หัวข้อข่าวปีที่ 7 ฉบับที่ 36 ประจำวันที่ 2006-09-04

ข่าวการศึกษา

สกอ.ตั้ง9เครือข่ายบริหารอุดมศึกษา
"อิมซ่า"...หลักสูตรเพื่อเด็กอัจฉริยะ
โพลล์ชี้นศ.กว่า72% กระเทือนใจมหาวิทยาลัยถูกจัดอันดับต่ำ
เผยชื่อมหาวิทยาลัยวิจัย-สอนเจ๋ง
“จาตุรนต์” หนุนจัดอันดับมหาวิทยาลัย
ปี 50 ศธ.ปล่อยรร.ดังสอบเข้าเกิน50%
สจพ.แฉจุดบอดจัดอันดับชี้เป็นโมฆะ
ศธ.แจก 5 แสนทุนการศึกษาจน-พิการฝ่าวิกฤติเศรษฐกิจ
สภาอาจารย์(ปอมท.)จวกสกอ.ทำเสียชื่อเสียง
สรรหาและยกย่องแหล่งเรียนรู้
'อุทุมพร'นั่งเก้าอี้ผู้อำนวยการ สทศ.คนใหม่
สกอ.เปิดเว็บเผยข้อมูลจัดอันดับมหา’ลัยยันไม่มั่ว

ข่าววิทยาศาสตร์/เทคโนโลยี

เด็กไทยไม่ไร้สมอง
อากาศเปลี่ยน ฤดูไม่แตกต่าง หน้าร้อนหมด
ลูกย่าโมสานต่อภูมิปัญญาไทยพัฒนา “ไม้หมอ-นวดปู่ติ่ง” มีไว้ใช้ไม่กลัวปวดเมื่อย
นักบินอวกาศมาเลย์คนแรก เตรียมโชว์ลีลาชง “ชาชัก” นอกโลก
“ฮอทด็อก” ตัวการทำ “ดีเอ็นเอ” กลายพันธุ์
ไอทีซีดันไทยขึ้นแท่นผู้นำเกษตรอินทรีย์
วิจัยเอ็กซ์โปโชว์ฝนหลวง 360 องศา
มลพิษแผลงฤทธิ์ให้อวัยวะเพศฝ่อ หมีขั้วโลกต้องรับกรรมเป็นรายแรก
ดันสร้างเครือข่ายวิทย์เอเชี่ยน

ข่าววิจัย/พัฒนา


ศิลปากรพัฒนาแผ่นนิโคตินเลิกบุหรี่ ราคาถูกเพียงแผ่นละ 1 บาท ถูกกว่าของนอก
ดื่มน้ำผักผลไม้ลดเสี่ยงอัลไซเมอร์
หุ่นจำลองจากยางพารา
ป้องกันโจรกรรมรถ
เปิดเผยกับดักของบุหรี่สมัยใหม่ เพิ่มปริมาณนิโคตินเข้มข้นขึ้นอีก
วช.เอ็กซ์โปโชว์ หนัง 'ฝนหลวง' บนจอ 360 องศา
ไทยวิจัยกินน้ำมะพร้าวเป็นยาสมอง ชะลอเกิดพยาธิสภาพโรคอัลไซเมอร์
แขนเทียมไซเบอร์เนติกส์
สสส.หนุนเภสัชกรคิดแผ่นนิโคตินลดบุหรี่
'กลาโหม'ไฟเขียวเกราะกันกระสุนฝีมือไทย

ข่าวทั่วไป

อาเซียนมอบไทยเจ้าภาพกำราบหวัดนก
วธ.จัดนิทรรศการชูหนัง 'เชิด ทรงศรี'
สว.เผยเงินหวยให้ทุน'เด็กมุสลิม'ผิดหลักศาสนา
ท่าอากาศยานเปิดคลินิกฉุกเฉิน รักษาผู้โดยสารโรคกลัวเรือบิน
ติดกล้องวงจรปิดทั่วกทม.77จุด จับภาพฝ่าไฟแดงอีก30ทางแยก
เวิลด์แบงก์ชู "สิงคโปร์" น่าลงทุนสูง
วิศวะจุฬาฯชำแหละ'สุวรรณภูมิ' ผลาญงบกว่า 1.5 แสนล้าน
การเลือกของเล่นเด็ก เสริมพัฒนาการและการเรียนรู้





ข่าวการศึกษา


สกอ.ตั้ง9เครือข่ายบริหารอุดมศึกษา

ศ.พิเศษ ภาวิช ทองโรจน์ เลขาธิการคณะกรรมการการอุดมศึกษา(กกอ.) กล่าวในการบรรยายพิเศษเรื่อง "ยุทธศาสตร์เชิงนโยบายของสำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา(สกอ.) : การจัดตั้งและพัฒนาเครือข่ายกับการบริหารจัดการอุดมศึกษา" ว่าที่ สกอ.จัดประชุมเกี่ยวกับเครือข่ายเพื่อการพัฒนาอุดมศึกษาเมื่อต้นเดือนสิงหาคม เพื่อให้สถาบันอุดมศึกษาทราบถึงนโยบาย และแนวทางการดำเนินการเครือข่ายฯ ทั้งนี้ อยากให้อธิการบดีพิจารณากำหนดโครงสร้างของเครือข่ายฯ กลไกการบริหารจัดการ และการดำเนินงานร่วมกันระหว่าง สกอ.กับเครือข่ายฯ และระหว่างสถาบันอุดมศึกษาในเครือข่าย ทั้งสถาบันแม่ข่าย และสถาบันร่วมเครือข่าย สามารถดำเนินการได้ตามวัตถุประสงค์ของการจัดตั้งเครือข่ายอย่างมีประสิทธิภาพบนพื้นฐานของความเข้าใจร่วมกัน การจัดตั้งเครือข่ายฯ ได้จัดตั้งตามภูมิศาสตร์ จำนวน 9 เครือข่าย คือ 1.กลุ่มภาคเหนือตอนบน 2.กลุ่มภาคเหนือตอนล่าง 3.กลุ่มภาคตะวันออกฉียงเหนือตอนบน 4.กลุ่มภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง 5.กลุ่มภาคกลางตอนบน 6.กลุ่มภาคกลางตอนล่าง 7.กลุ่มภาคตะวันออก 8.กลุ่มภาคใต้ตอนบน และ 9.กลุ่มภาคใต้ตอนล่าง เพื่อเป็นเครือข่ายกลางเชื่อมโยงระหว่าง สกอ.และสถาบันอุดมศึกษาทั่วประเทศ ทั้งนี้ มหาวิทยาลัยสามารถเปลี่ยนกลุ่มได้ตามศักยภาพ และความเหมาะสม "สกอ.หวังให้อธิการบดีเข้ามากำกับดูแลเครือข่ายเอง เพื่อร่วมกันพิจารณากำหนดโครงสร้าง และการบริหารจัดการ ตลอดจนแนวทางการดำเนินการของแต่ละเครือข่ายฯ สกอ.จะไม่เข้าไปชี้ว่าโครงสร้างของแต่ละเครือข่ายเป็นอย่างไร หรือสถาบันใดควรเป็นสถาบันแม่ข่าย แต่มหาวิทยาลัยต้องหารือกันเอง ทั้งการเลือกสถาบันแม่ข่าย จำนวนสมาชิกเครือข่าย บทบาท และภารกิจของเครือข่าย เป็นต้น” (มติชน จันทร์ที่ 4 ก.ย. 2549 http://www.matichon.co.th)





"อิมซ่า"...หลักสูตรเพื่อเด็กอัจฉริยะ

เรย์มอนด์ เจ. ดาเจนเอ ผู้เชี่ยวชาญด้านการพัฒนาความสามารถสาขาวิทยาศาสตร์และคณิตศาสตร์จากสถาบันวิทยาศาสตร์และคณิตศาสตร์อิลลินอยส์ (อิมซ่า) สหรัฐอเมริกา ได้รับการสนับสนุนจากสถานทูตสหรัฐประจำประเทศไทยเพื่อบรรยายถึงวิธีการเรียนการสอนและหลักสูตรสำหรับเด็กอัจฉริยะ ในโรงเรียนมหิดลวิทยานุสรณ์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ และมหาวิทยาลัยสงขลา สำหรับสถาบันอิมซ่านั้นได้รับการสถาปนาเมื่อปี 2528 โดยอดีตผู้ว่าการรัฐ จิม ทอมสัน และเจ้าของรางวัลโนเบลสาขาฟิสิกส์คนหนึ่งโดยได้รับการสนับสนุนด้านการเงินจากนักธุรกิจและสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ในการเดินทางมาบรรยายในประเทศไทยครั้งนี้เรย์มอนด์ได้พูดถึงเรื่องโครงการ "อิมซ่า 2000 ปลัส" ซึ่งเป็นโครงการการเรียนการสอนเพิ่มเติมจากที่เรียนในโรงเรียน และเป็นโครงการที่เริ่มขึ้นหลังจากปี ค.ศ.2000 กล่าวได้ว่าเป็นโครงการที่พัฒนาหลักสูตรขึ้นมาเป็นพิเศษเพื่ออบรมการเรียนการสอนให้แก่ครูเพื่อให้ครูไปจัดการเรียนการสอนแก่เด็กอัจฉริยะ โดยหลักสูตรดังกล่าวเหมาะสำหรับนักเรียนชั้น 6-8 อายุ 11-13 ปี และมีครูจากโครงการของอิมซ่าจำนวน 3 คน มาคอยช่วยดูแลหลักสูตร ได้แก่ ครูคณิตศาสตร์ ครูวิทยาศาสตร์และผู้ประสานงานของโครงการ เริ่มเรียนตั้งแต่ประมาณ 15.00-17.00 น. สัปดาห์ละ 1-2 ครั้ง ซึ่งขณะนี้มีโรงเรียนในอิลลินอยส์ จำนวน 37 แห่ง เข้าร่วมแล้ว ในการคัดเลือกนักเรียนเข้าเรียนในโครงการนั้น จะมีการสัมภาษณ์ถึงความสนใจของนักเรียน รวมถึงตัวนักเรียนเองก็ต้องมีคะแนนในวิชาคณิตศาสตร์และวิทยาศาสตร์ถึงระดับที่อิมซ่ากำหมด โดยผู้ประสานงานจะเป็นผู้คัดเลือกนักเรียน (มติชน จันทร์ที่ 4 ก.ย. 2549 http://www.matichon.co.th)





โพลล์ชี้นศ.กว่า72% กระเทือนใจมหาวิทยาลัยถูกจัดอันดับต่ำ

นายนพดล กรรณิกา ผู้อำนวยการสำนักวิจัยเอแบคโพลล์ มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ เปิดเผยผลสำรวจเรื่อง "การจัดอันดับมหาวิทยาลัยไทยในทรรศนะนักศึกษามหาวิทยาลัยของรัฐเขตกรุงเทพฯ" จากนักศึกษามหาวิทยาลัยของรัฐ จำนวน 1,152 ตัวอย่าง ระหว่างวันที่ 1-2 กันยายน 2549 โดยผลการสำรวจพบว่า กลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่ หรือร้อยละ 72.8 เห็นว่าจะทำให้หางานทำได้ยากขึ้นหลังเรียนจบ หากมหาวิทยาลัยที่กำลังศึกษาอยู่ถูกจัดให้อยู่ในอันดับท้าย ๆ ร้อยละ 46.4 คิดว่าจะทำให้สังคมไม่ยอมรับตัวนักศึกษา อย่างไรก็ตาม ตัวอย่างส่วนใหญ่ยังมีความภูมิใจในสถาบันฯ รวมทั้งภูมิใจในตัวเอง และยังเชื่อมั่นต่อสถาบันที่ตนเองศึกษาอยู่เท่าเดิม คิดเป็นร้อยละ 66.5, 69.0 และ 63.7 ตามลำดับ ในเรื่องของความเชื่อมั่นต่อการจัดอันดับมหาวิทยาลัยของคณะกรรมการการอุดมศึกษา (กกอ.) พบว่า กลุ่มตัวอย่างร้อยละ 39.3 ไม่เชื่อมั่นต่อการจัดอันดับดังกล่าว โดยให้เหตุผลสำคัญคือ เกณฑ์ในการจัดอันดับไม่มีความชัดเจน ไม่ครอบคลุม ไม่เชื่อถือหน่วยงานที่ทำการจัดอันดับ ขณะที่ร้อยละ 23.6 ระบุเชื่อมั่น ร้อยละ 37.1 ไม่ระบุความคิดเห็น ส่วนความเห็นต่อแนวทางที่เป็นประโยชน์ต่อคุณภาพทางการศึกษาไทยนั้น ร้อยละ 37.3 เห็นว่าการศึกษาของไทยควรปรับปรุงในด้านหลักสูตรและพัฒนาคุณภาพการศึกษา รองลงมาคือ ควรเพิ่มจำนวนบุคลากรทางการศึกษาให้เพียงพอ จัดระบบการศึกษาให้ได้มาตรฐานเท่าเทียมกัน รัฐบาลควรสนับสนุนการศึกษาอย่างจริงจัง พัฒนาสื่อและเทคโนโลยีการเรียนการสอน เน้นการปฏิบัติงานจริงมากกว่าการศึกษาในห้องเรียน พัฒนาด้านจริยธรรม คุณธรรม ให้กับนักศึกษา ผอ.สำนักวิจัยเอแบคโพลล์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ผลสำรวจครั้งนี้แสดงให้เห็นชัดเจนถึงผลกระทบด้านจิตวิทยาต่อตัวนักศึกษาอย่างน่าเป็นห่วง แม้กลุ่มนักศึกษาที่ถูกสำรวจส่วนใหญ่ไม่ได้แสดงความกังวลต่อผลการจัดอันดับที่มีต่อสถาบันการศึกษาของตน เพราะยังคงเชื่อมั่นและภูมิใจต่อสถาบันที่พวกเขากำลังศึกษาอยู่ แต่แสดงความกังวลต่อการหางานทำและการยอมรับจากสังคม ถ้ามหาวิทยาลัยของตนเองถูกประกาศออกไปว่าอยู่ในอันดับท้าย ๆ ของการจัดอันดับ คณะทำงานด้านการจัดอันดับจึงควรพิจารณาตนเองและน่าจะออกมาขอโทษนักศึกษาเหล่านี้ หรือแสดงความรับผิดชอบต่อสังคมด้วย (กรุงเทพธุรกิจ จันทร์ที่ 4 ก.ย. 2549 http://www.bangkokbiznews.com)





