หัวข้อข่าวปีที่ 6 ฉบับที่ 14 ประจำวันที่ 2005-04-18

ข่าวการศึกษา

กทม.ตั้งมหาวิทยาลัย พัฒนาบุคลากร-บริการคนกรุง
"รุ่ง" ประกาศเดินหน้าวชช. เตรียมตั้งครบทุกจังหวัด
ราชภัฏอีสาน-ญวน ร่วมทำหลักสูตรดร.
"รุ่ง"กร้าวต้องยุบรวมมรภ.นครพนม
ยกร่าง พ.ร.บ.กศน.เลิกเน้นโครงสร้าง ยึดหลักจัดการศึกษาตลอดชีวิต
ราชมงคลเปิดโควตารับเด็กอาชีวะเรียนปริญญา
เสมา2” ลั่นไม่ล้มผลิตครู5ปี
สกอ.ของบรัฐบาล 3 พันล้าน ตั้งศูนย์เป็นเลิศคณิต-ฟิสิกส์
วิศวกรพันธุ์ใหม่ ยุคพลังงานแพง

ข่าววิทยาศาสตร์/เทคโนโลยี

สวทศ.-ทรูจัดแข่งโครงงานวิทย์ ฝึกเยาวชนให้รู้จักคิดเป็นทำเป็น
สำรวจพบแดนสวรรค์บนดวงจันทร์ เหมาะกับไปตั้งรีสอร์ตอยู่กันวันหน้า
มนุษย์เร่งมือตามล่าเพื่อนต่างดาว หนักข้อขึ้นกว่าปัจจุบันอีก 100 เท่า
ไซน์พาร์คเหนือหนุนเอสเอ็มอี 200 ราย ขอ 3 พันล้านสร้างคลัสเตอร์ท้องถิ่น
ทีเซลล์ดันไทยศูนย์อุตฯ การแพทย์-สุขภาพ สร้างฐานเศรษฐกิจใหม่อิงเทคโนโลยีชีวภาพ
ซอฟต์แวร์แกะรอยเวบลามก เล็งแจกตำรวจทั่วโลกใช้ฟรี
ดันไทยเป็นสนามสอบใบรับรองไซเบอร์
องค์กรทั่วโลกตื่นตัวระบบรปภ.เครือข่ายคอมพ์

ข่าววิจัย/พัฒนา

วช.เร่งศึกษาบูรณาการยา ฝันไกลผลิตสินค้าส่งออก
รถโมบายผลิตไบโอดีเซลคันแรกของไทย
ราชมงคลวิจัย ไฟฟ้าจากคลื่น ถูกกว่าแสงแดด
นักวิทยาศาสตร์ผลิตน้ำแม่เหล็ก เข้าไปอบก้อนมะเร็งให้ร้อนตาย
อาหารแบบกรีซเป็นยาอายุวัฒนะ อยู่นานเกินคนอื่นไปได้อีกหนึ่งปี
วิจัยพืชแม่สี 16 ตัวพื้นบ้านภาคใต้ ใช้สร้างเอกลักษณ์ผ้าชุมชนพุทธและมุสลิม
ชุดตรวจลายนิ้วมืออัตโนมัติ เทคโนโลยีสัญชาติไทย
แพทย์รามาโชว์สเต็มเซลล์ในงาน'จากหิ้งสู่ห้าง'
ม.เชียงใหม่รับสมัครผู้ติดเชื้อร่วมงานวิจัย ผนึกสหรัฐค้นหาเวลาดีสุดให้ยาต้านเอดส์
สธ.ร่วมทีเซลส์วิจัยเหยื่อสึนามิแก้โรคเครียด
ผลวิจัยสหรัฐเตือน ยาสีฟันดัง เจอสารก่อมะเร็ง
สหรัฐสร้างหุ่นยนต์ศัลยแพทย์ทหาร ผ่าตัดช่วยชีวิตกลางสนามรบ
ธาตุสังกะสีบำรุงสมองนักเรียน เห็นผลเรียนดีในชั่วเวลาอัน
มือถือไม่ทำให้เป็นมะเร็งเพิ่มขึ้น แนะให้ใช้หูฟังดีกว่าถือแนบกับหู
เชื้อโรคอยู่ตามแป้นคอมพิวเตอร์ ติดต่อแพร่กระจายไปถึงคนอื่นได้
หม้อทองเหลืองใส่น้ำดีกว่าหม้อดิน มีอำนาจอิทธิฤทธิ์ฆ่าเชื้อโรคได้
กินปลามันๆดีกว่าต้องไปหาหมอ เพราะโรคสมองเสื่อมตอนแก่ตัว
พิษบุหรี่ตกทอดถึงลูกถึงหลาน ยายนิยมควันทำให้หลานจับหืด
วิจัยบูรณาการ รับงบ6พันล้าน ลดพึ่งพาต่างชาติ
เชื้อเพลิงอุ่นอาหารจากพลังแดดปลอดมลพิษไร้กลิ่นรบกวน
สิงคโปร์ผลิตยาถล่มมะเร็ง อาศัยตัวนำส่งวิถีร้ายทำลายเนื้อ
รถติดอุปกรณ์ วัดระดับแอลกอฮอล์ ป้องกันตีนผีขี้เมา
มิติใหม่เล่นเกมบนมือถือใช้นิ้วแตะกล้องดิจิทัลบนโทรศัพท์แทนปุ่มบังคับ
มรช.รวมพลังวิจัยผ้าทอพื้นเมือง
สามล้อเครื่องรถเข็นนั่งคนพิการ ประดิษฐกรรมชิ้นเอกมรภ.สกล

ข่าวทั่วไป

มช.รับรางวัล27ล. ผลพัฒนางานวิจัย
ร้อนนี้ว่ายน้ำอย่างปลอดภัย
ใช้เทคนิควิธีรักษาหมาพิการหาย จะเอามาทดลองปฏิบัติกับมนุษย์
คนดังเอเชียในโผ"ไทม์" 100บุคคลทรงอิทธิพลโลก
หนุนจัดงาน"วิสาขบูชาโลก"ที่พุทธมณฑล
ใช้หัวเราะขับความอ้วนออกไป หัวร่อทางจมูกช่วยลดรอบพุงลง
ยูเอ็นตั้งรางวัลใหม่คุ้มครองสิ่งแวดล้อมโลก
เนคเทค จัดอบรม T-Engine สร้างคนด้านสมองกลฝังตัว





ข่าวการศึกษา


กทม.ตั้งมหาวิทยาลัย พัฒนาบุคลากร-บริการคนกรุง

รองผู้ว่าฯ กทม.เผยเตรียมตั้งมหาวิทยาลัย ปรับโฉมการศึกษา กทม. พร้อมลดสัดส่วนนักเรียนเหลือ 35 คนต่อห้อง ใช้ระบบไอซีทีให้นักเรียนหาความรู้เพิ่ม รมช.ศธ.หนุนเป็นมหานครแห่งการเรียนรู้ แนะเปิดรั้วสถานศึกษาให้ชาวบ้านได้หาความรู้ ระบุ ศธ.ผุดเลิร์นนิ่งทีวี-ติดอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงให้โรงเรียน ดร.รุ่ง แก้วแดง รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (รมช.ศธ.) กล่าวในการสัมมนา "กระบวนทัศน์ใหม่ : การเรียนการสอนศิลปะร่วมสมัย" ที่โรงแรมราชเทวี จัดโดยสำนักการศึกษา กทม.และมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ (มศว) ว่าพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ตั้งใจว่า 4 ปีของนายกฯ ทักษิณ 2 จะพัฒนาการศึกษาอย่างสม่ำเสมอ ทำให้ใน 3 ปีข้างหน้าการศึกษาไทยจะเปลี่ยนแปลงไปอย่างมาก ซึ่งกรอบความคิดการศึกษาของนายกฯ เป็นกรอบเดียวกับปฏิรูปการศึกษาที่ให้คนเรียนรู้ตั้งแต่อยู่ในท้องแม่จนถึงสิ้นลมหายใจ ดังนั้น การศึกษาของคนไทยจึงเป็นการศึกษาของพ่อแม่ กทม.จะทำงานตามนโยบายการศึกษาของรัฐบาลง่ายมาก เพราะมีสำนักการศึกษากับสำนักอนามัยอยู่ด้วยกัน โดยการให้ความรู้แก่พ่อแม่ตั้งแต่เด็กอยู่ในท้องแม่ได้ 4-5 เดือน เช่น การให้อาหาร การเลี้ยงดูเด็ก และเมื่อเด็กออกจากท้องแม่ รัฐบาลมีนโยบายส่งเสริมให้เด็กรักการอ่าน รวมถึงสร้างสังคมแห่งการเรียนรู้ตลอดชีวิต ซึ่งโรงเรียนสังกัด กทม.ควรเปิด 24 ชั่วโมงเหมือนร้านเซเว่นอีเลฟเว่น เช่น วิชาศิลปะนอกจากสอนนักเรียนแล้ว ก็เปิดสอนภาคค่ำให้แก่ชาวบ้าน เพื่อให้ กทม.เป็นมหานครแห่งการเรียนรู้ ดร.วัลลภ สุวรรณดี รองผู้ว่าราชการ กทม. ด้านการศึกษา กล่าวว่า ส่วนการจัดตั้งมหาวิทยาลัย กทม.อยู่ระหว่างศึกษาข้อมูล หากจะตั้งขึ้นคงไม่ทันในปีการศึกษา 2548 และเมื่อตั้งขึ้นมาจะไม่ไปจัดการศึกษาซ้ำซ้อนกับของมหาวิทยาลัยรัฐ อาทิ มศว จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย แต่จัดการศึกษาเพื่อสนองตอบต่อความต้องการของบุคลากรและชาว กทม (คมชัดลึก จันทร์ที่ 11 เม.ย. 48 http://www.komchadluek.net)





"รุ่ง" ประกาศเดินหน้าวชช. เตรียมตั้งครบทุกจังหวัด

ดร.รุ่ง แก้วแดง รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (รมช.ศธ.) เปิดเผยว่า เมื่อเร็วๆ นี้ ได้หารือกับประธานกรรมการวิทยาลัยชุมชน (วชช.) ซึ่งได้ยืนยันว่า รัฐบาลจะดำเนินการโครงการวิทยาลัยชุมชนตามเป้าหมายเดิมต่อไป คือจะทยอยเปิด วชช.ให้ครบทุกจังหวัด หลังจากเปิดไปแล้ว 10 แห่ง หลักสูตร วชช. 10 แห่ง มีหลายหลักสูตรที่ได้รับความนิยม เช่น ระดับอนุปริญญา หลักสูตรการปกครองส่วนท้องถิ่น มีผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นมาเรียนจำนวนมาก หรือใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ หลักสูตรดูแลเด็กได้รับความนิยมจากผู้ดูแลเด็กในศูนย์เด็กเล็ก หรือโรงเรียนตาดีกา หรือหลักสูตรภาษาเขมรได้รับความนิยมจากผู้ค้าขายตามชายแดนไทย-กัมพูชา (คมชัดลึก จันทร์ที่ 11 เม.ย. 48 http://www.komchadluek.net)





ราชภัฏอีสาน-ญวน ร่วมทำหลักสูตรดร.

ผศ.ดร.ภัทรธิรา ผลงาม ประธานสาขายุทธศาสตร์การพัฒนา มหาวิทยาลัยราชภัฏเลย กล่าวถึงหลักสูตรในการที่จะเปิดปริญญาเอกของมหาวิทยาลัยราชภัฏเลยว่า หลักสูตรนี้พัฒนาขึ้นโดยการระดมสรรพกำลังคณาจารย์วุฒิปริญญาเอก ในมหาวิทยาลัยราชภัฏภาคตะวันออกเฉียงเหนือทั้งหมด 13 แห่ง ร่วมกับมหาวิทยาลัยในประเทศอาณาบริเวณลุ่มแม่น้ำโขง เช่น Hanoi Universiy วิทยาลัยสร้างครูหลวงพระบาง Institute for southeast Asia Studies เป็นต้น ยุทธศาสตร์การพัฒนาคุณภาพ หมายถึงการพัฒนาภูมิภาคและท้องถิ่น โดยใช้กระบวนการวิจัยเป็นเครื่องมือ มุ่งเน้นการพัฒนาชุมชนที่ยั่งยืน โดยขอบเขตและเป้าหมายการพัฒนาในอนุภูมิภาคลุ่มน้ำโขง ซึ่งประกอบด้วย 6 ประเทศ ได้แก่ ไทย จีนตอนใต้ พม่า สปป.ลาว เขมร เวียดนาม โดยเน้นการสร้างผู้นำการเปลี่ยนแปลงทั้งในระดับท้องถิ่นและประเทศ ดังนั้นหลักสูตรนี้จึงตอบสนองนโยบายของรัฐบาล ตามข้อตกลงความร่วมมือทางเศรษฐกิจการค้าระหว่างประเทศ GMS-EC (Creater Mekong Subregional Economic Cooperation) หรือที่เรียกว่า โครงการหกเหลี่ยมเศรษฐกิจ โดยมีขอบเขตการพัฒนาในด้านต่างๆ ได้แก่การเกษตร การค้าชายแดน การลงทุน การท่องเที่ยว และการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ หลักสูตรนี้ยังสอดคล้องกับปฏิญญาพุกาม ยุทธศาสตร์ความร่วมมือทางเศรษฐกิจ 4 ประเทศด้วย ในส่วนโครงสร้างหลักสูตรนั้น ประกอบด้วยการเรียนวิชาสัมพันธ์ 12 หน่วยกิต วิชาเฉพาะด้าน 12 หน่วยกิต (บังคับ 6 และเลือก 6 หน่วยกิต) รวมทั้งวิทยานิพนธ์ 36 หน่วยกิต โดยการตัดการเรียนการสอนเป็น 5 กลุ่มวิชาคือ กลุ่มอนุภูมิภาคลุ่มน้ำโขง หรือภูมิภาคอื่นๆ กลุ่มการเกษตรและสิ่งแวดล้อม กลุ่มการศึกษาและจัดการภูมิปัญญา กลุ่มสาธารณสุขชุมชน และกลุ่มเศรษฐกิจและวัฒนธรรมชุมชน สำหรับคุณสมบัติของผู้เรียนไม่เน้นความสามารถทางภาษาอังกฤษ ไม่ใช้ค่า TOEFL เป็นตัวชี้ขาด แต่ต้องสามารถสื่อสารกับชนชาติใดๆ ในอุณหภูมิภาคลุ่มน้ำโขงได้อย่างน้อย 2 ภาษา เช่น ไทย ลาว (ข่าวสด จันทร์ที่ 11 เม.ย. 48 http://www.matichon.co.th/khaosod)





"รุ่ง"กร้าวต้องยุบรวมมรภ.นครพนม

นายรุ่ง แก้วแดง รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ(ศธ.) เปิดเผยกรณีร่าง พ.ร.บ.จัดตั้งมหาวิทยาลัยนครพนม ที่วุฒิสภาได้แก้ไขเปลี่ยนแปลงเนื้อหาสาระสำคัญของร่าง พ.ร.บ. โดยให้ยุบรวมเฉพาะมหาวิทยาลัยราชภัฏ(มรภ.)นครพนม และมหาวิทยาลัยมหาสารคาม(มมส.) วิทยาเขตนครพนม เข้าด้วยกัน ในขณะที่ผู้บริหาร มรภ.นครพนม พยายามล็อบบี้เพื่อไม่ให้ถูกยุบรวม โดยอ้างว่า มรภ.เป็นนามพระราชทาน พร้อมทั้งล่ารายชื่อคณาจารย์ นักศึกษา และประชาชนเพื่อต่อต้านการยุบรวมนั้น ตนเห็นว่ามหาวิทยาลัยนครพนมจัดตั้งล่าช้าทั้งที่มหาวิทยาลัยนราธิวาสจัดตั้งไปเรียบร้อยแล้ว เนื่องจากปัญหาการเมืองภายใน จ.นครพนม มีความเห็นไม่ตรงกันระหว่าง ส.ส.และ ส.ว.เกี่ยวกับการยุบรวมสถาบันระดับอุดมศึกษาในจังหวัด แต่อย่างไรก็ตาม รัฐบาลได้ประกาศนโยบายแล้วว่าจะต้องเดินหน้าผลักดันร่าง พ.ร.บ.จัดตั้งมหาวิทยาลัยนครพนม ให้แล้วเสร็จภายในการประชุมสภาผู้แทนราษฎรสมัยนี้ สำหรับผลการหารือร่วมกับสำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา(สกอ.) ที่ประชุมอธิการบดีแห่งประเทศไทย(ทปอ.) และสำนักงบประมาณ เมื่อเร็วๆ นี้ ถึงแนวทางในการเพิ่มเงินเดือนให้กับพนักงานมหาวิทยาลัยนั้น ผลการหารือสำนักงบประมาณเห็นด้วยในหลักการและความจำเป็นที่จะต้องขึ้นเงินเดือนให้กับพนักงานมหาวิทยาลัยตามที่ ทปอ.เสนอ แต่จะขึ้นในสัดส่วนเท่าใดนั้นยังไม่ได้ข้อยุติ ได้มอบหมายให้ สกอ.ไปจัดทำเอกสารสรุปตัวเลขที่แน่นอน เพื่อนำเสนอเข้าสู่ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) พิจารณา ทั้งนี้ (มติชนรายวัน จันทร์ที่ 11 เม.ย. 48 http://www.matichon.co.th)





