หัวข้อข่าวปีที่ 7 ฉบับที่ 21 ประจำวันที่ 2006-05-22

ข่าวการศึกษา

จี้ สกอ.ทบทวนแอดมิชชั่นตรง
คลังไฟเขียวเพิ่มงบฯให้ ‘ไอซีแอล’
วอนมหาวิทยาลัยรับสมัครใหม่อุดที่นั่งว่าง
นักวิชาการระบุเด็กไทยเก่ง พัฒนาภาษาได้ใน 3 เดือน
จุฬาฯ ครองแชมป์สถาบันที่มีคะแนนสอบเข้าสูงสุด

ข่าววิทยาศาสตร์/เทคโนโลยี

เครื่องผลิตน้ำเต้าหู้ด้วยไอน้ำ
พบสารมะเขือเทศใหม่ ป้องกันโรคอัมพฤกษ์ และอัมพาตชะงัด
เลื่อนยศเตาต้มกลั่นยุคน้ำมันแพงขายเป็นเครื่องผลิตทำเอทานอล
นักวิทย์ไทยพบ'หวัดนก'ตกค้างในเลือดคน
เอกชนพัฒนา'กังหันลม'ผลิตไฟฟ้าบนตึกสูง
สวทช.ตั้ง"TMC"บริหารจัดการเทคโนโลยีประเทศ
ก.วิทย์ฯชูภาพถ่ายดาวเทียมรับมือน้ำท่วม

ข่าววิจัย/พัฒนา

ขบปัญหาพลังงานนิวเคลียร์ตก เปิดทางแหล่งพลังงานของอนาคต
บัณฑิตพลังงานถกหาทางออกโซลาร์เซลล์
นักวิจัยยุ่นหนุนอาหารญี่ปุ่น ลดอ้วนเจ๋งกว่าอาหารมะกัน
ประดิษฐ์ตาเทียมแมลงสำเร็จ เปิดทางช่วยคนตาบอดกลับเห็น
เดินผิดปกติส่ออาการสมองเสื่อม ออกกำลังช่วยป้องกัน ได้ถึงครึ่งเท่า

ข่าวทั่วไป

โครงการเก๋! ชวนชาวบ้านติวเข้มภาษา พัฒนาทักษะเพิ่มความรู้ ‘ฟุดฟิดฟอไฟ’
ระวังขนมปังสุดฮิต ประเภทเม็กซิกันบันนักวิจัยเตือนอันตราย
เผยไม้ดอกพระราชทานใกล้สูญพันธุ์
ในหลวงพระราชทานแนวแก้ไขปัญหา ให้ผู้บัญชาการเหล่าทัพร่วมมือกัน
'อันนัน' เข้าเฝ้าในหลวงวันนี้ ทูลเกล้าฯ ถวายรางวัลสูงสุด





ข่าวการศึกษา


จี้ สกอ.ทบทวนแอดมิชชั่นตรง

ผู้ปกครองและนักเรียนประมาณ 10 คน เข้ายื่นหนังสือต่อ ดร.จิรณี ตันติรัตนวงศ์ รองเลขาธิการ กกอ.เพื่อขอให้ทบทวนการประกาศผลแอดมิชชั่นตรง โดย นพ.คมสัน อินทราสุขสันติ ตัวแทนผู้ปกครอง กล่าวว่า การที่มหาวิทยาลัยจะให้ยกยอดที่ว่างซึ่งเหลือจากการรับแอดมิชชั่นตรงไปรวมกับแอดมิชชั่นกลาง ถือว่าไม่เป็นธรรมกับเด็ก เพราะแอดมิชชั่นตรงและกลางมีเงื่อนไขการรับที่ต่างกันและเด็กบางคนก็สมัครแต่แอดมิชชั่นตรงเท่านั้น พวกตนจึงอยากให้ สกอ.ประกาศให้นักเรียนมายืนยันสิทธิใหม่อีกครั้ง โดยมีเงื่อนไขห้ามเปลี่ยนคณะที่เลือกไว้ และคนที่ยืนยันสิทธิแล้วจะถูกตัดสิทธิแอดมิชชั่นกลาง ศ.(พิเศษ)ดร.ภาวิช ทองโรจน์ เลขาธิการ กกอ.กล่าวว่า การที่มหาวิทยาลัยต่าง ๆ จะให้ สกอ.ช่วยรับนักศึกษาเพิ่มในกรณีที่รับจากระบบแอดมิชชั่นตรงได้ไม่ครบตามเป้าหมายนั้น มหาวิทยาลัยจะต้องดูให้ดีว่าเงื่อนไขการรับของแอดมิชชั่นตรงกับแอดมิชชั่นกลางต่างกันหรือไม่ ถ้าต่างกันทางมหาวิทยาลัยจะต้องไปรับเอง ส่วนกรณีนักเรียนที่สอบติดคณะแพทยศาสตร์ ม.อุบลราชธานี(มอบ.) แต่สอบตกสัมภาษณ์ เพราะพฤติกรรมเบี่ยงเบนนั้น เรื่องนี้ถือเป็นสิทธิของมหาวิทยาลัยที่จะพิจารณาว่าจะรับหรือไม่ ซึ่งการเป็นแพทย์จะต้องมีจิตเวชที่สมบูรณ์ทุกอย่าง และมีคุณสมบัติของการประกอบวิชาชีพ ที่จะต้องคำนึงถึงสิทธิประโยชน์ต่อสาธารณชนจะได้รับก่อนที่จะคำนึงถึงประโยนช์ส่วนตัว ส่วนกรณีที่เราเห็นแพทย์บางคนมีพฤติกรรมที่เบี่ยงเบนนั้น ส่วนใหญ่เกิดขึ้นในช่วงที่จบการศึกษาแล้ว ซึ่งเป็นเรื่องที่แพทยสภาจะต้องเข้ามาดูแล (เดลินิวส์ พุธที่ 24 พ.ค. 2549 http://www.dailynews.co.th)





คลังไฟเขียวเพิ่มงบฯให้ ‘ไอซีแอล’

เมื่อวันที่ 22 พ.ค. ที่กระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) นายจาตุรนต์ ฉายแสง รมว.ศึกษาธิการ กล่าวภายหลังเดินทางไปหารือร่วมกับนายทนง พิทยะ รมว.คลัง ที่กระทรวงการคลัง ว่า ได้หารือถึงงบประมาณรองรับในส่วนของกองทุนเงินให้กู้ยืมที่ผูกกับรายได้ในอนาคต หรือ ไอซีแอล ซึ่งมีการคาดการณ์ไว้แล้วว่า จะขาดงบฯในการให้นักศึกษากู้อีกประมาณกว่า 3,000 ล้านบาท ซึ่งผลจากการหารือได้ข้อสรุปว่า จะต้องขอใช้งบประมาณกลาง ซึ่งทางสำนักงบประมาณเสนอว่าจะสามารถขอใช้งบประมาณได้จากงบประมาณสำหรับเตรียมรับความเปลี่ยนแปลง ซึ่งมีอยู่ประมาณ 27,000 ล้านบาท และจะมีการจัดสรรงบประมาณกว่า 3,000 ล้านบาท ให้กับ กองทุนไอซีแอล ซึ่งนายทนงก็ให้ความเห็นชอบแล้ว นอกจากนี้จะต้องมีการชี้แจงใหม่ว่า การกู้จะเป็นภาระแก่ผู้กู้มากกว่าผู้ที่ไม่กู้ เพราะที่ผ่านมาไปปล่อยให้เข้าใจกันผิดว่า คนที่มีเงินอยู่แล้วก็สามารถกู้ได้ ทั้งที่ความจริงแล้ว หากคนที่มีฐานะดีสามารถจ่ายค่าเทอมได้เอง หากไปกู้เงินไอซีแอล ก็จะกลายเป็นว่าจะต้องจ่ายเงินมากกว่าการที่จะต้องจ่ายด้วยเงินสด. (ไทยรัฐ อังคารที่ 23 พ.ค. 2549 http://www.thairath.co.th)





