หัวข้อข่าวปีที่ 7 ฉบับที่ 41 ประจำวันที่ 2006-10-09

ข่าวการศึกษา

สพฐ.มุ่งมั่นจัดทดสอบ 3 ช่วงสั้น
ขานรับ 'วิจิตร' หัวขบวนปฏิรูปศึกษา
ประชุม 'ครูโลก' ประกาศปฏิญญาศึกษา
จัดทัพเดินหน้าปฏิรูปศึกษา งานด่วน!"วิจิตร ศรีสอ้าน"
สอศ. ปิ๊งตั้งศูนย์วิทยุในสถานศึกษา เผยแพร่ความรู้-วิชาชีพ สู่ชุมชน
มก.สร้างห้องสมุดสมุนไพร
ศธ.ชูบทบาทการศึกษาสร้างสมานฉันท์

"วิจิตร"ยํ้าพร้อมหนุนต่อถ้ามหา'ลัยยังอยากออกนอกระบบ
จุฬาฯ ติดอันดับ ม.โลก 2 ปีซ้อน

ข่าววิทยาศาสตร์/เทคโนโลยี

เปิดสนามเฟ้นหาทีมนักเตะโรบอท ‘50
ไมโครซอฟท์เปิดตัวคีย์บอร์ดไฮเทคชาร์จไฟได้
บช.น.จัดโครงการ"สายลับ ดิจิตอล"
'ไบโอเทค' เดินหน้าดันไทยศูนย์กลางธุรกิจชีวภาพ
พี่ยุ่นทำลายสถิติตัวเอง ท่องค่าพายแสนตัวใน 16 ชม.
ซีเกทเปิดโม่แข้งฟุตบอลหุ่นยนต์ คัดหาสุดยอดฝีมือปัญญาประดิษฐ์แข่งเวทีโลก
รมว.ไอซีทีเดินหน้านโยบายแปรรูปหน่วยงานในสังกัด
รมต.นักวิทย์ กับภารกิจกำจัดจุดอ่อนวิทยาศาสตร์ไทย
ขานรับ "ยงยุทธ" นั่งรมว.อยากได้นักวิทย์อยู่ในรัฐบาล
พบคอมพ์ล่องหน-หุ่นยนต์ เปิดเวทีคอมมาร์ตโชว์นวัตกรรมไอทีล้ำยุค
รมว.วิทย์ฯเผยนำวิทยาศาสตร์หนุนปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง
พัฒนาหุ่นยนต์ 'ไอ้แมลงวัน' ออกศึกบินไปสอดแนมศัตรูในแนวรบ
พระเทพฯ ตรัสจำเป็นต้องพัฒนาวิทยาศาสตร์-เทคโนโลยีเป็นเครื่องมือแก้วิกฤติ
ดีแทคจับระบบสื่อสารไร้สายใส่รถเช่าสุดหรูลิมูซีนเอ็กซ์เพรส

ข่าววิจัย/พัฒนา

2 นักแปรรูปผลผลิตเกษตร คว้า “นักเทคโนโลยีดีเด่น 49”
เครื่องวัดแอลกอฮอล์ในลมหายใจคว้า 2 รางวัลนวัตกรรมอุดมศึกษา 49
ออสซี่พัฒนาสมองกลสื่อสารกับมนุษย์
นักวิจัยสแตนฟอร์ดคว้าโนเบลเคมี
ปัญญาประดิษฐ์จ้อได้ไม่ผิดมนุษย์
ไทยสร้าง'แขนกล'เชิงพาณิชย์
วิศวะคอมพ์ มอ.คว้า"เสนอผลงานดีเด่น"
ออกแบบระบบกดตู้เงินเอทีเอ็ม ป้องกันสอดรู้สอดเห็นได้เด็ดขาด
หุ่นยนต์ประสาทสัมผัสไวเหมือนหนวดแมว
‘นวัตกรรมเพื่อชีวิตเมือง คมนาคม’
สหรัฐพัฒนาซอฟต์แวร์ติดตามข่าวทั่วโลก
พบวิธีสร้างเต้านมใหม่ดึงผิว-ไขมันหน้าท้อง
เตือนหญิงดื่มโคล่าเสี่ยงกระดูกพรุน
ชาติเอเชียจะต้องรับกรรมหนัก การเปลี่ยนแปลงดินฟ้าอากาศ
นักวิจัยไทยคิดแผ่นตรวจยาต้านเอดส์
อาร์เอฟไอดีงานวิจัยที่ใช้จริง เก็บข้อมูลสัตว์ขจัดข้อมูลหาย
เอชพีเปิดตัวพรินเตอร์ใหม่ชูนวัตกรรมไฮเทค
ศซ.วางเป้า 5 ปี ผลิตแสงซินโครตรอนคุณภาพ ก่อสร้างอาคารรองรับเพียบ
เจลนาโนสมานแผลหยุดเลือดชะงัด

ข่าวทั่วไป

วิธีเอาตัวรอดเมื่อเครื่องบินตก
คพ.ชี้สุวรรณภูมิเสียงดังเกินมาตรฐาน
โปรดเกล้าฯครม.ชุดใหม่แล้ว!"หม่อมอุ๋ย"นั่งคลัง-"อารีย์"คุมมท.ตามคาด
ฟันสวยงาม
ในหลวงมีพระบรมราชานุญาตให้ผันน้ำเข้าที่ดินส่วนพระองค์ สกัดน้ำท่วมกรุงเทพฯ
ชี้"รอยเลื่อนตะนาวศรี"ขยับ เขย่าประจวบฯ-ระวังไหวซ้ำอีก!
อย.จับตาผลเสียผลิตภัณฑ์นาโนเทคหลังสินค้าหลายชนิดแห่ประโคมผลดีเทคโนโลยีจิ๋ว





ข่าวการศึกษา


สพฐ.มุ่งมั่นจัดทดสอบ 3 ช่วงสั้น

ดร.ชินภัทร ภูมิรัตน รักษาการเลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.) กล่าวถึงกรณีที่สถาบันทดสอบทางการศึกษาแห่งชาติ (สทศ.) ระบุว่าไม่พร้อมที่จะจัดทดสอบมาตรฐานของนักเรียนช่วงชั้นที่ 1–3 หรือ ระดับ ป.3 ป.6 และ ม.3 โดยจะให้สำนักทดสอบทางการศึกษาของสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) เป็นผู้ดำเนินการไปก่อนในปี 2549 ว่า สทศ.เป็นหน่วยงานที่เพิ่งจัดตั้งขึ้นมาใหม่ อีกทั้ง ศ.ดร.อุทุมพร จามรมาน ก็เพิ่งเข้ารับตำแหน่ง ผอ.สทศ. ซึ่งเท่าที่ทราบในปีแรก ทาง สทศ.จะให้ความสำคัญกับการจัดสอบแบบทดสอบทางการศึกษาแห่งชาติขั้นพื้นฐาน (O-NET) สำหรับนักเรียนในช่วงชั้นที่ 4 หรือระดับ ม.6 เป็นหลักก่อน ส่วนในช่วงชั้นที่ 1-3 ทางสพฐ.คงจะมีการประสานไปยัง สทศ.อีกครั้ง ถ้าหากในปีการศึกษา 2549 สทศ.ไม่พร้อมจัดสอบจริง ๆ ทาง สพฐ.ก็ยินดีจะเป็นผู้ดำเนินการจัดสอบในช่วงชั้นที่ 1-3 เอง เนื่องจากเห็นว่ามีความจำเป็นที่จะต้องจัดทดสอบ เพื่อให้ได้ข้อมูลสำหรับการพัฒนาคุณภาพการศึกษาอย่างต่อเนื่อง ดร.ชินภัทร กล่าวต่อไปว่า การจัดทดสอบในช่วงชั้นที่ 1-3 จะครอบคลุมนักเรียนทุกคนหรือไม่ก็จะต้องศึกษารายละเอียดอีกครั้งว่าจุดมุ่งหมายในการทดสอบทำเพื่ออะไร ซึ่งหากเป็นการทำเพื่อติดตามคุณภาพก็จะใช้หลักการทางสถิติ โดยอาจจะใช้กลุ่มตัวอย่างของโรงเรียน แต่ก็ยังไม่ใช่ข้อสรุป ซึ่งคงจะต้องหาวิธีการที่ดีที่สุดและสอดคล้องกับจุดมุ่งหมายในการดำเนินการต่อไป อย่างไรก็ตามหากจะทดสอบมาตรฐานภายในปีการศึกษา 2549 สพฐ.คงจะต้องเร่งเตรียมดำเนินการภายในเดือนตุลาคมนี้ เพื่อให้สามารถจัดสอบได้ทันภายในเดือนมกราคม 2550 สำหรับงบประมาณนั้นคาดว่าต้องใช้สูงถึง 100 ล้านบาท ซึ่งเรื่องดังกล่าวคงต้องนำเสนอให้ รมว.ศึกษาธิการ คนใหม่ พิจารณาก่อน หากได้รับความเห็นชอบก็จะเดินหน้าจัดการทดสอบได้ทันที (เดลินิวส์ จันทร์ที่ 9 ต.ค. 2549 http://www.dailynews.co.th)





ขานรับ 'วิจิตร' หัวขบวนปฏิรูปศึกษา

คุณหญิงกษมา วรวรรณ ณ อยุธยา ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ กล่าวว่า ศ.ดร.วิจิตรก็มีความเหมาะสมในตำแหน่ง รมวกระทรวงศึกษาธิการเป็นอย่างยิ่ง เพราะทั้งโครงสร้างและแนวทางการดำเนินงานของกระทรวงศึกษาธิการ ก็เป็นไปตามที่คณะกรรมการบริหารสำนักงานปฏิรูปการศึกษา (สปศ.) ที่มี ศ.ดร.วิจิตร เป็นประธานกำหนดไว้ เมื่อได้ดำเนินการมาได้ระยะหนึ่งจะเห็นว่าอะไรที่เป็นไปได้ดี และอะไรที่เป็นจุดอ่อน ดังนั้นเมื่อ ศ.ดร.วิจิตรมาเป็นรมว.ศึกษาธิการ จะได้ทบทวน และทำให้เข้มแข็งยิ่งขึ้น ส่วนที่มีการเสนอให้แยกสำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา (สกอ.) เป็นกระทรวงการอุดมศึกษาและการวิจัยนั้น ขึ้นอยู่กับ รมว. ศึกษาธิการคนใหม่ ซึ่งกระทรวงศึกษาธิการจะสรุปเรื่องสำคัญๆ อาทิ การเลื่อนวิทยฐานะให้แก่ครู การเพิ่มงบเงินอุดหนุนค่าใช้จ่ายรายหัว การถ่ายโอนการศึกษา เสนอ ต่อ รมว.ศึกษาธิการคนใหม่ในสัปดาห์หน้า ศ.ดร.ปรัชญา เวสารัชช์ อธิการบดีมหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมราช (มสธ.) ในฐานะประธานที่ประชุมอธิการบดีแห่งประเทศไทย (ทปอ.) กล่าวว่า นับเป็นข่าวดี เพราะคนที่เหมาะสมกับตำแหน่ง รมว.ศึกษาธิการ ตอนนี้คงมีแต่ ศ.นพ.เกษม วัฒนชัย องคมนตรี กับ ศ.ดร.วิจิตร ศรีสอ้าน เท่านั้น ศ.ดร.วิจิตร เป็นผู้ที่ครบเครื่องรอบรู้ทั้งระดับประถม มัธยม โดยเฉพาะอุดมศึกษา และเป็นนักบริหารการศึกษามาตลอด ทั้งไม่เกี่ยวข้องกับการเมืองอีก เพราะลาออกจากพรรคประชาธิปัตย์มา 2 ปีแล้ว และที่ ศ.ดร.วิจิตร ให้สัมภาษณ์ว่าจะผลักดันงานปฏิรูปการศึกษาเป็นอันดับแรกนั้น น่าจะครอบคลุมงานการศึกษาครบทุกเรื่องอยู่แล้ว ทั้งโครงสร้าง นักเรียน ครู เทคโนโลยีสารสนเทศ และอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง โดยช่วงเวลา 1 ปีคงจะจัดวางระบบได้ อย่างไรก็ตาม งานปฏิรูปการศึกษาจะเดินหน้าให้เกิดผลทางปฏิบัติได้มากน้อยแค่ไหน คงอยู่ที่คนปฏิบัติอย่างข้าราชการในกระทรวงศึกษาธิการ เพราะหากไม่เห็นด้วย แม้จะไม่ต่อต้านชัดเจนแต่ก็อาจทำให้งานล่าช้า ดร.ชินภัทร ภูมิรัตน รองเลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.) ในฐานะรักษาการเลขาธิการ กพฐ. กล่าวว่า ศ.ดร.วิจิตร เป็นผู้มีความรอบรู้อย่างลึกซึ้งในเจตนารมณ์ของการปฏิรูปการศึกษา รวมทั้งมีประสบการณ์ทางการบริหาร ซึ่งจะทำให้การปฏิรูปการศึกษาเดินหน้าไปได้ เพราะในเรื่องการศึกษานั้น หากยึดข้อกฎหมายเกินไปจนปฏิบัติไม่ได้ ก็จะเกิดช่องว่างในการทำงานได้ และเชื่อว่า ศ.ดร.วิจิตรจะทำให้เกิดความเป็นน้ำหนึ่งใจ เดียวกันของคนในกระทรวงศึกษาธิการ (ไทยรัฐ จันทร์ที่ 9 ต.ค. 2549 http://www.thairath.co.th)





ประชุม 'ครูโลก' ประกาศปฏิญญาศึกษา

ผศ.ดร.นำยุทธ สงค์ธนาพิทักษ์ อธิการบดีมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี เปิดเผยว่า ในการประชุมสมัชชาการศึกษานานาชาติแห่งประเทศไทย ครั้งที่ 2 เนื่องในโอกาสวันครูโลกเรื่อง “การศึกษาและการฝึกอบรมในโลกที่เปลี่ยนแปลง เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชฯ” ในวโรกาสทรงครองสิริราชสมบัติครบ 60 ปี ที่ผ่านมา ที่ประชุมมีมติร่วมกันทำคำประกาศภายใต้ปฏิญญาการประชุมสมัชชาการศึกษาแห่งประเทศไทย ที่นักการศึกษามีบทบาทสำคัญต่อโลกการเปลี่ยนแปลง โดยมีสาระสำคัญคือ จะมุ่งมั่นสร้างเสริมสมรรถนะและศักยภาพของตน ประสานสัมพันธ์กันพัฒนาวิถีการเรียนรู้ รวมใจกันเป็นหนึ่ง สร้างเสริมศักดิ์ศรี และศรัทธาต่อวิชาชีพ จะระดมปัญญา สร้างพลังความสามารถ เพื่อเสนอนวัตกรรมใหม่ทางการศึกษา จะเป็นเครือข่ายที่โยงใยกัน ผลักดันการปฏิรูปการศึกษา นำสู่การปฏิบัติที่มีประสิทธิภาพ ทั้งจะสร้างประชาคมวิชาการให้การศึกษาเป็นฐานของการพัฒนาประเทศ ตั้งมั่นในจรรยาบรรณของวิชาชีพ มีคุณธรรมและจริยธรรมอันดีงาม เพื่อเป็นแบบอย่างที่ดีแก่บุคคลทั่วไป (ไทยรัฐ จันทร์ที่ 9 ต.ค. 2549 http://www.thairath.co.th)





จัดทัพเดินหน้าปฏิรูปศึกษา งานด่วน!"วิจิตร ศรีสอ้าน"

"การปฏิรูปการศึกษาเป็นเรื่องใหญ่ รู้ว่าเป็นงานหนักและเหนื่อย แต่ก็ขอเหนื่อยเพื่อชาติ บ้านเมือง เพื่อตอบแทนบ้านเมือง แม้จะเหนื่อยและหนักก็ต้องทำ เพราะเรื่องการศึกษาอยู่ในอาชีพของผม" คำมั่นจากปาก "ศ.ดร.วิจิตร ศรีสอ้าน" ว่าที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการคนใหม่ ที่มาพร้อมกับความคาดหวังของสังคมไทยค่อนข้างสูงว่า "เขา" คนนี้นี่แหละจะมาช่วยขับเคลื่อนงานปฏิรูปการศึกษาชาติ ในช่วงเปลี่ยนถ่ายอำนาจให้สามารถก้าวเดินหน้าต่อไปได้ ด้วย 7 ปีหลังจากประเทศไทยมี พ.ร.บ.การศึกษาแห่งชาติ 2542 เป็นกฎหมาย "แม่บท" ในการถักทองานการศึกษาชาติให้เป็นปึกแผ่นนั้น ทว่าในทางปฏิบัติกลับประสบอุปสรรคปัญหานานัปการ และเกิดผลกระทบต่อภาพรวมการพัฒนาศึกษาชาติอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ เด็กไทยไอคิวต่ำกว่า 80 เด็กไทยเห่อบริโภคนิยม เด็กไทยไร้คุณธรรม จริยธรรม ฯลฯ นี่คือโจทย์ที่ท้าทายความสามารถ "นักการศึกษามือทอง" คนนี้ไม่ใช่น้อย งานแต่งตั้งผู้บริหารซี 10-11จะยึดระบบอาวุโส มีความรู้ ความสามารถ หรือเด็กฝากไม่ต้องเก่งนักขอให้เดินตามนโยบายก็พอ ไม่เพียงเท่านั้น การจัดทัพผู้บริหารซี 9-8 ทั้งในส่วนกลางและในเขตพื้นที่การศึกษาทั้ง 175 เขต รวมถึงการจัดวางตำแหน่งผู้บริหารโรงเรียน ก็สำคัญไม่ยิ่งหย่อนไปกว่าการวางระบบการบริหารจัดการในส่วนกลาง ด้วยบุคลากรเหล่านี้คือกลไกสำคัญในการนำนโยบายการศึกษาชาติสู่การปฏิบัติ นั่นเอง จะทำอย่างไรกับกระแสขอแยก กระทรวงการอุดมศึกษาและวิจัย ขอตั้ง ทบวงการศึกษาขั้นพื้นฐาน โดยแยกการบริหารงานการมัธยมศึกษา การประถมศึกษาและการศึกษาพิเศษ ออกจากกันอย่างชัดเจน เพื่อให้การจัดการศึกษาด้านมัธยมศึกษาที่ถูกละเลยมา 5-6ปี ได้รับการดูแลเอาใจใส่อย่างใกล้ชิด รวมถึงกระแสขอตั้ง ทบวงอาชีวศึกษา เรียนฟรี 12 ปี จะเดินหน้าต่อไป โดยรัฐยอมรับต้นทุนค่าใช้จ่ายจริงในการจัดการศึกษาขั้นพื้นฐาน หรือจะลอยตัวค่าเทอมเพื่อเปิดช่องให้โรงเรียนเรียกเก็บเงินจากผู้ปกครองได้เต็มที่ ที่สำคัญ ศ.ดร.วิจิตร เป็นผู้จัดทำแผนการศึกษาแห่งชาติ ร่วมร่าง พ.ร.บ.การศึกษาแห่งชาติ พ.ศ.2542 ในฐานะประธานคณะกรรมการบริหารสำนักงานปฏิรูปการศึกษา (สปศ.) (คมชัดลึก อังคารที่ 10 ต.ค. 2549 http://www.komchadluek.net/)





