|
หัวข้อข่าวปีที่ 7 ฉบับที่ 39 ประจำวันที่ 2006-09-25
ข่าวการศึกษา
ทปอ.ถือโอกาสแยกกระทรวงอุดมศึกษา อ้างอยู่ ศธ.อุ้ยอ้าย-ไม่คล่องตัว ไฟเขียวปรับโครงสร้างสกอ.-คลอดหน่วยพิเศษ กสพท.ชี้ใช้โอเน็ตครั้งที่ 2 หรือไม่ขึ้นกับมติ อธิการฯ ศธ.รอ ครม.ใหม่ช่วยตัดสินใจทบทวนระบบเรียนฟรี สกศ.เปิดถกวิจัยอนาคตการศึกษาไทย ผลวิจัย พบครูท้อ อยากเอร์รี่ฯ ยุส่งแยกตั้ง 3 ทบวงฯคุมงานการศึกษา สกอ.ยังไม่พอใจคุณภาพบัณฑิต สทศ.ชี้ปฏิรูปไม่ส่งผลโอเน็ต-เอเน็ต"50 ยันสอบวันเดิม-หวั่นงบฯล่าเตรียมดึงเงินสกอ. ปลัด ศธ.เผยเสนอแยก ศธ.เป็น 3 ทบวง สกอ.ยื่นคปค.แล้ว ขอตั้งเป็นกระทรวงมหาวิทยาลัย ครูชำนาญการพิเศษแห้วรับเงินตอบแทน สทศ.-สกอ.ฟันธงสอบเอเน็ตไม่มีอัตนัย "รุ่ง"เชื่อคปค.คงไม่หลงทางยอมให้ผ่ากระทรวงศึกษา
ข่าววิทยาศาสตร์/เทคโนโลยี
ซิลิคอนวัลเลย์จะเป็นเมืองไร้สาย IBM Future Store ร้านค้าแห่งอนาคต มะกันออกแบบฐานตั้ง กังหันลมปั่นไฟแบบลอยน้ำ ธัญบุรีทำตู้เย็นพลังปั่นเสียเหงื่อ 15 นาทีได้น้ำเย็นดับกระหาย เตรียมตั้งโรงงาน "ถ้วยพลาสติก" จากแป้งมัน-พร้อมขายปี 50 ปส.-อุตุฯ ร่วมเตือนภัย สึนามิ ด้วยข้อมูลตรวจ อาวุธนิวเคลียร์ รถเซลล์เชื้อเพลิง ผักป๊อปอายป้องกันตาไม่ให้บอด ด้วยโรคจอประสาทตาเสื่อม ไอบีเอ็มคิดระบบช่วยคนหูหนวกส่งเอสเอ็มเอสบอกเสียงตามสายผ่านมือถือ โนเกียร่วมวงศ์ไพบูลย์ลดขยะมือถือ แพทย์ฝรั่งเศสสร้างภาวะไร้น้ำหนักกลางอากาศ ทดลองผ่าตัดซีสต์ รพ.จุฬาฯ ทำน้ำร้อนจากพลังแสงอาทิตย์ ฝรั่งเศสเปิด"กรีนปั๊ม" ขายเชื้อเพลิงชีวภาพ
ข่าววิจัย/พัฒนา
ประท้วงโดยการปาไข่ใส่หน้าคน อันตรายร้ายแรง ถึงตาบอดถาวร นักวิจัยอ้างผลสำเร็จหนูทดลองใช้สเต็มเซลล์รักษาโรคตา มือถือนำเที่ยวไทยไม่ง้อไกด์ หมอใต้ทำเตียงลดแผลกดทับ เสริมระบบไฮโดรลิกขยับตัวคนไข้อัตโนมัติ เตรียมประกาศจัดอันดับ"ม.วิจัยไทย" เทคโนชีวภาพไทยชะงัก เวียดนาม-จีนแซง ครีมสูตรใหม่ผิวสีแทนไม่ต้องอาบแดด จองตั๋วรถทัวร์ผ่านมือถือ ไอเดียจาก มทร.ธัญบุรีรอเอกชนสานฝัน โลกร้อนใกล้ถึงจุดวิกฤติอุณหภูมิเฉียด 3 ล้านปีก่อน น้ำทะเลท่วมแผ่นดิน!! ไต้หวันสนใจสมุนไพรไทย พร้อมลงนามร่วมขยายการลงทุนไบโอเทค สกัดพริกขี้หนูสยบเบาหวาน หมอเล็งพัฒนาเป็นยา-อาหารเสริมผู้ป่วย ย่อโปรเจคเตอร์เหลือเท่าก้อนน้ำตาล
ข่าวทั่วไป
คนไทยเป็นโรคอัลไซเมอร์ 6 แสนเสียหายทาง เศรษฐกิจหัวละ 8 แสน สูบบุหรี่สูดโรคเอดส์เข้าตัวง่าย ร่างกายไวกับการรับ เชื้อโรค เต้นรำเป็นการออกกำลังชั้นยอด ได้ทั้งสนุกและ ประสบการณ์ร่วม ฉีดโบทอกซ์ลบรอยตีนกาบนหน้า พาให้เสพติด อยากฉีดอีกเรื่อยไป สหกรณ์ครูเฮสมัครสมาชิก ช.พ.ค.ได้ สุขุมวิทโกลาหลปิดจราจร1ต.ค. ซ.83-101/1ทำรถไฟฟ้านาน30เดือน ตำรวจเชียงใหม่ไฮเทค ใช้ระบบ"จีพีเอส"ล่าคนร้าย ปิดตำนานดอนเมือง วัดดวง"สุวรรณภูมิ" จวก 30 บาทเงินไม่พอ อัด สธ เลิกทำเป็นเถ้าแก่ ที่ประชุม คปค. รับทราบมติ ครม.เดิม ถวายพระราชสามัญญนาม ส้วมอนามัย
ข่าวการศึกษา
ทปอ.ถือโอกาสแยกกระทรวงอุดมศึกษา อ้างอยู่ ศธ.อุ้ยอ้าย-ไม่คล่องตัว
รศ.มณฑล สงวนเสริมศรี อธิการบดีมหาวิทยาลัยนเรศวร ในฐานะประธานคณะทำงานปรับโครงสร้างกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) ตามที่ที่ประชุมอธิการบดีแห่งประเทศไทย (ทปอ.) มอบหมาย เปิดเผยภายหลังการประชุมว่า คณะทำงานเห็นควรแยกสำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา (สกอ.) ตั้งเป็นกระทรวงอุดมศึกษา มี พ.ร.บ.กระทรวงอุดมศึกษา ที่มีโครงสร้างไม่ใหญ่แต่มีความคล่องตัว โดยดูแลมาตรฐาน จัดสรรงบประมาณ ส่งเสริมพัฒนา ส่วนการบริหารต่างๆ ขึ้นอยู่กับสภามหาวิทยาลัยและอธิการบดี โดยกระทรวงอุดมศึกษาจะเข้าไปส่งเสริมกำกับ และสั่งการในบางเรื่อง โดยจะมีการแก้ พ.ร.บ.การศึกษาแห่งชาติ พ.ศ.2542 และ พ.ร.บ.ระเบียบบริหารราชการ ศธ. พ.ศ.2546 บางมาตรา ทั้งนี้การแยกกระทรวงอุดมศึกษาออกจาก ศธ. เพราะต้องการพัฒนาคุณภาพบัณฑิต ส่งเสริมการวิจัย ใช้ทรัพยากรร่วมกัน และมองประโยชน์ของประเทศเป็นหลัก
อธิการบดีมหาวิทยาลัยนเรศวร กล่าวอีกว่า ร่าง พ.ร.บ.กระทรวงอุดมศึกษาจะมีไม่เกิน 20 มาตรา โดยเป็นเรื่องของโครงสร้างที่จะออกเป็นกฎกระทรวง และอำนาจหน้าที่ ซึ่งเป็นความสัมพันธ์ระหว่างกระทรวงอุดมศึกษากับมหาวิทยาลัยที่มีหลายรูปแบบ ทั้งมหาวิทยาลัยรัฐ มหาวิทยาลัยในกำกับรัฐบาล และวิทยาลัยชุมชน เป็นต้น ซึ่งตนจะเสนอเข้าที่ประชุม ทปอ.ในการประชุมครั้งต่อไป เพื่อนำเสนอต่อรัฐบาลชุดใหม่ ซึ่งหลังจากคณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข (คปค.) ได้เชิญข้าราชการระดับสูงทุกหน่วยงาน รวมทั้งอธิการบดีไปรายงานตัว ทาง คปค.มองว่าสิ่งที่เป็นปัญหาของประเทศในขณะนี้คือความรวยความจนของประชาชน และการศึกษา โดยในส่วนของการศึกษาต้องปรับปรุงในภาพใหญ่ คณะกรรมการปรับโครงสร้าง ศธ. จึงเห็นว่าถ้าอุดมศึกษายังอยู่ใน ศธ. จะเกิดความอุ้ยอ้าย การประสานงานไม่คล่องตัว ทั้งที่มหาวิทยาลัยต้องการความมีอิสระในเชิงวิชาการ เพราะมหาวิทยาลัยเทียบเท่ากรม แต่การบริหารงานแตกต่างจากหน่วยอื่น.
(ไทยรัฐ จันทร์ที่ 25 ก.ย. 2549 http://www.thairath.co.th)
ไฟเขียวปรับโครงสร้างสกอ.-คลอดหน่วยพิเศษ
คุณหญิงกษมา วรวรรณ ณ อยุธยา ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะกรรมการพัฒนาโครงสร้างระบบราชการ ศธ. เมื่อเร็วๆ นี้ ว่า ที่ประชุมเห็นชอบตามที่สำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา (สกอ.) เสนอให้มีการจัดตั้งสถาบันบริการและนวัตกรรมอุดมศึกษา ซึ่งเป็นหน่วยงานบริการพิเศษ หรือ SDU โดยมีการจัดตั้งศูนย์ในสังกัด จำนวน 5 ศูนย์ ได้แก่ ศูนย์เทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อพัฒนาการศึกษา ศูนย์บริการมหาวิทยาลัยไซเบอร์ไทย ศูนย์พัฒนาทรัพยากรมนุษย์ในระบบอุดมศึกษา ศูนย์บริการกลางการรับนิสิตนักศึกษา และศูนย์บริการและพัฒนาภาษาอังกฤษ ทั้งนี้ที่ประชุมได้เห็นชอบในหลักการ แต่ได้ขอให้ไปพิจารณาในรายละเอียดว่า การทำงานของสถาบันดังกล่าวจะเอื้อต่อการทำงานใน ศธ.หรือไม่
ปลัด ศธ. กล่าวอีกว่า ที่ประชุมยังเห็นชอบในหลักการการปรับโครงสร้างภายในของ สกอ. โดยจะมีการยุบรวมบางสำนักตั้งเป็นสำนักนิติการเพื่อดูแลกฎหมาย เรื่องร้องเรียนและการคุ้มครองผู้บริโภค ทั้งนี้ จะมีการนำเสนอร่างกฎกระทรวงเกี่ยวกับการเสนอปรับโครงสร้างไปยัง ก.พ.ร.ต่อไป นอกจากนี้ได้ติดตามความคืบหน้าการเสนอตั้งสำนักกิจการนักเรียน ของสำนักงานปลัด ศธ. สำนักวิจัยหลักสูตรและสถาบันภาษาต่างประเทศของ สพฐ. ซึ่งได้เสนอเรื่องไปยัง ก.พ.ร.แล้ว ทราบว่าทาง ก.พ.ร.ก็เห็นด้วย แต่ ที่ติดใจคือควรจะเสนอขอปรับโครงสร้างในภาพรวมเช่นเดียวกับ สกอ. ไม่ใช่ทยอยขอจัดตั้งหน่วยงานเพิ่ม.
(ไทยรัฐ จันทร์ที่ 25 ก.ย. 2549 http://www.thairath.co.th)
กสพท.ชี้ใช้โอเน็ตครั้งที่ 2 หรือไม่ขึ้นกับมติ อธิการฯ
ศ.นพ.อาวุธ ศรีศุกรี เลขาธิการกลุ่มสถาบันแพทยศาสตร์แห่งประเทศไทย (กสพท.) เปิดเผยว่า จากการประชุมของคณะกรรมการกลุ่มสถาบันแพทยศาสตร์ แห่งประเทศไทยเมื่อเร็วๆนี้ เพื่อทำการพิจารณาข้อร้องเรียนต่างๆของผู้สมัครเกี่ยวกับคุณสมบัติ ซึ่งที่ประชุมได้มีการถกเถียงกันถึงข้อดี และข้อเสียต่างๆอย่างรอบคอบแล้ว มีมติร่วมกันว่า จะยังยืนคุณสมบัติที่ได้กำหนดไว้ในประกาศรับสมัคร ยกเว้นเรื่องการใช้คะแนนการทดสอบทางการศึกษาแห่งชาติขั้นพื้นฐาน หรือโอเน็ต ซึ่งผู้สมัครเรียกร้องเข้ามาจำนวนมากว่า อยากให้ กสพท.พิจารณาคะแนนสอบโอเน็ตครั้งที่ 2 ได้ เนื่องจากขณะนี้ที่ประชุมอธิการบดีแห่งประเทศไทย (ทปอ.) กำลังเตรียมหารืออยู่ว่า จะให้นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 ที่เคยสอบโอเน็ตแล้วเมื่อปี 2549 จะสามารถสอบโอเน็ตได้ใหม่อีกครั้งหรือไม่ ขณะเดียวกันทาง กสพท.ก็จะทำหนังสือขอหารือไปยัง ทปอ.หาก ทปอ.เห็นชอบที่จะให้เด็กสอบโอเน็ตได้ใหม่ ทาง กสพท.ก็พร้อมที่จะรับพิจารณาคะแนนโอเน็ตครั้งที่ 2 เช่นกัน แต่ทั้งนี้จะต้องเป็นผู้สมัครที่สมัครกับ กสพท.แล้วภายในวันที่ 31 ส.ค.ที่ผ่านมาเท่านั้น
เลขาธิการ กสพท.กล่าวต่อว่า สำหรับเรื่องคะแนนเฉลี่ยตลอดหลักสูตรระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนปลาย หรือจีพีเอเอ็กซ์ ซึ่ง กสพท.กำหนดไว้ว่า จะต้องได้มากกว่า 3.00 ขึ้นไปนั้น ทาง กสพท. จะยังยืนยันคุณสมบัติข้อนี้ไว้เช่นเดิมไม่มีการเปลี่ยนแปลง เพราะ กสพท.พิจารณาแล้วเห็นว่า หาก กสพท.ยินยอมให้เด็กที่มีคะแนนจีพีเอเอ็กซ์ต่ำกว่า 3.00 สามารถเข้าสอบได้ เท่ากับเป็นการหลอกลวงเด็ก เพราะโอกาสที่เด็กจะสอบได้นั้น แทบไม่มีความหวังเลย ทั้งขณะนี้ กสพท.ก็กำหนดแผนผังที่นั่งสอบวิชาเฉพาะไว้เรียบร้อยแล้ว ดังนั้น ขอย้ำว่าประกาศของ กสพท.ที่แจ้งทางเว็บไซต์ในเครือข่ายที่เกี่ยวข้อง จะมีผลเฉพาะผู้ที่สมัครกับ กสพท.ไว้แล้ว จะไม่มีการรับสมัครเพิ่มเติมแต่อย่างใด.
