Digital Library

หัวข้อข่าวปีที่ 6 ฉบับที่ 20 ประจำวันที่ 2005-05-29

ข่าวการศึกษา

กทม.นำร่องสอนสเปน
งานหนังสือเด็กและเยาวชนเริ่มวันที่ 6 ก.ค.นี้
เด็กไทยชื่อกระฉ่อน แชมป์คณิตฯ “เอเชีย” ซิวอีก 2 เหรียญทอง
คุรุสภาประกวดนวัตกรรมโรงเรียน
มธ.ใช้"ธาราบำบัด"น.ศ.พิการ อธิการฯคุยมีแห่งเดียวในไทย
มหิดลจับมือม.การแพทย์ปักกิ่ง เปิดหลักสูตรแพทย์แผนเอเชีย
ระดมความเห็นจัดทำร่างพ.ร.บ.จดหมายเหตุ
ชง ครม.ไฟเขียวส่งบัณฑิตกองทุนหมู่บ้านเรียนโท
แนะมหาวิทยาลัยปรับตัว หนุนไทยศูนย์การศึกษาอาเซียน
ร.ร.นานาชาติผ่านประเมิน 26 แห่งจากทั้งหมด 96 โรง
มน.ผุดหลักสูตรออนไลน์ เน้นป.ตรีสาขาท่องเที่ยว
ทีซียูดึงเวียดนาม เปิดป.โทเภสัชฯ เดินเครื่องปี2549
มรภ.อยุธยาเปิดสอนภาษาจีน
เปิดตัว 9 อธิการบดีราชมงคล

ข่าววิทยาศาสตร์/เทคโนโลยี

สหรัฐปิดฟ้าห้ามโฆษณาในอวกาศ กลัวเป็นม่านบดบังดวงดาวต่างๆ
นักวิทยาศาสตร์อังกฤษโคลนนิ่ง ทารกตัวอ่อนสำเร็จเป็นรายแรก
เกาหลีใต้พัฒนามือถือจอ12นิ้ว
ไมโครซอฟท์ผนึก6กระทรวง สร้างศูนย์กลางเวบเซอร์วิส
ดาวเคราะห์ต่างสุริยจักรวาล ส่วนใหญ่เป็นก๊าซเรือนร้อยดวง
นิยามใหม่ของ “วินาที”
แกรมมี่เจียด 80 ล้าน ทำระบบบริหารสื่อรับอนาคต
ไซเบอร์แพลนเน็ตปลื้มโชว์เกมงานE3
เอกชนชูอุปกรณ์คุมมอเตอร์ลดต้นทุน
เมื่อนักวิจัยจุฬาฯ ปักธงไทยที่ขั้วโลกใต้
ดันเซลล์พลังงานเป็นทางเลือก ทนทานไร้ควันพิษ
สร้างโรงไฟฟ้าพลังคลื่นแห่งแรก ใช้ท่อรูปไส้กรอกวางไว้ไกลห่างฝั่ง
เผยก่อนมีระบบสุริยจักรวาล ดวงดาวยุ่งเหยิงไร้ระเบียบ
"แม้ว"สนเทคโนฯ"U Government"ใช้บริหารราชการไทย
คอมพ์ความเร็วสูงบนลีนุกซ์เครื่องแรก

ข่าววิจัย/พัฒนา

นักวิทย์พัฒนาแผ่นสีวัดความหอมข้าว
นักวิจัยโสมขาวพบเทคนิคปูทางคนปรับใช้อวัยวะสัตว์
ม.5คิดสูตรกาวพลังช้าง เพิ่มค่าน้ำยางดิบสร้างรายได้
เทคนิคใหม่สร้างโคตรเพชร 300 กะรัต
รองเท้าอัจฉริยะ ไม่ออกกำลัง อดดูทีวี
วิจัยเพิ่มมูลค่ากะลา ยกระดับรายได้ชาวสวนมะพร้าว
สิงคโปร์พัฒนาระบบ'สัมผัส'ทางไกล อาศัยอินเทอร์เน็ตส่งผ่านความรู้สึก
สภาอุตฯกระตุ้นมหาวิทยาลัยท้องถิ่น สนใจ'เซลล์เคมี'พลังงานทดแทนใหม่
ตรวจไข้ล้ำยุคหมอไม่ต้องมาส่งหุ่นไปแทน
จักรยานน้ำ
น้ำนมแม่ช่วยคุ้มโรคหัวใจให้ลูก เด็กนมแม่แข็งแรงกว่าเด็กนมผง
วว.เปิดบ้านถ่ายทอดเทคโนโลยีแก้จน
โรงพยาบาลเจ้าพระยา รักษาคนไข้ด้วยเซลล์บำบัด
แผ่นวัดระดับความหอมข้าว ใช้ง่ายราคาถูกช่วยโรงสีตรวจคุณภาพ
ไทยรอยลโฉมดิสก์กระดาษ
ล้างความเชื่อเรื่องกระเพาะปัสสาวะ ไม่ได้หดลงเมื่อแก่ตัว
สมาร์ทการ์ด รปภ.คอมพิวเตอร์ มจธ.
จุฬาฯทดลอง 'เห็ดหลินจือ' รักษาไตเรื้อรัง
อุโมงค์ผนึกสุญญากาศฝีมือวว. บรรจุภัณฑ์หลอดไฟปลอดละอองฝ้า
จีนประสบความสำเร็จผลิตวัคซีนป้องกันไข้หวัดนก

ข่าวทั่วไป

วิตามินอีช่วยป้องกันพาร์กินสัน มีอยู่อุดมในผลไม้อย่างมะม่วง
สั่งปิดโบราณสถานป้อมเพชรกรุงเก่า
ราชกิจจานุเบกษา
who บรรจุ 4 โรคร้ายต้องแจ้งภัยฉุกเฉิน
เอดีบีเตือนเอเซียชาติเอเซียฟื้นฟูษ์สิ่งแวดล้อม
อย.สหรัฐฯ เตือนยาแก้ไอที่มีส่วนผสม DXM อันตราย
เป็นมะเร็งเต้านมต้องออกกำลัง มีส่วนช่วยให้รอดชีวิตได้มากขึ้น
ชาติโลกที่สามแห่ ทำอุตเหมืองทอง แหล่งรายได้ใหม่
ยื้อกฎหมายคุ้มสัตว์ทดลอง

ข่าวการศึกษา

กทม.นำร่องสอนสเปน

นายวัลลภ สุวรรณดี รองผู้ว่าฯ กทม.กล่าวในการเป็นประธานเปิดตัวกิจกรรม "มิติใหม่ทางการศึกษา กทม. เปิดประตูโรงเรียนสู่โลกภาษาสเปน" เมื่อเร็วๆ นี้ ว่า ในปีการศึกษา 2548 กทม.จัดให้มีการพัฒนาหลักสูตรการสอนภาษาสเปนเป็นหลักสูตรภาษาต่างประเทศเพิ่มขึ้นอีก 1 ภาษา นอกเหนือจากภาษาอังกฤษ ภาษาจีน และภาษาอาหรับที่มีอยู่แล้ว โดยกำหนดให้นักเรียนระดับมัธยมศึกษาของ กทม.มีโอกาสเลือกเรียนภาษาสเปน โดยคัดเลือกโรงเรียนนำร่อง 3 โรงเรียน คือ ร.ร.มัธยมประชานิเวศน์ ร.ร.มัธยมบ้านบางกะปิ และ ร.ร.พระยามนธาตุราชศรีพิจิตร์ โดยวิทยากรผู้สอนเป็นนักเรียนทุนแลกเปลี่ยนเอเอฟเอส ซึ่งเป็นผู้ที่มีประสบการณ์ในการเรียนรู้ภาษาสเปน สำหรับการจัดรูปแบบการเรียนการสอนจะเน้นการสื่อสารพร้อมเรียนรู้อย่างมีความสุขด้วยการใช้เทคโนโลยี เพลง ภาพยนตร์เป็นสื่อในการเรียนรู้ ซึ่งหากมีผู้ปกครองและนักเรียนให้ความสนใจในหลักสูตรดังกล่าวมากขึ้น กทม.จะขยายผลไปสู่โรงเรียนอื่นๆ ในสังกัดต่อไป สาเหตุที่ กทม.เลือกภาษาสเปนเป็นหลักสูตรภาษาต่างประเทศอีกภาษา เพราะเล็งเห็นว่าภาษาสเปนเริ่มทวีความสำคัญในด้านเศรษฐกิจและวัฒนธรรมมากขึ้นในปัจจุบัน เนื่องจากอิทธิพลของคนเชื้อสายละตินเพิ่มขึ้นในโลก และพบว่ามีจำนวนประชากรที่พูดภาษาสเปนมากถึงกว่า 400 ล้านคนในหลายประเทศทั่วโลก และยังเป็นภาษาราชการภาษาหนึ่งขององค์การสหประชาชาติด้วย (คมชัดลึก อังคารที่ 24 พ.ค. 48 http://www.komchadluek.net)

งานหนังสือเด็กและเยาวชนเริ่มวันที่ 6 ก.ค.นี้

สมาคมผู้จัดพิมพ์ฯ เร่งเครื่องส่งเสริมการอ่านให้เด็ก จัดเทศกาลหนังสือเด็กและเยาวชนครั้งที่ 3 ระหว่างวันที่ 6-10 กรกฎาคม ที่ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ นายธนะชัย สันติชัยกุล รองประธานกรรมการบริษัท เนชั่น มัลติมีเดีย กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) ในฐานะนายกสมาคมผู้จัดพิมพ์และผู้จำหน่ายหนังสือแห่งประเทศไทย กล่าวว่า ในระหว่างวันที่ 6-10 กรกฎาคมนี้ สมาคมจะจัดเทศกาลหนังสือเด็กและเยาวชน ครั้งที่ 3 ที่บริเวณโซนซี 1-2 ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ตั้งแต่เวลา 10.00-20.30 น. เพื่อกระตุ้นให้เด็กและเยาวชนเห็นความสำคัญของการอ่านและการเรียนรู้ รวมทั้งเป็นการจัดสภาพแวดล้อมให้เด็กและเยาวชนมีความสุขกับการอ่านหนังสือ ส่งผลให้เด็กเติบโตขึ้นมามีนิสัยรักการอ่าน การจัดงานในครั้งนี้ไม่เพียงแต่กระตุ้นให้เด็กมีนิสัยรักการอ่านเท่านั้น แต่ยังต้องการกระตุ้นให้ครู ผู้ปกครอง ช่วยกันหาวิธีการและสร้างบรรยากาศในการอ่านให้เด็กอ่านอย่างสนุกสนาน นอกจากนี้ยังเป็นการส่งเสริมให้สำนักพิมพ์ที่ผลิตหนังสือเพื่อเด็กและเยาวชนได้ผลิตหนังสือให้สอดคล้องกับความต้องการของเด็กแต่ละช่วงอายุ ที่สำคัญจะช่วยกระตุ้นภาครัฐให้ตื่นตัวในการปูพื้นฐาน ส่งเสริมนิสัยรักการอ่านให้เด็กเป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาประเทศ ภายในงานจะมีสำนักพิมพ์ที่ผลิตหนังสือเด็กและเยาวชนจำนวน 180 แห่ง ร่วมออกร้านจำหน่ายหนังสือและสื่อการศึกษา โดยแบ่งเป็นโซนพลาซ่า จะมีกิจกรรมแนะแนวศึกษาต่อ และการแข่งขันตอบปัญหาสารานุกรมเยาวชน โซนซี 1 ตั้งอยู่บริเวณชั้นล่างมีการออกร้านขายหนังสือสำหรับเด็กตั้งแต่ในครรภ์จนถึง 8 ขวบ โซนซี 2 บริเวณชั้นบน จะเป็นการออกร้านหนังสือสำหรับวัยรุ่นอายุ 9-18 ปี รวมทั้งจะมีการสอนสร้างการ์ตูนแอนิเมชั่น และบริเวณเอเทรียม เป็นพื้นที่สำหรับติดต่อซื้อขายลิขสิทธิ์ เนื้อเรื่องและภาพประกอบหนังสือ เป็นต้น (คมชัดลึก จันทร์ที่ 23 พ. ค. 48 http://www.komchadluek.net)

เด็กไทยชื่อกระฉ่อน แชมป์คณิตฯ “เอเชีย” ซิวอีก 2 เหรียญทอง

คณะผู้แทนเยาวชนไทย ที่เดินทางไปแข่งขัน SEAMEO Mathematics หรือ คณิตศาสตร์ โอลิมปิก ภาคพื้นเอเชีย ประจำปี 2548 จัดขึ้นระหว่างวันที่ 16-20 พ.ค.48 ที่ประเทศมาเลเซีย เดินทางกลับมาถึงประเทศไทย พร้อมกับคว้ารางวัลชนะเลิศ การแข่งขันชิงความเป็นเลิศสาขาวิชาคณิตศาสตร์ประเภททีม อันดับที่ 1 แซงหน้าเวียดนามตัวเก็งไปเพียง 1 คะแนน ขณะที่แชมป์เก่าจากประเทศสิงคโปร์ไม่สามารถทำคะแนนติด 1 ใน 3 ได้ นอกจากนี้ เด็กไทยทั้ง 4 คน ยังคว้าเหรียญทองอีก 2 เหรียญ เหรียญเงิน และเหรียญทองแดง อีกอย่างละ 1 เหรียญ ดร.ณรงค์ ปั้นนิ่ม อาจารย์จากภาควิชาคณิตศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ หัวหน้าทีมคณะผู้แทนประเทศไทย ในการแข่งขันคณิตศาสตร์ โอลิมปิก ภาคพื้นเอเชีย เปิดเผยว่า นักเรียนไทยสามารถทำคะแนนได้เป็นอันดับที่ 1 ประเภททีม เนื่องจากเด็กไทยมีความรู้และทักษะด้านคณิตศาสตร์ที่ดี ประกอบกับ การฝึกฝนทำโจทย์ด้านคณิตศาสตร์ก่อนเดินทางไปแข่งขัน การที่ไม่ต้องเก็บตัวเด็ก ทำให้เด็กทั้ง 4 คน ไม่มีความกดดันใดๆ โดยก่อนไปมีความกังวลว่าประเทศเวียดนามเป็นคู่แข่งที่น่ากลัวที่สุด เพราะมีโรงเรียนสำหรับสอนเยาวชนเพื่อเข้าแข่งขันในระดับประเทศโดยเฉพาะ จึงทำให้ประเทศเวียดนามมีนักเรียนที่สามารถแข่งขันในระดับประเทศให้เลือกจำนวนมาก ดร.ณรงค์ กล่าวต่อว่า ที่น่ายินดีที่สุดคือ นักเรียนไทย 1 คน คือ นายวุฒิศักดิ์ ตรงศิริวัฒน์ จากโรงเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัย สามารถทำคะแนนประเภทเดี่ยวได้เต็ม 10 ทำให้เป็นผู้ที่เก่งที่สุดในจำนวนผู้แข่งขัน 36 คน จาก 9 ประเทศ ได้แก่ ไทย สิงคโปร์ เวียดนาม มาเลเซีย พม่า กัมพูชา บรูไน อินโดนีเซีย และฟิลิปปินส์ และได้รับเหรียญทองกลับมาอีกด้วย สำหรับการแข่งขันครั้งนี้ มีนักเรียนไทยที่ร่วมเดินทางไปด้วยกัน 4 คน ประกอบด้วย นายวุฒิศักดิ์ ตรงศิริวัฒน์ จากโรงเรียนสวนกุหลาบ ได้รับเหรียญทอง นายธนะพงศ์ จารุศิริพัฒน์ จากโรงเรียนสวนกุหลาบ ได้รับเหรียญทองแดง นายธีระเดช กิตติภัสสร จากโรงเรียนสาธิตจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้รับเหรียญทอง และ นายภูมิพงศ์ วัฒนประกรณ์กุล จากโรงเรียนสาธิตจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้รับเหรียญเงิน (สยามรัฐรายวัน อาทิตย์ที่ 22 พ.ค. 48 http://www.siamrath.co.th)

คุรุสภาประกวดนวัตกรรมโรงเรียน

ดร.จักรพรรดิ วะทา เลขาธิการคุรุสภา กล่าวว่า คุรุสภาจะจัดการประกวดผลงาน "หนึ่งโรงเรียน หนึ่งนวัตกรรม" (โอเอสโอไอ) ครั้งที่ 2 ประจำปี 2548 ขึ้น จากแนวคิดการพัฒนาวิชาชีพโดยใช้โรงเรียนเป็นฐานด้วยนวัตกรรมการศึกษาที่หลากหลายเหมาะสมกับบริบทของโรงเรียน เกิดจากการมีส่วนร่วมและส่งผลต่อการพัฒนาคุณภาพผู้เรียน ครู และทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง วัตถุประสงค์ของการประกวด เพื่อคัดสรรและเผยแพร่นวัตกรรมที่มีคุณค่าทางวิชาการและมีคุณภาพสามารถเป็นนวัตกรรมต้นแบบและเป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาคุณภาพการศึกษา และเพื่อเป็นการกระตุ้นให้เกิดกระบวนการพัฒนาวิชาชีพอย่างต่อเนื่อง รวม ผลงานที่ส่งเข้าประกวดจะต้องสะท้อนให้เห็นแนวคิด วิธีการพัฒนา และผลสำเร็จที่เป็นรูปธรรม มีคุณค่าทางวิชาการ สามารถนำไปปฏิบัติได้จริง เป็นผลงานที่เกิดจากการมีส่วนร่วมและส่งผลต่อการพัฒนาคุณภาพของผู้เรียน ครู และทุกฝ่ายที่มีส่วนเกี่ยวข้อง ให้ผู้บริหารสถานศึกษานำเสนอผลงานตามกรอบที่กำหนด เพียงโรงเรียนละ 1 นวัตกรรม เน้นคุณค่าทางวิชาการ และการมีส่วนร่วม สอบถามและส่งผลงานได้ที่ กลุ่มวิจัยและพัฒนาวิชาชีพ สำนักพัฒนาและส่งเสริมวิชาชีพ สำนักงานเลขาธิการคุรุสภา ถนนราชสีมา เขตดุสิต กทม.10300 โทร.0-2281-4843 โทรสาร 0-2280-6366 และ http://www.ksp.or.th ตั้งแต่บัดนี้จนถึงวันที่ 30 มิถุนายน (คมชัดลึก พุธที่ 25 พ.ค. 48 http://www.komchadluek.net)

มธ.ใช้"ธาราบำบัด"น.ศ.พิการ อธิการฯคุยมีแห่งเดียวในไทย

ศาสตราจารย์(ศ.)ดร.สุรพล นิติไกรพจน์ อธิการบดีมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์(มธ.) แถลงเมื่อเร็วๆ นี้ที่ มธ.ศูนย์รังสิตว่า ปัจจุบัน มธ.เปิดรับนักศึกษาโครงการพิเศษ 4 โครงการคือ 1.โครงการเปิดรับนักศึกษาเรียนดีจากชนบท 2.โครงการเปิดรับนักศึกษาที่มีความสามารถดีเด่นทางด้านกีฬา 3.โครงการเปิดรับนักศึกษาที่เรียนดีแต่ขาดโอกาสที่อยู่ในเขตเมืองและ 4.โครงการเปิดรับนักศึกษาพิการ ซึ่งเปิดรับมาตั้งแต่ปี 2546 ขณะนี้มีนักศึกษาพิการที่เข้าร่วม 33 คน นักศึกษาเดิม 20 คน นักศึกษาใหม่อีก 13 คน สำหรับนักศึกษาพิการเมื่อเข้ามาแล้วทางมหาวิทยาลัยจะให้การดูแลและอำนวยความสะดวกอย่างเต็มที่โดยมีการเปิดศูนย์บริการนักศึกษาพิการ และมีเจ้าหน้าที่และอาสาสมัครให้บริการ ศร.ดร.สุรพลกล่าวว่า ได้รับการสนับสนุนจากบริษัท ไอบีเอ็ม จำกัด ในเรื่องของคอมพิวเตอร์และโปรแกรมเฉพาะและความอนุเคราะห์ของมูลนิธิธรรมิกชนเพื่อคนตาบอดฯในการให้ยืมใช้เครื่องพิมพ์อักษรเบรลล์ เครื่องขยายตัวหนังสือสำหรับนักศึกษาผู้พิการทางสายตาโดยเฉพาะ และในส่วนของเครื่องอำนวยความสะดวกต่างๆ ในระยะ 3 เดือนนี้ทางมหาวิทยาลัยได้งบประมาณสนับสนุนประมาณ 2 ล้านบาท โดยจัดทำทางเดินที่เป็นทางลาด ราวทางเดิน ห้องน้ำ และจัดการดูแลทางด้านสุขภาพโดยจัดศูนย์กายภาพบำบัด ธาราบำบัดซึ่งถือว่าเป็นมหาวิทยาลัยแห่งเดียวในประเทศที่ทำเช่นนี้ จึงอยากประกาศให้นักเรียนผู้พิการในระดับมัธยมศึกษาทราบว่า มธ.เปิดโอกาสทางการศึกษาต่อในระดับอุดมศึกษา โดยผู้สมัครจะต้องมีเกรดเฉลี่ยไม่ต่ำกว่า 2.00 และสำหรับการวัดผลทางการศึกษาจะกระทำเช่นดียวกันกับนักศึกษาทั่วไป และยังยืนยันเหมือนเดิมว่าจะเปิดรับปีละ 40-50 คน (มติชนรายวัน พุธที่ 25 พ.ค. 48 http://www.matichon.co.th)