ยกร่าง พ.ร.บ.กศน.เลิกเน้นโครงสร้าง ยึดหลักจัดการศึกษาตลอดชีวิต

นายทองอยู่ แก้วไทรฮะ ประธานคณะทำงานพัฒนาร่าง พ.ร.บ.การศึกษานอกโรงเรียน เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะทำงานว่า ที่ประชุมได้เสนอในเรื่องของชื่อ พ.ร.บ. ว่าควรจะใช้ชื่อ พ.ร.บ.การศึกษานอกโรงเรียน หรือ พ.ร.บ.การศึกษาตลอดชีวิต ซึ่งยังไม่ได้ ข้อสรุปที่แน่ชัด จึงต้องนำเรื่องนี้หารือกันอีกครั้ง ส่วนสาเหตุที่ร่าง พ.ร.บ.ยังไม่ผ่านออกมามีผลบังคับใช้นั้น ทาง นายรุ่ง แก้วแดง รมช.ศึกษาธิการ (ศธ.) ชี้แจงว่าเป็นเพราะร่างพ.ร.บ.เดิมที่ยังไม่ผ่านการพิจารณาของสภานั้น ไปเน้นในเรื่องของโครงสร้างในการเป็นกรมการศึกษานอกโรงเรียน มากกว่าการจัดการศึกษาให้กับประชาชน นายรุ่งจึงแนะนำว่าควรยึดตามหลักของ พ.ร.บ.การศึกษาแห่งชาติ พ.ศ.2542 เป็นหลัก เพราะมีหลายมาตราที่บอกถึงหน่วยงาน และการจัดการศึกษาตลอดชีวิต เช่น มาตรา 4 มาตรา 12 ที่ประชุมยังเสนออีกว่า หากต้องการให้การดำเนินการร่าง พ.ร.บ.ฉบับนี้เป็นไปอย่างรวดเร็ว ควรเปิดกว้างรับฟังความคิดเห็นจากคนทั่วไป เพื่อให้เข้ามามีส่วนในการร่าง พ.ร.บ.ฉบับนี้ โดยจะเปิดให้แสดงความเห็นผ่านทางเว็บไซต์ของ กศน. และจะจัดเวิร์กช็อปรับฟังความคิดเห็นจากหน่วยงานภาคเอกชน ประชาชน สถานศึกษา ปลายเดือน เม.ย.นี้ นอกจากนี้ที่ประชุมเสนอด้วยว่า ควรมีการกำหนดวิธีการของการทำงานซึ่งต้องลดความเป็นราชการลง เพื่อให้เกิดความคล่องตัว ลงในร่าง พ.ร.บ.ฉบับนี้ด้วย" นายทองอยู่กล่าว และว่า ส่วนการร่าง พ.ร.บ.ฉบับนี้นั้น ต้องยกร่างใหม่ แม้ พ.ร.บ.ฉบับเดิมจะผ่าน ครม. แล้ว แต่เมื่อตั้งรัฐบาลใหม่ ต้องดำเนินการใหม่หมด อย่างไรก็ตาม ร่าง พ.ร.บ.ฉบับนี้รัฐบาลกำหนดให้อยู่ในแผนพัฒนากฎหมาย ซึ่งกำหนดไว้ว่า ใน 1 ปี จะต้องดำเนินการให้เสร็จ. (ไทยรัฐ จันทร์ที่ 11 เม.ย. 48 http://www.thairath.co.th)





ราชมงคลเปิดโควตารับเด็กอาชีวะเรียนปริญญา

ผศ.ดร.นำยุทธ สงค์ธนาพิทักษ์ รักษาการอธิการบดีมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล (มทร.) กล่าวถึงกรณีที่ ดร.อดิศัย โพธารามิก รมว. ศึกษาธิการ มีนโยบายให้ มทร. รับนักศึกษาระดับอาชีวศึกษาเข้าศึกษาต่อในระดับปริญญาตรีมากขึ้น ว่า มทร.ยินดีที่จะรับนักเรียนและนักศึกษาที่จบจากสายอาชีวะเข้าศึกษาต่ออยู่แล้ว เพียงแต่อยากให้รมว.ศึกษาธิการ มอบนโยบายเรื่องนี้ให้ชัดเจนและเป็นทางการ โดยอาจจะจัดให้มีการลงนามความร่วมมือระหว่างสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (สอศ.) กับ มทร. เพื่อจะได้มีการเชื่อมโยงกันอย่างเป็นระบบ โดยการเชื่อมโยงนี้คงไม่ใช่เฉพาะการรับนักเรียน นักศึกษา เข้าศึกษาต่อระดับปริญญาตรีใน มทร.เพิ่มมากขึ้นเท่านั้น แต่จะรวมถึงการใช้ทรัพยากร และการแลกเปลี่ยนทางวิชาการร่วมกันด้วย และในอนาคตหาก สอศ. ขยายการสอนปริญญาตรีตนก็เชื่อว่าจะไม่เป็นการจัดการศึกษาที่ซ้ำซ้อนกัน แต่จะเกี่ยวเนื่องกันมากกว่า เพราะมีเป้าหมายที่แตกต่างกัน โดยอาชีวศึกษาจะเน้นการปฏิบัติการเชิงเทคนิค ส่วน มทร. จะเน้นในเชิงวิชาการ ในปีการศึกษา 2548 นี้ มทร. จะเปิดรับนักศึกษา ทั้งสิ้น 40,000 คน โดยจะเปิดโอกาสให้นักเรียน นักศึกษาที่จบจากสายอาชีวศึกษา ที่มีผลการเรียนเฉลี่ยตั้งแต่ 2.75 ขึ้นไป สามารถสมัครเข้าศึกษาต่อโดยผ่านระบบโควตา ส่วนสัดส่วนของโควตาที่ มทร.แต่ละแห่งจะรับนั้นก็ขึ้นอยู่กับความพร้อมของแต่ละแห่ง นอกจากนี้ มทร.ยังมีโครงการยกระดับความรู้ ความสามารถของบุคลากรในภาคเอกชน และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น โดยมีโควตาให้ศึกษาต่อในระดับปริญญาตรี และเปิดให้เทียบโอนความรู้ ความสามารถออกมาเป็นหน่วยกิต ซึ่งในเบื้องต้นพบว่าบุคลากรสนใจเข้าศึกษาต่อในคณะวิศวกรรมศาสตร์มาก (เดลินิวส์ อังคารที่ 12 เม.ย. 48 http://www.dailynews.co.th)





เสมา2” ลั่นไม่ล้มผลิตครู5ปี

ดร.รุ่ง แก้วแดง รมช.ศึกษาธิการ กล่าวถึงโครงการผลิตครูการศึกษาขั้นพื้นฐานหลักสูตร 5 ปี ซึ่งนายไพฑูรย์ สินลารัตน์ อาจารย์ประจำคณะครุศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ระบุว่ารัฐบาลจะไม่จัดสรรงบประมาณดำเนินโครงการดังกล่าวให้กับนักศึกษาครูหลักสูตร 5 ปี รุ่นที่ 2 ว่า เรื่องนี้ถือเป็นส่วนหนึ่งของการปฏิรูปการศึกษา โครงการนี้ยังคงต้องดำเนินอีกต่อไป เนื่องจากตามมติคณะรัฐมนตรี(ครม.) ระบุว่า จะต้องมีการประเมินผลในรุ่นแรกก่อน แต่เนื่องจากขณะนี้ยังไม่มีการสรุปอย่างเป็นทางการ ดังนั้น จะหารือร่วมกับสำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา (สกอ.) มหาวิทยาลัยที่เข้าร่วมโครงการฯ ทั้ง 50 แห่ง โดยจะนำผลการประเมินนักศึกษามาพิจารณาร่วมกัน ซึ่งหากผลออกมาเป็นที่น่าพอใจ นักศึกษารุ่นที่ 2 ก็น่าจะได้รับการสนับสนุน เพราะสามารถจะเสนอทบทวนต่อ ครม.ได้ ซึ่งคาดว่าหลังจากสงกรานต์จะได้ข้อสรุปที่ชัดเจน เรื่องงบประมาณที่กลัวว่าจะไม่มีให้ต่อนั้นไม่ใช่ปัญหาหลัก เพราะขาดเหลือก็เพียงเล็กน้อยสามารถหางบฯ มาสานต่อได้ไม่ยาก ส่วนเด็กที่ได้เกรดเฉลี่ยไม่ถึงตามเป้านั้นก็น่าจะมีวิธีการช่วยเหลือ เนื่องจากก่อนหน้านี้มีโครงการคุรุทายาท ซึ่งเด็กก็ประสบปัญหาในลักษณะนี้ก็ยังสามารถแก้ไขได้ ดังนั้นน่าจะต้องมาหารือร่วมกันว่าจะดำเนินการช่วยเหลืออย่างไร ทั้งนี้ หากการหารือได้ข้อสรุปว่าให้รับนักศึกษารุ่น 2 ต่อ ก็จะสามารถดำเนินการได้ในปีการศึกษา 2548 เลย โดยคัดเลือกนักศึกษาที่สมัครเข้าศึกษาต่อในระดับอุดมศึกษาหรือ เอนทรานซ์ คณะศึกษาศาสตร์ และครุศาสตร์ ซึ่งมีคะแนนสูงมาร่วมโครงการฯ (สยามรัฐรายวัน อังคารที่ 12 เม.ย. 48 http://www.siamrath.co.th)





สกอ.ของบรัฐบาล 3 พันล้าน ตั้งศูนย์เป็นเลิศคณิต-ฟิสิกส์

สำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา (สกอ.) ได้เร่งจัดทำแผนงบประมาณ เพื่อจัดตั้งศูนย์ความเป็นเลิศทางด้านคณิตศาสตร์และฟิสิกส์ ให้ทันปีงบประมาณ 2549 โดยจะเสนอของบผูกพัน 5 ปี จำนวน 3,000 ล้านบาท สำหรับการผลิตงานวิจัย และผลิตบุคลากร เพื่อผลิตดุษฎีบัณฑิตสายคณิตศาสตร์ปีละ 50 คน และสายฟิสิกส์ปีละ 80 คน โดย ดร.สุชาติ เมืองแก้ว รองเลขาธิการคณะกรรมการการอุดมศึกษา (กกอ.) บอกว่า ประเทศยังมีความต้องการบุคลากรสาขาคณิตศาสตร์ระดับปริญญาเอก ปีละ 50 คน แต่ขณะนี้มีเพียงจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ม.มหิดล และ ม.เชียงใหม่ เท่านั้นที่ผลิตบัณฑิตสาขาดังกล่าว และผลิตได้แค่ปีละ 7 คน ส่วนสาขาฟิสิกส์มีความต้องการบุคลากร 80 คน แต่ปัจจุบันผลิตได้เพียง 15-16 คน จากจุฬาฯ ม.เชียงใหม่ ม.มหิดล และ ม.เทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี จึงมีความจำเป็นต้องตั้งศูนย์พัฒนาความเป็นเลิศทั้ง 2 สาขา ซึ่งต้องเตรียมอุปกรณ์และห้องปฏิบัติการ รวมทั้งทุนผลิตงานวิจัย และผลิตบัณฑิตระดับปริญญาโทและเอกด้วย สำหรับศูนย์ความเป็นเลิศด้านคณิตศาสตร์ มีมหาวิทยาลัยเสนอตัวขอจัดตั้งศูนย์ 3 สถาบัน ได้แก่ ม.ขอนแก่น ม.มหิดล และจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ส่วนศูนย์ความเป็นเลิศด้านฟิสิกส์ มี ม.มหาสารคาม ม.ธรรมศาสตร์ ม.มหิดล ม.ศรีนครินทรวิโรฒ ม.ธรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าลาดกระบัง ซึ่ง สกอ.ได้ตั้งคณะกรรมการพิจารณาความเหมาะสม แต่หากทุกมหาวิทยาลัยมีศักยภาพเพียงพอที่จะจัดตั้งศูนย์ความเปิดเลิศได้ก็จะเปิดพร้อมกันในทุกแห่ง โดยให้มีศูนย์ขนาดใหญ่สาขาละแห่ง ส่วนที่เหลือจะเป็นศูนย์ย่อยแบ่งตามสาขาวิชา (คมชัดลึก ศุกร์ที่ 15 เม.ย. 48 http://www.komchadluek.net)





วิศวกรพันธุ์ใหม่ ยุคพลังงานแพง

รศ.ดร.บัณฑิต ฟุ้งธรรมสาร ผู้อำนวยการบัณฑิตวิทยาลัยร่วมด้านพลังงานและสิ่งแวดล้อม (JGSEE) กล่าวถึงปัญหาการขาดแคลนบุคลากรทางด้านพลังงานและสิ่งแวดล้อมของไทย ว่า ถือเป็นปัญหาที่สำคัญของประเทศ เนื่องจากพัฒนาและการใช้พลังงานจำเป็นต้องผู้ที่มีความรู้เฉพาะ มีศักยภาพสูงที่จะเข้าถึงความรู้ในเชิงลึกได้ ซึ่งปัจจุบันประเทศไทยยังขาดแคลนบุคลากรทางด้านนี้อยู่เป็นจำนวนมาก ดังนั้น JGSEE ซึ่งเป็นหนึ่งในเจ็ดศูนย์แห่งความเป็นเลิศ (Center of Excellence) และมีหน้าที่ผลิตบุคลากรด้านพลังงานและสิ่งแวดล้อม จึงเปิดหลักสูตรระดับปริญญาโท หลักสูตรเทคโนโลยีและการจัดการพลังงาน และ หลักสูตรเทคโนโลยีและการจัดการสิ่งแวดล้อม เพื่อสร้าง “วิศวกรและนักวิจัยพันธุ์ใหม่” ที่มีความเข้าใจในการบริหารจัดการพลังงานและสิ่งแวดล้อมอย่างแท้จริง นักศึกษาจะได้ร่วมปฏิบัติกับภาคอุตสาหกรรมเป็นเวลาอย่างน้อย 5 เดือน เพื่อเรียนรู้ “ระบบ” และ “ปัญหา” ที่เป็นของจริงทั้งในประเทศและนอกประเทศ โดยเฉพาะประเทศอุตสาหกรรม เพื่อให้นักศึกษาได้มีประสบการณ์ที่แตกต่างขึ้น” .อาจกล่าวได้ว่า นี่คือหลักสูตรวิชาชีพ ที่มุ่งสร้างให้ “คน” เป็น “นาย” ของเทคโนโลยีอย่างแท้จริง สำหรับผู้สนใจในหลักสูตรนานาชาติ “เทคโนโลยีการจัดการพลังงาน” และ “เทคโนโลยีการจัดการสิ่งแวดล้อม” สามารถสอบถามเพิ่มเติมและสมัครได้ที่ ฝ่ายการศึกษาJGSEE อาคารคณะพลังงานและวัสดุ ม.เทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี โทร .0-2470-8337-8 หรือที่ www.jgsee.kmutt.ac.th ภายในวันที่ 30 เม.ย.นี้ (สยามรัฐ พุธที่ 13 เม.ย. 48 http://www.siamrath.co.th)





ข่าววิทยาศาสตร์/เทคโนโลยี


สวทศ.-ทรูจัดแข่งโครงงานวิทย์ ฝึกเยาวชนให้รู้จักคิดเป็นทำเป็น

น.ส.เสาวนีย์ ลิมมานนท์ รองผู้อำนวยการ หัวหน้าสายงานสื่อสารองค์กร และส่งเสริมกิจกรรมสาธารณะ บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) เปิดเผยถึงการจัดประกวด "โครงงานวิทยาศาสตร์ ระดับประถมศึกษา ระดับชาติ ประจำปี 2548" ว่าจะรับสมัครนักเรียนที่กำลังศึกษาในระดับประถมศึกษาชั้นปีที่ 5-6 ทั้งภาครัฐและเอกชนทั่วประเทศ (ทุกสังกัด) ร่วมสร้างสรรค์ผลงานวิทยาศาสตร์ เพื่อพัฒนาประเทศ ซึ่งโครงงานที่เข้ารอบสุดท้าย 15 โครงงานจะจัดแสดงในงานสัปดาห์วิทยาศาสตร์แห่งชาติ ในวันที่ 18-25 สิงหาคม 2548 ผศ.ดร.อารมณ์ เพชรชื่น นายกสมาคมวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีศึกษาไทย กล่าวว่า ผลงานที่ส่งเข้าประกวดต้องเป็นนักเรียนผู้จัดทำ ทีมละไม่เกิน 3 คน ซึ่งนักเรียน 1 คนมีสิทธิร่วมส่งโครงงานได้เพียง 1 โครงงาน โดยแต่ละโรงเรียนสามารถส่งโครงงานได้ไม่เกิน 6 โครงงาน โครงงานที่เข้ารอบสุดท้ายจะได้รับเหรียญรางวัล เกียรติบัตรและเงินสนับสนุนค่าใช่จ่ายในการทำและส่งโครงงานเข้าประกวด โครงงานละ 3,000 บาท ส่วนโครงงานที่ได้รับรางวัลชมเชยในการคัดเลือกรอบแรก จะได้รับเกียรติบัตรรางวัลชมเชย เปิดรับสมัครโครงงานตั้งแต่เดือนมิถุนายน และปิดรับสมัครกลางเดือนกรกฎาคมนี้ ส่งโครงงานได้ที่ฝ่ายชุมชนสัมพันธ์ บมจ.ทรู คอร์ปอเรชั่น เลขที่ 18 อาคารทรู คอร์ปอเรชั่น ถนนรัชดาภิเษก ห้วยขวาง กทม. 10310 โทร.0-2643-0367 กด 0-4 โทรสาร 0-2699-4910 อีเมล : apichart.co.th เวบไซต์ www.truecorp.co.th หรือ www.smileschool-whitenet.com และที่ฝ่ายประชาสัมพันธ์สมาคมวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีศึกษาไทย ซี/โอ อาจารย์มณฑล อนันตรศิริชัย โรงเรียนหอวัง ถนนพหลโยธิน จตุจักร กทม. 10900 โทร.0-2939-7408 (คมชัดลึก จันทร์ที่ 11 เม.ย. 48 http://www.komchadluek.net)





