หัวข้อข่าวปีที่ 7 ฉบับที่ 28 ประจำวันที่ 2006-07-12

ข่าวการศึกษา

มหาวิทยาลัยปทุมธานี "แหล่งปั้นคนดี" ออกมารับใช้ชุมชน
อุดมศึกษาส้มหล่นรับฟรีซอฟต์แวร์100ล.ฟรี
การผสมผสานองค์ความรู้สู่ชีวิตจริง
อาชีวะปรับบทบาทวิทยาลัยชัดขึ้น
รุดพบ "จาตุรนต์" ชี้จุดบอดเกณฑ์ตำแหน่งวิชาการ
17 ก.ค. นัดชี้ขาดคุณลักษณะคอมฯต้นแบบ
'อุตสาหกรรม' พุ่งทำคนตะวันออกทุกข์

ข่าววิทยาศาสตร์/เทคโนโลยี

แผนที่ละเอียดสูงใกล้คลอด อิงมาตราส่วน 1:4000 ฉบันแรกในไทย
สร้างออฟฟิศอัจฉริยะด้วยเน็ตความเร็วสูง
ปล่อยร่มยักษ์บังแสงในอวกาศ เพื่อค้นหาสิ่งมีชีวิตบนดาวอื่น
26 ไวรัสคอมฯระบาดเอเชีย แฝงตัวมากับอีเมล์แบบไร้หัวข้อ
หญิงวัย 62 เป็นมารดาอายุมากที่สุด ใช้ผสมเทียมในหลอดแก้ว
มรภ.บ้านสมเด็จสำรวจ'คนกรุง'แชมป์จดสิทธิบัตร


ข่าวทั่วไป

มก.อบรมเทคโนโลยีกล้วยไม้
ไทยติดอันดับ44ประเทศมีความสุขที่สุดในโลก





ข่าวการศึกษา


มหาวิทยาลัยปทุมธานี "แหล่งปั้นคนดี" ออกมารับใช้ชุมชน

มหาวิทยาลัยปทุมธานี เป็นมหาวิทยาลัยของชุมชน และประชาชนชาว จ.ปทุมธานี นับเป็นมหาวิทยาลัยเพื่อชุมชนแห่งแรกของประเทศไทย เพราะผู้เรียนร้อยละ 80 เป็นชาวปทุมธานี ที่นี่เปิดโอกาสให้ทุกคนได้เติมเต็มฝันให้เป็นจริง หากไม่มีเงินจ่ายค่าเทอมก็ผ่อนชำระได้ และรับนักศึกษาเข้าเรียนเทอม 2 ได้ โดยไม่ต้องเริ่มต้นนับปีการศึกษาใหม่ให้เสียเวลา ความหลากหลายของผู้เรียน เป็นอีกเหตุผลหนึ่งทำให้ ดร.ชนากานต์ ปรับวันเวลาเรียนให้สอดคล้องกับความต้องการของผู้เรียน เช่น วันหยุดเสาร์-อาทิตย์ เปิดสอนหลักสูตรรองรับผู้เรียนวัยทำงาน ส่วนวันจันทร์และวันอังคาร เป็นวันหยุดทำการของมหาวิทยาลัย แต่การให้บริการด้านอาคาร สถานที่ ห้องประชุมไม่เคยมีวันหยุด หน่วยงานของรัฐ เอกชน สังคม ชุมชน สามารถมาใช้บริการได้ฟรีตลอดเวลา กระนั้น มหาวิทยาลัยปทุมธานี ยังจัดอาจารย์ไปให้บริการด้านการปกครอง ด้านกฎหมาย ร่วมเดินทางไปกับองค์การบริหารส่วนจังหวัด หรือ "อบจ.เคลื่อนที่" ในทุกๆ เดือน และนำนักศึกษาไปช่วยซ่อมแซมเครื่องใช้ไฟฟ้าในครัวเรือนทุกชนิด ให้แก่ประชาชนในพื้นที่ จ.ปทุมธานี รวมถึงให้คำปรึกษาด้านกฎหมายแก่ชาวบ้าน เพื่อให้ชาวปทุมธานีเป็น "คนรู้ทันคน" สนใจเยี่ยมชมมหาวิทยาลัยปทุมธานี จ.ปทุมธานี สอบถามรายละเอียดได้ที่โทร.0-2975-6999, 0-2975-6947 (คมชัดลึก พุธที่ 12 ก.ค. 2549 http://www.komchadluek.net)





