หัวข้อข่าวปีที่ 7 ฉบับที่ 50 ประจำวันที่ 2006-12-12 ข่าวการศึกษา แนะ วธ.ออกระเบียบกลางคุมแต่งกายนักศึกษาทั่วประเทศ การศึกษาดอทคอมชวนเรียนออนไลน์ฟรี วิจิตรถอนร่างศิลปากร-อุบลออกนอกระบบ9สถาบันบุกสภาค้านต่อ นิสิตจุฬาฯ-สจพ.บุกสภายื่นค้าน ม.ออกนอกระบบวันนี้(13ธค.) สวนดุสิตออกนอกระบบปี 52 ประกาศใน 5 ปีผู้เรียนไม่กระทบ นศ.ศิลปากรยื่นหนังสือ'สุรยุทธ์'ค้านออกนอกระบบ นศ.พระนครเหนือพันคนชุมนุมค้านมหาลัยฯออกนอกระบบ ข่าววิทยาศาสตร์/เทคโนโลยี ระวังภัย!ไวรัสคอมพ์ยุคใหม่กลายพันธุ์เก่ง แปรหญ้ามาเป็นเชื้อเพลิงชีวภาพ ใช้ผลิตไฟฟ้าพอใช้กันได้ทั้งโลก โรงแรมไฮเทคคลิกเดียวเปลี่ยนเตียงเป็นอ่างเพียบพร้อมด้วยเทคโนโลยีอนาคต แต่ต้องอ่านคู่มือใช้ตาแฉะ ข่าววิจัย/พัฒนา เอ็มเทคจัดเวที “อิเล็กโทรเซรามิกส์” อาเซียนหวังพัฒนา“เซรามิกส์อัจฉริยะ” กระดาษซับมันไคโตซาน วิจัยเบเกอรี่แป้งบัว อารหารทดแทนผู้บริโภคแพ้ถั่ว พัฒนาคอมพ์พกพาให้คนตาบอด มอ.คิดค้นได้ถูกกว่านำเข้า ไบโอเอเชียไทยเทียบชั้นอินเตอร์ วว.แปรสภาพน้ำเสียเป็นพลาสติกชีวภาพ มจธ.ใช้คุณสมบัตินาโนแยกก๊าซไฮโดรเจน หุ่นยนต์นาโนส่งตรวจอวัยวะภายใน นักวิจัยนำสิ่งทอชุบ 'พลาสมา' ผลิตชุดผจญเพลิง ข่าวทั่วไป เด็กไทยแจ๋ว ! คว้าทองแดงดาราศาสตร์เอเชีย-แปซิฟิก หลอกผู้ปกครอง รร.ดัง ตุ๋น 2-8 แสน แลกแปลี่ยนไปอเมริกา หน้าหนาวฤดูแพร่เชื้อโรคหมาบ้า กินตับสุนัขทีกัดป้องกันโรคไม่ได้ ผู้ใช้เน็ตผจญสแปมเมลยอดถล่มอีเมลพุ่งกระฉูด ข่าวการศึกษา แนะ วธ.ออกระเบียบกลางคุมแต่งกายนักศึกษาทั่วประเทศ จากกรณีที่กระทรวงวัฒนธรรม (วธ.) เสนอให้มหาวิทยาลัยต่าง ๆ กลับมาทบทวนเกี่ยวกับการบังคับใช้กฎระเบียบการแต่งกายของนิสิตนักศึกษาโดยเฉพาะการแต่งกายของนิสิตนักศึกษาหญิงอย่างจริงจัง เนื่องจากขณะนี้นิสิตนักศึกษาหญิงมักจะสวมใส่เสื้อรัดติ้ว และกระโปรงสั้นมากนั้น ดร.จิรณี ตันติรัตนวงศ์ รองเลขาธิการคณะกรรมการการอุดมศึกษา (กกอ.) ในฐานะรักษาการเลขาธิการ กกอ. กล่าวว่า ตนเชื่อว่าแต่ละมหาวิทยาลัยคงจะไม่ทบทวนเรื่องนี้ เพราะทุกมหาวิทยาลัยก็มีระเบียบของมหาวิทยาลัยว่าด้วยเรื่องเครื่องแบบและการแต่งกายของนักศึกษาอย่างชัดเจนอยู่แล้ว และก่อนที่จะเข้าไปเป็นนิสิตนักศึกษา ทางมหาวิทยาลัยก็จะมีการจัดปฐมนิเทศและอบรมเกี่ยวกับการเตรียมตัวเข้าสู่มหาวิทยาลัย พร้อมทั้งชี้แจงระเบียบต่าง ๆ ที่นิสิตนักศึกษาควรรู้และต้องปฏิบัติตาม ซึ่งจะรวมถึงการแต่งกายที่ถูกระเบียบด้วย ดร.จิรณี กล่าวต่อไปว่า ที่ผ่านมามหา วิทยาลัยก็ดูแลเรื่องนี้อย่างใกล้ชิด โดยอาจารย์จะคอยว่ากล่าวตักเตือนนักศึกษาที่แต่งกายไม่เหมาะสมอยู่เสมอ แต่อย่างไรก็ตามยังมีนิสิตนักศึกษาบางคนที่มองว่าอาจารย์ก็เฉย ๆ จึงพยายามทำผิดระเบียบ แต่ตนคิดว่าคงมีนิสิตนักศึกษากลุ่มน้อยที่พยายามจะวิ่งไล่ตามแฟชั่น ดังนั้นตนอยากจะขอให้นิสิตนักศึกษาเหล่านั้นหันกลับมาดูตัวเองว่าสถานภาพของตัวเองเป็นใคร สิ่งที่ทำไปนั้นถูกต้อง เหมาะสมและถูกกาลเทศะหรือไม่ ทั้งนี้เมื่อคนเราอยู่ในสังคมใดก็ควรที่จะให้ความเคารพ และปฏิบัติตามกติกาที่กำหนด โดยเฉพาะนิสิตนักศึกษาต้องให้เกียรติแก่สถาบันอย่าทำให้สถาบันเสียชื่อเสียง (เดลินิวส์ อังคารที่ 12 ธ.ค. 2549 httpt://www.dailynews.co.th) การศึกษาดอทคอมชวนเรียนออนไลน์ฟรี นายกัมปนาท ฐิติรัตนกรณ์ เว็บมาสเตอร์การศึกษาดอทคอม กล่าวว่า เว็บไซต์การศึกษาดอทคอม (www.kanzuksa.com) เป็นเว็บไซต์เพื่อการศึกษาน้องใหม่ รวบรวมหลักสูตรการเรียนการสอนตั้งแต่ระดับประถมศึกษาจนถึงระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย รวมทั้งหลักสูตรวิชาชีพ ให้สมาชิกสามารถอ่านตำรา ชมสื่อการสอน ทดลองทำข้อสอบ และวิดีโอการสอนใหม่ ๆ ฟรี ซึ่งขณะนี้มีผลตอบรับดีมาก โดยมุ่งหวังให้เว็บไซต์ดังกล่าวเป็นเว็บไซต์เพื่อการเรียนรู้ (อี-เลิร์นนิ่ง) นอกจากนี้ ยังเปิดโอกาสให้โรงเรียนทั่วประเทศสมัครเข้าใช้บริการเรียนรู้ผ่านเว็บไซต์ดังกล่าวฟรี 1 โรงเรียน 1 แอค เคานท์ โดยกดปุ่มแบนเนอร์ “Free Account For School” ด้านขวามือบนหน้าเว็บไซต์ ดาวน์โหลดและส่งรายละเอียดมาตามที่อยู่ที่ระบุไว้ (เดลินิวส์ อังคารที่ 12 ธ.ค. 2549 httpt://www.dailynews.co.th) วิจิตรถอนร่างศิลปากร-อุบลออกนอกระบบ9สถาบันบุกสภาค้านต่อ วันที่ 12 ธันวาคม ศ.ดร.วิจิตร ศรีสอ้าน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ กล่าวเผยหลังประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า กระทรวงศึกษาธิการเตรียมเสนอ พ.ร.บ.มหาวิทยาลัยในกำกับของรัฐของมหาวิทยาลัย 4 แห่ง เข้าสู่ ครม.คือ ม.บูรพา ม.มหิดล ม.ศิลปากร และ ม.อุบลราชธานี แต่ ม.อุบลราชธานีทำหนังสือมาถึงว่า มหาวิทยาลัยต้องการรับฟังความเห็นประชาคมอีกรอบในวันที่ 18 ธันวาคมนี้ ส่วน ม.