(ไทยรัฐ จันทร์ที่ 25 ก.ย. 2549 http://www.thairath.co.th)
ศธ.รอ ครม.ใหม่ช่วยตัดสินใจทบทวนระบบเรียนฟรี
คุณหญิงกษมา วรวรรณ ณ อยุธยา ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) กล่าวถึงแผนการเสนอขอปรับเพิ่มเงินอุดหนุนการจัดการศึกษาขั้นพื้นฐานต่อคณะรัฐมนตรี (ครม.) ชุดใหม่ว่า ขณะนี้ ศธ.มีตัวเลขอยู่ 2-3 ชุดที่จะนำเสนอ โดยหนึ่งในนั้นเป็นตัวเลขที่สำนักนโยบายและยุทธศาสตร์ สำนักงานปลัดกระทรวงศึกษาธิการ ได้เคยทำวิจัยเกี่ยวกับเงินอุดหนุนการจัดการศึกษาขั้นพื้นฐาน โดยดูที่ขนาดของโรงเรียน และระดับคุณภาพของโรงเรียนด้วยว่า โรงเรียนขนาดใหญ่ที่มีคุณภาพใช้เงินเท่าไหร่ โรงเรียนขนาดกลางที่มีคุณภาพใช้เงินเท่าไหร่ และโรงเรียนขนาดเล็กที่มีคุณภาพใช้เงินเท่าไหร่ และโรงเรียนไม่มีคุณภาพใช้เงินเท่าไหร่ ซึ่งเป็นตัวเลขที่แยกย่อยและแสดงให้เห็นว่าการที่จะทำให้โรงเรียนมีคุณภาพนั้นจะต้องมีการลงทุนในลักษณะไหน โดย ศธ.จะเสนอในหลายทางเลือกเพื่อเป็นข้อมูลให้ ครม.ชุดใหม่ได้พิจารณา ทั้งนี้ในการทำวิจัยดังกล่าวไม่ใช่ดูแต่โรงเรียนสุดยอดที่ลงทุนเยอะ เช่น โรงเรียน วัดโบสถ์ ซึ่งไม่ได้ฟู่ฟ่าอะไรเลย แต่ก็ถือได้ว่ามีคุณภาพ และก็ยังต้องใช้เงินในการพัฒนามากกว่าเงินอุดหนุนรายหัวที่รัฐบาลจัดสรรให้
(เดลินิวส์ จันทร์ที่ 25 ก.ย. 2549 http://www.dailynews.co.th)
สกศ.เปิดถกวิจัยอนาคตการศึกษาไทย
วันที่ 25 กันยายน ที่สำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษา (สกศ.) คณะผู้วิจัยจากสถาบันอนาคตศึกษาเพื่อการพัฒนา (ไอเอฟดี) นำโดยนางจิตติมา เหมรัตนากร นักวิจัยไอเอฟดี ได้นำเสนอผลการวิจัยเรื่อง "ผลกระทบโลกาภิวัตน์ต่อการจัดการศึกษาไทยใน 5 ปีข้างหน้า" ว่า ผู้ทำการวิจัยได้ศึกษาวิจัยเรื่องดังกล่าวโดยหวังให้ใช้เป็นฐานข้อมูลประกอบการกำหนดนโยบายและวางแผนของกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) รวมทั้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อแก้ไขและป้องกันปัญหาที่อาจเกิดขึ้น ซึ่งผลการวิจัยมีข้อเสนอแนะสำคัญดังนี้ การจะพัฒนาระบบการศึกษาไทยให้พร้อมต่อสภาพโลกาภิวัตน์ได้ จำเป็นต้องเตรียมความพร้อมในเชิงลึกตั้งแต่วันนี้ โดยรัฐต้องกำหนดวิสัยทัศน์การพัฒนาประเทศที่ชัดเจน เพื่อจัดการศึกษาและทรัพยากรให้สนับสนุนได้ตามเป้าหมายนั้น ทั้งนี้ การพัฒนาระบบการศึกษาไม่ควรมีเป้าหมายเพียงเพื่อสนับสนุนการสร้างความมั่งคั่งทางเศรษฐกิจเท่านั้น แต่ต้องพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมที่ยั่งยืนตามแนวพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเรื่องเศรษฐกิจพอเพียงด้วย
(มติชน อังคารที่ 26 ก.ย. 2549 http://www.matichon.co.th)
ผลวิจัย พบครูท้อ อยากเอร์รี่ฯ
นายอมรวิชช์ นาครทรรพ ผู้อำนวยการสถาบันรามจิตติ เปิดเผยถึงโครงการติดตามสภาวการณ์ทำงานของครูหรือ Teacher Watch
เป็นความร่วมมือระหว่างสถาบันรามจิตติและสถาบันพัฒนาครูคณาจารย์และบุคลากรทางการศึกษา (สคบศ.) กระทรวงศึกษาธิการ(ศธ.)ว่าจากข้อมูลผลการสำรวจเบื้องต้นที่ยังไม่เสร็จสมบูรณ์ จากข้อมูลของกลุ่มตัวอย่างข้าราชการครูประมาณสองพันกว่าคนจากทุกจังหวัด มีข้อมูลภาพรวมที่น่าสนใจหลายประการ อาทิ การที่ครูส่วนใหญ่ต้องสอนค่อนข้างหนักมีชั่วโมงสอนเฉลี่ยถึง 21 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ ยังต้องรับผิดชอบงานธุรการต่างๆ ในโรงเรียนเนื่องจากไม่มีเจ้าหน้าที่ธุรการเป็นการเฉพาะ ทำให้โดยเฉลี่ยครูคนหนึ่งต้องมีตำแหน่งบริหารหรือธุรการอีกคนละ 1-2 ตำแหน่ง และครูส่วนใหญ่ใช้เวลาถึงร้อยละ 10 -20 ของเวลาสอนปกติไปกับงานธุรการ นอกจากนี้ครูกว่าร้อยละ 45.5 จำเป็นต้องขาดสอนแทบทุกสัปดาห์ สัปดาห์หนึ่งประมาณ 2 คาบ ด้วยสาเหตุอันดับหนึ่งคือการต้องไปฝึกอบรมเพิ่มพูนความรู้ให้กับตนเอง รองลงมาคือ การติดประชุม ส่วนภาระที่ครูหนักใจที่สุดกับไม่ใช่เรื่องการสอนแต่เป็นภาระเรื่องการทำฐานข้อมูล การจัดทำรายงานต่างๆ ให้กับโรงเรียนและส่วนกลาง เช่น รายงานการประเมินผล เป็นต้น โดยมีครูถึงร้อยละ 46.1 ระบุถึงความหนักใจในเรื่องนี้มากที่สุด นอกจากนี้ยังพบว่าครูถึงร้อยละ 50 ที่เริ่มถอดใจกับอาชีพครู ร้อยละ15 ระบุว่าเคยคิดเปลี่ยนอาชีพ ในขณะที่ร้อยละ 62.5 ต้องการหากเข้าโครงการเกษียณราชการก่อนอายุ หรือเออร์รี่รีไทร์
(มติชน อังคารที่ 26 ก.ย. 2549 http://www.matichon.co.th)
ยุส่งแยกตั้ง 3 ทบวงฯคุมงานการศึกษา
ตามที่สำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา (สกอ.)ได้ทำหนังสือถึง พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน หัวหน้าคณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข (คปค.) เสนอแยก สกอ.ออกจากกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.)เพื่อจัดตั้งเป็นกระทรวงการอุดมศึกษาและการวิจัยนั้น ศ.ดร.สมหวัง พิธิยานุวัฒน์ ผอ.สำนักงานรับรองมาตรฐานและประเมินคุณภาพการศึกษา (สมศ.) กล่าวว่า เมื่อวันที่ 26 ก.ย.ที่ผ่านมา คณะกรรมการบริหาร สมศ.ได้หารือถึงเรื่องนี้ และเห็นว่าน่าจะดูให้ถ่องแท้ ว่าปัญหาของอุดมศึกษาอยู่ที่ระบบโครงสร้าง หรืออยู่ที่ระบบพฤติกรรม การบริหาร เมื่อรู้แล้วว่าปัญหาอยู่ที่ไหนก็ปรับในจุดนั้น อีกทั้งสภาพความเป็นจริงในปัจจุบันมหาวิทยาลัยของรัฐก็เตรียมออกนอกระบบทั้งหมด ดังนั้น เรื่องที่เกี่ยวข้องกับรัฐมนตรีจึงมีน้อยมาก ในขณะเดียวกันมหาวิทยาลัยที่มีความเข้มแข็งแล้ว ก็มีวัฒนธรรมที่มีอิสระดูแลตนเองได้ ตนเห็นว่าการเสนอ คปค.ควรจะเสนอเพื่อสนับสนุนเรื่องการเป็นมหาวิทยาลัยนอกระบบตามมาตรา 36 ใน พ.ร.บ.การศึกษาแห่งชาติ คุณหญิงกษมา วรวรรณ ณ อยุธยา ปลัด ศธ. กล่าวว่า ศธ.ได้เสนอความเห็นของที่ประชุมผู้บริหาร 5 องค์กรหลักต่อ คปค. แล้ว โดยเห็นว่าที่ผ่านมาการรวมทบวงมหาวิทยาลัยเข้ากับ ศธ. เพราะต้องการเห็นการศึกษามีความเป็นเอกภาพ สอดคล้องเชื่อมโยงซึ่งกันและกัน มีการใช้สติปัญญาและทรัพยากรร่วมกัน ซึ่งถ้าเห็นว่าเป็นเรื่องดีก็ควรสงวนหลักการเดิมไว้ แต่อาจปรับวิธีการบริหารงานให้มีความคล่องตัวมากขึ้น และแก้ไขประเด็นที่ยังเป็นปัญหา แต่หากคิดว่านโยบายการรวมกระทรวงเพื่อความเป็นเอกภาพไม่ใช่เรื่องใหญ่อีกต่อไป ก็ให้แยกออกเป็น 3 ทบวง ได้แก่ ทบวงการศึกษาขั้นพื้นฐาน ทบวงการอาชีวศึกษา และทบวงการอุดมศึกษา
(ไทยรัฐ พุธที่ 27 ก.ย. 2549 http://www.thairath.co.th)
สกอ.ยังไม่พอใจคุณภาพบัณฑิต
ศ.(พิเศษ)ดร.ภาวิช ทองโรจน์ เลขาธิการคณะกรรมการการอุดมศึกษา(กกอ.) เปิดเผยผลการดำเนินงานด้านอุดมศึกษาในรอบปีที่ผ่านมาว่า สำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา(สกอ.)ได้มีการทบทวนบทบาทและภารกิจของการอุดมศึกษาตลอดเวลา รวมถึงติดตามกระบวนการปฏิรูปอุดมศึกษาอย่างแท้จริงเพื่อมุ่งตอบสนองต่อการพัฒนาประชาชน สังคมและประเทศชาติ ซึ่งในรอบปีที่ผ่านมาได้ผลักดันนโยบายและดำเนินโครงการ ต่าง ๆ ที่เกี่ยวกับอุดมศึกษาหลายประการ เช่น การพัฒนาระบบกลางการรับนิสิตนักศึกษาหรือระบบแอดมิชชั่น หรือโครงการปฏิรูประบบการเงินเพื่อการอุดมศึกษา ซึ่งมีการจัดตั้งกองทุนเงินให้กู้ยืมที่ผูกกับรายได้ในอนาคต(กรอ.) ซึ่งจะช่วยเปิดโอกาสให้เยาวชนได้เข้าสู่ระบบอุดมศึกษาเพิ่มมากขึ้น นอกจากนี้สกอ.ยังให้ความสนใจงานในภาพย่อยที่อยู่ในนโยบายแต่ละด้านอีกด้วย โดยเฉพาะการแก้ไขปัญหาเรื่องคุณภาพการศึกษาที่อุดมศึกษาไทยกำลังเผชิญอยู่ ซึ่งเป็นภารกิจที่จะต้องรีบดำเนินการควบคู่ไปกับการพัฒนาในเรื่องปริมาณ ซึ่งที่ผ่านมาก็สามารถเพิ่มขึ้นได้อย่างรวดเร็ว
เลขาธิการ กกอ. กล่าวต่อไปว่า จากผลการดำเนินงานด้านต่าง ๆ ถ้าเปรียบเทียบอุดมศึกษาของไทยกับอุดมศึกษาในประเทศอื่น ๆ จะพบว่าขณะนี้เยาวชนไทยสามารถเข้าสู่ระบบอุดมศึกษาได้เพิ่มขึ้นเป็นร้อยละ 39 ของจำนวนเด็กในกลุ่มอายุดังกล่าว ดังนั้นเพื่อให้ปัจจัยด้านปริมาณของบัณฑิตและคุณภาพบัณฑิตมีความสอดคล้องกัน ทางสกอ.จึงจำเป็นต้องมีการกำหนดนโยบายเรื่องการผลิตกำลังคนหรือทิศทางการผลิตบัณฑิตเพื่อให้สถาบันอุดมศึกษาสามารถผลิตบัณฑิตได้สอดคล้องกับความต้องการของประเทศ ซึ่งโครงการปฏิรูประบบการเงินเพื่อการอุดมศึกษาจะเป็นอีกหนึ่งกลไกที่จะช่วยแก้ปัญหานี้ได้
(เดลินิวส์ พุธที่ 27 ก.ย. 2549 http://www.dailynews.co.th)
สทศ.ชี้ปฏิรูปไม่ส่งผลโอเน็ต-เอเน็ต"50 ยันสอบวันเดิม-หวั่นงบฯล่าเตรียมดึงเงินสกอ.
นางอุทุมพร จามรมาน ผอ.สถาบันทดสอบทางการศึกษาแห่งชาติ (สทศ.) เปิดเผยว่า แม้จะมีการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองโดยคณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข (คปค.) เชื่อว่าสถานการณ์จะไม่กระทบต่อการจัดทดสอบทางการศึกษาแห่งชาติขั้นพื้นฐาน (โอเน็ต) และการทดสอบทางการศึกษาแห่งชาติขั้นสูง (เอเน็ต) ประจำปีการศึกษา 2550 เชื่อว่าจะสามารถจัดทดสอบได้ในวันเวลาที่ประกาศไว้ คือโอเน็ตระหว่างวันที่ 24-25 ก.พ.2550 และเอเน็ตวันที่ 3-4 มี.ค. ส่วนการสรรหาคณะกรรมการบริหาร สทศ. แม้ขณะนี้กระบวนการสรรหายังไม่แล้วเสร็จ แต่มีคณะกรรมการรักษาการทำหน้าที่อยู่พร้อมการสรรหาคณะกรรมการบริหารตัวจริง
"แต่การเบิกจ่ายงบประมาณอาจไม่สามารถเบิกจ่ายได้ทันในเดือนต.ค. เพราะยังไม่มีคณะรัฐมนตรีชุดใหม่ แต่คิดว่าถ้าทดสอบทางการศึกษาแห่งชาติ อาจขอยืมเงินสำรองจ่ายจากสำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา (สกอ.) มาใช้ไปก่อนได้ ซึ่งในการจัดสอบปีที่ผ่านมาก็มีปัญหาเรื่องการเบิกจ่ายงบฯ เช่นเดียวกัน แต่ก็สามารถยืมจากสกอ.ดำเนินการไปก่อนได้"
(ข่าวสด พุธที่ 27 ก.ย. 2549 http://www.matichon.co.th/khaosod/khaosod.php)
ปลัด ศธ.เผยเสนอแยก ศธ.เป็น 3 ทบวง
คุณหญิงกษมา วรวรรณ ณ อยุธยา ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) กล่าวว่า ทราบว่าข้อเสนอด้านกฎหมายตามที่ผู้บริหาร 5 องค์กรหลักของ ศธ.ได้ประชุมสรุปและเสนอต่อคณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขนั้น คณะกฎหมายของคณะปฏิรูปฯ กำลังพิจารณาอยู่ แต่แนวโน้มอาจต้องนำเสนอเข้าสู่สภานิติบัญญัติ
ส่วนกรณีการเสนอแยก สกอ. เป็นกระทรวงการอุดมศึกษาฯ นั้น คุณหญิงกษมา กล่าวว่า จากการประชุมขององค์กรหลักเมื่อวันเสาร์ที่ 23 กันยายนที่ผ่านมา การรวมโครงสร้างมี 2 แนวคิด คือ ต้องการเห็นกระทรวงเดียวกันมีเอกภาพ มีความสอดคล้องเชื่อมโยงซึ่งกันและกัน และมีการใช้สติปัญญาทรัพยากรร่วมกัน ซึ่งถ้ายังเห็นว่าเป็นเรื่องดีก็ควรจะดำรงต่อไป แต่อาจจะปรับวิธีการให้มีความคล่องตัวมากขึ้น ถ้ายังเห็นด้วยกับหลักการใหญ่ที่จะอยู่รวมกันให้เกิดเอกภาพก็จำเป็นต้องพยายามแก้ไขปัญหาและสงวนหลักการใหญ่ไว้
อย่างไรก็ตาม ถ้าหน่วยใดสามารถจะมีความคล่องตัวพัฒนาไปสู่ความเป็นเลิศในส่วนตัวของตัวเองได้ก็กระทำได้ จึงมีการเสนอให้แยกเป็น 3 ทบวง คือ ทบวงพื้นฐาน ทบวงอาชีวะและทบวงอุดมศึกษา และแนวความคิดนี้ได้ประมวลเสนอคณะทำงานที่ดูแลเรื่องกฎหมายของคณะปฏิรูปฯ แล้ว ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ ถึงงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2550 นั้น ทุกกระทรวงจะต้องเสนอรายละเอียดคำเสนอขอไปยังสำนักงบประมาณภายในวันพรุ่งนี้ (27 ก.ย.) ซึ่ง ศธ.ไม่น่ามีปัญหา เนื่องจากได้มีการพิจารณากันมาเป็นระยะแล้ว จากนั้นภายในวันที่ 10 ต.ค.นี้
สำนักงบประมาณจะเสนอโครงสร้างงบประมาณกับคณะรัฐมนตรีชุดใหม่ และวันที่ 7 พ.ย. 2549 จะเสนอในรายละเอียด และวันที่ 21 พ.ย.เสนอร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2550 ด้านนายธนารัชต์ สมคเณ นายกสมาคมนักพัฒนาการศึกษาขั้นพื้นฐานแห่งประเทศไทย กล่าวว่า อีก 1-2 วันนี้จะเสนอความเห็นเกี่ยวกับการแยก สกอ.ออกจาก ศธ.กับคณะปฏิรูปฯ โดยองค์กรครูไม่เห็นด้วย เพราะ สกอ.เพิ่งมารวมกับ ศธ.ได้ไม่นาน ไม่ควรด่วนสรุปว่ามีปัญหา ซึ่งการรวมกันทำให้เกิดความเชื่อมโยงการศึกษาทุกระดับเข้าด้วยกัน
(กรุงเทพธุรกิจ พุธที่ 27 ก.ย. 2549 http://www.bangkokbiznews.com)
สกอ.ยื่นคปค.แล้ว ขอตั้งเป็นกระทรวงมหาวิทยาลัย
ศ.(พิเศษ) ภาวิช ทองโรจน์ เลขาธิการคณะกรรมการการอุดมศึกษา (กกอ.) เปิดเผยวานนี้(25 ก.ย.) ว่า ได้ยื่นมติของการประชุมร่วมกับอธิการบดีในการเสนอแยกสำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา (สกอ.) ออกจากกระทรวงศึกษาธิการ ให้กับหัวหน้าคณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขแล้ว โดยผ่านไปทางนักบริหารระดับ 10 ของ สกอ. ที่เป็นตัวแทนคอยประสานอยู่ที่คณะปฏิรูปฯ ซึ่งได้เสนอหลักการ และเหตุผลเป็นเอกสารทั้งหมดในการเสนอตั้งเป็นกระทรวงการอุดมศึกษาและการวิจัย รวมหน่วยงานระดับอุดมศึกษาเข้าด้วยกัน เน้นบทบาทหน้าที่ด้านการวิจัย
ทั้งนี้ สกอ.เห็นว่า หากผลักดันในช่วงนี้จะทำได้เร็ว เหมือนเมื่อครั้งก่อตั้งทบวงมหาวิทยาลัยก็เกิดในช่วงคณะปฏิวัติ โดยการออกประกาศคณะปฏิวัติ ฉบับที่ 216 พ.ศ.2515 ส่วนที่ว่าการเสนอเป็นกระทรวงใหญ่เกินไปนั้น คงไม่ใช่เนื่องจากงานของอุดมศึกษาในปัจจุบัน มีบทบาทหน้าที่มากกว่าบางกระทรวง เพราะนอกจากจะมีมหาวิทยาลัยของรัฐแล้ว ยังมีของเอกชน มหาวิทยาลัยราชภัฏ มหาวิทยาลัยราชมงคล
ด้าน ศ.ดร.ปรัชญา เวสารัชช์ อธิการบดีมหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช (มสธ.) ในฐานะประธานที่ประชุมอธิการบดีแห่งประเทศไทย กล่าวว่า ช่วงการปฏิรูปการปกครอง อะไรก็เกิดขึ้นได้ สิ่งที่ทำได้ตอนนี้คือ ขอให้มีประกาศคณะปฏิรูปฯ ออกมา และกฎหมายที่เกี่ยวข้องที่จะต้องแก้ไขต่อไปคือ พ.ร.บ.การศึกษาแห่งชาติ พ.ศ.2542 และ พ.ร.บ.ระเบียบบริหารราชการกระทรวงศึกษาธิการ เพื่อกำหนดการแบ่งส่วนราชการใหม่
(กรุงเทพธุรกิจ พุธที่ 27 ก.ย. 2549 http://www.bangkokbiznews.com)
ครูชำนาญการพิเศษแห้วรับเงินตอบแทน
คุณหญิงกษมา วรวรรณ ณ อยุธยา ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ เปิดเผยว่า สำนักงานคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (ก.ค.ศ.) ได้ รายงานให้ทราบถึงข้อวินิจฉัยของกรมบัญชีกลาง เกี่ยวกับการจ่ายเงินค่าตอบแทนนอกเหนือจากเงินเดือนของข้าราชการครู และบุคลากรทางการศึกษา ตามที่ ก.ค.ศ.ได้ทำหนังสือหารือไปว่า การกำหนดระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยการเบิกจ่ายเงินค่าตอบแทน นอกเหนือจากเงินเดือนของข้าราชการและลูกจ้างประจำของส่วนราชการ พ.ศ.2547 เป็นการกำหนดให้เป็นไปตามมติ ครม. ที่เห็นชอบให้ ผู้ดำรงตำแหน่งบริหารระดับกองหรือเทียบเท่าขึ้นไป มีสิทธิได้รับเงินประจำตำแหน่งตาม พ.ร.บ. เงินเดือนและเงินประจำตำแหน่ง พ.ศ. 2538 และที่แก้ไขเพิ่มเติมถึงจะมีสิทธิได้รับเงินค่าตอบแทน ดังนั้น ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาที่มีสิทธิได้รับเงินวิทยฐานะ ตาม พ.ร.บ.เงินเดือน เงินวิทยฐานะ และเงินประจำตำแหน่งของข้าราชการครู และบุคลากรทางการศึกษา พ.ศ.2547 จึงไม่ใช่ บุคคลที่มีสิทธิได้รับเงินค่าตอบแทนรายเดือนตามระเบียบกระทรวงการคลัง ซึ่งสำนักงาน ก.ค.ศ.จะเสนอที่ประชุม ก.ค.ศ.เพื่อพิจารณา และเสนอขอทบทวนเรื่องดังกล่าวต่อ ครม.ชุดใหม่ต่อไป ที่ผ่านมาสำนักงาน ก.ค.ศ.ได้ทำหนังสือหารือไปยังกรมบัญชีกลางว่า พ.ร.บ.ระเบียบข้าราชการครู พ.ศ.2523 กำหนดให้ข้าราชการครู ตำแหน่งอาจารย์ 3 และ ผอ.โรงเรียน วิทยาลัย วิทยาเขต และศูนย์ที่ได้รับเงินเดือนในระดับ 8 ได้รับเงินประจำตำแหน่งเดือนละ 5,600 บาท และได้รับเงินค่าตอบแทนเท่ากับอัตราเงินประจำตำแหน่งตามระเบียบกระทรวงการคลัง ว่าด้วยการเบิกจ่ายเงินค่าตอบแทนฯ ในอัตราเดือนละ 5,600 บาท แต่เนื่องจากปัจจุบันผู้ดำรงตำแหน่งดังกล่าวได้ปรับตำแหน่งตาม พ.ร.บ.ระเบียบข้าราชการครูฯ เป็นตำแหน่งครู วิทยฐานะครูชำนาญการพิเศษ และ ผอ.สถานศึกษาวิทยฐานะ ผอ.ชำนาญการพิเศษ ได้รับเงินวิทยฐานะเดือนละ 5,600 บาท จึงต้องหารือว่าข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาที่มีวิทยฐานะชำนาญการพิเศษ หรือระดับ 8 เดิม มีสิทธิ์ได้รับเงินค่าตอบแทนหรือไม่ นอกจากนี้มีผู้วิตกว่าเงินดังกล่าวที่ได้รับมาตั้งแต่ปี 2547 ต้องจ่ายเงินคืนย้อนหลังให้รัฐหรือไม่.