เผยชื่อมหาวิทยาลัยวิจัย-สอนเจ๋ง

ศ. (พิเศษ) ดร.ภาวิช ทองโรจน์ เลขาธิการคณะกรรมการการอุดมศึกษา (กกอ.) บรรยายพิเศษตอนหนึ่งเรื่องนโยบายรัฐด้านการติดตามและประเมินผลการจัดการศึกษาระดับอุดมศึกษา ภายใต้โครงการระบบฐานข้อมูลออนไลน์ เพื่อประเมินศักยภาพของมหาวิทยาลัยไทยว่า การจัดอันดับนั้น สกอ.เก็บข้อมูลปี 2548 แบ่งการประเมินศักยภาพ 2 ด้าน คือ ด้านการวิจัย และการเรียนการสอน โดยแบ่งเป็น 5 กลุ่ม ได้แก่ กลุ่ม 1 คือ ดีเลิศ กลุ่ม 2 คือ ดีเยี่ยม กลุ่ม 3 คือ ดี กลุ่ม 4 คือ พอใช้ และกลุ่ม 5 คือ ต้องปรับปรุง สำหรับผลการประเมินการจัดอันดับ ด้านการวิจัย มีผลดังนี้ กลุ่ม 1 ได้แก่ จุฬาฯ, ม.เชียงใหม่, ม.มหิดล, ม.เทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี, ม.เทคโนโลยีสุรนารี กลุ่ม 2 ได้แก่ ม.เกษตรศาสตร์, ม.ขอนแก่น, ม.นเรศวร, สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) กลุ่ม 3 ได้แก่ ม.บูรพา, ม.ศรีนครินทรวิโรฒ, ม.ศิลปากร, ม.สงขลานครินทร์, สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง กลุ่ม 4 ได้แก่ ม.ทักษิณ, ม.แม่โจ้, ม.แม่ฟ้าหลวง, ม.มหาสารคาม, ม.วลัยลักษณ์, ม.อุบลราชธานี, มหาวิทยาลัยราชภัฏ (มรภ.) นครราชสีมา, มรภ.เลย, มรภ.วไลยอลงกรณ์, มรภ.สวนดุสิต, มรภ.อุดรธานี, สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ กลุ่ม 5 ได้แก่ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล (มทร.) กรุงเทพ, มทร.ธัญบุรี, มทร.พระนคร, มทร.ศรีวิชัย, มรภ.จันทรเกษม, มรภ.เชียงใหม่, มรภ.เทพสตรี, มรภ.ธนบุรี, มรภ.นครปฐม, มรภ.นครศรีธรรมราช, มรภ.นครสวรรค์, มรภ.บุรีรัมย์, มรภ. พระนคร, มรภ.พิบูล-สงคราม, มรภ.ยะลา, มรภ.ราชนครินทร์, มรภ.สกลนคร, มรภ.สุราษฎร์ธานี, มรภ.หมู่บ้านจอมบึง, มรภ.อุตรดิตถ์, มทร.สุวรรณภูมิ, วิทยาลัยตาปี, ว.บัณฑิตบริหารธุรกิจ ด้านการเรียนการสอน กลุ่ม 1 ได้แก่ จุฬาฯ, ม.ขอนแก่น, ม.เชียงใหม่, ม.มหิดล กลุ่ม 2 ได้แก่ ม.เกษตรศาสตร์, ม.เทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี, ม.เทคโนโลยีสุรนารี, มทร.กรุงเทพ กลุ่ม 3 ได้แก่ ม.ทักษิณ, ม.แม่ฟ้าหลวง, ม.วลัยลักษณ์, ม.ศิลปากร, ม.สงขลานครินทร์, ม.อุบลราชธานี, มทร.ศรีวิชัย, นิด้า กลุ่ม 4 ได้แก่ ม.นเรศวร, ม.บูรพา, ม.มหาสารคาม, ม.แม่โจ้, ม.ศรีนครินทรวิโรฒ, มทร.ธัญบุรี, มทร.พระนคร, มรภ.นครปฐม, มรภ.วไลยอลงกรณ์, มรภ.สวนดุสิต, สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง, สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ, มทร.สุวรรณภูมิ กลุ่ม 5 ได้แก่ มรภ. จันทรเกษม, มรภ.เชียงใหม่, มรภ.เทพสตรี, มรภ.ธนบุรี, มรภ.นครราชสีมา, มรภ.นครศรีธรรมราช, มรภ. นครสวรรค์, มรภ.บุรีรัมย์, มรภ.พระนคร, มรภ.พิบูลสงคราม, มรภ.ยะลา, มรภ.ราชนครินทร์, มรภ.เลย, มรภ. สกลนคร, มรภ.สุราษฎร์ธานี, มรภ.หมู่บ้านจอมบึง, มรภ.อุดรธานี, มรภ.อุตรดิตถ์, ว.บัณฑิตบริหารธุรกิจ และ ว.ตาปี. (ไทยรัฐ จันทร์ที่ 4 ก.ย. 2549 http://www.thairath.co.th)





“จาตุรนต์” หนุนจัดอันดับมหาวิทยาลัย

ศ. (พิเศษ) ดร.ภาวิช ทองโรจน์ เลขาธิการคณะกรรมการการอุดมศึกษา (กกอ.) กล่าวกรณีผลสำรวจเรื่อง “การจัดอันดับมหาวิทยาลัยในทรรศนะนักศึกษามหาวิทยาลัยของรัฐ เขตกรุงเทพมหานคร” พบว่านักศึกษาร้อยละ 72.8 เห็นว่าการจัดอันดับมหาวิทยาลัยจะมีผลต่อการมีงานทำของบัณฑิตที่หางานทำยาก โดยเฉพาะมหาวิทยาลัยที่ติดอยู่ในอันดับท้ายๆ และร้อยละ 46.4 เห็นว่าสังคมจะไม่ยอมรับตัวนักศึกษา ว่า การจัดอันดับครั้งนี้จะไม่ส่งผลต่อการเข้าทำงานของบัณฑิต โดยเฉพาะในหน่วยงานภาครัฐจะต้องสอบเข้าและดูความสามารถบัณฑิตเป็นหลัก ส่วนภาคเอกชนอยากจะย้ำว่ามีการทำบัญชีลับข้อมูลของมหาวิทยาลัยและนักศึกษาของแต่ละแห่งอยู่แล้ว ส่วนผลที่ออกมาอะไรไม่ดีก็ให้ไปคุยกันในมหาวิทยาลัยและไปจัดการเรียนการสอนให้ดี ต่อข้อถามว่า ที่ประชุมประธานสภาอาจารย์มหาวิทยาลัยแห่งประเทศไทย (ปอมท.) มีมติไม่ยอมรับผลการจัดอันดับ เลขาธิการ กกอ. กล่าวว่า สกอ.เคารพความคิดเห็นทุกฝ่าย แต่อยากบอกว่าขอให้ทุกฝ่ายที่ไม่เห็นด้วยกลับไปดูกระบวนการประเมินจัดอันดับก่อนว่าเป็นอย่างไร ถ้ามีปัญหาตรงไหนก็มาคุยกัน ไม่พอใจเรื่องดัชนีชี้วัดก็ปรับปรุงกันได้ ส่วนที่จะให้ตนขอโทษนั้นคิดว่าไม่จำเป็นต้องขอโทษเพราะไม่ได้ทำอะไรผิด ทั้งนี้ เห็นว่าการทำโพลของเอแบคในช่วงหลังทั้งเรื่องการเมืองและอีกหลายเรื่องคุณภาพต่ำลงเรื่อยๆ และขี่กระแส ด้านนายจาตุรนต์ ฉายแสง รมว.ศึกษาธิการ กล่าวว่า โดยส่วนตัวเห็นว่า การจัดอันดับครั้งนี้มีปัญหาพอสมควร แต่ก็ยินดีที่จะรับฟังจากมหาวิทยาลัยต่างๆ ซึ่งเราไม่ควรมองด้านลบอย่างเดียว และการจัดอันดับย่อมดีกว่าไม่มีอะไรเลย ตนจะให้ สกอ.รวบรวมความเห็นและข้อวิจารณ์เกี่ยวกับการจัดอันดับมหาวิทยาลัย เพื่อที่จะทำการชี้แจงให้กับทุกฝ่ายได้เข้าใจ และเพื่อปรับปรุงให้เกิดผลที่ดีที่สุด (ไทยรัฐ อังคารที่ 5 ก.ย. 2549 http://www.thairath.co.th)





ปี 50 ศธ.ปล่อยรร.ดังสอบเข้าเกิน50%

นายจาตุรนต์ ฉายแสง รักษาการ รมว.ศึกษาธิการ กล่าวถึงแนวนโยบายการรับนักเรียนระดับมัธยมศึกษาของโรงเรียนในสังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ประจำปีการศึกษา 2550 ว่า มีความชัดเจนแล้วว่าจะให้มีการเพิ่มสัดส่วนการสอบเข้ามากขึ้น จากปัจจุบันที่มีสัดส่วนการสอบเข้าประมาณ 20-30% โดยนโยบายนี้จะทำควบคู่ไปกับการจำกัดจำนวนนักเรียนต่อห้องให้น้อยลง โดยจะเน้นเฉพาะโรงเรียนที่มีชื่อเสียงเป็นหลัก ทั้งนี้ในการเพิ่มสัดส่วนการสอบนั้นอาจจะเพิ่มให้มากกว่า 50% ก็ได้ อย่างไรก็ตามเรื่องของการเพิ่มสัดส่วนการสอบนี้จะต้องมีการหารือ และหาข้อสรุปทางวิชาการก่อน แต่โดยส่วนตัว ตนอยากให้บางโรงเรียนทำเหมือนโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา หรือ โรงเรียนมหิดลวิทยานุสรณ์ ไปเลย รักษาการ รมว.ศึกษาธิการ กล่าวอีกว่า สำหรับประเด็นการลดขนาดเขตพื้นที่บริการของโรงเรียนนั้นไม่ได้หมายถึงการลดเขตพื้นที่บริการลง แต่จะเป็นการรวมเขตพื้นที่บริการของแต่ละโรงเรียนเข้าด้วยกันเพื่อให้ง่ายต่อการเกลี่ยนักเรียนไปยังโรงเรียนในพื้นที่บริการเดียวกัน เช่น การรวมเขตพื้นที่บริการโรงเรียนสตรีวิทยา และโรงเรียนใกล้เคียงเข้าด้วยกัน หากมีเด็กสมัครเข้าเรียนที่โรงเรียนสตรีวิทยามากก็จะเกลี่ยนักเรียน ที่ล้นไปยังโรงเรียนอื่นได้ง่ายขึ้น แต่เรื่องนี้ยังไม่มีข้อสรุปอะไรยังต้องประชุมหารือกับส่วนที่เกี่ยวข้องก่อนเช่นกัน. (เดลินิวส์ อังคารที่ 5 ก.ย. 2549 http://www.dailynews.co.th)





สจพ.แฉจุดบอดจัดอันดับชี้เป็นโมฆะ

เมื่อวันที่ 5 ก.ย. ที่กระทรวงศึกษาธิการ ศ.ดร.ธีรวุฒิ บุณยโสภณ อธิการบดีสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ (สจพ.) ได้เข้าพบนายจาตุรนต์ ฉายแสง รมว.ศึกษาธิการ เพื่อยื่นข้อสังเกตของคณะกรรมการบริหาร สจพ. เกี่ยวกับการจัดอันดับมหาวิทยาลัยของสำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา (สกอ.) โดย ศ.ดร.ธีรวุฒิ กล่าวว่า สจพ.เห็นด้วยกับการจัดอันดับมหาวิทยาลัยไทยว่าเป็นเรื่องที่ดี แต่การประกาศผลในครั้งนี้ถือว่าฉุกละหุกเกินไป และข้อมูลที่ สกอ.นำมาจัดอันดับไม่ถูกต้องและครบถ้วน นอกจากนี้ การรายงานการจัดอันดับจากระบบฐานข้อมูลออนไลน์ เพื่อประเมินศักยภาพของมหาวิทยาลัยไทย ที่ สกอ. นำมาเผยแพร่ พบว่ามีข้อผิดพลาดอย่างมาก เช่น กลุ่มสาขาชีวการแพทย์ คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี ม.มหิดล คะแนนเต็มองค์ประกอบเกี่ยวกับบุคลากรเต็ม 20% ได้ 21.08% หรือกลุ่มสาขาสังคม-ศาสตร์ คณะเศรษฐศาสตร์ ม.เกษตรศาสตร์ องค์ประ-กอบแหล่งเงินทุน คะแนนเต็ม 20% ได้ 30.36% ซึ่งแสดงว่าการจัดอันดับครั้งนี้โมฆะ ข้อมูลที่ประกาศออกมา ทำให้มหาวิทยาลัยส่วนใหญ่ไม่ยอมรับ สร้างความตกใจ เสียขวัญให้กับนักศึกษา ผู้ปกครอง นายจ้าง ซึ่งจุดนี้ถือว่าไม่สมควร รวมทั้งยังทำให้สังคมมองว่ารัฐบาลล้มเหลวทางด้านการศึกษา โดยเฉพาะอุดมศึกษา ทั้งที่จริง ๆแล้ว มหาวิทยาลัยไม่ได้ล้มเหลว แต่ สกอ.ล้มเหลว (ไทยรัฐ พุธที่ 6 ก.ย. 2549 http://www.thairath.co.th)