ศิลปากร ทำหนังสือมาถึงว่า สภาคณาจารย์ ม.ศิลปากรซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของสภามหาวิทยาลัย ขอให้สภามหาวิทยาลัยทบทวนเรื่องนี้ จึงตัดสินใจถอนร่าง พ.ร.บ.มหาวิทยาลัยในกำกับของรัฐทั้งสองแห่งออก เพื่อให้ไปทบทวนให้เรียบร้อยก่อน จึงนำเสนอ ครม.แค่ร่าง พ.ร.บ.ของ ม.บูรพา และ ม.มหิดล ซึ่ง ครม.เห็นชอบโดยไม่ได้ติดใจเรื่องใด "การถอนร่าง พ.ร.บ.ของ ม.ศิลปากร และ ม.อุบลฯ ไม่เกี่ยวกับที่มีนักศึกษา ม.ศิลปากรมาประท้วงที่ทำเนียบรัฐบาล ผมยังไม่ทราบเรื่องนี้ และ ครม.ไม่ติดใจใดๆ กับเรื่องที่ออกมาคัดค้าน ทุกคนทราบข้อเท็จจริงเรื่องนี้ดี และการที่สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) มีมติผ่านร่าง พ.ร.บ.ของมหาวิทยาลัย 3 แห่ง อย่างเป็นเอกฉันท์ อธิบายเรื่องนี้ได้ดี หากผมไม่ตัดสินใจถอนร่าง พ.ร.บ.ม.ศิลปากรและ ม.อุบลฯ ครม.ก็จะให้ความเห็นชอบ ไม่ได้สนใจว่าการเสนอร่าง พ.ร.บ.มหาวิทยาลัยออกนอกระบบ จะทำให้คะแนนนิยมรัฐบาลตกหรือไม่ ทุกอย่างพิจารณากันด้วยเหตุผล ถ้าเห็นว่าออกนอกระบบแล้วเป็นผลดีต่อรัฐบาลก็จะดำเนินการ ส่วนผลเสียที่ฝ่ายคัดค้านชี้แจงมานั้น ก็ไม่เห็นเป็นของจริง มหาวิทยาลัยที่ออกนอกระบบไปแล้ว 4 แห่ง ก็ไม่เห็นเป็นไปตามนั้น การออกนอกระบบราชการไม่ใช่การแปรรูป มหาวิทยาลัยยังเป็นของรัฐบาลทั้งหมด ไม่ได้เอามาแบ่งหุ้นขายให้เอกชน เป็นการพูดให้เพี้ยนกันไป" (คมชัดลึก พุธที่ 13 ธ.ค. 2549 http://www.komchadluek.net) นิสิตจุฬาฯ-สจพ.บุกสภายื่นค้าน ม.ออกนอกระบบวันนี้(13ธค.) นายเก่งกิจ กิติเรียงลาภ นิสิตปริญญาเอก คณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยในฐานะแกนนำกลุ่มนิสิตจุฬาฯคัดค้านนำมหาวิทยาลัยออกนอกระบบให้สัมภาษณ์ว่า นิสิตนักศึกษาของจุฬาฯและสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ(สจพ.)จะชุมนุมหน้าสภาฯคาดว่ามีผู้เข้าร่วม 500-600 คนในวันนี้ (13ธ.ค.) เวลา 12.00 น. เพื่อคัดค้านการนำมหาวิทยาลัยออกนอกระบบ "ตอนนี้ในส่วนของจุฬาฯรวบรวมรายชื่อได้เกือบ 2 พันชื่อ แต่ไม่ว่าจะได้รายชื่อเท่าไหร่จะมีการยื่นรายชื่อคัดค้านการนำมหาวิทยาลัยออกนอกระบบต่อประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ(สนช.)ไปก่อนในส่วนของจุฬาฯตอนนี้รวบรวมรายชื่อ เพื่อขอให้สนช.ยกเลิกการพิจารณาร่างพ.ร.บ.การนำมหาวิทยาลัยออกนอกระ บบและให้มหาวิทยาลัยจัดประชาพิจารณ์โดยการลงมติของทุกฝ่ายเช่น นิสิต อาจารย์และบุคลากรของมหาวิทยาลัย" (คมชัดลึก พุธที่ 13 ธ.ค. 2549 http://www.komchadluek.net) สวนดุสิตออกนอกระบบปี 52 ประกาศใน 5 ปีผู้เรียนไม่กระทบ รศ.ดร.สุขุม เฉลยทรัพย์ รองอธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฏสวนดุสิต (มสด.) กล่าวว่า มสด.จะเป็นมหาวิทยาลัยราชภัฏแห่งแรกที่จะออกนอกระบบราชการ ขณะนี้เริ่มจัดทำร่าง พ.ร.บ.ของมหาวิทยาลัย โดยดูบทเรียนจากมหาวิทยาลัยที่ออกนอกระบบไปแล้ว และร่าง พ.ร.บ.ของ 3 มหาวิทยาลัยที่สภานิติบัญญัติเพิ่งรับหลักการและกำลังเข้าสู่ขั้นตอนการแปรญัญติ มาพิจารณาประกอบ ว่าเคยติดขัดมีอุปสรรคประเด็นใดบ้าง เช่น กรณีนักศึกษากลัวจะขึ้นค่าเล่าเรียน การต่อต้านจากประชาคม เป็นต้น ทั้งนี้กรอบของร่าง พ.ร.บ.มสด.จะมีพันธกิจหลักในการสอน การบริการวิชาการ และธุรกิจวิชาการ ทั้งนี้ต้องแยกแยะคำว่าธุรกิจเป็น 2 ประเด็น ได้แก่ ธุรกิจการศึกษา และธุรกิจวิชาการ สำหรับการขึ้นค่าหน่วยกิต แม้ว่ามหาวิทยาลัยจะไม่ได้ตราเป็นกฎหมายชัดเจน แต่ได้กำหนดไว้ในบทเฉพาะกาล ในแผนการพัฒนามหาวิทยาลัย ว่าอีก 5 ปีจากนี้จะไม่ขึ้นค่าเล่าเรียนจนกระทบกับผู้เรียน ตั้งเป้าว่าจะร่าง พ.ร.บ.แล้วเสร็จในปี 2551 และคาดว่าจะออกนอกระบบได้ภายในปี 2552 (คมชัดลึก พุธที่ 13 ธ.ค. 2549 http://www.komchadluek.net) นศ.ศิลปากรยื่นหนังสือ'สุรยุทธ์'ค้านออกนอกระบบ เวลา 08.30 น. ก่อนการประชุมครม.ได้มีตัวแทนนัก ศึกษาจากมหาวิทยาลัยศิลปากร นำโดยนายปรัชชารัตน์ แสงจันทร์ นายกสโมสรนักศึกษา มหาวิทยาลัยศิลปากร เดินทางมายื่นหนังสือถึง พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรี เพื่อขอให้ชะลอการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.มหาวิทยาลัยศิลปากร พ.ศ...ออกไปก่อน ทั้งนี้เนื่องจากนักศึกษามีความวิตกกังวล และเห็นว่ามหาวิทยาลัยศิลปากรอาจยังไม่มีความพร้อมเพียงพออีกทั้งนักศึกษาส่วนใหญ่ยังไม่ได้รับทราบข้อมูลต่าง ๆ เกี่ยวกับร่าง พ.ร.บ.และมหาวิทยาลัยในกำกับของรัฐบาลอันมีผลกระทบต่อนักศึกษาด้วย จึงเห็นควรให้มีการทำ ประชาพิจารณ์อย่างทั่วถึง เพื่อให้ข้าราชการ พนักงาน ลูกจ้าง และนักศึกษา ซึ่งเป็นผู้ที่รับผลกระทบต่อกฎหมายนี้ได้รับฟังเสียก่อน (กรุงเทพธุรกิจ พุธที่ 13 ธ.