วอนมหาวิทยาลัยรับสมัครใหม่อุดที่นั่งว่าง

ที่สำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา (สกอ.) เมื่อวันที่ 22 พ.ค. เวลา 09.00 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตัวแทนเครือข่ายพ่อแม่เยาวชนเพื่อการปฏิรูปการศึกษา และกลุ่มนักเรียนที่เรียกร้องต่อกรณีแอดมิชชั่น ได้ยื่นหนังสือถึง ศ.(พิเศษ) ดร.ภาวิช ทองโรจน์ เลขาธิการคณะกรรมการการอุดมศึกษา (กกอ.) โดยมี ดร.จิรณี ตันติรัตนวงศ์ รองเลขาธิการ กกอ.รับหนังสือแทน โดยผู้ร้องเรียนต้องการให้ทบทวนการประกาศผลแอดมิชชั่นตรงใหม่ เนื่องจากมีรายชื่อซ้ำซ้อนและสละสิทธิ์จำนวนมาก ด้าน ศ.(พิเศษ) ดร.ภาวิช กล่าวว่า การประกาศรายชื่อเพิ่มเติมสำหรับแอดมิชชั่นตรงคงไม่สามารถดำเนินการได้ เพราะจะทำให้ไปดึงคนที่สอบติดคณะอื่นๆแล้วมา ก็จะทำให้คณะนั้นที่ว่างอีก เนื่องจากระบบการเลือกคณะหลายอันดับไม่สามารถประกาศที่นั่งสำรองได้ทั้งแอดมิชชั่นตรงและแอดมิชชั่นกลาง ซึ่งระบบเอ็นทรานซ์ก็เช่นกัน “การรับนักศึกษาปีนี้เกิดความวุ่นวายก็เพราะมีปัญหาคะแนนโอเน็ตและเอเน็ตล่ม ทั้งที่ปีนี้มหาวิทยาลัยต่างๆ ก็เปิดรับตรงมาก ส่วนแอดมิชชั่นตรงก็กระชั้นชิดกับการประกาศผลแอดมิชชั่นกลางมาก ทำให้ไม่มีเวลาพิจารณาประกาศรับเพิ่มเติม” ศ.(พิเศษ) ดร.ภาวิช กล่าวและว่า กรณีที่มหาวิทยาลัยต่างๆนำที่นั่งว่างจากการรับแอดมิชชั่นตรงไปรวมกับการรับแอดมิชชั่นกลางนั้น สกอ.ยืนยันว่าการรับนิสิตนักศึกษาเป็นสิทธิของมหาวิทยาลัย อย่างไรก็ตาม สกอ.จะจัดทำข้อเสนอส่งถึงมหาวิทยาลัยทุกแห่งว่า ไม่ควรนำที่นั่งว่างของแอดมิชชั่นตรงไปรวมกับแอดมิชชั่นกลาง หากรับเด็กไม่ครบเต็มจำนวน ก็ควรประกาศรับใหม่ เป็นการล้างไพ่ เพื่อให้ทุกคนมีสิทธิ โดยใช้เงื่อนไขเดิมที่ประกาศไว้ โดยเฉพาะการกระจายโอกาสให้กับเด็กในภูมิภาคต่างๆ ส่วนการรอคะแนนจากศูนย์จีพีเอ ศธ.นั้น สกอ.จะรอข้อมูลจนถึงเที่ยงคืนวันที่ 22 พ.ค. ซึ่งจะทำให้ต้องประมวลผลในวันที่ 23 พ.ค. โดยที่ไม่ สามารถทบทวนระบบได้ ก็อาจจะมีการประกาศผลอะไรที่สะเหร่อๆออกมาได้ (ไทยรัฐ อังคารที่ 23 พ.ค. 2549 http://www.thairath.co.th)





นักวิชาการระบุเด็กไทยเก่ง พัฒนาภาษาได้ใน 3 เดือน

รศ.ดร.เสาวลักษณ์ รัตนวิชช์ อดีตผู้ว่าการภาค มูลนิธิโรตารี่แห่งประเทศไทย และอาจารย์ภาคหลักสูตรและการสอน มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ (มศว) ประสานมิตร กล่าวว่า การพัฒนาภาษาสามารถเริ่มได้กับทุกคน ทุกวัย แต่หากเริ่มในวัยเด็กได้จะดีมาก ซึ่งเด็กไทยเป็นเด็กฉลาด แต่หลักการสอนเพื่อพัฒนาทักษะด้านภาษาในประเทศไทยนั้น ยังมุ่งที่หลักการทางวิชาการมากเกินไป ซึ่งหากเปลี่ยนไปมุ่งที่การสื่อสาร การคิดให้เข้าใจจะทำให้เด็กประสบความสำเร็จมากกว่า จึงแนะนำว่าควรจะมีการปรับการเรียนการสอน โดยมูลนิธิโรตารี่ ได้ริเริ่มโครงการสอนแบบมุ่งประสบการณ์ภาษา และสามารถยืนยันได้ว่า เด็กจะสามารถพัฒนาทักษะภาษาแม่ได้ใน 3 เดือน ส่วนภาษาที่สองจะพัฒนาได้ใน 6 เดือน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในงานประชุมดังกล่าว ได้มีการจัดห้องสัมมนาย่อยเกี่ยวกับโครงการสอนแบบมุ่งประสบการณ์ภาษาด้วย นอกจากนี้ ในงานยังมีการจัดประชุมเชิงปฏิบัติการถึงผลดีของการแลกเปลี่ยนภาษา แนวคิดต่าง ๆ อีก 11 สาขา อาทิ ภาษากับการพัฒนาการศึกษา สังคม กฎหมาย การเมือง การแปล และนวตกรรม เป็นต้น โดยมีคณาจารย์ และนักวิชาการ นำเสนอผลงานการวิจัย ตามสาขาต่าง ๆ ซึ่งผลจากการจัดประชุมจะถูกเผยแพร่ต่อสาธารณะชนทางเว็บไซต์ www.poweroflanguage.org เพื่อให้นำไปประยุกต์ใช้ได้ เช่น ในสาขาเศรษฐกิจ จะชี้ให้เห็นว่า ภาษาจะช่วยแก้ไขปัญหาความยากจนได้อย่างไร (กรุงเทพธุรกิจ อังคารที่ 23 พ.ค. 2549 (http://www.bangkokbiznews.com)