(ไทยรัฐ พฤหัสบดีที่ 28 ก.ย. 2549 http://www.thairath.co.th)
สทศ.-สกอ.ฟันธงสอบเอเน็ตไม่มีอัตนัย
จากการประชุมหารือร่วมกันระหว่างสำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา (สกอ.) กับสถาบันทดสอบทางการศึกษาแห่งชาติ (สทศ.) เกี่ยวกับการจัดสอบการทดสอบทางการศึกษาแห่งชาติขั้นพื้นฐาน (โอเน็ต) และการทดสอบทางการศึกษาแห่งชาติขั้นสูง (เอเน็ต) ดร.จิรณี ตันติรัตนวงศ์ รองเลขาธิการคณะกรรมการการอุดมศึกษา (กกอ.) เผยหลังการประชุมว่า ที่ประชุมได้ข้อตกลงว่าในการสอบปี 2550 สทศ.จะรับผิดชอบจัดสอบโอเน็ต ส่วน สกอ.รับผิดชอบจัดสอบเอเน็ตและจัดสอบวิชาเฉพาะ และ สกอ.ก็พร้อมให้ความร่วมมือ สทศ. อย่างใกล้ชิด ส่วนข้อสอบเอเน็ตนั้นได้ข้อสรุปว่า จะไม่มีอัตนัย แต่ สกอ.จะเน้นให้ผู้ออกข้อสอบต้องออกข้อสอบที่เน้นการคิดวิเคราะห์ ซึ่งข้อสอบปรนัยก็สามารถวัดการคิดวิเคราะห์ได้ นอกจากนี้ กระบวนการต่างๆของการสอบโอเน็ต, เอเน็ต และการสอบวิชาเฉพาะ จะให้เหมือนกัน เพื่อไม่ให้นักเรียนเกิดความสับสน เช่น การสมัครก็ให้สมัครทางอินเตอร์เน็ตทั้งโอเน็ตและเอเน็ต เช่นเดียวกับการสมัครวิชาเฉพาะ ส่วนกระดาษคำตอบนั้น จะใช้วิธีการฝนคำตอบด้วยดินสอ 2 บี ทั้งโอเน็ต และเอเน็ต
รองเลขาธิการ กกอ.กล่าวต่อว่า สำหรับผู้ที่จบ ม.6 ไปแล้ว และต้องการสอบเข้ามหาวิทยาลัยใหม่ แต่เกรดยังไม่ได้แปลงจาก 5 ระดับ เป็น 8 ระดับ ให้ติดต่อโรงเรียนตั้งแต่เนิ่นๆ ทั้งนี้ สกอ.ยังได้เตรียมการตรวจสอบเลขประจำตัวประชาชน 13 หลักนักเรียนไว้แล้ว ทั้ง สกอ. และ สทศ.ก็จะประสานกันอย่างใกล้ชิดเกี่ยวกับการส่งต่อคะแนนโอเน็ตจาก สทศ.มายัง สกอ. เพื่อที่นักเรียนจะได้ไม่ต้องยื่นคะแนนโอเน็ตในการสมัครแอดมิชชั่นอีก
ด้าน ศ.ดร.อุทุมพร จามรมาน ว่าที่ ผอ.สทศ.กล่าวว่า สทศ.มีมติที่จะให้นักเรียน ม.6 สอบโอเน็ตเพียงครั้งเดียว เพราะเป็นหลักการของ สทศ.ที่ถือว่าการสอบของนักเรียนที่กำลังศึกษาชั้น ม.6 หรือเทียบเท่า เป็นการสอบเพื่อดูคุณภาพของโรงเรียน เพียงแต่ระบบแอดมิชชั่นต้องการนำคะแนนโอเน็ตไปใช้เท่านั้น สทศ.ได้สอบถาม ศ.ดร.ปรัชญา เวสารัชช์ อธิการบดี ม.สุโขทัยธรรมาธิราช ในฐานะประธานที่ประชุมอธิการบดีแห่งประเทศไทย (ทปอ.) แล้ว ได้รับการยืนยันว่า มติ ทปอ.ล่าสุดที่ ม.บูรพา ไม่ต้องการคะแนนโอเน็ตครั้งที่ 2 ทาง สทศ.ก็ยืนยัน ตามหลักการของ สทศ.ที่ให้สอบครั้งเดียว ดังนั้น เด็กคนหนึ่งก็จะสอบโอเน็ตได้ เพียงครั้งเดียว ส่วนนักเรียนการศึกษานอกระบบหรือผู้ที่จบจากต่างประเทศ ที่ยังไม่เคยสอบโอเน็ต สทศ.ก็พร้อมจัดสอบให้
(ไทยรัฐ ศุกร์ที่ 29 ก.ย. 2549 http://www.thairath.co.th)
"รุ่ง"เชื่อคปค.คงไม่หลงทางยอมให้ผ่ากระทรวงศึกษา
ดร.รุ่ง แก้วแดง อดีต รมช.ศึกษาธิการ กล่าวว่า เวลานี้น่าจะเลิกพูดถึงเรื่องของอำนาจหรือโครงสร้างของหน่วยงานได้แล้ว เพราะหัวใจสำคัญของการปฏิรูปการศึกษาอยู่ที่การเรียนรู้ของผู้เรียน แต่ทุกครั้งที่พูดถึงการปฏิรูปการศึกษาก็จะพูดกันแต่โครงสร้าง อำนาจ งบประมาณ ไม่มีการพูดถึงการบริหารจัดการที่มุ่งให้เด็กได้เรียน มองเรื่องการเรียนการสอนของเด็กเป็นเรื่องตลกไปหมด ซึ่งครั้งนี้ก็เช่นกันที่เริ่มต้นก็เน้นไปที่โครง สร้างกระทรวง การแยกกระทรวง แทนที่ สกอ. จะพูดถึงเรื่องการออกนอกระบบที่จะให้มหาวิทยาลัยเป็นอิสระและเลิกพึ่งพากระทรวงศึกษาธิการ หาก คปค.หลงตามนั้นก็เป็นการเสียเวลาเปล่า จึงหวังว่าคงจะไม่หลงทางกันอีก
สิ่งที่พูดกันในแผนปฏิรูปการศึกษาก็คือกระทรวงศึกษาธิการควรต้องเล็กลงเหลือคนไม่มาก แล้วให้งานลงไปที่โรงเรียน โดยโรงเรียนควรจะเป็นนิติบุคคลที่สามารถทำอะไรเองได้มากกว่า เพราะตราบใดที่ทุกคนต้องรอฟังคำสั่งจากกระทรวง ครูยังต้องฟังคำสั่งจากเขตพื้นที่การศึกษาชาตินี้ประเทศไม่มีวันเจริญ ดร.รุ่ง กล่าวและว่า ตนยอมรับว่าเรื่องการสอนให้เด็กคิดเป็นอาจจะเห็นผลช้ากว่าเรื่องโครงสร้าง แต่เรื่องโครงสร้างถึงทำแล้วเห็นผลแต่มันไม่เกิดประโยชน์อะไรกับใคร รัฐบาลที่กำลังจะตั้งขึ้นมาก็มีเวลาประมาณ 1 ปี ถามว่าถึงได้โครงสร้างใหม่มาแล้วจะเกิดอะไรกับเด็กบ้างหรือไม่ จากการที่ตนอยู่ในระบบราชการมานานไม่เชื่อเรื่องโครงสร้างอีกแล้ว ไม่เชื่อว่าประเทศหรือองค์กรที่ทุ่มแต่เรื่องโครงสร้างจะเกิดอะไรที่ดี ๆ ขึ้นมา เพราะเมื่อได้รัฐบาลใหม่ก็ต้องมาปรับโครงสร้างกันอีก สรุปทั้งปีทั้งชาติของประเทศไทยก็มีแต่การปรับโครงสร้าง แล้วที่ว่ากระทรวงศึกษาธิการทำเรื่องการเรียนของเด็ก การเรียนรู้ของคนทุกคน ก็เป็นการเสียเปล่าซึ่งน่าเสียดายเวลาที่ผ่านมา
ดร.รุ่ง กล่าวอีกว่า จริง ๆ แล้วเวลานี้เราควรจะจัดลำดับความสำคัญของเรื่องต่าง ๆ ก่อน เช่น มหาวิทยาลัยน่าจะพูดถึงเรื่องการออกนอกระบบราชการ แม้ว่าทำตอนนี้ก็ไม่ได้หมายความว่า คปค.จะเห็นด้วย แต่ตนเห็นว่าในขณะที่กำลังร่าง รธน.น่าจะเอา พ.ร.บ.มหาวิทยาลัยที่ค้างอยู่ หรือที่ยังติดอีกเล็กน้อยขึ้นมาพิจารณาและช่วยกันผลักดันก็จะทำให้มหาวิทยาลัยออกนอกระบบได้หมด ส่วนโรงเรียนก็น่าจะต้องเร่งทำให้เป็นนิติบุคคล หากเป็นโรงเรียนขนาดเล็กยังเป็นนิติบุคคลไม่ได้ก็ให้หลอมรวมกันแล้วพัฒนาให้มีคุณภาพ เพราะฉะนั้นช่วงนี้น่าจะแก้เรื่องที่ค้างคาอยู่ดีกว่าจะไปเริ่มต้นใหม่ เพราะเรื่องที่ค้างอยู่ก็มีอยู่อีกมาก.
(เดลินิวส์ ศุกร์ที่ 29 ก.ย. 2549 http://www.dailynews.co.th)
ข่าววิทยาศาสตร์/เทคโนโลยี
ซิลิคอนวัลเลย์จะเป็นเมืองไร้สาย
ทีมงาน Silicon Valley Metro Connect นำเสนอนวัตกรรมทางด้านเทคโนโลยีที่จะเป็นประโยชน์แก่ผู้ใช้ทั่วไป เช่น เป็นช่องทางการสื่อสารสำหรับหน่วยงานกู้ภัย ตำรวจ และหน่วยงานด้านการแพทย์ในกรณีที่เกิดเหตุฉุกเฉิน ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่อาจไม่สามารถใช้ระบบสื่อสารแบบเก่าได้ บุคลากรทางการแพทย์สามารถเข้าถึงข้อมูลได้จาก ทุกจุด ในขณะที่นักศึกษาสามารถเรียนรู้นอกห้องเรียนได้อย่างมีประสิทธิภาพ Silicon Valley Metro Connect จะสร้างเครือข่าย โดยใช้เทคโนโลยีรุ่นใหม่ล่าสุดของซิสโก้สำหรับโครงสร้างพื้นฐานไร้สาย ไอบีเอ็มจะจัดหาบริการออกแบบและติดตั้งเครือข่าย รวมถึงแอพพลิ เคชั่นทางด้านเทคโนโลยีที่เป็นนวัตกรรมสำหรับหน่วยงานราชการและระบบสาธารณูปโภคในท้องถิ่น เช่น โซลูชั่นระบบจราจรอัจฉริยะ ทำหน้าที่ควบคุมการจราจรและแก้ไขปัญหาการจราจรติดขัด และการวัดปริมาณการใช้งานเครือข่ายไร้สายโดยอัตโนมัติ เครือข่าย Silicon Valley Metro Connect ให้ความเร็วในการรับส่งข้อมูลสูงสุด 1Mb สำหรับบริการเชื่อมต่อฟรี โดยมีการป้องกันข้อมูลส่วนตัวของผู้ใช้ และจะมีการดำเนินโครงการเพื่อลดช่องว่างทางด้านเทคโนโลยี (digital divide) สำหรับผู้ด้อยโอกาส นอกจากนั้นยังมีบริการระดับสูง เช่น Voice Over IP แบบไร้สาย และวิดีโอสตรีมมิ่ง (video streaming) และตั้งแต่ปี 2550 เป็นต้นไป เครือข่ายไร้สายของซิลิคอนวัลเลย์จะใช้มาตรฐาน WiMAX IEEE 802.16 สำหรับย่านความถี่ 2-11 Ghz ซึ่งรองรับความเร็วในการเชื่อมต่อได้มากขึ้นสำหรับ ผู้ใช้ที่กำลังเดินทางและผู้ใช้ที่ประจำอยู่ ณ จุดใดจุดหนึ่ง เครือข่ายไร้สายแบบเปิดนี้จะจัดหาบริการอินเทอร์เน็ตบรอดแบนด์ไร้สายให้แก่ผู้อยู่อาศัย พนักงาน และนักท่องเที่ยวภายในบริเวณซิลิคอนวัลเลย์ โดยครอบคลุมพื้นที่เกือบ 1,500 ตารางไมล์ ใน 42 เขตเทศบาล
(เดลินิวส์ จันทร์ที่ 25 ก.ย. 2549 http://www.dailynews.co.th)
IBM Future Store ร้านค้าแห่งอนาคต
IBM Future Store นวัตกรรมการออกแบบโซลูชั่นเพื่อพัฒนาคุณภาพของการบริการลูกค้าตั้งแต่ต้นจนจบของหน่วยงานไอบีเอ็ม โกลบอล บิซิเนส เซอร์วิส ไอบีเอ็มได้พัฒนาโซลูชั่นสำหรับการค้าปลีกยุคใหม่ เริ่มตั้งแต่ IBM Personal Shopping Assitant (PSA) รถเข็นอัจฉริยะ IBM Kiosk&Anyplace Kiosk อุปกรณ์สำหรับให้ข้อมูลสินค้าและโปรโมชั่นที่ยืดหยุ่น IBM Self Checkout System ระบบการชำระค่าสินค้าด้วยตนเอง และ IBM Store Integration Framework เฟรมเวิร์กสำหรับอินทิเกรตระบบใหม่และระบบเก่าเข้าด้วยกัน
สำหรับ IBM Personal Shopping Assitant(PSA)หรือ รถเข็นอัจฉริยะ บนรถเข็นติดตั้งโมบายแท็บเลตขนาดเล็ก 8.4 นิ้ว หน้าจอกราฟิกแบบทัชสกรีนรองรับไวร์เลสแลน บลูทูธและอินฟราเรด ซอฟต์แวร์ PSA มีฟังก์ชันบริการต่าง ๆ เช่นการค้นหาสินค้า โดยทำงานร่วมกับอินฟราเรดที่ติดอยู่ที่เพดานร้าน แสดงแผนที่ ตำแหน่งปัจจุบันของลูกค้าและตำแหน่งสินค้า ทำให้ค้นหาสินค้าได้อย่างรวดเร็ว แถมยังมีฟังก์ชันข้อมูลลูกค้าสำหรับสินค้าที่ซื้อบ่อย สินค้าแนะนำและสินค้าในทางเดินขณะนั้นอีกด้วย
นอกจากนี้ยังมีฟังก์ชันเช็กราคาสินค้า โดยมีสแกนเนอร์แบบมือถือติดอยู่ในรถเข็น รองรับบลูทูธ สำหรับสแกนสินค้าที่ต้องการหรือยกเลิก แล้วระบบจะคำนวณราคาสินค้าทั้งหมดออกมาได้
(เดลินิวส์ จันทร์ที่ 25 ก.ย. 2549 http://www.dailynews.co.th)