สอศ. ปิ๊งตั้งศูนย์วิทยุในสถานศึกษา เผยแพร่ความรู้-วิชาชีพ สู่ชุมชน

นางศรีวิการ์ เมฆธวัชชัยกุล รองเลขาธิการคณะกรรมการการอาชีวศึกษา เปิดเผยว่า สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (สอศ.) มีความมุ่งมั่นที่จะให้เกิดการปฏิรูปการจัดการเรียนการสอนด้านวิชาชีพ เพื่อสนองตอบความต้องประชาชนที่หลากหลาย โดยดำเนินการปรับวิธีเรียน เปลี่ยนวิธีสอนและปฏิรูปวิธีสอบ เปิดโอกาสให้นักศึกษาและครู-อาจารย์ บูรณาการองค์ความรู้ที่มีอยู่เดิม นำมาดำเนินการให้เกิดเครือข่ายวิทยุกระจายเสียงอาชีวศึกษาเพื่อชุมชนและท้องถิ่นขึ้น อาทิ นำความรู้ด้านไฟฟ้า อิเล็กทรอนิกส์ และเทคโนโลยีสารสนเทศ มาร่วมกันสร้างอุปกรณ์สื่อกระจายเสียง ที่สามารถสื่อกระจายเสียงได้ในระบบ FM.107.3 MHz. ในรัศมีโดยรอบสถานศึกษา เพื่อนำไปใช้เป็นช่องทางการสื่อสารระหว่างนักศึกษา ครู-อาจารย์ และชุมชน โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเผยแพร่ความรู้และพัฒนาวิชาชีพให้กับประชาชน เกิดการเรียนรู้ตลอดชีวิต นอกจากนี้ยังเป็นศูนย์รับแจ้งเหตุภัยพิบัติต่างๆ อาทิ อุทกภัย อัคคีภัย สามารถแจ้งเหตุ เตือนภัยและประสานความช่วยเหลือไปยังหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้องและยังเป็นเครือข่ายในการแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสารระหว่างสถานศึกษาด้วยกัน และระหว่างองค์กรส่วนกลางกับสถานศึกษา ส่งผลทำให้เกิดสถาบันอาชีวศึกษาที่มีความเข้มแข็งและเป็นองค์กรแห่งการเรียนรู้วิชาชีพสมบูรณ์แบบ นางศรีวิการ์กล่าวต่อว่า เพื่อให้การดำเนินการดังกล่าวสำเร็จตามวัตถุประสงค์ สอศ. จึงได้เตรียมการจัดการอบรมสัมมนาการเตรียมการจัดตั้งศูนย์พัฒนาการอาชีวศึกษา (วิชาชีพ) ทางสื่อกระจายเสียง โดยเชิญครู อาจารย์จากสถานศึกษาที่มีความพร้อมกว่า 100 แห่งทั่วประเทศ เข้ารับการอบรมในเร็วๆ นี้ คาดว่าจะสามารถจัดตั้งศูนย์วิทยุกระจายเสียงอาชีวศึกษาในสถานศึกษาทั่วประเทศในปีนี้ (มติชน อังคารที่ 10 ต.ค. 2549 http://www.matichon.co.th)





มก.สร้างห้องสมุดสมุนไพร

ดร.จักร แสงมา หนึ่งในหน่วยปฏิบัติการวิจัยเคมีสารสนเทศ ภาควิชาเคมี คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ (มก.) กล่าวว่า มก.สร้างห้องสมุดเสมือนสารในสมุนไพร เพื่อเป็นคลังข้อมูลที่นำไปใช้ในการพัฒนายารักษาโรคโดยวิธีเคมีคอมพิวเตอร์ และยังเป็นฐานข้อมูลในการอ้างอิงด้าน ภูมิปัญญาการรักษาโรคแผนไทย ปัจจุบันฐานข้อมูลโครงสร้างสารออกฤทธิ์จากสมุนไพรไทยกว่า 9 หมื่นโครงสร้าง ตั้งเป้าให้ได้สารทั้งหมดที่ถูกค้นพบในสมุนไพรไทยภายใน 3 ปี เข้าใช้ฐานข้อมูลได้ที่ http://chemiebase.ku.ac.th, www.stkc.go.th หรือโทร.0-2942-8900 ต่อ 433 (คมชัดลึก พฤหัสบดีที่ 12 ต.ค. 2549 http://www.komchadleuk.net)





ศธ.ชูบทบาทการศึกษาสร้างสมานฉันท์

ศ.ดร.วิจิตร ศรีสอ้าน รมว.ศึกษาธิการ เปิดเผยภายหลังการประชุมผู้บริหารระดับสูงของกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) เมื่อวันที่ 11 ต.ค.ว่า ตนได้รับทราบข้อเสนอเชิงนโยบายจากผู้บริหารทั้ง 5 องค์กรหลัก และผู้บริหารหน่วยงานในกำกับของ ศธ. โดยจะนำมาประมวล สังเคราะห์และยกร่างเป็นนโยบายการปฏิรูปการศึกษาของ ศธ. เพื่อเสนอต่อรัฐบาลในสัปดาห์หน้า พร้อมทั้งได้ย้ำเป็นเชิงนโยบายกับผู้บริหาร ศธ.ว่า ให้รับนโยบายของ พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรี ซึ่งได้ให้นโยบาย 4 ป. คือ โปร่งใส เป็นธรรม ประหยัด ประสิทธิภาพและบูรณาการกับกระทรวงต่างๆ ส่วนการศึกษาจะยึดแนวทางการปฏิรูปการศึกษาตาม พ.ร.บ.การศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. 2542 แก้ไขเพิ่มเติม พ.ศ. 2545 เป็นหลัก ส่วนเรื่องการแยกสำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา (สกอ.) ออกจาก ศธ.เป็นกระทรวงการอุดมศึกษาและการวิจัยนั้น ตนได้สอบถามในที่ประชุมแล้วเห็นว่าถ้ามีความจำเป็นจะต้องปรับปรุงโครงสร้างองค์กรก็ค่อยทำในภายหลัง ขอทำเรื่องอื่นก่อน เพราะจะเอาเกวียนนำหน้าม้าได้อย่างไร ในเมื่อม้าต้องลากเกวียน ส่วนนโยบายของรัฐบาลก่อนที่จะนำมหาวิทยาลัยทั้งหมดให้เป็นมหาวิทยาลัยในกำกับรัฐ ภายในปี 2550 นั้น ศ.ดร.วิจิตรกล่าวว่า หากมหาวิทยาลัยยืนยันที่จะออกนอกระบบ ศธ.ก็จะถือเป็นนโยบายหลัก เพราะเข้ากับนโยบายกระจายอำนาจ ซึ่งเป็นนโยบายหลักของรัฐบาลชุดนี้ ส่วนกรณีที่มีผู้ท้วงติงว่าหากมหาวิทยาลัยออกนอกระบบราชการแล้ว ค่าเล่าเรียนจะเพิ่มสูงขึ้นนั้น ตราบใดที่รัฐบาลมีโครงการเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษาที่เพียงพอ และคนจนได้โอกาสเหมือนกับคนรวยก็ไม่น่าจะมีปัญหา และรัฐบาลนี้ก็ยืนยันให้มีเงินกู้ยืมเรียนต่อไป. (ไทยรัฐ พฤหัสบดีที่ 12 ต.ค. 2549 http://www.thairath.co.th)













"วิจิตร"ยํ้าพร้อมหนุนต่อถ้ามหา'ลัยยังอยากออกนอกระบบ

ศ.ดร.วิจิตร ศรีสอ้าน รมว.กระทรวงศึกษาธิการ(ศธ.)กล่าวถึงกรณีรัฐบาลชุดที่ผ่าน มามีนโยบายให้มหาวิทยาลัยทั้งหมดเป็นมหา วิทยาลัยในกำกับของรัฐ หรือออกนอกระบบราชการทั้งหมดภายในปี 2550 ว่า เรื่องนี้เป็นนโยบายที่หากยังเป็นความต้องการของมหาวิทยาลัย และมหาวิทยาลัยยังยืนยันที่จะออกนอกระบบราชการทางศธ.ก็จะรับเป็นนโยบายหลัก เพราะเข้ากับนโยบายกระจายอำนาจ ซึ่งเป็นนโยบายหลักของรัฐบาลชุดนี้อยู่แล้ว ส่วนกรณีที่มีผู้ท้วงติงว่าหากมหาวิทยาลัยออกนอกระบบราชการแล้วค่าเล่าเรียนจะเพิ่มสูงขึ้นนั้น ตนเป็นผู้ทำให้มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารีออกนอกระบบราชการ และตลอดระยะเวลา 16 ปี ก็ยังไม่เคยขึ้นค่าหน่วยกิตเลยในขณะที่มหาวิทยาลัยที่ไม่ได้อยู่นอกระบบกลับขึ้นค่าหน่วยกิต อย่างไรก็ตามตราบใดที่รัฐบาลมีโครงการเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษาที่เพียงพอ และคนจนได้โอกาสเหมือนกับคนรวยก็ไม่น่าจะมีปัญหา แม้แต่ในมหาวิทยาลัยเอกชนที่เก็บค่าเล่าเรียนสูงกว่ามหาวิทยาลัยของรัฐก็ยังมีคนเรียน ดังนั้นนโยบายสนับสนุนตัวผู้เรียนต้องมั่นคง แต่ถ้าเมื่อใดที่ไม่มีโครงการเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา คนจนจะถูกกระทบ ซึ่งนโยบายของรัฐบาลชุดนี้ยังยืนยัน ให้มีเรื่องเงินให้กู้ยืมเรียนต่อไป ดร.จิรณี ตันติรัตนวงศ์ รองเลขาธิการคณะกรรมการการอุดมศึกษา(กกอ.) รักษาการเลขาธิการ กกอ. กล่าวว่า สำหรับร่างพ.ร.บ. มหาวิทยาลัยในกำกับของรัฐที่ค้างการพิจารณาเมื่อ สมัยรัฐบาลที่ผ่านมามีจำนวน 20 ฉบับ โดยร่าง แต่ละฉบับจะอยู่ในขั้นตอนการดำเนินการต่าง ๆ ประกอบด้วย ร่างพ.ร.บ.มหาวิทยาลัยบูรพา ร่าง พ.ร.บ.มหาวิทยาลัยทักษิณ ร่างพ.ร.บ.มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ร่างพ.ร.บ.มหาวิทยาลัยมหาสารคาม และร่างพ.ร.บ.มหาวิทยาลัยขอนแก่น อยู่ใน ขั้นกรรมาธิการร่วมกันสองสภาพิจารณาเสร็จแล้ว ส่วนร่างพ.ร.บ.จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ร่าง พ.ร.บ.มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ร่างพ.ร.บ.มหา วิทยาลัยศิลปากร ร่างพ.ร.บ.มหาวิทยาลัยศรี นครินทรวิโรฒ ร่างพ.ร.บ.มหาวิทยาลัยอุบลราช ธานี ร่างพ.ร.บ.มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง ร่างพ.ร.บ. มหาวิทยาลัยมหิดล และ ร่างพ.ร.บ.มหาวิทยาลัยรามคำแหง อยู่ในขั้นกรรมาธิการของสภาผู้แทนราษฎร (เดลินิวส์ ศุกร์ที่ 13 ต.ค. 2549 http://www.dailynews.co.th)





จุฬาฯ ติดอันดับ ม.โลก 2 ปีซ้อน

รศ.ดร.วีระศักดิ์ อุดมกิจเดชา รองอธิการบดีฝ่ายวิชาการ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ให้สัมภาษณ์ว่า จากการจัดอันดับมหาวิทยาลัยชั้นนำของโลก 200 อันดับแรกของ The Times Higher ประจำปี 2549 ปรากฏว่า จุฬาฯ ได้รับการจัดให้อยู่ในอันดับที่ 161 ของโลก โดยมีมหาวิทยาลัยหลุดออกไปจากการจัดอันดับ 200 อันดับแรกในปีนี้ 24 แห่ง จากเดิมปี 2548 มีมหาวิทยาลัยหลุดออกไป 36 แห่ง ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงความอยู่ตัวของการจัดอันดับและความมีมาตรฐานระดับโลกของมหาวิทยาลัย "แม้จุฬาฯ เลื่อนจากอันดับที่ 121 เมื่อปี 2548 เป็นอันดับ 161 ในปีนี้ แต่คะแนนรวมของจุฬาฯ ในปีนี้เพิ่มขึ้นจาก 26.7 (ปีที่แล้ว) เป็น 31.2 ในปีนี้ ขณะที่มหาวิทยาลัยมิชิแกนสเตทของสหรัฐอเมริกาเมื่อปีที่แล้วอยู่อันดับเดียวกับจุฬาฯ คือ 121 ปีนี้ติดอันดับที่ 163 แสดงให้เห็นถึงความยากง่ายในการรักษาอันดับโลกนี้ได้ชัดเจนขึ้น" รศ.ดร.วีระศักดิ์ กล่าวและว่า แม้จุฬาฯ ติดอันดับ 161 ของโลก แต่ในอาเซียน จุฬาฯ ยังคงรักษาอันดับ 3 ไว้ได้เหมือนเดิม กล่าวคือเป็นรองจากมหาวิทยาลัยแห่งชาติสิงคโปร์ และมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีนันยาง สิงคโปร์ เท่านั้น รองอธิการบดี จุฬาฯ กล่าวต่อว่า หากวิเคราะห์ในรายละเอียดของการให้คะแนนแต่ละส่วน ในส่วนแรกคะแนนที่สำคัญที่สุดมีน้ำหนัก รวม 40% จาก peer review จุฬาฯ ยังได้ 33 เท่าเดิม ส่วนที่สองคือ ความพึงพอใจของผู้ใช้บัณฑิต ให้น้ำหนัก 10% ปีนี้จุฬาฯ ได้ 18 (ปีที่แล้วได้ 16) ส่วนของอาจารย์ต่างประเทศ มีน้ำหนัก 5% จุฬาฯ ได้ 9 (ปีที่แล้วได้ 11) และน้ำหนักอีก 5% สำหรับนิสิตต่างประเทศ จุฬาฯ ได้คะแนนเท่าเดิมคือ 1 ส่วนคุณภาพการเรียนการสอน น้ำหนัก 20% คือสัดส่วนอาจารย์ต่อนิสิต จุฬาฯ ได้ 33 (ปีที่แล้วได้ 12) สะท้อนมาตรฐานสากลที่กำกับการเรียนการสอนเป็นอย่างดี แสดงถึงการให้เวลาของอาจารย์แก่นิสิตที่ดีขึ้นมาก (คมชัดลึก ศุกร์ที่ 13 ต.ค. 2549 http://www.komchadleuk.net)





ข่าววิทยาศาสตร์/เทคโนโลยี


เปิดสนามเฟ้นหาทีมนักเตะโรบอท ‘50

นิสิต นักศึกษาระดับอาชีวศึกษาและอุดมศึกษา หรือสูงกว่า ที่มีความสามารถด้านการประดิษฐ์คิดค้นหุ่นยนต์ เชิญส่งผลงานเข้าร่วมการแข่งขัน “ฟุตบอลหุ่นยนต์ชิงแชมป์ประเทศไทย 2550” ด่วน! ตั้งแต่วันนี้ถึง 30 ต.ค. 49 โดย ผู้ชนะจะเป็นตัวแทนประเทศไทยเข้าร่วมการแข่งขัน “ฟุตบอลหุ่นยนต์ชิงแชมป์โลก(Robocup 2007)” ที่ประเทศสหรัฐอเมริกา จากการสนับสนุนของ บริษัทซีเกท เทคโน โลยี (ประเทศไทย) จำกัด, สมาคมวิชาการหุ่นยนต์ไทย และ ม.ศรีปทุม โดยการแข่งขันฟุตบอลหุ่นยนต์ชิงแชมป์ประเทศไทย 2550 เป็นการแข่งขันหุ่นยนต์อัตโนมัติสมบูรณ์แบบ ใช้เทคโนโลยีระดับสูงทั้งระบบการมองเห็น ระบบสื่อสารแบบไร้สาย และการประยุกต์ ใช้ปัญญาประดิษฐ์ (AI : Artificial Intelligent) โดยผู้สมัครแข่งขันต้องเป็นนิสิตนักศึกษาระดับอุดมศึกษา หรือสูงกว่า ทีมละไม่เกิน 3 คน และมีอาจารย์ที่ปรึกษา 1 ท่าน และแต่ละทีมสามารถมีทีมสนับสนุนได้ไม่เกิน 10 คน แบ่งการแข่งขันเป็น 2 รอบ รอบคัดเลือกคณะกรรมการจะพิจารณาจากวิดีโอการทำงานของหุ่นยนต์ ที่แต่ละทีมต้องประดิษฐ์ 1 ตัว ทำงานโดยใช้ระบบอัตโนมัติควบคุมไร้สาย และรับส่งสัญญาณภาพจากกล้องเพื่อทดสอบความสามารถ 20 ทีมที่มีคะแนนสูงสุด จะผ่านเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศ ซึ่งผู้แข่งขันต้องประดิษฐ์หุ่นยนต์เพื่อใช้ในการแข่งไม่เกิน 5 ตัว และลงสนามฟาดแข้งกับคู่แข่งครึ่งละ 10 นาที รวม 20 นาที เพื่อหาทีมที่ทำประตูได้สูงสุดเป็นตัวแทนไปแข่งที่อเมริกา (เดลินิวส์ จันทร์ที่ 9 ต.ค. 2549 http://www.dailynews.co.th)





