หัวข้อข่าวปีที่ 7 ฉบับที่ 1 ประจำวันที่ 2006-01-04

ข่าวการศึกษา

30 มหาวิทยาลัยจับมือมท.เปิดป.ตรีรัฐประศาสนศาสตร์ยกระดับผู้นำอปท.
วธ.-จุฬาฯ ปั้นขรก.พันธุ์ใหม่ปี49
นำร่องติวเอนทรานซ์ผ่านอีเลิร์นนิ่ง
อุดมศึกษาไทยจับมืออินเดียร่วมงานศึกษา
มทส.จัด"เกษตรสุรนารี49" โชว์ผลงาน
แนะค้านม.นอกระบบ ต้องสายตรงรัฐบาล
ม.บูรพาขยายฐาน รุกป.โทแม่ฮ่องสอน ปูทางธุรกิจชายแดน
พิพิธภัณฑ์การเรียนรู้ แห่งแรกของเมืองไทย
ม.รังสิตจับมือสำนักพิมพ์ แต่งตำราเศรษฐศาสตร์ระดับมัธยม
แฉจุดบอดร่าง พ.ร.บ.การเงินรั้วอุดมฯ
ดันร่างพ.ร.บ.อาชีวะเข้าสภาฯมี.ค.49
แจกทุนโครงการไอเอฟพี เปิดรับถึง28ก.พ.49
ขยายเวลารับสมัคร O-NET และ A-NET ระหว่าง 30 ธ.ค.48 - 4 ม.ค.49

ข่าววิทยาศาสตร์/เทคโนโลยี

ม.เทคโนโลยีมหานคร ประชุมICOCN2005 พัฒนาสื่อสารเชิงแสง
วท.รุกพัฒนาเทคโนฯ
สัมมนาแอนิเมชั่นระดับโลกในไทย
ประเวศ แนะสร้างกลไกป้องกัน'เทคโนโลยีพันธุกรรม'
โทรศัพท์มือถือช่วยจัดการ บอกว่าถ่ายภาพกับใครเมื่อไร
ไอซีทีใช้เทคโนโลยีม..เกษตรฯกันเว็บลามก
ผุดเวบส่งอีเมลถึงตัวเองในอนาคต
อังกฤษพัฒนาโปรแกรม ช่วยคนหูหนวกคุยผ่าน"มือถือ"
แฟ้มผลวิจัย...โมบิลิตี้ เทคโนโลยี ชี้เพิ่มสมรรถภาพงาน-การสื่อสาร แข่งขันทางธุรกิจ
พบวงแหวน-ดวงจันทร์ใหม่"ยูเรนัส"
ชะลอเวลาเข้าสู่ปีใหม่ช้าลง สั่งเพิ่ม 1 วินาที คั่นปี
10 วิทยาศาสตร์เด่นแห่งปี

ข่าววิจัย/พัฒนา

สร้างเครื่องต้นแบบเซลล์เชื้อเพลิง ฝีมือคนไทยไม่ใช้น้ำมัน
พัฒนาสวิตช์เปิด-ปิดยีน ใช้รักษาโรคให้ปลอดภัย
วิจัยสาหร่ายเห็ดลาบ ใช้ปรับสภาพดินและกินได้ด้วย
วช.หนุนศึกษาฟาร์มปลอดเชื้อสกัดหวัดนก
สั่งเปิด-ปิด"ยีน"รักษาโรคประสาท
เครื่องดนตรีอะบอริจินส์แก้"กรน"
เครื่องกะเทาะเปลือกถั่วลิสง ฝีมือเด็กไทยเอาใจเกษตรกร
มช.ทำเครื่องปั่นแยกเลือด ดัดแปลงหม้อหุงข้าวไฟฟ้าตรวจโรคโลหิตจาง
ซอฟต์แวร์ลดภาระโรงงานพลาสติก สั่งงานเครื่องจักรแม่นยำไม่ง้อนายช่าง
ยาคุมกำเนิดช่วยลดปัจจัยเสี่ยง การเกิดโรคมัลติเพิลสคลีโรสิส
สนามไฟฟ้าแม่เหล็กรอบตัว มีอิทธิพลต่ออารมณ์คน
กระเป๋าหุ้มแผงโซลาร์ชาร์จไฟมือถือ
แนะใช้หอเก็บน้ำหลบสึนามิ เหมือนญี่ปุ่นชี้แข้งแรง-ต้านได้
เครื่องซักผ้าไฮเทค"แอร์วอช"
ระบบรักษาความปลอดภัย สแกนเหงื่อพร้อมลายนิ้วมือ
เผยนักวิทยาศาสตร์จีน ทดลองยารักษาหวัดนกได้ดีกว่าทามิฟลู
หมอไทยคิดสูตรยาฉีดทำหมันสุนัขแทนผ่าตัด
หมอศิริราชผลิต"เครื่องวัดระดับเลือด" ลดปัญหาทารกตัวเหลือง-สมองพิการ

ข่าวทั่วไป

วิ่งจ๊อกกิ้งเป็นคุณต่อสมอง ให้มีสมาธิ-ความจำดี
4D…มิติแห่งการสัมผัส
เปิดชุมนุมลูกเสือเอเชียมั่นใจลูกเสือไทยพร้อม
"ทักษิณ" ทุ่ม 80 ล.หนุนให้ปี 2549ส่งเสริมวธ.ไทย
แปรรูป "ข้าวกล้อง" เป็นขนม สูตร "ป้าฮวน" ส่งขายต่างแดน
"สุรเกียรติ์"หนุนวธ. จัดตลาดนัดศิลปะ
คพ.ระบุปี 48 คุณภาพน้ำในประเทศมีแนวโน้มเสื่อมลง
กินอย่างไรให้น้ำหนักลด





ข่าวการศึกษา


30 มหาวิทยาลัยจับมือมท.เปิดป.ตรีรัฐประศาสนศาสตร์ยกระดับผู้นำอปท.

รศ.ดร.สมเจตน์ ภูศรี อธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฏ (มรภ.) มหาสารคาม เปิดเผยว่า เมื่อเร็วๆ นี้ตนในฐานะผู้แทนของมหาวิทยาลัยราชภัฏมหาสารคาม และผู้แทนจากมหาวิทยาลัยอีก 34 แห่ง ได้ลงนามในบันทึกข้อตกลงว่าด้วย ความร่วมมือทางวิชาการ กับนายสาโรช คัชมาตย์ อธิบดีกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น กระทรวงมหาดไทย (มท.) ในฐานะผู้แทนกรมส่งเสริมฯ โดยมีนายสมชาย สุนทรวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย เป็นประธานในพิธี อธิการบดี มรภ.มหาสารคาม กล่าวอีกว่า ในบันทึกข้อตกลงดังกล่าว ระบุให้ผู้ที่ลงนามบันทึกข้อตกลงร่วมกันร่วมมือและให้การสนับสนุนการดำเนินงานพัฒนาบุคลากรขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และบุคลากรของกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น ในหลักสูตรปริญญาตรี ทางด้านรัฐประศาสนศาสตร์ สาขาการปกครองส่วนท้องถิ่น ในปีการศึกษา 2549 ฝ่ายมหาวิทยาลัยเป็นผู้รับผิดชอบดำเนินการจัดหลักสูตร การเรียนการสอน พร้อมทั้งอนุมัติปริญญาบัตรให้แก่ผู้สำเร็จการศึกษา ขณะที่กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น จะเป็นฝ่ายสนับสนุนงบประมาณ ด้วยการจัดสรรทุนการศึกษาให้แก่ผู้เข้าศึกษาต่อทุนละ 33,000 บาทต่อปี เป็นเวลา 3 ปี อธิการบดี มรภ.มหาสารคาม กล่าวต่อไปว่า นอกจากนี้ ยังได้ตั้งคณะกรรมการอำนวยการกลางในรูปพหุภาคี จำนวน 42 คน ประกอบด้วย อธิบดีกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น อธิการบดีที่เข้าร่วมโครงการความร่วมมือทางวิชาการฯ 34 มหาวิทยาลัย จำนวน 34 ท่าน ผู้ทรงคุณวุฒิจำนวน 3 ท่าน รองอธิบดีกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่นจำนวน 3 ท่าน และผู้อำนวยการสถาบันพัฒนาบุคลากรท้องถิ่น อีกทั้งแต่งตั้งคณะกรรมการบริหารของมหาวิทยาลัยจำนวน 7 คน ทำหน้าที่ในการบริหารจัดการการเรียนการสอนของหลักสูตร รวมทั้งการควบคุมคุณภาพและมาตรฐานการศึกษา ทั้งนี้ สำหรับการรับสมัครบุคคลเข้าศึกษาระดับปริญญาตรีในหลักสูตรดังกล่าว ในส่วนของ มรภ.มหาสารคาม เปิดรับสมัครตั้งแต่บัดนี้-30 ธันวาคม 2548 ที่ท้องถิ่นจังหวัด ผู้สนใจสอบถามโทร.0-4372-2118 ต่อ 156 (คมชัดลึก จันทร์ที่ 26 ธ.ค. 48 http://www.komchadluek.net)





วธ.-จุฬาฯ ปั้นขรก.พันธุ์ใหม่ปี49

คุณหญิงทิพาวดี เมฆสวรรค์ ปลัดกระทรวงวัฒนธรรม (วธ.) กล่าวว่า เมื่อเร็วๆ นี้ วธ.ได้จัดการอบรมหลักสูตรพัฒนาภาวะผู้นำด้านการบริหารทางวัฒนธรรม ให้ข้าราชการ วธ.ตั้งแต่ระดับ 7 และ 8 ในตำแหน่งผู้อำนวยการโครงการ ผู้อำนวยการกลุ่ม ผู้อำนวยการสำนัก และข้าราชการในสำนักงานปลัด วธ. ขึ้นเป็นรุ่นแรกจำนวน 40 คน เป็นเวลา 60 ชั่วโมง ทุกวันศุกร์และวันเสาร์ วิทยากรสอนภาวะผู้นำ การใช้ทฤษฎีบริหารบนความเสี่ยง นำวิธีคิดใหม่ๆ มาประยุกต์ใช้กับการทำงานวัฒนธรรม ส่วนข้าราชการระดับอื่นจะประสานกับสำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน (ก.พ.) จัดอบรมเป็นระยะ และจำร่วมมือกับจุฬาฯ เปิดหลักสูตรปริญญาโทการบริหารจัดการทางวัฒนธรรม เป็นหลักสูตร 2 ปี และมีการให้ทุนศึกษาต่ออย่างต่อเนื่อง ผู้บริหารที่ผ่านการอบรมสามารถนำความรู้ไปถ่ายทอดและพัฒนาผู้ใต้บังคับบัญชาได้ เน้นนำความรู้สมัยใหม่บูรณาการงานวัฒนธรรม ทั้งนี้ วธ.จะจัดอบรมอีก 4 รุ่นในปี 2549 ระหว่างเดือนมกราคมถึงเดือนพฤษภาคม 2549 (คมชัดลึก จันทร์ที่ 26 ธ.ค. 48 http://www.komchadluek.net)





นำร่องติวเอนทรานซ์ผ่านอีเลิร์นนิ่ง

ดร.ประวิช รัตนเพียร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี กล่าวว่า กระทรวงวิทย์ฯ ร่วมมือกับ กสท. ในการทดลองเปิดติวเอนทรานซ์เป็นโครงการนำร่อง ไม่ใช้งบประมาณเพิ่มในโครงการนี้ เพื่อดูปัญหาที่เกิดขึ้นจากระบบและนำไปปรับปรุงใช้ในอนาคต โครงการนี้จะเริ่มตั้งแต่วันที่ 14 มกราคมนี้ เป็นการสรุปเนื้อหาบทเรียนภายใน 6 สัปดาห์ เปิดติว 2 รอบคือ รอบเช้าเวลา 09.00-12.00 น. และ รอบบ่ายเวลา 13.00-16.00 น. แบ่งเนื้อหาเป็น 2 วิชาคือ เคมีและฟิสิกส์ ตลอดจนมีการเสนอสารคดีวิทยาศาสตร์ควบคู่ไปด้วย ในขณะนี้ถือเป็นโครงการทดลองระบบเครือข่ายความเร็วสูงของ กสท. คาดว่าสามารถให้บริการได้ 100 จุดหรือมากกว่า โดยเฉพาะในสถานศึกษาที่ได้รับคอมพิวเตอร์ 2.5 แสนเครื่อง ตลอดจนส่วนบริหารต่าง ๆ ในจังหวัดนั้น ๆ ที่เข้าร่วมโครงการ ช่วยให้นักเรียนต่างจังหวัดมีสิทธิได้รับความรู้มากขึ้น ส่วนการเปิดติวในครั้งนี้คิดว่าไม่มีผลกับโรงเรียนที่เปิดสอนติวโดยเฉพาะเพราะเป็นคนละส่วนกันอยู่แล้ว อีกทั้งกระทรวงวิทยาศาสตร์จะดูแลในเรื่องเนื้อหานำไปสอนในระบบอีเลิร์นนิ่ง รวมไปถึงคัดเลือกโรงเรียนต้นแบบ ผลักดันให้การเรียนการสอนอีเลิร์นนิ่งแพร่หลายไปทั่วประเทศ สุดท้ายคือ การร่วมมือกับบริษัท กสท. ในการติดตั้งเครือข่ายและระบบสารสน เทศ อุปกรณ์ในโรงเรียนต้นแบบก่อนขยายไปทั่วประ เทศ โรงเรียนที่สนใจเข้าแจ้งภายในวันที่ 30 ธันวาคมนี้ หรือ คอลเซ็นเตอร์ 1313 ได้ทันที. (เดลินิวส์ อังคารที่ 27 ธ.ค. 48 http://www.dailynews.co.th)





อุดมศึกษาไทยจับมืออินเดียร่วมงานศึกษา

ศ.(พิเศษ)ดร.ภาวิช ทองโรจน์ เลขาธิการคณะกรรมการการอุดมศึกษา (กกอ.) เปิดเผยว่า เมื่อเร็ว ๆ นี้ ตนพร้อมด้วยผู้บริหารสำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา (สกอ.) และตัวแทนมหาวิทยาลัย ได้เดินทางไปเจรจาความร่วมมือกับกระทรวงพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ และสถาบันอุดมศึกษาของสาธารณรัฐอินเดีย ซึ่งการเดินทางดังกล่าวเป็นการสานต่อความร่วมมือของพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ครั้งที่เดินทางไปเยือนอินเดีย และลงนามในข้อตกลงด้านต่าง ๆ รวมถึงเรื่องของอุดมศึกษาด้วย โดยตนได้เข้าพบปลัดกระทรวงพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ และเลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการการเงินอุดมศึกษาคล้าย สกอ. ของไทย ซึ่งดูแลเรื่องการจัดสรรงบประมาณให้สถาบันอุดมศึกษา โดยได้ทำความตกลงกันว่าจะตั้งคณะทำงานร่วมระหว่างไทยกับอินเดีย ระดับปลัด หรือเลขาธิการฝ่ายละ 5-7 คน และจะมาประชุมร่วมกันปีละครั้ง โดยจะประชุมต้นปี 2549 เป็นครั้งแรกที่กรุงนิวเดลี ประเทศอินเดีย นอกจากนี้ยังได้หารือกับสมาคมมหาวิทยาลัยแห่งอินเดีย ประกอบด้วยตัวแทนจากมหาวิทยาลัยรัฐ และเอกชน ซึ่งได้ข้อสรุปว่าจะจัดประชุมร่วมกันระหว่างสมาคมมหาวิทยาลัยแห่งอินเดีย กับที่ประชุมอธิการบดีแห่งประเทศไทย (ทปอ.) และสมาคมสถาบันอุดมศึกษาเอกชนแห่งประเทศไทย (สสอท.) ในการประชุมที่นิวเดลีด้วย เพราะที่ผ่านมาไทยกับอินเดียมีความร่วมมือด้านการศึกษาน้อยมาก ทั้งที่อินเดียมีความเข้มแข็งทางด้านศาสนา และปรัชญามาก รองลงมาจะเป็นเรื่องเกี่ยวกับเทคโนโลยีทุกสาขา โดยเฉพาะเทคโนโลยีสารสนเทศ หรือไอที ดังนั้นไทยน่าจะมีการแลกเปลี่ยนอาจารย์ และนักศึกษากับอินเดียต่อไป ทั้งนี้เบื้องต้นทางอินเดียยินดีให้ทุนอาจารย์มหาวิทยาลัยไทยไปเรียนระดับปริญญาโท 30 ทุน และปริญญาเอก 10 ทุน ส่วนค่าเล่าเรียนในประเทศอินเดียจะถูกมาก เพียงปีละ 1-2 หมื่นบาทเท่านั้น (เดลินิวส์ อังคารที่ 27 ธ.ค. 48 http://www.dailynews.co.th)