สำรวจพบแดนสวรรค์บนดวงจันทร์ เหมาะกับไปตั้งรีสอร์ตอยู่กันวันหน้า

นักดาราศาสตร์ของมหาวิทยาลัยจอห์น ฮอปกิ้นส์ สหรัฐฯ เปิดเผยในวารสารวิทยาศาสตร์ "ธรรมชาติ" แจ้งว่า แดนสวรรค์อยู่บริเวณที่เป็นที่ดอน ใกล้กับขั้วเหนือของดวงจันทร์ ห้อมล้อมด้วยหลุมยักษ์ 3 หลุมที่ชื่อว่า "เพียรี" "เฮอไมต์" และ "รอซเดสต์เวนสกี" อุณหภูมิแถบนั้นอยู่ประมาณระหว่าง-40 องศาถึง-60 องศาเซลเซียส ซึ่งตามสภาพดินฟ้าอากาศของดวงจันทร์แล้วถือว่าอุณหภูมิค่อนข้าง จะสม่ำเสมอและเย็น เพราะอย่างอุณหภูมิแถวแถบเส้นศูนย์สูตรจะขึ้นลงอยู่ระหว่าง-180 ถึง 100 องศา สาเหตุที่นักดาราศาสตร์รู้สึกดีใจ ก็เนื่องจากบริเวณนั้นเป็นถิ่นซึ่งจะมีแสงแดดส่องอยู่ ตลอดปี ซึ่งหมายว่าจะสามารถหาพลังงานมาใช้ได้อย่างเหลือเฟือ ทั้งยังจะหาน้ำได้จากบริเวณใกล้เคียง ที่เชื่อกันว่าเป็นที่ซึ่งมีน้ำแข็งขังอยู่ตลอดเวลา เนื่องจากอยู่ในหลุมบ่อที่โดนปกคลุมด้วยร่มเงาอยู่ทั้งเดือนทั้งปี (ไทยรัฐ เสาร์ที่ 16 เม.ย. 48 http://www.thairath.co.th)





มนุษย์เร่งมือตามล่าเพื่อนต่างดาว หนักข้อขึ้นกว่าปัจจุบันอีก 100 เท่า

6 ชาติ ตกลงร่วมมือกันจะสร้าง "หอโทรทรรศน์วิทยุระหว่างประเทศของศตวรรษที่ 21" มูลค่า 40,000,000,000 บาทขึ้น หอโทรทรรศน์วิทยุระหว่างประเทศที่จะสร้างขึ้น จะต้องใช้พื้นที่กว้างใหญ่ไพศาล ที่ประชุมของผู้แทนนานาชาติเห็นกันว่า จะมีชาติเพียงไม่กี่ชาติที่มีพื้นที่ว่างกว้างขวาง พอจะสร้างได้ ในบรรดาชาติเหล่านี้จะมีแต่ อาร์เจนตินา ออสเตรเลีย บราซิล แอฟริกาใต้ และจีน ศาสตราจารย์เอส อนันตกฤษนัน ผู้แทนอินเดียที่ร่วมประชุม กล่าวเปิดเผยว่า ตัวสถานีจะประกอบด้วยหอเสาอากาศประมาณ 4,000 หอ หรือมากกว่า และยังจะต้องสร้างข่ายทอดยาวออกไป เป็นแนวยาวเหยียดอีกระหว่าง 2,000-3,000 กม. เฉพาะตัวหอแม่จะต้องใช้พื้นที่ 1 ล้าน ตร.ม. กับยังมีหอลูกอีกประมาณ 1,000 สถานี "ไม่มีหอโทรทรรศน์วิทยุ หรืออุปกรณ์ ไม่ว่าจะอยู่บนโลก หรือในอวกาศที่ไหน ไม่ว่าจะด้วยขนาดคลื่นความถี่ขนาดไหนเท่าเทียมได้ ตามเป้าหมายกะว่าจะสร้างให้แล้วเสร็จในระหว่าง พ.ศ.2555-2563"นอกจากเพื่อจะใช้ศึกษาถึงต้นกำเนิดของจักรวาล แหล่งระเบิดของรังสีแกมมา และแหล่งคลื่นแรงโน้มถ่วงแล้ว ยังจะเพื่อค้นหาสิ่งที่มีชีวิตที่มีสติปัญญา ที่อาจจะมีอยู่ที่โลกอื่นด้วย "เพราะเราได้รู้ในช่วงระยะเวลา 6 ปีมานี้ว่า มีระบบสุริยจักรวาล ที่มีทั้งดวงอาทิตย์และดาวเคราะห์เป็นบริวารอยู่ด้วยกันประมาณ 150 แห่ง ทำให้เราคาดหวังได้ว่า เราคงอาจพบดาวเคราะห์ที่มีขนาดเท่าอย่างโลกของเรา ภายในช่วงระยะเวลา 15-20 ปีข้างหน้านี้เข้าได้สักดวงหนึ่ง". (ไทยรัฐ พุธที่ 13 เม.ย. 48 http://www.thairath.co.th)





ไซน์พาร์คเหนือหนุนเอสเอ็มอี 200 ราย ขอ 3 พันล้านสร้างคลัสเตอร์ท้องถิ่น

เป็นเวลาเกือบสองปีเต็ม นับตั้งแต่คณะรัฐมนตรีมีมติให้ก่อตั้งอุทยานวิทยาศาสตร์ภาคเหนือขึ้น เพื่อส่งเสริมให้เกิด "คลัสเตอร์" ความร่วมมือกันระหว่างนักวิจัย สถาบันการศึกษา และภาคธุรกิจของเอกชน เพื่อสร้างความแข็งแกร่งให้กับอุตสาหกรรมภาคเหนือ แม้ปัจจุบันสถานที่ทำงานของ "ไซน์พาร์ค" ยังต้องอาศัยอาคารภายในมหาวิทยาลัยเชียงใหม่เป็นสถานที่ปฏิบัติการ ระหว่างการก่อสร้างสถานที่ทำงานแห่งใหม่ แต่ผู้อำนวยการไซน์พาร์คภาคเหนือได้ตั้งเป้าขับเคลื่อนนวัตกรรมใหม่ของผู้ประกอบการธุรกิจขนาดกลางและเล็กสู่เชิงพาณิชย์ให้ ได้ 200 รายในปีแรก ดร.กระหยิ่ม ศานต์ตระกูล ผู้อำนวยการอุทยานวิทยาศาสตร์ (ไซน์พาร์ค) ภาคเหนือ กล่าวถึงแผนธุรกิจที่จะมีการนำเสนอต่อสภาพัฒนาเศรษฐกิจและสังคม ว่า ทางอุทยานได้ตั้งเสนองบประมาณทั้งสิ้นประมาณ 3,000 ล้านบาท แบ่งออกเป็นงบประมาณที่จะใช้ในการดำเนินโครงการพัฒนาเชื่อมโยงและพัฒนาศักยภาพของเครือข่ายต่างๆ และเตรียมให้ความช่วยเหลือสนับสนุนเทคโนโลยีให้กับผู้ประกอบการวิสาหกิจชุมชน และวิสาหกิจขนาด กลางและขนาดย่อมใน 17 จังหวัดภาคเหนือได้ไม่ต่ำกว่า 200 ราย อุทยานวิทยาศาสตร์ภาคเหนือนั้นมีแนวคิด ที่จะบริหารจัดการและแยกตัวออกมาเป็นหน่วยงานอิสระ ที่สามารถหารายได้มาเลี้ยงดูตัวเองได้หลังจาก 3-5 ปีหลังจากนี้ การบริหารจัดการเพื่อหารายได้นั้นคงต้องมีรูปแบบการจัดการที่เหมาะสมกับการเป็นอุทยานวิทยาศาสตร์ในส่วนภูมิภาคไม่ยึดต้นแบบของกรุงเทพฯมาทั้งหมด เนื่องจากมีข้อปลีกย่อยด้านทรัพยากร และภูมิปัญญาที่แตกต่างไป (กรุงเทพธุรกิจ ศุกร์ที่ 15 เม.ย. 48 http://www.bangkokbiznews.com)





ทีเซลล์ดันไทยศูนย์อุตฯ การแพทย์-สุขภาพ สร้างฐานเศรษฐกิจใหม่อิงเทคโนโลยีชีวภาพ

นายแพทย์ธงชัย ทวิชาชาติ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารศูนย์ความเป็นเลิศด้านชีววิทยาศาสตร์ของประเทศไทย (ที-เซลล์) กล่าวถึง ภารกิจหลักของศูนย์ ว่า มุ่งส่งเสริมการลงทุนและพัฒนาธุรกิจชีววิทยาศาสตร์ในประเทศไทย โดยจะผลักดันให้เกิดความร่วมมือระหว่างหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งรัฐบาล ผู้ประกอบการ สถาบันการศึกษาและบริษัทต่างชาติ รวมทั้งส่งเสริมการลงทุน สร้างความสามารถในงานวิจัย และพัฒนาด้านวิทยาศาสตร์ชีวภาพภายในประเทศ ในการดำเนินงานขั้นต้นของศูนย์ จะเปิดโอกาสให้นักลงทุนต่างชาติเข้ามาทำธุรกิจ และสร้างโรงงานผลิตเชิงอุตสาหกรรมในกลุ่มผลิตภัณฑ์อาหารเสริมจากสารสกัดสมุนไพร ที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพดวงตาของผู้สูงอายุ ซึ่งมีงานวิจัยของนักวิทยาศาสตร์ไทยรองรับอยู่แล้ว แต่ขาดการสนับสนุนที่จะต่อยอดสู่การผลิตเชิงอุตสาหกรรม ศูนย์ที-เซลล์ ก่อตั้งขึ้นภายหลังจากการประชุมเจรจาความร่วมมือในสาขาวิทยาศาสตร์ชีวภาพระหว่างคณะกรรมการของไทยกับสภาธุรกิจสหรัฐ-อาเซียน เมื่อวันที่ 18 มิถุนายน 2547 ศูนย์แห่งนี้ มีฐานะเป็นหน่วยงานอิสระภายใต้การกำกับดูแลของสำนักนายกรัฐมนตรี มีเป้าหมายที่จะผลักดันประเทศไทยก้าวสู่ความเป็นผู้นำ และศูนย์กลางการลงทุนด้านวิทยาศาสตร์ชีวภาพของโลก โดยเน้นด้านสุขภาพเป็นหลัก (กรุงเทพธุรกิจ พุธที่ 13 เม.ย. 48 http://www.bangkokbiznews.com)





ซอฟต์แวร์แกะรอยเวบลามก เล็งแจกตำรวจทั่วโลกใช้ฟรี

นายเดวิด เฮมเลอร์ ประธานไมโครซอฟท์แคนาดา กล่าวว่า ซอฟต์แวร์ แกะรอยเวบลามก ที่มีชื่อว่า "ระบบแกะรอยผู้ล่อลวงเด็ก" เป็นซอฟต์แวร์แรกของโลก ที่ออกแบบมาเพื่อปกป้องสิทธิเยาวชน โดยมีเป้าหมายช่วยติดตามจับกุมผู้เผยแพร่และจำหน่ายภาพการทำอนาจารเด็กผ่านอินเทอร์เน็ต โดยอนุญาตให้หน่วยงานตำรวจทั่วโลก สามารถแลกเปลี่ยนข้อมูล หรือสืบหาร่องรอยที่ก่อนหน้านี้ไม่เคยมีการ.0เชื่อมโยงกันมาก่อน ระหว่างการสอบสวนและการค้นหาผู้ต้องสงสัย ทั้งนี้ ผู้เผยแพร่ภาพอนาจารบนอินเทอร์เน็ต มักมีความเชี่ยวชาญด้านคอมพิวเตอร์ ฉะนั้น โปรแกรมดังกล่าวจึงได้บรรจุข้อบังคับทางกฎหมาย "ในระดับที่คนเหล่านี้ทำผิด" เข้าไว้ด้วย โปรแกรมโอเพ่นซอร์ส ประกอบด้วย ไมโครซอฟท์ (แคนาดา) ที่ให้เงินสนับสนุน 1.6 แสนล้านบาท ตำรวจม้าแคนาดา และเจ้าหน้าที่ตำรวจแห่งเมืองโตรอนโต โดยได้รับความช่วยเหลือจากกระทรวงความมั่นคงภายในประเทศ ตำรวจสกอตแลนด์ยาร์ด และตำรวจสากล ซึ่งหลังเปิดตัวจะมีการแจกจ่ายโปรแกรมให้กับตำรวจทั่วโลก โดยไม่คิดค่าใช้จ่ายใดๆ ทั้งนี้ จากรายงานของเอฟบีไอ ระบุว่านับตั้งแต่ปี 2539 อัตราขยายตัวของการเผยแพร่ภาพอนาจารเด็กผ่านอินเทอร์เน็ตถึง 2,000% ขณะที่ สำนักงานตำรวจของแคนาดาคาดว่าปัจจุบันมีเวบไซต์มากกว่า 1 แสนแห่งที่แสดงภาพการล่วงละเมิดทางเพศเด็ก (คมชัดลึก ศุกร์ที่ 15 เม.ย. 48 http://www.komchadluek.net)





ดันไทยเป็นสนามสอบใบรับรองไซเบอร์

นายปริญญา หอมเอนก ประธานและเจ้าหน้าที่บริหารบริษัท เอซิส โปรเฟสชั่นนัลเซ็นเตอร์ จำกัด เปิดเผยว่า ปัจจุบันภัยร้ายบนไซเบอร์สามารถเกิดขึ้นได้จากทุกทิศทางและทุกเวลา จึงจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องมีบุคลากร ผู้เชี่ยวชาญด้านการรักษาความปลอดภัยสารสนเทศ ที่มีความรู้ มีประสบการณ์อย่างลึกซึ้ง ใบรับรองด้านความปลอดภัยสารสนเทศฯ จึงกลายเป็นมาตรฐานของงานหลาย ๆ ด้าน อาทิ ผู้จัดการโครงการ ที่ปรึกษาและผู้ตรวจสอบ ซึ่งประเทศไทยยังขาดบุคลากรในด้านนี้อีกมาก ดังนั้นเอซิส จึงร่วมมือกับ ไอเอสซีสแควร์ องค์กรกลางสากล ที่ให้การรับรองความรู้ความสามารถของมืออาชีพด้านความปลอดภัยสารสนเทศทั่วโลก ถ่ายทอดความรู้และจัดสนามสอบใบรับรองซีไอเอสเอสพีและใบรับรองเอสเอสซีพี ขึ้นเป็นครั้งแรกในประเทศไทย ปัจจุบันไทยมีผู้สอบผ่านใบรับรองดังกล่าวประมาณ 42 คน คาดว่าภายในปีหน้าไทยจะมีผู้สอบผ่านเพิ่มกว่า 1,000 คน. (เดลินิวส์ ศุกร์ที่ 15 เม.ย. 48 http://www.dailynews.co.th)





องค์กรทั่วโลกตื่นตัวระบบรปภ.เครือข่ายคอมพ์

กลุ่มพันธมิตรธุรกิจซอฟต์แวร์ หรือ บีเอสเอ เปิดเผยผลสำรวจเกี่ยวกับความปลอดภัยของสารสนเทศ หรือ อินฟอร์เมชั่นซีเคียวริตี้ ซึ่งเป็นการทำงานร่วม กับ ไอเอสเอสเอ ว่า องค์กรทั่วโลกได้ให้ความสำคัญกับเรื่องระบบรักษาความปลอดภัยของเครือข่ายคอมพิวเตอร์มากขึ้น มีการกำหนดให้เรื่องดังกล่าวเป็นส่วนหนึ่งของระบบการบริหารระดับสูง ซึ่งนอกจากจะช่วยลดความเสี่ยงในการดำเนินงานข้ามองค์กรแล้ว ยังช่วยเพิ่มประสิทธิภาพและศักยภาพการแข่งขันในตลาดด้วย ทั้งนี้ การสำรวจดังกล่าวได้สอบถามความ คิดเห็นของสมาชิกไอเอสเอสเอ จำนวน 850 คน ผ่านระบบออนไลน์และออฟไลน์ ระหว่างวันที่ 8 ธ.ค.47–24 ม.ค. 48 และมีค่าความผิดพลาด 3.4%. (เดลินิวส์ ศุกร์ที่ 15 เม.ย. 48 http://www.dailynews.co.th)





ข่าววิจัย/พัฒนา


วช.เร่งศึกษาบูรณาการยา ฝันไกลผลิตสินค้าส่งออก

ศ.อานนท์ บุณยะรัตเวช เลขาธิการคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ เปิดเผยว่า สำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ (วช.) ให้ทุนอุดหนุนการวิจัยแก่ ดร.ธวัช วิรัตติพงศ์ และคณะทำการศึกษาวิจัยเรื่อง “ความเป็นไปได้และการจัดทำข้อเสนอโครงการทางด้านยา เคมีภัณฑ์และวัสดุอุปกรณ์ทางการแพทย์” เพื่อตอบสนองต่อแผนงานวิจัยแบบบูรณาการที่รัฐบาลได้กำหนดขึ้น โดยหัวข้อการวิจัยมีความสอดคล้องกับยุทธศาสตร์ และแผนงานวิจัยแบบบูรณาการระยะปานกลาง (พ.ศ. 2548 - 2550) ซึ่งมหาวิทยาลัย สถาบันวิจัย หน่วยงานราชการและบริษัทเอกชน ได้ส่งกรอบแนวคิดเกี่ยวกับการวิจัยและพัฒนา เพื่อเข้ารับการพิจารณาบรรจุในแผนงานวิจัยฯ รวมทั้งสิ้น 213 โครงการ ผลการวิจัยพบว่า โครงการที่ผ่านการคัดเลือกจำนวน 40 โครงการ และมีแผนที่จะทำการผลิตผลิตภัณฑ์รวม 69 ผลิตภัณฑ์ จึงได้รวบรวมโครงการทั้งหมดมาจัดทำเป็นแผนงานวิจัยทางด้านยา เคมีภัณฑ์และวัสดุอุปกรณ์ทางการแพทย์ โดยมีเป้าหมายให้เกิดการผลิตและการจำหน่ายผลิตภัณฑ์ ที่ได้จากผลของการวิจัยและพัฒนา ซึ่งจะต้องมีการทำงานร่วมกันกับบริษัทเอกชนหรือก่อตั้งบริษัทใหม่ การวิจัยนับว่ามีความสำคัญต่อประเทศ เพราะสามารถนำผลของการวิจัยไปพัฒนาให้เกิดองค์ความรู้ เกิดการสร้างงาน และนวัตกรรมใหม่ ๆ ขึ้น แต่กระนั้นก็ดีการวิจัยต้องสามารถจับต้องได้ นำไปใช้ให้เกิดประโยชน์ได้ในสังคมและสามารถนำไปสู่การค้าขายและการแข่งขันได้ในตลาดโลก (กรุงเทพธุรกิจ จันทร์ที่ 11 เม.ย. 48 http://www.bangkokbiznews.com)