จุฬาฯ ครองแชมป์สถาบันที่มีคะแนนสอบเข้าสูงสุด

สกอ.ประกาศคะแนนนักเรียนที่สอบแอดมิชชั่นส์กลางสูงสุด จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยครองแชมป์สถาบันที่มีคะแนนสอบเข้าสูงสุด ทั้งคณะวิศวกรรม-อักษรศาสตร์-นิติศาสตร์-เศรษฐศาสตร์–สถาปัตยกรรม-รัฐศาสตร์-บัญชี ด้านเด็กเก่งเผยหลักการเรียนตั้งใจเรียนในห้องมากที่สุด และให้เข้าใจมากที่สุด ไม่เครียด ฟังเพลง ดูทีวี ร้องคาราโอเกะ สำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา (สกอ.) ประกาศรายชื่อนักเรียนที่สอบผ่านแอดมิชชั่นส์กลางที่ทำคะแนนได้สูงสุด 14 คณะวิชา (กรุงเทพธุรกิจ ศุกร์ที่ 26 พ.ค. 2549 http://www.bangkokbiznews.com)





ข่าววิทยาศาสตร์/เทคโนโลยี


เครื่องผลิตน้ำเต้าหู้ด้วยไอน้ำ

สำหรับนักศึกษาที่คิดประดิษฐ์และพัฒนาเครื่องผลิตน้ำเต้าหู้อัตโนมัติเครื่องนี้ประกอบด้วย นาย พงศภัค นิยมการ และ นายศรัณรัชญ์ สว่างพิพัฒน์ 2 หนุ่มนักศึกษาคนรุ่นใหม่หัวใส จากคณะวิศวกรรม ศาสตร์ สาขาวิศวกรรมเครื่องกล มหาวิทยาลัยศรีปทุม โดยมี อาจารย์มูฮำหมัด ทรงชาติ อาจารย์ประ จำภาควิชาวิศกรรมเครื่องกล คณะวิศวกรรมศาสตร์มหาวิทยาลัยศรีปทุมเป็นอาจารย์ที่ปรึกษา พงศภัค หนึ่งในผู้ประดิษฐ์เล่าว่า "เครื่องผลิตน้ำเต้าหู้อัตโนมัติเครื่องนี้สามารถทำน้ำเต้าหู้ โดยใช้เวลาเพียง 20 กว่านาทีเท่านั้น ซึ่งจะใช้ไอน้ำเดือดที่อุณหภูมิ 100 องศาเซลเซียส แทน การต้มด้วยน้ำเดือด ซึ่งจะทำให้สารอาหารและคุณค่าทางอาหารบางชนิดยังคงอยู่ ไม่เหมือนกับ การต้มโดยใช้น้ำเดือด สำหรับตัวเครื่องเราใช้แสตนเลสที่ปลอดสนิมเป็นวัสดุหลัก ซึ่งเหมาะกับอุปกรณ์ จำพวกอุปโภคบริโภค เพราะทำความสะอาดง่าย" เครื่องผลิตน้ำเต้าหู้อัตโนมัติ เครื่องนี้ประกอบด้วย 4 ส่วนหลัก คือ ชุดบดสะบัดกากถั่วเหลือง หม้อต้มน้ำนมถั่วเหลือง หม้อฮีตเตอร์ผลิตไอน้ำ และถังบรรจุน้ำบริสุทธิ์ วิธีการใช้งานก็ง่ายมาก เพียง แค่ใส่ถั่วเหลืองที่ผ่านการแช่น้ำมาแล้ว ไม่ต่ำกว่า 5 ชั่วโมง ใส่ลงบนกรวยด้านบนของเครื่องในส่วน ของชุดบดสะบัด ส่วนสาเหตุที่ต้องใช้เมล็ดถั่วเหลืองที่แช่น้ำนานๆ ก็เพราะจะทำให้เครื่องบดได้ง่าย โดยจะใช้เวลาบดถั่วเหลือง 1 กิโลกรัม เพียง 3 นาที จากนั้นหม้อฮีตเตอร์จะต้มน้ำเดือดที่อุณภูมิ 100 องศาเซลเซี่ยส ภายในเวลา 10 นาที โดยมีมาตรวัดบอกอุณหภูมิ จากนั้นจึงเปิดวาล์วให้ไอน้ำลงไปในหม้อต้มถั่วเหลือง อีก 10 นาที จึง จะได้น้ำเต้าหู้อุ่นๆ ที่สุกสะอาดพร้อมบริโภคได้ทันที หรือจะเติมน้ำตาลเพื่อเพิ่มหวานก็ได้ จากการทดลองทำน้ำเต้าหู้โดยใช้ถั่วเหลือง 1 กิโลกรัม สามารถผลิตน้ำเต้าหู้ได้ถึง 12.42 ลิตร โดยใช้เวลาเพียง 23 นาทีเท่านั้น (แนวหน้า พุธที่ 24 พ.ค. 2549 http://www.naewna.com





พบสารมะเขือเทศใหม่ ป้องกันโรคอัมพฤกษ์ และอัมพาตชะงัด

นักวิทยาศาสตร์ตะวันตกได้พบสารในมะเขือเทศ มีประโยชน์ช่วยป้องกันโรคหัวใจขาดเลือดและโรคอัมพฤกษ์อัมพาตถามหาได้ สารดังกล่าวพบอยู่ในของเหลวสีเหลืองรอบๆเมล็ด มีฤทธิ์ป้องกันเลือดไม่ให้ข้น และจับกันเป็นลิ่มเลือด ซึ่งอาจไปอุดตันตามหลอดโลหิตแดงและเส้นเลือดดำ รายงานผลการศึกษาทดลองในวารสารวิชาการ “เกล็ดเลือด” เปิด เผยว่า ในการทดลองกับผู้อาสาสมัคร 220 นาย ที่ได้ให้กินสารสกัดมะเขือ เทศ พบว่าเลือดของพวกเขาคลายความข้นลงได้ถึง 70% เป็นที่ทราบกันมาก่อนแล้วว่า สารไลโคเปนอันเป็นตัวที่ทำให้ มะเขือเทศมีสีแดง ก็มีสรรพคุณช่วยต่อต้านมะเร็งหลายชนิดได้ด้วย. (ไทยรัฐ พุธที่ 24 พ.ค. 2549 http://www.thairath.co.th)





เลื่อนยศเตาต้มกลั่นยุคน้ำมันแพงขายเป็นเครื่องผลิตทำเอทานอล

บริษัทในเมืองทุลลาโฮมา รัฐเทนเนสซีของสหรัฐอเมริกา ได้ฉวยโอกาสผลิตเตาต้มกลั่นเชื้อเพลิงเอทานอลใช้เอง ใช้อ้อย ข้าวโพด และแอปเปิ้ลเป็นวัตถุดิบ ทางบริษัทอวดอ้างว่าจะช่วยให้ลดค่าน้ำมันเชื้อเพลิงที่ซื้อจากปั๊มลง เหลือแค่เพียง 1 ใน 3 เท่านั้น แต่ผู้จะซื้ออุปกรณ์นี้ จะต้องไปขออนุญาตจากรัฐบาลกลางก่อน จึงจะใช้กลั่นเอทานอลใช้เองได้ และจะต้องผสมสารพิษลงไป เพื่อไม่ ให้เอาไปทำเหล้าเถื่อนด้วย โฆษกหญิง เชลลีย์ แมคแคลนาแฮน ของบริษัท “ด็อกวู้ด เอเนอยี่” กล่าวว่า “เราบอกลูกค้าชัดเจนว่า การต้มเหล้าเถื่อนนั้นมันผิดกฎหมาย” บริษัทแห่งนี้เป็นบริษัทครอบครัว เพราะนายบิล แซชเชอร์ พ่อของตัวโฆษก เป็นคนคิดประดิษฐ์เตาขึ้น นับแต่ประกาศโฆษณาขาย เพียงเวลาไม่กี่อาทิตย์ขายไปได้ 45 เตา รวมตั้งแต่เปิดขายมาแต่เมื่อเดือนกันยายน ขายได้ไม่ต่ำกว่า 125 เตาแล้ว ผู้ซื้อมีทั้งผู้เป็นเจ้าของธุรกิจขนาดเล็ก และผู้ต้องการประหยัดรายจ่ายค่าน้ำมัน (ไทยรัฐ อังคารที่ 23 พ.ค. 2549 http://www.thairath.co.th)