อุดมศึกษาส้มหล่นรับฟรีซอฟต์แวร์100ล.ฟรี

นายสมเกียรติ สินธุชัย กรรมการผู้จัดการ บริษัท แซจจิเทท (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า บริษัทได้เล็งเห็นปัญหาการขาดแคลนบุคลากรด้านซอฟต์แวร์ระบบควบคุมในอุตสาหกรรมของประเทศไทย จึงได้สนับสนุนซอฟต์แวร์ระบบควบคุมอุตสาหกรรม ซึ่งมีมูลค่ารวมประมาณ 99 ล้านบาทให้สถาบันการศึกษาของรัฐจำนวน 10 สถาบัน ในกรุงเทพฯ และปริมณฑล โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆ เพื่อฝึกอบรมแก่นิสิต นักศึกษาของไทย หรือเป็นชุดฝึกในห้องปฏิบัติการทดลอง เทคโนโลยีด้านซอฟต์แวร์ระบบควบคุม ถือเป็นเทคโนโลยีที่มีบทบาทสำคัญและใช้อย่างแพร่หลายในอุตสาหกรรมทั่วโลก แต่ประเทศไทยยังมีบุคลากรที่มีความรู้ความสามารถด้านนี้ไม่มาก และไม่เพียงพอต่อความต้องการของอุตสาหกรรมที่โตขึ้นอย่างต่อเนื่องตลอดเวลา ซึ่งสาเหตุสำคัญมาจากมูลค่าของซอฟต์แวร์ที่มีราคาสูง ทำให้เป็นการยากที่สถาบันการศึกษาไทยจะสามารถจัดหาซอฟต์แวร์ดังกล่าวเพื่อใช้ในการเรียนการสอน ส่งผลให้ทรัพยากรบุคคลในระดับอุดมศึกษาที่ออกสู่ภาคอุตสาหกรรมต่างๆ ขาดความรู้ความสามารถด้านนี้ โครงการสนับสนุนซอฟต์แวร์ให้สถานศึกษานี้ เป็นความร่วมมือระหว่าง แซจจิเทท ซึ่งทำงานเกี่ยวกับระบบควบคุมอุตสาหกรรม กับบริษัท วันเดอร์แวร์ จำกัด ผู้พัฒนาซอฟต์แวร์ระบบควบคุมอุตสาหกรรม (คมชัดลึก พุธที่ 12 ก.ค. 2549 http://www.komchadluek.net)





การผสมผสานองค์ความรู้สู่ชีวิตจริง

หลักสูตรการศึกษาขั้นพื้นฐาน พ.ศ. 2544 เน้นให้ครูผู้สอนจัดการเรียนรู้แบบบูรณาการ โดยยึดผู้เรียนเป็นสำคัญ คือ ต้องส่งเสริมให้ผู้เรียนสามารถพัฒนาตนเองได้ตามความถนัด ความสนใจ และเต็มตามศักยภาพ ให้ผู้เรียนได้มีโอกาสเรียนรู้อย่างหลากหลายสอดคล้องกับสภาพจริง และสามารถนำความรู้ที่ได้ไปประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวันได้ เพราะในยุคสมัยนี้องค์ความรู้ไม่จำกัดอยู่แค่ในหนังสือเรียนหรือเนื้อหาสาระที่กำหนดไว้ในหลักสูตรเท่านั้น ปัญหาหนึ่งของการจัดการศึกษาที่เป็นปัญหาเรื้อรังที่ยากต่อการแก้ไขที่หลาย ๆ ประเทศ รวมถึงการศึกษาของบ้านเราประสบพบเจอ นั่นก็คือ การจัดการเรียนรู้แบบแยกส่วน โดยแยกสอนเป็นวิชา ๆ ซึ่งเป็นเหตุให้ผู้เรียนต้องจดจำเนื้อหา และมักจะไม่สามารถเชื่อมโยงสิ่งที่เรียนรู้ระหว่างวิชาต่าง ๆ ได้ ในเรื่องนี้มีนักวิชาการหลายท่านเห็นว่า การจัดการเรียนรู้แบบบูรณาการ ซึ่งเป็นการนำเนื้อหาวิชาที่สอดคล้องกันใกล้เคียงกันมาสอนร่วมกัน มุ่งเน้นให้ผู้เรียนสามารถเชื่อมโยงความรู้ ความคิด ทักษะ และประสบการณ์ที่มีความหลากหลายและสัมพันธ์กัน ให้เกิดการรู้ลึก รู้จริง ในสิ่งที่ศึกษา และสามารถนำไปประยุกต์ใช้ในชีวิตจริงได้ น่าจะเป็นทางเลือกหนึ่งที่ครูผู้สอนสามารถนำมาใช้ในการจัดการเรียนรู้เพื่อพัฒนาผู้เรียนให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น จากการติดตามประเมินผลการใช้หลักสูตรของสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) พบว่า ผู้ใช้หลักสูตรยังขาดความชัดเจนในเรื่องการจัดการเรียนรู้แบบบูรณาการ ที่ผ่านมา สพฐ. โดยสำนักวิชาการและมาตรฐานการศึกษา ได้จัดทำเอกสารเรียนรู้...บูรณาการ แนวการจัดทำหน่วยการเรียนรู้แบบบูรณาการ และแนวทางการจัดการเรียนรู้แบบบูรณาการ เพื่อเป็นสื่อช่วยให้ผู้ใช้หลักสูตรมีความเข้าใจตรงกัน และเห็นแนวทางในการจัดการเรียนรู้แบบบูรณาการที่ครอบคลุมทั้งด้านหลักการ แนวคิด และตัวอย่างแนวการจัดการเรียนรู้ที่มีความหลากหลาย ซึ่งครูผู้สอนสามารถนำไปประยุกต์ใช้ในการจัดการเรียนรู้ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น (เดลินิวส์ พุธที่ 12 ก.ค. 2549 http://www.dailynews.co.th)