ค. 2549 http://www.bangkokbiznews.com) นศ.พระนครเหนือพันคนชุมนุมค้านมหาลัยฯออกนอกระบบ องค์การนักศึกษา สจพ .ได้ออกแถลงการณ์ 2 ข้อ เรียกร้องให้ รัฐบาลพิจารณาตัวเองที่ไม่มีมารยาทการเมืองเสนอ ร่าง พ .ร .บ .ออกนอกระบบราชการ เข้าสู่การพิจารณาของสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช .) รัฐบาลที่มาจากการแต่งตั้งไม่ควรทำใน เรื่องที่กระทบต่อคนทั้งประเทศซึ่งรวมเรื่องการนำมหาวิทยาลัยออกนอกระบบ ด้วย เพราะฉะนั้น ขอให้รัฐบาล แสดงความรับผิดชอบโดยให้ สนช .หยุดการพิจารณา ร่าง พ .ร .บ .ออกนอกระบบ ส่วนข้อ 2 ให้ผู้บริหารมหาวิทยาลัย ชะลอการนำ มหาวิทยาลัยออกนอกระบบ เพื่อนำเรื่องนี้มาขอประชามติจากประชาคม ขณะนี้บุคลากร บางส่วนยังไม่รับรู้เรื่องการออกนอกระบบเท่าที่ควร นอกจากนั้น องค์การนักศึกษา สจพ .ยังได้ออกแถลงการณ์อีก ฉบับ ขอความเป็นธรรมให้กับนักศึกษาที่ออกมาคัดค้านเรื่องนี้ เพราะเมื่อคืนวัน ที่ 7 ธ .ค .ที่ผ่านมา อธิการบดี สจพ .ใช้วาจาข่มขู่ว่าจะพักการเรียนตนเป็น เวลา 14 ปี ขณะที่รองอธิการบดีฝ่ายกิจการนักศึกษา บอกกับตนว่า ตนจะต้องถูกลงโทษ ทางวินัยฐานทำให้สถานบันเสื่อมเสีย ที่นำพื้นที่ของสถาบันไปใช้แถลงข่าวที่ทำให้ เกิดความเสื่อมเสียแก่ทางสถาบัน (กรุงเทพธุรกิจ พุธที่ 13 ธ.ค. 2549 http://www.bangkokbiznews.com) ข่าววิทยาศาสตร์/เทคโนโลยี ระวังภัย!ไวรัสคอมพ์ยุคใหม่กลายพันธุ์เก่ง นายสันติ ประสานวงศ์วุฒิ Country Channel Manager บริษัท ไซแมนเทค จำกัด เปิดเผยว่า รูปแบบของไวรัสในปัจจุบันเปลี่ยน แปลงไปมากมีความซับซ้อนกว่าไวรัสยุคก่อน เนื่องจากผู้สร้างไม่ต้องการชื่อเสียงในการเขียนไวรัสเหมือนในอดีต แต่ต้องการข้อมูลส่วนตัว เช่น รหัสบัตรเครดิต ซึ่งหวังผลทางด้านการเงิน ดังนั้น ไวรัสในปัจจุบันจึงยากต่อการหลบซ่อนอยู่ตามซิส เต็มส์ต่าง ๆ และกลายพันธุ์ได้อัตโนมัติระหว่างเผยแพร่ ทำให้โปรแกรมป้องกันไวรัสหาไม่พบ ส่วนรูปแบบภัยคุกคามทางอินเทอร์เน็ตที่มีความซับซ้อนในการทำลาย และถูกค้นพบมากที่สุด 3 อันดับแรก ได้แก่ สปายแวร์ (Spyware) ซึ่งมีความสามารถในการขโมยข้อมูล, มัลแวร์ (Malware) โปรแกรมไวรัสที่ซ่อนอยู่ในอินเทอร์เน็ตสำหรับล้วงข้อมูล และกว่า 50 เปอร์เซ็นต์ พบว่าติดมากับอีเมล โดย 2 ปีนี้มัลแวร์มีการเติบโตสูงมาก และฟิชชิ่ง (Phishing) การหลอกลวงผ่านเครือข่ายอินเทอร์เน็ต โดยหลอกผู้เสียหายเปิดเผยข้อมูลส่วนตัว เช่น รหัสลับ (Password) หรือหมายเลขบัตรเครดิต ผ่านทางเว็บเพจที่มี URL เหมือนกับเว็บไซต์ที่ผู้เสียหายเป็นสมาชิก จากการสำรวจภัยคุกคามทางอินเทอร์เน็ตของไซแมนเทค พบว่า เป้าหมายการโจมตีของไวรัสได้เปลี่ยนไป โดยมุ่งเจาะข้อมูลผู้ใช้คอมพิวเตอร์ตามบ้านและทุกคนที่ใช้อินเทอร์เน็ตถึง 86 เปอร์เซ็นต์ เนื่องจากกลุ่มนี้ให้ความสำคัญเรื่องการป้องกันไวรัสน้อยกว่าองค์กรขนาดใหญ่ และแนวโน้มการถูกโจมตีของไวรัสในกลุ่มผู้ใช้ตามบ้านก็มีอัตราสูงขึ้นเรื่อย ๆ ตามการเติบโตของตลาดคอมพิวเตอร์ และตลาดอินเทอร์เน็ต ทั้งนี้ ปีนี้ไซแมนเทคเน้นกลุ่มผู้ใช้ตามบ้าน โดยออกโซลูชั่นป้องกันไวรัสใหม่ ได้แก่ นอร์ตัน อินเทอร์เน็ต ซีเคียวริตี้ 2007 (Norton Internet Security 2007) โซลูชั่นป้องกันไวรัส สปายแวร์ และภัยอื่น ๆ ซึ่งเทคโนโลยีของไซแมนเทคสามารถตรวจจับไวรัสสายพันธุ์ใหม่ ๆ ที่กลายพันธุ์จากสายพันธุ์เดิมได้ โดยไม่จำเป็นต้องถูกค้นพบและอัพเดทชื่อไว้ในฐานข้อมูลก่อน รวมทั้งมีระบบไฟร์วอลล์อัจฉริยะ อนุญาตให้แอพพลิเคชั่นที่ปลอดภัยสามารถต่อกับอินเทอร์เน็ตได้ และยับยั้งสปายแวร์ ไวรัส หนอนคอมพิวเตอร์ และแฮก เกอร์ไม่ให้ขโมยข้อมูลของผู้ใช้งานออกจากพีซีได้ (เดลินิวส์ อังคารที่ 12 ธ.ค. 2549 httpt://www.dailynews.co.th) แปรหญ้ามาเป็นเชื้อเพลิงชีวภาพ ใช้ผลิตไฟฟ้าพอใช้กันได้ทั้งโลก อาจารย์เดวิด ทิลแมน กับคณะแห่งมหาวิทยาลัยมินเนโซตา ของสหรัฐฯ กล่าวว่า อาจจะเอาหญ้ามาใช้เป็นเชื้อเพลิงชีวภาพ ซึ่งจะให้พลังงานได้มากกว่าเชื้อเพลิงชีวภาพ ที่ทำจากข้าวโพดและถั่วเหลืองต่อไร่ ที่ทำกันอยู่ในปัจจุบันเสียอีก เพราะเหตุว่าการที่ใช้ข้าวโพดและถั่วเหลืองมาทำเป็นเชื้อเพลิงชีวภาพนั้น ยังถูกโจมตีว่าต้องสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงจากฟอสซิลในการนำมากลั่นเป็นน้ำมัน เพื่อใช้กับรถแทรกเตอร์ ทำปุ๋ยและในการแปรพืชผลเหล่านี้ให้เป็นเชื้อเพลิงเสียอีก. (ไทยรัฐ อังคารที่ 12 ธ.