หัวข้อข่าวปีที่ 6 ฉบับที่ 9 ประจำวันที่ 2005-03-13

ข่าวการศึกษา

หวั่นแยก กศน.การศึกษาตลอดชีวิตล่ม
ทปอ.ถก"ทักษิณ"ดันม.ไทยขึ้นระดับโลก
พิบูลสงครามเปิดแพ็กเกจสอนฝรั่งเศส-อังกฤษ-ญี่ปุ่น
อุบลโชว์ความพร้อม เปิดป.โท5หลักสูตร
ม.รังสิตแจงโน๊ตบุ๊กนศ.ปริญญาโท-เอก
ผ่านร่างสถาบันทดสอบศึกษา-คงสำนักฯของ สพฐ.
2550ไทยจัดดาราศาสตร์โอลิมปิก เตรียมติวภาคปฏิบัติเด็กไทยสู้ศึก
มะกันเปิดรับอาจารย์สอบชิงทุน
มสธ.สอนโท-เอกผ่านอินเตอร์เน็ต
มธ.แจงเหตุยุบบัณฑิตวิทยาลัย
ชี้การศึกษาพัฒนาสังคม แนะใช้ สมศ.-สทก.ปรับมาตรฐาน
ทปอ.ถกปรับสูตร"แอดมิสชั่นส์"12มี.ค.
วอนทปอ.ปรับสูตรแอดมิชชั่นหั่นคะแนนการเรียน
มศวเปิดทางอัจฉริยะ เลื่อนชั้นเรียนควบปี1

ข่าววิทยาศาสตร์/เทคโนโลยี

ปลุกจริยธรรมนักวิทยาศาสตร์ไทย
ประดิษฐ์รองเท้าวิ่งคู่อัจฉริยะ ติดคอมพิวเตอร์ทั้งชุดไว้ในตัว
ชวนคนรุ่นใหม่ประกวดเวบไต์
กรมวิทย์ฯตั้งสถาบันพิษวิทยา สร้างระบบเตือนภัยอาหาร
อิทธิฤทธิ์ข้าวเหนียวช่วยก่อสร้าง กำแพงเมืองจีนสิ่งมหัศจรรย์โลก
ซีพูยูรุ่นใหม่ประหยัดไฟ แถมเพิ่มความเร็วให้คอมพ์
"นาซ่า"พร้อมส่งยานอวกาศ มั่นใจไม่ซ้ำรอย"โคลัมเบีย"ระเบิด
ไอซีทีรื้อโปรเจ็กต์"อีกัฟเวิร์นเมนต์" ออกพ.ร.ฎ.ตั้งองค์การมหาชนคุม
สิงคโปร์กวดขันโทรศัพท์เติมเงินผู้ก่อการร้ายใช้เป็นเครื่องมือ
เนคเทคเปิดหลักสูตรการตลาด ปั้นนักเทคโนโลยีสู่วงการธุรกิจ
“จริยธรรม” ข้อปฏิบัติที่จำเป็นของวิทยาศาสตร์
โปรแกรมเมนูอาหารไร้สาย สั่งผ่านคอมพ์มือถือถึงครัว
จุฬาฯผ่าธัยรอยด์ด้วยกล้องส่อง
พระเทพฯทรงเน้นย้ำทุกฝ่าย เห็นความสำคัญพันธุศาสตร์

ข่าววิจัย/พัฒนา

เพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อในท้องหมู ประกอบเต้านมคืนสภาพเดิม
มหัศจรรย์ "มะกอกโอลีฟ" สกัดสารทำสบู่หวานต้านเชื้อแบคทีเรีย
สามล้อโฉมใหม่สุดเตี้ย แล่นฉิ่วคู่กายนักผจญภัย
จับหนอนผีสื้อผลิตไหมคุณภาพเหนียว มันวาวทอผ้าได้
ถังหมักความดัน ทางเลือกใหม่ของอาหารแปรรูป
พลังแสงอาทิตย์อบคงฤทธิ์สมุนไพรยา
นักวิทย์จีนวิจัยข้าวโพดผลดก เพียงพอเลี้ยงชีวิตพันล้านคน
ทดลองวัคซีนเลิกบุหรี่สำเร็จฉีด6เข็มเหม็นเบื่อควันเลย
กทม.จับมือสหรัฐทำวิจัยยาป้องกันโรคเอดส์ เริ่ม เม.ย.นี้ทดลองกลุ่มเสี่ยง 1.6 พันคน
นักวิทย์จุฬาฯชูวัสดุใหม่ทำเครื่องมือแพทย์
ม.เกษตรฯพัฒนาฉลากแหนมบอกรสชาติ เปลี่ยนสีตามระดับความเปรี้ยว เปิดรับเอกชนช่วยเข็นลงหิ้ง
แบตฯรุ่นใหม่ชาร์จด่วน 6 นาที สนองอุปกรณ์ไฟฟ้ารุ่นเปลืองไฟ
เอเอ็มดีอวดซีพียู 64 บิต ช่วยคำนวณหาสูตรยา
กินแอปเปิ้ลไล่ขับมะเร็งเต้านม ให้หนีห่างพ้นตัวสตรีออกไปได้
'นวัตกรรม'หนุนคิดค้นบ่อกุ้งไร้มลพิษ เน้นชีวภาพบำบัดน้ำเสีย แถมตะกอนทำอาหารปลา
เครื่องขูดมะละกออัตโนมัติ นวัตกรรมใหม่ นักศึกษา ม.ราชมงคล หันตรา
เครื่องวัดความดันโลหิตระบบออสโลเมตริก ฝีมือนักวิจัย ขอนแก่น ทดแทนของนอกราคาแพง
เพาะหนูใส่เซลล์สมองของมนุษย์ ค้นหาวิธีรักษาโรคสมองเสื่อม
โลชั่นชาเมี่ยงกันยุงถนอมผิว แปรรูปเพิ่มมูลค่าพืชในท้องถิ่น
สหรัฐพบวิธีใหม่ทำสเต็มเซลล์ ปลอดเซลล์สัตว์ปนเปื้อน
สวทช.หนุนสังกะสีถ่วงล้อทดแทนตะกั่ว
ญี่ปุ่นพบโปรตีนช่วยมีบุตร
เอ็มเทคชู'กระดาษเซรามิค'เพิ่มค่าสินค้า เหมาะทำชิ้นงานที่ประณีต ช่วยยกระดับกลุ่มโอท็อป
เครื่องรีดยางพาราด้วยก๊าซหุงต้ม โปรเจ็กต์เด็ดๆ เด็กราชมงคล

ข่าวทั่วไป

เผยชื่อหนังสือดีเด่นปี48
รักษาสิวด้วยตนเองได้ง่ายๆ ด้วยปากและการออกกำลังกาย
โรคเอดส์จะคร่าชีวิตชาวแอฟริกา 80 ล้านคนในเวลา 20 ปีข้างหน้า
คนไทยเจ๋งสอบภาษาญี่ปุ่นคะแนนลิ่ว ได้อันดับหนึ่งของโลกจากคู่แข่งกว่า3พัน
กทม.เดินหน้า 5 ระบบอัจริยะ
ชี้หลอดเลือดดำอุดตันเสี่ยงมะเร็ง
แพทย์เตือนแขนขาบวมโต เสี่ยงเป็นมะเร็งร้อยละ40
เผยไทยคอร์รัปชั่นติดอันดับ7"เอเชีย"
ยูเอ็นประกาศ ห้ามโคลนนิง มนุษย์ทุกแบบ
ยูเนสโกตกลงตั้งเตือนภัยสึนามิมหาสมุทรอินเดีย
แอร์เพื่อสุขภาพ
ลำปางรวมพลังหยุดขุดหอยล้านปี
เทิดพระเกียรติ 2 เม.ย."วันหนังสือเด็กแห่งชาติ"
มาเลย์ไอเดียเจ๋ง ส่งโรตีเป็นอาหาร ให้นักบินอวกาศหมี
กรมศิลปากรจัดทำข้อมูลดิจิตอล อนุรักษ์หนังสือกรมพระยาดำรงฯ
กรมศิลป์เอาจริงนักค้าวัตถุโบราณ
ก.เกษตรให้เอกชนตรวจรับรองสินค้าระบบ GAP
มรภ.ธนบุรีเชิญชมยูมาร์ท-โชว์นวัตกรรมเจ๋ง
ศศินทร์ คว้าแชมป์ BBC 2004! นวัตกรรมยาจาก 'ใยไหม' ก้าวต่อไปสู่เวทีโลก MOOT CORP
ไทยขอเป็นแหล่งมรดกโลกอีก





ข่าวการศึกษา


หวั่นแยก กศน.การศึกษาตลอดชีวิตล่ม

ตามที่กระทรวงศึกษาธิการได้จัดให้มีการประชุมคณะทำงานเพื่อระดมความคิดเสนอแนวทาง ปรับโครงสร้างกระทรวงศึกษาธิการต่อรัฐบาล โดยแนวทางหนึ่งเสนอให้ยุบกระทรวงศึกษาธิการ แล้วตั้งกระทรวงใหม่ 3 กระทรวง คือ กระทรวงอุดมศึกษา กระทรวงอาชีวศึกษา กระทรวงการศึกษาขั้นพื้นฐาน และให้มีคณะกรรมการการศึกษาแห่งชาติ เป็นองค์กรมหาชน ส่วนหน่วยงานการศึกษานอกโรงเรียน ที่ประชุมเสนอให้แยกงานด้านต่างๆไปอยู่กับหน่วยงานอื่น เช่น การศึกษาขั้นพื้นฐาน และการอาชีวศึกษานั้น นายอุฤทธิ์ บุญมาก ผู้อำนวยการสำนักบริหารงานการศึกษานอกโรงเรียน (กศน.) กล่าวว่า แนวคิด การแยกงานการศึกษานอกโรงเรียนไปขึ้นอยู่ กับหน่วยงานต่างๆ ดังกล่าวเป็นการคิดแบบแยกส่วน ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อการสร้างระบบการศึกษาตลอดชีวิตที่เป็นหลักสำคัญใน พ.ร.บ.การศึกษาแห่งชาติ และเป็นนโยบายของรัฐบาลที่ต้องการให้ระบบการศึกษามีความเชื่อมโยงสอดรับกัน ตั้งแต่วัยแรกเกิดจนเข้าสู่วัยสูงอายุ และมีความเป็นเอกภาพและบูรณาการ การยกองค์กรเป็นกระทรวงทั้ง 3 องค์กร เป็นการมุ่งเน้นให้ความสำคัญเฉพาะการศึกษาในระบบโรงเรียนเท่านั้น การศึกษานอกระบบซึ่งเป็นการศึกษาภาคประชาชน มีความแตกต่างจากการศึกษาในระบบทั้งแนวคิด ปรัชญา วิธีการทำงาน และกลุ่มเป้าหมาย กลับถูกละเลยไม่ได้รับการส่งเสริมให้มีศักยภาพที่พอเพียงต่อการจัดการศึกษา ตนเห็นว่า การจัดการศึกษาให้กับประชาชนซึ่งเป็นคนส่วนใหญ่ของประเทศ หากนำไปหลอมรวมกับหน่วยงานการศึกษาในระบบโรงเรียนก็จะสลายไปในที่สุด และจะเป็นปัญหาต่อการจัดการศึกษาตลอดชีวิตในอนาคต ดังนั้น การปรับโครงสร้างกระทรวงศึกษาธิการควรคิดอย่างรอบคอบบนฐานข้อมูลที่เป็นจริง และควรรับฟังความคิดเห็นของผู้มีส่วนเกี่ยวข้องทุกฝ่าย (ไทยรัฐ จันทร์ที่ 7 มี.ค. 48 http://www.thairath.co.th)





ทปอ.ถก"ทักษิณ"ดันม.ไทยขึ้นระดับโลก

นายธีรวุฒิ บุณยโสภณ อธิการบดีสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ(สจพ.) เปิดเผยว่า เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ที่ประชุมอธิการบดีแห่งประเทศไทย(ทปอ.) ได้ทำหนังสือถึง พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เพื่อขอเข้าพบ และหารือใน 3 ประเด็นหลักคือ ให้รัฐบาลช่วยผลักดันให้อุดมศึกษาไทยไปสู่การเป็นมหาวิทยาลัยชั้นนำระดับโลก หรือ Worldclass University เพราะขณะนี้มหาวิทยาลัยไทยไม่ติดอันดับมหาวิทยาลัยของโลกเลย นายชาญณรงค์ พรรุ่งโรจน์ คณบดีคณะศิลปกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และเลขาธิการ ทปอ.กล่าวว่า ตนได้จัดทำดัชนีบ่งชี้ และเกณฑ์ประเมินคุณภาพด้านการทำนุบำรุงศิลปวัฒนธรรมเสร็จ และส่งให้สำนักงานรับรองมาตรฐานและประเมินคุณภาพการศึกษา(สมศ.) แล้ว คาดว่า สมศ.จะเริ่มใช้ประเมินสถานศึกษารอบ 2 ในปี 2549 สาเหตุที่ต้องจัดทำดัชนีบ่งชี้ฯด้านนี้เพราะการจัดอันดับมหาวิทยาลัยทั่วโลกเมื่อ 8 ปีก่อน มหาวิทยาลัยไทยอยู่อันดับท้ายๆ จึงเกิดแนวคิดที่จะจัดระดับ และจัดอันดับมหาวิทยาลัยไทย แต่ ทปอ.ทักท้วง และเห็นว่าน่าจะพัฒนาคุณภาพก่อน จึงเกิดการประกันคุณภาพการศึกษา และเมื่อจัดตั้ง สมศ.แล้ว แต่เกณฑ์ข้อ 6 เรื่องการทำนุบำรงุศิลปวัฒนธรรม กลับมีดัชนีบ่งชี้ 2 ข้อ คือกิจกรรมที่ทำมีกี่โครงการ และงบประมาณที่ได้รับจัดสรรมีร้อยละเท่าไหร่ ซึ่งวัดไม่ได้เพราะไม่ชัดเจน ตนจึงเสนอ สมศ.ให้สร้างดัชนีบ่งชี้ฯ ด้านการทำนุบำรุงศิลปวัฒนธรรม โดยเชิญผู้เกี่ยวข้องหารือ และสรุปได้ 5 มาตรฐาน คือนโยบาย การส่งเสริม การสนับสนุน การสร้างมาตรฐาน และการเผยแพร่และการบริการสู่สังคม ส่วนเกณฑ์ประเมินและคุณภาพผลงาน แบ่งเป็นประเมินเชิงปริมาณ และประเมินเชิงคุณภาพ เชื่อว่าเมื่อดัชนีบ่งชี้ฯด้านการทำนุบำรุงศิลปวัฒนธรรมชัดเจนก็จะทำให้การจัดอันดับมหาวิทยาลัยชั้นนำระดับโลก โดยเฉพาะด้านสังคมศาสตร์ และด้านศิลปศาสตร์และมนุษยศาสตร์ของมหาวิทยาลัยไทยน่าจะขยับขึ้นมา หลังจากที่จุฬาฯ ติดอยู่ในอันดับที่ 46 และ 50 ตามลำดับจากการจัดอันดับของนิตยสารไทม์เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ (มติชนรายวัน จันทร์ที่ 7 มีนาคม 2548 http://www.matichon.co.th)





พิบูลสงครามเปิดแพ็กเกจสอนฝรั่งเศส-อังกฤษ-ญี่ปุ่น

ศูนย์ภาษา มหาวิทยาลัยราชภัฏพิบูลสงคราม เปิดสอนภาษาต่างประเทศ ระบบแพ็กเกจ ประกอบด้วยภาษาฝรั่งเศสเบื้องต้น โดย ดร.ทรัตน์พร บัณฑิตย์ ปริญญาเอกการสอนภาษาฝรั่งเศส เพื่อการท่องเที่ยว จากประเทศฝรั่งเศส (30 ชั่วโมง) 1,300 บาท ภาษาอังกฤษ โดยเจ้าของภาษา (Level 1, Level 4) โดยอาจารย์ Mark Reiswig อาจารย์ Chistopher Willis (30 ชั่วโมง) 1,300 บาท สนทนาภาษาญี่ปุ่น โดยอาจารย์ Hitomi Okawachi (30 ชั่วโมง) 1,300 บาท สนทนาภาษาจีน โดย Ass.Prof.Dr.Jianxun Liu (30 ชั่วโมง) 1,300 บาท ขอทราบรายละเอียดได้ที่ศูนย์ภาษา มหาวิทยาลัยราชภัฏพิบูลสงคราม (ส่วนวังจันทน์) อำเภอเมือง จังหวัดพิษณุโลก 65000 โทรศัพท์ 0-1532-7130 สอบถามและสมัครชำระเงินได้ที่คุณจิราพรรณ อนุมัติ (ข่าวสด จันทร์ที่ 7 มี.ค. 48 http://www.matichon.co.th/khaosod)





อุบลโชว์ความพร้อม เปิดป.โท5หลักสูตร

นายเกษม บุญรมย์ อธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฏอุบลราชธานี เปิดเผยว่า ปีการศึกษา 2548 มหาวิทยาลัยราชภัฏอุบลราชธานีรับสมัครนักศึกษาระดับปริญญาโทจำนวน 5 หลักสูตร ประกอบด้วย ครุศาสตรมหาบัณฑิต สาขาการบริหารการศึกษาทั่วไป โครงการต่อเนื่องประกาศนียบัตรบัณฑิตการบริหารการศึกษา การวิจัยและการประเมินผลการศึกษา การพัฒนาหลักสูตรและการเรียนการสอน ศิลปศาสตรมหาบัณฑิต มีสาขาสังคมศาสตร์เพื่อการพัฒนา ภาษาอังกฤษ และเศรษฐศาสตร์การเมือง บริหารธุรกิจมหาบัณฑิต สาขาการจัดการทั่วไป สาธารณสุขศาสตรมหาบัณฑิต สาขาการสร้างเสริมสุขภาพ วิทยาศาสตรมหาบัณฑิต มีสาขาการผลิตสัตว์ และวิทยาศาสตร์ศึกษา สมัครด้วยตนเองวันที่ 21-30 เม.ย. สมัครทางไปรษณีย์ ตั้งแต่บัดนี้ถึงวันที่ 24 เม.ย. ขอรับคู่มือการสมัครเข้าศึกษาฟรี ที่บัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยราชภัฏอุบลราชธานี โทรศัพท์ 0-4526-2423-32 หรือ 0-4535-2000-29 ต่อ 1145 (ข่าวสด จันทร์ที่ 7 มี.ค. 48 http://www.matichon.co.th/khaosod)





ม.รังสิตแจงโน๊ตบุ๊กนศ.ปริญญาโท-เอก

ดร.อาทิตย์ อุไรรัตน์ อธิการบดีมหาวิทยาลัยรังสิต กล่าวว่า เนื่องในโอกาสที่มหาวิทยาลัยรังสิตครบรอบ 20 ปี จึงได้จัดทำโครงการพิเศษเพื่อส่งเสริมการเรียนรู้เทคโนโลยีของนักศึกษา โดยนักศึกษาใหม่ระดับปริญญาตรี โทและเอก จะได้รับแจกเครื่องคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊ก ส่วนนักศึกษาใหม่ระดับปริญญาตรีคณะเทคโนโลยีสารสนเทศ สาขาวิทยาการคอมพิวเตอร์เทคโนโลยีสารสนเทศ และสาขาเกมคอมพิวเตอร์มัลติมีเดียคณะศิลปกรรม สาขาคอมพิวเตอร์อาร์ต คณะบริหารธุรกิจ สาขาสารสนเทศคอมพิวเตอร์ คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ และคณะวิศวกรรมศาสตร์ สาขาวิศวกรรมคอมพิวเตอร์ จะได้รับทุนสนับสนุนรายละ 10,000 บาท สำหรับซื้อคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊ก คาดว่าจะมีนักศึกษาร่วมโครงการไม่ต่ำกว่า 1,500 คน ส่วนการซ่อมบำรุงนั้น มหาวิทยาลัยได้ร่วมมือกับเอเซอร์คอมพิวเตอร์ ตั้งศูนย์บริการซ่อม และอบรมการใช้เบื้องต้นรวมทั้งติดตั้งเครือข่ายไร้สายภายในมหาวิทยาลัย. (เดลินิวส์ อังคารที่ 8 มีนาคม 2548 http://www.dailynews.co.th)





ผ่านร่างสถาบันทดสอบศึกษา-คงสำนักฯของ สพฐ.

นายอดิศัย โพธารามิก รมว.ศึกษาธิการ เปิดเผยผลการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า ทาง ครม.ได้เห็นชอบร่างพระราชกฤษฎีกา สถาบันทดสอบ ทางการศึกษาแห่งชาติเรียบร้อยแล้ว ซึ่งจะเป็นองค์กรมหาชน ทำหน้าที่จัดการทดสอบภาพรวมระดับประเทศ และประเมินมาตราฐาน ที่สำคัญคือจัดสอบแบบ ทดสอบทางการศึกษาแห่งชาติ หรือ NT ส่วนการดำเนินการยกร่างพระราชกฤษฎีกา สถาบันทดสอบทางการศึกษาแห่งชาติที่เกิดความล่าช้านั้น เพราะต้องไปยุบรวมหน่วยงานที่ทำหน้าที่ทดสอบของแต่ละองค์กร มารวมอยู่ในสถาบันทดสอบทางการศึกษาแห่งชาติ อย่างไรก็ตาม ครม.ได้ให้ความเห็นเพิ่มเติมว่า ไม่จำเป็นต้องยุบสำนักทดสอบทางการศึกษา ของสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) มารวมกับสถาบันทดสอบทางการศึกษาแห่งชาติ แต่มีข้อแม้ว่า สำนักทดสอบของ สพฐ.ต้องไม่ทำหน้าที่ ซ้ำซ้อนกับสถาบันทดสอบทางการศึกษาแห่งชาติ ต้องแบ่งหน้าที่ให้สำนักทดสอบของ สพฐ.จัดทดสอบเพื่อวัดผลเฉพาะเรื่อง เพื่อนำผลการทดสอบมาใช้ในการพัฒนาคุณภาพของโรงเรียน ส่วนสถาบันทดสอบทาง การศึกษาแห่งชาติ ให้ทำหน้าที่ทดสอบทางการศึกษาในภาพรวม ภายใน 1 ปีนี้ก็คง จะมีการดำเนินการจัดตั้งสถาบันทดสอบทางการศึกษาแห่งชาติได้แล้วเสร็จ พร้อมสำหรับการจัดสอบ NT ในปี 2549 เพื่อนำผลไปใช้ในระบบแอดมิชชั่นได้ (ไทยรัฐ พุธที่ 9 มีนาคม 2548 http://www.thairath.co.th)





2550ไทยจัดดาราศาสตร์โอลิมปิก เตรียมติวภาคปฏิบัติเด็กไทยสู้ศึก

ในวันที่ 12 มีนาคมนี้ สมาคมดาราศาสตร์ไทย(สดท.)จะนำนักเรียนในพื้นที่ภาคกลางที่ผ่านการคัดเลือก ให้เข้าค่ายเพื่อฝึกหัดความพร้อมที่จะเข้าแข่งขันดาราศาสตร์โอลิมปิก ไปเตรียมความพร้อมฝึกภาคสนามแบบเข้มข้น ที่วัดมกุฎคีรีวัณ อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา โดยกรรมการจัดการเพื่อเตรียมความพร้อม เพื่อให้นักเรียนเข้าแข่งขันดาราศาสตร์โอลิมปิกที่ประเทศจีน จะเป็นเจ้าภาพในเดือนตุลาคมที่จะถึงนี้ ระบุว่า ที่ผ่านมา เด็กไทยจะเก่งด้านทฤษฎี การคำนวณ แต่ในด้านการปฏิบัติ และสถานการณ์จริงนั้นค่อนข้างอ่อน คณะกรรมการเห็นว่า การเตรียมพร้อมโดยนำเด็กไปเข้าค่ายฝึกปฏิบัติ ทั้งการคำนวณ การดูปรากฏการณ์จริงๆ รวมทั้งฝึกทำข้อสอบที่อิงกับปรากฏการณ์ท้องฟ้าที่มองเห็นจริงๆ ด้วย น่าจะมีประโยชน์กับเด็กโดยตรง พื้นที่ที่วัดมกุฎคีรีวัณน่าจะเหมาะสมและสามารถสร้างประสบการณ์ทางท้องฟ้าให้เด็กๆ เหล่านี้ได้มาก กรรมการคนเดิมระบุด้วยว่า ระหว่างวันที่ 1-4 พฤษภาคม จะมีนักเรียนจากทั่วประเทศที่ผ่านการทดสอบภาคทฤษฎีด้านดาราศาสตร์ก็จะมาเข้าค่ายเพื่อฝึกการทำข้อสอบภาคปฏิบัติด้านดาราศาสตร์ในพื้นที่นี้ด้วยเช่นเดียวกัน ทั้งนี้ ในปี 2550 ประเทศไทยจะรับเป็นเจ้าภาพการจัดการแข่งขันดาราศาสตร์โอลิมปิก คณะกรรมการโอลิมปิคสากลจะเดินทางมาดูความพร้อมในการจัดงานและสถานที่ที่จะให้นักเรียนจากทั่วโลกใช้สอบภาคปฏิบัติในพื้นที่แห่งนี้ด้วย (มติชนรายวัน พุธที่ 9 มีนาคม 2548 http://www.matichon.co.th)





มะกันเปิดรับอาจารย์สอบชิงทุน

มหาวิทยาลัยราชภัฏอุดรธานี แจ้งว่ามูลนิธิการศึกษาไทย-อเมริกัน กำลังเปิดรับสมัครสอบชิงทุน Study of the United States Institute Program ประจำภาคฤดูร้อน 2548 เพื่อให้อาจารย์ที่สนใจสมัครเข้าร่วมโครงการต่างๆ กับมหาวิทยาลัยในประเทศสหรัฐอเมริกา เป็นระยะเวลา 4-6 สัปดาห์ โดยผู้สมัครต้องเป็นอาจารย์ที่ดำเนินการสอนและ/หรือมีส่วนร่วมในการวางหลักสูตรการสอน ในวิชาการที่เกี่ยวข้องกับอเมริกันศึกษา(American Studies) ไม่ว่าจะเป็นสาขารัฐศาสตร์ นิติศาสตร์ สังคมศาสตร์ มานุษยวิทยา มนุษยศาสตร์ เศรษฐศาสตร์ หรือภาษาและวรรณกรรม อาจารย์ที่สนใจสมัครชิงทุนต้องส่งใบสมัครที่กรอกสมบูรณ์แล้ว พร้อมทั้ง letter of recommendation หลักฐานการศึกษาและผลการทดสอบภาษาอังกฤษที่เทียบเคียงกับผลสอบ TOEFL ด้วยคะแนนไม่ต่ำกว่า 525 หรือ 195 ด้วยระบบคอมพิวเตอร์ หากอาจารย์ท่านใดสนใจ สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ ฝ่ายวิเทศสัมพันธ์ อาคารเฉลิมพระเกียรติชั้น 3 ในวันและเวลาราชการ ผู้สนใจสมัครเข้าร่วมโครงการส่งใบสมัครและเอกสารประกอบการสมัคร ไปยังที่ทำการมูลนิธิ หรือหาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ http://www.fulbrightthai.org (ข่าวสด พุธที่ 9 มีนาคม 2548 http://www.matichon.co.th/khaosod)