อาชีวะปรับบทบาทวิทยาลัยชัดขึ้น

นายวีระศักดิ์ วงษ์สมบัติ เลขาธิการคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (กอศ.) กล่าวถึงการปรับบทบาทของวิทยาลัยในสังกัดสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (สอศ.) ให้มีบทบาทตรงกับภาระหน้าที่ว่า ที่ผ่านมายังมีปัญหาความไม่ชัดเจน อาทิ วิทยาลัยการอาชีพ ซึ่งชื่อของวิทยาลัยยังบ่งบอกภารกิจไม่ชัดเจน หรือแม้แต่วิทยาลัยเกษตรและเทคโนโลยี ซึ่งแต่เดิมมีการจัดตั้งวิทยาลัยเพื่อรองรับการประกอบอาชีพและส่งเสริมให้ไปเรียนเกษตรเพื่อเป็นเจ้าหน้าที่เกษตรตำบลหรือเกษตรอำเภอ แต่ในปัจจุบันเราต้องให้ความสำคัญกับความรู้สำหรับการทำมาหากินหรือเทคโนโลยีบางอย่างที่ต้องการความเข้มข้นเฉพาะทางมากขึ้น ดังนั้น สอศ. จะทำโครงการนำร่องปรับบทบาทสถานศึกษาที่วิทยาลัยการอาชีพ อ.บางสะพาน จ.ประจวบคีรีขันธ์ โดย สอศ.จะร่วมมือกับภาคเอกชนที่เป็นผู้ลงทุนรายใหญ่เกี่ยวกับการผลิตเหล็กกล้า ในการปรับบทบาท วิทยาลัยการอาชีพ อ.บางสะพาน และยกระดับเป็นวิทยาลัยเทคโนโลยีการจัดการเหล็กและเหล็กกล้า เพื่อเป็นตัวอย่างในการปรับบทบาทให้ แก่วิทยาลัยอื่น ๆ เนื่องจากวิทยาลัยแห่งนี้เน้นจัดการเรียนการสอนเกี่ยวกับเรื่องเหล็กกล้าเป็นหลักอยู่แล้ว (เดลินิวส์ พุธที่ 12 ก.ค. 2549 http://www.dailynews.co.th)





รุดพบ "จาตุรนต์" ชี้จุดบอดเกณฑ์ตำแหน่งวิชาการ

นายไชยา กุฎาคาร ประธานสภาคณาจารย์และข้าราชการ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ ในฐานะเลขาธิการที่ประชุมประธานสภาอาจารย์มหาวิทยาลัยแห่งประเทศไทย (ปอมท.) เปิดเผยว่า เมื่อเร็วๆนี้ ปอมท. ได้ประชุมร่วมกันเกี่ยวกับประกาศคณะกรรมการข้าราชการพลเรือนในสถาบันอุดมศึกษา (ก.พ.อ.) เรื่อง หลักเกณฑ์และวิธีการพิจารณาแต่งตั้งบุคคลให้ดำรงตำแหน่งผู้ช่วยศาสตราจารย์ (ผศ.) รองศาสตราจารย์ (รศ.) และศาสตราจารย์ (ศ.) พ.ศ. 2549 ประกาศเมื่อวันที่ 31 มี.ค. 2549 ทั้งนี้ ปอมท.ได้หารือเรื่องนี้ 2 ครั้ง โดยมีความเห็นเป็นมติเอกฉันท์ว่า ประกาศดังกล่าวเป็นอุปสรรคต่อการพัฒนามหาวิทยาลัย ทั้งเรื่องของหลักเกณฑ์และวิธีการปฏิบัติ ซึ่งจะส่งผลกระทบโดยตรงต่อการบริหารกิจการของมหาวิทยาลัยต่างๆ ในหลายๆด้าน ทั้งนี้ เห็นร่วมกันว่าหลักเกณฑ์และวิธีการพิจารณาแต่งตั้งบุคคลให้ดำรงตำแหน่ง ผศ. รศ.และศ.ฉบับเดิม ที่ออกโดยคณะกรรมการข้าราชการพลเรือนในมหาวิทยาลัย หรือ ก.ม. ไม่ปรากฏข้อบกพร่องแต่ประการใด ที่ประชุม ปอมท. จึงมีมติว่า ขอให้ ก.พ.อ.พิจารณายับยั้งการบังคับใช้ ประกาศ ก.พ.อ. เรื่องหลักเกณฑ์และวิธีการพิจารณาแต่งตั้งบุคคลให้ดำรงตำแหน่ง ผศ. รศ. และ ศ. พ.ศ. 2549 และ ปอมท.ได้ส่งหนังสือถึงนายจาตุรนต์ ฉายแสง รมว.ศึกษาธิการ เพื่อขอให้ยับยั้งการประกาศใช้และขอเข้าพบเพื่อชี้แจงปัญหาจากการบังคับใช้ประกาศฉบับนี้ ผศ.น.พ.ธวัชชัย พีรพัฒน์ดิษฐ์ ประธานสภาอาจารย์มหาวิทยาลัยมหิดล ในฐานะประธาน ปอมท. กล่าวว่า สิ่งที่คณาจารย์จากทุกมหาวิทยาลัยเห็นปัญหาตรงกันประการหนึ่งคือ ต้องการให้เกิดความร่วมมือทางวิชาการระหว่างมหาวิทยาลัยในลักษณะบูรณาการ แต่ในประกาศกลับระบุว่า ผู้ที่จะเสนอขอเข้าสู่ตำแหน่งทางวิชาการ จะต้องมีส่วนร่วมในผลงานวิชาการไม่น้อยกว่าร้อยละ 50 ซึ่งเกณฑ์ดังกล่าวจะทำให้ไม่เกิดความร่วมมือทางวิชาการ. (ไทยรัฐ พุธที่ 12 ก.ค. 2549 http://www.thairath.co.th)