มะกันออกแบบฐานตั้ง กังหันลมปั่นไฟแบบลอยน้ำ
นักวิทยาศาสตร์สหรัฐ ออกแบบฐานติดตั้งกังหันลมเทอร์ไบน์ปั่นกระแสไฟฟ้าแบบลอยกลางมหาสมุทร เพื่อแก้ปัญหาการติดตั้งกังหันลมปั่นไฟบนบก ซึ่งถูกประชาชนบางส่วนต่อต้าน เพราะเห็นว่ากังหันลมทำลายทัศนียภาพและส่งเสียงดัง ทำให้ราคาที่ดินตกต่ำ
ความคิดสร้างกังหันลมเทอร์ไบน์นอกชายฝั่งไม่ใช่เรื่องใหม่ อย่างไรก็ตาม ในอดีตกังหันในทะเลประเภทนี้ ตั้งปลูกสร้างอยู่บนฐานซึ่งวางรากเจาะลึกลงไปในพื้นทะเล ส่งผลให้การก่อสร้างมีข้อจำกัด เช่น ต้องสร้างในเขตน้ำลึกไม่เกิน 50 ฟุต ซึ่งก็ยังจัดว่าเป็นจุดที่ใกล้กับชายฝั่งอยู่ดีและมีต้นทุนก่อสร้างสูง
ล่าสุด นักวิทยาศาสตร์สถาบันเทคโนโลยีแห่งเมสซาชูเส็ตต์ และห้องปฏิบัติการพลังงานทางเลือก สหรัฐอเมริกา กำลังพัฒนาฐานลอยน้ำสำหรับติดตั้งกังหันลมเทอร์ไบน์ โดยวิธีการยึดฐานลอยน้ำจะใช้สายเคเบิลเหล็กผูกยึดโยงตัวฐานกับสมอคอนกรีตหรือสมอประเภทอื่นๆ ซึ่งฝังเอาไว้กับพื้นทะเล เรียกชื่อฐานชนิดนี้ว่า "เทนชั่น เลก แพล็ตฟอร์ม" (ทีแอลพี)
(ข่าวสด อังคารที่ 26 ก.ย. 2549 http://www.matichon.co.th/khaosod/khaosod.php)
ธัญบุรีทำตู้เย็นพลังปั่นเสียเหงื่อ 15 นาทีได้น้ำเย็นดับกระหาย
อาจารย์จากภาควิชาเครื่องกล คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล (มทร.) ธัญบุรี นำคอมเพรสเซอร์ทำความเย็นมาติดตั้งไว้ส่วนท้ายจักรยานต่อท่อผ่านรังผึ้งไปยังตู้แช่เย็นด้านหน้า เมื่อผู้ออกกำลังกายออกแรงปั่นจักรยาน พลังงานกลจากการปั่นก็จะถูกแปลงเป็นพลังงานที่จะมาทำความเย็นให้น้ำในตู้แช่ด้านหน้า โดยใช้เวลาเพียง 15 นาทีก็ได้ดื่มน้ำเย็นชื่นใจ
"เวลาปั่นจักรยานทำให้เกิดพลังงานได้อย่างหนึ่ง ถ้าเอาพลังงานจากการปั่นจักรยานนี้มาใช้ให้เป็นประโยชน์ และเมื่อเราปั่นจักรยานไปช่วงเวลาหนึ่ง เราต้องเหนื่อยอยากดื่มน้ำเย็นๆ แก้กระหายสักแก้วอย่างแน่นอน" ผศ.บุณย์ฤทธิ์ ประสาทแก้ว เจ้าของแนวคิดข้างต้น กล่าวถึงต้นตอความคิด
"อุปกรณ์ออกกำลังกายผลิตน้ำเย็น" ประกอบด้วย จักรยานที่ใช้ปั่นเพื่อออกกำลังกาย ซึ่งใช้จักรยานสำหรับออกกำลังกายทั่วไป และอุปกรณ์เครื่องทำความเย็น ที่ประยุกต์นำคอมเพรสเซอร์จากรถยนต์มาใช้ เพราะขนาดเล็กและราคาไม่แพง โดยติดตั้งไว้ด้านหลังของจักรยาน ในส่วนของตู้เย็นออกแบบไว้ให้อยู่ด้านหน้าจักรยาน สามารถบรรจุขวดน้ำเย็น หรือน้ำอัดลมกระป๋องได้ 1 กระป๋อง
กระบวนการผลิตน้ำเย็นด้วยแรงปั่นนี้ ไม่มีกระแสไฟฟ้าเข้ามาเกี่ยวข้องเลย เพียงแค่ใช้พลังงานปั่นจักรยานเพียงอย่างเดียว ก็สามารถเพิ่มความดัน และลดอุณหภูมิของน้ำจนเป็นน้ำแข็งได้แล้ว อุปกรณ์ดังกล่าวสามารถทำให้น้ำที่อุณหภูมิห้อง 27 องศาเซลเซียส ปริมาณ 330 มิลลิลิตร มีอุณหภูมิถึงจุดเยือกแข็ง 0 องศาเซลเซียส ได้ภายในเวลา 15 นาทีเท่านั้น
ต้นทุนของอุปกรณ์ออกกำลังกายผลิตน้ำเย็นนี้ก็ไม่แพง ยิ่งถ้ามีจักรยานออกกำลังกายเองที่บ้านอยู่แล้ว ก็เพียงหาซื้อคอมเพรสเซอร์รถยนต์มือสองมาใส่ และทำกล่องบรรจุน้ำเย็นติดตั้งไว้ด้านหน้า ต่อระบบให้เข้ากัน ก็ใช้ได้แล้ว
ผู้สนใจสามารถขอคำปรึกษาในการทำ อุปกรณ์ออกกำลังกายผลิตน้ำเย็นได้ที่ ผศ.บุณย์ฤทธิ์ ประสาทแก้ว
อาจารย์ประจำภาควิชาเครื่องกล คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี
(คมชัดลึก อังคารที่ 26 ก.ย. 2549 http://www.komchadleuk.net)
เตรียมตั้งโรงงาน "ถ้วยพลาสติก" จากแป้งมัน-พร้อมขายปี 50
เลขาฯ สมาคมเครื่องจักรกลไทยเผย เอกชนไทยเตรียมผลิตภาชนะใส่อาหารที่ทำจากพลาสติกชีวภาพ มีแผนทำออกจำหน่ายกลางปีหน้า หลังสำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติจับมือจุฬาฯ มทร.ธัญบุรี ชมรมพลาสติกชีวภาพ และสมาคมฯ ดันโครงการผลิตเรซินแป้งมันสำปะหลังทำพลาสติกชีวภาพแทนการนำเข้าเรซินพีแอลเอจากแป้งข้าวโพด ชูจุดแข็งประหยัดทุนราว 70% แถมย่อยสลายเองใน 1 ปี พลาสติกชีวภาพ หรือไบโอพลาสติก จึงถือเป็นหนึ่งตัวเลือกของหลายประเทศในปัจจุบัน ที่ได้มีการนำมาใช้ทดแทนพลาสติกทั่วไปที่เรารู้จักและคุ้นเคยกันดี อันเป็นผลพลอยได้มาจากอุตสาหกรรมน้ำมัน หรือปิโตรเคมี แต่กลับกันคือ เป็นพลาสติกที่ได้มาจากพืชผลการเกษตรล้วนๆ ไม่ต้องพึ่งพาผลพลอยได้จากน้ำมัน อีกทั้งยังย่อยสลายในธรรมชาติได้ในเวลาอันสั้น
ทั้งนี้ ไบโอพลาสติก ได้รับการกล่าวขวัญว่าเป็น เทคโนโลยีคลื่นลูกใหม่ และมีการเรียกร้องให้นำใช้ผลิตชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ ชิ้นส่วนยานยนต์ บรรจุภัณฑ์ ฯลฯ ได้มีการผลิตขึ้นเองแล้วในประเทศไทย โดยความร่วมมือของหลายหน่วยงานด้วยกันคือ สำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (สนช.), จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี, สมาคมเครื่องจักรกลไทย และชมรมพลาสติกชีวภาพไทย เพื่อผลิตพอลิเมอร์จากแป้งมันสำปะหลังทำพลาสติกชีวภาพ ก่อนเข้าขั้นตอนทำเป็นข้าวของเครื่องใช้อย่างถุงพลาสติก ถ้วยกาแฟ ถาดหลุม ช้อน และส้อม ฯลฯ
ในส่วนของสมาคมเครื่องจักรกลไทย นายณรงค์ เผยว่า ได้มีส่วนช่วยพัฒนาและผลิตเครื่องจักรต้นแบบขนาดกลาง เพื่อให้ผู้ประกอบการประหยัดต้นทุนการผลิตสินค้าให้มีราคาที่แข่งขันได้ สำหรับภาชนะใส่อาหารที่ผลิตจากพลาสติกชีวภาพนี้ ยกตัวอย่างเช่น ถ้วยกาแฟ จะได้ชิ้นงานที่มีสีคล้ำกว่าพลาสติกชีวภาพทั่วไปเล็กน้อย ผิวพลาสติกไม่สวยนัก ทนความร้อนได้ 110 องศาเซลเซียส และมีกลิ่นเปรี้ยวของแป้งมันสำปะหลังอยู่สักหน่อย
อย่างไรก็ตาม รับรองได้ว่า ข้อด้อยดังกล่าวจะไม่มีผลต่อกลิ่นและรสชาติของอาหารแน่นอน รวมทั้งยังสามารถย่อยสลายได้เองตามธรรมชาติในเวลา 6-12 เดือน แล้วแต่ความหนา-บางของภาชนะ ซึ่งขณะนี้ สนช. ร่วมกับ บริษัท ไบโอกรีนเวิล์ด (ประเทศไทย) จำกัด ทำโรงงานต้นแบบผลิตภาชนะใส่อาหารจากเรซินดังกล่าวแล้ว คาดว่าจะเริ่มวางสินค้าออกจำหน่ายได้ในกลางปี 2550
(ผู้จัดการ อังคารที่ 26 ก.ย. 2549 http://www.manager.co.th)
ปส.-อุตุฯ ร่วมเตือนภัย สึนามิ ด้วยข้อมูลตรวจ อาวุธนิวเคลียร์
สำนักงานปรมาณูเพื่อสันติ (ปส.) เป็นสมาชิกขององค์การสนธิสัญญาว่าด้วยการทดลองนิวเคลียร์โดยสมบูรณ์ (CTBT) สำหรับสมาชิกมีพันธกิจให้ปฏิบัติตามสนธิสัญญา ซึ่งเน้นให้มีสถานีเฝ้าตรวจการทดลองระเบิดนิวเคลียร์ทั่วโลก โดยใช้เทคโนโลยี 4 ชนิด คือ การตรวจวัดความสั่นสะเทือนของพิภพ (Seismic Measurements) การตรวจวัดนิวไคล์ดกัมมันตรังสี (Radio-nuclide Measurements) การตรวจวัดคลื่นเหนือเสียง (Infra-Sound Measurements) และการตรวจวัดคลื่นเสียงในน้ำ (Hydro-acoustic Measurements)
ทั้งนี้ประเทศไทยมีสถานีเฝ้าตรวจการทดลองนิวเคลียร์ 2 สถานี คือ 1.สถานีเฝ้าตรวจความสั่นสะเทือนของพิภพ จ.เชียงใหม่ 2.สถานีเฝ้าตรวจนิวไคล์ดกัมมันตรังสี มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตกำแพงแสน จ.นครปฐม ซึ่งข้อมูลจากสถานีเหล่านี้จะถูกส่งผ่านระหว่างระบบดาวเทียม ไปยังศูนย์ข้อมูลระหว่างประเทศ ณ กรุงเวียนนา ประเทศออสเตรีย โดยมีการจัดตั้งศูนย์รับข้อมูลระหว่างประเทศที่ ปส.
สำหรับข้อมูลในการตรวจหาการทดลองนิวเคลียร์นี้สามารถนำไปประยุกต์ใช้เพื่อตรวจหาและเตือนภัยสึนามิได้ ทาง ปส.จึงร่วมกับกรมอุตุนิยมวิทยาลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือด้านการใช้ประโยชน์ข้อมูลแผ่นดินไหว และข้อมูลอื่นที่เกี่ยวข้องเพื่อการเตือนภัยสึนามิในย่านมหาสมุทรอินเดียและแปซิฟิก ในวันที่ 26 ก.ย.นี้ ณ สำนักงานปรมาณูเพื่อสันติ
(ผู้จัดการ พุธที่ 27 ก.ย. 2549 http://www.manager.co.th)
รถเซลล์เชื้อเพลิง
ต้นแบบรถยนต์รุ่นใหม่เอฟซีเอ็กซ์ของฮอนด้า ใช้เซลล์เชื้อเพลิงเป็นพลังงานแทนน้ำมัน ช่วงแรกจะวางขายเฉพาะในญี่ปุ่นกับสหรัฐ หนึ่งในเทคโนโลยีเด่นของรถรุ่นนี้คือชุดเก็บเซลล์เชื้อเพลิงมีขนาดเล็กกว่ารุ่นก่อนหน้า 20 เปอร์เซ็นต์ (หน้า 24)
(ข่าวสด พุธที่ 27 ก.ย. 2549 http://www.matichon.co.th/khaosod/khaosod.php)
ผักป๊อปอายป้องกันตาไม่ให้บอด ด้วยโรคจอประสาทตาเสื่อม
คณะนักวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยแมนเชสเตอร์ของอังกฤษ เชื่อมั่นว่า การกินผักชนิดนี้จะช่วยป้องกันให้รอดพ้นจากโรคจอประสาทตาเสื่อมลงได้ เนื่องจากผักโขมและผักอย่างอื่น อันมีข้าวโพด บรอคโคลี่ และกะหล่ำปลีชนิดหนึ่ง มีสารลูเทอินอันเป็นสารเคมีที่ช่วยปกป้องสีของนัยน์ตาอยู่ด้วยกัน
โรคจอประสาทตาเสื่อมเป็นสาเหตุอันดับแรก ของการตาบอดในสังคมชาติตะวันตก เฉพาะในอังกฤษแห่งเดียว ชายสูงอายุวัยขนาด 75 ปี 12% และผู้หญิงวัยเดียวกันถึง 29% ล้วนแต่สูญเสียดวงตาไปด้วยเหตุนี้
ดร.เอียน เมอร์เรย์ นักวิจัยชั้นนำเผยว่า สารลูเทอินจะผสมกับสารเคมีที่มีชื่อว่า ซิกแซนติน กลายเป็นน้ำมันสีเหลืองๆ ที่เรียกว่าสีของจุดรับภาพของลูกตา ซึ่งเชื่อกันว่าเป็นตัวคอยปกป้องจุดรับภาพนั้น.