รถโมบายผลิตไบโอดีเซลคันแรกของไทย

รศ.กำพล ประทีปชัยกูร บัณฑิตวิทยาลัยร่วมด้านพลังงานและสิ่งแวดล้อม และอาจารย์คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ ผู้พัฒนาระบบผลิตไบโอดีเซลแบบต่อเนื่องคันแรกของไทย เปิดเผยว่า ระบบผลิตฯ เป็นผลงานต่อยอดจากการพัฒนา เครื่องผลิตไบโอดีเซลแบบต่อเนื่องในระดับห้องปฏิบัติการ ซึ่งเป็นผลสำเร็จเมื่อปีที่แล้ว โดยระบบหรืออุปกรณ์ทั้งหมดอยู่บนท้ายรถลากจูง 1 คัน เพื่อความสะดวกรวดเร็วในการเคลื่อนย้าย (Mobile Biodiesel Plant) โดยระบบการผลิตแบบต่อเนื่อง (Continuous) ดีกว่าการผลิตแบบกะ (Batch) หลายประการ ตั้งแต่ต้นทุนค่าไฟที่ถูกกว่า เพราะไม่ต้องสูญเสียความร้อนจากการหยุดเครื่องบ่อยๆ รวมถึงความสม่ำเสมอของคุณภาพผลิตภัณฑ์ที่เหนือกว่า จึงศึกษาถึงการขยายกำลังการผลิตจากเดิม ที่ทำได้ชั่วโมงละ 5 ลิตรขึ้นไปอีก 24 เท่า หรือชั่วโมงละ 120 ลิตร โดยจะนำรถคันดังกล่าวมาติดตั้งบริเวณชานเมืองกรุงเทพฯ เพื่อผลิตไบโอดีเซลและนำไปผสมกับน้ำมันดีเซล ก่อนนำไปทดลองใช้กับรถเมล์ ขสมก. ในกลางปีนี้ ขณะนี้มีบริษัทจากอังกฤษนำเครื่องผลิตไบโอดีเซลแบบกะ กำลังผลิตวันละ 150 ลิตร มาเปิดตัวในเมืองไทยที่ราคา 890,000 บาท ขณะที่เครื่องผลิตแบบต่อเนื่อง ที่ให้กำลังผลิตวันละกว่า 2 ตันตัวนี้ ต้นทุนจริงไม่ถึง 2 ล้านบาท จึงคุ้มทุนกว่าเครื่องนำเข้าอย่างมาก (กรุงเทพธุรกิจ จันทร์ที่ 11 เม.ย. 48 http://www.bangkokbiznews.com)





ราชมงคลวิจัย ไฟฟ้าจากคลื่น ถูกกว่าแสงแดด

ดร.วิรชัย โรยนรินทร์ อาจารย์ประจำภาควิชาวิศวกรรมเครื่องกล คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล เปิดเผยถึงแนวคิดการนำคลื่นทะเลมาผลิตเป็นกระแสไฟฟ้าว่า พลังงานทดแทนจากธรรมชาติมีหลายประเภท แต่ที่ถูกนำมาใช้บ่อยสุดน่าจะเป็นพลังงานแสงอาทิตย์ ทั้งๆที่ต้นทุนค่าแผงโซลาร์เซลล์ราคาแพง และผลผลิตกระแสไฟฟ้าที่ได้รับยังต่ำอีกด้วย โดยเมื่อนำพลังงานแสงแดดมาแปลงเป็นกระแสไฟฟ้า 1 วัตต์แล้ว ราคาอยู่ที่ประมาณ 200 - 250 บาท แต่จากการศึกษาวิจัยการผลิตกระแสไฟฟ้าจากการเคลื่อนที่ของคลื่นทะเล พบว่า ต้นทุนในการผลิตมีราคาถูกกว่าคืออยู่ที่ 80 - 100 บาทต่อกระแสไฟฟ้า 1 วัตต์เท่ากัน จึงเชื่อว่าพลังงานจากกระแสคลื่นน่าจะเป็นอีกวิธีหนึ่งที่ถูกนำมาช่วยบรรเทาปัญหาค่าเชื้อเพลิงนำเข้าราคาแพงที่เกิดขึ้น สำหรับระบบการผลิตกระแสไฟฟ้าจากคลื่นนี้ ประกอบด้วย 6 ส่วน ส่วนแรกเป็นชุดรับกำลังจากคลื่นทะเล (1) ซึ่งจะติดตั้งอยู่ในระดับผิวคลื่น เมื่อคลื่นซัดเข้ามาส่วนนี้ก็จะมีการเคลื่อนที่ยกตัว จนเกิดแรงดันชุดลูกสูบ ซึ่งจะอัดน้ำมันไฮดรอลิกหรือของไหลให้ไปตามท่อ (2) ลงสู่ถังเก็บความดัน (3) แล้วไหลต่อไปที่ชุดมอเตอร์ไฮดรอลิก (4) เพื่อบังคับเครื่องปั่นไฟฟ้า (5) ให้ทำงาน แล้วก่อให้เกิดการผลิตกระแสไฟฟ้าขึ้น ส่วนน้ำมันไฮดรอลิก ซึ่งเป็นตัวที่ถ่ายทอดพลังงาน ก็จะไหลมาเก็บไว้ที่ถังเก็บน้ำมัน (6) และรอไหลกลับไปเริ่มต้นที่ชุดรับกำลังจากคลื่นทะเลต่อไป (กรุงเทพธุรกิจ จันทร์ที่ 11 เม.ย. 48 http://www.bangkokbiznews.com





นักวิทยาศาสตร์ผลิตน้ำแม่เหล็ก เข้าไปอบก้อนมะเร็งให้ร้อนตาย

สำนักข่าวออนไลน์ของรัสเซียแจ้งว่า นักวิจัยของสถาบันชีวเคมีฟิสิกส์เอมมานูเอล ของสมาคมวิทยาศาสตร์รัสเซียและมหาวิทยาลัยแห่งรัฐมอสโกได้สร้างสารใหม่ ซึ่งทำให้เป็นแม่เหล็กได้ และนักชีวเคมีได้สังเคราะห์สารเหล่านี้ให้กลายเป็นอนุภาคนาโน ที่จะคงคุณสมบัติทางแม่เหล็กเอาไว้ หากอุณหภูมิอยู่ไม่เกิน 42-45 เซลเซียส อนุภาคนาโนเหล่านี้ยังอาจดัดแปลงให้ เป็นแม่เหล็กน้ำได้อีกด้วย นักวิจัยรัสเซียใช้วิธีรักษาคนไข้มะเร็งได้ โดยใช้สนามแม่เหล็กภายนอกขับอนุภาคนาโนที่มีคุณสมบัติแม่เหล็ก ให้ เข้าไปอยู่ในก้อนเนื้อร้าย มันจะเริ่มอุ่นก้อนเนื้อให้มีอุณหภูมิสูงขึ้นอย่างทั่วถึง อุณหภูมิจะเพิ่มขึ้นจนถึงขีดสุดของมัน จนทำลายเซลล์มะเร็งลง หลังจากนั้นมันจะหมดคุณสมบัติทางแม่เหล็กลง แต่อาจจะใช้สนามแม่เหล็กภายนอก ทำให้มันฟื้นคืนอำนาจแม่เหล็กขึ้นได้อีก เพื่อให้ มันอบก้อนเนื้อร้ายได้ซ้ำอีก เทคนิคการรักษาแบบใหม่นี้ หากใช้ร่วมกับการรักษาทางยา จะยิ่งได้ผลวิเศษยิ่งขึ้น หากว่าอนุภาคของสารซึ่งทำให้เป็นแม่เหล็กได้ ถูกดัดแปลงให้เป็นน้ำแม่เหล็ก จะยิ่งรักษาสะดวกมากขึ้น โดยผสมยาลงไปในน้ำแม่เหล็ก แล้วฉีดให้กับคนไข้ อีกต่อหนึ่ง. (ไทยรัฐ อังคารที่ 12 เม.ย. 48 http://www.thairath.co.th)





อาหารแบบกรีซเป็นยาอายุวัฒนะ อยู่นานเกินคนอื่นไปได้อีกหนึ่งปี

ผลของการศึกษาแสดงหลักฐานให้เห็นทางสถิติว่า อาหารแบบของชาวเมดิเตอร์เรเนียน อันมีปลา น้ำมันมะกอก ผักผลไม้ และธัญญาหาร เป็นหลัก แล้วกลั้วคอด้วยเหล้าไวน์แดงพอหอมปากหอมคอ จะเป็นอาหารอายุวัฒนะ การศึกษาทำกับบรรดาผู้สูงอายุ วัยเกิน 60 ปี ในชาติยุโรป อันมีกรีซ สเปน อิตาลี เยอรมนี เดนมาร์ก และฝรั่งเศส ที่ล้วนแต่กินอาหารแบบชาวเมดิเตอร์เรเนียนแบบเดียวกัน จำนวนเกือบ 75,000 คน พบว่า พวกเขาล้วนแต่พากันอายุยืนขึ้น อัตราการตายได้ลดต่ำลงถึง 7% รายงานการศึกษาทำโดยโรงเรียนแพทย์ มหาวิทยาลัยเอเธนส์ของกรีซ กล่าวว่า ผู้ชายวัย 60 ที่มีร่างกายปกติแข็งแรงดี หากกินอยู่ด้วยอาหารแบบนี้อย่างเคร่งครัด จะมี อายุยืนกว่าเพื่อนคนที่ไม่ได้กินอาหารแบบเดียวกัน โดยเฉลี่ยแล้วประมาณ 1 ปี. (ไทยรัฐ อังคารที่ 12 เม.ย. 48 http://www.thairath.co.th)





วิจัยพืชแม่สี 16 ตัวพื้นบ้านภาคใต้ ใช้สร้างเอกลักษณ์ผ้าชุมชนพุทธและมุสลิม

นางสาวประไพ ทองเชิญ นักวิจัยอิสระเป็นผู้หนึ่งที่ มีความตระหนักต่อสถานภาพสังคม ความเป็นอยู่ของชุมชนชาวใต้ที่เกี่ยวกับปัจจัยสี่ โดยเฉพาะในเรื่องของเครื่องนุ่งห่ม ซึ่งเป็นมรดกที่ตกทอดกันมานับเป็นพันๆปี จึงได้ทำงานวิจัยในเรื่องนี้ขึ้น โดยได้รับการสนับ สนุนจาก สกว. (สำนักงานกองทุนสนับสนุนการวิจัย) ให้จัดทำโครงการวิจัย เชิงปฏิบัติการในหัวข้อ "แม่สีธรรมชาติ ในวิถีผ้าพื้นบ้านทางภาคใต้" และได้ใช้เวลาตลอดคาบ 1 ปีพาคณะเข้าสู่ ชุมชนร่วมเรียนรู้ และถ่ายทอดความรู้สู่กันเป็นการ ระดมผู้รู้ในระดับจังหวัด และภูมิภาค ถ่ายทอดข้อมูลในเทคนิควิธี ในกระบวนการสร้างเส้นใย การย้อม ทอ และ การรังสรรค์ลวดลายบนผ้า อย่างมีเอกลักษณ์ และคุณค่า...ด้วยพืชพันธุ์ ให้สีที่มีอยู่ในท้องถิ่นมาใช้ เป็นกระบวนการผลิต ซึ่งก็ได้พบว่าพื้นที่ภาคใต้มีพืช พันธุ์ธรรมชาติที่สามารถ นำมาเป็นวัตถุดิบ ในการเป็นแม่สี เพื่อพัฒนาการย้อมอยู่ประมาณ 16 ชนิด ที่มีศักยภาพในการขยายพันธุ์ได้เร็ว สามารถหมุนเวียนใช้ได้อย่างต่อเนื่อง และที่สำคัญคือให้สีหรือมีความเป็นสีเด่น (แม่สี)...สามารถไล่โทน ได้ตามความต้องการ (ด้วยระบบเทคนิคการย้อม) และก็พอที่จะแยกกลุ่มสีได้ดังนี้คือ สีเหลืองมีพืชพันธุ์ 5 ชนิด มี มะพูด ย่านมันแดง ขมิ้นชัน ย่านขมิ้นฤาษี กลุ่มสีดำมี 4 ชนิด ต้นจิก ต้นกุระ ต้นเงาะ และหัวครก (มะม่วงหิมพานต์) นอกจากนี้ ยังมีเปลือกต้นก่อ ลูกมะพลับ สีแดงมี 2 ชนิด คือ ต้นชาด หรือต้นคำแสดกับต้นตะบูนแดงและแร่ธาตุ 2 ชนิด คือดินแดงและหินแดง กลุ่มสีน้ำเงินมี 3 ชนิด คือย่านคราม (ครามโมง ครามย่าน) ฮ่อม หรือครามเขียวและครามถั่ว งานวิจัยนี้นอกจากจะได้องค์ความรู้ เกี่ยวกับการทอผ้าพื้นบ้านภาคใต้เพิ่มขึ้น ที่สำคัญทำให้เกิดการตื่นตัวของกลุ่มทอผ้าในการหาพืชท้องถิ่นมาใช้ ประโยชน์ในการรังสรรค์ผ้าทอพื้นบ้าน ให้มีเอกลักษณ์ที่แฝงไว้ซึ่งคุณค่าและวัฒนธรรมในวิถีชีวิตชาวใต้ ทั้งในชุมชนชาวพุทธและไทยมุสลิม (ไทยรัฐ อังคารที่ 12 เม.ย. 48 http://www.thairath.co.th)





ชุดตรวจลายนิ้วมืออัตโนมัติ เทคโนโลยีสัญชาติไทย

ในปัจจุบัน 'ชุดตรวจสอบลายนิ้วมืออัตโนมัติ' ได้กลายเป็นนวัตกรรมใหม่ที่ไม่เพียงนำมาใช้ในการพิสูจน์บุคคล เพื่อรักษาความปลอดภัยในหน่วยทหาร แต่ยังสามารถนำมาประยุกต์ใช้กับชีวิตประจำวันของมนุษย์ แต่ทว่าผลการทดสอบการทำงานของชุดตรวจสอบลายนิ้วมืออัตโนมัติซึ่งถูกพัฒนาขึ้นใช้ในหลายประเทศ จากค่า EER (โอกาสความผิดพลาดจากคนนอกระบบสามารถเข้ามาได้กับการที่คนในระบบถูกปฏิเสธมีค่าเท่ากัน) พบค่าผิดพลาดเฉลี่ย มากถึง 1 ใน 1,000 ถึง 1 ใน 10,000 ขณะที่ตามทฤษฎีโอกาสที่ลายนิ้วมือบางส่วนจะเหมือนกันจริงๆเพียง 1 ใน 16,000,000 ผศ.ดร. วุฒิพงศ์ อารีกุล ภาควิชาวิศวกรรมไฟฟ้า คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ กล่าวว่า แม้ลายนิ้วมือในแต่ละบุคคลจะมีรูปแบบที่จำเพาะมากๆ และไม่เปลี่ยนแปลง แต่ในทางปฏิบัติเมื่อใช้กับชุดเครื่องมือตรวจสอบลายนิ้วมืออัตโนมัติแล้วพบว่า ลายนิ้วมือบางส่วนจะมีความคล้ายกันมาก ประกอบกับความไม่สมบูรณ์ของสภาพลายนิ้วมือนั้นเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้เกิดความผิดพลาดได้ ผศ.ดร. วุฒิพงศ์ อารีกุล จึงวิจัยคิดค้น “ขั้นตอนการตรวจสอบลายนิ้วมืออัตโนมัติ” เพื่อเป็นของคนไทยเอง ภายใต้การสนับสนุนของสำนักงานกองทุนสนับสนุนวิจัย (สกว.) ทีมวิจัยพยายามพัฒนาซอฟต์แวร์โปรแกรมการตรวจสอบลายนิ้วมือ โดยเพิ่มขั้นตอนการหาจุดโฟกัสที่มีเสถียรภาพเพื่อใช้ประโยชน์ในการอ้างอิงตำแหน่งของภาพลายนิ้วมือในการเปรียบเทียบ พร้อมทั้งปรับปรุงขั้นตอนวิธีการปรับปรุงภาพลายนิ้วมือ และใช้จุดโฟกัสเป็นหลักในการหาพื้นที่ร่วมในการพิจารณาเปรียบเทียบลายนิ้วมือให้มากขึ้นเพื่อที่จะสามารถจำแนกลายนิ้วมือที่มีลักษณะไม่สมบูรณ์ได้ และทำให้การเปรียบเทียบเร็วขึ้นด้วย ทีมวิจัยยังได้นำผลที่ได้ไปพัฒนาโปรแกรมใส่ในฮาร์ดแวร์ชุดตรวจสอบลายนิ้วมืออัตโนมัติ ที่สามารถนำไปประยุกต์ใช้กับการเปิด-ปิดประตูผ่าน ซึ่งมีลักษณะแบบ standalone (เครื่องเดี่ยวๆ) โดยใช้ตัวประมวลผลสัญญาณดิจิทัลเป็นตัวควบคุมหลัก โดยออกแบบเป็นระบบเชื่อมต่อกับส่วนกลางซึ่งสามารถปรับแก้ไขรวบรวมข้อมูลได้จากคอมพิวเตอร์ และสามารถแยกได้ว่าบุคคลใดสามารถผ่านเข้าออกห้องใดได้บ้างภายใต้ทุนสนับสนุนจาก NECTEC และการสนับสนุนจากหน่วยวิจัยอิเล็กโตรออปติกส์โดย ดร.ศรัณย์ สัมฤทธิ์เดชขจร และหน่วยวิจัยระบบสื่อสารแบบใช้สาย โดย ดร. ราชพร เขียนประสิทธิ ขณะนี้งานวิจัยยังอยู่ในช่วงทดสอบกับต้นแบบในระดับปฏิบัติการ เพื่อปรับปรุงเครื่องต้นแบบของไทยและซอฟต์แวร์ให้มีความสมบูรณ์มากยิ่งขึ้น แต่เชื่อว่าอีกไม่นานจะสามารถพัฒนาต้นแบบชุดตรวจสอบลายนิ้วมืออัตโนมัติโดยฝีมือคนไทยสู่การผลิตเชิงพาณิชย์ได้สำเร็จ (กรุงเทพธุรกิจ อังคารที่ 12 เม.ย. 48 http://www.bangkokbiznews.com)