17 ก.ค. นัดชี้ขาดคุณลักษณะคอมฯต้นแบบ

ดร.ชินภัทร ภูมิรัตน รองเลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.) เปิดเผยว่า ตามที่คณะกรรมการดำเนินโครงการจัดหาเครื่องคอมพิวเตอร์ และระบบเครือข่ายอินเตอร์เน็ตความเร็วสูงเพื่อการศึกษา ได้เห็นชอบในหลักการของรายละเอียด และคุณลักษณะของระบบคอมพิวเตอร์ โครงการจัดหาเครื่องคอมพิวเตอร์ฯ ในส่วนของงบประมาณจำนวน 552 ล้านบาท ที่สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ได้รับ แต่เพื่อให้เกิดความมั่นใจในเรื่องคุณลักษณะที่กำหนดขึ้นว่าเหมาะสม มีประสิทธิภาพ และเกิดประโยชน์สูงสุด รวมทั้งเป็นธรรม สพฐ.จึงเปิดรับฟังความเห็นเกี่ยวกับคุณลักษณะของคอมพิวเตอร์ เพื่อการเรียนการสอนใน 3 ทางคือ ให้แสดงความเห็นผ่านทาง http://www.obec.go.th ให้ส่งหนังสือ มายังประธานรับฟังความคิดเห็น และลงทะเบียนเข้าร่วมประชุมในวันที่ 3 ก.ค. ที่ผ่านมา ซึ่งปรากฏว่ามีผู้ผลิต ผู้แทนจำหน่าย และตัวแทนครูจากโรงเรียนต่างๆ แสดงความคิดเห็นเข้ามาจำนวนมาก ส่วนใหญ่ท้วงติงเรื่องเครื่องพิมพ์ และโปรเจกเตอร์ ตนจะรวบรวมผลการรับฟัง รวมถึงประเด็นที่มีการทักท้วงให้คณะอนุกรรมการจัดซื้อพิจารณาในต้นสัปดาห์หน้า และจะนำเข้าพิจารณาของคณะกรรมการดำเนินโครงการฯ ที่มีนายจาตุรนต์ ฉายแสง รมว.ศึกษาธิการ เป็นประธาน ในวันที่ 17 ก.ค.นี้ ว่าจะมีการปรับแก้ตามข้อทักท้วงหรือยืนตามที่คณะอนุกรรมการฯได้ยกร่างขึ้น “คาดว่าการประชุมในวันที่ 17 ก.ค.นี้จะได้ข้อยุติเกี่ยวกับคุณลักษณะของคอมพิวเตอร์เพื่อการเรียนการสอน รวมทั้งวิธีการจัดซื้อจัดจ้างที่จะให้กระจายการจัดซื้อจัดจ้างไปยังเขตพื้นที่การศึกษา และสถานศึกษา ส่วนที่ว่าจะมีการปรับแก้คุณลักษณะตามที่ท้วงติงหรือไม่นั้น ทางคณะกรรมการขอสงวนสิทธิ์ที่จะพิจารณา เพราะบางครั้งข้อเสนอบางด้านอาจจะได้ของที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น แต่ราคาก็จะสูงขึ้นตามไปด้วย ทั้งนี้ สพฐ.ได้ทำบัญชีที่จะจัดซื้อให้กับกลุ่มโรงเรียนเป้าหมายประมาณ 1,300 โรง หรือประมาณ 15,000-16,000 เครื่องไว้แล้ว” (ไทยรัฐ พุธที่ 12 ก.ค. 2549 http://www.thairath.co.th)





'อุตสาหกรรม' พุ่งทำคนตะวันออกทุกข์

ท.พ.กฤษฎา เรืองอารีรัชต์ รองผู้จัดการสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) เปิดเผยถึงผลการสำรวจสถานการณ์สุขภาวะคนภาคกลาง ซึ่ง สสส.ร่วมกับสำนักวิจัยเอแบคโพล ศึกษาถึงปัญหาหรือภัยคุกคามทางสุขภาพที่มีผลกระทบต่อสภาพชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนในพื้นที่ภาคกลาง ทั้งทางกาย จิต สังคมและจิตวิญญาณ พบว่า มิติทางกายที่ทำให้เกิดทุกขภาวะมากที่สุด คือ ปัญหาสิ่งแวดล้อมเสื่อมโทรมและปัญหามลพิษ โดยเฉพาะในกลุ่มภาคกลาง ตะวันออก ตั้งแต่จังหวัดฉะเชิงเทรา ชลบุรี ระยอง จันทบุรี และตราด โดยผลการสำรวจครั้งนี้มีความสอด คล้องกับทีมวิชาการในท้องถิ่น ที่ศึกษาผลกระทบจากอุตสาหกรรมที่เกิดขึ้นกับคนภาคกลางฝั่งตะวันออกไว้อย่างชัดเจน ไม่เฉพาะแต่ผลกระทบต่อสุขภาวะทางกาย เท่านั้น แต่อุตสาหกรรมในภาคตะวันออกยังส่งผลกระทบต่อสุขภาวะทางจิตใจ สังคมของคนในภูมิภาคนี้ด้วย “อาจกล่าวได้ว่า ภาคกลางและภาคตะวันออก เป็นภูมิภาคที่มีการเจริญเติบโตของภาคอุตสาหกรรมที่รวดเร็ว จากศักยภาพของพื้นที่ที่เป็นพื้นที่ชายฝั่งทะเล เหมาะแก่การลงทุน การท่องเที่ยว และยังมีท่าเรือน้ำลึกที่เอื้อต่อการส่งสินค้าออก พื้นที่นี้จึงเป็นฐานการผลิตอุตสาหกรรมเพื่อการส่งออก โดยเฉพาะอุตสาหกรรมหนักอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้” รองผู้จัดการ สสส. กล่าวและว่า ในทางตรงกันข้าม การเติบโตของภาคอุตสาหกรรม แม้จะทำให้เศรษฐกิจของภาคกลางและภาคตะวันออกเติบโตอย่างรวดเร็ว รายได้เฉลี่ยต่อหัวประชากรสูงเป็น 2 เท่า เมื่อเทียบกับค่าเฉลี่ยของประเทศ และความยากจนของคนในภาคนี้มีค่าเฉลี่ยต่ำสุดในระดับประเทศ แต่ประชาชนในภูมิภาคกลับต้องเผชิญกับทุกขภาวะ ทั้งเรื่องของปัญหาการใช้ที่ดิน ปัญหาการใช้น้ำ ปัญหาการจัดเก็บขยะและของเสียอันตราย รวมทั้งมลภาวะทางอากาศ มีข้อมูลระบุว่า ในรอบ 1 ปี จะมีช่วงเวลาที่นิคมอุตสาหกรรมจะอยู่ในตำแหน่งต้นลมนานถึง 8 เดือน หมายถึงชุมชนส่วนใหญ่ต่างตกอยู่ในข่ายอยู่ปลายลม ส่งผลให้คนในพื้นที่เสี่ยงต่อการเจ็บป่วยด้วยโรคระบบทางเดินหายใจได้ง่าย ขณะที่ปัญหาเรื่องน้ำ มีการคาดการณ์ว่าในอีก 20 ปีข้างหน้าจะมีความต้องการน้ำสูง จนอาจเกิดการแย่งชิงทรัพยากรน้ำ จึงจำเป็นที่ภาครัฐจะต้องมีการทบทวนปัญหาสุขภาวะของคนภาคกลางและภาคตะวันออกอย่างจริงจัง. (ไทยรัฐ พุธที่ 12 ก.ค. 2549 http://www.thairath.co.th)