(ไทยรัฐ พฤหัสบดีที่ 28 ก.ย. 2549 http://www.thairath.co.th)
ไอบีเอ็มคิดระบบช่วยคนหูหนวกส่งเอสเอ็มเอสบอกเสียงตามสายผ่านมือถือ
ทีมนักศึกษาที่เข้าร่วมโครงการ "เอ็กซ์ตรีม บลู" ของไอบีเอ็มได้พัฒนาระบบที่เรียกว่า "ลามา" ขึ้น โดยเดิมตั้งใจช่วยให้คนหูหนวกสื่อสารกันได้ดีขึ้น และตามที่ออกแบบไว้นั้นเมื่อมีคนเดินผ่านบริเวณที่ติดตั้งระบบไว้ โทรศัพท์มือถือจะรู้โดยอัตโนมัติและจะปรากฏข้อความขึ้นที่หน้าจอแจ้งบอกบริการต่างๆ ทันที พอผู้ใช้กดเลือกรับบริการใดบริการหนึ่ง บนหน้าจอมือถือจะแสดงข้อความอย่างเดียวกับที่ประกาศเสียงตามสาย
ถึงแม้ว่ารูปแบบส่วนใหญ่จะแสดงเป็นระบบข้อความ แต่ผู้ใช้สามารถเลือกรับบริการเป็นรูปภาพ หรือระบบสั่นได้ด้วย
แรงบันดาลใจในการพัฒนาระบบนี้ขึ้นมาจากพนักงานของไอบีเอ็มรายหนึ่งที่หูหนวกสนิท และเกิดกังวลว่าเขาอาจจะไม่ได้ยินเสียงเตือนไฟไหม้พร้อมกับเพื่อนร่วมกัน แม้จะมีสัญญาณไฟกะพริบติดตั้งอยู่ที่โต๊ะก็ตาม แต่เขาอาจจะไม่ได้นั่งอยู่ที่โต๊ะตลอดเวลา ก็เลยคิดกันว่าจะเชื่อมต่อระบบสัญญาณเตือนภัยเข้ากับคอมพิวเตอร์ จากนั้นให้คอมพิวเตอร์ส่งข้อความไปยังโทรศัพท์มือถือ ซึ่งไม่ว่าเขาอยู่ที่ไหนก็สามารถรับข้อความได้
ต่อมานักศึกษา 4 คน ที่เข้าร่วมโครงการวิจัยของไอบีเอ็มได้นำแนวคิดดังกล่าวมาต่อยอด และถึงแม้ทีแรกตั้งใจใช้เพื่อช่วยเหลือคนหูหนวก แต่ก็สามารถนำไปประยุกต์ใช้กับผู้พิการอื่นได้ รวมไปถึงประชาชนทั่วไปด้วย เช่นคนตาบอด อาจได้รับข้อความแจ้งในรูปแบบเสียง เป็นต้น
เทคโนโลยีนี้ยังสามารถระบุตำแหน่งที่อยู่ของคนรับข้อความได้ด้วยจึงสามารถใช้แนะนำเส้นทางสำหรับผู้ป่วยสมองเสื่อม หรือผู้ที่มีปัญหาในการเรียนรู้ ซึ่งไม่สามารถจดจำเส้นทางใหม่ๆ หรือเส้นทางที่สลับซับซ้อนได้
(คมชัดลึก พฤหัสบดีที่ 28 ก.ย. 2549 http://www.komchadleuk.net)
โนเกียร่วมวงศ์ไพบูลย์ลดขยะมือถือ
โนเกีย เปิดเผยว่า ภายใต้ความร่วมมือดังกล่าว ทางกลุ่มได้กำหนดข้อตกลงร่วมกันเพื่อยกเลิกการใช้ชิ้นส่วนประกอบและวัสดุที่มีสารพิษ ส่งเสริมโครงการรับคืนโทรศัพท์มือถือที่ไม่ใช้แล้วเพื่อนำไปรีไซเคิล ตลอดจนการให้ความรู้ทางด้านสิ่งแวดล้อมที่เกี่ยวกับตัวผลิตภัณฑ์แก่ผู้บริโภคมากยิ่งขึ้น
โครงการนี้ได้รับความร่วมมือจากบริษัทผู้เกี่ยวข้องในวงการมือถือหลายค่าย โดยเฉพาะแบรนด์ใหญ่ๆ เช่น โมโตโรล่า, มัตซูชิตะ อิเล็คทริค อินดัสเตรียล ผู้ผลิตมือถือแบรนด์พานาโซนิค, ฟรานซ์ เทเลคอม, ทีเลียโซเนรา และอินเทล
อย่างไรก็ตาม ความพยายามของบริษัทในกลุ่มอุตสาหกรรมมือถือครั้งนี้ เป็นส่วนหนึ่งของโครงการนำร่องร่วมกับคณะกรรมาธิการยุโรป ซึ่งมีโครงการในลักษณะเดียวกันคือ บริษัทค้าปลีกรายใหญ่คาร์ฟูร์ และผู้ผลิตในอุตสาหกรรมที่ได้ร่วมกันกำหนดข้อตกลงผลิตเก้าอี้ไม้สำหรับนั่งในสวนให้ง่ายต่อการดัดแปลงใช้งานในรูปแบบอื่น
"การผลิตและบริโภคสินค้าต่างๆ ของมนุษย์กำลังส่งผลกระทบอย่างใหญ่หลวงต่อสิ่งแวดล้อม ไม่ว่าจะเป็นการใช้ทรัพยากร พลังงาน การขนส่ง ตลอดจนการสร้างมลภาวะให้โลกทุกวันนี้"
(คมชัดลึก พฤหัสบดีที่ 28 ก.ย. 2549 http://www.komchadleuk.net)
แพทย์ฝรั่งเศสสร้างภาวะไร้น้ำหนักกลางอากาศ ทดลองผ่าตัดซีสต์
ทีมศัลยแพทย์ชาวฝรั่งเศสได้สร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่ให้แก่ทั้งวงการแพทย์และอวกาศด้วยการผ่าก้อนซีสต์ออกจากตัวผู้ป่วยขณะอยู่ในสภาพไร้แรงโน้มถ่วง หรือซีโร-จี (Zero-g : Zero gravity) บนเครื่องบินที่บินโค้งขึ้นลงไปมาบนท้องฟ้า โดยแต่ละช่วงจะมีเวลา 22 วินาทีสำหรับสภาพไร้น้ำหนัก ทำให้ต้องใช้การบินขึ้นลง 30 กว่าครั้งการผ่าตัดจะสำเร็จลง
การเตรียมการผ่าตัดในสภาพไร้หนักน้ำหนักให้แก่มนุษย์เป็นครั้งแรกของโลกนี้ใช้เวลามากกว่า 3 ปี โดยเป็นส่วนหนึ่งของแผนการผ่าตัดนอกอวกาศด้วยการใช้หุ่นยนต์บังคับ และการทดลองดังกล่าวหวังจะพัฒนาอุปกรณ์ทางการแพทย์ให้เหมาะสมพอที่จะสามารถผ่าตัดแบบฉุกเฉินบนสถานีอวกาศนานาชาติได้
ปฏิบัติการผ่าตัดในสภาพไร้น้ำหนักเกิดขึ้นในเต็นท์พลาสติกปลอดเชื้อที่สร้างขึ้นเป็นพิเศษในห้องโดยสาร มีศัลยแพทย์ 3 คน, วิสัญญีแพทย์อีก 2 คน และช่างภาพอีก 1 คน โดยทุกคนถูกยึดไว้กับผนังด้วยห่วงที่นักปีนเขาใช้กัน เพื่อความสะดวกในการผ่าตัด แม้ว่าทุกคนจะผ่านการฝึกฝนการทรงตัวในสภาพไร้น้ำหนักอย่างที่นักบินอวกาศฝึกกันมาก่อนหน้านี้แล้ว
เครื่องบินแอร์บัสเอ 300 ที่ออกแบบมาเป็นพิเศษ เป็นพาหนะนำทุกคนไปสู่สภาพไร้แรงโน้มถ่วง โดยบินขึ้นลงวนไปมาระหว่างความสูง 20,000 27,560 ฟุตเหนือน่านฟ้าเมืองบอร์กโดซ์ (Bordeaux) ประเทศฝรั่งเศสโดยเมื่อเครื่องไต่ถึงระดับสูงสุดที่ 27,560 ฟุตนักบินก็กลับหัวเครื่องปล่อยให้พุ่งลงจนถึงระดับ 20,000 ฟุตด้วยมุม 30 องศา จากนั้นนักบินก็บังคับเครื่องให้ตั้งทำมุม 45 องศาไต่ระดับระดับขึ้นไปอีกครั้ง บินวนขึ้นลงเป็นรูปคลื่นอยู่เช่นนี้
ระหว่างนั้นทีมศัลยแพทย์ดำเนินการผ่าตัดอย่างรวดเร็ว ซึ่งอุปสรรคอยู่ที่การกลับไปกลับมาระหว่างสภาพไร้น้ำหนักกับสภาพปกติ ซึ่งทำให้เกิดอาการวิงเวียน โดยเครื่องบินต้องบินขึ้นลงอยู่ 30 กว่ารอบนานกว่า 3 ชั่วโมง แต่การผ่าตัดมีขึ้นจริงไม่ถึง 11 นาทีเท่านั้น ซึ่งก็เป็นเวลาปกติทั่วไปที่ใช้ผ่าตัดซีสต์ก้อนน้อยๆ ตามโรงพยาบาล
(ผู้จัดการ ศุกร์ที่ 29 ก.ย. 2549 http://www.manager.co.th)
รพ.จุฬาฯ ทำน้ำร้อนจากพลังแสงอาทิตย์
ดร.พอพนธ์ สิชฌนุกฤษฏ์ รองผู้อำนวยการศูนย์บริหารจัดการเทคโนโลยี (ศจ.) และผู้ดูแลรับผิดชอบโครงการพัฒนาเทคโนโลยีพลังงานแสงอาทิตย์ กล่าวว่า ศจ.โดยสถาบันพัฒนาเทคโนโลยีพลังงานแสงอาทิตย์ ติดตั้งระบบผลิตไฟฟ้าและน้ำร้อนด้วยพลังงานแสงอาทิตย์ ณ ตึก ภปร. รพ.จุฬาฯ เสร็จสมบูรณ์ พร้อมผลิตน้ำร้อนได้วันละกว่า 1 หมื่นลิตร ให้ผู้ป่วยภายในตึก รวมทั้งผลิตไฟฟ้าต่อเข้าระบบของโรงพยาบาล
ระบบผลิตไฟฟ้าและน้ำร้อนด้วยพลังงานแสงอาทิตย์ เป็นระบบที่รวมการผลิตไฟฟ้ากับน้ำร้อนเข้าด้วยกัน โดยติดตั้งท่อน้ำไหลเวียนใต้เซลล์แสงอาทิตย์ เมื่อเซลล์แสงอาทิตย์ได้รับแสงอาทิตย์จะเปลี่ยนพลังงานให้เป็นไฟฟ้า และส่วนที่เหลือจะถูกเปลี่ยนเป็นพลังงานความร้อน เพื่อทำให้น้ำที่อยู่ในท่อใต้เซลล์แสงอาทิตย์ร้อนได้
เซลล์แสงอาทิตย์ที่ติดตั้งบนยอดตึก ภปร. ใน รพ.จุฬาฯ เป็นขนาด 136 ตารางเมตร สามารถผลิตไฟฟ้าได้ 5.4 กิโลวัตต์ และผลิตน้ำร้อนได้ 1 หมื่นลิตรต่อวัน ช่วยประหยัดค่าไฟให้ รพ.จุฬาฯ 6.7 แสนบาทต่อปี นอกจากนี้ ศจ.ยังติดตั้งระบบน้ำล้างแผงเซลล์แสงอาทิตย์ เพื่อให้โรงพยาบาลสามารถดูแลรักษาระบบได้ด้วยตนเองหลังจากการส่งมอบ
หน่วยงานหรือภาคเอกชนที่สนใจเทคโนโลยีดังกล่าว ติดต่อสถาบันพัฒนาเทคโนโลยีพลังงานแสงอาทิตย์ ได้ที่สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ จ.ปทุมธานี ซึ่งเป็นหน่วยงานต้นสังกัด
(คมช้ดลึก ศุกร์ที่ 29 ก.ย. 2549 http://www.komchadleuk.net)
ฝรั่งเศสเปิด"กรีนปั๊ม" ขายเชื้อเพลิงชีวภาพ
นายเทียรี เบรอตอง รัฐมนตรีเศรษฐกิจและการคลังของฝรั่งเศส จะเปิดปั๊มบริการเชื้อเพลิงชีวภาพ(กรีนปั๊ม) ภายในไม่กี่วันข้างหน้า เพื่อให้บริการผู้ขับขี่ยวดยานได้เลือกใช้เชื้อเพลิงที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมแต่ราคาไม่แพง
การเปิดกรีนปั๊มซึ่งจะให้บริการเชื้อเพลิงไบโอเอธานอลจะมีขึ้นทั่วประเทศ ซึ่งเป็นไปตามความมุ่งหมายของคณะกรรมาธิการยุโรปที่ประกาศเมื่อวันศุกร์ที่แล้ว ว่า การปลูกพืชเพื่อทำเป็นเชื้อเพลิงชีวภาพมีความเป็นไปได้ในยุโรป หลังจากที่ราคาน้ำมันในตลาดโลกปรับตัวสูงขึ้น จึงมีข้อเสนอให้เปลี่ยนมาใช้เชื้อเพลิงชีวภาพ
นายเบรอตอง กล่าวด้วยว่า ชาวฝรั่งเศสขานรับการเปลี่ยนมาใช้เชื้อเพลิงชีวภาพ ขณะนี้เหลือเพียงรถยนต์และรถรับจ้างสาธารณะ หรือ แท็กซี่ ที่ยังใช้น้ำมันดีเซล แต่สำหรับยานยนต์ประเภทอื่นเปลี่ยนมาใช้เชื้อเพลิงชีวภาพแล้ว
(มติชน ศุกร์ที่ 29 ก.ย. 2549 http://www.matichon.co.th)
ข่าววิจัย/พัฒนา
ประท้วงโดยการปาไข่ใส่หน้าคน อันตรายร้ายแรง ถึงตาบอดถาวร
คณะนักวิจัยโรงพยาบาลลิเวอร์ในอังกฤษ เตือนในวารสารการแพทย์ฉุกเฉิน อีเมอเจินซี เมดิคัล เจอร์นัล ว่าไข่มีมิติเหมือนลูกสควอชแต่จะมี น้ำหนักมากกว่าเมื่อถูกขว้าง ไข่จะแตกอย่างง่ายดายหากถูกขว้างไปถูกศีรษะ แต่หากถูกตาจะไม่แตก และมีอันตรายเทียบได้กับก้อนหิน 1 ก้อน ผลการตรวจสอบประวัติคนไข้ 18,651 คน ที่เข้ารับการรักษาที่แผนกตาของโรงพยาบาลตลอด 14 เดือนที่ผ่านมา พบว่ามีชาย 12 คน และสตรี 1 คน ถูกขว้างไข่ใส่หน้า ผู้ป่วย 8 คน อาการหนักถึงขั้นทำให้สูญเสียตาอย่างถาวรได้ เช่น จอประสาทตาหลุดลอก ช่องตาดำเสียหาย ความดันภายในลูกตาเพิ่มขึ้น ผู้ป่วยคนหนึ่งถูกรถที่แล่นผ่านขว้างไข่ใส่หน้าทำให้ตาบอดอย่างถาวร
(ไทยรัฐ จันทร์ที่ 25 ก.ย. 2549 http://www.thairath.co.th)
นักวิจัยอ้างผลสำเร็จหนูทดลองใช้สเต็มเซลล์รักษาโรคตา
ดร.โรเบิร์ต แลนซา (Dr. Robert Lanza) จากบริษัทแอดวานซ์ เซลล์ เทคโนโลยี (Advanced Cell Technology) ในรัฐแมสซาชูเซตส์ สหรัฐฯ เผยผ่านวารสารโคลนนิงและสเต็มเซลล์ (Cloning and Stem Cells) ว่าเทคโนโลยีที่พัฒนาขึ้นมาล่าสุดนี้ อาจเป็นความหวังในการรักษาโรคสายตาเสื่อม ที่เกิดจากความผิดปกติบริเวณจุดศูนย์กลางรับภาพของจอประสาท และมักพบในผู้สูงวัย
สเต็มเซลล์ (stem cells) หรือเซลล์ต้นกำเนิดจะผลิตเนื้อเยื่อและเซลล์ต่างๆ ในร่างกาย อย่างไรก็ตาม การใช้และผลิตสเต็มเซลล์ยังเป็นเรื่องที่ถกเถียงกันอย่างกว้างขวางทั่วโลก โดยฝ่ายที่ไม่เห็นด้วยโจมตีว่า การนำเซลล์ต้นแบบจากตัวอ่อนมนุษย์มาใช้แบบนี้เป็นการไร้จริยธรรม พร้อมอ้างว่า การทดลองกับสเต็มเซลล์จากผู้ใหญ่มากมายได้ผลเป็นอย่างดี ขณะที่นักวิจัยกำลังเร่งหาวิธีบำบัดโรคต่างๆ ด้วยการใช้สเต็มเซลล์ทั้งสองแบบ
สำหรับในสหรัฐฯ ประธานาธิบดีจอร์จ บุช จำกัดงบประมาณสนับสนุนโดยมอบให้เฉพาะการวิจัยสเต็มเซลล์จากตัวอ่อนที่พัฒนาขึ้นมาก่อนเดือนสิงหาคม ปี 2001 ส่วนกรณีของแอดวานซ์ เซลล์ เทคโนโลยีนั้น ใช้เซลล์ต้นแบบของปี 2001 และเซลล์ต้นแบบอื่นๆ ที่พัฒนาขึ้นมาจากเงินของตัวเอง
แลนซาเผยว่า นักวิจัยของแอดวานซ์พยายามปลูกถ่ายเซลล์ต้นแบบของตัวอ่อนลงใน retinal epithelium cells ซึ่งเป็นเซลล์ของชั้นจอประสาทตาชั้นนอกสุดและเป็นตัวรับสัญญาณภาพในดวงตา ให้กับหนูที่ถูกตัดแต่งพันธุกรรมให้มีความผิดปกติทางสายตา และจะตาบอดสนิทในที่สุด
(ผู้จัดการ จันทร์ที่ 25 ก.ย. 2549 http://www.manager.com)
มือถือนำเที่ยวไทยไม่ง้อไกด์
โปรแกรมแนะนำสถานที่ท่องเที่ยวผ่านโทรศัพท์มือถือ เป็นผลงานของนักศึกษาจากมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี ที่พัฒนาขึ้นเพื่อเพิ่มความสะดวกให้แก่นักท่องเที่ยว ไม่ต้องเสียเวลาเดินทางไปหาซื้อ "คู่มือท่องเที่ยว" ทั้งยังเพิ่มประโยชน์การใช้งานให้มือถือคู่กายอีกด้วย
โทรศัพท์มือถือที่จะรองรับการใช้งานโปรแกรมแนะนำท่องเที่ยวนี้ ต้องเป็นรุ่นที่รองรับการทำงานของภาษา XHTML ซึ่งช่วยให้ผู้ใช้สามารถเปิดเวบไซต์บนมือถือได้ ทั้งนี้มือถือรุ่นใหม่ส่วนใหญ่มีระบบรองรับการใช้งานอินเทอร์เน็ตอยู่แล้ว ส่วนเนื้อหาในโปรแกรมได้เลือกสถานที่ท่องเที่ยวในกรุงเทพฯ มาบรรจุไว้ โดยจะบอกถึงรายละเอียดของสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญ ร้านอาหาร แผนที่การเดินทาง หมายเลขโทรศัพท์ฉุกเฉิน ที่พักในย่านเมืองกรุงตลอด 24 ชั่วโมง
โปรแกรมที่ทีมงานคิดค้นนี้ถือเป็นโครงการหนึ่งในหลักสูตรการเรียนการสอนเท่านั้น หากต้องการใช้ประโยชน์ในเชิงพาณิชย์ โปรแกรมจะต้องได้รับการพัฒนาต่อยอดให้สมบูรณ์ยิ่งขึ้น โดยเฉพาะการเพิ่มข้อมูลสถานที่ท่องเที่ยวให้ครอบคลุมทั่วประเทศ และปรับรูปแบบของเวบให้สวยงามทันสมัย ภารกิจในส่วนนี้คงต้องฝากให้นักศึกษารุ่นน้องที่มีความสนใจดำเนินการสานต่อโครงการ
ในอนาคต ภาพนักท่องเที่ยวกางแผนที่ หรือถือหนังสือนำเที่ยว อาจจะมีให้เห็นน้อยลง เพราะต่างหันมาใช้บริการจากคู่มือนำเที่ยวผ่านมือถือ
(คมชัดลึก จันทร์ที่ 25 ก.ย. 2549 http://www.komchadleuk.net)
หมอใต้ทำเตียงลดแผลกดทับ เสริมระบบไฮโดรลิกขยับตัวคนไข้อัตโนมัติ
น.พ.ญาณินทร์ อุทโยภาศ ศัลยแพทย์จากโรงพยาบาลสุราษฎร์ธานี ผู้คิดค้นเตียงป้องกันและรักษาแผลกดทับ กล่าวว่า บาดแผลกดทับมักเกิดขึ้นกับผู้ป่วยอัมพฤกษ์อัมพาต เนื่องจากไม่สามารถขยับร่างกายได้ด้วยตัวเอง และต้องนอนอยู่ในท่าเดิมเป็นเวลานาน ในปัจจุบันยังไม่สามารถป้องกันและรักษาแผลกดทับให้หายขาดได้