มสธ.สอนโท-เอกผ่านอินเตอร์เน็ต

ศ.ดร.ปรัชญา เวสารัชช์ อธิการบดีมหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช (มสธ.) เปิดเผยว่า มสธ. ลงนามกับบริษัท กสท โทรคมนาคม จำกัด (มหาชน) ในการให้บริการเครือข่ายสื่อสารสารข้อมูลเพื่อการเรียนรู้ โดย กสท จะเชื่อมโยงเครือข่ายจาก มสธ. ส่วนกลางไปยังศูนย์วิทยพัฒนา 10 ศูนย์ ในจังหวัดจันทบุรี เพชรบุรี อุดรธานี นครศรีธรรมราช ลำปาง นครสวรรค์ อุบลราชธานี สุโขทัย ยะลา นครนายก และ มสธ. เตรียมเปิดสอนระดับปริญญาโทและเอก ผ่านระบบอินเตอร์เน็ต โดยปริญญาเอกจะเปิดสอนในคณะศึกษาศาสตร์ ปี 2549 สำหรับปริญญาโท จะเป็นปริญญาโทไทยคดีศึกษา ซึ่งเป็นหลักสูตรภาษาอังกฤษ นอกจากนี้ กรมราชทัณฑ์ยังมีนโยบายที่จะให้ มสธ. เข้าไปจัดสอนระดับปริญญาโทให้กับผู้ต้องขังอีกด้วย (ไทยรัฐ พฤหัสบดีที่ 10 มี.ค. 48 http://www.thairath.co.th)





มธ.แจงเหตุยุบบัณฑิตวิทยาลัย

ศ.ดร.สุรพล นิติไกรพจน์ อธิการบดีมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เปิดเผยว่า ตามที่สภามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ มีมติเห็นชอบร่างพระราชกฤษฎีกายุบเลิกบัณฑิตวิทยาลัยของ มธ. และคาดว่าคณะกรรมการการอุดมศึกษา(กกอ.) จะดำเนินการพิจารณาร่างพระราชกฤษฎีกาดังกล่าวและนำเสนอ คณะรัฐมนตรีเพื่อประกาศในราชกิจจานุเบกษา ให้มีผลใช้บังคับเร็ว ๆ นี้ โดยส่วนตัวตนเห็นว่าแม้พระราชกฤษฎีกายุบเลิกบัณฑิตวิทยาลัยฯ จะยังไม่ได้ประกาศใช้ แต่ในทางปฏิบัติเมื่อสภามหาวิทยาลัยมีมติยุบเลิกแล้ว สภามหาวิทยาลัยก็ได้มีมติให้ยุติการดำเนินงานของบัณฑิตวิทยาลัยด้วย โดยให้ชะลอการสรรหาคณบดีบัณฑิตวิทยาลัย และให้รองอธิการบดีฝ่ายวิชาการดูแลเรื่องการดำเนินงานแทนคณบดีบัณฑิตวิทยาลัย ส่วนเหตุผลการยุบบัณฑิตวิทยาลัย เนื่องจากสภามหาวิทยาลัยเห็นว่าบัณฑิตวิทยาลัยเป็นหน่วยงานที่มีความจำเป็นสำหรับการเริ่มต้นการจัดการเรียนการสอนระดับบัณฑิตศึกษา เมื่อ 20 ปีที่แล้ว แต่ปัจจุบันคณะต่าง ๆ มีความเข้มแข็งในการจัดการระดับบัณฑิตศึกษาแล้ว ดังนั้นถ้ายังให้มีบัณฑิตวิทยาลัยอยู่ก็จะทำให้โครงสร้างการทำงานระหว่างบัณฑิต วิทยาลัยกับการทำงานบัณฑิตศึกษาของคณะมีความซ้ำซ้อนและมีขั้นตอนการทำงานที่เพิ่มมากขึ้น จนกระทบถึงประสิทธิภาพในการจัดการมหาวิทยาลัย จึงเห็นควรให้ยุบบัณฑิตวิทยาลัย เพื่อลดขั้นตอนในการทำงาน ประหยัดทรัพยากร ลดขนาดของหน่วยราชการ และเพิ่มประสิทธิภาพในการปฏิบัติงานในเรื่องบัณฑิตศึกษา อย่างไรก็ตามการที่มธ.ยุบบัณฑิตวิทยาลัยถือเป็นครั้งแรกในระบบมหาวิทยาลัยไทยที่มีการยุบบัณฑิตวิทยาลัย ซึ่งเป็นหน่วยงานระดับคณะลง ขณะที่มหาวิทยาลัยหลายแห่งยังต้องการที่จะจัดตั้งบัณฑิตวิทยาลัยเพิ่มขึ้น การยุบบัณฑิตวิทยาลัยไม่ได้หมายความว่าไม่ให้ความสำคัญแก่บัณฑิตศึกษา แต่ในทางตรงข้ามมหาวิทยาลัยต้องการมุ่งไปที่การจัดการศึกษาระดับสูงกว่าปริญญาตรีให้มากขึ้น แต่จะให้คณะมีบทบาทและเป็นผู้รับผิดชอบมากขึ้น ซึ่งเป็นการกระจายอำนาจการจัดการศึกษาไปที่คณะให้มากที่สุด และลดขั้นตอนจากหน่วยงานกลาง (เดลินิวส์ พฤหัสบดีที่ 10 มี.ค. 48 http://www.dailynews.co.th)





ชี้การศึกษาพัฒนาสังคม แนะใช้ สมศ.-สทก.ปรับมาตรฐาน

ศ.น.พ.เกษม วัฒนชัย องคมนตรี ปาฐกถาเรื่อง "มาตรฐานการศึกษาของชาติ" ในการแถลงข่าวรณรงค์ "มาตรฐานการศึกษาของชาติ" ของสำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษา (สกศ.) ที่โรงแรมปรินซ์พาเลซว่า ผลสัมฤทธิ์ทางการศึกษาของชาตินั้น ต้องอยู่บนความรับผิดชอบต่อสาธารณะ โดยผลผลิตทางการศึกษาต้องมีทั้งปริมาณและคุณภาพ คำนึงถึงผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม สุขภาพ จริยธรรม กฎหมาย และสังคม ดังนั้นจึงต้องมีเครื่องมือที่จะทำให้การศึกษาของชาติได้มาตรฐานคือ 1.มาตรฐานการศึกษาของชาติที่เป็นกรอบแนวคิดรวบยอด 2.สำนักงานรับรองมาตรฐานและประเมินคุณภาพการศึกษา (สมศ.) และสถาบันทดสอบการศึกษาแห่งชาติ (สทก.) ซึ่งมาตรฐานการศึกษาของชาติมี 3 มาตรฐาน 11 ตัวบ่งชี้ ได้แก่ มาตรฐานที่ 1 คุณลักษณะของคนไทยที่พึงประสงค์ ทั้งในฐานะพลเมืองและพลโลก โดยคนไทยต้องเป็นคนเก่ง คนดี และมีความสุข ตัวบ่งชี้คือกำลังกาย กำลังใจที่สมบูรณ์, ความรู้และทักษะที่จำเป็นและเพียงพอในการดำรงชีวิตและการพัฒนาสังคม, ทักษะการเรียนรู้และการปรับตัว, ทักษะทางสังคม, คุณธรรม จิตสาธารณะ และจิตสำนึกในความเป็นพลเมืองไทยและพลโลก มาตรฐานที่ 2 แนวการจัดการศึกษา โดยจัดการเรียนรู้ที่มุ่งพัฒนาผู้เรียนเป็นสำคัญ และการบริหารโดยใช้สถานศึกษาเป็นฐาน ตัวบ่งชี้ ได้แก่ การจัดหลักสูตรการเรียนรู้และสภาพแวดล้อม ที่ส่งเสริมให้ผู้เรียนได้พัฒนาตามธรรมชาติและเต็มตามศักยภาพ มีการพัฒนาผู้บริหาร ครู คณาจารย์ และบุคลากรทางการศึกษาอย่างเป็นระบบและมีคุณภาพ มาตรฐานที่ 3 แนวการสร้างสังคมแห่งการเรียนรู้ สังคมแห่งความรู้คือ การสร้างวิถีการเรียนรู้และแหล่งการเรียนรู้ให้เข้มแข็ง ตัวบ่งชี้ ได้แก่ การบริการวิชาการและสร้างความร่วมมือระหว่างสถานศึกษากับชุมชน ให้เป็นสังคมแห่งการเรียนรู้ สังคมแห่งความรู้, การศึกษาวิจัย สร้างเสริม สนับสนุนแหล่งการเรียนรู้และกลไกการเรียนรู้, การสร้างและการจัดการความรู้ในทุกระดับทุกมิติของสังคม ร.ต.อ.วรเดช จันทรศร เลขาธิการสภาการศึกษา กล่าวว่า สกศ.ได้ตั้งเป้าไว้ว่า ในเดือนมกราคม-กันยายน 2548 จะเผยแพร่เรื่องมาตรฐานการศึกษาชาติให้ครอบคลุมทั่วประเทศผ่านเวบไซต์ และกำหนดวันให้ครูทั่วประเทศปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการสอน จากครูเป็นศูนย์กลางมาเป็นนักเรียนเป็นศูนย์กลาง ซึ่งคาดว่าในอีก 2 เดือนน่าจะได้ข้อสรุป (คมชัดลึก พฤหัสบดีที่ 10 มี.ค. 48 http://www.komchadluek.net)





ทปอ.ถกปรับสูตร"แอดมิสชั่นส์"12มี.ค.

เมื่อวันที่ 9 มีนาคม นายประเสริฐ ชิตพงศ์ อธิการบดีมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ และประธานที่ประชุมอธิการบดีแห่งประเทศไทย(ทปอ.) เปิดเผยว่า ที่ประชุม ทปอ.จะจัดประชุมนัดพิเศษในวันที่ 12 มีนาคม ที่จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โดยจะหารือใน 2 เรื่องหลัก ได้แก่ เรื่องเกี่ยวกับการกำหนดองค์ประกอบระบบกลางการรับนิสิตนักศึกษาใหม่ หรือ Central University Admissions System ที่ได้มอบให้นางอุทุมพร จามรมาน ประธานคณะทำงานเกี่ยวกับแอดมิสชั่นส์ของ ทปอ. ไปรวบรวมรายละเอียดของ 8 กลุ่มสาขาวิชาที่ต้องการเพิ่มเติม โดยหากกลุ่มสาขาวิชาใดเสนอรายละเอียดชัดเจนก็สามารถสรุปได้เลย แต่ในกลุ่มสาขาวิชาที่แต่ละมหาวิทยาลัยต่างคนต่างส่งก็อาจต้องให้คณะทำงานไปรวบรวมและสรุปรายละเอียดก่อน นายประเสริฐกล่าวต่อว่า ทปอ.จะพิจารณาเรื่องที่ได้รับการร้องเรียนเกี่ยวกับข้อสรุปองค์ประกอบของระบบแอดมิสชั่นส์ที่จะใช้ในปีการศึกษา 2549 ซึ่งส่วนใหญ่ไม่เห็นด้วยกับการกำหนดค่าน้ำหนักคะแนนเฉลี่ยสะสมชั้น ม.ปลาย หรือ GPAX 10% และคะแนนเฉลี่ยรายกลุ่มสาระ หรือ GPA 40% เพราะเมื่อรวมกันจะมีค่าน้ำหนักถึง 50% ซึ่งเห็นว่ามากเกินไป อาจจะทำให้เด็กเก่งเสียเปรียบ ดังนั้น ทปอ.จะมาพิจารณา ถ้าเห็นว่าน่าจะยืดหยุ่นได้ก็อาจพิจารณาปรับปรุงใหม่ แต่หากเห็นว่าสิ่งที่คิดกันรอบคอบแล้วก็จะดำเนินการตามองค์ประกอบเดิมต่อไป (มติชนรายวัน พฤหัสบดีที่ 10 มี.ค. 48 http://www.matichon.co.th)





วอนทปอ.ปรับสูตรแอดมิชชั่นหั่นคะแนนการเรียน

พ.ญ.กมลพรรณ ชีวพันธุศรี ประธานเครือข่ายพ่อ แม่ เยาวชน เพื่อการปฏิรูปการศึกษา เปิดเผยว่า ตนได้รับการร้องเรียนจากเด็กและผู้ปกครอง ทั้งในกรุงเทพฯและต่างจังหวัดเป็นจำนวนมากว่า ไม่เห็นด้วยกับมติที่ประชุมอธิการบดีแห่งประเทศไทย (ทปอ.) ที่ให้ใช้ค่าน้ำหนักผลการเรียนถึง 50% มาพิจารณาในการคัดเลือกเข้ามหาวิทยาลัยด้วยระบบกลางการรับนิสิตนักศึกษาหรือแอดมิชชั่น ที่จะเริ่มในปีการศึกษา 2549 โดยได้ให้เหตุผลของการคัดค้านว่าใช้ ผลการเรียนเพิ่มถึง 50% จะเป็นการไม่ยุติธรรม เนื่องจากนักเรียนที่จะใช้ระบบ ดังกล่าวเป็นปีแรกนั้นได้เรียนชั้นม.ปลายมาแล้วสองปี และหากจะปรับหลักเกณฑ์ใด ๆ ก็ควรจะประกาศให้เด็กทราบล่วงหน้าอย่างน้อย 3 ปีเพื่อให้เด็กปรับตัวได้ทัน อีกทั้งมติ ทปอ. ที่ออกมาก็ไม่ได้รับฟังความคิดเห็นจากเด็กและประชาชน นอกจากนี้เด็กยังเห็นว่าการใช้คะแนนผลการเรียนมากจะทำให้เด็กต้องไปกวดวิชามากขึ้น ทั้งการกวดวิชาในโรงเรียนและกวดวิชาตามโรงเรียนกวดวิชา เพื่อให้ได้เกรดดีที่สุด ตนจะสรุปข้อเรียกร้องรวมทั้งเหตุผลที่เด็กได้คัดค้านเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าว เสนอไปยัง รศ.ดร. ประเสริฐ ชิตพงศ์ ประธาน ทปอ., ศ.(พิเศษ) ดร.ภาวิช ทองโรจน์ เลขาธิการคณะกรรมการการอุดมศึกษา (กกอ.) และอธิการบดีมหาวิทยาลัยทุกแห่ง เพื่อพิจารณาทบทวนเรื่องนี้ใหม่อีกครั้ง และเห็นว่าในการประชุม ทปอ.ซึ่งจะมีขึ้นในวันที่ 12 มี.ค. นี้ก็น่าที่จะนำเรื่องนี้ไปพิจารณาด้วย และหากเป็นไปได้ตนอยาก จะเข้าไปให้ข้อมูลเกี่ยวกับเรื่องนี้ในที่ประชุมด้วยตนเอง อีกทั้งตนยังอยากให้พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้เข้ามาช่วยดูแลเรื่องนี้ เนื่องจากเป็นเรื่องที่สำคัญกับเด็กและเยาวชนมาก (เดลินิวส์ ศุกร์ที่ 11 มี.ค. 48 http://www.dailynews.co.th)





มศวเปิดทางอัจฉริยะ เลื่อนชั้นเรียนควบปี1

ผศ.นพ.เฉลิมชัย บุญยะลีพรรณ ประธานสถาบันวิจัยและพัฒนาผู้ที่มีความสามารถพิเศษและความต้องการพิเศษแห่งชาติ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ (มศว) กล่าวในการเสวนาระดมสมองเรื่องเด็กอัจฉริยะสร้างชาติได้จริงหรือ? เปิดหัวใจ ไขปัญหาเหตุใด? เมืองไทยสร้างเด็กอัจฉริยะไม่ถึงดวงดาว ว่า ในอีก 4 เดือนข้างหน้า สถาบันจะเปิดให้บริการทางวิชาการและให้คำแนะนำเด็กที่มีความสามารถพิเศษ และเด็กความต้องการ พิเศษแห่งชาติ โดยจะทำงานแบบครบวงจร กล่าวคือเมื่อเด็กคนหนึ่งเข้ามาขอคำแนะนำ ก็จะใช้ข้อมูลงานวิจัยช่วยเหลือเด็กอย่างเป็นระบบ เด็กที่มีความสามารถพิเศษหรือเด็กความต้องการพิเศษ มีข้อดีและข้อด้อยที่ต้องได้รับการช่วยเหลือแทบทั้งสิ้น และขณะนี้ มศว ได้ออกระเบียบให้เด็กระดับ ม.ปลาย ที่มีความสามารถพิเศษทางด้านวิทยาศาสตร์ มาเรียนร่วมกับนิสิตในชั้นปีที่ 1 คณะวิทยาศาสตร์ มศว และเมื่อสอบเข้าคณะวิทยาศาสตร์ มศว ก็จะไม่ต้องลงทะเบียนเรียนในรายวิชาที่เรียนไปแล้ว ซึ่งจะทำให้จบการศึกษาเร็วขึ้น ถือได้นำร่องไปแล้ว เรียกว่าแอ๊ดวานซ์โปรแกรม โดยในอนาคตจะขยายไปสู่คณะวิชาอื่น และอาจจะขยายไปสู่มหาวิทยาลัยอื่นๆ อาทิ เรียนที่ มศว แต่อาจจะสอบเข้าคณะวิทยาศาสตร์เชียงใหม่ก็ได้ ด้าน ผศ.ดร.อุษณีย์ อนุรุทธ์วงศ์ รองประธานสถาบันวิจัยฯ กล่าวว่า มศว เป็นมหาวิทยาลัยแห่งแรก ที่ทำงานด้านการศึกษาพิเศษถึงวันนี้เป็นเวลา 25 ปีแล้ว ทุกวันนี้เราทำงานในระดับประเทศและนานาชาติครั้งแรกที่ทำงานด้านเด็กอัจฉริยะในประเทศไทยไม่มีใครสนใจเด็กอัจฉริยะ หรือที่เรารู้จักในชื่อของเด็ก gifted ทำงานลำบากมาก แต่ปัจจุบันมีศูนย์เสาะหาเด็กอัจฉริยะอยู่ทั้งสิ้น 3 ศูนย์ คือที่สถาบันวิจัยและพัฒนาผู้ที่มีความ สามารถพิเศษและความต้องการพิเศษแห่งชาติ มศว โรงเรียนไผทอุดมศึกษา และที่สำนักงานอาสากาชาด สภากาชาดไทย เด็กๆ เหล่านี้ ต้องมีการพัฒนาและดูแลจิตใจ เนื่องจากมีความอ่อนไหวง่าย ประกอบกับตำราในเมืองไทยยังล้าหลังไม่ได้คุณภาพ จึงอยากเห็นกลุ่มพ่อแม่ผู้ปกครองรวมกลุ่มและทำงานกันเป็นเครือข่ายช่วยอีกแรง (สยามรัฐรายวัน เสาร์ที่ 12 มี.ค. 48 http://www.siamrath.co.th)





ข่าววิทยาศาสตร์/เทคโนโลยี


ปลุกจริยธรรมนักวิทยาศาสตร์ไทย

นายกร ทัพพะรังสี รมว.วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (วท.) เปิดเผยว่า ปัจจุบันความก้าวหน้าด้านวิทยาศาสตร์ทำให้เกิดเทคโนโลยีใหม่ๆ อาทิ ความสามารถในการสำเนาสิ่งมีชีวิต หรือการโคลนนิ่ง ความสามารถในการสร้างเซลล์ต้นกำเนิด ซึ่งจะเป็นความหวังในการรักษาโรคบางอย่าง หรือช่วยชีวิตมนุษย์ได้ ขณะเดียวกันความรู้เหล่านี้ก็ได้ทำให้เกิดข้อถกเถียงทางด้านจริยธรรมอย่างหนักในสังคม จึงต้องหาแนวทางเพื่อให้วิทยาการต่างๆ ดำเนินควบคู่ไปกับจริยธรรมได้ ในส่วนของประเทศ ไทยนั้น สามารถก้าวทันเทคโนโลยีใหม่ๆ อย่างการโคลนนิ่งได้แล้ว โดยนักวิชาการจากมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี สามารถโคลนนิ่งลูกวัวให้มีคุณสมบัติตามต้องการได้ แต่ทั้งนี้ก็ต้องมีขอบเขตในการกำหนดแนวทางจริยธรรมด้วย สำหรับแนวทางจริยธรรมที่กำหนดกว้างๆ คือ การโคลนนิ่งจะหยุดที่สัตว์และไม่มีการทดลองในคนเด็ดขาดและพืชจีเอ็มโอ หรือพืชตัดต่อพันธุกรรมจะไม่ให้ออกสู่แปลงใหญ่ โดยตนให้ นายไพรัช ธัชยพงษ์ ปลัด วท.ทำคู่มือแนวทางจริยธรรมแจกแก่นักวิทยาศาสตร์ ไทยตามสถาบันต่างๆ สาเหตุที่ต้องมีการจัดทำ เพราะ ความแตกต่างระหว่างสังคมพุทธกับสังคมตะวันตก สังคมพุทธมุ่งที่นำความรู้ไปใช้เพื่อให้ประชาชนได้รับความเสมอภาคเกิดประโยชน์ ในขณะที่สังคมตะวันตกมุ่งที่นำความรู้ไปใช้เพื่อเอากำไร. (ไทยรัฐ จันทร์ที่ 7 มี.ค. 48 http://www.thairath.co.th)





ประดิษฐ์รองเท้าวิ่งคู่อัจฉริยะ ติดคอมพิวเตอร์ทั้งชุดไว้ในตัว

หนังสือพิมพ์รายวัน "เดอะ เทเลกราฟ" ของอังกฤษแจ้งว่า รองเท้าแสนรู้นั้น ติดคอมพิวเตอร์จิ๋ว ที่มีทั้งไมโครโปรเซสเซอร์ ตัวรับสัญญาณ และมอเตอร์พร้อมอยู่ในรองเท้า สามารถปรับเปลี่ยนปฏิกิริยาของพื้นรองเท้าให้นุ่มนวลเหมาะกับการวิ่งบนพื้นคอนกรีต หรือวิ่งบนพื้นหญ้า รวมทั้งปรับให้เข้ากับจังหวะในการวิ่งด้วย คอมพิวเตอร์จะคอยคำนวณความนุ่มของพื้นรองเท้าที่เหมาะที่ควร อยู่ทุกขณะ โดยจะส่งสัญญาณไปยังระบบสายเคเบิลซึ่งบังคับด้วยมอเตอร์ที่หมุนด้วยความเร็วถึงนาทีละ 6,000 รอบ เพื่อผ่อนหรือดึงสายเคเบิลให้ตึง บังคับให้พื้นรองเท้านุ่มหรือแข็งตามความต้องการ วิศวกรหัวหน้าแผนกวิจัยและพัฒนาบริษัทอาดิดาสกล่าวว่า มันเป็นรองเท้าอัจฉริยะคู่แรกของโลก มันจะปรับเปลี่ยนตัวเองให้เหมาะกับการวิ่งตามที่ต่างๆ ได้อย่างทันการณ์ แม้แต่เมื่อยามกระโดด มันก็จะยังปรับเปลี่ยนกลางอากาศได้ ขนาดที่เมื่อเท้าลงถึงพื้น จะรู้สึกเหมือนกับว่าใส่รองเท้าอีกคู่หนึ่ง มันนับเป็นรองเท้าที่วิเศษและสวมใส่สบายที่สุดเท่าที่เคยประดิษฐ์กันขึ้นมา ราคาจำหน่ายก็จะต้องสูงถึงคู่ละประมาณ 15,000 บาท(ไทยรัฐ จันทร์ที่ 7 มี.ค. 48 http://www.thairath.co.th)





ชวนคนรุ่นใหม่ประกวดเวบไต์

นายชาญวิทย์ จารุสมบัติ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่-การตลาด ดั๊บเบิ้ล เอ เปิดเผยว่า กระดาษ ดั๊บเบิ้ล เอ ร่วมกับสนุกดอทคอม โรงเรียนอินเทอร์เน็ตและการออกแบบ (เน็ต ดีไซน์) จัดโครงการ "ดั๊บเบิ้ล เอ เวบ ดีไซน์ คอนเทสต์" ซึ่งเป็นการประกวดออกแบบเวบไซต์ของบริษัท แอ๊ดวานซ์ อะโกร จำกัด (มหาชน) ผู้ผลิตผลิตภัณฑ์กระดาษรายใหญ่ของประเทศ โดยการประกวดครั้งนี้จะเน้นความคิดสร้างสรรค์ ซึ่งสื่อถึงความเป็นกระดาษดั๊บเบิ้ล เอ รวมถึงสร้างเวบไซต์ให้เป็นศูนย์รวมข้อมูลข่าวสารทั้งหมด ที่เกี่ยวข้องกับ ดั๊บเบิ้ล เอ เพื่อเป็นแหล่งข้อมูลและเป็นช่องทางที่สะดวก รวดเร็วสำหรับลูกค้าใช้ติดต่อบริษัทให้เหมาะสมกับยุคดิจิทัลในปัจจุบัน ในการประกวดได้เปิดกว้างสำหรับทุกคนที่อายุ 18 ปีขึ้นไป หากสนใจคลิกดูรายละเอียด และสมัครเข้าร่วมการประกวดได้ในมุมข่าวสารของ www.doubleapaper.com ตั้งแต่บัดนี้จึงถึงวันที่ 30 มีนาคมนี้ ผู้ชนะเลิศจะได้เงินรางวัล 50,000 บาท พร้อมหลักสูตรอบรมออกแบบเวบไซต์ ชั่วโมงอินเทอร์เน็ตและโล่ประกาศเกียรติคุณ สำหรับคณะกรรมการตัดสินผลงาน ประกอบด้วย ผู้บริหารจาก 3 บริษัทข้างต้น ผู้ทรงคุณวุฒิด้านการออกแบบจากหลากหลายหน่วยงาน พร้อมทั้งจะเปิดให้ประชาชนมีส่วนร่วมในการตัดสิน ด้วยการโหวต 10 ผลงานที่ผ่านการคัดเลือกในรอบแรกได้ทางเวบไซต์ ทั้งนี้ เพื่อให้หน้าตาเวบไซต์ใหม่ตรงความต้องการของลูกค้ามากที่สุด (คมชัดลึก จันทร์ที่ 7 มีนาคม 2548 http://www.komchadluek.net)