ศธ.แจก 5 แสนทุนการศึกษาจน-พิการฝ่าวิกฤติเศรษฐกิจ

ดร.จรวยพร ธรณินทร์ รองปลัดกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) เปิดเผยว่า ในปีการศึกษา 2549 ศธ.ได้จัดสรรทุนการศึกษาให้แก่นักเรียน นักศึกษา ที่มาจากครอบครัวซึ่งได้รับผลกระทบจากภาวะวิกฤติทางเศรษฐกิจ จำนวน 500,000 ทุน แบ่งเป็นโรงเรียนในสังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) 32,340 แห่ง จำนวน 317,896 ทุน แบ่งสถานศึกษาสังกัดสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (สอศ.) 404 แห่ง 54,348 ทุน มหาวิทยาลัยสังกัดสำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา (สกอ.) 149 แห่ง จำนวน 12,473 ทุน สถานศึกษาสังกัดสำนักบริหารงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน (สช.) 3,886 แห่ง จำนวน 95,898 ทุน และปีนี้ยังเป็นปีแรกที่มีการจัดสรรให้สถานศึกษาสังกัดกรุงเทพมหานคร 423 แห่ง จำนวน 7,277 ทุน และโรงเรียนสังกัดเทศบาล 1,300 แห่ง จำนวน 12,107 ทุน ซึ่งนักเรียนที่สนใจสามารถสมัครขอรับทุนได้ที่สถานศึกษาต้นสังกัดได้ตั้งแต่บัดนี้ถึงวันที่ 30 กันยายน 2549 โดยระดับอนุบาล ประถมศึกษา และมัธยมศึกษา ได้รับทุนละ 5,000 บาท ประกาศนียบัตรวิชาชีพ (ปวช.) และประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง (ปวส.) ทุนละ 8,000 บาท และปริญญาตรี ทุนละ 10,000 บาท (เดลินิวส์ พุธที่ 6 ก.ย. 2549 http://www.dailynews.co.th)





สภาอาจารย์(ปอมท.)จวกสกอ.ทำเสียชื่อเสียง

วันที่ 4 ก.ย.2549 รร.เดอะไทด์ รีสอร์ท ชลบุรี ที่ประชุมสภาอาจารย์มหาวิทยาลัยแห่งประเทศไทย จัดการสัมมนาทางวิชาการประจำปี 2549 ทั้งนี้ ผศ.นพ.ธวัชชัย พีรพัฒน์ดิษฐ์ ประธานปอมท. เปิดเผยว่า ในการประชุมคณะกรรมการบริหาร ปอมท.เมื่อเร็วๆ นี้ได้หารือถึงการจัดอันดับมหาวิทยาลัย ของสำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา (สกอ.) ซึ่งที่ประชุมมีมติไม่เห็นด้วยและไม่ยอมรับการจัดอันดับครั้งนี้ โดยเห็นว่าขาดความชัดเจนในวัตถุประสงค์ของการจัดอันดับ ขาดความเชื่อมั่นในมาตรฐานเครื่องมือที่ใช้วัด และเกณฑ์ประเมินไม่เหมาะสมที่จะใช้กับทุกมหาวิทยาลัย เพราะมีปรัชญาต่างกัน ทั้งขาดความน่าเชื่อถือในวิธีการและความสมบูรณ์ของข้อมูล ทั้งการประกาศผลส่งผลกระทบอย่างยิ่งต่อชื่อเสียง เกียรติภูมิ ของมหาวิทยาลัยและศิษย์เก่า รวมทั้งความร่วมมือระหว่างมหาวิทยาลัย และโดยทั่วไปการจัดอันดับมหาวิทยาลัยในต่างประเทศ ดำเนินการโดยเอกชนหรือองค์กรอิสระ ไม่ปรากฏว่าหน่วยงานของรัฐเป็นผู้จัดอันดับ แต่หากภาครัฐทำจะมุ่งเพื่อการพัฒนามหาวิทยาลัยอย่างสร้างสรรค์ เบื้องต้นการจัดอันดับครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนาซอฟต์แวร์ แต่คณะทำงานกลับ ดำเนินงานนอกเหนือวัตถุประสงค์เดิม ซึ่งในต่างประเทศหากหน่วยงานรัฐดำเนินการจัดอันดับ ก็จะไม่ประกาศ หรือประกาศแค่มหาวิทยาลัยที่ดีที่สุด แต่ถ้าจะถามว่ามหาวิทยาลัยใดเก่งกว่าที่ใดก็จะไม่ระบุ แม้แต่จัดกลุ่มก็จะไม่ทำ เพราะเชื่อว่าไม่มีใครจะเก่งกว่าใครทุกด้าน แต่ละแห่งก็จะมีความถนัดที่ต่างกันไปตามภารกิจ ด้านนายจาตุรนต์ ฉายแสง รักษาการรมว.ศึกษาธิการ ให้สัมภาษณ์ว่า สกอ.ได้รายงานการจัดอันดับมหาวิทยาลัยไทยเป็นระยะ และได้รายงานถึงข้อห่วงใยจากมหาวิทยาลัยโดยตลอด ซึ่งโดยส่วนตัวก็ยอมรับว่าการจัดอันดับครั้งนี้มีปัญหาอยู่พอสมควร โดยเฉพาะความเห็นเกี่ยวกับตัวบ่งชี้ ซึ่งก็ยินดีรับฟังความคิดเห็น แต่จะมัวมองด้านลบอย่างเดียวไม่ได้ อย่างไรการจัดอันดับยอมดีกว่าไม่มีเลย (กรุงเทพธุรกิจ พุธที่ 6 ก.ย. 2549 http://www.bangkokbiznews.com)





สรรหาและยกย่องแหล่งเรียนรู้

ดร.อำรุง จันทวานิช เลขาธิการสภาการศึกษา กล่าวถึงความเป็นมาของโครงการสรรหา และยกย่องแหล่งการเรียนรู้ตลอดชีวิตต้นแบบ ที่ทางสำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษากำลังดำเนิน การอยู่ในขณะนี้ว่า ที่ผ่านมาสำนักงานฯได้ทำการศึกษาวิจัยการจัดการเรียนรู้ของแหล่งการเรียนรู้ ตลอดชีวิต 8 ประเภท ตามมาตรา 25 ประกอบด้วย ห้องสมุดประชาชน พิพิธภัณฑ์ หอศิลป์สวน สาธารณะ สวนสัตว์ สวนพฤกษศาสตร์ อุทยานวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี และศูนย์กีฬาและพัฒนา การ ซึ่งการศึกษาวิจัยในครั้งนี้เพื่อให้ได้ข้อมูลสถานภาพและการจัดการเรียนรู้ของแหล่งเรียนรู้ รวม ทั้งเพื่อเสริมสร้างความเข้าใจว่าการเรียนรู้สามารถเกิดขึ้นได้ทุกเวลาและทุกสถานที่ ที่สำคัญการ เรียนรู้สามารถเกิดขึ้นทั้งในห้องเรียนและนอกห้องเรียน (แนวหน้า พฤหัสบดีที่ 7 ก.ย. 2549 http://www.naewna.com)





'อุทุมพร'นั่งเก้าอี้ผู้อำนวยการ สทศ.คนใหม่

ศ.(พิเศษ)ดร.ภาวิช ทองโรจน์ เลขาธิการคณะกรรมการการอุดมศึกษา(กกอ.) ในฐานะประธานสรรหาผู้อำนวยการสถาบันทดสอบทางการศึกษาแห่งชาติ(สทศ.) เปิดภายหลังการประชุมคณะกรรมการบริหารสทศ. โดยเขาระบุว่า ที่ประชุมหารือในวาระการคัดเลือกผู้ดำรงตำแหน่งผอ.สทศ. ตามที่คณะกรรมการสรรหาผอ.สทศ.ซึ่งตนเป็นประธานได้เสนอรายชื่อผู้เหมาะสม 3 ชื่อ หลังจากที่มีผู้สมัครทั้งหมด 14 คน ได้เสนอวิสัยทัศน์ไปเมื่อวันที่ 1 ก.ย. ที่ผ่านมา ทั้งนี้คณะกรรมการมีมติเป็นเอกฉันท์ให้ ศ.ดร.อุทุมพร จามรมาน ประธานคณะทำงานศึกษาระบบแอดมิชชั่นส์ ของที่ประชุมอธิการบดีแห่งประเทศไทย (ทปอ.) โดยให้เหตุผลว่า มีคุณสมบัติทั้ง 4 ด้านชัดเจน คือ การแสดงวิสัยทัศน์ ข้อมูลประสบการณ์การบริหาร วิชาการ ความเชี่ยวชาญสาขาที่เกี่ยวข้อง เช่น การวัดผล สถิติ คอมพิวเตอร์ และการบริหารจัดการ เป็นต้น และผลงานที่เป็นที่ประจักษ์ที่ผ่านมา และมีคะแนนสูงสุดในจำนวนผู้สมัครทั้งหมด และยังมีจุดเด่นในการสร้างเครือข่ายร่วมดำเนินงาน เพราะจาการสอบถามมหาวิทยาลัยต่างๆ พบว่า บุคลากรด้านการวัดผล สำนักทะเบียนส่วนใหญ่เป็นลูกศิษย์ของศ.ดร.อุทุมพร และระบุว่าหากศ.ดร.อุทุมพร ได้เป็นผอ.สทศ.จริงก็ยินดีจะช่วยงานเต็มที่ (กรุงเทพธุรกิจ ศุกร์ที่ 8 ก.ย. 2549 http://www.bangkokbiznews.com)





สกอ.เปิดเว็บเผยข้อมูลจัดอันดับมหา’ลัยยันไม่มั่ว

ที่สำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา (สกอ.) ได้มีการแถลงข่าวชี้แจงผลการจัดอันดับมหาวิทยาลัยไทย โดย รศ.ดร.วันชัย ดีเอกนามกูล ประธานอนุกรรมการศึกษาและพัฒนา Software ระบบติดตามและประเมินผลด้านการวิจัยการจัดอันดับมหาวิทยาลัยไทย กล่าวว่า ข้อมูลที่เก็บมาจากมหาวิทยาลัยต่าง ๆ เป็นข้อมูลของปี 2548 และก่อนที่จะเก็บข้อมูล ทาง สกอ. ได้ส่งเอกสารอย่างละเอียดเกี่ยวกับการจัดอันดับให้แก่มหา วิทยาลัยทุกแห่งว่าต้องการจะใช้ข้อมูลอะไรบ้าง ดัชนีชี้วัดมีอะไรและค่าน้ำหนักของดัชนีชี้วัดแต่ละตัวเป็น เท่าใด และเมื่อเก็บข้อมูลมาแล้วจะมีการตรวจเช็ก โดยดูจากข้อมูลที่กรอกจากมหาวิทยาลัย ภาควิชา ต่าง ๆ และข้อมูลที่สกอ.มีอยู่ ซึ่งเท่าที่ดูข้อมูลของ มหาวิทยาลัยบางแห่งที่ส่งมามีข้อมูลที่เกินความจริง เช่นที่ปรากฏเป็นข่าวว่ามีบางสาขาวิชาที่คะแนนสูงกว่าคะแนนเต็ม ซึ่ง สกอ. ก็ไม่ได้นำคะแนนนั้นมาใช้เลย แต่จะใช้วิธีทางสถิติเข้ามาช่วยและคิดเป็นคะแนนรวมออกมา ส่วนที่หลายฝ่ายสงสัยว่าทำไมคณะทำวิจัยถึงไม่ลงไปเก็บข้อมูลด้วยตนเอง เพื่อให้ได้ข้อมูลที่ถูกต้องนั้น ตนอยากชี้แจงว่าการลงไปเก็บข้อมูลด้วยตนเองไม่ใช่จะทำให้เกิดประสิทธิภาพของข้อมูลอย่างแท้จริง แต่ความถูกต้องของข้อมูลนั้นอยู่ที่ว่ามหาวิทยาลัยจะใส่ใจให้มากกว่า ศ. (พิเศษ) ดร.ภาวิช ทองโรจน์ เลขาธิ การคณะกรรมการการอุดมศึกษา (กกอ.) กล่าวว่า ประเด็นที่หลายมหาวิทยาลัยคิดว่าการจัดอันดับทำให้เกิดข้อได้เปรียบเสียเปรียบระหว่างมหาวิทยาลัยขนาดใหญ่กับเล็กนั้น ตนอยากจะบอกว่าเรื่องนี้ไม่จริงเพราะการให้คะแนนจะคิดจากสัดส่วนของจำนวนบุคลากรต่อจำนวนนักศึกษาของมหาวิทยาลัยนั้น ๆ โดยไม่ได้นำมาเทียบในภาพรวม ดังนั้นตนเห็นว่าการจะได้เปรียบเสียเปรียบน่าจะอยู่ที่ว่าการทำงานหรือไม่ทำงานมากกว่า แต่อย่างไรก็ตามหากมหาวิทยาลัยไหนไม่มั่นใจในผลการจัดอันดับและคิดว่าข้อมูลที่ สกอ. ประกาศไปผิดพลาด คณะทำงานก็ยินดีรับฟังและพร้อมที่จะชี้แจงตลอดเวลาและในวันที่ 7 ก.ย. นี้ ตนจะเข้าหารือกับนายจาตุรนต์ ฉายแสง รักษาการรมว.ศึกษาธิการเกี่ยวกับการจัดตั้งคณะทำงานที่จะประกอบด้วยตัวแทนจากมหาวิทยาลัยและนักวิชาการที่เกี่ยวข้องเพื่อทำการวิเคราะห์ผลการจัดอันดับและดูว่าดัชนีชี้วัดส่วนใดบ้างที่ไม่เหมาะสม จะแก้ไขและปรับปรุงอะไรบ้าง ซึ่งทั้งหมดจะต้องทำให้เร็วที่สุด และถ้ามีหลักเกณฑ์หรือดัชนีชี้วัดที่ชัดเจนแล้ว หากมหาวิทยาลัยจะส่งข้อมูลของปี 2549 เข้ามา ทาง สกอ. ก็ยินดีจัดอันดับให้ทันที นอกจากนี้ในวันที่ 8 ก.ย. ทาง สกอ. ยังจะเปิดเว็บไซต์ www.ranking.mua.go.th เพื่อให้ทุกคนเข้ามาดูข้อมูลเกี่ยวกับการจัดอันดับอย่างละเอียดได้ด้วย (เดลินิวส์ ศุกร์ที่ 8 ก.ย. 2549 http://www.dailynews.co.th)