ค. 2549 httpt://www.thairath.co.th) โรงแรมไฮเทคคลิกเดียวเปลี่ยนเตียงเป็นอ่างเพียบพร้อมด้วยเทคโนโลยีอนาคต แต่ต้องอ่านคู่มือใช้ตาแฉะ เอชดี นิตยสารบ้านและที่อยู่อาศัย จับมือกับบริษัทออกแบบจากชิคาโกคิดค้นไอเดียใหม่ๆ สำหรับออกแบบห้องพักโรงแรมในอนาคต ที่อำนวยความสะดวกตั้งแต่ก้าวเข้าล็อบบี้จนวันก้าวพ้นประตูโรงแรม โรงแรมแห่งอนาคตเพียบพร้อมไปด้วยเทคโนโลยีทันสมัย เริ่มตั้งแต่จอภาพสัมผัสที่ให้แขกสามารถเลือกห้องที่ต้องการเข้าพักคล้ายกับที่สายการบินเปิดให้ผู้โดยสารเลือกที่นั่งเครื่องบินได้เอง ผนังห้องพักถูกเคลือบสีด้วยอนุภาคนาโนที่ส่งกระแสไฟฟ้าให้กับเครื่องใช้ไฟฟ้าได้โดยไม่ต้องใช้สายไฟ หรือสายเคเบิลให้รุงรัง ในห้องยังติดตั้งเซ็นเซอร์ตรวจจับร่างกายที่ฉลาดขนาดรู้ว่าควรปรับแสงไฟ อุณหภูมิ และความชื้นระดับไหนถึงเหมาะกับสุขภาพของผู้เข้าพัก นอกจากนี้ยังออกแบบให้เตียงและอ่างอาบน้ำอยู่ในตัวเดียว เพียงแค่เลือกเตียงนอนก็จะสามารถกลายเป็นอ่างอาบน้ำได้ทันที ช่วยประหยัดพื้นที่ แนวคิดนี้เหมาะกับหอพักที่มีพื้นที่ไม่กว้างนัก พื้นที่ใช้สอยทุกตารางนิ้วต้องทำประโยชน์ได้คุ้มค่า นวัตกรรมใหม่ในโครงการนี้ยังรวมถึงพรมที่สามารถตรวจสอบสุขภาพของคนได้ผ่านทางเท้า และกระจกที่บอกข้อมูลแก่เจ้าของใบหน้าที่ส่องกระจกอยู่ว่าควรปฏิรูปร่างกายส่วนไหนบ้างพร้อมแสดงตัวอย่างให้เห็น เช่น สามารถเลือกทรงผมใหม่ สีลิปติกใหม่ เสริมจมูก หรือดึงหน้า เป็นต้น แค่นี้ยังไม่พอ แขกโรงแรมสามารถใช้พีดีเอ หรือคอมพิวเตอร์พกพาตัวเดียวสามารถใช้เป็นกุญแจห้อง โทรศัพท์มือถือ อุปกรณ์เปิดปิดไฟในห้อง เปิดปิดม่านหน้าต่าง และเครื่องปรับอากาศ และยังอาจมีจอวิดีโอซึ่งหากต่อเข้ากับพีดีเอ หรือเครื่องจีพีเอส สามารถสายตรงไปยังเคาท์เตอร์ของโรงแรมได้เลย (คมชัดลึก พุธที่ 13 ธ.ค. 2549 http://www.komchadluek.net) ข่าววิจัย/พัฒนา เอ็มเทคจัดเวที “อิเล็กโทรเซรามิกส์” อาเซียนหวังพัฒนา“เซรามิกส์อัจฉริยะ” ศูนย์เทคโนโลยีโลหะและวัสดุแห่งชาติ (เอ็มเทค) สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (วท.) เปิดการประชุมวิชาการนานาชาติด้านอิเล็กโทรเซรามิกส์ ระดับอาเซียน ครั้งที่ 5 ขึ้นอย่างเป็นทางการ เมื่อวันที่ 11 ธ.ค. ณ โรงแรมโซฟิเทล เซ็นทรัล พลาซ่า ลาดพร้าว กรุงเทพฯ โดยมี ศ.ดร.ยงยุทธ ยุทธวงศ์ รมว.วิทยาศาสตร์ฯ เป็นประธาน ซึ่งงานดังกล่าวจัดขึ้นระหว่างวันที่ 10-14 ธ.ค.นี้ รมว.วิทยาศาสตร์ฯ กล่าวถึงวัตถุประสงค์การจัดงานว่า เพื่อเป็นการนำเสนอผลงานวิจัยและผลงานวิชาการ ตลอดจนการแลกเปลี่ยนความรู้และประสบการณ์ระหว่างกันของนักวิจัยระดับนานาชาติทางด้านอิเล็กโทรเซรามิกส์และวัสดุที่เกี่ยวข้องกับการใช้งานด้านเครื่องไฟฟ้าและชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งการพัฒนาในเรื่องดังกล่าวมีความก้าวหน้าไปค่อนข้างมากแล้ว โดยเปลี่ยนจากภาพความเข้าใจเดิมๆ ของสังคมที่เข้าใจว่าเซรามิกส์คือวัสดุที่ใช้ในการผลิตกระเบื้องหรือภาชนะเครื่องปั้นต่างๆ เพียงเท่านั้น ไปเป็นวัสดุสมัยใหม่ที่มีการพัฒนาและใช้งานกันอย่างแพร่หลายแล้ว ทั้งนี้ ศ.ดร.ยงยุทธ กล่าวว่า ด้วยเทคโนโลยีในปัจจุบันได้มีการนำโลหะหรือสารประกอบต่างๆ มาพัฒนาเซรามิกส์แบบใหม่ให้มีคุณสมบัติดีขึ้น และใช้ประโยชน์ในภาคอุตสาหกรรมในวงกว้าง โดยคุณสมบัติที่สำคัญคือคุณสมบัติด้านไฟฟ้าของเซรามิกส์ หรือ อิเล็กโทรเซรามิกส์ (ผู้จัดการ อังคารที่ 12 ธ.ค. 2549 httpt://www.manager.co.th) กระดาษซับมันไคโตซาน ผศ.ดร.ภก.ภูริวัฒน์ ลี้สวัสดิ์ หัวหน้าทีมวิจัยจากคณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ กล่าวว่า ไคโตซาน (chitosan) เป็นชื่อเรียกอนุพันธ์ของไคติน (chitin) โดยไคติน เป็นพอลิเมอร์ชีวภาพ (biopolymer) ที่ได้จากธรรมชาติพบในโครงสร้างส่วนเปลือกของสัตว์จำพวก กุ้ง ปู ปลาหมึก และเปลือกของแมลง รวมทั้งในเห็ด ราบางชนิด การผลิตไคตินเป็นผลพลอยได้จากอุตสาหกรรมทะเล โดยนำส่วนที่จะนำไปทิ้งมาใช้ให้เกิดประโยชน์ใหม่ “ไคโตซานเป็นพอลิเมอร์ที่มีประจุบวก ทำให้ไคโตซานมีคุณสมบัติในการจับกับไขมันและดูดซับน้ำมันได้ดี จึงช่วยลดความเหนอะหนะบนใบหน้าและลดความมันได้ผล ที่สำคัญคือ ไคโตซานเข้ากับเนื้อเยื่อของสิ่งมีชีวิตได้ สามารถสลายตัวได้ในสิ่งมีชีวิตและมีความเฉื่อยทางชีวภาพ จึงไม่ทำให้แพ้หรือเกิดการระคายเคือง สามารถใช้ได้กับทุกเพศทุกวัยแม้ในคนที่มีผิวแพ้ง่ายและไม่ก่อให้เกิดมลภาวะต่อสิ่งแวดล้อม”ผศ.ดร.ภก.