กรมวิทย์ฯตั้งสถาบันพิษวิทยา สร้างระบบเตือนภัยอาหาร

นพ.ไพจิตร์ วราชิต อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ เปิดเผยถึงแนวทางการการดำเนินงานของกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์เพื่อให้ทันกับการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยี โดยอยู่ระหว่างการหารือกันภายในกรมเพื่อจัดทำสถาบันประเมินความเสี่ยงเชิงรุกจากผลิตภัณฑ์ที่จำหน่ายในท้องตลาด เช่น เนื้อสัตว์ ผัก ผลไม้ อาหารสำเร็จรูป เครื่องสำอาง เพื่อจะได้ทราบว่าขณะนี้เกษตรกรหรือผู้ประกอบการได้ใช้สารอะไรใส่เข้าไปในอาหารบ้าง และมีการใช้สารเคมีอันตรายกับร่างกายหรือไม่ จะได้นำไปทำระบบเตือนภัยต่อไป ในเบื้องต้นได้หารือกันว่าจะจัดตั้งสถาบันพิษวิทยาขึ้นมาใหม่ เพื่อให้รับผิดชอบเรื่องการสร้างระบบเตือนภัย และประเมินความเสี่ยงจากผลิตภัณฑ์ต่างๆ ทั้งที่ผลิตจากภายในประเทศและนำเข้า โดยไม่ต้องรอให้หน่วยงานอื่นๆ เช่น สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา(อย.) ส่งตัวอย่างมาให้ตรวจเป็นการปรับทิศทางการทำงานใหม่โดยไม่ต้องรอให้มีปัญหาแล้วค่อยเข้าไปตรวจสอบ ซึ่งจะทำให้ประชาชนได้ประโยชน์มากขึ้น (มติชนรายวัน จันทร์ที่ 7 มีนาคม 2548 http://www.matichon.co.th)





อิทธิฤทธิ์ข้าวเหนียวช่วยก่อสร้าง กำแพงเมืองจีนสิ่งมหัศจรรย์โลก

คณะนักโบราณคดีจีน ซึ่งได้ไปศึกษาวิจัยกำแพงเมืองจีน ช่วงทางแถบเมืองซีอัน อดีตเมืองหลวงของจีนในสมัยหนึ่ง ซึ่งเคยขุดพบกองทัพทหารหุ่นดินเผาในสุสานลับใต้ดิน อันเป็นข่าวใหญ่เมื่อหลายปีมาแล้ว รู้สึกพิศวงในความลับของการผสมปูนที่ใช้ฉาบและยากำแพงยักษ์เป็นอันมาก และได้พยายามค้นคว้าศึกษาว่ามันผสมขึ้นจากอะไร จนได้ผลว่า ช่างยุคนั้นได้ใช้ข้าวเหนียวเปียกเป็นส่วนผสมของปูน ในการก่อสร้างกำแพงในยุคสมัยนั้น ได้ว่า มีการใช้ข้าวเหนียวผสมกับปูนด้วย" กล่าวได้ว่า "ข้าวนอกจากจะเป็นอาหารหลักของคนจีนทั้งประเทศแล้ว ยังเอาไปใช้กับการก่อสร้าง สิ่งก่อ (ไทยรัฐ อังคารที่ 8 มี.ค. 48 http://www.thairath.co.th)





ซีพูยูรุ่นใหม่ประหยัดไฟ แถมเพิ่มความเร็วให้คอมพ์

อินเทล ผู้ผลิตชิพรายยักษ์ใหญ่ของโลกประกาศว่า บริษัทมีแผนจะเปิดตัวชิพคอมพิวเตอร์ทั้งชิพดูอัลคอร์และมัลติคอร์ รวม 15 รุ่นในช่วงปลายปีนี้จนถึงต้นปีหน้า สำหรับใช้ในเซิร์ฟเวอร์และคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊ค โดยกลางปีนี้ประเดิมด้วยชิพ "ดูอัลคอร์" สำหรับคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลหรือพีซีออกสู่ตลาด สำหรับกลุ่มผู้ใช้งานพีซีเป็นหลัก ชิพรุ่นใหม่ของอินเทลจะบรรจุซีพียูสองตัวลงบนชิพหนึ่งชิพ โดยรุ่นท็อปมีความเร็วสูงสุด 3.2 กิกะเฮิรตซ์ ซึ่งต่ำกว่าเพนเทียม 4 รุ่นที่จำหน่ายในปัจจุบันที่มีความเร็วถึง3.8 กิกะเฮิร์ตซ์ แต่เมื่อเปรียบเทียบการทำงานแล้ว ชิพดูอัลคอร์ทำงานได้เร็วกว่าชิพธรรมดาสองเท่า ประสิทธิภาพที่เพิ่มขึ้นของซีพียูรุ่นใหม่ขึ้นอยู่กับโปรแกรมการใช้งาน แต่ชิพมัลติคอร์จะทำงานได้มีประสิทธิภาพสูงสุด หากซอฟต์แวร์ถูกออกแบบมาให้กระจายการประมวลผลไปให้ซีพียูหลายตัวด้วย ผู้ใช้จะเห็นประสิทธิภาพความเร็วของอินเทลรุ่นใหม่ได้ชัดเจน เมื่อมีการเปิดใช้งานหลายโปรแกรมพร้อมกัน โดยทั่วไปแล้วคอมพิวเตอร์รุ่นใหม่ๆ จะมีซอฟต์แวร์หลายตัวทำงานซ่อนอยู่ เช่น โปรแกรมป้องกันไวรัส โปรแกรมเครือข่าย และโปรแกรมอื่นๆ บริษัทเอเอ็มดีซึ่งเป็นคู่แข่งก็วางแผนจะคลอดชิปดูอัลคอร์ปลายปีนี้ ส่วนพันธมิตรซึ่งประกอบด้วยไอบีเอ็ม โตชิบา และโซนีคอร์ป ร่วมกันผลิตชิพมัลติคอร์บนสถาปัตยกรรมใหม่เช่นกัน ซึ่งคาดจะใช้ในเครื่องเล่นเกมเพลย์สเตชั่นของโซนี่รุ่นหน้า และในอุปกรณ์อื่นๆ อินเทลยังเปิดตัวเทคโนโลยีอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงไร้สายรุ่นใหม่ที่มีชื่อว่า ไวแม็กซ์ ที่มีอัตราในการสื่อสารข้อมูลความเร็วสูงครอบคลุมพื้นที่มากกว่า 15 ตารางกิโลเมตร เทคโนโลยีใหม่นี้จะแก้ปัญหาการใช้อินเทอร์เน็ตความเร็วสูงในพื้นที่ห่างไกล (คมชัดลึก อังคารที่ 8 มี.ค. 48 http://www.komchadluek.net)





"นาซ่า"พร้อมส่งยานอวกาศ มั่นใจไม่ซ้ำรอย"โคลัมเบีย"ระเบิด

สำนักงานอวกาศแห่งชาติ สหรัฐอเมริกา "นาซ่า" มีแผนการส่งยานอวกาศ "ดิสคัฟเวอรี่" ออกสู่อวกาศอีกครั้งในวันที่ 15 พฤษภาคม และตามด้วยการส่งยาน "แอตแลนติส" ในวันที่ 12 กรกฎาคมนี้ ก่อนหน้านี้นาซ่าสรุปสาเหตุการระเบิดว่า เนื่องจากมีสารกันความร้อนรั่วออกมาจากถังเชื้อเพลิง ทำให้ปีกของยานโคลัมโบมีรอยร้าวเกิดขึ้นขณะที่ยานกำลังเร่งความเร็วขึ้นจากพื้นโลกออกไปนอกชั้นบรรยากาศ การสูญเสียยานโคลัมเบียทำให้นาซ่าปรับกฎการบินต่างๆ มากมาย เช่น ต้องส่งยานอวกาศ 2 ลำไปยังสถานีอวกาศนานาชาติ เพื่อที่ว่าหากมีการเสียหายที่ไม่สามารถซ่อมแซมได้ของยานลำหนึ่ง จะได้ส่งยานอีกลำไปช่วยรับนักบินให้กลับลงมายังพื้นโลกอย่างปลอดภัย นอกจากนั้น นาซ่ายังพัฒนาเทคนิคการซ่อมแซมระบบการป้องกันความร้อนของยานอวกาศตลอด 2 ปีที่ผ่านมา โดยทีมงานได้ให้ความสำคัญกับการป้องกันการรั่วของถังเชื้อเพลิงเพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์ร้ายแรงขึ้นเหมือนกับที่เกิดกับยานโคลัมเบียอีก และยานทั้ง 2 ลำจะยังจะต้องผ่านการทดสอบความปลอดภัยด้านการบินซ้ำอีกครั้ง เพื่อให้แน่ใจได้ว่ายานมีความพร้อมที่จะถูกปล่อยในวันที่กำหนด (ข่าวสด อังคารที่ 8 มีนาคม 2548 http://www.matichon.co.th/khaosod)





ไอซีทีรื้อโปรเจ็กต์"อีกัฟเวิร์นเมนต์" ออกพ.ร.ฎ.ตั้งองค์การมหาชนคุม

แหล่งข่าวจากกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ไอซีที) เปิดเผย ว่า ขณะนี้แผนปฏิบัติการด้านเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ICT action plan) ปีงบประมาณ 2549-2550 ได้จัดทำเสร็จ โดยแผนดังกล่าวได้กำหนดแผนงานและโครงการที่มีความจำเป็นเร่งด่วน 4 ประเด็นหลัก ประกอบด้วย 1.การพัฒนาบุคลากรด้าน ICT 2.การพัฒนาอุตสาหกรรมซอฟต์แวร์ 3.การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานสารสนเทศและการสื่อสาร 4.การพัฒนารัฐบาลอิเล็กทรอนิกส์ (E-government) โครงการที่เกี่ยวกับการพัฒนาบุคลากรส่วนใหญ่จะเป็นเรื่องของการวิจัยและการอบรมต่างๆ โดยมีเป้าหมายว่าสถาบันการศึกษาทุกระดับไม่น้อยกว่า 90% จะต้องสามารถเชื่อมต่อเครือข่ายเทคโนโลยีสารสนเทศและใช้ประโยชน์เพื่อการศึกษาได้ ในเรื่องการผลิตบุคลากรด้านไอซีที โดยจัดอบรมบุคลากรด้านการศึกษาให้มีความรู้และนำไปประยุกต์ในการสอนได้ (train the trainer) และการฝึกอบรมหลักสูตรการใช้โปรแกรม JAVA และ .NET และโอเพ่นซอร์ซในราคาประหยัด ส่วนการพัฒนายูสเซอร์จะเน้นที่การฝึกอบรมกลุ่มผู้ประกอบการ SMEs ให้นำไปประยุกต์ใช้ในธุรกิจ และเป็นการขยายตลาดซอฟต์แวร์ไปในตัว ในส่วนของการพัฒนาอุตสาหกรรมซอฟต์แวร์ มีนโยบายที่จะส่งเสริมการใช้ซอฟต์แวร์ไทยอย่างจริงจัง โดยออกมาตรการสนับสนุนให้มีการใช้ซอฟต์แวร์ไทยอย่างเป็นรูปธรรม พร้อมการจัดตั้งตลาดกลางเพื่อซื้อขายซอฟต์แวร์ไทย (Thailand software market exchange) รวมทั้งสนับสนุนให้หน่วยงานรัฐใช้ซอฟต์แวร์ในประเทศเป็นหลัก สำหรับการส่งเสริมอุตสาหกรรมซอฟต์แวร์แอนิเมชั่นและมัลติมีเดีย จะส่งเสริมให้เกิดการพัฒนาทักษะด้านการออกแบบและพัฒนาดิจิทัล คอน เทนต์ เพื่อให้ไทยเป็นผู้นำด้านแอนิเมชั่นและมัลติมีเดียของภูมิภาคภายในปี 2551 ส่งเสริมให้คนไทยสร้าง national digital contents รวมทั้งผลิตผลงานที่เป็นแบรนด์เนมของไทย ด้านการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานไอซีที กำหนดเป้าหมายหลักคือ ขยายบริการอินเทอร์เน็ตความ เร็วสูง (บรอดแบนด์) ให้ได้ 5 ล้านพอร์ตทั่วประเทศ ภายในปี 2550 ส่วนนโยบาย E-government มีการสรุปว่า ช่วงที่ผ่านมาการพัฒนาโครงการรัฐบาลอิเล็กทรอนิกส์ยังเป็นลักษณะที่แต่ละหน่วยงานจะพัฒนาใช้งานภายในหน่วยงาน ขณะที่ระบบเครือข่ายเชื่อมโยงของแต่ละหน่วยงานก็มีมาตรฐานต่างกัน ทำให้ระบบที่มีอยู่ไม่สามารถรองรับการพัฒนาไปสู่รัฐบาลอิเล็กทรอนิกส์ได้ นอกจากนี้ยังมีปัญหาความซ้ำซ้อนในการลงทุนทั้งด้านบุคลากร อุปกรณ์ และการบริหารจัดการดูแลระบบเครือข่ายของภาครัฐ ตามแผนปฏิบัติได้กำหนดให้มีการจัดตั้งสำนักงานส่งเสริมรัฐบาลอิเล็กทรอนิกส์ (E-govern ment promotion office) โดยมีฐานะเป็นองค์การมหาชนในสังกัดกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร โดยมีพระราชกฤษฎีการองรับเพื่อขึ้นมาเป็นหน่วยงานที่ดูแลรับผิดชอบการผลักดันนโยบายดังกล่าว เนื่องจากหนึ่งในปัญหาสำคัญที่ทำให้โครงการนี้ไม่มีความคืบหน้าเท่าที่ควร เนื่องจากขาดเจ้าภาพรับผิดชอบ (ประชาชาติธุรกิจ อังคารที่ 8 มีนาคม 2548 http://www.matichon.co.th/prachachat)





สิงคโปร์กวดขันโทรศัพท์เติมเงินผู้ก่อการร้ายใช้เป็นเครื่องมือ

สิงคโปร์ มีโครงการจะวางกฎระเบียบเกี่ยวกับการใช้โทรศัพท์ แบบพรี-เพด (pre-paid) หรือโทรศัพท์ที่ชำระค่าบริการก่อน ที่มักเรียกกันว่า "แบบเติมเงิน" เพื่อการติดตามจับกุมผู้ก่อการร้าย ที่มักจะใช้โทรศัพท์แบบนี้ เป็นเครื่องมือในการก่อความรุนแรงต่างๆ ที่ผ่านมา มีข่าวการใช้โทรศัพท์มือถือแบบพรี-เพดเหล่านี้ เป็นเครื่องมือในการก่อการร้าย และความรุนแรงต่างๆ รวมไปถึงการกระทำอันก่อให้เกิดความเสียหายจนถึงชีวิต เช่น การจุดระเบิด ดังนั้น ทางสิงคโปร์จึงเห็นว่าน่าจะมีการวางกฎระเบียบเกี่ยวกับการใช้โทรศัพท์แบบนี้ เพื่อให้ สามารถติดตามจับกุมผู้กระทำความผิดหรือผู้ก่อการร้ายมาลงโทษได้ สำหรับขณะนี้ ทางการสิงคโปร์กำลังศึกษาความเป็นไปได้ ในการใช้กฎต่างๆ มาควบคุม แต่ยังไม่ได้มีการเปิดเผยรายละเอียดแต่อย่างใด และสำหรับโทรศัพท์แบบพรี-เพด ขณะนี้ เป็นบริการโทรศัพท์มือถือรูปแบบที่ได้รับความนิยมสูงมาก เพราะไม่ว่าใครก็ตาม สามารถที่จะหาซื้อการ์ดไปใช้บริการโดยไม่จำเป็นต้องติดต่อหรือแจ้งชื่อเสียงใดๆ กับผู้ให้ บริการ. (ไทยรัฐ พุธที่ 9 มีนาคม 2548 http://www.thairath.co.th)





เนคเทคเปิดหลักสูตรการตลาด ปั้นนักเทคโนโลยีสู่วงการธุรกิจ

อุทยานวิทยาศาสตร์ประเทศไทย ร่วมกับศูนย์เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์แห่งชาติ (เนคเทค) และสถาบันแเทคโนโลยีห่งเอเชีย (เอไอที) เปิดตัวโครงการ "พัฒนาผู้ประกอบการด้านเทคโนโลยี" เพื่อพัฒนาทักษะการประกอบธุรกิจให้นักเทคโนโลยีรุ่นใหม่ ช่วยให้เขียนแผนธุรกิจที่สมบูรณ์ สามารถจัดตั้งบริษัท หรือดำเนินธุรกิจให้อยู่รอดได้ โดยมุ่งสนับสนุนธุรกิจใหม่ที่มีความคิดสร้างสรรค์ หรือมีการประดิษฐ์คิดค้น ดร.พันธ์ศักดิ์ ศิริรัชตพงษ์ รองผู้อำนวยการเนคเทค กล่าวถึงความเป็นมาว่า การนำเทคโนโลยีมาประกอบธุรกิจเป็นสิ่งเพิ่มมูลค่าให้สูงขึ้น เทคโนโลยีมีคุณสมบัติพิเศษยิ่งใช้มากยิ่งงอกงาม เป็นการก้าวเข้าสู่ยุคเศรษฐกิจฐานความรู้ สำหรับโครงการนี้เปิดรับผู้ที่มีแนวความคิดด้านธุรกิจ โดยเป็นธุรกิจที่อิงกับเทคโนโลยี ไม่ว่าจะเป็นเทคโนโลยีชีวภาพ นาโนเทคโนโลยี การเขียนซอฟต์แวร์ให้มีความสามารถในการเขียนแผนธุรกิจ และจัดตั้งบริษัทผลิตผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ออกสู่ตลาด หรือสามารถนำไปใช้ปรับปรุงภายในบริษัทให้สามารถอยู่รอดได้ โครงการพัฒนาผู้ประกอบการด้านเทคโนโลยีนี้เริ่มมาเป็นปีที่ 3 แล้ว โดยใน 2 ปีแรก ได้รับทุนจากกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม กระทรวงอุตสาหกรรม แต่ในปีนี้จะเป็นทุนจากทางอุทยานวิทยาศาสตร์แห่งประเทศไทยและเนคเทค โดยมีอาจารย์จากสถาบันเอไอทีเป็นผู้ฝึกอบรมในด้านทักษะเชิงธุรกิจ การมองตลาด และกลยุทธ์ต่างๆ "ในปีแรกของโครงการเมื่อปี 2546 มีผู้มาฝึกอบรม 36 คน ผ่านการอบรม 31 คน และเกิดเป็นธุรกิจใหม่ 12 ธุรกิจ และในกลุ่มผู้เรียนนี้ยังมีการสร้างเป็นเครือข่ายเกิดขึ้น ในปีถัดมาจึงเปิดหลักสูตรอบรมเพิ่มขึ้นเป็น 3 หลักสูตร มีธุรกิจใหม่เกิดขึ้น 7 ธุรกิจ ในปีนี้จึงผลักดันโครงการให้ครบวงจรมากขึ้น ไม่ใช่เพียงให้ความรู้การประกอบธุรกิจเพียงอย่างเดียว แต่จะส่งเสริมการต่อยอดด้วย และสำหรับใน 35 คนที่เปิดรับนี้ ผู้ที่มีไอเดียดีสุด 10 คนแรกจะให้การสนับสนุนต่อและเข้าสู่ศูนย์บ่มเพาะของอุทยานวิทยาศาสตร์แห่งประเทศไทยต่อไป สำหรับโครงการพัฒนาผู้ประกอบการด้านเทคโนโลยีนี้ ผู้ที่สนใจจะฝึกอบรมต้องมีแนวคิดด้านผลิตภัณฑ์อยู่ก่อนแล้ว และถ้าเป็นผู้ที่มีเทคโนโลยีอยู่ด้วยก็จะดี เพราะในประวัติของผู้ที่ประสบความสำเร็จในโครงการ เป็นผู้ที่ไอเดียดีและพกเทคโนโลยีมาเอง (กรุงเทพธุรกิจ พฤหัสบดีที่ 10 มี.ค. 48 http://www.bangkokbiznews.com)





“จริยธรรม” ข้อปฏิบัติที่จำเป็นของวิทยาศาสตร์

การประชุมที่ยิ่งใหญ่ และเป็นครั้งแรกในภูมิภาคเอเชีย ซึ่งประเทศไทยเราได้รับเกียรติให้เป็นเจ้าภาพการจัดงาน ประชุมคณะกรรมาธิการโลกว่าด้วยจริยธรรมในความรู้ด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ครั้งที่ 4 (The World Commission on theEthics of Scientific Knowledge and Technology: COMEST) ในวันที่ 23-25 มี.ค. 48 นี้ หากเทียบแล้วก็ยิ่งใหญ่ไม่แพ้การประชุม APEC เมื่อปีที่ผ่านมา เพราะคณะกรรมาธิการที่ว่านี้ได้ดำเนินงานเกี่ยวกับจริยธรรมในระดับโลก 6 ด้านด้วยกัน คือ 1.การใช้พลังงาน 2.น้ำบริโภค 3.อวกาศ 4.สังคมสารสนเทศ 5.สิ่งแวดล้อมและการพัฒนาที่ยั่งยืน และ 6.การศึกษาวิทยาศาสตร์ และได้จัดการประชุมมาแล้ว 3 ครั้ง ในประเทศนอร์เวย์ เยอรมนี และบราซิล การประชุมในประเทศไทยครั้งนี้ นอกจากจะเปิดโอกาสให้บุคคล ทั้งระดับรัฐมนตรีและนักวิทยาศาสตร์จากประเทศต่างๆ ได้แลกเปลี่ยนความคิดเห็นทางด้านจริยธรรมแล้ว ยังเป็นเวทีสำคัญสำหรับเยาวชนเพื่อเข้าไปมีส่วนร่วมในการประชุมด้วย และหนึ่งในวาระการประชุมครั้งนี้ คือเรื่องเกี่ยวกับจริยธรรมกับวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี หรือจะพูดให้เข้าใจง่ายๆ ว่าธรรมที่เป็นข้อประพฤติ ปฏิบัติเกี่ยวกับวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี สำหรับประเทศไทย กลุ่มควรจัดการประชุมแลกเปลี่ยนแนวคิด และดูแลกลุ่มเล็กๆ ไว้ให้ได้ ควบคุมนักวิทยาศาสตร์ด้วยกันเอง ให้มีจริยธรรมด้านวิทยาศาสตร์ให้ได้ และควรให้ความร่วมมือกับองค์การระหว่างประเทศด้วยเช่นกันวิทยาศาสตร์ชีวภาวะและวิทยาศาสตร์สิ่งแวดล้อม เพื่อให้การสัมนาครั้งนี้ เป็นการจุดประกายความคิดแก่เยาวชน ที่จะเจริญเติบโตเป็นนักวิทยาศาสตร์ในอนาคต และเพื่อปลูกฝังจริยธรรม เพราะวิทยาศาสตร์ที่ก้าวหน้ามักถูกนำไปใช้ในเชิงธุรกิจมากขึ้น ควรสร้างคนให้รู้เท่าทันสังคม นำไปใช้ในการประชุม คือ เน้นเรื่องหลักๆ 4 เรื่อง 1. สิทธิทรัพย์สินทางปัญญา ความเป็นส่วนตัว ศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ สิทธิที่จะเกิดขึ้นกับคนสังคม สาธารชน เพื่อนำปรับใช้ในการประชุมใหญ่ (สยามรัฐรายวัน พฤหัสบดีที่ 10 มี.ค. 48 http://www.siamrath.co.th)





โปรแกรมเมนูอาหารไร้สาย สั่งผ่านคอมพ์มือถือถึงครัว

นายณัฐพล งามอรุณสุข ร่วมกับ น.ส.ญาณี หวังทรัพย์ถวิล นักศึกษาชั้นปีที่ 4 คณะวิศวกรรมศาสตร์ ภาควิชาวิศวกรรมคอมพิวเตอร์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี ทำโครงงานก่อนจบการศึกษาเกี่ยวกับระบบสื่อสารไร้สายความเร็วสูงช่วยงานร้านอาหารบนพ็อคเก็ตพีซี สำหรับนบริการลูกค้าที่สะดวก รวดเร็วและถูกต้องมากขึ้น ลักษณะพิเศษของระบบสื่อสารไร้สายบนพ็อคเก็ตพีซีนี้ จะช่วยจัดการงานในร้านอาหาร เช่น จองคิวได้ที่หน้าร้าน สั่งอาหาร คิดเงิน ตลอดจนคิดส่วนลดค่าอาหารสำหรับสมาชิก โดยสามารถป้อนคำสั่งได้ทั้งภาษาไทยและอังกฤษ เมื่อป้อนคำสั่งหรือข้อมูลลงบนเครื่องพ็อคเก็ตพีซี ระบบจะส่งสัญญาณไปที่เครื่องแม่ข่าย ซึ่งจะตั้งอยู่ที่โต๊ะของพนักงานเก็บเงิน ที่ห้องครัวและเคาน์เตอร์เครื่องดื่ม โดยคำสั่งที่ถูกส่งไปนั้นจะแยกตามประเภท เช่น สั่งอาหาร คำสั่งจะไปขึ้นที่ห้องครัว ถ้าสั่งเครื่องดื่มก็จะไปขึ้นที่เคาน์เตอร์เครื่องดื่ม พร้อมพิมพ์คำสั่งออกมาดูได้อีกด้วย หากร้านอาหารต้องการนำระบบดังกล่าวมาใช้ จะต้องมีอุปกรณ์หลักๆ คือ เครื่องคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคล อย่างต่ำ 3 เครื่อง พ็อคเก็ตพีซีที่รองรับการใช้งานแบบไร้สาย (ไวเลส แลน) แล้วแต่ความต้องการของร้านอาหาร และอุปกรณ์กระจายสัญญาณ (ฮอต สปอต) เพื่อรองรับการทำงานแบบไร้สาย และโปรแกรมสั่งการที่ทั้งคู่พัฒนาขึ้น ขณะนี้โปรแกรมดังกล่าวอยู่ระหว่างทดสอบการใช้งานจริงในร้านอาหารไทยที่อเมริกา ควบคู่ไปกับการปรับปรุงโปรแกรม (คมชัดลึก ศุกร์ที่ 11 มี.ค. 48 http://www.komchadluek.net)





จุฬาฯผ่าธัยรอยด์ด้วยกล้องส่อง

รศ.นพ.สุเทพ อุดมแสวงทรัพย์ ภาควิชาศัลยศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยแถลงถึง "การผ่าตัดต่อมธัยรอยด์ด้วยกล้องส่อง (Endoscopic Thyroidectomy)" ว่า โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ทำได้เป็นโรงพยาบาลแห่งแรกในประเทศไทย โดยแต่ละปีจะมีผู้ป่วยที่มารักษาก้อนเนื้อของต่อมธัยรอยด์ที่โรงพยาบาลประมาณ 200 รายต่อปี ซึ่งวิธีการรักษามีหลายแบบ เช่น การรักษาด้วยการกินยา หรือเจาะเอาน้ำที่อยู่ในต่อมธัยรอยด์ออก ซึ่งบางรายก้อนเนื้อที่ต่อมธัยรอยด์จะยุบไปหลังจากรักษาด้วยการกินยา แต่บางรายก็จำเป็นต้องผ่าตัด ทางโรงพยาบาลจุฬาฯได้คิดค้นวิธีการผ่าตัดก้อนเนื้อต่อมธัยรอยด์แบบใหม่ ด้วยการผ่าตัดด้วยกล้องส่อง ซึ่งจะทำให้ไม่มีปัญหารอยแผลเป็นที่ต้นคอ เพราะจะใช้วิธีใช้กล้องส่องผ่านจากบริเวณรักแร้ในกรณีที่มีก้อนข้างเดียว หรือหากเป็นก้อนทั้งสองข้างก็จะใช้วิธีผ่าตัดผ่านทางผนังทรวงอก ซึ่งรอยแผลที่เกิดจากการผ่าตัดจะมีรอยยาวเพียง 1.5 เซนติเมตร 1 แผล และ 0.5 เซนติเมตร ประมาณ 2-3 แผล และใช้เวลาผ่าตัด 2 ชั่วโมง พักฟื้นในโรงพยาบาลประมาณ 2-3 วัน และสามารถไปทำงานได้ภายในเวลา 5-7 วัน ค่าใช้จ่ายในการผ่าตัดด้วยกล้องส่องประมาณ 30,000 บาท (มติชนรายวัน ศุกร์ที่ 11 มี.ค. 48 http://www.matichon.co.th)