ข่าววิทยาศาสตร์/เทคโนโลยี


แผนที่ละเอียดสูงใกล้คลอด อิงมาตราส่วน 1:4000 ฉบันแรกในไทย

นายชัยวัฒน์ สิทธิบุศย์ อธิบดีกรมพัฒนาที่ดิน กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่า กรมพัฒนาที่ดินร่วมกับกรมแผนที่ทหารและบริษัทเอกชน ได้จัดทำแผนที่ภาพถ่ายทางอากาศสี มาตราส่วน 1 ต่อ 4,000 จึงให้ความละเอียดสูงสุดและยังไม่มีใช้ในปัจจุบัน โดยที่ผ่านมาแผนที่ภาพถ่ายทางอากาศ จะใช้มาตราส่วน 1 ต่อ 50,000 และ1 ต่อ 25,000 รายละเอียดที่ปรากฏจึงไม่ชัดเจน และเหมาะสำหรับใช้ประโยชน์กับงานบางประเภทเท่านั้น แผนที่ความละเอียดสูงนี้ใช้เงินลงทุนไม่ต่ำกว่า 800 ล้านบาท มีความคืบหน้าไปกว่า 90% โดยเหลือการถ่ายภาพพื้นที่ 3 จังหวัดภาคใต้ คาดว่าจะแล้วเสร็จในเดือนสิงหาคมนี้ สำหรับประโยชน์ใช้งานเพื่อวางแผนแก้ปัญหาของประเทศได้ในหลายด้าน อาทิ การจัดการทรัพยากรของประเทศ การวางแผนจัดการที่ดิน การแก้ไขปัญหาเอกสารสิทธิในเรื่องที่ดินทำกินของเกษตรกร การจัดการการใช้ประโยชน์ของพื้นที่ป่า นอกจากนี้ ยังสามารถระบุ "หมุดหลักฐาน" ภาคพื้นดิน ซึ่งช่วยกำหนดพิกัด หรือเขตแดนของพื้นได้แม่นยำยิ่งขึ้น จึงช่วยลดปัญหาการทับซ้อนของพื้นที่ เนื่องจากที่ผ่านมาหน่วยงานราชการต่างจัดทำแผนที่ขึ้นมาใช้เฉพาะในหน่วยงาน และยังไม่มี "แผนที่กลาง" ที่ระบุพิกัดพื้นที่ได้ชัดเจน ทำให้เกิดคดีความฟ้องร้องเรื่องที่ดินอยู่เป็นจำนวนมาก อาทิ ที่ดินทำกินทับซ้อนกับพื้นที่ป่าสงวน ขณะที่เอกชนกับรัฐต่างใช้ข้อมูลจากแผนที่ต่างฉบับกัน (คมชัดลึก พุธที่ 12 ก.ค. 2549 http://www.komchadluek.net)





