวันนั้น พบว่า มีการปล่อยสารไดออกซิน ฟิวแรน ในปริมาณสูงกว่าค่ามาตรฐานถึง 170 เท่า จากที่กำหนดเอาไว้ว่าต้องไม่เกิน 0.1 นาโนกรัมเท่านั้น แต่ที่ตรวจวัดได้คือตั้งแต่ 1.74-1.79 นาโนกรัม โดยเฉพาะวัดดังกลางเมืองกรุงเทพฯ 5-6 วัด ซึ่งได้นำเตาเผาปลอดมลพิษมาใช้แล้ว แต่ก็ยังปล่อยสารดังกล่าว อย่างไรก็ตาม สำหรับเตาเผาที่เคยมีการพูดคุยกันนั้นในต่างประเทศ อาทิ เยอรมนี ฮ่องกง อเมริกา ได้เปลี่ยนมาใช้เตาเผาปลอดมลพิษหมดแล้ว ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับวัดดังในเขตกทม.ที่มีการเผาศพต่อวันเกิน 6 ศพที่กรมควบคุมมลพิษ ตรวจวัดสารไดออกซิน ฟิวแรน ได้แก่ วัดตรีทศเทพ วัดเทพศิรินทราวาส วัดมงกุฎ วัดโสมนัส วัดธาตุทอง วัดเครือวัลย์ วัดพระศรีมหาธาตุ สำหรับอันตรายของสารไดออกซิน ฟิวแรน นั้นไม่ทำให้เกิดอาการพิษหรือตายอย่างทันที แต่อาการจะค่อยๆ เกิดและเพิ่มความรุนแรงถึงตายได้ โดยอาการเฉียบพลันที่ปรากฏ คือทำให้เกิดโรคผิวหนังที่เรียกว่า Chloraone คือเป็นสิวหัวดำ มีถุงสีน้ำตาลอมเหลืองของผิวหนังบริเวณหลังใบหู ขอบตา หลัง ไหล่ นอกจากนี้ยังเป็นสารก่อมะเร็งในมนุษย์ มีความเป็นพิษต่อระบบประสาท ความเป็นพิษต่อภูมิคุ้มกัน และความผิดปกติต่อระบบสืบพันธุ์ เป็นต้น ด้านนายอภิชัย ชวเจริญพันธ์ อธิบดีกรมควบคุมมลพิษ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) กล่าวว่า สำหรับแหล่งกำเนิดของสารไดออกซิน ซึ่งเป็นผลจากการเผาไหม้ไม่สมบูรณ์ ที่ยังคงเป็นปัญหาในขณะนี้คือ การเผาต่างๆ ทั้งเผาขยะชุมชน เผาขยะอันตราย เศษวัชพืชในท้องไร่ นาข้าว ไฟป่า นายอภิชัย กล่าวว่า ไทยได้ให้สัตยาบันในอนุสัญญาสตอกโฮล์มว่าด้วยสารมลพิษที่ตกค้างยาวนาน (POPs)เมื่อ 31 ม.ค.ที่ผ่านมา และกรมควบคุมมลพิษ จะทำหน้าที่เป็นศูนย์ประสานงานในการปฏิบัติตามพันธกรณีของอนุสัญญานี้ โดยกำลังเร่งจัดทำแผนระดับชาติ เพื่ออนุมัติอนุสัญญาสตอกโฮล์ม ให้แล้วเสร็จในเดือนม.ค.2549 (กรุงเทพธุรกิจ ศุกร์ที่ 4 มีนาคม 2548 http://www.bangkokbiznews.com)





เปิดตัวสัญลักษณ์Q-MARK

นายสมภพ อมาตยกุล ประธานคณะกรรมการบริหารโครงการตราสัญลักษณ์ Q-MARK เปิดเผยว่า ในวันที่ 10 มีนาคม จะมีการจัดมอบเครื่องหมาย Q-MARK แก่กิจการที่ผ่านการตรวจประเมินรุ่นแรก โดย Q-MARK เป็นเครื่องหมายรับรองให้แก่ผู้ผลิต ผู้ค้า และผู้ให้บริการที่ดำเนินธุรกิจได้มาตรฐานคุณภาพและมีจริยธรรมต่อผู้เกี่ยวข้อง และผู้รับผิดชอบต่อผู้บริโภค (มติชนรายวัน ศุกร์ที่ 4 มี.ค. 48 http://www.matichon.co.th)