ข่าววิทยาศาสตร์/เทคโนโลยี


เด็กไทยไม่ไร้สมอง

นายต้น นามแก้ว(ม่อน),นายจิรภัทร เพ็งสลุด(กัน)และนายจิรายุธท แว่นถิ่น(ฉิ่ม)หนุ่ม น้อยชั้นม.6โรวเรียนปากน้ำปราณวิทยาทั้งสามคนได้ลองนำหญ้าแฝกมาปลูกเพื่อช่วยยึดเกาะหน้าดิน แต่พบว่าหญ้าแฝกดังกล่าวตาย จึงตั้งสมติฐานว่าอาจเป็นเพราะดินเค็มเนื่องจากโรงเรียนตั้งอยู่บริเวณ ที่ลุ่มน้ำทะเลท่วมถึง ทำให้เกิดโครงงานวิจัยเรื่อง"การใช้ปุ๋ยหมักเพิ่มธาตุอาหารในดินเค็มเพื่อปลูกหญ้าแฝกใน การช่วยลดการพังทลายของดินบริเวณโรงเรียนปากน้ำปราณวิทยา" ขึ้นมา งานวิจัยนี้เป็นหนึ่งในผลงานของ"โครงการยุวหมอดิน"ที่สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และ เทคโนโลยี(สสวท.)และกรมพัฒนาที่ดินได้จับมือกันดำเนินการเพื่อช่วยกันแก้ปัญหาด้านดิน โดยอาศัย นักเรียน ครูและชุมชนเข้ามาช่วยเป็นแรงเสริมในการศึกษาวิจัยและทำกิจกรรมวิทยาศาสตร์เพื่อแก้ ปัญหาเกี่ยวกับดินในท้องถิ่น พื้นที่ที่ทำการศึกษา คือ พื้นที่โรงเรียนที่มีปัญหาดินพังทลาย มีบริเวณ กำหนดขนาดกว้าง 1เมตร ยาว 2 เมตร จำนวณ 4 แปลง วิธีการศึกษาวิจัย แบ่งออกเป็น 2 ระยะ ได้แก่ ระยะที่ 1 หาพันธุ์ หญ้าแฝกที่ทนเค็มมาปลูกในดินบริเวณที่ทำการศึกษา โดยการศึกษาค้นคว้าข้อมูลเกี่ยวกับพันธุ์หญ้าแฝกที่ สามารถเจริญเติบโตดีในพื้นที่ดินเค็มชายทะเล เพื่อคัดเลือกพันธุ์หญ้าแฝกที่เหมาะสมต่อการปลูกใน สภาพดินและสภาพอากาศของโรงเรียน จากนั้นก็ตรวจวัดปริมาณธาตุอาหารหลักในดินเค็มที่จะใช้ ปลูกหญ้าแฝกที่คัดเลือกมาใส่ปุ๋ยหมักในดินแปลงที่ 2,3,4ส่วนแปลงที่ 1 ไม่ใส่ปุ๋ยหมักเพื่อให้เป็นแปลง ควบคุม ระยะที่ 2 ปลูกหญ้าแฝกและศึกษาอัตราการชะล้างพังทลายของดิน โดยใส่ปุ๋ยในดินเค็มตาม อัตราส่วนที่เหมาะสมซึ่งได้จากการศึกษาระยะที่ 1 ในดินเค็มตลอดแนวพื้นที่ที่ต้องการปลูกหญ้าแฝก นำต้นกล้าหญ้าแฝกปลูกตลอดแนวของพื้นที่ที่มีปัญหาการชะล้างพังทลายของดินวัดอัตราการชะล้างพัง ทลายของดินทุก 4 สัปดาห์เป็นระยะเวลา 6 เดือนท้ายสุดก็คือวิเคราะห์และสรุปผล (แนวหน้า จันทร์ที่ 4 ก.ย. 2549 http://www.naewna.com)





อากาศเปลี่ยน ฤดูไม่แตกต่าง หน้าร้อนหมด

นักวิทยาศาสตร์ย้อนกลับไปดูข้อมูลฝนเมื่อ 25 ปีก่อนจนถึงปี 2546 เพื่อดูว่า ความชื้นสัมพัทธ์ที่ช่วยให้ฝนตกนั้นมาจากไหน ระหว่างที่ดูข้อมูลอยู่นั้นเกิดพบแนวโน้มสำคัญ คือ ฝนจะตกซ้ำอยู่ในที่เดิมตรงจุดที่ไอน้ำระเหยขึ้นไปก่อตัวเป็นเมฆฝน แทนที่จะเป็นไอน้ำจากที่อื่น หรือที่เรียกว่า ฝนเวียนเทียน ปกติ ในช่วงหน้าร้อนไอน้ำจะเหยตัวได้มากกว่า เนื่องจากกำลังลมอ่อนและก่อตัวเป็นก้อนเมฆในบริเวณใกล้กับที่มันระเหยตัวขึ้น ในขณะที่หน้าหนาว การระเหยตัวของไอน้ำในอากาศเกิดขึ้นได้น้อยมากเพราะลมแรง ความชื้นที่เกิดระเหยขึ้นเพียงเล็กน้อยก็มีแนวโน้มว่าจะถูกพัดปลิวไป แต่นักวิจัยกลับพบว่า พื้นที่บริเวณเส้นรุ้งตอนบนอย่างในทวีปอเมริกา กลับพบแนวโน้มเกิดฝนเวียนเทียนเกิดและตกที่เดิมตลอดทั้งปี ยิ่งหน้าหนาวและฤดูใบไม้ผลิยิ่งเกิดเร็วขึ้น แนวโน้มดังกล่าวเกิดกับฤดูใบไม้ร่วงเช่นกัน แต่ไม่รุนแรงเหมือนในฤดูใบไม้ผลิ ถ้าฝนเวียนเทียนเกิดบ่อยขึ้นในช่วงฤดูใบไม้ผลิและใบไม้ร่วง ก็แปลว่าในหน้าร้อนยิ่งเกิดมากขึ้น หรือพูดอีกอย่างก็คือ ฤดูใบไม้ผลิและใบไม้ร่วงจะมีสภาพคล้ายหน้าร้อนมากยิ่งขึ้น (คมชัดลึก จันทร์ที่ 4 ก.ย. 2549 http://www.komchadluek.net)





ลูกย่าโมสานต่อภูมิปัญญาไทยพัฒนา “ไม้หมอ-นวดปู่ติ่ง” มีไว้ใช้ไม่กลัวปวดเมื่อย

“ไม้หมอ-นวดปู่ติ่ง” ของนายอาทิตย์ บุญชื่น จาก อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา ที่ใช้เวลาพัฒนาไม้หมอ-นวดปู่ติ่งมากว่า 5 ปี ตั้งแต่ปี 2545 ควบคู่ไปกับการทำจำหน่ายในกลุ่มเล็กๆ ซึ่งล่าสุด ผลงานดังกล่าวก็ได้รวมอยู่ในทำเนียบสิ่งประดิษฐ์คิดค้นที่ส่งเข้าประกวดรางวัลสภาวิจัยแห่งชาติ ประจำปี 2550 ของสำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ (วช.) ด้วย นายอาทิตย์ เล่าว่า มรดกตกทอดทางภูมิปัญญาชิ้นนี้เกิดขึ้นมาจากการได้เห็นปู่ติ่ง บุญชื่น ผู้เป็นบิดาได้ผลิตไม้ไผ่นวดขึ้นมาใช้กดจุดตามร่างกายเวลาปวดเมื่อยหลังจากการทำไร่ ทำนา หรือจากการทำงานหนัก โดยใช้นวดตามร่างกายและกดจุด เช่น กดที่ขา ต้นขา ท้อง น่อง สะโพก ประตูลมหลัง เอว หน้าขา หน้าแข้ง ฝ่าเท้า หรือส่วนต่างๆ ที่เกิดอาการปวดเมื่อย โดยใช้ไม้ไผ่ลวกที่มีมากในท้องถิ่นมาเป็นวัตถุดิบหลัก จุดดีที่เพิ่มขึ้นมาได้แก่ การเพิ่มปุ่มกดไปที่ตัวไม้หมอ-นวด ทำให้กดจุดต่างๆ ได้เพิ่มขึ้น เช่น สามารถกดจุดที่บ่า หลัง สะบักหลัง และต้นคอด้วยตัวเองได้สะดวกขึ้น จึงช่วยผู้มีอาการปวดเมื่อยได้มาก อีกทั้งไม้หมอ-นวดยังมีขนาดกะทัดรัดใช้ได้กับคนทุกเพศทุกวัย ซึ่งเขาได้ตั้งชื่อผลงานชิ้นนี้ว่า “ไม้หมอ-นวดปู่ติ่ง” เพื่อเป็นอนุสรณ์แก่บิดา ผู้เป็นต้นตำรับไม้หมอนวด (ผู้จัดการ จันทร์ที่ 4 ก.ย. 2549 http://www.manager.co.th)





นักบินอวกาศมาเลย์คนแรก เตรียมโชว์ลีลาชง “ชาชัก” นอกโลก

อับดุลเลาะห์ อาหมัด บาดาวี นายกรัฐมนตรีของมาเลเซียได้ประกาศให้ชีคห์ มุสซาฟาร์ ชูคอร์ (Sheikh Muszaphar Shukor) แพทย์วัย 34 ปี เป็นผู้ได้รับคัดเลือกให้เป็นนักบินอวกาศคนแรกของประเทศท่ามกลางผู้สมัครหลายหมื่นคน โดยมีฟาอิซ คาลีด (Faiz Khaleed) ทันตแพทย์วัย 26 ปีได้รับเลือกให้เป็นนักบินอวกาศสำรอง ซึ่งนายบันดาวีได้อวยพรให้ทั้งคู่ประสบความสำเร็จและสร้างชื่อเสียงของมาเลเซีย ให้ปรากฏในเวทีระหว่างประเทศ ทั้งชีคห์ มุสซาฟาร์ และฟาอิซ จะเข้าเก็บตัวฝึกเป็นเวลา 1 ปี ที่กรุงมอสโก ประเทศรัสเซีย เพื่อเตรียมการปฏฺบัติตัวบนอวกาศ และฝึกซ้อมการทดลองต่างๆ ซึ่ง กำหนดการเดินทางไปกับยานโซยุซ จะมีขึ้นในวันที่ 2 กันยายนปีหน้า เป็นช่วงที่มาเลเซียจะฉลองเอกราชครบ 50 ปี พร้อมกับการฉลองความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างมาเลเซียและรัสเซียครบ 40 ปี นอกจากว่าที่นักบินอวกาศคนแรกของประเทศจะต้องเตรียมตัวแล้ว ฮานิฟฟ โอมาร์ (Haniff Omar) หัวหน้าโครงการคัดเลือกนักบินอวกาศของมาเลเซีย เปิดเผยว่า เขาจะต้องฝึกซ้อมชง “ชาชัก” หรือ เตห์ ตาเระ (teh tarik) ซึ่งเป็นเครื่องดื่มขึ้นชื่อของมาเลย์ เพื่อไปชงบนห้วงอวกาศนับเป็นการทดลองทางด้านฟิสิกส์อย่างหนึ่ง (ผู้จัดการ อังคารที่ 5 ก.ย. 2549 http://www.manager.co.th)





“ฮอทด็อก” ตัวการทำ “ดีเอ็นเอ” กลายพันธุ์

ซิดนีย์ มีร์วิช (Sidney Mirvish) นักเคมีจากศูนย์การแพทย์มหาวิทยาลัยเนบราสกา (University of Nebraska Medical Center) ในโอมาฮา (Omaha) เปิดเผยผ่านวารสารเคมีในเกษตรกรรมและการอาหาร (Journal of Agricultural and Food Chemistry) ว่า ผู้ทำฮอทด็อกแต่ละเจ้าก็พยายามหาวิธีผลิตที่แตกต่างกันออกไปเพื่อผลทางการตลาด ซึ่งการเพิ่มสูตรหรือเทคนิคพิเศษขึ้นมาอาจเป็นการเพิ่มสารพิษเข้าไปในอาหาร มีร์วิชและทีมงานได้ร่วมกันตรวจสอบฮอทด็อกยี่ห้อต่างๆ เพราะงานวิจัยก่อนหน้านี้ระบุว่าอาหารจานด่วนชนิดนี้เกี่ยวข้องกับการเกิดมะเร็งลำไส้ใหญ่ ซึ่งการเก็บรักษาฮอทด็อกส่วนใหญ่นั้นใช้โซเดียมไนไทร์ต (Sodium nitrite) ที่รู้จักกันดีว่าเป็นสารประกอบ เอนไนโตรโซ (N-nitroso) ซึ่งสารประกอบกลุ่มนี้ส่วนใหญ่ทำให้สัตว์ทดลองในห้องปฏิบัติการเป็นมะเร็งลำไส้ใหญ่ หลังจากที่นักวิจัยได้สกัดสารประกอบจากฮอทด็อกที่ซื้อตามซูปเปอร์มาร์เก็ตทั่วไป และเมื่อนำไปผสมกับไนไทร์ตปรากฎว่ากลายเป็นสารประกอบที่ทำให้สารพันธุกรรมกลายพันธุ์หรือรหัสดีเอ็นเอสลับตำแหน่งกันได้ และยิ่งถ้านำไนไทร์ตที่ได้จากฮอทด็อกมาผสมกับแบคทีเรียซาลโมเนลลา (Salmonella) ก็จะทำให้อัตราการกลายพันธุ์ของดีเอ็นเอเพิ่มขึ้นเป็นทวีคูณ ซึ่งการที่ดีเอ็นเอกลายพันธุ์นั่นหมายความถึงการเสี่ยงต่อมะเร็งลำไส้ใหญ่ที่เพิ่มมากขึ้นตาม (ผู้จัดการ อังคารที่ 5 ก.ย. 2549 http://www.manager.co.th)