สร้างออฟฟิศอัจฉริยะด้วยเน็ตความเร็วสูง

นายบัณฑิต ว่องวัฒนะสิน กรรมการผู้จัดการ อินเทอร์เนต โซลูชั่น แอนด์ เซอร์วิส โพรวายเดอร์ จำกัด (ISSP) ผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตองค์กร เปิดเผยว่า ไอเอสเอสพี ได้ร่วมมือกับพันธมิตรเปิดให้บริการ “Intelligent Office” ซึ่งเป็นอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงระดับ Gigabit บนสื่อสัญญาณ Fiber Optic ลากตรงเข้าอาคารสำนักงานชั้นนำทั่วกรุงเทพฯ เพื่อให้การเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตในอาคารมีความเร็วและเสถียรภาพสูงสุด พร้อมทั้งสามารถช่วยลดต้นทุน และสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับองค์กรของผู้ใช้ ด้วยโซลูชั่นในการบริหารจัดการอินเทอร์เน็ตที่ให้ขีดความสามารถในการแข่งขันทางธุรกิจได้สูงกว่าคู่แข่ง โดยมุ่งเจาะกลุ่มองค์กรขนาดกลางถึงขนาดใหญ่ที่อยู่ในอาคารสำนักงานชั้นนำทั่วกรุงเทพฯ ที่เน้นประสิทธิภาพความเร็วและเสถียรภาพเป็นหลัก สำหรับโซลูชั่นที่ประกอบอยู่ในบริการ “Intelligent Office” ได้แก่ Security Solution ป้องกันการใช้งานอินเทอร์เน็ต ภายในองค์กรให้ปลอดภัยจาก Virus หรือโปรแกรมไม่พึงประสงค์ รวมทั้งบริหารจัดการช่องสัญญาณในการใช้งานอินเทอร์เน็ตในองค์กร, Smart Monitoring บริการรายงานการใช้งานช่องสัญญาณอินเทอร์เน็ตขององค์กร และ Communication Solution เพิ่มขีดความสามารถในการติดต่อสื่อสารที่รวดเร็วและแม่นยำ เพื่อประโยชน์ในการประชุมแบบ Real Time ทุกที่ทุกเวลา และ e-Secretary บริการ เลขาออนไลน์ส่วนตัวในการแจ้งตารางนัดหมายผ่าน email และ SMS ทั้งนี้ “Intelligent Office” ความเร็ว 4 Mbps ราคาเดือนละ 49,000 บาท (เดลินิวส์ พุธที่ 12 ก.ค. 2549 http://www.dailynews.co.th)





ปล่อยร่มยักษ์บังแสงในอวกาศ เพื่อค้นหาสิ่งมีชีวิตบนดาวอื่น

วารสาร “ธรรมชาติ” กล่าวแจ้งว่า นักวิทยาศาสตร์กำลังสร้างร่มรูปดอกเดซี่ ด้วยพลาสติกขนาดยักษ์ ที่มีขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางโต 50 เมตร ซึ่งจะส่งออกไปกางบังกล้องโทรทรรศน์ ไม่ให้แสงของดาวฤกษ์แยงตา เพื่อที่นักวิทยาศาสตร์จะได้ทำแผนที่ของระบบดวงดาวได้สะดวก ศาสตราจารย์เวบสเตอร์ แคช มหาวิทยาลัยโคโลราโด ผู้สร้างเชื่อว่า จะสามารถปล่อยร่มเพื่อบังแสงให้กับกล้องโทรทรรศน์เจมส์ เวบบ์ สเปซ ซึ่งจะรับงานต่อจากกล้องโทรทรรศน์ฮับเบิล ได้ภายใน พ.ศ.2556 โดยมันจะโคจรตามอยู่ข้างหลัง ทิ้งระยะห่างกัน 15,000 กม. จนเมื่อพบดาวเคราะห์เป้าหมาย นักวิทยาศาสตร์ก็จะบังคับด้วยจรวดขับดัน ให้มันเคลื่อนไปอยู่ทางด้านหน้าของกล้อง นักวิทยาศาสตร์ได้พยายามเสาะหาดาวเคราะห์บริวารของดาวฤกษ์ดวงอื่น นอก จากดวงอาทิตย์ด้วยกันด้วยวิธีต่างๆหลายวิธี และจนบัดนี้ได้ค้นพบแล้วไม่ต่ำกว่า 170 ดวง นักดาราศาสตร์เจาะจงดาวเคราะห์ ขนาดเล็กทอแสงสลัว ตอนเมื่อโคจรผ่านดาว ฤกษ์มากเป็นพิเศษ. (ไทยรัฐ พุธที่ 12 ก.ค. 2549 http://www.thairath.co.th)





26 ไวรัสคอมฯระบาดเอเชีย แฝงตัวมากับอีเมล์แบบไร้หัวข้อ

บริษัทเทรนด์ ไมโคร แจ้งเตือนการระบาดของไวรัสคอมพิวเตอร์ 26 สายพันธุ์ที่กำลังระบาดทั่วเอเชียในขณะนี้ ว่า เป็นหนอนไวรัส (เวิร์ม) ตระกูล RONTKBR.GEN ที่ถูกค้นพบเมื่อปี 2548 แต่ยังระบาดอย่างต่อเนื่องจนถึงปีนี้และขยายวงกว้างขึ้นเรื่อยๆ เทรนด์ ไมโคร จึงจัดให้ อยู่ในความเสี่ยงระดับสูง ส่วนใหญ่จะแพร่ ผ่านทางอีเมล์ที่ไม่มีหัวเรื่อง หรือ subject ของอีเมล์ ซึ่งมักจะปรากฏหัวเรื่องอีเมล์เป็นภาษาไทยว่า “ไม่มีหัว ข้อ” และใช้โฟลเดอร์ที่เป็นไอคอนของวินโดว์สชักชวนให้ผู้ใช้หลงเชื่อ และเปิดใช้งานจะเข้าสู่โปรแกรมไม่พึงประสงค์และเป็นอันตรายหรือที่เรียกว่า มัลแวร์ ในที่สุด ทำให้ระบบป้องกันภัยไวรัสของคอมพิวเตอร์ ใช้งานไม่ได้ นับเป็นอันตรายต่อการติดไวรัสอื่นๆที่ผ่านเข้ามาจำนวนมาก นักวิจัยด้านไวรัสคอมพิวเตอร์ของเทรนด์ ไมโคร ยอมรับว่าการแก้ไขเป็นเรื่องยาก เพราะหนอนร้ายเหล่านี้จะเริ่มเปิดการทำงาน ของระบบคอมพิวเตอร์ใหม่ทันทีเมื่อการเปลี่ยนแปลงใดๆ นอกจากนี้ ยังจะปรับเปลี่ยนไฟล์ HOSTS ซึ่งป้องกันผู้ใช้ไม่ให้ได้รับความช่วยเหลือจากเว็บไซต์ ป้องกันไวรัสด้วยการเปลี่ยนทิศทางใหม่ไปยังหน้าเว็บไซต์อื่นแทน ปัจจุบันมีคอมพิวเตอร์ติดเชื้อไปแล้วทั้งสิ้น 15,886 เครื่อง โดยประเทศไทย จีน ไต้หวัน และญี่ปุ่น ติดอยู่ในกลุ่มสิบอันดับแรกที่มีการติดเชื้อในภูมิภาคสูงสุด ขณะที่ในมาเลเซีย และอินโดนีเซีย ก็กำลังมีอัตราการเติบโตของเชื้ออย่างรวดเร็วเช่นกัน โดยประเทศไทยพบการระบาดถึง 9 สายพันธุ์. (ไทยรัฐ พุธที่ 12 ก.ค. 2549 http://www.thairath.co.th)