นักวิทย์ไทยพบ'หวัดนก'ตกค้างในเลือดคน

ทีมนักวิทยาศาสตร์จากหลายสถาบัน พบไวรัสไข้หวัดนก "เชื้อเป็น" อยู่ในกระแสเลือด หลังถอดรหัสพันธุกรรมหาไวรัสไข้หวัดนก ผู้เชี่ยวชาญเตือนระมัดระวังในการดำเนินการที่เกี่ยวข้องกับเลือดผู้ป่วย การค้นพบดังกล่าวของทีมนักวิทยาศาสตร์ไทย ได้เผยแพร่ผ่านเวบไซต์ของกรมควบคุมโรคแห่งสหรัฐ (ซีดีซี) และจะได้รับการตีพิมพ์ในวารสาร EID ฉบับเดือนมิถุนายนนี้ วารสารดังกล่าวเป็นรายงานความเคลื่อนไหวสำคัญเกี่ยวกับโรคติดเชื้ออุบัติใหม่ และเป็นผลงานวิชาการที่แพทย์และนักวิทยาศาสตร์ทั่วโลกให้การยอมรับ ทีมวิจัย ซึ่งประกอบด้วย นักวิทยาศาสตร์จากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ และกรมปศุสัตว์ ได้วิเคราะห์ตัวอย่างเลือดของเด็กชายอายุ 5 ขวบ ซึ่งเสียชีวิตด้วยเชื้อไข้หวัดนกเอช 5 เอ็น 1 เมื่อปลายปีที่แล้ว เพื่อหาเชื้อไข้หวัดนกสายพันธุ์เอช 5 เอ็น 1 จากการวิเคราะห์ตัวอย่างเลือดด้วยเทคนิคอาร์ที-พีซีอาร์ เพื่อหาสารพันธุกรรมของไวรัส ทีมวิจัยพบเชื้อไวรัสไข้หวัดนกเอช 5 เอ็น 1 ชนิดเดียวกับเชื้อไข้หวัดนกที่ระบาดในปี 2547-2548 ที่พบในคน เสือ และไก่ ซึ่งมีคุณสมบัติในการเพิ่มจำนวนในสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมอย่างมีประสิทธิภาพ ถึงแม้การค้นพบดังกล่าวทำให้มีโอกาสที่น่าจะเป็นไปได้ว่า เชื้อไข้หวัดนกเอช 5 เอ็น 1 สามารถส่งผ่านทางเลือดได้ และต้องระวังเกี่ยวกับการถ่ายเลือดที่มีเชื้อเอช 5 เอ็น 1 แต่นักวิทยาศาสตร์มองว่า โอกาสที่ผู้ป่วยไข้หวัดนกจะบริจาคเลือดคงเป็นไปได้น้อยอย่างยิ่ง เนื่องจากสภาพร่างกายไม่เอื้ออำนวย แต่สิ่งที่ต้องให้ความสำคัญมากกว่าคือ การปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ห้องแล็บที่เกี่ยวข้องกับการตรวจผลเลือด (กรุงเทพธุรกิจ จันทร์ที่ 22 พ.ค. 2549 http://www.bangkokbiznews.com)





เอกชนพัฒนา'กังหันลม'ผลิตไฟฟ้าบนตึกสูง

นายเกรียงไกร เพียรวิทยาสกุล ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด บริษัท เอสซีไอ เมนูแฟคเตอร์เรอร์ จำกัด ผู้ผลิตอุปกรณ์เกี่ยวกับระบบไฟฟ้า เปิดเผยว่า บริษัทได้ร่วมมือกับบริษัท ลีโอนิกส์ พัฒนาระบบผลิตกระแสไฟฟ้าขนาด 3.5 กิโลวัตต์ด้วยกังหันลม เพื่อป้อนพลังงานไฟฟ้าให้อาคารสำนักงานและที่อยู่อาศัยทั่วไป โดยคาดว่ากังหันลมที่ร่วมกันพัฒนาจะออกสู่ตลาดได้ภายในปีนี้ ความร่วมมือครั้งนี้ บริษัท เอสซีไอฯ เป็นฝ่ายพัฒนากังหันลมให้สามารถผลิตกระแสไฟฟ้าได้เหมาะสมกับสภาพลมของประเทศไทย ขณะที่บริษัทลีโอนิกส์เป็นฝ่ายพัฒนาอุปกรณ์หลัก สำหรับแปลงพลังงานลมให้เป็นกระแสไฟฟ้าที่สามารถนำมาใช้งานได้ อาทิ อุปกรณ์ต่อพ่วง อุปกรณ์แปลงพลังงานและอุปกรณ์ควบคุม เป็นต้น แม้ว่ากังหันลมจะเป็นส่วนสำคัญที่ทำให้เกิดพลังงานขึ้นมา แต่การแปลงพลังงานลมมาเป็นพลังงานไฟฟ้าก็เป็นสิ่งสำคัญเช่นเดียวกัน โดยเฉพาะระบบที่สามารถดึงพลังงานลมที่มีความเร็วต่ำเปลี่ยนเป็นพลังงานไฟฟ้าให้ได้มากที่สุด การพัฒนาระบบแปลงพลังงานลมให้เป็นพลังงานไฟฟ้า จึงต้องออกแบบให้สอดคล้องกับเงื่อนไขดังกล่าว โดยบริษัทฯ พัฒนาระบบอินเวอร์เตอร์ให้สามารถใช้งานได้กับกังหันลมที่บริษัทเอสซีไอฯ ได้ออกแบบ พร้อมทั้งสามารถดึงพลังงานลมออกมาใช้งานเปลี่ยนเป็นกระแสไฟฟ้าได้จำนวนมาก โดยความเร็วลมขนาด 9 เมตรต่อวินาทีสามารถผลิตกระแสไฟฟ้าได้ 3.5 กิโลวัตต์ ขณะที่ความเร็วขนาด 2.5 เมตรต่อวินาทีสามารถผลิตกระแสไฟฟ้าได้ 200 วัตต์ ทั้งนี้ ระบบดังกล่าวเหมาะสำหรับติดตั้งบนอาคารสูง เนื่องจากมีความเร็วลมค่อนข้างแรงและเพียงพอสำหรับผลิตกระแสไฟฟ้าได้ (กรุงเทพธุรกิจ จันทร์ที่ 22 พ.ค. 2549 http://www.bangkokbiznews.com)