ไมโครซอฟท์เปิดตัวคีย์บอร์ดไฮเทคชาร์จไฟได้

นายเบน ตัน ผู้อำนวยการภูมิภาค เอเชียตะวันออกเฉียงใต้และเกาหลี บริษัทไมโครซอฟท์ เอนเตอร์เทนเมนท์แอนด์ดี ไวซ์ ดิวิชั่น เปิดเผยว่า ไมโครซอฟท์มีผลิตภัณฑ์ฮาร์ดแวร์มานานแล้วแต่เพิ่งมุ่งเน้นใน 2-3 ปีที่ผ่านมา โดยแยกเป็นแผนกใหม่ และเริ่มขยายตลาดสู่เอเชีย แปซิฟิก ซึ่งรวมถึงในไทยด้วย สำหรับการเข้ามาทำตลาดฮาร์ดแวร์ในไทยนั้น มองจากการเติบโตของตลาดพีซีเป็นหลัก ซึ่งข้อมูลจากไอดีซีคาดว่าปีนี้ตลาดคอมพิวเตอร์ไทยจะเติบโตประมาณ 10% หรือประมาณ 1.1 ล้านเครื่อง ทั้งนี้ไมโครซอฟท์ได้ขยายฐานลูกค้าฮาร์ดแวร์ด้วยกลุ่มผลิตภัณฑ์ใหม่ 3 ประเภทซึ่งทำงานร่วมกับคอมพิวเตอร์ คือ อุปกรณ์นำเสนอ อุปกรณ์สำหรับเกมส์ และอุปกรณ์สื่อสารดิจิทัล โดยเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่เกือบ 10 รุ่น อาทิ เมาส์ Wireless Notebook Presenter Mouse 8000 ที่ทำได้ทั้งการนำเสนอ เป็นตัวชี้เลเซอร์ ตัวควบคุมสื่อ และเป็นเมาส์ที่แม่นยำ กล้องไลฟ์ แคม Microsoft LifeCam NX-6000 รุ่นแรกที่ออกแบบมาเพื่อโน้ตบุ๊กโดยเฉพาะ เป็นกล้องบันทึกภาพนิ่งที่มีความละเอียดสูงถึง 7.6 เมกะพิกเซล และคีย์บอร์ดไร้สาย Wireless Entertainment Desktop 8000 ซึ่งเป็นรุ่นแรกที่ชาร์จไฟได้และมีแสงในตัว รองรับ ระบบปฏิบัติการวินโดวส์ วิสต้า รวมทั้งเมาส์แนวนอนที่ชาร์จไฟได้รุ่นแรกของวงการคือ Wireless Laser Mouse 8000 ผลิตภัณฑ์ดังกล่าวจะทยอยวางจำหน่ายตั้งแต่เดือนตุลาคมนี้จนถึงมกราคมปีหน้า (เดลินิวส์ จันทร์ที่ 9 ต.ค. 2549 http://www.dailynews.co.th)





บช.น.จัดโครงการ"สายลับ ดิจิตอล"

พล.ต.ท.วิโรจน์ จันทรังษี ผบช.น. พร้อมข้าราชการระดับหัวหน้าสถานีทั่วกรุงเทพฯ และนายสมประสงค์ บุญยะชัย ประธานกรรมการบริหาร บ.แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) ได้ร่วมกันเปิดโครงการ “สายลับ ดิจิตอล” พ.ต.อ.พินิต มณีรัตน์ โฆษก บช.น. กล่าวถึงรายละเอียดโครงการดังกล่าวว่า ปัจจุบันประชาชนสามารถแจ้งข้อมูลเหตุด่วนเหตุร้าย ทางสายด่วน 191 ทั้งนี้ ผบช.น.เล็งเห็นความสำคัญของการพัฒนาเทคโนโลยีที่ทันสมัย น่าจะนำมาปรับปรุงใช้กับกิจการของตำรวจ โดยอาศัยความร่วมมือจากประชาชน ซึ่งบริษัทต่าง ๆ ได้มีการพัฒนาเทคโนโลยีโทรศัพท์มือถือให้สามารถถ่ายภาพหรือบันทึกเป็นวิดีโอคลิปได้ จึงเล็งเห็นช่องทางที่ประชาชนสามารถแจ้งเบาะแสเพิ่มเติมให้กับเจ้าหน้าที่ บช.น. จึงได้ร่วมมือกับ บริษัทแอดวานซ์ฯ หรือเอไอเอส จัดโครงการ “สายลับ ดิจิตอล” เพื่อเป็นช่องทางในการแจ้งเบาะแสเกี่ยวกับการกระทำผิดและข้อมูลต่าง ๆ ไม่ว่า จะเป็นด้านอาชญากรรมอบายมุข หรือปัญหาความเดือดร้อนของประชาชน นายสมประสงค์ เปิดเผยว่า เอไอเอส ได้มีการออกแบบและพัฒนาเทคโนโลยีการติดต่อสื่อสารผ่านข้อความมัลติมีเดีย หรือ MMS เพื่อเชื่อมต่อกับ WALL BOARD ของศูนย์วิทยุผ่านฟ้าเพื่อรองรับการรายงานและแจ้งเหตุมายังเจ้า หน้าที่ โดยประชาชนที่พบเห็นเหตุการณ์ต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นอุบัติเหตุ เหตุฉกชิงวิ่งราว ก็สามารถแจ้งด่วนเหตุร้ายได้ทันทีเพียงผู้ใช้บริการเอไอเอสที่พบเห็นเหตุการณ์ถ่ายถาพและส่งข้อมูลผ่าน MMS มายังหมายเลข 90062 โดยวิธีการ 2 วิธีดังนี้ 1.โทรฯ 191 แจ้งเหตุก่อน เพื่อขอรหัส (EVENT ID) เป็นหมายเลข 7 หลัก แล้วส่ง MMS หมายเลข 90062 เพื่อส่งภาพหรือวิดีโอคลิป 2.ส่งภาพ MMS หมายเลข 90062 โดยตรง พร้อมแทรกข้อความอธิบายภาพ ทั้งนี้ผู้ที่แจ้งเบาะแสเข้ามาแล้วเป็นประโยชน์ต่อทางราชการทำให้เจ้าหน้าที่สามารถดำเนินคดีกับ ผู้กระทำความผิดได้ จะได้รับการพิจารณาประกาศเกียรติคุณ และรางวัลพลเมืองดี ตามโครงการ “TOP COPS TOP PEOPLE หรือตำรวจเด่น พลเมืองดี” ของกองบัญชาการตำรวจนครบาล ที่มีอยู่ตามหลักเกณฑ์ที่กำหนดด้วย (เดลินิวส์ จันทร์ที่ 9 ต.ค. 2549 http://www.dailynews.co.th)





'ไบโอเทค' เดินหน้าดันไทยศูนย์กลางธุรกิจชีวภาพ

ศ.ดร.มรกต ตันติเจริญ ผอ.ศูนย์พันธุวิศวกรรมและเทคโนโลยีชีวภาพแห่งชาติ (ไบโอเทค) เปิดเผยว่า ขณะนี้ ไบโอเทค มีนโยบายด้านเทคโนโลยีชีวภาพ เพื่อชักชวนนักลงทุนให้เข้ามาร่วมลงทุนในประเทศไทย โดยจะมีการพัฒนาให้ไทยเป็นศูนย์กลางด้านการวิจัยพัฒนาเทคโนโลยีชีวภาพของภูมิภาค โดยตั้งเป้าหมายให้เกิดธุรกิจชีวภาพ แห่งใหม่ 100 บริษัท ซึ่งหนึ่งในมาตรการที่นำมารองรับเป้าหมายนี้ ได้แก่ การก่อตั้งอุทยานวิทยาศาสตร์แห่งชาติ ควบคู่กับมาตรการด้านภาษี รวมทั้งการผลักดันให้ประเทศไทยเป็นครัวของโลก อาทิ การวิจัยพัฒนาชุดตรวจวินิจฉัยโรคพืชและสัตว์ นอกจากนั้น จะการผลักดันให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางด้านสุขภาพ ตลอดจนการวิจัยพัฒนาเพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนในส่วนภูมิภาค อาทิ การวิจัยโรคเขตร้อนและสมุนไพรรักษาโรค การวิจัยพัฒนาเพื่อใช้ประโยชน์จากความหลากหลายทางชีวภาพของไทย อาทิ การนำภูมิปัญญาท้องถิ่นมาสร้างให้เกิดผลิตภัณฑ์เฉพาะถิ่นที่มีเอกลักษณ์เป็นของตัวเอง และการสร้างบุคลากรด้านการวิจัยพัฒนาให้ได้ 5,000 คน ในบริษัทไบโอเทคเกิดใหม่ 100 บริษัทที่ได้ตั้งเป้าหมายไว้ จะเป็นบุคลากรระดับผู้จัดการ ที่มีความสามารถทั้งทางด้านการวิจัยพัฒนาและการดำเนินธุรกิจ ซึ่งมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี และมหาวิทยาลัยมหิดล ได้ เริ่มทำแล้ว โดยส่งนักศึกษาระดับปริญญาโทเข้าไปทำงานจริงในโรงงาน เพื่อช่วยพัฒนาและแก้ปัญหาของโรงงานเพื่อ ให้เกิดกระบวนการผลิตใหม่ๆที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น (ไทยรัฐ จันทร์ที่ 9 ต.ค. 2549 http://www.thairath.co.th)





พี่ยุ่นทำลายสถิติตัวเอง ท่องค่าพายแสนตัวใน 16 ชม.

อากิระ ฮารากูชิ (Akira Haraguchi) ที่ปรึกษาด้านสุขภาพจิตวัย 60 ปี ทำลายสถิติตัวเองท่องเลขทศนิยมตำแหน่งแรกของค่าพาย (¶) ได้ 83,431 ตัวเมื่อปีที่แล้ว และทำลายสถิติอย่างเป็นทางการในกินเนสบุ๊กของฮิโรยูกิ โกโตะ จากญี่ปุ่นเช่นเดียว ที่เคยท่องค่าพายได้ 42,195 ตัวเมื่อปี 1995 เคต ไวท์ (Kate White) โฆษกของกินเนสบุ๊ก เวิลด์ เรกคอร์ด กล่าวว่า ฮารากูชิต้องเข้าไปบันทึกสถิติของตัวเองลงในเว็บไซต์กินเนส บุ๊ก พร้อมทั้งเทปวิดีโอและคำยืนยันจากสักขีพยาน เพื่อให้กินเนสบุ๊กตรวจสอบ ซึ่งหากหลักฐานต่างๆ ถูกต้อง แน่นอนว่า ฮารากูชิจะได้เป็นเจ้าของสถิติการท่องค่าพายคนใหม่ของโลกทันที ทั้งนี้ ค่าพาย คือ จำนวนจริงที่มีค่าเท่ากับอัตราส่วนของเส้นรอบวงกับเส้นผ่าศูนย์กลางของวงกลม จะมีค่าอยู่ระหว่าง 22/7 กับ 223/71 หรือถ้าเทียบเป็นทศนิยมจะมีค่าประมาณ 3.14159 และในปัจจุบัน การประมวลผลจากซูเปอร์คอมพิวเตอร์พบว่า ค่าพายสิ้นสุดลงที่ตำแหน่ง 2,075,932,542,102 ค่าพายยังมีความสำคัญในการช่วยคลี่คลายสมการทั้งหลายในวิทยาศาสตร์ อาทิ การอธิบายเกลียวคู่ของดีเอ็นเอ การเกิดรุ้งกินน้ำ ปรากฏการณ์น้ำกระเพื่อม การเกิดคลื่น เข็มทิศ เป็นต้น (ผู้จัดการ จันทร์ที่ 9 ต.ค. 2549 http://www.manager.co.th)





ซีเกทเปิดโม่แข้งฟุตบอลหุ่นยนต์ คัดหาสุดยอดฝีมือปัญญาประดิษฐ์แข่งเวทีโลก

บริษัท ซีเกท เทคโนโลยี (ประเทศไทย) จำกัด ร่วมกับสมาคมวิชาการหุ่นยนต์ไทยและคณะสารสนเทศศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีปทุม เปิดรับสมัครทีมฟุตบอลหุ่นยนต์ร่วมแข่งขันชิงแชมป์ฟุตบอล ประจำปี 2550 ทีมชนะเลิศจะได้เข้าร่วมการแข่งขันฟุตบอลหุ่นยนต์ชิงแชมป์โลก (Robocup 2007) ที่สหรัฐอเมริกา รศ.ดร.ประภาส จงสถิตวัฒนา นายกสมาคมวิชาการหุ่นยนต์ไทย กล่าวว่า การแข่งขันครั้งนี้ได้รับการสนับสนุนจากบริษัทซีเกท ซึ่งร่วมเป็นเจ้าภาพมาทุกปีตั้งแต่ปี 2545 มีเป้าหมายเพื่อพัฒนาศักยภาพของนิสิต นักศึกษา ให้ได้เรียนรู้และก้าวทันกับเทคโนโลยีหุ่นยนต์และระบบอัตโนมัติ ซึ่งจะมีบทบาทสำคัญ ทั้งด้านการศึกษาและด้านอุตสาหกรรม ที่กำลังมุ่งไปสู่การทำงานและการผลิตแบบอัตโนมัติมากยิ่งขึ้นในอนาคต สำหรับการแข่งขันจะแบ่งเป็น 2 รอบ คือ รอบคัดเลือก ซึ่งคณะกรรมการจะพิจารณาจากวิดีโอการทำงานของหุ่นยนต์ โดยผู้เข้าแข่งขันต้องประดิษฐ์หุ่นยนต์เตะฟุตบอล ทีมละ 1 ตัว ที่ทำงานใช้ระบบควบคุมอัตโนมัติแบบไร้สายและรับสัญญาณภาพจากกล้อง เพื่อทดสอบความสามารถของหุ่นยนต์ การแข่งขันรอบคัดเลือกทีมที่ได้คะแนนรวมสูงที่สุด 20 ทีมแรก จะได้เข้าไปแข่งขันในรอบชิงชนะเลิศ สำหรับกติกาในรอบชิงชนะเลิศนั้น ผู้เข้าแข่งขันจะต้องประดิษฐ์หุ่นยนต์เพื่อใช้ในการแข่งขันได้ไม่เกิน 5 ตัว เพื่อแข่งขันฟุตบอลหุ่นยนต์ มีระยะเวลาในการเตะฟุตบอล 20 นาที แบ่งเป็นครึ่งแรก 10 นาที และครึ่งหลัง 10 นาที ทีมที่ทำประตูได้มากกว่าจะเป็นผู้ชนะในการแข่งขันครั้งนี้ ทั้งนี้ บริษัทซีเกทได้สนับสนุนการจัดการแข่งขันและรางวัลสำหรับทีมหุ่นยนต์ในประเภทต่างๆ ได้แก่ รางวัลเงินสด 200,000 บาท สำหรับทีมชนะเลิศ และส่งเป็นตัวแทนประเทศไทยไปแข่งขันฟุตบอลหุ่นยนต์ชิงแชมป์โลก (Robocup 2007) ที่ประเทศสหรัฐอเมริกา ในปี 2550 รางวัลเงินสด 50,000 บาท สำหรับรางวัลรองชนะเลิศ รางวัลเงินสด 30,000 บาท สำหรับทีมเทคนิคยอดเยี่ยม ทีมที่ผ่านเข้ารอบสุดท้ายด้วยคะแนนสูงสุด 8 ทีมแรก จะได้รับเงินรางวัลทีมละ 20,000 บาท ในปีนี้มีการเพิ่มรางวัลขวัญใจประชาชน เพื่อให้ผู้ชมได้มีส่วนในการตัดสิน โดยทีมที่ได้รางวัลนี้จะได้รับรางวัลเงินสด 10,000 บาท ผู้สนใจสามารถสมัครเข้าร่วมการแข่งขันโดยการดาวน์โหลดใบสมัคร และดูกติการายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.trs.or.th และ http://robocup2007.spu.ac.th (คมชัดลึก อังคารที่ 10 ต.ค. 2549 http://www.komchadluek.net/)





รมว.ไอซีทีเดินหน้านโยบายแปรรูปหน่วยงานในสังกัด

นายสิทธิชัย โภไคยอุดม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ไอซีที) กล่าวหลังเดินทางถึงทำเนียบรัฐบาลเป็นคนแรกว่า จะยังคงเดินหน้านโยบายการแปรรูปรัฐวิสาหกิจในสังกัดกระทรวงไอซีทีต่อไป เนื่องจากขณะนี้บริษัทต่าง ๆ ก็แปรรูปเป็นบริษัทเอกชนแล้ว หากมีการกระจายหุ้นในตลาดหลักทรัพย์ก็จะทำให้เกิดประโยชน์ต่อตลาดหลักทรัพย์ของไทยโดยรวมด้วย แต่ทุกอย่างจะต้องดำเนินการด้วยความโปร่งใส เป็นธรรม โดยจะต้องกระจายหุ้นให้ถึงมือประชาชน และทุกกระบวนการจะต้องสามารถตรวจสอบได้ เนื่องจากนโยบายการทำงานของตนต้องการให้ทุกอย่างเป็นไปอย่างซื่อสัตย์และยุติธรรม สำหรับแนวทางการเดินหน้าโครงการสมาร์ทการ์ดของรัฐบาลชุดที่แล้ว ซึ่งมีหลายฝ่ายวิพากษ์วิจารณ์ว่า ยังไม่ถึงเวลาที่เหมาะสม นายสิทธิชัยกล่าวว่า หากดำเนินการอย่างรอบคอบ ถือเป็นโครงการที่มีประโยชน์อย่างมาก แต่ทุกขั้นตอนจะต้องเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและตรวจสอบได้ ส่วนโครงการคอมพิวเตอร์เอื้ออาทรและอินเทอร์เน็ตบรอดแบรนด์ จะยังคงเดินหน้าต่อไป เนื่องจากเห็นว่า ไม่ใช่โครงการที่ฟุ่มเฟือย แต่ในรายละเอียดต่าง ๆ จะต้องหารือกับปลัดกระทรวงไอซีทีอย่างละเอียดอีกครั้ง (คมชัดลึก อังคารที่ 10 ต.ค. 2549 http://www.komchadluek.net/)