มทส.จัด"เกษตรสุรนารี49" โชว์ผลงาน

รศ.ดร.ประสาท สืบค้า อธิการบดีมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี (มทส.) เปิดเผยว่า มหาวิทยาลัยได้กำหนดจัดงานแสดงความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีการเกษตร "เกษตรสุรนารี 49" ที่เทคโนธานี มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี จ.นครราชสีมา ทั้งนี้ เพื่อแสดงศักยภาพทางด้านงานวิชาการ การวิจัย และนวัตกรรมต่างๆ ของมหาวิทยาลัย โดยเฉพาะด้านเทคโนโลยีการเกษตร ที่พร้อมจะถ่ายทอดสู่เกษตรกรและผู้สนใจทั่วไป รวมทั้งยังเป็นการเชื่อมโยงระหว่างองค์กรวิจัย สถาบันการศึกษา องค์กรพัฒนาภาคการเกษตรของรัฐและเอกชน ได้เผยแพร่ผลงานเพื่อเป็นประโยชน์ต่อเกษตรกร เยาวชน และประชาชนทั่วไป สำหรับการจัดงานเกษตรสุรนารีครั้งนี้ จะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 11-15 มกราคม 2549 โดยมีกิจกรรมที่น่าสนใจ ทั้งการแสดงนิทรรศการจากหน่วยงานภาครัฐและเอกชน การประกวดโครงงานวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีการเกษตร ยุวเกษตรมัธยมศึกษาตอนปลาย เพื่อปลูกฝังให้นักเรียนได้เห็นความสำคัญของการศึกษาด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีการเกษตร การประกวดกล้วยไม้ และการแสดงไม้ดอกไม้ประดับนานาพรรณ งานแสดงและประกวดโค ถือเป็นงานประกวดและการชุมนุมโคที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย โดยมีโคเข้าร่วมแสดงและประกวดมากที่สุดเป็นประวัติการณ์ (คมชัดลึก อังคารที่ 27 ธ.ค. 48 http://www.komchadluek.net)





แนะค้านม.นอกระบบ ต้องสายตรงรัฐบาล

ศ.(พิเศษ)ดร.ภาวิช ทองโรจน์ เลขาธิการคณะกรรมการการอุดมศึกษา (กกอ.) เปิดเผยความคืบหน้าร่าง พ.ร.บ.มหาวิทยาลัยในกำกับของรัฐ หรือการออกนอกระบบของมหาวิทยาลัย ว่า เมื่อเร็วๆ นี้ ร่างพ.ร.บ.มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ร่างพ.ร.บ.มหาวิทยาลัยมหาสารคาม และร่างพ.ร.บ.มหาวิทยาลัยบูรพา ได้ผ่านการพิจารณาของคณะกรรมาธิการร่วม 2 สภาแล้ว และวุฒิสภาได้เห็นชอบร่างพ.ร.บ.ทั้ง 3 ฉบับแล้วเช่นกัน จากนี้ก็รอเข้าสู่การพิจารณาของสภาผู้แทนราษฎร ในสมัยหน้า ส่วนร่าง พ.ร.บ.มหาวิทยาลัยขอนแก่น ซึ่งทางวุฒิสภายับยั้งร่างไปนั้น ต้องรอเข้าสู่การพิจารณาของสภาฯซึ่งถ้าสภาฯ ไม่รับร่างที่วุฒิสภายับยั้งก็จะทำให้ร่างนั้นตกไป แต่ก็สามารถนำร่างที่คณะกรรมาธิการร่วม 2 สภา หรือของสภาฯ เองมาพิจารณาใหม่ได้ ขณะที่ร่าง พ.ร.บ.มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ ก็ผ่านการพิจารณาของวุฒิสภาแล้วเช่น กัน ซึ่งถ้าสภาฯ เห็นชอบก็สามารถออกเป็นกฎหมายได้เลย โดยคาดว่าในปี 2549 ร่างพ.ร.บ.มหาวิทยาลัยนอกระบบ น่าจะสามารถออกได้ 5 ฉบับ ด้านนายผ่อง เล่งอี้ ประธานคณะกรรมาธิการการศึกษา ศาสนา ศิลปะและวัฒนธรรมวุฒิสภา กล่าวว่า ขณะนี้ยังมีกลุ่มเคลื่อนไหวคัดค้าน มหาวิทยาลัยออกนอกระบบ เพราะไม่มั่นใจว่าจะดีจริง และเมื่อเร็วๆ นี้ ทราบว่ามีการยื่นหนังสือคัดค้านต่อ นายสุชน ชาลีเครือประธานวุฒิสภา ซึ่งโดยส่วนตัวเห็นว่าเป็นการแก้ปัญหาที่ปลายเหตุ เพราะวุฒิสภา ไม่มีอำนาจในการแก้กฎหมาย ทุกอย่างขึ้นอยู่กับรัฐบาลดังนั้นน่าจะไปยื่นหนังสือคัดค้านกับรัฐบาลจะดีกว่า (สยามรัฐนายวัน พุธที่ 28 ธ.ค. 48 http://www.siamrath.co.th)





ม.บูรพาขยายฐาน รุกป.โทแม่ฮ่องสอน ปูทางธุรกิจชายแดน

ศ.ดร.สุชาติ อุปถัมภ์ อธิการบดี ม.บูรพา เปิดเผยว่า เพื่อเป็นการขยายฐานและพัฒนาองค์ความรู้ใหม่ ม.บูรพา โดยวิทยาลัยพาณิชยศาสตร์ ได้ร่วมกับสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย กรมสรรพากร และจ.แม่ฮ่องสอน ลงนามข้อตกลงว่าด้วยความร่วมมือทางวิชาการ เพื่อเปิดสอนในหลักสูตรบริหารธุรกิจมหาบัณฑิต โดยมีระยะเวลาดำเนินการ 4 ปี ตั้งแต่ปี 2548-2552 ซึ่งหลักสูตรดังกล่าวจะรองรับยุทธศาสตร์ของ จ.แม่ฮ่องสอน ในการผลักดันให้จังหวัดศูนย์กลางการค้าชายแดนในพื้นที่ภาคเหนือ ที่จำเป็นต้องมีบุคลากรที่เข้าใจในด้านการค้า และการบริหารธุรกิจอย่างลึกซึ้ง โดยวิทยาลัยพาณิชยศาสตร์ มีความพร้อมในทุกด้านๆ ไม่ว่าจะเป็นคณาจารย์ผู้สอนที่พร้อมจะเข้ามาสอนใน จ.แม่ฮ่องสอน ด้วยตนเอง รวมถึงอาจารย์พิเศษที่เป็นผู้บริหารระดับสูงและผู้ทรงคุณวุฒิ จากสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ที่จะมาร่วมกันถ่ายทอดความรู้ในทุกแง่มุมเกี่ยวกับการบริหารจัดการธุรกิจโดยคาดว่าจะเริ่มเปิอรับนักศึกษา รุ่นแรกได้ในปีการศึกษา 2549 ช่วงเดือนมี.ค.49 โดยจะเปิดรับประมาณ 60 คน อีกทั้งสภาอุตสาหกรรมฯ และ จ.แม่ฮ่องสอน ยังสนับสนุนงบประมาณสำหรับค่าใช้จ่ายภายใต้หลักสูตร ดังนั้นการเล่าเรียนจึงไม่สูงมากนัก (สยามรัฐนายวัน พุธที่ 28 ธ.ค. 48 http://www.siamrath.co.th)





พิพิธภัณฑ์การเรียนรู้ แห่งแรกของเมืองไทย

จากที่คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติให้ดำเนินการก่อสร้าง “พิพิธภัณฑ์การเรียนรู้” แห่งชาติ หรือ Discovery Museum ขึ้นเป็นแห่งแรกด้วยการบูรณะอาคารทระทรวงพาณิชย์เก่า ถนนสนามไชย ไว้เป็นสถานที่ส่งเสริมการเรียนรู้อย่างรื่นรมย์ พร้อมยกระดับมาตรฐานการจัดการเรียนในรูปแบบใหม่ให้กับประชาชน โดยเฉพาะเด็กและเยาวชนด้วยการสร้างสำนึกในการรู้จักตัวเอง รู้จักเพื่อนบ้าน รู้จักโลก สร้างแนวคิด และภาพลักษณ์ใหม่ให้แก่พิพิธภัณฑ์นั้น ได้อยู่ในความสนใจของประชาชนตลอดเวลา ปัจจุบันโครงการดังกล่าวกำลังดำเนินคืบหน้าไปอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้เพราะการบูรณะอาคารดังกล่าว ได้ยึดตามรูปแบบดั้งเดิม คือ ศิลปะแบบนีโอคลาสสิก ตามที่นายมาริโอ ตามาญโญ สถาปนิกชาวอิตาลีได้ออกแบบเอาไว้ในสมัยรัชกาลที่ 6 หรือ ประมาณปี พ.ศ.2465 ซึ่งพระบาทสมเด็จพระมงกุฏเกล้าเจ้าอยู่หัวได้โปรดเกล้าฯ ให้สร้างขึ้นเป็นที่ทำการกระทรวงพาณิชย์ บนเนื้อที่วังเก่าของพระเจ้าลูกยาเธอองค์หนึ่งในรัชกาลที่ 3 ซึ่งภายหลังจากการบูรณะตัวอาคารดังกล่าวเสร็จสิ้นแล้ว ในช่วงปี 2549 นั้น ทางคณะกรรมการของสถาบันพิพิธภัณฑ์การเรียนรู้แห่งชาติ จะดำเนินการเตรียมจัดแสดงนิทรรศการถาวรต่างๆ ภายในบริเวณอาคาร มีหัวข้อของนิทรรศการหลักๆ ว่า “จากสุวรรณภูมิ เป็นสยามประเทศ ถึงประเทศไทย” โดยจะมุ่งเน้นสร้างการเรียนรู้ถึงประวัติความเป็นมาของผู้คนในดินแดนอุษาคเนย์ สร้างความเข้าใจให้แก่เด็กและเยาวชนตลอดจนผู้ที่สนใจศึกษา ในเรื่องของบ้านเมืองและท้องถิ่น เพื่อส่งเสริมการสร้างความร่วมมือกันและสร้างสันติสุขระหว่างประเทศไทยกับประเทศเพื่อนบ้าน จะให้เห็นถึงวิวัฒนาการ กระบวนการ และพัฒนาการต่างๆ ผ่านโซนจัดแสดง 3 โซนด้วยกัน โซนที่ 1 Discovery Zone พื้นที่แห่งการเรียนรู้ด้วยการค้นหาและค้นพบ โซนที่ 2 Collection Zone พื้นที่ที่จะนำเสนอเรื่องราวประวัติศาสตร์ต่างๆ ของบรรพบุรุษ และ โซนที่ 3 Resource Center จุดค้นคว้าข้อมูลความรู้สำหรับผู้เข้าชม ทั้งด้านทฤษฎีและด้าน การปฏิบัติ ซึ่งพื้นที่ทั้ง 3 ส่วนนี้จะถูกนำเสนอร่วมกันอย่างผสมผสาน พร้อมทั้งสร้างความสนุกสนานให้แก่ผู้เข้าชมให้มากที่สุด นอกจากมีการจัดนิทรรศการถาวรแล้ว ทางพิพิธภัณฑ์ยังมีพื้นที่สำหรับการจัดนิทรรศการชั่วคราวอีกด้วย โดยจะมีการนำเหตุการณ์ต่างๆ ที่เชื่อมโยงกับการเรียนรู้มาจัดแสดง ซึ่งการจัดนิทรรศการและพิพิธภัณฑ์ในลักษณะดังกล่าวนี้ ถือว่ามีขึ้นเป็นครั้งแรกในประเทศไทย (สยามรัฐนายวัน พุธที่ 28 ธ.ค. 48 http://www.siamrath.co.th)





ม.รังสิตจับมือสำนักพิมพ์ แต่งตำราเศรษฐศาสตร์ระดับมัธยม

รศ.ดร.ณัฐพล ขันธไชย อาจารย์ประจำหลักสูตรศิลปศาสตร์มหาบัณฑิต สาขาวิชาผู้นำทางสังคม ธุรกิจ และการเมือง วิทยาลัยนวัตกรรมสังคม มหาวิทยาลัยรังสิต เปิดเผยว่า กระทรวงศึกษาธิการได้ประกาศให้สำนักพิมพ์ต่างๆ แข่งขันกันผลิตตำราเรียน เพื่อจะคัดเลือกเอาไปใช้ในการเรียนการสอน รวมถึงบริษัท สำนักพิมพ์พัฒนา จำกัด ซึ่งมีความประสงค์จะผลิตตำราเรียนในหมวดวิชาสังคมศึกษา สาขาเศรษฐศาสตร์ สำหรับนักเรียนระดับมัธยมศึกษาด้วย จึงได้มาทาบทามให้เป็นผู้แต่งตำราเรียน และจะดำเนินการให้กระทรวงศึกษาธิการรับรองว่าเป็นเอกสารประกอบการเรียนการสอน โดยจะต้องรวบรวมทีมงานและดำเนินงานให้แล้วเสร็จสำหรับปีการศึกษา 2549 เหตุผลที่กระทรวงศึกษาธิการจำเป็นต้องปูพื้นฐานด้านเศรษฐศาสตร์ให้เด็กตั้งแต่เล็กๆ ก็เพราะเศรษฐศาสตร์เป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับชีวิตประจำวันของคนทุกคน ถ้าไม่รู้หลักเศรษฐศาสตร์เลยก็อาจจะใช้ทรัพยากรที่มีอยู่อย่างไม่เป็นประโยชน์ วิชาเศรษฐศาสตร์จะสอนให้คนรู้คุณค่าของทรัพยากรที่มีอยู่ เช่น ดินที่มีอยู่ควรจะทำอย่างไร เพื่อที่จะให้เกิดประโยชน์ทางเศรษฐกิจ หรือว่า ต้นไม้ แม่น้ำ ลำธาร แร่ธาตุต่างๆ ที่มีอยู่ ควรจะทำอย่างไรให้มีประโยชน์ทางเศรษฐกิจ ไม่ใช่ปล่อยไว้เฉยๆ ก็ไม่มีประโยชน์ทางเศรษฐกิจ เศรษฐศาสตร์จึงเป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับชีวิตประจำวัน กระทรวงศึกษาธิการจึงกำหนดไว้ในหลักสูตรแล้วให้เด็กนักเรียนต้องเรียนวิชาเศรษฐศาสตร์ เป็นหนึ่งในสัดส่วนของวิชาสังคมศาสตร์ (คมชัดลึก พุธที่ 28 ธ.ค. 48 http://www.komchadluek.net)





แฉจุดบอดร่าง พ.ร.บ.การเงินรั้วอุดมฯ

ดร.ประวิช รัตนเพียร รมว.วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (วท.) เปิดเผยว่า ขณะนี้เป็นที่ทราบกันดีว่า ประเทศไทยประสบปัญหาด้านพลังงาน โดย เฉพาะราคาน้ำมันที่เพิ่มสูงขึ้น ภาครัฐเองได้สนับสนุนให้มีการใช้ก๊าซธรรมชาติ มาทดแทนการใช้น้ำมัน ในรถ NGV ไม่ว่าจะเป็นในรถแท็กซี่ รถขนส่งมวลชนและอื่นๆ โดยในอนาคตจะนำมาใช้กันแพร่หลายมากขึ้น คาดว่าจะมีการใช้รถ NGV มากถึง 300,000 คันในปี 2551 โดยในรถ NGV จะประกอบด้วย ระบบควบคุมการจ่ายก๊าซและถังบรรจุก๊าซธรรมชาติ ซึ่งปัจจุบันถังสำหรับบรรจุก๊าซมีด้วยกัน 4 ชนิด แต่ที่นิยมใช้ได้แก่ ถังเหล็กทั้งใบและถังคอมโพสิท ซึ่ง เป็นการนำเข้าจากต่างประเทศมีต้นทุนสูง และจากข้อมูลพบว่า ประเทศไทยมีการใช้ถังเหล็กนำเข้าบรรจุก๊าซธรรมชาติอัด สำหรับรถ NGV ประเภทที่ 1 ที่มีโครงสร้างเป็นเหล็กทั้งใบ มีน้ำหนักมากขนย้ายไม่สะดวก ส่วนถังคอมโพสิท สำหรับรถ NGV ประเภทที่ 4 ซึ่งมีน้ำหนักเบากว่าถังเหล็กกว่า 60% เนื่องจากมีโครงสร้างภายในเป็นพลาสติก และโครงสร้างภายนอกถังพันด้วยเส้นใยคาร์บอน หรือเส้นใยแก้วผสม แม้จะทำให้ถังก๊าซมีน้ำหนักเบา แต่มีราคาขายสูงมาก ทำให้ไม่เป็นที่นิยมในประเทศไทย วท.จึงได้ริเริ่ม พัฒนาและสนับสนุนให้เกิดความร่วมมือระหว่างหน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชน ในการผลิตต้นแบบถังคอมโพสิทชนิดใหม่ สำหรับรถ NGV โดยเทคโนโลยีของคนไทยที่ใช้เส้นใยแก้วผสมเส้นใยเซรามิก ซึ่งจะทำให้มีต้นทุนในการผลิตต่ำลง มีราคาที่คุ้มค่า น้ำหนักเบา อายุการใช้งานยาวนาน ที่สำคัญมีค่าใช้จ่ายสิ้นเปลืองต่อปี ต่ำกว่าการใช้ถังเหล็กนำเข้า 74% และต่ำกว่าการใช้ถังคอมโพสิทนำเข้า 55% ซึ่งมีกำหนดผลิตออกสู่ตลาดในประเทศไทยและตลาดโลกในปี 2550. (ไทยรัฐ พฤหัสบดีที่ 29 ธ.ค. 48 http://www.thairath.co.th)