ภูริวัฒน์ กล่าว สำหรับงานวิจัยดังกล่าวมีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษากระบวนการเตรียมแผ่นซับหน้ามันจากไคโตซาน ทั้งแบบฟิล์ม แบบกระดาษ และพัฒนาแผ่นซับหน้ามันจากไคโตซานให้มีคุณสมบัติเหมาะสมสำหรับใช้ดูดซับความมันบนใบหน้า ส่วนขั้นตอนการทด ลอง เตรียมสารละลายไคโตซานผสมกับพลาสติกไซเซอร์ สารดูดซับและเยื่อปอสา จากนั้นนำสารผสมมาเทลงบนแม่พิมพ์ อบแห้งที่อุณหภูมิ 30 องศาเซลเซียส และนำแผ่นซับหน้ามันที่ได้ไปทดสอบสมบัติความเรียบเนียน ความนุ่ม ยืด หยุ่น ความหนาและการดูดซับน้ำมัน จากการทดลองพบว่าความสามารถในการดูดซับน้ำมันของแผ่นซับหน้ามันขึ้นอยู่กับชนิดของสารดูดซับ หากเติมพลาสติกไซเซอร์ที่มีต่อแผ่นซับหน้ามันแบบฟิล์ม พบว่า การเติมสาร PEG6000 ในปริมาณที่มากเกินไปจะทำให้ได้ฟิล์มที่แข็ง ไม่นุ่ม ขณะที่การเติมสาร sorbitol จะทำให้ฟิล์มมีความอ่อนนุ่ม แต่ถ้าเติมในปริมาณที่มากเกินไปจะทำให้ฟิล์มไม่คงรูปและผิวของฟิล์มมันเหนอะหนะ ดังนั้นการเตรียมแผ่นซับหน้ามันแบบฟิล์ม จึงควรเลือกใช้สารทั้งสองชนิดข้างต้นในปริมาณที่เหมาะสมเป็นพลาสติกไซเซอร์ เพื่อทำให้ฟิล์มมีความอ่อนนุ่มและคงรูปร่างที่ดี (เดลินิวส์ อังคารที่ 12 ธ.ค. 2549 httpt://www.dailynews.co.th) วิจัยเบเกอรี่แป้งบัว อารหารทดแทนผู้บริโภคแพ้ถั่ว บัวหลวง...มีชื่อสามัญว่า LOTUS ชื่อวิทยาศาสตร์ Nelubo nuclfra Gaerth อยู่ในวงศ์ NYMPHAEACEAE ส่วนชื่ออื่นๆคือ บุณฑริก, ปทุมมาลย์, สัตตบงกช, สัตตบุษย์ และอุบลชาติ นักวิชาการได้ศึกษาวิจัย...บัว พบว่ามีคุณประโยชน์ นอกจากนำมาประดับสวยๆงามๆแล้วยังเป็นอาหาร ในพิธีกรรมทางศาสนา ในชีวิตประจำวัน และใช้เป็นสมุนไพรรักษาโรค ด้วยคุณประโยชน์ที่มากมาย นักวิชาการจาก มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลพระนคร (มทร.พระนคร) โดย ผศ.วลัย หุตะโกวิท รองอธิการบดีฝ่ายบริหารฯ ได้เป็นต้นคิดทำการวิจัย “การแปรรูปเม็ดบัวแก่เป็นแป้งเบเกอรี่” เพื่อให้ผู้บริโภคได้เข้าสู่ปัจจัยที่ว่า...กินอาหารให้เป็นยา มิใช่กินยา (มาก) เป็นอาหาร โดยพุ่งไปถึงคุณค่าทางอาหารของ “เม็ดบัวหลวงแก่” อันมีธาตุฟอสฟอรัส, แคลเซียม และ วิตามินซี อีกทั้งให้กลิ่นที่หอมเป็นเอกลักษณ์ และมีคุณสมบัติในการประกอบอาหารได้ดีเช่นเดียวกับแป้งอื่นๆทั่วไป (ไทยรัฐ อังคารที่ 12 ธ.ค. 2549 httpt://www.thairath.co.th) พัฒนาคอมพ์พกพาให้คนตาบอด มอ.คิดค้นได้ถูกกว่านำเข้า ดร.พิชญา ตัณฑัยย์ หัวหน้าภาควิชาวิศวกรรมคอมพิวเตอร์ คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ (มอ.) เปิดเผยว่า นักศึกษาภาควิชาคอมพิวเตอร์ คณะวิศวกรรมศาสตร์ มอ.เขตการศึกษาภูเก็ต จัดทำโครงการวิจัยเครื่องคอมพิวเตอร์แบบพกพาที่มีคีย์บอรด์และหน่วยแสดงผลแบบเบรลล์ภาษาไทยและภาษาอังกฤษสำหรับผู้พิการทางสายตา โดยได้รับเงินสนับสนุนจากศูนย์เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์แห่งชาติ ขณะนี้อยู่ระหว่างการทดสอบผลิตภัณฑ์ต้นแบบ โดยนำไปให้ผู้พิการทางสายตาทดลองใช้เพื่อหาจุดบกพร่อง คาดว่าปี 2550 จะสามารผลิตออกมาเพื่อแจกจ่ายและจำหน่ายให้ผู้พิการทางสายตาได้ ทั้งนี้คอมพิวเตอร์แบบพกพาที่ผลิตนี้จะมีต้นทุนการผลิตที่ต่ำกว่าเครื่องคอมพิวเตอร์ที่นำเข้าจากต่างประเทศ เนื่องจากอุปกรณ์ที่นำมาประกอบนั้นจะเน้นของที่หาง่ายตามท้องตลาด มีราคาถูก และสามารถต่อเข้ากับอุปกรณ์ต่อพ่วงได้ตามมาตรฐานของระบบคอมพิวเตอร์ทั่วไป รวมถึงในส่วนของซอฟต์แวร์ได้ออกแบบให้ทำงานบนระบบปฏิบัติการลีนุกซ์ และสามารถนำคำสั่งเบื้องต้นสำหรับการเขียนโปรแกรมหรือ ซอร์ส โค้ด ที่มีอยู่แล้วมาแก้ไขเพิ่มเติมให้เหมาะสมกับการประมวลผลภาษาไทยได้ด้วย สำหรับฮาร์ดแวร์ผลิตภัณฑ์คอมพิวเตอร์นี้จะประกอบด้วยอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ครบชุด ทั้งคีย์บอรด์รับข้อมูลจากผู้ใช้และส่วนแสดงผลเบรลล์ (คมชัดลึก พุธที่ 13 ธ.ค. 2549 http://www.komchadluek.net) ไบโอเอเชียไทยเทียบชั้นอินเตอร์ ศ.ดร.มรกต ตันติเจริญ ผู้อำนวยการศูนย์พันธุวิศวกรรมและเทคโนโลยีแห่งชาติ (ไบโอเทค) เปิดเผยว่า งานเทคโนโลยีชีวภาพที่จะจัดขึ้นในปีหน้า ไบโอเทคใช้งบจัดงานกว่า 10 ล้านบาท เพื่อขยายการจัดงานให้อยู่ในระดับนานาชาติมากขึ้น โดยใช้ชื่องานว่า ไบโอเอเชีย 2007 การประชุมครั้งนี้เน้นด้านเทคโนโลยีทางการเกษตรเป็นหลัก โดยมีนักวิชาการด้านไบโอเทคโนโลยีจาก 20 ประเทศเข้าร่วม และคาดว่าเงินส่วนหนึ่งจะได้กลับคืนมาจากผู้สนับสนุน และค่าลงทะเบียนจากผู้เข้าร่วมประชุมวิชาการ ที่ผ่านมาไบโอเทคได้จัดงานไบโอไทยแลนด์ขึ้น 3 ครั้งในประเทศไทย โดยเป็นการประชุมสัมมนาวิชาการและแสดงนิทรรศการด้านเทคโนโลยีชีวภาพ ที่ประสบความสำเร็จไม่แพ้งานด้านไบโอเทคโนโลยีที่จัดในประเทศต่างๆ เช่น ญี่ปุ่น สหรัฐอเมริกา และมาเลเซีย "ไบโอเทคได้ทำงานวิจัยด้านเทคโนโลยีชีวภาพมาอย่างต่อเนื่อง จนมีผลงานวิจัยที่ช่วยเพิ่มพูนศักยภาพในประเทศทั้งในด้านเกษตรกรรม และอุตสาหกรรมเป็นจำนวนมาก " (กรุงเทพธุรกิจ พุธที่ 13 ธ.ค. 2549 http://www.bangkokbiznews.com) วว.แปรสภาพน้ำเสียเป็นพลาสติกชีวภาพ ดร.