สวทช.ตั้ง"TMC"บริหารจัดการเทคโนโลยีประเทศ

สวทช.เปิดตัวหน่วยงานใหม่ "ศูนย์บริหารจัดการเทคโนโลยี" ทำหน้าที่บริหารจัดการเทคโนโลยีของประเทศแบบครบวงจร ทั้งวางนโยบายด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน การถ่ายทอดเทคโนโลยี การพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ และวิจัยเทคโนโลยีพลังงานแสงอาทิตย์ พร้อมอุดหนุนเงินทุนด้านวิจัยพัฒนาสำหรับเอกชน ชี้โครงสร้างพื้นฐานด้านเทคโนโลยีของไทยมีปัญหา (รายละเอียดทั้งหมดโปรดติดตามได้จาก หนังสือพิมพ์ประชาชาติธุรกิจ ฉบับวันที่ 03 เมษายน พ.ศ. 2549 หน้า 30) ประชาชาติธุรกิจ ศุกร์ที่ 26 พ.ค. 2549 http://www.matichon.co.th/prachachart





ก.วิทย์ฯชูภาพถ่ายดาวเทียมรับมือน้ำท่วม

กระทรวงวิทยาศาสตร์ชูเทคโนโลยีภาพถ่ายดาวเทียมรับมือโคลนถล่มภาคเหนือ เผยประสานมหาดไทยใช้วิเคราะห์สภาพพื้นที่ ส่วนกรมบรรเทาสาธารณภัยอาศัยข้อมูลแจ้งเตือนประชาชน นายประวิช รัตนเพียร รักษาการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เปิดเผยว่า จากเหตุการณ์อุทกภัยที่เกิดขึ้นในภาคเหนือ กระทรวงวิทยาศาสตร์ได้นำผลงานวิจัยและเทคโนโลยีจากการคิดค้นของหน่วยงานในสังกัด ให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัย โดยได้ประสานงานกับกระทรวงมหาดไทย ในการนำเทคโนโลยีภาพถ่ายดาวเทียมของสำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ (สทอภ.) มาใช้ประโยชน์ด้านการตรวจและวิเคราะห์สภาพพื้นที่ที่รับผลกระทบ ภาพถ่ายดาวเทียมจะชี้ให้เห็นสภาพความเปลี่ยนแปลงของพื้นที่ประสบภัย ทั้งความเปลี่ยนแปลงของดินและทิศทางน้ำที่เปลี่ยนไป เพื่อหาทางป้องกันได้ถูกต้อง อีกทั้งหลังจากเหตุการณ์นี้จะร่วมมือกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เพื่อใช้เทคโนโลยีภาพถ่ายดาวเทียมในการวางแผนแก้ปัญหาอย่างถูกต้อง นอกจากนี้ทางกรมบรรเทาสาธารณภัยจะได้ใช้ประโยชน์จากภาพถ่ายดาวเทียม เพื่อแจ้งเตือนประชาชนก่อนเกิดภัยพิบัติอีกด้วย (กรุงเทพธุรกิจ ศุกร์ที่ 26 พ.ค. 2549 http://www.bangkokbiznews.com)





ข่าววิจัย/พัฒนา


ขบปัญหาพลังงานนิวเคลียร์ตก เปิดทางแหล่งพลังงานของอนาคต

การทำให้เกิดการปลดปล่อยพลังงาน ด้วยการรวมตัวของนิวเคลียสปรมาณู เป็นวิธีตรงกันข้ามกับการสร้างพลังงาน ด้วยการทำให้ นิวเคลียร์ของปรมาณูแตกตัว อย่างเช่นที่ใช้กันอยู่ในระเบิดปรมาณูและการสร้างพลังนิวเคลียร์ในปัจจุบัน คณะนักฟิสิกส์ อันมีนายทอดด์ อีแวนส์ แห่งบริทเยเนอรัล อตอมมิกส์ ของสหรัฐอเมริกา กล่าวเปิดเผยในวารสารฟิสิกส์ธรรมชาติของอังกฤษ ว่าสามารถแก้อุปสรรคสำคัญในการทำให้นิวเคลียร์ ของปรมาณูหลอมรวมตัวกันได้ การทำให้นิวเคลียสของปรมาณูหลอมรวมตัวกัน ยังเป็นวิธีเดียวกับที่ดวงอาทิตย์สร้างพลังงานขึ้น แต่ของดวงอาทิตย์ ปรมาณูของก๊าซไฮโดรเจนจะถูกบังคับให้เข้ารวมตัวกัน เกิดเป็นก๊าซฮีเลียม แต่ในเตาปฏิกรณ์ปรมาณูบนโลก จะใช้ไอโซโทปของไฮโดรเจนสองชนิดเข้ามารวมตัวกัน และเกิดกากเป็นฮีเลียม. (ไทยรัฐ พุธที่ 24 พ.ค. 2549 http://www.thairath.co.th)





บัณฑิตพลังงานถกหาทางออกโซลาร์เซลล์

รศ.ดร.บัณฑิต ฟุ้งธรรมสาร ประธานบัณฑิตวิทยาลัยร่วมด้านพลังงานและสิ่งแวดล้อม (JGSEE) มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี กล่าวว่า สถาบันได้จัดประชุมทางวิชาการเพื่อระดมความคิดเห็นจากผู้เชี่ยวชาญ ในการพัฒนาพลังงานความร้อนจากแสงอาทิตย์ และนำมาใช้ในประเทศไทยให้เต็มประสิทธิภาพ โดยเฉพาะในภาคอุตสาหกรรมและภาคบริการ อาทิ อุตสาหกรรมอาหาร อุตสาหกรรมสิ่งทอ โรงแรมและโรงพยาบาล เป็นต้น "การประชุมครั้งนี้ จัดเพื่อระดมความคิดเห็นจากทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งในภาครัฐและภาคเอกชน สำหรับหาอุปสรรคสำคัญทั้งในด้านเทคนิคและด้านอื่นๆ ที่ไม่เอื้ออำนวยต่อการนำพลังงานความร้อนจากแสงอาทิตย์มาใช้ได้เต็มศักยภาพ หลังจากนั้นผลการประชุมจะนำไปจัดทำแผนพัฒนาและข้อแนะนำต่อรัฐบาลเพื่อพัฒนาพลังงานทางเลือกนี้ต่อไป" รศ.ดร.บัณฑิตกล่าว พลังงานความร้อนจากแสงอาทิตย์ในประเทศไทย เป็นที่รู้จักมานานกว่า 20 ปี แต่ยังไม่ถูกนำไปใช้กันอย่างกว้างขวาง เนื่องจากความต้องการยังไม่มาก โดยงานประชุมครั้งนี้ยังมีประเด็นการพัฒนาตลาด เพื่อให้พลังงานความร้อนจากแสงอาทิตย์ถูกนำไปใช้มากขึ้นอีกด้วย รวมทั้งเร่งสร้างความตระหนักแก่ธุรกิจขนาดกลางและขนาดเล็ก ให้เห็นความสำคัญของพลังงานความร้อนจากแสงอาทิตย์ (กรุงเทพธุรกิจ จันทร์ที่ 22 พ.ค. 2549 http://www.bangkokbiznews.com)