แพทย์รามาโชว์สเต็มเซลล์ในงาน'จากหิ้งสู่ห้าง'

ดร.มลนิภา ศิลาอาสน์ หัวหน้าโครงการวิจัยต้นแบบกำเนิดเอ็มเอสซีจากเลือด เพื่อพัฒนาสู่การใช้ในการรักษาของโรงพยาบาลรามาธิบดี คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล เปิดเผยว่า โครงการดังกล่าวได้ศึกษาต้นแบบกำเนิดเอ็มเอสซี หรือสเต็มเซลล์จากเลือด เพื่อนำไปพัฒนาทดแทนเซลล์ที่เสื่อมสภาพจากโรคต่างๆ ซึ่งในระยะแรกได้มุ่งวิจัยการผลิตเซลล์เนื้อเยื่อทดแทนให้กระดูกอ่อน กล้ามเนื้อหัวใจ และระบบเลือด เป็นหลัก ส่วนความคืบหน้าของงานวิจัยสร้างกระดูกอ่อน จากกระบวนการวิศวกรรมเนื้อเยื่อในห้องปฏิบัติการถือว่า ประสบความสำเร็จเป็นที่เรียบร้อยแล้ว จากการใช้เซลล์ต้นกำเนิดของผู้ป่วยเอง โดยไม่ต้องอาศัยเซลล์จากสัตว์ทดลอง ซึ่งจะเกิดปัญหาเรื่องการปฏิเสธเนื้อเยื่อที่เข้ากันไม่ได้ โดยเซลล์ตั้งต้นที่ได้จากผู้ป่วยนี้พบว่ามียีนแสดงออก ที่สามารถนำมาสร้างเป็นเซลล์กระดูกอ่อนได้ ด้าน ศ.ดร.อานนท์ บุณยะรัตเวช เลขาธิการคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ (วช.) กล่าวว่า โครงงานดังกล่าวจะจัดแสดงในงาน "จากหิ้งสู่ห้าง ครั้งที่ 2" ซึ่งเป็นการนำเสนอผลการดำเนินงานโครงการวิจัยบูรณาการที่ได้รับทุนสนับสนุนจากสำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ (วช.) ระหว่างวันที่ 20-21 เม.ย.นี้ ณ ศูนย์การค้าเซ็นทรัล พลาซา ลาดพร้าว ซึ่งเป็นช่องทางให้นักวิจัยได้พบปะกับภาคเอกชน โดยมีผลงานที่มีศักยภาพต่อยอดเชิงพาณิชย์กว่า 30 โครงการเข้าร่วมแสดง พร้อมด้วยผลิตภัณฑ์การเกษตร สมุนไพร และอื่นๆ ที่ได้จากการวิจัย (กรุงเทพธุรกิจ อังคารที่ 12 เม.ย. 48 http://www.bangkokbiznews.com)





ม.เชียงใหม่รับสมัครผู้ติดเชื้อร่วมงานวิจัย ผนึกสหรัฐค้นหาเวลาดีสุดให้ยาต้านเอดส์

ศ.นพ.ธีระ ศิริสันธนะ ผู้อำนวยการสถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์สุขภาพ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ เปิดเผยว่า สถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์สุขภาพ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ได้รับทุนสนับสนุนจากสถาบันสาธารณสุขแห่งชาติ สหรัฐอเมริกา ให้ศึกษาวิจัยเรื่อง “การทดสอบโดยการสุ่มเพื่อประเมินประสิทธิภาพการรักษาด้วยยาต้านไวรัสร่วมกับการดูแลรักษาเบื้องต้น เปรียบเทียบกับการดูแลรักษาเบื้องต้นแต่เพียงอย่างเดียว เพื่อป้องกันการแพร่เชื้อเอชไอวี-1 ในคู่สมรส/คู่นอนที่มีผลเลือดต่างกัน” ในการวิจัยจะดำเนินการร่วมกับมหาวิทยาลัยจอห์น ฮ๊อพกิ้นส์ สหรัฐอเมริกา โดย รศ.นพ.สุวัฒน์ จริยาเลิศศักดิ์ คณะแพทยศาสตร์ ม.เชียงใหม่ เป็นหัวหน้าโครงการวิจัยฯ วัตถุประสงค์เพื่อเปรียบเทียบอัตราการติดเชื้อเอชไอวี ในคู่สมรส/คู่นอนของอาสาสมัครผู้ติดเชื้อ 2 กลุ่ม คือกลุ่มอาสาสมัครได้รับยาต้านไวรัสเมื่อแรกเข้าโครงการ ร่วมกับการดูแลสุขภาพเบื้องต้น และกลุ่มที่ได้รับยาต้านไวรัสเมื่อตรวจพบว่าระดับชี้วัดภูมิต้านทานลดต่ำ หรือเกิดอาการเจ็บป่วยที่สัมพันธ์กับโรคเอดส์ และได้รับการดูแลสุขภาพเบื้องต้น สำหรับเกณฑ์การรับอาสาสมัครเข้าร่วมโครงการ ได้กำหนดคุณสมบัติให้อาสาสมัครจะต้องมีอายุ 18 ปีขึ้นไป โดยเป็นคู่หญิงชายหรือคู่เพศเดียวกันที่มีผลเลือดเอชไอวีต่างกัน อาทิ คนหนึ่งมีผลเลือดเอชไอวีเป็นบวก อีกคนหนึ่งต้องเป็นลบ และคนที่มีผลเลือดบวกต้องยินยอมเปิดเผยผลเลือดให้คู่ของตนทราบ และยังคงอาศัยอยู่กินร่วมกันเป็นปกติ โดยอาสาสมัครในโครงการจะได้รับค่าตอบแทนเป็นค่าเดินทาง และค่าเสียเวลาทำงานของทั้งคู่ นอกจากนี้ยังให้ความสำคัญกับการปกปิดข้อมูลส่วนตัว และจะไม่เปิดเผยชื่อในรายงานหรือการเผยแพร่ผลงานใดๆ ทั้งสิ้น ขณะที่ผลการตรวจเลือดและรายงานทุกอย่าง จะกำหนดโดยรหัสประจำตัวแทนชื่อของอาสาสมัครแต่ละคน ซึ่งขณะนี้โครงการวิจัยฯ ดังกล่าวยังคงเปิดรับอาสาสมัครเข้าร่วมโครงการวิจัยฯ ตั้งแต่บัดนี้จนถึงเดือนธันวาคม 2549 (กรุงเทพธุรกิจ อังคารที่ 12 เม.ย. 48 http://www.bangkokbiznews.com)





สธ.ร่วมทีเซลส์วิจัยเหยื่อสึนามิแก้โรคเครียด

ศ.นพ.พรชัย มาตังคสมบัติ ประธานคณะกรรมการศูนย์ความเป็นเลิศด้านชีววิทยาศาสตร์ของประเทศ (TCELS-ทีเซลส์) เปิดเผยว่า ศูนย์ทีเซลส์ร่วมกับกรมสุขภาพจิต คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย จัดโครงการวิจัยเชิงระบาดวิทยาผู้ได้รับผลกระทบด้านจิตใจจากเหตุการณ์คลื่นยักษ์สึนามิ เพื่อศึกษากระบวนการเกิดภาวะเครียดหลังวิกฤติชีวิตกรณีคลื่นสึนามิ(PTSD) เบื้องต้นได้ลงพื้นที่ 6 จังหวัดอันดามัน เก็บข้อมูลกลุ่มตัวอย่างที่ประสบภัยด้วยการสัมภาษณ์เชิงลึกจำนวน 3,141 ราย ระหว่างวันที่ 11 กุมภาพันธ์ถึงวันที่ 20 มีนาคม 2548 ขณะนี้อยู่ระหว่างการวิเคราะห์ข้อมูลทางสถิติ ขั้นต่อไปจะลงไปเก็บตัวอย่างเลือดของผู้ที่มีอาการของโรค PTSD เพื่อตรวจหาสารพันธุกรรมว่ามีความสัมพันธ์กับโรค PTSD เปรียบเทียบกับคนที่ไม่เป็นว่ามีความแตกต่างกันอย่างไร ด้านแพทย์หญิงนันทิกา ทวิชาชาติ ภาควิชาจิตเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาฯ หนึ่งในทีมวิจัย กล่าวว่า ผลการวิเคราะห์ข้อมูลของกลุ่มตัวอย่างจากจังหวัดระนอง ซึ่งเก็บตัวอย่างที่เกิดเหตุในอำเภอกะเปอร์ กิ่งอำเภอสุขสำราญ จำนวน 159 คนพบว่า มีอาการน่าจะป่วยเป็นโรคเครียดจากวิกฤติคลื่นสึนามิร้อยละ 35 เป็นโรคซึมเศร้า ร้อยละ 12 เป็นโรคซึมเศร้ารุนแรงร้อยละ 4.4 น.พ.อภิชัย มงคล รองอธิบดีกรมสุขภาพจิต กล่าวว่า เป็นเรื่องดีที่มีการวิจัยถึงระดับพันธุกรรมว่าเกี่ยวข้องกับโรคเครียดจากวิกฤติสึนามิ ถือเป็นฐานของการวิจัยด้านพันธุกรรมกับโรคทางจิตเวชอื่นๆ เช่น พันธุกรรมที่สัมพันธ์กับการเสพติดสุรา พันธุกรรมที่ก่อโรคซึมเศร้าและโรคทางพันธุกรรมอื่นๆ (กรุงเทพธุรกิจ อังคารที่ 12 เม.ย. 48 http://www.bangkokbiznews.com)





ผลวิจัยสหรัฐเตือน ยาสีฟันดัง เจอสารก่อมะเร็ง

หนังสือพิมพ์อีฟนิ่ง สแตนดาร์ด นิวส์ ประเทศอังกฤษ รายงานว่า นักวิทยาศาสตร์ในสหรัฐอเมริกาเตือนรัฐบาลทั่วโลกเร่งตรวจสอบสินค้าอุปโภคประเภทยาสีฟัน น้ำยาบ้วนปาก น้ำยาล้างจาน และสบู่ซึ่งมีส่วนผสมของสารต่อต้านแบคทีเรีย "ไทรโคซาน" ภายหลังจากวิจัยแล้วพบว่าสารไทรโคซานที่ผสมอยู่ในยาสีฟันและน้ำยาบ้วนปากยี่ห้อดังๆ เช่น คอลเกต เดนทอล เซนโซดายน์ และอควาเฟรช เมื่อทำปฏิกิริยากับน้ำประปาผสมคลอรีนในประเทศอังกฤษจะส่งผลทำให้เกิดก๊าซคลอโรฟอร์ม ซึ่งถ้าร่างกายคนเราได้รับก๊าซชนิดนี้เข้าไปมากๆ จะทำให้ป่วยเป็นโรคซึมเศร้า โรคตับ หรือร้ายแรงถึงขั้นเป็นมะเร็ง รายงานข่าวอีฟนิ่ง สแตนดาร์ด ระบุว่า สารไทรโคซานมีคุณสมบัติในการต่อต้านแบคทีเรีย และบริษัทผลิตผลิตภัณฑ์เครื่องอุปโภคทำความสะอาดร่างกายและทำความสะอาดเครื่องใช้ต่างๆ มักนำมาใช้เป็นส่วนผสม โดยผลิตภัณฑ์ยี่ห้อดังๆ ตามท้องตลาดที่พบว่ามีส่วนผสมของสารไทรโคซาน เช่น ยาสีฟันคอลเกต โทเทิล เฟรช (Colgate Total Fresh) ยาสีฟันคอลเกต โทเทิล (Colgate Total) ยาสีฟันเซนโซดายน์ โทเทิล แคร์ (Sensodyne Total Care) น้ำยาบ้วนปากเดนทอล (Dentyl mouthwash) ยาสีฟันอควาเฟรช (Aquarfresh) ยาสีฟันของห้างเทสโก้ รวมทั้งน้ำยาล้างจาน น้ำยาล้างมือ และสบู่อีกหลายยี่ห้อที่มีไทรโคซานเป็นส่วนผสม ศาสตราจารย์ปีเตอร์ ไวเคสแลนด์ นักวิทยาศาสตร์มหาวิทยาลัยเวอร์จิเนีย เทค ประเทศสหรัฐอเมริกา นำผลิตภัณฑ์ผสมสารไทรโคซานเหล่านี้ไปทดลองในห้องปฏิบัติการและพบว่าเมื่อสารไทรโคซานในผลิตภัณฑ์ทำปฏิกิริยากับน้ำประปาผสมคลอรีนในประเทศอังกฤษ จะทำให้เกิดก๊าซคลอโรฟอร์ม ซึ่งเป็นอันตรายต่อผู้บริโภคขึ้นมา โดยถ้าร่างกายได้รับคลอโรฟอร์มในปริมาณมากๆ อย่างต่อเนื่องผ่านการหายใจหรือผ่านการดูดซึมทางผิวหนังอาจเป็นสาเหตุทำให้เกิดโรคซึมเศร้า โรคตับ หรือร้ายแรงถึงขั้นเป็นมะเร็ง ภก.ภักดี โพธิศิริ เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา(อย.) กล่าวถึงการใช้สารไทรโคซานในผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดร่างกายในประเทศไทย ว่าขณะนี้ยังมีการอนุญาตให้ใช้อยู่ จัดอยู่ในประเภทเครื่องสำอาง ส่วนใหญ่มักจะเป็นส่วนผสมของผลิตภัณฑ์ประเภทสบู่ยา ส่วนยาสีฟันพบว่ามีใช้บ้างแต่น้อย เพียง 1-2 ยี่ห้อเท่านั้น ทั้งนี้ เนื่องจากข้อมูลที่ระบุว่าเป็นสารก่อให้เกิดมะเร็งนั้น มีการรายงานเข้ามาเป็นระยะๆ แต่ยังไม่สามารถหาข้อสรุปที่ชัดเจนได้ว่าสารดังกล่าวก่อให้เกิดมะเร็งจริง จึงยังคงอนุญาตให้ใช้ แม้แต่ประเทศในกลุ่มอียูก็ยังอนุญาตให้ใช้สารดังกล่าวอยู่ เนื่องจากหลักฐานไม่ชัดเจน แต่ในส่วนของอย.ได้ติดตามข้อมูลทางวิชาการในเรื่องนี้มาโดยตลอด และได้สั่งให้ตรวจสอบข้อมูลการใช้สารดังกล่าวในประเทศไทยแล้วว่ามีผลิตภัณฑ์ใดบ้างที่ใช้สารตัวนี้ เบื้องต้นจากการทบทวนข้อมูลต่างๆ แล้ว พบว่ายังไม่น่าตกใจเท่าไร (มติชน อาทิตย์ที่ 17 เม.ย. 48 http://www.matichon.co.th)





สหรัฐสร้างหุ่นยนต์ศัลยแพทย์ทหาร ผ่าตัดช่วยชีวิตกลางสนามรบ

กระทรวงกลาโหมสหรัฐฯให้สัมปทานบริษัทเจเนอรัล ไดนามิกส์ ศูนย์วิจัยแห่งชาติโอค ริดจ์ และมหาวิทยาลัยเท็กซัสแมรี่แลนด์ และวอชิงตัน พัฒนาหุ่นยนต์หมอผ่าตัดกลางสนามรบ โครงการนี้มีทุนวิจัยทั้งสิ้น 48 ล้านบาท กำหนดเสร็จภายใน 2 ปี รูปแบบของหุ่นยนต์จะถูกสร้างขึ้นมาให้มีความสามารถสร้างสมดุล ในร่างกายทหารที่ได้รับบาดเจ็บได้ภายในไม่กี่นาที และให้การรักษาและผ่าตัดระหว่างการนำตัวส่งโรงพยาบาล เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องกับโครงการกล่าวว่า หุ่นยนต์รุ่นนี้จะมีขนาดเล็ก สามารถพกพาไปในยานพาหนะต่างๆได้ ทั้งรถจีเอ็มซีและเฮลิคอปเตอร์ แพทย์จะควบคุมการผ่าตัดของหุ่นยนต์ผ่านระบบวีดิโอทางไกล ซึ่งจะทำให้ความต้องการแพทย์สนามลดลง. (ไทยรัฐ พุธที่ 13 เม.ย. 48 http://www.thairath.co.th