มหิดลจับมือม.การแพทย์ปักกิ่ง เปิดหลักสูตรแพทย์แผนเอเชีย

ผู้ช่วยศาสตราจารย์(ผศ.) นพ.วิศาล คันธารัตนกุล รองผู้อำนวยการศูนย์การแพทย์กาญจนาภิเษก มหาวิทยาลัยมหิดล และกรรมการจัดทำหลักสูตรการแพทย์แผนเอเชีย เปิดเผยว่า ได้จัดทำหลักสูตรเพื่อพัฒนาด้านการเรียนการสอนการแพทย์แผนจีน ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของแพทย์แผนเอเชีย ตามข้อตกลงความร่วมมือระหว่างประเทศไทยและประเทศจีนที่จะมีความร่วมมือกันในด้านการแพทย์ โดยได้จัดตั้งคณะกรรมการจัดทำหลักสูตรแพทย์แผนเอเชีย เพื่อดำเนินการจัดทำหลักสูตรให้เหมาะสมกับระบบสุขภาพของประเทศไทย โดยเมื่อเร็วๆ นี้ มหิดลได้ร่วมลงนามข้อตกลงความร่วมมือกับ Beijing University of Chinese Medicine ซึ่งเป็นมหาวิทยาลัยแห่งชาติของรัฐบาลจีน ข้อตกลงนี้มีสาระสำคัญคือ การร่วมกันพัฒนาหลักสูตรในทุกระดับตั้งแต่ ประกาศนียบัตร ปริญญาตรี-เอก สนับสนุนการศึกษาแพทย์แผนจีนในหลักสูตรการแพทย์แผนเอเชีย โดยผู้สำเร็จการศึกษาในหลักสูตรที่รับรองจะได้รับการรับรองวุฒิจากมหาวิทยาลัยมหิดลและมหาวิทยาลัยการแพทย์แผนจีนปักกิ่งด้วย สำหรับในปีการศึกษาหน้า มหิดลมีแผนเปิดดำเนินการหลักสูตรประกาศนียบัตรชั้นสูงทางการแพทย์ ใช้เวลาเรียน 1 ปี 6 เดือน โดยรับสมัครจากแพทย์ที่จบแพทยศาสตรบัณฑิต และในปีต่อไปก็จะเริ่มเปิดรับหลักสูตรระดับปริญญาสำหรับแพทย์แผนเอเชีย และระดับปริญญาโท-เอกต่อไป (มติชนรายวัน พุธที่ 25 พ.ค. 48 http://www.matichon.co.th)

ระดมความเห็นจัดทำร่างพ.ร.บ.จดหมายเหตุ

นายอารักษ์ สังหิตกุล อธิบดีกรมศิลปากร เปิดเผยว่า ปัจจุบันนี้ทุกประเทศในโลกได้ให้ความสำคัญต่อจดหมายเหตุอย่างมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งการกำหนดให้มีกฎหมายว่าด้วยจดหมายเหตุ ซึ่งงานจดหมายเหตุมีความสำคัญยิ่งต่อประเทศชาติ รัฐบาล ส่วนราชการ สถาบัน องค์กร เอกชน และบุคคลทั่วไปรวมทั้งเป็นประโยชน์ต่อการศึกษาค้นคว้าและวิจัย การดำเนินงานจดหมายเหตุในประเทศไทยมีการดำเนินงานมานานแล้ว แต่ยังไม่มีกฎหมายว่าด้วยจดหมายเหตุแต่อย่างใด ดังนั้น กรมศิลปากรจึงได้แต่งตั้งคณะกรรมการขึ้นคณะหนึ่งเพื่อยกร่าง พ.ร.บ.จดหมายเหตุแห่งชาติ พ.ศ. ... ขณะนี้ได้ยกร่างเสร็จสิ้นแล้ว ร่าง พ.ร.บ.ดังกล่าวได้กำหนดหลักเกณฑ์แนวทางและวางระบบในการคุ้มครองเอกสารสำคัญของชาติ และจดหมายเหตุให้ถูกต้องตามหลักวิชาการจดหมายเหตุ รวมทั้งข้อมูลข่าวสารลับของส่วนราชการ การจัดตั้งกองทุนส่งเสริมงานจดหมายเหตุ การส่งเสริมสนับสนุนให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นจัดตั้งหอจดหมายเหตุในท้องถิ่นแต่ละจังหวัด และเพื่อป้องกันมิให้เอกสารสำคัญของชาติ ถูกทำลายหรือถูกลับลอบค้าส่งหรือนำออกนอกราชอาณาจักร เพื่อให้มีกฎหมายรองรับหอจดหมายเหตุแห่งชาติ ซึ่งเป็นองค์กรกลางในการดูแลรับผิดชอบจดหมายเหตุให้เป็นแหล่งศึกษา ค้นคว้า จึงได้จัดประชุมขึ้นเพื่อระดมความคิดเห็นจากผู้แทนหลายหน่วยงานเพื่อนำไปสู่การยกร่างกฎหมายฉบับนี้ให้สมบูรณ์ชัดเจนยิ่งขึ้น (มติชนรายวัน พุธที่ 25 พ.ค. 48 http://www.matichon.co.th)

ชง ครม.ไฟเขียวส่งบัณฑิตกองทุนหมู่บ้านเรียนโท

นายพลสัณห์ โพธิ์ศรีทอง รองเลขาธิการคณะกรรมการการอุดมศึกษา (กอ.) ในฐานะประธานคณะอนุกรรมการจัดทำร่างหลักสูตร และโครงการปริญญาโทต่อยอดหลักสูตรประกาศนียบัตรบัณฑิต สาขาการจัดการและการประเมินโครงการกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมือง เปิดเผยความคืบหน้าโครงการฯว่า ได้มีการจัดทำหลักสูตรเสร็จเรียบร้อยแล้ว และเตรียมเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณาตั้งแต่ ต้นปี หาก ครม.เห็นชอบหลักสูตรดังกล่าวและให้ดำเนินการโครงการฯ ตามที่เสนอ ปีแรกน่าจะใช้งบประมาณในการดำเนินการประมาณ 700-800 ล้านบาท โดยในเบื้องต้นจะมีการสนับสนุนงบประมาณเป็นทุนการศึกษาให้เฉพาะผู้ที่จบหลักสูตร ป.บัณฑิตเพียงแค่ปีเดียวเท่านั้น หลังจากที่มีข่าวว่าจะมีการสนับสนุนปริญญาโทในโครงการดังกล่าว ปรากฏว่าขณะนี้มีผู้สนใจสอบถามรายละเอียดเข้ามาเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะผู้ที่ไม่เคยเรียนหลักสูตร ป.บัณฑิตมาก่อน และขอให้เปิดโอกาสให้เขาได้เข้าร่วมโครงการด้วย ดังนั้นคณะผู้จัดทำหลักสูตรจึงเห็นว่าน่าจะเปิดโอกาสให้กลุ่มผู้ที่จบปริญญาตรีสาขาอื่น ๆ ที่เข้ามาทำงานเกี่ยวข้องกับกองทุนหมู่บ้าน ได้เข้ามาเรียนต่อยอดปริญญาโทในโครงการนี้ด้วย ซึ่งเชื่อว่าจะช่วยพัฒนากองทุนหมู่บ้านได้มาก. (ไทยรัฐ พฤหัสบดีที่ 26 พ.ค. 48 http://www.thairath.co.th)

แนะมหาวิทยาลัยปรับตัว หนุนไทยศูนย์การศึกษาอาเซียน

ศ.(พิเศษ) ดร.ภาวิช ทองโรจน์ เลขาธิการคณะกรรมการการอุดมศึกษา (กกอ.) กล่าวถึงการผลักดันไทยให้เป็นศูนย์กลางการศึกษาของอาเซียนว่า ปัจจุบันมีนักเรียน นักศึกษาต่างชาติมาเรียนในเมืองไทยจำนวนมาก เนื่องจากค่าใช้จ่ายไม่สูงนัก และไทยเปิดสอนหลักสูตรนานาชาติ รวมทั้งขยายการศึกษาไปยังต่างประเทศ เช่น มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ (มศว) ไปตั้งศูนย์สอนภาษาไทยที่กรุงฮานอย ประเทศเวียดนาม ขณะเดียวกันสาขาบริหารธุรกิจ, ไอซีที, แอนิเมชั่น, การแพทย์ของมหาวิทยาลัยไทย ก็โดดเด่นและเป็นที่ยอมรับระดับนานาชาติ ซึ่งมหาวิทยาลัยอาจจะแบ่งการจัดการศึกษาแพทย์เป็น 2 ส่วนคือ ส่วนหนึ่งผลิตแพทย์เพื่อใช้ในประเทศ อีกส่วนหนึ่งให้โควตานักศึกษาต่างชาติโดยจัดการศึกษาหลักสูตรนานาชาติ และ ดร. ภาวิชจะเดินทางไปยังประเทศอินเดีย เพื่อเจรจาขอความร่วมมือในเรื่องการจัดการศึกษาสาขาเทคโนโลยีสารสนเทศ (ไอซีที) ส่วนสาขาการโรงแรมมหาวิทยาลัยอาจจะต้องไปดูงานเพิ่มเติมในประเทศที่มีความเด่นด้านนี้ เช่น ฝรั่งเศส ที่สำคัญต่อไปเมื่อสนามบินสุวรรณภูมิเสร็จ จะส่งผลให้ไทยต้องขยายการจัดการศึกษาด้านการบินมากขึ้นในทุกๆ ด้าน ไม่ว่าจะการเตรียมนักบินและเทคโนโลยีการบิน การจัดการท่าอากาศยาน เป็นต้น ซึ่งรัฐบาลฝรั่งเศสให้ความสนใจร่วมเปิดหลักสูตรวิทยาศาสตร์การบินนานาชาติขึ้นที่มหาวิทยาลัยนครพนม พร้อมกันนี้สำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา (สกอ.) จะจัดตั้งศูนย์ความเป็นเลิศด้านการท่องเที่ยวขึ้นในมหาวิทยาลัย 5 แห่งคือ ภาคใต้ที่มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ ในศูนย์การศึกษาสุราษฎร์ธานี ภาคกลางที่มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนดุสิต มศว จุฬาฯ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือที่มหาวิทยาลัยนครพนม (คมชัดลึก พฤหัสบดีที่ 26 พ.ค. 48 http://www.komchadluek.net)

ร.ร.นานาชาติผ่านประเมิน 26 แห่งจากทั้งหมด 96 โรง

คุณหญิงกษมา วรวรรณ ณ อยุธยา ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) ให้สัมภาษณ์ภายหลังการประชุมมอบนโยบายเกี่ยวกับมาตรฐานการศึกษาของโรงเรียนนานาชาติ แก่โรงเรียนนานาชาติที่ยังไม่ได้เข้าสู่กระบวนรับรองมาตรฐานจากองค์กรต่างประเทศ ที่โรงแรมแกรนด์ไดมอนด์ เมื่อเร็วๆ นี้ ว่าตามเกณฑ์ของสำนักบริหารงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน (สช.) โรงเรียนนานาชาติตั้งแต่ระดับประถมขึ้นไปจะต้องได้รับการรับรองจากองค์กรต่างประเทศภายในระยะเวลา 6 ปี นับแต่เปิดทำการ หากไม่ได้รับการรับรองจะต้องเลิกกิจการภายใน 2 ปี ขณะนี้มีโรงเรียนนานาชาติผ่านการรับรองจากองค์กรของต่างประเทศแล้ว 26 แห่ง จาก 96 แห่ง ทั้งนี้ สช.และสำนักงานรับรองมาตรฐานและประเมินคุณภาพการศึกษา (สมศ.) ได้ตกลงร่วมกันที่จะเข้าไปประเมินโรงเรียนดังกล่าว เฉพาะในแง่ของวัฒนธรรมและความเป็นไทย เพื่อไม่ให้เกิดการประเมินซ้ำซ้อน เหลือโรงเรียนนานาชาติอีก 70 แห่ง ยังไม่ได้รับการประเมิน 35 แห่ง เนื่องจากเป็นสถานศึกษาที่จัดตั้งใหม่ โดย สช.จะเข้าไปดูแลเพื่อให้เข้าสู่การประเมินขององค์กรต่างประเทศแบบครบวงจรและรวดเร็ว ส่วนอีก 35 แห่ง เป็นโรงเรียนนานาชาติระดับอนุบาล แม้จะไม่อยู่ในเงื่อนไขที่จะต้องได้รับการรับรองจากองค์กรต่างประเทศ ระหว่างนี้ได้มอบให้ สช.จัดทีมนักจิตวิทยาเข้าไปดูแลและศึกษาพฤติกรรมของเด็ก ไปจนกว่าองค์กรต่างประเทศจะเข้ามาประเมินเพื่อเป็นการคุ้มครองผู้บริโภค (คมชัดลึก พฤหัสบดีที่ 26 พ.ค. 48 http://www.komchadluek.net)

มน.ผุดหลักสูตรออนไลน์ เน้นป.ตรีสาขาท่องเที่ยว

รศ.ดร.มณฑล สงวนเสริมศรี อธิการบดีมหาวิทยาลัยนเรศวร (มน.) เปิดเผยว่า มหาวิทยาลัยวางแผนในปี 2549 จะเปิดหลักสูตรปริญญาตรีคู่ขนานใช้เวลาเรียน 5 ปีในสาขาหลักสูตรนิติศาสตร์ควบวิทยาศาสตร์การแพทย์ หลักสูตรประวัติศาสตร์ควบการท่องเที่ยว โดยเปิดรับสาขาละ 100 คน หลักสูตรไอทีควบนิติศาสตร์ 60 คน รวมถึงหลักสูตรบริหารธุรกิจควบสาขาอื่นๆ และจะเปิดหลักสูตรการท่องเที่ยวระดับปริญญาตรี ซึ่งหลักสูตรนี้จะรับนักศึกษาไม่จำกัดจำนวนและสอนผ่านระบบออนไลน์ โดยเร็วๆ นี้จะลงนามความร่วมมือกับมหาวิทยาลัยไซเบอร์ไทยของสำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา (สกอ.) สำหรับการเรียนการสอนผ่านระบบออนไลน์ เมื่อนักศึกษาลงทะเบียนเรียนจะได้รับรหัสส่วนตัวเข้าไปค้นคว้าหาความรู้ในอินเทอร์เน็ต เพื่อหาความรู้เพิ่มเติมในภาคทฤษฎี ซึ่งเปรียบได้กับห้องสมุดเสมือน ส่วนวิชาที่เป็นภาคปฏิบัติ ก็ให้มาเรียนรู้กับอาจารย์ผู้สอนโดยตรง ส่วนงบประมาณปี 2549 มหาวิทยาลัยเสนอของบประมาณจากรัฐบาลไปกว่า 1 พันล้านบาท โดยแต่ละปีมหาวิทยาลัยผลิตบัณฑิตระดับปริญญาตรีประมาณ 5 พันคน และระดับปริญญาโทและเอกรวมประมาณ 1 พันคน ซึ่งการจัดการศึกษาเน้นการทำงานและใช้อาจารย์ร่วมกับมหาวิทยาลัยในภาคเหนือเช่น ม.เชียงใหม่ ม.แม่ฟ้าหลวง และต่อไปจะขยายความร่วมมือไปยังมหาวิทยาลัยราชภัฏ เช่น มรภ.เชียงใหม่ มรภ.เชียงราย (คมชัดลึก ศุกร์ที่ 27 พ.ค. 48 http://www.komchadluek.net/news)

ทีซียูดึงเวียดนาม เปิดป.โทเภสัชฯ เดินเครื่องปี2549

ผศ.อนุชัย ธีระเรืองไชยศรี รองผู้อำนวยการโครงการมหาวิทยาลัยไซเบอร์ไทย (ทีซียู) สำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา (สกอ.) เปิดเผยว่า ตามที่มหาวิทยาลัยไซเบอร์ไทยได้ไปจัดนิทรรศการการศึกษาไทยเมื่อวันที่ 21-23 พฤษภาคม 2548 ที่โรงแรมเมเลีย ฮานอย กรุงฮานอย ประเทศเวียดนาม ปรากฏว่า มีนักเรียน นักศึกษาเวียดนามให้ความสนใจมาเรียนมหาวิทยาลัยไซเบอร์ไทยในระดับปริญญาตรีสาขาภาษาไทย เศรษฐศาสตร์ การท่องเที่ยวและปริญญาโทสาขาเศรษฐศาสตร์ อย่างไรก็ตาม มหาวิทยาลัยเพิ่งเริ่มโครงการนำร่องจัดการศึกษาและยังไม่ได้เปิดสอนสาขาเหล่านี้ แต่ในอนาคตจะเปิดสอนให้ครอบคลุมและขยายการศึกษาไปต่างประเทศ ผู้บริหารมหาวิทยาลัยยังได้ไปเจรจาความร่วมมือกับ ฮานอย คอลเลจ ออฟ ฟาร์มาซี ประเทศเวียดนาม ที่เป็นสถาบันที่เปิดสอนเฉพาะสาขาเภสัชศาสตร์ เพื่อจัดการศึกษาปริญญาโทนานาชาติสาขาเภสัชศาสตร์สังคมและบริหาร ซึ่งมหาวิทยาลัยไซเบอร์ไทยได้ลงนามความร่วมมือกับจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เพื่อเปิดหลักสูตรนี้ไปเมื่อเร็วๆ นี้ และจะเปิดสอนในภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2549 รับนักศึกษาทั้งไทยและต่างชาติ เช่น เวียดนาม ลาว กัมพูชา โดยนักศึกษาต่างชาติรับไม่เกิน 10 คน ใช้เวลา 2 ปี ค่าเล่าเรียนเทอมละ 160,000 บาท อย่างไรก็ตาม มหาวิทยาลัยไซเบอร์ไทย จะหารือกับ สกอ.และจุฬาฯ เพื่อหาทางแบ่งเบาค่าเล่าเรียนให้แก่นักศึกษาไทยและต่างชาติ โดยอาจจะลดค่าเล่าเรียนหรือให้ทุนการศึกษา เบื้องต้นผู้บริหาร ฮานอย คอลเลจ ออฟ ฟาร์มาซี ตกลงที่จะร่วมมือกับมหาวิทยาลัยไซเบอร์ไทย เพื่อจัดการศึกษาปริญญาโทนานาชาติสาขาเภสัชศาสตร์สังคมและบริหารในเวียดนาม โดยเปิดสอนพร้อมกับจุฬาฯ แต่ยังไม่ได้กำหนดจำนวนนักศึกษา คาดว่าจะลงนามความร่วมมือกับจุฬาฯเร็วๆ นี้ (คมชัดลึก ศุกร์ที่ 27 พ.ค. 48 http://www.komchadluek.net/news)

มรภ.อยุธยาเปิดสอนภาษาจีน

ผศ.สุวิทย์ เฑียรทอง อธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฏ (มรภ.) พระนครศรีอยุธยา เปิดเผยว่า มหาวิทยาลัยวางแผนในปีการศึกษา 2549 จะเปิดสอนระดับปริญญาตรี หลักสูตรโปรแกรมวิชาภาษาจีนขึ้น 1 ห้องเรียน โดยมีโครงการแลกเปลี่ยนนักศึกษากับมหาวิทยาลัยกวางสี จากประเทศจีน โดยประเทศจีนจะส่งนักศึกษาจำนวน 57 คน มาเรียนระดับปริญญาตรีในโปรแกรมวิชาการท่องเที่ยวในหลักสูตรภาษาไทย เพื่อเรียนรู้วัฒนธรรมและแหล่งท่องเที่ยวในประเทศไทย อธิการ มรภ.พระนครศรีอยุธยา กล่าวอีกว่า สำหรับในภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2548 มหาวิทยาลัยได้เปิดหลักสูตรใหม่คือ สาขาวิทยาศาสตร์การอาหาร เพื่อเป็นทางเลือกให้แก่นักศึกษาที่สนใจเรียนด้านวิทยาศาสตร์ โดยได้เปิดรับนักศึกษาจำนวน 30 คน เนื่องจากวิทยาศาสตร์การอาหารเป็นสาขาซึ่งเน้นการเรียนการสอนให้รู้จักวิธีการประยุกต์วิทยาการทางการเกษตร เพื่อนำมาใช้ในการแปรรูปอาหาร จะช่วยเพิ่มมูลค่าให้แก่สินค้าการเกษตร เพราะหากไม่มีการถนอมอาหารหรือแปรรูป ก็ไม่ได้สร้างมูลค่าเพิ่มให้แก่สินค้า ส่วนแผนพัฒนามหาวิทยาลัยในปีการศึกษา 2548 เน้นการประกันคุณภาพการศึกษา และการรับใช้ท้องถิ่น ซึ่งเป็นแผนพัฒนาต่อเนื่องมาจากอธิการบดีคนเดิม และเป็นไปเพื่อสนองนโยบายของกระทรวงศึกษาธิการ ส่วนแผนพัฒนาในการรับใช้ท้องถิ่น จะมุ่งส่งเสริมความรู้ให้แก่ผู้นำชุมชนและประชาชน ซึ่งปรากฏว่าได้รับความสนใจจากองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) ใน จ.พระนครศรีอยุธยา เช่น องค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) องค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) ได้ส่งเจ้าหน้าที่เข้ามาอบรมคอมพิวเตอร์ บัญชีและการบริหารจัดการ ซึ่งเป็นหลักสูตรระยะสั้นใช้เวลาเรียน 3-5 วัน เมื่อเรียนจบจะมีการมอบวุฒิบัตรให้เจ้าหน้าที่ด้วย (คมชัดลึก เสาร์ที่ 28 พ.ค. 48 http://www.komchadluek.net)