นักวิจัยยุ่นหนุนอาหารญี่ปุ่น ลดอ้วนเจ๋งกว่าอาหารมะกัน

ผลการวิจัยล่าสุดของมหาวิทยาลัยโทโฮกุในญี่ปุ่น รายงานสอดคล้องกับความเชื่อเดิมๆ ของชาวแดนอาทิตย์อุทัยที่ว่าการรับประทานอาหารพื้นเมือง ของชาวญี่ปุ่นที่ทำจากปลาจะช่วยลดความอ้วนและ ทำให้สุขภาพแข็งแรงกว่าการรับประทานอาหารแบบอเมริกันประเภทฟาสต์ฟู้ด คณะวิจัยทำการทดลองกับหนูและสรุปได้ในที่ประชุมที่จังหวัดชิสุโอกะ เมื่อ 19-21 พ.ค. โดยโภชนากรให้หนูกินอาหาร 21 เมนูจากญี่ปุ่น อาทิ ซาซิมิและข้าวปั้น และอาหารตะวันตก อาทิ แฮมเบอร์เกอร์และไก่ทอด เป็นเวลากว่า 3 สัปดาห์ เพื่อนำมาเปรียบเทียบกัน พบว่าในอาหารญี่ปุ่นมีส่วนยับยั้งคอเลสเทอรอลและไขมันมากกว่าอาหารอเมริกันถึง 1.5 เท่า อีกทั้งรายงานยังระบุว่าไขมันในหนูที่กินอาหารอเมริกันมีมากกว่าหนูที่กินอาหารญี่ปุ่นถึง 10 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งผลการศึกษาดังกล่าวช่วยยืนยันความเชื่อสืบต่อกันมาของชาวเมืองปลาดิบว่า อาหารการกินของพวกเขาทำให้มีชีวิตยืนยาวขึ้น ผู้เชี่ยวชาญด้านโภชนาการยังได้ยกสถิติที่ว่า ชาวญี่ปุ่นเป็นชาติที่มีอายุขัยเฉลี่ยของผู้หญิง 86 ปี และ 79 ปีในผู้ชาย ซึ่งนับว่าเป็นสถิติที่สูงที่สุดประเทศหนึ่งในโลกมาสนับสนุนการวิจัย อีกทั้งรายงานยังสอดคล้องกับสถิติการเป็นโรคอ้วนของคนญี่ปุ่นซึ่งอยู่ในระดับต่ำอีกด้วย. (ไทยรัฐ ศุกร์ที่ 26 พ.ค. 2549 http://www.thairath.co.th)





ประดิษฐ์ตาเทียมแมลงสำเร็จ เปิดทางช่วยคนตาบอดกลับเห็น

นักวิทยาศาสตร์เชื่อว่าจะสามารถช่วยให้ผู้ที่ตาพิการ กลับมามองเห็นได้อีกในวันหน้า หลังจากสามารถสร้างตาเทียมของแมลง ที่ประกอบด้วยเลนส์รูป 6 เหลี่ยมด้วยกันถึง 8,500 ชิ้น มีขนาดโตเท่ากับหัวเข็มหมุดขึ้นได้ วารสาร “วิทยาศาสตร์” แจ้งว่า ตาแมลงเทียมซึ่งคล้ายคลึงกับตาของผึ้ง อาจจะเอาไปใช้ประโยชน์กับกล้องถ่ายภาพขนาดจิ๋วได้ นักวิจัยของมหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนีย แห่งสหรัฐฯผู้สร้างกล่าวว่า การค้นคว้าทำให้ได้ ความรู้ว่า แมลงพัฒนาดวงตาอันซับซ้อนของตน ขึ้นจากเซลล์เซลล์เดียว จนค่อยๆโตขึ้นกลายเป็นระบบลูกตาอันสวยงามและซับซ้อน ปกติตาของแมลงเป็นลูกตาที่มีโครงสร้างซับซ้อน อย่างเช่น ตาของแมลงปอข้างเดียว อาจจะประกอบด้วยโครงสร้างถึง 30,000 ชิ้นด้วยกัน. (ไทยรัฐ ศุกร์ที่ 26 พ.ค. 2549 http://www.thairath.co.th)





เดินผิดปกติส่ออาการสมองเสื่อม ออกกำลังช่วยป้องกัน ได้ถึงครึ่งเท่า

คณะนักวิจัยของมหาวิทยาลัยวอชิงตัน ได้ศึกษาจากผู้สูงอายุ 2,288 ราย โดยคอยติดตามดูสุขภาพร่างกายและจิตใจต่อๆมา ทุกๆ 2 ปี พบว่าหากเกิดมีอาการทางกายขึ้นเมื่อใด พวกเขาจะมีโอกาสเสี่ยงเป็นโรคสมองเสื่อมสูงขึ้น หลังจากนั้นอีก 6 ปี ได้มีผู้ป่วยด้วยโรคสมองเสื่อมขึ้นรวม 319 คน โดยผู้ที่ได้คะแนนของสภาพร่างกายแข็งแรงสูง จะเป็นโรคน้อยกว่าผู้ที่มีร่างกายอ่อนแอกว่ากันเกือบ 3 เท่า ขณะเดียวกัน นักวิจัยยังได้กล่าวแสดงความเชื่อว่า การออกกำลังจะสามารถขัดขวางไม่ให้โรค เป็นมากขึ้นได้เหมือนกับการศึกษาเมื่อก่อนหน้าที่ได้ผลส่อว่า การออกกำลังช่วยลดโอกาสเสี่ยงที่จะเป็นโรคลง เนื่องจากช่วยให้มีเลือดลมไปเลี้ยงสมองสะดวกขึ้น “การออกกำลังประจำจะช่วยลดความเสี่ยงที่จะเกิดโรคสมองเสื่อม ได้มากถึง 40%” (ไทยรัฐ ศุกร์ที่ 26 พ.ค. 2549 http://www.thairath.co.th)





ข่าวทั่วไป


โครงการเก๋! ชวนชาวบ้านติวเข้มภาษา พัฒนาทักษะเพิ่มความรู้ ‘ฟุดฟิดฟอไฟ’

ในยุคการสื่อสารไร้พรมแดน จำเป็นต้องเรียนรู้ภาษาอังกฤษ ซึ่งเป็นภาษาสากลที่มีความจำเป็นในการพูดคุยสื่อสารกับชาวต่างชาติ และเข้าสู่เครื่องมือแหล่งเรียนรู้ต่าง ๆ ทั่วโลก ดังนั้น ภาษาอังกฤษจึงมีความสำคัญในการให้ลูกหลานและผู้นำชุมชนในชนบทได้เรียนรู้ภาษาอังกฤษ สามารถนำไปใช้ในชีวิตประจำวันได้ เพื่อจะได้ใช้พูดจาทักทายกับฝรั่งหรือชาวต่างชาติที่เข้ามาในหมู่บ้าน ให้สื่อสารพูดคุยกันรู้เรื่องและเข้าใจ เป็นการแสดงความเป็นคนไทยที่มีประเพณีวัฒนธรรมและน้ำใจเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่กับชนทุกชาติ คณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐานโรงเรียนดอนเปล้าศึกษา บ้านดอนเปล้าพัฒนา ต.รังงาม อ.เนินสง่า จ.ชัยภูมิ จึงได้ประสานความร่วมมือกับ มิสเตอร์ จอห์น เว็บเบอร์ (Mr.John Weber) ชาวแคนาดาเจ้าของฟาร์มนามานาว (เลี้ยงวัว) ที่มาตั้งหลักปักฐานอยู่บ้านดอนเปล้าพัฒนา โดยมี นายประมูล แก้วศิลา ลูกหลานของคนในหมู่บ้านเป็นล่ามช่วยกันประสานงานหาครูอาสาสมัครชาวต่างประเทศมาสอนภาษาอังกฤษได้ จำนวน 13 คน เพื่อให้มาสอนภาษาอังกฤษให้นักเรียน และประชาชนในตำบลรังงาม เพื่อจะได้สามารถพูดจาทักทายกับชาวต่างชาติที่เข้ามาในหมู่บ้าน โดยได้รับการสนับสนุน จาก นายอนันต์ ลิมปคุปตถาวร นายก อบจ.ชัยภูมิ นายสถาพร สงคราม รอง ปธ.อบจ.ชัยภูมิ นายเพชร เหมือนพันธุ์ ผอ.สพท.ชย. เขต 3 และ อบต.รังงาม ร่วมกันจัดงบให้การสนับสนุน ชักชวนชาวบ้านเข้าร่วมกิจกรรมฝึกพูดภาษาอังกฤษกับครูอาสาต่างชาติ โดยจัดแบ่งการสอนเป็น 4 กลุ่ม โดยกลุ่มที่ 1 เป็นกลุ่มเด็กนักเรียนชั้นประถมศึกษา กลุ่มที่ 2 กลุ่มเด็ก เยาวชน และนักเรียน ชั้นมัธยม กลุ่มที่ 3 เป็นกลุ่มครูในตำบลรังงาม โดยเริ่มสอนกันเวลา 08.00 น. จนถึง 15.00 น. ส่วนกลุ่มที่ 4 ก็เป็นกลุ่มผู้นำชุมชน อบต.ชาวบ้าน และประชาชน ผู้สนใจทั่วไป โดยทำการสอนตั้งแต่เวลา 18.00 น. จนถึง 20.00 น. จะเน้นทักษะในการพูดคุย (สนทนา) (เดลินิวส์ พุธที่ 24 พ.ค. 2549 http://www.dailynews.co.th/)