หญิงวัย 62 เป็นมารดาอายุมากที่สุด ใช้ผสมเทียมในหลอดแก้ว

หนังสือพิมพ์เดลีเมล์ในอังกฤษรายงานว่า นักจิตวิทยาวัย 62 ปี คลอดบุตรชายที่กำเนิดจากวิธีผสมเทียมในหลอดแก้ว นับเป็นมารดาอายุมากที่สุดในประเทศ ขณะที่กลุ่มสนับสนุนการมีชีวิตตำหนิว่า การให้สตรีสูงวัยมีบุตรเป็นพฤติกรรมเห็นแก่ตัว รายงานแจ้งว่า นางแพทริเซีย รัชบรูค ให้กำเนิดบุตรชายด้วยวิธีผ่าตัดออกที่โรงพยาบาลซัสเส็กซ์ในเมืองไบรท์ตัน ทางใต้ของอังกฤษ เมื่อเช้าวันพุธตามเวลาท้องถิ่น เด็กชายเจเจ มีน้ำหนักแรกคลอด 3 กิโลกรัม นายจอห์น ฟาร์แรนท์ สามีวัย 60 ปี ถึงกับหลั่งน้ำตาด้วยความยินดีที่ได้บุตรชายคนแรกในชีวิต ส่วนลูก 3 คน ของนางรัชบรูคที่โตแล้ว ซึ่งเป็นลูกที่เกิดกับอดีตสามีก็เอ็นดูน้องชายคนใหม่ด้วยความรักใคร่ อย่างไรก็ดี กรณีของนางรัชบรูคจุดกระแสถกเถียงถึงความเหมาะสมของการช่วยให้สตรีสูงวัยมีบุตร เมื่อเรื่องเธอตั้งครรภ์ด้วยวิธีผสมเทียมในหลอดแก้วกลายเป็นข่าวใหญ่ในเดือนพฤษภาคม กลุ่มสนับสนุนการมีชีวิตตำหนิว่า เป็นพฤติกรรมเห็นแก่ตัว แต่สำนักงานการมีบุตรและตัวอ่อนวิทยาของอังกฤษที่กำกับดูแลเรื่องนี้ระบุว่า อายุไม่ใช่อุปสรรคของการช่วยให้มีบุตร คณะแพทย์ได้ พิจารณาปัจจัยหลายอย่าง ทั้งสภาพชีวิตความเป็นอยู่ของเด็ก สุขภาพ อายุและความสามารถของบิดามารดาในการเลี้ยงดูบุตร (ไทยรัฐ พุธที่ 12 ก.ค. 2549 http://www.thairath.co.th)





มรภ.บ้านสมเด็จสำรวจ'คนกรุง'แชมป์จดสิทธิบัตร

รศ.ดร.เอื้อมพร เธียรหิรัญ รองอธิการบดีฝ่ายวิจัยและวิเทศสัมพันธ์ มหาวิทยาลัยราชภัฏบ้านสมเด็จเจ้าพระยา (มรภ.บ้านสมเด็จฯ) เปิดเผยว่า มหาวิทยาลัยร่วมมือกับกรมทรัพย์สินทางปัญญา วิจัยสำรวจข้อมูลการนำทรัพย์สินทางปัญญาไปใช้ประโยชน์ในเชิงพาณิชย์ ปีงบประมาณ 2548 เพื่อศึกษาถึงสภาพปัญหา พร้อมทั้งกำหนดแนวทางส่งเสริมการใช้ทรัพย์สินทางปัญหาของประเทศ ให้กระทรวงพาณิชย์ได้นำไปปฏิบัติ ผลสำรวจความคิดเห็นของผู้ประกอบการ 485 ราย ทั้งจากแบบสอบถามและสัมภาษณ์เชิงลึกพบว่า ร้อยละ 46.4 ให้ความสำคัญกับการจดทะเบียนลิขสิทธิ์ รองลงมาคือเครื่องหมายการค้า 43.5 และสิทธิบัตรร้อยละ 10 โดยส่วนใหญ่อยู่ที่กรุงเทพฯ เชียงใหม่และขอนแก่น ขณะที่ภาคตะวันออก ตะวันตกและภาคใต้ ยังให้ความสำคัญกับทรัพย์สินทางปัญญาไม่มากทีมวิจัยได้เสนอแนวทางแก้ปัญหา เพื่อส่งเสริมความตระหนักและการใช้ทรัพย์สินทางปัญญาในประเทศ อาทิ กำหนดมาตรการคุ้มครองการบริหารจัดการขั้นตอนการจดทะเบียน ให้กระชับและรัดกุมมากขึ้น รวมถึงเผยแพร่ความรู้ให้ประชาชนเห็นถึงความสำคัญของการจดสิทธิบัตร และกระตุ้นให้เกิดการสร้างสรรค์ผลงานมากขึ้น อย่างไรก็ตาม กรมได้จัดกิจกรรมเพื่อกระตุ้นความสนใจประชาชน อาทิ จัดตั้งหน่วยเคลื่อนที่ ลงพื้นที่ให้ความรู้เรื่องทรัพย์สินทางปัญญาตามภูมิภาค พร้อมทั้งเปิดลงทะเบียนอิเล็กทรอนิกส์สำหรับรับจดทะเบียนผ่านอินเทอร์เน็ต และโครงการแปลงทรัพย์สินทางปัญญาเป็นทุน ซึ่งเป็นการทำงานร่วมกับธนาคารออมสิน เป็นต้น (กรุงเทพธุรกิจ พุธที่ 12 ก.ค. 2549 http://www.bangkokbiznews.com)