เปิดตัว 9 อธิการบดีราชมงคล

คุณหญิงกษมา วรวรรณ ณ อยุธยา ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ ในฐานะนายกสภามหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล เปิดเผยผลการเลือกตั้งอธิการบดีมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล(มทร.) 9 แห่งว่า ตามที่ มทร.ได้ประกาศรับสมัคร/เสนอชื่ออธิการบดีตั้งแต่วันที่ 21-28 เม.ย.48 โดยคณะกรรมการสรรหาของแต่ละมหาวิทยาลัยๆ ได้ตรวจสอบคุณสมบัติเบื้องต้น และพิจารณากลั่นกรองผู้สมควรดำรงตำแหน่งอธิการบดีแห่งละไม่น้อยกว่า 2 คนแต่ไม่เกิน 3 คนนั้น ขณะนี้คณะกรรมการสภามหาวิทยาลัยได้ดำเนินการลงคะแนนเลือกตั้งผู้ที่ผ่านการพิจารณาทั้ง 9 มหาวิทยาลัยรียบร้อยแล้ว ดังนี้ 1.มทร.ธัญญบุรี ผศ.นำยุทธ สงค์ธนาพิทักษ์ ได้ 26 คะแนน จากผู้ใช้สิทธิ์ 27 เสียง 2.มทร.กรุงเทพ ผศ.เฉลิม มัติโก ได้ 25 คะแนน จากผู้ใช้สิทธิ์ 28 เสียง 3.มทร.ตะวันออก รศ.ไพบูลย์ มากจันทร์ ได้ 17 คะแนน จากผู้ใช้สิทธิ์ 32 เสียง 4.มทร.พระนคร รศ.ดวงสุดา เตโชติรส ได้ 19 คะแนน จากผู้ใช้สิทธิ์ 30 เสียง 5.มทร.รัตนโกสินทร์ รศ.อิสสรีย์ หรรษาจรูญโรจน์ ได้ 17 คะแนน จากผู้ใช้สิทธิ์ 29 เสียง 6.มทร.ล้านนา นายชัยยง เอื้อวิริยานุกูล ได้ 29 คะแนน จากผู้ใช้สิทธิ์ 34 เสียง 7.มทร.ศรีวิชัย ผศ.ประชีพ ชูพันธ์ ได้ 20 คะแนน จากผู้ใช้สิทธิ์ 32 เสียง 8.มทร.สุวรรณภูมิ ผศ.จริยา หาสิตพานิชกุล ได้ 24 คะแนน จากผู้ใช้สิทธิ์ 29 เสียง และ 9.มทร.อีสาน รศ.วินิจ โชติสว่าง ได้ 22 คะแนน จากผู้ใช้สิทธิ์ 33 เสียง นายกสภา มทร.กล่าวต่อไปว่า ส่วนกรณีที่มีการร้องเรียนศาลปกครองให้ชะลอการสรรหาใน 6 มทร.โดยกล่าวหาว่าดำเนินการผิดขั้นตอน เรื่องนี้ได้มีการปรึกษาผู้แทนกฤษฎีกาแล้วทราบว่า ศาลปกครองยังไม่ได้รับฟ้อง ดังนั้นการเลือกตั้งก็ต้องดำเนินการต่อไป หากมีข้อซักถามทางสภามหาวิทยาลัยก็จะไปชี้แจง อย่างไรก็ตามในการดำเนินการสรรหาทุกมหาวิทยาลัย ก็ดำเนินการตามพ.ร.บ.มหาวิทยาลัยทุกประการ ซึ่งหลังจากนี้ก็จะนำรายชื่อผู้ได้รับการเลือกตั้งทั้ง 9 มหาวิทยาลัย เสนอต่อนายอดิศัย โพธารามิก รมว.ศึกษาธิการ เพื่อพิจารณาและนำเสนอคณะรัฐมนตรี (สยามรัฐ เสาร์ที่ 28 พ.ค. 48 http://www.siamrath.co.th)

ข่าววิทยาศาสตร์/เทคโนโลยี

สหรัฐปิดฟ้าห้ามโฆษณาในอวกาศ กลัวเป็นม่านบดบังดวงดาวต่างๆ

รัฐบาลอเมริกันไม่อยากให้มีการส่งป้ายโฆษณาสินค้าขนาดใหญ่ ไปโคจรกันเกลื่อนอยู่ในอวกาศเพื่อการโฆษณา สหพันธ์การเดินอากาศของสหรัฐฯกำลังจะเสนอขอแก้ไขกฎข้อบังคับ เพื่อป้องกันไม่ให้มี “การโฆษณาเกะกะขึ้นในสภาพไร้น้ำหนัก” เหตุที่ต้องการที่จะแก้ไขกฎระเบียบเสียใหม่ ก็ด้วยเห็นว่า “การปล่อยวัตถุขึ้นไปโคจรอยู่ในอวกาศ หากว่าเป็นของมีขนาดใหญ่โตแล้ว จะสามารถสร้างความสนใจขึ้นได้เป็นอันมาก เพราะชาวโลกทั่วไปอาจจะมองเห็นได้ ยิ่งหากมีขนาดใหญ่มากๆ และมีแสงสว่าง ถูกปล่อยให้เข้าในวงโคจรรอบโลกระดับต่ำ อาจจะมองเห็นกันได้ด้วยตาเปล่า มี ขนาดโตเท่ากับดวงจันทร์ มันไม่แต่เพียงจะไปขัดขวางการศึกษาดวงดาวของนักดาราศาสตร์ลงเท่านั้น หากยังจะทำให้ท้องฟ้ากลางคืนสว่างกลายเป็นกลางวันขึ้นมาด้วย”. (ไทยรัฐ อังคารที่ 24 พ.ค. 48 http://www.thairath.co.th)

นักวิทยาศาสตร์อังกฤษโคลนนิ่ง ทารกตัวอ่อนสำเร็จเป็นรายแรก

นักวิทยาศาสตร์อังกฤษ นำโดยอาจารย์ไมโอดราก สโตจอโควิก ของมหาวิทยาลัยนิวคาสเซิล และอลิสัน เมอด็อก สามารถโคลนนิ่งทารกตัวอ่อนขึ้นได้ สำเร็จ หลังจากที่ได้รับอนุญาตจากรัฐบาลให้ทำการวิจัยเพื่อโคลนนิ่งทารกตัวอ่อนเมื่อปีกลาย มีรัฐบาลเพียงไม่กี่ชาติที่ยินยอมให้มีการวิจัยเพื่อโคลนนิ่งทารกตัวอ่อนขึ้นได้ แม้แต่สหประชาชาติก็กำลังพยายามจะออกข้อห้ามเรื่องนี้ขึ้นใช้บังคับทั่วโลก ความสำเร็จครั้งนี้ได้จุดชนวนให้เกิดการโต้เถียงในเรื่องข้อดีข้อเสีย ของการโคลนนิ่งทารกตัวอ่อนขึ้นในทันที ในขณะที่มีนักวิทยาศาสตร์บางคน เห็นดีเห็นงามกับการ ที่จะได้สกัดเอาเซลล์ต้นกำเนิดเมล็ดโลหิต จากทารกตัวอ่อนที่โคลนนิ่งขึ้นมานี้ เพื่อเอาไปทำยารักษาโรคร้ายที่ยังรักษาไม่หายต่างๆ รวมทั้งมะเร็งด้วย แต่ก็มีคนส่วนใหญ่อีกมากที่พากันคัดค้านไม่เห็นด้วย แม้แต่ผู้โคลนนิ่งทารกตัวอ่อนได้เป็นคนแรกก็ได้กล่าวออกตัวไว้ก่อนแล้วว่า เขาไม่ได้ตั้งใจจะโคลนนิ่งมนุษย์ขึ้นมา เทคนิคการโคลนนิ่งเป็นการเพาะพันธุ์ หรือการผสมพันธุ์ โดยไม่อาศัยการผสมพันธุ์ตามธรรมชาติ แต่ใช้เซลล์ใดเซลล์หนึ่งของเนื้อเยื่อ เช่น เซลล์ ผิวหนังที่ไม่ใช่เซลล์สืบพันธุ์เพียงเซลล์เดียว นำไปเพาะเลี้ยงขึ้นในเซลล์ไข่. (ไทยรัฐ จันทร์ที่ 23 พ.ค. 48 http://www.thairath.co.th)

เกาหลีใต้พัฒนามือถือจอ12นิ้ว

เว็บไซต์เทเลคอมโคเรียดอตคอม รายงาน ว่า ซังแยง ดีเอ็นที ได้พัฒนาเทคโนโลยีใหม่สำหรับโทรศัพท์มือถือ โดยเปิดตัวโทรศัพท์มือถือเครื่องต้นแบบ ซึ่งใช้ออพติคัลเลนส์ สามารถขยายจอให้ใหญ่ถึง 12-13 นิ้ว พร้อมกล้องดิจิทัลในตัว โดยเรียกโทรศัพท์มือถือรุ่นนี้ว่า HUD (Head Up Display) เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้ที่ชอบดูรายการโทรทัศน์ผ่านดาวเทียมบนเครือข่ายโทรศัพท์มือถือ ซึ่งปัจจุบันกำลังได้รับความนิยมในเกาหลีใต้เป็นอย่างมาก รายงานข่าวระบุว่า ซังแยงฯ คาดว่าจะพัฒนามือถือ HUD ให้สมบูรณ์ภายในเดือนสิงหาคมนี้และมีโครงการจะผลิตในเชิงพาณิชย์ประมาณเดือนกันยายนเป็นต้นไป. (เดลินิวส์ อังคารที่ 24 พ.ค. 48 http://www.dailynews.co.th)

ไมโครซอฟท์ผนึก6กระทรวง สร้างศูนย์กลางเวบเซอร์วิส

ไมโครซอฟท์ ปั้นโปรเจ็คร่วม 6 กระทรวง สร้างไทยเป็นศูนย์กลางระดับโลกด้านเวบ เซอร์วิส เพิ่มโอกาสทางการตลาดให้นักพัฒนาไทยขายแอพพลิเคชั่นสู่ตลาดโลก เป็นช่องทางสร้างรายได้เข้าประเทศ 180,000 ล้านบาท คาดประกาศโครงการได้ใน 45 วัน แจงเสนอคอนเซปต์ต่อนายกรัฐมนตรีแล้ว นายชาญชัย พันธุ์โสภา ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการตลาด บริษัทไมโครซอฟท์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า ในอีก 45 วันข้างหน้า คาดว่าจะสามารถประกาศความร่วมมือระหว่างบริษัทกับหน่วยงานรัฐใน 5-6 กระทรวง เพื่อผลักดันให้ไทยเป็น "ศูนย์กลางโกลบอล เวบ เซอร์วิส ฮับ" โครงการดังกล่าวจะเปิดกว้างให้นักพัฒนาไทย สร้างโปรแกรมด้วยภาษาเอ็กซ์เอ็มแอล เป็นเทคโนโลยีเวบเซอร์วิส และจดทะเบียนเพื่อขายแอพพลิเคชั่นไปยังประเทศต่างๆ ทั่วโลก ผ่านเวบไซต์ท่า (พอร์ทัล) ได้ ทั้งนี้ เวบ เซอร์วิส จะเป็นเทคโนโลยีการพัฒนาซอฟต์แวร์แห่งอนาคตที่ทำให้เกิดการเชื่อมต่อข้อมูลได้เป็นอิสระไม่จำกัดแพลทฟอร์มที่ใช้งาน และทำให้เกิดการสร้างโอกาสทางการตลาดใหม่ๆ ให้กับนักพัฒนาไทยในการขายแอพพลิเคชั่น หรือให้บริการตลาดโลกได้ นอกเหนือจากการทำธุรกิจแนวใหม่ให้กับองค์กร ทั้งนี้ บริษัทคาดการณ์ว่า หากไทยจะให้ความสำคัญอย่างจริงจังต่อการพัฒนาเวบ เซอร์วิส จะสามารถสร้างรายได้ให้กับประเทศถึง 180,000 ล้านบาท ขณะที่ บริษัท อินเตอร์เนชั่นแนล ดาต้า คอร์ปอเรชั่น (ไอดีซี) คาดการณ์ว่าทั่วโลกจะสามารถสร้างรายได้จากเวบ เซอร์วิส ในปี 2553 ประมาณ 32,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ก่อนหน้านี้ ไมโครซอฟท์ ได้ประกาศความร่วมมือกับสถาบันการศึกษาที่สร้างหลักสูตร เวบ เซอร์วิส แล้ว 12 แห่ง ปัจจุบัน ยังขยายความร่วมมือเป็นไม่ต่ำกว่า 30 แห่งแล้ว ซึ่งจะสร้างบุคลากรที่มีความรู้ได้มากเพียงพอด้วย (กรุงเทพธุรกิจ อังคารที่ 24 พ.ค. 48 http://www.bangkokbiznews.com)

ดาวเคราะห์ต่างสุริยจักรวาล ส่วนใหญ่เป็นก๊าซเรือนร้อยดวง

นักดาราศาสตร์เตรียมลงมือก้าวขึ้นขั้นใหม่ หลังจากที่สำรวจพบดาวเคราะห์บริวารของดาวฤกษ์ตามสุริยจักรวาลอื่นในระยะเวลา 10 ปีมานี้ได้เกือบ 145 ดวงแล้ว นักดาราศาสตร์จะได้ก้าวขึ้นสู่ขั้นต่อไปด้วยการค้นหาสิ่งที่มีชีวิต ที่อาจมีชีวิตอยู่บนดาวเคราะห์ต่างสุริยจักรวาลเหล่านั้น แต่พวกเขายังไม่สู้เกิดความหวังมากเท่าใดนักที่จะพบสิ่งที่มีชีวิตขึ้น เนื่องจากว่าจากการศึกษาทราบในระยะแรกๆนี้ ดาวเคราะห์พวกนั้นส่วนใหญ่ไม่ได้มีสภาพเหมือนกับโลกของเราเลย หากแต่ประกอบไปด้วยก๊าซแบบเดียวกับดาวพฤหัสบดีของเราเสียมากกว่า (ไทยรัฐ พุธที่ 25 พ.ค. 48 http://www.thairath.co.th)

นิยามใหม่ของ “วินาที”

การคำนวณทางคณิตศาสตร์ หรือฟิสิกส์นั้น จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องอาศัยความแม่นยำสูงสุดเท่าที่จะเป็นไปได้ เพื่อป้องกันความผิดพลาดที่อาจจะเกิดขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องกับการสื่อสารโทรคมนาคม หรือระบบนำร่องทั้งหลาย เอาแค่ง่าย ๆ ว่าสูตรคำนวณทางฟิสิกส์ที่เราเรียนกันในสมัยมัธยมปลายก็มี “เวลา” เป็นตัวแปรที่ปรากฏอยู่ในหลายสูตรคำนวณด้วยกัน ปัจจุบันนี้เรานิยามเวลาในหน่วย “วินาที” ว่าเป็นเวลาที่อิเล็กตรอนวงนอกของอะตอม ซีเซียม (Caesium-133) ใช้ในการเปลี่ยนระดับพลังงานระหว่างชั้นพลังงาน 2 ระดับ หรืออาจจะเรียกง่าย ๆ ว่าเป็นการสั่นของอะตอมเป็นจำนวนเท่ากับ 9,192,631,770 ครั้ง ซึ่งในระหว่างนั้นก็จะมีการปล่อยพลังงานออกมาให้อยู่ในรูปของคลื่นไมโครเวฟที่มีความถี่เป็นค่าที่แน่นอนที่เราสามารถวัดค่าได้ โดยที่นิยามของเวลาในหน่วยวินาทีนี้ถูกใช้มาตั้งแต่ปี ค.ศ. 1967 หรือเกือบ 40 ปีผ่านมาแล้ว แต่ ณ วันนี้นักวิทยาศาสตร์กำลังทำการทดลองเพื่อนิยามเวลาในหน่วยวินาทีใหม่ โดยที่นาฬิกาอะตอมแบบใหม่นี้ สามารถให้ความแม่นยำสูงถึง 1 ส่วนใน 1,000,000,000,000,000,000 ส่วน หรือพูดง่าย ๆ ก็คือว่าหากว่าเราใช้นาฬิกาอะตอมแบบใหม่นี้เป็นตัวบอกเวลาแทนนาฬิกาที่เราใช้กันอยู่ทั่วไป ก็คงต้องให้มันเดินไปเป็นเวลา 30,000 ล้านปีโน่นล่ะครับ ถึงจะคลาดเคลื่อนไปสัก 1 วินาทีนั่นเอง นักวิทยาศาสตร์ใช้การสั่นของอะตอมของสตรอนเทียมเป็นตัวอ้างอิงแทนอะตอมซีเซียม ซึ่งอะตอมของ สตรอนเทียมมีการสั่นเท่ากับ 429,228,004,229,952 ครั้งในเวลา 1 วินาที แต่ถึงแม้ว่าจะมีนักวิทยาศาสตร์ทำการทดลองกับอะตอมของสตรอนเทียมกันมาบ้าง แต่ก็ยังไม่ได้รับการยอมรับและพิสูจน์ว่ามีความแม่นยำและถูกต้องเพียงพอที่จะนำมากำหนดเป็นมาตรฐานใหม่สำหรับนิยามของเวลาในหน่วยวินาที ในทางทฤษฎีนั้นการสร้างนาฬิกาอะตอมของ สตรอนเทียมสามารถทำได้ 2 แบบ ซึ่งได้แก่การใช้อะตอมสตรอนเทียม 1 อะตอม ซึ่งวิธีนี้จะง่ายต่อการควบคุมและป้องกันไม่ให้สนามแม่เหล็กไฟฟ้าจากภายนอกหรือสภาวะแวดล้อมเข้าไปรบกวนการสั่นของอะตอมได้ แต่ก็มีข้อจำกัดคือว่าการที่จะวัดค่าความถี่ที่เกิดจากการสั่นดังกล่าวของอะตอมสตรอนเทียมเพียง 1 อะตอมที่มีความถี่สูงมาก ๆ นั้น ทำได้ค่อนข้างยากทีเดียว อีกวิธีหนึ่งก็คือการใช้กลุ่มของอะตอมสตรอนเทียม ซึ่งวิธีนี้อาจจะดีที่ว่าสามารถที่จะวัดความถี่ของการสั่นได้ง่ายขึ้น วิธีการนี้จะได้รับการยอมรับจนกลายเป็นมาตรฐานใหม่ของเวลาในหน่วยวินาทีหรือไม่ ถ้าได้รับการยอมรับ รับรองว่าเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องอย่างเทคโนโลยีการนำร่องนั้นจะเรียกได้ว่าถูกพลิกโฉมไปเลยทีเดียว โดยเฉพาะอย่างยิ่งการเดินทางไปสู่กาแล็กซีอันไกลโพ้นในห้วงอวกาศ (เดลินิวส์ พุธที่ 25 พ.ค. 48 http://www.dailynews.co.th)

แกรมมี่เจียด 80 ล้าน ทำระบบบริหารสื่อรับอนาคต

นายสุเมธ ดำรงชัยธรรม รองกรรมการผู้อำนวยการอาวุโส สายงานสนับสนุนกลางและพัฒนาธุรกิจ บมจ.จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ กล่าวว่า บริษัทนำ ไอเอส มีเดีย ของบริษัทซอฟต์แวร์ชั้นนำอย่าง เอสเอพี มาพัฒนาระบบการบริหารทรัพยากรด้านสื่อบันเทิง ซึ่งระบบดังกล่าวช่วยวางแผนเปิดตัวศิลปิน กำหนดกลยุทธ์การตลาด วางจำหน่าย การประมวลผล การบริหารลิขสิทธิ์ รวมถึงกิจกรรมบันเทิง เช่น การแสดงคอนเสิร์ต เป็นต้น ตลอดจนช่วยการบริหารต้นทุนขององค์กรอย่างมีประสิทธิภาพอีกด้วย ด้าน น.ส.อรอนงค์ ปิลันธน์โอวาท ผู้อำนวยการฝ่ายขายและการตลาด บริษัท เอสเอพี ประเทศไทย จำกัด กล่าวว่า โดยซอฟต์แวร์โซลูชั่นเพื่อพัฒนาระบบธุรกิจของเอสเอพี จะทำงานครอบคลุมระบบทั้งหมดของแกรมมี่ ช่วยลดต้นทุนการดำเนินงาน เชื่อมโยงระบบการทำงานเข้าด้วยกัน ทำให้ผู้บริหารสามารถรับทราบการรายงานผลได้ทันที และปรับกลยุทธ์รับการเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา โดยซอฟต์แวร์ไอเอส มีเดียมี 3 รูปแบบการทำงาน คือ บริหารงานลิขสิทธิ์ บริหารงานขาย และบริหารงานโฆษณา เจาะ 4 กลุ่มเป้าหมาย ได้แก่ สิ่งพิมพ์ บรอดคาสต์ บันเทิง และธุรกิจคอนเทนท์ แกรมมี่ ได้เตรียมการ 9 เดือน เพื่อนำระบบดังกล่าวมาใช้ และเริ่มดำเนินการประมาณ 2 เดือนแล้ว โดยใช้งบประมาณทั้งสิ้น 80 ล้านบาท แบ่งเป็น ซอฟต์แวร์ 10 ล้านบาท ชุดอุปกรณ์ 10 ล้านบาท การติดตั้งและบริหารจัดการประมาณ 60 ล้านบาท (กรุงเทพธุรกิจ พุธที่ 25 พ.ค. 48 http://www.bangkokbiznews.com)

ไซเบอร์แพลนเน็ตปลื้มโชว์เกมงานE3

นายชนินทร์ วานิชวงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการตลาด บริษัท ไซเบอร์แพลนเน็ต อินเตอร์แอคทีฟ จำกัด เปิดเผยว่า การเข้าร่วมงาน E3 หรือมหกรรมเกมระดับโลก ก็เพื่อนำเสนอผลงานของคนไทยให้ตลาดเกมโลกได้รับรู้ ว่าคนไทยมีศักยภาพในการผลิตและพัฒนาผลงานด้านซอฟต์ แวร์เกมและแอนิเมชั่นได้ไม่แพ้ชาติอื่น ๆ โดยได้รวบรวมผลงานเกมฝีมือคนไทยเด่น ๆ ลงในมินิซีดีสองแบบ คือ มินิซีดีที่รวมเกมพีซีแนวเอ็ดดูเทน เม้นท์ (Cyber Smart Pack) จำนวน 6 เกม ได้แก่ บองก้าบองก้า เลิร์นนิ่ง, บองก้า ซูเปอร์ อิเล็คทริเชียน และบองก้า แฟนตาซี ซู และมินิซีดีรวมเกมซีพีแนวแคชชวล (Cyber Cool Pack) จำนวน 6 เกม ได้แก่ มูนทรา คิด เดอะ โกสด์ ซิตี้ และอินเดียน เทอร์ ควอยส์ ภาคสอง เป็นต้น โดยภายในงานมินิซีดีได้รับความสนใจจากบริษัทตัวแทนจำหน่ายในหลายประเทศ เช่น อเมริกา รัสเซีย ฝรั่งเศส สเปน สิงคโปร์ อินเดีย และเปรู. (เดลินิวส์ พฤหัสบดีที่ 26 พ.ค. 48 http://www.dailynews.co.th)