ธาตุสังกะสีบำรุงสมองนักเรียน เห็นผลเรียนดีในชั่วเวลาอัน

นักวิจัยของศูนย์วิจัยโภชนาการแกรนด์ ฟอร์กส์ ฮิวแมน ที่รัฐนอร์ทดาโกตา สหรัฐฯ ได้พบว่า เด็กเหล่านั้นพากันโตเร็วขึ้น มีความจำแม่นยำขึ้นกว่าเดิม ทั้งยังมีสมาธิยาวนานขึ้นด้วย เมื่อได้ให้กินอาหารเสริมธาตุสังกะสีในปริมาณ 20 มิลลิกรัม 5 วัน ใน 1 อาทิตย์ มาเป็นเวลานาน 10-12 สัปดาห์ ส่วนพวกที่ได้กินแค่เพียงวันละ 10 มิลลิกรัม ตามคำแนะนำที่แล้วมา และพวกที่ไม่ได้ให้กินเลย ไม่ปรากฏว่าเกิดการเปลี่ยนแปลงขึ้นอย่างใด นักวิจัยยังเคยพบว่า มันมีบทบาทอย่างสำคัญกับการเติบโตตามปกติ และการพัฒนาด้านกามารมณ์ของเด็กด้วย ธาตุสังกะสีมีอยู่ในอาหารหลายชนิด ตั้งแต่พวกข้าว ถั่ว เมล็ดพืช เนื้อสัตว์และหอย มันช่วยทะนุบำรุงภูมิคุ้มโรค และทำให้แผลหายเร็ว หากแต่อาหารในปัจจุบันหลายอย่างพากันขาดมันไป เนื่องจากการสูญเสียไปกับการสีข้าวและถูกชะล้างไปกับน้ำหุงต้ม ยิ่งกว่านั้นในพื้นดินส่วนใหญ่ก็ยังร่อยหรอลงอีกด้วย เพราะการใช้ปุ๋ยเคมีกันอย่างกว้างขวาง. (ไทยรัฐ พฤหัสบดีที่ 14 เม.ย. 48 http://www.thairath.co.th)





มือถือไม่ทำให้เป็นมะเร็งเพิ่มขึ้น แนะให้ใช้หูฟังดีกว่าถือแนบกับหู

นายคริสตอฟเฟอร์ โจฮานเซน หัวหน้าคณะนักวิจัยกล่าวว่า ทางสมาคมได้สัมภาษณ์ชาวเดน-มาร์ก 427 คน ที่เป็นเนื้องอกในสมองเปรียบเทียบกับอีก 822 คน ที่ไม่เป็น พบข้อมูลชัดเจนว่า การ ใช้โทรศัพท์เคลื่อนที่ไม่ทำให้เสี่ยงเป็นมะเร็งสมองเพิ่มขึ้น ผลวิจัยนี้คล้ายคลึงกับงานวิจัยส่วนใหญ่ รวมถึงงานวิจัยจากทางสวีเดนด้วย นายโจฮานเซน กล่าวว่า ขณะนี้ยังเร็วเกินไปที่จะระบุว่า คลื่นวิทยุของโทรศัพท์เคลื่อนที่จะมีผลเสียต่อสมองในระยะยาว เนื่องจากตลอดระยะเวลา 20 ปีที่ผ่านมา นับตั้งแต่เริ่มมีการนำโทรศัพท์เคลื่อนที่มาใช้ในเดนมาร์ก ช่วงต้นคริสต์ทศวรรษที่ 1980 ยังไม่เห็นแนวโน้มแม้แต่น้อยว่าทำให้ผู้ใช้เป็นเนื้องอกในสมอง จึงยากที่จะระบุว่า โทรศัพท์เคลื่อนที่เป็นปัจจัยหลักที่ทำให้เสี่ยงเป็นมะเร็งสมอง อย่างไรก็ดี สมาคมมะเร็งเดนมาร์กแนะนำให้ทุกคน โดยเฉพาะอย่างยิ่งเด็กและวัยรุ่น ใช้หูฟังมากกว่าการแนบเครื่องโทรศัพท์ที่หูโดยตรง. (ไทยรัฐ พฤหัสบดีที่ 14 เม.ย. 48 http://www.thairath.co.th)





เชื้อโรคอยู่ตามแป้นคอมพิวเตอร์ ติดต่อแพร่กระจายไปถึงคนอื่นได้

นักวิจัยของโรงพยาบาลนอร์ทเวสเติร์นเมมมอเรียล ที่นครชิคาโก ยังได้พบในการศึกษาว่า เชื้อโรคเหล่านั้นยังอาจจะติดตามมือของหมอและพยาบาลไปติดกับคนไข้ได้อีกต่อด้วย ในยุคที่โรงพยาบาลต่างๆพากันตื่นใช้คอมพิวเตอร์ เพื่อใช้เก็บสถิติการรักษาพยาบาลต่างๆกันมากขึ้น บางแห่งถึงกับติดเครื่องคอมพิวเตอร์ไว้ตามห้องคนไข้ด้วย คณะนักวิจัยได้ลองเอาเชื้อโรคที่มักพบอยู่ในโรงพยาบาล 3 ชนิด ไปปล่อยตามแป้นคอมพิวเตอร์ ปรากฏว่าเชื้อโรคเหล่านั้นสามารถมีชีวิตอยู่ได้นานทั้งวันทั้งคืน และหากใครไปแตะต้องแป้นพิมพ์ของเครื่องคอมพิวเตอร์เหล่านั้นเข้า ก็อาจเอาเชื้อโรคไปติดต่อคนอื่นได้ ผู้บริหารโรงพยาบาลกล่าวแนะนำว่า วิธีป้องกันปัญหาเรื่องนี้ให้ดีที่สุด ก็คือการหมั่นล้างมือ โดยเฉพาะจะต้องล้างมือก่อนรักษาพยาบาลคนไข้. (ไทยรัฐ พฤหัสบดีที่ 14 เม.ย. 48 http://www.thairath.co.th)





หม้อทองเหลืองใส่น้ำดีกว่าหม้อดิน มีอำนาจอิทธิฤทธิ์ฆ่าเชื้อโรคได้

นักจุลชีพวิทยา ดร.ร็อบ รีด ของมหาวิทยาลัยนอร์ธัมเบรีย ที่อังกฤษ ได้พบตอนเดินทางไปศึกษาในอินเดีย เนื่องจากคนอินเดียใช้หม้อทองเหลืองเป็นภาชนะใส่น้ำกันมาตั้งแต่สมัยโบราณแล้ว ได้พบว่าหม้อใส่น้ำทองเหลือง มีคุณสมบัติขัดขวางไม่ให้เชื้อโรคในน้ำเจริญเติบโตได้รวดเร็ว แต่หม้อดินเผาหรือพลาสติกไม่มีคุณสมบัติอย่างเดียวกัน เขาได้ทดลองในห้องทดลอง ใส่น้ำซึ่งมีเชื้อแบคทีเรีย อี.โคลิ ที่มักปนเปื้อนติดเข้าไปในอาหาร ทำให้อุจจาระร่วงลงในหม้อทองเหลือง แล้วคอยตรวจวัดเชื้ออยู่เป็นระยะ เมื่อเก็บไว้นาน 6,24 และ 48 ชม. ปรากฏว่าปริมาณเชื้อที่อยู่ในน้ำในหม้อได้ลดลงอย่างฮวบฮาบ และพอเลย 48 ชม.ไปแล้ว กลับตรวจหาไม่พบเชื้อเลย เขากล่าว ตัวการของฤทธิ์ต่อต้านเชื้อโรคของหม้อทองเหลือง ได้แก่ทองแดง เพราะทองเหลืองเป็นโลหะผสมของทองแดงกับสังกะสี มันไปทำลายระบบชีววิทยาของเชื้อโรคลง ด้วยการทำลายเยื่อและเอนไซม์ของเซลล์ ซึ่งอาจทำให้เชื้อโรคตายลง หม้อทองเหลืองจะปล่อยอนุภาคทองแดงลงในน้ำ แต่ไม่ถึงกับเป็นอันตรายกับมนุษย์ เพราะต่อให้ดื่มน้ำในหม้อทองเหลืองมากถึงวันละ 10 ลิตร ก็ยังไม่ได้ทองแดงหรือสังกะสี เกินปริมาณที่เป็นอันตราย (ไทยรัฐ ศุกร์ที่ 15 เม.ย. 48 http://www.thairath.co.th)





กินปลามันๆดีกว่าต้องไปหาหมอ เพราะโรคสมองเสื่อมตอนแก่ตัว

นักวิจัยบอกเชิญชวนให้กินพวกปลาแซลมอน ซาร์ดีนส์ และปลาแมคคอรัล ซึ่งเป็นปลาทะเลคล้ายปลาทู จะช่วยป้องกันความเสี่ยงที่จะเป็นโรคสมองเสื่อมลง อาทิตย์หนึ่งอย่างน้อยสัก 2 มื้อ เชื่อว่าจะช่วยป้องกันโรคสมองเสื่อม อันน่าหวาดหวั่นเมื่อสูงอายุได้ นักวิจัยของมหาวิทยาลัยคาร์ดิฟฟ์ได้ทำวิจัยขั้นแรกกับหนูทดลอง ที่ถูกปรับแต่งพันธุกรรม เพื่อให้มันเป็นโรคสมองเสื่อม แต่เมื่อป้อนให้มัน กินปลามันๆเป็นอาหาร ได้พบว่าสมองของพวกมันกลับทำงานดีขึ้น ศาสตราจารย์จอห์น ฮาร์วู้ด หัวหน้านักวิจัยกล่าวว่า กรดโอเมกา 3 ในน้ำมันปลา มีสรรพคุณป้องกันโปรตีนที่เรียกว่าอมีลอยด์สะสมกัน ซึ่งมันจะไปจับเป็นคราบอยู่ตามสมองของผู้ป่วย เป็นเหตุให้สมองทำงานอืดลง เคยมีการศึกษาที่นครชิคาโกเมื่อปีกลาย พบว่าคนที่กินน้ำมันปลา จะหนีห่างจากโรคนี้ได้ถึง 60% หัดกินปลามันๆไว้ ดีกว่าจะต้องไปหาหมอ . (ไทยรัฐ ศุกร์ที่ 15 เม.ย. 48 http://www.thairath.co.th)





พิษบุหรี่ตกทอดถึงลูกถึงหลาน ยายนิยมควันทำให้หลานจับหืด

นักวิจัยของมหาวิทยาลัยเซาเทิร์น แคลิฟอร์เนีย สหรัฐฯได้พบในการศึกษาวิจัยเด็ก อายุไม่ถึง 10 ขวบ จำนวน 908 คน ในจำนวนนี้เป็นเด็กที่เป็นหืดอยู่ 338 คน เขาว่าเด็กที่มียายที่ มีประวัติว่าเคยสูบบุหรี่ เมื่อตอนตั้งท้องแม่ของตนอยู่ แม้ว่าแม่จะไม่ใช่คนสูบบุหรี่ด้วย แต่เด็กรายนั้นก็ยังต้องรับกรรมเสี่ยงกับจะเป็นหืด มากกว่าคนอื่นถึง 2 เท่า หัวหน้านักวิจัย ดร.แฟรงค์ กินลิลแลนด์ เผยว่า ผู้ที่เป็นลูกของแม่คนที่ยังสูบบุหรี่อยู่ ทั้งที่ตั้งท้อง จะเสี่ยงกับการเป็นหืดมากกว่าปกติ 1.5 เท่า และหากเป็นหลานของยายที่ประพฤติเช่นนั้น จะยิ่งเสี่ยงหนักขึ้นเป็น 2 เท่า นักวิจัยเชื่อว่า เหตุที่พิษของบุหรี่ตกทอดไปถึงรุ่นหลานได้ คงเพราะสารพิษในบุหรี่ อาจไปทำให้พันธุกรรมของลูกสาวเปลี่ยนแปรหรือเสียหายเข้า จึงไปกดให้ระบบภูมิคุ้มโรคของทายาทรุ่นต่อมาอ่อนแอลงไป จึงอ่อนไหวกับการเป็นหืดได้ง่าย (ไทยรัฐ ศุกร์ที่ 15 เม.ย. 48 http://www.thairath.co.th)





วิจัยบูรณาการ รับงบ6พันล้าน ลดพึ่งพาต่างชาติ

ศ.ดร.อานนท์ บุณยะรัตเวช เลขาธิการคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ (วช.) เปิดเผยถึงนโยบายการวิจัยบูรณาการของประเทศว่า ในปี 2549 จะมุ่งเน้นปรับระบบการวิจัยของประเทศ ให้สามารถตอบสนองความต้องการของสังคมที่เปลี่ยนแปลงไป ด้วยการสร้างความเชื่อมโยงทั้งระบบ รวมถึงจัดลำดับความสำคัญ เพื่อลดความซ้ำซ้อนของข้อมูล โดยแบ่งเป็นกลุ่มกิจกรรมหรือกลุ่มคลัสเตอร์อย่างเป็นรูปธรรม งานวิจัยบูรณาการครั้งนี้แบ่งเป็น 13 กลุ่มหลัก ซึ่งมุ่งไปที่โครงการในกลุ่มพลังงานทดแทน การสร้างตราสินค้า วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี สมุนไพร ข้าว อาหารคน อาหารสัตว์ วัคซีน รวมถึงโครงการความร่วมมือ 6 เหลี่ยมเศรษฐกิจ และงานวิจัยพื้นที่ชายแดนภาคใต้ ประกอบด้วย 57 หน่วยงานวิจัยจากภาคการศึกษา และกระทรวงต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง โดยได้จัดสรรวงเงิน 6,394.36 ล้านบาท เท่ากับปีที่ผ่านมา คาดว่าน่าเห็นความจะชัดเจนในอีก 3-6 เดือนข้างหน้า แผนยุทธศาสตร์ครั้งนี้ นับว่าเป็นการรื้อระบบโครงสร้างการทำงาน ให้สามารถแข่งขันกับการวิจัยของต่างประเทศได้ โดยเป็นการมองปัญหาแบบองค์รวมอย่างน้อย 2 กระทรวงขึ้นไป ในรูปแบบการแลกเปลี่ยนเทคโนโลยี ทรัพยากร เครื่องมือ ในลักษณะเครือข่ายร่วมกัน ด้านนายจาตุรนต์ ฉายแสง รองนายกรัฐมนตรี ได้บรรยายพิเศษเรื่อง "การวิจัยบูรณาการของประเทศ" ว่า ที่ผ่านมาระบบการวิจัยในประเทศยังมีปัญหาอยู่มาก ไม่ว่าจะเป็นงานวิจัยที่กระจัดกระจายอยู่ตามหน่วยงานต่างๆ โดยขาดการประสานงานกันอย่างชัดเจน รวมถึงมีงานวิจัยและการใช้ทรัพยากรในการวิจัยน้อย บางเรื่องที่มีการวิจัยแล้วไม่ได้นำไปใช้ประโยชน์ ทั้งนี้ เนื่องมาจากต่างฝ่ายต่างทำงานวิจัยของตน และขาดการเชื่อมโยงข้อมูลกัน ดังนั้น หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รวมถึงนักวิจัย จะต้องสร้างงานวิจัยให้ตรงกับความต้องการหรือการนำไปใช้ พร้อมทั้งผู้บริหารประเทศก็ควรหยิบงานวิจัยไปใช้ในการแก้ปัญหาให้มีความชัดเจน รวมถึงประสานงานกับภาคเอกชนให้มากขึ้นเพื่อลดการนำเข้าเทคโนโลยีจากต่างประเทศ(กรุงเทพธุรกิจ ศุกร์ที่ 15 เม.ย. 48 http://www.bangkokbiznews.com)





เชื้อเพลิงอุ่นอาหารจากพลังแดดปลอดมลพิษไร้กลิ่นรบกวน

นายวานิช โสภาสพ อาจารย์ภาควิชาฟิสิกส์ คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล คิดค้นเทคนิคผลิตเจลแอลกอฮอล์เชื้อเพลิง โดยใช้พลังงานแสงอาทิตย์ เพื่อทดแทนการใช้พลังงานเชื้อเพลิง อีกทั้งผลิตภัณฑ์เจลแอลกอฮอล์ที่ได้ ยังทำจากเอทิลแอลกอฮอล์ (สกัดได้จากพืช) ที่สามารถนำมาแต่งกลิ่นเลียนแบบธรรมชาติ ทำให้ปัญหาเรื่องกลิ่นเหม็นหมดไป สำหรับชุดสาธิตการผลิตเจลฯ ที่พัฒนาขึ้นนี้ สามารถผลิตเจลแอลกอฮอล์เหลวได้ประมาณ 5,000 ชิ้นต่อวัน และต้นทุนการผลิตประมาณ 4 บาท/ชิ้น ซึ่งเป็นราคาที่แพงกว่าเจลที่ทำจากเมทิลแอลกอฮอล์ที่ใช้กันอยู่ในปัจจุบัน เพราะเอทิลแอลกอฮอล์มีกระบวนการผลิตที่ซับซ้อน ฉะนั้น ราคาจึงสูงกว่าเมทิลแอลกอฮอล์ แต่ถ้าเปรียบเทียบมลพิษที่เกิดขึ้น เจลที่ทำจากเอทิลแอลกอฮอล์ จึงสร้างมลพิษน้อยกว่ามาก ทั้งนี้ เมทิลแอลกอฮอล์ได้จากปฏิกิริยาของก๊าซคาร์บอนมอนนอกไซด์ กับไฮโดรเจนที่มีความดันสูง เมื่อสูดดมโดยตรงจะมีอาการอ่อนเพลีย คลื่นไส้ ปวดศีรษะ หากดื่มเข้าไปจะมีอาการปวดท้องอย่างรุนแรง สุดท้ายถ้าแก้ไขไม่ทันอาจถึงแก่ชีวิต ดังนั้น การรณรงค์ให้ผู้ใช้หันมาใส่ใจกับสิ่งแวดล้อม โดยใช้เจลแอลกอฮอล์เหลวที่ผลิตจากเอทิลแอลกอฮอล์ จึงเป็นสิ่งที่ควรกระทำอย่างยิ่ง ส่วนผลงานชุดสาธิตนี้ ยังสามารถนำไปพัฒนา ให้เป็นเครื่องต้นแบบเพื่อผลิตสบู่เทียนหอม และกลั่นสมุนไพรต่างๆ ได้อีกด้วย โดยหลักการทำงานของชุดสาธิตการผลิตเจลฯ อยู่บนพื้นฐานหลักการทางวิทยาศาสตร์ โดยอาศัยพลังงานแสงอาทิตย์ผลิตน้ำอุ่น ด้วยการปล่อยน้ำให้ไหลเวียนเข้าไปในแผงรับความร้อนจากดวงอาทิตย์ และน้ำก็จะไหลเข้าสู่ถัง 3 ชั้น ชั้นนอกเป็นถังที่หุ้มด้วยฉนวนกันความร้อน ชั้นกลางจะเป็นส่วนบรรจุน้ำร้อนที่ผลิตจากพลังงานแสงอาทิตย์ และชั้นในบรรจุแอลกอฮอล์ที่จะนำมาใช้ทำเจลแอลกอฮอล์เหลว เมื่อน้ำร้อนมีอุณหภูมิ 70 องศาเซลเซียส สามารถอุ่นแอลกอฮอล์ภายในถังชั้นในให้ได้อุณหภูมิ 60 องศาเซลเซียส จึงเติมกรดไขมันสเตรียอิก ประมาณ 15 กรัมต่อแอลกอฮอล์ 1 ลิตร แล้วกวนให้เข้ากัน จากนั้นเติมผงเซลลูโลสประมาณ 15 กรัมต่อ 1 ลิตร เพื่อให้ส่วนผสมเกิดความหนืด แล้วแต่งกลิ่นเจือสีธรรมชาติ เติมโซดาไฟ 20 กรัม เพื่อเร่งให้ส่วนผสมแข็งตัวได้เร็วขึ้น แล้วจึงนำส่วนผสมที่ได้มาบรรจุลงในภาชนะที่ต้องการ (คมชัดลึก ศุกร์ที่ 15 เม.ย. 48 http://www.komchadluek.net)