รมต.นักวิทย์ กับภารกิจกำจัดจุดอ่อนวิทยาศาสตร์ไทย

“ศ.ดร.ยงยุทธ ยุทธวงศ์” รัฐมนตรีกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีคนล่าสุด ดีกรีเป็นถึงนักวิทยาศาสตร์ดีเด่นปี 2527 เชี่ยวชาญในสาขาชีวเคมี เคยผ่านประสบการณ์การบริหารองค์กรด้านวิทยาศาสตร์มาหลายสมัย เรียกว่าเป็นคนในวงการอย่างแท้จริง 1 ปี สำหรับการบริหารงานในกระทรวงฯ ศ.ดร.ยงยุทธ บอกถึงนโยบายการทำงานว่า เน้นการนำวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีมาสนับสนุนเศรษฐกิจพอเพียงและสร้างความสามารถของประเทศอย่างยั่งยืน โดยมีแนวทางหลัก 3 ด้านคือการสร้างคน สร้างระบบและคัดเลือกวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีที่เหมาะสม สำหรับโครงการที่จะทำให้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีลงไปถึงระดับรากแก้วได้นั้น ศ.ดร.ยงยุทธ ยกตัวอย่างว่า จะมีการนำผลการศึกษาและงานวิจัยจากศูนย์ศึกษาพัฒนาต่าง ๆ ตามโครงการในพระราชดำริที่มีอยู่ทั่วประเทศ ออกเผยแพร่สู่ประชาชน ซึ่งผลงานเหล่านี้ทางศูนย์ฯ มีอยู่แล้ว กระทรวงเพียงนำผลงานเหล่านี้มาแปลงให้เข้าใจง่าย ๆ และเผยแพร่สู่ประชาชนในระดับชุมชน ส่วนภารกิจเร่งด่วน รมต.คนใหม่บอกว่า เป็นการนำวิทยาศาสตร์และเทค โนโลยีเข้าไปช่วยแก้ปัญหาสถานการณ์น้ำท่วมในปัจจุบัน ซึ่งนอกจากจะมีการเสนอให้นำรถสื่อสาร ฉุกเฉิน EECV ของเนคเทคซึ่งใช้การสื่อสารไร้สายผ่านดาวเทียมเข้าไปช่วยสื่อสารในพื้นที่ประสบอุทกภัยแล้ว ที่สำคัญยังมีเรื่องของระบบข้อมูลที่สามารถดูได้แบบเรียลไทม์ โดยเชื่อมโยงระบบจีไอเอส และระบบภาพถ่ายดาวเทียม ของสำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและสารสนเทศ และสถาบันสารสนเทศทรัพยากรน้ำและการเกษตร ทำเป็นแผนที่ของอุทกภัย ดูได้ว่าสถานการณ์น้ำท่วมมีความร้ายแรงแค่ไหน และในส่วนไหนบ้าง (เดลินิวส์ พุธที่ 11 ต.ค. 2549 http://www.dailynews.co.th)





ขานรับ "ยงยุทธ" นั่งรมว.อยากได้นักวิทย์อยู่ในรัฐบาล

ศ.ดร.ยงยุทธ ยุทธวงศ์ รัฐมนตรีคนล่าสุดของกระวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ก่อนหน้านี้เป็นที่รู้จักกันดีในวงการว่า ดร.ยุงยุทธเป็นทั้งนักวิจัยที่เชี่ยวชาญในสาขาชีวเคมีและเป็นนักวิทยาศาสตร์ที่พยายามยกระดับวงการวิทยาศาสตร์ในบ้านเราให้ก้าวหน้า และแม้จะนั่งตำแหน่งผู้บริหารองค์กรสำคัญๆ ในด้านวิทยาศาสตร์มามากพอสมควรแล้ว ในตำแหน่งงานทางด้านการเมืองนั้นนับได้ว่าเป็นของใหม่อยู่ ซึ่งผู้บริหารหน่วยงานรวมถึงนักวิทยาศาสตร์ต่างๆ ก็ขานรับกับการที่นักวิทยาศาสตร์มาบริหารกระทรวงอย่างเต็มใจ ด้าน ดร.ศักดิ์สิทธิ์ ตรีเดช ปลัดกระทรวงวิทยาศาสตร์ฯ กล่าวถึงรัฐมนตรีคนใหม่ว่าเป็นสิ่งที่ดีสำหรับประชาคมวิทยาศาสตร์ที่ได้นักวิทยาศาสตร์มาทำงาน และ ดร.ยงยุทธก็เคยทำงานที่กระทรวงวิทยาศาสตร์และร่วมงานกันมาตลอด แสดงว่าท่านก็มีความเข้าใจวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เป็น “ลูกหม้อ” กระทรวงซึ่งนับเป็นเรื่องน่ายินดี แต่ทั้งนี้อดีตก็มีนักวิทยาศาสตร์ที่เข้ามารับตำแหน่งนี้บ้าง เช่น ดร.พิจิตร รัตตกุล และ ดร.กอปร กฤตยากีรณ ที่เข้ามาเป็นรัฐมนตรีช่วยฯ หรือ ศ.ดร.สง่า สรรพศรี ที่มีงานวิจัยหลากหลายก็เข้ามาเป็นรัฐมนตรี สำหรับความคาดหวังต่อรัฐมนตรีคนใหม่นั้น ดร.ศักดิ์สิทธิ์กล่าวว่าอยากให้ผลักดันงานด้านวิทยาศาสตร์ และอยากเห็นการเอาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีเป็นวาระแห่งชาติ อยากให้ให้ความสำคัญในด้านนี้เพราะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีสามารถเชื่อมได้กับทุกเรื่อง ไม่ว่าจะเป็นเศรษฐกิจ ขีดความสามารถในการพัฒนาประเทศ หรือแม้แต่วางพื้นฐานการพัฒนาประเทศ รวมทั้งแก้วิกฤตของประเทศ เช่น วิกฤติพลังงาน (ผู้จัดการ พุธที่ 11 ต.ค. 2549 http://www.manager.co.th)





พบคอมพ์ล่องหน-หุ่นยนต์ เปิดเวทีคอมมาร์ตโชว์นวัตกรรมไอทีล้ำยุค

งานแสดงนวัตกรรมด้านไอที "คอมมาร์ตฯ 2006" เออาร์ระดมโชว์เทคโนโลยีมาแรง ที่อำนวยความสะดวกสบายให้ชีวิต ทั้งพลังงานอนาคต หุ่นยนต์บันเทิงและคอมพิวเตอร์ พบกับร้านหนังสือซื้อขายผ่านชิพอัจฉริยะและคอมพ์ล่องหน นายปฐม อินทโรดม ผู้จัดการทั่วไปบริษัท เอ.อาร์. อินฟอร์เมชัน แอนด์ พับลิเคชัน จำกัด กล่าวถึงกิจกรรมงานแสดงเทคโนโลยีและนวัตกรรมด้านไอที หรือ "คอมมาร์ต คอมเทค ไทยแลนด์ 2006" ว่า เทคโนโลยีที่เน้นจัดแสดงภายในงานจะเป็นเทคโนโลยีที่กำลังได้รับความสนใจจากผู้บริโภค หรือกำลังมาแรงในปีนี้ต่อเนื่องถึงปีหน้า โดยแบ่งเป็น 10 โซนหลัก เช่น โซน คูล เทค (Cool Tech) เป็นเทคโนโลยีใหม่ที่สังคมให้ความสนใจ และคาดว่าจะเข้ามามีบทบาทในชีวิตประจำวันในอนาคต โซน คูล เกียร์ (Cool Gear) นำเสนอด้านเทคโนโลยีหุ่นยนต์ โดยจัดหุ่นยนต์บันเทิงชื่อ อาร์เอส-มีเดีย มาต้อนรับ หุ่นยนต์นี้จะรวบรวมความบันเทิงหลากหลายไว้ในตัว โดยผู้เยี่ยมชมสามารถใช้ดูภาพยนตร์ ฟังเพลงจากไฟล์ดิจิทัล แถมยังติดกล้องดิจิทัลสำหรับถ่ายรูปได้ด้วย หรือจะเล่นเกมจาวา รวมทั้งความสามารถในการเชื่อมต่อคอมพิวเตอร์พีซี หรือโน้ตบุ๊ค โซน คูล โซลูชั่น (Cool Solution) เกี่ยวกับเทคโนโลยีเครื่องคอมพิวเตอร์ เช่น เครื่องคอมพิวเตอร์ล่องหน ซึ่งจะฝังอยู่ภายในผนัง มีขนาดเท่ากำปั้น แต่ความจุมากถึง 2 กิกะเฮิรตซ์ เครื่องล่องหนนี้ทำงานผ่านเครื่องแม่ข่าย ภายในงานยังมีร้านหนังสือติดชิพอัจฉริยะ (อาร์เอฟไอดี) ที่สามารถซื้อขายผ่านระบบแบบไร้สาย ผู้เข้าชมงานสามารถซื้อขายหนังสือได้จริง โดยจะมีป้ายราคาซึ่งติดชิพอาร์เอฟไอดีแถมเป็นของที่ระลึก รถยนต์อัจฉริยะ หรือไอ-คาร์ ที่ติดตั้งชิพประสิทธิภาพสูงของอินเทล (คอร์ทูดูโอ) รวม 4 ตัว ทำให้ตอบสนองทั้งการทำงานและความบันเทิงขณะขับขี่ ไม่ว่าจะดูหนัง ฟังเพลง รับส่งอีเมล "คอมมาร์ตฯ 2006" กำหนดจัดขึ้นในวันที่ 2-5 พฤศจิกายน 2549 ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ (คมชัดลึก พฤหัสบดีที่ 12 ต.ค. 2549 http://www.komchadleuk.net)





รมว.วิทย์ฯเผยนำวิทยาศาสตร์หนุนปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง

วันที่ 11 ตุลาคม นายยงยุทธ ยุทธวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เดินทางเข้าทำงานที่กระทรวงฯ เป็นวันแรก โดยมีปลัดกระทรวงฯ และผู้บริหารจากหน่วยงานต่าง ๆ ของกระทรวงฯ ให้การต้อนรับ โดยได้สักการะพระบรมราชานุสาวรีย์พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 4 พระบิดาแห่งวิทยาศาสตร์ไทย จากนั้นเดินทางเข้าสักการะพระประจำ ที่ห้องทำงานชั้น 2 และวางพวงมาลัยสักการะพระบรมรูปรัชกาลที่ 4 ที่ชั้นที่ 4 และเวลา 09.30 น.ได้ประชุมผู้บริหารของกระทรวงฯ เพื่อมอบนโยบาย นายยงยุทธ กล่าวว่า งานที่จะทำในกระทรวงฯ จะสร้างคนให้เรียนรู้ตลอดชีวิต เน้นนำปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง โดยนำวิทยาศาสตร์เข้าไปสนับสนุน ตั้งแต่ระดับรากแก้ว จนถึงการสนับสนุนภาคเอกชน การผลิตและบริการ โดยจะมีมาตรการจูงใจในเรื่องภาษีและดอกเบี้ยต่ำสำหรับภาคเอกชนที่มีการพัฒนาวิธีการและเทคโนโลยีใหม่ ๆ ในองค์กร นอกจากนี้ จะเน้นให้วิทยาศาสตร์ของไทยผสมผสานกับภูมิปัญญาดั้งเดิมของไทย เพื่อให้ได้เป็นลักษณะพิเศษของประเทศไทย โดยจะมีการทำงานประสานร่วมกับกระทรวงศึกษาธิการ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และกระทรวงอุตสาหกรรมอย่างใกล้ชิด ส่วนเทคโนโลยีใหม่ ๆ ที่จะรับเข้ามาประชาชนจะต้องมีส่วนในการตัดสินใจ เช่น เทคโนโลยีชีวภาพ เทคโนโลยีสารสนเทศ ที่สามารถล่วงรู้ความลับของคนอื่น เป็นต้น (คมชัดลึก พฤหัสบดีที่ 12 ต.ค. 2549 http://www.komchadleuk.net)





พัฒนาหุ่นยนต์ 'ไอ้แมลงวัน' ออกศึกบินไปสอดแนมศัตรูในแนวรบ

นักวิทยาศาสตร์ทหารเมืองผู้ดีอังกฤษ ได้พัฒนาหุ่นยนต์แมลง สามารถปล่อยออกไปสืบหาตำแหน่งที่ตั้งของทหารข้าศึกได้ ดร.ราฟาล ไบคาวสกี ผู้เป็นแม่งาน ระบุว่า หุ่นยนต์แมลงวันตัวแรก จะสามารถบินได้ภายใน 10 ปีนี้ เขาสร้างตัวต้นแบบ สามารถกระพือปีกได้เร็ว ในอัตราเท่ากับแมลงวันที่บินร่อนอยู่ได้แล้ว ในการกล่าวแจ้งกับหนังสือพิมพ์รายวัน “เดอะ สกอตแมน” เขาแจ้งว่าแมลงวันหุ่นยนต์ สามารถจะส่งออกไปบินอยู่ในช่องแคบๆ ของช่องตึก ช่องบันได อุโมงค์ หรือตามถ้ำต่างๆ เพื่อค้นหาผู้ก่อการร้าย หรือผู้ประสบภัยธรรมชาติ อย่างแผ่นดินไหวได้ ในขณะที่ทางฝ่ายทหารสหรัฐฯ ซึ่งช่วยออกทุนวิจัยบางส่วน ก็สนใจจะใช้มันขนวัตถุระเบิดเล็กน้อยให้ติดตัวไป ซึ่งทำให้มันกลายเป็น “สมาร์ต บอมบ์” ให้ทำลายเป้าหมายเล็กๆ อย่างจำเพาะเจาะจง เช่น เครื่องคอมพิวเตอร์ โดยไม่ต้องทำลายทั้งอาคารได้. (ไทยรัฐ พฤหัสบดีที่ 12 ต.ค. 2549 http://www.thairath.co.th)





พระเทพฯ ตรัสจำเป็นต้องพัฒนาวิทยาศาสตร์-เทคโนโลยีเป็นเครื่องมือแก้วิกฤติ

สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินทรงเปิดการประชุมวิชาการ “วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทย ครั้งที่ 32” (วทท.32) ณ ศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ โดยมี ดร.ศักดิ์สิทธิ์ ตรีเดช ปลัดกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี รศ.คุณหญิงสุมณฑา พรหมบุญ นายกสมาคมวิทยาศาสตร์แห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ ศ.คุณหญิงสุชาดา กีระนันท์ อธิการบดีจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และผู้เกี่ยวข้องเฝ้ารับเสด็จฯ สมเด็จพระเทพฯ ทรงมีประราชดำรัสเปิดงานว่า วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีมีความสำคัญต่อการดำรงชีวิต เศรษฐกิจ และสังคมของมนุษย์เป็นอย่างยิ่ง ภาวะปัจจุบันที่ประชาชากรโลกเพิ่มขึ้น การใช้ทรัพยากรธรรมชาติก็เพิ่มขึ้นตามกัน เป็นเหตุให้เกิดปัญหาวิกฤตินานาประการ ดังที่ทราบกันดีอยู่แล้ว จึงจำเป็นที่เราจะต้องพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ให้สามารถใช้เป็นเครื่องมือแก้ไขปัญหาต่างๆ “การที่วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีจะเจริญก้าวหน้า ก็จะต้องช่วยกันสนับสนุนส่งเสริมนักวิทยาศาสตร์และนักเทคโนโลยีเป็นสำคัญ เพราะบุคคลเหล่านี้มีบทบาทโดยตรงในการคิดค้นวิทยาการใหม่ๆ การจัดการประชุมครั้งนี้เท่ากับเป็นการสนับสนุนการพัฒนาทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีทางหนึ่ง เนื่องจากมีผู้ทรงคุณวุฒิทุกสาขาจากหลายประเทศเข้าร่วมประชุม เป็นโอกาสดีที่ผู้เกี่ยวข้องด้านการพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีจะได้แลกเปลี่ยนความรู้และองค์ความรู้ใหม่ๆ อันจะสามารถนำไปใช้ประโยชน์ต่อไป” (ผู้จัดการ ศุกร์ที่ 13 ต.ค. 2549 http://www.manager.co.th)





ดีแทคจับระบบสื่อสารไร้สายใส่รถเช่าสุดหรูลิมูซีนเอ็กซ์เพรส

นายสันติ เมธาวิกุล รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายลูกค้า บมจ.โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น (ดีแทค) กล่าวว่า โซลูชั่นและบริการที่ดีแทคพัฒนาร่วมกับเอ็มเบส เทคโนโลยี สามารถแบ่งได้ออกเป็น 2 ส่วนโดยส่วนแรกเป็นการติดตั้งจุดเชื่อมต่อ (Access Point) ภายในตัวรถ เพื่อให้ผู้โดยสารสามารถเชื่อมต่อเครื่องโน้ตบุ๊ก หรือ พีดีเอ (PDA) เข้าสู่ระบบอินเทอร์เน็ตจากภายในรถในระหว่างการเดินทางได้ สำหรับส่วนที่ 2 จะเป็นบริการอนุมัติบัตรเครดิตไร้สายผ่านอุปกรณ์ที่เรียกว่า EDC (Electronic Data Capture) ซึ่งเอ็มเบส เทคโนโลยีเป็นผู้ติดตั้งอุปกรณ์พร้อมซิมการ์ดในรถ โดยการทำงานของเครื่องจะต้องอาศัยการสื่อสารระหว่างเครื่องรูดบัตรไร้สายที่ติดตั้งไว้ในรถ กับธนาคารผู้ให้บริการ (ผู้อนุมัติ) โดยผ่านเครือข่ายไร้สายความเร็วสูงของดีแทค เมื่อลูกค้าเดินทางถึงปลายทางแล้วรูดบัตรเครดิตเพื่อชำระค่าบริการ เครื่องจะส่งรหัสขออนุมัติผ่านซิมการ์ดที่วิ่งอยู่บนเครือข่ายของดีแทค ไปยังธนาคารปลายทาง เพื่อขออนุมัติ จากนั้นเครื่องจะออกใบเสร็จให้กับลูกค้าเพื่อยืนยันการชำระเงินหลังจากได้รับการยืนยันการอนุมัติจากธนาคาร ทั้งนี้ อุปกรณ์ดังกล่าวจะอาศัยอุปกรณ์ต่อพ่วงที่ใช้เชื่อมต่อ GPRS/ EDGE (GPRS router) ด้วยซิมการ์ดของดีแทคอยู่ภายใน หากเครื่องโน้ตบุ๊กของลูกค้ามีระบบไว-ไฟอยู่ภายในก็สามารถเปิดเครื่องพร้อมกรอกรหัสผ่านที่ได้รับจากจุดบริการเพื่อเชื่อมต่อเข้าสู่ระบบอินเทอร์เน็ตได้ทันที ส่วนเครื่องที่ไม่มีระบบไว-ไฟจะสามารถต่อเชื่อมเข้าสู่เครือข่ายได้ผ่านทางสายแลน (LAN) ที่อยู่ภายในรถ โดยการเข้าสู่ระบบ ซิมการ์ดของดีแทคจะทำหน้าที่เชื่อมต่อการใช้งานให้วิ่งอยู่บนเครือข่าย GPRS/EDGE ของดีแทคที่มีอยู่ทั่วประเทศ ซึ่งทำให้ลูกค้าต่างชาติที่เดินทางภายในประเทศไทย สามารถเช็กอีเมลและข้อมูลสำคัญได้ตลอดเส้นทาง โดยลักษณะการทำงานในรูปแบบนี้ โดยเฉพาะการท่องอินเทอร์เน็ต จะเป็นเพียงโครงการนำร่องในช่วงแรกเท่านั้น ซึ่งในอนาคตอันใกล้ทางเอ็มเบส เทคโนโลยีจะมีการพัฒนาให้การท่องอินเทอร์เน็ตสะดวกสบายมากขึ้น โดยไม่ต้องอาศัยจุดเชื่อมต่อ (Access Point) แต่อาศัยเพียง GPRS Router (EMBES EM911) เท่านั้น ก็สามารถต่ออินเทอร์เน็ตผ่านซิมดีแทคได้โดยตรง (คมชัดลึก ศุกร์ที่ 13 ต.ค. 2549 http://www.komchadleuk.net)