เอกชนชูอุปกรณ์คุมมอเตอร์ลดต้นทุน

นายชาคริน บุราสัย ผู้จัดการฝ่ายการตลาด บริษัท ที.จี. คอนโทรล จำกัด ผู้นำเข้าเครื่องควบคุมความเร็วรอบมอเตอร์ (Motor Load Control) อุปกรณ์ประหยัดพลังงานสำหรับเครื่องใช้ไฟฟ้าที่มีส่วนประกอบด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า ช่วยลดการใช้พลังงานโดยไปจัดการกับพฤติกรรมของมอเตอร์ที่ทำหน้าที่เกินความจำเป็น ตัวการที่ทำให้พลังงานสูญเปล่า เขากล่าวว่าเครื่องควบคุมความเร็วรอบมอเตอร์นี้เป็นอุปกรณ์ประหยัดพลังงานสำหรับมอเตอร์ไฟฟ้า เช่น คอมเพรสเซอร์ในเครื่องปรับอากาศ ที่พฤติกรรมมอเตอร์จะหมุนเกินเสมอ โดยในช่วงที่ไม่ได้มีการโหลด คือ แอร์เย็นเต็มที่คอมเพรสเซอร์จะตัด แต่มอเตอร์ยังคงหมุนอยู่ อุปกรณ์ตัวนี้จะไปช่วยปรับโวลต์ให้น้อยลง จะช่วยให้กินไฟน้อยลง เนื่องด้วยพฤติกรรมของมอเตอร์ ที่ทำหน้าที่เกินกว่าความจำเป็นในแต่ละพฤติกรรมการทำงาน ทำให้เกิดการสูญเปล่าของพลังงานโดยไม่จำเป็น อุปกรณ์ควบคุมความเร็วรอบมอเตอร์นี้ จึงทำหน้าที่มาช่วยประหยัดพลังงานในช่วงที่มอเตอร์ไม่ได้กระทำต่อชิ้นงาน ซึ่งในกระบวนการของอุปกรณ์นี้ จะใช้ไมโครโปรเซสเซอร์ในการวิเคราะห์พฤติกรรมเมื่อมอเตอร์ไม่ได้ทำงาน โดยที่พิจารณาที่กระแสไฟฟ้า (แอมแปร์) เป็นการนำรากฐานเทคโนโลยีของนาซ่ามาวิจัยและพัฒนาต่อยอดโดยบริษัทของนิวซีแลนด์ อุปกรณ์นี้จะช่วยประหยัดพลังงานร้อยละ 10-30 แต่ในทางทฤษฎีแล้วสามารถประหยัดได้ถึงร้อยละ 40 ราคาเครื่องมีตั้งแต่ 30,000-300,000 บาท ขึ้นอยู่กับขนาดของมอเตอร์ ด้านอายุการใช้งานนั้น ถ้าตามสเปคแล้วจะอยู่ในช่วง 7-15 ปี หากติดตั้งสามารถคืนกำไรได้ในปีที่ 3 เครื่องควบคุมความเร็วมอเตอร์นั้น โดยส่วนตัวของเครื่องเองจะใช้พลังงานน้อยมาก โดยจะใช้เพียงร้อยละ 1 ของพลังงานที่ใช้ทั้งหมด กิจการที่เหมาะแก่การติดตั้งเครื่อง คือ กิจการขนาดเล็กขึ้นไปที่ค่าไฟตั้งแต่ 10,000 บาทขึ้นไป ทั้งนี้ ประเทศไทยใช้พลังงานเกินตัว โดยพลังงานที่ใช้ในประเทศร้อยละ 70 เป็นพลังงานที่ใช้สำหรับมอเตอร์ (กรุงเทพธุรกิจ พุธที่ 25 พ.ค. 48 http://www.bangkokbiznews.com)

เมื่อนักวิจัยจุฬาฯ ปักธงไทยที่ขั้วโลกใต้

ในที่สุดดร.วรณพ วิยกาญจน์ อาจารย์ประจำภาควิชาวิทยาศาสตร์ทางทะเล คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ซึ่งได้รับคัดเลือกจาก สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) ให้เข้าร่วมในการวิจัยสำรวจขั้วโลกใต้ร่วมกับนักวิจัยชาวญี่ปุ่น เมื่อปลายปี 2547 ก็เสร็จสิ้นภารกิจ เดินทางกลับถึงประเทศไทยเรียบร้อย พร้อมด้วยประสบการณ์ที่น้อยคนจะมีโอกาสได้ไปสัมผัส นักวิจัยจากจุฬาฯเผยว่า นักวิจัยทุกคนจะต้องเดินทางไปพบกันที่ เมืองท่าเล็กๆ ซื่อฟรีเมนเทิล ในประเทศออสเตรเลีย แล้วจึงออกเดินทางไปยังขั้วโลกใต้ในวันที่ 3 ธ.ค.47 ระหว่างที่อยู่บนเรือ นักวิจัยแต่ละคนก็จะเริ่มทำงานของตัวเอง โดยในส่วนตัวขอตนเอง เริ่มเก็บตัวอย่างข้อมูลด้านสมุทรศาสตร์ ใช้เวลาประมาณ 15 วัน จากชายฝั่งออสเตรเลีย จึงเดินทางถึงจุดขนส่งเพื่อนำนักวิจัยเข้าสู่แผ่นดินของทวีปแอนตาร์กติก บริเวณที่ไปเป็นสถานีวิจัยของญี่ปุ่นชื่อ สถานีวิจัยโชวะ มีเฉพาะคนญี่ปุ่นอยู่ประมาณ 200 กว่าคน เป็นชายเกือบทั้งหมด โดยจะแบ่งเป็นทีมนักวิจัย กับทีมงานสนับสนุนนัก การเดินทางครั้งนี้ ดร.วรณพจะต้องวิจัยตามแผนงานที่เสนอโครงการไว้ 3 หัวข้อด้วยกัน คือ การศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างค่ามวลชีวภาพของแพลงตอนพืชและปริมาณแสงในแต่ละระดับความลึก, ความสัมพันธ์ระหว่างสาหร่ายขนาดใหญ่และสิ่งมีชีวิตหน้าดินบริเวณชายฝั่งทวีปแอนตาร์กติก และการศึกษานิเวศวิทยาการกินอาหารของปลาในเขตขั้วโลก ซึ่งในการไปสำรวจครั้งนี้ สามารถเก็บข้อมูลเพื่อนำกลับมาวิจัยต่อได้ถึง 70% ตลอดระยะเวลาการวิจัยเกือบ 2 เดือน ดร.วรณพบอกว่า แทบจะไม่ค่อยมีเวลาว่าง เพราะต้องเร่งทำงานวิจัยให้ทันเวลา แม้ในช่วงกลางวันของทวีปแอนตาร์กติกในฤดูร้อนจะไม่มีเวลากลางคืนแต่ก็เหมือนกับเวลาจะสั้นเกินไป โดยเฉพาะอย่างยิ่งทีมงานที่มีอยู่อย่างจำกัด เครื่องไม้เครื่องเครื่องมือต่างๆ ที่แม้จะมีประสิทธิภาพ แต่ด้วยสภาพพื้นที่ ที่เป็นน้ำแข็งเป็นส่วนใหญ่ จึงสร้างความยุ่งยากอยู่ไม่น้อย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในการเดินทางทำวิจัยไกลๆ จะต้องใช้รถตีนตะขาบ ไต่น้ำแข็งออกไป ใช้เวลานานและค่อนข้างลำบาก ต้องอาศัยความพยายามมาก แต่ถึงเหนื่อยก็รู้สึกภูมิใจและประทับใจกับภารกิจครั้งนี้ ซึ่งหลังเสร็จภารกิจของ ดร.วรณพ ทางสถานีวิจัยโชวะ ได้ให้เกียรติปักธงชาติไทยไว้ที่หน้าสถานีด้วย ประสบการณ์จากขั้วโลก ดร.วรณพ กล่าวว่าประทับใจความเป็นธรรมชาติ ที่ยังคงทุกอย่างไว้ในแบบดั้งเดิม เพราะที่นี่ไม่ได้รับการรบกวนจากมนุษย์ เห็นแล้วอยากจะรักษาสภาพนี้ไว้ให้กับโลกต่อไป ผลกระทบที่เกิดสึนามิที่อินโดนีเซีย และประเทศไทย ทำให้ชั้นน้ำแข็งที่อยู่ส่วนบนของทะเลที่แอนตาร์กติก ขยับประมาณ 73 เซนติเมตร ซึ่งนักวิจัยญี่ปุ่นเขาพยายามจะศึกษาเรื่องเหล่านี้อยู่ ดังนั้นเราจึงคิดได้ว่าหากมนุษย์ยังคงทำลายธรรมชาติ ไม่ว่าจะเป็นจุดใดจุดหนึ่งของโลก มันก็จะกระทบทั่วถึงกันหมด ไม่เว้นแม้แต่ ขั้วโลกใต้ที่ยังคงบริสุทธิ์ ไร้การรบกวนจากมนุษย์อยู่" และยังแสดงความเป็นห่วงด้วยว่า อีกประมาณ 30 ปี สนธิสัญญาการรักษาทวีปแอนตาร์กติกจะสิ้นสุดลง นั่นหมายถึงว่า มนุษย์โดยเฉพาะประเทศที่เป็นภาคี จะต้องมีการจับจอง แบ่งเค้ก ทวีปนี้มาเป็นของตนเอง และเมื่อถึงวันนั้น ทวีปแอนตาร์กติก ขั้วโลกใต้อันแสนบริสุทธิ์ ที่เขาเคยไปเยือนอาจจะกลายเป็นอดีต เหลือเพียงรูปภาพสวยงามไว้ให้ลูกหลานได้ชื่นชมเท่านั้นเอง (ข่าวสด จันทร์ที่ 23 พ.ค. 48 http://www.matichon.co.th/khaosod)

ดันเซลล์พลังงานเป็นทางเลือก ทนทานไร้ควันพิษ

บริษัท ซีเอ็ม อาร์ ฟูลเซลล์ จากเคมบริดจ์ ประเทศอังกฤษ เปิดเผยว่า บริษัทสามารถออกแบบเซลล์พลังงาน (fuel cell) ให้มีขนาดเล็กลงเหลือเพียง 1 ใน 10 จากของเดิมที่มีใช้อยู่ในปัจจุบัน และมีขนาดเล็กพอที่จะนำมาใช้แทนที่แบตเตอรี่ที่ใช้อยู่ในโน้ตบุ๊คได้ จอห์น ฮาล์ฟเพ็นนี ประธานฝ่ายบริหารของบริษัท เชื่อว่า ความก้าวหน้าของเทคโนโลยีเซลล์พลังงานครั้งนี้ เทียบเท่าได้กับยุคเปลี่ยนผ่านจากทรานซิสเตอร์ไปเป็นชุดวงจรรวม หรือไอซีเลยทีเดียว ทั้งนี้ เซลล์พลังงานได้รับการยกย่องมานานนับปีแล้วว่า เป็นแหล่งพลังงานสะอาดที่ใหญ่แหล่งหนึ่ง เนื่องจากเป็นการสร้างกระแสไฟฟ้าผ่านการทำปฏิกิริยาทางเคมี และของเหลือทิ้งเป็นคาร์บอนไดออกไซด์เพียงเล็กน้อยเท่านั้น ขณะที่การเผาไหม้จากถ่านหินและน้ำมันจะสร้างก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์เป็นจำนวนมากกว่า และก๊าซตัวนี้เองที่เป็นตัวการสำคัญทำให้เกิดปรากฏการณ์เรือนกระจก ซึ่งนักวิทยาศาสตร์โทษว่าเป็นสาเหตุของโลกร้อน สำหรับเซลล์พลังงานที่ออกแบบมาใหม่นี้ จะมีอายุการใช้งานยาวนานกว่าแบตเตอรี่ที่ใช้ในโน้ตบุ๊คและอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์อื่นๆ โดยไมเคิล พริสต์นัลล์ หัวหน้าฝ่ายเทคโนโลยีของบริษัท ยืนยันว่า เทคโนโลยีนี้สามารถชาร์จไฟได้อย่างรวดเร็วทันใจ และขณะนี้บริษัทกำลังหาทางเจรจากับกระทรวงกลาโหมสหรัฐ เพื่อสาธิตสุดยอดเทคโนโลยีเซลล์พลังงานนี้ให้ดู เพราะเชื่อว่าจะเป็นประโยชน์ต่อกองทัพสหรัฐอย่างมาก (คมชัดลึก พฤหัสบดีที่ 26 พ.ค. 48 http://www.komchadluek.net)

สร้างโรงไฟฟ้าพลังคลื่นแห่งแรก ใช้ท่อรูปไส้กรอกวางไว้ไกลห่างฝั่ง

บริษัทรับเหมาของสกอตฯแห่งหนึ่ง จะลงมือวางท่อรูปไส้กรอกขึ้นที่ริมฝั่งของโปรตุเกส เพื่อสร้างโรงไฟฟ้าพลังคลื่นแห่งแรกของโลกขึ้น โรงไฟฟ้าใช้พลังคลื่นทะเล สร้างขึ้นเพื่อให้ผลิตกระแสไฟ สำหรับใช้พอกับบ้านเรือน 1,500 หลัง ตั้งแต่ปีหน้าเป็นต้นไป ตั้งอยู่ริมฝั่งทะเลทางเหนือของโปรตุเกส ใกล้กับเมืองโปโวดา เดอ วาร์วิม โดยวางท่อทรงไส้กรอกขึ้นไว้ที่ระยะห่างจากฝั่ง 5 กม. (ไทยรัฐ ศุกร์ที่ 27 พ.ค. 48 http://www.thairath.co.th)

เผยก่อนมีระบบสุริยจักรวาล ดวงดาวยุ่งเหยิงไร้ระเบียบ

นายแฮโรลด์ เลวิสัน นักวิทยาศาสตร์จากสถาบันวิจัยเซาธ์เวสต์ ในเมืองเบาล์เดอร์ รัฐโคโลราโด สหรัฐฯ เปิดเผยว่า จากการคำนวณอย่างสลับซับซ้อนด้านอวกาศด้วยอุปกรณ์คอมพิวเตอร์พบว่า ในช่วงก่อนการเกิดระบบสุริยจักรวาล ขณะที่ดวงดาวต่างๆ ในจักรวาลยังคงมีสภาพเป็นหมอกควัน ฝุ่นผง และน้ำแข็ง เมื่อช่วง 4.6 พันล้านปีก่อนนั้น บรรดาดวงดาวต่างๆ มีความยุ่งเหยิง ยังไม่เป็นระบบเหมือนเช่นทุกวันนี้ รวมทั้งจักรวาลใกล้เคียงกับระบบสุริยจักรวาลของเราก็มีลักษณะเดียวกันด้วย พร้อมกันนี้ นายเลวิสัน ยังระบุด้วยว่า จากการคำนวณคณะนักวิทยาศาสตร์ได้พบคำตอบต่างๆ มากมาย ทั้งนี้ ตนไม่คาดคิดมาก่อนว่า ผลที่ออกมาจากการคำนวณดังกล่าว จะประสบความสำเร็จได้ภาพที่น่าตื่นตาตื่นใจเช่นนี้ คณะนักวิทยาศาสตร์จากสถาบันวิจัยเซาธ์เวสต์ ยังเผยอีกว่า ในการคำนวณค้นคว้าด้วยคอมพิวเตอร์ครั้งนี้ ได้พบคำตอบด้านจักรวาลมากมาย อาทิ การระเบิดออกของดาวเคราะห์น้อยเมื่อประมาณ 3.9 พันล้านปีที่ผ่านมา การปะทุของลาวาครั้งใหญ่บนดวงจันทร์ และการเริ่มต้นในการพัฒนาของสิ่งที่มีชีวิตบนโลกมนุษย์ นอกจากนี้ การพบคำตอบว่า ทำไมดวงพฤหัสบดีและดาวเสาร์ ออกนอกวงโคจรในอวกาศ และส่งผลให้ดาวเคราะห์ทั้งสองโคจรรอบดวงอาทิตย์ ด้วยวงโครจรรูปวงรีที่มีขนาดใหญ่ขึ้น (สยามรัฐ ศุกร์ที่ 27 พ.ค. 48 http://www.siamrath.co.th)

"แม้ว"สนเทคโนฯ"U Government"ใช้บริหารราชการไทย

หลังจาก พ.ต.ท.ทักษิณ ได้ชมระบบเทคโนโลยี U Government ดังกล่าว ก็ให้สัมภาษณ์ถึงการปฏิรูประบบราชการว่า สนใจการที่สาธารณรัฐเกาหลีนำเทคโนโลยีเข้ามาใช้ในการบริหารราชการอย่างเต็มที่ ซึ่งมีความคืบหน้ากว่าของประเทศไทย โดยขณะนี้ไปถึงขั้น U Government หรือการใช้สื่อหลายอย่างมาผสมผสานในการบริหารจัดการ ซึ่งทำให้สามารถบริการประชาชนได้มากขึ้น หากจะทำให้บ้านเมืองโปร่งใสที่ดีที่สุดต้องใช้ระบบ และระบบที่ดีต้องมีเทคโนโลยีช่วย เพราะเป็นเรื่องที่ทุกคนถูกบังคับว่าต้องโปร่งใส หากไม่โปร่งใสตัวเลขจะฟ้อง ดังนั้น ระบบที่ใช้เทคโนโลยีจะช่วยได้มาก ซึ่งในส่วนของไทยได้ดำเนินการไปแล้วหลายด้าน แต่ในส่วนของสาธารณรัฐเกาหลีมีความคืบหน้ามากกว่า นายกรัฐมนตรีไทยบอกด้วยว่า เมืองไทยคงต้องค่อยๆ ทำไป ที่สำคัญคือตัวซอฟต์แวร์ เราพยายามสร้างระบบและซอฟต์แวร์ให้ใช้ได้เหมาะสมกับเรา โดยเฉพาะระบบการเปรียบเทียบ เช่นว่าหน่วยงานหนึ่งทำไมซื้อของแพงกว่าอีกหน่วยงานหนึ่ง ดังนั้น จะเป็นการบังคับให้ทุกคนต้องระมัดระวังในการใช้เงินงบประมาณให้ถูกต้อง (มติชนรายวัน ศุกร์ที่ 27 พ.ค. 48 http://www.matichon.co.th)

คอมพ์ความเร็วสูงบนลีนุกซ์เครื่องแรก

ดร.ประสาท มีตูรี กรรมการผู้จัดการ บริษัท ซิลิคอน กราฟฟิกส์ (อินเดีย) จำกัด เปิดเผยว่า ซิลิคอน กราฟฟิกส์ พริซึ่ม (Silicon Graphics Prism) เป็นระบบคอมพิวเตอร์ความเร็วสูงที่สุดในปัจจุบันที่ทำงานบนระบบปฏิบัติการลีนุกซ์ หรือระบบปฏิบัติการแบบเปิดเป็น เครื่องแรก ซึ่งนำระบบคอมพิวเตอร์ของซิลิคอน กราฟฟิกส์ พริซึ่ม และระบบปฏิบัติการแบบเสมือนจริงของลีนุกซ์รวมเข้าไว้ด้วยกัน โดยมุ่งเจาะกลุ่มผู้ใช้คอมพิวเตอร์ชั้นสูง ระบบคอมพิว เตอร์เสมือนจริง และการจัดเก็บข้อมูลขนาดใหญ่ ดร.ประสาท กล่าวต่อว่า การนำทั้งสองระบบมารวมกัน จะส่งผลต่อผู้ใช้ในหลาย ๆ ด้าน และสามารถก้าวข้ามข้อจำกัดในการทำงานบนระบบปฏิบัติการเดิมได้ ซึ่งตลาดประเทศไทยจะมุ่งกลุ่มหน่วยงานราชการ องค์กรธุรกิจเอกชนขนาดใหญ่ ที่ต้องใช้ระบบคอมพิวเตอร์ที่ซับซ้อน เพื่อรองรับการเก็บข้อมูลขนาดใหญ่ รวมทั้งกลุ่มธุรกิจสื่อต่าง ๆ. (เดลินิวส์ ศุกร์ที่ 27 พ.ค. 48 http://www.dailynews.co.th)