ไอทีซีดันไทยขึ้นแท่นผู้นำเกษตรอินทรีย์

นายศุภชัย หล่อโลหการ ผู้อำนวยการสำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (สนช.) กล่าวภายหลังการประชุมระดมความคิดเห็น “การส่งเสริมเกษตรอินทรีย์ในประเทศไทย” ว่า สนช.ร่วมกับผู้เชี่ยวชาญจากศูนย์พาณิชยกรรมระหว่างประเทศ (ITC) ณ กรุงเจนีวา ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ และสำนักงานมาตรฐานสินค้าเกษตรและอาหารแห่งชาติ (มกอช.) จัดทำแผนปฏิบัติการระดับชาติ 7 ด้าน เพื่อสนับสนุนการส่งออกผลิตภัณฑ์อินทรีย์สู่สหภาพยุโรป ได้แก่ การขยายฐานการผลิตเกษตรอินทรีย์ การเพิ่มขีดความสามารถและปรับปรุงโครงสร้างของระบบควบคุมให้มีประสิทธิภาพดีขึ้น การให้ความสำคัญกับการวิจัยเกษตรอินทรีย์ การปรับปรุงและยกระดับงานบริการทั้งด้านฝึกอบรมและงานส่งเสริมสำหรับเกษตรกร การพัฒนาตลาดสินค้าเกษตรอินทรีย์ภายในประเทศ การขยายตลาดส่งออกสินค้าเกษตรอินทรีย์ และการทำให้ประเทศไทยเป็นผู้นำ รวมทั้งเป็นศูนย์กลางแห่งความเป็นเลิศในระดับภูมิภาค ทั้งนี้ การดำเนินการดังกล่าว เป็นการเชื่อมต่อวาระแห่งชาติด้านเกษตรอินทรีย์ วัตถุประสงค์หลักเพื่อเตรียมความพร้อมให้ประเทศไทย ได้รับการขึ้นทะเบียน Third Countries list ของสหภาพยุโรป ซึ่งมีกำลังซื้อสูงและพร้อมจะนำเข้าสินค้าเกษตรอินทรีย์จากไทย หากผ่านการพิสูจน์ด้านความปลอดภัยเกี่ยวกับอาหาร ด้วยเหตุนี้การขึ้นทะเบียนดังกล่าว จะทำให้สินค้าไทยเป็นที่ยอมรับในตลาดสหภาพยุโรป และกระตุ้นตลาดการส่งออกอีกด้วย (กรุงเทพธุรกิจ พุธที่ 6 ก.ย. 2549 http://www.bangkokbiznews.com)





วิจัยเอ็กซ์โปโชว์ฝนหลวง 360 องศา

งานรีเสิร์ชเอ็กซ์โป นำเสนอผลงานวิจัยระดับชาติ เตรียมพร้อมจัดแสดงภาพยนตร์ฝนหลวงและโครงการพระราชดำริ บนจอ 360 องศา ดึงคนเข้าชมกว่า 1,000 คน/วัน สภาวิจัยแห่งชาติ พร้อมจัดแสดงโครงการฝนหลวงในรูปแบบจอ 360 องศาในงานรีเสิร์ชเอ็กซ์โป ร่วมฉลองสิริราชสมบัติครบ 60 ปีและฉลองสิทธิบัตรฝนหลวง อีกทั้งสิ่งประดิษฐ์และผลงานวิจัยกว่า 200 ชิ้นงาน เช่น ต้นแบบเตาไมโครเวฟผลิตไบโอดีเซล และหุ่นยนต์กู้ภัยแชมป์ประเทศไทย ศ.ดร.อานนท์ บุณยะรัตเวช เลขาธิการคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ กล่าวว่า จากการที่สำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ (วช.) กำหนดจัดงาน "การนำเสนอผลงานวิจัยแห่งชาติ 2549" หรือ Thailand Research Expo 2006 ระหว่างวันที่ 9-13 กันยายนนี้ ณ ศูนย์การค้าเซ็นทรัลพลาซา ลาดพร้าว เพื่อร่วมฉลองสิริราชสมบัติครบ 60 ปี และแสดงถึงพระอัจฉริยภาพด้านการวิจัย โดยคาดว่าจะมีผู้เข้าชมงานประมาณ 1,000 คนต่อวัน ทีมงานจึงเตรียมจัดแสดงนิทรรศการโครงการฝนหลวงในรูปแบบจอ 360 องศา เพื่อฉลองสิทธิบัตรฝนหลวง ที่ได้รับการจดทะเบียนในสหภาพยุโรป ตลอดจนจัดแสดงโครงการไบโอดีเซล และโครงการแหลมผักเบี้ย พร้อมด้วยนิทรรศการผลงานวิจัยจาก 90 หน่วยวิจัย รวม 200 ผลงาน เช่น เสื้อแจ๊กเก็ตนาโน หุ่นจำลองยางพาราพูดได้ และกิจกรรมการประชุมเชิงปฏิบัติการใน 12 สาขาวิชาการของ วช. (กรุงเทพธุรกิจ พฤหัสบดีที่ 7 ก.ย. 2549 http://www.bangkokbiznews.com)





มลพิษแผลงฤทธิ์ให้อวัยวะเพศฝ่อ หมีขั้วโลกต้องรับกรรมเป็นรายแรก

วารสารวิชาการ “สิ่งแวดล้อมและเทคโนโลยี” รายงานว่า หมีขั้วโลกที่ได้รับสารประกอบ มีชื่อว่าออกาโนฮาโลเจน อันเป็นสารที่เป็นมลพิษ จากอาหารที่กินเข้าไป ทั้งตัวผู้และตัวเมียพากัน มีขนาดอวัยวะเพศฝ่อเล็กลงไปตามๆกัน รายงานแจ้งว่า นายคริสเตียน ซอนน์ นักวิทยาศาสตร์กับคณะ ได้ตรวจสอบหมีขั้วโลกที่ดินแดนกรีนแลนด์ตะวันออก เป็นหมีตัวผู้ 55 ตัวและตัวเมีย 44 ตัว ได้พบความเกี่ยวพันของระดับสารประกอบออกาโนฮาโลเจน กับการมีขนาดอวัยวะเพศที่ฝ่อเหี่ยวเล็กลง พวกหมีเหล่านี้ได้รับสารประกอบนั้นจากอาหารที่พวกมันกินเข้าไป เช่น แมวน้ำ ที่ถูกพบเช่นกันว่า ในไขมันของมันมีสารประกอบนี้สะสมอยู่เป็นปริมาณสูง การศึกษาครั้งนี้ ได้รายงานให้ทราบถึงความเกี่ยวพันระหว่างปริมาณของสารประกอบ กับขนาดของมดลูกของหมีตัวเมีย และอัณฑะกับกระดูกอวัยวะเพศหมีตัวผู้ ที่มีขนาดเหี่ยวเล็กลง ซึ่งการศึกษาก่อนหน้านี้ก็เคยพบความเกี่ยวพันของสารประกอบ กับปัญหาสุขภาพของมันหลายอย่างด้วยกันมาก่อน การที่สัตว์ตัวผู้มีขนาดอวัยวะเพศที่โตใหญ่แข็งแรงสมบูรณ์ เป็นของจำเป็นกับความสำเร็จในการผสมพันธุ์ ในสภาพดินฟ้าอากาศของขั้วโลก ดังนั้น การที่มันเกิดมีอันเหี่ยวเล็กลงไป จึงเป็นผลเสียกับการผสมพันธุ์ของมัน รายงานได้กล่าวเตือนว่า “ยิ่งกว่านั้นโทษที่เกิดขึ้นทางสรีรศาสตร์ จากการบริโภคเอาสารออกาโนฮาโลเจนซึ่งเป็นมลพิษเข้าไป ก็อาจจะแสดง ออกกับอวัยวะสืบพันธุ์ของมนุษย์ ซึ่งต้องพึ่งแหล่งอาหารปนเปื้อนสารประกอบนี้เช่นกันก็ได้”. (ไทยรัฐ ศุกร์ที่ 8 ก.ย. 2549 http://www.thairath.co.th)





ดันสร้างเครือข่ายวิทย์เอเชี่ยน

ดร.ประวิช รัตนเพียร รมว.วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (วท.) เปิดเผยว่า ขณะนี้ วท. กำลังร่วมกับประเทศญี่ปุ่น จัดตั้งศูนย์วิทยาศาสตร์และศูนย์ข้อมูลร่วมกันของนักวิทยาศาสตร์ (Science Technology E-Research Forum) ในกลุ่ม 10 ประเทศอาเซียนและอีก 6 ประเทศเอเชียคือ ญี่ปุ่น เกาหลี จีน อินเดีย นิวซีแลนด์ ออสเตรเลีย เพื่อระดมนักวิทยาศาสตร์ นักวิจัย ที่มีความเชี่ยวชาญในสาขาต่างๆ ของแต่ละประเทศ สร้างเป็นเครือข่ายช่วยกันค้นคว้า วิจัย เพื่อแก้ปัญหาของสังคมโลก โดยเฉพาะในภูมิภาคเอเชีย ที่มีความสลับซับซ้อน ทั้งเรื่องโรคติดต่อ โรคระบาด หรือปัญหาอุบัติภัยที่เกิดจากการเปลี่ยนแปลงของสภาพแวดล้อม และไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน รวมทั้งต้องการแก้ไขปัญหาการซื้อเทคโนโลยีราคาแพงจากประเทศที่เจริญแล้ว สำหรับรูปแบบจะเป็นการนำรายชื่อของนักวิทยาศาสตร์ในสาขาวิชาต่างๆ ของแต่ละประเทศมาใส่ไว้ในเว็บไซต์ของศูนย์ฯ ดังนั้น เมื่อสังคมกำลังมีโจทย์เกี่ยวกับเรื่องใด ก็จะสามารถดึงนักวิจัย นักวิทยาศาสตร์มาช่วยกันคิดแก้ปัญหา ทำเป็นเครือข่ายเชื่อมโยงถึงกัน และแลกเปลี่ยนความรู้ การวิจัยในแต่ละปี ทั้งนี้จะมีการประชุมในกลุ่มรัฐมนตรีวิทยาศาสตร์ในเดือน ธ.ค.นี้ โดยประเทศไทยจะเป็นเจ้าภาพ. (ไทยรัฐ ศุกร์ที่ 8 ก.ย. 2549 http://www.thairath.co.th)





ข่าววิจัย/พัฒนา




ภาควิชาวิศวกรรมคอมพิวเตอร์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี (มจธ.) ได้พัฒนาระบบตรวจสอบวัตถุระเบิดใต้ท้องรถ โดยใช้กล้องวิดีโอวงจรปิดไปใช้บริเวณทางเข้าที่จอดรถ และเผยแพร่ระบบดังกล่าวสู่สาธารณชน ทำให้หน่วยราชการ และหน่วยงานเอกชนหลายแห่งให้ความสนใจ นำไปประยุกต์ใช้ในหน่วยงานของตน แต่การนำระบบดังกล่าวไปใช้งานจริงตามสถานที่ต่างๆ ยังมีจุดอ่อนอยู่ อย่างกรณีที่เจ้าหน้าที่ที่คอยเฝ้าดูภาพจากกล้องวิดีโอวงจรปิดไม่มีความชำนาญ หรือประสบการณ์ที่เกี่ยวข้องกับลักษณะ หรือการซ่อนพรางวัตถุระเบิดมาก่อน จะทำให้เกิดการเล็ดลอดของวัตถุระเบิดเข้าไปยังตัวอาคารได้ เพื่อแก้ปัญหาดังกล่าว สำนักข่าวกรองแห่งชาติจึงร่วมมือกับภาควิชาวิศวกรรมศาสตร์คอมพิวเตอร์ มจธ.คิดค้นวิธีการ "ตรวจค้นวัตถุระเบิดใต้ท้องรถขณะขับเคลื่อน" อย่างเป็นระบบ เพื่อใช้ในบริเวณทางเข้าอาคารที่จอดรถ ถือเป็นระบบตรวจค้นที่มีประสิทธิภาพ ใช้ตรวจจับวัตถุระเบิดได้อย่างแม่นยำ และนำไปประยุกต์ใช้งานตามสถานการณ์ต่างๆ ได้ทันที เช่น การประยุกต์ใช้งานร่วมกับระบบการบันทึกภาพคนขับรถขณะเปิดหน้าต่างรอรับบัตรจอดรถ ก่อนจะขับรถเข้าไปในตัวอาคาร สำนักข่าวกรองแห่งชาติได้สนับสนุนงบประมาณ โดยมุ่งเน้นการนำระบบที่คิดค้นขึ้นไปใช้งานได้จริง ดังนั้น ภาควิชาวิศวกรรมคอมพิวเตอร์จึงได้พัฒนาระบบต้นแบบ และนำไปทดสอบจริง ซึ่งได้รับความร่วมมือ และอุปกรณ์จากกลุ่มงานเก็บกู้ และตรวจพิสูจน์วัตถุระเบิด กองบัญชาการตำรวจนครบาล และบริษัท แอปเปิลไซเอ็นทิฟิค จำกัด ระบบที่พัฒนาขึ้นประกอบด้วยส่วนประกอบหลักคือ อุปกรณ์ตรวจค้นวัตถุระเบิดที่ใช้เทคโนโลยีการวิเคราะห์กลิ่น หรือไอระเหย และส่วนประกอบย่อยที่เหลือแบบเลือกได้ อย่างเครื่องมือ และอุปกรณ์ที่จะนำมาประกอบในระบบสามารถเปลี่ยนแปลงได้ตามวัตถุประสงค์ของผู้ใช้ งบประมาณ และสิ่งที่หาได้ตามท้องตลาด เช่น การเปลี่ยนอุปกรณ์ตรวจค้นไอระเหยวัตถุระเบิดชนิด ทีเอ็นที มาเป็นอุปกรณ์ตรวจค้นไอระเหยวัตถุระเบิดชนิดคอมโปซิชั่น ซีโฟร์ หรือถ้าเปลี่ยนส่วนประกอบหลักที่ใช้มาเป็นอุปกรณ์ตรวจค้นสารเสพติดที่ใช้เทคโนโลยีการวิเคราะห์กลิ่น หรือไอระเหย ระบบที่ได้จะเปลี่ยนเป็นระบบตรวจค้นสารเสพติดที่ซุกซ่อนอยู่ใต้ท้องรถขณะขับเคลื่อน (มติชน จันทร์ที่ 4 ก.ย. 2549 http://www.matichon.co.th)