ข่าววิจัย/พัฒนา


2 นักแปรรูปผลผลิตเกษตร คว้า “นักเทคโนโลยีดีเด่น 49”

มูลนิธิส่งเสริมวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีในพระบรมราชูปถัมภ์ เปิดตัวผู้ได้รับรางวัลนักเทคโนโลยีดีเด่น และนักเทคโนโลยีรุ่นใหม่ ประจำปี 2549 ณ โรงแรมสยามซิตี โดยผู้ได้รับรางวัลจะเข้ารับพระราชทานถ้วยรางวัลจากสมเด็จพระรัตนราชสุดา สยามบรมราชกุมารี ในวันที่ 11 ต.ค.นี้ ดร.รุจ วัลยะเสวี หัวหน้าห้องปฏิบัติการเทคโนโลยีชีวภาพทางอาหาร ไบโอเทค กล่าวถึงผลงานที่ศึกษาว่าได้พัฒนาต้นเชื้อผลิต “แหนม” ซึ่งผลิตแหนมที่มีรสเปรี้ยวกลมกล่อมและมีรสหวานขึ้น โดยจุดเด่นของต้นเชื้อสำหรับผลิตแหนมของห้องปฏิบัติการคือ เชื้อสามารถเจริญเติบโตได้ในกระเทียม ทำให้ใส่กระเทียมในปริมาณที่มากขึ้นได้ และเปลี่ยน “ฟรุกแทน” (Fructan) ในกระเทียมซึ่งเป็นสารที่ไม่มีกลิ่นไม่มีรสให้มีรรสหวานมากขึ้น ทางด้าน รศ.ดร.ไสยวิชญ์ วรวินิต ผู้รับรางวัลนักเทคโนโลยีอีกคนกล่าวถึงผลงานที่ค้นคว้าว่า ได้พัฒนาแป้งข้าวบริสุทธิ์ (Rice starch) สำหรับใช้เป็นส่วนผสมในการเพิ่มปริมาณของเม็ดยา ซึ่งนับเป็นครั้งแรกในประเทศไทย และพบว่าเม็ดยาที่ผลิตได้นั้นให้ความแข็งของเม็ดยาสูง เม็ดยามีความกร่อนต่ำเมื่อตกแล้วแตกยาก แต่เมื่อละลายน้ำจะแตกตัวได้เร็วภายใน 30 วินาที ทั้งนี้ได้แรงบันดาลใจในการพัฒนาจากการที่ประเทศไทยส่งออกข้าวได้สูงสุด แต่กลับมีนักวิจัยที่พัฒนาเรื่องข้าวน้อยมาก ซึ่งมีประมาณ 10 คน เท่านั้น ในส่วนของรางวัลนักเทคโนโลยีดีเด่น ประจำปี 2549 ผู้ที่ได้รับรางวัลมี 2 คน คือ รศ.ดร.วิมลวรรณ พิมพ์พันธุ์ จากภาควิชาวัสดุศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ซึ่งพัฒนาและสังเคราะห์พลาสติกที่ย่อยสลายทางชีวภาพได้ จากผลิตเกษตร อาทิ แป้งมันสำปะหลัง และแป้งข้าวเหนียว เป็นต้น และ นายทะนงศักดิ์ มูลตรี จากภาควิชาเทคโนโลยีการอาหารและโภชนาศาสตร์ คณะเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยมหาสารคาม (ผู้จัดการ จันทร์ที่ 9 ต.ค. 2549 http://www.manager.co.th)





เครื่องวัดแอลกอฮอล์ในลมหายใจคว้า 2 รางวัลนวัตกรรมอุดมศึกษา 49

ประกาศผลและมอบรางวัลให้เป็นที่ชื่นใจกันไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว สำหรับการประกาศผลโครงการรางวัลนวัตกรรมแห่งประเทศไทย ประจำปี 2549 ระดับอุดมศึกษา ทั้ง 4 สาขา ในงานวันนวัตกรรมแห่งชาติ ประจำปี 2549 โดยสำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (สนช.) กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (วท.) ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ทั้งนี้ โครงงานวิทยาศาสตร์สร้างสรรค์ของเยาวชนระดับอุดมศึกษาที่เข้าร่วมการตัดสิน ถือเป็นผลงานที่ได้รับการคัดเลือกโดยสมาคมวิทยาศาสตร์แห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์มาก่อนหน้านี้แล้ว ซึ่งวันนี้จะเป็นการประกาศผลรางวัลชนะเลิศและรางวัลชมเชยในแต่ละสาขา รวม 4 สาขา คือ สาขาวิทยาศาสตร์กายภาพและชีวภาพ, สาขาวิศวกรรมศาสตร์และเทคโนโลยี, สาขาสร้างเสริมสุขภาพ และสาขาสื่อสารวิทยาศาสตร์ สาขาวิทยาศาสตร์กายภาพและชีวภาพ โครงงานที่ได้รับรางวัลชนะเลิศตกเป็นของ โครงงานแผ่นอะครีลิคทนแรงกระแทกสายพันธุ์ไทย ของ น.ส.อัชลี คำเครื่อง และนายภานุวัฒน์ ประเสริฐพงษ์ จากคณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏ บ้านสมเด็จเจ้าพระยา สาขาวิศวกรรมศาสตร์และเทคโนโลยี โครงงานที่ได้รับรางวัลชนะเลิศตกเป็นของโครงงานระบบป้องกันการโจรกรรมโทรศัพท์มือถือ ของนายวีรวิชญ์ เชาว์ชัยสิทธิ์ นายพีระพงษ์ พัวพันธ์ นายฉัตรชัย คุ้มคำ นายพิชาน์ มหากิตติคุณ และนายถาวร ลิ้มวัฒนาชัย จากคณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี สาขาสร้างเสริมสุขภาพ โครงงานที่ได้รับรางวัลชนะเลิศตกเป็นของโครงงานเครื่องวัดปริมาณแอลกอฮอล์ในลมหายใจ ของ น.ส.อนุศรา พุฒซ้อน และนายธตรฐ สิงคเสลิต คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยรังสิต และสาขาสื่อสารวิทยาศาสตร์ โครงงานที่ได้รางวัลชนะเลิศตกเป็นของผลงานเรื่องกิ๊ฟ (Give) ของนายชโลธร เผ่าพันธุ์แปลก มหาวิทยาลัยกรุงเทพ (ผู้จัดการ จันทร์ที่ 9 ต.ค. 2549 http://www.manager.co.th)





ออสซี่พัฒนาสมองกลสื่อสารกับมนุษย์

เดนิส เบิร์นแฮม ผู้อำนวยการห้องปฏิบัติการวิจัยโสตศึกษา มหาวิทยาลัยเวสเทิร์น ซิดนีย์ กล่าวว่า ทุกวันนี้คนใช้คีย์บอร์ดและเมาส์สำหรับสื่อสารกับคอมพิวเตอร์ แต่จริงๆ แล้วผู้ใช้คอมพิวเตอร์อยากได้คอมพิวเตอร์ที่สามารถเข้าใจถ่องแท้ว่า พวกเขากำลังทำอะไรอยู่ อยากได้อะไร และสามารถสื่อสารกับผู้ใช้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ และดูเป็นธรรมชาติ ทีมงานของ เบิร์นแฮม ได้รับเงินทุนจากสภาวิจัยออสเตรเลียและสภาวิจัยการแพทย์และสุขภาพแห่งชาติ มูลค่าถึง 100 ล้านบาท สำหรับพัฒนาศีรษะสมองกลที่มีความสามารถในการสนทนาแบบตัวต่อตัว เป็นระบบที่นำเทคโนโลยีจากหลายสาขาสร้างขึ้นทีมวิจัยเชื่อว่าศีรษะสมองกล ซึ่งคิดและพูดได้เองอัตโนมัติจะใช้งานได้จริงใน 10 ปีข้างหน้า เมื่อถือวันนั้นการสื่อสารระหว่างมนุษย์กับเครื่องคอมพิวเตอร์จะมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้นในสองประการ ประการแรกคือ เมื่อผู้ใช้สามารถเห็นการขยับปากและสีหน้าของศีรษะปัญญาประดิษฐ์จะช่วยให้คนเข้าใจว่าสมองกลอยากจะสื่อสารอะไรกับมนุษย์ ประการที่สอง ศีรษะสมองกลสามารถปรับรูปแบบการสื่อสารกับคนหลายประเภทได้โดยเรียกใช้ฐานข้อมูลที่ต่างกัน เช่น เลือกสำเนียง การออกเสียง การแสดงสีหน้า ศัพท์แสงที่เหมาะสมที่สุดสำหรับพูดคุยกับคู่สนทนา ศีรษะสมองกลจะติดตั้งกล้องวิดีโอโฟนเพื่อช่วยสืบค้นข้อมูลอัตโนมัติให้เด็กและคนหูหนวกหูตึงได้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น นอกจากนี้ ยังสามารถจดจำแต่ละคน และปรับบุคลิกให้เข้ากับคนที่สนทนาด้วย และอาจแสดงอารมณ์ตอบโต้ได้ด้วย เช่น เวลาที่คู่สนทนาด้วยเริ่มหัวเสียเพราะสมองกลไม่เข้าใจสิ่งที่พวกต้องการ มันจะเปลี่ยนใช้ระบบแสดงใบหน้าเห็นอกเห็นใจทันที นักวิจัยวางแผนพัฒนาสมองกลให้สามารถเรียนรู้เพิ่มเติมได้จากการพูดคุยกับคนแต่ละประเภท และพัฒนาระบบการสนทนาของตนเองให้ดีขึ้น สำหรับสมองกลต้นแบบนี้จะนำมาใช้กับตู้ให้บริการข้อมูลท่องเที่ยว เช่น ซื้อตั๋ว และให้คำแนะนำเกี่ยวกับการใช้ภาษา นอกจากนี้ ยังอาจนำมาใช้เป็นเพื่อนคุยส่วนตัวสำหรับคนชรา หรือคนพิการ แต่ในช่วงแรกคงเอามาใช้รับฟังปัญหาร้องเรียนเกี่ยวกับใบเรียกเก็งเงินและสอนภาษา (คมชัดลึก อังคารที่ 10 ต.ค. 2549 http://www.komchadluek.net/)





นักวิจัยสแตนฟอร์ดคว้าโนเบลเคมี

ราชบัณฑิตยสภาวิทยาศาสตร์ ประกาศมอบรางวัลโนเบลสาขาเคมีให้กับนักเคมีชาวอเมริกัน ที่สามารถแสดงภาพให้เห็นกระบวนการการคัดลอกดีเอ็นเอในระดับโมเลกุลของเซลล์ยูแคริโอต ซึ่งเป็นเซลล์ของกลุ่มสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมที่มีเยื่อหุ้มสารพันธุกรรม โดยมนุษย์จัดอยู่ในกลุ่มนี้ด้วย ศ.โรเจอร์ ดี คอร์นเบิร์ก จากมหาวิทยาลัยแพทย์เป็นนักเคมีอเมริกันคนล่าสุดที่ได้รับรางวัลโนเบลสาขาเคมีประจำปี 2549 จากการสร้างภาพที่ให้รายละเอียดกระบวนการคัดลอกดีเอ็นเอเต็มรูปแบบของเซลล์ยูแคริโอต ความเข้าใจในกระบวนการคัดลอกดีเอ็นเอมีความสำคัญต่อวงการแพทย์อย่างยิ่ง การคัดลอกดีเอ็นเอเป็นกระบวนการที่มีความสำคัญอย่างยิ่งต่อสิ่งมีชีวิต นักวิทยาศาสตร์พบว่า หากกระบวนการคัดลอกข้อมูลจากดีเอ็นเอถูกรบกวนอาจส่งผลให้เกิดโรคต่างๆ ในมนุษย์ เช่น โรคมะเร็ง โรคหัวใจ และภาวะอักเสบต่างๆ นอกจากนี้ ศักยภาพของเซลล์ต้นกำเนิด หรือสเต็มเซลล์ในการพัฒนาไปสู่เซลล์ชนิดใดชนิดหนึ่งโดยเฉพาะ โดยมีหน้าที่การทำงานที่ต่างกันในแต่ละอวัยวะล้วนมีความเกี่ยวโยงกับกระบวนควบคุมการคัดลอกดีเอ็นเอเช่นกัน ดังนั้น ความเข้าใจกระบวนการคัดลอกดีเอ็นเอที่มากขึ้นมีความสำคัญต่อการศึกษาหาเทคนิคนำสเต็มเซลล์มาใช้รักษาโรคโดยปริยาย (กรุงเทพธุรกิจ อังคารที่ 10 ต.ค. 2549 http://www.bangkokbiznews.com)





ปัญญาประดิษฐ์จ้อได้ไม่ผิดมนุษย์

โปรแกรมเมอร์ชาวอังกฤษ พัฒนา "ปัญญาประดิษฐ์" สามารถสนทนาตอบโต้กับคู่สนทนาได้เนียน จนคู่สนทนาแยกไม่ออกว่าคุยกับคนหรือคอมพิวเตอร์ คว้ารางวัลแข่งปัญญาประดิษฐ์สี่ล้านกว่าบาท รอลโล คาร์เพนเตอร์ นักธุรกิจชาวอังกฤษได้คิดค้นระบบปัญญาประดิษฐ์ ชื่อว่า "โจแอน" และส่งเข้าแข่งขันโครงการคอมพิวเตอร์คิดเหมือนมนุษย์ ซึ่งจะต้องผ่านการทดสอบสำคัญ ที่เรียกว่า "การทดสอบทัวริง" เพื่อดูว่า คอมพิวเตอร์สามารถสนทนาตอบโต้เรื่องยากๆ ได้หรือไม่ ในการทดสอบครั้งล่าสุดที่จัดขึ้นในมหาวิทยาลัยลอนดอน คณะกรรมการได้ "แชท" กับ "โจแอน" โดยพิมพ์ข้อความสนทนาตามปกติเหมือนแชทกับเพื่อนฝูงผ่านอินเทอร์เน็ต กับโปรแกรมที่เข้าประกวดทั้งหมด ก่อนที่จะลงความเห็นว่า "โจแอน" คือผู้ชนะ เป็นสมองกลที่เหมือนมนุษย์ที่สุด สำหรับเทคโนโลยีเบื้องหลังความสำเร็จนี้ มีชื่อว่า "แจบเบอร์แวคกี" ที่ออกแบบมาให้สั่งสมประสบการณ์จากที่บทสนทนาที่เคยโต้ตอบกับมนุษย์ และเก็บไว้ในคลังสำหรับดึงมาใช้สนทนาครั้งต่อไป ผู้สนใจสามารถทดลองเข้าไปแชทกับปัญญาประดิษฐ์ได้ที่ www.jabberwacky.com ขณะที่อนาคตอีกหลายปี หุ่นยนต์เหล่านี้จะนำไปใช้บริการแทนพนักงาน (กรุงเทพธุรกิจ อังคารที่ 10 ต.ค. 2549 http://www.bangkokbiznews.com)





ไทยสร้าง'แขนกล'เชิงพาณิชย์

นายกมล พงศ์พันธุ์ลาภ ผู้จัดการฝ่ายวิศวกรรม บริษัท นิวสมไทยมอเตอร์เวอร์ค จำกัด กล่าวว่า บริษัทร่วมกับบริษัทยูไนเต็ดเทคโนโลยี ฟอร์ อลิอันซ์ จำกัด และสถาบันวิทยาการหุ่นยนต์ภาคสนาม (ฟีโบ้) มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี ประดิษฐ์แขนกลภาคอุตสาหกรรม เพื่อทดแทนการนำเข้าเครื่องมือแขนกลที่บริการหลังการขายแพง และการใช้งานก็เข้าใจยาก เนื่องจากเป็นเมนูภาษาอังกฤษและญี่ปุ่น ต้นแบบเครื่องมือแขนกลที่พัฒนานี้ เป็นหุ่นยนต์ขนาด 6 แกน น้ำหนักประมาณ 200 กิโลกรัม มีลักษณะเด่นคือทำงานเร็ว เที่ยงตรงสูง ไม่สะดุด ทำงานได้ต่อเนื่องตลอด 24 ชั่วโมง และสามารถเปลี่ยนหัวเพื่อประยุกต์ใช้กับงานได้หลายประเภท เช่น งานพ่นสี งานเชื่อม ซึ่งถือเป็นงานที่เสี่ยงต่อแรงงานคนอย่างมากหากผู้ปฏิบัติไม่ระมัดระวัง โปรแกรมเป็นเมนูภาษาไทย ทำให้ง่ายต่อการนำไปใช้ยิ่งกว่าเครื่องนำเข้า ความคืบหน้าขณะนี้อยู่ในช่วงทดลองใช้งาน ควบคู่กับการปรับปรุงซอฟต์แวร์ ซึ่งคืบหน้าไปแล้วกว่า 60% คาดว่าน่าจะแล้วเสร็จในปีหน้า และราคาถูกกว่าเครื่องนำเข้า 30% ส่วนลูกค้าเป้าหมายคือโรงงานผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ในประเทศ "เครื่องมือแขนกลนี้ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของโรงงาน และเพิ่มความสามารถในการแข่งขัน ในบางโรงงานที่ทีมได้ศึกษาพบว่าเมื่อนำแขนกลมาใช้สามารถเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานได้สูงถึง 2 เท่า จึงถือได้ว่าโครงการนี้เป็นอีกก้าวหนึ่งของอุตสาหกรรมเมืองไทยที่จะพัฒนาไปสู่สากล" (กรุงเทพธุรกิจ อังคารที่ 10 ต.ค. 2549 http://www.bangkokbiznews.com)