ข่าววิจัย/พัฒนา

นักวิทย์พัฒนาแผ่นสีวัดความหอมข้าว

นักวิทย์เชียงใหม่ออกแบบแผ่นเทียบสี สำหรับวัดปริมาณความหอมเมล็ดข้าวที่เก็บไว้นานในยุ้งฉาง ระบุประยุกต์ใช้ความรู้จากการศึกษาสารประกอบทางชีวภาพของต้นข้าว เผยคุณสมบัติแม่นยำสูง ใช้งานง่าย ราคาถูก พร้อมศึกษาวิธีการเก็บรักษาข้าวให้หอมนานก่อนส่งขาย มั่นใจช่วยผู้ประกอบการลดต้นทุนวิเคราะห์คุณภาพข้าวก่อนส่งออก ผศ.ดร.สุกัญญา วงศ์พรชัย ภาควิชาเคมี คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ เปิดเผยว่า ทีมวิจัยได้พัฒนาวิธีการอย่างง่ายสำหรับตรวจปริมาณสารหอมในข้าว ซึ่งอยู่ในรูปแบบแผ่นเฉดสีสำหรับตรวจเทียบสีความหอมข้าวหอม โดยมีคุณสมบัติสามารถใช้ได้เองไม่ต้องอาศัยเครื่องมือวิเคราะห์ราคาแพง เนื่องจากที่ผ่านมาผู้ค้าข้าวหอมต่างประสบปัญหาการเก็บรักษาข้าว หลังการเก็บเกี่ยวเพื่อรอขาย ขณะที่ปริมาณสารหอมในข้าวหอมที่เก็บไว้เป็นเวลานานจะลดลง แต่สารหืนเพิ่มขึ้น ทำให้ข้าวหอมในโกดังขาดคุณภาพ สำหรับแถบสีข้าวหอมนี้สามารถใช้ตรวจหาปริมาณสารหอมในตัวอย่างข้าวที่มีจำนวนมาก แต่มีปริมาณข้าวตัวอย่างที่จะใช้ตรวจสอบน้อย อาทิ พันธุ์ข้าวลูกผสมที่ได้จากการปรับปรุงพันธุ์ และต้องการยืนยันความหอมของเมล็ดพันธุ์ใหม่ที่ได้ เป็นต้น ส่วนวิธีการตรวจหาสารหอมนั้น เพียงนำตัวอย่างข้าวมาสกัดและเติมสารเคมีทิ้งไว้ประมาณ 30 นาที จากนั้นก็เทียบดูสีบอกปริมาณความหอมได้ทันที โดยสีในแผ่นตรวจจะแยกเป็น 5 เฉดสีตามระดับความหอม แต่หากต้องการตรวจสอบในปริมาณมากในระดับโรงสี สามารถใช้วิธี UV Visible หรือการตรวจหาปริมาณสารหอมโดยใช้แสงยูวีในการวิเคราะห์ได้อีกด้วย นอกจากชุดเทียบสีสารหอมข้าวแล้ว ยังได้ศึกษาความหอมของข้าวเมื่อระยะเวลาผ่านไป ทั้งในส่วนของการเก็บรักษา บรรจุภัณฑ์ สารดูดซับ รวมถึงศึกษาข้อดีของวิธีการผนึกบรรจุภัณฑ์โดยสุญญากาศ เพื่อช่วยในการยืดอายุสารหอมด้วย ทั้งนี้ จากการศึกษาสารต้านอนุมูลอิสระและการต้านออกซิเดชั่นในข้าว ซึ่งจะช่วยให้ข้าวมีอายุที่ยืนขึ้น โดยข้อมูลพื้นฐานที่ได้จะนำมาใช้ในการคัดเลือกและระบุพันธุ์ข้าวสีที่มีศักยภาพดี สำหรับพัฒนาไปเป็นผลิตภัณฑ์อาหารเสริมสุขภาพ รวมถึงศึกษาวิธีการแปรรูปและรูปแบบของผลิตภัณฑ์อาหารเพื่อสุขภาพที่ได้จากข้าวสี การเก็บรักษาผลิตภัณฑ์ให้คงคุณภาพ และการตรวจวิเคราะห์เพื่อยืนยันการคงอยู่ของสารออกฤทธิ์ในผลิตภัณฑ์ ที่เน้นในเรื่องคุณภาพและความปลอดภัยของผลิตภัณฑ์ (กรุงเทพธุรกิจ อังคารที่ 24 พ.ค. 48 http://www.bangkokbiznews.com)

นักวิจัยโสมขาวพบเทคนิคปูทางคนปรับใช้อวัยวะสัตว์

โคเรีย ไทมส์ รายงานว่า นักวิทยาศาสตร์เกาหลีใต้ได้ค้นพบวิธีที่จะป้องกันสัตว์ตระกูลลิง ต่อการปฏิเสธ หรือต่อต้านอวัยวะที่ได้รับมาจากหมู ซึ่งถือเป็นขั้นแรกสู่การพัฒนาเทคนิคปรับใช้อวัยวะและเซลล์จากสัตว์กับร่างกายมนุษย์ ผลการวิจัยดังกล่าวถือเป็นความก้าวหน้าครั้งสำคัญและเพิ่มความหวังให้กับผู้คนหลายล้านคนที่จำเป็นต้องผ่าตัดเปลี่ยนหัวใจ ,ตับ หรือไต โดยทีมวิจัยที่มีนายวัง วู-ซุค ศาสตราจารย์แห่งมหาวิทยาลัยแห่งชาติกรุงโซลเป็นผู้นำ มีแผนจะเปลี่ยนถ่ายหัวใจและเซลล์ผลิตสารอินซูลินจากหมูที่ผ่านการโคลนนิงให้กับลิงภายในสิ้นปีนี้ อวัยวะของหมูมีขนาดเกือบเท่ากับอวัยวะของมนุษย์ ขณะที่การทำหน้าที่ของระบบเมตาโบลิกก็มีความคล้ายคลึงกัน นายคิมเผยว่า ขั้นต้น การเปลี่ยนถ่ายอวัยวะจะเริ่มที่การปลูกถ่ายเซลล์เบตา ซึ่งผลิตอินซูลินของหมูเข้าไปในลิง ซึ่งหากประสบผล ก็จะนำไปสู่การปลูกถ่ายอวัยวะต่อไป และเพื่อป้องกันการปฏิเสธ ไม่รับอวัยวะ ทีมวิจัยได้โคลนเซลล์ของหมูที่ผ่านมาฆ่าเชื้อ ก่อนนำไปปลูกถ่ายในตัวลูกหมู ควบคู่กับยีนภูมิคุ้มกันร่างกายของมนุษย์ นายคิมเผยว่า การเริ่มที่เซลล์เบตาเนื่องจากเป็นการวิจัยที่มีโอกาสให้ผลระยะสั้น เพื่อนำไปปรับใช้กับคนไข้โรคเบาหวาน (กรุงเทพธุรกิจ อังคารที่ 24 พ.ค. 48 http://www.bangkokbiznews.com)

ม.5คิดสูตรกาวพลังช้าง เพิ่มค่าน้ำยางดิบสร้างรายได้

นายอัสรอน อุมา นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 โรงเรียนอัตตัรกียะห์อิสลามียะ จ.นราธิวาส เจ้าของงานวิจัยกาวอเนกประสงค์ เปิดเผยว่า กาวอเนกประสงค์ที่คิดค้นนี้ทำมาจากน้ำยางดิบ สามารถยึดติดพื้นผิวต่างๆ ได้ดี ไม่ว่าจะเป็น ไม้กับไม้ ไม้กับพลาสติก และพลาสติกกับพลาสติก โดยคุณสมบัติเทียบเท่ากาวยางที่ขายทั่วไป แต่ประสิทธิภาพด้านความทนน้ำของกาวอเนกประสงค์จะดีกว่า ผลงานดังกล่าวคิดค้นร่วมกับ น.ส.ดุษฎี บำรุง และนายบุคอรี ปุตสะ เพื่อนนักเรียน โดยศึกษาความเป็นไปได้ในการนำน้ำยางดิบ ซึ่งเป็นผลผลิตที่มีอยู่ในท้องถิ่นเป็นจำนวนมากมาใช้ประโยชน์ ด้วยการนำน้ำยางดิบมาทำเป็นกาวยาง หลังจากที่มองว่ากาวที่มีขายอยู่ตามท้องตลาดนั้น ล้วนมีส่วนผสมยางพาราอยู่เช่นกัน ด้าน น.ส.ดุษฎี กล่าวว่า เริ่มแรกทางกลุ่มได้นำน้ำยางพารามาผสมกับชัน น้ำมันพืช กำมะถัน และกวนรวมกันเพื่อรอให้เหนียว แต่กาวที่ได้จากส่วนผสมทั้งหมดยังมีประสิทธิภาพไม่ดีพอ จึงได้ทำการศึกษาเพิ่มเติมจนพบว่า หากเติมโพแทสเซียมไฮดรอกไซด์ลงไปในส่วนผสมเดิม จะช่วยให้กาวมีความเหนียวเพิ่มมากขึ้น โดยใช้เวลาทดสอบ 3 สัปดาห์ และยังนำกาวยางที่ได้ไปทดสอบคุณสมบัติการทนต่อแรงดึงเพิ่มเติม พบว่ากาวนี้สามารถทนแรงดึงเฉลี่ยได้ถึง 309.67 นิวตัน ในขณะที่กาวทั่วไปทนแรงดึงได้เพียง 282.33 นิวตัน แต่กาวอเนกประสงค์ยังมีกลิ่นเหม็นรุนแรง ซึ่งไม่สามารถเติมหัวน้ำหอมลดกลิ่นได้เพราะจะทำให้ประสิทธิภาพความเหนียวลดลง งานวิจัยดังกล่าวยังต้องพัฒนาต่อไปอีกมาก ทั้งในส่วนของระยะเวลาการเก็บรักษากาวที่ยังมีอายุที่สั้นเพียง 4-5 วัน รวมถึงหาวิธีลดกลิ่นเหม็นของกาว ทั้งนี้ งานวิจัยกาวยางอเนกประสงค์คว้าชนะเลิศ จากการประกวดในโครงการยุววิจัยยางพาราประจำปี 48 ของสำนักงานกองทุนสนับสนุนการวิจัย (คมชัดลึก อังคารที่ 24 พ.ค. 48 http://www.komchadluek.net)

เทคนิคใหม่สร้างโคตรเพชร 300 กะรัต

รัสเซลล์ เฮมเลย์ นักวิจัยจากห้องวิจัยสถาบันคาร์เนกี กล่าวว่า ทีมวิจัยใช้เทคนิคที่เรียกว่า การสะสมตัวของไอระเหยเคมี หรือย่อว่า ซีวีดี ซึ่งเป็นเทคนิคที่นักวิจัยหลายกลุ่มใช้เพื่อสร้างเพชร แต่การสร้างเพชรที่มีขนาดใหญ่กว่า 3 กะรัต (หน่วยวัดน้ำหนักของเพชร 1 กะรัต = 200 มิลลิกรัม) ยังถือเป็นเรื่องที่ท้าทาย แต่พวกเขาสามารถสร้างเพชรที่มีขนาด 10 กะรัตด้วยเทคนิคซีวีดี และสร้างเพชร 1/3 กะรัตได้ในหนึ่งวัน ซึ่งถือเป็นความสำเร็จครั้งใหญ่ กระบวนการผลิตเพชรที่ทำขึ้นนี้มีขนาดใหญ่กว่ามาตรฐานที่ผู้ผลิตเพชรใช้กันทั่วไปถึง 5 เท่า และโดยทฤษฎีแล้ว เทคนิคดังกล่าวสามารถทำเพชรที่มีขนาดใหญ่ประมาณหนึ่งนิ้ว หรือราว 300 กะรัตได้ ขณะที่เพชรที่มีชื่อเสียงอย่าง "โฮปไดมอนด์" มีขนาด 45.52 กะรัต เพชรธรรมชาติมีคาร์บอนที่มีความแข็งที่สุดในโลกเป็นองค์ประกอบ ปัจจุบันเพชรถูกนำไปใช้ในอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ หรือชิพ มากกว่าการใช้เป็นเครื่องประดับ เนื่องจากเพชรมีความแข็งแกร่งและแรงกดดันที่เทียบเท่ากับศูนย์กลางของโลก ซึ่งเป็นสภาวะที่เหมาะสำหรับใช้ทดสอบในเชิงทฤษฎีว่าสารประกอบทำปฏิกิริยากันอย่างไร ยกตัวอย่าง การเปลี่ยนสภาพไฮโดรเจนเป็นโลหะในการทดลองในห้องแล็บ ทั้งนี้ เพชรธรรมชาติอาจมีสีหรือเป็นเพชรใสก็ได้ ขึ้นอยู่กับธาตุอื่นที่ปนอยู่ในคาร์บอน เพชรสังเคราะห์ปกติจะมีสีเหลือง หรือน้ำตาล มักจะใช้กันในอุตสาหกรรมที่เกี่ยวกับแสง แต่เพชรใสเป็นเป้าหมายใหญ่ ซึ่งสามารถใช้ได้ในอุตสาหกรรมเชิงแสง การวิจัยทางวิทยาศาสตร์ "โดยองค์ประกอบพื้นฐานแล้วเพชรแท้กับเพชรเทียมไม่ต่างกัน ทั้งสองแบบมีโครงสร้างที่เป็นผลึกเหมือนกัน แต่ทั่วไปแล้วเพชรธรรมชาติมีตำหนิมากกว่าเพชรสังเคราะห์มาก" สำหรับเทคนิคใหม่ที่สถาบันคาร์เนกีพัฒนาขึ้นนี้เป็นเทคนิคสำหรับทำเพชรใส และเพชรสี โดยใช้ต้นทุนต่ำ แต่ให้ราคาได้สูงพอๆ กับเพชรในร้านขายเพชรขึ้นอยู่ว่าอยากจะให้เพชรสังเคราะห์ขายในราคาเท่าไร "เรากำหนดอายุของเพชรได้" เฮมเลย์ กล่าว (คมชัดลึก อังคารที่ 24 พ.ค. 48 http://www.komchadluek.net)

รองเท้าอัจฉริยะ ไม่ออกกำลัง อดดูทีวี

กิลเลียน สวอน เจ้าของแนวคิดรองเท้า "สแควร์ อายส์" (Square Eyes) ซึ่งเป็นโครงงานก่อนจบการศึกษาจากมหาวิทยาลัยบรูเนล ในกรุงลอนดอน บอกว่า ได้รับแรงบันดาลใจมาจากความต้องการที่จะเอาชนะโรคอ้วนที่กำลังเป็นภัยคุกคามของกลุ่มวัยรุ่นในเกาะอังกฤษขณะนี้ สำหรับส่วนประกอบภายในของเจ้าสแควร์อายส์ ได้แก่ เซ็นเซอร์รับแรงกดอิเล็กทรอนิกส์ และชิพคอมพิวเตอร์จิ๋วเพื่อบันทึกจำนวนก้าวที่ผู้สวมใส่ก้าวเดินในแต่ละวัน จากนั้นตัวส่งสัญญาณแบบไร้สายจะส่งต่อข้อมูลไปยังตัวรับสัญญาณที่เชื่อมต่อกับเครื่องรับโทรทัศน์ และสิ่งนี้เองที่ทำให้เวลาดูทีวีของผู้สวมใส่ต้องขึ้นอยู่กับจำนวนก้าวเดินในแต่ละวัน หลักการทำงานไม่ยาก เพียงแค่ใส่รองเท้า แล้วก้าวเดินไปมา ทุกย่างก้าวจะแปรเปลี่ยนไปเป็นระยะเวลาสะสมให้กับการดูทีวี โดยเมื่อเวลาสะสมหมดลง ทีวีก็จะปิดตัวเองโดยอัตโนมัติ หากต้องการจะต่อเวลาก็จะต้องออกไปเดินเพิ่มเวลาใหม่ สวอน บอกว่า ระยะเวลาของการดูทีวีที่สัมพันธ์กับการก้าวเดินนั้น ใช้หลักการคำนวณของข้อแนะนำด้านสุขภาพของผู้เชี่ยวชาญที่บอกว่า เด็กควรเดินอย่างน้อยวันละ 12,000 ก้าวต่อวัน และไม่ควรดูทีวีเกินวันละ 2 ชั่วโมง ดังนั้นทุกๆ 100 ก้าว ที่รองเท้าบันทึกได้ จะแปรเปลี่ยนเป็นเวลาสำหรับดูทีวีได้ 1 นาที อย่างไรก็ตาม จึงเป็นการบังคับเจ้าของต้องออกกำลังกายให้มากพอจึงมีสิทธิเปิดดูทีวี หากวันไหนเดินไม่ได้ตรงตามสูตรที่กำหนด ก็อดเปิดทีวีดูรายการโปรด รองเท้านี้ยังเป็นต้นแบบอยู่ แต่ก็มีผู้ผลิตหลายรายสนใจมาเจรจากับเธอแล้ว และเชื่อว่าจะสามารถประยุกต์ไปใช้งานได้อีกหลายรูปแบบ (คมชัดลึก จันทร์ที่ 23 พ. ค. 48 http://www.komchadluek.net)

วิจัยเพิ่มมูลค่ากะลา ยกระดับรายได้ชาวสวนมะพร้าว

นายไพโรจน์ สุวรรณจินดา ผู้อำนวยการสถาบันวิจัยพืชสวน กรมวิชาการเกษตร เปิดเผยว่า กองทุนระหว่างประเทศเพื่อการพัฒนาด้านการเกษตรหรือ IFAD ได้สนับสนุนงบประมาณจำนวน 59,000 เหรียญสหรัฐฯ หรือประมาณ 2.36 ล้านบาท ให้กรมวิชาการเกษตรดำเนินโครงการพัฒนาสวนมะพร้าวอย่างยั่งยืนเพื่อเพิ่มรายได้แก่เกษตรกรที่ยากจนในชนบท โดยมุ่งส่งเสริมและพัฒนาศักยภาพกลุ่มเกษตรกรผู้ปลูกมะพร้าวและกลุ่มหัตถกรรมกะลามะพร้าวนำร่องในพื้นที่ 2 จังหวัด ได้แก่ กลุ่มเกษตรกรชาวสวนมะพร้าวทุ่งคา อ.ทับสะแก จ.ชุมพร กลุ่มหัตถกรรมกะลามะพร้าวช่องไทร จ.ชุมพร และกลุ่มหัตถกรรมกะลามะพร้าวชัยบุรีจ.พัทลุง เน้นให้ทุกกลุ่มมีการเพิ่มมูลค่าวัสดุเหลือใช้จากมะพร้าวซึ่งจะทำให้มีรายได้เพิ่มขึ้นนอกเหนือจากการจำหน่ายเฉพาะผลมะพร้าวคาดว่าน่าจะช่วยแก้ไขปัญหาความยากจนของเกษตรกรและยกระดับคุณภาพชีวิตให้ดีขึ้นได้ในอนาคตขณะนี้กรมวิชาการเกษตรได้เตรียมแผนจัดฝึกอบรมและให้ความรู้แก่เกษตรกรทั้ง 3 กลุ่มในการนำวัสดุเหลือใช้จากต้นมะพร้าวมาใช้ให้เกิดประโยชน์และเพิ่มมูลค่าช่วยขยายช่องทางการตลาด โดยเฉพาะงานฝีมือและศิลปหัตกรรมจากกะลามะพร้าวเพื่อการส่งออก อาทิ โคมไฟกะลามะพร้าวผลิตภัณฑ์แจกันและของตกแต่งบ้าน เชือกจากเปลือกมะพร้าว พรมเช็ดเท้า ฝ้าเพดานรวมทั้งพื้นปาเก้มีแนวโน้มสดใส นอกจากนี้ ยังจะมีการแนะนำส่งเสริมให้เกษตรกรปลูกพืชร่วมพืชแซมสวนมะพร้าวเพื่อให้มีรายได้เสริมอีกทางหนึ่ง เช่น การปลูกสับปะรดพืชสมุนไพรเศรษฐกิจ และพืชอาหารสัตว์ด้วย ขณะเดียวกันยังมีอีก 10 ประเทศที่ได้รับการส่งเสริมจากหน่วยงานดังกล่าว ได้แก่ เวียดนาม ฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย มาเลเซีย จีน อินเดีย เม็กซิโก จาเมกา แทนซาเนีย และกานา (สยามรัฐรายวัน จันทร์ที่ 23 พ.ค. 48 http://www.siamrath.co.th

สิงคโปร์พัฒนาระบบ'สัมผัส'ทางไกล อาศัยอินเทอร์เน็ตส่งผ่านความรู้สึก

กลุ่มนักวิจัยจากมิกซ์เรียลิตี้แล็บ (Mixed Reality Lab) ของมหาวิทยาลัยแห่งชาติสิงคโปร์ ได้พัฒนาระบบทางไกลที่เรียกว่า "ทัชชีอินเทอร์เน็ต" (Touchy Internet) สำหรับใช้เป็นตัวกลางเชื่อมสัมพันธ์ระหว่างคนกับไก่ ผ่านการลูบคลำตุ๊กตาไก่ที่เชื่อมต่อกับคอมพิวเตอร์บนโต๊ะทำงาน ทันทีที่คุณเปิดระบบให้ทำงาน เจ้าไก่เทียมจะส่งเสียงขัน และเริ่มจำลองการเคลื่อนไหวของไก่ตัวจริงที่กำลังคุ้ยเขี่ยอยู่ในสวนหลังบ้านของคุณ อากัปกิริยาต่างๆ ของมันจะถูกจับตามองผ่านทางกล้องอินเทอร์เน็ต หรือเวบแคม และเมื่อคุณลูบคลำ หรือสัมผัสตัวตุ๊กตา ความรู้สึกนั้นจะส่งตรงไปที่ตัวไก่ในทันที สาเหตุที่เป็นเช่นนั้น ก็เพราะตัวตุ๊กตาจะติดตั้งเซ็นเซอร์รับสัมผัส ที่จะส่งข้อมูลไปยังคอมพิวเตอร์ผ่านทางคลื่นวิทยุ จากนั้นข้อมูลจะส่งต่อผ่านทางอินเทอร์เน็ตไปยังคอมพิวเตอร์ระยะไกลที่ตั้งอยู่ใกล้ๆ กับไก่ตัวจริง และคอมพิวเตอร์เครื่องนั้นจะสั่งการให้มอเตอร์จิ๋ว ที่ฝังอยู่ในเสื้อแจ๊คเก็ตที่ไก่สวมใส่อยู่สั่น เพื่อให้ไก่รับรู้ถึงสัมผัสที่คุณกำลังมอบให้ นอกจากนี้ หากมีการพัฒนารองเท้าพิเศษที่ติดตั้งเซ็นเซอร์ไฟฟ้าไว้ภายใน ก็จะช่วยให้คุณรับข้อมูลเกี่ยวกับการเคลื่อนไหวของไก่ได้ โดยทุกครั้งที่ไก่ก้าวเดิน คุณจะรู้สึกเหมือนโดนไฟช็อตเล็กๆ ที่ขาของตัวเอง ซึ่งแนวคิดนี้สามารถนำไปใช้เป็นเครื่องมือพิเศษในการสอนเต้นรำได้ อย่างไรก็ตาม เทคโนโลยีนี้ถูกมองว่า น่าจะเป็นรูปแบบของการทำปฏิสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์ด้วยกันเองในอนาคต และคณะทำงานกำลังสำรวจความเป็นไปได้ที่จะพัฒนา "ระบบกอดกันผ่านทางอินเทอร์เน็ต" โดยมีแผนพัฒนาชุดพิเศษให้คนสวมใส่ ซึ่งจะติดตั้งถุงลมขนาดจิ๋ว เครื่องอัดอากาศ และช่องปล่อยลม เพื่อสร้างความรู้สึกให้ผู้สวมใส่เหมือนกำลังโดนกอดอยู่ นั่นหมายความว่าทีมวิจัยจะต้องสร้างตุ๊กตามนุษย์ หรือหมอนที่ฝังเซ็นเซอร์รับแรงดัน และติดตั้งเซ็นเซอร์การเต้นของหัวใจ และความร้อนของร่างกายที่จะทำให้คนไกลทั้งสองรู้สึกแนบแน่นกันมากขึ้น คาดว่าภายในเดือนสิงหาคมนี้ ทีมงานจะเริ่มพัฒนาชุดสำหรับมนุษย์ และน่าจะใช้เวลา 1 ปี ต้นแบบถึงจะแล้วเสร็จ (กรุงเทพธุรกิจ พุธที่ 25 พ.ค. 48 http://www.bangkokbiznews.com)