พระเทพฯทรงเน้นย้ำทุกฝ่าย เห็นความสำคัญพันธุศาสตร์

เมื่อวันที่ 11 มีนาคม ที่โรงแรมมิราเคิล แกรนด์ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินเป็นประธานเปิดงานประชุมวิชาการพันธุศาสตร์แห่งชาติครั้งที่ 14 ภายใต้หัวข้อ "พันธุศาสตร์ : จากพื้นฐานสู่เทคโนโลยีระดับโมเลกุล" ซึ่ง มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ(มศว) ร่วมกับสมาคมพันธุศาสตร์แห่งประเทศไทย จัดขึ้นระหว่างวันที่ 11-13 มีนาคม สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ ทรงมีพระราชดำรัสเปิดประชุมว่า ความรู้ทางพันธุศาสตร์นั้น ต้องทำความเข้าใจอย่างถูกต้อง เพราะเป็นศาสตร์ที่มีผลกระทบต่อมนุษย์ ไม่ว่าจะเป็นการเกษตร การถ่ายฝากยีน หรือการตัดแต่งพันธุกรรม(จีเอ็มโอ) อีกทั้งทางด้านการแพทย์ วิชาทางพันธุศาสตร์ก็เข้าไปเกี่ยวข้องในการพิสูจน์ด้านนิติเวชศาสตร์ การพิสูจน์หาหลักฐานในกรณีต่างๆ ความรู้ด้านพันธุศาสตร์เป็นสาขาใหม่ที่ต้องศึกษา ค้นคว้าและวิจัย ต้องอาศัยการทำงานที่มีความร่วมมือกันอย่างจริงจัง และต้องเผยแพร่ความรู้สู่สังคมให้เข้าใจอย่างถูกต้องด้วย จากนั้น ดร.สุทัศน์ ศรีวัฒนพงศ์ นายกสมาคมชีวภาพสัมพันธ์ กล่าวบรรยายในหัวข้อ "พันธุศาสตร์ : จากพื้นฐานสู่เทคโนโลยีระดับโมเลกุล" ว่า ประเทศไทยมีฐานทางพันธุศาสตร์อยู่มาก เนื่องจากมีความหลากหลายทางชีวภาพสูง และเริ่มมีการพัฒนาใช้เทคโนโลยีชั้นสูง เช่น การฝากถ่ายยีน การโคลนนิ่ง จะศึกษาสิ่งที่เล็กลงเรื่อยๆ แต่มีประสิทธิภาพมากขึ้น ซึ่งต้องอาศัยความรู้พื้นฐานทางพันธุศาสตร์ช่วยเบิกทางให้แทบทั้งสิ้น ขณะนี้ประเทศไทยก้าวไปสู่การผลิตข้าวให้มีวิตามินเอในปริมาณที่สูง เรียกว่าข้าวสีทอง ซึ่งต้องใช้ความรู้ด้านพันธุศาสตร์ ในอนาคตรัฐบาลประกาศให้ไทยเป็นครัวโลก ซึ่งการเกษตร การถนอมอาหาร เคมี โพลิเมอร์ พลังงานทดแทนต่างๆ สมุนไพร ล้วนแต่ต้องใช้ความรู้ด้านพันธุศาสตร์แทบทั้งสิ้น จึงต้องเตรียมคนและทำความเข้าใจให้ความรู้กับประชาชน การผลักดันเทคโนโลยีชีวภาพ หน่วยงานที่ต้องดูแลคือ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติฯ ซึ่งต้องร่วมมือกับทางมหาวิทยาลัยที่มีองค์ความรู้ มีนักวิจัย เชื่อว่าแนวทางการสนับสนุนในเรื่องนี้ของรัฐบาล พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร คงถูกผลักดันเป็นนโยบายต่อไป (มติชนรายวัน อาทิตย์ที่ 13 มี.ค. 48 http://www.matichon.co.th)





ข่าววิจัย/พัฒนา


เพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อในท้องหมู ประกอบเต้านมคืนสภาพเดิม

หนังสือพิมพ์ฉบับยักษ์ของอังกฤษ เปิดเผยว่า นักวิทยาศาสตร์เมืองเบียร์ ดร.เจอเก้น ดอลเดอเรอ ได้พัฒนาเทคนิคในห้องปฏิบัติการที่เมืองลุดวิกชาเฟน ประเทศเยอรมนี เพาะเลี้ยงเซลล์ไขมันมนุษย์ไว้ในตัวของหมูจนโตใหญ่มีขนาดลูกเทนนิส ในเวลาชั่ว 3 เดือนเท่านั้น เพื่อจะนำเอาเนื้อเยื่อมาใช้ปั้นแต่งทรวงอกของสตรีที่ต้องถูกตัดเต้านมทิ้งไปให้คืนสภาพได้ใหม่ หมอดอลเดอเรอได้กล่าวแสดงความเห็นว่า เชื่อว่าจะสามารถทดลองใช้เทคนิคนั้นกับมนุษย์ ในเวลาอีก 6-12 เดือนนี้. (ไทยรัฐ จันทร์ที่ 7 มี.ค. 48 http://www.thairath.co.th)





มหัศจรรย์ "มะกอกโอลีฟ" สกัดสารทำสบู่หวานต้านเชื้อแบคทีเรีย

"มะกอกโอลีฟ" (Olea europaea L.) ถือเป็นพืชอาหารที่สำคัญและมีคุณค่า ในเขตเมดิเตอร์เรเนียนมาตั้งแต่อดีต สรรพคุณส่วนต่างๆ ของมะกอกโอลีฟนำมาใช้ทำผลิตภัณฑ์ต่างๆ ได้มากมาย อาทิ ผลใช้ประกอบอาหารและผลิตภัณฑ์น้ำมัน ซึ่งน้ำมันมะกอกโอลีฟนั้นในทางการแพทย์แนะนำให้บริโภค เนื่องจากมีไขมันที่ไม่เป็นอันตรายต่อสุขภาพสูงกว่าน้ำมันจากพืชชนิดอื่น นอกจากนี้ น้ำมันมะกอกโอลีฟ ยังนำมาใช้เป็นส่วนผสมในการผลิต สบู่และน้ำมันนวด ส่วนใบใช้ปรุงอาหาร และใช้บำบัดรักษา ในทางการแพทย์ได้ ขณะที่ส่วนของกิ่งก้าน และลำต้นมีมูลค่าสูง เนื่องจากลวดลายที่สวยงาม และความคงทนของเนื้อไม้ ใช้นำมาทำผลิตภัณฑ์แกะสลัก และเฟอร์นิเจอร์ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ได้มีพระราชปรารภกับ นายแก้วขวัญ วัชโรทัย เลขาธิการพระราชวัง และผู้อำนวยการโครงการส่วนพระองค์ฯ สวนจิตรลดา ถึงคุณค่าและประโยชน์ ของมะกอกโอลีฟในหลายๆด้าน ซึ่งต่อมาได้มอบหมายให้ โครงการอนุรักษ์พันธุกรรมพืช อันเนื่องมาจากพระราชดำริฯ (อพ.สธ.) ทำการศึกษาและดำเนินการทดลองปลูก ในประเทศไทยที่จังหวัดปทุมธานี ที่ผ่านมามีการศึกษาสารสกัดใบมะกอก ของนักชีวเคมีหลายคนพบว่า มีสารประกอบฟีโนลิกหรือโอเลยูโรเปอิน (ภาษาละติน) ซึ่งนักชีวเคมีเชื่อว่า มีสรรพคุณต่อต้าน โรคติดเชื้อที่ทรงพลัง ส่วนประกอบในสารดังกล่าวมีสรรพคุณ ในการจำกัดการเจริญเติบโต ของเชื้อไวรัส แบคทีเรีย เชื้อรา เชื้อยีสต์ และเชื้อโปรโตซัวได้ ซึ่งถือเป็นความก้าวหน้า ในการนำมะกอกโอลีฟมาใช้ประโยชน์ อย่างไรก็ดี เนื่องจากการทดลอง ปลูกมะกอกโอลีฟ ในประเทศไทย ในโครงการส่วนพระองค์ฯ ยังไม่ สามารถทำให้มะกอกโอลีฟออกผลได้ เนื่องมาจากเหตุปัจจัยหลายประการด้วยกัน แต่กระนั้นก็มิได้เกิดความย่อท้อ ได้มีการศึกษาต่อยอดงานวิจัยสกัดสารจากใบมะกอกโอลีฟเพื่อนำมาทำ "สบู่ใส" แก้ปัญหาผู้ที่ชอบคันตามผิวหนังหรือตามตัว (ไทยรัฐ จันทร์ที่ 7 มี.ค. 48 http://www.thairath.co.th)





สามล้อโฉมใหม่สุดเตี้ย แล่นฉิ่วคู่กายนักผจญภัย

นายปัญญา คูเจริญไพศาล บัณฑิตภาควิชาภูมิศาสตร์ คณะอักษรศาสตร์ มหาวิทยาลัยศิลปากร กล่าวถึงจักรยานสามล้อแบบเอนตัวนอนปั่นที่ออกแบบเป็นคันแรกของประเทศว่า มีลักษณะแตกต่างจากรถสามล้อที่พบเห็นทั่วไป และออกแบบมาเพื่อเป็นพาหนะคู่ใจใช้ในการเดินทางและท่องเที่ยว โดยเน้นด้านความปลอดภัยขณะใช้งาน เคลื่อนที่ด้วยความเร็วสูงพอสมควรและใช้พลังงานหรือแรงปั่นไม่มาก โครงสร้างรถออกแบบให้คล้ายรถแข่งฟอร์มูล่าวัน ที่เตี้ยเกือบจะแนบพื้นดิน เพื่อลดแรงต้านของลมทำให้รถวิ่งฉิ่ว ผนวกกับมี 3 ล้อ รถจึงมีความมั่นคงในการทรงตัว พลิกคว่ำได้ยาก ส่งผลให้ประสิทธิภาพสูงกว่าจักรยานธรรมดา ทั้งด้านความปลอดภัยและความเร็ว ซึ่งในต่างประเทศมีสถิติโลกที่ได้รับการบันทึกไว้อยู่ที่ 130 กิโลเมตรต่อชั่วโมง โดยจักรยานประเภทนี้นิยมใช้ในประเทศแถบยุโรป ในราคาประมาณคันละ 180,000 บาท ทั้งนี้ ในการคิดค้นและออกแบบอาศัยการค้นคว้าข้อมูลจากอินเทอร์เน็ตและหนังสือด้วยตนเอง ตั้งแต่ปี 2546 จากนั้นลงมือสร้างและทดสอบสมรรถนะเป็นระยะเวลาครึ่งปีในแหล่งท่องเที่ยวต่างๆ ทั้งการปั่นขึ้นเขา-ลงเขา ถนนลาดยาง ลูกรังที่ขรุขระ การขับขี่ทั้งทางไกลและระยะสั้นในตัวเมือง ปรากฏว่ายังไม่ประสบปัญหาอย่างใด สำหรับอนาคต เยาวชนนักประดิษฐ์มั่นใจว่าจะสามารถผลิตและจำหน่ายในประเทศได้ ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างยื่นจดสิทธิบัตรสิ่งประดิษฐ์ (คมชัดลึก จันทร์ที่ 7 มีนาคม 2548 http://www.komchadluek.net)





จับหนอนผีสื้อผลิตไหมคุณภาพเหนียว มันวาวทอผ้าได้

นักเรียนมงฟอร์ตวิทยาลัยค้นพบประโยชน์ของหนอนยักษ์ ศัตรูตัวสำคัญของชาวสวนฝรั่งและกระท้อน โดยเส้นใยสามารถใช้ทอเป็นผ้าได้ คุณภาพไม่แพ้หม่อนไหม ทีมวิจัยสนใจนำความรู้มาเปลี่ยนให้หนอนศัตรูพืชมาเป็นหนอนสัตว์เศรษฐกิจ น.ส.ทัศนีย์พร บูรณุปกรณ์ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 โรงเรียนมงฟอร์ตวิทยาลัย จ.เชียงใหม่ หนึ่งในทีมผู้ศึกษาที่พบประโยชน์จากหนอนผีเสื้อยักษ์ เปิดเผยว่า หนอนผีเสื้อยักษ์เป็นศัตรูพืชตัวสำคัญของชาวสวนฝรั่งและกระท้อน แต่ชาวบ้านสมัยก่อนจะนำเส้นใยของหนอนชนิดนี้ มาใช้ทำเป็นเอ็นตกปลา แสดงว่าเส้นใยต้องมีความเหนียวสูง นักเรียนจึงคิดว่าใยหนอนผีเสื้อยักษ์น่าจะนำมาใช้ทอเป็นผ้าได้ เยาวชนนักวิจัยจึงเริ่มศึกษาวงจรชีวิตและเส้นใยของหนอนผีเสื้อยักษ์ โดยศึกษาชนิดของอาหารที่ทำให้หนอนผีเสื้อยักษ์เจริญเติบโตและให้เส้นใยที่มีคุณภาพดีที่สุด จากนั้นนำเส้นใยที่มีคุณภาพดีที่สุดนำไปทดลอง ให้กลุ่มแม่บ้าน อ.ทุ่งหัวช้าง จ.ลำพูน ทอเป็นผ้าและเปรียบเทียบความยากง่ายในการทอกับเส้นใยจากหม่อนไหม ผลการศึกษาพบว่า หนอนผีเสื้อยักษ์ที่กินใบกระท้อนจะมีการเจริญเติบโต และให้เส้นใยที่ดีที่สุด รองลงมาได้แก่หนอนที่กินใบฝรั่ง และใบหม่อนตามลำดับ และเส้นใยดังกล่าวสามารถนำไปทอเป็นผ้าได้ โดยการทอด้วยเส้นใยจากหนอนผีเสื้อยักษ์มีความยากง่ายในการนำไปทอใกล้เคียงกับหม่อนไหม มีความมันวาว เส้นใยเรียบ อ่อนนุ่ม ในทางอุตสาหกรรมนั้น ต้นกระท้อนใช้เวลานานในการเติบโต จึงไม่เหมาะใช้เป็นอาหารของหนอนผีเสื้อยักษ์ และจากผลการวิเคราะห์ทางสถิติพบว่าการเจริญเติบโตของหนอนผีเสื้อยักษ์ที่กินใบกระท้อน ไม่แตกต่างจากหนอนผีเสื้อยักษ์ที่กินใบฝรั่งมากนัก ดังนั้น ในทางอุตสาหกรรมจึงควรใช้ใบฝรั่ง เพราะใช้เวลาเติบโตที่น้อยกว่าและหาง่ายในทั่วทุกภูมิภาค ทีมวิจัยยังมีแผนที่จะศึกษาเพิ่มเติมถึงปัจจัยทางกายภาพที่มีผลต่อคุณภาพของเส้นใย เช่น เรื่องของแสงแดด อุณหภูมิในการเพาะเลี้ยงหนอน เพื่อให้มีการพัฒนาคุณภาพของเส้นใยที่จะนำมาใช้ทอผ้าให้มีคุณภาพมากยิ่งขึ้น โครงงานของทีมวิจัยรุ่นเยาว์ ซึ่งประกอบด้วย น.ส.ขนิษฐา นิมาพันธ์ และ น.ส.ณีรนุช อินต๊ะ ได้รับคัดเลือกให้เป็นผู้ชนะการประกวดโครงงานวิทยาศาสตร์ชีวภาพ และได้รับคัดเลือกจากสมาคมวิทยาศาสตร์ให้เป็นโครงงานส่งประกวดในงานแสดงวิศวกรรมและวิทยาศาสตร์นานาชาติ ณ สหรัฐอเมริกา ในวันที่ 8-14 พฤษภาคมนี้ (คมชัดลึก จันทร์ที่ 7 มีนาคม 2548 http://www.komchadluek.net)





ถังหมักความดัน ทางเลือกใหม่ของอาหารแปรรูป

ขวัญฤทัย พฤกษามหาลาภ นักศึกษาภาควิชาวิศวกรรมอาหาร คณะวิศวกรรมและเทคโนโลยีการเกษตร สถาบันเทคโนโลยีราชมงคล หนึ่งในคณะผู้วิจัยโครงการการออกแบบและสร้างถังหมักความดัน ทางเลือกใหม่ในอุตสาหกรรมแปรรูปอาหาร เล่าถึงการทำงานในครั้งนี้ว่า เนื่องจากทราบถึงปัญหาในโรงงานผักกาดดองแห่งหนึ่ง ที่มีการผลิตไม่ทันกับความต้องการของลูกค้า จึงได้พยายามหาวิธีลดกระบวนการผลิตกับร่วมกับทีมวิจัย ปัญหาคืออาจมีหลายปัจจัยที่ส่งผลต่อการหมักดองอาหารจำพวกผัก ทางทีมผู้วิจัยจึงได้มีแนวความคิดที่จะสร้างถังหมักผักกาดเขียวปลีต้นแบบ ให้หมักผักกาดเขียวปลีได้โดยที่ใช้เวลาในการหมักน้อยกว่าวิธีการหมักตามธรรมชาติ โดยตั้งสมมติฐานว่า ความดันน่าจะมีผลต่อการหมัก จึงนำเสนอโครงการออกแบบและสร้างถังหมักความดันขึ้น ซึ่งได้รับการสนับสนุนในโครงการทุนอุตสาหกรรมสำหรับนักศึกษาปริญญาตรี สกว. การออกแบบผลิตผักกาดเขียวปลีดองโดยใช้ถังหมักความดันนั้น จะประกอบไปด้วยตัวถังขนาดบรรจุ 30 ลิตร ตะแกรง STL สําหรับบรรจุผักกากเขียวปลี 10-12 กิโลกรัม และปั๊มลมพร้อมด้วยอุปกรณ์ติดตั้งบริเวณฝาถัง ได้แก่ pressure gauge Thermometer ข้อต่อลม และ safety valve ตัวถังติดตั้งกระจกสําหรับมองสีผลิตภัณฑ์ส่วนบริเวณก้นถังติดตั้งวาล์วระบายน้ำ โดยจะใช้ปั๊มอัดลมเข้าไปในถังหมัก เพื่อเพิ่มอัตราการแพร่ ของน้ำหมักให้เข้าไปในเนื้อเยื่อผักกาดเขียวปลีได้เร็วขึ้น ช่วยลดระยะเวลาในการผลิตผักกาดเขียวปลีดองให้สั้นลง ลดต้นทุนในการผลิตและเพิ่มกําลังการผลิตให้สูงขึ้น ด้วยการนําผักกาดเขียวปลีดองมาลวกที่อุณหภูมิ 90 - 100 องศาเซลเซียส เป็นเวลา 1-2 นาที แล้วจึงนํามาบรรจุลงตะแกรงในถังหมัก เติมน้ำหมัก และทําการอัดความดันให้กับถังหมัก พบว่า ความดันมีผลต่ออัตราการแพร่ของน้ำหมัก ทําให้กระบวนการหมักสามารถเกิดขึ้นได้เร็ว เพราะแรงดันเพิ่มขึ้น ทําให้อนุภาคของสารต่างๆ แพร่เข้าเซลล์ได้ดีขึ้น และเกิดการดันน้ำภายในเซลล์ผักออกมาด้านนอกเซลล์จนภายในและภายนอกเซลล์มีความเข้มข้นเท่ากันก็จะหยุดแพร่เกิดการสมดุล และผักกาดเขียวปลีที่ได้มีสีเหลืองน้ำตาล กรอบ มีรสเค็ม และเปรี้ยวผสมอยู่ด้วยกัน โดยที่ถังหมักผักกาดเขียวปลีต้นแบบนี้จะสามารถลดระยะเวลาการหมักลงได้ 5-7 วัน และสามารถนําไปประยุกต์ใช้ในโรงงานอุตสาหกรรมได้เพื่อเพิ่มปริมาณในการผลิตผักกาดเขียวปลีหมักให้มากขึ้นโดยใช้เวลาในการหมักน้อยลง ถังหมักความดันต้นแบบนี้ยังคงต้องพัฒนาต่อ เพื่อให้ปรับใช้ในอุตสาหกรรมแปรรูปอาหารขนาดใหญ่ (กรุงเทพธุรกิจ อังคารที่ 8 มีนาคม 2548 http://www.bangkokbiznews.com)





พลังแสงอาทิตย์อบคงฤทธิ์สมุนไพรยา

ดร.กันยรัตน์ คมวัชระ ภาควิชาวิศวกรรมเคมี คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น เปิดเผยว่า เครื่องอบสมุนไพรพลังงานแสงอาทิตย์ เป็นโครงงานการค้นคว้าวิจัยของนักศึกษาปริญญาตรี ที่มุ่งนำวิชาการความรู้ไปประยุกต์ใช้ให้เกิดประโยชน์จริงสำหรับการผลิตในภาคอุตสาหกรรม และโครงงานนี้ได้พัฒนาเทคโนโลยีการอบสมุนไพรให้โรงงานแห่งหนึ่ง โดยใช้พลังงานแสงอาทิตย์ควบคู่กับพลังงานไฟฟ้า ทดแทนพลังงานในรูปแบบเดิมที่ใช้เครื่องอบแบบเตาถ่าน โรงงานที่ใช้เครื่องอบแบบเตาถ่านในการให้ความร้อน ทำให้พบปัญหาเรื่องอุณหภูมิไม่สม่ำเสมอ ไม่มีการควบคุมการกระจายความร้อนภายในเครื่อง ซึ่งอาจมีผลทําให้คุณภาพของยาสมุนไพรไม่สม่ำเสมอ ดังนั้น เพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพของเครื่องอบ จึงได้ศึกษาแหล่งกําเนิดความร้อนใหม่ รวมทั้งศึกษาสภาวะอุณหภูมิและความชื้นที่เหมาะสมต่อการอบสมุนไพร โดยได้รับการสนับสนุนจากสำนักงานกองทุนสนับสนุนการวิจัย ในการพัฒนาเครื่องอบสมุนไพรพลังงานแสงอาทิตย์นี้ อาศัยพลังงานหลักที่ให้ความร้อนกับเครื่องอบจากแผงรับความร้อน ซึ่งทำจากสังกะสีซึ่งถูกทาสีดำและเอียงทำมุม 14 องศากับพื้นดิน และติดตั้งอยู่ด้านข้างของเครื่องอบ ส่วนพลังงานรองที่ให้ความร้อนกับเครื่องอบจะผ่านแผ่นพลาสติกใสทางด้านบนของเครื่องอบ ภายในเครื่องอบถูกควบคุมด้วยระบบควบคุมอุณหภูมิ ขณะที่พลังงานไฟฟ้าจะถูกใช้ในกรณีที่อุณหภูมิสูงหรืออุณหภูมิต่ำเกินไป นอกจากนี้ถาดอลูมิเนียม 5 ชั้นภายในเครื่องอบจะถูกเจาะรูเล็กๆ ทั่วทั้งถาด ที่ใช้วางเม็ดยาสมุนไพรเปียก เพื่อเพิ่มการหมุนเวียนความร้อนภายในเครื่องอบ เครื่องอบแสงอาทิตย์ นอกจากจะสามารถทำงานได้เมื่อนำไปวางไว้กลางแดดแล้ว หากแสงแดดไม่เพียงพอยังสามารถปรับใช้พลังงานไฟฟ้าเพื่ออบสมุนไพรต่อไปได้ และหากควบคุมอัตราการนำความชื้นออกจากของสมุนไพรที่อบด้วย จะทำให้ได้สมุนไพรที่มีคุณภาพมากขึ้น (กรุงเทพธุรกิจ อังคารที่ 8 มีนาคม 2548 http://www.bangkokbiznews.com)





นักวิทย์จีนวิจัยข้าวโพดผลดก เพียงพอเลี้ยงชีวิตพันล้านคน

สำนักข่าวซินหัวของประเทศจีน รายงานว่า นักวิทยาศาสตร์ชาวจีนประสบความสำเร็จในการพัฒนาเมล็ดข้าวโพดสายพันธุ์ใหม่ ซึ่งสามารถให้ผลผลิตออกดอกออกผลโดยเฉลี่ย 15,000 กิโลกรัมต่อ 10,000 ตารางเมตร ทั้งนี้ ในรายงานข่าวระบุอีกว่า การพัฒนาเมล็ดพืชในครั้งนี้ เป็นไปตามคำประกาศของรัฐบาลจีนที่เคยระบุว่า จะนำประเทศก้าวเข้าสู่การดัดแปลงพันธุกรรมข้าวในพื้นที่ขนาดใหญ่ ซึ่งให้ผลผลิตที่สูงและคุณภาพที่สูงนี้ จะเป็นสิ่งสำคัญสำหรับแหล่งผลิตอาหารในประเทศจีน ซึ่งถือว่าเป็นความก้าวหน้าสำหรับงานวิจัยวิทยาศาตร์ด้านเกษตรกรรมตามการพัฒนาสายพันธุ์ข้าวที่ดีเยี่ยม ด้านผู้เชี่ยวชาญวิเคราะห์ว่า จีนอาจจะผลิตข้าวโพดได้มากถึง 6,000 ล้านกิโลกรัมต่อปี หลังจากเพาะปลูกด้วยเมล็ดข้าวโพดสายพันธุ์ใหม่นี้ รายงานข่าวระบุในตอนท้ายว่า การลดลงของจำนวนพื้นที่ สถิติปริมาณน้ำฝนที่ตกลงมา และจำนวนประชากร ซึ่งคาดว่าจะเติบโตถึง 1,300 ล้านคน ล้วนเป็นปัจจัยที่นำประเทศจีนไปสู่การค้นหาหนทางใหม่เพื่อหล่อเลี้ยงประชากรในประเทศ (คมชัดลึก อังคารที่ 8 มี.ค. 48 http://www.komchadluek.net)