ตีทะเบียนร้าน"เนต"เริ่มเม.ย.นี้

น.พ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี รมว.เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร(ไอซีที) กล่าวว่า ที่ประชุมเพื่อร่างระเบียบกระทรวงไอซีทีว่าด้วยหลักเกณฑ์การพิจารณาเกี่ยวกับสถานที่ประกอบการร้านอินเตอร์เน็ตและเกมส์คอมพิวเตอร์ มีข้อสรุปให้ผู้ที่ต้องการเปิดบริการร้านอินเตอร์เน็ตและเกมส์มาขึ้นทะเบียนประกอบกิจการในเดือนเม.ย.นี้ หรือหลังจากที่กระทรวงมหาดไทยเห็นชอบในระเบียบที่ออกโดยกระทรวงไอซีที ทั้งนี้ ระเบียบดังกล่าวอยู่ภายใต้พระราชบัญญัติเทปวัสดุโทรทัศน์ กระทรวงมหาดไทย โดยกำหนดให้ร้านอินเตอร์เน็ตและเกมส์ต้องปฏิบัติตาม ประกอบด้วยระเบียบของร้านควรจัดร้านให้เปิดโล่ง หรือหากติดกระจกให้ใช้กระจกใส ให้ติดกล้องวงจรปิดกรณีมีพื้นที่ให้บริการมากกว่า 1 ชั้น เพื่อความปลอดภัยในร้าน โต๊ะคอมพิวเตอร์กว้างไม่ต่ำกว่า 70 ซ.ม. รวมทั้งดูแลความเหมาะสมของแสงสว่างในร้าน เสียงรบกวน และห้ามสูบบุหรี่ ให้อยู่ภายใต้การดูแลที่มีมาตรฐาน ส่วนระเบียบของผู้เข้าใช้บริการ ห้ามมิให้ร้านให้บริการเด็กอายุต่ำกว่า 18 ปี เข้าใช้บริการก่อนเวลา 14.00 น. และหลังเวลา 22.00 น. เว้นแต่จะมีผู้ปกครองหรือครูมาด้วย ส่วนการเล่นเกมส์ในร้านให้เล่นได้ไม่เกิน 3 ชั่วโมง ให้บริการได้ทั้งเกมส์แบบออนไลน์และออฟไลน์ ซึ่งในส่วนนี้จะมีกลไกของการควบคุมเกมส์ออนไลน์ดูแลอีกทางหนึ่ง ทั้งนี้ ในปัจจุบันมีผู้ประกอบการร้านอินเตอร์เน็ตในประเทศไทยประมาณ 5,000 ราย กระทรวงไอซีทีจะส่งจดหมายแจ้งให้มาขึ้นทะเบียนได้ประมาณเดือนเม.ย.นี้ โดยร้านที่อยู่ในกรุงเทพฯ ให้ขึ้นทะเบียนกับสำนักปลัดกระทรวงไอซีที ส่วนร้านในต่างจังหวัดให้ขึ้นทะเบียนกับสำนักงานสถิติจังหวัดและจะจัดให้มีการต่ออายุใบอนุญาตแบบออนไลน์ในอนาคต รวมทั้งจะทำเป็นระบบวันสต็อป เซอร์วิส คือให้จดทะเบียนประกอบธุรกิจร้านอินเตอร์เน็ตกับกระทรวงพาณิชย์และขอใบอนุญาตประกอบกิจการกับกระทรวงไอซีทีในขั้นตอนเดียวด้วย การขึ้นทะเบียนร้านอินเตอร์เน็ตจะได้รับใบอนุญาต 2 ประเภท คือ ใบอนุญาตให้บริการอินเตอร์เน็ตและใบอนุญาตขาย เช่น การขายซอฟต์แวร์ จากการดาวน์โหลดทางอินเตอร์เน็ต เป็นต้น อย่างไรก็ตาม กระทรวงไอซีทีเชื่อมั่นว่าระเบียบที่ออกมาในครั้งนี้จะช่วยยกระดับมาตรฐานกิจการร้านอินเตอร์เน็ตในประเทศไทยและอาจจะส่งผลให้มีผู้ประกอบการเพิ่มมากขึ้น หากเห็นประโยชน์จากการดำเนินกิจการร้านอินเตอร์เน็ต โดยในอนาคตร้านอินเตอร์เน็ตจะสามารถเป็นศูนย์ให้บริการด้านไอซีทีของประชาชนในการเข้าถึงเครือข่ายบริการประชาชนจากภาครัฐบาลได้ (ข่าวสด ศุกร์ที่ 4 มีนาคม 2548 http://www.matichon.co.th/khaosod)