ระวังขนมปังสุดฮิต ประเภทเม็กซิกันบันนักวิจัยเตือนอันตราย

นักวิจัยเผยพบขนมกรุบกรอบกว่า 700 ชนิดสารพัดยี่ห้อที่วางขายล่อใจ เจอแต่ส่วนผสมประเภทหวานจัด มันเยิ้ม เค็มปี๋ เสี่ยงเป็นโรคความดันโลหิตสูง เบาหวาน หัวใจ ระบุ "ขนมปังประเภทเม็กซิกันบัน" เปิบแค่ชิ้นเดียวให้พลังงานเกินกว่าความต้องการของร่างกาย พบเด็กไทยกำลังมีปัญหาไขมัน น้ำตาลผิดปกติ เป็นผลจากความอ้วน รศ.ดร.ประไพศรี ศิริจักรวาล หัวหน้าฝ่ายมนุษยโภชนา สถาบันวิจัยโภชนาการ มหาวิทยาลัยมหิดล กล่าวถึงผลการนำขนมและอาหารว่างประมาณ 700 ตัวอย่าง ที่จำหน่ายในท้องตลาด มาวิเคราะห์จากฉลากโภชนาการและส่วนประกอบเพื่อให้ทราบคุณค่าทางโภชนาการ ภายใต้การแถลงข่าวเรื่อง "ภัยขนมกรุบกรอบทำร้ายสุขภาพเด็กไทย" จัดโดยสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) และเครือข่ายเด็กไทยไม่กินหวาน พบว่ามีเพียง 10% ของขนมทั้งหมดที่ผ่านเกณฑ์โภชนาการ แต่ก็ไม่ได้ผ่านทั้งหมด เพราะใน 10% นั้นบางอย่างก็เค็มเกินไป หวานเกินไป โดยสามารถแบ่งได้เป็น 5 กลุ่ม คือ 1.กลุ่มลูกอม หมากฝรั่ง เยลลี่ พบมีน้ำตาลและสารให้ความหวานอื่น ๆ เป็นส่วนผสมจำนวนมาก 2.กลุ่มช็อกโกแลต มีไขมันกับน้ำตาลในปริมาณสูง 3.กลุ่มถั่วและเมล็ดพืช มีไขมันและโซเดียมมาก 4.กลุ่มปลาเส้นปรุงรสต่าง ๆ ปลาอบกรอบ แม้จะมีโปรตีน แต่มีโซเดียมสูง ยิ่งปรุงรสเข้มข้นก็ยิ่งมีโซเดียมมากขึ้น 5.กลุ่มมันฝรั่งทอด ข้าวเกรียบ ข้าวอบกรอบ ข้าวโพดอบกรอบ แป้งทอด จะเต็มไปด้วยโซเดียมและไขมัน รศ.นพ.จิตติวัฒน์ สุประสงค์สิน หัวหน้าหน่วยสำนักงานวิจัย คณะแพทยศาสตร์ รพ.รามาธิบดี และนักวิชาการจากเครือข่ายเด็กไทยไม่กินหวาน กล่าวว่า ประเทศไทยมีประชากรวัยเด็กประมาณ 10 ล้านคน มีเด็กอ้วนประมาณ 20% หรือประมาณ 2 ล้านคน ซึ่งครึ่งหนึ่งของเด็กอ้วนมีความเสี่ยงเรื่องความดันโลหิตสูง ทุกวันนี้เด็กไทยจำนวนหนึ่งกำลังมีปัญหา "เมตาบอลิคซินโดรม" คือมีเมตาบอลิซึมผิดปกติ มีความดันโลหิตสูง ไขมันผิดปกติ น้ำตาลผิดปกติ สัมพันธ์กับภาวะที่ร่างกายดื้อต่ออินซูลิน เป็นผลจากความอ้วน มีความเสี่ยงเป็นเบาหวานได้ง่าย ดังนั้นผู้ปกครองต้องช่วยสร้างวัฒนธรรมการกินของเด็ก เน้นให้กินพืชผัก ผลไม้ อาหารปรุงเอง โรงเรียนควรมีแนวคิดเรื่องสุขภาพ สร้างสภาพแวดล้อมที่ปราศจาก ขนม ของหวาน น้ำอัดลม. (เดลินิวส์ พุธที่ 24 พ.ค. 2549 http://www.dailynews.co.th/





เผยไม้ดอกพระราชทานใกล้สูญพันธุ์

จากการสัมมนาเนื่องในวันสากลแห่งความหลากหลายทางชีวภาพ ดร.ฉัตรชัย เงินแสงสรวย นักวิชาการภาควิชาชีววิทยา คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัย เกษตรศาสตร์ ซึ่งศึกษาความหลากหลายของพืชดอกในระบบนิเวศพื้นที่แห้งแล้งและกึ่งชื้น เปิดเผยว่า จากการสำรวจพื้นที่อุทยานแห่งชาติผาแต้ม จ.อุบลราชธานีและอุทยานแห่งชาติมุกดาหาร (ภูผาเทิบ) จ.มุกดาหาร พบมีพืชทั้งสิ้น 28 วงศ์ 67 สกุล 107 ชนิด และประเมินสถานภาพ พบว่ามีพืชถิ่นเดียวและพืชหายาก ถูกคุกคามที่อยู่ในสถานภาพใกล้สูญพันธุ์รวมทั้งสิ้น 34 ชนิด พบว่าบริเวณอุทยานแห่งชาติผาแต้มมีชาวบ้านนำสัตว์เลี้ยงพวกวัว ควายเข้าไปเลี้ยงในป่า ก่อให้เกิดผลกระทบโดยตรงต่อพรรณไม้ โดยเฉพาะพืชเฉพาะถิ่นที่ขึ้นเฉพาะฤดู มีไม้ดอกเฉพาะถิ่น เฉพาะฤดู 5 ชนิด ที่ได้รับพระราชทานชื่อจากสมเด็จพระนางเจ้าฯพระบรมราชินีนาถ ซึ่งเสด็จพระราชดำเนินภูผาแต้มเป็นประจำทุกปี พระราชทานเอาไว้ คือ ดุสิตา สร้อยสุวรรณา สรัสจันทร ทิพยเกษร และมณีเทวา เป็นดอกหญ้าที่มีดอกสวยงาม จะมีเฉพาะฤดูฝนเท่านั้น ไม้ดอกพวกนี้ก็อยู่ในสถานะภาพใกล้สูญพันธุ์อย่างยิ่ง (ไทยรัฐ พุธที่ 24 พ.ค. 2549 http://www.thairath.co.th)