วิศวะคอมพ์ มอ.คว้า"เสนอผลงานดีเด่น"

นายธรรมรัฏฐ์ สมิตะลัมพะ รองหัวหน้าภาควิชาวิศวกรรมคอมพิวเตอร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ (มอ.) เขตการศึกษาภูเก็ต เปิดเผยว่า ในการประกวดโครงการ Samart Innovation Awards 2006 จัดโดย บริษัท สามารถ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ที่ผ่านมา ภาควิชาวิศวกรรมคอมพิวเตอร์ได้ส่งนักศึกษาชั้นปีที่ 4 เข้าร่วมในโครงการ 3 คน ประกอบด้วย น.ส.ปนัดดา ทองแดง น.ส.จารุวรรณ สร้อยสน และนายภาคภูมิ ธีรสันติกุล โดยนำเสนอผลงานภายใต้ชื่อโครงการ "งบเท่าไหร่บอกมาพาเที่ยวไทย" ซึ่งได้รับรางวัลการนำเสนอผลงานดีเด่น จากการประกวดในประเภทที่ 3 ภายใต้หัวข้อ Innovation Application โดยเป็นหัวข้อที่ให้นักศึกษานำเสนอโปรแกรมบริการต่างๆ บนโทรศัพท์มือถือ จากการประกวดทั้งหมด 4 ประเภท ได้แก่ 1.เกมส์บนมือถือ 2.โปรแกรมที่สามารถให้มือถือใช้งานบนอินเตอร์เน็ตได้ 3.โปรแกรมบริการต่างๆ บนมือถือ และ 4.โปรแกรมการบริหารข้อมูลส่วนบุคคล นายอภิชาติ หีดนาคราม อาจารย์ประจำภาควิชาวิศวกรรมคอมพิวเตอร์ มอ.กล่าวว่า จุดเด่นของโปรแกรมการจัดงบฯนำเที่ยวบนมือถือ ผู้ใช้โทรศัพท์มือถือสามารถคีย์งบประมาณในการเที่ยวแต่ละครั้ง และส่งข้อมูลทางอินเตอร์ผ่านมือถือ จากนั้นโปรแกรมดังกล่าวจะไปดึงข้อมูลบนฐานข้อมูลการท่องเที่ยวบนเว็บไซต์ที่ได้จัดเตรียมไว้ โดยข้อมูลที่ส่งกลับมายังผู้ใช้บริการจะเป็นงบประมาณการท่องเที่ยว หรือแพคเกจทัวร์ราคาใกล้เคียงกับที่ผู้ใช้บริการนำเสนอไป จำนวน 10 รายการให้เลือกใช้บริการ ทั้งนี้โปรแกรมท่องเที่ยวบนมือถือดังกล่าว ต้องประกอบด้วยเว็บไซต์สำหรับให้บริการแก่ผู้ประกอบการนำเที่ยวในการอัพเดทข้อมูลการท่องเที่ยวของบริษัททัวร์ต่างๆ เพื่อให้ข้อมูลทันสมัยอยู่ตลอดเวลา (มติชน อังคารที่ 10 ต.ค. 2549 http://www.matichon.co.th)





ออกแบบระบบกดตู้เงินเอทีเอ็ม ป้องกันสอดรู้สอดเห็นได้เด็ดขาด

วิศวกรคอมพิวเตอร์ของมหาวิทยาลัยควีนส์ ในเบลฟาร์สต ประเทศอังกฤษ ได้คิดระบบรักษาความปลอดภัยด้วยการสัมผัสใช้ เมาส์ ประกอบด้วยเขี้ยว 16 ตัวควบคุมกลไก วิศวกรผู้ออกแบบอวดว่าระบบนั้นจะปลอดภัยยิ่งกว่าการใช้แป้นพิมพ์ดีดธรรมดา เนื่องจากไม่มีใครที่จะสอดรู้สอดเห็นการกดคีย์ได้ ระบบรักษาความปลอดภัยใหม่นี้ ผู้ใช้จะเลื่อนเมาส์ไปเหนือช่องตาราง 9 ช่องบนจอคอมพิวเตอร์ เมาส์ที่ทับบนตารางแต่ละช่อง จะก่อให้เกิดแบบแผนต่างๆกันขึ้น เจ้าของบัญชีจะถูกแจ้งให้ทราบลำดับของช่องที่จะเลื่อนเมาส์ไป รวมทั้งการกดคลิกตามช่องเพื่อเข้าล็อกตามรูปแบบของรหัส รหัสของที่ใช้ทุกครั้ง จะกำหนดขึ้นด้วยวิธีการสุ่ม ด้วยเหตุนี้จึงไม่มีใครจะรู้เห็นได้. (ไทยรัฐ พุธที่ 11 ต.ค. 2549 http://www.thairath.co.th)





หุ่นยนต์ประสาทสัมผัสไวเหมือนหนวดแมว

นักวิจัยในอิลลินอยส์ คิดค้นสร้างหุ่นยนต์ที่ทำงานโดยเลียนแบบประสาทสัมผัสของแมว ซึ่งใช้หนวดในการคลำทาง สำนักข่าวรอยเตอร์ รายงานว่า นักวิจัยแห่งมหาวิทยาลัยนอร์ธเวสเทิร์น (North western University) ในอีแวนสโตน อิลลิ นอยส์ กำลังคิดค้นหุ่นยนต์ whiskers ที่ใช้การนำทางโดยเลียนแบบประสาทสัมผัสของแมว ซึ่งมีหนวดคอยนำทางในที่มืดและหลบหลีกสิ่งกีดขวางในสภาพภูมิทัศน์ที่ไม่ดี รายงานข่าวระบุว่า ความสามารถของ whiskers จะเป็นหุ่นยนต์ที่ทำงานในพื้นที่ที่เข้าถึงลำบาก ทั้งยังสามารถใช้เป็นสัญญาณค้นหาวัตถุต่าง ๆ ได้ในที่มื (เดลินิวส์ พุธที่ 11 ต.ค. 2549 http://www.thairath.co.th)





‘นวัตกรรมเพื่อชีวิตเมือง คมนาคม’

โครงการ “เดลินิวส์-SCG ประกวดเจ้าความคิด” ที่ทางหนังสือพิมพ์เดลินิวส์ ร่วมกับเครือซิเมนต์ไทยจัดขึ้นเพื่อเปิดโอกาสให้น้อง ๆ เยาวชนได้ส่งโครงงานนวัตกรรมในหัวข้อต่าง ๆ เข้ามาประกวดชิงรางวัลทุนการศึกษารวม 2 ล้านบาทนั้น ตอนนี้โครงการได้ดำเนินการมาถึงหัวข้อที่ 4 คือ “นวัตกรรมเพื่อชีวิตเมือง คมนาคม” ซึ่งเปิดรับโครงงานไปแล้วตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค.-30 พ.ย. นี้ ใครที่สนใจก็รีบคิด รีบส่งโครงงานเข้าประกวดกันได้ สำหรับโครงงานนวัตกรรมในหัวข้อที่ 3 คือ นวัตกรรมเพื่อสุขภาพนั้น ทางคณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิของโครงการจะทำการตัดสินผลงานที่น้องเยาวชนส่งเข้าประกวดกันในวันศุกร์ที่ 13 ต.ค. นี้ และจะประกาศผลผู้ที่ได้รับรางวัลทั้งหมดในสัปดาห์ถัดไปก็ติดตามกันได้ ทั้งนี้สำหรับโครงงานในสองหัวข้อแรก คือ “นวัตกรรมเพื่อการพักผ่อนและสันทนาการ” และ “นวัตกรรมเพื่อการทำงาน สถานศึกษา ที่อยู่อาศัย” ที่ได้รับรางวัลได้นำลงเผยแพร่ในคอลัมน์นี้ไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ส่วนโครงงานที่ได้รับรางวัลจากการตัดสินของคณะกรรมการในหัวข้อต่อ ๆ ไปนั้น ก็จะนำมาลงเผยแพร่ต่อไปเช่นกัน อย่างไรก็ตามหลังจากที่ได้มีการตัดสินรางวัลโครงงานนวัตกรรมไป 2 หัวข้อแล้วนั้น ทางคณะกรรมการตัดสินก็ได้มีข้อคิดเห็นและข้อแนะนำให้กับน้อง ๆ เยาวชนที่จะส่งผลงานเข้าประกวดกัน ดร.บุญมาก ศิริเนาวกุล ผู้ช่วยอธิการบดี ฝ่ายเทคโน โลยี มหาวิทยาลัยรังสิต หนึ่งในคณะกรรมการตัดสินรางวัล กล่าวว่า ผลงานหลาย ๆ ชิ้นหากมองเพียงแนวความคิดถือว่าใช้ได้ แต่บางโครงงานการนำไปต่อยอดหรือนำไปพัฒนาต่อได้ยาก และบางโครงงานก็เป็นไปได้ยาก ซึ่งบางทีการคิดโครงงานที่มีแนวความคิดง่าย ๆ ไม่ซ้ำซ้อนมาก หรือสามารถนำไปใช้ได้เลยก็จะเป็นประโยชน์มาก โดยที่ไม่จำเป็นต้องเป็นผลงานใหญ่ ๆ นายกันต์ วีระกันต์ กรรมการจากสำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ กล่าวแนะนำว่า ในการเขียนโครงงานเพื่อส่งเข้าประกวด ควรจะมีการเขียนหัวข้อต่าง ๆ เป็นข้อ ๆ และมีรายละเอียดข้อมูลของผลงานชิ้นนั้น อาทิ แนวคิด แรงบันดาลใจ รายละเอียดของอุปกรณ์ในการผลิตผลงาน ขั้นตอนและวิธีการประดิษฐ์ ประโยชน์ที่ได้รับ ฯลฯ ซึ่งจะทำให้โครงงานนั้น ๆ อ่านและเข้าใจได้ง่าย (เดลินิวส์ พุธที่ 11 ต.ค. 2549 http://www.thairath.co.th)





สหรัฐพัฒนาซอฟต์แวร์ติดตามข่าวทั่วโลก

คริสโทป เคลลี โฆษกกระทรวงความมั่นคงภายในของสหรัฐแถลงว่า ทางกระทรวงจะจัดสรรงบประมาณ 2.4 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 96 ล้านบาท) ตลอด 3 ปีหน้าสนับสนุนการวิจัยของมหาวิทยาลัย 3 แห่ง เรื่องการใช้วิทยาการคอมพิวเตอร์วิเคราะห์ภาษาที่สื่อมวลชนเขียน เป็นการคัดแยกข้อมูลเพื่อช่วยงานของกระทรวงด้านการวิเคราะห์ความรู้สึกหรือความเชื่อในบทความของสื่อมวลชนและเพื่อประโยชน์ในการวิเคราะห์ข้อมูลข่าวกรอง โฆษกระบุว่า โครงการซอฟต์แวร์จะช่วยให้พนักงานมีทรัพยากรเพิ่มขึ้นในการทำงาน ขณะที่กลุ่มสนับสนุนเสรีภาพสื่อมวลชนสงสัยแคลงใจโครงการนี้ ส่วนเรื่องที่ทางการจะถึงขั้นตัดสินใจโดยอาศัยซอฟต์แวร์ว่าสื่อใดเป็นปรปักษ์กับสหรัฐนั้น โฆษกกล่าวว่า ยังเร็วเกินไปที่จะบอกได้ มหาวิทยาลัยที่จะเข้าร่วมโครงการได้แก่ มหาวิทยาลัยพิททส์เบิร์ก มหาวิทยาลัยคอร์เนลล์ และมหาวิทยาลัยยูทาห์ คณะนักวิจัยได้รวบรวมบทความ 270,000 กว่าบทความจากแหล่งข่าว 180 แหล่งทั่วโลกระหว่างเดือนมิถุนายน 2544 – พฤษภาคม 2545 ครอบคลุมหัวข้อต่าง ๆ อย่างกว้างขวาง เช่น การเลือกตั้งในซิมบับเว ความสัมพันธ์จีน-ไต้หวัน การปฏิบัติต่อนักโทษในค่ายกวนตานาโม และพิธีสารเกียวโต (คมชัดลึก พฤหัสบดีที่ 12 ต.ค. 2549 http://www.komchadleuk.net)





พบวิธีสร้างเต้านมใหม่ดึงผิว-ไขมันหน้าท้อง

ที่โรงพยาบาลวัฒโนสถ รศ.น.พ.กริช โพธิสุวรรณ ผู้อำนวยการศูนย์เต้านมกรุงเทพ โรงพยาบาลวัฒโนสถ ในเครือศูนย์การแพทย์โรงพยาบาลกรุงเทพ แถลงข่าวผลสำเร็จโครงการผ่าตัดคืนเต้าให้กับผู้ป่วยเต้านมว่า การผ่าตัดคืนเต้าให้กับผู้ป่วยมะเร็งเต้านมที่ถูกตัดเต้านมทิ้ง จะใช้วิธีการสร้างเต้านมใหม่ด้วยแผ่นผิวหนังและไขมันหน้าท้อง หรือแทรมแฟลบ (TRAM Flap) ซึ่งเป็นการสร้างเต้านมให้เหมือนจริง ไม่มีการใช้วัสดุแปลกปลอม เนื่องจากจะใช้ผิวหนังและไขมันของผู้ป่วยเอง เพราะหากใช้จากบุคคลอื่นร่างกายของมนุษย์จะต่อต้านสิ่งแปลกปลอม ทำให้ผู้ป่วยจะต้องทานยากดตลอดชีวิตเช่นผู้ป่วยเปลี่ยนไต รศ.น.พ.กริช กล่าวอีกว่า การตัดผิวและไขมันหน้าท้องจะตัดตั้งแต่ด้านซ้ายไปถึงด้านขวา เช่นเดียวกับคนไข้ที่ผ่าตัดลดหน้าท้อง แล้วนำสิ่งที่ตัดได้มาตัดแต่งเป็นเต้าแล้วเย็บติดกับฐานเต้านมเดิม โดยจะต้องสร้างให้มีขนาดเท่ากับเต้านมอีกข้างหนึ่ง ปริมาณของไขมันที่จะใช้จึงขึ้นอยู่กับขนาดเต้าของแต่ละบุคคล ส่วนของหัวนมจะม้วนผิวที่สร้างขึ้นเป็นเต้าเป็นหัวนม หรือแบ่งครึ่งหัวนมอีกข้างมาปลูก และลานนมจะใช้วิธีการสักถาวร โดยเลือกสีที่ใกล้เคียงกับสีลานนมมากที่สุด (คมชัดลึก พฤหัสบดีที่ 12 ต.ค. 2549 http://www.komchadleuk.net)





เตือนหญิงดื่มโคล่าเสี่ยงกระดูกพรุน

นักวิจัยสหรัฐเตือนผู้หญิงที่ชอบดื่มเครื่องดื่มประเภทโคล่าเป็นประจำอาจเสี่ยงเป็นโรคกระดูกพรุน กรดฟอสฟอริกในโคล่าทำให้ความหนาแน่นของมวลกระดูกลดลง แต่ผู้ชายโชคดีไปดื่มได้ไม่มีผล ผลการวิจัยตีพิมพ์ในวารสารอเมริกัน เจอร์นัล ออฟ คลินิคัล นูทริชั่น ได้ศึกษาในกลุ่มผู้หญิง 2,500 คน ที่ดื่มโคล่าเป็นประจำ พบว่ามีความหนาแน่นของมวลกระดูกลดลง และเป็นกับทุกคนไม่ว่าจะอายุเท่าไร หรือรับประทานนมเสริมแคลเซียมด้วยหรือไม่ โรคกระดูกพรุนมีความหมายตรงตามชื่อ เป็นภาวะที่เนื้อกระดูกมีโพรงเล็กๆ มากมายทำให้เสี่ยงกระดูกหักได้ง่ายเมื่อหกล้ม โดยเฉพาะอย่างยิ่งคนชรา ศ.แคทเธอรีน ทัคเกอร์ ผู้อำนวยการโปรแกรมประเมินด้านอาหารและระบาดวิทยา จากมหาวิทยาลัยทัฟท์ส สหรัฐ เปรียบเทียบข้อมูลจากแบบสอบถามเกี่ยวกับพฤติกรรมการรับประทานอาหารกับวัดปริมาณความหนาแน่นของมวลกระดูกบริเวณกระดูกสันหลัง และ 3 ตำแหน่งบริเวณสะโพก 3 พบว่า ผู้ชายดื่มโคล่า 5 กระป๋องต่อสัปดาห์ ในขณะที่ผู้หญิงดื่ม 4 กระป๋องต่อสัปดาห์ เมื่อเช็คความหนาแน่นมวลกระดูกพบว่า ผู้หญิงที่ดื่มน้ำโคล่ามีความหนาแน่นของมวลกระดูกบริเวณสะโพกทั้ง 3 ส่วนต่ำ แต่สำหรับผู้ชายกลับไม่มีผลขณะที่เมื่อเปรียบเทียบกับการดื่มน้ำอัดลมประเภทอื่นแล้วไม่พบว่ามีผลต่อความหนาแน่นมวลกระดูกของผู้หญิง (คมชัดลึก พฤหัสบดีที่ 12 ต.ค. 2549 http://www.komchadleuk.net)