สิงคโปร์ผลิตยาถล่มมะเร็ง อาศัยตัวนำส่งวิถีร้ายทำลายเนื้อ

นักวิจัยจากสิงคโปร์เผยผลสำเร็จของระบบนำส่งยาจิ๋วโจมตีเซลล์มะเร็งโดยตรง แต่จะไม่ออกฤทธิ์กับเซลล์ปกติ เลือกพิฆาตเซลล์เป้าหมายโดยดูจากภาวะกรดที่เซลล์มะเร็งขับออกมา เป็นทางเลือกใหม่แทนวิธีเคมีบำบัดด้วยการฉายรังสี ซึ่งอาจทำให้เซลล์ข้างเคียงพลอยถูกทำลายลงไปด้วย ระบบนำส่งยาที่พัฒนาขึ้นมานี้ช่วยให้การรักษามะเร็งมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น โดยระบบนำส่งยาดังกล่าวจะบรรจุตัวยาจิ๋วไว้ข้างในแกนกลาง หุ้มด้วยวัสดุที่ป้องกันไม่ให้ตัวยาเสื่อมสภาพและถูกทำลายจากน้ำย่อย ดร.ยี-ยัน หยาง หัวหน้าทีมวิจัยจากสถาบันพันธุวิศวกรรมและนาโนเทคโนโลยี (ไอบีเอ็น) ในสิงคโปร์ กล่าวว่า เทคโนโลยีนี้จึงทำให้สามารถนำส่งยาในอนุภาคที่เล็กกว่า 200 นาโนเมตรได้ นอกจากนี้ นักวิจัยชี้ว่าเคมีบำบัดยังมีผลข้างเคียงให้ อาทิ อาเจียน อ่อนเพลีย ผมร่วง และทำให้ร่างกายผู้ป่วยอ่อนแอและเปราะบาง จึงจำเป็นต้องพัฒนาเทคนิคการรักษามะเร็งที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น เพื่อลดผลข้างเคียงดังกล่าวด้วยการโจมตีเซลล์มะเร็งเป้าหมายโดยตรง ทีมวิจัยได้ใช้เวลากว่า 2 ปี ยานาโนที่พัฒนาขึ้นมานี้ไม่มีผลเป็นพิษต่อเซลล์ถึงขั้นเป็นอันตราย และยังปล่อยยาสู่เป้าหมายได้อย่างแม่นยำและมีประสิทธิภาพ "นวัตกรรมนี้ยังสามารถนำไปใช้ในหลอดทดลอง และศึกษากับสัตว์เพื่อศึกษาตัวยาใหม่ๆ ได้ด้วย และวางแผนว่าจะทดลองรักษามะเร็งกับมนุษย์ภายใน 5 ปีข้างหน้า หลังจากดำเนินการทดลองกับสัตว์แล้วได้ผล (คมชัดลึก ศุกร์ที่ 15 เม.ย. 48 http://www.komchadluek.net)





รถติดอุปกรณ์ วัดระดับแอลกอฮอล์ ป้องกันตีนผีขี้เมา

อุปกรณ์วัดระดับแอลกอฮอล์ในรถที่ทางการนิวเม็กซิโกกำลังสนับสนุนให้เจ้าของรถทุกคันติดอยู่นั้น มีลักษณะเหมือนกับโทรศัพท์มือถือสีดำ ที่ติดตั้งอยู่บริเวณแผงคอนโซลของรถ วิธีใช้งานก็ไม่ยุ่งยาก เพียงบิดกุญแจรถไปยังตำแหน่ง "เปิด" จากนั้นบิดกลับมาคืนที่ตำแหน่ง "ปิด" ซึ่งจะมีข้อความแสดงบนหน้าปัดของตัวอุปกรณ์ว่า "พร้อมรับการทดสอบหรือยัง ถ้าพร้อมแล้วกรุณาเป่าลมหายใจได้" และเมื่อเป่าลมหายใจผ่านหลอดพลาสติกสั้นๆ ที่ติดอยู่ส่วนปลายของตัวเครื่องเพียง 4 วินาที หากไม่มีระดับแอลกอฮอล์เกินที่กำหนดไว้ ก็จะมีเสียงดัง "ปิ๊บ" พร้อมกับข้อความที่จะแสดงขึ้นมาว่า "ขอให้โชคดี" จากนั้นรถก็จะสามารถติดเครื่องได้เป็นปกติ แต่หากมีระดับแอลกอฮอล์มากเกินกำหนด ก็จะไม่สามารถสตาร์ทเครื่องรถได้เลย ด้วยเหตุนี้ คณะผู้บริหารรัฐจึงพยายามผลักดันให้มีการออกกฎหมายเพื่อป้องกันอุบัติเหตุบนท้องถนน ด้วยการให้รถทุกคันติดตั้งอุปกรณ์ดังกล่าว จากการสำรวจพบว่ามีอุบัติเหตุลดลง 40-95% หลังจากมีการติดตั้งระบบตรวจวัดแอลกอฮอล์ในรถแล้ว และทางฝ่ายนิติบัญญัติประจำรัฐนิวเม็กซิโกกำลังพิจารณาให้ออกเป็นกฎหมายบังคับใช้เลย ขณะที่ฝ่ายค้านเห็นว่าอาจไม่เหมาะสมที่จะบังคับให้ทุกคันติดตั้ง เพราะอาจส่งผลกระทบต่อพลเมืองชั้นดีที่มีรายได้น้อยก็เป็นได้ (คมชัดลึก ศุกร์ที่ 15 เม.ย. 48 http://www.komchadluek.net)





มิติใหม่เล่นเกมบนมือถือใช้นิ้วแตะกล้องดิจิทัลบนโทรศัพท์แทนปุ่มบังคับ

นายรภรัตน์ สุขาภิรมย์ ภาควิชาวิศวคอมพิวเตอร์ คณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย หนึ่งในผู้คิดค้นโปรแกรมไอคอน แอทแท็ค (IKON ATTACK) ซึ่งทำงานบนโทรศัพท์เคลื่อนที่ เปิดเผยว่า ซอฟต์แวร์ดังกล่าวคิดค้นร่วมกับกลุ่มเพื่อน เพื่อให้สามารถใช้กล้องดิจิทัลที่ติดมากับมือถือควบคุมการทำงานของเครื่อง ได้เหมือนกับปุ่มบังคับทิศทางบนมือถือ ทีมพัฒนาเกม กล่าวว่า ในเบื้องต้นพวกเขาเลือกที่จะใช้ระบบควบคุมเกมผ่านกล้องดิจิทัลกับเกมประเภทแก้ปัญหา ซึ่งจากการศึกษาพบว่าเป็นเกมที่ต้องใช้นิ้วกดปุ่มบ่อย เทคนิคการบังคับเกมผ่านกล้องนี้มีลักษณะคล้ายกับการคลิกเมาส์คอมพิวเตอร์ โดยกล้องดิจิทัลจะคอยอ่านค่าความแตกต่างของแสงที่ผ่านเข้ามาในเลนส์และตกกระทบบนชิพรับภาพ (ซีซีดี) ของกล้องดิจิทัล เมื่อใช้นิ้วผ่านหรือปิดหน้ากล้อง ชิพรับแสงจะรู้ถึงค่าที่เปลี่ยนไปและส่งข้อมูลไปยังโปรแกรมเสมือนกับผู้ใช้คลิกเมาส์ ในเบื้องต้น โปรแกรมสามารถทำได้เพียงใช้นิ้วเคลื่อนผ่านกล้องดิจิทัลแทนการกดเมาส์เท่านั้น แต่ในอนาคตจะพัฒนาให้สามารถใช้แทนการกดลูกศรขึ้นลง และซ้ายขวาด้วย นอกจากนี้ ทางกลุ่มผู้พัฒนาโปรแกรมยังเตรียมนำเทคโนโลยีใหม่มาช่วยให้ผู้เล่นเกมสามารถเล่นแข่งกันสองต่อสองผ่านเทคโนโลยีบลูทูธ ซึ่งปัจจุบันใช้กันในเครื่องเกมเอ็นเกจของโนเกีย และในอนาคตยังนำเอาเทคโนโลยีใหม่ที่เรียกว่าไอเอ็มเอส ซึ่งเป็นระบบที่ผู้เล่นสามารถใช้เครื่องเล่นเกมต่ออินเทอร์เน็ตเข้าไปยังเว็บไซต์ที่เปิดให้ผู้เล่นหลายๆ คนเข้ามาร่วมแข่งเกมกัน โทรศัพท์มือถือที่จะใช้บริการนี้ได้ จะต้องมีระบบปฏิบัติการซิมเบียน 8.0 ซึ่งจะช่วยให้การทำงานได้ดีขึ้น ทั้งนี้ คณะทำงานซึ่งประกอบด้วย นายธีรเดช หงส์พิสุทธิกุล นายไวยณ์วุฒิ เอื้อจงประสิทธิ์ และนายวิโรจน์ จิรพัฒนกุล จะพัฒนาโปรแกรมให้สามารถออนไลน์ ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น อาทิ เพิ่มในส่วนห้องคนเล่นเกม รูปร่างหน้าตาของเกม เป็นต้น (คมชัดลึก พุฤหัสบดีที่ 14 เม.ย. http://www.komchadluek.net)





มรช.รวมพลังวิจัยผ้าทอพื้นเมือง

นายวิทยา วรรณศิริ รองอธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงราย เปิดเผยว่า มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงราย (มรช.) ได้ร่วมมือกับสำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา (สกอ.) และมหาวิทยาลัยราชภัฏทั่วประเทศ จัดประชุมเสวนาเรื่อง "การสังเคราะห์งานวิจัยผ้าทอพื้นเมืองทั่วประเทศ" ระหว่างวันที่ 16-19 เมษายนนี้ เวลา 09.00-17.00 น. ณ ห้องประชุมสำนักบริการวิชาการแก่สังคมมหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงราย เพื่อเป็นการรวมพลังทางความคิดของนักวิจัยจากมหาวิทยาลัยต่างๆ ตลอดจนผู้ประสานงานและผู้บริหารที่รับผิดชอบโครงการดังกล่าว ได้พบปะแลกเปลี่ยนนำเสนอผลงาน พร้อมร่วมกันแก้ไขปัญหา ระดมสมองในการพัฒนาผ้าทอพื้นเมืองของแต่ละพื้นที่ให้ได้มาตรฐานต่อไป ขณะเดียวกันก็หาแนวทางส่งเสริมขบวนการผลิต การออกแบบลายผ้า ให้คำแนะนำในการใช้สี ตลอดจนเป็นการพัฒนาคุณภาพของผ้าทอให้เป็นที่ยอมรับของคนทั้งในและต่างประเทศ ซึ่งจะเป็นการเพิ่มมูลค่าของสินค้าและเพิ่มรายได้ให้กับประชาชนอีกทางหนึ่งด้วย (ข่าวสด ศุกร์ที่ 15 เม.ย. 48 http://www.matichon.co.th/khaosod)





สามล้อเครื่องรถเข็นนั่งคนพิการ ประดิษฐกรรมชิ้นเอกมรภ.สกล

นายนิกร สุขปรุง และนายบุญวาสน์ หูมวงศ์ จากมหาวิทยาลัยราชภัฏสกลนคร ร่วมกันทำการวิจัยและผลิตรถสามล้อเครื่องสำหรับรถเข็นนั่งคนพิการ โดยได้รับการสนับสนุนทุนจากสำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ(สวทช.) เมื่อปี 2547 เพื่อเป็นทางเลือกหนึ่งให้ผู้ที่พิการสามารถใช้เป็นอุปกรณ์นำทาง เคลื่อนย้าย จึงเกิดความคิดสร้างรถสามล้อไว้เดินทาง โดยมีโครงสร้างตัวรถขนาด 75x120 ซ.ม. พื้นราบ นำเอารถสกู๊ตเตอร์ 2 ล้อเล็ก(รถป๊อป) มาตัดนำส่วนหัวมาต่อด้านหน้า ใช้ส่วนล้อหลังที่มีเครื่องยนต์ขับเคลื่อนมาเป็นล้อด้านซ้าย ด้านขวาใช้ล้อจักรยานยนต์มาใส่ ปรับระดับความสูงของรถเหลือเพียง 13 ซ.ม. จากพื้นถนน ทำสะพานยาว 80 ซ.ม. ติดท้ายรถสำหรับเข็นรถขึ้น ใช้คันโยกยกสะพานเก็บ ใช้การสตาร์ตด้วยไฟฟ้า ติดตั้งไฟฟ้าแสงสว่างและสร้างระบบสัญญาณเบรกและคันเร่ง ทำให้สามารถเคลื่อนที่ไปได้สะดวกในการเดินทางและสามารถขึ้นลงได้เองรถสามล้อที่สร้างเป็นการตัดรถป๊อปที่กำลังขับเคลื่อนต่ำมาต่อ ทำให้ไม่แข็งแรงและมีปัญหาในการเดินทางที่พื้นมีความลาดชันยาว ความสะดวกและการรับแรงกระแทกสะเทือนไม่มาก จึงออกแบบเพื่อสร้างขึ้นใหม่ให้แข็งแรง สะดวก มีระบบความปลอดภัย และมีส่วนรองรับการกระแทก พร้อมทั้งมีระบบขับเคลื่อนที่มีกำลังแรงกว่า เพื่อใช้เป็นรถสำหรับผู้พิการที่ต้องนั่งรถเข็นแต่มีส่วนบนของร่างกาย เช่นมือและแขนปกติสามารถใช้เป็นพาหนะในการเดินทางได้ทั้งในถนนเขตชนบทและในตัวอำเภอ จังหวัด โดยมีราคาไม่สูงและสามารถสร้างขึ้นใช้เองได้ นับเป็นอีกผลงานวิจัยอีกชิ้นหนึ่ง ของบุคลากรจากมหาวิทยาลัยราชภัฏสกลนคร (ข่าวสด ศุกร์ที่ 15 เม.ย. 48 http://www.matichon.co.th/khaosod)





ข่าวทั่วไป


มช.รับรางวัล27ล. ผลพัฒนางานวิจัย

ผศ.อาคม ตันตระกูล ผู้ช่วยอธิการบดีมหาวิทยาลัยเชียงใหม่(มช.) ฝ่ายประชาสัมพันธ์ เปิดเผยว่า ตามที่รัฐบาลมีนโยบายปฏิรูประบบราชการ โดยมีการติดตามและประเมินผลการทำงานของหน่วยงานราชการต่างๆ ในระดับกรมติดต่อกันมาเป็นเวลา 3 ปีแล้วนั้น มช.ในฐานะที่เป็นส่วนราชการเทียบเท่ากรม ดำเนินการพัฒนาการปฏิบัติงานด้านการศึกษาวิจัย บริหารวิชาการ และทำนุบำรุงศิลปวัฒนธรรมมาโดยตลอด โดยผู้บริหาร อาจารย์ ข้าราชการ พนักงาน และลูกจ้าง ทุ่มเทในการทำงานกันอย่างจริงจังในระยะเวลา 2 ปีที่ผ่านมา และได้รับรางวัลพิเศษจากผลของการประเมินในระดับนำอย่างต่อเนื่อง ผลการประเมินนี้แสดงให้เห็นถึงศักยภาพในการปฏิบัติงานของผู้บริหารอาจารย์ ข้าราชการ พนักงาน และลูกจ้างของมหาวิทยาลัย มีความร่วมมือร่วมใจกันในการปฏิบัติหน้าที่ที่ตนเองรับผิดชอบอย่างต่อเนื่องทำให้ในปีพ.ศ. 2547 ที่ผ่านมา ได้รับรางวัลพิเศษอีกครั้งหนึ่ง กำลังอยู่ในระหว่างการจัดสรรเงินรางวัลจำนวน 27 ล้านบาท เป็นที่คาดหวังกันว่า ในปีต่อๆ ไปมช.จะร่วมมือกันในการปฏิบัติงานให้เต็มกำลัง เพื่อผลสำเร็จที่ดียิ่งขึ้นต่อไป (ข่าวสด อังคารที่ 12 เม.ย. 48 http://www.matichon.co.th/khaosod)