ในต่างประเทศได้คิดค้นเตียงป้องกันแผลกดทับที่ทำจากของเหลว เช่น น้ำ ลม และซิลิโคน ผลการใช้งานยังพบว่าประสิทธิภาพยังไม่ดีเท่าที่ควร เพียงแต่ช่วยยืดระยะเวลาการเกิดบาดแผลให้นานขึ้น เนื่องจากไม่สามารถกระจายน้ำหนักตัวได้อย่างทั่วถึง ด้วยเหตุนี้จึงออกแบบเตียงป้องกันแผลกดทับ และใช้ชื่อว่า
(คมชัดลึก จันทร์ที่ 25 ก.ย. 2549 http://www.komchadleuk.net)
เตรียมประกาศจัดอันดับ"ม.วิจัยไทย"
นายวุฒิพงศ์ เตชะดำรงสิน รองผู้อำนวยการสำนักงานกองทุนสนับสนุนการวิจัย (สกว.) เปิดเผยถึงความคืบหน้าในการดำเนินการจัดอันดับมหาวิทยาลัยไทยด้านการวิจัยว่า ขณะนี้ได้ดำเนินการไปแล้วประมาณ 80 เปอร์เซ็นต์ ภายในเวลา 2 เดือนที่ผ่านมา โดยได้รวบรวมข้อมูลจากมหาวิทยาลัยที่เป็นสมาชิกของ สกว. และสมัครใจเข้าร่วมการจัดอันดับมหาวิทยาลัยด้านการวิจัยเชิงวิชาการจำนวน 80 แห่ง จากทั้งหมด 160 แห่ง ทั้งมหาวิทยาลัยรัฐ มหาวิทยาลัยราชภัฏ (มรภ.) และมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล (มทร.) คาดว่า จะสามารถประกาศผลได้อีกไม่เกิน 2 เดือน โดยตัวชี้วัดของการจัดอันดับมหาวิทยาลัยด้านการวิจัยเชิงวิชาการครั้งนี้ จะยึดผลงานวิจัยของบุคลากรในมหาวิทยาลัยที่ตีพิมพ์เผยแพร่ในวารสารตามหลักของสำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา (สกอ.) โดยจะพิจารณาทั้งวารสารที่ตีพิมพ์เผยแพร่ทั้งในประเทศและต่างประเทศ ในสัดส่วนที่แตกต่างกันตามคุณภาพของวารสาร ซึ่งจะเน้นงานวิจัยที่ตีพิมพ์เผยแพร่ในต่างประเทศมากกว่าในประเทศ จึงไม่เกิดความได้เปรียบเสียเปรียบระหว่างมหาวิทยาลัยขนาดเล็กและมหาวิทยาลัยขนาดใหญ่ นอกจากนี้ยังให้ความสำคัญกับสัดส่วนการมีส่วนร่วมในงานวิจัยของบุคลากรด้วย หากงานวิจัยชิ้นไหนที่มีจำนวนบุคลากรมาก แสดงว่ามีส่วนร่วมในงานวิจัยมากจะได้รับคะแนนเพิ่มขึ้นตามไปด้วย นายวุฒิพงษ์กล่าวอีกว่า มหาวิทยาลัยแต่ละแห่งที่สมัครเข้าร่วมการจัดอันดับ ต้องคัดลอกผลงานวิจัยทางวิชาการหน้าแรกที่ได้รับการเผยแพร่ในวารสารส่งไปที่ สกว. เพื่อพิจารณาผลงานวิจัยสัดส่วนตามความเป็นจริง เนื่องจากเป็นการจัดอันดับมหาวิทยาลัยเพียงเรื่องเดียว ข้อมูลจึงไม่ซับซ้อนและสามารถตรวจสอบได้ ทำให้ข้อมูลที่นำมาประมวลผล มีความละเอียด ถูกต้อง และแม่นยำ ทั้งนี้ ที่ผ่านมามีมหาลัยทยอยส่งข้อมูลมาเรื่อยๆ คาดว่าจะปิดรับข้อมูลประมาณกลางเดือนตุลาคม จากนั้นจะนำข้อมูลไปประมวลผล เพื่อให้สามารถประกาศผลได้โดยเร็ว สำหรับการประกาศผลนั้นจะแจ้งให้แต่ละสถาบันได้รับทราบว่ามหาวิทยาลัยของตนอยู่ระดับไหน เพื่อนำไปปรับปรุงต่อไป ส่วนการประกาศผลอย่างเป็นทางการ จะประกาศเฉพาะมหาวิทยาลัยที่อยู่ระดับดี และระดับปานกลางเท่านั้น
(มติชน จันทร์ที่ 25 ก.ย. 2549 http://www.komchadleuk.net)
เทคโนชีวภาพไทยชะงัก เวียดนาม-จีนแซง
ดร.รุจ วัลยะเสวี ที่ปรึกษาโครงการเอดีบีและรองผู้อำนวยการศูนย์พันธุวิศวกรรมและเทคโนโลยีชีวภาพแห่งชาติ กล่าวถึงภาพรวมงานวิจัยด้านเทคโนโลยีชีวภาพของไทยโดยยอมรับว่า การคัดค้านการปรับแต่งพันธุกรรมพืชเป็นอุปสรรคสำคัญในการวิจัยทั้งที่ในเชิงวิชาการยอมรับว่าให้ผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพมากกว่า
"ประเด็นหนึ่งที่หลายประเทศในลุ่มน้ำโขงจับตามองนั้น คืองานวิจัยเชิงเทคโนโลยีชีวภาพของไทยยังหยุดอยู่แค่งานวิจัยในห้องปฏิบัติการ โดยไม่สามารถทำการทดลองระดับไร่นาได้ เนื่องจากไม่มีกฎหมายรองรับ ทำให้งานวิจัยที่มีคุณค่าต่อการเกษตรหลายชิ้นไม่สามารถพัฒนาและเผยแพร่ได้" ดร.รุจ กล่าวในการประชุมเชิงปฏิบัติการเรื่องการประเมินความปลอดภัยของอาหารที่มีส่วนประกอบของพืชดัดแปลงพันธุกรรม โดยธนาคารพัฒนาแห่งเอเชีย (ADB) และศูนย์พันธุวิศวกรรมและเทคโนโลยีชีวภาพแห่งชาติ สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ ร่วมกันจัดขึ้นเมื่อไม่นานมานี้
ด้าน ดร.ดรุณี เอ็ดเวิร์ดส รองผู้อำนวยการศูนย์พันธุวิศวกรรมและเทคโนโลยีชีวภาพแห่งชาติ เปิดเผยว่า ในกลุ่มของประเทศลุ่มน้ำโขง จีนถือเป็นประเทศที่พัฒนาด้านเทคโนโลยีชีวภาพที่ดีที่สุด เนื่องจากสามารถวิจัยและพัฒนาจนเกิดเป็นเชิงพาณิชย์ได้แล้ว ส่วนเวียดนาม ที่แม้จะตามหลังไทยมาก่อน แต่ปัจจุบันก็นำหน้าเราไปแล้วโดยมีการทดลองปลูกในระดับไร่นา
"แม้ว่าไทยจะมีระบบสาธารณูปโภคที่ดี มีนักวิชาการนักวิทยาศาสตร์ที่เป็นที่ยอมรับระดับโลก แต่ก็ยังต้องตามหลังประเทศเหล่านี้ นักวิจัยมีแนวโน้มจะเปลี่ยนไปทำงานวิจัยในสาขาอื่น เนื่องจากงานที่ออกมาไม่สามารถนำไปใช้งานได้ ยังคงต้องรอการอนุมัติอย่างเป็นทางการ" รองผู้อำนวยการไบโอเทค กล่าว
ปัญหาหลักเพียงอย่างเดียวของไทย คือ ตัวบทกฎหมาย ที่คงต้องรอให้ผ่านความเห็นชอบก่อน และแม้จะมีกรณีศึกษาของกฎหมายที่ประสบความสำเร็จคือ กฎหมายของอียู (EU) ที่ร่างขึ้นมาเพื่อบอกว่างานวิจัยนั้นต้องทำจนสำเร็จ ก่อนที่จะวิจัยเรื่องความปลอดภัยว่ามีความปลอดภัยเทียบเคียงของเดิมที่มีอยู่ แล้วจึงนำไปสู่การพัฒนาในเชิงพาณิชย์ แต่สำหรับไทยนั้นยังเป็นไปไม่ได้ ถึงแม้จะมีการทำวิจัยทดลองความปลอดภัย ขณะที่อีก 21 ประเทศทั่วโลกทำได้แล้ว
(กรุงเทพธุรกิจ อังคารที่ 26 ก.ย. 2549 http://www.bangkokbiznews.com)
ครีมสูตรใหม่ผิวสีแทนไม่ต้องอาบแดด
นักวิจัยจากสถาบันมะเร็งดานา-เฟเบอร์และโรงพยาบาลเด็กบอสตัน ได้พัฒนาครีมที่ประกอบไปด้วยโมเลกุลเล็กๆ ที่จำลองกระบวนการที่เซลล์ผิวได้รับรังสีอุลตราไวโอเลตจากแสงแดด ซึ่งเป็นผลดีกับพวกผิวขาวซีด และผมแดงที่ไม่สามารถอาบแดดเปลี่ยนสีผิวให้เป็นสีแทนได้ เนื่องจากผิวหนังของคนกลุ่มนี้มีตัวรับแสงที่ผิดปกติที่เรียกว่า เอ็มซี 16 อยู่บริเวณบนสุดของเซลล์ผิวหนังเมลาโนไซต์ที่มีหน้าที่ผลิตเม็ดสีผิว
ความผิดปกติดังกล่าวนี้ทำให้กลุ่มคนที่มีผิวขาวซีด ผมแดงมีแนวโน้มที่จะถูกแดดเผาได้ง่าย เซลล์ผิวเสี่ยงได้รับความเสียหายและนำไปสู่โรคมะเร็งผิวหนัง องค์การอนามัยโลก หรือ WHO คาดการณ์ว่า มีผู้เสียชีวิตจากโรคมะเร็งผิวหนังจากการอาบแดดมากกว่า 6 หมื่นคนทั่วโลก
ทีมวิจัยได้ทดลองกับหนูที่ดัดแปลงให้มีพันธุกรรมแบบเดียวกับคนเผือก ผมแดง ที่ผิวไม่เปลี่ยนเป็นสีแทนเมื่อได้รับแสงแดดอ่อน แต่ถ้าโดนแดดจัดผิวหนังจะไหม้ นักวิจัยได้สกัดสารประกอบที่เรียกว่า ฟอร์สโคลิน จากต้นไม้ชนิดหนึ่งที่ปลูกในอินเดีย สารประกอบดังกล่าวสามารถเพิ่มปริมาณซีเอเอ็มพีได้ เมื่อทาสารดังกล่าวแล้วผิวหนูเริ่มเข้มขึ้น แสดงว่าเมลาโนไซต์ในผิวหนังกลุ่มคนผมแดงสามารถเพิ่มขึ้นถ้ากระตุ้นอย่างเหมาะสม นอกจากนี้ ผิวสีแทนที่ได้ยังเหมือนกับไปอาบแดดไม่ผิดเพี้ยน และยังช่วยปกป้องผิวจากมะเร็งเมื่อผิวหนังได้รับแสงยูวีมากเกินไปด้วย
(คมชัดลึก อังคารที่ 26 ก.ย. 2549 http://www.komchadleuk.net)
จองตั๋วรถทัวร์ผ่านมือถือ ไอเดียจาก มทร.ธัญบุรีรอเอกชนสานฝัน
นายจิรศักดิ์ เรืองประสม นักศึกษาจากภาควิชาวิทยาการคอมพิวเตอร์ คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล (มทร.) ธัญบุรี ร่วมกับกลุ่มเพื่อน คิดค้นระบบจองตั๋วรถผ่านมือถือ เพื่อความสะดวกสบายในการสั่งจองที่นั่งรถโดยสารประจำทางปรับอากาศระหว่างจังหวัด และประหยัดเวลาเดินทางแก่ลูกค้าที่ต้องการจองตั๋ว
"ปัจจุบันผู้ประกอบการบางรายได้ให้บริการจองตั๋วทางอินเทอร์เน็ต แต่ก็มีข้อจำกัดว่าหากลูกค้าไม่มีคอมพิวเตอร์ หรือไม่ได้เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตก็ไม่สามารถจองได้ หากเป็นมือถือ แทบทุกคนก็มีติดตัวอยู่แล้วสามารถหยิบขึ้นมาใช้ได้เลย อีกทั้งยังสามารถสนองความต้องการลูกค้าได้ 24 ชั่วโมง ขั้นตอนการจองก็ไม่ได้ยุ่งยาก เมื่อเข้าสู่ระบบการจองตั๋ว เราสามารถเลือกจองประเภทของรถ จังหวัดที่จะเดินทาง เวลาเดินทาง ไม่ต่างจากที่เดินทางไปจองด้วยตัวเอง" นายจิรศักดิ์ กล่าว
ระบบมือถือที่รองรับการใช้บริการจองตั๋วรถโดยสาร จะต้องมีคุณสมบัติพื้นฐานคือการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตกับโปรแกรมบริการจองตั๋ว ที่ข้อมูลประกอบด้วย เวลาเดินทาง ประเภทรถและจุดหมายปลายทาง นอกจากบริการจองตั๋วรถโดยสารแล้ว ทีมนักศึกษาจากสถาบันเดียวกันยังได้พัฒนาระบบค้นหาสายรถประจำทาง ขสมก.ผ่านมือถืออีกด้วย
(คมชัดลึก พุธที่ 27 ก.ย. 2549 http://www.komchadleuk.net)
โลกร้อนใกล้ถึงจุดวิกฤติอุณหภูมิเฉียด 3 ล้านปีก่อน น้ำทะเลท่วมแผ่นดิน!!
จากข้อมูลของทีมวิจัยที่นำโดยเจมส์ แฮนเซน (James Hansen) นักอุตุนิยมวิทยา แห่งสถาบันกอร์ดดาร์ด (Goddard Institute) เพื่อการศึกษาอวกาศขององค์การบริหารการบินอวกาศสหรัฐฯ (นาซา) ในนิวยอร์กซิตี้ ที่ตีพิมพ์อยู่ในวารสารโปรซีดดิงส์ ออฟ เนชันแนล อะคาเดมี ออฟ ไซนส์ (Proceedings of the National Academy of Sciences) ฉบับวันที่ 26 ก.ย. ระบุว่าปรากฏการณ์เอลนิโนเป็นปัจจัยสำคัญในการติดตามตรวจสอบภาวะโลกร้อน
รายงานดังกล่าวระบุว่า เพราะเอลนิโนสามารถผลักดันให้อุณหภูมิสูงขึ้นกว่าปกติ ดังที่เกิดขึ้นในปี 1998 ซึ่งเรียกกันว่า 'ซูเปอร์เอลนิโน' ที่ทำให้อุณหภูมิโลกร้อนเป็นประวัติการณ์ ประเด็นสำคัญที่นักวิจัยทีมนี้ค้นพบก็คือ ในปีที่ผ่านมา อุณหภูมิโลกอยู่ในระดับเดียวกับปี 1998 และอาจถือเป็นปีที่อากาศร้อนที่สุด โดยปราศจากสัญญาณว่า ผิวน้ำบริเวณแนวเส้นศูนย์สูตรด้านตะวันออก ซึ่งเป็นแหล่งกำเนิดของเอลนิโน ร้อนขึ้นแต่อย่างใด
ขณะนี้ น้ำในแนวเส้นศูนย์สูตรทางแปซิฟิกตะวันตกอุ่นกว่าด้านตะวันออก และความแตกต่างของอุณหภูมิผิวน้ำระหว่างสองบริเวณนี้ อาจทำให้อุณหภูมิผันผวนรุนแรงขึ้นระหว่างสภาพอากาศปกติกับเอลนิโน ที่สำคัญปรากฏการณ์โลกร้อนในขณะนี้กำลังส่งผลต่อผิวน้ำบริเวณแปซิฟิกตะวันตกก่อนซึมซับลงสู่น้ำทะเลด้านล่างในการศึกษาของแฮนเซนพบว่า อุณหภูมิโลกสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว เฉลี่ย 0.4 องศาฟาเรนไฮต์ (0.2 องศาเซลเซียส) ต่อทศวรรษตลอดช่วง 30 ปีที่ผ่านมา และหากอุณหภูมิโลกขยับขึ้นไปอีกเพียง 1.8 องศาฟาเรนไฮต์ (1 องศาเซลเซียส) ก็จะเท่ากับอุณหภูมิสูงสุดที่เคยเกิดขึ้นเมื่อหลายล้านปีก่อน
(ผู้จัดการ พฤหัสบดีที่ 28 ก.ย. 2549 http://www.manager.co.th)
ไต้หวันสนใจสมุนไพรไทย พร้อมลงนามร่วมขยายการลงทุนไบโอเทค
ระหว่างวันที่ 21-27 ก.ย.นี้ คณะผู้ประกอบการด้านอุตสาหกรรมชีวภาพ ประเทศไต้หวัน ได้เดินทางมาเยี่ยมชมงานวิจัยพัฒนาเทคโนโลยีชีวภาพของประเทศมาเลเซียและประเทศไทย โดยวานนี้ (26 ก.ย.) ณ ศูนย์พันธุวิศวกรรมและเทคโนโลยีชีวภาพแห่งชาติ (ไบโอเทค) อุทยานวิทยาศาสตร์ประเทศไทย อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี ได้มีการสัมมนาความร่วมมือและการพบปะกันระหว่างนักธุรกิจของ 2 ชาติ ภายหลังจากวันที่ 25 ก.ย. ได้เยี่ยมชมงานของสถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทย (วว.) ณ เทคโนธานี อ.คลองห้า จ.ปทุมธานี มาก่อนแล้ว
สำหรับจุดประสงค์ของการจัดงานครั้งนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เพื่อเป็นการแสดงศักยภาพงานวิจัยไบโอเทคของไทยให้ผู้ประกอบการไต้หวันได้รับทราบความก้าวหน้า และผลักดันให้เกิดการต่อยอดสู่การผลิตในภาคอุตสาหกรรม เป็นการสร้างมูลค่าเพิ่มจากงานวิจัยที่ไทยมีอยู่ ผ่านการจับคู่นักธุรกิจไทยและไต้หวัน ซึ่งหากมีการวิจัยพัฒนาร่วมกันภายในประเทศ นักลงทุนไทยและไต้หวันก็จะได้รับสิทธิลดหย่อนภาษี โดยการคำนวณหักรายได้ออกเป็นเงิน 2 เท่าของจำนวนเงินวิจัยพัฒา ก่อนที่จะนำรายได้ที่เหลือมาคำนวณภาษี ตามข้อตกลงที่สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) ได้ทำไว้กับกรมสรรพากร
นายหลี่ เหลียน จือ (Lain -Tze Lee) ผอ.ฝ่ายเทคโนโลยีเภสัชกรรม ห้องปฏิบัติการวิจัยวิศวกรรมชีวการแพทย์ สถาบันเทคโนโลยีอุตสาหกรรม (ITRI: อิสทรี) ประเทศไต้หวัน กล่าวว่า สำหรับการมาดูงานครั้งนี้ ถือเป็นการเยี่ยมชมความก้าวหน้าด้านการวิจัยพัฒนาไบโอเทคของไทย ว่าได้มีการพัฒนาไปถึงขั้นใดแล้ว และมีการทำวิจัยในด้านใดบ้าง เพื่อหาแนวทางทำให้เกิดความร่วมมือระหว่าง 2 ประเทศในที่สุด
(ผู้จัดการ พฤหัสบดีที่ 28 ก.ย. 2549 http://www.manager.co.th)
สกัดพริกขี้หนูสยบเบาหวาน หมอเล็งพัฒนาเป็นยา-อาหารเสริมผู้ป่วย