ศิลปากรพัฒนาแผ่นนิโคตินเลิกบุหรี่ ราคาถูกเพียงแผ่นละ 1 บาท ถูกกว่าของนอก

ภ.ญ.นาตยา ถีระวงษ์ จากภาควิชาเทคโนโลยีเภสัชกรรม คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยศิลปากร วิทยาเขตพระราชวังสนามจันทร์ จ.นครปฐม เปิดเผยว่า ทีมวิจัยมหาวิทยาลัยศิลปากรประสบความสำเร็จในการพัฒนาแผ่นฟิล์มนิโคตินแปะช่องปากสำหรับผู้ที่ต้องการเลิกบุหรี่ ใช้แผ่นฟิล์มจากการผสมกันระหว่างชั้นของสารจากเปลือกส้มและสารนิโคติน ซึ่งมีประสิทธิภาพในการปลอดปล่อยสารนิโคตินเข้าสู่ร่างกายได้ดี นักวิจัยทั่วโลกจึงได้พัฒนาผลิตภัณฑ์เพื่อเป็นทางเลือกสำหรับผู้ต้องการเลิกบุหรี่ เช่น หมากฝรั่งนิโคติน แผ่นนิโคตินแปะตามร่างกาย เจลนิโคตินสำหรับทาผิว รวมถึงนิโคตินแบบพ่น เพื่อช่วยให้ผู้เสพลดปริมาณนิโคติน และเลิกบุหรี่ในที่สุด ทีมวิจัยไทยซึ่งประกอบด้วย ภ.ญ.นาตยา และ ภก.รศ.ดร.พรศักดิ์ ศรีอมรศักดิ์ จากมหาวิทยาลัยศิลปากร ได้ร่วมกันพัฒนาผลิตภัณฑ์เสริมนิโคตินขึ้นเอง โดยงานวิจัยดังกล่าวได้รับการสนับสนุนทุนวิจัยจากสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ใช้ระยะเวลาในการวิจัยทั้งสิ้น 6 เดือน (คมชัดลึก จันทร์ที่ 4 ก.ย. 2549 http://www.komchadluek.net)





ดื่มน้ำผักผลไม้ลดเสี่ยงอัลไซเมอร์

ดร.ฉี ได จากมหาวิทยาลัยแวนเดอร์บิลท์ ซึ่งได้ติดตามกลุ่มอาสาสมัคร 2,000 รายที่ดื่มน้ำผักผลไม้เป็นประจำตลอดสิบปี พบว่า การดื่มน้ำผักผลไม้ช่วยลดความเสี่ยงโรคอัลไซเมอร์อย่างเห็นได้ชัด ผลวิจัยพบว่า ผู้ที่ดื่มน้ำผักผลไม้มากกว่า 3 ครั้งใน 1 สัปดาห์มีความเสี่ยงในโรคอัลไซเมอร์น้อยลงถึง 76% หากเทียบกับผู้ที่ดื่มน้ำผักผลไม้น้อยกว่าสัปดาห์ละครั้ง กลุ่มอาสาสมัครที่เข้าร่วมวิจัยเป็นลูกครึ่งอเมริกัน-ญี่ปุ่น แต่นักวิจัยบอกว่า ผลที่ได้รับสามารถใช้ได้กับคนทั่วไป และบอกว่าการค้นพบครั้งนี้นับเป็นเรื่องใหม่ ทั้งแสดงว่าผักและผลไม้สามารถชะลอการเกิดโรคอัลไซเมอร์ได้อย่างสำคัญ นักวิทยาศาสตร์หลายท่านเชื่อว่า มีความเกี่ยวโยงกันระหว่างการเกิดสารอนุมูลอิสระในร่างกายกับการเปลี่ยนแปลงของเซลล์สมองในกลุ่มผู้ป่วยระยะแรกที่สุดท้ายหนีไม่พ้นเป็นโรคอัลไซเมอร์ แต่ในน้ำผักและผลไม้อุดมด้วยสารต้านอนุมูลอิสระที่คอย "เขมือบ" อนุมูลอิสระพวกนี้ งานวิจัยล่าสุดนี้จึงช่วยเพิ่มน้ำหนักให้กับทฤษฎีดังกล่าว (คมชัดลึก จันทร์ที่ 4 ก.ย. 2549 http://www.komchadluek.net)





หุ่นจำลองจากยางพารา

รศ.ดร.อภินันท์ สุประเสริฐ หัวหน้าโครงการวิจัยหุ่นจำลองจากยางพารา คณะสัตวแพทย์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ นำผลงาน “หุ่นจำลองจากยางพารา” ผลงานการคิดค้นของคนไทย ซึ่งสร้างโครงร่างหุ่นยนต์จากยางพารา โดยเชื่อมต่อเซ็นเซอร์เข้ากับแผงวงจร เมื่อใช้แม่เหล็กแตะตามจุดต่าง ๆ วงจรจะสั่งให้เสียงพูดที่บันทึกการอธิบายอวัยวะต่าง ๆ ภายในร่างกายมนุษย์ทำงาน ซึ่งการใช้ยางพารามาสร้างหุ่นสื่อประหยัดเพื่อการศึกษาไทยนี้ ถูกกว่านำเข้าจากต่างประเทศถึง 10 เท่า ส่งผลให้ผลงานชิ้นนี้คว้ารางวัลสิ่งประดิษฐ์สาขาพัฒนาสังคม (การศึกษา) ประจำปี 2547 จาก วช. และรางวัลสื่อการสอนดีเด่น ปี 2547 จากสมาคม กายวิภาคศาสตร์แห่งประเทศไทย ผลงานดังกล่าวจะนำมาจัดแสดงในงาน “การนำเสนอผลงานวิจัยแห่งชาติ” (Thailand Research Expo 2006) ที่สำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ (วช.) จัดขึ้นเพื่อนำเสนอผลงานวิจัยจากทั้งภาครัฐและเอกชน กว่า 200 ผลงาน จาก 90 หน่วยงาน ระหว่างวันที่ 9-13 ก.ย.นี้ ที่ สกาย ฮอลล์ ชั้น 3 และห้องบางกอกคอนเวนชั่น เซ็นเตอร์ ชั้น 4-5 ศูนย์การค้าเซ็นทรัล พลาซ่า ลาดพร้าว กรุงเทพฯ ตั้งแต่เวลา 10.00-20.00 น (เดลินิวส์ จันทร์ที่ 4 ก.ย. 2549 http://www.dailynews.co.th)





ป้องกันโจรกรรมรถ

การใช้งานระบบต้นแบบสแกนลายนิ้วมือป้องกันโจรกรรมรถในที่จอดรถ ผลงานของ รศ.ดร.มงคล รักษาพัชรวงศ์ และคณะจากภาควิชาวิศวกรรมไฟฟ้า ม.เกษตรศาสตร์ โดย อาศัยหลักการระบุตัวบุคคลด้วยลายนิ้วมือเพื่อยืนยันการเป็นเจ้าของ และภาพถ่ายของผู้ที่ขับรถพร้อมทะเบียนรถมาพัฒนาร่วมกับระบบที่ใช้อยู่ในปัจจุบัน รศ.ดร.มงคลกล่าวว่า ระบบที่พัฒนาขึ้นนี้มีส่วนประกอบสำคัญ 3 ส่วน คือ 1. เครื่องรับข้อมูลที่ฝั่งทางเข้า ประกอบด้วยแผงวงจรคอมพิวเตอร์แบบฝังตัวที่มีขนาดเล็ก (Embedded PC.) เครื่องอ่านลายนิ้วมือ และโปรแกรมของระบบที่พัฒนาขึ้นมา ทำหน้าที่รับข้อมูล ได้แก่ ทะเบียนรถ ค่าที่ได้จากเครื่องอ่านลายนิ้วมือและภาพถ่ายเจ้าของรถ 2. เครื่องตรวจสอบข้อมูลที่ฝั่งทางออก คล้ายกับฝั่งทางเข้าโดยรับส่งข้อมูลระหว่างเครื่องแม่ข่ายผ่านเครือข่าย LAN 3. เครื่องแม่ข่าย ทำหน้าที่เป็นส่วนฐานข้อมูลและโปรแกรมของระบบที่พัฒนาขึ้น เพื่อรับคำสั่งจากเครื่องรับข้อมูลฝั่งทางเข้าและเครื่องตรวจสอบข้อมูลฝั่งทางออก อาจารย์มงคล อธิบายหลักการทำงานของระบบว่า เมื่อมีรถเข้ามา เจ้าของรถจะบันทึกค่าลายนิ้วมือที่เครื่อง 4 ครั้ง เพื่อให้มีความถูกต้องในการตรวจสอบตอนออก เจ้าหน้าที่คุมเครื่องจะบันทึกทะเบียนรถและภาพถ่ายของเจ้าของรถ พร้อมลักษณะรถ หลังจากนั้นส่งข้อมูลไปยังเครื่องแม่ข่ายโดยผ่านเครือข่าย LAN และเครื่องตรวจสอบข้อมูลฝั่งทางออก จะร้องขอข้อมูลลายนิ้วมือจากเครื่องแม่ข่ายเพื่ออัพเดทข้อมูลลายนิ้วมือ ถ้าไม่พบลายนิ้วมือจะไม่สามารถนำรถออกได้ แต่ถ้าพบลายนิ้วมือเครื่องก็จะขอข้อมูลต่าง ๆ (ได้แก่ เวลาเข้า-ออก ภาพถ่ายเจ้าของรถ ทะเบียนรถและค่าบริการ เป็นต้น) ไปยังเครื่องแม่ข่ายซึ่งจะส่งข้อมูลที่ถูกร้องขอกลับมายังเครื่องตรวจสอบข้อมูลฝั่งขาออก จากนั้นเจ้าหน้าที่ตรวจสอบทะเบียนรถ และภาพถ่ายอีกครั้งก่อนนำรถออกเพื่อ (ไทยรัฐ จันทร์ที่ 4 ก.ย. 2549 http://www.thairath.co.th)





เปิดเผยกับดักของบุหรี่สมัยใหม่ เพิ่มปริมาณนิโคตินเข้มข้นขึ้นอีก

นักวิจัยของคณะสาธารณสุข แมสซาชูเซตต์ ได้พบในการวิจัยค้นคว้าว่า ปริมาณของนิโคตินในควันบุหรี่ ที่คอยาพากันอุดหนุนกันอยู่นับแต่ปี พ.ศ. 2541 มาจนถึงปีกลาย มีความเข้มข้นสูงกว่าแต่ก่อนอีก 10% ถึงแม้จะเป็นบุหรี่ที่อยู่ในซองที่มีฉลากระบุว่า “รสละมุน” ก็ตาม สารนิโคตินที่มีอยู่ในบุหรี่ ออกฤทธิ์เป็นทั้งยากระตุ้นและยาหย่อนกล้ามเนื้อ และเป็นตัวทำให้บุหรี่เป็นยาเสพติด ผู้อำนวยการของโครงการควบคุมยาสูบ แมสซาชูเซตต์ นายลอย คีธลี กล่าวในการให้สัมภาษณ์หนังสือพิมพ์ว่า “พวกเราซึ่งอยู่ในวงการสาธารณสุข ขบคิดกันแทบตายว่า เหตุใดผู้คนถึงไม่คิดเลิกสูบกันเสียที เพิ่งมารู้ว่า เพราะบุหรี่มีนิโคตินสูงขึ้น มันก็ยิ่งเลิกยากหนักขึ้น (ไทยรัฐ จันทร์ที่ 4 ก.ย. 2549 http://www.thairath.co.th)





วช.เอ็กซ์โปโชว์ หนัง 'ฝนหลวง' บนจอ 360 องศา

ศ.ดร.อานนท์ บุณยะรัตเวช เลขาธิการคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ กล่าวว่า จากการที่สำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ (วช.) กำหนดจัดงาน "การนำเสนอผลงานวิจัยแห่งชาติ 2549" หรือ ไทยแลนด์ รีเสิร์ช เอ็กซ์โป 2006 ระหว่างวันที่ 9-13 กันยายนนี้ ณ ศูนย์การค้าเซ็นทรัล พลาซา ลาดพร้าว เพื่อร่วมฉลองสิริราชสมบัติครบ 60 ปี และแสดงถึงพระอัจฉริยภาพด้านการวิจัย โดยคาดว่าจะมีผู้เข้าชมงานประมาณ 1,000 คนต่อวัน ทีมงานจึงเตรียมจัดแสดงนิทรรศการโครงการฝนหลวงในรูปแบบจอ 360 องศา เพื่อฉลองสิทธิบัตรฝนหลวง ที่ได้รับการจดทะเบียนในสหภาพยุโรป ตลอดจนจัดแสดงโครงการไบโอดีเซล และโครงการแหลมผักเบี้ย พร้อมด้วยนิทรรศการผลงานวิจัยจาก 90 หน่วยวิจัย รวม 200 ผลงาน เช่น เสื้อแจ็คเก็ตนาโน หุ่นจำลองยางพาราพูดได้ หุ่นยนต์กู้ภัยเคลื่อนที่เร็ว และกิจกรรมการประชุมเชิงปฏิบัติการใน 12 สาขาวิชาการของ วช. ด้าน ผศ.ดร.สิทธินันท์ ท่อแก้ว หัวหน้าภาควิชาวิศวกรรมเคมี คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ (มศว) วิทยาเขตองครักษ์ กล่าวถึงสิ่งประดิษฐ์ที่จะร่วมแสดงในงานดังกล่าวว่า เป็นเตาไมโครเวฟเสริมชุดอุปกรณ์ควบแน่นสำหรับไบโอดีเซล โดยใช้วัตถุดิบเป็นน้ำมันพืชหรือน้ำมันหมูทั้งแบบใหม่และแบบที่ใช้ทำอาหารแล้ว แต่ปัญหาที่พบคือประชาชนอาจไม่ต้องการเจาะตัวเครื่องไมโครเวฟ เพื่อติดตั้งอุปกรณ์เสริม ด้วยเหตุนี้ทีมงานจึงเร่งศึกษาหาภาชนะใหม่ที่จะนำมาใช้แทนเตาไมโครเวฟ รวมทั้งหาสูตรความร้อนและเวลาใช้งานที่เหมาะสมอีกด้วย (คมชัดลึก อังคารที่ 5 ก.ย. 2549 http://www.komchadluek.net)