ทดลองวัคซีนเลิกบุหรี่สำเร็จฉีด6เข็มเหม็นเบื่อควันเลย

บริษัทผลิตยาแห่งหนึ่งของอังกฤษ ได้ประสบผลสำเร็จ ในการทดลองวัคซีนเพื่อเลิกบุหรี่ กับคอยาในชาติยุโรปต่างๆ ซึ่งถูกคัดเลือกไว้ในการทดลอง พวกเขาเหล่านี้ต่างพ่นควันมานานแรมปี สูบบุหรี่จัดมากระหว่างวันละ 10-75 มวน นักวิจัยได้ฉีดวัคซีนพวกเขาในช่วงระยะเวลา 3 เดือน รวม 6 เข็มด้วยกัน ผลปรากฏว่า พวกที่ถูกฉีดวัคซีน สามารถเลิกบุหรี่ลงได้ มากกว่ากลุ่มที่ ถูกฉีดยาหลอกกว่ากันถึง 4 เท่า โฆษกของบริษัทยากล่าวว่า จะได้ทดลองใช้วัคซีนกับคอยาชาวอังกฤษต่อไป และหากการทดลองได้ผลดี ก็จะได้นำออกจำหน่ายให้ใช้ทั่วไป ในเวลาอีก 2-3 เดือนข้างหน้านี้. (ไทยรัฐ พุธที่ 9 มีนาคม 2548 http://www.thairath.co.th)





กทม.จับมือสหรัฐทำวิจัยยาป้องกันโรคเอดส์ เริ่ม เม.ย.นี้ทดลองกลุ่มเสี่ยง 1.6 พันคน

นายปิตินันท์ ณัฐรุจิโรจน์ รองปลัดกรุง เทพมหานคร (กทม.) เปิดเผยว่า ได้รับแจ้งจาก น.พ.ขจิต ชูปัญญา อดีตรองผู้ว่าฯ กทม. ในฐานะประธานศูนย์วิจัยวัคซีนโรคเอดส์ กทม. ว่าทางศูนย์ได้รับการประสานจากสหรัฐอเมริกาในการทำโครงการศึกษาวิจัยเรื่องการป้องกันโรคเอดส์ครั้งที่ 2 หลังจากที่เคยร่วมมือกันวิจัยในการใช้วัคซีนบีเว็กซ์เพื่อป้องกันผู้ติดเชื้อเอชไอวีเป็นโครงการแรก เมื่อประมาณ 7 ปีที่ผ่านมาแต่ไม่ประสบผลสำเร็จเพราะใช้วัคซีนดังกล่าวไม่ได้ผล ซึ่งทางสหรัฐจะมีโครง การศึกษาวิจัยใหม่เพื่อนำตัวยาที่ใช้ในการรักษาโรคเอดส์ ซึ่งเป็นยาทานที่ชื่อทินอฟโฟเวีย ที่ใช้รักษาผู้ป่วยติดเชื้อในสหรัฐเพื่อให้ประชาชนที่เป็นกลุ่มเสี่ยงในการติดเชื้อทาน เพื่อศึกษาวิจัยว่าจะสามารถป้องกันโรคเอดส์ได้หรือไม่ โดยหวังว่าเมื่อใช้วัคซีนป้องกันไม่ได้ จึงมีการวิจัยเพื่อนำยาทานมาใช้ดู ใช้รูปแบบการวิจัยเหมือนโรคโปลิโอในเด็กที่มีการหยอดยาเพื่อป้องกันโรคได้ รวมทั้งโรคเส้นเลือดตีบ ที่นำยาแอสไพริน ที่เป็นยาแก้ปวด แต่มีข้อเสียที่ทำให้ให้เลือดออกง่าย ให้ผู้ป่วยทานเพื่อป้องกันโรคเส้นเลือดตีบได้ ซึ่งผลการวิจัยได้ผลและปัจจุบันใช้เป็นยาป้องกันโรคได้ ขณะนี้สหรัฐอยู่ระหว่าง การวิจัยกับกลุ่มเสี่ยงในประเทศ และกลุ่มประเทศแอฟริกา รวมทั้งขยายผลการวิจัยมายังเอเชีย โดยเลือกประเทศไทยในการศึกษา เนื่องจากมีการร่วมมือกันในโครงการแรกแล้ว ขณะนี้อยู่ระหว่างหารือในรายละเอียด คาดว่าจะเริ่มวิจัยได้ในเดือน เม.ย. โดยจะตั้งศูนย์ที่ รพ.ตากสินเช่นเดิม ซึ่งขณะนี้โครงการวิจัยได้ผ่านความเห็นชอบจากคณะกรรม การวิจัยในคนของกระทรวงสาธารณสุขเรียบร้อยแล้ว โดยจะทดลองกับกลุ่มเสี่ยงที่ยังไม่ติดเชื้อเอช ไอวี เช่น ผู้ที่ติดยาเสพติดโดยใช้เข็มฉีดยาร่วมกัน หรือนักโทษจากกรมราชทัณฑ์รวม 1,600 คน ใช้เวลาประมาณ 3 ปี ซึ่งสหรัฐจะเป็นผู้ออกค่าใช้จ่ายให้ทั้งหมด แต่ กทม. จะเป็นผู้สนับสนุนเช่นเดิมทั้งสถานที่และบุคลากรในการวิจัย (เดลินิวส์ พุธที่ 9 มีนาคม 2548 http://www.dailynews.co.th)





นักวิทย์จุฬาฯชูวัสดุใหม่ทำเครื่องมือแพทย์

ผศ.ดร.อุดมศิลป์ ปิ่นสุข คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย อดีตนักเรียนทุนโครงการพัฒนาและส่งเสริมผู้มีความสามารถพิเศษทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (พสวท.) กล่าวว่า โลหะที่มนุษย์ใช้งานอย่างกว้างขวางในปัจจุบันคือเหล็กและอะลูมิเนียม แต่ยังมีข้อจำกัดบางประการ เช่น เหล็กถูกกัดกร่อนได้ง่ายและมีน้ำหนักมาก อะลูมิเนียมแม้จะน้ำหนักเบาแต่ไม่สามารถขึ้นรูปได้เพราะเปราะเกินไป จึงได้วิจัยศึกษาคุณสมบัติของโลหะทางเลือกอื่นๆ โดยเลือกวิจัยเกี่ยวกับโลหะเซอร์โคเนียม โลหะกลุ่มนี้มีประโยชน์มากในเชิงอุตสาหกรรม เนื่องจากมีความแข็งแกร่งทนทานต่อการกัดกร่อนได้ดี และมีน้ำหนักเบาเมื่อเทียบกับเหล็ก และเนื่องจากสารประกอบของเซอร์โคเนียมมีความแข็งรองจากเพชร เมื่อนำมาทำเป็นมีดจึงคมมาก จึงมีการนำสารประกอบของเซอร์โคเนียมไปใช้เป็น ใบมีดผ่าตัด และเนื่องจากโลหะในกลุ่มเซอร์โคเนียมมีความแข็งแกร่ง มีน้ำหนักเบา ไม่ผุกร่อนได้ง่าย และไม่เป็นพิษกับมนุษย์ จึงมีการนำไปใช้เป็นวัสดุทดแทนกระดูกด้วย งานวิจัยนี้จะเป็นแนวทางในการศึกษาการเปลี่ยนโครงสร้างของวัสดุภายใต้อุณหภูมิสูง หรือความดันสูงได้ เมื่อเข้าใจคุณสมบัติทางฟิสิกส์ของวัสดุภายใต้สภาวะความรุนแรงเหล่านี้แล้ว อาจจะควบคุมให้เกิดสภาวะที่เหมาะสม เพื่อออกแบบวัสดุชนิดใหม่ที่มีคุณสมบัติตามที่ต้องการได้ และอาจใช้ทฤษฎีไปชี้นำแนวทางการจัดการทดลองในกรณีที่ยังไม่มีใครเคยทำการทดลองเรื่องนั้นๆ มาก่อน อีกทั้งอาจแสดงถึงแนวทางและศักยภาพในการเปลี่ยนวัสดุที่มีคุณค่าน้อย หาได้ทั่วไป ให้เป็นวัสดุใหม่ที่มีคุณค่ามากขึ้นได้ ผลงานวิทยาศาสตร์เรื่องวัสดุทางเลือกใหม่ เป็นเพียงหนึ่งในอีกกว่า 400 ผลงาน ทั้งผลงานของนักวิทยาศาสตร์รุ่นใหญ่ และนักวิทยาศาสตร์รุ่นเยาว์ อาทิ หุ่นยนต์ส่งสาสน์จากรถกระป๋องจากนักเรียนมัธยม 6 ที่นำมาจัดแสดงในการประชุมวิชาการวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี “วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี นำวิถีไทย ก้าวไกลสู่สากล” จัดโดยโครงการ พสวท. สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (สสวท.) ระหว่างวันที่ 10 - 11 มีนาคมนี้ ณ ศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทค บางนา (กรุงเทพธุรกิจ พุธที่ 8 มี.ค. 48 http://www.bangkokbiznews.com)





ม.เกษตรฯพัฒนาฉลากแหนมบอกรสชาติ เปลี่ยนสีตามระดับความเปรี้ยว เปิดรับเอกชนช่วยเข็นลงหิ้ง

ผศ.ดร.วาณี ชนเห็นชอบ หัวหน้าภาควิชาเทคโนโลยีการบรรจุ คณะอุตสาหกรรมเกษตร มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ พร้อมด้วย น.ส.ฉันทิตา ภาสะประหาส นิสิตปริญญาโท ร่วมกันค้นคว้าวิจัย "ฉลากแหนม" ( Intelligent Packaging) เพื่อใช้เป็นเครื่องบอกระดับความเปรี้ยวของแหนม ช่วยผู้บริโภคได้รสชาติเปรี้ยวที่พอดีกับความต้องการ โดยฉลากจะมีลักษณะเป็นแถบสีที่จะค่อยๆ เปลี่ยนสีตามระดับความเปรี้ยวของแหนม ซึ่งแบ่งได้ 3 ระดับคือ สีเหลืองจะเปรี้ยวน้อย สีส้มจะเปรี้ยวปานกลางและสีแดงจะเปรี้ยวมาก โดยสังเกตจากฉลากที่เปลี่ยนเป็นสีที่ต้องการเมื่อใด ก็สามารถนําแหนมเข้าตู้เย็น เพื่อคงระดับความเปรี้ยวนั้นไว้จนถึงเวลาที่ต้องการบริโภค นอกจากนี้ ทีมวิจัยภาควิชาเทคโนโลยีการบรรจุ ยังอยู่ระหว่างพัฒนาต่อยอดฉลากแหนมให้สามารถใช้กับผลิตภัณฑ์อาหารหมักดองอื่นๆ เพื่อสร้างมาตรฐานและขยายโอกาสการส่งออกไปยังต่างประเทศได้ดียิ่งขึ้น สำหรับหลักการทำงานของฉลากแหนมนี้ เนื่องจากแหนมเป็นผลิตภัณฑ์หมักโดยใช้แบคทีเรียแลกติก (Lactic acid bacteria) ซึ่งเป็นแบคทีเรียที่ใช้ในการหมักดองอาหาร โดยระหว่างกระบวนการหมักจะเกิดการเปลี่ยนแปลงของ กลิ่น รสชาติและเนื้อสัมผัสของแหนม และแหนมจะหมักได้ที่เมื่อค่าความเป็นกรดด่างประมาณ 4.2 และปริมาณกรดแลกติกที่ให้รสเปรี้ยวประมาณ 1% ส่วน“ฉลากแหนม” จะเป็นสติกเกอร์แถบสีเหลืองที่มีส่วนผสมขององค์ประกอบทางสี (Dye Solution) และสารปฏิกิริยาเคมีบางอย่างพิมพ์ลงบนแผ่นฟิล์ม โดยนําฉลากแหนมไปติดบริเวณด้านนอกของฟิล์มพลาสติกบรรจุแหนม และฉลากแหนมจะค่อยๆ เปลี่ยนสีตามระดับความเปรี้ยวดังกล่าว แม้ว่า แถบวัดความเปรี้ยวจะยังมีข้อจํากัด คือจะวัดได้เฉพาะแหนมที่ห่อด้วยพลาสติกเท่านั้น ยังไม่สามารถใช้วัดกับแหนมที่ห่อใบตอง แต่ผลงานวิจัยฉลากแหนมถือว่าประสบความสำเร็จ ที่สามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้จริงสำหรับผู้ผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์แหนม โดยที่ผ่านมาทีมงานได้ทดสอบประสิทธิภาพในแหนมยี่ห้อต่างๆ ผลที่ได้เป็นไปตามคุณสมบัติที่ระบุไว้ (กรุงเทพธุรกิจ พุธที่ 8 มี.ค. 48 http://www.bangkokbiznews.com)





แบตฯรุ่นใหม่ชาร์จด่วน 6 นาที สนองอุปกรณ์ไฟฟ้ารุ่นเปลืองไฟ

เอกชนสหรัฐพัฒนาแบตเตอรี่โฉมใหม่ใช้เวลาชาร์จไฟเพียง 6 นาที แถมยังมีอายุใช้งานยาวนานกว่าแบตเตอรี่เดิม 10 เท่า ขณะที่ได้กำลังไฟมากขึ้น 3 เท่า เหมาะกับหลากอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ขนาดพกพาที่กินไฟมหาศาล พร้อมเจรจาขายสิทธิเทคโนโลยีให้ผู้สนใจนำไปผลิตต่อเชิงพาณิชย์ บริษัท อัลแทร์ เทคโนโลยี ในสหรัฐ ได้พัฒนาแบตเตอรี่ลิเธียม-ไอออนรูปแบบใหม่ ซึ่งขั้วบวก (แอโนด) ซึ่งมีขนาดเป็นเม็ดเล็กระดับนาโน ทำให้มีเนื้อที่ของพื้นผิวเพิ่มขึ้นเป็นพิเศษ ช่วยให้อิเล็กตรอนไหลเข้าออกได้อย่างรวดเร็ว สามารถชาร์จไฟเต็มโดยใช้เวลาไม่กี่นาที และพร้อมจะให้กระแสไฟฟ้ากำลังสูงเมื่อต้องการใช้งาน การทำงานของแบตเตอรี่ลิเธียม-ไอออน ทั่วไปจะเริ่มจากการบังคับให้ประจุลิเธียมจากลิเธียมโคบอลต์ออกไซด์คาโทด (ขั้วลบ) เคลื่อนที่ไปยังคาร์บอนแอโนด (ขั้วบวก) ผ่านตัวทำละลายอิเล็กโทรด แต่เทคโนโลยีของอัลแทร์ ใช้เทคนิคทางเคมีทำให้ขั้วบวกจากลิเธียมไทนาเนต นาโนคริสตัลมีพื้นผิวมากขึ้นเป็น 100 ตารางเมตรต่อกรัม เทียบขั้วลบคาร์บอนแบบเก่าซึ่งมีพื้นที่เพียง 3 ตารางเมตรต่อกรัมเท่านั้น แม้บริษัทจะไม่ได้เปิดเผยรายละเอียด แต่จากสิทธิบัตรที่จดทะเบียนแล้วในสหรัฐ บอกให้รู้ว่าสาเหตุที่พื้นผิวขยายขนาดได้นั้น เป็นเพราะขณะที่ผลิตลิเธียม ไททาเนียม คริสตัล จะมีการควบคุมลำดับขั้นตอนของการทำละลายอย่างเข้มงวด โดยกระแสไฟที่ได้มาจากขั้วไฟฟ้าที่ปรับปรุงขึ้นมาใหม่นี้ สามารถป้อนพลังงานให้กับอุปกรณ์ที่กินไฟอย่างหนัก อย่างโทรศัพท์มือถือติดกล้อง ที่อาจมีกำลังไฟไม่เพียงพอที่จะใช้แฟลชได้ คุณสมบัติเด่นของแบตเตอรี่ใหม่นี้ อยู่ที่อายุการใช้งานที่ยาวนานกว่า เนื่องจากของเดิมนั้น ขั้วบวกจากคาร์บอนจะมีผิวเป็นผลึก ซึ่งไวต่อการถูกทำลายเมื่ออุณหภูมิเปลี่ยนแปลง ขณะแบตเตอรี่ถูกใช้งานหรือกำลังชาร์จไฟอยู่ ส่งผลให้การชาร์จไฟทำได้เพียง 400 ครั้งเท่านั้น ทั้งนี้ บริษัทมีแผนพัฒนาแบตเตอรี่สำหรับอุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้าที่ต้องใช้แบตเตอรี่ราคาแพง อย่าง นิกเกล-แคดเมียม หรือนิกเกิล-เมทัลไฮดรายด์ และคาดว่าท้ายที่สุดแล้วแบตเตอรี่รูปแบบนี้จะถูกนำไปใช้อย่างกว้างขวาง ตั้งแต่มือถือไปจนถึงรถยนต์ไฟฟ้าได้ (กรุงเทพธุรกิจ พุธที่ 8 มี.ค. 48 http://www.bangkokbiznews.com)





เอเอ็มดีอวดซีพียู 64 บิต ช่วยคำนวณหาสูตรยา

นายฮอง ฮอก แทน ผู้จัดการฝ่ายพัฒนาธุรกิจลูกค้าองค์กร เอเอ็มดี กล่าวว่า ชิพประมวลผล 32 บิต ที่ใช้กันทั่วไปในคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคล เริ่มไม่สามารถรองรับการใช้งานระดับสูง ดังนั้นซีพียู 64 บิตรุ่นใหม่ ที่มีความสามารถประมวลคำสั่งได้เป็นสองเท่า จะมาช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานของคอมพิวเตอร์ให้สูงขึ้น ในการทำงานของคอมพิวเตอร์ ซีพียูเปรียมเสมือนสมองของคอมพิวเตอร์ในการรับคำสั่งของโปรแกรมมาคำนวณเพื่อแสดงผลลัพธ์จากคำสั่งของผู้ใช้ แต่เนื่องจากปัจจุบันซอฟต์แวร์ถูกพัฒนาให้มีความซับซ้อนมากยิ่งขึ้น ทำให้คอมพิวเตอร์ต้องใช้เวลาในการคำนวณคำสั่งนานขึ้น โดยซีพียูรุ่นใหม่ที่สามารถรับคำสั่งได้เพิ่มเป็นสองเท่าจากรุ่นเดิม 32 บิต ช่วยให้ผู้ใช้สามารถใช้งานโปรแกรมระดับสูงได้ ด้านนายภุชงค์ อุทโยภาศ ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยคอมพิวเตอร์สมรรถนะสูง และเครือข่ายคอมพิวเตอร์ คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ กล่าวว่า ด้วยขนาดความกว้างของซีพียูที่สูงถึง 64 บิต จะช่วยให้ผู้ใช้สามารถใช้งานคอมพิวเตอร์ได้หลากหลายเพิ่มขึ้น อาทิ การวิเคราะห์พัฒนาตัวยาจะต้องใช้ซีพียูจำนวนมากมาใช้ในงานคำนวณ รวมถึงวิเคราะห์ภาพถ่ายจากดาวเทียม (คมชัดลึก พุธที่ 9 มีนาคม 2548 http://www.komchadluek.net)





กินแอปเปิ้ลไล่ขับมะเร็งเต้านม ให้หนีห่างพ้นตัวสตรีออกไปได้

นักวิจัยของมหาวิทยาลัยคอร์เนลล์ของสหรัฐฯได้พบว่าการกินแอปเปิ้ล ช่วยให้สตรีลดโอกาสเสี่ยงที่จะเป็นมะเร็งทรวงอกลงไปได้ 17% และยิ่งกินได้วันละหลายผล ก็ยิ่งดีหนักขึ้นเท่านั้น คณะนักวิจัยได้ศึกษากับหนูทดลองที่ป่วยเป็นมะเร็งทรวงอกระยะต้น โดยป้อนให้กินสารสกัดจากแอปเปิ้ล และได้ผลว่า หากให้กินมากเทียบเท่ากับกินแอปเปิ้ลวันละ 1 ผล จะช่วยลดโอกาสเสี่ยงของการเป็นมะเร็งเต้านมให้ลงได้ 17% ยิ่งกว่านั้น หากกินวันละมากถึง 3 ผล จะยิ่งลดความเสี่ยงลงไปได้มากถึง 39% หากกินให้ได้ถึงวันละ 6 ผลก็จะลดความเสี่ยงลงได้ถึง 44% โครงการศึกษาวิจัยเรื่องนี้ ได้ทุนสนับสนุนบางส่วนมาจากวงการอุตสาหกรรมแอปเปิ้ลอเมริกัน. (ไทยรัฐ พฤหัสบดีที่ 10 มี.ค. 48 http://www.thairath.co.th)





'นวัตกรรม'หนุนคิดค้นบ่อกุ้งไร้มลพิษ เน้นชีวภาพบำบัดน้ำเสีย แถมตะกอนทำอาหารปลา

นายพล พลเสน กรรมการผู้จัดการบริษัท อีแลนด์ คอร์เปอเรชัน เปิดเผยว่า "ไคโต-โอโซน" ระบบการเลี้ยงกุ้งแบบใหม่ในบ่อซีเมนต์ ที่ใช้คุณสมบัติพิเศษของไคโตซานและโอโซน มาช่วยแก้ปัญหาน้ำเสียที่เกิดจากการเลี้ยงกุ้งโดยธรรมชาติและการเลี้ยงในบ่อดิน โดยระบบใหม่จะใช้สารธรรมชาติบำบัดน้ำ และสิ่งที่เหลือจากการบำบัดน้ำสามารถใช้เป็นส่วนผสมในอาหารปลา หรือใช้เป็นปุ๋ยต้นไม้ได้ด้วย สำหรับน้ำในบ่อเลี้ยงกุ้งจะมีตะกอนจากโปรตีนอาหาร ซึ่งเหลือตกค้างก้นบ่อ รวมถึงของเสียจากกุ้ง และแพลงตอนพืชที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติในบ่อเลี้ยงกุ้ง ในการบำบัดน้ำของระบบใหม่จะสูบน้ำขึ้นมาตกตะกอนในบ่อพัก โดยใช้ "ไคโตซาน" ซึ่งเป็นโพลีเมอร์ธรรมชาติได้จากสารสกัดเปลือกสัตว์จำพวก กุ้ง ปู แกนปลาหมึก มาใช้ตกตะกอนของเสียในบ่อพัก โดยตะกอนที่ได้นี้จึงมีโปรตีนเจือปนอยู่มาก สามารถนำไปใช้ประโยชน์เป็นอาหารปลาได้ หลังจากนั้นน้ำที่บำบัดในถังแรกจะถูกส่งไปที่ถังไบโอรีแอคเตอร์ ซึ่งเป็นอินทรีย์บำบัดโดยธรรมชาติด้วยแบคทีเรียที่เลี้ยงอยู่ในถัง ซึ่งจะย่อยสลายสารที่ไม่ต้องการให้หมด น้ำจากบ่อไบโอรีแอคเตอร์ก็เปลี่ยนสภาพเป็นน้ำที่สะอาดขึ้น และถูกส่งคืนไปที่บ่อเลี้ยงกุ้งตามเดิม ด้านโอโซนซึ่งมีคุณสมบัติเป็นตัวออกซิไดซ์ที่ดีมากนั้น จะติดตั้งเครื่องพ่นโอโซนภายในบ่อ เพื่อฆ่าแบคทีเรียที่อยู่ในน้ำ โดยในระบบจะมีอุปกรณ์สำหรับตรวจวัดและควบคุมการให้โอโซนอยู่ในระดับพอดี สำหรับปริมาณแบคทีเรียให้อยู่ในระดับต้องการ ส่วนข้อกังวลที่ว่าโอโซนหากใช้ในปริมาณที่เข้มข้นมากจะเป็นสารพิษนั้น นายพล กล่าวว่า ในระดับความเข้มข้นที่ใช้จะไม่มีผลต่อกุ้ง แต่จะมีผลกับสิ่งมีชีวิตเล็กๆ เท่านั้น ระบบเลี้ยงกุ้งแบบใหม่นี้ยังอยู่เพียงในโครงการทดลองระบบ ใช้ทุนโครงการประมาณ 1.2 ล้านบาท โดยสำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติสนับสนุน 50% พร้อมสนับสนุนด้านการวิจัยตรวจสอบระบบว่า สามารถใช้ได้จริงและประสิทธิภาพของการบำบัด โดยวัดค่าสารต่างๆ ในระบบ แล้วนำมาวิเคราะห์ประเมินผล โดยได้รับความร่วมมือจากศูนย์พันธุวิศวกรรมและเทคโนโลยีชีวภาพแห่งชาติ (ไบโอเทค) และหน่วยปฏิบัติการเทคโนโลยีชีวภาพทางทะเล จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย (กรุงเทพธุรกิจ พฤหัสบดีที่ 10 มี.ค. 48 http://www.bangkokbiznews.com)





เครื่องขูดมะละกออัตโนมัติ นวัตกรรมใหม่ นักศึกษา ม.ราชมงคล หันตรา

เครื่องขูดมะละกออัตโนมัติ ถูกคิดค้นขึ้นมาเพื่อ โดย นายมานนท์ ตองแก้ว นายบรรพต วิชาธร นายจิรพันธุ์ สัตย์ธรรมรังษี นักศึกษาจาก คณะวิชาเครื่องกล มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล วิทยาเขตพระนครศรีอยุธยา หันตรา นอกจากนี้ คณะผู้ประดิษฐ์ได้คิดค้นใบมีดขึ้นมา 3 ขนาด เพื่อประโยชน์ในการกำหนดความสั้น ยาว ของเส้นมะละกอได้อีกด้วย นายมานนท์ หนึ่งในคณะผู้ประดิษฐ์ เปิดเผยถึงขั้นตอนการทำงานของเครื่องดังกล่าวว่า "เครื่องขูดมะละกอนี้มีส่วนที่เป็นมอเตอร์เอาไว้ส่งกำลัง และใช้กระแสไฟฟ้าเป็นตัวเดินเครื่อง โดยขั้นแรกให้เปิดเบรกเกอร์ควบคุมการทำงานของเครื่อง แล้วใบมีดที่อยู่ในเครื่องก็จะหมุนแบบทวนเข็มนาฬิกาลงมา ขูดมะละกอให้เป็นเส้น โดยใบมีดนั้นจะมีอยู่ 3 ขนาด ทั้งขนาดสั้น ปานกลาง และยาว ขึ้นอยู่กับความต้องการของผู้ใช้ว่าอยากได้เส้นมะละกอขนาดไหน ซึ่งจากการทดลองใช้ พบว่า ใบมีดควรหนา เพราะถ้าเป็นใบมีดบาง เวลาใช้งานก็จะเกิดการแกว่งทำให้เส้นมะละกอที่ได้มีความยาวไม่สม่ำเสมอ" สำหรับเครื่องขูดมะละกออัตโนมัติพร้อมอุปกรณ์เครื่องนี้ มีต้นทุนในการผลิตประมาณ 3,000 บาท เท่านั้น และเมื่อเครื่องเกิดชำรุด ก็สามารถซ่อมแซมได้ง่าย เพราะวัสดุที่นำมาใช้ประกอบเป็นตัวเครื่องเป็นวัสดุที่หาได้ง่ายทั่วไป ผู้ใดสนใจ สิ่งประดิษฐ์ฝีมือเด็กไทย สามารถติดต่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ คณะวิชาเครื่องกล มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล วิทยาเขตพระนครศรีอยุธยา หันตรา ตำบลหันตรา อำเภอพระนครศรีอยุธยา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา หมายเลขโทรศัพท์ (035) 242-554 ต่อ 133 ในวันและเวลาราชการ (เทคโนโลยีชาวบ้าน ศุกร์ที่ 1 มี.ค 48 http://www.matichon.co.th/techno)