รศ.สุพีชา วิทยเลิศปัญญา ภาควิชาเภสัชวิทยา คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ร่วมกับทีมวิจัยศึกษาสารสกัดแคปไซซิน (Capsaicin) จากพริกชนิดต่างๆ เช่น พริกขี้หนู พริกแห้ง พริกป่น เพื่อทดสอบคุณสมบัติลดระดับน้ำตาลในเลือด แม้ว่าก่อนหน้านี้มีการศึกษาถึงคุณสมบัติดังกล่าว แต่ก็ยังไม่มีการวิจัยยืนยันที่ชัดเจน
ทีมวิจัย ได้แก่ นายกมล ไชยสิทธิ์ นิสิตปริญญาโท ได้ทดสอบฉีดสารสกัดแคปไซซินในหนูทดลอง พบว่าสารสกัดจากพริกขี้หนูสามารถลดระดับน้ำตาลในเลือดได้จริง อีกทั้งกระตุ้นการหลั่งอินซูลินได้ในระดับที่น่าพอใจ เมื่อเทียบกับยาเบาหวานที่ใช้ในปัจจุบัน ถือเป็นความหวังในการพัฒนาสารสกัดจากพริกขี้หนูเพื่อใช้เป็นยา หรืออาหารเสริมสำหรับผู้ป่วยเบาหวานได้ในอนาคต
"การรักษาผู้ป่วยเบาหวานในปัจจุบัน แพทย์จะให้ยาช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือด พร้อมกับฉีดอินซูลินเสริม ที่ผ่านมาพบอาการดื้อยาเพิ่มขึ้น จนแพทย์ต้องเพิ่มปริมาณยาให้ผู้ป่วย ขณะที่สารแคปไซซินในพริกมีประสิทธิภาพใกล้เคียงกับยาแผนปัจจุบัน อีกทั้งราคาถูกกว่า แต่ยังไม่มีงานวิจัยใดที่ออกมายืนยันผลการรักษา"
นอกจากนี้ ยังพบว่าสารสกัดแคปไซซินปริมาณเพียงเล็กน้อย หรือน้อยกว่า 1 มิลลิกรัม ก็สามารถลดปริมาณน้ำตาลในเลือด พร้อมทั้งกระตุ้นการหลั่งอินซูลินได้ ในอนาคตวางแผนทดสอบประสิทธิภาพในกลุ่มคน โดยออกแบบให้อาสาสมัครสุขภาพดีจำนวน 12 คน กินแคปซูลสารสกัดพริก ก่อนและหลังมื้ออาหารหวาน เพื่อศึกษาการดูดซึม ระดับการใช้ยาและระยะเวลาออกฤทธิ์ จากนั้นจะขยายศึกษาต่อในกลุ่มผู้ป่วยจำนวนน้อย เพื่อดูผลกระทบและอาการที่ไม่พึงประสงค์
งานวิจัยดังกล่าวได้รับทุนสนับสนุนการวิจัยจากโครงการทุนวิจัยเซเรบอส อวอร์ด ประจำปี 2549 ร่วมกับงานวิจัยของมหาวิทยาลัยมหิดลที่ศึกษาผลของกระเจี๊ยบแดงต่อการเพิ่มคอเลสเตอรอลชนิดดี และยับยั้งคอเลสเตอรอลชนิดร้าย และงานวิจัยของมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ที่ศึกษาฤทธิ์ของสารสกัดจากงา (เซซามิน) ต่อการยับยั้งการเสื่อมสลายของกระดูกอ่อน
(คมช้ดลึก ศุกร์ที่ 29 ก.ย. 2549 http://www.komchadleuk.net)
ย่อโปรเจคเตอร์เหลือเท่าก้อนน้ำตาล
ทีมวิจัยจากสถาบันฟรอนฮอเฟอร์จากเยอรมนีจึงช่วยกันคิดเครื่องฉายภาพขนาดย่อส่วนเล็กเท่ากับก้อนน้ำตาลเพื่อเอามาใช้กับอุปกรณ์พกพาอย่างพวกพีดีเอ โน้ตบุ๊ค และโทรศัพท์มือถือ โดยก่อนหน้านี้เคยมีนักวิจัยพัฒนาโปรเจคเตอร์ขนาดเท่ากับกล่องไม้ขีดมาแล้ว
เครื่องฉายภาพ หรือโปรเจคเตอร์ทั่วไปจะใช้แผงกระจกขนาดเล็กเป็นล้านแผ่นสำหรับฉายภาพให้ไปตกที่ฉาก แต่โปรเจคเตอร์จิ๋วตัวต้นแบบของเยอรมนีใช้กระจกจิ๋วเพียงแผ่นเดียว
ข้างในโปรเจคเตอร์ที่มีขนาดกว้าง 16 มม. ยาว 16 มม และสูง 9 มม.ใช้แสงเลเซอร์ยิงไปที่กระจกจิ๋ว ซึ่งจะเกิดการหักเหแสงเพื่อให้เกิดจุดจำนวนมากจนประกอบเป็นภาพขึ้นมาในที่สุด แต่ระยะแรกนี้ โปรเจคเตอร์จิ๋วมีเครื่องยิงเลเซอร์เพียง 2 สี คือ แดงและน้ำเงิน หมายความว่า ภาพที่ออกมานั้น จะมีเฉดสีไม่มากนัก เนื่องจากยังไม่สามารถทำให้ไดโอดสีเขียวมีขนาดเล็กพอที่จะใส่ลงในตัวเครื่อง ทั้งนี้แม่สีของแสงประกอบด้วย สีแดง น้ำเงิน และ เขียว
ดร.ปีเตอร์ ชไครเบอร์ จากสถาบันฟรอนฮอเฟอร์ กล่าวว่า อุปกรณ์ชิ้นนี้ จะเป็นประโยชน์อย่างมาก ด้วยขนาดเล็กที่จะสามารถใช้กับอุปกรณ์สื่อสารยอดฮิตอย่างโทรศัพท์มือถือ พีดีเอ หรือเครื่องแล็ปท็อป ที่สามารถพกพาออกไปทำงานนอกสถานที่ได้ นอกจากนี้ โปรเจคเตอร์จิ๋วตัวนี้ยังต่างจากโปรเจคเตอร์ทั่วไปตรงที่สามารถฉายภาพลงบนพื้นผิวโค้งได้ จึงนำไปใช้งานในรูปแบบพิเศษได้
(คมช้ดลึก ศุกร์ที่ 29 ก.ย. 2549 http://www.komchadleuk.net)
ข่าวของเอเอฟพี บอกว่า ปัญหาใหญ่ของสังคมเกาหลีใต้ ณ ปัจจุบันก็คือ.. "คนแก่" เริ่มล้นประเทศ ขณะที่อัตราเด็กเกิดใหม่มีน้อยมาก เพราะคนยุคใหม่ไม่อยากมีภาระ
คาดว่าปีค.ศ.2050 หรือ พ.ศ.2593 จำนวนประชากรโสมใต้จะลดลงจาก 48 ล้านคน มาเหลืออยู่แค่ 40 ล้านคน
ที่น่าวิตก..ในจำนวน 40 ล้านคนนี้ ร้อยละ 37 เป็นประชากรวัยชรา อายุ 65 ปีขึ้นไป ผลกระทบลูกโซ่ที่จะเกิดตามมาก็คือสังคมโสมจะขาดแคลนคนทำงาน ซึ่งเป็นกำลังหลักในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ
กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีเกาหลีใต้ แถลงว่า ถ้าปล่อยให้คนแก่เต็มประเทศมีหวังเจ๊งแน่ๆ ล่าสุด จึงประกาศนโยบายเตรียมอัดฉีดเงินงบประมาณราวๆ 1,000 ล้านบาท นำไปแจกจ่ายมอบให้กับสถาบันและองค์กรทางวิทยาศาสตร์ เพื่อให้ช่วยกันคิดค้นเทคโนโลยีใหม่ๆ ซึ่งช่วยให้พลเมืองโสมแก่ช้าลง มีสุขภาพแข็งแรง และมีกำลังวังชาทำงานได้ต่อไปเหมือนคนหนุ่มสาวโดยงบ 1,000 ล้านบาทก่อนนี้จะแบ่งแจกจ่ายภายใน 10 ปี
เงิน 1,000 ล้านอาจไม่มากมายอะไรนัก แต่โชว ซอง-ชาน ผู้อำนวยการฝ่ายเทคโนโลยี กระทรวงวิทยาศาสตร์ฯ เกาหลีใต้ มองว่า จะเป็นเหมือนบันไดก้าวแรกกระตุ้นให้นักวิทยาศาสตร์โสมมุ่งมั่นพัฒนาเทคโนโลยีชีวภาพ รวมถึงนวัตกรรมอื่นๆ ซึ่งช่วยยืดอายุขัยและป้องกันการเสื่อมสภาพของเซลล์ในร่างกายคนเรา
ถ้าทำได้สำเร็จจริง นอกจากคนเกาหลีจะได้ประโยชน์ในแง่สุขภาพ ก็ยังสามารถใช้เทคโนโลยีนี้ขายทำเงินมหาศาลเข้าประเทศ
(มติชน ศุกร์ที่ 29 ก.ย. 2549 http://www.matichon.co.th)
ข่าวทั่วไป
คนไทยเป็นโรคอัลไซเมอร์ 6 แสนเสียหายทาง เศรษฐกิจหัวละ 8 แสน
นพ.สุรวิทย์ เดชธุวานันท์ รองอธิบดี กล่าวว่า ปัจจุบันประเทศไทยมีผู้ป่วยด้วย โรคอัลไซเมอร์จำนวน 665,287 คน พบมากในกลุ่มผู้สูงอายุ โดยไม่ทราบสาเหตุ โดยอายุ 60-64 ปี อัตราเฉลี่ยการพบร้อยละ 1, อายุ 65-69 ปี พบร้อยละ 2, อายุ 70-74 ปี พบร้อยละ 4, อายุ 75-79 ปี พบร้อยละ 8, อายุ 80-85 ปี พบร้อยละ 16 และอายุ 86 ปีขึ้นไป พบร้อยละ 32 ทั้งนี้ สถิติที่พบในปี 2548 พบว่า ผู้หญิงมารักษาในโรงพยาบาลเป็นผู้ป่วยนอกและผู้ป่วยใน จำนวน 1,053 ราย ส่วนผู้ชาย มีจำนวน 618 ราย หรือเป็นอัตราส่วน 7 ต่อ 1
โรคอัลไซเมอร์เป็นโรคหนึ่งที่ทำให้เกิดอาการสมองเสื่อม แต่สมองเสื่อมนั้น เกิดสาเหตุอื่นๆอีกมากมาย อาการของโรคมี 3 ระยะ คือ ยังช่วยตัวเองได้ ทำกิจวัตรประจำวันได้ ระยะต่อมาญาติต้องช่วยอาบน้ำ แต่งตัว หลงเวลา สถานที่ และสุดท้ายช่วยเหลือตัวเองไม่ได้เลย นพ.สุรวิทย์กล่าวและว่า ผลกระทบที่เกิดขึ้นจากผู้ป่วยโรคอัลไซเมอร์ มีทั้งทางเศรษฐกิจ ทางจิตใจของผู้ดูแล และทางสังคม โดยผลกระทบทางเศรษฐกิจนั้น 1 ราย สูญเสีย 600,000-800,000 บาทต่อปี ส่วนทางจิตใจผู้ดูแลเกิดความเครียด รับภาระ และซึมเศร้า ขณะที่ปัญหาทางสังคม คือเกิดปัญหาความขัดแย้ง ครอบครัวขาดที่พึ่ง.
(ไทยรัฐ จันทร์ที่ 25 ก.ย. 2549 http://www.thairath.co.th)
สูบบุหรี่สูดโรคเอดส์เข้าตัวง่าย ร่างกายไวกับการรับ เชื้อโรค
คณะแพทย์อังกฤษซึ่งศึกษาทบทวนผลการศึกษารวม 6 เรื่องด้วยกัน พบว่ามีผลการศึกษาที่ส่อว่า ผู้สูบบุหรี่เสี่ยงที่จะติดโรคเอดส์สูงอยู่ถึง 5 เรื่อง แต่การศึกษาอื่นอีกในเรื่องการดำเนินไปของโรค เมื่อได้รับเชื้อจนกลายเป็นโรคเอดส์เต็มตัว 9 ใน 10 เรื่อง กลับไม่พบว่าเกี่ยวพันกับบุหรี่
ดร.แอนดรู เฟอเบอ แห่งเซาธ์ อีสต์ เชฟฟิลด์ ไพรแมรี แคร์ทรัสต์ กล่าวว่า การศึกษาซึ่งเป็นการทบทวนอย่างถูกต้องตามระบบ ปรากฏส่อว่า แม้การสูบบุหรี่จะเกี่ยวพันกับการติดเชื้อ แต่ก็ดูเหมือนไม่มีส่วนเกี่ยวกับการ ดำเนินไปจนเกิดโรคเอดส์ด้วย
หมอแอนดรูกับคณะ รายงานผลการศึกษาในวารสารการแพทย์ กามโรค กล่าวว่า การสูบบุหรี่อาจทำให้การติดเชื้อโรคเอดส์ได้ง่ายขึ้น จากการที่ไปทำให้การตอบโต้ของระบบภูมิคุ้มกันอ่อนแรงลง
เป็นที่ประมาณว่า มีผู้ติดเชื้อโรคเอดส์ทั่วโลกอยู่ในขณะนี้มากถึง 40 ล้านคน แถมยังมีผู้เคราะห์ร้ายเพิ่มขึ้นในปี พ.ศ.2548 อีกเกือบ 5 ล้านคน และมีผู้เสียชีวิตทั้งเด็กผู้ใหญ่รวมกัน ในปีเดียวกันนี้ไม่ต่ำกว่า 3 ล้านคน.
(ไทยรัฐ จันทร์ที่ 25 ก.ย. 2549 http://www.thairath.co.th)
เต้นรำเป็นการออกกำลังชั้นยอด ได้ทั้งสนุกและ ประสบการณ์ร่วม
ไม่ว่าจะเป็นคนจากกลุ่มอายุ เพศ หรือรายได้ที่ต่างกันแค่ไหน แต่คนนิวยอร์กต่างพากันตรงไปยังฟลอร์เต้นรำเพื่อออกกำลังกันมากกว่าไปโรงยิม ผู้เชี่ยวชาญด้านการออกกำลังในสหรัฐฯเผยถึงสาเหตุว่า เป็นเพราะ มันได้สังสรรค์สนุกสนานไปด้วย นอกจากออก กำลังแต่อย่างเดียว
พอลลี เดอ มิลล์ ผู้เชี่ยวชาญด้านการออกกำลังของศูนย์การแพทย์กีฬาสตรี ที่โรงพยาบาลเพื่อการผ่าตัดพิเศษกล่าวว่า โปรแกรมการออกกำลังกาย ที่ดีที่สุด คือการออกกำลังที่ปลอดภัย สมดุลย์ ช่วยสนับสนุนให้ร่างกายแข็งแรง และที่สำคัญ คือทำบ่อยๆ เพราะรู้สึกสนุกกับมัน
มิติทางสังคม ต่อการเต้นรำนั้นช่วยให้เป็นตัวดึงดูดและยังเพิ่มจำนวนคน (มาออกกำลัง) มากขึ้นเมื่อเทียบกับการฝึกกับเครื่องออกกำลัง งานศึกษาด้านวิทยาศาสตร์ บอกเราว่ามีหลายปัจจัยที่ทำให้การเต้นรำเป็นการออกกำลังชั้นเลิศและได้ผลน่าสนใจ ผู้เชี่ยวชาญคนเดิมกล่าวและอธิบายต่อไปว่า การออกกำลังในโรงยิมนั้น แต่ละคนจะมีกิจกรรมส่วนตัวเช่น ฟังเพลงจากเครื่องส่วนตัว ในขณะที่การเต้นรำนั้นจะทำให้มีปฏิสัมพันธ์ทางสังคม เผชิญหน้า หรือสัมผัสกับคนอื่น และมีประสบการณ์ร่วมกัน.
(ไทยรัฐ พุธที่ 27 ก.ย. 2549 http://www.thairath.co.th)
ฉีดโบทอกซ์ลบรอยตีนกาบนหน้า พาให้เสพติด อยากฉีดอีกเรื่อยไป
ผู้ที่เคยฉีดสารโบทอกซ์ อันเป็นสารโปรตีนสกัดชนิดหนึ่งจากเชื้อแบคทีเรีย ถูกนำมาใช้ในวงการแพทย์ ช่วยให้กล้ามเนื้ออ่อนแรงลดการเกร็ง จำเป็นจะต้องฉีดซ้ำอีกหลายครั้ง เพื่อไม่ให้หมดฤทธิ์ลงอย่างรวดเร็ว
ดร.คาร์เตอร์ สิงห์ บัณฑิตทางจิตวิทยา กับหมอมาร์ติน เคลลี แห่ง สมาคมศัลยแพทย์ตกแต่งลอนดอน ได้ร่วมกันศึกษาวิจัยกับผู้ที่ไปรับการฉีดตามสถานพยาบาลแห่งต่างๆ และได้ศึกษาเปรียบเทียบผลของการฉีด กับการรักษาเสริมสวยแบบอื่น ที่เจ็บตัวน้อยกว่ากัน พบว่าผู้ที่เคยฉีด ไม่ต่ำกว่า 40% อยากจะทำอีกเรื่อยไป และอีกไม่ต่ำกว่าครึ่ง กล่าวว่า รู้สึกว่าหนุ่มสาวขึ้นยิ่งกว่าหนุ่มสาวขึ้นจริง และสรุปว่า มันช่วยให้รูปโฉมของผิวพรรณหรือหน้าตาเปลี่ยนไป ทำให้มีภาพลักษณ์ แห่งตนดีขึ้น หากแต่ถึงจะมีประวัติในเรื่องความปลอดภัยมาดี แต่มันก็อาจทำให้เสพติดได้
(ไทยรัฐ พุธที่ 27 ก.ย. 2549 http://www.thairath.co.th)
สหกรณ์ครูเฮสมัครสมาชิก ช.พ.ค.ได้
นายบำเหน็จ ทิพย์อักษร รองเลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมสวัสดิการและสวัสดิภาพครูและบุคลากรทางการศึกษา (สกสค.) เปิดเผยว่า ตามที่สำนักงาน สกสค. ได้เปิดให้มีการรับสมัครสมาชิกการฌาปนกิจสงเคราะห์ ช่วยเพื่อนครูและบุคลากรทางการศึกษา (ช.พ.ค.) และสมาชิกการฌาปนกิจสงเคราะห์ช่วยเพื่อนครูและบุคลากรทางการศึกษาในกรณีที่คู่สมรสถึงแก่กรรม (ช.พ.ส.) เป็นกรณีพิเศษ เพื่อเป็นการเฉลิมฉลองเนื่องในปีมหามงคลที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงครองสิริราชสมบัติครบ 60 ปีนั้น จากการตรวจสอบตัวเลขผู้มาสมัครเป็นสมาชิก ช.พ.ค. และช.พ.ส.ล่าสุดพบว่า มีผู้ให้ความสนใจมาสมัครในขณะนี้แล้วจำนวน 8,000 คน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นกลุ่มคณาจารย์ เจ้าหน้าที่ และบุคลากรทางการศึกษาในมหาวิทยาลัย โดยเฉพาะมหาวิทยาลัยรามคำแหงนั้นมีผู้สมัครมากที่สุด และทางมหาวิทยาลัยเองก็ได้สนับสนุนออกเงินค่าสมัครและค่าสงเคราะห์ศพแรกเข้าเป็นสมาชิก 5,100 บาทให้ก่อน แล้วค่อยผ่อนกับมหาวิทยาลัยในภายหลัง
รูปแบบการให้บุคลากรของมหาวิทยาลัยรามคำแหงสามารถผ่อนชำระเงินค่าสมัครเป็นสมาชิก และค่าสงเคราะห์ศพแรกเข้าเป็นสมาชิกได้นั้น ถือเป็นรูปแบบที่ดี ซึ่ง สกสค.คิดว่าน่าจะสามารถนำมาปรับใช้กับผู้ที่จะเข้ามาสมัครเป็นสมาชิก ช.พ.ค. และ ช.พ.ส.ได้ โดย สกสค.จะศึกษารายละเอียดในเรื่องนี้ หากมีช่องทางจะนำเสนอต่อคณะกรรมการ ช.พ.ค. และ ช.พ.ส.เพื่อพิจารณาต่อไป รองเลขาธิการ สกสค. กล่าวและว่า มีเสียงสะท้อนเข้ามายังสำนักงาน สกสค.เป็นจำนวนมาก ที่ต้องการให้สำนักงาน สกสค. เปิดรับสมาชิก ช.พ.ค. และช.พ.ส.แก่ผู้ที่มีอายุเกินกว่า 55 ปีขึ้นไป ซึ่งสำนักงาน สกสค.กำลังศึกษารายละเอียดอยู่ นอกจากนี้คณะกรรมการ ช.พ.ค.ได้เห็นชอบให้เจ้าหน้าที่และบุคลากรของสหกรณ์ออมทรัพย์ครูทั่วประเทศ สามารถเข้ามาสมัครเป็นสมาชิก ช.พ.ค.ได้.