ดันร่างพ.ร.บ.อาชีวะเข้าสภาฯมี.ค.49

นายวีระศักดิ์ วงษ์สมบัติ เลขาธิการคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (กอศ.) เปิดเผยความคืบหน้าร่างพ.ร.บ.การอาชีวศึกษา ว่า ที่ประชุมวุฒิสภาพิจารณาเห็นชอบร่างพ.ร.บ.การอาชีวศึกษา ที่ผ่านความเห็นชอบจากคณะกรรมาธิการร่วมระหว่างสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภาแล้ว โดยมีสาระต่างจากร่างของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ตรงที่การเกิดสถาบันจะต้องเกิดจากการรวมกัน ส่วนโรงเรียนอาชีวศึกษาเอกชน ระบุให้อยู่ภายใต้กำกับดูแลของกอศ. โดยมีอำนาจถึงขั้นยุบเลิกโรงเรียนอาชีวศึกษาเอกชนได้ด้วย ขณะที่ร่างเดิมของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ระบุว่าการเกิดสถาบันสามารถเกิดขึ้นได้ทั้งการรวมตัวกัน หรือยกสถาบันใดสถาบันหนึ่งขึ้นมาก็ได้ หลังจากนี้จะนำเข้าสู่การพิจารณาของสภาผู้แทนราษฎรในสมัยประชุมหน้า ช่วงเดือนมี.ค.2549 เนื่องจากสภาปิดสมัยประชุมไปแล้วเมื่อวันที่ 19 ธ.ค.ที่ผ่านมา หากสภาผู้แทนราษฎรเห็นชอบตามร่างของคณะกรรมาธิการร่วม 2 สภา ก็สามารถเสนอไปตามขั้นตอน เพื่อให้มีผลบังคับใช้ได้เลย แต่หากไม่เห็นด้วย ก็สามารถหยิบยกร่างเดิมของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ขึ้นมาประกาศใช้ ไม่ว่าจะใช้ร่างใด สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษาก็ไม่ขัดข้องเพราะสาระร่างไม่ต่างกันนัก ยังคงเปิดช่องให้สถาบันการอาชีวศึกษาเปิดสอนได้ถึงระดับปริญญาตรี (ข่าวสด พฤหัสบดีที่ 29 ธ.ค. 48 http://www.matichon.co.th/khaosod)





แจกทุนโครงการไอเอฟพี เปิดรับถึง28ก.พ.49

มูลนิธิการศึกษาเอเชียแจกทุนโครงการทุนไอเอฟพี เรียนต่อปริญญาโท ประจำปี 2549 รับสมัครถึง 28 กุมภาพันธ์ 2549 มูลนิธิการศึกษาเอเชียให้ทุนโครงการทุนไอเอฟพี (IFP) เพื่อการศึกษาต่อปริญญาโทประจำปี 2549 จำนวน 7 ทุน เพื่อศึกษาต่อทั้งในประเทศและต่างประเทศทั่วโลก โดยผู้รับทุนเรียนภาคปกติ ณ มหาวิทยาลัยที่ได้รับการรับรองวิทยฐานะ โดยคุณสมบัติสัญชาติไทย หรือมีถิ่นฐานถาวรใน 19 จังหวัดทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ทั้งนี้ ปัจจุบันต้องอาศัยและทำงานอยู่ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ หรือเป็นสมาชิกของชนกลุ่มน้อยที่ปัจจุบันอาศัยและทำงานอยู่ในพื้นที่ดังกล่าว จบการศึกษาจากวิทยาลัย หรือมหาวิทยาลัยในเขตภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ซึ่งรวมมหาวิทยาลัยรามคำแหง และมหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช มีประสบการณ์ทำงานบริการสังคม ชุมชน 3 ปี ส่วนสาขาวิชาที่รับสมัคร ศิลปะและวัฒนธรรม การพัฒนาชุมชน ประชาสังคม การเงินเพื่อพัฒนาและความมั่นคงทางเศรษฐกิจ การศึกษาและทุน สิ่งแวดล้อมการพัฒนา การปกครองและประชาสังคม สิทธิมนุษยชน สื่อ สังคมศาสตร์และมนุษยศาสตร์ เพศศึกษาและการเจริญพันธุ์ และการพัฒนากำลังคน รับสมัครตั้งแต่บัดนี้ถึง 28 กุมภาพันธ์ 2549 สนใจติดต่อโทร.0-2655-1615, 7 หรือ www.asianscholarship.org (คมชัดลึก ศุกร์ที่ 30 ธ.ค. 48 http://www.komchadluek.net)





ขยายเวลารับสมัคร O-NET และ A-NET ระหว่าง 30 ธ.ค.48 - 4 ม.ค.49

รศ.ประทีป จันทร์คง ผู้อำนวยการสถาบันทดสอบทางการศึกษาแห่งชาติ หรือ สทศ. เปิดเผยว่า ได้ขยายระยะเวลาในการรับสมัครทดสอบทางการศึกษาแห่งชาติขั้นพื้นฐาน หรือ O-NET และการทดสอบทางการศึกษาแห่งชาติขั้นสูง หรือ A-NET ผ่านระบบอินเทอร์เน็ต ระหว่างวันที่ 30 ธ.ค.2548 ตั้งแต่เวลา 07.00 น. ถึงวันที่ 4 ม.ค.2549 เวลา 24.00 น. ในเว็บไซต์ www.ntthailand.com สำหรับการชำระเงินค่าสมัครนั้น จะไม่ชำระผ่านทางธนาคารเหมือนที่ผ่านมา แต่ให้ชำระผ่านไปรษณีย์ โดยส่งเอกสารใบสมัคร และตั๋วแลกเงินไปรษณีย์ตามจำนวนที่สมัคร สั่งจ่ายในนามของผู้อำนวยการ สทศ.ภายในวันที่ 5 ม.ค.โดยจะยึดวันประทับตราไปรษณีย์ของวันที่ 5 ม.ค.เป็นสำคัญ อย่างไรก็ตาม ที่ สทศ.ต้องขยายระยะเวลาในการรับสมัครทั้ง O-NET และ A-NET ออกไปอีก เพราะยังมีนักเรียนอีกจำนวนมากที่ยังไม่ได้สมัคร O-NET และ A-NET เนื่องจากหลายสาเหตุ เช่น ปัญหาน้ำท่วมในภาคใต้ รวมถึงภาคอื่น ๆ นอกจากนี้ ยังพบว่านักเรียนที่อยู่ในโรงเรียนที่อยู่ในพื้นที่ห่างไกลยังไม่ทราบข้อมูล อีกทั้ง การจ่ายค่าสมัครผ่านธนาคารในช่วงที่ผ่านมามีปัญหาในการบันทึกข้อมูล ทำให้ผู้ที่สมัคร O-NET และ A-NET มีสถานภาพไม่สมบูรณ์ สทศ.จึงจำเป็นต้องขยายเวลารับสมัครออกไปอีก (กรุงเทพธุรกิจ ศุกร์ที่ 30 ธ.ค. 48 http://www.bangkokbiznews.com)





ข่าววิทยาศาสตร์/เทคโนโลยี


ม.เทคโนโลยีมหานคร ประชุมICOCN2005 พัฒนาสื่อสารเชิงแสง

รศ.ดร.สิทธิชัย โภไคยอุดม อธิการบดีมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีมหานคร เปิดเผยถึงการเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมวิชาการนานาชาติด้านระบบสื่อสารและโครงข่ายเชิงแสง (The 4th International Conference on Optical Communications and Networks : ICOCN 2005) โดยความร่วมมือจากสมาคมวิชาชีพระดับโลก อาทิ IEEE-LEOS (IEEE - Laser and Electro-Optics Society), OSA (Optical Society of America), และ The International Society of Optical Engineering (SPIE) เมื่อเร็วๆ นี้ ว่า ม.เทคโนโลยีมหานครมีนโยบายชูความเป็นเลิศด้านการศึกษา เทคโนโลยี และงานวิจัย จึงได้เป็นเจ้าภาพจัดประชุม ICOCN 2005 ซึ่งเป็นครั้งแรกในประเทศไทย หลังจากที่ได้เวียนจัดมาแล้วในประเทศสิงคโปร์ อินเดีย และฮ่องกง โดยมุ่งเน้นเนื้อหาข้อมูลวิชาการด้านเส้นใยแก้วและระบบสื่อสารเชิงแสง ซึ่งได้รับความสนใจจากนักศึกษา นักวิชาการ นักวิจัย วิศวกร และบุคลากรในภาคอุตสาหกรรมจำนวนมากกว่า 200 คน จาก 25 ประเทศทั่วโลก ร่วมนำเสนอผลงานวิจัยใหม่ๆ และยังเป็นการประสานความร่วมมือระหว่างนักวิจัยทั้งในและต่างประเทศ เพื่อร่วมกันพัฒนาศักยภาพเทคโนโลยีเชิงแสงไปสู่ระดับสากลต่อไป (มติชนรายวัน จันทร์ที่ 26 ธ.ค. 48 http://www.matichon.co.th)





วท.รุกพัฒนาเทคโนฯ

ดร.ประวิช รัตนเพียร รมว.วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (วท.) เปิดเผยว่า จากการที่ศูนย์เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์แห่งชาติ (เนคเทค) ส่งเยาวชนร่วมโครงการความร่วมมือไทย-อินเดีย ด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ เมื่อเร็วๆนี้ พบว่าเยาวชนสามารถนำองค์ความรู้ต่างๆที่ได้รับกลับมาทำประโยชน์ให้กับหน่วยงาน และ วท.จะผลักดันโครงการนี้อย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ กระทรวงการต่างประเทศได้ตั้งสถานกงสุลใหญ่ ประจำเมืองเชนไนขึ้นทางตอนใต้ของสาธารณรัฐอินเดีย ซึ่งเป็นพื้นที่ที่เน้นอุตสาหกรรมที่เป็นเทคโนโลยีขั้นสูงเป็นส่วนใหญ่ ดังนั้น วท.จะประสานความร่วมมือกับกระทรวงการต่างประเทศ ในความร่วมมือระหว่างไทย-อินเดีย ในด้านการพัฒนาเทคโนโลยีสารสนเทศ หรือไอที และเทคโนโลยีด้านอื่นๆต่อไปด้วย (ไทยรัฐ อังคารที่ 27 ธ.ค. 48 http://www.thairath.co.th)





สัมมนาแอนิเมชั่นระดับโลกในไทย

ซิป้าโปรโมตงานแทม 2006 จัดสัมมนาระดับโลกสุดยิ่งใหญ่ครั้งแรกในไทย เชิญวิทยากรฮอลลีวู้ดและเอเชียสานฝันแอนิเมชั่นไทย นายสันติ เลาหบูรณะกิจ ประธาน อนุกรรมการจัดงานสัมมนา (Conference) และอบรมเชิงปฏิบัติการ (workshop) เปิดเผยว่า สำนักงานส่งเสริมอุตสาหกรรมซอฟต์แวร์แห่งชาติ (องค์การมหา ชน) หรือ SIPA ได้จัดเตรียมการสัมมนาแอนิเมชั่นและมัลติมีเดียสุดยิ่งใหญ่ขึ้นภายในงาน ไทยแลนด์ แอนิเมชั่น แอนด์ มัลติมีเดีย 2006 (TAM 2006) ระหว่างวันที่ 12-15 มกราคม 2549 ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ โดยเชิญวิทยากรจากผู้สร้างผลงานแอนิเมชั่นระดับฮอลลีวู้ดและผู้สร้างงานแอนิเมชั่นเอเชียร่วมสัมมนา ซึ่งแบ่งหัวข้อออกเป็น 4 ส่วน ได้แก่ การสัมมนาวิชาการด้านแอนิเมชั่นมัลติมีเดีย, ห้องอบรมปฏิบัติการ หรือเวิร์กช็อป, การจัดการแสดงผลงานวิจัยด้าน Computer Graphics (CGResearch Presentation) และ SIGGRAPH Screening การนำเสนอผลงานแอนิเมชั่นระดับโลกจากงาน SIGGRAPH ประเทศสหรัฐอเมริกา สำหรับไฮไลต์เด่นของงานคือการเชิญวิทยากรระดับโลกร่วมสัมมนา อาทิ ผู้ผลิตโดราเอมอน และโปเกมอน ทีมผู้ผลิตแอนิเมชั่น “Rhythm & Hues” ผู้สร้างผลงานดัง Garfield, Scooby Doo, BABE ทีมผู้สร้างหนังดัง Chicken Little ผู้ผลิตหนังไตรภาคระดับโลก “The Lord of the Rings” และนักสร้างภาพยนตร์กราฟิกจากฮอลลีวู้ด “The Day after Tomorrow”. (เดลินิวส์ อังคารที่ 27 ธ.ค. 48 http://www.dailynews.co.th)





ประเวศ แนะสร้างกลไกป้องกัน'เทคโนโลยีพันธุกรรม'

ศ. นพ.ประเวศ วะสี ที่ปรึกษามูลนิธิสาธารณสุขแห่งชาติ บรรยายเรื่อง วิทยาศาสตร์ ชีวจริยธรรม ทุนนิยม ใน การประชุมระดับชาติเรื่องชีวจริยธรรม ครั้งที่ 2 เมื่อเร็ว ๆ นี้ที่โรงแรมรามาการ์เด้นส์ จัดโดยโครงการชีวจริยธรรมและการวิจัยทางการแพทย์สมัยใหม่ มูลนิธิสาธารณสุขแห่งชาติ และศูนย์พันธุวิศวกรรรมและเทคโนโลยีแห่งชาติ สำหรับกรณีของการวิจัยทางพันธุกรรม มีข้อเสนอให้สังคมไทยดำเนินการใน 4 ด้านคือ 1.ควรใช้งบประมาณด้านการวิจัยทางพันธุกรรม ร้อยละ 5 วิจัยการป้องกันผลกระทบทางจริยธรรม กฎหมาย และสังคม จากความก้าวหน้าของเทคโนโลยีทางการแพทย์ที่เกี่ยวข้องกับพันธุกรรม (Ethical Legal Social Impact-ELSI) ซึ่งเป็นงานที่ยาก เพราะต้องเข้าใจเรื่องเทคโนโลยีพันธุศาสตร์ จำเป็นต้องสร้าง “นักวิชาการพันทาง” ที่เป็นส่วนผสมระหว่างวิทยาศาสตร์และสังคมศาสตร์มาทำงานร่วมกัน ทั้งนักกฎหมาย นักวิทยาศาสตร์ ฯลฯ เพื่อให้ทันการณ์ และเร่งสร้างกลุ่มผู้ที่มีความรู้ความเข้าใจในเรื่องที่อย่างชัดเจนให้มากเพียงพอ 2.ระบบการศึกษาในปัจจุบันยังไม่สามารถรับมือกับเรื่องของจริยธรรมสมัยใหม่ได้ การจะทำให้คนไทยเท่าทันต่อเทคโนโลยีใหม่นี้ จำเป็นต้องสร้างกระบวนการเรียนรู้ที่เน้นให้เกิดความสามารถด้านการคิดวิพากษ์ (critical thinking) และปลูกฝังให้เยาวชนมีความกล้าหาญทางจริยธรรม 3.ปฏิวัติจิตสำนึก เพราะการพัฒนาเชิงกายภาพของมนุษย์น่าจะคงที่เช่นนี้ไปอีกหลายพันปี แต่จิตของมนุษย์ยังพัฒนาให้ใหญ่กว่าที่เป็นอยู่ได้อีกหลายเท่า เช่น การรักเพื่อนมนุษย์และธรรมชาติ ฯลฯ หรือที่เรียกว่าเป็นเรื่องของจิตวิวัฒน์ ตัวอย่างเช่น ในมิติการสาธารณสุขที่มีพัฒนาการมานาน ในปัจจุบันน่าจะไปถึงช่วงที่สอง คือเป็น คือเป็นระบบบริการสุขภาพที่มีหัวใจของความเป็นมนุษย์ ซึ่งเชื่อว่าจะทำให้การฟ้องร้องจะลดลง ความสัมพันธ์ระหว่างบุคลากรการแพทย์และผู้ป่วยจะดีขึ้น และ 4.ช่วยกันสร้างสรรค์สังคมใหม่ที่มีความเข้มแข็งและมีหัวใจของความเป็นมนุษย์ โดยระดมทุนทุกรูปแบบ ทั้งทุนที่เป็นเงินและไม่ใช่เงิน เช่น ทุนวัฒนธรรม ทุนมนุษย์ ฯลฯ (กรุงเทพธุรกิจ อังคารที่ 27 ธ.ค. 48 http://www.bangkokbiznews.com)





โทรศัพท์มือถือช่วยจัดการ บอกว่าถ่ายภาพกับใครเมื่อไร

ห้องทดลองวิจัยของยาฮู ในสหรัฐฯ กำลังจะพัฒนาให้โทรศัพท์มือถือติดกล้องถ่ายภาพสามารถ บอกรายละเอียดของภาพได้ว่า ถ่ายภาพนั้นที่ไหน เมื่อไร กับใคร ซึ่งจะช่วยเก็บภาพในคอลเลกชั่นได้เป็นอย่างดี โทรศัพท์มือถือดังกล่าวจะช่วยให้ผู้ใช้กล้องถ่ายภาพ ในโทรศัพท์สามารถจัดเก็บข้อมูลอัลบั้มภาพดิจิตอลได้อัตโนมัติ และระบุได้อย่างชัดเจนว่าถ่ายภาพนั้นกับใคร ที่ไหน ในแต่ละภาพที่มีการถ่ายภาพขึ้น แนวคิดเรื่องนี้ได้รับการพัฒนาขึ้นโดยมาร์ค เดวิส จากห้องทดลองวิจัยเบิร์กเลย์ ของยาฮู ในแคลิฟอร์เนีย โดยจะมีฐานอ้างอิงอยู่ กับเซิร์ฟเวอร์กลางที่มีการลงทะเบียนรายละเอียดส่งมาจากโทรศัพท์ที่มีการถ่ายภาพ ข้อมูลจะบอกถึงเสาส่งสัญญาณโทรศัพท์มือถือที่ใกล้ที่สุด กำลังแรงของสัญญาณและเวลาที่มีการบันทึกภาพ ระบบดังกล่าวยังระบุได้ด้วยว่ามีผู้ใช้ โทรศัพท์มือถือใช้งานบลูทูธรายอื่นที่อยู่ในแนวการใช้งานเดียวกันหรือไม่ พร้อมกันนี้ระบบยังใช้ซอฟต์แวร์รู้จำใบหน้าที่สามารถยืนยันความถูกต้องได้กว่าครึ่ง โดยนำข้อมูลบริบทแวดล้อมมาผสมผสานกับซอฟต์แวร์รู้จำภาพ เพื่อที่จะระบุสถานที่ในภาพนั้น. (ไทยรัฐ พุธที่ 28 ม.ค. 48 http://www.thairath.co.th)