เครื่องวัดความดันโลหิตระบบออสโลเมตริก ฝีมือนักวิจัย ขอนแก่น ทดแทนของนอกราคาแพง

สมใจ อารยวัฒน์ ,พีรพัฒน์ พิสุทธิพงษ์ และวิทยา ชำนาญไพร จากมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน วิทยาเขตขอนแก่น ซึ่งผู้วิจัยบอกว่า โดยปกติ การตรวจวัดระดับค่าความดันโลหิตของคนทั่วไปจะนิยมใช้เครื่องตรวจวัดชนิดปั๊มลมด้วยมือร่วมกับหูฟัง หรือ สเตโทสโคป(stethoscope) เพื่อฟังเสียงและวิเคราะห์ระดับค่าของโลหิต แต่บางครั้งค่าความดันโลหิตที่วัดได้อาจเกิดผิดพลาดและคลาดเคลื่อนได้ เนื่องจากใช้ประสาทสัมผัสที่เป็นความรู้สึกของแพทย์เป็นตัวชี้วัดค่าความดันโลหิต ซึ่งแต่ละคนจะมีความรู้สึกสัมผัสที่แตกต่างกัน จากปัญหาดังกล่าว เครื่องวัดความดันโลหิตระบบออสโลเมตริก จึงได้พัฒนาขึ้นเพื่อแก้ปัญหาดังกล่าว โดยเครื่องวัดนี้จะอาศัยการทำงานและสั่งการจากชุดคอมพิวเตอร์ มอดูล(computer module) วงจรจะสั่งให้ตัวปั๊มลมขนาดเล็ก(Micropump) ซึ่งอยู่ในบี.พี.มอดูล(blood pressure module:BP module)นั้นจะปั๊มลมเข้าที่ปลอกแขนจนหลอดเลือดถูกปิดการไหลเวียน ชั่วขณะ ในขั้นตอนการปั๊มลมเข้าจะต้องวัดระดับความดันอากาศสูงสุดในปลอกแขนให้ได้ค่าประมาณ 230-300 มิลลิเมตรปรอท ซึ่งขึ้นอยู่กับการสั่งการจากวงจรไมโครคอนโทรเลอร์ ดังนั้น ต้องทำการติดตั้งตรวจจับความดันที่ท่อลม เพื่อวัดค่าความดันของหลอดเลือดตลอดเวลา จากนั้น ระบบจะทำการปล่อยลมออกทีละครั้งด้วยขนาดปริมาณที่พอเหมาะ โดยมีตัวลิ้นเปิดปิดชนิดเข็ม(Needle valve)ทำหน้าที่เปิดปิด หรือเป็นตัวควบคุมปริมาณการปล่อยลม ซึ่งถูกควบคุมจากคำสั่งหรือโปรแกรมของตัวอุปกรณ์ไมโครคอนโทรเลอร์อีกที ตัวตรวจจับความดันจะทำหน้าที่ตรวจสอบความดันโลหิตที่มีการเปลี่ยนแปลงเพื่อหาค่าความดันโลหิตค่าบนสุดและค่าความดันโลหิตต่ำสุด แล้วส่งข้อมูลไปยังตัวอุปกรณ์ไมโครคอนโทรเลอร์ประมวลและแสดงผลออกมาเป็นตัวเลขบนหน้าปัดต่อไป ซึ่งข้อมูลจากการตรวจวัดความดันโลหิตที่ตรวจได้ได้ถูกนำไปเก็บในระบบความจำในเครื่องคอมพิวเตอร์ ในการรับส่งสัญญาณข้อมูลจะถูกส่งผ่านทางช่องแบบอนุกรมหรือช่อง RS-232 ซึ่งเราสามารนำออกมาดูซ้ำกี่ครั้งก็ได้ในภายหลัง ส่วนค่าความแม่นยำในการวัดความดันโลหิตนี้ จากการตรวจสอบความแม่นยำของเครื่องตามมาตรฐาน ณ ห้องทดสอบ เอ็มไอซี ซีสเต็ม (M.I.C.System) ปรากฏว่าการวัดความดันโลหิตในช่วงของการใช้งานปกติค่าของคนปกติคือ120/80 มิลลิเมตรปรอท(mmHg) ค่าผิดพลาดจะมีค่าเท่ากับ 0/+1 มิลลิเมตรปรอท ซึ่งอยู่ในค่าที่ยอมรับได้ และช่วงของค่าความดันที่สูงมากคือ 200/150 มิลลิเมตรปรอท ค่าผิดพลาดจะมีค่าเท่ากับ -8/-2 มิลลิเมตรปรอท ซึ่งอยู่นอกเหนือค่ามาตรฐาน นับว่าเป็นประโยชน์ไม่น้อย นอกจากเป็นทางเลือกอีกทางหนึ่งที่จะสามารถลดการนำเข้าเครื่องมือวัดทางการแพทย์สำเร็จรูปจากต่างประเทศแล้ว ในส่วนของแพทย์และเจ้าหน้าที่เอง ก็ยังเป็นการช่วยลดภาระการทำงานอีกด้วย (สยามรัฐรายวัน พฤหัสบดีที่ 10 มี.ค. 48 http://www.siamrath.co.th)





เพาะหนูใส่เซลล์สมองของมนุษย์ ค้นหาวิธีรักษาโรคสมองเสื่อม

รัฐแคลิฟอร์เนียในสหรัฐฯ ได้ อนุมัติให้นักวิจัยเพาะหนูทดลอง ที่มีมันสมองของมนุษย์ขึ้น และขณะนี้ได้ทดลองเพาะหนูที่มีเซลล์สมองมนุษย์ปนอยู่เพียงแค่ 1% ขึ้นแล้ว รายงานข่าวแจ้งว่า ทีมนักวิจัยของมหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ด อันมีชื่อเสียงของสหรัฐฯ เป็นคนเพาะหนู โดยให้มีเซลล์มันสมองมนุษย์ปนอยู่ 1% ขึ้นแล้ว พวกเขาได้เซลล์สมองมนุษย์มาจากตัวอ่อนทารกที่ตายในท้องแม่ การศึกษาทดลองอันน่าตื่นเต้นครั้งนี้ ทำขึ้นเพื่อที่จะค้นคว้าหาหนทาง ในการบำบัดรักษาผู้ป่วยผู้สูงอายุที่เป็นโรคสมองเสื่อม และโรคอัมพาตแบบสั่น ซึ่งยังคงไม่มียารักษาได้โดยตรงในขณะนี้. ไทยรัฐ ศุกร์ที่ 11 มี.ค. 48 http://www.thairath.co.th





โลชั่นชาเมี่ยงกันยุงถนอมผิว แปรรูปเพิ่มมูลค่าพืชในท้องถิ่น

ผศ.นัตจุฑามณ์ เลิศลีลากิจจา อาจารย์ประจำแผนก แปรรูปผลิตภัณฑ์จากพืช คณะวิชาพืชศาสตร์ สถาบันเทคโนโลยีราชมงคล วิทยาเขตน่าน ได้ทดลองนำใบชาที่มีปลูกอยู่มากมายทางภาคเหนือมาทำ "โลชั่นถนอมผิวพรรณ" โดยการดึงข้อดีของใบชาที่มีสรรพคุณ ช่วยถนอมผิวมาผสานเข้ากับตะไคร้หอม ซึ่งมีฤทธิ์หรือสรรพคุณในการไล่ยุง กลายเป็น "โลชั่น กันยุงจากชาเมี่ยง" ที่ให้ทั้งการถนอมผิวพรรณ และไล่ยุงในคราวเดียวกัน โดย เลือกใช้ใบชาเมี่ยง หรือใบชา พันธุ์ อัสสัมซึ่งเป็นชาพันธุ์ ท้องถิ่นที่ชาวบ้านแถบนี้ปลูกกันมาก กอปรกับสถาบันฯกำลังวิจัยเกี่ยวกับชาเมี่ยงอยู่ จึงได้เลือกเอาชาพื้นบ้านเป็นวัตถุดิบในการผลิต ส่วนกระบวนการสกัดเอาสารที่เป็นประโยชน์จากชาเมี่ยงก็ไม่มีอะไรยุ่งยาก ชาวบ้านทั่วไปก็สามารถทำได้ เพียงนำใบชาสดมาผึ่งให้แห้ง แล้วบดให้เล็กลง นำมาแช่ด้วยเอสทิลแอลกอฮอล์ 95% ในอัตราส่วน 1 : 1 ทิ้งไว้ 24 ชั่วโมง หรือจะทิ้งไว้ 3 วันก็ได้ เรียกว่ายิ่งนานยิ่งดี ในขั้นตอนนี้อาจจะใช้วิธีการแกว่งช่วย เพื่อให้สารละลายสีเขียวออกมามากที่สุด จากนั้นทิ้งให้แอลกอฮอล์ ระเหย เหลือแต่สารสกัดจากใบชาเข้มข้น พร้อมที่จะนำมาเป็นส่วนผสมเข้ากับ สารสกัดจากตะไคร้หอม และสูตรพื้นฐาน ของการผลิตโลชั่นทั่วๆ ไป เท่านี้ก็เป็นอันสำเร็จได้ "โลชั่นกันยุงจากชาเมี่ยง" ไว้ใช้ถนอมผิวพรรณ ที่สำคัญยุงไม่กล้า เข้าใกล้เลยเชียวแหละ เหมาะสำหรับ ผู้ที่ไม่ค่อยจะเป็นมิตรกับยุง ทางแผนกแปรรูปผลิตภัณฑ์จากพืชยังมีผลิตภัณฑ์ อันเป็นผลผลิตจากชาเมี่ยงอีกหลายตัว อาทิ แชมพู ครีมนวดผม สบู่ น้ำยาล้างจาน ฯลฯ แล้วการทำงานก็ไม่ได้หยุดนิ่งอยู่แค่นี้ ยังคงศึกษาชาเมี่ยงเพื่อนำไปใช้ประโยชน์ให้เกิดความหลาก หลายยิ่งขึ้น ท่านที่สนใจผลิตภัณฑ์หรือต้องการข้อมูลเพิ่มเติม เกี่ยวกับตัวผลิตภัณฑ์สามารถ สอบถามไปได้ที่ โทร.0-4045-0972. (ไทยรัฐ ศุกร์ที่ 11 มี.ค. 48 http://www.thairath.co.th)





สหรัฐพบวิธีใหม่ทำสเต็มเซลล์ ปลอดเซลล์สัตว์ปนเปื้อน

ดร.โรเบิร์ต แลนซา จากบริษัทแอดวานซ์ เซลล์ เทคโนโลยี (เอซีที) วิจัยร่วมกับทีมงานวิทยาลัยการแพทย์ฮาร์วาร์ด และสถาบันการแพทย์โฮเวิร์ด ฮิวจ์ มุ่งค้นหาวิธีผลิตเซลล์ต้นกำเนิดสเต็มเซลล์ไลน์ที่ปลอดภัย โดยงานวิจัยซึ่งดำเนินการนอกสหรัฐชิ้นนี้ สามารถใช้สารตัวอื่นมาเลี้ยงสเต็มเซลล์มนุษย์แทนการใช้เซลล์กล้ามเนื้อจากหนูได้สำเร็จ สร้างความหวังการนำสเต็มเซลล์ที่ได้ไปใช้บำบัดผู้ป่วยที่เป็นโรคที่ไม่มีทางรักษา การค้นพบดังกล่าว คล้ายคลึงกับงานวิจัยของมหาวิทยาลัยวิสคอนซิน ซึ่งทำสำเร็จไปก่อนหน้านี้ โดยประเด็นหลักอยู่ที่ความพยายามในการหาทางเลี้ยงเซลล์ไลน์ โดยปราศจากการปนเปื้อนของเซลล์หนู ทั้งนี้ การเลี้ยงสเต็มเซลล์มนุษย์โดยทั่วไป จะใช้เซลล์กล้ามเนื้อของหนูมาปูพื้นบนจานเพาะก่อน ที่จะนำสเต็มเซลล์มนุษย์มาเลี้ยงด้านบน เพื่อใช้เป็นที่ยึดเกาะในการเจริญเติบโต สำหรับงานวิจัยของบริษัทเอซีที ใช้ส่วนผสมที่เรียกว่า "extracellular matrix" ซึ่งมีความยืดหยุ่นสูง ทำหน้าที่ต่อเชื่อมให้เซลล์ติดกันแทนการใช้เซลล์กล้ามเนื้อหนู โดยตัวอ่อนที่พวกเขาใช้นั้น เป็นตัวอ่อนที่เหลือจากการทำเด็กหลอดแก้วของคลินิกรักษาผู้มีบุตรยาก ประเด็นหลักของงานวิจัยชิ้นนี้ อยู่ที่การลดความเสี่ยงของเชื้อโรคในเซลล์หนู ที่อาจส่งผ่านผู้ป่วยผ่านทางการรักษาด้วยสเต็มเซลล์ได้ สำหรับสเต็มเซลล์ตัวอ่อนมนุษย์ที่นำมาใช้ในการบำบัดโรคนั้น มีข้อดีตรงที่สามารถพัฒนาไปเป็นเซลล์หรือเนื้อเยื่อในร่างกายได้หลากหลายรูปแบบ และนักวิจัยทั่วโลกกำลังหาทางใช้ประโยชน์จากสเต็มเซลล์เพื่อรักษาโรคร้าย อย่าง อัลไซเมอร์ มะเร็ง และโรคกล้ามเนื้อหัวใจตาย (กรุงเทพธุรกิจ ศุกร์ที่ 11 มี.ค. 48 http://www.bangkokbiznews.com)





สวทช.หนุนสังกะสีถ่วงล้อทดแทนตะกั่ว

นายประวุธ จันทร์เจริญ กรรมการผู้จัดการบริษัท พี.ซี.โปรดักส์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด ผู้ผลิตตะกั่วถ่วงล้อ (BALANCING WEIGHT) และสายรัดท่อ (CLAMP) ให้กับอุตสาหกรรมผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ เปิดเผยว่า บริษัทได้พัฒนาเทคโนโลยีการผลิตสังกะสีถ่วงล้อ ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากโครงการสนับสนุนการพัฒนาเทคโนโลยีของอุตสาหกรรมไทย (ITAP) สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) โดยจัดหาผู้เชี่ยวชาญจากสหรัฐอเมริกา เข้ามาร่วมศึกษา และพัฒนาในส่วนของการทำ R&D เพื่อสร้างเทคโนโลยีของตนเอง ขณะที่การพัฒนาเทคโนโลยีและกระบวนการผลิตนั้น ได้ผู้เชี่ยวชาญจากประเทศอังกฤษ “การเลือกสังกะสีเป็นวัตถุดิบแทนตะกั่วสำหรับถ่วงล้อ ได้รับการความสนใจจากผู้ผลิตและค่ายรถทั้งในยุโรปและญี่ปุ่น โดยต่างหันมาใช้สังกะสีเป็นวัตถุดิบแทนตะกั่วกันมากขึ้น แม้ว่าก่อนหน้านี้ค่ายรถญี่ปุ่นได้นำเสนอเหล็ก แต่ติดที่ขั้นตอนผลิตยุ่งยาก ส่วนอังกฤษได้เปิดตัวดีบุกแทนการใช้ตะกั่ว แต่ดีบุกมีราคาสูง ขณะที่สังกะสีเป็นวัตถุดิบราคาถูก สามารถฉีดขึ้นรูปได้และปลอดภัยต่อสิ่งแวดล้อม" ซีอีโอ พี.ซี.โปรดักส์ กล่าว แต่เนื่องจากเทคโนโลยีของไทยยังค่อนข้างล้าหลัง ทำให้ผู้ผลิตตะกั่วถ่วงล้อคู่แข่งรายใหญ่อย่างเยอรมนี ซึ่งมีเทคโนโลยีขั้นสูงและทันสมัยกว่า ได้ผลิตสังกะสีถ่วงล้อแข่งกับบริษัท โดยสามารถผลิตได้ปริมาณที่มากกว่าและเร็วกว่าที่บริษัทผลิตได้เพียง 1 ปี แต่หลังจากรับความช่วยเหลือข้างต้นจาก สวทช.ทำให้ทราบถึงวิธีการฉีดสังกะสีที่ถูกต้องและเหมาะสมขึ้น จนสามารถผลิตสังกะสีถ่วงล้อได้เร็วขึ้นถึง 6 เท่าจากเดิม (กรุงเทพธุรกิจ ศุกร์ที่ 11 มี.ค. 48 http://www.bangkokbiznews.com)





ญี่ปุ่นพบโปรตีนช่วยมีบุตร

นักวิจัยญี่ปุ่นมาซารุ โอกาเบะ และคณะทำงานศูนย์วิจัยสารสนเทศจีโนม มหาวิทยาลัยโอซากา ได้ค้นพบ "อิซูโม" (Izumo) ค้นพบโปรตีนเดี่ยวในสเปิร์ม ที่ช่วยการปฏิสนธิขั้นสุดท้ายของไข่และสเปิร์มประสบผลสำเร็จ หากพบหนทางปิดการทำงานของโปรตีนดังกล่าวก็สามารถนำมาใช้คุมกำเนิดได้ ตรงกันข้ามถ้าฉีดโปรตีนตัวนี้ให้กับคนเป็นหมันก็จะช่วยให้มีบุตรได้เช่นกัน การค้นพบของโอกาเบะก็กลับมาสร้างความหวังให้กับชุมชนนักวิจัยได้อีก ก่อนหน้านี้ในช่วงกลางทศวรรษ 90 มีการค้นพบยีนตระกูลใหม่ที่ชื่อว่า เอดีเอเอ็ม (ADAM การค้นพบครั้งนี้ จะนำไปสู่การออกแบบยาคุมกำเนิดชนิดใหม่ที่ไม่ใช่เป็นการควบคุมการผลิตฮอร์โมน รวมทั้งสามารถรักษาชายที่เป็นหมันจากสาเหตุของการขาดโปรตีนอิซูโมได้ โดยโปรตีนในสเปิร์มนี้มีบทบาทสำคัญอย่างยิ่งที่ช่วยให้ไข่และอสุจิหลอมรวมเข้าด้วยกันเป็นผลสำเร็จ ขั้นตอนการหลอมตัวเป็นขั้นตอนสุดท้ายเมื่ออสุจิเข้าไปในไข่ได้แล้ว แต่เนื่องจากโปรตีนตัวนี้มีบทบาทในช่วงท้ายๆ ของการปฏิสนธิ ดังนั้นจึงอาจมีปัญหาในการนำมาใช้สำหรับคุมกำเนิด เพราะการคุมกำเนิดควรจะเริ่มตั้งแต่ก่อนที่อสุจิจะเข้ามารวมกับไข่มากกว่า "ถ้าไม่สามารถหยุดโปรตีนตัวนี้ได้ก็คงเอามาทำยาคุมไม่ได้" นักวิจัยกล่าว และว่าหากจะนำมาใช้ทำยาคุมสำหรับสตรี ต้องพัฒนาให้อยู่ในรูปของยาที่ใช้สกัดกั้นโปรตีนตัวนี้ และเป็นเรื่องที่ท้าทายอย่างมากเนื่องจากต้องทำให้มีปฏิกิริยากับอสุจิทุกตัว จากการทดลองในหลอดแก้วที่ใช้ปฏิสนธิ พบว่าต้องใช้ยาในปริมาณที่มากพอถึงจะป้องกันไม่ให้อสุจิเข้าไปผสมรวมตัวกับไข่ได้ (กรุงเทพธุรกิจ เสาร์ที่ 12 มี.ค. 48 http://www.bangkokbiznews.com)





เอ็มเทคชู'กระดาษเซรามิค'เพิ่มค่าสินค้า เหมาะทำชิ้นงานที่ประณีต ช่วยยกระดับกลุ่มโอท็อป

ดร.สมนึก ศิริสุนทร นักวิจัยจากศูนย์เทคโนโลยีโลหะและวัสดุแห่งชาติ (เอ็มเทค) เปิดเผยว่า ขณะนี้ได้ประสบความสำเร็จในการปรับกระบวนการขึ้นรูปด้วยวิธีการหล่อแผ่นบาง เพื่อให้ได้ "กระดาษเซรามิค" (Paper Clay Tape) ซึ่งมีคุณสมบัติเหมาะกับงานประดิษฐ์ประเภทของชำร่วย ที่มีรูปร่างซับซ้อนตามต้องการ และยังสามารถสร้างลวดลายที่ละเอียด มีรูปทรงที่โปร่งบางได้มากขึ้น อาทิ นกกระเรียน พับดาว นกฮูก เป็นต้น โดยชิ้นงานที่ผ่านการเผาแล้ว จะมีความแข็งแรงเช่นเดียวกับชิ้นงานรูปแบบเดิม แต่มีความบางและมันวาวเหมือนกับเปลือกไข่ แผ่นดินกระดาษเซรามิคถือเป็นนวัตกรรมที่จะช่วยสนับสนุนกลุ่มผลิตภัณฑ์โอท็อป โดยได้จากการประยุกต์ใช้เทคนิคขั้นสูงของการหล่อแผ่นบาง (Tape Casting) ซึ่งนิยมใช้ในอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ ในการผลิตแผ่นรองวงจรชนิดบาง 50-100 ไมครอน สำหรับแผ่นบางที่พัฒนาได้จะมีความยืดหยุ่น สามารถม้วนพับได้และเศษที่เหลือนำไปรีไซเคิลได้ กระดาษเซรามิคจะมีความบางตั้งแต่ 30 ไมครอนจนถึง 1 มิลลิเมตร ความกว้างและยาวประมาณ 1-2 เมตร เมื่อคิดเฉลี่ยต้นทุนจะประมาณ 2 บาทต่อ 1 นิ้ว แต่เมื่อผลิตเป็นชิ้นงานแล้วจะเพิ่มมูลค่าให้ผลิตภัณฑ์เซรามิค 30-40% เพราะมีความบางเหมือนกับเปลือกไข่ น้ำหนักเบา ชิ้นงานมีความสวยงามเป็นเอกลักษณ์มากขึ้น ซึ่งขณะนี้กำลังยื่นขอจดสิทธิบัตรกระบวนการนี้อยู่ และเตรียมที่จะถ่ายทอดองค์ความรู้ให้กลุ่มผลิตภัณฑ์โอท็อป และอุตสาหกรรมเซรามิคด้วย กระบวนการหล่อแผ่นบางของอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ ต้องเตรียมสารตั้งต้น คือ ดินผสมเสร็จ หรือสารโลหะออกไซด์ให้อยู่ในรูปสารแขวนลอยที่มีความหนืดที่เหมาะสม โดยอนุภาคของสารตั้งต้นจะกระจายอยู่ในตัวทำละลาย และมีการเติมสารเติมแต่ง เพื่อช่วยปรับคุณสมบัติด้านความยืดหยุ่นและความแข็งแรงของแผ่นบางที่เตรียมได้ แต่แผ่นดินกระดาษเซรามิคที่พัฒนาขึ้นจะเลือกระบบที่ใช้น้ำเป็นตัวทำละลาย พร้อมทั้งยังสามารถผสมสีลงไปในสารโลหะออกไซด์เพื่อให้ได้สีตามที่ต้องการ ทำให้แผ่นดินกระดาษเซรามิคเป็นตัวให้สีสันกับชิ้นงาน สำหรับผลงานนวัตกรรมใหม่จากมันสมองคนไทยดังกล่าว ขณะนี้ทางกลุ่มนักวิจัยประดิษฐ์แผ่นดินกระดาษเซรามิคเป็นนกฮูกเพื่อใช้เป็นภาชนะใส่ของ ที่มีขนาดลำตัวเท่าฝ่ามือ โดยเตรียมถวายแด่สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯสยามบรมราชกุมารี ซึ่งจะเสด็จเป็นองค์ประธานเปิดงานประชุมวิชาการประจำปี สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี 2548 : วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีไทยสู่เศรษฐกิจยุคโมเลกุล ระหว่างวันที่ 28 - 30 มีนาคมนี้ ที่อุทยานวิทยาศาสตร์ประเทศไทย (กรุงเทพธุรกิจ เสาร์ที่ 12 มี.ค. 48 http://www.bangkokbiznews.com)





เครื่องรีดยางพาราด้วยก๊าซหุงต้ม โปรเจ็กต์เด็ดๆ เด็กราชมงคล

เครื่องรีดยางพาราชนิดให้ความร้อนโดยใช้ก๊าซหุงต้ม ของ สิรวิชญ์ อินวงศ์ และ สุทธิศักดิ์ วิจิตรสมบัติ นักศึกษาจากภาควิชาเทคโนโลยีหลังการเก็บเกี่ยวและแปรสภาพคณะวิศวกรรมและเทคโนโลยีการเกษตร มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล(มทร.).ธัญบุรี โดยมีอาจารย์มโน สุวรรณคำ เป็นที่ปรึกษา สิรวิชญ์ เผยว่ากระบวนการผลิตยางแผ่นในปัจจุบัน จะมี 2 ขั้นตอน คือการรีดยาง และการตากแห้งหรือรมควัน ซึ่งในขั้นตอนการรีดยางนั้น ชาวสวนยางพาราส่วนใหญ่จะใช้เครื่องรีด ที่ใช้ความร้อนจากหลอดรังสีอินฟาเรดที่บรรจุอยู่ในลูกรีด เพื่อช่วยลดความชื้นในแผ่นยางพาราไปพร้อมๆ กัน ซึ่งยังเป็นปัญหาเพราะความร้อน จากระบบไฟฟ้าจะถ่ายเทไปที่ลูกรีดยางไม่สม่ำเสมอ ทำให้สิ้นเปลืองพลังงานและเสีย ค่าใช้จ่ายสูง จึงได้พัฒนาเครื่องรีดยางพารา โดยใช้ความร้อนจากก๊าซหุงต้ม (L P G ) แทนพลังงานจากไฟฟ้า สำหรับตัวเครื่องรีดยางพารานี้ จะประกอบด้วยชุดลูกรีด 3 ชุด คือ ลูกรีดลดขนาด ลูกรีดกลมเกลี้ยง และลูกรีดขึ้นลาย ซึ่งมีขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 8.8 เซนติเมตรหน้ากว้าง 40 เซนติเมตร ขับเคลื่อนด้วยโซ่ พร้อมชุดเฟืองทด และมอเตอร์ขนาด 1 แรงม้า ภายในลูกรีดแต่ละชุดจะบรรจุท่อก๊าซหุงต้ม เพื่อให้ความร้อนกับผิวลูกรีด ด้านสุทธิศักดิ์ เพื่อนร่วมโปรเจ็กต์ อธิบายถึงผลการทดสอบเครื่องรีดยางพาราฯ นี้ว่า ผลการทดสอบเป็นน่าพอใจผิวลูกรีดมีความร้อนสูงและสม่ำเสมอ ทำงานได้อย่างต่อเนื่อง สามารถรีดยางสูงสุด 77.60 กิโลกรัมต่อชั่วโมง และอัตราส่วนการน้ำระเหยสูงสุด 0.40 กิโลกรัมต่อกิโลกรัม สามารถลดความชื้นในยางได้ 18.58 กิโลกรัมต่อชั่วโมง และยังมีช่วยลดต้นทุนเหลือประมาณ 0.13 บาทต่อกิโลกรัม ยังต้องปรับปรุงอีกหลายเรื่อง เช่น หน้ากว้างของลูกรีดยังสิ้นเกินไป ทำให้แผ่นยางมีขนาดไม่ได้มาตรฐาน และการเพิ่มขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางของลูกรีดเพื่อให้การเผาไหม้สมบูรณ์ และมีพื้นที่สัมผัสความร้อนเพิ่มขึ้น และการใช้ระบบเฟืองแทนโซ่ จะช่วยส่งกำลังเพื่อให้ปรับระยะห่างลูกรีดให้เที่ยงตรงและสะดวกมากขึ้น สำหรับผู้สนใจ สามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ คณะวิศวกรรมฯ มทร.ธัญบุรี โทร.0-2549-3300