ในหลวงพระราชทานแนวแก้ไขปัญหา ให้ผู้บัญชาการเหล่าทัพร่วมมือกัน

พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระราชทานแนวทางแก้ไขปัญหาอุทกภัยแก่ผู้บัญชาการเหล่าทัพทั้งสาม ให้เตรียมพร้อมเรื่องวิทยุสื่อสาร อย่าพึ่งแต่โทรศัพท์มือถือ ขณะเดียวกันทรงแนะการแก้ปัญหาภาคใต้ แต่ละกองทัพไม่ควรแบ่งพื้นที่รับผิดชอบ ควรจะร่วมมือกัน เมื่อเวลา 17.03 น. วันที่ 25 พฤษภาคม พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จลง ณ พระตำหนักน้อย วังไกลกังวล อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ พระราชทานพระบรมราชวโรกาสให้ พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน ผู้บัญชาการทหารบก พล.ร.อ.สถิรพันธุ์ เกยานนท์ ผู้บัญชาการทหารเรือ และ พล.อ.อ.ชลิต พุกผาสุข ผู้บัญชาการทหารอากาศ เฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงมีพระราชดำรัสแก่ผู้บัญชาการเหล่าทัพ ใจความตอนหนึ่งว่า "กองทัพทั้ง 3 มีอุปกรณ์ที่จะช่วย แต่ว่ารองราชเลขาฯ ไม่ได้ถ่ายทอด ความจริงที่สำคัญที่สุดที่กองทัพทั้ง 3 เหล่าช่วยได้ก็คือ สามารถเอาเครื่องอุปกรณ์ของกองทัพทั้ง 3 ช่วย แต่ตั้งแต่วันที่ 22-23 ที่บอกไปวันที่ 23 แต่รองราชเลขาฯ ไม่ได้บอกให้เอาเครื่องสื่อสารไป เรื่องเครื่องสื่อสาร ที่รำคาญ ฟังทางวิทยุว่าโทรศัพท์ติดต่อไม่ค่อยได้ ก็ติดต่อไม่ได้ เพราะใช้มือถือ เอะอะก็ใช้มือถือ จะใช้มือถือในป่าใช้ไม่ได้ แม้ป่าจะราบลง ก็ใช้ไม่ได้ กองทัพทั้ง 3 มีเครื่องสื่อสาร ไม่ใช่มือถือ มีเครื่องสื่อสารที่จะใช้ได้ สำหรับต่อไปก็จะต้องใช้ ถ้าจะต้องเกี่ยวข้องกับวิทยุ โทรศัพท์ ก็ตั้งเป็นศูนย์ แต่เอาอันเล็กๆ ไปได้ ซึ่งทั้ง 3 เหล่ามีสื่อสาร ก็ต้องใช้สื่อสารของแต่ละหน่วย อย่างกองทัพอากาศ เอาเครื่องบินขึ้นไปหมุนรอบอย่างที่เคยทำ ก็สามารถที่จะติดต่อไป อันนี้ทำมาตั้งนานแล้ว กองทัพบกก็มีระบบสื่อสาร แต่กองทัพอากาศจะช่วยได้มากกว่า ก็เคยทำกันมา 20-30 ปี แล้ว เอาวิทยุเล็กๆ ไว้ติดต่อ จากพื้นดินถึงเครื่องบิน ผ่านโคราชติดต่อเข้ากรุงเทพฯ ได้ 1 วัตต์ ก็ใช้ได้ ต่อไปยังมีอีก ไม่ได้แช่ง แต่เหตุการณ์อย่างนี้จะมีอีก ทางภาคเหนือก็เคยเป็น เคยมี แถวหล่มสักก็เคยเป็น แล้วทางใต้ก็เคยมีสุราษฎร์ฯ และนครศรีธรรมราช แต่ก็ไม่ได้ใช้การสื่อสารสมัยใหม่ ที่มีประสิทธิภาพมาก จะได้ช่วยเร็วๆ แต่ตอนแรกมันลำบาก เพราะวันที่ 22 และ 23 ฝนยังตกหนัก วันที่ 22 ฝน 200 กว่ามิลลิเมตร วันต่อไปร้อยกว่า แต่วันที่ 24 ไม่มีแล้ว เครื่องมือเครื่องไม้ก็ใช้ได้ อยากให้กองทัพทั้ง 3 ใช้เครื่องมือที่มี" (คมชัดลึก ศุกร์ที่ 26 พ.ค. 2549 http://www.komchadluek.net)





'อันนัน' เข้าเฝ้าในหลวงวันนี้ ทูลเกล้าฯ ถวายรางวัลสูงสุด

นายโคฟี อันนัน เลขาธิการสหประชาชาติ (ยูเอ็น) ที่เดินทางเยือนประเทศไทยอย่างเป็นทางการ จะเข้าเฝ้าเพื่อทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายรางวัลความสำเร็จสูงสุดด้านการพัฒนามนุษย์ แด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เพื่อเฉลิมพระเกียรติในพระปรีชาสามารถและพระราชกรณียกิจ ในการพัฒนาคุณภาพชีวิตและความเป็นอยู่ที่ดีของพสกนิกรไทยมาโดยตลอดรัชสมัย โดยในเวลา 09.30 น. นายอันนัน จะขึ้นกล่าวสุนทรพจน์ต่อผู้ร่วมการอภิปราย เรื่อง พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว กับการพัฒนามนุษย์ ณ กระทรวงการต่างประเทศ จากนั้นในเวลา 17.00 น. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้นายอันนัน และภริยา เข้าเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท ณ วังไกลกังวล อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ นอกจากนี้ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ยังเป็นเจ้าภาพเลี้ยงอาหารกลางวัน พร้อมหารือทวิภาคีกับนายอันนัน ณ ทำเนียบรัฐบาลด้วยสำหรับรางวัลที่ทางสหประชาชาติจะทูลเกล้าฯ ถวายครั้งนี้ เป็นรางวัลเกียรติยศที่ริเริ่มขึ้นใหม่โดยสหประชาชาติในปีนี้ เพื่อเทิดพระเกียรติเป็นกรณีพิเศษ ในโอกาสที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงครองสิริราชสมบัติครบ 60 ปี ซึ่งพระองค์จะทรงเป็นผู้ที่ได้รับการถวายรางวัลเกียรติคุณพิเศษนี้เป็นพระองค์แรก (ไทยรัฐ ศุกร์ที่ 26 พ.ค. 2549 http://www.thairath.co.th)






KMUTT Digital Library
Contact Digital Library : info@lib.kmutt.ac.th
Tel : 0-2470-8215