ไอซีทีใช้เทคโนโลยีม..เกษตรฯกันเว็บลามก

นายสรอรรถ กลิ่นประทุม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร(ไอซีที) เปิดเผยว่า หลังจากที่มหาวิทยาลัยเกษตร ศาสตร์ได้ทำเทคโนโลยีกลั่นกรองเว็บลามกสำหรับอินเทอร์เน็ตในมหาวิทยาลัยซึ่งได้ผลดี ดังนั้นกระทรวงไอซีทีจึงได้ประสานกับ ม.เกษตรศาสตร์เพื่อนำเทคโนโลยีดังกล่าวมาติดตั้งกลั่นกรองเว็บ ลามกที่เกตเวย์ของบริษัท กสท. โทรคมนาคม จำกัด พร้อมเปิดตัวโครงการ “ไอซีที ไซเบอร์ แคร์” โดยเชื่อมั่นว่าเทคโนโลยีและโครงการดังกล่าวจะสามารถ ป้องกันเว็บไซต์ลามกให้แก่เยาวชนได้เป็นอย่างดี ซึ่งถือเป็นของขวัญในวันเด็กแห่งชาติ รองศาสตราจารย์ยืน ภู่วรวรรณ อาจารย์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ กล่าวว่า เทคโนโลยีที่ ม.เกษตรศาสตร์ วิจัยและพัฒนาเพื่อกลั่นกรองเว็บไซต์ลามกไม่ส่งผลให้การเข้าใช้งานอินเทอร์ เน็ตช้าลง การที่จะทำให้การสกัดกั้นเว็บลามกให้ ได้ผล 100% นั้นต้องมีรายชื่อเว็บไซต์ลามกทั้ง หมด เบื้องต้นกระทรวงไอซีทีมีรายชื่อเว็บไซต์ลามกอยู่ 3,000 เว็บไซต์ ส่วน ม.เกษตรศาสตร์มีอยู่ 1 แสนเว็บไซต์ จากเว็บไซต์ลามกกว่า 8 แสนเว็บไซต์ ทั้งนี้ โครงการ “ไอซีที ไซเบอร์ แคร์” ประกอบด้วย 4 โครงการ ได้แก่ 1.โครงการไซเบอร์คลีน นำตราสัญลักษณ์ของโครงการไปติดตั้งบนเว็บไซต์ของผู้ให้บริการ เพื่อใช้เป็นช่องทางให้ประชาชนคลิกแจ้งเว็บไซต์ที่ไม่เหมาะสม 2. โครงการพีเพิลคลีน โครงการพัฒนาโปรแกรมแจ้งเว็บไซต์ที่ไม่เหมาะสม 3.โครงการเกทคีปเปอร์ การติดตั้งระบบกลั่นกรองที่ กสท. เพื่อกลั่นกรองเว็บไซต์ทั้งหมด และ 4.โครงการเฮาส์คีปเปอร์ โครงการพัฒนาและแจกจ่ายโปรแกรมสำเร็จรูปที่ป้องกันเว็บไซต์ไม่เหมาะสม. . (เดลินิวส์ พุธที่ 28 ธ.ค. 48 http://www.dailynews.co.th)





ผุดเวบส่งอีเมลถึงตัวเองในอนาคต

เวบไซต์ที่ว่านี้คือ www.futureme.org เป็นเวบส่งอีเมลที่ผู้ส่งสามารถกำหนดวัน เดือน ปี ที่ต้องการรับจดหมายได้เอง โดยสามารถกำหนดปีล่วงหน้าได้จนถึงปี 2578 หรือ 30 ปีข้างหน้า แต่ส่วนใหญ่เลือกที่จะส่งถึงตัวเองในอีก 3 ปีข้างหน้า เจ้าของแนวคิดนี้เป็นสองหนุ่มอเมริกันชื่อ แมท สไล อายุ 29 ปี กับ เจย์ แพทริคิออส อายุ 31 ปี ความคิดนี้เกิดขึ้นเมื่อสี่ปีที่แล้ว โดยหวนนึกขึ้นมาได้ว่าตอนเด็กครูเคยสั่งให้เขียนจดหมายถึงตัวเองก็เลยคิดที่จะทำระบบอีเมลอนาคตขึ้นมา และอธิบายว่าไม่ได้เป็นแค่จดหมายที่เป็นบันทึกช่วยจำ แต่เป็นสิ่งที่ผู้ใช้บริการต้องคิดเป้าหมายล่วงหน้าเป็นเวลาหลายปี สำหรับผู้ที่ต้องการส่งอีเมลหาตัวเองในอนาคต ข้อสำคัญควรเลือกบริการอีเมลที่มีแนวโน้มว่าจะอยู่ได้นานอย่าง ฮอตเมล ยาฮูเมล เป็นต้น รายได้ของธุรกิจส่งเมลอนาคตแห่งนี้ไม่ได้บังคับเรียกค่าธรรมเนียม แต่ใครใคร่บริจาคเงินสนับสนุนก็จะยินดี ที่ผ่านมามีคนบริจาคแล้วราวสองพันกว่าบาท เจ้าของโครงการอีเมลอนาคตบอกว่า เป้าหมายที่เขาทำระบบนี้ขึ้นมาก็เพราะต้องการให้คนคิดถึงอนาคต และตั้งเป้าหมายให้ตัวเองระลึกว่าตัวเองเคยฝันอะไรไว้ และเคยหวาดกลัวกับเรื่องอะไร ข้อความส่วนใหญ่ที่คนต้องการส่งถึงตัวเองในอนาคตมีอยู่สองอย่าง คือ ต้องการจะบอกว่าตัวเองในอดีตกำลังทำอะไรอยู่ในตอนนั้น และพวกเขาได้พบกับสิ่งที่ตัวเองปราถนาไว้ในอดีตแล้วหรือยัง นอกจากเว็บไซต์สองแห่งนี้ ยังมีเวบ www.mylastremail.com และ www.lastwishes.com ซึ่งเปิดให้บริการส่งอีเมลหาคนรักหลังจากผู้ส่งเสียชีวิตไปแล้ว โดยคิดค่าบริการเรียกเก็บครั้งเดียวราว 4,000 บาท (คมชัดลึก พุธที่ 28 ธ.ค. 48 http://www.komchadluek.net)





อังกฤษพัฒนาโปรแกรม ช่วยคนหูหนวกคุยผ่าน"มือถือ"

สมาคมคนหูหนวกในพระบรมราชินูปถัมภ์ ประเทศอังกฤษ (อาร์นิด) พัฒนาโปรแกรมคอมพิวเตอร์รุ่นใหม่ "ไทป์ทอล์ก" ที่ช่วยให้คนหูหนวกสามารถใช้โทรศัพท์มือถือ และโทรศัพท์บ้านหรือโทรศัพท์แลนด์ไลน์ ติดต่อสื่อสารกันได้ผ่านข้อความตัวอักษร อย่างไรก็ตาม ขณะนี้มีบริษัทผู้บริการโทรศัพท์ "โวดาโฟน" เพียงเจ้าเดียวที่ปรับปรุงระบบของตนเองเพื่อให้รองรับการใช้งานโปรแกรมไทป์ทอล์ก สำหรับวิธีการทำงานของโปรแกรมสื่อสารเพื่อคนหูหนวก "ไทป์ทอล์ก" สามารถนำไปติดตั้งกับมือถือโนเกีย รุ่น คอมมิวนิเคเตอร์ 9210, 9300, 9500, โนเกีย 6822 โซนี่อีริกสัน P900 และ P910 เมื่อติดตั้งโปรแกรมเรียบร้อยแล้วจะช่วยให้คนหูหนวกพิมพ์ข้อความพูดคุยกันผ่านเครือข่ายมือถือแบบเรียลไทม์หรือตรงตามเวลาจริง และพิมพ์พูดคุยได้นานโดยไม่จำกัดเวลา นอกจากนั้น ไทป์ทอล์กยังใช้งานผ่านโทรศัพท์บ้านได้ด้วย แต่ผู้ใช้ต้องติดตั้งอุปกรณ์ชนิดพิเศษพ่วงกับโทรศัพท์เสียก่อนจึงจะใช้งานได้ อาร์นิดตั้งความหวังว่า ในอนาคตบริษัทมือถือจะนำโปรแกรมตัวนี้ไปใช้เป็นตัวเลือกให้บริการแก่ลูกค้า ซึ่งเป็นผู้พิการหูหนวก เพื่อให้เพิ่มคุณภาพชีวิตให้คนกลุ่มนี้ (ข่าวสด อังคารที่ 27 ธ. ค. 48 http://www.matichon.co.th/khaosod)





แฟ้มผลวิจัย...โมบิลิตี้ เทคโนโลยี ชี้เพิ่มสมรรถภาพงาน-การสื่อสาร แข่งขันทางธุรกิจ

อวาย่า อิงค์ ธุรกิจให้บริการด้านแอพพลิเคชั่นสื่อสารทางธุรกิจ ระบบงานและการบริการ ร่วมกับไอดีซี เปิดผลการศึกษาเรื่อง "โมบิลิตี้ เทคโนโลยี" ซึ่งเป็นแบบแผนการทำงานตามแบบตะวันตก ในองค์กรธุรกิจในเอเชียแปซิฟิก (Asia Pacific Business Mobility Survey) กับกลุ่มผู้บริหารระดับสูงบริษัทข้ามชาติและองค์กรขนาดใหญ่ใน 11 ประเทศ ชี้ให้เห็นว่า ผู้บริหารระดับสูง ต่างตอบรับรูปแบบการทำงานในลักษณะโมบิลิตี้ โดยสองในสามที่ตอบแบบสอบถามเชื่อว่า แนวคิดทั้งหมดที่ช่วยให้พนักงานมีความคล่องตัวระหว่างการทำงานที่ต้องเดินทางไปมา (mobility) ช่วยปรับปรุงประสิทธิภาพการทำงานของพนักงาน และเพิ่มศักยภาพในการดำเนินธุรกิจในยุคการแข่งขันสูงได้ โดยสำรวจเรื่องสภาพแวดล้อมการทำงานแบบโมบาย ซึ่งต้องอาศัยการเดินทางไปมาอยู่ตลอดเวลา ให้รับทราบถึงผลกระทบของเทคโนโลยีระบบสื่อสารเคลื่อนที่ ที่ใช้ในการทำงานในภูมิภาคนี้ ผลสำรวจ ผู้บริหาร 70% วางใจให้พนักงานทำงานจากภายนอก โดยระดับความไว้วางใจสูงมากในประเทศนิวซีแลนด์ที่ 95% เกาหลี 87% และอินเดีย 84%รวมถึงผู้บริหารในมาเลเซีย ฟิลิปปินส์ และสิงคโปร์ กว่า 70% ล้วนเชื่อใจพนักงาน ส่วนผู้บริหารในไทยที่นำแนวคิดด้านโมบิลิตี้มาใช้คิดเป็นจำนวนกว่า 50% เชื่อใจให้พนักงานทำงานจากที่ใดก็ได้ จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของพนักงานได้ (มติชนรายวัน พฤหัสบดีที่ 29 ธ.ค. 48 http://www.matichon.co.th)





พบวงแหวน-ดวงจันทร์ใหม่"ยูเรนัส"

นักดาราศาสตร์ประจำสถาบันตรวจหาสิ่งมีชีวิตนอกโลก (เซติ) วิเคราะห์ภาพถ่ายจากกล้องโทรทรรศน์อวกาศฮับเบิ้ล ขององค์การอวกาศสหรัฐ (นาซ่า) และพบ "วงแหวน" กับ "ดวงจันทร์บริวาร" ดวงใหม่จำนวน 2 ของดาวยูเรนัส หรือ ดาวมฤตยู มาร์ก โชวอลเตอร์ เจ้าหน้าที่เซติ กล่าวว่า กล้องฮับเบิลตรวจพบระบบวงแหวนใหม่ 2 วงรอบๆ ดาวยูเรนัส โดยมันมีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางใหญ่กว่าวงแหวนเดิมของดาวยูเรนัสถึง 2 เท่า และไกลจากตัวดาวยูเรนัสมาก นอกจากนี้ ฮับเบิลยังจับภาพดวงจันทร์ใหม่อีก 2 ดวงของยูเรนัส ซึ่งการค้นพบครั้งนี้แสดงให้เห็นว่าระบบวงแหวนและดวงจันทร์ของดาวยูเรนัสยังมีพลวัตและไม่หยุดนิ่ง (ข่าวสด พฤหัสบดีที่ 29 ธ.ค. 48 http://www.matichon.co.th/khaosod)





ชะลอเวลาเข้าสู่ปีใหม่ช้าลง สั่งเพิ่ม 1 วินาที คั่นปี

นักวิทยาศาสตร์ที่หอสังเกตการณ์ปารีสประกาศว่า การเริ่มเข้าสู่ปีใหม่ที่จะถึง ขอให้ชะลอเวลาออกไปสักหนึ่งวินาที ซึ่งเป็นครั้งแรกในรอบ 7 ปีที่มีการทำเช่นนี้ เหตุผลที่ต้องมีการเว้นวรรคหนึ่งวินาทีก่อนเข้าสู่ปีใหม่นั้นก็เพื่อ ให้นาฬิกาทั่วโลกตรงกับเวลาของระบบสุริยะที่นักดาราศาสตร์ใช้กัน โดยวินาทีที่เพิ่มขึ้นนั้นจะนับเพิ่มขึ้นมาหลังจากที่นาฬิกาตีบอกเวลาเที่ยงคืนของวันที่ 31 ธ.ค.แล้ว นักวิจัยของสถาบันมาตรฐานและเทคโนโลยีแห่งสหรัฐอเมริกา กล่าวว่า “ขอให้มีความสุขกับช่วงเวลาก่อนเข้าสู่ปีใหม่ยาวเพิ่มขึ้นอีก 1 วินาที”นักวิทยาศาสตร์บอกว่า หากไม่มีการปรับแก้เรื่องความแตกต่างนี้ ความผิดพลาดจะเพิ่มมากขึ้นอีกหลายวินาทีในอีกไม่กี่ทศวรรษข้างหน้า และจะทำให้ซอฟต์แวร์ ต่างๆ เดินเร็วเกินไป และอาจเป็นได้ว่าฮาร์ดแวร์ ที่นักดาราศาสตร์ใช้อาจพ้นสมัยไปเลย รายงานข่าวแจ้งว่า ช่วงเวลา 1 วินาทีที่จะนำ มาคั่นกลางระหว่างปีเก่ากับปีใหม่นี้จะเพิ่มในนาที สุดท้ายของปี 2548 แล้วจะมีเสียงปิ๊บขึ้นมาคั่นก่อนเข้าสู่ชั่วโมงใหม่ ในกรณีนาฬิกาบอกเวลาของวิทยุบีบีซี จะเป็นเสียงยาวเป็นพิเศษเมื่อเข้าสู่ ชั่วโมงใหม่. (ไทยรัฐ ศุกร์ที่ 30 ธ.ค. 48 http://www.thairath.co.th)