ไทยวิจัยกินน้ำมะพร้าวเป็นยาสมอง ชะลอเกิดพยาธิสภาพโรคอัลไซเมอร์

ดร.นิซาอูดะห์ ระเด่นอาหมัด อาจารย์ ประจำภาควิชากายวิภาคศาสตร์ คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ เปิดเผยว่า ได้ทำการวิจัยเรื่องน้ำมะพร้าวอ่อนต่อการชะลอเกิดพยาธิสภาพโรคอัลไซเมอร์ ซึ่งเป็นงานวิจัยที่ได้รับทุนวิจัยจากสำนักกองทุนสนับสนุนการวิจัย (สกว.) ประจำปี 2546-2548 ผลงานดังกล่าวได้รับความสนใจสูงในระดับนานาชาติ และได้รับคัดเลือกเป็นผลงานแบบโปสเตอร์ดีเด่น สาขาประสาทกายวิภาคศาสตร์ จากงานประชุมวิชาการกายวิภาคศาสตร์แห่งประเทศไทยประจำปี 2549 ครั้งที่ 29 ดร.นิซาอูดะห์ กล่าวว่า การทดลองพบว่าน้ำมะพร้าวอ่อนมีฮอร์โมนเอสโตรเจนสูง และมีส่วนช่วยลดพยาธิสภาพของโรคอัลไซเมอร์ โดยใช้หนูขาวเพศเมียที่ถูกตัดรังไข่ออกทั้งสองข้างเป็นแบบจำลองแทนสตรีวัยทอง พบว่า หนูขาวเพศเมียที่ถูกตัดรังไข่ออกและได้รับน้ำมะพร้าวเป็นเวลา 5 สัปดาห์ มีพยาธิสภาพของโรคอัลไซเมอร์น้อยกว่าหนูกลุ่มที่ไม่ได้รับน้ำมะพร้าว นอกจากนี้ ยังพบว่าน้ำมะพร้าวอ่อนมีผลทำให้การสมานแผลเร็วขึ้น อีกทั้งยังไม่มีแผลเป็นด้วย ซึ่งจะได้ศึกษาและพัฒนาให้เป็นยาเพื่อช่วยให้แผลหายเร็วขึ้น จะเป็นประโยชน์ผู้ป่วยที่แผลหายช้ากว่าปกติ เช่น ผู้ป่วยโรคเบาหวาน (ไทยรัฐ พุธที่ 6 ก.ย. 2549 http://www.thairath.co.th)





แขนเทียมไซเบอร์เนติกส์

นายอภิวัฒน์ จรูญเรืองวงศ์ อายุ 23 ปี ชั้นปี 4 คณะวิศวกรรมศาสตร์ สาขาเครื่องกล สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนคร เหนือ เล่าถึงหลักการทำงานของแขนเทียมไซเบอร์เนติกส์ ว่าจะสร้างกล้ามเนื้อเทียมของ แขนเทียมโดยอิงหลักการทำงานของกล้ามเนื้อ แขนมนุษย์จริง ๆ โดยกล้ามเนื้อแขนเทียมต้นแบบจะสร้างจากยางหุ้มด้วยตาข่าย โดยมีเส้นเอ็นและลมช่วยในการเคลื่อนไหว สำหรับ “แขนเทียมไซเบอร์เนติกส์” ถ้าดูจากภายนอกอาจดูไม่สวยงาม แต่ด้วยการพัฒนากว่า 4 ปี และใช้เงินกว่า 1 แสนบาท วันนี้ได้พัฒนาให้นิ้วมือ 5 นิ้วสามารถเคลื่อนไหวได้แล้ว แต่เป็นการ เคลื่อนไหวแบบเป็นคู่ เช่น นิ้วชี้-นิ้วกลาง, นิ้วนาง-นิ้วก้อย เคลื่อนไหวพร้อมกัน ส่วนนิ้วหัวแม่มือจะเคลื่อนไหวนิ้วเดียว ผศ.ดร.สถาพร ลักษณะเจริญ หัวหน้ากลุ่มวิจัยชีววิทยาการหุ่นยนต์ สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ บอกว่า การพัฒนาให้นิ้วมือเคลื่อนไหวได้เป็นอีกขั้นของการวิจัยซึ่งทำให้ผู้ที่ประสบอุบัติเหตุสูญเสียแขนสามารถกลับมาเขียนหนังสือได้อีกครั้ง ซึ่ง ขณะนี้การทำงานยังเคลื่อนไหวโดยใช้แรงลม สั่งงานผ่านสวิตช์แต่ถ้าจะนำไปทำในเชิงพาณิชย์ต้องพัฒนาให้มีการทำงานที่สะดวกและคล่องตัวขึ้น และมีรูปลักษณ์ที่สวยงามโดยการใช้ยาง พาราทำผิวเป็นวัตถุดิบที่หาได้ในเมืองไทย (เดลินิวส์ พุธที่ 6 ก.ย. 2549 http://www.dailynews.co.th)





สสส.หนุนเภสัชกรคิดแผ่นนิโคตินลดบุหรี่

เภสัชกรหญิงนาตยา ถีระวงษ์ ร่วมกับ ภก.รศ.พรศักดิ์ ศรีอมรศักดิ์ จากภาควิชาเทคโนโลยีเภสัชกรรม คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยศิลปากร วิทยาเขตพระราชวังสนามจันทร์ ประสบความสำเร็จในระดับห้องปฏิบัติการ ในการพัฒนาแผ่นฟิล์มนิโคตินแปะช่องปาก จากการผสมกันระหว่างชั้นของเพคตินจากเปลือกส้มกับสารนิโคติน ได้รับทุนวิจัย 1.5 แสนบาท จากสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) กำหนดเวลาวิจัย 6 เดือน “ข้อมูลพื้นฐานจากการวิจัยพบว่า สารโพลีเมอร์จากธรรมชาติหรือเพคตินจากเปลือกส้ม มีความปลอดภัยและสามารถย่อยสลายได้ในร่างกาย ส่วนใหญ่ใช้ในอุตสาหกรรมอาหาร เพราะมีคุณสมบัติในการยึดเกาะเนื้อเยื่อบริเวณช่องปากและกระพุ้งแก้มได้เป็นอย่างดี จึงนำเพคตินที่ได้มาพัฒนาเป็นแผ่นฟิล์มบรรจุสารนิโคตินสำหรับใช้งานบริเวณช่องปาก ทั้งนี้ นิโคตินจะซึมเข้ากระแสเลือดได้เช่นเดียวกับผลิตภัณฑ์เสริมนิโคตินในตลาด” ภ.ญ.นาตยา กล่าว ทีมงานได้ทดสอบเปรียบเทียบประสิทธิภาพของแผ่นฟิล์ม ในระดับความหนาที่ต่างกัน พบว่าแผ่นฟิล์มหนา 3 ชั้น ซึ่งใช้ฟิล์มนิโคติน 2 มิลลิกรัมสอดระหว่างฟิล์มเพคติน สามารถดูดซึมนิโคตินได้ดีกว่าแผ่นฟิล์มแบบชั้นเดียว ใช้เวลาประมาณ 15 นาที ในการปลดปล่อยยา ตลอดจนนิโคตินซึมผ่านเยื่อบุช่องปากถึง 80% และใช้งานนาน 5 ชั่วโมง (กรุงเทพธุรกิจ พุธที่ 6 ก.ย. 2549 http://www.bangkokbiznews.com)





'กลาโหม'ไฟเขียวเกราะกันกระสุนฝีมือไทย

ดร.กุลจิรา สุจิโรจน์ นักวิจัยศูนย์เทคโนโลยีโลหะและวัสดุแห่งชาติ (เอ็มเทค) สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี กล่าวว่า ทีมวิจัยได้ทำโครงการพัฒนาเกราะแข็งน้ำหนักเบาจากวัสดุในประเทศ ได้รับความร่วมมือในการร่วมออกแบบและทดสอบประสิทธิภาพ จากภาควิชาเคมี คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล และภาควิชาวิศวกรรมเคมี คณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เกราะกันกระสุนทั้งรูปแบบของชุดเกราะ เกราะรถยนต์และเฮลิคอปเตอร์ เป็นอุปกรณ์ป้องกันอันตรายจากกระสุนและอาวุธแหลมคม ที่จำเป็นต้องใช้ในกิจกรรมทางทหาร เพื่อความปลอดภัยกับบุคคล ปัจจุบันประเทศไทยจำเป็นต้องพึ่งพาเกราะจากต่างประเทศ ซึ่งใช้วัสดุที่มีประสิทธิภาพดีกว่าเกราะที่คนไทยพยายามพัฒนา แต่เกราะนำเข้า นอกจากจะราคาสูงแล้ว ยังมีน้ำหนักมาก ทำให้ไม่สะดวกในการงานเท่าที่ควร "ดังนั้น ทีมวิจัยจึงได้พัฒนาเกราะกันกระสุนขึ้นเอง จากความร่วมมือระหว่างหน่วยงานภาครัฐกับสถาบันการศึกษา ประยุกต์ความรู้ด้านเซรามิคชั้นสูงที่ซับซ้อนกับวัสดุศาสตร์ พร้อมทั้งนำวัสดุที่มีอยู่ในประเทศมาพัฒนาและทดสอบประสิทธิภาพ เป้าหมายเพื่อพัฒนาเกราะที่สามารถรับมืออำนาจทะลุทะลวงของลูกกระสุน ขณะที่น้ำเบาไม่เป็นภาระต่อการปฏิบัติงาน มีราคาที่เหมาะสมและสามารถผลิตได้ในประเทศ” (กรุงเทพธุรกิจ พฤหัสบดีที่ 7 ก.ย. 2549 http://www.bangkokbiznews.com)





ข่าวทั่วไป


อาเซียนมอบไทยเจ้าภาพกำราบหวัดนก

ในการประชุมรัฐมนตรีด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีภูมิภาคอาเซียน ครั้งที่ 4 อย่างไม่เป็นทางการ (4th Informal ASEAN Ministerial Meeting on Science and Technology : IAMMST) ที่มาเลเซียเมื่อต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา ที่ประชุมได้ยกให้ไทยเป็นเจ้าภาพในการจัดการการใช้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีเพื่อแก้ปัญหาไข้หวัดนก เนื่องจากปัญหาไข้หวัดนกกำลังกลายเป็นโรคประจำถิ่น และไม่สามารถกำจัดให้หมดไปได้อย่างถาวร "ที่ประชุมเห็นว่า ไทยสามารถควบคุมการแพร่ระบาดของเชื้อได้อย่างรวดเร็ว ตลอดจนมีงานวิจัยเพื่อค้นหายาต้านเชื้อไวรัสโดยความร่วมมือของกระทรวงวิทย์ฯ และกระทรวงสาธารณสุข ซึ่งหลายประเทศ เช่น จีน และญี่ปุ่น ให้ความสนใจกันมาก" นายประวิช รัตนเพียร รักษาการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (กรุงเทพธุรกิจ จันทร์ที่ 4 ก.ย. 2549 http://www.bangkokbiznews.com)





วธ.จัดนิทรรศการชูหนัง 'เชิด ทรงศรี'

นายสรจักร เกษมสุวรรณ กรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงวัฒนธรรม (วธ.) เป็นประธานแถลงข่าวการจัดนิทรรศการ “เชิด ทรงศรี เลือดเนื้อแห่งนครศรีธรรมราช” ที่กระทรวงวัฒนธรรม ว่า สำนักงานศิลปวัฒนธรรมร่วมสมัย (สศร.) ร่วมกับ พิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติ นครศรีธรรมราช หลักสูตรพิพิธภัณฑ์แห่งชาติ ม.มหิดล และ สมาคมสมาพันธ์ภาพยนตร์แห่งชาติ จัดนิทรรศการ “เชิด ทรงศรี เลือดเนื้อแห่งนครศรีธรรมราช” ระหว่างวันที่ 9 ก.ย.49 – 31 ม.ค. 50 ที่พิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติ นครศรีธรรมราช ทั้งนี้เพื่อเผยแพร่ผลงานและเกียรติคุณของนายเชิด ทรงศรี บุคคลสำคัญของวงการภาพยนตร์ไทยซึ่งเป็นชาวนครศรีธรรมราช อีกทั้งเป็นผู้กำกับภาพยนตร์ไทยที่อนุรักษ์ศิลปวัฒนธรรมไทยและวัฒนธรรมท้องถิ่นผ่านสื่อภาพยนตร์ (กรุงเทพธุรกิจ อังคารที่ 5 ก.ย. 2549 http://www.bandkokbiznews.com)





สว.เผยเงินหวยให้ทุน'เด็กมุสลิม'ผิดหลักศาสนา

วันที่ 4 ก.ย.2549 นายจอน อึ๊งภากรณ์ รักษาการสมาชิกวุฒิสภา (สว.) ให้สัมภาษณ์ว่า ตนมีความวิตกกังวลเกี่ยวกับการนำรายได้จากการจำหน่ายหวยบนดินมาแจกเป็นทุนการศึกษาแก่เด็กยากจนทั่วประเทศ เพราะเมื่อสมัยที่ดำรงตำแหน่งเป็นคณะกรรมาธิการพัฒนาสังคม และความมั่นคงของมนุษย์ วุฒิสภา เคยเห็นบทความ หรือ จดหมายร้องเรียนของผู้ปกครองมุสลิมที่ไม่ต้องการให้บุตรหลานรับทุนดังกล่าว เพราะผิดศีลธรรมในเชิงศาสนา ที่ห้ามไม่ยุ่งเกี่ยวกับการพนันหรืออบายมุข โดยเงินทุนดังกล่าวก็ได้มาจากการพนันชนิดหนึ่ง นายจอนกล่าวอีกว่า ความจริงแล้วน่าจะให้ล็อตเตอรี่หรือหวยบนดินมีหน้าที่เป็นเพียงองค์กรที่นำเงินส่งให้กับรัฐบาลเท่านั้น ส่วนรัฐก็มีหน้าที่นำเงินที่ได้มาผ่านการจัดสรรงบประมาณ และ มอบให้กับกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) หรือ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องนำไปใช้ประโยชน์ต่อไป ไม่ใช่นำเงินรายได้จากการจำหน่ายหวยบนดินมาทำโครงการโดยตรง การกระทำดังกล่าวยังเป็นการช่วยลดข้อกังขาของประชาชนที่ไม่ต้องให้มีการเล่นการพนันอยู่ในสังคมด้วย เพราะ ถ้ายังมีการนำเงินหวยมาเป็นทุนการศึกษาอยู่ ก็จะทำให้มีข้ออ้างว่าถ้ายกเลิกหวยบนดิน แล้วจะเอาเงินตรงไหนมาอุดหนุนการศึกษา แต่ถ้าไม่นำเรื่องการพนันมาผูกโยงกับการศึกษา เมื่อมีการยกเลิกหวยบนดินเด็กก็จะไม่ได้รับผลกระทบ (กรุงเทพธุรกิจ อังคารที่ 5 ก.ย. 2549 http://www.bangkokbiznews.com)