ข่าวทั่วไป


เผยชื่อหนังสือดีเด่นปี48

ดร.พนม พงษ์ไพบูลย์ ประธานคณะกรรมการพิจารณาตัดสินการประกวดหนังสือดีเด่นประจำปี 2548 เปิดเผยผลประกวดหนังสือดีเด่น ประจำปี 2548 ว่า การประกวด แบ่งเป็น 9 กลุ่ม ได้แก่ 1.กลุ่มหนังสือสารคดี หนังสือที่ได้รับรางวัลดีเด่น คือ สมเด็จพระบรมวงศ์เธอ กรมพระยาเทวะวงศ์โรปการ ของ วิมลพรรณ ปีตธวัชชัย 2.กลุ่มหนังสือนวนิยาย ไม่มีหนังสือเล่มใดได้รับรางวัลดีเด่น 3.กลุ่มหนังสือกวีนิพนธ์ ไม่มีผู้ได้รับรางวัลดีเด่น 4กลุ่มหนังสือรวมเรื่องสั้น รางวัลดีเด่น คือ นักเล่าเรื่องโกหก ของ อุเทน พรมแดง 5.กลุ่มหนังสือสำหรับเด็กเล็กอายุ 3-5 ขวบ ไม่มีผู้ได้รับรางวัลดีเด่น 6.กลุ่มหนังสือสำหรับเด็กอายุ 6-11 ขวบ แบ่งเป็นหนังสือประเภทบันเทิงคดี ไม่มีหนังสือได้รับรางวัลดีเด่น 7. หนังสือสำหรับเด็กอายุ 12-18 ปี แบ่งเป็นหนังสือประเภทบันเทิงคดี รางวัลดีเด่น คือ เพื่อนรักริมโขง ของ เขมชาติ นังสือประเภทสารคดี รางวัลดีเด่น คือ ชีวิตไพรห้วยขาแข้ง ของ ม.ล.ปริญญากร วรวรรณ ส่วนหนังสือประเภทคำประพันธ์ รางวัลดีเด่น คือ เรืองแสงอรุณ ของ วรวุฒิ ภักดีบุรุษ 8.กลุ่มหนังสือการ์ตูนและหรือนิยายภาพ รางวัลดีเด่น คือ จันทโครพ ของ ปณิธา รื่นบรรเทิง 9.กลุ่มหนังสือสวยงามแบ่งเป็นประเภทสวยงามทั่วไป รางวัลดีเด่น คือ พระพุทธชินราชสุดยอดพระเครื่องแห่งอินโดจีน ของ นุ เพชรรัตน์และธชา จุลินทร ส่วนประเภทสวยงามสำหรับเด็ก รางวัลดีเด่น คือ ผีเสื้อ ของ น้านกฮูก ทั้งนี้ผู้ได้รับรางวัลดีเด่นจะได้รับโล่รางวัลโดยเข้ารับพระราชทานโล่รางวัลจากสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ใน วันเปิดงานสัปดาห์หนังสือแห่งชาติ ครั้งที่ 33 และ งานสัปดาห์หนังสือนานาชาติ ครั้งที่ 3 วันที่ 25 มีนาคม ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์. (เดลินิวส์ จันทร์ที่ 7 มี.ค. 48 http://www.dailynews.co.th)





รักษาสิวด้วยตนเองได้ง่ายๆ ด้วยปากและการออกกำลังกาย

พ.ญ.วรัญญา บุญชัย ภาควิชาตจวิทยา คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล กล่าวว่า สิวเกิดจากการอุดตันของต่อมไขมันใต้ผิวหนัง หากไม่ได้รับการรักษาที่ถูกต้อง จะเกิดการอักเสบจากเชื้อแบคทีเรียที่อาศัยอยู่บริเวณต่อมไขมัน อักเสบนูนแดงเรียกว่าสิวหัวช้าง การอักเสบจะยิ่งรุนแรงมากขึ้น หากภูมิต้านทานของร่างกายลดต่ำลง เช่น ระหว่างมีประจำเดือน อดนอน ความเครียดที่ส่งผลต่อการหลั่งของฮอร์โมนกระตุ้นต่อมไขมัน ให้สร้างไขมันเพิ่มมากขึ้น การป้องกันสิวที่ดีจึงควรปรับสมดุลร่างกาย เพิ่มภูมิต้านทานโรคด้วยการกินอาหารถูกหลัก ออกกำลังกาย ดื่มน้ำสะอาด 6-8 แก้วต่อวัน หลีกเลี่ยงการสูบบุหรี่ สารเสพติดของมึนเมา อาหารที่มีแร่ธาตุสังกะสีซึ่งมีมากในข้าวซ้อมมือ อาหารทะเล เนื้อสัตว์ ช่วยเสริมประสิทธิภาพของระบบภูมิคุ้มกันในร่างกาย ลดการอักเสบและการติดเชื้อของสิว ช่วยให้แผลเป็นหายเร็วขึ้นด้วยการสร้างเนื้อเยื่อใหม่ ซ่อมแซมเซลล์ผิวหนังที่เสียไป นอกจากนี้ วิตามินซี วิตามินอี เบตาแคโรทีนในผักผลไม้สีส้ม แร่ธาตุโครเมียมและคลอโรฟิลล์ในผักใบเขียว ยังช่วยปรับสมดุลของฮอร์โมนเอสโตรเจนในร่างกายได้ดีด้วย ย้ำให้ออกกำลังกาย พักผ่อนเพียงพอเพิ่มความต้านทานโรค (ไทยรัฐ อังคารที่ 8 มี.ค. 48 http://www.thairath.co.th)





โรคเอดส์จะคร่าชีวิตชาวแอฟริกา 80 ล้านคนในเวลา 20 ปีข้างหน้า

องค์การสหประชาชาติกล่าวทำนายว่า จะมีชาวแอฟริกาล้มตายด้วยโรคเอดส์ ในช่วงเวลา 20 ปีข้างหน้านี้ ไม่ต่ำกว่า 80 ล้านคน ทั้งยังจะมีคนติดโรคนี้เพิ่มมากถึง 90 ล้านคน หรือเกินกว่า 10% ของประชากรทั้งหมดของกาฬทวีป ทุกวันนี้ก็มีชาวแอฟริกันพากันติดโรคนี้กันไม่ต่ำกว่า 25 ล้านคนแล้ว ซึ่งการจะช่วยเหลือคนเหล่านี้ให้รอดตายได้มากถึง 16 ล้านคน และป้องกันคนไม่ให้ต้องติดโรคเข้าอีก 43 ล้านคน นั้นจำเป็นจะต้องใช้ทุนรอนมากถึง 7,700,000 ล้านบาท รายงานระบุว่า นักวิจัยยังลงความเห็นว่า ถึงแม้จะได้รับการช่วยเหลือ และได้รับการบำบัดรักษาอย่างดีขึ้น ก็ยังเป็นที่น่าหวั่นว่า จะมีชาวแอฟริกันล้มตายด้วยโรคนี้สูงถึง 67 ล้านคน รายงงานซึ่งจัดทำโดย ผู้เชี่ยวชาญโรคเอดส์ชั้นนำของโลกสรุปว่า "สิ่งที่เราจะทำกันในปัจจุบันนี้ จึงจะช่วยปรับแก้อนาคตได้ (ไทยรัฐ อังคารที่ 8 มี.ค. 48 http://www.thairath.co.th)





คนไทยเจ๋งสอบภาษาญี่ปุ่นคะแนนลิ่ว ได้อันดับหนึ่งของโลกจากคู่แข่งกว่า3พัน

นายอะทสึโอะ คุโรดะ ประธานองค์การส่งเสริมการค้าต่างประเทศของญี่ปุ่น(เจโทร กรุงเทพฯ) เปิดเผยว่า ในการสอบวัดระดับทักษะการใช้ภาษาญี่ปุ่นเชิงธุรกิจ เจโทร เทสต์(Jetro Test) ครั้งที่ 10 ที่จัดขึ้นเมื่อปีที่ผ่านมา คนไทยทำคะแนนได้เป็นที่หนึ่งในเอเชียแปซิฟิก ยกเว้นประเทศญี่ปุ่น จากผู้เข้าสอบกว่า 3,000 คน ทั่วโลกโดย น.ส.วรลักษณ์ ธรรมาณิชานนท์ สามารถทำคะแนนได้ถึง 738 คะแนน จาก 800 คะแนน ซึ่งจัดอยู่ในอันดับหนึ่งจากทั่วโลก ยกเว้นประเทศญี่ปุ่น และเป็นอันดับแปดหากนับรวมประเทศญี่ปุ่น ปัจจุบัน น.ส.วรลักษณ์เป็นล่ามอิสระในคณะที่ปรึกษาของ Japann Management Association Consultants(JMAC) เริ่มเรียนภาษาญี่ปุ่นเมื่อปี พ.ศ.2525 ที่ Tokyo Foreign Language University โดยได้รับทุนการศึกษาจากรัฐบาลญี่ปุ่น นายคุโรดะกล่าวว่า ผู้ประกอบการชาวไทยควรเร่งพัฒนาทรัพยากรบุคคลเพื่อเตรียมพร้อมสำหรับข้อตกลงความร่วมมือทางเศรษฐกิจ(Economic Partnership Agreement : EPA) ระหว่างประเทศไทยและญี่ปุ่น ที่กำลังจะมีขึ้นในอนาคต ข้อตกลงความร่วมมือทางเศรษฐกิจ ซึ่งรวมถึงเขตการค้าเสรี(FTA) ระหว่างประเทศไทยและญี่ปุ่นนั้น หมายถึงการค้าและการลงทุนในระดับที่สูงขึ้น รวมทั้งการแลกเปลี่ยนความรู้และทรัพยากรบุคคลในอนาคต ดังนั้น จึงเป็นการดีหากผู้ประกอบการเลือกลงทุนในการพัฒนาทรัพยากรบุคคล โดยเฉพาะอย่างยิ่งการเพิ่มประสิทธิภาพในการติดต่อสื่อสาร เพื่อที่ประเทศไทยและญี่ปุ่นจะได้รับผลประโยชน์ร่วมกันจากข้อตกลงทางธุรกิจ (มติชนรายวัน อังคารที่ 8 มีนาคม 2548 http://www.matichon.co.th)





กทม.เดินหน้า 5 ระบบอัจริยะ

นายสามารถ ราชพลสิทธิ์ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร(กทม.) เปิดเผยความคืบหน้าโครงการอัจฉริยะ 5 โครงการของ กทม. ได้แก่ โครงการป้ายจราจรอัจฉริยะ ป้ายรถเมล์อัจฉริยะ ที่จอดรถแท็กซี่อัจฉริยะ ที่จอดรถอัจฉริยะ และทางข้ามม้าลายอัจฉริยะ ว่า ขณะนี้มีความคืบหน้าไปมากแล้ว และยืนยันว่าจะสามารถเปิดให้บริการได้ภายในปีนี้อย่างแน่นอน โดยมี 3 โครงการที่ กทม.เปิดให้บริษัทเอกชนเข้ามาดำเนินการ คือป้ายจราจรอัจฉริยะ ป้ายรถเมล์อัจฉริยะ และที่จอดรถแท็กซี่อัจฉริยะ ซึ่ง กทม. ได้บริษัทเอกชนที่ผ่านการประกวดราคาเข้ามาดำเนินการแล้ว ส่วนอีก 2 โครงการที่ กทม.จะดำเนินการเองนั้น ต้องใช้งบประมาณทั้งสิ้น 256 ล้านบาท แบ่งเป็น โครงการที่จอดรถอัจฉริยะ 2 จุด ในเขตราชเทวี และเขตพระโขนง งบฯลงทุน 226 ล้านบาท โครงการทางข้ามม้าลายอัจฉริยะ 34 จุด งบฯลงทุน 30 ล้านบาท และ เมื่อเร็วๆ นี้ สำนักการจราจรและขนส่ง(สจส.) ได้นำเสนอโครงการป้ายบอกที่ว่างที่จอดรถ โดยจะนำร่องดำเนินการย่านราชประสงค์เป็นแห่งแรก โดยตัวป้ายยังจะมีพื้นที่ว่างสำหรับโฆษณาด้วย (มติชนรายวัน อังคารที่ 8 มีนาคม 2548 http://www.matichon.co.th)





ชี้หลอดเลือดดำอุดตันเสี่ยงมะเร็ง

ที่ รพ.ศิริราช น.พ.ประมุข มุทิรางกูร ศัลยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านศัลยกรรมหลอดเลือดกล่าวว่า จากการศึกษาทางระบาดวิทยาของผู้ป่วยโรคหลอดเลือดดำของขาอุดตันภายใน รพ.ศิริราช พบผู้ป่วยที่มีอาการบวมบริเวณแขนและขามารับบริการตรวจด้วยเครื่องอัลตราซาวนด์ ชนิดมีอาการบวมบริเวณแขนและขารวมทั้งสิ้นจำนวน 1,555 ราย ในจำนวนนี้พบผู้ป่วยที่มีการอุดตันของหลอดเลือดดำบริเวณแขนและขา รวมทั้งสิ้น 514 ราย โดยเป็นการอุดตันของหลอดเลือดดำบริเวณขาพบ 506 ราย หรือ 98% บริเวณแขน 8 ราย หรือ 2% โดยมีอุบัติการณ์ของโรคนี้ 8 ราย ในผู้ป่วย 10,000 ราย ซึ่งพบว่าโรคมะเร็ง เป็นปัจจัยเสี่ยงที่พบร่วมกับโรคหลอดเลือดดำของขาอุดตัน ในผู้ป่วย 308 ราย และเมื่อตรวจแล้วพบมะเร็งระบบสืบพันธุ์มากที่สุดถึง 50.3% เพราะส่วนใหญ่เป็นมะเร็งระบบนรีเวชวิทยา ได้แก่ มะเร็งปากมดลูกและมะเร็งรังไข่ รองลงมาเป็นมะเร็งระบบทางเดินอาหาร 13.2% ส่วนใหญ่เป็นมะเร็งลำไส้และทวารหนัก โรคมะเร็งที่พบมักเกิดภายในช่องท้อง 75% ภายนอกช่องท้อง 25% การพบโรคหลอดเลือดดำอุดตัน เป็นสัญญาณร้ายของโรคมะเร็งที่เตือนให้รู้ว่า ต้องตรวจหา แม้จะไม่แสดงอาการก็ตาม เพราะจากการติดตามผู้ป่วยหลอดเลือดอุดตันบางราย กว่าจะแสดงอาการมะเร็งก็ผ่านไปนาน 6 เดือน-1 ปี โรคหลอดเลือดดำของขาอุดตัน เป็นโรคที่พบได้บ่อยในคนไทย โดยเฉพาะในเพศหญิง กลุ่มอายุ 40-70 ปี จะมีความเสี่ยงสูง เกิดจากก้อนลิ่มเลือดแข็งตัวและอุดตัน ภายในหลอดเลือดดำที่อยู่ในชั้นลึก ทำให้ขาบวม นอกจากนี้ถ้าก้อนเลือดที่แข็งตัวนี้หลุดออกจากผนังหลอดเลือดดำ จะลอยไปตามกระแสเลือดเข้าไปยังปอด หัวใจ ทำให้เกิดภาวะแทรกซ้อนอย่างรุนแรงถึงขั้นเสียชีวิต. (ไทยรัฐ พุธที่ 9 มีนาคม 2548 http://www.thairath.co.th)





แพทย์เตือนแขนขาบวมโต เสี่ยงเป็นมะเร็งร้อยละ40

ศ.คลินิก นพ.ปิยะสกล สกลสัตยาทร คณบดีคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล เปิดเผยผลวิจัยหลอดเลือดดำของขาอุดตันในคนไทยว่า โรคหลอดเลือดดำในแขนและขาอุดตัน ซึ่งพบไม่มากในประเทศไทย แต่เมื่อวิจัยเชิงลึกแล้ว พบว่าสัมพันธ์กับการเกิดโรคมะเร็ง หากค้นพบมะเร็งระยะเริ่มต้น หรือรักษาโรคหลอดเลือดดำอุดตันจะช่วยรักษาชีวิตคนไข้ไว้ได้ ทั้งนี้ งานวิจัยดังกล่าวยังได้รับการตีพิมพ์ในวารสารต่างประเทศ International Journal of Angiology ซึ่งเป็นวารสารทางหลอดเลือดที่มีชื่อเสียงและได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวางในวงการแพทย์ รศ.นพ.กริช โพธิสุวรรณ หัวหน้าภาควิชาศัลยศาสตร์ กล่าวว่า หลอดเลือดดำอุดตันทำให้ขาบวมอาจเกิดข้างเดียวหรือทั้ง 2 ข้างก็ได้ มีภาวะแทรกซ้อนทำให้เจ็บหน้าอก ไอ มีเสมหะ เป็นเลือด ถึงขั้นเสียชีวิต เมื่อขาดเลือดมาเลี้ยงขาทำให้เกิดแผลเรื้อรังที่ข้อเท้าซึ่งรักษายาก ปกติโรคหลอดเลือดในแขนขาอุดตันพบมากในชาวตะวันตก เนื่องจากอากาศหนาว เลือดแข็งตัวง่าย รับประทานอาหารไขมันสูง รศ.นพ.ประมุข มุทิรางกูร ศัลยแพทย์เชี่ยวชาญด้านศัลยกรรมหลอดเลือด กล่าวว่า ศิริราชได้ศึกษาปัจจัยเสี่ยงทางคลินิกของโรคนี้จากผู้ป่วยที่มีหลอดเลือดดำของขาอุดตัน 308 ราย พบว่า โรคมะเร็ง เป็นปัจจัยเสี่ยงสำคัญทางคลินิกสูงเป็นอันดับแรกถึง 123 ราย หรือร้อยละ 39.9 ที่พบมะเร็งร่วมกับโรคหลอดเลือดดำของขาอุดตัน โดยเฉพาะเป็นมะเร็งระบบสืบพันธุ์มากที่สุดถึงร้อยละ 50.3 ได้แก่ มะเร็งปากมดลูก และมะเร็งรังไข่ รองลงมาเป็นมะเร็งระบบทางเดินอาหารร้อยละ 13.2 ส่วนใหญ่เป็นมะเร็งลำไส้และทวารหนัก ทั้งนี้ โรคมะเร็งทั้งหมดที่พบส่วนใหญ่เกิดภายในช่องท้องร้อยละ 75 รศ.นพ.ประมุข กล่าวต่อว่า การนั่งห้อยขาทั้งวัน หรือสวมรองเท้าแล้วเท้าบวม ไม่ต้องตกใจ เป็นภาวะบวมที่เกิดขึ้นได้ แต่หากเกิดแขนและขาบวมอย่างเฉียบพลันมีอาการปวดร่วมด้วย ต้องรีบพบแพทย์อาจมีภาวะหลอดเลือดดำอุดตัน เกิดลิ่มเลือดหลุดไปอุดกั้นปอดหรือหัวใจถึงกับเสียชีวิต (กรุงเทพธุรกิจ พุธที่ 8 มี.ค. 48 http://www.bangkokbiznews.com)





เผยไทยคอร์รัปชั่นติดอันดับ7"เอเชีย"

เมื่อวันที่ 8 มี.ค. เอเอฟพีรายงานจากประเทศสิงคโปร์ว่า บริษัทที่ปรึกษาความเสี่ยงทางการเมืองและเศรษฐกิจ หรือ "เพิร์ก" ได้เปิดเผยรายงานประจำปี ผลการจัดอันดับประเทศทุจริตคอร์รัปชั่นมากที่สุดในเอเชีย สอบถามเก็บข้อมูลจากนักธุรกิจต่างชาติกว่า 900 คน ที่อยู่ใน 12 ประเทศทั่วเอเชีย ระหว่างช่วงเดือนม.ค.-ก.พ.2548 พบว่า ไทยติดอันดับ 7 ในตาราง 12 ประเทศ ที่มีการคอร์รัปชั่นสูงสุดในเอเชีย รายชื่อประเทศที่ปลอดคอร์รัปชั่นน้อยที่สุดไปจนถึงมากที่สุดจากการจัดอันดับของเพิร์ก มีดังนี้ 1.สิงคโปร์ 0.65 คะแนน 2.ญี่ปุ่น 3.46 คะแนน 3.เขตปกครองพิเศษฮ่องกง 3.50 คะแนน 4.เกาะไต้หวัน 6.15 คะแนน 5.เกาหลีใต้ 6.50 คะแนน 6.มาเลเซีย 6.80 คะแนน 7.ไทย 7.20 คะแนน 8.จีน 7.68 คะแนน 9.อินเดีย 8.63 คะแนน 10.เวียดนาม 8.65 คะแนน 11.ฟิลิปปินส์ 8.80 คะแนน และอันดับที่ 12.อันดับสุดท้าย ซึ่งนักธุรกิจต่างชาติเห็นว่ามีการคอร์รัปชั่นมากที่สุดในเอเชีย ได้แก่ อินโดนีเซีย 9.10 คะแนน (ข่าวสด พุธที่ 9 มีนาคม 2548 http://www.matichon.co.th/khaosod)





ยูเอ็นประกาศ ห้ามโคลนนิง มนุษย์ทุกแบบ

สมัชชาใหญ่ยูเอ็นออกคำประกาศ ห้ามโคลนนิงมนุษย์ทุกรูปแบบ ไม่ว่าจะเพื่อวิจัยหรือรักษา หลังได้มติไม่เป็นเอกฉันท์จากนานาชาติ 84 ต่อ 34 เสียง ประธานาธิบดีแห่งสหรัฐ ซึ่งคัดค้านการโคลนนิงมาตั้งแต่ปี 2544 รีบออกแถลงการณ์เห็นชอบกับมติสหประชาชาติ ขณะที่ฝากยุโรปและเอเชีย ยืนยันโคลนนิงเพื่อการรักษาเป็นทางออกทางการแพทย์ หลังจากโต้แย้งกันมานานถึง 4 ปี ในที่สุดที่ประชุมสมัชชาใหญ่องค์การสหประชาชาติ ก็ได้โหวตรับรองคำประกาศห้ามการโคลนนิงมนุษย์ทุกรูปแบบ โดยจากสมาชิก 191 ประเทศ มีเสียงสนับสนุน 84 ประเทศ ขณะที่เสียงคัดค้านมีเพียง 34 ประเทศ และงดออกเสียงอีก 37 ประเทศ อย่างไรก็ดี คำประกาศดังกล่าวไม่มีข้อมูลผันทางกฎหมายที่ประเทศสมาชิกต้องปฏิบัติตาม ต่างจากการลงมติ (resolution) ซึ่งมีข้อผูกพันทางกฎหมายที่ประเทศสมาชิกต้องปฏิบัติตาม เนื่องจากยูเอ็นต้องการหลีกเลี่ยงความขัดแย้งในประเด็นดังกล่าว สำหรับประเทศที่โหวตสนับสนุนข้อเสนอห้ามการโคลนนิงมนุษย์ทุกรูปแบบ ได้แก่ สหรัฐ กลุ่มประเทศแอฟริกา อาหรับ และอเมริกาใต้ ขณะที่ยุโรป และกลุ่มประเทศเอเชียกลับไม่เห็นด้วยกับข้อห้ามดังกล่าว นักวิทยาศาสตร์ที่ได้รับการสนับสนุนทุนวิจัยจากรัฐบาล อาทิ เบลเยียม อังกฤษ สิงคโปร์ และจีน กล่าวว่า โคลนนิงถือเป็นความหวังในการรักษาผู้คนนับ 100 ล้านคนที่ป่วยเป็นโรคที่ไม่มีทางรักษาให้หายได้ เช่น อัลไซเมอร์ มะเร็ง เบาหวาน และอัมพาต ขณะที่กลุ่มที่คัดค้านกลับมองว่าการโคลนนิงเพื่อการบำบัด ก็คือ การทำลายชีวิตนั่นเอง เพราะตัวอ่อนมนุษย์จะถูกสร้างขึ้นมาเพื่อดึงเอาสเต็มเซลล์ออกมาใช้ จากนั้นตัวอ่อนก็จะถูกทำลายทิ้งในเวลาต่อมา (กรุงเทพธุรกิจ พฤหัสบดีที่ 10 มี.ค. 48 http://www.bangkokbiznews.com)





ยูเนสโกตกลงตั้งเตือนภัยสึนามิมหาสมุทรอินเดีย

สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานว่า ผู้เชี่ยวชาญแผ่นดินไหวที่กำลังประชุมอยู่ในสำนักงานองค์การศึกษาวิทยาศาสตร์และพัฒนาธรรมแห่งสหประชาชาติ(ยูเนสโก) ในกรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส ได้ตกลงในเรื่องเทคโนโลยีและระยะเวลาการติดตั้งระบบเตือนภัยล่วงหน้าที่มหาสมุทรอินเดีย และยังสนุบสนุนให้ติดตั้งระบบดังกล่าวในมหาสมุทรแคริบเบียน แอตแลนติก และเมดิเตอร์เรเนียน นายแพทริซิโอ เบอร์นาล ประธานคณะกรรมาธิการสมุทรวิทยาระหว่างรัฐกล่าวในที่ประชุมว่า ประเทศที่ติดกับมหาสมุทรอินเดียได้ตกลงที่จะติดตั้งระบบเตือนภัยสึนามิล่วงหน้าในมหาสมุทรอินเดีย โดยในระยะแรกประเทศเหล่านี้จะได้รับข้อมูลเกี่ยวกับแผ่นดินไหวตั้งแต่วันที่ 1 เมษายนนี้ จากสถานีตรวจแผ่นดินไหวในกรุงโตเกียวและฮาวายในสหรัฐอเมริกา จากในระยะที่ 2 จะมีการติดตั้งระบบวัดคลื่นน้ำในมหาสมุทร 6 แห่ง ทางตะวันออกของมหาสมุทรอินเดีย ซึ่งส่วนใหญ่ติดกับประเทศไทย อินโดนีเซีย และมาเลเซีย และจะมีการปรับปรุงระบบวัดคลื่นน้ำที่มีอยู่ 15 แห่ง แผนสุดท้ายคือติดตั้งระบบเตือนภัยสึนามิทันสมัยทั่วมหาสมุทรอินเดีย ซึ่งจะทำหน้าที่เหมือนศูนย์เตือนภัยสึนามิซึ่งจะทำหน้าที่เตือนภัยให้ 26 ประเทศที่ติดกับมหาสมุทรอินเดีย คาดว่าระบบเตือนภัยทั้งหมดจะติดตั้งเสร็จภายในสิ้นปี 2549 (มติชนรายวัน พฤหัสบดีที่ 10 มี.ค. 48 http://www.matichon.co.th)