10 วิทยาศาสตร์เด่นแห่งปี

นิตยสาร Science ยกให้งานวิจัยเกี่ยวกับวิวัฒนาการของมนุษย์เป็นความสำเร็จทางวิทยาศาสตร์ประจำปี 2548 ส่วนรายชื่อความสำเร็จแห่งปีที่เหลือ 9 ผลงาน ประกอบด้วย 2.ทัวร์ดาวเคราะห์ ปีที่แล้ว มีการสำรวจอวกาศกันอย่างคึกคัก 3.พืชพรรณเบ่งบาน นักวิทยาศาสตร์พบว่า โมเลกุลสำคัญหลายตัวเป็นกุญแจความลี้ลับของดอกไม้และต้นไม้หลายชนิด 4.ธรรมชาติของดาวนิวตรอน ในปี 2548 นักวิทยาศาสตร์ได้พัฒนาเครื่องมือใหม่ๆ ที่ช่วยให้มองเห็นพฤติกรรมบ้าคลั่งที่รุนแรงที่สุดของดาวนิวตรอน 5.สมองลัดวงจร งานศึกษาหลายชิ้นในปีนี้ที่พบว่าโรค อย่างเช่น ชิโซฟรีเทีย ซึ่งเป็นโรคจิตเพศชนิดหนึ่ง อาการตูเร็ตซินโดรม เป็นโรคที่เกิดจากความผิดปกติของสมอง และโรคดิสเล็กเซีย 6. โลกมาจากไหน นักวิจัยได้ศึกษาหิน เปรียบเทียบกับดาวตกที่หล่นลงมายังโลกที่มีลักษณะคล้ายคลึงกับวัตถุในช่วงเริ่มต้นของกำเนิดระบบสุริยะ 7. โปรตีนสำคัญ ภาพร่างโมเลกุลที่แสดงรายละเอียดมากที่สุดของช่องโพแทสเซียมที่เป็นประตูเปิดให้กระแสไฟฟ้าไหล ถูกนำมาแสดงให้เห็นกันปีนี้ 8. อากาศเปลี่ยนหรือไม่เปลี่ยน ในปี 2548 มีหลักฐานเชื่อมโยงถึงการกระทำของมนุษย์ที่ทำให้เกิดภาวะโลกร้อนสะสมอย่างต่อเนื่อง จนในที่สุดนักการเมืองสหรัฐเริ่มเห็นสัญญาณเสียที 9. สัญญาณเพรียกหาเซลล์ ปีนี้มีผลงานที่กล่าวถึงการทำงานตอบสนองของเซลล์ต่อสัญญาณเคมีและสิ่งแวดล้อมที่อยู่รอบๆ เซลล์ 10. เตานิวเคลียร์ฟิวชั่น ในฝรั่งเศสมีความพยายามผลักดันให้ติดตั้งเครื่องปฏิกรณ์นิวเคลียร์ฟิวชั่นในฝรั่งเศส ที่เรียกว่าเครื่องปฏิกรณ์ทดสอบเทอร์โมนิวเคลียร์ระหว่างประเทศ นับเป็นเครื่องแรกของโลก นิตยสาร Science ยังได้ระบุ "สิ่งต้องจับตาในปี 2549" ได้แก่ ไข้หวัดนก การตรวจจับคลื่นแรงโน้มถ่วง การรักษาโรคด้วยการแทรกแซงอาร์เอ็นเอ รังสีคอสมิกพลังงานสูง พัฒนาการของจุลชีพ ตัวนำยิ่งยวดความร้อนสูง และการกลับมาของนกหัวขวานปากงา ซึ่งเดิมเชื่อว่าสูญพันธุ์ไปแล้วแต่มีคนได้พบเห็นอีกครั้งเมื่อไม่นานมานี้ (คมชัดลึก ศุกร์ที่ 30 ธ.ค. 48 http://www.komchadluek.net)





ข่าววิจัย/พัฒนา


สร้างเครื่องต้นแบบเซลล์เชื้อเพลิง ฝีมือคนไทยไม่ใช้น้ำมัน

ทีมวิจัยของคณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี บัณฑิตวิทยาลัยร่วมด้านพลังงานและสิ่งแวดล้อม (JGSEE) ซึ่งนำทีมโดย รศ.ดร.อภิชัย เทอดเทียนวงษ์ ถือเป็นนักวิจัยกลุ่มแรกๆ ที่สามารถผลิตแผ่นเซลล์เชื้อเพลิงเดี่ยว ที่เป็นหัวใจของเครื่องผลิตกระแสไฟฟ้าเซลล์เชื้อเพลิง หลังจากทำการศึกษามากว่า 5 ปี ได้ทำการวิจัยด้านการผลิตไฮโดรเจนแบบโมบายยูนิต หรือการผลิตไฮโดรเจนแล้วใช้ได้เลยโดยไม่ต้องเก็บไว้สำรอง และศึกษาพัฒนาเซลล์เชื้อเพลิงให้มีราคาถูกลงและมีประสิทธิภาพมากขึ้น ทีมวิจัยสามารถสร้างเครื่องต้นแบบเซลล์เชื้อเพลิงได้แล้ว มีกำลังการผลิตกระแสไฟฟ้า 50 วัตต์ โดยหลักการทำงานของเซลล์เชื้อเพลิงประกอบด้วย ชุดประกบเมมเบรนอิเล็กโทรดซึ่งมีขั้วอิเล็กโทรด 2 ขั้วคือ ขั้วลบและขั้วบวก ที่ขั้วลบจะมีการป้อนก๊าซไฮโดรเจนซึ่งจะแตกตัวให้โปรตอนและอิเล็กตรอนที่มีประจุลบ ส่วนขั้วบวกจะมีการป้อนก๊าซออกซิเจนหรืออากาศ และทำปฏิกิริยากับโปรตอนกลายเป็นน้ำและออกจากระบบ นอกจากนี้เซลล์เชื้อเพลิงยังมีอุปกรณ์ประกอบอื่นๆ อีก เช่น แผ่นสองขั้ว ซึ่งทำหน้าที่เป็นช่องป้อนก๊าซและเป็นทางไหลของอิเล็กตรอนและแผ่นสะสมกระแส ซึ่งทำหน้าที่ดึงกระแสไฟฟ้าออกจากเซลล์แล้วนำไปใช้งาน อย่างไรก็ดี แม้จะสามารถสร้างเครื่องต้นแบบเซลล์เชื้อเพลิงได้แล้ว แต่ก็ผลิตกระแสไฟฟ้าได้เพียง 50 วัตต์ ยังไม่เพียงพอในการขับเคลื่อนรถยนต์ที่ต้องใช้ขนาดกำลังกระแสไฟฟ้าถึง 50 กิโลวัตต์ หากจะเพิ่มกำลังการผลิตกระแสไฟฟ้าต้องเพิ่มขนาดพื้นที่หน้าตัดของเซลล์ให้ใหญ่ขึ้น และนำมาซ้อนกันหลายเซลล์เป็นหอเซลล์เชื้อเพลิง ในอนาคตทีมวิจัยมีแผนที่จะขยายกำลังการผลิตของเซลล์เชื้อเพลิงขึ้นเป็นลำดับจนถึง 50 กิโลวัตต์ในที่สุด. (ไทยรัฐ จันทร์ที่ 26 ธ.ค. 48 http://www.thairath.co.th)





พัฒนาสวิตช์เปิด-ปิดยีน ใช้รักษาโรคให้ปลอดภัย

คณะนักวิจัยที่ศูนย์การแพทย์เซดาร์ส-ไซนาย แถลงว่า การใช้ยีน หรือหน่วยพันธุกรรมในการรักษาโรคบางครั้งเกิดผลข้างเคียง ที่เป็นพิษเนื่องจากยีนทำงานมากเกินไป และอาจทำให้ระบบภูมิต้านทานมีปฏิกิริยาเชิงลบต่อไวรัสที่ใช้เป็นพาหะนำยีนเข้าไปในร่างกาย ทางคณะผู้วิจัยเอาชนะปัญหานี้ได้ด้วยการพัฒนาตัวเปิดปิดยีนให้แก่พาหะนำยีน ซึ่งวิธีนี้จะเป็นประโยชน์อย่างมาก เพราะถึงแม้การรักษาโรคด้วยยีนจะเป็นความหวังในการรักษาโรคเกี่ยวกับระบบประสาท เช่น พาร์กินสัน แต่ไม่ใช่ว่าทุกโรคต้องการให้ยีนทำงานตลอดเวลา บางโรคต้องการให้ยีนทำงานเฉพาะเวลาอาการกำเริบเท่านั้น วารสารไวรัสวิทยาฉบับเดือนมกราคม 2549 นี้ ตีพิมพ์ผลงานวิจัยดังกล่าว เผยว่า สวิตช์เปิด-ปิดจะทำงานเมื่อร่างกายได้รับยาเตตร้าไซคลินซึ่งเป็นยาปฏิชีวนะ ยีนจะหยุดการทำงานโดยสิ้นเชิงเมื่อร่างกายไม่ต้องการ โดยใช้โปรตีนตัวหนึ่งเป็นตัวสั่งการ นอกจากนี้ ยังพัฒนาพาหะพิเศษที่นำยีนเข้าสู่ร่างกายโดยแทบไม่ไปกระตุ้น ให้ระบบภูมิต้านทานมีปฏิกิริยาที่ไม่ต้องการ ทางคณะวิจัยเตรียมทดลองขั้นต่อไปกับผู้ป่วยพาร์กินสันว่าระบบเปิด-ปิดยีนจะเป็นประโยชน์ต่อการรักษาโรคนี้หรือไม่. (ไทยรัฐ จันทร์ที่ 26 ธ.ค. 48 http://www.thairath.co.th)





วิจัยสาหร่ายเห็ดลาบ ใช้ปรับสภาพดินและกินได้ด้วย

“สาหร่ายเห็ดลาบ” หรือสาหร่าย สีน้ำเงินแกมเขียว (blue-alga, cyanobacterium) มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Nostoc commune Vaucher มีคุณสมบัติในการตรึงไนโตรเจน (N2-fixation) สาหร่ายชนิดนี้ จะมีลักษณะเป็นแผ่นวุ้นแบนบาง คล้ายเห็ดหูหนูสีเขียวที่ขึ้นบนดิน และชาวบ้านนิยมเก็บไปทำลาบ จึงได้ชื่อประจำท้องถิ่นว่า “เห็ดลาบ” สาหร่ายดังกล่าว สามารถนำมาใช้ประโยชน์ได้ทั้งในวงการเกษตร โดยการนำไปใช้เป็นสารปรับโครงสร้างดิน ใช้เป็นสารเพิ่มความข้นเหนียวในอุตสาหกรรมอาหารสร้างสรรค์เมนูอาหาร หลากหลายชนิดเทียบชั้นผลิตภัณฑ์ อาหารญี่ปุ่น และด้วยประโยชน์มากมายเหล่านี้ ทางสถาบันวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทย (วว.) กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ร่วมกับ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม จัดโครงการอนุรักษ์ภูมิปัญญาท้องถิ่นไทย พร้อมทั้งทำการศึกษาวิจัยการใช้ประโยชน์จากสาหร่ายเห็ดลาบอย่างยั่งยืน โดยได้รับทุนสนับสนุนจากโครงการพัฒนาองค์ความรู้ และศึกษานโยบายการจัดการทรัพยากรชีวภาพ ในประเทศไทย ดร.นงลักษณ์ ปานเกิดดี ผู้ว่าการ วว.เผยว่า “สาหร่ายชนิดนี้มีการเจริญเติบโต แพร่กระจายบนดินเค็ม ในพื้นที่คุ้มครองทรัพยากรธรรมชาติ ป่าดูนลำพัน ในเขตอำเภอนาเชือก จ. มหาสารคาม และพื้นที่ใกล้เคียง โดยจะมีปริมาณมากในฤดูฝน เมื่อฝนตกทำให้สาหร่ายซึ่งในหน้าร้อน จะหดตัว เป็นแผ่นบางกรอบคล้ายกระดาษ จะดูดซับน้ำฝนขยายตัว เป็นแผ่นวุ้นบางไม่มีรสชาติ มีเนื้อนิ่มหยุ่นแต่กรอบ คล้ายสาหร่ายทะเลวากาเหมะ (Wakame, Undaria pinnatifida) ที่นิยมบริโภคในญี่ปุ่น” จากการนำมาวิเคราะห์ เพื่อหาคุณค่าทางอาหารของสาหร่ายเห็ดลาบจากแหล่งธรรมชาติ พบว่ามีโปรตีน 20 เปอร์เซ็นต์ โดยมีกรดอะมิโนจำเป็นอยู่ครบถ้วน มีไขมันต่ำเพียง 0.02 เปอร์เซ็นต์ และมีใยอาหารสูงถึง 43 เปอร์เซ็นต์ ในขณะที่มีใยอาหารเพียง 1 ใน 16 ส่วนของตัวอย่างจากแหล่งธรรมชาติ เนื่องจากใยอาหารที่เป็น “พอลิแซ็กคาไรด์” จะถูกผลิตในรูปของเหลวที่หลั่งออกนอกเซลล์ มากกว่าการผลิตในรูปของเมือกห่อหุ้มเซลล์ ซึ่ง “พอลิแซ็กคาไรด์” ที่หลั่งออกนอกเซลล์นี้มีศักยภาพในการ นำไปใช้ประโยชน์ทางการเกษตร โดยเป็นสารปรับโครงสร้างดิน หรือใช้ในอุตสาหกรรมอาหารโดยเป็นสารเพิ่มความข้นเหนียว ผู้สนใจทั่วไปสามารถสอบถาม รายละเอียดเพิ่มเติมและขอรับบริการ เกี่ยวกับสาหร่ายหรือจุลินทรีย์ได้ที่ศูนย์จุลินทรีย์ วว. โทรศัพท์ 0-2577-9000 ต่อ 9030, 9034 ในวันเวลาราชการ. (ไทยรัฐ จันทร์ที่ 26 ธ.ค. 48 http://www.thairath.co.th)





วช.หนุนศึกษาฟาร์มปลอดเชื้อสกัดหวัดนก

ศ.ดร.อานนท์ บุณยะรัตเวช เลขาธิการคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ (วช.) เปิดเผยว่า วช.ให้การสนับสนุนนักวิจัยไทยศึกษาระบบการเลี้ยงฟาร์มไก่แบบใหม่ เพื่อแก้ปัญหาการระบาดของไข้หวัดนก ตามข้อเสนอแนะขององค์การอนามัยสัตว์โลก (OIE) องค์กรสากลที่มีหน้าที่เฝ้าระวังโรคระบาดในสัตว์ ผศ.น.สพ.ดร.ศิริชัย วงษ์นาคเพ็ชร์ ผู้อำนวยการชุดโครงการวิจัย จากคณะสัตวแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ กล่าวถึงระบบการเลี้ยงไก่แบบใหม่ที่เรียกว่า Compartmentalization ว่า เป็นระบบที่กำหนดพื้นที่กันชนสำหรับเลี้ยงไก่ เพื่อความสะดวกในการควบคุมการติดเชื้อไข้หวัดนก ขณะเดียวกัน ยังมีข้อกำหนดเกี่ยวกับความปลอดภัยทางชีวภาพมาใช้เฝ้าระวังควบคู่ไปด้วย ระบบดังกล่าวจะทำควบคู่ไปกับการเฝ้าระวังอย่างเข้มงวด โดยแต่ละฟาร์มจะต้องสร้างเขตกันชนขึ้นมาล้อมรอบฟาร์มไก่ในรัศมีประมาณ 1 กิโลเมตร เพื่อป้องกันเชื้อไข้หวัดนกจากภายนอกไม่ให้เล็ดลอด เข้ามายังฟาร์มจนส่งผลเสียหายให้กับไก่เนื้อส่งออก แทนมาตรการฆ่าทำลายสัตว์ปีกทั้งหมด องค์การอนามัยสัตว์โลก ได้แนะนำให้กลุ่มประเทศสมาชิกที่ประสบปัญหาการระบาดของโรคไข้หวัดนก ใช้ระบบ Compartmentalization ในการควบคุมฟาร์มไก่ เป็ด เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับประเทศคู่ค้ามากขึ้น โดยระบบดังกล่าวเป็นการเฝ้าระวังและติดตามโรคไข้หวัดนกในฟาร์มสัตว์ปีกโดยมีมาตรฐานความปลอดภัยทางชีวภาพเข้ามาเกี่ยวข้อง ทั้งนี้ วช.มีแผนที่จะนำงานวิจัยเข้ามาช่วยประเมินและปรับปรุงระบบ ompartmentalization ในฟาร์มเลี้ยงไก่ให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น โดยงานวิจัยดังกล่าวจะทำในลักษณะคู่ขนานร่วมกับกรมปศุสัตว์ที่กำลังสร้างระบบดังกล่าวในพื้นที่นำร่องช่วงต้นปีหน้า (2549) โดยไทยจะเป็นประเทศแรกที่นำระบบดังกล่าวมาใช้ (กรุงเทพธุรกิจ จันทร์ที่ 26 ธ.ค. 48 http://www.bangkokbiznews.com)





สั่งเปิด-ปิด"ยีน"รักษาโรคประสาท

คณะนักวิจัยเซดาร์-ไซนาย แถลงว่า การใช้ยีนรักษาโรคบางครั้งเกิดผลข้างเคียงที่เป็นพิษเนื่องจากยีนทำงานมากเกินไป และอาจทำให้ระบบภูมิต้านทานมีปฏิกิริยาเชิงลบต่อไวรัสที่ใช้เป็นพาหะนำยีนเข้าไปในร่างกาย แต่ทางคณะเอาชนะปัญหานี้ได้แล้วด้วยการพัฒนาตัวเปิด-ปิดยีนให้แก่พาหะนำยีน วิธีนี้เป็นประโยชน์อย่างมาก เพราะถึงแม้การรักษาโรคด้วยยีนจะเป็นความหวังในการรักษาโรคเกี่ยวกับระบบประสาท เช่น พาร์กินสัน แต่ไม่ใช่ว่าทุกโรคต้องการให้ยีนทำงานตลอดเวลา บางโรคต้องการให้ยีนทำงานเฉพาะเวลาอาการกำเริบเท่านั้น "สวิตช์เปิด-ปิดยีน จะทำงานเมื่อร่างกายได้รับยาเตตร้าไซคลินซึ่งเป็นยาปฏิชีวนะ ยีนจะหยุดการทำงานโดยสิ้นเชิงเมื่อร่างกายไม่ต้องการโดยใช้โปรตีนตัวหนึ่งเป็นตัวสั่งการ นอกจากนี้ ยังพัฒนาพาหะพิเศษที่นำยีนเข้าสู่ร่างกายโดยแทบไม่ไปกระตุ้นให้ระบบภูมิต้านทานมีปฏิกิริยาที่ไม่ต้องการ เตรียมทดลองขั้นต่อไปกับผู้ป่วยพาร์กินสันว่าระบบเปิด-ปิดยีน จะเป็นประโยชน์ต่อการรักษาโรคหรือไม่ (ข่าวสด จันทร์ที่ 26 ธ.ค. 48 http://www.matichon.co.th/khaosod





เครื่องดนตรีอะบอริจินส์แก้"กรน"