สภาอุตฯกระตุ้นมหาวิทยาลัยท้องถิ่น สนใจ'เซลล์เคมี'พลังงานทดแทนใหม่

รศ.ดร.พิมล เรียนวัฒนา ที่ปรึกษาสถาบันสิ่งแวดล้อมอุตสาหกรรม สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย เปิดเผยในการบรรยายพิเศษเรื่อง "Vanadium Redox Battery (VRB)" ณ คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ว่า ปัจจุบันมีสถาบันการศึกษาในประเทศไทย คือ มหาวิทยาลัยมหิดล และมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี ที่กำลังวิจัยพัฒนาเทคโนโลยี VRB แต่สำหรับนักวิชาการและนักวิจัยของสถาบันการศึกษาในส่วนภูมิภาค เทคโนโลยี VRB ยังถือเป็นเรื่องใหม่ จึงจำเป็นที่จะต้องทราบข้อมูลพื้นฐาน เพื่อใช้ประกอบในการร่วมกันค้นคว้าวิจัยเพื่อพัฒนาต่อยอดให้สามารถนำ VRB มาใช้งานได้จริง ขณะนี้มีหลายประเทศที่มีการพัฒนา VRB เพื่อใช้งานแล้ว เช่น ออสเตรเลีย, แคนาดา, อเมริกา, อิตาลี, ญี่ปุ่น และจีน ซึ่งอยู่ระหว่างการวิจัย ส่วนประเทศไทยหากสามารถวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีดังกล่าวให้มีราคาถูกลง และเป็น VRB Green Battery ซึ่งเป็นพลังงานสะอาดที่ไม่ทำลายสิ่งแวดล้อม เชื่อว่าจะส่งผลดีต่อการพัฒนาพลังงานของประเทศในอนาคต ปัจจุบันพลังงานที่ใช้อยู่ในประเทศยังไม่ขาดแคลนถึงขั้นวิกฤติ แต่ในอีก 50 ปีข้างหน้า คาดการณ์ว่าพลังงานน้ำมันจะหมดไปจากโลก รัฐบาลจึงมีนโยบายในการแสวงหาพลังงานด้านอื่น เช่น การวิจัยและผลิตแก๊สโซฮอล์ และน้ำมันไบโอดีเซล เพื่อทดแทนการใช้น้ำมันที่ต้องนำเข้าจากต่างประเทศ นอกจากนี้ ยังมีงานวิจัยพลังงานทดแทนอีกหลายประเภท โดยเฉพาะพลังงานสะอาด ที่ช่วยรักษาสิ่งแวดล้อม ที่ได้มาจากพลังงานน้ำ พลังงานลม พลังงานแสงอาทิตย์และพลังงานเคมี เช่น จากเซลล์ไฟฟ้าเคมี โดยการทำงานร่วมกับ "Vanadium Redox Battery" หรือ VRB ซึ่งเป็นแบตเตอรี่เก็บสำรองพลังงานไฟฟ้าด้วยเซลล์ไฟฟ้าเคมีประสิทธิภาพสูง และยังสามารถปรับเปลี่ยนพลังงานเคมีในน้ำตาลให้เป็นไฟฟ้า นอกจาก VRB จะสามารถผลิตพลังงานไฟฟ้าได้แล้ว ยังสามารถเก็บพลังงานไฟฟ้าจากพลังงานธรรมชาติ ซึ่งในอนาคตจะมีการใช้พลังงานทดแทนในรูปแบบดังกล่าวเพื่อใช้งานในเชิงพาณิชย์ รวมทั้งการผลิตไฟฟ้าให้กับบ้านเรือนในพื้นที่ห่างไกลด้วย (กรุงเทพธุรกิจ พุธที่ 25 พ.ค. 48 http://www.bangkokbiznews.com)

ตรวจไข้ล้ำยุคหมอไม่ต้องมาส่งหุ่นไปแทน

ศ.อะรา ดาร์ซี ซึ่งเป็นแพทย์ประจำโรงพยาบาลแห่งหนึ่งในลอนดอน ได้เปิดศักราชใหม่โดยนำหุ่นยนต์ "ซิสเตอร์แมรี" และ "ดอกเตอร์รอบบี" มาร่วมในการปฏิบัติภารกิจทางการแพทย์ โดยหุ่นยนต์คู่นี้จะเป็นตัวกลางให้หมอตรวจและสื่อสารกับคนไข้ได้โดยไม่จำกัดสถานที่ แม้ว่าหมอกับคนไข้จะอยู่ห่างกันคนละโยชน์ก็ตาม ไม่ว่าหมอจะเดินไปแผนกไหน หรือแม้แต่อยู่ในต่างประเทศ เป็นรูปแบบใหม่สำหรับงานวิจัยด้านแพทย์ทางไกล และการนำเทคโนโลยีการสื่อสารมาเชื่อมต่อกับการรักษาพยาบาล หุ่นยนต์ดังกล่าวสูง 5 ฟุต โดยแพทย์ใช้คันบังคับควบคุมจากระยะไกล และแพทย์จะสามารถมองเห็นผู้ป่วยผ่านทางกล้องดิจิทัล ที่ติดตั้งอยู่บนหุ่นยนต์ ขณะเดียวกันผู้ป่วยก็จะเห็นแพทย์ผ่าจอภาพที่ติดตั้งอยู่บนหน้าหุ่นยนต์เช่นกัน นอกจากนี้ แพทย์สามารถถามคำถามและบันทึกข้อมูลการรักษาได้เช่นเดิม รวมทั้งสามารถอ่านฟิล์มเอกซเรย์ และผลตรวจต่างๆ ได้ปกติเหมือนไปเยี่ยมไข้ด้วยตัวเอง ในการทดลองใช้งานเบื้องต้น ทีมวิจัยได้ส่งแบบประเมินให้ผู้ป่วยบรรยายความรู้สึก ที่ต้องปฏิสัมพันธ์กับหมอผ่านการช่วยเหลือของหุ่นยนต์ และคำตอบที่ได้ส่วนใหญ่อยู่ในเกณฑ์พึงพอใจ (คมชัดลึก พุธที่ 25 พ.ค. 48 http://www.komchadluek.net)

จักรยานน้ำ

"จักรยานน้ำ" หรือ Pump-a-bike สิ่งประดิษฐใหม่ ที่ออกมาเปิดตัวเมื่อ 16 พฤษภาคมที่ผ่านมา สร้างความเร้าใจให้เหล่านักขับขี่สกู๊ตเตอร์ คนชอบความเร็ว ชอบสิ่งประดิษฐ์ทั้งหลาย อยากทดลอง จักรยานน้ำที่ว่านี้ ออกแบบและประดิษฐ์โดยชาวซิมบับเว นาม ไมค์ ปูเซ่(Mike Puzey) ทำงานโดยระบบการปั๊มลมให้แหวกว่าย ด้วยปีกติดกับข้างเรือให้แฉลบน้ำ ขับขี่ไปบนกระแสคลื่น วิ่งด้วยความเร็ว 23 ไมล์ต่อชั่วโมง จากรูปร่างหน้าตาที่เห็นนี้ ปั๊ม-อะ-ไบค์ คันนี้ ลอยเหนือน้ำได้แล้วยังพับเก็บเข้ากระเป๋าหิ้วไปไหนมาไหน ประหยัดพื้นที่ได้อีกต่างหาก ดูด้วยตาเห็นจากราคารีเทลแล้ว ก็ตกราว 1,000 ยูเอสดอลลาร์ (มติชนรายวัน พุธที่ 25 พ.ค. 48 http://www.matichon.co.th)

น้ำนมแม่ช่วยคุ้มโรคหัวใจให้ลูก เด็กนมแม่แข็งแรงกว่าเด็กนมผง

ผลการศึกษาหาความเสี่ยงของการเป็นโรคหลอดเลือดหัวใจพบว่า เด็กที่ดื่มนมมารดาอย่างเต็มที่ในช่วงเป็นทารก มีสุขภาพหัวใจแข็งแรง เทียบเท่ากับผู้ที่ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอและผู้ที่พยายามลดการกินเกลือให้น้อยลง ผลการศึกษาเด็กเกือบ 2,200 คน อายุ 9-15 ปี ในเดนมาร์ก และเอสโตเนียพบว่าการดื่มนมมารดาเป็นผลดีต่ออัตราการเต้นของหัวใจมากที่สุด เด็กที่ได้ดื่มนมมารดาเต็มที่นาน 6 เดือน มีอัตราการเต้นของหัวใจต่ำกว่าเด็กที่ดื่มนมมารดาเป็นครั้งคราว หรือดื่มแต่นมผงสำเร็จรูป ยิ่งเด็กได้ดื่มนมมารดานานเท่าไหร่ ยิ่งเห็น ดีมากขึ้นเท่านั้น อย่างไรก็ดี การดื่มนมมารดาดูเหมือนจะไม่มีผลต่อระดับคอเลสเทอรอล หรือการต้านอินซูลินที่เป็นปัจจัยก่อนเป็นเบาหวานแต่อย่างใด. (ไทยรัฐ พฤหัสบดีที่ 26 พ.ค. 48 http://www.thairath.co.th)

วว.เปิดบ้านถ่ายทอดเทคโนโลยีแก้จน

สถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์ฯ ครบรอบ 42 ปี จัดแสดงผลงานวิจัยและเทคโนโลยีช่วยแก้ปัญหาความยากจนอย่างยั่งยืน จากมันสมองนักวิจัยทั้งไทยและต่างประเทศ พร้อมเปิดห้องเรียนวิทยาศาสตร์สร้างการเรียนรู้ให้เยาวชน ดร.นงลักษณ์ ปานเกิดดี ผู้ว่าการสถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทย (วว.) เปิดเผยถึง "งานเปิดโลกทัศน์วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี 42 ปี วว." ว่า สถาบันจัดแสดงผลงานวิจัยและเทคโนโลยีของนักวิจัยไทย ที่สามารถช่วยแก้ปัญหาความยากจนอย่างยั่งยืน ด้วยการสร้างอาชีพให้ประชาชน รวมถึงลดการนำเข้าเทคโนโลยีในระดับอุตสาหกรรม โดยงานจัดขึ้นระหว่างวันที่ 25 - 29 พฤษภาคม นี้ ณ ศูนย์การแสดงสินค้าอิมแพค เมืองทองธานี ภายในงานจัดแบ่งเป็นโซนหมู่บ้าน วว.พัฒนา ที่นำเสนอเทคโนโลยีแก้จนเป็นหลัก อาทิ เครื่องมือแปรรูปอาหารและผลไม้ อบรมวิธีทำยาและเครื่องสำอางจากสมุนไพร ปุ๋ยอินทรีย์ชีวภาพคุณภาพสูงรวมถึงบริการคลินิกเทคโนโลยีแก้ปัญหาการผลิตให้ผู้ประกอบการ และบริการทดสอบชิ้นส่วนด้านวิศวกรรม เทคนิคและโครงสร้าง สำหรับธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม ในส่วนงานวิจัยต่างประเทศที่นำมาแสดง ส่วนใหญ่มาจากประเทศรัสเซีย อาทิ เทคโนโลยีการทำน้ำสะอาดโดยใช้แผ่นนำกระแสไฟฟ้าแบบใหม่หรือเมมเบรน อุปกรณ์ดับเพลิงแบบพกพา เครื่องควบคุมอุปกรณ์สอดแนมสำหรับเรือความเร็วสูง นอกจากนี้ยังมีเครื่องกำเนิดพลังงานจากเทคโนโลยีไบโอแมสจากญี่ปุ่น และการให้บริการด้านเทคโนโลยีประกันความปลอดภัยของเครื่องมือ เครื่องจักร อุปกรณ์ด้านอุตสาหกรรมจากเยอรมนี และยังได้เปิดเวทีแลกเปลี่ยนความคิดเห็นระหว่างนักวิจัย ผู้ประกอบการ สถาบันการศึกษารวมถึงผู้สนใจทั่วไป ในประเด็นของการนำวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีเข้ามาช่วยในการพัฒนาประเทศ ตลอดจนได้เรียนรู้ประสบการณ์จากนานาประเทศด้านความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีที่นำมาใช้กับงาน ทั้งในส่วนของงานสัมมนาการใช้เทคโนเพื่อสนับสนุนธุรกิจเอสเอ็มอี การใช้สมุนไพรเพื่อสุขภาพและความงาม รวมถึงการอบรมสร้างอาชีพให้กับประชนที่สนใจ (กรุงเทพธุรกิจ พฤหัสบดีที่ 26 พ.ค. 48 http://www.bangkokbiznews.com)

โรงพยาบาลเจ้าพระยา รักษาคนไข้ด้วยเซลล์บำบัด

โรงพยาบาลเจ้าพระยาจับมือเธราวีเธ บริษัทต่างชาติที่ค้นคว้าวิจัยด้านเซลล์บำบัด เปิดให้บริการรักษาโรคหัวใจขาดเลือดด้วยวิธีบำบัดด้วยเซลล์เป็นแห่งแรกของโลก ระบุอาศัยเลือดของผู้ป่วยสร้างสเต็มเซลล์ จากนั้นฉีดกลับเข้าไปซ่อมแซม และสร้างหลอดเลือดใหม่ พร้อมรองรับผู้ป่วยทั้งไทย และต่างชาติ มั่นใจหนุนไทยสู่ศูนย์กลางการแพทย์ในภูมิภาคเอเชีย ดร.วาเลนติน ฟุลกา ประธานบริษัท เธราวีเธ จำกัด ผู้เชี่ยวชาญด้านการบำบัดด้วยเซลล์ (Cell Therapy) เปิดเผยว่าถึงความร่วมมือกับโรงพยาบาลเจ้าพระยา ในการรักษาผู้ป่วยโรคหัวใจขาดเลือดด้วยวิธีเซลล์บำบัด โดยใช้เซลล์ต้นตอกลุ่มรอง (Adult stem cell) ที่ได้จากเลือดของผู้ป่วยมาเพาะเลี้ยง และฉีดกลับเข้าไปสร้างเป็นหลอดเลือดใหม่ที่ใช้นำเลือดไปเลี้ยงหัวใจ ด้วยเทคโนโลยีดังกล่าว ทำให้เจ้าพระยาเป็นโรงพยาบาลแรกในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ที่ให้การรักษาเชิงพาณิชย์ และสามารถรองรับผู้ป่วยจากประเทศตะวันตก ซึ่งจะส่งผลให้ไทยเป็นศูนย์กลางการรักษาโรคหัวใจขาดเลือดด้วยเซลล์ต้นตอในแถบภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก รวมทั้งสร้างความพร้อมสู่ความเป็นศูนย์กลางทางการแพทย์ของภูมิภาคเอเชียด้วย นอกจากนี้ บริษัทได้ร่วมกับโรงพยาบาลศิริราชทำการทดสอบทางคลินิกถึงเทคโนโลยีดังกล่าวมาเป็นเวลาประมาณ 1 ปีแล้ว โดยได้ทดสอบในผู้ป่วย 20 คนพบว่า ผลการรักษาเป็นไปตามที่คาดไว้ และในขณะนี้ยังคงดำเนินการทดสอบทางคลินิกต่อไป ทั้งนี้ เซลล์ที่ใช้ในการรักษาคือ เซลล์เอนโดธีเลียล โปรเจนิเตอร์ (อีพีซี) ซึ่งพบได้ในเลือด มีคุณสมบัติสร้างและซ่อมแซมหลอดเลือดที่เสียหาย สามารถนำมาใช้รักษาผู้ป่วยที่มีอาการของโรคหัวใจจากหลอดเลือดหัวใจอุดตัน โดยไม่ใช้สารใดๆ จากสัตว์อื่นเลย และด้วยเทคนิคการเพาะเลี้ยงเซลล์ที่บริษัทค้นคว้าวิจัย จะทำให้ได้เซลล์ที่ใช้ปลอดภัยเป็นจำนวนมาก สำหรับการรักษา แพทย์จะใช้เลือดจากผู้ป่วย 200-250 ซีซี ส่งไปให้ห้องปฏิบัติการของบริษัท ณ ประเทศอิสราเอล ทำการคัดแยกเซลล์อีพีซีออกจากกระแสเลือด และเพาะเลี้ยงให้ได้จำนวนมาก จากนั้นส่งกลับมายังประเทศไทยเพื่อฉีดให้ผู้ป่วย ซึ่งในการฉีดเข้าไปนั้นทำได้โดยวิธีใช้สายสวนแบบเดียวกับการรักษาด้วยบอลลูน จะเจาะใส่สายสวนที่ต้นขา หรือจะฉีดเข้าโดยตรงที่หัวใจ ซึ่งทำได้โดยการผ่าตัดแล้วฉีด หรือใช้วิธีส่องกล้อง ซึ่งเซลล์จะต้องใช้เวลาเป็นเดือนในการสร้างเป็นหลอดเลือดใหม่เพื่อนำเลือดไปเลี้ยงหัวใจ ส่วนอายุของเซลล์ที่เพาะได้นั้น จะต้องฉีดเข้าไปในร่างกายภายใน 24 ชั่วโมง แต่ที่ผ่านมาที่สามารถทำได้อยู่ที่เวลา 20 ชั่วโมง โรงพยาบาลเจ้าพระยาทำการรักษาผู้ป่วยด้วยวิธีนี้ไปแล้ว 2 ราย และทางบริษัทคาดว่าจะตั้งศูนย์ปฏิบัติการขึ้นในประเทศไทยภายในปี 2549 (กรุงเทพธุรกิจ พฤหัสบดีที่ 26 พ.ค. 48 http://www.bangkokbiznews.com)

แผ่นวัดระดับความหอมข้าว ใช้ง่ายราคาถูกช่วยโรงสีตรวจคุณภาพ

ผศ.ดร.สุกัญญา วงศ์พรชัย ภาควิชาเคมี คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ เปิดเผยว่า ทีมวิจัยได้พัฒนาวิธีการอย่างง่ายสำหรับตรวจปริมาณสารหอมในข้าว ซึ่งอยู่ในรูปแบบแผ่นเฉดสีสำหรับตรวจเทียบสีความหอมข้าวหอม โดยมีคุณสมบัติสามารถใช้ได้เองไม่ต้องอาศัยเครื่องมือวิเคราะห์ราคาแพง เนื่องจากที่ผ่านมาผู้ค้าข้าวหอมต่างประสบปัญหาการเก็บรักษาข้าว หลังการเก็บเกี่ยวเพื่อรอขาย ขณะที่ปริมาณสารหอมในข้าวหอมที่เก็บไว้เป็นเวลานานจะลดลง แต่สารหืนเพิ่มขึ้น ทำให้ข้าวหอมในโกดังขาดคุณภาพ สำหรับแถบสีข้าวหอมนี้สามารถใช้ตรวจหาปริมาณสารหอมในตัวอย่างข้าวที่มีจำนวนมาก แต่มีปริมาณข้าวตัวอย่างที่จะใช้ตรวจสอบน้อย อาทิ พันธุ์ข้าวลูกผสมที่ได้จากการปรับปรุงพันธุ์ และต้องการยืนยันความหอมของเมล็ดพันธุ์ใหม่ที่ได้ เป็นต้น ส่วนวิธีการตรวจหาสารหอมนั้น เพียงนำตัวอย่างข้าวมาสกัดและเติมสารเคมีทิ้งไว้ประมาณ 30 นาที จากนั้นก็เทียบดูสีบอกปริมาณความหอมได้ทันที โดยสีในแผ่นตรวจจะแยกเป็น 5 เฉดสีตามระดับความหอม นักวิจัยกล่าวต่อว่า นอกจากชุดเทียบสีสารหอมข้าวแล้ว ยังได้ศึกษาความหอมของข้าวเมื่อระยะเวลาผ่านไป ทั้งในส่วนของการเก็บรักษา บรรจุภัณฑ์ สารดูดซับ รวมถึงศึกษาข้อดีของวิธีการผนึกบรรจุภัณฑ์โดยสุญญากาศ เพื่อช่วยในการยืดอายุสารหอมด้วย ทั้งนี้ จากการศึกษาสารต้านอนุมูลอิสระและการต้านออกซิเดชั่นในข้าว ซึ่งจะช่วยให้ข้าวมีอายุที่ยืนขึ้น โดยข้อมูลพื้นฐานที่ได้จะนำมาใช้ในการคัดเลือกและระบุพันธุ์ข้าวสีที่มีศักยภาพดี สำหรับพัฒนาไปเป็นผลิตภัณฑ์อาหารเสริมสุขภาพ รวมถึงศึกษาวิธีการแปรรูปและรูปแบบของผลิตภัณฑ์อาหารเพื่อสุขภาพที่ได้จากข้าวสี การเก็บรักษาผลิตภัณฑ์ให้คงคุณภาพ และการตรวจวิเคราะห์เพื่อยืนยันการคงอยู่ของสารออกฤทธิ์ในผลิตภัณฑ์ ที่เน้นในเรื่องคุณภาพและความปลอดภัยของผลิตภัณฑ์ (คมชัดลึก พฤหัสบดีที่ 26 พ.ค. 48 http://www.komchadluek.net)