ท่าอากาศยานเปิดคลินิกฉุกเฉิน รักษาผู้โดยสารโรคกลัวเรือบิน

นักจิตวิทยามาร์ค โรมัน เทราท์มานน์ หัวหน้าคลินิก กล่าวแจ้งว่าสถานพยาบาลเปิดขึ้น เพื่อให้ การรักษาพยาบาลผู้โดยสารที่กำลังจะขึ้นเครื่องบิน แต่เป็นโรคกลัวการบินกันได้ทันที ผู้โดยสารจะไม่ ได้มีเวลากลับมาเกิดเป็นขึ้นอีก ตอนยังไม่ทันได้ขึ้น ในการรักษานั้น ได้ให้กัปตันเครื่องบินช่วยอธิบายกับคนไข้ บอกให้รู้ว่าเครื่องบินบินได้อย่างไร และให้เขาได้มีโอกาสทำความคุ้นเคยกับห้องโดยสารเครื่องบิน ก่อนหน้าจะขึ้นเครื่องด้วย นับตั้งแต่เปิดบริการ มีผู้โดยสารที่เป็นโรคกลัวเครื่องบิน เข้ามารักษาสัก 30 รายแล้ว โดยได้มีการแนะนำวิธีปฏิบัติตนบนเครื่องบินตามสบาย ตลอดจนให้รู้ข้อมูลต่างๆของเครื่องบิน เป็นเวลา 15 นาที โดยไม่คิดเงิน ต่อจากนั้นจึงให้การรักษาพยาบาลเป็นเวลานานอีก 45 นาที “แต่ก็ยังมีหลายคน จำเป็นต้องให้แรงส่งอัดฉีดส่งท้ายกันอีก เพราะโรคกลัวไม่อาจจะรักษากันชั่วประเดี๋ยว ประด๋าวได้ ได้แต่เพื่อช่วยให้รู้จักรับมือกับมันได้ เท่านั้นเอง” (ไทยรัฐ พุธที่ 6 ก.ย. 2549 http://www.thairath.co.th)





ติดกล้องวงจรปิดทั่วกทม.77จุด จับภาพฝ่าไฟแดงอีก30ทางแยก

ตร.อนุมัติ ติดกล้องวงจรปิดทั่ว กทม.77 จุด พร้อมกล้องจับฝ่าไฟแดงอีก 30 ทางแยก เผยสามารถตรวจจับรถฝ่าฝืนสัญญาณไฟจราจรทั้งก่อน-ระหว่าง-หลังจากฝ่าฝืน พร้อมจับภาพป้ายทะเบียนรถไว้พร้อม หลังจากนั้นจะส่งภาพพร้อมหมายเรียกไปให้ผู้ขับขี่เพื่อมาจ่ายค่าปรับ การติดตามเรื่องเกี่ยวกับการติดตั้งกล้องทีวงจรปิดเพิ่มเติมจากของเดิมที่ บก.จร.ได้ทำการติดตั้งแล้วจำนวน 60 กว่า ทางแยก โดยเราได้จัดตั้งงบประมาณในการซื้อและติดตั้ง ทีวีวงจรปิดเพิ่มอีก 77 ทางแยก เพื่อให้ศูนย์ควบคุมการจราจร (บก.02) ที่มีหน้าที่คอยอำนวยความสะดวกด้านการจราจรทั่วกรุงเทพ สามารถจัดการอำนวยความสะดวกด้านการจราจรได้มีประสิทธิภาพมากขึ้น ซึ่งมีการจัดตั้งงบประมาณในครั้งนี้ประมาณ 300 ล้านบาท ขณะนี้เราเริ่มติดตั้งแล้วเสร็จแล้วจำนวน 7 ทางแยก นอกจากนี้ทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ยังได้อนุมัติ โครงการติดตั้งกล้องตรวจจับผู้ขับขี่ฝ่าฝืนสัญญาณไฟจราจร หรือการฝ่าไฟแดง โดยอนุมัติให้มีการติดตั้งจำนวน 30 ทางแยกงบประมาณ 170 ล้านบาท ขณะนี้ทำการติดตั้งแล้วเสร็จแล้วจำนวน 5 ทางแยก ซึ่งกล้องตัวนี้จะสามารถตรวจจับผู้ขับขี่ที่ฝ่าฝืนสัญญาณไฟจราจรทั้งก่อนที่จะทำการฝ่าระหว่างฝ่าฝืนและหลังจากฝ่าฝืน รวมทั้งจะจับภาพที่ป้ายทะเบียนรถไว้พร้อม หลังจากนั้นจะส่งภาพพร้อมหมายเรียกไปให้ผู้ขับขี่เพื่อมาชำระค่าปรับ เป็นการลดการโต้เถียงระหว่างเจ้าหน้าที่ตรวจและผู้ขับขี่ พร้อมทั้งลดอุบัติเหตุที่อาจจะเกิดขึ้นจากการฝ่าฝืนสัญญาณไปจราจร โครงการเหล่านี้คงจะแล้วเสร็จภายในระยะเวลา 1 ปี ซึ่งจะเพิ่มประสิทธิภาพในการอำนวยความสะดวกด้านการจราจรมากขึ้น รวมทั้งจะช่วยสอดส่องดูแลรักษาความปลอดภัยตามท้องถนนได้เพิ่มขึ้นอีกด้วย (มติชน พฤหัสบดีที่ 7 ก.ย. 2549 http://www.matichon.co.th)





เวิลด์แบงก์ชู "สิงคโปร์" น่าลงทุนสูง

เปิดผลสำรวจเวิลด์แบงก์ ยกสิงคโปร์ประเทศเอื้อต่อการทำธุรกิจน่าลงทุนมากที่สุดในโลก แซงหน้าแชมป์เก่านิวซีแลนด์ ขณะที่ไทยขยับขึ้นเล็กน้อยอยู่อันดับ 18 จากเดิม 19 เหตุติดปัญหากฎระเบียบ การขาดแรงงานมีทักษะกับสาธารณูปโภคไม่เพียงพอ พร้อมจี้ให้ปรับปรุงการคุ้มครองนักลงทุนผู้ถือหุ้นส่วนน้อย ความโปร่งใสในการเปิดเผยข้อมูลที่น่าเชื่อถือ ด้านเอดีบีปรับลดคาดการณ์ตัวเลขเศรษฐกิจไทยปีนี้เหลือ 4.2% และปีหน้าเหลือ 4% อ้างความไม่แน่นอนทางการเมือง กระทบอำนาจซื้อผู้บริโภค ฉุดลงทุนชะลอตัว ดร.เคซี เอ็ม มาติน เศรษฐกรอาวุโสประจำเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และหัวหน้าหน่วยเศรษฐกิจของเวิลด์แบงก์ กล่าวในงานแถลงข่าวเผยแพร่รายงานเรื่อง "การทำธุรกิจปี 2550" ซึ่งจัดทำโดยธนาคารโลก หรือเวิลด์แบงก์ ร่วมกับบรรษัทเงินทุนระหว่างประเทศ หรือไอเอฟซี ซึ่งเป็นหน่วยงานหนึ่งของเวิลด์แบงก์ ว่า จากการสำรวจความเห็นของบริษัทเอกชน 30,000 แห่งใน 175 ประเทศทั่วโลก ซึ่งจำนวนนี้เป็นบริษัทไทย 1,385 แห่ง พบว่า สิงคโปร์เป็นประเทศเอื้อต่อการทำธุรกิจน่าลงทุนมากที่สุดในปี 2550 แซงหน้าแชมป์เก่าปี 2549 อย่างนิวซีแลนด์ ซึ่งขณะนี้ มีปัญหาการขอใบอนุญาตทำธุรกิจได้ยากขึ้น ส่วนไทยขยับขึ้นเล็กน้อยจากเดิม 19 ในปีนี้เป็น 18 ในปีหน้า (กรุงเทพธุรกิจ พฤหัสบดีที่ 7 ก.ย. 2549 http://www.bangkokbiznews.com)





วิศวะจุฬาฯชำแหละ'สุวรรณภูมิ' ผลาญงบกว่า 1.5 แสนล้าน

ชมรมนักเรียนทุนอานันท์ ได้จัดเสวนาเพื่อเทิดพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเนื่องใน วโรกาสที่ทรงครองสิริราชสมบัติครบ 60 ปี หัวข้อ “ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิในมุมมองวิศวกรไทย” นายปณิธาน ลักคุณะประสิทธิ์ กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ คณะกรรมการแผ่นดินไหวแห่งชาติ กล่าวว่า บทเรียนจากโครงการสนามบินสุวรรณภูมิได้รับการวิพากษ์วิจารณ์ทั้งจากวิศวกรและสถาปนิกว่าเป็นโครงการที่ค่อนข้างแพง และมีความไม่เหมาะสมหลายประการ เช่น การใช้ช่วงอาคารที่ยาวถึงช่วงละ 120 เมตร ซึ่งถือเป็นการความห่างระหว่างช่วงเสาที่ยาวมาก แบบที่วิศวกรที่อื่นไม่ทำกันและตนก็ไม่เคยเห็น โดยอาจจะยาวที่สุดในโลกก็ได้ การออกแบบเช่นนี้ทำให้ค่าการก่อสร้างแพงมาก ทั้งที่สามารถก่อสร้างแบบช่วงสั้นได้แต่ก็ไม่ทำ นอกจากนี้ยังมีการใช้วัสดุที่ทำจากกระจกจำนวนมาก วัสดุเหล่านี้ทำให้ค่าก่อสร้างแพงและยังก่อให้เกิดปัญหาอื่น ๆ ตามมาอีกมาก เช่น การสิ้นเปลืองพลังงาน มีเสียงก้อง ผู้ที่ออกแบบได้คิดการแก้ไขปัญหาไว้หรือไม่ หากมีการแก้ไขคนที่ออกแบบจะคิดค่าปรับปรุงเพิ่มหรือไม่ ทั้งนี้การติดตั้งเครื่องตรวจจับระเบิดซีทีเอ็กซ์ 9000 มากถึง 26 เครื่องทั้งที่อากาศยานใหญ่ ๆ ในสหรัฐฯ ก็ไม่ใช้ถึงขนาดนี้ นายปณิธาน กล่าวอีกว่า โครงการสนามบินสุวรรณภูมิได้วางแผนในการก่อสร้างในยุคฟองสบู่ คณะกรรมการจึงเน้นการก่อสร้างที่ใช้วัสดุหรูหรา ดังนั้นขั้นตอนการออกแบบจึงไม่คำนึงถึงความประหยัด ทั้งที่สถาปนิกที่เป็นคณะกรรมการหลายคนก็ทักท้วงว่าเราสามารถสร้างให้ประหยัดได้ แต่เสียงส่วนใหญ่เห็นว่าเราสามารถทำให้คุ้มทุนได้โดยการเพิ่มอัตราค่าธรรมเนียมการใช้สนามบินและทำให้คุ้มทุนได้ (กรุงเทพธุรกิจ ศุกร์ที่ 8 ก.ย. 2549 http://www.bangkokbiznews.com)





การเลือกของเล่นเด็ก เสริมพัฒนาการและการเรียนรู้

รศ.ดร.จิตตินันท์ เดชะคุปต์ สาขาวิชาคหกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช อธิบายว่า ช่วงชีวิตของมนุษย์โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงปฐมวัย นับตั้งแต่แรกเกิดจนถึงอายุ 6 ปี ถือได้ว่าเป็นช่วงวัยที่สำคัญที่สุดของการเจริญเติบโตและพัฒนาการทุกๆ ด้านของมนุษย์ ทั้งนี้ การเล่นและของเล่นเพื่อส่งเสริมพัฒนาการและการเรียนรู้ของเด็กปฐมวัย นับเป็นหัวใจสำคัญของการเสริมสร้างประสบการณ์การเรียนรู้และพัฒนาการที่สอดคล้องกับธรรมชาติ และความต้องการของเด็กวัยนี้ พ่อแม่ผู้ปกครองและผู้ที่ปฏิบัติงานเกี่ยวข้องกับเด็กปฐมวัย ควรมีความรู้ความเข้าใจ เกี่ยวกับความสำคัญของการเล่นและของเล่นที่เหมาะสม รศ.ดร.จิตตินันท์ บอกว่า เด็กปฐมวัยจะมีความสุขสนุกสนานกับการเล่นในชีวิตประจำวันตามความสนใจและความพอใจของตนเอง ขณะที่เล่นนั้นเด็กได้ใช้อวัยวะส่วนต่าง ๆ ของร่างกายในการสำรวจคุณสมบัติของสิ่งที่เล่น ไม่ว่าจะเป็นคนที่เล่นด้วยหรือวัตถุสิ่งของหรือของเล่น พร้อม ๆ ไปกับการรับรู้สิ่งที่เล่นผ่านอวัยวะรับสัมผัสต่าง ๆ เข้าสู่กระบวนการทำงานของสมองในการจดจำเป็นข้อมูลความคิดความเข้าใจต่อสิ่งนั้น "เด็กจะค่อยๆซึมซับและเรียนรู้สิ่งต่างๆผ่านปฏิสัมพันธ์กับคนเล่นหรือของเล่น โดยเฉพาะเมื่อเด็กได้ลงมือกระทำด้วยตนเองและมีผู้คอยชี้แนะให้ข้อมูลหรือสอนให้รู้จักคำบอกของชื่อเรียกสิ่งต่างๆรอบตัว หรือความหมายของสิ่งเหล่านั้นทีละเล็กละน้อย จากเรื่องที่ง่ายๆไปสู่เรื่องที่ซับซ้อนมากขึ้น ตามความสามารถของวัย" การเลือกของเล่นที่ดีเพื่อเสริมสร้างการเรียนรู้ตามศักยภาพของเด็ก จึงนับเป็นเรื่องที่สำคัญอย่างยิ่งที่ควรคำนึงถึง เนื่องจากของเล่นเป็นสื่อกลางช่วยเปิดโลกภายในของเด็กออกสู่ภายนอก ทำให้เด็กได้ค้นพบความสามารถหรือความถนัดของตนเองด้วยตนเอง และเป็นแรงบันดาลใจให้เด็กใฝ่เรียนใฝ่รู้ มีความกระตือรือร้น (กรุงเทพธุรกิจ ศุกร์ที่ 8 ก.ย. 2549 http://www.bangkokbiznews.com)






KMUTT Digital Library
Contact Digital Library : info@lib.kmutt.ac.th
Tel : 0-2470-8215