นงลักษณ์ ปานเกิดดี ผู้ว่าการสถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทย (วว.) เปิดเผยว่า นักวิจัยฝ่ายสิ่งแวดล้อม นิเวศวิทยาและพลังงาน ร่วมกับฝ่ายเทคโนโลยีชีวภาพ ประสบความสำเร็จในการคัดเลือกแบคทีเรียสายพันธุ์ดีจากแหล่งน้ำทิ้ง ในโรงงานผลิตไบโอดีเซลจากน้ำมันปาล์ม พบแบคทีเรียที่สามารถย่อยกลีเซอรอล หรือของเสียที่เกิดจากกระบวนการผลิตไบโอดีเซล ให้เปลี่ยนเป็นสารตั้งต้นที่มีคุณสมบัติผลิตเป็นพลาสติกชีวภาพ ในกระบวนการผลิตไบโอดีเซลจากน้ำมันปาล์ม จะได้ไบโอดีเซล 90 เปอร์เซ็นต์ ส่วนที่เหลืออีก 10 เปอร์เซ็นต์ เป็นกรีเซลรอลดิบ หรือของเสียที่ประกอบด้วยกรดไขมันและเมทานอล โรงงานต้องหาวิธีการกำจัด โดยส่วนหนึ่งนำไปเข้ากระบวนการทำให้บริสุทธิ์ เพื่อใช้เป็นส่วนประกอบในเครื่องสำอาง "ประเทศไทยมีโรงงานแปรรูปน้ำมันปาล์ม 6 แห่ง ผลิตไบโอดีเซลวันละ 4 แสนตัน และของเสียจากการผลิตคิดเป็น 10 เปอร์เซ็นต์ของวัตถุดิบ ทีมวิจัยจึงพัฒนาวิธีการนำของเสียดังกล่าวมาใช้ประโยชน์ ในขณะที่ต่างประเทศมีการวิจัยใช้แบคทีเรียย่อยสลายกลีเซอรอลดิบ เพื่อลดต้นทุนการกำจัด" (กรุงเทพธุรกิจ พุธที่ 13 ธ.ค. 2549 http://www.bangkokbiznews.com) มจธ.ใช้คุณสมบัตินาโนแยกก๊าซไฮโดรเจน ผศ.ดร.นวดล เหล่าศิริพจน์ และทีมวิจัยจากบัณฑิตวิทยาลัยร่วมด้านพลังงานและสิ่งแวดล้อม (JGSEE) คณะพลังงานและวัสดุ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี ได้ศึกษาวิธีผลิตไฮโดรเจนจากเชื้อเพลิงที่สามารถหาได้ในประเทศไทยเพื่อใช้ทำเป็นเชื้อเพลิงชนิดแข็ง โดยงานวิจัยระยะแรกเน้นการสังเคราะห์ตัวเร่งปฏิกิริยาชนิดใหม่เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพให้สามารถผลิตไฮโดรเจนได้ดีขึ้น เซลล์เชื้อเพลิงเป็นพลังงานทดแทนที่นักวิจัยทั่วโลกกำลังให้ความสนใจศึกษาเพื่อพัฒนาให้สามารถใช้ทดแทนน้ำมันได้อย่างมีประสิทธิภาพมากที่สุด ปัจจุบัน เซลล์เชื้อเพลิงต้นแบบถูกนำไปใช้เป็นแหล่งพลังงานได้หลายรูปแบบ เช่น การขับเคลื่อนรถยนต์ ใช้แทนแบตเตอรี่ในคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊ค ซึ่งมีอายุใช้งานนานกว่า ตลอดจนใช้ผลิตกระแสไฟฟ้าสำหรับใช้ในอาคารบ้านเรือน อาคารพาณิชย์ โรงงานอุตสาหกรรม และโรงพยาบาล ก๊าซไฮโดรเจนสามารถแยกออกจากสารตั้งต้นจำพวกสารไฮโดรคาร์บอน เช่น ก๊าซธรรมชาติ ก๊าซหุงต้ม ชีวมวล เอทานอล เมทานอล โดยผ่านกระบวนการทางเคมีที่เรียกว่า กระบวนการรีฟอร์มมิ่ง โดยใช้พลังงานความร้อน และตัวเร่งปฏิกิริยาในการแยกไฮโดรเจน นักวิจัย กล่าวว่า กระบวนการรีฟอร์มมิ่งที่ใช้ผลิตไฮโดรเจนออกจากสารไฮโดรคาร์บอน หากไม่ใส่ตัวเร่งปฏิกิริยาเข้าไปในระบบจำเป็นต้องเพิ่มพลังงานความร้อนแก่ระบบจำนวนมาก และใช้ค่าใช้จ่ายสูง ยกตัวอย่าง กระบวนการแยกไฮโดรเจนจากก๊าซธรรมชาติ ต้องใช้อุณหภูมิสูงกว่า 1,000 องศาเซลเซียส จึงจะสามารถแยกไฮโดรเจนออกมาได้ แต่หากใส่ตัวเร่งปฏิกิริยาที่เป็นองค์ประกอบของโลหะหนักหลายชนิดเข้าไป จะช่วยลดอุณหภูมิภายในระบบลงเหลือเพียง 500-800 องศาเซลเซียส ตัวเร่งปฏิกิริยาจึงมีบทบาทสำคัญมาก ทีมงานวิจัยจึงพยายามสังเคราะห์ตัวเร่งปฏิกิริยาชนิดใหม่ซึ่งมีประสิทธิภาพสูงออกมา และพบว่าตัวเร่งปฏิกิริยาจำพวกซีเรียมออกไซด์ (ซีเรีย) เมื่อลดขนาดอยู่ในระดับนาโนจะช่วยเพิ่มพื้นที่สัมผัสระหว่างสารตั้งต้นกับตัวเร่งปฏิกิริยาและทำให้มีการทำงานที่ดีขึ้น โดยเมื่อนำไปทดสอบในกระบวนการผลิตไฮโดรเจนจากสารไฮโดรคาร์บอนชนิดต่างๆ พบว่า มีศักยภาพในการผลิตสูงมากเมื่อเปรียบเทียบกับตัวเร่งปฏิกิริยาทั่วไปที่ใช้ในปัจจุบัน (กรุงเทพธุรกิจ พุธที่ 13 ธ.ค. 2549 http://www.bangkokbiznews.com) หุ่นยนต์นาโนส่งตรวจอวัยวะภายใน รศ.ดร.สุพล อนันตา สุพล และ ผศ.ดร.รัตติกร ยิ้มนิรัญ นักวิจัยจากภาควิชาฟิสิกส์ คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ เป็นหนึ่งในทีมงานที่สนใจพัฒนาหุ่นยนต์จิ๋วเช่นเดียวกัน โดยศึกษาพบเซรามิคชนิดพิเศษจากสารพิโซเซรามิค ซึ่งอยู่ในกลุ่มเซรามิคชั้นสูง และมีคุณสมบัติตามที่ต้องการ ?เมื่อเซรามิคชนิดนี้ได้รับการกระตุ้นด้วยสนามไฟฟ้าพบการตอบสนอง โดยเซรามิคมีการยืดหดตัวในระดับนาโนเมตร หรือเมื่อถูกกระตุ้นด้วยแรงกล เซรามิคจะจดจำแรงกระตุ้นและส่งแรงตอบสนองออกมาให้เห็น ซึ่งลักษณะดังกล่าวเรียกได้ว่าเป็น เซรามิคฉลาด? นักวิจัยกล่าว ภายหลังจากค้นพบเซรามิคชนิดพิเศษดังกล่าวแล้วทำให้ทีมวิจัย ซึ่งได้รับการสนับสนุนทุนวิจัยจากสำนักงานกองทุนสนับสนุนการวิจัย (สกว.) มั่นใจว่าจะสามารถพัฒนาหุ่นยนต์จิ๋วจากวัสดุดังกล่าวได้ โดยประดิษฐ์เป็นมอเตอร์ควบคุมการขับเคลื่อนของหุ่นยนต์ในระดับนาโน ซึ่งช่วยให้หุ่นยนต์สามารถเคลื่อนที่ได้ด้วยตัวเอง และส่งข้อมูลผ่านสายเคเบิลหรือคลื่นความถี่สูงเพื่อแสดงผลภาพและการรักษามายังจอมอนิเตอร์ภายนอก ในส่วนของการควบคุมหรือบังคับหุ่นยนต์ให้เคลื่อนที่ไปยังทิศทางที่ต้องการนั้น สามารถทำได้โดยอาศัยกระแสไฟฟ้ากระตุ้น หรือสัญญาณไมโครเวฟจากภายนอก ซึ่งนอกจากหุ่นยนต์จะเคลื่อนที่ไปยังบริเวณตรวจวินิจฉัยอวัยวะที่ผิดปกติภายในร่างกายแล้ว ยังสามารถบอกตำแหน่งเนื้อร้ายที่เกิดขึ้นได้ด้วย (กรุงเทพธุรกิจ พุธที่ 13 ธ.