ชาติเอเชียจะต้องรับกรรมหนัก การเปลี่ยนแปลงดินฟ้าอากาศ

องค์การวิจัยวิทยาศาสตร์และอุตสาหกรรมเครือจักรภพ อันเป็นหน่วยงานวิจัยหลักของออสเตรเลีย กล่าวเตือนว่า ความเปลี่ยนแปลงของดินฟ้าอากาศ จนเป็นเหตุให้อุณหภูมิของโลกร้อนขึ้น และระดับน้ำทะเลจะสูงขึ้นอีก อาจจะทำลายล้างฐานะเศรษฐกิจของชาติเอเชีย ผู้คนเรือนล้านต้องละทิ้งถิ่นฐานและตกเป็นเหยื่อของโรคระบาดได้ องค์การได้คาดหมายว่า โลกอาจจะร้อนขึ้นอีก 4 องศา ในราว พ.ศ. 2573 นี้ โดยเฉพาะทางแถบอันแห้งแล้งทางเหนือของปากีสถาน อินเดีย และจีน และระบุว่า ความเปลี่ยนแปลงของดินฟ้าอากาศในแถบเอเชียแปซิฟิกนี้ไม่มีเหตุผลอันใดที่เป็นเรื่องน่ายินดีเลย ถ้าหากรัฐบาลของชาติเหล่านี้ ไม่ลงมือขจัดการปล่อยก๊าซคาร์บอนได ออกไซด์ออกมาเสียตั้งแต่บัดนี้ “อุณหภูมิที่สูงขึ้น และยังถูกซ้ำเติมด้วยแบบแผนของฝนตกที่ผิดปกติ รวมทั้งพายุหมุนเขตร้อนอันชุมขึ้น ลมมรสุมรุนแรงและก่อให้ เกิดอุทกภัย จะทำให้ ประชาชนเรือนล้านต้องตกเป็นเหยื่อของโรคไข้จับ สั่น ไข้ส่า และโรคติดต่ออื่นๆ” การคาดหมายจากผลการวิจัยยังเตือนว่า “ประชากรเรือนล้านที่มีถิ่นฐานอยู่ตามชุมชนริมฝั่ง ในบังกลาเทศ เวียดนาม จีน และตามเกาะในมหาสมุทรแปซิฟิก อาจจะต้องแตกฉานซ่านเซ็นไป เพราะน้ำทะเลล้นฝั่ง ด้วยเหตุที่มันจะเอ่อสูงขึ้นอีก 20 นิ้ว ในระยะเวลา 65 ปีข้างหน้า”. (ไทยรัฐ พฤหัสบดีที่ 12 ต.ค. 2549 http://www.thairath.co.th)





นักวิจัยไทยคิดแผ่นตรวจยาต้านเอดส์

วันที่ 12 ต.ค. ผศ.ดร.ชัชชัย ตะยาภิวัฒนา ภาควิชาภูมิคุ้มกันวิทยาคลินิค คณะเทคนิคการแพทย์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ กล่าวในวงเสวนา “จากงานวิจัยพื้นฐาน สู่สังคมเศรษฐกิจฐานความรู้” ภายในการประชุมวิชาการ”นักวิจัยรุ่นใหม่ พบเมธีวิจัยอาวุโส สกว.” ว่า ได้คิดค้นแผ่น Strip Test ตรวจยาต้านไวรัสเอดส์ ชนิด Nevirapine หรือ NVP ื มีลักษณะเป็นแผ่นเล็ก ๆ และมีวีธีการตรวจคล้ายกับแผ่นตรวจตั้งครรภ์ ด้วยการจุ่มปลายแผ่นลงไปในน้ำเลือดของผู้ป่วย ซึ่งหากผู้ติดเชื้อรับประทานยาต้านไวรัสเอชไอวีอย่างต่อเนื่องจะไม่ปรากฏแถบสีม่วงแดง แต่ถ้าหากผู้ติดเชื้อไม่รับประทานยาต้านไวรัสจะปรากฏแถบสีม่วงแดงใน 10 นาที ซึ่งมีผลดีในการใช้ยาต้านไวรัสเอดส์อย่างคุ้มค่า ลดความเสี่ยงที่เชื้อจะกลายพันธุ์ และมีราคาถูก ขณะนี้มีต่างชาติให้ความสนใจที่จะเข้าร่วมวิจัยเพื่อพัฒนาผลิตภัณฑ์แล้ว. (เดลินิวส์ ศุกร์ที่ 13 ต.ค. 2549 http://www.dailynews.co.th)





อาร์เอฟไอดีงานวิจัยที่ใช้จริง เก็บข้อมูลสัตว์ขจัดข้อมูลหาย

ศ.ดร.ชัชนาถ เทพธรานนท์ ผู้อำนวยการศูนย์บริหารจัดการเทคโนโลยี กล่าวว่า ศูนย์บริหารจัดการเทคโนโลยี (TMC) อนุญาตให้บริษัท ซิลิคอน คราฟท์ เทคโนโลยี จำกัดใช้สิทธิเทคโนโลยีไมโครชิปฝังและติดกับสัตว์แบบไร้สาย RFID (Radio Frequency Identification) ตามนโยบายส่งเสริมและสนับสนุนเทคโนโลยีหรืองานวิจัยที่ได้รับการจดสิทธิบัตร ให้ถูกนำไปใช้กับธุรกิจอุตสาหกรรมขนาดกลางและย่อม เพื่อเป็นการเพิ่มมูลค่าการผลิต ลดการนำเข้า และสามารถแข่งขันกับตลาดโลกได้ การอนุญาตให้ใช้สิทธิในครั้งนี้ นับเป็นก้าวสำคัญต่อธุรกิจอุตสาหกรรมในประเทศไทย ปัจจุบันบริษัท ซิลิคอน ผลิตไมโคร ชิปซึ่งใช้เทคโนโลยี RFID ไปแล้วกว่า 60,000 ชิ้น เพื่อบรรจุในป้ายติดหูอิเล็กทรอนิกส์ (Animal Ear Tag) และทำการทดสอบประสิทธิ ภาพการใช้งานด้านการเก็บข้อมูล การป้องกันโรค การบริหารงานเลี้ยงดู รวมทั้งระบบการขนส่งสัตว์ พบว่าสามารถช่วยงานเจ้าของกิจการฟาร์มวัวและสุกรในประเทศไทยได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้ไมโครชิปซึ่งใช้เทคโนโลยี RFID ยังสามารถนำไปใช้เป็นไมโครชิป หลอดแก้วชนิดฉีดฝังสำหรับวัว สุกร สุนัข แมว หรือแม้กระทั่งปลา เพื่อบันทึกข้อมูลได้ ช่วยลดปัญหาการหลุดลอกของป้ายธรรมดา ทั้งยังสามารถตรวจสอบข้อมูลของสัตว์ได้สะดวก ด้วยเครื่องอ่านและแสดงผลทันที ทำให้ระบบการเลี้ยงและบริหารฟาร์มมีประสิทธิภาพเป็นที่ยอมรับเพื่อการส่งออก (เดลินิวส์ ศุกร์ที่ 13 ต.ค. 2549 http://www.dailynews.co.th)





เอชพีเปิดตัวพรินเตอร์ใหม่ชูนวัตกรรมไฮเทค

เอชพีเผยโฉมผลิตภัณฑ์ด้านการพิมพ์ภาพใหม่ ชูจุดขายด้วยนวัตกรรมการพิมพ์ SPT ล่าสุด พร้อมเผยผลวิจัยเอชพีครองอันดับหนึ่งด้านมอบประสบการณ์งานพิมพ์และความสะดวกต่อการใช้งานที่ดีที่สุดจากการโหวตของผู้ใช้งานทั่วโลก ชุดผลิตภัณฑ์เครื่องพิมพ์ภาพชุดใหม่ของเอชพียังได้รับการ โหวตโดยตรงจากผู้บริโภคว่า เป็นเครื่องพิมพ์ที่พิมพ์งานได้เร็วที่สุดและใช้งานง่ายที่สุด ซึ่งเป็นผลการวิจัยที่ดำเนินการโดย Doxus บริษัทวิจัยตลาดด้านเทคโนโลยี ผลการตอบรับที่น่ายินดีนี้ ถือเป็นการตอกย้ำว่าเอชพีไม่เพียงแต่มอบโซลูชั่นที่ล้ำสมัยมากที่สุดในราคาที่เหมาะสมที่สุดเท่านั้น แต่ยังได้มอบประสบการณ์การพิมพ์ที่ดีที่สุดและใช้งานได้ง่ายที่สุดแก่ผู้บริโภคอีกด้วย ทั้งนี้เอชพีได้อวดโฉมนวัตกรรม การพิมพ์ภาพใหม่ ๆ อาทิ เครื่องพิมพ์ Photosmart ที่ใช้ Scalable Printing Technology รุ่นใหม่จำนวน 7 รุ่น เครื่องพิมพ์รุ่นแรกที่มีจอทัชสกรีน เครื่องพิมพ์ภาพขนาดกะทัดรัดรุ่นแรก ในตลาดที่สามารถเก็บภาพได้สูงสุดถึง 4,000 ภาพ และสูตรหมึกพิมพ์ Vivera ใหม่ ที่มีคุณสมบัติในการกันน้ำที่มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ยังมี HP Photosmart Express บริการพิมพ์ภาพด้วยตัวเอง ในรูปแบบคล้ายกับคีออสก์ เพื่อให้ผู้บริโภคมีทางเลือกที่รวดเร็วและง่ายดายในการใช้งาน (เดลินิวส์ ศุกร์ที่ 13 ต.ค. 2549 http://www.dailynews.co.th)





ศซ.วางเป้า 5 ปี ผลิตแสงซินโครตรอนคุณภาพ ก่อสร้างอาคารรองรับเพียบ

จากการประชุมคณะกรรมการบริหารศูนย์ปฏิบัติการวิจัยเครื่องกำเนิดแสงซินโครตรอนแห่งชาติ (ศซ.) ครั้งที่ 3 ประจำปี พ.ศ.2549 โดยมี ดร.ศักดิ์สิทธิ์ ตรีเดช ปลัดกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (วท.) เป็นประธาน ที่ได้จัดขึ้นไปเมื่อเร็วๆ นี้ รศ.ดร.วีระพงษ์ แพสุวรรณ ผอ.ศูนย์ปฏิบัติการวิจัยเครื่องกำเนิดแสงซินโครตรอนแห่งชาติ เผยผลการประชุมว่า ที่ประชุมได้เห็นชอบในกรอบแผนปฏิบัติงาน 5 ปี ระยะที่ 3 (พ.ศ.2550-2554) ของศูนย์ฯ ซึ่งมีความเชื่อมโยงกับยุทธศาสตร์ของกระทรวงวิทยาศาสตร์ฯ และยุทธศาสตร์ของชาติในการปรับโครงสร้างเศรษฐกิจให้สมดุลและแข่งขันได้ในด้านวิทยาศาสตร์เทคโนโลยี วิจัย และนวัตกรรม สำหรับผลการดำเนินงานในระยะที่ผ่านมา หรือในระยะที่ 2 นั้น รศ.ดร.วีระพงษ์ เผยว่า ประสบความสำเร็จไปด้วยดี ซึ่งห้องปฏิบัติการแสงสยามสามารถพัฒนาแสงซินโครตรอนที่เพิ่มค่าพลังงานจากเดิม 1,000 ล้านอิเล็กตรอนโวลต์ เป็น 1,200 ล้านอิเล็กตรอนโวลต์ได้, มีระบบลำเลียงแสงและสถานีทดลองบริการ 3 สถานี, นักวิจัยสามารถออกแบบระบบลำเลียงแสงและสถานีทดลองได้เอง รวมทั้งสามารถผลิตชิ้นส่วนระบบสุญญากาศโดยทีมวิศวกรของโรงเครื่องมือกล ทำให้ลดการนำเข้าจากต่างประเทศได้อย่างมหาศาลนับตั้งแต่เริ่มให้บริการเมื่อปี 2546 พร้อมกันนั้น ในระยะที่ 2 ทางศูนย์ฯ ยังได้รวบรวมสมาชิกกลุ่มผู้ใช้บริการ ซึ่งประกอบด้วยนักวิจัยจากสถาบันอุดมศึกษาและหน่วยงานวิจัยทั่วประเทศแล้วจำนวน 680 คน โดยในปี 2547 ทางศูนย์ฯ ได้เริ่มโครงการสนับสนุนทุนวิจัยเทคโนโลยีแสงซินโครตรอน ซึ่งมีผู้เสนอโครงการวิจัยจากภายนอกมาแล้ว 40 โครงการ รศ.ดร.วีระพงษ์ กล่าวว่า เมื่อประเมินศักยภาพทั้งภายในและภายนอกศูนย์ฯ อาทิ ด้านกำลังคน เทคโนโลยี การบริหารจัดการ ความสามารถในการรวบรวมกลุ่มงานบริการผู้ใช้แสงซินโครตรอนจากภายนอก ประกอบกับงบประมาณที่ได้รับจัดสรรจากรัฐบาล ทางศูนย์ฯ ได้กำหนดยุทธศาสตร์ระยะที่ 3 ไว้หลายด้านด้วยกัน ยุทธศาสตร์ที่สำคัญได้แก่ การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานเพื่อให้บริการแสงซินโครตรอน มีเป้าหมายเพื่อสร้างความพร้อมในการให้บริการแสงซินโครตรอน ซึ่งจะมีประสิทธิภาพและเสถียรภาพมากขึ้น ขณะที่มีการสูญเสียน้อยลง เพื่อเพิ่มการใช้ประโยชน์แสงซินโครตรอนในย่านรังสีเอ็กซ์และมีระบบลำเลียงในด้านต่างๆ ตรงกับความต้องการของผู้รับบริการมากขึ้น (ผู้จัดการ ศุกร์ที่ 13 ต.ค. 2549 http://www.manager.co.th)





เจลนาโนสมานแผลหยุดเลือดชะงัด

ชูกวง ชาง นักจุลวิทยาจากสถาบันเทคโนโลยีแมสซาชูเซตส์ สหรัฐ และทีมงานจากมหาวิทยาลัยฮ่องกง ประเทศจีน ร่วมกันศึกษาหาสารที่สามารถผลิตเนื้อเยื่อขึ้นมาใหม่ได้เอง จนค้นพบสายโมเลกุลขนาดสั้นที่เรียกว่า เปบไทด์ ชนิดหนึ่งที่สามารถก่อตัวขึ้นมาเป็นผืนตาข่ายขนาดจิ๋วได้ด้วยตัวเองเมื่อนำไปจุ่มลงในน้ำเกลือ เมื่อทดลองนำโมเลกุลตาข่ายไปซ่อมเซลล์ประสาทที่เสียหายของหนูแฮมสเตอร์ พบว่าสามารถสร้างเซลล์ใหม่ขึ้นมาได้สำเร็จ แต่ที่น่าประหลาดใจกว่านั้นคือ ทีมวิจัยยังพบสารตัวหนึ่งที่สามารถหยุดเลือดจากบาดแผลในสมองได้ด้วย พวกเขาจึงนำไปทดสอบกับอวัยวะและเนื้อเยื่อชนิดอื่น และเมื่อนำไปใช้กับแผลสด เจลที่อยู่ในรูปของเปบไทด์สามารถสมานแผลได้อย่างรวดเร็วโดยไม่เกิดความเสียหายกับเซลล์ใกล้เคียง นักวิจัย กล่าวว่า เจลดังกล่าวสามารถห้ามเลือดจากเส้นเลือดได้ทุกชนิด ทั้งเส้นเลือดทั่วไปและเส้นเลือดหัวใจ แม้ว่าตอนนี้จะยังไม่รู้กลไกการทำงานที่แท้จริงเป็นอย่างไร แต่ถ้าเข้าใจได้เมื่อไรจะสามารถนำมาใช้ออกแบบสารชนิดใหม่ที่สามารถผลิตเนื้อเยื่อสมานแผลได้ด้วยตัวเอง และจะช่วยงานศัลยแพทย์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ เช่น การผ่าตัดตา ลำไส้ และกระเพาะอาหาร ไปจนถึงศัลยประสาท (คมชัดลึก ศุกร์ที่ 13 ต.ค. 2549 http://www.komchadleuk.net)





ข่าวทั่วไป


วิธีเอาตัวรอดเมื่อเครื่องบินตก

เว็บไซต์ข่าวของบีบีซี (http://news.bbc.co.uk) ได้รวบรวมวิธีเอาตัวรอดเมื่อเครื่องบินตกจากผู้เชี่ยวชาญด้านความปลอดภัยทางการบิน พบว่ามีหลากหลายวิธีน่าสนใจและน่ารู้เพื่อเตรียมตัวไว้ก่อน ศาสตราจารย์เอ็ด กาเลีย ผู้เชี่ยวชาญด้านความปลอดภัยทาง การบิน ได้ศึกษารายงานจากผู้รอด ชีวิตกว่า 2,000 ราย แล้วประมวลเป็นฐานข้อมูลพบว่า คนที่รอดชีวิตจากเครื่องบินตกไม่ใช่เรื่องของโชคชะตา แต่อยู่ที่ว่าจะทำให้ตัวเองหลุดออกมาจากเครื่องบินให้เร็วที่สุดได้อย่างไร ดังนั้น สิ่งสำคัญก็คือการเพิ่มโอกาสของการมีชีวิตรอด เขาพบว่าครั้งแล้วครั้งเล่าที่ผู้โดยสารมักจะติดกับ เข็มขัดนิรภัย ที่คาดเอาไว้ โดยมักจะลืมตัวกดปุ่มเข็มขัดในยามฉุกเฉิน เหมือนกับตอนนั่งรถ แต่ที่จริงแล้วมันคนละระบบกัน ต้องใช้วิธีผลักตัวล็อกขึ้นมา พึงระลึกไว้เสมอว่าเมื่อเกิดเหตุฉุกเฉินต้องทำตัวให้อยู่ใน ท่าปลอดภัย ป้องกันตัวเองไม่ให้พุ่งไปข้างหน้า ที่สำคัญคือปกป้องลำตัวส่วนบนไม่ให้ถูกกระแทก ดังนั้น ท่าก้มตัวไปข้างหน้าจึงเป็นท่าที่ค่อนข้างปลอดภัย อันนี้ตามคู่มือบนเครื่องบินก็มีแนะนำไว้ ข้อสำคัญอีกอย่าง เป็นคำแนะนำจากศาสตราจารย์เฮเลน มูร์ มหาวิทยาลัยแครนฟิลด์ ผู้ศึกษาพฤติกรรมผู้โดยสารระหว่างหนีภัยบอก ว่า ถ้าอยากรอดชีวิต ทุกครั้งที่ขึ้นเครื่องบิน ไม่ว่าจะเป็นคนเดินทางบ่อยแค่ไหนก็ตามให้วางแผนไว้เสมอ นั่นคือมองดูรอบๆ ว่าลูกเรือคนไหนอยู่ใกล้ที่นั่งของเรามากที่สุด เพราะจะเป็นผู้แนะนำเราในเรื่องความปลอดภัยยามเกิดเหตุฉุกเฉิน และตัวเราเองก็ต้องสังเกตว่าทางออก ฉุกเฉินที่ใกล้ตำแหน่งของเราที่สุดอยู่ตรงไหน มีข้อสังเกตง่ายๆ คืออาจจะ นับแถวที่นั่ง ก็ได้ว่าเราอยู่ห่างจากประตูทางออกกี่แถว เพราะกรณีมีเหตุฉุกเฉิน เกิดหมอกควัน ไม่มีไฟนำทางจะได้คลำทางออกโดยนับแถวที่นั่งไปยังประตูที่ใกล้ที่สุดได้ (ไทยรัฐ จันทร์ที่ 9 ต.ค. 2549 http://www.thairath.co.th)