ชี้ "สื่อออนไลน์" มีผลกระทบเด็กมากที่สุด เตือนดูทีวีมากเสี่ยงโรคสมาธิสั้น

จากการสัมมนาเด็กไทยใน 4 ปีสร้างของรัฐบาลใหม่ การพัฒนานโยบายทางสังคมและวัฒนธรรมเพื่อเด็กและเยาวชน ที่สถาบันวิจัยจุฬาภรณ์ เมื่อวันที่ 4 มี.ค. ที่ผ่านมา นายอมรวิชช์ นาครทรรพ อาจารย์คณะครุศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวในการบรรยายพิเศษ ประมวลสถานการณ์ ทิศทางการจัดทำนโยบายสังคมเพื่อการพัฒนาเด็ก และเยาวชนว่า สิ่งที่มีผลต่อการพัฒนาเด็กคือ สื่อ ครอบครัว และพื้นที่ทางสังคม โดยสื่อมีอิทธิพลมากที่สุด งานวิจัยหลายชิ้นระบุตรงกันว่า หากเด็กอายุ 1-3 ปี ดูสื่อทางทีวีมากเกินไป จะเสี่ยงต่อการเกิดโรคสมาธิสั้น ส่วนสื่อที่เกิดผลกระทบต่อเด็กมาก คือ สื่อออนไลน์ โดยสร้างความคิดผิดๆเรื่องรูปร่าง เกิดการบริโภคนิยม เสี่ยงต่อการถูกล่อลวง ถูกยั่วยุทางเพศ เกิดนิสัยการลอกการบ้าน รายงานทางอินเตอร์เน็ต และเกิดความเคยชินกับความรุนแรงจากเกม และเว็บไซต์ ซึ่งทางแก้ตนเสนอว่า 1. สร้างระบบวิจัยองค์ความรู้ด้านสื่อเด็ก 2. สร้างนโยบายกฎระเบียบ เช่น การจัดเรตติ้ง 3. สร้างกลุ่มเฝ้าระวังสื่อ และสร้างสื่อศึกษาเพิ่มความรู้เท่าทันในสื่อ ด้าน น.พ.เกษม วัฒนชัย องคมนตรี กล่าวในการบรรยาย นโยบายสังคม เพื่อการพัฒนาเด็กและเยาวชน งานเดียวกันว่า เด็กควรเกิดการเรียนรู้ตามกระแสพระราชดำรัสของในหลวง คือ ต้องเรียนความรู้ ต้องเรียนความดี และต้องทำงานเป็น และหากสามารถทำสิ่งต่อไปนี้ได้ คุณภาพเด็กจะดีขึ้น คือ 1. ไม่ให้เกิดความยากจน 2. ไม่ให้เด็กเกิดโรคอ้วน 3. ไม่ให้เกิดภาวะจรจัด 4. ไม่ให้เด็กสำส่อนทางเพศ 5. ไม่ให้เกิดการติดสารเสพติด 6. ไม่ให้เกิดเหตุที่คนก่อขึ้น เช่น อุบัติเหตุ การฆาตกรรม 7. ไม่ให้เกิดสิ่งแวดล้อมที่เป็นพิษ และตนอยากเห็นเด็กรับผิดชอบตัวเอง มีจิตใจสาธารณะ และยึดถือความถูกต้อง สถาบันครอบครัวสถาบันการศึกษา ต้องคอยอบรมเด็ก สถาบันศาสนาต้องส่งเสริมให้เด็กยึดถือศาสนธรรม มากกว่าวัตถุ (ไทยรัฐ ศุกร์ที่ 5 มี.ค. 48 http://www.thairath.co.th)





