|
หัวข้อข่าวปีที่ 1 ฉบับที่ 4 ประจำวันที่ 2000-05-01
ข่าวการศึกษา
การประกันคุณภาพคณะแพทยศาสตร์ การเพิ่ม GPA ให้มากกว่า 10% อินเทลส่งเสริมการศึกษา
ข่าววิจัย/พัฒนา
สมุนไพรไทยต้านมาลาเรีย
ข่าวการศึกษา
การประกันคุณภาพคณะแพทยศาสตร์
จากการที่ทบวงฯได้ส่งเสริมการประกันคุณภาพภายในและภายนอกของสถาบันอุดมศึกษา โดยกำหนดกฎเกณฑ์ต่างๆ พร้อมทั้งจัดให้มีคณะ และสถาบันอุดมศึกษาในโครงการ นำร่องพัฒนาระบบคุณภาพภายใน ได้แก่ คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล วิทยาลัยแพทยศาสตร์ พระมงกุฎ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย มหาวิทยาลัยขอนแก่น มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ คณะกรรมการอำนวยการประกันคุณภาพการศึกษาของทบวงฯ ได้เข้าไปตรวจสอบพบว่า คณะแพทยศาสตร์ทั้ง 6 แห่งผ่านเกณฑ์การพิจารณาในเบื้องต้น เนื่องจากมีระบบประกันคุณภาพภายใน เป็นที่ยอมรับได้ ต่อไปคณะกรรมการอำนวยการ การประกันคุณภาพการศึกษาของทบวงฯ จะประเมินเพื่อรับรองมาตรฐานการศึกษา อีกครั้ง ในอนาคตหากม ีสำนักงานกลาง ทำหน้าที่รับรองมาตรฐาน และประเมินระบบการศึกษา ทำหน้าที่ประกันคุณภาพภายนอกแล้ว ทบวงฯ จะทำหน้าที่ประกันคุณภาพภายใน สาขาวิชาที่คณะกรรมการอำนวยการประกันคุณภาพ ของทบวงฯ จะเข้าไปตรวจสอบต่อไป คือ คณะวิศวกรรมศาสตร์ คณะศึกษาศาสตร์ และคณะบริหารธุรกิจ
การเพิ่ม GPA ให้มากกว่า 10%
นายทองคูณ หงส์พันธุ์ รองปลัดกระทรวงศึกษาธิการเปิดเผยว่า การดำเนินการร่วมกัน ระหว่างกระทรวงศึกษาธิการ และทบวงมหาวิทยาลัยเกี่ยวกับ การสอบเอ็นทรานซ์ เป็นไปด้วยความเรียบร้อย แต่ยังต้องปรับปรุงโปรแกรมการคิดค่า GPA ศธ.01 ศธ.02 และศธ.03 ให้เป็นโปรแกรมเดียวกัน และปรับปรุงโปรแกรมการส่งข้อมูล GPA ให้มีประสิทธิภาพและเป็นระบบเดียวกัน ควรเพิ่มสัดส่วนการใช้ค่า GPA ให้มากกว่าเดิม จะทำให้ผลการเรียนของนักเรียนดีขึ้น ครูตั้งใจสอนมากขึ้น นายวันชัย ศิริชนะ ปลัดทบวงกล่าวว่า การเพิ่มสัดส่วน GPA ขึ้นอยู่กับมหาวิทยาลัยต่างๆ ที่เป็นผู้รับนิสิตนักศึกษา โดยความเห็นส่วนตัว เห็นว่าขณะนี้มาตรฐานยังไม่เพียงพอ ควรศึกษาผลกระทบในช่วง 3 ปีแรกก่อน และควรปรับปรุงมาตรฐาน การศึกษาในระดับมัธยมศึกษา วิธีคิดผลการเรียนของโรงเรียนให้เป็นมาตรฐานเดียวกัน นายวิจิตร ศรีสอ้าน อธิการบดีมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี กล่าวว่า เดิมมีข้อเสนอแนะให้ค่าน้ำหนัก GPA และ PR 50% ต่อมาลดลงเป็น 25% และ 10% การจะเพิ่ม GPA หรือไม่นั้น ต้องดูความน่าเชื่อถือ ผู้ปกครองยังรู้สึกว่าระบบนี้ มีข้อได้เปรียบเสียเปรียบ ไม่ควรเพิ่มในเวลานี้ สำหรับ มทส.ใช้ถึง 100%