ไทยรอยลโฉมดิสก์กระดาษ

บริษัท สยามทบพัน แพ็คเก็จจิ้ง จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายกล่องกระดาษ เตรียมนำ "แผ่นดิสก์กระดาษ" ซึ่งเป็นแผ่นดิสก์สำหรับทศวรรษหน้า มาอวดโฉมเป็นครั้งแรกในอาเซียน ในงานแสดงเทคโนโลยีเพื่อการบรรจุภัณฑ์ โดยแผ่นดิสก์ดังกล่าวเป็นผลงานการวิจัยคิดค้นร่วมกันระหว่างบริษัทแม่ของสยามทบพัน ในประเทศญี่ปุ่น กับผู้ผลิตเครื่องใช้ไฟฟ้า และคาดว่าจะผลิตออกจำหน่ายภายใน 2-3 ปีนี้ แผ่นดิสก์กระดาษผลิตโดยใช้เทคโนโลยีแสงน้ำเงิน (บลู-เรย์) ช่วยบีบอัดข้อมูล ทำให้มีความจุมากกว่าแผ่นดีวีดีถึง 5 เท่า และเนื่องจากวัตถุดิบหลักเป็นกระดาษ จึงเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม อีกทั้งสะดวกในการตกแต่งลวดลาย โดยสามารถพิมพ์ลายบนดิสก์กระดาษได้ทันที เพื่อเพิ่มความสวยงาม แถมยังทำลายเพื่อป้องกันข้อมูลที่เป็นความลับได้ง่ายด้วยกรรไกรหรือเผาไฟ สำหรับกระบวนการพัฒนาแผ่นดิสก์กระดาษ ได้คำนึงถึงหน้าที่การใช้สอยที่จำเป็นทั่วไปของแผ่นดิสก์ รวมถึงความเรียบ ความคงทน และความบาง โดยใช้รูปแบบการจัดวางแผ่นฟิล์มแบบประกบ เพื่อให้ชั้นที่เป็นตัวส่งถ่ายข้อมูลซึ่งมีกระดาษประกอบอยู่ด้วยเป็นส่วนบนสุด ขณะที่ด้านล่างสุดของแผ่นดิสก์ ได้ใช้แผ่นฟิล์มยูวีแบบโค้งเป็นส่วนป้องกันการหักงอของแผ่น อย่างไรก็ตาม ผู้ผลิตอยู่ระหว่างปรับปรุงค่าสัญญาณให้คงที่มากสุด พร้อมกับพัฒนาเทคโนโลยีการผลิตแบบอุตสาหกรรม และปรับปรุงเพิ่มสัดส่วนของกระดาษวัตถุดิบ นอกจากนี้ บริษัทยังได้คิดค้นโครงสร้างพื้นฐานของการรีไซเคิลอีกด้วย ทั้งนี้ งานแสดงเทคโนโลยีเพื่อการบรรจุภัณฑ์ จัดขึ้นระหว่างวันที่ 2-5 มิถุนายนนี้ ณ ไบเทค บางนา (คมชัดลึก พฤหัสบดีที่ 26 พ.ค. 48 http://www.komchadluek.net)

ล้างความเชื่อเรื่องกระเพาะปัสสาวะ ไม่ได้หดลงเมื่อแก่ตัว

นักวิจัยในอเมริกาประกาศลบล้างความเชื่อที่คุ้นเคยกันดีว่า กระเพาะปัสสาวะคนเรามักจะหดตัวเมื่อมีอายุมากขึ้นนั้นไม่เป็นความจริง ศาสตราจารย์ นีล เรสนิค นักวิจัยจากมหาวิทยาลัยพิตสเบิร์ก ได้ศึกษากับกลุ่มผู้หญิงอายุระหว่าง 22 และ 90 ปี จำนวน 95 คน กล่าวว่า การที่คนสูงอายุสังเกตว่ามักจะปัสสาวะบ่อยขึ้นนั้นเป็นเพราะกระเพาะ ปัสสาวะหดตัวลงเมื่อแก่ตัวนั้นเป็นเรื่องที่ไม่จริง เพราะทีมงานที่ศึกษาพบว่าในขณะที่กระเพาะปัสสาวะ และการทำงานของท่อปัสสาวะอาจทำหน้าที่เสื่อมถอยลงไปตลอดช่วงชีวิตของผู้ใหญ่ แต่ว่ากระเพาะปัสสาวะไม่ได้มีความเปลี่ยนแปลงไปในทางที่หดตัวลงแต่อย่างใด แต่เป็นเพราะกล้ามเนื้อที่ควบคุมการปัสสาวะบางครั้งไม่สามารถควบคุมได้ อย่างไรก็ตาม อาการแบบนี้เป็นเรื่องที่รักษาได้และไม่ใช่ เป็นเฉพาะคนแก่เท่านั้น. (ไทยรัฐ ศุกร์ที่ 27 พ.ค. 48 http://www.thairath.co.th)

สมาร์ทการ์ด รปภ.คอมพิวเตอร์ มจธ.

เครื่องต้นแบบโมดูลสมาร์ทการ์ดนี้ เป็นโครงงานของน้องเกรียงไกร เรืองเจริญ และ น้องนนทรีย์ คำบัว นักศึกษาภาควิชาวิศวกรรมระบบควบคุมและเครื่องมือวัด คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี (มจธ.)ที่ได้ร่วมกันประดิษฐ์คิด ค้นขึ้น โดยหลักการการทำงานของระบบควบคุมการ ใช้งานเครื่องคอมพิวเตอร์ จะทำหน้าที่อ่านข้อมูลจากบัตรสมาร์ทการ์ด ที่มีชิพฝังอยู่และภายใน ชิพจะบรรจุข้อมูลต่าง ๆ ไว้ในรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งจะมีรหัสอยู่ เครื่องโมดูลสมาร์ทการ์ดจะตรวจสอบรหัสที่อยู่ภายในบัตรว่าเป็นบัตรที่มีข้อมูลอยู่ในฐานข้อมูลหรือไม่ ถ้ามีข้อมูลที่ถูกต้อง ก็จะอนุญาตให้ใช้งาน โดยจะสั่งให้เครื่องคอมพิวเตอร์เปิดการทำงานได้ และตัวเครื่องโมดูล สมาร์ทการ์ดนี้ จะส่งข้อมูลไปยังเครื่องคอมพิวเตอร์ผ่านพอร์ต ยูเอสบี โดยมีโปรแกรมเป็นตัวจัดการตรวจสอบรหัสกับฐานข้อมูลอีกครั้ง หลังจากนั้นก็จะส่งข้อมูลไปเก็บเป็นวันและเวลาในการเข้าออกไว้ที่คอมพิวเตอร์ เซิร์ฟเวอร์ต่อไป นอกจากนี้หลังจากที่ตัวโมดูลสมาร์ทการ์ดทำการอนุญาตให้ใช้งานแล้ว ถ้าเกิดการสลับหรือเปลี่ยนบัตรในการใช้งาน หรือดึงบัตรออกนานจนถึงเวลาที่กำหนด เครื่องจะปิดการทำงาน ขณะเดียวกันถ้าซอฟต์แวร์ที่ให้กับตัวโมดูลสมาร์ทการ์ดถูกสั่งปิด ระบบก็จะตรวจสอบว่าโปรแกรมปิดไปแล้วหรือยัง ถ้าปิดแล้วก็จะสั่งให้เครื่องคอมพิวเตอร์ ปิดเครื่องคอมพิวเตอร์ทันที หรือถ้าทั้งสองโปรแกรมที่ใช้งาน รวมกับโมดูล สมาร์ทการ์ดปิดลงจนถึงระยะเวลาหนึ่ง ตัวโมดูลสมาร์ทการ์ดจะสั่งปิดเครื่องคอมพิวเตอร์ด้วย ซึ่งจะเป็นการป้องกันการลืมปิดเครื่องอีกทางหนึ่ง ความแตกต่างของระบบป้องกันที่ใช้อยู่ในปัจจุบันและระบบป้องกัน โดยใช้เครื่องโมดูลสมาร์ทการ์ดไว้ว่า ระบบป้องกันใช้อยู่ส่วนใหญ่เป็นการป้องกันโดยใส่รหัสผ่านที่เครื่องคอมพิวเตอร์เท่านั้น ถ้ามีคนรู้รหัสผ่านก็สามารถเข้ามาใช้งานได้ แต่ไม่สามารถตรวจสอบได้ว่าผู้ใดที่เข้ามาใช้งานเครื่องคอมพิวเตอร์และไม่สามารถตรวจสอบถึงวันเวลาที่ใช้งาน ซึ่งจะแตกต่างจากระบบป้องกันโดยผ่านเครื่องโมดูลสมาร์ทการ์ด ที่สามารถตรวจสอบถึงผู้ใช้งานเครื่องคอมพิวเตอร์ รวมทั้งยังบันทึกวันเวลาเข้าออกในการใช้งานเครื่องคอมพิวเตอร์อีกด้วย โดยข้อมูลทั้งหมดจะส่งเก็บไว้ที่เครื่องคอมพิว เตอร์เซิร์ฟเวอร์ ซึ่งถ้าผู้ที่จะมาใช้เครื่องคอมพิว เตอร์ไม่มีบัตร หรือใส่รหัสบัตรไม่ถูกต้องก็ไม่สามารถใช้เครื่องคอมพิวเตอร์ได้ โดยบุคคลที่เข้าไปใช้งานเครื่องคอมพิว เตอร์ก็จะถูกบันทึกข้อมูลการใช้งาน เวลาเข้าออก ช่วยให้ปลอดภัยจากบุคคลภายนอกที่แอบมาใช้เครื่อง ซึ่งอาจจะทำให้เครื่องคอมพิวเตอร์เสียหาย หรือข้อมูลที่อยู่ในเครื่องถูกขโมยไปได้ และจากหลักการการทำงานของเครื่องโมดูลสมาร์ทการ์ดนี้ ยังเหมาะสำหรับสำนักงาน หรือออฟฟิศต่าง ๆ รวมทั้งร้านอินเทอร์เน็ตด้วย. (เดลินิวส์ ศุกร์ที่ 27 พ.ค. 48 http://www.dailynews.co.th)

จุฬาฯทดลอง 'เห็ดหลินจือ' รักษาไตเรื้อรัง

แพทย์จุฬาฯศึกษากลไกการเกิดภาวะไตวายในร่างกาย พร้อมสร้างทางเลือกใหม่รักษาโรคไตเรื้อรังด้วยสารสกัดเห็ดหลินจือ เผยผลทดสอบเบื้องต้นช่วยผู้ป่วยกลับสู่ภาวะปกติ ระบุสรรพคุณสร้างสมดุลให้ระบบภูมิคุ้มกัน ลดอาการไตอักเสบ ภาวะไข่ขาวรั่วในปัสสาวะ แถมยังเพิ่มประสิทธิภาพระบบไหลเวียนและสมรรถภาพการทำงานของไต รศ.พญ.ดร.นริสา ฟูตระกูล ภาควิชาสรีรวิทยา คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เปิดเผยว่า ทีมวิจัยค้นพบวิธีรักษาผู้ป่วยโรคไตเรื้อรังเนฟโฟรสิส ชนิด focal segmental sclerosis ที่ไม่สามารถรักษาได้ด้วยยากดภูมิคุ้มกัน เช่น สเตียรอยด์ โดยเปลี่ยนให้รับประทานสารสกัดจากเห็ดหลินจือวันละ 750 - 1,000 มิลลิกรัม ควบคู่กับการให้ยาขยายหลอดเลือด พบว่า ช่วยฟื้นฟูระบบการทำงานของไตให้ดีขึ้น อีกทั้งภาวะเนื้อไตตายลดลงอย่างชัดเจน งานวิจัยชิ้นนี้ได้รับการสนับสนุนจากสำนักงานกองทุนสนับสนุนการวิจัย (สกว.) และนักวิจัยกำลังต่อยอดศึกษาหากลไกการทำลายไตในโรคไตเรื้อรังชนิดอื่นๆ โดยเฉพาะกลุ่มไตอักเสบจากเบาหวานที่เป็นสาเหตุสำคัญอันดับหนึ่งของภาวะไตวายเรื้อรังขั้นสุดท้าย รวมทั้งกำลังหาทางพัฒนาวิธีวินิจฉัยความผิดปกติของโรคในระยะเริ่มต้นด้วย (กรุงเทพธุรกิจ ศุกร์ที่ 27 http://www.bangkokbiznews.com)

อุโมงค์ผนึกสุญญากาศฝีมือวว. บรรจุภัณฑ์หลอดไฟปลอดละอองฝ้า

ดร.นงลักษณ์ ปานเกิดดี ผู้ว่าการสถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทย (วว.) เปิดเผยว่า นักวิจัยของสถาบันได้พัฒนาเครื่องผนึกสุญญากาศสำหรับบรรจุหลอดแก้วในรูปแบบอุโมงค์ หลังจากได้รับทราบปัญหาจากผู้ประกอบการผลิตหลอดไฟฟ้าส่งออก ที่ใช้วิธีการบรรจุด้วยถุงพลาสติกปิดผนึกแบบธรรมดา ทำให้เกิดปัญหาหลอดแก้วพร่ามัวและขาดคุณภาพ อุโมงค์ผนึกสุญญากาศที่สร้างขึ้นนี้ ได้ดัดแปลงจากเครื่องผนึกสุญญากาศที่ใช้บรรจุภัณฑ์แบบปกติ ซึ่งเครื่องทั่วไปจะมีระบบเติมก๊าซที่ใช้บรรจุภัณฑ์หลายประเภทไว้ในเครื่องเดียวกัน ไม่ว่าจะเป็น ถุงพลาสติกชนิดหนา/บาง ถุงอะลูมิเนียมฟอยล์ ขนาดความกว้างและความหนาแตกต่างกัน แต่เครื่องของ วว.ถูกออกแบบให้ขนาดใหญ่ขึ้นเหมาะกับการผนึกหลอดไฟฟ้า รวมถึงปรับปรุงประสิทธิภาพการใช้งาน ให้เทียบเท่าเทคโนโลยีจากต่างประเทศในราคาต่ำกว่า ด้านนายยุทธนา ตันติวิวัฒน์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิศวกรรม วว. กล่าวว่า การบรรจุหลอดแก้วด้วยถุงพลาสติกนั้น เมื่อเวลาผ่านไประยะหนึ่ง อากาศจะแทรกตัวเข้าไปทำปฏิกิริยาเคมีกับหลอดแก้ว ทำให้หลอดแก้วเกิดรอยฝ้ามัว และยากต่อการทำความสะอาด ซึ่งหากต้องการทำความสะอาดจะต้องใช้ค่าใช้จ่ายสูง จึงสูญเสียสินค้าไปเป็นจำนวนมาก เครื่องผนึกสุญญากาศสำหรับบรรจุหลอดแก้วแบบอุโมงค์ Vacuum Chamber ผลงานของ วว.นี้ ทำงานโดยดูดอากาศในถุงออกให้อยู่ในสภาวะสุญญากาศ เพื่อป้องการทำปฏิกิริยาของสารในหลอดแก้วกับออกซิเจน มีรูปแบบคล้ายอุโมงค์ขนาด 40 x 50 x 200 เซนติเมตร สามารถบรรจุหลอดไฟด้วยความเร็ว 1-3 นาทีต่อ 1 กล่อง เพราะหลังจากผู้ประกอบการส่งออกหลอดไฟฟ้าได้นำเครื่องดังกล่าวไปทดลองใช้งานแล้ว พบว่าสามารถคงคุณภาพผลิตภัณฑ์ก่อนส่งขายได้เป็นอย่างดี ทั้งนี้ สถาบันได้จัดแสดงอุโมงค์ผนึกสุญญากาศสำหรับบรรจุหลอดแก้ว พร้อมด้วยเทคโนโลยีสำหรับผู้ประกอบการเอสเอ็มอีมากมาย อาทิ เครื่องเชื่อมอัลตราโซนิกส์ เครื่องผลิตโปรตีนเข้มข้นจากหัวกุ้ง เครื่องทำแห้งเยือกแข็งสุญญากาศ ที่ใช้เทคโนโลยีเดียวกับที่องค์การนาซาใช้ในการผลิตอาหารสำหรับนักบินอวกาศ ในงาน "เปิดโลกทัศน์วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี 42 ปี วว." ระหว่างวันที่ 25-29 พฤษภาคมนี้ ณ ศูนย์การแสดงสินค้าอิมแพค เมืองทองธานี เนื่องในโอกาสครบรอบคล้ายวันสถาปนา 42 ปี เพื่อฉลองความสำเร็จในการวิจัยและพัฒนาของนักวิจัยไทย และเป็นการเปิดเวทีแลกเปลี่ยนพบปะระหว่างนักวิจัยกับผู้ประกอบการ (กรุงเทพธุรกิจ ศุกร์ที่ 27 http://www.bangkokbiznews.com)

จีนประสบความสำเร็จผลิตวัคซีนป้องกันไข้หวัดนก

เมื่อวันที่ 26 พฤษภาคม สำนักข่าวซินหัวของทางการจีนเปิดเผยว่า นักวิทยาศาสตร์จีนประสบความสำเร็จในการพัฒนาวัคซีนที่สามารถป้องกันการระบาดเชื้อไข้หวัดนกชนิด H 5 N 1 ในนกและสัตว์ปีก โดยในวันเดียวกันนายเฉิน หัว หลาน ผู้อำนวยการห้องทดลองไข้หวัดนกแห่งชาติจีนกล่าวว่า วัคซีนชนิดใหม่ที่พัฒนาขึ้นนั้นได้นำไปพิสูจน์แล้วและใช้ได้ที ทั้งนี้จากการนำไปทดลองนั้นสามารถป้องกันเชื้อไข้หวัดนกชนิด H 5 N 1 ได้ร้อยเปอร์เซ็นต์ ขณะนี้ได้รับอนุญาตผลิตและจำหน่ายจากกระทรวงเกษตรจีนเรียบร้อยแล้ว การประกาศประสบความสำเร็จผลิตวัคซีนของจีนมีขึ้นหลังจากจีนยืนยันเมื่อราว 1 ปีก่อนว่า ฝูงนกที่อพยพมาที่มณฑลชิงไห่ตายจากการติดเชื้อไข้หวัดนกชนิด H 5 N 1 แต่ไม่มีชาวจีนเสียชีวิตจากการติดเชื้อไข้หวัดนก อย่างไรก็ตาม มีผู้เสียชีวิตจากการติดเชื้อไข้หวัดนก 54 คน ที่เวียดนาม ไทย และกัมพูชา(เอเอฟพี) (มติชนรายวัน ศุกร์ที่ 27 พ.ค. 48 http://www.matichon.co.th)

ข่าวทั่วไป

วิตามินอีช่วยป้องกันพาร์กินสัน มีอยู่อุดมในผลไม้อย่างมะม่วง

มีการศึกษาพบว่าอาหารที่มีวิตามินอีสูงอาจช่วยป้องกันการเป็นพาร์กินสัน ซึ่งเป็นอาการเสื่อมทางระบบประสาทได้ ผลการศึกษาที่เผยแพร่ในวารสารประสาทวิทยา “แลนเซท” ฉบับออนไลน์ระบุว่า ผู้ รับประทานอาหารที่มีวิตามินอีปริมาณปานกลางถึงมาก มีโอกาสน้อยที่จะเป็นโรคพาร์กินสัน ส่วนวิตามินซีและเบต้าแคโรทีน ดูเหมือนจะไม่ช่วยในเรื่องนี้ เช่นเดียวกับผลิตภัณฑ์เสริมอาหารวิตามินอีก็เช่นกัน ผลการศึกษาดังกล่าวได้จากการวิเคราะห์ งานวิจัยหลายชิ้นเกี่ยวกับโรคพาร์กินสันและโภชนาการตั้งแต่ปี 2509 จนถึงเดือนมีนาคมปีนี้ พบว่าคนที่รับประทานอาหารวิตามินอีสูง มีโอกาสเป็นพาร์กินสันน้อยกว่าคนรับประทานอาหารวิตามินอีต่ำประมาณร้อยละ 19 ด้านเว็บไซต์ของสถาบันสุขภาพแห่งชาติสหรัฐฯระบุว่า วิตามินอีมีมากในน้ำมันพืช ถั่ว และผักใบเขียว เช่น ผักขม บร็อคโคลี่ รวมถึงผลไม้อย่างกีวีและมะม่วง. (ไทยรัฐ อังคารที่ 24 พ.ค. 48 http://www.thairath.co.th)