ร้อนนี้ว่ายน้ำอย่างปลอดภัย

"อเมริกัน เรด ครอสส์" บอกถึงเกร็ดเล็กเกร็ดน้อยในการเล่นน้ำอย่างปลอดภัยดังนี้ เมื่อลงว่ายน้ำควรมีเพื่อนคู่หูลงเล่นด้วยกัน ไม่ควรว่ายน้ำคนเดียว ควรว่ายน้ำในบริเวณที่จัดไว้ให้เท่านั้น และปฏิบัติตามกฎ กติกามารยาท และป้ายเตือนต่างๆที่มีไว้ ต้องระวังอันตรายที่เกิดจากการทำอะไรมากเกินไป ไม่ว่าจะเป็น "เหนื่อยเกินไป" "เย็นเกินไป" "ไกลเกินไป" "แดดร้อนเกินไป" หรือการออกกำลังที่ใช้แรงอย่างมากเกินไป จำไว้ว่าการดื่มเหล้ากับการว่ายน้ำไม่ใช่กิจกรรมที่จะไปด้วยกันได้ แอลกอฮอล์ จากเหล้าเบียร์จะทำให้การตัดสินใจของผู้ดื่มแย่ลง ทำให้ร่างกายทรงตัวไม่สมดุล ขาดการประสานงานที่ดี ส่งผลกระทบต่อทักษะในการว่ายน้ำและดำน้ำ ทั้งยังลดความสามารถในการทำให้ร่างกายอบอุ่น ก่อนลงเล่นน้ำควรให้ความสำคัญกับข่าวพยากรณ์ อากาศในท้องถิ่นด้วย และควรหยุดว่ายน้ำถ้าเริ่มเห็นสัญญาณว่าสภาพอากาศชักจะไม่ค่อยดี ต้องรู้ตัวว่าต้องทำอย่างไรบ้างในกรณี ที่เกิดเหตุฉุกเฉินเกร็ดเล็กเกร็ดน้อยเหล่านี้คงพอจะช่วยให้เล่นน้ำอย่างมั่นใจ และปลอดภัยขึ้นบ้าง. (ไทยรัฐ เสาร์ที่ 16 เม.ย. 48 http://www.thairath.co.th)





ใช้เทคนิควิธีรักษาหมาพิการหาย จะเอามาทดลองปฏิบัติกับมนุษย์

ศัลยแพทย์ของมหาวิทยาลัยเคมบริดจ์ของอังกฤษ ได้วิธีรักษาหมาพิการซึ่งโดนรถทับ หรือเพราะไขสันหลังเสียหาย จนไม่อาจใช้ขาหลังได้มานานไม่ต่ำกว่า 3 เดือนแล้วให้กลับขยับเขยื้อนได้อีกขึ้นได้ 9 ตัว ในเวลาชั่วเพียงเดือนเดียว โดยนำเอาเซลล์ประสาทจากสมองของมันแล้วไปฉีดให้ที่ไขสันหลังตรงส่วนที่เสียหาย ในทางปฏิบัติหมอจะเปิดกะโหลกของสุนัขดูดเอาเซลล์เยื่อโครงประสาท รับกลิ่นที่อยู่ตามเพดานจมูก อันเป็นแหล่งเดียวที่เซลล์ประสาทจะคงเกิดใหม่อยู่เสมอ แล้วนำเอาไปเพาะเลี้ยงให้เพิ่มจำนวนขึ้นในห้องปฏิบัติการจึงจะนำไปฉีดเข้าสู่ไขสันหลัง อย่างไรก็ดี ศัลยแพทย์กำลังคิดจะหาแหล่ง เซลล์ประสาทใหม่ เพราะการทำดังกล่าวมีผลเสีย ทำให้สุนัขมีอาการชัก และเล็งเห็นทางจะหาได้ใหม่จากเมือกในจมูกของมัน ซึ่งเก็บได้ง่ายกว่า โดยใช้แค่ไม้พันสำลีป้ายเอาเท่านั้น นักวิทยาศาสตร์ได้พยายามค้นหาวิธีต่างๆ ที่จะช่วยเหลือผู้ป่วยเป็นอัมพาตให้กลับเคลื่อนไหวได้ใหม่มาหลายวิธีแล้ว อย่างเช่นเมื่อปลายปีก่อน ก็เคยมีข่าวว่า มีการค้นพบสารเคมีที่มีชื่อว่า "พีอีจี" กล่าวกันว่า อาจจะช่วยให้กลับเคลื่อนไหวได้อีก หลังจากฉีดให้ไปภายในเวลา 48 ชม. เท่านั้น แพทย์ประสาทวิทยากอฟเฟรย์ เรสแมน ของอังกฤษ กล่าวให้ความเห็นว่า การค้นพบในเรื่องหมาเรื่องนี้ ดูจะเกี่ยวพันกับลักษณะที่เป็นในมนุษย์โดยตรงแน่นอน จะเริ่มลงมือทดลองใช้รักษากับคนได้ภายในเวลา 2 ปีข้างหน้านี้ (ไทยรัฐ เสาร์ที่ 16 เม.ย. 48 http://www.thairath.co.th)





คนดังเอเชียในโผ"ไทม์" 100บุคคลทรงอิทธิพลโลก

ไทม์ นิตยสารข่าวต่างประเทศของชาวอเมริกัน จัดอันดับ 100 บุคคลที่ทรงอิทธิพลที่สุดของโลกประจำปี 2548 โดยแบ่งกลุ่มบุคคลที่ติดอันดับออกเป็น 5 กลุ่ม กลุ่มแรกคือ ผู้นำและนักปฏิวัติ มีชาวเอเชียติดอันดับด้วย 4 คน ซึ่งได้อยู่ในกลุ่มเดียวกับประธานาธิบดีจอร์จ ดับเบิลยู. บุช น.ส.คอนโดลีซซา ไรซ์ รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐ อดีตประธานาธิบดี บิล คลินตัน รวมไปถึงผู้นำกลุ่มก่อการร้ายอัล-ไคดา อาบู มูซาบ อัล-ซาร์กาวี และพระคาร์ดินัล โจเซฟ รัตซิงเจอร์ ชาวเยอรมัน 4 ผู้นำดังกล่าว ได้แก่ ประธานาธิบดี หู จินเทา ของจีน โดยมีประธานาธิบดี เฉิน ซุยเปียน แห่งไต้หวัน อีกสองคือ นายมานโมฮัน สิงห์ นายกรัฐมนตรีมาดนุ่มของอินเดีย และประธานาธิบดี คิม จอง อิล แห่งเกาหลีเหนือ ซึ่งถูกสหรัฐตราหน้าเป็นวายร้าย กลุ่มที่ 2 ศิลปิน ผู้ให้ความบันเทิง ได้แก่ คลิ้นต์ อีสต์วู้ด ไมเคิล มัวร์ ฮิลารี สแวงก์ เจมี่ ฟ็อกซ์ และ จอห์นนี่ เดปป์ แม่นาง จาง ซิยี่ นักแสดงชื่อดังของจีนที่ไปโด่งดังในฮอลลีวู้ด กลุ่มที่ 3 นักสร้างสรรค์ และนักธุรกิจรายใหญ่ มี สตีฟ จอบส์ เจ้าของแอปเปิ้ลคอมพิวเตอร์ เม็ก ไวท์แมน ประธานบริษัท อีเบย์ รวมถึงรูเพิร์ต เมอร์ด็อก เจ้าของอาณาจักรนิวส์คอร์ป ในเอเชียมี เหริน เจิ้งเฟย ประธานบริหารหัวเหว่ย บริษัทโทรคมนาคมและการสื่อสาร ซึ่งก่อตั้งที่เสิ่นเจิ้นเมื่อปี 2531 เยิ่นนำพาบริษัทผงาดยิ่งใหญ่เทียบเท่าซิสโกและอีริคสัน คนถัดมาคือ คัตสึอากิ วาตานาเบ้ ประธานบริหารคนต่อไปของโตโยต้า มอเตอร์ ที่จะกระโดดจากรองประธานขึ้นมาแทนฟุจิโอะ โช ในเดือนมิถุนายนนี้ กลุ่มที่ 4 ฮีโร่ โอปราห์ วินเฟรย์ นักจัดรายการโทรทัศน์ชื่อดัง บิล เกตส์ นายใหญ่แห่งไมโครซอฟท์ เนลสัน แมนเดล่า อดีตประธานาธิบดีแอฟริกาใต้ ไมเคิล ชูมัคเกอร์ นักขับรถแข่งเยอรมัน ทางฝั่งเอเชียนอกจากนี้ยังมี องค์ดาไล ลามะ แห่งทิเบต รวมไปถึงเหยา หมิง นักบาสเกตบอลจีนที่ได้เข้าไปเล่นกับเอ็นบีเอแล้ว ที่แปลกคือ ไดน่า แอสติตา ครูชาวอินโดนีเซียวัย 30 ปี เหยื่อที่รอดชีวิตจากสึนามิแต่สูญเสียลูกทั้งสามไปในกระแสน้ำที่กวาดกลืนทั้งเมืองกาลัง บนเกาะสุมาตรา สุดท้าย กลุ่มนักวิทยาศาสตร์และนักคิด กลุ่มนี้มี อาจารย์คนดังที่ชื่อ เจฟฟรี ซาคส์ ซึ่งครั้งหนึ่งเคยสอนที่มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ดและวันนี้เป็นผู้อำนวยการของสถาบันชื่อ เอิร์ธ ที่มหาวิทยาลัยโคลัมเบีย ขณะที่ฝั่งเอเชียมีคนเดียวคือ ลี กวน ยู อดีตนายกรัฐมนตรีสิงคโปร์ที่ยังทรงอิทธิพลอยู่ในประเทศ (มติชนรายวัน เสาร์ที่ 16 เม.ย. 48 http://www.matichon.co.th)





หนุนจัดงาน"วิสาขบูชาโลก"ที่พุทธมณฑล

พ.ต.ท.ทักษิณ กล่าวว่า ในวันวิสาขบูชาอยากเชิญชวนชาวพุทธทั่วโลกมาร่วมกันปฏิบัติธรรม โดยวางแผนเบื้องต้นไว้ว่าจะจัดที่พุทธมณฑล และเป็นการทำงานร่วมกันระหว่างสำนักพระพุทธศาสนา ศูนย์คุณธรรม มหาเถรสมาคม แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดคือชาวพุทธเองต้องมีความสมานฉันท์ในหมู่ชาวพุทธและหมู่ศาสนาอื่น ตามที่รัฐธรรมนูญ ม.38 ได้ระบุชัดว่าเราจะให้เสรีภาพในการนับถือศาสนาไม่เลือกนิกาย ไม่เลือกลัทธิและความเชื่อ จะเชื่ออย่างไรไม่ว่ากัน แต่เป้าหมายสุดท้ายของศาสนาพุทธคือหลักธรรมคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้าที่ต้องยึดเป็นหลัก ดังนั้นหากยึดได้ไม่ว่าใครจะไปทำอย่างไรก็ไม่เป็นอะไร ในหมู่ชาวพุทธจึงต้องสมานฉันท์ให้ได้ และจัดงานวันวิสาขบูชาที่ยิ่งใหญ่เพื่อให้ประเทศไทยเป็นศูนย์ที่ชาวพุทธทั้งหลายได้มาร่วมกันทำจิตใจให้แจ่มใส ปฏิบัติธรรม ฟังพระธรรมเทศนาเพื่อให้เกิดปัญญาในการดำรงชีวิต นอกจากนี้ได้มอบหมายให้นายวิษณุ เครืองาม และนายจาตุรนต์ ฉายแสง รองนายกรัฐมนตรี ไปพิจารณาว่าทำอย่างไรจะทำให้เกิดความเข้มแข็งของศาสนาพุทธในประเทศไทย และในทุกมิติ เพื่อจะได้ช่วยกันแก้ไขร่วมกับกระทรวงศึกษาธิการเพื่อนำหลักธรรมคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้าไปเผยแพร่อย่างถูกต้อง (ข่าวสด อาทิตย์ที่ 17 เม.ย. 48 http://www.matichon.co.th/khaosod)





ใช้หัวเราะขับความอ้วนออกไป หัวร่อทางจมูกช่วยลดรอบพุงลง

คณะนักวิทยาศาสตร์ของบริษัททัวร์การหัวเราะแห่งโลกในสหรัฐฯ ซึ่งได้เปิดการอบรม เรื่องศิลปะของการหัวเราะ อวดอ้างว่า ได้หลักฐานที่น่าเชื่อถืออย่างยิ่งว่าการหัวเราะอาจเป็นวิธีลดความอ้วนได้ดีที่สุด อีกทั้งยังรักษาโรคอื่นๆ ได้อีกด้วย นายสตีฟ วิลสัน ผู้บริหารคนหนึ่งของบริษัท กล่าวว่า การหัวเราะออกมาอย่างเต็มที่สัก 1 นาที จะเป็นคุณแก่หลอดเลือดหัวใจได้ไม่น้อยกว่าการวิ่งลู่นาน 10 นาที ซึ่งจะเผาผลาญพลังงานลงได้ เป็นปริมาณหลายแคลอรี จะช่วยยืดกล้ามเนื้อและข้อต่อ และยิ่งหัวร่อแบบออกทางจมูก ยิ่งจะมีผลเป็นการบริหารพุงได้อย่างดีอีกด้วย (ไทยรัฐ พุธที่ 13 เม.ย. 48 http://www.thairath.co.th)





ยูเอ็นตั้งรางวัลใหม่คุ้มครองสิ่งแวดล้อมโลก

โครงการสิ่งแวดล้อมสหประชาชาติ (ยูเนพ) ประกาศผลรางวัล "แชมเปียน ออฟ ดิ เอิร์ธ" ประจำปี 2548 ซึ่งเป็นรางวัลใหม่เพื่อเป็นแรงดลใจให้กับชาวโลกช่วยกันคุ้มครองโลกมากขึ้น รวมทั้งสิ้น 7 คน จาก 7 ประเทศ โดยแต่ละท่านจะขึ้นรับโล่รางวัลเป็นเขาสัตว์เทียมซึ่งทำขึ้นจากโลหะ ที่นำกลับมาใช้ใหม่ด้วยฝีมือของช่างประติมากรชาวเคนยา ในงานพิธีที่นครนิวยอร์ก วันอังคารที่ 19 เม.ย.นี้ ทั้งนี้ โฆษกประจำยูเนพแถลงว่า การมอบรางวัลครั้งนี้จะไม่มีเงินเข้ามาเกี่ยวข้อง ทุกคนต่างชนะใจกรรมการโดยเท่าเทียมกัน ประธานาธิบดี ธาโบ เอ็มเบกิ พร้อมประชาชนชาวแอฟริกาใต้ได้รับรางวัลทรงเกียรติ ในการร่วมแรงกายแรงใจรักษาน้ำให้สะอาดและสุขอนามัยแก่คนจนตามการประชุมสุดยอด เอิร์ธ ซัมมิต ของสหประชาชาติ (ยูเอ็น) ที่เมืองโยฮันเนสเบิร์ก ในแอฟริกาใต้เมื่อปี 2545 กษัตริย์จิกเม สิงเย วังชัค พร้อมประชาชนชาวภูฏานที่ช่วยกันรักษาประเทศให้มีพื้นที่ป่า 76% และจัดสรรพื้นที่ให้ความคุ้มครอง 26% พระราชาคณะบาร์โธโลมิว แห่งคริสต์ศาสนานิกายออร์ทอดอกซ์ ซึ่งเทศนาสั่งสอนชาวคริสต์ว่า พระผู้เป็นเจ้ามีความประสงค์ให้มนุษย์ช่วยกันพิทักษ์ดาวเคราะห์ดวงนี้ เพื่ออนุชนรุ่นหลัง นอกจากนี้ ยังมีนายชีลา วัตต์ คลูเทียร์ ตัวแทนของชนชาว Inuit ซึ่งอยู่ ทางตะวันตกเฉียงเหนือของแคนาดา อดีตรัฐมนตรีสิ่งแวดล้อม จูเลีย คาราเบียส ลิลโล ของเม็กซิโก อดีตประธานาธิบดี ชีค ซายัด บิน สุลต่าน อัล-นาห์ยัน แห่งสหรัฐ-อาหรับเอมิเรตส์ และนายโจว เฉียง นักเคลื่อนไหวด้านสิ่งแวดล้อมชาวจีน. (ไทยรัฐ พุธที่ 13 เม.ย. 48 http://www.thairath.co.th)





เนคเทค จัดอบรม T-Engine สร้างคนด้านสมองกลฝังตัว

นายทวีศักดิ์ กออนันตกูล ผู้อำนวยการ ศูนย์เทคโนโลยีอิเล็คทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์แห่งชาติ หรือ เนคเทค กล่าวว่า เนคเทค ร่วมกับ บริษัท เรเนซัส ผู้ผลิตอุปกรณ์สารกึ่งตัวนำ รายใหญ่ระดับ 1 ใน 5 ของโลก และสมาคมสมองกลฝังตัวไทย (TESA) ได้จัดการอบรมหัวข้อ "T-Engine Embedded Software/Systems Development Training for Trainer" เป็นครั้งแรกในประเทศไทยระหว่างวันที่ 18-21 เม.ย. 2548 โดยการอบรมครั้งนี้ มีเป้าหมายเพื่อสร้างผู้เชี่ยวชาญ ที่จะเป็นแกนกลางในการเผยแพร่เทคโนโลยี T-Engine ในวงกว้าง และผลิตบุคลากรชั้นสูง ในการเสริมสร้างความแข็งแกร่งแก่อุตสาหกรรมอิเล็คทรอนิกส์และซอฟต์แวร์ของไทย (ไทยรัฐ อังคารที่ 19 เม.ย. 48 http://www.thairath.co.th)






KMUTT Digital Library
Contact Digital Library : info@lib.kmutt.ac.th
Tel : 0-2470-8215