(ไทยรัฐ พุธที่ 27 ก.ย. 2549 http://www.thairath.co.th)
สุขุมวิทโกลาหลปิดจราจร1ต.ค. ซ.83-101/1ทำรถไฟฟ้านาน30เดือน
นายอิสรา สุนทรวัฒน์ โฆษกกรุงเทพมหานคร (กทม.) กล่าวว่า ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคมนี้ เป็นต้นไป กทม.จะปิดการจราจรบนถนนสุขุมวิทขาออก 1 ช่องทาง ชิดเกาะกลางถนน จากสถานีรถไฟฟ้าอ่อนนุช-ซอยสุขุมวิท 107 ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อเตรียมพื้นที่ก่อสร้างรถไฟฟ้าระบบมวลชนกรุงเทพ ในส่วนต่อขยายสุขุมวิทตอน 1 โดยมีรายละเอียดดังนี้
ช่วงที่ 1 ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม จะปิดช่องทางจราจรบนถนนสุขุมวิทขาออก ชิดเกาะกลาง 1 ช่องทาง ตั้งแต่บริเวณซอยสุขุมวิท 83 ถึงซอยสุขุมวิท 101/1 (วชิรธรรมสาธิต)
ช่วงที่ 2 จะปิดการจราจรฝั่งขาออก 1 ช่องทาง บริเวณซอยสุขุมวิท 101/1 ถึงแยกบางนา เริ่มวันที่ 1 พฤศจิกายน
ส่วนช่วงที่ 3 บริเวณแยกบางนา ถึงซอยสุขุมวิท 107 เริ่มวันที่ 1 มีนาคม
ระยะเวลาดำเนินการ 30 เดือน กำหนดเริ่มก่อสร้างประมาณเดือนสิงหาคม 2549 หลังจากนั้น กทม.จะจัดจ้างติดตั้งระบบเดินรถและทดสอบระบบ คาดว่าจะเปิดให้บริการแก่ประชาชนได้บางส่วนในปี 2551
ส่วนผลจากการปิดเส้นทางในช่วงดังกล่าว ทำให้การจราจรติดขัด ขอให้ผู้ขับขี่และประชาชนผู้ใช้เส้นทางเลี่ยงการเดินทางผ่านถนนสุขุมวิทขาออก ไปใช้เส้นทางเลี่ยง 4 เส้นทางหลัก ดังต่อไปนี้
1.ใช้ถนนเรียบทางรถไฟสายเก่าจากสุขุมวิท 50 ผ่านโรงกลั่นน้ำมันบางจาก ตัดถนนสรรพาวุธ ไปถึงจุดตัดถนนปู่เจ้าสมิงพราย แล้วเลี้ยวเข้าบรรจบถนนสุขุมวิท บริเวณสามแยกปู่เจ้าสมิงพราย
2.ใช้เส้นทางสุขุมวิท 77 (ซ.อ่อนนุช) จากนั้นเลี้ยวเข้าถนนศรีนครินทร์ แล้ววิ่งเข้าสู่ถนนเทพารักษ์ เพื่อไปบรรจบกับถนนสุขุมวิท บริเวณสามแยกเทพารักษ์
3.หลีกเลี่ยงโดยใช้ทางด่วนเพื่อไปลงถนนบางนา-ตราด จากนั้นกลับรถเพื่อเลี้ยวเข้าสู่ถนนศรีนครินทร์ แล้ววิ่งเข้าสู่ถนนเทพารักษ์ เพื่อไปบรรจบกับถนนสุขุมวิท บริเวณสามแยกเทพารักษ์
4.หลีกเลี่ยงโดยใช้เส้นทางวงแหวนอุตสาหกรรม ซึ่งเริ่มต้นจากถนนพระราม 3 จากนั้นวิ่งข้ามแม่น้ำเจ้าพระยา เพื่อเข้าสู่ถนนปู่เจ้าสมิงพราย มาบรรจบถนนสุขุมวิท บริเวณสามแยกปู่เจ้าสมิงพราย ซึ่งปัจจุบันได้เปิดใช้ทดลองใช้เมื่อวันที่ 20 กันยายน 2549 แล้ว
(คมชัดลึก พุธที่ 27 ก.ย. 2549 http://www.komchadleuk.net)
ตำรวจเชียงใหม่ไฮเทค ใช้ระบบ"จีพีเอส"ล่าคนร้าย
พ.ต.อ.ชำนาญ รวดเร็ว รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดเชียงใหม่ เปิดเผยว่า สั่งให้เจ้าหน้าที่นำรถยนต์สายตรวจไปติดตั้งกล้องทีวีวงจรปิดและเครื่องจับสัญญาณจีพีเอส เพื่อใช้บันทึกภาพสถานที่เกิดเหตุ รวมทั้งใช้จับสัญญาณตำแหน่งการทำงานของเจ้าหน้าที่สายตรวจผ่านระบบดาวเทียม เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานและติดตามจับกุมคนร้าย โดยภาพจะปรากฏบนหน้าจอทีวีขนาดใหญ่ในห้องศูนย์ควบคุมอิเล็กทรอนิกส์ กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดเชียงใหม่ รวมทั้งติดตั้งสัญญาณระบบจีพีเอสในรถจักรยานยนต์สายตรวจ ทำให้สามารถรู้ตำแหน่งการทำงานของเจ้าหน้าที่สายตรวจ
หากเกิดคดีอาชญากรรมขึ้น สายตรวจที่อยู่ใกล้จุดเกิดเหตุ สามารถเข้าไประงับเหตุหรือจับกุมคนร้ายได้ทันท่วงที หากคนร้ายขับรถหลบหนีไปตามเส้นทางต่างๆ ในตัวเมืองเชียงใหม่ รถตำรวจที่ไล่ติดตาม สามารถส่งข้อมูลให้กับทางศูนย์ฯ เพื่อที่จะสกัดจับได้เร็วขึ้น โดยใช้ภาพจากกล้องวงจรปิด และสัญญาณระบบจีพีเอส รวมทั้งกล้องทีวีวงจรปิดที่ติดไว้ตามถนนสายสำคัญ และสถานที่ต่างๆ ในตัวเมืองเชียงใหม่ อีกกว่า 10 จุด
ทั้งนี้ เชื่อว่าระบบติดตามคนร้ายแบบใหม่จะช่วยทำให้การทำงานของตำรวจสะดวกรวดเร็วยิ่งขึ้น และลดปัญหาอาชญากรรมลงได้ รวมทั้งสามารถบันทึกภาพถ่ายไว้เป็นหลักฐานสำคัญใช้มัดตัวคนร้ายได้อีกด้วย
(มติชน พฤหัสบดีที่ 28 ก.ย. 2549 http://www.matichon.co.th)
ปิดตำนานดอนเมือง วัดดวง"สุวรรณภูมิ"
ประชาชนจำนวนมากทั้งชาวไทยและต่างประเทศ ต่างพากันไปถ่ายรูปท่าอากาศยานกรุงเทพ หรือสนามบินดอนเมืองไว้เป็นที่ระลึก พร้อมเขียนคำรำลึก เนื่องในวันสุดท้ายของการเปิดให้บริการก่อนจะปิดฉากลงอย่างเป็นทางการ กลายเป็นตำนานสนามบินนานาชาติที่เปิดใช้งานมานานถึง 92 ปี
ผู้สื่อข่าวรายงานเมื่อวันที่ 27 กันยายน ที่สนามบินดอนเมือง ในช่วงเช้ายังมีผู้โดยสารและนักท่องเที่ยวมาใช้บริการตามปกติ แม้จะมีจำนวนไม่มากนัก เพราะเป็นวันทำงาน รวมทั้งสายการบินหลายสายปรับตารางการบินและลดเที่ยวบิน ป้องกันเหตุฉุกละหุกในช่วงรอยต่อการขนย้ายอุปกรณ์ในคืนวันเดียวกัน หลายเคาน์เตอร์เช็คอินจึงเงียบเหงา
ขณะเดียวกันมีประชาชน รวมถึงพนักงานสายการบินต่างๆ และพนักงาน บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท. ร่วมบันทึกภาพเป็นที่ระลึก โดยหลังวันที่ 28 กันยายนเป็นต้นไป สนามบินดอนเมืองจะเปิดให้บริการเฉพาะเครื่องบินเช่าเหมาลำ และเครื่องบินราชการเท่านั้น ส่วนเที่ยวบินขนส่งสินค้า และผู้โดยสารทั้งในและต่างประเทศ จะไปใช้บริการที่สุวรรณภูมิทั้งหมด เริ่มตั้งแต่เวลา 03.00 น. ของวันที่ 28 กันยายนเป็นต้นไป สำหรับการบินในวันที่ 28 กันยายนี้ จะมีเที่ยวบินทั้งภายในและต่างประเทศ โดยสารขาเข้ามี 350 เที่ยว ขาออก 315 เที่ยวรวมเป็น 665 เที่ยวบิน
จากการสอบถามความเห็นของนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติหลายคน ส่วนใหญ่บอกตรงกันว่า สิ่งที่นักท่องเที่ยวนึกถึงสนามบินดอนเมืองคือ ความสะดวกสบาย ค่าใช้จ่ายถูก เมื่อเทียบกับท่าอากาศยานอื่นๆทั่วโลก และสิ่งที่นักท่องเที่ยวคาดหวังกับการเปิดใช้ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ คือได้รับความสะดวกมากยิ่งขึ้น และค่าบริการต่างๆที่มีราคาถูกเหมือนสนามบินดอนเมือง
ขณะที่บรรยากาศทั่วไปที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิก่อนเปิดใช้เชิงพาณิชย์อย่างเต็มรูปแบบ ในวันที่ 28 กันยายน ยังคงมีการให้บริการตามปกติและมีผู้โดยสารเดินทางมาใช้บริการคึกคัก ส่วนใหญ่เป็นการเดินทางในประเทศและประเทศใกล้เคียง เช่น สิงคโปร์ เวียดนาม มาเก๊า โตเกียว
นายโชติศักดิ์ อาสภวิริยะ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บมจ.ทอท. กล่าวว่า ได้สั่งตั้งศูนย์ปฏิบัติการพร้อมรับมือกับเหตุฉุกเฉินในทุกระบบทั้งเช็กอิน ไฟฟ้า คอมพิวเตอร์ สื่อสารของท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ รับมือปัญหาฉุกเฉิน แต่จุดที่เป็นห่วงคือ ความไม่คุ้นเคยของเจ้าหน้าที่ แต่เชื่อว่าไม่มีปัญหา
(แนวหน้า พฤหัสบดีที่ 28 ก.ย. 2549 http://www.naewna.com)
จวก 30 บาทเงินไม่พอ อัด สธ เลิกทำเป็นเถ้าแก่
ศ.อัมมาร สยามวาลา นักวิจัยเกียรติคุณจากสถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทยหรือทีดีอาร์ไอ กล่าวในงานเสวนาเรื่องก้าวต่อไปการปฏิรูปหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ว่า ก้าวต่อไปของโครงการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติต้องเพิ่มเติมใน 2 องค์ประกอบ คือ 1 การเพิ่มงบประมาณให้เพียงพอกับความเป็นจริง ขณะเดียวกันทางกระทรวงสาธารณสุข (สธ) ก็ต้องทำหน้าที่ในการให้ข้อมูลตามเป็นจริง โดยใช้ข้อมูลทางสถิติ และแยกงบจากโครงการ 30 บาทรักษาทุกโรคออกมาจากงบประมาณกลาง
ปัญหาใหญ่ในเวลานี้ไม่ได้อยู่ที่สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) แต่อยู่ที่ สธ นพ.สงวน นิตยารัมภ์พงษ์ เลขาธิการ สปสช. ด่าผมว่าเป็นแผ่นเสียงตกร่อง เพราะผมพูดเสมอว่าโครงการนี้เงินไม่พอ ซึ่ง พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี สัญญาว่าจะให้งบประมาณ แต่ก็นำไปรวมงบไว้ที่งบกลาง ต่อคิวรอกันไป เพราะ พ.ต.ท.ทักษิณมองว่า แม้จะเพิ่มงบให้ความนิยมในพรรคการเมืองก็ไม่เพิ่มขึ้น สู้เอางบไปจัดสรรโครงการใหม่ๆ เช่น บ้านเอื้ออาทร ฯลฯ ที่เพิ่มคะแนนเสียงให้ดีกว่า ในที่สุด เงินก็ไม่พอ แต่ตอนนี้ สปสช.ก็ยอมโดนหลอกปีแล้วปีเล่า พอต้นปี นพ.สงวนก็บอกว่าได้รับงบจากรัฐบาลแล้ว แต่ตอนปลายปีก็บอกว่าได้รับงบประมาณจากรัฐ ไม่ครบ ศ.อัมมารกล่าวและว่า ข้อเสนอที่ 2 คือบทบาทของ สธ ต้องปรับจากการพยายามทำตัวเป็นเถ้าแก่โรงพยาบาล แล้วต้องผ่องถ่ายอำนาจการบริหารออกจาก สธ โดยอาจจะโอนไปเป็นองค์อิสระ หรือท้องถิ่น
(ไทยรัฐ ศุกร์ที่ 29 ก.ย. 2549 http://www.thairath.co.th)
ที่ประชุม คปค. รับทราบมติ ครม.เดิม ถวายพระราชสามัญญนาม
ที่หอประชุมกองทัพบก พล.ท.พลางกูร กล้าหาญ โฆษกคณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข (คปค.) แถลงผลการประชุมคณะปฏิรูปฯ ซึ่งมีพล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน หัวหน้าคณะปฏิรูปฯเป็นประธาน ว่า ที่ประชุมเห็นชอบตามที่กระทรวงวัฒนธรรมเสนอว่าในวโรกาสทรงครองสิริราชสมบัติครบ 60 ปี พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงมีพระปรีชาญาณล้ำเลิศทำนุบำรุงและมีพระราชดำริที่เกี่ยวกับการอนุรักษ์สืบทอด ฟื้นฟูวัฒนธรรมไทยในด้านต่าง ๆ ทั้งนี้ ที่ประชุมรับทราบตามมติคณะรัฐมนตรีเดิมถวายพระราชสามัญญานาม องค์เอกอัจฉริยะอุปถัมภกมรดกไทย พร้อมทั้งให้กระทรวงวัฒนธรรมจัดทำหนังสือร่างกราบบังคมทูลและการจัดทำหนังสือ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวกับการอนุรักษ์ มรดกไทย เพื่อทูลเกล้าฯถวายในวันที่ 5 ธ.ค. 2549 สำหรับงบประมาณในการจัดทำหนังสือให้ประสานสำนักงบประมาณเพื่อดำเนินการต่อไป
(เดลินิวส์ ศุกร์ที่ 29 ก.ย. 2549 http://www.dailynews.co.th)
ส้วมอนามัย
กรมอนามัยฝากประชาสัมพันธ์เวบไซต์โครงการพัฒนาส้วมสาธารณะไทย ซึ่งบรรจุเนื้อหาเกี่ยวกับผลการสำรวจสถานการณ์ส้วมสาธารณะทั้ง 11 แห่ง
แผนที่สถานีบริการน้ำมันเชื้อเพลิง ที่ส้วมสะอาดได้มาตรฐานของกรมอนามัย ข้อมูลโครงการสายสืบส้วม การลงนามความร่วมมือระหว่างหน่วยงานต่างๆ กับกรมอนามัย เพื่อพัฒนาส้วมสาธารณะ การประกวดสุดยอดส้วมแห่งปี 2549 การประกวดเรียงความ การประกวดออกแบบส้วมที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม
http://toiletsan.anamai.moph.go.th/main ยังนำเสนอการจัดประชุมส้วมโลก ที่ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพ ซึ่งจะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 16-18 พฤศจิกายนนี้ ณ ศูนย์การประชุมและแสดงสินค้าอิมแพ็ค เมืองทองธานี ภายในงานประกอบด้วยเวทีวิชาการ บอร์ดนิทรรศการและงานแสดงสินค้าด้านสุขภัณฑ์ ที่เปิดโอกาสให้คนไทยได้สัมผัสเทคโนโลยีหรือความก้าวหน้าของสุขภัณฑ์จากนานาประเทศ เช่น ส้วมเคลือบสารนาโนจึงไร้ปัญหาเรื่องกลิ่นรบกวน สุขภัณฑ์รุ่นประหยัดน้ำ สุขภัณฑ์ที่ทำความสะอาดตัวเองได้อัตนมัติ เป็นต้น
เวบข้างต้นยังเชื่อมกับ www.worldtoiletexpo.com ซึ่งเป็นเวบภาษาอังกฤษที่นำเสนอเกี่ยวกับการประชุมส้วมโลกโดยเฉพาะ ทั้งตารางการประชุม หัวข้อ วิทยากรผู้บรรยายพร้อมประวัติ เพื่ออำนวยความสะดวกให้ผู้สนใจร่วมประชุมจากต่างประเทศ อย่างไรก็ตาม เนื้อหาในส่วนของการประชุมส้วมโลกยังไม่มาก แต่คาดว่าเมื่อถึงช่วงเวลาใกล้วันงาน ข้อมูลในเวบจะเพิ่มขึ้น มีความหลากหลายและทันสมัยยิ่งขึ้น
(คมช้ดลึก ศุกร์ที่ 29 ก.ย. 2549 http://www.komchadleuk.net)
KMUTT
Digital Library
Contact Digital Library : info@lib.kmutt.ac.th
Tel : 0-2470-8215
|
|
|