ข่าวทั่วไป


มก.อบรมเทคโนโลยีกล้วยไม้

ศูนย์บริการฉายแสงสีแกมมาและวิจัยนิวเคลียร์เทคโนโลยี สถาบันวิจัยและพัฒนา มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ (มก.) เปิดอบรมทางวิชาการเรื่อง “การถ่ายทอดเทคโนโลยีเพื่อเพิ่มศักยภาพการผลิตกล้วยไม้ของไทยโดยอาศัยเทคโนโลยีชีวภาพ” ในวันที่ 1-4 และ 18 ส.ค. เพื่อถ่ายทอดเทคโนโลยีเกี่ยวกับแนวทางการผลิตพันธุ์กล้วยไม้ไทยที่มีคุณภาพดี ให้แก่เกษตรกรและผู้สนใจทั่วไป โดยรับรุ่นละ 20 คน สนใจติดต่อได้ที่ ศูนย์บริการฉายแสงสีแกมมาและวิจัยนิวเคลียร์เทคโนโลยี สถาบันวิจัยและพัฒนา มก. ภายในวันที่ 20 ก.ค. สอบถามโทร. 0-2731-4877 กด 1, 0-1945-3129 (เดลินิวส์ พุธที่ 12 ก.ค. 2549 http://www.dailynews.co.th)





ไทยติดอันดับ44ประเทศมีความสุขที่สุดในโลก

ไทยติดอันดับ44 ประเทศที่มีความสุขที่สุดของโลก "วานูอาตู" ประเทศเกาะเล็ก ๆ ในมหาสมุทรแปซิฟิกตอนใต้ติดอันดับ1 มีความสุขมากที่สุด เพราะไม่ตามกระแสลัทธิบริโภคขณะที่ประเทศร่ำรวยไม่ติด 50 อันดับแรก นิวอีโคโนมิกส์ฟาวเดชั่นส์ หน่วยงานวิชาการในอังกฤษจัดทำดัชนีความสุขโลกโดยพิจารณาจากความพึงพอใจในชีวิต อายุขัย และการบริโภคสิ่งแวดล้อมที่คำนวณจากปริมาณที่ดินสำหรับเลี้ยงดูประชากรและรองรับการใช้พลังงาน ดัชนีดังกล่าวชี้วัดว่า แต่ละประเทศประสบความสำเร็จหรือล้มเหลวในการดูแลประชาชนให้มีชีวิตที่ดีโดยเคารพทรัพยากรธรรมชาติที่มีอยู่อย่างจำกัด วานูอาตู ประเทศเกาะที่มีประชากร 200,000 คน ได้รับการจัดอันดับให้เป็นประเทศที่มีความสุขมากที่สุดในโลกจากทั้งหมด 178 ประเทศ ชาววานูอาตูโดยทั่วไปมีความสุขเพราะไม่ใช่สังคมบริโภค สิ่งที่มีคุณค่าต่อชีวิตคือครอบครัว ชุมชน และการปรารถนาดีต่อกัน ส่วนสิ่งที่พวกเขากังวลมีเพียงไซโคลนหรือแผ่นดินไหวเท่านั้น ประเทศร่ำรวยในกลุ่มจี 8 ไม่มีประเทศใดติด 50 อันดับแรก อิตาลีอันดับที่ 66 เยอรมนีอันดับที่ 81 ญี่ปุ่นอันดับที่ 95 อังกฤษอันดับที่ 108 แคนาดาอันดับที่ 111 ฝรั่งเศสอันดับที่ 129 สหรัฐอันดับที่ 150 และรัสเซียอันดับที่ 172 ส่วนในเอเชียนั้น ฟิลิปปินส์อันดับที่ 23 อินโดนีเซียอันดับที่ 31 จีนอันดับที่ 32 ไทยอันดับที่ 44 มาเลเซียอันดับที่ 66 อินเดียอันดับที่ 64 ฮ่องกงอันดับที่ 89 ขณะที่ประเทศรั้งท้ายส่วนใหญ่เป็นประเทศในแอฟริกา เช่น สวาซิแลนด์ บุรุนดี สาธารณรัฐประชาธิปไตยคองโก และประเทศที่มีความสุขน้อยที่สุดใน 178 ประเทศ คือซิมบับเว. (กรุงเทพธุรกิจ พุธที่ 12 ก.ค. 2549 http://www.bangkokbiznews.com)






KMUTT Digital Library
Contact Digital Library : info@lib.kmutt.ac.th
Tel : 0-2470-8215