อินเทลส่งเสริมการศึกษา
ผู้อำนวยการฝ่ายกิจการองค์กรบริษัทอินเทลคอร์ปอเรชั่น จำกัดเปิดเผยว่า อินเทลสนใจเรื่องการศึกษา เนื่องจากต้องการสร้างคนที่มีความสามารถทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีให้มากขึ้น เพราะว่าพนักงานร้อยละ 85 ของอินเทลเรียนจบทางด้านวิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ วิศวกรรมศาสตร์และเทคโนโลยี ดังนั้นการให้โอกาสด้านการศึกษา กับคนให้มากที่สุด นอกจากจะส่งผลดีโดยรวมแล้ว ในทางอ้อมบริษัทก็จะได้บุคลากรที่มีความรู้ความสามารถเข้ามาทดแทนได้เรื่อยๆ กิจกรรมด้านการศึกษา ที่อินเทลให้การสนับสนุนได้แก่ โครงการฝึกอบรมครู โดยการประยุกต์ เทคโนโลยีสมัยใหม่ มาใช้ในการเรียนการสอนมากขึ้น โครงการนี้ต้องการฝึกอบรมครูจำนวน 100,000 คนในสหรัฐฯ และอีก 300,000 คนในอีก 20 ประเทศ ทั่วโลกภายในระยะเวลา 3 ปี โดยเชื่อว่าคอมพิวเตอร์ไม่ใช่สิ่งมหัศจรรย์ ครูต่างหากที่เป็น อินเทลจึงให้ความสำคัญกับครู เพราะครูเป็นปัจจัยสำคัญ ในการพัฒนาการศึกษา หากครูไม่มีความรู้ ความสามารถที่ดีพอ แม้จะมีอุปกรณ์ที่ทันสมัย ก็ไม่สามารถถ่ายทอดไปสู่นักเรียนได้ นอกจากนี้ อินเทลยังมีโครงการ คอมพิวเตอร์คลับเฮ้าส์ ที่มุ่งเน้นพัฒนาการสำหรับเด็กด้อยโอกาสในชุมชน โดยร่วมมือกับองค์กรต่างๆในท้องถิ่น ขณะนี้ได้เริ่มต้นที่สหรัฐฯ แล้วและกำลังจะขยายไป ประเทศอื่นในส่วนภูมิภาคเอเชียแปซิฟิค โครงการของอินเทล ยังคงกระจายอยู่ในประเทศจีน และอินเดียเป็นส่วนใหญ่
ข่าววิจัย/พัฒนา
สมุนไพรไทยต้านมาลาเรีย
รศ.ดร.กิตติศักดิ์ ลิขิตวิทยาวุฒิ อาจารย์คณะเภสัชศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยได้นำสมุนไพร 25 ชนิด มาสกัดด้วยตัวทำละลายที่เหมาะสม จนเป็นสารสกัดหยาบ จากนั้น ได้ตรวจสอบฤทธิ์ ต้านทานมาลาเรีย ปรากฏว่าสมุนไพรไทย 8 ชนิดได้แก่ น้ำเต้าลม มะพูด ชะมวง สบู่เลือด พญาครุฑ มะเกลือป่า โปร่งฟ้า และอีกชนิดหนึ่งที่ยังไม่มีชื่อเรียกภาษาไทย มีฤทธิ์ต้านเชื้อมาลาเรีย หรือช่วยเสริมฤทธิ์ ต้านมาลาเรียของสารบางชนิดได้ ซึ่งมีความเป็นไปได้ว่า จะพัฒนาสารกลุ่มนี้ เป็นยาร่วมกับยาต้านมาลาเรียตัวอื่น
KMUTT
Digital Library
Contact Digital Library : info@lib.kmutt.ac.th
Tel : 0-2470-8215
|
|
|