คณะนักวิจัยในสวิตเซอร์แลนด์พบว่า การฝึกเครื่องดนตรีพื้นเมืองของชาวอะบอริจินส์ในออสเตรเลีย ช่วยแก้ปัญหานอนกรนได้ รายงานที่ลงพิมพ์ในวารสารการแพทย์อังกฤษ ระบุว่า นักวิจัยได้ทดลองกับผู้ป่วย 25 คน ที่มีปัญหานอนกรนและภาวะหยุดหายใจขณะหลับระดับปานกลาง ผู้ป่วยครึ่งหนึ่งฝึกเป่า "ดิดเกอริดู" เครื่องเล่นดนตรีไม้ไผ่ของชนพื้นเมืองชาวอะบอริจินส์ทุกวัน เป็นไม้ไผ่ยาว 1.5 เมตร มีถิ่นกำเนิดอยู่ทางเหนือของออสเตรเลีย และมักทำมาจากลำต้นที่ถูกปลวกกินจนข้างในกลวง หลังจากฝึกเล่นไปได้นาน 4 เดือน ผู้ป่วยมีอาการดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ทั้งเรื่องภาวะหยุดหายใจขณะหลับและการง่วงนอนตอนกลางวัน ขณะที่คู่นอนของผู้ป่วยเผยว่า ถูกรบกวนจากเสียงนอนกรนน้อยลง คณะนักวิจัยอธิบายว่า ผู้ป่วยมีอาการดีขึ้น เนื่องจากการฝึกเป่าเครื่องดนตรีชนิดนี้ช่วยให้ระบบทางเดินหายใจส่วนบนทำงานดีขึ้น หวังว่าผลการวิจัยนี้จะสร้างความหวังให้แก่ผู้ป่วยที่มีปัญหานอนกรนและภาวะหยุดหายใจขณะหลับปานกลาง รวมไปถึงคู่นอนของผู้ป่วยด้วย (ข่าวสด จันทร์ที่ 26 ธ.ค. 48 http://www.matichon.co.th/khaosod)





เครื่องกะเทาะเปลือกถั่วลิสง ฝีมือเด็กไทยเอาใจเกษตรกร

3 นักศึกษาจากภาควิชาเครื่องจักรกลเกษตร คณะวิศวกรรมและเทคโนโลยีการเกษตร มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี ประกอบด้วย กฤษฎา เบ้าสิน จักรินทร์ บุตรโคตร และ ชาญยุทธ ลวดอุปโปร์ ที่ช่วยกันคิดประดิษฐ์เครื่องกะเทาะถั่วลิสงขึ้น โดยมี อ.เกียรติศักดิ์ แสงประดิษฐ์ คอยให้คำปรึกษา วิธีการทำงานของเครื่องกะเทาะถั่วลิสงนี้ว่าเป็นเครื่องที่พัฒนามาจากเครื่องต้นแบบที่ใช้มือหมุนโดยแรงงานคน แต่พัฒนาให้มีล้อยาง และมีมอเตอร์ขนาด 1/4 แรงเป็นต้นกำลัง โดยประกอบด้วยส่วนประกอบหลักๆ 3 ส่วน คือ ชุดที่ทำหน้าที่กะเทาะเปลือก ซึ่งส่วนนี้ใช้ล้อเหล็กติดยางพาราจำนวน 1 ล้อขนาดพูลเล่ย์สายพานล้อกะเทาะเส้นผ่าศูนย์กลาง 294 มิลลิเมตร โดยทำงานร่วมกับตะแกรงครึ่งวงกลม เมื่อใส่ถั่วลิสงลงไปในเครื่องชุดกะเทาะก็จะทำงาน โดยลูกล้อเหล็กจะทำหน้าที่กดกะเทาะถั่ว แต่ไม่ต้องห่วงว่าเมล็ดถั่วจะแตกเพราะลูกล้อได้ติดยางพาราโดยรอบจะเป็นตัวลดการบดของลูกเหล็ก ส่วนหน้าที่ของชุดสายพานลำเลียงจะควบคุมอัตราการไหลของฝักถั่วให้เหมาะสมกับความเร็วของล้อกะเทาะ เมื่อถั่วถูกกะเทาะออกจากเปลือกแล้ว เมล็ดถั่วที่ได้ก็จะไหลออกมาช่องทางออกส่วนเปลือกถั่วและสิ่งเจือปนจะถูกชุดทำความสะอาด คือพัดลมไฟฟ้าเป่าออกไปอีกช่องหนึ่งไม่ออกมาปะปนกัน ส่วนความเร็วรอบของล้อกะเทาะที่เหมาะสมเละไม่ทำให้เมล็ดถั่วแตกหักมากเกินไปคือ 250 รอบต่อนาที ราคาอยู่ที่ 6,000-7,000 บาท ผู้สนใจติดต่อสอบถามนักประดิษฐ์กลุ่มนี้ได้ที่ อ.เกียรติศักดิ์ แสงประดิษฐ์ อาจารย์ที่ปรึกษาของพวกเขา โทร.0-5841-5910 ได้ทุกวันในเวลาราชการ (คมชัดลึก อังคารที่ 27 ธ.ค. 48 http://www.komchadluek.net)





มช.ทำเครื่องปั่นแยกเลือด ดัดแปลงหม้อหุงข้าวไฟฟ้าตรวจโรคโลหิตจาง

ดร.ศักดา พรึงลำภู สถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์สุขภาพ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ เปิดเผยว่า ทีมงานร่วมกันออกแบบ "เครื่องปั่นเลือด" ราคาประหยัดเพื่อใช้ในสถานพยาบาลระดับชุมชน โดยพัฒนาต่อยอดจาก "เครื่องมือวิเคราะห์ไขมันในน้ำนมดิบของโคนม" ซึ่งเป็นผลงานที่คิดค้นขึ้นก่อนหน้า ซึ่งทำงานโดยอาศัยหลักการหมุนเหวี่ยงแยกพลาสมา หรือน้ำเหลืองออกจากเลือด สำหรับเครื่องปั่นเลือดนี้ ได้ดัดแปลงหม้อหุงข้าวไฟฟ้าติดตั้งมอเตอร์พัดลม พร้อมทั้งคำนวณหาเส้นผ่าศูนย์กลาง และปรับลดกำลังการเหวี่ยง หรือความเร็วรอบให้เหมาะสมกับลักษณะเลือดคน ทั้งยังออกแบบให้สามารถตรวจตัวอย่างเลือดได้มากที่สุด 24 ตัวอย่างต่อครั้ง อย่างไรก็ตามผลงานเครื่องปั่นเลือดนี้ ใช้เวลาในการเหวี่ยงนานถึง 45 นาที แม้ว่าจะช่วยถนอมตัวอย่างเลือดไม่ให้เสียหาย แต่ไม่เหมาะสำหรับการตรวจวินิจฉัยในกรณีฉุกเฉิน สถานีอนามัยตามชุมชนทั่วไปมีความประสงค์ที่จะตรวจคัดกรองผู้ป่วยภาวะโลหิตจาง ซึ่งเป็นโรคที่พบเป็นจำนวนมากในภาคเหนือ เนื่องจากการขาดธาตุเหล็ก ขณะที่เครื่องปั่นแยกพลาสมาที่ใช้ตามโรงพยาบาลขนาดใหญ่ มีราคา 60,000-100,000 บาท ฉะนั้น สถานีอนามัยทั่วไปจึงไม่สามารถซื้อหามาประจำ เพื่อเฝ้าระวังในระดับชุมชน ผลงานเครื่องปั่นเลือดยังขนย้ายสะดวก เนื่องจากมีขนาดเล็ก น้ำหนักเบาและบำรุงรักษาง่าย ส่วนต้นทุนการดัดแปลงอยู่ประมาณ 6,000 บาท ซึ่งคาดว่าจะลดลงอีก หากมีการผลิตจำนวนมากในเชิงพาณิชย์ ทั้งนี้ ประโยชน์ใช้สอยนอกจากจะแยกน้ำเหลืองออกจากตัวอย่างเลือดแล้ว อุปกรณ์ชิ้นนี้ยังสามารถประยุกต์ใช้คาดคะเนค่าเม็ดเลือดแดง เพื่อวิเคราะห์โรคทางพันธุกรรมได้ด้วย อุปกรณ์ดังกล่าวซึ่งได้รับรางวัลชมเชยผลงานประดิษฐ์คิดค้น ประจำปี 2549 สาขาวิทยาศาสตร์กายภาพและคณิตศาสตร์ จากสำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ (วช.) (คมชัดลึก อังคารที่ 27 ธ.ค. 48 http://www.komchadluek.net)





ซอฟต์แวร์ลดภาระโรงงานพลาสติก สั่งงานเครื่องจักรแม่นยำไม่ง้อนายช่าง

ผศ.ชวลิต แสงสวัสดิ์ อาจารย์ประจำภาควิชาวัสดุและโลหการ คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี ร่วมกับนายบุญเจริญ เรืองวิโรจนกุล ผู้จัดการบริษัท จอมทองเจริญ จำกัด ธุรกิจด้านการผลิตถุงพลาสติก และเป็นศิษย์เก่าของมหาวิทยาลัย ร่วมมือกันออกแบบและสร้างโปรแกรมสำเร็จรูป สำหรับงานเป่าฟิล์มพลาสติก ซึ่งเป็นโปรแกรมคอมพิวเตอร์อย่างง่าย สำหรับคำนวณงานเป่าฟิล์มพลาสติกแทนการคำนวณของผู้เชี่ยวชาญ การควบคุมการเป่าฟิล์ม จัดเป็นขั้นตอนการผลิตสำคัญและยุ่งยากที่สุด ในอุตสาหกรรมการผลิตถุงพลาสติก เพราะเครื่องจักรที่ใช้ในการเป่าฟิล์มเพื่อผลิตถุงพลาสติกจะมีกลไกที่ซับซ้อน ดังนั้น การควบคุมเครื่องจึงจำเป็นต้องอาศัยบุคลากร ที่มีความชำนาญและประสบการณ์เข้าควบคุม และคอยสังเกตตลอดกระบวนการผลิต นอกจากนี้ ในการผลิตแต่ละครั้งต้องออก "ใบตั้งเครื่อง" จากแผนกวางแผนการผลิต ที่ต้องใช้ความรู้เชิงเทคโนโลยีพลาสติก และการคิดคำนวณคณิตศาสตร์เชิงวิศวกรรมเข้ามาช่วยทุกครั้ง และด้วยเหตุที่กระบวนการผลิต ต้องอาศัยความรอบคอบและความแม่นยำอย่างมาก ทั้งสองจึงช่วยกันพัฒนาโปรแกรมคอมพิวเตอร์สำเร็จรูป เพื่อให้คำนวณความถูกต้องและแม่นยำแทนมนุษย์ โปรแกรมดังกล่าวใช้งานไม่ยุ่งยาก เพียงแต่ผู้ควบคุมจะต้องป้อนข้อมูลต่างๆ ที่จำเป็นสำหรับเครื่องเป่าฟิล์มพลาสติก อาทิ รายละเอียดของได สกรู วัสดุ วัตถุดิบ และรายละเอียดของเครื่องจักร เช่น ชื่อรุ่น ข้อมูลของชุดลูกกลิ้งดึง และข้อมูลของชุดลูกกลิ้งม้วน จากนั้นคลิกปุ่มคำนวณ โปรแกรมก็จะคำนวณและสร้างใบตั้งสภาวะเครื่องให้โดยอัตโนมัติ จากนั้นเมื่อได้ใบตั้งมาแล้ว จะนำไปให้วิศวกรเซ็นชื่อกำกับ ก่อนนำไปใช้ตั้งเครื่องจักรในโรงงานต่อไป ส่วนข้อดีที่เห็นชัดเจนของโปรแกรมสำเร็จรูปชุดนี้ ก็คือช่วยลดความยุ่งยากของขั้นตอนการควบคุมเครื่องจักร และลดระยะเวลาในการตั้งเครื่อง รวมทั้งลดการสูญเสียอันเกิดจากความผิดพลาดในการตั้งเครื่องได้ (คมชัดลึก อังคารที่ 27 ธ.ค. 48 http://www.komchadluek.net)





ยาคุมกำเนิดช่วยลดปัจจัยเสี่ยง การเกิดโรคมัลติเพิลสคลีโรสิส

วารสารอาร์ไคฟ์ ออฟ นิวโรโลจี รายงานผลการศึกษาที่พบว่าผู้หญิงที่กินยาคุมกำเนิดสามารถลดปัจจัยเสี่ยง ในการเป็นโรคมัลติเพิลสคลีโรสิส ลงได้ 40 เปอร์เซ็นต์ เมื่อเทียบกับกลุ่มที่ไม่ได้กินยาเม็ดคุมกำเนิด สำหรับโรคนี้จะเกี่ยวกับระบบประสาทถูกทำลาย มีกลุ่มอาการหลายอย่างเช่น มีอาการเหนื่อยง่าย เคลื่อนไหวลำบาก มีความยากลำบากในการพูดและความจำเป็นต้น นักวิจัยได้เปรียบเทียบผลการตรวจร่างกายของผู้หญิง 106 ราย ที่มาตรวจพบว่าเป็นโรคมัลติเพิลสคลีโรสิสในช่วงระหว่างเดือนมกราคม 2536 และธันวาคม 2543 เทียบกับผู้หญิงอีก 1,001 คนที่ไม่ได้เป็นโรคนี้โดยใช้ข้อมูลจากฐานข้อมูลวิจัยบริติช เจเนอรัล แพรคทิซ ผลปรากฏว่าการเกิดโรคมัลติเพิลสคลีโรสิสลดลง 40 เปอร์เซ็นต์ ในกลุ่มผู้หญิงที่มีการกินยาเม็ดคุมกำเนิด เมื่อเทียบกับกลุ่มที่ไม่ได้กินยาคุม. (ไทยรัฐ พุธที่ 28 ม.ค. 48 http://www.thairath.co.th)





สนามไฟฟ้าแม่เหล็กรอบตัว มีอิทธิพลต่ออารมณ์คน

ถึงแม้ว่าวงการอุตสาหกรรมโทรศัพท์มือถือจะได้ปฏิเสธถึงอันตรายของมันกับมนุษย์ไปแล้ว แต่ยังมีการวิจัยใหม่เมื่อเร็วๆนี้ว่า “หมอกแม่เหล็กไฟฟ้า” ของโทรศัพท์มือถือ และเครื่องอิเล็กทรอนิกส์อื่นๆอาจเป็นตัวการ ทำให้เกิดภาวะซึมเศร้าขึ้นมาได้ การศึกษาวิจัยของออสเตรเลีย ทำเมื่อระหว่างปี พ.ศ. 2511 ถึง พ.ศ. 2545 ได้ลงความเห็นว่า อัตราการฆ่าตัวตายได้เพิ่มสูงขึ้นเพราะมีพายุแม่เหล็กเกิดขึ้นในช่วงเวลานั้น “ตัวอย่างมีอยู่มากมาย มีจำนวนบุคคลที่เกี่ยวข้องในช่วงเวลานั้นเป็นชาย 51,845 คน และหญิง 16,327 คน มันส่อว่ารังสีไฟฟ้าแม่เหล็กมีอิทธิพลต่อพฤติกรรมมนุษย์ การศึกษาของศาสตราจารย์ไมเคิล เบิร์คแห่งมหาวิทยาลัยเมลเบิร์น ได้ยืนยันสมมติฐานว่า สนามไฟฟ้าแม่เหล็กในสิ่งแวดล้อม ของเรา อาจมีอิทธิพลรบกวนกับอารมณ์ และกระตุ้นความคิดของการฆ่าตัวตาย. (ไทยรัฐ พฤหัสบดีที่ 29 ธ.ค. 48 http://www.thairath.co.th)





กระเป๋าหุ้มแผงโซลาร์ชาร์จไฟมือถือ

โจ ไฮเนค นักศึกษาปริญญาเอกด้านวิศวกรรมเครื่องกล จากมหาวิทยาลัยไอโอวาสเตท สหรัฐ ได้พัฒนากระเป๋าถือ "โซลาร์โจ้ เพาเวอร์ เพิร์ส" ส่งเข้าแข่งขันในงานแข่งออกแบบกระเป๋า ซึ่งเป็นหนึ่งในวิชาออกแบบเครื่องนุ่งห่มที่เขาลงเรียน แต่เป้าหมายสุดท้ายคือ ผลิตออกจำหน่ายในราคา 300 ดอลลาร์ หรือราวหมื่นกว่าบาท กระเป๋าถือที่ว่าเป็นทรงสี่เหลี่ยมจตุรัสสีดำ หุ้มด้วยแผงโซลาร์เซลล์ที่เคลือบด้วยลามิเนต ดูเผินๆ คล้ายกับฟิล์มกล้องถ่ายรูป มีลายเส้นสีขาวตัดเป็นทาง และมีหูหิ้วทำจากพลาสติกใสอยู่ด้านบน กระเป๋าถือใบนี้ ไม่ได้เอาไว้ใส่ของกระจุกกระจิกเท่านั้น แต่แผงโซลาร์เซลล์ที่กรุรอบตัวกระเป๋า จะทำหน้าที่ผลิตพลังงานไฟฟ้าเพื่อจ่ายให้กับอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ขนาดเล็กที่มีช่องเสียบยูเอสบี เช่น โทรศัพท์มือถือ พีดีเอ ไอพอด อุปกรณ์ระบุตำแหน่งด้วยดาวเทียม เครื่องบันทึกเสียง และกล้องพกพา ในกระเป๋าบุด้วยผ้าบุเพื่อป้องกันความเสียหาย และมีซิปรูดเก็บอย่างปลอดภัย มาร์ค ไบรเดน ศาสตราจารย์วิศวกรรมเครื่องกล จากรัฐไอโอวา เชื่อว่า แนวคิดกระเป๋าถือโซลาร์เซลล์ จะได้รับความสนใจและได้รับความนิยม จนพัฒนาไปสู่การออกแบบชุดเสื้อผ้าสวมใส่ที่ติดแผงโซลาร์เซลล์ ปัจจุบันมีบริษัทที่ผลิตกระเป๋าสะพายที่เปลี่ยนพลังงานแสงอาทิตย์ไปเก็บไว้ในแบตเตอรี่แห้ง ซึ่งพร้อมใช้งานทันที (คมชัดลึก พฤหัสบดีที่ 29 ธ.ค. 48 http://www.komchadluek.net)