คพ.ชี้สุวรรณภูมิเสียงดังเกินมาตรฐาน

ภายหลังการเปิดใช้สนามบินสุวรรณภูมิอย่างเป็นทางการมาตั้งแต่วันที่ 28 ก.ย.ที่ผ่านมานั้น ปรากฏว่าตลอดระยะ 1 สัปดาห์เริ่มมีเสียงร้องเรียนจากชาวบ้านที่อาศัยใกล้สนามบินแห่งใหม่ว่า ได้รับความเดือดร้อนจากปัญหาเสียงดังของเครื่องบินที่ขึ้นลงตลอดทั้งวัน นายปีติพงศ์ พึ่งบุญ ณ อยุธยา ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) กล่าวว่า ได้มอบหมายให้สำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (สผ.) เร่งติดตามตรวจสอบปัญหาที่เกิดขึ้น โดยเฉพาะเสียงดังของเครื่องบิน ซึ่งเป็นมาตรการสำคัญที่ระบุไว้ในรายงานการวิเคราะห์ผลกระทบด้านสิ่ง แวดล้อม (อีไอเอ) ว่า บริษัทการท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท. ต้องลดผลกระทบก่อนเปิดใช้สนามบิน ซึ่งในวันที่ 9 ต.ค.นี้ สผ. และกรมควบคุมมลพิษ (คพ.) จะสรุปรายละเอียดทั้งหมดอีกครั้ง ด้าน ดร.สุพัฒน์ หวังวงศ์วัฒนา รองอธิบดีกรมควบคุมมลพิษ (คพ.) กล่าวว่า ในช่วง 1 สัปดาห์ที่ผ่านมา คพ.ร่วมกับ สผ.และกรมส่งเสริมคุณภาพสิ่งแวดล้อม (สส.) ส่งทีมออกไปตรวจวัดระดับเสียงในชุมชนรอบๆสนามบินรวม 8 จุดตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อนำไปเปรียบเทียบกับระดับเสียงตลอด 1 ปีที่มีการเก็บข้อมูลเอาไว้ก่อนการเปิดใช้สนามบิน เพื่อดูว่าอยู่ในระดับที่เป็นอันตรายกับการได้ยินหรือไม่ ขณะนี้กำลังวิเคราะห์ตัวเลขเฉลี่ยระดับความดังของเสียงตามที่กำหนดไว้ในอีไอเอ อย่างไรก็ตาม เบื้องต้นยอมรับว่าในบางจุดมีเสียงดังเกินระดับมาตรฐาน 70 เดซิเบล เอ เป็นไปตามการคาดการณ์ในแบบจำลองทางคณิตศาสตร์ที่เคย ประเมินเอาไว้ และจะสรุปว่าแต่ละพื้นที่มีปัญหาเสียงดังมากน้อยในระดับไหนในต้นสัปดาห์หน้า ส่วนใหญ่พื้นที่ที่ได้รับผลกระทบทางเสียงจะอยู่ในแนวขึ้นและลงของสนามบิน มาตรการระยะสั้นที่ทำได้ทันทีคือ ทอท.อาจต้องเปลี่ยนแนวเส้นทางขึ้นลงการบินทั้ง 800 เที่ยวบินจากเดิมที่เคยขึ้นทางทิศเหนือของสนามบิน เป็นทางด้านทิศทางใต้แทน และปรับระดับการบินจากเดิมที่ใกล้ชุมชน โดยเปลี่ยนไปตั้งลำบริเวณปากอ่าวไทยแทน จะช่วยลดผลกระทบทางเสียงได้ในระดับหนึ่ง (ไทยรัฐ จันทร์ที่ 9 ต.ค. 2549 http://www.thairath.co.th)





โปรดเกล้าฯครม.ชุดใหม่แล้ว!"หม่อมอุ๋ย"นั่งคลัง-"อารีย์"คุมมท.ตามคาด

พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งรัฐมนตรีในรัฐบาลที่มี พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ เป็นนายกรัฐมนตรีแล้วโดยมีรายละเอียดดังต่อไปนี้ 1. ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล เป็นรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่ากระทรวงการคลัง 2. นายโฆษิต ปั้นเปี่ยมรัษฐ์ เป็นรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม 3. คุณหญิงทิพาวดี เมฆสวรรค์ เป็นรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี 4. นายธีรภัทร์ เสรีรังสรรค์ เป็นรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี 5. นายอารีย์ วงศ์อารยะ เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย 6. นายบัญญัติ จันทน์เสนะ เป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย 7. พล.อ.บุญรอด สมทัต เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม 8. พล.ร.อ.ธีระ ห้าวเจริญ เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม 9. นายสรรเสริญ วงศ์ชะอุ่ม เป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม 10. นายสุวิทย์ ยอดมณี เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา 11. คุณหญิงไขศรี ศรีอรุณ เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม 12. นายไพบูลย์ วัฒนศริธรรม เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ 13. นายนิตย์ พิบูลย์สงคราม เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ 14. นายสวนิต คงสิริ เป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศ 15. นายชาญชัย ลิขิตจิตถะ เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม 16. นายธีระ สูตะบุตร เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ 17. นายรุ่งเรือง อิศรางกูร ณ อยุธยา เป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ 18. นายแพทย์มงคล ณ สงขลา เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข 19. นายสิทธิชัย โภไคยอุดม เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร 20. นายยงยุทธ ยุทธวงศ์ เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี 21. นายเกริกไกร จีระแพทย์ เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ 22. นายเกษม สนิทวงศ์ ณ อยุธยา เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม 23. นายวิจิตร ศรีสอ้าน เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ 24. นายปิยสวัสดิ์ อะมระนันทน์ เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน 25. นายอภัย จันทนจุลกะ เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน 26. นายปิยบุตร ชลวิจารณ์ เป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม (ผู้จัดการ จันทร์ที่ 9 ต.ค. 2549 http://www.manager.co.th)





ฟันสวยงาม

แฟชั่นจัดฟันเคยเป็นกระแสฮอตฮิตอยู่พักหนึ่ง ก่อนที่จะค่อยๆ ซาไป แต่ความนิยมของการจัดฟันเชิงแฟชั่นก็ยังมีให้เห็นอยู่เนืองๆ ล่าสุดมีข่าวลงในหน้าหนังสือพิมพ์เกี่ยวกับการจัดฟันแล้วฟันล้มทั้งปาก เพราะหมอไม่มีความรู้เพียงพอในการให้การรักษา ส่วนหนึ่งก็มาจากผู้บริโภคที่ขาดความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับการจัดฟัน สมาคมทันตแพทย์จัดฟันแห่งประเทศไทย จัดตั้งขึ้นโดยคณะทันตแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล จึงนำเสนอข้อมูลการจัดฟันไว้ในเวบไซต์สมาคม www.thaiortho.org เพื่อเป็นแหล่งความรู้ให้ประชาชนทั่วไป โดยเฉพาะผู้ที่มีความสนใจที่จะจัดฟัน ควรจะคลิกหาความรู้ก่อนที่จะตัดสินใจจัดฟัน ภายในเวบไซต์บรรจุหัวข้อที่น่าสนใจมากมาย เช่น ความรู้เรื่องจัดฟัน ซึ่งรวบรวมความรู้ทางการจัดฟันในด้านต่างๆ และปัญหาที่คนไข้มักอยากรู้ก่อนการจัดฟัน แต่หากยังมีข้อสงสัยก็สามารถตั้งกระทู้ถามได้ในมุมถามตอบปัญหา ที่จัดทันตแพทย์คอยตอบให้ทุกคำถาม เวบยังรวบรวมรายชื่อหมอจัดฟันทุกคนทั่วประเทศ ไว้ใน "รายชื่อหมอจัดฟัน" ซึ่งเป็นทันตแพทย์ที่เรียนจบด้านการจัดฟันมาโดยตรง จากสถาบันที่ ก.พ.รับรอง ไม่ใช่จบจากหลักสูตรระยะสั้น หรือศึกษาด้วยตัวเอง ซึ่งมีค่อนข้างมากในปัจจุบัน แต่คนไข้ไม่เคยรู้มาก่อน รายชื่อดังกล่าวเป็นการเปิดโอกาสให้คนไข้ ได้ตรวจสอบก่อนตัดสินใจใช้บริการ เพื่อสร้างความมั่นใจ ไม่เช่นนั้นแทนที่จะสวยก็อาจจะเสียใจแทนก็ได้ (คมชัดลึก อังคารที่ 10 ต.ค. 2549 http://www.komchadluek.net/)





ในหลวงมีพระบรมราชานุญาตให้ผันน้ำเข้าที่ดินส่วนพระองค์ สกัดน้ำท่วมกรุงเทพฯ

พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มีพระบรมราชานุญาตให้ผันน้ำเหนือจากแม่น้ำเจ้าพระยาเข้าที่ดินส่วนพระองค์ ที่ทุ่งมะขามหย่อง จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ส่งผลทำให้ชาวบ้านอีกหลายทุ่งอนุญาตให้ผันน้ำเข้าด้วย กรมชลฯ เผยสามารถลดปริมาณน้ำไหลผ่านกรุงเทพฯ เห็นได้ชัด และเชื่อว่าจะไม่เกิดวิกฤตน้ำท่วมกรุงช่วงน้ำทะเลหนุนสูง อย่างไรก็ตาม บริเวณนครสวรรค์น้ำยังเพิ่มขึ้น คาดแตะระดับสูงสุดเมื่อปี 2538 นายสามารถ โชคคณาพิทักษ์ อธิบดีกรมชลประทาน เปิดเผยว่า เช้าวันนี้มีปริมาณน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาที่ไหลผ่านกรุงเทพฯ 3,465 ลบ.ม.ต่อวินาที ยังคงอยู่ในระดับที่วางแผนควบคุม ทั้งนี้ เนื่องจากการประชุมคณะที่ปรึกษาและกรรมการประสานการดำเนินงานป้องกันและแก้ไขปัญหาน้ำท่วมในลุ่มน้ำเจ้าพระยาตามแนวพระราชดำริ ครั้งที่ 1/2549 มีมติให้เจรจาขอผันน้ำเข้าทุ่งหลายแห่งในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา อาทิ ทุ่งบางบาล ทุ่งเจ้าเจ็ด พร้อมกันนี้ ได้รับพระบรมราชานุญาตจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ให้ผันน้ำเข้าไปในที่ดินส่วนพระองค์นับพันไร่ ที่พระราชานุสาวรีย์สมเด็จพระสุริโยทัย (ทุ่งมะขามหย่อง) ตำบลบ้านใหม่ อำเภอพระนครศรีอยุธยา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ทำให้ประชาชนส่วนใหญ่เข้าใจและยินยอมให้ผันน้ำเข้าทุ่งที่ได้ตั้งเป้าหมายไว้ตั้งแต่ช่วงบ่ายวานนี้ (9 ต.ค.) ช่วยลดปริมาณน้ำที่ไหลมากรุงเทพฯ อย่างเห็นได้ชัด และเชื่อว่าจะผ่านพ้นวิกฤติช่วงน้ำทะเลหนุนสูงนี้ไปได้ (ผู้จัดการ พุธที่ 11 ต.ค. 2549 http://www.manager.co.th)





ชี้"รอยเลื่อนตะนาวศรี"ขยับ เขย่าประจวบฯ-ระวังไหวซ้ำอีก!

กรมทรัพยากรธรณีเผยข้อมูลแผ่นดินไหวที่ จ.ประจวบฯ เมื่อวันที่ 8 ต.ค. เกิดจากการเคลื่อนตัวของ "รอยเลื่อนตะนาวศรี" อยู่ห่างจากชายแดนไทยประมาณ 40 ก.ม. คาดอาจเกิดแผ่นดินไหวตามมาได้อีก แนะประชาชนในพื้นที่ระมัดระวังเตรียมการป้องกันตัวเองไว้ กรณีที่ไม่มั่นใจว่าจะเกิดคลื่นยักษ์สึนามิหรือไม่ ให้ออกไกลจากชายฝั่งเพื่อความปลอดภัย น.ส.สมคิด บัวเพ็ง รักษาการอธิบดีกรมทรัพยากรธรณี (ทธ.) และนายทศพร นุชอนงค์ ผู้อำนวยการกองธรณีวิทยาสิ่งแวดล้อม แถลงชี้แจงข้อมูลกรณีเกิดแผ่นดินไหวที่จังหวัดประจวบคีรีขันธ์เมื่อวันที่ 8 ตุลาคมที่ ว่า เกิดแผ่นดินไหว 2 ครั้ง ขนาด 5.6 และ 4.5 ริกเตอร์ พื้นที่ที่รับแรงสั่นสะเทือน คือ ที่ จ.ประจวบฯ เพชรบุรี และราชบุรี โดยเฉพาะบริเวณ อ.หัวหิน กิ่งอ.เขาสามร้อยยอด อ.กุยบุรี อ.ปราณบุรี อ.เมือง จ.ประจวบฯ อ.ชะอำ อ.ท่ายาง จ.เพชรบุรี กรมอุตุนิยมวิทยาและกรมอุทกศาสตร์ กองทัพเรือ แจ้งว่า แผ่นดินไหวมีศูนย์กลางอยู่ที่สหภาพพม่า ซึ่งประเมินได้ว่า เกิดจากการเคลื่อนตัวของรอยเลื่อนตะนาวศรี ที่วางตัวในแนวตะวันตกเฉียงเหนือถึงตะวันออกเฉียงใต้ และอยู่ห่างจากชายแดนไทยประมาณ 40 กิโลเมตร จากการติดตามความเคลื่อนไหวพบว่า รอยเลื่อนตะนาวศรียังคงมีพลังงานสะสมและสามารถเกิดแผ่นดินไหวตามมาได้อีก ทางการจึงขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระมัดระวังเตรียมการป้องกันตนเองไว้ด้วย (ข่าวสด พฤหัสบดีที่ 12 ต.ค. 2549 http://www.matichon.co.th)





อย.จับตาผลเสียผลิตภัณฑ์นาโนเทคหลังสินค้าหลายชนิดแห่ประโคมผลดีเทคโนโลยีจิ๋ว

คณะกรรมการอาหารและยาแห่งสหรัฐ (เอฟดีเอ) เริ่มขยับ จับตาผลิตภัณฑ์ที่นำคุณสมบัติของนาโนเทคโนโลยีมาใช้ หวั่นส่งผลกระทบต่อมนุษย์และสิ่งแวดล้อม หลังจากสินค้าประเภทเครื่องสำอาง ยา และสินค้าต่างๆ แห่ประโคมใช้กันเกร่อ ปัจจุบันสินค้าที่นำเอาคุณสมบัติพิเศษด้านนาโนเทคโนโลยีมาใช้มีวางจำหน่ายในตลาดหลายชนิดตั้งแต่ เครื่องใช้ไฟฟ้า เสื้อผ้า ไปจนถึงเครื่องสำอาง นาโนเทคโนโลยีเป็นอนุภาคขนาดจิ๋วระดับนาโนเมตร ซึ่งมีคุณสมบัติเด่นกว่าวัสดุที่มีขนาดใหญ่กว่า เช่น มีความแข็งแกร่งกว่า หรือนำกระแสไฟฟ้าได้ดีกว่า ผลิตภัณฑ์ที่นำเอานาโนเทคโนโลยีมาใช้งานจริงแล้วอย่างเช่น เสื้อนาโน เป็นเสื้อที่ผสมกับอนุภาคเงินขนาดเล็กที่มีคุณสมบัติในการกำจัดกลิ่นอับชื้น แบคทีเรีย และจุลินทรีย์ต่างๆ ในอุตสาหกรรมเครื่องสำอางได้ผลิตครีมที่มีเนื้อครีมละเอียดมากระดับนาโนเพื่อให้สารเคมีซึมเข้าไปในร่างกายจนถึงชั้นผิวที่ออกฤทธิ์อย่างได้ผล เช่น ครีมบำรุงผิว และครีมกันแดด เป็นต้น ทั้งนี้ คณะกรรมการอาหารและยาแห่งสหรัฐ ได้รับการร้องเรียนจากกลุ่มพิทักษ์ผู้บริโภคว่า เครื่องสำอางและยาบางประเภทที่ใช้นาโนเทคโนโลยีวางจำหน่ายอยู่ในตลาดโดยที่ผู้ผลิตไม่คิดที่จะติดตามผลด้านความปลอดภัย และที่ผ่านมาหน่วยงานภาครัฐกลับทำหน้าที่เป็นกองเชียร์สนับสนุนผลิตภัณฑ์ดังกล่าว แทนที่จะทำบทบาทเป็นผู้ตรวจสอบเพื่อรับมือกับนวัตกรรมเทคโนโลยีล้ำสมัยนี้ ที่ผ่านมา ข้อบังคับที่ อย.สหรัฐนำมาใช้กับสินค้านาโนเทคโนโลยียังเป็นกฎระเบียบเดียวกับที่ใช้ควบคุมสินค้าชนิดอื่น สำหรับผลิตภัณฑ์ยาที่มีอนุภาคระดับนาโน บริษัทยาต้องให้ข้อมูลด้านความปลอดภัยและประสิทธิภาพของการออกฤทธิ์ก่อนที่จะวางจำหน่ายในตลาด แต่บรรดาสินค้าพวกเครื่องสำอาง อาหาร และอาหารเสริมที่ใช้นาโนเทคโนโลยีหรือไม่ก็ตาม ไม่จำเป็นต้องยื่นข้อมูลความปลอดภัยกับ อย (คมชัดลึก ศุกร์ที่ 13 ต.ค. 2549 http://www.komchadleuk.net)






KMUTT Digital Library
Contact Digital Library : info@lib.kmutt.ac.th
Tel : 0-2470-8215