แอร์เพื่อสุขภาพ

บริษัท ซัยโจ เด็นกิ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด แนะนำนวัตกรรมใหม่ล่าสุด "UV Cleaner" ซึ่งเป็นระบบฟอกอากาศในเครื่องปรับอากาศ "ซัยโจ เด็นกิ" มีจุดเด่นอยู่ที่การฟอกอากาศด้วยรังสี UV นอกจากนี้ ยังเป็นการรวมเอาการทำงานของระบบฟอกอากาศอีก 2 ชุดเข้าด้วยกันคือ ระบบฟอกอากาศ Double A.P.S. และชุดฟอกอากาศ Nano Photocatalyst Filter(Nano Technology) อาศัยหลักการกรอง การดักจับ เพื่อสลายและทำลายมลพิษในอากาศที่ผ่านเข้ามาในเครื่องปรับอากาศเท่านั้นจึงปลอดภัยต่อผู้บริโภค สนใจสอบถามได้ที่ร้านค้าตัวแทนจำหน่ายหรือโทร.0-2611-6222 (มติชนรายวัน พฤหัสบดีที่ 10 มี.ค. 48 http://www.matichon.co.th)





ลำปางรวมพลังหยุดขุดหอยล้านปี

6 องค์กรเอกชนจ.ลำปาง ประกอบด้วยหอการค้า สภาอุตสาหกรรม สมาคมท่องเที่ยว สมาคมเครื่องปั้นดินเผา สมาคมส่งเสริมผู้ประกอบการวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมไทย-ลำปาง และสมาคมสตรีนักธุรกิจและวิชาชีพแห่งประเทศไทย-ลำปาง พร้อมด้วยผู้แทนอบจ. อบต.แม่เมาะ และองค์กรภาคประชาชน ร่วมประชุมหารือถึงการอนุรักษ์สุสานหอยแม่เมาะอายุกว่าล้านปี โดยเรียกร้องให้กฟผ.ชะลอขุดลิกไนต์บริเวณฟอสซิลหอยล้านปี หลังจากกฟผ.เดินหน้าขุดลิกไนต์ไปแล้ว โดยภาคเอกชนและองค์กรท้องถิ่นเห็นว่าเรื่องนี้ประชาชนและทุกฝ่ายให้ความสนใจ เนื่องจากสุสานหอยล้านปีถือว่าเป็นสมบัติของชาติและประชาชนชาวลำปาง ดังนั้น ทุกฝ่ายมีความเห็นในทิศทางเดียวกันว่าอยากขอร้องให้กฟผ.ชะลอการขุดลิกไนต์ในช่วงเวลาที่อยู่ระหว่างการพิจารณาและหาข้อสรุปอย่างเป็นทางการว่า ฟอสซิลหอยเป็นวัตถุโบราณ รวมถึงการขึ้นทะเบียนวัตถุโบราณให้แล้วเสร็จ เพื่อความชัดเจนในการจัดการและอนุรักษ์พื้นที่สุสานหอย ที่สำคัญเรื่องนี้ควรเปิดโอกาสให้ประชาชนคนลำปางมีส่วนร่วมในการออกความเห็น ว่าควรอนุรักษ์ไว้เป็นสมบัติของแผ่นดิน หรือควรปล่อยให้ขุดลิกไนต์เพื่อประโยชน์ทางเศรษฐกิจมากกว่ากัน (ข่าวสด พฤหัสบดีที่ 10 มี.ค. 48 http://www.matichon.co.th/khaosod)





เทิดพระเกียรติ 2 เม.ย."วันหนังสือเด็กแห่งชาติ"

กระทรวงศึกษาธิการรายงานว่า คณะกรรมการนานาชาติด้านหนังสือเด็กและเยาวชน (International Board on Book for Young People-IBBY) ประกาศให้วันที่ 2 เมษายน เป็น "วันหนังสือเด็กแห่งชาติสากล" ซึ่งวันดังกล่าวตรงกับวันคล้ายวันพระราชสมภพของสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี โดยในปีพ.ศ.2548 นี้ นับเป็นปีมหามงคลที่จะทรงเจริญพระชนมายุ 50 พรรษา กระทรวงศึกษาธิการจึงเห็นสมควรน้อมเกล้าฯ ถวายพระเกียรติ โดยรัฐบาลกำหนดให้วันที่ 2 เมษายน เป็น "วันหนังสือเด็กแห่งชาติ" เพื่อรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณที่ทรงส่งเสริมการอ่าน ทรงประพันธ์บทพระราชนิพนธ์สำหรับเด็กและเยาวชนมาแต่ครั้งทรงพระเยาว์ พระปรีชาสามารถทางด้านอักษรศาสตร์เป็นที่ประจักษ์แก่ปวงชนชาวไทยและชาวต่างประเทศ ประกอบกับเป็นการสะท้อนให้เห็นความตั้งใจในการรณรงค์ส่งเสริมการอ่านและพัฒนาหนังสือสำหรับเด็ก รวมทั้งพัฒนาสังคมไทยให้เป็นสังคมแห่งการเรียนรู้ (ข่าวสด พฤหัสบดีที่ 10 มี.ค. 48 http://www.matichon.co.th/khaosod)





มาเลย์ไอเดียเจ๋ง ส่งโรตีเป็นอาหาร ให้นักบินอวกาศหมี

รายงานระบุว่า มาเลเซียมีโครงการชื่อ “บาติก อิน สเปซ” และ “โรตี คาไน อิน สเปซ” โดยจะเป็นการวิจัยหาวิธีที่จะนำอาหารอร่อยชนิดนี้ขึ้นไปบนอวกาศ โดยมาเลเซียมีข้อตกลงกับรัสเซียเรื่องส่งนักบินอวกาศคนแรกขึ้นไปกับยานอวกาศรัสเซียในเดือนตุลาคม 2550 เพื่อปฏิบัติภารกิจในด้านวิทยาศาสตร์บนสถานีอวกาศนานาชาติ รัสเซียและมาเลเซียได้ลงนามข้อตกลงดังกล่าวในระหว่างที่ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน เดินทางเยือนมาเลเซียเมื่อเดือนสิงหาคม 2546 ข้อตกลงนี้เป็นส่วนหนึ่งที่อยู่ในเงื่อนไขการซื้อเครื่องบินรบ ซู-30 เอ็มเคเอ็ม จำนวน 18 เครื่อง จากรัสเซีย รวมมูลค่า 1,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ คาดว่าผู้เชี่ยวชาญจากรัสเซีย 2 คน จะเดินทางมาที่มาเลเซียในเดือนนี้ เพื่อคัดเลือกนักบินอวกาศ และถ้าตกลงเลือกนักบินอวกาศที่เป็นชาวมุสลิมก็จะต้องปรึกษาหารือกับครูสอนศาสนาเรื่องเวลาการสวดมนต์ในอวกาศ และทิศทางที่จะต้องหันหน้าไปยังนครเมกกะn (สยามรัฐรายวัน พฤหัสบดีที่ 10 มี.ค. 48 http://www.siamrath.co.th)





กรมศิลปากรจัดทำข้อมูลดิจิตอล อนุรักษ์หนังสือกรมพระยาดำรงฯ

นายอนุรักษ์ จุรีมาศ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม เข้าเยี่ยมชมหอสมุดดำรงราชนุภาพ และสนับสนุนงบประมาณจำนวน 1 ล้านบาท โดยให้ทางกรมศิลปากรดำเนินการจัดทำโครงการอนุรักษ์หนังสือของสมเด็จฯกรมพระยาดำรงราชานุภาพ ซึ่งจะถูกจัดเก็บข้อมูลที่เป็นหนังสือส่วนพระองค์ให้อยู่ในรูปแบบตัวหนังสืออิเล็กทรอนิกส์(E-Book) ทั้งนี้ “หอสมุดดำรงราชานุภาพ” เป็นห้องสมุดอนุสรณ์ของสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาดำรงราชนุภาพ พระบิดาแห่งประวัติศาสตร์ และโบราณคดีไทย อันเป็นแหล่งรวมพระราชนิพนธ์หนังสือส่วนพระองค์ ซึ่งหม่อมเจ้าพูนพิศมัย ดิศกุล ประทานไว้เป็นสมบัติของชาติ นับเป็นเอกสารหายากที่มีคุณค่าทางประวัติศาสตร์ โบราณคดี ศิลปวัฒนธรรม ขณะที่ทางกรมศิลปากร โดยสำนักหอสมุดแห่งชาติ ได้ดำเนินโครงการจัดทำข้อมูลดิจิตอลหนังสือส่วนพระองค์สมเด็จฯ กรมพระยาดำรงราชานุภาพ เพื่ออนุรักษ์เอกสารต้นฉบับหนังสือส่วนพระองค์ให้มีอายุยืนนาน อีกทั้งสามารถที่จะนำผลงานของพระองค์ออกเผยแพร่ให้กว้างขวางมากยิ่งขึ้นอีกด้วย ทั้งนี้ รูปแบบการดำเนินการนั้น จะมีการจัดทำสำเนาไว้ในรูปของหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ หรือที่เรียกว่า E-Book เพื่อให้บริการ ซึ่งสามารถสืบค้นข้อมูลผ่านเครือข่ายอินเตอร์เน็ตได้สะดวกรวดเร็ว โดยมีงบประมาณหนึ่งล้านบาท เพื่อที่จะทำหนังสือดังกล่าวประมาณ 380 เรื่อง จำนวน 50,000 หน้า เริ่มดำเนินการตั้งแต่บัดนี้ไปจนถึงเดือนกันยายน 2548ขณะที่ในส่วนที่เหลือนั้นจะดำเนินการด้วยเงินงบประมาณในปีต่อๆ ไปจนแล้วเสร็จ (สยามรัฐรายวัน พฤหัสบดีที่ 10 มี.ค. 48 http://www.siamrath.co.th)





กรมศิลป์เอาจริงนักค้าวัตถุโบราณ

นายอารักษ์ สังหิตกุล อธิบดีกรมศิลปากร กระทรวงวัฒนธรรม (วธ.) เปิดเผยถึงมาตรการและการปรับปรุงกฎหมายการลักลอบ ค้าโบราณวัตถุทั้งในประเทศและข้ามชาติว่า ตามมติคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันที่ 8 มี.ค. เห็นชอบในหลักการร่างกฎกระทรวง 2 ฉบับ ว่าด้วยการขออนุญาตค้าวัตถุโบราณตาม พ.ร.บ.โบราณสถาน โบราณวัตถุ ศิลปวัตถุและพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พ.ศ.2504 และร่างกฎกระทรวงว่าด้วยการขอรับใบอนุญาตส่งหรือนำโบราณวัตถุออกนอกราชอาณาจักร ทั้งนี้ ก็เพื่อให้มีการพิทักษ์รักษาศิลปวัตถุที่เป็นทรัพย์สมบัติของแผ่นดิน ห้ามมีการนำไปค้าขายเด็ดขาด หากพบว่ามีการยักยอกไปขายหรือค้าขายต่อ หากฝ่าฝืนมีโทษจำคุก 7 ปี ปรับ 7 แสนบาทหรือทั้งจำทั้งปรับ ส่วนใครที่รับซื้อไว้มีโทษจำคุก 5 ปี ปรับ 5 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ส่วนที่เป็นสมบัติของบุคคลต้องมีใบอนุญาตออกจากกรมศิลปากรอย่างถูกต้อง ดังนั้น โบราณวัตถุชิ้นใดของไทยที่ยังอยู่ต่างประเทศ ไม่มีหลักฐานชัดเจนว่าใครเป็นเจ้าของ ให้สันนิษฐานว่าเป็นโบราณวัตถุของชาติ และถือว่าเป็นการลักลอบ และการปรับปรุงกฎหมายเป็นส่วนหนึ่งในการแก้ ปัญหา แต่ควรสร้างจิตสำนึกหวงแหนพร้อมๆ กันด้วย (ไทยรัฐ ศุกร์ที่ 11 มี.ค. 48 http://www.thairath.co.th)





ก.เกษตรให้เอกชนตรวจรับรองสินค้าระบบ GAP

อาหารปลอดภัย(FOOD SAFETY) เพื่อพัฒนามาตรฐานการผลิตและสุขอนามัยของสินค้าเกษตรให้ทัดเทียมมาตรฐานสากล คณะอนุกรรมการพัฒนาอาหารไทยภายใต้โครงการครัวไทยสู่ครัวโลก ซึ่งมีนายบรรพต หงษ์ทอง ปลัดกระทรวงเกษตรฯเป็นประธาน จึงได้ร่วมกับเครือข่าย GAP ภาคตะวันตกมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์กำแพงแสน และบริษัท BSI Insprctorate จำกัด จัดโครงการ ฝึกอบรมผู้ตรวจประเมินระบบ GAP ที่เป็นระดับสากล เพื่อพัฒนาคุณภาพผู้ตรวจประเมินของไทย ให้สอดคล้องกับสถานการณ์การส่งออกสินค้าเกษตรที่นับวันจะรุนแรงมากขึ้น การอบรมจะจัดขึ้น 2 รุ่น โดยการอบรมดังกล่าวจะเชิญผู้เชี่ยวชาญโดยตรงจากต่างประเทศมาให้ความรู้กับผู้เข้าร่วมโครงการ ส่วนความรู้ในการอบรมทั้งเรื่องวิธีการตรวจสอบ และประเมินผลการับรองระบบผลผลิตสินค้าเกษตร และอาหารส่งออก จะเน้นมาตรฐานของ EUREGAP ซึ่งอียูกำหนด เพราะนอกจากอียูจะเป็นประเทศคู่ค้าที่สำคัญของสินค้าเกษตรไทยแล้ว ยังมีแนวโน้มว่าประเทศออสเตรเลีย และญี่ปุ่นจะนำมาตรฐานดังกล่าวไปปฏิบัติด้วย โดยผู้ที่สนใจสามารถสอบถามได้ที่ กลุ่มเครือข่าย GAP ภาคตะวันตก อาคารศูนย์มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์กำแพงแสน (สยามรัฐรายวัน ศุกร์ที่ 11 มี.ค. 48 http://www.siamrath.co.th) นั่งรถจักรไอน้ำเที่ยวอยุธยา นางสุขุมาลย์ ศรีตุลา หัวหน้ากองประชาสัมพันธ์ การรถไฟแห่งประเทศไทย(ร.ฟ.ท.) แจ้งว่า ร.ฟ.ท.ได้จัดเดินขบวนรถจักรไอน้ำระหว่างกรุงเทพฯ-อยุธยา ไปเช้า-เย็นกลับ ในวันที่ 26 มีนาคมนี้ เพื่อฉลองวันคล้ายวันสถาปนากิจการรถไฟ ครบรอบ 108 ปี โดยขบวนดังกล่าวจะรวมถึงการจัดรถยนต์โดยสารพาชมสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ของ จ.พระนครศรีอยุธยา เช่น ศูนย์ศึกษาประวัติศาสตร์อยุธยา วัดไชยวัฒนาราม เป็นต้น สำหรับขบวนนี้จะพ่วงตู้รถโดยสารเพียง 9 ตู้ บรรจุนักท่องเที่ยวได้ประมาณ 600 คน นักท่องเที่ยวที่สนใจจะร่วมเดินทางติดต่อซื้อตั๋วล่วงหน้าได้แล้ว ในราคาค่าโดยสารรถไฟคนละ 100 บาท ค่ารถยนต์ 140 บาท หรือสอบถามรายละเอียดได้ที่โทร.0-2220-4334 และโทร.สายด่วน 1690 ตลอด 24 ชั่วโมง (กรอบบ่าย) (มติชนรายวัน ศุกร์ที่ 11 มี.ค. 48 http://www.matichon.co.th)





มรภ.ธนบุรีเชิญชมยูมาร์ท-โชว์นวัตกรรมเจ๋ง

มหาวิทยาลัยราชภัฏธนบุรี ขอเชิญชมนิทรรศการ "ก้าวทันโลกบนพื้นฐานภูมิปัญญาไทย" ในงาน "มติชน U Mart" ระหว่างวันที่ 16-17 มีนาคมนี้ ที่ศูนย์การค้าเซ็นทรัล ลาดพร้าว ในงานจะได้พบกับตัวอย่างโปรแกรมซอฟต์แวร์ไทย The PHP Code Generator Model For MySQL ซึ่งพัฒนาขึ้นเพื่อสร้างฐานข้อมูลจำลองสำหรับนำไปพัฒนาเศรษฐกิจและการสร้างงาน เป็นโปรแกรมที่สามารถนำไปใช้ได้ง่ายและสามารถนำไปขยายผลในเชิงพาณิชย์ และตัวอย่างโปรแกรมซอฟต์แวร์ไทย Mobile Payment System หรือระบบขายสินค้าผ่านมือถือ ซึ่งเป็นโปรแกรมที่พัฒนาขึ้นเพื่อนำไปเป็นช่องทางในการสื่อสารและการดำเนินงานทางธุรกิจ โดยผ่านโทรศัพท์มือถือ ผลงานศิลปกรรม ประกอบด้วยการประยุกต์ภูมิปัญญาไทยผ่านมุมมอง และการสร้างสรรค์ของนักศึกษา อาทิ โครงการออกแบบหมากรุกไทยสไตล์อาร์ต นูโว ซึ่งเป็นการออกแบบโดยใช้รูปแบบศิลปะตะวันตกมาพัฒนาหมากรุกให้ดูน่าสนใจ โครงการออกแบบโคมไฟตั้งพื้นจากรูปลักษณ์ของตัวโขน ตัวละครไทย โครงการออกแบบสื่อประชาสัมพันธ์กรุงเทพฯ เมืองแฟชั่น 2005 โดยมีการนำเสนอสื่อโปสเตอร์ รวมถึงเสื้อผ้าที่ออกแบบเพื่อประชาสัมพันธ์สถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญในกรุงเทพฯ นอกจากนี้ยังประกอบด้วย นิทรรศการแอนิเมชั่น อาหาร ขนมไทย และเครื่องดื่ม ตลอดจนการสมัครเข้าเรียนในโปรแกรมวิชาต่างๆ ของมหาวิทยาลัยราชภัฏธนบุรี ทั้งภาคปกติ ภาคสมทบ และภาค กศ.บป. มากกว่า 50 โปรแกรมวิชา (ข่าวสด ศุกร์ที่ 11 มี.ค. 48 http://www.matichon.co.th/khaosod





ศศินทร์ คว้าแชมป์ BBC 2004! นวัตกรรมยาจาก 'ใยไหม' ก้าวต่อไปสู่เวทีโลก MOOT CORP

การประกวดแผนธุรกิจ Bangkok Business Challenge 2004 ซึ่งจัดติดต่อกันมาปีนี้เป็นครั้งที่ 3 แล้ว โดยในปีนี้ ทีมจาก "สถาบัน ศศินทร์" ที่มีดีกรีเป็นถึงแชมป์เก่าที่ยังคงความเก๋าอยู่จนได้แชมป์ไปอีกเป็นครั้งที่ 2 "Pharmasilk" คือ ของทีมผู้ชนะเลิศจากศศินทร์ โดยสมาชิกประกอบไปด้วย "นิกม์ พิศลยบุตร", "ไตรเตชะ ตั้งมติธรรม", "สุวิดา กิ่งเมืองเก่า" และ "วิสาข์ กวินเลิศวัฒนะ" และพวกเขากำลังจะก้าวเข้าสู่เวทีต่อไปที่ใหญ่กว่า นั่นคือ การประกวดแผนธุรกิจระดับนานาชาติ the Asia MOOT CORP 2005 ในระหว่างวันที่ 15-17 มี.ค. 48 ณ โรงแรมแกรนด์ ไฮแอท เอราวัณ ซึ่งมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์เป็นเจ้าภาพในการจัดการประกวด ทีม Pharmasilk ได้ร่วมประกวดแผนธุรกิจใน BBC2004 ในรอบสุดท้ายเมื่อวันที่ 5-6 มี.ค. 2548 ที่ผ่านมา โดยได้รับทุนเป็นจำนวนเงิน 30.8 ล้านบาท (หรือ 800,000 ดอลลาร์สหรัฐ) จากผู้ร่วมทุนหรือเวนเจอร์แคปปิตอล เพื่อพัฒนา, ผลิต และจำหน่าย "FibroCure" ยารักษาแผลกดทับที่ยังไม่เคยผลิตใช้ที่ไหนในโลก ที่ผลิตจากโปรตีนที่ผลิตออกมาจากส่วนของใยไหม หรือที่เรียกว่าไฟโบรอิน (Fibroin) ที่เป็นผลงานวิจัยของ ดร.ปลื้มจิตต์ โรจนพันธุ์ นักวิชาการจากคณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล ใช้เวลากว่า 4 เดือน เพื่อพัฒนาแผนธุรกิจให้กับยาชนิดใหม่ ซึ่งเป็นการสกัดเอาโปรตีนที่เรียกว่า Fibroin จากไหมที่สามารถหาได้จากเศษของไหมที่เหลือจากขั้นตอนในการทอผ้า ซึ่งจากวัตถุดิบดังกล่าวทำให้ได้ต้นทุนที่มีราคาไม่สูงมากนัก ในไฟโบรอินจะมี Moiturizing agent และ Silk peptide powder ที่สามารถซึมเข้าผิวหนังได้ ซึ่งนิกม์บอกว่ามีคุณสมบัติในการช่วยสมานแผล และรักษาแผลได้เร็วขึ้นถึง 60% ยาจะมีลักษณะเป็นครีม เมื่อทาไปที่แผลสดจะกระตุ้นให้สร้างเนื้อเยื่อใหม่ แผลจะปิดได้เร็วขึ้น ซึ่งเหมาะกับการใช้รักษาแผลที่เกิดจากการกดทับหรือแผลที่เกิดจากอุบัติเหตุ ชัยชนะครั้งนี้จะทำให้ทีม Pharmasilk ก้าวสู่ขั้นต่อไปในการเข้าร่วมประกวดใน Asia MOOT CORP 2005 ซึ่งประเทศไทย โดยมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์เป็นเจ้าภาพ โดยการประกวด Asia MOOT CORP นั้นจะมีทีมที่เข้าประกวดประมาณ 20 ทีม ที่มาจาก Business School ชั้นนำจากประเทศจีน ฮ่องกง อินเดีย เกาหลีใต้ สิงคโปร์ ฟิลิปปินส์ ไต้หวัน และไทย โดยผู้ชนะการประกวดในไทยจะเป็นทีมตัวแทนไปแข่งขันในรอบสุดท้ายในการประกวด MOOT CORP 2005 กับอีก 29 ทีมตัวแทนจากภูมิภาคต่างๆ ทั่วโลก ณ University of Texas ที่ Austion สหรัฐอเมริกา ในเดือนพฤษภาคม 2548 (กรุงเทพธุรกิจ เสาร์ที่ 12 มี.ค. 48 http://www.bangkokbiznews.com)





ไทยขอเป็นแหล่งมรดกโลกอีก

ประเทศไทยนำเสนอแหล่งมรดกทางวัฒนธรรมและทางธรรมชาติขึ้นบัญชีเป็นแหล่งมรดกโลก ซึ่งปัจจุบันมีทั้งสิ้น 4 แห่ง คือ บ้านเชียง เมืองประวัติศาสตร์สุโขทัยและเมืองบริวาร นครประวัติศาสตร์ พระนครศรีอยุธยา และเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวร-ห้วยขาแข้ง และประเทศไทยในการนำเสนอแหล่งมรดกทางวัฒนธรรมและทางธรรมชาติ ให้บรรจุในทะเบียนรายชื่อแหล่งมรดกโลกเพิ่มเติมอีก 11 แห่ง ซึ่งขณะนี้ยูเนสโกตอบรับข้อเสนอแล้วด้วย โดยแหล่งมรดกโลก 11 แห่ง ประกอบด้วยแหล่งมรดกทางวัฒนธรรม 7 แห่ง ได้แก่ เส้นทางสายวัฒนธรรม : ปราสาทหินพิมาย ปราสาทหินพนมรุ้งและปราสาทเมืองต่ำ อุทยานประวัติศาสตร์ภูพระบาท จังหวัดอุดรธานี สภาพภูมิทัศน์บริเวณแม่น้ำเจ้าพระยาจากสะพานพุทธยอดฟ้าถึงท่าวาสุกรี วัดเบญจมบพิตรดุสิตวนาราม วัดสุทัศนเทพวราราม และเสาชิงช้า วัดราชนัดดารามวรวิหารและพื้นที่ต่อเนื่อง พระปฐมเจดีย์ แหล่งก่อนประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมของจังหวัดน่าน และแหล่งมรดกทางธรรมชาติ 4 แห่ง ได้แก่ พื้นที่อนุรักษ์ชายฝั่งทะเลอันดามัน อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน กลุ่มพื้นที่ป่าเทือกเขาเพชรบูรณ์ ประกอบด้วยอุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า อุทยานแห่งชาติทุ่งแสลงหลวง อุทยานแห่งชาติภูกระดึง เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูหลวง อุทยานแห่งชาติน้ำหนาว เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูเขียว และพื้นที่ต่อเนื่อง และพื้นที่กลุ่มเขาใหญ่-ดงพญาเย็น (อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่-ทับลาน-ปางสีดา-ตาพระยา-และเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าดงใหญ่) สำหรับพื้นที่กลุ่มป่าเขาใหญ่-ดง พญาเย็น สหพันธ์นานาชาติเพื่อการอนุรักษ์ธรรมชาติ (ไอยูซีเอ็น) ได้เข้ามาตรวจสอบและประเมินคุณค่าของพื้นที่เสร็จแล้ว ซึ่งคณะทำงานของไอยูซีเอ็นพอใจกับแผนการปรับปรุงพื้นที่อุทยานฯ โดยสร้างเส้นทาง เชื่อมต่อระหว่างเขาใหญ่-ทับลานที่มีถนนตัดผ่าน เพื่อให้สัตว์เดินผ่านไปได้ ซึ่งคณะกรรมการมรดกโลกประเทศไทยคาดว่า ผืนป่าแห่งนี้จะได้รับการประกาศเป็นมรดกโลกภายในการประชุมยูเนสโก เดือนมิถุนายนนี้ ที่ประเทศแอฟริกา. (เดลินิวส์ อาทิตย์ที่ 13 มี.ค. 48 http://www.dailynews.co.th)






KMUTT Digital Library
Contact Digital Library : info@lib.kmutt.ac.th
Tel : 0-2470-8215