แนะใช้หอเก็บน้ำหลบสึนามิ เหมือนญี่ปุ่นชี้แข้งแรง-ต้านได้

วิศวกรเอไอทีเสนอทางเลือกใช้หอเก็บน้ำ เป็นที่หลบภัยยามเกิดสึนามิเลียนแบบหอหลบภัยญี่ปุ่น เผยโครงสร้างแข็งแรงและไม่สั่นคลอนเมื่อถูกคลื่นยักษ์ถาโถม แนะพิจารณาสร้างอาคารที่พักให้แข็งแรงรับมือสึนามิ ควรแบ่งโซนพื้นที่ตามระดับความเสี่ยง เพื่อลดสูญเสียงบประมาณเกินจำเป็น รศ.ดร.เป็นหนึ่ง วานิชชัย คณะวิศวกรรมศาสตร์ สถาบันเทคโนโลยีแห่งเอเซีย (เอไอที) เปิดเผยว่า แนวคิดของการสร้างอาคารบ้านเรือนในพื้นที่ชายหาดให้สามารถรับมือกับสึนามิได้นั้น ควรแยกส่วนพิจารณาเป็นเขตพื้นที่ เพราะบริเวณแนวชายฝั่งจะมีพื้นที่เสี่ยงภัยหลายระดับ ดังนั้น การลงทุนก่อสร้างอาคารที่เน้นแข็งแรงพิเศษในบางจุดอาจไม่จำเป็น นอกจากนี้ ความจำเป็นในการสร้างอาคารบ้านเรือนให้ทนกับสึนามิอาจไม่ใช่เรื่องใหญ่ เพราะปัจจุบันพื้นที่เสี่ยงภัยได้ติดตั้งระบบเตือนภัยเรียบร้อยแล้ว ดังนั้น การยอมรับในความเสียหายของอาคารบ้านเรือนจากภัยสึนามินั้น จึงขึ้นอยู่กับเจ้าของเป็นหลัก เพราะสึนามิไม่ได้เกิดขึ้นบ่อยครั้ง และอาจทิ้งช่วงนานเป็นสิบปีหรือหลายร้อยปี จึงจะย้อนกลับมาประเทศไทยอีกสักครั้ง ดังนั้น การซ่อมแซมในภายหลังน่าจะเป็นทางออกที่น่าสนใจ นักวิจัยยังเสนอว่า หอถังน้ำหรือหอเก็บน้ำตามชุมชนต่างๆ น่าจะประยุกต์ใช้เป็นหอหลบภัยสึนามิ เหมือนที่ญี่ปุ่นใช้งานอยู่ในขณะนี้ โดยปรับโครงสร้างให้แข็งแรงขึ้น และเพิ่มพื้นที่ฐานด้านบน เพื่อรองรับคนหนีภัยได้ในจำนวนหนึ่ง ทั้งนี้ หอหลบภัยในญี่ปุ่นออกแบบมาเพื่อรับมือกับกรณีเกิดภัยพิบัติต่างๆ โดยเฉพาะคลื่นยักษ์สึนามิ โดยคนในชุมชนสามารถวิ่งขึ้นมาหลบภัยได้ภายในเวลา 5 นาที หลังจากได้รับสัญญาณเตือนภัย (คมชัดลึก พฤหัสบดีที่ 29 ธ.ค. 48 http://www.komchadluek.net)





เครื่องซักผ้าไฮเทค"แอร์วอช"

เกเบรียล ตัน กับ เวนดี้ ฉัว สองนักศึกษาคณะอุตสาหกรรมการออกแบบ มหาวิทยาลัยแห่งชาติสิงคโปร์ ประดิษฐ์ต้นแบบเครื่องซักผ้าแห่งอนาคต รุ่น "แอร์วอช" ซึ่งไม่ต้องใช้น้ำและผงซักฟอกในการซักผ้า ใช้"อากาศ"แทน คาดว่าในอนาคตไม่เกิน 15 ปีจากนี้ เครื่องซักผ้าแอร์วอชจะได้รับความนิยมในตลาดโลก นวัตกรรมแอร์วอช ได้รับรางวัลชนะเลิศจากการประกวดอินเตอร์เนชั่นแนล อิเล็กโทรลักซ์ ดีไซน์ แล็บ ซึ่งสนับสนุนโดยบริษัท อิเล็กโทรลักซ์กรุ๊ป ทั้งนี้ เครื่องซักผ้าโดยทั่วไปนั้นต้องใช้น้ำและผงซักฟอกเป็นส่วนประกอบหลักในการทำความสะอาดเนื้อผ้า แต่แอร์วอชใช้ส่วนประกอบต่างออกไป นั่นคือ อะตอมของ "ไอออน" ที่มีประจุเป็นลบ บวกกับแรงอัดอากาศ และสารต่อต้านแบคทีเรีย หลักการทำงานของแอร์วอชว่า เริ่มจากการนำเสื้อผ้าแขวนและสอดเข้าไปในเครื่องแอร์วอช ขั้นตอนต่อมา ตัวเครื่องจะยิงประจุไอออนและแรงดันอากาศแทรกซึมเข้าไปในเนื้อผ้าเพื่อกำจัดคราบสกปรก เช่น คราบฝุ่นผงต่างๆ นอกจากนั้น ยังยิงสารต่อต้านแบคทีเรียเข้าไปในเนื้อผ้าด้วยเพื่อเพิ่มความสะอาด เบื้องต้นแอร์วอชสามารถใช้ซักผ้าได้ทีละตัว แต่ละตัวใช้เวลาซักทำความสะอาด 3-12 นาที สำหรับเทคโนโลยีที่นำมาใช้ประดิษฐ์แอร์วอชดัดแปลงมาจากระบบการทำงานของเครื่องปรับอากาศและเครื่องกรองอากาศ ทีมผู้พัฒนาเชื่อว่าแอร์วอชจะได้รับความนิยมในอนาคต ไม่ใช่เพราะเป็นของหรูหรามีราคาแพง แต่เพราะมีคุณสมบัติช่วยพิทักษ์สิ่งแวดล้อม ช่วยลดการใช้สารเคมี เช่น ผงซักฟอก (ข่าวสด พฤหัสบดีที่ 29 ธ.ค. 48 http://www.matichon.co.th/khaosod)





ระบบรักษาความปลอดภัย สแกนเหงื่อพร้อมลายนิ้วมือ

การเข้ารหัสรักษาความปลอดภัยด้วยการสแกนลายนิ้วมือ หรือการเข้ารหัสชีวภาพนั้น ทุกวันนี้ดูเหมือนจะเป็นเรื่องธรรมดาไปแล้ว นักวิทยาศาสตร์จึงจำเป็นต้องหาวิธีการเข้ารหัสใหม่ๆ เพื่อป้องกันไม่ให้กลุ่มอาชญากร หรือแม้กระทั่งกลุ่มก่อการร้ายปลอมแปลงลายนิ้วมือได้ง่ายๆ วิธีการปลอมลายนิ้วมือมี 2 แบบหลักๆ อย่างแรกออกแนว "โลว์-เทค" โหดร้ายสักหน่อย เพราะต้องตัดนิ้วมือหรือกรีดเอาผิวหนังลายนิ้วมือของเจ้าของรหัสลับมาใช้เข้ารหัส ส่วนวิธีที่ 2 ซับซ้อนขึ้นมาอีกนิด ต้องเก็บลายนิ้วมือมา "ขึ้นแบบ" ทำลายนิ้วมือปลอมด้วยสารชนิดต่างๆ เช่น "เจลลาติน" ปัจจุบัน คณะนักวิจัยจากมหาวิทยาลัยคลาร์กสัน สหรัฐอเมริกา กำลังพัฒนาวิธีป้องกันการปลอมแปลงลายนิ้วมือแบบใหม่ล่าสุด นั่นคือ แทนที่จะให้เครื่องสแกนเนอร์ตรวจเฉพาะลายนิ้วมือเพียงอย่างเดียว แต่คราวนี้จะตรวจลงลึกไปถึงรายละเอียดของ "เหงื่อ" ที่ฝังอยู่ในร่องลายนิ้วมือกันเลยทีเดียว โครงการดังกล่าวของมหาวิทยาลัยคลาร์กสัน ได้รับเงินสนับสนุนงานวิจัยก้อนแรก 120 กว่าล้านบาทจากสภาความมั่นคงแห่งชาติสหรัฐ (เอ็นเอสเอ) มีผู้ช่วยศาสตราจารย์สเตฟานี ชัคเคอร์ จากคณะวิศวกรรมไฟฟ้าและคอมพิวเตอร์ เป็นหัวหน้าทีมวิจัย ชัคเคอร์ ระบุว่า "เหงื่อ" คืออาวุธสำคัญที่ทั้งนิ้วจากศพ ลายนิ้วมือปลอม หรือระบบคอมพิวเตอร์สร้างรอยนิ้วมือเทียมไม่มีและทำปลอมขึ้นมาไม่ได้ ระบบ "สแกนลายนิ้วมือและเหงื่อ" รุ่นใหม่ที่ตนพัฒนาขึ้นมา จะบันทึกลักษณะของเหงื่อที่ติดอยู่ในร่องบนลายนิ้วมือของคนแต่ละคน ซึ่งแน่นอนว่าไม่มีทางเหมือนกัน ผลการทดลองใช้ลายนิ้วมือปลอม 60 ชุดเข้ารหัสลับพบว่า ร้อยละ 90 เปิดรหัสลับได้สบายๆ แต่เมื่อเพิ่มระบบตรวจเหงื่อเข้าไปจะลดลงมาเหลือร้อยละ 10 เท่านั้น นับเป็นอีก 1 เทคโนโลยีที่น่าสนใจและชาวโลกอาจมีโอกาสได้ใช้กันในอนาคต ถ้าราคาไม่แพงจนเกินไป (ข่าวสด พฤหัสบดีที่ 29 ธ.ค. 48 http://www.matichon.co.th/khaosod)





เผยนักวิทยาศาสตร์จีน ทดลองยารักษาหวัดนกได้ดีกว่าทามิฟลู

หนังสือพิมพ์ของทางการจีนรายงานว่า นักวิทยาศาสตร์ ในชาติของตนสามารถผลิตยารักษาผู้ที่ติดเชื้อไวรัสไข้หวัดนก ได้ดีกว่ายาทามิฟลูที่ใช้กันอยู่อย่างกว้างขวาง หนังสือพิมพ์ไชน่า เดลี ระบุว่า คุณสมบัติของยาขนานใหม่นี้ คล้ายกับยาทามิฟลู คือสามารถยับยั้งไม่ให้เชื้อไวรัสแพร่ไปยังเซลล์ อื่นๆ แต่มีราคาถูกกว่ายาทามิฟลูของบริษัทโรชจากสวิตเซอร์แลนด์ ยาขนานใหม่พัฒนาโดยกลุ่มนักวิจัยของสถาบันวิทยาศาสตร์การแพทย์ทหาร และขณะนี้เสร็จสิ้นการทดลองทางคลินิกแล้ว รายงานระบุด้วยว่า ยาขนานนี้อาจผลิตโดยบริษัทยาในประเทศ และเก็บไว้ใช้ในกรณีเกิดการระบาดของไข้หวัดนกเท่านั้น. (ไทยรัฐ ศุกร์ที่ 30 ธ.ค. 48 http://www.thairath.co.th)





หมอไทยคิดสูตรยาฉีดทำหมันสุนัขแทนผ่าตัด

ศ.นพ.ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา อาจารย์ประจำคณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เปิดเผยว่า ทีมงานประสบความสำเร็จคิดค้นเทคนิคทำหมันสุนัขแบบใหม่แทนการผ่าตัดทำหมัน ด้วยการฉีดสารเคมีที่ชื่อ Zinc gluconate เข้าบริเวณอัณฑะของสุนัขเพศผู้ จากนั้นประมาณ 5 นาที ตัวยาดังกล่าวจะออกฤทธิ์ให้ลูกอัณฑะฝ่อลง ส่งผลให้ไม่สามารถผลิตอสุจิและเป็นหมันภายใน 4-6 สัปดาห์ ที่ผ่านมา วิธีการทำหมันสุนัขด้วยการฉีดสารเคมีใช้กันอย่างแพร่หลายในต่างประเทศ แต่มีข้อจำกัดคือใช้ได้กับสุนัขบางช่วงอายุเท่านั้น ทางกลุ่มวิจัยจึงศึกษาและปรับปรุงสูตรผสมในสารเคมีใหม่ โดยเน้นรักษาสัดส่วนตัวยาสำคัญคือ ซิงก์ กูโคเนต (Zinc gluconate) ให้เหมาะสม เพื่อให้เทคนิคทำหมันใหม่นี้สามารถใช้ได้กับสุนัขทุกช่วงอายุ อีกทั้งต้องมีความปลอดภัยสูงด้วย สำหรับงานวิจัยดังกล่าว ในขณะนี้ได้รับความสนใจเข้าร่วมพัฒนาจากผู้ประกอบการด้านเวชภัณฑ์ในไทย จึงมีความเป็นไปได้ที่จะผลิตเป็นสินค้าในระดับอุตสาหกรรม เนื่องจากสูตรเคมีต่างๆ ที่ใช้ประกอบเป็นตัวยาสามารถผลิตได้ในประเทศ ทำให้ต้นทุนนำเข้าสารเคมีลดลงเหลือเพียง 5% จากราคา 2,000 บาท เทคนิคใหม่นี้จะลดขั้นตอนยุ่งยากในการผ่าตัด ส่วนสุนัขจะไม่เจ็บปวดและไม่เสี่ยงต่อการติดเชื้อจากการผ่าตัด ทั้งยังประหยัดค่าใช้จ่ายในการดูแลสุนัขช่วงพักฟื้นหลังผ่าตัด โดยฉีดเพียงครั้งเดียวสามารถทำให้สุนัขเป็นหมันได้ตลอดชีวิต สำหรับโครงงานวิจัย "การทำหมันสุนัขอย่างมีมนุษยธรรมแบบใหม่" ได้รับทุนสนับสนุนจากโครงการส่งเสริมกลุ่มนักวิจัยอาชีพ ประจำปี 2547 โดยศูนย์พันธุวิศวกรรมและเทคโนโลยีชีวภาพแห่งชาติ (ไบโอเทค) จำนวน 19.97 ล้านบาท ซึ่งได้กำหนดระยะเวลาในการวิจัยไว้ทั้งสิ้น 5 ปี ขณะนี้ได้ดำเนินการวิจัยมาทั้งสิ้น 2 ระยะ เหลือเพียงระยะที่ 3 คือการทดสอบทำหมันให้สุนัขในภาคสนาม โดยกำลังหาพื้นที่ที่เหมาะสม และคาดว่าจะแล้วเสร็จภายในปี 2549 (กรุงเทพธุรกิจ ศุกร์ที่ 30 ธ.ค. 48 http://www.bangkokbiznews.com)





หมอศิริราชผลิต"เครื่องวัดระดับเลือด" ลดปัญหาทารกตัวเหลือง-สมองพิการ

ศ.นพ.เกรียงศักดิ์ จีระแพทย์ หัวหน้าหน่วยทารกแรกเกิด คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล กล่าวว่า ทารกแรกเกิดมีความเสี่ยงสูงต่อการเกิดภาวะตัวเหลือง ซึ่งมีผลให้สมองพิการ อาการดังกล่าวเกิดจากระดับบิลิรูบิน(สารสีเหลือง)ในเลือดสูง และไม่ได้รับการรักษาที่เหมาะสมในทารกแรกเกิด อย่างไรก็ตาม สามารถป้องกันได้หากมีการเฝ้าติดตามระดับบิลิรูบินในเลือดระหว่างที่ทารกอยู่ในโรงพยาบาลและภายหลังออกจากโรงพยาบาล แต่ปัจจุบันเครื่องวัดระดับบิลิรูบิน (bilirubin meter) ต้องนำเข้าจากต่างประเทศ ซึ่งมีราคาสูงถึง 150,000 บาท ทำให้โรงพยาบาลในต่างจังหวัด 719 แห่งทั่วประเทศ ขาดแคลนเครื่องดังกล่าว ทั้งๆ ที่มีอัตราการคลอดสูงถึง 285,512 คนต่อปี หรือประมาณ ร้อยละ 47.56 ของการคลอดทั่วประเทศ เพื่อลดปัญหาดังกล่าว ได้ทำการศึกษาและผลิตเครื่องวัดระดับบิลิรูบินในพลาสมาด้วยตาสำหรับทารกแรกเกิด เพื่อให้ทารกได้รับการตรวจอย่างทั่วถึง เป็นการเพิ่มประสิทธิภาพในการป้องกันไม่ให้เกิดภาวะตัวเหลือง อันส่งผลให้สมองพิการ สำหรับขั้นตอนการตรวจ แพทย์จะทำการเจาะเลือดทารกประมาณ 0.5 มิลลิลิตร แล้วนำไปแยกเม็ดเลือดแดง จากนั้นนำไปเทียบในเครื่องที่มีการสร้างแถบสีโดยใช้เทคโนโลยีคอมพิวเตอร์ ซึ่งจะระบุว่า ค่าบิลิรูบินระดับเท่าไรจึงจะเป็นอันตราย โดยเครื่องดังกล่าวสามารถวัดระดับบิลิรูบินในพลาสมาตั้งแต่ 2-30 มิลลิกรัมต่อเดซิลิตร ซึ่งจะต้องเทียบกับน้ำหนักตัวของทารกด้วย (มติชนรายวัน ศุกร์ที่ 30 ธ.ค. 48 http://www.matichon.co.th)