ค. 2549 http://www.bangkokbiznews.com) นักวิจัยนำสิ่งทอชุบ 'พลาสมา' ผลิตชุดผจญเพลิง ดร.ประดุง สวนพุฒ หัวหน้าโครงการวิจัยเทคโนโลยีพลาสมาสำหรับการปรับปรุงคุณภาพไหมไทย มหาวิทยาลัยเชียงใหม่เผยว่า หลังจากที่ประสบความสำเร็จพัฒนาผ้าไหมให้สามารถกันน้ำกันเปื้อนและกันยับ ได้แล้ว ทีมวิจัยยังได้ทดสอบคุณสมบัติของการเคลือบก๊าซพลาสมาสำหรับสิ่งทอชนิดอื่นด้วย อาทิเช่น ประยุกต์ใช้พลาสมาอุณหภูมิต่ำเพื่อให้ผ้าบางชนิดให้สามารถซึมซับน้ำได้ดีขึ้น เช่น ชุดกีฬาที่ซึมซับและระบายเหงื่อออกอย่างรวดเร็ว "โครงการของเราได้รับความสนใจจากเอกชนอย่างดี มีหลายบริษัทที่สนใจส่งตัวอย่างมาให้ทดลองไม่ว่าจะเป็นผู้ผลิตชุดและอุปกรณ์กีฬาอย่าง เอฟบีที สมาคมฟอกย้อม น้อมจิตร วาโก้ หรือบริษัทสิ่งทอต่างๆ ทั้งในและต่างประเทศ เช่น บริษัทสิ่งทอจากไต้หวันที่แสดงความสนใจเข้ามา " ดร.ประดุงกล่าว นักวิจัยอธิบายว่า การทำงานอาบสิ่งทอด้วยพลาสมานั้น ไม่แตกต่างจากเดิมเทคนิคที่ใช้อาบผ้าไหม เพียงแต่ขึ้นอยู่กับประเภทของก๊าซที่ใช้ในการผลิตพลาสมาเท่านั้น พลาสมาที่ใช้เคลือบสิ่งที่เพื่อเพิ่มคุณสมบัติกันน้ำได้จากก๊าซที่มีฟลูออรีนเป็นส่วนประกอบ ขณะที่พลาสมาที่มีออกซิเจนเป็นส่วนประกอบนั้นทำให้สิ่งทอมีคุณสมบัติดูดซับน้ำได้ดี นอกจากนี้ ในปีที่สามของงานวิจัยโครงการยังเตรียมใช้พลาสมาเพื่อช่วยให้สิ่งทอทนไฟได้ดีขึ้นด้วย โดยคาดว่าจะใช้พลาสมาจากก๊าซฟอสฟอรัส สิ่งทอที่มีคุณสมบัติทนไฟสามารถนำไปใช้เป็นเบาะหรือฉนวนหุ้มอุปกรณ์ในเครื่องบิน หรือเป็นเครื่องแบบของนักดับเพลิงได้เช่นกัน กระบวนการอาบเส้นใยด้วยพลาสมาเกิดจากก๊าซที่ถูกทำให้แตกตัวโดยภายในมีประจุและอิเล็กตรอน เมื่อนำสิ่งทอเข้าไปอาบในพลาสมาจะทำให้ผิวของเส้นใยเกิดการเปลี่ยนแปลง ปัจจุบัน อุตสาหกรรมสิ่งทอต่างประเทศได้ใช้กระบวนการพลาสมาทำความสะอาดเส้นใยแทนการล้างหรือซักฟอกด้วยน้ำและสารเคมี หัวหน้าโครงการวิจัยฯ กล่าวว่า จากการทดสอบพบว่า สิ่งทอที่ผ่านการอาบด้วยก๊าซพลาสมาสามารถรองรับการซักได้ 30 ครั้ง โดยที่คุณสมบัติพิเศษยังคงเดิม เท่ากับสิ่งทอที่ชุบด้วยอนุภาคเงิน หรือเสื้อนาโนป้องกันแบคทีเรียด้วยต้นทุนการผลิตที่ไม่แตกต่างกัน อย่างไรก็ดี อุปสรรคสำหรับการพัฒนาเพิ่มคุณสมบัติพิเศษด้วยก๊าซพลาสมาคือ เครื่องต้นแบบสามารถอาบพลาสมาได้ครั้งละหนึ่งตัวเท่านั้น ขณะที่ราคาเครื่องมีมูลค่าสูงนับสิบล้านบาท และภาคเอกชนยังไม่กล้าเสี่ยง (กรุงเทพธุรกิจ พุธที่ 13 ธ.ค. 2549 http://www.bangkokbiznews.com) ข่าวทั่วไป เด็กไทยแจ๋ว ! คว้าทองแดงดาราศาสตร์เอเชีย-แปซิฟิก อาจารย์ประพีร์ วิราพร เลขาธิการสมาคมดาราศาสตร์ไทย เผยว่า เมื่อช่วงเย็นที่ผ่านมา ทางสมาคมดาราศาสตร์ไทย ในฐานะศูนย์หนึ่งของมูลนิธิส่งเสริมโอลิมปิกวิชาการและพัฒนามาตรฐานวิทยาศาสตร์ศึกษาในพระอุปถัมภ์สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ (สอวน.) ได้รับแจ้งจากนายพิสิฎฐ นิธิยานันท์ นักเรียนชั้น ม. 6 โรงเรียนวัดสุทธิวราราม 1 ใน 3 ตัวแทนเยาวชนไทยที่ได้ไปแข่งขันดาราศาสตร์โอลิมปิกภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก ครั้งที่ 2 (The 2 nd Asian-Paciffic Astronomy Olympaid) ยังเมืองวลาดิวัสต็อก ประเทศรัสเซียว่าเขาสามารถคว้าเหรียญ “ทองแดง” มาครองได้ ทั้งนี้ การแข่งขันดังกล่าวได้ประกาศผลรางวัลแล้วตั้งแต่เมื่อเย็นวานที่ผ่านมา (10 ธ.ค.) ทว่าได้รับแจ้งจากนายพิสิฏฐ ว่าไม่สามารถติดต่อข้ามประเทศมาได้ แต่เมื่อช่วงที่ผ่านมาที่ได้โดยสารเครื่องบินจากประเทศรัสเซียมาเปลี่ยนเที่ยวบิน ณ ประเทศเกาหลีใต้ เขาจึงสามารถติดต่อมายังประเทศไทยได้ในที่สุด อาจารย์ประพีร์ เผยอีกว่า สำหรับการแข่งขันดาราศาสตร์โอลิมปิกภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิกครั้งนี้ เป็นการจัดการแข่งขันเป็นครั้งที่ 2 แล้วแต่เป็นการแข่งขันครั้งแรกของเยาวชนไทย โดยเป็นการแข่งขันรายบุคคล ซึ่งฝ่ายไทยได้ส่งตัวแทนเยาวชนเข้าร่วมการแข่งขันทั้งสิ้น 3 คน โดยอีก 2 คนประกอบด้วย นายกฤตภาส ชาญชัยวรวิทย์ นักเรียนชั้น ม.6 จากโรงเรียนเบญจมราชรังสฤษฏิ์ และนายเสริมสุข ธนบรรเจิดสิน นักเรียนชั้น ม.5 จากโรงเรียนวัดสุทธิวราราม (ผู้จัดการ อังคารที่ 12 ธ.ค. 2549 httpt://www.manager.co.th) หลอกผู้ปกครอง รร.ดัง ตุ๋น 2-8 แสน แลกแปลี่ยนไปอเมริกา ปกครองนักเรียนโรงเรียนชื่อดังในกรุงเทพฯ นับ 10 ราย แห่แจ้งความถูกแก๊ง 18 มงกุฏตุ๋นเปื่อย อ้างตัวเป็นเจ้าของโครงการ นร.