ฝุ่นทำโรครุมเร้าคนกรุง

จากการสำรวจจากสถานีมลภาวะทางอากาศเพื่อดูปริมาณฝุ่นในอากาศในพื้นที่กลางกรุง 14 แห่ง ประกอบด้วย สามเสน รามคำแหง บ้านสมเด็จ ประตูน้ำ ตากสิน สีลม พญาไท กรมตำรวจ เยาวราช สี่พระยา บางเขน บางลำพู หลานหลวงและบางยี่ขัน พบปริมาณฝุ่นในอากาศเฉลี่ยสูงกว่ามาตรฐานทุกพื้นที่ ตามค่ามาตรฐานที่องค์การอนามัยโลกกำหนด ไว้ ปริมาณฝุ่นในอากาศจะต้องไม่เกิน 120 ไมโครกรัม/ ลบ.ม./24 ชม. แต่ในประเทศไทยกำหนด ให้ไม่เกิน 330 ไมโคร กรัม/ลบ.ม/24 ชม. แต่พื้นที่ เช่น สามเสนกลับพบปริมาณฝุ่นในอากาศมากที่สุด 2,180 ไมโครกรัม/ลบ.ม./24 ชม. สีลม 900 ไมโครกรัม/ ลบ.ม./24 ชม. รามคำแหง 1,460 ไมโครกรัม/ลบ.ม./ 24 ชม. หลังจากเก็บฝุ่นจากยวดยานพาหนะที่คนกรุงเทพฯจะต้องใช้ในชีวิตประจำวันไปเพาะเชื้อ ก็พบว่า มีเชื้อโรคทั้งหมด 38 ชนิด เป็นสัดส่วน 84% ของตัวอย่างทั้งหมด 219 ตัวอย่าง แยกเป็นเชื้อรา 18 ชนิด และเชื้อแบคทีเรีย 20 ชนิด ซึ่งเชื้อโรคดังกล่าวสามารถก่อโรคในมนุษย์ได้ โดยเฉพาะโรคที่เกิดจากเชื้อราและเชื้อแบคทีเรีย สามารถทำให้เกิดโรคในเกือบทุกระบบในร่างกาย นอกจากนี้ยังมีการเพาะเชื้อจุลินทรีย์ในรถยนต์ส่วนตัว 10 คัน พบเชื้อจุลินทรีย์ในอากาศประมาณ 437-1,750 CFU ต่อหนึ่งลูกบาศก์เมตรของอากาศ รถไมโครบัส 10 คันพบเชื้อจุลินทรีย์ในอากาศประมาณ 225-700 CFU ต่อหนึ่งลูกบาศก์เมตรของอากาศ สำหรับประเทศไทยยังไม่มีมาตรฐานที่กำหนดไว้เกี่ยวกับจุลินทรีย์ในอากาศ แต่มีมาตรฐานในอเมริกากำหนดไว้ว่า ห้องที่สะอาด เช่น ห้องผ่าตัดจะต้องมีเชื้อจุลินทรีย์ในอากาศไม่เกิน 500 CFU ต่อหนึ่งลูกบาศก์เมตร และนอกจากยานพาหนะจะเป็นแหล่งที่มาของเชื้อโรคแล้ว สัตว์ต่าง ๆ เช่น สุนัข แมว นก ก็เป็นแหล่งเพาะเชื้อได้ โดยเฉพาะสุนัขจรจัดซึ่งในกรุงเทพฯมีมากถึง 500,000 ตัว. (เดลินิวส์ อาทิตย์ที่ 6 มี.ค. 48 http://www.dailynews.co.th)






KMUTT Digital Library
Contact Digital Library : info@lib.kmutt.ac.th
Tel : 0-2470-8215