ข่าวทั่วไป


วิ่งจ๊อกกิ้งเป็นคุณต่อสมอง ให้มีสมาธิ-ความจำดี

นักวิทยาศาสตร์ในเยอรมนีพบว่าการออกกำลังกายด้วยการวิ่งเหยาะๆทำให้ผู้นั้นฉลาดขึ้น ทีมนักวิจัยด้านประสาทวิทยาของมหาวิทยาลัยอูล์ม ศึกษาพบว่า ความสามารถในการใช้สมองของนักวิ่งจ๊อกกิ้งมีเพิ่มขึ้น หลังจากออกแรงวิ่งเหยาะๆได้หลายสัปดาห์ โดยมีสมาธิเพิ่มขึ้น และความจำเกี่ยวกับเรื่องภาพดีขึ้น ทีมวิจัยได้ให้ผู้เข้าร่วมทดลองวิ่งเหยาะๆ สัปดาห์ละ 2 ครั้ง ครั้งละ 30 นาที หลังจากนั้นให้มาทำการทดสอบยากๆ ในภายหลัง ผลการทดลองพบว่าในขณะที่ความจำเกี่ยวกับตัวเลขของนักวิ่งดีขึ้นเล็กน้อย แต่ความสามารถในการนึกภาพ และความสามารถด้านอื่นที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้เช่น การดูแผนที่ ดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด อย่างไร ก็ตาม ยังไม่สามารถอธิบายได้ว่าเหตุใดจึงได้ ผลเป็นเช่นนั้น แต่นักจิตวิทยาบอกว่า เรื่องนี้น่าจะเกี่ยวกับสมองในส่วนของ “ฮิปโปแคมปัส” ที่เป็นกุญแจสำคัญในการทำหน้าที่เรื่องความจำหลายประการ. (ไทยรัฐ อังคารที่ 27 ธ.ค. 48 http://www.thairath.co.th)





4D…มิติแห่งการสัมผัส

4D หรือ 4 Dimension ความก้าวหน้าอีกขั้นของวงการภาพยนตร์ที่เพิ่มอรรถรสของการดูหนัง ผ่านการสัมผัสทางความรู้สึก 4D หรือภาพยนตร์ 4 มิติ คือการถ่ายทอดเรื่องราวของตัวแสดงผ่านภาพที่มีความกว้าง ยาว และลึก เหมือนภาพยนตร์ 3 มิติที่คุ้นตา โดยมิติที่ 4 ที่เพิ่มเข้ามา เป็นสภาพแวดล้อมระหว่างนั่งดู ซึ่งเกิดจากเครื่องยนต์กลไกต่าง ๆ ที่ติดตั้งไว้ภายในโรงภาพยนตร์ เพื่อให้ผู้ชมสัมผัสบรรยากาศประหนึ่งได้ร่วมอยู่ในเหตุการณ์จริง นอกจากโรงภาพยนตร์ระดับโลกอย่าง ยูนิเวอร์แซลและวอลท์ ดิสนีย์ ที่มีราคาค่าเข้าชมแพงลิบแล้ว ประเทศไทยก็มีห้องฉายภาพยนตร์ 4 มิติเช่นกัน ที่อุทยานการเรียนรู้ ชั้น 6 ทีเค พาร์ค ชื่อ “ICT 4D THEATRE” ซึ่งเป็นโรงภาพยนตร์ 4D แห่งเดียวในไทย ทุ่มทุนสร้าง 10 ล้านบาท เพื่อเป็นห้องฉายหนัง 4 มิติสาธิตให้กับเยาวชนของไทย มีเอฟเฟกต์ลม, น้ำ, การสั่นสะเทือนของเก้าอี้, ควัน, แสงจากแฟลชและ สปอตไลต์ (เดลินิวส์ อังคารที่ 27 ธ.ค. 48 http://www.dailynews.co.th)





เปิดชุมนุมลูกเสือเอเชียมั่นใจลูกเสือไทยพร้อม

ดร.จรวยพร ธรณินทร์ รองปลัดกระทรวงศึกษาธิการ ในฐานะโฆษกกระทรวงศึกษาธิการ(ศธ.) เปิดเผยถึงการจัดงานชุมนุมลูกเสือเอเชียแปซิฟิก ครั้งที่ 25 ณ บริเวณหาดยาว อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี ซึ่งจะมีขึ้นระหว่างวันที่ 28 ธ.ค.48 ถึงวันที่ 5 ม.ค. 49 ว่า จากการตรวจความเรียบร้อยของค่ายเพื่อรองรับลูกเสือและเจ้าหน้าที่จากประเทศสมาชิก 23 ประเทศ รวมถึงประเทศในทวีปอื่นอีก 10 ประเทศที่จะเข้าร่วมการชุมนุมนั้น ขณะนี้สถานที่จัดกิจกรรมต่าง ๆ และระบบสาธารณูปโภคมีความพร้อมสมบูรณ์ทุกด้านแล้ว โดยสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์อัครราชกุมารี จะเสด็จเป็นองค์ประธาน ในพิธีเปิดงานเวลา 16.00 น.วันที่ 28 ธ.ค. นี้ สำหรับผู้ที่จะเข้าร่วมการชุมนุมในครั้งนี้ประกอบด้วยคณะลูกเสือไทยจาก 175 เขตพื้นที่การศึกษา จำนวน 6,000 คน เจ้าหน้าที่จากประเทศไทย 3,000 คน และลูกเสือจากต่างประเทศอีก 2,000 คน ดังนั้นคาดว่าจะมีสมาชิกในค่ายครั้งนี้ไม่ต่ำกว่า 11,000 คน (เดลินิวส์ พุธที่ 28 ธ.ค. 48 http://www.dailynews.co.th)





"ทักษิณ" ทุ่ม 80 ล.หนุนให้ปี 2549ส่งเสริมวธ.ไทย

"ทักษิณ" อนุมัติงบ 80 ล้านบาทหนุนปี 49 เป็นปีส่งเสริมคุณค่าวัฒนธรรมไทย ตั้งแต่เดือน ธ.ค. 48-เม.ย. 49 ร่วมเฉลิมฉลองในโอกาสที่สมเด็จพระเทพฯ มีพระชนมายุครบ 50 พรรษา นางอุไรวรรณ เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม (วธ.) กล่าวถึงแนวทางการทำงานวัฒนธรรมในปี 2549 ว่า จะขับเคลื่อนทุกภารกิจของทุกหน่วยงานไม่ว่าจะเป็นกรมศิลปากร กรมการศาสนา สำนักงานคณะกรรมการวัฒนธรรมแห่งชาติ (สวช.) สำนักศิลปวัฒนธรรมร่วมสมัยอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะโครงการที่คณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบให้ปี 2548-2551 เป็นปีแห่งการส่งเสริมคุณค่าวัฒนธรรมไทย เพื่อเฉลิมฉลองในโอกาสที่สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี มีพระชนมายุครบ 50 พรรษา โดยขอพิจารณาเป็นปีๆ ไป สำหรับการดำเนินงานปี 2549 เน้นการประกวดความสามารถเด็กและเยาวชนด้านศิลปวัฒนธรรม อบรมเยาวชนสร้างสรรค์งานศิลปะ ให้ทุนการศึกษาแก่เด็กที่มีแววอัจฉริยะด้านดนตรี ศิลปะ นาฏศิลป์ทุกประเภท มีการประกวดหาแชมป์แต่ละประเภท อาทิ ระนาดเอก ขิม ไวโอลิน และเปียโน นอกจากนี้ยังได้สั่งการให้หน่วยงานในสังกัด ไปคิดกิจกรรมอื่นๆ ส่งเสริมศิลปวัฒนธรรมมาเสนอให้สอดคล้องกับกิจกรรมหลัก (คมชัดลึก พุธที่ 28 ธ.ค. 48 http://www.komchadluek.net)





แปรรูป "ข้าวกล้อง" เป็นขนม สูตร "ป้าฮวน" ส่งขายต่างแดน

ปริศนา ลือโรจน์วงศ์ หรือป้าฮวน วัย 62 ปี เจ้าของสินค้า เผยว่า ขนมข้าวกล้องป้าฮวน เกิดจากการทดลองนำข้าวกล้องมาปรุงเป็นขนมกินเล่นในครอบครัว และเป็นอาหารสุขภาพมีประโยชน์ต่อร่างกาย จากนั้นก็พัฒนามารรวมกลุ่มแม่บ้านผลิตขนมข้าวกล้องออกจำหน่าย และปรับปรุงสูตรให้มีหลากหลายรูปแบบมากขึ้น อาทิ ข้าวกล้องผลไม้รวม ข้าวกล้องงา และข้าวกล้องใบหม่อน ขณะเดียวกันก็ไม่ได้นิ่งนอนใจ พัฒนาตัวสินค้าให้เป็นที่ยอมรับ โดยส่งเข้ารับการคัดสรรสุดยอดหนึ่งตำบล หนึ่งผลิตภัณฑ์ ของ จ.ประจวบคีรีขันธ์ จนตอนนี้สินค้าของป้าฮวนมีมาตรฐานอยู่ในระดับ 5 ดาว เป็นสินค้าแนวหน้าของ จ.ประจวบคีรีขันธ์ ตอนนี้มีลูกค้าชาวต่างชาติสนใจมาสั่งซื้อมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นญี่ปุ่น สหรัฐอเมริกา สิงคโปร์ ผู้สนใจก็ติดต่อได้ที่ร้านได้เลยที่โทร.0-3267-1190 หรือ 0-1300-2727 (คมชัดลึก พุธที่ 28 ธ.ค. 48 http://www.komchadluek.net)





"สุรเกียรติ์"หนุนวธ. จัดตลาดนัดศิลปะ

นายสุรเกียรติ์ เสถียรไทย รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะกำกับดูแลกระทรวงวัฒนธรรม (วธ.) กล่าวภายหลังเป็นประธานเปิดงานตลาดนัดศิลปะกลางเมือง จัดโดยสำนักงานศิลปวัฒนธรรมร่วมสมัย ที่บริเวณชั้น 1 ศูนย์การค้าอัมรินทร์ เมื่อเร็วๆ นี้ว่า ชอบงานศิลปะและเห็นถึงความสำคัญของศิลปะ เพราะให้ทั้งความเพลิดเพลินและความรู้ เป็นคนที่อ่อนโยน นายสุรเกียรติ์ กล่าวอีกว่า การนำศิลปะมาขายในห้างสรรพสินค้า เป็นอีกช่องทางให้ศิลปินหลากหลายอาชีพนำศิลปะมานำเสนอให้ประชาชนได้ศึกษาและซื้อหาเก็บไว้เป็นที่ระลึก สร้างรายได้ให้แก่ศิลปินรุ่นใหม่ รวมถึงช่วยให้เด็กและประชาชนได้ใกล้ชิดงานศิลปะอาศัยเป็นแหล่งเรียนรู้ "การดูงานศิลปะช่วยกล่อมเกลาจิตใจ ปลูกฝังเด็กๆ มีจินตนาการสร้างสรรค์ มีสมาธิในการเรียน เยาวชนมีคุณภาพเก่ง ดี มีสุข รัฐบาลเห็นความสำคัญของศิลปะ โดยในอนาคตมีนโยบายพัฒนาวัฒนธรรมเชิงรุกเชื่อมโยงกับโครงการสร้างงานสร้างอาชีพให้ประชาชน พัฒนาจิตใจประชาชน ทำให้เกิดความสมดุลในการพัฒนาทุกด้าน เน้นกลุ่มเด็กและเยาวชนมากที่สุด (คมชัดลึก พฤหัสบดีที่ 29 ธ.ค. 48 http://www.komchadluek.net)





คพ.ระบุปี 48 คุณภาพน้ำในประเทศมีแนวโน้มเสื่อมลง

นายอดิศักดิ์ ทองไข่มุกต์ รองอธิบดีกรมควบคุมมลพิษ (คพ.) เปิดเผยถึงสถานการณ์มลพิษของประเทศไทย ปี 2548 พบว่า คุณภาพน้ำโดยรวม มีแนวโน้มเสื่อมโทรมมากขึ้น คิดเป็นร้อยละ 32 ปัญหาส่วนใหญ่เกิดจากการระบายน้ำทิ้ง จากกิจกรรมต่าง ๆ โดยไม่ผ่านการบำบัด ทำให้มีความสกปรกในรูปสารอินทรีย์และแบคทีเรียกลุ่มโคลิฟอร์ม ส่วนน้ำทะเลชายฝั่งมีปัญหาเสื่อมโทรม โดยเฉพาะอ่าวไทยฝั่งตะวันออกบริเวณอ่าวชลบุรี ที่ยังมีครบน้ำมัน จากท่าเรือประมง นอกจากนี้ยังพบว่า มีปัญหาใหม่ ที่จะเกิดขึ้น คือ ปัญหาจากกากของเสียและสารอันตราย ซึ่งในปีที่ผ่านมาประเทศไทยต้องกำจัดของเสียกลุ่มนี้รวม 31 ล้านตัน ได้แก่ ซากแบตเตอรี และหลอดไฟฟลูออเรสเซน เป็นต้น โดยปัจจุบันนี้ ประเทศไทยยังไม่มีการดูแลปัญหาดังกล่าว อีกทั้งยังมีการนำเข้าสารเคมีเพิ่มขึ้น เนื่องจากประเทศไทยกำลังเริ่มเป็นเมืองอุตสาหกรรม จึงเป็นประเด็นปัญหาที่ คพ.จะต้องหามาตรการป้องกัน ส่วนปัญหามลภาวะทางอากาศ และเสียง พบว่ามีอัตราลดลงและคงที่ เนื่องจากโครงการของรัฐบาลในการจัดกิจกรรมรณรงค์ให้ประชาชนมีส่วนร่วม แต่ยังพบว่ามีบางพื้นที่ที่ยังมีปริมาณฝุ่นละอองสูง เช่น ถนนพระราม 6 ดินแดง เขตอุตสาหกรรมสมุทรปราการ ส่วนในต่างจังหวัด เช่น บริเวณหน้าพระลาน จังหวัดสระบุรี และจังหวัดเชียงใหม่ ที่มีการพัฒนาเมือง ทั้งการจราจร และการขยายเมือง นอกจากนี้ยังมีอีกบางพื้นที่ที่มีเสียงดัง โดยเฉพาะในพื้นที่การจราจรแออัด เช่น ลาดพร้าว อินทรพิทักษ์ ธนบุรี ซึ่งมีระดับเสียงเกินมาตรฐานเป็นช่วง ๆ (กรุงเทพธุรกิจ พฤหัสบดีที่ 29 ธ.ค. 48 http://www.bangkokbiznews.com)





กินอย่างไรให้น้ำหนักลด

กินอย่างฉลาด และยังช่วยให้เราสามารถลดความอ้วนได้โดยที่ไม่ต้องอดอาหาร สำหรับผู้ที่ต้องการลดความอ้วนอยู่ ลองทำตามวิธีด้านล่างนี้ดู จะสามารถลดน้ำหนักได้ถึง 5 กิโล 1. กินผักเยอะ ๆ ช่วยให้อิ่มเร็ว เลี่ยงอาหารที่มีน้ำมัน พยายามกินอาหารที่ระบุว่า มีไขมันต่ำ 2. กินอาหารให้ครบ 3 มื้อ แต่ละมื้อต้องอิ่ม เพื่อว่าจะได้ไม่หิวบ่อย งดการกินจุบกินจิบ หรือกินสิ่งที่ไม่ควรกินภายหลัง เช่น พวกของว่าง เค้ก ฯลฯ 3. กินนม โยเกิร์ต ปลาตัวเล็ก เพื่อให้ได้แคลเซี่ยมไปบำรุงกระดูก 4. อย่าอดอาหารมื้อเช้าเด็ดขาด เพราะนอกจากจะทำให้คุณเฉยชา สมองไม่ทำงาน เพราะขาดสารอาหารแล้ว ยังทำให้คุณหิวจัด และกินไม่บันยะบันยังในมื้ออื่นๆ 5. กินอาหารที่มี พริกไทย เครื่องเทศ เพื่อกระตุ้นระบบการย่อย และเผาผลาญไขมัน 6. กินผลไม้ 2 – 3 ชนิด ในแต่ละวัน 7. ดื่มน้ำผลไม้สด และน้ำเปล่า เท่าที่จะมากได้ และ ควรออกกำลังกายอย่างน้อย อาทิตย์ละ 4 ครั้ง ครั้งละ 15 –30 นาที เพื่อกระชับกล้ามเนื้อไม่ให้หย่อนยาน ทำให้ผิวเต่งตึงด้วย (เดลินิวส์ ศุกร์ที่ 30 ธ.ค. 48 http://www.dailynews.co.th)






KMUTT Digital Library
Contact Digital Library : info@lib.kmutt.ac.th
Tel : 0-2470-8215