แลกเปลี่ยนรัฐบาบไทย-สหรัฐฯ สามารถส่งบุตรหลานผู้เสีนยหายไปเรียนภาษาที่เมืองนอกได้ เรียกเงินรายละ 2-8 แสนบาท แถมโชว์รูปถ่ายคู่กับ รมว.ศึกษาฯ จนหลงเชื่อเสียเงินเสียทองเกือบล้าน แต่พอไปถึงสหรัฐ ลูกโทรฯ กลับมาบอกว่าเป็นแค่โรงเรียนบ้านนอกของเมืองลุงแซม อยู่ในรัฐเทกซัส ส่วนแก๊งแสบก็ไม่ยอมจ่ายเงิน แถมปิดบริษัทหนีจนเด็กจะถูกส่งตัวกลับ เลยมาร้องเรียนให้เจ้าหน้าที่ช่วยดำเนินการ เผยผู้เสียหายเป็นกลุ่มไฮโซ มีทั้งแพทย์ นักธุรกิจ กรรมการบริหารธนาคาร ข้าราชการระดับสูง เมื่อเวลา 15.30 น.วันที่ 11 ธ.ค. ผู้ปกครองนักเรียนโรงเรียนมัธยมศึกษาชื่อดังในกรุงเทพฯ หลายแห่ง ประมาณ 10 คน เข้าร้องเรียนต่อ พ.ต.ท.วัชระ ตั้งยะฤทธิ์ พนักงานสอบสวน (สบ 3) สน.สุทธิสาร ว่า ถูกนายภัทรเทพ (สงวนนามสกุล) และพวก ซึ่งเป็น เจ้าของโครงการ STUDENT EXCHANGE CORPORATION หรือนักเรียนไทยแลกเปลี่ยน เรียนภาษาในประเทศสหรัฐอเมริกา ฉ้อโกงหลอกเรียกเงินค่าใช้จ่ายจากบรรดาผู้ปกครองรายละ 2 แสนถึง 8 แสนบาท โดยไม่ได้ส่งบุตรหลานไปเรียนในโครงการแลกเปลี่ยนระหว่างรัฐบาลตามที่กล่าวอ้างไว้ พร้อมแอบอ้างชื่ออดีต รมว.ศึกษา ธิการ คนหนึ่งว่าเป็นที่ปรึกษาโครงการเพื่อให้เกิดความน่าเชื่อถือ จนมีนักเรียน และผู้ปกครองตกเป็นเหยื่อ เข้าร่วมโครงการกว่า 30 ราย (เดลินิวส์ อังคารที่ 12 ธ.ค. 2549 httpt://www.dailynews.co.th) หน้าหนาวฤดูแพร่เชื้อโรคหมาบ้า กินตับสุนัขทีกัดป้องกันโรคไม่ได้ นพ.ปราชญ์ บุณยวงศ์วิโรจน์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) เปิดเผยว่า จากการเฝ้าระวังโรคพิษสุนัขบ้า (Rabies) หรือที่เรียกว่าโรคหมาบ้าโรคหมาว้อ ซึ่งเกิดจากเชื้อไวรัส หลังถูกกัดแล้ว เชื้อจะเดินทางไปตามเส้นประสาท เข้าสู่สมองทำให้มีอาการทางระบบประสาท และกล้ามเนื้อ เมื่อเกิดอาการแล้วจะไม่สามารถรักษาให้หายได้ โอกาสตายมี 100 เปอร์เซ็นต์ โดยจำนวนผู้เสียชีวิตจากโรคพิษสุนัขบ้าในปีนี้ใกล้เคียงกับปี 2548 ซึ่งพบทั้งหมด 20 ราย ส่วนใหญ่ถูกลูกสุนัขวัย 3 เดือนกัด นพ.ปราชญ์กล่าวต่อไปว่า การแพร่ กระจายของโรคพิษสุนัขบ้ามักเกิดในฤดูหนาวแล้วนำไปสู่การระบาดในฤดูร้อน เนื่อง จากหน้าหนาวในประเทศไทย ซึ่งเริ่มประมาณเดือนพฤศจิกายน เป็นฤดูผสมพันธุ์ของสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมหลายชนิด ทางด้าน นพ.ธวัช สุนทราจารย์ อธิบดี กรมควบคุมโรค กล่าวว่า มีสิ่งหนึ่งที่ทำให้ คนจำนวนหนึ่งตายจากโรคนี้เพราะมีความเชื่อผิดๆ เกี่ยวกับโรคนี้อย่างน้อย 8 ประการ ได้แก่ 1. เชื่อว่าโรคพิษสุนัขบ้าเป็นเฉพาะ หน้าร้อนเท่านั้น 2. เชื่อว่าเมื่อถูกสุนัขกัดต้องใช้รองเท้าตบแผล หรือใช้เกลือขี้ผึ้งบาล์ม หรือยาฉุนยัดในแผล 3. หลังถูกกัดต้องรดน้ำมนต์จะช่วยรักษาโรคพิษสุนัขบ้าได้ 4. เมื่อถูกสุนัขกัด การฆ่าสุนัขให้ตายแล้วนำตับสุนัขมากิน คนก็จะไม่ป่วยเป็นโรคนี้ 5. เมื่อถูกสุนัขกัด การตัดหูตัดหางสุนัขจะช่วยให้สุนัขไม่เป็นโรคพิษสุนัขบ้า 6. คนท้องไม่ควรฉีดวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้า 7. โรคพิษสุนัขบ้าเป็นเฉพาะในสุนัขเท่านั้น 8. วัคซีนโรคพิษสุนัขบ้าฉีดรอบสะดือ 14 เข็ม หรือ 21 เข็ม ถ้าหยุดฉีดต้องเริ่มใหม่ เป็นต้น ความเชื่อเหล่านี้ทำให้ผู้ที่ถูกสุนัขที่มีเชื้อไวรัส โรคพิษสุนัขบ้ากัดไม่ไปพบแพทย์เพื่อฉีดวัคซีนป้องกัน ซึ่งเป็นวิธีที่ได้ผลและดีที่สุด ทำให้โอกาสตายมีร้อยเปอร์เซ็นต์ โดยขณะนี้วัคซีนโรคพิษสุนัขบ้ามีความปลอดภัยสูง ฉีดเพียง 5 เข็ม และไม่ต้องฉีดทุกวัน (ไทยรัฐ อังคารที่ 12 ธ.ค. 2549 httpt://www.thairath.co.th) ผู้ใช้เน็ตผจญสแปมเมลยอดถล่มอีเมลพุ่งกระฉูด โฆษณาอินเทอร์เน็ต หรือ "สแปม" กำลังสร้างความยุ่งยากใจให้ผู้ใช้อินเทอร์เน็ตเพิ่มขึ้น เหตุจากผู้ส่งโฆษณาดังกล่าวสามารถค้นพบวิธีเจาะทะลวงระบบกลั่นกรองจดหมายอิเล็กทรอนิกส์ เพื่อเข้าสู่อีเมลของเราได้อย่างง่ายดาย การศึกษาโดยบริษัท โพสตินี ซึ่งเป็นบริษัทเกี่ยวกับความปลอดภัยทางอินเทอร์เน็ต ระบุว่า จดหมายอิเล็กทรอนิกส์ หรืออีเมล ซึ่งเป็นที่ไม่ต้องการ เพราะมักเป็นการโฆษณาสินค้า เพิ่มเป็นสัดส่วน 91 เปอร์เซ็นต์ของจำนวนอีเมลทั้งหมด และในช่วงมากกว่า 12 เดือนที่ผ่านมา ปริมาณโฆษณาอินเทอร์เน็ต หรือ "สแปม" ต่อวันเพิ่มขึ้นถึง 120 เปอร์เซ็นต์ ส่วนบริษัท ไอออนพอร์ต ซิสเต็มส์ ซึ่งตั้งอยู่ในรัฐแคลิฟอร์เนีย รายงานว่า สแปมในอินเทอร์เน็ตทั่วโลกนั้นเพิ่มขึ้นจาก 31,000 ล้านชิ้นต่อวัน ในเดือนตุลาคม 2548 มาเป็น 61,000 ล้านชิ้นต่อวัน ในเดือนตุลาคมปีนี้ (คมชัดลึก พุธที่ 13 ธ.ค. 2549 http://www.komchadluek.net) KMUTT Digital Library Contact Digital Library : info@lib.kmutt.ac.th Tel : 0-2470-8215