สั่งปิดโบราณสถานป้อมเพชรกรุงเก่า

นายวีระ โรจน์พจนรัตน์ รองปลัดกระทรวงวัฒนธรรม (วธ.) เปิดเผยว่า ตามที่เกิดสภาพรอยแตกแยกและทรุดตัวของพื้นดิน บริเวณเขื่อนป้องกันดินทลายหน้าโบราณสถานป้อมเพชร จ.พระนครศรีอยุธยา และได้สร้างเขื่อนป้องกันการพังทลายของดินแล้ว แต่ก็ยังพบปัญหาการทรุดตัวของดินอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ วธ. จะเข้าดำเนินการแก้ไข โดยกำหนดประชุมหารือคณะกรรมการวิชาการเพื่อการอนุรักษ์โบราณสถาน ที่อธิบดีกรมศิลปากรตั้งขึ้นและผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งหมดในวันที่ 26 พ.ค.นี้ และให้บริษัทที่ออกแบบก่อสร้างเขื่อนกันดินนำเสนอปัญหาที่เกิดขึ้น ศึกษา สำรวจหาสาเหตุของจุดบกพร่องและกำหนดแนวทางการแก้ไข พร้อมมอบหมาย ให้กลุ่มวิชาการโบราณคดีใต้น้ำยังจะได้ลงไปตรวจสอบสภาพทางกายภาพ ของพื้นที่ใต้น้ำบริเวณที่เกิดการทรุดตัวริมแม่น้ำเจ้าพระยา-แม่น้ำป่าสัก นอกจากนี้ ได้ขอความร่วมมือไปยังกรมทรัพยากรธรณี เข้าดำเนินการศึกษาและตรวจสอบสภาพทางธรณีวิทยาบริเวณโบราณสถานป้อมเพชร ซึ่งอาจมีการเลื่อนเคลื่อนตัวของดิน เพื่อจะนำผลการพิจารณาที่ได้ไปสู่การกำหนดแผนงาน โครงการและงบประมาณ พร้อมทั้งมอบหมายภารกิจให้คณะทำงานตรวจสอบในขั้นรายละเอียดต่อไป โดยในระยะนี้ได้ประกาศให้พื้นที่ทั้งหมดของโบราณสถานป้อมเพชรเป็นเขตอันตรายห้ามเข้า. (ไทยรัฐ อังคารที่ 24 พ.ค. 48 http://www.thairath.co.th)

ราชกิจจานุเบกษา

หนังสือของทางราชการที่เก่าแก่ที่สุดคือ ราชกิจจานุเบกษา ซึ่งคนทั่วไปรู้จักกันดีในฐานะสื่อของทางราชการที่ตีพิมพ์กฎหมาย ประกาศคำสั่งมาตั้งแต่ครั้งโบราณ มาถึงเวลาปัจจุบัน ราชกิจจานุเบกษา แบ่งเป็น 4 ประเภท ดังนี้ ประเภท ก ฉบับกฤษฎีกา เป็นประกาศเกี่ยวกับรัฐธรรมนูญ พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ พระราชบัญญัติพระราชกำหนด พระราชกฤษฎีกา พระบรมราชโองการที่เป็นกฎ กฎ ระเบียบ ข้อบังคับ ข้อกำหนด ประกาศ หรือคำสั่งของหน่วยงานหรือองค์กรตามรัฐธรรมนูญที่เป็นอนุบัญญัติ ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรีเกี่ยวกับการอนุมัติหรือไม่อนุมัติพระราชกำหนด และเรื่องที่ประชาชนทั่วไปควรได้รับทราบ คำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ คำวินิจฉัยของศาลปกครองอันถึงที่สุดให้เพิกถอนกฎ ใช้อักษรย่อ ก ระบุไว้หลังเลขเรียงลำดับตอนที่ เช่น เล่ม 122 ตอนที่ 1 ก วันที่ 1 มกราคม 2548 ประเภท ข ฉบับทะเบียนฐานันดร หมายกำหนดการ และ ข่าวในพระราชสำนัก เป็นการประกาศเกี่ยวกับการสถาปนาและถอดถอนจากสมณศักดิ์ รายชื่อผู้ที่ได้รับพระราชทานเครื่องราช�อิสริยาภรณ์ เหรียญราชการ หรือยศ รายชื่อผู้ถูกเรียกคืนเครื่องราช�อิสริยาภรณ์หรือถูกถอดยศ และรายชื่อผู้ได้รับพระราชทานพระบรมราชานุญาตให้ประดับเครื่องราชอิสริยาภรณ ์หรือเหรียญตราต่างประเทศ หมายกำหนดการพระราชพิธีต่างๆ และข่าวในพระราชสำนัก ใช้อักษรย่อ ข ระบุไว้หลังเลขเรียงลำดับตอนที่ เช่น เล่ม 122 ตอนที่ 1 ข วันที่ 1 มกราคม 2548 ประเภท ค ฉบับทะเบียนการค้า เป็นการประกาศเกี่ยวกับการจดทะเบียนห้างหุ้นส่วน บริษัทจำกัด และบริษัทมหาชน จำกัด การเปลี่ยนแปลงและการเพิกถอนทางทะเบียน ใช้อักษรย่อ ค ระบุไว้ หลังเลขเรียงลำดับตอนที่ เช่น เล่ม 122 ตอนที่ 1 ค วันที่ 1 มกราคม 2548 ประเภท ง ฉบับประกาศและงานทั่วไป เป็นการประกาศเรื่องอื่นๆ นอกเหนือจากที่ระบุในประเภท ก ประเภท ข และประเภท ค ใช้อักษรย่อ ง ระบุไว้หลังเลขเรียงลำดับตอนที่ เช่น เล่ม 122 ตอนที่ 1 ง วันที่ 1 มกราคม 2548 สำหรับราชกิจจานุเบกษาแต่ละประเภท อาจกำหนดออกตอนพิเศษตามความจำเป็น เช่น เล่ม 122 ตอนพิเศษ 1 ก วันที่ 1 มกราคม 2548 หรือ เล่ม 122 ตอนพิเศษ 1 ง วันที่ 1 มกราคม 2548 เป็นต้น ราชกิจจานุเบกษาทุกประเภท มีกำหนดออกเดือนมกราคมถึงเดือนธันวาคมของทุกปี โดยอยู่ในความรับผิดชอบของสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี (ไทยรัฐ พุธที่ 25 พ.ค. 48 http://www.thairath.co.th)

who บรรจุ 4 โรคร้ายต้องแจ้งภัยฉุกเฉิน

เมื่อวันที่ 25 พ.ค. ที่โรงแรมมิราเคิลแกรนด์ ศ.น.พ.สุชัย เจริญรัตนกุล รมว.สาธารณสุข กล่าวภายหลังเปิดการสัมมนาระบาดวิทยาแห่งชาติ ประจำปีครั้งที่ 18 เรื่อง เครือข่ายระบาดวิทยาทั่วไทย เฝ้าระวังโรคภัยทั่วประเทศ โดยมีผู้บริหาร แพทย์ นักวิชาการสาธารณสุข นักระบาดวิทยา และนักวิจัยจากหน่วยงานต่างๆ เข้าร่วมสัมมนาประมาณ 1,400 คนว่า ในการประชุมสมัชชาองค์การ อนามัยโลก (WHO) ครั้งที่ 58 ที่กรุงเจนีวา ประเทศสวิตเซอร์แลนด์เมื่อวันที่ 15-17 พ.ค.ที่ผ่านมา ที่ประชุมซึ่งมีสมาชิก 192 ประเทศ ประกอบด้วย ผู้นำด้านสาธารณสุข นักวิชาการ ได้มีมติรับกฎอนามัยระหว่างประเทศซึ่งปรับปรุงใหม่ หลังจากใช้มาเป็นเวลา 39 ปี ตั้งแต่ พ.ศ.2509 เพิ่มโรคที่ต้องแจ้งเหตุการณ์ฉุกเฉินอีก 4 โรค คือ ฝีดาษ โปลิโอ ซาร์ส ไข้หวัดนก จากเดิมที่ระบุไว้เพียง 3 โรค คือ อหิวาตกโรค ไข้เหลือง และกาฬโรค ซึ่งการแจ้งเหตุการณ์ฉุกเฉินทางสาธารณสุข และจะกระทบต่อประเทศอื่นๆทุกกรณี ไม่ว่าจะเป็นจากสาเหตุใด รวมทั้งภัยพิบัติด้วย และหากมีโรคติดต่อตามกฎอนามัยระหว่างประเทศเกิดขึ้น กระทรวงสาธารณสุขแต่ละประเทศ จะต้องรายงานองค์การอนามัยโลกภายใน 24 ชั่วโมง โดยที่ประชุมให้ทุกประเทศพัฒนาระบบเฝ้าระวังโรคให้เสร็จภายใน 5 ปี และว่าขณะนี้ไทยมีทีมสอบสวนเคลื่อนที่เร็วทั่วประเทศ ถึง 1,030 ทีม จากเหตุการณ์ที่ผ่านมาสามารถยับยั้ง การแพร่กระจายของโรคได้อย่างรวดเร็ว ทั้งการระบาดของโรคซาร์ส ไข้หวัดนก การเฝ้าระวังโรคจากพิบัติภัยคลื่นยักษ์สึนามิ รวมทั้งการเฝ้าระวังโรคไข้เลือดออกในขณะนี้ด้วย ด้าน น.พ.ธวัช สุนทราจารย์ อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า นอกจากโรคฝีดาษ โปลิโอ ซาร์ส ไข้หวัดนก ที่ต้องรายงานภายใน 24 ชั่วโมงต่อองค์การอนามัยโลก ส่วนโรคอื่นๆ นอกเหนือจากนี้หากระบาดในคนจำนวนมากก็ต้องรีบรายงานเช่นกัน ทั้งนี้เพราะ เวลาเกิดโรคระบาดทำให้เกิดผลกระทบหลายด้าน ทั้งด้านเศรษฐกิจและสังคม และสามารถแพร่ระบาดไปยังประเทศอื่นได้ ส่วนกรณีของโรคโปลิโอที่กลับมาระบาดอีกครั้งในหลายๆ ประเทศ ทั้งๆ ที่มีการประกาศให้เป็นประเทศปลอดโปลิโอแล้วนั้น ไทยไม่ได้ประมาท มีการเฝ้าระวังอยู่ตลอดเวลาในกรณีที่มีผู้ป่วยสงสัย คือ อ่อนเปลี้ย แขนขาไม่มีแรง จะขึ้นบัญชีเป็นผู้ต้องสงสัยเอาไว้ก่อน ซึ่งปีที่ผ่านๆ มาก็มีผู้ป่วยในลักษณะนี้ 10-20 ราย แต่เมื่อตรวจยืนยันแล้วพบว่าไม่ได้ป่วยด้วยโรคโปลิโอแต่อย่างใด. (ไทยรัฐ พฤหัสบดีที่ 26 พ.ค. 48 http://www.thairath.co.th)

เอดีบีเตือนเอเซียชาติเอเซียฟื้นฟูษ์สิ่งแวดล้อม

เซี่ยงไฮ้ – ธนาคารพัฒนาเอเชีย (เอดีบี) โดยนายจิน หลี กุน รองประธานธนาคาร กล่าวระหว่างการประชุมระดับรัฐมนตรีภูมิภาคลุ่มน้ำโขง (จีเอ็มเอส) ที่มีรัฐมนตรีจากจีน ไทย ลาว พม่า กัมพูชา และเวียดนาม เข้าร่วมการประชุมในวันพุธนี้ว่าในปัจจุบันประเทศกำลังพัฒนาในภูมิภาคเอเชียหลายประเทศจัดตั้งสถาบันแห่งชาติเพื่อดูแลสิ่งแวดล้อม แต่ทุกประเทศยังคงต้องทำงานกันอย่างหนักทั้งในภาครัฐและเอกชน เพื่ออนุรักษ์สิ่งแวดล้อมในปัจจุบันให้คงสภาพอยู่ต่อไป ในขณะที่ยังคงต้องคงอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจควบคู่กันไป สถานการณ์โดยทั่วไปในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกปัจจุบัน พื้นที่ป่าไม้จำนวนมากถูกทำลาย ความหลากหลายทางชีววิทยาได้รับผลกระทบ สำหรับประเทศในกลุ่มจีเอ็มเอส ทั้งป่าไม้ พืชพรรณชายฝั่ง ไปจนถึงแนวปะการังตกอยู่ในสภาวะวิกฤติต้องการการปกป้องโดยด่วน เอดีบีมั่นใจว่าการผสมผสานการเติบโตทางเศรษฐกิจควบคู่ไปกับแผนงานและการลงทุนที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมจะช่วยให้ความหวังของประชาชนจำนวนรวมกันกว่า 44 ล้านคน ที่ยังคงยากจน มีรายได้ต่อวันไม่ถึง 1 ดอลลาร์สหรัฐ หรือ 40 บาท จะได้มีความหวังในคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นในอนาคต (กรุงเทพธุรกิจ พฤหัสบดีที่ 26 พ.ค. 48 http://www.bangkokbiznews.com)

อย.สหรัฐฯ เตือนยาแก้ไอที่มีส่วนผสม DXM อันตราย

เมื่อวันที่ 26 พ.ค.ผู้สื่อข่าวรายงานว่า องค์การอาหารและยาของสหรัฐฯ (FDA) และหน่วยงานด้านสาธารณสุขได้แสดงความเป็นห่วง ผลกระทบจากการใช้ยาเด็กซ์โทรเมโทรแฟน (Dextromethorphan) หรือ DXM เกินขนาด ผ่านเว็บไซต์ http://www.fda.gov โดยยาดังกล่าวเป็นส่วนผสมของยาแก้ไอ และยาแก้ไข้หวัด รวมถึงลูกอมแก้ไอ ซึ่งมีขายตามร้านขายยาทั่วไป หลังจากสหรัฐฯได้รับรายงานว่ามีวัยรุ่นจำนวน 5 รายได้เสียชีวิต ด้วยสาเหตุที่เกี่ยวข้องกับการใช้ยาแคปซูลที่มีส่วนผสมของยาเด็กซ์โทรเมโทรแฟน ในรูปของแป้งเกินขนาดอย.สหรัฐ แสดงความเป็นห่วงว่า แม้กระบวนการผลิตยาจะถูกกฎหมาย แต่การใช้ยาแก้ไอควรใช้ในปริมาณที่ไม่มากเพื่อความปลอดภัย โดยยาจะไปทำลายสมอง ทำให้หมดสติ หัวใจเต้นผิดปกติ สำหรับประเทศไทย สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ระบุว่า ไทยมีมูลค่าการผลิตและนำเข้าเด็กซ์โทรเมโทรแฟนประมาณ 211 ล้านบาท มียาแก้ไอที่ขายในท้องตลาดที่ใช้เด็กซ์โทรเมโทรแฟนเพียงอย่างเดียวไม่ผสมตัวยาอื่น 162 ตำรับ และมียาแก้ไอ แก้หวัด ที่มีส่วนผสม 229 ตำรับ มีทั้งยาน้ำ ยาเม็ด และลูกอม อย่างไรก็ตาม ตั้งแต่มีการใช้ยานี้ในไทยพบว่า มีการรายงานอาการไม่พึงประสงค์ที่เกิดขึ้นเช่นกัน คือ มีคนไข้ประมาณ 340 รายที่ระบบหายใจมีปัญหา แต่อาการไม่รุนแรงถึงขั้นเสียชีวิต. (ไทยรัฐ ศุกร์ที่ 27 พ.ค. 48 http://www.thairath.co.th)

เป็นมะเร็งเต้านมต้องออกกำลัง มีส่วนช่วยให้รอดชีวิตได้มากขึ้น

ผู้หญิงที่เป็นมะเร็งทรวงอกควรจะต้องออกกำลังกาย หรือมีกิจกรรมออกแรงให้เท่ากับการเดินสัก 1 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ หรือมากกว่านั้น เพราะจะช่วยให้มีโอกาส รอดชีวิตได้มากกว่าเพื่อนที่ไม่ค่อยได้ ออกกำลัง ผลการศึกษาของ มิแชลล์ ดี.โฮลม์ กับ ดร.พี.เอช. จากโรงพยาบาลหญิงบริกแฮม และโรงเรียนแพทย์ในฮาร์วาร์ด และคณะ พบว่าจากการติดตามตรวจสุขภาพพยาบาลวิชาชีพที่ป่วยเป็นมะเร็งระยะที่ 1, 2, 3 ระหว่างปี 2527 และ 2541 มีการติดตามต่อไปจนถึงผู้ถูกศึกษาเสียชีวิตหรือถึงเดือนมิถุนายน 2545 โดยวัดกิจกรรมการออกกำลังออกมาเป็นหน่วยต่อชั่วโมง เมื่อพิจารณาดูแล้วเห็นว่าคนที่ยิ่งออกกำลังมากก็จะยิ่งมีโอกาสรอดได้มาก เหตุผลที่ทำให้กิจกรรมการออกกำลังกาย ช่วยยืดชีวิตผู้หญิงที่เป็นมะเร็งทรวงอกนั้นเป็นเพราะว่า การออกกำลังนั้นมีส่วนเชื่อมโยงกับลดระดับฮอร์โมนในรังไข่ ซึ่งอาจอธิบายถึงความสัมพันธ์ระหว่างการออกกำลังกับมะเร็งเต้านมได้ เมื่อระดับฮอร์โมนเอสโตรเจนต่ำลง ในกลุ่มคนเป็นมะเร็งทรวงอกก็ช่วยทำให้มีโอกาสรอดชีวิตได้. (ไทยรัฐ ศุกร์ที่ 27 พ.ค. 48 http://www.thairath.co.th)

ชาติโลกที่สามแห่ ทำอุตเหมืองทอง แหล่งรายได้ใหม่

รายงานจากสภาทองคำโลกระบุว่า ประเทศด้อยพัฒนาที่มีหนี้สินต่างประเทศท่วมท้นได้หันมาประกอบอุตสาหกรรมเหมืองทองคำ และสร้างรายได้ให้แก่ประเทศเพิ่มขึ้นเป็น 84 เปอร์เซ็นต์ ระหว่างปี 1994-2004 และในเมื่อปี 2004 ประเทศกำลังพัฒนาสามารถผลิตทองคำคิดเป็น 72 เปอร์เซ็นต์ของตลาดทองคำโลก โดยแทนซาเนีย กลายเป็นประเทศที่มีการส่งออกทองคำมากที่สุด รองลงมาคือกาน่า และกียาน่า อุตสาหกรรมเหมืองทองคำที่เพิ่มมากขึ้นในประเทศด้อยพัฒนา ยังได้ช่วยเหลือพัฒนาระบบสาธารณูปโภคและสิ่งก่อสร้างทางการเงินด้วย ขณะที่บริษัทเหมืองแร่ในประเทศกลุ่มนี้ก็พยายามใช้แรงงานท้องถิ่นในประเทศ เพราะจะได้ช่วยสร้างรายได้จากการจ่ายภาษีให้แก่รัฐบาลในประเทศด้วย และประเมินว่า รายได้ของคนงานเหมืองทองคำในแอฟริกาใต้ 1 คน จะมีส่วนช่วยสร้างรายได้ให้แก่ผู้คนอื่นๆ เฉลี่ยถึง 10 คน (สยามรัฐ ศุกร์ที่ 27 พ.ค. 48 http://www.siamrath.co.th)

ยื้อกฎหมายคุ้มสัตว์ทดลอง

เมื่อวันที่ 26 พฤษภาคม คณะกรรมการแห่งชาติ เพื่อพัฒนางานเลี้ยงและใช้สัตว์เพื่องานวิจัย ทดสอบ ผลิตชีววัตถุและงานสอน สำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ(วช.) จัดประชาพิจารณ์เรื่อง มาตรฐานการเลี้ยง การใช้ และการผลิตสัตว์ทดลองขนาดเล็ก โดยมีผู้เกี่ยวข้อง คือ กลุ่มสัตวแพทย์ นักวิจัย บริษัทเอกชน วิศวกร ฯลฯ ร่วมแสดงความคิดเห็นประมาณ 150 คน โดย ศ.ดร.จอมจิน จันทรสกุล ประธานคณะอนุกรรมการจัดทำมาตรฐานสัตว์ทดลอง นำเสนอเรื่องมาตรฐานการเลี้ยง การใช้ และผลิตสัตว์ทดลองขนาดเล็ก โดยมีบริษัท อรุณชัยเสรีคอนซัลติ้ง เอนจิเนียร์ส จำกัด เสนอมุมมองของวิศวกรผู้รับเหมาก่อสร้างห้องเลี้ยงสัตว์ทดลองซึ่งใช้งบประมาณราว 1,500 บาทต่อตารางเมตร ไม่รวมการติดตั้งระบบน้ำไฟ การถ่ายเทอากาศ การฆ่าเชื้อ และทำความสะอาด รวมถึงรักษาความปลอดภัย ในขณะที่ผู้เข้าร่วมสัมมนาภาครัฐบ่นว่าสำนักงบประมาณจะไม่ยอมเสียเงินจำนวนมากกับการเลี้ยงสัตว์ทดลองแน่นอน ดร.ปัทมรัตน์ กุญชร ณ อยุธยา เลขานุการคณะกรรมการสัตว์ทดลองฯ กล่าวว่า มีการยกร่างกฎหมาย แผนบูรณาการ และยุทธศาสตร์การดำเนินการ รวมทั้งให้ความรู้ผู้ที่ทำงานด้านนี้ ส่วนผู้ปฏิบัติต้องให้เวลาอีกสักระยะ ได้เสนอยุทธศาสตร์ไปให้รัฐบาลพิจารณาแล้วรัฐบาลตอบรับในทางที่ดี นายสัตวแพทย์ปานเทพ รัตนากร คณบดีคณะสัตวแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล กล่าวว่า เห็นด้วยกับการพยายามทำให้เรื่องการใช้สัตว์ทดลองในประเทศไทยเป็นไปตามมาตรฐาน แต่ยังไม่ควรถึงขั้นออกกฎหมายเพราะผู้ปฏิบัติตั้งตัวไม่ทัน ควรวางกรอบ วิธีการปฏิบัติ สักระยะค่อยออกมาเป็นระเบียบข้อบังคับ (มติชนรายวัน ศุกร์ที่ 27 พ.ค. 48 http://www.matichon.co.th)

KMUTT Digital Library
Contact Digital Library : info@lib.kmutt.ac.th
Tel : 0-2470-8215